Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือหลาน 2

หนังสือหลาน 2

Published by grinpa, 2021-11-16 04:24:14

Description: หนังสือหลาน 2

Search

Read the Text Version

ทางฉลาด . . . ข อ ง เ ด็ ก . . . ส.ุ - ฟงั ให้มาก จิ. - ฟังแล้วคิดใหร้ ูเ้ ร่ืองเข้าใจ ป.ุ - ถา้ ยังไม่เขา้ ใจให้ถาม ล.ิ - ให้ขยนั บนั ทึก ชว่ ยความจำ� สุตะ ฟัง, สอนใหล้ กู ฟงั มากๆ จะเกดิ ปัญญา ปญั ญาไม่เคยเกิดแกค่ นพดู ไปสองไพเบ้ยี ไม่เข้าใจ อย่ามวั -อมภูมิ จะโง่จนตาย พอ่ แมเ่ ปน็ ครูผูใ้ กล้ชดิ ที่จะใหล้ กู มคี วามรู้มากหลาย ถ้าพ่อแมโ่ ง่ ! จนใจ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 149



วธิ ีแก้ . . . ความด้ือรั้นของเด็ก . . . . . . ท่ า น พ่ อ แ ม่ ท่ี นั บ ถื อ ท้ั ง ห ล า ย โปรดฟังเรอ่ื งอนั เปน็ สาระต่อไปนี้ เม่ือหลายวันมาแล้วมีแม่คนหน่ึงไปสนทนากับข้าพเจ้าท่ีวัด ได้บอกให้ทราบว่ามีลูกชายกับเขาคนหนึ่งล�ำบากเต็มที ถามว่า ลำ� บากอยา่ งไร แม่น้นั ได้บอกให้ทราบว่า ลูกเป็นเด็กดือ้ ว่าไมน่ อน สอนไม่ฟังเอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ ถ้ามีการขัดใจข้ึนแล้วเป็นเกิด เรอื่ งทุกที บางทกี โ็ กรธจัด ทบุ อะไรที่อยใู่ กลๆ้ ตวั แตกพงั เสียหาย หมด ไดฟ้ งั แล้วก็นกึ สงสารเจ้าหนูนอ้ ยและมารดาเปน็ กำ� ลงั รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 151

มารดาท่วั ไปตอ้ งพบกับปญั หาเด็กดอื้ เสมอ และถ้าไม่สามารถรักษาให้หายได้ ความด้ือก็จะติดเป็นนิสัย โตข้ึนอาจจะเป็นคนใจร้อนใจร้ายไปเสียก็ได้ เคยพบเด็กแบบนี้คน หนงึ่ เมอื่ สมยั เปน็ เดก็ นอ้ ยๆ เขาเปน็ คนมกั โกรธเหลอื เกนิ โกรธขนึ้ มา ในขณะใด เอาหัวชนฝาทกุ ที พอ่ แมต่ ้องชว่ ยกนั จบั ไว้และปลอบโยน ไมเ่ ทา่ ใดกห็ ายไป ไดไ้ ปพบเขาอกี เมอื่ เขาโตเปน็ หนมุ่ แลว้ เขาเปน็ คน มีใจคอเยือกเย็น หาได้หุนหันพลันแล่นไม่ เห็นจะเป็นเพราะเขาได้ รับการแกไ้ ขจากมารดาบดิ าใหด้ ีขึน้ เด็กเจ้าโมโหเปน็ เด็กทนี่ ำ� ความ ล�ำบากใจมาส่คู รอบครวั มากอยู่ จึงควรท่ีเราจะมาศกึ ษากันเสยี บา้ ง วิธีแก้ไขความดื้อของเด็กนั้น ต้องอาศัยการปรับปรุงคนใน ครอบครวั ดว้ ย เพราะตามความจรงิ มอี ยวู่ า่ เดก็ จะไมร่ จู้ กั โกรธ ถา้ เรา ไมส่ อนใหเ้ ขาโกรธ เดก็ จะไมร่ จู้ กั ดอ้ื ดา้ น ถา้ เราไมส่ อนใหเ้ ขาดอ้ื ดา้ น ความผดิ ในเรอ่ื งนจี้ งึ ตกอยแู่ กผ่ ใู้ หญม่ ากกวา่ เดก็ ธรรมดาของเดก็ เปน็ ผบู้ รสิ ทุ ธเิ์ สมอ เขายงั ไมร่ วู้ า่ ความชว่ั นนั้ เปน็ อยา่ งไร ถา้ เปรยี บกบั วตั ถุ กเ็ หมอื นผา้ ทขี่ าวสะอาดยงั ไมเ่ ปอ้ื นฝนุ่ ยงั ไมม่ สี ใี ดเขา้ จบั เรอื่ งของเดก็ กเ็ ป็นเชน่ นนั้ จติ ใจของเขายังเป็นไปตามธรรมชาติของเด็ก มคี วาม ต้องการอะไรนิดหน่อยไม่มากนัก และแสดงอาการอะไรทุกอย่างๆ ตรงไปตรงมา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมแต่ประการใด เราผู้มีหน้าที่เลี้ยงเด็ก ไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจถึงความต้องการของเด็ก ไปฝืนความต้องการ บางประการของเขาเข้า บางทีเด็กก�ำลังเพลินอยู่กับอะไรบางอย่าง รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 152

สนกุ ตามประสาของเขา ผใู้ หญไ่ มเ่ ขา้ ถงึ เรอื่ งของเดก็ วา่ มคี วามสนใจ ในเรอื่ งอะไรอยู่ เอาแตใ่ จของตนเปน็ ประมาณไปทำ� การขดั ขนื ความ ต้องการของเด็กเข้า เด็กก็ไม่พอใจ แต่เขาพูดเหตุผลโต้แย้งไม่ได้ บอกความในใจก็ไม่ได้ จึงแสดงอาการโกรธเคืองออกมาให้ปรากฏ ถ้าขืนใจมากเข้า ก็แสดงอาการโกรธแรงตามก�ำลังของความขัดใจ ผใู้ หญ่ก็นึกว่าเด็กเปน็ คนดื้อ ไม่ทำ� ตามคำ� สงั่ ของตน ถ้าลองนกึ ถงึ ใจ ของตนเองสกั เลก็ นอ้ ยในขณะทที่ ำ� อะไรเพลนิ อยถู่ า้ มใี ครมาขดั คอตน ตนกค็ งไมพ่ อใจ การถกู ขดั คอน่ันแหละท�ำให้เกดิ อาการหงดุ หงิดขน้ึ ทนั ที ความหงดุ หงดิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ บอ่ ยๆ ในใจของผใู้ ด นน่ั คอื วธิ กี ารสะสม ความโกรธทีละนอ้ ยๆ ผลทสี่ ุดกก็ ลายเป็นคนมักโกรธไปก็ได้ คนเรา ถา้ โกรธขึน้ มาแลว้ กไ็ ม่รจู้ กั ตนเอง ไมร่ จู้ กั เหตุผล เลยไม่ฟังเสยี งของ ใครทง้ั นนั้ อาการไมฟ่ งั เสยี งใครนแี่ หละเปน็ อาการของความดอื้ ดา้ น ละ จงึ จะจับหลักไดว้ า่ การขัดใจของเด็กบ่อยๆ ท�ำให้เดก็ เป็นคนเจ้า โทสะได้ ผใู้ หญ่จึงควรระมดั ระวงั ในเรอื่ งน้ี ไม่ว่าเดก็ หรอื ผใู้ หญ่ยอ่ ม รักเสรภี าพดว้ ยกนั ทงั้ นนั้ จงให้เสรีภาพแกเ่ ขาบา้ ง อย่าไปยงุ่ กับเด็ก มากเกนิ ไป พอ่ แมม่ กั ทำ� ผดิ ในขอ้ นคี้ อื เขา้ ไปยงุ่ กบั เดก็ มากเกนิ ไปและ ขาดความเขา้ ใจในเด็กตัวอย่างเห็นง่ายๆ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 153

เด็กก�ำลังเพลินอยู่กับของเล่นที่ซื้อมาใหม่ๆ เขาก�ำลังสนุกกับ ส่ิงนั้น ผู้ใหญ่มาถึงก็เข้าไปเอาของเล่นน้ันมาดูโดยมิได้บอกให้เด็ก ทราบ เด็กก็ไม่พอใจเพราะใจของเขาก�ำลังเพลิน เราห้ามความ เพลิดเพลินทันทีทันใด เด็กก็เกิดอาการไม่ชอบใจ พอเห็นเด็กไม่ พอใจ กอ็ ยากยวั่ ใหเ้ ด็กโกรธ โดยเห็นเปน็ ของสนกุ ส�ำหรับผูใ้ หญ่ แต่ หาสนกุ สำ� หรบั เดก็ ไม่ เดก็ เกดิ ความโกรธในการทต่ี นถกู ขม่ เหงรงั แก โดยไม่เป็นธรรม ผู้ใหญ่น้ันมีความรักเด็ก อยากหยอกล้อเด็ก แต่ เด็กไม่ทราบเจตจ�ำนงของผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็ไม่ทราบถึงความรู้สึกของ เด็กๆ เลยเขา้ กันไมไ่ ด้ เปน็ ความเสยี แกเ่ ด็กมากอยู่ การกระท�ำเชน่ น้ีท�ำให้เกิดอารมณ์โกรธพอเห็นเด็กโกรธเราก็ลงโทษหาว่าเด็กขี้แย ไปเสยี แลว้ นค่ี อื ความผดิ ของผใู้ หญโ่ ดยแท้ จงึ ควรจำ� ไวว้ า่ อยา่ เขา้ ไป สอดแทรกในกจิ การของเดก็ ก่อนไดร้ บั การตกลงใจจากเดก็ เสยี ก่อน เชน่ วา่ เราอยากดขู องเลน่ ของเขา แทนทเี่ ราจะบกุ รกุ จบั เอามาดขู อง หน่อย หนจู ะรงั เกียจไหม เด็กก็คงคงตอบว่า ไมร่ งั เกียจ เราก็ได้ดูสม ความปรารถนาเพราะท�ำในรูปน้ีไม่กระทบกระเทือนใจเด็กเลยและ ไมก่ ่อใหเ้ กิดโทสะแกเ่ ดก็ ด้วย รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 154

เวลาเดก็ ๆ กบั เพอื่ นๆ กำ� ลงั เลน่ สมมตอิ ะไรกนั อยู่ เชน่ เวลาเลน่ ขายของหลายประเภท ทา่ นจะเหน็ วา่ เขาเปน็ แมค่ า้ ลกู คา้ มขี องขาย มากมายก่ายกอง พวกซื้อก็มาซื้อของต่อรองกันตามแบบท่ีเขาเคย เห็นและจ�ำมาได้ ท่านได้เห็นเขาแล้วอาจนึกรักเด็กๆ ขึ้นมาทันที ทนั ใด และความรกั ทเี่ กดิ ในตวั ทา่ นทำ� ใหข้ าดความยบั ยงั้ ทา่ นโผเขา้ กอดจบู ลูกน้อยและจูบเข้าด้วยความรกั ทา่ นนึกว่าเด็กคงชอบใจใน การกระทำ� ของท่าน ท่านคาดผดิ ไปเสยี แล้ว ความนึกคดิ ของเดก็ อยู่ ในโลกของความสมมติ เขากำ� ลงั เปน็ แมค่ า้ ขายของ ทา่ นไปกอดแมค่ า้ อยา่ งนน้ั เขาเกดิ ความรสู้ กึ วา่ จะขาดทนุ ขา้ วของเสยี หาย เขาไมพ่ อใจ อาจเกดิ โกรธและรอ้ งไห้ ท่านกค็ งนกึ ผิดไปวา่ ลูกของทา่ นใจน้อย ข้ี โมโห ความผิดอยูท่ ี่ทา่ นเองที่เขา้ ไปสอดแทรกในกจิ การของเขาโดย ไมเ่ ข้าเรื่อง จงึ ควรจำ� ไวว้ ่า อย่าไปยุ่งกับเดก็ ในเม่อื เขาก�ำลงั สนกุ กับ การเล่นของเขา ทา่ นควรพลอยดใี จทเ่ี ด็กของทา่ นไมม่ ารบกวนท่าน ใหเ้ สียเวลาทำ� งานท�ำการ เดก็ จะไม่รู้จักโกรธ ถา้ เราไม่สอนให้ เขาโกรธ เดก็ จะไมร่ ู้จกั ด้อื ด้าน ถ้าเราไมส่ อนใหเ้ ขาดอื้ ด้าน รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 155

ในบางขณะเด็กของท่านก�ำลังสนใจอะไรๆ อยู่ด้วยการเอาใจ จดจ่อกับสิ่งน้ันจนลืมนึกถึงอะไรท้ังหมด เขาก�ำลังมีสมาธิอยู่กับสิ่ง น้ันๆ ท่านต้องการให้เขาท�ำอะไรให้ท่าน หรือต้องการให้เขามาหา ทา่ นด้วยกจิ ธรุ ะ ท่านก็รอ้ งเรียกเขาคำ� หนง่ึ ก็เฉย สองคำ� ก็เฉย ทา่ น คงนึกโกรธและพูดว่า ลูกอะไรท�ำหูทวนลมไปได้ เรียกตั้งสองสาม คำ� กไ็ มม่ า ถ้าทา่ นเป็นคนเจ้าโทสะ ก็คงเฆ่ยี นตลี ูกของทา่ น เดก็ เจบ็ ตวั เปล่าๆ เพราะผูใ้ หญท่ ำ� ไมถ่ กู โดยแท้ โปรดเขา้ ใจไว้เถดิ วา่ ใจของ เดก็ เปน็ สมาธงิ า่ ยกวา่ ข­อ­ งผใู้ หญ่ ถา้ เขาทำ� อะไรอยกู่ ไ็ มค่ ดิ ถงึ เรอ่ื งอนื่ ก�ำลังขลุกอย่กู บั อะไรของเขา ใครมาเรยี กกไ็ มไ่ ดย้ นิ อย่าไปโกรธเขา แต่จงโกรธตัวท่านเองที่ขาดการท�ำอะไรโดยรอบคอบ จะพูดอะไร กับเด็กต้องดูเสียก่อนว่าเด็กก�ำลังท�ำอะไรอยู่ ถ้าไม่จ�ำเป็นก็อย่าไป พรากเขาออกจากความสนใจที่เขามีต่อสิ่งนั้นเลย ถ้าจ�ำเป็นจะต้อง ใช้เขา ก็จงเข้าไปหาเขาใกล้ๆ แล้วดึงความสนใจจากวัตถุนั้นมาสู่ ตัวท่าน เม่ือได้แล้วก็ขอให้เขาท�ำอะไรต่อไปได้ เด็กของท่านก็ไม่ นอ้ ยใจเสียใจต่อท่าน เหตุการณก์ ็เรียบรอ้ ยดขี ึ้น รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 156

เด็กบางคนมักท�ำอะไร ตามใจตวั เอง การกระท�ำของเขาใน รปู นม้ี ใิ ชเ่ ปน็ การแกลง้ ท�ำ แตเ่ ขายงั ไมเ่ ขา้ ใจถงึ ความผดิ ถกู ของโลกเขา ท�ำไปตามประสาซอ่ื ของเขา ผใู้ หญ่ อาจจะร�ำคาญต่อพฤติการณ์ของ เด็กในรูปนี้ และอาจเกิดอาการไม่ ชอบใจเพราะเหน็ วา่ เดก็ คนนซ้ี นเสยี นก่ี ระไร บางทที า่ นอาจหา้ มเขาดว้ ย คำ� วา่ “หยดุ ! อยา่ ! เงยี บ! มาน!ี่ เจา้ นี่ ซนจริงๆ! การกระท�ำในรูปน้ีเป็นความผิดเพราะค�ำพูดแบบนี้ออก มาจากใจท่ีเศรา้ หมอง หน้าตากเ็ ศร้าหมอง การกระท�ำกห็ ยาบคาย ตามใจเศร้าหมอง เป็นการแสดงภาพเสียให้เด็กของท่านได้พบเห็น เขาอาจจำ� แบบนไ้ี ว้ และไปทำ� เหมอื นทา่ นในภายหลงั กไ็ ด้ อกี ประการ หนึ่ง การกระท�ำเช่นนั้นเป็นการย่ัวโทสะของเด็กได้ ไม่มีประโยชน์ อะไรแกเ่ ดก็ และแกต่ วั ทา่ น นอกจากระบายไฟพษิ ออกมาจากใจของ ทา่ นเทา่ นนั้ โปรดงดเวน้ การกระทำ� ในรปู นเี้ สยี เถดิ ถา้ เหน็ ลกู ของทา่ น ทำ� อะไรไมด่ ไี มค่ วร จงพดู กบั เขาดๆี เอาความรกั ออกแสดงกอ่ น แลว้ พดู ให้เขาเข้าใจ ปกติของเดกมีความใครใ่ นทางดอี ยแู่ ล้ว จงส่งเสริม น้ำ� ใจของเขาเถดิ พ่อแม่บางคนชอบใช้คำ� ยกย่องให้เดก็ เสียคน เชน่ เวลามแี ขกมาหาทา่ นทบี่ า้ น เพราะทา่ นไมเ่ คยอบรมเดก็ ของทา่ น ไว้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 157

กอ่ นหรอื เพราะทา่ นใหเ้ ดก็ ของทา่ นอยใู่ กลท้ า่ นตลอดเวลา เรอ่ื งของ เดก็ จะใหน้ งิ่ เปน็ หนุ่ นน้ั ไมไ่ ด้ ขณะทที่ า่ นเพลนิ กบั การสนทนากบั แขก เดก็ กเ็ รม่ิ ทำ� อะไรตามวสิ ยั ของเขา ทา่ นอาจพดู ใหแ้ ขกฟงั วา่ โอ,้ ไมไ่ หว หลานคนน้ซี กุ ซนเตม็ ที บา้ งหรือพูดว่า เจา้ หนูคนน้ีเก่งจงั เลย คำ� พดู แบบน้ันท�ำให้เด็กเกิดอารมณ์โกรธก็ได้ หรือเกิดคิดว่าท่านอยากให้ เขาเปน็ เชน่ น้ันกไ็ ด้ มีเสยี มากกว่าดีขออย่าได้ท�ำเป็นอนั ขาด มารดาบิดาบางคนชอบฝึกเด็กให้มีนิสัยรับสินบน เช่น ในเวลา เด็กโกรธร้องไห้ ท�ำอาการกระฟัดกระเฟียดต่างๆ ท่านร�ำคาญ ในเสยี งรอ้ งของเดก็ ทา่ นไมร่ จู้ ะทำ� อยา่ งไรใหเ้ ขาหยดุ รอ้ งไห้ กท็ ำ� การ ติดสินบนแก่เด็ก น่งิ เสียเถอะลูก แม่จะพาไปดหู นังบา้ ง นิ่งเสียเถอะ ลกู แมจ่ ะใหก้ นิ ขนมบา้ งเดก็ กเ็ กดิ ความพอใจวา่ จะไดไ้ ปดหู นงั พอใจ วา่ จะไดท้ านขนมก็หยดุ รอ้ งไห้ และไดข้ องทีต่ ้องใจ หรอื บางทา่ นลมื คำ� สัญญาที่ทำ� ไวก้ บั เด็ก ผลทีเ่ กิดมสี องทาง ถ้าเขาได้ตามสัญญาเขา ก็เกิดนิสัยอยากได้เรื่อยไป ถ้าไม่ได้ตามสัญญาเขาก็คงนึกว่า ท่าน ไม่มสี จั จะ ขาดทุนท้ังสองประการ จึงใคร่เตือนว่า อย่าไดท้ ำ� การให้ สนิ บนกบั เดก็ เลย เดก็ จะเสยี คน เหมอื นทค่ี นไทยมนี สิ ยั กนิ สนิ บนกนั อยูส่ มยั น้ี อันน้ันเป็นเรอื่ งน่าขายหน้าสำ� หรับเมอื งไทยประการหน่ึง รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 158

ถ้าหากลูกของท่านเริ่มมีนิสัยมักโกรธ มีอารมณ์ฉุนเฉียวเกิดข้ึน บ่อยๆ จงหาทางแก้ไขโดยเร็ว เพราะถ้าปล่อยไว้ช้า ความโกรธ จะติดอย่ใู นใจลูกของทา่ นเอาออกได้ยาก การทจี่ ะแกน้ น้ั สำ� คญั อยทู่ ตี่ วั อยา่ งในครอบครวั คอื พอ่ แมพ่ เี่ ลย้ี ง และคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เด็ก ให้ทุกคนระมัดระวัง อย่าแสดงอาการ โกรธเคอื งใหเ้ ดก็ เหน็ อยา่ ไดโ้ ตเ้ ถยี งกนั ใหเ้ ดก็ ไดย้ นิ เปน็ การปรบั ปรงุ สงิ่ แวดลอ้ มภายในครอบครวั กอ่ นตอ่ จากนน้ั ใหค้ น้ หาสาเหตทุ ที่ ำ� ให้ เดก็ เกดิ ความโกรธใหพ้ บ ซง่ึ หวงั วา่ เปน็ เรอื่ งพอคน้ หาได้ เพราะมนั มอี ยู่ ภายในครอบครวั ของทา่ นเองแลว้ จงพยายามเรยี นรถู้ งึ ความตอ้ งการ ของเดก็ ใหม้ าก เพอื่ จะไดป้ ฏบิ ตั ใิ หส้ อดคลอ้ งกบั ความปรารถนาของ เด็ก ดงั ท่กี ลา่ วมาแลว้ ในตอนตน้ วา่ การขดั ใจบอ่ ยๆ ท�ำให้เด็กเปน็ คนเจ้าโทสะ เด็กจะไม่รู้จักโกรธถ้าผู้ใหญ่ไม่สอนให้เขาเป็นคนโกรธ นีเ่ ป็นหลกั ใหญ่ท่พี ่อแม่พงึ ส�ำเหนียกไวก้ อ่ น รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 159

แต่พึงระวงั ไวอ้ ีกประการหนงึ่ คอื การตามใจเด็กมากเกินไป ก็ อาจทำ� ให้เสยี ได้ เพื่อแบง่ ใหพ้ อดเี ก่ยี วกับเร่อื งนจ้ี งปล่อยใหเ้ ขาเป็น เสรีในการกิน-เล่นของเขาบ้าง ปล่อยให้เขาอยู่ตามล�ำพัง หรือได้ ร่วมสนุกสนานกับเพ่ือนฝูงของเขาบ้าง ขณะใดท่ีเขาได้พัก ได้เล่น กับเพื่อนฝูง ผู้ใหญ่อย่าเข้าไปยุ่งกับเขาให้มากนัก เพียงแต่คอย ก�ำหนดอาการของเขาไว้เหมือนคนเฝ้าเครื่องยนต์ เมื่อท�ำให้เคร่ือง เดินไปเป็นปกติแล้วไม่ต้องไปยุ่งอะไรอีก เพียงแต่คอยฟังเสียงว่า มันเดินไปปกติดีอยู่ไหม ถ้าเห็นว่าปกติก็ปล่อยมันตามเร่ืองต่อไป เมื่อติดขัดก็เข้าไปแก้ไขเสียหน่อยฉันใด ผู้ใหญ่กับเด็กก็อย่างน้ัน ถ้าไม่จ�ำเป็นก็อย่าไปยุ่งกับเขาได้เป็นดี แต่ถ้าเขาต้องการให้เรา เข้าไปยุ่งกับเขาเม่ือใด ก็ต้องเข้าไปยุ่งด้วยอารมณ์เย็น ด้วยความ เมตตากรุณาต่อไป ให้เขาเห็นว่าเราเป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือ เขาเท่านัน้ และถ้าเห็นวา่ อะไรจะนำ� ความเสยี หายมาสูเ่ ด็ก ก็จะท�ำ หรือพูดให้เขาเข้าใจว่าการกระท�ำในรูปนั้น เป็นส่ิงไม่เหมาะไม่ควร พ่อแม่ไม่ชอบใจ เด็กก็พอจะเข้าใจเหตุผลประพฤติปฏิบัติในทาง ที่ถูกท่ีควรได้ จงจ�ำไว้ในใจว่า เด็กท�ำอะไรตามตัวอย่างที่เขาได้ เห็นเสมอ ไม่ว่าตัวอย่างจะดีหรือเสีย ผู้ใหญ่จึงควรให้ตัวอย่างท่ีดีๆ แก่เดก็ ตลอดเวลา รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 160

ขณะใดท่ีอารมณ์ของท่านไม่ดี ขออย่าได้เข้าใกล้เด็กของท่าน เปน็ อนั ขาด เพราะอารมณไ์ มด่ นี นั้ อาจจะทำ� อะไรทไ่ี มเ่ หมาะไมค่ วร กบั เด็กก็ได้ ความรักความเมตตา เป็นเครือ่ งมือสำ� คญั ท่สี ดุ ท่ีจะช่วย ให้เด็กของท่านเป็นคนดี โดยรับเอาตัวอย่างท่ีดีจากพ่อแม่ได้ พ่อ แม่ควรภูมิใจในการที่ท่านได้มีโอกาสท�ำคนให้เป็นคนอย่างแท้จริง ฐานะ-การงานของท่านมิใช่เครื่องกีดกั้นให้ท่านได้กระท�ำความดีใน เร่ืองนี้ จงหันความสนใจของท่านมาสู่ผู้เป็นทายาทของท่านให้มาก สักหนอ่ ย เขาจะท�ำใหท้ ่านมีความสดชน่ื เบิกบานในการกระท�ำอันดี ของเขา ตัวท่านพ่อแม่เป็นกระจกบานใหญ่ที่ฉายแสงสะท้อนให้ลูก ของทา่ นไดม้ องเหน็ จงเชด็ กระจกใหส้ ะอาดและแสดงภาพทดี่ ใี หล้ กู ของทา่ นไดจ้ ดจ�ำไวเ้ ถิด ประเทศไทยกำ� ลงั ต้องการคนใจดีใจงาม เพื่อสรา้ งชาตปิ ระเทศ ตอ่ ไป พอ่ แมท่ กุ ทา่ นมเี กยี รตอิ นั น้ี ขอทา่ นจงรกั ษาเกยี รตภิ มู ขิ องทา่ น ในฐานะเป็นพ่อแมไ่ วด้ ้วยดเี ถดิ . รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 161

My mom and dad gave me everything they could have given me. - Carlos Beltran

การฝึกเดก็ . . . ไม่ให้มีความริษยา . . . . . . ท่ า น พ่ อ แ ม่ ท่ี นั บ ถื อ ทั้ ง ห ล า ย ในค�ำสอนของพระพุทธเจ้ามตี รสั ไว้ตอนหนงึ่ ว่า อรติ โลกนาสกิ า แปลว่าความริษยาท�ำให้โลกฉบิ หาย พทุ ธภาษติ บทนบี้ อกใหเ้ ราเขา้ ใจวา่ ความรษิ ยามโี ทษมากอยา่ งไร ในเวลาที่พูดกัน มักเข้าใจผิดในค�ำพูดสองค�ำ คือว่า อิจฉาตาร้อน หมายถึง ความอยากทำ� ใหต้ ารุกวาวเปน็ ประกาย ดคู ล้ายกับจะเป็น เปลวไฟขนึ้ มาฉะนน้ั เราเรยี กวา่ ตารอ้ น มลี กั ษณะตา่ งจากความรษิ ยา ตัวริษยาหมายถึง ความไม่พอใจ ไม่ยินดีในความก้าวหน้าของผู้อื่น เห็นใครดี ก้าวหน้า มีเกียรตมิ ชี ่ือเสยี งขึน้ ล่ะก็ใจของคนผูร้ ษิ ยารู้สกึ ไม่สบาย ไม่อยากให้เขาเป็นเช่นน้ัน ไม่อยากให้ใครมาเอ่ยช่ือหรือ ความดขี องผนู้ น้ั อยา่ งนเี้ รยี กวา่ ความรษิ ยา มนั เปน็ ตวั กเิ ลสทเ่ี กดิ ขนึ้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 163

ในใจของบคุ คลใดแล้ว ย่อมท�ำใหผ้ นู้ ัน้ ร้อนใจ มไี ฟเผาตวั เองตลอด เวลา ตัวริษยามีภาวะแตกต่างจากมุทิตาอันหมายถึง ความยินดี ในความงามของผู้อ่ืน มุทิตาเป็นไปในลักษณะประสานผูกเกลียว สัมพันธ์ให้แน่นเข้า แต่ริษยาเป็นตัวท�ำลายให้สิ่งท้ังหลายพินาศไป จึงเป็นตวั มารรา้ ยประการหน่ึงในหมขู่ องมนษุ ย์ ในเรื่องเกี่ยวกับผลของกรรมที่ตนได้ท�ำไว้ และให้ผลต่างๆ กัน แกผ่ กู้ ระทำ� ผมู้ คี วามรษิ ยาในใจเสมอๆ ยอ่ มทำ� ใหเ้ ปน็ คนมศี กั ดน์ิ อ้ ย ตายแลว้ ไปสอู่ บายทคุ ตวิ นบิ าตนรก เพราะผลแหง่ ความรษิ ยา บรรดา ความย่งุ ยากเดือดรอ้ นต่างๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ในหมมู่ นุษย์อย่างมากมายนั้น มีส่วนมากจากความริษยามิใช่น้อยทีเดียว คนท่ีมีความริษยา มักมี อาการหงึ หวงมาแทรกแซงในใจ ผมู้ ปี กตหิ นว่ งเหนยี่ วสง่ิ ทต่ี นมตี นได้ ไวเ้ ปน็ ของตนเสมอ ไมอ่ ยากใหใ้ ครมอี ะไรเหมอื นหรอื ดเี ทา่ ตน มกั หา ทางทำ� ลายความกา้ วหนา้ ในการงานของผอู้ นื่ อยเู่ สมอ ในดา้ นทำ� ลาย จติ ใจใหเ้ สอื่ มโทรมแลว้ ความรษิ ยาเปน็ ตวั ทำ� ลายมากทเี ดยี ว ผรู้ ษิ ยา ย่อมเดือดร้อนเสมอ แต่ผู้ถูกริษยายังไม่มีอะไรเกิดขึ้นแก่เขาเลย เขายังมีการกินอยู่หลับนอนอย่างสบาย แต่ผู้ริษยาหาได้มีอะไรเป็น เช่นน้นั ไม่ เพราะเขาคอยคดิ ไม่พอใจ ไมด่ ใี จต่อความเป็นอยู่ ในการ กระทำ� ของผู้ท่ีเขาไม่ชอบอยูเ่ สมอ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 164

คนมกั ริษยาเปน็ คนทน่ี า่ สงสาร เปน็ คนท่คี วรจะไดร้ ับการเยยี วยา ให้เปน็ ปกตเิ สียโดยเรว็ ขืนปล่อยไว้เขาจะกลายเป็นคนเสียคนได้อย่างง่ายดาย เพราะ เมอ่ื ความรษิ ยากอ่ ตวั เรอื่ ยไป เขากค็ งทำ� การเบยี ดเบยี นตนและผอู้ น่ื บางทอี าจตอ้ งตดิ คกุ ตดิ ตะราง หรอื อาจถกู ฆา่ ตายเพราะความรษิ ยา ก็เป็นได้ ความริษยาจึงเป็นภัยโดยแท้ ท่านผู้ใดมีโรคประเภทนี้อยู่ ในใจ ก็จงหาทางท�ำลายเสียเถดิ อย่าปล่อยใหง้ อกงามข้นึ ในใจของ ท่านอีกเลย ท่านผู้ฟังอาจนึกว่า เอ! ท่านพูดแต่เรื่องความริษยาไม่เห็นพูด เก่ียวกับเด็กเลย ไม่สมกับบทความที่สอนให้รักลูกให้ถูกทาง รักลูก ดว้ ยจรยิ ธรรมเลย โปรดอยา่ ไดด้ ว่ นคดิ เชน่ นนั้ ขา้ พเจา้ ตอ้ งการใหท้ า่ น ไดเ้ หน็ โทษของความรษิ ยาเสยี กอ่ นวา่ มปี ระการใดบา้ ง เปน็ สง่ิ นา่ กลวั ขนาดไหนเพื่อให้ท่านได้เห็นก่อน แล้วจะได้หาทางป้องกันมิให้เกิด ตอ่ ไป รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 165

สงครามในเร่อื งศาสนาของพราหมณท์ ่เี รียกว่าภารตยทุ ธนัน้ เปน็ เรอ่ื งทีเ่ กดิ ออกมาจากความรษิ ยาโดยแท้ ความริษยาท�ำให้ผู้คน ทรัพย์สมบัติต้องสูญเสียไปเป็นจ�ำนวน มากมายก่ายกอง ถ้าอ่านประวัตศาสตร์ของชาติต่างๆ ก็จะพบว่า ความริษยาเป็นมารท่ีคอยยุอยู่หลังม่านให้เกิดความโกลาหลเสมอ จึงได้พูดกับท่านท้ังหลายก่อนดังน้ี เพื่อจะได้รู้ไว้ว่ามันเป็นศัตรูของ ความสงบสขุ ความกา้ วหนา้ ของสงั คม เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ แขง่ กนั ในทางท่ี ไม่สมควรเรื่องความริษยาเป็นเร่ืองท่ีเรามีทางแก้ไขปรับปรุงกันได้ ท�ำใหไ้ มใ่ ห้เกดิ ข้ึนก็ไดถ้ ้าสมคั รใจจะกระท�ำเชน่ นนั้ จงึ ขอให้ท่านพ่อ แมท่ ง้ั หลายพงึ สำ� เหนยี กไวส้ กั หนอ่ ย เพราะพอ่ แมม่ สี ว่ นสำ� คญั ในการ สรา้ งนิสยั มกั รษิ ยาใหเ้ กิดแกเ่ ดก็ ของทา่ น มเี ร่ืองที่ข้าพเจ้าจ�ำไดต้ งั้ แตส่ มัยเป็นเดก็ อย่วู ัด พวกเราประมาณสี่สิบคนไปเรียนโรงเรียนมัธยมต้องไปพักอยู่ท่ี วดั กับพระ เมื่ออยู่กันมากๆ เปน็ ธรรมดาต้องมีอะไรท่ีไมค่ วรเกิดขึน้ บา้ ง มเี ด็กคนหน่ึงเป็นคนมรี ่างกายอ่อนแอแบบบางมีโรคประจ�ำตวั เสมอ ท�ำงานหนักๆ อะไรไม่ค่อยได้ พระผู้ปกครองได้เอาใจใส่ต่อ เด็กคนน้ีเปน็ พเิ ศษ เพราะเหน็ ว่ามอี ะไรผิดปกติอยู่ เด็กคนนจ้ี งึ มิได้ ทำ� งานอยา่ งทค่ี นอนื่ ทำ� แตเ่ วลาไดอ้ ะไร มกั ไดเ้ ปน็ พเิ ศษมากกวา่ ผอู้ นื่ เสมอ ท�ำให้เกิดความเพ่งเล็งจากเด็กอ่ืน ผลท่ีสุดก็กลายเป็นริษยา อยา่ งแรง จนกระทงั่ วนั หนง่ึ เดก็ ผมู้ คี วามรษิ ยาไดเ้ อาไมฟ้ นื ทอ่ นขนาด รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 166

หนักพอควร ตีนายคนอ่อนแอน้ันเจ็บเอามากๆ และต้องได้รับโทษ จากพระผปู้ กครองอกี เพราะความผดิ ของตน เรอ่ื งนชี้ ใี้ หเ้ หน็ วา่ ความ รกั ของผู้ปกครองไม่สมดุลย์ อาจกอ่ ให้เกดิ ความรษิ ยาแกผู้อ่นื กไ็ ด้ มารดาบดิ าจงึ ควรระมดั ระวงั การแสดงความรกั ตอ่ ลกู ๆ ของตน อย่าได้แสดงความรักแบบอคติเป็นอันขาด พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า ความล�ำเอียงสี่ประการ คือ ล�ำเอียงเพราะรัก ล�ำเอียงเพราะกลัว ลำ� เอียงเพราะชงั ลำ� เอยี งเพราะหลง เป็นเรื่องท่ผี ู้ใหญ่ผปู้ กครองคน หลายคนพึงระวังใหม้ าก เพราะถา้ ผูใ้ หญ่เกดิ ความลำ� เอยี งขน้ึ เม่ือใด กเ็ ท่ากับจดุ เพลิงของความรษิ ยาขน้ึ เมื่อนัน้ ความรักระหวา่ งผอู้ ยู่ใต้ ปกครองร่วมกันก็เกิดความไม่ราบร่ืนขึ้น และอาจน�ำไปสู่ความเสีย หายในภายหลัง องคุลิมาลท่ีต้องกลายเป็นโจรไปเพราะอะไรเล่า เพราะว่าอาจารย์ทุ่มเทความรักให้แก่เขา มากเกินคนอื่นๆ ศษิ ย์อืน่ ๆ ไดเ้ หน็ แลว้ ก็ เกิดความรษิ ยาจงึ หาทางท�ำลาย ผลทส่ี ดุ องคุลิมาลต้องเป็นโจรไปเพราะความผิด ของท่านอาจารย์โดยแท้ ผู้ใหญ่ทุกคนจึง ควรรักษาดุลย์แห่งความรักไว้เสมอ อย่า ให้ล�ำเอยี งไดเ้ ป็นดี รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 167

ข้าพเจ้าเคยพบกับท่านผู้หนึ่งเป็นคนปฏิบัติตนตามกฏของ พระพุทธเจ้าเป็นอย่างดี มคี วามซื่อตรงตามเหตุผลเสมอ ท่านผู้นี้มีลูกหลายคน และเล้ียงลูกโดยวิธีท่ีถูกต้องเป็นอย่างดี เช่น เส้ือผ้าของลูกก็ตัดให้แบบเดียวกัน สายสร้อยคอก็ท�ำให้แบบ เดียวกนั น�ำ้ หนกั เท่ากัน แหวนท่ลี ูกใสก่ ท็ ำ� ให้แบบเดยี วกัน และรปู เหมอื นกนั ทกุ อยา่ งกลายเปน็ แหวนทบ่ี อกวา่ อยใู่ นครอบครวั เดยี วกนั จะให้เงนิ แกเ่ ขาไปโรงเรยี นก็ให้เขาเท่าๆ กนั หรอื ให้เขาถอื เอาตาม ความพอใจของเขาแบบเดยี วกนั เวลานอนเวลากนิ กใ็ หท้ ำ� พรอ้ มๆ กนั ถา้ จะพาไปดหู นงั หรอื ไปเทย่ี วกพ็ าไปพรอ้ มๆ กนั เวน้ ไวแ้ ตล่ กู คนใด ไม่สมัครใจจะไปเท่าน้ัน ปรากฏว่าทุกคนในครอบครัวมีความสุข สบายดี และทกุ คนเคารพรักพ่อแมเ่ ป็นอย่างดี มีความเป็นอย่อู ยา่ ง สงบสุขเสมอ ครอบครวั นี้เป็นตวั อยา่ งของครอบครัวที่ไมส่ รา้ งความ รสู้ กึ รษิ ยาใหเ้ กดิ ในใจของเดก็ ๆ เมอ่ื เขาไมเ่ คยเปน็ คนมกั รษิ ยา ขณะ เปน็ เดก็ โตขน้ึ กค็ งไมม่ อี ารมณแ์ บบใดมาทำ� ใหเ้ ขาเสยี คนไปได้ จงึ เปน็ เรอื่ งทพี่ อ่ แมค่ วรระมดั ระวงั ใหด้ เี ปน็ พเิ ศษเสมอ อยา่ ไดท้ ำ� อะไรอนั จะ กอ่ ให้เกิดความริษยาข้ึนในใจของเดก็ ๆ เป็นอันขาด รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 168

พ่อแม่บางคนอยากเห็นลูกแสดงอาการแปลกๆ ให้ดูอยากเห็น ลูกร้องไห้เพราะการกระท�ำของตน เช่น พูดเย้าเด็กว่าแม่ไม่รักหนู แลว้ แม่รกั น้องมากกวา่ หนูมใิ ชล่ ูกของแม่ น้องเทา่ นั้นเปน็ ลูกของ แม่ พรอ้ มกบั คำ� พูดก็ท�ำท่าไมเ่ อาใจใส่ตอ่ ลกู คนโต ไปอมุ้ ลูกคนเลก็ ขึ้นจูบ ประทับไว้กับอกของแม่ ลูกคนโตก็น้อยใจเสียใจเพราะแม่ ไม่รักไม่ชอบ ผลสะท้อนก็เกิดขึ้นในใจของเขา เห็นว่าน้องนี้มาแย่ง ความรักของตนไป ต่อจากนั้นก็เกลียดน้องและบางทีอาจหาเร่ือง ท�ำลายน้องของตนก็ได้ พ่อแม่ท�ำเช่นน้ีเป็นเป็นความผิด ความจริง กท็ ำ� เพยี งแตเ่ ยา้ เดก็ เลน่ นกึ วา่ เปน็ เรอื่ งจรงิ กโ็ กรธและกอ่ โทษใหแ้ ก่ ใจของเด็กภายหลัง นบั เปน็ ข้อเสยี ประการหนง่ึ พ่อแม่มลี กู หลายคน ก็ควรเอาใจใส่ต่อลกู ให้สมำ่� เสมอ และเป็น แบบเดยี วกนั อยา่ ทำ� แกค่ นนอ้ี ยา่ งหนงึ่ ไพลไ่ ปทำ� กบั คนโนน้ อกี อยา่ ง หนง่ึ อนั เปน็ ทางสรา้ งความกระทบกระเทอื นแกใ่ จของเดก็ และทำ� ให้ เกิดความริษยาขึ้นได้ในภายหลัง การกระท�ำในรูปใดก็ตามที่ก่อให้ เกิดความน้อยเนื้อต่�ำใจแก่เด็ก เป็นเร่ืองไม่ควรท้ังน้ัน เพราะความ นอ้ ยเนอ้ื ต�่ำใจจูงไปสนู่ ิสยั ริษยา จึงเป็นเร่ืองทค่ี วรระมดั ระวังใหม้ าก เปน็ พเิ ศษขออยา่ ไดท้ ำ� อะไรเปน็ เรอ่ื งสนกุ ๆ แตก่ อ่ ความทกุ ขข์ น้ึ ในใจ ของเด็กของท่านเป็นอันขาด การกระท�ำเช่นน้ันจะเกิดโทษใน ภายหลัง เพราะถึงแม้ลูกของท่านจะเป็นเด็กน้อยๆ เขาก็มีหัวใจ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 169

สำ� หรบั คดิ และมคี วามรสู้ กึ เกยี่ วกบั ไดเ้ สยี เชน่ เดยี วกบั ผใู้ หญเ่ หมอื น กัน เดก็ ที่เกดิ ความริษยาขึน้ ในใจแล้ว ย่อมเกิดความโกรธและความ เกลียดชังต่อบุคคลท่ีท�ำให้ตนต้องน้อยอกน้อยใจ เช่น โกรธคุณพ่อ คุณแมโ่ กรธ พ่ีนอ้ ง ทม่ี สี ่วนเกย่ี วข้องก่ออารมณ์ประเภทน้นั แก่เขา ความโกรธเกลียดเปน็ โทษภยั อยา่ งไร ทา่ นท้ังหลายทราบกนั ดอี ยูแ่ ลว้ อีกประการหนึ่งความนอ้ ยเนือ้ ต่�ำใจของเด็กๆ เป็นเหตุกีดขวางความก้าวหน้าของเด็ก ท�ำให้เขา กลายเปน็ คนข้ีอาย ชอบเก็บตัวไม่อยากจะสงุ สงิ กบั ใครๆ เปน็ คนไม่ อยากคบเพื่อนฝูงเพราะขาดก�ำลังใจ รู้สึกว่าตนไม่มีใครรักไม่มีใคร เอาใจใส่เสียเลย สู้คนอ่ืนเขาไม่ได้ ต่อไปก็เกิดความไม่ชอบใจและ อาจจะมคี วามมุง่ มน่ั ในทางทีไ่ ม่ดี เพ่ือทำ� ตนให้ใครๆ ไดเ้ อาใจใสต่ น ข้ึนมาบา้ ง ขา่ วภยั เกย่ี วกบั เดก็ เชน่ เดก็ ชาย 8 ขวบ ทำ� รา้ ยน้องของ ตนจนตายนนั้ เนอ่ื งจากความรษิ ยาเปน็ ขอ้ ใหญ่ จงึ เปน็ เรอื่ งทพ่ี อ่ แม่ ควรจะถือวา่ เป็นเรอ่ื งส�ำคญั และควรหาทางปอ้ งกนั มิให้เกดิ อาการ เช่นนัน้ ข้นึ ในใจของเดก็ แต่ควรหาทางเพาะความพลอยยินดีแก่กัน ใหเ้ กดิ ความรกั ความเอน็ ดตู อ่ กนั โดยการสอนของทา่ นใหร้ กั เพอ่ื นฝงู ใหร้ กั และสงสารนอ้ งๆ ดว้ ยวธิ กี ารทคี่ วรกระทำ� เชน่ สอนเดก็ ใหร้ จู้ กั แบง่ ปนั ของเลน่ ของกนิ ใหเ้ พอื่ นฝงู หรอื แกเ่ ดก็ ทเี่ ลก็ กวา่ ตน เปน็ การ สร้างไมตรีจิตด้วยการให้ปัน ดังค�ำที่พระพุทธองค์สอนว่า “การให้ ย่อมยงั มิตรภาพใหเ้ จรญิ ” รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 170

ความน้อยเนอื้ ตำ่� ใจ จูงไปส่นู สิ ยั รษิ ยา เด็กที่ได้รับของแจกจากเพ่ือนเด็ก ก็ย่อมรักและมีไมตรีต่อกันได้ เป็นอยา่ งดี ถ้าเด็กของท่านมนี ้อง จงพยายามใหเ้ ขาไดท้ �ำการชว่ ยนอ้ ง เช่น นั่งดูน้อง ให้เขาได้จับต้องได้โอบอุ้มแสดงความรักต่อน้องของเขา อธิบายให้เขาเข้าใจว่าน้องก็รักเขา และเขาก็ควรรักน้อง พี่กับน้อง เป็นเหมือนแขนขวาแขนซา้ ย ตอ้ งวง่ิ อาศยั กันอยตู่ ลอดเวลา ถ้าท่าน เห็นพี่ท�ำการอะไรอันเป็นการแสดงออกของความไม่พอใจต่อน้อง ขอท่านจงป้องกันทันที โดยพูดหรือท�ำให้เขาเข้าใจว่าการกระท�ำ ในรูปนั้นเป็นเร่ืองไม่ดี อย่าได้มองไปในแง่ที่ว่า การริษยาของพี่ต่อ น้องเป็นเรื่องน่าเอ็นดูไปเป็นอันขาด เช่น พี่ท�ำท่าหักขาน้อง หรือ ท�ำท่าจะกัดน้องด้วยความริษยาตามประสาเด็กๆ ขอท่านอย่าได้ เห็นเป็นเรื่องน่าข�ำน่าเอ็นดูเลย เพราะอาการเช่นนั้นเป็นภาพเบ้ือง รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 171

ตน้ ของความไมด่ ใี นอนาคต ถา้ ลกู ของทา่ นแสดงอาการรษิ ยาตอ่ เดก็ คนใด และท่านอยากจะสนุกด้วยการเห็นเด็กมีโมโห ท่านกลับชม เดก็ คนทล่ี กู ของทา่ นไมช่ อบ เพราะทำ� เชน่ นไ้ี มเ่ ปน็ การชอบ เปน็ การ กระทำ� ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ อารมณแ์ กเ่ ดก็ ผมู้ คี วามรษิ ยาเปน็ ทนุ อยแู่ ลว้ ใหไ้ ด้ ก�ำไรความริษยาเพ่ิมขน้ึ อกี เปน็ การเสียหายโดยส่วนเดยี ว ความรษิ ยา ทก่ี อ่ รปู ขนึ้ ในใจของเดก็ คนใดแลว้ ถา้ หากบดิ ามารดา ไมม่ คี วามคดิ ในทางถกู เพยี งพอ ไมห่ าทางกำ� จดั ความรษิ ยาออกจาก ใจของเด็ก เม่ือเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เขาจะมีความริษยามากข้ึน ตามอายุและสิ่งแวดล้อม เป็นเร่ืองท่ีห้ามได้ยากเสียแล้ว เหมือน กองไฟโตย่อมดับได้ยาก เด็กที่เจริญด้วยความริษยาย่อมไม่อยาก เหน็ ใครดเี ดน่ เกนิ หนา้ ตนออกไป เมอื่ เหน็ ใครดเี ดน่ กวา่ กย็ อ่ มหาทาง ท�ำลายป้ายสีบ้าง ท�ำร้ายเขาบ้าง ผลท่ีสุดตนก็ท�ำงานร่วมกับใคร ไม่ได้ เปน็ ใหญเ่ ป็นโตกบั เขากไ็ ม่ได้ เพราะการท่ไี ม่ยอมให้ใครดนี ัน้ ตนจะมีความดไี ด้อย่างไร งานเขาก็ไม่กา้ วหนา้ เพราะคอยถูกกีดกนั ไว้เสมอ ใครจะท�ำอะไรก็ต้องได้ความดีความเด่นติดตัวจึงจะชอบ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 172

มิฉะน้ันต้องหาทางท�ำลายเสมอ เขาจึงกลายเป็นคนชนิดเข้าท่ีไหน แตกท่ีน่ัน ความยุติธรรมย่อมไม่มีในคนผู้มีใจมักริษยา และมักคิด วา่ ทกุ คนมกั อยตุ ธิ รรมตอ่ ตนเสมอ นำ้� ใจทสี่ ะอาดและยนิ ดใี นความดี ของผู้อ่นื ไม่มี จึงทำ� แตเ่ รื่องยงุ่ ยากแก่ตนแก่ท่าน อนาคตของคนมกั รษิ ยา จงึ มดื มนตลอดกาล บาปอนั นเ้ี กดิ จากความไมส่ นใจในการแก้ นสิ ยั ของเดก็ หรอื อาจจะยเุ ดก็ ใหม้ นี สิ ยั ในรปู นน้ั เสยี ดว้ ย นบั เปน็ การ เสียหายมิใช่น้อย จึงขอเตือนท่านท่ีเป็นพ่อแม่เด็กท้ังหลายพึงระวัง ให้จงหนักอย่าได้กระท�ำกิจอันจะก่อให้เกิดความริษยาข้ึนในใจลูก ของทา่ นเปน็ อนั ขาด ขอให้รู้ไว้ว่า โลกก�ำลังต้องการความดีประเภทที่เห็นดีงามกับ การกระท�ำของคนอ่ีน และช่วยเหลือกันก่อความดีให้เกิดแต่ชุมชน เสมอ เมืองไทยต้องการความพลอยยินดีในความดีของคนอ่ืน และ ใหท้ ุกคนช่วยกนั สร้างสรรค์ให้ชาตไิ ทยกา้ วไปสู่ความเจรญิ กา้ วหน้า ตามแนวพุทธธรรม หนา้ ทนี่ ตี้ กอย่กู ับพ่อแม่ท้ังหลาย. รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 173

We never know the love of a parent till we become parents ourselves. - Henry Ward Beecher

การฝกึ เด็ก . . . ให้ไกลจากอาชญากร . . . . . . ท่ า น พ่ อ แ ม่ ท่ี นั บ ถื อ ท้ั ง ห ล า ย หลายคร้ังหลายหน ที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเข้าไปท�ำการอบรม นักโทษในเรือนจ�ำของจังหวัดต่างๆ ท่ีข้าพเจ้าไปท�ำการอบรม ประชาชน ได้พบว่ามีผู้ต้องขังเป็นจ�ำนวนมากผู้ต้องขังที่ท�ำให้กระเทือนใจ มากท่ีสุดคือเด็กเลก็ ๆ อายุขนาด 12-15 ปี อนั มีอยูใ่ นเรอื นจำ� นน้ั ๆ ไดล้ องถามเด็กเหลา่ น้ันวา่ ตอ้ งถูกจับดว้ ยเรื่องอะไร เขาบอกว่าเร่ือง ลกั ทรพั ยบ์ า้ ง เรอื่ งทำ� รา้ ยรา่ งกายเพอื่ นเดก็ ดว้ ยกนั บา้ งสว่ นมากเกยี่ ว กับเรื่องลกั ทรัพย์ ไดถ้ ามเขาตอ่ ไปวา่ พอ่ แมไ่ ม่มีหรอื เขาบอกว่ามอี ยู่ ถามเขาตอ่ ไปวา่ พอ่ แมย่ ากจนหรอื กไ็ ดท้ ราบวา่ หาไดเ้ ปน็ คนยากจน เกนิ ไปไม่ พอมบี า้ นอยมู่ ขี า้ วกนิ ทกุ วนั ไมเ่ คยอดอยาก แตท่ ำ� ไมเจา้ เดก็ นอ้ ยคนนนั้ จงึ ตอ้ งตกเปน็ อาชญากรไปอยา่ งนน้ั ถา้ ไมศ่ กึ ษาถงึ มลู ฐาน ของเขากค็ งไมท่ ราบ แลอาจนกึ ไปวา่ เพราะความยากจนเปน็ เหตจุ รงิ อยคู่ วามยากจนเปน็ เหตปุ ระการหนง่ึ ทท่ี ำ� ใหค้ นกลายเปน็ อาชญากร แต่เราจะคิดว่ามีเหตุเพียงประการเดียวเท่านั้น ก็ไม่ได้เหตุอันอื่นๆ กค็ งมอี ยบู่ า้ งมใิ ชน่ อ้ ย รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 175

พ่อแม่บางคน มีส่วนส�ำคัญในการอบรมลูกของตนให้เป็นโจรไป โดยไมร่ สู้ กึ ตัว นิทานสุภาษิตเรื่องสอนลกู ใหเ้ ป็นโจรมีเป็นตัวอยา่ งอยูแ่ ล้ว จรงิ อยพู่ อ่ แมท่ กุ คนมคี วามรกั ลกู และปรารถนาทจ่ี ะสอนลกู ใหเ้ ปน็ คนดี มีหน้ามีตา แตบ่ างคนเขา้ ใจผิดในเรื่องความดมี หี นา้ มตี า เช่น เข้าใจ ไปวา่ ถา้ ลกู ของตนเปน็ คนเกง่ ไมก่ ลวั ใคร เปน็ นกั สู้ กระท�ำอะไรได้ ทุกอย่าง กน็ ึกว่าเปน็ ความดีแล้ว ความคดิ แบบน้ีเป็นความคดิ ทผ่ี ิด เกิดขึ้นแก่มารดาบิดาใดแล้ว ย่อมน�ำความเสื่อมมาสู่สกุลเป็นแน่ ขออยา่ ไดม้ ีความเขา้ ใจผิดในรูปน้ีเลย เราชาวไทยนับถือพุทธศาสนา หลักการปฏิบัติชั้นต้นๆ ของพุทธศาสนาก็คือ ศีลห้าประการ สอนมใิ หท้ ำ� การฆา่ สตั ว์ อนั เปน็ การกระทำ� ทโ่ี หดรา้ ยปราศจาก ความปราณี สอนมใิ หท้ ำ� การลกั ขโมย อนั เปน็ อาการของบคุ คลผไู้ มเ่ คารพ ตอ่ กรรมสิทธ์ิ ทรพั ยส์ นิ ของใครๆ สอนมใิ หม้ กี ารประพฤตผิ ดิ ในทางกาม อนั แสดงถงึ ความเป็น คนไมร่ ู้จกั บงั คบั ตนเองในทางใจ สอนมิให้พูดค�ำหยาบ ค�ำโกหก ค�ำเหลวไหล ค�ำท่ีท�ำให้ แตกจากกนั ลว้ นเปน็ คำ� พดู ทส่ี อ่ แสดงถงึ ความไมด่ ขี องใจและ ประการสุดท้าย สอนมิให้ด่ืม-สูบ-กิน ของมึนเมา อันเป็น ท่ตี ง้ั ของความประมาท รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 176

ข้อปฏิบัติทั้งห้าประการนี้เป็นกิจชอบควรที่พ่อแม่พึงสอนให้ แก่บุตรธิดาของตนให้รู้จักปฏิบัติได้ดีตั้งแต่เยาว์วัย ก็จะช่วยให้เด็ก เหล่านน้ั ทำ� ตนเปน็ คนดีไดใ้ นโอกาสข้างหน้า อบุ าสกิกาผู้หนง่ึ เคยมาบอกแก่ขา้ พเจ้าว่า ลูกหญิงคนหน่ึงเป็นคนมือไวมาก สตางค์ท่ีเก็บไว้หายไปบ่อยๆ จบั ได้กท็ �ำโทษ ตมี ือเพ่ือให้เขด็ หลาบ กย็ ังไม่หยุด เผลอก็เอาไปอีก เสมอจนไม่รู้จะท�ำอย่างไรแล้วจึงมาหารือกับข้าพเจ้าเผ่ือมีทางช่วย เหลอื ไดบ้ า้ ง ขา้ พเจา้ ไดถ้ ามถงึ ความเปน็ อยขู่ องเดก็ เชน่ ถามวา่ เดก็ มี ปกตกิ นิ จกุ กนิ จกิ บา้ งไหม เดก็ ใชส้ ตางคเ์ ปลอื งไหม เดก็ มพี วกเพอ่ื นท่ี มฐี านะดกี วา่ และไดร้ บั สตางคม์ ากๆ จากพอ่ แมบ่ า้ งไหม อนั เปน็ เรอื่ ง ที่ชอบให้เด็กประพฤติตนเป็นคนเสียหายได้ง่าย ก็ได้รับค�ำตอบว่า มสี ง่ิ เหล่าน้อี ยคู่ รบครันทีเดียว ตอ้ งหาทางแกก้ ันก่อน รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 177

ในเรอ่ื งกนิ จกุ จกิ เลก็ นอ้ ยนนั้ เนอ่ื งมาจากการอบรมในครอบครวั แมเ่ ปน็ ผฝู้ กึ หดั เขาใหเ้ ปน็ เชน่ นน้ั ทางบา้ นจงึ ควรปรบั ปรงุ ระบบการ กินอยู่เสียใหม่ อย่าตามใจปากมากเกินไปจะเดือดร้อนในภายหลัง ตอ้ งพดู ใหเ้ ดก็ เขา้ ใจถงึ โทษของการกนิ จกุ จกิ วา่ ทำ� ใหท้ อ้ งเสยี ฟนั เสยี และเปลืองสตางค์ด้วย ที่ส�ำคัญก็ท�ำให้เสียนิสัยของเด็กเอง หัดกิน เป็นเวลาและกินพร้อมๆ กัน มีอะไรก็แบ่งกันกินท่ัวหน้าคนละเล็ก ละน้อย เวลาเด็กใช้สตางค์ในเวลาไปไหน มาไหนถ้าให้ไปเท่าใดก็ หมดทุกที แสดงว่าเดก็ ขาดการบังคบั ตนเองจงึ จา่ ยเติบอย่างนน้ั แม่ ควรฝึกเขาให้เป็นคนรูจ้ ักประหยดั อย่าใหจ้ า่ ยมากเกนิ ไป เช่นให้เงิน เขาไปใชห้ นงึ่ บาท ขอใหเ้ ขาเหลอื ไวส้ กั ยสี่ บิ หา้ สตางคเ์ ปน็ อยา่ งนอ้ ย ส่วนท่ีเหลือขอให้เหลือจากของที่จ�ำเป็นจะต้องใช้แล้ว ภาษิตท่ีว่า มีสลงึ พึงประจบใหค้ รบบาท อยา่ ใหข้ าดดว้ ยของต้องประสงค์ ถา้ มี นอ้ ยจ่ายค่อยบรรจง อยา่ จา่ ยลงใหม้ ากจะยากนาน เปน็ เรอ่ื งทคี่ วร สอนให้เดก็ ๆ ไดต้ ระหนกั ไว้เสมอ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 178

การขอรอ้ งแกมบงั คบั ใหเ้ ดก็ ของทา่ นเกบ็ เงนิ เปน็ เปน็ ทางปอ้ งกนั มใิ หข้ าดเงนิ ใช้ และถา้ เดก็ ทำ� ไดด้ งั ทท่ี า่ นขอรอ้ งใหก้ ระทำ� จงชมเชย เขา หรอื จะใหร้ างวลั แกเ่ ขาเปน็ เงนิ บา้ งนดิ หนอ่ ยกย็ งั ดี จะเปน็ ทางให้ เขาไดเ้ กดิ ความรสู้ กึ วา่ การกระทำ� ความดยี อ่ มยงั ประโยชนใ์ หส้ ำ� เรจ็ เพอื่ นของลกู ของทา่ นมฐี านะดใี นทางการเงนิ มพี อ่ แมท่ ส่ี รุ ยุ่ สรุ า่ ย จงึ ไดส้ อนลกู ใหเ้ ปน็ คนเชน่ นน้ั ไปดว้ ย ทา่ นควรจะอธบิ ายใหเ้ ดก็ เขา้ ใจถงึ ฐานะของเขา ให้เขาเข้าใจว่าการจ่ายเงินมากนั้นไม่ใช่มีทางจะดีได้ ในกาลตอ่ ไป คนเราจะดไี ดก้ ต็ อ้ งรจู้ กั เกบ็ ไมใ่ ชก้ นั จนหมดของทตี่ นมี ยกตัวอย่างตัวปลวกเก็บอาหารไว้ส�ำหรับลูกน้อย ตัวปลวกสร้างรัง ด้วยการเก็บดินมาสร้างสมทีละนิด จนกลายเป็นจอมปลวกใหญ่โต ข้ึนมาได้ ตัวผึ้งเก็บน้�ำหวานจากเกษรดอกไม้ทีละน้อยๆ จนกลาย เปน็ รงั นำ�้ หวานอันมหึมา ทุกอยา่ งเกดิ ดว้ ยการสะสมกนั ทัง้ น้นั เดก็ ก็พอมีความเขา้ ใจและเห็นการจ่ายเติบเปน็ ส่ิงไมด่ ี นเ่ี ปน็ เรื่องแกไ้ ข ดา้ นของเด็ก รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 179

ในดา้ นผใู้ หญ่ เรากค็ วรมกี ารแกไ้ ขกนั บา้ งเหมอื นกนั เพราะผใู้ หญ่ มสี ว่ นสำ� คญั ในการสรา้ งนสิ ยั ใหแ้ กเ่ ดก็ ทง้ั ดา้ นดแี ละดา้ นเสยี ลกู ของ ท่านมือไวหยิบสตางค์ไปใช้นั้น ความจริงเขาท�ำโดยความเข้าใจผิด เขานกึ ว่าเป็นของๆ คณุ พอ่ คุณแม่ ลูกก็ควรมสี ิทธิ์จะน�ำไปใช้ไดโ้ ดย ไม่ต้องบอก แต่การกระท�ำเช่นน้ันเป็นต้นทางไปสู่ความชั่วต่อไป ขนาดหนัก จึงไม่ควรปล่อยเลยตามเลย ต้องบอกเด็กให้รู้ว่า คนดี เมอ่ื จะหยบิ ฉวยอะไรของใครตอ้ งไดร้ บั อนญุ าตจากเจา้ ของกอ่ นเสมอ ของที่อยู่ในบ้านน้ีท้ังหมดเป็นของพ่อและแม่ ของอย่างใดเอาไปได้ โดยไมต่ อ้ งบอก ของใดทต่ี อ้ งบอกใหเ้ ดก็ ไดร้ บั ทราบไวเ้ สยี กอ่ น เพราะ ปกตขิ องเด็กไมอ่ ยากท�ำความชั่ว ไม่อยากขดั ใจคุณพอ่ คุณแม่ เพยี ง แตไ่ ดย้ นิ คำ� วา่ พอ่ แมไ่ มร่ กั แลว้ เพราะหนเู ปน็ คนชว่ั เขากไ็ มพ่ งึ ใจ จงึ ควรบอกให้ทราบไว้ก่อนเป็นดี น่ีเป็นทางป้องกันทางหนึ่ง แต่วิสัย ของเด็กยังบังคับตนเองไม่ได้ อาจเผลอท�ำอะไรผิดได้ ถ้าหากมีสิ่ง ยว่ั ยุให้กระท�ำ ถา้ หากเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางเสยี ขณะใดจงเร่ิมตกั เตอื นเขาทนั ที อย่าช้าเป็นอนั ขาด เพราะความทชี่ วั่ เกิดในใจ ของคนนนั้ ย่อมงอกงามอย่างรวดเร็วเสมอ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 180

พอ่ แมจ่ งึ ควรหาทางปอ้ งกนั อกี ประการหนงึ่ คอื อยา่ วางของทเ่ี ดก็ จะเอาไปได้ไว้ใกลม้ อื ของเด็ก เพราะของท่อี ยู่ใกลห้ ยิบง่าย เด็กอาจ เกดิ ความอยากเอาไปเสียเมอ่ื ใดกไ็ ด้ การเกบ็ เงนิ ไวใ้ นล้นิ ชักโดยมไิ ด้ ใสก่ ุญแจ หรอื เกบ็ ไว้ใต้ทน่ี อนเปน็ เรื่องลอ่ แหลมตอ่ อันตรายอย่มู าก เดก็ เห็นเขา้ ก็อาจถอื เอาไปเมอ่ื ใดกไ็ ด้ แล้วเราจะไปโทษเดก็ วา่ เปน็ คนมอื ไวใจโจรกย็ ากอยู่ ความผดิ มนั เรม่ิ ทต่ี วั ผใู้ หญก่ อ่ น ผใู้ หญจ่ งึ ควร ระมัดระวงั ให้ดีเป็นพิเศษเกีย่ วกบั เรื่องน้ี ความไม่รอบคอบของทา่ น นั้นแหละได้ฟักตัวผู้ร้ายข้ึนในบ้านของท่านเอง จึงควรจ�ำเป็นหลัก ไว้ว่า เงินทองของล่อใจ อย่าเก็บไว้ให้ใครเห็น ปกปิดให้มิดเม้น จักไมเ่ ป็นอนั ตราย นีห่ ลักหน่ึง เม่ือท่านได้หาทางป้องกนั เปน็ อยา่ งดแี ล้ว แต่ลูกของท่านยังขืนท�ำอะไรในรูปน้ันอยู่อีก ก็ต้องค้นหาเหตุ เคร่ืองจูงใจให้ได้และแก้ไขต่อไปจนกว่าลูกของท่านจะเป็นคน เรยี บรอ้ ย ไมก่ ระทำ� อะไรในทางทเี่ รยี กวา่ ลกั ขโมยตอ่ ไปอกี มอี กี เรอ่ื ง หน่งึ ทพ่ี งึ ระวังคอื ปกติของเดก็ ย่อมอยากจะมี อยากจะเป็น อยาก จะเอาอะไรๆ ท่ีเพื่อนเขามีอยเู่ สมอ ในเร่อื งนี้พอ่ แม่ต้องคอยกำ� หนด ดกู ริ ยิ าอาการของเด็กไวเ้ สมอ ถ้าหากเขาเปลย่ี นแปลงไปในทางเสีย ขณะใดจงเร่ิมตักเตือนเขาทันที อย่าช้าเป็นอันขาด เพราะความที่ ชั่วเกิดในใจของคนน้ัน ย่อมงอกงามอย่างรวดเร็วเสมอ ในบางครั้ง เดก็ อยากมขี องเลน่ ชนดิ ทเ่ี พอื่ นอน่ื มกี นั แตต่ นไมม่ เี งนิ จะซอื้ หา เมอ่ื ความต้องการรุนแรงขึ้น เขาอาจเอาของๆ เพ่ือนกลับมาบ้านก็ได้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 181

ในเรื่องอย่างน้ีถ้าพ่อแม่มีฐานะพอจะท�ำได้ควรมีของเล่นให้แก่เด็ก บ้างอย่ให้เด็กเกิดอารมณ์เปลี่ยวมากเกินไป หรือบอกไว้ก่อนว่า ถา้ ลูกตอ้ งการอะไรกจ็ งบอกให้แม่ทราบ ถา้ พอจะหาใหไ้ ด้ ก็จดั แจง หาให้เขา ถ้าเห็นว่าไม่จ�ำเป็นก็พูดให้เขาเข้าใจว่าไม่จ�ำเป็นอย่างไร อย่าปล่อยให้เด็กคิดเอาเองเป็นอันขาด เพราะความคิดของเด็กยัง ไม่เจริญพอ ไม่สามารถนึกคิดอะไรในทางที่ถูกที่ควรได้ ถ้าหากลูก ของท่านไปโรงเรียน ท่านควรหม่ันตรวจตราดูแลของใช้ของเล่นไว้ บ้างเพ่ือให้รู้ว่าเขามีอะไรบ้างเป็นประจ�ำ หรือได้อะไรเพ่ิมมาบ้าง ได้มาโดยวิธีใด เพ่ือนให้หรือใครให้แก่เขา อย่าให้เขาได้กระท�ำการ ลว่ งเกนิ หยบิ ฉวยของผใู้ ดมาเปน็ อนั ขาด นเ่ี ปน็ ทางปอ้ งกนั ความเสยี ได้ประการหน่งึ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 182

เม่ือลูกของท่านเติบโตข้ึน ขนาดพอไปไหนมาไหนได้ตามล�ำพัง แล้ว มีเรื่องที่พึงระมัดระวังเกี่ยวกับการขโมยอยู่บ้าง เด็กท่ีมิได้ รบั การอบรมใหเ้ คารพในกรรมสทิ ธท์ิ รพั ยส์ นิ ของผอู้ น่ื มกั หยบิ ฉวย อะไรๆ มาตามชอบใจเสมอ สมมติว่าลูกของท่านออกไปเท่ียวนอกบ้าน เดินผ่านไร่ผัก ของใครๆ เห็นถ่ัวหรือฟักแฟงแตงเต้าท่ีพอจะกินเป็นอาหารได้ เขาก็คงเก็บติดมือไปบ้าน ถึงบ้านท่านผู้เป็นพ่อแม่ ท�ำอาการเฉยๆ ไมส่ อบถามวา่ ของนไี้ ดม้ าจากไหนใครเปน็ คนใหม้ า ชวนกนั กนิ สงิ่ นนั้ อย่างสบายใจ เด็กก็คงนึกว่าการกระท�ำของตนเป็นการชอบแล้ว เพราะไม่เห็นคุณพ่อคุณแม่ติเตียนไต่ถาม ทุกคนกินด้วยกันอย่าง สบายใจ เด็กคงรู้สึกภูมิใจ ในการท่ีตนสามารถท�ำให้พ่อแม่ภูมิใจ อ่ิมใจได้ความคิดนี้เกิดมาจากความรักต่อพ่อแม่เป็นมูลฐาน และ ใคร่จะท�ำอะไรๆ ให้พ่อแม่ได้รับความพอใจ กรณีเช่นนี้ก่อให้คน เป็นโจรมามากแล้ว จึงใคร่จะขอเตือนท่านผู้รับผิดชอบในชีวิตของ ลูกของท่าน ให้พึงสังวรไว้สักหน่อยอย่าประมาทในเรื่องเล็กน้อย เป็นอันขาด เมื่อใดท่านเห็นว่าลูกของท่านได้ท�ำอะไรในทางไม่ควร เชน่ เขาไปเท่ียวแลว้ มขี องตดิ มือมา ท่านจงสอบถามทันที แตอ่ ย่า ถามแบบขู่ตะคอกแบบโกรธเคือง พูดกันดีๆ และออ่นหวานเอา ความรักความเมตตาออกมาอวดเถิด ท่านก็จะทราบความจริง ทงั้ หมด เมอื่ ทราบความจรงิ แล้ว ถ้าหากระยะทางไมไ่ กลเกนิ ไป พอ จะเดนิ ไปมาถงึ กนั ได้ กจ็ งพาลกู พาของทา่ นไปหาเจา้ ของสวนผกั นนั้ ๆ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 183

แล้วสารภาพความผิดกับเขาเสีย มอบผักผลไม้คืนแก่เจ้าของเดิม ถา้ เจา้ ของเดมิ เขามอบใหจ้ งึ ควรรบั และกล่าวค�ำขอบอกขอบใจตาม ธรรมเนยี ม การกระทำ� ในรูปน้ีเป็นการกระทำ� ที่ถกู ต้อง เป็นทางกอ่ ใหเ้ กิดความเห็นใจของกนั และกัน ถ้าหากว่าของที่ลูกน�ำมาน้ัน อยู่ห่างไกลไม่สามารถจะน�ำคืน หรอื ใหล้ กู ทา่ นไปขอโทษเขาได้ ก็จงเอาของน้นั ไปทิ้งเสียเถิด อยา่ ได้ เอามารับประทานเข้าไปเลย โดยการพูดให้เด็กของท่านเข้าใจว่า ของใดไดม้ าโดยการลกั ของนัน้ เปน็ ของบาป ของบาปเปน็ ส่งิ ไม่ควร แก่การกินการใช้ ใครกินของท่ีเป็นบาปเขาไป จะมีบาปติดตัวส้ิน กาลนาน คนบาปไม่เปน็ ทพี่ อใจของใครๆ ลกู ของแม่อย่าได้เปน็ คน บาปเลย เม่ือพูดให้ฟังแล้วก็เอาไปท้ิงเสียอย่างน้ี เป็นการกระท�ำท่ี ชอบด้วยเหตุผล ไม่ส่งเสริมบาปอกุศลให้เกิดข้ึนในใจของลูกเล็กๆ ของทา่ น นบั วา่ ทา่ นไดก้ ระทำ� บญุ อนั ประเสรฐิ ประการหนงึ่ แลว้ บญุ นี้ จะเปน็ เกราะป้องกนั ลูกของท่านมิให้ตกไปสบู่ าปในกาลข้างหนา้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 184

การถอื วสิ าสะความคนุ้ เคยกนั แบง่ กนั กนิ กนั ใชใ้ ครใครไ่ ดอ้ ะไรก็ นำ� ไปตามชอบใจในสมยั กอ่ นนนั้ มาในสมยั นตี้ อ้ งรจู้ กั ใชใ้ หเ้ หมาะแก่ กาลเทศะ จะให้พร่�ำเพรื่อไม่ได้ เพราะคนเราในสมัยนี้ไมค่ อยมีการ รู้จักว่าเท่าใดพอดีเท่าใดพอควร มักท�ำอะไรเกินพอดี และการกระ ทบกระเทอื นนำ้� ใจของเพอ่ื นฝงู จงึ ขอใหร้ จู้ กั ใชก้ บั คนคนุ้ เคยกนั จรงิ ๆ และตอ้ งเชอื่ แนว่ า่ เมอ่ื ตนนำ� ไปแลว้ เจา้ ของจะไมโ่ กรธไมน่ อ้ ยใจแมแ้ ต่ นอ้ ยถา้ หากวา่ ไมแ่ นใ่ จ โปรดอยา่ ใชว้ สิ าสะกนั เปน็ อนั ขาด ของใดเปน็ ของกลาง เชน่ ดอกไมใ้ นสวนสาธารณะ บอ่ นำ้� สะพาน เปน็ สง่ิ ทที่ กุ คน ควรสงวนไว้ มารดาบิดาพึงสอนบุตธิดาให้รู้จักรักษาสิ่งเหล่าน้ี อย่าใหเ้ ขาเปน็ คนมอื บอน ทำ� ลายสงิ่ อนั ไม่ควรทำ� ลายเปน็ อันขาด จงฝกึ ลกู ของทา่ นใหม้ นี สิ ยั สรา้ งสม นสิ ยั รกั ษาสงิ่ ทคี่ วรรกั ษานสิ ยั เคารพในความเปน็ เจา้ ของของผอู้ นื่ เสมอ ทา่ นกจ็ ะไดช้ อื่ วา่ ผสู้ รา้ งลกู ใหด้ ี สรา้ งชาติบา้ นเมืองให้เจริญอิม่ ใจไดแ้ น่ๆ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 185

I have great genes. Thank you to my mom and dad for that one. - Gloria Estefan

เดก็ ท่ีฝึกดแี ล้ว . . . เ ป็ น เ ด็ ก ป ร ะ เ ส ริ ฐ . . . . . . ท่ า น พ่ อ แ ม่ ท่ี นั บ ถื อ ท้ั ง ห ล า ย สัตว์เดรจั ฉานมหี ลายชนดิ ทเ่ี ป็นอาชาไนย คอื สามารถฝกึ ใหท้ �ำอะไรกไ็ ด้ เราคงเคยเหน็ ลิง เขาเอามาหดั ให้แสดงละคร มนั ก็ท�ำไดต้ ามที่ ฝกึ สอนใหท้ ำ� ทำ� ไดอ้ ยา่ งเรยี บรอ้ ยทพ่ี ออกพอใจของผดู้ เู สยี ดว้ ย สนุ ขั ในหนงั ฝรงั่ ทำ� อะไรไดห้ ลายอยา่ งจนคนดรู อ้ งออกมาวา่ แหม! มนั รไู้ ป ทกุ อยา่ ง ดกี วา่ คนบางคนเสยี อกี นกขนุ ทองเราจบั มาขงั ไวใ้ นกรง หดั ใหม้ นั พดู ภาษาคนกย็ งั พดู ได้ ใครไดเ้ หน็ การกระทำ� ของสตั วด์ งั กลา่ ว มาน้แี ลว้ คงนกึ สงสยั ว่าเขาหดั กนั อย่างไร เขาใชแ้ ส้ตีมันหรอื มนั จงึ ทำ� อะไรได้อยา่ งท่เี ขาตอ้ งการให้ท�ำหรือวา่ เขาสอนมันโดยวิธอี ืน่ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 187

ขอบอกให้ท่านท้ังหลายทราบเสียหน่อยว่า เขาหาได้เฆี่ยนตี ขู่เข็ญทรมานท�ำให้มันกลัวแต่อย่างใดไม่ หากแต่เขามีวิธีล่อให้สัตว์ นั้นๆ ท�ำอะไรทุกอย่างโดยให้สิ่งท่ีมันต้องการ อันธรรมดาของสัตว์ ทัง้ หลายรวมทั้งสัตวค์ นดว้ ย มปี กติติดหรือชอบใจส่งิ ใดส่ิงหนึง่ เสมอ ถ้าชอบติดในส่ิงใดแล้ว ขอให้ได้ส่ิงน้ันมาเถิด จะให้ฉันท�ำอะไรเป็น ยอมทั้งน้ันชายหนุ่มที่ชอบหญิงสาว หรือหญิงสาวท่ีติดชายหนุ่ม มี ความรักใจจดจอ่ แล้ว จะให้เธอท�ำอะไรกท็ ำ� ได้ แมส้ ่ิงนัน้ จะล�ำบาก หรือยากที่สุดเขาก็ยอมท�ำ ทำ� เพ่อื ให้ได้สิ่งทเี่ ขาตอ้ งการน่นั เอง สิง่ ที่ ท�ำท่าท�ำทางได้ต่างๆ นั้น เจ้าของเขาให้มันกินอาหารเจือยาฝิ่นอัน เปน็ สิง่ เสพตดิ เขาใหภ้ ายหลงั ท่บี อกให้มนั ทำ� ทา่ ท�ำทางต่างๆ ตามท่ี เขาตอ้ งการแลว้ พอทำ� จบกใ็ หก้ นิ ทนั ที เจา้ ลงิ ตดิ ใจในรสของอาหาร เมอื่ เขาตอ้ งการใหแ้ สดงกเ็ อาอาหารมาลอ่ พอเหน็ ของชอบใจกแ็ สดง ทา่ ทางตามทเ่ี จา้ ของบอกทันที รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 188

สนุ ขั ทแ่ี สดงทา่ ทางไดต้ า่ งๆ กเ็ ชน่ เดยี วกนั เขาลอ่ ดว้ ยอาหารทงั้ นน้ั ท่วี ัดมีสนุ ัขนอ้ ยอยู่ตวั หน่งึ พอขา้ พเจ้าไปโรงฉนั มนั ก็ตามไปเพื่อ กินอาหาร ข้าพเจ้าหัดให้มันหมอบอยู่ก่อนจนกว่าจะฉันเสร็จ พอ เสรจ็ แลว้ กใ็ หอ้ าหารแกม่ นั วนั ตอ่ วนั มนั มาถงึ กน็ อนหมอบใกลๆ้ เขา้ ทกุ วนั ตอ่ มาใคร่จะใหม้ ันนั่งใหด้ บู ้าง พอจะใหก้ ินก็บอกใหน้ ่งั จบั ตวั มันน่ังขึ้นและบอกว่านั่งๆ หลายครั้ง พอมันนั่งได้แม้นิดหน่อยก็ให้ อาหารทนั ที ตอ่ มาหลายวนั เขา้ พอมนั จะกนิ อาหารมนั กน็ ง่ั ใหด้ ู พรอ้ ม กบั ยกมอื ทง้ั สองเหมอื นจะไหวน้ นั้ แหละ เดยี๋ วนม้ี นั ทำ� ใดค้ ลอ่ งแคลว่ มาก อาหารเป็นเคร่ืองล่ออย่างส�ำคัญ เพราะเมื่อมันชอบใจอยาก ได้สง่ิ ใด มนั กต็ อ้ งกระทำ� เพ่ือให้ไดส้ มอยาก สัตว์เดรัจฉานพูดกนั ไม่ ค่อยรู้ภาษา กย็ ังฝึกฝนให้ท�ำอะไรไดต้ า่ งๆ คนเราพูดกันรูเ้ ร่ืองท�ำไม จะท�ำการฝกึ กนั ไมไ่ ด้เลา่ ! ตัวอย่างจากการฝึกฝนสัตว์ พอจะเป็นแนวคิดแก่คนเราได้บ้าง คือผู้ฝึกกับผู้ถูกฝึกต้องมีใจรักกันก่อน อันพ่อแม่น้ันย่อมมีใจรักเด็ก อยแู่ ลว้ เปน็ ธรรมดา แตเ่ พราะความรกั นเี่ อง บางครง้ั ทำ� ใหเ้ กดิ ความ เสยี หาย คอื รกั มากไป ทำ� ใหใ้ จรอ้ น ขโ้ี มโห พอเดก็ ทำ� อะไรไมถ่ กู ใจก็ บนั ดาลโทสะดา่ ว่าทบุ ตเี อาทนั ที อย่างนี้เปน็ วธิ ีการท่ีไมส่ มควร ผู้ฝึก ต้องฝึกตนให้เป็นคนมีใจเย็น เป็นคนมีเหตุผล เป็นคนใช้ปัญญาให้ มากสักหนอ่ ย ในเม่ือเด็กทำ� อะไรไมถ่ กู ใจตัว หรอื ตามความต้องการ ของตวั ก็อย่าได้ลงโทษก่อน แต่ตอ้ งคดิ ว่าทำ� ไมจึงเป็นเช่นน้ี มอี ะไร รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 189

ผิดปกติขึ้นหรือ จึงมิได้กระท�ำอย่างที่บอกให้ท�ำ เช่น มีแขกมาหา ที่บ้าน เด็กน้อยอยู่ในห้องด้วย แม่ก็บอกให้ลูกไหว้คนน้ัน หรือมี ค�ำสั่งเป็นเชิงบังคับว่าท�ำไมหนูไม่ไหว้คุณลุงเล่า เด็กก็ยืนยันหรือ นั่งเฉยโดยมิได้ท�ำตามค�ำของคุณแม่ บางทีแสดงอาการอายเหนียม บางทกี เ็ อามอื ปดิ ปอ้ งหนา้ ของตน อาการเชน่ สอ่ ใหเ้ หน็ วา่ เจา้ หนคู นนี้ ขอ้ี าย หรอื เพราะไมค่ นุ้ กบั คนนน้ั ไมช่ อบหนา้ ตาทา่ ทางของคนนน้ั จงึ ไดท้ ำ� เฉยๆ ถา้ มารดาดา่ ดเุ ขา หรอื คอ่ นแคะเขาตอ่ หนา้ แขกดว้ ยแลว้ เขาย่ิงอายใหญ่กลายเป็นคนกระด้างกระเดื่องไปเสียก็ได้ มารดา บดิ าผฉู้ ลาดในเหตผุ ล และไดเ้ รยี นรธู้ รรมชาตขิ องเดก็ พอสมควรแลว้ พึงพิจารณาให้รอบคอบ อย่าเพ่อตีโพยตีพาย ว่าลูกดื้อเป็นอันขาด เหตมุ นั มีอยู่ในใจของเขา จงึ จึงไม่ได้ไหว้ เช่นเขาเปน็ คนไม่เขา้ ใจใน เหตผุ ลวา่ ท�ำไมถึงตอ้ งไหวก้ นั เลา่ คนนั้นมสี ว่ นเก่ียวข้องอะไรกบั ตน ตนจึงต้องไหว้เขาเกิดความลังเลใจจึงไม่ไหว้ บางทีเขาอายในการ กระท�ำเชน่ น้ันเลยไมท่ �ำ หรือบางทเี ขามีอารมณ์บางอยา่ งเกดิ ขน้ึ ใน ใจผู้ใหญ่ไม่รู้เท่าทัน เลยพาลหาว่าอย่างโน้นอย่างนี้ อย่าลืมว่าเด็ก ก็มีเร่ืองชอบๆ ชังๆ อย่างผู้ใหญ่เหมือนกันต้องดูเขาด้วยสายตาอัน มปี ญั ญาสกั หนอ่ ย อยา่ งเพยี งแตน่ กึ เดาเอาเป็นอันขาด จะเปน็ การ ให้โทษแกเ่ ดก็ ในภายหลัง รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 190

หรือบางทีก็มิใช่เร่ืองของเด็กแต่กลายเป็นเร่ืองของผู้ใหญ่ที่ ไม่แสดงตัวอย่างท่ีดีท่ีควรให้เด็กเห็น หากแต่กลับบังคับให้ท�ำอีก อย่างหน่ึง มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันเข้าแบบที่ว่า “จงเอาอย่าง ฉันแต่อย่าท�ำเยี่ยงฉัน” พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า “จะสอน ผู้อื่นด้วยเรื่องใดพึงท�ำเรื่องนั้นให้ได้เสียก่อน การสอนเขาจักไม่ ยุ่งเหยิง” น่ีเป็นคติที่น่าคิดน่าท�ำตามมากทีเดียว ย่ิงเก่ียวกับเด็ก ด้วยแล้วเป็นเรื่องท่ีส�ำคัญมาก เพราะธรรมชาติของเด็กดังที่เคย กล่าวมาแล้วหลายคร้ังว่า ชอบเลียนแบบผู้ที่อยู่ใกล้ เม่ือตัวอย่าง ไม่มีให้เขาเห็นแล้วจะลงโทษเขาก็เป็นการไม่ยุติธรรมมากไป พ่อ แม่จึงต้องให้เขาพอใจในอันที่จะท�ำ มิใช่บังคับเคี่ยวเข็ญให้เขา กระท�ำเพราะใครๆ แม้แต่ตัวของพ่อแม่เอง ก็มิชอบการบังคับแต่ ชอบท�ำด้วยความสมัครใจ จึงควรยึดหลักไว้อย่างหนึ่งให้ม่ันว่า “จงละเว้นสิ่งที่ท�ำให้เกิดความเจ็บปวด จงหมั่นให้สิ่งที่พึงพอใจ แก่เขา” รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 191

เรอื่ งนเ้ี ปน็ เรอื่ งสำ� คญั มาก ไมว่ า่ ทา่ นจะอบรมเดก็ ในเรอื่ งใดๆ จง พยายามทำ� ใหเ้ ขาพอใจ และสมคั รใจในอนั ทจ่ี ะทำ� ตามเถดิ พอพดู มา ถึงตอนนี้ จงนึกถงึ นิทานโคนันทวศิ าลบ้าง เจา้ ของแพพ้ นนั ครง้ั แรก เพราะพดู แกมบงั คบั พดู คำ� ไมเ่ พราะหเู ลยแพพ้ นนั เขา ครงั้ ทส่ี องพดู คำ� อ่อนหวานมใิ ชบ่ งั คับขู่เขญ็ กนั โคนันทวศิ าลกล็ ากเกวยี นร้อยเล่ม ไปได้เป็นนิยายสอนใจเป็นอย่างดี ขอให้ถือหลักอีกสักอย่างส�ำหรับ การอบรมเด็กว่า “ขอร้องให้กระท�ำ ดีกว่าบังคับให้เขากระท�ำ” เพราะปกติของคนเรานั้น ถา้ ฮดึ ข้นึ มาเสียแลว้ อยา่ ไปบังคับให้ปว่ ย การเลย หัวใจของการฝึกคนอยู่ที่ตรงน้ี จะสอนผู้อ่ืนดว้ ยเรื่องใด พงึ ท�ำเร่ืองน้ันให้ได้เสียกอ่ น การสอนเขาจกั ไมย่ ่งุ เหยงิ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 192

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงได้พระนามว่า เป็นสารถีผู้ฝึกคนอย่าง ยอดเยยี่ มไมม่ ีใครเทียมถงึ นัน่ พระองคท์ รงใชว้ ธิ ฝี กึ อยา่ งไรเลา่ ถา้ พจิ ารณาดกู เ็ หน็ ไดว้ า่ พระองค์ ทรงใชว้ ิธฝี ึกอยา่ งไรเล่า ถ้าพิจารณาดูก็เหน็ ได้วา่ ทรงฝึกดว้ ยความ เมตตาอ่อนโยน ถ้าพิจารณาดูก็เห็นได้ว่า ทรงฝึกด้วยความเมตตา อ่อนโยน แม้ผมู้ าหาพระองค์ มาดว้ ยใจอนั ร้อนรนกห็ าทรงตอบดว้ ย ความรอ้ นไม่ เพราะการทเ่ี อาคนรอ้ นไปนงั่ ขา้ งเตาผงิ นนั้ รอ้ นจะระงบั ลงได้อยา่ งไรกัน ทางท่เี หมาะท่คี วรต้องนำ� เขาไปใกล้พดั ลม หรอื ใน ห้องเย็นจึงจะถกู ตอ้ ง ทุกครั้งที่เขาร้อนมา ก็ทรงตอบเข้าดว้ ยความ เย็นใจ หรอื คล้อยตามไปกอ่ น พอให้เขาหายรอ้ น แล้วจึงตกี ลบั ดว้ ย เหตผุ ล คนนนั้ กต็ อ้ งหมอบราบแทบเทา้ ของพระองค์ นก่ี เ็ ปน็ ตวั อยา่ ง อกี ทางหน่งึ ในการฝกึ ฝน ในการฝกึ ฝนเดก็ เกย่ี วดว้ ยกริ ยิ ามารยาทนนั้ ตอ้ งค�ำนงึ ถงึ หลกั ธรรม ทีต่ รสั สอนไว้ว่า ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งเกดิ จากเหตุ ไมม่ ีเหตุ ผลจะปรากฏขึน้ ไม่ได้เป็น อันขาด จงใชห้ ลกั นพ้ี ิจารณาถึงการกระท�ำของเดก็ ไว้เสมอ แลว้ หา ทางแก้กันท่ีเหตุเถิด ในการแก้ก็เหมือนกัน ถ้าเด็กยังมีอารมณ์เสีย ต้องหยุดไว้ก่อน น้�ำก�ำลังไหลเช่ียว การเอาเรือเข้าไปขวางเรือก็ล่ม เสยี เปลา่ ๆ ไวพ้ ดู กนั ใหส้ บายใจ เมอื่ ใจเขาสบายแลว้ ดกี วา่ เพราะคน ทใี่ จไมส่ บายนน้ั ยอ่ มไมม่ เี หตผุ ล เขาฟงั อะไรไมร่ เู้ รอื่ ง ซำ�้ รา้ ยอาจเกดิ โมโหข้ึนอีกก็ได้ จึงเป็นเรือ่ งท่ีควรระวัง รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 193

คนโบราณท่านสอนว่า “อย่าใช้โมโหข่มมวย” ในการชกมวย ถา้ ชกดว้ ยโทสะใชค้ วามโกรธเปน็ กำ� ลงั มกั เสยี เปรยี บผมู้ ใี จเยน็ เสมอ ในการปฏิบัติงานเก่ียวกับเด็กๆ ก็เหมือนกัน อย่าใช้โทสะเป็นอัน ขาด ต้องท�ำอย่างใจเย็น เพราะความเย็นเท่านั้นจะชนะความร้อน ได้ ผู้ใหญ่บางคนเป็นคนประเภทปากเปียกปากแฉะ มีเรื่องอะไรที่ เด็กท�ำผิดกิริยามารยาทไปแล้ว มักบ่นว่าจู้จ้ีอยู่นั่นแหละนึกว่าการ กระท�ำของตนจะเป็นการช่วยเด็กให้จ�ำได้ และไม่ท�ำต่อไป น่ีเป็น ความเข้าใจผิดประการส�ำคัญ มันเป็นเรื่องก่อความเจ็บช้�ำน้�ำใจ แก่เดก็ เด็กกเ็ ลยดนั ไปใหญ่ ขออย่าได้กระท�ำในรูปนเ้ี ปน็ อนั ขาด จง พดู ใหเ้ ขาเขา้ ใจเหตผุ ลดว้ ยความมใี จเยน็ สกั ครง้ั กพ็ อแลว้ ถา้ ยงั ละไม่ ไดก้ ต็ ้องพร�่ำสอนกนั ด้วยอารมณเ์ ยน็ ๆ ในคราวต่อไป ทุกคร้งั ท่ีสอน ตอ้ งใหผ้ รู้ บั คำ� สอนรสู้ กึ วา่ ตนไดร้ บั คำ� สอนจากปากของคนทรี่ กั และ หวังดีต่อตน อย่าก่อให้เขาเกิดความรู้สึกข้ึนว่า ผู้นี้เกลียดเราจึงพูด กับเราอย่างนี้ ผลทีส่ ุดกเ็ ลยเข้ากนั ไมไ่ ด้ กลายเป็นคนไม่มคี วามหวงั ดีต่อกนั เสยี แล้ว รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 194

อกี อยา่ งหนึ่งควรหลกี เลีย่ ง คือการใชไ้ มเ้ รยี วทกุ คร้งั ทเี่ ดก็ ท�ำผดิ แม่บ้านบางคนพอเด็กเดินดังๆ ก็เรียกเคาะตาตุ่มเสียหลายที อยา่ งนเี้ ปน็ การกระทำ� ทที่ ารณุ เกนิ ไปหนอ่ ย ขออยา่ ไดใ้ ชเ้ ลย ใชว้ ธิ ที ำ� ให้เขารู้สึกผิดและกลับตนเองดีกว่า เพราะการแสดงความโกรธ ทุกครั้งต่อการกระทำ� ของเดก็ คอื การหัดเด็กใหโ้ กรธนนั้ เอง การหดั เด็กให้โกรธ มันจะดีอย่างไรขอให้ใช้ปัญญา ไตร่ตรองดูด้วยความ เป็นธรรมเถิด เมื่อพิจารณาแล้วก็จะเห็นว่าผลร้ายมีมากกว่าผลดี จึงบอกให้หลีกเลี่ยงจากการกระท�ำดังกล่าวมา จงจ�ำค�ำคมของคน บางคนท่กี ล่าวไว้วา่ “ชมให้เขาท�ำงาน ดกี วา่ ด่าให้เขาทำ� งาน” คน ทุกคนย่อมมีการกระท�ำที่พอให้เราชมได้เสมอ ถ้าเรามีความสนใจ จะชมเชยเขา โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในเวลาทเี่ ขาไดท้ ำ� ตามทเ่ี ราไดก้ ลา่ ว บอกเตือนเขาแล้ว ค�ำชมเชยเพียงสองสามค�ำที่เหมาะแก่เวลานั้น มีคา่ มากมายเหลอื เกนิ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 195

ในการปกครองลกู หรอื ปกครองคนมากๆ นน้ั ความเฉยี บขาดเปน็ สง่ิ จ�ำเปน็ บา้ งเหมอื นกนั แตค่ วามเฉยี บขาดจะใหผ้ ลกต็ อ่ เมอ่ื ผนู้ น้ั เปน็ คนท�ำจรงิ ตามทีต่ นพดู ได้พูดแล้วก็ท�ำตามที่พูดไว้เสมอ งดเว้นจากการพูดแบบจู้จ้ีแต่ พดู แบบเดด็ ขาดและปราศจากการดดุ นั เปน็ คำ� พดู ทที่ ำ� คนใหเ้ คารพ ย�ำเกรงได้มาก สมมติว่าเด็กของท่านนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน เขาได้ทำ� ผดิ มารยาทในการรบั ประทาน ซง่ึ ท่านก็ไดส้ งั่ สอนตกั เตอื น แล้ว เขาได้ทราบแล้วว่าการกระท�ำเช่นนั้นเป็นการไม่เหมาะไม่ควร แต่ยังเผลอท�ำอีก ก็ควรบ้างนิดหน่อยด้วยท่าทางท่ีเอาจริงและคาด โทษไว้ว่า ถ้าขืนรบั ประทานแบบนน้ั อีกจะไมใ่ หม้ าน่ังร่วมวงกัน ตอ้ ง ใหท้ านคนเดยี ว หรอื ใหท้ านหลงั คนอน่ื ๆ เสยี บา้ ง ไมเ่ ปน็ การลงโทษที่ รนุ แรงอะไรเกนิ ไปดอก ถา้ เขาเลน่ หวั กบั เดก็ คนอน่ื ๆ แตแ่ สดงอาการ เปน็ หวั โจก เอารดั เอาเปรยี บคนอนื่ แสดงตนแบบนกั กฬี าทไ่ี มม่ นี ำ้� ใจ เป็นนกั กฬี า ก็ต้องคาดโทษไวบ้ ้าง โดยจะกกั กันมิให้เลน่ กบั เพ่อื นฝูง ก็สมควรกักกันมิให้ร่วมวงกีฬากับคนอื่นเสียบ้าง ก็เป็นทางป้องกัน มใิ หเ้ ขาเปน็ คนมทุ ะลเุ กนิ ขอบเขต ถา้ ทา่ นพาเดก็ ของทา่ นไปเทยี่ วเตร่ ทีใ่ ด หรือไปบา้ นใครๆ ก็ควรแนะน�ำให้เขาทราบว่าเขาพึงปฏิบัตติ น อยา่ งไรบา้ ง ใหเ้ ขาเขา้ ใจใหแ้ จม่ แจง้ ถา้ หากเขามไิ ดท้ ำ� ตามทส่ี อนไวก้ ็ บอกงดไมพ่ าไปเทยี่ วตอ่ ไป เพราะการไปกบั คนทไ่ี มร่ รู้ ะเบยี บของการ สมาคมนนั้ นา่ ขายหนา้ เดก็ กจ็ ะไดท้ ราบวา่ เปน็ ความผดิ ของตน จกั ได้ สำ� รวมระวงั ตอ่ ไป เกย่ี วกบั เรอ่ื งนม้ี ารดาบดิ าตอ้ งเปน็ ผเู้ อาใจใสด่ แู ล รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 196

อยเู่ สมอ เมอื่ เหน็ วา่ เด็กของท่านท�ำอะไรผดิ มารยาทอันคนดจี ะต้อง ทำ� ตอ้ งหาโอกาสชแี้ จงบอกใหเ้ ขาเขา้ ใจเรอื่ งแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งเสมอไป ในเร่ืองเก่ียวกับกิริยามารยาทของเด็กนั้น ถ้าหากมารดาบิดา มิได้เอาใจใส่แก้ไขจริงๆ แล้ว นิสัยไม่ดีก็จะติดใจของเด็กต่อไป อันจะท�ำให้อนาคตของสกุลของท่านเศร้าหมอง และมืดมัวในกาล ต่อไปข้างหน้า ความรับผิดชอบในเรื่องน้ี จึงขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ของพ่อแม่ โดยแท้ จึงใคร่ขอเตือนท่านพ่อแม่ท้ังหลายได้โปรดเอาใจใส่ให้มาก ให้บ่อยเปน็ พิเศษสกั หนอ่ ยเถิด. รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 197

รั ก ลู ก ใ ห ถู ก ท า ง ปั ญ ญ า นั น ท ภิ ก ขุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook