Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา การจัดดำเนินการการซ่อมบำรุง

วิชา การจัดดำเนินการการซ่อมบำรุง

Published by qacavalry, 2021-10-28 02:43:31

Description: วิชา การจัดดำเนินการการซ่อมบำรุง เล่มที่ ๑
รหัสวิชา ๐๑๐๒๒๔๐๖๐๑
หลักสูตร นายสิบยานยนต์
แผนกวิชายานยนต์ กศ.รร.ม.ศม.

Search

Read the Text Version

ห น ้ า | 47 (สำเนา) คำส่ังกองทัพบก (คำชแ้ี จง) ที่ 320/23630 เรอ่ื ง วธิ กี ารซ่อมบำรุงยทุ โธปกรณ์สายสรรพาวธุ ------------------------------------- 1. ความมุง่ หมาย เพ่ือเป็นการขยายความในคำสั่งกองทัพบกที่ 306/25616 เรื่อง หลักการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ สายสรรพาวุธ ลง 30 พ.ย.97 และเพือ่ ให้หน่วยที่ไดร้ ับยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ ตามโครงการปอ้ งกันร่วมฯ สามารถปฏิบัติการซ่อมบำรุงและนำยุทโธปกรณ์ส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธที่ให้การสนับสนุนได้โดยถูกต้องและ รวดเรว็ จงึ ไดอ้ อกคำส่งั ชี้แจงฉบับน้ไี วใ้ ห้หน่วยต่าง ๆ ถือเปน็ หลักปฏบิ ตั ติ ่อไป 2. คำจำกดั ความ 2.1 ชงักใช้ราชการ ได้แก่ลกั ษณะอย่างหนงึ่ อยา่ งใดใน 3 ประการ ทเ่ี กดิ ขึน้ แกย่ ุทโธปกรณ์ คอื 2.1.1 ไม่ทำงานตามหน้าท่ี 2.1.2 ไมป่ ลอดภัยในการใช้งาน 2.1.3 ถ้าใชต้ ่อไปจะเสยี หายมากขน้ึ 2.2 ชำรดุ ตามสภาพ ได้แก่ลักษณะการชำรุดที่เป็นไปตามธรรมชาติของยุทโธปกรณ์น้ัน ๆ เช่น สึกหรอเพราะใช้มานาน หรอื เสือ่ มคณุ ภาพตามระยะเวลาเป็นต้น 2.3 ชำรุดผิดปกตหิ รือสญู หาย ได้แก่การชำรุดท่ีไม่เป็นไปตามสภาพ แต่เนื่องจากเหตุอ่ืน เช่น อุบัติเหตุ ประมาท เลินเล่อ หรือ สูญหาย 2.4 หน่วยใช้ ได้แก่หน่วยทหารทใ่ี ชย้ ุทโธปกรณส์ ายสรรพาวธุ 3. ลกั ษณะแห่งการชำรุดของยุทโธปกรณ์ ในการทย่ี ทุ โธปกรณ์ชะงักใชร้ าชการนัน้ ยอ่ มเนอื่ งมาจากลกั ษณะแห่งการชำรดุ 2 ประการ คอื 3.1 ชำรุดตามสภาพ 3.2 ชำรดุ ผิดปกติ หรอื สญู หาย 4. การปฏิบัตเิ ม่อื ยทุ โธปกรณ์ชำรดุ หรอื ชะงักใชร้ าชการ เมื่อยุทโธปกรณ์ชำรุดหรือชะงักใช้ราชการ ให้ผู้รับผิดชอบรายงานตามลำดับ ชั้น หรือผู้มีอำนาจสั่ง การในการซ่อมบำรุงประจำหน่วยภายใน 24 ช่ัวโมง และห้ามมิให้ใช้ยทุ โธปกรณ์ท่ีอย่ใู นสภาพงดใช้การนัน้ อีก ต่อไป จนกว่าจะได้ทำการซ่อมบำรุงให้กลับมาอยู่ในสภาพใช้การได้เรียบร้อย ผู้มีอำนาจส่ังการในการซ่อม บำรุงประจำหนว่ ย ไดแ้ ก่ ก. ผบ.กรม หรอื ฝอ.4 ข. ผบ.พัน. หรือ ฝอ.4 ค. ผบ.ร้อยอสิ สระ ( ข้อ ก. ข. ค. แกต้ ามคำส่งั ทบ. (คำชแี้ จง) ที่ 19/7017 สัง่ ณ 5 ม.ิ ย. 05 )

ห น ้ า | 48 5. การปฏิบัติการซ่อมบำรุงของหน่วยใช้ เม่ือได้รับรายงานว่ายุทโธปกรณ์ชะงักใช้ราชการ ให้ผู้มีอำนาจสั่งการในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย ปฏิบตั ิ ดังนี้ 5.1 เม่ือชำรุดตามสภาพ สั่งการให้เจ้าหน้าท่ีซ่อมบำรุงประจำหน่วยจัดการซ่อมทันที โดยใช้เคร่ืองอะไหล่ประจำหน่วยซึ่ง ได้เบิกข้ันต้นมาจาก คส.สพ.ทบ. ถ้าการชำรุดน้ันต้องการเครื่องอะไหล่ ซึ่งยังอยู่ในประเภทการซ่อมบำรุง ประจำหน่วย ( ขั้นที่ 1 - 2 ) แต่หน่วยน้ันไม่ได้รับอนุมัติให้เบิกประจำหน่วยได้ ก็ให้ทำการเบิกไปยัง สรรพาวธุ ทีใ่ ห้การสนบั สนนุ ทนั ที เพอ่ื นำมาทำการซ่อมต่อไป 5.2 เม่อื ชำรดุ ผดิ ปกตหิ รอื สูญหาย สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุแห่งการชำรุดหรือสูญหาย เพ่ือเก็บรายงานการสอบสวน ไว้เป็นหลักฐานในการ เบกิ ทดแทน หรอื การนำส่งซ่อมภายหลัง และสั่งการเก่ยี วกับการซอ่ มบำรุงดังเช่นในข้อ ก.ต่อไป 5.3 ถ้าการชำรดุ ของยุทโธปกรณ์อยูใ่ นประเภทการซอ่ มบำรุงในสนาม ( ขนั้ 3 - 4 ) ให้เจ้าหน้าท่ีนำยุทโธปกรณ์นั้นส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธ ทั้งน้ีห้ามมิให้หน่วยใช้ทำการซ่อมบำรุง เกินข้ันเป็นอันขาด ในการที่จะพิจารณาว่า การชำรุดของยานยนต์อยู่ในการซ่อมบำรุงข้ันใด และเป็นหน้าท่ี ของหน่วยใดนน้ั ให้ปฏิบตั ติ ามคำสั่งช้ีแจงกองทัพบกที่ 183/14352 เรือ่ ง การแบ่งข้ันการซ่อมบำรุงยานยนต์ สายสรรพาวธุ ลง 22 ก.ค.98 โดยเครง่ ครดั 6. หลักฐานการนำยุทโธปกรณส์ ่งซอ่ ม หลักฐานการนำยทุ โธปกรณส์ ง่ ซอ่ ม ไดแ้ ก่ 6.1 ใบสง่ ซ่อม ( สพ.811 ) 6.2 ซองประวตั ิยทุ ธภณั ฑ์ประจำหนว่ ย ( สพ.478 ) หรอื สมุดประวตั ิ 6.3 รายงานยุทโธปกรณ์ชำรุด ( ดูขอ้ 4 ) หรอื รายงานการสอบสวนใหร้ ู้ 7. ใบสง่ ซ่อม ( สพ.811 ) 7.1 ลกั ษณะ ใบส่งซ่อมนี้เป็นใบส่งซ่อมแบบใหม่ มี 4 แผ่น ใช้ในการส่งซ่อมยุทโธปกรณ์สาย สพ. ทุกอย่าง คือ อาวุธ ยานยนต์ และสรรพาวุธอื่น ๆ แผ่นท่ี 1 ( สีเหลือง ) แผ่นท่ี 2 ( สีขาว ) และแผ่นท่ี 3 ( สีฟ้า ) มี ข้อความเหมือนกันทุกประการ และแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนส่งซ่อมอยู่มุมบนซ้าย ส่วนเหลือเป็นส่วน สง่ั งาน แผน่ ที่ 4 ( สชี มพู ) มลี ักษณะแตกต่างจากแผน่ ท่ี 1 - 2 - 3 คอื ใชเ้ ปน็ ใบรบั และหลกั ฐานของหนว่ ยส่ง ซ่อมในการมารับยุทโธปกรณท์ ี่ซ่อมเสร็จจากกองสรรพาวธุ ท่ีรับซ่อม 7.2 การกรอกข้อความ 7.2.1 ลงวัน, เดอื น, ปี ที่ส่งซ่อม นาม และที่ตั้งของหน่วยส่งซ่อม เลขที่ใบส่งซ่อม และวันท่ี ผู้อนุมัตใิ ห้ ส่งซอ่ มลงนาม ชนิดและหมายเลขของยทุ โธปกรณ์ รายการชำรุด ผู้อนุมัติใหส้ ่งซ่อม และผู้ส่ง ในช่องว่างซงึ่ อยู่ ในกรอบบนซ้าย ( ดูตัวอยา่ งในผนวกทา้ ยคำสงั่ ) 7.2.2 รายการชำรดุ ให้ลงรายการชำรุดท่สี ำคญั ๆ ไว้ 7.2.3 ผู้อนุมัติให้ส่งซ่อม ได้แก่ ผู้บังคับบัญชาในข้อ 4 ท้ังน้ีให้หน่วยได้ส่งลายเซ็นไปให้กองสรรพาวุธที่ สนับสนุนไว้เป็นหลกั ฐาน

ห น ้ า | 49 7.2.4 ผู้ส่ง อาจเป็นนายทหาร สพ. นายทหารยานยนต์ หรือนายทหารที่ได้รับมอบให้เป็นผู้มีสิทธิรับ ของ และลายเซ็นอย่ทู ี่กองสรรพาวุธแล้ว 7.2.5 ผู้รับ ให้เวน้ ชอ่ งว่างไว้สำหรับนายทหาร หรือนายสิบควบคุมการซ่อมของกองสรรพาวุธเป็นผู้รับ เซน็ 7.2.6 ในกรณีที่หน่วยใชไ้ ด้เบิกชิน้ ส่วนอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุง ข้ันท่ี 2 สำหรับยุทโธปกรณ์ที่จะส่ง ซ่อมไปยงั กองสรรพาวุธแลว้ แต่ยงั ไม่ได้รับ ใหห้ มายเหตุที่ใบเบิก วนั ทเี่ บกิ ชื่อหมายเลข และจำนวนของ ช้ินสว่ นอะไหลน่ นั้ ไว้ข้างหลังใบสง่ ซอ่ มนั้นดว้ ย 7.2.7 การกรอกขอ้ ความให้ทำทงั้ 4 แผ่น 7.2.8 ในขณะท่ียังไม่มใี บสง่ ซ่อม ( สพ.811 ) ให้หนว่ ยใชใ้ บสง่ ( ย.57 ) แทน 7.3 ใบส่งซ่อมนี้สำหรับการส่งซ่อมยานยนต์ และปืนใหญ่ ให้ทำหน่ึงชุดต่อยานยนต์ 1 คัน หรือปืนใหญ่ 1 กระบอก ส่วนอาวุธเบา และเคร่ืองควบคุมการยิงชนิดเดียวกัน ให้ทำหน่ึงชุด ต่ออาวุธเบา 10 กระบอก หรอื เครอื่ งควบคุมการยิง 10 ชิ้น 8. ซองประวตั ยิ ุทธภณั ฑ์ประจำหนว่ ย ( สพ.478 ) เป็นซองสำหรับเก็บประวัติในการซ่อมบำรุงยานยนต์ และยุทธภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เคร่ืองทำไฟฟ้า เคร่ืองประจุแบตเตอรี่ ฯลฯ ในขณะท่ียังไม่มีซองยุทธภัณฑ์ประจำหน่วย ให้หน่วยใช้สมุดประวัติรถยนต์ ทหารบก ( ย.46 ) เก็บหลักฐาน และให้ส่งสมุดประวัตริ ถยนตน์ ้มี าพร้อมกบั รถท่ีส่งซอ่ มเสมอ 9. สมุดประวัติปนื เป็นสมุดสำหรับบันทึกรายละเอียดเก่ียวกับตัวปืน พร้อมทั้งสถิติในการใช้ และการซ่อมบำรุงด้วย อาวุธในโครงการป้องกนั ร่วม ที่มีสมุดประวตั ิไดแ้ ก่ปนื ใหญท่ ุกขนาด เครือ่ งยิงลกู ระเบดิ ขนาด 4.2 นว้ิ และปืน ใหญ่ไร้แรงสะทอ้ นถอยหลงั 10. รายงานยุทโธปกรณช์ ำรดุ และรายงานการสอบสวน ในกรณีท่ีนำยุทโธปกรณ์ซึ่งชำรุดตามสภาพส่งซ่อม หน่วยใช้จะต้องแนบรายงานยุทโธปกรณ์ชำรุดไป ดว้ ย แต่ถ้าเป็นการชำรุดผิดปกติหรือสูญหาย ใชร้ ายงานการสอบสวนของคณะกรรมการแทนทั้งนี้ ผู้มีอำนาจ ส่งั การในการซอ่ มบำรงุ ประจำหนว่ ย จะตอ้ งลงความเห็นในท้ายรายการนั้นด้วยเสมอ 11. การสง่ ยานยนตซ์ อ่ ม ในการสง่ ยานยนตซ์ ่อมให้หนว่ ยใช้ และกองสรรพาวธุ ทีร่ ับซอ่ ม ปฏบิ ัติดงั น้ี 11.1 หน่วยใช้ต้องนำหลักฐานในการส่งซ่อมตามข้อ 6 ไปพร้อมกับยานยนต์ที่ส่งซ่อมเสมอ กอง สรรพาวธุ จงึ จะพจิ ารณา และรับทำการซอ่ มให้ 11.2 หน่วยใช้จะต้องทำความสะอาดยานยนต์ให้เรียบร้อย ภายในยานยนต์ต้องไม่มีอาวุธ กระสุน วตั ถรุ ะเบดิ และเคร่อื งมอื เครือ่ งใชป้ ระจำรถติดมาด้วย 11.3 ให้หน่วยใช้จดหมายเลข ยาง แบตเตอร่ี และส่ิงอ่ืน ๆ ที่จำเป็นไว้หลังใบส่งซ่อมเพื่อป้องกัน การสบั เปลย่ี น และการเข้าใจผดิ ภายหลงั ได้ 11.4 หน่วยใช้ต้องทำการซ่อมบำรุงข้ันท่ี 1 - 2 เสียให้เรียบร้อย ก่อนนำยานยนต์ส่งซ่อมยังกอง สรรพาวุธ ถ้าปรากฏวา่ หน่วยใช้นำยานยนต์มาซ่อม โดยยังมีการชำรุดในการซ่อมบำรุงขั้นท่ี 1 - 2 ไม่เกิน 3 รายการ ให้กองสรรพาวุธจัดท่ีและเครื่องมือท่ีจำเป็นให้เจ้าหน้าท่ีของหน่วยใช้ ไปทำการซ่อมเองได้ โดยไม่ ต้องนำยานยนต์กลับไปซ่อมที่หน่วย การปฏิบัติเช่นนี้ เฉพาะเมื่อเป็นการชำรุดเล็กน้อยเท่าน้ัน และหน่วยใช้ พยายามหลีกเลย่ี งมิให้มีขึ้นได้

ห น ้ า | 50 11.5 ในกรณีที่มีการชำรุดในการซ่อมบำรุงขั้นท่ี 1 - 2 หลายรายการซึ่งหน่วยใช้ไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะขาดช้ินส่วนอะไหล่ ให้กองสรรพาวุธปฏิบตั ิดังนี้ 11.5.1 ตรวจสอบหมวดส่งกำลัง ถ้าปรากฏว่าหน่วยใช้ไม่ได้เบิกช้ินส่วนอะไหล่ไป หรือไม่ ปรากฏวา่ หน่วยใช้ ได้เคยมีหลักฐานเบิกไวเ้ ลย ให้หน่วยใชน้ ำรถกลับไปทำการซ่อม หรือใบเบกิ ช้นิ ส่วนอะไหล่ ไปทำการซ่อมเสียให้เรยี บร้อยกอ่ น จงึ นำสง่ ซ่อมยังกองสรรพาวธุ ได้ 11.5.2 ถา้ หน่วยใช้ได้เคยเบิกมายังกองสรรพาวธุ แล้วตามหลกั ฐานของใบเบิก ซ่ึงหมายเหตุไว้ หลังใบสง่ ซ่อมแตย่ ังไมไ่ ดร้ บั ไป ใหก้ องสรรพาวุธรบั ยานยนตน์ ้ันไว้ซอ่ มได้ 11.6 หน่วยใช้ต้องมนี ้ำมันเชื้อเพลิงติดยานยนต์มาดว้ ย เพอื่ ให้กองสรรพาวธุ ใช้ในการเดินเครื่อง และ ทดลองวิง่ ในเมื่อทำการซอ่ มแลว้ เสร็จ ตามจำนวนดงั นี้ รถยนต์บรรทกุ ขนาด 1/4 ตนั 20 ลิตร รถยนตบ์ รรทกุ ขนาด 3/4 ตัน และ รยบ.2 1/2 ตัน 30 ลติ ร รถฉุดลากและรถกู้ขนาด 5 ตนั 40 ลติ ร รถกู้ขนาด 6 ตนั 50 ลิตร รถก่ึงสายพาน 60 ลติ ร รถถัง เอ็ม 24 200 ลติ ร รถสายพานลำเลียงพลหุ้มเกราะ เอ็ม 113 260 ลติ ร รถถงั เอ็ม 41 260 ลติ ร 11.7 ในกรณีท่ีช่างตรวจยานยนต์ ตรวจพบข้อบกพร่อง เพราะหน่วยใช้ไม่ปฏิบัติการซ่อมบำรุงข้ันท่ี 1 - 2 ให้รายงานให้นายทหารยานยนต์ควบคุมการซ่อมทราบ เพ่ือทำหนังสือแจ้งให้ ผบ.หน่วยใช้ทราบ ขอ้ บกพรอ่ งต่าง ๆ ที่กองสรรพาวุธไมส่ ามารถรบั ยานยนต์นนั้ ไว้ซ่อมได้ แล้วมอบให้แก่ผ้สู ่งซ่อมไปพร้อมกับใบ ส่งซอ่ ม 11.8 เม่ือชา่ งตรวจยานยนต์ของสรรพาวุธได้ทำการตรวจ และยอมรับไวท้ ำการซ่อมได้ ให้มอบใบส่ง ซ่อมท้ัง 4 แผ่น พร้อมด้วยแบบฟอร์มการตรวจสภาพทางเทคนิค ( สพ.461 หรือ 462 ) ให้แก่ผู้ส่งซ่อมของ หนว่ ยใช้รับไป ให้แก่เจ้าหนา้ ทหี่ มู่ควบคุมการซ่อม เพ่อื ออกเลขงานใหน้ ายทหาร หรือนายสบิ ควบคมุ การซอ่ ม จะมอบใบส่งซ่อมแผ่นท่ี 4 ( สีชมพู ) ให้แก่ผู้ส่งซ่อมรับไว้เป็นหลักฐานในการนำมารับยานยนต์เม่ือซ่อมเสร็จ แล้ว และในการสอบสวนเรือ่ งยานยนตท์ ส่ี ง่ ซ่อม ให้หนว่ ยใชอ้ า้ งเลขงานที่กองสรรพาวุธให้ไปนี้ดว้ ยเสมอ 11.9 ให้ ผบ.กองสรรพาวธุ เปน็ ผพู้ ิจารณาและใหค้ วามเหน็ วา่ รายงานยุทโธปกรณ์ชำรดุ หรือรายงาน การสอบสวนของคณะกรรมการทหี่ น่วยใช้สง่ มาน้นั มเี หตุผลสมควรหรือไม่เพียงใด ถา้ ปรากฏว่าเปน็ การชำรุด ผิดปกติหรือสูญหาย ให้รายงานไปตามสายบังคับบัญชาจนถึงผู้มีอำนาจส่ังการจำหน่าย เพ่ือดำเนินการให้ ผู้กระทำผิดชดใช้เงินหรือลงทัณฑ์ตามแต่กรณี การดำเนินการซ่อมนั้นให้อยู่ในดุลย์พินิจของ ผบ .กอง สรรพาวธุ วา่ จะปฏิบัติไปทันที หรือรอจนกวา่ จะไดร้ ับอนุมัติจากผู้มีอำนาจส่ังการจำหน่ายเสียก่อน ท้ังนี้ย่อม ขน้ึ แก่สถานการณ์ และความเร่งดว่ น และจะตอ้ งไม่เสียผลแกท่ างราชการ 11.10 เมื่อได้รับแจ้งจากกองสรรพาวุธ ว่าได้ซ่อมยานยนต์เสร็จ ให้หน่วยใช้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการ ตรวจรับทันที กองสรรพาวุธจะยึดใบส่งซ่อมแผ่นท่ี 4 ( สีชมพู ) ไว้ และส่งคืนใบส่งซ่อมแผ่นที่1 ( สีเหลือง ) พร้อมด้วยแบบฟอร์มการตรวจสภาพทางเทคนิค ( สพ.461 หรือ 462 ) ให้แก่ผู้รับเพื่อเก็บไว้เป็นสถิติในการ ซอ่ มบำรุงยานยนตน์ ้นั ๆ ในซองประวัติยทุ ธภัณฑ์ประจำหนว่ ยตอ่ ไป 12. การส่งอาวธุ

ห น ้ า | 51 ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการส่งซอ่ มยานยนต์ โดยใช้สมุดประวตั ิปนื เปน็ หลักฐานในการส่งซ่อมแทนซอง ประวัติยุทธภัณฑ์ประจำหน่วย เน่ืองจากปืนใหญ่เป็นอาวธุ ท่ีมีน้ำหนักมาก ลำบากตอ่ การลำเลียงและอาจเกิด การชำรุดเสียหายในระหว่างเดินทางได้ ดังนั้นจึงให้หน่วยใช้แจ้งรายการชำรุดโดยละเอียด ให้กองสรรพาวุธ ทราบก่อนนำส่งซ่อม ในการปฏิบัตกิ ารซ่อมน้ันได้ ผบ.กองสรรพาวุธ เป็นผู้พิจารณาว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ไปซ่อม ให้ทีห่ น่วยใช้ หรอื จะให้หนว่ ยใช้นำสง่ ซ่อมยงั กองสรรพาวุธ ทง้ั นใี้ หถ้ อื เปน็ แนวทางปฏิบัตติ งั้ แตบ่ ดั นเี้ ป็นต้นไป ส่งั ณ วนั ท่ี 9 พฤศจิกายน 2498 (ลงชอื่ ) พล.อ. ส. ธนะรชั ต์ ผบ.ทบ.

ห น ้ า | 52 ระเบยี บกองทัพบก ว่าด้วย ชิ้นสว่ นซอ่ มตามอัตราพิกัดและช้ินสว่ นซ่อมทส่ี ะสม พ.ศ.2512 ------------------------------------ โดยท่ีเห็นเป็นการสมควร ที่จะกำหนดความรับผิดชอบ และระเบียบปฏิบัติเก่ียวกับการกำหนด รายการ และจำนวนชิ้นส่วนซ่อม การจัดทำ การแจกจ่าย และการแก้ไขเปล่ียนแปลงบัญชีช้ินส่วนซ่อมตาม อัตราพิกัด และบัญชีชิ้นส่วนซ่อมท่ีสะสม จึงได้กำหนดระเบียบน้ีข้ึน เพ่ือถือเป็นหลักในการดำเนินการ เก่ยี วกับชนิ้ ส่วนซ่อมต่อไป ขอ้ 1. ระเบยี บน้เี รียกวา่ “ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วย ช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกดั และช้นิ ส่วนซ่อมท่ี สะสม พ.ศ.2512 ” ขอ้ 2. ให้ยกเลกิ 2.1 ระเบียบกองทัพบกวา่ ดว้ ยชน้ิ สว่ นซ่อมตามอัตราพิกดั และชิ้นส่วนซ่อมท่สี ะสมพ.ศ.2511 2.2 บรรดาระเบียบ คำสง่ั คำแนะนำ คำชีแ้ จง ฯลฯ ทขี่ ัดแยง้ กับระเบยี บนี้ ข้อ 3. ขอบเขต 3.1 ระเบียบน้ีใช้เป็นหลักฐานสำหรับชิ้นส่วนซ่อมของส่ิงอุปกรณ์ท้ังในโครงการและนอก โครงการ 3.2 ระเบียบนี้ใชก้ ับหน่วยใช้ หน่วยสนับสนุน และคลัง ซ่ึงอยู่ในสายการส่งกำลัง และซ่อม บำรุงของกองทพั บก ขอ้ 4. คำจำกดั ความ 4.1 ช้ินส่วนซ่อม หมายถึง องค์ประกอบ ส่วนประกอบและช้ินส่วนท่ีใช้ในการซ่อมบำรุงสิ่ง อปุ กรณ์ ตามทกี่ ำหนดในคมู่ อื ส่งกำลงั และ/หรอื คู่มอื เทคนิคท่ีมบี ัญชีชน้ิ ส่วนซ่อม 4.2 บัญชีชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด ( บชอพ.) คือ เอกสารแสดงรายการ และจำนวน ชิ้นส่วนซ่อมซึ่งอนุมัติให้หน่วยใช้สะสมไว้ เพ่ือสนับสนุนขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย ( ขั้น 1–2) 4.3 ชิ้นส่วนซ่อมตามอตั ราพกิ ัด ( ชอพ.) คือ ช้นิ ส่วนซ่อมสำหรบั การซ่อมบำรุงประจำหน่วย ซึง่ อนมุ ตั ิใหห้ น่วยใช้สะสมไวไ้ ดต้ ามบัญชีชนิ้ สว่ นซ่อมตามอตั ราพกิ ดั 4.4 ช้นิ ส่วนซ่อมตามอัตราพิกดั รวม คือ ช้ินส่วนซ่อมที่ใช้ในการซ่อมบำรุงยทุ ธภัณฑ์ได้ต้ังแต่ 2 ชนิดขนึ้ ไป 4.5 บัญชีชิ้นส่วนซ่อมท่ีสะสม ( บชสส.) คือ เอกสารแสดงรายการชิ้นส่วนซ่อมซ่ึงต้องการ ให้หน่วยสนับสนุนโดยตรง และหน่วยสนับสนุนท่ัวไป สะสมไวเ้ พื่อสนับสนุนหน่วยใช้ และหน่วยสนับสนุนใน สายงานสง่ กำลงั บำรุง 4.6 หน่วยใช้ หมายถึง หน่วยซงึ่ ได้รับประโยชนจ์ ากการใช้สงิ่ อปุ กรณ์นนั้ โดยตรง 4.7 หน่วยสนับสนุนโดยตรง หมายถงึ หน่วยของสายงานฝา่ ยยุทธบรกิ าร ซงึ่ มี ภารกจิ สนบั สนุนในดา้ นการส่งกำลงั และ/หรือการซอ่ มบำรุง ตอ่ 4.7.1 หนว่ ยในอตั ราการจดั ของหนว่ ยระดบั กองพล 4.7.2 หนว่ ยอ่ืน ๆ ภายในพืน้ ทซี่ ง่ึ ไดร้ ับมอบหมายใหส้ นับสนนุ 4.8 หน่วยสนับสนุนท่ัวไป หมายถึง หน่วยของสายงานฝ่ายยุทธบริการ ซึ่งมีภารกิจ สนบั สนุนดา้ นการสง่ กำลัง และ/หรอื การซอ่ มบำรงุ ต่อ

