Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-16-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ม.1

64-08-16-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ม.1

Published by elibraryraja33, 2021-08-16 01:38:26

Description: 64-08-16-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ม.1

Search

Read the Text Version

141 112481 ๘8. บันทกึ ผผลลหหลลังงั สสออนน ผลการเรียนรู้ .................................................................................................................................................... ......................... ปัญหาและอุปสรรค .......................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............. ๙9. ความมคคดิ ิดเเหห็น็น//ขขอ้ อ้ เสเสนนออแแนนะะขขอองผงผบู้ บู้ริหรหิาราหรรหอื รผือู้ทผี่ไทู้ ดไี่ ้รดบั ร้ มบั อมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ที.่ .........เดือน..........พ.ศ........

142142142142 129 ใบความรรู้ชชู้ ดุ ุด““77พพรระะสสงงฆฆ์ต์ต้น้นแแบบบในใปนจัปจัจุบจนับุ ”ัน” พพรระะมมหหาาววฒุ ุฒชิ ชิยั ัยววชชริ เริ มเมธีธี พระมหาาววุฒุฒิชิชัยัยววชชิริรเมเมธธี หี หรือรือชชื่อื่ตออตนอเนปเ็นปฆ็นรฆารวาาวสาสว่าวค่าือควือุฒวิชุฒัยิชบัยุญบถุญึง ถหึงรือหรรู้จือักรกู้จันักดกีใันดนีใานมนปามกกปากกา ว.วชริ เมมธธี ี เเปป็น็นพพรระะธธรรรมมททตู ูตผผู้มู้มีผลผี งลางนาดนีเดดีเ่นดใ่นนใรนะรดะับดโับลกโลแกถแมถยมังมยีผังลมงีผาลนงเาปน็นเคปอ็นลคัมอนลสิ ัมตนเ์ ขสิ ียตน์เขบียทนคบวาทมความ ธรรมะปปรระะยยุกุกตต์ใ์ในนหหนนังังสสือือพพิมิมพพ์ น์ นิตยิตสยาสรารารยาเยดเือดนือนรายราสยัปสดัปาหด์ารหา์ยรปาักยษป์ักแษล์ะแรลาะยรวาันยซวึ่ังนผซลงึ่ าผนลเงขาียนนเขียน ยังได้ถูกกตตีพีพิมิมพพ์เ์เปป็น็นออีกีกหหลลาายยหหลลายาภยภาษาาษาโดโยดปยัจปจัจุบจันุบอันุปอสุปมสบมทบมทาแมลา้วแล2้ว22พ2รรพษรารกษับา ก2ับ8628วัน6โวดันย โดย โปดจั ยจปุบจั ันจทบุท่านั ่านทนจา่จานาพจพรำ�รรพรษรษราาษออยายอูท่ ทู่ยี่วทู่ดัีวว่ีดัพดั พรพะรรสะะงิสสหิงงิ ์หหจ์ ังจหังวหัดวเดัดชเเยีชชงยี ียรงางรยราายโยดโดยโยดมมยีตตีมาำแีต�แหาหแนนห่งง่ทนทา่งางทงคคาณณงคะะสณสงงะฆฆส์ ์ คงอืฆ์ ปครอื ะปธารนะมธลูานธิมิ ลู นิธิ วมิ ุตตยาาลลัยยั ผผ้ชู ู้ชว่ ่วยยเจเจา้ ้าออาาววาสาสวดัวัดพพระรสะิงสหงิ ์หพ์ รพะรอะาอรารมาหมลหวลงวง พพรระะมมหหาาสสมมปปอองงตตาลาลปปุตฺโุตตฺโต พระมหหาาสสมมปปอองงตตาาลลปปุตุตฺโตโฺ ต(น(นคครไรธไสธงส)งห) รหือรทือ่ีรทูจ้ ี่รกั ู้จกักันกดันที ด่ัวีทไป่ัวใไนปนในามนาพมระพมรหะามสหมาปสอมงปเอปง็นพเปร็นะนพักระเทนศักนเท์ ศน์ ชอื่ ดังอีกกทท่า่านนหหนนึ่งึ่งขขอองงเมเมือืองไงทไทยยเปเป็นพ็นรพะรนะักนเักผเยผแยผแ่พผร่พะรพะุทพธุทศธาสศนาสารนุ่นาใรหุ่นมใ่หแมล่ะแนลักะบนรักรบยารยรธยรารยมธทรรี่เปม็นที่เป็น ที่รู้จักออยย่า่างงกกวว้า้างงขขววาางงแแลละะเปเป็น็นนักเักขเียขนียทนี่ผทล่ีผิตลผิตลผงลานงาแนลแะลหะนหังสนือังอสอื กอมอากอมยา่าองยส่ามง่าสเสมม่าอเสในมยอุคในปยัจุคจุปบันจจุบัน จนได้รับบพพิจิจาารรณณาาใใหห้ไ้ดได้ร้รับับรารงาวงัลวันลันกเักผเยผแยผแ่พผร่พะรพะุทพธุทศธาศสานสานจากจอากงคอ์กงรคต์ก่ารงตๆๆ่างมมๆาากกมมมาาากยยมโาดยยอโดุปยสอมุปบสทมบท มาแล้ว 1199พพรรรรษษาาโดโดยยปปัจจั จุบุบันนัพพระรมะหมาหสามสปมอปงอจงาจวาัดวอัดยอทู่ ย่ี ว่ทู ดั ่ี สวดัรอ้สยรท้ออยงทอกงรุงกเทรพุงเมทหพามนหคารนคร พพรระะคครรูววู าาททีพีพชั ชัรรโสโสภภณณ เจ้าอาววาาสสววัดัดววังังศศาาลลตตาาบบลลวังวศังศาลาลอาอเาภเอภวอังวโัปงโ่งปจ่งังจหังวหัดวเพัดชเพรบชูรณบูร์ โณด์่งโดดัง่งจดาังกจกาากรกเทาศรเนท์ปศรนะ์ปกอรบะกอารบการ แหล่ มมหหาาเเววสสสสันันดดรรชชาาดดกกทที่ส่ีสออดแดทแรทกรมกุกมตุกลตกลกมีอมาอีรามรณม์ขณัน์ขสันร้าสงรคา้ วงาคมวเาฮมฮเาฮตฮลาอตดลกอาดรเกทาศรนเท์ ยศิ่งนก์ วย่าิ่งนกั้นวา่ นั้น เป็นการรเเททศศนน์ท์ท่ีม่ีมีเนีเนื้อื้อหหาาททันันสสมมัยัยโดโยดเยฉเพฉาพะาใะนใชน่วชง่วเดงือเดนือตนุลตาคุลมาคขอมงขทอุกงปทีุกจปะีไจดะ้รัไบดก้ริจับนกิมิจนนติม์ใหน้ไตป์ใเหท้ไศปนเท์ ศน์ กวา่ 600 งงาานนททั่ว่วั ปปรระะเทเทศศ พระะคครรวู วู ินินยั ยั ธธรรกกติ ิตตตศิ ิศกั กัดดิ์ โ์ิ คโคตตมสมลิสโฺลิ สโฺ ส พระครรูวูวินินัยัยธธรรกกิติตตติศิศักักดดิ์ โิ์ คโคตตมมสิสลฺโิลสฺโส(ศ(.ศส.ียสวียนว)นไ)ดไ้รดับ้รแับตแ่งตั้่งเตป้ัง็นเปพ็นระพครระูวคินรัยูวธินรัยฐธารนฐาานนุการนมุกในรพมรในะอพัฐริ ะอัฐิ สมเด็จพพรระะมมหหาาสสมมณณเจเจ้า้ากกรมรมพพระรปะรปมรามนาุชนิตุชชิติโชนิโรนสร(สสม(สเดม็จเดพ็จรพะสรังะฆสรังาฆชรเาจช้า)เจว้าัน)อวานั ทอิตายท์ทิตี่ 4ย์ทมี่ ก4รามคกมราคม พ.ศ. 22555588เเปป็น็นพพรระะนนักักเทเทศศนน์ให์ให้กับ้กัมบหมาหวาิทวยิทายลาัยลทัยั่วทป่ัวรปะเรทะศเทแศละแมลีผะลมงีผาลนงเาขนียเนขหียลนังหสลือังมสาือกมว่า ก6ว0่า 60 เล่ม จัดดจจาาหหนน่า่ายยใในนรร้า้านนหหนนังสังสือือดัดงทังั่ทวปั่วรปะรเะทเศทศโดโยดใยช้นใชา้นมาปมาปกกากาวก่าาวศ่า.สศีย.วสนียวปนัจจปุบัจันจจุบาันวัดจอาวยัดู่ทอ่ี จยาู่ท่ี จา พรรษาา คคณณะะนน.2.200ววัดัดพพรระะเชเชตุตพุพนวนิมวลิมมลังมคังลคาลรารมามราชราวชรมวรหมาวหิหาาวริหา(วรัด(โวพัดธโิ์ พทธ่า์ิเตทีย่านเต)ียเขนต) พเขรตะนพครระนคร กรงุ เทพพมมหหาานนคครร

143143141331043 พพรระะรราาชชธธรรรมมนนเิ ทิเทศศ พระราาชชธธรรรรมมนนิเทิเทศศ(พ(พยยออมมกัลกยัลายโาณโณ) ม)ีชมื่อีชเื่ดอิมเดวิม่าวพ่ายพอยมอจมั่นเจพั่นชเรพชเกริดเกมิด่ือเวมัน่ือทวี่ ั2น4ท่ี เ2ม4ษาเยมนษาพย.ศน. พ.ศ. 24922 ออาาเเภภออบบาางงใหใหญญ่ จ่ ัจงหังหวัดวนัดนทนบทุรบี ุเรรี ่ิมเรบ่ิมรบรรพรชพาเชปา็นเปส็นามสเาณมรเใณนรชใ่วนงชเด่วืองนเดเมือษนาเมยนษาพย.นศ.พ2.5ศ.02502 และอุปปสสมมบบททเปเป็น็นพพรระะภภิกิกษษุเมุเื่อมว่ือันวทันี่ท1่ี 616มิถมุนิถาุนยานยพน.ศพ..ศ2.521531ณ3 วณัดสวังัดวสรพังวิมรลพไพิมบลูลไพย์บอูลายเภ์ อาบเาภงอบาง ใหญ่ จจังังหหววัดัดนนนนททบบุรุรี ที ท้ัง้ันงน้ี พ้ี พระรพะยพอยมอไมดไ้รดับ้รกับากรายรกยยก่อยงว่อ่างเวป่า็นเปพ็นระพนรักะเนทักศเนท์แศลนะ์แพลระพผู้เรสะียผสู้เลสะียสละ ยกตัวออยย่า่างงโโดดยยกกววีนีนิพิพนนธ์ธข์ อขงอองาอจาาจรายร์เยน์เานวารวัตรนัต์ พนง์ พษง์ไพษบ์ไพูลบย์ูลคยว์าคมววา่ามพว่าระพผรู้สะรผ้างู้สผรู้ท้าางนผาู้ทคานนทาุกคขน์ ทใหุก้รขู้ ์ ให้รู้ ทางสรรา้ า้ งงสสขุ ขุ พพึ่ง่ึงตตนนไดได้ เ้ อเอาเาหเหงื่องตื่อา่ตง่านงา้นมา้ นมตน์พต้น์พพ้นษิ พภษิ ยั ภเัยอาเชอนาชะทนุกะขท์ไุกดข้ด์ไ้วดย้ดก้วายรงกาานรงเาปน็นทเปี่พ็นระทพ่ีพิศราะลพธิศรารลมธรรม พาที เปป็น็นพพรระะดดีทีท่ีรี่รักักขขอองชงชาวาบวบ้าน้านไมไ่อมอ่อกอนกอนกอแกกแ่นกธ่นรรธมรนรมอนกตอากนตาานนาทน่านทอ่าานจอารายจ์พารยะพ์ ยรอะมพยกอัลมยากโณัลยาโณ เจ้าขอองงววลลดี ีดังัง““โโกกรรธธคคือือโงโ่งโ่มโมโหโคหือคบือา้บ”า้ ” พรระะรราาชชญญาาณณกกววี (ี ส(สุวทิวุ ทิย์ยป์ ปยิ วยิ ชิ วโฺชิ ชฺโ)ช) พระราาชชญญาาณณกกววี (ี ส(สวุ วุิทิทยย์ ป์ ปิยวิยิชวโฺิชชฺโ)ชห) รหือรนือานมาปมาปกากกากปายิ ปโสิยภโสณภปณัจจปุบัจันจเุบปัน็ เปผ้ชู็น่วผยชู้เจ่วา้ ยอเาจว้าาอสาววัดาพสรวะัดรพามระราม 9 กาญญจจนนาาภภเิ ิเษษกกแแลละะรัรกักษษากาากราเรจเ้าจค้าณคณะจะงั จหังวหัดวเชัดียเชงรียางยรา(ธยร(รธมรยรตุ ม)ยทตุ งั้ )ยทังเัง้ ปยน็ งั พเปร็นะพนักรวะชินาักกวาิชราสกง่ิาทรพี่ สรงิ่ ะท่ีพระ ราชญาาณณกกววีไไีดด้ก้กรระะททาาแแลละเะปเป็น็นคณุคุณปรปะรโะยโชยนชอ์ นย์อ่ายงว่า่ิงตว่องิ ตวง่อกวางรกพาุทรธพศุทาธสศนาศ์ สกึ นษ์ศากึในษโาลใกนโกล็คกอื กก็คาือรเปก็นารหเนปึ่ง็นหนึ่ง ในผู้ปรระะสสาานนงงาานนทท่ีส่ีสาาคคัญัญทที่สี่นสันบับสนสุนกุนากรากร่อกต่อ้ังตศั้งูนศยูน์พยุท์พธุทศาธสศนาาสศนึกาษศาึกษมหาามวหิทายวาิทลัยอาลอักยซอฟออกรซ์ดฟอโดรย์ด โดย โทด่ายนทเ่าปปน็น็นเผปผู้ด็นู้ดาผาเเนู้ดนิำน�ินเกนกาินารกรปปารระรปะสรสาะนาสนงาางนนางนาจนจกนจรนกะกรทะร่ังะททพั่งั่งรพะพบรระาะบทบาสาทมทเสสดมม็จเพดร็จะพปรระมปินรทมรินนมททหรรามมภหหูมาาิพภภลูมูมอิพิพดลุลอยอดเดุลดุลยชเยดไเดชด้ ช ได้ ไพดร้พะรระาารชชาททชาทานนาพนพรพระระปะปปรรมรมามภาภิไทิไทยยใหให้ศห้ศูนศูนยูนย์พย์พุท์พุทธุทธศธศาศาสสานสน์ศน์ศึก์ึกศษษึกาาษ มามหหมาาวหวิทาิทยวยาิทาลลยัยัยาอลออัอยกกอซซอฟฟกออซรรฟ์ด์ดอนนรา์ำด�ไปนใาชไ้เปปใ็นชช้เื่ปอ็ นชื่อ ตาแหนน่ง่งผผู้เู้เชช่ียี่ยววชชาาญญททางาดงด้าน้านพพระรพะุทพธุทศธาศสานสานขาณขะณนะ้ี พนร้ี พะศรระีญศราณีญโาสณภโณสภกณาลกังปาลระังสปารนะงสาานนกงับารนัฐกบับารลัฐบาล ใหม่เพพื่อ่ือหหาาททุนุนสสนนับับสสนนุนุนจจาการกัฐรบัฐาบลาตล้ังตตั้งาตแาหแนห่งนผ่งู้เชผ่ียู้เชว่ีชยาวญชาพญิเศพษิเทศ่ีศษูนทย่ีศ์พูนุทยธ์พศุทาสธศนา์ศสึกนษ์ศาึกมษหาาวมิทหยาาวลิทัยยาลัย ออกซฟฟออรรด์ ์ด พระะรราาชชววสิ ิสุททุ ธธิมิมุนนุ ี (ี เ(ยเย้ือื้อนนขนขตฺนพิตฺ โพิ ลโ)ล) พระราาชชววิสิสุทุทธธิมิมุนุนี (ี เ(ยเย้ือ้ือนนขขนนฺติพฺติพโลโ)ลเ)จเ้าจค้าณคะณจะังจหังวหัดวสัดุรินสุทรินร์ท(ธรร์ ร(ธมรยรุตม)ยเุตจ้า) อเจาา้ วอาาสาววัดาเสขวาัดศเาขลาาศอาตลุลาอตุล ฐานะจจาาโโรรบบ้า้านนจจรรัสัสตตาบาบลลจรจัสรัสอาอเาภเอภบอัวบเชัวดเชจดังหจังวหัดสวัดุรินสทุรินร์ ทอรุป์ สอมุปบสทมบ1ท6 1เม6ษาเมยนษาพย.นศ.พ2.5ศ1. 25515 ต่อมาาเเมมื่อ่ือปปี ีพพ.ศ.ศ. .22551188ไดไ้ดเก้เิดกเิดหเตหุกตาุกราณร์ไณม์่ไสมง่สบงตบาตมแามนแวชนาวยชแาดยนแไดทนยไท- ยกัม-พกูชัมาพแูชมา้จะแถมูก้จกะลถุ่มูกกลุ่ม ผ้กู ่อกกาารรรร้า้ายยคคออมมมมิวิวนนิสิสตต์ โ์ จโมจตมีอตยีอ่ายง่าหงนหักนักแตแ่ทต่า่ทน่ากน็ไมก่เ็ไคมย่เยค่อยทย้อ่ ทจ้อนสจานมสาารมถสารถ้างสวรัดา้ แงลวะัดรแ่วลมะใรจ่วกมนั ใเจปก็นนั เป็น หน่ึงไดด้ส้สาาเเรร็จ็จจจนนไดได้พ้พรระะนนักักพพัฒัฒนานเาขเตขชตาชยาแยดแนดไนทไยท-ยก-ัมกพัมูชพา ูชแาละแกลาะยกเปา็ยนเนปัก็นเทนศักนเท์ผศู้มนีช์่ือผู้เมสีชียื่องใเสนียงใน ใปนจั ปจจั ุบบจนั นับุ นั ตตาตาแ�ำแหแหนหน่งน่ง่งทททาางคงคณณะะสสงสงฆงฆ์ฆเ์ จ์เจเ้าจ้าค้าคณคณะณะจจะังังจหหังววหดั ดั วสัดุรสนิ ุรทินร์ท(ธรร์ (รธมรยรตุ ม)ยเเจตุจ้า)้าออเาจาว้าวาอาสสาววัดดัาเขสเขาวาศดั ศาเาลขลาาอาศอตาตุลลุลฐาาฐอนาตะนุลจะฐาจโารนะจา โร ททท่ีมม่ี า่มีา า:: h:htthttptptssp:://s//:m/m/gmgrroognrnolliinnelei.n.cceoo.mcmo//moonn/lloiinnneelsisneeecctstieioocnnt//idodenet/taadiilel//t99a66i0l/09060000000010094012090041209420

๑๔๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 24 เรอ่ื ง การบาเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถาน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่อง หน้าท่ีและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 กิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ส1.2 ม.1/1 บำเพ็ญประโยชน์ต่อศำสน ขัน้ นา สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นพระพุทธศำสนำ สถำนของศำสนำทีต่ นนบั ถือ 1. ครูให้นักเรียนดูรูปภำพวัดเก่ำผุพัง ทรุดโทรม แล้วครูให้นักเรียนแสดง สาระสาคญั ควำมคิดเห็นในประเด็นคำถำมดงั ตอ่ ไปนี้ 2. กระดำษ เอ 2 ศำสนสถำนเป็นศูนย์กลำงของสังคมและ 3. โปรแกรมสื่อ Power Point เรื่อง กำรบำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ ศำสนสถำน ชุ ม ช น ดั ง น้ั น ก ำ ร บ ำ เพ็ ญ ป ร ะ โย ช น์ แ ล ะ บำรุงรักษำศำสนสถำนจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเป็นกำร ท่ีมำ : https://www.google.co.th/search?q=ภำพวัดเก่ำๆ+ผุพัง+ทรุ ภาระงาน/ช้นิ งาน สืบทอดและบำรุงรักษำศำสนำให้สำมำรถตั้งมั่นอยู่ โทรม&dcr 1 ) อ ธิ บ ำ ย วิ ธี ก ำ ร ก ำ ร บ ำ เพ็ ญ ได้ในสังคม ซึ่งสำมำรถทำได้โดยกำร ร่วมกันสร้ำง ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ ศ ำ ส น ส ถ ำ น ได้ อ ย่ ำ ง บรรยำกำศท่ีดี ร่วมกิจกรรมและปกป้องดูแล เหมำะสม รักษำศำสนสถำน ในโอกำสตำ่างๆๆ ขอบเขตเนอ้ื หา - นักเรียนรู้สึกอยำ่ งไรกับภำพดังกล่ำว (ร้สู ึกแย่ ที่วัดอันเป็นศำสน วัดเป็นศำสนสถำนศูนย์รวมจิตใจของชำว สถำนและเป็นศูนย์กลำงของชุมชนไม่ได้รับกำรดูแลและมีสภำพที่ทรุด พุทธในชุมชน พุทธศำสนิกชนควรหมั่นไปวัดตำม โทรม) โอกำสที่เหมำะสม เพรำะวัดเป็นสถำนที่โน้มนำ - ในฐำนะพุทธศำสนิกชนนักเรียนคิดว่ำนักเรียนมีส่วนร่วมในกำร จิตใจใหใ้ ฝ่อยู่ในศลี ธรรม แก้ปัญหำจำกภำพดังกล่ำวได้อย่ำงไรบ้ำง (ผู้คนในชุมชนสำมำรถเข้ำไป วดั เป็นสถำนทอ่ี ยู่ของพระสงฆ์ เป็นสถำนที่ ทำนุบำรุง รักษำควำมสะอำดและช่วยเหลือในสว่ นท่ตี นเองสำมำรถทำได้) ทำบุญบำเพ็ญกุศลของพุทธศำสนิกชน เป็นสถำนท่ี ข้นั สอน ศึกษำเล่ำเรียนและประกอบกิจท่ัวไปของชำวพุทธ 2. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม “โครงกำรบำรุงวัด สืบสำนพุทธศำสนำ” โดย เป็นสถำนที่ศึกษำแลกเปล่ียนกันระหว่ำงชำวบ้ำน โคดรยูแคบรแู่งนบัก่งนเรักยี เนรยีเปนน็เป6็น ๖กลกมุ่ ลมุ่แลแว้ ลใว้หใ้นหกั น้ เักรเียรนยี รนว่ รมว่ กมนักคนั ดิคโดิ ปโปสสเตเตออร์เรชเ์ ชิญญิ ชชววนน กับชำวบ้ำนตำมโอกำสตำ่ ง 113414

114455 กดจกหจหุดุดลล้านนนุมุ่่มปป่่ววคสสรรยยะะวาากกสสรราาาะะมงงรรกกคคเเรรราา์์กกู้ ียียรราานนเเรรรรรรเเียียรร้ทูู้ทนนียียี่่ี นนรร44ูู้้รรสสูู้้ เเงังั รรคคือ่ื่อมมงงศศหหึกึกนนษษ้า้าาาททศศ่ีแี่แาาลลสสะะนนมมาาาาแแรรลลยยะะาาววททผแแผกัฒฒัชชคู้ผผู้้ิคคจาานนนนนกนนววธธใกกรพพใในรรนนราาชรรุุททมรรชชมมมุ ธธจจุุแมมชดดัั ลนชชกกะมนนาาตามมรรรกำำเเว่ รรแรรมยียี่่ววตบนนมม่งำ�รรบบใเพู้ทูท้หำำญ็่ีี่้สเเพพ22วป็็ญญยร44ะงปปโำเเยรรรรมือ่อื่ชะะรรนงงโโอาายยแ์ยยอกกชชลววกาานนะิิชชรรแบ์์แแบบาาบำลล�าารบสสะะเเงุ พพงัังลบบรคคกังญ็็ญำำมมบษรรปปศศุุางงนรรวกกึึรรกะะดัักกษษรโโใษษาายยนะำำชชดชววนนมุำััดดชษ์์ตตใใน่่ออขนนศศนโชชดาาำุุมมยสสดชชรนนนนะเสสอบถถโโกุ ดดาา2จิ นนยยกทรรระะร่ีคบบมรุุู ชช้นั้นัเเววมมลลััธธาายยมม11ศศึึกกชชษษั่ว่ัวาาโโมมปปงงีีทท่ีี่ 11 1ดา้. นอคธิวบาำมยรวู้ิธีกำรกำรบำเพ็ญประโยชน์ต่อศำ แกจลัดิจะเกตรรกรียแมมตแไง่ วลใ้ใหะหส้ต้ ใวกชยแเ้งวตาล่มงำใใหอนอ้สกกวำแยรบงอำบอมกลงแอบอนบกกแ1รบะ0ดบนาลษำงทขบนีแนลากด้วรสเะ่งอตด๑วัำแษททขค่ี นนรอำูจอดั กเตมเอรำียน2มำเไทสวนใ้ี่คหอร้ ู ส1น. สอถธำิบนำไยดว้อิธยีกำ่ ำงรเกหำมรำบะำสเมพ็ญประโยชน์ต่อศำ ใผจชดัลเ้ วเงตลำรนายีอมอไกวแใ้ บหบ้ ใช๑้เว๐ลนำใานทกแี ำลรว้ อสอ่งกตแวั บแบทน1อ0อกนมำาทนีแำล�เส้วสน่งอตผัวลแงทานนออกมำนำเสนอ ศสดนา้ สนสนทถสำกั นถษาไะดนแ้อไลดยะ้อ่ำกงยเรา่ หะงมบเหำวะมนสากะมาสรม 3ผล. งคำรนูถำมนักเรียนถึงแนวทำงกำรบำเพ็ญประโยชน์และบำรุงรักษำวัดวิธีอ่ืน ๆ ด2้า.นวทิเคกั รษำะะแหล์แะนกรวะทบำวงนกำกราบร ำรุงรักษำศำสน น3อ. กคเรหูถนำมือนจำักกเรทียี่นนักถเึงรแียนวไดท้นำงำกเสำนรบอำตเำพม็ญผปลงรำะนโยในชนกิจ์แกลระรบมำร“ุงโรคักรษงำกวำัดรวบิธำีอรื่นุงวๆัด ส2ถ. ำวนิเคไดร้อำยะำ่ หง์แเหนมวำทะำสงมกำรบำรุงรักษำศำสน- นสืบอสกำเหนนพือุทจธำศกำทส่ีนัก”เรียนได้นำเสนอตำมผลงำนในกิจกรรม “โครงกำรบำรุงวัด สดถา้ นำนคไณุ ดอ้ลยัก่ำษงณเหะมำะสม ๔4ส.บื คสรำนูใหพ้นทุ ักธเศรำียสนนเข”ียนบันทึกกาำรเรรียนรรู้ในประเด็นแนวทาำงงกาำรบบำำ�รุงรักษาำศำ ด3้า. นอคภุณิปรลำกั ยษคณุณะค่ำของกำรบำเพ็ญประโยชน์ ศ4สาน.สสคนถรสูำใหถนา้นลนงักใลเนรงีแยในบแบเขบบียบนั นบทบันึกันทกทจิึกึกกกริจรำกมรรเรียมนรู้ในประเด็นแนวทำงกำรบำรุงรักษำศำ ต3่อ. ศอำภสิปนรสำถยำคนุณไดค้ ่ำของกำรบำเพ็ญประโยชน์ สขน้ั สถรำปุ นลงในแบบบันทกึ กจิ กรรม ตอ่ ศำสนสถำนได้ ข4ัน้. คสรรแูปุ ละนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรำยโดยใชป้ ระเดน็ คำถำมดังตอ่ ไปน้ี 4. ครูแล-ะนเหกั ตเรุใยีดนจึงรจ่วมำเกปัน็นอจภะิปตร้อำงยบโำดเยพใ็ญชป้ ปรระะเโดยน็ ชคนำ์แถลำะมบดังำตรุงอ่ รไักปษนำ้ี วัด (เพราะ เป็นแนวท- าเหงทตชีุ่ใดว่ ยจสึงจบื ำทเอปด็นแจละะตพ้อรงะบพำทุเพธ็ญศาปสรนะาโไยดช)้ น์และบำรุงรักษำวัด (เพราะ เปน็ แนวท- าถง้ำทห่ีชำ่วกยพสทุ ืบธทศอำดสแนลกิ ะชพนรระว่ พมุทกธันศบาำสเพนา็ญไปด้)ระโยชนแ์ ละบำรุงรกั ษำวัดจะ ก่อให้เกิด-ปถรำ้ ะหโำยกชพนุท์อธยศ่ำงสไนริก(ชชน่วรยว่ ใมหก้วันดบสำะเอพาญ็ ดปแรละะโยังชคนงแ์ สลภะาบพำรเปุงร็นักศษูนำยว์รัดวจมะ กจิ่อตใหจ้เขกอิดงปพรุทะธโยศชานส์อนยิก่ำชงนไรใน(ชุ่วมยชในหส้วืับดสตะ่ออไปาดแแลละะยยังังเคปง็นสกภาารพสเ่งปเ็นสรศิมูนคยว์รวาม จเจิตรใิญจรขุ่งอเรงือพงุทขอธงศพาุทสธนศิกาชสนนาใไนดชอ้ ุมกี ชดนว้ ยส)ืบต่อ-ไปพแุทลธะศยำังสเปน็นิกกชานรคสว่งรเสปรฏิมิบคัตวิตามน อเจยร่ำิญงรไร่งุ เเ-พรือพ่ืองุทเขปธอ็นศงกาพสำทุ รนธบิกศำชาเนสพนค็ญวาปไรดปร้อะฏกีโิบยดัตชว้ ิตนยน)์แอลยะ่าบ-งำไพรุงเุทพรธักื่อศษเปำำ็นสวัดกนาิก(รเชขบน้าำ�ไเคปพวม็ญรีสป่วรฏนะิบรโย่วัตมชิตนในน์ แอกลายะร่ำบงไาำ�รเรพเุงพรญ็ ่ือักปเษปราะ็นวโกัดยำช(รเนขบ์ห้าำไรเปือพมบ็ญีสาปร่วุงรนระรกั โ่วยษมชาในวดัก์แใาลนระกบบจิำ�ำกเรพรุง็ญรรมัปกตษร่าะำงโวยๆัดช)น(เ์หขร้าือไปบมำ�รีสุง่วรนักรษ่วามวใัดน ใกนากรจิบการเรพมญ็ ตปา่ งระๆโ)ยชนห์ รือบารุงรักษาวัดในกจิ กรรมตา่ ง ๆ) 131245 145

146 114363 เกณฑ์การประเมิน สิ่งท่ตี ้องการวัด/ประเมนิ วิธีการ เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1 . อ ธิ บ ำ ย วิ ธี ก ำ ร ก ำ ร - สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม - แบ บ สังเกตพ ฤติกรรม ดี : อธิบ ำยวิธีกำรกำร กบาำรเพบำ�็ญเพปญ็ระปโรยะชโยนช์ตน่อต์ ศ่อำสน นักเรยี น นักเรียน กบาำรเบพำ�็ญเพปญ็ ระปโรยะชโยนช์ตน่อต์ ศอ่ ำสน ศสถาสำนไสดถ้ านได้ ศสาถสำนนสไถดา้อนยไำ่ดงอ้ เยหา่มงำเหะมสามะสม พอใช้ : อธิบำยวิธีกำรกำร กบาำรเพบำ�็ญเพป็ญระปโยระชโนย์ตช่อนศ์ตำอ่ สน ศสาถสำนสไดถ้ านได้ ปรับปรุง : ไม่สำมำรถ อธิบำยวิธีกำรกำรบำเพ็ญ ประโยชน์ต่อศำสนสถำน ได้ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ 2. วิเครำะห์แนวทำงกำร - ประเมนิ ผลงำนกลุ่ม - แบบประเมนิ ผลงำนกล่มุ ดี : วิเครำะห์แนวทำงกำร กบาำรบงุ รำ� กัรงุษรำกั ศษำาสศนาสสถนำสนถไาดน้ ได้ กบาำรรบุงำ� รรักงุ ษรกั ำษศาำศสานสนสสถถำานนไไดด้ ้ อย่ำงเหมำะสม พอใช้ : วิเครำะห์แนวทำง กำรบำรงุ รกั ษำศำสนสถำน ได้ ปรับปรุง : ไม่สำมำรถ วิเครำะห์ แน วท ำงกำร กบาำรรบงุ ำ�รรักงุ ษรกำั ศษำาสศนาสนถสำถนาไนดไ้ ด้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 3. อภิปรำยคุณค่ำของกำร - สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม - แบ บ สังเกตพ ฤติกรรม ดี : อภิปรำยคุณค่ำของกำร กบาำรเพบำ�็ญเพป็ญระปโรยะชโยนช์ตน่อต์ ศ่อำสน นักเรียน นกั เรียน กบาำรเพบำ�็ ญเพป็ญระปโรยะชโนย์ ตช่นอต์ศ่อำสน ศสถาสำนไสดถ้ านได้ ศสถาำสนนไดสถ้อยานำ่ งไมดีเอ้หยตาุ่ผงลมเี หตผุ ล พอใช้ : อภิปรำยคุณค่ำของ กำรบำเพ็ญประโยชน์ต่อศำสน สถำนได้ ปรับปรงุ : ไม่สำมำรถอภิปรำย คุ ณ ค่ ำของกำรบ ำเพ็ ญ ประโยชน์ต่อศำสนสถำนได้ อยย่ำา่ งงมมีเหีเหตผุตลุผล

147 113447 8๘. บันทกึ ผผลลหหลลงั งั สสออนน ผลกำรเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหำและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข ................................................................................................................................................................... ........ ลงชอ่ื ......................................ผ้สู อน (.......................................................) วันท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ............. 9๙. คววำามมคคิดดิ เเหห็น็น//ขข้ออ้ เสเสนนออแแนนะะขขอองผงู้บผบู้รหิ รำหิ ราหรรหอื รผอื ทู้ ผ่ีไทู้ ด่ีไร้ ดับ้รมบั อมบอหบมหำมยาย ............................................................................................................................................................... ............ ลงชอื่ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ........

๑๔๘ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 25 เรื่อง การปฏิบตั ติ นต่อพระภกิ ษุ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง หนา้ ท่แี ละมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 กิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัด ขั้นนา ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ ส1.2 ม.1/2 อธิบายจริยวัตรสาวกเพ่ือ 1. ครูให้นักเรียนดูภาพการต่างกายเข้าวัดที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมและให้ 1. หนังสอื เรยี นพระพุทธศาสนา เปน็ แบบอยา่ งในการประพฤติปฏบิ ัติ และปฏิบัติตน นักเรียนรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับมารยาทการปฏบิ ัติตนที่เหมาะสมต่อพระภิกษุ อยา่ งเหมาะสมตอ่ สาวกของศาสนาท่ตี นนับถอื โดยครใู ชค้ าถาม ดงั นี้ 2. สมุดจดบนั ทึก สาระสาคญั ภาระงาน/ช้ินงาน 1) อธิบายแนวทางการปฏิบัติตน นักบวชเป็นองค์ประกอบหน่ึงของในหลาย ต่อพระภิกษุสงฆ์ไดอ้ ย่างมเี หตุผล ศาสนา ซึ่งมีหน้าที่ในการฝึกฝน ปฏิบัติ เพื่อท่ีจะ นาเอาคาสอนของศาสนามาเผยแผ่ ท้ังน้ีศาสนิกชน ตามศาสนานั้นควรปฏิบัติตนอย่างสุภาพต่อนักบวช ของศาสนา ขอบเขตเน้อื หา ที่มา : https://www.dmc.tv/pages /พระพุทธศาสนา/การแต่งกายไปวัด. html พ ร ะ ภิ ก ษุ ส งฆ์ ซึ่ งเป็ น บ ร ร พ ชิ ต ใน ใพนรพะรพะพุทุทธธศศาาสสนนาา มมีหหี น้าท่ศี กึ ษาา ปปฏฏิบิบัตัตธิ ิธรรมรม เผย - นักเรียนคิดว่าการแต่งกายในภาพใดเหมาะสมกับการเข้าพบพระภิกษุ เแผผยแ่คผาค่ส�ำอสนอนแลแะลสะืบสืบต่ตอ่อพพรระะพพุทุทธธศศาาสสนาโดยตรรงง มี (ภาพทางดา้ นขวามอื เพราะเปน็ การแตง่ กายท่ีสุภาพเรยี บรอ้ ย) มคคี ุณณุ ธรรมมแแลละะหหลกัลคักวคามวปามระปพรฤะตพทิ ฤตี่ ต้องิทป่ีตฏ้อบิ งัตปิ ฏิบัติ มากมาย - เมื่อนักเรียนได้มีโอกาสเข้าวัดหรือพบพระภิกษุ นักเรียนจะแต่งกาย อยา่ งไร (แต่งกายสภุ าพเรียบนอ้ ยมดิ ชดิ เพ่อื แสดงออกซ่ึงความสารวม) ข้ันสอน 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน แล้วให้นักเรียน ทุกกลุ่มอภิปรายกันภายในกลุ่มในประเด็น “หากมีชาวต่างชาติต้องการจะมา ศกึ ษาหลกั ธรรมกับพระภกิ ษสุ งฆท์ ี่วัดนกั เรียนจะสามารถแนะนาเขาอยา่ งไรไดบ้ า้ ง” 113458

149 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 เร่อื ง การปฏบิ ตั ติ นต่อพระภกิ ษุ เวลา 1 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรือ่ ง หน้าทแ่ี ละมารยาทชาวพุทธ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3. ครตู ดิ แผน่ ปา้ ยหวั ขอ้ ดงั ต่อไปนี้ ดา้ นความรู้ --กกาารรแแตตง่ ง่กกาายย 1. อธิบายแนวทางการปฏบิ ตั ิตนต่อพระภิกษุสงฆไ์ ด้ - การตดิ ต่อเข้าพบ ดา้ นทักษะและกระบวนการ - การสนทนา 2. จาแนกความเหมาะสมของสิ่งท่ีควรปฏิบัติตนต่อ - กริ ยิ าท่าทาง พระภกิ ษุสงฆไ์ ด้ - ระยะเวลาในการเข้าพบ ด้านคุณลกั ษณะ 4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาเขียนคาแนะนาแนวทางการปฏิบัติ 3. อภิปรายถงึ คุณคา่ ของการปฏบิ ัตติ นต่อพระภิกษุ ตนอยา่ งเหมาะสมต่อพระภิกษุสงฆ์บนกระดานตามป้ายหัวขอ้ ท่ีระบุไว้ โดยกาหนดใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลือกแนะนาในหนึ่งประเดน็ เท่านนั้ ได้อยา่ งเหมาะสม 5. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ อธบิ ายคาแนะนาท่ตี นเองออกมาเขียน 6. ครูให้นักเรียนสรุปความรู้ที่ได้รับจากกิจกรรมเป็นแผนผังความคิด ลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรม ขัน้ สรปุ 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงประโยชน์ของการปฏิบัติตนท่ี ถกู ตอ้ งเหมาะสมแก่พระภิกษสุ งฆ์ โดยครูใช้แนวคาถามดังน้ี - เพราะเหตุใดจึงต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมต่อภิกษุ (เป็น มารยาทอันดีงามที่ศาสนิกชนควรกระทาต่อพระภิกษุสงฆ์ท่ีเป็นบุคคล ท่มี ีสว่ นสาคัญในทางศาสนา) 113469

การวดั ประเมินผล 150 113507 สง่ิ ท่ตี ้องการวดั /ประเมิน วธิ ีการ เคร่อื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ดี : อธิบายแนวทางการปฏิบัติ 1. อธบิ ายแนวทางการ - สังเกตพฤติกรรม นักเรยี น ตนต่อพระภิกษุสงฆ์ได้อย่างมี กปาฏรบิปตัฏติบนตั ติ นอ่ พตอ่รพะภระกิ ภษกิ สุ ษงสุฆง์ ฆ์ นกั เรียน เหตผุ ล ได้ พอใช้ : อธิบายแนวทางการ กปาฏรบิ ปตั ฏติ บิ นัตตติ ่อนพตรอ่ ะพภริกะษภุสิกงษฆสุไ์ ดงฆ้ ไ์ ด้ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ - ประเมินผลงาน - แบบประเมินผลงาน ปรับปรุง : ไม่สามารถอธิบาย 2. จาแนกความเหมาะสม นักเรียน นกั เรยี น แ น ว ท างก ารป ฏิ บั ติ ต น ต่ อ ของสง่ิ ทีค่ วรปฏบิ ัตติ นต่อ พระภิกษสุ งฆไ์ ด้ พระภิกษุสงฆ์ได้ ดี : จาแนกความเหมาะสมของ ส่ิงท่ีควรปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ ดา้ นคุณลักษณะ - ประเมนิ ผลงาน - แบบประเมินผลงาน สงฆไ์ ด้อย่างมเี หตุผล 3. อภิปรายถงึ คุณค่าของ นกั เรยี น นักเรยี น พอใช้ : จาแนกความเหมาะสม การปฏิบตั ติ นตอ่ พระภิกษุ ข อ งสิ่ งท่ี ค ว รป ฏิ บั ติ ต น ต่ อ ได้ พระภกิ ษสุ งฆ์ได้ ปรับปรุง : ไม่สามารถจาแนก ความเหมาะสมของสิ่งที่ควร ปฏิบัติตนต่อพระภิกษสุ งฆ์ได้ ดี : อภิปรายถึงคุณค่าของการ กปาฏริบปัฏติบตนตั ิตน่อตพอ่ รพะรภะิกภษกิ ุไษดสุ ้องยฆ่า์ ง ไเดหอ้ มยาา่ะงสเมหมาะสม พอใช้ : อภิปรายถึงคุณค่าของ การปฏบิ ัติตนตอ่ พระภิกษไุ ด้ ปรับปรุง : ไม่สามารถอภิปราย ถึงคุณค่าของการปฏิบัติตนต่อ พระภกิ ษุได้

151 113581 8๘. บนั ทกึ ผผลลหหลลงั งั สสออนน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ......................................ผ้สู อน (.......................................................) วันท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. 9๙. ควาามมคคดิ ิดเเหห็น็น//ขขอ้ ้อเสเสนนออแแนนะะขขอองผงผ้บู ้บูรหิริหาราหรรหือรผือูท้ ผี่ไ้ทู ดไี่ ้รดับร้ มับอมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ที่..........เดอื น..........พ.ศ........

๑๕๒ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 26 เร่ือง หลักธรรมสาหรบั การปฏบิ ตั ติ นอยา่ งเหมาะสมต่อเพื่อนตามหลกั พระพุทธศาสนา หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง หนา้ ท่แี ละมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ /แหล่งเรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ขนั้ นา 1. หนงั สือเรยี นพระพุทธศาสนา ส1.2 ม.1/3 ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อ 1. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพจากบทความ “ 8 มิถุนายน วันเพ่ือนสนิทสากล” วัสดุอุปกรณ์ บุคคลต่างๆตามหลักศาสนาท่ีตนนับถือตามท่ี แล้วให้นักเรียนพิจารณาเกี่ยวกับวันเพ่ือนสนิทสากล โดยใช้แนวคาถาม 2. ส่ือโปรแกรม Power Point กาหนด ดังต่อไปนี้ เร่ื อ ง “ ก า รป ฏิ บั ติ ต น อ ย่ า ง ทม่ี า : kapook.com เหมาะสมต่อเพื่อนตามหลักพุทธ สาระสาคัญ ศาสนา” การช่วยเหลือเก้ือกูล แนะนาทาสิ่งท่ีถูก - นกั เรยี นคดิ ว่าบุคคลท่ีเปน็ เพ่ือนนัน้ มีความสาคัญต่อชวี ติ เราอย่างไร ภาระงาน/ชิน้ งาน ถึงมีการจัดต้ังวันเพื่อนสนิทสากลขึ้นมา (เพื่อคอยดูแล คอยช่วยเหลือกันอยู่ 1) ระบุหลักธรรมท่ีเกี่ยวข้องกับ และมีเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่หวังผลประโยชน์ ไม่ เสมอ การจัดต้ังวันเพ่อื นสนทิ สากลขึ้นมาเพ่ือระลกึ ถึงเพื่อนจงึ เปน็ สิ่งท่ีดี) การปฏิบัติตนต่อเพื่อนได้อย่างมี พดู จาไม่ดีต่อกันและไม่ชักชวนกันไปในทางที่ผดิ คือ เหตุผล แนวทางอันเหมาะสมท่ีบุคคลซึ่งเป็นมิตรกันน้ันควร - นักเรียนมีเพ่ือนสนิทหรอื ไม่ แล้วเขามีการปฏิบัตติ ่อนักเรียนอยา่ งไร ปฏิบตั ิตอ่ กัน (มี คอยช่วยทาสอนการบ้านต่างๆ ท่ไี ม่เขา้ ใจ) ขอบเขตเนือ้ หา - เพื่อนสนิทของนักเรียนนั้น เป็นเพื่อนท่ีดีหรือไม่อย่างไร (เป็นเพื่อน ในหลักธรรมทิศ 6 กาหนดให้เพื่อนอยู่ใน ฐานะทิศเบื้องซ้ายหรือในทางพุทธศาสนาเรียกว่า “อุตตรทิศ” เพื่อนมีความสาคัญในการเป็นผู้ท่ีช่วย ให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ เป็นกาลังสนับสนุนให้ บรรลุความสาเร็จ ดังนั้นจึงควรปฏิบัติต่อเพื่อน ดังตอ่ ไปนี้ ท่ีด)ี 131952

153 แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 26 เรอื่ ง หลักธรรมสาหรบั การปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อเพอื่ นตามหลักพระพุทธศาสนา หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง หน้าที่และมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชวั่ โมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ขัน้ สอน ด้านความรู้ 2. ครูใหน้ ักเรียนทากิจกรรม “บิงโกเพ่ือนแท้ – เทียม” โดยขั้นตอน 1. ระบุหลักธรรมท่ีเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตนต่อ มีดังตอ่ ไปนี้ เพ่ือนได้อยา่ งมีเหตุผล 2.1 ครูแจกกระดาษบิงโกเพ่ือนแท้ – เทียม ให้นักเรียน ดา้ นทักษะและกระบวนการ เขยี นขอ้ ความลงในตารางขนาด 4 คูณ 4 ชอ่ ง ดังต่อไปนี้ 2. อธิบายแนวทางการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อ - เขียนลักษณะของเพ่ือนที่ดีตามความคิดของตน เพื่อนตามหลักพระพทุ ธศาสนา ลงในแถวซ้ายทัง้ 4 ชอ่ ง ดา้ นคณุ ลกั ษณะ - เขียนการปฏิบัติตนต่อเพ่ือนตามความคิดของตน 3. อภิปรายคุณค่าของการปฏิบตั ิตนตอ่ เพอ่ื นอยา่ ง ลงในแถวกลางทงั้ 4 ช่อง เหมาะสมตามหลักพระพุทธศาสนา - เขียนลักษณะของเพ่ือนท่ีไม่ดีตามความคิดของ ตนลงในแถวชวาทงั้ 4 ชอ่ ง 3. ครูอธิบายเร่ืองลักษณะของเพื่อนตามหลักธรรม มิตรแท้ 4 กับ มิตรเทียม 4 และเรื่องการปฏิบัติตนต่อเพ่ือนโดยใช้ส่ือโปรแกรม Power Point เรื่อง “การปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อเพื่อนตาม หลักพุทธศาสนา” โดยให้นักเรียนสังเกตและพิจารณาลักษณะของ เพ่ือนตามหลัก มิตรแท้ 4 มิตรเทียม 4 และการปฏิบัติตนท่ีดีต่อ เพ่ือนนัน้ ตรงตามความคิดท่ีนักเรยี นเขียนลงบนกระดาษบิงโกหรือไม่ หากตรงหรือมีความใกล้เคียงกัน ให้นักเรียนขีดกากบาททับลงไปใน ช่องท่ีนกั เรยี นเขยี น 114503

154 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 26 เรื่อง หลักธรรมสาหรบั การปฏิบตั ิตนอย่างเหมาะสมต่อเพื่อนตามหลกั พระพุทธศาสนา หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรอื่ ง หน้าทีแ่ ละมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 4. นกั เรยี นท่ีสามารถเรียงบิงโกได้ตามรูปตัวอยา่ ง ให้พดู คาว่าบงิ โก ตวั อย่างวิธกี ารเรียงบงิ โก 5. ครูตั้งคาถามกับนักเรียนท่ีสามารถเรียงบิงโกได้ โดยใช้แนว คาถามดงั ต่อไปนี้ - ใครคือเพ่ือนสนิทท่ีสุดของนักเรียน แล้วเขาปฏิบัติตนต่อ นกั เรียนอย่างไร (แนวคาตอบ : ชยั วัติ คอยชี้นาชอ่ งทางทถ่ี ูกตอ้ งให้) - นักเรียนเป็นเพื่อนท่ีดีของเพื่อนในห้องหรือไม่อย่างไร (เป็นเพ่ือนท่ดี ีคอยช่วยเหลือแนะนาและชักชวนกันทาในสง่ิ ท่ีดีและมี ประโยชน)์ - นักเรียนจะตอบแทนเพ่ือนท่ีคอยช่วยเหลือนักเรียนมาตลอด ด้วยวธิ กี ารใด (ทาตวั เสมอต้นเสมอปลายคอยรว่ มทุกขร์ ่วมสุขกัน) - นักเรียนเคยมีเพื่อนที่ไม่ดีหรือไม่และเราสามารถช่วยให้ เขาเปล่ียนแปลงตนได้หรือไม่(เคยมีเพ่ือนที่ไม่ดี แต่เราสามารถ แนะนาและเชญิ ชวนเขาให้เปลี่ยนแปลงตนเองทาสิง่ ท่ีดมี ีประโยชน์) 114514

155 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 26 เรื่อง หลักธรรมสาหรับการปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อเพอ่ื นตามหลกั พระพุทธศาสนา หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง หนา้ ทแี่ ละมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชว่ั โมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 6. ครใู ห้นักเรียนเขียนสรปุ ส่ิงที่ไดร้ ับจากการการทากิจกรรม “บิงโก เพอื่ นแท้ – เทียม” ลงในแบบบันทึกกิจกรรม ข้นั สรุป 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายโดยมีแนวคาถามดงั ตอ่ ไปน้ี - ประโยชน์ของการรู้เท่าทันลักษณะของเพื่อนท่ีไม่ดีคือ (รู้ว่าเพื่อนเทียมมีการปฏิบัติตนต่อเรายังไง เป็นแนวทางการป้องกัน ไม่ใหเ้ ขา้ ไปยุ่งเก่ยี ว) - การปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อเพ่ือนเป็นเช่นไร (การ ช่วยเหลือเกอื้ กูล แนะนาทาสิ่งท่ถี ูกและมีเข้าใจซ่งึ กันและกัน ไม่หวัง ผลประโยชน์ ไม่พูดจาไม่ดีต่อกันและไม่ชกั ชวนกันไปในทางที่ผิด คือ แนวทางอนั เหมาะสมที่บุคคลซงึ่ เป็นมิตรกนั นน้ั ควรปฏิบตั ิตอ่ กัน) 142

156 156 143 ส่ิงทต่ี ้องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เคร่ืองมือที่ใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - สังเกตพฤติกรรม 1. ระบุหลักธรรมที่ นกั เรยี น - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ดี : ระบุหลกั ธรรมที่เก่ียวข้องกับ เก่ียวข้องกบั การปฏิบตั ิตน นักเรยี น การปฏิบตั ติ นตอ่ เพื่อนได้อย่างมี ต่อเพ่ือนได้ เหตผุ ล พอใช้ : ระบหุ ลักธรรมที่ ด้านทักษะ/กระบวนการ เกยี่ วข้องกับการปฏบิ ตั ิตนต่อ 2. อธิบายแนวทางการ - สงั เกตพฤติกรรม เพอื่ นได้ กปาฏรบิ ปัตฏติ ิบนัตอิตยนา่ องเยห่ามงาเหะมสมาะตส่อม นกั เรยี น ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถระบุ ตเพ่อ่ือเนพตื่อานมตหาลมกั หลักพระพุทธ หลกั ธรรมท่เี กย่ี วข้องกบั การ ศพารสะนพาุทธศาสนา ปฏิบตั ติ นต่อเพื่อนได้ ดา้ นคุณลักษณะ - แบบสังเกตพฤติกรรม ดี : อธิบายแนวทางการปฏบิ ัตติ น 3. อภปิ รายคณุ คา่ ของการ - สังเกตพฤติกรรม นักเรยี น อย่างเหมาะสมต่อเพือ่ นตามหลัก กปาฏริบปัตฏิติบนัตติตอ่ นเพตื่อ่อนเพอยื่อ่านงอย่าง นกั เรยี น - แบบสังเกตพฤติกรรม พระพุทธศาสนาอย่างมเี หตผุ ล เหมาะสมตาามมหหลลักักพระพุทธ นักเรยี น พอใช้ : อธิบายแนวทางการ ศพารสะนพาุทธศาสนา กปาฏรบิ ปัตฏติ ิบนัตอิตย่านงอเหยม่าางะเหสมตาะ่อสเพมอื่ ตน่อ เตพา่ือมนหตลากั มพหรละักพพทุ รธะศพาุทสธนศาาไดส้นาได้ ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถอธบิ าย แนวทางการปฏิบัติตนอย่าง เหมาะสมต่อเพ่อื นตามหลัก พระพุทธศาสนาได้ ดี :อภปิ รายถงึ คณุ คา่ ของการปฏบิ ตั ติ น ตด่อี :เอพภื่อิปนราอยยถ่างึ คงเุณหคม่าาขะองสกมารตปาฏมบิ หัตลิ ัก พตนระตพ่อเุทพธ่อื ศนาอสยน่างาเไหดมอ้ ายะส่ามงตมาีเหมหตลุผกัล กพพพารออระใใพปชชุ้ทฏ้ :ธิบอ:ศภัอตาปิภสิตรนิปนาารตยไดาถ่อยอ้งึเคถพยณุงึ่า่ือคงคนมณุ า่อีเหขคยอตา่่างผุขงกลอเาหรงมาะ สปมฏตบิ าัตมิตหนลตักอ่ พเพรอ่ืะนพอทุ ยธา่ ศงเาหสมนาะาสไมดต้ าม ปคหปณุรลรับับักคพปป่ารรขระุงุงอพ:ง:ทุไกมไธามส่ศรส่าาปมสาฏานมราบิาถไรัตดอถภิต้ อนิปภรตาปิ ่อยรเถพางึ ยอ่ื ถนงึ อคยุณ่าคงเา่ หขอมงากะาสรปมฏติบามัตหติ ลนกัต่อเพื่อน พพอยรระะา่ พงพเหุทุทมธธศาศะาาสสสมนตนาไาาดมไ้หดล้ กั

157 114547 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชือ่ ......................................ผ้สู อน (.......................................................) วันที่..........เดือน..........พ.ศ............. 9๙. ควาามมคคดิ ิดเเหห็นน็ //ขขอ้ อ้ เสเสนนออแแนนะะขขอองผงผู้บบู้ริหราิหราหรรหอื รผือู้ทผี่ไู้ทดีไ่ร้ ดับ้รมับอมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที่..........เดอื น..........พ.ศ........

๑๕๘ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 27 เรอื่ ง การแสดงความเคารพ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง หน้าที่และมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ ตัวชวี้ ดั ขน้ั นา 1. วีดีทศั นเ์ ร่อื ง “การประนมมอื ” ส1.2 ม.1/2 อธิบายจริยวัตรสาวกเพ่ือ เปน็ แบบอย่างในการประพฤติปฏบิ ัติ และปฏิบัตติ น 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภปิ รายในประเด็น มารรยาทไทยและมรารยาท 2. วีดที ัศนเ์ รือ่ ง “การไหว้ 3 ระดบั ” อยา่ งเหมาะสมต่อสาวกของศาสนาทีต่ นนับถือ ชาวพุทธ โดยใชแ้ นวคาถามดงั ต่อไปนีค้ อื 3. วีดีทัศน์เรื่อง “การกราบแบบ สาระสาคญั - มารยาทหมายถึงอะไร (การปฏิบัติตนที่แสดงถึงความอ่อน เบญจางคประดษิ ฐ์ ภาระงาน/ช้ินงาน การแสดงความเคารพคือการปฏิบัติตนที่ น้อมถอ่ มตนต่อบคุ คลตา่ งๆ) 1) แสดงวิธีการปฏิบัติตนในศาสนพิธี แสดงถึงความอ่อนนอ้ มถอ่ มตนตอ่ บุคคลตา่ ง ๆ เป็น - นักเรียนเคยได้ยินมารรยาทชาวพุทธหรือไม่ เป็นอย่างไร (เคย และมารยาทชาวพุทธไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง มารยาทที่ดีโดมีหลักพัฒนามาจากแนวทางปฏิบัติ ทางศาสนา หมายถงึ การเคารพปฏิบัตติ นอยา่ งดีในศาสนสถานหรอื ศาสนพธิ ตี า่ งๆ ) ขอบเขตเน้ือหา - มารยาทไทยและมารยาทชาวพุทธเก่ียวข้องกันหรือไม่อย่างไร การแสดงความเคารพมีหลายลกั ษณะ เช่น และอะไรท่ีแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้อง (มรารยาทไทยมีหลักมาจากคา การประนมมือ การไหว้ การกราบ การแสดงความ สอนหรอื แนวทางปฏบิ ตั ิจากพระพุทธศาสนา ตวั อยา่ งเชน่ การกราบไหว)้ เคารพน้ันต้องพิจารณาผทู้ ่ีจะรับความเคารพด้วยว่า อยู่ในฐานะใด โอกาสใด แล้วจึงแสดงความเคารพ - นักเรียนรู้จักวิธีการทาความเคารพแบบใดบ้าง (การประนมมือ ใหถ้ กู ต้อง กราบไหว้ เบญจางคประดิษฐ์ ) 2. ครูกล่าวนาเข้าสู่บทเรียน “ในวันนี้จะลองฝึกปฏิบัติการแสดงความ เคารพอยา่ งถูกวธิ เี พือ่ สรา้ งเสรมิ มารายาทชาวพุทธที่ดีกนั ” ขัน้ สอน 3. ครูถามนักเรียนถึงข้ันตอนของการแสดงความเคารพ โดยใช้แนว คาถามดังต่อไปน้ี - การแสดงความเคารพมีข้ันตอนอย่างไรบา้ ง (อญั ชลี วันทาและ อภิวาท) - อญั ชลีหมายถึงอะไร (การประนมมือ) 145158

159 159 แผนการแจผดั นกการาเรรจียดั นกราทู้ รี่เร2ีย7นรเู้ทรือ่ี ง2ก7ารเรแือ่ สงดกงคารวแาสมดเคงาครวพามเคารพ หนว่ ยกาหรนเรว่ ยี ยนกราู้ทรี่เ4รยี นเร่ือู้ทง่ี 4หนเ้ารท่ือีแ่งลหะนมา้ าทรยีแ่ าลทะมชารวยพาุททธชาวพุทธ เวลา 1 เชว่วั ลโามง1 ช่วั โมง กลุม่ สารกะกลาุ่มรสเารรียะนกราู้ รสเังรคยี มนศรึกู้ สษังาคมศศาสกึ นษาแศลาะสวนัฒานแธลระรวมฒั นธรรม รายวิชารสางั ยควมิชศาึกสษังาคมศึกษา ชน้ั มธั ยมชศ้ันึกมษธั ายปมีทศี่ ึก1ษาปีที่ 1 จดุ ประสจงดุคป์การระเสรงยี คนก์ ราู้ รเรียนรู้ - วันทาห-มาวยนั ถทงึ าอหะมไราย(ถกึงาอรไะหไรว)้ (การไหว้) ด้านควาดมา้รนู้ ความรู้ - อภวิ าทห- มอาภยิวถางึทอหะมไราย(ถกึงาอรกะไรราบ(ก)ารกราบ) เ1ค.ารอพธไิบดเ1า้ คย.าวรอิพธธีกไิบดาา้ รยปวฏิธิีบกัาตริตปนฏใินบัแตสิตดนงใคนวแาสมดงค4ปวฏ. าบิคมัตรูใติ หา้ป4นมแฏัก. ลิบคเร้วัตรียตูใิตนรหาวด้นมจูวแักสีดลเอรีทว้ บียตัศคนรนวด์าเจูรวมสื่อีดถองีทูกบัตศ“คอ้นกวง์าเาหรมรื่อลถปงังูกรจตะ“า้อนกกงวมาหดีรมลปที ืองั ศัรจ”ะนานพจ์กบวมรดี้อมีทมือัศใ”หนพ้์จนบัรก้อเรมียในห้นักเรียน ด้านทักษดะา้ แนลทะักษระบแลวนะกราะรบวนการ 2. ปฏิบัต2กิ .าปรฏแสิบดตั งิกคาวราแมสเดคงาครวพาไมดเ้ คารพได้ ดา้ นคุณลดกั้าษนคณุณะลักษณะ 3. อภิปร3า.ยอถภึงคิปณุ ราคย่าถขงึอคงุณกาครา่ แขสอดงงกคาวราแมสดงความ เคารพไดเ้ คารพได้ วีดีทศั น์เรวื่อีดงีทกัศานรเ์ปรรือ่ ะงนกมามรือปรทะมี่ นาม :มhือttps://youtu.be/KOKfHYe_u_8 5. ครูถาม5น. ักคเรรูถียานมเนกั่ียกวเรกียับนกเการี่ยปวรกะับนกมามรปือรนะั้นนใชม้แมสือดนง้ันคใวชา้แมสเดคงาครวพาสมิ่งเใคดารพส่ิงใด ได้บ้าง (แไสดด้บง้าเงคา(แรสพดพงรเะคราัตรพนพตรัยะรแัตสนดตงรคัยวาแมสเดคงาครวพาใมนเศคาาสรนพพในิธศีตา่ สงๆนพิธีต่างๆ เชน่ การเเจชรน่ ญิ กพารระเพจรทุ ิญธมพนระตพ์) ทุ ธมนต์) 6. ครูให้น6ัก. เครรียูในหด้นูวักีดเีทรียัศนด์เรูวื่อีดงีท“ัศกนา์เร่ือไหงว“้ 3การะไหดับว้ ”3โรดะยดใหับ้น”ักโเดรยี ในหจ้นับักเรียนจับ ใจความในใจปครวะาเมดใ็นนคปวราะมเดแ็นตกคตวา่ งมขแอตงกตา่ารงไหขอวใ้งนกแารตไ่ลหะวรใ้ ะนดแบั ต่ละระดับ 159 114569

160 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 27 เร่อื ง การแสดงความเคารพ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง หน้าทแ่ี ละมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชวั่ โมง ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ดที ศั น์เร่อื งการไหว้ 3 ระดบั ทมี่ า: http:s//youtu.be/VAZbSZVzD3g 7. ครแู บ่งนักเรยี นเป็นสามกล่มุ ตามแถวที่นงั่ ให้ปฏิบัติการไหว้ 3 ระดับโดย แบง่ ดังตอ่ ไปนี้ - กลมุ่ ที่ 1 ปฏิบตั ิการไหวพ้ ระรัตนตรัย - กลุ่มที่ 2 ปฏบิ ัติการไหว้ผู้มพี ระคณุ หรือผ้อู าวุโส - กลมุ่ ท่ี 3 ไหวบ้ ุคคลท่วั ไปทเ่ี คารพนบั ถือ 8. ภายหลังจากแต่ละกลุ่มปฏิบัติเสร็จครูสอบถามความคิดเห็นจากนักเรียน กลมุ่ อื่นเร่อื งความถูกต้องและความสวยงาม 9. ครใู ห้นักเรียนดูวีดีทัศนเ์ ร่ือง “การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์” ววีดดีทีทศั นัศ์เนรือ่เ์ รงือ่ กงากรากรรการบาแบบแบบเบญเบจญางจคาปงครปะดระิษดฐ์ษิ ทฐมี่ ์ า https://youtu.be/N8zANPhfH-s 10. ครูให้นักเรยี นปฏิบัติตามหลงั จากวดี ีทัศน์จบ โดยการกราบลงบน โตะ๊ ทน่ี ัง่ เมือ่ เสร็จส้ิน ครถู ามคาถามเกี่ยวกับการกราบโดยใชแ้ นวคาถามดังตอ่ ไปน้ี - ต-าตมาปมกปตรแิกลตว้ิแกลา้วรกการากบราแบบแบบเบญเบจญาจงาคงปครปะรดะษิดฐิษจ์ ฐะ์จตะอ้ตง้อนงง่ันใ่ังนใรนปู รแูปบแบใบดใด (ท่าเทพพบบุตตุ รรทท่าา่เทเทพพธธิดดิา)า) 141760

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 27 เรอื่ ง การแสดงความเคารพ 161 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เร่ือง หนา้ ที่และมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา - หากไม-่สหะาดกวไกมสส่ าะมดาวรกถสแามสาดรงถคแวสาดมงเคควารมพเคแาบรพบแใดบแบทใดนแไทดน้ (กก็ไาดร้ (ไกหาวร)้ไหว้) - ถ้ากราบบุคคล จะมีแนวทางการกราบที่แตกต่างจากการ กราบพระรัตนตรยั อย่างไร (กราบไมแ่ บมอื และกม้ กราบเพยี งหน่งึ ครง้ั ) ขั้นสรปุ 11. ครูถามคาถามสรุปเก่ียวกับการทาความเคารพโดยใช้แนวคาถาม ดงั ต่อไปน้ี - การแสดงความเคารพมีคุณค่าอย่างไร (เป็นการแสดงความ อ่อนน้อมถ่อมตน) - นักเรียนจะมีแนวทางการสืบทอดหรือส่งต่อวัฒนธรรมอัน เป็นมารยาทที่ดีของชาวไทยและชาวพุทธได้อย่างไรบ้าง (ปฏิบัติอย่าง ถูกต้อง ถกู วธิ ี และทาอยา่ งสมา่ เสมอ) 148

162 161249 สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมนิ วธิ กี าร เครื่องมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - ประเมินการสาธิต - แบบประเมนิ การสาธิต ดี : อธิบายวธิ กี ารปฏิบตั ติ น 1. อธิบายวธิ ีการปฏิบัติตน ในศาสนพธิ แี ละมารยาทชาว ในศาสนพิธีและมารยาท พุทธได้อยา่ งมีความเขา้ ใจ ชาวพทุ ธ ถกู ต้องและเหมาะสม พอใช้ : อธิบายวธิ ีการปฏบิ ตั ิ ด้านทักษะ/กระบวนการ - ประเมินการสาธติ - แบบประเมินการสาธติ ตนในศาสนพธิ ีและมารยาท 2. แสดงวิธกี ารปฏบิ ัตติ น สาธติ ชาวพุทธไดอ้ ย่างมีความเข้าใจ ในศาสนพิธีและมารยาท ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถอธิบาย ชาวพทุ ธได้ วิธีการปฏิบัติตนในศาสนพธิ ี และมารยาทชาวพุทธได้ ดา้ นคณุ ลักษณะ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ดี : แสดงวิธกี ารปฏิบตั ิตน 3. อภิปรายถึงคณุ ค่าของ นกั เรียน นักเรียน ในศาสนพิธีและมารยาทชาว การแสดงความเคารพได้ พุทธได้อยา่ งถกู ต้อง พอใช้ : แสดงวิธีการปฏิบตั ิ ตนในศาสนพธิ แี ละมารยาท ชาวพทุ ธได้ ปรับปรงุ : ไม่สามารถแสดง วธิ กี ารปฏิบตั ิตนในศาสนพิธี และมารยาทชาวพทุ ธได้ ดี : อภิปรายถงึ คณุ ค่าของการ กแาสรดแงสคดวงาคมวเคามารเคพาไรดพอ้ ไยด่า้องยมา่ี งมี เหตผุ ล พอใช้ : อภปิ รายถึงคุณค่า ของการแสดงความเคารพได้ ปรับปรงุ : ไมส่ ามารถ อภปิ รายถึงคุณคา่ ของการ กแาสรดแงสคดวงาคมวเคามารเคพาไรดพอ้ ไยด่าอ้ งยมา่ี งมี เหตผุ ล

163 115603 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ .......................................................................................................................................................................... ... ปัญหาและอปุ สรรค ........................................................................................................ .................................................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ......................................ผ้สู อน (.......................................................) วันท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ............. 9๙. ควาามมคคดิ ิดเเหห็นน็ //ขข้อ้อเสเสนนออแแนนะะขขอองผงผบู้ บู้ริหริหาราหรรหอื รผือู้ทผี่ไูท้ ด่ีไร้ ดบั ร้ มับอมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่อื ......................................ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดือน..........พ.ศ........

๑๖๔ ๑1๖6๔4 151614 หน่วยกาหรนเร่วยี ยนกราทู้ รี่ เ5รยี นรทู้ ี่ 5 ชื่อหน่วยชก่ือาหรนเร่วยี ยนกราู้ รศเรายี สนนรพู้ ิธศีแาลสะนวพันธิสแี าลคะัญวทนั าสงาพครัญะทพาุทงธพศราะสพนทุ าธศาสนา รหัสวิชารสห2สั 1ว1ิช0า1ส2110ร1ายวิชา รสาังยควมิชศาึกสษังาคมศึกกษลาุ่มสาระกกลาุ่มรสเราียรนะกราู้ สรัเงรคียมนศรกึ ู้ สษังาคศมาศสกึ นษาาแลศะาวสัฒนานแธลระรวมัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมชศ้นั กึ มษัธายปมที ศี่ ึก1ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นภทา่ีค1เรยี นท่ี 1 ปีการศึกปษีกาา2รศ5กึ6ษ2า 256เ2วลา 9 ชเว่ัวลโามง9 ช่วั โมง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………….. 1. มาตร1ฐ.านมกาตารเฐราียนนกรา/ู้ รตเวัรชียี้วนัดร/ู้ ตัวช้ีวัด สาระ พรสะาพรทุ ะธพศราะสพนุทาธศาสนา มาตรฐานมกาตารเฐรายี นนกราู้ รเสรีย1น.1รู้ รู้สแล1ะ.1เข้ารใู้ แจลปะรเะขวา้ ตั ใิจคปวราะมวสัตาิ คัญวาศมาสสาดคาัญหศลากั สธดรารมหขลอกั งธพรรมะพขอุทงธพศราะสพนุทาหธศรอืาสนาหรือ ศาสนาทศ่ตี านสนนับาถทือต่ี แนลนะบัศถาสือนแลาอะืน่ศามสศีนราทั อธ่นื าทมถี่ศูกรัทตธอ้ างทย่ีถดึ กู มตน่ั อ้ งแลยะึดปมฏ่ันิบแตั ลิตะาปมฏหบิ ลัตกติธารมรมหลเพักธื่อรอรยมู่ร่วเพมก่ือันอยอรู่ย่วามงสกนั ตอิยา่ งสันติ สุข สสันุขตสิ ขุ ส 1.2 เขส้าใ1จ.2ตรเะขห้าในจกั ตแรละะหปนฏกั ิบแตั ลิตะนปเฏปบิน็ ัตศติาสนนเปิกน็ชศนาทสดี่ นี กิ แชลนะทธี่ดารี งแรลักะษธาาพรรงะรกัพษทุ าธพศราะสพนทุาหธศรือาสศนาสานหารทอื ศี่ าสนาที่ ตนนบั ถอื ตนนบั ถอื ตวั ช้ีวัด ตวั ชว้ี ัด ส 1.1 มส.11/6.1เหมน็.1ค/ณุ 6คเ่าหขน็ อคงณุกาคร่าพขัฒองนกาาจริตพัฒเพนือ่ ากจาิตรเเรพียือ่นกราู้แรลเะรียกนารดู้แาลเะนกนิ าชรวีดิตาดเนว้ ินยวชธิีวคีิตดิ แว้ บยวบิธโีคยนิดแโิ สบบโยนิโส มนสิการคมือนวสิธกคี าิดรคแบือวบธิ คีคุณดิ คแา่บแบทค้ ุณคณุ ค่าคแา่ ทเท้ คียุณมแคล่าะเทวธิียีคมดิแแลบะวบิธคคี ุณดิ -แโบทบษคแุณละ-ทโทาษงอแอลกะหทราืองอกอารกพหฒัรือนกาาจริตพตฒั ามนาจติ ตาม แนวทางขแอนงวศทาาสงนขาอทงศ่ตี านสนนับาถทือตี่ นนับถือ ส 1.1 มส.11/7.1สมว.ด1ม/น7ตส์ แวผดเ่มมนตตต์ าแบผร่เมหิ ตารตจาิตบแรลิหะาเรจจริตญิ แปลญัะเญจราญิดว้ปยัญอญานาาดปว้ ยานอสานตาหิ ปราือนตสาตมิหแนรือวตทามงขแอนงวทางของ ศาสนาทศ่ตี านสนนบั าถทือ่ีตตนานมับทถ่กี ือาตหานมดทก่ี าหนด ส 1.1 มส.11/8.1วมิเค.1รา/ะ8หว์แิเลคะรปาะฏหบิ แ์ ตั ลติ ะนปตฏาิบมตัหติ ลนักตธารมรมหทลาักงธศรารสมนทาาทงศต่ี านสนนบั าถทือีต่ นในนกับาถรือดาใรนงกชาวี รติ ดแาบรบงชวี ติ แบบ พอเพียงพแอลเะพดียูแงลแรักลษะดาสูแง่ิลแรวกั ดษลา้อสมิ่งแเพวือ่ดกลา้อรมอเพยู่รอื ่วกมากรนัอยไดรู่ ้อ่วยม่ากงนั สไนัดต้อิสยขุ่างสนั ตสิ ขุ ส 1.2 มส.11/4.2จมดั .พ1ิธ/ีก4รจรมดั แพลธิ ะีกปรรฏมบิ แตั ลติ ะนปใฏนิบศัตาสติ นพในิธศพี าิธสีกนรพรมิธไีพดธิ ถ้ ีกูกรตร้อมงไดถ้ ูกต้อง ส 1.2 มส.11/5.2อมธ.บิ 1า/ย5ปอระธวบิ ตั าิคยวปารมะสวาตั คิ ญัวาแมลสะาปคฏัญบิ แตั ลติ ะนปใฏนบิวันตติสานคในญั วทันาสงาศคาัญสนทาาทงศต่ี านสนนบั าถทือีต่ ตนานมบัทถ่ี ือตามท่ี กาหนดไดก้ถาหกู ตน้อดงได้ถูกต้อง 2 .สาระ2สา.คสัญาร/ะคสวาาคมญั คดิ/ครวาบมยคอิดดรวบยอด วนั สาคญั วทันาสงาพครญัะพทุทางธพศราะสพนทุาธมศคี าวสานมาสามคี ัญวาตม่อสศาาคสัญนติก่อชศนาทสุกนคิกนชนซทึง่ ุกชคาวนพทุซธง่ึ ชจาะวตพ้อุทงกธลจ่าะวตคอ้ างกล่าวคา อาราธนาอตา่ารงาๆธนเขาต้าร่า่วงมๆๆพเเิธขขีก้า้ารรรว่ มมพแธิ ลีกะรปรฏมิบแัตลติ ะนปใฏนิบศตัาสิตนาในพศิธีาแสลนะาพพธิ ิธกี ี แรรลมะขพอธิ งกี พรระมพขอทุ งธพศราะสพนทุาไธดศ้อายสา่ นงาถไูกดตอ้ ้อยง่างถูกตอ้ ง 3. สาระ3กา. รสเารรียะนกราู้ รเรยี นรู้ ความรู้ ความรู้ - วนั สาค-ญั วทันาสงาพครัญะพทุทางธพศราะสพนุทาธศาสนา - ศาสนพ-ิธศี กาาสรนจพดั ิธโีตกะ๊ าหรมจู่บัดโชู ตา๊ะกหามรู่บอูชาารากธานราอศาีลรากธานราอศาลีรากธานราอธารรรามธนกาธรรอรามรากธานราอพาระาปธนริตาพรระปริตร - การสวด- มกนารตส์ แวผดเ่มมนตตต์ าแผบ่เรมิหตาตราจติบรแิหลาะรเจิตรญิ แปลญัะเญจราญิด้วปยัญอญานาาดปว้ ยานอสานตาิ ปานสติ - การคดิ -แบกบารคคุณิดคแ่าบแบทค้-ุณคณุค่าคแ่าทเท้-คียณุม คแ่าลเะทวยี ิธมีคิดแคลณุะว-ิธโทคี ษิดคแุณล-ะโทาษงอแอลกะทางออก - การสวด- มกนารตสแ์ วปดลมแนลตะ์แปผลเ่ มแตลตะาแผ่เมตตา - วธิ ปี ฏิบ-ัตวแิ ธิ ลปี ะฏกิบารตั บแิ รลหิ ะากราจริตบแรลหิ ะากรจารติ เแจลระิญกปาัญรเญจราิญตาปมัญหญลักาตสาตมปิ หฎั ลฐักาสนตเนิปน้ ัฎอฐานาเนป้นานอสานตาิ ปานสติ - การนาว-ิธกีกาารรนบารวิหธิ าีกราจรติบแรลิหะาเรจจรติ ิญแปลญัะเญจราิญไปปใัญช้ใญนาชไีวปติ ใปชรใ้ นะจชาีววิตันประจาวัน

๑๖๕ 116552 - การพัฒนาจติ โดยวธิ โี ยนิโสมนสกิ าร - พุทธศาสนากบั ความพอเพียง ทกั ษะ/กระบวนการ - วเิ คราะห์ความสาคญั และลาดับการปฏบิ ัติศาสนพิธีของวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา - อธิบายวธิ คี ดิ ตามหลกั โยนโิ สมนสกิ าร คุณค่าแท้ – คณุ ค่าเทยี ม คุณโทษและทางออก - การปฏบิ ัตศิ าสนพิธีและการเจริญปญั ญาตามหลักสติปฎั ฐาน - การคิดแบบมีวจิ ารญาณโดยการบริหารจิตและเจริญปัญญา เจตคติ - คุณคา่ และความสาคัญของวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา - คณุ คา่ ของการทาสมาธติ ามหลักอานาปานสติในชวี ิตประจาวนั - ปฏิบตั ติ นในพิธกี รรมทางศาสนาไดอ้ ย่างถูกต้อง - เห็นประโยชนข์ องการสวดมนต์แปลและแผ่เมตตา - ยอมรับคณุ คา่ ของวธิ ีคิดแบบโยนโิ สมนสิการนาไปใช้ในการดาเนนิ ชวี ิตได้ - ใหค้ วามสนใจกับหลักของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงท่ีมตี ่อตนเองและสังคมได้อยา่ งมีเหตุผล 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มุง่ มน่ั ในการทางาน 6. การประเมินผลรวบยอด ภาระงานหรือชนิ้ งาน สรุปและวเิ คราะห์ข้อมูลของวันสาคญั จากการปฏบิ ตั ิ แผนผงั ความคดิ เรื่อง เรยี นรู้เรือ่ งวนั สาคญั ทางศาสนา

๑๖๖ 116563 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชนิ้ งานหรือภาระงาน ประเด็นการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง) 1. การอธิบายประวตั ิและ อธบิ ายประวัตแิ ละ อธิบายประวตั ิและ อธิบายประวัติและ อธิบายประวตั ิและ การปฏิบัติศาสนพธิ ใี นวนั การปฏบิ ตั ิศาสนพิธี การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ ี การปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ี การปฏิบัตศิ าสนพิธี สาคัญทางพระพุทธศาสนา ไดอ้ ย่างถูกต้อง ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ได้อย่างถูกตอ้ ง ได้ แต่ยงั ไมถ่ ูกต้อง ครบถว้ นและชัดเจน ครบถ้วน ครบถว้ น 2. การสรปุ ประวตั ิและ สรปุ ประวัติและการ สรุปประวัตแิ ละ สรุปประวตั ิและ สรปุ ประวัตแิ ละการ การปฏบิ ตั ิศาสนพิธีในวัน กปาฏริบปตั ฏศิ ิบาตั สศิ นาพสธิ นไี พด้ิธีได้ การปฏบิ ัติศาสนพธิ ี การปฏิบัติศาสนพธิ ี ปกาฏรบิ ปตั ฏิศบิ าัตสิศนาพสธิ นีไดพ้ธิ ีได้ สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา ถกู ต้อง 5 วนั ข้ึนไป ได้ถูกตอ้ ง 4 วนั ไดถ้ ูกต้อง 3 วนั ถกู ต้องนอ้ ยกว่า 3 วัน 3. ความเรยี บร้อยของ ผลงานเปน็ ระเบียบ ผลงานเป็นระเบยี บ ผลงานเปน็ ระเบยี บ ผลงานไม่เปน็ ผลงาน สวยงาม ไม่มีคาผดิ สวยงาม มีคาผิด แต่ยังไมส่ วยงาม ไม่ ระเบียบ มคี าเขียน เลก็ นอ้ ย มคี าผิด ผดิ มาก เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนน 12 - 10 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 9 – 7 หมายถงึ ดี คะแนน 6 – 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 3 – 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่าน ตัง้ แตร่ ะดับ ดี

๑๖๗ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 28 เร่อื ง ประวัติวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 เร่ือง ศาสนพธิ แี ละวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ตวั ชวี้ ัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยใชร้ ูปแบบการเรยี นรแู้ บบเทคนิคจกิ๊ ซอรว์ (Jigsaw) สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ส 1.2 ม.1/4 จัดพิธีกรรมและปฏบิ ตั ติ น ขั้นนา 1. ภาพพระพุทธเจ้าทรงแสดง ในศาสนพธิ ี พธิ กี รรมได้ถกู ต้อง 1. ครตู ้ังคาถามกบั นกั เรียน ดังนี้ ธรรมแก่ปัญจวคั คีย์ สาระสาคญั ๑) นักเรยี นรจู้ ักวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนาวันใดบ้าง 2. ใบความรู้หมายเลข 1 ประวตั ิ พิธีกรรมทางศาสนาเปน็ แบบแผนที่พงึ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ ของวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา ปฏบิ ตั ิของศาสนิกชนเพ่ือแสดงความเลอ่ื มใสศรทั ธา (แนวคาตอบ : เช่น วนั มาฆบชู า วนั วิสาขบชู า วันอฐั มบี ูชา วันอาสาฬหบูชา 3. ใบความรหู้ มายเลข 2 ตอ่ ศาสนา เป็นตน้ ) เหตกุ ารณส์ าคัญทเ่ี กิดข้นึ ในวัน ขอบเขตเนื้อหา 2) จากนั้นครใู หน้ ักเรียนดูภาพพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแก่ปัญจวัคคยี ์ สาคญั ทางพระพุทธศาสนา 1. ประวัติและความสาคัญของวนั ธรรมสวนะ วัน แลว้ ใหน้ กั เรียนลองตอบวา่ เป็นภาพท่เี กยี่ วข้องกบั วนั สาคัญทาง 4. ใบความรูห้ มายเลข 3 เขา้ พรรษา วันออกพรรษา วนั เทโวโรหณะ พระพุทธศาสนาวนั ใด หลกั ธรรมคาสอนในวนั สาคัญทาง 2. ระเบยี บพธิ ี พธิ เี วยี นเทยี น การปฏบิ ัตติ นในวัน พระพทุ ธศาสนา มาฆบูชา วนั วิสาขบชู า วันอัฐมบี ชู า วนั ธรรมสวนะ 5. ใบความรูห้ มายเลข 4 ศาสน วนั อาสาฬหบชู า และเทศกาลสาคญั พิธีในวนั สาคญั ทาง พระพุทธศาสนา 6. แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน ภาระงาน/ช้ินงาน ท่มีทาีม่ า: :hhtttptpss:/:///bbitit..llyy//22VVQQUU44eeMM วเิ คราะหป์ ระวัติของวนั สาคัญทาง ((แแนนววคค�ำาตตออบบ :: เเปปน็น็ ววนัันออาาสสาาฬฬหหบบชููชาา ซซงึ่่ึงตตรรงงกกับับววันนั ขขึน้น้ึ 1๑5๕ คค่า�ำ่ เเดดือือนน 8๘ จจาากกภาพ พระพุทธศาสนา พภราะพพพุทระธพเจุท้าธแเสจด้าแงธสรดรงมธจรรักมรจกักปรปกวปั ัตปนวสัตูตนรสแตู กร่ปแัญก่ปจญัวัคจควียคั ์คตีย่อ์ตม่อามโากโกณณฑฑัญัญญญะะได้ ดไดวงด้ ตวางเตหาน็เหธ็นรรธมรแรมลแะลทะูลทขูลอขบอวบชเวปช็นเปพน็ รพะสระงฆส์รงฆูปร์แปูรกแใรนกพในรพะพระทุ พธุทศาธนศา สจนงึ าเปจน็ึงวัน ทเป่ีม็นพี วรนั ะทรตั่ีมนีพตรระยัรตัคนรบตสรยัามคปรบระสกาามรปรคะอื กพาระคพอื ทุ พธระพพรุทะธรพรมระแธลรระมพแรละะสพงฆร์ะสงฆ์) 115647

ดด๒พ3๒3พพพดดทกท1จจดก1ดหหา้้าุดุดลล้้าาา้้าาานนรรรร......นนนนนนงงะะะะุุ่่มมปปเเออวว่วว่ ททหหพพพพพพิเิเคคคคสสธธรรยยคคักัก็นน็รริบบิะะททุุทุทุุุณณววาากกรระะษษคคสสรราาาาธธธธาาาาลลพพววะะยยมมะะงงศศศศรระะกักัาาุุกกททคคแแปปเเรราาาาหหรรมมษษาา์์กกลลูู้้สสสสธธรร์ค์คียยีสสรรศศณณะะาานนนนะะววนนเเาารรววาากกาาาารราาะะคครรเเสสัตัตรรียียมมรรู้ททู้ญัญันนิิะะคคนนียียสสี่ี่บบาาววขขาานนรร55าาววออคคูู้้รรมมสสนนงงัญญัูู้้ เเเเงงััววกกปปรรขขคคันนั ือ่ื่อาา็นน็ออมมสสรรงงมมงงศศาาววาาศศคคึกกึ ัันนขขาาัญญัษษสสออสสททาาาางงนนคคววาาศศพพงงันนัญัญั าาิธธิสสททสสแีีแาานนาาคคลลงงาาััญญะะแแววแแลลันันผผะะสสววพลข5หคหหพ3ห4ล43คขนนาาะะรรฒััฒ้ันน้ัมมมมร.....กกคค-----ููสสะะาคคาจาคคาสสาา44นนญััญหหหหหรรพพยยยยารรรรออรรุปปุธธมมมมมกเเเเกใูใกูููุททุททคคนนจจลลลลหหรรคคนาาาาาาาธธนนดััดาาขขขขรร้น้นยยยยยหหาาัน้ศศแแงงทปทปกกมมตตเเเเเักกันนาาคพพลลลลลลลสีี่สรร่าาออเเสสดดรขขขขขะะรระรรรรมมบบนนใูหหยียีเเจจเเะะาาหรรแแ21334214รราาวััวนนาาพพชชียยีน้ลลใใียียขขตตจจิกกินนปศหหเปศเกกทุุทะะกันนอ้้อหหัวัวัดดัแแภภกกาาลลรรออเธธคคเเตตรรกกรตตสสะะรรลลกัักาาธธศศอืือททูู้้ียกุุกลลื่่ืออนน่ลลววพพุมมุ่่บบิิธธาานาาุุ่่มมตัตัี่่ีงงะะพพรร11นนาาสสรรททกคคขิิขคครรยย22ิิธธวีี้้ว,,ณณนนมมลีนน่่ีลลออนถถีใใีา่า่2288นนคคมุ่สส์์ะะงงาาัักกไไึงึง,,““ววดดปปคคววาาาบเเเเ33รรกกันนัสสคคร้้นัันววรรรรา้ ีียยลลบบััสสออาาััญญะะสสน่ออื่ื แแนนุ่่มมุมาานนววาาเงงททลลดดใใรคคบบััตตสสคคใในนีเเ่ี่ะะงังัานนปปญัญัาาิคิคญัญั้้ากกนนแ44กกรรมมนนววววรรดิดิททททย้้ีีลลาานันัาาาาะะเเขขาากาายยรรุุ่่มมรมมสสววนน้ึ้ึงงงงาายถถววบบเเาาพพตตััพพ””ใใปป้านนิิชชคคาา้้นนวิวิรรยรรนน็็นนกักัสสัญัญาาววะะะะันันไมมเเเเมมนนััปพพพพททรรรรสสสสาาาาสสยยีีาารุทุทาาทุทุขขงงััาาชชจจวาานนงงธธธธคคออคคกกิิมคคะะพพศศศศงงมมญัญัใใ((ตตกญัญัรราาเเววนนาากกศศ้้ออับะะสสันันสสททททกก่ง่งพพงงึกกึนนสนนสสาาลลาาศศษษมุุททกกาางงาาาางงุ่มุ่มกึกึ พพาคคลลธธาาพพจจษษชศศาาญััญรระะรราาิกงงะะาาไไททะะคคสสจพพดดออพพาาววานนร้ร้ทุทุ่่อองงาากุทุทบับัาาธธนนมมกธธศศ))รรลศศาาู้้ตูตกกุ่มสสาาาาลลนนมมสสุุ่มม่ าานนาา 168 5บา้. นจเารกานกั้นลคมุ่ รอใู นื่ หท้นไี่ กั ดเ้หรยีมนายกเลล่มุ ขบเด้ายีนวเรกาันแยเมกอ่ื ยน้ายกั ไเรปียรนวมรวกมับกสลมมุ่ าแชลกิ ว้จใาหก้เกรียลกมุ่ 168 บกล้านมุ่ นเรว้ี า่ากล“ุม่กอลนื่มุ ทผู้เไี่ ชดย่ีห้ วมชาายญเล”ขเดียวกัน เม่ือนกั เรียนรวมกลุ่มแลว้ ให้เรยี ก ชช้นั้นั มมเเววธธัั ลลยยาามมศศ11กึกึ ษษชชาาั่ั่ววปปโโมมีีททงงีี่่ 11 ก6ล. ่มุคนรูแว้ี จ่าก“ใกบลคุม่ วผามู้เชรย่ี ตู้ วาชมาหญม”ายเลขใหก้ ล่มุ ผูเ้ ช่ยี วชาญทงั้ 4 กลุ่มศกึ ษาโดย ใ6ห.เ้ ควลรแูาปจกระใบมคาวณาม1ร0ู้ตานมาหทมี ใาบยคเลวขาใมหรก้ปู ลรุม่ะผกู้เอชบยี่ ดวว้ชยาญทั้ง 4 กลุ่มศกึ ษาโดย ให-้เวหลมาปายรเะลมขาณ1 ป1ร0ะวนตั าิขทอี ใงบวคันวสามครญั ูป้ ทราะงกพอรบะดพว้ ทุ ยธศาสนา - หมายเลข 12 ปเหรตะุกวาตั ริขณอ์สงวานัคสัญาทคีเ่ ญักดิทขาน้ึงพในรวะันพสุทาธคศญั าสทนาางพระพุทธศาสนา - หมายเลข 32 หเหลตักุกธารรรณมคส์ าสคอัญนทใเ่ีนกวดิ นั ขสน้ึ าใคนญัวนัทสาางคพัญระทพาทุงพธศระาสพนทุ าธศาสนา - หมายเลข 34 หศาลสกั นธพรรธิ มีในควาสนั อสนาคในญั วทนั าสงาพครัญะพทาุทงธพศราะสพนุทาธศาสนา - หมายเลข 4 ศาสนพธิ ใี นวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา 161815658

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 28 เร่ือง ประวตั ิวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา 169 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง ศาสนพิธแี ละวนั สาคัญทางพระพุทธศาสนา เวลา 1 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 7. เมื่อครบตามกาหนดเวลา ใหส้ มาชกิ จากกลุม่ ผ้เู ช่ยี วชาญกลับสู่กลมุ่ บ้านเราและนาความรูท้ ่ีได้จากการศึกษาใบความรูต้ ามหมายเลข อธิบายใหส้ มาชิกในกลุ่มบา้ นเราฟงั จนเขา้ ใจจนครบทุกหมายเลขต้งั แต่ หมายยเเลลขข๑1จจนนถถงึ งึหหมมาายยเลเลขข๔4ตตามามลล�ำดาดับับโดโยดใยหใ้เหว้เลวาลใานใกนากราแรลกเปลี่ยน คแวลากมเปรู้ปลร่ียะนมคาวณาม๑รปู้๕รนะมาทาณี 15 นาที ขัน้ สรุป 8. ครูให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบท้ายบทเรียนจานวน 10 ขอ้ โดยให้ เวลาในการทาแบบทดสอบ 10 นาที จากนัน้ ครเู ฉลยคาตอบให้ นกั เรยี นสลบั กนั ตรวจแลว้ นาผลคะแนนของสมาชิกกลมุ่ บ้านเราทุกคน มารวมกนั ตวั อยา่ งเชน่ - สมาชิกหมายเลข 1 ได้ 8 คะแนน - สมาชิกหมายเลข 2 ได้ 5 คะแนน - สมาชกิ หมายเลข 3 ได้ 3 คะแนน - สมาชิกหมายเลข 4 ได้ 7 คะแนน นาคะแนนมารวมกนั คอื 8+5+3+7= 23 คะแนน เป็นต้น กลุ่มทีไ่ ดค้ ะแนนรวมมากท่สี ุดจะเป็นผชู้ นะและไดร้ ับรางวลั ในวันน้ี (หมายเหตุ : ใบความร้แู ละแบบทดสอบแนบทา้ ยแผนการจัดการ กเราียรนเรรีย้นู น)้ี รนู้ ้)ี 9. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความสาคัญของวนั สาคัญทาง พระพุทธศาสนา 115669

170 170 157 สิง่ ท่ตี ้องการวัด/ประเมิน วิธกี าร เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ สังเกตการอธิบาย แบบสงั เกตพฤติกรรม ดี : อธบิ ายประวัติความเป็นมา 1. อธิบายประวตั ิความ ของวันสาคญั ทาง เป็นมาของวันสาคญั ทาง คาถามเกยี่ วกับ พระพทุ ธศาสนาได้อย่างถูกต้อง พระพุทธศาสนา ความสาคัญของวันสาคัญ และเขา้ ใจอย่างเหมาะสม ทางพระพุทธศาสนา พอใช้ : อธบิ ายประวัติความ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ครูตง้ั คาถาม เปน็ มาของวนั สาคัญทาง 2. วเิ คราะหค์ วามสาคญั คาถามเกีย่ วกับ พระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้อง ของวนั สาคญั ทาง ความสาคญั ของวันสาคัญ ปรบั ปรงุ : ไม่สามารถอธบิ าย พระพุทธศาสนา ทางพระพุทธศาสนา ประวตั ิความเป็นมาของวันสาคัญ ทางพระพุทธศาสนาได้อย่าง ด้านคณุ ลกั ษณะ ถูกต้อง 3. เห็นความสาคญั ของวนั ครูตง้ั คาถาม ดี : วิเคราะห์ความสาคัญของ สาคญั ทางพระพุทธศาสนา ความสาำ�คญั ขขอองงวันสำ�คัญ วทันาสงพาครญัะพททุางธพศราะสพนุทาไธดศ้ าสนาได้ อย่างชัดเจนแลละะเเขา้ ใใจ พอใช้ :: วิเคราะะห์ค์คววาามมสสำ�าคคญั ัญ คพปขววขทคปศนัันอวอาวอราราสสสงาบังงบัเขมพมวนาาปป้าสันคคสรารรใาญััญะสำไจุง�ุงคดคพำทท�ญั: ้คัญ:ทุ าาไพัญไขงงธขมมพพออศอ่ส่สทงเรรางาขาะะาสวมม้างพพนันาใาพจรทุุทสารรถไำธธถ�ะดวคศศวพ้ิเัญาาเิคคทุสสรรนนธาาะาาะไไหดดห์ ้้์ ดี : แสดงออกชัดเจนถึงการเห็น ความสาคัญ พอใช้ : แสดงออกไม่ชดั เจน ปรับปรงุ : ไม่แสดงออกไมใ่ ห้ ความสาคัญ

171 171 158 8. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................................. ............. ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ...................................................................................... ..................................................................................... ลงช่อื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วันท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ............. 9๙. ควาามมคคดิ ิดเเหห็นน็ //ขข้ออ้ เสเสนนออแแนนะะขขอองผงผู้บ้บูริหราิหราหรรหือรผือูท้ ผี่ไูท้ ด่ไี้รดับร้ มับอมบอหบมหามยาย .................................................................................. ......................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันท.่ี .........เดือน..........พ.ศ........

172 115792 ใบความรู้ท่ี 1 เรอื่ ง ประวัตขิ องวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา หนว่ ยที่ 5 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 29 เรอื่ ง ศาสนพธิ ีและวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา รายวชิ า สงั คมศึกษา รหัส ส21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ๑1. วนั มาฆบูชา \"มาฆะ\" เปน็ ชือ่ ของเดอื น ๓ มาฆบชู าน้นั ย่อมาจากคาว่า\"มาฆบุรณมี\" แปลวา่ การบชู าพระในวันเพญ็ เดือน ๓ วนั มาฆบชู าจึงตรงกับวนั ขึ้น ๑๕ คา่ เดอื น ๓ แต่ถ้าปใี ดมีเดอื น อธกิ มาส คือมีเดือน ๘ สองคร้ัง วนั มาฆบูชาก็จะเลื่อน ไปเปน็ วนั ขน้ึ ๑๕ ค่า เดือน ๔ เป็นวนั สาคัญวนั หน่ึง ในวนั พุทธศาสนา คอื วนั ท่ีมกี ารประชมุ สงั ฆสันนบิ าตคร้ังใหญ่ใน พทุ ธศาสนา ท่ีเรยี กวา่ \"จาตุรงคสันนบิ าต\" และเปน็ วนั ท่ีพระสมั มาสมั พุทธเจา้ ได้ทรงแสดงโอวาทปฎิโมกขแ์ ก่พระสงฆ์ สาวกเปน็ ครัง้ แรก ณ เวฬุวันวิหาร กรงุ ราชคฤห์ เพื่อให้พระสงฆ์นาไปประพฤตปิ ฏิบัติ เพ่ือจะยงั พระพทุ ธศาสนาให้ เจริญรุง่ เรอื งต่อไป ๒2. วนั วสิ าขบชู า ความหมาย คาวา่ \"วิสาขบชู า\" หมายถึงการบชู าในวนั เพ็ญเดอื น ๖ วิสาขบูชา ย่อมาจาก \" วิสาขปรุ ณมีบชู า \" แปลว่า \" การบชู าในวนั เพญ็ เดือนวสิ าขะ \" ถ้าปีใดมีอธกิ มาส คือ มเี ดือน ๘ สองหน ก็เล่ือนไปเปน็ กลางเดือน ๗ ความสาคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวนั สาคญั ย่ิงทางพระพุทธศาสนา เพราะเปน็ วนั ท่ีพระพทุ ธเจ้าประสูติ คอื เกดิ ได้ตรัสรู้ คือสาเร็จ ไดป้ รนิ ิพพาน คือ ดับ เกดิ ขน้ึ ตรงกนั ทงั้ ๓ คราวคือ ๑. เมื่อเจ้าชายสิทธตั ถะประสูตทิ ่ีพระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรงุ กบลิ พสั ดกุ์ ับเทวทหะ เม่ือเช้าวนั ศกุ ร์ ขึ้น ๑๕ ค่า เดอื น ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี ๒. เมอ่ื เจ้าชายสิทธตั ถะตรัสรู้ เปน็ พระพทุ ธเจา้ เม่ือพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝงั่ แมน่ า้ เนรญั ชรา ตาบลอุรเุ วลาเสนานิคม ในตอนเช้ามดื วนั พธุ ขึ้น ๑๕ คา่ เดอื น ๖ ปรี ะกา ก่อนพทุ ธศกั ราช ๔๕ ปี หลงั จาก ออกผนวชได้ ๖ ปี ปจั จบุ ันสถานทต่ี รัสร้แู ห่งนเี้ รียกว่า พุทธคยา เปน็ ตาบลหนง่ึ ของเมืองคยา แหง่ รัฐพิหารของอนิ เดีย ๓. หลงั จากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ ๔๕ ปี พระชนมายไุ ด้ ๘๐ พรรษา ก็เสดจ็ ดับขันธปรนิ ิพพาน เมอื่ วนั องั คาร ขน้ึ ๑๕ คา่ เดอื น ๖ ปีมะเสง็ ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตรยิ ์ เมอื งกุสนิ ารา แควน้ มลั ละ (ปจั จบุ ันอยใู่ นเมืองกุสนี คระ แควน้ อตุ ตรประเทศ ประเทศอนิ เดีย) ๓3. วนั อาสาฬหบูชา วนั ขึ้น ๑๕ ค่า เดือน ๘ นับเป็นวันที่สาคัญในประวตั ิศาสตร์แหง่ พระพุทธศาสนา คือวันท่ีพระพทุ ธองค์ทรง แสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมทท่ี รงตรสั รเู้ ปน็ ครั้งแรกแก่เบญจวัคคยี ท์ งั้ ๕ ณ มฤคทายวนั ตาบลอิสปิ ตนะ เมือง พาราณสี ในชมพทู วีปสมัยโบราณ ซึง่ ปจั จุบันต้งั อย่ใู นประเทศอินเดีย ธรรมเทศนาท่ีทรงแสดงครั้งแรกจึงไดช้ ื่อ วา่ \"ธมั มจักกปั ปวตั ตนสูตร\" แปลว่า พระสตู รแหง่ การหมนุ วงล้อธรรม หรือพระสตู รแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร เมือ่ พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงธรรมแล้ว ปรากฏว่าโกณฑญั ญะผู้เปน็ หวั หนา้ เบญจวคั คยี ไ์ ด้เกิดเข้าใจธรรม เรียกวา่ เกิดดวงตาแห่งธรรมหรือธรรมจกั ษุ บรรลเุ ป็นโสดาบนั จึงทลู ขอบรรพชาและถอื เป็นพระภิกษุสาวก รปู แรกใน พระพทุ ธศาสนา มชี ่ือวา่ อัญญาโกณฑญั ญะ

173 173 160 ๔4. วันเข้าพรรษา \"เข้าพรรษา\" แปลวา่ \"พักฝน\" หมายถึง พระภิกษสุ งฆต์ อ้ งอยปู่ ระจา ณ วดั ใดวดั หนึ่งระหวา่ งฤดฝู น โดยเหตุท่ี พระภิกษุในสมยั พทุ ธกาลมหี นา้ ที่จะตอ้ งจาริกโปรดสตั ว์ และเผยแผ่พระธรรมคาสง่ั สอนแก่ประชาชนไปในทต่ี า่ ง ๆ ไม่ จาเปน็ ต้องมที ่อี ยปู่ ระจา แม้ในฤดฝู น ชาวบา้ นจงึ ตาหนวิ า่ ไปเหยยี บข้าวกลา้ และพชื อนื่ ๆ จนเสยี หาย พระพุทธเจา้ จงึ ทรงวาง ระเบยี บการจาพรรษาใหพ้ ระภกิ ษอุ ย่ปู ระจาทีต่ ลอด ๓3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตงั้ แตว่ ันแรม ๑1 คา่ เดอื น ๘8 ของทุกปี ถ้าปใี ดมี เดอื น ๘8 สองครง้ั ก็เลอื่ นมาเป็นวันแรม ๑1 ค่า เดอื นแปดหลัง และออกพรรษาในวันขนึ้ ๑1๕5 ค่า เดือน ๑11๑ เวน้ แตม่ กี ิจธุระเจา้ เปน็ ซ่ึงเม่อื เดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลบั ได้ในเดียวนน้ั ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคนื ได้ คราวหนงึ่ ไม่เกิน ๗7 คืนเรียกวา่ สตั ตา หะ หากเกินกาหนดนี้ถือวา่ ไมไ่ ดร้ บั ประโยชน์ แห่งการจาพรรษา จัดวา่ พรรษาขาด ๕5. วนั ออกพรรษา วันออกพรรษา คอื วนั ส้ินสดุ ระยะการจาพรรษา หรือออกจากการอยู่ประจาที่ในฤดูฝนซง่ึ ตรงกบั วันขึ้น ๑๕ ค่า เดอื น ๑๑ เรยี กอีกอยา่ งหนึ่งว่า \"วันมหาปวารณา\" คาวา่ \"ปวารณา\" แปลวา่ \"อนญุ าต\" หรือ \"ยอมให้\" คือ เปน็ วนั ที่เปิดโอกาสให้ พระภิกษุสงฆด์ ว้ ยกนั วา่ กลา่ วตกั เตอื นกนั ได้ ในข้อท่ผี ดิ พลงั้ ล่วงเกินระหว่างที่จาพรรษาอย่ดู ว้ ยกนั ในวันออกพรรษาน้ีกจิ ท่ชี าวบา้ นมกั จะกระทาก็คอื การบาเพญ็ กศุ ล เช่น ทาบญุ ตกั บาตร จัดดอกไม้ ธูป เทียน ไปบชู า พระที่วัด และฟงั พระธรรมเทศนา ของท่ีชาวพุทธนยิ มนาไปใสบ่ าตรในวนั นีก้ ค็ ือ ขา้ วต้ม มัดไต้ และขา้ วต้มลูกโยน และการรว่ ม กุศลกรรมการ \"ตักบาตรเทโว\" คาว่า \"เทโว\" ย่อมาจาก\"เทโวโรหน\" แปลว่าการเสดจ็ จากเทวโลกการตักบาตรเทโว จึงเปน็ การ ระลกึ ถึงวันที่ พระพทุ ธองค์เสดจ็ กลับจากการโปรด พระพุทธมารดาในเทวโลก ๖6. วันเทโวโรหณะ ตรงกบั วนั แรม 1 คา่ เดอื น 11 คาวา่ \"เทโว\" ย่อมาจาก\"เทโวโรหน\" แปลวา่ การเสดจ็ จากเทวโลกการตักบาตรเทโว จงึ เจปึงน็เปก็นากรราะรรละกึ ลถกึงถวันึงวทันี่ พทรี่ พะรพะทุ พธุทอธงอคง์เสคดเ์ ส็จดกจ็ลกับลจับาจกากกากรโาปรรโปดรพดรพะรพะุทพธทุมธามรดาราดในาเใทนวเทโลวกโลก ๗7. วนั อฐั มบี ชู า เมอ่ื พระพุทธเจา้ เสดจ็ ปรินพิ พานแล้ว ๘ วัน มลั ลกษัตรยิ ์แหง่ นครกสุ นิ ารา พรอ้ มดว้ ยประชาชน และพระสงฆ์อนั มี พระมหากสั สปเถระเป็นประธาน ไดพ้ รอ้ มกนั กระทาการถวายพระเพลิงพุทธสรรี ะ ณ มกุฏพนั ธนเจดแี ห่งกรุงกุสินารา วนั นน้ั วเนั ปน็นนั้ วเันปห็นนวงึ่นั ทหี่ชนาง่ึวทพชี่ ทุ าธวตพ้อุทงธมตคี ้อวงามีคสวงั าเวมชสสังลเวดชใสจลแดลใะจวแปิ ลโะยวคปิโศโยกคเศโศรา้กเเปศน็ร้าอเยปา่ ็นงอยยง่ิ า่ เงพยร่งิ าะเพกราาระสกูญาเรสสยี ูญแหเสง่ ียพแรหะง่พพุทรธะสพรทุ รี ธะสเรมรี อ่ื ะวัน เมแอ่ืรมวนั ๘แรคมา่ ๘เดคอื ำ่�น เ๖ดอื ซนง่ึ น๖ยิ มซเ่ึงรนียยิ กมกเันรยีวกา่ วกันนั อวฏั่าวฐันมอนี ฏัน้ั ฐเวมยี นี น้ันมเวาียบนรรมจาบบแรตรจ่ลบะปแตี ล่ ะปี ๘8. วันธรรมสวนะ วันพระ หรอื วนั ธรรมสวนะ หมายถงึ วนั ประชุมถือศีลฟงั ธรรมในพุทธศาสนา (ธรรมสวนะ หมายถึง การฟงั ธรรม) กาหนดเดอื นทางจนั ทรคติละ ๔4 วนั ได้แก่ วันข้นึ ๘8 ค่า วันข้ึน๑1๕5 คา่ (วนั เพ็ญ) วันแรม ๘8 ค่า วันแรม๑1๕5 คา่ (หากเดือนใดเปน็ เดือนขาด ถือเอาวนั แรม ๑14๔ค่า) ในสมัยพุทธกาล พระเจา้ พมิ พิสาร ได้เข้าเฝา้ พระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ และกราบทลู วา่ นักบวชศาสนาอืน่ มวี นั ประชมุ สนทนา เกยี่ วกับหลักธรรมคาสั่งสอนในศาสนาของเขา แต่วา่ ศาสนาพทุ ธยังไม่มี พระพทุ ธองคจ์ ึงทรงอนุญาตใิ หภ้ ิกษสุ งฆป์ ระชมุ สนทนา และแสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชน ในวนั ๘ คา่ ๑๔ คา่ และ ๑๕ ค่า พทุ ธศาสนิกชนจงึ ถอื เอาวนั ดงั กล่าวเปน็ วนั ธรรมสวนะ ที่มา : http://www.dhammathai.org/day/buddhismday.php

174 174 161 ใบความรูท้ ่ี 2๒ เร่อื ง เหตุการณ์สาคญั ท่เี กิดขึน้ ในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา หน่วยท่ี ๕5 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1๑ เรอ่ื ง ศาสนพิธีและวนั สาคัญทางพระพุทธศาสนา รหัส ส๒21๑1๑0๐1๑ ภาคเรียนที่ ๑1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑1 รายวชิ า สงั คมศึกษา ๑1. วนั มาฆบูชา เป็นวนั จาตุรงคสนั นบิ าต คาวา่ \"จาตุรงคสันนบิ าต\" แยกศพั ทไ์ ดด้ ังนี้ คือ \"จาตรุ \" แปลวา่ ๔ \"องค\"์ แปลว่า ส่วน \"สนั นบิ าต\" แปลวา่ ประชุม ฉะน้นั จาตุรงคสันนิบาตจงึ หมายความวา่ \"การประชุมดว้ ยองค์ ๔\" กล่าวคอื มเี หตกุ ารณพ์ ิเศษที่ เกิดข้นึ พร้อมกันในวนั น้ี คือ ๑. เปน็ วันท่ี พระสงฆส์ าวกของพระพทุ ธเจ้า จานวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชมุ พรอ้ มกนั ที่เวฬวุ นั วหิ ารในกรงุ ราชคฤห์ โดยมไิ ดน้ ัดหมาย ๒. พระภกิ ษสุ งฆ์เหล่านล้ี ้วนเปน็ \"เอหิภกิ ขุอุปสัมปทา\" คือเปน็ ผู้ที่ได้รบั การอปุ สมบทโดยตรงจาก พระพุทธเจา้ ทง้ั สนิ้ ๓. พระภิกษุสงฆ์ทกุ องคท์ ไ่ี ดม้ าประชมุ ในครงั้ นี้ ลว้ นแต่เปน็ ผไุ้ ดบ้ รรลุพระอรหนั ตแ์ ลว้ ทุก ๆอองงคค์ ์ ๔. เป็นวนั ที่พระจนั ทร์เตม็ ดวงกาลังเสวยมาฆฤกษ์ ๒2. วันวสิ าขบชู า ความสาคญั วนั วิสาขบชู า เป็นวนั สาคญั ยง่ิ ทางพระพทุ ธศาสนา เพราะเป็นวนั ทพ่ี ระพทุ ธเจ้าประสตู ิ คอื เกดิ ไดต้ รัสรู้ คอื สาเร็จ ได้ปรินิพพาน คอื ดบั เกดิ ขนึ้ ตรงกันทง้ั ๓ คราว ๑. เม่ือเจ้าชายสทิ ธตั ถะประสตู ทิ พี่ ระราชอทุ ยานลมุ พนิ วี นั ระหว่างกรุงกบลิ พัสด์ุกบั เทวทหะ เมื่อเชา้ วันศุกร์ ข้ึน ๑๕ คา่ เดอื น ๖ ปจี อ ก่อนพุทธศกั ราช ๘๐ ปี ๒. เมอ่ื เจ้าชายสิทธัตถะตรสั รู้ เป็นพระพทุ ธเจ้าเมอื่ พระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ใตร้ ม่ ไม้ศรมี หาโพธิ์ ฝั่งแมน่ า้ เนรัญชรา ตาบลอุรเุ วลาเสนานิคม ในตอนเชา้ มดื วันพธุ ขน้ึ ๑๕ คา่ เดอื น ๖ ปรี ะกา กอ่ นพทุ ธศักราช ๔๕ ปี หลงั จากออกผนวชได้ ๖ ปี ปจั จุบนั สถานทตี่ รสั รู้แห่งนี้เรียกว่า พทุ ธคยา เปน็ ตาบลหนง่ึ ของเมอื งคยา แห่งรัฐพหิ ารของอินเดยี ๓. หลงั จากตรสั รู้แลว้ ไดป้ ระกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสตั ว์ ๔๕ ปี พระชนมายไุ ด้ ๘๐ พรรษา กเ็ สดจ็ ดับ ขนั ธปรินิพพาน เม่อื วันองั คาร ขึน้ ๑๕ คา่ เดอื น ๖ ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตรยิ ์ เมืองกสุ ินารา แควน้ มลั ละ (ปัจจุบนั อยู่ในเมืองกสุ นี คระ แควน้ อตุ ตรประเทศ ประเทศอนิ เดยี ) ๓3. วันอาสาฬหบูชา “อาสาฬหบชู า” (อา-สาน-หะ-บ-ู ชา/อา-สาน-ละ-หะ-บ-ู ชา) ประกอบด้วยคา ๒ คา คอื อาสาฬห (เดือน ๘ ทาง จนั ทรคติ) กบั บูชา (การบชู า) เมอ่ื รวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดอื น ๘ หรอื การบูชาเพอื่ ระลึกถงึ เหตกุ ารณ์สาคัญในเดอื น ๘ หรอื เรียกให้เตม็ วา่ อาสาฬหบูรณมีบชู า โดยสรปุ วนั อาสาฬหบชู า แปลว่า การบูชาในวนั เพ็ญ เดือน ๘ หรอื การบูชาเพอื่ ระลกึ ถงึ เหตกุ ารณ์สาคญั ในวนั เพญ็ เดือน ๘ คอื ๑. เป็นวันท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงปฐมเทศนา ๒. เป็นวันท่พี ระพทุ ธเจ้าเรมิ่ ประกาศพระศาสนา ๓. เป็นวนั ท่ีเกิดอรยิ สงฆ์ครง้ั แรกคอื การทท่ี ่านโกณฑัญญะร้แู จ้งเหน็ ธรรม เปน็ พระโสดาบนั จัดเป็นอรยิ บคุ คลทา่ น แรกในอริยสงฆ์ ๔. เปน็ วันทีเ่ กิดพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คอื การทที่ ่านโกณฑัญญะขอบรรพชาและ ได้บวชเปน็ พระภิกษุ หลังจากฟังปฐมเทศนาและบรรลธุ รรมแล้ว ๕. เป็นวันท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงไดป้ ฐมสาวกคอื การทีท่ า่ นโกณฑญั ญะนน้ั ไดบ้ รรลุธรรม และบวชเปน็ พระภกิ ษุ จงึ เป็น สาวกรูปแรกของพระพทุ ธเจ้า เมอ่ื เปรยี บกับวันสาคัญอนื่ ๆ ในพระพุทธศาสนา บางทีเรียกวันอาสาฬหบชู า นว้ี า่ วนั พระสงฆ์ (คือวันทเ่ี ริม่ เกดิ มีพระสงฆ)์

175 175 162 ๔4. วันเข้าพรรษา พระพุทธเจา้ ทรงวางระเบยี บการจาพรรษาใหพ้ ระภิกษอุ ยู่ประจาทต่ี ลอด ๓3 เดอื น ในฤดูฝน คือ เริม่ ตั้งแต่วนั แรม ๑1 ค่า เดือน ๘8 ของทกุ ปี ถ้าปใี ดมีเดือน 8 สองครง้ั ก็เลอื่ นมาเปน็ วนั แรม ๑1 ค่า เดอื นแปดหลัง และออกพรรษาใน วันข้ึน ๑15๕ ค่า เดอื น ๑11๑ การท่พี ระภิกษุสงฆท์ ่านโปรดสัตว์อยู่ประจาเป็นทเ่ี ช่นน้ี เป็นการดสี าหรบั สาธชุ นหลายประการ กลา่ วคือ ผู้ท่มี ี คุณสมบัติครบถว้ นตามพระพุทธบัญญตั ิก็นยิ มบวชพระ ส่วนผ้ทู อี่ ายุยงั ไมค่ รบบวชผปู้ กครองกน็ าไปฝากพระ โดยบวช เป็นเณรบา้ ง ถวายเปน็ ลกู ศิษย์รับใช้ทา่ นบ้าง ท่านก็ส่ังสอนธรรม และความรู้ให้ และโดยทว่ั ไป พุทธศาสนกิ ชนนยิ มตัก บาตรหรอื ไปทาบญุ ทว่ี ดั นบั ว่าเป็นประโยชน์ ๕5. วนั ออกพรรษา วันออกพรรษา คอื วนั ส้นิ สดุ ระยะการจาพรรษา หรอื ออกจากการอยู่ประจาท่ีในฤดฝู นซึง่ ตรงกบั วันขึน้ ๑๕ คา่ เดอื น ๑๑ วันออกพรรษานี้ เรียกอีกอยา่ งหนึง่ ว่า \"วนั มหาปวารณา\" คาว่า \"ปวารณา\" แปลว่า \"อนุญาต\" หรือ \"ยอม ให้\" คือ เป็นวนั ทีเ่ ปดิ โอกาสใหพ้ ระภกิ ษสุ งฆ์ดว้ ยกันว่ากลา่ วตักเตือนกันได้ ในข้อท่ีผดิ พลั้งลว่ งเกินระหวา่ งท่ีจาพรรษา อยดู่ ว้ ยกนั ๖6. วนั เทโวโรหณะะ การรว่ มกศุ ลกรรมการ \"ตักบาตรเทโว\" คาวา่ \"เทโว\" ยอ่ มาจาก\"เทโวโรหน\" แปลวา่ การเสดจ็ จากเทวโลกการ ตกัการบตากัตบรเาทตโรวเทจโึงวเปจน็ ึงกเปา็นรรกะาลรึรกะถลงึ วึกันถทึงว่ี พนั ทระ่ี พรุทะธพอุทงคธอเ์ สงดคจ็์เสกดล็จับกจลาบักจกากรโกปารดโปพรรดะพรุทะธพมทุารธดมาใรนดเาทใวนโเลทกวโลก ๗7. วันอฐั มบี ชู า โดยท่ีวันอัฐมคี ือวนั แรม ๘ ค่า เดอื น ๖ เปน็ วันทีม่ เี หตุการณ์สาคญั ทางพระพุทธศาสนา ถือเปน็ วันที่ตรงกับ วนั ท่ีตรงกับวนั ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระเป็นวนั ทช่ี าวพุทธตอ้ งวิปโยค และสูญเสยี พระบรมสรรี ะแห่งองคพ์ ระบรม ศาสดา ซึง่ เปน็ ทีเ่ คารพสักการะอยา่ งสงู ย่ิง และเป็นวันควรแสดงธรรมสังเวชและระลกึ ถึงพระพทุ ธคุณให้สาเรจ็ เปน็ พุทธานสุ สติภาวนามยั กศุ ล ๘8.. ววนั ันธธรรรรมมสสววนนะะ ในวันพระ พุทธศาสนิกชนถือเปน็ วนั สาคัญ ควรไปวัดเพ่ือทาบุญ ถวายภัตตาหารแดพ่ ระสงฆ์ และฟังธรรม สาหรบั ผู้ทเี่ ครง่ ครดั ในศาสนาอาจถือศีลแปดในวันพระด้วย นอกจากนีช้ าวพุทธยังถือวา่ วนั พระไม่ควรทาบาปใดๆๆการ กทาารบทาำ� ปบหารปือหไมรือ่ถไือมศ่ถีลือหศ้าลี ใหนา้วใันนพวรันะพถรือะวถา่ ือเปว็นา่ เบปา็นปบยาิ่งปในยวิ่งในั นอวน่ื นั อ่นื ทม่ี า : http://www.dhammathai.org/day/buddhismday.php

176 163 ใบความรทู้ ่ี ๓3 เรื่อง หลักธรรมคาสอนในวันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนา หน่วยท่ี ๕5 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1๑ เรื่อง ศาสนพิธีและวันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนา รหสั ส๒21๑1๑0๐1๑ ภาคเรียนท่ี ๑1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑1 รายวชิ า สังคมศึกษา ๑1. วนั มาฆบชู า โอวาทปาฏโิ มกข์ - หลักคาสอนสาคัญของพระพทุ ธศาสนา หรอื คาสอนอนั เปน็ หัวใจของพระพุทธศาสนา ไดแ้ ก่ การไม่ทาความช่วั ทัง้ ปวง, การบาเพ็ญแต่ความดี, การทาจิตของตนใหผ้ ่องใส น้ีเป็นคาสอนของพระพทุ ธเจา้ ทง้ั หลาย 2๒. วันวสิ าขบูชา ๑. ความกตัญญู คอื ความรู้อปุ การคุณทีม่ ีผทู้ าไว่ก่อน เปน็ คุณธรรมค่กู ับความกตเวที คอื การตอบแทนอุปการ คุณที่ผู้อื่นทาไว้น้ัน ๒. อ ริ ย สั จ ๔ อรยิ สจั ๔ คอื ความจริงอนั ประเสรฐิ หมายถงึ ความจริงของชวี ติ ทไ่ี มผ่ ันแปร เกิดมไี ด้แก่ทกุ คน มี ๔ ประการ คือ ทกุ ข์ สมุทยั นิโรธและมรรค 3๓. วนั อาสาฬหบูชา หลกั ธรรมสาคญั ๒ ประการคือ ก. มชั ฌิมาปฏปิ ทาหรอื ทางสายกลาง เปน็ ขอ้ ปฏิบตั ทิ ีเ่ ปน็ กลาง ๆ ถกู ต้องและเหมาะสมท่ีจะใหบ้ รรลุถงึ จดุ หมายได้ มิใช่การดาเนนิ ชีวติ ท่ีเอียง หรืออย่างหนึ่งอยา่ งใด ข. อรยิ สัจ ๔ แปลว่า ความจรงิ อนั ประเสรฐิ ของอริยะ ซ่ึงคือ บุคคลทีห่ ่างไกลจากกเิ ลส ๔4. วนั อัฐมีบูชา หลกั ความไม่ประมาทและหลักไตรลักษณ์ ๓3 คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตตา ๕5. วนั ธรรมสวนะ ในวันพระ พุทธศาสนกิ ชนถือเป็นวันสาคัญ ควรไปวดั เพื่อทาบุญ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ และฟังธรรม สาหรบั ผูท้ ่ีเครง่ ครดั ในศาสนาอาจถือศลี แปดในวันพระด้วย นอกจากนช้ี าวพทุ ธยังถือว่าวนั พระไม่ควรทาบาปใดๆๆกกาารร ทาบาปหรือไม่ถือศีลห้าในวนั พระถือวา่ เป็นบาปยิ่งในวันอ่นื ที่มา : http://www.dhammathai.org/day/buddhismday.php

177 177 164 ใบความร้ทู ่ี ๓4 เรื่อง ศาสนพธิ ใี นวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา หนว่ ยที่ 5๕ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑1 เรอื่ ง ศาสนพิธีและวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา รายวิชา สังคมศึกษา รหสั ส๒21๑1๑0๐1๑ ภาคเรยี นท่ี ๑1 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑1 ๑1. วนั มาฆบชู า การทาบุญตักบาตรในตอนเชา้ หรอื ไม่กจ็ ัดหาอาหารคาวหวานไปทาบุญฟงั เทศน์ที่วัด ตอนบา่ ยฟงั พระแสดงพระธรรม เทศนา ในตอนกลางคนื จะพากนั นาดอกไม้ ธปู เทยี น ไปทว่ี ัดเพอ่ื ชุมนมุ กันทาพิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถพร้อมกับพระภิกษุ สงฆ์ ๒2. วนั วิสาขบชู า การทาบุญตักบาตรในตอนเช้า หรอื ไม่ก็จดั หาอาหารคาวหวานไปทาบญุ ฟงั เทศนท์ วี่ ดั ตอนบา่ ยฟังพระแสดงพระธรรม เทศนา ในตอนกลางคืน จะพากันนาดอกไม้ ธูปเทยี น ไปท่ีวัดเพอ่ื ชุมนมุ กนั ทาพธิ ีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถพร้อมกับพระภกิ ษุ สงฆ์ ทางราชการประกาศชกั ชวนใหป้ ระชาชน และหน่วยงานตา่ งๆ ทัง้ เอกชน และราชการประดับตกแตง่ อาคารสถานทดี่ ้วยธง ชาติ ธงเสมาธรรมจักร จุดประทีปโคมไฟ ๓3. วนั อาสาฬหบูชา พธิ ีกรรมท่กี ระทาในวันน้ี โดยทั่วไป คอื ทาบญุ ตกั บาตร รกั ษาศลี เวยี นเทียน ฟงั พระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัต ตนสูตร) และสวดมนต์ ๔4. วันเข้าพรรษา พทุ ธศาสนิกชนมกั จะจัดเครอ่ื งสกั การะเช่น ดอกไม้ ธูปเทยี น เครือ่ งใช้ เช่น สบู่ ยาสฟี นั เปน็ ตน้ มาถวายพระภกิ ษุ สามเณร ท่ีตนเคารพนับถอื ที่สาคัญคอื มีประเพณีหลอ่ เทียนขนาดใหญ่เพือ่ ให้จุดบชู าพระประธานในโบสถอ์ ยไู่ ดต้ ลอด ๓3 เดอื น มีการประกวดเทยี นพรรษา โดยจัดเปน็ ขบวนแห่ท้งั ทางบกและทางนา้ ๕5. วนั ออกพรรษา ในวนั ออกพรรษาน้กี จิ ท่ีชาวบา้ นมกั จะกระทาก็คอื การบาเพญ็ กศุ ล เช่น ทาบญุ ตักบาตร จัดดอกไม้ ธปู เทียน ไปบชู า พระที่วดั และฟงั พระธรรมเทศนา ๖6. วนั เทโวโรหณะ กิจท่ชี าวบ้านมักจะกระทาก็คอื การบาเพ็ญกศุ ล เชน่ ทาบุญตกั บาตร จัดดอกไม้ ธปู เทียน ไปบชู าพระทว่ี ดั และฟงั พระธรรมเทศนา ของทช่ี าวพทุ ธนยิ มนาไปใสบ่ าตรในวนั นก้ี ็คอื ข้าวตม้ มดั ไต้ และข้าวตม้ ลูกโยน และการรว่ มกศุ ล กรรมการ \"ตักบาตรเทโว\" คาวา่ \"เทโว\" ย่อมาจาก\"เทโวโรหน\" แปลว่าการเสดจ็ จากเทวโลก ๗7. วันอัฐมบี ชู า การทาบญุ ตักบาตรในตอนเชา้ หรอื ไม่ก็จดั หาอาหารคาวหวานไปทาบญุ ฟงั เทศน์ทวี่ ัด ตอนบา่ ยฟงั พระแสดงพระธรรม เทศนา ในตอนกลางคนื จะพากนั นาดอกไม้ ธปู เทียน ไปท่ีวัดเพอ่ื ชมุ นุมกันทาพิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถพร้อมกบั พระภิกษุ สงฆ์ ๘8. วนั ธรรมสวนะ ในวันพระ พทุ ธศาสนกิ ชนถอื เปน็ วันสาคัญ ควรไปวัดเพือ่ ทาบญุ ถวายภตั ตาหารแด่พระสงฆ์ และฟังธรรม สาหรับผทู้ ี่ เคร่งครัดในศาสนาอาจถือศลี แปดในวันพระด้วย ทม่ี า : http://www.dhammathai.org/day/buddhismday.php

178 171685 หนว่ ยที่ ๕5 แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๑1 แบบทดสอบท้ายบทเรียน เรือ่ ง ศาสนพิธแี ละวันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนา รหัส ส๒2๑11๑0๐1๑ ภาคเรยี นท่ี ๑1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑1 รายวิชา สงั คมศึกษา คาช้ีแจง ให้นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องท่สี ดุ แลว้ ทาเคร่ืองหมาย × ลงในกระดาษคาตอบ 1. เหตุการณ์ใดไมเ่ ก่ยี วข้องกับวันวิสาขบชู า ข. พระพุทธเจ้าทรงตรสั รู้ ก. พระพทุ ธเจ้าทรงประสูติ ค. พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา ง. พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพาน 2. วันจาตรุ งคสนั นิบาต หมายถึงวันใด ก. วันมาฆบชู า ข. วันวิสาขบชู า ค. วันเข้าพรรษา ง. วนั อาสาฬหบูชา 3. พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงธรรมข้อใดในวนั อาสาฬหบูชา ก. อริยสัจ 4 ข. จาตุรงคสันนิบาต ค. โอวาทปาฏิโมกข์ ง. ธัมมจกั รกัปปวตั ตนสตู ร 4. พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงหลักธรรมสาคัญเรอื่ งใดในวันมาฆบูชา ก. อรยิ สจั 4 ข. โอวาทปาฏโิ มกข์ ค. ธมั มจักกัปปวัตตนสูตร ง. ทุกข์ สมทุ ัย นิโรธ มรรค 5. เหตกุ ารณ์ใดไมไ่ ด้เกดิ ข้นึ ในวนั อาสาฬหบูชา ก. พระพุทธเจา้ ทรงแสดงพระธรรมจักรกปั ปวัตนสตู ร ข. พระอัญญาโกณฑญั ญะเป็นพระสงฆร์ ปู แรกในพระพุทธศาสนา ค. พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงธรรมแก่ปญั จวคั คยี ์ ง. พระพุทธเจ้าทรงปลงพระชนมายสุ ังขาร 6. การแหเ่ ทียนพรรษา นิยมกระทาในวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนาวันใด ก.วันออกพรรษา ข. วนั เข้าพรรษา ค.วนั อัฐมีบูชา ง.วันธรรมสวนะ 7. วันสาคัญทางพระพุทธศาสนาวนั ใดที่ไม่มพี ธิ ีเวียนเทียน ก.ธรรมสวนะ ข.วันมาฆบูชา ค.วนั อาสาฬหบูชา ง.วันวสิ าขบชู า 8. การตักบาตรเทโวรหณะ จะกระทาในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนาวันใด ก.วนั ออกพรรษา ข. วนั เขา้ พรรษา ค.วนั อัฐมบี ชู า ง.วันธรรมสวนะ 9. หลกั ธรรมสาคญั ที่พระพุทธเจา้ ทรงตรัสรไู้ ดใ้ นวันวิสาขบูชา คือหลกั ธรรมใด ก. โอวาทปาฏิโมกข์ ข. โยนโิ สมนสิการ ค. อริยสจั 4 ง. พรหมวิหาร 4 10. วันสาคญั ซ่ึงเป็นทรี่ ะลกึ ถึงการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีรังคารของพระพุทธเจ้า คอื วันใด ก.วนั ออกพรรษา ข. วันเขา้ พรรษา ค.วนั อฐั มีบชู า ง.วนั ธรรมสวนะ

179 117696 หนว่ ยท่ี 5๕ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑1 เฉลยแบบทดสอบท้ายบทเรียน เรอื่ ง ศาสนพิธแี ละวนั สาคัญทางพระพุทธศาสนา รายวิชา สังคมศึกษา รหสั ส๒21๑1๑0๐1๑ ภาคเรียนที่ ๑1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑1 คาช้ีแจง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องทส่ี ุดแลว้ ทาเครื่องหมาย × ลงในกระดาษคาตอบ 1. เฉลย ค. พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา 2. เฉลย ก. วันมาฆบูชา 3. เฉลย ง. ธัมมจักรกปั ปวัตตนสูตร 4. เฉลย ข. โอวาทปาฏิโมกข์ 5. เฉลย ง. พระพุทธเจ้าทรงปลงพระชนมายุสงั ขาร 6. เฉลย ข. วันเขา้ พรรษา 7. เฉลย ก.ธรรมสวนะ 8. เฉลย ก.วนั ออกพรรษา 9. เฉลย ค. อริยสจั 4 10. เฉลย ค.วันอัฐมีบูชา

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 29 เรื่อง พิธกี รรมในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรื่อง ศาสนพิธีและวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ตวั ชว้ี ดั กจิ กรรมการเรียนรู้ โดยใช้รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ ขนั้ สร้างความสนใจ 1. วดี ิทศั น์เรือ่ ง “สารคดีชดุ รอ้ ย ส 1.2 ม.1/4 จดั พิธีกรรมและปฏิบตั ติ น 1. ครใู หน้ กั เรยี นดวู ีดิทศั นเ์ รื่อง “สารคดชี ดุ ร้อยเร่ืองเมืองพทุ ธ ตอน เรอ่ื งเมืองพทุ ธ ตอน การเวยี น ในศาสนพิธี พธิ ีกรรมได้ถูกต้อง การเวียนเทยี น” เป็นเวลาประมาณ 3 นาที เทียน” สาระสาคัญ ภาระงาน/ช้ินงาน พิธกี รรมทางศาสนาเปน็ แบบแผนที่พงึ ปฏิบัติ อธบิ ายและลาดับการปฏิบตั ิ ของศาสนกิ ชนเพอ่ื แสดงความเล่ือมใสศรัทธาตอ่ ศาสนา ศาสนพธิ ีของวันสาคัญทาง ขอบเขตเนอื้ หา พระพทุ ธศาสนา ระเบยี บพธิ ี พธิ เี วียนเทยี น การปฏบิ ตั ิตนใน ททีม่ ม่ี าา ::hhtttppss:/://wwwwww.y.yoouuttuubbee.c.coomm//wwaattcchh??vv==ZZOOZZPPXXYY22550b0IbI วนั มาฆบูชา วนั วสิ าขบชู า วันอฐั มีบชู า วนั 2. คณุ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภิปราย จากวีดิทศั น์ และแสดงความคิดเห็น อาสาฬหบชู า วันธรรมสวนะ และเทศกาลสาคัญ รว่ มกนั โดยมคี าถาม ดงั นี้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑ ) นกั เรยี นปฏิบตั ิศาสนพธิ ีในวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนาวันใดบา้ ง ด้านความรู้ (แนวคาตอบ : วนั มาฆบูชา วันวสิ าขบชู า และวนั อาสาฬหบชู า) 1. อธิบายการปฏิบัตศิ าสนพิธีของวันสาคญั ทาง ๒ ) การเวยี นเทียนมจี ุดมุง่ หมายสาคัญอยา่ งไร พระพุทธศาสนาได้ (แนวคาตอบ : เพอ่ื ให้พุทธศาสนิกชนมโี อกาสไดฟ้ ังธรรมคาสอนจากพระสงฆ์ ด้านทกั ษะและกระบวนการ 2. ลาดับการปฏบิ ตั ิศาสนพธิ ีของวนั สาคัญทาง พระพุทธศาสนาได้ ดา้ นคุณลักษณะ 3. เหน็ ความสาคญั ของวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา 116870

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 29 เรอื่ ง พธิ กี รรมในวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เรื่อง ศาสนพธิ แี ละวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา เปน็ การสืบทอดพระพุทธศาสนาและราลกึ ถงึ คุณพระรัตนตรยั ) 3. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปและเชือ่ มโยงให้นักเรียนเข้าใจ ศาสนพิธใี น พระพทุ ธศาสนาที่เราปฏบิ ตั ินั้น มีความสาคญั ต่อการสืบทอด พระพทุ ธศาสนา ทาใหศ้ าสนิกชนมโี อกาสได้เขา้ วดั และใกลช้ ดิ กบั พระพุทธศาสนาผา่ นการปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ี ขน้ั สารวจและคน้ หา 4. ครแู บง่ กลุม่ นักเรยี นเป็น 8 กลมุ่ แล้วใหน้ กั เรียนจับสลากวนั สาคญั คอื วนั วสิ าขบูชา วนั มาฆบูชา วนั อาสาฬหบชู า วันเขา้ พรรษา วันออกพรรษา วนั เทโวโรหณะ วนั อฐั มีบูชาและวันธรรมสวนะ 5. ครูแจกกระดาษบรู๊ฟเพื่อใหน้ ักเรียนสรปุ ความรู้ตามหัวขอ้ ดงั น้ี - อปุ กรณ์ทตี่ ้องเตรยี ม - สถานที่ปฏิบตั ศิ าสนพธิ ี - ลาดับขน้ั ตอนการปฏิบัติศาสนพิธี โดยศกึ ษาจากหนังสอื เรยี นวิชาพระพุทธศาสนาและจาก อินเตอร์เน็ต ให้เวลาในการศึกษาประมาณ 15 นาที ขั้นอธิบายความรู้ 6. ครูให้นกั เรยี นนาผลงานตดิ บนกระดานหน้าชน้ั เรียน ใหต้ ัวแทนกลุ่มยืน ประจาผลงานเพื่อนาเสนอกลุ่มละไม่เกนิ 2 นาที จากนนั้ ครผู สู้ อนสรปุ การ นาเสนอของนกั เรยี นแต่ละกล่มุ 116881

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 29 เรอ่ื ง พธิ ีกรรมในวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 เรอื่ ง ศาสนพธิ ีและวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ขั้นขยายความเข้าใจ 7. ครูตั้งประเด็นคาถาม ในฐานะทีน่ ักเรียนเป็นชาวพุทธเมื่อถงึ วนั สาคญั ทางศาสนา ถ้าหากไม่ไดม้ โี อกาสได้เข้ารว่ มประกอบพธิ ีกรรมทางศาสนาได้ นักเรียนจะมีแนวทางในการปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร 8. ครใู ห้นกั เรยี นในช้ันเรียนดภู าพการเวียนเทียน และรว่ มกนั ลาดับข้ันตอน การปฏิบตั ศิ าสนพิธเี วยี นเทยี นจากความรู้ทน่ี ักเรยี นได้ศกึ ษาใหถ้ กู ต้อง จากนน้ั ครูทบทวนความรู้และอธิบายเพมิ่ เตมิ ให้นักเรียนเข้าใจ ทท่มี มี่ าา ::hhttttppss::////bbiitt..llyy//22DDbbRRKKYYJJ ที่มา : https://bit.ly/2SUT11ZZAA 116892

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 29 เรอ่ื ง พธิ ีกรรมในวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา เวลา 1 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 5 เร่อื ง ศาสนพิธีและวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ท่มี า : https://bit.ly/22ssnnnnXXWWKK (แนวคาตอบ : ลาดบั ขั้นตอนการปฏบิ ัตศิ าสนพิธเี วียนเทยี น 1. เมอื่ ถงึ เวลานดั หมายประกอบพธิ ีเวียนเทียน ให้ทุกคนเข้าไปใน สถานท่กี าหนดโดยพรอ้ มเพรียงกันก่อนเรม่ิ พธิ ีเวียนเทียน 2. พระสงฆผ์ ูเ้ ป็นประธาน กล่าวคานาบูชา ทกุ คนประนมมือถือ ดอกไม้ธูปเทียนกล่าวตาม 3. หลังจากกล่าวคาบชู าจบ ประธานสงฆ์จะนาเวยี นเทยี น โดย โเวดียนเวทยี กั นษทณิ ักาษวณิ รราตวร(รเตวีย(นเวขยี วนาข) วา) - รอบท่ี 1 ราลกึ ถึงคุณของพระพุทธเจา้ สวดบทอิตปิ โิ ส ภะคะวา... - รอบท่ี 2 ราลกึ คณุ พระธรรม สวดบทสวากขาโต ภะคะวะตา ธมั ธโมั .โ.ม.. - รอบที่ 3 ราลึกคุณพระสงฆ์ สวดบทสปุ ะฏิปนั โน ภะคะวะโต สา สวะากวะกสะังโสฆัง.โ.ฆ 117803

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 29 เรอื่ ง พธิ กี รรมในวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 1 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่ือง ศาสนพธิ ีและวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา 4. เมือ่ เวียนครบ 3 รอบ นาดอกไม้ ธปู เทยี น ไปวางไว้ ณ จดุ ทก่ี าหนด ทม่ี า : เรียบเรยี งจากเว็บไซต์กรมการศาสนา http://www.dra.go.th/sit.em.makahkhababuuchcha/aa/baboouut.tT.hThaia-2i-62-61-9129-02--0- 00..00.h.httmmll)) ข้นั สรุปผล 9. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปความรู้ ครูตัง้ คาถามกบั นกั เรยี นวา่ “จากเรอื่ งทนี่ กั เรยี นได้ศึกษาในวนั นี้ นกั เรยี นคิดวา่ ศาสนพธิ ีมี ความสาคญั ต่อพระพทุ ธศาสนาและพุทธศาสนกิ ชนในประเทศไทยอย่างไร” (แนวคาตอบ : เปน็ การสืบทอดพระพทุ ธศาสนา ,พุทธศาสนิกชนมีโอกาสได้ ฟงั ธรรมจากพระภิกษุสงฆ์และนาหลกั ธรรมไปปฏิบัติ ,เปน็ เอกลกั ษณท์ าง วฒั นธรรมของชาตแิ ละส่งเสริมความสามัคคขี องพุทธศาสนิกชน เปน็ ตน้ ) 10. จากนนั้ ครูสรุปคาตอบของนักเรียนและแนะนาใหน้ ักเรยี นนาความรู้ท่ี ไดจ้ ากการศึกษาในวันนี้ไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ิตจรงิ ในชวี ติ ประจาวนั 117814

185 172 ส่ิงท่ตี ้องการวัด/ประเมนิ วธิ ีการ เคร่ืองมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ประเมินผลงานกลุ่ม แบบประเมินผลงานกลุม่ ดี : อธิบายการปฏบิ ตั ศิ าสน 1. อธิบายการปฏบิ ัติศาสน พธิ ีได้อยา่ งถูกตอ้ ง ชัดเจน พธิ ขี องวนั สาคัญทาง แบบประเมินผลงานกลมุ่ และเข้าใจ พระพุทธศาสนา พอใช้ : อธิบายการปฏบิ ตั ิ คาถามเก่ียวกบั ปศาฏสิบนัตพิศธิาไีสดน้พพอิธเไีขดา้ ้พใจอเข้าใจ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ประเมินผลงานกลุ่ม ความสาคญั ของวนั สาคัญ ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถ 2. ลาดับการปฏิบัติศาสน ทางพระพุทธศาสนา อธิบายการปฏิบัตศิ าสนพธิ ี พิธขี องวันสาคัญทาง ได้ พระพุทธศาสนา ดี : ลาดบั การปฏิบตั ศิ าสน พิธไี ด้ถูกต้อง ครบถว้ น ด้านคุณลกั ษณะ พอใช้ : ลาดบั การปฏิบัตศิ า 3. เห็นความสาคัญของวนั การตอบคาถาม สนพิธไี ด้พอสงั เขป สาคญั ทางพระพุทธศาสนา ปรบั ปรงุ : ไม่สามารถลาดับ ขั้นตอนการปฏิบตั ิศาสนพิธี ได้ ดี : แสดงออกถึงการเห็น ความสาคญั ของวันสาคัญ อย่างชดั เจน ปฏิบัติ ตามลาดบั ขัน้ ตอนไดอ้ ย่าง ถูกต้อง พอใช้ : แสดงออกถึงการ กเหา็นรเคหว็นาคมวสาามคสัญำ� ขคอัญงขวอนั งวัน สาคญั แต่ปฏบิ ตั ิ ผิดขนั้ ตอน ปรบั ปรงุ : ไมเ่ หน็ ความสาคัญของวนั สาคัญ ทางพระพุทธศาสนา

173 186 ๘8. บันทกึ ผผลลหหลลงั งั สสออนน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ....................................................................................................................................... .................................... ลงช่อื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดือน..........พ.ศ............. ๙9. ความมคคิดิดเเหห็นน็ //ขข้ออ้ เสเสนนออแแนนะะขขอองผงผู้บ้บูริหรหิาราหรรหือรผอื ู้ทผี่ไทู้ ด่ีไ้รดบั ้รมบั อมบอหบมหามยาย ................................................................................................................................... ........................................ ลงช่อื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที่..........เดอื น..........พ.ศ........

๑๘๗ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 30 เรอื่ ง เรียนรเู้ ร่อื งวันสาคัญ เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรื่อง ศาสนพธิ แี ละวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ตวั ช้ีวัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ /แหลง่ เรียนรู้ ส 1.2 ม.1/4 จดั พิธกี รรมและปฏิบัติตน ขั้นนา 1. ภาพการเวยี นเทียน 1. ครูใหน้ กั เรยี นดรู ปู ภาพศาสนพธิ ีในวนั สาคัญทางศาสนา 2. ภาพการถวายเทียนพรรษา ในศาสนพิธี พิธีกรรมได้ถูกต้อง 3. วสั ดุ อปุ กรณ์ สาระสาคญั 4. หนังสือเรียนพระพุทธศาสนา พธิ กี รรมทางศาสนาเป็นแบบแผนทพี่ ึง ภาระงาน/ชิ้นงาน ปฏิบตั ขิ องศาสนกิ ชนเพื่อแสดงความเล่ือมใสศรัทธา การสรปุ ประวัตแิ ละการปฏบิ ัติ ต่อศาสนา จากการทาแผนผงั ความคิดเร่ือง ขอบเขตเน้อื หา เรียนรเู้ ร่ืองวันสาคญั 1. ประวตั ิและความสาคัญของวนั ธรรมสวนะ วัน ที่มา : https://teen.mthai.com/app/uploads/2001133.jp.jpgg เวขันา้ เพขรา้ รพษรารษวาัน อวันอกอพอกรรพษรารษวาัน เวทนั โเวทโโรวหโณรหะณะ และมีประเด็นคาถามดังน้ี 2. ระเบยี บพธิ ี พิธีเวยี นเทยี น การปฏิบตั ติ นในวนั ๑) จากภาพเป็นศาสนพิธีใด (แนวคาตอบ : การเวียนเทียน) มวนัาฆมบาฆชู บาชู วาัน วนัสิ วาิสขาบขชู บาูชวา ันวอันัฐอมฐั ีบมชู บี าูชาว นั วธนั รธรรมรสมวสนวนะะ ๒) นักเรยี นจะพบเหน็ การเวียนเทยี นในวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนาวนั วันอาสาฬหบูชา และเทศกาลสาคัญ ใดบา้ ง (แนวคาตอบ : วนั วิสาขบูชา วนั มาฆบูชาและวนั อาสาฬหบูชา) จุดประสงค์การเรียนรู้ จากนัน้ ครูใหน้ ักเรียนดูภาพที่สอง เปน็ ภาพการถวายเทยี นพรรษา ด้านความรู้ 1. อธบิ ายประวัตแิ ละการปฏิบัติศาสนพิธใี นวัน ใสนาวคันัญสทำ� าคงัญพทราะงพพุทรธะศพาทุ สธนศาาสนา ทมี่ า : http://www.bangpoocity.com/main/images/stories/ candle533//ininttrroo11.j.pJPgG 117847

188 188 แผนการแจผัดนกการาเรรจียดั นกราูท้ รี่เร3ีย0นรเูท้รื่อี ง3เ0รยี เนรอ่ืรงูเ้ รเ่ือรงียวนนั รสเู้ ราอ่ืคงัญวนั สาคัญ เวลา 1เวชลวั่ าโมง1 ชว่ั โมง หนว่ ยกาหรนเรว่ ียยนกราู้ทร่ีเ5รียนเรอืู่้ทง่ี 5ศาเสรน่อื พงิธศีแาลสะนวพันิธสแี าลคะญั วทันาสงาพครญั ะทพาทุ งธพศราะสพนทุ าธศาสนา กลุ่มสารกะลกามุ่ รสเารรียะนกราู้ รสเังรคยี มนศรกึู้ สษงั าคมศศาสกึ นษาแศลาะสวนฒั านแธลระรวมฒั นธรรม รายวิชารสางัยควมิชศาึกสษงั าคมศึกษา ชั้นมัธยมชศนั้ กึ มษัธายปมีทศ่ี กึ 1ษาปีท่ี 1 ด้านทักษดะา้ แนลทะกั กษระบแลวะนกกราะรบวนการ ๒ ) จากภ๒า)พจเปาน็กภศาสพนเปพ็นธิ ศีใดาสนพิธีใด 2. สรุปป2ร.ะสวตัรปุิแลปะรกะวาัตรปแิ ฏละิบกตั าิศราปสฏนบิ พัตธิ ิศีในาสวันพธิ ีใน(แวนันวคาต(แอนบว:คกาาตรอถบวา:ยกเาทรยี ถนวพายรรเทษยี านในพชรว่รงษวาันใเนขชา้ ่วพงรวรนั ษเขา)้าพรรษา) สาคัญทาสงาพครัญะพทุทางธพศราะสพนทุ า ธศาสนา ๓ ) เพรา๓ะเ)หเตพุใรดาพะุทเหธตศุใาดสพนุทิกธชศนาจสงึ นถกิวาชยนเจทึงยี ถนวใานยชเทว่ งยี วนนั ในชว่ งวัน เขา้ พรรษเขา้าพรรษา ด้านคุณลดักา้ ษนคณณุ ะลกั ษณะ (แนวคาต(แอนบว:คเาพตรอาบะใ:นเพพทุ ราธะบใัญนญพทุตั ิทธบ่ีกัญาหญนัตดทิ ใหก่ี า้พหรนะภดใิกหษ้พุสรงะฆภจ์ ิกาษสุ งฆจ์ า 3. เห็นป3ระ. โเยหช็นนปข์ รอะงโยวันชนสา์ขคอัญงวทันาสงาคัญทาง พรรษาเปพ็นรเรวษลาเป3็นเดวอืลนา 3ในเสดมือัยนโบในราสณมยัทโี่ยบังรไมาณ่มีไทฟ่ียฟงั า้ไมพ่มรีไะฟภฟิกา้ ษพสุ รงะฆภ์ ิกษสุ งฆ์ พระพทุ ธพศราะสพนทุาธศาสนา จะใช้เทียจนะใใหช้แ้เทสียงสนวใา่หง้แใสนงกสาวรา่ศงกึ ในษกาพารศะกึธษรรามพแรละะธกรรามรปแฏละิบกัตาศิ ราปสฏนบิ กัตจิ ศิ าสนกจิ ของสงฆ์ตขลอองสดงชฆว่ ์ตงจลาอพดรชรว่ ษงจาาจพงึ รกรลษาายเจปงึ ็นกปลราะยเพปณ็นปีทรพ่ี ะุทเพธศณาีทส่พีนุทกิ ธชศนาสนกิ ชน จะถวายเจทะียถนวเาพยือ่ เทเปีย็นนปเพระ่อื โเยปชน็ นปต์ ร่อะพโยรชะนภ์ติก่อษพุสรงะฆภ์แิกลษะวสุ ัดงฆ) แ์ ละวัด) 2. ครใู ห้น2กั. เครรยี ใู นหแ้นบัก่งเรกยีลนมุ่ แโดบย่งใกหลส้ มุ่ มโดาชยกิใหในส้ กมลา่มุชิกมใานจกากลกมุ่ ลม่มุาจวัานกสกาลคุ่มัญวันสาคัญ ทางพระพทุทางธพศราะสพนุทาทธศง้ั า8สนวาันทในงั้ ช8่วั โวมนั งใทนแี่ ชลวั่ ว้โมซงง่ึทจแ่ี ะลม้วสี มซาง่ึ จชะิกมในีสกมลาุ่มชิกในกล่มุ อย่างน้อยอย8่างคนน้อย(อ8าจคซน้าว(นั อไาดจ้ ซแ้าตวท่ ันุกไกดล้ แมุ่ ตจ่ทะุกตก้อลงมุ่ คีจะรบต้อทงุกมวคีันรสบาทคุกัญวนั สาคัญ แตใ่ นกรณแตีทใ่ ีจ่ นากนรวณนีทนี่จกั าเรนียวนไนมักล่ เงรตยี วันไบมา่ลงงกตลวั มุ่ บอาจงกขลาด่มุ วอนั าสจขาคาดญั วบนั าสงาวคันญั บางวนั ใหค้ รมู อบใหห้คมราูมยอสบมหาชมิกายทสกุ มคานชริกบั ทผุกิดคชนอรบับรผว่ ิดมชกอนั บไดร้)ว่ มกันได้) ขัน้ สอน ข้นั สอน 3. จากน3น้ั .ใหจน้ากักนเร้นั ยี ในหท้นกุั กเรลยี มุ่ นสทรกุ ุปกปลรมุ่ ะสวัตรุปิแลปะรกะวารัตปิแฏละบิ กตั าิศราปสฏนิบพตั ิธิศใี นาสนพธิ ใี น วันสาคญั วทันาสงาพครัญะพทุทางธพศราะสพนทุาทธศ้ังา8สนวาันทเงั้ ป8น็ รวปู ันแบเปบน็ แรผปู นแผบงั บคแวาผมนคผิดังคในวามคิดใน หวั ข้อ เรหียัวนขร้อเู รื่อเรงียวนั รส้เู ารคือ่ ญังวันลสงใานคกญั ระลดงาใษนปกระู๊ฟดเปาษน็ ปเวรลู๊ฟาเปปร็นะเมวาลณาป2ระ5มาณ 25 นาที ตามนปารทะี ตเดาน็ มทป่ีกราะหเดนน็ ดทใหี่กา้ คหือนดให้ คอื - วนั ทเ่ี ก-ดิ เวหันตทกุ เี่ ากริดณเห์ ตุการณ์ - เหตกุ าร-ณเหส์ ตาุกคาัญรณส์ าคัญ 188 117858

189 189 แผนกาแรผจนัดกกาารรจเัดรยีกนารเ้ทู รี่ย3นร0ทู้ เ่ี ร3อ่ื ง0เเรรยี ่ือนงรเู้ รยี่อื นงวรันูเ้ รส่ือางควญันสาคญั เวลา เ1วลชาั่วโ1มงชัว่ โมง หนว่ ยกหานรว่ เรยยีกนารเู้ทร่ีย5นรเู้ทร่ีอื 5ง ศเราอื่สงนพศิธาสีแนละพวธิ ันแี สลาะควัญนสทาคงพญั รทะาพงทุพธรศะพาสทุ นธาศาสนา ชน้ั มธั ยชม้นั ศมึกัธษยมาปศีทึกษ่ี า1ปีที่ 1 กลมุ่ สากรละ่มุ กสาารรเระยีกนารเู้ รสยี งั นครมู้ ศสึกงั ษคมาศศึกาษสานาศแาลสะนวาัฒแลนะธวรัฒรมนธรรม รายวิชราายสวงั ิชคามศสกึ ังษคมาศึกษา - การป-ฏกิบาัตรปิศาฏสบิ นตั พิศิธาีสนพิธี - ข้อคิด-ทขี่ไอ้ ดคจ้ ิดาทกี่ไวดัน้จสาากควัญันสาคัญ (หมายเ(หตมุา:ยตเหวั อตยุ :า่ ตงแัวผอนยา่ผงั แคผวนามผคงั คดิ วแานมบคทิดา้ แยนแบผทน้ากยาแรผจนดั การจเรดั ียกนารรนู้ เร)้ี ียนรนู้ )ี้ ขนั้ สรปุขัน้ สรุป 4. ครสู 4ุ่ม.ตคัวรแูสทมุ่ นตกวั ลแุ่มทนักเลรุ่มยี นกัเพเรือ่ ียนนาเพสอื่นนอาผเลสงนาอนผหลนงา้ ชน้นั หเนรียา้ ชนน้ั เรียน ประมาปณระ1มา–ณ21กล–ุ่ม2ใหกเ้ลว่มุ ลาใหกล้เวมุ่ ลลาะกไลมุ่มเ่ กลินะไ5ม่เกนนิาท5ี เมนือ่ านทักี เเมร่ือยี นักเรยี น นาเสนนอาจเบสนคอรจใู หบน้ คกั รเูใรหีย้นักในเรชยี น้ั นเใรนยี ชนัน้ร่วเรมียกนนั รสว่ รมปุ กสนั าสรระปุ สสาาครัญะเสกาย่ี ควัญกเบั ก่ยี วกบั วนั สาควญั นั ทสางคพัญรทะาพงุทพธรศะาพสทุ นธาศโาดสยนคารโูตด้ังยปครระตู เดงั้ ป็นรคะาเถดา็นมคตา่อถไาปมนตี้ ่อไปนี้ ๑ ) นัก๑เร)ยี นกัจเะรนียานหจละกั นธารหรลมกัหธรรือรขม้อหคริดอื ทขี่ไ้อดคจ้ ิดาทก่ีไวดนั จ้ สาากควัญนั ทสางคญั ทาง พระพุทพธรศะาพสทุ นธาศไาปสใชนใ้านไปชวีใชิต้ใปนรชะวี จิตาปวรันะไจดา้อวยัน่าไงดไร้อยา่ งไร (แนวค(าแตนอวบคา:ตเชอ่นบ ห: ลเชกั น่ ธรหรลมกัคธวรารมมไคมวป่ ารมะไมมา่ปทรใะนมวานั ทวใสิ นาวขนั บวูชสิ าาขเรบาูชา เรา จะตอ้ งจมะีสตตอ้ ริ งู้ตมัวสี ใตนริกูต้ าวัรใทนากสาิ่งรตท่าางสๆ่งิ ตแ่าลงะๆไมแ่ปลระไมมา่ปทรใะนมกาาทรใเรนียกนารคเรอื ียน คือ ตั้งใจเรตียง้ั นใจแเลระียทนาแงลาะนททาี่ไงดา้รนบั ทมี่ไอดบ้รหับมาอยบหเปมน็ าตยน้ เ)ป็นตน้ ) 18 176 18

190 119707 สิง่ ที่ต้องการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เคร่อื งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ครตู ้ังคาถามเก่ยี วกับประวตั ิและ ดี : อธบิ ายประวัตแิ ละการ 1. อธิบายประวัติและการ การตอบคาถาม การปฏิบตั ศิ าสนพธิ ใี นวนั สาคัญ กปาฏริบปฏตั บศิ ตาั สศิ นาสพนิธพีไธดิ ไี้อดยอ้ ่ายงา่ ชงชัดดัเจเจนน ปกาฏรบิปัตฏศิบาตั สศิ นาสพนธิ พใี ธนิ ใี วนนัวนสั สาำค� คญั ญั ถกู ต้อง และเหมาะสม ทางพระพุทธศาสนา แบบประเมนิ งานกลมุ่ พอใช้ : อธบิ ายประวตั แิ ละ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ การปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ีไดอ้ ย่าง 2. สรุปประวตั แิ ละการ ประเมนิ งาน ครูต้งั คาถามเกีย่ วกบั คุณคา่ ของ ชดั เจน ถกู ต้อง ปกาฏรบิปตัฏศิบาตั สศิ นาสพนิธพใี ธนิ ใี วนนัวนสั สาำค� คัญญั กลุ่ม วันสาคัญ ปรับปรุง : ไมส่ ามารถอธบิ าย ทางพระพุทธศาสนา ประวตั แิ ละการปฏิบัติ ดา้ นคุณลักษณะ ปฏิบัติศาสนพธิ ีได้ 3. เห็นประโยชน์ของวนั การตอบคาถาม ดี : สรปุ ประวัติและการ สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา กปาฏรปบิ ฏตั บิศตัาศิสานสพนธิพใี ธินใี นวนัวนัสสาำ�คคัญญั ทางพระพุทธศาสนาไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ พอใช้ : สรุปประวัติและการ กปาฏรบิปัตฏบศิ ตาั สศิ านสพนิธพใี ธินใี วนันวนัสสาำ�คคญั ญั ทางพระพุทธศาสนาไดแ้ ต่ไม่ ครบถว้ น ปรับปรงุ : ไม่สามารถสรปุ ได้ ดี : แสดงออกถงึ การเห็น ประโยชน์ของวันสาคัญทาง พระพทุ ธศาสนาได้ชดั เจน เหมาะสม พอใช้ : แสดงออกถึงการเหน็ ประโยชน์ของวันสาคญั ทาง พระพุทธศาสนา ปรับปรุง : ไม่เห็นประโยชน์ ของวันสาคัญทางศาสนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook