Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่9 การให้ยา

บทที่9 การให้ยา

Published by siriornk-ple, 2019-08-09 22:15:32

Description: บทที่9 การให้ยา

Search

Read the Text Version

วิธีใชย้ าพ่นจมกู 1. ส่ังนํา้ มูกทิ้งเบา ๆ และใชกระดาษเช็ดภายในจมกู 2. ลา งมอื ใหส ะอาด 3. แหงนหนาเพยี งเล็กนอย 4. กดหลอดยาพน โดยใหหลอดพนสัมผัสปลายจมกู ได 5. ใชผ า สะอาดเช็ดนาํ้ ยาท่ีเกินออก

วิธีใชย้ าสดู พ่นทางปาก 1. เปด ฝาขวดแลว เขยา ขวดยา 2. หายใจออกทางจมูกใหมากท่สี ดุ 3. อมปลายกระบอกยา และหุบปากใหส นทิ 4. ใชน้วิ กดกนหลอดยาลงใหสดุ พรอมกบั หายใจเขา ลกึ ๆ อยา งชา ๆ 5. ดงึ กระบอกพน ออกจากปาก หบุ ปากกลนั้ หายใจใหน านท่ีสุด อยา ง นอย 10 วนิ าที 6. ถา ตองการพน อกี ครง้ั ใหเ วน ระยะหา งอยางนอ ย 1 นาที

วิธีใชย้ าเหน็บทวารหนกั 1. ลางมือใหส ะอาด แกะกระดาษหอ ยาออก 2. นอนตะแคง เหยยี ดขาขา งทน่ี อนทบั ออก และงอเขาขางท่อี ยูขา งบน 3. สวมถุงมือ ทาสารหลอลน่ื บอกผูปวยหายใจเขา ทางปาก คอย ๆ สอดยาเขาทวารหนักใหล ึกจนสุดเมด็ ยาทสี่ อด 4. ใชกระดาษทําความสะอาด และนอนในทาเดิมประมาณ 15 นาที เพอ่ื ใหย าละลายหมด และไมห ลดุ ออกมา 5. หากยาเหนบ็ นม่ิ หรือไมค งรปู ควรแชย าในตเู ยน็ ชองธรรมดา เพื่อให ยาคงรูป 6. ควรเกบ็ ยาเหน็บไวในตเู ย็นชองธรรมดา



วิธีใชย้ าเหน็บช่องคลอด 1. ลา งมือใหส ะอาด แกะกระดาษหอยาออก 2. ปส สาวะกอนใหเ รยี บรอย 3. จมุ ยาลงในนา้ํ สะอาดใหพอเปย กหมาด ๆ 4. ปดตา ใหผ ปู วยนอนหงายชนั เขา แจงผูปวยและคอย ๆ สอด ยาเขาชอ งคลอดใหลกึ ประมาณ 3.5 – 4 นวิ้ 5. นอนพักสกั ครู เพอ่ื ใหย าละลายหมด 6. ทําความสะอาดอปุ กรณ ถอดถุงมือ ลา งมือ และลงบนั ทกึ

ขนาดยา • ปริมาณยาทีให้ผู้ป่ วยตรงตามแผนการรักษาของแพทย์ ใน ปริมาณทีพอเหมาะทีจะตอบสนองตรงตาํ แหน่งทียาออก ฤทธิ

ผลไม่พงึ ประสงค์จากยา • Side effect เกิดกบั ผปู ว ยที่ใชยาปริมาณมากในการรักษา ใชย าเกินขนาด หรอื เปนผล จากการใชยารวมกับยาตัวอ่ืน • Hypersensitivity เกิดอาการพษิ จากยาแมไ ดรับขนาดรกั ษา ไมไดรับยาเปนเวลานาน หรือไมเคยไดรบั ยา มีสาเหตจุ ากรางกายมีความไวตอ ยามากกวา ปกติ หากลดขนาดของยา หรือระยะเวลาใหหางขึ้นก็สามารถใชยาไดตอ • Tolerance คือ การตอบสนองตอยานอ ยลง ตอ งเพิม่ ขนาดยาจึงใหผลในการรกั ษา • Drug allergy แมไ ดข นาดนอย หรือบางครั้งอาจมีการแพถ ึงแมร า งกายเคยไดรับยานั้น มากอน • อาการแพยารุนแรง คือ การช็อกจากการแพ (Anaphylactic shock) หรืออาจพบเปน ลักษณะพพุ อง หนงั เปอยลอกทั้งตัวคลา ยถูกไฟลวก ปากเปอย ตาอักเสบ ทอปส สาวะ อักเสบ มไี ข ซ่งึ เรียกวากลุม อาการสตีเวนจอหนสัน (Stevens Johnson Syndrome) •

• Drug Toxicity - เกิดจาการไดร บั ยาขนาดมากกวาแผนการรักษา - ไดร บั ยานานเกินไป • Drug interactions - ฤทธ์ิยาอาจเพ่ิมขึน้ / ลดลง - ไดย ามากกวา 1 ชนิด - ปฏกิ ิริยากับอาหารบางชนิด - เกิดภายนอกเชน การผสมยาฉีดกับสารนํ้าในขวด • Drug resistance - เชือ้ โรคทนทานตอตานฤทธ์ิของยาท่เี คยใชมากอน - อาจเกิดขึ้นชาๆ หรือ รวดเรว็ - มกั เกดิ กบั ยาปฏิชวี นะ ( antibiotic ) ใชย าติดตอ กันนาน • Drug abuse ใชยาผดิ ทาง



หลกั ทัวไปในการเตรียมและให้ยาแก่ผู้ป่ วย – ตรวจสอบความถูกตอ้ งทงั 6 ประการ ทีเขียนอยใู่ นคาํ สังการรักษาของแพทย์ บตั รการให้ ยา (medication card) หรือใบบนั ทึกการใหย้ า (medication record) หากมีขอ้ สงสยั ใหส้ อบถามแพทยท์ ีเป็นผสู้ ังแผนการรักษานนั – ขณะจดั ยาตอ้ งอ่านชือยา 3 ครัง ครังแรกเมือจะหยบิ ขวดยา ครังทีสองขณะรินยาหรือหยบิ ยา และครังทีสามเมือวางขวดยา – บริเวณทีจดั ยาตอ้ งสะอาด – พยาบาลตอ้ งมีสมาธิขณะทีเตรียมยาและใหย้ าแก่ผปู้ ่ วย ไม่ควรทีจะพดู คุยขณะเตรียมยา ผู้ เตรียมยาและผทู้ ีใหย้ าตอ้ งเป็นคนเดียวกนั เพือทีจะป้ องกนั การผดิ พลาดสบั สน – ถามชือผปู้ ่ วยก่อนทีจะใหย้ าทุกครัง โดยถามวา่ “ผปู้ ่ วยชือ - นามสกลุ อะไร” ไม่ควรถามวา่ “ชือคุณ………..ใช่ไหม” ไม่ใหย้ าโดยดูจากป้ ายเตียงหรือหมายเลขหอ้ ง เพราะอาจมี การเปลียนแปลงได้ ในกรณีผปู้ ่ วยไม่รู้สึกตวั ใหต้ รวจสอบชือผปู้ ่ วยทีป้ ายขอ้ มือ

หลกั ทัวไปในการเตรียมและให้ยาแก่ผู้ป่ วย – ใหผ้ ปู้ ่ วยรับประทานยาต่อหนา้ พยาบาลไม่วางทิงไวข้ า้ งเตียง – ลงบนั ทึกหลงั จากทีใหย้ าแก่ผปู้ ่ วยเรียบร้อยแลว้ การบนั ทึกตอ้ งระบุยาทีให้ ทางทีให้ ขนาด ของยาทีให้ วนั และเวลาทีใหย้ า ขอ้ มลู สาํ คญั อืนๆทีเกียวขอ้ งเช่น อตั ราการเตน้ ของหวั ใจ หลงั การใหย้ าทีมีผลต่ออตั ราการเตน้ ของหวั ใจ ในใบบนั ทึกการใหย้ า (medication record) หรือใบบนั ทึกทางการพยาบาล – ช่วยใหผ้ ปู้ ่ วยไดร้ ับยาง่ายขึน เช่น กรณียาทีมีรสขม หรือรสเฝื อนอาจจดั นาํ ไวต้ ามทีผปู้ ่ วย ตอ้ งการ ถา้ ผปู้ ่ วยกลวั เจบ็ ตอ้ งปลอบและใชเ้ ขม็ ทีคมฉีดดว้ ยความชาํ นาญ กรณีทีไม่สามารถ ใหย้ าไดเ้ ลย เช่น อาเจียนทุกครังหลงั ไดย้ า ตอ้ งรายงานแพทยท์ ราบและลงบนั ทึกไวเ้ สมอ – ประเมินประสิทธิภาพของยาทีให้ เช่น ยาแกป้ วดสามารถลดอาการปวดไดร้ ะดบั ใด ยาลดไข้ สามารถทาํ ใหไ้ ขล้ ดหรือไม่ และลดลงเท่าไร – สงั เกตอาการก่อนและหลงั การใหย้ า – จดั เกบ็ ยาใหถ้ กู ตอ้ งตามคาํ แนะนาํ เพือคงสภาพของยาไว้

หลกั ทัวไปในการเตรียมและให้ยาแก่ผู้ป่ วย • แจง้ ใหผ้ ปู้ ่ วยทราบวา่ ขณะทีอยรู่ ักษาในโรงพยาบาล พยาบาลจะเป็นผทู้ ีจดั และนาํ ยามาใหด้ งั นนั ถา้ มียาอืนทีรับประทานเป็นประจาํ ใหแ้ จง้ ใหพ้ ยาบาลทราบเพือปรึกษาแพทยก์ ่อน • ใหก้ ารพยาบาลแก่ผปู้ ่ วย เพือลดอาการขา้ งเคียง หรือบรรเทาอาการทีเกิดจากฤทธิขา้ งเคียงของยา ดงั นี – ตอ้ งทราบฤทธิของยาและฤทธิขา้ งเคียงของยา เพือสงั เกตและป้ องกนั เช่น กรณีทียาอาจมีการตกตะกอนทาํ ให้ เกิดนิวในไต พยาบาลตอ้ งกระตุน้ หรือดูแลผปู้ ่ วยใหไ้ ดร้ ับนาํ ใหเ้ พียงพอ – แจง้ ใหผ้ ปู้ ่ วยทราบถึงฤทธิและฤทธิขา้ งเคียงของยาตามความเหมาะสมเพือลดความตกใจกลวั เช่น ยาบาง ชนิดอาจทาํ ใหป้ ัสสาวะเปลียนสี ยาบางชนิดอาจทาํ ใหอ้ ุจจาระมีสีดาํ หรือบอกใหร้ ู้วา่ ยาแกป้ วดจะทาํ ใหล้ ด อาการเจบ็ ปวดไดภ้ ายในเวลาเท่าใด

ขอบเขตกฎหมายของพยาบาลในการใช้ยา • มาตรา 27 ห้ามมใิ ห้ผู้ใดซึงมไิ ด้เป็ นผ้ปู ระกอบวชิ าชีพการพยาบาล หรือผดุง ครรภ์ กระทาํ การพยาบาล ในกรณีทีเป็ นนักศึกษาในความควบคุมของสถาบัน ศึกษาวชิ าการพยาบาลสามารถให้การพยาบาลภายใต้การดูแลหรือควบคุมจากครู พยาบาลหรือเจ้าหน้าทีซึงเป็ นผ้ปู ระกอบวชิ าชีพพยาบาล ดงั นันก่อนนักศึกษาพยาบาลกระทาํ กจิ กรรมพยาบาลใดๆกต็ าม ต้องแจ้งอาจารย์นิเทศ หรือ อาจารย์พีเลียงทุกครัง

มาตราต่างๆทีใช้ในการให้ยา • มาตราเมตริก เมตร ลติ ร มลิ ลลิ ติ ร กรัม กโิ ลกรัม • ระบบอะโพเธคารี เป็ นระบบเก่าแก่ แสดงด้วยเลขโรมนั หน่วยพืนฐานของนําหนัก เรียก เป็ นเกรน เช่น ASA grain V

การเปรียบเทยี บหน่วยนําหนัก ระบบเมตริก ระบบอะโพเธคารี 1 mg 1/60 grain 60 mg 1g 1 grain 4g 15 grains 30 g 500 g 1 dram 1000 g 1 ounce 1.1 pound 2.2 pounds

Abbreviations t.i.d. three times a day b.i.d. two times a day q.i.d. four times a day a.c. Before meals h.s. At bedtime p.r.n. As needed q2h Every 2 hours. As in taking a medicine every 2 hours. O.D. Once a day

Time until effect depend on route for administration Route Time until effect IV 30-60 s IM 10-20 min SC 15-30 min ID 5-10 min Oral 30-90 min Sublingual 3-5 min Rectal 5-30 mini transdermal varieable

การฉีดยา

ความหมาย เป็นการฉีดสารทีเป็นของเหลวเขา้ ไปในเนือเยือ หลอดเลือด หรือช่องในร่างกาย การฉีดยาเป็น การใหย้ าทีไดผ้ ลเร็ว แต่มีวธิ ีการทียงุ่ ยาก สินเปลือง เสียงต่ออนั ตราย ดงั นนั การใหย้ าวธิ ีนีจึง กระทาํ เมือจาํ เป็น และเมือไม่สามารถใหโ้ ดยวธิ ีอืนได้

วตั ถุประสงค์ • เพือการรักษา • เพือใหภ้ มู ิคุม้ กนั โรค • เพือทดสอบการแพย้ าและสารบางชนิด • เพือวนิ ิจฉยั

อนั ตรายจากการฉีดยา สําหรับผู้ป่ วย • การให้ยาผิด (ผดิ ชนิด ผดิ ขนาด ผดิ ตัวผู้ป่ วย ผดิ วถิ ีทาง ผดิ เวลา) • การทาํ ลายเส้นประสาท • การเปลียนแปลงของเนือเยือ • การติดเชือ • การแพ้ยา • การไม่เข้ากนั ของยา • ความกลวั และความเจ็บปวด

อนั ตรายจากการฉีดยา สําหรับพยาบาล • ระวงั มใิ ห้ยาฉีดถูกต้องผวิ หนัง • ระวงั หลอดยาบาดมอื • ระวงั เข็มฉีดยาทิมแทงผวิ หนัง • ถ้ามบี าดแผลควรสวมถุงมอื ขณะฉีดยาเพือป้ องกนั โรคตดิ ต่อทางเลอื ด

การฉีดยาเป็นกระบวนการทีประกอบดว้ ย 2 ขนั ตอนใหญ่คือ • การจดั เตรียมยา • การฉีดยา

การจดั เตรียมยา วตั ถุประสงค์ • เพือใหย้ าอยใู่ นสภาพทีพร้อมและเหมาะสมสาํ หรับนาํ ไปฉีดได้ • เพือใหผ้ ปู้ ่ วยไดย้ าฉีดทีถกู ชนิดและขนาด • เพือใหผ้ ปู้ ่ วยไดย้ าฉีดทีสะอาดปราศจากเชือ

อปุ กรณ์ • ยาทีตอ้ งการฉีด • กระบอกฉีดยาขนาดต่าง ๆ • เขม็ ฉีดยาขนาดต่าง ๆ (ดงั ตารางที 1) • อบั ใส่สาํ ลีชุบ 70% alcohol • Transfer forceps • ใบเลือยหลอดยา • ชามรูปไต 1 ใบ สาํ หรับเตรียมสารนาํ และใส่ขยะ 1 ใบ • Tray สาํ หรับใส่กระบอกฉีดยาทีบรรจุยาฉีดแลว้ • ถาดสาํ หรับวางอุปกรณ์ทงั หมด • ถา้ เป็นยาฉีดชนิดผง ตอ้ งเตรียมตวั ทาํ ละลายเพิมอีก เช่น นาํ กลัน, นาํ เกลือ (Physiological saline solution)

กระบอกฉีดยา (Syringe)

ชนิดของกระบอกฉีดยา • 1. กระบอกฉีดยาธรรมดา มขี นาด 3, 10, 20 และ 50 มลิ ลลิ ิตร ใชในการฉดี ยาท่ัว ๆ ไป 2. กระบอกฉีดยาอินซลู นิ ใชใ นการฉีดยาอนิ ซลู นิ มขี นาด 1 มิลลิลิตร มาตรามหี นว ยเปน ยูนิต คือ 40, 80 และ 100 ยูนิต ซ่ึงจะมจี ํานวนชองเทากับ 40, 80 และ 100 ชองตามลําดับ 3. กระบอกฉีดยาทูเบอรค ูลนิ ใชใ นการทดสอบภมู แิ พม ีขนาด 1 มิลลลิ ติ ร มีมาตราขาง กระบอกเปน 0 ถงึ 100 และ 1 ถงึ 16 มินิม

ส่ วนประกอบของกระบอกฉีดยา • 1. สวนปลายสดุ ( TIP) ใชต อเขากบั หัวเขม็ ฉีดยา 2. ตัวกระบอกฉีดยา (Cylindrical barrel) เปนสว นทมี่ มี าตราบอกจํานวนยา 3. ลูกสูบ (Plunger) เปนสว นที่สวมอยใู นกระบอกฉีดยา สว นของกระบอก ฉีดยา ที่ตองรักษาใหป ราศจากเชือ้ คือ สว นปลายสดุ และตวั ลูกสบู

เขม็ ฉีดยา

เขม็ ฉีดยา สว นประกอบของเข็มกระบอกฉีดยา มอี ยู 3 สวน คือ 1. รอยบากปลายเขม็ ( Bevel) 2. ตัวเข็ม ( shaft/cannula) คือสวนทต่ี อจากตัวเขม็ 3. หัวเข็ม ( Hub) ใชส วมติดกับปลายกระบอกฉีดยา การฉีดยา สวนของเข็มฉีดยาท่ีตอ งรกั ษาไวปราศจากเช้ือ คอื บรเิ วณรอยบากปลาย เขม็ และตัวเขม็

ตารางที 1 แสดงขนาดและความยาวของเข็มฉีดยาตามวัตถุประสงค์การใช้ วตั ถุประสงค์การใช้ เบอร์ ความยาว (นิว) ดูดยา ละลายยา 18 – 20 1–1½ ฉีดยาเข้าผวิ หนัง 25 – 27 3/8 – ½ ฉีดยาเข้าใต้ผวิ หนัง 23 – 25 ½ - 5/8 ฉีดยาเข้ากล้ามเนือสําหรับผู้ใหญ่ 20 – 23 1–2½ ฉีดยาเข้ากล้ามเนือสําหรับทารกและเดก็ เลก็ 25 – 27 ฉีดยาเข้าหลอดเลอื ดดาํ 18 – 23 ½-1 1½

ชนิดของยาฉีด 1. ยาหลอดแกว ( ampule) ยาท่ี อยูภายในจะเปนสารละลาย ให หักทค่ี อคอดของหลอดแกว หรือถา หักไมออกใหใชใ บเลอื่ ย เล่ือยเสยี กอ น ถา มแี ถบหรอื จดุ สี แสดงวา ใหเ ล่อื ยหรอื หักตรง ตาํ แหนง ที่มีแถบสี

2. ยาบรรจขุ วด (VIAL) ยาในขวดเปน ผงหรอื สารละลาย บนฝาขวดมจี กุ ยาง และมโี ลหะ ปด ครอบไว ยาชนดิ เปน ผง ตองใชนาํ้ กลน่ั หรือสารละลายที่มาพรอ ม กบั ตวั ยาผสม

วธิ ีเตรียมยาฉีด • วิธีเตรยี มยาฉีดจากยานา้ํ บรรจหุ ลอด (Ampule) • วิธีเตรยี มยาฉีดจากยานาํ้ บรรจขุ วด (Vial)

การคาํ นวณยา อตั ราการไหลของนําเกลอื





การคาํ นวนยาฉีด แพทย์สัง ยา cefazolin 750 mg q 6 ชม. ต้องใช้ยาแต่ละครังกีซีซี และใน 1 วนั ต้องใช้ยาทงั หมดกีขวด (กาํ หนดให้ ยา 1 ขวด มตี ัวยา cefazolin 1 g.) สิงทีต้องรู้ 1. จํานวนซีซีสารละลายทีต้องใช้ในการผสมยา 2. 1 ขวด มตี วั ยาเท่าไร หน่วยเป็ นกรัมหรือมิลลกิ รัมหรือ unit 3. แปลงหน่วยต่างๆให้เป็ นหน่วยเดียวกนั โดยแยกเป็ น สารละลาย และตัวยา

วิธีเตรียมยาฉดี จากยานํา้ บรรจหุ ลอด (Ampule) • 1. ทาํ ความสะอาดรอบคอหลอดยา และใบเลื่อยดวยสําลชี ุบอัลกอฮอล 70% • 2. เล่อื ยรอบคอหลอดยาพอเปนรอย โดยคลสี่ ําลชี บุ อลั กอฮอลรองหลงั คอหลอดยา ถามียาคา ง อยูเ หนอื คอหลอดยาตองไลย าลงไปอยสู วนใตคอหลอดยา ถาหลอดยามแี ถบสที ค่ี อหลอดยาไม จาํ เปนตองเล่อื ยคอหลอดยา • 3. เชด็ รอบคอหลอดยาดว ยสาํ ลีชุบอลั กอฮอล • 4. คลีส่ ําลชี ุบอัลกอฮอล หรือกอซทีผ่ า นการฆาเชือ้ โรคแลว หุม รอบบรเิ วณคอหลอดยาเพ่อื ปอ งกนั หลอดยาทหี่ กั ปลายแลว บาดนว้ิ มือ แลวทําการหักหลอดยา วางหลอดยาท่ีหกั ปลายแลว ในบรเิ วณทไี่ มถกู ปนเปอน

5. แกหอ กระบอกฉดี ยาโดยระวงั มใิ หเกิดการปนเปอ น 6. สวมหวั เขม็ สําหรบั ดดู ยาเขากับปลายกระบอกฉีดยา บดิ หัวเข็มใหแ นนพอประมาณ 7. ถอดปลอกเขม็ ออก จับหลอดยาดวยมือขางที่ไมถนดั ถือกระบอกฉีดยาดวยมือขางท่ีถนัด สอดเข็มเขาหลอดยา ระวงั มิใหเขม็ สมั ผัสกบั ดา นนอกและปากหลอดยา 8. เอยี งหลอดยาใหป ลายตัดเขม็ จุมในนํ้ายา ดดู ยาตามจาํ นวนทีต่ องการ 9. ตรวจสอบชอ่ื ยาบนหลอดยาอีกครั้งหนง่ึ กอนทงิ้ หลอดยา 10. เปลย่ี นเขม็ ใหม เลอื กขนาด และความยาวทเี่ หมาะสมสาํ หรบั การฉดี ยานั้น ๆ 11. ถา เตรียมยาสําหรับฉีดผปู ว ยหลายคนหรือหลายชนดิ พรอ มกนั ควรวางกระบอกฉดี ยาท่ี เตรียมยาแลว บนถาดท่มี ีผาสะอาดปูรอง และมีการด ยาแนบกระบอกฉีดยาไวเพ่อื ปอ งกันการนาํ ยาผดิ ชนิดไปฉดี ใหผปู ว ย

วธิ ีเตรียมยาฉีดจากยานําบรรจุขวด (Vial) 1.เขยา ขวดยาเบา ๆ ใหย าเขากัน 2.ทาํ ความสะอาดจุกขวดยาดว ยสําลีชบุ อัลกอฮอล 70% โดยวิธีหมุนจากจุดท่ีแทงเขม็ วนออก ดานนอกจนถงึ คอขวดยา ( ถามีแผน โลหะปดอยบู นจุกยางใหด งึ ออกแลว ทาํ ความสะอาดอกี ครงั้ หน่ึง ) ปลอยใหอ ลั กอฮอลแ หง 3.แกห อกระบอกฉดี ยาโดยระวังมใิ หเ กิดการปนเปอ น 4.สวมหวั เข็มสําหรับดูดยาเขากับปลายกระบอกฉดี ยา บิดหัวเข็มใหแ นน พอประมาณ 5.ถอดปลอกเข็มออก ดูดอากาศเขากระบอกฉดี ยาเทา ปรมิ าณยาทตี่ อ งการ 6.แทงเข็มเขาจุกยางใชน วิ้ หวั แมมือดันลกู สูบใหอ ากาศเขา ขวดยาจนหมด

• 7.คว่ําขวดยาลง โดยใหน วิ้ ดนั ลูกสบู อยู ปรับใหปลายตัดเขม็ อยใู นนํา้ ยา • 8.คอย ๆ ปลอ ยนิ้วที่ดนั ลกู สูบออก นํา้ ยาจากขวดจะไหลเขามาในกระบอกฉดี ยา เมอื่ ไดย าครบ ตามปรมิ าณทีต่ อ งการ • 9.ถอนเขม็ และกระบอกฉีดยาออกจากจุกขวดยา • 10.ตรวจสอบช่อื ยาบนขวดยาอกี คร้งั หนงึ่ • 11.เปลีย่ นเข็มใหม เลอื กขนาด และความยาวทเ่ี หมาะสมสําหรับการฉดี ยานน้ั ๆ • 12.หากเตรยี มยาสําหรับฉีดผปู ว ยหลายคน หรือหลายชนิดพรอมกนั ควรวางกระบอกฉีดยา ( ทเ่ี ตรยี มยาแลว ) บนถาดทมี่ ีผาสะอาดปูรอง และแนบการดยาไวเพือ่ ปองกนั การนํายาผดิ ชนดิ ไปฉีดใหผ ูป วย

วิธเี ตรียมยาฉีดจากยาผงบรรจขุ วด (วิธีละลายยา) • ตรวจดูตวั ทาํ ละลาย (นาํ กลันหรือนาํ เกลือ) วา่ มีฝ่ นุ ผงหรือไม่ โดยควาํ ขวดยกส่อง ดู หากมีฝ่ นุ ผง ไม่ควรนาํ มาใช้ • ทาํ ความสะอาดจุกขวดตวั ทาํ ละลาย และจุกขวดดว้ ยสาํ ลีชุบอลั กอฮอล์ 70% จนถึงคอขวด ปลอ่ ยใหอ้ ลั กอฮอลแ์ หง้ • ดูดตวั ทาํ ละลายตามปริมาณทีตอ้ งการ ดว้ ยวธิ ีเดียวกบั การเตรียมยาฉีดจากยานาํ บรรจุขวด เมือไดต้ วั ทาํ ละลายแลว้ ใหฉ้ ีดตวั ทาํ ละลายเขา้ ในขวดยาผง โดยแทงเขม็ เขา้ จุกขวดยาแลว้ ดนั ลูกสูบ ใหต้ วั ทาํ ละลายเขา้ ไปในขวดยางจนหมด หลงั จากนัน ปลอ่ ยนิวทีดนั ลกู สูบออก อากาศทีถกู แทนทีดว้ ยตวั ทาํ ละลายจะเขา้ มาในกระบอก ฉีดยาจนหมด ความดนั ในขวดยาจะเท่ากบั ความดนั ในบรรยากาศ

• ถอนเขม็ และกระบอกฉีดยาออกจากขวดยา นาํ ปลอกเขม็ ทีถอดออกมาสวมครอบ เขม็ ไว้ • เขยา ขวด ใหต ัวทําละลาย ละลายผงจนหมดเปน เนื้อเดียวกนั • ทาํ ความสะอาดจกุ ขวดยาอีกคร้งั ดว ยสาํ ลชี ุบอัลกอฮอล ปลอยใหอัลกอฮอลแ หง • ใชกระบอกฉีดยาพรอมเข็มชุดเดมิ ดูดยาออกจากขวดตามปริมาณที่ตอ งการดว ย วิธีเดียวกับการเตรียมยาฉีดจากยานํา้ บรรจขุ วด • หากยาที่ละลายแลว ใชไมห มด และมีอายทุ จี่ ะเก็บไวใชไดใ หเขียนฉลากตดิ ขวดไว เกี่ยวกับความเขมขน ของยา วัน เดอื น ปท ลี่ ะลาย ผูละลาย และเก็บยาไวใ นทีท่ ี่ เหมาะสมตามสลากยาท่ีแนบมากับยา

การฉีดยา โดยทัวไปในการรักษาพยาบาล มี 4 วธิ ี • การฉีดยาเขา กลามเนอ้ื (intramuscular injection) • การฉีดยาเขาใตผิวหนงั (subcutaneous injection) • การฉีดยาเขาหลอดเลอื ดดาํ (intravenous injection) • การฉีดยาเขาผิวหนงั (intradermal injection)

วธิ ฉี ีดยา อุปกรณ วตั ถุประสงค์ 1. ยาทีเ่ ตรียมไว 2. อับสําลีชุบอลั กอฮอล 70% • เพื่อใหผปู ว ยไดรับยาทถ่ี ูกตอง 3. Transfer forceps 4. ชามรูปไต 2 ใบ (ถกู ชนิด ถกู วิถีทาง ถูกขนาด) 5. สายรัดหา มเลือด (tourniquet) สาํ หรับ • เพื่อปอ งกันอันตรายท่จี ะเกิดข้ึนกบั เวลาฉีดยาเขา หลอดเลอื ดดํา ผูปวยอันเนื่องจากการฉีดยา

ข้นั เตรยี มการ • ตรวจความพรอมของเคร่ืองใช • ถามช่ือ – สกุลของผูปว ย รวมถึงประวัติการแพยา • อธิบายใหผ ปู ว ยเขา ใจ • เลอื กบริเวณสําหรบั ฉีดยา ควรหลกี เลย่ี งการฉีดยาในบริเวณท่ีมกี ารอกั เสบ ชํา้ บวม เปนแผล มกี อนแข็ง หรือเปนอัมพาต • จัดทาและเส้ือผาผูปวย เปดบริเวณที่จะฉีดยาใหกวางพอ หากเปนบรเิ วณที่ไมค วร เปดเผยควรปดประตหู รือก้นั มาน • ลางมือใหส ะอาด ใสถงุ มือ

การฉีดยาเขาผิวหนงั (intradermal injection) จดุ ประสงค อุปกรณ • ทดสอบภมู แิ พ ภูมติ านทานโรค • ใหภมู ิคุม กนั โรค 1.บนั ทกึ การใหยาผูป ว ย หรอื การด ยา และคาํ สัง่ การ • ใหย าชาเฉพาะที่ รักษา 2. ยา ตําแหนงฉีดยา 3. เข็มปลอดเชื้อ มักใชเ บอร 24 4. กระบอกฉดี ยาปลอดเช้อื มักใชขนาด 1 มล. หรือ • ทอ้ งแขนดา้ นหนา้ กระบอกฉีดยาสําหรับฉีด tuberculin • หนา้ อกส่วนบน 5. แอลกอฮอล 70 % • ส่วนหลงั ใตก้ ระดูกสะบกั 6. สําลปี ลอดเชื้อบรรจุในภาชนะปลอดเชื้อ 7. ปากคีบปลอดเชอื้ จาํ นวนยาฉีดไมเ กนิ 0.5 cc. แตส วนมากจะฉดี ไมเ กนิ 8. ชามรปู ไต 1 ใบ 0.1 cc. 9. ถาดใสเ คร่ืองใชห รือรถเขน็

วธิ ีการฉีด • ตรวจสอบบันทึกการใหยา หรือการด ยาของผปู วย กบั คาํ สั่งการรักษา • หยบิ ยาใหต รงกบั บนั ทกึ การใหยา หรอื การดยา ตรวจสอบยายงั ไมห มดอายุ • บอกใหผ ปู วยทราบ • ลางมือใหส ะอาด • เตรียมยาฉดี ตามหลักการปลอดเชอื้ • เลือกตําแหนงทฉ่ี ดี ยา หลกี เลย่ี งบริเวณท่มี รี อยถลอก อักเสบ ช้ํา บวมหรอื รอยแผลเปน • เชด็ บริเวณทจ่ี ะฉดี ยาดวยสาํ ลีชุบแอลกอฮอล 70 % เช็ดเปนวงกลมจากตรงกลางออกมา ดา นนอก • ถอดปลอกเขม็ ออก • ขณะทร่ี อใหแอลกอฮอลแหง ไลอากาศในกระบอกฉีดยาโดยจบั กระบอกฉีดยาใหต งั้ ตรง คอ ยๆ ดันลูกสบู จนกระทง่ั เหน็ ยา เขาไปอยูในหวั เข็ม ตรวจสอบจํานวนยาใหถูกตอง

• ดงึ ผวิ หนงั เหนอื บรเิ วณท่จี ะฉดี ยาใหตงึ หงายปลายเข็มขึ้นทาํ มุม 10-15 องศา กบั ผวิ หนัง แทง เขม็ เขา ไปในผวิ หนงั ถงึ ชนั้ หนงั แท โดยหงายปลายตดั เขม็ ขึน และแทงเขา้ ไปเพียงใหป้ ลายตดั เขม็ เลยเขา้ ไปในผวิ หนงั เลก็ นอ้ ย • ดนั ยาเขา ไปในผวิ หนังผปู วย ถายาซึมออกมาแทงเขม็ ลกึ เขาไปอกี เล็กนอ ย เมือ่ ดันยาเขา ไปจะ เห็นตมุ นนู ขน้ึ ถอนเขม็ ออกเลก็ นอย สังเกตอาการของผปู วยทอ่ี าจมปี ฏิกริ ยิ าตอยา เชน ไอ หอบ เหนือ่ ย ชีพจรเบาเร็วหรือหมดสติ • ถอนเขม็ ฉีดยาออก หา มกดหรือนวดบริเวณทีฉ่ ดี เพราะจะทาํ ใหย ากระจายเขา ไปในเนื้อเยื่อ เก็บ เครือ่ งใชและทาํ ความสะอาดใหถูกวิธี • ใชป้ ากกาลูกลืนหมึกสีนาํ เงินหรือดาํ เขียนรอบรอยนูนทีเกิดจากการฉีดยาและบอกผปู้ ่ วยไม่ใหล้ บ รอยหมึกทีเขียนไว้ จนกวา่ จะอ่านผลเรียบร้อยแลว้ • ลงบนั ทึกในแผน บันทกึ การใหยา และประเมินสภาพผูปวยบริเวณท่ฉี ดี ยาภายใน 14 หรอื 48 ชว่ั โมงโดยบันทกึ เสนผาศนู ยก ลางเปน มิลลิเมตรบรเิ วณท่ีมีรอยแดงและแข็ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook