โครงการสวนพระองคส มเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มูลนธิ ิการศกึ ษาทางไกลผานดาวเทียม ในพระบรมราชปู ถัมภ สาํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน พืน ฐาน สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
ชดุ เอกสารส่อื ๖๐ พรรษา สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ลขิ สทิ ธ์ขิ อง สํานกั งานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ สงวนลิขสิทธติ์ ามพระราชบญั ญตั ิลขิ สทิ ธ์ิ พมิ พค รัง้ ท่ี พ.ศ. ๒๕๖๓ จาํ นวน เลม จัดพมิ พโดย
ค�ำ ช้ีแจง ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับครูผู้สอน) หน่วยที่ ๔ เวลา เล่มนี้ เป็น ๑ ใน ๙ เล่ม ของชุดการจัดกิจกรรม การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ซึ่งผ่านการวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วัด กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เม่อื สอนครบทงั้ ๙ เลม่ นกั เรยี นจะได้เรียนรคู้ รบถ้วนครอบคลมุ ทกุ มาตรฐานและตวั ช้ีวัดของหลกั สตู ร ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับครูผู้สอน) หน่วยที่ ๔ เวลา เล่มนี้ เป็นเอกสารที่นำ�เสนอแนวทางในการจัดการ เรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ เรอื่ งเวลา ใหก้ บั นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ประกอบดว้ ย (๑) คำ�แนะนำ�สำ�หรบั ครผู ้สู อน (๒) โครงสรา้ งชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (๓) กำ�หนดการสอนคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ (๔) โครงสร้างหนว่ ยการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา (๕) มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวัดของหนว่ ยการเรียนรู้ หน่วยที่ ๔ เวลา (๖) แผนการจัดการเรยี นรู้ จำ�นวน ๑๔ แผน (๗) เฉลยแบบฝกึ หดั ของนักเรียน (๘) เฉลยใบกิจกรรมของนักเรยี น (๙) แบบประเมินทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ก่อนการสอนเร่อื งเวลา ครผู สู้ อนควรศึกษาแผนการจดั การเรยี นรู้จากเอกสารเล่มนีอ้ ยา่ งละเอียด จะทำ�ใหร้ วู้ ่าตอ้ งสอน แตล่ ะเนอ้ื หาอยา่ งไร และตอ้ งเตรยี มสอ่ื /อปุ กรณป์ ระกอบการสอนอะไรบา้ ง ซง่ึ จะทำ�ใหก้ ารจดั การเรยี นรขู้ องครมู ปี ระสทิ ธภิ าพ สง่ ผลใหน้ ักเรียนมคี วามร้คู วามเข้าใจในเน้อื หาท่ีสอน คณะผจู้ ดั ทำ�หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั ครผู สู้ อน) หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เลม่ น้ี จะเปน็ ประโยชน์ ต่อครูผู้สอน ในการนำ�ไปใช้จัดการเรียนรู้ เรื่องเวลา ให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัด การเรยี นรู้ของครูและการเรยี นรขู้ องนกั เรยี นให้สงู ขึ้นตอ่ ไป สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั ครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ I
สารบัญ ๑ ๔ คำ�แนะนำ�สำ�หรับครผู ู้สอน ๕ โครงสร้างชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๖ กำ�หนดเวลาการสอนคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ๗ โครงสรา้ งหน่วยการเรยี นรู้ หน่วยท่ี ๔ เวลา ๘ มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ัดของหนว่ ยการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๔ เวลา ๙ แผนการจัดการเรยี นรู้ ๑๗ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ ๒๖ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ ๓๔ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ ๔๒ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ ๔๘ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๕ ๕๓ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๖ ๖๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗ ๖๘ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๘ ๗๕ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๙ ๘๒ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๐ ๘๗ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๑ ๙๓ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๒ ๙๙ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๓ ๑๐๒ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๔ ๑๐๓ ภาคผนวก ๑๓๕ ภาคผนวก ก เฉลยแบบฝกึ หัด ๑๕๑ ภาคผนวก ข เฉลยใบกิจกรรม ภาคผนวก ค แบบประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ II ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓
ค�ำ แนะน�ำ สำ�หรบั ครูผ้สู อน ๑. แนวคิดหลัก การจัดการเรยี นการสอนคณติ ศาสตรม์ ่งุ ให้ผู้เรยี นมีความสามารถดา้ นการส่อื สารและการคดิ อย่างเป็นระบบ สามารถ ตงั้ ขอ้ สนั นษิ ฐาน สบื เสาะและเลอื กสรรสารสนเทศ ใหเ้ หตผุ ล แกป้ ญั หาโดยเลอื กใชย้ ุทธวธิ ตี ่าง ๆ การจดั กจิ กรรมจึงควรเนน้ การเรยี นรรู้ ่วมกันเปน็ กลมุ่ ซง่ึ เป็นการเปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รียนได้ร่วมกนั คิด ปรึกษาหารอื อภปิ ราย แกป้ ัญหา แสดงความคดิ เห็น และสะท้อนความคิด (reflective thinking) ช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และ คุณธรรม จริยธรรม ในการจัดกลุ่ม อาจจัดเป็นกลุ่ม ๒ คน หรือกลุ่ม ๓ – ๔ คน หรืออาจจัดกิจกรรมร่วมกันทั้งชั้น ทั้งนี้ ขน้ึ อย่กู ับวัตถปุ ระสงคข์ องการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้นัน้ ๆ ในการดำ�เนนิ กจิ กรรมการเรยี นการสอนคณติ ศาสตร์ สง่ิ สำ�คญั ทผ่ี สู้ อนควรคำ�นงึ ถงึ เปน็ อนั ดบั แรกคอื ความรพู้ น้ื ฐานของ ผเู้ รยี น ผสู้ อนอาจทบทวนโดยใชค้ าํ ถามหรอื ยทุ ธวธิ ตี า่ ง ๆ เพอ่ื นำ�ไปสกู่ ารเรยี นรเู้ นอ้ื หาใหม่ ขน้ั การสอนเนอ้ื หาใหม่ ผสู้ อนอาจ กำ�หนดสถานการณ์ท่เี ชือ่ มโยงกับเรื่องราวในขน้ั ทบทวนความรู้ และใชย้ ทุ ธวธิ ีตา่ ง ๆ ท่ชี ่วยใหผ้ ูเ้ รียนสามารถสรุปหรอื เข้าใจ หลักการ แนวคิด กฎ สตู ร สัจพจน์ ทฤษฎบี ท หรอื บทนยิ ามดว้ ยตนเอง ในขณะท่ีผูเ้ รียนปฏิบัตกิ ิจกรรม ผสู้ อนควรใหอ้ ิสระ ทางความคดิ กับผ้เู รียน โดยผสู้ อนคอยสงั เกต ตรวจสอบความเขา้ ใจและให้คำ�แนะนําอย่างใกลช้ ิด ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ผสู้ อนควรใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนหรอื แตล่ ะกลมุ่ ไดน้ ำ�เสนอแนวคดิ เพราะผเู้ รยี นมโี อกาส แสดงแนวคดิ เพิม่ เติมร่วมกนั ซกั ถาม อภิปรายข้อขดั แย้งด้วยเหตุและผล ผู้สอนมโี อกาสเสริมความรู้ ขยายความรหู้ รือสรุป ประเดน็ สำ�คญั ของสาระทนี่ ําเสนอนน้ั ทำ�ใหก้ ารเรียนรูข้ ยายวงกว้างและลกึ มากข้นึ สามารถนำ�ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้ นอกจากนย้ี งั ทำ�ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ เจตคตทิ ด่ี ี มคี วามภมู ใิ จในผลงาน เกดิ ความรสู้ กึ อยากทำ� กลา้ แสดงออก และจดจาํ สาระทต่ี นเอง ไดอ้ อกมานาํ เสนอไดน้ าน รวมทง้ั ฝกึ การเปน็ ผูน้ ำ� ผตู้ าม รับฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำ�หรับชั้นประถมศึกษา ผู้สอนควรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติ ฝึกทักษะการสังเกต ฝึกให้เหตผุ ลและหาข้อสรปุ จากสอื่ รปู ธรรมหรือแบบจำ�ลองตา่ ง ๆ กอ่ น แล้วขยายวงความร้สู นู่ ามธรรมตามความสามารถของ ผเู้ รียน สำ�หรบั บางเนื้อหาท่ียากตอ่ การทำ�ความเขา้ ใจของนักเรียนบางคน ผู้สอนควรหายุทธวธิ ตี ่าง ๆ ทีเ่ หมาะสมกบั ผเู้ รยี น ในการอธิบาย เช่น ใช้วิธีลดรูปของปัญหา หรือเลือกใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้การเรียนรู้ง่ายขึ้น และเพื่อให้ ผู้เรียนตระหนักในคุณค่าของคณิตศาสตร์ ผู้สอนควรใช้สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริงเป็นตัวอย่างในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ ๒. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ การนำ�ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนร้ไู ปใช้ ครผู ูส้ อนควรเตรียมตวั ล่วงหนา้ ดงั น้ี ๑. ศึกษาโครงสร้างชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้ทราบว่าตลอดทั้งปีการศึกษา นักเรียนต้องเรียนรู้ทั้งหมด กี่หน่วย แตล่ ะหน่วยมหี น่วยย่อยอะไรบ้าง ใชเ้ วลาสอนก่ีชั่วโมง และมกี แี่ ผน ๒. ศึกษาโครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ ว่าแต่ละหน่วยการเรียนรู้มีเนื้อหาอะไรบ้าง เนื้อหาละกี่ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้ ครูผู้สอนมองเหน็ ภาพรวมของการสอนในหนว่ ยดังกล่าวไดอ้ ยา่ งชัดเจน ๓. ศึกษาแนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งอยู่หน้าแผนแต่ละแผน เป็นการสรุปแนวการจัดกิจกรรมในแต่ละขั้นตอน การสอน ทำ�ให้ครผู ้สู อนมองเหน็ ภาพรวมของการจดั การเรียนรใู้ นชว่ั โมงน้นั ๆ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ 1
๔. ศกึ ษาแผนการจัดการเรยี นรู้ ตามหวั ขอ้ ต่อไปนี้ ๔.๑ ขอบเขตเนือ้ หา เปน็ เนอื้ หาท่ีนกั เรียนตอ้ งเรยี นรู้ในแผนท่ีกำ�ลังศกึ ษา ๔.๒ สาระสำ�คัญ เปน็ ความคดิ รวบยอดหรอื หลักการที่นักเรียนควรจะไดห้ ลังจากไดเ้ รยี นรู้ตามแผนที่กำ�หนด ๔.๓ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ แบ่งเปน็ ดา้ นความรู้ และดา้ นทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ๔.๔ กจิ กรรมการเรยี นรู้ แบง่ เปน็ ข้นั นำ� ข้ันสอน และข้นั สรปุ ซ่ึงแตล่ ะขั้นครผู ู้สอนควรศึกษาทำ�ความเขา้ ใจอย่าง ละเอียด นอกจากน้ีครูผสู้ อนควรพิจารณาด้วยว่า ในแตล่ ะขั้นตอนการสอน ครผู ู้สอนจะต้องศึกษาว่ามี สือ่ / อปุ กรณ์อะไรบา้ ง ๔.๕ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ เป็นการบอกรายการส่ือ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรูท้ ีต่ อ้ งใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ในชวั่ โมงน้ัน ๔.๖ การประเมิน เปน็ การบอกทงั้ วิธกี าร เครื่องมอื และเกณฑ์การประเมนิ สำ�หรับเคร่ืองมอื การประเมินในชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนร้ฯู นี้ ไดจ้ ัดเตรยี มไวใ้ ห้ครูผู้สอนเรียบร้อยแล้ว ๓. สือ่ การจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ส่ือการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ประกอบดว้ ย ๓.๑ แผนการจดั การเรียนรู้ สำ�หรับครผู สู้ อนใชเ้ ป็นแนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หก้ ับนกั เรียน ๓.๒ แบบฝึกหัด สำ�หรับนักเรียนใช้ฝึกทักษะหลังจากทำ�ความเข้าใจบทเรียน แนวคิดและความคิดรวบยอด ท่สี ำ�คญั ในบทเรียนเรื่องนน้ั ๆ ไปแล้ว ๓.๓ ใบกิจกรรม สำ�หรบั นักเรียนใชฝ้ ึกทักษะปฏิบัติ หรือสรา้ งความคิดรวบยอดในบทเรียน ๓.๔ แบบทดสอบ เปน็ การวัดความร้คู วามเขา้ ใจตามตวั ชว้ี ดั ท่กี ำ�หนดไวใ้ นหลกั สูตร แบบฝึกหัดและใบกิจกรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ได้มีการกำ�หนดสัญลักษณ์รูปดาว ๕ แฉก จำ�นวน ๓ ดวง และแถบสีเขียว โดย ฝ. หมายถึง แบบฝึกหดั ก. หมายถึง ใบกจิ กรรม ผ. หมายถงึ แผนการจัดการเรียนรู้ เชน่ ฝ.๑.๖/ผ.๔ เปน็ แบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ ๑ ลำ�ดบั ที่ ๖ อย่ใู นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ ฝ.๓.๗/ผ.๖ เป็นแบบฝกึ หดั หน่วยที่ ๓ ลำ�ดับท่ี ๗ อยใู่ นแผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๖ ก.๒.๑/ผ.๓ เปน็ ใบกจิ กรรมหน่วยที่ ๒ ลำ�ดบั ที่ ๑ อย่ใู นแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๓ หมายเหตุ ลำ�ดบั ทีข่ องแบบฝึกหัด ใบกจิ กรรม และแบบทดสอบจะเรียงต่อกันจนครบทุกแผนในแต่ละหนว่ ย เมอ่ื ขึน้ หน่วยใหม่ลำ�ดบั ทข่ี องแบบฝกึ หัด ใบกจิ กรรม และแบบทดสอบจะเร่มิ ตน้ ใหม่ 2 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๓
๔. ลักษณะชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ จดั ทำ�เปน็ หน่วยการเรียนรู้ (Learning Unit) โดยผา่ นการวิเคราะหม์ าตรฐานและตวั ช้วี ดั กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ มาจัดทำ�เปน็ หน่วยการเรยี นรใู้ นแต่ละภาคเรยี น ดงั น้ี ภาคเรยี นที่ ๑ ประกอบด้วย หน่วยการเรียนรู้ ๗ หน่วย ดงั นี้ หน่วยท่ี ๑ จำ�นวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ หน่วยที่ ๒ การดำ�เนินการของจำ�นวน หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๑ การบวก การลบ หน่วยที่ ๓ เรขาคณิต หนว่ ยที่ ๔ เวลา หนว่ ยท่ี ๕ เศษส่วน หนว่ ยท่ี ๖ สถติ ิ หน่วยที่ ๗ เงนิ ภาคเรยี นที่ ๒ ประกอบด้วย หน่วยการเรยี นรู้ ๒ หนว่ ย ดังน้ี หนว่ ยที่ ๒ การดำ�เนินการของจำ�นวน หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๒ การคณู การหาร หน่วยที่ ๘ การวดั หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๘.๑ การวัดความยาว หนว่ ยย่อยที่ ๘.๒ การวดั น้ำ�หนกั หน่วยยอ่ ยที่ ๘.๓ การวดั ปริมาตร ๕. แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ การจัดทำ�แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ กำ�หนดให้สอดคลอ้ งกับ หนว่ ยการเรียนรู้ แต่ละหนว่ ยการเรยี นร้ปู ระกอบดว้ ยแผนการจดั การเรยี นรหู้ ลายแผน แผนละ ๑ ชว่ั โมง โดยมีองคป์ ระกอบ ของแผนการจดั การเรียนรู้คือ ขอบเขตเนอ้ื หา สาระสำ�คญั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรซู้ ่ึงมที ้ังดา้ นความร้แู ละด้านทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ และการประเมิน สำ�หรบั แผนการจดั การเรยี นรทู้ กุ แผนจะ มีแนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้อยู่หนา้ แผนทุกแผนซึง่ เปน็ การสรปุ ภาพรวมของการจดั กจิ กรรมการเรียนรใู้ นชว่ั โมงน้ัน ๆ ในทกุ ขัน้ ตอนการสอนตัง้ แต่ข้ันนำ� ข้ันสอน ข้ันสรปุ และการวัดและประเมินผล ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั ครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ 3
โครงสรา้ งชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ หน่วยที่ ๘ หน่วยที่ ๑ หน่วยที่ ๒ การวดั จ�ำ นวนนบั การดำ�เนินการของจำ�นวน (๔๖ ชว่ั โมง) ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ (๑๑ ช่ัวโมง) (๖๙ ชั่วโมง) หนว่ ยท่ี ๗ ป.๓ หน่วยท่ี ๓ เงิน ๒๐๐ เรขาคณติ ชวั่ โมง/ปี (๑๐ ชั่วโมง) (๑๖ ช่ัวโมง) หน่วยท่ี ๖ หน่วยท่ี ๔ สถิติ เวลา (๑๑ ช่ัวโมง) (๑๔ ช่วั โมง) หน่วยท่ี ๕ เศษส่วน (๑๗ ชวั่ โมง) หมายเหต ุ เวลารวมของทุกหนว่ ยเป็น ๑๙๔ ชว่ั โมงรวมกับการวัดผลประเมนิ ผล และกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรูค้ ณติ ศาสตรเ์ ปน็ ๒๐๐ ชั่วโมง/ปี 4 ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓
ก�ำ หนดเวลาการสอนคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ รวม ๙ เลม่ ภาคเรียนท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ หน่วยการเรยี นรู้ จ�ำ นวน หน่วยการเรียนรู้ จำ�นวน ชั่วโมง ชว่ั โมง หนว่ ยท่ี ๑ จ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ ๕๐ ๑๐๐,๐๐๐ ๑๑ หน่วยท่ี ๒ การด�ำ เนินการของ หน่วยที่ ๒ การด�ำ เนนิ การของ จ�ำ นวน ๑๖ จำ�นวน ๑๖ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๑ การบวก การลบ ๑๙ หนว่ ยย่อยที่ ๒.๒ การคูณ การหาร ๑๘ หนว่ ยที่ ๓ เรขาคณติ ๔๖ หน่วยท่ี ๔ เวลา - การคณู ๑๕ หน่วยที่ ๕ เศษสว่ น ๑๕ หน่วยท่ี ๖ สถิติ - การหาร ๑๖ หน่วยที่ ๗ เงิน ๑๐ - การบวก ลบ คณู หารระคน ๔ กจิ กรรมเพมิ่ เติมส�ำ หรับโรงเรยี น ๑๔ หนว่ ยท่ี ๘ การวดั ๑๐๐ รวม ๑๗ - การวดั ความยาว ๑๑ - การวดั นำ้ �หนกั ๑๖ - การวดั ปริมาตร ๒ กจิ กรรมเพ่มิ เติมส�ำ หรบั โรงเรยี น ๑๐๐ รวม รวม ๒๐๐ ชว่ั โมง ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ 5
โครงสร้างหนว่ ยการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๔ เวลา กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ การอ่านและเขยี นเวลา การบอกระยะเวลา การอ่านและเขยี นบันทกึ (๒ ช่ัวโมง) (๓ ช่ัวโมง) (๑ ช่วั โมง) โจทย์ปัญหาเก่ียวกบั การเปลี่ยนหน่วยเวลา หน่วยที่ ๔ เวลาและระยะเวลา (๒ ช่ัวโมง) เวลา (๔ ชว่ั โมง) (๑๔ ชัว่ โมง) การเปรียบเทียบระยะเวลา รว่ มคิดรว่ มท�ำ (๑ ช่วั โมง) “ทอ่ งเทย่ี วสวนสัตว์แสนสนุก” (๑ ช่วั โมง) 6 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชี้วัดของหนว่ ยการเรียนรู้ หน่วยที่ ๔ เวลา กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ สาระท่ี ๒ การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค ๒.๑ เขา้ ใจพื้นฐานเกย่ี วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่งิ ทีต่ อ้ งการวัด และน�ำ ไปใช้ ตัวช้วี ดั ค ๒.๑ ป.๓/๒ แสดงวธิ กี ารหาคำ�ตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ๑. การแก้ปญั หา ๒. การใหเ้ หตผุ ล ๓. การสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ ๔. การเชอ่ื มโยง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ 7
แผนการจดั การเรียนรู้
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ขน้ั น�ำ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ ข้ันสอน ขนั้ สรุป แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล ทบทวนการบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที (ช่วง 5 นาท)ี ท้งั กลางวนั และกลางคนื ดว้ ยกจิ กรรม “เวลานี้เปน็ เวลาใด” จัดกิจกรรมการบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนเป็นรายบคุ คลเกยี่ วกบั การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที ใบกจิ กรรม 4.1 และ แบบฝึกหัด 4.1 - ประเมินจากการตอบคำ�ถามและการท�ำ ใบกิจกรรม 4.1 และแบบฝึกหดั 4.1 - ประเมินจากการสือ่ สารและสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 9
10 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑ ชั้น ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่ัวโมง ขอบเขตเนอื้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า ข้ันนำ� 1. บัตรภาพนาฬิกา และนาที 1. ทบทวนการบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที (ชว่ ง 5 นาที) ท้ังกลางวันและกลางคืน ดว้ ยกิจกรรม 2. นาฬิกาจ�ำ ลอง “เวลานี้เป็นเวลาใด” ข้นั ตอนกจิ กรรมดงั นี้ 3. ใบกิจกรรม 4.1 สาระสำ�คญั 4. แบบฝึกหัด 4.1 1) แจกบัตรภาพนาฬกิ าแบบเข็มให้นกั เรยี นคนละ 2 ใบ ใหน้ ักเรยี นเขยี นบอกเวลากลางวัน 1. นาฬิกาเป็นเครอื่ งมอื ท่ีใช้ และกลางคนื เป็นนาฬิกาและนาที การประเมิน บอกเวลา ซ่งึ นาฬกิ าแบบเขม็ บนหนา้ ปดั นาฬกิ าจะมีเขม็ ส้ัน 1 ภาพนาฬิกา ช่วงเวลา เขยี นบอกเวลา 1. วธิ ีการ และเขม็ ยาว มชี อ่ งใหญ่ 2 ภาพนาฬกิ า กลางวัน 9 นาฬกิ า 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม เท่า ๆ กัน 12 ช่อง โดยมี การเรยี นรู้ ตวั เลข กำ�กบั 1 ถึง 12 และ กลางคนื 21 นาฬกิ า 1.2 ตรวจใบกิจกรรม 1 ชอ่ งใหญ่ แบง่ เปน็ 5 ชอ่ งเลก็ 1.3 ตรวจแบบฝกึ หดั 2. เขม็ ยาวบอกเวลาเป็นนาที ช่วงเวลา เขียนบอกเวลา 2. เคร่อื งมอื เขม็ ยาวเคลอ่ื นทไ่ี ป 1 ชอ่ งเลก็ กลางวนั 7 นาฬกิ า 15 นาที 2.1 ใบกิจกรรม 4.1 เป็นเวลา 1 นาที เคลื่อน 2.2 แบบฝกึ หัด 4.1 1 ชอ่ งใหญ่ เปน็ เวลา 5 นาที กลางคืน 19 นาฬิกา 15 นาที 2.3 แบบประเมินทกั ษะ เคลือ่ นไป 12 ช่องใหญ่ เปน็ และกระบวนการทาง เวลา 60 นาที เทา่ กบั คณติ ศาสตร์ 1 ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่ัวโมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ 3. เข็มยาวหมนุ ไป 1 รอบ 2) ครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยและตรวจคำ�ตอบ ครอู าจถามเพ่มิ เติมเกี่ยวกบั กิจกรรมท่ี 3. เกณฑ์ เข็มสนั้ จะเคลื่อนท่ีไป นกั เรยี นทำ�ในเวลาต่าง ๆ และทบทวนวิธกี ารอ่านเวลาท้ังกลางวนั และกลางคืน ดังนี้ 3.1 ผลงานมีความถูกต้อง 1 ชอ่ งใหญ่ เปน็ เวลา 1 ชว่ั โมง - การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีจากนาฬิกาแบบเข็มใหพ้ จิ ารณาทตี่ ำ�แหน่งเข็มสั้นและ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 หรอื เวลาผา่ นไป 1 ชวั่ โมง เขม็ ยาว เขม็ สั้นบอกเวลาเปน็ นาฬิกา เข็มยาวบอกเวลาเปน็ นาที 3.2 คะแนนรวมดา้ นทกั ษะ 4. การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา และกระบวนการทาง และนาที - การอา่ นเวลากอ่ น 12 นาฬิกา ทำ�ไดโ้ ดยอ่านจากตัวเลขท่เี ข็มสนั้ ช้ี เชน่ เขม็ สัน้ ชีท้ ่ีตัวเลข คณติ ศาสตร์ไมน่ ้อยกว่า - นาฬกิ าแบบเขม็ ให้ 9 อ่านเวลาเป็น 9 นาฬิกา ซ่งึ เปน็ เวลาหลงั จากเร่ิมวันใหม่มาแล้ว 9 ชว่ั โมง รอ้ ยละ 60 พิจารณาท่ตี �ำ แหนง่ เข็มส้นั และเขม็ ยาว เข็มส้ันบอกเวลา - การอา่ นเวลาหลงั 12 นาฬกิ า ท�ำ ไดโ้ ดยน�ำ ตัวเลขทเ่ี ข็มสัน้ ชไี้ ปบวกกับ 12 เชน่ เป็นนาฬกิ า เข็มยาวบอกเวลา เขม็ ส้ันชท้ี ่ตี ัวเลข 9 อ่านเวลาเป็น 21 นาฬกิ า คิดจาก 12 บวก 9 เนอ่ื งจากผา่ น 12 นาฬิกา เปน็ นาที มาแล้ว 9 ชั่วโมง - นาฬิกาแบบตัวเลข 3) ครตู ดิ ภาพนาฬกิ าแบบตัวเลขบนกระดาน ให้นกั เรยี นบอกช่วงเวลา บอกเวลาเปน็ นาฬิกา ตวั เลขหนา้ เครือ่ งหมาย : และนาที และบอกกิจกรรมท่ที ำ�ในเวลานี้ แสดงเวลาเป็นนาฬกิ า ตวั เลขหลังเครอื่ งหมาย : 3 ภาพนาฬกิ า ช่วงเวลา เขยี นบอกเวลา กิจกรรมที่ท�ำ แสดงเวลาเป็นนาที 01 : 45 กลางคนื 1 นาฬกิ า 45 นาที นอน ครูและนกั เรยี นสรปุ เก่ียวกับการบอกเวลาจากนาฬิกาแบบตัวเลข ดงั น้ี ตวั เลขหน้าเครอื่ งหมาย : แสดงเวลาเป็นนาฬิกา ตวั เลขหลังเครอื่ งหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาที 11
12 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ข้ันสอน 2. ครูแสดงนาฬกิ าแบบเขม็ ใหน้ ักเรียนสังเกตและตอบคำ�ถาม ดังน้ี ดา้ นความรู้ เพ่ือให้นกั เรยี นสามารถ 1 นาที 5 นาที บอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที ทัง้ กลางวันและกลางคืน - บนหนา้ ปัดนาฬิกาแบ่งเป็นกี่ชอ่ งใหญ่ (12 ช่องใหญ่) ดา้ นทักษะและกระบวนการ - 1 ชอ่ งใหญแ่ บ่งเป็นก่ชี ่องเลก็ (5 ชอ่ งเล็ก) ทางคณิตศาสตร์ - เข็มยาวบอกเวลาเป็นชั่วโมงหรอื นาที (นาที) - เข็มยาวเคล่อื นท่ีไป 1 ชอ่ งเล็ก เป็นเวลาเทา่ ไร (1 นาที) เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถ - เขม็ ยาวเคลอ่ื นที่ไป 1 ช่องใหญ่ เป็นเวลาเท่าไร (5 นาท)ี สือ่ สาร และสือ่ ความหมาย - เข็มส้ันบอกเวลาเป็นชว่ั โมงหรอื นาที (ชั่วโมง) ทางคณิตศาสตร์ - เขม็ ยาวหมนุ ครบ 1 รอบ บนหนา้ ปดั นาฬกิ า เขม็ ยาวเคลอ่ื นทไ่ี ปกช่ี อ่ งใหญ่ (12 ชอ่ งใหญ)่ คิดเปน็ เวลาเทา่ ไร (60 นาที) - เมื่อเข็มยาวหมนุ ครบ 1 รอบ เขม็ สนั้ เคลือ่ นทไ่ี ปก่ีชอ่ งใหญ่ (1 ช่องใหญ)่ คิดเป็น เวลาเทา่ ไร (1 ช่วั โมง หรอื 60 นาที) 3. ครแู สดงการเคลอื่ นที่ของเข็มยาวบนหนา้ ปัดนาฬิกาทีละ 1 นาที โดย - ครหู มนุ เข็มนาฬิกาแสดงเวลา 7 นาฬิกา จากนัน้ หมนุ เขม็ ยาวบนหน้าปดั นาฬิกาให้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ ชนั้ ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่ัวโมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เคล่อื นท่ีไป คร้ังละ 1 นาที จนถงึ 7 นาฬกิ า 5 นาที แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า และนาที ครแู นะน�ำ ว่า เมอื่ ครบ 5 นาที เข็มยาวจะชท้ี ่ตี วั เลข 1 - ครหู มนุ เขม็ ยาวบนหนา้ ปดั นาฬกิ าใหเ้ คลอ่ื นทไ่ี ปครง้ั ละ 1 นาที จนถงึ 7 นาฬกิ า 10 นาที ให้นักเรียนบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ครูแนะนำ�ว่า เมื่อครบ 10 นาที เข็มยาวจะ ช้ที ่ีตัวเลข 2 4. ครูจดั กิจกรรมการบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีท้ังกลางวนั และกลางคืน โดยครูหมนุ เข็ม นาฬิกาแสดงเวลา ใหน้ กั เรียนบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ทง้ั ชว่ งเวลากลางวันและกลางคนื เชน่ 1) ถา้ เป็นเวลากลางวนั นาฬิกานี้แสดงเวลาใด 5 10 15 1176 ในเวลากลางวัน แสดงเวลา 7 นาฬิกา 17 นาที ครูแนะนำ�วิธีการอ่านเวลา โดยให้นักเรียนพิจารณาที่เข็มนาฬิกาพบว่า เข็มสั้นชี้เลยตัวเลข 7 ไปเล็กน้อยนั่นคือแสดงเวลา 7 นาฬิกา แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นกี่นาที จึงต้องพิจารณาที่เข็มยาว ซึง่ ชเี้ ลยตวั เลข 3 ไป 2 ชอ่ งเลก็ ซึง่ มวี ิธกี ารอา่ นเวลาเป็นนาทีได้ดงั น้ี 13
14 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง วธิ ที ่ี 1 นบั ทลี ะ 5 นาที จากตวั เลข 1 ถงึ ตวั เลข 3 จะได้ 5 10 15 เปน็ เวลา 15 นาท ี แลว้ นับต่ออีก 2 ชอ่ งเลก็ เปน็ 16 17 วิธที ี่ 2 ถา้ เขม็ ยาวชี้ตัวเลข 3 เป็นเวลา 15 นาที (3 x 5) แตเ่ ข็มยาวช้ีเลยตวั เลข 3 ไปอกี 2 ชอ่ งเลก็ เปน็ เวลาอกี 2 นาที เข็มยาวบอกเวลา 15 + 2 = 17 นาที ดงั น้ันในเวลากลางวันนาฬกิ าแสดงเวลา 7 นาฬกิ า 17 นาที 2) ถา้ เป็นเวลากลางคนื นาฬิกานี้แสดงเวลาใด 10 15 5 1176 ในเวลากลางคนื แสดงเวลา 19 นาฬกิ า 17 นาที 3) ถ้าเป็นเวลากลางวนั นาฬิกาน้ีแสดงเวลาใด
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ครูถามดงั น้ี - นาฬกิ าน้ีแสดงเวลาใดในเวลากลางวัน (16 นาฬกิ า 51 นาท)ี - บอกเวลาเปน็ นาฬกิ าได้อย่างไร (สงั เกตทีเ่ ข็มสน้ั ชี้ระหวา่ งตวั เลข 4 และตัวเลข 5 แต่ใกลต้ ัวเลข 5 มากกวา่ จงึ แสดงเวลา 16 นาฬิกา) - บอกเวลาเป็นนาทไี ด้อย่างไร (สงั เกตทเ่ี ข็มยาวชเี้ ลยตวั เลข 10 มา 1 ช่องเลก็ เปน็ เวลา 51 นาที) ครแู นะน�ำ ว่าวิธีบอกเวลาเป็นนาที วธิ ที ี่ 1 นบั ทลี ะ 5 นาที จากตัวเลข 1 ถึงตัวเลข 10 จะได้ 5 10 15 20 25 30 35 40 45 50 เปน็ เวลา 50 นาที แลว้ นบั ต่ออกี 1 ชอ่ งเล็ก เป็น 51 นาที วธิ ที ่ี 2 เขม็ ยาวชต้ี วั เลข 10 เปน็ เวลา 50 นาที (10 x 5) ชเ้ี ลยตวั เลข 10 มาอกี 1 ชอ่ งเลก็ เปน็ เวลาอีก 1 นาที เข็มยาวบอกเวลา 50 + 1 = 51 นาที ดงั นัน้ ในเวลากลางวันนาฬิกาแสดงเวลา 16 นาฬิกา 51 นาที ในเวลากลางวัน นาฬิกาแสดงเวลา 16 นาฬิกา 51 นาที 4) ถา้ เปน็ เวลากลางคนื นาฬกิ าน้แี สดงเวลาใด 15 ในเวลากลางคนื นาฬิกาแสดงเวลา 4 นาฬกิ า 51 นาที
16 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ ชัน้ ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ขน้ั สรปุ 5. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล โดยให้นักเรยี นแต่ละคนทำ�ใบกิจกรรม 4.1 เมือ่ นกั เรียนทำ�เสรจ็ แล้ว ครสู ่มุ ตวั แทนออกมาน�ำ เสนอวธิ ีอ่านเวลา แลว้ รว่ มกนั สรปุ ว่า การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที - นาฬกิ าแบบเข็มใหพ้ จิ ารณาทีต่ ำ�แหน่งเขม็ สน้ั และเขม็ ยาว เข็มสน้ั บอกเวลาเปน็ นาฬิกา และเข็มยาวบอกเวลาเป็นนาที - นาฬกิ าแบบตวั เลข ตัวเลขหน้าเครือ่ งหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาฬิกา ตัวเลขหลงั เคร่ืองหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาที จากน้นั ให้นักเรียนทำ�แบบฝกึ หดั 4.1
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ข้นั น�ำ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ขั้นสอน ขน้ั สรุป แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล ทบทวนการบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ทัง้ แบบเขม็ และแบบตวั เลข จัดกิจกรรมการอ่านและเขยี นบอกเวลาที่มีมหัพภาค ( . ) หรือทวภิ าค ( : ) ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล จากการเขียนแสดงเวลาด้วยมหัพภาค ( . ) หรือทวภิ าค ( : ) ในบตั รภาพ แบบฝกึ หัด 4.2 - ประเมนิ จากการตอบคำ�ถาม และการท�ำ แบบฝกึ หัด 4.2 - ประเมนิ จากการสือ่ สารและสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ 17
18 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชวั่ โมง ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำ� 1. นาฬกิ าจ�ำ ลอง การอ่านและเขยี นบอก 1. ทบทวนการบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที ทงั้ แบบเขม็ และแบบตวั เลข ดังน้ี 2. บตั รเวลา เวลาท่ีมีมหัพภาค ( . ) หรอื - แจกบตั รภาพนาฬิกาใหน้ กั เรยี นกลุ่มละ 12 ใบ นกั เรยี นแตล่ ะคนในกลมุ่ เขียนบอกเวลาเปน็ 3. บัตรภาพนาฬกิ าแบบเข็ม ทวภิ าค ( : ) นาฬิกาและนาที ด้านหลงั บัตร คนละ 3 ใบ เช่น และแบบตวั เลข ด้านหนา้ ด้านหลงั 4. แบบฝกึ หดั 4.2 สาระสำ�คญั 2 นาฬิกา 30 นาที การประเมิน 1. การเขยี นบอกเวลาอาจใช้ มหัพภาค ( . ) หรอื ทวิภาค 20 : 18 20 นาฬกิ า 18 นาที 1. วธิ ีการ ( : ) คนั่ ระหว่างตัวเลขท่แี สดง 1.1 สังเกตพฤติกรรม นาฬกิ ากบั ตัวเลขท่ีแสดงนาที การเรยี นรู้ แลว้ เขยี น น. ตอ่ ท้าย 1.2 ตรวจแบบฝกึ หัด 2. การอา่ นเวลาใหอ้ ่าน 2. เครอื่ งมือ ตวั เลขหนา้ มหัพภาค ( . ) 2.1 แบบฝกึ หดั 4.2 หรอื ทวิภาค ( : ) เปน็ นาฬิกา 2.2 แบบประเมินทกั ษะ และอ่านตัวเลขหลงั มหัพภาค และกระบวนการทาง ( . ) หรอื ทวภิ าค ( : ) เปน็ นาที คณติ ศาสตร์ 3. เกณฑ์ - เมอ่ื ท�ำ เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนอ่านเวลาจากบัตรภาพนาฬกิ าของตนเอง แลว้ ใหเ้ พื่อนร่วมกนั 3.1 ผลงานมีความถกู ตอ้ ง ตรวจสอบความถกู ต้อง ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80
กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๒ ช้นั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชั่วโมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขน้ั สอน 3.2 คะแนนรวม ด้าน 2. ครูจดั กจิ กรรมบอกเวลา โดยตดิ บตั รภาพนาฬิกาแบบเข็มและแบบตวั เลข แลว้ ใชค้ ำ�ถามดงั น้ี ทกั ษะและกระบวนการ ดา้ นความรู้ ทางคณิตศาสตร์ เพ่ือให้นักเรียนสามารถ กลางวัน 17 : 42 ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 อา่ นและเขียนบอกเวลาทม่ี ี มหพั ภาค ( . ) หรือทวภิ าค นาฬิกาแบบเขม็ นาฬิกาแบบตัวเลข (:) ด้านทักษะและกระบวนการ - นาฬิกาทงั้ 2 เรือนแสดงเวลาเดยี วกันหรอื ไม่ (เวลาเดยี วกนั ) ทางคณติ ศาสตร์ - นาฬิกาทัง้ 2 เรอื นแสดงเวลาอะไร (17 นาฬกิ า 42 นาที) - พจิ ารณานาฬกิ าแบบตวั เลข ตวั เลขหนา้ เครอ่ื งหมาย ( : ) บอกเวลาอะไร (เปน็ นาฬกิ า) เพอื่ ให้นักเรยี นสามารถ ตวั เลขหลงั เคร่ืองหมาย ( : ) บอกเวลาอะไร (เป็นนาที) สอ่ื สาร และส่อื ความหมาย ทางคณติ ศาสตร์ ครูแนะน�ำ วา่ เครอื่ งหมาย : เรียกวา่ ทวภิ าค 3. ครูจัดกจิ กรรมอ่านเวลาท่ีมีมหพั ภาค ( . ) หรือทวิภาค ( : ) โดย 1) ครูตดิ ป้ายบอกเวลาเปิด-ปิด รา้ นน�ำ้ หวาน รา้ นน�ำ้ หวาน ยนิ ดตี อ้ นรบั เปดิ 9:00 น. ปดิ 19:30 น. 19
20 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๒ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ครูถามว่า - รา้ นน้ำ�หวานเปิดเวลาใด (9 นาฬิกา) ทราบได้อยา่ งไร (ตัวเลขหนา้ เครือ่ งหมาย : แสดงเวลาเป็นนาฬิกา) - รา้ นน�้ำ หวานปดิ เวลาใด (19 นาฬกิ า 30 นาท)ี ทราบไดอ้ ยา่ งไร (ตวั เลขหนา้ เครอื่ งหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาฬกิ า และตัวเลขหลังเครื่องหมาย : แสดงเวลาเป็นนาที) ครแู นะน�ำ วา่ 19:30 น. เปน็ การเขยี นแสดงเวลาของ 19 นาฬกิ า 30 นาที โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย ทวภิ าค ( : ) คั่นระหว่างตวั เลขท่ีแสดงเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที และมี น. ตอ่ ท้าย ครแู จกนาฬกิ าจำ�ลอง 1 เรอื น ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ แสดงเวลาเปดิ -ปิด รา้ นน้ำ�หวาน แล้วสมุ่ ตัวแทนนักเรียนออกมาน�ำ เสนอ ซงึ่ จะไดด้ ังนี้ เปดิ เวลา 9:00 น. ปดิ เวลา 19:30 น. หรอื 9 นาฬิกา หรอื 19 นาฬกิ า 30 นาที 2) ครูตดิ ป้ายเวลาการแสดงของแมวนำ้�ของสวนสตั วแ์ ห่งหนง่ึ ในเวลากลางวัน การแสดงของแมวนำ�้ รอบที่ 1 10.15 น. รอบที่ 2 14.30 น.
กลุม่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๒ ชั้น ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ครถู ามว่า - การแสดงของแมวนำ�้ รอบท่ี 1 เริ่มเวลาใด (10 นาฬกิ า 15 นาท)ี - รอบท่ี 2 เร่มิ แสดงเวลาอะไร (14 นาฬกิ า 30 นาที) ครูแนะน�ำ วา่ - 10.15 น. เป็นการเขียนแสดงเวลาของ 10 นาฬิกา 15 นาที โดยใช้เครือ่ งหมาย มหัพภาค ( . ) ค่นั ระหว่างตัวเลขท่ีแสดงเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที - ในการอ่านเวลา ตวั เลขหน้าเครื่องหมาย . แสดงเวลาเปน็ นาฬิกา และตวั เลขหลัง เครอื่ งหมาย . แสดงเวลาเปน็ นาที - ในการเขียนบอกเวลาจะมี น. ต่อท้ายเสมอ ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ หมุนนาฬกิ าแบบเขม็ แสดงเวลาการแสดงของแมวน�ำ้ รอบที่ 1 และ รอบท่ี 2 ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง แลว้ สมุ่ ตวั แทนนกั เรียนออกมาน�ำ เสนอ ซ่ึงจะได้ดงั น้ี เวลาแสดงของแมวน้ำ�รอบท่ี 1 เวลาแสดงของแมวน�ำ้ รอบท่ี 2 เรมิ่ เวลา 10.15 น. เรม่ิ เวลา 14.30 น. หรือ 10 นาฬกิ า 15 นาที หรือ 14 นาฬกิ า 30 นาที 21
22 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง 3) ครูติดปา้ ยแสดงเวลาท�ำ การของธนาคาร พร้อมใชค้ ำ�ถามดังน้ี เวลาทำ�การของธนาคาร ทุกวนั จนั ทร์ – ศกุ ร์ 8:30 น. - 16:30 น. - ธนาคารเปดิ ท�ำ การเวลา (8 นาฬิกา 30 นาที) - ธนาคารปดิ ทำ�การเวลา (16 นาฬกิ า 30 นาที) - เขยี นแสดงเวลาท�ำ การของธนาคารโดยใชม้ หพั ภาค หรอื . ไดอ้ ยา่ งไร (8.30 น. – 16.30 น.) ครูเขียนแสดงเวลาบนกระดาน ครูแนะน�ำ วา่ การเขียนบอกเวลาอาจใชม้ หัพภาค ( . ) หรอื ทวิภาค ( : ) คน่ั ระหว่างตัวเลข ท่แี สดงนาฬกิ ากับตัวเลขทแ่ี สดงนาที แลว้ เขียน น. ต่อท้าย 4. ครูจัดกิจกรรมการเขยี นเวลาทมี่ ีมหพั ภาค ( . ) หรือทวภิ าค ( : ) โดยนักเรยี นเขียนเวลา ลงในสมุด จากบัตรภาพนาฬกิ าแบบเขม็ หรือแบบตัวเลขที่ครูติดบนกระดาน 1) การแสดงนำ�้ พุประกอบเพลงในเวลากลางคืน เรมิ่ สน้ิ สุด
กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ชนั้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ - การแสดงเริม่ เวลาใด (20 นาฬกิ า 20 นาที) - เขยี นแสดงเวลาโดยใชม้ หพั ภาค ( . ) หรอื ทวิภาค ( : ) ไดอ้ ยา่ งไร (20.20 น. หรอื 20:20 น.) ครเู ขยี นแสดงเวลาใต้ภาพนาฬิกาแบบเข็ม - การแสดงสิ้นสดุ เวลาใด (20 นาฬกิ า 30 นาท)ี - เขยี นแสดงเวลาโดยใชม้ หพั ภาค ( . ) หรอื ทวภิ าค ( : ) ไดอ้ ยา่ งไร (20.30 น. หรอื 20:30 น.) ครเู ขียนแสดงเวลาใตภ้ าพนาฬิกาแบบเขม็ ดงั น้ี การแสดงนำ�้ พุประกอบเพลงในเวลากลางคนื เริม่ สน้ิ สดุ 20 นาฬิกา 20 นาที 20 นาฬกิ า 30 นาที 20.20 น. หรอื 20:20 น. 20.30 น. หรอื 20:30 น. 2) รา้ นขายอาหารอสี าน 08 : 45 21 : 30 เปิด ปิด - ร้านเปิดเวลาใด (8 นาฬิกา 45 นาท)ี - เขยี นแสดงเวลาโดยใชม้ หพั ภาค ( . ) หรอื ทวภิ าค ( : ) ไดอ้ ยา่ งไร (08.45 น. หรอื 08:45 น.) ครูเขียนแสดงเวลาใต้ภาพนาฬกิ าแบบเขม็ 23
24 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๒ ชน้ั ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง - ร้านปดิ เวลาใด (21 นาฬกิ า 30 นาท)ี - เขยี นแสดงเวลาโดยใชม้ หพั ภาค ( . ) หรอื ทวภิ าค ( : ) ไดอ้ ยา่ งไร (21.30 น. หรอื 21:30 น.) ครเู ขียนแสดงเวลาใต้ภาพนาฬิกาแบบเขม็ ดงั นี้ ร้านขายอาหารอีสาน เปดิ ปดิ ข้ันสรุป 5. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยน�ำ บตั รภาพนาฬกิ าจากขน้ั น�ำ ทไ่ี ดร้ บั คนละ 3 ใบ เขยี นแสดงเวลาด้วยมหัพภาค ( . ) หรือทวิภาค ( : ) เชน่ ด้านหน้า ดา้ นหลัง 2 นาฬกิ า 30 นาที 2:30 น. หรอื 2.30 น. ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยและตรวจคำ�ตอบ จากน้ันร่วมกนั สรุปวา่ - การเขยี นบอกเวลาอาจใชม้ หพั ภาค ( . ) หรอื ทวภิ าค ( : ) คน่ั ระหวา่ งตวั เลขทแ่ี สดง นาฬกิ ากบั ตวั เลขทแ่ี สดงนาทแี ลว้ เขยี น น. ตอ่ ทา้ ย
กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ ชัน้ ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ - การอา่ นเวลาใหอ้ ่านตัวเลขหน้ามหัพภาค ( . ) หรอื ทวิภาค ( : ) เป็นนาฬกิ าและอ่าน ตัว เลขหลังมหพั ภาค ( . ) หรอื ทวภิ าค ( : ) เป็นนาที จากน้นั ให้นักเรยี นทำ�แบบฝึกหดั 4.2 25
26 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ข้ันน�ำ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ ข้นั สอน ขน้ั สรุป แนวการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล ทบทวนการอ่านเวลาทม่ี มี หพั ภาค ( . ) หรือทวภิ าค ( : ) และการบอกระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมง จัดกจิ กรรมการบอกระยะเวลาเปน็ ช่วั โมงและนาที (1) ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบคุ คลโดยให้หาระยะเวลาเป็นชว่ั โมง จากสถานการณท์ ก่ี �ำ หนด แบบฝึกหัด 4.3 - ประเมนิ จากการตอบคำ�ถาม และการท�ำ แบบฝึกหัด 4.3 - ประเมินจากการส่ือสารและสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๓ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชวั่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขอบเขตเนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ การบอกระยะเวลาเปน็ ขนั้ นำ� 1. ภาพนาฬกิ า ช่ัวโมงและนาที 1. ครทู บทวนการอ่านเวลาที่มมี หัพภาคหรือทวิภาค โดยตดิ ป้ายบอกเวลาแสดงการวา่ ยน�ำ้ 2. เสน้ จ�ำ นวน ของช้าง ดงั นี้ 3. ป้ายบอกเวลา สาระสำ�คญั 4. แบบฝึกหดั 4.3 โชวช์ ้างว่ายน้�ำ เวลา ณ ขณะน้ี การบอกระยะเวลาอาจ รอบที่ 1 เวลา 10.15 น. การประเมิน บอกเปน็ ชว่ั โมงและนาที รอบท่ี 2 เวลา 12.00 น. โดยนบั เวลาเร่มิ ตน้ จนถึงเวลา รอบที่ 3 เวลา 14.30 น. 1. วิธีการ สน้ิ สุด 1.1 สังเกตพฤติกรรม ครถู ามวา่ การเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ - การแสดงรอบท่ี 1 เร่ิมเวลาใด (10 นาฬกิ า 15 นาที) 1.2 ตรวจแบบฝกึ หัด - การแสดงรอบสุดทา้ ยเริ่มเวลาใด (14 นาฬกิ า 30 นาท)ี 2. เครอื่ งมือ ด้านความรู้ - ถ้าตอนน้ีเปน็ เวลาดงั ภาพ นกั เรยี นมีโอกาสได้ดกู ารแสดงในรอบใดได้บ้าง (รอบท่ี 2 กบั 2.1 แบบฝกึ หัด 4.3 เพ่อื ใหน้ ักเรยี นสามารถ รอบท่ี 3) เพราะอะไร (ตอบตามความเขา้ ใจ เช่น ขณะนเ้ี ปน็ เวลา 11 นาฬิกา การแสดง 2.2 แบบประเมินทักษะ รอบแรกผา่ นไปแล้ว จึงเหลือการแสดงท่ีสามารถจะเข้าดไู ด้อกี 2 รอบ คอื รอบท่ี 2 และ และกระบวนการทาง บอกระยะเวลาเป็นชั่วโมง รอบท่ี 3) คณติ ศาสตร์ และนาที - จากเวลาในภาพถา้ นักเรียนต้องการดกู ารแสดงในรอบที่ 2 นักเรียนต้องรอเป็นเวลานาน ดา้ นทักษะและกระบวนการ เท่าใด (1 ชวั่ โมง) ทราบไดอ้ ย่าง (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจ เช่น เขม็ สนั้ เคลื่อนทไี่ ป ทางคณติ ศาสตร์ 1 ช่องใหญ่ เปน็ เวลา 1 ชัว่ โมง) เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถ ส่ือสารและสือ่ ความหมาย ทางคณิตศาสตร์ 27
28 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง เวลา ณ ขณะน้ี เวลาของการแสดงรอบท่ี 2 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ ง ครูแนะน�ำ แนวคิดเพมิ่ เติมว่า ระยะเวลาจาก 11 นาฬกิ า ถึง 12 นาฬกิ าเปน็ ระยะเวลา ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 1 ชว่ั โมง หรอื 60 นาที แสดงดว้ ยเสน้ จ�ำ นวนดังนี้ 3.2 คะแนนรวม ดา้ นทกั ษะ และกระบวนการทาง 1 ช่ัวโมง คณติ ศาสตร์ ไม่นอ้ ยกว่า รอ้ ยละ 60 10.00 น. 11.00 น. 12.00 น. 13.00 น. 14.00 น. ขนั้ สอน 2. ครูจัดกิจกรรมการบอกระยะเวลาเป็นช่ัวโมงและนาที โดยใช้สถานการณจ์ ำ�ลองดังน้ี 1) การเกยี่ วข้าวของชาวนา เวลาเร่ิมต้น เวลาสนิ้ สดุ ครูถามวา่ ชาวนาใช้เวลาเก่ยี วขา้ วกช่ี ั่วโมง (4 ชั่วโมง) คิดไดอ้ ยา่ งไร (ตอบตามความเข้าใจ) เช่น
กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๓ ช้ัน ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ แนวคดิ ที่ 1 ใช้การนับทีละ 1 ช่วั โมง บนหน้าปัดนาฬิกา จากเวลาเริม่ ตน้ ถงึ เวลาสน้ิ สดุ จาก 7 นาฬิกา ไปถึง 11 นาฬกิ า ได้ 4 ชวั่ โมง 1 1 1 1 ดงั น้นั ชาวนาใชเ้ วลาเก่ียวขา้ ว 4 ชวั่ โมง แนวคิดที่ 2 ใช้การนบั ทลี ะ 1 ชว่ั โมง บนเสน้ จำ�นวน จากเวลาเรมิ่ ตน้ ถึงเวลาสิ้นสดุ 1 ชวั่ โมง 1 ช่ัวโมง 1 ชั่วโมง 1 ชั่วโมง 7.00 น. 8.00 น. 9.00 น. 10.00 น. 11.00 น. ดังนน้ั ชาวนาใช้เวลาเกีย่ วขา้ ว 4 ช่วั โมง แนวคดิ ที่ 3 ใช้การลบ ชาวนาเร่ิมเก่ยี วข้าวเวลา 7.00 น. ซง่ึ เป็นเวลาหลงั จากวนั ใหม่มาแล้ว 7 ชั่วโมงและชาวนา เกย่ี วขา้ วเสรจ็ 11.00 น. ซง่ึ เปน็ เวลาหลงั จากวนั ใหมม่ าแลว้ 11 ชว่ั โมง จาก 7.00 น. - 11.00 น. เป็นระยะเวลา 11 – 7 = 4 ดงั นนั้ ชาวนาใชเ้ วลาเกี่ยวข้าว 4 ชว่ั โมง 29
30 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง 2) เพชรดูโทรทศั น์ เวลาเรมิ่ ตน้ เวลาสิน้ สุด ครูถามว่า เพชรดูโทรทศั น์เป็นเวลานานเท่าใด คดิ ไดอ้ ยา่ งไร (ตอบตามความเข้าใจ) เชน่ แนวคดิ ที่ 1 ใช้การนบั ทลี ะ 1 ช่ัวโมง บนเส้นจ�ำ นวน จากเวลาเร่มิ ตน้ ถงึ เวลาสน้ิ สุด 1 ช่ัวโมง 1 ช่ัวโมง 15 นาที 21.00 น. 22.00 น. 23.00 น. 23.15 น. ดงั น้นั เพชรดูโทรทศั นเ์ ป็นเวลา 2 ช่วั โมง 15 นาที แนวคดิ ท่ี 2 ใชก้ ารลบ เพชรเริ่มดโู ทรทศั น์เวลา 21.00 น. ซงึ่ เปน็ เวลาหลงั จากวันใหมม่ าแล้ว 21 ชั่วโมง เพชรดโู ทรทัศน์ถึงเวลา 23.15 น. ซึ่งเปน็ เวลาหลังจากวันใหม่มาแลว้ 23 ชัว่ โมง 15 นาที หาระยะเวลาทีเ่ พชรใชใ้ นดูโทรทศั น์ ไดด้ งั น้ี
กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๓ ชัน้ ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ชว่ั โมง นาที 23 15 21 00 - 2 15 ดงั น้นั เพชรดโู ทรทัศนเ์ ปน็ เวลา 2 ชว่ั โมง 15 นาที 3) พ่อออกก�ำ ลังกายจาก 14.30 น. ถึง 17.30 น. เวลาเริม่ ตน้ เวลาส้ินสุด ครูถามวา่ พอ่ ออกกำ�ลังกายเปน็ ระยะเวลาเทา่ ใด คิดไดอ้ ย่างไร (ตอบตามความเข้าใจ) เชน่ แนวคดิ ที่ 1 ใช้การนับทีละ 1 ชว่ั โมง บนเสน้ จ�ำ นวน จากเวลาเร่มิ ต้นถึงเวลาส้นิ สุด 1 ช่ัวโมง 1 ช่วั โมง 1 ชัว่ โมง 14.30 น. 15.30 น. 16.30 น. 17.30 น. ดังนน้ั พ่อออกกำ�ลังกายเปน็ ระยะเวลา 3 ชว่ั โมง 31
32 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๓ ชนั้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ครแู นะน�ำ เพิ่มเติมว่า การหาระยะเวลาจาก 14.30 น. ถึง 15.30 น. คดิ จาก จาก 14.30 น. ถึง 15.00 น. จาก 15.00 น. ถงึ 15.30 น. เป็นระยะเวลา 30 นาที เปน็ ระยะเวลา 30 นาที ดังน้ัน จาก 14.30 น. ถึง 15.30 น. เป็นระยะเวลา 30 + 30 = 60 นาที หรอื 1 ชั่วโมง ซึ่งอาจเขียนบนเสน้ จ�ำ นวนได้ ดงั น ี้ 1 ชวั่ โมง 30 นาที 30 นาที 14.30 น. 15.00 น. 15.30 น. แนวคิดท่ี 2 ใช้การลบ พ่อเริ่มออกก�ำ ลังกายเวลา 14.30 น. ซง่ึ เปน็ เวลาหลงั จากวันใหมม่ าแล้ว 14 ชัว่ โมง 30 นาที ออกก�ำ ลังกายเสรจ็ เวลา 17.30 น. ซ่งึ เปน็ เวลาหลงั จากวันใหม่มาแลว้ 17 ช่วั โมง 30 นาที หาระยะเวลาท่พี อ่ ใชอ้ อกกำ�ลงั กาย ไดด้ ังนี้
กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๓ ชน้ั ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ชว่ั โมง นาที 17 30 14 30 - 3 00 ขน้ั สรุป ดงั น้ัน พ่อออกก�ำ ลงั กายเป็นระยะเวลา 3 ชั่วโมง 3. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล โดยครเู ขยี นโจทยบ์ นกระดานใหน้ กั เรยี น ทำ�ลงในสมดุ เมอื่ นกั เรียนท�ำ เสรจ็ ครูสุม่ ตัวแทนนกั เรียนออกมาแสดงวธิ ีหาค�ำ ตอบ ดงั น้ี ปอ้ มซอ้ มดนตรีเวลา 16.15 น. ใชเ้ วลาซ้อมดนตรี 2 ชั่วโมง ปอ้ มซอ้ มดนตรีเสรจ็ เวลาใด แนวคิด ใช้การนับทีละ 1 ชวั่ โมง บนเสน้ จ�ำ นวน 1 ชวั่ โมง 1 ชว่ั โมง 16.15 น. 17.15 น. 18.15 น. 19.15 น. เรมิ่ ซอ้ มดนตรี จาก 16.15 น. ใช้เวลา 2 ชว่ั โมง เป็น 18.15 น. ดังนน้ั ปอ้ มซ้อมดนตรเี สรจ็ เวลา 18.15 น. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปวา่ การบอกระยะเวลาอาจบอกเป็นช่วั โมงและนาที โดยนบั เวลา เรมิ่ ตน้ จนถึงเวลาสิ้นสดุ จากนั้นใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 4.3 33
34 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ข้ันน�ำ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ ขัน้ สอน ขนั้ สรปุ แนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล จดั กิจกรรมนบั เวลาใหค้ รบ 30 นาที หรือ 60 นาที จดั กิจกรรมบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที (2) ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล จากโจทยก์ ารบอกระยะเวลาเป็นช่ัวโมงและนาที แบบฝึกหดั 4.4 - ประเมนิ จากการตอบคำ�ถาม และท�ำ แบบฝกึ หัด 4.4 - ประเมนิ จากการแก้ปัญหา และการสอื่ สารและสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ ช้นั ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ภาพนาฬิกาแบบเข็ม การบอกระยะเวลาเปน็ ข้ันน�ำ 2. เส้นจำ�นวน (เวลา) ชว่ั โมงและนาที (2) 1. ครูจัดกิจกรรมนับใหค้ รบ 30 นาที หรือ 60 นาที โดยเขยี นขอ้ ความบนกระดานแล้วให้นกั เรียน 3. แบบฝกึ หัด 4.4 ช่วยกนั หาค�ำ ตอบ เชน่ สาระสำ�คัญ - ระยะเวลา 30 นาที อีกกี่นาทคี รบ 60 นาที คดิ อย่างไร (60 – 30 = 30) การประเมนิ - ระยะเวลา 55 นาที อกี กนี่ าทีครบ 60 นาที คิดอยา่ งไร (60 – 55 = 5) การบอกระยะเวลา - ระยะเวลา 18 นาที อกี กี่นาทีครบ 30 นาที คิดอยา่ งไร (30 – 18 = 12) 1. วธิ ีการ อาจบอกเป็นชวั่ โมงและนาที - ระยะเวลา 27 นาที อีกกนี่ าทคี รบ 30 นาที คิดอย่างไร (30 – 27 = 3) 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรม โดยนบั เวลาเรม่ิ ตน้ จนถึง ขัน้ สอน การเรยี นรู้ เวลาสิ้นสุด 2. ครูจัดกิจกรรมบอกระยะเวลาเป็นช่ัวโมงและนาที โดยใช้สถานการณจ์ ำ�ลอง ดังนี้ 1.2 ตรวจแบบฝกึ หัด 1) แมซ่ ื้อของในตลาดตัง้ แต่เวลา 9.30 น. ถึง 9.52 น. 2. เครือ่ งมอื จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 แบบฝึกหัด 4.4 2.2 แบบประเมินทักษะ ด้านความรู้ และกระบวนการทาง เพื่อให้นักเรียนสามารถ คณติ ศาสตร์ บอกระยะเวลาเป็นชวั่ โมง และนาที เวลาเริ่มตน้ เวลาส้นิ สุด ดา้ นทักษะและกระบวนการ ครูถามว่า แมซ่ ื้อของในตลาดเป็นระยะเวลาเท่าไร คิดไดอ้ ยา่ งไร (ตอบตามความเข้าใจ) เชน่ ทางคณิตศาสตร์ 35 เพือ่ ใหน้ กั เรียนสามารถ 1. แก้ปญั หา 2. ส่อื สารและส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
36 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๔ ชน้ั ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง แนวคดิ ที่ 1 ใชก้ ารนับทีละ 5 นาที และทลี ะ 1 นาที บนหนา้ ปัดนาฬิกา 3. เกณฑ์ 3.1 ผลงานมคี วามถกู ตอ้ ง 2122 ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 20 3.2 คะแนนรวม ดา้ นทกั ษะ และกระบวนการทาง 15 คณิตศาสตร์ ไมน่ อ้ ยกว่า 10 5 รอ้ ยละ 60 ดงั นน้ั แมซ่ ้อื ของในตลาดเป็นระยะเวลา 22 นาที แนวคดิ ที่ 2 ใชก้ ารนบั ทลี ะ 5 นาที บนเสน้ จ�ำ นวน 5 นาที 2นาที 5 นาที 5 นาที 5 นาที 9:30 น. 9:35 น. 9:40 น. 9:45 น. 9:50 น. 9:52 น. จากเวลา 9.30 น. ถงึ เวลา 9.50 น. เปน็ ระยะเวลา 5 + 5 + 5 + 5 = 20 นาที หรือ 4 x 5 = 20 นาที จากเวลา 9.50 น. ถงึ เวลา 9.52 น. เปน็ ระยะเวลา 2 นาที แมใ่ ชเ้ วลาซอ้ื ของในตลาด จากเวลา 9.30 น. ถงึ เวลา 9.52 น. เปน็ ระยะเวลา 20 + 2 = 22 นาที ดงั นน้ั แมซ่ อ้ื ของในตลาดเปน็ ระยะเวลา 22 นาที
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๔ ชน้ั ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ แนวคิดที่ 3 ใชก้ ารลบ แมเ่ ร่ิมซ้อื ของเวลา 9.30 น. ซึง่ เป็นเวลาหลังจากวนั ใหม่มาแลว้ 9 ชั่วโมง 30 นาที แม่ซ้ือของเสร็จเวลา 9.52 น. ซ่งึ เปน็ เวลาหลังจากวันใหมม่ าแลว้ 9 ช่วั โมง 52 นาที หาระยะเวลาที่แมใ่ ชซ้ อ้ื ของในตลาด ไดด้ ังนี้ ชั่วโมง นาที 9 52 9 30 - 0 22 ดังนั้น แมซ่ อ้ื ของในตลาดเป็นระยะเวลา 22 นาที 2) พมิ พท์ �ำ การบา้ นเรม่ิ จาก 18.15 น. เสรจ็ 18.48 น. เวลาเริ่มต้น เวลาสน้ิ สุด ครถู ามวา่ พมิ พท์ �ำ การบา้ นเปน็ ระยะเวลานานเทา่ ใด คดิ ไดอ้ ยา่ งไร (ตอบตามความเขา้ ใจ) เชน่ แนวคิดที่ 1 ใช้การนับทลี ะ 5 นาที บนหนา้ ปดั นาฬกิ า 37 33321303 25 5 20 15 10
38 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๔ ชนั้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ดังนน้ั พมิ พใ์ ช้เวลาทำ�การบา้ น 33 นาที 3นาที แนวคิดท่ี 2 ใช้การนบั เวลาบนเส้นจ�ำ นวน ซ่ึงอาจท�ำ ไดห้ ลายวิธี เช่น วิธีท่ี 1 ใช้การนับทลี ะ 5 นาที 5 นาที 5 นาที 5 นาที 5 นาที 5 นาที 5 นาที 18.15 น. 18.20 น. 18.25 น. 18.30 น. 18.35 น. 18.40 น. 18.45 น. 18.48 น. จากเวลา 18.15 น. ถึงเวลา 18.45 น. เป็นระยะเวลา 6 x 5 = 30 นาที จากเวลา 18.45 น. ถงึ เวลา 18.48 น. เป็นระยะเวลา 3 นาที พมิ พท์ �ำ การบา้ นจากเวลา 18.15 น. ถงึ เวลา 18.48 น. เปน็ ระยะเวลา 30 + 3 = 33 นาที ดังนั้น พมิ พใ์ ชเ้ วลาทำ�การบ้าน 33 นาที วธิ ีที่ 2 ใชก้ ารนับทลี ะ 15 นาที 15 นาที 15 นาที 3 นาที 18.15 น. 18.30 น. 18.45 น. 18.48 น. จากเวลา 18.15 น. ถงึ เวลา 18.45น. เปน็ ระยะเวลา 2 x 15 = 30 นาที จากเวลา 18.45 น. ถึงเวลา 18.48 น. เป็นระยะเวลา 3 นาที พมิ พท์ �ำ การบา้ นจากเวลา 18.15 น. ถงึ เวลา 18.48 น. เปน็ ระยะเวลา 30 + 3 = 33 นาที ดงั น้นั พิมพ์ใช้เวลาทำ�การบ้าน 33 นาที
กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๔ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ แนวคดิ ที่ 3 ใชก้ ารลบ พิมพเ์ ริม่ ทำ�การบา้ นเวลา 18.15 น. ซึ่งเปน็ เวลาหลงั จากวนั ใหม่มาแล้ว 18 ชัว่ โมง 15 นาที พมิ พ์ทำ�การบา้ นเสรจ็ เวลา 18.48 น. ซงึ่ เปน็ เวลาหลังจากวันใหมม่ าแลว้ 18 ช่วั โมง 48 นาที หาระยะเวลาท่ีพิมพ์ท�ำ การบ้าน ไดด้ งั น้ี ชัว่ โมง นาที 18 48 18 15 - 0 33 ดังน้นั พิมพ์ใชเ้ วลาทำ�การบา้ น 33 นาที 3) เพชรเริม่ วงิ่ 6.47 น. จนถึงเวลา 7.50 น. เร่มิ เสร็จ ครถู ามวา่ เพชรใชเ้ วลาวิง่ เทา่ ไร คดิ ไดอ้ ยา่ งไร (ตอบตามความเข้าใจ) เช่น แนวคดิ ท่ี 1 ใช้การนับเวลาบนเสน้ จ�ำ นวน 50 นาที 13 นาที 39 6.47 น. 7.00 น. 7.50 น.
40 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๔ ชั้น ป. ๓ หน่วยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง จากเวลา 6.47 น. ถึงเวลา 7.00 น. เป็นระยะเวลา 13 นาที โดยนบั ต่อจาก 47 นาที จนถึง 60 นาที จากเวลา 7.00 น. ถงึ เวลา 7.50 น. เป็นระยะเวลา 50 นาที เพชรวิ่งจากเวลา 6.47 น. ถงึ เวลา 7.50 น. เปน็ ระยะเวลา 13 + 50 = 63 นาที ดงั นั้น เพชรใชเ้ วลาวิ่ง 63 นาที หรอื 1 ชวั่ โมง 3 นาที (1 ชั่วโมง เทา่ กับ 60 นาท)ี หรือ 1 ช่ัวโมง 3 นาที 6.47 น. 7.47 น. 7.50 น. เพชรวง่ิ จากเวลา 6.47 น. ถึงเวลา 7.50 น. เปน็ ระยะเวลา 1 ชวั่ โมง กบั 3 นาที ดงั นัน้ เพชรใช้เวลาวิ่ง 1 ชัว่ โมง 3 นาที แนวคิดที่ 2 ใชก้ ารลบ เพชรเรมิ่ วิ่งเวลา 6.47 น. ซึ่งเปน็ เวลาหลงั จากวันใหมม่ าแลว้ 6 ช่วั โมง 47 นาที ส้ินสดุ การวิ่งเวลา 7.50 น. ซ่ึงเปน็ เวลาหลังจากวันใหม่มาแล้ว 7 ชว่ั โมง 50 นาที หาระยะเวลาที่เพชรว่ิง ได้ดังนี้ ชว่ั โมง นาที 7 50 6 47 - 1 3 ดังนนั้ เพชรใชเ้ วลาวิง่ 1 ชว่ั โมง 3 นาที
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๔ ชั้น ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขั้นสรปุ 3. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยครูเขียนโจทยบ์ นกระดานให้นกั เรียน ท�ำ ลงในสมดุ เมื่อนกั เรียนท�ำ เสร็จ ครสู ่มุ ตัวแทนนักเรยี นออกมาแสดงวธิ ีหาค�ำ ตอบ ดังน้ี แมเ่ ริ่มอบขนมเวลา 13.12 น. ใช้เวลา 25 นาที แม่อบขนมเสร็จเวลาใด แนวคดิ ใช้การนับบนเส้นจ�ำ นวน 10 นาที 10 นาที 5 นาที 13.12 น. 13.22 น. 13.32 น. 13.37 น. ดงั นั้น แมอ่ บขนมเสรจ็ เวลา 13 นาฬิกา 37 นาที ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปว่า การบอกระยะเวลาอาจบอกเป็นชว่ั โมงและนาที โดยนับเวลา เรม่ิ ตน้ จนถงึ เวลาส้ินสดุ จากนั้นใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 4.4 41
42 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ข้นั นำ� แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๕ ข้นั สอน ขนั้ สรปุ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล ทบทวนเรอื่ งเสน้ จ�ำ นวน (เวลา) ในใบกจิ กรรม 4.2 จัดกิจกรรมการบอกระยะเวลาเปน็ ชวั่ โมงและนาที (3) ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเป็นรายบคุ คล เกี่ยวกับการบอกระยะเวลาเปน็ ชัว่ โมงและนาที แบบฝกึ หัด 4.5 - ประเมินจากการตอบคำ�ถาม การท�ำ ใบกจิ กรรม 4.2 และการท�ำ แบบฝกึ หดั 4.5 - ประเมนิ จากการแก้ปัญหา และการส่ือสารและส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕ ช้ัน ป. ๓ หนว่ ยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ การบอกระยะเวลาเปน็ ขั้นนำ� 1. ภาพนาฬกิ า ชวั่ โมงและนาที (3) 1. ครูแจกใบกิจกรรม 4.2 ใหน้ กั เรยี นคูล่ ะ 1 ใบ ช่วยกันหาค�ำ ตอบ เมือ่ นักเรียนท�ำ เสร็จแลว้ 2. เส้นจ�ำ นวน ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และส่มุ ตัวแทนนกั เรยี นออกมาเฉลยค�ำ ตอบ 3. ใบกิจกรรม 4.2 สาระส�ำ คญั ขั้นสอน 4. แบบฝกึ หัด 4.5 2. ครูจัดกิจกรรมบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาที โดยใช้สถานการณจ์ ำ�ลอง ดังนี้ การบอกระยะเวลาอาจ 1) พ่อขึ้นรถไฟเวลา 21.00 น. ถงึ ที่หมายเวลา 05.35 น. การประเมนิ บอกเป็นช่ัวโมงและนาที ทำ�ได้โดยนบั เวลาเริ่มต้นจนถงึ 21.00 น. 05.35 น. 1. วิธกี าร เวลาสน้ิ สุด ออกเดนิ ทาง ถึงท่ีหมาย 1.1 สังเกตพฤติกรรม การหาเวลาเริ่มต้นกิจกรรม ครถู ามวา่ พอ่ เดนิ ทางดว้ ยรถไฟเปน็ ระยะเวลาเทา่ ไร คดิ ไดอ้ ยา่ งไร (ตอบตามความเขา้ ใจ) เชน่ การเรยี นรู้ โดยนบั เวลาถอยหลงั จากเวลา แนวคิดที่ 1 ใชก้ ารนบั ทลี ะ 1 ชว่ั โมง บนเส้นจ�ำ นวน 1.2 ตรวจใบกิจกรรม สิ้นสุดมาเปน็ ระยะเวลาทใี่ ช้ 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 35 นาที 1.3 ตรวจแบบฝกึ หัด ทำ�กจิ กรรม 2. เครอื่ งมอื 2.1 ใบกิจกรรม 4.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.2 แบบฝกึ หดั 4.5 2.3 แบบประเมินทกั ษะ ด้านความรู้ และกระบวนการทาง เพอื่ ให้นกั เรยี นสามารถ คณติ ศาสตร์ บอกระยะเวลาเป็นชวั่ โมง และนาที 2 1.00 น . 22. 00 น. 23.00 น. (0240..0000 นน..) 1.00 น. 2.00 น. 3.00 น. 4.00 น. 5.00 น. 5.35 น. 43 ดังนัน้ พ่อเดนิ ทางด้วยรถไฟเป็นระยะเวลา 8 ชัว่ โมง 35 นาที
44 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๕ ชนั้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ช่ัวโมง 3. เกณฑ์ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ครแู นะน�ำ วา่ 1 ชว่ั โมงเขยี นเป็นตัวอักษรยอ่ ได้ 1 ชม. ทางคณิตศาสตร์ แนวคดิ ที่ 2 ใช้การบวกระยะก่อนข้ึนวันใหมก่ ับหลงั ขึน้ วันใหม่ 3.1 ผลงานมคี วามถกู ต้อง เพื่อให้นกั เรียนสามารถ เนอ่ื งจากเวลา 24.00 น. เปน็ เวลาสิน้ สุดของวัน ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 1. แก้ปัญหา กอ่ นขน้ึ วนั ใหม่ พอ่ เริม่ เดนิ ทางเวลา 21.00 น. ถึงเวลา 24.00 น. (สน้ิ สุดของวัน) 3.2 คะแนนรวมด้าน 2. ส่อื สาร และสื่อความหมาย ใชร้ ะยะเวลาเดินทาง 24 – 21 = 3 ชว่ั โมง ทกั ษะและกระบวนการทาง ทางคณติ ศาสตร์ หลงั ขึ้นวนั ใหม ่ พ่อเดนิ ทางตอ่ จากเวลา 00.00 น. ถึงเวลา 05.35 น. คณติ ศาสตรไ์ มน่ อ้ ยกวา่ ใช้ระยะเวลาเดนิ ทาง 5 ชั่วโมง 35 นาที รอ้ ยละ 60 ซึ่งอาจแสดงด้วยเส้นจ�ำ นวนได้ดงั น้ี 3 ชว่ั โมง 5 ชว่ั โมง 35 นาที 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 35 นาที 21.00 น . 22. 00 น. 23.00 น. (2040..0000 นน..) 1.00 น. 2.00 น. 3.00 น. 4.00 น. 5.00 น. 5.35 น. พอ่ เดนิ ทางเป็นระยะเวลาทง้ั หมด คดิ ได้จาก ช่วั โมง นาที 03 00 05 35 + 08 35 ดังนนั้ พ่อเดินทางเปน็ ระยะเวลา 8 ชวั่ โมง 35 นาที
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๕ ชัน้ ป. ๓ หนว่ ยท่ี ๔ เวลา เวลา ๑ ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ 2) พยาบาลเร่มิ ทำ�งานเวลา 22.20 น. เลกิ งานเวลา 5.20 น. 22.20 น. 05.20 น. เรม่ิ ท�ำ งาน เลกิ งาน ครถู ามว่า พยาบาลทำ�งานก่ีช่วั โมง คดิ ได้อยา่ งไร (ตอบตามความเข้าใจ) เช่น แนวคดิ ใช้การนับต่อบนเส้นจำ�นวน ซ่ึงอาจท�ำ ไดห้ ลายวิธี เชน่ เนื่องจากเวลา 24.00 น. เป็นเวลาสนิ้ สดุ ของวนั กอ่ นขึ้นวันใหม ่ พยาบาลเร่ิมทำ�งานเวลา 22.20 น. ถงึ เวลา 24.00 น. (สน้ิ สดุ ของวัน) ใชร้ ะยะเวลาทำ�งาน 1 ชว่ั โมง 40 นาที หลงั ขึน้ วันใหม ่ พยาบาลทำ�งานต่อจากเวลา 00.00 น. ถงึ เวลา 05.20 น. ใช้ระยะเวลาเดนิ ทาง 5 ชวั่ โมง 20 นาที ซึ่งอาจแสดงดว้ ยเสน้ จำ�นวนได้ดังนี้ 1 ชัว่ โมง 40 นาที 5 ช่วั โมง 20 นาที 45 40 นาที 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 1 ชม. 20 นาที 22.20 น. 23.00 น. (0204..0000 นน..) 1.00 น. 2.00 น. 3.00 น. 4.00 น. 5.00 น. 5.20 น.
46 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๕ ชัน้ ป. ๓ หน่วยที่ ๔ เวลา เวลา ๑ ชัว่ โมง พยาบาลท�ำ งานเปน็ ระยะเวลาทง้ั หมด คดิ ไดจ้ าก ชวั่ โมง นาที 01 40 05 20 + 06 60 หรือ 07 00 (60 นาที เป็น 1 ชว่ั โมง) ดงั นน้ั พยาบาลท�ำ งานเป็นระยะเวลา 7 ชว่ั โมง 3) พมิ พถ์ ึงบ้านยายเวลา 11.00 น. ใช้เวลาในการเดนิ ทาง 1 ชว่ั โมง 40 นาที ครูถามว่า พมิ พอ์ อกจากบ้านเวลาใด คิดได้อยา่ งไร (ตอบตามความเข้าใจ) เช่น แนวคดิ นบั เวลาถอยหลงั จากเวลาส้นิ สุด บนเสน้ จ�ำ นวน ได้ดงั นี้ 40 นาที 1 ชั่วโมง 11.00 น. 09.20 น. 10.00 น. ดงั นัน้ พมิ พ์ออกจากบ้านเวลา 9 นาฬิกา 20 นาที 4) เพชรล้างรถเสรจ็ เวลา 08.50 น. ใช้เวลาลา้ งรถ 45 นาที ครูถามวา่ เพชรเร่ิมล้างรถเวลาใด คดิ ไดอ้ ยา่ งไร (ตอบตามความเขา้ ใจ) เชน่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163