วิชา ผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธรถถัง เล่ม ๓

๑๔๕ การยิงตดั กันพร้อมกบั การตรวจการณก์ ารยิง(CROSS WITH OBSERVED FIRE) ตวั อย่างท่ี ๕ : คาสง่ั ยงิ ของตอนทใ่ี ช้แบบการยงิ ตดั กัน และการตรวจการณ์การยิงในการควบคมุ การยงิ คร้ังแรก รองมว.(4) ผบ.มว.(1) ปีก (2) การยิงคร้ังทส่ี อง ปีก (3) คาสัง่ ยงิ หวั ขอ้ คาสง่ั \"อัลฟ่า หมายเหตุ (เวน้ ไดข้ นึ้ อยู่กับรปจ.) คาเตอื น ตอนของผบ.มว. รถถังกาลงั เคลอ่ื นทจ่ี าก ตะวนั ตกไปตะวันออก ชนิดอาวธุ /กระสนุ จุดอ้างเป้าหมายหน่ึงสองหนึง่ ลกั ษณะเป้าหมาย ยงิ ตดั กนั -ตรวจการณก์ ารยงิ ทต่ี ้ังของเป้าหมาย ยงิ \" การควบคุม การปฏิบัติ :

๑๔๖ การแจกจา่ ยการยิงในการตัง้ รับ(FIRE DISTRIBUTION IN THE DEFENSE) การแจกจ่ายการยิงในจากท่ีมั่นต้ังรับอย่างมีประสิทธิภาพจะข้ึนอยู่กับรายละเอียดของแผนการยิง ผบ.มว.จะต้องพัฒนาแผนการยิงทุกครั้งที่มว.ของตนเคล่ือนที่เข้าสู่ท่ีม่ัน ทาแผนการยิงประณีตภายในช่วง ระยะเวลาท่ีอานวยให้ แผนการยงิ ของมว.จะประกอบด้วยข้อมูลท่ีจาเป็นตอ่ ตวั ของผบ.มว.ในการแจกจ่ายการ ยงิ และควบคุมการยิงทั้งอาวุธยิงเล็งตรงและอาวุธยิงเล็งจาลองท้ังหมดท่ีมีอยู่ (หน่วยขึ้นสมทบและหน่วยใน อัตรา) ผบ.ร้อยชุดรบจะใชแ้ ผนการยิงของมว. มองภาพท่ีต้ังยงิ ของแต่ละมว. เพือ่ ใหแ้ น่ใจว่ามีเขตการยิงท่ีทาบ ทบั กนั มกี ารประสานกันและครอบคลุมทุกเส้นทางเคลื่อนที่เข้ามา ผบ.ร้อย ชุดรบจะได้รวบรวมแผนการยิง ของมว. เขา้ มาเปน็ แผนการยงิ ของกองรอ้ ย การเตรยี มการจดั ทา (GETTING ORGANIZED) ผบ.มว. เริม่ ทาแผนการยงิ ในการตัง้ รบั โดยกาหนดทต่ี ง้ั ทั่วไปและเขตการยิงให้กับ ถ.แตล่ ะคนั เขตการ ยิงคือพื้นที่ในภูมิประเทศหรือห้วงอากาศที่ซ่ึงรถถังแต่ละคัน ตอนหรือมว.รถถัง มีหน้าท่ีในการรับผิดชอบ สาหรบั การคน้ หาและทาการยิงเป้าหมาย ผบ.มว.จะแบ่งเขตการยิงให้ ถ.แต่ละคันและแน่ใจได้ว่าเขตการยิง ทาบทบั กัน และตอ้ งแน่ใจไดว้ า่ ปกี ทง้ั สองข้างในท่ีม่นั ของ มว. มเี ขตการยงิ ทที่ าบทับกับหน่วยขา้ งเคียง ผบ.มว. กาหนดทีม่ น่ั ของตน ณ ตาบล ที่เขาสามารถตรวจการณ์ และควบคุมการยิงของมว.ได้ดีท่ีสุด และมีเขตการยิง ของตนเอง อย่างไรก็ตาม อาจมีการลดขนาดและความรับผิดชอบลงให้สัมพันธ์กับรถถังที่เหลือภายในมว. เพ่ือใหแ้ น่ใจวา่ มีเสรีและความอ่อนตัวท่ีจาเป็นตอ่ การออกคาสั่งและควบคุมมว. หลงั จากนนั้ ผบ.มว.จะกาหนด ท่ตี ้ังเป้าหมายของมว. และกาหนดจุดอ้างเป้าหมาย และเปา้ หมายยิงเล็งจาลองทไ่ี ด้รับมอบมาใหก้ ับผบ.รถ แต่ ละนาย หลังจากวเิ คราะหข์ ้อมลู เปา้ หมายทไ่ี ด้รบั มาจากผบ.รถ แต่ละคันแล้ว (แผ่นจดระยะทสี่ มบรู ณ์) ผบ.มว. จะจดั เตรยี มคาแนะนาสาหรบั เปา้ หมายยิงเล็งจาลองและจดุ อ้างเปา้ หมายให้กบั ผบ.รอ้ ย ผบ.มว.ได้รบั อนมุ ัติให้ ทาการวางเครอื่ งกดี ขวางและทุ่นกดี ขวาง เพ่ือขัดขวางและหันเหการเคลอื่ นท่ีของข้าศึกให้เข้าไปสู่พ้ืนที่การยิง แคบๆ ทาให้แนใ่ จว่าเครอ่ื งกดี ขวางเหล่าน้ีและพ้นื ทกี่ ารยงิ จะครอบคลุมด้วยการยิงเล็งตรง การทาแผนการยงิ ของมว. (CONSTRUCTING THE PLATOON FIRE PLAN) เมอื่ จดั เตรยี มแผนการยิงเรยี บรอ้ ยแล้ว ผบ.มว.กพ็ ร้อมท่จี ะจัดทาแผนการยงิ ในการตงั้ รับ ซงึ่ จะต้อง ประกอบดว้ ย  จุดอา้ งเป้าหมาย (Target Reference Points) TRPs คือ ตาบลหรือจดุ ท่ีเหน็ เด่นชัดบนพื้นดิน (ไม่วา่ จะเป็นสิง่ ธรรมชาติหรือส่ิงที่มนษุ ย์สร้างขน้ึ ) ใช้เพ่ือบ่งช้ีเป้าหมายข้าศึกหรือควบคุมการยิง โดยปกติจุดอ้างเปา้ หมายจะถูกกาหนดให้โดยผบ.ร้อย หรือผบ.มว.กาหนดให้กับผบ.ร้อยชุดรบ, มว., ตอนหรืออาวธุ ยงิ แตล่ ะชนิด โดยสามารถกาหนดก่ึงกลางพ้ืนที่ท่ีผบ.หน่วยวางแผนแจกจ่าย การยิงหรือปดิ กรวยการยงิ ของอาวุธท่มี ีอยู่ท้งั หมดได้อยา่ งรวดเร็ว จุดอ้างเป้าหมายจะกาหนดให้ โดยใช้สัญลักษณ์เป้าหมายแบบมาตรฐาน และหมายเลขเป้าหมายจะกาหนดให้โดยชุดยิง สนับสนุนหรอื นายทหารการยงิ สนบั สนุนของปนื ใหญ่ เมื่อกาหนดจุดอา้ งเปา้ หมายแล้ว เป้าหมาย นี้สามารถใช้เป็นเป้าหมายของการยิงเล็งจาลองได้เช่นเดียวกัน จุดอ้างเป้าหมายจะเป็น เครือ่ งหมายกากบาด และตัวเลข ๓ ตวั ( 141 )  เปา้ หมายยิงเล็งตรง (Direct -Fire Targets) เปา้ หมายเหลา่ น้ี จะถูกเลือกโดยผบ.รถ, ผบ.ตอน หรอื ผบ.มว.  เป้าหมายยิงเล็งจาลอง (Indirect Fires) เปา้ หมายเหลา่ นี้จะถูกกรุยขึน้ ในเขตรบั ผิดชอบการยิง ของมว.ทาเป็นรูปกากบาดมีตัวอักษร ๒ ตัวและตัวเลขอีก ๔ ตัว ( กข 1108 , กค 2351 ) เป้าหมายเหลา่ น้ีกาหนดขน้ึ โดยนายทหารการยิงสนับสนนุ ของปืนใหญ่

๑๔๗  เป้าหมายของมว.(Platoon targets) เปา้ หมายของมว.จาถกู กาหนดข้นึ โดยผบ.มว. และทาเป็น เครื่องหมายวงกลมล้อมรอบตวั อกั ษรท่ีกาหนดขนึ้ ( ก , ข ) แผนการยงิ ของมว.(การต้งั รับ) (PLATOON FIRE PLAN (DEFENSE)) รายละเอียดขอบระวาง: เป้ าหมาย รถถงั ที่ทาการยงิ ได้ ๑๔๑ จุดอา้ งเป้ าหมาย ค เป้ าหมายของมว. TRP ๑๔๑ ๑๔ ก ๑๒ ข ๑๑, ๑๔ กก ๐๐๑๑ เป้ าหมายยงิ เลง็ จาลอง ค ๑๑, ๑๓ 13 ที่ต้งั ยงิ ของรถถงั OP ที่ต้งั ที่ตรวจการณ์ ง ๑๓

๑๔๘ ขอ้ สงั เกต มาตรการควบคุมหน่ึงๆ อาจทาหลายหนา้ ท่ีได้ เช่น TRP อาจหมายถงึ เป้ าหมายยงิ เลง็ ตรง และเป็นเป้ าหมายยงิ เลง็ จาลองได้  เคร่ืองกีดขวางและทุ่นกีดขวาง (Obstacles and barriers) ส่ิงเหล่าน้ีกรุยลงในเขตรับผดิ ชอบ ของมว. รวมถึงช่องทาง และใชท้ าเป็ นเป้ าหมายท่ีตามเหตุการณ์เพ่ือใชป้ ิ ดช่องทางได้ ใหใ้ ช้ สญั ลกั ษณ์มาตรฐานทางทหาร เพื่อกาหนดเคร่ืองกีดขวาง  ท่ีตรวจการณ์ (Observation posts)(OP) ท่ีตรวจการณ์/ท่ีฟังการณ์ กาหนดดว้ ยรูปสามเหลี่ยม และอกั ษรดา้ นขา้ ง  ท่ีต้งั ยิงถ.แต่ละคนั (Individual tank position) ที่ต้งั ยิงเหล่าน้ี ควรจะทาเครื่องหมายด้วย สญั ลกั ษณ์ของรถถงั และหมายเลขท่ีกาหนดใหเ้ พื่อใหแ้ น่ใจวา่ ครอบคลมุ และประสานการยิงใน พ้ืนท่ีการยงิ ท้งั หมดและทาบทบั กนั กบั หน่วยขา้ งเคียง  การยงิ ป้ องกนั ข้นั สุดทา้ ยและพ้นื ที่อบั กระสุน (Final protective fires and dead space) ถา้ มี  รายละเอยี ด (Legend) ใหก้ าหนดรายละเอียดเพอื่ บ่งช้ีรายละเอียดของแผนการยงิ ใหช้ ดั เจน เมื่อทาแผนการยงิ พร้อมดว้ ยจุดอา้ งเป้ าหมายของกองร้อยชุดรบและเป้ าหมายยงิ เล็งจาลองท้งั หมด เรียบร้อยแลว้ ผบมว.จะแจกจ่ายสาเนาไปใหก้ บั ผบ.รถแต่ละนายภายในมว.ของตน และผบ.ร้อยชุดรบ การยงิ เป้ าหมาย (ENGAGING TARGETS) เมอ่ื เขา้ ท่ีมนั่ ต้งั รับที่เตรียมการไวแ้ ลว้ การยงิ อาจจะเริ่มตน้ จากการที่ผตู้ รวจการณ์ท่ีลงจากรถคน้ พบ เป้ าหมาย ในขณะที่รถถงั ยงั คงอยู่ในท่ีมนั่ กาบงั ป้ อมปื นหรื อท่ีมนั่ ซ่อนพราง เม่ือมว.ได้รับคาเตือนถึง เป้ าหมายที่เกิดข้ึนในเขตรับผิดชอบ รถถงั จะเคลื่อนท่ีไปยงั ที่มนั่ กาบงั ป้ อมปื นเปิ ดหน้ากลอ้ งเลง็ ก่อนท่ี ผตู้ รวจการณ์จะกลบั มาข้ึนรถถงั มว.ถ.ที่อย่ใู นท่ีมน่ั ต้งั รับแบบเร่งด่วน จะพร้อมอยใู่ นตาแหน่งที่มนั่ กาบงั ป้ อมปื นเปิ ดหนา้ กลอ้ งเลง็ และผตู้ รวจการณ์ไม่ถกู ใชง้ านใหล้ งจากรถไป เม่อื เป้ าหมายปรากฏ การรายงานการปะทะหรือรายงานเหตุการณ์(ข้ึนอยกู่ บั สถานการณ์ของขา้ ศึก และเวลาที่มอี ย)ู่ จะถกู ส่งไปยงั ผบ.ร้อย ผบ.มว. ออกคาสงั่ ยิงพร้อมดว้ ยคาสัง่ ว่า “ตามคาสั่งข้าพเจ้า” เพื่อใช้ ในการควบคุม ถา้ มีอาวธุ ยงิ เลง็ จาลอง ผบ.มว.จะเพม่ิ เติมหัวขอ้ คาส่งั ดว้ ยคาส่งั ว่า “พร้อมแล้วรายงาน” เพื่อ ควบคุมการยงิ ท้งั หมด ในขณะที่พลประจารถถงั แต่ละคนั เลอื กเป้ าหมาย, หาระยะ และเตรียมการท่ีจะทาการ ยงิ ผบ.มว. จะส่งคาขอยงิ เลง็ จาลอง(ถา้ ไดร้ ับมอบหนา้ ที่ให)้ และถามเวลาแล่นของกระสุน ผบ.มว.จะใชเ้ วลา แล่นของกระสุนเพอื่ ประสานการยงิ กบั การยงิ เลง็ ตรงของมว. ดงั น้นั เมอื่ กระสุนเลง็ จาลองจะถึงเป้ าหมายใน เวลาเดียวกบั กระสุนยิงเล็งตรงของมว. ถา้ กระสุนยงิ เลง็ จาลองถึงเป้ าหมายก่อนมาก ขา้ ศึกจะเพ่ิมความเร็ว ,เปลีย่ นทิศทาง หรือ เลอื กหนทางปฏิบตั ิที่อาจลดประสิทธิภาพของอาวธุ ยงิ เลง็ ตรงลงมาก เม่อื ไดร้ ับคาส่ังว่า “ยงิ ” ถ.แต่ละคนั ภายในมว.จะเคล่ือนท่ีอย่างรวดเร็วเขา้ สู่ที่มน่ั กาบงั ตวั รถ และ เร่ิมทาการยงิ จานวนเวลาที่ ถ.แต่ละคนั ยงั คงอย่ใู นตาแหน่งที่มน่ั กาบงั ตวั รถไดอ้ ยา่ งปลอดภยั จะข้ึนอย่กู บั ขา้ ศกึ ถา้ ขา้ ศึกมรี ถถงั และจรวดนาวถิ ีต่อสูร้ ถถงั ใหก้ ารระวงั ป้ องกนั หรือขา้ ศึกอยกู่ บั ที่ พลประจารถแต่ละ คนั ไม่ควรอยใู่ นที่มน่ั เดิมเพอื่ ทาการยงิ เกิน ๒ นดั ก่อนท่ีจะกลบั ไปอยใู่ นที่มน่ั กาบงั ป้ อมปื น เมื่อใดก็ตามที่

๑๔๙ สามารถทาได้ ถ.ควรจะอย่ใู นท่ีมน่ั ท่ีสามารถทาการยิงทาลายเป้ าหมายข้าศึก การใชเ้ วลาในการเคลื่อนท่ี ระหว่างท่ีมน่ั กาบงั ป้ อมปื นและท่ีมน่ั กาบงั ตวั รถ จะเพ่ิมความเป็ นไปไดใ้ นการยงิ ถูกเป้ าหมายของขา้ ศึกเม่ือ เขา้ ใกลท้ ี่มนั่ ต้งั รับจากทางดา้ นปี กสูงข้ึน ถา้ ขา้ ศึกอย่ใู นระยะ ๒,๐๐๐ ม.ความสมั พนั ธ์ระหว่างจานวนและ ความเร็วในการเขา้ ประชิด ความตอ้ งการของภารกิจในการต้งั รับจะตรงกนั ขา้ มกบั การรบหน่วงเวลา ปกติ ผู้ ที่ทาการต้งั รับจะประสพผลสาเร็จดว้ ยการทาการยงิ อยา่ งต่อเนื่อง เมื่อพลประจารถไมไ่ ดท้ าการยิง รถถงั ควร จะกลบั เขา้ ไปอยใู่ นตาแหน่งที่มนั่ กาบงั ป้ อมปื น ทาการตรวจการณ์หรือช่วยเหลอื พลประจารถถงั คนั อ่นื เม่ือมว. จบภารกิจยิง จะตอ้ งรวบรวบชนิดและจานวนของกระสุนท่ีทาการยิง ผลของการยิง และ สถานภาพของมว. แลว้ รายงานเหตุการณ์ไปยงั ผบ.ร้อย และรับคาแนะนาการปฏบิ ตั ิภารกิจของมว.ต่อไป การแจกจ่ายการยงิ ในการรุก(FIRE DISTRIBUTION IN THE DEFENSE) ในขณะที่ปฏิบตั ิภารกจิ เป็นส่วนหน่ึงของกองร้อยชุดรบในการรุก มว.รถถงั จะปฏิบตั ิภารกิจ 4 ประการดงั น้ี  การเคลื่อนท่ีเขา้ ปะทะ (Movement to contact)  การเขา้ ตีเร่งด่วน (hasty attack)  การเขา้ ตีประณีต (Deliberate attack)  การออ้ มผา่ น (Bypass) ถงึ แมน้ ว่า การปฏิบตั ิแต่ละแบบจะชดั แจง้ และมีวตั ถุประสงคโ์ ดยเฉพาะ แต่การปฏิบตั ิตอ้ งมีการ ประสานการยงิ ของมว.(ท้งั การยงิ เลง็ ตรงและเลง็ จาลอง) และการดาเนินกลยทุ ธ การทาแผนการยงิ ในการรุก (PLANNING OFFENSIVE FIRES) มนั เป็ นส่ิงที่เป็ นไปไม่ไดใ้ นการที่จะพฒั นาแผนการยิงในการรุกดว้ ยรายละเอียดเดียวกบั การทา แผนการยงิ ในการต้งั รับ อยา่ งไรก็ตาม การทาแผนล่วงหน้า, การใชก้ ารลว.แผนท่ีอย่างกวา้ งขวาง, จุดอา้ ง เป้ าหมายและรปจ.ของหน่วย จะทาให้ผบ.มว. แจกจ่ายอานาจการยงิ ของมว.ไดโ้ ดยง่าย ก่อนท่ีจะเคล่ือนที่ ออกไป ผบ.มว.จะต้องวางแผนว่าจะทาการยิงต่อเป้ าหมายท่ีทราบที่ต้ังหรือเป้ าหมายท่ีคาดว่าจะเกิดข้ึน อย่างไร การกาหนดมอบจุดอา้ งเป้ าหมาย และเป้ าหมายของมว. อย่างเพียงพอ เพื่อปรับพ้ืนการยิงอย่าง รวดเร็วเมื่อสถานการณ์เปลย่ี นไป เม่อื ทาแผนการยงิ ในการรุก ผบ.มว.จะตอ้ งพจิ ารณาการปฏิบตั ิการท่ีคาดว่า จะเกิดข้ึนดงั น้ี  ภารกจิ ท่ีจะตอ้ งปฏิบตั ิใหส้ าเร็จ  จุดแขง็ และจุดออ่ นของขา้ ศกึ  ที่ต้งั ขา้ ศกึ ที่ทราบหรือที่คาดว่าจะปรากฏ (ผบ.มว.จะสถาปนาเป้ าหมายของมว.เพ่ิมเติมในขณะ เคลอ่ื นที่)  อาวธุ ยงิ เลง็ จาลองที่สนบั สนุน และการใชฉ้ ากควนั (เป้ าหมายที่เตรียมการไวล้ ว่ งหนา้ )  สถานการณ์ของฝ่ ายเรา  มาตรการควบคุม(เสน้ ข้นั , จุดตรวจ, เขตจากดั การรุก, จุดอา้ งเป้ าหมาย)

๑๕๐  เสน้ ทางท่ีจะตอ้ งเคลอ่ื นที่ตาม  เทคนิคการเคล่ือนท่ีท่ีใช้  เขตรับผดิ ชอบของรถถงั และตอน  สถานภาพยทุ โธปกรณข์ องมว. ส่วนที่สาคญั ของแผนการยงิ ในการรุก คือ การกาหนดมอบเขตรับผิดชอบท่ีทาบทบั กนั ให้กบั ถ.แต่ ละคนั ภายในมว. เขตรับผิดชอบเหล่าน้ี จะครอบคลุมอยแู่ ลว้ ในรปจ.ของหน่วย และจะข้ึนอย่กู บั รูปขบวน และเทคนิคในการเคลื่อนที่ที่ใช้ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างปฏิบตั ิการ ตามสถานการณ์ที่เกิดข้ึน ผบ.มว.จะ ปรับเขตรับผดิ ชอบท่ีกาหนดในคร้ังแรก ปัจจยั ที่ อาจจาเป็นสาหรับเปลี่ยนแปลงเขตในการยงิ จะรวมถงึ  ทศั นะวสิ ยั  ท่ีมนั่ ของขา้ ศกึ ท่ีทราบ  การใชก้ ารยงิ หรือฉากควนั เพอื่ ปกปิ ดหรือกาบงั การเคลอื่ นที่ของมว.  แนวทางดาเนินกลยทุ ธของหน่วยขา้ งเคียง การยงิ เป้ าหมาย (ENGAGING TARGET) ในการรุก ตอนรถถงั อาจจะพบดว้ ยตนเองว่าการปฏิบตั ิในพ้ืนที่ที่เส้นเล็งระหว่างตอน ถกู ขดั ขวาง ดว้ ยภูมปิ ระเทศหรือพืชพนั ธุ์ไม้ เม่ือพบเป้ าหมายการรายงานการปะทะ หรือรายงานเหตุการณ์(ข้ึนอยกู่ บั สถานการณ์ของข้าศึก และเวลาท่ีมีอย่)ู จะถูกส่งไปยงั ผบ.ร้อย ถา้ การปะทะเกิดข้ึน รถถงั คันแรกที่พบ เป้ าหมายจะตอ้ งทาการยงิ หรือยงิ โตต้ อบทนั ที่ พร้อมท้งั รายงานการปะทะดว้ ยข่ายวิทยุของมว. ซ่ึงข้ึนอย่กู บั การพฒั นาสถานการณ์ของผบ.ตอน โดยสนบั สนุนปี กของตนดว้ ยการยงิ เลง็ ตรง ส่งรายงานการปะทะโดยใช้ ข่ายของกองร้อย และส่งคาขอยงิ และปรับการยิงให้กบั อาวุธยิงเล็งจาลอง เมื่อผบ.มว.สามารถมองเห็นการ ปฏิบตั ิ ผบ.มว.จะเร่ิมใชก้ ารปฏบิ ตั ิเมือ่ รบปะทะ(ดาเนินกลยทุ ธประกอบการยิงหรือยิงโตต้ อบ) ถา้ การปะทะ คร้ังแรกเกิดข้ึนดา้ นตอนของผบ.มว. ผบ.มว.ส่ังการปฏิบัติไดเ้ ลยโดยไม่จาเป็ นตอ้ งรอให้ตอนของรอง ผบ.มว.มาถึง หลงั จากส่งรายงานการปะทะใหผ้ บ.ร้อยทราบแลว้ ผบ.มว.จะพฒั นาสถานการณ์โดยใชก้ ารยิง และการดาเนินกลยุทธ เพื่อตรึงหรือทาลายขา้ ศึก เมื่อเวลาเอ้ืออานวยผบ.มว.จะตอ้ งส่งรายงานเหตุการณ์ ใหก้ บั ผบ.ร้อยทราบ หลงั จากการปะทะเริ่มตน้ ข้ึน ผบ.มว.จะควบคุมการยงิ ของมว.โดยออกคาสง่ั ยงิ และคาแนะนาใน การปฏิบตั ิท่ีเหมาะสมเพิม่ เติมให้ ผบ.มว.จะตอ้ งดารงการติดต่อส่ือสารกบั ผบ.ร้อย และพฒั นาสถานการณ์ ตลอดเวลา การพฒั นาสถานการณ์ โดยปกติแลว้ มว.ถ.จะเขา้ ตีโดยมีอีกมว.หน่ึงหรือมากกว่าระวงั ป้ องกนั ให้ จากน้นั ผบ.มว.จะปรับเขตรับผดิ ชอบของตนซ่ึงข้ึนอยกู่ บั ท่ีมน่ั ปัจจุบนั ของขา้ ศึกที่ทราบท่ีต้งั อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการระวงั ป้ องกนั ให้ มว.ถ.จะตอ้ งดารงการคน้ หาขา้ ศึกรอบตวั ๓๖๐ องศา เพ่ือคน้ หาอากาศยาน ขา้ ศกึ ท่ีจะเขา้ โจมตีหรือเป้ าหมายอืน่ ๆ ท่ีอาจปรากฏข้ึนระหวา่ งหน่วยของตนกบั หน่วยท่ีระวงั ป้ องกนั ให้ ถา้ ไม่มหี น่วยระวงั ป้ องกนั ให้ ผบ.มวอาจเลอื กใชก้ ารเคลื่อนที่ท่ีมีการระวงั ป้ องกนั ภายในมว.

๑๕๑ การใช้การปฏบิ ัตเิ มอื่ รบปะทะ (USING BATTLE DRILL) การปฏบิ ตั ิเมือ่ ปะทะ (ซา้ ย, ขวา, หน้า และหลงั ) (Contact Drills) (Left, Right, Front and Rear) การ ยงิ เมอ่ื ปะทะทาใหม้ ว.สามารถหันทิศทางระบบอาวุธของตน และทาการยงิ ขา้ ศึกโดยไม่มีการเปล่ียนแปลง ทิศทางหรือความเร็วในการเคลื่อนท่ี การปฏิบตั ิการยิงแบบน้ี สามารถนามาใชไ้ ดเ้ มื่อปะทะกบั การยิงดว้ ย อาวธุ ขนาดเลก็ (อาวุธประจากาย) หรือมว.พบว่าขา้ ศึกยงั ตรวจการณ์ไม่พบฝ่ ายเรา หรือมว.ไม่ตอ้ งการท่ีจะ หยุดหน่วยหรื อชะลอแรงหนุนเนื่องในการเข้าตี ผบ.มว.ควรใช้การยิงเมื่อปะทะต่อสู้กับข้าศึก ใน ขณะเดียวกนั กร็ ักษาทิศทางการเคล่อื นท่ีตามเสน้ หลกั การรุกไว้ การยิงเมื่อปะทะสามารถเร่ิมตน้ การปฏิบตั ิ ดว้ ยทศั นะสญั ญาณ มือ-แขนหรือวทิ ยุ เม่ือใชว้ ทิ ยุ ผบ.มว.จะใชห้ วั ขอ้ ของการรายงานการปะทะ และเพ่ิมเติม ดว้ ยขอ้ ของการปฏิบัติว่า “ยงิ ” การรายงานการปะทะประกอบดว้ ย “คาเตือน, ลกั ษณะเป้ าหมาย, ท่ีต้ัง เป้ าหมาย” (หวั ขอ้ ที่ ๑, ๓ และ ๔ ของคาสง่ั ยงิ ของมว.) การปฏิบตั กิ ารโต้ตอบ (Action Drills (Left, Right, Front and rear) การปฏบิ ตั ิการโตต้ อบช่วยให้ มว.สามารถเปลีย่ นแปลงทิศทางตามคาสง่ั เพื่อโตต้ อบเพื่อเขา้ ปะทะกบั ขา้ ศกึ หรือเปลย่ี นแปลงภูมิประเทศ  การโตต้ อบเพ่ือเปลี่ยนแปลงภมู ิประเทศ (Reaction to change in terrain) โดยใชแ้ นวคิดจากการ ใชป้ ี กของมว. ปฏิบตั ิโดยอตั โนมตั ิ เมอ่ื รถของผบ.มว.เปลี่ยนแปลงทิศทาง การเพิ่มความเร็วใน การเปลี่ยนทิศทาง ผบ.มว.อาจออกคาสง่ั การปฏิบตั ิเมื่อปะทะโดยใชส้ ัญญาณมือ- แขนหรือใช้ วิทยุ หลงั จากปฏิบตั ิการเปลี่ยนทิศทางแลว้ มว.ถ.จะกลบั มาอย่ใู นแนวเดียวกนั และเคล่ือนท่ี ต่อไป การปรับรูปขบวนกลบั ไปสู่รูปขบวนเดิมใชค้ าสง่ั ดว้ ยสญั ญาณมอื -แขนหรือวิทยุ  การโตต้ อบเพ่ือเขา้ ปะทะกบั ขา้ ศกึ (Reaction to enemy contact) ใชเ้ พอ่ื หนั ทิศทางของเกราะดา้ น หน้าเขา้ หาท่ีต้งั หรือการยิงของขา้ ศึก ตามดว้ ยการรายงานการปะทะ รวมถึงระบบอาวุธต่อสู้ รถถงั ผบ.มว.ใชก้ ารปฏิบตั ิเม่ือปะทะเพ่อื หนั ทิศทางของเกราะดา้ นหนา้ เขา้ หาอาวุธยิงต่อสูร้ ถถงั ในขณะเดียวกนั กเ็ คล่ือนที่เขา้ หาที่ปกปิ ดและกาบงั ตวั อยา่ งของการปฏิบตั ิเมอื่ รบปะทะ (Example of a Battle Drill) ภาพต่อไปน้ีแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความ สมั พนั ธข์ องมว.ถ. ในระหวา่ งการเปล่ียนทิศทางและแสดงใหเ้ ห็นถงึ ข้นั ตอนในการปฏบิ ตั กิ ารโตต้ อบโดยใช้ รูปแบบการโตต้ อบเพือ่ เขา้ ปะทะกบั ขา้ ศกึ

๑๕๒ การเร่ิมต้นทาการยงิ จากปี ก (WINGMAN INITIATED ENGAGEMENT) ข้นั ตอนที่ ๑: ผบ.รถ คนั ที่เป็นปี กตรวจพบและทาการยงิ ต่อรถถงั คนั นาของขา้ ศกึ ในขณะเดียวกนั ก็รายงาน การปะทะ (ตาม รปจ.ของ มว.) ถ.หมายเลข ๓ รายงาน “ ปะทะ รถถงั สามคนั - ยานเกราะสองคนั หนา้ ซา้ ย” รอง ผบ.มว. ปีก ปีก ผบ.มว. การยงิ เป้ าหมายขา้ ศกึ จะเร่ิมตน้ โดยผบ.รถ แต่ละคนั ตามดว้ ยคาสง่ั การของผบ.มว.ในการแจกจ่ายการยงิ และ การควบคุมการยงิ ของท้งั มว.

๑๕๓ การรายงานเมอ่ื ปะทะซ้าย(CONTACT REPORT ACTION LEFT) ข้นั ตอนท่ี ๒: ข้ึนอยกู่ บั การรายงานการปะทะท่ีไดร้ ับ (ตามภาพที่แสดงขา้ ศกึ มกี าลงั มากกวา่ ทร่ี ถถงั ทางดา้ น ปี กจะปฏิบตั ิการไดต้ ามลาพงั ) และเป้ าหมายขา้ ศึกอื่น ๆ ทย่ี งั ไมพ่ บ การคน้ พบเป้ าหมายหรือการรายงาน ภายในเขตรับมอบ ผบ.มว. จะตอ้ งออกคาสง่ั ปฏิบตั ิการโตต้ อบเม่อื ปะทะทนั ที “โตต้ อบทางซา้ ย” รอง ปี ก ปีก ผบ.มว. ผบ.มว. ปี ก ปีก

๑๕๔ การปฏบิ ัตกิ ารยงิ ของมว.(PLATOON ENGAGEMENT) ข้นั ตอนที่ ๓: ผบ.มว.จะตอ้ งควบคุมการยงิ ของมว. สมมติว่าท้งั มว.สามารถทาการยงิ ต่อเป้ าหมายได้ ผบ.มว.สามารถ ตดั เวลาทางวิทยโุ ดยออกคาสง่ั เฉพาะหวั ขอ้ คาสงั่ ยงิ ของมว.ที่จาเป็นเท่าน้นั เพอื่ เสริมการ รายงานการปะทะ ในคร้ังแรก โดยใชค้ าสง่ั ยงิ แบบง่าย ๆ ดงั น้ี “ อลั ฟ่ า -ยานเกราะ บราโว-่ รถถงั ยงิ ” รอง ผบ.มว. ปกี ปกี ผบ.มว.

๑๕๕ เมอ่ื มกี ารคุ้มครองให้ (PROVIDING OVERWATCH) การเคล่ือนที่ที่มีการระวงั ป้ องกนั ตอ้ งการใหต้ อน และมว.เตรียมการระวงั ป้ องกนั ใหแ้ ก่กนั ส่วนที่ ทาการระวงั ป้ องกนั จะยดึ ครองท่ีมน่ั กาบงั ตวั รถ และเพม่ิ ความถี่ในการตรวจการณ์คน้ หาเป้ าหมายท่ีจะทาการ ยงิ ต่อฝ่ ายเรามากข้นึ บทบาทสาคญั ของของส่วนระวงั ป้ องกนั คือ ตรวจการณ์ท่ีต้งั ยงิ ของขา้ ศกึ ท่ีเป็นไปได้ แจง้ เตือนส่วนที่เคลื่อนที่วา่ จะทาการยงิ และทาลายกาลงั ขา้ ศกึ ส่วนระวงั ป้ องกนั จะตอ้ งไมม่ ุ่งความสนใจอยู่ บนส่วนเคล่ือนท่ี แต่จะพงุ่ ความสนใจไปยงั ที่ต้งั ของขา้ ศึกท่ีเป็นไปได้ เป้ าหมายขา้ ศกึ จะไม่เปิ ดเผยตวั เอง ยกเวน้ เมือ่ ตรวจพบเป้ าหมาย โดยจะตอ้ งทาการยงิ ต่อเป้ าหมายขา้ ศึกทนั ทีไมว่ ่าเป้ าหมายน้นั จะเป็นเป้ าหมาย อนั ตรายท่ีสุดหรือไมก่ ็ตาม โดยไมต่ อ้ งรอคาสงั่ ยงิ จากผบ.ตอนหรือผบ.มว. ผบ.ส่วนระวงั ป้ องกนั ควรจะ ควบคุมการยงิ และแจกจ่ายการยงิ โดยใชค้ าสงั่ ยงิ สรุป (SUMMARY) การต่อสูต้ ่อขา้ ศกึ ที่มีจานวนมากและใหไ้ ดร้ ับชยั ชนะ พลประจารถถงั , ตอนรถถงั (ใชแ้ นวคดิ เร่ือง ปี ก) และมว.รถถงั จะตอ้ งสามารถเคล่อื นที่, ทาการยงิ และประสานการยงิ เมื่อเกิดการขาดการออกคาสงั่ การซกั ซอ้ มการปฏบิ ตั ิตาม รปจ.ของมว.มาเป็นอยา่ งดี จะทาใหแ้ น่ใจ ไดว้ า่ เวลาที่ใชโ้ ตต้ อบในการรบปะทะของรถถงั ทาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว แผนการยงิ ท่ีดขี องมว.จะจดั เตรียมขอ้ มลู ข่าวสารท่จี าเป็นใหก้ บั ท้งั มว. เพ่อื ใชใ้ นการแจกจ่ายและ ควบคุมการยงิ อาวธุ ยงิ เลง็ ตรงและอาวธุ ยงิ เลง็ จาลองท้งั หมดที่มีอยู่ (หน่วยข้ึนสมทบและหน่วยในอตั รา) มว.รถถงั ท้งั มว.จะตอ้ งเขา้ ใจรูปแบบของการยงิ ท้งั ๓ รูปแบบ (ยงิ ตดั กนั , ยงิ ทางลึก และยงิ ตรงหนา้ ) และหนา้ ที่รับผดิ ชอบในการยงิ ต่อเป้ าหมายตาม รปจ.ของหน่วย รูปแบบการยงิ เหล่าน้ีจะครอบคลมุ ในทุก ๆ สถานการณ์ และปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว จากการแจกจ่ายการยงิ ท่ีมีประสิทธิภาพ ทุกส่วนภายในมว.รถถงั จะตอ้ งเขา้ ใจเทคนิคการยงิ ๒ รูปแบบ - การยงิ พร้อมกนั และการยงิ ท่ีมกี ี่ ตรวจการณ์ คาสง่ั ยงิ ของตอนและของมว.แบบมาตรฐาน จะตอ้ งถกู นมาใชใ้ น รปจ.ของหน่วยและฝึกฝนโดย ผบ.มว.และรองผบ.มว.เพ่ือความชานาญ ผบ.รถทุกนายจะตอ้ งสามารถรายงานการปะทะและออกคาสง่ั ยงิ เริ่มแรกใหก้ บั ตอนและมว.ได้

๑๕๖ สรุปหัวข้อคาส่ังยงิ (SUMMARY OF FIRE COMMAND FORMATS) หวั ขอ้ คาสงั่ การต้งั รับ การรุก คาเตือน ๑๒ ชนิดกระสุนหรืออาวุธ ๓๓ ลกั ษณะเป้ าหมาย ๑๒ ท่ีต้งั ๑ ๒ การควบคุม ๓๓ การปฏบิ ตั ิ ๑๑ การใช:้ ๑. ใชเ้ สมอ ๒. ใชเ้ สมอ แต่ไม่ตอ้ งสง่ั ซ้าเมือ่ รายงานการปะทะแลว้ ๓. เวน้ ได้

๑๕๗ บทท่ี ๙ โปรแกรมการฝกึ ปฏบิ ตั ิการรบของรถถัง ((TANK COMBAT TRAINING PROGRAM) บทนี้ไดจ้ ัดทาแนวทางในการพัฒนาโปรแกรมการฝึกปฏิบัติการรบรถถังเพื่อเสริมสร้างให้พลประจา รถถังมคี วามชานาญในการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี และฝึกกาลังพลเหลา่ น้ันให้สามารถปฏิบัติงานได้เป็นทีม ร่วมกับการ ฝึกใน บทท่ี 11 ตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธรถถัง และบทท่ี 12 ตารางฝึกรถถังทางยุทธวิธี โดยได้จัดทา แนวทางไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อฝึกความชานาญในวิชาหลักยิงอาวุธรถถังและการใช้รถถัง เอ็ม60เอ3 ทาง ยุทธวิธีในระดับ มว. ผบ.หน่วยจะต้องพัฒนาโปรแกรมการฝึกผสมเหล่าตามรูปแบบการฝึกหน่วยตาม สถานการณ์ (STX) และการฝึกหน่วยในสนาม (FTX) ในรูปแบบอ่ืนๆ ให้ครบตามโปรแกรมการฝึกเพื่อเพิ่ม ความชานาญของกองทัพบกนอกเหนือไปจากขอบเขตที่ได้กาหนดไว้ในคู่มือเล่มน้ี แต่ละรูปแบบของการฝึก อาจจะตอ้ งฝึกถงึ ข้ันสูงสุดในการปฏบิ ตั ิการยงิ ด้วยกระสนุ จริงระดบั กองรอ้ ยชุดรบ (เพอื่ นาการฝึกยงิ เล็งจาลอง และฮ.โจมตีเข้ามารว่ มฝกึ ด้วย) ในสนามฝึกยงิ ปฏบิ ัตกิ ารยงิ ด้วยอาวุธผสมเหล่า คมู่ อื เลม่ นีไ้ ดจ้ ดั ทารายละเอียด ของการฝกึ ตามลาดับข้ันเพอื่ ความก้าวหนา้ ตงั้ แต่ ขั้นพืน้ ฐาน ข้ันกลาง และขนั้ สูง ตามปกตแิ ลว้ หนว่ ยจะเริ่มทาการฝึกตารางปฏิบัติการรบของรถถังด้วยเงื่อนไขวิชาท่ีจาเป็นก่อนและ การเตรยี มการฝกึ ตามด้วยการฝึกตามตารางฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารรบของรถถงั ซึง่ แบ่งขัน้ ตอนการปฏิบัติออกเป็นสาม ขัน้ ตอน: ข้ันตน้ ขัน้ กลาง และข้นั สงู การฝึกขนั้ ต้นเปน็ ฝึกทกั ษะของพลประจารถเปน็ บุคคล โดยใชล้ ากลอ้ งรอง การยงิ แห้ง และเคร่อื งชว่ ยฝกึ แลว้ ทาการทดสอบความก้าวหน้าตามหลักสูตรความชานาญของพลประจารถ (TCPC) (ตารางท่ี ๔) ตารางฝกึ ขัน้ กลางจะพัฒนาทักษะของพลประจารถตามตารางท่ี ๕ ๖ และ ๗ แล้วทาการ กาหนดคณุ วฒุ พิ ลประจารถขั้นสูงสดุ ในตารางที่ ๘ ตารางฝึกข้ันสูงพัฒนาตอนและมว.รถถังในการประสานการ ปฏิบตั ิ ในตารางที่ ๙ และ ๑๑ และกาหนดคุณวุฒิข้ันสูงสุดของตอนในตารางท่ี ๑๐ และมว.รถถังในตารางที่ ๑๑ ตารางฝึกรถถังทางยุทธวิธี จะดาเนินการฝึกคู่ขนานไปกับตารางฝึกวิชาหลักยิง จะเสริมและชดเชย จุดออ่ นของแต่ละรปู แบบการฝกึ ซ่งึ กนั และกันในเรื่องของสนามฝึกยิงอาวธุ รถถัง สว่ นใหญข่ องการฝึกปฏบิ ัติจะ เก่ียวข้องกบั ตารางฝกึ วิชาหลกั ยิง ตารางฝกึ ทางยทุ ธวิธีตาราง ก ข และ ค ฝกึ ทกั ษะของพลประจารถเปน็ บคุ คล ตาราง ง จ และ ฉ เป็นพัฒนาความชานาญของตอนรถถัง และตาราง ช ซ และ ฌ เปน็ การฝึกมว.

๑๕๘ การประเมนิ ผลและการวางแผนการฝกึ ของผบ.หน่วย (COMMANDERS TRAINING ASSESSMENT AND PLANNING) การฝึกปฏบิ ัติการรบของรถถังจะต้องดาเนินการอย่างต่อเนื่องและจะต้องกาหนดรูปแบบในการฝึก สาหรับหน่วยเป็นอย่างดีเพ่ือพัฒนาและดารงไว้ซึ่งความชานาญในการรบ ผบ.หน่วยแต่ละนายจะต้อง ประเมินผลหนว่ ยของตนเพ่ือประเมินค่าระดับของการปฏิบัติงานทั้งวิชาหลักยิงและยุทธวิธี หลังจากน้ันผบ. หน่วยจะต้องทาการฝึกหน่วยของตนในทุกๆ มิติของปัญหาในการปฏิบัติการรบเพื่อเสริมสร้างทักษะความ ชานาญของพลประจารถแต่ละนาย พลประจารถเป็นคัน จนถึงระดับมว.รถถัง ผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธรถถัง จะต้องเข้ามาช่วยดาเนินการประเมินค่า วางแผน จดั เตรยี มเคร่อื งมือและวิธรการฝึก ให้คาแนะนา ประเมินผล และทาการประเมนิ ผลซ้าในทุกๆ ขั้นตอนของการฝกึ วิชาหลักยิงอาวธุ รถถัง

๑๕๙ แผนภูมิลาดบั ขน้ั ในการดาเนนิ การฝกึ วชิ าหลักยงิ (GUNNERY TRAINING PROGRESSION CHART) หลกั พ้นื ฐานของรถถัง (การฝึกยานเกราะเบ้ืองต้น) การกาหนดคุณวุฒิ การทดสอบทกั ษะการใช้อาวุธรถถงั (SQT) (TCGST) ผลการฝกึ การประเมนิ ผลของผบ.หน่วย ผบ.หน่วยรอง ครั้งกอ่ น และฝา่ ยอานวยการ การเตรียมการฝกึ รถถงั ปฏิบตั กิ ารรบ การทดสอบทกั ษะ (TCGST) 8คyดั fgเล]nือvกdกdาeล]ังyพ’rล]mทuีม่ jที ,uักmษyะdดKี tfu ตารางฝกึ รถถงั ปฏิบตั ิการรบข้นั ต้น ตารางที่ ๑, ๒, ๓/ ก, ข, ค หลกั สูตรกาหนดคณุ วุฒิ (TCPC) (ตารางที่ ๔), การฝึกดว้ ยคชฝ. U-COFT ตารางฝึกรถถงั ปฏบิ ตั ิการรบข้ันกลาง ตารางท่ี ๕, ๖, ๗, ๘/ ง, จ, ฉ ตารางฝกึ รถถงั ปฏบิ ัติการรบขนั้ สูง ตารางที่ ๙, ๑๐, ๑๑, ๑๒/ ช, ซ, ฌ STXs, FTXs CALFEX คู่มือการฝกึ และประเมนิ ผล(ARTEP) คาอธิบาย: CALFEX CALFEX = การฝึกยงิ อาวุธผสมเหลา่ ดว้ ยกระสุนจริง FTX = การฝกึ ปฏิบตั ิในสนาม STX = การฝกึ ตามสถานการณ์ TCGST = การทดสอบทักษะการใชอ้ าวุธรถถงั ของพลประจารถ U-COFT = เครื่องช่วยฝกึ ยงิ อาวุธรถถงั ประจาหน่วย (TACOS)

๑๖๐ การประเมินผลของผบ.หน่วย (COMMANDER’S ASSESSMENT) ในการประเมินผลการฝึกผบ.หนว่ ยควรจะปฏิบตั ดิ งั นี.้ -  ประเมินผลความชานาญในการปฏิบัติของหน่วยในปัจจุบันโดยการตรวจสอบผลการทดสอบ ท้ังหมดและดาเนนิ การทดสอบใหม่ถา้ จาเป็น  กาหนดรายการท่ีต้องการฝึกเพ่ิมเติมซึ่งได้แก่: การขาดความชานาญข้ันพ้ืนฐานเป็นบุคคล หรือ ความชานาญของบุคคลที่ขาดประสบการณ์ในระดับพลประจารถ ต้องจัดทาหรือจัดหาสนามฝึก ก่อนทีจ่ ะเกิดขอ้ จากดั ในแหลง่ ทีม่ าของทรพั ยากรในการฝกึ ตวั อย่างเช่น หน่วยท่ีอ่อนในเรื่องของการปฏิบัติในวิชาหลักยิง และมีผลการทดสอบทักษะเป็น บุคคลอยู่ในเกณฑ์ปานกลางอาจจะต้องดาเนินการฝึกในทางลึก โดยเร่ิมต้นการฝึกด้วยหลัก พื้นฐานในการใช้รถถงั ด้วยการทดสอบทักษะการใช้อาวธุ รถถงั ของพลประจารถท้ังหมด ก่อนที่จะ ทาการฝกึ ทักษะการใชร้ ถถังในการปฏิบตั ิการรบขนั้ ต้น สาหรบั หนว่ ยอน่ื ๆ ทีม่ ีผลการปฏบิ ัตใิ นวิชา หลักยงิ ท่ีดี แต่มปี ัญหาด้านการค้นหาเปา้ หมาย อาจต้องเน้นการฝึกไปท่ีทักษะขั้นพ้ืนฐาน ก่อนท่ี จะทาการฝกึ ปฏิบตั กิ ารรบ การวางแผนของผบ.หน่วย (COMMANDER’S PLANNING) ผบ.หนว่ ย ตอ้ งจดั ทาความมุ่งหมายในการฝึกให้ชัดเจน ความมุ่งหมายควรจะกล่าวถึงกิจเฉพาะของ หน่วยรองพรอ้ มหว้ งระยะเวลาที่สอดคล้องกันกบั ภารกิจของทุกหนว่ ย เพื่อความเข้าใจในการกาหนดความมุ่ง หมาย ผบ.หน่วยสามารถเลอื กแนวทางการฝึกท่เี หมาะสมทส่ี ดุ กบั ความต้องการของหนว่ ยไดด้ ังต่อไปนี้  ความต่อเนื่อง (Progressive) – เรมิ่ ต้นจากการฝึกทกั ษะและสร้างความชานาญในการรบขั้นต้น  การดารงสภาพ (Sustain) – ดารงไว้ซง่ึ ระดับของความชานาญ  ความถี่ (Intensive) – เพ่ิมการฝึกในห้วงระยะเวลาที่มอบให้  การผสมผสาน (Combination) – ผสานการฝกึ โปรแกรมทงั้ หมดเขา้ ดว้ ยกนั ภายหลงั จากท่ผี บ.หนว่ ยไดเ้ ลอื กแนวทางของโปรแกรมการฝกึ ที่เหมาะสมแล้ว จะต้องวางแผนการฝึก สาหรบั .-  การทดสอบทักษะการใช้อาวุธรถถังของพลประจารถ (TCGST)  การใช้เครอ่ื งชว่ ยฝกึ พลประจารถถงั ประจาหน่วย (U-COFT) และเครื่องช่วยฝึกอ่ืนๆ ที่มีอยู่หรือ หามาไดแ้ ละเหมาะสม (ดใู น FM 17-12-7)  การฝึกวชิ าหลกั ยงิ ขั้นพนื้ ฐาน  การฝกึ ตามตารางฝกึ รถถังปฏิบตั ิการรบข้ันกลางและข้นั สูง  การฝกึ รถถังทางยทุ ธวธิ ขี น้ั กลางและขน้ั สูง

๑๖๑ คาแนะนาเพื่อความสาเรจ็ ในการฝกึ (HINTS FOR SUCCESSFUL TRAINING) ผลลัพธ์ของการฝกึ ในระดับหนว่ ยจะไดผ้ ลตามความมุง่ หมายที่ตอ้ งการจะตอ้ งเกิดจากการประเมินผล การวางแผน และการควบคมุ การปฏบิ ัติอย่างถกู ตอ้ ง เพอื่ ใหแ้ นใ่ จได้วา่ การฝึกนน้ั ประสบผลสาเรจ็ จะตอ้ งปฏิบตั ิ ดงั นี้.- จัดตั้งและบังคับใช้ตามระเบียบข้อบังคับของมาตรฐาน (Set and Enforce Tough Standards) น่ีคือ ความทา้ ทายขัน้ ต้นของผนู้ าหน่วยยานเกราะในทกุ ๆ ระดบั ระเบียบปฏิบตั ิทม่ี ีมาตรฐานที่จะกอ่ ให้เกิดความเข็ม แขง็ ในการฝกึ – มาตรฐานท่ีทาอยา่ งไมเ่ ปน็ ระเบียบจะทาให้พลประจารถเกดิ ความอ่อนแอ พลประจารถไม่ใช่ คนทไ่ี มม่ คี วามสามารถแต่จะเรยี นรูไ้ ด้กต็ อ่ เมอื่ พวกเขาปฏิบัติไดด้ ี ยนื ยันในเร่ืองของการฝึกปฏิบัติซ้าๆ เพื่อให้ เกิดผลดเี ลศิ และความชานาญ เร่มิ ต้นก่อนกาหนด (Start Early) เพอื่ ให้ผลลพั ธท์ ี่ดีท่ีสุด ปญั หาของโปรแกรมการฝึกทุกๆ เรื่องจะต้องได้รับ การแก้ไขและประสานการปฏบิ ัติ ประมาณการและร้องขอแหลง่ ทรพั ยากรและความชว่ ยเหลอื ในการซอ่ มบารงุ ตลอดการฝกึ ก่อนที่จะเรม่ิ ตน้ การฝกึ ละเอยี ดรอบคอบ (Be Thorough) อย่าละทิ้งโอกาสท่เี ป็นไปได้ หลีกเลย่ี งความสิน้ เปลืองในการใชท้ รัพยากร และละท้ิงโอกาสทีด่ ีในการฝึก ใหค้ าแนะนาต่อผบ.รถ และผบ.มว. และประโยชน์ท่ีพวกเขาต้องการเพ่ือทาการ ฝึกกาลังพลในมว. มคี วามออ่ นตวั (Be Flexible) ปรับเปลี่ยนโปรแกรมการฝึกอย่างต่อเน่ืองเพื่อให้ตรงกับความเปล่ียนแปลง ตามความตอ้ งการของหน่วย ถา้ หยุดการประเมินผลและการวางแผนไป โปรแกรมการฝึกก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไปด้วย ทาการฝึกอย่างต่อเนื่อง (Train Continually) ต้องทาการฝึกไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แต่เพียงเข้มงวดกับ โปรแกรมการฝึกเพื่อให้เกิดความพร้อมสาหรับการกาหนดคุณวุฒิสาหรับการปฏิบัติ การรบของรถถังเท่าน้ัน ความละเอียดของโปรแกรมที่นามาใชค้ วรจะต้องทาให้หนว่ ยมีความชานาญเพ่ิมข้ึนในระดับท่ีเราต้องการ เมื่อ บรรลวุ ัตถุประสงค์แล้ว จะตอ้ งทาการฝึกต่อไปอยา่ งตอ่ เนอื่ งเพื่อดารงสภาพไว้ การใช้เคร่ืองช่วยฝึกพลประจา รถถังประจาหนว่ ย (TACOS) สามารถนามาใช้ในการฝึกเพ่อื ดารงสภาพความชานาญในการปฏิบัติงานเป็นทีม ของผบ.รถและพลยงิ ไดต้ ลอดทง้ั ปี ความตอ้ งการกอ่ นการฝกึ ปฏิบตั ิการรบของรถถัง (PREREQUISITES TO TANK COMBAT TRAINING) พลประจารถของหน่วยยานเกราะจะไดร้ ับการฝกึ สอนในหลกั พ้นื ฐานของรถถงั ในระหวา่ งการฝกึ หน่วย ยานเกราะเบอ้ื งต้น (Basic Armor Training (BAT)) ก่อนทจี่ ะบรรจลุ งไปยังหน่วย ถ้าผลของการทดสอบทกั ษะ เพ่ือกาหนดคุณวุฒิ (SQT) แสดงออกมาว่าอ่อนในเรื่องหลักพื้นฐานของรถถัง กาลังพลท่ีเป็นพลประจารถ เหลา่ นั้นจะตอ้ งได้รับการฝกึ ใหม่ ผบ.รถ มีหนา้ ทีร่ บั ผดิ ชอบในการทาการฝึก แต่ผบ.หน่วย จะต้องให้เวลาและ ทรพั ยากรในการฝึกแก่ผบ.รถ พลประจารถแต่ละนายจะตอ้ งเรยี นรูเ้ กี่ยวกบั หลกั พ้ืนฐานเหล่านี้:  ความปลอดภยั (Safety) - เมือ่ ข้นึ -ลงรถถงั - การออกจากช่องทางออกฉกุ เฉนิ ของรถถัง - การเป็นผนู้ าทางใหก้ ับรถถงั - กฎของความปลอดภยั

๑๖๒  การติดตอ่ ส่อื สาร (Communication) - การบารุงรักษาและการใชง้ านระบบกาตดิ ต่อส่อื สารของรถถัง - การใชท้ ัศนะสญั ญาณ มือ - แขน - ระเบยี บการพดู วทิ ยโุ ทรศัพท์  การปรนนิบตั บิ ารงุ (Maintenance) - การปรนนิบตั บิ ารุง การตรวจและการบรกิ าร กอ่ นใชง้ าน - การตรวจ เตรียมก่อนทาการยิง - การปรนนบิ ตั ิบารงุ การตรวจและการบรกิ าร ขณะใช้งาน - การทาความเข้าใจขอ้ จากดั ขิงการใชง้ าน - เทคนคิ ในการกรู้ ถขนั้ พ้นื ฐาน - การปรนนบิ ตั ิบารุง การตรวจและการบรกิ าร หลังใชง้ าน - การพ่วงแบตเตอรี่ - กรรมวิธีในการแกป้ ัญหาเหตุตดิ ขดั การเตรยี มการกอ่ นทาการฝึกปฏิบตั ิการรบของรถถงั (PREPARATORY TANK COMBAT TRAINING) การเตรียมการกอ่ นทาการฝกึ ปฏบิ ัติการรบของรถถัง คอื ขนั้ ตอนแรกของหนว่ ยท่จี ะทาการฝึกยิงด้วย กระสนุ จริงและฝึกทาการรบ โดยจะเริ่มต้นการฝึกด้วยการทดสอบทักษะการใช้อาวุธรถถังของพลประจารถ (TCGST) ตามด้วยการฝึกทกั ษะของพลประจารถ ผบ.หน่วยจะต้องกาหนดขอบเขตว่าต้องการจะเน้นการฝึก ทกั ษะในเรื่องใด ซ่ึงข้นึ อย่กู บั การประเมนิ ผลทีห่ นว่ ยจะต้องทาการฝึกและแหล่งทรพั ยากรท่ีมอี ยู่ การเตรยี มการก่อนทาการฝึกสามารถบรรจุกาลังพลใหม่หรือกาลังพลท่ีมีประสบการณ์ให้กับหน่วย น้นั ๆ ได้ โดยกาหนดให้หน่วยทาการฝึก ณ ที่ต้ังของหน่วยและใช้สนามฝึกที่อยู่บริเวณใกล้เคียงท่ีตั้งหน่วยได้ การฝกึ น้สี ามารถปฏบิ ตั ิไดท้ ัง้ เวลากลางวนั และกลางคนื ด้วยกล้องเล็งทุกชนิดท่ีมีอยู่ หน่วยสามารถทาการฝึก เพิม่ เตมิ ดว้ ยการยงิ ในสภาวะ นชค. เพ่อื เพิม่ ความชานาญได้ การทดสอบทกั ษะการใชอ้ าวธุ รถถังของพลประจารถ (TCGST) ผนวก ค การทดสอบทักษะการใช้อาวุธรถถังของพลประจารถ ประกอบด้วย กิจเฉพาะ เง่ือนไข มาตรฐาน และตารางรายการให้คะแนนสาหรับการทดสอบไว้แล้ว การทดสอบทักษะ (TCGST) สามารถ นามาใช้เปน็ ทง้ั เครือ่ งมอื แกป้ ัญหาและการทดสอบประจาครงึ่ ปี โดยจะทดสอบกาลังพลทุกๆ ชกท.19E ต้ังแต่ เรมิ่ ตน้ โปรแกรมการฝกึ วชิ าหลักยิง เพอ่ื ประเมินผลทักษะของการปฏบิ ัติเป็นสว่ นรวมหรอื ความมุ่งหมายพิเศษ กาลังพลทุกนายที่ได้รับการบรรจุหรือจะได้รับการบรรจุเป็นพลประจารถในห้วงการรบจะต้องเข้ารับการ ทดสอบ ผบ.หนว่ ยสามารถใชก้ ารทดสอบทกั ษะนีเ้ ปน็ จดุ เรม่ิ ต้นสาหรับการวางแผนโปรแกรมการฝกึ วิชาหลักยิง การใชก้ ารทดสอบทักษะ (TCGST) เพอ่ื ทาใหแ้ นใ่ จไดว้ ่ากาลงั พลทุกนายมที กั ษะไดร้ ะดับตามมาตรฐานและผบ. หน่วยจะตอ้ งแนใ่ จได้ว่ากรรมการผปู้ ระเมินผลการทดสอบนั้นผ่านการกาหนดคุณวุฒิหรือได้ผ่านการทดสอบ ทักษะ (TCGST) มาแลว้ ก่อนท่จี ะเร่มิ การทดสอบ กาลงั พลทุกนายจะผา่ นการทดสอบทักษะ (TCGST) ภายในระยะเวลาหกเดือนก่อนท่ีจะทาการยิงปืน ใหญร่ ถถงั เพ่อื ใหบ้ รรลุถงึ ความตอ้ งการเหลา่ น้จี ะต้องดาเนนิ การทดสอบทกั ษะอย่างนอ้ ยทกุ ๆ หกเดือนและใช้ การทดสอบทักษะเป็นเคร่อื งมือแก้ปญั หาใหก้ บั กาลังพลท่ีไดร้ บั การบรรจุใหมอ่ ย่างนอ้ ยทุกๆ สามเดือน หน่วย

๑๖๓ อาจใชก้ ารทดสอบทกั ษะเป็นเครื่องมอื แก้ปญั หาบ่อยครง้ั เทา่ ที่ต้องการเพ่อื ประเมนิ ผลกาลงั พลทไ่ี ด้รบั การบรรจุ ใหม่หลงั จากท่ีไมผ่ า่ นการทดสอบครั้งสดุ ท้ายก่อนท่ีจะทาการยงิ ปนื ใหญ่ การฝึกทักษะพลประจารถ (CREW SKILLS TRAINING) เพือ่ ใหก้ ารปฏิบตั กิ ารยิงและทาลายเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว พลประจารถแต่ละนายจะต้องมีความ ชานาญและต้องตอบสนองต่อหน้าท่ีในการปฏิบัติของตนอย่างเป็นอัตโนมัติ พลประจารถแต่ละนายจะต้องรู้ หน้าทกี่ ารปฏบิ ัติของพลประจารถคนอ่ืนๆ ดงั นั้น เมื่อสูญเสียพลประจารถคนใดคนหน่งึ ไปในการรบรถถังจงึ จะ สามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ตี ่อไปได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ กรรมวธิ ใี นการปรับเส้นเลง็ (BORESIGHTING PROCEDURE) หลักพ้นื ฐานของความแม่นยาของรถถัง คือ ใช้กรรมวธิ ใี นการปรับเสน้ เลง็ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ถงึ แมน้ วา่ วธิ ีการปรบั เสน้ เลง็ จะครอบคลมุ อยแู่ ล้วในการทดสอบทกั ษะ (TCGST) แต่การฝึกนี้เปน็ สง่ิ ทส่ี าคัญในหนา้ ทีของ พลประจารถทจ่ี ะตอ้ งเน้นการฝกึ ปฏบิ ัติ ซงึ่ ได้กลา่ วถงึ กรรมวิธีในการปรับเส้นเลง็ ไวแ้ ล้วใน ผนวก ข เรอ่ื ง การ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของระบบอาวธุ ยทุ ธภณั ฑ์ (Armament Accuracy Checks) ความซับซ้อนของระบบควบคุมการยิงสมัยใหม่ได้เพิ่มมากขึ้นต้องการ ทาให้พลประจารถต้อง ดาเนนิ การตรวจสอบระบบอย่างระมัดระวัง เพราะถา้ ระบบควบคุมการยิงบกพร่องอาจทาให้อยู่ในสภาพที่ไม่ พร้อมรบได้ ผบ.หน่วยจะต้องแน่ใจได้ว่าพลประจารถมีขีดความสามารถในการตรวจสอบความถูกต้องของ ระบบยทุ ธภณั ฑป์ ระจารถถังทุกเรื่องโดยตลอด การฝึกการควบคุมด้วยมอื (MANIPULATION TRAINING) การฝกึ การควบคุมด้วยมือตอ้ งการใหผ้ บ.รถและพลยิงวางทิศทางยงิ ปนื ใหญ่และเล็งเกาะเป้าหมายได้ อย่างรวดเร็ว โดยการสอนให้รู้จักวิธีการประสานการใช้งานระหว่าง มือ และ สายตา ทักษะในการใช้การ ควบคมุ ดว้ ยมือจะประเมินผลการปฏบิ ัตใิ นตารางท่ี ๑ และเป็นการปฏิบัติทส่ี าคญั ยงิ่ ของพลประจารถถังในการ ฝึกตามตารางฝึกวิชาหลกั ยงิ และตารางฝกึ ทางยุทธวิธีในตารางตอ่ ๆ ไป ความชานาญในทักษะนี้สามารถทาการ ฝกึ หรอื ฝึกฝนไดก้ ับหนว่ ยทีท่ าการฝกึ ทางยทุ ธวิธี ในระหว่างท่ีหน่วยไม่มีตารางเวลาในรายการฝึก เช่น ใช้การ ฝกึ ปฏิบตั ิร่วมกันหรือการปรับปรุงการฝึกขึ้นในระหว่างท่ีทาการฝึกตามตารางการฝึกขั้นต้น (ตารางท่ี ๑-๔) หรอื เมือ่ แยกการฝึกแต่ละรายการออกไปกอ่ นเรม่ิ ทาการฝกึ ในตารางที่ ๑ หนว่ ยอาจฝึกให้บรรลุผลได้โดยการ ใช้เครอ่ื งช่วยฝึกประจาหน่วย (TACOSหรือ U-COFT) การฝึกวางทิศทางให้ปืนใหญ่ (Gun-Laying Training) การวางทิศทางให้ปืนใหญ่ต้องการให้ผบ.รถวาง ทศิ ทางยงิ ให้กับปนื ใหญเ่ พื่อให้พลยงิ ตรวจการณ์เห็นเปา้ หมายได้ โดยเนน้ ในเร่อื งของความเรว็ และความถกู ตอ้ ง หน่วยทมี่ ีสนามฝึกเต็มมาตราส่วน หรือมีพื้นที่ที่สามารถสร้างสนามฝึกได้ควรจะสร้างไว้ทาการฝึก สนามฝึก ย่อสว่ นไมเ่ ปน็ ที่พง่ึ ปรารถนาในการฝกึ แตก่ ส็ ามารถนามาใชท้ าการฝึกได้ ถา้ มเี ปา้ แบบล้มลุก ให้ทาการยกเป้า ตามคาส่ังของผู้ประเมินผลการฝึก เป้าหมายควรจะมีหลายรูปแบบทั้งเป้าหมายตรงหน้า ด้านข้าง เป้าเฉียง และเป้าอยใู่ นทกี่ าบงั ตัวรถ

๑๖๔ อยกู่ บั ท่ี (STATIONARY) การวางทศิ ทางใหป้ ืนใหญ่ (TANK GUN-LAYING) กจิ เฉพาะ: วางทศิ ทางยงิ ให้กบั ปนื ใหญ่ เง่อื นไข: มีดงั น้ี - รถถัง เอ็ม๖๐เอ๓ จอดอย่ใู นที่กาบงั ตวั รถ - เปา้ หมายอยูก่ บั ท่อี ยบู่ รเิ วณด้านหนา้ ของรถถัง ข้อสังเกต: การฝกึ นี้สามารถปฏบิ ตั ิในขณะทท่ี าการฝกึ เคล่อื นทีจ่ ากทก่ี าบงั ปอ้ มปืนไปยังท่ี กาบงั ตวั รถได้ (โดย ผบ.รถ จะตอ้ งวางทิศทางยิงไปยงั เปา้ หมายในขณะทรี่ ถถัง กาลังเคลอ่ื นทเี่ ขา้ ท่ีตง้ั ยงิ ) มาตรฐาน: ผบ.รถจะต้องวางทิศทางยงิ ใหป้ นื ใหญ่อย่ตู รงกบั เปา้ หมายเพ่ือทาให้พลยิงสามารถตรวจ การณ์เห็นเปา้ หมายไดจ้ ากกลอ้ งเลง็ หลกั ผา่ นทางช่องเลง็ กลางวนั ภายในเวลา ๖ วินาที หลงั จากทีก่ าหนดเปา้ หมายใหแ้ ล้ว ผบ.รถ จะต้องวางทศิ ทางใหป้ นื ใหญอ่ ยู่บนเปา้ หมาย ไดอ้ ย่างสมบรู ณถ์ ึง ๗๐% อยู่กับที่ (STATIONARY) การวางทิศทางใหป้ ืนใหญ่ (TANK GUN-LAYING) กิจเฉพาะ: วางทิศทางยิงใหก้ บั ปืนใหญ่ เงอื่ นไข: มดี ังนี้ - รถถงั เอ็ม๖๐เอ๓ กาลงั เคลอื่ นท่ี - เป้าหมายอยู่กบั ท่อี ยบู่ รเิ วณเสน้ ทางการเคลอื่ นที่ของรถถงั ข้อสังเกต: การฝึกนส้ี ามารถฝกึ ปฏิบัตใิ นแหลง่ รวม มาตรฐาน: ผบ.รถจะต้องวางทิศทางยิงใหป้ ืนใหญอ่ ยู่ตรงกบั เป้าหมายเพื่อทาให้พลยงิ สามารถตรวจ การณเ์ หน็ เปา้ หมายได้จากกลอ้ งเลง็ หลกั ผ่านทางช่องเลง็ กลางวนั ภายในเวลา ๖ วนิ าที หลงั จากที่กาหนดเปา้ หมายให้แลว้ ผบ.รถ จะตอ้ งวางทศิ ทางใหป้ นื ใหญอ่ ย่บู นเป้าหมาย ไดอ้ ย่างสมบรู ณถ์ ึง ๗๐%

๑๖๕ แบบฝกึ การวางทิศทางยิงใหก้ บั ปืนใหญ่ (GUN-LAYING EXERCISE) เส้นทางการ เคลือ่ นทขี่ อง รถถงั รถถงั อย่กู บั ท่ี การฝึกเล็งเกาะ (TRACKING TRAINING) การเล็งเกาะต้องการให้ ผบ.รถหรอื พลยิงเลอื่ นมาตราประจากลอ้ ง เล็งของตนไปตามทศิ ทางทกี่ าหนดโดยมกี ารเปลี่ยนแปลงท้งั มุมสูงและมุมทิศ ผบ.รถหรอื พลยงิ ควรจะฝึกความ ชานาญกับแบบฝึกงา่ ยๆ เสยี กอ่ นท่ีจะดาเนินการฝึกไปตามแนวทางที่ตอ้ งการ โดยจะเนน้ ความถกู ต้องของการ เลง็ เกาะ และควรจะทาการฝึกในแตล่ ะแบบฝึกด้วยความเร็วท่ีต่างกนั เพื่อแสดงถงึ ความแตกต่างของความเร็ว ของเปา้ หมาย ผปู้ ระเมินผลควรจะอยู่ในตาแหน่งของพลประจารถท่ีสามารถตรวจสอบความถูกต้องในการเล็ง เกาะได้ ถ้าพลยิงเปน็ ผ้ปู ฏบิ ัติการเล็งเกาะผู้ประเมินผลจะตอ้ งอยู่ในตาแหน่งของผบ.รถ และตรวจสอบโดยใช้ กลอ้ งเลง็ ภาพความรอ้ นเชอ่ื มตอ่ (TTS) ตัวอย่างตอ่ ไปน้ีจะแสดงให้เห็นชุดของแบบฝึกแบบต่างๆ ตารางวัดค่า กระดานฝึกเล็งเกาะไดแ้ สดงคา่ ไว้ใหส้ ามารถทากระดานแบบฝกึ ได้เอง ณ ท่ีต้งั หน่วย

๑๖๖ การเล็งเกาะ (TRACKING) กจิ เฉพาะ: กระดานแบบฝกึ ในการเลง็ เกาะ เง่อื นไข: สง่ิ ทกี่ าหนดให:้ มาตรฐาน: รถถงั เอ็ม๖๐เอ๓ ท่กี ล้องเลง็ ภาพความร้อน (TTS) และกล้องเลง็ ภาพ ความรอ้ น เชื่อมต่อพรอ้ มใชง้ าน กระดานแบบฝกึ พร้อมเสน้ ทาง สาหรับเลง็ เกาะ ๔ ชอ่ งทาง เริ่มการฝกึ จากง่ายไปหายาก ข้อสังเกต: การฝกึ นส้ี ามารถฝกึ ปฏบิ ตั ใิ นแหลง่ รวมรถของหนว่ ยได้ ผบ.รถหรอื พลยงิ จะตอ้ ง- ใชก้ ล้องเลง็ ที่ถูกตอ้ งเพอื่ ทาการเลง็ เกาะ เล็งเกาะในแตล่ ะช่องทางในการเลง็ บนกระดาน โดยรักษาวงกลมจุดเลง็ ๑ มลิ ของ กลอ้ งเลง็ ภาพความรอ้ น (TTS) หรือกล้องเลง็ ภาพความรอ้ นเชอื่ มตอ่ ใหอ้ ยู่ระหวา่ ง ช่องของเส้นทางในการเล็งเกาะ โดยทจี่ ดุ เล็งไม่ควรจะออกนอกช่องทางนานกว่า ๓ วินาที ของแต่ละแบบฝกึ ความเรว็ จาลองของเปา้ หมาย วงรอบในการเลง็ เกาะ ๘ กม./ชม. (๕ ไมล์/ชม.) ๑๒๐ วินาที ๒๔ กม./ชม. (๑๕ ไมล/์ ชม.) ๘๐ วินาที ๓๙ กม./ชม. (๒๔ ไมล์/ชม.) ๔๐ วนิ าที เลง็ เกาะทง้ั ๔ ช่องทางบนกระดายฝึกเลง็ เกาะ ภายในระยะเวลาและความเร็ว ตามมาตรฐานท่ีกาหนดข้างตน้ แบบฝึกการเล็งเกาะ (TRACKING EXERCISE) Gib เริ่มต้น หยุด เร่ิมต้น หยุด เร่ิมต้น หยุด เริ่มต้น Gib เร่ิมต้น Gi แบบ Gi หยุด หยุด ฝึ กท่ี ๑ เร่ิมต้น Gi ห Gib เร่ิมต้น หยุด เร่ิมต้น หยุด เริ่มต้น หยุด เร่ิมต้น เร่ิมต้น Gi แบบ หGยi ุด หยุด ห ฝึ กท่ี ๒ เริ่มต้น แ แบบฝึ กที่ ๑ แบบฝึ กที่ ๒ แบบฝึ กท่ี ๓ แบบฝึ กท่ี ๔ Gหยi ุด ห เร่ิมต้น Gi แบบ หGยi ุด ห ฝึ กที่ ๓ เริ่มต้น หGยiุด ห เริ่มต้น Gi แบบ หGยiุด ห ฝึ กท่ี ๔ เร่ิมต้น หยุด Gi หยุด

๑๖๗ ตารางวัดคา่ กระดานฝกึ เล็งเกาะ (TRACKING BOARD MEASUREMENT) ระยะ จากรถถังไปยังเป้า (ม.) ความยาวของชอ่ งทางเล็งเกาะ (ม.) ความกว้างของชอ่ งทาง (มม.) ๕ ๑.๖๗ ๑๔ ๑๐ ๓.๓๓ ๒๘ ๑๕ ๕.๐๐ ๔๒ ๒๐ ๖.๖๗ ๕๖ ๒๕ ๘.๓๓ ๒๘ ๓๐ ๑๐.๐๐ ๘๔ ๓๕ ๑๑.๖๗ ๙๘ ๔๐ ๑๓.๓๓ ๑๑๒ ๔๕ ๑๕.๓๓ ๑๒๖ ๕๐ ๑๖.๖๗ ๑๔๐ การฝึกค้นหาเปา้ หมาย (TARGET ACQUISITION TRAINING) การฝึกค้นหาเป้าหมายของแต่ละหน่วยอาจจะแตกต่างกันออกไป ผบ.หน่วยอาจต้องการให้การฝึก ค้นหาเป้าหมายเพ่ือเป็นตัวแทนในภารกิจของหน่วย อย่างไรก็ตาม ผบ.หน่วยก็ต้องเลือกทาการฝึกปฏิบัติ เพราะการฝึกค้นหาเป้าหมายเป็นทักษะท่ีจะต้องทาการฝึกอย่างต่อเน่ือง บางรูปแบบของการฝึกค้นหา เป้าหมายสว่ นใหญ่แลว้ สามารถพบได้ในการฝกึ วิชาหลักยงิ ตัวอย่างการให้คะแนนได้จัดทาไว้แล้วในหน้าท่ี........ โดยได้จัดทาตัวอย่างในรูปแบบของการยิงที่ แตกตา่ งกนั ออกไป ใหผ้ บ.หนว่ ยเลือกใช้ในหลักสูตรการฝึกการค้นหาเปา้ หมาย ผบ.หน่วยอาจจัดทาเป้าหมาย เงอ่ื นไข หรอื สถานการณใ์ หแ้ ตกต่างกันออกไปเพ่อื ให้บรรลุถึงสง่ิ ดีท่สี ุดท่ีหน่วยต้องการ มาตรฐานของเวลาอาจ เปล่ยี นแปลงไปเพ่อื ทา้ ทายทักษะในการคน้ หาเป้าหมายของหนว่ ย การฝึกค้นหาเป้าหมายสามารถปฏิบัติได้ใน สนามที่ใช้ระยะเตม็ มาตราสว่ น หรือสนามฝึกและเป้าหมายย่อสว่ นก็ได้ แนวทางในการฝกึ คน้ หาเป้าหมายจะตอ้ งจดั วางเปา้ หมายอยู่กับทไี่ ว้ ๘ เปา้ และเป้าหมายเคลื่อนที่ ๒ เปา้ อย่หู า่ งกนั ประมาณ ๕๐๐ ม. ในระยะไกลสุดของสนามฝึกท่มี ีอยู่ รูปลักษณะของเป้าหมายจะต้องเป็นเป้า ด้านหนา้ ดา้ นข้าง กาบงั ตวั รถ และเปา้ ในมุมเฉียง อย่างนอ้ ยคร่ึงหน่ึงของจานวนเป้าควรจะอยูใ่ นท่ีม่ันกาบังตัว รถ ถ้าสามารถจัดทาไดเ้ ปา้ อยู่กับทท่ี ุกเป้าควรจะเป็นเปา้ แบบล้มลุกด้วยเครื่องกลไก โดยจะต้องยกตัวขึ้นหรือ เปดิ เผยตวั เองตามคาส่งั ของผปู้ ระเมนิ ผล ทีต่ ้งั ของเปา้ หมายจะต้องเปลีย่ นแปลงอยู่เสมอเพ่ือป้องกันการจดจา ที่ตั้งของเป้าหมายได้ รวมการฝึกพลขับเข้ากับการฝึกค้นหาเป้าหมายให้เป็นส่วนหน่ึงในการฝึกของมว. เป้าหมายทง้ั ๑๐ เป้า หน่งึ ในสาม ควรจะเป็นเปา้ หมายฝา่ ยเรา เพ่อื พิสูจนฝ์ ่ายดว้ ยรูปร่างหรือสีของเป้า รถถังจะตอ้ งปฏิบตั กิ ารฝึกรปู แบบน้ีท้ังทีอ่ ยู่กับท่ีและเคล่ือนท่ี รูปต่อไปน้ีจะแสดงให้เห็นรูปแบบการ วางเปา้ หมายและการฝึกค้นหาเปา้ หมาย

๑๖๘ กจิ เฉพาะ: การค้นหาเป้าหมาย – อยกู่ ับท่ี หรือเคล่อื นที่ เงื่อนไข: (TARGET ACQUISITION-STATIONARY AND MOVING) คน้ หาเป้าหมายท่ีแตกตา่ งกนั เทา่ น้นั สิ่งที่กาหนดให:้ มาตรฐาน: รถถัง เอม็ ๖๐เอ๓ ทพ่ี รอ้ มปฏบิ ัติงาน เป้าหมายอย่กู บั ท่ี ๘ เป้า เปา้ หมายเคลอ่ื นที่ ๒ เป้า แตล่ ะเป้าต้งั อยหู่ ่างกัน ๕๐๐ ม. ในระยะไกลสดุ ของสนามทีม่ อี ยู่ พลประจารถสามารถคน้ หาเปา้ หมายไดเ้ ฉพาะในเขตรบั ผิดชอบทก่ี าหนดให้ ข้อสงั เกต: การฝกึ นคี้ วรจะปฏิบัติดว้ ยการปดิ ปอ้ ม และเปิดปอ้ มตรวจการณ์ พลประจารถจะต้อง- คน้ หาและพิสูจนฝ์ ่ายเปา้ หมายได้ถูกต้อง ๗ ใน ๑๐ เป้า

๑๖๙ การคน้ หาเปา้ หมาย – อยูก่ ับที่ หรือเคลือ่ นที่ (TARGET ACQUISITION-STATIONARY AND MOVING) เสน้ ทาง เสน้ ทาง การเคลื่อนท่ี การเคลอื่ นที่ ของเป้าหมาย ของเป้าหมาย

๑๗๐ การคน้ หาเปา้ หมาย – เคลอื่ นท่ี (TARGET ACQUISITION-MOVING) เส้นทาง เส้นทาง การเคล่ือนท่ี การเคลอื่ นที่ ของเป้าหมาย ของเป้าหมาย เส้นทาง การเคลอื่ นท่ี ของรถถัง

ใบให้คะแนนหลกั สูตรการฝกึ การค้นหาเป้าหมาย (TARGET ACQUISITION TRAINING COURSE SCORECARD) พลประจารถ: ผบ.รถ______________________________ มว.รถถังที่____________________________ ผปู้ ระเมนิ ผล_____________________________ กจิ เฉพาะ พลยิง_______________________________ กองร้อยที่_____________________________ วันท่ี/เวลา_______________________________ การพสิ ูจน์ฝ่าย พลบรรจุ____________________________ มาตรฐาน เป้าหมาย รถถงั หมายเลข_______________เง_อื่ _น_ไ_ข____ การคน้ หาเปา้ หมาย (กลางวนั ) ทคี่ ้นพบ เป้าหมาย/สถานการณ์ ๑. การกาหนดทีต่ ัง้ BMP ๑ คันอยู่กบั ที่ ระยะ ๙๐๐- ๑,๑๐๐ ม. กาหนดท่ีตัง้ เปา้ หมายได้ภายใน ๘ วินาที ผ่าน ผา่ น เป้าหมาย จากรถถังท่อี ยกู่ บั ท่ี ไมผ่ า่ น ไมผ่ ่าน กาหนดทต่ี ัง้ เปา้ หมายได้ภายใน ๘ วินาที ผา่ น ๒. การกาหนดทีต่ งั้ T-72 ๑ คนั กาลังเคลื่อนท่ี ระยะ ๑,๘๐๐ ไม่ผา่ น ไม่ผา่ น เปา้ หมายเคล่อื นที่ - ๒,๐๐๐ ม. จากรถถงั ท่ีอยู่กบั ที่ กาหนดทต่ี งั้ เปา้ หมายได้ภายใน ๑๘ วนิ าที ผา่ น ผา่ น M60A3 ๑ คันกาลงั เคล่อื นท่ี ระยะ ๑,๙๐๐- ไมผ่ า่ น ๓. การกาหนดทต่ี ง้ั - ๒,๑๐๐ ม.จากรถถังท่อี ยู่กบั ที่ (นชค.) กาหนดท่ตี ้ังเปา้ หมายแรกไดภ้ ายใน ๘ วนิ าที ผา่ น ผ่าน เปา้ หมายเคล่ือนที่ T-72 ๒ คันอยู่กบั ท่ี ระยะ ๑,๔๐๐-. และเป้าหมายท่ี ๒ ได้ภายใน ๑๖ วนิ ที ไมผ่ า่ น ไม่ผา่ น ๑,๖๐๐ ม. จากรถถงั ที่อย่กู ับท่ี ผา่ น ผา่ น ๔. การกาหนดท่ีตง้ั T-72 ๒ คนั อย่กู บั ท่ี ระยะ ๑,๙๐๐-. กาหนดท่ตี ง้ั เป้าหมายได้ภายใน ๘ วนิ าที ไม่ผา่ น ไม่ผา่ น หลายเป้าหมาย ๒,๑๐๐ ม. จากรถถงั ท่ีอยู่กบั ท่ี (นชค.) และเป้าหมายท่ี ๒ ได้ภายใน ๒๐ วนิ ที ผ่าน ผ่าน BMP ๒ คันอยกู่ ับที่ ระยะ ๑.๔๐๐- กาหนดที่ต้งั เป้าหมายไดภ้ ายใน ๘ วินาที ไมผ่ ่าน ไมผ่ ่าน ๕ การกาหนดที่ตงั้ ๑,๖๐๐ ม. จากรถถังท่ีอยู่กบั ที่ (นชค) . และเป้าหมายท่ี ๒ ได้ภายใน ๑๖ วนิ ที หลายเปา้ หมาย ๖. การกาหนดทต่ี งั้ หลายเป้าหมาย ๑๗๑

ใบให้คะแนนหลกั สูตรการฝึกการคน้ หาเปา้ หมาย (TARGET ACQUISITION TRAINING COURSE SCORECARD) การค้นหาเปา้ หมาย (กลางคืน) กจิ เฉพาะ เง่ือนไข มาตรฐาน เป้าหมาย การพิสูจนฝ์ ่าย เป้าหมาย/สถานการณ์ กาหนดท่ีตง้ั เป้าหมายไดภ้ ายใน ๘ วนิ าที ผา่ น ท่คี ้นพบ ๗. การกาหนดทีต่ ้ัง และเป้าหมายท่ี ๒ ได้ภายใน ๑๖ วินที ไม่ผ่าน ผ่าน หลายเป้าหมาย BMP ๑ คันอยู่กบั ที่ ระยะ ๙๐๐- ๑,Q๐๐ ม. ไมผ่ า่ น RPG ๑ ชุด ระยะ ๔๐๐-๖๐๐ ม. กาหนดท่ีต้ังเปา้ หมายได้ภายใน ๘ วินาที ผา่ น ๘. การกาหนดทีต่ ง้ั จากรถถังที่อยกู่ ับท่ี และเปา้ หมายที่ ๒ ได้ภายใน ๑๖ วินที ไม่ผา่ น ผา่ น หลายเป้าหมาย ไม่ผา่ น T-72๑ คัน อยกู่ ับท่ี ระยะ ๑,๔๐๐- ๑.๖๐๐ ม. กาหนดทต่ี ้งั เปา้ หมายไดภ้ ายใน ๘ วนิ าที ผ่าน ๙. การกาหนดทตี่ ง้ั T-72 ๑ คนั กาลังเคล่ือนทรี่ ะยะ ๑,๔๐๐- และเปา้ หมายท่ี ๒ ไดภ้ ายใน ๑๖ วินที ไม่ผ่าน ผา่ น หลายเปา้ หมาย ๑.๖๐๐ ม. จากรถถังทีอ่ ยู่กบั ที่ (นชค.) ไม่ผ่าน กาหนดทต่ี งั้ เป้าหมายไดภ้ ายใน ๘ วนิ าที ผ่าน ๑๐. การกาหนดทต่ี ้งั T-72 ๑ คนั อยู่กบั ท่ี ระยะ ๑,๙๐๐-๒.๑๐๐ ม. และเปา้ หมายที่ ๒ ได้ภายใน ๑๖ วินที ไมผ่ ่าน ผา่ น หลายเปา้ หมาย 72 ๑ คันกาลงั เคล่ือนท่รี ะยะ ๑,๔๐๐- ไมผ่ ่าน ๑.๖๐๐ ม.จากรถถังที่อยู่กับที่(นชค.) HIND ๑ ลา อย่กู บั ที่ ระยะ ๙๐๐-๑.๐๐๐ ม. 72 ๑ คันกาลังเคลอื่ นทีร่ ะยะ ๑,๐๐๐- ๑,๒๐๐ ม. จากรถถังท่อี ยกู่ ับท่ี ๑๗๒

๑๗๓ การฝึกกะระยะและหาระยะทแี่ นน่ อน (RANGE ESTIMATION AND DETERMINATION TRAINING) พลประจารถจะต้องมีความชานาญในการกะระยะและหาระยะที่แน่นอน พลประจารถถังจะต้องมี ความสามารถในการกะระยะไปยงั เปา้ หมายเมอ่ื เคร่อื งหาระยะด้วยแสงเลเซอร์ไม่ทางาน การฝกึ อย่างคงท่ีเป็น สง่ิ ทีจ่ าเปน็ เพื่อใหบ้ รรลุถึงผลสาเรจ็ และดารงไวซ้ งึ่ ความชานาญ การกะระยะและหาระยะทีแ่ นน่ อนน้นั จะต้องวางเป้าหมายเต็มมาตราส่วนท้ังท่ีอยู่กับที่และเคล่ือนท่ี ตง้ั แตร่ ะยะ ๕๐๐ ม. ไปจนถึงระยะไกลสุดของสนามท่ีมีอยู่ เป้าหมายจะต้องเป็นเป้าด้านหน้า ด้านข้าง เป้า เฉยี ง และเปา้ อยู่ในท่กี าบงั ตวั รถ ท้งั รถถัง BMP และหน่วยทหาร วางเป้าหมายอย่างน้อยครึ่งจานวนให้อยู่ใน ลกั ษณะอยใู่ นทมี่ ่นั กาบงั ตัวรถ ที่ดที ี่สดุ คือแต่ละเป้าหมายควรจะเปิดเผยตัวเองเม่ือต้องการ ถ้าไม่มีเป้าแบบ ล้มลกุ ให้ทาการฝกึ แบบแยกการสองหลักสูตร รถถงั ควรจะอยู่ในทต่ี ้งั ยิงทีก่ าบงั ตัวรถในระหวา่ งท่ที าการฝึกอยู่ กบั ท่ี ดแู ผ่นภาพตัวอยา่ งทีแ่ สดงไว้ขา้ งล่างน้ี ผ้ปู ระเมนิ ผลการฝกึ จะอยู่ในสถานีของผบ.รถหรอื พลยิงในระหว่าง ที่ทาการฝึกเพอื่ ประเมินผลว่าใช้เทคนคิ การกะระยะทถ่ี กู ตอ้ งหรือไม่ กจิ เฉพาะ: การกะระยะ- อย่กู บั ที่ เงื่อนไข: (RANGE ESTIMATION - STATIONARY) มาตรฐาน: กะระยะเปา้ หมายโดยใช้วธิ ีการจดจาจากภาพทีป่ รากฏ สิง่ ท่ีกาหนดให:้ รถถงั เอ็ม๖๐เอ๓ ทีพ่ รอ้ มปฏบิ ตั ิงาน เป้าหมายอยกู่ บั ที่ เป้าหมายเคลอ่ื นที่ แต่ละเป้าวางอยตู่ ้งั แตร่ ะยะ ๕๐๐ ม. ไปจนถึงระยะไกลสุดของสนามท่ีมีอยู่ ผบ.รถหรอื พลยงิ จะตอ้ งกะระยะได้ ๘๐ % ของเป้าหมาย ถูกตอ้ งทางระยะ +/- ๒๐๐ ม. ของระยะจรงิ ภายในเวลา ๖ วินาทตี อ่ เป้า

๑๗๔ กิจเฉพาะ: การหาระยะทแ่ี นน่ อน- อยู่กับที่ เงื่อนไข: (RANGE DETERMINATION - STATIONARY) หาระยะเป้าหมายที่แน่นอนโดยใชเ้ ครื่องหาระยะดว้ ยเลเซอร์ มาตรฐาน: ส่งิ ทก่ี าหนดให:้ รถถัง เอ็ม๖๐เอ๓ ท่ีกลอ้ งเลง็ หลกั ของพลยงิ และเคร่อื งหาระยะดว้ ยแสงเลเซอร์ พร้อมปฏิบัติงาน เป้าหมายอยูก่ ับที่ เปา้ หมายเคล่ือนที่ เป้าหมายท้ังหมดวางอยู่ตง้ั แต่ระยะ ๕๐๐ ม. ไปจนถงึ ระยะไกลสดุ ของสนามท่มี อี ยู่ ผบ.รถหรอื พลยงิ จะตอ้ งกะระยะได้ ๘๐ % ของเป้าหมาย ถกู ตอ้ งทางระยะ +/- ๑๐ ม. ของระยะจรงิ ภายในเวลา ๕ วินาทตี อ่ เป้า หลงั จากทปี่ นื ชต้ี รงกับเป้าหมาย กิจเฉพาะ: การหาระยะทแ่ี น่นอน- เคลื่อนท่ี เงอ่ื นไข: (RANGE DETERMINATION - MOVING) มาตรฐาน: หาระยะเป้าหมายทแ่ี นน่ อนโดยใชเ้ ครื่องหาระยะดว้ ยเลเซอร์ ส่ิงทีก่ าหนดให:้ รถถัง เอ็ม๖๐เอ๓ ท่ีพรอ้ มปฏบิ ตั งิ าน เปา้ หมายอยกู่ ับที่ เปา้ หมายเคล่ือนที่ เป้าหมายทง้ั หมดวางอย่ตู ั้งแต่ระยะ ๕๐๐ ม. ไปจนถึงระยะไกลสุดของสนามทม่ี ีอยู่ ผบ.รถหรอื พลยงิ จะต้องกะระยะได้ ๘๐ % ของเปา้ หมาย ถกู ต้องทางระยะ +/- ๑๐ ม. ของระยะจรงิ ภายในเวลา ๕ วนิ าทีต่อเปา้ หลงั จากทปี่ ืนชีต้ รงกบั เป้าหมาย

๑๗๕ การกะระยะ- อยกู่ บั ที่ (RANGE ESTIMATION - STATIONARY) เส้นทาง เส้นทาง การเคลือ่ นท่ี การเคลื่อนที่ ของเป้าหมาย ของเป้าหมาย ท่ตี ั้งยิงสารอง ที่ตั้งยิงเพ่ิมเตมิ

๑๗๖ การหาระยะทแี่ น่นอน- อยกู่ บั ท่ี (RANGE DETERMINATION - STATIONARY) เสน้ ทาง เสน้ ทาง การเคลื่อนท่ี การเคล่อื นที่ ของเป้าหมาย ของเป้าหมาย ที่ตัง้ ยิงเพิ่มเติม ทีต่ ้งั ยิง สารอง

๑๗๗ การหาระยะทแ่ี นน่ อน- เคลอื่ นที่ (RANGE DETERMINATION - MOVING) เส้นทาง เส้นทาง การเคลอื่ นท่ี การเคลอ่ื นที่ ของเป้าหมาย ของเป้าหมาย เส้นทาง การเคลื่อนที่ ของรถถงั การฝกึ ใช้เครอื่ งควบคุมการยิงเพิ่มเติม (AUXILARY CONTROL TRAINING) การใชเ้ คร่อื งควบคมุ การยงิ เพมิ่ เติมเปน็ การฝกึ พลยิงในเร่อื งของการใช้ข้อมูลตามแผ่นระยะ ในสนาม ฝึกเต็มมาตราส่วนหรือสนามฝกึ ย่อส่วน การฝกึ ใชเ้ คร่ืองควบคุมการยิงเพ่ิมเตมิ จะวางเปา้ หมายทีเ่ ป็นรถถงั ยานเกราะ และหน่วยทหารไว้รวม ๘ เป้า อยู่ระหว่างระยะ ๕๐๐ ม. และ ๓,๐๐๐ ม. ผูป้ ระเมินผลการฝึกจะต้องแน่ใจได้ว่าได้ปิดฝาครอบกล้อง เล็งทางขีปนวิธแี ละกลอ้ งอ่นื ๆ ไวแ้ ลว้ ผู้ประเมินผลจะอยู่ในตาแหน่งของผบ.รถและคอยตรวจการณ์เป้าหมาย ผ่านกล้องเล็งของเครื่องหาระยะ พลยิงใช้คันบังคับด้วยมือหมุนป้อมปืนไปตามค่ามุมภาคของทิศท่ีประกาศ ออกมา เม่ือเคร่ืองกาหนดมุมภาคของทิศอ่านได้ตรงกับค่าที่ประกาศออกมาแล้วพลยิงทวนค่ามุมทิศท่ี กาหนดให้ออกมา ผ้ปู ระเมินผลตรวจสอบความถูกตอ้ งที่เครื่องกาหนดมุมภาคของทิศ จากนัน้ พลยงิ ตงั้ คา่ มุมสงู เข้ากบั เคร่อื งกาหนดมมุ สงู ประจาปนื ยกปืนขึน้ ลงจนกระทงั่ หวอดระดบั อยูก่ งึ่ กลางแล้วทวนคา่ มมุ สูงที่ประกาศ ออกมาให้ผปู้ ระเมินผลทราบ ผู้ประเมินผลตรวจความถกู ตอ้ งที่เคร่ืองกาหนดมุมสูงประจาปืน

๑๗๘ กจิ เฉพาะ: เครอ่ื งควบคุมการยิงเพ่ิมเติม เง่อื นไข: (AUXILARY FIRE CONTROL TRAINING) มาตรฐาน: การใช้ข้อมูลตามแผ่นจดระยะกับเครือ่ งกาหนดมมุ ภาคของทศิ และเครือ่ งกาหนดมมุ สงู ประจาปนื ส่ิงทีก่ าหนดให:้ รถถัง เอ็ม๖๐เอ๓ ท่ีพรอ้ มปฏบิ ตั งิ านอยใู่ นทมี่ ั่นกาบงั ตวั รถ เครื่องกาหนดมมุ ภาคของทศิ และเครอื่ งกาหนดมุมสงู ประจาปนื ท่พี ร้อมใชง้ าน ข้อมูลของแผ่นจดระยะทม่ี ีเปา้ หมายอยกู่ บั ที่ ๘ เปา้ หมาย ในเขตการยงิ ขอ พลยงิ จะต้องตงั้ ค่ามมุ ตามแผน่ จดระยะทถ่ี กู ต้องเข้าเครอ่ื งกาหนดมุมภาคของทศิ และ เครื่องกาหนดมมุ สงู ประจาปนื ได้ภายในเวลา ๑ นาที ตอ่ ๑ เปา้ ต่อเป้าหมายท้งั ๘เป้า การฝกึ ใชเ้ คร่ืองควบคุมการยงิ เพิม่ เติม (AUXILARY FIRE CONTROL TRAINING) การฝกึ ใช้งานกลอ้ งเล็งภาพความรอ้ น (THERMAL MODE TRAINING) กลอ้ งเล็งภาพความร้อน TTS บนรถถัง เอ็ม๖๐เอ๓ สามารถใช้งานได้ท้ังกลางวันและกลางคืน และ ควรจะทาการฝกึ ท้ังสองห้วงเวลา โดยสามารถฝกึ ปฏบิ ตั ิไดใ้ นสนามเต็มมาตราส่วน การฝึกใชง้ านกล้องเล็งภาพความร้อน จะจัดวางเป้าหมายเต็มมาตราส่วน (ดูใน FM17-12-7) ต้ังแต่ ระยะ ๔๐๐ ม. ออกไปจนถงึ ระยะไกลสดุ ของสนามท่ีมีอยู่ เปา้ หมายควรจะเปน็ รถถงั ชุดยงิ คจตถ. ยานเกราะ และหนว่ ยทหารในรูปแบบดา้ นหนา้ ด้านข้าง อยใู่ นที่มนั่ กาบังตวั รถ และเป้าเฉยี ง เปา้ หมายอยา่ งน้อยคร่ึงหนึ่ง

๑๗๙ ควรจะเปน็ เป้าท่อี ยูใ่ นทีม่ ่ันกาบังป้อมปนื จะให้สมบูรณ์เป้าหมายแต่ละเป้าควรจะเปิดเผยตัวเองเมื่อต้องการ ฬชเ้ ปา้ หมายที่มเี คร่ืองกลไกหรอื ควบคมุ ดว้ ยมอื ในการยกเป้าขึ้นหรือลดลง พลประจารถใช้เครื่องหาระยะด้วย แสงเลเซอรห์ าระยะที่แน่นอนไปยังเป้าหมายแต่ละเป้า รถถังควรจะใช้ที่ต้ังยิงในระหว่างที่ทาการฝึกอยู่ โดย อย่างน้อยจะตอ้ งใช้ท่ตี งั้ ยิงท่ีกาบังตัวรถ ๓ ที่ตั้งยิง ภาพตัวอย่างที่แสดงให้เห็นข้างล่างน้ี แสดงให้เห็นถึงการ เตรียมการวางเปา้ หมายสาหรับกล้องเล็งภาพความร้อนในการฝึก แหล่งกาเนิกความร้อนจากประสบการณ์ ชุด เปา้ หมายภาพความร้อน หรือผ้ากาเนิดความรอ้ นอาจนามาใช้ในการฝกึ ได้ กิจเฉพาะ: การฝกึ ใชง้ านกล้องเล็งภาพความรอ้ น-อยกู่ ับท่ี เงอ่ื นไข: มาตรฐาน: (THERMAL MODE TRAINING - STATIONARY) ใช้กล้องเลง็ ภาพความรอ้ นและเครอื่ งหาระยะด้วยแสงเลเซอรห์ าระยะไปยงั เปา้ หมายแต่ละเปา้ ผบ.รถใช้กลอ้ งเลง็ ภาพความร้อนเชอื่ มตอ่ วางทิศทางยงิ ให้กบั ปืนใหญ่ พลยิงค้นหาเปา้ หมาย จัดภาพเลง็ ประณีตแลว้ หาระยะ ส่งิ ทกี่ าหนดให:้ รถถัง เอม็ ๖๐เอ๓ ทีก่ ลอ้ งเลง็ ภาพความรอ้ นและเครอ่ื งหาระยะด้วยเลเซอร์ พร้อมปฏิบตั งิ าน เปา้ หมายภาพความร้อนอยกู่ ับท่ี เปา้ หมายภาพความรอ้ นเคลอ่ื นที่ พลยงิ จะตอ้ งหาระยะได้ถูกตอ้ ง (+/-๑๐ ม.) ต่อเปา้ หมายทงั้ หมดไดถ้ งึ ๘๐% ของเปา้ ภายในระยะเวลา ๕ วนิ าที ต่อ ๑ เป้า หลงั จากท่ีปนื อยูต่ รงกับเปา้ หมาย กจิ เฉพาะ: การฝกึ ใชง้ านกล้องเล็งภาพความร้อน-เคลือ่ นที่ เง่ือนไข: มาตรฐาน: (THERMAL MODE TRAINING - MOVING) ใช้กลอ้ งเลง็ ภาพความรอ้ นและเครอื่ งหาระยะด้วยแสงเลเซอรห์ าระยะไปยงั เป้าหมายแตล่ ะเป้า ผบ.รถใช้กลอ้ งเลง็ ภาพความรอ้ นเชอ่ื มตอ่ วางทิศทางยงิ ให้กบั ปนื ใหญ่ พลยิงค้นหาเป้าหมาย จัดภาพเลง็ ประณีตแล้วหาระยะ สิง่ ทีก่ าหนดให:้ รถถงั เอม็ ๖๐เอ๓ เคลอ่ื นทไ่ี ด้ มพรอ้ มกล้องเลง็ ภาพความรอ้ นและเครือ่ งหาระยะ ดว้ ยเลเซอรพ์ รอ้ มปฏบิ ัตงิ าน เปา้ หมายภาพความร้อนอยกู่ บั ที่ เป้าหมายภาพความรอ้ นเคลอ่ื นท่ี พลยิงจะตอ้ งหาระยะได้ถูกตอ้ ง (+/-๑๐ ม.) ตอ่ เป้าหมายทง้ั หมดไดถ้ ึง ๘๐% ของเปา้ ภายในระยะเวลา ๕ วินาที ตอ่ ๑ เป้า หลงั จากท่ีปนื อยูต่ รงกบั เปา้ หมาย

๑๘๐ การเตรยี มเปา้ หมายภาพความรอ้ น (PREPARING THERMAL TARGETS) หม้อ ทาความร้อน เป เป้ าหมาย ท่ใี ช้เคร่อื งกล ไก เป ดา้ นบน เป กระสอบ ทราย ขอ้ สงั เกต: เมอ่ื ใชห้ ม้อทาความรอ้ น (แหล่งกาเนิดความดร้าอนนขจ้างกประสบการณ์)ให้ความรอ้ นกับเป้าหมาย โลหะ หรือใช้เคร่อื งกาเนิดไฟฟ้าเปน็ เครอื่ งกาเนิดความรอ้ นกบั ผ้าหม่ ต้องแนใ่ จได้วา่ แหล่งกาเนิดความร้อนไม่ได้สรา้ งแสงสวา่ งออกมาจากฉากหลังของเปา้ หมาย

๑๘๑ การฝึกใช้งานกล้องเล็งภาพความรอ้ น-อย่กู บั ที่ (THERMAL MODE TRAINING - STATIONARY) เสน้ ทาง เสน้ ทาง การเคลื่อนที่ การเคลื่อนท่ี ของเป้าหมาย ของเป้าหมาย ท่ีตงั้ ยิงเพิ่มเติม ท่ตี ั้งยิงสารอง

๑๘๒ การฝึกใช้งานกลอ้ งเลง็ ภาพความร้อน-เคลอ่ื นที่ (THERMAL MODE TRAINING - MOVING) เสน้ ทาง เสน้ ทาง การเคลือ่ นท่ี การเคลื่อนท่ี ของเป้าหมาย ของเป้าหมาย เสน้ ทาง การเคลือ่ นที่ ของรถถัง

๑๘๓ การฝกึ ใช้ฉากควัน (SMOKE EMPLOYMENT TRAINING) การฝกึ ใชฉ้ ากควนั เป็นการสอนใหผ้ บ.รถ ใชเ้ ครอ่ื งยงิ ลูกระเบดิ ควนั และระบบกาเนิดควันของรถ เป็น การฝึกสอนใหพ้ ลขบั ใชง้ านระบบเคร่ืองทาฉากควนั ตามคาสั่งและปฏบิ ัตกิ ารหลบหลีกออกมา การฝึกปฏิบัติน้ี สามารถฝกึ ในสนามมาตราส่วน ๑/๕, ๑/๒ หรอื สนามเตม็ มาตราสว่ น การฝกึ ใช้ฉากควนั จะวางเป้าหมายอยู่กับที่ ๘ เป้า พร้อมทั้งมีรถถังยิงเครื่องช่วยฝึกในระยะระหว่าง ๕๐๐ ม. และ ๓,๐๐๐ ม.จากรถถังทที่ าการฝึก เปา้ หมาย ๔ เป้า ควรจะเปิดเผยตัวเองในระหว่างการฝึกอยู่กับ ที่ และเปา้ หมายทีเ่ หลอื อีก ๔ เป้า จะเปดิ เผยตวั เองเมือ่ เรม่ิ เคลื่อนที่ เปา้ หมายควรจะเป็นเปา้ รถถงั ยานเกราะ ฮ.โจมตี และหน่วยทหาร เป้าล้มลุกจะถูกควบคุมโดยผู้ประเมินผล การฝึกน้ีจะปฏิบัติการท้ังอยู่กับที่และ เคลือ่ นที่ ผบ.รถ จะออกคาสั่งยงิ และทาการยงิ ลูกระเบิดยิงควนั แบบ แอล๘เอ๑ ระหวา่ งรถถังกับข้าศึก พลขับ จะเปิดสวทิ ช์เครื่องกาเนดิ ควนั เมอ่ื ไดร้ ับคาสงั่ จากผบ.รถ และทาการหลบหลีกออกมา การฝึกใชฉ้ ากควัน-อย่กู ับที่ (SMOKE EMPLOYMENT- STATIONARY) กิจเฉพาะ: ใช้งานเคร่ืองยงิ ลกู ระเบดิ ควนั เอม็ ๒๓๙ เง่ือนไข: ส่งิ ท่กี าหนดให:้ รถถัง เอ็ม๖๐เอ๓ ที่พรอ้ มปฏบิ ตั ิงานพรอ้ มเครอ่ื งยงิ ลกู ระเบิดควนั ที่พร้อมใช้งาน เป้าหมาย ๔ เป้า พร้อมเคร่ืองชว่ ยฝึกยงิ จาลอง มาตรฐาน: ผบ.รถ จะต้องออกคาสัง่ ยิง วางทิศทางยิงใหก้ บั ปนื ใหญ่ และใช้งานเคร่อื งยิงลูกระเบดิ ควนั ไดถ้ ูกตอ้ งภายในเวลา ๑๐ วินาที หลงั จากทค่ี ้นหาเป้าหมายได้ ๓ ใน ๔ ของเปา้ การฝกึ ใช้ฉากควนั -เคลื่อนท่ี (SMOKE EMPLOYMENT- MOVING) กจิ เฉพาะ: ใช้งานเครื่องยงิ ลกู ระเบิดควัน เอ็ม๒๓๙ เงอ่ื นไข: ส่งิ ที่กาหนดให:้ รถถงั เอ็ม๖๐เอ๓ ทพี่ รอ้ มปฏบิ ัติงานพรอ้ มเครือ่ งยงิ ลกู ระเบดิ ควันที่พร้อมใช้งาน ระบบเครอ่ื งกาเนดิ ควันประจารถทีพ่ รอ้ มใช้งาน เป้าหมาย ๔ เปา้ พรอ้ มเครื่องช่วยฝึกยงิ จาลอง ข้อสังเกต: ถ้าลูกระเบิดยิงควนั แบบไมส่ ามารถจัดหาได้ หนว่ ยสามารถจาลองการยงิ ได้ หรอื ใชค้ วันจากส่งิ อปุ กรณอ์ ่นื ๆ ทห่ี าได้ มาตรฐาน: ผบ.รถ จะต้องออกคาสง่ั ยงิ วางทศิ ทางยงิ ใหก้ บั ปืนใหญ่ และใชง้ านเครื่องยงิ ลูกระเบิด ควันได้ถกู ตอ้ ง ในขณะที่พลขบั เปิดสวิทช์ใช้งานเครอ่ื งกาเนิดฉากควันของรถ และขบั รถ หลบหลกี ตามคาแนะนาของผบ.รถ ภายในเวลา ๔ วินาที หลังจากท่ีคน้ หาเป้าหมายได้ ๓ ใน ๔ ของเป้า

๑๘๔ การฝกึ ใช้ฉากควนั (SMOKE EMPLOYMENT) เสน้ ทาง การเคลือ่ นท่ี ของรถถัง ท่ีตงั้ ยิงเพิม่ เตมิ ทต่ี ั้งยิงสารอง

๑๘๕ ตารางฝึกปฏบิ ตั กิ ารรบของรถถัง (TANK COMBAT TABLES) ตารางฝกึ ปฏบิ ัติการรบของรถถงั ประกอบด้วยตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธรถถัง (ดู บทที่ ๑๑ ตาราง ฝึกวชิ าหลักยิง) และตารางฝึกทางยุทธวิธี (ดู บทท่ี ๑๒ เร่ือง ตารางฝึกทางยุทธวิธี) ท้ังสองตารางนี้เช่ือมโยง กันโดยได้จัดทาแนวทางการฝึกไว้อย่างเป็นระบบเพ่ือนามาใช้ทาการฝึกเพ่ิมความชานาญในวิชาหลักยิงและ ยุทธวิธไี ปจนถึงระดบั มว.รถถัง ตารางตอ่ ไปนีไ้ ดแ้ สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธ รถถงั กบั ตารางฝกึ รถถังทางยทุ ธวิธี ขอ้ สงั เกต: ตารางฝกึ รถถังทางยทุ ธวิธใี นบทท่ี ๑๒ ของคู่มือเล่มนีจ้ ะถูกทดแทนดว้ ยตารางฝกึ ทาง ยุทธวธิ เี ล่มใหม่ ของ FM 17-15 ให้ใช้บทท่ี ๑๒ ของคู่มือเล่มน้ีต่อไปจนกว่า FM 17-15 จะถูกจัดพมิ พอ์ อกมาใหม่ ตารางฝกึ ปฏิบตั ิการรบของรถถัง (TANK COMBAT TABLES) ตารางฝกี วชิ าหลกั ยิง ตารางฝึกทางยทุ ธวิธี การจดั ทา: - การควบคุมดว้ ยมอื การจดั ทา: - เป้าหมายสมจริง - หนา้ ทพี่ ลประจารถ - ปัญหาการคน้ หาเปา้ หมายท่ียาก - การปรับการยงิ แบบมาตรฐาน - รปู ลกั ษณะเปา้ หมายท่ีสมจริง - ใช้กลอ้ งเล็งได้ทดุ กล้อง - ข้าศึกทส่ี ามารถยงิ โต้ตอบได้ - ใชเ้ คร่อื งควบคมุ ไดเ้ ต็มระบบ - เปา้ หมายทหี่ ลกี หนไี ด้ - การยิงเวลากลางคืน - เป้าหมายและจุดอ่อนสาคัญทีแ่ ตกต่างกัน - การเลอื กใชช้ นิดกระสุน - การฝกึ ความคล่องแคล่ว/การเคลอ่ื นท่ี ไมไ่ ด้จัดทา: - เปา้ หมายสมจริง ไมไ่ ดจ้ ัดทา: - หนา้ ที่พลประจารถทั้งหมด - ปัญหาการคน้ หาเป้าหมายท่ียาก - การปรบั การยิงแบบมาตรฐาน - รปู ลักษณะเปา้ หมายที่สมจริง - ใชก้ ล้องเลง็ ไดท้ ุกกล้อง - ข้าศกึ ท่สี ามารถยงิ โตต้ อบได้ - การยงิ เวลากลางคืน - เปา้ หมายทห่ี ลีกหนไี ด้ - ใชเ้ ครื่องควบคมุ ไดเ้ ตม็ ระบบ - แนวทางการใช้ประโยชนข์ องระบบในการเคลื่อนท่ี - การเลอื กใชช้ นิดกระสุน - พนื้ ทท่ี ีเ่ ป็นจดุ ออ่ น - สนามฝกึ เตม็ มาตราสว่ น ๓๖๐ องศา

๑๘๖ ตารางฝกึ ขั้นตน้ (BASIC TABLE) ข้นั ตอนแรกของตารางฝกึ การใชร้ ถถังปฏิบัติการรบของรถถังประกอบด้วยตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธ รถถังเบื้องต้น (ตารางท่ี ๑ - ๔) และตารางฝึกรถถังทางยุทธวิธี (ตาราง ก – ค) การฝึกยิงข้ันพื้นฐานเหล่านี้ ชว่ ยนาใหพ้ ลประจารถได้พัฒนาการทางานร่วมกันเป็นทีมและการประสานการปฏิบัติเท่าที่จาเป็นเพ่ือทาการ ยิงต่อเป้าหมายในการปฏิบัติการรบที่จัดตั้งข้ึน ตารางฝึกรถถังทางยุทธวิธีข้ันต้นควรจะนามาปฏิบัติร่วมกับ ตารางฝกึ วชิ าหลักยงิ อาวุธรถถังขั้นตน้ เพือ่ เป็นการเตรียมตัวใหก้ บั พลประจารถสาหรับตารางการฝึกขน้ั กลาง ตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธรถถังเบื้องต้น (Basic Tank Gunnery Tables) แนวคิดของตารางฝึกวิชาหลัก ยงิ อาวุธรถถังเบ้ืองต้นเป็นการเสริมสร้างทักษะในการปฏิบัติงานในวิชาหลักยิงข้ันต้นเป็นบุคคล ตารางที่ ๔ (TCPC) เป็นตารางท่ีใช้ในการกาหนดคณุ วฒุ สิ าหรับตารางฝกึ ข้ันต้น และจะต้องสาเร็จอย่างสมบูรณ์ก่อนท่ีจะ ไปทาการฝกึ ตารางฝึกข้นั กลาง หนว่ ยทมี่ ีเครือ่ งช่วยฝกึ แบบประจาหน่วย (U-COFT) อาจใช้คชฝ. ทาการฝึก ทักษะใน ตารางที่ ๒ ได้ กระสนุ จะไดร้ บั การจดั สรรเพ่อื ทาการฝกึ ยิงลากล้องในแต่ละตารางเหล่านี้ เครื่องช่วยฝึกยิงด้วยแสง เลเซอร์ MILES/SAAB BT-46 อาจนามาใช้เป็นตัวเลอื กในการฝกึ ยิงได้ แต่เป็นวิธรี องทไี่ ม่ครอบคลุบการปฏิบัติ หน้าท่ขี องพลประจารถทัง้ หมด ตารางฝึกรถถังทางยุทธวิธี (Basic Tactical Tables) ตารางฝึกรถถังทางยุทธวิธีช่วยพัฒนาการทางาน ร่วมกนั เป็นทมี ตาราง ก ม่งุ เนน้ ทกั ษะการปฏบิ ัตเิ ปน็ บุคคล และจะต้องทดสอบกอ่ นทีจ่ ะไปทาการฝกึ ในตาราง ข และ ค ตารางฝึกขนั้ กลาง (INTERMEDIATE TABLE) ข้ันตอนที่สองของตารางฝึกการใช้รถถังในการรบประกอบด้วย ตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธรถถัง (ตารางที่ ๕ – ๘) โดยจะนาพลประจารถที่ผา่ นการฝกึ ข้ันตน้ มาแล้ว มาดาเนินการฝึก หลกั สูตรกาหนดคุณวุฒิ พลประจารถถังในการรบ (Tank Crew Qualification Course) (ตารางที่ ๘) และ ควรดาเนินการฝึก ตารางฝึกรถถังทางยุทธวิธีข้ันกลาง (ตาราง ง – ฉ) หลังจากผ่านการฝึกวิชาหลักยิงอาวุธรถถังขั้นกลางแล้ว หลงั จากนั้นกน็ าไปฝกึ ขัน้ สงู ต่อไป ตารางการใชส้ นามฝกึ อาจมผี ลกระทบกบั การตัดสนิ ใจได้ ตารางฝกึ วิชาหลกั ยิงอาวธุ รถถังขั้นกลาง (Intermediate Tank Gunnery Tables) ตารางฝกึ วชิ าหลักยิง อาวุธรถถังข้นั กลางเป็นการต่อยอดตารางการฝึกวิชาหลกั ยงิ ขั้นตน้ พลประจารถจะได้ทาการฝกึ ใหท้ าการยิงเปา หมายเคลือ่ นทีแ่ ละอยู่กับทด่ี ้วยอาวุธที่ติดตัง้ บนรถถงั ทุกชนิดทั้งในหว้ งระยะเวลากลางวันและในหว้ งทศั นะวิสัย จากัด วตั ถปุ ระสงค์หลกั คอื กาหนดคณุ วุฒพิ ลประจารถถังในหลกั สูตรกาหนดคุณวุฒิพลประจารถถัง (Tank Crew Qualification Course) (ตารางที่ ๘) ตารางที่ ๘ เปน็ ตารางกาหนดคณุ วุฒขิ องตารางฝึกวิชาหลักยิง อาวุธรถถงั ขั้นกลาง และจะต้องสาเรจ็ อยา่ งสมบูรณ์ก่อนท่ีจะไปทาการฝกึ ตารางฝึกขั้นสูง ผบ.หนว่ ย อาจทาการฝกึ โดยใช้แนวคิดเร่ืองการใช้ปกี (Wingman) มาทาการฝึกพลประจารถถังเป็น ตอนตั้งแต่เร่มิ ตน้ ขั้นกลางกไ็ ด้ เพราะตารางเหล่าน้ีได้ต่อยอดมาเพ่ือกาหนดคุณวุฒิให้กับพลประจารถ โดยปีก จะมีหนา้ ที่เพยี งแต่เปน็ ผตู้ รวจการณใ์ ห้เท่าน้นั ตารางฝึกรถถังทางยุทธวิธีข้ันกลาง (Intermediate Tank Tactical Tables) อย่างท่ีได้กล่าวมาแล้วว่า ตารางฝกึ รถถงั ทางยุทธวิธี (ตาราง ง – ฉ) ได้รวมพลประจารถเขา้ มาเปน็ ตอนรถถังและควรจะนามาฝึกตอ่ จาก ตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธรถถังขั้นกลาง โดยตารางฝึกทางยุทธวิธีขั้นกลางจะเริ่มต้นด้วยการประสานการ ปฏบิ ตั ิระหว่างพลประจารถ (ตาราง ง) เพือ่ นาไปส่กู ารฝึกเป็นตอนรถถัง (ตาราง จ) และส้นิ สุดลงด้วยการฝึก โตต้ อบของตอน (ตาราง ฉ)

๑๘๗ ตารางฝกึ ขัน้ สูง (ADVANCED TABLE) ข้นั ตอนที่สามของตารางฝกึ การใช้รถถงั ในการรบประกอบดว้ ยตารางฝกึ วิชาหลักยงิ อาวุธรถถงั (ตาราง ท่ี ๙ – ๑๒) ตารางฝกึ รถถงั ทางยทุ ธวธิ ขี น้ั สูง (ตาราง ช – ฌ) ตารางฝึกข้ันสูงจะผสานการกาหนดคุณวุฒิของ พลประจารถถงั เป็นรปู ของมว.รถถงั ซึ่งจะต้องมีการควบคุมและแจกจา่ ยปริมาตรการยิงภายใต้สภาวะเงื่อนไข ของสถานการณ์รบที่จาลองขน้ึ ตารางฝึกวชิ าหลกั ยงิ อาวธุ รถถงั ข้ันสูง (Advanced Tank Gunnery Tables) ตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธ รถถังข้นั สูงเปน็ การต่อยอดตอ่ จากตารางการฝึกข้นั กลาง โดยจาทาการฝึกตอนและมว.รถถังเพ่ือทาการยิงต่อ เป้าหมายที่อยู่กบั ท่ีและเคลื่อนที่ด้วยอาวุธที่ติดต้ังอยู่บนรถถังท้ังหมดทั้งในเวลากลางวันและในเวลาที่ทัศนะ วิสยั จากัด ขึน้ อยูก่ บั จานวนกระสุนท่ีมีอยู่ ผบงหน่วยอาจจะเลอื กใหท้ าการยงิ แต่ละตอน (ตารางที่ ๑๐) หรอื แต่ ละมว. เพอ่ื กาหนดคุณวุฒิได้ ถ้ากระสุนและห้วงเวลาในการใช้สนามฝึกนั้นสามารถทาได้ ผบ.หน่วยจะต้องทา การฝกึ ยิงทงั้ สองหน่วย ตารางฝกึ รถถงั ทางยุทธวิธขี ั้นสงู (Advanced Tank Tactical Tables) ตารางฝึกรถถังทางยทุ ธวธิ ีขน้ั สูงใช้ ฝึกเพ่ือพฒั นาการประสานงานและการปฏบิ ัตงิ านเปน็ ทมี ของมว.รถถัง โดยจะเรมิ่ ประสานการปฏิบตั ิภายในมว. (ตาราง ช) แลว้ เลอ่ื นไปทาการฝึกปฏบิ ัติเปน็ มว. (ตาราง ซ) สน้ิ สุดลงดว้ ยการฝกึ โต้ตอบของมว. (ตาราง ฌ) สนามฝกึ วิชาหลักยิงย่อสว่ น (SCALED – RANGE GUNNERY TABLES) ความไม่มรี ะเบยี บของพลประจารถและราคาท่ีเพมิ่ สงู ขนึ้ ของกระสนุ ปนื ใหญ่รถถัง นา้ มนั และช้ินส่วน อะไหล่ ทาให้เป็นการยากทจี่ ะผลติ และดารงสภาพของทักษะความชานาญของพลประจารถได้ ย่ิงไปกว่านั้น บอ่ ยครงั้ ท่ีไมส่ ามารถเดนิ ทางไปใช้สนามฝกึ เอนกประสงค์เพือ่ ทาการฝกึ ยิงได้ เพือ่ ขจดั ขอ้ จากัดในการฝึกเหลา่ น้ี ลง จะต้องทาการฝกึ วิชาหลกั ยิง ณ ทตี่ ัง้ หนว่ ย โดยใชเ้ ครือ่ งช่วยฝกึ ลากลอ้ งรอง และนวตั กรรมของเทคนคิ การ ฝกึ โดยใช้สนามฝึกย่อส่วน หน่วยสามารถจาลองการฝกึ ยงิ ปนื ใหญ่รถถังของรถถงั แต่ละคัน ตอน และมว. รถถังให้สมจรงิ ไดท้ ้ังในเวลากลางวนั และกลางคืน โดยทาการยิงตอ่ เปา้ หมายเดย่ี ว เป้าหมายหลายเป้า ทั้งท่ีอยู่ กับท่แี ละเคลอ่ื นท่ี การยงิ ปืนกลดว้ ยกระสุนจริงสามารถทาได้ถา้ ที่ต้งั หน่วยมีสนามฝึกยิงท่ีมีเขตจากัดนิรภัยใน การยิงแข็งแรงและกว้างเพยี งพอ เป้าหมายและยทุ โธปกรณ์ท่เี ปน็ ฝา่ ยเรา ควรจะจดั วางไว้ในพ้ืนท่ีของเป้าหมาย ดว้ ยเพ่อื ฝกึ พลประจารถในการพิสูจนฝ์ า่ ย ผบ.หน่วยจะต้องเลือกใช้สนามย่อส่วนที่เหมาะสมที่สุดในการฝึกที่ ตนเองตอ้ งการ แลมสี ง่ิ อานวยความสะดวกเพียงพอ ดู FM 17-12-7 สาหรบั สนามย่อสว่ น ตัวอยา่ งโปรแกรมการฝกึ (SAMPLE TRANING PROGRAM) ตวั อยา่ งโปรแกรมการฝึกต่อไปนี้แสดงเห็นว่าโปรแกรมการการฝึกรถถังปฏิบัติการรบสามารถจัดทา ตารางรายการฝึกอย่างไร ในการฝกึ และประเมินผลเปน็ บคุ คล พลประจารถเปน็ คนั ตอน และในระดับมว.รถถัง ไดต้ ลอดทัง้ ปี เนอื่ งจากผบ.หน่วยจะดดั แปลงโปรแกรมการฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารรบใหต้ รงกับความต้องการของหน่วย ตน บางส่วนก็จะต้องถกู ขจดั ออกไปไมท่ าการฝึก ขณะเดียวกันก็นาเอาหนว่ ยอ่นื มาเขา้ ทาการฝึก

๑๘๘ ตวั อยา่ งโปรแกรมการฝกึ รถถัง การรบปฏิบัติ การรบ (SAMPLE TRANING PROGRAM) เดอื น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ปืนใหญห่ ลัก QQ เป็นบคุ คล การทดสอบทักษะ(TCGST) X X * พลประจารถ ทกั ษะพลประจารถ ตาราง ก และ ข XX รถถงั อย่กู บั ที่ (ตาราง ๒) X X รถถังเคลื่อนท่ี (ตาราง ๓) XX กาหนดคุณวุฒิ (TCPC-ตาราง ๔, ค) XX X การทดสอบความแม่นยากับฉากเปา้ ทดสอบ X X การยิงปืนกลเบ้อื งตน้ (ตาราง ๕) XX การยงิ ปืนใหญ่รถถงั เบือ้ งต้น (ตาราง ๖) XX การกาหนดคณุ วุฒใิ นการยิงปืนใหญ่ (ตาราง ๘) XX ตอน/มว.รถถังการฝึกตอนรถถงั ทางยุทธวธิ ี (ตาราง ง, จ, ฉ) X หลกั สูตรการฝกึ ข้นั สูง (ตาราง ๙, ๑๑) X หลักสูตรการกาหนดคุณวฒุ ิขนั้ สงู (ตาราง ๑๐, ๑๒) X การฝึกมว.รถถงั ทางยทุ ธวิธี (ตาราง ช. ซ) X การกาหนดคณุ วุฒมิ ว.รถถัง (ตาราง ๑) X คาอธบิ าย: Q = กาหนดคณุ วฒุ ิ (Qualification) * ใชอ้ ปุ กรณ์เครอื่ งช่วยฝกึ ให้เหมาะสม สรุป (SUMMARY) การฝกึ รถถงั ปฏบิ ัติการรบจะต้องฝกึ สอนพลประจารถเปน็ บคุ คลใหป้ ฏิบัตหิ น้าของพวกเขาในตาแหน่ง ของพลประจารถ การปฏบิ ตั ิหน้าทใ่ี นตอน และมว.รถถงั ผบ.หน่วยจะตอ้ งประเมนิ ผลการฝกึ ในระดบั หนว่ ยของตน โดยจะต้องวางแผนและกาหนดตารางการ ฝกึ เพือ่ ดาเนนิ การฝึกหนว่ ยของตนตง้ั การฝกึ พลประจารถ ตอน และมว.รถถงั ผบ.หน่วยสามารถนาการทดสอบทักษะการใช้อาวุธรถถังของพลประจารถ (TCGST) มาใช้เป็น เครื่องมอื ในการประเมินผลกาลงั พลเปน็ รายบุคคลได้ การเตรยี มการฝึกรถถงั ปฏบิ ตั ิการรบจะต้องสอนเกี่ยวกับหลักพื้นฐานของวิชาหลักยิงอาวุธรถถังและ การปฏิบัตทิ างยุทธวิธี การฝึกเหลา่ น้ไี ดถ้ ูกกาหนดใหท้ าการฝกึ ได้ ณ ท่ีตงั้ หนว่ ยของตน ตารางฝึกรถถังปฏิบัติการรบประกอบด้วย ตารางฝึกวิชาหลักยิงอาวุธรถถังและตารางฝึกรถถังทาง ยุทธวิธี ความก้าวหนา้ ของการฝึกได้จดั ทาไว้อยา่ งเปน็ ระบบต้ังแตต่ ารางการฝกึ ขัน้ ตน้ ข้ันกลาง และข้ันสูง เพื่อ ทาการฝึกความชานาญของพลประจารถถัง เอ็ม๖๐เอ๓ ในวชิ าหลักยิงและยุทธวธิ จี นถึงระดบั มว.รถถัง การแกป้ ญั หาขอ้ จากัดเรอื่ งการขาดแคลนทรัพยากรในการฝกึ สามารถนาสนามฝึกย่อสว่ นมาใชท้ าการ ฝกึ ยงิ แหง้ ในหลกั สูตรการฝึกความชานาญของพลประจารถ (TCPC) เพื่อเพ่ิมความชานาญในการฝึกยิงข้ันต้น ท้งั แปดตารางกอ่ นทจี่ ะทาการยงิ ดว้ ยกระสุนจริงได้

๑๘๙ บทที่ ๑๐ การสรา้ งและการใชง้ านสนามฝึกยิงอาวธุ /พน้ื ท่กี ารฝกึ สาหรับการฝึกรถถงั ปฏิบัติการรบ (Establishing and Operating Range/Training Areas for Tank Combat Training) โปรแกรมการฝึกรถถังปฏิบัติการรบที่สมบูรณ์จะรวมถึงสนามฝึกยิงและการใช้พ้ืนท่ีการฝึก หรือสนามฝึกยิงแห้งเพื่อดาเนินการฝึกตามหลักสูตรทางยุทธวิธี โปรแกรมการฝึกท่ีจัดทาไว้ก่อนหน้า ต้องการให้ทาการฝึกทักษะพลประจารถและหน่วยได้รับผลประโยชน์จากแบบการฝึกตามสถานการณ์ (STX) โดยได้ออกแบบให้จัดทาโอกาสในการฝกึ ค้นหาเป้าในสถานการณ์ท่สี มจริงและใชร้ ะบบทาการยิงต่อ เปา้ หมายนนั้ ๆ การวางแผนการฝึกถือว่าเปน็ หัวใจสาคญั ของผลสาเร็จในการฝึกปฏิบัติการรบ การฝึกวิชา หลักยงิ จะตอ้ งวางแผนการฝึกให้ครอบคลุมข้อจากัดในเรื่องสนามฝึกยิงท่มี อี ยู่และราคาของกระสุนท่ีสูงข้ึน ถา้ ทาได้ในควรมกี ารรวมการฝกึ ทางยทุ ธวิธเี ขา้ กบั การฝกึ วิชาหลักยิง เพ่ือลดงบประมาณในการฝึกและนา งบประมาณนน้ั ไปจดั ต้งั ยานรบและหน่วยทหารทเี่ ปน็ ข้าศกึ สมมุติ (OPFOR) เพื่อให้สภาพแวดล้อมในการ ฝึกปฏิบตั กิ ารรบสมจรงิ ในบทนไ้ี ดจ้ ัดทาภาพร่างของกรรมวิธี หน้าที่ และความรับผิดชอบเพ่ือจัดทาและ ดาเนินการปฏบิ ัติการในสนามฝึกยงิ รถถงั ของวชิ าหลกั ยงิ และการฝกึ ทางยทุ ธวธิ ี การสรา้ งสนามฝกึ ยิงอาวธุ รถถงั ดว้ ยกระสนุ จริง (ESTABLISHING A LIVE-FIRE TANK RANGE) กอ่ นท่ีจะดาเนินการเลือกทต่ี ้งั สนามฝึก ให้ศึกษาแผนท่โี ดยละเอียดและลว.พ้ืนท่ีที่มีอยู่สาหรับทาการ ยิง สนามฝึกยิงจะต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอและเหมาะท่ีจะใชท้ าการฝึกยิงระบบอาวุธทุกชนิด กระสุนทุกชนิด และแบบการฝึกที่จะทาการยงิ ทุกรปู แบบ (อยูก่ บั ทหี่ รอื เคลื่อนท่ี) สภาวะเงื่อนไขที่สมจริงไม่ได้อยู่ท่ีการเลือก ลักษณะภมู ปิ ระเทศแต่อยู่ที่การก่อสรา้ ง ตัวอย่างเชน่ :  สรา้ งโตะ๊ ทรายจาลองพื้นท่กี ่อสร้างสนามฝกึ เพื่อช่วยในจาลองยุทธ “war gaming”  มพี น้ื ที่ดาเนนิ กลยุทธ และจานวนเสน้ ทางหลายเส้นทางและพืน้ ท่ีที่ใช้ในการจัดวางเปา้ หมายอย่าง เพียงพอ  แนวการรบของเป้าหมายจะตอ้ งสมจริงและอย่ใู นพน้ื ที่ทเี่ ป็นไปได้ ไมใ่ ชก่ ารสรา้ งหลมุ ท่ีกาบัง  ม่เี ส้นทางทมี่ กี ารกาบังและซอ่ นพรางสูงสดุ แตส่ ามารถทาการค้นหาเป้าหมายและทาการยงิ ได้ เม่ือวางแผนการสร้างสนามฝึกให้กับรถถังเอ็ม๖๐เอ๓ แล้วมีอีกหลายรายการท่ีจะต้องนาเข้ามา พจิ ารณาด้วย ตารางที่ ๓- ๕ และตารางที่ ๗-๑๒ ในบทท่ี ๑๑ ตารางฝกึ วชิ าหลกั ยงิ อาวธุ รถถงั ได้แบ่งออกเป็น สองสว่ นคือ การฝกึ อยกู่ ับทแี่ ละการฝึกเคลอ่ื นท่ี ในระหวา่ งที่ทาการฝึกสว่ นท่ีอย่กู ับท่ีรถถังจะต้องเคล่ือนที่จาก ทมี่ ่ันกาบงั ป้อมปืนไปยังท่มี ่นั กาบังตัวรถและถอยหลงั กลบั หลงั จากจบการยิงของแต่ละกิจเฉพาะ ในส่วนท่ีฝึก

๑๙๐ รถถงั อยกู่ บั ทจ่ี ะต้องทาการฝกึ ยิงกอ่ น หลงั จากจบส่วนท่ีอยูก่ บั ที่แล้วใหเ้ คลื่อนยา้ ยรถถงั เข้าไปสู่เส้นทางสาหรับ สว่ นการฝกึ เคล่ือนทข่ี องแต่ละแบบฝึก รถถังจะไม่หยุดในระหว่างหรือขณะท่ีทาการยิงตามกิจเฉพาะ ยกเว้น เพื่อการควบคุมการฝกึ หรอื เมอ่ื กิจเฉพาะบง่ การให้หยุดยิงชั่วขณะเท่าน้นั รถถงั เอม็ ๖๐เอ๓สามารถทาการยิงได้อย่างแม่นยาในขณะเคลื่อนท่ี การยิงในแต่ละกิจเฉพาะต้องใช้ เวลาในการยงิ เพียง ๑ นาที: ๒๕ วินาทสี าหรับการยงิ จรงิ (เรม่ิ นับต้งั แต่เปา้ หมายเคลื่อนออกมาจนกระท่งั เวลา สน้ิ สดุ ลง) และประมาณ ๓๕ วนิ าที สาหรับเจา้ หนา้ ทคี่ วบคุมทาการบันทึกผลการยิงบนเป้าหมาย เป้าหมายท่ี ไมถ่ ูกทาการยงิ จะถูกลดตัวลง และดาเนินการให้กับเป้าหมายอืน่ ๆ ต่อไป โดยจะเลื่อนกล้องเล็งไปยังพ้ืนท่ีการ ยงิ ใหม่ เมื่อใช้เวลา ๑ นาทีมาเป็นฐานของแต่ละกจิ เฉพาะ ความเรว็ และระยะทางทีต่ อ้ งการก็สามารถจัดทาได้ รถถังเอ็ม๖๐เอ๓ จะเดนิ ทางไดร้ ะยะทางและความเร็วในเวลา ๑ นาทดี ังน:ี้  ๕๓๐ ม. ทคี่ วามเรว็ ๓๒ กม./ชม. (๒๐ ไมล)์  ๔๐๐ ม. ทคี่ วามเรว็ ๒๔ กม./ชม. (๑๕ ไมล)์  ๒๗๐ ม. ที่ความเร็ว ๑๖ กม./ชม. (๑๐ ไมล์) ภาพตอ่ ไปน้ีจะแสดงใหเ้ ห็นถึงวธิ ีการจดั เตรยี มสนามฝกึ ยงิ ปืนใหญเ่ ตม็ มาตราสว่ นทีส่ ามารถรองรบั การ ฝึกยงิ ในตารางที่ ๗ หรอื ๘ ได้ ดว้ ยความเร็วสงู สุดของหลกั สตู รการฝกึ คือ ๓๒ กม./ชม. (๒๐ ไมล)์ กล่องทาการ การยิงของรถถงั เคลอื่ นที่ (รูปสเ่ี หลย่ี มผนื ผ้าทม่ี ีเสน้ ทแยงมุม) มีความยาวประมาณ ๒๕๐ ม. และแตล่ ะกล่องอยู่ หา่ งกนั ประมาณ ๒๘๐ ม. การยิงปนื ใหญแ่ ละปนื กลรว่ มแกนอาจทาการยิงเหนอื ดาดฟ้าดา้ นหลังรถถงั ได้ (Back deck)

๑๙๑ สนามฝึกยงิ อาวธุ รถถังเต็มมาตราสว่ น (FULL-SCALE MAIN GUN FIRING RANGE) เป้าหมายรถถงั เป้าหมาย เคลอ่ื นท่ี (๕, ๖ ) เรปถ้าถหังม(า๕ย,ย๘า)น เป้าหมาย เปเกา้ รหามะาย(๑,๗) หน่วยทหาร (๑เป)้าหมาย รถถัง (๒) กิจ รถถงั เ(ป๑้า)หมายรถถงั เฉพาะ (๘) เคลเื่อปนา้ ทห่ี ม(๓าย, ๔) เปา้ หมาย กจิ รถถงั (๓) รถถเังป(า้ ๒ห)มาย เฉพาะ (๗กจิ) รถถัง (๒) เฉพาะ (๖) หลักสตู รการฝกึ เสน้ ทาง กิจ คดเค้ียวเหมอื นงูเลอ้ื ย เฉพาะ (ก๕จิ) เฉพาะ (๔) ทีม่ ่ันกาบังตัวรถ กจิ เฉพาะ ๑, ๒, ๓ เปา้ หมาย เปา้ หมาย รถถัง (๘) รถถัง (๘) เป้าหมายรถถัง เป้าหมาย กิจ เคล่อื นท่ี (๕, ๖ ) หน่วเยปทา้ หหมาราย(๗) เฉพาะ (๘) รถถเปัง ้า(ห๒ม) าย รถถงั (๒) กิจ เปา้ หมาย เฉพาะท่ี (๗) รถถงั (๑) เป้าหมาย รถถัง (๒) กจิ เป้าหมายรถถงั เคล่ือเนปท้า่ีห(๓ม,าย๔) รถถัง (๓) เฉพาะ (๖ก)ิจ เฉพาะ (๕กจิ) เฉพาะ (๔) หลักสูตรการฝีกเส้นทางเป็นเส้นตรง ท่มี ่นั กาบังตวั รถ กจิ เฉพาะ ๑, ๒, ๓

๑๙๒ สนามฝกึ ยิงอาวุธรถถงั เต็มมาตราส่วน (FULL-SCALE MAIN GUN FIRING RANGE) เปา้ หมาย รถถเงัป้า(๖หม) ราถยถเงัปา้(๒หม) าย เป้าหมาย รถถัง (๒) เป้าหมายยาน รถถัง (๑, ๘) เป้าหมาย เกราะ (๗) เป้าหมาย รถถัง (๒) เป้าหมายรถถงั รถถงั (๓) เป้าหมาย เคลอื่ นท่ี (๓,๔,๕,๖) เปา้ หมายหนว่ ย รถถงั (๒) ทหาร (๓) กจิ เฉพาะ (๗ก)ิจ เปา้ หมายยาน เกราะ (๑) กจิ เฉพาะ (๖) เฉพาะ (๘) ไปยังพ้ืนที่ กจิ กจิ เฉพาะ ๑, เฉพาะ (๕) ๒, ๓ หลักสตู รการฝกี เสน้ ทางเป็นครึ่งวงกลม ธุรการ เปา้ หมายยาน เปา้ หมาย เปา้ หมาย เกราะ (๖,๘) รถถงั (๕,๖) เป้าหมาย เปา้ หมราถยรถถงั ถ(งั๖) เปา้ หมาย รถถัง (๒,๘) เคล่ือนท่ี (๓,๗) เปา้ หมาย รถถงั (๒,๔) เป้าหมายหน่วยทหาร รถถงั (๓) เปา้ หมาย (๔,๖) รถถงั (๒) กิจ กจิ เฉพาะ (๗) เฉพาะ (๖) กจิ กิจ เป้าหมายยาน เฉพาะ (๘) กจิ เฉพาะ (๕) เกราะ (๑) หลักสตู รการฝีกเส้นทางเปน็ สามเหลี่ยม เฉพาะ (๔) ท่ีมัน่ กาบังตวั รถ กจิ เฉพาะ ๑, ๒, ๓

๑๙๓ แผนผังแสดงเขตผิวพื้นท่ีนริ ภยั (SURFACE DANGER AREA DIAGRAM) จดั สรา้ งสนามฝึกยิงแล้ว หน่วยรถถังจะต้องสรุปรายงานแผนผังแสดงเขตผิวพื้นที่นิรภัยให้ผู้ควบคุม สนามฝึกยิงตรวจรับก่อนท่ีจะทาการยิง ข้อจากัดและข้อควรระวังสาหรับแผนผังแสดงเขตผิวพื้นที่นิรภั ย สามารถตรวจสอบได้จาก AR385-63 และ TB MED 524 แผนผังแสดงเขตผิวพื้นท่ีนิรภัยจะแสดงถึงขอบเขต และลักษณะท่ปี ลอดภยั ในรูปแบบของแผ่นบริวาร ซึง่ จะรวมถงึ เคร่อื งหมายเขตจากดั ความปลอดภัยสาหรับแต่ ละทต่ี ั้งยงิ ตารางภาพกราฟิกในการยิง โดยได้จัดทาตัวแสดงค่าของสนามฝึกยิง สูงยอดกระสุนวิถี และมุมสูง ชดเชยสาหรับกระสนุ แตล่ ะชนดิ ควรปรับปรงุ แผนผงั แสดงเขตผิวพ้นื ทน่ี ริ ภัยของสนามฝกึ ท่จี ดั สรา้ งขน้ึ เม่ือสนามฝึกเหล่าน้ีไม่ได้จัดทา สภาพเงอื่ นไขท่ีสมจริงหรือไม่ได้จัดทาการใชล้ ักษณะของภูมิประเทศที่ให้ประโยชน์สูงสุด ระยะยิงไกลสุดรวม (ระยะ X) จะรวมเขา้ กับระยะทางระดับท่สี ัมพันธ์กับมุมสงู ๑๐ องศา พ้ืนท่ีทีอนุญาตให้ดาเนินกลยุทธได้ และ พืน้ ท่ี B (ในกรณนี ใี้ ชร้ ะยะ ๖๑๕ ม.ตายตัว) ระยะรวมจะลดลงได้ในกรณีที่ยกเลิกส่วนท่ีเป็นมาตรฐานสาคัญ ออกไป ปนื ใหญจ่ ะไม่ได้รบั อนญุ าตใหท้ าการยิงดว้ ยมมุ สูงเกนิ กวา่ + ๕ องศา (+ ๘๙ มิล) ซ่ึงเป็นการจัดทาให้ เกิดปจั จัยความปลอดภยั ของมุม ๕ องศาไว้ภายในแผนผังแสดงเขตผิวพ้ืนท่ีนิรภัย ข้อจากัดในการยิงสาหรับ จัดสร้างสนามฝึกยิงสามารถขอรับได้จากนายทหารควบคุมสนามยิงปืนประจาพ้ืนที่ มาตรการรักษาความ ปลอดภยั เพ่ือทาให้แนใ่ จไดว้ า่ จะได้รบั การยอมรบั จะรวมถงึ  คาสงั่ ในการควบคุมกากบั ดแู ล  ใชร้ ะบบเครือ่ งกลไกและเคร่ืองมอื รกั ษาความปลอดภัยแบบอตั โนมัติอยา่ งถกู ต้อง  จัดวางเปา้ หมายท่ีมมุ ยงิ ไม่เกนิ ๘๕ มลิ (๕ องศา) คาเตือน: เครอื่ งหาระยะดว้ ยเลเซอร์ (LRF) จะนามาใช้ได้เฉพาะในพนื้ ท่สี นามฝกึ ทปี่ ลอดภัยสาหรบั เลเซอร์เทา่ นนั้ หา้ มทาการยงิ แสงเลเซอรใ์ สพน้ื ผิวที่มีการสะท้อนแสงสูงในทุกสนามฝกึ เม่ือใช้งานแสงเลเซอร์ (รวมถึงเคร่ืองหาระยะด้วยแสงเลเซอร์)ให้เพิ่มระยะความปลอดภัยสาหรับ สายตาท่ีกาหนด (NOHD) พื้นท่ีดูดกลืนลาแสงรวมเข้าไปในแผนผังแสดงเขตผิวพ้ืนท่ีนิรภัยด้วย ระยะความ ปลอดภัยสาหรับสายตาทก่ี าหนด (NOHD) จะแตกต่างกนั ออกไปตามชนดิ ของอปุ กรณ์เคร่ืองหาระยะด้วยแสง เลเซอร์ (อ้างถงึ AR 385-63 ตารางท่ี ๑๙-๑ สาหรับการใช้ระยะ NOHD ท่ถี ูกตอ้ ง) สาหรับเคร่ืองหาระยะด้วย เลเซอร์ (LRF) ระยะความปลอดภัยสาหรบั สายตาท่กี าหนดคอื ๑๐ กม. วัตถุทกุ ชนดิ ทล่ี าแสงเลเซอร์ตกกระทบ จะกอ่ ใหเ้ กิดพลงั งานสะทอ้ นกลบั แต่พลังงานนีจ้ ะกระจัดกระจายออกไปและไม่เป็นอนั ตรายในทุกๆ กรณี เพื่อ ปอ้ งกนั ดวงตาบาดเจ็บจากการสะท้อนกลับของลาแสงเลเซอร์ใหห้ ลีกเล่ยี งพืน้ ผิวท่ีมันเงา ให้ถอดกระจก บาน กระจกหนา้ ตา่ งหรือบานพลาสตกิ โลหะท่ชี บุ โครเมียม หรือวัตถุอื่นๆ ที่แบบราบคลา้ ยกระจกเงาทีต่ ้ังในแนวดิ่ง หรอื เกอื บเป็นแนวด่งิ จากพ้นื ท่ีของเปา้ หมาย ถา้ ถอดพนื้ ผิววัตถุดังกล่าวไม่ได้ให้ทาสีวัตถุดังกล่าวไม่ให้เป็นเงา มันอีก หรอื ใช้ผา้ กระดานแข็ง แผ่นไม้ หรอื โลหะท่ีไม่เป็นเงามนั ปดิ ทับถึงจะยอมให้ทาการใช้เลเซอรห์ าระยะได้

๑๙๔ เขตผิวพนื้ พ้ืนทน่ี ริ ภัยสาหรับปืนใหญ่ (SURFACE DANGER ZONE FOR MAIN GUN) ระยะความปลอดภัย สาหรบั สายตา ๑๐ กม. พื้นทวี่ างเปา้ อยกู่ ับที่และเปา้ เคลือ่ นที่ พนื้ ท่ี B ย่านอาการกระจาย ๕ องศา กระดอน ๑๐ องศา ไ ไม่ไดท้ าตามมาตราสว่ น พื้นท่ี A มุมนิรภยั ๒๕ องศา แนวห้ามยิง พน้ื ทด่ี าเนินกลยทุ ธและพน้ื ท่กี ารยิง แนวเริ่มทาการยงิ ข้อสังเกต: ระยะ ๑๐ กม.ทีต่ อ้ งการใชส้ าหรับเคร่อื งหาระยะด้วยเลเซอร์ได้รวมอยู่กบั ระยะ X แลว้ ไม่ตอ้ ง คดิ รวมเข้ากับระยะ X อกี ตวั อยา่ งเช่น ระยะทยี่ อมรับไดส้ าหรบั การยิงกระสนุ ฝึกยิงเจาะเกราะ เอม็ ๗๒๔ (TPDS-T) ไม่จาเปน็ ตอ้ งเพิม่ ระยะความปลอดภัยสาหรบั สายตาท่ีกาหนด (NODH) อีก เพราะระยะยิงไกลสุด (ระยะ X) สาหรับกระสุนฝึกยงิ เจาะเกราะ เอม็ ๗๒๔ คือ ๑๑,๓๔๓ ม. เกนิ ระยะทีก่ าหนด ๑๐ กม.อยแู่ ล้ว