ห น ้ า | 53 4.8.1 หน่วยสนบั สนุนโดยตรง 4.8.2 หนว่ ยอน่ื ๆ ภายในพ้ืนทซ่ี ง่ึ ได้รบั มอบหมายให้สนบั สนนุ 4.9 คลัง หมายถึง หน่วยที่มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติภารกิจ อย่างใดอย่างหน่ึง หรือ หลายอย่างในเรื่อง ความต้องการ การควบคุม การจัดหา การตรวจ การแยกประเภท การแจกจ่าย การซ่อม บำรุง และจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ 4.10 คลังแจกจ่าย หมายถึง คลังสายงาน คลังท่ัวไป คลังกองบัญชาการช่วยรบ และคลัง ส่วนภูมิภาค ซึ่งดำเนินการสะสมและแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ โดยปกติจะแบ่งเป็นหน่วยบัญชีคุม และคลังเก็บ รักษา 4.11 คลังสายงาน หมายถึง คลังซึ่งกรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพเิ ศษไดจ้ ัดต้ัง ข้นึ เพือ่ ดำเนนิ การสะสม และแจกจ่ายสง่ิ อปุ กรณ์ 4.12 คลังทั่วไป หมายถึง คลังของหน่วยบัญชาการ ซึ่งใช้สำหรับดำเนินการเก่ียวกับส่ิง อุปกรณ์ และยุทธภัณฑ์ ในความรับผิดชอบของกรมฝา่ ยยทุ ธบรกิ ารตา่ ง ๆ อย่างน้อย 2 กรมฝ่ายยุทธบรกิ าร 4.13 คลังกองบัญชาการช่วยรบ หมายถึง คลังซ่ึงกองบัญชาการช่วยรบได้จัดต้ังขึ้นเพ่ือ ดำเนินการสะสม และแจกจา่ ยสิ่งอปุ กรณ์ 4.14 คลังส่วนภูมิภาค หมายถึง คลังซ่ึงมณฑลทหารบก หรือจังหวัดทหารบกได้จัดตั้งข้ึน เพอ่ื ดำเนนิ การสะสม และแจกจ่ายส่งิ อุปกรณ์ใหแ้ กห่ นว่ ยใชภ้ ายในเขตพน้ื ท่ีทร่ี บั ผิดชอบ 4.15 คลังเก็บรักษา หมายถึง คลังซ่ึงดำเนินการเกบ็ รักษาส่ิงอุปกรณ์ท่ีได้รับอนุมัติให้สะสม ไวเ้ พอื่ การแจกจ่ายดำเนินไปด้วยดี ขอ้ 5. ความรบั ผิดชอบ 5.1 กบทบ. 5.1.1 กำหนดนโยบายและหลักการในการจัดทำบัญชีชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด และบัญชชี ิน้ สว่ นซอ่ มที่สะสม 5.1.2 จัดทำ แก้ไข ปรับปรุง แบบธรรมเนียมเก่ียวกับชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด และชิ้นส่วนซ่อมที่สะสม เพ่ือให้ ทบ.สามารถควบคุมการปฏิบัติของหน่วยที่เก่ียวข้องได้ และให้สอดคล้องกับ นโยบาย หรือหลักการท่อี าจเปล่ียนแปลงไป 5.1.3 กำกับดูแลหน่วยต่าง ๆ ท่ีมีหน้าท่ีรับผิดชอบซึ่งระบุไว้ในระเบียบน้ี เพื่อให้ การปฏบิ ตั งิ านไปตามมุ่งหมายทก่ี ำหนดไว้ 5.2 กรมฝ่ายยุทธบรกิ าร 5.2.1 จดั หาช้ินสว่ นซ่อม 5.2.2 ควบคุม กำกับดูแล คลังกรมฝ่ายยุทธบริการ หน่วยสนับสนุนท่ัวไป หน่วย สนับสนุนโดยตรงในสายงานของตน เพ่ือให้ปฏิบัติตามนโยบาย และหลักการเกี่ยวกับการสะสม และการส่ง กำลังชนิ้ สว่ นซ่อม 5.2.3 อำนวยการ จัดทำ และแจกจ่าย บัญชชี นิ้ ส่วนซอ่ มตามอัตราพกิ ัด และบัญชี ช้นิ ส่วนซ่อมที่สะสม 5.3 คลัง

ห น ้ า | 54 5.3.1 จัดทำบัญชีช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกัดขั้นต้นของหน่วยใช้ เฉพาะรายการ ยทุ ธภัณฑซ์ ึ่งอยใู่ นความรับผิดชอบของตน แลว้ แจกจา่ ยให้คลงั หนว่ ยสนบั สนุน และหนว่ ยใช้ที่เกีย่ วขอ้ ง 5.3.2 สะสมช้ินสว่ นซอ่ มเฉพาะรายการท่อี ยใู่ นความรับผดิ ชอบไวใ้ นปริมาณ ทเี่ พียงพอสำหรบั สนบั สนุนหนว่ ยซง่ึ ตนมภี ารกิจต้องให้การสนบั สนนุ หน่วยใช้โดยตรง 5.3.3 อนุมัติการเปลี่ยนแปลงบัญชีช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด ตามเกณฑ์ความ ตอ้ งการของหน่วยใช้ ในกรณที ท่ี ำหน้าที่สนับสนนุ หนว่ ยใชโ้ ดยตรง 5.4 หน่วยสนับสนุนโดยตรง 5.4.1 อนุมัตกิ ารเปลย่ี นแปลง บชอพ. ตามเกณฑ์ความตอ้ งการของหน่วยใช้ 5.4.2 ทำ บชสส.ของตนและแก้ไขใหต้ รงกับเกณฑค์ วามต้องการในปจั จบุ นั 5.4.3 สะสมชิน้ ส่วนซ่อมตาม บชสส. 5.4.4 เสนอ บชสส. และการแกไ้ ขใหห้ น่วย หรือคลังที่สนับสนุนทราบ 5.5 หนว่ ยสนบั สนนุ ทว่ั ไป 5.5.1 ทำ บชสส.ของตนและแกไ้ ขให้ตรงกับเกณฑค์ วามตอ้ งการในปจั จบุ ัน 5.5.2 สะสมชิน้ สว่ นซ่อมตาม บชสส. 5.5.3 เสนอ บชสส. และการแก้ไขใหห้ นว่ ย หรอื คลังท่สี นบั สนุนทราบ 5.6 หน่วยใช้ 5.6.1 สะสมช้ินสว่ นซอ่ มตาม บชอพ. 5.6.2 จดั หา และเก็บรกั ษา บชอพ. ไวใ้ หพ้ รอ้ มทจ่ี ะใช้ และรบั ตรวจไดเ้ สมอ 5.6.3 จดั ทำ บชอพ.รวมของหน่วย ( ตามผนวก ก ) 5.6.4 บันทึกขอ้ มูลส่งกำลังชิน้ ส่วนซ่อมลงในแผนเก็บของ และสำรวจยอด ทบ.400 – 068 ( ตามผนวก ข ) ทกุ คร้ังที่มีการเบกิ รับ และจ่าย 5.6.5 สอบทานความต้องการชิ้นส่วนซ่อมจากแผนเก็บของ และสำรวจยอดถ้ามี การเปลี่ยนแปลงไปจาก บชอพ. ก็แจ้งไปยังหน่วยสนับสนุนโดยตรงเพ่ือขออนุมัติเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ตรงกับ ความตอ้ งการทีค่ ำนวณได้ ข้อ 6. การปฏบิ ตั เิ กีย่ วกับ ชอพ. 6.1 การจดั ทำ บชอพ.ขัน้ ตน้ และการแจกจา่ ย 6.1.1 คลัง ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400 - 065 บัญชชี นิ้ ส่วนซอ่ มตามอัตราพกิ ดั ( ผนวก ก ) 6.1.2 ชอพ.ข้ันต้นสำหรับ 15 วันส่งกำลัง ใช้รายการ และจำนวนช้ินส่วนซ่อม ตามท่ีระบุไวใ้ นคู่มือส่งกำลัง หรือคู่มือเทคนิค สำหรับจำนวนนั้น ถ้าคู่มือดังกล่าวข้างต้นแสดงความส้ินเปลือง ตอ่ ยุทธภัณฑ์ 100 ช้นิ ไว้ ก็คำนวณโดยใชส้ ูตร จำนวนเกณฑ์สงู ในช่องจำนวนยทุ ธภณั ฑ์ใบแ1บ0บ0ทบ.400-066 X ความสิน้ เปลือง = ระดบั สะสมท่ีอนมุ ตั ิ ผลลัพธ์ท่ีได้ใช้จำนวนเต็ม ทศนิยมตั้งแต่ .5 ข้ึนไป ปัดเศษเป็น 1 ต่ำกว่านั้นปัดเศษเป็น 0 เช่น จำนวนความสิน้ เปลอื งในคมู่ อื สง่ กำลัง และคมู่ ือเทคนคิ = 5 มยี ทุ ธภณั ฑอ์ ยู่ 44 ช้นิ ระดบั สะสมท่ีอนุมตั ิ = 50 X 5 = 2.5 ( ป1ดั 0เศ0ษ .5 เปน็ 1 ) = 3

ห น ้ า | 55 6.1.3 รายการท่ีมีความสำคัญต่อการรบ ใช้ตามคู่มือส่งกำลัง และ/หรือ คู่มือ เทคนิค และใหท้ ำเครอ่ื งหมายดอกจันทร์ไว้ในช่องรายการทส่ี ำคญั ต่อการรบของ บชอพ. ดว้ ย 6.1.4 คลังสายงาน แจกจ่าย บชอพ.ข้ันตน้ ซ่ึงจัดทำข้ึนตามข้อ 5.3.1 ให้แก่หน่วย ใช้ หนว่ ยสนับสนุน และคลังสายงานอ่ืนที่เกย่ี วข้อง 6.2 การปฏิบัตขิ องหนว่ ยใช้เมอ่ื ไดร้ ับ บชอพ.ขน้ั ตน้ 6.2.1 ตรวจสอบรายการและจำนวนชิ้นส่วนซ่อมที่มี คงคลังรวมค้างรับกับ บชอพ. ขั้นต้นท่ีได้รับ แล้วเบิก ส่งคืน หรือแจ้งยกเลิกค้างรับ เพ่ือให้มีรายการและจำนวนคงคลังรวมค้างรับ ของ ชน้ิ สว่ นซอ่ มตรงกบั บชอพ.น้นั ทั้งนตี้ อ้ งดำเนนิ การใหเ้ สรจ็ สิน้ ภายใน 30 วัน นับจากวนั ทีไ่ ด้รบั บชอพ.ขั้นต้น 6.2.2 ทำ บชอพ.รวมด้วยแบบพมิ พ์ ทบ.400-066 โดยใช้ บชอพ.ข้นั ตน้ เปน็ มลู ฐาน และแยกสำหรับแต่ละสายยุทธบรกิ าร แลว้ เสนอหนว่ ยหรือคลังที่สนับสนนุ โดยตรงไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน 6.2.3 ใช้ ชอพ.ทำการซ่อมบำรุงประจำหน่วย แล้วเบิกทดแทนให้เต็มระดับอยู่ เสมอ 6.2.4 เก็บเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับช้ินส่วนซ่อม และ บชอพ. ไว้เป็นหลักฐานใน สำนักงานของหน่วย และใหพ้ ร้อมท่ีจะรับตรวจได้ 6.3 การทำบัญชีคุม ทุกหน่วยที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย บันทึก สถานภาพและข้อมูลการส่งกำลังของช้ินส่วนซ่อมทุกรายการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในการซ่อมบำรุง ลงในแผน เก็บของและสำรวจยอด ( ทบ.400-068 ) ดังนี้ 6.3.1 สำหรับ ชอพ. คงบันทึกตามวิธีเขียนใน ผนวก ข และหมายเหตุคำว่า “ชอพ.” ด้วยสีแดงไว้มมุ บนซา้ ย 6.3.2 สำหรับช้ินส่วนซ่อมท่ีไม่ใช่ ชอพ. แต่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในการซ่อมบำรุง ประจำหน่วยได้ โดยบันทึกตามวธิ เี ขียนใน ผนวก ข ยกเวน้ ช่องทเ่ี ก็บและช่องระดบั สะสมทีอ่ นมุ ตั ิ 6.4 การสอบทานความต้องการ เพ่ือปรับปรุง บชอพ. ให้มีรายการ และจำนวนของ ชอพ. ได้สมดุลกับความต้องการในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย ให้หน่วยที่รับผิดชอบการซ่อมบำรุงประจำหน่วย ปฏิบตั ดิ ังน้ี 6.4.1 ชอพ.ให้สอบทานแผนเก็บของและสำรวจยอดทุกรอบเดือน เพื่อทราบ ความถ่ีและจำนวนของความต้องการทดแทนในห้วง 6 เดือนที่แล้วมา และขีดเส้นแดงในแผนเก็บของและ สำรวจยอดใต้บนั ทกึ สุดทา้ ยของรอบเดือนทางดา้ นขวามอื 6.4.2 ชิ้นส่วนซ่อมที่ไม่ปรากฏใน บชอพ. แต่คู่มือส่งกำลังหรือคู่มือเทคนิคอนุมัติ ให้เบิกไปใช้ในการซ่อมบำรุงประจำหน่วยได้ เช่น รายการท่ีมีเคร่ืองหมายแสดงไว้ว่า “ตามความต้องการ” หรือรายการท่ีกำหนดระดับสะสมไว้ แต่ผลของการคำนวณโดยถือจำนวนยุทธภัณฑ์เป็นหลัก ได้ผลลัพธ์ต่ำ กว่า 0.5 นั้น ถ้าปรากฏว่ามีความถี่ของความต้องการทดแทนต้ังแต่ 3 ครั้งขึ้นไปในห้วง 6 เดือนท่ีแล้วมา เมอื่ ใด ให้สอบทานความต้องการตามข้อ 6.4.1 ได้ 6.5 การเพิ่ม และการตัดรายการใน บชอพ. 6.5.1 การเพ่ิมรายการชิ้นส่วนซ่อมที่ไม่ปรากฏใน บชอพ. แต่คู่มือส่งกำลังหรือ คู่มือเทคนิคอนุมัติไปใช้ในการซ่อมบำรุงประจำหน่วยได้ ถ้ารายการใดมีความถ่ีของความต้องการทดแทน ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปในห้วง 6 เดือนที่แล้วมา ให้คำนวณระดับสะสมท่ีอนุมัติ โดยนำจำนวนรวมที่ต้องการของ ความต้องการทดแทนในหว้ ง 6 เดอื นที่แล้วมา ไปคน้ หาระดับสะสมท่อี นุมตั ิจาก

ห น ้ า | 56 ตาราง ผนวก ค วิธีหา ดูตัวอย่างท้ายผนวก ค และเสนอขอเพ่ิมรายการน้ันต่อหน่วยสนับสนุนโดยตรง เม่ือ ไดร้ บั อนุมัตแิ ลว้ ให้เพิ่มรายการน้ันลงใน บชอพ. และทำการเบกิ ใหเ้ ต็มระดับสะสมทอ่ี นุมตั ิ 6.5.2 การตัดรายการ ชอพ.รายการใด เม่ือมีการบันทึกความต้องการทดแทนใน แผนเก็บของและสำรวจยอด ตั้งแต่ 12 เดือนข้ึนไป และมีความถี่ของความต้องการทดแทนต่ำกวา่ 3 ครั้งใน หว้ ง 6 เดอื นทแี่ ล้วมา ให้ขอตดั รายการน้ันต่อหน่วยสนบั สนุนโดยตรง เม่อื ไดร้ บั อนุมัตแิ ล้ว ให้ตัดรายการน้นั ออกจาก บชอพ.ได้ ชอพ. รายการทีม่ ีความสำคญั ตอ่ การรบ แม้วา่ จะมคี วามถี่ของความต้องการทดแทนไม่ถึง 3 คร้ังในห้วง 6 เดอื นท่ีแล้วมา ไมต่ อ้ งตัดรายการน้ันออก คงสะสมไว้ได้จำนวน 1 หน่วยนับ เม่อื ตดั รายการ ชอพ. ออกจาก บชอพ.แล้ว ให้สง่ คนื และ/หรือยกเลิกคา้ งรบั ต่อหน่วยสนบั สนุนโดยตรงด้วย 6.6 การเพิ่ม และการลดระดบั สะสมที่อนมุ ัตใิ น บชอพ. 6.6.1 การเพ่ิมระดับสะสมที่อนุมัติ ชอพ. รายการใดที่มีความถี่ของความต้องการ ทดแทนตั้งแต่ 3 คร้ังขึน้ ไปในห้วง 6 เดอื นท่ีแล้วมา ให้คำนวณระดบั สะสมที่อนมุ ัตติ ามวธิ ีในข้อ 6.5.1 ถ้าได้ ผลลัพธ์สูงกว่าใน บชอพ. ให้ขอเพิ่มระดับสะสมน้ันต่อหน่วยสนับสนุนโดยตรง เม่ือได้รับอนุมัติแล้วจึงเพ่ิม ระดับสะสมใน บชอพ.ได้ และเบิกให้เต็มระดับสะสมท่ีอนุมัติเว้น ชอพ.ค่าควรซ่อม ซ่ึงกำหนดให้ทำการ แลกเปล่ียนโดยตรง หรือ ชอพ.ทีค่ ลงั สายงานรับผิดชอบการสง่ กำลงั กำหนดไว้ว่าไม่ใหเ้ พม่ิ ระดับสะสมเกนิ กว่า ท่ีอนมุ ัตไิ วใ้ น บชอพ.ข้ันตน้ 6.6.2 การลดระดับสะสมที่อนุมัติ ชอพ. รายการใดถ้ามีความถ่ีของความต้องการ ทดแทนตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปในห้วง 6 เดือนที่แล้วมา ให้คำนวณระดับสะสมที่อนุมัติเช่นเดียวกับ ข้อ 6.5.1 ถ้าต่ำกว่าที่กำหนดไว้ใน บชอพ.ให้ขอลดระดับสะสมต่อหน่วยสนับสนุนโดยตรง เม่ือได้รับอนุมัติแล้วจึงลด ระดับสะสมในรายการนั้นใน บชอพ.ได้ การลดระดบั สะสมที่อนุมัติของ บชอพ.ลงต่ำกวา่ ที่กำหนดใน บชอพ. ขั้นต้น ให้กระทำได้เม่ือมีข้อมูลความต้องการทดแทนในแผนเก็บของและสำรวจยอดต้ังแต่ 12 เดือนขึ้นไป และส่งคืน และ/หรอื ยกเลกิ ค้างรับตอ่ หนว่ ยสนบั สนุนโดยตรง 6.7 ข้อยกเว้น 6.7.1 ชอพ. รายการใดเป็น สป. ล้าสมัย หรือหน่วยใช้ไม่มียุทธภัณฑ์ที่ใช้ ชอพ. รายการน้ันสำหรับการซ่อมบำรุงประจำหน่วยอีกแล้ว ให้หน่วยใช้ส่งคืนทันที และตัด ชอพ.รายการนั้นออก จาก บชอพ.ได้โดยอัตโนมัติ 6.7.2 ชอพ.รายการใดมีความต้องการทดแทนไม่ถึง 3 ครั้งในห้วง 6 เดือนที่แล้ว มา เนื่องจากยุทธภัณฑ์ไม่ได้ใช้งาน เชน่ งดใช้การ ฯลฯ หรือ ชอพ.น้ันมีความต้องการเฉพาะฤดกู าล ให้สะสม ไวไ้ ด้เท่ากบั จำนวนคงคลงั ทีม่ อี ยู่ แต่ไม่เกนิ ระดบั สะสมท่ีอนมุ ตั คิ ร้ังสุดท้าย 6.7.3 เม่ือได้รับแจ้งการเปล่ียนแปลงหมายเลขสิ่งอุปกรณ์ และ/หรือรายการจาก หน่วยสนับสนุนโดยตรง ให้หน่วยใช้แก้ไข บชอพ. กับแผนเก็บของและสำรวจยอดได้โดยอัตโนมัติ เพ่ือใช้ สำหรับเบิกคราวตอ่ ไปดว้ ย 6.8 วิธีปรบั ปรงุ บชอพ.ตามข้อ 6.5 และ 6.6 6.8.1 หน่วยใช้ ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-066 ตามผนวก ก เขียนเฉพาะรายการที่ ต้องการปรับปรุง บชอพ. เสนอหน่วยสนับสนุนโดยตรง จำนวน 2 ชุด ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันท่ีทำการ สอบทานความต้องการ 6.8.2 หน่วยสนับสนุนโดยตรง ตรวจสอบหมายเลขส่ิงอุปกรณ์ รายการขั้นการ ซ่อม และความตอ้ งการทข่ี อปรับปรุง บชอพ. เมื่อเหน็ ว่าถกู ต้องแลว้ ให้หัวหน้าหน่วยสนบั สนุนโดยตรง หรือผู้

ห น ้ า | 57 ที่ได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษร ลงนามอนุมัติ แล้วส่งคืนให้หน่วยที่เสนอมา จำนวน 1 ชุดภายใน 30 วัน นบั แตว่ ันทีไ่ ด้รับ 6.8.3 เมอื่ ไดร้ ับหลักฐานที่อนุมตั แิ ลว้ ใหแ้ ก้ไข บชอพ.ไดต้ ามอนุมตั ิ 6.9 การปฏิบตั ิเพม่ิ เตมิ จากการปรบั ปรุง บชอพ. 6.9.1 การเพิ่มรายการ และการเพ่มิ ระดบั สะสมท่ีอนุมตั ิ 6.9.1.1 เพิ่มระดบั สะสมท่ีอนุมัตใิ นแผนเก็บของและสำรวจยอด 6.9.1.2 ตรวจสอบจำนวนคงคลัง ค้างรับ และค้างจ่ายเปรียบเทียบกับ ระดับสะสมทีอ่ นมุ ตั ิ ถ้าจำเปน็ ให้เบิกทดแทนจากหนว่ ยสนบั สนุน เพอ่ื ให้เต็มระดบั ระดบั สะสมทอี่ นมุ ัติ 6.9.2 การตดั รายการ และการลดระดบั สะสมที่อนุมตั ิ 6.9.2.1 ลดระดบั สะสมทอี่ นมุ ตั ใิ นแผนเก็บของและสำรวจยอด 6.9.2.2 ตรวจสอบจำนวนคงคลัง ค้างรับ และค้างจ่ายเปรียบเทียบกับ ระดับสะสมท่ีอนุมัติ ถ้าจำเป็นให้ส่งคืน และ/หรือยกเลกิ ค้างรับต่อหน่วยสนบั สนุนโดยตรง เพือ่ มิให้เกนิ ระดับ สะสมทอ่ี นุมตั ิ ขอ้ 7. การปฏิบัติเก่ียวกบั ชิน้ สว่ นซ่อมที่สะสม ( ชสส.) 7.1 หลกั เกณฑ์ในการสะสม ชนิ้ ส่วนซอ่ มรายการใดที่เข้าหลักเกณฑใ์ นการสะสมต่อไปน้ีใหจ้ ดั ไว้เปน็ พวก ชสส. และต้องทำ บชสส. ไดแ้ ก่ 7.1.1 ช้ินส่วนซ่อมที่มีความถี่ของความตอ้ งการประจำตั้งแต่ 3 ครั้งข้ึนไป ในห้วง ควบคมุ 12 เดอื น ( 360 วัน ) 7.1.2 ช้ินส่วนซ่อมท่ีมีความถี่ของความต้องการประจำต่ำกว่า 3 คร้ังในห้วง ควบคมุ 12 เดอื น ( 360 วนั ) แต่เป็นรายการทจ่ี ำเปน็ ตอ่ ภารกจิ รวมทง้ั รายการตอ่ ไปนี้ คอื 7.1.2.1 ชอพ.ของหน่วยซึ่งตนมีภารกจิ ให้การสนับสนุน 7.1.2.2 ชสส.ของหนว่ ยซงึ่ ตนมีภารกจิ ใหก้ ารสนบั สนุน 7.1.2.3 ชิ้นส่วนซ่อม ที่อนุมัติให้สะสมไว้ได้ โดยจำนวนตามคู่มือส่งกำลัง หรือคมู่ อื เทคนคิ ทม่ี บี ัญชีชิ้นสว่ นซอ่ ม เพ่ือประกันได้วา่ ยุทธภณั ฑ์ในความสนับสนุนสามารถนำไปใชง้ านได้โดย ตอ่ เนอื่ ง 7.1.2.4 องค์ประกอบของยุทธภัณฑ์ ท่ีกรมฝ่ายยุทธบริการอนุมัติให้ หน่วยสนับสนุนในการส่งกำลังสะสมไว้ เพ่ือจ่ายทดแทนองค์ประกอบท่ีชำรุดซ่อมของยุทธภัณฑ์ เมื่อหน่วย สนบั สนนุ การซ่อมบำรุงไมส่ ามารถซอ่ มยุทธภัณฑ์ทีช่ ำรุดใหแ้ ลว้ เสรจ็ ทนั ความต้องการ 7.1.2.5 ช้ินส่วนซ่อมควบคู่ ที่จัดให้โดยอัตโนมัติที่หน่วยจ่ายส่งให้เพ่ือ สนบั สนนุ ยทุ ธภณั ฑร์ ายการใหม่ 7.1.2.6 ช้ินส่วนซอ่ มตามบัญชีแลกเปล่ยี นโดยตรง ซ่ึงกรมฝ่ายยุทธบรกิ าร อนมุ ัตใิ หส้ ะสม 7.1.2.7 ช้ินส่วนตามบัญชีสะสม ของโรงงานซ่อมบำรุงของหน่วย สนบั สนนุ 7.2 การจดั ทำบญั ชีชิ้นสว่ นซอ่ มทีส่ ะสม ( บชสส.)

ห น ้ า | 58 7.2.1 หน่วยสนับสนุนโดยตรง และหน่วยสนับสนุนท่ัวไป จัดทำ บชสส.โดยใช้ แบบพิมพ์ ทบ.400-069 บัญชชี ้ินส่วนซ่อมที่สะสม ( ผนวก ง ) และเสนอให้หน่วย หรือคลังท่ีสนับสนุนทราบ เพอื่ เป็นหลักฐาน 7.2.2 เมื่อมีการปรับปรุง บชสส. ให้จัดทำใหม่ทุก ๆ ปี และเสนอให้หน่วย หรือ คลังท่สี นับสนนุ ทราบภายใน ม.ค. ของทกุ ปี 7.3 การสอบทานความต้องการเพ่ือปรับปรุง บชสส. ให้มีรายการ ชสส.ได้สมดุลย์กับความ ตอ้ งการในการสง่ กำลัง และ/หรอื การซ่อมบำรุง ใหป้ ฏิบตั ิดงั นี้ 7.3.1 ชสส. ท่ีสะสมโดยอาศัยหลักเกณฑ์ตามข้อ 7.1.1 ให้สอบทานบัตรบัญชีคุม ทบ.400-003 ในช่องในความต้องการประจำทุกรอบเดือน เพื่อให้ทราบความถี่ของความต้องการประจำใน หว้ งควบคุม และขีดเส้นแดงใตบ้ ันทึกสุดท้ายของรอบเดอื นท่ีสอบทานนั้นทุกคร้ัง 7.3.2 ชสส.ท่ีสะสมโดยอาศัยหลักเกณฑ์ตามข้อ 7.1.2 และช้ินส่วนซ่อมที่ยังไม่ เข้าเกณฑ์ในการสะสมตามข้อ 7.1.1 ให้สอบทานทุกคร้ังที่บันทึกความต้องการประจำลงในบัตรบัญชีคุม ทบ.400-003 เม่อื มคี วามต้องการประจำถึง 3 คร้ังในหว้ งควบคมุ เมือ่ ใด ใหค้ ำนวณและกำหนดเกณฑเ์ บิกดว้ ย 7.4 การเพิม่ และตัดรายการใน บชสส. 7.4.1 การเพิ่มรายการชิ้นส่วนซ่อมที่ไม่ปรากฏใน บชสส. แต่คู่มือส่งกำลัง หรือ คู่มือเทคนิคท่ีมีบัญชีช้ินส่วนซ่อมอนุมัติให้เบิกไปสะสมไว้ เพื่อภารกิจในการสนับสนุนได้ ถ้ารายการใดเข้า หลักเกณฑ์สะสมตามข้อ 7.1 อย่างใดอย่างหน่ึง ให้เพิ่มรายการนั้นใน บชสส. ได้ และให้ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-069 บัญชีช้ินส่วนซอ่ มที่สะสม ( ผนวก ง ) เสนอให้หนว่ ย หรอื คลงั ที่สนบั สนุนทราบเฉพาะรายการที่ เพิ่มภายใน 1 เดอื น 7.4.2 การตดั รายการ รายการตอ่ ไปน้ีต้องตัดออกจาก บชสส. 7.4.2.1 ชสส.ท่ีสะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.1 ถ้าปรากฏว่าในห้วง ควบคมุ ใดไมม่ คี วามตอ้ งการเลย และไมเ่ ขา้ หลักเกณฑต์ ามข้อ 7.1.2 ด้วย 7.4.2.2 ชสส. ที่สะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.1 ถ้าหากหน่วยใช้ไม่มี ความต้องการอีกต่อไป 7.4.2.3 ชสส. ทสี่ ะสมตามหลักเกณฑใ์ นขอ้ 7.1.2.2 ถ้าหากหน่วยซึ่งตนมี ภารกิจใหก้ ารสนับสนุนไมม่ คี วามตอ้ งการอีกต่อไป 7.4.2.4 ชสส. ที่สะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.3 ถ้าหากคู่มือส่งกำลัง หรือคู่มือเทคนิค มกี ารแก้ไขโดยตดั รายการน้ันออก 7.4.2.5 ชสส. ท่ีสะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.4 ถ้ากรมฝ่ายยุทธ บรกิ ารท่ีอนุมัตใิ หส้ ะสมแจ้งการแก้ไขโดยยกเลิกการอนุมตั ิ 7.4.2.6 ชสส. ที่สะสมตามหลกั เกณฑใ์ นขอ้ 7.1.2.5 เมือ่ สะสมไว้ครบตาม เวลาของหว้ งควบคุมแล้ว และไม่เขา้ หลักเกณฑอ์ ยา่ งใดตามข้อ 7.1 7.4.2.7 ชสส. ที่สะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.6 ถ้ากรมฝ่ายยุทธ บรกิ ารท่ีอนมุ ตั ิให้สะสมแจ้งการแกไ้ ขโดยยกเลิกอนมุ ัติ 7.4.2.8 ชสส. ท่ีสะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.7 ถ้าโรงงานซ่อมบำรุง ของหน่วยสนบั สนนุ ไมต่ ้องการอกี ตอ่ ไป

ห น ้ า | 59 การตัดรายการใน บชสส. ให้ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-069 บัญชีชิ้นส่วนซ่อมท่ีสะสม ( ผนวก ง ) เสนอใหห้ นว่ ยหรือคลังท่สี นบั สนนุ ทราบเฉพาะรายการทีต่ ดั ออกภายใน 1 เดอื น ข้อ 8. ให้กรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษ ที่รับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ ออกระเบียบ ปลีกยอ่ ยไดต้ ามความจำเป็นโดยไมข่ ดั กับระเบียบน้ี ข้อ 9. ให้กรมส่งกำลังบำรงุ ทหารบก รกั ษาการใหเ้ ปน็ ตามระเบียบน้ี ขอ้ 10. ให้ใชร้ ะเบยี บน้ี ตงั้ แต่บัดน้เี ป็นต้นไป ประกาศ ณ วันท่ี 9 มิถนุ ายน 2512 รบั คำสั่งผู้บัญชาการทหารบก (ลงชือ่ ) พลเอก ท. โกศินานนท์ ( ทวนชยั โกศินานนท์ ) ผู้ชว่ ยผู้บญั ชาการทหารบก หมายเหตุ แบบพิมพ์ “แผนเกบ็ ของและสำรวจยอด ทบ.400-068” ให้ เปลี่ยนช่ือเป็น “บัตรบญั ชีคุมช้ินสว่ นซอ่ ม และสิง่ อปุ กรณ์ใชส้ นิ้ เปลอื ง ทบ.400-068” เพอื่ ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบ ทบ.วา่ ดว้ ยการส่งกำลงั สป.2 และ 4 พ.ศ.2534 คดั สำเนาจาก ประมวลระเบยี บ คำสั่ง อนุมตั ิหลักการ ฯลฯ กองทพั บก 2 ต.ค. 58 สายงานสรรพาวธุ พ.ศ.2480 ถงึ 2519 ฉบับร่าง รวบรวมโดยกองวิทยาการ กรมสรรพาวุธทหารบก ร.ต.สวัสดิ์ ทับทิมงาม ปรบั ปรงุ แกไ้ ข ตรวจถกู ต้อง ลงชอ่ื พ.ต.อุทัย ศรีใสไพร (อุทยั ศรใี สไพร) อจ.แผนกวชิ ายานยนต์ กศ.รร.ม.ศม. ต.ค.58

ห น ้ า | 60 (สำเนา) ระเบยี บกองทพั บก วา่ ดว้ ย การสง่ กำลังสง่ิ อุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4 พ.ศ. 2534 ------------------------------- โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการส่งกำลังส่ิงอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4 พ.ศ. 2532 ใหเ้ หมาะสมยิ่งขน้ึ จงึ วางระเบียบไว้ดังนี้ ข้อ 1 ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4 พ.ศ. 2534” ข้อ 2 ให้ใช้ระเบียบน้ี ต้งั แตบ่ ัดนี้เปน็ ตน้ ไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งกำลังส่ิงอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4 พ.ศ. 2524 บรรดาระเบียบ คำส่ัง และคำช้ีแจงอ่ืนใด ท่ีนำมากำหนดไว้ในระเบียบน้ี หรือท่ีขัดแย้งกับระเบียบน้ี ให้ใช้ ระเบียบนี้แทน ข้อ 4 ให้เจา้ กรมส่งกำลงั บำรงุ ทหารบกรักษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบน้ี ตอนท่ี 1 คำจำกัดความ ขอ้ 5 คำจำกัดความทใี่ ชใ้ นระเบียบนี้ 5.1 การส่งกำลัง หมายถึง การปฏิบัติการในเรื่อง ความตอ้ งการการจัดหา การแจกจ่าย และการ จำหนา่ ยสิง่ อุปกรณ์ รวมทงั้ การควบคุมการปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนดงั กล่าว 5.2 ความต้องการ หมายถึง การกำหนดหรือการเสนอหรือคำขอในเร่ืองสิ่งอุปกรณ์ตามจำนวน และในเวลาทบ่ี ง่ ไว้ หรือตามเวลาที่กำหนดไว้ 5.3 การควบคมุ หมายถงึ การควบคุมทางบัญชี และการควบคมุ ทางการสง่ กำลงั 5.4 การควบคุมทางบัญชี หมายถึง วิธีการในการควบคุมสิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ การควบคุมการ แจกจ่าย การจ่ายเพิ่มเติม การรวบรวมบันทึกรายงาน การจัดทำข้อมูลถาวรต่าง ๆ การสำรวจ การรายงาน สถานภาพส่ิงอุปกรณ์ การกำหนดนโยบายเก่ียวกับระดับส่ิงอุปกรณ์เพื่อการประหยัดโดยต่อเนื่องทุกขั้นตอน ในสายการส่งกำลัง และสายการบังคับบัญชา นับตั้งแต่สิ่งอุปกรณ์ได้เร่ิงเข้าสู่ระบบการส่งกำลังจนกระทั่ง หน่วยใชไ้ ดใ้ ชห้ มดสน้ิ ไป และได้รบั อนุมตั ใิ หจ้ ำหนา่ ยออกจากบญั ชีคุมของกองทพั บกแลว้ 5.5 การควบคุมทางการส่งกำลัง หมายถึง วิธีการท่ีเกี่ยวกับระบบการรายงาน การคำนวณ การ รวบรวมข้อมูล และการประเมินค่า เพ่ือให้สิ่งอุปกรณ์ตามความตอ้ งการท้ังส้ินได้ส่วนสัมพันธ์กับทรัพย์สินที่มี อยู่ อนั เปน็ แนวทางในการประมาณการดา้ นงบประมาณ การจดั หา การแจกจา่ ย และการจำหนา่ ยสง่ิ อุปกรณ์ 5.6 การจดั หา หมายถงึ กรรมวิธเี พ่อื ใหไ้ ดม้ าซึง่ ส่ิงอุปกรณ์ 5.7 การแจกจา่ ย หมายถงึ การรบั การจา่ ย การเกบ็ รักษา และการขนสง่ิ อปุ กรณ์ 5.8 การจำหน่าย หมายถึง การตัดยอดสิ่งอุปกรณ์ออกจากความรับผิดชอบของกองทัพบก เนื่องจากสูญไป สิ้นเปลืองไป (ส่ิงอุปกรณ์ส้ินเปลือง) ชำรุดเสียหายจนไม่สามารถซ่อมคืนสภาพได้อย่างคุ้มค่า เส่ือมสภาพจนใช้การไมไ่ ด้ หรือสูญหาย ตาย เกนิ ความต้องการ หรอื เปน็ ของล้าสมยั ไม่ใช้ราชการตอ่ ไป

ห น ้ า | 61 5.9 สิ่งอุปกรณ์ หมายถงึ สิง่ ของทจ่ี ำเปน็ ท้งั มวล สำหรบั หน่วยทหาร รวมทงั้ ทีม่ ไี ว้เพ่ือการดำรงอยู่ และการปฏิบัติของหน่วยทหารด้วย เช่น อาหาร เคร่ืองแต่งกาย เชื้อเพลิง สัตว์ ยานพาหนะ อาวุธ กระสุน วตั ถรุ ะเบดิ เครื่องจักรกล ตลอดจนเครือ่ งมอื เครอื่ งใชต้ า่ ง ๆ เป็นต้น 5.10 ส่ิงอุปกรณ์ประเภท 2 หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ซึ่งอนุมัติให้หน่วยมีไว้ในครอบครอง โดยระบุ เป็นอตั ราของหนว่ ย หรอื บุคคล เชน่ เครือ่ งแต่งกาย อาวุธ เครื่องมอื และชนิ้ สว่ นซ่อม เปน็ ต้น 5.11 ส่ิงอุปกรณ์ประเภท 4 หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ซ่ึงมไิ ด้ระบุไว้ในอัตราของหน่วย หรือมิไดจ้ ัดเป็น สิ่งอุปกรณ์ตามประเภทอ่ืน ๆ แต่อาจอนุมัติให้หน่วยมีไว้ในครอบครองตามความจำเป็น เช่น วัสดุในการ กอ่ สร้าง และเครือ่ งปรบั อากาศ เปน็ ต้น 5.12 ส่ิงอุปกรณ์สำเร็จรูป หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ท่ีเกิดจากการรวมเข้าด้วยกันของผลิตภัณฑ์ สำเร็จรูป องค์ประกอบ ส่วนประกอบ ช้ินส่วน และ/หรือ วัสดุซึ่งพร้อมจะใช้ได้ตามความมุ่งหมาย เช่น เรือ รถถัง เครอ่ื งบิน และโรงงานจกั รกลเคลือ่ นที่ เป็นต้น 5.13 ส่ิงอุปกรณ์สำคัญ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อ การฝึก การรบ ราคาแพง ยาก ตอ่ การจดั หา หรอื การผลิต มีความต้องการไมแ่ นน่ อน อาจจะขาดหรือเกินอยูเ่ สมอในระบบการสง่ กำลัง และ/ หรือ เป็นรายการท่ีอาจเกิดวิกฤตในวสั ดขุ ั้นมูลฐาน โดยกรมฝ่ายยุทธบริการเสนอบัญชีให้กองทัพบกประกาศ เป็นส่ิงอุปกรณ์สำคัญ เช่น รถถัง ชุดเรดาห์ เคร่ืองแต่งกายพิเศษ โทรศัพท์สนาม และหน้ากากป้องกันไอพิษ เป็นตน้ 5.14 สิ่งอุปกรณ์หลัก หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ท่ีใช้เวลาในการจัดหานาน และราคาแพง แต่มิได้ระบุ ไว้เป็นอุปกรณ์สำคัญ โดยกรมฝ่ายยุทธบริการที่รับผิดชอบทำบัญชี และประกาศเป็นสิ่งอุปกรณ์หลักได้เอง เช่น เคร่อื งมอื กอ่ สร้าง และเครอ่ื งส่อื สารประจำที่ เปน็ ตน้ 5.15 ส่ิงอุปกรณ์รอง หมายถึง สิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูปทุกรายการซ่ึงมิไดร้ ะบุไว้เป็นสิ่งอุปกรณ์สำคัญ และส่ิงอุปกรณ์หลัก โดยท่ัวไปแล้วสิ่งอุปกรณ์เหล่านี้ จะเวลาในการจัดหาส้ัน ราคาถูก และงา่ ยต่อการจัดหา เชน่ เครอ่ื งแตง่ กาย เคร่ืองสนาม ส่งิ อปุ กรณท์ วั่ ไป เครอ่ื งใช้ประจำบ้านพกั และน้ำมัน เปน็ ตน้ 5.16 ส่ิงอุปกรณ์ถาวร หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ถาวรกำหนดอายุ และส่ิงอุปกรณ์ถาวรไม่กำหนดอายุ ของสง่ิ อปุ กรณท์ งั้ มวล ซึ่งจำเปน็ สำหรับการปฏิบตั ิของหนว่ ยทางทหาร 5.17 สิ่งอุปกรณ์ถาวรกำหนดอายุ หมายถงึ สิ่งอปุ กรณ์สำเรจ็ รูปซง่ึ มีสภาพ และลักษณะมน่ั คงต่อ การใช้งาน แตย่ ่อมเสื่อมสภาพเสอื่ มราคาไปตามวาระ และระยะเวลาแห่งการใช้งาน 5.18 ส่ิงอุปกรณ์ถาวรไม่กำหนดอายุ หมายถึง สิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูปซึ่งมีสภาพ และลักษณะม่ันคง ตอ่ การใช้งาน หากมีการเก็บรกั ษา และการปรนนิบตั บิ ำรงุ เป็นอย่างดแี ล้วย่อมจะมอี ายยุ ืนนาน 5.19 สิ่งอุปกรณ์ใช้สิ้นเปลือง หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ท่ีใช้แล้วย่อมหมดส้ินไป ไม่คงรูป ไม่คงสภาพ และ/หรอื ไมม่ ีคุณคา่ ของการใชง้ านเหมือนเดิม 5.20 ส่ิงอุปกรณ์สำรองเพ่ือการซ่อมบำรุง หมายถึง สิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูป หรือองค์ประกอบเพ่ือ สะสมไว้ ณ ที่ตง้ั การส่งกำลัง หรือซ่อมบำรุง เพ่อื จ่ายทดแทนส่ิงอุปกรณ์ชำรดุ ซ่อมได้ ซ่ึงไม่สามารถซ่อมบำรุง โดยหน่วยสนับสนุนได้ทันตามกำหนด 5.21 สง่ิ อุปกรณ์ใช้การได้ หมายถงึ สิง่ อุปกรณท์ ่ีมคี ุณภาพใช้งานไดต้ ามความมุ่งหมายเดมิ 5.22 ส่ิงอุปกรณ์ใช้การไม่ได้ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ท่ีล้าสมัย หรือสึกหรอชำรุด ไม่สามารถนำไปใช้ ได้ตามความมุ่งหมายเดิม จำเป็นต้องซ่อมปรับสภาพ หรือดัดแปลงก่อนท่ีจะนำเข้าเก็บรักษาเพ่ือแจกจ่าย หรือเพ่ือใช้งานต่อไป

ห น ้ า | 62 5.23 ส่ิงอุปกรณ์ซ่อมคุ้มค่า หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ท่ีชำรุด และต้องการซ่อม ซ่ึงพิจารณาแล้วว่าเป็น การเหมาะสม และประหยัดในการซอ่ มบำรงุ 5.24 ส่ิงอุปกรณ์งดใช้การ หมายถึงสิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูปซ่ึงอยู่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ดงั ต่อไปน้ี 5.24.1 ไมท่ ำงานตามหน้าที่ 5.24.2 ไม่ปลอดภยั ในการใช้งาน 5.24.3 ถา้ ใช้ต่อไปจะเสยี หายมากข้ึน 5.25 ยุทธภัณฑ์ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ทั้งมวลอันจำเป็นเพ่ือปฏิบัติการ เพ่ือดำรง และสนับสนุน การปฏิบัติการรบของหน่วยทหาร (รวมถึง เรือรบ รถถัง อาวุธอัตตาจร อากาศยาน ฯลฯ และอะไหล่ที่ เก่ียวข้อง ชิ้นส่วนอะไหล่ หรือ ชิ้นส่วนซ่อม และอุปกรณ์สนับสนุนแต่ไม่รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ สถานท่ีต้ัง และสาธารณปู โภค) 5.26 ยุทโธปกรณ์ หมายถงึ ส่ิงอปุ กรณ์ท้ังมวลทต่ี ้องการจัดใหบ้ ุคคล หรือหน่วยทหาร ไดแ้ ก่ อาวธุ ยานพาหนะ เครือ่ งแต่งกาย เครื่องมอื ฯลฯ 5.27 วสั ดุ หมายถงึ ช้ินสว่ น หรือสงิ่ ของตา่ ง ๆ ซง่ึ ไดจ้ ัดทำขึ้น หรอื ประกอบขน้ึ 5.28 ชิ้นส่วนซ่อม หมายถึง องค์ประกอบ ส่วนประกอบ และช้ินส่วนที่ใช้ในการซ่อมบำรุงส่ิง อปุ กรณ์ตามที่กำหนดไวใ้ นคู่มือการส่งกำลัง และ/หรือคู่มือทางเทคนิคที่มีบัญชีชิ้นส่วนซ่อม เช่น ลำกล้องปืน ใหญ่ และคาบเู รเตอร์ เป็นตน้ 5.29 องค์ประกอบ หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ที่เกิดจากการรวมเข้าด้วยกันของช้ินส่วนประกอบ และ ช้ินส่วนต่าง ๆ ซ่ึงสามารถปฏิบัติงานได้ในตัวเอง แต่อาจต้องอาศัยการควบคุมจากภายนอก หรืออาศัยการ ขบั เคล่ือนจากแหลง่ อ่นื ประกอบดว้ ย เชน่ เครือ่ งยนต์ และเครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ เป็นตน้ 5.30 ส่วนประกอบ หมายถึง สิ่งอปุ กรณ์ซ่ึงประกอบดว้ ยชิ้นสว่ นตา่ ง ๆ ท่เี ชื่อมต่อสัมพันธ์กันตั้งแต่ สองชิ้นขึน้ ไป และสามารถถอดแยกออกจากกันได้ เชน่ เครือ่ งเปลี่ยนความเร็ว และคาบูเรเตอร์ เปน็ ต้น 5.31 ชิ้นส่วน หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ หรือเป็นสิ่งอุปกรณ์ท่ีได้ ออกแบบไว้ให้ถอดแยกออกจากกันไมไ่ ด้ เชน่ หลอดวิทยุ ยางนอกรถยนต์ และลำกลอ้ งปนื เปน็ ตน้ 5.32 คลัง หมายถึง หน่วยท่ีมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติภารกิจในเร่ือง ความต้องการ การ ควบคุม การจัดหา การแยกประเภท การแจกจา่ ย การซอ่ มบำรงุ และการจำหน่ายสงิ่ อุปกรณ์ 5.33 คลังสายงาน หมายถึง คลังซึ่งกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษ ได้จัดต้ังข้ึน เพือ่ ปฏิบตั ภิ ารกจิ ของคลังสายงานเดียวกัน 5.34 คลังทั่วไป หมายถึง คลงั ที่จดั ตัง้ ข้ึนเพอ่ื ปฏิบตั ิภารกิจของคลังตั้งแตส่ องสายงานข้นึ ไป 5.35 คลงั กองบญั ชาการช่วยรบ หมายถงึ คลงั ทว่ั ไปซึง่ กองบญั ชาการชว่ ยรบไดจ้ ดั ตั้งขนึ้ 5.36 คลงั ส่วนภูมิภาค หมายถึง คลังทั่วไปซึง่ มณฑลทหารบก หรือจังหวัดทหารบก ไดจ้ ัดตงั้ ขนึ้ 5.37 หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง หมายถึง หน่วยสนับสนุนโดยตรง หน่วยสนับสนุนทั่วไป และคลงั 5.38 หน่วยสนับสนุนท่ัวไป หมายถึง หน่วยซึ่งมีภารกิจสนับสนุนด้านการส่งกำลัง และ/หรือ การ ซอ่ มบำรงุ ตอ่ หนว่ ยสนับสนุนโดยตรง 5.39 หน่วยสนับสนุนโดยตรง หมายถึง หน่วยซ่งึ มีภารกิจสนับสนุนดา้ นการส่งกำลัง และ/หรือ การ ซ่อมบำรุงโดยตรงใหก้ บั หน่วยใช้

ห น ้ า | 63 5.40 หน่วยใช้ หมายถึง หน่วยท่ีได้รับส่ิงอุปกรณ์ตาม อจย., อสอ. หรืออนุมัติอ่ืนใด ซึ่งได้รับ ประโยชนจ์ ากใชส้ ่งิ อปุ กรณ์นั้น ๆ 5.41 หน่วยเบิก หมายถึง หน่วยใช้ตั้งแต่ระดับกองพัน หรือเทียบเท่า หรือกองร้อยอิสระข้ึนไป หรือหนว่ ยอสิ ระที่ ทบ.อนุมัติ หรอื หนว่ ยสนับสนนุ ทางการส่งกำลังทุกระดับที่เบกิ ส่ิงอุปกรณไ์ ปยังหน่วยจา่ ย 5.42 หน่วยจ่าย หมายถึง หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังซึ่งทำหน้าที่จ่ายส่ิงอุปกรณ์ให้แก่หน่วย เบิก 5.43 หนว่ ยบญั ชีคุม หมายถงึ หนว่ ยซ่ึงดำเนนิ การควบคมุ ทางบญั ชีต่อสงิ่ อุปกรณ์ 5.44 วันส่งกำลัง หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ที่ประมาณว่าจะใช้สิ้นเปลืองไปหน่ึงวัน ตาม สภาวการณ์ต่าง ๆ 5.45 ระดับส่งกำลัง หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ ณ ที่ตั้งการส่งกำลังต่าง ๆ ท่ีได้รับอนุมัติให้ สะสมไว้เพื่อสนับสนุนการส่งกำลังให้สมบูรณ์ และต่อเน่ือง โดยปกติจะต้องกำหนดเป็นจำนวนวันส่งกำลัง หรืออาจจะกำหนดเป็นจำนวนสง่ิ อุปกรณ์กไ็ ด้ 5.46 ระดบั ปฏบิ ตั กิ าร หมายถึง ปริมาณส่ิงอปุ กรณ์ทตี่ อ้ งการใหม้ ไี ว้เพื่อสนบั สนนุ การปฏบิ ตั ิการใน ระยะเวลาเบกิ หรอื รบั สงิ่ อปุ กรณ์ท่สี ่งมาเพิ่มเตมิ 5.47 ระดบั ปลอดภัย หมายถงึ ปรมิ าณสง่ิ อุปกรณ์ท่เี พม่ิ เตมิ จากระดบั ปฏิบตั ิการให้มคี งคลงั ไว้ เพ่อื สามารถปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่องในเม่ือมีเหตุขัดข้องในการส่งเพิ่มเติมตามปกติ หรือเมื่อความต้องการไม่ เป็นไปตามความที่คาดคะเนไว้ 5.48 ระดับเก็บกัน หมายถึง ปริมาณส่ิงอุปกรณ์ท่ีหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังได้รับอนุมัติให้ เก็บกนั ไวไ้ ด้เกินกว่าเกณฑเ์ บิก 5.49 เกณฑ์สะสม หมายถึง ปริมาณสูงสุดของสิ่งอุปกรณ์ที่มีคงคลังเพ่ือสนับสนุนการปฏบิ ัตกิ ารได้ อย่างตอ่ เนือ่ ง ซ่งึ ประกอบดว้ ยระดบั ปฏบิ ัตกิ าร และระดับปลอดภัย 5.50 เกณฑ์เบิก หมายถึง ปริมาณสูงสุดของส่ิงอุปกรณ์คงคลังรวมกับค้างรับ ซึ่งจำเป็นสำหรับ สนับสนุนการปฏิบตั ิการในระยะนั้น และเพียงพอสำหรับความต้องการท่คี าดว่าจะมีในอนาคต หรอื คือผลรวม ของเกณฑ์สะสมกับเวลาในการเบกิ และจดั สง่ 5.51 เกณฑ์ความต้องการ หมายถึง ปริมาณสงู สุดของสิ่งอุปกรณ์คงคลังรวมกับท่สี ั่งชื้อ ซึ่งจำเป็น สำหรบั สนบั สนนุ การปฏิบตั กิ ารในระยะน้ัน และเพยี งพอสำหรบั ความต้องการทีค่ าดว่าจะมใี นอนาคต หรอื คือ ผลรวมของสิ่งอุปกรณ์ ตามระดับปลอดภัย วงรอบการจัดหา เวลาล่วงหน้าในการจัดหา และเวลาท่ีเสียไปใน การรายงานสถานภาพ 5.52 เวลาในการเบกิ และจัดส่ง หมายถงึ เวลานับตั้งแตห่ นว่ ยเบิกทำการเบิกสิ่งอุปกรณ์ จนถึงวนั ที่ ได้รับส่ิงอุปกรณ์ 5.53 เวลาล่วงหน้าในการจัดหา หมายถึง เวลานับตั้งแต่ริเร่ิมทำการจัดหา จนถึงวันที่ได้รับส่ิง อปุ กรณ์งวดแรก เขา้ สู่ระบบการสง่ กำลัง 5.54 วงรอบการสอบทาน หมายถงึ หว้ งเวลาที่กำหนดให้ทำการสอบทาน 5.55 วงรอบการเบิก หมายถงึ ห้วงเวลาทีก่ ำหนดใหท้ ำการเบิก 5.56 วงรอบการจัดหา หมายถงึ หว้ งเวลาทก่ี ำหนดให้ทำการจดั หา 5.57 จุดเพิ่มเติม หมายถึง ปริมาณส่ิงอุปกรณ์ที่ตอ้ งการทำการเบิกเพิ่มเติม ซ่ึงเท่ากับผลรวมของ ระดบั ปลอดภยั กบั เวลาในการเบกิ และจัดสง่ ทัง้ นี้เพือ่ เก็บรักษาไวซ้ ่งึ เกณฑส์ ะสม

ห น ้ า | 64 5.58 ปัจจยั ทดแทน หมายถึง ตัวเลขแสดงความส้นิ เปลอื งของส่ิงอปุ กรณ์ถาวร เปน็ รอ้ ยละ หรือพัน ละตอ่ เดอื น 5.59 อัตราส้ินเปลือง หมายถึง ตัวเลขแสดงความส้ินเปลืองของสิ่งอุปกรณ์ใช้สิ้นเปลือง โดย กำหนดเปน็ มาตราอย่างใดอย่างหนึง่ ตามความเหมาะสม 5.60 คงคลัง หมายถึง ประมาณส่ิงอุปกรณ์ที่มีอยู่ในครอบครองของหน่วย ตามบัญชีคุมใน ขณะน้นั 5.61 คา้ งรับ หมายถึง ปรมิ าณส่ิงอุปกรณ์ที่คาดหมายว่าจะไดร้ บั จากการจัดช้ือ การเบกิ และจาก แหลง่ อ่นื ๆ เช่น การโอน และการซอ่ มบำรุง เป็นต้น 5.62 ค้างจ่าย หมายถึง ปริมาณส่ิงอุปกรณ์ ซ่ึงหน่วยจ่ายไม่สามารถจ่ายให้หน่วยเบิกได้ครบใน ขณะทขี่ องเบิกมา และบนั ทึกเปน็ หลกั ฐานไว้เพ่ือปลดเปลอ้ื งค้างจา่ ยใหเ้ มอื่ มสี งิ่ อปุ กรณ์ 5.63 การเบิก หมายถึง วธิ ีดำเนินการเสนอคำขอไปยังหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง เพื่อขอรับ สงิ่ อปุ กรณต์ ามจำนวนที่ตอ้ งการ 5.64 การยืม หมายถึง วิธีดำเนินการขอรับการสนับสนุนส่ิงอุปกรณ์เป็นการช่ัวคราว (เว้นช้ินส่วน ซ่อม) สำหรับเพิ่มพูลการปฏิบัติภารกิจ หรือสำหรับการทรงชีพของหน่วยใช้ ซ่ึงหน่วยไม่ได้รับอนุมัติให้มีสิ่ง อปุ กรณ์ดงั กล่าวไว้ในครอบครอง หรืออนุมตั ใิ หม้ ไี ว้แล้วแตไ่ มเ่ พยี งพอ 5.65 การตดิ ตามใบเบกิ หมายถงึ การสอบถามเพ่ือขอทราบผลการปฏบิ ตั ิต่อใบเบิกทไ่ี ด้เสนอไปยัง หนว่ ยสนับสนุนทางการส่งกำลัง 5.66 การยกเลิกใบเบิก หมายถึง การแจ้งระงับการจ่ายส่ิงอุปกรณ์ตามใบเบิกท่ีหน่วยเบิกเสนอมา อาจจะเปน็ ทัง้ หมด หรอื บางส่วนของการเบิกกไ็ ด้ 5.67 การรบั หมายถึง การดำเนินกรรมวิธีเพื่อครอบครองส่ิงอุปกรณท์ ไ่ี ด้มาจากการจัดหา 5.68 การจ่าย หมายถึง การดำเนินการตอบสนองความตอ้ งการตามที่หนว่ ยเบิกได้ส่งคำขอมา 5.69 การปลดเปลื้องค้างจ่าย หมายถึง การจ่ายสิ่งอุปกรณ์ท่ีค้างจ่ายให้กับหน่วยเบิกโดยอตั โนมัติ ตามใบเบกิ ท่ีคา้ งจา่ ย 5.70 การเก็บรักษา หมายถึง การเตรียมพื้นที่ การนำสิ่งอุปกรณ์เข้า-ออก การเก็บ หรือการวาง การระวงั รักษาสิง่ อุปกรณใ์ นทเี่ กบ็ รวมท้งั การปรนนบิ ตั ิบำรงุ และการซ่อมบำรุงขณะเกบ็ และกอ่ นจา่ ยด้วย 5.71 การสำรวจ หมายถงึ การสำรวจส่ิงอุปกรณ์ และสำรวจท่ีเกบ็ 5.72 การสำรวจส่ิงอุปกรณ์ หมายถึง การนับจำนวน และการตรวจสภาพส่ิงอุปกรณ์ในท่ีเกบ็ ให้ตรง กับหลักฐานในบัญชีคุม 5.73 การสำรวจท่ีเก็บ หมายถึง การตรวจสอบท่ีเก็บส่ิงอุปกรณ์ให้ตรงกับบัตรบัญชีคุมสิ่งอุปกรณ์ หรอื บัตรแสดงที่เกบ็ ของ 5.74 การขนส่ง หมายถึง การเคล่อื นย้ายส่ิงอปุ กรณ์ระหวา่ งหน่วยส่งกับหนว่ ยรับ 5.75 การส่งคนื หมายถึง การส่งสงิ่ อุปกรณก์ ลับคนื หน่วยจ่าย หรือสนับสนนุ ทางการส่งกำลงั มิได้ หมายถึงการสง่ ซอ่ ม หรือสง่ สิ่งอปุ กรณ์ท่ซี ่อมเสรจ็ แลว้ กลบั คืนหน่วยส่งซ่อม 5.76 การโอน หมายถึง การโอนความรับผิดชอบในส่ิงอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ หรือการ โอนสิทธคิ รอบครองสง่ิ อุปกรณร์ ะหวา่ งหน่วย 5.77 สายการบังคับบัญชา หมายถึง ความเกี่ยวพันในการบังคับบัญชาของหน่วยเหนือท่ีมีต่อ หน่วยรอง ตามลำดบั เชน่ กองทพั บก - กองทัพภาค - กองพล - กรม - กองพัน - กองรอ้ ย เปน็ ตน้

