ขา้ พเจ้าเคยได้ไปในพธิ ที าํ การหลอ่ พระพุทธรูปองคใ์ หญ่ ในวันที่เขาจะเททองลงสแู่ ม่พิมพ์ทเี่ ขาปน้ั ไวเ้ รยี บรอ้ ยแล้วนั้น ไดเ้ หน็ หวั หนา้ ชา่ งคนงานทกุ คนแตง่ ตวั นงุ่ ขาวหม่ ขาว และทำ� พธิ ี บูชาพระรัตนตรัยสมาทานศีลห้าประการทั่วกันทุกคน นอกจากนี้ ยังได้นิมนต์พระมานั่งเป็นพยานท�ำพิธีสวดชัยมงคลคาถา และ ยังทำ� พธิ ีเกีย่ วกับสงั เวยเทวดา รวมท้งั ครูบาอาจารยด์ ้วย ได้ถามเขา ว่าท�ำไมจึงต้องท�ำเช่นนั้น เขาบอกว่ามันเป็นพิธีเก่าแก่ที่ได้รับช่วง กนั มา เขาตอบอยา่ งคนถอื อะไรพอเปน็ พธิ เี ทา่ นน้ั เเตเ่ นอ้ื แทข้ องการ กระท�ำเช่นนั้นยังมีความหมายทางจิตใจอยู่มาก เพราะในขณะน้ัน พวกช่างเหล่าน้ันก�ำลังท�ำพิธีคลอดพระพุทธรูปออกมาให้คนไหว้ ผู้ ทำ� การคลอดหรอื หลอ่ ตอ้ งมจี ติ ใจสะอาด มพี ระคอื ศลี ธรรมประจำ� ใจ องคพ์ ระจงึ จะงามและเรยี บรอ้ ย เขาทำ� อยา่ งนม้ี คี วามหมายในทางทด่ี ี อยมู่ ากทเี ดยี ว ทา่ นทง้ั หลายลองคดิ ดเู ถดิ เพยี งแตก่ ารสรา้ งพระอนั ไม่ มวี ณิ ญาณครอง อนั ไมส่ ามารถจะถา่ ยทอดอปุ นสิ ยั ใจคอของผทู้ ำ� การ หล่อไปได้เลย เขาก็ยังอุตส่าห์ท�ำโดยพิธีการท�ำใจให้เป็นพระกัน เสยี กอ่ น เขามไิ ดท้ ำ� อะไรกนั อยา่ งลวกๆ แบบสกุ กเ็ อาพอเผากก็ นิ กนั หามไิ ด้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 49
ถา้ ผใู้ ห้ก�ำเนิด เป็นคนใจดใี จงาม ทกุ อยา่ งก็งามไปตาม ในเรื่องของการสรา้ งคนก็มสี ภาพเชน่ นัน้ ความจริงในการสรา้ ง คน เราจะมีพิธีการกระท�ำใจให้ดีเป็นพิเศษกว่าการสร้างวัตถุเสีย อีก เพราะคนเราสามารถรับถ่ายทอดอุปนิสัยใจคอจากผู้ให้ก�ำเนิด ได้ ถ้าผู้ให้ก�ำเนิดเป็นคนใจดีใจงาม ทุกอย่างก็งามไปตาม ถ้าผู้ให้ ก�ำเนิดเป็นคนใจทรามผู้ได้ก�ำเนิดมาก็เป็นคนใจทรามไปด้วยลูกโจร ก็ยิง่ มนี ิสยั เปน็ โจร ลูกของนักปราชญไ์ ม่ผิดพันธ์ขุ ้อเทจ็ จรงิ เก่ียวกับ เร่ืองเช่นน้ี พอหาได้จากชีวิตของคนปัจจุบันได้ถมเถไป เว้นไว้แต่ เขาผนู้ นั้ ไดร้ บั การอบรมในทางถกู ทางชอบ และไดอ้ ยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ ม ท่ีดีงาม อ�ำนาจของสิ่งแวดล้อมช่วยให้เขามีความคิดโน้มเอียงไป ในทางที่ดีได้ ในการกระท�ำเกี่ยวกับเร่ืองนี้ ท้ังพ่อทั้งแม่ต้องท�ำ ด้วยกัน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าต้องดีเท่ากันทั้งสองฝ่าย มิฉะน้ัน ก็จะด่ากันได้ เม่ือลูกเหลวไหลแม่ว่า “พันธุ์ พ่อมันไม่ดี” ฝ่ายพ่อ ก็ว่า “เต็มที เหล่ากอของแม่มันไม่ดี” ความจริงเป็นความจริง เป็นความผิดท้ังสองฝ่ายท่ีมิได้ช่วยกันเหน่ียวรั้งให้ด�ำเนินไปใน ทางที่ชอบ จึงขอเเนะน�ำท่านทั้งหลายว่าระวังให้ดี สามีภรรยา รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 50
ต้องท�ำแบบลงเรือล�ำเดียวกัน มีอะไรในทางดีๆ ก็มีให้เหมือนๆ กนั เรอื่ งกจ็ ะเรยี บรอ้ ย รวมความวา่ ทา่ นทจ่ี ะเปน็ พอ่ แม่ ไดป้ ระพฤติ ธรรมเป็นอย่างดีตามหลักศาสนาตามหลักของศีลธรรม พิมพ์ท่ีจะ หล่อหลอมเหมาะสมกับท้ังบนและล่าง ปิดกันเข้าได้สนิทเรียบร้อย เป็นอันดีไม่มีบกพร่องแล้ว รูปที่หล่อส�ำเร็จก็คงจะดีงามโดยมิต้อง สงสยั ในตอนนีข้ อของแถมเล่าเรื่องนิทานโบราณใหฟ้ งั อีกสักนิด เพื่อเปน็ แนวสังวรกันต่อไป. . . เร่ืองน้ีมิใช่ของคนไทยเต่เป็นเรื่องของเมืองจีน มิใช่เป็นเร่ือง เดี๋ยวนี้ แตเ่ ป็นเรื่องเก่านานมาแลว้ จนนบั มิได้วา่ นานสักเท่าใด ในสมยั หนงึ่ พระเจา้ แผน่ ดนิ ผคู้ รองเมอื งมคี วามออ่ นแอนดิ หนอ่ ย บ้านเมืองจึงตกอยู่ในเมืองของพวกขันที อันเป็นพวกท่ีรับใช้ใกล้ชิด ต่อพระเจ้าแผ่นดิน พวกนี้คอยกราบทูลอย่างนั้น อย่างนี้โน้มน้อม แนวคดิ ของพระเจา้ แผน่ ดนิ เขา้ หาประโยชนข์ องตนเสมอ เหตกุ ารณ์ ในบ้านเมืองไม่สู้เรียบร้อยนัก แต่มาถึงขั้นร้ายแรงเกินไป ขนาดแต่ เพียง “ฝ่ายเสนาพวกเข้าเฝา้ กเ็ ข้าหาเยาวนารีทีห่ น้าตาดี ๆ มาทำ� มโหรีในเคหาค�่ำ เช้า เฝ้าสซี อ อยแู ตห่ อลอ่ กามา” หาแต่ความสนกุ หาได้คิดบ�ำรุงบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าไปเท่าที่ควรจะเป็นไม่ พวกขา้ ราชการบางพวกชอบทำ� การทจุ รติ โดยวธิ กี ารตา่ งๆ จนขา่ วลอื รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 51
ปรากฏมีในท่ีทั่วไปในสมัยน้ัน มีวัดใหญ่และส�ำคัญอยู่วัดหนึ่งต้ังอยู่ ในภมู ิประเทศทสี่ วยงามมาก มถี ำ�้ ตามธรรมชาตหิ ลายแห่ง เม่ือพระ มาสร้างเป็นวัดก็ได้ประดับประดาให้สวยงามขึ้นอีกหลายประการ ตามปกติคนท่ีมาเที่ยวท่ีวัดนี้มากๆ เสมอในวันหยุดงาน สถานท่ี ควรชม พระท่านก็เปิดให้ประชาชนเข้าไปชมได้ตามปราถนา แต่มี อยหู่ ้องหนง่ี ถกู ใส่กญุ แจดอกใหญ่ ประทับคลังอยา่ งหนาแน่นไม่เคย เปิดใหใ้ ครเขา้ ไปดเู ป็นอนั ขาด ใครๆ กอ็ ยากดแู ตก่ ็ไมไ่ ด้ อันของใด ท่ีปกปิดไว้ก็ย่อมก่อให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น ถ้าเปิดเสียก็ไม่มี ใครสนใจกนั เท่าใดนกั วันหนึ่ง ท่านหัวหน้าต�ำรวจใหญ่พร้อมด้วยบริวารได้มาเที่ยว ที่วัดนี้ หัวหน้าต�ำรวจผู้น้ีเป็นคนใจร้อนดุดัน ชอบใช้อ�ำนาจเสมอ มักถือหลักว่าไม่มีอะไรที่ต�ำรวจจะท�ำไม่ได้ มีลูกน้องผู้ใกล้ชิดมาก คนล้วนมีนิสัยดุๆ แบบเดียวกับนายทั้งน้ัน เมื่อเขามาถึงวัดท่าน สมภารก็ได้ท�ำการต้อนรับเป็นพิเศษ เพราะเห็นคนใหญ่คนโต ได้ พาเท่ียวชมสถานที่ทุกแห่งที่ควรดูควรชม เว้นแต่ห้องพิเศษน้ัน ท่านสมภารมิได้เปิดให้ดู นายต�ำรวจใหญ่เกิดความสนใจได้ถามว่า ข้างในมีอะไรบ้าง ท่านสมภารก็บอกว่ามีสิ่งที่ชาวโลกไม่พึงดูอยู่ นายต�ำรวจก็ย่ิงเกิดความอยากดูใหญ่ แม้ท่านสมภารจักอธิบาย เหตุผลว่าไม่ควรเปิดโดยละเอียดอย่างไรก็หาสามารถลดระดับ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 52
ความอยากดูลงไดไ้ ม่ ผลทีส่ ดุ เมือ่ ถกู ขอรอ้ งแกมบงั คับ ท่านสมภาร ก็จ�ำใจเปิดกุญแจให้มนุษย์ผู้ดื้อดันผู้น้ันได้ดูกัน เม่ือเปิดออกแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีอะไรอันพึงจะดูได้ด้วยตาเน้ือ เพราะส่ิงที่ถูกขังไว้น้ัน เปน็ สง่ิ ทม่ี องไมเ่ หน็ สงิ่ นนั้ คอื วณิ ญาณรา้ ยๆ ทง้ั มวลทถี่ กู ลงโทษและ เอามาขังรวมไว้ในห้องนั้น พอประตูเปิดออกเท่านั้นเหละ วิญาณ เหล่านั้นก็ได้รับอิสระภาพและลอยล่องออกจากห้องนั้นไป ไปหาที่ ทจ่ี ะเกดิ ตอ่ ไป วญิ าณรา้ ยๆ นนั้ ไมส่ ามารถจะไปเขา้ ทอ้ งของคนทอี่ ยู่ ในศีลในธรรมได้ คงท่องเท่ยี วไปหาท่ีเหมาะแกต่ น รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 53
. . . บา้ นใดพอ่ บ้านแม่บา้ นประพฤตติ นเป็นคนเหลวไหล มีประการต่างๆ วิญญาณก็เข้าท้องของคุณหญิงคุณนายบ้านที่ เหลวไหลนน้ั ขณะวิญญาณอยู่ในท้องยังไม่มีอะไรเสียหายเท่าใดนัก แต่เม่ือ เกดิ ออกมาแลว้ พน้ื ฐานเดมิ ของวญิ าณไมด่ สี ถานทเี่ กดิ กไ็ มด่ อี อกมา แลว้ กไ็ ดพ้ บแตส่ งิ่ ทไ่ี มด่ อี กี เลยรบั เอาคณุ คา่ ดา้ นรา้ ยไวใ้ นตนมากมาย พอพวกทเ่ี กดิ มานน้ั โตขน้ึ เปน็ หนมุ่ เขา้ ทำ� งานตามหนา้ ทท่ี บ่ี ดิ าของตน จะบรรจเุ ขา้ ไปได้ เขาเหลา่ นน้ั มไิ ดท้ ำ� งานจรงิ เพราะถอื วา่ พอ่ ของเขา เปน็ ใหญม่ อี ำ� นาจ มีพวกพอ้ งกลายเป็นคนเอาเปรยี บงาน พาเพื่อน ฝูงประพฤติเหลวไหล ปรากฏต่อมาว่าความช่ัวได้เกิดมากขึ้น ในประเทศจนี ในสมยั นนั้ จนปรากฏอยใู่ นประวตั ศิ าสตรว์ า่ เตม็ ไปดว้ ย การโกงกนั รอ้ ยแปดประการ ความชวั่ ร้ายเหลา่ นี้มาจากไหน กม็ า จากความดือ้ ด้านการตามใจตัวเอง ชอบกระทำ� ในสิ้งนนั้ ท่ีเหลวไหล นน่ั แหละ ความทุกข์ความเดอื ดรอ้ นจึงมากขน้ึ เรอ่ื งทนี่ ำ� มาเลา่ น้ี เพอื่ เปน็ การชใ้ี หเ้ หน็ วา่ มลู ฐานของความชว่ั นน้ั จะเกิดแก่เด็กได้โดยอาศัยมารดาบิดาเป็นผู้สร้าง ท้ังน้ัน จะได้เป็นส่ิงเตือนใจท่านทั้งหลายให้ ระมัดระวังตัวท่านให้ดีขึ้น เพ่ืออนาคตของ ครอบครัว เพื่ออนาคตของประเทศชาติที่เรารัก และหวงเหน รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 54
พระพทุ ธเจ้าเคยตรสั ไว้วา่ . . . “บตุ รเป็นท่ตี ้ังของมนษุ ย์” โลกเราจะดีงามในกาลต่อไปอย่างไร ก็เป็นเรื่องเกี่ยวเน่ืองกับ พ่อแม่ในปัจจุบันน้ีเป็นส�ำคัญ มีพ่อแม่เป็นจ�ำนวนไม่น้อยเป็นพ่อ แม่สมัยใหม่ ไม่ค่อยมีความสนใจในการเป็นอยู่ของลูกตนที่เกิด มา ตนท�ำหน้าท่ีเพียงผู้ให้เกิดมาเท่าน้ัน แต่หาได้ท�ำหน้าท่ีเลี้ยง ใจของลูกอย่างแท้จริงไม่ ปล่อยให้การเลี้ยงดูท้ังหมดเป็นหน้าท่ี ของพ่ีเลี้ยงโดยส่วนเดียว การกระท�ำเช่นน้ีเป็นการชอบแล้วหรือ ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่เป็นการชอบการควรเลย เพราะเด็กอ่อนมีปกติ เหมอื นพนั ธไ์ุ มเ้ ลอื้ ยอยใู่ กลส้ ง่ิ ใดกย็ อ่ มเกาะจบั สงิ่ นน้ั เดก็ ทใี่ กลช้ ดิ กบั พี่เลีย้ ง อาจถา่ ยถอดอุปนิสยั ใจคอของพ่ีเล้ยี งมาสูต่ นก็ได้ ถา้ หากได้ พ่เี ล้ยี งดกี ค็ ่อยยังชัว่ หนอ่ ย ถา้ ไดพ้ ี่เลยี้ งทีไ่ ม่ดี กจ็ ะไปกนั ใหญ่โต ถงึ แม้จะได้คนดี ความรักความเมตตาของพ่ีเลี้ยง ผิดกับความรักของ พอ่ แม่ พเี่ ลย้ี งเขาคดิ แตเ่ พยี งตนเปน็ คนเลยี้ งเดก็ เทา่ นน้ั แตแ่ มค่ ดิ วา่ ตนเป็นมารดาของเด็ก ตนจึงควรเอาใจใส่ทะนุถทะนอมให้ดีมาก เป็นพิเศษสักหน่อย ปัญหาอย่างน้ีมีมากข้ึนในสมัยที่มารดาต้อง ออกไปท�ำงานนอกบ้าน เพราะการครองชพี ของคนสมยั นไ้ี มเ่ หมือน สมัยก่อน ถึงกระนนั้ ก็ควรมเี วลาที่พอ่ แม่จะไดอ้ ยพู่ รอ้ มหน้ากบั ลกู ๆ ใหม้ ากที่สดุ ท่ีจะมากได้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 55
. . . ในการเลีย้ งดูทารกขณะคลอดมาใหม่ ๆ นัน้ เป็นเร่อื งสาํ คญั มากเหมือนกัน เกี่ยวกับเร่ืองน้ีมารดาควรสนใจศึกษาติดต่อ สอบถามกับคนท่ีมีความช�ำนาญเก่ียวกับเรื่องน้ี โดยเฉพาะคนช�ำนาญมีสองพวก คือ พวกหนึ่ง ช�ำนาญทางทฤษฏี เช่น เจ้าหน้าท่ีสงเคราะห์ มารดาและเด็กๆ ท่ีตนเองไม่เคยเป็นมารดาของ เด็กเลย แต่เขามีความรู้จากต�ำรามาก นับว่าเป็น ผู้เช่ียวชาญทางต�ำราได้ อีกพวกหน่ึงได้แก่มารดาจริงๆ มารดาท่ี เคยให้กำ� เนิด เคยเลี้ยงลูกมาหลายๆ คน นบั ว่าเป็นผู้ช�ำนาญในด้าน ปฏิบัติการ หญิงผู้ใหม่ต่อความเป็นมารดาของลูก ควรจะได้เข้าไป นั่งใกล้คนพวกนี้บ้าง แล้วศึกษาโดยการสอบถามถึงวิธีการเล้ียงลูก ว่าอย่างไหนดีอย่างไหนไม่ดี รับฟังไว้แล้วเอามาแก้ไขให้เหมาะสม กบั ครอบครวั ของตน วา่ ทจี่ รงิ นา่ จะมสี มาคมของมารดาขน้ึ บา้ ง เปน็ สมาคมท่ีรวบรวมเหล่ามารดาทั้งหมดแล้วแลกเปล่ียนความรู้เรื่อง เลยี้ งเดก็ กนั บา้ ง ออกไปแนะไปเตอื นใหท้ ยี่ งั ใหมต่ อ่ หนา้ ทขี่ องตนให้ ดีขึ้นบ้าง ก็จะเป็นการได้ช่วยเหลือสังคมของมนุษย์มิใช่น้อยทีเดียว เพราะศาสตรท์ งั้ หลายบรรดามใี นโลกน้ี การเลย้ี งลกู ใหเ้ ปน็ คนดคี วร จะเปน็ ศาสตรท์ ช่ี าวโลกควรรู้ ถา้ หากวชิ าประเภทนเ้ี จรญิ และรจู้ กั กนั ทั่วถงึ ก็จะเป็นทางหน่งึ ทจ่ี ะชว่ ยใหโ้ ลกนนี้ า่ อยมู่ ากขึ้น โลกจะนา่ อยู่ ก็เพราะชาวโลกเป็นคนดี มารดาบิดาจึงควรท�ำหน้าท่ีสร้างคนดีให้ ออกมาอยใู่ นโลกให้มากขึ้น รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 56
หญงิ ชายคใู่ ดไมเ่ หมาะแกก่ ารเปน็ ผใู้ หก้ ำ� เนดิ แกท่ ารก ไมเ่ หมาะ ทจี่ ะทำ� พนั ธ์ุ หญงิ ชายคนู่ นั้ ไมค่ วรจะทำ� ลกู ออกมาเปน็ อนั ขาด เพราะ ถ้าลูกออกมาจากคนแบบนนั้ โลกก็จะเพมิ่ คนทสี่ มองไม่สมบรู ณข์ ้ึน ในโลกอกี คนสมองไมส่ มบรู ณอ์ ยใู่ นทใ่ี ดทำ� ใหค้ วามเดอื ดรอ้ นเกดิ ขน้ึ ในสถานที่น้ัน ความเดือดร้อนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ เม่ือเรา ท้ังหลายไม่ต้องการแล้วจงได้พิจารณาตนเองสียบ้างว่า“ตูข้านี้มี ความเหมาะสมทจ่ี ะเปน็ มารดาบดิ าของลกู ไดห้ รอื ไม”่ ถา้ เหน็ ไมเ่ หมาะ ไมค่ วร กย็ บั ยง้ั ไวเ้ ลยเพราะทำ� ในรปู นเ้ี ปน็ กศุ ลประการหนง่ึ เหมอื นกนั เปน็ การตดั ตน้ ทางมิใหค้ วามช่ัวเพม่ิ ขน้ึ ในโลกน้ี แต่บุคคลใดมีความ สมบูรณท์ ั้งกาย ใจทรัพย์สนิ เงนิ ทอง มีทางทจ่ี ะเพิ่มพลโลกในทางดี งามไดแ้ ล้วควรทำ� อย่างยง่ิ เพอื่ เป็นการเสรมิ สร้างก�ำลังคนในดา้ นดี และกำ� ลังของความดีใหเ้ พิม่ ขึน้ เปน็ การท�ำชอบตามวถิ ขี องชาวโลก ประการหนง่ึ แลว้ หวังว่าทา่ นทัง้ หลายทีม่ ีโอกาสรับทราบตอนนแ้ี ลว้ คงจะมอี ะไร บางอย่างเกิดข้ึนในดวงใจของท่าน อันจะท�ำให้ท่านได้ส�ำนึกถึง ความเปน็ มารดาบิดา อนั เปน็ เกยี รตยิ ศที่ชายหญงิ ทุกคนใครจะเปน็ และจะไดท้ ำ� งานในหน้าทข่ี องท่านให้สมบูรณ์ทุกประการต่อไป. รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 57
ความรกั . . . ท่ี บ ริ สุ ท ธ์ิ . . . . . . ท่ า น พ่ อ แ ม่ ที่ นั บ ถื อ ทั้ ง ห ล า ย ถา้ ใครมาถามท่านวา่ ทา่ นมีความรักลกู ไหม ? ทา่ นคงนึกในใจว่าผู้มาถามปัญหาเชน่ นี้ คงเป็นคนไม่เคยมีลูกกะเขา เพราะใครๆ ทม่ี ลี กู แล้วย่อมรู้ดวี ่า ความรักของพ่อแมท่ ี่มตี อ่ บตุ รน้นั เปน็ อยา่ งไร . . . ความรักของพ่อแม่เป็นความรักท่ีบริสุทธ์ิไม่มีกิเลสคือราคะ เขา้ ไปเจอื ปนแมแ้ ตน่ อ้ ย คนทยี่ งั ไมเ่ คยมลี กู ไมท่ ราบเรอ่ื งนี้ บางทอี าจ เขา้ ใจผดิ ในเมอื่ ถกู พอ่ แมด่ ดุ า่ เอากน็ กึ ไปวา่ พอ่ แมไ่ มร่ กั ตน ตนจงึ ถกู ดดุ า่ อยา่ งน้ี ความจรงิ ปากกบั ใจของพอ่ แมเ่ ปน็ ไปคนละรปู ปากวา่ ลกู ไมด่ ี แตใ่ จอยากใหล้ กู ดไี มม่ พี อ่ แมค่ นใดจะทำ� ใจรา้ ยกะลกู ของตนเลย ถ้ามขี นึ้ บ้างก็เรยี กวา่ ผิดปกติ นานๆ จึงจะพบสกั ครงั้ หน่ึง รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 59
. . . อชาตศตั รกู ุมารเป็นลกู ของพระเจ้าพิมพสิ าร ไดไ้ ปคบหาสมาคมกบั เทวทตั ภกิ ษใุ จพาล ไดร้ บั คำ� สง่ั สอนในทาง ผิดจึงเกิดความคิดชั่วต่อบิดา ได้จับพระเจ้าพิมพิสารไปขังไว้ในคุก และได้รับการทรมานจนถึงแก่ความตาย ขณะที่อชาตศัตรูจับพ่อ ขงั คกุ นน้ั เขายงั ไมม่ ลี กู จงึ ยงั ไมร่ วู้ า่ พอ่ ของตนรกั ตนขนาดไหน ในวนั ที่พระเจา้ พมิ พสิ ารสวรรคต มเหสีของอชาตศัตรกู ค็ ลอดลกู เปน็ ชาย อ�ำมาตย์สองคนก�ำลังน�ำข่าวทั้งดีและร้ายไปกราบทูลเจ้าชายเขา ท้ังสองได้ปรึกษากันว่าควรจะทูลข่าวไหนก่อน เพราะเรามีข่าวเกิด และขา่ วตายพร้อมกนั ทัง้ สองก็ตกลงกนั วา่ ควรจะกราบทลู ข่าวการ เกิดก่อน เพราะการเกิดโลกถือว่าเป็นมงคล ข่าวตายเป็นอัปมงคล เม่ือตกลงกันแล้ว เขาก็เข้าไปกราบทูลการเกิดของพระกุมาร ให้ทรงทราบก่อน พออชาตศัตรูได้รับข่าวเช่นน้ันสัญชาตญาณของ การปกปอ้ งรกั ษาบตุ ร ความรกั ในบตุ รกเ็ กดิ ขนึ้ ในใจ ทราบวา่ ความรกั น้มี ปี รมิ าณวัดไมไ่ ด้ และรสู้ กึ ขึ้นวา่ เมื่อตนเปน็ “เดก็ น้อย” พระบดิ า คงมีความรักต่อตนเช่นที่ตนรักลูกน้อยน้ีเหมือนกัน ความรู้สึก กตัญญูพ่อบังเกิดเกล้าก็เกิดข้ึนและนึกได้ว่าตนเป็นคนเขลา คนผิด เอาพ่อบังเกิดเกล้าไปขังไว้ในคุก ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ใคร่จะให้ใครไปปล่อยบิดาออกจากท่ีขัง แต่ขณะน้ันอ�ำมาตย์ก็ได้ เข้ามากราบทูลให้ทรงทราบว่า พระบิดาได้ถึงแก่สวรรคตเสียแล้ว พอข่าวน้ีกระทบใจ อชาตศัตรูก็มีความเศร้าโศกเป็นอย่างยิ่งในการ ท่ีตนเป็นคนเนรคุณและท�ำกรรมหนักเห็นปานนี้ มันสายเกินไป รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 60
จนหมดทางแก้ไขเสียแล้ว นี่เป็นเร่ืองแสดงให้เห็นว่า ความรักของ พ่อแมส่ ูงส่งปานใด ใครที่มลี กู แลว้ คงทราบไดเ้ ป็นอยา่ งดี อย่าวา่ แต่ คนเลย แมแ้ ตส่ ตั วเ์ ดรจั ฉาน ในขณะทมี่ นั มลี กู มนั กม็ คี วามรกั ลกู มาก เ ร่ื อ ง ค ว า ม รั ก ลู ก ข อ ง แ ม ว ข้าพเจ้าเคยเลี้ยงแมวไว้ตัวหน่ึง ความจริงก็มิได้ต้ังใจจะเล้ียง อะไรดอกแต่เห็นแล้วก็สงสาร ได้เอาอาหารเหลือเดนให้มันกิน มัน กม็ ีความรักไมไ่ ปไหน เป็นแมวกม็ ีท้อง พอถงึ เวลาจะเกดิ ลกู ขา้ พเจ้า คอยสงั เกตดูว่ามนั จะเกิดทีไ่ หน วนั หนงึ่ ก�ำลังกินขา้ วเพลินอยู่ มนั ก็ ว่งิ เขา้ ไปในครวั และลงไปนอนในลังไม้ทีว่ างไว้ นอนน่งิ เฉยเปน็ เวลา นานมันหาไดเ้ กิดไม่ แต่เปน็ เพราะลกู นอ้ ยๆ ในทอ้ งของมนั ด้ิน บอก อาการว่า “แม่จ๋าฉนั จะออกมาดูโลกแล้ว” แม่จึงรีบไปหาที่เกิด ต่อจากน้ันมาอีกตั้งสามวันจึงเกิดจริงๆ ตอนเช้าเวลาเกา้ โมงกว่าๆ มันเท่ยี ววง่ิ หาท่เี หมาะๆ เพ่อื ท�ำการเกดิ ข้าพเจา้ ได้เอาหีบไม้ฉ�ำฉามาวางไวใ้ ห้มนั เอาผ้าเก่าๆ ปรู องเล็กนอ้ ย นางแมวลงไปนอนขา้ งในและดนิ้ รนดว้ ยความเจบ็ ปวด มนั ทำ� การเบง่ โดยวธิ หี ายใจเขา้ แรงๆ แลว้ กเ็ บง่ ใหล้ กู ออก ในครงั้ แรกไมอ่ อก ดอู าการ มนั เหนอื่ ยและปวดมาก ทำ� การเบง่ อกี เปน็ ครง้ั ทสี่ อง ลกู นอ้ ยออกมา เพียงคร่ึงท่อน นางแมวหมุนตัวรอบๆ และร้องด้วยความเจ็บปวด รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 61
ข้าพเจ้าดูแล้วก็สงสารมันมากจึงช่วยดึงเบาๆ ให้ลูกออกมา เม่ือ ออกมาแล้วมันได้ท�ำการเลียให้ลูก เลียเลือดท่ีติดตามตัวจนเกลี้ยง เป็นการท�ำความสะอาดไปในตัว ส่วนลูกน้อยพอออกมาได้ยังมิทัน ลมื ตาเหน็ โลกเลยรอ้ งแหง๋วๆ คลำ� หานมของแม่มันทันที พอพบเขา้ กท็ ำ� การดดู ดว้ ยความหวิ ท�ำใหน้ กึ ถงึ พทุ ธภาษติ ว่า “สัตวท์ ั้งปวงเป็น อย่ไู ดด้ ว้ ยอาหาร” ขาดอาหารกต็ ้องถงึ แก่ความตายเท่านัน้ หลังจากมันเกิดลูกแล้ว มันไม่ได้ออกไปไหนเลยถึงย่ีสิบชั่วโมง อาหารก็ไม่กิน น้�ำก็ไม่ดื่ม มันคอยกกกอดลูกน้อยของมันด้วย ความรัก พอเห็นลูกกระดุกกระดิก มันก็ปลอบโยนด้วยการเลียให้ เหมอื นกบั จะพดู วา่ โอ!้ อา้ ยหนขู องแมเ่ ปน็ ไรไปหรอื ลกู อยา่ ดนิ้ ไปแม่ ยังอยู่แมจ่ ะเลียให้นอนเสียเถดิ ลูกรัก มนั รกั ลกู ของมันเหลอื เกนิ วนั ตอ่ มามนั จงึ ออกไปหากนิ บา้ งแตไ่ ปไมน่ าน รบี กลบั มาดว้ ยความเปน็ หว่ ง พอเขา้ หอ้ งกส็ ง่ เสยี งใหล้ กู ทราบเปน็ การบอกวา่ “แมม่ าแลว้ ลกู ของแมอ่ ยไู่ หน” ลกู นอ้ ยพอไดย้ นิ เสยี งรอ้ งของแมก่ ผ็ งกหวั ขนึ้ มองหา ตามนั ยงั มองไม่เห็น ตอ้ งใชก้ ายประสาทสัมผสั ไปกอ่ น พอเจอะแมก่ ็ ต้งั หนา้ ต้งั ตากนิ นมทันที บางทีคำ�่ คนื ดึกด่นื มันไปหากนิ แล้วกลบั มา ประตูปดิ เข้าไม่ได้ มนั กส็ ่งเสียงบอกให้รู้ตอ้ งไปเปิดประตูให้มนั มนั ดใี จพอเขา้ มาได้ กเ็ อาหวั เคลา้ แขง้ เปน็ การแสดงความกตญั ญกู ตเวที ทข่ี ้าพเจา้ ไดก้ รณุ าต่อมนั รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 62
สตั วเ์ ดรจั ฉานทกุ ชนดิ มปี กตติ รงไปตรงมา ใจคดิ อยา่ งใดกท็ ำ� ไป อยา่ งนนั้ ไมม่ มี ารยาซอ่ นเรน้ ผดิ กบั คนซงึ่ มมี ารยาทมาก แตไ่ วใ้ จยาก เตม็ ที เร่ืองทนี่ �ำมาเลา่ นี้ ท่านผ้ฟู ังท้งั หลายอย่าคดิ ว่าเป็นเร่ืองแมวๆ หาสาระมไิ ด้ . . . ขอให้คิดว่าแมวยังมีอะไรดีๆ ท่ีพอจะสอนให้ท�ำดีได้เหมือนกัน โดยเฉพาะในด้านความรักของแม่ท่ีมีต่อลูก แต่เสียอยู่หน่อยตรงที่ ไม่มีพ่อ ถึงมีมันก็มิได้เอาใจใส่ต่อเมียและลูกของมัน มันต้องการ แต่จะเปลื้องความใคร่เท่านั้น พอส�ำเร็จกิจของมันแล้วก็เลิกจาก กัน ไม่ต้องสนใจอะไรอีก ความหนักใจจึงตกอยู่กับแม่แต่ผู้เดียว น่าสงสาร คนผู้ชายที่มีลักษณะเหมือนแมวก็มีมากเหมือนกันเขา เป็นชายใจแมว มีความใคร่เกิดขึ้นในใจของเขาแล้วก็ไปเที่ยว เก้ียวผู้หญิงจนสมประสงค์แล้วก็เลยไป ผู้หญิงมีท้องมีลูกชายใจ การใหน้ มอนั เปน็ อาหารแก่เด็ก ควรมีเวลา อย่าใหเ้ ดก็ กนิ อาหาร อย่างพรำ่� เพรือ่ เป็นอนั ขาด มารดามักจะขาดความเอาใจใสใ่ นขอ้ น้ี รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 63
แมวก็มิได้สนใจเหลียวแล เขาเป็นคนท่ีไม่สมกับรูปร่างของเขา มิได้ท�ำหน้าที่ของพ่อแม้แต่น้อย เขาไม่มีมนุษยธรรมอยู่ในใจ ของเขาเลย กายของเขาเป็นคนเป็นคนแต่ใจของเขาเป็นแมวตัวผู้ เทา่ น้ันเอง ขออย่าให้พดู ถึงเขามากมายนกั เลยเสียเวลาเปลา่ ๆ พูดเร่ืองแมวต่อไปอีกดีกว่า แม่แมวมีอาหารให้ลูกกินแต่เพียง ประการเดยี ว คอื นมของมนั เทา่ นนั้ ลกู แมวมฟี นั งอกเตม็ ปากแลว้ ฟนั ของแมวข้ึนเรียบร้อยดีมากเพราะได้อาหารถูกส่วน แต่เม่ือลูกมีฟัน ขนึ้ เตม็ ปากแล้ว มนั กพ็ าลูกลงไปในสนามหญ้า แมเ่ ดินหน้าปากร้อง เหมียวๆ ตลอดเวลา เปน็ การใหส้ ญั ญาณแก่ลูกของมนั มันสอนลกู ใหร้ ูจ้ กั การทำ� มาหากินตามวสิ ยั ของแมว ลกู กว็ ิ่งตามแมไ่ ปตลอด วันหน่ึงแม่แมวไปจับกระรอกได้ตัว หนึ่ง มันรักลูกคิดถึงลูกจึงได้น�ำกระรอก ท้ังตัวมาทิ้งลงข้างๆ ลูก ลูกตกใจวิ่งหนีไป ซุกอยู่ในซอกข้างฝา แม่ก็เรียกให้ออกมา แต่มันไม่กล้าออกมาเพราะกลัวแม่ จึงคาบ กระรอกตัวนั้นไปหาลูกและท�ำท่าตบให้ดู กดั ใหด้ ู เหมอื นจะบอกวา่ เจา้ โตแลว้ เจา้ ตอ้ ง เรยี นการจบั หนู จบั กระรอกเจา้ ตอ้ งพงึ่ ตวั เอง จะพ่งึ แมเ่ สมอไปไม่ได้ ในช้ันแรกมนั กย็ งั ไม่ กลา้ อยดู่ ี แตพ่ อไดก้ ลน่ิ คาวเลอื ดมนั กเ็ ขา้ มา รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 64
เลียและคาบไปเลย แม่นั่งดูให้ลูกกินจนอิ่มแล้วส่วนที่เหลือจาก ลูกแม่จึงกินทีหลัง แม่แมวช่างมีความรักและเสียสละเพื่อลูกถึง ขนาดน้ีเชียวหนอ แม่ของเราทั้งหลาย ท่านก็รักเราและเสียสละ เพ่ือเรามากเช่นกัน บางทีมากกว่าไปเสียอีก “โอ้! พระคุณของแม่ ลกู ไม่สามารถจะพรรณนาใหห้ มดไดแ้ ลว้ ” . . . เม่ือท่านได้ฟังเร่ืองของแมวแล้ว ขออย่าได้คิดว่าเป็นเร่ือง แมวๆ เลยแต่จงคิดว่าท่านได้อะไรอันเป็นตัวอย่างจากเรื่องของ แมวบ้างและจะได้เป็นบทเรียนสําหรับการดูแลลูกน้อยของท่าน ตอ่ ไป ธรรมชาติของผู้หญิงผู้จะเป็นมารดาของทารกได้มีอวัยวะต่าง กบั ชายหลายอยา่ งทส่ี ำ� คญั คอื หญงิ มเี ตา้ นมสองขา้ งทอ่ี ก นมนแ้ี หละ เป็นท่ีเกิดอาหารของทารกผู้เกิดมาใหม่ๆ ถ้าเราดูสัตว์เดรัจฉาน จะเห็นว่าสตั วท์ ีเ่ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมเช่น ววั ควาย ชา้ ง ม้า หมา และแมว เมอ่ื ลกู ยงั เลก็ อยู่ มนั กก็ นิ แตน่ ำ้� นมเทา่ นน้ั และเปน็ นมของแม่ โดยแม้ คนเราทว่ั ไปกม็ นี มสำ� หรบั ใหล้ กู กนิ แลว้ แตเ่ ราเปน็ คนทชี่ อบทำ� อะไร ฝืนธรรมชาตเิ สมอ เดก็ น้อยยังไมม่ ฟี นั จะบดอาหาร แม่กลวั ลกู จะมี อาหารไม่พอ กบ็ ดขา้ วกบั นำ�้ ตาลบา้ ง กบั กลว้ ยบา้ งให้ลูกกิน วิธีให้ กินก็ท�ำท่าพิลึก คือเอาลูกนอนหงายระหว่างขาของมารดาแล้วเอา ขา้ วบดยดั ใสป่ ากลกู ทำ� ทา่ เหมอื นขม่ เหงเดก็ อยา่ งนน้ั เดก็ ยงั ไมม่ ฟี นั บดอาหารแขง็ ๆ กนิ เขา้ ไปมากกเ็ กดิ ทอ้ งเสยี บอ่ ยๆ บางคนใหก้ นิ เสยี จนทอ้ งปอ่ งเปน็ ปลาแขยงไปเลย อยากจะกลา่ ววา่ การกระทำ� เชน่ นน้ั รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 65
เปน็ การไมถ่ กู ตอ้ ง มารดาไมค่ วรวติ กวา่ อาหารจะไมพ่ อเดก็ ตวั นอ้ ยๆ ไม่ต้องกินอาหารมากนักดอก เพียงแต่นมของแม่ก็พอส�ำหรับความ ต้องการของร่างกายแล้ว ลูกวัวลูกควายยังไม่กินหญ้าขณะท่ีฟัน ไม่ขน้ึ ลกู ของเราก็ควรจะเปน็ เชน่ นั้น โปรดจ�ำไว้ว่าน้�ำนมของมารดาเป็นอาหารที่มีค่าที่สุดหรับเด็ก และตราบใดท่ีลูกของท่านยังไม่มีฟันขออย่าได้ให้อะไรแก่เขา นอกจากน�้ำนมของแม่เป็นอันขาด เว้นไว้แต่ว่ามารดามีร่างกายไม่ สมบูรณ์ มีน้�ำนมน้อยเกินไปไม่พอส�ำหรับเล้ียงลูก ก็ควรให้ลูกกิน นมกระป๋องหรือนมสดท่ีได้มาจากวัวหรือแพะ เป็นต้น แต่การให้ นมอย่างนี้ ต้องระวังให้สะอาดและปลอดภัย นมสดต้องต้มหรือน่ึง เสยี ก่อน เพือ่ ฆา่ เช้ือโรค ขวดนมภาชนะใสห่ ัวนมตอ้ งอยู่ในสภาพที่ สะอาดและเรียบรอ้ ยอยเู่ สมอ จงจ�ำไว้วา่ ลกู ของทา่ นจะเจบ็ ป่วยได้ ก็โดยเชื้อโรคบางชนิดเข้าสู่ร่างกายของเขา นมและหัวนมอาจเป็น พาหนะของเช้ือโรคได้ จงึ ควรลวกน้�ำรอ้ นก่อนใช้เสมอ นอกจากนม ท่านอาจคัน้ น้ำ� ผลไม้บ้างกไ็ ด้ แต่อยา่ ให้มากเกินไป รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 66
ในเรอื่ งการเลยี้ งทารกนี้ มารดาควรไตถ่ ามนางพยาบาลตามสถานี อนามัยไดเ้ สมอ . . . ทา่ นอยา่ ทำ� อะไรไปโดยไมร่ เู้ ทา่ ถงึ การณเ์ ปน็ อนั ขาด ชวี ติ ของลกู มรี าคามาก จงถนอมเขาในทางท่ีถกู หลักและปลอดภัยเสมอ การท�ำ อะไรตาม ๆ กนั มาในทางทผ่ี ดิ นน้ั ไมเ่ ปน็ สง่ิ ทด่ี เี ลย เชน่ บางคนกลา่ ววา่ ตัวของดิฉันก็ได้รับการเล้ียงมาแบบนี้ แม้ตัวของท่านก็เช่นเดียวกัน น้ีเป็นค�ำกล่าวท่ีพ้นสมัยแล้ว โลกเราได้เจริญก้าวหน้าไปมากแล้ว การเกิดการบริบาลทารก จึงควรเปลี่ยนให้เหมาะสมแก่กาลเทศะ ด้วยจงึ จะดี การใหน้ มอนั เปน็ อาหารแกเ่ ดก็ ควรมเี วลา อยา่ ใหเ้ ดก็ กนิ อาหาร อย่างพร่�ำเพรื่อเป็นอันขาด มารดามักจะขาดความเอาใจใส่ในข้อนี้ เชน่ พอลกู รอ้ งไหก้ เ็ อาหวั นมยดั ปากทนั ที เทา่ กบั ใหล้ กู หยดุ รอ้ งดว้ ย การกนิ นม ทำ� กนั จนเปน็ นสิ ยั พอเดก็ รอ้ งมกั จะพดู กบั เดก็ วา่ หยดุ รอ้ ง เสยี เถดิ ลกู แมจ่ ะใหก้ นิ ขนม เอาของกนิ เขา้ ลอ่ เสยี เรอื่ ย จนกระทงั่ เดก็ เสียคนน่ีเป็นการกระท�ำไม่สู้ดีนัก เวลาเด็กร้องไห้เราควรหาเหตุผล ใหไ้ ดก้ อ่ นว่าเขาร้องทำ� ไม ไมใ่ ช่รอ้ งเพราะหิวเสมอไปดอก บางทมี ด กัดเขากร็ ้อง ผา้ ปูที่นอนเปยี กดว้ ยปัสวะเขาก็ร้อง เขาถ่ายแล้วไม่ได้ ลา้ งกร็ อ้ ง ทนี่ อนแขง็ ไปเขากร็ อ้ ง รวมความวา่ เดก็ รอ้ งตอ้ งมเี หตุ ไมม่ ี เหตุเขาไม่ร้องไม่กวน ไม่จู้จี้ ผู้ที่ท�ำให้เด็กร้องคือความสะเพร่าของ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 67
แมน่ น่ั เอง ฉะนน้ั พอไดย้ นิ เสยี งรอ้ งจงคน้ ควา้ หาเหตผุ ลกอ่ นเสมอจง แกท้ เ่ี หตุอย่าใหเ้ ด็กกินนมเสมอไป จะท�ำใหเ้ ดก็ เสยี นิสัยในภายหลัง เปน็ ตน้ และใหพ้ อควร อยา่ ใหก้ นิ จนกระทงั่ ลน้ ออกมา เมอ่ื ใหน้ มหมด แลว้ ใหเ้ ขานอนใหส้ บายในอขู่ องเขาเถดิ บางทเี สยี งเดก็ ทร่ี อ้ งไหท้ ำ� ให้ แม่ทนฟังไม่ค่อยได้ ต้องคอยเอาใจใส่เขาเสมอ เด็กเสียตรงนี้มาก เหมือนกัน คอื ตอ้ งการอะไรกร็ อ้ งไห้จ้าแมก่ ็วิ่งมาช่วย เลยทำ� ใหเ้ ดก็ เปน็ คนขแี้ ยไป ถา้ หากทา่ นเชอื่ เเนว่ า่ เบาะทเ่ี ขานอนเรยี บรอ้ ยแลว้ ให้ กินอม่ิ ดีแลว้ ยงุ ก็ไม่รบกวนเขาแลว้ เขาร้องก็ร้องไปเถดิ การรอ้ งไห้ ของเดก็ ๆ เปน็ การขยายปอดและออกกำ� ลงั อยใู่ นตวั อยา่ ไปยงุ่ กบั เขา เมื่อยังไม่ถึงเวลา นานๆ เขาก็ท�ำให้เด็กรู้สึกตัวว่าการร้องไห้ ไม่ได้ ประโยชน์อะไร เป็นการท�ำตนให้เหนื่อยเปล่าๆ เขาก็จะกลายเป็น คนหนักแนน่ ไม่เปน็ คนมักรอ้ งไห้ตอ่ ไป เวลาเปน็ เรอ่ื งสำ� คญั การทำ� อะไรเปน็ ระเบยี บเปน็ การเพาะนสิ ยั มรี ะเบยี บแกล่ กู ของทา่ น จงึ ขอฝากไวส้ ำ� หรบั เปน็ แนวคดิ ในการเลย้ี ง ลูกของทา่ นด้วย. รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 68
แม่พมิ พ์ . . . ข อ ง ลู ก . . . . . . ท่ า น พ่ อ แ ม่ ท่ี นั บ ถื อ ท้ั ง ห ล า ย โปรดฟังเรื่องรักลกู ใหถ้ กู ทางตอนต่อไป . . . ในตอนก่อนได้พูดถึงเร่ืองความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกว่ามี อย่างไร จบลงด้วยเร่ืองการให้อาหารแก่เด็กว่าควรใหอ้ ะไร และให้ อย่างไร ได้พูดหน่อยเพราะเร่ืองนั้นมีทางศึกษาได้จากเอกสารของ องคก์ ารสงเคราะหแ์ มแ่ ละเดก็ อยแู่ ลว้ ในวนั นจ้ี ะพดู ถงึ เรอ่ื งทมี่ ารดา ควรรตู้ ่อไป ซึ่งเปน็ เร่ืองทจ่ี ะท�ำใหม้ ารดาไดเ้ ข้าใจธรรมชาตขิ องเดก็ ดีขน้ึ . . . การทเ่ี ราจะเล้ยี งเด็กให้ได้ดนี นั้ ผู้เลย้ี งตอ้ งรู้ถึง ความเป็นอยู่ความตอ้ งการของสิ่งน้นั อยา่ งถกู ตอ้ ง เหมือนตนจะท�ำการเพาะปลูก ก็ต้องเรียนให้เข้าใจถึงเรื่องของ ดิน เร่ืองของฝนฟ้าอากาศ เร่ืองของพืชทตี่ นจะเอามาปลกู คนเลย้ี ง สตั วเ์ ชน่ หมา เปน็ ตน้ กต็ อ้ งร้จู ักธรรมชาติจติ ใจของมันจึงจะฝึกหัด รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 70
มนั ใหไ้ ดถ้ กู ตอ้ งเรยี บรอ้ ย ในสมยั น้ี มคี นเปน็ จำ� นวนมากตนื่ เลย้ี งหมา ฝรง่ั ตวั โตบา้ งเลก็ นอ้ ย ซอ้ื ขายกนั ดว้ ยราคาแพงๆ บางบา้ นมหี ลายตวั จนตอ้ งมหี นงั สอื เกย่ี วกบั การฝกึ หดั หมาพนั ธน์ุ น้ั ๆ โดยเฉพาะและฝกึ กนั จนไดด้ ี คนบางคนฝกึ ลกู ของตนใหเ้ ปน็ คนดี ไมส่ ามารถฝกึ หมาดไี ด้ ท่ีเป็นเช่นนี้ เห็นจะเป็นเพราะเขาได้ท�ำการศึกษาจนเข้าถึงเรื่อง นั้นนั่นเอง ส่ิงใดที่เรามีความช�ำนาญแล้ว เราสามารถท�ำได้อย่าง เรยี บรอ้ ย ในการเขยี นหนงั สอื อนั เปน็ บทความเกย่ี วกบั การอบรมเดก็ หาเป็นนานก็หาไมไ่ ด้ มีหนังสือประเภทอื่นๆ มากมาย ทำ� ใหน้ กึ ขน้ึ วา่ คนไทยเรายงั สนใจในปญั หานนี้ อ้ ยไป เพราะสนใจในปญั หานนี้ อ้ ย ไปนเ่ี อง ปัญาหาประเภทนีข้ องเยาวชนจงึ เป็นปัญหาหนกั ในบดั น้ี พอ่ แม่สว่ นมากท่ีเล้ียงดมู าได้ กท็ ำ� ไปอยา่ งท่เี ห็นๆ เขาท�ำกันมา เท่าน้ัน หาได้อาศัยหลักการและวิธีการอย่างใดไม่ คนใดที่เล้ียงลูก ได้ดีมีประโยชน์ ถ้าหากถูกใครๆ ถามว่าเลี้ยงอย่างไรจึงมีลูกดีๆ อยา่ งนัน้ เขาก็ไมส่ ามารถจะตอบได้ เพราะไม่ไดท้ ำ� สถติ อิ ะไรไว้เลย บางคนร้ายกว่าน้ันไม่มีความสนใจอะไรเลย ปล่อยกันไปตามบุญ ตามกรรมเสยี เปน็ สว่ นมาก โดยคดิ เสยี วา่ สดุ แตบ่ ญุ กรรมของมนั เถดิ ความคิดเชน่ นเ้ี ปน็ ความคิดทผ่ี ิด ท่วี ่าเกดิ แต่บญุ กรรมน้นั ก็หมายถึง เกิดจากการกระท�ำนั้นเอง เรื่องของเด็กเป็นผลจากการกระท�ำของ พ่อเม่ เม่ือแม่เป็นตัวการให้เขาเกิดมาแล้ว ก็ต้องถือเป็นหน้าท่ีอัน สำ� คญั ทสี่ ดุ ในอนั ทีจ่ ะฝึกเขาใหเ้ ปน็ คนดีต่อไปในกาลข้างหนา้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 71
ทารกน้อยๆ ท่ีนอนอยู่ในเบาะเป็นผู้ใหม่ต่อโลก เป็นผู้มาเพ่ิม จำ� นวนขนึ้ ในครอบครวั เปน็ สตั วเ์ ลก็ ทน่ี า่ เอน็ ดนู า่ ถะนถุ นอม ยงั เปน็ ผบู้ รสิ ทุ ธติ์ อ่ โลกอนั เตม็ ไปดว้ ยมายานี้ และเขาคอื ผนู้ ำ� ความสบายใจ มาสู่พ่อแม่ ญาติพ่นี ้องทกุ ถว้ นหน้า ดวงตาของเขาใสแจ๋ว ไม่มแี วว ของความชั่วร้ายเเม้แต่น้อย ถ้าหากท่านสนใจดูกิริยาของเขา ท่าน จะรูส้ ึกสนุก ร้สู ึกท่งึ รูส้ ึกสนใจและรู้สกึ ร่าเริงปตี ิ จนกระท่ังทา่ นลมื ความเป็นอยู่ของตนเอง ลืมว่าเจ้าหนูก�ำลังเติบโตข้ึนแต่ตัวเรากลับ แก่ชราลงไปมาก แล้วลืมกระท่ังความล�ำบากตรากตร�ำอันเน่ืองมา จากการเล้ียงเด็ก พ่อแม่ไม่เคยนึกเลยว่ามันเป็นภาระหนักน่าเบื่อ หน่ายหรือเป็นกรรมในการมีลูกออกมาอย่างน้ี คนที่ไม่มีหนูน้อยไว้ ชมเล่นเสียอีกกลวั เหงาและนึกว่าตนมกี รรมแท้ๆ ท่ีไมม่ ลี กู กะเขา ท่ี แม้มนั เป็นเร่อื งบญุ ทำ� กรรมแต่ง เป็นงานของธรรมดาทีใ่ ครๆ จะไป ท�ำเปน็ ดงั ใจไม่ได้ดอก อยา่ เป็นทุกข์เพราะเรอื่ งมี หรือไมม่ เี ลย ใคร มแี ลว้ กท็ �ำหน้าทเี่ ลย้ี งให้ดี ใครไมม่ กี ็นึกว่าตนไม่แล้วกนั ถา้ หากวา่ พ่อแมท่ �ำลกู ใหเ้ กดิ ออกมาแลว้ เขามไิ ด้เอาใจใส่อบรมเล้ยี งดเู ด็กนั้น จะเป็นเดก็ ทีส่ มบูรณ์ไปไมไ่ ด้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 72
อนาคตของเด็กน้อยในเบาะจะเป็นอย่างไร ข้ึน อยกู่ บั การสรา้ งของบดิ ามารดา เพราะมคี ำ� กลา่ วไวว้ า่ “ธรรมชาติเป็นผู้ปั้นรูปกายให้เป็นรูปมนุษย์ มารดา บดิ าเปน็ ผปู้ น้ั นสิ ยั ใจคอของเดก็ ” รา่ งกายของเดก็ เกดิ จากการอบรมของมารดาบดิ าอกี เชน่ กนั ถา้ หากวา่ พอ่ แมท่ ำ� ลกู ใหเ้ กดิ ออกมาแลว้ เขามไิ ดเ้ อาใจใสอ่ บรมเลยี้ งดเู ดก็ นน้ั จะเปน็ เดก็ ทส่ี มบรู ณ์ ไปไมไ่ ด้ ในหนังฝรง่ั เรื่องท่หี มาป่าเอาเด็กไปแต่เล็กๆ แล้วเล้ยี งไว้จน เดก็ โต พดู ภาษาคนกไ็ มไ่ ด้ กริ ยิ าทา่ ทางกไ็ มเ่ หมอื นคน อาหารการกนิ กก็ นิ สงิ่ ทค่ี นเขาไมก่ นิ กนั นนั่ กเ็ พราะเขาไดร้ บั การแนะบอกในทางนน้ั ลกู ของคนไทยบรสิ ทุ ธร์ิ อ้ ยเปอรเ์ ซน็ ต์ พอเกดิ ออกมาถา้ เอาไปใหช้ าว จนี เลย้ี ง เดก็ โตขน้ึ ในสงิ่ แวดล้อมทเ่ี ป็นจนี ก็กลายเป็นจนี ไปเทา่ นนั้ เอง สงิ่ ทอ่ี ยรู่ อบๆ ตวั เดก็ อาจทำ� เดก็ ใหเ้ ปน็ อะไรไปกไ็ ด้ พอ่ แมจ่ งึ ตอ้ ง ใหท้ ้งั ร่างกายทง้ั จติ ใจแก่เดก็ ในทางท่ีถูกต้องไว้เสมอ ชีวิตของเด็กน้อยต่างจากชีวิตผู้ใหญ่มากมาย ชีวิตของเด็กเป็น ชีวิตง่ายๆ ท่ีสุด ไม่มีมายาสลับซับซ้อนแต่อย่างใด และไม่เป็น อิสระแก่ตน . . . คอื ต้องข้ึนอยู่กบั มารดา บดิ า พ่ีเลีย้ ง นางนม ตลอดเวลา เปน็ เด็กท่ีมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น เป็นอิสระมากข้ึนโดยล�ำดับ ไม่ ตอ้ งอาศัยผู้อื่นเสมอไปกไ็ ด้แล้ว และมีลกู ไมแ้ ปลกๆ มากขน้ึ แตห่ นู นอ้ ยผนู้ อนแบอยบู่ นเบาะนนั้ เปน็ ชวี ติ ท่งี ่ายเขา้ ใจงา่ ยที่สุด เขาไมม่ ี รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 73
อะไรมากไปกวา่ ความตรงไปตรงมาชนดิ ไม่ เดียงสา เขายังมิได้รับเอาความเป็นมายา ของโลกไปมอมใจเขา เขาจึงแสดงอะไร ออกมาอย่างตรงไปตรงมาเสมอ เขานอน เป็นสุขร่าเริง ในเม่ือไม่มีอะไรมารบกวน ร่างกายและจิตใจของเขา แต่ถ้ามีอะไรผิด ปรกติเกิดข้นึ แก่เขา เขากต็ อ้ งแสดงอาการ ไม่พอใจทันทีคือร้องไห้จ้าออกมาให้คน อื่นๆ ทราบ ถ้าสังเกตให้ดีก็จะเห็นไว้ว่า ถ้าเราย้ิมกับเขา เขาก็ท�ำอาการย้ิมกับเรา ดว้ ย แตถ่ ้าเราท�ำหนา้ บง้ึ เขากท็ �ำบา้ ง ถา้ เราท�ำท่าแลบลิน้ หลอกเขา บอ่ ยๆ เขากท็ ำ� ทา่ เชน่ นนั้ ได้ เขาทำ� ทกุ อยา่ งทไ่ี ดร้ ไู้ ดเ้ หน็ แตเ่ ขาหาได้ รคู้ วามหมายวา่ ทำ� ไปทำ� ไมกนั ความไมเ่ ดยี งสาของเขานแี่ หละทำ� ให้ เขารบั ทง้ั ความดแี ละความชัว่ เอาไวใ้ นใจของเขา สงิ่ ทเี่ ราเรียกกนั วา่ ความรกั ความเกลยี ด ความรา่ เรงิ ความเหงาหงอย อะไรตา่ งๆนานา นน้ั เด็กๆ เขายังตคี วามหมายไม่ได้เลย เขาแสดงออกเพราะเขาได้ เห็น ซ่ึงเรียกได้ว่าเป็นเพียงการสะท้อนกลับเท่าน้ัน หาได้เกิดจาก ความรสู้ กึ ในใจไม่ ชีวติ ของเด็กจึงยังเปิดเผยเรามองเห็นอยา่ งงา่ ยๆ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 74
ถา้ เราไปเทยี่ วตามสวนผกั ทเี่ ขาปลกู ผกั ประเภทเปน็ เถาเเละตอ้ ง มไี มเ้ ปน็ รา้ นใหเ้ กาะ จะเหน็ วา่ พวกไมเ้ ถาเหลา่ นน้ั ตอ้ งโนม้ เอยี งไปหา ไมท้ จ่ี ะเกาะจบั เสมอ ไมเ่ ทา่ ใดกเ็ กาะไมน้ น้ั ไดส้ มหมาย คนโบราณจงึ กลา่ วเปรยี บวา่ พนั ธไ์ุ มเ้ ลอื้ ยยอ่ มจบั สง่ิ ทอี่ ยใู่ กลไ้ วเ้ สมอ เราควรเรยี ก อาการชนิดน้ีว่าอ�ำนาจโน้มเอียงไปหาส่ิงแวดล้อมที่อยู่ใกล้ ท่ีสวน พุทธธรรมมีพนั ธุไ์ ม้เลอื่ ยมาก มันพยายามทอดยอดไปหาสิง่ ท่มี นั จะ เกาะได้เสมอ พอเกาะได้แล้วก็จับไว้แน่น แผ่กิ่งก้านสาขา ปกคลุม ตน้ ไมน้ น้ั จนเตม็ ไปหมด เอาตน้ ไมน้ น้ั เปน็ ลำ� ตน้ ของมนั เสยี เรอื่ งของ เด็กทารกกเ็ หมือนกัน สภาพของเด็กเป็นผู้ทต่ี ้องอาศยั ผู้อนื่ อย่เู สมอ จะอยโู่ ดยลำ� พังไม่ได้ จงึ ตอ้ งหนั เขาหาใครๆ ท่ีอยใู่ กล้เขาตลอดเวลา และเปน็ ธรรมดา เมอ่ื อยใู่ กลผ้ ใู้ ด กย็ อ่ มถา่ ยทอดอะไรๆ ทคี่ นนนั้ มอี ยู่ ไปไว้ในตวั เขาดว้ ย ลูกไมห้ ลน่ ไมไ่ กลจากต้นเดิมท่ีตรงนีเ้ อง ความสามารถท่ไี ม่เดยี งสาของเด็ก เป็นมูลฐานของ ความก้าวหนา้ ไปส่คู วามสามารถอันมีเดียงสาตอ่ ไป . . . ถ้าหากความสามารถอันไม่เดียงสาง่อนแง่นคลอนแคลน ก็จะ สร้างความสามารถอันมีเดียงสาให้พลอยเสียไปด้วย และถ้าพ่อแม่ ไม่รู้เท่าถึงการณ์ ไม่จัดการแก้ไขเสียโดยเร็วแล้ว กจ็ ะเพาะความเสยี ใหเ้ กดิ ขนึ้ ในใจของเดก็ ได้ เพอ่ื มใิ หเ้ ปน็ การสายเกนิ ไป มารดาบดิ าผมู้ หี นา้ ทดี่ แู ล รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 75
บตุ ร จึงควรระมัดระวงั บุตรของตน อยา่ ให้ได้เห็น ได้รบั รู้ในส่งิ อันไม่ สมควรเปน็ อนั ขาด ชา่ งทาสเี มอ่ื เขาไดท้ าสวี ตั ถใุ ดแลว้ ถา้ สยี งั ไมแ่ หง้ เขาตอ้ งระมดั ระวงั เปน็ พเิ ศษเพอ่ื มใิ หอ้ ะไรเขา้ จบั สงิ่ นนั้ เพราะถา้ จบั ตดิ แลว้ กจ็ ะตดิ อยนู่ น่ั เองเอาออกมาไมไ่ ดข้ อ้ นฉี้ นั ใด ในเรอื่ งของเดก็ ผมู้ คี วามสามารถอนั ไมเ่ ดยี งสากด็ ดู ดม่ื เอาอะไรงา่ ยๆ ฉนั นนั้ และเมอ่ื ดูดเอาแล้วก็ติดนานอันอาจให้โทษแก่เด็กในภายหน้า ถ้าหากท่าน ไม่เชือ่ ในหลักการนจ้ี ะลองดูก็ไดโ้ ดยทำ� ท่าอะไรๆ ให้เดก็ ดูบอ่ ยๆ ไม่ เท่าใดเด็กกจ็ ะทำ� อยา่ งท่านท�ำ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 76
จงจ�ำไวว้ า่ เดก็ มคี วามสงั เกต ความจ�ำอยา่ งวอ่ งไวทสี่ ดุ และมปี กติ อยากร้อู ยากเหน็ ในทกุ ส่ิงทผี่ ่านประสาททัง้ ห้าของเขา ถ้าหากเขาสามารถพูดออกมาเป็นถ้อยค�ำได้ ท่านคงตอบ คำ� ถามเขาไมห่ วาดไหวทเี ดยี ว และเมอื่ เขาไดร้ ู้ ไดจ้ ำ� สง่ิ ใดไวแ้ ลว้ เขา จะจ�ำไดจ้ นตลอดชวี ติ ขอ้ นีท้ กุ คนนึกรูไ้ ด้ว่า ความร้อู ันใดทรี่ บั มาแต่ เดก็ ๆ มันจะจำ� ติดอยู่ในใจไม่ลมื เลือนเลย แตค่ วามรู้ท่ีมาไดเ้ มอื่ อายุ ยส่ี ิบปี จำ� ไว้ยากเตม็ ที สมองของเด็กยังไมม่ ีอะไรเขา้ ไปท�ำใหย้ งุ่ จึง รับและเก็บอะไรได้ดีเสมอ เม่ือท่านทราบความจริงข้อนี้แล้ว โปรด ระลกึ ไว้เสมอว่า “ลูกน้อยของฉนั ไม่มคี วามเปน็ อสิ ระในตวั เอง ไม่ เดยี งสาในอะไรๆ ฉนั จงึ ตอ้ งระวงั ลกู ของฉนั ใหม้ าก ฉนั ตอ้ งใหค้ วามดี ท้ังทางกาย ทางใจ แก่เขาให้มากท่ีสุดเท่าที่จะมากได้ อนาคตของ ลูกของฉันอยู่ท่ฉี ันเอง” ถา้ พดู กนั ถงึ สง่ิ แวดลอ้ มของเดก็ มารดาบดิ าเปน็ สง่ิ แวดลอ้ มทอ่ี ยู่ ใกลท้ ส่ี ดุ เปน็ ผมู้ อี ทิ ธพิ ลสงู ในทางชกั จงู จติ ใจของเดก็ ใหเ้ ปน็ อะไรไป กไ็ ด้ ในทางพทุ ธศาสนาจงึ มีค�ำกล่าวไว้ว่า มารดาบิดาเป็นครูคนแรก ของบตุ รธดิ า เปน็ ผถู้ า่ ยทอดอะไรๆ ใหแ้ กบ่ ตุ รธดิ ามากเหลอื เกนิ คน โบราณจึงกล่าววา่ “ดูช้างใหด้ ูหาง ดูนางใหด้ ูแม”่ อนั เป็นค�ำพงั เพย ท่ีไม่มใี ครคัดค้านได้แมแ้ ตน่ ้อย รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 77
ปกติของเด็กๆ ยังไม่มีอะไรที่จะกล่าวได้ว่า เป็นมายา เป็น ความเท็จ เป็นความหลอกลวง เปน็ ความขลาดความกลวั เป็นความ ริษยาอาฆาตตามแบบที่ผู้ใหญ่มีกันเป็นส่วนมาก เขามีแต่อาการ ตรงไปตรงมาเท่านัน้ เรื่องของเขาจงึ ไม่สลับซบั ซ้อนเปน็ เรอ่ื งทีอ่ า่ น ได้อย่างง่ายๆ แต่ถ้ามีอะไรที่ผิดปกติข้ึนในใจของเด็ก เช่น ความ โกรธ ความรษิ ยา ความขลาดกลวั ตา่ งๆ เกดิ ข้ึน ก็เกดิ มาจากการรบั มรดกจากมารดาบิดาหรือพี่เล้ียง ผู้เป็นส่ิงแวดล้อมที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก นั่นแหละเป็นการรับการถ่ายโดยมิได้ต้ังใจ แต่ก็ได้รับเอาและฝังไว้ จนตลอดอายขุ องเด็ก ถา้ ไมแ่ กไ้ ขเสียโดยเร็ว เหตุฉะนแ้ี หละมารดา บิดาจึงเป็นตวั การสำ� คัญในความดีและความเสยี ของเด็ก การอบรมบ่มนสิ ัยของเดก็ มิใช่เปน็ งานเบา การท�ำให้เกิดมานั้นไม่ยาก ดังส�ำนวนของนักเทศน์ผู้หน่ึง กล่าวว่า การท�ำคนไมย่ ากอะไรดอกประเดยี๋ วเดียวกไ็ ด้แล้ว แตก่ าร ท�ำให้เขาเปน็ มนษุ ยน์ ส่ี ยิ ากมาก ตอ้ งใช้เวลาจงึ จะไดผ้ ล มนุษยค์ อื ผู้ มีใจสูง พ้นจากระดบั ความช่วั รา้ ย การอบรมเดก็ ก็เพอ่ื สร้างนสิ ยั ให้ เด็กเป็นคนดีตามแบบท่ีเราต้องการ เป็นงานหนักมิใช่น้อย แต่เป็น หนา้ ทที่ ่ีมารดาบดิ าจะพงึ กระท�ำ จงึ ไมค่ วรเบ่ือหนายต่องานนี้ จงมี ความพอใจ เบกิ บานใจ และท�ำเรอื่ ยไป ด้วยความคดิ ชอบ ประกอบ ด้วยเหตุผลเสมอเถิด รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 78
วธิ กี ารอบรมเดก็ ใหเ้ ปน็ ไปตามความประสงคข์ องผเู้ ลย้ี งหรอื บดิ า มารดาน้ัน เป็นการยากที่จะวางหลักส�ำคัญอันเก่ียวแก่อ�ำนาจทาง จติ ใจของเดก็ บอกไดแ้ ตห่ ลกั สำ� คญั อนั เกย่ี วแกอ่ ำ� นาจทางจติ ใจของ เดก็ เปน็ การบอกไวอ้ ยา่ งกวา้ งๆ ทเ่ี หลอื ไวก้ เ็ ปน็ หนา้ ทข่ี องความฉลาด ไหวพริบของมารดาบิดาและความเอาใจใส่ดูแล จงศึกษาธรรมดา ของเดก็ ของท่านใหเ้ ข้าใจ แล้วคดิ หาทางแก้ไขวา่ ควรท�ำอย่างไรจึง จะเหมาะสมกับการเปน็ อยู่ของเดก็ นนั้ ๆ กพ็ อจะพบช่องทางในการ ทจี่ ะอบรมเดก็ ของท่านเปน็ คนดไี ด้ เร่ืองท่ีควรพูดย�้ำกับท่านอีกหน่อยก็คือว่า ท่านมารดาบิดาเป็น กระจกเงาของเด็ก เด็กของใคร ก็ถือเอาคนนั้นเป็นกระจกเงา เขา รับเอาอะไรจากท่านทุกวินาที การกระท�ำอันใดของท่านต่อหน้า เด็ก อย่านึกว่ามันจะไม่เป็นภาพประทับลงในใจของเด็ก และสร้าง อะไรข้ึนในใจของเดก็ เป็นอนั ขาด แต่จงนกึ วา่ การกระท�ำของพ่อแม่ คอการพมิ พ์ภาพในใจของเดก็ จงึ ตอ้ งระมัดระวังเปน็ พิเศษเสมอ ลกู ของเท่านควรอยู่ในความรับผิดชอบของท่านเท่าน้ัน พี่เล้ียงนางนม เปน็ แตผ่ ชุ้ ว่ ยเหลอื แตค่ วามรบั ผดิ ชอบอยทู่ ท่ี า่ นสองคน อยา่ ไดล้ ะเลย ตอ่ หนา้ ทโี่ ดยตรงของท่าน เพราะผลท่เี กดิ ขึน้ ในอนาคตตกเป็นของ ลูกท่านและตัวท่านเองทั้งหมด ถ้าลูกดีเขาก็ว่าพ่อแม่ให้การอบรม ดี ถ้าเด็กช่ัวเขาก็ว่าพ่อแม่มันไม่ดี ลูกมันจึงเป็นอย่างนั้นขออย่าให้ ท่านต้องร้อนใจในภายหลัง เพราะเขาด่าว่าพ่อแม่มันไม่ดีในเร่ือง การอบรมลกู เลย. รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 79
สญั ชาตญาณ . . . ข อ ง เ ด็ ก . . . . . . ท่ า น พ่ อ แ ม่ ที่ นั บ ถื อ ท้ั ง ห ล า ย ในวนั กอ่ นไดพ้ ดู ถงึ เรอื่ งเกยี่ วกบั ความโนม้ นอ้ ม ของเดก็ ใหท้ า่ นฟงั แลว้ ขอ้ ความในตอนก่อน ไดช้ ี้ให้ท่านเห็นว่าเด็กเปน็ ผไู้ มเ่ ดียงสา เขาสามารถรับอะไรๆ จากผ้ใู หญห่ รอื สง่ิ แวดล้อมได้เสมอ . . . จึงเป็นความจ�ำเป็นท่ีท่านผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเด็กจะพึงระวัง ให้มากสักหน่อย อย่าได้กระท�ำอะไรๆ ให้เด็กของท่านเห็นและรับ ไวใ้ นทางทไ่ี มด่ เี ปน็ อนั ขาด วนั นจ้ี ะพดู ถงึ เรอื่ งเกยี่ วกบั ธรรมชาตขิ อง เด็กตอ่ ไป รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 81
ในทางหลักพุทธศาสนาสอนให้เราเข้าใจว่า ชีวิตของคนเรานี้ ประกอบด้วยสิ่งส�ำคัญ 2 ประการคือ รูปกับนามหรือกายกับใจ ส่ิง 2 ประการนร้ี วมกันเข้าประกอบเป็นคน มีชีวติ อาศยั มารดาบิดา ผู้สร้างสรรค์ มารดาบิดาจึงเป็นเทพเจ้าผู้สร้างบุตรธิดาน่ันเอง ร่างกายเป็นส่วนผสมอันเกิดจากนานาวัตถุมากมายหลายประการ และจะเป็นปกติอยู่ได้ก็เพราะมีวัตถุประกอบเช่นกัน เราจึงต้องกิน อาหารเพอื่ ความดำ� รงอยขู่ องรา่ งกาย แตส่ ำ� หรบั เดก็ ๆ นน้ั กนิ อาหาร เพ่ือความเติบโตของร่างกายด้วยการเล้ียงดู ซึ่งมารดาบิดาของเด็ก ทุกท่านได้ท�ำกันอยู่แล้วถึงแม้จะไม่ถูกต้องตามหลักการก็พอพาลูก ของท่านให้เติบโตขึ้นมาได้ ส่วนการเล้ียงทางใจยังบกพร่องอยู่มาก คนเราจะมีชีวิตอยู่โดยเพียงแต่มีร่างกายไม่ได้ แต่ต้องมีใจประกอบ เขา้ ดว้ ย ใจกับกายจงึ อาศยั กนั เปน็ อยู่เสมอไป อาหารท่ใี หต้ อ้ งมีทั้ง ทางกาย ทางใจ อาหารทางใจ คือ การสอนการฝึกให้เด็กเป็นผู้มี ใจดงี ามตามหลกั ธรรม ถา้ พดู กนั ในแงข่ องความจรงิ กนั แลว้ เรอ่ื งของ ใจเป็นเรือ่ งทต่ี ้องเอาใจใสเ่ ปน็ พเิ ศษเสมอ เพราะสิ่งทั้งหลายมาจาก ใจตลอดเวลา การระวังรกั ษา การอบรม การสรา้ งคนจงึ ส�ำคญั อยูท่ ี่ การสร้างใจของเขา อาการเคลอ่ื นไหวของจติ ทปี่ รากฏออกมาในรูปตา่ งๆ นนั้ มที ้ัง ท่ีเป็นมาโดยก�ำเนิด และมีทั้งเป็นเองในภายหลัง โดยอาศัยสื่อคือ ส่ิงแวดล้อมและการชักน�ำของผู้ท่ีอยู่ใกล้ๆ กับเขา เด็กได้อยู่ใกล้ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 82
กับบุคคลหรือส่ิงใด เขาจะมีอาการความเป็นไปอย่างท่ีบุคคลและ สงิ่ นนั้ ๆ เปน็ อยู่ จงึ เปน็ ความจำ� เปน็ อยบู่ า้ งทเ่ี ราจะตอ้ งศกึ ษาถงึ อาการ ของจิต พอเป็นแนวทางส�ำหรับส่องดูความเป็นไปของเด็ก เรื่องท่ี ควรรู้ก่อนคอื เรอื่ งของสัญชาตญาณ (Instinct) อารมณ์ (Emotion) นิสยั (Habit) มารยาท (Charactor) ซง่ึ จะได้อธิบายไปตามล�ำดับ 1. สัญชาตญาณ เปน็ คำ� พดู ทไี่ มค่ อ่ ยชนิ หผู ฟู้ งั เทา่ ใดนกั เพราะเปน็ ศพั ทท์ ใี่ ชก้ นั ในเรอ่ื งเกย่ี วกบั จิตเป็นส่วนมาก โปรดฟังใหด้ ี คำ� วา่ สญั ชาติ แปลวา่ เกดิ พรอ้ ม ญาณ แปลว่า ความร้เู อามารวมกันเขา้ กห็ มายถงึ ความ รูท้ ีเ่ กิดมากับใจตงั้ แตเ่ กิดทีเดียว ไมต่ อ้ งมีใครสอนใหร้ ู้ให้ทำ� ก็ทำ� เอง ได้ เป็นเร่ืองท่ีมีมาแก่ทุกตัวคน และเป็นเร่ืองท่ีท้ิงให้เด็ดขาดไปก็ ไม่ได้ ได้แต่เพียงคอยควบคุมเข้าไว้มิให้แสดงอาการออกมามาก เกนิ ไปเทา่ นนั้ ชาวโลกทขี่ าดการอบรมในทางใจ มกั ขาดการควบคมุ สัญชาตญาณ และกลายเป็นคนหยาบคายในสังคม เขามักท�ำอะไร แบบสัตว์ป่าเสมอ ส่วนบุคคลผู้ได้รับการศึกษาอบรมแล้ว ย่อมมี ความละอายต่อการปล่อยสันดานเดิมของตนออก มา จงึ กลายเปน็ สภุ าพชนทนี่ า่ คบหาสมาคม ฉะนน้ั ใครๆ ที่ใครจะเป็นคนเจริญกับเขาก็จงเรียนรู้ไว้ บ้าง แล้วพยายามควบคุมสัญชาตญาณของตน อย่าให้ออกมาจนเกินพอดเี ป็นอันขาด รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 83
สัญชาตญาณใหม่ ๆ เท่าทค่ี วรร้มู ดี ังตอ่ ไปน้ี ก. สัญชาตญาณแห่งการเลี้ยงชีพ สัตว์ที่มีชีวิตท้ังหมดย่อมอยู่ ได้ด้วยอาหาร ความต้องการอาหารจึงเกิดติดมาตั้งแต่เกิด ลูกแมว ลูกหมา พอเกิดออกมาจากท้องแม่ก็คล�ำหานมแม่และดูดกินทันที แต่ลูกคนพอเกิดมาจากท้องแม่ ก็ยังไม่ได้กินก่อน ต้องมีการล้าง สงิ่ สกปรกออกจากตวั เขาตอ้ งทำ� ความสะอาดใหม้ ารดา เขาจงึ กนิ นม ไดต้ ามความปรารถนา และตอ้ งกนิ อาหารกนั เรอ่ื ยไปจนกระทงั่ หมด ลมหายใจ เกี่ยวกับการกินก็ต้องมีการหาไว้กิน นี่เป็นสัญชาตญาณ ของสตั วท์ ่ัวไป ข. สัญชาตญาณแหง่ การสืบพนั ธ์ุ เมื่อมกี ารเกดิ แล้วกต็ อ้ งมีการ สบื ตอ่ ของชีวิตเร่ือยไป นามรปู ของเราจงึ ยงั ไม่ดับสญู แต่ถ้าหากว่า ไม่มีการสืบต่อ ก็ถึงความแตกดับสัญชาตญาณประเภทนี้ก่อให้เกิด ความก�ำหนัด ความใคร่ในกามตัณหา ถ้าหากมิได้กล่อมเกลาหรือ ควบคุมให้ดีแล้ว ราคาของคนก็จะต่�ำกว่าสัตว์เดรัจฉาน เช่น หมา เป็นต้น ความจริงหมาหรือสัตว์อื่นๆ มันสนองความต้องการของ สญั ชาตญาณเปน็ ครง้ั คราว เปน็ ฤดกู าลพอพน้ ระยะสน้ั ไปแลว้ กเ็ ฉยๆ มไิ ดส้ นใจใยดตี อ่ ไป แตม่ นษุ ยเ์ รานม้ี กี าลเวลากนั บา้ งไหม? มคี วามพอ กันบ้างไหม? คิดดูให้ดีแล้วบางทีก็น่าจะอายแก่หมาอยู่บ้างส�ำหรับ บางคนทข่ี าดการควบคมุ สัญชาตญาณข้อน้ี รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 84
ค. สัญชาตญาณแห่งการระวังรักษาชีวิต สัตว์ ทุกตัวมีความรักต่อชีวิต กลัวต่อการท�ำร้าย เบียดเบียนพระพุทธองค์ตรัสไว้ในธรรมบทว่า “สัตว์ทั้งหลายย่อมสะดุ้งต่ออาชญา ย่อมกลัวแต่ ความตาย จงทำ� ตนใหเ้ ปน็ เครอื่ งเปรยี บเทยี บแลว้ อยา่ ทำ� ใหใ้ ครๆ เดอื ดรอ้ น” เพราะมคี วามกลวั เจบ็ กลัวตายจึงเกิดความรู้สึกในอันที่จะรักษาตนให้ พน้ ภยั ตอ่ ไปกจ็ ะเกดิ อาการตอ่ สู้ หรอื ถอยหนตี าม เหตุการณ์ท่เี กิดขึ้น เดก็ ๆบางคนมกั ตกใจงา่ ย ใน เม่อื ได้เหน็ หรอื ไดย้ ินเสียงอะไรดังๆ กผ็ วาหวดี ทันที พเ่ี ลี้ยงนางนมจึง ต้องระวงั อย่าใหเ้ ดก็ เกดิ อารมณ์กลัวขึ้นในใจเขาโดยไมจ่ ำ� เป็น ฆ. สัญชาตญาณแห่งความถือตัวถือตน ข้อนี้คือมูลฐานของการ เห็นแก่ตนเองเปน็ ใหญ่ ตนเองเป็นคนส�ำคญั ดี งามเดน่ กวา่ คนอ่นื เขา เสมอไป เป็นเหตุให้เกิดการวางภมู ิว่าตนเป็นคนสำ� คัญ และกอ่ ให้เกิด การเหยยี ดหยามบคุ คลอน่ื วา่ ตำ่� กวา่ ตนทกุ แงท่ กุ มมุ คนแบบนถ้ี า้ เขา้ ไป ในสถานทใี่ ดกม็ กั วางตนสงู ไวเ้ สมอ ในภาษาธรรมะทา่ นเรยี กวา่ มมี านะ ส�ำคัญตนว่าดีกว่าเขาบ้าง ส�ำคัญตนว่าเสมอเขาบ้าง ส�ำคัญตนว่าต่�ำ กว่าเขาบา้ ง ลว้ นเป็นบอ่ เกดิ ความยุ่งยากในทางใจทงั้ นน้ั รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 85
สัตวท์ ั้งหลายยอ่ มสะดงุ้ ตอ่ อาชญา ย่อมกลวั แต่ความตาย จงท�ำตนใหเ้ ปน็ เคร่อื งเปรยี บเทียบ แลว้ อย่าท�ำใหใ้ ครๆเดือดร้อน ง. สญั ชาตญาณแหง่ การรวมหมู่ มนษุ ยน์ เ้ี ปน็ สตั วเ์ มอื งคอื อยกู่ นั เปน็ พรรคเปน็ พวก ไม่ชอบอย่ตู ามล�ำพัง ปกตขิ องทกุ คนมักมีความ โน้มเอียงเข้ารวมกันอยู่เสมอ ถ้าเราไปดูตามสถานทท่ีที่มีงานก็จะ เห็นว่า คนมักไปรวมกันอยู่เป็นหย่อมๆ มีใครไปอยู่ก่อนสักคนสอง คนก็มีคนตามไปรวมกันจนกลายเป็นหมู่ใหญ่ การรวมหมู่รวมพวก มกั อาศยั ส่งิ ท่ีเหมอื นกนั เช่น พูดแบบเดยี วกัน นุ่งห่มแบบเดียวกัน ฐานะความเป็นอยู่คล้ายๆ กัน เขาก็มาเข้าพวกกันได้ เหตุน้ีแหละ ประชาชนในโลกจึงมีหลายชาติหลายภาษา ใครต้องถูกทอดทิ้งอยู่ โดดเดยี่ วยอ่ มไมส่ บายใจ เดก็ ๆ ทถ่ี กู ปลอ่ ยใหอ้ ยคู่ นเดยี วมกั เปน็ เดก็ ที่เงือ่ งหงอย ขาดความว่องไวทัง้ ทางกายและทางใจ ถา้ เขาไดเ้ พอ่ื น เล่นสักคนหน่ึง เขาจะมีความเบิกบานข้ึนมาทันที จงสังเกตเวลาพ่อ แมไ่ ปทำ� งานนอกบา้ นพอกลบั มาถงึ บา้ น ลกู นอ้ ยจะโผเขา้ มากอดคอ ทนั ที นีค่ ือสญั ชาตญาณของการรวมหมทู่ ี่เหน็ กันง่ายๆ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 86
จ. สญั ชาตญาณของการสะสม กอ่ นถงึ ฤดฝู นเราเคยเหน็ มดเปน็ จำ� นวนมาก เกบ็ ของทก่ี นิ ไดไ้ ปไวใ้ นรงั ผง้ึ จำ� นวนมากเทยี่ วคลงึ เคลา้ เกษรดอกไม้ เพ่ือน�ำเอาน�้ำหวานไปเก็บไว้ส�ำหรับลูกอ่อนท่ีเกิดมา กาดำ� ๆ พอไดอ้ าหารสกั ชน้ิ กม็ กั เอาไปซอ่ นไวก้ อ่ น เพอ่ื จะไดม้ ากนิ กนั ทีหลัง การกระท�ำเช่นน้ีเป็นวิธีการของสัญชาตญาณสะสมไว้ทั้งน้ัน ยิง่ ในหมมู่ นษุ ย์ดว้ ยกนั แล้วมีการสะสมเป็นงานใหญ่ เก็บกันจิปาถะ ไมร่ วู้ า่ อะไรเปน็ อะไร สญั ชาตญาณตวั นถี้ า้ ไมก่ ลอ่ มเกลาหรอื ควบคมุ ใหด้ แี ลว้ มกั กอ่ ใหเ้ กดิ ความมกั ไดแ้ ละเบยี ดเบยี นผอู้ น่ื มากเหมอื นกนั หนูน้อยบางคนเร่ิมเก็บของเล็กของน้อย พอเก็บไว้แล้วก็มักพูดว่า ใครอยา่ มาแตะตอ้ งของหนนู ะ บางทอี าการหนกั เลยไปถงึ เอาเปรยี บ ผอู้ นื่ โกงเขารอ้ ยแปด จนกลายเปน็ สะสมมรดกไวใ้ หล้ กู หลานดว้ ยการ โกงโดยประการตา่ งๆ ดังทีเ่ ราเห็นๆ กนั อยูส่ มัยน้ี สัญชาตญาณท่ีกล่าวมานี้ไม่ละเอียดแท้ เอากันแต่พอเป็น แนวทางส�ำหรับรู้อาการของใจไว้บ้างเท่าน้ัน เพ่ือจะได้หาวิธีกล่อม เกลาให้เป็นในทางทถ่ี ูกทค่ี วร ไมป่ ล่อยไว้จนกลายเปน็ คนเสยี และ จะมีความไม่สบายใจในภายหลัง โทษร้ายที่เกิดจากความไม่เข้าใจ และไม่ได้ทำ� การแก้ไขน้นั แผก่ ว้างออกไปถงึ ประเทศชาติและสงั คม ทว่ั ไปด้วย จงึ ใคร่ขอให้พ่อแม่ทง้ หลายพึงสำ� เนียกไว้สักหนอ่ ย รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 87
2. อารมณ์ เปน็ คำ� พดู ทเ่ี ราไดย้ นิ กนั บอ่ ยๆ เชน่ พดู วา่ พอ่ คนนนั้ มอี ารมณด์ ี กห็ มายถงึ ใจเยน็ แมค่ นนนั้ อารมณร์ า้ ยมาก กห็ มายถงึ คนใจรอ้ น ชอบ เถียง ชอบด่าเสมอ “อารมณ์” จึงหมายถึง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับ ใจเม่ือใจได้รับรู้ส่ิงใดส่ิงหนึ่งทางประสาทท้ังห้า แล้วเกิดอาการบาง อย่างข้ึนในใจ อาการน้ันเรียกว่าอารมณ์ อารมณ์นี้มีสัญชาตญาณ เป็นมูลฐานเสมอ เช่น เราเห็นรูปของเพศท่ีตรงกันข้ามกับเรา ก็ เกิดความพอใจอยากเข้าไปถามว่าเธอคือใครมาจากไหน ก็เพราะ สญั ชาตญาณในการสบื พนั ธเ์ุ ปน็ มลู ฐาน แปลงรปู เปน็ ความใครอ่ ยาก ไดร้ ปู นน้ั อารมณเ์ ปน็ เรอื่ งทส่ี ามารถปอ้ งกนั มใิ หเ้ กดิ ขนึ้ ไดท้ ำ� ลายกไ็ ด้ โดยการปฏิบตั ทิ างภาวนา 3. นิสยั เป็นส่ิงท่ีเกิดมาจากการฝึกฝน เช่นคนขยันก็เพราะฝึกฝนใน ทางนนั้ คนเกยี จครา้ นกเ็ พราะฝกึ ฝนในทางเกยี จครา้ น ทำ� สง่ิ ใดบอ่ ยๆ กก็ อ่ ใหเ้ กดิ เปน็ นสิ ยั นสิ ยั บางทกี เ็ กดิ จากการถา่ ยทอดมาจากมารดา บดิ า หรอื ผทู้ อี่ ยใู่ กล้ เพราะเดก็ ๆ มปี กตโิ นม้ เอยี งในทางรบั งา่ ยอยแู่ ลว้ การปลูกฝังนิสยั ใหเ้ ด็กจึงอยทู่ ีต่ ัวอย่างของผู้ใหญ่ ท่านผู้หน่งึ เป็นคน ขยนั ตื่นแตเ่ ชา้ และท�ำงานถางปา่ ในสวนทกุ วนั เป็นนจิ ลูกชายก็ต่ืน เหมือนพ่อจับมีดไปถางป่าแบบพ่อเหมือนกัน นิสัยติดกันได้อย่างน้ี ทา่ นเองมนี ิสยั อย่างไรเล่า ระวังมนั จะตดิ เอาลกู ของทา่ นเข้านะ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 88
4. มารยาท หมายถึงกิริยาท่าทางท่ีแสดงออกมาทางกาย ทางถ้อยค�ำ ใหเ้ หน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน มารยาทเปน็ อาการสอ่ แสดงถงึ นสิ ยั ของผแู้ สดง เสมอ เชน่ คนมนี ิสัยหยาบกพ็ ูดค�ำไมส่ ภุ าพ กิริยาอาการก็หยาบโลน ไม่น่าดู จะยืนเดินนั่งนอนไม่มีระเบียบของผู้ดี ในทางตรงกันข้าม ถา้ เขามนี ิสัยดมี ารยาทกด็ ตี ามไปด้วย ในการอบรมเดก็ จงึ ตอ้ งเรยี นรอู้ าการเหลา่ นไี้ วใ้ หช้ ดั เจน แลว้ คอย สงั เกตแกไ้ ขอาการของเขาใหด้ ขี นึ้ ใหจ้ ำ� สตู รงา่ ยๆ วา่ “สญั ชาตญาณ เป็นมูลฐานของมารยาท อันปรากฏออกมาแก่คนอื่น” อาการของ มารยาทที่ปรากฏออกมาแก่คนอื่นนี่แหละ คือ บุคลิกลักษณะของ บคุ คล ใครจะดจี ะช่วั ไดเ้ พราะเหตุดังกลา่ วมา และเหตทุ ่สี ำ� คญั ทีส่ ดุ อยทู่ บ่ี ดิ ามารดามารดาบดิ า จงึ ควรระมดั ระวงั เปน็ พเิ ศษเสมอในเรอื่ ง การสร้างนิสยั ให้แก่บุตรธดิ าของตน รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 89
ตามท่ีกล่าวมานี้เป็นการบอกแนวทางให้ท่านทราบถึงเน้ือแท้ ของคน จะไดเ้ ข้าใจถงึ กิริยาอาการทเ่ี ด็กของท่านแสดงออกมาไมว่ า่ ในรูปใดๆ ถ้าท่านเห็นว่าการแสดงออกของเด็กจะเป็นมูลฐานของ ความเสียหายจะสร้างนิสัยไม่ดีให้เกิดแก่เขา ท่านจงหาทางป้องกัน อย่าให้เขาได้กระท�ำเช่นน้ันต่อไป ปกติของคนเราทั่วไปนั้นมีการ ระบายออกอยู่เสมอ จะเก็บอะไรๆ ไว้ในใจเสมอย่อมเป็นการยาก เพราะการเก็บไว้มากๆ อาจจะท�ำให้เกิดอารมณ์คั่งได้ เมื่อเกิดการ คง่ั ขนึ้ แลว้ กต็ ดิ ผลทสี่ ดุ กลายเปน็ คนใจแตกเพราะอารมณค์ งั่ คา้ งนน้ั การท่ีจะกักไว้จงึ ไม่เหมาะ เราตอ้ งหาวิธชี ดเชยหรอื ระบายออกโดย ทางใดทางหนึ่ง อันเป็นทางท่ีถูกท่ีควร เหมือนกับสายน�้ำท่ีไหลมา จากท่ีสูงถ้าเพียงแต่ท�ำท�ำนบก้ันไว้ บางทีน�้ำแรงอาจพังท�ำนบหรือ ตลง่ิ ไปกไ็ ด้ แต่ถา้ เราก้นั แลว้ ขุดทางระบายใหไ้ หลออกหลายๆ ทาง กจ็ ะไดน้ ำ้� ไปทำ� ประโยชนม์ ากตลง่ิ กไ็ มพ่ งั ทำ� นบกน้ั นำ้� กไ็ มเ่ สยี ฉนั ใด ในเรอ่ื งของเดก็ กฉ็ นั นนั้ ผปู้ กครองหรอื มารดาบดิ าทฉี่ ลาดควรหาทาง ชดเชยให้แกเ่ ขา อย่าใหเ้ ขาหาเอาเองตามชอบใจ เพราะปัญญาของ เขาไม่พอท่ีจะเฟ้นว่าอะไรดีอะไรเสีย ผู้ใหญ่ควรเป็นหูเป็นตาให้เขา อย่างแท้จริง ก็พอที่ทางชดเชยการแสดงออกในทางเสียได้มาก จึง ขอฝากให้ท่านทั้งหลายน�ำไปคิดเป็นการบ้านในวันอาทิตย์ และใช้ บทเรียนนี้สังเกตดูกิริยาอาการของลูกท่านเสมอเถิด ลูกดีหรือเสีย อยู่ที่พ่อแมน่ น่ั เอง. รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 90
อย่าใช้อารมณ์ . . . กั บ เ ด็ ก . . . . . . ท่ า น พ่ อ แ ม่ ท่ี นั บ ถื อ ท้ั ง ห ล า ย วันหนง่ึ ข้าพเจา้ เดินผ่านไปทางถนนสายหนึง่ . . . บงั เอญิ ไดเ้ หน็ สงิ่ ทไ่ี มน่ กึ วา่ จะไดเ้ หน็ มนั เปน็ ภาพทต่ี ดิ ตาขา้ พเจา้ อยู่เป็นเวลานาน มันท�ำให้ข้าพคิดมากถึงเหตุการณ์ในวันนั้น และ คดิ เลยไปถงึ อะไรตอ่ อะไรอกี หลายอยา่ ง ทา่ นลองทายดทู หี รอื วา่ มนั เปน็ ภาพอะไรกนั คงทายไมถ่ กู ดอกเพราะทา่ นไมเ่ หน็ ความจรงิ ภาพ เชน่ นีเ้ ป็นภาพท่ีปรากฎอยใู่ นท่ีท่ัวๆ ไป หากแต่วา่ ท่านทง้ั หลายขาด ความเอาใจใสเ่ ทา่ นน้ั เอง ขอนำ� เหตกุ ารณม์ าเลา่ ใหฟ้ งั ไวบ้ า้ ง มนั เปน็ ละครตอนหนึง่ ท่ีแสดงกนั อย่ทู ่วั ๆ ไป รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 92
ฉากละครเปดิ ขนึ้ ทบ่ี า้ นนอ้ ยๆ หลงั หนง่ึ เปน็ บา้ นเลก็ ๆ ทบี่ อกถงึ ฐานะของเจ้าบ้านว่าเป็นคนหาเช้ากินค�่ำ ดูเข้าไปภายในบ้านก็ไม่ เหน็ มอี ะไรมากนัก อนั เรียกได้ว่าเปน็ เครื่องประดบั บ้าน พ่อบา้ นคง ออกไปท�ำธุระข้างนอกอยู่แต่แม่บ้านซึ่งก�ำลังมีท้องขนาดเจ็ดเดือน เห็นจะได้ มเี ดก็ นอ้ ยคนหน่ึงเปน็ ชายอายุไม่ถงึ สองขวบ กำ� ลังได้รับ การขู่เข็ญจากมารดา เด็กน้อยร้องด้ินรนด้วยความเจ็บปวดเพราะ ไม้เรียวท่ีมารดาหวดลงไปโดยไม่ได้เลือกท่ี หวดเอาๆ ตามความ พอใจ เดก็ นอ้ ยไดแ้ ตด่ นิ้ รนรอ้ งไหก้ อ้ งบา้ น ดเู หมอื นวา่ มารดาจะเปน็ คนหูหนวกไปเพราะก�ำลังโทสะ จึงหาได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ไม่ คง โบยตตี ่อไปตีจนกระท่งั ตนเหน่อื ย และหนนู อ้ ยนอนนิง่ ไปดว้ ยความ ปวดรา้ ว เขารอ้ งไมอ่ อก นอกจากทำ� เสยี งครางเบาๆ เทา่ นนั้ เสยี งแม่ ยังบ่นต่อไปว่า เออ กูห้ามแล้วมึงไม่หยุดลูกอะไรก็ไม่รู้ พูดกันไป ไม่รู้เร่ือง น่าจะตีเสียให้ตาย ขณะพูดก็ท�ำหน้าชนิดที่วาดให้เป็น มนษุ ย์ยากเตม็ ที หนนู ้อยคนนน้ั ท�ำความผิดอะไรหรือ จึงถกู ลงโทษ ขนาดนั้น ได้ความว่าเขาซุกซนท�ำจานข้าวแตกไปในหนึ่ง ของไม่มี อยู่แลว้ มาแตกเสียอกี แม่เลยพาลโกรธใหญ่ จึงทุบตเี อาจนบอบช้ำ� นึกแลว้ กน็ ่าสงสารเหลือเกิน มันเป็นความผิดของเดก็ นอ้ ยหรอื ? รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 93
ในการท่จี านตอ้ งแตกลงไป ท่านท้งั หลายลองคิดดูสกั หน่อยเถดิ หนนู อ้ ยไมม่ คี วามรกั ในจานใบนนั้ หรอื จงึ ทำ� แตก หรอื วา่ เธอแกลง้ โยน เปน็ รอ่ นรปู จงึ แตก เปลา่ ทง้ั นนั้ หนนู อ้ ยทานขา้ วในจานหมดแลว้ กถ็ อื จานไปทลี่ า้ งนำ้� ตอ้ งการทำ� อยา่ งทผี่ ใู้ หญท่ ำ� เพราะเธอเคยเหน็ ผใู้ หญ่ ทานข้าวแล้วก็ไปล้างจานกัน เธออยากท�ำบ้าง แต่มือของเธอยังไม่ แข็งแรงพอ จานจึงตกแตก เธอมิได้แกล้งท�ำสักนิดเดียว มารดา ของเธอขาดการเรียนรู้ในวิสัยของเด็ก ขาดความยั้งคิด มารดาเป็น คนเจา้ อารมณเ์ กดิ โทสะและทุบตรี ่างน้อยๆ อย่างลืมตวั ถ้าวิเคราะห์ดูการกระท�ำของมารดาแล้ว มีมูลฐานหลายอย่าง เชน่ ความลำ� บากยากจนในครอบครวั สามไี มค่ อ่ ยอยบู่ า้ น ไมท่ ำ� งาน หาเงินมาเล้ียงลูกเมีย ท�ำได้บ้างนิดหน่อยก็เอาไปกินเหล้าเสียบ้าง เอาไปซื้อสลากกินแบ่ง ซ่ึงตนไม่ได้รับส่วนแบ่งเสียบ้าง ปัญหาการ ครองชีพในครอบครัวมีมากข้ึนท�ำให้แม่บ้านใจคอไม่ดี คนเราถ้า พ้ืนฐานในใจไม่ดีอยู่แล้วเกิดอะไรกระทบนิดหน่อย ก็เป็นฟืนเป็น ไฟเผาตนเองทันที ผลร้ายไปตกอยู่กับหนูน้อยผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เขาคงบาปในชาติก่อนจึงได้เกิดในท้องของมารดาอย่างน้ัน เขาคง เปน็ คนมกี รรมจงึ มพี อ่ แมท่ ไ่ี มเ่ อาถา่ น ในความเปน็ อยขู่ อง ครอบครวั รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 94
อย่างนน้ั ทกุ คนต้องรบั ผลกรรมของตนดว้ ยกันท้ังนัน้ นกึ ถึงธรรมะ ค่อยปลงตกไปหน่อย แต่ก็เป็นประโยชน์ทางใจของผู้ปลงคนเดียว หนูน้อยท่ีต้องทนทุกข์ไปวันข้างหน้ายังมีอยู่อีกมาก จึงใคร่พูดกับ ท่านผู้ฟังเสียบ้างในเร่ืองเกี่ยวกับการลงโทษเด็กๆ ของท่านจะเล่า ความจริงให้ทา่ นฟงั เกย่ี วกับตวั ของขา้ พเจ้าเอง ในสมยั ข้าพเจ้าเป็น เด็กข้าพเจ้าไม่ชอบการดุด่าและเฆี่ยนตี ชอบความสุภาพอ่อนโยน ถ้าถูกดุวันไหนก็ทานอาหารไม่ได้เอาทีเดียว คุณแม่ท่านรู้ดีท่าน จึงมิได้ดุด่าอย่างรุนแรง ถ้าโกรธนักก็เพียงใช้ฝ่ามือตบตะโพกสอง สามแปะเท่านั้น คุณพ่อไมเ่ คยเฆย่ี นตีเลยจนข้าพเจา้ โต ถ้าทำ� อะไร ผดิ ทา่ นมกั สอนในเวลากลางคนื หรอื บางทกี บ็ น่ ใหร้ สู้ กึ วา่ การกระทำ� เช่นน้ันเป็นการผิด ข้าพเจ้าจึงเป็นเด็กท่ีมีความสุขในอ้อมแขนของ คุณพ่อคุณแม่ แต่พ่ีสาวของข้าพเจ้าคนหนึ่งมักดุเสมอ ดุข้าพเจ้า ทีไรก็ถูกคุณแม่ห้ามทุกที ว่าอย่าดุน้องพูดกันดีๆ ต่อมาก็ต้องไป อยู่วัดกับหลวงลุง หลวงลุงท่านเป็นคนเจ้าระเบียบและพูดน้อย ดู อาการท่านเคร่งขรึมตลอดเวลา ไม่ค่อยพูดอะไรกับใคร ท่านเดิน ตามแนวเก่าคือต้องบังคับกันอยู่เสมอ ข้าพเจ้าเกิดความล�ำบากใจ ความจริงท่านทำ� ด้วยความรกั แต่เด็กไม่รู้เลยทำ� ใหเ้ กดิ กลัวและหนี จากวัดบ่อยๆ หนีไปก็ไม่พ้นถูกน�ำกลับมาอีกและถูกเฆ่ียนเป็นการ รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 95
ใหญ่ พอเผลอกห็ นอี ีก เป็นอยา่ งนี้บ่อยๆ จนอยกู่ ันไมไ่ ด้ แมค้ ุณพ่อ คณุ แมจ่ ะนำ� กลบั ไปอกี กไ็ มย่ อมไป เกดิ โรคกลวั ตอ่ ไมเ้ รยี วเตม็ ที ตอ้ ง ยา้ ยทใ่ี หมค่ อื เขา้ โรงเรยี น ไดเ้ รยี นมาดใี นชนั้ ป. 1-2 พอถงึ ป. 3 คณุ ครู ท่ีสอน ท่านเคร่งครัดและตีเก่งอีก โรคเก่าเข้ามาอีก หนีโรงเรียน ตอ่ ไปเขาจบั มาสง่ ถกู ครถู ามวา่ ทำ� ไมหนโี รงเรยี น บอกคณุ ครวู า่ กลวั ไมเ้ รยี วทค่ี รตู บี อ่ ยๆ คณุ ครหู วั เราะและบอกวา่ ตอ่ นไ้ี ปไมต่ แี ลว้ ขอให้ มาโรงเรยี นทกุ วนั เถดิ ขา้ พเจา้ กม็ าโรงเรยี นทกุ วนั ครกู ไ็ มต่ ดี งั แตก่ อ่ น การเรยี นกด็ ำ� เนนิ ไปจนสอบไลไ่ ดผ้ า่ นชน้ั ประถมไป ท่านผู้ฟังคงนึกว่าเร่ืองส่วนตัวเอา มาเล่าทำ�ไม ท่ีเล่ามาเพื่อให้เห็นโทษของ การลงโทษท่ีตึงเกินไป ตามปกติคนเรา มีสัญชาตญาณแห่งความกลัวด้วยกัน ทั้งน้ัน ถ้าเราเอาวิธีทำ�ให้กลัวมาใช้ เป็นการกระทำ�ท่ีบังคับจิตใจของเด็กมาก เกินไป จิตใจของเด็กก็หดหู่ ไม่อยาก ทำ�อะไร ไม่อยากอยู่บ้าน มองเห็นพ่อ แม่ผู้ปกครองเป็นศัตรูไป ทำ�ให้ตีตน ออกห่างและห่างออกไปจนเสียคนไป ก็มาก เด็กๆ ตามแถวหน้าโรงหนังมา จากครอบครัวที่พ่อแม่ใช้วิธีขู่เข็ญไม่น้อย รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 96
คนที่มีนิสัยมักโกรธเห้ียมโหดดุร้ายถ้าสืบดูประวัติให้ดีก็จะพบ ว่ามาจากพ่อแม่ดุร้าย ฉะน้ันการลงโทษเด็กจึงเป็นเร่ืองท่ีต้อง ระมัดระวังให้มากสักหน่อย พ่อแม่บางคนพอเห็นลูกกระทำ�อะไร ผิดก็ไม่มีการยับยั้งเลย ฟาดเปรี้ยงเข้าให้ไม่เลือกท่ีสุดแต่จะถูกตรง ไหน บางทีเด็กต้องเสียหูเสียตาเพราะการลงโทษแบบนั้น ขอให้ คิดไว้ในใจก่อนว่าเด็กไม่เดียงสา เขาทำ�อะไรก็มักตามผู้ใหญ่เสมอ ผู้ใหญ่นี่แหละเป็นผู้ควรถูกเฆี่ยนก่อน เพราะแสดงละครไม่ดีให้ เดก็ เห็น แล้วตนไม่สำ�นกึ ว่าตนผดิ ไปลงโทษเดก็ ด้วยโทสะ เป็นการ กระทำ�ที่ใช้ไม่ได้ จงจำ�ไว้ในใจว่าถ้าเกิดความโกรธอย่าลงโทษเด็ก เป็นอันขาด เพราะการลงโทษเด็กขณะน้ันขาดความรู้สึกผิดชอบ มักลงโทษเกนิ กวา่ เหตุไปเสมอ วนั กอ่ นอา่ นหนงั สอื พมิ พ์ พบขา่ วเรือ่ งผู้หญิงทรมานเดก็ ดว้ ยวิธี การตา่ งๆ อนั เปน็ เรอื่ งทารณุ นน้ั คนแบบนเ้ี ขาเรยี กวา่ ยกั ขณิ ไี มใ่ ชห่ ญงิ ธรรมดา บางคนโกรธจัดถึงกับพูดว่าเดี๋ยวแม่กินเน้ือเสียนี่ อย่างน้ี มิใชถ่ อ้ ยคำ�ของคน แต่เป็นถอ้ ยคำ�ของมารรา้ ยที่เขา้ มาแทรกแซงอยู่ ในใจแลว้ อยา่ ปลอ่ ยให้มารร้ายมาลงโทษลกู ของท่านเลย จงขบั เจ้า มารรา้ ยออกไปจากใจของท่านเสียก่อนเถดิ เราทำ�โทษเดก็ เพ่ืออะไร เป็นปัญหาท่ีควรถามก่อน คำ�ตอบก็มีว่า เพ่ือให้เข็ดหลาบจักไม่ กระทำ�ผิดแบบนั้นต่อไป จุดหมายอยู่ท่ีให้เขารู้ตัวว่าเขาผิด และจะ ไม่ทำ�ความผดิ ต่อไปอกี เอาละเปน็ อนั ได้ความแล้ว รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 97
การสอนการฝกึ ให้เด็ก เป็นผูม้ ีใจดีงามตามหลกั ธรรม ถา้ พูดกันในแงข่ องความจริงกันแลว้ เรื่องของใจเปน็ เรื่องที่ต้องเอาใจใส่ เป็นพิเศษเสมอ เพราะสงิ่ ทง้ั หลาย มาจากใจตลอดเวลา ลองคิดต่อไปอกี วา่ ไมม่ ที างอนื่ บา้ งเชยี วหรอื ท่จี ะทำ�ให้ลกู นอ้ ย รู้ว่าการกระทำ�เช่นน้ันเป็นการผิด มีอยู่ถมไปท่ีจะทำ�ได้โดยไม่ต้อง เฆย่ี นตกี นั ในประการแรก เราควรจะคน้ หาสมฏุ ฐานเสยี กอ่ นวา่ ทำ�ไม เด็กจึงชอบทำ�อย่างน้ัน ทำ�ไมเด็กจึงประพฤติแบบท่ีผู้ใหญ่เรียกว่า ซกุ ซน ความซุกซนของเขาเปน็ ความเสียหายหรอื ลองหดั คน้ เหตุผล ดบู ้าง ในขอ้ ทเี่ ด็กทำ�อะไรผดิ ไปน้นั เราควรนึกไว้กอ่ นว่าทำ�ไมเขาจึง ทำ�อย่างนั้น เขาคงได้เห็นตัวอย่างแบบนั้นจากใครสักคนหน่ึง ถ้า พบวา่ ตวั อยา่ งอยทู่ ใี่ คร จงตดั ตน้ ตอทำ�ลายตวั อยา่ งนนั้ เสยี สมมตวิ า่ พี่ เลยี้ งเปน็ ตวั อยา่ งกอ็ ยา่ ใหเ้ ขาทำ�ใหเ้ ดก็ เหน็ ตอ่ ไป นเ่ี ปน็ วธิ หี นง่ึ เรยี ก เอาแบบช่วั ๆ ไปเสียใหห้ ่าง ตอ่ ไปควรพดู กับเดก็ ดๆี ออ่ นหวาน พดู ให้เขารู้ การกระทำ�เช่นน้ันเป็นความชั่ว คนชว่ั พ่อแม่ไม่รกั การไป ทำ�อยา่ งนน้ั ลกู อยากใหพ้ อ่ แมร่ กั ไหม ถา้ อยากใหพ้ อ่ แมร่ กั ขอลกู อยา่ ทำ�อยา่ งนตี้ อ่ ไปหนา นคี่ อื การเตอื นมใิ หเ้ ขาทำ�ผดิ คนทำ�ผดิ มกั อาศยั รั ก ลู ก ใ ห้ ถู ก ท า ง 98
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203