ดังนั้น โครงสร้างองค์กรการจัดการในภาวะฉุกเฉินตามแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 จึงน�ำโครงสร้างองค์กรในระบบ บัญชาการเหตุการณ์ ที่ได้มีการประยุกต์ให้เข้ากับระเบียบ กฎหมาย ข้ันตอน การปฏบิ ตั งิ านตา่ ง ๆ ในการจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ซงึ่ มคี วามแตกตา่ งจากระบบ บญั ชาการเหตกุ ารณข์ องประเทศสหรฐั อเมรกิ า ทเี่ ปน็ ประเทศตน้ แบบของระบบ บญั ชาการเหตุการณ์ หรือประเทศอ่ืน ๆ เชน่ แคนาดา ออสเตรเลีย อินเดีย ท่ไี ด้ น�ำระบบ บัญชาการเหตกุ ารณม์ าประยกุ ตใ์ ช้ เป็นต้น แนวทางการจดั ต้งั องคก์ รปฏบิ ตั กิ ารจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ 1) ศูนย์ปฏิบัติการฉกุ เฉินทอ้ งถิน่ เม่ือเกิดสาธารณภัย (หรือคาดว่าจะเกิด) สาธารณภัยข้ึนในพื้นที่ ให้กองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จดั ตงั้ “ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารฉกุ เฉนิ ทอ้ งถนิ่ ” เพอื่ ทำ� หนา้ ที่ จดั การสาธารณภยั ทเี่ กดิ ขน้ึ (ณ ท่ีเกิดเหตุ) จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งประสาน กบั หนว่ ยงาน สว่ นราชการ และภาคเอกชน ในการจดั การสาธารณภยั ทกุ ขน้ั ตอน หากในกรณีทต่ี ้องการทรัพยากรในการจัดการสาธารณภัยเพ่มิ เตมิ ให้ขอรับการ สนับสนุนจากกองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถนิ่ ในเขตพนื้ ทต่ี ดิ ตอ่ หรอื ใกลเ้ คยี ง และ/หรอื จากกองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอ โดยใชโ้ ครงสรา้ งตามระบบบญั ชาการเหตกุ ารณ์ แนวความคดิ ในการปฏบิ ตั ิ สำ� หรบั การจดั ตง้ั ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารฉกุ เฉนิ ทอ้ งถน่ิ ซ่ึงประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ได้แก่ เทศบาลนคร เทศบาลเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ขนาดเล็ก ได้แก่ เทศบาลตำ� บล และองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล ทมี่ คี วามแตกตา่ งกนั ในมติ ติ า่ ง ๆ เปน็ อยา่ งมาก ไมว่ า่ จะเปน็ ในดา้ น พน้ื ท่ี ประชากร กำ� ลงั คน ทรพั ยากร ฯลฯ แตม่ คี วามเหมอื นกนั 92 องค์กรปฏบิ ัตกิ ารจดั การในภาวะฉกุ เฉิน ตามแผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ พ.ศ. 2558
คือ เป็นองค์กรในระดบั พ้ืนที่ ทมี่ ีทรพั ยากรการเผชิญเหตฉุ ุกเฉินของหน่วยงาน จ�ำนวนจ�ำกัด และมีหน้าที่ต้องเข้าเผชิญเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในทันที ไม่ว่าจะ เป็นภารกิจในด้านการกู้ชีพ กู้ภัย จึงถูกก�ำหนดให้เป็นศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ท่ีมีโครงสร้างองค์กร ส�ำหรับการเผชิญเหตุฉุกเฉินท่ีไม่เกิน 6 -12 ช่ัวโมง (ตามสภาพและจ�ำนวนทรัพยากรฉุกเฉินท่ีมีในแต่ละท้องถ่ิน) หากเกิน ขีดความสามารถ ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอจะท�ำหน้าท่ีเข้าควบคุมสถานการณ์ อำ� นวยการส่ังการ ประสานการปฏบิ ตั ิ ในหว้ งตอ่ ไป โครงสร้างศูนยป์ ฏบิ ตั ิการฉกุ เฉนิ ทอ้ งถน่ิ (ทอ้ งถน่ิ ขนาดเล็ก) ระบบบญั ชาการณ์เหตุการณก์ ับการจัดการในภาวะฉกุ เฉินของประเทศไทย 93
โครงสร้างศูนย์ป ิฏ ับติการ ุฉกเฉิน ้ทอง ่ิถน ( ้ทอง ่ิถนขนาดใหญ่) 94 องคก์ รปฏบิ ตั กิ ารจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ ตามแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ พ.ศ. 2558
2) ศูนยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณ์อ�ำเภอ เมอื่ เกดิ สาธารณภยั ขนึ้ ในพนื้ ท่ี และพจิ ารณาเหน็ วา่ หรอื ไดร้ บั รายงาน จากกองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ วา่ ไมส่ ามารถควบคมุ สถานการณไ์ ด้ ตามทรพั ยากร กำ� ลงั คน ความรู้ ความสามารถ ท่ีมีอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ให้กองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยอ�ำเภอ จัดต้ัง “ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอ” เพื่อท�ำหน้าที่ เขา้ ควบคมุ สถานการณ์ อำ� นวยการ สง่ั การ ประสานการปฏบิ ตั ริ ะหวา่ งหนว่ ยงาน สว่ นราชการตา่ ง ๆ ทงั้ ฝา่ ยพลเรอื น และฝา่ ยทหาร เพอื่ จดั การสาธารณภยั ทเี่ กดิ ขน้ึ โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอขึ้น ณ สถานที่ที่เห็นว่าเหมาะสม กับการเผชิญเหตุท่ีเกิดขึ้น จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกต ิ โดยใชโ้ ครงสร้างตามระบบบัญชาการเหตุการณ์ แนวความคดิ ในการจดั ตง้ั ศนู ยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณอ์ ำ� เภอ ซง่ึ เปน็ องคก์ ร การเผชญิ เหตุฉกุ เฉินในระดบั การจดั การภยั ระดับ 1 หรือสาธารณภัยขนาดเล็ก เพื่อควบคุมสถานการณ์ อ�ำนวยการ ส่ังการหน่วยงานต่าง ๆ ในระดับอ�ำเภอ เพื่อให้สามารถระดมทรัพยากร เคร่ืองมือ สิ่งอุปกรณ์ท่ีมีอยู่ในพ้ืนท่ีอ�ำเภอ ไปสนับสนุน ผู้อ�ำนวยการท้องถ่ินท่ีเกิดเหตุ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาตรา 22 วรรค 2 และมาตรา 23 ระบบบญั ชาการณ์เหตุการณก์ ับการจดั การในภาวะฉุกเฉินของประเทศไทย 95
โครงส ้ราง ูศนย์ ับญชาการเหตุการ ์ณ �อำเภอ 96 องคก์ รปฏบิ ตั กิ ารจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ ตามแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ พ.ศ. 2558
3) ศูนย์บญั ชาการเหตกุ ารณ์จงั หวดั เมื่อเกดิ สาธารณภยั ขนึ้ ในพืน้ ทแ่ี ละพจิ ารณาเหน็ วา่ หรือไดร้ บั รายงาน จากกองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั อำ� เภอวา่ ไมส่ ามารถควบคมุ สถานการณ์ได้ ตามทรัพยากร ก�ำลังคน ความรู้ ความสามารถท่ีมอี ยูใ่ นอ�ำเภอ ใหก้ องอำ� นวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัด จัดตงั้ ศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์จังหวัด เพื่อท�ำหน้าท่ีเข้าควบคุมสถานการณ์ อ�ำนวยการ สั่งการ ประสานการปฏิบัติ ระหว่างหน่วยงาน สว่ นราชการตา่ ง ๆ ท้งั ฝา่ ยพลเรือน และ ฝ่ายทหาร เพื่อจัดการสาธารณภัยที่เกิดขึ้น จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ ภาวะ ปกติ แนวความคดิ ในการจดั ตงั้ ศนู ยบ์ ญั ชาการเหตกุ ารณจ์ งั หวดั ซงึ่ มสี ถานะ ที่เป็นได้ทั้งการเป็น (1) ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (Emergency Operation Center: EOC) ซึ่งทำ� หน้าที่ในการประสานการปฏบิ ตั ิ และสนบั สนนุ ทรัพยากร ต่าง ๆ ให้กับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอ โดยมีผู้อ�ำนวยการจังหวัดเป็น ผู้ส่ังการ และ (2) ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (Incident Command Post: ICP) ทท่ี ำ� หนา้ ท่ีในการควบคุมและส่งั การ หนว่ ยปฏิบตั ใิ นพื้นทีเ่ กิดเหตโุ ดยตรง ในกรณีน้ี ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อ�ำเภอจะท�ำหน้าที่เป็นส่วนปฏิบัติการ ในระดบั พนื้ ที่ ปฏบิ ตั ติ ามแนวทางการบญั ชาการ สงั่ การ ของผอู้ ำ� นวยการจงั หวดั หากสถานการณ์ลุกลาม ขยายตัวอออกไป จนกระทั่งผู้บัญชาการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ประกาศยกระดับการจัดการ สาธารณภัยท่ีเกิดข้ึน เป็นภัยระดับ 3 ให้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด แปรสภาพเป็น “ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัด” ภายใต้ นโยบาย แนวทาง กลยทุ ธ์ และความมงุ่ หมายในการปฏบิ ตั ขิ องกองบญั ชาการปอ้ งกนั และ บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ระบบบญั ชาการณ์เหตุการณ์กับการจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 97
โครงส ้รางศูน ์ย ับญชาการเห ุตการ ์ณ ัจงห ัวด/ ูศน ์ย ับญชาการเหตุการ ์ณ ่สวนหน้า ัจงหวัด 98 องคก์ รปฏบิ ตั กิ ารจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ ตามแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ พ.ศ. 2558
4) กองบญั ชาการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ 89 รรรส่วั้บาามยธผรรคสแมาิดั้าบาวรรือชยธาผงณอแมาใยิด4นรบรภร่ิงช)ณงว่กบัยอยก(มาภังทรโเบิ่งอรมคมเดะัย่ีเจบมงอืกับด่ื(ยอทบดัร่ืังอใิดับบสี่เนะคกัญสกขกัญดถกัาบ4ิดชถึ้นารับาาชบ)ขาารสรนากเัญึ้นนจกจา4ปกาัดธดัออกช)็นราเากกางาาปปกสรรบนารา็น้อณอณารอรณัวญงธงสสสย�ภำ์มกบ์ชามาานากยัรีนัธคัญธาีคธาวณาากแววาชรยรรลาาภราากณณรวะมณมกัยาปินบภภารรรขภ้ิอจรรัยุัยุนนนัยฉปรงขวแแากเรัยิ้อนนทรรดะันสงิจาางงใดก่ังแดฉสหกัันบลจใัยาจญหาแะธนนรญ่ล3าบสก(กระคั่งรร่รณรบมกระว(ะระีเรารบภดทะทรทรัฐัคยับด่ังเามั่งทแุมยับสคยน3หากาวแก)สต่ง3ธบรลชารรหา)ะคะธีาะวรรดุมหาปต่าณดือับรริรกับสณภแือกะาากลัสยสภารธาะาแรากัยารธนปจหรแราจัคดระ่หงณรัดะชทวก่งณภสกาาชารภมตาัยาารวนตัยิรง ิ มหาดไทยโดทย�ำหกนา้ารทจัดี่เปก็นาผรู้บสาัญธชาารกณาภรปัย้อรงะกดันับแ3ละมบีรรัฐรมเทนาตสราีวธ่าากราณรภกัยรแะหท่งรชวางติ มหามดปี ไลทดัยกทระาทหรนวา้ งทมี่เหปา็นดผไู้บทัญยเชปา็นกราอรปงผอ้ ู้บงกัญันชแาลกะาบรรสรเ�ำทหารสับากธารจณัดภกัยาแรสหา่งธชารตณิ ภมัยี ปลัดรกะรดะับทร4วงมมีนหาายดกไรทัฐยมเนปต็นรรีหอรงือผรู้บอัญงนชาายกการรัฐมสนาตหรรีทับี่ไดก้ราับรมจอัดบกหารมสาายธาทร�ำณหภนัย้าท่ี ระดเับป็น4ผมู้บีนัญายชการกฐั ามรนปต้อรงีหกรันอื แรลอะงบนรารยเกทราัฐสมานธตารที ณ่ไี ภดร้ัยบั แมหอ่งบชหาตมิาทยั้งทนาี้ผหู้บนัญ้าทชี่เาปก็นาร ผู้บัญปช้อางกาันรแปล้อะงบกรันรแเทละาบสารธราเทราณสภาัยธแารหณ่งชภาัยตแิ หม่งีอช�ำานตาิ ทจบ้ังนัง้ีคผัู้บัญบัญชาชกาาแรลปะ้อสง่ังกกันาร และผบู้อร�ำรนเทวยากสารธารรอณงผภู้อัยำ� แนหว่งยชกาาตริ มผีอชู้ าว่ นยผาูอ้จบ�ำนังวคยับกบาัญรชเจา้าแพลนะสกั ั่งกานารแผลู้อะาอนาสวายสกมาัครร รองไผดู้อท้ าว่ั รนาวชยอกาณาราจผักู้ชร่วยผู้อานวยการ เจ้าพนักงานและอาสาสมัครได้ท่ัว ราชอาณาจกั ร โโคครรงงสสรรา้้างงกกอองงบบญั ญั ชชากาากราปร้อปง้อกงนั กแนั ลแะลบะรรบเรทราเสทาาธสาารณธาภรยั ณแภหัยง่ ชแาหตง่ ิ ชาติ ศนู ย์ประสานการปฏบิ ตั ิ องค์กรปฏบิ ตั กิ ารจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ฯ 99 ระบบบญั ชาการณ์เหตกุ ารณก์ ับการจัดการในภาวะฉุกเฉินของประเทศไทย
โครงสร้างกองบัญชาการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาต/ิ ศนู ยบ์ ญั ชาการเหตุการณจ์ งั หวัด/ศนู ยบ์ ญั ชาการ เหตุการณส์ ่วนหนา้ จังหวัด 1) คณะที่ปรึกษาและผู้เช่ียวชาญ ท�ำหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะ ค�ำแนะน�ำ ข้อมูลทางวิชาการ การสังเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ และเทคนิคการปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สาธารณภัยที่เกิดขึ้น ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนใดตามท่ี ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย/ผู้อ�ำนวยการเห็นสมควร จ�ำนวน ของคณะท่ีปรึกษาและผเู้ ชย่ี วชาญใหเ้ ปน็ ไปตามท่เี หน็ สมควร 2) ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ร่วม ท�ำหน้าที่ประสานข้อมูลเหตุการณ์กับ กลุ่มงานต่าง ๆ เพื่อส่ือสาร และประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารกับประชาชน สื่อมวลชน รวมทั้งปฏิบัติการทางจิตวิทยามวลชน ให้กรมประชาสัมพันธ์/ ประชาสมั พนั ธจ์ งั หวดั เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการจดั ทำ� ขอบเขต แผนงาน ภารกจิ โครงสร้างภายในของศูนยฯ์ 3) ศนู ยป์ ระสานการปฏบิ ตั ิ ทำ� หนา้ ทปี่ ระสานงานหนว่ ยงานภาคเอกชนและ ประชาสงั คม ดา้ นกฎหมาย ธรุ การ กำ� ลงั พล และในกรณกี ารจัดการสาธารณภยั ระดับ 4 ด้านกิจการต่างประเทศให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการ ตา่ งประเทศ เปน็ หนว่ ยงานหลกั กระทรวงกลาโหมเปน็ หนว่ ยสนบั สนนุ รว่ มกนั จดั ทำ� ขอบเขต แผนงาน ภารกิจ โครงสร้างภายในโดยให้ส�ำนกั งานเลขานุการ นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่มีภารกิจที่เกี่ยวข้องในส�ำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมปฏบิ ตั งิ านในฐานะหนว่ ยงานหลกั 4) ส่วนปฏิบัติการ ท�ำหน้าท่ี ด้านการดับเพลิง ค้นหาและกู้ภัย สารเคมี และวตั ถอุ นั ตราย การบรกิ ารการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ การคมนาคม การรกั ษา ความสงบเรียบร้อย การประสานทรัพยากร ทางทหาร ให้หน่วยงานท่ีรับผิด ชอบภารกิจในแต่ละด้าน รว่ มกันจัดท�ำ ขอบเขต แผนงาน ภารกิจ โครงสรา้ ง 100 องค์กรปฏิบตั กิ ารจดั การในภาวะฉุกเฉิน ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแหง่ ชาติ พ.ศ. 2558
ภายใน ในการจัดการปฏบิ ตั ิการเพอ่ื ทจี่ ะลดอนั ตรายทเ่ี กิดขน้ึ ในสถานทเี่ กดิ เหต ุ การรกั ษาชวี ติ และทรพั ยส์ นิ การควบคมุ สถานการณ์ และการจดั การใหก้ ลบั คนื ส ู่ สภาวะปกติ 5) ส่วนอ�ำนวยการ ท�ำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์แนวโน้ม สถานการณ์ การแจ้งเตือนภัย ประสานข้อมูล ความต้องการ ความจ�ำเป็น ในการสนับสนุนทรัพยากร และด�ำเนินการด้านการจัดการในภาวะฉุกเฉิน ใหก้ รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั /หนว่ ยงานตามทผี่ อู้ ำ� นวยการมอบหมาย เป็นผ้รู ับผดิ ชอบหลัก ในการจดั ทำ� ขอบเขต แผนงาน ภารกิจ โครงสร้างภายใน ของกลุ่มงานฯ และสนับสนุนสถานท่ีปฏิบัติงานแก่กองบัญชาการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแหง่ ชาติ 6) สว่ นสนบั สนุน ทำ� หน้าท ่ี ดังนี้ - ตอบสนองการร้องขอรับการสนบั สนนุ ในทุก ๆ ด้านที่จำ� เปน็ เพอ่ื ให้ การจดั การในภาวะฉุกเฉนิ ดำ� เนินไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล ได้แก่ ด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ การพลังงาน การเกษตร ทรพั ยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ มและวฒั นธรรม การสาธารณปู โภค การโยธาธกิ าร และซ่อมบ�ำรุง การฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคมและชุมชน ให้หน่วยงานท่ีรับผิดชอบ ภารกจิ ในแตล่ ะด้าน ร่วมกนั จดั ทำ� ขอบเขต แผนงาน ภารกิจ โครงสรา้ งภายใน ของกลุม่ งาน ฯ - ตอบสนองการรอ้ งขอรบั การสนบั สนนุ ในดา้ นการงบประมาณ การเงนิ การคลงั และการรบั บรจิ าค ใหส้ ำ� นกั งบประมาณ และกรมบญั ชกี ลาง/สำ� นกั งาน คลงั จงั หวดั เปน็ หนว่ ยทรี่ บั ผดิ ชอบภารกจิ ดา้ นงบประมาณ การเงนิ การคลงั และ สำ� นกั นายกรฐั มนตรี รบั ผดิ ชอบภารกิจดา้ นการรับบรจิ าค โดยให้รว่ มกันจดั ท�ำ ขอบเขต แผนงาน ภารกจิ โครงสรา้ งภายใน ของกลมุ่ งาน ฯ ระบบบัญชาการณ์เหตุการณ์กบั การจัดการในภาวะฉุกเฉนิ ของประเทศไทย 101
เคร่อื งมือสนับสนุนการปฏบิ ตั ิงานกองบัญชาการ ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ ส่วนงานสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน : สปฉ. (Emergency Support Function : ESF) เป็นส่วนงานท�ำหน้าที่สนับสนุนการจัดการ สาธารณภยั ของกองบญั ชาการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ ประกอบ ดว้ ย 18 ส่วนงาน ไดแ้ ก่ 1. สปฉ.1 : สว่ นงานคมนาคม มีขอบเขตหน้าท่ี 1) จัดการระบบ และควบคุมความปลอดภัยทาง คมนาคม 2) ปรับปรุงเส้นทางและโครงข่ายคมนาคม รวมถึงสนับสนุนภารกิจ การส่งก�ำลังบ�ำรุง 3) จัดให้มีเสน้ ทางส�ำรอง เสน้ ทางเลี่ยง ดัดแปลงแก้ไขระบบ การคมนาคมให้สามารถใช้การได้เมื่อเกิดสาธารณภัย 4) สนับสนุนการอพยพ เคล่ือนย้ายประชาชนออกจากพ้ืนท่ีประสบภัยหรือพ้ืนที่เส่ียงต่อการเกิด สาธารณภยั 5) สนบั สนนุ ขอ้ มลู และการจดั การดา้ นคมนาคมใหแ้ กก่ องบญั ชาการ ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ และกองอำ� นวยการปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัยกลาง ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลัก ในการประสานการปฏิบัติ ระหว่างส่วนราชการและหน่วยงาน รวมถึงจัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงาน ในภาวะฉกุ เฉินดา้ นคมนาคม 2. สปฉ.2 : ส่วนงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีขอบเขตหน้าท่ี 1) จัดให้มีระบบสื่อสารและโทรคมนาคมทั้งระบบ สอ่ื สารหลกั ระบบส่ือสารรอง และระบบส่อื สารสำ� รอง ตลอดจนใหบ้ ริการฐาน ข้อมูลด้านสารสนเทศและการส่ือสารให้สามารถใช้การได้ในทุกสถานการณ์ 2) สนบั สนนุ อปุ กรณแ์ ละเครอื่ งมอื เครอื่ งใชใ้ นการสอ่ื สาร การจดั ชอ่ งการสอ่ื สาร สำ� รองเพอ่ื ใชใ้ นภาวะฉกุ เฉนิ 3) สนบั สนนุ กำ� ลงั เจา้ หนา้ ทเ่ี พอื่ บรกิ ารตดิ ตอ่ สอ่ื สาร ไดต้ ลอดระยะเวลาที่เกดิ ภยั 4) สนับสนุนการฟื้นฟโู ครงสร้างพน้ื ฐานเทคโนโลยี 102 องค์กรปฏบิ ัตกิ ารจัดการในภาวะฉุกเฉนิ ตามแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558
สารสนเทศและการสือ่ สาร 5) รกั ษาความปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสือ่ สาร ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหน่วยงานหลัก ในการ ประสานการปฏิบัติระหว่างส่วนราชการ และหน่วยงาน รวมถึงจัดท�ำแผน สนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านในภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร 3. สปฉ.3 : สว่ นงานสาธารณปู โภคและโครงสร้างพ้นื ฐาน มีขอบเขตหน้าท่ี 1) เตรียมความพร้อม และด�ำเนินการป้องกันหรือ ลดผลกระทบท่ีอาจมตี ่อพ้ืนท่ี เขตเมือง พื้นทีเ่ ศรษฐกิจ โครงสร้างพน้ื ฐาน และ สง่ิ สาธารณปู โภคในพน้ื ทเ่ี สย่ี งภยั 2) ดำ� รงสถานะ ดำ� เนนิ การปรบั ปรงุ ซอ่ มแซม โครงสรา้ งพนื้ ฐาน และส่งิ สาธารณูปโภคในพน้ื ทปี่ ระสบภัยให้สามารถใชก้ ารได ้ ในระหวา่ งเกิดสาธารณภัย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมอื งและพ้นื ทเี่ ศรษฐกิจ ใหก้ ระทรวงมหาดไทย เปน็ หนว่ ยงานหลกั โดยมกี ารไฟฟา้ สว่ นภมู ภิ าค การไฟฟา้ นครหลวง การประปาสว่ นภมู ภิ าค การประปานครหลวง เปน็ หนว่ ยงาน สนับสนุนในการประสานการปฏิบัติระหว่างส่วนราชการ และหน่วยงาน รวมถึงจัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน ด้านสาธารณูปโภค และโครงสร้างพ้นื ฐาน 4. สปฉ.4 : สว่ นผจญเพลงิ มีขอบเขตหน้าท่ี 1) ประสานการปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉินเมื่อเกิด อัคคีภัยในเคหสถานประกอบการ นิคมอุตสาหกรรม 2) ประสานงานกับ ส่วนราชการและหน่วยงานในการป้องกันและระงับอัคคีภัย 3) สนับสนุนการ ปฏิบตั กิ ารป้องกันและระงับอัคคภี ยั เม่อื เกิดอัคคภี ัยในพื้นท่พี เิ ศษ เชน่ อทุ ยาน แห่งชาติ นิคมอุตสาหกรรม ท่าอากาศยาน หรือบริเวณที่ส่งผลต่อมลพิษ สงิ่ แวดลอ้ ม เปน็ ตน้ 4) สนบั สนนุ ขอ้ มลู ดา้ นเทคนคิ และองคค์ วามรใู้ นการปอ้ งกนั และระงับอัคคีภัยให้กับส่วนราชการ หน่วยงาน ในภูมิภาคและท้องถ่ินท้ังใน เขตเมืองและชนบท ระบบบัญชาการณเ์ หตกุ ารณ์กบั การจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 103
ใหก้ ระทรวงมหาดไทย เปน็ หนว่ ยงานหลกั โดยมกี ระทรวงอตุ สาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เป็นหน่วยงานสนับสนุน ในการประสานการปฏบิ ตั ริ ะหวา่ งสว่ นราชการและหนว่ ยงาน รวมถงึ จดั ทำ� แผน สนบั สนนุ การปฏบิ ตั ิงานในภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นการผจญเพลิง 5. สปฉ.5 : สว่ นงานการจดั การในภาวะฉุกเฉิน มขี อบเขตหนา้ ที่ 1) เฝา้ ระวงั และตดิ ตามขอ้ มลู สถานการณท์ อี่ าจสง่ ผล ใหเ้ กดิ สาธารณภยั 2) แจง้ เตอื นลว่ งหนา้ ใหป้ ระชาชน สว่ นราชการ และหนว่ ยงาน รับทราบสถานการณ์และแนวโน้มการเกิดสาธารณภัย 3) แจ้งเตือนและแจ้ง แนวทางในการปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื เตรยี มพรอ้ มรบั สถานการณส์ าธารณภยั ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ รวมถึงสั่งการให้มีการอพยพ และเคลอื่ นยา้ ยไปยงั ทปี่ ลอดภัย 4) วิเคราะห์และ วางแผนการเผชิญเหตุ 5) ประสาน และสนับสนุนในการจัดการและการเผชิญ เหตุสาธารณภัยแก่กองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับ 6) สนบั สนนุ ทรพั ยากรทจ่ี ำ� เปน็ ในการเผชญิ เหตสุ าธารณภยั ใหก้ บั กองอำ� นวยการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับ 7) ก�ำหนดจ�ำนวนชนิดของ ทรพั ยากรและบคุ ลากรทตี่ อ้ งใชเ้ พอื่ ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพและรวดเรว็ ในการจดั การ ในภาวะฉกุ เฉนิ 8) ประสานการใชท้ รพั ยากรจากหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งทกุ ภาคสว่ น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินด้านต่าง ๆ 9) ประสานงาน ในการจัดการในภาวะฉกุ เฉินกบั ส่วนตา่ ง ๆ ในส่วนงานสนบั สนนุ การปฏบิ ัตงิ าน ในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ด้านอนื่ ๆ ใหก้ ระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลกั ในการประสานการปฏิบตั ิ ระหวา่ งสว่ นราชการ และหนว่ ยงาน รวมถงึ จดั ทำ� แผนสนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ าน ในภาวะฉุกเฉินด้านการจัดการสาธารณภัย และการสนับสนุนทรัพยากร ในภาวะฉุกเฉิน 104 องค์กรปฏบิ ตั ิการจัดการในภาวะฉกุ เฉิน ตามแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ พ.ศ. 2558
6. สปฉ.6 : สว่ นงานสวสั ดกิ ารสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ มีขอบเขตหน้าท่ี 1) ประสานงานและสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักพิง ชวั่ คราว 2) สนบั สนนุ การแจกจา่ ยสง่ิ ของจำ� เปน็ ตอ่ การดำ� รงชพี ใหแ้ กผ่ ปู้ ระสบภยั 3) สนับสนุนงานด้านการสังคมสงเคราะห์แก่ผู้ประสบภัย 4) เผยแพร่และ ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับสวัสดิการด้านสาธารณภัย 5) วางแผน การใหค้ วามช่วยเหลือดา้ นท่ีอยู่อาศยั การดแู ลบคุ คลทต่ี ้องไดร้ ับการปฏบิ ัตเิ ป็น กรณพี เิ ศษ การฟน้ื ฟดู า้ นสงั คมและจติ ใจใหแ้ กผ่ ปู้ ระสบภยั และผปู้ ระสบปญั หา ทางสงั คม 6) ใหบ้ รกิ ารสาธารณกศุ ล 7) กำ� หนดแนวทางการชว่ ยเหลอื ผวู้ า่ งงาน เน่ืองจากการเกิดสาธารณภัย 8) ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครท่ีพิการ ทุพพลภาพ และเจบ็ ป่วยหรือบาดเจ็บจากการปฏิบตั หิ น้าทข่ี ณะเกดิ ภยั ใหก้ ระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ย์ เปน็ หนว่ ยงาน หลกั โดยมกี ระทรวงแรงงาน และสภากาชาดไทย เปน็ หนว่ ยงานสนบั สนนุ ในการ ประสานการปฏิบัติระหว่างส่วนราชการ หน่วยงาน และองค์การสาธารณกุศล รวมถึงจัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินด้านสวัสดิการ สังคม และความมนั่ คงของมนษุ ย์ 7. สปฉ.7 : ส่วนงานการสนบั สนุนทรัพยากรทางทหาร มีขอบเขตหน้าที่ 1) ประสานการสนับสนุนทรัพยากรทางทหาร เพ่ือใช้สนับสนุนส่วนราชการหน่วยงานพลเรือน กองอ�ำนวยการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับในการเผชิญเหตุสาธารณภัยรวมถึงการส่งคืน ทรัพยากร 2) ให้ข้อเสนอแนะ และค�ำปรึกษาในกรณที ต่ี อ้ งใช้ความช�ำนาญทาง ทหารสนับสนุนภารกิจ 3) ติดตาม และรายงานสถานะทรัพยากรทางทหาร ท่ีถกู กำ� หนดใหใ้ ชใ้ นภารกิจสนับสนนุ การจัดการในภาวะฉุกเฉนิ ให้กระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยงานหลัก ในการประสานการปฏิบัติ ระหว่างเหล่าทัพ รวมถึงจัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน ดา้ นการสนบั สนุนทรพั ยากรทางทหาร ระบบบญั ชาการณ์เหตุการณ์กับการจดั การในภาวะฉุกเฉินของประเทศไทย 105
8. สปฉ.8 : สว่ นงานการแพทยแ์ ละสาธารณสุข มขี อบเขตหนา้ ท่ี 1) จดั เตรียมและจดั หาทรพั ยากรทางการแพทยแ์ ละ สาธารณสขุ รวมทงั้ ประสานการระดมสรรพกำ� ลงั ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ 2) จัดท�ำระบบฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้ง เคร่ืองมือทางการแพทย์ในด้านต่าง ๆ ของรัฐและเอกชน เพื่อให้พร้อมต่อการ ปฏิบัติเม่ือเกิดสาธารณภัย 3) พัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency Medical Service : EMS) หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารกชู้ พี และทมี ตอบสนองดา้ นการแพทย์ ได้แก่ ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ในภาวะฉุกเฉินระดับอ�ำเภอ (Mini MERT) ทมี ปฏบิ ตั กิ ารฉกุ เฉนิ ทางการแพทยร์ ะดบั ตตยิ ภมู ใิ นภาวะฉกุ เฉนิ (MERT: Medical Emergency Response Team) ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลอ่ื นที่เร็ว (SRRT : Surveillance Rapid Response Team) ทีมปฏิบัติการด้านจติ เวช (MCATT : Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) ท่ีพร้อมออกปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้ง จดั ระบบเครอื ขา่ ยสาธารณสขุ ใหบ้ รกิ ารและสนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านทว่ั ประเทศ โดยร่วมมือกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือเตรียมความพร้อมให้สามารถใช้ ประโยชน์ได้ทันทีเม่ือเกิดสาธารณภัย 4) จัดให้มีการพัฒนาระบบส่ือสาร เพื่อประสานงานและสั่งการภายในหน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยงาน ท่ีเกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ 5) จัดให้มีการเตรียมพร้อมทางห้องปฏิบัติการ ทท่ี นั สมยั และไดม้ าตรฐาน 6) จดั ใหม้ กี ารพฒั นาระบบฐานขอ้ มลู ความเสยี หาย ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงการรายงานผลอย่างถูกต้องและ รวดเร็ว 7) พัฒนาบุคลากรสาธารณสุขและอาสาสมัคร ให้มีความรู้และทักษะ พร้อมท่ีจะปฏิบัติงานเมื่อเกิดสาธารณภัย และป้องกันตนเองจากภัยท่ีเกิดขึ้น ขณะปฏบิ ัตงิ าน 8) ใหค้ วามรแู้ ก่ประชาชนและชมุ ชนในด้านการรกั ษาพยาบาล เบอื้ งตน้ การสขุ าภบิ าล และอนามยั สงิ่ แวดลอ้ ม เพอื่ ใหส้ ามารถชว่ ยเหลอื ตนเอง และผอู้ ืน่ ได้เมือ่ ประสบภัย 9) เฝ้าระวงั ควบคมุ และตดิ ตามโรคติดต่อ พร้อมท้งั 106 องคก์ รปฏบิ ตั กิ ารจดั การในภาวะฉุกเฉิน ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558
จัดให้มีการรักษาพยาบาล การอนามัย การสุขาภิบาล และการป้องกันโรค แก่ผู้ประสบภัย 10) ฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยให้กลับมาด�ำรงชีวิตได ้ ตามปกติ ใหก้ ระทรวงสาธารณสขุ เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการประสานการปฏบิ ตั ิ ระหวา่ งสว่ นราชการและหนว่ ยงาน รวมถงึ จดั ทำ� แผนสนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านใน ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยมีหน่วยงานสนับสนุน ได้แก ่ โรงพยาบาล สถานพยาบาลของสังกัดต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน เช่น มหาวทิ ยาลยั กระทรวงกลาโหม มลู นธิ ิ อาสาสมคั รตา่ ง ๆ สภากาชาดไทย สถาบนั การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ส�ำนักงาน กองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสริมสุขภาพ เปน็ ตน้ 9. สปฉ.9 : สว่ นงานการค้นหาและกูภ้ ยั มีขอบเขตหน้าท่ี 1) สนับสนุนการปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉินด้านการ ค้นหาและช่วยชีวิตผู้ประสบภยั 2) ประสานการช่วยเหลือ สนับสนนุ การค้นหา และกู้ภัย กับส่วนราชการ หน่วยงาน และกองอ�ำนวยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแตล่ ะระดบั 3) ประสานงานกับสมาคม มูลนธิ ิ และองค์กรการกศุ ล ที่มีภารกิจในการคน้ หาและกภู้ ยั 4) จัดระบบการปฏิบตั ิงานดา้ นการค้นหาและ ก้ภู ัยให้เปน็ มาตรฐานเดียวกนั ทกุ ภาคสว่ น 5) สนบั สนุนทรัพยากร และอุปกรณ์ พิเศษในการปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ภัย 6) สนับสนุนข้อมูลด้านเทคนิค และ องค์ความรใู้ หก้ บั หน่วยงานปฏิบตั กิ ารค้นหาและกู้ภยั ใหก้ ระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการ ประสานการปฏิบัติระหว่างส่วนราชการ หน่วยงาน และองค์การสาธารณกุศล รวมถงึ จดั ทำ� แผนสนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านในภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นการคน้ หาและกภู้ ยั ระบบบัญชาการณ์เหตกุ ารณ์กบั การจัดการในภาวะฉุกเฉินของประเทศไทย 107
10. สปฉ.10 : ส่วนงานสารเคมี วตั ถุอันตราย และกมั มนั ตรงั สี มขี อบเขตหนา้ ท่ี 1) วางแผน ควบคมุ และปอ้ งกนั ภยั จากสารเคมี วตั ถุ อนั ตราย และกมั มนั ตรงั สี ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ประชาชน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ้ ม 2) พฒั นาระบบ รปู แบบ และวธิ กี ารทเี่ หมาะสมเพอื่ นำ� มาประยกุ ตใ์ ช้ ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จากสารเคมี วตั ถอุ นั ตราย และกมั มนั ตรงั สี 3) ระงบั ภยั จากสารเคมี วตั ถุอนั ตราย และกัมมนั ตรังสใี นพื้นท่ีทมี่ ีการปนเปื้อน มลพิษและประเมินความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม 4) ให้ความช่วยเหลือและ คำ� ปรกึ ษา แนะน�ำ เก่ียวกบั การจัดการมลพษิ อนั เกิดจากสารเคมี วตั ถอุ ันตราย และกัมมันตรังสี 5) ส่งเสริมสนับสนุนข้อมูลและองค์ความรู้ด้านสารเคมี วัตถุ อันตรายและกัมมันตรังสี เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 6) จัดการสาธารณภัยและสนับสนุนการก�ำกับดูแลด้านพลังงานปรมาณูและ นิวเคลยี รร์ ังสี 7) ปฏิบัติการและการปอ้ งกนั ภยั ทางเคมี ชวี ภาพและนิวเคลียร์ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานหลัก โดยมีกระทรวง ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม กระทรวงกลาโหม กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กรมควบคุมมลพิษ ส�ำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นหน่วยงาน สนับสนุนในการประสานการปฏบิ ตั ริ ะหว่างส่วนราชการ และหนว่ ยงาน รวมถงึ จัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินด้านสารเคมี วัตถุอันตราย และกัมมันตรงั สี 11. สปฉ.11 : ส่วนงานการเกษตร มีขอบเขตหน้าที่ 1) ประสานการปฏิบัติเมื่อเกิดสาธารณภัยท่ีมี ผลกระทบต่อด้านการเกษตร 2) ติดตามเฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์ และ แจ้งเตือนภัยแก่เกษตรกร 3) ส�ำรวจและติดตามความเสียหายด้านการเกษตร เพ่ือให้การช่วยเหลือ 4) สนับสนุนทรัพยากร เคร่ืองมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อ ช่วยเหลือพื้นท่ี การเกษตร ท่ีประสบภัย 5) สนับสนุนข้อมูลด้านการเกษตร 108 องคก์ รปฏิบัติการจัดการในภาวะฉุกเฉนิ ตามแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558
และให้ข้อเสนอแนะแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาท่ีมีผลกระทบต่อ ดา้ นการเกษตร รวมท้งั แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรท่ปี ระสบภยั ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลัก โดยมีกระทรวง พาณชิ ย์ เปน็ หนว่ ยงานสนบั สนนุ ในการประสานการปฏบิ ตั ริ ะหวา่ งสว่ นราชการ และหน่วยงาน รวมถึงจัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงาน ในภาวะฉุกเฉิน ดา้ นการเกษตร 12. สปฉ.12 : ส่วนงานพลงั งาน มขี อบเขตหนา้ ท่ี 1) ดูแล รักษา และปอ้ งกนั ทรพั ยากรด้านพลงั งาน ให้สามารถปฏิบัติงานได้ตลอดระยะเวลาการเกิดสาธารณภัย 2) ป้องกัน และ บ�ำรุงรักษาสถานที่ส�ำคัญด้านพลังงานให้สามารถปฏิบัติงาน รวมถึงสนับสนุน พลังงานแก่ส่วนราชการ และหน่วยงานที่ส�ำคัญในการบริการประชาชน เช่น โรงพยาบาล สถานบริการน้�ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอต่อความต้องการ ในภาวะฉกุ เฉนิ 3) จดั ทำ� ฐานขอ้ มลู แหลง่ พลงั งานเพอื่ ใชส้ นบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านใน การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั 4) กำ� หนดมาตรการควบคมุ ความปลอดภยั ใหก้ บั สถานทสี่ ำ� คญั ทเ่ี ปน็ แหลง่ ผลติ พลงั งาน และสถานทใี่ หบ้ รกิ าร 5) สนบั สนนุ ผเู้ ชย่ี วชาญด้านพลังงานเพอื่ การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ให้กระทรวงพลังงาน เป็นหน่วยงานหลัก ในการประสานการปฏิบัติ ระหว่างส่วนราชการและหน่วยงาน รวมถึงจัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงาน ในภาวะฉุกเฉินดา้ นพลังงาน 13. สปฉ.13 : ส่วนงานรักษาความสงบเรียบร้อย มีขอบเขตหน้าที่ 1) ประสานการปฏิบัติในการรักษาความสงบ เรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชน สถานที่ส�ำคัญทางเศรษฐกิจ เขตเมอื ง และชมุ ชน ในพนื้ ทปี่ ระสบภยั และพนื้ ทใี่ กลเ้ คยี ง 2) วางแผนการรกั ษา ความปลอดภัย และความช่วยเหลือด้านเทคนิคต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุน เทคโนโลยีท่ีทันสมัยในการรักษาความสงบเรียบร้อย 3) ควบคุม และบังคับใช้ ระบบบัญชาการณเ์ หตุการณ์กบั การจัดการในภาวะฉุกเฉนิ ของประเทศไทย 109
กฎหมาย เพ่ือป้องกันและปราบปรามการกระท�ำผิด ท่ีมีผลกระทบต่อ ความม่ันคง และความสงบเรียบร้อยของประเทศ 4) ปฏิบัติหน้าที่ด้านการ พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล การจัดการศพ การติดตามผู้สูญหาย และการส่งกลับ 5) จัดระบบจราจรในบริเวณพื้นที่ประสบภัยและพ้ืนที่ใกล้เคียง ให้ส�ำนักงาน ตำ� รวจแหง่ ชาติ เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการประสานการปฏบิ ตั ริ ะหวา่ งสว่ นราชการ และหนว่ ยงาน รวมถงึ จดั ทำ� แผนสนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านในภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นการ รักษา ความสงบ เรียบรอ้ ย 14. สปฉ.14 : สว่ นงานการฟน้ื ฟเู ศรษฐกิจ การศกึ ษา และวฒั นธรรม มีขอบเขตหน้าท่ี 1) ประเมินผลกระทบระบบเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม และสถานท่ีส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่ประสบภัย 2) ให ้ ข้อเสนอแนะ แนวทาง และวิธีการในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ สาธารณภัย รวมถึงการฟื้นฟูในภาพรวมหลังเกิดภัย 3) ก�ำหนดแนวทางการ สนับสนุนของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ท้ังภาครัฐและเอกชนในการฟื้นฟูและ ลดชอ่ งวา่ งทางเศรษฐกจิ และสงั คมของชมุ ชนในระยะยาว 4) วเิ คราะห์ ประเมนิ ป้องกันและลดผลกระทบจากสาธารณภัยแก่สถานที่ส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม 5) ติดตาม ตรวจสอบ และฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม และสถานท่ีสำ� คญั ทางประวัติศาสตร์ให้กลบั สูส่ ภาพเดิมโดยเร็ว ให้ส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานหลัก โดยมีกระทรวงวัฒนธรรมและ กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานสนับสนุนในการประสานการปฏิบัติระหว่าง ส่วนราชการ และหน่วยงาน รวมถึงจัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงาน ในภาวะฉกุ เฉนิ ด้านการฟน้ื ฟเู ศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรม 110 องค์กรปฏบิ ตั กิ ารจัดการในภาวะฉุกเฉิน ตามแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยแหง่ ชาติ พ.ศ. 2558
15. สปฉ.15 : สว่ นงานการต่างประเทศ มีขอบเขตหน้าท่ี 1) ติดตามและรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์สาธารณภยั ทเ่ี กิดข้นึ ใหแ้ กป่ ระเทศตา่ ง ๆ 2) ประสานความรว่ มมอื ระหว่างประเทศในภาวะฉุกเฉิน 3) ประสาน และสนับสนุนการด�ำเนินการให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เป็นชาวต่างประเทศ 4) ให้ข้อเสนอแนะ กรณ ี ที่จ�ำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่างประเทศ องค์การระหว่าง ประเทศ และองค์กรพัฒนาภาคเอกชนระหว่างประเทศ 5) ก�ำหนดแนวทาง การอ�ำนวยความสะดวกการน�ำเข้าทรัพยากรจากต่างประเทศ และการส่งกลับ 6) ประสานการรบั -การใหค้ วามช่วยเหลือจากรฐั บาล องคก์ ารระหว่างประเทศ และองค์กรภาคเอกชนระหว่างประเทศ 7) ประสานการอ�ำนวยความสะดวก และใหค้ วามช่วยเหลือแกผ่ ้ปู ระสบภยั ชาวต่างชาติและญาตผิ ปู้ ระสบภัย ให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นหน่วยงานหลัก โดยมีกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ และ กรมศุลกากร เป็นหน่วยงานสนับสนุนในการประสานการปฏิบัติระหว่าง ส่วนราชการ และหน่วยงาน รวมถึงจัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงาน ในภาวะฉุกเฉิน ด้านการตา่ งประเทศ 16. สปฉ.16 : สว่ นงานการประชาสมั พนั ธแ์ ละการจดั การขอ้ มลู ขา่ วสาร มขี อบเขตหนา้ ท่ี 1) ประชาสมั พนั ธแ์ ละใหข้ อ้ มลู ขา่ วสารแกป่ ระชาชน เก่ียวกับสาธารณภัยในภาวะฉุกเฉินหรือภัยคุกคามท่ีเกิดขึ้น 2) เผยแพร่ข้อมูล และความรู้ท่ีถูกต้องเพื่อการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ให้แก่ประชาชน 3) จัดตั้งศนู ย์ขอ้ มลู ข่าวสารรว่ ม (Joint Information Center : JIC) เพ่อื เปน็ ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ระหว่างส่วนราชการ หน่วยงาน ภาคเอกชน และส่ือมวลชน ท้ังในและต่างประเทศ 4) ก�ำหนดมาตรการ ป้องกัน ตอบโต้ข่าวลือ ข่าวอันเป็นเท็จ และข้อมูลท่ีจะสร้างความตระหนก แตกตื่น และหวาดกลวั ใหแ้ ก่ประชาชน ระบบบญั ชาการณ์เหตกุ ารณก์ ับการจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 111
ให้กรมประชาสมั พันธ์ เป็นหนว่ ยงานหลัก ในการประสานการปฏบิ ัติ ระหว่างสว่ นราชการ และหน่วยงาน รวมถงึ จัดทำ� แผนสนบั สนนุ การปฏิบัติงาน ในภาวะฉุกเฉนิ ดา้ นการประชาสัมพนั ธแ์ ละการจดั การข้อมูลขา่ วสาร 17. สปฉ.17 : สว่ นงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม มีขอบเขตหน้าท่ี 1) ประสานการปฏิบัติเมื่อเกิดสาธารณภัยท่ีมี ผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 2) วิเคราะห์และประเมิน ผลกระทบจากสาธารณภยั ที่มีต่อทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม พรอ้ มท้งั กำ� หนดวธิ กี ารปอ้ งกนั และลดผลกระทบ 3) ใหข้ อ้ เสนอแนะ แนวทาง วธิ กี ารปอ้ งกนั ลดผลกระทบ และเตรยี มความพรอ้ มรบั สถานการณใ์ นพนื้ ทที่ รพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม อุทยานธรรมชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงการฟื้นฟ ู หลังเกดิ ภยั ให้กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม เป็นหนว่ ยงานหลัก ในการประสานการปฏบิ ตั ริ ะหวา่ งสว่ นราชการ และหนว่ ยงาน รวมถงึ จดั ทำ� แผน สนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านในภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 18. สปฉ.18 : สว่ นงานงบประมาณและการบริจาค มขี อบเขตหนา้ ที่ 1) ตดิ ตามและรายงานสถานะของแหลง่ งบประมาณ เพื่อการจัดการสาธารณภัย และงบประมาณเพื่อการฟื้นฟู 2) ให้ข้อเสนอแนะ กรณีที่จ�ำเป็นต้องใช้เงินทดรองราชการเพ่ือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พิบัติกรณีฉุกเฉิน หรืองบกลางจากรัฐบาล 3) ด�ำเนินการรับบริจาคเงิน และ สิ่งของเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย 4) ประสานงานการควบคุมและ ตรวจสอบยอดเงนิ ธรุ กรรมทางการเงนิ ของเงนิ บรจิ าคในบญั ชธี นาคารทหี่ นว่ ยงาน องคก์ รหรือบุคคล โดยเปดิ บญั ชีไวแ้ ละแจ้งใหป้ ระชาชนบริจาคเงนิ 112 องค์กรปฏบิ ตั ิการจัดการในภาวะฉุกเฉนิ ตามแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558
ให้กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานหลัก โดยมีส�ำนักนายกรัฐมนตรี ส�ำนักงบประมาณและส�ำนักงานปลัดส�ำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงาน สนบั สนุนในการประสานการปฏิบตั ริ ะหวา่ งส่วนราชการ และหน่วยงาน รวมถึง จัดท�ำแผนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินด้านการงบประมาณและ การบรจิ าค ทกี่ องบญั ชาการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาตจิ ะสถาปนาขนึ้ เพอ่ื เขา้ รว่ มสนับสนนุ การจดั การสาธารณภยั การจัดการในภาวะฉุกเฉิน กองบัญชาการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติจะสถาปนาการสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) เพียงส่วนงานใดส่วนงานหนึ่งหรือหลายส่วนงานเข้าร่วมสนับสนุนการ จัดการสาธารณภัย ทั้งน้ี ขึ้นอยู่กับความจ�ำเป็นของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อ ประสานงานระหว่างส่วนราชการ และหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีความรับผิดชอบ ภารกิจดา้ นใดด้านหนึ่งเปน็ การเฉพาะ ระบบบัญชาการณเ์ หตกุ ารณ์กับการจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 113
ระบบบญั ชาการณเ์ หตกุ ารณ์ กบั การจัดการในภาวะฉกุ เฉินของประเทศไทย
บรรณานุกรม กรมควบคมุ มลพิษ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม. (2547). ปฏบิ ตั ิการภาคสนาม สำ� หรบั ผบู้ ัญชาการ ณ ทีเ่ กิดเหตุ อบุ ตั ิภัยจาก สารเคมี (Field Operation Guide). กรมควบคุมมลพษิ . กรงุ เทพฯ กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั .(ม.ป.ป). ระบบการจัดการเหตฉุ กุ เฉิน แหง่ ชาติ : National Incident Management System : NIMS. ม.ป.ท.: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส�ำนักงานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ. (2550). คูม่ อื การวางระบบ บริหารจัดการในภาวะวิกฤตจากภัยพบิ ตั ิ. กรงุ เทพฯ : ชมุ นมุ สหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย. ประกาศกระทรวงอตุ สาหกรรม ฉบบั ท่ี 4392 (พ.ศ. 2555) เรื่อง ก�ำหนด มาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม การจดั การภาวะฉกุ เฉนิ – ขอ้ กำ� หนด สำ� หรับการสง่ั การและการควบคุม ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ 129 ตอนพเิ ศษ 93 ง หนา้ 12 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2555. พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. 2550. ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม 124 ตอนที ่ 52 ก หนา้ 1 ลงวันท่ี 7 กนั ยายน 2550. สถาบนั การแพทยฉ์ กุ เฉนิ แหง่ ชาต.ิ (2555). ศนู ยก์ ารแพทยฉ์ กุ เฉนิ เฉลมิ พระเกยี รติ 84 พรรษา : ตอบโต้อทุ กภัย 54 เลม่ 1 พิจติ ร: ส.พจิ ิตรการพิมพ์. ระบบบญั ชาการณ์เหตกุ ารณ์กบั การจดั การในภาวะฉุกเฉนิ ของประเทศไทย 115
ภาคผนวก แบบฟอร์มที่ส�ำคัญ ในระบบบัญชาการเหตกุ ารณ์ สามารถดาวนโ์ หลด แบบฟอรม์ ในระบบบัญชาการเหตกุ ารณ์ ได้ที่ www.thaiics.com ระบบบญั ชาการณเ์ หตุการณ์กบั การจดั การในภาวะฉุกเฉนิ ของประเทศไทย 117
แบบฟอรม์ ท่ีส�ำคญั ในระบบบัญชาการเหตุการณ์ แบบฟอรม์ ช่อื รับผดิ ชอบ / จัดทำ� โดย ICS – 201 ICS – 202 สรปุ สถานการณ์ ผู้บัญชาการเหตกุ ารณ์ (คนแรก) ICS – 203 ICS – 204 วัตถปุ ระสงคก์ ารปฏิบัติ หัวหน้าสว่ นอ�ำนวยการ ICS – 205 โครงสร้างองคก์ ร หัวหน้าหน่วยทรพั ยากร ICS – 205A ICS – 206 มอบหมายหน้าที่ หัวหน้าหน่วยทรัพยากร หวั หน้าสว่ นปฏิบัตกิ าร ICS – 208 แผนส่ือสาร หวั หนา้ หนว่ ยสื่อสาร ICS – 210 รายการส่ือสาร หวั หน้าหน่วยส่อื สาร ICS – 211 แผนการแพทย์ หวั หน้าหนว่ ยแพทย์ (รับรองโดย ICS – 213 เจา้ หน้าท่ีความปลอดภยั ) ICS – 214 ICS – 215 แผนความปลอดภัย เจา้ หน้าท่คี วามปลอดภัย ICS – 215A ข้อควรระวัง ICS – 218 สถานะ การเปล่ียนแปลง เจา้ หนา้ ที่ศูนยส์ ่อื สาร ผูร้ บั ข่าวสาร ICS – 221 ทรัพยากร รายงานตัว หนว่ ยทรพั ยากร (เจา้ หนา้ ท่ี รับรายงานตวั ) ใบขา่ ว (ส�ำเนา 3 ใบ) จนท. ทุกคน บนั ทึกการปฏบิ ัติ ทกุ สว่ นและหนว่ ย แผนปฏิบตั กิ าร หัวหนา้ สว่ นปฏบิ ตั กิ าร วิเคราะหค์ วามเสย่ี งภยั เจ้าหนา้ ทค่ี วามปลอดภัย สนบั สนนุ สงิ่ อปุ กรณ์ หวั หนา้ หนว่ ยสนับสนนุ ภาคพน้ื และยานพาหนะ การส่งกลับ หวั หน้าหน่วยสง่ กลบั 118 ภาคผนวก
แบบสรุปสถานการณ์ (ICS - 201) ระบบบัญชาการณ์เหตกุ ารณก์ บั การจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 119
แบบสรปุ สถานการณ์ (ICS - 201) 120 ภาคผนวก
แบบสรุปสถานการณ์ (ICS - 201) ระบบบัญชาการณ์เหตกุ ารณก์ บั การจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 121
แบบสรปุ สถานการณ์ (ICS - 201) 122 ภาคผนวก
แบบสรุปสถานการณ์ (ICS - 201) เปา้ หมาย: แบบสรปุ สถานการณ์ (ICS – 201) เปน็ ขอ้ มลู พน้ื ฐานเกย่ี วกบั สถานการณแ์ ละทรพั ยากร ที่มีอยู่ ณ ท่ีเกิดเหตุ และยังเป็นการรวบรวมข้อมูลข้ันต้นของสถานที่เกิดเหตุ การปฏิบัติงาน ในช่วงแรก เพอื่ ช่วยในการบันทกึ ข้อมลู ของผูบ้ ญั ชาการเหตกุ ารณ์คนแรกท่ีไปถึงท่เี กิดเหตุ การจัดทำ� : แบบสรุปสถานการณจ์ ดั ทำ� โดย ผ้บู ญั ชาการเหตุการณค์ นแรก เพ่อื ใชป้ ระโยชนใ์ นการ โอนการบังคบั บัญชา ใหก้ บั ผ้บู ญั ชาการเหตุการณ์คนต่อไปไดอ้ ย่างรวดเรว็ การแจกจ่าย: โดยปกติ แบบสรุปสถานการณ์จะเป็นประโยชน์ส�ำหรับทีมจัดการเหตุการณ์ (C&G Staffs) ในการน�ำ ขอ้ มูลเบอื้ งต้นไปวเิ คราะหข์ ยายผลความคืบหนา้ การเปลี่ยนแปลง และแนวโน้ม สถานการณ์ แผนผงั พนื้ ที่เกิดเหตุ ขนั้ ตอนและแนวทางการปฏิบตั งิ านขน้ั ตน้ จ�ำนวน ประเภท ชนดิ ของทรพั ยากรทม่ี อี ยู่และทก่ี ำ� ลังจะมาถงึ โครงสร้าง ตำ� แหนง่ ตา่ ง ๆ ทีม่ ผี รู้ ับผิดชอบอยู่ - แบบสรปุ สถานการณ์ สามารถนำ� ไปประกอบในแผนเผชญิ เหตุ ในหว้ งเวลาปฏบิ ตั กิ ารท่ี 1 ได้ - สามารถใช้กระดาษเปล่าเพมิ่ เติมไดห้ ากจ�ำเปน็ หมายเลข ชือ่ ขอ้ แนะนำ� การกรอกข้อมลู 1 ชอื่ เหตุการณ์ การตง้ั ชอ่ื เหตุการณ์ใชส้ ถานท่รี วมกับประเภท ของภัยพบิ ตั ิ เชน่ อุทกภัยโคราช 2 รหสั เหตุการณ์ ล�ำดับทีข่ องเหตทุ ีเ่ กดิ ในจังหวดั นน้ั ๆ อาจเปน็ เลขท่ี การประกาศเขตภยั พบิ ัติกรณฉี กุ เฉิน กไ็ ด้ 3 วนั เวลา ทเี่ กดิ เหตุ ระบวุ ันที่ เดอื น ปี และเวลา ที่ไดเ้ กิดเหตภุ ัยพิบตั ิ 4 แผนผังบรเิ วณ วาดแผนผงั เพื่อแสดงพน้ื ท่ีปฏิบตั กิ าร พืน้ ท่ปี ระสบภยั และ ท่ีเกดิ เหตุ บริเวณทไี่ ด้รบั ผลกระทบ สถานทท่ี จ่ี ดั ตงั้ ขนึ้ เชน่ ICP,S,B,C จดุ หรอื สถานท่ี ทีส่ ังเกตเห็นชัดเจน โดยใชส้ ญั ญาลักษณ์ 5 สรุปสถานการณ์ ระบุรายละเอียดของเหตุการณ์พอสงั เขป เชน่ ทเ่ี กิดขน้ึ (เพ่ือเตรยี ม สภาพแวดลอ้ ม ทิศทางลม ความเร็วลม มาตรการ การโอนการบังคบั ความปลอดภยั ข้อควรระวัง PPE รายละเอียดอนื่ ๆ บญั ชา) ทเี่ จา้ หนา้ ทเ่ี ผชิญเหตุ ควรรับรู้ 6 จดั ทำ� โดย ชอ่ื : ผเู้ ขียน กรอกชือ่ ต�ำแหนง่ และลงลายมอื ช่ือของผ้บู ญั ชาการ ตำ� แหนง่ : ลายมอื ชอื่ เหตกุ ารณ์คนแรก ลงเวลาโดยใช้หลัก 24 ช่วั โมง วันทเี่ วลา 7 วัตถุประสงคก์ าร กรอกวัตถปุ ระสงค์การปฏิบัตเิ บอ้ื งต้นท่กี �ำหนดข้นึ ในการ ปฏบิ ัติ (ท่ีกำ� ลงั เผชิญเหตุ และหมายเหตุปญั หา อปุ สรรคในการปฏบิ ตั งิ าน ด�ำเนินการ) หากมี เชน่ ก�ำหนดวางจุดรถดบั เพลงิ เพอื่ ลอ้ มเพลงิ ทางทศิ ตะวนั ตก หมายเหตุ ถนนแคบตอ้ งใชร้ ถเล็กเป็นหลกั แหล่งน�้ำอยหู่ า่ ง จากท่ีเกดิ เหตุ ประมาณ 500 เมตร ระบบบัญชาการณเ์ หตกุ ารณก์ ับการจดั การในภาวะฉุกเฉนิ ของประเทศไทย 123
หมายเลข ช่อื ขอ้ แนะนำ� การกรอกข้อมลู 8 การปฏบิ ัตกิ าร กรอกขอ้ มูลการปฏิบตั ิงานท่มี อบหายหน้าที่ใหแ้ ตล่ ะหน่วย (ท่ีกำ� ลงั ดำ� เนนิ การ หรือชดุ ปฏิบัติการ พรอ้ มลงเวลา เชน่ เวลา 17.35 น. อยูใ่ นปจั จบุ ัน) รถดับเพลิง 19 เทศบาล ก. ฉีดน�้ำสเปรย์ดา้ นทศิ ตะวันตก รถดบั เพลิง 22 อบจ. ข. ส่งชุดค้นหาผตู้ ดิ ในอาคาร หากทเ่ี ขยี นไมพ่ อใหเ้ พมิ่ ลงในกระดาษเปลา่ ต่อทา้ ยได้ 9 โครงสร้างองคก์ ร ใน กรอกชอื่ บคุ คลทที่ ำ� หนา้ ทตี่ า่ ง ๆ ในทเ่ี กดิ เหตุ ในชว่ งแรก ปัจจุบนั (เพิม่ เติมได้ ตามระบบบัญชาการเหตุการณ์ และสามารถประยกุ ต์ ตามความเหมาะสม) โครงสรา้ งไดต้ ามความเหมาะสม หากเป็นการบญั ชาการรว่ ม ใหก้ รอกชือ่ ผบู้ ัญชาการเหตกุ ารณท์ ้งั หมด พรอ้ มระบุ หนว่ ยงาน องค์กรท่ีสังกัด 10 สรุปทรัพยากร กรอกรายละเอียดทรัพยากรท่มี อี ยูใ่ นที่เกดิ เหตุ ทรัพยากร กรอกขอ้ มูล จ�ำนวน ประเภท ชนดิ ของทรพั ยากร เช่น รถ บรรทุกน้ำ� ความจุ 6,000 ลติ ร พรอ้ ม จนท. 2 นาย รหัสทะเบียน ใส่รหสั หมายเลขของทรพั ยากรนนั้ ๆ และแหล่งท่มี า เชน่ ทรพั ยากร ศปภ. 14-02 ขอรบั การสนบั สนนุ เมอื่ ระบุเวลาทแี่ จง้ ขอรบั การสนบั สนุน ใช้เวลา 24 ช่วั โมง คาดการณ์เวลามาถึง ระบเุ วลาทคี่ าดวา่ ทรพั ยากรจะมาถงึ ทเ่ี กดิ เหตุ ใชเ้ วลา 24 ชวั่ โมง มาถงึ แล้ว กาบาก (X) ทรพั ยากรที่เดินทางถึงท่ีเกิดเหตแุ ลว้ หมายเหตุ สถานที่ทท่ี รัพยากรปฏบิ ัตงิ าน หน้าท่ที ่ไี ดร้ ับมอบหมาย สถานะ เครอื่ งมือพิเศษ ถ้ามี 124 ภาคผนวก
วัตถุประสงค์การปฏิบัติ (ICS - 202) ระบบบญั ชาการณเ์ หตุการณก์ บั การจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 125
วัตถปุ ระสงคก์ ารปฏบิ ัติ (ICS – 202) เปา้ หมาย: อธิบายแนวความคดิ ในการปฏบิ ตั ิ กลยุทธใ์ นการปฏิบัติ ข้อพิจารณา ลำ� ดับความสำ� คญั ข้อควรระมัดระวังในการปฏบิ ัตเิ พ่ือความปลอดภยั ในห้วงเวลาปฏิบัตกิ ารหน่งึ ๆ การจัดท�ำ: เขียนข้ึนโดย สว่ นแผนงาน ภายหลงั การประชุม C&G Staff ในกระบวนการวางแผน ในกรณขี องการบญั ชาการเหตกุ ารณร์ ว่ ม ผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณท์ ไี่ ดร้ บั มอบหมายใหท้ ำ� หนา้ ทหี่ วั หนา้ ผ้บู ัญชาการเหตกุ ารณร์ ว่ ม เป็นผู้อนมุ ตั ิ แบบ ICS – 202 หรอื อาจร่วมนามรว่ มกนั ทกุ คนก็ได้ การแจกจ่าย: เป็นองค์ประกอบส่วนส�ำคัญของแผนเผชิญเผตุ แจกจ่ายให้กับผู้บังคับบัญชาต้ังแต่ หัวหน้าชุดปฏิบัติการข้ึนไป เอกสารทุกฉบับต้องส�ำเนาและเก็บรักษาท่ีหน่วยเอกสาร หากจ�ำเป็น ให้ใช้เอกสารเปลา่ เพ่มิ เตมิ ข้อความได้ หมายเลข ช่ือ ข้อแนะน�ำการกรอกขอ้ มูล 1 ช่ือเหตกุ ารณ์ การตง้ั ชือ่ เหตกุ ารณ์ใชส้ ถานที่รวมกบั ประเภทของภัยพบิ ัติ เชน่ อทุ กภยั โคราช 2 หว้ งเวลาปฏบิ ัติการ วันที่ และเวลา เริม่ ต้นของหว้ งเวลาปฏบิ ตั ิการหนงึ่ จากวนั ท่ี เวลา (ใช้การนับเวลา 24 ชวั่ โมง) จนถึง วันที่และเวลาทสี่ ิ้นสุด ถึงวนั ที่ เวลา หว้ งเวลาปฏิบตั ิการนน้ั ๆ 3 วัตถปุ ระสงค์ ระบวุ ัตถุประสงคก์ ารปฏิบัตทิ ่ชี ัดเจน เป็นรปู ธรรม ส�ำหรบั การปฏิบตั ิ การเผชิญเหตุ ตามล�ำดับความสำ� คัญ วัตถปุ ระสงคก์ าร ปฏบิ ตั ินี้ สำ� หรบั หว้ งเวลาปฏิบัตกิ ารหนง่ึ เทา่ นั้น ไม่ใช่วตั ถุ ประสงคภ์ าพรวมทั้งหมดของเหตกุ ารณ์ วตั ถปุ ระสงคก์ าร ปฏบิ ตั ติ อ้ งยดึ หลกั การ SMART Specific : ชัดเจน เป็นรูปธรรม ไมต่ ้องตีความ Measurable : วดั ความสำ� เร็จได้ มีหน่วยนบั ทว่ี ัดได้ Achievable : สามารถปฏิบัตไิ ดจ้ ริงในระยะเวลาท่ีกำ� หนด Realistic : มีเหตผุ ล ตามหลกั การปฏบิ ตั ิในการเผชิญเหตุ Time : ระยะเวลาทีก่ ำ� หนดมีความเหมาะสม 4 ขอ้ เนน้ ยำ้� การปฏบิ ตั กิ าร ข้อความท่ีผูบ้ ัญชาการเหตุการณ์ตอ้ งการย้�ำเตือน ในห้วงเวลาการปฏบิ ตั ิ การปฏบิ ัตงิ านของเจา้ หนา้ ท่เี ผชญิ เหตุทกุ คน ขอ้ ควรตระหนกั และ สภาพภูมิอากาศ ส่งิ ท่ีตอ้ งระมดั ระวังในห้วงเวลา สง่ิ ทค่ี วรระมดั ระวงั ปฏบิ ตั ิการน้ัน 5 แผนผงั ความปลอดภยั มีการจดั ท�ำผังความปลอดภัยหรือไม่ ใชส้ ัญลักษณ์ (X) ณ ท่เี กิดเหตุ มี หรอื หากมีสามารถไปขอรบั หรือดไู ดท้ ใ่ี ด ไมม่ ี รับได้ ณ ......... 126 ภาคผนวก
หมายเลข ช่อื ขอ้ แนะน�ำการกรอกขอ้ มูล กาบาก (X) หนา้ เอกสารทป่ี ระกอบเปน็ แผนเผชญิ เหตุ 6 องคป์ ระกอบของ แผนเผชญิ เหตุ ผู้เขียน กรอกชอื่ ต�ำแหนง่ และลงลายมือช่อื ของตนเอง ลงเวลา 24 ชัว่ โมง 7 จัดท�ำโดย ชื่อ : ตำ� แหนง่ : ลายมอื ชอ่ื ในกรณขี องการบญั ชาการเหตกุ ารณร์ ว่ ม ผบู้ ญั ชาการ วันทเ่ี วลา เหตุการณท์ ่ีได้รับมอบหมายใหท้ ำ� หนา้ ที่หวั หน้า ผู้บัญชาการเหตกุ ารณ์ร่วม เป็นผูอ้ นุมตั ิ แบบ ICS – 202 8 รับรองโดย หรอื อาจรว่ มนามร่วมกันทุกคนก็ได้ ผบู้ ัญชาการ เหตุการณ์ ระบบบญั ชาการณ์เหตกุ ารณ์กับการจัดการในภาวะฉกุ เฉินของประเทศไทย 127
โครงสร้าง หนา้ ท่ี (ICS - 203) 128 ภาคผนวก
โครงสรา้ งองคก์ ร (ICS –203) เป้าหมาย: เพ่ือเป็นข้อมูล โครงสร้างองค์กร และความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาตั้งแต ่ ระดับหน่วยขึ้นไป ในห้วงเวลา ปฏิบัติการหน่ึงๆ ไม่จ�ำเป็นต้องมีทุกต�ำแหน่ง ขนาดองค์กรขึ้นกับ ความซบั ซอ้ นและความรุนแรงของเหตุการณ์ การจัดท�ำ: หน่วยทรัพยากรเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดท�ำแบบโครงสร้างองค์กร ภายใต้การดูแล ของหัวหน้าส่วนแผนงาน กรอกข้อมูลช่ือเฉพาะต�ำแหน่งที่มีการจัดตั้ง หากมีเจ้าหน้าท่ีฝึกงาน ใหใ้ ส่ (ฝ) หลงั ชอื่ การแจกจา่ ย: เปน็ แบบฟอรม์ ตอ่ จาก แบบวตั ถปุ ระสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ (ICS – 202) และเป็นองคป์ ระกอบ ของแผนเผชญิ เหตุ เอกสารทกุ ฉบบั ตอ้ งสำ� เนาและเกบ็ รกั ษาทห่ี นว่ ยเอกสาร หากจำ� เปน็ ใหใ้ ชเ้ อกสาร เปลา่ เพ่มิ เตมิ ข้อความได้ ใสต่ �ำแหนง่ ท่ี ไมม่ ีในแบบไดต้ ามความเหมาะสม หมายเลข ชอื่ ขอ้ แนะนำ� การกรอกขอ้ มลู การต้งั ชอื่ เหตกุ ารณใ์ ชส้ ถานที่รวมกบั ประเภท 1 ชอ่ื เหตกุ ารณ์ ของภยั พิบัติ เช่น อุทกภัยโคราช วนั ที่ และเวลา เรมิ่ ต้นของห้วงเวลาปฏิบตั กิ ารหน่ึง (ใช้ 2 ห้วงเวลาปฏิบัตกิ าร การนับเวลา 24 ช่ัวโมง) จนถงึ วนั ทแ่ี ละเวลา จากวันท่ี เวลา ทีส่ ้นิ สดุ ห้วงเวลาปฏบิ ัติการ ถึงวนั ท่ี เวลา กรอกช่ือบคุ คลทไ่ี ด้รับมอบหมายใหร้ บั ผดิ ชอบต�ำแหน่ง ต่าง ๆ ในโครงสร้างองค์กร ในหว้ งเวลาปฏบิ ัตกิ าร 3 – 7 ตำ� แหน่ง 8 จดั ท�ำโดย ชื่อ: ผู้เขยี น กรอกชื่อ ตำ� แหน่ง และลงลายมือชื่อ ตำ� แหนง่ : ลายมอื ช่อื ของตนเอง ลงเวลา 24 ช่ัวโมง วันท่ีเวลา ระบบบัญชาการณเ์ หตกุ ารณ์กบั การจัดการในภาวะฉุกเฉินของประเทศไทย 129
มอบหมายหนา้ ท่ี (ICS - 204) 130 ภาคผนวก
มอบหมายหนา้ ท่ี (ICS – 204) เปา้ หมาย: เปน็ ขอ้ มลู ในระดบั พน้ื ทแี่ ละกลมุ่ ภารกจิ ลงมา เพอื่ กำ� หนดหนา้ ทแ่ี ละภารกจิ ในการปฏบิ ตั ิ ใหก้ บั หนว่ ยงานชุดปฏิบัตกิ ารตา่ งๆ การจัดท�ำ: โดยปกติจัดท�ำโดยหน่วยทรัพยากร โดยใช้แนวทางจากแบบวัตถุประสงค์การปฏิบัติ (ICS – 202) แผนปฏบิ ัติการ (ICS – 215) และจากหัวหนา้ ส่วนปฏิบตั กิ ารต้องได้รับการอนุมัติจาก ผู้บัญชาการเหตกุ ารณ์ การแจกจ่าย: เป็นองค์ประกอบของแผนเผชิญเผตุ แนบต่อจากวัตถุประสงค์การปฏิบัติ เอกสาร ทกุ ฉบบั ตอ้ งสำ� เนา และเก็บรกั ษาที่หนว่ ยเอกสาร หากจ�ำเปน็ ใหใ้ ช้เอกสารเปล่าเพิ่มเติมขอ้ ความได้ หมายเลข ชอื่ ขอ้ แนะน�ำการกรอกข้อมลู 1 ชือ่ เหตุการณ์ การตงั้ ชอื่ เหตุการณ์ใช้สถานทีร่ วมกับประเภท ของภัยพบิ ัติ เชน่ อุทกภยั โคราช 2 ห้วงเวลาปฏิบตั ิการ วันท่ี และเวลา เร่มิ ตน้ ของห้วงเวลาปฏิบตั ิการหน่งึ (ใช้ จากวันท่ี เวลา การนบั เวลา 24 ชวั่ โมง) จนถึง วันท่ีและเวลา ถึงวนั ที่ เวลา ที่ส้นิ สดุ หว้ งเวลาปฏิบัติการนนั้ ๆ 3 แผนก ใชส้ ญั ญาลกั ษณ์การเรียกใหถ้ ูกตอ้ ง เชน่ แผนก 1, พน้ื ท่ี พ้นื ท่ี A, กลุ่มภารกิจ 1A หรอื กล่มุ ดบั เพลิง 1C กล่มุ ภารกจิ จุดระดมทรัพยากร 4 รายชื่อผูบ้ ังคับบัญชา ชือ่ หมายเลขติดตอ่ ชอ่ งความถี่วทิ ยสุ ื่อสาร สว่ นปฏบิ ตั กิ าร ผ้อู �ำนวยการ สว่ นปฏบิ ัติการ หวั หนา้ พ้ืนท/่ี หัวหนา้ กลุ่มภารกจิ 5 ทรพั ยากรในความ รบั ผิดชอบ รหัสทะเบียน ใสร่ หสั หมายเลขของทรพั ยากรนนั้ ๆ และแหลง่ ทม่ี า เชน่ ทรพั ยากร ศปภ 14-02 หวั หน้าชดุ ชือ่ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ จำ� นวนเจา้ หน้าท่ี จำ� นวนบุคคลากรในชุดปฏบิ ตั ิการน้ันๆ ชอ่ งทางการตดิ ต่อ หมายเลขโทรศัพท์ วิทยสุ อ่ื สาร ความถ,ี่ และอื่นๆ สถานทรี่ ายงานตัว สถานทต่ี ง้ั ของทรพั ยากรชน้ิ นน้ั เชน่ จดุ ระดมทรพั ยากร วสั ดุ อุปกรณ์ พิเศษ ฐานแคมป์ มี SCBA จ�ำนวน 3 ชุด ระบบบญั ชาการณเ์ หตุการณ์กับการจัดการในภาวะฉกุ เฉินของประเทศไทย 131
หมายเลข ช่ือ ขอ้ แนะน�ำการกรอกขอ้ มลู 6 ภารกจิ ท่ไี ด้รับ รายละเอยี ดหนา้ ท่ี ทตี่ อ้ งปฏบิ ตั ใิ นหว้ งเวลาปฏบิ ตั กิ าร มอบหมาย อยา่ งชัดเจน เช่น ท�ำแนวกนั ไฟกวา้ ง 5 เมตร จากจุด A ไปยงั ทิศตะวนั ออก ระยะทาง 800 เมตร 7 ข้อแนะน�ำพเิ ศษ แจง้ ขอ้ แนะนำ� ในการปฏบิ ัติ หรอื มาตรการ ความปลอดภัย จดุ รบั เสบียงอาหาร น�้ำ หรอื ข้ันตอนการถอนตวั กรณฉี กุ เฉิน 8 การติดตอ่ สอ่ื สาร ใส่รายละเอยี ดการติดต่อสอื่ สารหลัก สำ� รอง ช่องความถ่ี ฉุกเฉนิ 9 จดั ท�ำโดย ช่ือ: ผูเ้ ขยี น กรอกชื่อ ต�ำแหน่ง และลงลายมอื ช่ือ ตำ� แหนง่ : ลายมือช่ือ วนั ของตน ลงเวลา โดยใชก้ ารนับเวลา 24 ชวั่ โมง ที่เวลา 132 ภาคผนวก
แผนสื่อสาร (ICS - 205) ระบบบัญชาการณ์เหตกุ ารณก์ ับการจัดการในภาวะฉกุ เฉินของประเทศไทย 133
แผนสื่อสาร (ICS – 205) เป้าหมาย: เป็นข้อมูลการติดต่อสื่อสารในทุกระบบ ท่ีใช้ในการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าท่ีเผชิญเหตุ ภาคสนามดว้ ยกนั กบั สว่ นปฏบิ ตั กิ าร สว่ นบงั คบั บญั ชาและอำ� นวยการอน่ื ๆ ในแตล่ ะหว้ งเวลาปฏบิ ตั ิ การ ซงึ่ อาจเปลยี่ นแปลงไป ขน้ึ อยกู่ บั ปรมิ าณและจำ� นวนของการใชว้ ทิ ยสุ อื่ สาร ซง่ึ จะระบชุ อ่ งความถี่ กลมุ่ การใช้งานแตล่ ะชอ่ ง การจดั ท�ำ: หน่วยสื่อสารเปน็ ผู้รับผดิ ชอบ การแจกจ่าย: เป็นองค์ประกอบของแผนเผชิญเผตุ แนบต่อจากวัตถุประสงค์การปฏิบัติ เอกสาร ทุกฉบบั ตอ้ งส�ำเนา และเกบ็ รกั ษาท่ีหนว่ ยเอกสาร หากจ�ำเป็นใหใ้ ชเ้ อกสารเปล่าเพ่มิ เติมข้อความได้ หมายเลข ช่ือ ขอ้ แนะนำ� การกรอกข้อมลู 1 ชื่อเหตุการณ์ การตัง้ ชื่อเหตุการณใ์ ช้สถานทีร่ วมกับประเภท ของภัยพิบัติ เช่น อุทกภยั โคราช 2 จดั ทำ� เมือ่ วนั ท่ี เวลา ใสว่ ันที่ ทจี่ ดั ท�ำ (ใช้การนับเวลา 24 ชัว่ โมง) 3 หว้ งเวลาปฏบิ ตั กิ ารจากวนั ที่ วันท่ี และเวลา เร่มิ ตน้ ของหว้ งเวลาปฏบิ ตั กิ ารหนงึ่ เวลา ถงึ วันท่ี เวลา จนถงึ วนั ทแ่ี ละเวลาทสี่ นิ้ สดุ หว้ งเวลาปฏบิ ตั กิ ารนน้ั ๆ 4 ชอ่ งความถวี่ ทิ ยสุ อื่ สาร ลำ� ดบั ท่ี ที่ ชอ่ งความถ่ี VHF, UHF, SSB หรือ CB ชอ่ งความถี่ ใช้ส�ำหรบั แตล่ ะกล่มุ เช่น กลมุ่ อำ� นวยการ ปฏิบตั ิการ กลมุ่ ทางอากาศ กลุ่มภารกิจ นามเรยี กขาน ช่ือเรียกชุดปฏิบัตกิ าร ภารกจิ ระบแุ ผนก พืน้ ที่ กลุ่มภารกจิ ทส่ี ังกดั ความถี่ภาครบั กรณีมีการใชร้ ะบบทวนสญั ญาณ ภาครบั สง่ และรหัส Tone, Squech การปรับเคร่อื ง ความถ่ีภาคสง่ Tone , Squech หมายเหตุ 5 ค�ำแนะน�ำพิเศษ ข้อมลู เพ่ิมเตมิ ทค่ี วรรเู้ กย่ี วกบั ระบบการสอื่ สาร 6 จัดท�ำโดย ชื่อ: ผู้เขียน กรอกช่อื ต�ำแหน่ง และลงลายมือชือ่ ของตน ตำ� แหน่ง: ลายมอื ชือ่ ลงเวลา โดยใชก้ ารนบั เวลา 24 ชัว่ โมง วนั ท่เี วลา 134 ภาคผนวก
รายการติดต่อสื่อสาร (ICS – 205A) ระบบบัญชาการณเ์ หตกุ ารณ์กบั การจดั การในภาวะฉุกเฉนิ ของประเทศไทย 135
รายการติดตอ่ สื่อสาร (ICS – 205A) เปา้ หมาย: เป็นขอ้ มลู การติดตอ่ สื่อสาร ของแตล่ ะบุคคล ทกุ ระบบทสี่ ามารถติดต่อได้ การจัดท�ำ: หน่วยสื่อสารเป็นผู้รับผิดชอบ โดยการสนับสนุนหน่วยทรัพยากร ติดตามข้อมูลต้ังแต่ การลงทะเบียน การแจกจ่าย: ภายในโครงสรา้ ง และอาจตดิ ไว้ในบนผนัง เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลการติดตอ่ หมายเลข ช่อื ข้อแนะน�ำการกรอกขอ้ มูล 1 ชือ่ เหตกุ ารณ์ การตั้งชอ่ื เหตกุ ารณ์ใช้สถานที่รวมกบั ประเภท ของภยั พิบัติ เช่น อทุ กภัยโคราช 2 หว้ งเวลาปฏบิ ตั ิการ วันท่ี และเวลา เร่ิมตน้ ของห้วงเวลาปฏบิ ัตกิ ารหนงึ่ จากวนั ท่ี เวลา (ใช้การนับเวลา 24 ช่วั โมง) จนถึง วนั ทแ่ี ละเวลา ถงึ วันที่ เวลา ทส่ี ิ้นสุดห้วงเวลาปฏิบตั กิ าร 3 ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร ตำ� แหนง่ ทไี่ ดร้ บั ตำ� แหน่งในระบบบัญชาการเหตกุ ารณ์ มอบหมาย ชอ่ื - สกลุ ชอ่ งทางการตดิ ตอ่ ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ ของบคุ คลนน้ั ทงั้ หมด หมายเลขโทรศพั ท์ นามเรียกขาน ช่องทางอนื่ ๆ ทีส่ ามารถตดิ ตอ่ ได้ 4 จดั ทำ� โดย ชอื่ : ตำ� แหนง่ : ผู้เขียน กรอกชื่อ ตำ� แหนง่ และลงลายมือชอื่ ของตนเอง ลายมอื ชอ่ื วนั ทเ่ี วลา ลงเวลา (ใช้การนับเวลา 24 ช่ัวโมง) 136 ภาคผนวก
แผนการแพทย์ (ICS - 206) ระบบบัญชาการณ์เหตกุ ารณก์ ับการจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 137
แผนการแพทย์ (ICS – 206) เป้าหมาย: ให้ข้อมูลด้านการแพทย์เก่ียวกับ สถานท่ีบริการทางการแพทย์ การส่งต่อผู้ป่วย โรงพยาบาล ขัน้ ตอน กระบวนการฉกุ เฉินทางการแพทย์ การจัดทำ� : เขยี นขึ้นโดย หัวหนา้ หน่วยการแพทย์ รบั รองโดยเจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั หากมปี ฏบิ ตั ิ การทางอากาศ ตอ้ งประสานกบั หวั หนา้ แผนกปฏบิ ตั กิ ารทางอากาศด้วย การแจกจ่าย: เป็นองค์ประกอบของแผนเผชิญเผตุ แจกจ่ายให้กับผู้บังคับบัญชาต้ังแต่หัวหน้า ชุดปฏิบัติการข้ึนไป เอกสารทุกฉบับต้องส�ำเนาและเก็บรักษาที่หน่วยเอกสาร หากจ�ำเป็นให้ใช ้ เอกสารเปล่าเพ่ิมเติมขอ้ ความได้ หมายเลข ชอ่ื ข้อแนะน�ำการกรอกขอ้ มลู การตง้ั ชอื่ เหตกุ ารณ์ใชส้ ถานทร่ี วมกบั ประเภท 1 ช่ือเหตกุ ารณ์ ของภัยพบิ ัติ เชน่ อุทกภยั โคราช วันท่ี และเวลา เร่มิ ตน้ ของหว้ งเวลาปฏิบัตกิ ารหนึ่ง 2 ห้วงเวลาปฏิบตั ิการ (ใช้การนบั เวลา 24 ช่ัวโมง) จนถงึ วนั ท่ีและเวลา จากวนั ที่ เวลา ถงึ ท่ีสิน้ สดุ ห้วงเวลาปฏิบตั ิการนน้ั ๆ วันท่ี เวลา สถานพยาบาลทีจ่ ัดตงั้ ขน้ึ หรือมีอยู่ใกล้ท่เี กิดเหตุ 3 สถานพยาบาล จดุ ท่ีตั้ง เช่น แคมป์, รพ.สต., จดุ ระดมทรัพยากร ภาคสนาม หมายเลขโทรศพั ท์ นามเรียกขาน ขา่ ยวทิ ยุ ชอ่ื มเี จ้าหน้าท่พี ยาบาลประจำ� หรือใช้เจ้าหนา้ ทก่ี ้ชู พี การสง่ ต่อ เจ้าหน้าทก่ี รณีได้รับบาดเจ็บ สถานทตี่ ั้ง จำ� นวน ประเภท ชนดิ หมายเลขติดตอ่ หมายเลขโทรศพั ท์ นามเรยี กขาน ขา่ ยวทิ ยุ ชอ่ งความถีส่ อื่ สาร ALS: Advance Life Support มีเจ้าหนา้ ทพี่ ยาบาล BLS: Basic Life Support 4 การส่งตอ่ ผู้ปว่ ย ชื่อ บริการรถพยาบาล หมายเลขตดิ ตอ่ ชอ่ งความถ่ีส่ือสาร ระดับการบริการ 138 ภาคผนวก
หมายเลข ชอ่ื ขอ้ แนะนำ� การกรอกขอ้ มูล 5 ชอื่ โรงพยาบาล ทอ่ี ยู่ พิกดั (กรณมี ีลานจอด ฮ.) หมายเลขโทรศพั ท์ นามเรยี กขาน ขา่ ยวิทยุ สถานทต่ี ั้ง ระยะเวลาเดินทางทางบกและอากาศ หมายเลขติดตอ่ (ค�ำนงึ ถงึ การจราจร) ชอ่ งความถสี่ ื่อสาร ศนู ย์ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉนิ ศนู ย์ดูแลผู้ป่วยแผลพพุ อง เวลาการเดนิ ทาง ประเภท ชนิด ขนาดที่ ฮ.ลงจอดได้ มีผู้ควบคมุ อากาศยาน ศูนย์ Trauma ข้นั ตอนพิเศษ หรือฉกุ เฉิน เฉพาะท่ีควรทราบ ศนู ย์ผูป้ ว่ ยเพลิงไหม้ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ผเู้ ขยี น กรอกช่อื ตำ� แหนง่ และลงลายมือชอ่ื ของตนเอง ลงเวลา (ใช้การนับเวลา 24 ชัว่ โมง) 6 ขั้นตอนกระบวนการ ฉกุ เฉินทางการแพทย์ กรอกชอ่ื ตำ� แหน่ง และลงลายมือช่ือของเจา้ หน้าท่ี ความปลอดภยั ลงเวลา (ใช้การนบั เวลา 24 ชัว่ โมง) 7 จดั ท�ำโดย ชอื่ : ต�ำแหน่ง: ลายมือชอ่ื วันท่ีเวลา 8 รับรองโดยเจา้ หนา้ ที่ ความปลอดภัย ระบบบญั ชาการณเ์ หตุการณ์กบั การจดั การในภาวะฉุกเฉินของประเทศไทย 139
ขอ้ มลู ความปลอดภยั (ICS - 208) 140 ภาคผนวก
ขอ้ มลู ความปลอกภัย (ICS – 208) เปา้ หมาย : ใหข้ ้อมูลความปลอดภยั ตา่ งๆ ทีจ่ ำ� เป็น การจัดตัง้ พื้นท่ีปลอดภยั การจดั ท�ำ : เปน็ แบบ ตวั เลือกท่ีจะใส่ในแผนเผชญิ เหตหุ รอื ไม่ก็ได้ เจา้ หน้าทค่ี วามปลอดภยั เปน็ ผพู้ ิจารณาความจ�ำเป็น มักใชใ้ นสถานการณ์ทมี่ คี วามเส่ยี งสงู การแจกจ่าย : หากมีการจัดท�ำข้ึน จะเป็นองค์ประกอบหนึ่งของแผนเผชิญเหตุ เอกสารทุกฉบับ ต้องท�ำสำ� เนา และเก็บ รกั ษาทห่ี นว่ ยเอกสาร หากจ�ำเป็นใหใ้ ชเ้ อกสารเปลา่ เพมิ่ เติมขอ้ ความได้ หมายเลข ชอ่ื ข้อแนะน�ำการกรอกขอ้ มลู การตัง้ ชอ่ื เหตุการณ์ใชส้ ถานทีร่ วมกบั ประเภท 1 ชอ่ื เหตุการณ์ ของภัยพิบตั ิ เชน่ อุทกภัยโคราช วันท่ี และเวลา เร่มิ ต้นของห้วงเวลาปฏิบัตกิ ารหน่ึง 2 ห้วงเวลาปฏิบตั กิ าร (ใช้การนับเวลา 24 ช่ัวโมง) จนถึง วันที่และเวลา จากวันท่ี เวลา ทสี่ นิ้ สุด หว้ งเวลาปฏบิ ัติการนั้นๆ ถงึ วันท่ี เวลา เขียนข้อมูลความเส่ียงภัยอยา่ งชดั เจน การจัดล�ำดับ ความส�ำคญั ข้นั ตอน ในการปฏบิ ัติ การใช้อุปกรณป์ อ้ งกนั 3 ขอ้ มลู ความปลอดภยั ประจ�ำกายทเี่ หมาะสม การปฏบิ ตั เิ พอื่ ลดความเสย่ี ง พ้นื ท่ีปลอดภยั ได้แก่ เสน้ ทางไปยงั พ้ืนทที่ ่ีสามารถถอนตัว ขอ้ ควรระวงั ออกจากทเ่ี กิดเหตไุ ด้ดว้ ยความปลอดภยั พน้ื ทปี่ ลอดภยั ผเู้ ขยี น กรอกช่ือ ต�ำแหน่ง และลงลายมอื ชื่อของตนเอง ลงเวลา (ใช้การนับเวลา 24 ชัว่ โมง) 4 จดั ตง้ั พนื้ ทป่ี ลอดภยั บรเิ วณทเ่ี กดิ เหตุ 5 จดั ทำ� โดย ชอื่ : ตำ� แหนง่ : ลายมอื ชอ่ื : วนั ทเ่ี วลา: ระบบบัญชาการณ์เหตกุ ารณก์ บั การจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ ของประเทศไทย 141
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170