Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศาสนาพราหมณ์

ศาสนาพราหมณ์

Published by ayu_sk-by-yataihito, 2022-08-18 06:39:14

Description: ศาสนาพราหมณ์

Search

Read the Text Version

ศาสนาคืออะไร ?













ศาสนาคอื อะไร ? Religion เป็ นส่งิ ทย่ี ดึ เหนี่ยวจติ ใจของคน มจี ุดหมายใหท้ ุกคนทาความดี โดยใช้คาส่ังสอนและความเชอื่ ของศาสนา เป็ นทท่ี าใหบ้ รรลุวัตถุประสงคน์ ั้น

บ่อเกดิ ของศาสนา 1. ความไม่รู้ 2. ความกลัว 3. ความภกั ดี 4. ปัญญา

ประเภทของศาสนา 1.เทวนิยม (Theism) 2.อเทวนิยม (Atheism) ศาสนาทมี่ พี ระเจา้ (God) ไม่ยอมรับเรื่องพระเจ้า 1.1เอกเทวนิยม 1.2 พหุเทวนิยม นับถอื พระเจา้ นับถอื พระเจ้า เพยี งองคเ์ ดยี ว หลายองค์ Ex คริสต์ Ex พราหมณ์ - อสิ ลาม ฮนิ ดู

องคป์ ระกอบของศาสนา 1. ศาสดา องคป์ ระกอบทศ่ี าสนาตอ้ งม!ี ! 2. ศาสนธรรม (หลักคาสอน) หลักธรรมคาสอน 3. นักบวช 4. พธิ กี รรมและสัญลักษณ์ และพธิ ีกรรม *** 5. ศาสนสถาน

ในโลกมศี าสนาหลักๆอะไรบ้าง ? ศาสนาคริสต์ ศาสนาพทุ ธ ศาสนาอิสลาม

ในโลกมศี าสนาหลักๆอะไรบา้ ง ? ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู ศาสนายูดาห์ ศาสนาโซโรอัสเตอร์

ในโลกมีศาสนาหลักๆอะไรบ้าง ? ศาสนาเตา๋ ศาสนาขงจ๊อื ศาสนาชนิ โต

ในโลกมศี าสนาหลักๆอะไรบา้ ง ? ศาสนาเชน ศาสนาสขิ



บาโฟเมต Baphomet ภาพของแพะซับบาตกิ ในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 19 ทรี่ ังสรรคโ์ ดยเอลฟี าส เลวี โดยมคี าศัพทภ์ าษาละตนิ บนแขน ไดแ้ ก่ SOLVE (ทห่ี มายถงึ แยก) และ COAGULA (ทหี่ มายถงึ ร่วมกัน)



ศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดู Brahmanism

ศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดู Brahmanism ➢ เป็ นศาสนาทเ่ี ก่าแก่ทส่ี ุดในโลก ➢ มตี ้นกาเนิดในดนิ แดนชมพทู วปี แตไ่ ม่ปรากฏนามศาสนาผู้ก่อตงั้ ➢ เดมิ มชี ่อื เรียกว่า “สนาตนธรรม” = ศาสนาอันเป็ นของเก่าหรอื นิรันดร ➢ มสี ัญลักษณข์ องศาสนา = โอม

จุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู ก า ร ห ลุ ด พ้ น จ า ก ก า ร เ วี ย น ว่ า ย ต า ย เ กิ ด หรือคอื การท่ี อาตมนั (วิญญาณย่อย อันเป็ นอมตะไม่มีวันแตกดบั ) ไปรวมกบั ปรมาตมัน (วญิ ญาณสูงสุด เป็ นตน้ กาเนิดของชวี ติ ทงั้ หลาย) เรียกว่า การบรรลุโมกษะ (ภาวะแหง่ การหลุดพน้ )

อาตมนั ตาย! ปรมาตมัน เวียนว่ายตายเกิด หลุดพ้นทกุ ข์ อวชิ ชา อาตมัน บรรลุโมกษะ

ประวตั คิ วามเป็ นมา พวกอารยนั อพยพไปยังอนิ เดยี โดยมศี าสนาดัง้ เดมิ คอื สนาตนธรรม เชือ่ ในเรื่องนับถอื เทวดา ได้ผสมผสานกับความเชอ่ื ดัง้ เดมิ ของพวกทราวิฑ (ดราวเิ ดยี น) ทน่ี ับถอื วญิ ญาณในธรรมชาติ จนเกดิ มาเป็ นศาสนาพราหมณ์

ววิ ัฒนาการแบ่งออกเป็ น 3 ยุค 1. ยุคอารยัน • ยกยอ่ งธรรมชาตเิ ป็นเทพ เช่ือในอำนำจและควำมน่ำกลวั ของธรรมชำติ • มกี ำรออกกฎไมใ่ หช้ ำวอำรยนั กบั ชนพืน้ เมอื งแตง่ งำนกนั มพี ิธีบชู ำยญั โดยพรำหมณเ์ ป็นผนู้ ำประกอบพธิ ี



วิวัฒนาการแบ่งออกเป็ น 3 ยุค 2. ยุคพระเวท • มกี ำรแตง่ คมั ภีร์ เพ่อื รวบรวมบทสวดออ้ นวอนgod = คมั ภรี พ์ ระเวท • เทพเจำ้ 3 กลมุ่ คอื เทพเจำ้ บนพืน้ โลก เทพเจำ้ บนอำกำศ และ เทพเจำ้ บนสวรรค์ • เทพทีไ่ ดร้ บั กำรยกยอ่ ง พระอนิ ทร์ (godสงครำม) พระวรุณ (god แหง่ กำรเกษตร) พระพฤหสั บดี (godควำมรู)้ ยุคนีจ้ งึ เป็ นศาสนาประเภท พหุเทวนิยม

ววิ ัฒนาการแบง่ ออกเป็ น 3 ยุค 2. ยุคพระเวท (๑๔๕๗ – ๗๕๗ กอ่ นพระพุทธศาสนา) • มพี ิธีบชู ำเทพเจำ้ หรอื กิจกรรมใดตอ้ งอำศยั พรำหมณ์ (ปโุ รหติ ) • ทำใหส้ ถำนะของพรำหมณส์ งู ขนึ้ นักเรียนลองวเิ คราะหด์ วู ่าทาไมสถานะ ของพราหมณจ์ งึ สูงขนึ้ !!!

พระอนิ ทร์ พระวรุณ พระพฤหสั บดี

ววิ ัฒนาการแบ่งออกเป็ น 3 ยุค 3. ยุคพราหมณ์ • เป็นยุคทพี่ ราหมณม์ อี านาจมาก มำกกวำ่ วรรณะอ่ืนๆ • ทำหนำ้ ทเ่ี ป็นตวั กลำงระหว่ำงมนษุ ยก์ บั god • ยคุ พรำหมณต์ อนปลำย ศ.พรำหมณไ์ ดม้ กี ำรปฏริ ูป มีค.คิดดำ้ นปรชั ญำ ใหม้ เี หตผุ ลมำกขนึ้ ตอ่ มำจงึ เรยี กศ.พรำหมณว์ ำ่ “ศาสนาฮนิ ด”ู



a brahmin doing ahaman and chanting 1913.

วิวัฒนาการแบง่ ออกเป็ น 3 ยุค (๗๕๗ - ๒๕๗ ก่อนพระพุทธศาสนา) 3. ยุคพราหมณ์ ยุคนีจ้ งึ เป็ นศาสนาประเภท เอกเทวนิยม • ไดย้ กยอ่ ง พระตรมี รู ติ = รูปแบบของพระผเู้ ป็นเจำ้ ทงั้ 3 พระองค์ พระพรหม (พระผู้สร้าง) พระนารายณ์ (พระผู้รักษา) พระศวิ ะ (พระผู้ทาลาย)

คาถาม นักเรียนคดิ วา่ จากการทพ่ี ราหมณม์ ีอานาจและบทบาทมาก กอ่ ใหเ้ กดิ ระบบทส่ี าคัญใดขนึ้ ทสี่ ่งผลตอ่ สังคมของผู้ทนี่ ับถอื ศาสนาพราหมณใ์ นปัจจุบนั

วรรณะ ผู้ทเี่ กย่ี วข้อง วรรณะพราหมณ์ เป็ นนักบวช นักปราชญ์ ครูอาจารย์ มหี น้าทป่ี ระกอบพธิ ี (พระโอษฐข์ องพระพรหม) ทางศาสนาและสอนศาสนาใหแ้ กทุกชนชัน้ วรรณะกษัตริย์ เป็ นนักรบ นักปกรอง มหี น้าทใ่ี นการปกครองประเทศ (พระอุระ) ป้องกนั ประเทศ วรรณะแพศย์ or ไวศยะ เป็ น พอ่ คา้ ช่างฝี มือตา่ งๆ เกษตรกร มีหน้าทค่ี ุมอานาจ (พระเพลา) ทางเศรษฐกิจ เป็ นวรรณะของคนส่วนมาก วรรณะศูทร เป็ นผู้ทางานรับจ้างและใช้งาน เช่น กรรมกร แรงงาน หน้าทคี่ อื รับใช้วรรณะทงั้ สามข้างตน้

คมั ภรี ใ์ นศาสนาฮนิ ดู คัมภรี ใ์ นศาสนาฮนิ ดแู บง่ ออกเป็ น2 ประเภทใหญ่ๆ 1. คัมภรี ศ์ รุติ รับมาจากพระเจา้ โดยตรง เป็ นสัจนิรันดร์ 2. คมั ภรี ส์ มฤต มนุษยเ์ ขยี นขนึ้ เอง

1. คมั ภรี ศ์ รุติ รับมาจากพระเจา้ โดยตรง เป็ นสัจนิรันดร์ ❖ คมั ภรี พ์ ระเวท เป็ นคัมภรี ส์ าคัญทส่ี ุดประกอบด้วย 1. ฤคเวท เก่าแก่ทสี่ ุดใช้ในการสวดอ้อนวอนพระเจา้ 3อย่าง เดมิ 2. ยชุรเวท ใช้ในการบวงสรวง บูชายัญ ประกอบพธิ ีกรรม = 3. สามเวท เป็ นบทสวดมนตร์ ้อยกรองกว่า 1,549 บท ใช้ ไตรเพท สวดในพธิ ีกรรม ถวายนา้ โสมแก่พระอนิ ทร์ และเป็ นบทสวดขับกล่อมเทพเจ้า 4. อาถรรพเวท (เกดิ ขนึ้ หลังสุดปลาย ส.พราหมณ)์ บท สวดเกย่ี วกับเวทมนต์ คมถาอาคมตา่ งๆ ขับไล่สงิ่ ช่ัวร้าย

2.คัมภรี ส์ มฤต มนุษยเ์ ขยี นขึน้ เอง 1. คัมภรี ป์ ุราณะ = เปรียบเป็ นสารานุกรมของฮนิ ดู วา่ ดว้ ยเรื่องสร้างจักรวาล การ กาเนิดเทพเจา้ ทงั้ 3 พระองค์ 2. คัมภรี อ์ ุปนิษัท = คมั ภรี เ์ กย่ี วกับปรัชญา เน้นเรื่องอาตมันและหลักปฏบิ ัติ สาหรับมนุษย์ อธิบายสาระสาคญั ของพระเวทไว้ทงั้ หมด 3. คมั ภรี ภ์ ควัทคตี า = เป็ นบทสนทนาระหวา่ งพระอรชุนและพระกฤษณะ เป็ นสุด ยอดปรัชญาฮนิ ดวู ่าดว้ ยการหลุดพน้ 4. คมั ภรี อ์ ิตหิ าสะ = เป็ นเรื่องราวของบรรพบุรุษ ประกอบดว้ ย 1. มหากาพยภ์ ารต ยุทธ (เร่ืองราวการรบระหวา่ งตระกูลเการพและปาณฑพ) 2. มหากาพยร์ ามายณะ (วา่ ดว้ ยเรื่องการรบระหวา่ งมนุษยแ์ ละวงศย์ ักษ)์

2.คัมภรี ส์ มฤต มนุษยเ์ ขียนขึน้ เอง 5. คมั ภรี ธ์ รรมศาสตร์ = ตาราอธิบายลักษณะกฎหมาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพอ่ื ความ เจริญของสังคมฮนิ ดู ผู้ใหก้ าเนิดกฎหมาย คอื มนู ยาชญวลั กยะ และ ปราศระ

นิกายในศาสนาฮนิ ดู 1.นิกายพรหม = นับถอื พระพรหม

นิกายในศาสนาฮนิ ดู 2.นิกายพรหมไวษณพ = นับถอื พระนารายณ์ (พระวษิ ณุ) จุดมุ่งหมายสูงสุดคอื “การเข้าเข้าถงึ ความหลุดพ้นหรือโมกษะ” โดยการ ช่วยเหลือของเทพเจ้า

นิกายในศาสนาฮนิ ดู 3.นิกายพรหมไศวะ = นับถอื พระศวิ ะ (พระอศิ วร) นิกายนีน้ ับถอื ศวิ ลึงค์ จุดมุ่งหมายสูงสุดคอื “โมกษะ”โดยการเขา้ ถงึ เป็ นเอกภาพกับพระศวิ ะ



วัดสุนัขหาย หรือ ทค่ี นภฏู านเรียก ว่า วัดชมิ ลิ าคัง (Chimi Lhakhang)

“Kanamara Matsuri” หรือเทศกาลแหง่ ลงึ ค์







นิกายในศาสนาฮนิ ดู 4.ศักติ = นับถอื พระชายาของเทพเจ้า คอื พระแมส่ ุรัสวดี พระแม่ลกั ษมี พระแม่อุมาเทวี ชายาพระพรหม ชายาพระนารายณ์ ชายาพระศวิ ะ = ปัญญา ความรู้ = ความร่ารวย = อานาจ

นิกายในศาสนาฮนิ ดู 4.ศักติ = นับถอื พระชายาของเทพเจ้า คอื พระแมส่ ุรัสวดี พระแม่ลกั ษมี พระแม่อุมาเทวี ชายาพระพรหม ชายาพระนารายณ์ ชายาพระศวิ ะ = ปัญญา ความรู้ = ความร่ารวย = อานาจ

นิกายในศาสนาฮนิ ดู 5. นิกายคณะพทั ยะ (Ganabadya) นิกายนีน้ ับถอื พระพฆิ เณศเป็ นเทพเจ้าสูงสุด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook