องค์การสมัยใหม่ฯ

6. วธิ ีการเสรมิ สรา้ งและปลกู ฝังจริยธรรม 1. วธิ กี ารกระจ่าง 2. วิธกี ารใหเ้ หตผุ ล Enter 4. วิธกี ารเรยี นรู้ ค่านิยม ทางจริยธรรม ทางสังคม 3. วิธกี ารปรับ พฤตกิ รรม

7. จริยธรรมในองคก์ าร 7.1 จริยธรรมต่อลกู คา้ หรือผบู้ ริโภค 7.2 จริยธรรมต่อคูแ่ ข่งทางธุรกจิ 7.3 จริยธรรมตอ่ เจ้าหนี้ 7.4 จริยธรรมตอ่ ลูกจ้างหรอื พนกั งาน 7.5 จรยิ ธรรมตอ่ สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม 7.6 จรยิ ธรรมตอ่ รัฐ

8. นยิ ามความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม

9. องคป์ ระกอบของความรับผิดชอบตอ่ สงั คม 9.2 มิตภิ ายนอก 9.1 มิตภิ ายใน 1. การจัดการกับคู่คา้ และห้นุ ส่วนทรี่ บั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 2. การดูแลผู้บริโภค 1. การจัดการทรพั ยากรมนษุ ยอ์ ย่างมคี วามรบั ผดิ ชอบ 3. ความรับผิดชอบต่อชมุ ชนใกลเ้ คียง 2. สขุ ภาวะและความปลอดภยั ในการทางาน 4. ความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมโดยรวม 3. การปรับตวั ต่อการเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ 4. การจดั การทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในองคก์ าร 5. ธรรมาภบิ าลและความโปร่งใสในการดาเนนิ กจิ การ

หน่วยท่ี 10 การใช้กรณศี กึ ษาและเหตกุ ารณ์จริง วิเคราะหต์ ัดสนิ ใจเพอ่ื การจดั การ

1. ความหมายของกรณีศกึ ษา กรณีศึกษา (Case Study) คือ เรือ่ งราวหรือเหตกุ ารณ์ท่ี เกิดขน้ึ จริง ซึง่ ไดม้ กี ารรวบรวมมาเสนอใหท้ ราบข้อเท็จจรงิ พรอ้ มทัง้ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง เพ่ือจะไดศ้ ึกษาอภปิ ราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวิเคราะห์เร่อื งราวทเ่ี กดิ ข้ึน แล้วสรปุ แนวทางการตดั สินใจหรือวธิ ีแก้ปัญหาที่เห็นวา่ ดี ท่ีสดุ เหมาะสมทีส่ ุด และอานวยประโยชน์มากกว่าแนวทาง หรือวิธแี กป้ ัญหาอ่นื ๆ

2. ลกั ษณะสาคัญของกรณีศกึ ษา 2.1 2.2 ผเู้ รียนสามารถสรา้ ง ผู้เรยี นจะต้องทางานเป็นกลุ่มอย่าง 2.3 องค์ความรูด้ ้วยตนเอง ร่วมมอื รว่ มใจกัน บนพ้ืนฐานจากส่งิ ทรี่ ู้ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การให้เกียรติ อยแู่ ลว้ กบั สงิ่ ท่ีผเู้ รียนสนใจ และการเคารพความคิดซึ่งกัน 2.4 และกัน ผ้เู รยี นไดเ้ ผชญิ และแกป้ ัญหาโดย ไมต่ อ้ งรอ ให้เกดิ ปัญหาจรงิ

3. ความแตกตา่ งระหวา่ ง Case และ Case Study Case คือ กรณีศึกษาที่ใช้เพ่ือการเรยี นการสอนมลี กั ษณะเป็นเร่ืองส้นั ทเ่ี ขยี นข้นึ เพอ่ื บรรยาย สภาพการณข์ องเหตกุ ารณ์ใดเหตกุ ารณ์หนง่ึ บทบาทของผทู้ ีเ่ ก่ยี วขอ้ ง และสถานการณ์คบั ขันทส่ี มควรไดร้ บั การ แกไ้ ข Case Study คือ กรณศี ึกษาทสี่ ะทอ้ นถึงเรอื่ งราว ปจั จัยแหง่ ผลสาเร็จ อุปสรรคหรือเร่ืองราวของ เหตกุ ารณ์ที่ผ่านการวิเคราะห์มาอยา่ งรอบดา้ นและสรปุ มาเปน็ เรอื่ งราวให้ผ้อู า่ นเขา้ ใจไดง้ า่ ย

3. ความแตกตา่ งระหวา่ ง Case และ Case Study การสอนแบบปกติ การสอนด้วยกรณีศกึ ษา 1. ขน้ึ อยกู่ ับวธิ กี ารถ่ายทอดความรู้ของครูผู้สอน 1. ขนึ้ อยู่กับวิธกี ารจัดการและเชอื่ มตอ่ องค์ความรู้ 2. ผู้สอนเป็นจุดศูนย์กลางในการเรียนรู้โดยเป็นผู้บรรยายหลัก และเป็นผู้นาเสนอ 2. ผู้เรียนจะเปน็ จดุ ศูนย์กลางในการเรียนรู้ โดยมีผ้สู อนเป็นผคู้ วบคุมทิศ ข้อมูลและการวิเคราะห์ ทางการเรยี นรู้ 3. ผ้เู รียนมหี นา้ ทจ่ี ดบันทึกอย่างรวดเรว็ เพอ่ื ตามให้ทนั ท่ีผสู้ อนบรรยาย 3. ผู้เรียนมีหน้าที่ต้ังคาถาม โต้ตอบ คิดวิเคราะห์ตามและต่อยอดใน แนวความคิดจากเพอื่ นรว่ มช้นั 4. ผู้เรียนได้รับองค์ความรู้จากการส่ือสารและบอกเล่าจากผู้สอนเพียงด้าน 4. ผู้เรียนจะได้รับการฝึกทักษะครบถ้วน ทั้งการฟัง การคิดเชิงวิเคราะห์ เดยี ว การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ทักษะการสือ่ สาร การใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์ใน การแกป้ ญั หา 5. เนือ้ หาในการเรียนมคี วามเจาะจงในรายวชิ า 5. องค์ความรู้ที่ผู้เรียนได้รับครอบคลุมองค์ความรู้ จากรายวิชาที่ หลากหลาย รวมถงึ ประสบการณ์ทแี่ ตกต่าง

4. องค์ประกอบของกรณศี ึกษา องค์ประกอบที่สาคัญในการใช้กรณีศึกษาสาหรับห้องเรียนน้ันควรมีองค์ประกอบ 3 ด้านหลัก ได้แก่ กรณีศกึ ษาทใี่ ช้ กิจกรรมทใี่ ช้ และบรรยากาศในหอ้ งเรียน 1) กรณีศกึ ษาท่ใี ช้ 1) เขยี นดว้ ยขอ้ ความบรรยายทชี่ ัดเจน 2) มีเนือ้ หาบนพน้ื ฐานของเร่ืองจรงิ และมคี วามสมั พนั ธก์ ับชวี ติ ประจาวนั ของ ผู้เรียน 3) มีจุดเน้นที่เกีย่ วขอ้ งกบั ปรากฏการณธ์ รรมชาติหรอื ขอ้ ปญั หา 4) กระตุน้ ใหผ้ ูเ้ รียนตงั้ คาถาม 5) ส่งเสริมให้มีการบูรณาการทางวชิ าการ

4. องคป์ ระกอบของกรณศี ึกษา 2) กจิ กรรมที่ใช้ 1) สร้างคาถามให้ผู้เรียนท่ีส่งเสริมทักษะการคิดหลายด้าน เช่น ความเข้าใจในเนื้อหาต่าง ๆ การนาความรู้เดิมมาใช้ การคิดวเิ คราะหข์ อ้ มลู 2) ทากิจกรรมเพมิ่ เตมิ อื่น ๆ เช่น การทดลองการเขียนแผนผังแนวคิดการอภิปรายในช้ันเรียน การโต้วาที เปิดโอกาส ใหผ้ เู้ รียนได้แสดงความคิดเห็น 3) การบรู ณาการเพ่ิมเติมด้วยกจิ กรรมทางส่งิ แวดลอ้ ม หรือกจิ กรรมทางสังคม

4. องคป์ ระกอบของกรณีศกึ ษา 3) บรรยากาศในห้องเรียน 1) สง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นมีอสิ ระในการเรียน 2) ส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รียนสามารถสรา้ งองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง 3) จัดใหม้ ีการเรียนแบบรว่ มมือในกลมุ่ เลก็ ๆ 4) ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเองและประเมินตนเอง

5. ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรมโดยใชก้ รณศี กึ ษา 5.1 ขน้ั เตรยี มการ 5.2 ขัน้ เสนอกรณศี กึ ษา 5.3 ขั้นวิเคราะห์ 5.4 ขั้นสรุป 5.5 ขัน้ ประเมนิ Dr. Sirimon Naruemolsiri

6. บทบาทของผ้ทู มี่ ีสว่ นเกีย่ วข้องกบั การเรียนการสอนโดยใชก้ รณศี กึ ษา 6.1 ผเู้ รยี น 6.2 ผสู้ อน 6.3 สถาบันการศึกษาและ ผวู้ างนโยบายการศกึ ษา 6.4 องค์การต่าง ๆ Dr. Sirimon Naruemolsiri

7. ความหมายของการตดั สนิ ใจ การตัดสนิ ใจ (Decision Making) หมายถงึ กระบวนการในการคัดเลอื กเพ่อื การปฏบิ ัติท่มี ี ทางเลอื กอยูห่ ลายทาง และผลลพั ธม์ คี วามแตกต่างกนั ในการตดั สนิ ใจนจ้ี ะมขี ัน้ ตอนท่ีเรมิ่ ตน้ จากการ ทไ่ี ดต้ ระหนกั ถงึ ปัญหา และขั้นตอนสดุ ทา้ ยจะนาไปสูก่ ารตัดสินใจอย่างมเี หตุผล Dr. Sirimon Naruemolsiri

8. องค์ประกอบของการตดั สนิ ใจ 8.1ผ้ทู าการตดั สินใจ 8.2 ทางเลอื กในการตัดสินใจ 8.3 ปัจจยั ที่ใช้ในการตดั สนิ ใจ 8.4 เหตกุ ารณท์ ี่จะเกิดขึน้ ในอนาคต Dr. Sirimon Naruemolsiri

9. ประเภทของการตดั สินใจ 9.1 การตดั สินใจแบบโครงสรา้ ง 9.2 การตดั สินใจแบบ (Structure Decision) ไม่เป็นโครงสรา้ ง (Unstructured Decision) 9.3 การตดั สินใจแบบกึ่ง โครงสรา้ ง (Semi-Structure Decision) Dr. Sirimon Naruemolsiri

10. กระบวนการตัดสนิ ใจ 04 ทาการตัดสนิ ใจ กระบวนการตดั สนิ ใจ 03 การวิเคราะห์ทางเลอื ก 02 การพัฒนาทางเลอื ก Dr. Sirimon Naruemolsiri 01 การระบุปญั หา

11. สถานการณข์ องการตดั สนิ ใจ 01 การตัดสนิ ใจภายใตค้ วามแน่นอน 02 การตัดสินใจภายใต้ความเสี่ยง 03 การตดั สนิ ใจภายใต้ความไมแ่ น่นอน Dr. Sirimon Naruemolsiri

11. สถานการณข์ องการตดั สนิ ใจ 01 การตัดสินใจภายใต้ความแน่นอน คือ การตัดสินใจท่ีทราบผลลัพธ์การตัดสินใจล่วงหน้าอย่างแน่นอนแล้วว่าถ้า เลือกทางเลือกอย่างใดอย่างหนึง่ ผลลพั ธจ์ ะเป็นอยา่ งไร 02 การตัดสินใจภายใตค้ วามเสีย่ ง คอื การตัดสนิ ใจทีท่ ราบผลลัพธข์ องการตดั สนิ ใจน้อยกว่า การตัดสินใจภายใตส้ ถานการณท์ ี่แน่นอน แตพ่ อจะคาดคะเนความน่าจะเปน็ หรอื โอกาส ที่นา่ จะเกิดขนึ้ 03 การตดั สินใจภายใต้ความไม่แน่นอน คือ การตัดสินใจที่ไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์และโอกาสหรือความน่าจะ เปน็ ทเ่ี กิดขึน้ ได้เลย Dr. Sirimon Naruemolsiri

12. ตวั อย่างของกรณศี กึ ษา 12.1 กรณศี ึกษา ชอ่ื เรือ่ ง 5ส คณุ บญุ ชู เจา้ ของโรงงานผลิตกลว้ ยตากพบว่า ภายในโรงงาน มคี วามวนุ่ วายในการจัดเก็บเอกสารเกย่ี วกับรายช่ือลูกค้า บัญชกี ารให้เครดติ ลูกคา้ กอ่ ใหเ้ กดิ ความว่นุ วายเสยี หาย ไมไ่ ด้เก็บเงนิ ลกู คา้ หลายราย เพราะหาเอกสารไมพ่ บ มีต้นทนุ เกิดขึน้ จานวนมาก กาไรลดลง คาถาม จากสถานการณ์ข้างต้นควรทาอย่างไร คาตอบ ควรจดั การเอกสารโดยใช้กิจกรรม 5ส คือ สะสาง สะดวก สะอาด สขุ ลักษณะ สร้างนิสัย Dr. Sirimon Naruemolsiri

12. ตวั อย่างของกรณศี กึ ษา 12.2 กรณศี ึกษา ชอ่ื เรื่อง การแสดงกริ ิยาไมส่ ุภาพ จากสภาพการทางานในปัจจุบันย่อมต้องมีปัญหาเกิดขึ้นไม่มีใครที่ไม่เคยเจอปัญหา เพียงแต่ว่าปริมาณหรือความรุนแรง ของปญั หาทีเ่ กดิ ขึน้ นัน้ จะมากหรอื น้อยแตกต่างกันไป พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นน้ีเองจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทางาน ท้งั ในระดับบุคคล ระดบั หน่วยงาน และระดบั องคก์ าร ปัญหา: ข้อร้องเรยี นของลูกค้ารายใหญถ่ งึ การพดู จาและการแสดงกิริยาไม่สภุ าพของผจู้ ดั การฝา่ ยขายทุกคน คาถาม จากขอ้ ความดงั กล่าว ถ้าทา่ นเป็นผูป้ ระกอบการ ท่านจะมแี นวคดิ อยา่ งไรในการแก้ไขปัญหา คาตอบ 1. มคี วามพร้อมที่จะเผชิญหนา้ กับปัญหาในทุกรปู แบบ 2. มองท่ีจดุ เรม่ิ ต้นของการแกไ้ ขปญั หาทีด่ ที ี่สดุ นัน้ อยทู่ ีก่ ารบริหารจดั การ 3. มที ัศนคตใิ นทางบวกในการมองปญั หาวา่ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกเม่ือ ดังน้ันต้องวางแผนป้องกันการเกิดปัญหาซ้าซ้อน ข้นึ อีก Dr. Sirimon Naruemolsiri

12. ตวั อยา่ งของกรณีศึกษา 12.3 กรณศี กึ ษา ช่อื เรื่อง ไคเซน็ ในธรุ กิจ: ลดต้นทุน เพม่ิ กาไร เหนอื คแู่ ข่งในสงครามราคา Dr. Sirimon Naruemolsiri