ห น ้ า | 65 5.78 สายการส่งกำลัง หมายถึง ความเก่ียวพันในการส่งกำลังของหน่วยเหนือท่ีมีต่อหน่วยรอง ตามลำดับ เช่น กองทัพบก - กรมฝ่ายยุทธบริการ หรอื กรมฝ่ายกิจการพิเศษ - หน่วยสนับสนุนทั่วไป - หน่วย สนบั สนนุ โดยตรง – หน่วยใช้ ตอนท่ี 2 ความต้องการ ขอ้ 6 ลักษณะความตอ้ งการ 6.1 ความต้องการประจำ 6.1.1 ความต้องการประจำ คือ ความต้องการเพ่ือทดแทนสิ่งอุปกรณ์ท่ีใช้หมด ไป หรือใชส้ ิ้นเปลือง และเพ่ือเพมิ่ เติมระดับการสง่ กำลงั อันสืบเนื่องมาจากการปฏบิ ตั งิ าน 6.1.2 ความต้องการประจำ ใช้เป็นข้อมูลสำหรับคำนวณความต้องการท้ังเพื่อการ จัดหา และการเบกิ 6.2 ความตอ้ งการครัง้ คราว 6.2.1 ความต้องการครั้งคราว คือ ความต้องการท่ีเกิดข้ึนครั้งเดียวในห้วงเวลา 12 เดือน สำหรับความมุ่งหมายอย่างเดียวกัน และหมายรวมถึงความต้องการขั้นตน้ เพ่ือสนองความต้องการ ตามอัตรา ความต้องการเพื่อรักษาระดับการส่งกำลังท่ีเพ่ิมขึ้น และความต้องการตามโครงการพิเศษต่าง ๆ เช่น ความตอ้ งการเพอ่ื การซอ่ มบำรุงส่ิงอุปกรณส์ ำเรจ็ รูป เป็นต้น 6.2.2 ความต้องการครั้งคราว ใช้เป็นข้อมูลสำหรับคำนวณความตอ้ งการเพอ่ื การ จัดหาเทา่ น้นั ขอ้ 7 ประเภทความตอ้ งการ 7.1 ความต้องการข้ันต้น ได้แก่ ความต้องสิ่งอุปกรณ์ที่ทหาร หรือหน่วยต้องการมีไว้เพ่ือการ ปฏิบัติภารกิจของตน ซึ่งสิ่งอุปกรณ์น้ัน ๆ ยังไม่เคยได้รับมาก่อน และเป็นความต้องการส่ิงอุปกรณ์ในกรณี ดังตอ่ ไปนี้ 7.1.1 การรับทหารเขา้ ประการใหม่ 7.1.2 การจัดตั้งหน่วยใหม่ 7.1.3 การกำหนดมาตรฐานส่งิ อุปกรณ์ใหม่ 7.1.4 การเพม่ิ จำนวน และรายการเนอื่ งมาจากการแกอ้ ัตรา 7.1.5 รายการที่ได้รบั อนมุ ตั ิใหจ้ ่ายครง้ั แรก แก่หน่วยท่ยี งั ไม่ไดร้ บั อนมุ ัตอิ ตั รา 7.1.6 รายการที่ไดร้ ับอนมุ ัตใิ หจ้ า่ ยคร้งั แรก ซ่งึ เกินจำนวนจากอตั รา 7.1.7 การอนุมัติจ่ายส่ิงอุปกรณ์ใหม่ เพ่ือทดแทนส่ิงอุปกรณ์เดิมที่ยังใช้ราชการได้ ซ่งึ ได้รบั คืนจากหน่วยทหาร 7.1.8 การจ่ายครง้ั แรกให้กบั หนว่ ยนอกกองทพั บก ตามคำสัง่ กองทัพบก 7.2 ความต้องการทดแทน ไดแ้ ก่ ความต้องการเพ่ือทดแทนสิ่งอุปกรณ์ท่ีหน่วยใชเ้ คยไดร้ ับมาแล้ว และเป็นความตอ้ งการสิง่ อุปกรณใ์ นกรณีดังต่อไปนี้ 7.2.1 เพ่ือทดแทนส่ิงอุปกรณ์ที่หมดเปลืองไป หรือชำรุดเนื่องจากการใช้ และ รวมทั้งทดแทนชิ้นส่วนซอ่ มท่ชี ำรุดด้วย 7.2.2 เพื่อทดแทนสิ่งอุปกรณ์ที่ถูกละท้ิง ทำลาย ข้าศึกทำให้เสียหาย โจรกรรม หรือ เสียหายโดยเหตอุ น่ื ๆ

ห น ้ า | 66 7.2.3 เพ่ือทดแทนส่ิงอุปกรณ์ท่ีอยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุง โดยใช้สิ่งอุปกรณ์สำรองเพ่ือ การซ่อมบำรงุ 7.3 ความต้องการเพ่ือรักษาระดับส่งกำลัง ได้แก่ ความต้องการสิ่งอุปกรณ์ท่ี นอกเหนือไปจากความต้องการตามปกติ เพ่ือสนับสนุนโครงการ หรือการปฏิบัติการพิเศษตามแผน และ วัตถุประสงค์ของกองทัพบก เช่น สิ่งอุปกรณ์ประเภท 4 โครงการจัดตั้งหน่วยใหม่ และโครงการระดมสรรพ กำลัง เป็นตน้ ข้อ 8 การคำนวณความตอ้ งการ 8.1 ความต้องการขน้ั ต้น = อัตราอนมุ ตั ิ X จำนวนหน่วยทหาร ตามอัตรานั้น 8.2 ความต้องการทดแทน = ความต้องการขั้นต้น X ปัจจัยทดแทน/อตั ราส้ินเปลือง X จำนวนเดือน/วนั จะตอ้ งการทดแทน 8.3 ความต้องการเพื่อรักษาระดับส่งกำลัง = ความต้องการขั้นต้น X ปัจจัยทดแทน/ อัตราสิน้ เปลอื ง X จำนวนเดอื น/วนั ในสายทางเดินส่งกำลัง 8.3.1 สายทางเดินส่งกำลัง ได้แก่ ระยะเวลาเปน็ วันสง่ กำลังนับตัง้ แตร่ เิ ริ่มจดั หา สิ่งอปุ กรณจ์ นถงึ หนว่ ยใช้ไดร้ บั สิง่ อุปกรณ์นั้น 8.3.2 ระดับคลังสายงาน สายทางเดินส่งกำลังประกอบด้วยระดับปลอดภัย + วงรอบการจัดหา + เวลาลว่ งหนา้ ในการจัดหา 8.3.3 ระดับคลังกองบัญชาการช่วยรบ และคลังส่วนภูมิภาค หรือหน่วย สนับสนุนโดยตรง สายทางเดนิ ส่งกำลังประกอบดว้ ย ระดับปลอดภยั + ระดับปฏิบัติการ/วงรอบการเบกิ + เวลาในการเบิก และจัดส่ง 8.4 ความต้องการตามโครงการ การคิดคำนวณขึ้นอยู่กับโครงการ หรือการปฏิบัติการ พิเศษ ตามแผน และวตั ถปุ ระสงคข์ องกองทพั บก 8.5 ความต้องการรวม = ความต้องการขั้นต้น + ความต้องการเพื่อรักษาระดับส่งกำลัง/ ความต้องการทดแทน + ความต้องการตามโครงการ 8.6 ความตอ้ งการสุทธิ = ความตอ้ งการรวม + ค้างจ่าย - คงคลัง - คา้ งรับ ข้อ 9 การเสนอความต้องการ 9.1 สิง่ อปุ กรณ์ตามอัตรา ตามระดับสง่ กำลัง หรือตามโครงการที่ได้รับอนมุ ัตแิ ลว้ กรมฝา่ ย ยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษท่ีรับผิดชอบ เป็นผู้รวบรวมความต้องการส่ิงอุปกรณ์เสนอไปยังกรมส่ง กำลงั บำรุงทหารบก ตามท่กี องทัพบกกำหนด 9.2 สิง่ อปุ กรณ์ทนี่ อกเหนือท่ีกล่าวมาแลว้ ในข้อ 9.1 9.2.1 หน่วยใช้ เสนอความต้องการไปตามสายงานส่งกำลังจนถึงกรมฝ่ายยุทบริ การ หรอื กรมฝา่ ยกจิ การพเิ ศษทีร่ บั ผดิ ชอบ 9.2.2 กรมฝ่ายยุทบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษ รวมรวมความต้องการแล้ว เสนอไปยัง กรมสง่ กำลงั บำรุงทหารบก ตามทกี่ องทัพบกกำหนด

ห น ้ า | 67 ตอนท่ี 3 การจดั หา ข้อ 10 ทางท่ีได้มาซึ่งส่ิงอุปกรณ์ โดยท่ัวไปหน่วย หรือคลังซึ่งมีการสะสมส่ิงอปุ กรณ์ และ/หรือ มี ไว้เพอ่ื การปฏบิ ัตกิ ารยอ่ มจะไดร้ ับสิ่งอุปกรณ์จากลักษณะใดลักษณะหน่ึง ดงั ตอ่ ไปน้ี 10.1 การจัดช้ือ และการจ้าง หน่วยหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดชื้อ และจ้าง จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2521 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) และระเบียบหรือคำสง่ั อื่นใดทเี่ กย่ี วขอ้ ง 10.2 การรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ให้ปฏิบัติตามวิธีการซ่ึงได้ตกลงระหว่าง กองทัพบกกับองค์การหรือตัวแทนของประเทศนนั้ ๆ 10.3 การซ่อมบำรุงส่ิงอุปกรณ์ท่ีหน่วยใช้ส่งซ่อม หากหน่วยซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง หรือหน่วยสนับสนุนทั่วไปพิจารณาเกินขั้นการซ่อมบำรุง ก็ให้นำส่งซ่อมต่อไปยังหน่วยซ่อมบำรุงระดับคลัง เม่ือหน่วยซ่อมบำรุงระดับคลังทำการซ่อมเสร็จแล้ว ให้ส่งส่ิงอุปกรณ์น้ันเข้าคลังเพ่ือดำเนินการตามระบบส่ง กำลังต่อไป และให้หน่วยซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง หรือสนับสนุนท่ัวไป แจ้งให้หน่วยใช้ทราบทันท่ีได้ส่งสิ่ง อปุ กรณ์ไปยังหน่วยซอ่ มบำรุงระดับคลงั ทั้งนี้เพือ่ ให้หน่วยใชเ้ บกิ รับสง่ิ อปุ กรณ์ทดแทนต่อไป 10.4 การเก็บซ่อมสิ่งอุปกรณ์ชำรุด ถูกทำลาย เส่ือมสภาพ หรอื ถกู ทอดทิ้ง ไม่วา่ จะเปน็ ของใหม่หรือของใช้แล้วก็ตาม หากหน่วยซ่อมบำรุงของสายยุทธบริการพิจารณาเห็นวา่ เกินข้ันการซ่อมบำรุง ไม่สามารถซ่อมได้คุ้มค่า ให้หน่วยซ่อมน้ันรายงานขออนุมัติถอดแยกช้ินส่วนซ่อมท่ีสามารถใช้ราชการได้จาก เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือฝ่ายกิจการพิเศษท่ีรับผิดชอบ เพ่ือดำเนินการบำรุงรักษา และนำเข้าระบบส่ง กำลังตอ่ ไป 10.5 การบริจาค สิ่งอุปกรณ์ท่ีได้มาโดยมีผู้บริจาคให้แก่ส่วนราชการเป็นสิ่งอุปกรณ์ที่ จะตอ้ งดำเนินการตามระบบส่งกำลัง 10.6 การยืม หน่วยท่ีมีความจำเป็นในการยืมสิ่งอุปกรณ์ให้ปฏิบัติตามท่ีกำหนดไวใ้ นตอน ท่ี 4 การเบิก การยืม การโอน และการสง่ คืน 10.7 การโอน 10.7.1 การโอนความรับผิดชอบในส่ิงอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ ให้ปฏิบัติ ตามระเบียบปฏิบตั ิในการโอนสิ่งอุปกรณ์จากสายยุทธบริการหน่ึงไปให้อีกสายหน่ึง พ.ศ.2501 และคำสั่ง ทบ. ที่ 90/2508 ลง 30 ส.ค. 08 เรื่อง กำหนดวิธดี ำเนินการโอนสง่ิ อปุ กรณค์ รบชดุ ของสายยทุ ธบรกิ ารเพ่มิ เติม จากระเบยี บปฏบิ ตั ใิ นการโอนสง่ิ อุปกรณจ์ ากสายยุทธบริการหนึ่งไปใหอ้ ีกสายหนง่ึ พ.ศ.2501 10.7.2 การโอนสิทธิครอบครองสิ่งอุปกรณ์ระหว่างหน่วยให้ปฏิบัติตามระเบียบน้ี ตอนท่ี 4 การเบิก การยมื การโอน และการสง่ คืน 10.8 การเบิก หน่วยในสายการส่งกำลังซ่ึงต่ำกว่าระดับคลังสายงานให้ถือการเบิกเป็นวิธี หลักในการได้มาซึ่งสิ่งอุปกรณ์ ส่วนรายละเอียดให้ปฏิบัติตามระเบียบน้ี ตอนที่ 4 การเบิก การยืม การโอน และการส่งคนื 10.9 การผลติ หากกรมฝา่ ยยทุ ธบรกิ าร หรอื กรมฝา่ ยกิจการพเิ ศษใดมกี ารผลติ ส่ิงอปุ กรณ์ เพ่ือใช้ราชการ ให้เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือเจ้ากรมฝ่ายกิจการพเิ ศษน้ันรับผิดชอบในการปฏิบตั ิให้เป็นไป ตามข้อกำหนด และความมุ่งหมายของราชการต่อไป 10.10 การเกณฑ์ และการยดึ ใหป้ ฏบิ ัติตามพระราชบญั ญัตกิ ฏอยั การศกึ พ.ศ.2457 และ พระราชบญั ญัติการเกณฑ์ชว่ ยราชการ พ.ศ.2530

ห น ้ า | 68 10.11 การแลกเปล่ียน ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการแลกเปลี่ยน ยานพาหนะ และครภุ ัณฑข์ องส่วนราชการ พ.ศ.2518 ขอ้ 11 งานของการจดั หา ในการดำเนินกรรมวิธีเพื่อให้ไดซ้ ่ึงส่งิ อปุ กรณ์มงี านทเี่ ก่ียวข้องดงั นี้ 11.1 การกำหนดแบบสิง่ อุปกรณ์ 11.2 การกำหนดคุณลกั ษณะเฉพาะสิ่งอุปกรณ์ 11.3 การกำหนดมาตรฐานสง่ิ อปุ กรณ์ 11.4 การกำหนดราคากลาง 11.5 การกำหนดแบบสญั ญา 11.6 การทำสัญญา 11.7 เง่อื นไขท่เี กยี่ วขอ้ งกับการสงวนสิทธิต่าง ๆ 11.8 การปฏิบัติตามสญั ญา 11.9 การแกไ้ ขสญั ญา 11.10 การตรวจรบั สง่ิ อุปกรณ์ 11.11 ข้อปฏิบัตเิ ก่ียวกบั การเงนิ 11.12 ขอ้ กำหนดอืน่ ๆ ทีเ่ กี่ยวกับการจดั หา ข้อ 12 ประเภทการจัดหา แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทรวมการ และประเภทแยก การ 12.1 ประเภทรวมการ ไดแ้ ก่ การจดั หาในลักษณะดงั ต่อไปนี้ 12.1.1 หน่วยจัดหา ได้แก่ กรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษ ซึ่ง จัดหาเปน็ ส่วนรวมในระดบั กองทพั บก 12.1.2 ความมุ่งหมาย จัดหาเพ่ือสะสมและแจกจ่ายให้แก่คลังกองบัญชาการช่วย รบ และคลังสว่ นภูมิภาค หรอื บางกรณีอาจจะแจกจ่ายโดยตรงให้กบั หนว่ ยใชก้ ไ็ ด้ 12.1.3 ลักษณะส่ิงอุปกรณ์ที่จัดหา เป็นสิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูปที่ความต้องการมี ปรมิ าณมาก มคี วามถ่ีในการความต้องการสูง เปน็ ยทุ โธปกรณท์ างทหาร หรอื ยทุ โธปกรณท์ างเทคนคิ 12.1.4 งบประมาณที่ใช้ในการจัดหา ใช้เงินงบส่งกำลังบำรุง หรือเงินงบอ่ืน ๆ ทกี่ องทพั บกอนุมตั ิ 12.1.5 ราคาสิ่งอุปกรณส์ ว่ นมากราคาแพง หรือวงเงนิ ในการจัดหามาก 12.2 ประเภทแยกการ ได้แก่ การจดั หาในลักษณะดังตอ่ ไปน้ี 12.2.1 หน่วยจัดหา ได้แก่ กองบัญชาการช่วยรบ และส่วนภูมิภาค หรือหน่วย ใชท้ ีไ่ ด้รบั อนุมตั ิใหจ้ ัดหาได้ 12.2.2 ความมุ่งหมาย จัดหาสนับสนุนหน่วยใช้ เพื่อเป็นการแก้ปญั หาเฉพาะหน้า หรือหนว่ ยใช้จดั หาเพอ่ื ใช้เอง 12.2.3 ลักษณะส่ิงอุปกรณ์ที่จัดหา เป็นสิ่งอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดที่มีขายในท้องตลาด โดยท่วั ไป ปริมาณความตอ้ งการไม่มาก และความถใี่ นความต้องการไม่สูง 12.2.4 งบประมาณในการจัดหา ใช้เงินงบบริหาร และเงินงบเคร่ืองช่วยฝึก หรือ อาจจะเป็นเงนิ งบอื่น ๆ ทีก่ องทัพบกอนมุ ตั ิเป็นกรณีพเิ ศษ 12.2.5 ราคาส่งิ อปุ กรณ์ สว่ นมากราคาไมแ่ พง หรอื เปน็ วงเงนิ ทจ่ี ดั หาไมม่ าก 12.2.6 รายละเอยี ดในการปฏบิ ัติ ใหถ้ อื ปฏิบัตติ ามคำส่ังกองทัพบกดงั ตอ่ ไปน้ี

ห น ้ า | 69 12.2.6.1 คำส่ังกองทัพบก ที่ 96/2524 ลง 20 ก.พ. 24 เร่ืองการ จัดหา และซ่อมบำรงุ รายยอ่ ยโดยใช้เงินบรหิ ารทวั่ ไปของหนว่ ย 12.2.6.2คำส่ังกองทัพบก ท่ี 476/2524 ลง 23 ก.ย. 24 เร่ืองการ จัดหาและซ่อมบำรุงรายย่อยโดยใช้เงินงบเคร่อื งชว่ ยฝึก 12.2.6.3 คำส่ังหรืออนุมัติของกองทัพบก เร่ืองอื่นใดที่กำหนด หรือ อนมุ ัติ โดยเฉพาะเกีย่ วกบั การจัดหาประเภทแยกการของการบญั ชาการช่วยรบส่วนภมู ิภาค หรือหนว่ ยใช้ ข้อ 13 ความรบั ผิดชอบในการจดั หา 13.1 กรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษ รับผิดชอบจัดหาส่ิงอุปกรณ์เป็น ส่วนรวม ประเภทรวมการตามท่ีกำหนดไว้ในข้อ 12.1 โดยเจ้าหน้าท่ีของกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่าย กจิ การพเิ ศษ ดงั น้ี 13.1.1 รวบรวมความตอ้ งการเสนอไปยังกรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ตามท่ีกำหนด ไวใ้ นข้อ 9 13.1.2 เสนองบประมาณไปยังสำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบก ตามระยะเวลาที่ กองทพั บกกำหนด เพื่อพจิ ารณาจดั สรรงบประมาณตอ่ ไป 13.1.3 ทำแผนจัดหาโดยถือมูลฐานจากงบประมาณท่ีได้รับแต่ละปี เสนอ กรมส่ง กำลงั บำรงุ ทหารบก ตามระยะเวลาทก่ี ำหนดเพ่ือขอรับอนุมตั จิ ากกองทพั บก 13.1.4 ดำเนนิ การจดั หาเพือ่ สะสม และแจกจา่ ยตามงบประมาณทีไ่ ด้รบั 13.2 กองบัญชาการช่วยรบ และส่วนภูมิภาค รับผิดชอบการจัดหาสิ่งอุปกรณ์ประเภท แยกการตามทก่ี ำหนดในข้อ 12.2 โดยเจา้ หนา้ ที่กองบญั ชาการชว่ ยรบ หรอื สว่ นภูมภิ าค ข้อ 14 รายละเอียดในการปฏิบัติอ่ืนใดท่ีมิได้กำหนดไว้ในระเบียบน้ีให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ และ คำสัง่ ท่เี กีย่ วข้องกบั การจดั หา ซง่ึ กำหนดไว้โดยเฉพาะสำหรบั เรอ่ื งนนั้ ตอนท่ี 4 การเบิก การยมื การโอน และการสง่ คืน ข้อ 15 การเบิก ได้แก่ วิธีดำเนินการเสนอคำขอไปยังหน่วยสนับสนุน เพ่ือขอรับสิ่งอุปกรณ์ตาม จำนวนที่ตอ้ งการ ข้อ 16 ประเภทการเบิก แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท คอื 16.1 การเบิกขั้นต้น ได้แก่ การเบิกส่ิงอุปกรณ์ตามความต้องการขั้นต้นที่ระบุไว้ในข้อ 7.1 16.2 การเบิกทดแทน ได้แก่ การเบิกสิ่งอุปกรณ์ตามความต้องการทดแทนท่ีระบุไว้ในข้อ 72 16.3 การเบิกเพ่ิมเติมเพ่ือรักษาระดับส่งกำลัง ได้แก่ การเบิกส่ิงอุปกรณ์ตามความ ต้องการ เพ่ือรักษาระดับส่งกำลัง ทรี่ ะบไุ ว้ในขอ้ 7.3 16.4 การเบิกพเิ ศษ ไดแ้ ก่ การเบิกเรง่ ด่วน การเบิกนอกอตั รา การเบิกก่อนกำหนด 16.4.1 การเบิกเร่งด่วน ได้แก่ การเบิกสิ่งอุปกรณ์ท่ีหน่วยใช้มีความจำเป็นที่ตอ้ ง ใช้โดยเรง่ ด่วน หรอื ในยามฉกุ เฉิน หรอื เพ่ือการซอ่ มบำรุงส่งิ อปุ กรณง์ ดใช้การ 16.4.2 การเบกิ นอกอัตรา ไดแ้ ก่ การเบกิ สง่ิ อุปกรณ์ ประเภท 4

ห น ้ า | 70 16.4.3 การเบิกก่อนกำหนด ได้แก่ การเบิกส่ิงอุปกรณ์ที่หน่วยมีความจำเป็นต้อง ใชก้ ่อนวงรอบการเบิก ซ่ึงหนว่ ยสนบั สนุนไดก้ ำหนดข้ึน ข้อ 17 หน่วยเบกิ 17.1 ผู้บังคับหน่วยเบิก ต้องรับผิดชอบในการขอเบิกส่ิงอุปกรณ์ เพื่อให้หน่วยสามารถ ปฏบิ ตั ภิ ารกิจตามท่ไี ดร้ ับมอบหมายอยา่ งมีประสิทธิภาพ 17.2 ผู้บังคับหน่วยเบิก จะต้องส่งรายมือช่ือผู้มีสิทธิเบิก และผู้รับสิ่งอุปกรณ์ ตาม ระเบียบกองทัพบก ว่าดว้ ยการสง่ รายมือช่ือผู้มีสิทธเิ บิก และผรู้ ับส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.2510 ขอ้ 18 วิธีดำเนินการเบกิ 18.1 การเบิกขนั้ ต้น 18.1.1 หนว่ ยใช้ เม่ือความตอ้ งการขัน้ ต้น ทำใบเบิกเสนอหน่วยสนับสนุนโดยตรง หรือคลงั ส่วนภมู ภิ าค หรือคลังกองบัญชาการช่วยรบ หรือคลังสายงานแลว้ แต่กรณี ยกเว้นส่ิงอุปกรณ์ประเภท 2 และ 4 สายอากาศยานใหเ้ สนอใบเบิกผา่ น พัน.ขส.ซบร.บ.ทบ. สำหรับสง่ิ อปุ กรณ์ตาม อจย. และ อสอ. ให้ ดำเนินการเบิกเม่ือได้รับเอกสารการแจกจา่ ยสงิ่ อปุ กรณ์แลว้ 18.1.2 หน่วยสนับสนุนโดยตรง หรือคลังส่วนภูมิภาค หรือคลังกองบัญชาการ ชว่ ยรบ 18.1.2.1 เม่ือได้รับใบเบิกจากหน่วยใช้แล้ว ให้ดำเนินกรรมวิธีเพ่ือการ แจกจ่าย ถา้ ไม่สามารถสนับสนุนได้ ใหด้ ำเนินการเบิกตามสายการส่งกำลงั ตอ่ ไป 18.1.2.2 ในกรณีที่มีการจัดตั้งหน่วยใหม่ และมิได้มีการสะสมสิ่งอุปกรณ์ ไว้ เม่ือหน่วยสนับสนุนโดยตรง หรือคลงั ส่วนภมู ิภาค หรอื คลังกองบัญชาการช่วยรบ ได้ทราบการจัดต้ังหน่วย โดยแน่นอนแล้ว ให้ทำใบเบิกเสนอตามสายการสง่ กำลัง เพอ่ื ให้มีการสะสมสิ่งอปุ กรณพ์ ร้อมจ่ายหนว่ ยได้ทันที เวน้ ส่ิงอปุ กรณ์ตาม อจย. และ อสอ. ใหด้ ำเนนิ การเมือ่ ไดร้ บั เอกสารการแจกจา่ ยสิง่ อุปกรณแ์ ล้ว 18.1.2.3 คลังสายงาน เม่ือได้รับใบเบิกจากหน่วยรับการสนับสนุน ให้ ดำเนินกรรมวิธีเพ่ือการแจกจ่าย ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์สนับสนุนให้ดำเนินการเสนอความต้องการเพ่ือจัดหา ตอ่ ไป 18.2 การเบิกทดแทน เมื่อมีความต้องการทดแทน ให้ดำเนินการเบิกตามสายการ ส่ง กำลัง 18.3 การเบกิ เพ่ิมเติมเพือ่ รกั ษาระดับสง่ กำลงั 18.3.1 หนว่ ยใช้ ไมม่ กี ารเบกิ 18.3.2 หน่วยสนับสนุนโดยตรง คลังส่วนภูมิภาค หรือคลังกองบัญชาการช่วย รบ เมอื่ สิ่งอุปกรณท์ ่ีสะสมไวเ้ พื่อสนบั สนุนหนว่ ยลดระดับลงถงึ จดุ เพมิ่ เตมิ หรือถงึ วงรอบการเบิก ให้ทำการ เบกิ ตามสายการสง่ กำลงั ต่อไป 18.3.3 คลังสายงาน เมอื่ สงิ่ อปุ กรณท์ ีส่ ะสมไวเ้ พื่อสนบั สนนุ ใหแ้ ก่หนว่ ยรับการ สนบั สนุนลดระดบั ลงถึงจดุ เพมิ่ เติม หรือถงึ วงรอบการจัดหาให้ดำเนินการเสนอความตอ้ งการเพื่อจัดหาต่อไป 18.4 การเบกิ พิเศษ 18.4.1 การเบกิ เรง่ ด่วน 18.4.1.1 หน่วยใช้เม่ือมีความต้องการเร่งด่วน ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยใช้ที่ มสี ิทธเิ บกิ ติดต่อขอรับสิ่งอุปกรณจ์ ากหน่วยใหก้ ารสนับสนุนโดยเครื่องสื่อสารทเ่ี หมาะสม เม่อื ได้รบั ส่ิงอุปกรณ์ แล้ว จะตอ้ งทำใบเบกิ สง่ หนว่ ยจา่ ยภายใน 3 วัน โดยอา้ งหลกั ฐานในการเบิกเรง่ ดว่ น

ห น ้ า | 71 18.4.1.2 หน่วยสนับสนุนโดยตรง หรือคลังส่วนภูมิภาค หรือคลัง กองบัญชาการช่วยรบ ถ้ามีส่ิงอุปกรณ์สนับสนุน ให้ผู้มีอำนาจสั่งจ่ายตามท่ีกำหนดไว้ในข้อ 36.6 อนุมัติจ่าย ตามหลักฐานในการเบิกเร่งด่วน ถ้าไม่มีส่ิงอุปกรณ์สนับสนุนให้ติดต่อขอรับการสนับสนุนด้วยเคร่ืองส่ือสารท่ี เหมาะสม เมื่อไดร้ ับสิ่งอุปกรณแ์ ล้ว จะต้องทำใบเบกิ ส่งหนว่ ยจ่ายภายใน 3 วนั 18.4.1.3 คลังสายงาน ถ้ามีส่ิงอุปกรณ์สนับสนุนให้ผู้มีอำนาจในการสั่ง จ่ายตามท่ีกำหนดไว้ในข้อ 36.6 อนุมัตจิ ่ายตามหลักฐานในการเบิกเรง่ ด่วน ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์สนับสนุน หาก พิจารณาเหน็ วา่ สามารถจัดหาสนับสนุนได้ทนั ที ก็ใหด้ ำเนนิ การต่อไป 18.4.2 การเบิกนอกอัตรา เมือ่ ได้รับอนุมัติความต้องการตามที่เสนอไปในข้อ 9.2 แลว้ ให้ดำเนินการเบิกได้ 18.4.3 การเบิกก่อนกำหนด เม่ือมีความจำเป็นต้องใชส้ ิ่งอุปกรณ์ก่อนวงรอบการ เบิก ซึง่ หนว่ ยสนับสนุนได้กำหนดข้ึน ใหด้ ำเนินการเบิกได้ 18.5 วิธีทำใบเบิก 18.5.1 ใบเบิกหลายรายการ ไดแ้ ก่ แบบพิมพ์ ทบ.400-006 และ ทบ.400-007 ใช้เบกิ ส่ิงอปุ กรณ์ในใบเบกิ ชดุ เดยี วกันไดห้ ลายรายการ ดำเนนิ การดังนี้ 18.5.1.1 ทำใบเบิกโดยแยกประเภทส่ิงอุปกรณ์ และสายงายท่ีรับผิดชอบ 1 ชดุ 4 ฉบบั (ชมพู ฟ้า เขยี ว ขาว ตามลำดับ) 18.5.1.2 ใบเบิกฉบบั ที่ 1, 2 และ 3 เสนอไปยงั หน่วยจ่าย 18.5.1.3 ใบเบกิ ฉบับที่ 4 เกบ็ ไวใ้ นแฟม้ รอเรอื่ ง 18.5.1.4 ถ้าหน่วยเบิกไปรับของเองจากหน่วยจ่าย ให้นำใบเบิกฉบับท่ี 4 ไปตรวจสอบกับจำนวน และประเภทกับส่ิงอุปกรณ์ที่ได้จ่ายจริง ตามใบเบิกฉบับท่ี 1 และ 2 ลงนามรับสิ่ง อุปกรณ์ในใบเบกิ ฉบบั ท่ี 1, 2 และ 4 แลว้ นำใบเบกิ ฉบบั ที่ 2 และ 4 กลังพร้อมส่งิ อุปกรณ์ 18.5.1.5 ถ้าหน่วยเบิกได้รับสิ่งอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้ ตรวจสอบใบเบกิ ฉบับที่ 4 กับจำนวน และประเภทส่ิงอุปกรณ์ที่จ่ายจริงตามใบเบิกฉบับที่ 1 และ 2 ลงนาม รับสง่ิ อปุ กรณใ์ นใบเบกิ ฉบับที่ 1, 2 และ 4 แล้วส่งใบเบกิ ฉบับท่ี 1 คืนหนว่ ยจา่ ย 18.5.1.6 เก็บใบเบิกฉบับที่ 2 ในแฟม้ เสร็จเรื่อง แนบใบเบิกฉบับที่ 4 ไป กับรายงานการรับส่ิงอุปกรณ์ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยเบิกทราบ เพ่ือรายงานหน่วยตามสายการบังคับบัญชา เหนอื ขน้ึ ไปอีก 1 ขั้น 18.5.2 ใบเบิกรายการเดียว ได้แก่ แบบพิมพ์ ทบ.400-007-1 ใช้เบิกส่ิงอุปกรณ์ ในใบเบกิ ชดุ เดยี วกันเพียงรายการเดียว ดำเนนิ การดงั นี้ 18.5.2.1 ใบเบิก 1 ชุด มี 5 ฉบับ ( ชมพู ฟ้า เขียว ขาว ขาว ตามลำดับ ) 18.5.2.2 ใบเบิกฉบบั ท่ี 1,2,3 และ 4 เสนอไปยังหนว่ ยจ่าย 18.5.2.3 ใบเบิกฉบับท่ี 5 เก็บไวใ้ นแฟม้ รอเรอ่ื ง 18.5.2.4 ถ้าหน่วยเบกิ ไปรับของเองจากหน่วยจ่าย ให้นำใบเบิกฉบับท่ี 5 ไปตรวจสอบกับจำนวน และประเภทกับส่ิงอุปกรณ์ท่ีได้จ่ายจริง ตามใบเบิกฉบบั ท่ี 1, 2 และ 4 ลงนามรับสิ่ง อุปกรณใ์ นใบเบิกฉบับที่ 1, 2, 4 และ 5 แลว้ นำใบเบิกฉบบั ที่ 2 และ 4 กลบั พรอ้ มสิ่งอุปกรณ์

ห น ้ า | 72 18.5.2.5 ถ้าหน่วยเบิกไดร้ ับสิ่งอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้ ตรวจสอบใบเบกิ ฉบับท่ี 5 กับจำนวน และประเภทส่ิงอุปกรณ์ท่ีจ่ายจริงตามใบเบิกฉบับที่ 1 และ 2 ลงนาม รบั สงิ่ อปุ กรณใ์ นใบเบิกฉบับท่ี 1, 2 และ 5 แล้วส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คืนหน่วยจ่าย 18.5.2.6 เก็บใบเบิกฉบับที่ 2 ในแฟ้มเสร็จเรื่อง แนบใบเบิกฉบับท่ี 5 ไป กับรายงานการรับส่ิงอุปกรณ์ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยเบิกทราบ เพ่ือรายงานหน่วยตามสายการบังคับบัญชา เหนือข้ึนไปอีก 1 ขั้น 18.6 จำนวนเบิก 18.6.1 การเบกิ ขนั้ ต้น จำนวนเบกิ = จำนวนตามอตั รา - คงคลัง - ค้างรบั 18.6.2 การเบกิ ทดแทน จำนวน = จำนวนสงิ่ อุปกรณ์ท่ีชำรุด สูญหาย ฯลฯ ซึ่งได้ดำเนินการตามระเบียบ กองทัพบกว่าด้วยการจำหนา่ ยสิง่ อปุ กรณ์ พ.ศ.2524 แลว้ 18.6.3 การเบกิ เพิ่มเตมิ เพอ่ื รักษาระดับสง่ กำลัง จำนวนเบิก = เกณฑ์เบิก (RO) - คงคลัง (OH) - คา้ งรับ (DI) + คา้ งจา่ ย (DO) 18.6.4 การเบิกพเิ ศษ จำนวนเบิก = จำนวนส่ิงอุปกรณ์ตามความจำเป็นท่ีระต้องปฏิบัติภารกิจ หรือ จำนวนทไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั ิ 18.7 ขอ้ กำหนดในการใชแ้ บบพิมพ์ 18.7.1 ให้ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-007-1 ในการเบกิ สิ่งอปุ กรณ์ทุกประเภท และทุก กรณี เวน้ ส่ิงอปุ กรณท์ ่กี ำหนดในข้อ 18.7.2 18.7.2 ให้ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-006 ในกรณีท่ีหน่วยเบิกต้องไปรับของเอง หรือแบบพิมพ์ ทบ.400-007 ในกรณีท่ีหน่วยเบิกต้องการให้หน่วยจ่ายส่งส่ิงอุปกรณ์ผ่านสำนักงานขนส่งใน การเบิก สิง่ อุปกรณด์ งั ต่อไปน้ี 18.7.2.1 เครอ่ื งแต่งกาย 18.7.2.2 เครอ่ื งนอน 18.7.2.3 เคร่ืองสนาม 18.7.2.4 เครือ่ งเขยี น 18.7.2.5 แบตเตอรแ่ี ห้ง 18.7.2.6 สง่ิ อปุ กรณ์สนิ้ เปลืองสายทหารชา่ ง 18.7.2.7 สิ่งอุปกรณ์สิน้ เปลืองสายแพทย์ 18.7.2.8 สิง่ อปุ กรณส์ ้ินเปลอื งสายการสตั ว์ 18.7.2.9 ส่ิงอุปกรณ์ประเภท 4 จำพวกสารเคมีชนิดต่าง ๆ ก๊าช น้ำกรด และน้ำกลน่ั สายวิทยาศาสตร์ 18.7.2.10 ส่ิงอุปกรณ์ประเภท 4 จำพวกวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ที่ เกย่ี วกับสาธารณปู โภคสายยทุ ธโยธา 18.7.2.11 วัสดุทำความสะอาด และปรนนิบัติบำรุงสายสรรพาวุธ และ เป้า

ห น ้ า | 73 18.7.2.12 แบบพมิ พ์ ข้อ 19 การติดตามใบเบิก ได้แก่ การสอบถามเพื่อขอทราบผลการปฏิบัติต่อใบเบิกท่ีได้เสนอไป ยังหนว่ ยสนับสนนุ 19.1 หน่วยเบิก เมื่อเสนอใบเบิกไปยังหน่วยสนับสนุนเกิน 45 วัน แล้วยังไม่ได้รับส่ิง อปุ กรณ์ ให้ติดตามใบเบกิ โดยใชแ้ บบพิมพ์ ทบ.400-071 19.2 หน่วยสนับสนุน เมื่อได้รับใบติดตามใบเบิกแล้ว ให้ทำการตรวจสอบใบเบิก และ บันทกึ ผลการปฏบิ ัติในใบตดิ ตามใบเบิก แล้วสง่ คนื หน่วยเบกิ โดยเร็ว ข้อ 20 การยกเลิกการเบิก ได้แก่ การแจ้งระงับการจ่ายส่ิงอุปกรณ์ตามใบเบิกที่หน่วยเบิกเสนอ มา อาจจะเปน็ ทง้ั หมดหรอื บางส่วนของการเบกิ กไ็ ด้ 20.1 เหตุผลในการยกเลิก การยกเลิกอาจริเร่ิมจากหน่วยเบิก หรือหน่วยจ่ายก็ได้ เมื่อมี เหตุผลตามรหัสการยกเลกิ อย่างใดอย่างหนึง่ หรือหลายอยา่ ง ดงั ตอ่ ไปน้ี รหัส ความหมาย 01 รายการนย้ี กเลิกแลว้ ไมส่ ะสมอีก 02 ขาดแคลนไมส่ ามารถจ่ายใหไ้ ดใ้ นระยะรอบน้ี 03 ไมส่ ะสมเพราะความตอ้ งการหา่ งมาก ใหแ้ จ้งเหตุผลที่ตอ้ ง การโดยละเอยี ดใหม่ 04 ให้เบกิ จากหนว่ ยสนบั สนุนโดยตรง 05 ให้เบกิ จากคลงั สว่ นภมู ภิ าคหรอื คลงั กองบญั ชาการช่วยรบ 06 ใหเ้ บิกจากคลงั สายงาน 07 ใหเ้ บิกจากคลังสายงานท่ีรับผิดชอบ 08 ไมจ่ า่ ยท้ังชุด ใหเ้ บกิ เฉพาะชน้ิ ส่วนซอ่ มตามคู่มอื ส่งกำลงั 09 ไม่จา่ ยเฉพาะชน้ิ สว่ นซอ่ ม ให้เบิกทัง้ ชุดตามคู่มอื สง่ กำลัง 10 ปฏิบตั ติ ามระเบียบไมถ่ กู ตอ้ ง ใหแ้ กไ้ ขใหมต่ ามท่ีแจง้ ใหท้ ราบ 11 จำนวนท่ีเบกิ ไม่คมุ้ ค่าขนส่งให้จัดหาในท้องถิ่น 12 งดเบิกเพราะหมดความต้องการ 13 จำนวนท่เี บกิ เกินกวา่ อตั ราทอ่ี นุมตั ิ 14 มสี ่ิงอุปกรณ์ชนิดนเ้ี กินระดบั สะสมท่ีหน่วยเบกิ 15 เป็นสง่ิ อุปกรณป์ ระเภท 4 ใหข้ ออนุมัตหิ ลกั การกอ่ น 16 เบกิ ซ้ำ 17 ตรวจสอบหมายเลขส่ิงอปุ กรณไ์ มพ่ บ ขอใหเ้ บิกใหม่ โดย อ้างชอ่ื ส่ิงอุปกรณ์สำคญั สง่ิ อปุ กรณ์หลัก ส่งิ อุปกรณร์ อง แบบ ช่อื คูม่ อื และหน้า 20.2 วิธดี ำเนินการยกเลิก มี 2 วธิ ี คือ 20.2.1 บันทึกยกเลิกในใบเบิก ใช้เมื่อต้องการยกเลิกการเบิกสิ่งอุปกรณ์ทุก รายการในใบเบกิ ให้ดำเนินการ ดังนี้ 20.2.1.1 บันทึก “ยกเลิกรหัส.... วัน เดือน ปี” ด้วยอักษรสีแดง ด้านบนของใบเบิก แลว้ ลงชอื่ ผู้ตรวจสอบกำกับไว้

ห น ้ า | 74 20.2.1.2 ในกรณีท่ีหน่วยจ่ายขอยกเลิก ให้เก็บใบเบิกฉบับท่ี 1 ไว้ ส่งใบ เบิกฉบบั ที่ 2 คืนหน่วยเบิก สว่ นท่ีเหลือให้ทำลาย 20.2.1.3 ในกรณีท่ีหน่วยเบิกขอยกเลิก ให้ส่งใบเบิกฉบับที่เก็บรอเร่ืองไว้ ไปยังหนว่ ยจา่ ย 20.2.2 ยกเลิกด้วยใบแจ้งการยกเลิกใช้เม่ือต้องการยกเลิกการเบิกให้ดำเนินการ ดงั น้ี 20.2.2.1ทำใบแจ้งการยกเลิกด้วยแบบพิมพ์ ทบ.400-008 จำนวน 2 ฉบับ 20.2.2.2 สง่ ใบแจ้งการยกเลิกไปยงั หน่วยเบิก หรือหนว่ ยจ่ายแล้วแตก่ รณี จำนวน 1 ฉบบั แลว้ เก็บไว้ 1 ฉบับ ขอ้ 21 การยืมส่ิงอุปกรณ์ ได้แก่ วธิ ดี ำเนินการขอรับการสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์เปน็ การชว่ั คราว ( เวน้ ชิ้นส่วนซอ่ ม ) สำหรบั การเพมิ่ พูนการปฏิบตั ภิ ารกจิ หรือสำหรบั การทรงชพี ของหน่วยใช้ ซึ่งหน่วยไม่ได้รับ อนุมัตใิ หม้ ีสงิ่ อุปกรณ์ดังกล่าวไวใ้ นครอบครอง หรืออนมุ ตั ใิ ห้มไี ว้แลว้ แตไ่ ม่เพยี งพอ ข้อ 22 วิธีปฏิบตั ใิ นการยมื สง่ิ อุปกรณ์ 22.1 หนว่ ยใช้ 22.1.1 ทำรายงานขอยืมส่ิงอุปกรณ์เป็นลายลักษณ์อักษร เสนอตามสายการส่ง กำลัง ในรายการให้แจ้งเหตุผล และรายละเอียดในการใช้ส่ิงอุปกรณ์ให้ชัดเจนพอที่จะเป็นข้อมูลในการ พิจารณาตกลงใจของผ้มู ีอำนาจอนุมัตสิ ั่งใหย้ ืมได้ ทัง้ น้ใี ห้กำหนดวนั ส่งคนื ในรายงานนั้นด้วย 22.1.2 ทำใบเบิกตามขอ้ 18.5 แนบไปพร้อมกับรายงาน 22.1.3 เม่ือครบกำหนดเวลาที่ได้รับอนุมัติให้ยืมตามบ่งไว้ในใบเบิก ต้องนำส่งคืน ภายใน 7 วนั 22.1.4 ถ้าส่ิงอุปกรณ์ยืม เกิดการชำรุด สูญหาย ให้ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก วา่ ดว้ ยการจำหนา่ ยสงิ่ อุปกรณ์ พ.ศ.2524 22.1.5 เม่ือมีการโยกย้าย หรือสับเปล่ียนตำแหน่งผู้เบิกยืม ให้แจ้งยกเลิกใบเบิก เดมิ พรอ้ มกบั ทำใบเบกิ เสนอไปใหม่ 22.2 หนว่ ยสนบั สนนุ ทางการส่งกำลงั 22.2.1 หากส่ิงอุปกรณ์ใดไม่มีให้ยืม ให้ยกเลิกรายการน้ัน และแจ้งให้หน่วยยืม ทราบ 22.2.2 ถ้ามีส่ิงอุปกรณ์สนับสนุนได้ ให้บันทึกเหตุผลในรายงาน และแนบใบเบิก เสนอจนถงึ ผู้มอี ำนาจอนมุ ตั ิส่ังให้ยมื 22.2.3 ผ้อู ำนาจอนมุ ตั ิสงั่ ใหย้ มื 22.2.3.1 สิง่ อปุ กรณส์ ำคญั ได้แก่ ผู้บญั ชาการทหารบก 22.2.3.2 ส่ิงอุปกรณ์อ่ืน ๆ ได้แก่ เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือเจ้ากรม ฝา่ ยกจิ การพิเศษ หรอื แมท่ ัพ แล้วแตก่ รณี ข้อ 23 การโอน ได้แก่ การโอนความรับผิดชอบในส่ิงอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ หรือการ โอนสิทธคิ รอบครองส่งิ อปุ กรณร์ ะหวา่ งหน่วย

ห น ้ า | 75 ข้อ 24 การโอนความรับผิดชอบในส่ิงอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ ได้แก่ การโอนความ รับผิดชอบส่ิงอุปกรณ์จากสายยุทธบริการหนึ่งไปยังสายยุทธบริการหน่ึง ตามระเบียบ หรือคำส่ังกองทัพบก กำหนด ข้อ 25 การโอนสิทธิครอบครองส่ิงอุปกรณ์ระหว่างหน่วย ได้แก่ การเปลี่ยนกรรมสิทธิในการ ครอบครองส่ิงอปุ กรณ์จาหน่วยหนึง่ ไปยงั อกี หน่วยหนง่ึ เพอ่ื ความม่งุ หมายดังตอ่ ไปนี้ 25.1 ใหห้ นว่ ยมีส่งิ อุปกรณค์ รบตามอัตรา หรอื ระดับสะสม 25.2 ใชส้ งิ่ อปุ กรณท์ มี่ อี ย่ใู หเ้ กดิ ประโยชนม์ ากท่ีสุด 25.3 ประหยัดเวลา และคา่ ขนสง่ 25.4 ให้การส่งกำลังเปน็ ไปอย่างตอ่ เนื่อง ข้อ 26 การดำเนินการโอนความรับผิดชอบในสงิ่ อุปกรณ์ระหวา่ งสายยุทธบริการ ให้ปฏิบตั ติ าม ระเบียบ และคำสัง่ กองทพั บก ดังตอ่ ไปน้ี 26.1 ระเบยี บปฏบิ ัติการโอนส่งิ อุปกรณ์จากสายยุทธบริการหน่ึงไปให้อกี สายหนึง่ พ.ศ.2501 26.2 คำส่งั กองทพั บก ที่ 290/2508 ลง 30 ส.ค. 08 เรือ่ ง กำหนดวิธีดำเนนิ การโอนส่ิง อุปกรณ์ครบชุดของสายยุทธบริการ เพ่ิมเตมิ จากระเบยี บปฏิบตั ใิ นการโอนสงิ่ อปุ กรณ์จากสายยทุ ธบริการหนึ่ง ไปให้อีกสายหนึง่ พ.ศ.2501 ขอ้ 27 การดำเนินการโอนสทิ ธคิ รอบครองส่ิงอปุ กรณ์ระหว่างหน่วย เม่ือได้รบั อนุมตั ิโอนจากผมู้ ี อำนาจในการส่งั โอนตามข้อ 28 ใหป้ ฏิบัตดิ ังน้ี 27.1 หนว่ ยโอน 27.1.1 ทำการปรนนบิ ัตบิ ำรงุ ส่งิ อุปกรณก์ ่อนโอน 27.1.2 ตรวจสอบใหม้ สี ่ิงอุปกรณค์ รบชดุ และสามารถใชก้ ารได้ 27.1.3 ผูกปา้ ยประจำสงิ่ อปุ กรณ์ โดยใชแ้ บบพิมพ์ ทบ.400-010 27.1.4 ทำใบโอนสิ่งอุปกรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-074 จำนวน 1 ชุด (5 ฉบบั ) 27.1.5 ส่งส่ิงอุปกรณ์พร้อมใบโอนไปยังหน่วยรับโอน จำนวน 4 ฉบับ เก็บไว้ใน แฟม้ รอเร่อื งจำนวน 1 ฉบับ 27.1.6 เก็บใบโอนท่ีได้รับคืนจากหน่วยรับโอน และสำเนาใบโอน รายงานหน่วย สนับสนนุ หน่วยโอน จำนวน 1 ฉบบั 27.1.7 ตดั ยอดสง่ิ อปุ กรณ์จากบัญชคี มุ 27.2 หน่วยรับโอน 27.2.1 ลงทะเบียนใบโอน 27.2.2 ตรวจรับสง่ิ อปุ กรณต์ ามใบโอน 27.2.3 ลงนามรับสิ่งอุปกรณ์ในใบโอน ทั้ง 4 ฉบับ เก็บไว้ 1 ฉบับ และส่งให้กรม ฝา่ ยยทุ ธบรกิ ารทรี่ บั ผดิ ชอบ 1 ฉบับ ข้อ 28 ผูม้ ีอำนาจสงั่ ให้โอน 28.1 ส่ิงอุปกรณ์เกินอัตรา หรือระดับสะสม ส่ิงอุปกรณ์รอง และชิ้นส่วนซ่อมเว้นอาวุธ ได้แก่ เจ้ากรมฝ่ายยทุ ธบริการ 28.2 กรณีอน่ื ๆ นอกเหนอื จากทกี่ ลา่ วมาแลว้ ได้แก่ ผบู้ ญั ชาการทหารบก

ห น ้ า | 76 ข้อ 29 การส่งคืน ได้แก่ การส่งส่ิงอุปกรณ์กลับคืนหน่วยจ่าย หรือหน่วยสนับสนุนทางการส่ง กำลงั มิไดห้ มายถึง การสง่ ซ่อม หรือส่งสง่ิ อปุ กรณ์ท่ซี อ่ มเสรจ็ แล้วกลับคืนหน่วยสง่ ซ่อม ขอ้ 30 มูลเหตุการสง่ คืน 30.1 เกินอัตรา หรอื ระดับสะสมที่ได้รับอนมุ ตั ิ 30.2 ล้าสมัย เปล่ยี นแบบ หรือ เลกิ ใช้ 30.3 เม่ือครบกำหนดเวลาทใี่ หย้ มื 30.4 เมื่อได้รบั อนุมตั ิให้จำหน่าย 30.5 กรณีอน่ื ๆ ข้อ 31 ประเภทสิ่งอุปกรณ์ทสี่ ่งคนื 31.1 สิ่งอปุ กรณ์ใช้การได้ ไดแ้ กส่ ิ่งอุปกรณท์ ีม่ ีคุณภาพใช้งานได้ตามความม่งุ หมายเดิม 31.2 ส่ิงอุปกรณ์ใช้การไม่ได้ ได้แก่ ส่ิงอุปกรณ์ที่สึกหรอ ชำรุดไม่สามารถนำไปใช้งาน ตามความมุ่งหมายเดิม จำเป็นต้องซ่อม ปรับสภาพ ก่อนนำเข้าเก็บรักษาเพ่ือแจกจ่าย หรือในกรณีที่หน่วย ซ่อมบำรุงพิจารณาแล้วเห็นว่าซ่อมไม่คุ้มค่า ซ่ึงจะต้องดำเนินการขอจำหน่ายต่อไป หรือซากสิ่งอุปกรณ์ ตาม ระเบียบกองทัพบกว่าด้วย การจำหน่ายส่ิงอุปกรณ์ หรือสัตว์พาหนะที่ปลดจำหน่ายออกจากทะเบียน ตาม ระเบยี บกองทพั บกว่าดว้ ย กจิ การสัตว์พาหนะ ข้อ 32 การดำเนนิ การส่งคืน 32.1 สงิ่ อปุ กรณใ์ ช้การได้ 32.1.1 หนว่ ยส่งคนื เมือ่ มีมูลเหตุที่จะต้องส่งคนื ตามขอ้ 30 ใหป้ ฏบิ ตั ิดังน้ี 32.1.1.1 ทำการปรนนบิ ัตบิ ำรุงสิ่งอุปกรณก์ อ่ นสง่ คนื 32.1.1.2 ตรวจสอบให้มสี ่งิ อปุ กรณ์ครบชุด 32.1.1.3 ผูกป้ายประจำส่ิงอปุ กรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-010 32.1.1.4 ทำใบส่งคืนโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-013 หรือ ทบ.400-014 หรอื ทบ.400-007-1 แลว้ แตก่ รณี จำนวน 1 ชดุ ทางเดินของใบสง่ คืนตามเอกสารทีแ่ นบท้ายระเบียบ 32.1.1.5 ส่งสิ่งอุปกรณ์พร้อมใบส่งคืนไปยังหน่วยรับคืน ภายใน 7 วัน เว้นจะได้รบั คำสงั่ เปน็ อย่างอ่ืน 32.1.1.6 ตัดยอดส่ิงอุปกรณ์ออกจากบัญชีคุม เมื่อได้รับใบส่งคืนจาก หนว่ ยรับคนื 32.1.2 หน่วยรบั คนื ปฏิบัติดงั น้ี 32.1.2.1 ลงทะเบียนใบส่งคนื 32.1.2.2 ตรวจรับส่ิงอุปกรณ์ตามใบสง่ คนื 32.1.2.3 ลงนามรับส่ิงอุปกรณ์ในใบส่งคืน และส่งใบส่งคืน คืนหน่วย ส่งคนื จำนวน 1 ฉบับ 32.1.2.4 บนั ทกึ การรับสิง่ อุปกรณ์ในบตั รบญั ชคี มุ 32.2 สง่ิ อปุ กรณ์ใชก้ ารไมไ่ ด้ 32.2.1 ส่ิงอุปกรณ์ชำรุดไม่สามารถนำไปใช้ได้ตามความมุ่งหมายเดิมจำเป็นต้อง ซอ่ ม ปรับสภาพ ก่อนนำเข้าเกบ็ รกั ษาเพอ่ื แจกจา่ ย เม่ือไดร้ บั คำสง่ั ให้สง่ คนื ให้ปฏิบตั ิดงั นี้ 32.2.1.1 หนว่ ยสง่ คนื ใหป้ ฏบิ ัติเช่นเดียวกับข้อ 32.1.1 32.2.1.2 หนว่ ยรับคืน ให้ปฏบิ ัติเชน่ เดยี วกับขอ้ 32.1.2

ห น ้ า | 77 32.2.2 สิ่งอุปกรณ์ชำรุด ในกรณีท่ีหน่วยซ่อมบำรุงพิจารณาแล้วเห็นว่าซ่อมไม่ คมุ้ ค่า และดำเนนิ การจำหนา่ ยตามระเบยี บแลว้ ใหป้ ฏิบัตดิ ังต่อไปนี้ 32.2.2.1 หน่วยส่งคืน ทำใบส่งคืนโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-013 หรือ ทบ.400-014 หรือ ทบ.400-007-1 แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ชุด ส่วนสิ่งอุปกรณ์น้ันไม่ต้องนำส่งคืน เพราะอยู่ กบั หนว่ ยซ่อมซึง่ เป็นหน่วยเดยี วกนั กับหนว่ ยรบั คืนอยู่แล้ว 23.2.2.2 หน่วยรับคืน ให้ปฏิบัตเิ ช่นเดยี วกับกับข้อ 32.1.2 32.2.3 ซากส่ิงอุปกรณ์ ตามระเบียบกองทัพบก วา่ ด้วยการจำหน่ายสิ่ง อปุ กรณ์ พ.ศ.2524 ให้ปฏิบัติดังนี้ 32.2.3.1 หน่วยสง่ คืน ให้ปฏิบัตเิ ช่นเดยี วกับข้อ 32.1.1 32.2.3.2 หนว่ ยรบั คนื ใหป้ ฏบิ ัติเชน่ เดียวกบั ขอ้ 32.1.2 ข้อ 33 ผมู้ อี ำนาจสง่ั ให้ส่งคืนสง่ิ อปุ กรณ์ 33.1 ส่งิ อุปกรณ์เกนิ ระดบั สะสม ได้แก่ ผบู้ งั คบั หนว่ ยเก็บรกั ษา 33.2 สง่ิ อปุ กรณท์ คี่ รบกำหนดยมื แล้วยังไมส่ ่งคืน ไดแ้ ก่ ผ้มู อี ำนาจอนมุ ัตสิ ัง่ ใหย้ ืม 33.3 สิ่งอปุ กรณ์หรือซากส่ิงอุปกรณ์ที่ได้รับอนุมตั ิให้จำหน่าย ไดแ้ ก่ ผมู้ ีอำนาจส่ังให้ตัด ยอดส่ิงอปุ กรณ์ออกจากบัญชคี มุ 33.4 สิ่งอุปกรณ์เกินอัตรา ล้าสมัย เปล่ียนแบบ หรือ เลิกใช้ ได้แก่ เจ้ากรมฝ่ายยุทธ บรกิ าร หรือเจา้ ฝ่ายกิจการพิเศษ 33.5 เหตุอื่น ๆ นอกเหนอื จากทีก่ ลา่ วมาแล้ว ได้แก่ ผ้บู ญั ชาการทหารบก ตอนที่ 5 การแจกจ่าย ข้อ 34 การรับส่งิ อปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ การดำเนินกรรมวธิ เี พ่อื เข้าครอบครองสิ่งอุปกรณ์ทไี่ ดม้ า 34.1 การเตรียมรับสิง่ อุปกรณ์ 34.1.1 ตรวจสอบเอกสารการรบั สิง่ อปุ กรณ์ 34.1.2 เตรยี มสถานที่ และสิง่ อำนวยความสะดวกในการรบั สงิ่ อปุ กรณ์ 34.2 การรบั สงิ่ อุปกรณ์จากการเบกิ 34.2.1 หน่วยเบิกไปรบั สง่ิ อุปกรณเ์ อง 34.2.1.1 ผู้รับส่ิงอุปกรณ์ดำเนินการตามข้อ 18.5.1.4 หรือ 18.5.2.4 แลว้ แต่กรณี 34.2.1.2 สำหรบั สิ่งอุปกรณ์ท่ีไม่ประสงค์จะเปิดหีบห่อ ให้ผู้รับส่ิงอุปกรณ์ ตามจำนวนทีร่ ะบุไว้ และให้ผจู้ ่ายบนั ทึกในใบเบกิ ไวด้ ว้ ย “ไมเ่ ปดิ หบี หอ่ ” 34.2.1.3 การจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ออกจากหน่วยจ่าย ให้ผู้รับปฏิบัติตาม ระเบียบ และคำแนะนำของหน่วยจ่าย 34.2.1.4 เม่ือผู้รับนำส่ิงอุปกรณ์ไปถึงหน่วยเบิก ให้ผู้บังคับหน่วยเบิกต้ัง กรรมการตรวจรบั ส่ิงอุปกรณ์ จำนวน 3 นาย ประกอบด้วยนายทหารสัญญาบตั รอย่างนอ้ ย 2 นาย โดยเฉพาะ ควรจะตงั้ เจ้าหน้าทีใ่ นสายงานทร่ี บั ผดิ ชอบตอ่ ส่ิงอปุ กรณน์ น้ั เข้ารว่ มด้วย 34.2.1.5 ให้คณะกรรมการรายงานผลการตรวจรับให้ผู้บังคับหน่วยเบิก ทราบ ถ้าปรากฏว่าส่ิงอุปกรณ์คลาดเคลื่อนไปจากใบเบิก หรือมีการชำรุดเสียหาย ให้คณะกรรมการสอบสวน สาเหตุแล้วแนบสำเนาการสอบสวนไปพร้อมกับรายงานด้วย

ห น ้ า | 78 34.2.1.6 ถ้ามีส่ิงอุปกรณ์ชำรุด หรือสูญหาย ให้ปฏิบัติตามระเบียบ กองทัพบก ว่าด้วยการจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.2524 ลง 30 ก.ย. 24 34.2.1.7 ใหค้ ณะกรรมการตรวจรับ มอบสิ่งอุปกรณใ์ ห้แก่เจา้ หนา้ ท่คี ลัง เจ้าหนา้ ทีเ่ กบ็ รกั ษา 34.2.1.8 เจา้ หนา้ ท่ีบัญชีคุมบนั ทึกการรบั สง่ิ อปุ กรณ์ในบตั รบัญชีคมุ 34.2.2 หนว่ ยเบกิ รบั ส่ิงอุปกรณจ์ ากสำนกั งานขนส่งปลายทาง 34.2.2.1 เมื่อหน่วยได้รับสิ่งอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้ ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งและรับส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.2500 และคำส่ังกองทัพบก (คำส่ังชี้แจง) ท่ี 57/13166 ลง 11 ต.ค.2504 เร่อื ง ชี้แจงการปฏบิ ัตกิ ารส่งและรบั สิ่งอุปกรณข์ อง ทบ. (คร้ังท่ี 3) 34.2.2.2เจา้ หน้าที่บัญชีคมุ บันทึกการรบั สิง่ อปุ กรณใ์ นบตั รบัญชคี ุม หลงั จากคณะกรรมการตรวจรบั ไดต้ รวจรับเรียบร้อยแลว้ 34.3 การรบั ส่งิ อุปกรณ์จากกรณอี น่ื ให้ถอื ปฏิบัติดงั นี้ 34.3.1 ตรวจรบั ส่ิงอุปกรณ์ 34.3.2 ขึน้ บัญชคี มุ สิ่งอุปกรณ์ 34.3.3 รายละเอียดการดำเนินการให้ถือปฏิบัติตามระเบียบหรือคำส่ังต่าง ๆ ท่ี เกี่ยวข้องกบั ทีม่ าของสง่ิ อปุ กรณ์นน้ั ๆ ข้อ 35 การเก็บรักษา ได้แก่ การเตรียมพ้ืนท่ี การนำสิ่งอุปกรณ์เข้า-ออก การเก็บ หรือการวาง การระวงั รักษาส่งิ อปุ กรณใ์ นทเ่ี กบ็ รวมทัง้ การปรนนบิ ัติบำรุง และการซ่อมบำรุงขณะเก็บ และกอ่ นจา่ ยด้วย 35.1 ความรับผิดชอบในการเก็บรกั ษา 35.1.1 เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือ เจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษ ผู้บัญชาการ ช่วยรบ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก ผู้บังคับหน่วยสนับสนุนโดยตรง ผู้บังคับ หนว่ ยใช้ จะต้องวางระเบียบ และจดั งานเกบ็ รักษาส่ิงอปุ กรณ์ในที่เก็บใหป้ ลอดภยั และอยู่ในสภาพทใ่ี ชก้ ารได้ 35.1.2 เจ้าหน้าท่ีเก็บรักษา จะต้องเก็บรักษาส่ิงอุปกรณ์ให้เป็นไปตามระเบียบท่ี ผ้บู งั คบั บญั ชา ในข้อ 35.1.1 กำหนด 35.2 ปัจจัยในการเก็บรักษา เพ่ือให้การเก็บรักษาไดผ้ ลดี ผู้บังคับหน่วยเก็บรักษาจะต้อง คำนึงปัจจยั ดงั ตอ่ ไปน้ี 35.2.1 พน้ื ที่เก็บรักษา 35.2.2 กำลังคน 35.2.3 เคร่ืองมอื ยกขน 35.3 การเตรียมท่เี กบ็ รักษา 35.3.1 ที่เก็บ เตรียมทำท่ีเก็บในพ้ืนที่คลังปิด หรือคลังกลางแจ้ง แบ่งเป็นคลัง หรือพ้ืนท่ี แถว ตอน และช่อง โดยใช้ตัวอักษรผสมกับตัวเลข ตัวอย่างเช่น 1-ก-2-4 หมายความว่า คลังพื้นท่ี 1 แถว ก ตอนท่ี 2 ชอ่ งท่ี 4 35.3.2 ให้เขียนผังแสดงท่ีเก็บตามท่ีจัดระบบไว้ในข้อ 35.3.1 เพื่อสะดวกในการ วางแผนนำส่ิงอปุ กรณเ์ ข้าท่ีเก็บ 35.4 การนำสงิ่ อุปกรณ์เข้าที่เก็บ เจ้าหน้าทเ่ี กบ็ รักษาดำเนนิ การดงั น้ี 35.4.1 บันทึกบัตรแสดงท่ีเก็บโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-009 สำหรับหน่วย สนบั สนนุ และแบบพิมพ์ ทบ.400-068 สำหรบั หน่วยใช้

ห น ้ า | 79 35.4.2 ทำการบำรุงรักษาสง่ิ อปุ กรณ์กอ่ นนำเขา้ เก็บ 35.4.3 ผกู ปา้ ยประจำส่งิ อปุ กรณโ์ ดยใช้แบบพิมพท์ บ.400-010 โดยอนุโลม 35.4.4 นำสิ่งอุปกรณ์เข้าเก็บในที่ที่กำหนดให้ 35.5 การเก็บรักษา หรอื การวางสง่ิ อุปกรณ์ 35.5.1 กำหนดทางเดินในพ้ืนท่ีเก็บรักษาเพื่อความสะดวกในการใช้แรงงาน หรือ เครื่องทนุ่ แรง ดงั ต่อไปนี้ 35.5.1.1 ทางเดนิ หลกั อาจมีทางเดียวตรงกง่ึ กลางตามความยาวของพน้ื ที่ เก็บรักษา หรือมีทง้ั สองขา้ งของพน้ื ทเี่ ก็บรักษากไ็ ด้ ควรใหม้ คี วามกว้างพอทีร่ ถยก 2 คันสวนทางกนั ได้ 35.5.1.2 ทางเดินขวาง ต้ังฉากกับทางเดินหลักควรกำหนดให้ตรงกับ ประตู 35.5.1.3 ทางเดนิ ระหว่างท่ีเกบ็ ของควรให้รถเข็นหรอื รถยกปฏบิ ตั ิงานได้ 35.5.1.4 ทางเดนิ ฉุกเฉนิ จัดสำรองไวส้ ำหรบั ใชใ้ นกรณีฉุกเฉนิ 35.5.2 เกบ็ สง่ิ อปุ กรณ์ใหเ้ ตม็ ท่วี ่างท้ังทางดิง่ และทางระดบั 35.5.3 เกบ็ ส่ิงอปุ กรณ์ใหพ้ น้ จากอันตราย 35.5.4 เก็บส่ิงอุปกรณ์ในที่เก็บรักษาให้ตรงกับลักษณะและคุณสมบัติของส่ิง อุปกรณ์ 35.6 การระวังรักษา เจ้าหน้าท่ีเก็บรักษาจะต้องระวังรักษาสิ่งอุปกรณ์ให้ปลอดภัย และ อยใู่ นสภาพใช้การได้ ดงั ตอ่ ไปน้ี 35.6.1 ภยั ธรรมชาติ 35.6.1.1 เก็บสิ่งอุปกรณ์ในคลังเก็บรักษาซึ่งสามารถระบายอากาศหรือ ป้องกนั ความช้ืนได้ 35.6.1.2 ตรวจ ปอ้ งกัน และทำลายจำพวกสตั ว์ และแมลงตา่ ง ๆ ในกรณพี นื้ ทคี่ ลังไมเ่ พยี งพอ ใหแ้ ยกเก็บสง่ิ อปุ กรณท์ ่มี ีความคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศไว้ในคลังเปิด 35.6.1.4 ใช้ไม้รอง หรือทาสี หรือทาน้ำมันสำหรับส่ิงอุปกรณ์ท่ีเก็บไว้ใน คลังเปิด 35.6.2 อคั คีภยั 35.6.2.1 กำหนดเขตและกวดขันไม่ใหน้ ำเชื้อเพลิงเข้าบริเวณที่เก็บรกั ษา 35.6.2.2 รักษาความสะอาด และขจัดเช้ือเพลิงบริเวณทเ่ี กบ็ รักษา 35.6.2.3 ดแู ลรกั ษาเคร่อื งมอื ดับเพลิงใหอ้ ยใู่ นสภาพพรอ้ มทใ่ี ช้การได้ 35.6.2.4 จดั เจ้าหน้าทีด่ บั เพลิง และหม่ันฝกึ ซ้อมอย่เู สมอ 35.6.2.5 กำหนดข้อปฏิบัติเก่ียวกับการใช้เครื่องมือ และแรงงาน เพ่ือลด ความเสียหายเม่ือเกดิ อคั คีภยั 35.6.2.6 จัดทำป้ายเตือน เช่น ป้าย “ห้ามสูบบุหรี่” หรือ “ไวไฟ” เป็น ตน้ 35.6.2.7 หมั่นตรวจตราสภาพการอ่ืน ๆ อันอาจก่อให้เกิดอัคคีภัย เช่น สายไฟฟ้า เป็นต้นสว่ นรายละเอียดในการปฏิบัตอิ ืน่ ๆ ใหถ้ ือปฏิบตั ิตามระเบยี บกองทพั บก ว่าด้วยการป้องกัน อัคคีภยั พ.ศ.2503 และทแี่ ก้ไขเพมิ่ เติม 35.6.3 การทุจรติ

ห น ้ า | 80 35.6.3.1 สิ่งอุปกรณ์ท่ีมีค่าสูง ขนย้าย และขายง่าย ต้องเก็บรักษาไว้ในท่ี ปลอดภยั และมอบความรบั ผดิ ชอบให้เฉพาะบคุ คล 35.6.3.2 คลงั ทกุ คลังจะตอ้ งปิดประตูใส่กุญแจ และตีตราใหเ้ รียบร้อยเมื่อ เลิกงาน 35.6.3.3 ระมดั ระวังมใิ หบ้ ุคคลลกั ลอบนำส่ิงอุปกรณอ์ อกจากคลัง 35.6.4 วินาศกรรม 35.6.4.1 จัดเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ หรือเวรยาม พร้อมอาวุธเพ่ือตรวจ รอบๆ บริเวณท่ีเก็บรักษาตามความจำเป็น ถ้าหากบริเวณกว้างขวางอาจจัดให้มียานพาหนะ และเคร่ืองมือ สือ่ สารด้วยกไ็ ด้ 35.6.4.2 กวดขนั บคุ คล และยานพาหนะทจี่ ะผ่านข้า-ออก 35.6.4.3 จัดให้มีเครื่องกีดขวางหรือเคร่ืองเตือนภัยในบริเวณที่เก็บรักษา ตามความเห็นสมควรรายละเอียดในการปฏิบัติอื่น ๆ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ ว่าด้วยการรักษาความ ปลอดภยั แหง่ ชาติ พ.ศ.2517 35.6.5 อบุ ัตเิ หตุ 35.6.5.1 อบรมชี้แจงการใชเ้ ครื่องมือยกขน วิธีการขนย้าย และวิธีการจัด วางส่ิงอุปกรณ์ 35.6.5.2 หม่นั ตรวจ และปรนนิบตั บิ ำรงุ เคร่อื งยกขนอยู่เสมอ 35.6.5.3 ทำความสะอาดในท่เี ก็บรักษา 35.6.6 การชำรดุ หรือเสอ่ื มสภาพ ส่ิงอุปกรณ์ซ่อมอยู่ในที่เก็บจะต้องได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพใช้การได้ หรือมิให้เส่ือมสภาพ ก่อนนำไปใช้โดยจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ หรือคำสั่งที่ทางราชการกำหนด หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต หรือทำหน้าที่ทางเทคนิค 35.7 การนำสงิ่ อปุ กรณอ์ อกจากทีเ่ กบ็ 35.7.1 การนำสิ่งอปุ กรณ์ออกจากทเี่ กบ็ ตอ้ งมหี ลกั ฐานการนำออก 35.7.2 การย้ายที่เก็บสง่ิ อปุ กรณ์ ต้องบนั ทกึ การย้ายไวเ้ ป็นหลักฐาน 35.7.3 สิ่งอุปกรณใ์ ดที่นำเข้าเกบ็ กอ่ น ให้นำออกจากจ่ายกอ่ น ข้อ 36 การจ่ายส่ิงอุปกรณ์ ได้แก่ การดำเนินการตอบสนองความต้องการที่หน่วยเบิกได้ส่งคำขอ มา 36.1 ข้อพิจารณาในการจ่ายส่ิงอุปกรณ์ หลักเกณฑ์ที่จะต้องพิจารณาว่าควรจ่ายรายการ ใด จำนวนเทา่ ใดน้ัน ให้คำนงึ ถงึ ปจั จยั ดังตอ่ ไปนี้ 36.1.1 ความตอ้ งการของหนว่ ยรบั การสนบั สนุน 36.1.2 สถานการณ์ทางยุทธวธิ ี 36.1.3 ระดบั ส่งกำลงั หรอื อตั ราของหนว่ ยรบั การสนบั สนุน 36.1.4 สิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่ง 36.1.5 สถานทเ่ี กบ็ รกั ษาของหนว่ ยรบั การสนบั สนนุ 36.1.6 ปริมาณสิง่ อปุ กรณค์ งคลังของหน่วยจา่ ย 36.1.7 ขดี ความสามารถในการซอ่ มบำรงุ ของหน่วยรับการสนับสนนุ 36.2 การเตรยี มการจา่ ยสิง่ อุปกรณ์

ห น ้ า | 81 36.2.1 จัดทำแผนการแจกจา่ ย หรอื เอกสารการแจกจา่ ยส่ิงอปุ กรณ์แล้วแต่กรณี 36.2.2 ดำเนนิ การปรนนบิ ตั บิ ำรงุ ส่ิงอปุ กรณ์ก่อนจา่ ย ถ้าจำเป็น 36.2.3 จดั สถานทเ่ี ตรียมจา่ ยโดยแบ่งส่วนดงั ต่อไปน้ี 36.2.3.1 ส่วนจา่ ย และคัดแยก 36.2.3.2 ส่วนบรรจุหบี ห่อ และจัดสง่ 36.3 วธิ ีดำเนินการจ่ายสิง่ อุปกรณ์ 36.3.1 ส่วนบัญชีคมุ 36.3.1.1 รับใบเบิก และลงทะเบียนเอกสารโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400- 002 36.3.1.2 ตรวจสอบใบเบิกในเรอื่ งดงั ต่อไปนี้ 36.3.1.2.1 ลายมอื ช่ือผ้มู ีสิทธเิ บิก 36.3.1.2.2 ความเรียบร้อยและความถูกต้องของใบเบกิ เชน่ การ อา้ งหลกั ฐานทใ่ี ช้ในการเบิก รายการและจำนวนทขี่ อมา เป็นตน้ 36.3.1.2.3 ความผูกพันระหว่างหน่วยเบิกกับหน่วยจ่าย เช่น ค้างรบั และคา้ งจา่ ย เปน็ ต้น 36.3.1.2.4 ห้วงเวลากำหนดใหท้ ำการเบิก 36.3.1.3 การดำเนินการทางบัญชี 36.3.1.3.1 จำนวนที่ขอเบิกมาอาจเพิ่ม หรือลดได้ ท้ังน้ีเพ่ือ ความเหมาะสมกับมาตรฐานการบรรจหุ บี หอ่ 36.3.1.3.2 พิจารณาจ่ายตามลำดับทะเบียนหน่วยจ่าย เว้นแต่ จะได้รับอนุมตั ิจากผู้มอี ำนาจอนมุ ตั สิ ่งั จ่ายใหด้ ำเนินการเปน็ อยา่ งอื่น 36.3.1.3.3 ถ้าไม่มีส่ิงอุปกรณ์จ่ายให้บันทึกการจ่ายโดยผู้ ตรวจสอบลงนามในใบเบกิ สง่ ใบเบกิ ฉบับท่ี 2 คนื หน่วยเบิก สว่ นทเ่ี หลือเกบ็ ไว้ในแฟม้ รอเรอ่ื ง 36.3.1.3.4 ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์จ่ายให้บันทึกการจ่าย ผู้ตรวจสอบ ลงนามแล้วเสนอผู้มีอำนาจสั่งจ่ายลงนามอนุมัติ เก็บใบเบิกฉบับที่ 3 ไว้ในแฟ้มรอเร่ือง ส่วนใบเบิกท่ีเหลือส่ง ส่วนเก็บรกั ษาดำเนินการตอ่ ไป เม่อื ไดร้ ับใบเบกิ ฉบับที่ 1 คนื แลว้ ให้สำเนาชื่อผรู้ ับผ้จู า่ ยลนามในใบเบิกฉบบั ท่ี 3 แลว้ สง่ ให้ส่วนเกบ็ รกั ษาไวเ้ ป็นหลกั ฐาน 36.3.2 ส่วนเก็บรกั ษา 36.3.2.1 ลงนามผจู้ า่ ยในใบเบกิ 36.3.2.2 จัดเตรยี ม และคดั แยกสิง่ อุปกรณ์ให้ครบถ้วนตามใบเบกิ 36.3.2.3 เขียนปา้ ยประจำสง่ิ อปุ กรณ์ โดยใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.400-010 36.3.2.4 ในกรณีที่หน่วยเบิกมารับส่ิงอุปกรณ์เอง ให้ตรวจสอบรายมือช่ือผู้มีสิทธิ รับสง่ิ อปุ กรณใ์ ห้ถกู ต้อง 36.3.2.5 มอบส่ิงอปุ กรณ์ให้ผู้รับไปพร้อมกับใบเบิกฉบับท่ี 2 และส่งใบเบิกฉบับท่ี 3 คนื สว่ นบัญชคี มุ 36.3.2.6 ใหค้ วามชว่ ยเหลือในการบรรทุกสิ่งอปุ กรณ์ 36.3.2.7 ในกรณีท่ีผรู้ ับไม่สามารถรับสิ่งอุปกรณ์ตามใบเบกิ ไดค้ รบในครั้งเดียว ให้ผู้ จา่ ยและผูร้ ับทำบนั ทกึ ไว้ดา้ นหลังใบเบิก แลว้ ลงนามรบั รองไว้

ห น ้ า | 82 36.3.2.8 ในกรณีท่ีหน่วยจ่ายส่งส่ิงอุปกรณ์ ให้หน่วยเบิกผ่านสำนักงานขนส่ง ให้ ปฏบิ ัตติ ามระเบียบกองทัพบก ว่าดว้ ยการส่งและรบั ส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.2500 และระเบียบกองทพั บกว่าดว้ ยการ ทำหบี ห่อ และทำเคร่อื งหมายเพือ่ การขนสง่ ส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.2499 36.4 การจ่ายสิ่งอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ได้แก่ การจ่ายส่ิงอุปกรณ์ให้หน่วยรับการ สนบั สนนุ โดยหนว่ ยท่ีรบั การสนับสนนุ นนั้ ไม่ตอ้ งทำใบเบิก 36.4.1 ข้อพิจารณาในการจ่ายอตั โนมัติ 36.4.1.1 หน่วยจ่ายทำใบเบิก 1 ชุด โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-007 หรือ ทบ.400-007-1 แลว้ แต่กรณี 36.4.1.2 ลงทะเบียนเอกสารแล้วบันทึกคำว่า “อัตโนมัติ” ไว้ด้านบนของ ใบเบิกด้วยอักษรสแี ดง 36.4.1.3 บันทึกการจา่ ย 36.4.1.4 ผู้ตรวจสอบลงนามแลว้ เสนอผู้มีอำนาจส่งั จ่าย ลงนาม อนุมัติ 36.4.1.5 เก็บใบเบิกฉบับที่ 3 ไว้ในแฟ้มรอเร่ือง ส่วนท่ีเหลือส่งไปให้ หน่วยรบั การสนบั สนนุ พรอ้ มกบั สิง่ อุปกรณ์ 36.4.1.6 หน่วยรับการสนับสนุน ลงท่ีใบเบิก ลงนามผู้เบิก และผู้รับสิ่ง อุปกรณ์ในใบเบิก ฉบับที่ 1, 2, 4, หรือ 5 แล้วแตก่ รณี ส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คนื หน่วยจ่ายภายใน 7 วัน นับจาก วนั ทีไ่ ดร้ บั สงิ่ อุปกรณ์ สว่ นใบเบกิ ที่เหลือให้ดำเนนิ การเหมือนกับการเบกิ ตามปกติ 36.4.1.7 หากหน่วยรับการสนับสนุนส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คืนหน่วยจ่ายช้า เกินกว่ากำหนด ให้หน่วยจ่ายแจ้งผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือของหน่วยรับการสนับสนุนน้ันทราบ เพื่อพิจารณา สอบสวนสาเหตแุ ห่งความล่าช้าตอ่ ไป 36.5 การปลดเปลื้องค้างจ่าย 36.5.1 การปลดเปลื้องค้างจา่ ย ไดแ้ ก่ การจ่ายส่ิงอุปกรณท์ ี่คา้ งจา่ ยให้กับหน่วย โดยอตั โนมัติ 36.5.2 วิธดี ำเนนิ การปลดเปลื้องค้างจ่าย 36.5.2.1 หน่วยจ่ายทำใบเบิก 1 ชุด ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-007 หรือ ทบ.400-007-1 แลว้ แต่กรณี โดยใชท้ ีใ่ บเบกิ เดิม 36.5.2.2 บันทึกทะเบียนเอกสารในใบเบิก โดยใช้เลขทะเบียนเดิม แล้ว เพิ่มจำนวนคร้ังท่ีปลดเปล้ืองท้ายทะเบียนน้ัน กับบันทึกคำว่า “ปลดเปลื้องค้างจ่าย” ไว้ด้านบนของใบเบิก ดว้ ยอักษรสแี ดง 36.5.2.3 บันทึกการจ่าย 36.5.2.4 ผูต้ รวจสอบลงนามแล้วเสนอผู้มีอำนาจสงั่ จ่าย ลงนาม 36.5.2.5 เก็บใบเบิกฉบับที่ 3 ไว้ในแฟ้มรอเร่ือง ส่วนท่ีเหลือส่งไปให้ หนว่ ยรบั การสนบั สนุน พร้อมกับส่ิงอุปกรณ์

ห น ้ า | 83 36.5.2.6 หน่วยรับการสนับสนุนลงนามผู้เบิก และผู้รับสิ่งอุปกรณ์ในใบ เบิกฉบับที่ 1, 2, 4 หรือ 5 แล้วแต่กรณี ส่งใบเบิกฉบับท่ี 1 คืนหน่วยจ่ายภายใน 7 วัน นับจากวันท่ีได้รับส่ิง อุปกรณ์ สว่ นใบเบกิ ทเ่ี หลอื ใหด้ ำเนินการเชน่ เดยี วกบั การเบิกตามปกติ 36.5.2.7 หากหน่วยรับการสนับสนุนส่งใบเบิกฉบับท่ี 1 คืนหน่วยจ่าย ล่าช้าเกินกว่ากำหนด ให้หน่วยจ่ายแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาช้ันเหนือของหน่วยรับการสนับสนุนนั้นทราบ เพื่อ พิจารณาสอบสวนสาเหตุแหง่ ความลา่ ชา้ ต่อไป 36.6 อำนาจสั่งจ่ายในใบเบิก 36.6.1 การเบิก 36.6.1.1 สิ่งอุปกรณ์สำคัญ และสิ่งอุปกรณ์หลัก เมื่อผู้บัญชาการ ทหารบก อนุมัติหลักการแจกจ่ายแล้ว ผู้อำนวยการกอง หรือหัวหน้ากอง ตามท่ีเจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือเจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษกำหนด ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก หรือผบู้ ังคับการจังหวัดทหารบก เป็นผู้สั่งจ่าย 36.6.1.2 สิ่งอุปกรณ์รอง และช้ินส่วนซ่อม ผู้อำนวยการกอง หรือ หรือ หัวหน้ากอง ตามที่เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือ เจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษ กำหนด ผู้บัญชาการ กองบัญชาการช่วยรบ ผู้บญั ชาการมณฑลทหารบก หรือผู้บังคับการจังหวดั ทหารบก หรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผสู้ ั่งจา่ ย 36.6.2 การยมื 36.6.2.1 สง่ิ อปุ กรณส์ ำคัญ เมอื่ ผ้บู ัญชาการทหารบก อนุมัตหิ ลกั การยืม แล้ว ผู้อำนวยการกอง หรือหัวหน้ากอง ตามท่ีเจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือ เจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษ กำหนด ผู้บัญชาการกองบญั ชาการชว่ ยรบ ผู้บญั ชาการมณฑลทหารบก หรอื ผ้บู ังคับการจงั หวัดทหารบก เป็น ผสู้ ่งั จ่าย 36.6.2.2 สิ่งอุปกรณ์อ่ืน ๆ เม่ือได้รับหลักการจากผู้มีอำนาจให้ยืมแล้ว ผู้อำนวยการกอง หรอื หัวหน้ากอง ตามที่เจา้ กรมฝ่ายยทุ ธบรกิ าร และ/หรือ เจ้ากรมฝา่ ยกจิ การพเิ ศษ กำหนด ผบู้ ัญชาการกองบัญชาการชว่ ยรบ ผบู้ ัญชาการมณฑลทหารบก หรอื ผ้บู งั คบั การจงั หวัดทหารบก เป็นผูส้ ่งั จ่าย ตอนที่ 6 การจำหนา่ ย ข้อ 37 การจำหน่าย หมายถึง การตัดยอดสิ่งอุปกรณ์ออกจากความรับผิดชอบของกองทัพบก เนอ่ื งจากสูญไป สิ้นเปลืองไป (ส่ิงอุปกรณ์สิ้นเปลือง) ชำรุดเสียหายจนไม่สามารถคืนสภาพได้อย่างคุ้มค่า เสือ่ มสภาพจนใช้การไม่ได้ หรือสญู หาย ตาย เกินความต้องการ เป็นของลา้ สมยั ไม่ใชร้ าชการตอ่ ไป ข้อ 38 การดำเนินการ ให้ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.2524 ลง 30 ก.ย. 24 ตอนท่ี 7 การควบคุม ข้อ 39 ประเภทการควบคุม แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ การควบคุมทางการคลัง และการ ควบคมุ ทางบญั ชี 39.1 การควบคุมทางการส่งกำลัง หน่วยในสายการส่งกำลังต่ำกว่า ต้องอยู่ในความ ควบคุมของหน่วยระดับเหนือกว่าในสายการส่งกำลังเดียวกัน โดยถือว่ามูลฐานภารกิจ และความ รบั ผดิ ชอบในการควบคมุ ดังตอ่ ไปนี้

ห น ้ า | 84 39.1.1 มลู ฐานการควบคมุ ทางการสง่ กำลงั มดี ังน้ี 39.1.1.1 นโยบายการส่งกำลังของหนว่ ยเหนือ 39.1.1.2 หลกั ฐานการควบคมุ ส่งิ อปุ กรณ์ 39.1.1.3 การพยากรณ์ความต้องการสิ่งอุปกรณ์ในอนาคตตามห้วง ระยะเวลาที่กำหนด 39.1.1.4 ปัจจัยท้ังมวลที่อาจเป็นอปุ สรรค และขัดต่อสถานภาพทางการ สง่ กำลัง 39.1.2 ภารกิจการควบคุมทางการสง่ กำลัง มดี ังน้ี 39.1.2.1 สำรวจการทำบัญชรี ายการสิ่งอปุ กรณ์ 39.1.2.2 คำนวณความตอ้ งการ 39.1.2.3 อำนวยการจัดหา 39.1.2.4 จัดงานการแจกจา่ ย 39.1.2.5 อำนวยการซอ่ มสร้าง 39.1.2.6 อำนวยการจำหน่าย 39.1.3 ความรับผิดชอบในการควบคมุ ทางการสง่ กำลัง 39.1.3.1 กองทพั บกกำหนดระดับสง่ กำลัง 39.1.3.2 หนว่ ยสนบั สนุนทางการส่งกำลงั 39.1.3.2.1 คำนวณปริมาณสิง่ อุปกรณ์ ตามวนั สง่ กำลงั ทกี่ องทพั บกกำหนด 39.1.3.2.2 รักษาระดบั ส่งกำลงั 39.1.3.2.3 รวบรวมข้อมูลท่ีมีผลกระทบกระเทือนต่อสถานภาพทางการส่งกำลัง แล้วเสนอขออนุมัตเิ ปลีย่ นแปลงระดับส่งกำลงั 39.2 การควบคุมทางบัญชี ผู้บังคับหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง และหน่วยใช้จะต้อง รับผิดชอบดำเนินการควบคุมทางบัญชีต่อส่ิงอุปกรณ์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมาะสม เพื่อให้ทราบ สถานภาพสง่ิ อปุ กรณ์ไดต้ ลอดเวลา โดยถอื มลู ฐาน ภารกจิ และความรับผดิ ชอบในการควบคมุ ดังต่อไปนี้ 39.2.1 มูลฐานการควบคมุ ทางบัญชี มดี ังน้ี 39.2.1.1 บัตรบัญชีคุมสิ่งอุปกรณ์ และข้อมูลต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับบัตร บัญชีคมุ รวมทัง้ ประวัตสิ ิ่งอปุ กรณ์ 39.2.1.2 สถานภาพสิง่ อปุ กรณ์ 39.2.1.3 ประสบการณใ์ นการรบั -จา่ ย สิง่ อปุ กรณ์ 39.2.2 ภารกิจในการควบคุมทางบญั ชี มีดงั นี้ 39.2.2.1 บันทึก รายงาน และจัดทำข้อมูลท่ีเก่ียวกับจำนวนสภาพ และ สถานภาพของสิ่งอุปกรณ์ 39.2.2.2 จดั ทำแผนการแจกจ่ายหรอื เอกสารการแจกจ่ายสิ่งอปุ กรณ์ แลว้ แตก่ รณี 39.2.2.3 พิจารณาจำนวนส่ิงอปุ กรณใ์ ห้หนว่ ยสนับสนนุ ตามความจำเปน็ ให้น้อยท่สี ุด 39.2.3 ความรบั ผดิ ชอบในการควบคุมทางบญั ชี 39.2.3.1 หนว่ ยสนบั สนนุ ทางการส่งกำลัง

ห น ้ า | 85 39.2.3.1.1 ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน จัดทำสถิติ และข้อมูล สำหรับสง่ิ อุปกรณ์แต่ละรายการ 39.2.3.1.2 จัดทำบัญชีคุมส่ิงอุปกรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400- 003 และแบบพมิ พ์ ทบ.400-003-2 39.2.3.1.3 จัดทำบัญชีคุมอุปกรณ์ถาวรท่ีอยู่ในความครอบครอง ของหนว่ ยใช้ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-003-3 และ ทบ.400-002-4 39.2.3.2 หน่วยใช้ 39.2.3.2.1 ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน จัดทำสถิติ และข้อมูล สำหรับสิ่งอุปกรณ์แต่ละรายการ 39.2.3.2.2 จัดทำบัญชีคุมส่ิงอุปกรณ์ถาวร โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-005 สำหรับบัญชคี มุ ชิน้ สว่ นซ่อม และสิง่ อุปกรณ์ใชส้ ิน้ เปลืองนั้นใหใ้ ชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.400-068 ข้อ 40 ความรับผิดชอบ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับช้ัน ต้องรับผิดชอบในการควบคุมสิ่งอุปกรณ์ให้ เปน็ ไปโดยเรียบร้อยเหมาะสม ถูกต้องตามความมงุ่ หมายของทางราชการ ตอนที่ 8 การสำรวจ ข้อ 41 การสำรวจ ไดแ้ ก่ การสำรวจสิ่งอุปกรณ์ และการสำรวจทเี่ กบ็ 41.1 การสำรวจสิ่งอุปกรณ์ ได้แก่ การนับจำนวน และตรวจสภาพส่ิงอปุ กรณ์ในท่ีเกบ็ ให้ ตรงกบั หลักฐานบญั ชีคุม 41.2 การสำรวจท่ีเก็บ ได้แก่ การตรวจสอบที่เก็บส่ิงอุปกรณ์ให้ตรงกับบัตรบัญชีคุมสิ่ง อปุ กรณ์ หรอื บัตรแสดงที่เก็บ ขอ้ 42 ประเภทการสำรวจสิง่ อุปกรณ์ 42.1 การสำรวจเบ็ดเสร็จ ได้แก่ การสำรวจส่ิงอุปกรณใ์ นครอบครองทั้งหมด โดยปดิ การ เบิกจ่ายทั้งสิ้น เว้นกรณีเร่งด่วน การสำรวจประเภทนี้กระทำเม่ือมีเครื่องมือสำรวจสมบูรณ์ ซ่ึงจะทำให้การ สำรวจนน้ั เสร็จส้นิ โดยเรว็ 42.2 การสำรวจหมุนเวียน ได้แก่ การสำรวจส่ิงอุปกรณ์ท่ีได้แบ่งออกเป็นจำพวก หรือ ชนิด หรือรายการเพ่ือทำการสำรวจหมุนเวียนกันไปตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด โดยปิดการเบิกจ่ายเฉพาะ รายการท่สี ำรวจน้ัน เว้นกรณีเรง่ ดว่ น 42.3 การสำรวจพิเศษ ได้แก่ การสำรวจส่ิงอุปกรณ์เป็นคร้ังคราวตามความจำเป็น โดย ปิดการเบิกจ่ายเฉพาะรายการท่ีสำรวจน้ัน เว้นกรณีเร่งด่วน การสำรวจประเภทนี้จะสำรวจสิ่งอุปกรณ์จำพวก ใด ชนิดใด หรอื รายการใดนั้น ขึน้ อยกู่ บั กรณีดังต่อไปนี้ 42.3.1 เมื่ออันตรายเกดิ ขนึ้ กบั สง่ิ อุปกรณ์ 42.3.2 เม่ือหน่วยบญั ชคี มุ ตอ้ งการทราบจำนวน 42.3.3 เมือ่ ยอดคงคลังในบตั รบัญชีคมุ เปน็ ศูนย์ 42.3.4 เมื่อมีการยับยง้ั การจา่ ย 42.3.5 เมอ่ื พบส่ิงอปุ กรณ์ตกหลน่ 42.3.6 เมอ่ื มีการรับส่งหน้าที่ 42.3.7 เมือ่ สิ่งอปุ กรณ์ในท่ีเก็บเป็นศนู ย์

ห น ้ า | 86 ข้อ 43 การดำเนินการสำรวจส่งิ อุปกรณ์ 43.1 การสำรวจเบ็ดเสร็จ 43.1.1 ประกาศระงับการเบิก-จ่าย ให้หน่วยรับการสนับสนุน และหน่วยท่ี เก่ยี วข้องทราบลว่ งหน้า 43.1.2 ให้ทำการจา่ ยสิ่งอุปกรณ์ใหเ้ สร็จสิ้นกอ่ นวันเรม่ิ สำรวจ 43.1.3 วิธีปฏบิ ตั ิในการสำรวจ 43.1.3.1 เจ้าหนา้ ทบี่ ญั ชคี มุ กรอกหมายเลข ช่อื และท่เี กบ็ สง่ิ อุปกรณ์ โดยใชแ้ บบพิมพ์ ทบ.400-011 และบนั ทึกคำว่า “ สำรวจ วัน เดือน ปี ” ท่ีทำการสำรวจ ลงในบตั ร บญั ชคี ุม ขีดเสน้ ใต้ดว้ ยหมกึ สแี ดง เสร็จแลว้ สง่ แบบพมิ พ์ ทบ.400-011 ให้คณะกรรมการหรือชุดสำรวจ 43.1.3.2 คณะกรรมการ หรือชุดสำรวจ ทำการสำรวจสิ่งอุปกรณ์ ตาม แบบพิมพ์ ทบ.400-011 เสร็จแล้วส่งแบบพิมพ์ดงั กล่าวคนื เจ้าหนา้ ทบี่ ญั ชคี ุม 43.1.3.3 เจ้าหน้าที่บัญชีคุม บันทึกผลการรายงานลงในใบรายงานผล การเปรียบเทียบการตรวจสอบยอดสิ่งอปุ กรณ์ โดยใชแ้ บบพิมพ์ ทบ.400-012 43.1.3.4 เจ้าหน้าที่บัญชีคุมเสนอใบรายงานผลเปรียบเทียบการ ตรวจสอบยอดสิ่งอปุ กรณต์ อ่ ผมู้ ีอำนาจส่งั ปรับยอดในบัตรบัญชีคมุ ตามข้อ 48 43.1.3.5 เจ้าหน้าท่ี บัญชีคุม ทำการปรับยอดในบัตรบัญชีคุมเมื่อได้รับ อนุมตั ิ 43.2 การสำรวจหมุนเวียน 43.2.1 เจ้าหน้าท่ีบัญชีคุมทำตารางการสำรวจเพ่ือให้มีการสำรวจอย่างต่อเน่ืองใน รอบปี 43.2.2 ให้ทำการจ่ายส่ิงอปุ กรณ์เฉพาะรายการท่ีทำการสำรวจ ใหเ้ สร็จส้ินกอ่ นวนั เร่ิมสำรวจ 43.2.3 ระงับการเบิกจ่าย เฉพาะรายการท่ีทำการสำรวจ โดยไม่ต้องแจ้งให้หน่วย รับการสนบั สนุนทราบ 43.2.4 วิธีการปฏิบัติในการสำรวจ ดำเนินการเช่นเดียวกับการสำรวจเบ็ดเสร็จ ตามที่กล่าวในข้อ 43.1.3 43.3 การสำรวจพิเศษ 43.3.1 เมื่อมีเหตุท่ีจะต้องทำการสำรวจพิเศษอันเน่ืองมาจากกรณีใดกรณีหนึ่ง ตามท่ีกล่าวมา ในขอ้ 42.3 ให้ผู้รับผิดชอบโดยตรงรายงานขออนมุ ตั ทิ ำการสำรวจต่อผมู้ ีอำนาจส่ังสำรวจ 43.3.2 ให้ทำการจ่ายสิ่งอุปกรณ์เฉพาะรายการท่ีทำการสำรวจให้เสร็จส้ินก่อนวัน เรม่ิ สำรวจ 43.3.3 ระงับการเบิกจ่าย เฉพาะรายการท่ีทำการสำรวจ โดยไมต่ ้องแจ้งให้หน่วย รับการสนบั สนุนทราบ 43.3.4 วิธีปฏิบัติในการสำรวจ ดำเนินการเช่นเดียวกับการสำรวจเบ็ดเสร็จตามที่กล่าวมาใน ขอ้ 43.1.3 ข้อ 44 ผมู้ ีอำนาจในการสง่ั สำรวจสง่ิ อปุ กรณ์ 44.1 คลังกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือฝ่ายกิจการพิเศษ ได้แก่ เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือฝา่ ยกจิ การพิเศษ 44.2 คลงั กองบัญชาการช่วยรบ ไดแ้ ก่ ผบู้ ญั ชาการชว่ ยรบ

ห น ้ า | 87 44.3 คลงั มณฑลทหารบก ไดแ้ ก่ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก 44.4 คลงั จังหวดั ทหารบก หนว่ ยสนบั สนุนโดยตรง หรอื หนว่ ยใช้ ได้แก่ ผบู้ ังคบั บัญชาชน้ั ผูบ้ ญั ชาการกองพล หรือเทยี บเทา่ ข้อ 45 การต้ังกรรมการ หรอื ชดุ สำรวจสิ่งอปุ กรณ์ ให้ผู้มีอำนาจในการส่ังสำรวจส่ิงอุปกรณ์ตามข้อ 44 ต้ังกรรมการ หรือชุดสำรวจสิ่งอุปกรณ์ อย่างน้อย 3 นาย (ประธานกรรมการ หรือหัวหน้าชุดต้องเป็นนายทหารสัญญาบัตร) เพ่ือทำการสำรวจสิ่ง อปุ กรณต์ ามท่ีกลา่ วแลว้ ในข้อ 43 ข้อ 46 วิธีสำรวจส่ิงอุปกรณ์ ให้คณะกรรมการ หรือชุดสำรวจสิ่งอุปกรณ์ ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400- 011 ซงึ่ มีอยู่ 3 สว่ น ดำเนินการสำรวจตามลำดับดงั ต่อไปนี้ 46.1 คนท่ี 1 สำรวจส่งิ อปุ กรณ์ แลว้ บันทกึ ผลลงในใบสำรวจสง่ิ อปุ กรณ์สว่ นท่ี 1 46.2 คนท่ี 2 สำรวจส่ิงอุปกรณ์รายการเดียวกับคนท่ี 1 แล้วบันทึกผลลงในใบสำรวจ ส่วนที่2 46.3 คนที่ 3 (ประธานกรรมการ หรือหัวหน้าชุด) ตรวจสอบผลการสำรวจของคนท่ี 1 และ 2 ถ้าตรงกันให้บันทึกผลในใบสำรวจส่ิงอุปกรณ์ส่วนที่ 3 ถ้าผลการสำรวจของคนท่ี 1 และ 2 ไม่ตรงกัน ให้คนที่ 3 ทำการสำรวจใหม่ ผลการสำรวจของคนที่ 3 ตรงกับคนใดคนหนึ่ง ให้เอาผลน้ันบันทึกลงในใบ สำรวจส่ิงอุปกรณ์ส่วนที่ 3 ถ้าผลการสำรวจของคนท่ี 3 ไม่ตรงกับใครเลย ให้ทำการสำรวจใหม่พร้อมกันทั้ง 3 คน ขอ้ 47 การรายงานการสำรวจสง่ิ อุปกรณ์ 47.1 เมื่อเจ้าหน้าที่บัญชีคุมได้รับใบสำรวจส่ิงอุปกรณ์จากคณะกรรมการ หรือชุด สำรวจแล้ว ทำการเปรยี บเทียบการตรวจสอบยอดสงิ่ อุปกรณ์ โดยใชแ้ บบพิมพ์ ทบ.400-012 47.2 ถ้าผลตรวจนับสิ่งอุปกรณ์คลาดเคลื่อนจากยอดในบัตรบัญชีคุมก่อนเสนอรายงาน ให้ ปฏบิ ตั ิดงั นี้ 47.2.1 ตรวจสอบเอกสารการรบั ส่งิ อุปกรณแ์ ละหลักฐานการนำสิ่งอุปกรณ์เขา้ ทเี่ ก็บ 47.2.2 ตรวจสอบเอกสารการจ่ายสิ่งอุปกรณ์และหลักฐานการนำสง่ิ อปุ กรณ์ออกจาก ท่ีเก็บ 47.2.3 สำรวจที่เกบ็ สง่ิ อปุ กรณ์ 47.3 เสนอรายงานผลการเปรียบเทียบการตรวจสิ่งอุปกรณ์ต่อผู้มีอำนาจในการส่ังสำรวจ และบนั ทึกจำนวนสิ่งอุปกรณ์ตามทไ่ี ดร้ บั อนุมัตใิ ห้ปรบั ยอดแลว้ ด้วยหมึกสีแดงในบตั รบัญชีคมุ ขอ้ 48 การปรบั ยอดในบตั รบัญชีคุม 48.1 ถ้าจำนวนส่ิงอุปกรณ์ขาดจากยอดในบัตรบัญชีคุม ให้ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.2524 ลง 30 ก.ย.24 48.2 ถ้าจำนวนสิ่งอุปกรณ์เกินกว่ายอดในบญั ชีคุม ให้ผู้มีอำนาจในการสั่งสำรวจส่ิงอปุ กรณ์ ส่งั แกไ้ ขในบตั รบญั ชคี มุ ได้ แล้วแจ้งใหส้ ายยทุ ธบริการทรี่ บั ผดิ ชอบในส่งิ อปุ กรณ์นั้นทราบด้วย ข้อ 49 การสำรวจทเี่ กบ็ สง่ิ อุปกรณ์ 49.1 ความมุง่ หมายในการสำรวจทเี่ กบ็ ที่สง่ิ อุปกรณ์ 49.1.1 เพื่อใหส้ ิ่งอปุ กรณ์อยใู่ นท่ีเกบ็ ตรงกับบตั รแสดงทเ่ี กบ็

ห น ้ า | 88 49.1.2 เพอ่ื ใหส้ ิง่ อุปกรณช์ นดิ เดียวกนั เก็บในทีแ่ ห่งเดียวกนั 49.1.3 เพื่อให้ส่ิงอปุ กรณ์ในทเ่ี ก็บตรงกบั ลักษณะ และคุณสมบัติ 49.1.4 เพอ่ื ใหท้ ราบท่เี กบ็ ทวี่ ่าง 49.2 การดำเนินการสำรวจท่ีเกบ็ 49.2.1 ผู้บังคับหน่วยเก็บรักษาทำตารางการสำรวจท่ีเก็บส่ิงอุปกรณ์ เพ่ือให้มีการ สำรวจอยา่ งต่อเน่อื งในรอบปี 49.2.2 เจ้าหน้าที่บัตรแสดงที่เก็บบันทึกรายละเอียดส่ิงอุปกรณ์ในท่ีเก็บเดิมลงใบ สำรวจที่เก็บ โดยใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.400-011-1 ตามตารางการสำรวจทเี่ ก็บสิง่ อุปกรณท์ ี่กำหนดไว้ 49.2.3 ผู้สำรวจทำการสำรวจท่ีเก็บ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้บันทึกในใบ สำรวจที่เกบ็ 49.2.4 ผบู้ งั คับหนว่ ยเกบ็ รักษาส่งั การแก้ไข 49.2.5 เจ้าหน้าทีบ่ ตั รแสดงที่เกบ็ แก้บตั รแสดงทเ่ี ก็บแลว้ ส่งใหเ้ จา้ หนา้ ท่บี ัตรบญั ชี คมุ ทราบดว้ ย ตอนที่ 9 การรายงานสถานภาพ ข้อ 50 ความม่งุ หมาย เพือ่ ให้ผ้บู ังคับบญั ชา และหนว่ ยส่งกำลังบำรุงช้ันเหนือทราบสถานภาพ สิ่ง อปุ กรณ์ของหนว่ ยใช้ และหน่วยสนบั สนุนทางการสง่ กำลังตามหว้ งระยะเวลา ข้อ 51 หนว่ ยรายงาน 51.1 หน่วยใช้ ได้แก่ หน่วยระดับกองพัน หรือเทียบเท่า หรือหน่วยอิสระท่ีกองทัพบก อนมุ ตั ขิ ึน้ ไป 51.2 หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง ได้แก่ หน่วยสนับสนุนโดยตรง หน่วยสนับสนุน ท่ัวไป และคลัง ข้อ 52 หว้ งระยะเวลาการรายงาน 52.1 หน่วยใช้ รายงานรอบ 3 เดือน ปิดรายงานสิ้น มีนาคม มิถุนายน กันยายน และ ธนั วาคม 52.2 หน่วยสนับสนนุ ทางการสง่ กำลัง รายงานในรอบ 6 เดอื น ปดิ รายงานในส้นิ มีนาคม และ กันยายน ขอ้ 53 สิง่ อปุ กรณท์ ่ตี อ้ งรายงาน 53.1 หน่วยใช้ รายงานสถานภาพสิ่งอุปกรณ์ตาม อจย. ทุกรายการ ส่วนส่ิงอุปกรณ์ตาม อสอ. น้นั ใหร้ ายงานเฉพาะรายการทก่ี องทพั บกกำหนด 53.2 หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง ให้รายงานสถานภาพสิ่งอุปกรณ์ที่สะสมเฉพาะ รายการท่กี องทพั บกกำหนด ขอ้ 54 การดำเนินการรายงาน 54.1 รายงานของหน่วยใช้ 54.1.1 หน่วยใช้ ทำรายงานในรอบ 3 เดือน โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-016 จำนวน 3 ชุด แยกส่ิงอุปกรณ์ตามความรับผิดชอบของสายยุทธบริการ หน่วยรายงานเก็บไว้ 1 ชุด ส่ง รายงานตามสายการบังคับบัญชา 2 ชุด สำหรับส้ิน มีนาคม ให้รายงานสถานภาพส่ิงอุปกรณ์ทุกรายการ

ห น ้ า | 89 ตามที่กำหนดในข้อ 53.1 ส่วนสิ้น มิถุนายน กันยายน และ ธันวาคม ให้รายงานเฉพาะรายการท่ี เปล่ยี นแปลง ถ้าไม่มกี ารเปล่ยี นแปลงให้ยืนยนั ใหท้ ราบ 54.1.2 หน่วยบังคับบัญชาชั้นเหนือของหน่วยรายงาน รับทราบสถานภาพส่ิง อปุ กรณ์ แล้วส่งรายงานจำนวน 2 ชดุ ไปตามสายการบังคับบญั ชาจนถึง นขต.ทบ. และ นขต.ทบ. ส่งรายงาน ให้กรมฝ่ายยทุ ธบรกิ ารท่ีรับผิดชอบส่ิงอุปกรณ์ จำนวน 2 ชดุ ภายใน 30 วัน นบั จากวนั ปิดรายงาน 54.1.3 กรมฝ่ายยุทธบริการ ตรวจสอบสถานภาพส่ิงอุปกรณ์แล้วส่งรายงานให้ กองทัพบก จำนวน 1 ชดุ เกบ็ ไว้ 1 ชดุ ขอ้ 55 ประเภทเอกสาร เอกสารตา่ ง ๆ ที่ใช้ในการรายงานสถานภาพสิ่งอปุ กรณใ์ ห้ถือเปน็ เอกสาร “ลับ” ตอนท่ี 10 ข้อกำหนดอนื่ ๆ ข้อ 56 แบบพิมพ์ท่ีใชใ้ นระเบียบน้ี การเบิก การยืม การโอน และการสง่ คืน 56.1 ทบ.400-006 ใบเบกิ 56.2 ทบ.400-007 ใบเบิก และใบส่งสิง่ อปุ กรณ์ 56.3 ทบ.400-007-1 ใบเบิก หรือใบสง่ คนื สิ่งอุปกรณ์ 56.4 ทบ.400-008 ใบแจง้ การยกเลกิ 56.5 ทบ.400-013 ใบส่งคนื 56.6 ทบ.400-014 ใบสง่ คนื และสง่ ส่ิงอปุ กรณ์ 56.7 ทบ.400-071 ใบติดตามใบเบิก 56.8 ทบ.400-073 เอกสารการแจกจ่ายสงิ่ อุปกรณ์ 56.9 ทบ.400-074 ใบโอนสง่ิ อุปกรณ์ การเก็บรกั ษา 56.10 ทบ.400-009 บัตรแสดงที่เกบ็ 56.11 ทบ.400-010 บัตรประจำสงิ่ อุปกรณ์ การควบคมุ 56.12 ทบ.400-002 ทะเบยี นหลกั ฐานการสง่ กำลงั 56.13 ทบ.400-003 บัตรบัญชีคุม 56.14 ทบ.400-003-2 บัตรบญั ชีคมุ ส่ิงอุปกรณใ์ ชก้ ารไม่ได้ 56.15 ทบ.400-003-3 บัตรบัญชคี มุ สิ่งอปุ กรณ์ถาวรคุมเปน็ รายการ 56.16 ทบ.400-003-4 บัตรบญั ชคี ุมส่งิ อปุ กรณถ์ าวรคมุ เปน็ หน่วย 56.17 ทบ.400-005 บัญชสี งิ่ อปุ กรณ์ของหน่วย 56.18 ทบ.400-068 บตั รบัญชีคมุ ช้ินส่วนซ่อม และสง่ิ อุปกรณ์ใชส้ ิ้นเปลือง การสำรวจ 56.19 ทบ.400-011 ใบสำรวจสิง่ อุปกรณ์ 56.20 ทบ.400-011-1 ใบสำรวจท่เี ก็บ 56.21 ทบ.400-012 ใบรายงานผลการเปรียบเทยี บการตรวจสอบยอดสิง่ อปุ กรณ์

ห น ้ า | 90 การรายงานสถานภาพ 56.22 ทบ.400-016 ใบรายงานสถานภาพส่ิงอุปกรณข์ องหนว่ ยใช้ 56.23 ทบ.400-017 ใบรายงานสถานภาพสิ่งอุปกรณข์ องหนว่ ยสนบั สนนุ ข้อ 57 สิ่งอปุ กรณ์ที่อยใู่ นความรับผิดชอบหลายสายงาน 57.1 องคป์ ระกอบ ส่วนประกอบ ชิน้ ส่วน ฯลฯ 57.1.1 ให้สายยุทธบริการซ่ึงรับผิดชอบต่อส่ิงอุปกรณ์สำเร็จรูปชนิดใด รวบรวม องค์ประกอบ ส่วนประกอบ ชิ้นส่วน ฯลฯ ของส่ิงอุปกรณ์สำเร็จรูปน้ันแจกจ่ายข้ันต้นให้กับหน่วยรับการ สนบั สนนุ 57.1.2 ส่วนการแจกจ่ายทดแทน องค์ประกอบ ส่วนประกอบ ช้ินส่วน ฯลฯ ให้ สายยทุ ธบริการที่รบั ผิดชอบเปน็ ผูด้ ำเนินการ 57.2 สิ่งอุปกรณ์ทจ่ี ัดเป็นชดุ 57.2.1 ให้สายยุทธบริการท่ีรับผิดชอบต่อสิ่งอุปกรณ์ท่ีจัดเป็นชุดรวบรวม ส่วนประกอบของชุดแจกจา่ ยข้ันตน้ ใหแ้ กห่ น่วยทีร่ ับการสนบั สนุน 57.2.2 ส่วนการแจกจ่ายทดแทนสว่ นประกอบชุด ใหส้ ายยทุ ธบรกิ ารท่ีรับผิดชอบ เปน็ ผู้ดำเนนิ การ ข้อ 58 อำนาจในการวางระเบียบปลีกย่อย ให้กรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษ ออกระเบียบปลีกย่อยไดโ้ ดยไมข่ ดั หรือแย้งกับระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันท่ี 30 กันยายน 2534 พลเอก สุจินดา คราประยรู ( สุจินดา คราประยรู ) ผ้บู ัญชาการทหารบก

ห น ้ า | 91 แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรียนทหารม้า ศูนยก์ ารทหารมา้ คา่ ยอดิศร สระบรุ ี ---------- เอกสารนำ วชิ า การระมดั ระวงั ความปลอดภยั และเครอ่ื งดับเพลงิ 1. ข้อแนะนำในการศึกษา วิชานี้ใช้เวลาสอน 2 ช่ัวโมง ทำการสอนแบบเชิงประชุม และสาธิต เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความสามารถเก่ียวกับการระมัดระวังความปลอดภัยเม่ือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ และการ ปฏิบัติงานในโรงซ่อม วิธีป้องกันอันตรายต่าง ๆ ท่ีอาจเกิดขึ้นได้ การใช้เคร่ืองดับเพลิง และการดับเพลิงที่ ถูกวิธี ตลอดจนวิธีการตรวจสภาพเครื่องดับเพลิง เพ่ือใช้เป็นหลักปฏิบัติในการระมัดระวังความปลอดภัย และเป็นแนวทางในการกำหนดวิธปี ฏบิ ตั ิ และมาตรการในการระมดั ระวังความปลอดภัยของหน่วย ตอ่ ไป 2. หัวขอ้ สำคญั ในการศกึ ษา เพื่อให้นักเรยี นมีความรู้ในเร่อื งเหล่าน้ี คือ 2.1 อนั ตรายเกย่ี วกับเพลิง 2.2 อันตรายซึ่งเกดิ จากการกระทบกระแทก 2.3 อันตรายซ่งึ เกิดจากยานพาหนะ 2.4 อันตรายเกีย่ วกบั เครื่องมือ 2.5 อันตรายจากสารเคมี 2.6 สาเหตุของอุบตั ิเหตุ ในโรงซอ่ ม และวิธีป้องกัน 2.7 เครอื่ งดบั เพลงิ 2.8 หลกั ทว่ั ไปในการดบั เพลงิ 2.9 ชนดิ ของเคร่ืองดบั เพลิง 2.10 หลักการใชเ้ ครือ่ งดับเพลงิ 2.11 การตรวจสภาพเคร่ืองดับเพลิง 3. งานมอบ ให้นักเรียนอ่านเอกสารเพ่ิมเติม เร่ืองการระมัดระวังความปลอดภัย และเคร่ืองดับเพลิง ก่อน เข้าหอ้ งเรยี น 4. คำแนะนำพเิ ศษ ไมม่ ี 5. เอกสารแจกจา่ ยพรอ้ มเอกสารนำ เอกสารเพิ่มเตมิ ***********

ห น ้ า | 92 แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา โรงเรยี นทหารมา้ ศูนย์การทหารมา้ คา่ ยอดศิ ร สระบุรี ---------- เอกสารเพ่ิมเตมิ วิชา การระมดั ระวงั ความปลอดภัย และเครอื่ งดบั เพลิง ตอนท่ี 1 การระมดั ระวงั ความปลอดภยั 1. กล่าวทวั่ ไป 1.1 คำแนะนำเหล่าน้ีแจกจ่ายให้เพื่อเป็นหลักปฏิบัติในการระมัดระวังความปลอดภัย และเป็นแนวทาง กำหนดวิธีปฏิบตั ิ เพ่ือความปลอดภัยในโรงซ่อมเม่ือทำการซ่อมบำรุงยานพาหนะ และอย่าเข้าใจว่าคำแนะนำ นี้เป็นส่ิงถาวร โดยท่านจะต้องแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือทบทวนให้ตรงกันกับข้อบังคับของกองทัพบกหรือ เอกสารของทางราชการซ่งึ กำหนดไว้ รวมทง้ั รปจ.ของหน่วยด้วย 1.2 ผู้มีหน้าท่จี ะตอ้ งปฏบิ ัตงิ านเก่ยี วกบั การซอ่ มบำรุงจะตอ้ งศึกษาวิธีการปฏิบัติ และตอ้ งปฏบิ ตั ิตามอย่าง เคร่งครัด ต้องย้ำให้ผู้ปฏิบตั ิเข้าใจว่าจะต้องทำการฝึกให้เปน็ นิสัยตลอดในชีวิตรับราชการ ฉะน้ันในหลักสูตรน้ี เราจะนำข้อระมัดระวังความปลอดภยั และวธิ ีปฏบิ ัตทิ ม่ี ปี ระสิทธิภาพมาใช้ ในขณะนักเรียนปฏิบัตงิ านซ่อม บำรงุ ครู และนักเรยี นจะต้องต่ืนตัวอยู่เป็นนิจเกี่ยวกบั ข้อระมัดระวงั อันตรายในขณะฝึกงาน และจะต้องแกไ้ ข ข้อผดิ พลาดท่เี กดิ ขึ้นโดยทนั ที 1.3 การซ่อมหรือการบริการยานพาหนะที่รีบด่วนจะไม่เกิดผลงานท่ีดี ถ้าการทำงานขาดความระมัดระวัง ปกตอิ ุบตั ิเหตซุ ึ่งเกิดขึ้นส่วนมากจากสาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เราต้องหลีกเลี่ยงโดยสนใจต่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่า เพกิ เฉยละเลยเสยี สิ่งซ่งึ จะกลา่ วต่อไปนีเ้ ปน็ อันตรายท่ัว ๆ ไปซึ่งต้องหลีกเล่ยี งอย่าใหเ้ กิดขึ้น 2. อนั ตรายเกย่ี วกับเพลงิ 2.1 ของเหลวที่หก น้ำมันเคร่ือง ไขข้น น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันทำความสะอาดซ่ึงติดไฟได้ง่าย ที่ หกหรือหยดอยู่บนพน้ื โรง หรือบนยานพาหนะจะตอ้ งทำความสะอาดทนั ทีอยา่ ปล่อยท้ิงไว้เป็นอนั ขาด 2.2 การสูบบุหร่ีภายในโรงรถ และรอบ ๆ ยานพาหนะ ถ้าอนุญาตให้มีการสูบบุหร่ีได้ในบริเวณ รอบ ยานพาหนะ หรือในโรงซ่อม ย่อมทำให้เกิดอันตรายจากไฟได้ การสูบบุหรี่ อย่าสูบใกล้โรงซ่อม หรือ ยานพาหนะอย่างน้อย 15 ฟุต ถ้าอนุญาตให้สูบภายในโรงซ่อมได้ต้องกำหนดพื้นท่ีเฉพาะ และจัดหาท่ีทิ้งก้น บุหร่ไี ว้ใหผ้ สู้ บู ทิ้งตามที่ ทไ่ี ดก้ ำหนดไว้ 2.3 การกระโดดของประกายไฟฟ้า ไอระเหยของน้ำมันเช้ือเพลิง และน้ำมันเครื่องจะติดไฟได้ ง่าย เนื่องจากประกายไฟจากการกระโดดของไฟฟา้ ท่ีลัดวงจร การป้องกันมิให้เกิดอันตรายจากไฟฟา้ น้ัน กอ่ นจะเรมิ่ ทำงานเกย่ี วกับระบบไฟฟ้าของยานพาหนะใหป้ ลดขัว้ แบตเตอรที่ ตี่ ่อลงดินออกเสียก่อน 2.4 ของเหลวซึ่งไวไฟ ไฟซึ่งลุกไหม้ที่ภาชนะใส่ของเหลวไวไฟภายในอาคารดับได้ยากมาก ฉะน้ัน ภาชนะท่ีใส่น้ำมันเคร่ือง สี น้ำ ยาเคมี และน้ำมันล้างเคร่ือง เม่ือใช้งานเสร็จแล้วให้เก็บที่โรงเก็บน้ำมัน โดย บรรจุไวใ้ นภาชนะทที่ ำดว้ ยโลหะมฝี าปิดมิดชดิ เพ่อื ปอ้ งกนั อันตรายซง่ึ เกดิ จากเพลงิ ไหม้ 2.5 การเผาไหม้ซ่ึงเกิดเองโดยธรรมชาติ ผ้าข้ีริ้วเปียกน้ำมัน หรือเปื้อนน้ำมัน หรือขยะซ่ึงชุ่ม นำ้ มนั จะเปน็ เหตุให้เกดิ เพลงิ ไหม้เองโดยธรรมชาติได้จากการย่อยสลายตวั จากเช้อื ราตา่ ง ๆ ท่ีนำมาทงิ้

ห น ้ า | 93 สุมกองรวมเข้าไว้ด้วยกัน ฉะน้ันภาชนะท่ีใช้ใส่ขยะเปื้อนน้ำมันควรจะกันไฟได้ มีฝาปิดมิดชิด และเก็บไว้ ภายนอกอาคาร 2.6 น้ำมนั ทำความสะอาด ไม่ควรใชน้ ้ำมันเชือ้ เพลงิ ในการทำความสะอาด เนือ่ งจากนำ้ มันตดิ ไฟ ง่าย แอลกอฮอล์ ทินเนอร์ นำ้ มนั อาซโิ ตน และน้ำมนั ผสมสบี างชนดิ เปน็ วัสดไุ วไฟเชน่ เดยี วกัน แตบ่ างคร้ัง จำเป็น จะต้องใช้ล้างส่ิงของในรายการพิเศษบางรายการ เม่ือเราใช้สารเคมีเหล่านี้ทำความสะอาดให้ใช้ในท่ี โล่งแจ้ง เม่ือเกิดเพลิงไหม้สามารถจะดับได้ทันทีโดยไม่ไปติดกับสิ่งอืน่ ๆ การเก็บน้ำมัน และสารเคมีเหล่าน้ี ให้เก็บแยกต่างหากกับเสื้อผ้าเพื่อป้องกันไฟไหม้ น้ำมันพิเศษซึ่งมีการลุกไหม้ต่ำ เช่น น้ำมันล้างเคร่ือง ( โซลเว้นท์ ) ท่ี ใช้ทำการล้างส่วนประกอบ องค์ประกอบเครื่องยนต์ เมื่อเกิดการติดไฟเราสามารถดับได้ง่าย ผ้าข้ีริ้วชุบน้ำมันเครื่อง เมื่อใช้แล้วให้เผาท้ิง ให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันทำความสะอาดทา ยานพาหนะเพ่ือ รกั ษายานพาหนะ เพราะไมป่ ลอดภยั ดังกลา่ วมาแล้วข้างตน้ 2.7 ถังน้ำมันเช้ือเพลิง ไฟซ่ึงเกิดจากการลุกไหม้ที่ถังน้ำมันเช้ือเพลิง ปกติจะเกิดข้ึนเน่ืองจาก ไฟฟ้าสถิต ข้อระมัดระวังในการป้องกันไฟฟ้าสถิตนี้ ให้แตะพวยเติมน้ำมันกับปากถังน้ำมัน ก่อนที่จะเล่ือน พวยเติมน้ำมันเขา้ ไปในคอถงั น้ำมนั และแตะไว้ตลอดเวลาระหว่างขณะเตมิ นำ้ มัน จะตอ้ งจดั หาเครอื่ งดับเพลิง พร้อมเจา้ หนา้ ทไี่ ว้ใกล้ ๆ และอยา่ ตดิ เคร่อื งยนต์ไว้ระหวา่ งเตมิ น้ำมัน 2.8 ป๊ัมน้ำมนั เช้ือเพลงิ ไฟฟา้ ยานพาหนะซ่ึงมีป๊มั น้ำมันเชื้อเพลิงไฟฟา้ เปน็ อนั ตรายอย่างยิ่งในการ จะทำให้เกดิ การลุกไหม้ข้ึนได้ เมือ่ ปิดสวติ ช์จุดระเบดิ ทิ้งไว้ในขณะดบั เคร่ืองยนต์ เพื่อป้องกันอันตรายดงั กล่าว มาแล้วน้ี เจ้าหน้าท่ีผู้เก่ียวข้องควรระมัดระวังอย่าเปิดสวิตช์จุดระเบิดท้ิงไว้เป็นอันขาด เม่ือเคร่ืองยนต์ไม่ ทำงาน 3. อนั ตรายซงึ่ เกิดจากการกระทบกระแทก กลา่ วโดยท่ัวไป การบาดเจบ็ ซ่งึ เกิดจากการลม้ และการกระแทกของวสั ดุ สว่ นใหญเ่ กดิ จากการกระทำ ของบุคคล ถ้ารอบ ๆโรงซ่อมจัดระเบียบไวด้ ีพอย่อมมีความปลอดภัย และโอกาสที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บ ข้ึนจะน้อยลง ต่อไปจะกล่าวถึงสภาพอันตรายซึ่งเป็นสาเหตุทำให้บุคคลได้รับบาดเจ็บระหว่างการล้ม การ กระทบกระแทก 3.1 น้ำมันท่ีหก และหยด น้ำมันเครื่อง ไขข้น น้ำมันเชื้อเพลิง หรือน้ำ หรือการทำความ สะอาดด้วยของเหลวตา่ ง ๆ จะสาเหตใุ ห้มีการลน่ื ท่ีพ้ืน เป็นแหง่ ๆ จะตอ้ งเชด็ ของเหลวท่ีหกโดยทันที 3.2 การคลาน และการลุกข้ึน การคลานออกจากใต้พ้ืนรถ และลุกยืนขึ้น หรือบางคร้ังอาจต้อง กลิ้งออกมาน้ันอาจ จะเป็นสาเหตุให้ล้มลง ในขณะยืนข้ึนได้ ฉะน้ันผู้คลานออกจากใต้ท้องรถควรจะหยุดพัก เม่อื สิน้ สดุ การคลาน หรือใช้การพยุงตวั ลุกข้ึนโดยใช้ผนงั ช่วย 3.3 การเปิดประตูยานพาหนะทิ้งไว้ อันตรายจะเกิดข้ึนได้เสมอเมื่อมีผู้ใดผู้หนึ่งคลานออกจากใต้ ท้องรถ แล้วผงกศีรษะขึ้น ศีรษะจะชนขอบประตูรถส่วนที่เป็นมุมแหลม เพ่ือป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุ ดังกล่าวมาแล้ว จะตอ้ งปดิ ประตูรถไวเ้ สมอเมอื่ ลงจากรถ 3.4 การลืมองค์ประกอบและเครื่องมือ องค์ประกอบของพาหนะ และเครื่องมือที่วางท้ิงไว้หรือ ลืมไว้บนยานพาหนะ อาจจะหล่นเข้าไปในส่วนเคล่ือนไหว และอาจจะทำให้องค์ประกอบ หรือช้ินส่วนของ เคร่ืองยนต์แตกหักเสียหายได้ 4. อันตรายซ่ึงเกดิ จากยานพาหนะ 4.1 การปฏิบัติของพลประจำรถ อย่าหมุนเคร่ืองยนต์เมื่อเครื่องเปล่ียนความเร็วไม่อยู่ใน ตำแหน่งว่าง และเม่ือมีผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ใตย้ านพาหนะ ตอ้ งจัดให้มีผู้ตรวจ และร้องวา่ \"เรียบร้อย\" เป็นสัญญาณ เตือนก่อนท่จี ะติดเคร่ืองยนต์

ห น ้ า | 94 4.2 การขบั ยานพาหนะ อยา่ อนุญาตให้นักเรยี นขบั รถ 4.3 ไม่สนใจการทำงานของเคร่ืองยนต์ อย่าออกจากรถเมื่อเคร่ืองยนต์ติดอยู่ ในโรงซ่อม ต้องมี คนควบคมุ บังคับอย่ตู ลอดเวลาในหอ้ งพลขับ เมอ่ื เครือ่ งยนต์ติด 4.4 เม่ือจะนำรถเขา้ -ออกในโรงซอ่ ม จะต้องใหส้ ัญญาณแก่พลขบั แตผ่ ูเ้ ดยี ว เพ่ือหลีกเลยี่ งความ ย่งุ ยากสบั สน บุคคลอื่น ๆ ตอ้ งอยู่ในความสงบ และไมส่ ่งเสียง 4.5 การน่ังโดยสารรถ ระหว่างการว่ิงลองเครื่อง นักเรียนจะต้องน่ังประจำท่ีใกล้ตอนหน้ารถ ซ่ึง สามารถคอยสังเกตดูแผงหน้าปัด และศึกษาการตรวจสอบของครู ได้อย่างปลอดภัย และเห็นการปฏิบัติได้ สมบรู ณ์ 4.5 ก๊าซคาร์บอนโมน๊อกไซด์ ก๊าซไอเสียทำให้เกิดอันตรายถึงตายได้ โรงซ่อมที่ปิดมิดชิดควร จัดหาข้อตอ่ ท่อไอเสียเสรมิ ต่อจากทอ่ ไอเสยี ของรถออกไปภายนอกโรงซอ่ ม และควรจะต่อท่อไอเสียก่อนเสมอ ก่อนติดเคร่ืองยนต์ ถา้ ไม่มีทอ่ ดงั กล่าวแลว้ ให้เปดิ ประตหู น้าต่างให้หมดเพื่อใหอ้ ากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก 4.6 ยานพาหนะล้ม จะต้องจัดหาแม่แรงท่ีเหมาะสมกับการยกยานพาหนะเพื่อป้องกันมิให้ ยานพาหนะล้ม จึงจะดำเนินงานซ่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภยั ก่อนยกจะตอ้ งหาเคร่ืองหนุนล้อ ไว้ มใิ หย้ านพาหนะเคลื่อนท่ีแลว้ จึงขนึ้ แม่แรงได้ 4.7 แหวน นาฬิกา และเคร่ืองประดับร่างกาย ถ้าแหวน หรือนาฬิกาซ่ึงเป็นโลหะเกิดลัดวงจร ขึ้นกับระบบไฟฟ้าของรถ จะทำให้เกิดการชำรุดเสียหาย และการบาดเจ็บข้ึนได้อย่างร้ายแรง เพื่อป้องกัน อุบัติเหตุที่อาจเกิดข้ึนให้ถอดแหวน นาฬิกาข้อมือ สายสร้อย และเครื่องประดับออกก่อนท่ีจะทำงานกับ ยานพาหนะ 5. อนั ตรายเกยี่ วกับเครือ่ งมือ 5.1 ใช้เครื่องมือไม่ถูกต้อง อย่าใช้กุญแจงัด ขัด หรือดันถ้าใช้กุญแจโดยการดันออกจากตัว อันตรายจะเกดิ ขึน้ ได้เมอื่ ปากกุญแจเกดิ การเลอ่ื น หรือหลุดออกจากชน้ิ งาน 5.2 การยืนไม่ม่ันคง การยืนควรยืนให้ทะมัดทะแมง และมั่นคง ก่อนที่จะพยายามใช้เครื่องมือใด ๆ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในการใชเ้ ครอื่ งมือทีต่ ้องการใช้แรงมาก ๆ 5.3 การใช้เคร่ืองมือไม่ถูกต้องกับงาน เช่นใช้ กุญแจเลื่อน คีม กุญแจจับของกลมยึดจับ สิ่งของ (ยกเว้นการใช้กับของกลม) จะต้องพิจารณาในเร่ืองการชำรุดของเคร่ืองมือ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ เครอ่ื งมือเหล่านี้ ถา้ มเี ครื่องมอื อื่น ๆ ทเ่ี หมาะสมกว่า 5.4 สกัด เหล็กส่ง ค้อน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเสมอ ๆ ในการตีเหล็กส่ง หรือสกัดโดยเกิดการตีล่ืน ถูกมือของผู้ตี หรือเกิดเศษโลหะหลุดออกจากส่วนบนของเหล็กส่ง และสกัด เม่ือจะทำการตีด้วยค้อนควร ตรวจดูความมั่นคงท่ีปลายเหล็กส่ง หรือสกัดจะต้องตรวจสภาพส่วนบน และตบแตง่ เครื่องมือให้เรียบร้อย กอ่ นใช้ เพื่อหลกี เล่ียงอุบตั เิ หตจุ ากเศษวัตถทุ ่หี ลุดออกจากช้ินงาน 5.5 แว่นกนั สะเก็ด ใหส้ วมแวน่ กนั สะเกด็ เสมอเมือ่ ใชล้ ้อหินเจียระไน เมื่อ ทำการเจาะด้วยสว่าน ทำการสกัดโลหะ โดยปกติจะต้องจัดให้มี แว่นกันสะเก็ดไว้ประจำกับหินเจียระไนทุก โรงซ่อม 5.6 ท่อลม มีบุคคลจำนวนมากท่ีได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บเม่ือใช้กับท่อลมเสมอ ๆ ฉะน้ันบุคคล ทุกนาย จะตอ้ งไมห่ ยอกลอ้ เลน่ ดว้ ยทอ่ ลม และระมดั ระวงั อนั ตราย ซง่ึ จะเกิดขึ้นจากทอ่ ลม 5.7 ท่อน้ำ อย่าเปดิ นำ้ เมือ่ ไม่มีผู้ใดจับสายสูบน้ำ และอย่าฉีดนำ้ ร้อนใส่บคุ คลใกลเ้ คียง

ห น ้ า | 95 5.8 เครื่องมือหล่อล่ืนด้วยกำลังดันของลม เช่นเคร่ืองอัดไขข้นด้วยลม สามารถจะดันไขข้น ออกมาได้ไกลถึง 50 ฟุต เม่ือกดกระเด่ืองใช้งาน ไขข้นซึ่งออกจากปลายท่อสามารถทำให้ผิวหนังแตกได้ ฉะนัน้ เม่อื จะกดกระเดอ่ื ง ควรจะใส่ปลายหวั อัดเขา้ ไปในหวั อดั ไขขน้ ใหส้ นทิ กอ่ นทจ่ี ะกดกระเดอ่ื งใชง้ าน 5.9 สายยาง อย่าวางหรือจุ่มสายยางลงในน้ำ เม่ือจะต่อสายยางเข้ากับท่อที่มีความดัน ถ้า เห็นว่าจะมีผู้ใดถูกสะบัดหรือฟาดด้วยสายยางน้ัน และอย่าคว้าหรือจับออก แต่ให้พยายามถอดสายยางออก จากที่ใส่ และดงึ ออกจากมือถอื ดว้ ยมือ 6. อันตรายจากสารเคมี 6.1 น้ำกรดแบตเตอรี่ ให้หลีกเล่ียงสาเหตุต่างๆ ท่ีจะทำให้เกิดประกายไฟโดยรอบแบตเตอร่ี แบตเตอร่ีท่ีกำลังประจุไฟอยู่ จะปล่อยก๊าซไฮโดรเจน และอ๊อกซิเจนออกมา ซึ่งสามารถจะทำให้ระเบิดอย่าง รา้ ยแรงได้ ถ้ามีผูใ้ ดถกู นำ้ กรดเข้าตาให้เปดิ ตาข้ึนดว้ ยนิ้วมอื แลว้ ใช้น้ำเป็นจำนวนมาก ๆ ลา้ งตาและให้รินน้ำ ลงบนทุกส่วนของร่างกาย ที่ถกู น้ำกรดหกรด หากสามารถใชเ้ บกกิ้งโซดา ผสมกับน้ำจะช่วยให้กรดเป็นกลาง ได้เร็วขึ้น ที่กล่าวมาแล้วนี้เป็นเพียงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และควรนำคนเจ็บไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เทา่ ทจ่ี ะทำได้ 6.2 น้ำมันห้ามล้อ เมื่อน้ำมันห้ามล้อเข้าตาคงใช้วิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับท่ีกล่าวมาแล้วในเรื่อง ของนำ้ กรด และให้ล้างผิวหนังทเ่ี ปือ้ นนำ้ มนั ห้ามล้อดว้ ยสบู่ และนำ้ จนสะอาด 6.3 น้ำมันเช้ือเพลิง ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาด และล้างผิวหนังที่เปื้อนน้ำมันดว้ ยสบู่และ นำ้ 6.4 น้ำมนั ลา้ งเคร่อื ง (โซลเวน้ ท์) ใหป้ ฏิบตั ิเชน่ เดียวกบั นำ้ มันเชอ้ื เพลิง 6.5 แอลกอฮอล์ ใหป้ ฏบิ ตั เิ ชน่ เดียวกับนำ้ มนั เชือ้ เพลิง 6.6 น้ำมันอาซิโทน ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับน้ำกรดแบตเตอร่ี และหลีกเลี่ยงอย่าให้น้ำมัน อาซิโทนถกู ผวิ หนัง 6.7 นำ้ มันหล่อลนื่ ใหป้ ฏิบัติเช่นเดยี วกบั น้ำมนั เชอื้ เพลิง

ห น ้ า | 96 ตอนท่ี 2 สาเหตขุ องอบุ ัติเหตุ และวธิ ีป้องกันมิให้เกดิ อุบตั เิ หตุภายในโรงซ่อม 1. ความปลอดภัยในโรงซ่อม จะต้องมีความเข้าใจ และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อปฏิบัติงาน ภายในโรง ซ่อม พลประจำรถและเจ้าหน้าที่ในโรงซ่อมต้องต่ืนตัวคอยสังเกตการทำงานของเจ้าหน้าท่ีอื่น ๆ และแจ้งให้ เพอื่ นซ่ึงปฏบิ ัตงิ านอยู่ด้วยทราบ และให้สนใจตอ่ การกระทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ในโรงซ่อม จะ เปน็ การป้องกัน และลดอุบัติเหตลุ งได้ 2. การระมดั ระวังความปลอดภัยในโรงซ่อม 2.1 การยกรถใหล้ อยพน้ พื้น 2.2 ระเบยี บขอ้ บงั คับเก่ียวกับเพลิง 2.3 การยก และการติดตั้งเครื่องยนต์ และองค์ประกอบหลัก เคร่ืองมือยก เคร่ืองผูกมัด ตอ้ งรบั น้ำหนกั ไดอ้ ย่างมัน่ คง 2.4 ความสะอาดภายในโรงซ่อม 3. อธิบาย 3.1 การใช้เคร่ืองยนต์ และยานยนตอ์ ย่างผดิ วิธี 3.2 อุปนิสยั แตล่ ะบคุ คล 3.3 การลอ้ เลน่ กนั ภายในโรงซ่อม 4. ความบกพร่องสว่ นบุคคลที่เกดิ ขึน้ ภายในโรงซอ่ ม 4.1 ความชำนาญไมเ่ พียงพอ 4.2 ไมม่ ีมุ่งความสนใจตอ่ งานทกี่ ำลังกระทำอยู่ 4.3 ทำงานต่อเนอื่ งกันนาน จนเหน่ือยล้า 4.4 เชอื่ ใจตนเองมากจนเกินควร 4.5 ประมาทเลนิ เล่อ 4.6 ใช้กำลงั มากเกนิ ควร 5. สรุป อุบัติเหตุทั้งปวงน้ันมิได้เกิดขึ้นเอง แต่มีผู้ทำให้เกิดข้ึน ซึ่งอาจเป็นผู้หนึ่งผู้ใดก็ได้ แม้แต่ตัวท่านเอง การระมัดระวงั รักษาความปลอดภัยเป็นหน้าทขี่ องทกุ คนต้องรบั ท่ตี ้องผิดชอบร่วมกนั รวมท้ังการปฏบิ ตั ติ าม รปจ.ของหน่วยทีไ่ ดก้ ำหนดไว้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook