Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3 คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ประจำปีการศึกษา 2562.doc

3 คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ประจำปีการศึกษา 2562.doc

Published by qa.reru101, 2020-05-01 01:36:00

Description: 3 คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ประจำปีการศึกษา 2562.doc

Search

Read the Text Version

เกณฑ์มาตรฐานหลกั สูตรระดบั ปรญิ ญาตรี พ.ศ. 2548 (เก่า) รำยละเ คณุ สมบัติของผเู้ ข้าศึกษา คณุ สม 1) ประกำศนียบัตรบัณฑิต จะต้องเป็นผู้สำเร็จกำรศึกษำระดับ ปริญญำตรีหรือ 1) ป เทียบเท่ำ 2) ป 2) ประกำศนียบัตรบัณฑติ ขัน้ สงู จะตอ้ งเปน็ ผ้สู ำเร็จกำรศึกษำ ระดบั ปริญญำโทหรือ 3) ป เทยี บเทำ่ 4) ป 3) ปรญิ ญำโท จะตอ้ งเปน็ ผสู้ ำเรจ็ กำรศกึ ษำระดับปริญญำตรี หรอื เทียบเท่ำ ปริญญ 4) ปริญญำเอก จะต้องเป็นสำเร็จกำรศึกษำระดับปริญญำตรี หรือเทียบเท่ำที่ กำหนด ผลกำรเรียนดีมำก หรอื ปริญญำโทหรือเทียบเทำ่ การประกันคุณภาพของหลักสูตร ให้ทุกหลกั สูตรก ำหนดระบบกำร ประกันคุณภำพ การปร ของหลักสูตรให้ชัดเจน ซ่ึงอย่ำงน้อยประกอบด้วย ประเด็นหลัก 4 ประเด็น คือ องค์ปร 1 ) กำรบริหำรหลักสตู ร 2 ) ทรพั ยำกร ประกอบกำรเรียนกำรสอน 3 ) กำรสนับสนุน นกั ศึกษ และกำรให้คำแนะนำ นักศึกษำ 4 ) ควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน สังคม และ/หรือ ควำมพึงพอใจของผ้ใู ช้บัณฑติ ค่มู อื การประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอด็ ประจาปีการศกึ ษา 2562

เกณฑม์ าตรฐานหลักสตู รระดับปรญิ ญาตรี พ.ศ. 2558 (ใหม่) เอียดกำรเทยี บเคียงหนวย่ กติ กับระบบทวิภำคไว้ในหลักสตู รใหช้ ัดเจนด้วย มบัติของผู้เข้าศกึ ษา ประกำศนยี บตั รบณั ฑติ จะตอ้ งเปน็ ผสู้ ำเร็จกำรศกึ ษำระดับปริญญำตรหี รอื เทยี บเทำ่ ประกำศนียบัตรบัณฑติ ข้นั สูง จะต้องเปน็ ผ้สู ำเรจ็ กำรศกึ ษำระดับปริญญำโทหรือเทยี บเท่ำ ปริญญำโท จะตอ้ งเปน็ ผสู้ ำเร็จกำรศึกษำระดบั ปริญญำตรีหรือเทียบเท่ำ ปริญญำเอก จะต้องเป็นสำเร็จกำรศึกษำระดับปริญญำตรีหรอื เทียบเท่ำที่ผลกำรเรียนดีมำก หรือ ญำโท หรือเทียบเท่ำ และมีผลกำรสอบภำษำอังกฤษได้ตำมเกณฑ์ท่ีคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำ ด ระกันคุณภาพของหลกั สูตร ให้ทกุ หลักสตู รกำหนดระบบกำรประกนั คณุ ภำพของหลกสั ูตรโดยมี ระกอบ ในกำรประกันคุณภำพอย่ำงน้อย 6 ด้ำน คือ 1 ) กำรกำกบั มำตรฐำน 2 ) บณั ฑิต 3 ) ษำ 4 ) อำจำรย์ 5) หลกั สตู ร กำรเรยี นกำรสอน กำรประเมินผู้เรยี น 6) ส่ิงสนบั สนุนกำรเรียนรู้ 71

องค์ประกอบท่ี 2 บัณฑติ พันธกิจท่ีสำคัญท่ีสุดของสถำบันอุดมศึกษำคือ กำรผลิตบัณฑิต หรือกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน ให้ผู้เรยี นมีควำมร้ใู นวิชำกำรและวิชำชีพ มีคุณลกั ษณะตำมหลกั สตู รทีก่ ำหนด บณั ฑิตระดบั อดุ มศึกษำจะต้องเป็นผู้มี ควำมรู้ มีคุณธรรมจริยธรรม มีควำมสำมำรถในกำรเรียนรู้และพัฒนำตนเองสำมำรถประยุกต์ใช้ควำมรู้เพื่อกำร ดำรงชวี ติ ในสังคมได้อย่ำงมีควำมสขุ ทั้งทำงรำ่ งกำยและจิตใจ มีควำมสำนกึ และควำมรบั ผดิ ชอบในฐำนะพลเมอื งและ พลโลก มีคุณลักษณะตำมอัตลักษณ์ของสถำบนั อุดมศึกษำสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอดุ มศกึ ษำในฐำนะทเ่ี ป็น หน่วยงำนในกำรกำกบั และส่งเสริมกำรดำเนินงำนของสถำบันอุดมศกึ ษำ ได้จัดทำมำตรฐำนตำ่ งๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ งกับกำร ผลติ บณั ฑิต เชน่ เกณฑ์มำตรฐำนหลักสูตร กรอบมำตรฐำนคณุ วฒุ ิระดับอดุ มศกึ ษำแห่งชำติ เพอ่ื มุ่งเนน้ เป้ำหมำยกำร จดั กำรศกึ ษำที่ผลกำรเรียนรขู้ องนักศึกษำซงึ่ เป็นกำรประกนั คุณภำพบัณฑติ ท่ีไดร้ ับคุณวฒุ ิแต่ละคุณวุฒิและสือ่ สำรให้ สงั คม ชุมชน รวมท้ังหนว่ ยงำนท่เี กีย่ วขอ้ งต่ำงๆ ไดเ้ ชื่อมั่นถึงคุณภำพของบัณฑิตทผี่ ลิตออกมำเป็นไปตำมท่กี ำหนดไว้ ในผลลัพธ์กำรเรียนรู้ในแต่ละหลักสูตรคุณภำพบัณฑิตในแต่ละหลักสูตรจะสะท้อนไปท่ีคุณภำพบัณฑิตตำมกรอบ มำตรฐำนคุณวุฒิระดับอุดมศึกษำแหง่ ชำติ โดยพจิ ำรณำจำกผลลัพธ์กำรเรียนรู้ กำรมีงำนทำ และคุณภำพผลงำนวจิ ัย ของนกั ศกึ ษำและผู้สำเร็จกำรศึกษำระดับบณั ฑิตศกึ ษำในปีกำรศึกษำน้ันๆ คุณภำพบณั ฑิตจะพิจำรณำไดจ้ ำกตัวบง่ ชี้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ตัวบ่งชี้ท่ี 2.1 คณุ ภำพบัณฑติ ตำมกรอบมำตรฐำนคณุ วุฒริ ะดับอุดมศึกษำแหง่ ชำติ ตวั บง่ ชท้ี ่ี 2.2 กำรได้งำนทำหรอื ผลงำนวิจยั ของผสู้ ำเร็จกำรศกึ ษำ - ร้อยละของบัณฑิตปรญิ ญำตรีทีไ่ ดง้ ำนทำหรือประกอบอำชีพอิสระภำยใน 1 ปี - ผลงำนของนกั ศึกษำและผสู้ ำเร็จกำรศึกษำในระดบั ปริญญำโททไ่ี ด้รบั กำรตีพมิ พ์หรอื เผยแพร่ - ผลงำนของนักศึกษำและผู้สำเร็จกำรศึกษำในระดับปริญญำเอกที่ได้รับกำรตีพิมพ์หรือเผยแพร่ คูม่ อื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอ็ด 72 ประจาปีการศึกษา 2562

ตวั บง่ ชีท้ ่ี 2.1 คณุ ภำพบณั ฑิตตำมกรอบมำตรฐำนคุณวฒุ ริ ะดับอุดมศกึ ษำแห่งชำติ ชนิดของตวั บ่งช้ี ผลลพั ธ์ คาอธิบายตวั บง่ ช้ี กรอบมำตรฐำนคณุ วุฒระดับอุดมศึกษำแหง่ ชำติ (Thai Qualifications Framework for Higher Education: TQF) ได้มีกำรกำหนดคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ตำมที่หลักสูตรกำหนดไว้ใน มคอ.2 ซึ่งครอบคลุมผลกำรเรียนรู้อย่ำงนอ้ ย 5 ด้ำนคือ 1) ดำ้ นคุณธรรมจรยิ ธรรม 2) ด้ำนควำมรู้ 3) ดำ้ นทักษะทำง ปัญญำ 4) ด้ำนทักษะควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคลและควำมรับผิดชอบและ 5) ด้ำนทักษะกำรวิเครำะห์เชิง ตัวเลข กำรสื่อสำรและกำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ ตวั บง่ ชี้น้ีจะเป็นกำรประเมินคุณภำพบัณฑิตในมมุ มองของ ผใู้ ช้บัณฑิต เกณฑ์การประเมนิ ใชค้ ำ่ เฉลีย่ ของคะแนนประเมินบณั ฑิต (คะแนนเต็ม 5) สตู รการคานวณ ผลรวมของค่ำคะแนนทีไ่ ด้จำกกำรประเมนิ บณั ฑติ คะแนนทไี่ ด้ = จำนวนบัณฑิตทไ่ี ดร้ บั กำรประเมนิ ทั้งหมด ข้อมลู ประกอบ จำนวนบัณฑิตที่รับกำรประเมินจำกผู้ใช้บัณฑิตจะต้องไม่น้อยกว่ำร้อยละ 20 ของจำนวนบัณฑิตท่ีสำเร็จ กำรศกึ ษำ หมายเหตุ : - ในกรณีหลักสูตรปรับปรุงที่ยงั ไม่ครบรอบ สถำบนั อดุ มศึกษำตอ้ งประเมินตัวบ่งชี้ 2.1 ด้วย แม้วำ่ หลักสูตรน้นั จะ ยงั ไมค่ รบรอบกำรปรับปรุงกต็ ำม โดยนำผลกำรดำเนินงำนของหลกั สตู รในรอบทผี่ ำ่ นมำใชป้ ระกอบกำรประเมิน - กรณบี ณั ฑิตทมี่ ีอำชพี อิสระ ไมต่ อ้ งเอำมำนับในกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิต - ในกรณีบัณฑิตหลกั สตู รนำนำชำติ เป็นนักศกึ ษำตำ่ งชำติประมำณ 90% กำรประเมนิ บัณฑิตอำจไม่ถงึ ร้อยละ 20 เนื่องจำกเดินทำงกลบั ประเทศไปแล้ว สำมำรถอนุโลมใหใ้ ช้บัณฑิตที่เป็นนักศึกษำชำวไทย เป็นฐำนในกำรคิด เช่น มีนักศกึ ษำ ต่ำงชำติ 90 คน มีนักศกึ ษำไทย 10 คนให้ประเมินโดยคิดจำกนกั ศึกษำไทยจำนวน 10 คนเปน็ ฐำนที่ 100 % คมู่ อื การประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอ็ด 73 ประจาปีการศึกษา 2562

ตัวบง่ ชที้ ่ี 2.2 (ปริญญาตรี) ร้อยละของบณั ฑติ ปริญญำตรีที่ไดง้ ำนทำหรือประกอบอำชพี อิสระ ภำยใน 1 ปี ชนดิ ของตวั บง่ ชี้ ผลลัพธ์ คาอธบิ ายตวั บง่ ชี้ บัณฑิตปริญญำตรีท่ีสำเร็จศึกษำในหลักสูตรภำคปกติ ภำคพิเศษและภำคนอกเวลำในสำขำน้ันๆ ทีไ่ ดง้ ำนทำหรือมกี ิจกำรของตนเองที่มรี ำยได้ประจำภำยในระยะเวลำ 1 ปี นับจำกวันที่สำเร็จกำรศึกษำเม่ือ เทียบกบั บัณฑิตทสี่ ำเรจ็ กำรศกึ ษำในปกี ำรศกึ ษำน้ัน กำรนับกำรมงี ำนทำ นบั กรณกี ำรทำงำนสุจริตทุกประเภท ทีส่ ำมำรถสรำ้ งรำยได้เขำ้ มำเป็นประจำเพ่ือเลี้ยงชีพตนเองได้ กำรคำนวณร้อยละของผู้มีงำนทำของผู้สำเร็จ กำรศึกษำที่ลงทะเบียนเรียนในภำคพิเศษหรือภำคนอกเวลำให้คำนวณเฉพำะผู้ท่ีเปลี่ยนงำนใหม่หลังสำเร็จ กำรศกึ ษำเท่ำน้นั เกณฑก์ ารประเมิน โดยกำรแปลงค่ำรอ้ ยละของบณั ฑิตปริญญำตรีทไ่ี ด้งำนทำหรือประกอบอำชพี อิสระภำยใน 1 ปี เป็น คะแนนระหวำ่ ง 0 – 5 กำหนดให้ คะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 100 สตู รการคานวณ 1. คำนวณคำ่ รอ้ ยละของบณั ฑิตปริญญำตรีทไ่ี ดง้ ำนทำหรอื ประกอบอำชพี อสิ ระภำยใน 1 ปี ตำมสูตร จำนวนบัณฑิตปรญิ ญำตรที ไ่ี ดง้ ำนทำหรอื ประกอบอำชพี อิสระภำยใน 1 ปี จำนวนบณั ฑติ ทีต่ อบแบบสำรวจทงั้ หมด X 100 กำรคำนวณค่ำร้อยละนี้ไม่นำบัณฑิตท่ีศึกษำต่อ เกณฑ์ทหำร อุปสมบท และบัณฑิตที่มีงำนทำแล้วแต่ไม่ได้ เปล่ยี นงำนมำพิจำรณำ 2. แปลงคำ่ รอ้ ยละท่ีคำนวณได้ในข้อ 1 เทยี บกบั คะแนนเตม็ 5 ค่ำรอ้ ยละของบัณฑิตปรญิ ญำตรที ่ีไดง้ ำนทำหรือประกอบอำชีพอิสระภำยใน 1 ปี X5 คะแนนทีไ่ ด้ = 100 หมายเหตุ : - จำนวนบัณฑติ ท่ีตอบแบบสำรวจจะต้องไม่น้อยกว่ำร้อยละ 70 ของจำนวนบัณฑิตทสี่ ำเร็จกำรศึกษำ - กรณีหลักสูตรใหม่ ไม่ต้องประเมินตัวบ่งชี้ท่ี 2.1 และ 2.2 เน่ืองจำกไม่มีผู้สำเร็จกำรศึกษำ สำหรับหลักสูตรปรับปรุงท่ีมี นกั ศกึ ษำเรยี นอยู่ ต้องประเมนิ ตัวบ่งชท้ี ่ี 2.1 และ 2.2 ดว้ ย เน่ืองจำกมีผู้สำเร็จกำรศึกษำแล้ว คู่มือการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั รอ้ ยเอ็ด 74 ประจาปีการศึกษา 2562

ตัวบง่ ชีท้ ี่ 2.2 (ปรญิ ญาโท) ผลงำนของนักศกึ ษำและผ้สู ำเรจ็ กำรศกึ ษำในระดับปริญญำโทที่ได้รบั กำรตีพมิ พห์ รอื เผยแพร่ ชนดิ ของตวั บง่ ชี้ ผลลพั ธ์ คาอธบิ ายตวั บง่ ช้ี กำรศึกษำในระดับปริญญำโทจะต้องมีกำรค้นควำ้ คิดอย่ำงเป็นระบบวิจัยเพ่ือหำคำตอบท่ีมีควำม น่ำเช่อื ถอื ผู้สำเร็จกำรศึกษำจะต้องประมวลควำมรู้เพ่ือจัดทำผลงำนที่แสดงถงึ ควำมสำมำรถในกำรใช้ควำมรู้ อย่ำงเปน็ ระบบและสำมำรถนำเผยแพรใ่ ห้เป็นประโยชนต์ ่อสำธำรณะ ตวั บ่งชีน้ ้ีจะเป็นกำรประเมนิ คุณภำพของ ผลงำนของผสู้ ำเร็จกำรศกึ ษำในระดับปรญิ ญำโท เกณฑ์การประเมนิ โดยกำรแปลงค่ำร้อยละของผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนที่ตีพิมพ์เผยแพร่ต่อผู้สำเร็จกำรศึ กษำ เปน็ คะแนนระหวำ่ ง 0 – 5 กำหนดใหค้ ะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 40 ขึน้ ไป สตู รการคานวณ 1. คำนวณคำ่ ร้อยละของผลรวมถ่วงนำ้ หนักของผลงำนทตี่ พี มิ พเ์ ผยแพร่ต่อผสู้ ำเร็จกำรศึกษำ ตำมสตู ร ผลรวมถ่วงนำ้ หนักของผลงำนที่ตีพมิ พห์ รือเผยแพร่ของนักศึกษำและผสู้ ำเร็จกำรศกึ ษำระดับปริญญำโท จำนวนผู้สำเร็จกำรศกึ ษำระดับปริญญำโททง้ั หมด X 100 2. แปลงค่ำร้อยละทค่ี ำนวณไดใ้ นข้อ 1 เทยี บกบั คะแนนเต็ม 5 คะแนนที่ได้ = ร้อยละของผลรวมถ่วงนำ้ หนกั ของผลงำนท่ตี ีพิมพห์ รอื เผยแพร่ต่อผสู้ ำเรจ็ กำรศกึ ษำ X 5 40 หมายเหตุ : - กำรนับกำรตีพิมพเ์ ผยแพรผ่ ลงำนของนกั ศึกษำและผสู้ ำเร็จกำรศึกษำ นบั ณ วันทีไ่ ดร้ บั กำรตีพิมพ์ ผลงำนในวำรสำรระดับชำตหิ รือนำนำชำตมิ ไิ ดน้ บั จำกวันท่ีไดร้ บั กำรตอบรับ (Accepted) คู่มือการประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอด็ 75 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

กาหนดระดับคณุ ภาพผลงานทางวชิ าการ ดงั น้ี ค่า ระดบั คุณภาพ น้าหนัก 0.10 ·· บทควำมฉบับสมบรู ณท์ ีต่ พี มิ พ์ในลักษณะใดลกั ษณะหน่ึง 0.20 · บทควำมฉบับสมบูรณท์ ีต่ ีพิมพใ์ นรำยงำนสบื เน่ืองจำกกำรประชมุ วิชำกำรระดบั ชำติ 0.40 ·· บทควำมฉบับสมบูรณ์ท่ีตพี ิมพใ์ นรำยงำนสบื เนื่องจำกกำรประชมุ วชิ ำกำรระดบั นำนำชำติ 0.60 ผลงำนทีไ่ ด้รับกำรจดอนสุ ิทธบิ ตั ร 0.80 บทควำมทต่ี พี ิมพ์ในวำรสำรวิชำกำรท่ปี รำกฏในฐำนข้อมูล TCI กลมุ่ ท่ี 2 1.00 · บทควำมที่ตีพิมพ์ในวำรสำรวิชำกำรระดับนำนำชำติที่ไม่อยู่ในฐำนข้อมูล ตำมประกำศ ก.พ.อ. หรอื ตีพมิ พใ์ นวำรสำรวชิ ำกำรทปี่ รำกฏในฐำนขอ้ มูล TCI กลมุ่ ท่ี 1 · บทควำมที่ตีพิมพใ์ นวำรสำรวิชำกำรระดับนำนำชำติท่ีปรำกฏในฐำนข้อมูลระดับนำนำชำติ ตำมประกำศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำว่ำด้วยหลักเกณฑ์ ·กำผรลพงิจำนำรทณ่ีไดำร้วบัำรกสำำรรจทดำสงทิ วธชิ บิำกตั ำรรสำหรับกำรเผยแพรผ่ ลงำนทำงวิชำกำร พ.ศ. 2562 กำรส่งบทควำมเพ่ือพิจำรณำคัดเลือกให้นำเสนอในกำรประชุมวิชำกำรต้องส่งเป็นฉบับสมบูรณ์ (Full paper) และเมื่อได้รบั กำรตอบรับและตพี มิ พแ์ ลว้ กำรตีพิมพ์ต้องตีพิมพ์เป็นฉบับสมบูรณ์ ซ่ึงสำมำรถอยู่ ในรูปแบบเอกสำร หรือสื่ออิเล็กทรอนกิ สไ์ ด้ กาหนดระดับคณุ ภาพงานสร้างสรรค์ ดังนี้ คา่ นา้ หนกั ระดับคุณภาพ 0.20 งำนสร้ำงสรรคท์ มี่ ีกำรเผยแพรส่ ู่สำธำรณะในลักษณะใดลกั ษณะหนงึ่ หรือผำ่ นสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ online 0.40 งำนสร้ำงสรรค์ทไี่ ด้รบั กำรเผยแพร่ในระดับสถำบนั 0.60 งำนสรำ้ งสรรค์ท่ีได้รบั กำรเผยแพร่ในระดับชำติ 0.80 งำนสร้ำงสรรคท์ ไ่ี ด้รบั กำรเผยแพร่ในระดับควำมร่วมมอื ระหวำ่ งประเทศ 1.00 งำนสรำ้ งสรรคท์ ีไ่ ด้รบั กำรเผยแพรใ่ นระดับภมู ภิ ำคอำเซยี น/นำนำชำติ ผลงำนสรำ้ งสรรคท์ ุกชิ้นตอ้ งผ่ำนกำรพจิ ำรณำจำกคณะกรรมกำรที่มอี งคป์ ระกอบไม่นอ้ ยกวำ่ 3 คน โดยมีบุคคลภำยนอกสถำบนั ร่วมพิจำรณำด้วย หมายเหตุ 1. ผลงำนวิจัยท่ีมีชอ่ื นักศึกษำและอำจำรย์ร่วมกันและนับในตัวบ่งช้ีนี้แล้ว สำมำรถนำไปนับในตัวบ่งช้ีผลงำนทำงวชิ ำกำร ของอำจำรย์ 2. ผลงำนของนักศึกษำและผสู้ ำเร็จกำรศกึ ษำใหน้ ับผลงำนทุกช้ินท่ีมีกำรตีพิมพเ์ ผยแพร่ในปีกำรประเมินน้ันๆ 3. ในกรณีทีไ่ ม่มีผสู้ ำเรจ็ กำรศึกษำไมพ่ จิ ำรณำตัวบ่งชน้ี ้ี คูม่ อื การประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรอ้ ยเอ็ด 76 ประจาปีการศึกษา 2562

ตัวบ่งช้ีที่ 2.2 (ปริญญาเอก) ผลงำนของนักศกึ ษำและผู้สำเรจ็ กำรศึกษำในระดับปริญญำเอกที่ได้รับกำรตีพมิ พ์ หรอื เผยแพร่ ชนดิ ของตวั บง่ ช้ี ผลลัพธ์ คาอธิบายตวั บ่งช้ี กำรศึกษำในระดับปริญญำเอกเป็นกำรศึกษำในระดับสูงจะต้องมีกำรค้นคว้ำ คิดอย่ำงเป็นระบบ วจิ ยั เพอื่ หำประเดน็ ควำมรใู้ หม่ที่มคี วำมน่ำเชื่อถอื เป็นประโยชน์ ผสู้ ำเรจ็ กำรศกึ ษำจะต้องประมวลควำมรเู้ พื่อ จัดทำผลงำนทแ่ี สดงถงึ ควำมสำมำรถในกำรใช้ควำมรู้อยำ่ งเป็นระบบและสำมำรถนำเผยแพร่ให้เปน็ ประโยชน์ ต่อสำธำรณะ ตัวบง่ ชนี้ ้จี ะเป็นกำรประเมนิ คณุ ภำพของผลงำนของผสู้ ำเร็จกำรศกึ ษำในระดบั ปริญญำเอก เกณฑก์ ารประเมิน โดยกำรแปลงคำ่ รอ้ ยละของผลรวมถว่ งน้ำหนกั ของผลงำนทตี่ ีพิมพ์เผยแพรต่ ่อผสู้ ำเร็จกำรศึกษำ เปน็ คะแนนระหว่ำง 0 – 5 กำหนดใหค้ ะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป สูตรการคานวณ 1. คำนวณคำ่ รอ้ ยละของผลรวมถว่ งนำ้ หนักของผลงำนที่ตพี มิ พ์เผยแพร่ตอ่ ผสู้ ำเร็จกำรศกึ ษำตำมสูตร ผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนทีต่ ีพิมพห์ รือเผยแพร่ของนกั ศึกษำและผู้สำเร็จกำรศกึ ษำระดับปริญญำเอก X 100 จำนวนผูส้ ำเร็จกำรศึกษำระดบั ปรญิ ญำเอกทง้ั หมด 2. แปลงคำ่ รอ้ ยละทคี่ ำนวณได้ในขอ้ 1 เทยี บกบั คะแนนเต็ม 5 คะแนนท่ีได้ = ร้อยละของผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนทต่ี ีพิมพห์ รือเผยแพร่ต่อผสู้ ำเร็จกำรศึกษำ 80 X 5 หมายเหตุ : - กำรนับกำรตีพิมพ์เผยแพร่ผลงำนของนักศึกษำและผู้สำเร็จกำรศึกษำ นับ ณ วันที่ได้รับกำรตีพิมพ์ผลงำนในวำรสำร ระดบั ชำติหรือนำนำชำติมิได้นบั จำกวันที่ได้รบั กำรตอบรบั (Accepted) คู่มือการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอด็ 77 ประจาปีการศึกษา 2562

กาหนดระดบั คุณภาพผลงานทางวิชาการ ดงั น้ี คา่ นา้ หนัก ระดับคณุ ภาพ 0.20 · บทควำมฉบับสมบูรณ์ทตี่ พี ิมพ์ในรำยงำนสบื เนื่องจำกกำรประชุมวิชำกำรระดับชำติ 0.40 · บทควำมฉบับสมบูรณท์ ่ีตีพิมพ์ในรำยงำนสบื เนอ่ื งจำกกำรประชุมวิชำกำรระดบั นำนำชำติ · ผลงำนทีไ่ ด้รบั กำรจดอนสุ ทิ ธิบัตร 0.60 · บทควำมท่ตี พี มิ พ์ในวำรสำรวิชำกำรท่ปี รำกฏในฐำนข้อมูล TCI กลุม่ ที่ 2 0.80 · บทควำมท่ีตีพิมพ์ในวำรสำรวิชำกำรระดับนำนำชำติท่ีไม่อยู่ในฐำนข้อมูลตำมประกำศ ก.พ.อ. หรือ ตีพิมพ์ในวำรสำรวชิ ำกำรทป่ี รำกฏในฐำนข้อมลู TCI กลุม่ ที่ 1 1.00 · บทควำมท่ีตีพิมพ์ในวำรสำรวิชำกำรระดับนำนำชำติท่ีปรำกฏในฐำนข้อมูลระดับนำนำชำติตำม ประกำศ ก.พ.อ. หรอื ระเบยี บคณะกรรมกำรกำรอุดมศกึ ษำว่ำด้วย หลักเกณฑ์กำรพิจำรณำวำรสำรทำง วชิ ำกำรสำหรับกำรเผยแพร่ผลงำนทำงวิชำกำร พ.ศ. 2562 · ผลงำนทไ่ี ด้รบั กำรจดสทิ ธบิ ตั ร กำรส่งบทควำมเพ่ือพิจำรณำคัดเลือกให้นำเสนอในกำรประชุมวิชำกำรต้องส่งเป็นฉบับสมบูรณ์ (Full paper) และเม่อื ไดร้ ับกำรตอบรับและตีพิมพ์แล้ว กำรตพี ิมพต์ อ้ งตพี ิมพ์เป็นฉบับสมบูรณ์ซ่ึงสำมำรถอยู่ ในรูปแบบเอกสำร หรือส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ด้ กาหนดระดับคุณภาพงานสร้างสรรค์ ดังน้ี คา่ นา้ หนกั ระดับคณุ ภาพ 0.20 งำนสรำ้ งสรรค์ที่มีกำรเผยแพรส่ สู่ ำธำรณะในลักษณะใดลกั ษณะหนึง่ หรือผำ่ นส่ืออิเล็กทรอนิกส์ online 0.40 งำนสร้ำงสรรคท์ ี่ไดร้ บั กำรเผยแพร่ในระดับสถำบัน 0.60 งำนสรำ้ งสรรค์ทไ่ี ด้รบั กำรเผยแพร่ในระดับชำติ 0.80 งำนสรำ้ งสรรคท์ ่ีได้รบั กำรเผยแพร่ในระดบั ควำมรว่ มมอื ระหว่ำงประเทศ 1.00 งำนสร้ำงสรรค์ท่ีได้รับกำรเผยแพรใ่ นระดบั ภมู ภิ ำคอำเซียน/นำนำชำติ ผลงำนสร้ำงสรรค์ทุกชิ้นต้องผ่ำนกำรพิจำรณำจำกคณะกรรมกำรที่มีองค์ประกอบไม่น้อยกว่ำ 3 คน โดยมี บุคคลภำยนอกสถำบนั รว่ มพจิ ำรณำด้วย หมายเหตุ 1. ผลงำนวิจัยท่ีมีชื่อนักศึกษำและอำจำรย์รว่ มกันและนับในตัวบ่งช้นี ี้แล้ว สำมำรถนำไปนับในตัวบ่งชี้ผลงำนทำง วชิ ำกำรของอำจำรย์ 2. ผลงำนของนักศึกษำและผู้สำเร็จกำรศึกษำใหน้ ับผลงำนทุกช้ินที่มีกำรตพี ิมพ์เผยแพร่ในปีกำรประเมินนั้นๆ 3. ในกรณที ี่ไม่มีผู้สำเร็จกำรศกึ ษำไม่พิจำรณำตัวบ่งชีน้ ้ี คู่มอื การประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอด็ 78 ประจาปกี ารศึกษา 2562

องค์ประกอบที่ 3 นกั ศกึ ษา ควำมสำเร็จของกำรจัดกำรศึกษำข้ึนอยู่กับปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง คือ นักศึกษำ ระบบประกัน คุณภำพนักศึกษำ ตอ้ งใหค้ วำมสำคัญกบั กำรรบั หรือคดั เลอื กนักศึกษำเขำ้ ศึกษำในหลักสูตร ซ่งึ ตอ้ งเปน็ ระบบที่ สำมำรถคัดเลอื กนกั ศึกษำที่มีคุณสมบัติและควำมพร้อมในกำรเรียนในหลักสูตรจนสำเร็จกำรศึกษำ และกำร ส่งเสริมพัฒนำนักศึกษำให้มีควำมพร้อมทำงกำรเรียน และมีกิจกรรมกำรพัฒนำในรูปแบบต่ำงๆ เพื่อให้ นกั ศึกษำมีควำมรคู้ วำมสำมำรถตำมหลกั สตู ร มีทกั ษะกำรเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 และสำหรับหลักสูตรระดับ บณั ฑิตศึกษำ มที ักษะกำรวจิ ยั ท่ีสำมำรถสรำ้ งองคค์ วำมรไู้ ด้ ทักษะท่ีจำเป็นสำsรับกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย 4 กล่มุ หลัก ได้แก่ (1) กลุ่มวิชำ หลัก (core subjects) (2) กลุ่มทกั ษะชีวิตและอำชพี (life and career skills) (3) กลุ่มทักษะกำรเรียนรู้และ นวัตกรรม (learning and innovation skills) และ (4) กลุ่มทักษะสำรสนเท ศส่ือและเท คโนโลยี (information, media and technology skills) ทกั ษะสำคญั ทค่ี นสว่ นใหญ่ให้ควำมสำคญั มำก คือ 1) กลุ่มทักษะกำรเรียนรู้และนวัตกรรม ได้แก่ (1) กำรคิดเชิงวิพำกษ์และกำรแก้ปัญหำ (critical thinking and problem solving) (2) นวัตกรรมและกำรสร้ำงสรรค์ (innovation and creativity) (3) กำร ส่ือสำรและควำมรว่ มมือกนั (communication and collaboration) 2) กลุ่มทักษะสำรสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี (information, media and technology skills) ประกอบด้วย กำรรู้สำรสนเทศ (information literacy) กำรรู้ส่ือ (media literacy) และ กำรรู้ ICT (ICT literacy) 3) กลมุ่ ทกั ษะชวี ิตและอำชพี (life and career skills) ประกอบดว้ ยควำมสำมำรถในกำร ปรับตวั และยดื หยนุ่ (adaptability and flexibility) ควำมคดิ ริเรมิ่ และกำรเรียนรู้ได้ดว้ ยตนเอง (initiative and self-direction) ปฏิสัมพันธ์ทำงสังคมและข้ำมวัฒนธรรม (social and cross-cultural interaction) ควำมรับผดิ ชอบและควำมสำมำรถผลติ ผลงำน (accountability and productivity) ควำมเปน็ ผนู้ ำและรบั ผิดชอบต่อสงั คม(leadership and social responsibility) กำรประกนั คุณภำพหลักสตู รในองคป์ ระกอบด้ำนนักศกึ ษำ เริม่ ดำเนนิ กำรต้ังแต่ระบบกำร รับนักศกึ ษำ กำรสง่ เสริมและพฒั นำนักศกึ ษำ และผลลัพธท์ เ่ี กิดข้นึ กบั นักศกึ ษำ ภำยใต้กำรดำเนนิ กำรดงั กล่ำว ใหพ้ จิ ำรณำจำกตัวบง่ ชดี้ ังต่อไปนี้ ตวั บง่ ช้ีท่ี 3.1 กำรรบั นกั ศกึ ษำ ตัวบ่งชท้ี ี่ 3.2 กำรสง่ เสรมิ และพัฒนำนกั ศึกษำ ตัวบง่ ช้ที ี่ 3.3 ผลทีเ่ กดิ กบั นกั ศกึ ษำ คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรอ้ ยเอด็ 79 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

ตวั บง่ ชีท้ ี่ 3.1 การรบั นกั ศกึ ษา ชนิดของตัวบง่ ช้ี กระบวนกำร คาอธิบายตัวบ่งช้ี คณุ สมบัตขิ องนกั ศกึ ษำทร่ี ับเข้ำศึกษำในหลกั สูตรเป็นปัจจัยพน้ื ฐำนของควำมสำเรจ็ แตล่ ะหลักสตู ร จะมีแนวคิดปรัชญำในกำรออกแบบหลักสูตร ซึ่งจำเป็นตอ้ งมีกำรกำหนดคุณสมบัติของนักศึกษำทสี่ อดคล้อง กับลักษณะธรรมชำติของหลักสูตร กำรกำหนดเกณฑ์ท่ีใช้ในกำรคัดเลือกต้องมีควำมโปร่งใส ชัดเจน และ สอดคลอ้ งกบั คณุ สมบตั ิของนักศึกษำท่ีกำหนดในหลกั สตู ร มีเครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นกำรคัดเลอื ก ขอ้ มลู หรือวิธีกำรคัด นักศึกษำใหไ้ ด้นกั ศกึ ษำท่มี ีควำมพร้อมทำงปัญญำ สุขภำพกำยและจติ ควำมมุ่งม่ันทจ่ี ะเรียน และมีเวลำเรียน เพียงพอ เพอื่ ให้สำมำรถสำเร็จกำรศกึ ษำไดต้ ำมระยะเวลำท่หี ลักสตู รกำหนด ในกำรรำยงำนกำรดำเนินงำนตำมตัวบ่งชี้นี้ ให้อธิบำยกระบวนกำรหรือแส ดงผลกำรดำเนินงำน อย่ำงน้อยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ต่อไปนี้ - กำรรบั นกั ศึกษำ - กำรเตรียมควำมพรอ้ มก่อนเข้ำศึกษำ ในการประเมินเพื่อให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการ ดาเนนิ งานท้งั หมด ที่ทาใหไ้ ดน้ ักศกึ ษาที่มีความพรอ้ มท่จี ะเรียนในหลกั สูตร เกณฑ์การประเมิน 01 2 3 4 5 • ไม่มีระบบ • มีระบบ • มีระบบมีกลไก • มีระบบ • มรี ะบบ • มรี ะบบ มีกลไก • ไมม่ กี ลไก มีกลไก • มกี ำรนำ มีกลไก มกี ลไก • มกี ำรนำระบบกลไก • ไม่มีแนวคิด • ไมม่ ีกำรนำ ระบบกลไกไปสู่ • มกี ำรนำ • มีกำรนำระบบ ไปสู่กำรปฏิบตั /ิ ในกำรกำกบั ระบบกลไก กำรปฏบิ ัต/ิ ระบบกลไกไปสู่ กลไกไป ดำเนนิ งำน ติดตำมและ ไปสู่กำร ดำเนนิ งำน กำรปฏิบตั ิ/ สู่กำรปฏบิ ตั ิ/ • มกี ำรประเมิกระบวนกำร ปรับปรงุ ปฎิบตั ิ/ • มีกำรประเมิน ดำเนนิ งำน ดำเนินงำน • มกี ำรปรบั ปรุง/ พัฒนำ • ไมม่ ีขอ้ มูล ดำเนินงำน กระบวนกำร • มกี ำรประเมนิ • มีกำรประเมิน กระบวนกำรจำกผล หลักฐำน • ไม่มีกำร กระบวนกำร กระบวนกำร กำรประเมนิ ปรับปรงุ /พัฒนำ • มีกำรปรับปรงุ / • มกี ำรปรับปรุง/ • มีผลจำกกำรปรบั ปรงุ เหน็ กระบวนกำร พฒั นำ พฒั นำ ชดั เจนเปน็ รปู ธรรม กระบวนกำร กระบวนกำร • มีแนวทำงปฏิบตั ิท่ดี ี จำกผลกำร จำกผลกำร โดยมหี ลักฐำนเชงิ ประเมิน ประเมนิ ประจกั ษ์ยืนยันและ • มีผลจำกกำร กรรมกำรผ้ตู รวจประเมนิ ปรับปรงุ เหน็ สำมำรถใหเ้ หตผุ ลอธิบำย ชดั เจนเป็น กำรเปน็ แนวปฏิบัตทิ ด่ี ี รูปธรรม ได้ชดั เจน คู่มอื การประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรอ้ ยเอ็ด 80 ประจาปกี ารศึกษา 2562

ตัวบ่งชีท้ ่ี 3.2 การส่งเสริมและพัฒนานกั ศกึ ษา ชนดิ ของตัวบง่ ช้ี กระบวนกำร คาอธิบายตวั บ่งชี้ ในช่วงปีแรกของกำรศึกษำ ต้องมีกลไกในกำรพัฒนำควำมรู้พ้ืนฐำนหรือกำรเตรียมควำมพร้อม ทำงกำรเรียนแก่นักศึกษำ เพื่อให้มีควำมสำมำรถในกำรเรียนรู้ระดับอุดมศึกษำได้อยำ่ งมีควำมสุข อัตรำกำร ลำออกกลำงคันน้อย ในระหว่ำงกำรศึกษำมีกำรจัดกิจกรรมกำรพัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถในรูปแบบต่ำงๆ ทั้งกิจกรรมในห้องเรียนและนอกห้องเรียน มีกิจกรรมเสริมสร้ำงควำมเป็นพลเมืองดีที่มีจิตสำนึกสำธำรณะ มีกำรวำงระบบกำรดูแลให้คำปรึกษำจำกอำจำรย์ที่ปรึกษำวิชำกำร (ระดับปริญญำตรี โท เอก) ระบบกำร ป้องกันหรือกำรบริหำรจัดกำรควำมเส่ียงของนักศึกษำ เพ่ือให้สำมำรถสำเร็จกำรศึกษำได้ตำมระยะเวลำ ที่หลักสูตรกำหนด รวมทั้งกำรส่งเสริมกำรเผยแพร่ผลงำนวิชำกำรของนักศึกษำ กำรสร้ำงโอกำสกำรเรียนรู้ ท่ีส่งเสริมกำรพฒั นำศักยภำพนักศกึ ษำและทักษะกำรเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 ใหไ้ ดม้ ำตรฐำนสำกล ในกำรรำยงำนกำรดำเนินงำนตำมตัวบ่งชี้นี้ ให้อธิบำยกระบวนกำรหรือแสดงผลกำรดำเนินงำน อย่ำงนอ้ ยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ต่อไปนี้ - กำรควบคมุ กำรดแู ลกำรให้คำปรกึ ษำวิชำกำรและแนะแนวแกน่ ักศกึ ษำปรญิ ญำตรี - กำรควบคุมดูแลกำรใหค้ ำปรึกษำวิทยำนิพนธ์ แกบ่ ณั ฑติ ศึกษำ - กำรพฒั นำศกั ยภำพนกั ศึกษำและกำรเสรมิ สร้ำงทกั ษะกำรเรยี นรูใ้ นศตวรรษท่ี 21 ในการประเมินเพื่อให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการ ดาเนินงานท้ังหมด ที่ทาให้ได้นักศึกษาเรียนอย่างมีความสุขและมีทักษะท่ีจาเป็นต่อการประกอบอาชีพ ในอนาคต เกณฑก์ ารประเมิน 01 2 3 4 5 • ไม่มรี ะบบ • มีระบบ • มรี ะบบมีกลไก • มีระบบ • มีระบบ • มีระบบ มีกลไก • ไม่มีกลไก มีกลไก • มีกำรนำ มีกลไก มีกลไก • มีกำรนำระบบกลไก • ไมม่ แี นวคิด • ไมม่ ีกำรนำ ระบบกลไกไปสู่ • มีกำรนำ • มกี ำรนำระบบ ไปสู่กำรปฏบิ ัติ/ ในกำรกำกับ ระบบกลไก กำรปฏบิ ัติ/ ระบบกลไกไปสู่ กลไกไป ดำเนนิ งำน ติดตำมและ ไปสกู่ ำร ดำเนนิ งำน กำรปฏิบัต/ิ สู่กำรปฏิบตั /ิ • มีกำรประเมิกระบวนกำร ปรบั ปรุง ปฎิบตั /ิ • มีกำรประเมนิ ดำเนนิ งำน ดำเนินงำน • มกี ำรปรับปรงุ / พฒั นำ • ไม่มีข้อมลู ดำเนินงำน กระบวนกำร • มีกำรประเมนิ • มีกำรประเมิน กระบวนกำรจำกผล หลักฐำน • ไม่มีกำร กระบวนกำร กระบวนกำร กำรประเมิน ปรบั ปรุง/พฒั นำ • มกี ำรปรับปรงุ / • มีกำรปรบั ปรุง/ • มีผลจำกกำรปรับปรงุ เหน็ กระบวนกำร พฒั นำ พัฒนำ ชดั เจนเปน็ รปู ธรรม กระบวนกำร กระบวนกำร • มีแนวทำงปฏบิ ัติทด่ี ี จำกผลกำร จำกผลกำร โดยมหี ลักฐำนเชิง ประเมนิ ประเมิน ประจักษย์ ืนยันและ • มีผลจำกกำร กรรมกำรผตู้ รวจประเมิน ปรับปรงุ เห็น สำมำรถใหเ้ หตุผลอธิบำย ชัดเจนเป็น กำรเป็นแนวปฏบิ ตั ิท่ดี ี รูปธรรม ไดช้ ดั เจน คมู่ อื การประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอ็ด 81 ประจาปีการศึกษา 2562

ตัวบ่งชีท้ ี่ 3.3 ผลท่เี กดิ กับนักศึกษา ชนิดของตวั บง่ ชี้ ผลลัพธ์ คาอธิบายตัวบง่ ช้ี ผลกำรประกนั คุณภำพควรทำใหน้ กั ศกึ ษำมีควำมพรอ้ มทำงกำรเรยี นมีอัตรำกำรคงอยู่ของนักศึกษำ ในหลักสูตรสงู อัตรำกำรสำเร็จกำรศึกษำตำมหลกั สูตรสูง นักศึกษำมีควำมพงึ พอใจต่อหลักสูตร และผล กำรจัดกำรข้อร้องเรยี นของนกั ศึกษำ ในกำรรำยงำนกำรดำเนินงำนตำมตัวบง่ ช้ีนี้ ให้อธิบำยกระบวนกำรหรือแสดงผลกำรดำเนนิ งำน ในประเด็นตอ่ ไปนี้ - กำรคงอยู่ - กำรสำเรจ็ กำรศกึ ษำ - ควำมพงึ พอใจและผลกำรจัดกำรข้อร้องเรยี นของนกั ศึกษำ หมายเหตุ : - กำรประเมินควำมพงึ พอใจของนักศกึ ษำ เป็นกำรประเมินควำมพึงพอใจของนักศึกษำตอ่ กระบวน ทดี่ ำเนินกำรใหก้ ับนักศึกษำตำมกจิ กรรมในตัวบง่ ชี้ 3.1 และ 3.2 - อตั รำกำรคงอย่ขู องนักศกึ ษำ คิดจำกจำนวนนักศึกษำท่ีเข้ำในแตล่ ะรุ่น ลบด้วยจำนวนนกั ศึกษำ ทอ่ี อกทุกกรณี นับถึงส้ินปีกำรศกึ ษำท่ีประเมิน ยกเวน้ กำรเสยี ชวี ิต กำรย้ำยสถำนท่ีทำงำนของนกั ศึกษำ ในระดับบณั ฑิตศึกษำ คดิ เป็น รอ้ ยละของจำนวนทร่ี บั เข้ำในแต่ละร่นุ ท่มี ีบณั ฑติ สำเร็จกำรศกึ ษำแล้ว - กำรคิดรอ้ ยละของจำนวนนกั ศกึ ษำทยี่ งั คงอยู่ของแต่ละรุน่ ตัวอยา่ งการคานวนหลกั สูตร 4 ปี ปีการศึกษา จานวนรับเข้า จานวนสาเรจ็ การศึกษาตามหลักสตู ร จานวนทีล่ าออกและคดั ชอ่ื ออก สะสมจนถงึ สน้ิ ปกี ารศึกษา 2562 1 2 3 2560 2561 2562 2557 2558 2559 อัตรำกำรสำเรจ็ กำรศกึ ษำ = 2 × 100 1 อัตรำกำรคงอยู่ = 1 - 3 × 100 1 ค่มู อื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอด็ 82 ประจาปกี ารศึกษา 2562

เกณฑ์การประเมิน 0 1 2 3 4 5 • ไม่มกี ำร • มีกำร • มีกำร • มกี ำรรำยงำน • มกี ำรรำยงำนผล • มกี ำรรำยงำนผล รำยงำน รำยงำน รำยงำนผลกำร ผลกำดำเนนิ งำน กำรดำเนินงำน กำรดำเนินงำนครบ ผลกำร ผลกำร ดำเนนิ งำนครบ ครบทกุ เรอื่ งตำม ครบทุกเร่ืองตำม ทกุ เรื่องตำม ดำเนนิ งำน ดำเนนิ ทุกเร่อื งตำม คำอธบิ ำยใน คำอธบิ ำยใน คำอธบิ ำยในตวั บง่ ชี้ งำนใน คำอธิบำย ตัวบง่ ช้ี ตวั บง่ ชี้ • มแี นวโนม้ ผล บำงเรอ่ื ง ในตัวบ่งชี้ • มีแนวโนม้ • มแี นวโนม้ ผล กำรดำเนนิ งำน ผลกำดำเนนิ งำน กำรดำเนนิ งำนฅ ทด่ี ีข้ึนในทุกเรอ่ื ง ทีด่ ขี ้ึนใน ทดี่ ขี ้นึ ใน • มผี ลกำรดำเนนิ งำน บำงเร่อื ง ทุกเรือ่ ง ที่โดดเด่น เทียบเคยี งกบั หลกั สูตรนั้นใน สถำบันกลุม่ เดียวกนั โดยมี หลักฐำนเชงิ ประจกั ษย์ ืนยัน และกรรมกำร ผ้ตู รวจประเมิน สำมำรถใหเ้ หตผุ ล อธบิ ำยวำ่ เป็นผล กำรดำเนินงำนที่ โดดเดน่ อยำ่ ง แทจ้ รงิ คู่มอื การประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอ็ด 83 ประจาปีการศกึ ษา 2562

องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์ อำจำรยเ์ ปน็ ปจั จยั ป้อนทีส่ ำคัญของกำรผลิตบัณฑติ ผู้เกย่ี วขอ้ งต้องมกี ำรออกแบบระบบประกนั กำร บริหำรและพัฒนำอำจำรย์ เพ่ือให้ได้อำจำรย์ที่มีคุณภำพเหมำะสม มีคุณสมบัติสอดคล้องกับสภำพบริบท ปรัชญำ วิสัยทัศน์ของสถำบัน และของหลักสูตร และมีกำรส่งเสริมให้อำจำรย์มีควำมรักในองค์กรและกำร ปฎิบัติงำนตำมวิชำชีพ ผู้บริหำรต้องมีกำรกำหนดนโยบำย แผนระยะยำว และกิจกรรมกำรดำเนินงำน ตลอดจนกำรกำกับดูแลและกำรพัฒนำคุณภำพอำจำรย์ กำรวำงระบบประกันคุณภำพอำจำรย์ เป็นกำร ดำเนินงำนเพือ่ ใหไ้ ดอ้ ำจำรย์ทีม่ ีคณุ สมบตั ทิ ง้ั เชิงปริมำณและเชงิ คณุ ภำพทีเ่ ป็นไปตำมเกณฑม์ ำตรฐำนหลักสูตร ท่ีกำหนดโดยสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำ และมีพัฒนำกำรเพ่ิมยิ่งข้ึนด้วยกำรวำงแผนและกำร ลงทุนงบประมำณและทรัพยำกรเพ่ือให้อัตรำกำลังอำจำรย์มีจำนวนเหมำะสมกับจำนวนนักศึกษำท่ีรับเข้ำ ในหลักสูตร มีจำนวนอำจำรย์ที่มีควำมรู้ ควำมเช่ียวชำญทำงสำขำวิชำของหลักสูตร และมีประสบกำรณ์ ทเี่ หมำะสมกับกำรผลติ บณั ฑิต อนั สะท้อนจำกวุฒิกำรศึกษำ ตำแหน่งทำงวิชำกำร และควำมก้ำวหน้ำในกำร ผลติ ผลงำนทำงวิชำกำรอย่ำงต่อเนื่อง องคป์ ระกอบด้ำนอำจำรย์ เริ่มดำเนนิ กำรตั้งแต่กำรบริหำรและพัฒนำอำจำรย์ คณุ ภำพอำจำรยแ์ ละ ผลลพั ธท์ ี่เกิดกับอำจำรย์ ให้พิจำรณำจำกตัวบ่งช้ีดังตอ่ ไปน้ี ตัวบ่งชท้ี ่ี 4.1 กำรบริหำรและพัฒนำอำจำรย์ ตวั บ่งชี้ท่ี 4.2 คณุ ภำพอำจำรย์ ตวั บ่งชท้ี ่ี 4.3 ผลที่เกิดกับอำจำรย์ คมู่ ือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอด็ 84 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

ตัวบ่งชท้ี ่ี 4.1 การบรหิ ารและพฒั นาอาจารย์ ชนิดของตัวบ่งช้ี กระบวนกำร คาอธิบายตวั บง่ ชี้ กำรบริหำรและพัฒนำอำจำรย์ เรมิ่ ต้นตง้ั แตร่ ะบบกำรรบั อำจำรย์ใหม่ต้องกำหนดเกณฑ์คณุ สมบตั ิอำจำรย์ ท่สี อดคลอ้ งกบั สภำพบรบิ ท ปรชั ญำ วิสัยทัศนข์ องสถำบัน และของหลกั สูตร มกี ลไกกำรคัดเลือกอำจำรย์ทเี่ หมำะสม โปร่งใส นอกจำกน้ีต้องมีระบบกำรบริหำรอำจำรย์ โดยกำรกำหนดนโยบำย แผนระยะยำว เพ่ือให้ได้ อำจำรย์ที่มี คณุ สมบัติทั้งเชิงปริมำณและเชิงคณุ ภำพที่เปน็ ไปตำมเกณฑม์ ำตรฐำนหลักสูตรที่กำหนดโดยสำนกั งำนคณะกรรมกำร กำรอุดมศึกษำ และระบบกำรสง่ เสรมิ และพัฒนำอำจำรย์ มกี ำรวำงแผนและ กำรลงทนุ งบประมำณและทรพั ยำกร และกิจกรรมกำรดำเนนิ งำน ตลอดจนกำรกำกบั ดแู ล และกำรพฒั นำคณุ ภำพอำจำรย์ ในกำรรำยงำนกำรดำเนินงำนตำมตัวบง่ ช้ีน้ี ใหอ้ ธิบำยกระบวนกำรหรือแสดงผลกำรดำเนนิ งำนอย่ำงนอ้ ย ใหค้ รอบคลมุ ประเด็นต่อไปน้ี - ระบบกำรรบั และแตง่ ตงั้ อำจำรยป์ ระจำหลกั สตู ร - ระบบกำรบรหิ ำรอำจำรย์ - ระบบกำรส่งเสรมิ และพัฒนำอำจำรย์ ในการประเมินเพ่ือให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการดาเนินงาน ทัง้ หมด ท่ีทาใหห้ ลักสตู รมีอาจารย์ทมี่ คี ณุ สมบัติเหมาะสมทง้ั ในดา้ นวุฒกิ ารศกึ ษาและตาแหนง่ ทางวิชาการเป็นไป ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรอย่างต่อเน่ือง และมกี ารส่งเสริมให้มกี ารเพ่มิ พูนความรูค้ วามสามารถของอาจารย์ เพอ่ื สร้างความเขม้ แขง็ ทางวชิ าการของหลักสูตร เกณฑก์ ารประเมนิ 01 2 3 4 5 • ไมม่ ีระบบ • มีระบบ • มรี ะบบมีกลไก • มรี ะบบ • มรี ะบบ • มีระบบ มกี ลไก • ไม่มกี ลไก มีกลไก • มีกำรนำ มีกลไก มกี ลไก • มีกำรนำระบบกลไก • ไม่มีแนวคดิ • ไมม่ กี ำรนำ ระบบกลไกไปสู่ • มีกำรนำ • มีกำรนำระบบ ไปส่กู ำรปฏิบัต/ิ ในกำรกำกบั ระบบกลไก กำรปฏบิ ตั /ิ ระบบกลไก กลไกไป ดำเนินงำน ตดิ ตำมและ ไปสู่กำร ดำเนินงำน ไปสู่กำร สกู่ ำรปฏิบัต/ิ • มีกำรประเมิน ปรบั ปรุง ปฎบิ ตั /ิ • มีกำรประเมิน ปฏบิ ัติ/ ดำเนินงำน กระบวนกำร • ไม่มีข้อมลู ดำเนินงำน กระบวนกำร ดำเนินงำน • มกี ำรประเมิน • มกี ำรปรบั ปรงุ /พฒั นำ หลักฐำน • ไม่มีกำร • มีกำรประเมนิ กระบวนกำร กระบวนกำรจำกผลกำร ปรับปรุง/พัฒนำ กระบวนกำร • มกี ำรปรับปรงุ / ประเมิน กระบวนกำร • มีกำรปรับปรุง/ พฒั นำกระบวน • มผี ลจำกกำรปรบั ปรงุ พัฒนำ กำรจำกผลกำร เห็นชัดเจนเปน็ รปู ธรรม กระบวนกำร ประเมิน • มีแนวทำงปฏิบตั ิท่ดี ี จำกผลกำร • มีผลจำกกำร โดยมหี ลักฐำนเชิงประจักษ์ ประเมนิ ปรับปรุงเหน็ ยืนยนั และกรรมกำร ชัดเจนเปน็ ผูต้ รวจประเมนิ สำมำรถให้ รูปธรรม เหตผุ ลอธบิ ำยกำรเปน็ แนว ปฏิบัตทิ ี่ดไี ดช้ ัดเจน ค่มู ือการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั รอ้ ยเอ็ด 85 ประจาปีการศกึ ษา 2562

ตวั บง่ ชที้ ี่ 4.2 คณุ ภาพอาจารย์ ชนิดของตวั บง่ ช้ี ปัจจัยนำเขำ้ คาอธิบายตัวบ่งชี้ กำรสง่ เสริมและพัฒนำอำจำรย์ตอ้ งทำให้อำจำรยใ์ นหลักสูตรมีคณุ สมบัตทิ ่ีเหมำะสมและเพยี งพอ โดยทำให้ อำจำรย์มีควำมรู้ ควำมเชี่ยวชำญทำงสำขำวิชำท่เี ปดิ ใหบ้ ริกำร และมีประสบกำรณท์ ่ีเหมำะสมกับกำรผลิตบณั ฑติ อัน สะทอ้ นจำกวฒุ ิกำรศึกษำ ตำแหน่งทำงวชิ ำกำร และควำมกำ้ วหนำ้ ในกำรผลิตผลงำนทำงวชิ ำกำรอยำ่ งต่อเน่ือง ประเด็นในกำรพิจำรณำตวั บ่งชน้ี ี้จะประกอบดว้ ย - รอ้ ยละของอำจำรยป์ ระจำหลกั สูตรทมี่ ีคุณวฒุ ิปริญญำเอก - ร้อยละของอำจำรย์ประจำหลกั สูตรทดี่ ำรงตำแหนง่ ทำงวชิ ำกำร - ผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรยป์ ระจำหลักสตู ร - จำนวนบทควำมของอำจำรย์ประจำหลักสูตรปริญญำเอกที่ได้รับกำรอ้ำงอิงในฐำนข้อมูล TCI และ Scopus ต่อจำนวนอำจำรยป์ ระจำหลักสูตร ร้อยละของอาจารยป์ ระจาหลักสูตรทม่ี ีคณุ วฒุ ปิ ริญญาเอก กำรศึกษำระดับอุดมศึกษำถือเป็นกำรศึกษำระดับสูงสุดท่ีต้องกำรบุคลำกรที่มีควำมรคู้ วำมสำมำรถและ ควำมลุ่มลึกทำงวิชำกำร เพื่อปฏิบัติพันธกิจสำคัญของสถำบันในกำรผลิตบัณฑิตศึกษำวิจัยเพื่อกำรติดตำม ควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวิชำกำรและกำรพัฒนำองค์ควำมรู้ ดงั นั้นหลกั สูตรจึงควรมีอำจำรยท์ ีม่ ีคุณวุฒิทำงกำรศกึ ษำระดับ ปรญิ ญำเอกที่ตรงหรอื สัมพันธก์ บั หลกั สตู รท่ีเปิดสอนในสดั ส่วนท่เี หมำะสมกับพันธกจิ หรอื จดุ เน้นของหลกั สตู รนั้นๆ เกณฑก์ ารประเมิน โดยกำรแปลงคำ่ ร้อยละของอำจำรยป์ ระจำหลกั สตู รทีม่ คี ณุ วุฒิปริญญำ เอกเป็นคะแนนระหว่ำง 0 – 5 หลักสูตรระดบั ปรญิ ญาตรี คำ่ รอ้ ยละของอำจำรยป์ ระจำหลักสูตรที่มคี ุณวุฒปิ ริญญำเอกทกี่ ำหนด ใหเ้ ป็นคะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 20 ขนึ้ ไป หลกั สตู รระดบั ปรญิ ญาโท คำ่ ร้อยละของอำจำรยป์ ระจำหลักสตู รทม่ี คี ุณวฒุ ิปริญญำเอกท่กี ำหนด ให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป หลักสูตรระดับปรญิ ญาเอก ค่ำร้อยละของอำจำรยป์ ระจำหลกั สตู รทมี่ คี ุณวุฒิปริญญำเอกท่กี ำหนด ให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 100 คมู่ ือการประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอ็ด 86 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

สตู รการคานวณ X 100 1. คำนวณค่ำรอ้ ยละของอำจำรย์ประจำหลักสูตรท่ีมวี ฒุ ิปรญิ ญำเอก ตำมสูตร จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลักสตู รทมี่ คี ุณวุฒิปริญญำเอก จำนวนอำจำรย์ประจำหลักสตู รทัง้ หมด 2. แปลงค่ำร้อยละท่ีคำนวณได้ในขอ้ 1 เทยี บกับคะแนนเตม็ 5 รอ้ ยละของอำจำรยป์ ระจำหลักสตู รทมี่ คี ุณวุฒปิ ริญญำเอก X5 ร้อยละของอำจำรยป์ ระจำหลักสตู รทมี่ คี ุณวฒุ ปิ รญิ ญำเอกท่กี ำหนดให้เปน็ คะแนนเต็ม 5 คะแนนที่ได้ = หมายเหตุ : คุณวฒุ ิปริญญำเอกพิจำรณำจำกระดับคุณวุฒิท่ีได้รบั หรือเทียบเท่ำตำมหลกั เกณฑ์กำรพิจำรณำคุณวุฒิ ของกระทรวงศกึ ษำธิกำร กรณที ่ีมีกำรปรบั วุฒกิ ำรศึกษำให้มีหลักฐำนกำรสำเร็จกำรศึกษำภำยในรอบปีกำรศึกษำนั้น ท้ังนอี้ ำจใช้คุณวุฒอิ ่ืนเทยี บเทำ่ คุณวฒุ ิปรญิ ญำเอกได้สำหรับกรณที บี่ ำงสำขำวชิ ำชีพมีคุณวฒุ อิ ืน่ ทเี่ หมำะสมกว่ำ ท้ังนี้ ต้องได้รับควำมเหน็ ชอบจำกคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำ ร้อยละของอาจารยป์ ระจาหลักสูตรท่ีดารงตาแหนง่ ทางวิชาการ สถำบันอุดมศึกษำถือเป็นขุมปัญญำของประเทศ และมีควำมรับผิดชอบท่ีจะต้องส่งเสริมให้อำจำรย์ใน สถำบนั ทำกำรศึกษำวจิ ยั เพอื่ แสวงหำและพัฒนำองคค์ วำมรใู้ นศำสตรส์ ำขำวชิ ำตำ่ งๆ อยำ่ งต่อเน่อื ง เพื่อนำไปใชใ้ นกำร เรยี นกำรสอน รวมทง้ั กำรแกไ้ ขปัญหำและพัฒนำประเทศ กำรดำรงตำแหนง่ ทำงวิชำกำรเปน็ ส่งิ สะทอ้ นกำรปฏบิ ตั งิ ำน ดงั กลำ่ วของอำจำรย์ตำมพันธกิจของหลักสตู ร เกณฑ์การประเมิน โดยกำรแปลงคำ่ ร้อยละของอำจำรยป์ ระจำหลักสูตรทด่ี ำรงตำแหนง่ ทำงวชิ ำกำรเปน็ คะแนนระหวำ่ ง 0 – 5 หลักสูตรระดบั ปริญญาตรี ค่ำร้อยละของอำจำรยป์ ระจำหลกั สตู รทด่ี ำรงตำแหน่งผูช้ ่วยศำสตรำจำรย์ รองศำสตรำจำรย์ และศำสตรำจำรย์รวมกนั ท่ีกำหนดให้เป็นคะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป หลกั สูตรระดบั ปรญิ ญาโท คำ่ ร้อยละของอำจำรย์ประจำหลักสตู รทด่ี ำรงตำแหนง่ ผู้ชว่ ยศำสตรำจำรย์ รองศำสตรำจำรย์ และศำสตรำจำรย์รวมกันท่กี ำหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป หลักสูตรระดบั ปริญญาเอก คำ่ รอ้ ยละของอำจำรย์ประจำหลกั สตู รทด่ี ำรงตำแหนง่ ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ รองศำสตรำจำรย์ และศำสตรำจำรย์รวมกันทก่ี ำหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 100 คมู่ อื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั รอ้ ยเอด็ 87 ประจาปีการศกึ ษา 2562

สตู รการคานวณ 1. คำนวณค่ำร้อยละของอำจำรยป์ ระจำหลักสูตรท่ีดำรงตำแหน่งทำงวิชำกำร ตำมสตู ร จำนวนอำจำรย์ประจำหลักสูตรท่ีดำรงตำแหนง่ ทำงวชิ ำกำร X 100 จำนวนอำจำรย์ประจำหลกั สตู รทง้ั หมด 2. แปลงคำ่ รอ้ ยละที่คำนวณไดใ้ นขอ้ 1 เทยี บกับคะแนนเต็ม 5 คะแนนทีไ่ ด้ = รอ้ ยละของอำจำรย์ประจำหลักสตู รทดี่ ำรงตำแหน่งทำงวชิ ำกำร X5 ร้อยละของอำจำรยป์ ระจำหลักสูตรทดี่ ำรงตำแหน่งทำงวิชำกำรทกี่ ำหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 ผลงานทางวชิ าการของอาจารยป์ ระจาหลกั สูตร ผลงำนทำงวิชำกำรเป็นข้อมูลท่ีสำคัญในกำรแสดงให้เห็นว่ำอำจำรย์ประจำได้สร้ำงสรรค์ขึ้นเพื่อแสดงให้ เหน็ ถึงควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวชิ ำกำรและกำรพัฒนำองคค์ วำมรอู้ ย่ำงตอ่ เน่อื งเปน็ ผลงำนที่มีคณุ คำ่ สมควรสง่ เสริมให้มกี ำร เผยแพร่และนำไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงวิชำกำรและกำรแข่งขันของประเทศ ผลงำนทำงวชิ ำกำรอยู่ในรูปของบทควำม วจิ ัยหรอื บทควำมวิชำกำรที่ตพี ิมพ์ในรำยงำนสืบเนื่องจำกกำรประชุมวิชำกำรระดับชำติ หรือระดับนำนำชำติ ตีพมิ พ์ ในวำรสำรวิชำกำรระดับชำติหรือระดับนำนำชำติ ผลงำนได้รับกำรจดอนุสิทธิบัตรหรือสิทธิบัตร หรือเป็นผลงำน วิชำกำรรบั ใช้สังคมท่ีผำ่ นกำรประเมินตำแหน่งทำงวิชำกำรแล้ว ผลงำนวจิ ัยท่ีหน่วยงำนหรอื องค์กำรระดับชำติว่ำจ้ำง ใหด้ ำเนนิ กำร ตำรำหรอื หนังสือที่ใชใ้ นกำรขอผลงำนทำงวชิ ำกำรและผำ่ นกำรพจิ ำรณำตำมเกณฑก์ ำรขอตำแหน่งทำง วชิ ำกำรแล้ว รวมทัง้ งำนสรำ้ งสรรค์ต่ำงๆ โดยมวี ธิ ีกำรคิดดงั นี้ เกณฑก์ ารประเมนิ หลักสูตรระดับปริญญาตรี คำ่ รอ้ ยละของผลรวมถ่วงนำ้ หนกั ของผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรย์ประจำหลักสตู ร ทก่ี ำหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 20 ขนึ้ ไป หลกั สตู รระดับปริญญาโท คำ่ ร้อยละของผลรวมถว่ งน้ำหนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรยป์ ระจำหลกั สูตร ทกี่ ำหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 40 ขนึ้ ไป หลกั สตู รระดับปรญิ ญาเอก คำ่ รอ้ ยละของผลรวมถว่ งน้ำหนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรยป์ ระจำหลกั สตู ร ท่ีกำหนดให้เปน็ คะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป ค่มู ือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั รอ้ ยเอ็ด 88 ประจาปีการศกึ ษา 2562

สตู รการคานวณ 1. คำนวณค่ำรอ้ ยละของผลรวมถว่ งนำ้ หนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรยป์ ระจำหลักสตู รตำมสูตร ผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ประจำหลักสูตร X 100 จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลกั สูตรทงั้ หมด 2. แปลงค่ำร้อยละทคี่ ำนวณได้ในข้อ 1 เทยี บกับคะแนนเต็ม 5 คะแนนทไ่ี ด้ = รอ้ ยละของผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรยป์ ระจำหลักสูตร X5 ร้อยละของผลรวมถ่วงนำ้ หนักของผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรย์ประจำหลกั สูตร ท่ีกำหนดให้เป็นคะแนนเต็ม 5 กาหนดระดบั คุณภาพผลงานทางวิชาการ ดังนี้ คา่ น้าหนกั ระดับคณุ ภาพ ·0.20 บทควำมวจิ ัยหรอื บทควำมวชิ ำกำรฉบบั สมบูรณ์ทต่ี พี มิ พ์ในรำยงำนสืบเนื่องจำกกำรประชุมวิชำกำรระดับชำติ ··0.40 มกี ำรยื่นจดอนุสทิ ธิบตั ร บทควำมวิจยั หรือบทควำมวชิ ำกำรฉบับสมบูรณ์ท่ตี พี มิ พ์ในรำยงำนสบื เน่ืองจำกกำรประชมุ วิชำกำรระดับ นำนำชำติ · มีกำรยืน่ จดอนุสิทธิบตั ร ·0.60 บทควำมวจิ ัยหรอื บทควำมวิชำกำรฉบบั สมบูรณท์ ีต่ พี มิ พ์ในรำยงำนสืบเนื่องจำกกำรประชมุ วิชำกำรระดบั นำนำชำติ ทีไ่ ด้ตพี มิ พเ์ ผยแพรใ่ นฐำนข้อมูลระดับนำนำชำติตำมประกำศ ก.พ.อ. · บทควำมวิจยั หรอื บทควำมวชิ ำกำรฉบับสมบรู ณ์ท่ตี พี ิมพ์ในวำรสำรวชิ ำกำรที่ปรำกฏในฐำนข้อมูล TCI กล่มุ ท่ี 2 · มกี ำรจดแจ้งลขิ สทิ ธ์ิ ·0.80 ผลงำนท่ีไดร้ ับกำรจดอนุสิทธบิ ตั ร · บทควำมวจิ ัยหรอื บทควำมวชิ ำกำรทต่ี พี ิมพใ์ นวำรสำรวชิ ำกำรระดับนำนำชำตทิ ่ีไมอ่ ยู่ในฐำนขอ้ มลู ตำมประกำศ ·ก.พ.อ. หรอื ตพี ิมพใ์ นวำรสำรวชิ ำกำร ทีป่ รำกฏในฐำนข้อมลู TCI กลมุ่ ที่ 1 1.00 บทควำมวิจัยหรอื บทควำมวิชำกำรฉบับสมบูรณ์ที่ตพี ิมพ์ในวำรสำรวชิ ำกำรระดับนำนำชำตทิ ่ปี รำกฏใน ฐำนข้อมูลระดับนำนำชำตติ ำมประกำศ ก.พ.อ. หรอื ระเบยี บคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำว่ำดว้ ย หลกั เกณฑ์กำร พจิ ำรณำวำรสำรทำงวชิ ำกำรสำหรับกำรเผยแพร่ผลงำนทำงวชิ ำกำร พ.ศ. 2562 · ผลงำนวิจยั ทีห่ น่วยงำนหรือองค์กรระดบั ชำตวิ ่ำจำ้ งใหด้ ำเนนิ กำร · ผลงำนคน้ พบพันธพ์ุ ชื พันธสุ์ ัตว์ ท่คี น้ พบใหมแ่ ละไดร้ บั กำรจดทะเบียน · ตำรำหรือหนงั สอื หรืองำนแปลทไี่ ด้รับกำรประเมินผำ่ นเกณฑก์ ำรขอตำแหนง่ ทำงวิชำกำรแล้ว · ตำรำหรือหนังสือหรอื งำนแปลทผ่ี ่ำนกำรพจิ ำรณำตำมหลักเกณฑ์กำรประเมนิ ตำแหน่งทำงวิชำกำรแต่ไม่ได้นำมำ ขอรับกำรประเมินตำแหนง่ ทำงวิชำกำร · ผลงำนทไ่ี ด้รบั กำรจดสิทธบิ ัตร · ผลงำนทำงวชิ ำกำรในลักษณะอ่ืนทไี่ ดร้ บั กำรประเมินผ่ำนเกณฑ์กำรขอตำแหนง่ ทำงวิชำกำรแลว้ ไดแ้ ก่ ผลงำนวชิ ำกำรเพื่อพัฒนำอุตสำหกรรม คมู่ ือการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั ร้อยเอ็ด 89 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

คา่ น้าหนัก ระดับคณุ ภาพ ผลงำนวิชำกำรเพือ่ พฒั นำกำรเรยี นกำรสอนและกำรเรียนรู ผลงำนวชิ ำกำรเพื่อพัฒนำนโยบำยสำธำรณะ ผลงำนวิชำกำรรบั ใชสังคม กรณศี ึกษำ ตำรำหรือหนงั สอื หรอื งำนแปล ซอฟตแวร พจนำนกุ รม สำรำนุกรม นำมำนกุ รม และงำนวชิ ำกำรในลกั ษณะเดยี วกัน หมายเหตุ 1. กำรสงบทควำมเพ่ือพิจำรณำคัดเลือกใหนำเสนอในกำรประชมุ วิชำกำรตองสงเปนฉบับสมบูรณ (Full Paper) และ เมื่อไดรับกำรตอบรับและตีพิมพแลว กำรตีพิมพตองตีพิมพเปนฉบับสมบูรณซึ่งสำมำรถอยูในรูปแบบเอกสำร หรือ สื่อ อเิ ล็กทรอนิกสได 2. ผลงำนทำงวิชำกำรทง้ั หมดจะตองไดรับกำรเผยแพรตำมประกำศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑและวิธีกำรพิจำรณำ แตงตั้งบุคคลใหดำรงตำแหนงผชู วยศำสตรำจำรย รองศำสตรำจำรย และศำสตรำจำรย พ.ศ. 2560 และทแ่ี กไขเพม่ิ เตมิ กำหนดระดบั คณุ ภำพผลงำนสรำงสรรคดำนสุนทรยี ะ ศลิ ปะหรือผลงำนสรำงสรรค ดำนวิทยำศำสตร และเทคโนโลยี ดังน้ี คา่ น้าหนัก ระดบั คณุ ภาพ 0.20 งำนสร้ำงสรรค์ทมี่ กี ำรเผยแพร่สสู่ ำธำรณะในลักษณะใดลกั ษณะหนงึ่ หรอื ผ่ำนส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ online 0.40 งำนสร้ำงสรรค์ทไ่ี ด้รับกำรเผยแพร่ในระดบั สถำบัน 0.60 งำนสรำ้ งสรรคท์ ีไ่ ดร้ ับกำรเผยแพรใ่ นระดับชำติ 0.80 งำนสรำ้ งสรรค์ท่ีไดร้ ับกำรเผยแพรใ่ นระดับควำมร่วมมือระหว่ำงประเทศ 1.00 งำนสร้ำงสรรคท์ ีไ่ ด้รับกำรเผยแพรใ่ นระดับภมู ิภำคอำเซียน/นำนำชำติ ผลงำนสร้ำงสรรค์ทุกชิ้นต้องผ่ำนกำรพิจำรณำจำกคณะกรรมกำรที่มีองค์ประกอบไม่น้อยกว่ำ 3 คน โดยมี บคุ คลภำยนอกสถำบันร่วมพจิ ำรณำด้วย จานวนบทความของอาจารย์ประจาหลักสูตรปริญญาเอกที่ได้รับการอ้างอิงในฐานข้อมูล TCI และ Scopus ต่อจานวนอาจารยป์ ระจาหลักสตู ร หลักสูตรในระดับปรญิ ญำเอกถอื ได้วำ่ เป็นหลกั สตู รสงู สดุ ของสถำบนั กำรศกึ ษำ เปน็ หลกั สตู รท่ีสำคญั และเน้นกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ใหม่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อกำรพัฒนำประเทศ ดังน้ัน อำจำรย์ประจำหลักสูตร ระดับปริญญำเอกจึงมีควำมสำคญั อยำ่ งมำกตอ่ หลกั สตู รนนั้ ๆ บทควำมวจิ ัยและบทควำมทำงวิชำกำรหรือ Review Article ของอำจำรย์ประจำหลักสูตรปรญิ ญำ เอกทีไ่ ดร้ บั กำรอ้ำงอิง ยอ่ มแสดงให้เห็นวำ่ อำจำรยป์ ระจำหลักสตู รปริญญำเอกมคี วำมสำมำรถในกำรทำวิจยั มี คู่มอื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรอ้ ยเอด็ 90 ประจาปีการศกึ ษา 2562

ผลงำนทไ่ี ด้รับกำรตีพิมพใ์ นวำรสำรระดับชำติหรือนำนำชำติในฐำนข้อมูล TCI และ Scopus และบทควำมท่ี ตพี ิมพ์ได้รับกำรอ้ำงอิง แสดงให้เห็นวำ่ มีกำรนำไปใช้ประโยชน์และเป็นฐำนในกำรพัฒนำงำนวิจยั ใหม่ๆให้มี ควำมก้ำวหน้ำมำกขนึ้ จำนวนบทควำมของอำจำรย์ประจำหลกั สตู รที่ได้รบั กำรอ้ำงอิงมำกย่อมแสดงให้เหน็ ว่ำ อำจำรยป์ ระจำหลักสตู รเป็นผูท้ มี่ ีผลงำนและได้รับกำรยอมรับในวงวิชำกำรนน้ั ๆ กำรคำนวณตวั บง่ ชี้นี้ ใหเ้ ปรยี บเทียบจำนวนบทควำมที่ไดร้ บั กำรอ้ำงอิง ตั้งแต่หน่งึ คร้ังข้นึ ไป รวมทั้ง กำรอ้ำงอิงตนเอง ท่ีเปน็ ผลงำนของอำจำรย์ประจำหลักสูตร ที่ตพี ิมพใ์ นวำรสำรวชิ ำกำรระดับชำติ หรอื ระดับ นำนำชำติ ต่ออำจำรย์ประจำหลักสูตรปริญญำเอกนั้น โดยนำเสนอในรูปสัดส่วน ทั้งนี้ พิจำรณำผลกำร ดำเนนิ งำน 5 ปี ยอ้ นหลังตำมปีปฏิทิน ซ่งึ นับรวมปที ปี่ ระเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน กลุ่มสาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี อตั รำสว่ น จำนวนบทควำมท่ีได้รับกำรอำ้ งอิงต่อจำนวนอำจำรยป์ ระจำหลกั สูตร ท่ีกำหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = 2.5 ขน้ึ ไป กลมุ่ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ อัตรำสว่ น จำนวนบทควำมทไ่ี ด้รบั กำรอ้ำงองิ ต่อจำนวนอำจำรย์ประจำหลกั สตู ร ทก่ี ำหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = 3.0 ข้นึ ไป กล่มุ สาขาวชิ ามนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ อัตรำส่วน จำนวนบทควำมท่ีไดร้ บั กำรอำ้ งอิงต่อจำนวนอำจำรยป์ ระจำหลกั สูตร ท่ีกำหนดใหเ้ ป็นคะแนนเตม็ 5 = 0.25 ขน้ึ ไป สูตรการคานวณ 1. อัตรำสว่ นจำนวนบทควำมทีไ่ ด้รบั กำรอ้ำงอิงตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลักสตู ร = จำนวนบทควำมทไ่ี ด้รบั กำรอำ้ งองิ จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลักสตู ร 2. แปลงค่ำท่คี ำนวณไดใ้ นขอ้ 1 เทยี บกบั คะแนนเตม็ 5 คะแนนท่ไี ด้ = อัตรำสว่ นจำนวนบทควำมท่ีได้รับกำรอ้ำงองิ ตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลกั สตู ร X5 อัตรำสว่ นจำนวนบทควำมท่ีไดร้ บั กำรอ้ำงอิงตอ่ จำนวนอำจำรย์ประจำหลักสตู ร ท่กี ำหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 คู่มอื การประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอ็ด 91 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

ตวั อยา่ งการหาอตั ราส่วนจานวนบทความท่ไี ดร้ บั การอา้ งอิงตอ่ จานวนอาจารย์ประจาหลักสตู ร ถ้ำอำจำรย์ประจำหลกั สตู รระดบั ปรญิ ญำเอกของหลกั สูตรหน่ึงในกลมุ่ สำขำวิชำวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี มีจำนวน 5 คน โดยอำจำรย์ทั้ง 5 คนมีผลงำนตีพิมพ์บทควำมวิจัยหรือ Review article ในฐำนข้อมูล TCI และ Scopus ในปี พ.ศ. 2553-2557 (ค.ศ. 2010-2014) ซ่ึงดำเนินกำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำภำยใน ของหลักสูตรใน พ.ศ. 2557 (ประเมนิ ในปี ค.ศ. 2014) เปน็ ดังนี้ - จำนวนบทควำมท่ตี ีพิมพ์ของอำจำรย์ ท้ัง 5 คนในฐำนข้อมูล Scopus ระหวำ่ ง ค.ศ.2010-2014 เทำ่ กับ 15 บทควำม และจำนวนบทควำมทตี่ ีพมิ พใ์ นฐำนขอ้ มลู ของ TCI เท่ำกบั 5 บทควำม - ในจำนวนน้มี ีบทควำม 8 บทควำมในฐำนขอ้ มูล Scopus ที่ได้รบั กำรอ้ำงองิ อยำ่ งนอ้ ย 1 ครั้ง และมีบทควำม 2 บทควำมทต่ี ีพิมพ์ในฐำนขอ้ มูล TCI ไดร้ บั กำรอ้ำงองิ อยำ่ งน้อย 1 ครั้ง ดังนั้น อตั รำสว่ นจำนวนบทควำมท่ไี ด้รบั กำรอำ้ งอิงตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลักสตู ร = จำนวนบทควำมที่ไดร้ ับกำรอำ้ งองิ อยำ่ งน้อย 1 ครัง้ = 8+2 10 จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลักสตู รทั้งหมด = = 2.0 5 5 นำมำคำนวณคะแนน 2.0 2.5 X 5 = 4.0 คะแนน คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอด็ 92 ประจาปีการศึกษา 2562

ตัวบ่งชี้ท่ี 4.3 ผลทเี่ กดิ กับอาจารย์ ชนิดของตวั บ่งช้ี ผลลพั ธ์ คาอธบิ ายตัวบง่ ช้ี ผลกำรประกันคณุ ภำพ ต้องนำไปสูก่ ำรมีอัตรำกำลงั อำจำรยท์ ่ีมีจำนวนเหมำะสมกับจำนวนนกั ศึกษำ ทร่ี บั เข้ำในหลกั สูตร อัตรำคงอยู่ของอำจำรยส์ งู และอำจำรยม์ ีควำมพงึ พอใจตอ่ กำรบรหิ ำรหลกั สตู ร ในกำรรำยงำนกำรดำเนนิ งำนตำมตัวบง่ ชนี้ ี้ ใหอ้ ธิบำยกระบวนกำรหรอื แสดงผลกำรดำเนินงำนใน ประเดน็ ตอ่ ไปนี้ - กำรคงอยขู่ องอำจำรย์ - ควำมพึงพอใจของอำจำรย์ เกณฑก์ ารประเมิน 01 2 3 4 5 • มกี ำรรำยงำน • ไม่มกี ำร • มีกำร ผลกำรดำเนนิ งำน • มกี ำรรำยงำนผล • มกี ำรรำยงำนผล • มีกำรรำยงำนผล ครบทกุ เร่อื ง กำรดำเนนิ งำนครบ กำรดำเนนิ งำนครบ กำรดำเนนิ งำนครบ รำยงำนผล รำยงำน ตำมคำอธบิ ำย ทุกเร่ืองตำม ทุกเร่อื งตำม ทกุ เร่อื งตำมคำอธิบำย ในตัวบง่ ช้ี คำอธบิ ำย คำอธิบำย ในตัวบ่งช้ี กำรดำเนินงำน ผลกำรดำเนิน ในตัวบ่งช้ี ในตัวบง่ ชี้ • มีแนวโน้มผล • มแี นวโนม้ • มีแนวโนม้ ผล กำรดำเนนิ งำน งำนใน ผลกำรดำเนนิ งำน กำรดำเนนิ งำนท่ีดี ท่ดี ขี น้ึ ในทกุ เรื่อง ที่ดีข้ึนในบำงเร่ือง ข้ึนในทุกเร่ือง • มผี ลกำรดำเนนิ งำน บำงเรอื่ ง ทโี่ ดดเด่น เทยี บเคียง กบั หลกั สตู รน้นั ในสถำบนั กลุ่มเดยี วกัน โดยมหี ลกั ฐำนเชิง ประจักษย์ ืนยัน และ กรรมกำรผูต้ รวจ ประเมินสำมำรถ ให้เหตุผลอธบิ ำย ว่ำเปน็ ผลกำร ดำเนนิ งำนท่ีโดดเดน่ อยำ่ งแทจ้ ริง คมู่ อื การประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั ร้อยเอด็ 93 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

องค์ประกอบที่ 5 หลกั สตู ร การเรยี นการสอน การประเมินผเู้ รยี น แม้ทุกหลักสูตรท่ีสถำบันกำรศึกษำเปิดสอนต้องผ่ำนกำรรับรองจำกสำนักงำนคณะกรรมกำรกำร อุดมศึกษำ และมีกำรปรับปรุงทุก 5 ปี แต่ผู้บริหำรต้องรับผิดชอบในกำรควบคุมกำกับกำรบริหำรจัดกำร หลักสตู รให้มีประสทิ ธภิ ำพและประสทิ ธผิ ลอย่ำงตอ่ เนอื่ งคณะกรรมกำรบริหำรหลักสูตรควรมบี ทบำทหน้ำทใ่ี น กำรบริหำรจัดกำร 3 ด้ำนท่ีสำคัญ คือ (1) สำระของรำยวิชำในหลักสูตร (2) กำรวำงระบบผู้สอนและ กระบวนกำรเรียนกำรสอน (3) กำรประเมินผู้เรียนระบบประกันคุณภำพในกำรดำเนินกำรหลักสูตร ประกอบดว้ ย หลักสตู ร กำรเรยี นกำรสอน และกำรประเมินผเู้ รียน เพ่ือใหส้ อดคล้องกบั กรอบมำตรฐำนคณุ วุฒิ ตำมที่สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอุดมศกึ ษำกำหนด ตัวบ่งช้ใี นกำรประเมนิ ต้องใหค้ วำมสำคัญกบั กำรกำหนด รำยวิชำที่มีเน้ือหำท่ีทันสมัย ก้ำวทันควำมก้ำวหน้ำทำงวิทยำกำรท่ีเปล่ียนแปลงตลอดเวลำ รวมท้ังกำรวำง ระบบผู้สอนและอำจำรย์ที่ปรึกษำ ซงึ่ ต้องเป็นบุคคลท่ีมีควำมรู้ ควำมเชย่ี วชำญ ประสบกำรณ์และมคี ณุ สมบัติ เหมำะสมในกำรพัฒนำนักศึกษำให้เต็มศักยภำพ จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน ท่ีเน้นนักศึกษำเป็นสำคัญ และสง่ เสรมิ ทกั ษะกำรเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 กำรประกนั คุณภำพหลักสตู รในองคป์ ระกอบนีพ้ ิจำรณำไดจ้ ำกตวั บ่งชี้ดงั ตอ่ ไปน้ี ตัวบ่งช้ีที่ 5.1 สำระของรำยวชิ ำในหลักสตู ร ตัวบง่ ช้ีท่ี 5.2 กำรวำงระบบผ้สู อนและกระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ตวั บ่งชที้ ี่ 5.3 กำรประเมินผู้เรยี น ตัวบง่ ชท้ี ่ี 5.4 ผลกำรดำเนินงำนหลักสตู รตำมกรอบมำตรฐำนคุณวฒุ ิระดับอดุ มศึกษำแห่งชำติ คมู่ อื การประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏร้อยเอ็ด 94 ประจาปีการศึกษา 2562

ตัวบ่งช้ีท่ี 5.1 สาระของรายวิชาในหลักสูตร ชนิดของตัวบง่ ชี้ กระบวนกำร คาอธบิ ายตัวบง่ ชี้ แม้ทกุ หลกั สูตรทส่ี ถำบนั กำรศกึ ษำเปิดใหบ้ ริกำรต้องผ่ำนกำรรบั ทรำบจำกสำนกั งำนคณะกรรมกำร กำรอดุ มศึกษำ และมีกำรปรบั ปรงุ ทกุ 5 ปี แต่ผรู้ ับผดิ ชอบหลักสูตรตอ้ งมกี ำรออกแบบหลกั สตู ร ควบคุม กำกบั กำรจัดทำรำยวชิ ำต่ำงๆ ใหม้ ีเนื้อหำทที่ ันสมยั ก้ำวทนั ควำมกำ้ วหน้ำทำงวทิ ยำกำรทเ่ี ปล่ยี นแปลงตลอดเวลำ มี กำรบรหิ ำรจดั กำร กำรเปดิ รำยวชิ ำตำ่ ง ๆ ทง้ั วิชำบังคับและวิชำเลือกที่เนน้ นกั ศึกษำเปน็ สำคัญ โดยสนองควำม ต้องกำรของนักศกึ ษำ และตลำดแรงงำน สำหรับหลกั สูตรระดบั บณั ฑติ ศกึ ษำตอ้ งเน้นกำรพฒั นำทกั ษะด้ำนกำร วิจัยและ กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง ในกำรรำยงำนกำรดำเนินงำนตำมตัวบ่งชี้น้ี ให้อธิบำยกระบวนกำรหรือ แสดงผลกำรดำเนินงำนอย่ำงนอ้ ยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ต่อไปนี้ - กำรออกแบบหลักสตู รและสำระรำยวิชำในหลักสตู ร - กำรปรับปรงุ หลกั สตู รใหท้ นั สมยั ตำมควำมก้ำวหน้ำในศำสตรส์ ำขำนัน้ ๆ ในการประเมินเพื่อให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการ ดาเนินงานท้ังหมด ท่ีทาให้หลักสูตรมีความทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและ ความตอ้ งการของประเทศ เกณฑก์ ารประเมิน 01 2 3 4 5 • ไมม่ ีระบบ • มรี ะบบ • มรี ะบบมกี ลไก • มรี ะบบ • มรี ะบบ • มีระบบ มกี ลไก • ไม่มีกลไก มีกลไก • มกี ำรนำ มีกลไก มกี ลไก • มกี ำรนำระบบกลไก ไปส่กู ำร • ไมม่ แี นวคดิ • ไม่มีกำรนำ ระบบกลไกไปสู่ • มกี ำรนำ • มีกำรนำระบบ ปฏบิ ตั /ิ ดำเนนิ งำน ในกำรกำกับ ระบบกลไก กำรปฏิบตั ิ/ ระบบกลไก กลไกไป • มกี ำรประเมินกระบวนกำร ตดิ ตำมและ ไปสูก่ ำร ดำเนนิ งำน ไปสกู่ ำร สกู่ ำรปฏิบตั ิ/ • มีกำรปรับปรงุ / พฒั นำ ปรบั ปรงุ ปฎบิ ตั /ิ • มีกำรประเมิน ปฏิบัต/ิ ดำเนนิ งำน กระบวนกำรจำกผลกำร • ไม่มขี ้อมลู ดำเนนิ งำน กระบวนกำร ดำเนินงำน • มีกำรประเมนิ ประเมิน หลักฐำน • ไมม่ กี ำร • มกี ำรประเมิน กระบวนกำร • มีผลจำกกำรปรับปรงุ เห็น ปรบั ปรงุ /พัฒนำ กระบวนกำร • มกี ำรปรบั ปรงุ / ชดั เจนเปน็ รปู ธรรม กระบวนกำร • มกี ำรปรบั ปรงุ / พฒั นำกระบวน • มีแนวทำงปฏบิ ัติท่ดี ีโดยมี พฒั นำ กำรจำกผลกำร หลักฐำนเชงิ ประจักษ์ยนื ยัน กระบวนกำร ประเมนิ และกรรมกำรผ้ตู รวจประเมิน จำกผลกำร • มีผลจำกกำร สำมำรถให้เหตุผลอธบิ ำยกำร ประเมิน ปรับปรงุ เห็น เป็นแนวปฏิบัติท่ีดีได้ชดั เจน ชดั เจนเป็น รปู ธรรม ค่มู ือการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั รอ้ ยเอด็ 95 ประจาปีการศึกษา 2562

ตัวบง่ ชที้ ่ี 5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจดั การเรยี นการสอน ชนดิ ของตัวบ่งช้ี กระบวนกำร คาอธบิ ายตวั บ่งช้ี หลกั สูตรต้องให้ควำมสำคญั กับกำรวำงระบบผสู้ อนในแตล่ ะรำยวิชำโดยคำนงึ ถึงควำมร้คู วำมสำมำรถและ ควำมเชี่ยวชำญในวิชำที่สอน และเป็นควำมรทู้ ี่ทันสมัยของอำจำรย์ท่ีมอบหมำยให้สอนในวิชำน้ันๆ เพื่อให้นักศกึ ษำ ไดร้ บั ควำมรู้ประสบกำรณ์ และไดร้ บั กำรพัฒนำควำมสำมำรถจำกผูร้ ูจ้ ริง สำหรับหลักสูตรระดบั บัณฑติ ศกึ ษำ ต้องให้ ควำมสำคัญกบั กำรกำหนดหวั ข้อวทิ ยำนิพนธ์ กำรกำหนดอำจำรย์ท่ีปรึกษำวทิ ยำนพิ นธ์ กำรคน้ คว้ำอิสระทีเ่ หมำะสม กับหวั ข้อวิทยำนิพนธ์ กำรคน้ คว้ำอสิ ระ และลักษณะของนักศึกษำ ให้นักศึกษำได้รบั โอกำสและกำรพัฒนำตนเองเต็ม ตำมศักยภำพ อำจำรย์ที่ปรกึ ษำวทิ ยำนิพนธ์กำรคน้ คว้ำอิสระตอ้ งสำมำรถให้คำปรกึ ษำวิทยำนพิ นธ์กำรค้นคว้ำอิสระ ต้ังแต่กระบวนกำรพัฒนำหัวข้อจนถึงกำรทำวิทยำนิพนธ์ กำรค้นคว้ำอิสระ กำรสอบป้องกัน และกำรเผยแพร่ ผลงำนวิจยั จนสำเรจ็ กำรศึกษำ กระบวนกำรเรียนกำรสอนสำหรับยุคศตวรรษที่ 21 ต้องเน้นกำรพัฒนำนักศกึ ษำให้มคี วำมรตู้ ำมโครงสรำ้ ง หลักสตู รที่กำหนดและไดร้ บั กำรพัฒนำตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิ คุณธรรมจริยธรรมทักษะกำรเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 โดยเฉพำะทักษะกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะทำงภำษำไทยและภำษำต่ำงประเทศ ทกั ษะกำรทำงำนแบบมีส่วน รว่ ม ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี ควำมสำมำรถในกำรดแู ลสุขภำพ ฯลฯ กำรเรียนกำรสอนสมัยใหมต่ ้องใช้สื่อ เทคโนโลยีและทำใหน้ กั ศึกษำเรียนรู้ไดต้ ลอดเวลำและในสถำนท่ใี ดก็ได้ ผสู้ อนมหี น้ำท่เี ป็นผอู้ ำนวยควำมสะดวกใหเ้ กดิ กำรเรียนรู้ และสนับสนุนกำรเรียนรู้ สำหรับหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษำ เทคนิค กำรสอนจะเนน้ กำรวิจัยเป็นฐำน กำรเรียนแบบใชป้ ัญหำเป็นฐำน เปน็ ตน้ ในกำรรำยงำนกำรดำเนนิ งำนตำมตวั บง่ ชน้ี ี้ ให้อธิบำยกระบวนกำรหรอื แสดงผลกำรดำเนินงำนในอย่ำงนอ้ ย ใหค้ รอบคลุมประเดน็ ต่อไปน้ี - กำรกำหนดผู้สอน - กำรกำกับ ติดตำม และตรวจสอบกำรจัดทำแผนกำรเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และกำรจัดกำรเรียน กำรสอน - กำรจัดกำรเรียนกำรสอนในระดบั ปริญญำตรีท่มี ีกำรบูรณำกำรกับกำรวจิ ัย กำรบริกำรวชิ ำกำรทำงสังคม และกำรทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม - กำรควบคุมหัวขอ้ วิทยำนิพนธ์และกำรค้นควำ้ อิสระในระดับบัณฑิตศึกษำ ใหส้ อดคล้องกบั สำขำวิชำและ ควำมก้ำวหน้ำของศำสตร์ - กำรแตง่ ตงั้ อำจำรยท์ ่ีปรึกษำวทิ ยำนพิ นธ์และกำรคน้ คว้ำอิสระในระดับบณั ฑิตศกึ ษำ ที่มีควำมเชย่ี วชำญ สอดคลอ้ งหรอื สัมพนั ธ์กับหัวขอ้ วทิ ยำนพิ นธ์ - กำรชว่ ยเหลือ กำกบั ติดตำมในกำรทำวิทยำนพิ นธ์และกำรค้นคว้ำอิสระ และกำรตพี ิมพ์ผลงำนในระดับ บณั ฑติ ศึกษำ คู่มอื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏร้อยเอ็ด 96 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

ในการประเมินเพื่อให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการดาเนินงาน ท้ังหมด ทท่ี าใหก้ ระบวนการจดั การเรียนการสอนตอบสนองความแตกตา่ งของผเู้ รียน การจัดการเรียนการสอนที่ เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคญั กอ่ ใหเ้ กดิ ผลการเรียนรบู้ รรลตุ ามเปา้ หมาย เกณฑ์การประเมนิ 0 1 2 3 4 5 • ไมม่ รี ะบบ • มรี ะบบ • มีระบบมกี ลไก • มีระบบ • มรี ะบบ • มรี ะบบ มีกลไก • ไม่มกี ลไก มีกลไก • มกี ำรนำ มกี ลไก มีกลไก • มกี ำรนำระบบกลไก • ไมม่ ีแนวคดิ • ไม่มกี ำรนำ ระบบกลไกไปสู่ • มีกำรนำ • มีกำรนำระบบ ไปสกู่ ำรปฏิบตั ิ/ ในกำรกำกบั ระบบกลไก กำรปฏิบตั /ิ ระบบกลไก กลไกไป ดำเนนิ งำน ตดิ ตำมและ ไปส่กู ำร ดำเนนิ งำน ไปส่กู ำร สู่กำรปฏิบตั ิ/ • มีกำรประเมนิ ปรับปรงุ ปฎบิ ัติ/ • มีกำรประเมิน ปฏิบัต/ิ ดำเนินงำน กระบวนกำร • ไมม่ ขี ้อมูล ดำเนินงำน กระบวนกำร ดำเนินงำน • มกี ำรประเมิน • มีกำรปรบั ปรุง/ หลกั ฐำน • ไม่มกี ำร • มกี ำรประเมิน กระบวนกำร พฒั นำกระบวนกำร ปรบั ปรุง/พฒั นำ กระบวนกำร • มกี ำรปรบั ปรุง/ จำกผลกำรประเมิน กระบวนกำร • มกี ำรปรับปรุง/ พฒั นำกระบวน • มผี ลจำกกำร พัฒนำ กำรจำกผลกำร ปรับปรุงเหน็ ชดั เจน กระบวนกำร ประเมนิ เปน็ รปู ธรรม จำกผลกำร • มีผลจำกกำร • มีแนวทำงปฏิบตั ิทีด่ ี ประเมนิ ปรบั ปรุงเหน็ โดยมหี ลักฐำนเชิง ชดั เจนเปน็ ประจักษ์ยืนยัน รูปธรรม และกรรมกำร ผู้ตรวจประเมนิ สำมำรถให้เหตุผล อธิบำยกำรเป็นแนว ปฏบิ ัตทิ ่ีดไี ด้ชัดเจน คู่มอื การประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอด็ 97 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

ตัวบ่งชท้ี ี่ 5.3 การประเมนิ ผู้เรยี น ชนิดของตวั บ่งชี้ กระบวนกำร คาอธิบายตัวบ่งชี้ กำรประเมินนกั ศึกษำมีจุดมุ่งหมำย 3 ประกำร คือ กำรประเมินผลนักศึกษำเพ่อื ใหข้ ้อมูลสำรสนเทศที่เป็น ประโยชน์ต่อกำรปรับปรุงกำรเรียนกำรสอนของผู้สอน และนำไปสู่กำรพฒั นำกำรเรียนรู้ของนกั ศึกษำ(assessment for learning) กำรประเมินท่ีทำให้นักศึกษำสำมำรถประเมินตนเองเป็น และมีกำรนำผลกำรประเมินไปใช้ในกำร พฒั นำวิธีกำรเรยี นของตนเองใหม่ จนเกิดกำรเรยี นรู้ (assessment as learning) และ กำรประเมินผลกำรเรียนรขู้ อง นกั ศึกษำที่แสดงผลลัพธ์กำรเรยี นรู้ที่คำดหวังของหลักสูตร (assessment of learning) กำรประเมินส่วนใหญ่จะใช้ เพื่อจุดมุ่งหมำยประกำรหลัง คือ เน้นกำรได้ข้อมูลเกี่ยวกับสัมฤทธิผลกำรเรียนรขู้ องนักศึกษำ กำรจัดกำรเรยี นกำร สอนจึงควรส่งเสริมให้มกี ำรประเมินเพ่อื จุดมุ่งหมำยสองประกำรแรกด้วย ทั้งนี้ ควำมเหมำะสมของระบบประเมิน ตอ้ งใหค้ วำมสำคัญกับกำรกำหนดเกณฑก์ ำรประเมินวิธกี ำรประเมิน เคร่อื งมือประเมนิ ที่มคี ณุ ภำพ และวิธีกำรให้เกรด ท่ีสะท้อนผลกำรเรยี นรู้ได้อย่ำงเหมำะสม มีกำรกำกับให้มีกำรประเมินตำมสภำพจริง (authentic assessment) มี กำรใช้วธิ ีกำรประเมนิ ทีห่ ลำกหลำย ให้ผลกำรประเมนิ ท่ีสะท้อนควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำนในโลกแหง่ ควำมเป็น จริง (real world) และมีวิธีกำรให้ข้อมูลป้อนกลับ (feedback) ท่ีทำให้นักศึกษำสำมำรถแก้ไขจุดอ่อนหรือเสริมจุด แข็งของตนเองได้ ให้ผลกำรประเมินที่สะท้อนระดับควำมสำมำรถท่ีแท้จริงของนักศึกษำ สำหรับหลักสูตรระดับ บัณฑิตศึกษำ ต้องให้ควำมสำคัญกับกำรวำงระบบประเมินวิทยำนิพนธ์ กำรค้นคว้ำอิสระที่มีคุณภำพด้วย ในกำร รำยงำนกำรดำเนินงำนตำมตัวบ่งช้ีน้ีให้อธิบำยกระบวนกำรหรือแสดงผลกำรดำเนินงำ นอย่ำงน้อยให้ครอบคลุม ประเด็นต่อไปนี้ - กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรูต้ ำมกรอบมำตรฐำนคณุ วฒุ ริ ะดบั อดุ มศกึ ษำแหง่ ชำติ - กำรตรวจสอบกำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ของนกั ศึกษำ - กำรกำกบั กำรประเมินกำรจดั กำรเรียนกำรสอนและประเมนิ หลักสตู ร (มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7) - กำรประเมินวิทยำนพิ นธ์และกำรคน้ คว้ำอสิ ระในระดับบณั ฑติ ศกึ ษำ ในการประเมินเพื่อให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการดาเนินงาน ทั้งหมดที่สะท้อนสภาพจริงด้วยวิธีการหรือเคร่ืองมือประเมินที่เช่ือถือได้ ให้ข้อมูลที่ช่วยให้ผู้สอนและผู้เรียนมี แนวทางในการปรบั ปรงุ พัฒนาการเรยี นการสอนต่อไป ค่มู อื การประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏร้อยเอด็ 98 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

เกณฑ์การประเมิน 0 1 2 3 4 5 • ไมม่ รี ะบบ • มรี ะบบ • มรี ะบบมีกลไก • มีระบบ • มรี ะบบ • มีระบบ มีกลไก • ไมม่ ีกลไก มกี ลไก • มีกำรนำ มีกลไก มีกลไก • มกี ำรนำระบบกลไก • ไม่มแี นวคิด • ไม่มีกำรนำ ระบบกลไกไปสู่ • มกี ำรนำ • มีกำรนำระบบ ไปส่กู ำรปฏิบัติ/ ในกำรกำกบั ระบบกลไก กำรปฏบิ ัติ/ ระบบกลไก กลไกไป ดำเนินงำน ติดตำมและ ไปสู่กำร ดำเนนิ งำน ไปสกู่ ำร สกู่ ำรปฏบิ ัติ/ • มกี ำรประเมิน ปรับปรงุ ปฎิบตั /ิ • มกี ำรประเมิน ปฏิบัต/ิ ดำเนินงำน กระบวนกำร • ไมม่ ขี ้อมูล ดำเนินงำน กระบวนกำร ดำเนนิ งำน • มีกำรประเมนิ • มกี ำรปรบั ปรงุ / หลกั ฐำน • ไม่มกี ำร • มกี ำรประเมนิ กระบวนกำร พฒั นำกระบวนกำร ปรบั ปรงุ /พฒั นำ กระบวนกำร • มีกำรปรบั ปรงุ / จำกผลกำรประเมนิ กระบวนกำร • มีกำรปรับปรงุ / พฒั นำกระบวน • มีผลจำกกำร พฒั นำ กำรจำกผลกำร ปรับปรงุ เห็นชดั เจน กระบวนกำร ประเมิน เป็นรปู ธรรม จำกผลกำร • มผี ลจำกกำร • มแี นวทำงปฏิบตั ิท่ีดี ประเมนิ ปรับปรุงเห็น โดยมหี ลกั ฐำนเชงิ ชัดเจนเปน็ ประจกั ษ์ยนื ยนั รปู ธรรม และกรรมกำร ผู้ตรวจประเมนิ สำมำรถให้เหตุผล อธบิ ำยกำรเป็นแนว ปฏบิ ัติท่ดี ีไดช้ ดั เจน คมู่ อื การประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั รอ้ ยเอ็ด 99 ประจาปีการศึกษา 2562

ตวั บ่งช้ีที่ 5.4 ผลการดาเนินงานหลักสตู รตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดับอุดมศึกษาแหง่ ชาติ ชนิดของตวั บง่ ช้ี ผลลัพธ์ คาอธบิ ายตัวบง่ ช้ี ผลกำรดำเนินงำนของหลักสูตร หมำยถึง ร้อยละของผลกำรดำเนินงำนตำมตัวบ่งช้ีกำรดำเนินงำนตำม กรอบมำตรฐำนคุณวุฒิระดับอุดมศึกษำที่ปรำกฏในหลักสูตร (มคอ.2) หมวดที่ 7 ข้อ 7 ที่หลักสูตรแต่ละหลักสูตร ดำเนนิ งำนไดใ้ นแต่ละปีกำรศกึ ษำ อำจำรย์ประจำหลกั สูตรจะเปน็ ผ้รู ำยงำนผลกำรดำเนินงำนประจำปี ในแบบรำยงำน ผลกำรดำเนินกำรของหลกั สูตร (มคอ.7) เกณฑ์การประเมิน มคี ำ่ คะแนนเท่ำกับ 0 มกี ำรดำเนนิ งำนน้อยกว่ำร้อยละ 80 ของตัวบ่งชี้ผลกำรดำเนนิ งำนที่ระบุไวใ้ นแตล่ ะปี มีคำ่ คะแนนเทำ่ กบั 3.50 มกี ำรดำเนินงำนรอ้ ยละ 80 ของตวั บง่ ชีผ้ ลกำรดำเนนิ งำนท่รี ะบุไวใ้ นแตล่ ะปี มคี ่ำคะแนนเท่ำกบั 4.00 มกี ำรดำเนนิ งำนร้อยละ 80.01-89.99 ของตัวบง่ ชีผ้ ลกำรดำเนนิ งำนทร่ี ะบุไว้ในแตล่ ะปี มีค่ำคะแนนเท่ำกบั 4.50 มีกำรดำเนนิ งำนร้อยละ 90.00-94.99 ของตวั บ่งช้ีผลกำรดำเนนิ งำนท่ีระบุไว้ในแตล่ ะปี มคี ่ำคะแนนเทำ่ กับ 4.75 มีกำรดำเนนิ งำนร้อยละ 95.00-99.99 ของตวั บ่งชีผ้ ลกำรดำเนนิ งำนทร่ี ะบุไว้ในแตล่ ะปี มีค่ำคะแนนเทำ่ กบั 5.00 มกี ำรดำเนินงำนรอ้ ยละ 100 ของตัวบง่ ช้ผี ลกำรดำเนินงำนท่รี ะบุไวใ้ นแตล่ ะปี หมายเหตุ : คณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำไดมีประกำศคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำ เรื่อง แนวทำงกำรปฏิบัติตำมกรอบ มำตรฐำนคุณวุฒริ ะดับอดุ มศกึ ษำแหงชำติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ลงวนั ท่ี 26 พฤศจิกำยน 2558 ไดกำหนดแนวทำงกำรปฏบิ ัติ ตำมกรอบมำตรฐำนคุณวฒุ ริ ะดบั อุดมศึกษำแหงชำตเิ พิ่มเตมิ ไว ดังน้ี ขอ 2 ระบุวำ “กรณีที่สถำบันอดุ มศกึ ษำจะจดั ทำรำยละเอียดของรำยวิชำ รำยละเอยี ดของประสบกำรณภำคสนำม (ถำมี) รำยงำนผลกำรดำเนินงำนของรำยวิชำ รำยงำนผลกำรดำเนินกำรของประสบกำรณภำคสนำม (ถำมี) และรำยงำนผล กำรดำเนินงำนของหลักสูตรในลักษณะอ่ืน สถำบันอุดมศึกษำสำมำรถดำเนินกำรจัดทำระบบจัดเก็บขอมูลรำยละเอียดตำม แนวทำงของ มคอ.3 มคอ.4 มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7 โดยสำมำรถปรับเปล่ยี นหัวขอรำยละเอยี ดใหเหมำะสมกับบริบทของ สถำบนั อุดมศกึ ษำนน้ั ๆ ได ทงั้ นีใ้ หคำนึงถึงเจตนำรมณของกำรจัดทำ มคอ.3 มคอ.4 มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7” ขอ 3 ระบุวำ “ใหถือวำ ตัวบงชี้ผลกำรดำเนินงำนตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิ จำนวน 12 ตัวบงชี้ เปนเพียง แนวทำง เทำน้ัน โดยสถำบันอดุ มศึกษำสำมำรถกำหนดตัวบงชผี้ ลกำรดำเนินงำนตำมกรอบมำตรฐำนคุณวฒุ ิไดเอง ซ่ึงแตละ หลักสูตรมี อิสระในกำรกำหนดตัวบงชี้ผลกำรดำเนินงำนที่ใชในกำรติดตำม ประเมิน และรำยงำนคุณภำพของหลักสูตร ประจำปท่ีระบุไว ในหมวด 1-6 ของแตละหลักสูตร ตำมบริบทและวัตถุประสงคในกำรผลิตบัณฑิต ทั้งน้ี ตองไดรับควำม เห็นชอบหรืออนุมัติจำก สภำสถำบันอุดมศึกษำ ในระหวำงที่สถำบันอุดมศึกษำยังไมสำมำรถเสนอขอปรับตัวบงชี้ใหมไดแล วเสรจ็ ใหใชตัวบงชี้เดมิ กอนไดหรอื หำกหลักสตู รใดมคี วำมประสงคกำหนดตัวบงช้ีแบบเดมิ ก็สำมำรถกระทำได กรณหี ลักสูตรมี กำรปรับปรุงตวั บงช้ีใหม ใหนำเสนอสำนักงำนปลัดกระทรวงกำรอุดมศึกษำ วิทยำศำสตร วิจยั และนวตั กรรมรบั ทรำบในกำร ปรับปรุงหลกั สูตรครั้ง ตอไป” คู่มอื การประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั รอ้ ยเอ็ด 100 ประจาปีการศึกษา 2562

องคป์ ระกอบท่ี 6 สิ่งสนับสนุนการเรยี นรู้ ในกำรดำเนินกำรบริหำรหลักสูตร จะต้องมปี ัจจัยทส่ี ำคัญอีกประกำรหน่ึงคือ สิ่งสนับสนุนกำรเรียนรู้ ซึ่ง ประกอบด้วย ควำมพร้อมทำงกำยภำพ ควำมพร้อมด้ำนอุปกรณ์ ควำมพรอ้ มด้ำนเทคโนโลยี ควำมพร้อมด้ำนกำร ให้บริกำร เช่น ห้องเรียน ห้องปฏิบัติกำร ห้องทำวิจัย อุปกรณ์กำรเรียนกำรสอน ห้องสมุด กำรบริกำรเทคโนโลยี สำรสนเทศ คอมพิวเตอร์ Wifi และอ่นื ๆ รวมท้ังกำรบำรุงรักษำที่ส่งเสริมสนบั สนนุ ใหน้ ักศึกษำสำมำรถเรยี นรู้ได้อยำ่ งมี ประสทิ ธิภำพประสิทธผิ ล ตำมมำตรฐำนผลกำรเรียนรู้ทก่ี ำหนดตำมกรอบมำตรฐำนคุณวฒุ ิระดับอุดมศึกษำแห่งชำติ โดยพิจำรณำรว่ มกบั ผลกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจของนกั ศกึ ษำและอำจำรย์ องคป์ ระกอบด้ำนส่งิ สนับสนนุ กำรเรยี นรจู้ ะพิจำรณำได้จำก ตวั บ่งช้ี 6.1 สิ่งสนับสนุนกำรเรียนรู้ คู่มอื การประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั รอ้ ยเอด็ 101 ประจาปกี ารศึกษา 2562

ตวั บง่ ชี้ 6.1 สง่ิ สนับสนนุ การเรียนรู้ ชนิดของตวั บ่งชี้ กระบวนกำร คาอธิบายตัวบง่ ช้ี ควำมพร้อมของสิ่งสนับสนนุ กำรเรียนกำรสอนมีหลำยประกำร ได้แก่ ควำมพรอ้ มทำงกำยภำพ เชน่ หอ้ งเรียน ห้องปฏิบัตกิ ำร ท่พี กั ของนกั ศกึ ษำ ฯลฯ และควำมพรอ้ มของอุปกรณ์ เทคโนโลยี และสง่ิ อำนวยควำมสะดวกหรือทรพั ยำกร ที่เอ้ือต่อกำรเรียนรู้ เช่น อปุ กรณ์กำรเรียนกำรสอน ห้องสมดุ หนังสือ ตำรำ สง่ิ พิมพ์ วำรสำร ฐำนข้อมูลเพอ่ื กำรสืบค้น แหล่งเรียนรู้ ส่ืออิเล็คทรอนิกส์ ฯลฯ สง่ิ สนับสนนุ เหลำ่ นี้ ต้องมปี ริมำณเพียงพอ และมีคุณภำพพร้อมใชง้ ำน ทันสมัยโดย พจิ ำรณำกำรดำเนินกำรปรับปรงุ พฒั นำจำกผลกำรประเมนิ ควำมพงึ พอใจของนกั ศึกษำและอำจำรย์ ในกำรรำยงำนกำรดำเนินงำนตำมตัวบ่งช้ีน้ี ให้อธิบำยกระบวนกำรหรือแสดงผลกำรดำเนินงำนอย่ำงน้อยให้ ครอบคลมุ ประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - ระบบกำรดำเนินงำนของภำควิชำ/คณะ/สถำบันโดยมีส่วนร่วมของอำจำรย์ประจำหลักสูตรเพื่อให้มีสิ่ง สนับสนนุ กำรเรียนรู้ - จำนวนสง่ิ สนับสนุนกำรเรยี นรูท้ เ่ี พียงพอและเหมำะสมต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอน - กระบวนกำรปรับปรงุ ตำมผลกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจของนกั ศึกษำและอำจำรย์ตอ่ สิ่งสนับสนนุ กำรเรียนรู้ ในการประเมินเพื่อให้ทราบว่าอยู่ในระดบั คะแนนใด ใหพ้ ิจารณาในภาพรวมของผลการดาเนนิ งานทั้งหมดท่ี สะท้อนการจัดเตรียมสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ท่ีจาเป็นต่อการเรยี นการสอน และส่งผลให้ผู้เรียนสามารถเรียนรูไ้ ด้อย่างมี ประสทิ ธิผล เกณฑ์การประเมนิ 01 2 3 4 5 • ไมม่ ีระบบ • มีระบบ • มรี ะบบมกี ลไก • มรี ะบบมีกลไก • มรี ะบบ • มรี ะบบ มีกลไก • ไมม่ กี ลไก มกี ลไก • มกี ำรนำ • มีกำรนำ มีกลไก • มกี ำรนำระบบกลไกไปสู่ • ไม่มี • ไม่มกี ำรนำ ระบบกลไกไปสู่ ระบบกลไกไปสู่ • มกี ำรนำระบบ กำรปฏบิ ตั /ิ ดำเนินงำน แนวคดิ ในกำร ระบบกลไก กำรปฏิบัติ/ กำรปฏบิ ัติ/ กลไกไป • มกี ำรประเมินกระบวนกำร กำกับตดิ ตำม ไปสูก่ ำรปฎิบัต/ิ ดำเนนิ งำน ดำเนนิ งำน สู่กำรปฏิบตั ิ/ • มกี ำรปรับปรงุ /พฒั นำ และปรับปรงุ ดำเนนิ งำน • มกี ำรประเมิน • มกี ำรประเมนิ ดำเนนิ งำน กระบวนกำรจำกผลกำร • ไมม่ ขี ้อมลู กระบวนกำร กระบวนกำร • มกี ำรประเมิน ประเมนิ หลักฐำน • ไมม่ ีกำร • มกี ำรปรบั ปรุง/ กระบวนกำร • มผี ลจำกกำรปรับปรงุ เหน็ ปรับปรุง/พฒั นำ พัฒนำ • มกี ำรปรบั ปรงุ / ชัดเจนเป็นรปู ธรรม กระบวนกำร กระบวนกำร พัฒนำ • มีแนวทำงปฏิบตั ทิ ด่ี ี โดยมี จำกผลกำรประเมิน กระบวนกำร หลักฐำนเชงิ ประจักษ์ยนื ยัน จำกผลกำร และกรรมกำรผูต้ รวจ ประเมิน ประเมิน สำมำรถ • มผี ลจำกกำร ใหเ้ หตผุ ลอธบิ ำยกำร ปรับปรุงเหน็ เป็นแนวปฏิบัติทีด่ ีได้ ชดั เจนเป็น ชัดเจน รปู ธรรม คมู่ ือการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอด็ 102 ประจาปีการศึกษา 2562

สว่ นท่ี 5 ระบบการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาภายใน ระดบั คณะ กรอบการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายใน ระดบั คณะ องคป์ ระกอบใน ตัวบ่งชี้ อธิบายกระบวนการหรอื แสดงผลการ การประกนั คณุ ภาพคณะ ดาเนินงานในประเดน็ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง 1. การผลติ บณั ฑิต 1.1 ผลกำรบรหิ ำรจดั กำรหลักสตู รโดยรวม ค่ำเฉลี่ยของคะแนนประเมินของทุ ก 2. การวิจัย 1.2 อำจำรย์ประจำคณะท่ีมีคุณวุฒิปรญิ ญำเอก หลักสตู รที่คณะรับผิดชอบ รอ้ ยละของอำจำรย์ประจำคณะท่ีมีคุณวุฒิ 3. การบรกิ ารวิชาการ 1.3 อำจำรย์ประจำคณะทด่ี ำรงตำแหน่งทำง ปริญญำเอก 4. การทานบุ ารุงศิลปะ วิชำกำร ร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะท่ีดำรง และวัฒนธรรม 1.4 จำนวนนักศกึ ษำเต็มเวลำเทียบเท่ำต่อ ตำแหนง่ ทำงวชิ ำกำร 5. การบรหิ ารจัดการ จำนวนอำจำรย์ประจำ สัดสว่ นจำนวนนักศึกษำเต็มเวลำเทยี บเท่ำ 1.5 กำรบรกิ ำรนกั ศึกษำระดบั ปริญญำตรี ตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำ 1.6 กจิ กรรมนักศกึ ษำระดับปริญญำตรี เกณฑ์มำตรฐำน 6 ขอ้ 2.1 ระบบและกลไกกำรบริหำรและพัฒนำ เกณฑ์มำตรฐำน 6 ข้อ งำนวิจัยหรืองำนสร้ำงสรรค์ เกณฑ์มำตรฐำน 6 ขอ้ 2.2 เงนิ สนบั สนุนงำนวิจยั และงำนสร้ำงสรรค์ เงินสนับสนุนงำนวิจัยและงำนสร้ำงสรรค์ 2.3 ผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรย์ประจำและ ทัง้ ภำยในและภำยนอกต่อจำนวนอำจำรย์ นักวิจัย ประจำและนักวจิ ัย 3.1 กำรบรกิ ำรวิชำกำรแก่สังคม ผลงำนทำงวิชำกำรทุกประเภทต่ออำจำรย์ 4.1 ระบบและกลไกกำรทำนบุ ำรุงศลิ ปะและ ประจำและนักวิจยั วัฒนธรรม เกณฑ์มำตรฐำน 6 ขอ้ 5.1 กำรบริหำรของคณะเพ่ือกำรกำกบั ติดตำม เกณฑม์ ำตรฐำน 7 ข้อ ผลลัพธต์ ำมพนั ธกิจ กลุ่มสถำบัน และเอกลักษณ์ ของคณะ เกณฑ์มำตรฐำน 7 ข้อ 5.2 ระบบกำกบั กำรประกันคณุ ภำพหลกั สูตร เกณฑม์ ำตรฐำน 6 ข้อ คู่มือการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั ร้อยเอด็ 103 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

องคป์ ระกอบที่ 1 การผลิตบณั ฑติ พันธกิจที่สำคัญท่ีสุดของสถำบันอุดมศึกษำ คือ กำรผลิตบัณฑิต หรือกำรจัดกิจกรรมกำรเรียน กำรสอนให้ผู้เรียนมีควำมรู้ในวิชำกำรและวิชำชีพ มีคุณลักษณะตำมหลักสูตรที่กำหนด กำรเรียนกำรสอน ในยุคปัจจุบันใช้หลักกำรของกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดังนั้น พันธกิจดังกล่ำว จึงเกี่ยวข้องกับกำรบริหำรจัดกำรหลักสูตรและกำรเรียนกำรสอน เร่ิมตั้งแต่กำรกำหนดปัจจัยนำเข้ำที่ได้ มำตรฐำนตำมท่ีกำหนด ประกอบด้วยกำรมีอำจำรย์ท่ีมีปริมำณแล ะคุณภำพตำมมำตรฐำนหลักสูตร มกี ระบวนกำรบรหิ ำรจดั กำรกำรเรียนกำรสอนทอ่ี ำศยั หลกั กำรรว่ มมือรวมพลังของทกุ ฝ่ำยทเี่ กยี่ วขอ้ งท้ังภำยใน และภำยนอกสถำบัน ตัวบ่งชี้ จำนวน 6 ตัวบง่ ช้ี คอื ตวั บง่ ชี้ท่ี 1.1 ผลกำรบรหิ ำรจดั กำรหลักสูตรโดยรวม ตวั บ่งชี้ที่ 1.2 อำจำรย์ประจำคณะท่ีมคี ุณวฒุ ปิ รญิ ญำเอก ตวั บง่ ชี้ท่ี 1.3 อำจำรยป์ ระจำคณะที่ดำรงตำแหน่งทำงวิชำกำร ตัวบ่งชท้ี ี่ 1.4 จำนวนนกั ศึกษำเตม็ เวลำเทียบเท่ำต่อจำนวนอำจำรย์ประจำ ตัวบง่ ชท้ี ่ี 1.5 กำรบริกำรนักศกึ ษำระดบั ปริญญำตรี ตวั บง่ ชีท้ ี่ 1.6 กจิ กรรมนักศึกษำระดับปรญิ ญำตรี คู่มอื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั ร้อยเอด็ 104 ประจาปกี ารศึกษา 2562

ตวั บ่งช้ีที่ 1.1 ผลการบรหิ ารจดั การหลกั สตู รโดยรวม ชนดิ ของตวั บง่ ช้ี ผลลัพธ์ คาอธบิ ายตัวบ่งชี้ ผลกำรดำเนินกำรของทุกหลักสูตรในคณะ ซ่ึงสำมำรถสะทอ้ นคุณภำพของบัณฑิตในหลกั สูตรทคี่ ณะ รบั ผิดชอบ เกณฑก์ ารประเมนิ คำ่ เฉลย่ี ของคะแนนประเมินทุกหลกั สตู รท่คี ณะรบั ผดิ ชอบ สตู รการคานวณ ผลรวมของค่ำคะแนนประเมนิ ของทุกหลักสูตร คะแนนที่ได้ = จำนวนหลกั สตู รทงั้ หมดทค่ี ณะรบั ผดิ ชอบ หมายเหตุ : - หลักสูตรท่ีได้รับกำรรับรองโดยระบบอ่ืนๆ ตำมท่ีคณะกรรมกำรประกันคุณภำพภำยในระดับอุดมศึกษำ เห็นชอบ ไม่ตอ้ งนำคะแนนกำรประเมนิ ของหลกั สตู รน้นั มำคำนวณในตวั บ่งชน้ี ี้ แตต่ อ้ งรำยงำนผลกำรรับรองตำมระบบ นั้นๆ ในตวั บง่ ชี้น้ใี ห้ครบถ้วน - ในกำรคำนวณค่ำคะแนน หำกหลกั สตู รใชร้ ะบบอนื่ ที่ไมใ่ ชข่ อง สกอ. ไมต่ ้องนำมำคำนวณท้ังตัวตงั้ ตัวหำร - ทุกหลักสตู รทีม่ กี ำรจดั กำรเรยี นกำรสอน (แม้ว่ำจะเปน็ หลักสูตรทข่ี อปิดดำเนินกำรแลว้ แต่ยงั มนี ักศกึ ษำ คงคำ้ งอยู่) ใหน้ ำมำคำนวณดว้ ยทัง้ ตัวตงั้ และตัวหำร โดยใชเ้ ฉพำะตัวบง่ ชีท้ ี่เก่ียวข้องเท่ำนน้ั คมู่ ือการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั ร้อยเอ็ด 105 ประจาปีการศกึ ษา 2562

ตวั บง่ ชี้ท่ี 1.2 อาจารยป์ ระจาคณะทีม่ คี ุณวฒุ ิปริญญาเอก ชนิดของตวั บ่งชี้ ปัจจัยนำเขำ้ คาอธบิ ายตัวบง่ ช้ี กำรศึกษำระดับอุดมศึกษำถือเป็นกำรศึกษำระดับสูงสุดที่ต้องกำรบุคลำกรท่ีมีควำมรู้ควำม สำมำรถ และควำมลุ่มลึกทำงวิชำกำร เพื่อปฏิบัติพันธกิจสำคัญของสถำบันในกำรผลิตบัณฑิต ศึกษำวิจัยเพ่ือติดตำม ควำมก้ำวหน้ำทำงวิชำกำรและกำรพัฒนำองค์ควำมรู้ ดังนั้นคณะจึงควรมีอำจำรย์ที่มีระดับคุณวุฒิทำงกำรศึกษำ ที่ตรงหรอื สมั พนั ธ์กับหลกั สตู รท่เี ปดิ สอนในสัดส่วนที่เหมำะสมกบั พันธกจิ หรือจุดเน้นของหลักสูตร เกณฑ์การประเมิน โดยกำรแปลงคำ่ ร้อยละของอำจำรยป์ ระจำคณะท่ีมคี ุณวฒุ ปิ รญิ ญำเอกเปน็ คะแนนระหว่ำง 0 – 5 1. เกณฑ์เฉพำะสถำบันกลุ่ม ข และ ค2 คำ่ ร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะที่มีคุณวุฒิปริญญำเอกที่กำหนดให้เป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 40 ข้ึน ไป 2. เกณฑ์เฉพำะสถำบันกลุ่ม ค1 และ ง ค่ำร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะท่ีมีคุณวุฒิปริญญำเอกท่ีกำหนดให้เป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 80 ขึ้น ไป สูตรการคานวณ 1. คำนวณค่ำร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะที่มคี ณุ วุฒิปริญญำเอก ตำมสตู ร จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลักสูตรทมี่ ีคณุ วฒุ ิปริญญำเอก X 100 จำนวนอำจำรยป์ ระจำคณะทัง้ หมด 2. แปลงค่ำรอ้ ยละทค่ี ำนวณได้ในขอ้ 1 เทียบกบั คะแนนเตม็ 5 คะแนนที่ได้ = ร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะทม่ี คี ุณวฒุ ปิ ริญญำเอก X5 ร้อยละของอำจำรยป์ ระจำคณะทมี่ ีคุณวุฒิปริญญำเอกที่กำหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 หมายเหตุ 1. คุณวุฒิปริญญำเอกพิจำรณำจำกระดับคุณวุฒิที่ได้รับหรือเทียบเท่ำตำมหลักเกณฑ์กำรพิจำรณำคุณวุฒิของ กระทรวงศึกษำธิกำร กรณีท่ีมีกำรปรบั วุฒิกำรศึกษำใหม้ ีหลักฐำนกำรสำเร็จกำรศึกษำภำยในรอบปีกำรศึกษำน้ัน ทั้งนี้ อำจใช้ คุณวุฒิอื่นเทียบเท่ำคุณวุฒิปริญญำเอกได้สำหรับกรณีที่บำงสำขำวิชำชีพมีคุณวุฒิอื่นท่ีเหมำะสมกว่ำ และต้องได้รับควำม เห็นชอบจำกคณะกรรมกำรกำรอดุ มศึกษำ คมู่ อื การประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรอ้ ยเอ็ด 106 ประจาปกี ารศึกษา 2562

2. กำรนับจำนวนอำจำรย์ประจำ ให้นับตำมปีกำรศึกษำและนับทั้งท่ีปฏิบัติงำนจริงและลำศึกษำต่อ ในกรณีท่ีมี อำจำรยบ์ รรจุใหมใ่ ห้คำนวณตำมเกณฑ์อำจำรย์ประจำท่รี ะบุในคำช้แี จงเกย่ี วกับกำรนับจำนวนอำจำรย์ประจำและนกั วิจยั ตวั บง่ ช้ที ี่ 1.3 อาจารย์ประจาคณะทีด่ ารงตาแหนง่ ทางวิชาการ ชนิดของตัวบง่ ชี้ ปัจจยั นำเขำ้ คาอธิบายตัวบ่งช้ี สถำบันอุดมศกึ ษำถอื เป็นขุมปัญญำของประเทศ และมีควำมรับผดิ ชอบที่จะต้องส่งเสริมใหอ้ ำจำรย์ ในสถำบันทำกำรศึกษำวิจัยเพ่ือแสวงหำและพัฒนำองค์ควำมรู้ในศำสตร์สำขำวิชำต่ำงๆ อย่ำงต่อเน่ือง เพื่อนำไปใช้ในกำรเรียนกำรสอน รวมท้ังกำรแก้ไขปัญหำและพัฒนำประเทศ กำรดำรงตำแหนง่ ทำงวิชำกำร เป็นสิ่งสะท้อนกำรปฏิบตั งิ ำนดงั กล่ำวของอำจำรย์ตำมพันธกิจ เกณฑก์ ารประเมนิ โดยกำรแปลงคำ่ รอ้ ยละของอำจำรยป์ ระจำคณะทีด่ ำรงตำแหน่งทำงวิชำกำรเปน็ คะแนนระหว่ำง 0 – 5 1. เกณฑ์เฉพำะสถำบนั กลุ่ม ข และ ค2 ค่ำร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ รองศำสตรำจำรย์ และ ศำสตรำจำรยร์ วมกัน ทกี่ ำหนดให้เปน็ คะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 60 ขึ้นไป 2. เกณฑเ์ ฉพำะสถำบันกล่มุ ค1 และ ง ค่ำร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศำสตรำจำรย์รองศำสตรำจำรย์ และ ศำสตรำจำรยร์ วมกนั ทีก่ ำหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป สตู รการคานวณ 1. คำนวณค่ำร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะท่ีดำรงตำแหน่งทำงวชิ ำกำร ตำมสตู ร จำนวนอำจำรย์ประจำหลักสตู รทม่ี ตี ำแหน่งทำงวิชำกำร X 100 จำนวนอำจำรยป์ ระจำคณะท้ังหมด 2. แปลงค่ำรอ้ ยละที่คำนวณไดใ้ นขอ้ 1 เทียบกับคะแนนเตม็ 5 คะแนนทไี่ ด้ = รอ้ ยละของอำจำรย์ประจำคณะท่ดี ำรงตำแหนง่ ทำงวิชำกำร ร้อยละของอำจำรย์ประจำคณะทีด่ ำรงตำแหน่งทำงวชิ ำกำรท่กี ำหนดให้เป็นคะแนนเตม็ 5 X 5 คู่มือการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั รอ้ ยเอด็ 107 ประจาปีการศกึ ษา 2562

ตัวบ่งชีท้ ่ี 1.4 จานวนนักศึกษาเตม็ เวลาเทียบเทา่ ต่อจานวนอาจารยป์ ระจา ชนดิ ของตวั บ่งชี้ ปจั จยั นำเข้ำ คาอธิบายตัวบง่ ชี้ ปัจจัยสำคัญประกำรหนึ่งสำหรับกำรจัดกำรกำรศึกษำระดับอุดมศึกษำ คือสัดส่วนของนักศึกษำ ต่ออำจำรย์ ที่จะต้องสอดคล้องกับศำสตร์ในแต่ละสำขำวิชำและลักษณะกำรเรียนกำรสอน รวมท้ังมีควำม เช่ือมโยงไปสูก่ ำรวำงแผนตำ่ งๆ เชน่ กำรวำงแผนอัตรำกำลัง ภำระงำนอำจำรยเ์ ป้ำหมำยกำรผลิตบณั ฑิต ดังนน้ั สถำบันจึงควรมีจำนวนนักศึกษำเต็มเวลำเทียบเท่ำต่อจำนวนอำจำรย์ประจำท่ีปฏิบัติงำนจริงในสัดส่วนท่ี เหมำะสม เกณฑก์ ารประเมิน ในกรณีท่ีจำนวนนักศึกษำเต็มเวลำต่ออำจำรย์ประจำน้อยกว่ำหรือเท่ำกับเกณฑ์มำตรฐำนกำหนด เปน็ คะแนน 5 ในกรณีทจี่ ำนวนนักศกึ ษำเต็มเวลำต่ออำจำรย์ประจำมำกกว่ำเกณฑ์มำตรฐำนใหค้ ำนวณหำค่ำควำมแตกตำ่ ง ระหวำ่ งจำนวนนักศกึ ษำเตม็ เวลำตอ่ อำจำรย์ประจำกับเกณฑ์มำตรฐำน และนำคำ่ ควำมแตกตำ่ งมำพจิ ำรณำ ดงั น้ี คำ่ ควำมแตกต่ำงของจำนวนนกั ศึกษำเต็มเวลำตอ่ อำจำรยป์ ระจำที่สงู กว่ำเกณฑ์มำตรฐำนตัง้ แต่รอ้ ยละ 20 กำหนดเปน็ คะแนน 0 ค่ำควำมแตกตำ่ งของจำนวนนกั ศึกษำเต็มเวลำตอ่ อำจำรยป์ ระจำที่สงู กวำ่ เกณฑ์มำตรฐำนตง้ั แต่รอ้ ยละ 0.01 และไมเ่ กินร้อยละ 20 ใหน้ ำมำเทยี บบัญญตั ไิ ตรยำงศต์ ำมสูตรเพือ่ เปน็ คะแนนของหลักสูตรน้ันๆ สตู รการคานวณจานวนนักศึกษาเต็มเวลาเทยี บเท่า 1. คำนวณค่ำหน่วยกิตนักศึกษำ (Student Credit Hours : SCH) ซึ่งก็คือผลรวมของผลคูณระหว่ำงจำนวน นกั ศึกษำทล่ี งทะเบียนเรียนกบั จำนวนหน่วยกิตแตล่ ะรำยวชิ ำที่เปิดสอนทุกรำยวชิ ำตลอดปกี ำรศึกษำ รวบรวม หลังจำกนักศกึ ษำลงทะเบยี นแลว้ เสรจ็ (หมดกำหนดเวลำกำรเพมิ่ – ถอน) โดยมสี ตู รกำรคำนวณ ดงั น้ี SCH = ∑nici เมอ่ื ni = จำนวนนกั ศึกษำทล่ี งทะเบยี นในวิชำที่ i ci = จำนวนหน่วยกิตของวชิ ำท่ี i 2. คำนวณคำ่ FTES โดยใช้สูตรคำนวณ ดงั น้ี จำนวนนักศึกษำเต็มเวลำเทียบเท่ำตอ่ ปี (FTES) = Student Credit Hours (SCH) ท้ังปี จำนวนหน่วยกิตตอ่ ปีกำรศึกษำตำมเกณฑม์ ำตรฐำน กำรลงทะเบยี นในระดับปรญิ ญำนนั้ ๆ คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั ร้อยเอ็ด 108 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

การปรับจานวนในระหว่างปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ใหม้ ีกำรปรับคำ่ จำนวนนักศึกษำเต็มเวลำเทียบเท่ำ ในระดับบัณฑิตศึกษำให้เป็นระดับปริญญำตรี เพื่อนำมำรวมคำนวณหำสัดส่วนจำนวนนักศึกษำเต็มเวลำ ตอ่ อำจำรย์ประจำ นักศกึ ษาเต็มเวลาในหน่วยนบั ปรญิ ญาตรี 1. กลุม่ สำขำวิชำวิทยำศำสตร์สุขภำพ = FTES ระดบั ปริญญำตร+ี FTES ระดบั บณั ฑติ ศกึ ษำ 2. กลุม่ สำขำวชิ ำวิทยำศำสตรก์ ำยภำพ = FTES ระดบั ปริญญำตรี + (2xFTES ระดับบณั ฑิตศึกษำ) 3. กลุ่มสำขำวชิ ำมนษุ ยศำสตรแ์ ละสงั คมศำสตร์ = FTES ระดบั ปริญญำตรี + (1.8xFTES ระดับบณั ฑิตศกึ ษำ) สัดสว่ นจานวนนกั ศกึ ษาเต็มเวลาตอ่ อาจารยป์ ระจาแยกตามกลุม่ สาขา สัดส่วนจานวนนกั ศึกษาเตม็ เวลาต่อจานวนอาจารย์ประจา กลมุ่ สาขา 8:1 1. วิทยำศำสตร์สขุ ภำพ 4:1 - แพทยศำสตร์ 6:1 - พยำบำลศำสตร์ 20:1 20:1 2. วิทยำศำสตรก์ ำยภำพ 8:1 3. วิศวกรรมศำสตร์ 20:1 4. สถำปตั ยกรรมศำสตร์และกำรผังเมือง 25:1 5. เกษตร ป่ำไม้และประมง 50:1 6. บรหิ ำรธุรกจิ พำณิชยศำสตร์ บัญชี กำรจดั กำร กำรทอ่ งเท่ียว เศรษฐศำสตร์ 30:1 7. นิติศำสตร์ 8:1 8. ครุศำสตร์/ศึกษำศำสตร์ 25:1 9. ศลิ ปกรรมศำสตร์ วิจิตรศิลป์และประยุกต์ศลิ ป์ 10. สงั คมศำสตร/์ มนุษยศำสตร์ สูตรการคานวณ 1. คำนวณหำค่ำควำมแตกต่ำงจำกเกณฑ์มำตรฐำนและนำมำคดิ เปน็ คำ่ รอ้ ยละ ตำมสตู ร สัดส่วนจำนวนนกั ศึกษำเตม็ เวลำ สดั สว่ นจำนวนนักศึกษำเต็มเวลำ X 100 ตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำตำมเกณฑ์มำตรฐำน ตอ่ จำนวนอำจำรย์ประจำทเ่ี ป็นจริง - สัดส่วนจำนวนนักศึกษำเต็มเวลำตอ่ จำนวนอำจำรย์ประจำตำมเกณฑ์มำตรฐำน คู่มอื การประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลัยราชภฏั รอ้ ยเอด็ 109 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

2. นำค่ำรอ้ ยละจำกข้อ 1 มำคำนวณคะแนนดังนี้ 2.1) ค่ำร้อยละน้อยกว่ำหรอื เทำ่ กับรอ้ ยละ 10 คิดเป็น 5 คะแนน 2.2) คำ่ ร้อยละมำกกว่ำหรือเทำ่ กบั รอ้ ยละ 20 คดิ เป็น 0 คะแนน 2.3) ค่ำร้อยละมำกกว่ำรอ้ ยละ 10 แตน่ ้อยกวำ่ ร้อยละ 20 ให้นำมำคิดคะแนนดังน้ี คะแนนทไ่ี ด้ = 5 - (คำ่ ร้อยละที่คำนวณได้จำก 2.3) 4 ตัวอยา่ งการคานวณ จำนวนนักศึกษำเต็มเวลำเทียบเท่ำต่อปี (FTES) ต่อจำนวนอำจำรย์ประจำของหลักสูตรหนึ่งทำงด้ำน สงั คมศำสตร์/มนุษยศำสตร์ = 24 คำ่ ควำมแตกตำ่ งจำกเกณฑม์ ำตรฐำน = 24-25 = ร้อยละ -4 ไดค้ ะแนน 5 คะแนน X100 25 จำนวนนกั ศึกษำเต็มเวลำเทยี บเท่ำตอ่ ปี (FTES) ตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำของหลกั สตู รหนง่ึ ทำงด้ำน สงั คมศำสตร/์ มนษุ ยศำสตร์ = 32 ค่ำควำมแตกต่ำงจำกเกณฑม์ ำตรฐำน = 32-25 = ร้อยละ28 ไดค้ ะแนน 0 คะแนน X100 25 จำนวนนกั ศึกษำเต็มเวลำเทยี บเทำ่ ต่อปี (FTES) ต่อจำนวนอำจำรย์ประจำของหลักสูตรหนึง่ ทำงดำ้ น สงั คมศำสตร์/มนุษยศำสตร=์ 28 ค่ำควำมแตกตำ่ งจำกเกณฑม์ ำตรฐำน = 28-25 คะแนน = 5 - (12) = 5-3 = 2 คะแนน = รอ้X1ย0ล0ะ 12 25 4 หมายเหตุ : - กำรคิดค่ำ FTES กรณีหลักสูตรท่ีสภำวิชำชีพกำหนดสัดส่วนจำนวนนักศึกษำต่ออำจำรย์ประจำ ไม่ตรงกับ สัดส่วนที่กำหนดไว้ในคู่มือกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำภำยในระดับอุดมศึกษำ พ.ศ.2557 ให้สถำบันอุดมศึกษำยึดตำม สัดส่วนที่สภำวิชำชีพกำหนด - กรณีท่คี ณะมีหลำยกลุ่มสำขำ ต้องแยกอำจำรยป์ ระจำว่ำอยกู่ ลุม่ สำขำใดก่อนนำมำหำค่ำคะแนน คูม่ ือการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอด็ 110 ประจาปีการศกึ ษา 2562

ของแตล่ ะกลมุ่ แลว้ นำมำคดิ คะแนนเฉลย่ี เปน็ ของคณะ ตัวบง่ ช้ที ่ี 1.5 การบริการนักศกึ ษาระดับปริญญาตรี ชนิดของตัวบ่งชี้ กระบวนกำร คาอธิบายตัวบง่ ชี้ คณะควรจัดบริกำรด้ำนต่ำงๆ ให้นักศึกษำและศษิ ย์เกำ่ ในกิจกรรมทเี่ ปน็ ประโยชนก์ ับนกั ศกึ ษำ เพ่ือ กำรดำรงชวี ิตอย่ำงมีควำมสุขและคมุ้ ค่ำในระหว่ำงกำรใชช้ ีวติ ในคณะ ตัง้ แต่กำรให้คำปรึกษำ ทั้งด้ำนวิชำกำร และกำรใช้ชีวิต จัดบริกำรข้อมูลหน่วยงำนท่ีให้บริกำร เช่น ทุนกู้ยืมกำรศึกษำ แหล่งทุนกำรศึกษำต่อ กำร บรกิ ำรจัดหำงำน แหล่งข้อมูลกำรฝึกประสบกำรณ์วิชำชีพ กำรเตรียมควำมพร้อมเพ่ือกำรทำงำนเม่ือสำเร็จ กำรศึกษำ ข้อมูลข่ำวสำรควำมเคล่ือนไหวในและนอกสถำบันท่ีจำเป็นแก่นักศึกษำและศิษย์เก่ำ โดยกำร ใหบ้ ริกำรทั้งหมดต้องใหค้ วำมสำคัญกบั กำรบริกำรที่มีคณุ ภำพและเกิดประโยชนแ์ ก่ผู้รับบริกำรอย่ำงแทจ้ ริง เกณฑม์ าตรฐาน 1. จัดบริกำรใหค้ ำปรึกษำทำงวิชำกำร และกำรใชช้ ีวิตแก่นักศึกษำในคณะ 2. มีกำรให้ข้อมูลของหน่วยงำนที่ให้บริกำร กจิ กรรมพเิ ศษนอกหลกั สตู รแหล่งงำนทัง้ เต็มเวลำและ นอกเวลำแกน่ กั ศกึ ษำ 3. จัดกิจกรรมเตรียมควำมพรอ้ มเพอ่ื กำรทำงำนเม่อื สำเรจ็ กำรศึกษำแก่นักศึกษำ 4. ประเมินคุณภำพของกำรจัดกิจกรรมและกำรจัดบริกำรในข้อ 1-3 ทุกข้อไม่ต่ำกว่ำ 3.51 จำก คะแนนเต็ม 5 5. นำผลกำรประเมินจำกข้อ 4 มำปรับปรุงพัฒนำกำรให้บริกำรและกำรให้ข้อมูล เพ่ือส่งให้ผล กำรประเมนิ สูงขนึ้ หรือเปน็ ไปตำมควำมคำดหวงั ของนักศกึ ษำ 6. ใหข้ ้อมูลและควำมรูท้ เ่ี ปน็ ประโยชนใ์ นกำรประกอบอำชีพแกศ่ ษิ ย์เก่ำ เกณฑ์การประเมิน คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มกี ำรดำเนนิ กำร มกี ำรดำเนินกำร มกี ำรดำเนินกำร มีกำรดำเนนิ กำร มีกำรดำเนนิ กำร 1 ข้อ 2 ขอ้ 3-4 ขอ้ 5 ขอ้ 6 ขอ้ คูม่ ือการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอ็ด 111 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

ตัวบง่ ชีท้ ี่ 1.6 กิจกรรมนกั ศึกษาระดับปริญญาตรี ชนิดของตวั บง่ ช้ี กระบวนกำร คาอธิบายตัวบ่งชี้ คณะต้องสง่ เสรมิ ใหม้ ีกำรจัดกจิ กรรมนักศกึ ษำตำ่ งๆ อย่ำงเหมำะสมและครบถ้วน กจิ กรรมนักศึกษำ หมำยถึงกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ดำเนินกำรทัง้ โดยคณะและโดยองคก์ รนักศึกษำ เป็นกิจกรรมทผ่ี ้เู ขำ้ รว่ มจะมี โอกำสได้รับกำรพัฒนำสติปัญญำ สังคม อำรมณ์ ร่ำงกำย และคุณธร รมจริยธรรม โดยสอดคล้องกับ คณุ ลักษณะบณั ฑิตท่ีพึงประสงค์ ที่ประกอบดว้ ยมำตรฐำนผลกำรเรียนรู้ตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิแห่งชำติ 5 ประกำร ได้แก่ (1) คุณธรรมจริยธรรม (2) ควำมรู้ (3) ทักษะทำงปัญญำ (4) ทักษะควำมสัมพันธ์ระหว่ำง บคุ คลและควำมรบั ผิดชอบ (5) ทกั ษะกำรวิเครำะห์เชงิ ตัวเลข กำรสื่อสำรและกำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศและ คุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ท่ี คณะ สถำบัน และสภำ/องค์กรวิชำชีพได้กำหนดเพ่ิมเติมตลอดจน สอดคล้องกับควำมต้องกำรของผู้ใช้บัณฑิต และนำหลัก PDSA / PDCA (Plan, Do, Study/Check, Act) ไปใช้ในชวี ติ ประจำวันเป็นกำรพฒั นำคุณภำพนกั ศึกษำอย่ำงยั่งยืน เกณฑ์มาตรฐาน 1. จัดทำแผนกำรจัดกิจกรรมพัฒนำนักศึกษำในภำพรวมของคณะโดยให้นักศึกษำมสี ่วนร่วมในกำร จัดทำแผนและกำรจดั กิจกรรม 2. ในแผนกำรจัดกิจกรรมพัฒนำนักศึกษำ ให้ดำเนินกิจกรรมท่ีส่งเสริมคุณลักษณะบัณฑิตตำม มำตรฐำนผลกำรเรยี นรู้ตำมกรอบมำตรฐำนคณุ วฒุ ิแหง่ ชำติ 5 ประกำร ใหค้ รบถ้วน ประกอบด้วย (1) คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (2) ควำมรู้ (3) ทักษะทำงปญั ญำ (4) ทกั ษะควำมสมั พันธ์ระหว่ำงบุคคลและควำมรบั ผิดชอบ (5) ทักษะกำรวเิ ครำะห์เชิงตัวเลข กำรส่ือสำรและกำรใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศ 3. จัดกิจกรรมใหค้ วำมร้แู ละทกั ษะกำรประกันคุณภำพแก่นักศึกษำ 4. ทุกกิจกรรมทด่ี ำเนนิ กำร มีกำรประเมนิ ผลควำมควำมสำเรจ็ ตำมวตั ถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมและนำ ผลกำรประเมินมำปรับปรุงกำรดำเนินงำนครั้งตอ่ ไป 5. ประเมนิ ควำมสำเรจ็ ตำมวตั ถปุ ระสงคข์ องแผนกำรจดั กจิ กรรมพฒั นำนักศกึ ษำ 6. นำผลกำรประเมนิ ไปปรับปรงุ แผนหรอื ปรบั ปรุงกำรจดั กจิ กรรมเพอ่ื พัฒนำนักศกึ ษำ เกณฑ์การประเมนิ คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มีกำรดำเนินกำร มีกำรดำเนินกำร มีกำรดำเนินกำร มกี ำรดำเนนิ กำร มกี ำรดำเนินกำร คูม่ ือการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอ็ด 112 ประจาปีการศกึ ษา 2562

1 ข้อ 2 ขอ้ 3-4 ขอ้ 5 ข้อ 6 ข้อ องค์ประกอบท่ี 2 การวิจัย สถำบันอุดมศึกษำแต่ละแห่งอำจมีจุดเน้นในเรื่องกำรวิจัยที่แตกต่ำงกันขึ้นกับสภำพแวดล้อมและ ควำมพรอ้ มของแต่ละสถำบนั อย่ำงไรก็ตำม ทกุ สถำบนั อุดมศกึ ษำจำเปน็ ตอ้ งมพี ันธกิจน้ีเป็นสว่ นหนึ่งของพนั ธ กจิ สถำบนั ดงั น้ัน จึงตอ้ งมีระบบและกลไกควบคมุ ให้สำมำรถดำเนนิ กำรในพนั ธกจิ ด้ำนน้ีอย่ำงมีประสิทธิภำพ และคุณภำพตำมจุดเน้นเฉพำะของแต่ละสถำบัน เพ่ือให้ได้ผลงำนวิจัยและงำนสร้ำงสรรค์ที่เกิดประโยชน์ กำรวจิ ยั จะประสบควำมสำเร็จและเกดิ ประโยชนจ์ ำเปน็ ตอ้ งมีส่วนประกอบทีส่ ำคญั 3 ประกำร คอื 1) สถำบัน ต้องมีแผนกำรวิจัย มีระบบและกลไก ตลอดจนมีกำรสนับสนุนทรัพยำกรให้สำมำรถดำเนินกำรได้ตำมแผน 2) คณำจำรย์มีส่วนร่วมในกำรวิจัยอย่ำงเข้มแข็ง โดยบูรณำกำรงำนวิจัยกับกำรจัดกำรเรียนกำรสอน และ พันธกิจด้ำนอ่ืนๆ ของสถำบัน และ 3) ผลงำนวิจัยมีคุณภำพ มีประโยชน์ สนองยุทธศำสตร์ของชำติและ มกี ำรเผยแพร่อย่ำงกว้ำงขวำง ตวั บ่งช้ี จำนวน 3 ตัวบง่ ชี้ คอื ตวั บง่ ชีท้ ี่ 2.1 ระบบและกลไกกำรบรหิ ำรและพฒั นำงำนวจิ ยั หรืองำนสรำ้ งสรรค์ ตวั บ่งช้ที ี่ 2.2 เงนิ สนับสนุนงำนวิจยั และงำนสรำ้ งสรรค์ ตัวบง่ ช้ที ่ี 2.3 ผลงำนวิชำกำรของอำจำรย์ประจำและนักวจิ ัย คู่มือการประกนั คุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรอ้ ยเอด็ 113 ประจาปีการศึกษา 2562

ตัวบง่ ชท้ี ่ี 2.1 ระบบและกลไกการบริหารและพัฒนางานวิจัยหรอื งานสรา้ งสรรค์ ชนดิ ของตวั บง่ ชี้ กระบวนกำร คาอธบิ ายตัวบง่ ช้ี ส ถ ำ บั น อุ ด ม ศึ ก ษ ำ ต้ อ ง มี ก ำ ร บ ริ ห ำ ร จั ด ก ำ ร ง ำ น วิ จั ย แ ล ะ ง ำ น ส ร้ ำ ง ส ร ร ค์ ที่ มี คุ ณ ภ ำ พ โ ด ย มี แนวทำงกำรดำเนินงำนท่เี ป็นระบบและมกี ลไกสง่ เสรมิ สนับสนุนครบถ้วนเพื่อใหส้ ำมำรถดำเนินกำรได้ตำมแผน ทก่ี ำหนดไว้ ท้ังกำรสนับสนุนดำ้ นกำรจัดหำแหล่งทุนวิจยั และกำรจดั สรรทุนวิจัยจำกงบประมำณของสถำบัน ให้กับบุคลำกร สง่ เสริมพัฒนำสมรรถนะแก่อำจำรย์และนกั วิจัย กำรสนับสนุนทรัพยำกรท่ีจำเป็น ซึ่งรวมถึง ทรัพยำกรบุคคล ทรัพยำกรกำรเงินเครื่องมอื อุปกรณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ งต่ำงๆตลอดจนจดั ระบบสร้ำงขวญั และกำลงั ใจ แก่นักวิจัยอย่ำงเหมำะสมตลอดจนมีระบบและกลไกเพื่อช่วยในกำรคุ้มครองสิทธ์ิของงำนวิจัยหรือ งำนสร้ำงสรรค์ทีน่ ำไปใชป้ ระโยชน์ เกณฑม์ าตรฐาน 1. มีระบบสำรสนเทศเพอื่ กำรบริหำรงำนวิจยั ท่ีสำมำรถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นกำรบริหำรงำนวจิ ยั หรอื งำนสรำ้ งสรรค์ 2. สนบั สนุนพนั ธกจิ ดำ้ นกำรวจิ ัยหรอื งำนสรำ้ งสรรค์ในประเดน็ ต่อไปนี้ - ห้องปฏิบัติกำรหรือห้องปฏิบัตงิ ำนสร้ำงสรรค์หรือหน่วยวิจัย หรือศูนย์เครื่องมือ หรือศูนย์ให้ คำปรึกษำและสนบั สนนุ กำรวิจัยหรอื งำนสรำ้ งสรรค์ - ห้องสมุดหรอื แหลง่ ค้นควำ้ ขอ้ มลู สนบั สนุนกำรวิจัยหรอื งำนสร้ำงสรรค์ - ส่ิงอำนวยควำมสะดวกหรือกำรรักษำควำมปลอดภัยในกำรวิจัยหรือกำรผลิตงำนสร้ำงสรรค์ เช่น ระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศ ระบบรกั ษำควำมปลอดภัยในหอ้ งปฏิบัตกิ ำร - กิจกรรมวิชำกำรที่ส่งเสริมงำนวิจัยหรืองำนสร้ำงสรรค์ เช่น กำรจัดประชุมวิชำกำร กำรจัด แสดงงำนสรำ้ งสรรค์ กำรจัดใหม้ ศี ำสตรำจำรย์อำคันตกุ ะหรอื ศำสตรำจำรย์รับเชญิ (visiting professor) 3. จดั สรรงบประมำณ เพ่ือเป็นทนุ วิจัยหรืองำนสรำ้ งสรรค์ 4. จัดสรรงบประมำณเพื่อสนับสนุนกำรเผยแพร่ผลงำนวิจัยหรืองำนสร้ำงสรรค์ในกำรประชุม วชิ ำกำรหรือกำรตพี มิ พ์ในวำรสำรระดบั ชำติหรือนำนำชำติ 5. มกี ำรพัฒนำสมรรถนะอำจำรยแ์ ละนกั วิจัย มกี ำรสร้ำงขวญั และกำลงั ใจตลอดจนยกย่องอำจำรย์ และนกั วิจัยที่มผี ลงำนวิจัยหรืองำนสรำ้ งสรรคด์ เี ด่น 6. มีระบบและกลไกเพ่ือช่วยในกำรค้มุ ครองสิทธ์ขิ องงำนวจิ ยั หรืองำนสรำ้ งสรรค์ทนี่ ำไปใชป้ ระโยชน์ และดำเนินกำรตำมระบบที่กำหนด เกณฑ์การประเมนิ คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มกี ำรดำเนินกำร มีกำรดำเนินกำร คะแนน 1 มีกำรดำเนนิ กำร มีกำรดำเนนิ กำร มีกำรดำเนนิ กำร คูม่ ือการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั ร้อยเอด็ 114 ประจาปีการศึกษา 2562

1 ขอ้ 2 ขอ้ 3-4 ขอ้ 5 ข้อ 6 ขอ้ ตัวบง่ ช้ีที่ 2.2 เงนิ สนับสนนุ งานวิจยั และงานสร้างสรรค์ ชนิดชองตวั บง่ ช้ี ปัจจยั นำเข้ำ คาอธิบายตัวบ่งชี้ ปัจจัยสำคัญทส่ี ง่ เสริมสนับสนุนใหเ้ กดิ กำรผลติ งำนวิจัยหรืองำนสรำ้ งสรรค์ในสถำบันอดุ มศึกษำ คือ เงินสนับสนุนงำนวิจัยหรืองำนสร้ำงสรรค์ ดังนัน้ สถำบันอุดมศึกษำจึงต้องจัดสรรเงนิ จำกภำยในสถำบันและท่ี ไดร้ บั จำกภำยนอกสถำบันเพ่ือสนบั สนุนกำรทำวิจัยหรืองำนสรำ้ งสรรค์อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพตำมสภำพแวดล้อม และจุดเน้นของสถำบัน นอกจำกน้ันเงินทุนวจิ ัยหรอื งำนสรำ้ งสรรค์ที่คณะได้รับจำกแหลง่ ทนุ ภำยนอกสถำบัน ยงั เปน็ ตัวบ่งชท้ี ีส่ ำคัญ ท่แี สดงถงึ ศักยภำพดำ้ นกำรวจิ ัยของคณะ โดยเฉพำะคณะท่ีอยใู่ นกลมุ่ ทีเ่ น้นกำรวิจยั เกณฑ์การประเมนิ โดยกำรแปลงจำนวนเงนิ ตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำและนกั วจิ ยั ประจำเปน็ คะแนนระหว่ำง 0 – 5 1. เกณฑ์เฉพาะคณะกลมุ่ ข และ ค2 จาแนกเป็น 3 กล่มุ สาขาวิชา กลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวนเงินสนับสนุนงำนวิจยั หรอื งำนสร้ำงสรรค์จำกภำยในและภำยนอกสถำบนั ท่ีกำหนดให้ เปน็ คะแนนเตม็ 5 = 60,000 บำทข้ึนไปต่อคน กลมุ่ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรส์ ุขภาพ จำนวนเงินสนบั สนุนงำนวิจยั หรืองำนสร้ำงสรรค์จำกภำยในและภำยนอกสถำบันท่กี ำหนดให้ เปน็ คะแนนเตม็ 5 = 50,000 บำทข้ึนไปตอ่ คน กลุม่ สาขาวิชามนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ จำนวนเงินสนบั สนุนงำนวิจัยหรืองำนสรำ้ งสรรคจ์ ำกภำยในและภำยนอกสถำบันท่ีกำหนดให้ เปน็ คะแนนเต็ม 5 = 25,000 บำทขน้ึ ไปตอ่ คน 2. เกณฑ์เฉพาะคณะกลุ่ม ค1 และ ง จาแนกเปน็ 3 กลุ่มสาขาวชิ า กลมุ่ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวนเงินสนับสนนุ งำนวจิ ยั หรืองำนสรำ้ งสรรคจ์ ำกภำยในและภำยนอกสถำบันท่ีกำหนดให้ เปน็ คะแนนเตม็ 5 = 220,000 บำทขึ้นไปต่อคน กลมุ่ สาขาวชิ าวิทยาศาสตรส์ ขุ ภาพ จำนวนเงนิ สนับสนนุ งำนวิจัยหรืองำนสรำ้ งสรรคจ์ ำกภำยในและภำยนอกสถำบันท่กี ำหนดให้ เป็นคะแนนเต็ม 5 = 180,000 บำทขน้ึ ไปต่อคน คูม่ ือการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอด็ 115 ประจาปีการศกึ ษา 2562

กลมุ่ สาขาวชิ ามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ จำนวนเงนิ สนบั สนนุ งำนวจิ ยั หรอื งำนสร้ำงสรรค์จำกภำยในและภำยนอกสถำบันท่ีกำหนดให้ เป็นคะแนนเตม็ 5 = 100,000 บำทขนึ้ ไปตอ่ คน สตู รการคานวณ 1. คำนวณจำนวนเงินสนบั สนนุ งำนวจิ ยั หรอื งำนสร้ำงสรรค์จำกภำยในและภำยนอกสถำบนั ต่อจำนวนอำจำรยป์ ระจำ และนกั วจิ ยั จำนวนเงนิ สนับสนุนงำนวจิ ัยฯ = จำนวนเงินสนบั สนุนงำนวิจัยฯภำยในและภำยนอก จำนวนอำจำรย์ประจำและนักวิจัย 2. แปลงจำนวนเงนิ ทคี่ ำนวณไดใ้ นขอ้ 1 เทยี บกับคะแนนเตม็ 5 คะแนนท่ีได้ = จำนวนเงนิ สนับสนุนงำนวิจยั ฯจำกภำยในและภำยนอก X5 จำนวนเงินสนับสนนุ งำนวจิ ยั ฯที่กำหนดใหเ้ ป็นคะแนนเต็ม 5 สรปุ คะแนนท่ีไดใ้ นระดบั คณะ คะแนนทไ่ี ดใ้ นระดบั คณะ = ค่ำเฉลี่ยของคะแนนทีไ่ ด้ของทกุ กลุม่ สำขำวชิ ำในคณะ หมายเหตุ 1. จำนวนอำจำรย์และนกั วิจยั ให้นบั ตำมปกี ำรศกึ ษำ และนับเฉพำะทีป่ ฏิบัติงำนจรงิ ไม่นับรวมผลู้ ำศึกษำต่อ 2. ให้นับจำนวนเงินที่มกี ำรลงนำมในสัญญำรับทุนในปีกำรศึกษำหรือปีงบประมำณหรือปีปฏิทนิ น้ันๆ ไม่ใช่จำนวน เงินท่ีเบกิ จ่ำยจริง 3. กรณีที่มีหลักฐำนกำรแบ่งสัดสว่ นเงินสนับสนุนงำนวิจัย ซึ่งอำจเปน็ หลักฐำนจำกแหล่งทุนหรือหลักฐำนจำกกำร ตกลงร่วมกนั ของสถำบันทีร่ ว่ มโครงกำร ให้แบง่ สดั สว่ นเงินตำมหลักฐำน ทีป่ รำกฏ กรณีท่ีไม่มหี ลกั ฐำน ใหแ้ บง่ เงินตำมสัดสว่ นผู้ร่วมวจิ ัยของแตล่ ะคณะ 4. กำรนับจำนวนเงินสนับสนุนโครงกำรวิจัย สำมำรถนับเงนิ โครงกำรวิจัยสถำบันท่ีได้ลงนำมในสัญญำรับทุนโดย อำจำรย์ประจำหรอื นักวิจัย แต่ไม่สำมำรถนบั เงนิ โครงกำรวจิ ัยสถำบันทบี่ คุ ลำกรสำยสนบั สนุนทไ่ี ม่ใช่นักวิจยั เปน็ ผู้ดำเนนิ กำร ค่มู อื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรอ้ ยเอ็ด 116 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562

ตวั บง่ ชี้ที่ 2.3 ผลงานทางวชิ าการของอาจารย์ประจาและนักวจิ ยั ชนดิ ของตวั บง่ ช้ี ผลลพั ธ์ คาอธบิ ายตัวบ่งช้ี ผลงำนทำงวิชำกำรเป็นขอ้ มูลท่สี ำคญั ในกำรแสดงให้เหน็ ว่ำอำจำรย์ประจำและนกั วจิ ยั ได้สรำ้ งสรรค์ ขนึ้ เพือ่ แสดงใหเ้ ห็นถงึ ควำมกำ้ วหนำ้ ทำงวชิ ำกำรและกำรพฒั นำองคค์ วำมร้อู ยำ่ งต่อเน่ือง เปน็ ผลงำนท่มี ีคณุ ค่ำ สมควรส่งเสรมิ ใหม้ ีกำรเผยแพร่และนำไปใชป้ ระโยชน์ทั้งเชิงวิชำกำรและกำรแขง่ ขันของประเทศ ผลงำนทำง วชิ ำกำรอยู่ในรปู ของบทควำมวิจยั หรอื บทควำมทำงวิชำกำรที่ตพี ิมพใ์ นรำยงำนสบื เนอ่ื งจำกกำรประชมุ วชิ ำกำร ระดับชำติ หรอื ระดบั นำนำชำติ ตีพมิ พใ์ นวำรสำรวิชำกำรท่ีปรำกฏในฐำนข้อมูล TCI หรือ Scopus หรอื ตำม ประกำศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำว่ำด้วย หลักเกณฑ์กำรพิจำรณำวำรสำรทำง วชิ ำกำรสำหรับกำรเผยแพรผ่ ลงำนทำงวชิ ำกำร พ.ศ. 2556 ผลงำนไดร้ บั กำรจดอนสุ ทิ ธบิ ัตรหรอื สิทธบิ ตั ร หรือ เป็นผลงำนทำงวิชำกำรรับใช้สังคมที่ผ่ำนกำรประเมินตำแหน่งทำงวิชำกำรแล้วผลงำนวิจัยที่หน่วยงำนหรือ องคก์ รระดบั ชำตวิ ำ่ จ้ำงใหด้ ำเนินกำร ตำรำหรือหนงั สือท่ีใช้ในกำรขอผลงำนทำงวชิ ำกำรและผ่ำนกำรพิจำรณำ ตำมเกณฑก์ ำรขอตำแหนง่ ทำงวชิ ำกำรแล้ว โดยมีวธิ ีกำรคดิ ดังน้ี เกณฑ์การประเมนิ โดยกำรแปลงค่ำร้อยละของผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรย์ประจำ และนกั วิจัยเป็นคะแนนระหวำ่ ง 0-5 เกณฑแ์ บ่งกลุม่ ตำมสำขำวชิ ำดังน้ี 1. เกณฑเ์ ฉพาะคณะ กล่มุ ข และ ค2 กลมุ่ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร้อยละของผลรวมถ่วงน้ำหนกั ของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ประจำและนกั วจิ ยั ทก่ี ำหนดไวเ้ ป็นคะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 30 ขึน้ ไป กลมุ่ สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์สุขภาพ ร้อยละของผลรวมถว่ งนำ้ หนกั ของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ประจำและนกั วิจยั ที่กำหนดไว้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 30 ขน้ึ ไป กลมุ่ สาขาวชิ ามนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ รอ้ ยละของผลรวมถว่ งน้ำหนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ประจำและนกั วิจยั ที่กำหนดไว้เป็นคะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 20 ขน้ึ ไป 2. เกณฑเ์ ฉพาะคณะกล่มุ ค1 และ ง กลุ่มสาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ร้อยละของผลรวมถ่วงนำ้ หนกั ของผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรย์ประจำและนักวจิ ัย คู่มือการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั ร้อยเอ็ด 117 ประจาปีการศกึ ษา 2562

ทก่ี ำหนดไว้เป็นคะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป กลมุ่ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ รอ้ ยละของผลรวมถว่ งน้ำหนกั ของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ประจำและนกั วจิ ัย ท่กี ำหนดไวเ้ ป็นคะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป กลมุ่ สาขาวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ร้อยละของผลรวมถ่วงนำ้ หนักของผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรย์ประจำและนกั วจิ ยั ทกี่ ำหนดไวเ้ ป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 40 ขึ้นไป สตู รการคานวณ 1. คำนวณค่ำรอ้ ยละของผลรวมถว่ งน้ำหนกั ของผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรยป์ ระจำและ นกั วจิ ัยตำมสตู ร ผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ประจำและนกั วิจยั X 100 จำนวนอำจำรย์ประจำและนกั วิจัยท้ังหมด 2. แปลงค่ำรอ้ ยละทีค่ ำนวณได้ในขอ้ 1 เทยี บกับคะแนนเต็ม 5 คะแนนทีไ่ ด้ = ร้อยละของผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรยป์ ระจำและนักวิจับ รอ้ ยละของผลรวมถ่วงน้ำหนักของผลงำนทำงวชิ ำกำรของอำจำรยป์ ระจำและนักวิจัย X5 ทก่ี ำหนดให้เปน็ คะแนนเต็ม 5 กาหนดระดับคณุ ภาพผลงานทางวชิ าการดงั นี้ ค่านา้ หนัก ระดับคณุ ภาพ ·0.20 บทควำมวจิ ัยหรือบทควำมวชิ ำกำรฉบับสมบรู ณท์ ตี่ พี ิมพ์ในรำยงำนสืบเน่ืองจำกกำรประชมุ วิชำกำรระดับชำติ ··0.40 มีกำรยนื่ จดอนุสทิ ธิบตั ร บทควำมวิจัยหรือบทควำมวิชำกำรฉบับสมบรู ณท์ ่ตี พี ิมพ์ในรำยงำนสืบเน่ืองจำกกำรประชมุ วิชำกำรระดับ นำนำชำติ · มกี ำรยืน่ จดอนุสิทธิบัตร ·0.60 บทควำมวจิ ยั หรือบทควำมวชิ ำกำรฉบบั สมบูรณท์ ตี่ พี ิมพ์ในรำยงำนสืบเนื่องจำกกำรประชมุ วิชำกำรระดบั นำนำชำติ ทีไ่ ดต้ พี มิ พเ์ ผยแพรใ่ นฐำนข้อมูลระดับนำนำชำตติ ำมประกำศ ก.พ.อ. · บทควำมวจิ ยั หรือบทควำมวิชำกำรฉบบั สมบรู ณ์ทต่ี ีพมิ พ์ในวำรสำรวชิ ำกำรทีป่ รำกฏในฐำนข้อมูล TCI กลมุ่ ที่ 2 · มกี ำรจดแจ้งลิขสทิ ธิ์ ·0.80 ผลงำนที่ไดร้ ับกำรจดอนุสิทธิบัตร · บทควำมวิจัยหรือบทควำมวิชำกำรที่ตพี มิ พใ์ นวำรสำรวิชำกำรระดับนำนำชำตทิ ่ีไมอ่ ยู่ในฐำนข้อมลู ตำมประกำศ ·ก.พ.อ. หรอื ตพี ิมพใ์ นวำรสำรวิชำกำร ทป่ี รำกฏในฐำนข้อมลู TCI กลุ่มท่ี 1 1.00 บทควำมวิจยั หรือบทควำมวชิ ำกำรฉบบั สมบรู ณ์ที่ตีพมิ พ์ในวำรสำรวิชำกำรระดับนำนำชำตทิ ป่ี รำกฏใน ฐำนข้อมลู ระดบั นำนำชำติตำมประกำศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำว่ำดว้ ย หลักเกณฑ์กำร คู่มอื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏร้อยเอด็ 118 ประจาปกี ารศึกษา 2562

ค่านา้ หนกั ระดบั คุณภาพ พจิ ำรณำวำรสำรทำงวชิ ำกำรสำหรบั กำรเผยแพร่ผลงำนทำงวิชำกำร พ.ศ. 2562 · ผลงำนวิจัยท่หี น่วยงำนหรือองค์กรระดบั ชำตวิ ำ่ จ้ำงใหด้ ำเนินกำร · ผลงำนคน้ พบพันธพ์ุ ชื พันธสุ์ ัตว์ ที่คน้ พบใหมแ่ ละไดร้ ับกำรจดทะเบียน · ตำรำหรอื หนังสอื หรอื งำนแปลทไี่ ด้รบั กำรประเมินผ่ำนเกณฑ์กำรขอตำแหน่งทำงวิชำกำรแล้ว · ตำรำหรอื หนงั สือหรอื งำนแปลทผี่ ่ำนกำรพจิ ำรณำตำมหลักเกณฑ์กำรประเมนิ ตำแหน่งทำงวิชำกำรแตไ่ มไ่ ด้นำมำ ขอรับกำรประเมนิ ตำแหน่งทำงวิชำกำร · ผลงำนทไี่ ดร้ ับกำรจดสิทธบิ ตั ร · ผลงำนทำงวิชำกำรในลักษณะอ่ืนทไ่ี ดร้ ับกำรประเมนิ ผำ่ นเกณฑก์ ำรขอตำแหนง่ ทำงวิชำกำรแลว้ ไดแ้ ก่ ผลงำนวิชำกำรเพื่อพฒั นำอตุ สำหกรรม ผลงำนวิชำกำรเพือ่ พฒั นำกำรเรียนกำรสอนและกำรเรียนรู ผลงำนวชิ ำกำรเพอ่ื พฒั นำนโยบำยสำธำรณะ ผลงำนวิชำกำรรบั ใชสังคม กรณีศึกษำ ตำรำหรอื หนงั สือหรืองำนแปล ซอฟตแวร พจนำนุกรม สำรำนุกรม นำมำนุกรม และงำนวชิ ำกำรในลักษณะเดียวกัน หมายเหตุ 1. กำรสงบทควำมเพ่ือพิจำรณำคัดเลือกใหนำเสนอในกำรประชมุ วิชำกำรตองสงเปนฉบับสมบูรณ (Full Paper) และ เมื่อไดรับกำรตอบรับและตีพิมพแลว กำรตีพิมพตองตีพิมพเปนฉบับสมบูรณซึ่งสำมำรถอยูในรูปแบบเอกสำร หรือ ส่ือ อเิ ลก็ ทรอนิกสได 2. ผลงำนทำงวิชำกำรทั้งหมดจะตองไดรับกำรเผยแพรตำมประกำศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑและวิธีกำรพิจำรณำ แตงตง้ั บุคคลใหดำรงตำแหนงผชู วยศำสตรำจำรย รองศำสตรำจำรย และศำสตรำจำรย พ.ศ. 2560 และท่แี กไขเพิ่มเติม กำหนดระดบั คุณภำพผลงำนสรำงสรรคดำนสุนทรยี ะ ศลิ ปะหรือผลงำนสรำงสรรค ดำนวิทยำศำสตร และเทคโนโลยี ดังนี้ ค่านา้ หนกั ระดบั คุณภาพ 0.20 งำนสรำ้ งสรรค์ที่มกี ำรเผยแพรส่ สู่ ำธำรณะในลักษณะใดลกั ษณะหนง่ึ หรือผ่ำนส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ online 0.40 งำนสร้ำงสรรค์ทไี่ ด้รบั กำรเผยแพร่ในระดบั สถำบัน 0.60 งำนสร้ำงสรรค์ท่ีไดร้ บั กำรเผยแพรใ่ นระดับชำติ 0.80 งำนสรำ้ งสรรคท์ ไี่ ด้รับกำรเผยแพร่ในระดบั ควำมร่วมมือระหวำ่ งประเทศ 1.00 งำนสรำ้ งสรรคท์ ี่ได้รบั กำรเผยแพรใ่ นระดบั ภมู ิภำคอำเซยี น/นำนำชำติ ผลงำนสร้ำงสรรค์ทุกช้ินต้องผ่ำนกำรพิจำรณำจำกคณะกรรมกำรที่มีองค์ประกอบไม่น้อยกว่ำ 3 คน โดยมี บุคคลภำยนอกสถำบนั รว่ มพจิ ำรณำด้วย คู่มอื การประกันคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั ร้อยเอ็ด 119 ประจาปกี ารศึกษา 2562