การออกแบบกราฟิกสือโฆษณา

 ขนาดการด์ อวยพรมาตรฐานทวั ไปบางส่วน ได้แก่ :  A7 (5 x 7 นิว้ ) – ขนาดการ์ดมาตรฐาน  A6 (4 x 6 นว้ิ ) – ขนาดการด์ ทีเ่ ลก็ ลงมา ซึ่งตรงกับซองจดหมาย ขนาด A6  A9 แบบหรือพับคร่งึ (5.5 x 8.5 น้ิว) – ขนาดใหญ่  A10 (3.5 x 5 นิ้ว) – การ์ดขนาดเล็ก มักถกู ใชส้ าหรับการด์ ขอบคณุ ในการออกแบบการ์ด เราสามารถยืดหยุ่นในการปรับขนาดได้ วิธีการออกแบบการ์ดอวยพร การ์ดอวยพรท่ีดีท่ีสุดต้องดูเรียบง่ายและ โดดเด่น โดยผสานรวมข้อความท่ีชัดเจนเข้ากับรูปภาพหรือแพทเทิร์น เดยี วท่ีด้านหน้าของการ์ด การ์ดแบบพับช่วยให้เขียนข้อความไว้ด้านใน สามารถวางชอ่ื หรอื โลโกท้ ด่ี า้ นหลงั ของการ์ด

➢ การเลือกแบบอกั ษรและการจัดรปู แบบอกั ษรศลิ ป์ ขอ้ ความบน การ์ดมีความสาคัญ ดงั นนั้ ควรเลอื กใชแ้ บบอักษรท่ีเหมาะสมกบั โทน สีและสไตล์ของการ์ดนัน้ โดยท่ัวไปแล้วการ์ดอวยพร จะดูไม่เป็นทางการ (ยกเว้น การออกแบบการ์ดสาหรับ องค์กร) และแบบอักษร สไตล์วาดด้วยมือหรือเขียน ด้วยลายมือก็สามารถช่วย สร้างความเป็นส่วนตัวและ ความเป็นมติ รมากขึน้

➢ รูปแบบสีท่ีถูกเลือกสรรมาอย่างดีสามารถทาให้ดีไซน์การ์ดอวย พรดูสวยงาม และกาหนดโทนสีและอารมณ์ของดีไซน์ได้ การ์ดวัน เกิด การ์ดวันครบรอบ และการ์ดขอบคุณ การ์ดเหล่าน้ีล้วน เกี่ยวข้องกับการเฉลิมฉลองเหตุการณ์แห่งความสุข ดังน้ันการมอง โลกในแงด่ ีและสีสันท่ีสดใสจะช่วยกาหนดโทนสที ่ีเหมาะสม  สนี อี อน สาหรบั การ์ดอเิ ล็กทรอนิกส์ สีนีออนทสี่ ว่างเป็นพิเศษน้ันเหมาะ สาหรับการสร้างบรรยากาศงานปาร์ตี้ สาหรับการ์ดแบบพิมพ์ ออกมาจะต้องต้ังค่าสีนีออนเป็นสีสปอต ซ่ึงอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ในการพิมพ์

 กลางศตวรรษ สีเอิร์ธโทนผสมผสานกับสีชมพูพาสเทลและสีน้าเงินจะสร้าง ความรู้สึกย้อนยุคและอบอุ่นแบบปี 1950 ให้กับการ์ด สีสันเหล่านี้ เข้ากันได้ดีกับภาพประกอบ เชน่ ในตัวอย่างการด์ ขอบคุณด้านล่าง

➢ การ์ดเทศกาลวันหยุด ทกุ เทศกาลวันหยดุ จะมีสีสันที่เกี่ยวข้องกัน เชน่ สแี ดงและสีเขยี วสาหรับเทศกาลคริสต์มาส แต่ไม่ควรคิดว่าการ ออกแบบถูกจากัดไว้กับเฉพาะพาเลทสีตามฤดูกาลเหล่าน้ีเท่าน้ัน สาหรับเทศกาลวันหยุด ให้พิจารณาใช้ตัวเลือกพาเลทสีเหล่านี้เพื่อ สร้างอารมณ์อนั รน่ื เริง  โทนสอี ญั มณี สสี นั ทเ่ี ข้มข้น เชน่ สีมรกต สีนกเปด็ น้า และสีทบั ทมิ จะ สร้างความล่มุ ลึกและอารมณท์ ่ีรนื่ เรงิ เป็นพิเศษให้กบั การด์ ในธมี เทศกาล วนั หยุด  สีเมทลั ลิค ในขณะทก่ี ารใชห้ มกึ พิมพแ์ บบเมทัลลกิ อาจมรี าคาแพงกวา่ แตส่ าหรบั โอกาสสุดพิเศษ พวกมันสามารถทาใหก้ ารด์ ดูมีมนต์ขลงั อยา่ ง มหศั จรรย์ได้ ลองตั้งค่าไทป์สครปิ ตเ์ ป็นสที อง สีทองแดง หรือสีเงินเพอ่ื เพม่ิ สัมผัสทีพ่ เิ ศษยิง่ ข้นึ

➢ การ์ดแสดงความเสียใจและการ์ดขอให้หายป่วย การ์ดประเภทนี้ เหมาะกับโทนสที ่ีเป็นทางการและสขุ มุ มากกว่า ใหพ้ จิ ารณาใช้  สีพาสเทล – โทนสีพาสเทลทน่ี มุ่ นวลนน้ั ดูสงบและอ่อนโยน และเข้ากัน ไดด้ ีกับภาพดอกไม้  สโี ทนรอ้ น – สีชมพู สีส้ม และสีเหลอื งให้ความรสู้ กึ สบายและอบอนุ่ โดย สร้างความรู้สกึ ผอ่ นคลายและความม่นั ใจให้กบั การด์ ของคุณ การสร้างและการเลือกภาพสาหรับการ์ดอวยพรของคุณ การ์ดแต่ละแบบน้ันมีสไตล์ท่ีแตกต่างกันออกไป รูปภาพสามารถ ท า ง า น ไ ด้ อ ย่ า ง ส ว ย ง า ม ใ น แ บ บ ภ า พ เ ดี่ ย ว ที่ ด้ า น ห น้ า ก า ร์ ด นอกจากน้ีภาพสัตว์หรือภาพทิวทัศน์ขาวดายังเป็นตัวเลือกที่ คลาสสกิ และโดดเด่นสาหรบั การ์ดแบบด้ังเดิม

ภาพประกอบนั้นเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในการออกแบบ การ์ดรว่ มสมัย แพทเทิร์น ภาพสตั ว์ หรอื ภาพผู้คนทถ่ี กู วาดข้ึนอย่างไร้ เดียงสาจะช่วยให้คุณถ่ายทอดบรรยากาศเท่ ๆ และทันสมัยได้ด้วย ดีไซน์ สามารถสร้างภาพประกอบ-ขึ้นเองโดยวาดมือ หรือใช้ ซอฟต์แวร์เวกเตอร์เช่น Adobe Illustrator กไ็ ด้

 วิธีการสง่ ออกการด์ เพอ่ื พมิ พ์หรือส่งออนไลน์ เมื่อออกแบบการ์ดเสร็จแล้ว สามารถส่งออกงานออกแบบ เป็น PDF ท่ีสามารถพิมพ์ออกมาได้อย่างง่ายดาย หรือ JPEG ใน อีเมล แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่จะรองรับภาพในรูปแบบ ไฟล์ JPEG, PNG หรือ GIF

7.1.6.3 รายการอาหาร (Menu) ในการออกแบบเมนูให้น่าสนใจควรใช้หลักจิตวิทยาในการ ออกแบบเมนู เพื่อช่วยดึงดูดให้ลูกค้าส่ังอาหารได้เร็วข้ึน มากข้ึน และบางคร้ังยังชกั จงู ใหล้ ูกค้าสง่ั อาหารจานท่ีเรากาหนดได้ด้วย โดย ใช้หลักการหลายๆ อย่างเข้ามาประกอบ เช่น การใช้สี การจัดวาง องคป์ ระกอบ การใชค้ า เปน็ ตน้ 1. ใช้สีสื่อความหมาย เพราะสีส่งอิทธิพลต่อการรับรู้ของ มนุษย์ได้ เช่น สีเขียว ส่ือความหมายถึงความสดช่ืน จึงควรใช้ ประกอบเมนทู ่ีโดดเดน่ ด้านความสด สะอาด สีส้ม ช่วยกระตุ้นความ อยากอาหาร สีเหลือง ส่ือความหมายถึงความสุข จึงดึงดูดสายตา ของลกู ค้าได้ดี สีแดง กระต้นุ ให้เกดิ การซ้อื ฉะน้ันจึงควรใช้กับเมนูที่ ต้องการขายมากทสี่ ุด เปน็ ตน้

2.ใช้ทฤษฎีสามเหลี่ยมทองคา เป็นทฤษฎีเก่ียวกับการจัด องค์ประกอบท่ีมีช่ือว่า Golden Triangle โดยปกติแล้วเวลาเรา มองเมนูอาหาร สายตาจะตรงไปท่ีบริเวณก่ึงกลางก่อน จากนั้นจึง ค่อยๆ เล่ือนสายตาไปด้านขวาบน และสุดท้ายจะหยุดที่ด้านซ้าย บน เกิดเป็นสามเหล่ียมกลับหัว ฉะนั้น การออกแบบควรใส่เมนูที่ โดดเดน่ และต้องการใหล้ กู คา้ ส่งั บริเวณ 3 จุดยุทธศาสตรน์ ี้ 3.ใช้คาอธิบายเมนูให้ดูน่าต่ืนตาตื่นใจ เช่น “จานเด็ด” “Recommend dish” “เปร้ียวซ่า สะใจ” “กรอบสะท้านโลก” คาอธิบายเหล่าน้ีช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจและอยากส่ังอาหาร ได้มากเลยทีเดียว การใช้คาเด็ดๆ นี้อยา่ ใช้มากเกินไป เพราะลูกค้า อาจจะสับสนได้ เลอื กมาเฉพาะเมนูเด็ดๆ ของร้าน

4.เลือก 2 เมนูเด็ด ไว้บนสุดของเมนู พฤติกรรมส่วนใหญ่ ของผู้บริโภคจะส่ังจากตาแหน่งที่ 1-2 ของเมนู ส่วนตาแหน่งท่ี 3 ท่ีคนนิยมส่ังรองลงมาคือ บริเวณท้ายสุดของเมนู ฉะนั้นควรวาง รายการท่ีเด่นท่ีสดุ 3รายการ ลงท่ี 3 จุด 5.ต้ังราคาให้ดึงดูดใจ เทคนิคการต้ังราคา 199 หรือ 259 หรอื 299 เปน็ อกี หน่งึ ที่ทาให้ลกู ค้ารสู้ ึกว่าราคาไมแ่ พงจนเกินไป 6.อย่าใส่รายละเอียดลงไปเยอะ เพราะเมนูย่ิงเยอะ ลูกค้ายิ่ง เลอื กไมถ่ กู ตัวเลขท่ีเหมาะสมที่สุด ไม่มากเกินไปและน้อยเกินไปคือ ชนิดละ 7 เมนู (อาจแบ่งหมวดเป็นจานผัด จานทอด ของหวาน ฯลฯ อย่างละ 7 เมน)ู เทา่ นล้ี ูกคา้ ก็เลอื กได้อย่างสบายใจ

7. การใส่ story ให้อาหาร การใส่ประวัติของอาหาร มี อทิ ธพิ ลตอ่ ผซู้ ้ือ เพราะจะทาให้ลูกค้ารู้สึกว่าอาหารท่ีเขาซื้อมีคุณค่า มากยิ่งข้ึน หรือการเล่าเร่ืองราวเก่ียวกับเมนูลงไปสักนิด เพื่อให้ ลูกค้าเข้าใจว่าอาหารท่ีพวกเขากาลังจะส่ังมีส่วนประกอบใดบ้าง โดยปกติแล้วทุกเมนูจะจัดวางในรูปแบบเดียวกัน ไม่มีเมนูไหนโดด เด่นเป็นพิเศษ ฉะนั้นลองเลือกเมนูเด็ดๆ มาสัก 2-3 เมนู แล้วจัด วางให้โดดเด่น แตกต่างจากรูปแบบเดิมๆ พร้อมเพ่ิมเติมเรื่องราว เกี่ยวกับเมนูลงไปสักหน่อย อาหารนั้นก็จะกลายเป็นเมนูหลักที่คน ส่งั แทบทุกโต๊ะได้ไม่ยาก

8.วัสดุท่ีทาเมนูส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้าน ร้านอาหาร ระดับ Hi-end ส่วนใหญ่ มักใช้แผ่นหนังหรือกระดาษแข็ง คุณภาพสูงในการจัดทาเมนู เพราะวัสดุเหล่านี้สะท้อนภาพลักษณ์ ของร้านอาหารได้เช่นกัน ทาให้ผู้บริโภครู้สึกว่า อาหารทุกจานต้อง มีคุณภาพสงู ตามวสั ดทุ ใี่ ช้ทาเมนูไปด้วย



7.2 งานกราฟิกบรรจภุ ัณฑ์ บรรจุภัณฑ์มีหน้าที่หลักคือเป็นตัวภาชนะ สาหรับบรรจุ สินค้า มีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามลักษณะของสินค้า เช่น หีบ ห่อ กล่อง ขวด ลัง กระป๋อง ฯลฯ บรรจุภัณฑ์จะมีขนาดต่าง ๆ ตามขนาดท่ีบรรจุสินค้า การออกแบบบรรจุภัณฑ์ แบ่งกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 3 กลุม่ คือ

7.2.1 บรรจุภัณฑ์สาหรับคา้ ปลกี มักออกแบบสวยงาม สะดวกในการใช้สอย น่าใช้ บางชนิด จะเนน้ ความสวยงามเป็นพิเศษ จะมีรายละเอียดของสินค้าบรรจุอยู่ ภายใน

7.2.2 บรรจภุ ณั ฑเ์ พ่ือการค้าส่ง เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบสาหรับบรรจุสินค้าจานวนมากๆ การกาหนดรายละเอยี ดจะแตกต่างออกไป

7.2.3 บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง จะเน้นในเร่ืองความสะดวก ความ ปลอดภัย และความประหยัดในการขนส่ง การออกแบบฉลากของ บรรจุภัณฑ์จะต้องอยู่ภายใต้เง่ือนไขและข้อกาหนดหลายอย่าง นัก ออกแบบมักจะต้องสร้างภาพลักษณ์ของตัวสินค้าให้เกิดความ น่าเช่ือถือ สวยงาม ส่วนการออกแบบหีบห่อบรรจุภัณฑ์ก็มี จุดประสงค์อยา่ งเดียวกันกับฉลากสินค้า แต่มีจุดเด่นคือ เพื่อความ สะดวกในการขนส่ง

7.3 งานกราฟกิ บนเครือ่ งหมายและสัญลักษณ์ สื่อที่เป็นภาพเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ เป็นสื่อที่มีบทบาท อย่างมากในชีวิตประจาวัน ถ้าเรามองไปรอบ ๆ ตัวจะเห็นสื่อที่เป็น ภาพเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ปรากฏอยู่ท่ัวไปการออกแบบ สัญลักษณ์ นักออกแบบจะต้องใช้ความรู้ความสามารถอย่างย่ิงใน การวิเคราะห์เนื้อหาสาระท่ี ต้องการส่ือความหมาย และสังเคราะห์ ให้เป็นรูปลักษณ์ท่ีเป็นส่ิงแทนอันสามารถจะบอกได้ถึงความหมาย ทั้ ง ยั ง ต้ อ ง ใ ช้ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร เ ขี ย น ภ า พ ห รื อ ผ ลิ ต ภ า พ สญั ลกั ษณ์ให้ประณตี คมชดั เพ่ือสื่อความหมายไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง



7.4 การออกแบบภาพประกอบ( Lustration ) การนาเอาภาพมาใช้ในงานกราฟิก ต้องพิจารณาถึง องค์ประกอบและวัตถุประสงค์ของงานน้ันๆ ด้วย ลักษณะเฉพาะที่ แตกต่างกันของภาพแต่ละประเภทย่อมทาหน้าที่ได้เฉพาะทาง ใน การทางานกราฟิกจึงควรได้ทราบถึงประเภทของภาพประกอบที่จะ นามาใช้ 7.4.1 ลักษณะของภาพประกอบ การทาภาพประกอบ อาจ หาได้จากแหล่งต่างๆ ได้แก่ ภาพจริงหรือภาพเหมือนจริง ( Realistic ) เป็นลักษณะภาพท่ีแสดงรายละเอียดตามความเป็นจริง หรือเหมือนของจริงมากที่สุด ภาพลักษณะน้ีอาจแสดงด้วยวิธีการ วาดภาพ ระบายสี หรือการใชภ้ าพถา่ ยก็ได้

1. ภาพการต์ ูน ( Cartoon) อาจมีหลายลักษณะ ได้แก่ การ์ตูนคล้ายของจริง การ์ตูน ตลก การต์ ูนลอ้ เลียนและการ์ตนู ประดิษฐ์





2. ภาพนามธรรม (Abstract) เหมาะสาหรับการนามาตกแต่งงานกราฟิกได้เป้นย่างดี หรือ ชว่ ยเน้นขอ้ ความใหเ้ ด่นชดั ยิง่ ข้ึน

3. ภาพจากคลังภาพ ( Clip – art ) ซ่ึงมีอยู่ในรูปแบบของการค้นหาจากอินเตอร์เน็ตหรือจาก แผน่ ซดี ีทีร่ วบรวมไวเ้ ป็นหมวดหมขู่ องภาพกไ็ ด้



7.4.2 แนวคดิ ในการเลอื กภาพ การนาภาพมาประกอบมาใช้ควรเลือกภาพโดยดูจาก รายละเอียด ความชัดเจน ต้องแสดงหน้าที่อย่างใดอย่างหน่ึงได้ อย่างเต็มท่ี มีลักษณะองค์ประกอบภาพท่ีสามารถนามาใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับองคป์ ระกอบทอ่ี อกแบบไว้ มีความหมายตรงกับเนื้อหา และเสริมเนื้อหาไดม้ ากทสี่ ดุ มคี วามเหมาะสมกับระบบการพิมพ์

7.4.3 การจัดภาพประกอบในงานกราฟิก เน้นความสนใจโดยการ วางแผนการจดั หน้า โดยมีแนวคิดดงั นี้ 1 การออกแบบเพื่อเนน้ ภาพใหเ้ ดน่ ชดั 2 การกาหนดสีพืน้ ให้ขัดแย้งหรือตดั กนั กบั สขี องรปู ภาพ 3 การขยายสว่ นเพื่อเนน้ เฉพาะสว่ นท่เี ป็นสาระของความหมายภาพ 4 การออกแบบตกแตง่ พ้ืนหรอื ฉากหลังภายในภาพ 5 การจัดวางภาพให้น่าสนใจ ได้แก่ การวางเรียงกันอย่างเป็น ระเบียบ วางซอ้ น วางเหลีย่ มกัน หรือการจัดรวมกันให้เปน็ กลุ่ม 6 การสร้างภาพที่มีความต่อเน่ืองกัน สามารถอธิบายความได้ ทง้ั หมด 7 การใชค้ าอธิบายภาพ









 ข้อดีของการใช้ Infographic 1. เขา้ ใจข้อมูลได้ง่ายข้นึ ไมว่ า่ จะมขี ้อมลู มากขนาดไหน หรือรายละเอยี ดเยอะเทา่ ไหร่ แตถ่ ้าสามารถย่อยและสรุปออกมาสน้ั ๆ อยา่ งตรงประเดน็ ทาเป็น รูปภาพให้ดเู ข้าใจง่าย ก็จะทาใหค้ นดเู ขา้ ใจงา่ ยขน้ึ หรอื เห็นครง้ั แรกก็รูส้ ึกสนใจอยากศึกษาต่อทนั ที 2. ทาใหค้ นจาได้ การใชภ้ าพและสสี นั จะช่วยทาใหข้ ้อมลู ดูนา่ สนใจ อีกท้ังยัง ทาใหค้ นจดจาขอ้ มลู ได้มากกว่าการอา่ น และยงั เปน็ การกระตุ้นให้ คนสนใจและจดจาผู้ผลติ หรือแบรนดด์ ้วย

3. สร้างภาพลักษณท์ ด่ี ี สาหรับเพจต่างๆ ท่ีต้องการทา Content Marketing การใช้อินโฟ กราฟิกจะช่วยให้มีภาพลักษณ์ท่ีดีขึ้น เพราะบ่งบอกถึงความใส่ใจในการทา คอนเทนต์ออกมาน่นั เอง 4. นาเสนอข้อมลู ไดห้ ลายรปู แบบ ไม่จาเป็นต้องเป็นข้อมูลเชิงสถิติอย่างเดียวเท่านั้น อาจเป็นการเล่า เรื่องราว การเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ในรูปแบบต่างๆ ทั้งรูปภาพ การ์ตูน คลิปวิดีโอ 5. มอี ัตราการแชร์สงู กวา่ คอนเทนต์แบบอนื่ ๆ อินโฟกราฟิกดูน่าสนใจ สวยงาม ข้อมูลกระชับ ครบถ้วน สามารถ เข้าใจได้ง่ายในภาพเดียว ใช้เวลาในการอ่านไม่มาก สะดวกรวดเร็ว คนจึง นิยมแชรใ์ นโซเชียลมเี ดียเพ่อื เผยแพรค่ วามรูต้ ่อ



 หลักการออกแบบ Infographic 1. ดา้ นขอ้ มูล เรื่องราวท่ีนาเสนอต้องมีความน่าสนใจ หรือเป็นเรื่องที่คนท่ัวไป ต้องการรู้ข้อมูลต้องเป็นความจริง มีความถูกต้อง เน้ือหากระชับ และจัด ข้อมูลใหเ้ ปน็ ระบบระเบียบ สรปุ ประเดน็ เปน็ หวั ข้อใหค้ นอา่ นเขา้ ใจได้งา่ ย 2. ดา้ นการออกแบบ รูปแบบสวยงาม แต่มีความเรียบง่าย ไม่ออกกบบการจัดวางให้ ซบั ซ้อนจนเกนิ ไปดแู ลว้ เขา้ ใจงา่ ย เชน่ การเนน้ หัวข้อ การใส่ตัวเลข รปู ภาพ ที่สื่อถึงข้อมูลได้ชัดเจนมีสีสันสะดุดตา แต่ไม่ลายตา เลือกใช้สีโทนสีให้เข้า กัน ตวั อักษรไมก่ ลนื กับพ้นื หลังสามารถนาไปใช้งานได้จริง เช่น เปิดดูบนมือ ถอื แลว้ ภาพไมเ่ ลก็ หรือใหญเ่ กนิ ไป

 ขน้ั ตอนการทา Infographic 1. กาหนดหวั ขอ้ การกาหนดหัวข้อก่อนจะทาให้กาหนดส่ิงอ่ืนๆ ต่อมาได้ คือ เน้ือหา กลุ่มเป้าหมาย เวลาทจี่ ะเผยแพร่ 2. รวบรวมข้อมูล รวบรวมข้อมูลท่ีสาคัญเอาไว้ และจดบันทึกแหล่งที่มาให้ชัดเจน เพ่ือที่จะสามารถกลับมาตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ในภายหลัง หรือใชส้ าหรับอ้างองิ ในผลงาน 3. อ่านสรุปขอ้ มลู แลว้ เลอื กส่วนสาคญั สิ่งสาคัญในการทา Infographic คือข้อมูลต้องกระชับ ครบถ้วน และเลือก ข้อมูลที่คิดว่าเป็นประโยชน์หรือคนท่ัวไปต้องการรู้มาใส่ไว้ใน Infographic แลว้ จัดกลมุ่ ขอ้ มูล เพ่ือท่จี ะใหม้ ีโครงสร้างชดั เจน เป็นเรอื่ งราว เข้าใจง่าย

4. เลือกรปู แบบ Infographic เลือกรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อนาเสนอข้อมูล เช่น แผนภูมิ ตาราง รูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือการเน้นตัวเลขที่เป็นข้อมูลเชิงสถิติเพื่อความ น่าสนใจ 5. ตรวจสอบความเรียบรอ้ ย เมื่อทาเสร็จแล้ว ควรตรวจสอบอีกครั้ง ข้ันตอนนี้สาคัญ เพราะ Infographic ต้องเป็นส่ิงที่เห็นแล้วสะดุดตา น่าสนใจ อ่านเข้าใจได้ง่าย นอกจากทบทวนด้วยตนเองแลว้ ควรให้คนอืน่ ๆ ช่วยดูด้วยว่าน่าสนใจ อ่าน เข้าใจหรือไม่ 6. เผยแพร่ผลงาน การเผยแพร่บนโลกโซเชียลมีเดีย ควรเขียนแคปชั่นที่น่าสนใจเพ่ือ เปน็ ตัวชว่ ยในการดึงดดู ให้คนอยากรูอ้ ยากอ่าน และควรติดแฮชแทก็ #

ท่ีเก่ียวข้องกับเนื้อหา เพ่ือให้คน สามารถค้นหา Infographic ของ เร า ได้ ง่ า ย ขึ้ น คอ น เท น ต์ ที่ เ ป็ น Infographicนั้ น ไ ด้ รั บ ค ว า ม นิ ย ม อ ย่ า ง ม า ก เ พ ร า ะ เ ห ม า ะ กั บ พฤติกรรมการรับข่าวสารของผู้คน ในปัจจุบันท่ีต้องการความสะดวก และรวดเร็ว จึงเป็นตัวเลือกท่ีดีหาก ตอ้ งการทา Content Marketing





7.6 โฆษณาออนไลน์ โฆษณา สื่อออนไลนแ์ ต่ละชนดิ มรี ูปแบบและวิธกี ารดงั น.้ี . 7.6.1 บรกิ ารของ Google Ads/Google Search

“บริการโฆษณาเวบ็ ไซต์เมื่อมผี ้คู ้นหา Keyword ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง กับสินค้าเรา” คนส่วนใหญ่จะรู้จัก Google Ads ว่าเป็นการโฆษณาเว็บไซต์ เวลามกี าร search เขา้ มา รูปแบบการโฆษณาของ Google Search จะเป็นการเลือกซ้ือ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าท่ีต้องการขาย เพ่ือให้ผู้ค้นหาเจอก่อนเป็นอันดับแรกๆ เพ่ิมโอกาสในการขายให้มาก ขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคีย์เวิร์ดที่ควรใช้ก็คือ Keyword ที่มีโอกาสใน การขายมากท่ีสุด เช่น นาย A ทาเต็นท์รถมือสอง ตัวอย่างคีย์เวิร์ด ที่เก่ียวข้องคือ “รถมือสอง”, “รถมือสองสภาพดี”, “รถมือสองราคา ถกู ”, “รถมอื สองไมเ่ กนิ แสน” เป็นตน้ ถ้ามีผู้พิมพค์ าค้นหาเข้ามาวา่ “รถมือสองไม่เกินแสน” Google ก็จะนาเว็บไซต์เราไปแสดงผลเป็น ลาดับแรกๆ

เพ่ือนาเสนอ Product ของเราให้ลูกค้าเห็นก่อน ซ่ึงตาม สถิติแล้ว เว็บไซต์ที่ข้ึนมาเป็นลาดับแรกๆ จะมียอดคลิกสูงกว่าเว็บ อน่ื ทอ่ี ยลู่ าดบั ล่างลงไป ดังน้ัน Google Search ก็คือบริการที่ทาให้เว็บไซต์ติด อันดบั Top ของหนา้ Google เพ่ือเพมิ่ โอกาสในการขายให้สูงท่ีสุด และเป็นโฆษณาช้ินสาคัญมากที่สุดในบรรดา Adsท้ังหมดด้วย เพราะ Google Search เป็น Ads ขั้นพื้นฐานที่ควรทาเป็นอย่าง แรก

7.6.2 Google Display Network (GDN) GDN จะเป็นรูปแบบโฆษณาที่ผ่านตาเราบ่อยมากท่ีสุดเป็น อันดับ 2 รองจาก Search เพราะ GDN คือแบนเนอร์โฆษณาของ แบรนด์ท่ีปรากฏข้ึนตามเว็บไซต์ต่างๆ ท่ีมีคนเข้าไปดู ซึ่งสามารถ เลอื กได้ดว้ ยวา่ จะใหแ้ บนเนอร์ทตี่ อ้ งการขายสินค้าไปปรากฏบนเว็บ แบบไหน เก่ียวกับอะไร เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากท่ีสุด เช่น ถ้า เป็นธุรกิจทัวร์ต่างประเทศ เว็บไซต์ท่ีควรจะเลือกให้แบนเนอร์ไป โชว์ก็คือ เว็บไซต์แนวท่องเที่ยว, ไลฟ์สไตล์ หรือเว็บวาไรตี้ต่างๆ ที่ เกี่ยวขอ้ งกบั สิ่งที่คุสนิ คา้ ทท่ี าอยู่ เป็นต้น



 GDN จะเป็นรูปแบบโฆษณาท่ีผ่านตาเราบ่อยมากท่ีสุดเป็น อันดับ 2 รองจาก Search เพราะ GDN คือแบนเนอร์โฆษณา ของแบรนด์ท่ีปรากฏข้ึนตามเว็บไซต์ต่างๆ ท่ีมีคนเข้าไปดู ซ่ึง สามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้แบนเนอร์ท่ีต้องการขายสินค้าไป ปรากฏบนเว็บแบบไหน เก่ียวกับอะไร เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย มากท่ีสุด เช่น ถ้าเป็นธุรกิจทัวร์ต่างประเทศ เว็บไซต์ที่ควรจะ เลือกให้แบนเนอร์ไปโชว์ก็คือ เว็บไซต์แนวท่องเที่ยว, ไลฟ์สไตล์ หรอื เวบ็ วาไรต้ีต่างๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั สง่ิ ทคี่ สุ นิ ค้าทีท่ าอยู่ เป็นต้น

 ประโยชนข์ องการทา GDN ก็คือการสร้าง Brand Awareness การสร้างธุรกิจหรือ ช่ือเสียงของธุรกิจให้เป็นที่รู้จักและจดจาได้ในวงกว้าง ทาให้ผู้พบ เห็นจดจาแบรนด์ หรือ Key Messege ท่ีต้องจะส่ือสารออกไปได้ เฉลี่ยแล้วคนจะเห็นโฆษณาของมากถึงหลักแสนคน แต่ใช้ งบประมาณเพียงหลักร้อยเท่าน้ัน นอกจากนี้ สิ่งสาคัญสาหรับการ ทาโฆษณาแบบ GDN ก็คือ แบนเนอร์ต้องมีความสวยงาม และ สื่อสารได้ตรงประเด็นภายในหนึ่งรูปภาพ เพ่ือดึงดูดให้ผู้พบเห็น คลกิ เขา้ มาชม หรอื สร้างภาพจาให้กบั ผชู้ มได้ดที ีส่ ดุ

7.6.3 Youtube Ads Youtube ถือเป็นแหล่งรวมคลปิ วดิ ีโอทางอนิ เตอร์เน็ตท่ี ใหญท่ สี่ ดุ ดว้ ยผใู้ ช้จานวนพนั ล้านกวา่ คน โดยวดิ โี อท่แี ชร์ไปนน้ั จะ เขา้ ถึงกลมุ่ สงั คมออนไลนอ์ ่นื ๆ หากคณุ ตอ้ งการทาคอนเทนสผ์ ่าน วิดโี อที่มีคุณภาพ การโฆษณา ผ่านทาง Youtube ถอื เป็นสง่ิ จาเป็น