Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลงานนำเสนอประเภทบรรยาย_ไอที

ผลงานนำเสนอประเภทบรรยาย_ไอที

Published by Naresuan University Archive, 2020-01-24 03:39:01

Description: ผลงานนำเสนอประเภทบรรยาย_ไอที
PULINET2020

Keywords: PULINET

Search

Read the Text Version

ผลงานนาเสนอประเภทบรรยาย กลมุ่ ไอที

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ PULINET ครัง้ ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวิทยาลัยทกั ษณิ การวเิ คราะห์ระเบยี นบรรณานุกรมในระบบหอ้ งสมดุ อตั โนมัติ Analysis of Bibliographic Records in the Integrated Library System กชพร ศรีพรรณ์ สานกั หอสมดุ มหาวยิ ยาัยั เชียงใหม [email protected] บยคัดยอ การวจิ ัยครัง้ นีม้ วี ัตถปุ ระสงค์เพือ่ ศึกษาปญั หาการทารายการระเบยี นบรรณานุกรมและนาผลการ วิเคราะห์ระเบียนบรรณานุกรมไปใช้ในการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบคุณภาพการทารายการทรัพยากร สารสนเทศ กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัย คอื ระเบียนบรรณานุกรมหนังสือ จานวน 381 ระเบียน ที่ทารายการต้ังแต่ ปี 2538 – 2560 โดยการสุ่มแบบมีระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบบันทึกการตรวจสอบระเบียน บรรณานุกรมตามมาตรฐานการทารายการรูปแบบ MARC21 ซ่ึงประยุกต์มาจาก CAT-ASSESS tool ของแชพแมน (Chapman and Massey, 2000) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือค่าความถี่และค่าร้อยละ ผลวิจัย พบว่า การทา รายการเขตข้อมูลความยาวคงที่ มีความถูกต้องร้อยละ 81.99 และอัตราความผิดพลาด ร้อยละ 18.01 ในส่วนของ การทารายการเขตข้อมูลความยาวไม่คงที่ มีความถูกต้องร้อยละ 90.42 และอัตราความผิดพลาด ร้อยละ 9.58 ซึ่ง รายการที่ผดิ พลาดเกดิ จากกระบวนการถ่ายโอนข้อมูลจากระบบห้องสมุดอัตโนมตั ิเดิมไปยังระบบห้องสมุดอตั โนมัติ ใหม่ที่มีการออกแบบโครงสร้างของระบบที่แตกต่างกัน ทาให้รายการข้อมูลทางบรรณานุกรมใน Cataloging Module คลาดเคลื่อน รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานบันทึกข้อมูลผิดพลาดและไม่ครบถ้วน จากผลการวิจัยสามารถนาไป ปรบั ปรุงกระบวนการควบคุมคุณภาพการทารายการทรัพยากรสารสนเทศเพอ่ื เพ่ิมประสทิ ธภิ าพการเข้าถงึ ทรพั ยากร สารสนเทศสง่ ผลใหผ้ ู้ใช้บริการสืบค้นทรพั ยากรสารสนเทศไดถ้ กู ตอ้ งและตรงตามความต้องการ คาสาคัญ: ระเบยี นบรรณานกุ รม, ระบบหอ้ งสมดุ อัตโนมัต,ิ MARC21 ABSTRACT The purpose of this research was to study problem of cataloging and use the results of bibliographic records analysis to improve cataloging quality control process. A sample was selected from 3 8 1 bibliographic records that were created from integrated library system during 1995 to 2017, obtained by systematic sampling. The research tool was bibliographic record checking form, adapted from Chapman’s CAT-Assess tool. (Chapman and Massey, 2000) The data analyzed by using frequency and percentage. The results were as follows: the percentage of the

การประชมุ วิชาการระดับชาติ PULINET ครงั้ ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวิทยาลยั ทกั ษณิ accuracy of fixed length field was 81. 99 and the inaccuracy was 18. 01. The percentage of the accuracy of variable length field was 90.42 and the inaccuracy was 9.58. The inaccuracy happened from migration process from the old library system to the new system with different structures that the result is bibliographic records was incorrect in the catalog module, including staff error recording and incomplete. The research result can use to improve the quality control process of cataloging to increase the efficiency of access to information resources. As a result, users can search information resources accurately and according to their needs. Keyword: Bibliographic records, The integrated library system, MARC21 บยนา สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ เป็นหน่วยงานทจี่ ัดเก็บรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศตา่ งๆ เพ่ือให้บริการแก่ผู้ใช้ โดยมีงานวิเคราะห์ทรพั ยากรสารนิเทศ ทาหน้าที่จัดหมวดหมู่ จัดระบบ และทารายการข้อมูล ทางบรรณานกุ รมทรัพยากรสารสนเทศให้แกห่ อ้ งสมดุ กลาง ห้องสมดุ คณะ/สถาบนั /ศูนย์ เพื่ออานวยความสะดวกให้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว และตรงตามความต้องการ สานักนักหอสมุดจึงนาระบบ ห้องสมุดอัตโนมัติมาใช้ในการทารายการระเบียนทรัพยากรสารสนเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 โดยได้รับมอบโปรแกรม ส าเร็จรูป Bibliofile System ในรูป CD-ROM จากโครงการ International Development Program of Australian Universities and Colleges (IDP) แตโ่ ปรแกรมดังกลา่ วมีข้อจากัดในการใช้งาน และไม่สามารถพฒั นา ระบบเพิ่มเติมได้ จึงนาโปรแกรมสาเร็จรูป Mini-Micro CDS/ISIS on PC ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และ วัฒนธรรมแห่งสหประชาติ (UNESCO) มาใช้ แต่ด้วยจานวนระเบียนบรรณานุกรมของหนังสือมีเพิ่มมากขึ้น และ โปรแกรมดงั กลา่ วไม่เออื้ ต่อการพฒั นาระบบฐานขอ้ มูล ในปลายปี พ.ศ.2533 จึงได้ซอ้ื โปรแกรมห้องสมดุ อตั โนมัติช่ือ SEA URICA System จากประเทศสิงคโปร์มาทดแทน ซึ่งเป็นระบบท่ีเป็นมาตรฐานสากลและได้รับการยอมรับจาก ห้องสมดุ หลายแห่งในประเทศไทย และใช้งานมาจนถึงปลายปี พ.ศ.2537 จึงไดเ้ ปลีย่ นมาใช้โปรแกรมระบบหอ้ งสมุด อัตโนมัติใหม่ที่สามารถรองรับรูปแบบของทรัพยากรสารสนเทศที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นและเป็นระบบที่ สมบูรณ์ที่สุดในขณะนั้น ได้แก่ ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ INNOPAC ซึ่งมีฟังก์ชันการทางานท่ีจาเป็นต่องานห้องสมุด ได้แก่ Administration System สาหรับบริหารจัดการระบบฐานข้อมูล Acquisition Module สาหรับบริหารการ จัดซื้อ จัดหาทรัพยากรสารสนเทศ Cataloging Module สาหรับการทารายการระเบียนทรัพยากรสารสนเทศ Circulation Module สาหรับการยืม-คืน ทรัพยากรสารสนเทศ และ OPAC สาหรับแสดงผลข้อมูลระเบียน บรรณานุกรมและการสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศ ซึ่งสานักหอสมุด ได้ใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ INNOPAC มาจนถงึ ปัจจุบนั และมีการปรบั เวอร์ชนั ใหเ้ หมาะกับการใช้งานปัจจบุ ันเปน็ Millennium (สานักหอสมุด, 2554) การทารายการ (Cataloging) เป็นหน้าที่หลักของงานวิเคราะห์ทรัพยากรสารนิเทศในการสร้าง ระเบียนบรรณานุกรม (Bibliographic records) และระเบียนฉบับ (Item records) ใน Cataloging Module เพ่ือให้ผู้ใช้สามารถสืบค้นรายชื่อทรัพยากรสารสนเทศ ได้อย่างรวดเร็ว และตรงตามความต้องการ โดยใช้เครื่องมือ ช่วยค้นทรัพยากรสารสนเทศที่เรียกว่าฐานข้อมูลรายชื่อทรัพยากรสารสนเทศสานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ PULINET ครง้ั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษณิ (Chiang Mai University Library Online Public Access Catalog: CMUL OPAC) ในการสืบค้นข้อมูลจาก รายการ ชอ่ื ผู้แตง่ ช่ือเรอื่ ง คาสาคัญ หรือหัวเรือ่ ง เปน็ ตน้ การแสดงผลข้อมูลระเบียนบรรณานุกรมทรัพยากรสารสนเทศที่มีคุณภาพจะต้องมีการทา รายการข้อมูลทางบรรณานุกรมที่ถูกต้อง ครบถ้วน และสมบูรณ์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศได้ อย่างรวดเร็ว และตรงตามความต้องการ หากมีการทารายการข้อมูลที่ผิดพลาด เช่น การสะกดคาไม่ถูกต้อง หรือ พิมพ์ข้อมูลผิด ทารายการไม่ครบถ้วนและไม่ถูกต้องตามที่ปรากฏในทรัพยากรสารสนเทศ ฯลฯ จะทาให้ผู้ใช้บริการ สืบค้นทรัพยากรได้ช้า ไม่ตรงกับความต้องการ และได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด งานวิเคราะห์ทรัพยากรสารนิเทศ จึงคานึงถึงความถูกต้องของระเบียนบรรณานุกรมเป็นสาคัญซึ่งจะทาให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้บริการในการ สืบค้นระเบียนบรรณานุกรมที่ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และยังส่งผลต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางบรรณานุกรม ระหวา่ งหอ้ งสมุดได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและเป็นมาตรฐานเดยี วกัน จากความสาคัญดังกล่าว ผู้วิจัยซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศจึงมี ความประสงค์จะวิเคราะห์ระเบยี นบรรณานุกรมในระบบห้องสมุดอัตโนมัติของสานักหอสมุด มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ เพื่อนาผลที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงระเบียนบรรณานุกรมในระบบห้องสมุดอัตโนมัติให้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ รวมทัง้ เพื่อปรบั ปรงุ กระบวนการทารายการใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขนึ้ วัตถปุ ระสงค์ 1.เพื่อศึกษาปญั หาการทารายการระเบยี นบรรณานุกรม 2. เพ่ือนาผลการวเิ คราะหร์ ะเบียนบรรณานกุ รมไปใชใ้ นการปรบั ปรุงกระบวนการตรวจสอบ คุณภาพการทารายการทรัพยากรสารสนเทศ ข้นั ตอนแัะวิธีการดาเนนิ งาน 1. กาหนดประชากรและกลุ่มตวั อยา่ งทใ่ี ช้ในการวิจยั กลุ่มประชากร คือ ระเบียนบรรณานุกรมหนังสือ (Bibliographic Records) ในฐานข้อมูล CMUL OPAC ที่มีการทารายการตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2538 – 30 กันยายน 2560 จานวน 495,257 ระเบียน และกลุ่มตวั อย่าง คือ ระเบยี นบรรณานกุ รม (Bibliographic records) กาหนดจานวนกล่มุ ตวั อยา่ งโดยตารางเลขสุ่ม ของยามาเน่ (Taro Yamane) ที่ขนาดความคลาดเคลื่อน ±0.01% จากประชากรทั้งส้ิน 495,257 ระเบียน ได้กลุ่ม ตัวอย่างจานวน 381 ระเบยี น โดยการจาแนกกลุม่ ตวั อย่างแต่ละปคี ดิ ตามสดั สว่ นของประชากรและจับฉลาก

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ PULINET ครงั้ ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ ภาพท่ี 1 การจาแนกกลุ่มตวั อยา่ งแตล่ ะปโี ดยคดิ ตามสดั สว่ นของประชากร 2. การสร้างเครอื่ งมอื ท่ใี ช้ในการวจิ ยั เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกการตรวจสอบระเบียนบรรณานุกรมตามมาตรฐาน การทารายการรูปแบบ MARC21 ซึ่งประยุกต์มาจาก CAT-ASSESS tool ของแชพแมน โดยศึกษาเอกสารและ งานวิจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการตรวจสอบคณุ ภาพของรายการ 3. การเกบ็ รวบรวมและวเิ คราะหข์ อ้ มลู 3.1 รวบรวมระเบยี นบรรณานกุ รมจากฐานข้อมลู CMUL OPAC โดยแยกตามปที ี่สร้าง ระเบยี น (Date create) ในฐานขอ้ มลู ตัง้ แต่ปี 1995 – 2017 3.2 ตรวจสอบการทารายการในแต่ละประเดน็ ทศ่ี กึ ษา 3.3 บันทึกข้อมูลที่ผิดพลาดลงในแบบบันทึกการตรวจสอบระเบียนบรรณานุกรม เมื่อพบ ข้อผิดพลาด 1 แห่ง ให้ 1 คะแนน/แห่ง จากนั้นแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละของความผิดพลาดในแต่ละเขต ข้อมูลมาตรฐานการทารายการรูปแบบ MARC21 ในการตรวจสอบระเบียนบรรณานุกรมมี ดังน้ี 1) เขตข้อมูลความ ยาวคงที่ แจกแจงความถ่ีความถูกต้องและความผิดพลาดของการทารายการต่าง ๆ ตามเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาและหา คา่ ร้อยละ 2) เขตข้อมูลความยาวไม่คงท่ี แจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละ ความถูกต้องและความผดิ พลาดของการ ทารายการในแต่ละเขตข้อมูล 000-7XX โดยแยกเป็นประเภทของความผิดพลาด ดังนี้ การทารายการ Indicator การทารายการ Subfield การพมิ พต์ วั สะกดผิด การเว้นระยะ การทารายการไม่ครบถ้วน และอื่น ๆ 4. สถติ ิที่ใช้ในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู คอื ค่าความถ่ีและร้อยละ 5. นาผลการวจิ ยั ไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ กระบวนการตรวจสอบคณุ ภาพการทารายการทรพั ยากร สารสนเทศ สรุปผั อภิปรายผั ข้อเสนอแนะ แัะการนาไปใช้ประโยชน์ จากการวจิ ยั สามารถสรุปผล อภิปรายผล ขอ้ เสนอแนะ และการนาไปใชป้ ระโยชน์ ดังนี้ 1. ผลการตรวจสอบการลงรายการตามเขตข้อมูลความยาวคงที่ (Fixed length field) และเขต ขอ้ มลู ความยาวไม่คงท่ี (Variable length field)

การประชุมวิชาการระดับชาติ PULINET ครัง้ ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวิทยาลัยทกั ษิณ 2. ผลรวมของเขตข้อมูลความยาวคงที่ (Fixed length field) และเขตข้อมูลความยาวไม่คงที่ (Variable length field)

ตารางที่ 1 แสดงจานวนรายการทีต่ รวจสอบจาแนกตามเขตข้อมลู ความยาวคงท่ี (Fixed length f เขตขอ้ มูล ถูกต้อง/ยอมรบั ได้ Indicator subfield พิม จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน เขตขอ้ มูลความยาวคงท่ี LANG ภาษา 355 93.2 - - - - - SKIP อกั ขระท่ไี ม่ 359 94.2 - -- - - ต้องการ LOCATION สถานทจี่ ดั เก็บ 358 94.0 - - - - - CAT DATE วันท่ีวิเคราะห์ 196 51.7 - -- - - เลขหมู่ BIB LVL ระดบั 359 94.2 - -- - - บรรณานุกรม MAT TYPE ประเภทของ 197 51.7 - -- - - ระเบียน BCODE3 ผสู้ ร้างระเบยี น 359 94.2 - - - - - COUNTRY สถานทีพ่ มิ พ์ 357 93.7 - - - - - TAG 008 สว่ นขอ้ มูล 176 46.2 - - - - - รวม 2,716 81.99 - - - - -

field) รายการไมถ่ กู ตอ้ ง อตั รา มพ์ผิด การเวน้ ระยะ การทารายการ ไม่ได้นามาลงรายการ รวม ความ ผดิ พลาด รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ ร้อยละ - - - 5 1.3 21 5.5 23 6.0 - - - 1 0.3 21 5.5 22 5.8 - - - 2 0.5 21 5.5 22 5.8 - - - 164 42.8 21 5.5 184 48.3 - - - 1 0.3 21 5.5 22 5.8 - - - 163 42.8 21 5.5 184 48.3 - - - 3 0.8 19 5.0 22 5.8 - - - 3 0.8 21 5.5 24 6.3 - - - 185 48.6 19 5.0 205 53.9 - - - 527 12.57 227 5.42 754 18.01

ตารางที่ 2 แสดงจานวนรายการทั้งหมดท่ีตรวจสอบจาแนกตามเขตข้อมลู ความยาวไม่คงที่ (Varia เขตขอ้ มลู ถูกต้อง/ยอมรับได้ Indicator subfiel เขตขอ้ มลู ความยาวไมค่ งท่ี จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร TAG 020 เลข ISBN TAG 082 เลขหมู่ DEWEY 324 85.0 - - - TAG 100 ผู้แตง่ บคุ คล 333 87.4 11 2.9 - TAG 110 ผแู้ ต่งนิตบิ ุคคล 312 81.9 1 0.3 2 TAG 111 การประชมุ 83 21.8 1 0.3 - TAG 130 ชือ่ เร่ืองแบบฉบบั 48 12.6 2 0.5 - TAG 245 ช่อื เร่ือง 59 15.5 - - - TAG 245 สว่ นความรบั ผิดชอบ 291 76.4 9 2.4 4 TAG 246 ชอ่ื เร่อื ท่แี ตกตา่ ง 319 83.7 3 0.8 - TAG 250 ครงั้ ท่พี มิ พ์ 155 40.7 3 0.8 - TAG 260 พิมพล์ กั ษณ์ 169 44.4 - - - TAG 300 ลกั ษณะทางกายภาพ 317 83.2 12 3.1 8 TAG 500 หมายเหตุ 317 83.2 - - 2 TAG 504 หมายเหตบุ รรณานกุ รม 99 26.0 - - 3 TAG 505 หมายเหตุทเ่ี ป็นสารบญั 211 55.4 - - - TAG 600 หัวเรื่องท่ีเป็นชอ่ื บุคคล 8 2.1 3 0.8 19 TAG 610 หวั เรอ่ื งทเ่ี ปน็ ชือ่ นติ บิ คุ คล 45 11.8 5 1.3 - TAG 630 หวั เรือ่ งแบบฉบับ 80 21.0 2 0.5 - TAG 650 หัวเรอื่ งท่วั ไป 14 3.7 1 0.3 - 315 82.7 4 1.0 3

able length field) รายการไมถ่ ูกตอ้ ง ld พิมพผ์ ิด การเว้นระยะ การทารายการ รวมอตั ราความ จานวน ร้อยละ ผิดพลาด รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ - 1 0.3 - - 12 3.1 13 3.4 - 1 0.3 - - 8 2.1 20 5.3 0.5 4 1.0 - - 2 0.5 9 2.3 - - - - - - - 1 0.3 - - - - - 1 0.3 3 0.8 --------- 1.0 15 3.9 7 1.8 35 9.2 70 18.3 - 9 2.4 1 0.3 21 5.5 34 9.0 - 11 2.9 8 2.1 26 6.8 48 12.6 - 3 0.8 - - 11 2.9 14 3.7 2.1 3 0.8 5 1.3 20 5.2 48 12.5 0.5 3 0.8 4 1.0 26 6.8 35 9.1 0.8 3 0.8 - - 4 1.0 10 2.6 - - - - - 3 0.8 3 0.8 5.0 6 1.6 - - 4 1.0 32 8.4 - - - - - - - 5 1.3 - - - - - - - 2 0.5 - - - - - - - 1 0.3 0.8 7 1.8 1 0.3 3 0.8 18 4.7

เขตข้อมลู ถูกต้อง/ยอมรับได้ Indicator subfiel TAG 651 หวั เร่อื งทางภูมิศาสตร์ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร TAG 700 รายการเพมิ่ ชอื่ บุคคล 102 26.8 4 1.0 2 TAG 710 รายการเพม่ิ ชื่อนติ ิบุคคล 118 31.0 2 0.5 2 TAG 740 รายการเพมิ่ ชอ่ื เรอ่ื ง 121 31.8 11 2.9 - รวม 3 0.8 1 0.3 - 3,843 90.42 75 0.86 45

รายการไม่ถูกตอ้ ง ld พมิ พ์ผิด การเว้นระยะ การทารายการ รวมอัตราความ ผิดพลาด ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ 0.5 - - - - 1 0.3 7 1.8 0.5 - - - - 9 2.4 13 3.4 - - - - - 9 2.4 20 5.3 - - - - - - - 1 0.3 0.52 66 0.75 26 0.30 195 2.23 407 9.58

ตารางท่ี 3 แสดงจานวนผลรวมของเขตข้อมลู ความยาวคงท่ี และเขตขอ้ มูลความยาวไมค่ งที่ เขตข้อมลู ถูกตอ้ ง/ยอมรบั ได้ Indicator subfield พมิ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน ผลรวมเขตขอ้ มลู ความยาว 2,716 81.99 - - - - - คงที่ ผลรวมเขตขอ้ มลู ความยาวไม่ 3,843 90.42 75 0.86 45 .51 66 คงท่ี ผลรวมทั้งสิน้ 6,559 86.23 75 0.89 45 0.53 67 จากตารางดังกลา่ วสามารถวิเคราะห์สถติ ิและสรปุ ผลได้ ดงั น้ี ตารางยี่ 1 การยารายการเขตขอ้ มัู ความยาวคงยี่ (Fixed length field) 1. การทารายการมีความถูกต้อง/ยอมรับได้มากท่ีสุด คือ เขตข้อมูลอักขระที่ไ รอ้ ยละ 94.20 รองลงมาคอื เขตขอ้ มูลสถานทจี่ ัดเก็บ (LOCATION) รอ้ ยละ 94.0 และ สถานทพ่ี ิม 2. การทารายการตาแหน่งผิดพลาด จากมากไปหาน้อย คือ เขตข้อมูลส่วนข้อ ซ่งึ เท่ากันกับเขตขอ้ มลู ประเภทของระเบยี น (MAT TYPE) รอ้ ยละ 48.30 ตารางยี่ 2 การยารายการเขตข้อมูัความยาวไมคงยี่ (Variable length f ผิดพลาด รอ้ ยละ 9.58 โดยพบว่า 1. การทารายการมีความถูกต้องยอมรับได้ มากที่สุด คือ TAG 082 เลขหมู่ ส่วนรับผดิ ชอบรอ้ ยละ 83.70 ตามลาดับ

รายการไมถ่ ูกตอ้ ง อัตรา มพ์ผดิ การเว้นระยะ การทารายการ ไมไ่ ดน้ าข้อมลู มาลง รวม ความ รายการ ผิดพลาด ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ร้อยละ - - - 527 12.57 227 5.42 755 18.01 0.75 26 0.30 195 2.23 - - 407 9.58 0.79 26 0.31 722 8.57 227 2.69 1,162 13.77 มคี วามถูกต้องรอ้ ยละ 81.99 และอัตราความผดิ พลาด รอ้ ยละ 18.01 โดยพบวา่ ไม่ต้องการ (SKIP) ระดับบรรณานุกรม (BIB LVL) ผู้สร้างระเบียน (BCODE3) ซึ่งเท่ากัน มพ์ (COUNTRY) ร้อยละ 93.7 ตามลาดบั อมลู (TAG 008) ร้อยละ 53.90 รองลงมา เขตข้อมูลวนั ท่ีวิเคราะห์เลขหมู่ (CAT DATE) field) มีความถกู ต้องยอมรับไดใ้ นภาพรวม ร้อยละ 90.42 และการทารายการตาแหน่ง DEWEY ร้อยละ 87.40 รองลงมา TAG 020 เลข ISBN ร้อยละ 85.00 และ TAG 245

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ PULINET ครั้งท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลัยทักษิณ 2. สว่ นการทารายการตาแหนง่ ผดิ พลาด จากมากไปหาน้อยสดุ คอื TAG 245 ระเบยี น รอ้ ยละ 18.30 รองลงมา TAG 246 ช่ือเรื่องท่ีแตกต่าง ร้อยละ 12.50 TAG 260 พิมพ์ลักษณ์ ร้อยละ 12.60 และ TAG 300 ลกั ษณะทางกายภาพ รอ้ ยละ 9.10 ตามลาดับ ตารางย่ี 3 ผัรวมของเขตข้อมูัความยาวคงย่ี (Fixed length field) แัะเขตข้อมัู ความ ยาวไมคงยี่ (Variable length field) ได้ผลรวมถูกต้องยอมรับได้ ร้อยละ 86.23 ซึ่งผลรวมรายการผิดพลาด รอ้ ยละ 13.77 จาแนกได้ ดงั น้ี การทารายการไม่ถูกต้อง ร้อยละ 8.57 รองลงมา ไมไ่ ด้นามาลงรายการรอ้ ยละ 2.69 รายการ Indicator ร้อยละ 0.89 รายการพิมพ์ผิด 0.79 รายการ Subfield ร้อยละ 0.53 และ รายการเว้นระยะ รอ้ ยละ 0.31 ตามลาดบั 1. สาหรับข้อมูลรวมของเขตข้อมูลความยาวคงที่ การทารายการแต่ละสว่ นในตาแหน่งผิดพลาด ของผลรวม รอ้ ยละ 18.01 ซ่ึงจาแนกลาดบั จากมากสุดไปหานอ้ ยสุด คอื การทารายการผดิ ร้อยละ 12.57 และไมไ่ ด้ นามาลงรายการ รอ้ ยละ 5.42 2. สาหรับข้อมูลรวมของเขตข้อมูลความยาวไม่คงที่ การทารายการแต่ละส่วนในตาแหน่ง ผิดพลาดของผลรวม ร้อยละ 9.58 ซึ่งจาแนกลาดับจากมากสุดไปหาน้อยสุด คือการทารายการผิด ร้อยละ 2.23 รองลงมา รายการ Indicator ร้อยละ 0.86 รายการพิมพ์ผิด ร้อยละ 0.75 Subfield ร้อยละ 0.51 การเว้นระยะ รอ้ ยละ 0.30 ตามลาดบั อภปิ รายผั 1. การทารายการเขตข้อมูลความยาวคงท่ี มีความถูกต้อง/ยอมรับได้ ร้อยละ 81.99 สอดคล้อง กบั เปรมฤดี หาญปราบ (2546) รายการที่ถกู ต้อง รอ้ ยละ 90 ปภาดา น้อยคายาง (2552) ร้อยละ 88.3 และ บุญยนื จันทร์สวา่ ง (2553) ท่ีพบวา่ มรี ายการถูกตอ้ ง ถงึ ร้อยละ 88.7 ข้อมลู ทีม่ ีการทารายการถูกตอ้ งมากสุด คือ เขตขอ้ มูล อักขระที่ไม่ต้องการ (SKIP) ระดับบรรณานุกรม (BIB LVL) ผู้สร้างระเบียน (BCODE3) เขตข้อมูลสถานที่จัดเก็บ (LOCATION) และ สถานที่พมิ พ์ (COUNTRY) ซ่งึ ถือว่าการทารายการในส่วนของขอ้ มูลดงั กล่าว พบว่า ผู้ลงรายการ คุ้นเคยและมีการกาหนด code ในลักษณะให้เลือกลงรายการ พร้อมคาอธิบาย ทาให้ง่ายต่อการทารายการและ เป็นไปตามกฎการทารายการ และตาแหน่งข้อผิดพลาดของเขตข้อมูลความยาวคงที่ ร้อยละ 18.01 ในส่วนท่ีมีอัตรา ผิดพลาดมากที่สุด ซึ่งถือว่าผู้ลงรายการมีความเข้าใจในระบบการทารายการรูปแบบ MARC21 โดยการทารายการที่ ถูกต้องมากกว่าการทารายการท่ีผิดพลาด โดยมีอัตราความถูกต้อง/ยอมรับได้มากกว่าอัตราความผิดพลาดอาจเป็น เพราะมกี ารฝกึ อบรมของห้องสมดุ อยา่ งสมา่ เสมอใหแ้ ก่บุคลากร และบุคลากรทางานเฉพาะด้านทาใหม้ ีความชานาญ การในการจดั ทารายการ 2. เขตข้อมูลความยาวไม่คงที่ พบว่า การทารายการที่มีความถูกต้องยอมรับได้ ร้อยละ 90.42 อตั ราความผิดพลาด 9.58 ซงึ่ ถอื ได้ว่าในการทารายการทางบรรณานกุ รมของสานักหอสมดุ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ได้ มีการนามาตรฐานการทารายการรูปแบบ MARC21 มาใช้เป็นเวลานานพอสมควร จึงทาให้ผู้ปฏิบัติงานมีความ ชานาญลงรายการได้ถูกต้องยอมรับได้ มากกว่า ซึ่งข้อมูลนี้ ผู้ปฏิบัติงานมีความคุ้นเคยกับการทารายการรูปแบบ MARC21 ไม่ว่าจะเป็นการทารายการผิด ร้อยละ 2.23 รายการ Indicator ร้อยละ 0.86 การพิมพ์ผิด ร้อยละ 0.79 รายการ Subfield ร้อยละ 0.53 และ การเว้นระยะ ร้อยละ 0.31 ผลลัพธ์ สอดคล้องกับงานวิจัย เปรมฤดี หาญปราบ (2546) ศึกษาเรื่อง ความถูกต้องของการทารายการหนังสือภาษาไทยตามรูปแบบ MARC21

การประชุมวชิ าการระดับชาติ PULINET ครงั้ ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวิทยาลยั ทักษิณ การทารายการในเขตข้อมูลความยาวไม่คงที่ มีความถูกต้องเกินกว่าร้อยละ 90.00 สรุปคือ การทารายการสะกดคา ผดิ ร้อยละ 1.21 และ 0.81 เปน็ ขอ้ มูลในการเปรยี บเทยี บถูกตอ้ งและยอมรับได้ 3. ผลจากการวิเคราะห์ระเบียนบรรณานุกรมตามมาตรฐานการทารายการรูปแบบ MARC21 พบวา่ การทารายการเขตข้อมูลความยาวคงท่ี และเขตเขตข้อมูลความยาวไม่คงท่ี ส่วนใหญ่มีความถูกต้องยอมรับได้ ซึ่งมากกว่า อัตราความผิดพลาด ในภาพรวม ซึ่งในข้อผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นการทารายการ Indicator Subfield การพมิ พ์ผดิ การเว้นระยะ การทารายการผิด เปน็ สิง่ ที่จะต้องนาข้อผดิ พลาดดังกลา่ วมาปรบั ปรงุ แกไ้ ข และใหค้ วามรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ใช้ปฏิบัติงานให้สามารถลงรายการได้ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงตามมาตรฐานสากลมากย่ิงขึ้น จงึ จะ ทาให้สามารถเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการสบื คน้ การเขา้ ถึงทรพั ยากรสารสนเทศไดอ้ ย่างถูกต้องและตรงตามความต้องการ มากท่สี ุด ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีการตรวจสอบความถูกตอ้ งของรายการระเบยี นข้อมลู บรรณานุกรม และระเบยี นฉบบั อยา่ งต่อเนอ่ื ง 2. ควรจดั ทาแนวปฏบิ ตั หิ รือค่มู อื การทางานทีช่ ัดเจน และปรับปรุงใหม้ คี วามทนั สมัยเสมอ 3. ควรปรบั ปรงุ กระบวนการตรวจสอบคณุ ภาพของการทารายการทรพั ยากรสารสนเทศในระบบ ห้องสมดุ อตั โนมตั ิ เพือ่ เพ่ิมประสทิ ธิภาพการสืบคน้ การเข้าถงึ ทรัพยากรสารสนเทศได้อยา่ งถูกตอ้ งและตรงตาม ความตอ้ งการมากทส่ี ุด การนาไปใช้ประโยชน์ ประโยชนต์ อ่ ผใู้ ชบ้ รกิ าร 1. ผใู้ ช้บริการสืบคน้ ทรพั ยากรสารสนเทศได้อยา่ งถกู ตอ้ งและตรงตามความตอ้ งการ 2. ผ้ใู ช้บริการสามารถนารายการทางบรรณานกุ รมไปใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง ประโยชน์ต่อสานักหอสมุด 1. สานกั หอสมดุ ได้ทบทวนแนวปฏิบัตแิ ละวิธีการในการทารายการระเบียนทรัพยากร สารสนเทศ 2. สานักหอสมดุ ได้ปรับปรงุ กระบวนการทางานใหมโ่ ดยให้มกี ารควบคุมคุณภาพกระบวนการ ทารายการทรัพยากรสารสนเทศ มี 9 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ตรวจสอบการทารายการระเบียนบรรณานุกรมในเขตข้อมูล คงที่ (Fixed length field in bibliographic record) 2) ตรวจสอบการทารายการระเบียนบรรณานุกรมในเขต ข้อมูลไม่คงที่ (Variable length field in bibliographic record) 3) ตรวจสอบการทารายการระเบียนฉบับในเขต ขอ้ มูลคงที่ (Fixed length field in item records) 4) ตรวจสอบการทารายการระเบียนบรรณานุกรมในเขตข้อมูล ไม่คงท่ี (Variable length field in item records) 5) บนั ทึกผลการตรวจสอบในแบบบันทกึ การตรวจสอบระเบียน 6) ตรวจสอบคาผิดโดยใช้โปรแกรม Microsoft word พร้อมแก้ไขคาผิด 7) Create list รายการหนังสือที่ต้องการ ตรวจสอบ และ export เป็น file .out 8) ตรวจสอบการทารายการด้วยโปรแกรม MARC Analyzer ที่พัฒนาโดย หน่วยวิจัยนวัตกรรมด้านสารสนเทศ สานักวิชาสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 9) ปรับปรุงระเบียนให้ ถูกต้องตามมาตรฐานการทารายการรปู แบบ MARC21

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ PULINET ครั้งที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวทิ ยาลัยทักษิณ ภาพที่ 2 กระบวนการควบคมุ คุณภาพการทารายงานทรัพยากรสารสนเทศ รายการอา้ งองิ บญุ ยืน จนั ทรส์ ว่าง. (2553). การศึกษาความผิดพลาดของการลงรายการสิ่งพิมพต์ ามหลกั เกณฑ์การลงรายการ แบบแองโกลอเมรกิ ัน ฉบับพมิ พค์ ร้ังท่ี 2 และรูปแบบมาร์กจากการฝึกงานของนสิ ิตวชิ าเอก บรรณารกั ษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ. วารสาร วจิ ัยสมาคมหอ้ งสมดุ แห่งประเทศไทยฯ, 3(2), 41-57. ปภาดา น้อยคายาง. (2552). การตรวจสอบคุณภาพของรายการหนังสอื ในฐานขอ้ มูลบรรณานุกรม สานักหอสมดุ กลาง มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ: สานกั หอสมดุ กลาง มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ. เปรมฤดี หาญปราบ. (2546). การศกึ ษาความถกู ตอ้ งของการลงรายการหนังสือภาษาไทยตามรูปแบบมาร์ก (วิทยานิพนธศ์ ิลปศาสตรมหาบัณฑติ ). กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่, สานกั หอสมุด. (2554). 47 ปี แหง่ ความม่งุ มนั่ พัฒนาบรกิ ารท่ีเปน็ เลิศ วนั สถาปนา สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่. เชียงใหม่: สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม.่ สวุ นั นา ทองสีสุกใส. (2543). MARC21 สาหรับระเบียนหนังสือ/เอกสาร. สานกั วิทยบรกิ าร มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . Anglo American Cataloging Rules. (1998). Chicago: American Library Association. Chapman, Ann and Massey, Owen. (2000). A Catalogue Quality Audit Tool. (Online). Available: https://www.emerald.com/insight/content/doi/10.1108/01435120210432282/full/html Retrieved: 8/02/2018

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ PULINET ครัง้ ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ การพัฒนาระบบตรวจวดั อุณหภูมิห้องเซริ ์ฟเวอร์ ดว้ ยเทคโนโลยีอินเทอรเ์ น็ตเพ่ือสรรพสิง่ The Development of Temperature Measurement System for the Server Room by using Internet of Things (IoT) กฤษฎา แกว้ ผดุ ผอ่ ง, โสมรศั ม์ิ พิบลู ย์มณ,ี ปยิ วฒั น์ ชวนวารี หอสมุดและคลงั ความรมู้ หาวิทยาลยั มหดิ ล [email protected] [email protected] [email protected] บทคัดยอ่ การพัฒนาระบบตรวจวดั อุณหภูมหิ ้องเซิรฟ์ เวอร์ของหอสมุดและคลังความร้มู หาวิทยาลยั มหิดล เป็นระบบที่ออกแบบสาหรับการตรวจวัดอุณหภูมิและความช้ืนภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ อีกท้ังเป็นการเฝ้าระวัง และ แจ้งเตือนข้อมูลการแสดงผลอุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ท่ีมีค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนดไว้ เน่ืองจากท่ีผ่านมาการ ตรวจสอบอุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ จะทาได้ต่อเม่ือมีผู้ปฏิบัติงานอยู่ในบริเวณห้องเซิร์ฟเวอร์เท่าน้ัน หาก ผู้ปฏิบัติงานอยู่นอกสถานที่ เมื่ออุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์มีค่าสูงกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ ทาให้ไม่ทราบข้อมูล ในทนั ที หรือเกิดความไมส่ ะดวกในการตรวจสอบ ส่งผลให้เกิดความลา่ ช้าในการแกไ้ ขปญั หา การทางานของระบบท่ี ได้พัฒนาขึ้นจะใช้เซนเซอร์ (Sensor) แบบ DHT11 ทาการตรวจวัดอุณหภมู ิและความช้นื ท่ไี ด้ ส่งผา่ นระบบเครอื ขา่ ย แบบไร้สายไปยังโปรแกรม Blynk บนโทรศัพท์มือถือ เพ่ือแสดงผลอุณหภมู ิและความชื้นที่วัดค่าได้แบบ Real time มีการจัดเก็บบันทึกค่าของอุณหภูมิที่วัดได้ในแต่ละช่วงเวลา โดยสามารถนาข้อมูลออกมาวิเคราะห์ได้ในภายหลัง และหากพบวา่ อณุ หภมู ิภายในห้องเซริ ์ฟเวอร์สูงกว่าเกณฑ์ทีก่ าหนดไว้ก็จะมีการแจ้งเตอื นในทันทไี ปยัง Line Notify ท่ีกาหนดไว้ ดังน้ันการนาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพ่ือสรรพส่ิง (Internet of Things) และเซนเซอร์ (Sensor) ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้น มาประยุกต์ใช้ในการตรวจวัดและบันทึกข้อมูล จึงช่วยอานวยความสะดวกให้แก่ ผู้ปฏิบัติงานในการตรวจสอบได้สะดวกย่ิงข้ึน สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ทาให้เกิดความปลอดภัย และลด ความเสยี่ งในการเกิดความเสียหายตอ่ อปุ กรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องเซริ ์ฟเวอร์ คาสาคญั : ห้องเซริ ์ฟเวอร์, การตรวจวดั อุณหภูมิและความชืน้ , อนิ เทอรเ์ น็ตเพือ่ สรรพสง่ิ , เซนเซอร์

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ PULINET คร้งั ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษิณ ABSTRACT The development of temperature measurement system for the server room of Mahidol University Library and Knowledge Center is designed for temperature and humidity measurement in the server room. Besides, it is monitoring and notifying temperature which is higher than standard level. From the past, temperature monitoring in the server room worked only when staff was there. When the staff was out of the room and temperature was higher than standard level, it made staff inconvenient to monitor and delay solving problems later. From developing system, the sensor with DHT11 model will measure temperature and humidity then sent them via wireless network system to Blynk mobile application software which will show data in real time and record them in each time period. The data recorded can be analyzed later. If the temperature in the server room is higher and standard level, notification will immediately be sent to Line Notify. As the consequence, internet of things and sensor for temperature and humidity measurement which were applied help staff more convenient to detect and solve problems in time. Moreover, safety and risk reduction of tools damage can be in server room. Keyword: Server room, Temperature and Humidity Measurement System, IOT, Sensor บทนา ปัจจุบันงานเทคโนโลยีสารสนเทศ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล มีอุปกรณ์สาคญั ต่าง ๆ ที่จัดเก็บและให้บริการภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย จานวน 12 เคร่ือง เคร่ือง สารองไฟฟ้า (UPS) จานวน 8 เครอ่ื ง และอปุ กรณด์ า้ นระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Networking) โดย อุปกรณ์ต่าง ๆ มีการทางานแบบ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน จึงจาเป็นที่จะต้องมีการดูแลควบคุมอุณหภูมิภายในห้อง เซิร์ฟเวอร์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เกิดความปลอดภัยต่อการทางานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังน้ันภายในห้อง เซิร์ฟเวอร์ ได้ติดต้ังเคร่ืองปรับอากาศจานวน 2 เครื่องท่ีสลับกันทางานแบบ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน แต่จากการที่ เครื่องปรับอากาศต้องทางานตลอดเวลา กับปัญหาระบบไฟฟ้าของอาคารท่ีเกิดเหตุขัดข้องในบางครั้ง ทาให้พบ ปัญหาในหลายครั้งท่ีเครื่องปรับอากาศทางานผิดพลาด อุณหภูมิภายในห้องสูงกว่าปกติ ซ่ึงเป็นภาวะเส่ียงต่อการ เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ทุกประเภทภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ ท่ีต้องการความเย็นและอุณหภูมิท่ีเหมาะสมอยู่ ตลอดเวลา เมื่อเกดิ ปญั หาด้านอณุ หภูมใิ นห้องเซริ ์ฟเวอร์ บอ่ ยครัง้ ทีผ่ ้ดู แู ลระบบและผู้ดูแลอาคารสถานท่จี ะไม่ทราบ ถึงความผิดปกติของอุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ เน่ืองจากที่ผ่านมาการตรวจสอบอุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ จะทาได้ต่อเมื่อมีผปู้ ฏบิ ัติงานอยู่ในบรเิ วณห้องเซิร์ฟเวอร์เท่าน้ัน ทาให้เกิดความไม่สะดวกในการตรวจสอบเมื่อต้อง อยนู่ อกสถานที่ และเกิดความล่าช้าในการแก้ไขปญั หา ปัจจุบันมีเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพ่ือสรรพสิ่ง (Internet of Things : IoT) (วิวัฒน์ มีสุวรรณ์, 2559) เป็นแนวความคิดของระบบโครงข่ายที่รองรับการเช่ือมต่อกับอุปกรณ์ต่างชนิด ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เซนเซอร์ และวัตถุต่าง ๆ เข้าด้วยกัน อันเป็นผลให้ระบบต่าง ๆ สามารถ

การประชุมวิชาการระดับชาติ PULINET ครง้ั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวทิ ยาลัยทักษณิ ติดต่อสื่อสาร และทางานร่วมกันได้อยา่ งอัตโนมตั ิ ท้ังยังเป็นผลให้สามารถเข้าถึงข้อมูลไดห้ ลากหลายย่ิงขึ้น ควบคุม อุปกรณ์ และระบบต่าง ๆ ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพมากข้ึน ดงั นน้ั ผู้วจิ ัยได้เลง็ เหน็ ถงึ ความสาคัญของการนาเทคโนโลยี อนิ เทอร์เน็ตเพ่อื สรรพสิ่ง (IoT) เขา้ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการบรหิ ารจัดการ โดยเริ่มดาเนนิ การศึกษา พัฒนา และทดลอง ใชง้ านระบบตรวจวดั อุณหภูมหิ ้องเซริ ฟ์ เวอรข์ องหอสมดุ และคลงั ความรู้มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล เพ่อื ให้เกดิ การเฝา้ ระวัง สามารถแก้ไขปัญหาในประเด็นดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที ไม่เกิดความล่าช้าเหมือนที่ผ่านมา และยังช่วยลดความ เส่ยี งตอ่ การเกิดความเสียหายของอุปกรณต์ ่าง ๆ ภายในหอ้ งเซิร์ฟเวอรไ์ ด้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อพัฒนาระบบการตรวจวัดอณุ หภูมแิ ละความช้ืนภายในห้องเซิรฟ์ เวอร์ด้วยการประยุกตใ์ ช้ เทคโนโลยอี ินเทอรเ์ นต็ เพ่ือสรรพสง่ิ (Internet of Things : IoT) 2. เพื่อสามารถตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ ผ่านโปรแกรม Blynk แบบ Real time 3. เพ่ือเฝ้าระวังและแจ้งเตือนข้อมูลการแสดงผลอุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าสูงกว่า เกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ ผา่ น Line Notify แบบ Real time ขั้นตอนและวิธกี ารดาเนนิ งาน ผู้วิจัยได้ดาเนินการพัฒนาระบบตรวจวัดอุณหภูมิห้องเซิร์ฟเวอร์ของหอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลยั มหิดล ด้วยการประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี IoT เพ่ือตรวจสอบอุณหภูมิและความชืน้ ภายในหอ้ งเซิรฟ์ เวอรท์ ่ี มคี ่าสูงกว่าเกณฑ์ท่กี าหนดไว้ ซ่งึ เปน็ ภาวะเสีย่ งตอ่ การเกดิ ความเสียหายตอ่ อุปกรณท์ กุ ประเภทภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ ทต่ี อ้ งการความเยน็ และอุณหภมู ิท่ีเหมาะสมอย่ตู ลอดเวลา โดยมีข้นั ตอนการดาเนินงาน ดงั น้ี 1. การออกแบบการเชอื่ มต่อการทางานของอุปกรณต์ รวจวดั อณุ หภูมิและความชื้นภายใน ห้องเซิร์ฟเวอร์ ประกอบดว้ ยอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ 1.1 บอรด์ ทดลอง breadboard 400 holes 1.2 บอรด์ ทดลอง NodeMCU V2 ESP8266 1.3 DHT11 Sensor 1.4 ตวั ต้านทาน (Resistor) ขนาด 4.7K 1.5 สายไฟ Jump Wire ก า ร เ ชื่ อ ม ต่ อ ข อ ง อุ ป ก ร ณ์ แ ต่ ล ะ ป ร ะ เ ภ ท ใ ห้ ส า ม า ร ถ ท า ง า น ร่ ว ม กั น จ ะ ใ ช้ บ อ ร์ ด ท ด ล อ ง breadboard แบบ 400 holes เป็นตัวหลักในการเช่ือมต่อการทางาน โดยเช่ือมต่อกันผ่านสายไฟ Jump Wire และใช้เซนเซอร์แบบ DHT11 ในการวัดค่าอุณหภูมิและความชื้น ใช้ NodeMCU เป็นตัวจัดเก็บค่าของโปรแกรมท่ี เขียนขึ้นมาเพื่อควบคุมการทางานของอุปกรณ์ต่าง ๆ และเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายไร้สายเพ่ือการรับส่งข้อมูล โดยการเชื่อมต่อสายไฟระหว่างอุปกรณ์ NodeMCU ไปยังอุปกรณ์เซนเซอร์ (Sensor) แบบ DHT11 จะใช้สายไฟ Jump Wire เพียง 3 เส้น สายไฟเสน้ สเี หลืองเปน็ การต่อเข้าด้วยกันระหวา่ งขา Ground (GND) สายไฟเสน้ สีเขียวที่ NodeMCU ตอ่ เข้าทีข่ า 3v3 เพื่อจ่ายไฟเล้ียงไปยังอุปกรณเ์ ซนเซอร์ (Sensor) แบบ DHT11 ท่ขี า VDD และสายไฟ เสน้ สีสม้ เป็นการเชื่อมตอ่ เพ่ือสง่ ข้อมลู ระหว่าง NodeMCU ซง่ึ เลอื กใชง้ านที่ขา D2 และ อปุ กรณเ์ ซนเซอร์ (Sensor)

การประชมุ วิชาการระดับชาติ PULINET คร้ังท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ แบบ DHT11 ที่ขา DATA โดยจะใช้ตัวต้านทาน (Resistor) ขนาด 4.7K เสียบค่นั ระหวา่ งสายไฟ Jump Wire และ อุปกรณ์เซนเซอร์ (Sensor) แบบ DHT11 เพ่ือให้ตัวต้านทานช่วยลดแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายไปยังอุปกรณ์เซนเซอร์ (Sensor) แบบ DHT11 เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงกว่าระดับท่ีอุปกรณ์ เซนเซอร์ (Sensor) แบบ DHT11 จะสามารถรบั ได้ ภาพท่ี 1 แผนภาพการเช่ือมต่อการทางานของอปุ กรณ์ NodeMCU เขา้ กบั เซนเซอร์ (Sensor) แบบ DHT11 2. การเขียนโปรแกรมภาษา C ควบคุมการทางานของอปุ กรณ์ IoT ด้วยโปรแกรม Arduino ในข้นั ตอนนจี้ ะเขยี นโปรแกรมเพ่อื ตัง้ ค่าการเชอ่ื มตอ่ ของอุปกรณ์ NodeMCU เข้ากับอปุ กรณ์ Pocket WiFi ซึง่ จะใช้ สาหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบเครือข่ายแบบไร้สาย เพื่อส่งค่าข้อมูลของอุณหภูมิและความช้ืนที่วัดได้ จากอุปกรณ์ sensor แบบ DHT11 แล้วไปแสดงผลยังโปรแกรม Blynk และตั้งค่าของระดับอุณหภูมิที่ต้องการแจง้ เตือนไว้ในโปรแกรมเพื่อแจ้งเตือนไปยังโปรแกรม Line Notify และทาการ upload code ของโปรแกรมลงบน อุปกรณ์ NodeMCU

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ PULINET ครง้ั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวทิ ยาลยั ทักษณิ ภาพท่ี 2 ตวั อย่างหน้าจอการเขยี นโปรแกรมภาษา C บนโปรแกรม Arduino 3. การตดิ ตงั้ อุปกรณ์ในหอ้ งเซิรฟ์ เวอร์ เป็นการนาชดุ อปุ กรณ์ต่าง ๆ ทเ่ี ชอื่ มต่อเขา้ ด้วยกัน ไป ติดตั้งทห่ี ้องเซิร์ฟเวอร์โดยจดั วางไวใ้ นตู้ Rack แบบเปดิ และทดสอบการทางานของชุดอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภมู ิและ ความช้ืน ร่วมกับอุปกรณ์ Pocket WiFi เพ่ือให้สามารถรับส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ NodeMCU ไปยังโปรแกรม Blynk และ โปรแกรม Line Notify ได้ ในคร้งั แรกทีม่ ีการเช่ือมต่อระหว่างชุดอุปกรณ์ตรวจวดั อณุ หภมู ิและความชนื้ เข้ากับ อุปกรณ์ Pocket WiFi จะมขี ้อความแสดงสถานะการเชื่อมต่อแจง้ มายัง Line Notify ตามทตี่ งั้ คา่ ไวใ้ นโปรแกรม ดงั ภาพท่ี 3 จะแจง้ ขอ้ ความวา่ เริ่มการตรวจสอบสถานะอณุ หภูมใิ นหอ้ งเซิร์ฟเวอร์ ภาพที่ 3 แสดงการเชื่อมต่อการทางานของชดุ อุปกรณ์ตรวจวดั อุณหภมู แิ ละความชืน้ กบั อปุ กรณ์ Pocket WiFi 4. ทดสอบการทางานของระบบในการตรวจวัดอุณหภูมิและความชนื้ พรอ้ มทง้ั การแจ้งเตือน เม่ือเช่ือมต่อการทางานของชุดอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ได้ทาการทดสอบการส่งข้อมูลรายงานผลอุณหภูมิและ ความช้ืนไปยงั หนา้ จอโปรแกรม Blynk ท่ีติดตั้งบนโทรศัพท์มอื ถือ (สามารถแสดงผลพรอ้ มกันไดห้ ลายเคร่ืองโดยผ้ทู ่ี เกี่ยวข้องตรวจสอบได้ด้วยตนเองผ่านโปรแกรมดังกล่าว) จากน้ันตรวจสอบการแสดงผลอุณหภูมิภายในห้อง

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ PULINET ครง้ั ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวิทยาลยั ทกั ษณิ เซิร์ฟเวอร์ที่มคี ่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด โดยระบบมีการแจ้งเตอื นผา่ นโปรแกรม Line Notify แบบ Real time และ ผู้ปฏิบัติงานสามารถ export ค่าข้อมูลของอุณหภูมิและความช้ืนท่ีบันทึกแบบย้อนหลังได้ในรูปแบบไฟล์นามสกุล .CSV ผา่ นทางโปรแกรม Blynk โดยจะส่งขอ้ มูลไฟล์ .CSV ไปยงั อีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ผลการดาเนินงาน ระบบการตรวจวัดอุณหภูมิห้องเซิร์ฟเวอร์ของหอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดลด้วย การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพ่ือสรรพส่ิง (IoT) ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิภายในห้อง เซริ ฟ์ เวอร์ในเวลาปกติ และในช่วงเวลาทอ่ี าจมคี า่ สูงกว่าเกณฑท์ ่ีกาหนดไว้ มีลกั ษณะการทางานดังน้ี 1. การทางานของระบบตรวจวดั อุณหภมู ิหอ้ งเซิร์ฟเวอรข์ องหอสมุดและคลงั ความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มต้นจากอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิและความช้ืนแบบ DHT11 Sensor วัดค่าอุณหภูมิที่ได้ และมีการส่งค่าไปยังโปรแกรม Blynk ท่ีต้ังค่าการเช่ือมต่อไว้แล้ว ซึ่งผู้ปฏิบัติงานและผู้เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบ ค่าของอุณหภูมิที่วัดได้ผ่านทางโปรแกรม Blynk บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้แบบ Real time และโปรแกรมจะ ตรวจสอบคา่ ของอณุ หภมู ติ ามที่ไดต้ ง้ั ค่าไว้ โดยหอ้ งเซริ ์ฟเวอร์ของหอสมุดและคลงั ความรฯู้ ขอกาหนดค่าอณุ หภูมิท่ี นามาใช้ตรวจวัดให้เหมาะสมกับประเภทและประสิทธิภาพการทางานของเครื่องปรับอากาศคือ 23 องศาเซลเซียส ซ่ึงสอดคล้องเป็นไปตามข้อกาหนดเกณฑ์มาตรฐาน ASHRAE TC 9.9 มีค่าของอุณหภูมิที่ยอมรับได้อยู่ระหว่าง 18-27 องศาเซลเซียส ซ่ึงหากอุณหภูมิในห้องเซิร์ฟเวอร์สูงกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ จะมีการแจ้งเตือนไปยังโปรแกรม Line Notify ไปยังกลมุ่ ผใู้ ช้ท่ีกาหนดไว้ ด้วยการสง่ แจง้ เตือนไปตลอดจนกว่าอุณหภมู ิจะต่ากวา่ เกณฑ์ทก่ี าหนด และ จะหยดุ การแจง้ เตือนโดยอตั โนมตั ิ คา่ ของอณุ หภมู ิและความช้นื ที่วัดไดจ้ ะมกี ารจัดเกบ็ อยใู่ นโปรแกรม Blynk ทาให้ สามารถดคู า่ ของอุณหภมู ิและความชืน้ ที่จดั เก็บแบบยอ้ นหลงั ได้ ภาพที่ 4 ข้นั ตอนการทางานของระบบตรวจวดั อณุ หภูมิหอ้ งเซริ ์ฟเวอร์

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ PULINET คร้งั ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวิทยาลยั ทกั ษิณ 2. ผลการทดสอบการตรวจวดั อุณหภมู ิและความชื้น พบว่าจากการทดสอบช่วงเวลา 1 เดือน (ระหว่างวันท่ี 1-31 สิงหาคม 2562) ระบบท่ีได้พัฒนาข้ึนสามารถตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นภายในห้อง เซิรฟ์ เวอร์ โดยแสดงผลผา่ นหนา้ จอโทรศัพทม์ ือถอื ดว้ ยโปรแกรม Blynk ไดแ้ บบ Real time ภาพท่ี 5 ตัวอยา่ งหน้าจอเแสดงผลคา่ อุณหภมู แิ ละความชน้ื ภายในหอ้ งเซริ ์ฟเวอรผ์ า่ นโปรแกรม Blynk บนโทรศพั ทม์ ือถอื แบบ Real time 3. การรายงานผลการแจง้ เตือนไปยงั โปรแกรม Line Notify ระบบที่ได้พฒั นาขึ้นสามารถแจง้ เตือนทุกครั้งเมื่อตรวจวัดอุณหภูมิได้ค่าสูงกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ ซึ่งในการทดสอบระบบได้ตั้งค่าอุณหภูมิไว้ท่ี 23 องศาเซลเซียส อา้ งอิงตามเกณฑม์ าตรฐานท่ีกลา่ วไว้ข้างตน้ หากอุณหภมู ิในหอ้ งเซิร์ฟเวอร์สงู เกนิ 23 องศาเซลเซยี ส จะมีการแจ้งเตือนไปยังโปรแกรม Line Notify ไปยังกลุ่มผู้ใช้ที่กาหนดไว้ และจะส่งการแจ้งเตือนอย่างต่อเน่ือง จนกว่าอุณหภูมิจะต่าวา่ 23 องศาเซลเซยี ส ถึงจะหยดุ การแจง้ เตอื น ทาใหส้ ามารถตดิ ตามสถานการณ์ความผิดปกติ ของอุณหภูมิภายในห้องเซริ ์ฟเวอร์ที่เกดิ ขึน้ ไดแ้ บบ Real time หลังจากผู้เกี่ยวข้องรับทราบการแจ้งเตอื น จะรีบเขา้ มาดาเนินการตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป ท้ังน้ีได้มีการเปรียบเทียบค่าของอุณหภูมิท่ีแสดงผลผ่านหน้าจอ โปรแกรม Blynk เทียบกับเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ พบว่ามีค่าของอุณหภูมิที่ สอดคลอ้ งกนั แสดงใหเ้ หน็ วา่ อปุ กรณด์ ังกลา่ วทางานได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

การประชุมวชิ าการระดับชาติ PULINET คร้งั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ทักษิณ ภาพท่ี 6 ตวั อย่างหน้าจอแสดงผลอุณหภมู ภิ ายในหอ้ งเซริ ์ฟเวอรท์ ี่มคี ่าสงู กวา่ เกณฑท์ ีก่ าหนดไว้ และแจ้งเตือนผ่านโปรแกรม Line Notify แบบ Real time 4. การจดั เก็บข้อมลู และรายงานผลค่าอุณหภมู ิและความชนื้ ท่ีวัดได้ ระบบท่ไี ดพ้ ฒั นาข้ึนมกี าร จัดเก็บข้อมูลค่าอุณหภูมิและความช้ืนท่ีวัดได้อยู่ในโปรแกรม Blynk ซ่ึงสามารถ export ข้อมูลออกมาได้ในรูปแบบ ไฟล์นามสกุล .CSV ทาให้สามารถดูค่าของอุณหภูมิและความช้ืนทจ่ี ัดเก็บแบบย้อนหลังได้ ดังภาพท่ี 7 และแสดงผล คา่ สถติ ขิ องอุณหภูมิและความชน้ื ภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ โดยผ้ปู ฏิบตั งิ านสามารถนาข้อมูลมาวเิ คราะหแ์ ละตรวจสอบ แบบย้อนหลังได้ เพ่ือแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิมีค่าสูงกว่าปกติเท่าใด ทราบได้ว่าเกิดข้ึนในช่วงเวลาใด ดังภาพที่ 8 และค่าความชื้นสูงกว่าค่าที่เหมาะสมมากน้อยเพียงใด (ในมาตรฐานของ ASHRAE Technical Committee 9.9 (2016) ค่าความชน้ื ท่ีรบั ไดอ้ ยทู่ รี่ ะหวา่ ง 20-80%) ดงั ภาพที่ 9

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ PULINET คร้งั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวิทยาลัยทกั ษิณ ภาพที่ 7 หน้าจอเแสดงการ export คา่ ของอุณหภมู ิทบ่ี นั ทกึ ไว้ ผ่านโปรแกรม Blynk ภาพท่ี 8 กราฟแสดงตวั อย่างข้อมลู อณุ หภูมิโดยเฉล่ียภายในห้องเซริ ฟ์ เวอร์ท่ีวัดได้แบบ Real time ตามช่วงเวลา และค่าของอุณหภมู ิทส่ี งู กวา่ เกณฑ์ทก่ี าหนดไว้

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ PULINET คร้ังที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวทิ ยาลัยทกั ษณิ ภาพที่ 9 กราฟแสดงตัวอยา่ งข้อมลู ความชื้นโดยเฉลยี่ ภายในห้องเซริ ฟ์ เวอร์ที่วัดไดแ้ บบ Real time ตามชว่ งเวลา สรุปผล อภปิ รายผล ข้อเสนอแนะ และการนาไปใชป้ ระโยชน์ สรุปผลและการอภปิ รายผล การพฒั นาระบบตรวจวัดอณุ หภมู หิ ้องเซิรฟ์ เวอรข์ องหอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นระบบท่นี าเทคโนโลยีอินเทอร์เนต็ เพื่อสรรพสง่ิ (IoT) ได้แก่ อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภมู ิและความชื้นแบบ DHT11 Sensor และอุปกรณ์ NodeMCU V2 ESP8266 มาเช่ือมต่อผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบบเครือข่ายไร้สาย (Pocket WiFi) เพื่อการรับส่งข้อมูลไปยังโปรแกรม Blynk ซึ่งนาเข้ามาประยุกต์ใช้ในการแสดงผลข้อมูลของอุณหภูมิและ ความชื้นที่วัดได้ภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถดูผลการวัดค่าของอุณหภูมิและ ความชืน้ ได้แบบ Real time และในกรณีทอี่ ุปกรณ์เซนเซอร์ (Sensor) วดั คา่ ของอุณหภูมิ แลว้ พบว่าอณุ หภูมสิ ูงกว่า เกณฑท์ กี่ าหนดไวก้ ็จะมีการส่งข้อความแจ้งเตือนค่าของอณุ หภมู ิที่วัดได้ไปยัง Line Notify ทีก่ าหนดไวใ้ นทันที และ จะมีการส่งแจง้ เตอื นอัตโนมัติมาโดยตลอดหากพบว่าค่าของอุณหภูมทิ ี่วัดได้ยงั คงสงู กวา่ เกณฑ์ที่กาหนดไว้ ซ่ึงในที่น้ี ไดก้ าหนดไว้วา่ อุณหภมู ภิ ายในห้องเซิรฟ์ เวอร์ไม่ควรสงู กว่า 23 องศาเซลเซียส และจะหยดุ การแจง้ เตือนในทันทเี มอ่ื เซนเซอร์ (Sensor) วัดอุณหภูมิได้ต่ากว่า 23 องศาเซลเซียส ตามเกณฑ์ที่ได้กาหนดไว้ในการเขียนโปรแกรมการ ทางาน โดยก่อนจะพัฒนาระบบนี้ การตรวจสอบอุณหภูมิภายในห้องเซริ ์ฟเวอร์จะทาได้ตอ่ เม่ือมีผ้ปู ฏบิ ัติงานอย่ใู น บริเวณห้องเซิร์ฟเวอรเ์ ทา่ นั้น ทาให้เกดิ ความไมส่ ะดวกในการตรวจสอบเม่อื ต้องอยนู่ อกสถานท่ี และเกดิ ความล่าชา้ ในการแก้ไขปัญหา ซ่ึงเป็นภาวะเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ทุกประเภทภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ ท่ี ต้องการความเย็นและอณุ หภูมทิ เ่ี หมาะสมอย่ตู ลอดเวลา ข้อเสนอแนะ 1. เน่ืองจากข้อจากัดเร่ืองเวลาทาให้การออกแบบรูปลักษณ์ของอุปกรณ์และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ใน การศึกษาพัฒนาระบบยังขาดความสวยงาม คงทนถาวร จึงควรมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ของอุปกรณ์ให้มีความ เหมาะสม คงทน แขง็ แรง และนา่ ใช้งานยง่ิ ขนึ้ ตอ่ ไป 2. จากการทางานของอุปกรณ์สาคัญต่าง ๆ ภายในห้องเซิร์ฟเวอร์น้ันค่อนข้างจะร้อนมาก เมื่อ ความร้อนดงั กล่าวมาเจอกบั ความเยน็ จากเครอื่ งปรับอากาศท่ีช่วยระบายความรอ้ น จะทาใหเ้ กิดไอนา้ หรอื ความชื้น ข้ึนในอากาศ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ ดังน้ันห้องเซิร์ฟเวอร์จึงควรมี

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ PULINET ครงั้ ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวิทยาลยั ทักษณิ เคร่อื งควบคมุ ความชนื้ เป็นอุปกรณ์ชว่ ยเสรมิ เพื่อให้สอดคลอ้ งตามมาตรฐานของ ASHRAE (2016) โดยค่าความชนื้ ท่รี ับไดอ้ ยูท่ ่ีระหว่าง 20-80% การนาไปใช้ประโยชน์ 1. การพัฒนาระบบตรวจวัดอุณหภูมิห้องเซิร์ฟเวอร์ของหอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหดิ ล โดยนาเทคโนโลยีอินเทอรเ์ นต็ เพือ่ สรรพส่งิ ร่วมกับการใชง้ านโปรแกรม Blynk เข้ามาประยกุ ต์ใช้ ในการปฏิบัติงาน ทาให้สามารถตรวจสอบสถานะของอุณหภูมิและความช้ืนได้ตลอดเวลา โดยผู้ปฏิบัติงานไม่ จาเป็นตอ้ งอยู่ท่ีหอ้ งเซริ ์ฟเวอร์ทุกครงั้ 2. การส่งข้อมูลรายงานผลอุณหภูมิและความช้ืนไปยังหน้าจอโปรแกรม Blynk ท่ีติดตั้งบน โทรศัพท์มือถือ สามารถอานวยความสะดวกให้ผู้ปฏิบัติงานทราบปัญหาได้ทันทีท่ีเกิดความผิดปกติของอุณหภูมิ ภายในห้องเซิรฟ์ เวอร์ ทาให้เกิดการตัดสนิ ใจได้อยา่ งทันท่วงที และนาไปสกู่ ารแกไ้ ขปัญหาในลาดับถัดไป เพ่ือเปน็ การดูแล ควบคุม ให้อุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์ อยู่ในระดับท่ีเหมาะสม เกิดความปลอดภัยต่อการทางานของ อปุ กรณต์ า่ ง ๆ ในห้องเซริ ์ฟเวอร์อยู่เสมอ 3. อุปกรณต์ รวจวัดอุณหภมู ิชดุ น้ี เปน็ การพฒั นาระบบด้วยต้นทุนไมส่ งู มาก ท้ังยงั สามารถนาไป ประยุกตใ์ ช้ หรือพัฒนาต่อเพ่อื ใชส้ าหรบั ตรวจวัดอุณหภมู ิหรอื แจ้งเตอื นในจดุ อื่น ๆ ภายในอาคาร เพอ่ื เกบ็ ข้อมูลทไี่ ด้ นาไปวิเคราะห์ใหต้ รงตามความต้องการใช้งานต่อไป รายการอา้ งอิง กอบเกียรติ สระอุบล. (2561). พัฒนา IoT บนแพลตฟอร์ม Arduino และ Raspberry Pi. กรุงเทพฯ: อินเตอร์ มเี ดีย. ดอนสัน ปงผาบ. (2561). ภาษาซีและ Arduino (พิมพ์คร้ังที่ 3). กรุงเทพฯ: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญ่ปี ุ่น). ทวีป ตรีหะจินดารัตน์, ทศพร ปั้นจาด, และปวรัชฎ์ คชรินทร์. (2559). อินเทอร์เน็ตกับทุกสิ่งของสวนอัจฉริยะไร้ สายแบบแอนดรอยดต์ ้นทนุ ต่า. กรุงเทพฯ: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. ทิพานัน พงษ์สุวรรณ, และภานุวัตร อุทัยบาล. (2562). Library Occupancy and Space Analytic. PULINET Journal, 6(2), 51-60. ประโยชน์ คาสวัสดิ์ และคณะ. (2561). ระบบรายงานสภาวะแวดลอ้ มในแปลงเกษตรกรรมด้วยเครอื ขา่ ยเซน็ เซอร์ ไร้สายแบบแอนดรอยด์ต้นทุนต่า. นครราชสีมา: สานักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุร นารี. วิวัฒน์ มีสุวรรณ์. (2559). อินเทอร์เน็ตเพื่อสรรพสิ่ง (Internet of Things) กับการศึกษา. วารสารนวัตกรรม สือ่ สารสงั คม, 6(2), 83-92. ASHRAE Technical Committee 9.9. (2016). ASHRAE TC9.9 Data Center Power Equipment Thermal Guidelines and Best Practices. จ า ก https: / / tc0909. ashraetcs. org/ documents/ /ASHRAE_ TC0909_Power_White_Paper_22_June_2016_REVISED.pdf

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ PULINET คร้ังท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวทิ ยาลัยทกั ษณิ การพฒั นาระบบ LINE BOT NU Library เพือ่ การใหบ้ ริการรว่ มกับ ระบบห้องสมุดอตั โนมัติ KMUTT-LM Development of a LINE BOT NU Library to provide services with KMUTT-LM Library Automated System ชยั พร คาเจริญคุณ สานักหอสมดุ มหาวิทยาลัยนเรศวร [email protected] บทคดั ยอ่ งานวิจยั น้มี วี ัตถุประสงค์เพื่อพฒั นาระบบ LINE BOT NU Library เพ่อื สนับสนุนการให้บริการ ของสานักหอสมุด มหาวิทยาลัยนเรศวร ด้วยการประยุกต์ใช้บริการ LINE Messaging API พัฒ นาร่วมกับระบบ ห้องสมุดอัตโนมัติ KMUTT-LM และระบบสารสนเทศของสานกั หอสมุด ประกอบไปดว้ ยระบบย่อย ๆ ดังนี้ ระบบ ลงทะเบยี นเชอ่ื มโยง LINE ID กบั ระบบหอ้ งสมุดอตั โนมัติ ระบบส่งขอ้ ความแจ้งเตือนจากระบบหอ้ งสมุดอตั โน มัติ ระบบยมื หนังสอื ต่อดว้ ยตนเอง ระบบบรกิ ารตรวจสอบรายการยืมหนังสอื ด้วยตนเอง ระบบลงทะเบยี นฝึกอบรมการ เรยี นรู้สารสนเทศ ระบบจดั เกบ็ สถิติการสง่ ขอ้ ความ ทงั้ นี้เมอื่ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการพบว่า LINE BOT NU Library เป็นชอ่ งทางการติดต่อสือ่ สารท่สี ะดวกและมีประสิทธิภาพ ชว่ ยลดจานวนผูร้ ับบรกิ ารท่สี ง่ หนงั สือคืนช้ากว่า กาหนดลงอยา่ งชดั เจน การประเมินผลประสิทธิภาพและความพึงพอใจต่อระบบจากผ้รู ับบริการในอยใู่ นระดับ มาก ทส่ี ุด คาสาคัญ: ไลน์บอท, ระบบห้องสมดุ อตั โนมัติ, สานกั หอสมุด ABSTRACT The research aimed to analysis and design the LINE BOT NU Library is developed to support the service of Naresuan University Library which was developed by using the LINE Messaging API service together with the KMUTT -LM automated library system and library information system. This proposed system which consists of Registration system linking LINE ID with the automated library system, system sends notification mess ages from the automated library system, Online Renewal system, Information learning training registration system and Messaging statistics collection system . When officially opened, LINE BOT NU Library is a convenient and

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ PULINET คร้งั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวทิ ยาลยั ทักษณิ efficient way to communicate and reduces the num ber of recipients who return books late . Evaluation of system performance and satisfaction from users at the highest level. Keyword: LINE BOT, Library Automated System, NU Library บทนา สานักหอสมุดมหาวทิ ยาลยั นเรศวร ได้นาระบบห้องสมุดอัตโนมตั ิ KMUTT-LM มาใช้อยา่ งเป็น ทางการเมื่อวนั ท่ี 22 พฤษภาคม 2561 ซง่ึ เปน็ ระบบห้องสมุดอัตโนมัติที่ผู้ดแู ลระบบหอ้ งสมุดสามารถกาหน ดสิทธิ์ การเข้าถึงขอ้ มูลในส่วนต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบ ทาให้สามารถพฒั นาระบบหรอื บริการใหม่ ๆ มา เชือ่ มต่อกับระบบห้องสมุดอัตโนมัติ KMUTT-LM ได้ ทาให้เพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการให้บริการผู้ใช้บริการมากย่ิงขึ้น โดยเฉพาะในยคุ ดิจทิ ลั 4.0 ผใู้ ช้งานเชื่อมโยงทกุ อย่างเข้ากับระบบสื่อสงั คมออนไลน์ (เจนจิรา แจ่มศริ ิ, 2018) ดังเชน่ ระบบ LINE Application เป็นเครอ่ื งมอื ตดิ ต่อสื่อสารผา่ นระบบเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ตที่ได้รับความนยิ มอยา่ งมากใน ประเทศไทย สามารถตดิ ต้ังและใช้งานไดห้ ลากหลายอุปกรณ์เช่น โทรศัพท์สมารท์ โฟนและ คอมพวิ เตอรแ์ บบตั้งโต๊ะ นอกจากนี้ผใู้ ห้บริการ LINE Application ยงั เปิดให้บุคคลท่ัวไปสามารถพัฒ นาระบบตา่ ง ๆ ผ่านบรกิ ารของ LINE เรียกว่าบริการ LINE Developer ซึ่งเป็นชุดคาส่ังสาหรับพัฒ นาระบบ เช่น LINE Login, LINE Pay และ LINE Messaging API ซงึ่ จากการศกึ ษาพบวา่ ระบบ LINE Messaging API สามารถนามาพัฒนาเปน็ LINE BOT เชือ่ มโยง ระบบฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศอ่ืน ๆ เพ่อื นาข้อมูลทต่ี อ้ งการมาส่งเป็นขอ้ ความให้กับผู้รับบรกิ ารผา่ น LINE Application ได้ สานกั หอสมุดมหาวิทยาลยั นเรศวรจึงมีแนวคดิ นา LINE Messaging API (จักรินทร สนั ตริ ตั นภกั ดี, 2561) มาพฒั นาร่วมกับระบบหอ้ งสมุดอัตโนมตั ิ KMUTT-LM เพอ่ื เพิ่มประสทิ ธิภาพการให้บริการ เพิ่มชอ่ งทางติดต่อสอ่ื สาร ส่งขอ้ ความประชาสัมพนั ธ์ ส่งขอ้ ความแจ้งเตือนต่าง ๆ และใหบ้ ริการยมื ต่อด้วยต นเอง ผ่านบรกิ าร LINE Messaging API ใหแ้ ก่ผ้รู บั บริการ วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อวเิ คราะห์ ออกแบบ พัฒนาระบบ LINE BOT NU Library รว่ มกบั ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ KMUTT-LM เพื่อเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการให้บริการของสานักหอสมดุ ผา่ น LINE Application 2. เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความพึงพอใจของผรู้ ับบริการ ต่อ LINE BOT NU Library ที่ พ ัฒ น า ข ้ึน ข้นั ตอนและวิธีการดาเนินงาน ก า ร ป ร ะ ยุก ต์ใ ช้ LINE Application ร่วมกับ ร ะ บ บ ห้อ งส มุ ด อัต โน มัติ KMUTT- LM ข อ ง สานกั หอสมุด มหาวิทยาลยั นเรศวร มีขัน้ ตอนการพฒั นา (โอภาส เอ่ียมสริ ิวงศ์, 2560) ดังน้ี

การประชมุ วิชาการระดับชาติ PULINET คร้งั ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ 1. ศึกษาปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาของระบบเดมิ จากการศึกษาพบว่าบริการแจ้งเตือนของ สานกั หอสมุดมหาวิทยาลยั นเรศวร ประกอบไปด้วย บรกิ ารแจง้ เตือนหนังสือใกล้ครบกาหนดสง่ 2 วนั และบริการ แจง้ เตอื นหนังสือครบกาหนดส่ง โดยแจง้ เตอื นผ่านจดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์เพยี งชอ่ งทางเดียวเทา่ น้นั ซง่ึ ไมส่ ะดวกตอ่ การใชง้ านและอาจเกดิ ขอ้ ผิดพลาดทาให้ผรู้ บั บรกิ ารไม่ไดร้ ับจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ และในขน้ั ตอนการลงทะเบียน ผู้รับบริการจะต้องมาตดิ ต่อที่เคานเ์ ตอรบ์ ริการเพ่อื ลงทะเบียนขอรบั การบรกิ ารแจ้งเตือนได้เพียงจุดเดยี วเทา่ น้ัน 2. การวิเคราะห์และออกแบบระบบ จากการศกึ ษาปัญหาและวเิ คราะหป์ ัญหาของระบบเดิม ทา ให้ทราบว่าควรเพิม่ ช่องทางการติดตอ่ สือ่ สารเพอ่ื บริการส่งขอ้ ความแจง้ เตือนให้แกผ่ รู้ บั บรกิ าร จากการศึกษาคน้ ควา้ ของผู้พัฒนาพบว่า LINE Application ซง่ึ เป็นสือ่ สงั คมออนไลน์ (Social Media) ทที่ นั สมัย ง่ายต่อการใช้งานและ เป็นท่ีนิยมใช้ในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย และมีบริการ LINE Messaging API (Seo-yeon Lee, 2018) ที่สามารถ นามาพัฒนาเป็นระบบสารสนเทศเพ่ือติดตอ่ กบั ระบบหอ้ งสมดุ อตั โนมัติของสานักหอสมุดได้ โดยระบบที่พัฒ นาจะ ประกอบไปดว้ ยบรกิ ารตา่ ง ๆ ตามคาร้องขอจากเจา้ หนา้ ท่ี และผู้ใชบ้ ริการ ดงั นี้ 2.1 ระบบลงทะเบียนผูก LINE ID เข้ากับระบบห้องสมุดอัตโนมัติ โดยผ่าน LINE Application 2.2 ระบบบรกิ ารแจง้ เตือนหนังสอื ใกล้ครบกาหนดส่ง แจง้ เตือนหนงั สอื ครบกาหนดส่ง แจง้ เตอื นหนังสอื เกินกาหนดส่ง และแจง้ เตอื นหนังสอื จองพร้อมใหบ้ ริการ 2.3 ระบบบริการแจง้ เตือนเมอ่ื ทารายการยมื หรือคืนหนงั สอื 2.4 ระบบบริการยมื ตอ่ ดว้ ยตนเอง 2.5 ระบบบรกิ ารตรวจสอบรายการยืมหนังสอื ดว้ ยตนเอง 2.6 ระบบลงทะเบยี นฝกึ อบรมการเรียนรสู้ ารสนเทศ 2.7 ระบบจัดเกบ็ สถติ ิการส่งข้อความผา่ น LINE Application 3. การพัฒ นา LINE BOT NU Library เพื่อการให้บริการ ร่วมกับ ระ บ บ ห้อ งส มุด อัต โ น มั ติ KMUTT-LM มีขัน้ ตอนดงั นี้ 3.1 ล งท ะ เบีย น ส มัค ร ส มา ชิก เพื่อ ข อ ใ ช้บ ริก า ร LINE Messaging API ผ่า น เว็บ ไ ซ ต์ https://developers.line.biz/en/ 3.2 ระบบ Web Application สาหรับส่วนติดต่อกับผู้ใช้ ถูก พัฒ นาขึ้นด้วยภาษา PHP, ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL และโปรแกรมบริหารจัดการ Apache Web Server ประกอบไปด้วย ระบบ ลงทะเบยี นผูก LINE ID เข้ากับระบบหอ้ งสมดุ อัตโนมตั ิ ระบบสถิติการส่งขอ้ ความไปยัง LINE Application 3.3 ระบบ Web Hook คือเว็บไซต์สาหรับทาหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารระหวา่ ง LINE Application กบั ระบบหอ้ งสมดุ อัตโนมตั ิ KMUTT-LM ถูกพฒั นาด้วยชุดโปรแกรม LINE Messaging API SDK for PHP และจาเป็นตอ้ งใช้โปรโตคอลการสือ่ สาร บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบ HTTPS เทา่ นนั้ ประกอบไป ด้วย ระบบบริการแจ้งเตือนจากระบบห้องสมุดอัตโนมัติ KMUTT-LM ระบบบริการยืมต่อด้วยตนเอง ระบบบริการ ตรวจสอบรายการยืมหนงั สือดว้ ยตนเอง 4. กระบวนการทางานของระบบ LINE BOT NU Library 4.1 ผ้รู ับบริการเพม่ิ เพอ่ื น LINE BOT NU. Library จาก LINE ID หรอื QR code

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ PULINET ครัง้ ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวทิ ยาลัยทกั ษณิ 4.2 ผูร้ บั บรกิ ารลงทะเบียนผกู LINE ID กบั ระบบหอ้ งสมุดอัตโนมัติ ดว้ ยการพสิ ูจน์ตวั ตนจาก ชือ่ บัญชีผู้ใชแ้ ละรหัสผ่านสาหรับเข้าใช้งานเครือข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตของมหาวิทยาลยั นเรศวร จากนั้นใหน้ ารหัสตวั เลขที่ ไดร้ ับมาพมิ พเ์ ปน็ ข้อความส่งใหแ้ ก่ LINE BOT NU. Library หลังจากได้รบั ขอ้ ความแลว้ LINE BOT จะตอบกลบั มา ยัง LINE Application ของผู้รับบริการเป็น ช่ือ นามสกุล และรหัสบาร์โค้ดของผู้รบั บริการ เพ่ือตรวจสอบความ ถูกต้องอีกครง้ั หน่งึ ดังแสดงตามภาพที่ 2 ภาพที่ 1 หนา้ จอ LINE BOT NU Library

การประชุมวชิ าการระดับชาติ PULINET คร้งั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวิทยาลยั ทกั ษณิ ภาพท่ี 2 ขัน้ ตอนการลงทะเบียนผกู LINE ID กับระบบห้องสมดุ อัตโนมตั ิ 4.3 ระบบบรกิ ารแจง้ เตอื นหนังสือใกลค้ รบกาหนดสง่ แจ้งเตือนหนงั สือครบกาหนดส่ง แจ้ง เตือนหนังสือเกินกาหนดสง่ และแจ้งเตือนหนังสอื จองพร้อมให้บรกิ าร เมอ่ื ถึงเวลาที่กาหนดระบบ LINE BOT NU Library จะสง่ รหัสบารโ์ คด้ ของผู้รบั บริการที่ลงทะเบียนผูก LINE ID แลว้ ไปยังระบบห้องสมดุ อตั โนมตั ิ และจะไดร้ บั ขอ้ มลู การยมื หนังสือของผรู้ ับบริการแตล่ ะท่านกลับมา จัดส่งเปน็ ข้อความแจ้งเตอื นไปยัง LINE Application ของ ผรู้ บั บรกิ ารโดยอัตโนมัติ ในช่วงเวลา 06.00 น. – 07.00 น. ของทกุ วัน การส่งข้อความแจง้ เตือนหนังสอื ใก ล้ค รบ กาหนดส่ง ระบบจะส่งข้อความแจ้งเตือนล่วงหนา้ กอ่ นวนั ครบกาหนดส่ง 2 วนั ไม่รวมวนั ครบกาหนดสง่ และบริการ การแจง้ เตือนหนังสอื เกินกาหนดสง่ จะส่งข้อความแจง้ เตอื นทกุ วัน ดังแสดงตามภาพที่ 3 ภาพที่ 3 หนา้ จอแจง้ เตือนหนงั สอื ใกลค้ รบกาหนดส่งและหนังสือเกนิ กาหนดสง่

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ PULINET ครงั้ ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวิทยาลยั ทักษณิ 4.4 ระบบบริการแจ้งเตือนเมอื่ ทารายการยืมหรือคืนหนงั สือ เมอ่ื ผ้รู ับบรกิ ารทารายก ารยืม หรือคนื หนงั สอื ทง้ั จากเคาน์เตอรบ์ ริการยืม-คืน หรอื จากเคร่ืองรับคนื หนังสืออัตโนมัติ LINE BOT NU Library จะ ส่งข้อความแจ้งเตือนไปยัง LINE Application ของผู้รับบริการ ภายใน 2 นาที การพัฒ นาในส่วนนี้ ระบบถูก ออกแบบให้ทางานโดยการตรวจสอ บขอ้ มลู การยืมและคนื หนังสือจาก LOG File ของระบบห้องสมุดอัตโนมัติโดย เปรยี บเทียบจากรหสั บาร์โค้ดของผ้รู ับบรกิ าร และนาขอ้ มลู การยืมหรอื คืนหนงั สือมาจดั ทาขอ้ ความสง่ ไปยัง LINE Application ของผู้รบั บรกิ าร โดยอตั โนมัติ ดังแสดงตามภาพท่ี 4 ภาพที่ 4 หนา้ จอแจง้ เตือนเมือ่ ทารายการยืมหรือคนื หนงั สอื 4.5 ระบบบรกิ ารยืมต่อด้วยตนเอง เมอ่ื ผูร้ ับบริการคลิกที่เมนู Online Renewal หรอื พมิ พ์ ขอ้ ความว่า renew ส่งใหแ้ ก่ LINE BOT NU Library หลังจากที่ LINE BOT ได้รบั ข้อความแล้วจะดาเนินการสง่ รหัส บารโ์ ค้ดของผรู้ บั บรกิ ารไปยังระบบ Web service ของระบบห้องสมุดอัตโนมตั ิ เพื่อให้ระบบหอ้ งสมุดอตั โนมัติจัดทา รายการยืมตอ่ หนงั สอื ทุกเล่มของผู้รับบริการที่ตรงตามเงื่อนไขการยืมตอ่ จากน้ันนาสถานะการทารายการยืมต่อ ชอื่ หนังสอื กาหนดสง่ หนงั สือ มาจดั รูปแบบขอ้ ความและดาเนินการจัดส่งให้แก่ LINE Application ของผู้รับบริการ ดงั แสดงตามภาพท่ี 5 ภาพท่ี 5 หน้าจอระบบบริการยมื ตอ่ ด้วยตนเอง

การประชุมวชิ าการระดับชาติ PULINET คร้งั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวิทยาลัยทกั ษณิ 4.6 ระบบบริการตรวจสอบรายการยืมหนังสือดว้ ยตนเอง เมื่อผรู้ บั บรกิ ารคลิกท่ีเมนู Your Checked Out Item หรอื พิมพข์ อ้ ความว่า borrow ส่งใหแ้ ก่ LINE BOT NU Library หลังจากที่ LINE BOT ได้รับ ข้อความแล้วจะดาเนินการส่งรหัสบาร์โค้ดของผู้รับบรกิ ารไปยงั ระบบห้องสมุดอตั โนมตั ิ เพอื่ คน้ หารายการยืม หนงั สือ มาจดั รูปแบบขอ้ ความและดาเนนิ การจัดส่งใหแ้ ก่ LINE Application ของผูร้ ับบรกิ าร ดงั แสดงตามภาพที่ 6 ภาพท่ี 6 หนา้ จอระบบบริการตรวจสอบรายการยืมหนังสือดว้ ยตนเอง 4.7 ระบบลงทะเบียนฝึกอบรมการเรยี นรู้สารสนเทศ พฒั นาโดยใชค้ วามสามารถของ LINE Messaging API เมื่อผู้รับบริการคลิกท่ีเมนู Library Training หรือพิมพ์ข้อความว่า training ส่งให้แก่ LINE BOT NU library ระบบจะดึงข้อมูลโปรแกรมฝึกอบรมมาแสดงให้กับผู้รบั บริการเลือกลงทะเบียน โปรแกรมฝึกอบรม สารสนเทศผา่ น LINE Application จากนนั้ ระบบจะส่งต่อข้อมูลไปยังเว็บไซต์ลงทะเบยี นฝึกอบรมสารสนเทศ ของ สานักหอสมุดและทาการลงทะเบียนให้โดยอัตโนมัติ หลังจากลงทะเบียนแลว้ ผู้ใชส้ ามารถยกเลิกการลงทะเบียน ฝึกอบรมได้ดว้ ยตนเองผ่าน LINE Application เช่นเดยี วกัน ดังแสดงตามภาพที่ 7 ภาพที่ 7 หน้าจอระบบลงทะเบยี นฝกึ อบรมการเรยี นร้สู ารสนเทศ

การประชุมวชิ าการระดับชาติ PULINET คร้งั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวิทยาลัยทกั ษณิ 4.8 ระบบจดั เก็บสถิตกิ ารส่งขอ้ ความผ่าน LINE Application คอื เวบ็ ไซต์สาหรับจัดเก็บ รวบรวมสถิตกิ ารส่งข้อความผ่าน LINE BOT NU. Library สงิ่ ทจ่ี ดั เกบ็ ประกอบด้วย ชอ่ื ผรู้ บั บรกิ าร ช่อื หนังสอื วนั ที่ จดั สง่ ข้อความ สถานการจัดส่งความ สามารถกาหนดช่วงวันท่ตี ้องเพื่อสรา้ งรายงานได้ ดงั แสดงตามภาพที่ 8 ภาพที่ 8 หนา้ จอระบบจดั เก็บสถิติการสง่ ขอ้ ความผ่าน LINE Application สรุปผลและอภิปรายผล การวิเคราะห์และออกแบ บร ะบ บ LINE BOT NU library เพื่อการให้บริการร่วมกับ ร ะ บ บ ห้องสมุดอัตโนมัติ KMUTT-LM ของสานักหอสมุด มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้พัฒ นาขึ้นมาเพื่อเพ่ิมช่องทางการ ติดตอ่ สอื่ สารและอานวยความสะดวกใหแ้ ก่ผ้รู ับบริการของสานกั หอสมดุ ในการประชาสมั พนั ธ์ การส่งขอ้ ความแจ้ง เตือนกาหนดสง่ คืนของหนงั สือท่ีผรู้ ับบริการยืมออกไป การทารายการยมื ต่อด้วยตนเอง การตรวจสอบรา ยกา รยืม หนังสือดว้ ยตนเองและลงทะเบียนฝึกอบรมสารสนเทศ โดยใช้บรกิ าร LINE Messaging API ผา่ น Line Application พบว่าการใช้งานระบบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกบั งานวิจัยของ Sikharin (Sikharin Suwannatee, 2019) ไดน้ าเสนองานวิจัยเร่อื ง “Reading Chatbot” ซึง่ ไดน้ ามาใช้งานในหอสมุดและ คลงั ความรู้ มหาวทิ ยาลยั มหิดล เพ่อื อานวยความสะดวกต่อผ้ใู ช้งานและเพ่ิมช่องทางในการติดต่อกับผู้รับบริการ

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ PULINET ครง้ั ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวิทยาลัยทักษณิ ร่วมถึงส อ ด ค ล้อ งกับ งาน วิจัยข อง Miri Heo (Miri Heo, 2 0 1 8 ) ไ ด้เส น อ วิจัย Chatbot as a new Business Communication Tool เพ่ือนาเสนอระบบ TalkTalk ในการใหบ้ รกิ ารแก่ลกู คา้ ทาให้ลูกค้าได้รบั บรกิ ารที่รวดเร็ว และพงึ พอใจแกบ่ ริษทั มากยิ่งขนึ้ ผลการศกึ ษาการประเมนิ ประสิทธิภาพและความพึงพอใจของผู้รับบริการตอ่ ระบบ LINE BOT NU Library ของสานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร โดยมีผรู้ บั บริการตอบแบบ ประเมินออนไลน์ จานวน 466 คน มีรายละเอยี ดดังน้ี 1. ด้านสมรรถนะในการทางานของระบบจากผู้ตอบแบบประเมินจานวน 466 คน มีผู้ได้รับ การแจ้งเตอื นจากระบบ จานวน 458 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 98.3 และไมไ่ ดร้ บั การแจ้งเตอื น จานวน 8 คน คดิ เป็นร้อย ละ 1.7 2. ด้านความถกู ต้องของการแจ้งเตอื นท่ีได้รับ จากผู้ตอบแบบประเมนิ จานวน 463 คน มีผู้มคี วาม คิดเห็นว่าการแจง้ เตือนทไ่ี ด้รับถูกต้อง จานวน 458 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 98.9 และการแจ้งเตือนทีไ่ ด้รับไมถ่ กู ตอ้ ง จานวน 5 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.1 ดังที่แสดงในตารางท่ี 1 ตารางท่ี 1 แสดงจานวน และค่ารอ้ ยละ ด้านสมรรถนะในการทางานของระบบ รายการ จานวน รอ้ ยละ ไดร้ ับการแจง้ เตอื นจากระบบหรอื ไม่ 466 100  ไดร้ ับ 458 98.3  ไม่ไดร้ ับ 8 1.7 การแจ้งเตอื นทไี่ ด้รับถกู ตอ้ งหรอื ไม่ 463 100  ถกู ต้อง 458 98.9  ไมถ่ ูกตอ้ ง 5 1.1 3. ด้านความพึงพอใจต่อการให้บริการ เป็นลักษณะของคาถามเป็น มาตรส่วนประมาณคา่ (Rating Scale) ชนดิ 3 ระดบั จานวน 1 ข้อ โดยมีเกณฑก์ ารพิจารณาเลอื กคาตอบดังน้ี 3 หมายถึง พงึ พอใจมาก 2 หมายถงึ พงึ พอใจปานกลาง 1 หมายถึง พึงพอใจนอ้ ย การแปลความหมายคา่ เฉล่ียใชเ้ กณฑก์ ารแปลความหายแบง่ ออกเปน็ 3 ระดบั ดังนี้ คะแนนเฉลย่ี ระหว่าง 2.34 – 3.00 หมายถงึ พงึ พอใจต่อการใหบ้ รกิ ารมาก คะแนนเฉลย่ี ระหวา่ ง 1.68 – 2.33 หมายถึง พึงพอใจตอ่ การใหบ้ รกิ ารปานกลาง คะแนนเฉลี่ยระหว่าง 1.00 – 1.67 หมายถงึ พงึ พอใจต่อการให้บรกิ ารนอ้ ย จา ก ผู้ตอบแบบประเมินจานวน 466 คน มีความพึงพอใจตอ่ การให้บริการอยใู่ นระดับมาก มี ค่าเฉล่ีย 2.77 ดงั ตารางที่ 2

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ PULINET ครง้ั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยทกั ษณิ ตารางท่ี 2 แสดงค่าเฉลย่ี และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของความพึงพอใจตอ่ การให้บริการ รายการ X S.D. ระดับ ความพึงพอใจต่อการให้บริการ 2.77 0.43 มาก รวมเฉล่ีย 2.77 0.43 มาก ข้อเสนอแนะ 1. การปรับปรุงรูปแบบของข้อความโดยเพิ่มสัญลักษณ์ ท่ีมลี กั ษณะเปน็ สีต่าง ๆ เพือ่ ใหเ้ ห็นได้ ชัดเจนว่าถึงสถานะของหนงั สือทแ่ี ตกต่างกัน เช่น การแจง้ เตือนหนังสือครบกาหนดสง่ ควรใช้สัญลกั ษณ์ทีแ่ ตกต่างกับ หนงั สอื ใกลค้ รบกาหนดสง่ , สถานะการยืมหนังสือตอ่ ดว้ ยตนเองว่าสาเร็จหรอื ไมส่ าเรจ็ 2. พัฒนาบริการอ่ืน ๆ เพ่มิ เติม เชน่ ระบบจองห้องศึกษาค้นควา้ กลุ่ม, บรกิ ารแนะนาห นังสือ ใหมเ่ ข้าสสู่ านกั หอสมดุ , บริการแจง้ เตือนหรือส่งรายชื่อหนงั สอื ใหม่ เม่ือมหี นังสอื ใหม่เข้าสูส่ านกั หอสมุด การนาไปใชป้ ระโยชน์ 1. ผรู้ ับบริการได้รับความสะดวกจากบรกิ ารแจง้ เตือนหนังสือใกลค้ รบกาหนดสง่ ทาให้สง่ หนังสือ คืนทันกาหนด ซง่ึ หากผู้รับบริการส่งหนงั สอื คืนไม่ทนั กาหนดจาเป็นต้องชาระค่าปรบั 2. ผู้รับบรกิ ารสามารถตรวจสอบสถานะการทารายการยืมและคืนหนังสือจากเคารเ์ ตอร์ยืม -คืน และอุปกรณอ์ ัตโนมตั ติ า่ ง ๆ ของสานกั หอสมดุ ได้ 3. ผรู้ ับบรกิ ารได้รบั ความสะดวกและรวดเร็วในการตรวจสอบรายการยืมหนังสือด้วยและยืมต่อ ดว้ ยตนเองผา่ นระบบ LINE Application 4. ผู้รับบริการได้รับความสะด วกและร วด เร็วในการล งทะ เบีย นฝึกอ บร มสารสน เท ศ ข อ ง สานกั หอสมุด 5. สานกั หอสมดุ สามารถดูสถิติและข้อมูลตา่ ง ๆ ได้ เช่น สถติ ิจานวนผ้คู ้างส่งหนงั สอื รายการอ้างองิ จกั รินทร สันติรตั นภกั ดี. (2561). การตลาดออนไลนและบริการลกู คาด้วยแชทบอท กรณศี กึ ษา : การใช Chatfuel ปฏิสัมพนั ธกบั ลกู คาผา่ นเมสเซนเจอร. วารสารศรปี ทมุ ปรทิ ศั น์ ฉบับวิทยาศาตรแ์ ละเทคโนโลยี, 10, 71-87. เจนจิรา แจ่มศิริ และคัชรินทร์ ทองฟัก. (2018). การพัฒ นาระบบการจองห้องประชุมออนไลน์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา พษิ ณุโลก. ใน รายงานสบื เนอื่ งจากการประชมุ วชิ าการระดับชาติ เครือข่าย บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ คร้ังท่ี 18 และลาปางวิจัย ครั้งท่ี 4 (น. 263-275). มหาวิทยาลยั ราชภัฏลาปาง. โอภาส เอย่ี มสริ วิ งศ์. (2560). การวเิ คราะห์และออกแบบระบบฉบบั ปรบั ปรุงเพม่ิ เตมิ . กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น. LINE Developer. (n.d.). LINE Developer Document. Retrieved September 12, 2019, from https :// de v e lope rs .line .biz / e n/ docs /

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ PULINET ครงั้ ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวิทยาลยั ทกั ษณิ Miri Heo and Kyoung Jun Lee. (2018). Chatbot as a new business communication tool: The case of naver TalkTalk. Business Communication Research and Practice , 1(1), 41-45 Seo-yeon Lee. (2018) LINE Messaging API SDK for PHP. Retrieved September 12, 2019, from https://github.com /line/line-bot-sdk-php Sikharin Suwannatee and Authaiwan Suwanyangyuen. (2019). “Reading Chatbot” Mahidol University Library and Knowledge Center Smart Assistant. In Proceeding for the 2019 International Conference on Library and Information Science (ICLIS) (pp.319-331).

การประชุมวชิ าการระดับชาติ PULINET ครั้งท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวิทยาลยั ทกั ษิณ การพัฒนาระบบยมื ทรพั ยากรระหว่างหนว่ ยงานของสานกั หอสมดุ กลาง มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ Inter - Campus Loan’s Development of Central Library, Srinakharinwirot University ธนภร พ่งึ พาพงศ์, กนั ตพงศ์ พมุ่ อยู่ สานกั หอสมดุ กลาง มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ [email protected] [email protected] บทคัดย่อ “ระบบยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงาน” (Inter Campus Loan: ICL) คือ บริการยืมทรัพยากร สารสนเทศระหว่างห้องสมุดในสังกัดมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 4 แห่ง ได้แก่ ห้องสมุดประสานมิตร ห้องสมุด องครักษ์ ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ องครักษ์ และห้องสมุดศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน เพื่อประโยชน์ในการใช้ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกัน สาหรับอาจารย์ นิสิต และบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย ระบบ พัฒนาขึ้นจากการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา HTML และ PHP ร่วมกับฐานข้อมูล MariaDB ผนวกด้วยการดึงข้อมูล ผ่าน API ของระบบห้องสมุดอัตโนมัติ (Aleph) และระบบคลังข้อมูลห้องสมุด (CLDW : Central Library Data Warehouse) โดยระบบเร่ิมเปิดใช้งานเม่ือวันที่ 1 สิงหาคม 2562 และจากการสารวจความพึงพอใจในการใช้ระบบ พบว่าผู้ใช้มีความพึงพอใจต่อการใช้ระบบอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.76) นอกจากนั้น ยังช่วยเพิ่มปริมาณ การใช้บริการยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงานได้ถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับการใช้งานในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 คาสาคญั : การยืมระหวา่ งหนว่ ยงาน, การใชท้ รพั ยากรร่วมกัน, การยืมทรพั ยากรสารสนเทศ ABSTRACT \" Inter Campus Loan (ICL)\" is the service system for borrowing library resources between 4 libraries in Srinakharinwirot university, including Central Library (Prasanmitr), Ongkharak Library, Medicine Library, Ongkharak and Panyanantaphikkhu Chonprathan Medical Center Library. This service will be convenient for professors, students and staff in any campus who need to borrow library resources between each libraries. The ICL system is developed through HTML and PHP programming with MariaDB database, combining with data retrieval via the API of the

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ PULINET ครง้ั ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษิณ automated library system (Aleph) and Central Library Data Warehouse (CLDW). This service is launched on 1st August 2019, and gains the highest level (4.76 mean) of user satisfaction with the system usage. Moreover, this service increases the amount of inter - campus lone’s use about 65 percentages. Keyword: Inter Campus Loan, Resources Sharing, Library Resources Borrowing บทนา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีห้องสมุดที่ให้บริการแก่ผู้ใช้ตามสาขาที่มีการเรียนการสอน จานวน 4 แห่ง ได้แก่ สานักหอสมุดกลาง (ประสานมิตร) ห้องสมุดองครักษ์ ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ องครักษ์ และหอ้ งสมุดศูนยก์ ารแพทย์ปัญญานันทภิกขุ โรงพยาบาลชลประทาน บริการสาคัญบริการหนึ่งที่หอ้ งสมุดจดั ให้แก่ ผู้ใช้บริการ คือบริการยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ระหว่างห้องสมุดทุกแห่ง นับว่าเป็นการหมุนเวียนทรัพยากรระหว่างกัน และช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อ ทรัพยากร ทั้งยังช่วยเพ่ิมปริมาณการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากข้ึน ซึ่งการให้บริการในรูปแบบเดิมน้ันใช้วิธีการเขียน แบบฟอร์มเพื่อขอยืมหนังสือ และปรับเปลี่ยนเป็นการส่งคาขอทางอีเมลหรือไลน์ จนถึงการสร้างคาขอ ( Hold request) ในระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ซึ่งไม่สะดวกกับผู้ใช้บริการ เนื่องจากผู้ใช้บริการต้องเข้ามาติดต่อใช้บริการท่ี ห้องสมุด และไม่สามารถตรวจสอบกระบวนการทางานของเจ้าหน้าที่ได้ว่า กาลังดาเนินการอยู่ในสถานะใด ทั้งยัง เกดิ ปัญหากับเจ้าหน้าท่หี ้องสมุดในดา้ นการปฏิบัตงิ านทแ่ี ตกตา่ งกันระหวา่ งแตล่ ะห้องสมุด และปัญหาดา้ นการส่งตอ่ กระบวนการทางาน หรือกระบวนการสื่อสารระหว่างกัน จึงทาให้เกิดแนวความคิดในการสร้างระบบสาหรับบริการ ยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งยังเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเพื่อ ให้ เหมาะสมและสะดวกกบั ผ้ใู ชบ้ รกิ าร และสร้างแนวปฏบิ ตั ิท่ดี ใี นการใหบ้ รกิ าร รวมถึงสรา้ งมาตรฐานในการปฏบิ ตั งิ าน ของหอ้ งสมุดท้ัง 4 แห่งท่มี ีผ้ใู หบ้ รกิ ารแตกต่างกนั ดว้ ย จากความต้องการของฝ่ายบริการทรัพยากรสารสนเทศ ผนวกกับข้อเสนอแนะจากผู้ใช้บริการ ทาให้ฝ่ายเทคโนโลยีห้องสมดุ สานักหอสมุดกลาง มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒ ริเริม่ แนวคิดในการพัฒนาระบบยมื ทรพั ยากรระหวา่ งหน่วยงาน (Inter Campus Loan: ICL) ซ่ึงพฒั นาระบบจากการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา HTML และ PHP ร่วมกับฐานข้อมูล MariaDB และนามาบูรณาการเข้ากับ API ของระบบห้องสมุดอัตโนมัติของสานัก หอสมุดกลาง (Aleph) และระบบคลงั ข้อมูลห้องสมุด (CLDW : Central Library Data Warehouse) วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื พัฒนานวตั กรรมการใช้บรกิ ารยมื ทรัพยากรระหวา่ งหนว่ ยงาน 2. เพ่อื พัฒนารูปแบบการบรกิ ารยืมทรพั ยากรระหวา่ งหน่วยงานของทกุ ห้องสมดุ สาขา ใหม้ ีมาตรฐานการทางานเป็นรปู แบบเดยี วกนั

การประชุมวิชาการระดับชาติ PULINET ครั้งท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ทักษิณ ขน้ั ตอนและวธิ ีการดาเนินงาน การพัฒนาระบบระบบยืมทรัพยากรระหว่างหนว่ ยงาน ประกอบดว้ ยข้ันตอนดังน้ี ระยะท่ี 1 การศกึ ษาสภาพปญั หา จากการศึกษาปัญหาที่พบ โดยการตรวจสอบการทางานในกระบวนการยืมทรัพยากรระหว่าง หน่วยงาน ทั้งจากห้องสมุดประสานมิตร และห้องสมุดองครักษ์ ซึ่งในระยะเริ่มต้นของการให้บริการ พบว่าการ ให้บริการอยู่ในรูปแบบของการให้ผู้ใช้บริการเขียนแบบฟอร์มขอใช้บริการ และนาส่งที่เคาน์เตอร์บริการ จากนั้น เจ้าหน้าที่จะสแกนแบบฟอร์มส่งอีเมลไปยังเจ้าหน้าที่ของห้องสมุดสาขาที่เป็นเจ้าของทรัพยากร เมื่อเจ้าหน้าที่รับ อีเมลแล้วก็จะดาเนินการนาหนังสือมายืมในระบบห้องสมุดอัตโนมัติ และจัดส่งมาที่ห้องสมุดผู้ขอยืม โดยใช้บริการ ผ่านทางรถตู้สวัสดิการของมหาวิทยาลยั ซึ่งมีข้อจากัดในการสง่ เพียงวันละ 1 รอบเทา่ นั้น ปัญหาที่พบคือ เกิดข้อผิดพลาดจากข้อมูลที่ได้รับในรูปแบบกระดาษ เช่น การกรอกข้อมูลไม่ ครบถ้วน การระบุข้อมูลของทรัพยากรที่ต้องการไม่ถูกต้อง ทาให้หาทรัพยากรที่ต้องการไม่พบ รวมถึงปัญหาด้าน เจ้าหน้าท่ีที่ต้องกาหนดชว่ งเวลาปฏิบตั งิ านประจาวนั เพื่อให้ตรงกับรอบเวลาของรถส่งเอกสาร ซ่ึงหากผู้ใชบ้ ริการมา หลงั จากเวลาท่ดี าเนนิ การส่งหนังสือไปแล้ว จะต้องรอระยะเวลาดาเนนิ การล่าช้าไปอีก 1 วัน รวมถึงปัญหาที่ว่าหาก เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานส่วนนี้ไม่มาทางานหรือติดราชการอื่น เจ้าหน้าที่อื่นจะไม่สามารถเปิดอีเมลแทนได้ และ ปญั หาสาคญั ทส่ี ดุ คือ ความไมส่ ะดวกของผู้ใช้บริการ เพราะผู้ใชบ้ ริการตอ้ งเขา้ มาติดตอ่ ที่ห้องสมุดในวัน และเวลาทห่ี ้องสมุดเปิดทาการเท่านัน้ ระยะที่ 2 ห้องสมุดจึงเปลี่ยนวิธีการให้บริการยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงานจากการเขียน แบบฟอร์ม เป็นการรับคาขอใช้บริการทางอีเมลหรือทางไลน์ของห้องสมุด แล้วผู้ให้บริการจึงนา ข้อมูลมาเขียน แบบฟอร์ม และสแกนส่งทางอีเมล ซึ่งมีข้อดีที่แตกต่างจากรูปแบบการให้บริการในระยะที่ 1 คือ สะดวกสาหรับ ผใู้ ชบ้ ริการ เพราะสามารถส่งคาขอใช้บริการในเวลาใดก็ได้ แต่ก็ยงั คงพบปัญหาท่ีเกิดจากเจ้าหน้าท่ี เชน่ ไม่สามารถ ติดตามได้ว่า ใครเป็นผู้อ่านอีเมลหรือไลน์ และได้ดาเนินการให้กับผู้ใช้บริการแล้วหรือยัง หากเจ้าหน้าที่ท่านนั้นไม่ ตอบกลับ รวมถึงปัญหาด้านการทางานซ้าซ้อน เพราะต้องนาคาขอจากผู้ใช้มาเขียนลงในแบบฟอร์มและสแกนส่ง ทางอเี มลดว้ ยตนเอง สาหรบั ระยะที่ 3 หอ้ งสมดุ ไดป้ รับเปล่ยี นรปู แบบการใหบ้ ริการ โดยการใชฟ้ งั กช์ นั การทางานของ ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ (Aleph) ในส่วนของการทารายการจองหนังสือ (Hold request) โดยผู้ใช้บริการสามารถ สืบคน้ รายการหนงั สือทต่ี ้องการ จากนั้นถา่ ยรปู หรอื แคปเจอร์หนา้ จอ และส่งคาขอมาทางอเี มล ไลน์ หรอื นารายการ มาใหเ้ จา้ หน้าทีท่ ี่ใหบ้ รกิ ารโดยตรง เจ้าหน้าท่จี ะเปน็ ผู้สรา้ งรายการ Hold request ในระบบ และในแตล่ ะวนั ระบบ จะรันเซอร์วิสในรูปแบบรายงานคาขอท่ีสร้างขึ้นในแต่ละวัน เพ่ือให้เจ้าหน้าที่ดาเนินการนาหนังสือมาให้บริการยืม ซึ่งในด้านของผู้ใช้บริการ พบว่าเป็นรูปแบบที่สะดวกที่สุดจากทั้ง 3 รูปแบบเพราะไม่มีการจากัดรูปแบบการขอใช้ บริการและไม่จากัดเวลา แต่ก็ยังพบปัญหาในส่วนของเจ้าหน้าที่คือ เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการบางท่านไม่สามารถสร้าง รายการ Hold request ในระบบ Aleph ได้ จงึ อาจเกิดความลา่ ชา้ ในการใหบ้ รกิ าร

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ PULINET คร้ังที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวทิ ยาลัยทักษิณ ระยะที่ 2 การวิเคราะห์ความต้องการและศึกษาความเป็นไปได้ สาหรับการวิเคราะหค์ วามต้องการและศึกษาความเป็นไปได้ในข้ันตอนน้ี จะทาการวางแผนและ ดาเนินการ และพฒั นาระบบ โดยบุคลากรฝ่ายงานเทคโนโลยหี อ้ งสมุด เปน็ ผพู้ ัฒนาระบบ โดยมรี ายละเอียดดังน้ี 2.1 ขั้นตอนการวางแผน: สานักหอสมุดกลางมีการประชุมกลุ่มบรรณารักษ์ของห้องสมุดทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ห้องสมุดประสานมิตร ห้องสมุดองครักษ์ ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ และห้องสมุด ศูนย์การแพทย์ปญั ญานนั ทภิกขุ ชลประทาน เพอ่ื หาแนวทางการดาเนนิ การที่เหมาะสมในการทาระบบยมื ทรัพยากร ระหว่างหน่วยงาน ในรูปแบบของการจัดการความรู้ (Knowledge Management) เพื่อหาแนวทางความเป็นไปได้ ในการปฏิบัตงิ าน รวมถึงข้อดีและขอ้ จากัดในการปฏบิ ตั ิงานทีผ่ า่ นมาในแต่ละรปู แบบ 2.2 ขั้นตอนการพัฒนาระบบ: หลังจากการจัดการความรู้ในกลุ่มบรรณารักษ์ และได้รับ ข้อเสนอแนะ รวมถึงแนวปฏิบัติที่ดี (Best practices) ในการบริการยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงานแล้ว บุคลากร ฝ่ายเทคโนโลยีหอ้ งสมุดจึงนาข้อมูลที่ไดร้ ับมาใชใ้ นการวางแผนและดาเนินการพัฒนาระบบสาหรับการยืมทรัพยากร ระหวา่ งหนว่ ยงาน 2.3 ขั้นตอนการนาระบบไปใช้: เมื่อสร้างระบบการยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงาน (ICL) แล้ว ฝ่ายเทคโนโลยีห้องสมดุ ได้จดั ทาแนวปฏิบัตแิ ละขนั้ ตอนการใช้งานระบบ จากนั้นจงึ นาไปให้เจา้ หน้าที่ทดลองใช้ และนาข้อเสนอแนะและข้อคดิ เห็นท่ีได้รบั จากผ้ปู ฏิบัติงานไปทาการปรับปรงุ ระบบเป็นระยะ ๆ เพือ่ ใหร้ ะบบมีความ ถูกตอ้ ง สมบรู ณ์ และสามารถใชง้ านไดจ้ รงิ ระยะท่ี 3 การออกแบบและพฒั นาระบบ ในส่วนของการออกแบบระบบนั้น มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สะดวกต่อการใช้บริการ โดย ผู้ใช้บริการสามารถใช้ระบบยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงานจากที่ใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรอื แทบเล็ต จึงเลอื กออกแบบระบบใหท้ างานผา่ นเว็บเบราวเ์ ซอร์ นอกจากน้ัน ระบบยังสามารถเกบ็ ขอ้ มูลหรอื สถติ ิ การใช้งานเพื่อนามาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบการใช้ทรัพยากรของห้องสมุด ทั้งยังสามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ผ่าน ทางอีเมลเมื่อมีผู้ใช้บริการทารายการยืม รวมถึงสามารถตรวจสอบสถานภาพของผู้ใช้บริการและทรัพยากรท่ี ผู้ใชบ้ รกิ ารต้องการยมื ได้ โดยในข้ันตอนการออกแบบพฒั นาระบบ มดี ังนี้ 3.1 การออกแบบกระบวนการการทางานของระบบ การออกแบบกระบวนการทางานของระบบ เริ่มต้นจากการศึกษาขั้นตอนการทางานในรูป แบบเดิมและรวบรวมข้อมูลและข้อคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ของห้องสมุดทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ห้องสมุดประสานมิตร ห้องสมุดองครักษ์ ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ องครักษ์ และห้องสมุดศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน เพ่ือหารปู แบบของข้ันตอนการทางานทเ่ี หมาะสมดังภาพ

การประชุมวชิ าการระดับชาติ PULINET ครั้งที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ ภาพที่ 1 แผนผงั แสดงกระบวนการการทางานของระบบยมื ระหวา่ งหนว่ ยงาน 3.2 การพฒั นาระบบ จากการศึกษาความต้องการของเจา้ หนา้ ทีผ่ ้ใู ห้บริการ รวมถึงศึกษาความตอ้ งการของ ผ้ใู ช้บรกิ าร จงึ พัฒนาระบบดว้ ยภาษา HTML และ PHP รว่ มกบั ฐานขอ้ มลู MariaDB โดยตัวระบบนน้ั ออกแบบมา เพอ่ื ให้อาจารย์ นิสติ และบคุ ลากรของมหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ สามารถเข้าใชง้ านได้ด้วย

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ PULINET คร้ังท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลัยทักษิณ แอคเคานท์ของมหาวิทยาลัยทใ่ี ช้สาหรบั การเข้าถงึ ระบบสารสนเทศตา่ ง ๆ ของมหาวทิ ยาลัยอย่แู ลว้ โดยแบ่งเปน็ การดึงขอ้ มลู และตรวจสอบข้อมลู 3 ส่วน ดงั น้ี 3.2.1 การตรวจสอบและดึงขอ้ มูลของผูใ้ ช้ การตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้จะเกิดขึ้นในช่วงการ Login เข้าสู่ระบบด้วยรหัส Buasri ID ซึ่ง เป็นรหัสที่ใช้เพื่อเข้าสู่ระบบสารสนเทศต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ระบบจะทาการตรวจสอบความเป็นสมาชิกผ่าน ระบบ LDAP ของมหาวิทยาลัย เมื่อผู้ใช้บริการทาการ Login เข้าสู่ระบบ และระบบตรวจสอบแล้วว่า ผู้ใช้บริการมี สถานะเป็นนิสิตหรือบุคลากรของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒจริง ระบบจึงจะทาการดึงข้อมูลของผู้ใช้ผ่านระบบ คลังข้อมูลห้องสมุด (CLDW : Central Library Data Warehouse) และใช้ API ของระบบห้องสมุดอัตโนมัติ (Aleph) ในการการตรวจสอบข้อมูลคา่ ปรบั ค้างชาระหรือค่าปรับหนังสอื เกนิ กาหนด ภาพที่ 2 หน้า Login เพอื่ เข้าสรู่ ะบบ เคานเ์ ตอร์ ภาพที่ 3 การแสดงผลคา่ ปรบั ค้างชาระหรือคา่ ปรบั หนังสือเกินกาหนด เพ่อื แจ้งใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการทราบวา่ ไมส่ ามารถให้บริการได้ จนกวา่ ผู้ใช้จะจดั การภาระหนี้สินท่ีมีกับหอ้ งสมดุ 3.2.2 การตรวจสอบข้อมูลหนงั สอื การตรวจสอบข้อมูลหนังสอื จะเกดิ ข้ึนในชว่ งของการตรวจสอบรายการยืมหนังสือโดยใช้ API ของระบบห้องสมุดอัตโนมัติ (Aleph) ในการตรวจสอบคอลเลคชั่นและสถานะของทรัพยากรผ่านเลขบาร์โค้ด (Barcode) ไอเท็มของทรัพยากร (Item) ว่าเป็นทรัพยากรที่อยู่ในคอลเลคชั่นที่ห้องสมุดให้ยืมได้หรือไม่ และเป็น ทรัพยากรที่มสี ถานะอยูบ่ นช้ัน (Available) เพื่อให้เจา้ หนา้ ทีส่ ามารถหยิบมายืมในระบบและจัดสง่ ให้ไดห้ รอื ไม่

การประชุมวิชาการระดับชาติ PULINET ครงั้ ที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวิทยาลัยทักษิณ ภาพท่ี 4 หนา้ จอแสดงข้อมูลสถานะหนงั สอื ทีท่ ารายการยมื ระหวา่ งหน่วยงาน 3.2.3 การสร้างรายการจองทรพั ยากร (Hold request) ในระบบ Aleph ในขณะที่ผู้ใช้บริการทารายการยืมทรัพยากรด้วยระบบ ICL ระบบจะทาการสร้างรายการ Hold Request ของทรพั ยากรทผ่ี ู้ใช้ตอ้ งการยืมดว้ ย API ของระบบห้องสมุดอัตโนมัติ (Aleph) เพื่อไม่ใหเ้ กดิ การทา รายการยืมระหวา่ งหน่วยงานซ้าซ้อนระหว่างผ้ใู ช้บริการแต่ละคน ภาพท่ี 5 หน้าจอแสดงระบบห้องสมุดอัตโนมตั ิทีร่ ะบบยืมระหว่างหนว่ ยงานทาการ Hold Request

การประชมุ วิชาการระดับชาติ PULINET ครงั้ ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษิณ ระยะท่ี 4 การทดสอบการใช้งาน และการปรับปรงุ แก้ไข หลังจากที่สร้างระบบการยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงานเสร็จสิ้น จึงมีการทดลองเปิดใช้งาน ระบบ ซงึ่ พบวา่ มปี ญั หาในการใชง้ าน โดยแบ่งประเภทของปัญหาออกเปน็ 2 ประเภท ดังน้ี 4.1 ปัญหาจากระบบ ได้แก่ 4.1.1 ปัญหาการเขียนอักขระพิเศษต่าง ๆ ที่พบในชื่อหนังสือ เช่น เครื่องหมาย ', เครอื่ งหมาย : ลงในฐานข้อมลู ไม่ได้ ซ่ึงสามารถแก้ไขได้โดยใชค้ าส่ัง php 4.1.2 ปัญหาการทา Hold Request ไม่ตรงกับรายการทท่ี ารายการ ซึ่งเป็นปญั หาจาก ความผิดพลาดของข้อมูลรายการบรรณานกุ รมในระบบ เนื่องจากเลขหมายประจารายการระเบยี นของ Bib และ Item ไม่ตรงกัน เกดิ จากช่วงแรก ๆ ในการใช้งานระบบ Aleph ท่ผี ปู้ ฏิบตั งิ านไมเ่ ขา้ ใจความเช่ือมโยงระหว่างเลข Bib และ Item ท่ีปรากฏในระบบ และลบข้อมลู ผิด ซงึ่ เปน็ ปญั หาท่ีไมส่ ามารถแก้ไขได้ เน่ืองจากเลขระเบียนของ Bib และ Item จะมกี ารรนั ไปเร่อื ย ๆ ตามการปฏบิ ัติงานที่เกดิ ข้นึ ทุกวัน ทาใหก้ ารแสดงผลของข้อมูลหนังสือท่ที าการยมื ไม่ตรง กบั รายการทต่ี อ้ งการ ซง่ึ ปญั หานจี้ ะพบในส่วนของขอ้ มลู ที่ผดิ พลาดไปแลว้ บางสว่ น และแกไ้ ขโดยการทา Mapping รายการทไี่ ม่ตรงกนั ใน Data warehouse 4.1.3 ปัญหาที่ระบบไม่สามารถแสดงข้อมูลชือ่ ผใู้ ชบ้ างรายการได้ เน่อื งจาก Data warehouse ไมอ่ ปั เดท แกไ้ ขโดยการปรับปรงุ ขอ้ มลู ใน Data warehouse ให้ถกู ตอ้ งและเป็นปจั จบุ ัน 4.2 ปญั หาจากการใชง้ าน ได้แก่ 4.2.1 ปญั หาด้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เชน่ การไมอ่ ปั เดทสถานะของการ ดาเนินการ ทาให้หนว่ ยงานผู้ยืมหนังสือไมท่ ราบวา่ หนังสอื กาลังอยใู่ นระหวา่ งจดั ส่งหรือกาลงั อยใู่ นชว่ งค้นหาตัวเลม่ เน่อื งจากทง้ั สองสถานะนมี้ รี ะยะเวลารอคอยแตกตา่ งกัน หากแสดงสถานะวา่ กาลังจดั สง่ หมายความวา่ ผใู้ ช้จะได้รับ หนังสือภายในวันนี้ ชว่ งเวลา 14.00 น. เป็นต้นไป แต่หากแสดงสถานะว่า กาลังดาเนินการ หมายความวา่ ผู้ใช้ อาจจะไดร้ ับหนงั สอื ในวันรงุ่ ข้นึ หรือวนั ถัดไป 4.2.2 ปัญหาด้านการจัดส่ง จะเป็นปัญหาที่เกิดจากห้องสมุดที่สังกัดใน มศว องครักษ์ สองแห่ง คือห้องสมุดองครักษ์ และห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ จะมีวิธีการจัดส่งเอกสารที่แตกต่างกันอยู่แล้ว กล่าวคือหอ้ งสมดุ องครักษ์ ใชบ้ ริการรถต้สู วัสดิการของมหาวทิ ยาลัย ในขณะที่ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ ใชบ้ ริการ รถตู้สวัสดิการของคณะแพทยศาสตร์เอง ทาให้เมื่อมีการยืมจากห้องสมุดประสานมิตร เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถ ดาเนนิ การได้พร้อมกัน เพราะรถตู้ส่งมาคนละชว่ งเวลา สรุปผล อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ และการนาไปใช้ประโยชน์ จากการพัฒนาระบบยืมระหว่างหน่วยงาน (Inter Campus Loan: ICL) เพื่อเป็นเครื่องมือ สาหรับอานวยความสะดวกในการยมื ทรพั ยากรระหว่างหน่วยงาน พบว่า สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ต้ังข้ึนทั้ง 2 ขอ้ ได้แก่ การพัฒนานวัตกรรมการใช้บริการยมื ทรัพยากรระหว่างหนว่ ยงาน ซึ่งถอื ว่าบรรลวุ ัตถุประสงค์ เนอื่ งจาก มีการพัฒนาและปรับปรุงเคร่ืองมือในการให้บริการ ออกมาเป็นนวัตกรรมที่สร้างเป็นระบบสาหรับการใช้งานทั้งใน ส่วนของผู้ใช้บริการ และผใู้ หบ้ ริการอย่างครบถ้วน ในด้านการพัฒนารูปแบบการบริการยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงานของทุกห้องสมุดสาขาให้มี มาตรฐานการทางานเป็นรูปแบบเดียวกัน นับว่าบรรลุวัตถุประสงค์เช่นกัน เนื่องจากระบบนี้ทาให้ห้องสมุดทั้ง 4

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ PULINET คร้ังท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานักหอสมุด มหาวทิ ยาลยั ทักษิณ สาขา มแี นวทางการปฏิบตั ิงานและรูปแบบการให้บริการไปในมาตรฐานเดียวกัน แตกต่างจากก่อนหนา้ การใช้ระบบ ที่แต่ละห้องสมุดจะมีวิธีการปฏิบัติงานแตกต่างกันออกไป ทั้งในเชิงรายบุคคล และเชิงระดับห้องสมุด โดยพิจารณา จากความสะดวกของผู้ให้บริการเปน็ หลัก และประยกุ ต์ใชด้ ้วยวิธกี ารหรือเทคโนโลยีตา่ ง ๆ หลังจากระบบเริ่มเปิดให้ใช้งานตั้งแต่วันท่ี 1 สงิ หาคม 2562 ถึงปัจจบุ ัน (เก็บข้อมลู ณ วันที่ 20 กนั ยายน 2562) มจี านวนการใชบ้ ริการเพ่มิ ขน้ึ ดงั ข้อมลู แสดงในตารางที่ 1 ตารางท่ี 1 แสดงจานวนสถติ ิการใชบ้ ริการยมื ทรัพยากรระหว่างหนว่ ยงาน หอ้ งสมุดประสานมิตรยืมห้องสมดุ องครักษ์ ปี จานวนคาขอยมื จานวนเลม่ /บทความ เพ่ิมข้ึน เพิม่ ขึน้ เพ่มิ ขึ้น เพ่มิ ขน้ึ หนงั สอื ร้อยละ บทความ ร้อยละ หนังสือ รอ้ ยละ บทความ ร้อยละ 2560 81 -- 1 -- 124 1 2561 98 20.99 0 -100 160 29.03 0 -100 2562 117 19.39 4 400 126 -21.25 3 300 หอ้ งสมุดองครักษ์ยมื หอ้ งสมดุ ประสานมิตร ปี จานวนคาขอยมื จานวนเลม่ /บทความ เพิ่มขน้ึ เพ่มิ ข้นึ เพม่ิ ข้ึน เพม่ิ ขึ้น หนงั สือ รอ้ ยละ บทความ รอ้ ยละ หนงั สือ ร้อยละ บทความ ร้อยละ 2560 93 -- 1 -- 136 -- 1 -- 2561 52 -44.09 0 -100 85 -37.50 0 -100 2562 86 65.38 2 200 97 14.12 2 200 จากตารางที่ 1 จะพบว่า เมื่อพิจารณาสถิติการใช้บริการยืมหนังสือระหว่างหน่วยงานระหว่าง หอ้ งสมุดประสานมิตรและองครักษ์ ในชว่ งเวลาเดยี วกันของแตล่ ะปี (1 สงิ หาคม-20 กันยายน) มีสถิติการยืมหนงั สือ เพ่ิมขึน้ จาแนกตามห้องสมดุ คือ ห้องสมุดประสานมิตรยืมหอ้ งสมุดองครักษ์เพมิ่ ขึน้ 28 ครั้ง (จาก 98 คร้ัง เป็น 117 ครั้ง) คิดเป็นร้อยละ 19.39 สาหรับสถิติการยืมระหว่างห้องสมุดองครักษ์ยืมห้องสมุดประสานมิตร เพิ่มข้ึน 34 ครั้ง (จาก 52 คร้ัง เปน็ 86 ครัง้ ) คิดเป็นร้อยละ 65.38 เมื่อพิจารณาเป็นจานวนเล่ม พบว่า ห้องสมุดประสานมิตรยืมห้องสมุดองครักษ์ลดลง 34 เล่ม (จาก 160 เล่ม เป็น 126 เล่ม) ลดลงร้อยละ 21.25 สาหรับสถิติการยืมระหว่างห้องสมุดองครักษ์ยืมห้องสมุด ประสานมติ ร เพมิ่ ข้ึน 12 เล่ม (จาก 85 เลม่ เป็น 97 เล่ม) คดิ เปน็ ร้อยละ 14.12

การประชุมวชิ าการระดับชาติ PULINET ครั้งที่ 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8-9 มกราคม 2563, สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษิณ สาหรับบทความวารสาร ยังมีจานวนเพ่ิมขึ้นไมม่ ากนัก เน่ืองจากช่วงที่เริ่มเปดิ ใช้บริการเป็นช่วง ปิดภาคการศึกษา จนถึงช่วงต้นของการเปิดภาคการศึกษา ซึ่งยังไม่ใช่ช่วงที่นิสิตจะใช้บทความวารสารประกอบ การเรียนมากเหมือนช่วงกลางภาคการศกึ ษา ด้านความพึงพอใจในการใชบ้ ริการ พบวา่ ผ้ใู ชบ้ รกิ ารมคี วามพึงพอใจในการใช้งานระบบอยู่ใน ระดบั มากทสี่ ดุ (������̅ = 4.76) ดังตารางที่ 2 ตารางท่ี 2 แสดงการประเมนิ ความพงึ พอใจในการใชร้ ะบบ ผูท้ าแบบประเมิน (คน) จานวนการตอบ (ครัง้ ) คา่ เฉลีย่ ความพึงพอใจ 76 98 4.76 จากตารางที่ 2 พบว่า ผู้ใช้บริการที่ทาแบบประเมินจานวน 76 คน ได้ทาการประเมินการใช้งาน ระบบจานวน 98 ครั้ง คิดเป็นค่าเฉลี่ย 4.76 แสดงว่าผู้ใช้มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด (แบบประเมิน ความพึงพอใจจะแสดงโดยอัตโนมัติเมื่อ login เข้าใช้บริการเสร็จสิ้นในแต่ละครั้ง แต่หากผู้ใช้บริการคนเดียวกันนี้ เข้าใชง้ านระบบครง้ั ตอ่ ไปในวันเดียวกนั แบบประเมนิ จะไมแ่ สดงขึ้นมาใหต้ อบซา้ อกี ) ข้อเสนอแนะ เน่ืองด้วยระบบยืมทรัพยากรระหว่างหน่วยงานมเี บื้องหลังของการทางานของระบบ โดยการดึง ข้อมูลผู้ใช้ผ่านระบบคลังข้อมูลห้องสมุด (CLDW : Central Library Data Warehouse) ทาให้ปัญหาหลัก ประการหนึ่งที่อาจพบได้คือ หากข้อมูลของอาจารย์ นิสิตและบุคลากรของระบบคลังข้อมูลห้องสมุดยังไม่ได้รับ การปรับปรุงข้อมูลให้ตรงกับระบบสารสนเทศของมหาวิทยาลัย จะทาให้ไม่มีข้อมูลของอาจารย์ นิสิตและบุคลากร คนดังกล่าวแสดงขึ้นในระบบ แต่ผู้ใช้บริการยังสามารถ login เข้ามาใช้งานได้เนื่องจากการตรวจสอบตัวตนของ ผูใ้ ช้บรกิ ารจะทาการตรวจสอบกับ LDAP ของมหาวิทยาลัยโดยตรง แต่กอ็ าจทาให้ผู้ใชบ้ ริการเกดิ ความสบั สนในการ ใชบ้ รกิ ารได้เช่นกัน ดังนั้น หอ้ งสมุดจึงจาเป็นตอ้ งปรบั ขอ้ มูลผูใ้ ช้ใหท้ นั สมัยตลอดเวลาเพอ่ื ไมใ่ ห้เกดิ ปญั หาดงั กลา่ วขน้ึ รายการอ้างอิง บญั ชา ปะสลี ะเตสัง. (2557). พฒั นาเว็บแอปพลิเคชัน่ ด้วย PHP รว่ มกับ MySQL และ jQuery. กรุงเทพฯ: ซเี อด็ ยเู คชัน่ . Exlibris. (2019). Aleph X-Services. สืบคน้ 15 กันยายน 2562, จาก https://developers.exlibrisgroup.com/aleph/apis/aleph-x-services/

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ PULINET ครงั้ ท่ี 10 : Library Transformation in a Disrupted World, 8 -9 มกราคม 2563, สานกั หอสมุด มหาวิทยาลยั ทกั ษณิ ระบบคลงั ข้อมูลหอ้ งสมุดกับการนามาใชป้ ระโยชน์: กรณีศกึ ษา การวเิ คราะห์ collection หนังสอื หมวด 370 การศึกษา Central Library Data Warehouse and Utilization : A Case Study of 370 DDC Classification ธนวัฒน์ เสรฐิ สวุ รรณ กุล, มัณ ฑนา เจริญแพทย์ สานักหอสมดุ กลาง มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ tanaw at s@ g.sw u .ac .th m antana@ g.swu.ac.th บทคดั ยอ่ ร ะ บ บ ค ลังข้อ มูล ห้อ งส มุด (Central Library Data Warehouse) เป็น ร ะ บ บ ท่ีพัฒ น า ด้วย ซอฟตแ์ วร์ Pentaho Business Analytic Platform โดยนาข้อมูลจากระบบหอ้ งสมดุ อตั โนมัติ (ALEPH) และระบบ บริหารจัดการประสิทธภิ าพการศกึ ษา (SUPREME 2019) มาบูรณาการรว่ มกัน จากผลของการพัฒนาระบบทาให้ได้ ขอ้ มูลการใชป้ ระโยชน์ของทรัพยากร ที่สามารถนาไปใชใ้ นการบริหารจดั การ เชน่ การใช้หนังสอื ตามช่วงเวลาตา่ ง ๆ หรอื ประเภททรพั ยากร เปน็ ต้น รวมถงึ สามารถนามาใชใ้ นการวเิ คราะห์ Collection หนังสอื หมวด 370 (การศกึ ษา) ในสว่ นของจานวนหนงั สอื ที่มีให้บริการ จานวนการใชห้ นงั สอื ของหมวด 370 ท้งั หมด และหมวดยอ่ ยของหมวด 370 อกี ด้วย ซึ่งขอ้ มูลดงั กล่าวสามารถนาไปใชใ้ นการพจิ ารณาจัดหา หรืออนุรกั ษห์ นังสือในหมวดดังกล่าว เพือ่ ใหบ้ ริการ ตามความต้องการของผู้ใช้ตอ่ ไป คาสาคัญ: ระบบคลงั ขอ้ มลู หอ้ งสมุด, การวิเคราะห์คอลเล็คชนั , การใชห้ นังสอื ABSTRACT Central Library Data Warehouse is initiated with Pentaho Business Analytics Platform through data integration from the library system, student register, and human resource system. The program brings significant data used for administration such as book usage in any range times, resource type, etc. This data are used as collection analysis in 370 DDC classification as well as is sub-classification through several books and usage that can be further described collection development as to users need.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook