ลกั ษณะอนั ชนิ้ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธ์ในการ การวดั และ งประสงค์ งาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมินผล 9.ใหน้ กั เรยี นและครรู ว่ มกันสรุป ความรู้ การเรยี งลำดบั เหตกุ ารณ์ ทำใหจ้ ับใจความเร่ืองท่ีอา่ นได้ เร็วขึ้น 10.ใหน้ กั เรียนทบทวนเน้อื หา นทิ านเรื่อง ยายกะตา 12.ใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะการเรียนรู้ โดยให้นกั เรยี น ต้ังคำถามจากคำตอบ เร่ือง ยายกะตา แลว้ รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 13.ให้นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ เด็กควรเชื่อฟงั ผใู้ หญ่ และมีความรบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ทท่ี ่ี ได้รับมอบหมา 14.ให้นกั เรียนแบง่ กล่มุ ๕ กลมุ่ เพ่ือรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครตู ดิ แถบประโยคคำถามบน กระดานทีละประโยค 15.ให้นกั เรียนและครรู ว่ มกัน สรุปความรู้ การแสดงความ คิดเห็นรว่ มกันทำให้ไดค้ วามรู้ และความคิดจากเร่อื งทีอ่ า่ นมาก ขน้ึ 16.ใหน้ ักเรยี นเขียนนทิ านเรอ่ื งที่ อ่านด้วยภาษาของตนเอง พรอ้ ม ทั้งวาดภาพประกอบ 17.ใหน้ กั เรยี นผลดั กนั ออกมา เลา่ นิทานให้เพอ่ื นฟงั ประกอบ ภาพ
มาตรฐาน/ สาระสำคญั สาระการ นำไปสู่ ตัวช้วี ัด เรียนรู้ สมรรณนะทส่ี ำคัญของผเู้ รียน คณุ ล พึง
ลกั ษณะอนั ชิน้ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยุทธใ์ นการ การวัดและ งประสงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมนิ ผล 18.ให้นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ นทิ านใหท้ ้ังความ สนุกสนานเพลดิ เพลินและข้อคิด ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ สามารถนำมาใช้ ใน ชวี ิตประจำวนั ได้
การออกแบบ รหัส ท ๑๒๑๐๑ รายวชิ า....ภาษาไทย...ชนั้ ประถมศกึ ษาปที .่ี ....๒....หน มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวชวี้ ัด เรียนรู้ สมรรถนะทีส่ ำคญั ของผ้เู รียน คณุ ล พึง มาตรฐาน -การระบุใจความ -อ่านเร่อื งทนั ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร สำคัญของเรือ่ งที่ ข่าวเหตกุ ารณ์ ๒. ความสามารถในการคดิ ๑.ใฝ่เร ท 1.๑ ท 5.๑ อ่าน ทำให้มี -ข่าวและ ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๒.มุง่ มั่น ประสิทธิภาพใน เหตกุ ารณ์สำคัญ 3.รกั คว ตวั ชวี้ ัด การอา่ น -การเลอื กอ่าน ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต - ผ้ทู ตี่ ิดตามข่าว หนงั สือตาม 5.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ท 1.๑ป. 2/๑ อยู่เสมอจะมี ความสนใจ ท 1.๑ป. 2/2 ความรอบรูแ้ ละ -บทอาขยาน ท 1.๑ป. 2/4 ทนั เหตกุ ารณ์ “กาดำ” ท 1.๑ป. 2/5 -การอา่ นอย่าง -การละเล่นกา ท 1.๑ป. 2/8 สมำ่ เสมอเป็น ฟักไข่ ท 5.๑ป. 2/๑ การปลูกฝังนิสยั ท 5.๑ป. 2/3 รักการอา่ น และ ช่วยพัฒนา ความคดิ -การทอ่ งจำบท อาขยานเพ่อื ฝึก ความจำและให้ นำข้อคดิ ไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวัน
บหน่วยการเรยี นรู้ นว่ ยการเรียนรู้ท่.ี ...3...เรอ่ื ง.......ทันข่าวเหตกุ ารณ์......จำนวน.....5.....ชว่ั โมง ลักษณะอนั ชนิ้ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธใ์ นการ การวดั และ งประสงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ประเมนิ ผล รยี นรู้ 1.ใบงาน เรื่อง การ ๑. ใหน้ ักเรียนยกตัวอย่าง - วธิ ีสอนแบบใช้ -แบบสงั เกต นในการทำงาน ระบุใจความสำคัญ แหล่งขา่ วและประเภทของขา่ วท่ี โสตทัศนวัสดุ พฤติกรรมการ วามเป็นไทย และรายละเอียดจาก นกั เรียนรู้จกั ครเู ขยี นบน - การสอนที่เนน้ เข้ารว่ มกจิ กรรม เรอ่ื งท่ีอ่าน กระดาน ทกั ษะกระบวนการ -แบบประเมนิ 2.กจิ กรรมการเลือก 2.ให้นักเรยี นร่วมกันบอกวธิ กี าร คิด (Thinking คุณลกั ษณะอัน อ่านหนังสอื ตามความ ปฏิบัตติ นทแ่ี สดงถึงความเปน็ ผ้มู ี Based Learning) พงึ ประสงค์ สนใจและนำเสนอ ระเบียบวินยั โดยครเู ขียนเปน็ -การเรยี นรู้จากการ -แบบประเมิน เร่อื งทอ่ี ่าน แผนภาพความคดิ บนกระดาน สืบคน้ (inquiry- การอ่าน 3.กิจกรรมการ 3.ให้นักเรยี นอา่ นออกเสียงบท Based learning) -แบบประเมิน ทอ่ งจำบทอาขยาน อ่านเร่ือง ทนั ข่าวเหตุการณ์ การคัดลายมอื 4.ให้นักเรยี นรว่ มกนั อธิบาย ความหมายของขา่ วใน พระราชสำนัก ครชู ่วยแนะนำ และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ 5.ให้นักเรยี นรว่ มกนั บอก ใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน 6.ให้นกั เรยี นรว่ มกันเล่าขา่ ว เก่ยี วกับภยั พบิ ัติทเ่ี กิดจาก ธรรมชาตทิ ่ีนกั เรียนเคยอ่านหรือ ฟงั มา 7.ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ระดม ความคดิ หาสาเหตุท่ีทำให้เกิดภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติและเสนอ แนวทางแกไ้ ข ครชู ว่ ยแนะนำ และอธิบายเพิ่มเตมิ 8.ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๓ - ๕ คน อ่านข่าวทส่ี นใจกลุ่มละ ๑ ขา่ ว แล้วออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น
มาตรฐาน/ สาระสำคญั สาระการ นำไปสู่ สมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รียน คุณล ตัวชว้ี ัด เรียนรู้ พึง -การละเล่นของ ไทยนอกจาก ได้รับความ สนุกสนานแลว้ ยงั เปน็ การเลน่ ท่ี ประหยัดและ ฝึกให้ผเู้ ลน่ ได้ เคลื่อนไหว รา่ งกาย เปน็ คน มปี ฏภิ าณไหว พรบิ และชา่ ง สังเกต
ลกั ษณะอนั ชิน้ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธใ์ นการ การวัดและ งประสงค์ งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมนิ ผล 9.ให้นกั เรียนร่วมกันสนทนา เก่ยี วกับอาหาร โดยบอกช่อื อาหารที่นกั เรียนรจู้ ัก(อาหารท่ีมี ประโยขนแ์ ละไมม่ ปี ระโยชน)์ 10.ให้นักเรยี นอา่ นออกเสยี งขา่ ว เรื่อง “แพทย์เตือน...ภยั รา้ ยจาก สารพษิ ในบา้ นทำเดก็ เสียชวี ติ ” แลว้ ศกึ ษาความหมายของคำท่ี สนใจ ครชู ่วยแนะนำคำท่ี นกั เรยี นอา่ นไมไ่ ด้ 11.ให้นักเรียนทำใบงานที่ ๓๙ เรื่อง การระบใุ จความสำคญั และ รายละเอยี ดจากเรอื่ งทอ่ี า่ น แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง 12.ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมา อา่ นขา่ วท่ีครูมอบหมายให้ไปหา ขา่ วทีส่ นใจ กลมุ่ ละ ๑ ขา่ ว แล้ว รว่ มกันบอกสาระสำคญั ของขา่ ว 13.ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันบอกข้อคิด ท่ีได้จากขา่ วทเ่ี พือ่ นนำมาอา่ น ท่ี สามารถนำไปประยุกต์ใช้ ในชวี ิตประจำวนั 14.ครูชวนนักเรยี นสนทนา เกี่ยวกับหนงั สอื ทเ่ี หมาะสมกบั นกั เรยี น เชน่ หนังสือนิทาน หนงั สือทใี่ หค้ วามรู้ต่าง ๆ ตามวยั และวรรณกรรมสัน้ ๆ สำหรับ เดก็ 15.ใหน้ ักเรียนและครูร่วมกัน สรุปความรู้ การอา่ นอย่าง สม่ำเสมอเป็นการปลกู ฝงั นิสยั รัก การอ่านและชว่ ยพฒั นาความคิด
มาตรฐาน/ สาระสำคญั สาระการ นำไปสู่ ตัวช้วี ัด เรียนรู้ สมรรถนะทส่ี ำคญั ของผูเ้ รยี น คณุ ล พึง
ลกั ษณะอนั ชน้ิ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยทุ ธใ์ นการ การวดั และ งประสงค์ งาน กจิ กรรมการเรียนรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมนิ ผล 16.ให้นกั เรียนอ่านออกเสยี งบท อา่ นเร่ือง ทนั ขา่ วเหตุการณ์ ตาม ครู 17.ให้นักเรยี นอ่านออกเสียงบท อาขยาน “กาดำ” โดยครอู ่าน ออกเสยี งใหน้ ักเรียนฟงั ๑ รอบ แลว้ ใหน้ ักเรยี นอ่านตาม 18.ใหน้ กั เรยี นและครสู นทนา เกย่ี วกับคำศพั ทค์ วรรจู้ ากบท อาขยาน 19.ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ ๔ - ๕ คน เขยี นแผนภาพ ความคดิ สรุปข้อคดิ ทีไ่ ดจ้ ากบท อาขยานเรื่อง “กาดำ” แล้ว ออกมานำเสนอหนา้ ชั้นเรียน 20.ใหน้ ักเรียนฝกึ ทอ่ งบท อาขยานพรอ้ มกัน หรือจับคู่ ชว่ ยกนั ฝกึ ท่องบทอาขยานเพอื่ เตรียมทดสอบเปน็ รายบคุ คล 21.ใหน้ กั เรยี นทมี่ ีประสบการณ์ ในการละเลน่ กาฟักไขม่ าอธบิ าย วธิ เี ล่น โดยครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ จากแผนภูมิ 22.ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั บอก ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั จากการละเล่น ของไทยและสรปุ ความรู้ การละเล่นของไทยนอกจาก ได้รับความสนุกสนานแลว้ ยัง เป็นการเล่นท่ีประหยัดและ ฝกึ ให้ผเู้ ล่นได้เคลอื่ นไหวร่างกาย เปน็ คนมปี ฏิภาณไหวพรบิ และ ชา่ งสังเกต
การออกแบบ รหสั 12101 รายวิชา....ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี.....๒......หน่วยที่ 4 มาตรฐาน/ สาระสำคญั สาระการ นำไปสู่ ตัวชีว้ ัด เรยี นรู้ ๑. การอา่ นออก สมรรถนะทีส่ ำคญั ของ คุณลักษณ มาตรฐาน เสียงให้ถกู ต้อง ๑. การอ่าน ท 1.1 ตามหลกั การอา่ น บนั ทึกประจำวนั ผูเ้ รียน ประส ท ๕.๑ ทำใหส้ ือ่ สารได้ ๒. นทิ านเรอื่ ง ตัวชว้ี ัด ถูกต้องชัดเจน ราชสีหก์ บั หนู ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๑.ใฝเ่ รียนรู้ ท ๑. ป. ๒/๑ ๒. การอ่านออก ๓. การต้งั คำถาม ท ๑. ป. ๒/๒ เสียงให้ถกู ตอ้ ง และตอบคำถาม ๒. ความสามารถในการคดิ ๒.มงุ่ มัน่ ในการท ท ๑.๑ป. ๒/๓ และเข้าใจ เกี่ยวกบั เรอื่ งที่ ท ๑.๑ป. ๒/๔ ความหมายของ อ่าน ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3.รกั ความเป็นไท ท ๑.๑ป. ๒/๕ คำศพั ท์จะทำให้ ๔. การระบุ ท ๑.๑ป. ๒/๖ เขา้ ใจเรอ่ื งราว ขอ้ คดิ จากเรอื่ ง ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะ ท ๑.๑ป. ๒/๗ มากขนึ้ ๕. การเลอื กอา่ น ท ๑.๑ป. ๒/๘ ๓. การอา่ น หนงั สอื ตาม ชีวิต ท ๕.๑ป. ๒/๑ นิทานไดท้ ง้ั ความ ความสนใจ สนกุ สนาน ๖. การใช้สถานที่ 5.ความสามารถในการใช้ เพลดิ เพลินและ สาธารณะ ข้อคิดดี ๆ ๗. คำแนะนำใน เทคโนโลยี ๔. การอ่านอยา่ ง การใชเ้ ครื่องใชท้ ี่ สมำ่ เสมอเป็น จำเป็นในบ้าน การปลูกฝังนิสัย และในโรงเรยี น รักการอา่ น และ ๘. มารยาทใน ช่วยพัฒนา การใช้หอ้ งสมุด ความคิด ๕. การปฏิบัติ ตามป้ายประกาศ คำส่งั ข้อแนะนำ ท่ีปรากฏตาม สถานที่ สาธารณะเป็น
บหน่วยการเรียนรู้ 4 วรรณคดแี ละวรรณกรรม เรอ่ื ง สืบสานมายาทไทย จำนวน..7..ชัว่ โมง ณะอันพงึ ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยุทธใ์ นการ การวัดและ สงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมินผล ทำงาน ๑. กจิ กรรมการอา่ น ๑. ให้นกั เรยี นอ่านตัวอยา่ งการ - วิธีสอนแบบใช้ -แบบสงั เกต ทย ออกเสยี งนทิ าน เขยี นบนั ทกึ ประจำวันจาก โสตทัศนวสั ดุ พฤตกิ รรมการ ๒. ใบงานท่ี ๔๐ เรื่อง แผนภูมทิ ี่ครูตดิ บนกระดาน - การสอนท่เี นน้ เขา้ ร่วมกจิ กรรม การระบุข้อคิดจาก ๒. ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสยี งบท ทกั ษะกระบวนการ -แบบประเมนิ เรือ่ งท่อี า่ น อา่ นเรื่องสืบสานมรรยาทไทย คดิ (Thinking คุณลกั ษณะอัน ๓. ใบงานท่ี ๔๑ เร่อื ง ตั้งแต่ “กอ่ นนอนทุกคนื ...” Based Learning) พึงประสงค์ การปฏิบัตติ ามคำสัง่ จนถึง “...สมุดบันทกึ แสนรกั ” -การเรียนรู้จากการ -แบบประเมิน ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั แกไ้ ขคำท่ี หรือขอ้ แนะนำท่ีอ่าน นักเรยี นอ่านผิดหรือเวน้ วรรคผดิ สืบค้น(inquiry- การอา่ น จากนน้ั รว่ มกนั บอกลักษณะของ Based learning) บนั ทกึ ประจำวัน ๓. ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงบท อ่านเรอื่ งสืบสานมรรยาทไทย ตง้ั แต่ “ตอนเช้าแม่พาณิชาไปส่ง ท่โี รงเรยี น...” จนถึง “...กจ็ ะเปน็ ทีร่ กั ของทกุ คนครับ” ๔. ให้นกั เรียนแต่ละคนบอก ลกั ษณะของตนเองท่ีแสดงถึงการ เปน็ แบบอย่างทด่ี ี คนละ ๑ ข้อ
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวชว้ี ัด เรียนรู้ สมรรถนะทส่ี ำคัญของ คุณลักษณ ผู้เรียน ประส มารยาทที่ควร ปฏิบตั ิ เพราะ เป็นกตกิ าของ สงั คมทจ่ี ะทำให้ ทกุ คนในสงั คม อยู่ร่วมกนั ดว้ ยความสงบสขุ และปลอดภัย ๖. การอา่ น ข้อแนะนำการใช้ ของเครอื่ งใชต้ ่าง ๆ และปฏบิ ัติ อยา่ งถกู ตอ้ ง ทำ ใหผ้ ใู้ ช้ ปลอดภัยและ เคร่อื งใชค้ งทน ๗. การปฏบิ ตั ิ ตามคำสั่งหรอื ขอ้ แนะนำในการ ใชห้ อ้ งสมุดจะ เกิดผลดตี ่อ ตนเองและ ส่วนรวม
ณะอนั พึง ชนิ้ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยทุ ธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้ ประเมินผล ๕. ให้นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั นี้ ๏ การอ่านออกเสยี งให้ถูกต้องตาม หลักการอา่ น ทำให้สอ่ื สารได้ ถูกต้องชดั เจน ๖. ให้นักเรียนจับคู่กันวาดภาพ สัตวใ์ นนิทาน ดังนี้ ตวั ที่ ๑ เป็นเจา้ ป่า ตัวใหญ่ แข็งแรง มีเขยี้ วเล็บแหลมคม ดุ รา้ ย และกนิ เนื้อสัตว์เปน็ อาหาร (ราชสีห์) ตัวท่ี ๒ เป็นสัตวต์ ัวเลก็ ๆ จะพบ เห็นทวั่ ไปตามบา้ นเรอื น คนตง้ั ข้อรังเกียจว่า สกปรกและไร้ ประโยชน์ แมวมักจะจับเปน็ อาหาร (หนู) แล้วนำภาพทว่ี าด มาชว่ ยกนั ทายว่าคอื สัตว์ช่ืออะไร ๗. ใหน้ กั เรียนอา่ นนิทานอสี ป เรือ่ ง ราชสหี ์กบั หนูตามครู ๑ รอบ แลว้ ศกึ ษาคำศพั ท์ที่สนใจ ๘. ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสยี ง พรอ้ มกัน ๑ รอบ ครูสังเกตว่าคำ ใดหรือข้อความใดท่นี กั เรยี น ออกเสียงไม่ถูกตอ้ ง เมอ่ื นกั เรียน อ่านจบครูชว่ ยอ่านคำหรือ ขอ้ ความเหลา่ นน้ั ให้นกั เรยี นฟัง และอ่านตาม ๒ - ๓ ครง้ั จน นักเรียนอา่ นคลอ่ ง
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ประเมนิ ผล ๙. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุม่ ๓ กล่มุ ผลัดกันอ่านออกเสยี งนิทานกล่มุ ละ ๑ ตอน ตามที่ครแู บ่งให้ ในขณะทีฟ่ ังเพ่อื นอ่านใหส้ งั เกต ว่าการอา่ นของเพื่อนมี ข้อบกพร่องอยา่ งไร เมื่ออา่ นจบ ครแู ละนักเรียนร่วมกันแสดง ความคิดเหน็ (ใหค้ รปู ระเมินผล ตัวชี้วัดโดยใชเ้ กณฑ์การ ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) เร่ือง การอา่ นออก เสียงนทิ าน) ๑๐. ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี ๏ การอ่านออกเสยี งให้ถูกต้องและ เขา้ ใจความหมายของคำศพั ท์ จะ ทำใหน้ ักเรียนเขา้ ใจเร่ืองราวมาก ข้นึ ๑๑. ใหน้ กั เรียนตงั้ คำถามและ ตอบคำถามเพอื่ จับใจความจาก เร่ืองโดยแบ่งเป็น ๒ ฝ่าย ผลัดกนั ต้งั คำถามและตอบ คำถามจากนิทานเร่อื ง ราชสีหก์ ับ หนู หรอื คำถามทีเ่ ช่ือมโยง ไปจากเน้ือเรื่องกไ็ ด้ ฝา่ ยที่ตอบ คำถามถกู ตอ้ งจะได้เลือกแผ่น ป้ายที่ครเู ตรียมไว้ ๑ แผน่ ปา้ ย หากเปดิ แผ่นป้ายมาเป็นเลขใดก็ จะไดค้ ะแนนตามจำนวนน้ัน เม่ือ
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยุทธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมนิ ผล จบการแขง่ ขนั ฝ่ายทไ่ี ด้คะแนน มากกว่าเป็นฝา่ ยชนะ (ในการ แข่งขันหากนักเรยี นตง้ั คำถามไม่ หลากหลาย ครอู าจช่วยต้ัง คำถามเพ่มิ เตมิ ) ๑๒. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดง ความคิดเหน็ ตอ่ เรอื่ งที่อ่านใน ประเดน็ ที่ครูกำหนด ๑๓. ใหน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี ๔๐ เร่ือง การระบุข้อคิดจากเรือ่ งท่ี อา่ น แล้วรว่ มกนั สนทนา แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ๑๔. ใหน้ ักเรียนและครรู ว่ มกัน สรุปความรู้ ดงั นี้ ๏ การอ่านนิทานไดท้ ั้งความ สนกุ สนานเพลิดเพลินและข้อคิดดี ๆ ๑๕. ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสยี งบท อา่ นเรอื่ ง สืบสานมรรยาทไทย ต้งั แต่ “เมอื่ นักเรียน อ่านจบแล้ว...” จนถงึ “... นักเรยี นไปเลอื กหนังสือทสี่ นใจ มานงั่ อา่ น” ๑๖. ให้นักเรยี นเลอื กอ่านนทิ าน อีสปทน่ี กั เรยี นสนใจคนละ ๑ เล่ม แลว้ ออกมาเล่า ให้เพื่อนฟงั หน้าชัน้ เรยี น จากนนั้ บอกขอ้ คดิ ทีไ่ ด้รบั พรอ้ มท้งั บอก เหตุผลท่อี า่ น
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยุทธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ประเมนิ ผล ๑๗. ใหน้ กั เรียนอา่ นบทรอ้ ยกรอง มรรยาทในการอ่านจากแผนภมู ิท่ี ครตู ดิ บนกระดาน ๑๘. ให้นักเรยี นรว่ มกนั บอก ประโยชนข์ องการอา่ นหนงั สอื ครูเขยี นเป็นแผนภาพความคดิ บนกระดาน ๑๙. ให้นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี ๏ การอ่านอยา่ งสม่ำเสมอเปน็ การ ปลูกฝังนิสัยรักการอา่ น และช่วย พฒั นาการคิด ๒๐. ให้นักเรยี นดูภาพ สถานการณ์เกย่ี วกบั การปฏบิ ัติ ตนตามคำสัง่ เชน่ หา้ มทิง้ ขยะ กรณุ าเข้าแถว ทคี่ รตู ดิ บน กระดาน ๒๑. ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม ๕ กล่มุ รว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ วา่ ถ้า นกั เรยี นอย่ใู นสถานการณ์ในภาพ จะทำอยา่ งไร ๒๒. ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสยี งบท อา่ น เรอื่ ง สบื สานมรรยาทไทย ตัง้ แต่ “สถานท่ีสาธารณะ คอื ...” จนถึง “...ต้องสอบถามเจา้ หน้าท่ี หรอื ผู้ใหญ่” ๒๓. ใหน้ กั เรียนกลุ่มเดมิ ส่ง ตวั แทนออกมาจับฉลากการ ปฏบิ ตั ิตนเมือ่ อย่ใู นสถานท่ีตา่ ง ๆ
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ประเมินผล เช่น เม่ือเข้าใชห้ ้องสมุด เมือ่ ใช้ โรงอาหาร แลว้ เขียนการปฏิบัติ ตนทเ่ี หมาะสมและเป็นประโยชน์ ต่อสว่ นรวม จากนั้นออกมา นำเสนอหน้าชัน้ เรียน ๒๔. ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่ม คดั เลือกข้อความ ขอ้ แนะนำท่ี ช่วยกันกำหนดกลุ่มละ ๑ ข้อความ มาเขียนใหมใ่ ห้ชัดเจน วาด ภาพประกอบระบายสีใหส้ วยงาม แลว้ นำไปติดบนปา้ ยนิเทศ ๒๕. ให้นักเรยี นและครูรว่ มกัน สรปุ ความรู้ ดังนี้ ๏ การปฏบิ ตั ิตามปา้ ยประกาศ คำสง่ั ขอ้ แนะนำท่ปี รากฏตาม สถานท่ีสาธารณะ เป็น มารยาทท่ีควรปฏบิ ตั ิ เพราะเป็น กติกาของสังคมทีจ่ ะทำใหท้ ุกคนอยู่ ร่วมกันด้วยความสงบสขุ และปลอดภยั ๒๖. ใหน้ กั เรียนสำรวจเคร่อื งใช้ ภายในห้องเรยี น แลว้ รว่ มกัน เสนอแนะเกี่ยวกับวิธีการใช้ เครอ่ื งใช้ภายในห้องเรียนให้ ถกู ต้อง ประหยัดและปลอดภัย ๒๗. ใหน้ ักเรียนอา่ นออกเสยี งบท อ่านเรือ่ ง สืบสานมรรยาทไทย ตัง้ แต่ “...คำแนะนำในการใช้
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยทุ ธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้ ประเมนิ ผล เคร่อื งใชใ้ นบ้าน...” จนถึง “... ล้างมอื ใหส้ ะอาด” ๒๘. ให้นักเรียนแบง่ กลุ่ม ๕ กล่มุ แต่ละกลุม่ ชว่ ยกันศึกษา คำแนะนำการใช้เครอ่ื งใชท้ คี่ รู แจกให้ กลุ่มละ ๑ ชน้ิ ไดแ้ ก่ ตเู้ ยน็ เตารีด คอมพวิ เตอร์ โทรทศั น์ โคมไฟ แลว้ ออกมา อธิบายวธิ ใี ช้ทถ่ี กู ต้องของ เครือ่ งใช้ชนดิ นัน้ ครูช่วยแนะนำ และอธิบายเพ่ิมเติม ๒๙. ให้นกั เรยี นทำใบงานท่ี ๔๑ เรือ่ ง การปฏิบตั ติ ามคำสัง่ หรือ ขอ้ แนะนำทอ่ี ่าน แล้วรว่ มกัน สนทนาแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ ๓๐. ให้นกั เรยี นและครรู ่วมกัน สรปุ ความรู้ ดังน้ี ๏ การอ่านคำแนะนำการใช้ เครื่องใชต้ ่าง ๆ ใหเ้ ข้าใจ และนำไป ปฏบิ ตั ใิ ห้ถูกตอ้ ง จะทำ ให้ผู้ใชป้ ลอดภยั และเคร่อื งใช้คงทน ๓๑. ให้นักเรยี นอ่านบทรอ้ ยกรอง มารยาทในการใชห้ อ้ งสมดุ จาก แผนภูมิท่ีครู ตดิ บนกระดานพร้อมกัน ๓๒. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันสนทนา เก่ียวกับเนื้อหาในบทรอ้ ยกรองวา่ เปน็ มารยาทในการใช้หอ้ งสมุดท่ี ทกุ คนควรปฏบิ ัติ
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้ินงาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยุทธใ์ นการ การวดั และ สงค์ งาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ จดั การเรยี นรู้ ประเมินผล ๓๓. ให้นักเรียนอา่ นออกเสียงเร่ือง สืบสานมรรยาทไทย ต้งั แต่ “ใน ช่ัวโมงส่งเสริมการอ่าน...” จนถึง “...กางหนังสอื แลว้ คว่ำลง” ๓๔. ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ๕ กลมุ่ เขยี นการปฏบิ ตั ติ นที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ ต่อสว่ นรวม ในการใชห้ ้องสมุดลง ในกระดาษทค่ี รแู จกให้ จากนน้ั สง่ ตัวแทนออกมานำเสนอการ ปฏิบตั ิ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั พจิ ารณาและแสดงความคิดเห็น ๓๕. ให้นักเรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดังนี้ ๏ การปฏิบัติตามคำสั่งหรือ คำแนะนำในการใชห้ อ้ งสมุดจะ เกิดผลดตี ่อตนเอง และ สว่ นรวม
การออกแบบ รหัส 12101 รายวิชา....ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ่.ี ....๒......หน่วยที่ 5 มาตรฐาน/ สาระสำคญั สาระการ นำไปสู่ ตัวชี้วัด เรยี นรู้ สมรรถนะท่สี ำคัญของ คุณลักษณ ผเู้ รียน ประส มาตรฐาน 1.ปา่ ไมม้ ีคณุ คา่ 1.เรอ่ื ง ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๑.ใฝเ่ รียนรู้ ท ๕.๑ ต่อการดำรงชีวิต ธรรมชาตแิ สน ตัวช้ีวดั ของคนและสัตว์ งาม ๒. ความสามารถในการคดิ ๒.มงุ่ มัน่ ในการท ท ๕.๑ เราจงึ ควร 2.การประหยดั ป. ๒/๓ อนรุ ักษ์ธรรมชาติ พลังงาน ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3.รกั ความเป็นไท ดว้ ยการ 3.บทอาขยาน รกั ษาปา่ ไมแ้ ละ “รักษาป่า” ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะ ทรัพยากรอยา่ ง คุม้ ค่า ชีวติ 2.การปลูกพชื แบบเกษตร 5.ความสามารถในการใช้ อนิ ทรยี ์ นอกจาก จะรักษา เทคโนโลยี สิ่งแวดลอ้ มยงั เปน็ การประหยัด รายจ่าย เพิ่มรายได้ให้ ครอบครวั ตาม หลักเศรษฐกิจ พอเพียง 3.การใช้ ทรพั ยากรอย่าง ประหยดั จะช่วย ลดภาวะโลกร้อน และเปน็ การ ปอ้ งกันภยั พบิ ัติ ทางธรรมชาติ 4..การทอ่ งจำบท อาขยานเพ่อื ฝึก ความจำและให้
บหน่วยการเรยี นรู้ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม เรื่อง ธรรมชาติแสนงาม จำนวน..4..ช่วั โมง ณะอันพึง ชิ้นงาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยุทธใ์ นการ การวดั และ สงค์ งาน กจิ กรรมการเรียนรู้ จดั การเรยี นรู้ ประเมนิ ผล ทำงาน ๑. ให้นักเรยี นรอ้ งเพลง ป่าชาย -แบบสงั เกต ทย เลนตามครู แลว้ สนทนาเกีย่ วกบั พฤติกรรมการ ป่าชายเลน ครูชว่ ยอธิบาย เขา้ ร่วมกจิ กรรม เพ่ิมเตมิ -แบบประเมิน ๒. ให้นักเรยี นอ่านออกเสยี งบท คณุ ลกั ษณะอนั อา่ นเรื่อง ธรรมชาตแิ สนงาม พงึ ประสงค์ ต้งั แต่ “วันหยุดน้ี พ่อกับแม่จะ -แบบประเมิน พาลูกไปเทีย่ ว ...” การอา่ น จนถงึ “...ตลอดจนพืชยืนตน้ -แบบทดสอบ รอบบรเิ วณบา้ น” ๓. ใหน้ ักเรียนช่วยกันอธิบาย ความหมายของคำศพั ท์ทสี่ นใจ เช่น ลดภาวะโลกร้อน ทอ่ งเทีย่ ว เชงิ อนุรักษ์ มัคคเุ ทศก์ สำรวจ ธรรมชาติ พชื ผกั สวนครวั พืช สมุนไพร ๔. ให้นกั เรยี นบอกประโยชน์ของ ต้นไม้ ครชู ว่ ยแนะนำและอธบิ าย เพมิ่ เติม ๕. ใหน้ กั เรยี นนำเสนอแนวคดิ ใน การลดภาวะโลกร้อนโดยครู บันทกึ เปน็ แผนภาพความคดิ บน กระดาน ๖. ให้นักเรยี นและครูร่วมกันสรุป ความรู้ ดังน้ี
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวชว้ี ัด เรยี นรู้ สมรรถนะทสี่ ำคญั ของ คณุ ลกั ษณ ผูเ้ รยี น ประส นำขอ้ คิดไปใชใ้ น ชีวิตประจำวัน
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยุทธใ์ นการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ประเมนิ ผล ๏ ปา่ ไมม้ คี ณุ คา่ ต่อการดำรงชวี ิต ของคนและสัตว์ เราจงึ ควรอนุรักษ์ ธรรมชาติด้วยการรักษาป่าไม้ และใช้ทรัพยากรอยา่ งคุ้มค่า ๗. ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงบท อา่ นเรอ่ื ง ธรรมชาตแิ สนงาม ต้ังแต่ “เมอื่ เดินมาถึงหน้าบา้ น ...” จนถงึ “...พ่ตี น้ ไผเ่ ลา่ อย่างมคี วามสขุ ” ๘. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความ คดิ เหน็ ในหัวขอ้ การปลูกพชื ปลอดสารพิษและการปลูกพชื โดยใชส้ ารเคมี ให้ประโยชน์และโทษอย่างไร ๙. ให้นักเรยี นร่วมกนั บอกวธิ ีการ รักษาสิง่ แวดลอ้ ม ๑๐. ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งบท อา่ นเรื่อง ธรรมชาตแิ สนงาม ตั้งแต่ “ เช้าวันรงุ่ ข้นึ ...” จนถงึ “...ชมุ ชนของเราพัฒนาได้ รวดเร็วและเข้มแข็ง” ๑๑. ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ ๓ – ๕ คน วาดภาพรณรงค์ให้ นกั เรียนรว่ มกันรักษาสิ่งแวดลอ้ ม ภายในโรงเรยี นแลว้ นำภาพไปจัด ป้ายนเิ ทศหน้าชั้นเรียน ๑๒. ให้นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดังนี้
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธ์ในการ การวัดและ สงค์ งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้ ประเมนิ ผล ๏ การปลูกพืชแบบเกษตรอินทรยี ์ นอกจากส่งผลดีต่อสง่ิ แวดลอ้ มยัง เปน็ การประหยดั รายจ่ายเพมิ่ รายได้ ให้ครอบครัวตามหลัก เศรษฐกิจพอเพยี ง ๑๓. ใหน้ กั เรยี นดภู าพทค่ี รตู ิดบน กระดานหรือจากอินเทอร์เน็ต แลว้ รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น เก่ยี วกบั ภาพเช่น ภาพนำ้ ทว่ ม ภาพโคลนถลม่ ๑๔. ใหน้ กั เรยี นบอกสาเหตทุ ่ที ำ ให้เกิดเหตุการณต์ ามภาพ ๑๕. ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงบท อ่านเรอื่ ง ธรรมชาติแสนงาม พร้อมกัน ตั้งแต่ “ ยามคำ่ ทกุ คน น่ังคุยกัน...” จนถงึ “ ...การ อนรุ กั ษพ์ ลงั งานธรรมชาต”ิ แลว้ บอกสาระสำคญั ของเรอื่ งที่อา่ น ๑๖. ให้นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ ๓ – ๕ คน เขยี นวธิ ีการประหยดั พลงั งานเปน็ แผนภาพความคิด แลว้ ออกมานำเสนอหน้าช้ันเรยี น ๑๗. ให้นักเรียนร่วมกนั บอกวา่ มี วธิ กี ารประหยดั พลังงานใดบ้าง ที่ นกั เรียนเคยปฏบิ ตั แิ ละไม่เคย ปฏิบตั ิ พร้อมทงั้ แสดงเหตุผล ๑๘. ใหน้ ักเรียนกลุ่มเดิม ช่วยกัน วาดภาพรณรงค์ให้ใชพ้ ลังงาน อย่างประหยัด (พลงั งานหาร
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้ินงาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยุทธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ประเมินผล สอง) ครนู ำผลงานไปจดั ป้าย นเิ ทศหน้าชั้นเรียน ๑๙. ใหน้ ักเรยี นและครรู ่วมกัน สรุปความรู้ ดังน้ี ๏ การใชท้ รัพยากรอย่างประหยัด จะช่วยลดภาวะโลกร้อนและเปน็ การปอ้ งกนั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ ๒๐. ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสยี งบท อา่ น เรือ่ ง ธรรมชาติแสนงาม ตงั้ แต่ “ลงุ ภหู ันมาบอกให้ต้นไผ่ ทอ่ งบทอาขยาน...” จนถงึ “... เริ่มสง่ เสยี งเปน็ ทำนองนา่ ฟัง” ๒๑. ให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงบท อาขยาน “รักษาป่า” พรอ้ มกัน อีก ๒ รอบ จากแผนภมู ิที่ครูติด บนกระดาน ๒๒. ให้นกั เรียนซกั ถามคำศัพท์ที่ ไมร่ คู้ วามหมาย ครอู ธิบาย เพมิ่ เติม ๒๓. ใหน้ ักเรียนแบง่ เปน็ ๒ ฝ่าย ท่องบทอาขยานตอ่ กนั ฝา่ ยละ วรรค สลับกันเปน็ ฝา่ ยข้ึนต้น เพือ่ ใหท้ งั้ สองฝ่ายไดท้ ่องครบทกุ วรรค ๒๔. ให้นกั เรียนทดสอบการท่อง บทอาขยานเป็นรายบคุ คล ๒๕. ให้นักเรยี นเติมข้อความจาก บทอาขยานลงในชอ่ งวา่ งและ
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธใ์ นการ การวัดและ สงค์ งาน กจิ กรรมการเรียนรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมินผล เขียนแสดงความคดิ เหน็ จากบท อาขยาน แลว้ ร่วมกันตรวจสอบความ ถกู ตอ้ ง ๒๖. ใหน้ ักเรียนช่วยกันบอก ขอ้ คิดจากบทอาขยาน “รักษา ปา่ ” และประโยชน์ท่ีเกดิ ขึน้ จาก การนำไปปฏบิ ัติ ๒๗. ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงบท อ่านเร่ือง ธรรมชาติแสนงาม ต้ังแต่ “ขณะท่พี ตี่ ้นไผ่ทอ่ งบท อาขยาน...” จนถงึ “...พต่ี น้ ไผพ่ าน้องไปนอน ได้แล้วจะ้ ” ๒๘. ให้นักเรยี นและครรู ่วมกัน สรุปความรู้ ดงั น้ี ๏ การท่องจำบทอาขยานเพื่อฝกึ ความจำและใหน้ ำขอ้ คิดไปใชใ้ น ชวี ิตประจำวัน
การออกแบบ รหสั 12101 รายวิชา....ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท.่ี ....๒......หน่วยที่ 6 มาตรฐาน/ สาระสำคญั สาระการ นำไปสู่ ตัวชี้วัด เรยี นรู้ 1.ปรศิ นาคำทาย สมรรถนะท่สี ำคญั ของ คุณลักษณ มาตรฐาน ช่วยพัฒนาการ 1.ปริศนาคำทาย ท ๕.๑ คดิ วิเคราะห์ ผู้ 2.บทรอ้ งเลน่ ผ้เู รยี น ประส ตวั ชี้วดั เลน่ ปรศิ นาคำ และการละเลน่ ท ๕.๑ ทายจะเกดิ ความ มอญซอ่ นผา้ ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๑.ใฝเ่ รียนรู้ ป. ๒/1 สนุกสนาน และ 3.บทร้องเลน่ ท ๕.๑ ฝึกการใช้ และการละเลน่ รี ๒. ความสามารถในการคิด ๒.มงุ่ มัน่ ในการท ป. ๒/2 ภาษาไทยควบคู่ รขี ้าวสาร กบั การคดิ 4.บทรอ้ งเล่น ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3.รกั ความเป็นไท ๒.บทรอ้ งเลน่ ของภาคตา่ ง ๆ มอญซ่อนผา้ 5.บทสกั วาหวาน ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะ เปน็ บทร้องเลน่ ที่ อน่ื มหี มน่ื แสน ประกอบ 6.บทสกั วาดาว ชีวติ การละเลน่ เพอื่ จระเข้กเ็ หหก ฝกึ ให้ผู้เล่นเปน็ 5.ความสามารถในการใช้ คนวอ่ งไว มไี หว พริบ เทคโนโลยี ๓.บทร้องเล่น รีรี ขา้ วสาร เปน็ บท ร้องเล่นท่ี ประกอบ การละเล่น เพอื่ ฝึกให้ผเู้ ลน่ มี ปฏภิ าณไหวพรบิ ๔.บทร้องเล่น เปน็ เพลงง่าย ๆ สำหรบั เดก็ ที่สืบ ทอดกนั มาแต่ โบราณ เดก็ ไทย
บหนว่ ยการเรียนรู้ 6 วรรณคดีและวรรณกรรม เรือ่ ง เมอื งไทย เมอื งทอง จำนวน..9..ช่ัวโมง ณะอนั พงึ ช้ินงาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธ์ในการ การวัดและ สงค์ งาน กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ประเมนิ ผล ทำงาน การรอ้ งบทร้องเลน่ ๑.ให้นักเรียนอา่ นปริศนาคำทาย - วธิ สี อนแบบใช้ -แบบสงั เกต ทย ในทอ้ งถิน่ จากแถบประโยคทคี่ รูติดบน โสตทศั นวัสดุ พฤติกรรมการ กระดาน แล้วรว่ มกันทายทลี ะ - การสอนทเ่ี นน้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม ปริศนา ทกั ษะกระบวนการ -แบบประเมิน ๒.ให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงบท คดิ (Thinking คณุ ลกั ษณะอนั อ่านเรอื่ ง เมืองไทยเมอื งทอง Based Learning) พงึ ประสงค์ ต้ังแต่ “ ยามเชา้ หลังจากทำ -การเรียนรจู้ ากการ -แบบประเมิน กจิ วัตรประจำวันครบแล้ว...” สบื คน้ (inquiry- การอ่าน จนถึง “ ...วนั เดก็ ครับ” Based learning) -แบบทดสอบ ๓.ใหน้ กั เรยี นและครูรว่ มกัน สนทนาเก่ยี วกบั ธงไตรรงค์ ศาสนาในประเทศไทย และใน หลวง ๔.ใหน้ กั เรียนฟังความเป็นมาของ การเลน่ ปริศนาคำทายจากครู ๕.ให้นักเรียนชว่ ยกันทายปรศิ นา คำทายทค่ี รกู ำหนด ๖.ให้นักเรียนอ่านออกเสียงบท อ่านเรือ่ ง เมืองไทยเมืองทอง ต้งั แต่ “ครูวธิ านแจ้งข่าวดีให้ นักเรียนทราบ...”จนถึง “... นักเรียนสามารถเวียนเข้าฐาน ตามความสนใจ” ๗.ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงบท รอ้ งเล่น มอญซ่อนผา้ จาก แผนภมู ิทค่ี รูตดิ บนกระดาน พรอ้ มกนั จากน้นั ร้องเป็นทำนองตามครู แล้วฝึกรอ้ งดว้ ยตนเองพร้อมกัน ๒ – ๓ รอบ
มาตรฐาน/ สาระสำคญั สาระการ นำไปสู่ ตัวชว้ี ัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คณุ ลักษณ ผ้เู รยี น ประส นยิ มนำมารอ้ ง เล่น และใชป้ ระกอบ การละเล่น ๕.บทสักวา ขนึ้ ตน้ ดว้ ยคำวา่ สักวา และจบ ดว้ ยคำวา่ เอย ๖.ทกุ คนชอบฟัง คำพูดท่ไี พเราะ คนทีพ่ ดู ดจี ะมีแต่ คนชน่ื ชม ๗.ธรรมชาติมี ความงามและมี คณุ ค่า
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยทุ ธ์ในการ การวัดและ สงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จดั การเรยี นรู้ ประเมนิ ผล ๘.ใหน้ กั เรยี นสนทนาร่วมกับครู เกย่ี วกับวิธเี ล่นมอญซ่อนผ้า อาจ ใหน้ ักเรียนทมี่ ปี ระสบการณใ์ น การเล่นมาอธบิ ายวิธีเลน่ หรือถ้า นักเรยี นอธบิ ายไมไ่ ด้ ครเู ปน็ ผู้ อธบิ ายใหฟ้ งั ๙.ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ ๕ – ๗ คน เลน่ มอญซ่อนผา้ ตาม วธิ ีการเลน่ ทตี่ กลงกัน ครูคอย ดูแลให้นักเรียนทกุ คนรว่ ม กิจกรรมและเล่นตามกตกิ า ภายในเวลาทเ่ี หมาะสม ๑๐.ใหน้ กั เรยี นร่วมกันบอก ประโยชนท์ ่ีได้รับจากการละเลน่ มอญซ่อนผา้ ๑๑.ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดังนี้ ๏ บทร้องเลน่ มอญซอ่ นผ้า เป็น บทร้องเลน่ ท่ีประกอบการละเลน่ เพ่อื ฝึกให้ผูเ้ ล่นเปน็ คนวอ่ งไว มไี หวพรบิ ๑๒.ให้นกั เรียนอา่ นออกเสยี งบท รอ้ งเลน่ รรี ขี ้าวสาร จากแผนภูมิ ท่ีครูติดบนกระดานพรอ้ มกนั จากนัน้ รอ้ งเป็นทำนองตามครู แล้วฝกึ ร้องดว้ ยตนเองพรอ้ มกนั ๒ – ๓ รอบ ๑๓.ใหน้ กั เรียนสนทนารว่ มกับครู เก่ียวกับวิธีเล่นรรี ขี า้ วสาร อาจให้ นักเรยี นท่ีมปี ระสบการณใ์ นการ เลน่ มาอธบิ ายวธิ เี ลน่ หรอื ถ้า นักเรียนอธิบายไมไ่ ด้ ครเู ป็นผู้ อธิบายใหฟ้ ัง ๑๔.ใหน้ ักเรยี นเล่นรรี ีข้าวสาร ตามวิธกี ารเลน่ ท่ีตกลงกัน ครู
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยุทธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมินผล คอยดแู ลให้นกั เรยี นทุกคนร่วม กจิ กรรม และเล่นตามกติกา ภายในเวลาทเ่ี หมาะสม ๑๕.ใหน้ ักเรียนร่วมกนั บอก ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการละเล่น รรี ีข้าวสาร ๑๖.ให้นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี ๏ บทร้องเลน่ รรี ีข้าวสาร เป็น บทร้องเลน่ ทีป่ ระกอบการละเลน่ เพอ่ื ฝกึ ให้ผ้เู ลน่ มปี ฏภิ าณไหว พรบิ ๑๗.ให้นักเรยี นอ่านออกเสียงบท รอ้ งเลน่ จากแผนภมู ทิ ่ีครตู ิดบน กระดาน คอื จำ้ จี้มะเขือเปราะ ตะเข้ตะโขง และจนั ทร์เจ้าขา ตามครทู ลี ะวรรคโดยอา่ นออก เสยี งและปรบมอื เป็นจงั หวะตาม ครู หากรอ้ งคล่องแลว้ จะเรง่ จังหวะให้เรว็ ข้นึ เพื่อเพ่มิ ความ สนุกสนานกไ็ ด้ ๑๘.ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๕ – ๗ คน เลอื กบทร้องเล่น ๑ บท ฝึกร้องใหค้ ลอ่ งจะปรบั ปรงุ จงั หวะ และทำนองตามจนิ ตนาการของ นกั เรยี นก็ได้ จากนนั้ ออกมาร้อง ให้เพอื่ นฟังหน้าชน้ั เรยี น(สมาชิก ของแตล่ ะกล่มุ ออกมารอ้ งทุกคน) ๑๙.ให้นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั นี้ ๏ บทร้องเลน่ เป็นเพลงง่าย ๆ สำหรบั เด็กท่สี ืบทอดกนั มาแต่ โบราณ เด็กไทยนิยมนำมารอ้ ง เลน่ และใช้ประกอบการละเลน่
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พงึ ช้ินงาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยุทธ์ในการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้ ประเมินผล ๒๐.ให้นักเรียนอ่านออกเสียงบท อา่ นเร่อื ง เมอื งไทยเมืองทอง ตง้ั แต่ “ปรศิ นาคำทาย...” จนถึง “...หอมอร่อยนา่ กนิ ” ๒๑.ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ ๔ – ๕ กลุ่ม แขง่ ขันทายปรศิ นา โดยครูเปน็ ผทู้ าย กล่มุ ใดยกมอื ขอตอบกอ่ น และตอบไดถ้ ูกต้อง จะไดค้ ะแนนปรศิ นาละ ๒ คะแนน กลมุ่ ใดได้คะแนนมาก ทสี่ ุดจะเป็นฝา่ ยชนะ ๒๒.ใหน้ กั เรยี นกล่มุ เดมิ คิดคำ คล้องจองนำมาแต่งปริศนาคำ ทาย แล้วให้เพอ่ื นชว่ ยกนั ทาย ปริศนา ๒๓.ใหน้ กั เรยี นอ่านปรศิ นาคำ ทาย พจิ ารณาขอ้ ความให้เขา้ ใจ แลว้ ทายคำใหถ้ กู ต้อง ๒๔. ให้นกั เรียนและครรู ่วมกัน สรุปความรู้ ดงั น้ี ๏ ปริศนาคำทายชว่ ยพฒั นาการ คดิ วเิ คราะห์ ผเู้ ล่นปรศิ นาคำทาย จะเกิดความสนุกสนานและฝึก การใช้ภาษาไทยควบคกู่ บั การคดิ ๒๕. ให้นักเรียนรว่ มสนทนา เก่ยี วกบั การละเล่นของเดก็ ไทยที่ นักเรยี นรจู้ ักหรอื เคยเลน่ ๒๖. ให้นกั เรยี นอ่านออกเสยี งบท อา่ นเรือ่ ง เมอื งไทยเมอื งทอง ตั้งแต่ “บทร้องเล่นในทอ้ งถิ่น สำหรบั เด็ก...” จนถึง “...ฟงั ไพเราะ และจดจำได้งา่ ย” ๒๗. ให้นักเรียนอา่ นบทร้องเลน่ ของภาคต่าง ๆ จากแผนภูมทิ คี่ รู ติดบนกระดาน เชน่ บทรอ้ งเล่น
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจดั กลยุทธใ์ นการ การวัดและ สงค์ งาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้ ประเมินผล ของภาคเหนือ ฝนตกสุยสยุ บท รอ้ งเลน่ ในภาคอีสาน โยนชา่ ๒๘. ให้นักเรยี นฝกึ รอ้ งบทรอ้ ง เลน่ ของภาคต่าง ๆ ตามครูจน คลอ่ ง จากนนั้ ฝกึ ร้องดว้ ยตนเอง ๒๙. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๓ – ๕ คน ออกมาร้องบทร้อง เล่นในท้องถ่นิ ท่สี นใจหนา้ ชน้ั เรยี น แล้วให้เพ่ือนชว่ ยกัน ประเมินผลงาน ๓๐. ใหน้ ักเรียนเติมคำจากบท รอ้ งเลน่ ลงในช่องวา่ ง แล้วร้อง เล่นกับเพือ่ น ครชู ่วยแนะนำและ อธิบายเพิ่มเตมิ ๓๑. ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั บอก คุณค่าของบทร้องเล่นและ การละเล่นของเด็กไทย ๓๒. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสนทนา เก่ียวกับบทสักวาตามท่นี กั เรียน เขา้ ใจ ๓๓. ใหน้ กั เรียนสงั เกตแผนภมู คิ ำ ประพันธ์บทสกั วาทคี่ รูตดิ บน กระดาน ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ๓๔.ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงบท อา่ นเร่อื ง เมอื งไทยเมืองทอง ตงั้ แต่ “มารจู้ กั บทสักวา กันครับ...” จนถงึ “...คำสดุ ท้าย จบด้วยคำวา่ เอย” ๓๕. ให้นักเรยี นแบง่ กลุม่ ๔ กลมุ่ แขง่ ขันเรยี งบทสักวาทค่ี รู กำหนดให้ถกู ตอ้ ง จากน้นั อา่ น บทสักวาพรอ้ มกันและรว่ มกัน อภปิ รายถงึ ขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากการ อา่ น
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้นิ งาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยทุ ธใ์ นการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ประเมินผล ๓๖. ใหน้ กั เรยี นและครูรว่ มกัน สรุปความรู้ ดงั นี้ ๏ บทสกั วาข้ึนต้นด้วยคำว่า สักวา และจบด้วยคำวา่ เอย ๓๗. ให้นักเรียนช่วยกันบอกชือ่ ดอกไม้ท่ีมีกลน่ิ หอม จากนัน้ ครู ถามวา่ นกั เรยี นชอบกล่ินหอม หรือไม่ ๓๘. ใหน้ กั เรยี นอ่านบทสักวา “สักวาหวานอ่ืนมหี มนื่ แสน” พรอ้ มกนั ครชู ่วยแนะนำการแบ่ง จงั หวะคำในแตล่ ะวรรค และคำท่ี นักเรียนอา่ นไมถ่ กู ต้อง ๓๙. ให้นกั เรียนสงั เกตและบอก คำทีไ่ มร่ คู้ วามหมาย แลว้ รว่ มกนั หาความหมายของคำ ครชู ว่ ย แนะนำและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ๔๐. ให้นกั เรียนอา่ นบทสักวาอีก ครั้งเพือ่ ให้อา่ นคล่อง และเขา้ ใจ ความหมายของบทสกั วามาก ยิ่งขึน้ ๔๑. ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั สนทนา เกยี่ วกบั ความหมายของสกั วาบท น้ี ๔๒. ให้นกั เรียนชว่ ยกนั บอก ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากสกั วาบทน้ี ครชู ว่ ย แนะนำและอธบิ ายเพิ่มเตมิ ๔๓. ให้นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดังนี้ ๏ ทุกคนชอบฟังคำพดู ท่ไี พเราะ คนทีพ่ ูดดจี ะมีแตค่ นช่ืนชม ๔๔. ให้นกั เรยี นอ่านบทสกั วา “สักวาดาวจระเขก้ ็เหหก” พรอ้ ม กัน ครชู ว่ ยแนะนำการแบง่
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
ณะอนั พึง ช้ินงาน/ภาระ แนวทางการจัด กลยทุ ธใ์ นการ การวดั และ สงค์ งาน กิจกรรมการเรียนรู้ จดั การเรียนรู้ ประเมนิ ผล จงั หวะคำในแตล่ ะวรรค และคำที่ นกั เรยี นอา่ นไมถ่ กู ตอ้ ง ๔๕. ใหน้ ักเรียนสังเกตและบอก คำทีไ่ ม่รคู้ วามหมายจากสักวา ดาวจระเขก้ เ็ หหก แลว้ รว่ มกัน หาความหมาย ครชู ว่ ยแนะนำ และอธบิ ายเพิ่มเติม ๔๖. ให้นักเรยี นอา่ นบทสกั วาอีก ครง้ั เพ่ือให้อ่านคลอ่ ง และเขา้ ใจ ความหมายของบทสกั วามาก ยง่ิ ขนึ้ ๔๗. ใหน้ กั เรียนร่วมกันสนทนา เก่ียวกบั ความหมายของสักวาบท นี้ ๔๘. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั สนทนา เกยี่ วกบั ขอ้ คิดที่ไดจ้ ากสักวาบทน้ี ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณุ คา่ ของธรรมชาติ ๔๙. ให้นักเรยี นแบง่ กล่มุ กลุม่ ละ ๓ - ๕ คน วาดภาพธรรมชาตทิ ่ี งดงาม ระบายสตี กแต่งให้ สวยงาม แล้วออกมานำเสนอ หน้าช้ันเรยี น ๕๐. ใหน้ ักเรียนกลุม่ เดิมร่วมกนั บอกวธิ กี ารอนรุ ักษ์ธรรมชาตใิ ห้ งดงามคงอยตู่ ่อไป โดยเขยี นเป็น แผนภาพความคิด แลว้ ออกมา นำเสนอหน้าชนั้ เรียน ๕๑. ใหน้ ักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังนี้ ๏ ธรรมชาติมคี วามงามและมี คุณค่า
มาตรฐาน/ สาระสำคัญ สาระการ นำไปสู่ ตัวช้ีวัด เรียนรู้ สมรรถนะที่สำคญั ของ คุณลกั ษณ ผเู้ รียน ประส
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202