๑ ประมวลการสอน วชิ า นิติวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๘ คร้ัง คร้ังละ ๒ หรือ ๔ ช่ัวโมง รวม ๑๖ ชั่วโมง ช่ือผู้สอน .........................................................วนั /เดือน/ปี ทส่ี อน........................................................ จุดประสงค์ในการเรียนการสอน เพอื่ ใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจ ๑. สามารถอธิบายความหมาย ประโยชน์ หน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งกบั นิติวทิ ยาศาสตร์ได้ ๒. สามารถแบ่งประเภท และชนิด พยานวตั ถุไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ๓. สามารถอธิบายเกี่ยวกบั วตั ถุพยานทางวทิ ยาศาสตร์ และสามารถแยกวตั ถุพยานทาง วทิ ยาศาสตร์ได้ ๔. สามารถเกบ็ รวบรวมและรักษาวตั ถุพยานเพื่อดาํ เนินการในกระบวนการยตุ ิธรรมไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง ๕. สามารถอธิบายความหมาย หวั ขอ้ ปฏิบตั ิ บทบาทหนา้ ท่ีของตาํ รวจใน การป้ องกนั รักษา สถานท่ีเกิดไดถ้ ูกตอ้ งและ มีประสิทธิภาพ ๖. มีความรู้และเขา้ ใจเคร่ืองมือวทิ ยาศาสตร์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สมรรถนะ ๑. มีความรู้ในหลกั วชิ าการ กฎหมายและระเบียบ ท่ีจาํ เป็นและนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ๒. ปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามระเบียบแบบและคาํ ส่งั ของผบู้ งั คบั บญั ชาตามอาํ นาจหนา้ ที่ รักษาวนิ ยั และปฏิบตั ิอยใู่ นระเบียบ ๓. ใชก้ ริยา วาจาสุภาพ วธิ ีการแสดงออกอยา่ งเหมาะสม ภายใตอ้ าํ นาจหนา้ ที่ความ รับผดิ ชอบตามท่ีกฎหมายกาํ หนด ในขณะปฏิบตั ิหนา้ ที่
๒ ๔. ไมเ่ รียกหรือรับผลประโยชนอ์ ่ืนใดเพื่อรักษาไวซ้ ่ึงความถูกตอ้ งเที่ยงธรรมในการปฏิบตั ิ หนา้ ที่ ๕. ปฏิบตั ิหนา้ ที่โดยยดึ กฎหมาย ระเบียบ และแบบแผน ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ประชาชน ดว้ ยความ เท่าเทียมกนั โดยไม่คาํ นึงถึงสถานะทางสงั คม ๖. สามารถรักษาความลบั ของขอ้ มลู ข่าวสาร ที่ไดร้ ับจากประชาชนซ่ึงเกี่ยวกบั งานในหนา้ ที่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยมิใหเ้ กิดภยั คุกคาม แก่ผใู้ หข้ อ้ มูลขา่ วสาร เนือ้ หา ความหมาย ประโยชน์ หน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั นิติวทิ ยาศาสตร์ พยานวตั ถุ วตั ถุ พยานกบั การพจิ ารณาคดี วตั ถุพยานทางวทิ ยาศาสตร์และการรักษาสถานที่เกิดเหตุ การรวบรวม และรักษาวตั ถุพยาน การเกบ็ วตั ถุพยาน การพสิ ูจนห์ ลกั ฐานและนิติเวชศาสตร์ การพสิ ูจนต์ วั บุคคล เคร่ืองมือวทิ ยาศาสตร์ที่สามารถนาํ มาสนบั สนุนงานสืบสวนสอบสวน
๓ กจิ กรรมการเรียนการสอน คร้ัง เนือ้ หา กจิ กรรม สื่อ วดั ผล ๑ บทท่ี ๑ ความหมาย - บรรยาย - ประมวลรายวชิ า - ทาํ แบบทดสอบ - ยกตวั อยา่ ง - คู่มือตาํ รวจ ก่อนเรียน ประโยชน์ หน่วยงานท่ี - ซกั ถาม - Power Point เกี่ยวขอ้ ง - สงั เกตความ - พยานวตั ถุ ความหมาย - บรรยาย - Power Point สนใจ ประเภท ชนิดของพยาน - สาธิต - คู่มือตาํ รวจ -การสังเกต วตั ถุ - ซกั ถาม - วดี ีทศั นต์ วั อยา่ ง พฤติกรรมการมี ๒ บทที่ ๒ วตั ถุพยานทาง ส่วนร่วม วทิ ยาศาสตร์และการรักษา - อธิบาย - อุปกรณ์ในการเกบ็ สถานท่ีเกิดเหตุ - สาธิต ลายนิ้วมือแฝง - สังเกตความ - ลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ - แบ่งกลุ่ม - ผงเคมีดาํ สนใจ - ประเภทเอกสาร ฝึกปฏิบตั ิ - เทป ๓ m -ดูความถูกตอ้ งของ - อาวธุ ปื น เคร่ืองกระสุนปื น - แบ่งกลุ่ม - กระดาษ A๔ การปฏิบตั ิ -ประเภทชีววทิ ยา อภิปราย - สังเกตการมีส่วน - ประเภทยาเสพติด - ซกั ถาม - Power Point ร่วมในการฝึ ก - ประเภทอ่ืนๆ เช่น เศษดิน - คู่มือตาํ รวจ ปฏิบตั ิ หิน ดินทราย ฯลฯ - อธิบาย - วดี ีทศั นต์ วั อยา่ ง -ใบงาน ๓ การฝึกปฏิบตั ิการเกบ็ - สาธิต -สร้างสถานการณ์จาํ ลอง - สงั เกตความ (๔ ลายนิ้วมือแฝง - แบ่งกลุ่ม สถานที่เกิดเหตุ สนใจ ชวั่ โมง) ฝึกปฏิบตั ิ -ดูความถูกตอ้ งของ การปฏิบตั ิ ๔ การฝึกปฏิบตั ิการการรักษา (๔ สถานท่ีเกิดเหตุ ชว่ั โมง)
๔ - แบ่งกลุ่ม - อุปกรณ์ในการรักษา - สังเกตการมีส่วน อภิปราย สถานท่ีเกิดเหตุ ร่วมในการฝึ ก - ซกั ถาม ปฏิบตั ิ -ใบงาน ๕ บทที่ ๓ การเก็บรวบรวม - บรรยาย - Power Point - สังเกตความ สนใจ และรักษาวตั ถุพยาน - สาธิต - คู่มือตาํ รวจ - ซกั ถาม - สังเกตการมีส่วน - ซกั ถาม ร่วม - ดูความถูกตอ้ ง ๖ บทท่ี ๔ การพิสูจน์หลกั ฐาน - บรรยาย - Power Point ของ การตอบคาํ ถาม- และนิติเวชศาสตร์ - ยกตวั อยา่ ง - คูม่ ือตาํ รวจ ทาํ แบบทดสอบ -การพิสูจนต์ วั บุคคล - แบง่ กลุ่ม - วดี ีทศั นต์ วั อยา่ ง -เคร่ืองมือวทิ ยาศาสตร์ท่ี อภิปราย สามารถนาํ มาสนบั สนุนงาน สืบสวนสอบสวน วธิ ีวดั ผล ๑๐ % ๑. คะแนนสอบฝึกภาคปฏิบตั ิ ๑๕ % ๒. คะแนนสอบกลางภาค ๗๕ % ๓. คะแนนสอบปลายภาค ๑๐๐ % รวม ๘๐ - ๑๐๐ = ๔.๐ เกณฑ์ประเมินผล ๗๕ - ๗๙ = ๓.๕ A หมายถึงคะแนน ๗๐ - ๗๔ = ๓.๐ B+ หมายถึงคะแนน ๖๕ - ๖๙ = ๒.๕ B หมายถึงคะแนน ๖๐ - ๖๔ = ๒.๐ C+ หมายถึงคะแนน ๕๕ - ๕๙ = ๑.๕ C หมายถึงคะแนน ๕๐ - ๕๔ = ๑.๐ D+ หมายถึงคะแนน ๔๙ ลงไป = ๐ D หมายถึงคะแนน F หมายถึงคะแนน
๕ หนังสือ ตารา ทนี่ ักเรียนต้องอ่าน ๑. คูม่ ือตาํ รวจ กองบญั ชาศึกษา ๒. นิติวทิ ยาศาสตร์เพื่อการสืบสวนสอบสวน บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………...
๖ แผนการสอนรายคร้ัง วชิ า นิตวิ ทิ ยาศาสตร์ ชื่อหลกั สูตร นกั เรียนนายสิบตาํ รวจ คร้ังทสี่ อน ๑-๒ จานวนช่ัวโมงทสี่ อน ๒ ชั่วโมง จานวนช่ัวโมงท้งั วชิ า ๑๖ ชั่วโมง ช่ือผู้สอน ......................................................วนั /เดือน/ปี ทสี่ อน...................................................... จุดประสงค์ในการเรียนการสอน เพ่อื ใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจ ๑. สามารถอธิบายความหมาย ประโยชน์ ของงานนิติวทิ ยาศาสตร์ได้ ๒. สามารถอธิบายลกั ษณะงานของหน่วยงานนิติวทิ ยาศาสตร์ได้ ๓. มีความรู้และเขา้ ใจวตั ถุพยานและการวตั ถุพยานกบั การพจิ ารณาดาํ เนินคดีไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง สมรรถนะ ๑.๑ มีความรู้ในหลกั วชิ าการ กฎหมายและระเบียบ ที่จาํ เป็นและนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ๑.๒ ปฏิบตั ิหนา้ ทีตามระเบียบแบบแผนและคาํ สง่ั ของผบู้ งั คบั บญั ชาตามอาํ นาจหนา้ ที่ รักษา วนิ ยั และปฏิบตั ิอยใู่ นระเบียบ เนือ้ หา - ความหมาย ประโยชน์ หน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั นิติวทิ ยาศาสตร์ - พยานวตั ถุ - พยานวตั ถุกบั การพิจารณาดาํ เนินคดี
๗ กจิ กรรมการเรียนการสอน เวลา ครูทาอะไร (ระบุ) นักเรียนทาอะไร ส่ือ วดั ผล ข้นั นาํ (ระบุ) ๑๕ นาที -แนะนาํ ตวั - สงั เกตความ สอน -แจกประมวลรายวชิ า -อ่านประมวลรายวชิ า -เอกสาร สนใจ ๙๐ นาที - อธิบายรายละเอียด และ - ซกั ถาม สอบถามความเขา้ ใจของ - ซกั ถาม -ประมวล - แบบทดสอบ สรุป นกั เรียน ก่อนเรียน ๑๕ นาที ๑. ทาํ แบบทดสอบก่อน รายวชิ า - ซกั ถาม เรียน ๒. บรรยายความหมาย - นกั เรียนทาํ - แบบทดสอบ -สังเกตความ - ประโยชน์ หน่วยงานที่ สนใจ เกี่ยวขอ้ งกบั นิติ แบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรียน -ซกั ถาม วทิ ยาศาสตร์ - พยานวตั ถุและวตั ถุ - ต้งั ใจฟัง - คู่มือตาํ รวจ พยานกบั การพจิ ารณา ดาํ เนินคดี - ซกั ถาม - power point - สรุปเน้ือหาท่ีสอน - บนั ทึกประเด็น สาํ คญั - บนั ทึกประเดน็ - คู่มือตาํ รวจ สาํ คญั - power point บันทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................
๘ การสอนคร้ังที่ ๑ จุดประสงค์ในการเรียนการสอน เพ่อื ใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจ ๑. สามารถอธิบายความหมาย ประโยชน์ ของงานนิติวทิ ยาศาสตร์ได้ ๒. สามารถอธิบายลกั ษณะงานของหน่วยงานนิติวทิ ยาศาสตร์ได้ ๓. มีความรู้และเขา้ ใจวตั ถุพยานและการวตั ถุพยานกบั การพิจารณาดาํ เนินคดีไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง เนือ้ หา - ความหมาย ประโยชน์ หน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งกบั นิติวทิ ยาศาสตร์ - พยานวตั ถุ - พยานวตั ถุกบั การพิจารณาดาํ เนินคดี ----------------------------------------------------------
๙ ความหมายและประโยชน์ของงานนิตวิ ทิ ยาศาสตร์ นิติวทิ ยาศาสตร์ (Forensic Science) คือ “การนาํ ความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ทุกสาขา มาประยกุ ตใ์ ช้ เพ่อื พสิ ูจน์ขอ้ เทจ็ จริงในคดีความเพือ่ ผลในการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย และการลงโทษ” จากความหมายดงั กล่าว นิติวทิ ยาศาสตร์จึงเป็นการนาํ วทิ ยาศาสตร์ทุกสาขามาใช้ เพ่อื ประโยชนแ์ ห่ง กฎหมาย ซ่ึงประโยชนแ์ ห่งกฎหมายในที่น้ีไดแ้ ก่ ๑) ประโยชน์ทางนิติบญั ญตั ิ ๒) ประโยชนข์ องการคล่ีคลายปัญหา และพิสูจน์ขอ้ เทจ็ จริงในคดีความเพื่อผลในการ บงั คบั ใชก้ ฎหมาย และการลงโทษ ขอบเขตของวชิ านิตวิ ทิ ยาศาสตร์ ขอบเขตของนิติวทิ ยาศาสตร์มีหลากหลายวชิ า ส่วนที่จะใหม้ ีความรู้ในส่วนของวชิ านิติ วทิ ยาศาสตร์น้ี จะประกอบไปดว้ ย ๑. การตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ ๒. การพสิ ูจน์หลกั ฐาน ๓. นิติเวชศาสตร์ ประโยชน์ของวชิ านิติวทิ ยาศาสตร์ การอาํ นวยความยตุ ิธรรม (Enhancement of Justice) ถือเป็นภารกิจสาํ คญั พ้ืนฐาน ของรัฐ (A basic function of state) ซ่ึงรัฐจะตอ้ งดาํ เนินการอาํ นวยความยตุ ิธรรมโดยการจดั การ บริหารองคก์ ารในกระบวนการยตุ ิธรรมใหเ้ ป็นท่ีพึงพอใจของประชาชน และเป็นสากลตามหลกั นิติ ธรรม(The Rule Of Law) จุดมุ่งหมายหลกั ในการอาํ นวยความยตุ ิธรรม คือ การใหป้ ระชาชนที่เขา้ สู่ กระบวนการยตุ ิธรรมไดร้ ับความสะดวก รวดเร็ว ประหยดั และเป็นธรรม ปัจจุบนั เมื่อเกิดคดีอาชญากรรมข้ึน การที่จะเอาตวั ผกู้ ระทาํ ผดิ ที่แทจ้ ริงมาลงโทษ ตามกระบวนการยตุ ิธรรมน้นั เป็นเร่ืองที่สาํ คญั อยา่ งยง่ิ โดยเฉพาะจะตอ้ งมีการตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ เพือ่ รวบรวมพยานหลกั ฐานมายนื ยนั ใหส้ ามารถพิสูจน์ความผดิ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ดงั น้นั ในตา่ งประเทศเช่น ญี่ป่ ุน สหรัฐอเมริกา ไดม้ ีการนาํ เอาความรู้ทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยตี ่าง ๆ มาพฒั นาใชใ้ นการตรวจสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจนห์ ลกั ฐานตา่ ง ๆ
๑๐ ใหไ้ ดผ้ ลที่ถูกตอ้ งแทจ้ ริงตามหลกั วทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงไดผ้ ลอยา่ งดียงิ่ ในการสืบสวนติดตามหาคนร้าย ตา่ งๆ จากขอ้ ความขา้ งตน้ พอท่ีจะสรุปประโยชน์ของนิติวทิ ยาศาสตร์ไดด้ งั น้ี - การตรวจพบร่องรอยและวตั ถุพยานต่าง ๆ จากการเขา้ ตรวจสถานที่เกิดเหตุของผูช้ าํ นาญ หรือผเู้ ช่ียวชาญ ทาํ ใหส้ ามารถวเิ คราะห์พฤติการณ์แห่งการกระทาํ ความผดิ และใชเ้ ป็นแนวทางใน การสืบสวนหาตวั ผกู้ ระทาํ ความผดิ ไดอ้ ยา่ งแม่นยาํ และรวดเร็ว - ผลการตรวจพสิ ูจน์ หรือตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบร่องรอยและวตั ถุพยาน ในหอ้ งปฏิบตั ิการสามารถสนบั สนุนงานสอบสวนไดอ้ ยา่ งดี - นิติวทิ ยาศาสตร์ เป็นส่วนสาํ คญั ในการสืบสวนสาเหตุแห่งคดี และนาํ ไปสู่การจบั ตวั ผกู้ ระทาํ ความผดิ ดว้ ยหลกั เกณฑ์ กฎเกณฑท์ างวทิ ยาศาสตร์ และแพทยศาสตร์สาขาตา่ ง ๆ มา ประยกุ ต์ ซ่ึงผลการตรวจพิสูจนท์ างนิติวทิ ยาศาสตร์เป็นที่ยอมรับในสากลทวั่ โลก ทาํ ใหก้ ารจบั กุมตวั คนร้ายถูกตอ้ งแม่นยาํ ไม่ผดิ ตวั เกิดความปลอดภยั สูงต่อเจา้ หนา้ ที่ตาํ รวจ ดงั คาํ กล่าวท่ีวา่ “การ สืบสวนจบั กุมคนร้ายท่ีใตโ้ ตะ๊ ” -------------------------------------------------------------
๑๑ หน่วยงานทางวทิ ยาศาสตร์ สาํ นกั งานพสิ ูจน์หลกั ฐานตาํ รวจ เป็นหน่วยงานระดบั กองบญั ชาการของสาํ นกั งานตาํ รวจ แห่งชาติ ซ่ึงมีภารกิจเกี่ยวกบั การพิสูจน์หลกั ฐาน วทิ ยาการตาํ รวจ การตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ การ ถ่ายรูป การทะเบียนประวตั ิอาชญากร การจดั เก็บสารบบลายพิมพน์ ิ้วมือ และการตรวจสอบประวตั ิ การกระทาํ ความผดิ ของผตู้ อ้ งหาและบุคคลทว่ั ราชอาณาจกั ร เพอ่ื สนบั สนุนการปฏิบตั ิงานสืบสวน สอบสวนของหน่วยงานอ่ืน ๆ โครงสร้างของสาํ นกั งานพสิ ูจน์หลกั ฐานตาํ รวจ มีรายละเอียดดงั น้ี
๑๒ การพสิ ูจน์หลกั ฐาน คาํ วา่ Criminalities เป็นศพั ทท์ ี่ไม่แพร่หลายมากนกั ในประเทศไทย จะมีผคู้ ุน้ เคยและ ใชอ้ ยกู่ ็ในเฉพาะแวดวงจาํ กดั ตรงขา้ มกนั กบั Forensic Science (นิติวทิ ยาศาสตร์) ซ่ึงดูจะแพร่หลายและเป็นที่คุน้ เคยมาก ในหลายวงการ เช่น ตาํ รวจ ทนายความ อยั การ และศาล เป็นตน้ ตามคาํ อธิบายของสมาคมนกั พิสูจน์หลกั ฐานแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Association of Criminalizes) ซ่ึงไดใ้ หไ้ วเ้ มื่อวนั ที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ มีวา่ “Criminalities is that profession and scientific discipline to the recognition, identification and evaluation of physical evidence by application of the natural sciences to law-science matter” หากถอดความหมายของคาํ วา่ Criminalisties น้ีออกมาอยา่ งคร่าว ๆ จะไดว้ า่ การพิสูจน์ หลกั ฐานเป็นกฎเกณฑท์ ้งั ทางวชิ าชีพและทางวทิ ยาศาสตร์ซ่ึงมุ่งในการใหก้ ารรับรอง การช้ีเฉพาะ การจาํ แนกและการตีความหมายของพยานวตั ถุโดยนาํ วทิ ยาศาสตร์ธรรมชาติมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นกรณีท่ี เกี่ยวขอ้ งระหวา่ งกฎหมายกบั วทิ ยาศาสตร์ คาํ จาํ กดั ความน้ีหากจะขยายใหช้ ดั เจนอาจกล่าวไดว้ า่ เป็นศาสตร์แขนงหน่ึงซ่ึงอาศยั กฎเกณฑ์ ทฤษฎีตา่ ง ๆ ของวทิ ยาศาสตร์หลายสาขา เช่น เคมี ฟิ สิกส์ ชีววทิ ยา มารวมกนั ภายใต้ กาํ หนดกฎเกณฑแ์ ห่งกฎหมาย เพอ่ื บรรลุจุดประสงคส์ าํ คญั คือ การพิสูจน์การกระทาํ ผดิ หรือ ความ บริสุทธ์ิ ของผถู้ ูกกล่าวหา คุณสมบตั ิที่ทาํ ใหว้ ชิ า Criminalities เป็นท่ียอมรับวา่ เป็นวชิ าการอิสระสาขาหน่ึง เช่นเดียวกบั สาขาวชิ าอ่ืน ๆ กค็ ือ มีสายใยซ่ึงเช่ือมโยงกบั หลกั เกณฑท์ ฤษฎีต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั เป็ นกลุ่ม กอ้ น หลกั ทฤษฎีที่วา่ น้ีมีหวั ใจสาํ คญั อยทู่ ่ี ๑. การจาแนก (INDIVIDUALIZATION) เป็นการแสดงเห็นความแตกต่าง ของการจดั วตั ถุ จดั ประเภท เช่น กรณีรถหายแจง้ ความกบั ตาํ รวจ เมื่อตาํ รวจพบรถ ผเู้ สียหายตอ้ ง สอบถามก่อนวา่ เป็นรถชนิดอะไร สีไหน ยหี่ อ้ อะไร น้นั คือการจาํ แนกก่อนท่ีจะมาถึงข้นั ตอนช้ี เฉพาะ Identification) ๒. การชี้เฉพาะ (IDENTIFICATION) ทางดา้ นวชิ าปรัชญาไดใ้ หค้ าํ อธิบายของ Identity ไวว้ า่ คือ ความหายาก หรือสิ่งท่ีมีเพียงหน่ึงเท่าน้นั ไม่สามารถนาํ สิ่งอ่ืนมาทดแทนได้ ฉะน้นั ของสอง สิ่ง ก็จะไม่เป็น Identical กนั ไดน้ อกจากตวั ของมนั เอง และ Criminalities ไดเ้ ขา้ มามีบทบาท ก็เพราะ ความหมายน้ี Identification ก็เป็นกรรมวธิ ีที่จะจดั ใหส้ ่ิงของท่ีมีตวั ตนส่ิงหน่ึง ใหไ้ ป รวมอยใู่ น ประเภทหรือจาํ พวกท่ีไดก้ าํ หนดขอบเขต หรือคุณลกั ษณะตายตวั เอาไว้ เช่น Fingerprint Identification ไดแ้ ก่ การตรวจสอบลายนิ้วมือตอ้ งสงสัยวา่ จะเกิดจาก ลายนิ้วมือของบุคคลที่ตอ้ ง
๑๓ สงสยั หรือไม่ โดยอาศยั หลกั กาํ หนดตายตวั ไวแ้ ลว้ ในเรื่องจาํ นวน และชนิดของลกั ษณะสาํ คญั พิเศษ ตา่ ง ๆของลายเส้นนิ้วมือ เป็นตน้ Identification ตอ้ งอาศยั คุณลกั ษณะ ๒ ประการ ๒.๑ คุณลกั ษณะโดยทวั่ ไป (Class Characteristics) คือ ลกั ษณะที่ปรากฏ เหมือนกนั โดยทว่ั ไปตามปกติ เช่น เมื่อคนร้ายลงมือก่ออาชญากรรมในสถานท่ีใด ยอ่ มมีการทิ้ง ร่องรอยและพยานหลกั ฐานไวใ้ นสถานที่น้นั เสมอเป็นกฎตายตวั ไมม่ ีการก่ออาชญากรรมใดท่ีคนร้าย จะทาํ ลายหลกั ฐานไดอ้ ยา่ งหมดจดแนบเนียน เพราะคนเราแตล่ ะคนมีลกั ษณะรูปแบบความเคยชินแต่ ละคนแตกต่างกนั สิ่งท่ีคนร้ายอาจจะทิ้งไวไ้ ดแ้ ก่ร่องรอยรองเทา้ เป้ื อนเลือดที่ปรากฏเป็นรอยพ้นื ของรองเทา้ ยหี่ อ้ ใด รุ่นใด ผลิตปี พ.ศ. ใด กจ็ ะมีลกั ษณะรอยพ้ืนเป็นลวดลายเหมือนกนั ท้งั หมด (ขอแบบลายพ้นื ไดจ้ ากบริษทั ผผู้ ลิต : ควรนาํ มาเก็บรวบรวมไวเ้ ป็นระบบเพอ่ื ใชใ้ นการเปรียบเทียบ) ๒.๒ คุณลกั ษณะเฉพาะ (Individual Characteristics) คือ ลกั ษณะที่ปรากฏแตกต่าง ออกไปจากปกติ เช่น รอยพ้นื รองเทา้ เป้ื อนเลือดท่ีปรากฏ มีรอยสึกจากการใส่ใชง้ านที่ส้นรองเทา้ จะมีลกั ษณะแตกต่างกนั ไปแตล่ ะคู่จะไม่เหมือนกนั นกั พิสูจน์หลกั ฐานคือ Criminality น้นั มี ภาระหนา้ ที่ท่ีจะศึกษาพยานหลกั ฐานไมว่ า่ จะเป็นลายพมิ พน์ ิ้วมือ ลายพิมพน์ ิ้วมือแฝงหรือลูกกระสุน ปื นก็ตาม เพ่ือที่จะหา Class และ Individual Characteristics ออกมา เพื่อเป็นเคร่ืองพสิ ูจนก์ าร Identity ระหวา่ งพยานวตั ถุท่ีไดจ้ ากสถานท่ีเกิดเหตุกบั วตั ถุตวั อยา่ งที่ทราบแหล่งท่ีมาแลว้ Class Characteristics เป็นรากฐานของการ Identification ส่วน Individual Characteristics เป็นสิ่งที่ใชบ้ อก Identity ตวั อยา่ งแสดงที่มาของ Class และ Individual Characteristics
๑๔ Individual Characteristics น้นั อาจจะมีการกาํ เนิดมาจากเหตุใด ๆ ดงั ต่อไปน้ี ๑.ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ลกั ษณะของลายเส้นของนิ้วมือ นิ้วเทา้ ร่องรอยความ ไม่เรียบร้อยบนพ้ืนรองเทา้ ซ่ึงผลิตมาจากโรงงาน หรือรอยอนั เกิดจากเหล็กสวา่ นท่ีใชเ้ จาะภายใน ลาํ กลอ้ งปื น การเสียหายเลก็ นอ้ ยจากการใชง้ านไมเ่ หมาะสม เช่น กรณีท่ีใชเ้ ครื่องมือท่ีไม่เหมาะสม กบั ชนิดของงาน การใชม้ ีดทาํ ครัวในการผา่ ฟื น, การเสียหายมากๆ จากการใชง้ านผดิ ๆ, การใช้ เคร่ืองมืออยา่ งไมร่ ะมดั ระวงั (ใชเ้ ล่ือยไมไ้ ปตดั โคนเหล็ก หรือการใชข้ วานผา่ ตูเ้ ซฟซ่ึงเป็นโลหะที่ หนามาก ๆ)การสึกหรอไมส่ ม่าํ เสมอ ๒.อบุ ัติเหตุ เช่น ยางรถยนตซ์ ่ึงสึกหรอไมเ่ ท่ากนั ท้งั หนา้ ยาง เน่ืองมาจากต้งั ศนู ยไ์ ม่ดี หรือ รอยถลอกบริเวณส้นรองเทา้ รอยลึกท่ีปรากฏเพียงบางส่วนของรอยรองเทา้ อนั เกิดจากลกั ษณะการ เดิน เป็นตน้ ------------------------------------------------------- พยานหลกั ฐานและการวเิ คราะห์ เม่ือมีการกระทาํ ท่ีกฎหมายบญั ญตั ิวา่ เป็นความผดิ เกิดข้ึน สถานท่ีเกิดเหตุ จึงเป็นจุดเริ่มตน้ ของการดาํ เนินการต่าง ๆ เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซ่ึงพยานหลกั ฐานท่ีสามารถนาํ มาพิสูจนถ์ ึงการกระทาํ และตวั ผกู้ ระทาํ ความผดิ และนาํ ผลที่ไดม้ าประมวลเหตุการณ์ใหไ้ ดข้ อ้ สรุปที่แทจ้ ริงแห่งรายละเอียดของคดี เพอ่ื สนบั สนุนงานสืบสวนสอบสวน และใชเ้ ป็นพยานหลกั ฐานท่ีนาํ เสนอต่อศาล ในการปฏิบตั ิงานของเจา้ หนา้ ที่ที่เกี่ยวขอ้ งภายหลงั การเกิดเหตุ จะเห็นไดว้ า่ พยานหลกั ฐาน ทางนิติวทิ ยาศาสตร์เป็นส่ิงสาํ คญั ในการช่วยคลี่คลายคดีอาชญากรรมตา่ ง ๆ พยานหลกั ฐาน หมายถึง สิ่งใดที่สามารถจบั ตอ้ งไดต้ ามกฎหมาย และเป็นส่ิง ที่สามารถนาํ เสนอในช้นั ศาล เพอื่ พสิ ูจนถ์ ึงขอ้ เทจ็ จริงในคดีได้ ตามประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณา ความอาญา มาตรา ๒๒๖ “พยานหลกั ฐาน” หมายถึง พยานหลกั ฐาน เอกสารหรือพยานบุคคล ตลอดจนหลกั ฐานอื่นๆ ซ่ึงอาจเป็นเคร่ืองพิสูจนก์ ารกระทาํ ผดิ ได้ ตวั อยา่ งเช่น โอกาสท่ีคนจะประกอบความผดิ โดยไม่ทิ้งร่องรอยพยานหลกั ฐานไวน้ ้นั เป็นไปไดย้ ากมาก ในกรณีปกติพยานหลกั ฐานท่ีจะช่วยในการนาํ คนผดิ ไปฟ้ องลงโทษไดน้ ้นั จะเป็นพยานบุคคลเสีย เป็นส่วนใหญ่ นน่ั กค็ ือ อาชญากรถูกช้ีตวั โดยผเู้ สียหาย พยานผรู้ ู้เห็นเหตุการณ์หรือจากคาํ รับสารภาพ ของตวั ผกู้ ระทาํ ผดิ เอง ดงั น้นั จะเห็นวา่ แนวทางการสืบสวนของเจา้ หนา้ ที่ตาํ รวจจะมุง่ หาพยานบุคคล ก่อนเป็นอนั ดบั แรก เพราะเป็นส่ิงที่หาไดโ้ ดยง่ายและความรู้ความสามารถของพนกั งานสอบสวนใน
๑๕ อนั ที่จะเคน้ เอาความจริง หรือเจรจาหวา่ นลอ้ มใหพ้ ยานทบทวนเหตุการณ์ท่ีพบเห็นมาเป็นส่ิงที่ พนกั งานสอบสวนไดร้ ับการถ่ายทอด ฝึกฝนและปลูกฝังติดต่อกนั มาหลายยคุ หลายสมยั แลว้ แตม่ ีหลายคร้ังที่ไม่สามารถหาพยานบุคคลมาใชไ้ ด้ อยา่ งเช่นกรณีคนร้ายฆ่าเจา้ ทุกขจ์ นถึงแก่ ความตายและในคดีกระทาํ ความผดิ ต่อทรัพยท์ ่ีเกิดข้ึนตอนค่าํ คืนปราศจากผรู้ ู้เห็น เป็นตน้ พยานท่ี พนกั งานสอบสวนจะหาไดก้ รณีน้ี กม็ ีเพยี งแตพ่ ยานวตั ถุเท่าน้นั นอกจากน้ีการใชพ้ ยานบุคคลยงั มีปัญหาต่อรูปคดี เช่น พยานไม่มาใหก้ ารท่ีศาล พยานกลบั คาํ ใหก้ ารในช้นั ศาล พยานลืมรายละเอียดในเหตุการณ์ท่ีพยานรู้เห็น พยานถูกจา้ งใหห้ นี หรือกลบั คาํ ใหก้ ารพยานถูกฝ่ ายตรงขา้ มลอบทาํ ร้าย เป็นตน้ ซ่ึงในปัจจุบนั น้ีสาํ นกั งานตาํ รวจแห่งชาติ ไดใ้ หค้ วามสาํ คญั กบั พยานวตั ถุมากข้ึน เน่ืองจาก เทคโนโลยที างวทิ ยาศาสตร์ท่ีเจริญกา้ วหนา้ ข้ึน อุปกรณ์เคร่ืองมือวทิ ยาศาสตร์ตา่ ง ๆ มีขีดความสามารถในการตรวจพิสูจน์สูง ไมว่ า่ จะเป็น เครื่อง Scanning Electron Microscope (SEM) ท่ีสามารถตรวจวเิ คราะห์พยานวตั ถุในเชิงกายภาพได้ ถึงระดบั โมเลกลุ หรือเทคนิค Polymerase Chain Reaction (PCR) ท่ีสามารถวเิ คราะห์ DNA ไดจ้ าก พยานวตั ถุประเภทท่ีมาจากร่างกายมนุษย์ (Body Material) ถึงแมพ้ ยานวตั ถุน้นั จะมีปริมาณเล็กนอ้ ย เท่าหวั เขม็ หมุดก็ตาม นอกจากน้นั พยานวตั ถุยงั เป็นสิ่งท่ีมีความเป็นรูปธรรมสามารถพิสูจน์ใหเ้ ห็นจึง ถือเป็นพยานหลกั ฐานท่ีรับการยอมรับในช้นั ศาลมากท่ีสุด ในกรณีของอาวธุ ปื นถา้ ถูกพบในความครอบครองของผตู้ อ้ งหาสามารถใชผ้ กู มดั ตวั เจา้ ของ ปื นกบั คดีฆาตกรรมที่เขากระทาํ ลงไปแลว้ ได้ ถา้ หากวา่ ร่องรอยท่ีปรากฏบนลูกกระสุนปื นที่ผชู้ าํ นาญ ยงิ ทดลองจากปื นของเขา มีลกั ษณะเหมือนกบั ร่องรอยท่ีลูกกระสุนปื นที่ผา่ มาจากศพผตู้ าย วตั ถุสิ่งของบางอยา่ งที่ผกู้ ระทาํ ผดิ อาจนึกไมถึงไดเ้ กิดการแลกเปลี่ยนกนั ข้ึนระหวา่ งท่ีเกิด เหตุกบั ตวั ของผกู้ ระทาํ ผดิ ตวั อยา่ งเช่น เศษชิ้นส่วนของแกว้ หรือกระจกที่แตกเป็ นชิ้นเล็กชิ้นนอ้ ย ขณะคนร้ายทุบประตหู นา้ ตา่ งเขา้ ไปกระทาํ การโจรกรรม หากพบเศษกระจกฝังอยใู่ นนบริเวณเส้ือผา้ เครื่องแต่งกายของคนร้าย สามารถนาํ มาเปรียบเทียบกบั ชิ้นส่วนที่ยงั เหลืออยใู่ นสถานที่เกิดเหตุได้ เศษชิ้นสี หรือเส้นผมหรือคราบเลือด น้าํ ลาย อสุจิ ฯลฯ สามารถนาํ มาใชไ้ ดโ้ ดยกรรมวธิ ีเดียวกนั น้ี การใชพ้ ยานวตั ถุในการสืบสวนสอบสวนจะตอ้ งระลึกอยเู่ สมอวา่ พยานวตั ถุ ไม่สามารถพิสูจน์ เอกลกั ษณ์ในตวั ของมนั เองไดอ้ ยา่ งเด็ดขาดแน่นอน แตส่ ่วนใหญ่จะใหค้ วามมน่ั ใจภายในขอบเขต ของความเป็นไปไดพ้ อสมควรเทา่ น้นั แมแ้ ตล่ ายนิ้วมือซ่ึงเช่ือกนั วา่ จะใชพ้ ิสูจน์เอกลกั ษณ์ของบุคคลไดน้ ้นั แทท้ ่ีจริงแลว้ ยงั ตอ้ ง อาศยั หลกั ท่ีวา่ โอกาสที่คนสองคนจะมีลกั ษณะของลายเส้นนิ้วมือตรงกนั ท้งั หมดน้นั จะมีเปอร์เซ็นต์ นอ้ ยมาก
๑๖ เช่น ถา้ ตรงกนั ๑ จุดบนลายนิ้วมือจะเป็นไปไดใ้ นอตั ราส่วน ๑ : ๒๐ หากจะใหพ้ บตรงกนั ๒ จุดกจ็ ะกลายเป็น ๑ : ๒๐ x ๒๐ หรือ ๑ : ๔๐๐ และถา้ ตรวจพบ วา่ ลายนิ้วมือ ๒ ลายมือมีจุด ลกั ษณะสาํ คญั ตรงกนั ต้งั แต่ ๘-๑๒ จุดแลว้ โอกาสท่ีจะพบคนสองคนมี ลายนิ้วมือตรงกนั เช่นน้นั จะกลายเป็น ๑ : ๕,๖๐๐,๐๐๐,๐๐๐ ซ่ึงมากกวา่ จาํ นวนประชากรโลกหลายเทา่ และจากรายงานของ องคก์ ารตาํ รวจทว่ั โลก ยงั ไม่เคยปรากฏวา่ พบบุคคลคู่ใดท่ีมีลายนิ้วมือตรงกนั ขนาดน้นั เลย หลาย ๆ ประเทศจึงใช้ ๘-๑๒ จุด เป็นเกณฑใ์ นการพิสูจนล์ ายนิ้วมือ เช่น เยอรมนี ไทย ไตห้ วนั สวติ เซอร์แลนด์ โปแลนด์ เป็นตน้ ---------------------------------------------------------------- ประเภทของ พยานหลกั ฐาน แบง่ เป็น ๓ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑.พยานหลกั ฐานโดยตรง หรืออาจเรียกอีกชื่อหน่ึงวา่ “พยานบุคคล” คือ หลกั ฐานคาํ ใหก้ าร ที่ไดจ้ ากปากคาํ ของผทู้ ่ีรู้เห็นเหตุการณ์ (ประจกั ษพ์ ยาน)ซ่ึงไดส้ ัมผสั กบั เหตุการณ์ดว้ ยตนเอง โดย ประสาทสัมผสั ท้งั หา้ โดยคาให้การน้ันต้องไม่ได้มาจากการเสริมแตง่ สมมติฐานเอาเอง หรือไดย้ นิ ได้ ฟังมาจากคาํ บอกเล่าของผอู้ ื่นอีกทอดหน่ึง (Hearsay Evidence) ตวั อยา่ งเช่น นายแดงเห็นนายขาวใช้ ปื นยงิ นายดาํ ๒.พยานแวดล้อมกรณี (Circumstantial Evidence) หรือพยานหลกั ฐานทางออ้ ม เป็น พยานหลกั ฐานท่ีไมส่ ามารถพิสูจนข์ อ้ เทจ็ จริงไดโ้ ดยตรง แต่สามารถนาํ มาปะติดปะตอ่ ใหเ้ กิด ความคิด ลาํ ดบั หรือเช่ือมโยงเหตุการณ์ได้ บางคร้ังเรียกพยานหลกั ฐานประเภทน้ีวา่ พยานหลกั ฐาน ทางออ้ ม (Indirect Evidence) เพ่อื บอกถึงขอ้ เทจ็ จริงบางอยา่ งหรือหลายอยา่ ง ซ่ึงนาํ มาใชค้ ลี่คลายปัญหาในคดีได้ เช่น นายเขียวเห็นชายผหู้ น่ึงเดินเขา้ ไปในซอย ตอ่ มาได้ ยนิ เสียงปื นดงั ข้ึน นายเขียวจึงวงิ่ ไปดูพบศพนายเหลืองนอนอยบู่ นพ้ืน แต่ไมพ่ บชายคนดงั กล่าว จึงเพียงแค่สนั นิษฐานวา่ ชายคนดงั กล่าวเป็นคนยงิ นายเหลือง ๓.พยานหลกั ฐานทแี่ ท้จริง เป็นพยานวตั ถุ หรือนิยมเรียกวา่ วตั ถุพยาน (Physical Evidence) เป็นสิ่งที่มีความชดั แจง้ ในตวั เอง เป็นพยานหลกั ฐานท่ีมีความสาคัญทส่ี ุดและสามารถนาํ ไปใชเ้ พอ่ื ยนื ยนั การกระทาํ ผดิ ในคดีน้นั ๆ ไดโ้ ดยตรงหรือนาํ ไปเช่ือมโยงเก่ียวพนั กบั คดีได้ เช่น คราบเลือด คราบอสุจิ เส้นผม เส้นขน รอยลายนิ้วมือ เส้นใยผา้ และอาวธุ อื่นๆ ฯลฯ ------------------------------------------------------------------
๑๗ วตั ถุพยาน (Physical Evidence) ความหมายของวตั ถุพยาน เม่ือกล่าวถึงวตั ถุพยานเราไม่สามารถใหค้ าํ จาํ กดั ความง่ายๆ ส้นั ๆ แตไ่ ดใ้ จความ ถูกตอ้ งที่สุดได้ เพราะเกือบทุกส่ิงทุกอยา่ งหากอยใู่ นสภาวะที่เหมาะสมก็สามารถกลายสภาพเป็น วตั ถุพยานไดท้ ้งั น้นั ไมว่ า่ จะอยใู่ นสถานะของแขง็ ของเหลว หรือก๊าซกต็ าม ส่ิงใดที่สามารถใช้ พิสูจน์ ไดว้ า่ มีการกระทาํ ผดิ เกิดข้ึน ใชบ้ อกไดว้ า่ ใครเป็นผกู้ ระทาํ ผดิ และสามารถเช่ือมโยงผกู้ ระทาํ ผดิ เขา้ กบั อาชญากรรมได้ ก็ถือไดว้ า่ ส่ิงน้นั เป็นพยานวตั ถุ บุคคลใดก็ตามท่ีกระทาํ ความผดิ จะหนีไม่พน้ ที่ตอ้ งมีกิริยาอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงไม่วา่ จะเป็น กิริยาชนิดรุนแรงหรือแบบนุ่มนวลกต็ าม เม่ือมีกิริยาเกิดข้ึน ก็เป็นไปไดท้ ี่เขาผนู้ ้นั จะตอ้ งทิ้งบางสิ่ง บางอยา่ งไวใ้ นสถานท่ีท่ีกระทาํ ผดิ หรือนาํ บางส่ิงบางอยา่ ง จากสถานที่เกิดเหตุติดตวั ไปดว้ ย และส่ิง ที่จะยกเป็นตวั อยา่ งไดด้ ีที่สุดในกรณีน้ีคือรอยลายนิ้วมือ เพียงแต่คนร้ายสัมผสั เขา้ กบั วตั ถุสักชิ้นหน่ึง เท่าน้นั ก็อาจเกิดเป็นพยานวตั ถุ ที่สาํ คญั บนวตั ถุน้นั แลว้ รอยของเคร่ืองมือ จะสามารถใชม้ ดั ตวั ผกู้ ระทาํ ผดิ หากพบอุปกรณ์สิ่งท่ีใชท้ าํ ใหเ้ กิดร่องรอยน้นั ท่ีตวั หรือในความครอบครองของผตู้ อ้ งหา หรือผตู้ อ้ งสงสัย ------------------------------------------------------------------- ชนิดของวตั ถุพยาน แบ่งตามลกั ษณะของการเก็บได้ ๒ ชนิด ๑. วตั ถุพยานที่เคล่ือนยา้ ยไม่ได้ (Fixed of Immovable Evidence) เป็น วตั ถุพยานท่ีมีขนาดใหญ่ น้าํ หนกั มาก หรือถา้ เคล่ือนยา้ ยอาจทาํ ใหค้ ุณสมบตั ิบางอยา่ งเปล่ียนไป เช่น ผนงั เตาผงิ รอยประทบั ยางรถยนต์ เป็นตน้ พยานวตั ถุชนิดน้ีจะใชก้ ารตรวจเก็บโดยการถ่ายภาพ วาดภาพเหมือนตามมาตราส่วนของจริง หล่อปนู พลาสเตอร์ เป็นตน้ ๒. วตั ถุพยานท่ีเคล่ือนยา้ ยได้ (Movable Evidence) เป็นวตั ถุพยานท่ีมี ขนาดเลก็ มีน้าํ หนกั เบา สามารถเคลื่อนยา้ ยไดโ้ ดยไม่ทาํ ใหค้ ุณสมบตั ิเปล่ียนไป เช่น กระป๋ อง เกา้ อ้ี ของเหลว ชิ้นส่วนพรม อาวธุ ปื น เป็นตน้ ---------------------------------------------------------------
๑๘ คุณค่าของวตั ถุพยาน อยา่ งท่ีทราบกนั ดีวา่ วตั ถุพยานมีคุณคา่ ตอ่ กระบวนการยตุ ิธรรม ยกตวั อยา่ งดงั น้ี - วตั ถุพยาน เป็ นส่ิงที่พสิ ูจน์ถึงการเกดิ ขนึ้ จริงของคดี หรือเป็นการพสิ ูจนว์ า่ มีการกระทาํ ความผดิ เกิดข้ึน ตวั อยา่ ง : การพิสูจนถ์ ึงกรณีคดีการขม่ ขืน สามารถพิสูจนไ์ ดจ้ ากวตั ถุพยาน ซ่ึงแสดงถึงการไม่ยนิ ยอมพร้อมใจของฝ่ ายหญิง เช่น เส้ือผา้ ถูกดึงขาด ร่องรอยการต่อสู้ดิ้นรนของ ฝ่ ายหญิง เป็นตน้ ตวั อยา่ ง : การพิสูจนถ์ ึงกรณีวางเพลิง คือ การตรวจพบอปุ กรณ์ในการวางเพลิง ร่องรอยการลุกไหมท้ ี่ผดิ ปกติในสถานท่ีเกิดเหตุ เป็นตน้ - วตั ถุพยานสามารถเชื่อมโยงผ้ตู ้องสงสัยให้เข้ามาเกยี่ วข้องกบั ผ้เู สียหาย หรือกบั สถานท่ีเกิดเหตุ ตวั อยา่ ง : ผตู้ อ้ งสงสัยถูกจบั กมุ ในทนั ทีทนั ใด หลงั จากถูกขม่ ขืนผเู้ สียหายภายในบา้ น ซ่ึงภายในบา้ นดงั กล่าวเล้ียงแมวไว้ ขนแมวถูกพบท่ีเส้ือผา้ ของผตู้ อ้ งสงสัย โดยผตู้ อ้ งสงสยั ไม่ สามารถหาคาํ อธิบายที่เหมาะสมได้ - วตั ถุพยาน สามารถชี้ถึงตัวผู้กระทาผดิ ตวั อยา่ ง : ตรวจพบรอยลายนิ้วมือแฝงติดอยทู่ ี่ทรัพยส์ ินที่ถูกคนร้ายร้ือคน้ หรือเคลื่อนยา้ ยในคดีลกั ทรัพยต์ ่อมาไดต้ วั ผตู้ อ้ งสงสัยจากการตรวจพสิ ูจนเ์ ปรียบเทียบลายพิมพ์ นิ้วมือของผตู้ อ้ งสงสัยตรงกบั รายลายนิ้วมือแฝงที่ตรวจพบในสถานท่ีเกิดเหตุ ผตู้ อ้ งสงสยั ไม่ สามารถปฏิเสธการกระทาํ ความผดิ ได้ -วตั ถุพยาน สามารถป้ องกนั ผ้บู ริสุทธ์ิจากการถูกกล่าวหาได้ ตวั อยา่ ง : เดก็ กล่าวหาชายผหู้ น่ึงวา่ ไดบ้ งั คบั ใหก้ ินยา จึงทาํ ใหเ้ ดก็ รู้สึกงว่ งซึมและชายผู้ น้นั ไดท้ าํ ร้ายร่างกายเดก็ จากผลการตรวจปัสสาวะ และเลือดของเดก็ ใหผ้ ล Negativeซ่ึงแสดงวา่ คาํ ใหก้ ารของเดก็ น้นั ไม่ถูกตอ้ ง จึงเป็นการยนื ยนั ความบริสุทธ์ิของชายผนู้ ้นั -วัตถุพยาน สามารถยนื ยนั คาให้การของผ้เู สียหาย ตวั อยา่ ง : นกั ทอ่ งเที่ยวสาวไดเ้ ขา้ แจง้ ตาํ รวจวา่ ตนถูกคนขบั รถจกั รยานยนตร์ ับจา้ งที่ โดยสารไป ใชม้ ีดจ้ีบงั คบั และพยายามข่มขืน ระหวา่ งท่ีต่อสูข้ ดั ขืนมีดบาดมือของตน ตาํ รวจจึงได้ ตามจบั ตวั คนขบั รถจกั รยานยนตร์ รับจา้ ง และตรวจพบคราบโลหิตติดอยทู ี่คอเส้ือของชาย ดงั กล่าว ซ่ึงเจา้ ตวั ปฏิเสธวา่ โลหิตดงั กล่าวเกิดจากการโกนหนวด จากการตรวจโลหิตพบวา่ โลหิต ดงั กล่าวมีดีเอน็ เอตรงกบั ผเู้ สียหาย จึงสามารถยนื ยนั วา่ คาํ ใหก้ ารของผเู้ สียหายเป็นความจริง -วตั ถุพยาน สามารถทาให้เกดิ การสารภาพ หรือยอมรับการกระทาํ ความผดิ
๑๙ ตวั อยา่ ง : ตาํ รวจจบั ผตู้ อ้ งหาขโมยควาย และพบคราบโลหิตติดอยทู่ ี่เส้ือของผตู้ อ้ งหา โดย ผตู้ อ้ งหาใหก้ ารวา่ โลหิตดงั กล่าวเป็นของตน ผลจากการตรวจโลหิตพบวา่ โลหิตดงั กล่าวเป็โลหิต ของสตั ว์ จึงทาํ ใหผ้ ตู้ อ้ งหายอมจาํ นน และยอมรับสารภาพ - วัตถุพยาน สามารถเช่ือถือได้มากกว่าประจักษ์พยาน ตวั อยา่ ง : จากการทดลองพบวา่ พยานท่ีเห็นเหตกุ ารณ์จะมีช่องวา่ งของการสังเกตการณ์ ของคดี ถา้ บางส่วนบางตอนของเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนซ่ึงพยานไม่ไดส้ ังเกตเห็น หรือเป็นเหตกุ ารณ์ท่ี ในความรู้สึกของตน เห็นวา่ ไมม่ ีความสาํ คญั หรือเห็นวา่ เป็นเหตุการณ์ปกติเขาจะนาํ ความรู้สึก และเหตผุ ลของตนเองมาเช่ือมตอ่ เหตุการณ์ท่ีขาดหายไป ใหเ้ ป็นรูปแบบท่ีสมบรู ณ์ ดงั น้นั ขอ้ เทจ็ จริงของคดีจึงถูกเปล่ียนแปลงไป คาํ ใหก้ ารของประจกั ษพ์ ยานจึงเป็นไปในลกั ษณะท่ีเขา เชื่อในสิ่งที่เห็น โดยใชค้ วามรู้สึกของตนเป็นหลกั - ในกรณีท่ีพนกั งานสอบสวนมีปัญหาในเรื่องการทาํ สาํ นวน วตั ถุพยานยง่ิ มีความสาํ คญั มากข้ึน ศาลจะใชว้ ตั ถุพยานเป็นหลกั เพอ่ื ช่วยตดั สินคดีใหเ้ ร็วข้ึน - วตั ถุพยานซ่ึงผ่านการวิเคราะห์ โดยวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ท่ีทนั สมยั จะเพ่ิมความ เชื่อถือในช้นั ศาล การไมม่ ีวตั ถุพยานท่ีจะนาํ ช้ีขอ้ เทจ็ จริงในสถานท่ีเกิดเหตุ จะเป็นขอ้ มลู ที่เป็นประโยชนใ์ นการยตุ ิขอ้ โตแ้ ยง้ ตวั อยา่ ง : ผเู้ สียหายในกรณีเพลิงไหมซ้ ่ึงถูกบริษทั ประกนั กล่าวหาวา่ วางเพลิง เพ่อื บริษทั ประกนั จะไดไ้ มต่ อ้ งจ่ายค่าสินไหมทดแทน แตจ่ ากการตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ ไม่พบวตั ถุ พยานที่แสดงถึงการวางเพลิง จึงทาํ ใหข้ อ้ กล่าวหาดงั กล่าวยตุ ิลงได_้ _ เป็ นส่ิงทพี่ สิ ูจน์ถึงการเกดิ ขนึ้ จริงของคดี หรือเป็ นการพสิ ูจน์ว่า มกี ารกระทาความผดิ เกดิ ขนึ้ สามารถเช่ือมโยงผตู้ อ้ งสงสัยใหเ้ ขา้ มาเกี่ยวขอ้ งกบั ผเู้ สียหายหรือกบั สถานท่ีเกิดเหตุ ตวั อยา่ ง : ผตู้ อ้ งสงสยั ถูกจบั กมุ ในทนั ทีทนั ใด หลงั จากถูกข่มขืนผเู้ สียหายภายในบา้ น ซ่ึงภายในบา้ นดงั กล่าวเล้ียงแมวไว้ ขนแมวถูกพบที่เส้ือผา้ ของผตู้ อ้ งสงสยั โดยผตู้ อ้ งสงสัยไม่ สามารถหาคาํ อธิบายท่ีเหมาะสมได้ สามารถช้ีถึงตวั ผกู้ ระทาํ ผดิ ตวั อยา่ ง : ตรวจพบรอยลายนิ้วมือแฝงติดอยทู่ ี่ทรัพยส์ ินที่ถูกคนร้ายร้ือคน้
๒๐ หรือเคล่ือนยา้ ยในคดีลกั ทรัพยต์ อ่ มาไดต้ วั ผตู้ อ้ งสงสยั จากการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบลายพิมพน์ ิ้ว มือของผตู้ อ้ งสงสยั ตรงกบั รายลายนิ้วมือแฝงที่ตรวจพบในสถานท่ีเกิดเหตุ ผตู้ อ้ งสงสัยไม่สามารถ ปฏิเสธการกระทาํ ความผดิ ได้ .... เป็นตน้ ..... ---------------------------------------------------------------- แหล่งทจี่ ะพบวตั ถุพยาน เม่ือตอ้ งการใหไ้ ดม้ าซ่ึงวตั ถุพยาน (รวมถึงพยานเอกสาร) เรามกั จะนึกถึงสถานท่ี เกิดเหตุเป็นอนั ดบั แรก ซ่ึงตามขอ้ เทจ็ จริงแลว้ วตั ถุพยานน้นั จะมิไดม้ ีอยแู่ ต่เฉพาะในสถานท่ีเกิดเหตุ แห่งเดียวเท่าน้นั แต่ยงั มีแหล่งอื่น ๆ ท่ีจะพบวตั ถุพยานไดอ้ ีกดว้ ย ถา้ ใหส้ มบรู ณ์ครบถว้ นจริง ๆ แลว้ จะตอ้ งตรวจหาวตั ถุพยานตามแหล่งตา่ ง ๆ ถึง ๔ แหล่งดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ ๑. สถานที่เกิดเหตุ ซ่ึงเป็นสถานที่ท่ีเกิดเหตุข้ึนและเป็นแหล่งรวมของบรรดา วตั ถุพยานส่วนใหญ่ เช่น รอยลายนิ้วมือแฝง ปลอกกระสุน ศพ ร่องรอยของคนร้าย เราถือวา่ สถานท่ี เกิดเหตุคือหวั ใจของการสืบสวน หรือขมุ ทรัพยข์ องพยานหลกั ฐาน คนร้ายจะทิง้ ร่องรอยไวเ้ สมอ ไมม่ ากก็นอ้ ย ข้ึนอยกู่ บั พนกั งานสืบสวนสอบสวนจะมีความรู้ความสามารถ มีไหวพริบปฏิภาณใน การที่จะคน้ หา และเก็บวตั ถุพยานไดม้ ากนอ้ ยเพยี งไร ๒. ท่ีตวั ของผเู้ สียหายเป็นอีกแหล่งที่มองขา้ มไม่ได้ เนื่องจากมีวตั ถุพยานปรากฏ อยเู่ ช่น กรณี ผถู้ ูกอาวธุ ปื นและมีกระสุนปื นฝังอยใู่ นร่างกายถา้ ผเู้ สียหายถูกนาํ ตวั ส่งโรงพยาบาล วตั ถุพยาน ท่ีสาํ คญั จะติดตวั ผเู้ สียหายไปท่ีโรงพยาบาลดว้ ย ฉะน้นั หากคน้ หาวตั ถุพยานในสถานที่เกิดเหตุแต่ เพยี งแห่งเดียว จะขาดวตั ถุพยานท่ีสาํ คญั ไปหลายอยา่ ง ตวั อยา่ งท่ีเห็นไดช้ ดั อีกอยา่ งหน่ึงกค็ ือ คดี ข่มขืนกระทาํ ชาํ เรา ซ่ึงวตั ถุพยานสาํ คญั ท่ีจะพสิ ูจนว์ า่ มีการกระทาํ ผดิ เกิดข้ึนหรือไม่น้นั อยทู่ ี่ตวั ผเู้ สียหาย ดงั น้นั การที่เจา้ หนา้ ที่ส่งตวั ผเู้ สียหายไปใหแ้ พทยต์ รวจสอบหาร่องรอยข่มขืน เช่น คราบ อสุจิ เส้นผม เส้นขน ร่องรอยบาดแผล ก่อนจะสรุปไดว้ า่ เกิดข้ึนจริงหรือไม่ แสดงใหเ้ ห็นความสาํ คญั ของแหล่งวตั ถุพยานแหล่งน้ีไดเ้ ป็นอยา่ งดี ๓. ที่ตวั ของคนร้าย ท่ีตวั ของผกู้ ระทาํ ผดิ ก็มีวตั ถุพยานท่ีจะใชป้ ระโยชน์ได้ เช่นเดียวกนั กบั ท่ีตวั ของผเู้ สียหาย เพราะหากคนร้ายไดเ้ ขา้ ไปในสถานที่เกิดเหตุแลว้ เขาน่าจะตอ้ งนาํ สิ่งของบางอยา่ งติดตวั ไปจากที่เกิดเหตุดว้ ยเช่นเดียวกนั สิ่งน้นั อาจมีขนาดใหญ่ เช่น ทรัพยส์ ินจาก การโจรกรรม หรืออาจมีขนาดเลก็ มาก ๆ เช่น เศษดิน หิน ทราย เศษแกว้ กระจก ท่ีติดไปกบั พ้ืน รองเทา้ โลหิตที่กระเดน็ มาจากผตู้ าย โดยที่คนร้ายเองก็ไมร่ ู้ตวั หรือมองไมเ่ ห็นแตอ่ ยา่ งไรก็ตาม เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุเป็นสถานท่ีที่เราจะพบวตั ถุพยานไดม้ ากกวา่ แหล่งอ่ืน และบางคร้ังท้งั ผเู้ สียหายและคนร้ายก็ยงั อยใู่ นสถานที่เกิดเหตุกนั ครบดว้ ย เราจึงถือวา่ การปฏิบตั ิต่อวตั ถุพยานใน
๒๑ สถานท่ีเกิดเหตุอยา่ งสมบูรณ์ และถูกตอ้ งตามหลกั วชิ าการจะมีผลเป็นอยา่ งมากในความสาํ เร็จของ การสืบสวนสอบสวน ๔. ท่ีอื่น ๆ เช่น สถานท่ีที่พบอาวธุ ท่ีคนร้ายนาํ ไปทิง้ ไวห้ ลงั ก่อเหตุ สถานท่ีที่คนร้ายไปหลบ ซ่อนตวั หรือแมก้ ระทง่ั สถานท่ีท่ีคนร้ายรอเวลาท่ีจะกระทาํ ความผดิ การใช้วตั ถุพยานในการสืบสวนคดีอาชญากรรม ถา้ ไม่มีสถานท่ีเกิดเหตุ ไมม่ ีวตั ถุพยาน ก็จะไม่มีอะไรเกิดข้ึนในหอ้ งปฏิบตั ิการทาง นิติวทิ ยาศาสตร์ สถานที่เกิดเหตุเป็นศนู ยก์ ลางของโลกนิติวทิ ยาศาสตร์ เป็นจุดเร่ิมตน้ ของ กระบวนการยตุ ิธรรม และเป็นพ้นื ฐานในการวเิ คราะห์ลาํ ดบั ข้นั ตอนท้งั หมด สิ่งของเครื่องใช้ ธรรมดาท่ีมนุษยเ์ ราใชก้ นั ตามปกติ กอ็ าจจะเป็นส่ิงของที่พิเศษสาํ คญั ข้ึนเม่ืออยใู่ นสถานที่เกิดเหตุ ซ่ึง เราเรียกวา่ วตั ถุพยาน (Max M. Houck and Jay A. Siegel. ๒๐๐๘ : ๒๘) ตามกฎหมายของประเทศไทย วตั ถุพยานเป็นพยานหลกั ฐานประเภทหน่ึงท่ีปัจจุบนั มี ความสาํ คญั ท่ีสุด ที่ช่วยในการคลี่คลายคดีต้งั แต่ช้นั ตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ จนถึงช้นั ศาล เป็นสิ่งท่ีใช้ พิสูจนก์ ารกระทาํ ความผดิ ของคนร้าย เมื่อกล่าวถึงสถานที่เกิดเหตุและวตั ถุพยานแลว้ ส่ิงที่นกั นิติ วทิ ยาศาสตร์ทวั่ โลกใชเ้ ป็นหลกั การในการตรวจสถานท่ีเกิดเหตุและพสิ ูจน์หลกั ฐาน คือ กฎของโล คาร์ด (Locard’s Principle) ศาสตราจารย์ ดร.เอด็ มนั ด์ โลคาร์ด ไดเ้ สนอแนวความคิดตอ่ นกั วทิ ยาศาสตร์ ๔ ท่าน คือ ลาคาซาน (Lacassagne) แบร์ติยอง (Bertillon) กรอส (Gross) และ โคนนั ดอยล์ (Conan Doyle)ซ่ึง เห็นดว้ ยในแนวคิดน้ี และใชเ้ ป็นพ้นื ฐานทางนิติวทิ ยาศาสตร์ กฎน้ีง่ายและชดั เจน คือ การสัมผสั ทุก คร้ังยอ่ มทิ้งร่องรอย (Every Contact Leaves Trace) ซ่ึงตอ่ มาเป็นกฎพ้นื ฐานทางนิติวทิ ยาศาสตร์ที่ สาํ คญั ที่สุดและเป็นพ้ืนฐานท่ีนกั นิติวทิ ยาศาสตร์ทว่ั โลกนาํ ไปใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน ตวั อยา่ งเช่น ถา้ มี
๒๒ ขโมยปี นหนา้ ต่างดว้ ยมือเปล่าเขาจะทิ้งรอยลายนิ้วมือไวท้ ่ีหนา้ ต่าง พวกยอ่ งเบาเดินผา่ นแปลงดอกไม้ เขาจะทิ้งรอยยา่ํ ไว้ ขณะเดียวกนั รองเทา้ ของเขาจะติดดินไปดว้ ย คนร้ายท่ีทุบกระจกหนา้ ต่างก็จะมี เศษกระจกติดเส้ือผา้ ของเขาไป ฆาตกรที่แทงผเู้ สียชีวติ กจ็ ะมีคราบโลหิตของผเู้ สียชีวติ ติดตวั ไปดว้ ย แมแ้ ต่ตวั ผเู้ สียชีวติ เองในมือของเขาอาจจะพบเส้นใยเส้ือผา้ ของคนร้ายที่ติดอยใู่ นระหวา่ งท่ีเขาต่อสู้ กบั คนร้าย เป็นตน้ (Zakaria Erzinqlioglu, ๒๐๐๐ : ๙-๑๐) จุดมุง่ หมายในการตรวจสถานที่เกิดเหตุกค็ ือ การจาํ แนก การป้ องกนั รักษา การเกบ็ วตั ถุพยาน การแปลผล และการประมวลเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนจากวตั ถุพยานที่ไดจ้ ากสถานท่ีเกิดเหตุ หอ้ งปฏิบตั ิการทางนิติวทิ ยาศาสตร์ช่วยตรวจพสิ ูจน์วตั ถุพยานเพ่ือใหข้ อ้ มลู แก่เจา้ หนา้ ท่ีสืบสวน สอบสวนในการคลี่คลายคดี ซ่ึงใชข้ อ้ มูลจากวตั ถุพยานในการสืบสวนสอบสวนมีหลกั ดงั น้ีการ เช่ือมโยงบุคคล สถานที่เกิดเหตุ และส่ิงของกบั วตั ถุพยาน รูปแบบน้ีเป็นหลกั การตรวจสถานที่เกิด เหตุท้งั หมด ตามกฎของโลคาร์ด ซ่ึงบอกวา่ เม่ือวตั ถุ ๒ สิ่งมาสมั ผสั กนั จะมีการแลกเปล่ียนวตั ถุซ่ึงกนั และกนั ความเช่ือมโยงระหวา่ งผตู้ อ้ งสงสยั กบั ผเู้ สียหายเป็นส่ิงที่สาํ คญั ที่สุดและจะเช่ือมโยงกนั ไดจ้ ากวตั ถุพยานและการเชื่อมโยงของผูต้ อ้ งสงสัยกบั ผเู้ สียหายไปยงั วตั ถุ สิ่งของและสถานที่เกิดเหตุกถ็ ูกเชื่อมโยงกนั ดว้ ยวตั ถุพยานเช่นกนั หากผเู้ สียหายยงั คงมีชีวติ อยจู่ ะ ช่วยใหเ้ ราทราบถึงสถานที่เกิดเหตุและอาจจะทราบตวั ผทู้ าํ ความผดิ ไดโ้ ดยง่าย ดงั ภาพ
๒๓ ภาพท่ีมา การเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนวตั ถุพยานระหวา่ งผเู้ สียหาย ผตู้ อ้ งสงสยั ที่อ่ืน ๆ และสถานที่เกิดเหตุ ท้งั หมดถูกเช่ือมโยงกนั ดว้ ยวตั ถุพยาน (ทฤษฎีการเช่ือมโยง Linkage Theory.) ·ท่มี า : Stuart H. James and Jon J. Nordby (๒๐๐๙ : ๑๖๘) --------------------------------------------------------------------- วตั ถุพยานกบั การพจิ ารณาคดี วตั ถุพยานจะเป็นท่ียอมรับและมีคุณคา่ มากในการพจิ ารณาคดี ผมู้ ีหนา้ ที่เก่ียวขอ้ งกบั วตั ถุ พยานจะตอ้ งปฏิบตั ิเกี่ยวกบั วตั ถุพยาน ดงั น้ี ๑. มีการป้ องกนั และรักษาสถานที่เกิดเหตุไม่ใหว้ ตั ถุพยานเสียหาย หรือถูกทาํ ลาย หรือมีเพิม่ ข้ึน การป้ องกนั รักษาสถานท่ีเกิดเหตุเร่ิมตน้ ต้งั แตเ่ มื่อเจา้ หนา้ ท่ีตาํ รวจ คนแรก (เจา้ หนา้ ที่ดบั เพลิง หรือเจา้ หนา้ ที่ตาํ รวจทอ้ งที่) ไปถึงสถานที่เกิดเหตุจนกระทงั่ เจา้ หนา้ ที่ ผชู้ าํ นาญ (แพทย์ เจา้ หนา้ ท่ีกองพสิ ูจน์หลกั ฐาน) ทาํ การตรวจสถานท่ีเกิดเหตุเสร็จสิ้น ๒. ผตู้ รวจเกบ็ ตอ้ งเป็นผทู้ ่ีมีอาํ นาจหนา้ ท่ีตามกฎหมายและมีความรอบรู้ หมายถึง บุคคลที่ทาํ หนา้ ท่ีเก็บพยานหลกั ฐานน้นั จะตอ้ งเป็นบุคคลที่กฎหมายใหอ้ าํ นาจไวใ้ นการเขา้ และเกบ็ วตั ถุพยานตา่ ง ๆ ในสถานท่ีเกิดเหตุได้ ตวั อยา่ งเช่น เป็นพนกั งานสอบสวน เป็นเจา้ หนา้ ที่ กองพิสูจน์หลกั ฐาน หรือเจา้ หนา้ ท่ีวทิ ยาการตาํ รวจ ๓. มีการคน้ หาวตั ถุพยานอยา่ งถูกตอ้ ง มีวธิ ีการเก็บวตั ถุพยานอยา่ งถูกตอ้ ง และเหมาะสม ผตู้ รวจสถานท่ีเกิดเหตุจะตอ้ งไมม่ องขา้ มหรือละเลยวตั ถุพยานทุก ๆ ชิ้น ถา้ สงสัยวา่ สิ่งน้นั จะเป็นวตั ถุพยานหรือไม่ ใหท้ าํ การเก็บไวก้ ่อน พร้อมท้งั ระบุรายละเอียดของวตั ถุพยาน ตาํ แหน่งท่ีพบ และบรรจุหีบห่อรักษาไวอ้ ยา่ งเหมาะสม ๔. มีการครอบครองวตั ถุพยาน หรือมีลูกโซ่ของการครอบครองวตั ถุพยาน การเกบ็ รักษาวตั ถุพยานอยา่ งตอ่ เน่ืองไมข่ าดตอนหมายถึงวา่ พยานหลกั ฐานน้นั จะตอ้ งอยภู่ ายใตก้ าร ครอบครอง/คุม้ ครองดูแลของบุคคล หรือหน่วยงานต้งั แตเ่ ริ่มเก็บจนกระทง่ั แสดงในช้นั ศาล โดยไม่
๒๔ ขาดช่วงของการครอบครองเลยถา้ มีการเปล่ียนแปลงการครอบครอง เช่น ส่งของกลางไปตรวจ พสิ ูจน์ยงั หอ้ งปฏิบตั ิการ จะตอ้ งมีหลกั ฐานแสดงการรับส่งของกลางน้นั โดยตลอด เมื่อพยานหลกั ฐาน หรือ วตั ถุพยานไปถงึ ช้ันศาลจะมีการตรวจสอบดังนี้ ๑. พยานหลกั ฐานน้นั เป็นอนั เดียวกนั กบั ท่ีพบในสถานท่ีเกิดเหตุหรือไม่ ๒. ส่ิงที่เป็นสาระสาํ คญั ของพยานหลกั ฐานน้นั จะตอ้ งไมเ่ ปลี่ยนแปลง และมีสภาพ เหมือนกบั ตอนท่ีเก็บจากสถานที่เกิดเหตุ โดยทว่ั ไปแลว้ ข้นั ตอนการตรวจสอบพยานหลกั ฐานในช้นั ศาลสามารถกระทาํ ไดง้ ่าย โดยบุคคลที่เป็นผพู้ บพยานหลกั ฐานน้นั ในสถานที่เกิดเหตุ แตใ่ นบางกรณีท่ีมีบุคคลหรือหน่วยงาน ครอบครองพยานหลกั ฐานน้นั มากกวา่ หน่ึง เช่น เม่ือนาํ วตั ถุพยานส่งตรวจพิสูจน์ยงั หอ้ งปฏิบตั ิการ ศาลจะตอ้ งใหแ้ สดงลูกโซ่ของการครอบครองพยานวตั ถุ ซ่ึงประกอบไปดว้ ย ๑. การจดั การ (Taking) กระทาํ โดยบุคคลผเู้ กบ็ วตั ถุพยาน เพอ่ื จาํ แนกวตั ถุ พยานในสถานที่เกิดเหตุ โดยการทาํ ตาํ หนิ ระบุวนั เดือน ปี เวลาท่ีเก็บ พร้อมท้งั รายละเอียดต่างๆ ของพยานวตั ถุน้นั จากสถานท่ีเกิดเหตุจริง ๒. การเกบ็ (Keeping) พสิ ูจนใ์ หเ้ ห็นวา่ การเกบ็ และครอบครองวตั ถุพยานไดก้ ระทาํ อยา่ งเหมาะสม เพ่ือไม่ใหเ้ กิดการปนเป้ื อนและผดิ พลาดข้ึน วธิ ีการที่ดีท่ีสุด แสดงใหเ้ ห็นวา่ วตั ถุ พยานน้นั ไดถ้ ูกเก็บอยา่ งถูกตอ้ งตามหลกั วชิ า มีการแยกเกบ็ และจาํ กดั ใหเ้ กี่ยวขอ้ งไดเ้ ฉพาะผทู้ ่ีจาํ เป็ น เทา่ น้นั (ยง่ิ มีจาํ นวนนอ้ ยเท่าไร ยง่ิ เป็นการดี) ๓. การขนส่ง (Transporting) การขนส่งวตั ถุพยานทุกคร้ัง จะตอ้ งมีความรัดกมุ และแสดงใหเ้ ห็นวา่ ไม่เกิดการสบั สนกบั ของกลางหรือวตั ถุพยานอื่นๆ รวมถึงแสดงใหเ้ ห็นวา่ วตั ถุ พยานน้นั ไดถ้ ูกบรรจุหีบห่อ ปิ ดผนึก และติดฉลากไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ถา้ ของกลางน้นั ส่งไปทาง ไปรษณีย์ จะตอ้ งเป็นไปรษณียล์ งทะเบียน และมีหลกั ฐานการรับอยา่ งถูกตอ้ ง ๔. การส่งมอบ (Delivering) เป็นการพสิ ูจน์วา่ ของกลางไดส้ ่งมอบใหแ้ ก่ผรู้ ับ (เจา้ หนา้ ที่ ผชู้ าํ นาญในหอ้ งปฏิบตั ิการ แพทย์ หรือหน่วยงานอ่ืน) อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม โดยมี หลกั ฐานแสดง วนั เดือน ปี เวลา ที่รับของกลาง รายละเอียดของของกลาง และใหผ้ รู้ ับลงลายมือช่ือ พร้อมท้งั วนั เวลา ไวใ้ นสาํ เนาหนงั สือนาํ ส่ง
๒๕ โดยสรุปแล้ว ถอื ได้ว่านิติวทิ ยาศาสตร์นีเ้ ป็ นการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวชิ าการ ทางด้านต่าง ๆ ผนวกเข้ากบั การบังคบั ใช้ทางกฎหมาย เพอ่ื เป็ นประโยชน์ต่อกระบวนการ ยตุ ธิ รรม ให้สามารถอานวยความยุติธรรมให้กบั ผู้เสียหาย และผู้ต้องหาได้เป็ นอย่างดี ซึ่ง จาเป็ นอย่างยงิ่ ทปี่ ระเทศไทยจะต้องส่งเสริมให้มกี ารพฒั นาทางด้านการตรวจวเิ คราะห์ ต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น รวมถงึ การนาเอานิติวทิ ยาศาสตร์นีม้ าส่งเสริมกระบวนการ ยตุ ิธรรมของประเทศไทยให้ทดั เทยี มกบั อารยประเทศ ซ่ึงจะส่งผลอย่างดยี ง่ิ ต่อประชาชน คนไทยในท้ายทสี่ ุด ------------------------------------------------------------------
๒๖ แบบทดสอบหลงั เรียน ข้อ 1. ข้อใดคอื ประโยชน์ของวชิ านิตวิ ทิ ยาศาสตร์ ? ก. วเิ คราะห์พฤติการณ์แห่งการกระทาํ ความผดิ และหาแนวทางการสืบสวนหาตวั ผกู้ ระทาํ ผดิ ไดแ้ ม่นยาํ และรวดเร็ว ข. ตรวจพสิ ูจน์หรือตรวจเปรียบเทียบเพอ่ื ผลที่นาํ ไปใชใ้ นการสนบั สนุนพนกั งานสอบสวน และเจา้ หนา้ ท่ีฝ่ ายสืบสวน ค.นาํ ไปใชใ้ นการจบั กุมคนร้ายไดถ้ ูกตอ้ ง แม่นยาํ ไมผ่ ดิ ตวั เกิดความปลอดภยั สูง ง. ถูกทุกขอ้ ข้อ 2. ศูนย์พสิ ูจน์หลกั ฐาน 1 ต้ังอยู่ทใี่ ด ? ก. อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ข. อ.ลาํ ลูกกา จ.ปทุมธานี ค. เขตปทุมวนั กรุงเทพ ฯ ง. อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ข้อ 3. คานิยามของ “พยานหลกั ฐาน” ปรากฏอยู่ตามกฏหมายข้อใด ? ก. มาตรา 226 กฏหมายลกั ษณะพยาน ข. มาตรา 226 ประมวลกฏหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ค. มาตรา 130 ประมวลกฏหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา ง. มาตรา 130 ประมวลกฏหมายอาญา
๒๗ ข้อ 4. การวเิ คราะห์พยานวตั ถุกระทาได้โดยศึกษาคุณลกั ษณะ 2 ประการในตวั คืออะไร ? ก. คุณลกั ษณะ ช้ีชดั และ คุณลกั ษณะเฉพาะ ข. คุณลกั ษณะเฉพาะ และ คุณลกั ษณะ ประจาํ ตวั ค. คุณลกั ษณะทว่ั ไป และ คุณลกั ษณะเฉพาะ ง. คุณลกั ษณะ ประจาํ ตวั และคุณลกั ษณะทว่ั ไป ข้อ 5. นาย ปากแขง็ ถูกกล่าวหาว่าเป็ นผู้สูบบุหร่ีในทห่ี ้ามสูบและทงิ้ ก้นบุหรี่ยห่ี ้อสายฝน ลงในทเ่ี กดิ เหตุ ทาให้เกดิ ความสกปรกและเกดิ มลพษิ ต่อสาธารณะ นาย ไก่ เป็ นบุคคลซึ่งให้การว่าเห็น นาย ปากแขง็ ซื้อบุหรี่ยห่ี ้อสายฝน มาจากร้านสะดวกซื้อซ่ึงอยู่ ใกล้เคียงกบั ทเี่ กดิ เหตุทพี่ บก้นบุหร่ีดังกล่าว ถามว่า นาย ไก่ คอื พยานประเภทใด ก. พยานหลกั ฐานโดยตรง ข. พยานแวดลอ้ มกรณี ค. พยานหลกั ฐานที่แทจ้ ริง ง. ไมม่ ีขอ้ ถูก .......................................................................................... เฉลย 1.ง 2.ก 3.ข 4.ค. 5.ข
๒๘ แผนการสอนรายคร้ัง วชิ า นิติวทิ ยาศาสตร์ ช่ือหลกั สูตร นกั เรียนนายสิบตาํ รวจ คร้ังทสี่ อน ๓-๔ จานวนช่ัวโมงทส่ี อน ๒ ช่ัวโมง จานวนช่ัวโมงท้งั วชิ า ๑๖ ชั่วโมง ช่ือผู้สอน ............................................................วนั /เดอื น/ปี ทสี่ อน...................................................... จุดประสงค์ในการเรียนการสอน ๑. เพื่อใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจ มีความรู้และเขา้ ใจวตั ถุพยานทางวทิ ยาศาสตร์ได้ อยา่ งถูกตอ้ ง ๒. เพ่ือใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจสามารถแยกประเภทของวตั ถุพยานไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง สมรรถนะ ๑. มีความรู้ในหลกั วชิ าการ กฎหมายและระเบียบ ท่ีจาํ เป็นและนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น การปฏิบตั ิหนา้ ที่ ๒. ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามระเบียบแบบแผนและคาํ ส่ังของผบู้ งั คบั บญั ชาตามอาํ นาจ หนา้ ท่ี รักษาวนิ ยั และปฏิบตั ิอยใู่ นระเบียบ ๓. ใชก้ ริยา วาจาสุภาพ วธิ ีการแสดงออกอยา่ งเหมาะสม ภายใตอ้ าํ นาจหนา้ ที่ความ รับผดิ ชอบตามที่กฎหมายกาํ หนด ในขณะปฏิบตั ิหนา้ ที่ ๔. ไม่เรียกหรือรับผลประโยชน์อื่นใดเพือ่ รักษาไวซ้ ่ึงความถูกตอ้ งเท่ียงธรรมในการ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ๕. ปฏิบตั ิหนา้ ที่โดยยดึ กฎหมาย ระเบียบ และแบบแผน ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ประชาชน ดว้ ยความเท่าเทียมกนั โดยไมค่ าํ นึงถึงสถานะทางสงั คม ๖. สามารถรักษาความลบั ของขอ้ มูลขา่ วสาร ที่ไดร้ ับจากประชาชนซ่ึงเกี่ยวกบั งาน ในหนา้ ท่ีไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยมิใหเ้ กิดภยั คุกคาม แก่ผใู้ หข้ อ้ มลู ขา่ วสาร
๒๙ เนือ้ หา วตั ถุพยานทางวทิ ยาศาสตร์ และการรักษาสถานที่เกิดเหตุ - วตั ถุพยานประเภทลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ - วตั ถุพยานประเภทเอกสาร - วตั ถุพยานประเภทอาวธุ ปื นและเครื่องกระสุนปื น - วตั ถุพยานประเภทชีววทิ ยา - วตั ถุพยานประเภทยาเสพติด - วตั ถุพยานประเภทอื่น ๆเช่น เศษหิน ดิน ทราย แกว้ ฯลฯ ..................................................................
๓๐ กจิ กรรมการเรียนการสอน เวลา ครูทาอะไร (ระบุ) นักเรียนทาอะไร (ระบุ) ส่ือ วดั ผล ข้นั นาํ -อธิบายการทาํ กิจกรรม - ต้งั ใจฟังและบนั ทึก - คู่มือตาํ รวจ - สังเกตการมีส่วน ๑๕ นาที กลุ่ม - แบง่ กลุ่มอภิปราย - power point ร่วม -แบ่งกลุ่ม - ซกั ถาม สอน - บรรยายเร่ืองวตั ถุพยาน - ต้งั ใจฟังและบนั ทึก - คูม่ ือตาํ รวจ - สงั เกตความ ๙๐ นาที ทางวทิ ยาศาสตร์และการ - ตอบขอ้ ซกั ถาม - power point สนใจ รักษาสถานท่ีเกิดเหตุ - วดี ีทศั น์ - ซกั ถาม ตวั อยา่ ง สรุป - สรุปเน้ือหาท่ีสอน - บนั ทึกประเด็นสาํ คญั - คูม่ ือตาํ รวจ - สังเกตความ ๑๕ นาที - power point สนใจ -ซกั ถาม บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................
๓๑ การสอนคร้ังท่ี 2 จุดประสงค์ในการเรียนการสอน ๑. เพื่อใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจ มีความรู้และเขา้ ใจวตั ถุพยานทางวทิ ยาศาสตร์ได้ อยา่ งถูกตอ้ ง ๒. เพือ่ ใหน้ กั เรียนนายสิบตาํ รวจสามารถแยกประเภทของวตั ถุพยานไดอ้ ยา่ ถูกตอ้ ง เนือ้ หา - วตั ถุพยานทางวทิ ยาศาสตร์ และการรักษาสถานท่ีเกิดเหตุ - วตั ถุพยานประเภทลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ - วตั ถุพยานประเภทเอกสาร - วตั ถุพยานประเภทอาวธุ ปื นและเครื่องกระสุนปื น - วตั ถุพยานประเภทชีววทิ ยา - วตั ถุพยานประเภทยาเสพติด - วตั ถุพยานประเภทอ่ืน ๆเช่น เศษหิน ดิน ทราย แกว้ ฯลฯ
๓๒ วตั ถุพยานทางวทิ ยาศาสตร์ วตั ถุพยานทางวทิ ยาศาสตร์มีอยมู่ ากมายหลายประเภท ในบทน้ีเป็นส่วนของวตั ถุพยาน ที่นาํ มาใชใ้ นงานพสิ ูจนห์ ลกั ฐาน เป็นวตั ถุพยานท่ีผา่ นการตรวจพสิ ูจน์ วเิ คราะห์ หรือวจิ ยั ซ่ึงในทาง กฎหมายถือวา่ วตั ถุพยานเหล่าน้ีเป็นพยานหลกั ฐานอยา่ งหน่ึงท่ีจะนาํ เขา้ สู่กระบวนการพจิ ารณา คดีของศาล เพ่ือใหศ้ าลวนิ ิจิฉยั วา่ จาํ เลยมีความผดิ หรือไม่ หากคูค่ วามประสงคจ์ ะอา้ งหลกั ฐานทาง วทิ ยาศาสตร์เขา้ สู่สาํ นวนเพ่อื นาํ สืบขอ้ เทจ็ จริง ใหน้ าํ สืบโดยผเู้ ช่ียวชาญซ่ึงไดท้ าํ การตรวจหรือได้ ตรวจวเิ คราะห์ หรือวจิ ยั สังเกตเหตุการณ์ หรือสิ่งของตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งเปรียบเทียบกบั คดีท่ีเคย เกิดข้ึนมาแลว้ จึงกล่าวไดว้ า่ พยานหลกั ฐานทางวทิ ยาศาสตร์ นี่ก็คือ ความเห็นของพยานผชู้ าํ นาญทาง กฎหมายนนั่ เอง ----------------------------------------------------------------------------------- ประเภทของวตั ถุพยานทางด้านวทิ ยาศาสตร์ วตั ถุพยานประเภทลายนิว้ มอื ลายฝ่ ามือ และฝ่ าเท้า ลายฝ่ ามือ และฝ่ าเทา้ ของมนุษยถ์ ูกนาํ มาใชป้ ระโยชน์ในการตรวจพสิ ูจนเ์ อกลกั ษณ์บุคคล (Personal Identification) ไดด้ ีที่สุดแขนงหน่ึงในบรรดาวชิ าการพสิ ูจน์เอกลกั ษณ์บุคคล ท้งั น้ี เน่ืองจากลกั ษณะลายเส้นท่ีปรากฏบนลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ ของมนุษยแ์ ตล่ ะบุคคลไม่เหมือนกนั (Uniqueness) และไมเ่ ปล่ียนแปลง (Performance) ดงั น้นั ลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ แฝง ที่พบในสถานที่ เกิดเหตุจึงเป็นพยานหลกั ฐานท่ีสาํ คญั ชนิดหน่ึงที่มีคุณคา่ อยา่ งมากในการสืบสวนสอบสวน สามารถ นาํ ไปตรวจพิสูจนเ์ พื่อยนื ยนั ตวั ผกู้ ระทาํ ความผดิ และผเู้ กี่ยวขอ้ งกบั การกระทาํ ความผดิ ในคดีต่างๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี นอกจากน้ียงั สามารถนาํ ไปตรวจสอบกบั ลายพิมพน์ ิ้วมือในสารบบลายพิมพน์ ิ้วมือ อตั โนมตั ิ (AFIS) เพอ่ื ตรวจสอบประวตั ิการกระทาํ ความผดิ ของคนร้าย และยนื ยนั ตวั บุคคล ดงั น้นั ปัจจุบนั การใชล้ ายนิ้วมือ ฝ่ ามือ และฝ่ าเทา้ ในการตรวจพิสูจนเ์ พ่อื ยนื ยนั ตวั บุคคล จึงเป็นที่ยอมรับและนิยมใชอ้ ยใู่ นประเทศต่างๆ ทวั่ โลก
๓๓ ประเภทของลายนิว้ มอื แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ ๑. ประเภทโคง้ แบง่ ออกเป็น ๒ ชนิด คือ ๒. ประเภทมดั หวาย แบง่ ออกเป็น ๒ ชนิด คือ ๓. ประเภทกน้ หอย แบง่ ออกเป็น ๕ ชนิด คือ
๓๔ ลายนิว้ มือทบั ซ้อน ลกั ษณะของวตั ถุพยานลายนิว้ มือ ฝ่ ามอื ฝ่ าเท้า แบ่งออกได้ดังนี้ ๑. ลายพมิ พ์นิว้ มอื ฝ่ ามอื ฝ่ าเท้า ท่ีพมิ พ์ด้วยหมกึ สีดา (Ink Print) เป็นลายพิมพน์ ิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ ที่พมิ พด์ ว้ ยหมึกพิมพ์ เช่น ลายพิมพน์ ิ้วมือ ๑๐ นิ้ว ที่พิมพด์ ว้ ยหมึก ดาํ บนกระดาษแบบพมิ พล์ ายนิ้วมือ ๑๐ นิ้ว (พลม.๒๕-ต.๕๓๙) ลายพิมพน์ ิ้วมือท่ีพิมพล์ งบนเอกสาร ตา่ งๆ เช่น ตวั๋ รับจาํ นาํ , ใบ สด.๙, แผน่ พิมพล์ ายนิ้วมือ ๑๐ นิ้ว เป็นตน้
๓๕ ๒. ลายนิว้ มอื ฝ่ ามือ ฝ่ าเท้า ในทเ่ี กดิ เหตุ แบ่งได้อกี เป็ น 2 ประเภทย่อยคือ ๒.๑ มองเห็นไดด้ ว้ ยตาเปล่า ๒.๑.๑ แบบ 2 มติ ิ เป็นลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ ท่ีเกิดจากการปนเป้ื อนสารต่างๆ เช่น ลายนิ้วมือเป้ื อนเลือด เป้ื อนน้าํ หมึก ฝ่ นุ ที่ติดบนผวิ ต่างๆ ซ่ึงสามารถมองเห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจน ภาพ ลายน้ิวมือเป้ื อนโลหิต ภาพ ลายน้ิวมือเป้ื อนหมึก ๒.๑.๒ แบบ 3 มิติ เป็นลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ ท่ีไปสมั ผสั หรือกดลงบนวตั ถุผวิ นุ่ม เช่น ดินเหนียว ดินน้าํ มนั เป็นผลทาํ ใหเ้ กิดร่องรอยบนวตั ถุน้นั เป็น ๓ มิติ เช่น รอยเทา้ บนดินเหนียว ลายนิ้วมือบนดินน้าํ มนั เป็ นตน้ ๒.๒ แบบมองไมเ่ ห็น หรือ “รอยลายนิ้วมือ/ฝ่ ามือ/ฝ่ าเทา้ แฝง” เป็นรอยลายนิ้วมือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเทา้ ที่มองเห็นไม่ชดั หรือมองไม่เห็นดว้ ยตาเปล่า เช่น รอย ลายนิ้วมือบนกระจกอาวธุ ปื น กระดาษ ไม้ เป็นตน้
๓๖ ภาพ ลายนิ้วมือแฝงบนขวด ๓. ลายนิว้ มือ ฯ ทใี่ ช้ในการเปรียบเทยี บ ๓.๑ การพิมพล์ ายนิ้วมือ 10 นิ้ว เป็นการพมิ พล์ ายนิ้วมือ ๑๐ นิ้ว ของผตู้ อ้ งสงสัยตามแบบพมิ พล์ ายนิ้วมือ ๑๐ นิ้ว (พลม.๒๕- ต.๕๓๙) ใหป้ รากฏลายเส้นชดั เจนสมบรู ณ์ โดยใหเ้ ห็นลายเส้นของขอ้ ปลายแตล่ ะนิ้ว จากขอบเล็บ ดา้ นหน่ึงถึงขอบเล็บอีกดา้ นหน่ึง (พิมพก์ ลิ้งนิ้ว) ความยาวใหต้ ิดต้งั แต่ขอ้ นิ้วถึงปลายนิ้ว (พมิ พล์ งใน แบบฟอร์มใหข้ อ้ นิ้วท้งั หา้ อยใู่ นระดบั เดียวกนั ) ไม่พิมพ์นิว้ ทับตวั อักษรหรือพิมพ์นิว้ ทับกนั เอง พมิ พ์ ลายนิ้วมือที่ดีจะตอ้ งเห็นลายเส้นสีดาํ สลบั ขาวอยา่ งชดั เจน พร้อมท้งั บนั ทึกรายละเอียดตา่ งๆ ให้ สมบูรณ์ ภาพ แผน่ พมิ พล์ ายนิ้วมือ 10 นิ้ว ของผตู้ อ้ งหา
๓๗ ภาพ วธิ ีการพมิ พล์ ายนิ้วมือโดยวิธีกลิ้งนิ้ว ๓.๒ การพมิ พล์ ายฝ่ ามือ ใหพ้ ิมพล์ ายฝ่ ามือท้งั ขวาและซา้ ยยของผตู้ อ้ งสงสยั ลงบนกระดาษขาวผวิ มนั เรียบ เช่น กระดาษถ่ายเอกสาร โดยใหเ้ ห็นลายเส้นสีดาํ สลบั ขาวชดั เจน และสมบรู ณ์เตม็ ท้งั ฝ่ ามือโดยเฉพาะ บริเวณอุง้ ฝ่ ามือ การพิมพใ์ ชน้ ิ้วช้ีกดหลงั มือเลก็ นอ้ ยเพ่ือใหล้ ายเส้นติดสมบรู ณ์ ท้งั ฝ่ ามือและนิ้ว พร้อมท้งั เขียนชื่อสกุล ผพู้ ิมพ์ และผถู้ ูกพมิ พใ์ หช้ ดั เจน และใหผ้ ถู้ ูกพมิ พล์ งลายมือชื่อไวไ้ มเ่ ขียน ขอ้ ความใด ๆ ทบั บนลายเส้นดงั ตวั อยา่ งในภาพ
๓๘ ๓.๓ การพมิ พฝ์ ่ าเทา้ ใหพ้ มิ พล์ ายฝ่ าเทา้ ท้งั ซา้ ยขวาของผตู้ อ้ งสงสัยในทาํ นองเดียวกนั กบั การพมิ พล์ ายฝ่ ามือ ดงั ตวั อยา่ งในภาพ สาํ หรับกรณีขอใหต้ รวจพสิ ูจน์รอยเทา้ ที่เหยยี บลงบนดินเหนียวน้นั ควรหล่อรอยเทา้ ขวาและซา้ ยของผตู้ อ้ งสงสยั โดยวธิ ีการหล่อดว้ ยปนู พลาสเตอร์เช่นกนั ๓.๔ การพมิ พน์ ิ้วมือ “คนพกิ าร” การพมิ พล์ ายนิ้วมือของคนพิการน้ี ในบางกรณีอาจดาํ เนินการไม่ได้ เพราะการพิการน้นั อาจไดเ้ ป็นมาแต่กาํ เนิด เป็นการพกิ ารตลอดชีวติ เช่น การเกิดมามือดว้ น นิ้วดว้ น หรือหงิกงอ เป็นง่อย นิ้วเสีย พิการติดกนั นิ้วงอก หรือเนื่องจากอายมุ ากเกินไป ก็ช้ีแจงไปใหช้ ดั ถา้ บนั ทึกไวเ้ พียง วา่ นิ้วดว้ นหรือนิ้วกดุ เทา่ น้นั ก็ยงั หาเป็นการเพยี งพอไม่ ควรบอกดว้ ยวา่ นิ้วดว้ นหรือนิ้วกดุ เป็นมา แตก่ าํ เนิด แลว้ กพ็ มิ พฝ์ ่ ามือไวส้ ่งไปในกรณีนิ้วดว้ นหรือนิ้วกดุ เป็นบางส่วน เช่น ดว้ นหรือกดุ เพยี งขอ้ นิ้วแรก ก็ใหพ้ มิ พน์ ิ้วส่วนที่เหลืออยนู่ ้นั ลงไปท้งั นิ้ว แลว้ บนั ทึกไวต้ ามขอ้ เทจ็ จริงที่ปรากฏลงไปใน แบบพมิ พต์ รงช่องของนิ้วน้นั ๆ ใหช้ ดั เจน สาํ หรับกรณีผถู ูก้ พิมพมีนิ้วมากกวา่ 10 นิ้ว กใ็ หจ้ดั การไปตามปกติใบแบบพมิ พแ์ ต่นิ้วท่ีงอก เกินมาใหพ้ ิมพไ์ วด้ า้ นหลงั แบบพิมพ์ แลว้ หมายเหตุใหช้ ดั วา่ เป็นนิ้วงอกของนิ้วใดเพราะต่อไปบุคคล ดงั วา่ น้ีอาจตดั นิ้วที่งอกออกเสียก็ได้ บางกรณีผถู ูก้ พิมพกอ็ าจมีนิ้ว ๒ นิ้วหรือมากกวา่ หรือติดกนั ติดกนั หรือรวมกนั ซ่ึงทาํ ให้ พิมพก์ ลิ้งนิ้วดา้ นในไมไ่ ด้ ลกั ษณะของนิ้วเช่นน้ี กข็ อใหพ้ มิ พก์ ลิ้งนิ้วเทา่ ท่ีสามารถจะทาํ ได้ แลว้ บนั ทึกลงไปใหท้ ราบวา่ นิ้วติดกนั ในกรณีที่นิ้วหวั แมม่ ือมีนิ้วแยกออกไปอีก หรือแตกแขนงออกได้ อีกเป็น ๒ นิ้วใหพ้ ิมพน์ ิ้วดา้ นใน หรือนิ้วท่ีมีลกั ษณะอนั เป็นนิ้วที่แทจ้ ริงเป็นหลกั (คือไมใ่ ช่นิ้วท่ีแตก ออกไปหรือนิ้วที่งอกออกไป)
๓๙ วตั ถุพยานประเภทเอกสาร ความหมายท่ีแทจ้ ริงของเอกสารมีมากกวา่ ท่ีเขา้ ใจกนั ไม่ใช่เป็นแต่เพียงวา่ ขอ้ ความท่ีปรากฏ อยบู่ นกระดาษเทา่ น้นั ซ่ึงความหมายของเอกสารตามสามญั สาํ นึกกวา้ ง ๆ คือ วตั ถุใด ๆ ท่ีปรากฏ เครื่องหมายสญั ลกั ษณ์หรือตวั อกั ษร ท่ีแสดงความหมายหรือขอ้ มูลขา่ วสารไปสู่มนุษยแ์ ตโ่ ดยแทจ้ ริง แลว้ เอกสารส่วนใหญ่จะเขียนบนกระดาษ โดยใชเ้ คร่ืองพิมพ์ เครื่องพิมพด์ ีด หรือเขียนดว้ ยมือโดยใช้ ดินสอหรือปากกาและหมึก นอกจากน้ียงั มีในลกั ษณะอื่น ๆ อีก เช่น ขอ้ ความเขียนแสดงความ ประสงคไ์ วบ้ นแผน่ ไมก้ ็เคยไดร้ ับการเสนอวา่ เป็นพินยั กรรม รูป สัญลกั ษณ์เขียนดว้ ยสีไวบ้ นกาํ แพง ตวั อกั ษรที่สลกั บนหลกั หิน หรือศิลาจารึกตา่ ง ๆ รวมท้งั เอกสารในลกั ษณะอ่ืน ๆ ท่ีสร้างข้ึนจากวสั ดุ ต่าง ๆ กนั ดว้ ยเคร่ืองมือและเคร่ืองเขียนตา่ ง ๆ ซ่ึงมนุษยใ์ ชบ้ นั ทึก เพ่อื ถ่ายทอดพฤติกรรมและ ความคิดอนั หลากหลาย ตามประมวลกฎหมายอาญาไทย ไดร้ ะบุความหมายของเอกสาร ไวด้ งั น้ี “เอกสาร หมายความวา่ กระดาษหรือวตั ถุอื่นใด ซ่ึงไดท้ าํ ใหป้ รากฏความหมายดว้ ยตวั อกั ษร ตวั เลข ผงั หรือ แผนแบบอยา่ งอ่ืน จะเป็นโดยวธิ ีพมิ พ์ ถ่ายภาพ หรือวธิ ีอ่ืนอนั เป็นหลกั ฐานแห่งความหมายน้นั ” เอกสารทเี่ กย่ี วข้องกบั การตรวจพสิ ูจน์ สิ่งสาํ คญั ของการตรวจพสิ ูจนเ์ อกสาร : การแยกประเภทเอกสาร และการ ระบุเอกสารใหม้ ีความชดั เจน จะช่วยใหผ้ ตู้ รวจพสิ ูจนเ์ ขา้ ใจง่าย สามารถตรวจพิสูจน์ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว สมบูรณ์และถูกตอ้ งตามหลกั วชิ า โดยเอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การตรวจพิสูจน์ ไดแ้ ก่ - เอกสารของกลาง หรือเอกสารปัญหา หรือเอกสารพิพาท คือ เอกสารที่ สงสัย หรือมีผกู้ ล่าวหาวา่ มีการทาํ ปลอม หรือใชเ้ อกสารปลอม หรือเปน็ เร่ืองที่พพิ าทกนั ซ่ึงเอกสาร ปัญหา บางกรณีสามารถทาํ การตรวจพสิ ูจน์ไดท้ นั ที เช่น การตรวจร่องรอยขดู ลบ แกไ้ ข หรือตรวจ รอยกดบนกระดาษรองรับการเขียน แต่บางกรณีตอ้ งมีเอกสารตวั อยา่ งท่ีแทจ้ ริง เพื่อใชใ้ นการตรวจ เปรียบเทียบดว้ ย - เอกสารตวั อย่าง คือ เอกสารที่แทจ้ ริงซ่ึงรู้แหล่งท่ีมาอยา่ งถูกตอ้ ง และใชใ้ นการตรวจเปรียบเทียบกบั เอกสารปัญหา เป็นกรณีท่ีตอ้ งการตรวจพิสูจนล์ ายมือช่ือ ลายมือ เขียน, ขอ้ ความ, ตวั อกั ษรพิมพด์ ีด, รอยตราประทบั , เครื่องหมายการคา้ , แผน่ ป้ ายทะเบียนรถ, โฉนด ที่ดิน, ธนบตั ร ฯลฯ
๔๐ ลกั ษณะของการตรวจพสิ ูจน์เอกสารของกลาง - ตรวจลายมือชื่อ ลายมือเขียนขอ้ ความ - ตรวจตวั อกั ษรพมิ พด์ ีด ขอ้ ความตวั พิมพ์ - ตรวจหาร่องรอยตา่ ง ๆ บนเอกสาร เช่น รอยฉีกขาด ร่องรอย การเปล่ียนแปลงแกไ้ ข รอยกดทบั ท่ีเกิดจากการเขียนหรือการพิมพ์ เอกสารไหมไ้ ฟ เป็นตน้ - ตรวจแม่พิมพ์ รอยตราประทบั เงินตราปลอมแปลง เอกสารหนงั สือ สาํ คญั ต่างๆ ลกั ษณะของเอกสารสาคัญท่ถี ูกปลอมแปลงขนึ้ และเป็ นคดี - เอกสารที่เกี่ยวกบั การเงิน การธนาคาร เช่น เช็ค เชค็ เดินทาง ใบถอนเงิน ใบซ้ือสินคา้ โดยบตั รเครดิต เป็นตน้ - โฉนดท่ีดิน หนงั สือมอบอาํ นาจ - แผน่ ป้ ายวงกลมแสดงการเสียภาษี และแผน่ ป้ ายทะเบียนรถ - หนงั สือสญั ญากยู้ มื เงิน หนงั สือสัญญาตา่ ง ๆ - หนงั สือเดินทาง - จดหมายข่กู รรโชก บตั รสนเท่ห์ - หนงั สือพนิ ยั กรรม - ธนบตั ร - บตั รประจาํ ตวั ใบสูติบตั ร ใบสุทธิ ฯลฯ
๔๑ การจัดเตรียมเอกสารส่งตรวจพสิ ูจน์ให้สมบูรณ์ตามหลกั วชิ าการน้ันพนักงานสอบสวน จะต้องดาเนินการ ดงั นี้ ๑. จดั ส่งเอกสารของกลาง และเอกสารตวั อยา่ งท่ีเป็นตน้ ฉบบั จริง ยกเวน้ กรณีท่ีไม่สามารถส่งตน้ ฉบบั จริงได้ ใหร้ ะบุสาเหตุที่ไมส่ ามารถส่งไดใ้ นหนงั สือนาํ ส่ง (หนงั สือนาํ ส่งของกลางตรวจพสิ ูจน์ใหท้ าํ ตาม “แบบ กอส.๐๑”) ๒. ระบุเอกสารใหช้ ดั เจนวา่ เอกสารใดเป็นเอกสารของกลาง และเอกสารตวั อยา่ ง และมีจาํ นวนกี่ฉบบั ๓. ระบุตาํ แหน่งของส่ิงที่ตอ้ งการตรวจพิสูจน์ในเอกสารปัญหา และจุดประสงคใ์ นการตรวจพิสูจน์ใหช้ ดั เจน เช่น กรณีการตรวจพสิ ูจนล์ ายมือชื่อ/ลายมือเขียน ขอ้ ความใหร้ ะบุวา่ “ลายมือชื่อ/ลายมือเขียนขอ้ ความ ตรงบริเวณในเอกสารของกลาง กบั ตวั อยา่ ง ลายมือชื่อ/ลายมือเขียนขอ้ ความ ของ...............จะเป็นลายมือชื่อ/ลายมือเขียนขอ้ ความ ของบุคคลเดียวกนั ใช่หรือไม่” หรือกรณีการตรวจร่องรอยการเปลี่ยนแปลงแกไ้ ขใหร้ ะบุวา่ “เอกสาร ของกลางตรงบริเวณ........................จะมีร่องรอยการเปลี่ยนแปลงแกไ้ ขหรือไม่ ถา้ มีขอ้ ความเดิมอ่าน ไดว้ า่ อยา่ งไร” ๔. จดั ส่งเอกสารตวั อยา่ งเพือ่ ใชใ้ นการตรวจเปรียบเทียบกบั เอกสารของกลางดงั น้ี กรณีตรวจพสิ ูจน์ลายมอื ชื่อ ลายมือเขยี นข้อความ ๑. จดั หาลายมือช่ือ หรือลายมือเขียนขอ้ ความท่ีเขียนไวเ้ ดิม - จดั หาลายมือชื่อ หรือลายมือเขียนขอ้ ความของบคุ คลท่ีตอ้ งการตรวจพิสูจน์ ที่มีระยะเวลา ของการเขียนใกลเ้ คียงกบั เอกสารของกลาง - ระบใุ หช้ดั เจนวา่ เป็นลายนิ้วมือของบุคคลใด และอยตู่ รงบริเวณใดของเอกสาร - จดั ใหเ้ จา้ ของลายมือหรือบคุ คลท่ีเช่ือถือได้ ลงลายมือชื่อรับรองลงบนพ้นื ท่ีวา่ ง ของเอกสารทกุ แผน่ ๒. จดั ใหเ้ ขียนลายมือชื่อ หรือลายมือเขียนขอ้ ความ ต่อหนา้ พนกั งานสอบสวน - จดั เตรียมอุปกรณ์และลกั ษณะการเขียนใหใ้ กลเ้ คียงกบั เอกสารของกลางใหม้ ากที่สุด เช่น กระดาษ, ปากกา, ลกั ษณะการเขียนแบบหวดั , แบบบรรจง, ทา่ ทางการเขียน เป็นตน้ - จดั ใหบ้ คุ คลที่ตอ้ งการตรวจเปรียบเทียบ กรอกขอ้ มลู ส่วนบคุ คลดว้ ยตนเอง ลงใน “แบบ กอส.๐๒” โดยใหม้ ีรายละเอียดดงั น้ี - ชื่อ - สกลุ - อายุ และ วนั เดือน ปี เกิด
๔๒ - อาชีพ - ประวตั ิการศึกษา - ถนดั เขียนดว้ ยมือขา้ งใด และปัจจุบนั ใชม้ ือขา้ งใดเขียน - สามารถเขียนไดท้ ้งั มือซา้ ยหรือขวาหรือไม่ - มีโรคประจาํ ตวั หรือไม่ - เคยไดร้ ับบาดเจบ็ ตรงบริเวณมือขา้ งท่ีถนดั หรือไม่ เมื่อใด - ทา่ นใชล้ ายมือชื่อกี่แบบ (ต้งั แตอ่ ดีตถึงปัจจุบนั ) และใหเ้ ขียนตวั อยา่ ง ลายมือช่ือแต่ละแบบ แบบละ ๓ ตวั อยา่ ง - จดั ใหบ้ คุ คลท่ีตอ้ งการตรวจเปรียบเทียบ เขียนตวั อยา่ งลายมือชื่อแบบเดียวกนั กบั ลายมือช่ือในเอกสารของกลาง หรือเขียนขอ้ ความเดียวกนั กบั ขอ้ ความท่ีตอ้ งการใหต้ รวจ พสิ ูจน(์ ใหเ้ ขียนตามคาํ บอก อยา่ ใหเ้ ห็นเอกสารของกลาง) ลงใน “แบบ กอส.๐๓”, “แบบ กอส. ๐๔”, “แบบ กอส.๐๕”, “แบบ กอส.๐๖” ประมาณ ๕ - ๑๐ หนา้ กระดาษ - จดั ใหบ้ คุ คลท่ีเขียนตวั อยา่ ง และพนกั งานสอบสวนลงลายมือชื่อรับรองทุกแผน่ กรณตี รวจพสิ ูจน์ตวั อกั ษรพมิ พ์ดดี ๑. จดั พิมพข์ อ้ ความใหต้ รงกนั กบั ขอ้ ความในเอกสารของกลาง ประมาณ ๕ - ๑๐ หนา้ กระดาษ ๒. ระบุหมายเลขเคร่ือง ยห่ี อ้ เครื่องพมิ พด์ ีดใหช้ ดั เจน ๓. ใหพ้ นกั งานสอบสวน และผเู้ ก่ียวขอ้ ง ลงลายมือช่ือรับรองทกุ แผน่ ๔. กรณีเอกสารของกลางถูกพมิ พม์ านานแลว้ ใหจ้ ดั หาขอ้ ความตวั อกั ษรพมิ พด์ ีด ของเคร่ืองที่ตอ้ งการตรวจเปรียบเทียบที่เคยพิมพไ์ วใ้ นระยะเดียวกนั ไปตรวจเปรียบเทียบดว้ ย ๔. ไมต่ อ้ งส่งเครื่องพิมพด์ ีดไปตรวจพิสูจน์ กรณตี รวจพสิ ูจน์รอยตราประทับ ๑. จดั หารอยตราประทบั ที่แทจ้ ริง ท่ีประทบั ในระยะเวลาเดียวกนั กบั เอกสารของกลาง ๒. ประทบั ตวั อยา่ งรอยตราประทบั ท่ีแทจ้ ริงบนกระดาษ ประมาณ ๕ หนา้ กระดาษ ๓. ใหพ้ นกั งานสอบสวนและผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งลงลายมือช่ือรับรองทุกแผน่ กรณตี รวจพสิ ูจน์เครื่องหมายการค้า แม่พมิ พ์ แบบพมิ พ์ ๑. จดั หาเคร่ืองหมายการคา้ ท่ีแทจ้ ริง ท่ีผลิตในชนิดและรุ่นเดียวกนั กบั ของกลาง ไปตรวจ เปรียบเทียบ
๔๓ ๒. ใหพ้ นกั งานสอบสวน และผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งลงลายมือชื่อรับรองทกุ แผน่ กรณีตรวจพสิ ูจน์เคร่ืองหมายแสดงภาษี แผ่นป้ ายทะเบียนรถ ใบคู่มอื จดทะเบียนรถ บตั ร ประจาตัวประชาชน ใบอนุญาตขบั ข่ี และหนังสือเดินทาง ฯลฯ จดั หาตวั อยา่ งเคร่ืองหมายแสดงการเสียภาษี แผน่ ป้ ายทะเบียนรถ ใบคู่มือจดทะเบียนรถ บตั รประจาํ ตวั ประชาชน ใบอนุญาตขบั รถ และหนงั สือเดินทาง ฯลฯ ท่ีผลิตรุ่นเดียวกนั กบั ของ กลางไปตรวจเปรียบเทียบ กรณตี รวจพสิ ูจน์ธนบตั ร และเหรียญกษาปณ์ ๑. กรณีธนบตั ร เหรียญกษาปณ์ต่างประเทศ ใหจ้ ดั เตรียมตวั อยา่ งธนบตั ร เหรียญกษาปณ์ ที่แทจ้ ริงของประเทศน้นั ชนิดราคาและรุ่นเดียวกนั กบั ของกลาง ไปตรวจเปรียบเทียบ ๒. กรณีธนบตั ร เหรียญกษาปณ์ไทย ท่ีผลิตในวาระพเิ ศษ จะตอ้ งจดั เตรียมตวั อยา่ ง ที่แทจ้ ริงในรุ่นเดียวกนั กบั ของกลาง ไปตรวจเปรียบเทียบ ๓. กรณีธนบตั ร เหรียญกษาปณ์ไทย ที่มีใชใ้ นปัจจุบนั ไม่ตอ้ งจดั ส่งตวั อยา่ ง ไปตรวจ เปรียบเทียบ กรณตี รวจพสิ ูจน์รอยตราตะกว่ั มเิ ตอร์ไฟฟ้ า ๑. จดั หารอยตราตะกว่ั ที่แทจ้ ริง ท่ีมีหมายเลขเดียวกนั กบั รอยตราตะกว่ั ของกลาง ไปตรวจเปรียบเทียบ ๒. จดั ใหผ้ เู้ กี่ยวขอ้ งรับรองตวั อยา่ งรอยตราตะกว่ั กรณีตรวจพสิ ูจน์รอยตราบนไม้ ๑. กรณีที่พนกั งานสอบสวนส่งเขียงไมไ้ ปตรวจพสิ ูจน์ - จดั ทาํ บญั ชีเขียงไมข้ องกลาง - ระบุจาํ นวนเขียงไมข้ องกลางที่ตอ้ งการใหต้ รวจพิสูจน์ - จดั หาคอ้ นเหลก็ รอยตราที่แทจ้ ริงของเจา้ หนา้ ท่ีที่เก่ียวขอ้ ง ท่ีตอ้ งการตรวจพิสูจน์ ไปตรวจเปรียบเทียบ - จดั หาเขียงไมส้ าํ หรับใชใ้ นการประทบั ตวั อยา่ งรอยตราจากคอ้ นเหลก็ ท่ีแทจ้ ริง ของเจา้ หนา้ ท่ีท่ีเกี่ยวขอ้ งตอ่ หนา้ ผตู้ รวจพสิ ูจน์ ๒. กรณีที่ผตู้ รวจพิสูจนจ์ ะตอ้ งเดินทางไปตรวจ ณ สถานท่ีเกบ็ ไมข้ องกลาง ในกรณี ที่ไม่สามารถเคล่ือนยา้ ยไมข้ องกลางได้
๔๔ - ใหพ้ นกั งานสอบสวนทาํ หนงั สือ เพือ่ แจง้ และขอใหผ้ ตู้ รวจพิสูจนเ์ ดินทางไป ตรวจไมข้ องกลาง ณ สถานท่ีเกบ็ ไมข้ องกลาง - จดั ทาํ บญั ชีไมข้ องกลาง พร้อมท้งั จดั เรียงไมต้ ามลาํ ดบั บญั ชีของกลาง - ระบุจาํ นวนไมข้ องกลางที่ตอ้ งการใหต้ รวจพิสูจน์ - จดั หาคอ้ นเหลก็ รอยตราท่ีแทจ้ ริงของเจา้ หนา้ ท่ีที่เก่ียวขอ้ งท่ีตอ้ งการตรวจพสิ ูจน์ ไปตรวจเปรียบเทียบ - จดั หาเขียงไมส้ าํ หรับใชใ้ นการประทบั ตวั อยา่ งรอยตราจากคอ้ นเหลก็ ท่ีแทจ้ ริง ของเจา้ หนา้ ที่ที่เก่ียวขอ้ งต่อหนา้ ผตู้ รวจพิสูจน์ - ประสานงานกบั ผตู้ รวจพิสูจน์ เพื่อกาํ หนดวนั และเวลาท่ีใหไ้ ปตรวจพิสูจน์ หมายเหตุ สามารถสืบคน้ ขอ้ มลู และดาวนโ์ หลดเอกสารเกี่ยวกบั คาํ แนะนาํ ในการจดั เตรียมเอกสาร ส่งตรวจพิสูจนแ์ ละตวั อยา่ งหนงั สือนาํ ส่งตรวจพสิ ูจน์ ไดท้ ่ี http://www.science.police.go.th หวั ขอ้ “คาํ แนะนาํ การส่งตรวจกลุ่มงานเอกสาร”__ ---------------------------------------------------------------------------------------
๔๕ วตั ถุพยานประเภทอาวธุ ปื นและเครื่องกระสุนปื น ความหมายของอาวุธปื น อาวธุ ปื น หมายความรวมตลอดถึงอาวธุ ทุกชนิด ซ่ึงใชส้ ่งเคร่ืองกระสุนปื น โดยวธิ ีระเบิด หรือกาํ ลงั ดนั ของแก๊ส หรืออดั ลม หรือเคร่ืองกลไกอยา่ งใดซ่ึงตอ้ งอาศยั อาํ นาจของ พลงั งานและส่วนหน่ึงส่วนใดของอาวธุ น้นั ๆ ซ่ึงรัฐมนตรีเห็นวา่ สาํ คญั และไดร้ ะบุไวใ้ น กฎกระทรวง” ส่วนของอาวธุ ปื นซ่ึงจะกล่าวถึงต่อไปน้ี ใหถ้ ือวา่ เป็น “อาวธุ ปื น” ตามความในมาตรา ๔(๑) คือ (๑) ลาํ กลอ้ ง (๒) เครื่องลูกเลื่อน หรือส่วนประกอบสาํ คญั ของเครื่องลูกเลื่อน (๓) เคร่ืองลนั่ ไก หรือส่วนประกอบสาํ คญั ของเคร่ืองลนั่ ไก (๔) เคร่ืองส่งกระสุน ซองกระสุน หรือส่วนประกอบสาํ คญั ของสิ่งเหล่าน้ี” ดงั น้นั คาํ วา่ “อาวธุ ปื น” ตามกฎหมายจึงหมายถึง ๑. อาวธุ ปื นทกุ ชนิด เช่น ปื นพก ปื นยาว ปื นลูกซอง ปื นกล ปื นใหญ่ฯลฯ และ ๒. ส่วนของอาวธุ ปื น เช่น ลาํ กลอ้ ง เคร่ืองลูกเล่ือน เคร่ืองลนั่ ไกเครื่องส่งกระสุน ซอง กระสุน หรือส่วนประกอบสาํ คญั ของสิ่งเหล่าน้ีในการซ้ือ มี และใชอ้ าวธุ ปื นน้นั ตอ้ งไดร้ ับ อนุญาตจากนายทะเบียนซ่ึงจะเป็นผอู้ อกใบอนุญาตใหแ้ ตส่ าํ หรับเคร่ืองกระสุนปื นใหถ้ ือวา่ การ ไดร้ ับอนุญาตใหม้ ีและใชอ้ าวธุ ปน้นั เป็นการอนุญาตใหม้ ี และใชก้ ระสุนปื นสาํ หรับอาวธุ น้นั ไม่ ตอ้ งมีใบอนุญาตพเิ ศษ แตก่ ารซ้ือเครื่องกระสุนปื นแต่ละคร้ังตอ้ งขออนุญาตต่อนายทะเบียน และ จาํ กดั จาํ นวนกระสุนปื นท่ีซ้ือในแต่ละคร้ังแตไ่ ม่ไดจ้ าํ กดั จาํ นวนเครื่องกระสุนปื นท้งั หมดที่จะมีไว้ ในครอบครอง (ฎีกาที่ ๒๒๗๙/๒๕๑๕) การออกใบอนุญาตดงั กล่าวน้ี มีขอ้ จาํ กดั อยใู่ นกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๑๑(พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปื น ฯลฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ ดงั น้ี อาวธุ ปื นที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตใหไ้ ด้ ตอ้ งเป็นอาวธุ ปื น ชนิด และขนาด ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. อาวธุ ปื นชนิดลาํ กลอ้ งมีเกลียว ท่ีมีขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางปากลาํ กลอ้ ง ไมเ่ กิน ๑๑.๔๕ มม. ๒. อาวธุ ปื นชนิดลาํ กลอ้ งไม่มีเกลียว ดงั ตอ่ ไปน้ี - ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางปากลาํ กลอ้ งไมถ่ ึง ๒๐ มม. - ปื นบรรจุปาก ปื นลูกซอง และปื นพลุสัญญาณ ๓. อาวธุ ปื นชนิดที่มีเครื่องกลไกสาํ หรับบรรจุกระสุนเองใหส้ ามารถยงิ ไดซ้ ้าํ ดงั ตอ่ ไปน้ี
๔๖ ก. ขนาดความยาวของลาํ กลอ้ งไมเ่ กิน ๑๖๐ มม. ข. ปื นลูกซอง ค. ปื นลูกกรดขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางปากลาํ กลอ้ งไมเ่ กิน ๕.๖ มม. ๔. อาวธุ ปื นชนิดไมม่ ีเคร่ืองบงั คบั เสียงใหเ้ บาผดิ ปกติ ๕. อาวธุ ปื นชนิดท่ีไม่ไดใ้ ชก้ ระสุนเป็นที่บรรจุวตั ถุเคมีท่ีทาํ ใหเ้ กิดอนั ตรายหรือเป็นพิษ หรือไม่ใชเ้ คร่ืองกระสุนปื นท่ีบรรจุเช้ือโรค เช้ือเพลิง หรือวตั ถุกมั มนั ตภาพรังสีเครื่องกระสุนปื น ท่ีนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตใหไ้ ด้ ตอ้ งเป็นเครื่องกระสุนปื นที่ใชก้ บั อาวธุ ปื นที่ไดร้ ับอนุญาต แตต่ อ้ งไมเ่ ป็นเคร่ืองกระสุนปื นชนิดเจาะเกราะหรือชนิดกระสุนเพลิงสาํ หรับกลไกการทาํ งาน ของอาวธุ ปื น โดยทว่ั ๆ ไปในปัจจุบนั น้นั สามารถแบ่งไดด้ งั น้ี คือ ๑. ปื นบรรจุปาก หรือปื นแก๊ป ๒. ปื นบรรจุทางทา้ ยลาํ กลอ้ ง เท่าท่ีพบเห็นในปัจจุบนั แบง่ ไดเ้ ป็น - ปื นยงิ ทีละนดั เช่น ปื นพกลูกซองชนิดประกอบข้ึนเอง ปื นยาวลูกซองเดี่ยว เป็ นตน้ - ปื นแบบ Bolt Action เป็นปื นท่ีตอ้ งใชม้ ือในการเคล่ือนไหวกลไก เคร่ืองลูกเล่ือน เพื่อคดั ปลอกกระสุนปื น และบรรจุกระสุนปื นเขา้ ในรังเพลิง เช่น ปื นเลก็ ยาวแบบ - ปื นแบบ Pump Action หรือ Slide Action เช่น ปื นยาวลูกซองเด่ียว แบบ Pump Action หรือท่ีเรียกโดยทว่ั ไปวา่ ปื นลูกซอง ๕ นดั - ปื นรีวอลเวอร์ หรือปื นลูกโม่ เป็นปื นที่มีช่องรังเพลิงสาํ หรับบรรจุ กระสุนปื นเรียงติดกนั เป็นวงกลมรอบแนวแกนลาํ กลอ้ งปื น และมีกลไกสาํ หรับหมนุ เอาช่องรัง เพลิงถดั ไปมาจ่ออยกู่ บั ทา้ ยลาํ กลอ้ งปื น เม่ือมีการเหน่ียวไกปื นหรืองา้ งนกปื น เช่น ปื นพกรีวอล เวอร์ขนาดตา่ ง ๆที่ใชก้ นั ในปัจจุบนั - ปื นก่ึงอตั โนมตั ิ เป็นปื นท่ีอาศยั พลงั งานจากการระเบิดของกระสุนปื น มาเคลื่อนไหวเครื่องลูกเลื่อนเพอ่ื คายปลอกกระสุนปื น และบรรจุปลอกกระสุนปื นนดั ใหมเ่ ขา้ มา ในรังเพลิงแต่ตอ้ งมีการปล่อยและเหน่ียวไกคร้ังใหม่เพอื่ ทาํ การยงิ กระสุนนดั ถดั ไป เช่น ปื นพก ออโตเมติกท่ีเรียกกนั โดยทว่ั ไป (Automatic Pistol แตม่ ีการทาํ งานแบบ Semi-automatic) - ปื นกลแบบตา่ ง ๆ มีการทาํ งานแบบเดียวกบั ปื นก่ึงอตั โนมตั ิ แตจ่ ะมีกลไกท่ีทาํ ใหย้ งิ กระสุนปื นไดต้ ิดต่อกนั เป็นชุดโดยเหน่ียวไกปื นคา้ งเอาไว้ เช่น ปื นกลมือ UZI ปื นกลเบา M๖๐ ปื นเลก็ กล M๑๖ เป็นตน้ __
๔๗ ความหมายของเครื่องกระสุนปื น “เคร่ืองกระสุนปื น” หมายความรวมตลอดถึง กระสุนโดด กระสุนปราย กระสุนแตก ลูกระเบิด ตอร์ปิ โด ทุ่นระเบิด และจรวด ท้งั ชนิดท่ีมีหรือไมม่ ีกรด แกส๊ เช้ือเพลิง เช้ือโรค ไอพษิ หมอกหรือควนั หรือกระสุน ลูกระเบิด ตอร์ปิ โด ทุน่ ระเบิด และจรวดที่มีคุณสมบตั ิคลา้ ยคลึงกนั หรือเคร่ือง หรือสิ่งสาํ หรับอดั หรือทาํ หรือใชป้ ระกอบเครื่องกระสุนปื น ดงั น้นั เครื่องกระสุนปื นจึง หมายถึง ๑. กระสุนปื นโดยทวั่ ๆ ไป ซ่ึงประกอบดว้ ย - ลูก (หวั ) กระสุนปื น - ปลอกกระสุนปื น - ดินส่งกระสุนปื นหรือดินปื น - ชนวนทา้ ยกระสุนปื นหรือแก๊ปปื น ๒. กระสุนโดด กระสุนปราย กระสุนแตก ลูกระเบิด ตอร์ปิ โด ทุ่นระเบิด และ จรวดท้งั ชนิดที่มีหรือไมม่ ีกรด แก๊ส เช้ือเพลิง เช้ือโรค ไอพษิ หมอก หรือควนั ๓. กระสุน ลูกระเบิด ตอร์ปิ โด ทุน่ ระเบิด และจรวดที่มีคุณสมบตั ิคลา้ ยคลึงกนั ๔. เคร่ืองหรือส่ิงสาํ หรับอดั หรือทาํ หรือใชป้ ระกอบเครื่องกระสุนปื น ประเภทของกระสุนปื น แบ่งออกเป็ น ๓ ประเภท ๑.Pinfire Cartridge มีปลอกกระสุนปื นทาํ ดว้ ยกระดาษแขง็ และทา้ ยเป็นทองเหลือง มี เขม็ โลหะโผล่ออกมาที่ดา้ นขา้ งปลอกกระสุนปื น โดยมีปลายอีกขา้ งหน่ึงจ่ออยกู่ บั Capsท่ีบรรจุอยู่ ในถว้ ยโลหะ ภายในตวั กระสุน เวลาบรรจุกระสุนปื นน้ีตอ้ งหนั ดา้ นที่มีเขม็ เขา้ มากบั นกปื นเมื่อ เหน่ียวไกปื น นกปื นจะตีลงที่เขม็ โลหะน้ีและเขม็ โลหะน้ีจะไปกระแทกกบั Caps เกิดประกายไฟ จุดระเบิดดินปื น ภาพ ประเภทของลูกกระสุนปื น
๔๘ a. เป็นกระสุนประเภท Rimfire Cartridge ไดแ้ ก่ กระสุนขนาด .๒๒ b., c., d., e. เป็นกระสุนประเภท Centerfire Cartridge ไดแ้ ก่ กระสุน .๔๕ ม, .๓๘, M๑๖, กระสุนปื นลูกซองตามลาํ ดบั ๒. Rimfire Cartridge พฒั นาข้ึนโดยใช้ Picric Acid แบบผงใส่ไวท้ ่ีขอบของ จานทา้ ยกระสุนปื นโดยรอบ เม่ือทาํ การยงิ ตอ้ งใหน้ กปื นตีลงท่ีบริเวณขอบของจานทา้ ยกระสุนปื น เป็นแบบเดียวกบั กระสุนปื นลูกกรดในปัจจุบนั ๓. Centerfire Cartridge เป็นกระสุนปื นแบบที่ใชก้ นั แพร่หลายในปัจจุบนั ประกอบดว้ ยส่วนต่าง ๆ คือ หวั กระสุนปื น (ลูกกระสุนปื น), ปลอกกระสุนปื น ดินปื น (ดินส่ง กระสุนปื น) และแกป๊ (ชนวนทา้ ยกระสุนปื น ) อยทู ี่ก่ึงกลางจานทา้ ยปลอกกระสุนปื นโดยแกป๊ จะ มีลกั ษณะเป็นถว้ ยโลหะออ่ นขนาดเลก็ บรรจุส่วนผสมท่ีไวต่อแรงกระแทกแบบเดียวกบั Fluminate of Mercury มี Anvil รับแรงกระแทกและรูเลก็ ๆ เพือ่ ใหป้ ระกายไฟแลบออกไปจุด ระเบิดดินส่งกระสุนปื นได้ เม่ือนกปื นสบั ลงท่ีแกป๊ น้ีจะทาํ ใหเ้ ปลือกที่เป็นโลหะอ่อน (ทองแดง หรือทองเหลือง) ยบุ ลงไปกระแทกกบั สารที่บรรจุอยภู่ ายในโดยมี Anvil เป็นตวั รองรับ ทาํ ใหเ้ กิด การระเบิดใหเ้ ปลวไฟออกไปจุดดินส่งกระสุนปื น ภาพ ปลอกลูกกระสุนปื น ชนิดของดินปื น ดินปื นเป็นของแขง็ ซ่ึงบรรจุอยใู่ นกระสุนปื น สามารถลุกไหมไ้ ดเ้ ม่ือถูกประกายไฟ หรือความร้อน เมื่อลุกไหมจ้ ะใหแ้ ก๊สปริมาณมากในช่วงเวลาอนั ส้นั ซ่ึงแกส๊ ที่เกิดข้ึนน้ีถูก นาํ ไปใชเ้ ป็นตวั ขบั ดนั กระสุนปื นออกจากลาํ กลอ้ งปื น ดินปื นในปัจจุบนั มีอยู่ ๒ ประเภท คือ ๑. ดินดาํ (Black Powder) ประกอบดว้ ย ดินประสิว ๗๕% ถ่านไม้ ๑๕% และกาํ มะถนั ๑๐% เป็นตวั ขบั ดนั ลูกกระสุนปื นชนิดแรกที่รู้จกั กนั จากหลกั ฐานที่ปรากฏทราบ แต่เพียงวา่ “จีน” เป็นชาติแรกท่ีผลิต
๔๙ ๒. ดินควนั นอ้ ย (Smokeless Powder) มีสารประกอบหลกั คือไนโตรเซลลูโลส หรือ เซลลูโลสไนเตรท (Nitrocellulose or Cellulose nitrate) ซ่ึงใหแ้ รงระเบิดสูงกวา่ ดินดาํ ในปริมาณที่ เท่ากนั แต่เกิดเขมา่ นอ้ ยกวา่ มาก ขนาดของอาวุธปื น ขนาดของอาวธุ ปื นโดยทวั่ ไป หมายถึง ขนาดของเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางของลาํ กลอ้ ง ซ่ึงจาํ แนกออกเป็น อาวุธปื นท่ีมเี กลยี วภายในลากล้อง ขนาดของอาวธุ ปื นชนิดน้ีเรียกวา่ Caliber ดงั น้นั Caliber จึงหมายถึง เส้นผ่าศูนย์กลางของลากล้องปื น ในองั กฤษ อเมริกา ใชห้ น่วยเป็นนิ้ว ในยโุ รปใชห้ น่วยเป็นมิลลิเมตร ในปัจจุบนั ขนาดของอาวธุ ปื นท่ีมีเกลียวภายในลาํ กลอ้ งมีหน่วยที่ ใชก้ นั อยู่ ๒ หน่วยคือ - หน่วยเป็นนิ้ว มีจุดนาํ หนา้ ตามดว้ ยตวั เลขขนาด แต่เวลาเขียนหรือเรียกไมต่ อ้ งมีคาํ วา่ นิ้ว กาํ กบั และตอ้ งเขา้ ใจดว้ ยวา่ ขนาดเป็นนิ้ว เช่น .๔๕, .๔๔, .๓๘, .๓๕๗,.๓๒, .๒๕, .๒๒๓, .๒๒ เป็ นตน้ - หน่วยเป็นมิลลิเมตร หรือ มม. ไม่ตอ้ งมีจุดนาํ หนา้ ใด ๆแต่ตอ้ งมีคาํ วา่ มม.กาํ กบั หลงั ของ ขนาดเสมอไป เช่น ๑๑ มม., ๙ มม., ๗.๖๕ มม., ๖.๓๕ มม.,๕.๕๖ มม. เป็นตน้ โดยที่ปื นมีเกลียวใน ลาํ กลอ้ งน้ีใชก้ บั กระสุนปื นลูกโดด เส้นผา่ ศูนยก์ ลางของลาํ กลอ้ งปื น จึงเทา่ กบั หรือใกลเ้ คียงกบั เส้นผา่ ศูนยก์ ลางของลูก (หวั ) กระสุนปนื จึงมีผใู้ ชค้ าํ วา่ Caliber ในความหมายที่เป็นขนาดของ กระสุนปื นดว้ ย อาวุธปื นทีไ่ ม่มเี กลยี วภายในลากล้อง ขนาดของอาวธุ ปื น ชนิดน้ีเรียกวา่ เกจ (Gaugc) หมายถึง จาํ นวนลูกตะกวั่ ทรงกลมขนาดเท่ากนั ท่ีทาํ จากตะกว่ั หนกั ๑ ปอนด์ เช่น ขนาด ๑๒ หมายความวา่ เอาตะกว่ั มา ๑ กอ้ น หนกั ๑ ปอนด์ แบง่ เป็น ๑๒ ส่วนเท่าๆ กนั ส่วนที่แบ่งไดเ้ อามา ทาํ เป็นกอ้ นกลม ๆ น้นั มีเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางเทา่ ใดกจ็ ะเป็นขนาด ๑๒ ตวั อยา่ ง เช่น ปื นพกลูกซอง ขนาด ๑๒ หมายถึง ปื นท่ีมีลาํ กลอ้ งปื นโตพอท่ีลูกกระสุนตะกว่ั หนกั ๑/๑๒ ปอนด์ ผา่ นไดพ้ อดี ตะกวั่ ทรงกลมหนกั ๑/๑๒ ปอนด์ มีเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง .๗๒๙ นิ้ว นน่ั คือ ปื นพกลูกซอง ขนาด ๑๒ จะมีเส้นผา่ ศูนยก์ ลางของลาํ กลอ้ ง .๗๒๙ นิ้ว เป็นตน้ ขนาดที่ใชก้ นั อยใู่ นปัจจุบนั มีขนาด ๑๒, ๑๖, ๒๐, ๒๔, ๒๘, ๓๒ และขนาด .๔๑๐ นอกจากคาํ วา่ เกจ (Gauge) หรือขนาดของอาวธุ ปื นและกระสุนปื นลูกซองแลว้
๕๐ ยงั มีคาํ หน่ึงของกระสุนปื นลูกซอง คือ นมั เบอร์ หรือ เบอร์ (Number) หรือขนาดของลูกกระสุน ปรายที่บรรจุอยใู่ นกระสุนปื นลูกซองส่วนใหญจ่ ะมีเบอร์เป็นตวั เลขหรือตวั อกั ษร บอกไวท้ ี่ กระดาษปิ ดปากปลอกกระสุนปื น ท้งั ดา้ นบนและดา้ นล่าง ตารางเปรียบเทียบขนาดอาวธุ ปื นชนิดมีเกลียวในลาํ กลอ้ ง กระสุนปื นในปัจจบุ นั จะมีขนาดต่าง ๆ การตรวจหาระยะยิงในทางขปี นวิธี ระยะยิง หมายถึง ระยะห่างระหวา่ งปากลาํ กลอ้ งปื นจนถึงเป้ าที่ถูกยงิ ระยะยิง แบง่ ออกเป็น ๓ ระยะ คือ ๑. ระยะประชิด หมายถึง ระยะท่ีปากลาํ กลอ้ งปื นอยชู่ ิดติดกบั เป้ าที่ถูกยงิ หรือห่างออกมาเลก็ นอ้ ย เขมา่ ดินปื น หรือลูกกระสุนปราย กระสุนปื นลูกซองยงั ไมก่ ระจาย ๒. ระยะใกล้ หมายถึง ระยะที่ถดั จากระยะประชิดจนถึงระยะท่ีไกลที่สุดที่เขมา่ ดินปื นจะปลิวไปถึง ๓. ระยะไกล หมายถึง ระยะท่ีเขมา่ ดินปื นปลิวไปไม่ถึง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142