Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา คุณลักษณะขีดความสามารถยานยนต์ในเหล่า ม.

วิชา คุณลักษณะขีดความสามารถยานยนต์ในเหล่า ม.

Published by qacavalry, 2021-03-18 01:59:04

Description: วิชา คุณลักษณะขีดความสามารถยานยนต์ในเหล่า ม.
รหัสวิชา ๐๑๐๒๐๑๐๖๐๒
หลักสูตร ชั้นนายพัน
แผนกวิชายานยนต์ กศ.รร.ม.ศม.

Search

Read the Text Version

ห น้ า | 47 * เครื่องหมายนี้ แสดงว่ารถไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ถ้ามีการแตกหัก สูญหาย ทางานบกพร่อง เส่อื มสภาพ หรือมีการรั่วไหลระดับ 3 ในรายการน้ัน ๆ การตรวจก่อนใช้งาน ( รถเกราะ วี - 150 ) ลาดับ รายการ * 1. นา้ มนั หล่อลื่น และนา้ ระบายความร้อน ตรวจระดบั นา้ มนั หล่อลื่นของเครื่องยนต์ เคร่อื งเปล่ยี นความเรว็ หีบเฟอื งช่วย ถงั นา้ มนั ไฮดรอลกิ น้าระบายความรอ้ น และ ตรวจการ รวั่ ไหลขององค์ประกอบ * 2. แบตเตอรี่ ตรวจความสะอาด ความมั่นคง การผุกร่อนของขั้วแบตเตอรี่ ถาดรองแบตเตอรี่ สลกั เกลยี วยึดเหลก็ ประกับแบตเตอรี่ ตรวจระดบั น้ายาในแบตเตอร่ี * 3. เครอื่ งวดั การอดุ ตันของหม้อกรองอากาศ ตรวจการแสดงคา่ และการทางานของเครอ่ื งวัดฯ * 4. สายพานพดั ลม ตรวจความตงึ หยอ่ น และสภาพความเหมาะสมในการใช้งาน * 5. สายไฟ ตรวจหาขั้วสายไฟที่โผล่พ้นจากฉนวนหุ้ม และปลอกรัดสายไฟ ตรวจหารอยแตก รอยฉกี ขาด * 6. เครือ่ งดบั เพลิงประจาที่ และเครอื่ งดับเพลิงยกยา้ ยได้ * 7. ยางรถ ตรวจความดันลมยาง และการหลวมคลอนของแปน้ เกลียวยดึ กงล้อ * 8. ระบบส่งกาลังขบั เคล่ือน ตรวจการรว่ั ไหลของนา้ มัน เช้ือเพลิง นา้ มันเครอ่ื ง และน้าระบายความรอ้ นในหอ้ งเคร่อื งยนต์ ตรวจใต้ทอ้ งรถดกู าร ร่วั ไหลของหบี เฟอื งทดเลีย้ ว เพลารถ และน้ามนั ห้ามลอ้ * 9. ตัวรถ ตรวจรอบตัวรถ และใต้ท้องรถเพ่ือหารอยหยดเปื้อนท่ีแสดงการร่ัวไหล ตรวจการ ชารดุ เสยี หาย และสภาพผิดปกติต่าง ๆ 10. ระบบแสงสว่างและแตร ตรวจความเรียบร้อยในการทางานของสวิตช์ควบคุมระบบแสงสว่าง และโคมไฟทุกตาแหน่ง ตรวจไฟ สูง-ตา่ และไฟส่องหน้าปัดเครอ่ื งวัด ตรวจการทางานของแตร และไฟสัญญาณเลย้ี ว * 11 สวติ ช์นิรภยั วงจรหมุนเครอ่ื งยนต์ ตรวจให้มัน่ ใจว่ามอเตอร์หมนุ เครอื่ งยนตท์ างานเม่ือ คันเกียรเ์ ปลีย่ นความเร็วอยูใ่ นตาแหนง่ ว่าง“ N “ เทา่ น้นั 12. มอเตอร์หมุนเครอื่ งยนต์ ตรวจความเรยี บรอ้ ยในการทางานของมอเตอร์หมุนเครื่องยนต์ 13. ยางกันรั่ว ดูการชารุดเสยี หายของยางกันรั่วต่าง ๆ 14. กว้าน ตรวจการทางานของคนั เคร่อื งควบคุมกวา้ น * 15. หม้อนา้ รังผ้งึ ตรวจการร่วั ไหลของนา้ ระบายความร้อน ตรวจระดับนา้ ในหม้อน้า ถ้ามี ระดบั ตา่ ใหเ้ ติมดว้ ยน้าสะอาดผสมนา้ ยากนั สนมิ ในอัตราสว่ น 50:50

ห น้ า | 48 การตรวจกอ่ นใชง้ าน (ต่อ) ( รถเกราะ วี - 150 ) ลาดับ รายการ * 16. ถังน้ามันเชื้อเพลิง เปิดฝาปิดถังน้ามันเชื้อเพลิง ตรวจฝาปิดช่องเติมน้ามันและตะแกรง กรอง ควรเติมน้ามันให้เต็มถังเพ่ือป้องกนั การเกดิ น้าจากการกลั่นตัวของไอนา้ จากที่วา่ งใน ถงั * 17. แท่งแก้วตรวจการณ์ ทาความสะอาดแก้วตรวจการณ์ให้สะอาด ไม่มีโคลน ฝุ่นทราย น้ามัน หรือไขขน้ ติดอยู่ * 18. ประตูและฝาปิด ตรวจความคล่องตัวในการ เปิด-ปิด ของประตูฝาปิด และเคร่ืองขัดกลอน ต่าง ๆ ตรวจความมัน่ คงในการขัดกลอน ของฝาปิดชอ่ งทางตา่ ง ๆ * 19. ทีน่ ่งั พลขบั ตรวจให้ม่ันใจวา่ ทีน่ ั่งพลขบั สามารถปรบั เลอ่ื นไดค้ ล่อง * 20 เคร่อื งสบู น้าพนื้ รถ ตรวจการทางานของมอเตอรข์ บั เครือ่ งสูบนา้ . * 21. เคร่ืองติดตอ่ สอื่ สารประจารถ การตรวจระหวา่ งใชง้ าน ลาดับ รายการ * 22. แผงเครื่องวัด ตรวจเคร่ืองวัดความดัน, เครื่องวัดอุณหภูมิ, เคร่ืองวัดน้ามันเช้ือเพลิง เครื่องวัดไฟฟ้า และไฟเตอื นบนแผงเครื่องวดั * 23. เครอื่ งหา้ มล้อ ตรวจ ประสิทธิภาพในการหยุดรถโดยไม่แฉลบหรอื เซไปขา้ งใดข้างหน่ึง และ การยดึ รถของคันห้ามล้อจอดรถบนพน้ื ลาดเอียง * 24. เครื่องบังคับเล้ียว ตรวจความคล่องตัวในการทางาน และการทางานของล้ินระบายแรงดัน เมือ่ หมนุ พวงมาลัย จนสุดวงเลีย้ ว * 25. เครื่องยนต์ ตรวจประสทิ ธภิ าพในยา่ นความเรว็ ตา่ ง ๆ และเสยี ง และควนั ไอเสยี ที่ดาผิดปกติ * 26. เครื่องเปลี่ยนความเร็ว ตรวจการทางานของคันเกียร์จะต้องเข้าได้สะดวกทุกตาแหน่ง ไม่มี เสียงดงั ผิดปกติ * 27. หีบเฟืองช่วย ตรวจความสะดวกในการเข้า-ปลดเพลาขับล้อหน้า และการเข้าเกียร์ใน ตาแหน่งเกียรส์ ูง-ต่า * 28. สงั เกตเสยี ง และการทางานทผ่ี ดิ ปกตอิ นื่ ๆ

ห น้ า | 49 การตรวจหลงั ใช้งาน ( รถเกราะ วี - 150 ) ลาดับ รายการ * 29. เครอื่ งยนต์ ตรวจประสิทธิภาพในยา่ นความเร็วต่าง ๆ และเสียง และควนั ไอเสยี ทด่ี าผิดปกติ * 30. เคร่อื งหา้ มล้อ ตรวจ ประสิทธิภาพในการหยุดรถโดยไม่แฉลบหรอื เซไปขา้ งใดขา้ งหน่ึง และ การยดึ รถของคันหา้ มลอ้ จอดรถบนพน้ื ลาดเอยี ง * 31. หม้อน้ารังผึ้ง ตรวจการร่ัวไหลของนา้ ระบายความร้อน ตรวจระดบั น้าในหม้อน้า ถ้ามีระดับ ต่าให้เตมิ ดว้ ยนา้ สะอาดผสมน้ายากันสนิมในอัตราสว่ น 50:50 * 33. ทาการแก้ไขข้อบกพรอ่ งทีต่ รวจพบในระหวา่ งการใช้งาน และรายงานสง่ิ ทีพ่ ลประจารถ แกไ้ ขไม่ได้ * 34. ทาความสะอาดรถใหเ้ รยี บรอ้ ย * เครื่องหมายนี้ แสดงว่ารถไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ถ้ามีการแตกหัก สูญหาย ทางานบกพร่อง เสือ่ มสภาพ หรอื มกี ารรว่ั ไหลระดับ 3 ในรายการน้ัน ๆ ……………………….

ห น้ า | 50 แผนกวิชายานยนต์ กองการศกึ ษา โรงเรยี นทหารม้า ศูนย์การทหารม้า คา่ ยอดศิ ร สระบุรี ---------- คณุ ลกั ษณะ และมาตราทาน รถเกราะล้อยาง 8×8 VN1 1. กล่าวนา (Introduction) รถเกราะล้อยาง 8x8 แบบ VN1 เป็นรถเกราะลอ้ ยางรุ่นล่าสดุ ทีพ่ ัฒนา โดยบริษัท นอรงิ โก้ เพอ่ื นาเสนอในตลาดต่างประเทศ โดยรถเกราะรนุ่ น้ีเนน้ ให้มขี ดี ความสามารถในการบรรทุก น้าหนักเพ่ิมมากขึ้น มีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีสูงสามารถเคลื่อนที่ในน้า ได้มีระบบป้องกันตัวรถท่ีมี ประสิทธิภาพ, มีความง่ายสะดวกสบาย ต่อการใช้งาน และใช้เทคโนโลยีท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความ สะดวกสบายในการขบั เคล่อื น, ระบบพยุงตัวรถมีความ นุ่มนวล, มคี วามเร็วสูง, สามารถเคล่อื นทไ่ี ปได้ในทกุ ภูมิ ประเทศ, เกณฑ์ส้ินเปลืองน้ามันเช้ือเพลิงและ น้ามันหล่อลื่นเครอ่ื งยนต์, ง่ายต่อการปรนนบิ ัติบารงุ , ออกแบบ ให้มีโครงสร้างท่ีกะทัดรัด, มีประสิทธิภาพของความ อยู่รอดในสนามรบสูงทาให้เกิดความมั่นใจในการนาไปใช้ งานด้วยองค์ประกอบและคุณสมบตั ิตา่ งๆ เหล่านี้ จึงทาให้รถเกราะชนิดนี้มีขีดความสามารถในการรองรับการ ปฏิบัติงาน อาวุธ ปืนใหญอ่ ตั โนมตั ิ ขนาด 30 มม. เครอ่ื งยิงลูกระเบดิ อตั โนมัติขนาด 40 มม. เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบิดควนั ขนาด 76 มม. ปนื กลรว่ มแกนขนาด 7.62 มม. ฐานตดิ ต้ังจรวจนาวิถี HJ73D คณุ ลักษณะหลกั ของรถเกราะชนดิ นี้มดี ังนี้ - เป็นรถเกราะ ขับเคล่ือน แบบ8x8ล้อมีระบบพยุงตัวรถแบบอิสระ มีระบบ ล็อคเฟืองท้าย ระหว่าง แกนเพลากบั ล้อ ทาใหม้ ีความแข็งแกรง่ และทนทานตอ่ การขบั เคลื่อนในทกุ สภาพภูมิประเทศ - ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลระบายความร้อนด้วยน้าแบบ DEUTZ BF6M1015CP และเคร่ืองเปล่ียน ความเร็วแบบอตั โนมัติทาให้รถเกราะชนดิ นม้ี ีคณุ ลักษณะ เหมาะสมที่จะปฏบิ ัติงานในพื้นท่ีเขตร้อน, พื้นทที่ ่ีเป็น ทะเลทรายและในพ้นื ทท่ี ีเ่ ปน็ ที่ราบสงู ทุรกันดารได้เป็นอยา่ งดี - ใช้ระบบควบคุมการบังคบั เลี้ยวแบบไฮดรอลคิ จึงทาใหก้ ารขบั เคลื่อนรถมคี วามสะดวกสบายและง่าย ต่อการควบคมุ - ใช้ระบบห้ามล้อด้วยลมอัดแบบสองวงจร (dual pneumatic circuit brake System) เป็นตัวเพ่ิม ขดี ความสามารถในการห้ามล้อจงึ ทาใหผ้ ู้ใช้เกิดความม่นั ใจในการใช้งาน - ติดตง้ั ระบบป้องกนั ตัวรถแบบ สมบรู ณ์ท้งั ระบบซึ่งประกอบด้วยระบบป้องกนั นชค. ในตวั รถ, ระบบ ดบั เพลงิ อัตโนมตั ิ - ใชล้ อ้ ยางแบบยางสงครามท่ไี ม่มียางใน (Run Flat) เพ่อื เพ่ิมขีดความสามารถใน การอยู่รอดใหก้ ับรถ - ตวั รถและป้อมปืนสร้างดว้ ยแผน่ เกราะแบบเหล็กกล้าชนดิ แขง็ พิเศษ จึงทาให้มีประสิทธภิ าพอยา่ งสูง ในการป้องกนั ให้กับตวั รถ

ห น้ า | 51 - ด้านทา้ ยของรถเกราะตดิ ต้ังใบจกั รทาให้สามารถเคล่อื นท่ใี นนา้ ได้ - ติดตง้ั ระบบเติมลมและปลอ่ ยลมล้อยางจากระบบควบคมุ ภายในรถจึงทาใหส้ ามารถตรวจสอบแรงดัน ,เตมิ ลมและปล่อยลมออกจากล้อยางได้โดยอัตโนมัติ ติดต้ังเคร่ืองปรบั อากาศที่ทาความเย็นได้สูงเพอื่ ทาให้เกิด ความสบายให้กับกาลังพล และพลประจารถ ติดตั้งเคร่ืองกาหนดตาแหน่งท่ีอยู่แบบ GPS เป็นระบบนาร่อง ให้กับรถ ติดตั้งสถานีควบคุมระบบอาวุธประจารถจากระยะไกล (RCWS), ซ่ึงประกอบด้วยปืนใหญ่อัตโนมัติ ขนาด 30 มม., ระบบอาวุธนาวิถีต่อสู้รถถังแบบ 73, ปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62 มม.เคร่ืองยิงลูกระเบิด อตั โนมัติ และเครื่องยิงลูกระเบิดควัน จึงทาให้รถเกราะน้ีมีอานาจในการยิงท่ีแม่นยา และรุนแรง รถเกราะใน ตระกูลน้สี ามารถดดั แปลงเปน็ รถ แบบอนื่ ๆไดอ้ กี หลาบแบบ เช่น รถ บังคบั การ, รถกซู้ อ่ ม รถพยาบาล ฯลฯ 2. คุณลักษณะเฉพาะทางเทคนคิ (Technical Specification) เป็นรถเกราะสะเทินน้าสะเทนิ บก ตัวป้อมปนื ติดตง้ั ปืนใหญ่อัตโนมัติ ขนาด 30มม. เปน็ อาวุธหลักในการใช้งาน รูปที่ 2-1 ภาพหน้าตดั ด้านตา่ งๆ ของ VN1 ตวั รถแบ่งออกเป็น 3 ตอนดังน้ี : ห้องพลขับ, ห้องเครอ่ื งยนตแ์ ละหอ้ งโดยสาร ของกาลังพลมีช่องทาง เช่ือมต่อกับห้องพลขับ อยู่ทางด้านซ้ายของหอ้ งเคร่ืองยนต์ ห้องพลขับอยู่ด้านหน้า ทางซ้ายของตัวรถ ภายใน ห้องพลขับจะประกอบด้วยท่ีน่ังพลขับ, ท่ีน่ังผบู้ ังคับรถ ทางด้านหลังของท่ีน่ังพลขับ ในตาแหน่งที่น่ังพลขับจะ ตดิ ต้ังอปุ กรณ์ควบคุมรถ, เคร่อื งมือตรวจการณ์ มาตรวัดต่างๆ, ชุดวทิ ยุ, ระบบปอ้ งกัน นชค. และกล่องควบคุม อปุ กรณ์ต่าง ๆ ในตาแหน่งท่ีน่ังของพลขับและ ผบ.รถจะมีช่องตรวจการณ์แบบแท่งแก้ว (Periscope) ใช้ตรวจ การณ์ด้วยสายตา ด้านบนตรงตาแหน่งเหนือที่น่ังของพลขับและ ผบ.รถจะติดตั้งฝาปิด-เปิดช่องทางเข้า- ออกเป็นแบบบานพับ พลขับและ ผบ.รถ จะใช้ช่องทางน้ีเป็นทางเข้า – ออกจากตัวรถ ห้องเครื่องยนต์อยู่ ทางด้านขวาของห้องพลขับ จะติดตั้งเคร่ืองยนต์ดีเซลระบายความร้อนด้วยน้าแบบ DEUTZ BF6M1015CP

ห น้ า | 52 และเคร่ืองเปล่ียนความเร็วแบบอัตโนมัติ (มีเกียร์เดินหน้า 9 ตาแหน่ง และ ถอย หลงั 1 ตาแหน่ง)อุปกรณ์ อัด ไอดีและไอเสยี ของเครื่องยนต์ (Turbo Charger), ปั้มไฮดรอลิค, อุปกรณ์ ตรวจจับเปลวเพลงิ , ทอ่ ทางเดินของ น้ายาเครื่องดับเพลิงอัตโนมัตพิ รอ้ มหวั ฉีดฯลฯ ตวั หอ้ งเคร่ืองยนต์จะ ตดิ ตงั้ ฝาครอบห้องเครื่องยนต์ทางดา้ นบน และฝาก้ันทางด้านข้างของห้องเคร่ืองยนต์เพ่ือแยกห้อง เครื่องยนต์ออกจากส่วนต่างๆของตัวรถ และฝาครอบ และแผ่นกั้นน้ีสามารถถอดออกเพื่อทาการปฏิบัติ บารุงและซ่อมบารุงเครื่องยนต์ได้ ที่น่ังของกาลังพลในรถ จานวน 11 ทจี่ ะอยทู่ ีต่ าแหนง่ ผบ.รถ 1 ที่นงั่ , อยู่ด้านหน้าป้อมปืน 2 ท่ีน่ังและอยู่ ดา้ นหลงั ปอ้ มปืนจานวน 8 ที่ นัง่ คณุ ลกั ษณะทั่วไปข้นั ต้น 2 + 11 นาย พลประจารถ / กาลงั พล 8 x 8 ล้อ (สามารถ เปล่ียนเปน็ ขับเคล่ือน 8 x 4 ล้อได)้ รูปแบบในการขับเคลื่อน 19.5 ตนั นา้ หนักรถ 24.5 ตนั น้าหนกั 8000 มม. ความยาวตัวรถ 3000 มม. ความกวา้ งตัวรถ 3300 มม. ความสูงตัวรถ 450มม. ความสูงของรถจากพนื้ 1420มม.+2000มม.+1420มม. ระยะห่างระหวา่ งชว่ งล้อ 2600มม. ระยะห่างระหวา่ งล้อซ้าย – ขวา - 20° C - + 50° C อณุ หภมู ิสภาพแวดลอ้ มในการใชง้ าน รปู ที่ 2-2 ภาพหนา้ ตัดดา้ นบนของรถเกราะลอ้ ยาง 8x8 แบบ VN1 1.พลขบั , 2. ผบ.รถ, 3.กาลงั พลผโู้ ดยสาร, 4. พลยิง

ห น้ า | 53 3. ความคล่องแคลว่ ในการเคลื่อนท่ี (Mobility Performance) เกิดจากการผสมผสานเครื่องยนต์ท่ีมีกาลังมาก ทางานร่วมกับ เครื่องเปลี่ยนความเร็วแบบอัตโนมัติ และ ระบบเสรมิ สมรรถนะต่างๆ เขา้ ด้วยกนั ตัวเครื่องยนตม์ ีระบบระบายความร้อนที่ มีประสิทธิภาพ , มรี ะบบ อัดอากาศในการส่งกาลังเชื้อเพลิงให้กับ เคร่ืองยนต์ ประกอบกับระบบหัวฉีดน้ามันไฟฟ้าจึงทาให้เครื่องยนต์ สามารถส่งกาลังออกไปได้อย่างเต็มที่ เพลาล้อตัวท่ี 1 และ 2 ติดต้ังระบบ พยุงตัวรถอิสระแบบ คอยล์สปริง ทางานรว่ มกับ โช้คอัพ Strut-Type Suspension)เพลาล้อที่ 3 และ 4เป็นแบบ ใช้กระบอกรับแรง ทางานด้วย น้ามันกบั อากาศ ( Hydro - Pneumatic) การออกแบบระบบพยุงตัวรถใช้การออกแบบให้มีคุณลักษณะพิเศษเป็นแบบอิสระโดยนาเอา ผลกระทบที่ เกิดขึ้นจากการขับเคล่ือน ในสภาพ ภูมิประเทศ,การบรรทกุ น้าหนักพรอ้ มรบ และการใช้อาวุธ มา เป็น ข้อพจิ ารณาในการออกแบบ เพ่ือใหร้ ถมขี ดี ความสามารถในการขบั เคลอื่ น ในลกั ษณะภูมปิ ระเทศต่างๆได้ดี และสามารถปรบั เปลีย่ นได้ตามสภาพของภมู ิประเทศท่ีผนั แปรไป รปู ที่ 3-1 ภาพการเคลอ่ื นทใี่ นภมู ปิ ระเทศแบบต่างๆ ของรถเกราะล้อยาง 8x8 แบบ VN1 กาลงั งานที่เครื่องยนต์ผลิตขน้ึ จะถูกถา่ ยทอดจากหีบเฟืองถ่ายทอดกาลังผ่านหีบเฟืองเกียร์ แล้วส่งต่อ เขา้ หบี เคร่อื งเพ่มิ กาลังเขา้ ชุดเฟืองบังคบั เลยี้ วแล้วออกไปชุดเฟอื งขบั เพลาล้อท่ี 2 แล้วสง่ ไปชดุ เฟืองขับ ออกไป ดา้ นหน้าเพ่ือสง่ ไปยังหบี เครอ่ื งเพลาล้อที่ 1ขณะเดียวกนั ก็สง่ กาลงั ขับออกไปทางดา้ นหลังเพื่อไปยังชดุ เฟือง ขับ เพลาล้อที่ 3 และ 4 หบี ชุดเฟืองขับที่เพลาลอ้ จะทาหน้าที่ลดความเร็วเพิ่มกาลัง และเปลีย่ นทิศทางกาลัง ออก ดา้ นขา้ งสูด่ ุมล้อแต่ละลอ้ เคร่ืองกาเนิดกาลัง จะประกอบด้วยเครื่องยนต์ (พร้อมอุปกรณ์ประกอบชุดของเครื่องยนต์ เช่น มอเตอร์สตาร์ท, คอมเพรสเซอร์, เคร่อื งควบคุมอปุ กรณ์ไฟฟ้า, ป้ัม ไฮดรอลกิ ช่วยการบังคบั เลี้ยว ฯลฯ) ระบบ ช่วยเพ่มิ ประสิทธภิ าพเคร่อื งยนต์ (หมอ้ นา้ , เครอื่ งเพม่ิ กาลังอัดอากาศ, เครื่องช่วยระบายความรอ้ น อากาศกอ่ น เข้าห้องเผาไหม้, หม้อพักน้า, เคร่ืองระบายความร้อนน้ามันไฮโดรลิก, เคร่ืองกรองฝุ่น ฯลฯ), หีบ เฟืองเกียร์, เคร่อื งกาเนิดไฟฟ้า (Generator) ฯลฯ

ห น้ า | 54 รปู ท่ี 3 -2 เคร่ืองกาเนดิ กาลงั มุมถงึ ลาด(หน้ารถ) 45 มมุ จากลาด (ท้ายรถ) 38 อัตรากาลงั ต่อนํา้ หนกั 22.4แรงมา้ /ตัน ความเร็วสูงสุดบนทอ้ งถนน 100กม./ชม. ความเร็วสงู สุดในภมู ปิ ระเทศ 60กม./ชม. ความเรว็ สูงสุดในนา้ 8กม./ชม. ไต่ลาดชัน 60% ไตล่ าดเอียง 30% ข้ามคูกว้าง 1.8 ม. ข้ามเคร่อื งกดี ขวางทางดิ่ง 0.55 ม. รัศมีวงเล้ียวต่าสุด 11 ม. ระยะเบรก 15 ม. (ทีค่ วามเรว็ 40 กม./ชม.), 29ม. (ทีค่ วามเรว็ 60 กม./ชม.) อตั ราการเร่ง จาก 0 – 400 ม. 29วินาที ความสิ้นเปลอื งน้ามันเชอื้ เพลงิ บนถนน (44 ล./100 กม.), ภมู ปิ ระเทศ (60 ล./100 กม.) ระยะปฏบิ ัตกิ ารบนท้องถนน 900 กม. รปู ที่ 3 -3 ขดี ความสามารถในการเคล่อื นทข่ี องรถเกราะลอ้ ยาง 8x8 แบบ VN1

ห น้ า | 55 3.1 เครอื่ งยนต์ (Engine) คณุ ลกั ษณะเฉพาะทางเทคนคิ ของเคร่อื งยนต์ แสดงไว้ในตารางที่ 1 ตารางท่ี 1 คณุ ลกั ษณะเฉพาะทางเทคนิคของเครือ่ งยนต์ รายการ เคร่อื งยนตแ์ บบ DEUTZ BF 6 M1015CP ประเภท เครื่องยนตด์ ีเซล 4 จงั หวะรอบ ระบายความร้อนด้วยนา้ , มเี คร่ืองเพิ่ม กาลังอัดเครื่องยนต์ (Turbo Charger) จานวนกระบอกสบู , การจัดวาง 6 กระบอกสูบ วางแบบรูปตัว V,“90” ปริมาตรกระบอกสบู 11,906 ล. ความเร็วรอบสงู สุด 2,100 รอบ/นาที กาลัง 448 แรงมา้ (330 kW.) นา้ หนกั 1,050 กก. (รวมนา้ มันเครื่อง) ขนาด 1,170 × 950 × 1,173 มม. มลภาวะ Europe 2 วธิ กี ารควบคมุ ควบคุมความเร็วดว้ ยอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ระบบชว่ ย เพ่ิมประสทิ ธภิ าพเครื่องยนต์ ประกอบด้วยระบบระบายความรอ้ น, ระบบไอด,ี ระบบไอเสีย , ระบบน้ามันเชือ้ เพลงิ , ระบบผลิตลมสารอง ฯลฯ 3.2 ระบบเครื่องเปล่ยี นความเรว็ (Transmission System) ระบบเครื่องเปลย่ี นความเรว็ ถือเปน็ หวั ใจ ในการขับเคลื่อน และจ่ายกาลังให้กับรถ ประกอบด้วย หีบเฟือง เกียร์, ห้องถ่ายทอดกาลัง, หีบเคร่ืองเปลี่ยน ความเรว็ ด้านขา้ ง, ชดุ เฟืองขบั ที่เพลาล้อ ฯลฯ หบี เฟืองเกยี ร์ติด ตงั้ อยรู่ ่วมกับเคร่ืองกาเนิดกาลงั 3.2.1 หบี เฟืองเกยี ร์ (Gear box) หบี เฟอื งเกยี รเ์ ป็นเคร่ืองเปลยี่ นความเรว็ แบบอัตโนมตั ิ ขอ้ ดี ของเคร่อื งเปล่ยี นความเร็วแบบอัตโนมตั ิมีดงั นี้ - โหมดใชง้ านงา่ ยต่อการใช้งานโดยพลขับไม่ตอ้ งมี การฝกึ เพ่มิ เติม รถสามารถจบั คใู่ นตาแหน่ง ของเกียร์อัตโนมัติได้อย่างเหมาะสม, ทาให้เพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อนที่นอกจากน้ันพลขับยัง สามารถเปลย่ี นการควบคุมไปใช้การควบคุมด้วยมือเพอื่ ปรับเปลี่ยนการขับเคลือ่ นไปตามสภาพพิเศษ ของถนน ไดง้ ่าย - การทางานภายในหบี เฟืองเกียร์ความสกึ หรอในการทางานของเฟืองและ เคร่อื งกลไกเชิงกล อน่ื ๆ จะมีน้อยมาก ทาใหล้ ดค่าใช้จ่ายและงา่ ยต่อการปรนนิบตั ิบารุงยืดระยะเวลาในการใช้งาน - หีบเฟืองเกยี รม์ ปี ระสิทธิภาพสงู ทาให้ในการเปลย่ี นเกยี รจ์ ะไม่ทาให้สญู เสยี กาลงั ในการถ่ายทอด 3.2.2 เครื่องเปลี่ยนความเร็วแบบ H - Type เคร่ืองเปลี่ยนความเร็วแบบ H - Type ประกอบดว้ ยหบี ถา่ ยทอดกาลัง 1 ตวั และหีบเฟอื งขบั ขั้นสดุ ทา้ ย 8 ตัว เนื่องจากความตอ้ งการในการขบั เคล่ือน ล้อทุกล้อ 8x8 ล้อ โครงสร้างของหีบถ่ายทอดกาลังจึงออกแบบ ให้อยู่ร่วมกับแกนเพลาของหีบเฟืองขับขั้น สดุ ทา้ ย 2 ชุด

ห น้ า | 56 3.2.3 เพลาเครื่องเปลี่ยนความเร็ว (Transmission shaft) เพลาเคร่ืองเปล่ียนความเร็วทา หน้าท่ีเป็นเพลาส่งกาลังของรถ ทาให้เกิดข้อดีในการเปลี่ยนความเร็วแบบ คงท่ี, ให้ความถูกต้องสูง, ให้การ เคล่ือนท่ีท่ีสมดุลและลดเสียงท่ีจะเกิดจากการส่ันสะเทอื น 3.2.4 ระบบใบจักร (Propelling System) ตวั รถติดต้งั ใบจกั รแบบใบจกั รคู่เพ่อื ใช้งานในการ ขับเคลื่อนในน้าโดยการใช้มอเตอร์แบบไฮดรอลิกซึ่งทาให้มี ขดี ความสามารถในการเคล่อื นทใ่ี นนา้ ได้ แผน่ กัน คลื่นตดิ ต้งั ไว้บนดา้ นหน้าของตวั รถ และตดิ ตงั้ ปม้ั สบู น้าใน ตัวรถไว้ 3 เคร่ือง ทางดา้ นหน้า กลางและด้านท้าย ของตัวรถ เมือ่ เคล่อื นท่ีในนา้ พลขับจะใช้คันบังคบั เพือ่ ทาใหเ้ กดิ มุมและทิศทางทแี่ ตกตา่ งกัน ในการควบคมุ ความเรว็ และทศิ ทางของใบจกั รทัง้ สองดา้ น ทาให้ สามารถขับเคล่อื นเดนิ หนา้ ถอยหลงั และหมนุ ตัวในนา้ ได้ 3.3 ระบบขับเคลอ่ื น (Running Gear) ระบบขบั เคล่ือนประกอบด้วย อุปกรณเ์ คร่ืองพยุงตวั รถ, ล้อ และระบบเตมิ ลม และปลอ่ ยลมยางจากการ ควบคุมภายในตัวรถ 3.3.1 ระบบพยุงตัวรถ (Suspension) อุปกรณ์ประกอบเคร่ืองพยงุ ตัวรถจะถูกเชื่อมตอ่ ตวั รถ กบั ล้อทาหน้าทถ่ี ่ายทอด/แบกรบั ํน้าหนกั และแรงบดิ ตา่ งๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ ซง่ึ ระบบน้ีจะทาให้เกดิ ความยืดหย่นุ ลดแรง กระแทกและแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นในระหว่าง การขับเคล่ือนไปบนถนน และภูมิประเทศอย่างนุ่มนวล อปุ กรณ์ประกอบชุด ของเครอื่ งพยุงตัวรถจะติดต้ัง แบบอิสระกบั แกนเพลาแตล่ ะแกนบนตวั ถังของรถแกนเพลา ทีห่ น่งึ และสองใช้เคร่ืองพยุงตวั รถแบบ คอยลส์ ปริงทางานร่วมกับโช้คอัพ (strut type) ติดตงั้ เป็น อสิ ระ โดยมี แขนรับแรงแบบปกี นกรว่ มกับโช้คไฮดรอลกิ และตวั กันกระแทก พรอ้ มดว้ ยแหนบแบบคอยล์สปรงิ ทาหนา้ ทเี่ ป็น ตัวยืดหยุ่นแกนเพลาที่สามและส่ีติดตั้งแบบอิสระด้วยเคร่ืองพยุงตัวรถแบบคานรับแรงแกนเดียวพร้อมกับ กระบอกสูบ รับแรงด้วยของเหลว และลม (hydro-pneumatic) ทาหน้าทเี่ ป็นตัวยดื หยุน่ 3.3.2 ลอ้ ยาง (Tyre) เปน็ ยางแบบยางสงครามทไ่ี ม่มียางใน (Runflat) ขนาด 14.00R20 - 18PR เติมลมเต็มท่ดี ว้ ยแรงดันลม 87 ป./ตร.นว้ิ (0.6 MPa) แรงดนั ลมยาง น้าหนักกดพ้นื ที่ 21.75 ป./ตร.น้ิว (0.15MPa) 23.2 ป./ตร.นิว้ (0.16MPa) ท่ี 87 ป./ตร.นวิ้ (0.6MPa) 37.3 ป./ตร.น้วิ (0.26MPa) 3.3.3 ระบบเติมลมและปลอ่ ยลมยางจากระบบควบคมุ (Central tire inflation &deflation system) ระบบเติมลมและปล่อยลมยางจากระบบควบคุมสามารถเตมิ และปลอ่ ยลมให้กบั ล้อยางแต่ละลอ้ หรอื พรอ้ ม กันทุกล้อ โดยใช้อปุ กรณ์ในการควบคมุ ดว้ ยไฟฟ้าและอุปกรณน์ ิวแมติค เมื่อหยุดรถหรือในขณะทรี่ ถ เคลื่อนท่ี เพ่อื ความสะดวกตามความตอ้ งการในการใช้ลมยางในการขบั เคล่ือนรถบนถนนแต่ละประเภท ทา ให้ รถมีขีดความสามารถในการขับเคลอ่ื นไป บนสภาพภมู ปิ ระเทศพเิ ศษได้ทุกแบบ ย่านการปรับแรงดันลมยางของ ระบบเติมลมและปลอ่ ยลมยางจากระบบควบคมุ 21.75 ป./ตร.นว้ิ – 87 ป./ตร.นวิ้ ระยะเวลาในการเติมลม (21.75 ป./ตร.นว้ิ – 87 ป./ตร.น้ิว) 30 นาที ระยะเวลาในการถ่ายลม ( 87 ป/ตร.น้วิ – 21.75 ป./ตร.นวิ้ ) 15 นาที 3.4 ระบบปฏิบตั ิการและควบคมุ (Operation & Control System) ระบบปฏบิ ตั ิการและการควบคุม ประกอบด้วย ระบบหา้ มลอ้ , ระบบบังคับเลี้ยว, เครอ่ื งกลไกในการควบคุมหีบ เฟอื งเกยี ร์, เครื่องกลไกในการ ควบคุมนา้ มนั เชอื้ เพลิง, ระบบพดั ลมไฮดรอลิกส์, ระบบใบจกั รไฮดรอลิก, กวา้ น ฯลฯ

ห น้ า | 57 ระบบควบคมุ ห้ามล้อ เป็นแบบ ผา้ เบรก/ดรมั้ เบรก และระบบการห้ามลอ้ แบบท่อลมคู่ เม่ือลงที่ลาดชนั จะใช้ ระบบห้ามลอ้ ดว้ ยไอเสีย ร่วมดว้ ย มรี ะบบเบรกเพื่อหยดุ พักรถ เพ่อื ซ่อมบารุงรถหรอื จอดรถอย่กู บั ท่ี ระบบ ควบคมุ การหา้ มล้อแบบท่อลมคทู่ าให้ม่ันใจได้ว่าการควบคมุ การห้ามลอ้ สามารถทาไดต้ ามปกตเิ ม่อื แม้ว่าจะมี ทอ่ ลมท่อใดท่อหนึ่งชารดุ ระบบหา้ มลอ้ ดว้ ยไอเสียสามารถใช้เปน็ หา้ มลอ้ สารองเมอื่ ขบั รถไปตามทางลาดลง เนิน 3.4.1 ระบบบงั คบั เลยี้ ว (Steering System) ระบบบังคับเล้ียวใช้แรงดันไฮดรอลิก รว่ มกบั คนั ชักคันส่ง เพ่อื ชว่ ยในการบังคับเลย้ี วและมีเครื่องกลไกในการ ควบคุมดา้ นหน้าดว้ ยเฟืองข้อต่อรูปสเ่ี หล่ยี มคาง หมู 4 ตัวในการบังคับเลยี้ วทง้ั 4 ล้อ รศั มวี งเล้ียวต่าสุดคือ 11 ม. 3.4.2 ระบบหา้ มลอ้ และระบบห้ามลอ้ ชว่ ยดว้ ยลม (Brake system and auxiliary air System) ระบบหา้ มล้อแบบดร้ัมเบรกหา้ มล้อดว้ ยแรงดันลม ติดตงั้ เป็นระบบห้ามลอ้ หลักในการใช้งาน โดยมี ห้ามล้อ สาหรบั จอดรถและหา้ มลอ้ ดว้ ยไอเสียจากเครอ่ื งยนต์เปน็ ห้ามล้อชว่ ยเมื่อลงท่ีลาดชนั ระบบวงจรเบรก ดว้ ยแรงดนั ลมแบบทอ่ ค่ใู นระบบหา้ มล้อ ทาให้สามารถมั่นใจได้วา่ การควบคุมการใช้งาน สามารถทางานได้ต่อ เน่อื งเม่อื วงจรใดวงจรหนึ่งชารดุ นอกจากนีย้ ังตดิ ต้งั อุปกรณห์ า้ มลอ้ ดว้ ยไอเสียบน เครอ่ื งยนต์ ใชส้ าหรบั ลด ความเรว็ และใชเ้ ป็นหา้ มลอ้ สารองในขณะที่รถกาลงั เคลือ่ นที่ลงทีล่ าดชนั 3.4.3 กวา้ น (Winch) แบบของกวา้ น TCJ-MD-70 ชนดิ ของการลดแรง TCJ-70-JS ความยาวลวด 55 ม. เส้นผา่ ศูนยก์ ลางลวดดึง 14 มม. อัตรากาลงั ในการกว้าน 6 ตนั 4. ระบบปอ้ งกนั (Protection performance) รถเกราะลอ้ ยาง 8x8 VN1 ตดิ ตั้งแผน่ เกราะเหล็กกล้า ชนิดแข็งพเิ ศษและ เสริมโครงสร้าง ของตัวรถดว้ ยแผ่นเกราะแบบถอดเก็บได้ การออกแบบตดิ ตั้งแผน่ เกราะใน ลักษณะนีจ้ ะ สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถึง แนวคิดในการใชแ้ ผ่นเกราะแบบผสมผสาน เพื่อเพิ่มขดี ความสามารถในการ ป้องกนั ให้กบั ตวั รถได้ อย่างมี ประสทิ ธิภาพซ่ึงจะเป็นไปตามแบบของการพฒั นายานเกราะในเวทีโลกดา้ นข้าง ของตัวรถตดิ ต้ังเคร่อื งยิงลกู ระเบดิ ควันข้างละ 3 ท่อ ลกู ระเบดิ ควนั สามารถสรา้ งฉากควนั สขี าวเทาในระยะ 50 เมตรจากตัวรถ เพื่อ จากัดการตรวจการณ์และการเล็งยงิ ของขา้ ศกึ ตัวรถติดตง้ั ระบบปอ้ งกนั นชค. และระบบ ดับเพลิงอัตโนมตั ิ โดยระบบปอ้ งกนั นชค.มขี ดี ความสามารถใน การแจ้งเตือนและสร้างแรงดนั อากาศภายใน ตวั รถ เมอื่ เกิดเหตกุ ารณส์ งคราม นค., ระบบดับเพลิงแบบ อัตโนมัตสิ ามารถใชง้ านไดท้ ้ังแบบอตั โนมตั แิ ละ บังคับด้วยมือ หลังจากเซนเซอรต์ รวจพบสญั ญาณเพลิงไหม้ ระบบดับเพลงิ อัตโนมตั จิ ะเร่ิมตน้ ทางานโดย อตั โนมัติหรือใชม้ ือควบคมุ เพื่อดบั เพลงิ ในระยะเวลาแจง้ เตือน น้อยกวา่ 5 วนิ าที ติดตัง้ แผ่นเกราะป้องกันชนิด โลหะผสมแบบถอดได้ (Removable Composite Armor) สามารถป้องกนั ได้ ในระดับ 3 ตามมาตรฐานนาโต้ 4569 4.1 ตวั รถ (Hull) ตวั รถประกอบด้วยเคร่ืองประกอบชดุ ของตวั รถ, แผน่ ปดิ กน้ั ห้องเครือ่ งยนต์, พนื้ รถ, พ้ืนผวิ ภายในตัวรถ, แผ่นกนั คล่นื , ทนี่ ่ังสาหรับพลประจารถ, ผโู้ ดยสารหรอื กาลงั พลที่บาดเจ็บ ฯลฯ

ห น้ า | 58 ตัวรถติดตั้งฝาปิด-เปดิ ชอ่ งทางเข้า - ออก ของพลขับ, ผบ.รถ, พลยงิ , ประตูเขา้ -ออก ทางด้านหลังรถของ กาลงั พล , ชอ่ งทางเขา้ -ออกฉุกเฉนิ ด้านบนตวั รถ, พัดลมเทอร์โบ,แผน่ เกราะด้านซ้าย/ขวา, ฝาปดิ ห้อง เครอื่ งยนตท์ างด้านบน , แผ่นก้ันลอ้ ยางและเกา้ อ้นี ัง่ , ช่องตรวจการณ์ ชอ่ งยงิ และช่องติดตั้งอปุ กรณ์ตรวจ การณส์ ารอง ฯลฯ ตัวโครงสร้างของ รถสร้างจากแผน่ เหลก็ กล้าที่มคี วามแข็งสงู ด้านหน้าสามารถปอ้ งกันกระสุนเจาะเกราะ แบบ API ขนาด 12.7x108 มม. ไดท้ ี่ระยะ 100 ม. และดา้ นขา้ ง (ซา้ ย/ขวา) สามารถป้องกนั กระสนุ เจาะ เกราะแบบ AP ขนาด 7.62x51 มม. ไดท้ ่ีระยะ 150 ม. ชอ่ งทางเข้า - ออกทางด้านหลังรถสามารถเปดิ -ปิดไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว และเพม่ิ ความปลอดภยั ในการขึน้ หรอื ลง จากรถให้กบั กาลงั พล 4.2 การป้องกนั ลกู ระเบดิ ขวา้ งและทนุ่ ระเบดิ (Grenade and Mine Resistance) รถเกราะ ล้อยางลาเลียงพลแบบ 8x8 VN1 ได้นาเอาแผน่ เกราะเหล็กแบบตารางและโครงสร้างเกราะแบบ ถอดไดม้ า ตดิ ตั้ง สะท้อนใหเ้ ห็นถงึ แนวคิดในการออกแบบโมดูลของเกราะในการป้องกนั เพือ่ เพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการ ป้องกนั ให้กับตวั รถ ใหม้ ีความแขง็ แรงเพยี งพอตอ่ การปอ้ งกนั การระเบดิ ของลกู ระเบิดขว้าง และทุน่ ระเบิด แบบ ขดี ความสามารถในการปอ้ งกนั ท่นุ ระเบิด มาตรฐาน VN1 ป้องกันลกู ระเบิดขว้าง, สะเก็ดระเบิดของ NATO Standard no. 4569 level 1 (แผน่ เกราะเดมิ ของ กระสุนปนื ใหญ่, และการระเบิด ของทุ่นระเบดิ รถ) สังหารบุคคลใตต้ วั รถเกราะ 4.3 ระบบป้องกัน นชค. (NBC Protection System) เป็นระบบที่ควบคุมการทางานแบบ กึง่ อตั โนมตั ใิ นการปอ้ งกนั พลประจารถ และกาลงั พล รวมทงั้ ยทุ โธปกรณ์ ทอี่ ยู่ภายในตัวรถจากความเสียหายที่ จะเกดิ ขึ้นในระหว่างสงคราม นชค. และยังสามารถนามาใช้งานเพื่อ ระบายอากาศภายในตวั รถเมื่อไมอ่ ย่ใู น สภาวะสงคราม นชค. ได้ 4.4 ระบบดบั เพลิงอตั โนมัติ (Automatic Fire Extinguisher System) ระบบดบั เพลิง สามารถทางานไดท้ ง้ั แบบอัตโนมตั ิและบงั คับดว้ ยมือ หลังจากทเ่ี ครือ่ งตรวจจับตรวจพบเปลว เพลิงตวั เคร่อื งจะ ทางานโดยอตั โนมตั พิ ร้อมท้ังสง่ สัญญาณเตือนไปยงั พลประจารถและกาลงั พลดว้ ยสัญญาณ ไฟและเสยี ง นอกจากนัน้ ยงั มีถงั ดับเพลิงแบบเคลือ่ นทไ่ี ด้อกี 3 ถงั เพ่ือให้กาลงั พลทีอ่ ยู่ในรถใช้ดับเพลิง 4.5 ระบบเคร่อื งปรับอากาศ (Air Conditioner) ระบบเครอ่ื งปรับอากาศประกอบด้วยชดุ ควบคมุ คอมเพรสเซอร์, ระบบระบายอากาศภายนอก 1 ชุด, ระบบ ปรบั อากาศภายใน 3จดุ ตรงตาแหนง่ พลขับ, ผบู้ ังคบั รถ, ในหอ้ งโดยสารของกาลังพล เครอื่ งปรบั อากาศสามารถระบายอากาศ และปรบั อุณหภมู ิให้กบั กาลังพลและยทุ โธปกรณ์ภายในรถทาให้ สภาพแวดลอ้ มภายในรถมีบรรยากาศทีส่ บาย ขีดความสามารถในการทาความเยน็ 10 kW. ใช้ไฟกระแสตรง 26 + 4 V. อุณหภมู ิแวดลอ้ ม 18 °C – 55 °C น้ายาหล่อเย็น R134a ชอ่ งระบายอากาศชดุ ที่1 ตดิ ตั้งหนา้ ตัวรถ เพ่ือปรบั อากาศใหก้ บั พลขับและ ผบ.รถ

ห น้ า | 59 ชอ่ งระบายอากาศชุดที่ 2 ติดต้ังอยู่ทางด้านซา้ ยของห้องโดยสารใช้สาหรับเพิ่มความสะดวกสบายใหก้ ับ กาลงั พลในเรือ่ งของสภาพอากาศแวดล้อม -------------------------------------------

ห น้ า | 60 แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรยี นทหารมา้ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร สระบรุ ี ----------- คท.9 - 2350 - 261 - 10 คณุ ลักษณะและมาตราทาน รถสายพานลาเลียงพล M113A2 1. คุณลักษณะโดยท่ัวไป รถสายพานลาเลียงพล M113A2 เป็นยานรบประเภทสายพานที่มีน้าหนักเบา ทรวดทรงต่ามีความมุ่งหมายเพ่ือใช้ขนส่งทหารและสมั ภาระ รสพ M113A2 เคลื่อนท่ีได้อย่างคล่องแคล่วและ รวดเร็วบนถนนและในภูมิประเทศ การขับเคลื่อนด้วยสายพาน ทาให้รถเคล่ือนที่และบังคับเล้ียวได้ท้ังบน พืน้ ดินและในนา้ จึงมขี ีดความสามารถปฏิบัติการสะเทนิ น้าสะเทนิ บก คือ สามารถใชง้ านในบริเวณพืน้ ท่ีล่มุ เช่น บึงแม่น้า ลาธาร เป็นต้น รสพ. M113A2 สามารถขนส่งทางอากาศได้โดยใช้เครื่องบินขนส่ง รถนี้ได้ ออกแบบสรา้ งข้ึนให้เหมาะสมทีจ่ ะบรรทกุ พลขับ 1 นาย,ผู้บังคับรถ 1 นาย และทหารอีก 11 นาย ยทุ ธภัณฑ์ ประจารถจะเกบ็ บรรทุกไวใ้ นช่องเกบ็ ของประจารถและบนดาดฟ้าของรถ ทาให้บนพื้นรถมีทีว่ ่างสะดวกแก่การ เข้า-ออกของทหาร หรอื การบรรทุกและลาเลียงสัมภาระ รสพ.M113A2 มปี อ้ มตรวจการณ์ของ ผบ.รถ ซง่ึ หมุน ไดร้ อบตวั พรอ้ มดว้ ยฐานติดตง้ั ปืนกล ขนาด .50 นิ้ว 2. รายละเอียดและมาตรทาน อาวธุ ประจารถ ปนื กล ขนาด .50 นวิ้ จานวน 1 กระบอก อตั ราบรรทกุ พลประจารถ พลขบั 1 นาย และ ผบ.รถ 1 นาย ผโู้ ดยสาร 11 นาย พรอ้ มยุทโธปกรณเ์ ต็มอตั รา น้าหนกั พรอ้ มรบ 11,752 กก. (25,886 ปอนด์) น้าหนักกดพื้นดนิ 0.58 กก./ตร.ซม.(8.25 ปอนด/์ ตร.น้วิ ) ช้ันสะพาน (น้าหนักพร้อมรบ) 13 (น้าหนักรถเปลา่ ) 10 ขนาด ความยาวท้ังหมด 486.41 ซม. (191.5 นว้ิ ) ความกว้างทงั้ หมด 268.61 ซม. (105.75 นิว้ ) ความสงู ถึงยอดฐานตดิ ต้งั ปนื กล 222.25 ซม. (87.5 น้ิว) ระยะหา่ งใต้ทอ้ งรถ 43.26 ซม. (17.12 นิว้ ) สมรรถนะ ความเร็วสงู สุด (บนพน้ื ดิน) 64 กม./ชม. (40 ไมล์/ชม.) (ในน้า) 5.7 กม./ชม. (3.6 ไมล์/ชม.) การลยุ ข้ามนา้ ลึก ไม่จากัดความลึก

ห น้ า | 61 ระยะปฏิบตั กิ าร (ความเรว็ เฉลย่ี 25 ไมล์/ชม.) 483 กม. (300 ไมล)์ ความสามารถในการไต่ลาด (ลาดตรง) 60 % 30 % (ลาดขา้ ง) ข้ามเคร่ืองกีดขวางทางดง่ิ 70 ซม. (24 นิ้ว) ขา้ มคกู วา้ ง 167 ซม. (5 ฟุต 5 น้วิ ) เคร่ืองยนต์ บริษทั ดที รอย จเี อ็มซี ผสู้ รา้ ง เคร่ืองยนตด์ ีเซล สองจังหวะรอบ ชนดิ 6 สูบ รูปตวั \"V\" ระบายความรอ้ นด้วยน้า จุดระเบดิ ดว้ ยกาลงั อัด แบบ 6V53 แรงม้า 210 ณ 2,800 รอบ/นาที รอบเดนิ เบา 650 - 750 รอบ/นาที รอบสูงสุด (มีภารกรรม) 2,800 รอบ/นาที 2,925 - 2,975 รอบ/นาที (ไมม่ ภี ารกรรม) - DF-2 (VV-F-800) ชนดิ ของน้ามนั เช้อื เพลิง ดเี ซล - DF-A (VV-F-800) - DITE (MIL-F-46005) เครือ่ งเปลย่ี นความเร็ว ผสู้ ร้าง บริษทั อัลลิสัน แบบ อัตโนมัติ TX100-1 ความเรว็ เดินหนา้ 3 เกียร์ (2-3, 1-3, 1-2, 1) ความเร็วถอยหลงั 1 เกยี ร์ หบี เฟอื งทดเลีย้ วบังคบั รถ บริษัทเอฟเอม็ ซี ผสู้ ร้าง DS-200 แบบ สายพาน (ดา้ นซา้ ย) 63 ขอ้ (ดา้ นขวา) 64 ข้อ 24 โวลท์ ระบบไฟฟ้า 6 TN (จานวน 2 หมอ้ ) แบตเตอร่ี 100 แอมป์ (28 โวลท์ ) เครือ่ งกาเนิดไฟฟ้า 9-13 ปอนด/์ ตร.นิ้ว ระบบไฟเตือน (ความดนั และอุณหภูมิท่ไี ฟเตือนทางาน) 300-310 องศา ฟ. - ไฟเตอื นความดันน้ามนั หล่อล่ืนเครื่องยนต์ - ไฟเตอื นเครื่องเปล่ียนความเร็วอณุ หภมู ิสงู

ห น้ า | 62 - ไฟเตอื นหีบเฟอื งทดเลยี้ วบงั คับรถ 300-310 องศา ฟ. ความจุ (เติมใหม่) 53 ลติ ร (14 แกลลอน) นา้ ระบายความรอ้ น 13-18 ปอนด์/ตร.นวิ้ แรงดนั ฝาปิดหมอ้ น้า 360 ลติ ร (95 แกลลอน) ถังนา้ มนั เชอ้ื เพลงิ ดเี ซล น้ามนั หลอ่ ล่ืน 17 ลิตร (18 ควอต) - เคร่ืองยนต์ (OE-15/40) 15.1 ลติ ร (16 ควอต) - เครื่องเปล่ียนความเรว็ (OE-15/40) 18.9 ลติ ร (20 ควอต) - หบี เฟืองทดเลีย้ วบงั คบั รถ (OE-15/40) 2.4 ลติ ร (2.5 ควอต) - หบี เฟอื งถา่ ยทอดกาลงั (OE-15/40) 4.2 ลติ ร (4.5 ควอต) - หบี เฟืองขับขนั้ สดุ ทา้ ย (OE-15/40)(ตวั ละ) 0.23 ลิตร (0.5 ควอต) - หบี เฟืองขบั พัดลม (OE-15/40) - น้ามนั หา้ มลอ้ บังคบั เลย้ี ว (OHA หรือ FRH) 1.9 ลิตร (2 ควอต) - ระบบลาดบรรทกุ (OHA หรอื FRH) อปุ กรณ์ทัศนะ - รอบช่องทางเขา้ -ออก ห้องพลขบั 4 กล้อง กลอ้ งตรวจการณ์ - ปอ้ มตรวจการณ์ ผบ.รถ 1 กลอ้ ง - กลอ้ งอะไหล่ 1 กลอ้ ง กล้องตรวจการณ์ อนิ ฟราเรด M19 ติดต้งั ทฝี่ าปดิ หอ้ งพลขบั 1 กลอ้ ง และมหี ัวกล้องอะไหล่ 1 อนั **************

ห น้ า | 63 * เคร่ืองหมายน้ี แสดงว่ารถไมอ่ ยู่ใน สภาพพรอ้ มใชง้ าน ถ้ามีการ แตก หกั สูญหาย ทางานบกพร่อง หรือ มีการรั่วไหลระดับ 3 ในรายการนน้ั ๆ การตรวจกอ่ นใช้งาน ( รสพ.M113A2 ) ลาดบั รายการ * 1. องค์ประกอบภายนอกรถ * 2. การรัว่ ไหลภายนอก * 3. คันบงั คบั เครื่องดบั เพลงิ * 4. ห้องเครือ่ งยนต์ * 5. ระดับนา้ มันหีบเฟืองทดเลีย้ ว * 6. ขอ้ ต่ออ่อนเพลาขับ * 7. ระดบั น้ามนั หบี เฟืองขับข้นั สุดท้าย 10. องคป์ ระกอบบนดาดฟ้าภายนอกรถ 11. ฐานตดิ ตัง้ ปนื กล * 12. ระดบั นา้ ในหม้อนา้ รงั ผ้งึ * 13. องคป์ ระกอบภายในรถ * 21. เคร่ืองดับเพลิงประจาท่ี * 22. เคร่ืองดับเพลงิ ยกย้ายได้ * 23. ภายในห้องเครือ่ งยนต์ * 24. ระดบั นา้ มันหบี เฟอื งชว่ ย (ตรวจเมอ่ื เยน็ ) 25. ระดบั นา้ มนั หีบเฟอื งพัดลม * 26. ระดบั นา้ มนั เคร่อื งยนต์ * 27. ฝาปิดผนังห้องเครอ่ื งยนต์ 28. ระดบั นา้ มนั ลาดบรรทกุ 29. ปอ้ มตรวจการณ์ ผบ.รถ * 30. ไฟเตือนบนแผงเคร่อื งวัด

ห น้ า | 64 การตรวจระหวา่ งใชง้ าน ( รสพ.M113A2 ) ลาดบั รายการ 31. เคร่อื งวดั อณุ หภูม,ิ เครอื่ งวัดนา้ มนั เชอื้ เพลงิ และเครอ่ื งวดั รอบเครื่องยนต์ 32. เครื่องวัดไฟฟา้ 33. ไฟเตือนบนแผงเคร่ืองวัด 34. เครื่องวดั การอุดตันของหม้อกรองอากาศ 35. โคมไฟใหญ่ 41. ไฟสอ่ งหน้าปดั เครื่องวัด 42. ไฟสญั ญาณเลี้ยว ( ถ้ามี ) 43. ไฟหา้ มลอ้ และไฟทา้ ย 44. โคมไฟอนิ ฟราเรด 45. ระดับนา้ มนั เครื่องเปลยี่ นความเร็ว ( ตรวจเมอ่ื ร้อน) * 47. เคร่ืองติดตอ่ ส่ือสาร * 48. การบงั คับเลี้ยว, การหา้ มลอ้ การเปลย่ี นเกยี ร์ และการทางานของคนั เร่งฯ และการดบั เครอ่ื งยนต์ การตรวจหลงั ใชง้ าน ลาดับ รายการ * 50. ล้อกดสายพาน และล้อปรบั สายพาน เฟืองขบั สายพาน ข้อสายพาน สลกั สายพาน เฟือง ขบั สายพาน และ เครอ่ื งผ่อนแรงสะเทือน * 51 ดมุ หบี เฟอื งขบั ข้นั สดุ ท้าย และดุมลอ้ ต่าง ๆ * 52. แขนลอ้ กดสายพาน และคานรับแรงบดิ * 53. หม้อกรองนา้ มันเช้อื เพลิง ถังนา้ มนั เชอื้ เพลงิ และฝาปดิ ถัง

ห น้ า | 65 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศกึ ษา โรงเรยี นทหารมา้ ศูนย์การทหารม้า คา่ ยอดศิ ร สระบรุ ี ---------------------------------------- การใช้ และการปรนนิบตั ิบารุงขน้ั ที่ 1 รสพ. แบบ 85 ตอนที่ 1 คุณลกั ษณะ ขีดความสามารถ และมาตราทานรถ 1. กล่าวนา รถสายพานลาเลียงพล แบบ 85 ( รสพ.แบบ 85 ) เป็นยานรบประเภทสายพานที่มีน้าหนักเบา ทรวดทรงต่า สร้างข้ึนโดยมีความมุ่งหมายเพื่อใช้ขนส่งทหาร และสัมภาระในแนวหน้า โดยมีเกราะป้องกัน อันตรายจากสะเก็ดระเบดิ และกระสุนปืนเล็กได้ สามารถเคลื่อนท่ีได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว รวดเรว็ ทง้ั บนถนน และ ในภมู ิประเทศ การขับเคลื่อนดว้ ยสายพานทาให้ รสพ.แบบ 85 เคลื่อนที่และบังคบั เลี้ยวไดท้ ัง้ บนพื้นดินและใน น้า จึงมีขีดความสามารถในปฏิบัติการสะเทินน้าสะเทินบก คือสามารถใช้งานได้ในบริเวณพื้นที่ลุ่ม เช่น บึง แม่น้า ลาธาร เป็นต้น รสพ.แบบ 85 ได้สร้างขึ้นให้เหมาะสมที่จะบรรทุกพลขับ 1 นาย ผบ.รถ 1 นาย และ ทหารอกี 13 นาย ยทุ ธภัณฑป์ ระจารถจะเกบ็ บรรทกุ ไว้ในชอ่ งเก็บของประจารถ และบนดาดฟา้ ของรถ ทาให้ ภายในรถมีพื้นที่วา่ งสะดวกแก่การเข้า-ออกของทหาร หรือการบรรทุกลาเลียงสัมภาระ รสพ.แบบ 85 มีป้อม ตรวจการณ์ของ ผบ.รถ ซง่ึ หมุนได้รอบตัวพร้อมด้วยฐานติดตงั้ ปืนกลต่อสู้อากาศยาน ขนาด 12.7 มม. จานวน 1 กระบอก นอกจากนี้บรเิ วณรอบนอกตวั รถ และท่ีประตูหลัง จะตดิ ตั้งชอ่ งยงิ ปนื และกลอ้ งตรวจการณ์ เพือ่ ให้ ทหารสามารถเล็งยิงอาวุธประจากายจากภายในรถได้อีก 7 ช่อง 2. คณุ ลกั ษณะทวั่ ไป รสพ.แบบ 85 แบ่งออกเปน็ 3 สว่ น คอื 2.1 สว่ นหนา้ - ทางด้านซ้าย เป็นห้องพลขบั เป็นที่ติดต้ังแผงเครื่องวัด แผงสวิตช์ควบคุมวงจรไฟฟ้า เคร่ืองควบคุม และคันบังคบั ตา่ ง ๆ ทใ่ี ช้ในการควบคมุ การทางานของเครอื่ งยนต์ และการขบั รถ - ทางด้านขวา เป็นห้องระบบขับเคลื่อนรถ ซ่ึงเป็นท่ีติดต้ังเคร่ืองยนต์ หีบเฟืองถ่ายทอดกาลัง คลัตช์ หลัก เคร่ืองเปลย่ี นความเรว็ ชดุ คลตั ช์บังคบั เลย้ี วและหา้ มล้อ หีบเฟอื งขบั ขั้นสุดทา้ ย และหมอ้ กรองอากาศ

ห น้ า | 66 2.2 ส่วนกลาง เป็นห้องพลประจารถ และห้องผู้โดยสาร เป็นที่ติดตั้งท่ีนั่ง ผบ.รถ และป้อมตรวจ การณ์ เครื่องอุปกรณ์การติดต่อส่ือสาร ห้องแบตเตอรี่ ถังน้ามันเช้ือเพลิง และท่ีน่ังผู้โดยสารซึ่งสามารถ ถอดเก็บได้ 2.3 ส่วนล่าง เป็นท่ีติดตั้งสายพาน และระบบพยุงตัวรถ ซ่ึงประกอบด้วยล้อขับสายพาน ล้อปรับ สายพาน ลอ้ กดสายพาน แขนลอ้ กดสายพาน คานรับแรงบิด เครือ่ งผ่อนแรงสะเทือน และสายพาน 3. ระบบหน่วยกาลัง ใช้เคร่ืองยนตด์ เี ซล V-8 แบบBFL8413F ส่จี ังหวะรอบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ มี เครื่องเพ่ิมไอดี กาลัง 320 แรงม้าเม่อื เครอ่ื งยนต์หมนุ 2,500 รอบ/นาที 4. ระบบน้ามันเชอ้ื เพลงิ ระบบน้ามันเชอ้ื เพลิงมคี วามจุรวม 450 ลิตรประกอบดว้ ยถังน้ามันเชอื้ เพลิงจานวน 2 ชดุ คอื 4.1 ชุดภายในรถ จานวน 2 ถงั ติดตงั้ อยู่ทางด้านทา้ ยทางซ้าย และทางขวาของหอ้ งผู้โดยสาร มีความ จถุ งั ละ 112 ลิตร 4.2 ชุดภายนอกรถ จานวน 2 ถัง ติดตั้งอยู่ทางด้านท้ายภายนอกตัวรถ ความจุถังละ 113 ลิตร ถัง นา้ มันชุดภายในรถทั้ง 2 ถัง จะมที ่อน้ามันเชอื่ มต่อถึงกนั และต่อไปยังระบบน้ามนั เชอ้ื เพลิงของเคร่ืองยนต์โดย มีลิ้นเลือกใชถ้ ังนา้ มันอยู่ทางด้านหลงั ห้องพลขับ 5. ระบบไอดี-ไอเสีย ประกอบด้วยหม้อกรองอากาศแบบแห้ง จานวน 2 หมอ้ คือ หมอ้ กรองขั้นแรก และหมอ้ กรองขั้นที่ 2 ติดต้ังอยู่ทางด้านหน้ารถ ภายในห้องเคร่ืองยนต์ ฝุ่นผงท่ีสะสมอยู่ในหม้อกรองขั้นแรก จะถูก ระบายผ่านลิน้ ทางเดียวทงิ้ ออกไปภายนอก ด้วยมอเตอรพ์ ัดลมระบายฝุน่ ซึง่ มีสวติ ช์ควบคมุ การทางานอยู่ที่แผง หน้าปัดในห้องพลขับ และสวิตช์พัดลมระบายฝุ่นจะต้องอยู่ในตาแหน่งเปิด “ON” ตลอดเวลาท่ีเคร่ืองยนต์ติด เวน้ แตใ่ ชง้ านรถในบริเวณท่มี ฝี ่นุ น้อย เช่น ในขณะลยุ ขา้ มนา้ หรือใชง้ านในหิมะ 6. ระบบระบายความร้อน ประกอบด้วยพัดลมระบายความร้อน จานวน 1 ชุด ขับหมุนด้วยกาลังขับจาก เครื่องยนต์ ซึง่ ถา่ ยทอดกาลังขับด้วยเครื่องต่อกาลังด้วยน้ามันเครื่องยนต์ และใช้ระบบการควบคุมอุณหภูมิจาก ไอเสยี เครอื่ งยนต์ ทาหน้าทีค่ วบคุมการไหลของอากาศโดยอตั โนมตั ิ ตามภารกรรมของเครื่องยนต์ ในสภาพการ ใชง้ านตา่ ง ๆ ทาใหอ้ ุณหภมู ขิ องเครื่องยนต์ไม่ร้อน หรอื เยน็ จนเกนิ ไป 7. หีบเฟอื งถ่ายทอดกาลงั , คลตั ช,์ เครือ่ งเปลี่ยนความเร็ว, ชดุ คลัตช์บงั คับเลี้ยว และหา้ มลอ้ , และหบี เฟือง ขับข้ันสุดท้าย 7.1 หีบเฟืองถ่ายทอดกาลัง ทาหน้าที่ถ่ายทอดกาลังขับจากเคร่ืองยนต์ และลดรอบความเร็วจาก เครื่องยนตใ์ หน้ ้อยลง แลว้ ส่งกาลงั ขับผ่านเพลาขับไปยงั คลตั ช์ และเครื่องเปลีย่ นความเร็ว 7.2 คลัตช์ เป็นคลัตช์แบบแห้ง ถ่ายทอดกาลังด้วยความฝืด ทาด้วยแผ่นเหล็กรูปจานวางซ้อนกัน มี หน้าทต่ี ดั ต่อกาลงั ระหว่างหบี เฟอื งถา่ ยทอดกาลงั และเคร่อื งเปล่ยี นความเรว็ การควบคมุ บังคับการทางานของ คลตั ช์ จะกระทาโดยคันคลตั ช์ และชดุ กา้ นโยงจากห้องพลขับ 7.3 เครื่องเปลีย่ นความเร็ว เป็นแบบธรรมดา มีเกียร์เดนิ หน้า 5 เกียร์ และเกียร์ถอยหลัง 1 เกยี ร์ ใน เกียร์ 2, 3, 4 และ 5 จะมีชุดเฟืองปรับความเร็วประกอบอยู่ด้วย เพื่อช่วยให้เข้าเกียร์ได้เงียบ และสะดวกข้ึน การควบคมุ บงั คับการทางานของเครือ่ งเปล่ียนความเรว็ กระทาโดยคนั เกียร์ และชดุ ก้านโยงจากห้องพลขับ

ห น้ า | 67 7.4 ชุดคลัตช์บังคับเลย้ี วและห้ามลอ้ ทาหน้าทีถ่ ่ายทอดกาลังขับระหวา่ งเครอ่ื งเปลี่ยนความเรว็ และ หบี เฟอื งขับขั้นสุดท้ายแต่ละขา้ ง ชุดคลตั ช์บังคับเลี้ยวและหา้ มล้อ ประกอบด้วยชุดแผ่นคลัตช์ จานห้ามล้อ ผ้า หา้ มลอ้ และแผ่นกดคลตั ช์ หน้าทสี่ าคัญของชดุ คลัตช์บังคับเลย้ี วและห้ามล้อ ก็คือการทาให้เกิดการบังคับเลีย้ ว และการห้ามล้อ การควบคุมบังคับการทางาน กระทาโดยคันบังคับเล้ียว แป้นห้ามลอ้ และชุดก้านโยงในห้อง พลขบั 7.5 หีบเฟืองขับข้ันสุดท้าย เป็นชุดเฟืองเกยี ร์แบบธรรมดา ทาหน้าท่ีรับกาลังขับจากชดุ เฟืองบังคับ เล้ียวและห้ามล้อ ผ่านเพลาส่งกาลัง แล้วทดรอบความเร็วให้ช้าลง เพื่อเพิ่มแรงบิดขับเคลื่อนให้แก่ล้อขับ สายพาน ซึง่ ทาหน้าท่หี มุนขับสายพานทงั้ สองข้าง 8. ระบบพยุงตัวรถ และสายพาน รสพ.แบบ 85 ใช้ระบบพยุงตัวรถดว้ ยคานรับแรงบิด ประกอบด้วยล้อกด สายพานข้างละ 5 ล้อ ล้อรับสายพานข้างละ 3 ล้อ ล้อขับสายพานอยู่ด้านหน้ารถ และล้อปรับสายพานอยู่ ดา้ นหลงั รถ สายพานทใี่ ช้กับ รสพ.แบบ 85 มี 2 แบบ คือ (1) สายพานรนุ่ เกา่ เปน็ สายพานเหล็ก จานวนข้างละ 75 ข้อ แบบสายพานตาย ชนดิ เปลี่ยน ยางรองสายพานได้ สลกั สายพานเป็นแบบสลกั เดย่ี วกลม (2) สายพานร่นุ ใหม่ เปน็ สายพานเหล็ก จานวนข้างละ 75 ข้อ แบบมีปลอกยางรองสลกั สายพาน ชนดิ เปล่ยี นยางรองสายพานได้ สลักสายพานเป็นแบบสลกั คู่ 9. ระบบไฟฟ้า เป็นระบบไฟตรง 24 โวลต์ ประกอบดว้ ยระบบเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ติดต้ังอยู่ภายในห้องพล ขับ ห้องเคร่อื งยนต์ และห้องพลประจารถ เช่น ระบบแบตเตอร่ี ระบบหมุนเครื่องยนต์ ระบบประจุไฟ ระบบ แสงสว่าง ระบบเคร่อื งวดั และสญั ญาณเตือน เปน็ ตน้ 10. ระบบเครื่องดับเพลิงประจารถ ใช้ดับเพลิงท่ีเกิดขึ้นภายในตัวรถ และเป็นระบบเครื่องดับเพลิงแบบยก ย้ายได้ จานวน 2 หมอ้ ๆ ละ 1.5 กก. สารดับเพลิงเปน็ แบบเฮลอน 1211 สามารถดับเพลงิ ท่เี กิดจากกระแส ไฟฟา้ และการลกุ ไหมข้ องน้ามันตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 11. ระบบกล้องตรวจการณ์ด้วยแสงอินฟราเรด รสพ.แบบ 85 จะมีระบบกล้องตรวจการณ์ด้วยแสง อินฟราเรด สาหรับการขับรถ หรือตรวจการณ์ในเวลากลางคืน มีระยะใช้งานประมาณ 60 เมตร โดยใช้ ประกอบกบั โคมไฟอินฟราเรด ขนาด 80 วัตต์ ติดต้งั อยทู่ างด้านหน้าขวารถ จานวน 1 ดวง 12. ทุ่นพยุงตวั รถ ทุ่นพยุงตัวรถมไี ว้เพื่อช่วยในการทรงตัวของรถในขณะลอยน้า จะติดต้งั ไว้ทางด้านข้างตัว รถเหนือสายพาน ทัง้ สองข้าง เปลือกนอกของทุ่นพยงุ ตัวรถทาด้วยโลหะภายในบรรจุโฟมพลาสติก และทนุ่ พยุง ตัวรถสามารถถอดเกบ็ ได้ 13. แผ่นพยุง ตดิ ต้งั ไว้ทล่ี าดดา้ นหน้ารถตอนบน เพ่ือใช้ปอ้ งกันคลนื่ และนา้ ไมใ่ หก้ ระฉอกเข้าไปในห้อง พลขบั และปดิ บังการเห็นของกลอ้ งตรวจการณ์ เม่ือรถวิ่งอยใู่ นนา้ แผ่นพยุงนีส้ ามารถพับเกบ็ ไดเ้ มอ่ื ไมใ่ ชง้ าน 14. มาตราทานรถ นา้ หนกั พร้อมรบ 13.6 ตนั พลประจารถ 2 นาย ผโู้ ดยสาร 13 นาย

ห น้ า | 68 น้าหนักกดพน้ื ดิน 0.546 กก./ ซม.2 อตั ราส่วนกาลงั ขับเคลื่อน (แรงม้า/ตัน) 23.5 ขนาดรถ ความยาว 6.125 เมตร ความกว้าง 3.060 เมตร ความสงู (ไม่รวม ปก.ตอ.) 1.914 เมตร (รวม ปก.ตอ.) 2.590 เมตร ระยะจากกงึ่ กลางสายพานด้านซ้าย-ขวา 2.526 เมตร สายพานสมั ผัสพ้ืน 3.275 เมตร ความสงู ใต้ท้องรถ 0.46 เมตร สมรรถนะบนพื้นดนิ ระยะปฏบิ ัตกิ ารไกลสดุ (บนถนนหลวง) 500 กม. (บนเส้นทางในภมู ปิ ระเทศ) 350 กม. (ในนา้ ) 61 กม. ความสามารถในการปีนลาด (ลาดขนึ้ ) 32 องศา (ลาดลง) 30 องศา (ลาดข้าง) 25 องศา ความส้นิ เปล้ืองน้ามันเชอื้ เพลิง(ระยะทาง 100 กม.) 75-82 ลิตร (1.1 ลิตร/กม.) ความเรว็ สงู สุดบนถนน (บนถนน) 65 กม./ชม. ความเรว็ เดินทาง (บนถนนหลวง) 37-42 กม./ชม. (บนถนนในภมู ิประเทศ) 32 กม./ชม. ข้ามเคร่ืองกดี ขวางทางด่ิง 0.60 เมตร ขา้ มคกู ว้าง 2.20 เมตร รศั มีวงเลีย้ วต่าสุด 1.5 เมตร สมรรถนะในน้า ความเรว็ สูงสดุ ในนา้ 6 กม./ชม. มุมลงน้า 20 องศา มุมข้นึ จากน้า 25 องศา ตาแหน่งเกียรใ์ ชง้ านปกตใิ นนา้ เกียร์ 3 ความเรว็ สงู สุดของกระแสนา้ ทร่ี ถสามารถตดั ข้ามได้ 1 เมตร/วนิ าที รัศมีวงเลีย้ วตา่ สุดในนา้ 13 เมตร เคร่อื งยนต์ ดีเซล V-8 แบบ BF8L413F 4 จงั หวะรอบ, ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ มเี ครื่องเพ่ิมไอดี และเคร่ืองระบายความร้อนไอดี แรงม้าสูงสุด 320 แรงม้า @ 2,500 รอบ/นาที

ห น้ า | 69 แรงบดิ สงู สุด 100 กก./เมตร @ 1,500 รอบ/นาที รอบเดินเบา 600 รอบ/นาที เครอื่ งเปลยี่ นความเร็ว เฟอื งเลอ่ื นธรรมดา เดนิ หน้า 5 ตาแหนง่ ถอยหลงั 1 ตาแหนง่ และวา่ ง 1 ตาแหนง่ ความเรว็ ในเกยี รต์ า่ ง ๆ เกียร์ 1 8.8 กม./ชม. เกียร์ 2 17.3 กม./ชม. เกยี ร์ 3 24.7 กม./ชม. เกยี ร์ 4 39.9 กม./ชม. เกียร์ 5 59.4 กม./ชม. เกยี ร์ถอยหลงั 8.8 กม./ชม. ระบบไฟฟ้า ระบบไฟตรง 24 โวลต์ แบตเตอรี่ แบบ 65 จานวน 2 หม้อ แรงเคล่อื นไฟฟ้า 12 โวลต,์ 140 แอมแปร์-ชม. เครื่องกาเนดิ ไฟฟ้า แบบกระแสสลบั มเี คร่อื งเรียงกระแสในตัว 28 โวลต์ ,125 แอมแปร์ ความจุ ระบบนา้ มันเชอื้ เพลิง รวม 450 ลิตร ภายนอก (ถงั ละ) 112 ลติ ร ภายใน (ถงั ละ) 113 ลติ ร อา่ งนา้ มนั เครื่องยนต์ 21 ลติ ร เครอื่ งเปลย่ี นความเร็ว 8 - 9 ลิตร หีบถา่ ยทอดกาลัง 12 ลติ ร หีบเฟืองขับข้ันสดุ ท้าย (ตัวละ) 2.2 ลิตร กล้องตรวจการณเ์ วลากลางคืนของพลขบั กาลังขยาย 1 เทา่ ย่านการเหน็ 30 องศา ระยะใช้งาน 60 เมตร โคมไฟอินฟราเรด ขนาด 80 วัตต์ 1 ดวง อาวธุ ประจารถ (1) ปก.ตอ. ขนาด 12.7 มม. 1 กระบอก ระยะยงิ หวงั ผลตอ่ เปา้ หมายทางอากาศ 1,600 เมตร

ห น้ า | 70 ระยะยิงในมาตราประจาแกว้ ของกลอ้ งเลง็ ตอ่ เป้าบนพืน้ ดิน 3,300-3,500 เมตร (2) เครือ่ งยิงลูกระเบิดควันขนาด 76 มม. แบบ 84 (4 ลากล้อง) 2 ชุด ระยะยงิ (โดยประมาณ) 100 เมตร ช่องยงิ ปืน ( 7 ชอ่ ง ) ดา้ นซา้ ย 3 ชอ่ ง ด้านขวา 3 ชอ่ ง ดา้ นทา้ ยรถ 1 ชอ่ ง ความหนาของเกราะตวั รถ ดา้ นหน้า 12 มม. หลังคา ด้านหลัง และใตท้ ้องรถ 8 มม. ลาดดา้ นหนา้ รถตอนบน 8 มม. ---------------------------------- * เครื่องหมายนี้ แสดงว่ารถไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ถ้ามีการ แตกหัก สูญหาย ทางานบกพร่อง เส่อื มสภาพ หรอื มีการร่วั ไหล ระดับ 3 ในรายการนัน้ ๆ การตรวจก่อนใชง้ าน ( รสพ.แบบ 85 ) ลาดับ รายการ * 1. ตรวจความตงึ ของสายพาน และจัดปรับความตงึ ตามความจาเปน็ * 2. ตรวจความมน่ั คง และความเรียบรอ้ ยของล้อขับสายพาน และลอ้ อ่นื ๆ รวมทัง้ จุกเกลียว และ แป้นเกลยี ว สลกั เกลียวของล้อต่าง ๆ * 3. ตรวจความมัน่ คงของฝาดมุ ลอ้ ตา่ ง ๆ และเครื่องผอ่ นแรงสะเทือน * 4. ตรวจความมน่ั คงของบังโคลนรถ ทนุ่ พยุงตัวรถ และยางกันฝุ่น * 5. ตรวจระดับนา้ มนั เครอื่ งยนต์ และเติมน้ามนั ตามความต้องการ * 6. ตรวจการรัว่ ไหลของน้ามนั หลอ่ ลน่ื และนา้ มนั เชอ้ื เพลิง * 7. ตรวจระดบั นา้ มนั ในถงั น้ามันเช้ือเพลิง * 8. ตรวจการรัว่ ไหลของหบี เฟืองถ่ายทอดกาลงั * 9. ตรวจความมัน่ คงของเครือ่ งดับเพลงิ ในทเี่ กบ็ * 10. ตรวจความมน่ั คง และความคลอ่ งตวั ในการใช้งาน และการจัดปรบั ของทนี่ ่ังพลขบั * 11. ตรวจความเรยี บรอ้ ย และการติดต้งั อย่างถูกตอ้ งของฟิวสป์ อ้ งกนั วงจรไฟฟ้า ต่าง ๆ * 12 ตรวจความมั่นคงของแบตเตอรี่ และการตอ่ ข้ัวสายไฟ 13. ตรวจความเรียบร้อยในการทางาน ความม่ันคงของฐานติดต้ังปืนกล เครื่องให้ทาง สูง และ เคร่ืองหมุนปนื 14. ตรวจความเรียบร้อยในการเก็บ และยึดตรึงของกระสุนปืน เคร่ืองมือเครื่องใช้ และ ชิ้นส่วน อะไหล่

ห น้ า | 71 การตรวจระหว่างใช้งาน ลาดับ รายการ * 15. ตรวจความเรียบร้อยในการทางานของเคร่ืองยนต์ที่รอบความเร็วต่าง ๆ และการร่ัวไหลท่ี เคร่ืองยนต์ ความเรียบร้อยในการทางานของเครื่องวัด และไฟเตือนการทางานของระบบ ประจไุ ฟ * 16 ตรวจความคลอ่ งตัว และความเชือ่ ถอื ไดใ้ นการทางานของเครือ่ งบังคบั เล้ียว และเคร่ือง หา้ มลอ้ การตรวจระหว่างใช้งาน (ตอ่ ) ( รสพ.แบบ 85 ) ลาดับ รายการ * 17. ตรวจความเรียบร้อยในการทางานของ ปัม๊ สบู นา้ พดั ลมระบายฝุ่นของหมอ้ กรองอากาศ พดั ลมระบายความร้อน แตร โคมไฟสอ่ งสวา่ ง และไฟสัญญาณเลย้ี ว * 18. ตรวจความเรียบร้อยในการทางาน และความมนั่ คงของชดุ วิทยุ และเครือ่ งติดต่อภาย ในรถ * 19. การทางานโดยทั่วไป จงตื่นตัวต่อเสียงดังผิดปกติ และการทางานที่ไม่ถูกต้องของคันบังคับ เลี้ยว แป้นห้ามลอ้ หรอื คันบังคบั เครื่องเปลี่ยนความเร็ว * 20. การทางานผดิ ปกติ อื่น ๆ การตรวจขณะหยุดพกั ลาดับ รายการ * 21. ตรวจการร่วั ไหลของน้ามันหล่อล่ืน และน้ามันเช้ือเพลิงในตัวรถ ตรวจความมั่นคงของกระสุน ปนื องค์ประกอบ อุปกรณต์ า่ ง ๆ และเคร่อื งดบั เพลิงประจารถ * 22. ตรวจความม่ันคง และความครบถ้วนของเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ องค์ประกอบ และอุปกรณ์ ไฟฟา้ ตา่ ง ๆ ทต่ี ดิ ต้งั อยนู่ อกรถ * 23. ตรวจการแตกร้าวของข้อสายพาน การหลุดหายของยางรองสายพาน แหวนยึดสลักสายพาน และความตึงหยอ่ นของสายพาน * 24. ตรวจความมั่นคงของล้อขับสายพาน และฝาดุมล้อทุกอัน ตรวจการรั่วไหลของสารหล่อล่ืน และตรวจการร้อนผิดปกติของหีบเฟืองขับขั้นสุดท้าย ดุมล้อต่าง ๆ และเคร่ือง ผ่อนแรง สะเทอื น โดยสมั ผัสด้วยมอื * 25. เคร่ืองพยุงตัวรถ ตรวจสภาพการชารุดเสียหายของคานรับแรงบิด แหนบหยุดแขนล้อกด สายพาน เครื่องผอ่ นแรงสะเทือน ล้อกดสายพาน ลอ้ รับสายพาน ล้อปรับสายพาน และล้อ ขับสายพาน * 26. การทางานผิดปกติ ตรวจสอบ และแก้ไข หรือรายงานข้อบกพร่องใด ๆ ที่สงั เกตเห็นระหว่าง การใชง้ าน

ห น้ า | 72 การตรวจหลงั ใชง้ าน ( รสพ.แบบ 85 ) ภายนอกรถ ถ้าได้นารถเข้าปฏิบัติการ หรือเคลื่อนท่ีผ่านบริเวณท่ีมีการใช้สารเคมี ชีวะ รังสี จะต้องดาเนิน กรรมวธิ ชี าระลา้ งสารพิษนน้ั เสยี ก่อนท่ีจะทาการปรนนบิ ัตบิ ารงุ ลาดบั รายการ * 27. เช็ด และล้างฝนุ่ โคลนภายนอกรถใหส้ ะอาด * 28. ตรวจความมั่นคง ความเรียบร้อย และการเก็บรักษาเคร่ืองมือโยธาสนาม, ถังน้ามันเชื้อเพลิง ภายนอกรถ, ข้อสายพานอะไหล่, ฐานปนื กล, ผา้ ใบคลมุ อุปกรณ์ และลวดลากจูง * 29. ตรวจความม่นั คง และความเรยี บรอ้ ยของโคมไฟใหญ่, ไฟพรางขับ, ไฟท้าย, และ ฐานเสาอากาศ * 30. ตรวจความคลอ่ งตัว และความมั่นคงในการเปิด-ปิด ฝาปดิ ชอ่ งทางตา่ ง ๆ ใหก้ ารหล่อล่นื บานพับ, กลอน และสลกั กลอนของฝาปิดชอ่ งทางต่าง ๆ * 31. ตรวจความชารดุ เสยี หาย การแตกรา้ ว และผดิ รปู ของตวั รถ * 32. ลา้ งทาความสะอาด สายพาน และเครอ่ื งพยุงตวั รถ ตรวจการรั่วไหลของเครือ่ งผอ่ นแรงสะเทอื น, ดุมล้อกดสายพาน และดุมล้อรับสายพาน ตรวจการฉีกขาด และหลุดล่อนของยางหุ้มล้อกด สายพาน ตรวจการสึกหรอ และการแตกร้าวของเฟอื งลอ้ ขบั สายพาน * 33 ตรวจความตึงหย่อนสายพาน, ตรวจการแตกรา้ ว และผดิ รูปของขอ้ สายพาน, การแตกหักของหัว สลักสายพาน และการสญู หายของแหวนยดึ สลักสายพาน 34. ตรวจสภาพไขข้นของดุมลอ้ กดสายพาน และดมุ ล้อรับสายพาน ภายหลงั การ ลุยข้ามนา้ *35. การทางานผิดปกติ ตรวจสอบ และแก้ไข หรือรายงานข้อบกพร่องใด ๆ ท่ีสังเกตเห็นระหวา่ ง การใช้งาน * 36. ตรวจระดับน้ามันเคร่ืองยนต์ ตรวจการรั่วไหลของน้ามันเคร่ืองยนต์ และเติมน้ามันตามความ ต้องการ * 37. ให้การหลอ่ ล่ืนคลัตชห์ ลกั ( ตามสภาพการใช้งาน ) * 38. ตรวจ ทาความสะอาดฝุ่นผง และส่ิงสกปรกต่าง ๆ ในห้องเครื่องยนต์ และทาความสะอาดไส้ กรองอากาศ ตรวจความมนั่ คงของข้อตอ่ และทอ่ ยางระหวา่ งหมอ้ กรองอากาศ * 39. ตรวจการรว่ั ไหลของนา้ มันหีบเฟอื งถา่ ยทอดกาลัง, เครอ่ื งเปล่ยี นความเร็ว, หีบเฟืองขบั ข้นั สุดท้าย และคลัตช์บังคับเลี้ยว ให้การบริการข้อต่อ และก้านโยงคันบังคับต่าง ๆ ด้วย นา้ มนั หลอ่ ลื่น ให้การหล่อล่ืน และตรวจการทางานของคลตั ช์บังคับเลี้ยว และก้านโยงคันบงั คับ เล้ยี ว

ห น้ า | 73 การตรวจระหว่างใชง้ าน (ต่อ ) ( รสพ.แบบ 85 ) * 40. ตรวจระดบั น้ามัน และสภาพของนา้ มนั หีบเฟอื งขบั ขน้ั สดุ ทา้ ย ถ้ามกี ารเจือปนของน้าหลงั จากทา การลุยข้ามน้าใหท้ าการเปลี่ยนถา่ ยนา้ มนั ตามความจาเปน็ และ ตรวจสอบจดุ ที่เกิดการ รว่ั ไหล แล้วแก้ไขให้เรียบร้อย 41. ตรวจการทางานของชุดวิทยุ เครื่องติดต่อภายในรถ และหมวกพลประจารถ 42. ทาความสะอาดช้ินส่วนต่าง ๆ ภายในห้องผู้โดยสาร, กระจกกล้องตรวจการณ์ของชอ่ งยิงทุก ช่อง และแบตเตอรี่ ด้วยผ้าสกั หลาด ตรวจการทางานของชุดไฟสัญญาณเตอื น 3 สี * 43. ตรวจการรว่ั ไหลของน้ามนั หลอ่ ลื่น และน้ามันเชื้อเพลงิ ในตวั รถ ตรวจความม่ันคงของกระสุนปืน องค์ประกอบ อุปกรณ์ต่าง ๆ และเครอ่ื งดบั เพลิงประจารถ * 44. เติมนา้ มนั เช้ือเพลงิ ตามความตอ้ งการ 45. หลังการลุยข้ามน้าลึก หรือการลุยข้ามลาธารติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือใช้งานรถในสภาพ อากาศชืน้ แฉะ ในพนื้ ท่เี ป็นหล่มโคลน ใหต้ รวจเครื่องยนต์ เคร่อื งเปลี่ยนความเรว็ และ หบี เฟอื งขับข้ันสดุ ท้ายว่ามีน้าเขา้ ไปเจอื ปนในนา้ มนั เครอ่ื ง เน่อื งจากการร่ัวไหล หรอื การ กลน่ั ตัวของไอนา้ ในอากาศ * 46. ตรวจสอบ และแก้ไข หรือรายงานขอ้ บกพร่องใด ๆ ทีส่ ังเกตเหน็ ระหวา่ งการใชง้ าน * เคร่ืองหมายนี้ แสดงว่ารถไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ถ้ามีการแตกหัก สูญหาย ทางานบกพร่อง เส่อื มสภาพ หรือมกี ารร่วั ไหลระดบั 3 ในรายการนน้ั ๆ

ห น้ า | 74 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารมา้ ศนู ย์การทหารมา้ ค่ายอดศิ ร สระบรุ ี ---------- คท.พลประจารถ พ.ศ.2521 คณุ ลักษณะและมาตราทาน รถถงั เบา 21 (SCORPION) FV 101 1. คณุ ลกั ษณะโดยท่วั ไป รถถังเบา 21 (SCORPION) FV 101 เปน็ รถถังเบาท่ีออกแบบสร้างให้มีรูปร่าง ลักษณะทรวดทรงต่า ขนาดกระทัดรดั มีความคลอ่ งแคล่วในการเคล่ือนที่ และมีความเรว็ สูง ใชใ้ นภารกจิ สนับสนุนการยิงดว้ ยอาวุธ ปนื ใหญ่ ขนาด 76 มม. 1 กระบอก และปืนกลร่วมแกน ขนาด 7.62 มม. อกี 1 กระบอก ซึ่งใช้ในการยิงสอบ หาระยะให้ปืนใหญ่ และใช้ทาการยิงต่อท่ีหมายภาคพื้นดิน นอกจากน้ียังติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดควันชนิด หลายลากล้องขนาด 66 มม. อกี 2 ชุดทางดา้ นนอกของปอ้ มปืนอีกด้วย รถถงั เบา 21 มีเสียงเบาในขณะเคลื่อนท่ี มีน้าหนักกดพน้ื ดินน้อย เหมาะแกก่ ารใช้ปฏบิ ัติการในพน้ื ท่ี ๆ เปน็ ดินอ่อน สามารถปฏบิ ัติการลอยข้ามนา้ ได้ โดยใช้กรอบพยุงตวั ซึ่งกรอบพยุงตัวน้ีสามารถกางออกและพับ เก็บไว้บนตัวรถ การเคล่ือนที่ในน้าใช้การขับเคล่ือนด้วยสายพานและยังสามารถติดตั้งชุดใบจักร เพ่ือเพ่ิม ความเร็วในนา้ ได้ด้วย ตัวรถและป้อมปืนสร้างข้ึนให้มีมุมลาด โดยใช้แผ่นเกราะอะลูมิเนียมผสมเช่ือมประสานกันเพ่ือความ มน่ั คงแข็งแรง และสามารถป้องกันนา้ ได้ ระบบทัศนะและเครื่องเล็ง ประกอบดว้ ย กล้องตรวจการณ์ของพลขับ และกลอ้ งเล็งกลางคืนของพล ยงิ ซ่งึ ใชเ้ ทคนิคในการทวคี วามเขม้ ของแสงดว้ ยอปุ กรณ์อเี ลก็ โทรนิกส์ รถถงั เบา 21 มีพลประจารถ 3 นายคือ - ผู้บังคบั รถ (ทาหน้าที่พลบรรจดุ ว้ ย) - พลยงิ (ทาหน้าท่พี ลวิทยดุ ้วย) - พลขบั 2. รายละเอียดและมาตราทาน ขนาด ความยาว (เม่อื ปนื อยู่ทางดา้ นหนา้ ) 4.55 เมตร ความสูง (เหนือกล้องตรวจการณ์ของพลยงิ ) 2.10 เมตร ความกว้าง (ท้งั หมด) 2.18 เมตร ระยะห่างใต้ท้องรถ 0.35 เมตร นา้ หนกั พรอ้ มรบ (สงู สุด) 7,925 กก. ช้นั สะพาน 10 การขนสง่ ทางอากาศ เที่ยวละ 2 คนั (CK 130) นา้ หนักกดพื้น 5 ปอนด/์ ตร.น้ิว

ห น้ า | 75 ความเร็วบนถนน (ความเรว็ อนุมัติใช้งาน) 72.4 กม./ชม.(45 ไมล์/ชม.) ขา้ มเคร่อื งกดี ขวางทางดิง่ ไดส้ งู 0.50 เมตร ไต่ลาดสูงสดุ มากกว่า 60 % (สามารถหยุดและออกรถไดบ้ นลาด 45 %) ขา้ มคกู วา้ ง 2.06 เมตร มมุ ขนึ้ ลาด 26 องศา มมุ ลงลาด 21.5 องศา ไต่ลาดขา้ ง 45 % ลยุ ข้ามนา้ โดยไมก่ างกรอบพยงุ 1.07 เมตร ความเรว็ ในนา้ (ขบั เคล่อื นดว้ ยสายพาน) 6.4 กม./ชม. (ขับเคลอ่ื นด้วยชดุ ใบจกั ร) 8.5 กม./ชม. ความส้นิ เปลืองบนถนน (โดยประมาณ) 1.6 กม./ลิตร ณ 48 กม./ชม.หรือ 4.5 ไมล/์ แกลลอน ณ 30 ไมล/์ ชม. ระยะปฏบิ ตั ิการบนถนน (โดยประมาณ) 640 กม.(400 ไมล)์ เคร่อื งยนต์ แบบ JAGUAR XK 4.2,เพลาราวล้ินคู่อยู่บนฝาเรอื นสูบ,ใช้ น้ามันแก๊สโซลีน ดัดแปลงเพ่ือใช้ในราชการทหาร เป็น แบบ J 60 NO 1 MK 100 B จานวนกระบอกสบู 6 กระบอกสบู เรยี งแถวเดย่ี ว แรงม้า (สงู สดุ ) 195 แรงมา้ (141.8 กโิ ลวตั ต)์ ท่ี 5,000 รอบ/นาที แรงบดิ (สูงสดุ ) 255 ปอนด/์ ฟตุ ท่ี 3,500 รอบ/นาที การปรงุ เชื้อระเบิด คารบ์ ูเรเตอร์ โซเลก็ ซ์ 48 NNIP ชนดิ ดดู ลงแบบทอ่ คู่ การระบายความรอ้ น ของเหลว,มปี มั๊ นา้ ,ควบคุมแรงดนั และมีล้นิ ควบคุมอุณหภมู ิ ปรมิ าตรในกระบอกสูบ 4.235 ลิตร ลิ้น แบบเหล็กกล้าผสม, ลนิ้ ไอเสยี หมนุ รอบตัวเอง อัตราการอดั 7.75 : 1 ระยะหา่ งของลน้ิ ไอดี-ไอเสยี (เย็น) 0.014นวิ้ ,จัดปรับระยะห่างโดยใชแ้ ผน่ รองใต้ถ้วยครอบตนี ล้ิน ลาดับการจดุ ระเบดิ 1 - 5 - 3 - 6 - 2 - 4 (นบั จากดา้ นลอ้ ตนุ กาลงั ) รอบเดนิ เบา 500 - 600 รอบ/นาที ระยะหา่ งหนา้ ทองขาว 0.010 - 0.012 น้วิ ระยะหา่ งเขีย้ วหวั เทียน 0.015 - 0.018 น้วิ เครือ่ งควบคุมความเร็ว ไม่ใช้ คอยล์จุดระเบดิ 12 โวลต์ (ประกอบกับตัวต้านทานลดแรงดันไฟ) มอเตอร์หมุนเคร่ืองยนต์ ชนดิ เฟืองขบั เคล่อื นตวั ตามแกน ควบคุมการทางานดว้ ยสวิตช์ อณุ หภูมิ (THERMAL TRIP SWITCH)

ห น้ า | 76 หัวเทียน แบบ SRL 14 PC สวิทซ์ไฟเตือนระบบหล่อลื่น แบบแผ่นสมั ผสั ทางานเม่ือแรงดัน 8 - 12 ปอนด์/ตร.น้ิว สวิทซ์ไฟเตือนระบบระบายความร้อน แบบแผน่ สมั ผสั ทางานเม่อื อุณหภมู ิ 106 องศา ซ. (223 องศา ฟ.) หม้อกรองอากาศ แบบอา่ งเปยี ก เครื่องเปลยี่ นความเรว็ แบบ TN 15 X ชนดิ เปล่ยี นเกียร์ได้เรว็ มเี กยี รเ์ ดินหน้า และ เกยี ร์ถอยหลังอยา่ งละ 7 เกยี ร์ เครื่องบงั คบั เล้ียว ระบบเมอรติ ทางานรว่ มกับชุดเฟืองเกยี รเ์ ครอื่ งเปล่ียนความเรว็ เฟืองขบั ขนั้ สดุ ท้าย แบบเฟืองเกียร์บริวารทดรอบชดุ เดยี ว ห้ามลอ้ หลัก แบบหา้ มล้อจาน ชนดิ ลกู ปัม๊ หา้ มล้อบีบตัวเข้าหากัน ทางานด้วย ของเหลว ห้ามล้อจอดรถ แบบคันโยกด้วยมือ และตอ่ สายลวดไปยงั ปลอกรัดผ้าห้ามล้อบน จานห้ามลอ้ หลัก คันเกียรเ์ ครือ่ งเปลยี่ นความเรว็ แบบชดุ ขอ้ ต่อและก้านโยงทางานทางกล บงั คับการทางานดว้ ยเท้า คันเกยี ร์ เดินหน้า-ถอยหลงั แบบ ชดุ ขอ้ ตอ่ และกา้ นโยงบังคับการ ทางานด้วยมือ คันบังคับเล้ียว ทางานด้วยการส่งน้ามันไปบังคับการทางานของห้ามลอ้ บงั คบั เลยี้ ว เครื่องพยุงตวั รถ แบบ คานรับแรงบิดขา้ งละ 5 อัน เครอ่ื งผอ่ นแรงสะเทอื น ตดิ ต้งั ทลี่ ้อกดสายพานดา้ นหน้าละดา้ นหลงั สายพาน แบบ PHASE II ทาด้วยเหล็กกล้า นาหนักเบาประกอบด้วยแผ่นยางรอง สายพาน และบูชรองสลักสายพาน จานวนขอ้ สายพานแต่ละด้าน 78 - 79 ข้อ ความตงึ หย่อนของสายพาน 135 - 155 มม.วัดจากใตช้ านรถดา้ นในลงมาจนถงึ กลางของชอ่ ง รบั เฟืองขบั สายพาน เหนอื ลอ้ กดที่ 3 ระบบไฟฟ้า แหลง่ จา่ ยกาลงั ไฟฟ้า แบตเตอรี่ แบบ UK-6 TN ขนาด 12 โวลท์ 100 แอมป์/ชม. จานวน4 หม้อ แบง่ ออกเปน็ 2 ชดุ คือ - ชุดแบตเตอรีป่ ระจารถ จานวน 2 หม้อ - ชุดแบตเตอร่ีป้อมปืน จานวน 2 หม้อ การต่อวงจร (แต่ละชุด) แบบอันดบั ขัว้ ลบลงดิน เครอื่ งกาเนดิ ไฟฟ้า แบบกระแสสลบั พร้อมดว้ ยเคร่อื งเรยี งกระแสขนาด 140 แอมป์ แรงดัน 28 โวลท์ ทร่ี อบหมุน 3,000 - 10,000 รอบ/นาที

ห น้ า | 77 ความจุ ความจุของระบบตา่ งๆ ลิตร อมิ พีเรยี ล ยเู อส 93 แกลลอน 111.6 แกลลอน ถงั น้ามนั เชือ้ เพลงิ 23 20 ไพนท์ 24 ไพนท์ 6 ไพนท์ ระบบหล่อลน่ื เครอ่ื งยนต์ 11.4 9 ไพนท์ 57.6 ไพนท์ 48 ไพนท์ 25.8 ไพนท์ หมอ้ กรองอากาศ 2.9 20 ไพนท์ 2 1/4 ไพนท์ 2.7 ไพนท์ ระบบระบายความรอ้ น 27.3 1/2 ไพนท์ 0.6 ไพนท์ 1/2 ไพนท์ 0.6 ไพนท์ เครอ่ื งเปลี่ยนความเร็ว 11.3 1/8 ไพนท์ 0.05 ไพนท์ 4 แกลลอน 4.75 แกลลอน เฟืองขบั ขั้นสดุ ท้าย (แต่ละตัว) 1.3 16 แกลลอน/นาที 19 แกลลอน ดุมล้อกดสายพาน (แตล่ ะตวั 0.3 ดุมลอ้ ปรับสายพาน (แตล่ ะตวั ) 0.3 ดมุ แขนลอ้ กดสายพาน (แต่ละตวั ) 0.1 ถงั นา้ ดื่ม 18 ปม๊ั สูบนา้ (ทางานด้วยมือ) 72 ลิตร/นาที

ห น้ า | 78 * เครื่องหมายน้ี แสดงวา่ รถไมอ่ ยู่ในสภาพพรอ้ มใช้งาน ถ้ามีการแตก หัก สญู หาย ทางานบกพร่อง หรอื มี การร่วั ไหลระดบั 3 ในรายการน้นั ๆ การตรวจก่อนใช้งาน ( ถ.เบา 21 ) ลาดับ รายการ * 1. ตรวจสายพาน และปรบั ความตึงหย่อนตามความจาเป็น * 2. ตรวจหบี เก็บสัมภาระและยทุ โธปกรณป์ ระจารถทตี่ ิดต้งั ภายนอกรถ * 3. ตรวจท่ออากาศเข้า ทอ่ อากาศออกของระบบระบายอากาศประจารถ * 4. เครอ่ื งดบั เพลิงเคล่ือนทไ่ี ด้ทุกอัน * 5. ท่เี กบ็ สัมภาระและยทุ โธปกรณ์ท่ตี ิดตงั้ ภายในป้อมปนื * 6. หมุนป้อมปืนและตรวจ ระดบั นา้ ระบายความรอ้ น นา้ มนั เครือ่ งยนต์ * 7. เครือ่ งดับเพลงิ ประจาท่ี * 8. ตรวจการรัว่ ไหลภายในหอ้ งเครอ่ื งยนต์ และสภาพองค์ประกอบตา่ ง ๆ ภายในห้อง เครอื่ งยนต์ * 9. ตรวจระดับน้ามันของเครื่องเปล่ียนความเร็ว และระดับน้ามันในขวดน้ามันห้ามล้อหลัก และห้ามลอ้ บงั คับเล้ียว * 10. ติดเครื่องยนต์ ตรวจการทางานของไฟเตือนและเครอ่ื งวดั ต่าง ๆ ตรวจการทางานของลิ้น ระบายนา้ ในหอ้ งเกียร์ และการทางานของระบบระบายอากาศประจารถ การตรวจระหว่างใชง้ าน ลาดบั รายการ * 11. ตรวจการทางานของระบบบงั คบั เลยี้ ว ระบบหา้ มล้อ แป้นเกียรเ์ ปลีย่ นความเร็ว และการทางานของเครือ่ งยนต์ * 12. ระบบแสงสว่าง ระบบไฟสัญญาณเลี้ยว เคร่ืองฉีดน้าล้างกระจก และเครื่องปัดน้าฝน ตรวจแตรรถ ถ้าสถานการณ์อานวยใหก้ ระทาได้ * 13. การทางานของเครือ่ งติดตอ่ สอ่ื สารประจารถ การตรวจขณะหยุดพกั (อยา่ งน้อยวนั ละหนงึ่ ครง้ั ) ลาดบั รายการ * 1. ตรวจการร่ัวไหลของน้าระบายความร้อน น้ามันเชื้อเพลิง น้ามันเครื่องยนต์ และ น้ามนั เคร่อื งเปลี่ยนความเรว็ * 2. ดมุ ล้อกดสายพาน ดมุ ลอ้ ปรบั ฯ และหบี เฟอื งขบั ขั้นสดุ ท้ายวา่ ร้อนจัดเกนิ ควรหรือไม่

ห น้ า | 79 การตรวจขณะหยุดพัก (อยา่ งน้อยวันละหน่งึ ครั้ง) ตอ่ ( ถ.เบา 21 ) ลาดับ รายการ * 3. ตรวจความตงึ หยอ่ นของสายพาน * 4. ตรวจสายพาน แผน่ ยางรองสายพาน สลกั สายพาน และบชู รองสลกั สายพาน * 5. ตรวจคานรบั แรงบดิ * 6. ลอ้ กดสายพาน และล้อปรบั สายพาน * 7. เฟอื งขับสายพาน และล้อขับสายพาน * 8. กระบอกปรบั สายพาน และเครื่องผอ่ นแรงสะเทอื น การตรวจหลงั ใช้งาน ลาดับ รายการ * 1. ทาการตรวจ และบริการขณะหยุดพักทกุ รายการ ซา้ อีก * 2. ตรวจระดับน้ามันเช้ือเพลิง น้ามันเคร่ืองยนต์ น้ามันเคร่ืองเปล่ียนความเรว็ และน้าระบาย ความรอ้ น เตมิ ตามตอ้ งการ * 3. ทาการแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งทีต่ รวจพบ และรายงานสิ่งที่พลประจารถแกไ้ ขไมไ่ ด้ 4. ทาความสะอาดรถ 5. ถ้าต้องจอดรถไว้กลางแจง้ และสภาพอากาศเลวรา้ ยให้คลุมรถดว้ ยผา้ ใบ การตรวจประจาสปั ดาห์ ลาดบั รายการ * 1. ให้บริการแบตเตอรี่ท้งั 2 ชุด โดยตรวจระดับน้ากรด ความสะอาด การขันแนน่ ขวั้ ตอ่ สายไฟ และการยดึ ตรงึ *2. ระบบระบายอากาศประจารถ * เคร่ืองหมายน้ี แสดงว่ารถไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ถ้ามีการแตกหัก สูญหาย ทางานบกพร่อง เส่ือมสภาพ หรอื มีการร่ัวไหลระดับ 3 ในรายการน้นั ๆ ……………………….

ห น้ า | 80 แผนกวิชายานยนต์ กองการศกึ ษา โรงเรียนทหารม้า ศนู ย์การทหารมา้ ค่ายอดศิ ร สระบุรี ---------- คท.9-2350-201-12, ก.ค.2501 คุณลกั ษณะและมาตราทาน รถถัง M41A1 และ M 41A3 1.คณุ ลักษณะโดยทั่วไป รถถงั M41A1 และ M41A3 เป็นยานรบที่มีเกราะหุ้มสาหรับป้องกันตัว ติดตั้งปืน ใหญก่ ระสนุ วิถีราบ ขนาด 76 มม. เคลอ่ื นท่ีด้วยสายพาน สามารถปฏิบัติการได้ในภูมปิ ระเทศที่มอี ุณหภูมิ -65 องศา ฟ.ถึง +125 องศา ฟ.โดยไดอ้ อกแบบสรา้ งให้มีรูปร่างเหมาะสมกะทัดรัด มีนา้ หนักเบา สามารถทาการ บรรทุกขนส่งทางอากาศได้ อาวุธหลักคือปืนใหญ่รถถัง ขนาด 76 มม. M32 ความเร็วต้นสูง ติดต้ังอยู่บน ป้อมปืนซ่ึงหมุนได้รอบตัว 360 องศา และมีปนื กลบราวน่งิ ระบายความร้อนด้วยอากาศ 2 กระบอก คือปืนกล ร่วมแกนขนาด .30 นวิ้ และปืนกลตอ่ สู้อากาศยานขนาด .50 น้ิว ติดตั้งอยบู่ นหลงั ป้อมปนื แทน่ ใดแทน่ หนึ่งใน จานวน 2 แท่น ภายในตัวรถแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ 3 ห้อง คือ ห้องพลขับ ห้องหอรบ และห้อง เครื่องยนต์ 1.1 ห้องพลขบั ติดต้ังอย่สู ว่ นหน้าดา้ นซา้ ยของตวั รถ เป็นท่ีตดิ ตั้งเคร่อื งบังคับและควบคมุ การทางาน ต่างๆ ของพลขับตลอดจนแผงหน้าปัดและเครื่องวัดต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทางานของเคร่ืองยนต์ และ เครือ่ งเปล่ียนความเร็ว 1.2 ห้องหอรบ ติดต้ังอยู่กงึ่ กลางของตัวรถ เป็นท่ีติดตัง้ เคร่ืองควบคุมและเคร่ืองบังคับ ซ่ึงเกี่ยวข้อง กบั การทางานของระบบควบคุมการยิง เชน่ การหมุนป้อมปืน และการให้ทางสูง เป็นต้น และยังทาหน้าที่ เป็นฐานรองรับป้อมปนื 1.3 หอ้ งเคร่ืองยนต์ ติดตั้งอยู่ส่วนท้ายของตัวรถเป็นท่ีติดตั้งเครื่องยนต์,เครื่องเปลี่ยนความเร็ว และ ถงั น้ามนั เช้อื เพลงิ ทุกๆ ห้องดังกลา่ วมาแล้วจะมผี นังเหล็กกั้น และทาหน้าทเี่ ปน็ ผนังกันไฟอยู่โดยรอบ รถถัง บ. 41 มพี ลประจารถทั้งหมด 4 นาย คือ ผบ.รถ พลยงิ พลบรรจุ และพลขบั 2. เคร่ืองกาเนดิ กาลงั 2.1 เครื่องยนต์ รถถัง M41A1 และ A3 เปน็ เครื่องยนตแ์ กส๊ โซลีน แบบ AOSI-895-5M, 6 สูบ นอน ตรงกันข้าม ระบายความร้อนด้วยอากาศ เรือนสูบแบ่งออกเป็น 2 ข้าง ข้างละ 3 สูบโดยมีเพลาราวลิ้น และล้ินติดต้ังอยู่บนหัวเรอื นสูบทั้งสองข้าง ปริมาตรในกระบอกสูบท้งั หมด 895 ลบ.นิ้ว ใช้ระบบสูบฉดี น้ามัน เชือ้ เพลิง มที ่อไหลเชี่ยว 2 ทอ่ ใช้ระบบจุดระเบิดด้วยแมกนโี ต 2 ตัวให้กาลัง 500 แรงม้า เมื่อเครือ่ งยนตห์ มุน 2,800 รอบ/นาที 2.2 เครื่องเปลี่ยนความเร็ว เป็นแบบขับขวางอัลลิสัน CD500-3 จะยึดติดอยู่กับเครื่องยนต์ด้านล้อ ตุนกาลัง ด้วยสลักเกลียวและแป้นเกลียว เพื่อให้ถอดแยกออกจากเครื่องยนต์ได้ง่าย เคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว ประกอบด้วยเคร่ืองแปลงแรงบิดทางานด้วยของเหลวหรือ\"ทอร์คคอนเวอร์เตอร์\" หมู่เฟืองเปลี่ยนความเร็ว ระบบห้ามล้อ และระบบบังคับเลี้ยวพร้อมด้วยหมู่เฟืองทดกาลังเปลี่ยนทิศทาง การควบคุมและบังคับการ

ห น้ า | 81 ทางานของเกียร์เปลี่ยนความเร็ว ระบบห้ามล้อ และระบบบังคับเล้ียวกระทาได้โดยใช้คันบังคับและก้านโยง ตา่ งๆ ในห้องพลขบั กาลงั ท่ีออกจากเคร่อื งเปลย่ี นความเร็ว จะถูกส่งผ่านเพลาขบั สนั้ ทง้ั สองข้างไปยังหีบเฟือง ขับขนั้ สดุ ท้าย เพ่อื ขบั ลอ้ ขับสายพานตอ่ ไป 2.3 ระบบเคร่ืองพยุงตัวรถ ใช้ล้อกดสายพานทางานโดยอิสระ อยู่ 10 คู่(ข้างละ 5 คู่)สาหรับรองรับ น้าหนกั ของรถ ลอ้ กดสายพานแตล่ ะล้อจะติดอยู่กับดมุ แขนล้อกดสายพาน และคานรับแรงบิดข้างหนง่ึ โดยมี ปลายอีกข้างหน่ึงของคานรับแรงบิดสวมยึดติดอยู่กับสมอบก ซ่ึงติดตั้งอยู่ด้านข้างของตัวรถด้านตรงกันข้าม และทต่ี ัวรถแตล่ ะดา้ นจะมีแหนบหยุดแขนลอ้ กดสายพาน ซึง่ ทาหนา้ ทปี่ ้องกันไม่ให้ แขนลอ้ กดฯ เคลอ่ื นที่ขึ้นสูง มากเกนิ ไป เมื่อขบั รถในภูมปิ ระเทศจนอาจทาให้คานรับแรงบิดหัก 2.4 เครื่องผ่อนแรงสะเทือน จะทาหน้าที่ดูดกลืนอาการสั่นสะเทือนเม่ือรถเคล่ือนที่ในภูมิประเทศ โดยมีปลายข้างหนึง่ สวมยึดติดกบั แขนล้อกดสายพาน และปลายอีกข้างหน่งึ สวมยดึ ติดกบั ฐานติดตง้ั บนผนงั ตัว รถ ล้อกดที่ 3 และที่ 4 ไม่มเี ครอ่ื งผ่อนแรงสะเทือน และมีล้อปรับสายพานติดต้ังอยู่ทางด้านหนา้ ซ้ายและขวา ของรถ เพื่อใชส้ าหรับปรับความตึงหย่อนของสายพานทงั้ สองข้าง 3. รายละเอียดและมาตราทาน อาวธุ - ปนื ใหญก่ ระสนุ วถิ รี าบ ขนาด 76 มม.M 32 1 กระบอก - ปนื กลร่วมแกน ขนาด .30 นิว้ 1 กระบอก - ปนื กลต่อสู้อากาศยาน ขนาด .50 นว้ิ 1 กระบอก มาตราทานรถ พลประจารถ 4 นาย เครอ่ื งยนต์ คอนติเนนตลั 6 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ มีเครื่องเพมิ่ ไอดี แบบ AOSI-895-5M แรงมา้ 500 แรงม้าเมื่อเครอ่ื งยนตห์ มุน 2,800 รอบ/นาที ลาดบั การจุดระเบิด 1-6-3-2-5-4 เครอื่ งเปลีย่ นความเร็ว อัลลิสัน CD 500-3 แบบขบั ขวาง ขนาด ความยาว (ปืนใหญอ่ ยใู่ นตาแหน่งเก็บเดินทาง) 23 ฟุต 1 นว้ิ ความกว้าง 10 ฟตุ 5 7/8 นว้ิ ความสงู 10 ฟตุ 1 13/16 นว้ิ ระยะพน้ พนื้ ดินต่าสดุ 1 ฟุต 5 11/16 นิว้ น้าหนกั กดพน้ื ดิน 10.2 ปอนด/์ ตร.น้วิ ระบบไฟฟ้า 24 โวลท์ จานวนแบตเตอร่ี (12 โวลท์) 4 หมอ้ ตอ่ วงจรแบบอนั ดับ-ขนาน ขว้ั ลบลงดิน ความจุ อา่ งน้ามนั เครื่องยนต์ (เตมิ ใหม)่ 44 ควอต

ห น้ า | 82 หบี เฟอื งขบั ข้นั สุดท้าย (ตัวละ) 4.9 ควอต ถังน้ามนั เชือ้ เพลงิ (2 ถงั ) 140 แกลลอน เคร่อื งเปลยี่ นความเรว็ (เตมิ ใหม)่ 44 ควอต สมรรถนะ ความเร็วอนมุ ตั ิใช้งานบนถนน 11.5 ไมล/์ ชม. - เกียร์ตา่ 45 ไมล์/ชม. - เกียรส์ ูง 11.5 ไมล/์ ชม. - เกยี ร์ถอยหลัง 25 ไมล/์ ชม. ความเรว็ เดนิ ทาง 100 ไมล์ ระยะปฏิบัติการ 178 มลิ (10 องศา) มุมกดของปืน (ตา่ สุด) 355 มิล (20 องศา) มุมเงยของปืน (สงู สดุ ) 3 ฟตุ 4 นิ้ว การลยุ น้าลกึ (สูงสดุ ) 0.7 ไมล/์ แกลลอน ความส้ินเปลอื งนา้ มันเช้ือเพลงิ 60 % ความสามารถในการปนื ลาด 5,000 ปอนด์ นา้ หนักฉุดลาก (สงู สุด) 6,400 มลิ (360 องศา) การหมุนป้อมปนื 15 วนิ าที เวลาที่ต้องใชใ้ นการหมุนปอ้ มปืนดว้ ยกาลังครบ 360 องศา 18 ฟุต รัศมีวงเลีย้ วต่าสดุ (เกียร์ต่า) 55 ฟตุ รศั มีวงเลี้ยวต่าสดุ (เกียรส์ ูง) 2 ฟุต 4 นิ้ว ขา้ มเครอ่ื งกีดขวางทางดงิ่ ไดส้ ูง 6 ฟตุ ขา้ มคกู ว้าง สายพาน T 91 E 3 แบบ 74 ขอ้ จานวนขอ้ สายพาน (รถรุ่นเก่า) 75 ขอ้ 21 น้ิว (รถรุ่นใหม่) สลกั เดี่ยว หกเหลยี่ ม ความกว้างของสายพาน แบบสลกั สายพาน **************

ห น้ า | 83 แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดศิ ร สระบุรี ---------- คท.9-2350-258-10, ธ.ค.2519 คณุ ลักษณะมาตราทาน รถถัง M48A5 1. กล่าวนา รถถงั M48A5 เป็นรถถังขนาดกลางหรือรถถังหลัก ตัวรถและป้อมปืนสร้างด้วยเกราะเหล็กกล้าเป็น เน้อื เดียวกันตลอด โดยการหลอ่ ขนึ้ รูปทั้งตัวรถและป้อมปืน ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะทรวดทรง และมี มุมลาด ท่ีสามารถป้องกันการทะลุทะลวงจากกระสุนปืนให้กับพลประจารถได้ดีที่สุด และได้รับการติดตั้ง อาวุธปืนใหญ่ ขนาด 105 มม. ปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62 มม.และปืนกล ขนาด .50 นิ้ว หรือปืนกล ขนาด 7.62 มม.(M60D) ท่ีป้อมตรวจการณข์ องผู้บังคบั รถ 2. องค์ประกอบหลกั ,ท่ีติดต้ังและคณุ ลักษณะโดยทวั่ ไป รถถัง M48A5 แบ่งออกเปน็ 3 ตอน คอื - ตอนหน้า เป็นห้องพลขับซ่ึงเป็นท่ีตดิ ต้งั แผงเครื่องวัด ฯ สวิตช์เคร่ืองควบคมุ และคันบงั คบั ต่าง ๆ ท่ี จาเปน็ ตอ้ งใช้ในการควบคมุ การทางานของเคร่ืองยนตแ์ ละการขับรถ - ตอนกลาง เป็นหอ้ งหอรบซึ่งเป็นที่ติดต้ังปอ้ มปืน และภายในปอ้ มปนื จะติดต้ังระบบอาวุธประจารถ เคร่ืองวัดฯ และเคร่ืองควบคุมต่าง ๆ ที่จะเป็นต้องใช้ในการหมุนป้อมปืน การยกปืนขึ้น-ลง เคร่ืองล่ันไกปืน ใหญ่ และปืนกลร่วมแกน - ตอนหลัง เป็นห้องเคร่ืองยนต์ซ่ึงเป็นท่ีติดต้ังเคร่ืองยนต์ เครื่องเปล่ียนความเร็วและถังน้ามัน เชอื้ เพลิง 2 ถัง 3. ตวั รถ ดา้ นบนของตัวรถจะมีช่องเปิดต่าง ๆ สาหรับติดต้ังป้อมปืน ฝาปิดห้องพลขับ โครงดาดฟ้าท้ายรถ ฝา บานเกล็ดปิดห้องเคร่ืองยนต์ และเคร่ืองเปล่ียนความเรว็ ฯลฯ ที่พื้นรถใต้ที่นั่งพลขับเป็นทีต่ ิดตัง้ ฝาปิดช่องทาง หลบหนีและบริเวณใตท้ อ้ งรถตอนหลงั จะมีแผน่ ปิด ปดิ ช่องใตท้ ้องรถซึ่งสามารถถอดออกได้ ตามบรเิ วณท่ีตดิ ตั้ง องค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้การบริการต่อองคป์ ระกอบนั้นๆ เช่น การถ่ายนา้ มันเชื้อเพลิง ถา่ ยน้ามันเคร่ืองยนต์ และถ่ายน้ามันเครื่องเปล่ียนความเร็ว รวมทั้งการจัดปรับองค์ประกอบของเครื่องเปลี่ยนความเร็วอีกด้วย นอกจากน้ีบริเวณพ้ืนรถยังมีลิ้นถ่ายน้าในห้องพลประจารถ 1 ตัว และลิ้นถ่ายน้าในห้องเครื่องยนต์อีก 1 ตัว ด้านหลังของตัวรถมีขอพ่วง 1 ตัว สาหรับลากจูงรถ และยังมีขอลากจูงสาหรับสวมเก่ียวลวดลากจูงอยู่ทาง ด้านหน้า และดา้ นหลังรถอีกด้านละ 2 ตวั โคมไฟใหญ่ จะตดิ ตง้ั ไว้ทางด้านหน้ารถตอนบนข้างละ 1 ดวง และ โคมไฟทา้ ยจะตดิ ต้ังอยู่ทางดา้ นหลงั รถตอนบน ข้างละ 1 ดวงเช่นกนั

ห น้ า | 84 4. การกาหนดด้านหน้า-หลัง-ซ้าย และขวาของรถ ด้านหนา้ หลัง ซ้าย และขวาของรถถัง M48A5 ที่ถกู กลา่ วถึงตามบรเิ วณท่ัวๆ ไปของรถ หรอื ดา้ นน้นั ๆ ของรถ จะกาหนดได้ด้วยการหันหน้าเข้าหาด้านหลังของห้องเคร่ืองยนต์ ซึ่งเรียกว่าด้านหลังรถ ยกเว้นการ กาหนดดา้ นต่างๆ ของเครือ่ งยนต์ โดยใหเ้ รียกด้านทต่ี ดิ ตงั้ เรือนหมอ้ กรองน้ามนั เคร่อื งยนต์ว่า เป็นด้านหน้าของ เครอ่ื งยนต์ และดา้ นเครื่องเปลี่ยนความเรว็ เป็นด้านหลงั สว่ นด้านซ้ายและขวาจะกาหนดได้ด้วยการมองหันหน้า เขา้ หาเรือนหม้อกรองนา้ มันเครอ่ื งยนต์ 5. ระบบพยุงตวั รถ รถถัง M48A5 ใช้ระบบพยุงตัวรถดว้ ยคานรบั แรงบดิ ประกอบด้วย ลอ้ กดสายพานข้างละ 6 ลอ้ และ สายพานดา้ นบนจะถกู พยงุ และรองรบั ไวร้ ะหวา่ งล้อขบั สายพาน และลอ้ ปรับสายพานด้วยล้อรบั สายพานข้างละ 5 ล้อ และล้อต่าง ๆ ในระบบพยุงตัวรถเป็นล้อแบบล้อคู่ท้ังสิ้นสายพานท้ังสองข้าง จะถูกขับด้วยซี่เฟืองล้อขับ สายพานซ่ึงอยู่ทางด้านท้ายรถ ที่ล้อปรับสายพานด้านหน้ารถแต่ละข้าง จะมีก้านโยงจากแกนกระบอกปรับ ความตึงของสายพาน เชื่อมต่ออยู่ระหว่างแขนล้อปรับสายพานและดุมแขนล้อกดสายพานล้อที่ 1 ระ ยะ เคล่ือนท่ีขึน้ -ลงของลอ้ กดสายพานแต่ละลอ้ จะถูกจากัดดว้ ยแหนบหยดุ แขนล้อกดฯ และแหนบหยุดแขนล้อกด ฯ ของล้อกดสายพานล้อท่ี 1จะเปน็ แหนบขดแบบคู่ สว่ นลอ้ ท่ีเหลือจะเป็นแหนบขดแบบเด่ียวในระบบพยุงตัว รถ แต่ละข้างจะมีเครื่องผ่อนแรงสะเทือนเพ่ือดูดกลืน และผ่อนคลายแรงสะเทือนติดอยกู่ ับแขนล้อกดสายพาน ล้อท่ี 1 ท่ี 2 และลอ้ ท่ี 6 ตามลาดบั 6. เครื่องทาความอบอุ่นประจารถ ตดิ ตัง้ อยู่บนพน้ื รถดา้ นหนา้ สุดภายในหอ้ งพลขับ มีไว้เพอ่ื ใหค้ วามอบอุ่นแก่พลประจารถเม่ือปฏิบตั ิการ ในภูมิอากาศหนาวเย็น เครือ่ งทาความอุ่นเป็นแบบเผาอากาศให้ร้อน โดยใช้น้ามันเชื้อเพลิง จากระบบน้ามัน เชอ้ื เพลงิ ของเครื่องยนต์ 7. ระบบผนกึ ยางกันน้า บริเวณโดยรอบระหว่างตัวรถและป้อมปืนจะมีผนึกยางกันน้า ซึ่งพองตัวได้ด้วยแรงอัดของลมอุด ช่องวา่ งระหว่างตวั รถ และป้อมปืนไว้ไม่ให้นา้ ร่วั เข้าไปภายในตัวรถในขณะลุยข้ามน้า โดยผนกึ ยางกันน้าจะติด อยู่รอบๆ ตัวรถ และหันดา้ นเปิดเข้าหาป้อมปนื ระบบควบคมุ การอัดลมจะติดตั้งอยู่ในห้องพลขับ ประกอบด้วย ปมั๊ สูบลมดว้ ยมือ เคร่อื งวัดความดนั ลม ล้นิ ควบคุม และทอ่ ลมต่าง ๆ 8. ลน้ิ ถ่ายนา้ ของตัวรถ ที่พ้ืนรถจะมีลิ้นถ่ายนา้ บังคับการทางานดว้ ยมืออยู่ 2 ตวั ติดต้ังอยู่ภายในห้องพลขับ 1 แห่ง ติดตั้งอยู่ ภายในห้องเครือ่ งยนต์อกี 1 แห่ง เพื่อใช้ในการถ่ายน้าท่ีร่ัวไหลเข้ามาตกค้างอยู่ภายในตวั รถและท่ีเรือนลน้ิ ถ่าย น้าแต่ละตัวจะมีกระเด่ืองกดล้นิ และก้านโยงต่อเข้ามายังคันบังคับลน้ิ ถ่ายนา้ ซง่ึ อยดู่ า้ นหลงั ที่นง่ั พลขบั 9. ระบบเคร่อื งดบั เพลงิ ประจารถ ระบบเครื่องดับเพลิงประจารถ เป็นแบบบังคับใช้งานได้สองครั้งสามารถใช้ดับเพลิงท่ีเกิดจาก กระแสไฟฟ้า น้ามันเช้ือเพลิง หรือน้ามันเครื่องยนต์ ระบบน้ีประกอบด้วยหม้อน้ายาดับเพลิง จานวน 3 หม้อ พร้อมด้วยคันบงั คับการทางานชดุ กา้ นโยง และล้ินควบคุมภายในหอ้ งพลขบั ทีห่ ัวหม้อนา้ ยาดบั เพลิงทง้ั 3 จะ มที ่อส่งน้ายาเข้าไปภายในห้องเคร่ืองยนต์ ท่อฉีดน้ายาฯ สองท่อจะวางเป็นแนวยาวไปตามดา้ นข้างถังน้ามัน

ห น้ า | 85 เชื้อเพลิงถังซ้ายและถังขวา ท่อฉดี น้ายาแต่ละท่อจะเจาะรูเรียงกันไว้เป็นแถวในระดับต่าง ๆ กัน เพ่ือให้เกิด การกระจายของนา้ ยาดับเพลงิ อย่างท่วั ถึงในห้องเคร่ืองยนต์ และทอ่ ฉีดนา้ ยาอันท่ี 3 จะตดิ ตงั้ อยู่ระหว่างแนว กระบอกสบู รูปตัว \" V \" ของเคร่ืองยนต์ ระบบเครื่องดับเพลิงนี้ สามารถบงั คับการใชง้ านจากภายนอกตัวรถได้โดยการดึงคันบงั คับ ซึ่งติดตัง้ อยู่ บนลาดทางด้านหน้า-ซา้ ยของรถ 10 ระบบกล้องตรวจการณ์ด้วยแสงอนิ ฟราเรด รถถัง M48A5 จะใช้ระบบกล้องตรวจการณ์ด้วยแสงอนิ ฟราเรดสาหรับการขับรถหรือการปฏิบัติงาน ในเวลากลางคืนของพลขับ เป็นกล้องตรวจการณ์ แบบ M24 ซึ่งในขณะใช้งานจะติดต้งั เข้ากับฐานติดต้ังกล้อง บนฝาปิดหอ้ งพลขบั 11. เครือ่ งกรอง นชค. ภายในรถถงั M48A5 จะตดิ ตง้ั อุปกรณ์นี้ จานวน 2 เคร่อื ง เพอ่ื ใชส้ าหรับกรองฝุ่นผง และไอพิษใหก้ ับ พลประจารถในขณะปฏบิ ัติงานอย่ใู นพื้นท่ีอันตราย โดยจดั ไว้สาหรบั พลขับ 1 เคร่อื ง จดั ไว้ให้ผบู้ ังคับรถ พลยิง และพลบรรจใุ ช้ร่วมกนั อีก 1 เครื่อง เคร่ืองกรอง นชค. เปน็ แบบ M8A3 และจะตอ้ งใช้รว่ มกับหนา้ กากป้องกัน ไอพษิ แบบ M24A1 หรือแบบ M25 คาเตือน เคร่ืองกรอง นชค.หรือหน้ากากป้องกันไอพษิ ไม่สามารถป้องกันอันตรายจากแก๊สคาร์บอน โมน๊อกไซด์ ข้อควรระวัง ในขณะล้างทาความสะอาดรถต้องทาอย่างระมัดระวัง และอย่าให้น้าเข้าไปในเครื่อง กรองฯ เพราะจะทาใหไ้ ส้กรองเสยี หายจนใช้การไม่ได้ มาตราทาน ความจุ (เช้อื เพลิง และน้ามนั เครือ่ ง) - ถังน้ามันเช้ือเพลิง(รวม) 385 ยูเอสแกลลอน (320.5 อิมพีเรียลแกลลอน หรือ 1456.9 ลติ ร) - อ่างนา้ มนั เคร่อื งยนต์ (เติมใหม่โดยประมาณ) 16.5 ยเู อสแกลลอน (เครือ่ งยนต์ รนุ่ 2 D) 13.7 อมิ พีเรยี ลแกลลอน (หรือ 62.28 ลิตร) 13.0 ยเู อสแกลลอน (เครอื่ งยนต์ ร่นุ 2 A) 10.8 อมิ พีเรยี ลแกลลอน (หรอื 49.99 ลติ ร) - เครื่องเปลี่ยนความเร็ว (เติมใหม่โดยประมาณ) 17 ยูเอสแกลลอน (14.2 อิมพีเรียลแกลลอนหรือ 64.5 ลติ ร) เคร่อื งควบคมุ และคนั บังคับตา่ งๆ หา้ มลอ้ - การทางาน ระบบไฮดรอลกิ บงั คบั ด้วยคนั ห้ามลอ้ เทา้ เคร่อื งบงั คบั เลี้ยว - แบบ ระบบไฮดรอลกิ ทางานดว้ ยคันบังคบั ทางกล

- ความสามารถในการเล้ียว ห น้ า | 86 ตาแหนง่ ใชง้ านของคันเกยี รเ์ คร่ืองเปล่ียนความเร็ว หมนุ เลยี้ วอยูก่ บั ที่ 360 องศา N (ว่าง) P (จอดรถ) การใช้งาน หมุนเลยี้ วอยู่กับท่ี การใช้งาน ยึดห้ามล้อไว้ในขณะจอดรถ และ L (ตา่ ) เปน็ ตาแหน่งสาหรับหมนุ ติดเครื่องยนต์ การใชง้ าน ขับรถข้นึ และลงลาดชนั หรอื ใช้งานใน H (สงู ) พน้ื ที่ดินออ่ น หรือที่ขรขุ ระมาก ความเรว็ เดินทาง สงู สุด 10 ไมล/์ ชม.(16 กม./ชม.) R (ถอยหลัง) การใชง้ าน ใชใ้ นการขับปกติ ความเร็วเดินหนา้ สูงสุด 30 ไมล์/ชม. (48 กม./ชม.) ขนาด การใชง้ าน ใชใ้ นการขบั ถอยหลงั ตามปกติและไต่ - ความยาว (เมอื่ ปืนใหญอ่ ยใู่ นตาแหนง่ เดินทาง) ขน้ึ ลาดสูงชนั เพอื่ ใหไ้ ดก้ าลงั ขับจากเครือ่ งยนต์ - ความยาว (เมือ่ ปนื ใหญ่อยู่ทางดา้ นหน้า) สงู สดุ ความเรว็ ถอยหลงั สูงสุด 5 ไมล์/ชม.(8 กม./ชม.) - ความสงู (ลดลงได้ต่าสดุ ) - ความกว้าง 26 ฟตุ 5 น้วิ (8.255 เมตร) - ระยะหา่ งใต้ท้องรถ 30 ฟตุ 6 นว้ิ (9.29 เมตร) 10 ฟุต 10 น้ิว (3.2893 เมตร) ระบบไฟฟา้ 11 ฟุต 11 นวิ้ (3.6322 เมตร) เครือ่ งยนต์ 16.5 น้วิ (41.90 ซม.) - ชนิด 24 โวลท์ - แบบ ดีเซล 12 กระบอกสูบ ระบายความร้อนด้วย - แรงมา้ อากาศ จุดระเบดิ ดว้ ยกาลังอัดมเี คร่ืองเพิม่ ไอดี รอบความเรว็ ควบคุม ADVS 1790-2 A หรือ AVDS 1790-2 D - มีภารกรรมเตม็ ท่ี 750 แรงมา้ ณ 2,400 รอบ/นาที - ไม่มภี ารกรรม - น้ามนั เชอ้ื เพลิง 2,400 รอบ/นาที 2,650 รอบ/นาที - ระบบระบายความร้อนหลกั น้ามันดีเซลธรรมดา เบอร์ 2 (40 ซีเทน)(ต่าสุด) - ระบบระบายความร้อนน้ามนั หลอ่ ลื่น DF-2 VVF-800 อากาศ เครื่องระบายความร้อนด้วยอากาศตดิ ตง้ั อยู่ทเ่ี ครื่องยนต์

ห น้ า | 87 เครอื่ งเปลีย่ นความเร็ว - ชนดิ ขบั ขวาง CD-850-6 A มีเกยี ร์เดนิ หน้า 2 เกียร์ และเกยี รถ์ อย หลัง1 เกียร์ สมรรถนะ ความเรว็ สงู สุดทอ่ี นมุ ตั ใิ ห้ใช้ - เกียรต์ ่า 10 ไมล/์ ชม.(16 กม./ชม.) - เกยี รส์ งู 30 ไมล์/ชม.(48 กม./ชม.) - เกียรถ์ อยหลงั 5 ไมล์/ชม. (8 กม./ชม.) ระยะปฏิบัติการ (โดยประมาณ) 310 ไมล์/ชม. (499 กม.) ขา้ มเครอื่ งกีดขวางทางดง่ิ (ทางด้านหน้าไดส้ ูง) 36 นว้ิ (91.45 ซม.) ข้ามคกู วา้ งได้สงู สดุ 8 ฟตุ 6 นิว้ (2.591 เมตร) ลยุ ขา้ มน้าไดล้ ึก 4 ฟุต (1.2192 เมตร) โดยไมต่ ดิ ตั้งอุปกรณล์ ยุ ขา้ มน้าลึก ความสามารถในการไต่ลาดชันสงู สดุ - ลาดขึ้น 60 % - ลาดลง 60 % - ลาดขา้ ง 30 % การหมนุ ของปอ้ มปนื 360 องศา น้าหนกั - นา้ หนกั พร้อมรบ 108,000 ปอนด์ (54 ตัน)(48,987.9 กก.) - น้าหนกั กดพ้ืน 11.8 ปอนด์/ตร.นิว้ (.8 ตนั /ตร.เมตร) ระบบเคร่ืองกรอง นชค. - ขนาด 12 ลบ.ฟตุ /นาที แบบ ABC, M8A3 ให้การป้องกนั สว่ นบุคคล 4 คน หรือนอ้ ยกว่าตอ่ อุปกรณ์หน่งึ หนว่ ย (ตดิ ต้ังให้พลขับ 1 หน่วย และติดตั้งใหพ้ ลประจาป้อมปนื อีก 1 หนว่ ย) **************

ห น้ า | 88 * เครื่องหมายน้ี แสดงว่ารถไม่อยใู่ นสภาพพร้อมใช้งาน ถา้ มีการ แตกหัก สญู หาย ทางานบกพรอ่ ง หรอื มกี าร รว่ั ไหลระดบั 3 ในรายการน้ัน ๆ การตรวจกอ่ นใช้งาน ( ถ.M48A5 ) ลาดบั รายการ * 1. คานรบั แรงบดิ อันท่ี 1 หรือ อนั ที่ 6 ดา้ นซา้ ยและด้านขวา ทางานได้ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ * 2. ผนึกตะกั่วยึดลวดรอ้ ยคันบังคับเครอื่ งดับเพลิง * 3. ฝาปดิ ปอ้ ม ผบ.รถ และพลบรรจุมอี ยูห่ รือไม่ * 4. ฝาปิดปอ้ ม ผบ.รถ และพลบรรจใุ ช้งานไดเ้ รยี บรอ้ ยหรอื ไม่ 5. กลอนยึดฝาปดิ ป้อม ผบ.รถ และพลบรรจใุ ชง้ านไดเ้ รียบร้อย หรอื ไม่ * 6. กลอนยึดป้อมปนื ใชง้ านได้เรียบร้อย หรือไม่ * 7. เครอื่ งใหท้ างสูงดว้ ยมอื ใชง้ านได้เรยี บรอ้ ยหรือไม่ * 8. คันหมุนป้อมด้วยมอื ใช้งานไดเ้ รยี บรอ้ ยหรอื ไม่ * 9. ฝาปิดป้อมพลขับใช้งานไดเ้ รยี บร้อยหรือไม่ * 10. ทนี่ ่งั พลขับใชง้ านได้เรียบร้อยหรอื ไม่ 11. พนกั พิงท่นี ัง่ พลขบั ใช้งานไดห้ รอื ไม่ * 12. การพับท่ีน่ังพลขับเรง่ ด่วนใช้ได้หรอื ไม่ * 13. ฝาปิดชอ่ งหนขี องพลขับใช้ไดห้ รอื ไม่ 14. มีเดอื ยกลอนยึดฝาปดิ ชอ่ งหนี โผล่ท้งั 3 อนั หรือไม่ * 15. คันกลอนบงั คับฝาปดิ ช่องหนีขัดกลอนได้สนิทหรือไม่ * 16. คนั บังคับเครื่องดับเพลิงในห้องพลขับประกอบไวเ้ รียบรอ้ ยหรอื ไม่ *17. ผนกึ ตะกัว่ ยึดลวดร้อยคันบังคับเครอ่ื งดบั เพลิงในห้องพลขับมีอยเู่ รยี บรอ้ ยหรอื ไม่ * 18. หม้อดบั เพลงิ ประจาทต่ี ิดตง้ั เรียบร้อยหรอื ไม่ * 19. ผนึกตะกั่วยึดลวดร้อยหัวลิน้ ควบคุมเครื่องดับเพลงิ ในห้องพลขับมอี ยเู่ รยี บรอ้ ยหรอื ไม่ * 20 ท่อหดรอ้ ยหัวควบคุมเคร่อื งดับเพลงิ ใสไ่ ว้ถกู ตอ้ งหรือไม่ * 21. คันหา้ มลอ้ ทางานเรียบรอ้ ยหรอื ไม่ * 22. แมป่ ๊มั ห้ามล้อมกี ารรั่วไหลหรอื ไม่ 23. ไฟเตอื นสวติ ช์แบตเตอรี่ และไฟเตอื นเครอื่ งกาเนิดกาลัง ทางานได้เรยี บร้อยหรอื ไม่ * 24. ฝาปิดหมอ้ กรองอากาศ มอี ยู่ และไม่ชารุด * 25. สลักเกลยี วยึดฝาปิดหมอ้ กรองอากาศมคี รบและไม่ชารุด

ห น้ า | 89 การตรวจกอ่ นใช้งาน (ตอ่ ) ( ถ.M48A5 ) ลาดับ รายการ 26. เรือนหม้อกรองอากาศแตกรา้ วหรอื ไม่ * 27. หบู านพบั ฝาปดิ หมอ้ กรองอากาศไม่ชารุด * 28. จกุ ปดิ ช่องระบายทเี่ รือนหม้อกรองอากาศมอี ยู่ และไม่ชารดุ * 29. ฝาปดิ ช่องตรวจทห่ี ม้อกรองอากาศมอี ยแู่ ละไมช่ ารดุ * 30. ฝาบานเกลด็ ปิดดาดฟ้าทา้ ยรถมีอยคู่ รบ 31. สลกั ยึดฝาบานเกล็ดปิดดาดฟ้าทา้ ยรถมีครบและไมช่ ารุด *31 ฝาครอบเครือ่ งยนตไ์ ม่สูญหาย 32. ตะแกรงปิดเครอื่ งระบายความร้อนน้ามนั เครือ่ งไมส่ กปรก * 33. เคร่อื งระบายความรอ้ นน้ามันเคร่ืองไมช่ ารุด หรือรวั่ ไหล 34. ลน้ิ ถ่ายนา้ ของหมอ้ กรองแยกน้าและนา้ มนั เชอื้ เพลิงทางานเรยี บรอ้ ยหรอื ไม่ * 35. ท่อยางอากาศเขา้ ออกหมอ้ กรองอากาศมีอยู่ และไม่ชารุด * 36. ขอ้ ต่อท่ออากาศเขา้ ออกหม้อกรองอากาศไม่หลวมคลอน หรอื ชารดุ * 37. ปลอกรัดท่อยางทีข่ อ้ ตอ่ ทอ่ อากาศไม่ชารุด หรอื สูญหาย * 38. พัดลมระบายฝนุ่ ของหมอ้ กรองอากาศทางานได้เรียบรอ้ ยหรือไม่ * 39. เคร่อื งวัดการอุดตนั ของหม้อกรองอากาศมีอย่คู รบ และไม่ชารดุ 40. จุกอุดเรอื นหม้อกรองอากาศมีอยู่ และไม่ชารดุ 41. โครงกันเครอื่ งวดั การอดุ ตนั ของหมอ้ กรองอากาศมอี ยู่ และไมช่ ารดุ 42. ชอ่ งอา่ นเคร่อื งวัดการอดุ ตนั ของหมอ้ กรองอากาศไม่ขุ่นมวั การตรวจระหว่างใชง้ าน ลาดบั รายการ 43. รอบเดนิ เบาของเครอ่ื งยนตอ์ ยรู่ ะหวา่ ง 700-750 รอบ/นาที หรอื ไม่ * 44. คนั เรง่ เครอื่ งยนต์ทางานเรียบร้อยหรอื ไม่ * 45. ไฟเตอื นเครอ่ื งกาเนิดกาลัง ทางานเรียบรอ้ ยหรือไม่ * 46. เคร่อื งวดั ไฟฟ้าทางานเรยี บรอ้ ยหรอื ไม่ * 47. เครอ่ื งวัดแรงดนั นา้ มนั เครื่องยนตท์ างานเรียบรอ้ ยหรือไม่ * 48. เครื่องวัดอุณหภูมินา้ มนั เคร่ืองยนตท์ างานเรยี บร้อยหรอื ไม่ * 49. เครื่องวัดแรงดันนา้ มนั เคร่ืองเปลี่ยนความเร็วทางานเรียบรอ้ ยหรือไม่

ห น้ า | 90 การตรวจระหว่างใชง้ าน (ตอ่ ) ( ถ.M48A5 ) ลาดับ รายการ * 50. เครอ่ื งวดั อุณหภูมนิ ้ามันเครอ่ื งเปลย่ี นความเรว็ ทางานเรียบร้อยหรอื ไม่ * 51. คนั บงั คับเลย้ี วอย่ใู นตาแหนง่ กลางและรถถังวงิ่ เฉไปทางซ้าย-ทางขวาหรือไม่ * 52. คันเกียรต์ อบสนองการเปลย่ี นเกียรห์ รอื ไม่ * 53. คันเกยี รท์ างานไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ 54. ระบบน้ามนั หา้ มลอ้ ทางานเรียบร้อยหรือไม่ * 55. ควนั ไอเสียมีสีดาผิดปกตหิ รือไม่ * 56. เครื่องยนต์กาลงั ตกหรอื ไม่ 57 ชอ่ งเก็บกระสุนปนื ชารดุ หรอื ไม่ 58. ราวเกบ็ กระสุนพรอ้ มรบชารดุ หรอื ไม่ * 59. ยางรองจานท้ายกระสนุ ปนื ใหญ่มีหรอื ไม่ * 60. ทีน่ ่งั พลยิงมหี รอื ไม่ * 61 ที่นง่ั พลยงิ และพนักพิงจัดปรับได้หรอื ไม่ * 62. ที่น่ัง ผบ.รถ และแป้นวางเท้ามี และจัดปรบั ไดห้ รือไม่ * 63. เครอื่ งตดิ ต่อภายในรถใช้งานไดห้ รอื ไม่ * 64 ชุดวทิ ยใุ ชง้ านไดเ้ รยี บร้อยหรอื ไม่ 65 – 70 เวน้ เนอ่ื งจากไม่มปี อ้ มตรวจการณ์ทรงสงู M1 71. ไฟส่องมาตราเครื่องตงั้ มมุ ยงิ ใช้งานและปรับได้หรือไม่ 72. มาตราและขดี หลักบนเครอื่ งต้ังมมุ ยงิ M13A1 หรือM13B1 อ่านไดช้ ดั เจนหรือไม่ 73. ฝาครอบหลอดระดบั ใชง้ านไดห้ รอื ไม่ 74. หลอดระดบั ใช้งานไดเ้ รยี บรอ้ ยหรือไม่ 75. กระจกครอบเครอ่ื งวดั มุมภาคของทิดชารดุ หรือไม่ 76. ปุม่ ปรบั เครอื่ งใหแ้ สงสวา่ งใชไ้ ด้หรือไม่ * 77. ระบบนา้ มนั ไฮดรอลิกในป้อมปืนมีการรัว่ ไหลระดับ 3 หรือไม่ 78. แรงดนั ของหมอ้ ตุนกาลงั ไฮดรอลกิ อา่ นค่าได้ 900-1250 ปอนด์/ตรนิ้ว. หรือไม่ 79. ชุดคนั บังคบั ปอ้ มปนื ของพลยิงใช้งานไดเ้ รียบร้อยหรือไม่ * 80. สวิตชต์ ัดวงจรการบังคับปอ้ มปนื ของ ผบ.รถ ใช้ไดห้ รอื ไม่

ห น้ า | 91 การตรวจระหวา่ งใช้งาน (ตอ่ ) ( ถ.M48A5 ) ลาดับ รายการ 81. การรวั่ ไหลของนา้ มนั เชื้อเพลิงเครื่องทาความอบอุ่น 82. ควันไอเสยี ของเครือ่ งทาความอบอุน่ 83. ความสกปรก และการชารดุ ของกระจกเลนส์กล้อง ตรวจการณ์ และกล้องเล็งภายนอกรถทงั้ หมด 84. ความสกปรก และการชารุดของกระจกเลนส์ เครือ่ งหาระยะ และกล้องเล็ง M105D ภายนอก รถทง้ั หมด การตรวจหลังใชง้ าน ลาดบั รายการ 85. ความถูกตอ้ งของระดับนา้ มันเครื่องยนต์ 86. นา้ มันเครอ่ื งยนตส์ ูงกว่าขดี เตม็ เล็กนอ้ ย เม่อื เคร่อื งยนตเ์ ดินเบาหรอื ไม่ * 87. ความมน่ั คงของฝาบานเกลด็ ปดิ ทา้ ยห้องเคร่อื งยนต์ 88. การสญู หายของเคร่ืองยดึ ตรงึ ฝาบานเกล็ดประตูทา้ ยห้องเครอื่ งยนต์ 89. การชารุดของเครื่องยึดตรึงฝาบานเกล็ดประตทู ้ายหอ้ งเคร่อื งยนต์ 90. การร่ัวไหลของหบี เฟืองขับขัน้ สุดท้าย * 91. การขาดของหลกั เกลียวยึดหีบเฟอื งขบั ขนั้ สุดทา้ ย * 92. ดมุ หบี เฟืองขับข้นั สดุ ท้ายร้อนจัดหรอื ไม่ * 93. การแตกร้าวหรอื การหักของซี่เฟอื งขบั สายพาน * 94. ยางลอ้ กดสายพาน แหวง่ หรือหลดุ ล่อน 95. การสกึ หรอของรูสลกั เกลยี วยดึ ล้อกดฯ * 96. ดมุ ล้อกดสายพานร้อนจดั หรือไม่ 97. รอยเปรอะเปื้อนของไขขน้ ท่ขี อบดา้ นหลงั ของดุมล้อกดสายพาน * 98. การสูญหายของลอ้ กดสายพาน * 99. การคดงอหรอื สญู หายของแขนลอ้ กดสายพาน *100. การสญู หายของสลกั กนั หลุด และการรว่ั ไหลของน้ามนั เครอ่ื งผอ่ นแรงสะเทือน 101 การแตกหกั หรอื สญู หายของเครื่องผอ่ นแรงสะเทือน *102 การหลวมคลอน หรือสูญหายของลอ้ รบั สายพาน 103 การหลุดลอ่ นของยางล้อรบั สายพาน

ห น้ า | 92 การตรวจหลงั ใชง้ าน ( ตอ่ ) ( ถ.M48A5 ) ลาดับ รายการ 103. การรอ้ นจดั ของดุมล้อรบั สายพาน 104. การหลวมคลอน แตกรา้ วหรอื สญู หายของข้อต่อสายพาน 105. สิ่งช้สี อบทแ่ี สดงการหลวมคลอนของล่มิ และสลกั เกลยี วยึดลม่ิ สลักสายพาน *106. การสญู หายของล่ิมและสลักเกลียวยึดลิม่ สลักสายพาน 107. ลมิ่ สลักสายพานเขา้ ทไี่ ม่สนิท *108. การหลวมคลอน แตกร้าว หัก ของเดือยนาสายพาน 109. การขาดแหว่ง และหลุดหายของยางรองสายพาน *110. การแตกหกั หรือหลดุ หายของกา้ นโยงแขนปรับสายพาน 111. การสญู หายของสลักกนั หลดุ ทปี่ ลายสลักหูก้านโยงแขนปรบั สายพาน 112. มีข้อสายพานตาย *113. ข้อสายพานหกั หรือแตกรา้ ว 114. รอยเปรอะเปือ้ นของไขข้นท่ขี อบดา้ นหลงั ของดุมลอ้ ปรับสายพาน 115. ดุมลอ้ ปรับสายพานร้อนจดั 116. แบตเตอรี่ ขั้วต่อสายไฟ และการยึดตรงึ ม่นั คงหรือไม่ 117. คนั ดบั เครอื่ งยนต์ดว้ ยมอื ใชก้ ารได้หรือไม่ * เคร่ืองหมายน้ี แสดงว่ารถไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ถ้ามีการแตกหัก สูญหาย ทางานบกพร่อง เสอ่ื มสภาพ หรือมกี ารรว่ั ไหลระดับ 3 ในรายการนั้น ๆ ……………………….

ห น้ า | 93 แผนกวิชายานยนต์ กองการศกึ ษา โรงเรียนทหารม้า ศนู ยก์ ารทหารมา้ คา่ ยอดศิ ร สระบรุ ี ---------- คท.9-2350-257-10, มิ.ย.1980 คณุ ลกั ษณะและมาตราทาน รถถงั M60A1 1. กลา่ วทว่ั ไป รถถัง M60A1 เปน็ รถถังหลักออกแบบข้ึนเพอ่ื ใชโ้ จมตี ทาลายยานรบฝ่ายตรงขา้ ม และเป้าหมายอืน่ ๆ ตวั รถและป้อมปืนสร้างด้วยเหล็กกล้าด้วยการหล่อขึ้นรูป ตวั รถและป้อมปืนมีมุมลาด และลักษณะทรวดทรง เพื่อให้เกิดการแฉลบและป้องกันการทะลุทะลวงจากกระสุนปืนได้ดีที่สุดและได้รับการติดต้ังอาวุธประจารถ ประกอบด้วยปนื ใหญ่ ขนาด 105 มม.ปืนกลร่วมแกน ขนาด 7.62 มม.และ ปืนกล ขนาด .50 นิ้ว ท่ีป้อมตรวจ การณ์ของ ผบ.รถ และเครื่องยิงลูกระเบิดควนั จานวน 2 ชุด รถถังแบบนป้ี ฏิบตั ิการดว้ ยพลประจารถ 4 นาย คอื ผบ.รถ พลยิง พลขบั และพลบรรจุ 2. ขดี ความสามารถ 2.1 ใชป้ ฏิบตั ิการไดใ้ นสภาวะแวดลอ้ มของ นวิ เคลยี ร์-ชวี ะ-เคมี 2.2 เคลื่อนทผี่ า่ นภมู ิประเทศยากลาบากได้รวดเรว็ 2.3 ใช้ในการสนับสนนุ ทหารราบไดอ้ ย่างใกล้ชดิ 2.4 ปฏิบัติภารกิจการยิงเล็งจาลองไดเ้ ชน่ เดยี วกับปนื ใหญ่สนาม 2.5 สามารถทาการยิงในขณะรถถังเคล่ือนท่ี จากป้อมปืนซึ่งมีระบบรักษาการทรงตัวทั้งทางระยะและทาง ทิศ 2.6 ลยุ ข้ามนา้ ได้ลกึ 48 นว้ิ (1.2 เมตร) เมื่อไม่ประกอบชุดอุปกรณล์ ยุ นา้ ลกึ 2.7 มีกล้องเล็งกลางคืน และกล้องตรวจการณ์ระบบทวีความเข้มของแสง (PASSIVE) สาหรับใช้ในการ ปฏบิ ัตกิ ารขณะมีแสงสว่างนอ้ ย 2.8 มไี ฟฉายป้อมปืน ซงึ่ เลอื กใชไ้ ด้ทั้งลาแสงธรรมดา และลาแสงอนิ ฟราเรด 2.9 มีเคร่ืองทาฉากควนั ขนาดเลก็ เพ่อื ใช้ในการปกปดิ และซ่อนพรางใหเ้ ลอื กใช้ได้ 2 แบบ คือ เครอื่ งยงิ ลูก ระเบิดควนั จานวน 2 ชดุ และเครอื่ งทาฉากควันด้วยระบบไอเสียของเครื่องยนต์ 3. องค์ประกอบหลกั ทต่ี ั้ง และคณุ ลกั ษณะโดยทัว่ ไป รถถัง M60A1 แบง่ ออกเปน็ ส่วนสาคญั ได้ 2 สว่ น คือ ตัวรถ และปอ้ มปืน ตวั รถ (HULL) - ตอนหน้าเปน็ ห้องพลขับติดต้ังเครื่องควบคุม คันบังคับ และเครื่องวัดต่าง ๆ ที่จาเป็นต้องใช้ในการ ควบคุมการทางานของเครอ่ื งยนต์ เครอื่ งเปลย่ี นความเร็ว และการขบั รถ - ตอนกลาง เป็นห้องหอรบติดตั้งป้อมปืนเป็นที่ปฏิบัติงานของ ผบ.รถ พลยิง พลบรรจุและเป็นท่ี ติดต้งั ระบบอาวุธประจารถ ทเี่ กบ็ กระสนุ ปืน อุปกรณต์ ิดต่อสือ่ สารและระบบเคร่ืองควบคมุ การยิง

ห น้ า | 94 - ตอนหลัง เป็นที่ติดตั้งเคร่ืองยนต์ เครื่องเปล่ียนความเร็ว ถังน้ามันเช้ือเพลิง และองค์ประกอบของ ระบบสง่ กาลังขับเคลื่อนรถ - ด้านบนของตัวรถจะมีช่องเปดิ ตา่ ง ๆ สาหรับตดิ ตงั้ ป้อมปนื ฝาปดิ ห้องพลขบั โครงดาดฟ้าทา้ ยรถ ฝาปดิ หอ้ งเครอื่ งยนต์ และเครื่องเปล่ยี นความเรว็ ฯลฯ - ที่พ้ืนรถใต้ท่ีน่ังพลขับ เป็นที่ติดต้ังฝาปิดช่องหลบหนี บริเวณใต้ท้องรถตอนหลังจะมีแผ่นปิดซ่ึง สามารถถอดออกได้ ใต้บริเวณติดต้ังองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้การบริการองค์ประกอบนั้นๆ เช่น การถ่าย น้ามันเครื่องยนต์ การถ่ายน้ามันเคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว การถ่ายน้ามันเช้ือเพลิง และทาการจัดปรับ องค์ประกอบของเคร่ืองเปลี่ยนความเร็ว นอกจากนี้บริเวณพื้นรถยังมีล้นิ ถา่ ยน้าอยู่ในบรเิ วณหอ้ งพลประจารถ 1 ตวั และในบริเวณห้องเครอื่ งยนตอ์ กี 1 ตัว - ด้านหลังตัวรถ จะมีขอพว่ ง 1 ตวั สาหรับลากจูงรถ และยงั มขี อลากจงู สาหรบั สวมเก่ียวลวดลากจูง อยู่ทางด้านหน้า 2 ตัว และด้านหลงั รถ 2 ตัว - ทางด้านหนา้ รถตอนบน จะติดต้งั โคมไฟใหญข่ ้างละ 1 ชดุ - ทางด้านหลงั รถตอนบน จะตดิ ต้งั โคมไฟทา้ ยไว้ขา้ งละ 1 ชุด เช่นเดียวกัน 4. การกาหนด ด้านหนา้ ด้านหลงั ดา้ นซา้ ย และดา้ นขวาของรถถงั ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านขวาของรถถัง M60A1 ท่ีกล่าวถึงทั้งบริเวณท่ัวไปของรถ หรือ ด้านใดด้านหนึ่งของรถ จะกาหนดด้วยการยืนหนั หนา้ เข้าหาด้านหลังของห้องเคร่ืองยนต์ซึ่งเรียกวา่ ดา้ นหลังรถ เว้นแต่ด้านต่าง ๆ ของเคร่ืองยนต์ ซึ่งกาหนดให้เรียกด้านที่ติดตั้งเรือนหม้อกรองน้ามันเคร่ืองยนต์ว่าเป็น ด้านหน้าของเคร่ืองยนต์ และด้านเครือ่ งเปล่ียนความเร็วเป็นดา้ นหลังส่วนด้านซา้ ยและดา้ นขวากาหนดขึ้นดว้ ย การหนั หน้าเข้าหาเรือนหม้อกรองน้ามันเคร่อื งยนต์ 5. หนว่ ยกาลังขับเคล่อื น รถถัง M60A1 ขับเคลื่อนด้วยเคร่ืองยนต์ดีเซล 4 จังหวะรอบ 12 สูบระบายความร้อนด้วยอากาศ มี เครอ่ื งเพ่ิมไอดี แบบ ADVS 1790-2 C ใหก้ าลงั 750 แรงม้า ณ 2,400 รอบ/นาที เครอ่ื งเปล่ียนความเร็วกง่ึ อัตโนมตั ิขับขวาง แบบ CD 850-6A มีเกยี ร์เดนิ หนา้ 2 ตาแหนง่ เกียรถ์ อย หลัง 1 ตาแหนง่ และเกยี ร์วา่ ง 1 ตาแหนง่ ความเรว็ สูงสุดบนถนน 30ไมล์/ชม.(48 กม./ชม.) เคร่ืองเปล่ียน ความเรว็ ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบสาคญั ได้แก่ เครือ่ งแปลงแรงบิด ชดุ เฟืองเปล่ียนความเรว็ ชดุ เฟืองทด เล้ยี วและชุดห้ามลอ้ เนื่องจากเป็นเครือ่ งเปล่ียนความเรว็ กงึ่ อัตโนมัติ การเปลยี่ นเกียรท์ ุกตาแหนง่ จะตอ้ งกระทา ดว้ ยมอื 6.ระบบไฟฟ้า เป็นระบบไฟตรง 24 โวลท์ ประกอบด้วยแบตเตอร่ี 12 โวลท์ 100 แอมป/์ ชม.จานวน 6 หม้อ ต่อเป็น วงจรแบบอันดับ-ขนาน เม่ือเครื่องยนต์ติดเดินเครื่อง แบตเตอร่ีจะได้รับการประจุไฟด้วยเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ขนาด 28 โวลท์ 650 แอมปร์ ะบายความร้อนดว้ ยนา้ มันเครอ่ื งยนต์ ขับหมนุ ด้วยขบวนเฟืองจากเคร่อื งยนต์ 7. ระบบน้ามันเช้ือเพลงิ ประกอบด้วยถังน้ามันเชื้อเพลิง 2 ถัง ติดต้ังอยูภ่ ายในห้องเครอื่ งยนต์ มีความจุน้ามันรวม 1,457 ลิตร (385 แกลลอน)

ห น้ า | 95 8. ระบบไอดี ประกอบด้วยหม้อกรองอากาศแบบแห้ง จานวน 2 หม้อ ติดต้ังอยู่บนบังโคลนด้านซา้ ยและด้านขวา ขา้ งหอ้ งเครื่องยนต์ และเครอ่ื งเพิ่มไอดีแบบกังหนั จานวน 2 ตัว ขับหมุนด้วยแรงดนั ไอเสียจากเครื่องยนต์ ซึ่ง จะทาหน้าท่ีดูดอากาศผ่านหม้อกรองอากาศแล้วส่งเข้าไปยังกระบอกสูบของเคร่ืองยนต์ทางท่อร่วมไอดี ฝุ่น ละอองทตี่ กค้างอย่ภู ายในหม้อกรองขัน้ แรกจะถูกระบายทงิ้ ออกไปจากหมอ้ กรองอากาศด้วยมอเตอร์ระบายฝนุ่ 9. ระบบไอเสยี ประกอบดว้ ยท่อรว่ มไอเสีย 2 ชุด ต่อเข้ากับเครอ่ื งเพมิ่ ไอดีด้านกังหันไอเสียแตล่ ะตวั แล้วจึงต่อเขา้ ไป ยังท่อไอเสียแตล่ ะอัน ซงึ่ ตดิ ตั้งอยใู่ นหอ้ งเครื่องยนตด์ า้ นท้ายรถ 10.ระบบพยงุ ตวั รถและสายพาน รถถัง M60A1 ใช้ระบบพยุงตัวรถด้วยคานรับแรงบดิ มีล้อกดสายพานดา้ นละ 6 ล้อ สายพานด้านบน ถกู รองรับไว้ดว้ ยล้อรับสายพานข้างละ 3 ล้อ ล้อต่างๆ ในระบบพยุงตัวรถเป็นแบบล้อคู่สามารถถอดแยกออก จากกันได้ ท่ีแขนลอ้ กดสายพานล้อท่ี 1 - 2 และ 6 แต่ละดา้ นจะมเี คร่ืองผ่อนแรงสะเทือน เพ่ือผ่อนคลายแรง สะเทือนเม่อื รถถังเคลื่อนท่ีไปในภมู ิประเทศ ระยะเคล่ือนทขี่ ้นึ -ลง ของล้อกดสายพานแตล่ ะล้อ จะถูกจากดั ดว้ ย แหนบหยุดแขนล้อกด ซ่ึงแหนบหยุดแขนล้อกดของล้อกดสายพานล้อท่ี1จะเป็นแหนบขดแบบคู่ ส่วนล้อท่ี เหลอื จะเป็นแหนบขดแบบเด่ยี วสายพานเปน็ สายพานสลักคู่ มียางรองสายพานแบบถอดเปลยี่ นได้ สายพานแต่ ละข้าง ประกอบด้วยสายพาน จานวน 80 ขอ้ สายพานท้ังสองข้างขับเคล่ือนด้วยซ่ีเฟืองของล้อขับสายพาน ซ่ึงอยู่ทางด้านท้ายรถและท่ีล้อปรับ สายพาน ซงึ่ อยู่ทางดา้ นหน้ารถจะมกี า้ นโยงจากแกนกระบอกปรบั สายพานเชื่อมต่ออยู่ระหว่างข้อเหวี่ยงแขนล้อ ปรับสายพาน และดมุ แขนล้อกดสายพานล้อที่ 1 11. ล้ินถา่ ยน้าพ้ืนรถ ทพ่ี น้ื รถ จะมลี นิ้ ถา่ ยน้าบงั คับการทางานดว้ ยมืออยู่ 2 ตวั ตดิ ตงั้ อยู่ที่พนื้ ห้องพลประจารถ 1 ตัว และ ติดตงั้ อยทู่ ่ีพ้นื ห้องเคร่อื งยนตอ์ ีก 1 ตวั เพ่ือใช้สาหรบั ถ่ายน้าซึ่งตกค้างอยูภ่ ายในรถ ท่เี รอื นลน้ิ แตล่ ะตวั จะมชี ุด กระเด่อื งกดลิน้ และก้านโยงตอ่ มายังคนั บังคบั ลนิ้ ถ่ายนา้ ซึ่งอยู่ดา้ นหลังพลขบั 12.ระบบเครอื่ งดับเพลงิ ประจารถ เครอ่ื งดับเพลิงประจารถใช้สาหรบั ดับเพลิงท่ีเกิดข้ึนภายในห้องเคร่ืองยนต์เท่าน้ันและเป็นแบบบังคับ ใช้งานได้ 2 ครั้ง สามารถดับเพลิงที่เกิดจากระแสไฟฟ้าน้ามันเชื้อเพลิง และน้ามันเคร่ืองยนต์ ระบบน้ี ประกอบด้วย ชุดคันบังคับการทางานซึ่งอยู่ทางด้านนอกตัวรถ 1 ชุด และอย่ใู นห้องพลขับ 1 ชดุ มีหม้อน้ายา ดับเพลิงแบบคาร์บอนไดอ๊อกไชดข์ นาด 10 ปอนด์จานวน 3 หม้อ 13.ระบบผนกึ ยางกันน้า บรเิ วณรอยต่อระหว่างตัวรถจะมยี างกนั น้า ซงึ่ เป็นถุงยางพองตวั ได้ด้วยแรงอัดของลม เพอื่ อดุ ช่องวา่ ง ระหว่างตัวรถและป้อมปนื ไม่ใหน้ ้ารัว่ เข้าไปภายในตวั รถในขณะลยุ ขา้ มน้า เคร่อื งควบคุมการอัดลมซึง่ ตดิ ตง้ั อยู่ ภายในห้องพลขับประกอบด้วย ปมั๊ สบู ลมดว้ ยมือ เครือ่ งวดั ความดนั ลม ล้นิ ควบคุม และท่อต่างๆ 14.เครอ่ื งกรองเคมี-ชวี ะ

ห น้ า | 96 ภายในรถถัง M60A1 จะตดิ ตั้งเคร่ืองกรองฯ แบบ M13A1 เพ่อื ใชก้ รองอากาศหายใจให้กบั พลประจา รถในระหว่างปฏบิ ัติงานอยู่ในพื้นท่ีอนั ตราย เคร่อื งกรองเคมี-ชวี ะ ตอ้ งใช้งานร่วมกับชดุ หนา้ กากป้องกันไอพิษ แบบ M25 ของพลประจารถแตล่ ะนาย “คาเตือน” เคร่อื งกรองเคมี-ชีวะ หรือหน้ากากปอ้ งกนั ไอพิษ ไม่สามารถใช้ป้องกนั อันตรายจากแก๊ส คารบ์ อนโมน๊อกไซด์ 15.ระบบรกั ษาการทรงตัวของปืน รถถัง M60A1 มีระบบรักษาการทรงตัวของปืน ซึง่ ประกอบเพิม่ เติมข้ึนในระบบเคร่ืองใหท้ างสงู และ เครื่องหมุนป้อมปืนด้วยกาลัง ระบบน้ีจะช่วยรักษาให้ลากล้องปืนใหญ่ช้ีไปยังเป้าหมายได้ตลอดเวลาในขณะที่ รถถงั กาลงั เคลอื่ นที่อยูใ่ นภูมิประเทศไมร่ าบเรยี บ 16. ระบบกลอ้ งเล็งกลางคืนและตรวจการณก์ ลางคืน รถถัง M60A1 ของ ทบ.ไทยเป็นรถถัง รุ่นRISE PASSIVE ซ่ึงได้รับการติดต้ังกล้องเล็งกลางคืนและ กล้องตรวจการณก์ ลางคืนแบบทวีความเข้มของแสง ดงั นี้ - กลอ้ งเลง็ M36E1 ประจาสถานี ผบ.รถ - กล้องเลง็ M32E1 ประจาสถานี พลยงิ - กลอ้ งตรวจการณ์ AN/VVS-2 ประจาสถานี พลขบั 17. เครือ่ งอปุ กรณ์ตดิ ตอ่ สื่อสารประจารถ รถถัง M60A1 อาจไดร้ บั การติดต้ังชุดวทิ ยุAN/VRC-12, 46, 53 หรอื 64 รวมทง้ั โทรศพั ท์ทา้ ยรถ 18. มาตราทาน ความจุ (นา้ มันเช้อื เพลงิ และน้ามนั หลอ่ ลน่ื ) - ถังนา้ มนั เชอื้ เพลงิ (ซา้ ย 189,ขวา 196 แกลลอน) รวม 385 แกลลอน (1,457 ลติ ร) - อา่ งน้ามนั เครอื่ งยนต์ (เตมิ ใหมโ่ ดยประมาณ) 17 แกลลอน (64.3 ลติ ร) - เครือ่ งเปลยี่ นความเรว็ (เตมิ ใหมโ่ ดยประมาณ) 17 แกลลอน (64.3 ลติ ร) เครอ่ื งควบคุมและคนั บังคบั รถ - ห้ามล้อ ทางานดว้ ยของเหลว ควบคุมการใชง้ านดว้ ยคันหา้ มล้อเทา้ - การบงั คับเลย้ี ว ทางานดว้ ยของเหลว ควบคมุ การใชง้ านดว้ ยคนั บงั คบั เลยี้ ว - ความสามารถในการเลีย้ ว หมนุ อยูก่ บั ท่ี 360 องศา - ตาแหน่งใชง้ านของคนั เกยี ร์เปลี่ยนความเรว็ เดินหนา้ 2 ตาแหนง่ ถอยหลงั 1 ตาแหนง่ วา่ ง และจอดรถ 1 ตาแหน่ง ขนาด - ความยาว (เมื่อปืนอยใู่ นตาแหนง่ เก็บเดินทาง) 325 นิ้ว (825.5 ซม.) (เมือ่ ปืนใหญอ่ ยทู่ างดา้ นหนา้ รถ) 371. น้ิว (943.61ซม.) - ความสูง (ตา่ สดุ ) 129.17 นวิ้ (328 ซม.) - ความกว้าง 143 น้ิว (363 ซม.) - ระยะห่างใตท้ อ้ งรถ 18 นวิ้ (46 ซม.)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook