Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนหน่วยที่ 1 ภาคเรียนที่1

แผนหน่วยที่ 1 ภาคเรียนที่1

Published by sumaphorn p, 2021-05-25 15:42:45

Description: แผนหน่วยที่ 1 ภาคเรียนที่1วิชาภาษาไทย ป.6

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ภาคการเรียนท่ี ๑ ปี ๒๕๖4 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๗ ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรื่อง จากผาแตม้ ...สู่อียิปต์ เวลา ๑ ชวั่ โมง เรอ่ื ง เรยี นร้คู า คคู่ วามหมาย โรงเรยี นชมุ ชนวัดบางขนั ผ้สู อน นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง ๑. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การเรยี นรคู้ าคายากdsขอ้ ความและสานวนภาษาไทยในบทเรียนและนาไปใชใ้ ห้ถูกต้องfgถือเปน็ การ พัฒนาทักษะทางภาษาทีผ่ เู้ รยี นควรไดร้ ับการฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะให้ถูกต้องfdจึงจะทาใหก้ ารเรียนรู้ภาษา เปน็ ไปดว้ ยดีและเกดิ การพัฒนาตามมา ๒. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพือ่ นาไป สาระท่ี ๑ การอ่าน ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาในการดาเนิน ชีวิตและมีนิสยั รกั การอ่าน มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๑.๑ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความท่เี ปน็ โวหาร ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๖/๒ ๓. จดุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ - อ่านและอธิบายความหมายของคาในบทเรียนได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (K) - หลกั การอ่านคาและความหมายของคา ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - อ่านออกเสียงและบอกความหมายของคา เจตคติ (A) - ตระหนกั และเหน็ คุณคา่ ของภาษาไทย - รกั ความเปน็ ไทย ใช้ภาษาแสวงหาความรเู้ พ่ือพัฒนาตนเอง - มีมารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการพูด ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ - กระบวนการทางานกลุ่ม - กระบวนการปฏบิ ัติ

๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ การทางาน ๗. ช้นิ งาน/ภาระงาน - เขยี นคาศัพท์และความหมายลงในสมดุ บนั ทึก ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา ๑. ครแู ละนักเรยี นสนทนาเก่ียวกับกจิ กรรมการเดนิ ทางไปทอ่ งเทีย่ วตามสถานที่ต่าง ๆ ให้นักเรียนยกตัวอย่างแหลง่ ท่องเท่ียวทรี่ จู้ ัก แล้วให้นกั เรียนอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์ทป่ี ระทบั ใจ ข้นั สอน ๒. ครูใชส้ อ่ื PowerPoint นาภาพต่าง ๆ เช่น ภาพพรี ะมดิ ศลิ าจารกึ มัคคุเทศก์ กฐนิ แลว้ ต้ังคาถาม นกั เรยี นร้คู วามหมายของคาเหลา่ น้หี รอื ไม่ ๓. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ ๖ คน คละกันตามความสามารถ และใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มเลือกประธาน รองประธานและเลขานุการกลุม่ โดยครแู นะนาบทบาทหน้าท่ีของสมาชิกแตล่ ะคนในกลมุ่ ให้นกั เรียนเขา้ ใจบทบาทหน้าทีข่ องตนเอง ๔.ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มอา่ นบทเรียนเรอ่ื ง“จากผาแต้ม…ส่อู ยี ิปต์”เพื่อสารวจคายากและคาที่ไม่เข้าใจค วามหมาย ใหเ้ ลอื กคาไว้ ๑๐ คา แลว้ นาไปติดบนกระดานดา คัดเลอื กคาที่ซ้ากันออก ๕.หลงั จากได้คาศพั ท์ท่ีคดั เลือกคาซา้ ออกไปแลว้ นน้ั ให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ค้นหาความหมายจากพจนานุกร ม แล้วเขยี นลงในบตั รความหมาย นาไปติดหลงั บตั รคาบนกระดานดา ๖. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลย ๗.นกั เรียนทงั้ ชั้นฝกึ อา่ นคาศัพทแ์ ละความหมายของคาตามบัตรคาและบตั รความหมายท่ีตดิ ไวบ้ น กระดาน ๘. นกั เรียนแต่ละคนเขียนคาศัพท์และความหมายลงในสมุดบันทกึ ขัน้ สรปุ ๙. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ถึงประโยชนข์ องการอ่านคาศัพทแ์ ละเข้าใจความหมายของคาศพั ท์ ๙. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๒. PowerPoint: ภาพจากผาแต้มสอู่ ียิปต์.pptx ๓. พจนานุกรม ๔. บตั รคาและบัตรความหมาย

๑๐. การวดั และการประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ สงั เกตการอ่านคาและความหมายของคา แบบสงั เกตการอา่ นคาและความหมายของคา ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นรว่ ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ในกิจกรรมกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมความมวี ินยั แบบประเมนิ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร ใฝ่เรียนรู้และมุง่ มัน่ การทางาน อนั พึงประสงค์ ะดับพอใช้ เกณฑ์การประเมนิ การอา่ นคาและความหมายของคา 1. อา่ นคาและอ่านความหมายของคาถกู ต้องทุกคา ได้คาละ ๑ คะแนน 2. อา่ นคาและอา่ นความหมายของคา ผิด ๑ คา หักคาละ ๑ คะแนน

บันทกึ หลังสอน ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นจำนวน.........................................คน ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรูโ้ ดยรวม......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................. ไมผ่ ่ำนจุดประสงคก์ ำรเรียนรโู้ ดยรวม..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................. ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรียนทม่ี ีควำมสำมำรถพเิ ศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2……………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรียน ทไี่ มผ่ ำ่ นกำรประเมนิ จดุ ประสงค์ด้ำนควำมรู้ (K) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรยี นทีไ่ ม่ ผำ่ นกำรประเมินจดุ ประสงค์ด้ำนทกั ษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………นักเรยี นทีไ่ ม่ ผำ่ นกำรประเมินจดุ ประสงค์ด้ำนเจตคติ (A) จำนวน............................คน ได้แก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ (จากปัญหาอปุ สรรค) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .....................................ครูผสู้ อน (นำงสำวพชิ ำมญชุ์ นำถมทอง) ตำแหน่ง ครู …………./……………./…………

สอ่ื การเรียนรูแ้ ละแบบประเมนิ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ เรือ่ ง จากผาแต้ม...สู่อยี ิปต์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑ เรือ่ ง เรียนร้คู า คู่ความหมาย

PowerPoint | ภาพจากผาแตม้ สู่อยี ิปต.์ pptx

อปุ กรณ์ | บัตรคาและบตั รความหมาย บตั รคา บัตรความหมาย

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม คาชีแ้ จง ครูประเมนิ พฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่มและให้คะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกบั พฤตกิ รรม เลขท่ี ช่อื - สกุล ๑. คณะทางาน รวม สรปุ ๒. ความรับผิดขอบต่อห ้นาท่ี ผลการประเมนิ ๓. ้ัขนตอนการทางาน ๔. ความร่วม ืมอในการทางาน ๕. การปฏิบัติงานอย่าง ีมความ ุสข 6. เวลา ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 เดก็ ชำยธนำยทุ ธ รอดแจ่ม 2 เด็กหญิงปรัชญำ สำรชัย 3 เด็กชำยศรศี กั ด์ิ นอ้ ยนำดี 4 เดก็ ชำยธำนนิ ทร์ โอปำก 5 เดก็ ชำยทินภัทร กอนศรี 6 เดก็ ชำยชัยโย พลสำมำรถ 7 เด็กหญงิ ขวญั ฤทยั ทองทุย้ 8 เด็กหญงิ ชุตนิ ันท์ อินหล้ำ 9 เด็กหญิงองุ่น อนิ ทรเ์ รอื งศรี 10 เด็กหญงิ ศยำมล กจิ เช้อื 11 เด็กชำยธนโชค สันปำ่ แกว้ 12 เด็กชำยภัทรวตั ศริ ิไพบูลย์ 13 เด็กหญิงกำญจนำ 14 เด็กหญงิ สิรนิ ภำ ออ่ งโสภำ 15 เด็กหญิงณัฐชำ คมพทิ กั ษ์ 16 เดก็ หญิงสกุ ำนดำ ผวิ ขำว 17 เด็กหญิงมนี ำ อำรกั วิริยะ 18 เดก็ ชำยววิ ฒั น์ ไตรรตั น์ 19 เดก็ ชำยบวรศักดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภำวี พำนเมอื ง 21 เด็กชำยธนวัฒน์ จำปำศรี 22 เด็กหญิงเกวลิน นำขมน้ิ 23 เด็กชำยธนำกร ฟกั ใส

24 เด็กหญิงวรญั ญำพร ขำรัก 25 เดก็ หญงิ ปำณิสรำ สวุ รรณ์ฉวี 26 เดก็ หญิงปิยดำ สิริ 27 เดก็ หญิงปยิ นดั สิริ 28 เดก็ หญิงสธุ ดิ ำ แวน่ ศิลำ เกณฑ์การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดบั ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดับ ปรับปรงุ ลงชือ่ ................................................ผ้ปู ระเมิน (นำงสำวพชิ ำมญชุ์ นำถมทอง)

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ พฤตกิ รรมกลมุ่ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มีประธาน เลขานุการ ๒ ขาดองค์ประกอบ ๒ ขาดองค์ประกอบ ๑ อย่าง อย่างขึน้ ไป ผู้นาเสนอ ผู้รว่ มงาน ๒. ความรบั ผิดชอบ สมาชิกมคี วามรับผดิ ชอบแ สมาชกิ ไม่มีความรับผดิ ชอบ สมาชกิ ไม่มีความรับผิดชอบ ตอ่ หน้าท่ี ละปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของตนจน และปฏิบัตหิ นา้ ทขี่ องตนไม่สาเร็จ และปฏิบัตหิ น้าทขี่ องตนไม่ สาเรจ็ ทุกคน เป็นบางคน สาเรจ็ ๓.ขัน้ ตอนการทางาน ๑) คัดเลือกเรื่องตาม ขาดขน้ั ตอน ๑ ข้ันตอน ขาดข้นั ตอน ๒ ความสนใจของกลุ่ม หรอื ไมช่ ัดเจน ขั้นตอนข้ึนไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ ๔) ปฏบิ ตั ติ ามแผน และพัฒนางาน ๔. ความรว่ มมือ สมาชกิ มีส่วนร่วมทุกคน สมาชกิ มีส่วนร่วมทุกคน สมาชิกมีสว่ นรว่ มเปน็ บาง ในการทางาน คนและให้ความรว่ มมือใน และให้ความรว่ มมือในการ แต่มบี างคนใหค้ วามรว่ มมือใน การทางานไม่ครบทุกคน ๕. การปฏิบัตงิ าน อย่างมีความสุข ทางานอย่างเตม็ ที่ การทางานไม่เต็มท่ี สมาชิกทกุ คนไม่มีความสุข ๖. เวลา ในการปฏบิ ัตงิ าน สมาชกิ รว่ มกนั ปฏบิ ัติงาน สมาชิกบางคนไมม่ ีความสขุ งานเสรจ็ ไม่ทนั ตามกาหนด อย่างมีความสขุ ทุกคน ในการปฏบิ ตั งิ าน เวลาและงานไมม่ ีคุณภาพ งานเสรจ็ ตามกาหนดเวลา งานเสรจ็ ไมท่ ันตามกาหนด และมีคุณภาพ เวลาแตง่ านมคี ุณภาพ

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกับระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น ๓๒๑ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2เข้าร่วมกจิ กรรมทีส่ รา้ งความสามัคคีปรองดองและเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ๑.๓ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลักศาสนา 1.4เข้ารว่ มกิจกรรมที่เกยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดขน้ึ ๒. ซ่อื สตั ย์ สจุ ริต ๒.๑ ให้ข้อมลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจริง ๒.๒ ปฏบิ ตั ิในส่ิงท่ีถูกต้อง ๓. มวี นิ ัยรับผิดชอบ ๓.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ รจู้ ักใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัตไิ ด้ ๔.๒ รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม ๔.๓ เช่อื ฟงั คาสงั่ สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้ ๔.๔ ตงั้ ใจเรียน ๕. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ๕.๑ ใชท้ รัพยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั ๕.๒ ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรูค้ ณุ คา่ ๕.๓ ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน ๖. ม่งุ ม่ันในการทางาน ๖.๑ มคี วามต้ังใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ บั มอบหมาย ๖.๒ มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพื่อให้งานสาเร็จ ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๗.๑ มีจติ สานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ๗.๒ เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย ๘. มีจิตสาธารณะ ๘.๑ ร้จู กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน ๘.๒ รู้จกั การดแู ล รักษาทรัพย์สมบัติและสงิ่ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรียน ลงชอ่ื ..................................................... ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรม คะแนน คะแนน ความหมาย อยา่ งสมา่ เสมอ ๓ บ่อยครั้ง ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางครง้ั ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ตา่ กว่า ๓๐ ปรับปรุง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคการเรยี นที่ ๑ ปี ๒๕๖4 รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๗ ชวั่ โมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่ือง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์ เวลา ๑ ชว่ั โมง เรือ่ ง อ่านคดิ พินิจเร่อื งราว โรงเรยี นชุมชนวดั บางขัน ผู้สอน นางสาวพชิ ามญชุ์ นาถมทอง ๑. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การอา่ นในใจให้เกิดความเข้าใจชดั เจนลึกซง้ึ จะต้องอา่ นdfแลว้ สามารถตั้งคาถามตอบคาถามอภิปราย แสดงความคดิ เห็นเน้ือเรื่อง ลาดบั เหตกุ ารณ์ และสรุปใจความสาคัญของเรื่องได้ ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั ใช้กระบวนกำรอ่ำนสรำ้ งควำมรูแ้ ละควำมคิดเพ่อื นำไปตัดสนิ ใจ สาระท่ี ๑ การอ่าน แก้ปญั หำในกำรดำเนิน ชีวิตและมนี ิสยั รกั กำรอ่ำน มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรอ่ื งที่อา่ น มีมารยาทในการอา่ น ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๙ ๓. จดุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นในใจแล้วตั้งคาถาม ตอบคาถามจากเรอ่ื งในบทเรียนได้ ๒. สรุปใจความสาคญั ของเรื่องท่ีอ่านได้ ๓. มมี ารยาทในการอา่ น ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) - หลกั การอา่ นจบั ใจความ - มารยาทในการอา่ น ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - อา่ นจับใจความ เจตคติ (A) - ตระหนักและเห็นคุณค่าของภาษาไทย - รกั ความเป็นไทย ใช้ภาษาแสวงหาความร้เู พ่ือพฒั นาตนเอง - มมี ารยาทในการอา่ น การเขยี น การฟัง การดู และการพูด

๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต - กระบวนการทางานกลมุ่ - กระบวนการปฏบิ ัติ ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ การทางาน ๗. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ใบงาน เร่ือง ต้งั คาถาม-ค้นหาคาตอบ จากผาแตม้ สู่อยี ปิ ต์ ๘. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนา ๑.ครูให้นักเรยี นดูภาพจากบทเรียนเร่ือง“จากผาแตม้ ...ส่อู ยี ิปต์”แลว้ สนทนากบั นักเรยี นเก่ยี วกบั ภาพที่ เหน็ เปน็ อะไร บุคคลในภาพกาลงั ทาอะไร แล้วนกั เรียนคดิ ว่าเนือ้ เร่อื งกล่าวถงึ อะไรบ้าง ๒. ครเู ชื่อมโยงเขา้ สู่บทเรยี น ข้ันสอน ๓.นกั เรยี นอ่านชอื่ บทเรยี นเร่ือง“จากผาแตม้ ...สูอ่ ยี ปิ ต์”แล้วให้นกั เรียนร่วมกันอภิปรายช่ือเรื่องในหวั ข้อต่อไปนี้ - ผาแต้ม : แหล่งทอ่ งเทยี่ ว อยูท่ ี่อำเภอโขงเจียม จงั หวัดอบุ ลรำชธำนี มลี กั ษณะเปน็ หนำ้ ผำมีภำพเขียนแตม้ สีเปน็ ภำพ อำยุรำว ๓,๐๐๐ ปี เปน็ ภำพสที มี่ ีควำมเกำ่ แก่ท่สี ุดในประเทศไทย - พรี ะมดิ อียิปต์ : เปน็ พรี ะมิดท่ใี หญ่ทีส่ ุด แห่งเมืองกิซำ ประเทศอียิปต์ มีภำพและตวั อกั ษร อำยรุ ำว ๕,๐๐๐ ปี ๔. นกั เรยี นทบทวนหลกั การอา่ นในใจ การสรุปใจความสาคญั มารยาทในการอ่าน จากใบความรู้ เร่ือง หลักการอ่านในใจและมารยาทในการอา่ น ๕. ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกันบอกถงึ จดุ มงุ่ หมายของการอ่านในใจ เช่น - อา่ นในใจแล้วสามารถตง้ั คาถาม ตอบคาถามได้ - อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ เร่อื งได้ - สามารถลาดับเหตกุ ารณ์ของเร่อื งได้ - สรปุ ใจความสาคญั ของเรอื่ งได้

๖. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ ๖ คน โดยใชก้ ลุ่มเดิมแต่เลอื กประธาน รองประธาน และเลขานุการกลมุ่ ใหม่ ไม่ซ้าเดิม ๗. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ อา่ นในใจเนอื้ หาบทเรยี นและตง้ั คาถาม จากเร่ืองทอี่ ่านและวงเลบ็ คาตอบที่ถกู ท่สี ดุ ไว้ด้านหลังด้วยคาถามงา่ ยๆ ไดแ้ ก่ คาถามที่ขนึ้ ตน้ ว่า ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทาไม เปน็ คาถามทมี่ คี าตอบอย่ใู นบทเรียน หลงั จากนนั้ นาคาถามและคาตอบเขยี นลงในใบงาน เรอ่ื ง ตง้ั คาถาม-ค้นหาคาตอบ จากผาแต้มสูอ่ ียิปต์ ๘.เม่ือแตล่ ะกล่มุ ทาใบงานเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้วdfครตู ้ังคาถามจากการอา่ นในใจนกั เรยี นตั้งคาถามตอบ คาถามได้จานวนกี่ขอ้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยใบงาน ๙. ครสู รปุ ผลการต้ังคาถามและตอบคาถาม ๑๐. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันลาดบั เหตกุ ารณ์สาคญั ของเรื่องคนละประโยคหรือมากกว่านน้ั จนจบเรอ่ื ง หลงั จากนน้ั สมาชิกทุกคนชว่ ยกนั สรปุ ใจความสาคัญของเร่อื งแลว้ บันทึกไว้ในสมุด ๑๑. ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอใจความสาคญั ของเรื่อง “จากผาแต้มสอู่ ียปิ ต์”หนา้ ช้ันเรยี น ขั้นสรปุ ๑๒. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุป เร่ือง แนวปฏบิ ตั ิในการอ่านในใจทถี่ ูกต้องและมารยาทในการอ่าน และสรปุ ใจความสาคัญ “จากผาแต้มสอู่ ยี ิปต์” ๑๓.ครูให้นักเรยี นบอกถึงสถานท่สี าคัญในท้องถ่ินของตนเองมอี ะไรบ้างและแหลง่ ท่องเที่ยวทาง ประวัตศิ าสตรท์ น่ี ักเรยี นรจู้ กั มีอะไรบ้างและมีความเป็นมาอยา่ งไร เขียนลงสมดุ บันทึก ๙. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๒. ใบความรู้ เรื่อง หลกั การอา่ นในใจและมารยาทในการอา่ น ๓. ใบงาน เรือ่ ง ตั้งคาถาม-คน้ หาคาตอบ จากผาแต้มสู่อียปิ ต์ ๑๐. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วิธกี าร แบบประเมนิ การอ่านจับใจความ รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการอ่าน แบบประเมนิ ใบงานเร่ือง ตงั้ คาถาม- ค้นหาคาตอบ จากผาแตม้ สู่อียิปต์ รอ้ ยละ ๖๐ ขนึ้ ไป ตรวจใบงาน เรื่อง ตั้งคาถาม- แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ ค้นหาคาตอบ จากผาแตม้ สู่อียปิ ต์ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ ในกิจกรรมกลมุ่ อนั พงึ ประสงค์ สงั เกตพฤตกิ รรมความมวี ินัย ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ ใฝเ่ รยี นรู้และม่งุ ม่นั การทางาน ขึน้ ไป

บันทกึ หลังสอน ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นจำนวน.........................................คน ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรูโ้ ดยรวม......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................. ไมผ่ ่ำนจุดประสงคก์ ำรเรียนรโู้ ดยรวม..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................. ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรียนทม่ี ีควำมสำมำรถพเิ ศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2……………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรียน ทไี่ มผ่ ำ่ นกำรประเมนิ จดุ ประสงค์ด้ำนควำมรู้ (K) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรยี นทีไ่ ม่ ผำ่ นกำรประเมินจดุ ประสงค์ด้ำนทกั ษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………นักเรยี นทีไ่ ม่ ผำ่ นกำรประเมินจดุ ประสงค์ด้ำนเจตคติ (A) จำนวน............................คน ได้แก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ (จากปัญหาอปุ สรรค) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .....................................ครูผสู้ อน (นำงสำวพชิ ำมญชุ์ นำถมทอง) ตำแหน่ง ครู …………./……………./…………

ส่ือการเรยี นรแู้ ละแบบประเมนิ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ เรือ่ ง จากผาแต้ม...สู่อยี ิปต์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เรอ่ื ง อา่ นคดิ พนิ จิ เรอ่ื งราว

หลกั การอ่านในใจ และมารยาทในการอ่าน การอา่ น เป็นทกั ษะอย่างดียิง่ ของการเรยี นรู้ เราสามารถท่ีจะเรยี นรู้ผา่ นการอา่ นไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ในแตล่ ะวนั เราต้องใช้ทักษะในการอา่ นเกือบตลอดเวลา ดงั น้ันควรทีจ่ ะมีการฝึกทักษะในการอา่ นให้อา่ นได้ ดีย่งิ ขึน้ นอกจากท่จี ะอ่านได้แล้ว สิ่งทสี่ าคญั อีกอยา่ งคือ การอา่ นเปน็ เพราะการอ่านเป็นจะเปน็ การจับประเดน็ ของเร่ืองท่ีอ่าน การวิเคราะห์ การประเมินค่าของเรอ่ื งท่ีอา่ น นอกจากน้ันยงั สามารถทีน่ าประโยชน์ที่ไดจ้ ากการอา่ น นาไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั จึงจะถือว่าเป็นผู้ที่อา่ นเป็น การอ่านจะแบ่งออกเปน็ ๒ ชนิด คอื การอา่ นในใจ กับ การอา่ นออกเสียง การอา่ นในใจ การอ่านในใจเป็นการอ่านdfที่ไมต่ ้องออกเสียงในขณะทอ่ี า่ นผอู้ ่านจะอา่ นข้อความ เกบ็ ความและแปลความตามความเข้าใจของผู้อ่าน นยิ มใชเ้ พอ่ื ต้องการเกบ็ ความรูจ้ ากเร่อื งที่อา่ น ซงึ่ การอา่ นในใจนผ้ี ู้อา่ นไมต่ อ้ งกังวลวา่ จะตรงตามฉันทลักษณ์ของเรือ่ งท่อี า่ นเพราะเปน็ การอ่านเพ่ือ ความเขา้ ใจดว้ ยตวั เองเทา่ นั้น การอา่ นในใจไม่นิยมใชใ้ นการอา่ นเพื่อความบันเทงิ เช่น การร้องเพลง การขบั ร้องทานองเสนาะ เพราะเราจะไม่ได้อรรถรสของเร่อื งที่อ่าน หลักการอา่ นในใจ ๑.มีสมาธใิ นการอา่ นเพ่ือใหก้ ารอ่านเกดิ ประสิทธภิ าพมากที่สุดกาหนดจุดมุ่งหมายใน การอ่านนนั้ ก็คือว่าก่อนอ่านต้องกาหนดวา่ จะอ่านไปเพ่ืออะไรsdเช่นsdอ่านเพือ่ ให้รู้โครงสรา้ งของ เรือ่ งท่ีกาลังจะอ่าน ควรอ่านแบบคราวๆ ไมจ่ าเป็นต้องอ่านโดยละเอยี ด หรือ การอา่ นเพ่อื ความรู้ ควรอ่านแลว้ ทาความเขา้ ใจในเรือ่ งที่อา่ นและต้องอา่ นโดยละเอียดfgการอ่านเพื่อความบันเทิง ไมจ่ าเปน็ ต้องอ่านเรื่องทั้งหมด ใหอ้ า่ นแคเ่ พยี งให้รู้สกึ วา่ สนกุ สนานผ่อนคลา้ ยเท่านน้ั ๒. ในขณะอ่านควรเปล่ยี นบรรทดั ให้แม่นยาเพ่ือไม่ให้ข้ามเนื้อหา ๓.มปี ระสบการณ์เก่ียวกบั เรื่องท่อี า่ นเพราะการอา่ นท่จี ะได้ผลดผี ู้อา่ นควรมีความร้เู บ้ืองต้น เกีย่ วกับเร่ืองทจ่ี ะอ่านมาก่อนเช่นตอ้ งการจะอ่านเร่ืองสงครามโลกครั้งทีส่ องที่มีผลกระทบกบั ประเทศไทยผู้อา่ นควรมีความรเู้ ก่ียวกับประวัติของผูแ้ ต่งหนังสอื มคี วามรูเ้ กีย่ วกับแผนท่ีประเทศ ไทย ประวตั ิศาสตร์ของประเทศไทยที่อยู่ในชว่ งนัน้ เพ่อื ให้มองเห็นภาพโดยรวม

๔.เข้าใจความหมายของคาศัพทห์ รือสานวนเพราะการแต่งหนงั สอื ผู้แตง่ จะมีความรู้ และประสบการณต์ ่างจากผู้อ่านดังน้นั การนาเสนอเนอื้ หาจึงเป็นไปโดยประสบการณ์ของผเู้ ขียน บางครง้ั ศัพท์หรือสานวนผูอ้ ่านจะไม่เข้าใจตรงกบั ผ้เู ขียน ๕. จับใจความสาคญั ของเรื่องท่ีอา่ นได้ เชน่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เม่ือไร อย่างไร ๖. จดจา บนั ทึกความร้คู วามเข้าใจในรปู แบบของตนเองเพ่ือประโยชน์ในโอกาสต่อไป การอา่ นจบั ใจความ เป็นเรอื่ งทสี่ าคญั อย่างหน่ึงของกระบวนการอ่านเพราะการจับใจความสาคัญ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ผอู้ ่านมีความเข้าใจเนื้อเร่ืองไดด้ ีแคไ่ หน และเขา้ ใจจุดมงุ่ หมายของผู้เขยี นไดด้ ีแค่ไหน หลักการ อ่านจบั ใจความ ๑.อา่ นต้งั แตต่ ้นจนจบโดยให้ทาการอ่านคร่าวๆ๑คร้ังเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจเนอื้ หาโดยรวม จากนนั้ จึงอ่านใหม่อกี ๑ ครง้ั เพอื่ เกบ็ รายละเอียดของเนื้อหา ๒. จับใจความสาคญั ทีล่ ะ ๑ ยอ่ หนา้ การจบั ใจความสาคญั จะแบ่งออกเปน็ ๒ แบบ ๑.ใจความหลกั คือประโยคทเี่ ป็นเนอ้ื หาสาคญั ของยอ่ หน้านั้นๆอาจวางอยู่บริเวณใดของ เน้ือหากไ็ ด้ แต่ในสว่ นน้จี ะไมส่ ามารถตดั เน้ือหาทิ้งได้ แตส่ ามารถทจ่ี ะนามายอ่ ความใหมไ่ ด้ ๒.ใจความรองเป็นเนื้อหาในส่วนท่มี าขยายสว่ นของใจความหลกั ใหม้ ีความสมบูรณ์มาก ยิง่ ขึน้ เชน่ การยกตวั อยา่ ง การอธบิ าย การเปรียบเทยี บ การแสดงความคิดเหน็ ๓. นาเน้ือหามาเรียบเรยี งใหม่ ด้วยรูปแบบของผู้อ่านเอง มารยาทในการอ่าน ๑. เลือกอ่านหนังสือท่ีมีประโยชน์ ๒. ไมอ่ า่ นเสยี งดังรบกวนผอู้ ื่น ๓. อา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณ ไมม่ ีอคติในการอา่ น ๔. อา่ นออกเสียงและเว้นวรรคตอนอยา่ งถูกต้อง ๕.ระวังไมใ่ หห้ นงั สือเกดิ ความเสียหายแตถ่ า้ ทาเสียหายต้องซอ่ มหนงั สือใหถ้ ูกต้องตามวธิ ีการ ซ่อมหนงั สือ ๖. การนาเร่ืองที่อ่านไปอา้ งอิงในงานเขียนต้องอา้ งองิ ให้ถูกตอ้ งตามหลักการ

จากผาแต้มส่อู ียิปต์ ตงั้ คาถาม-ค้นหาคาตอบ สมาชิก เลขท่ี …….. ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. เลขานกุ ารกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชิก ๔. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชิก ๕. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชิก ๖. ……………………………………………………………………… คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนตั้งคาถามพร้อมคาตอบจากการอ่านจับใจความจากเรื่อง “จากผาแต้มสอู่ ียิปต์” ตวั อยา่ งคาถามและคาตอบ คาถาม : ครอบครัวของอนิ และเอ้ือง ไปทนั เหน็ พระอาทติ ย์ข้นึ หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด คาตอบ : ไปทนั เพราะเขาบรรยายวา่ เหน็ ปา่ ไม้ เทือกเขา กระแสนา้ และอากาศเย็น คาถาม คาตอบ

ตงั้ คาถาม-ค้นหาคาตอบ จากผาแต้มส่อู ียิปต์ คาถาม คาตอบ

แบบประเมนิ การต้งั คาถามและตอบคาถาม คำชี้แจง ครูประเมนิ พฤติกรรมของนักเรยี นในกำรตงั้ คำถำมและตอบคำถำมและให้คะแนนลงในช่องทตี่ รง กับพฤติกรรมของนักเรียน ๑. ัลกษณะคาถาม ๒.ความ ีมเห ุตผล ๓. ความคิดสร้างสรรค์ ๔. การนาไปใ ้ชใน ีช ิวตประจา ัวน ๕. ัลกษณะคาตอบ เลขท่ี ชื่อ - สกุล สรปุ ผล รวม การประเมิน 1 เดก็ ชำยธนำยุทธ รอดแจ่ม 2 เด็กหญิงปรัชญำ สำรชยั ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๕ ผา่ น ไม่ผ่าน 3 เดก็ ชำยศรศี ักด์ิ น้อยนำดี 4 เดก็ ชำยธำนินทร์ โอปำก 5 เดก็ ชำยทนิ ภัทร กอนศรี 6 เด็กชำยชัยโย พลสำมำรถ 7 เด็กหญิงขวัญฤทัย ทองทุ้ย 8 เดก็ หญิงชตุ นิ ันท์ อนิ หล้ำ 9 เด็กหญงิ อง่นุ อนิ ทรเ์ รอื งศรี 10 เด็กหญงิ ศยำมล กจิ เชื้อ 11 เดก็ ชำยธนโชค สันป่ำแก้ว 12 เดก็ ชำยภทั รวตั ศริ ิไพบลู ย์ 13 เด็กหญิงกำญจนำ 14 เด็กหญิงสิรินภำ อ่องโสภำ 15 เดก็ หญงิ ณัฐชำ คมพิทกั ษ์ 16 เดก็ หญิงสุกำนดำ ผวิ ขำว 17 เด็กหญิงมีนำ อำรกั วิรยิ ะ 18 เด็กชำยววิ ัฒน์ ไตรรตั น์ 19 เดก็ ชำยบวรศักดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภำวี พำนเมือง 21 เด็กชำยธนวัฒน์ จำปำศรี 22 เด็กหญงิ เกวลิน นำขม้นิ

23 เดก็ ชำยธนำกร ฟักใส 24 เด็กหญงิ วรญั ญำพร ขำรัก 25 เดก็ หญงิ ปำณิสรำ สุวรรณฉ์ วี 26 เดก็ หญิงปยิ ดำ สิริ 27 เด็กหญิงปิยนดั สิริ 28 เดก็ หญิงสธุ ดิ ำ แวน่ ศลิ ำ เกณฑก์ ารประเมิน ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป (๙ คะแนน ขึน้ ไป) ๑๓ – ๑๕ คะแนน หมายถงึ ดี ๙ – ๑๒ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๘ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ ลงชือ่ ................................................ผปู้ ระเมิน (นำงสำวพิชำมญชุ์ นำถมทอง) รายละเอียดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมินการตั้งคาถามและตอบคาถาม เกณฑ์การประเมิน ระดับคะแนน ๑.ลักษณะคาถาม ๓๒ ๑ ๒.ความมีเหตุผล ตัง้ คาถามไมส่ ามารถค้ ๓. ความคิดสรา้ งสรรค์ ต้ังคาถามเพ่ือค้นคว้าหาความ ตัง้ คาถามเพื่อคน้ คว้าหา นคว้าหาความร้ตู ่อไป ไดอ้ ีก ๔.การนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน ร้เู พิม่ เตมิ ต่อไปได้ ความรเู้ พิ่มเติม ไมแ่ สดงเหตุผล ๕.ลักษณะคาตอบ สามารถแสดงความคิดเหน็ สามารถแสดงความคดิ คาถามไม่มคี วามคดิ ริh เร่มิ สรา้ งสรรค์ อยา่ งมีเหตุผล เห็นมีเหตผุ ลบา้ ง ไมส่ ามารถนาความรู้ คาถามมคี วามคิดริเร่มิ สร้าง คาถามมีความคิดรเิ ร่มิ มาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิต ประจาวันได้เลย สรรค์ น่าสนใจ แปลก สร้างสรรค์ ไม่น่าสนใจ ตั้งคาถามและอธิบาย คาตอบได้ไม่เข้าใจ ทันสมัย ไมซ่ า้ แบบใคร มีความทนั สมัยบ้าง วกวน แสดงถงึ คาถามที่มีการนาควา มกี ารนาความรมู้ าประยกุ มรมู้ าประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ จาวนั ได้มาก บ้าง ตง้ั คาถามและอธบิ ายคาตอบไ ตง้ั คาถามและอธบิ ายคาต ด้เข้าใจ ไมว่ กวน อบได้พอเขา้ ใจ ไม่วกวน

แบบประเมินการอ่านจับใจความ คาชแ้ี จงครปู ระเมินพฤติกรรมของนกั เรียนในการอ่านจับใจความและให้คะแนนลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤติกรรม เลขท่ี ชอ่ื - สกลุ ๑. บุค ิลกในการ ่อาน สรปุ ๒. 1ก.ารกวาดสายตา รวม ผลการประเมนิ ๓. ไ ่มใ ้ช ืมอ ้ีชตามตัว ัอกษร ๔. ไ ่ม ่สายห ้นาไปมาในขณะ ่ีท ่อาน ๕. ัจบใจความสาคัญของเร่ือง ่ีท ่อาน ๖. การ ้ัตงคาถามและตอบคาถามจากเร่ือง ๗. การสรุปเร่ือง แนวคิด และ ้ขอคิดของเรื่อง ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๒๑ ผา่ น ไม่ผา่ น 1 เดก็ ชำยธนำยทุ ธ รอดแจ่ม 2 เด็กหญิงปรัชญำ สำรชัย 3 เดก็ ชำยศรีศกั ด์ิ นอ้ ยนำดี 4 เดก็ ชำยธำนนิ ทร์ โอปำก 5 เดก็ ชำยทนิ ภัทร กอนศรี 6 เดก็ ชำยชัยโย พลสำมำรถ 7 เดก็ หญงิ ขวัญฤทยั ทองท้ยุ 8 เดก็ หญงิ ชตุ นิ ันท์ อินหลำ้ 9 เด็กหญงิ องุ่น อนิ ทรเ์ รืองศรี 10 เด็กหญิงศยำมล กจิ เชือ้ 11 เดก็ ชำยธนโชค สนั ป่ำแกว้ 12 เด็กชำยภทั รวตั ศิริไพบูลย์ 13 เดก็ หญิงกำญจนำ 14 เด็กหญงิ สิรินภำ อ่องโสภำ 15 เด็กหญิงณฐั ชำ คมพิทักษ์ 16 เด็กหญิงสุกำนดำ ผิวขำว 17 เด็กหญิงมีนำ อำรักวิรยิ ะ 18 เด็กชำยวิวัฒน์ ไตรรตั น์ 19 เดก็ ชำยบวรศักด์ิ สระบวั ทอง 20 เด็กหญิงปภำวี พำนเมอื ง 21 เดก็ ชำยธนวฒั น์ จำปำศรี

22 เดก็ หญิงเกวลิน นำขมิ้น 23 เดก็ ชำยธนำกร ฟักใส 24 เด็กหญิงวรญั ญำพร ขำรัก 25 เด็กหญิงปำณิสรำ สวุ รรณ์ฉวี 26 เดก็ หญงิ ปยิ ดำ สริ ิ 27 เด็กหญิงปิยนดั สริ ิ 28 เดก็ หญงิ สธุ ิดำ แวน่ ศลิ ำ เกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (๑๓ คะแนนข้นึ ไป) ๑๘ – ๒๑ คะแนน ระดบั ดี ๑๓ – ๑๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๒ คะแนน ระดับ ปรับปรุง ลงช่ือ................................................ผู้ประเมนิ (นำงสำวพิชำมญชุ์ นำถมทอง)

รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ การอ่านจับใจความ ประเด็นการประเมนิ ๓ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑ ๑. บุคลกิ ในการอา่ น น่งั ตวั ตรงวางและเปดิ ๒ นั่งตัวไมต่ รงวางและเปิด หนงั สอื ถูกตอ้ ง หนังสือไม่ถูกต้อง นง่ั ตัวตรงวางหรือเปิด หนงั สอื ไม่ถูกต้อง ๑ อยา่ ง ๒. การกวาดสายตา กวาดสายตาจากซ้ายขวา กวาดสายตาจากซ้ายไป กวาดสายตาจากซ้ายไป ไดถ้ ูกตอ้ ง รวดเร็ว ขวาได้ถูกต้อง ขวาไดถ้ ูกตอ้ งแตช่ ้ามาก และตอ่ เนื่อง แตช่ ้าและต่อเนือ่ ง และไม่ต่อเนื่อง ๓. ไมใ่ ช้มือชี้ตามตวั อกั ษร ไมใ่ ช้มือชตี้ ามตัวอักษร ใช้มอื ช้ีตามตวั อักษร ใชม้ อื ชต้ี ามตวั อกั ษร ขณะที่อา่ นตลอดท้ังเรื่อง ๒ ครั้ง ขณะทอ่ี ่าน มากกว่า ๒ คร้ัง ตั้งแต่ตน้ จนจบ ขณะท่ีอ่าน ๔.ไม่สา่ ยหน้าไปมาในขณะ ไมส่ ่ายหนา้ ไปมาในขณะ ส่ายหนา้ ไปมา ๒ คร้ัง ส่ายหน้าไปมา มากกวา่ ท่อี ่าน อ่านตลอดท้งั เร่ืองตั้งแต่ ในขณะอ่าน ๒ ครั้ง ในขณะอา่ น ตน้ จนจบ ๕.จบั ใจความสาคัญของ ระบุตัวละคร เหตุการณ์ ระบตุ ัวละคร เหตุการณ์ ระบตุ วั ละคร เหตุการณ์ สถานที่ เวลา สถานที่ เวลา เรือ่ งที่อ่าน สถานที่ เวลา และผลที่เกดิ ขนึ้ ได้ และผลทเ่ี กดิ ขนึ้ ได้ และผลทเี่ กดิ ข้ึน แตเ่ รียงลาดับเหตุการณ์ แตเ่ รยี งลาดบั เหตุการณ์ ผดิ ๑ ตาแหนง่ ผดิ ๒ ตาแหนง่ ขึ้นไป โดยเรยี งลาดับเหตุการณ์ ต้ังคาถามและตอบคาถา ตง้ั คาถามและตอบคา ได้อย่างตอ่ เน่ืองเหมาะ มจากเรอื่ งท่ีอ่าน ถามจากเร่ืองทีอ่ ่าน ไม่ถูกตอ้ ง ๑ ขอ้ ไมถ่ ูกตอ้ ง ๒ ข้อขึน้ ไป สม ๖.การตงั้ คาถามและตอบคา ตง้ั คาถามและตอบคาถา ถามจากเรื่อง มจากเร่ืองที่อ่านได้ถกู ต้อ งทุกเรื่อง ทกุ ประเด็น ๗. การสรุปเรอื่ ง แนวคิด สรปุ เรื่อง แนวคดิ และ สรปุ เรอื่ งได้ สรุปเรื่อง บอกแนวคิด และข้อคดิ ของเรื่อง ขอ้ คิดของเรอื่ งได้ครบ แตบ่ อกแนวคิด และข้อคดิ ไมได้ สมบูรณ์ หรือขอ้ คดิ อยา่ งใดอย่าง หนง่ึ ไม่ได้

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม คาชีแ้ จง ครูประเมินพฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่มและให้คะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกบั พฤตกิ รรม เลขท่ี ชอื่ - สกลุ ๑. คณะทางาน รวม สรปุ ๒. ความรับผิดขอบต่อห ้นาท่ี ผลการประเมนิ ๓. ้ัขนตอนการทางาน ๔. ความร่วม ืมอในการทางาน ๕. การปฏิบัติงานอย่าง ีมความ ุสข 6. เวลา ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 เดก็ ชำยธนำยุทธ รอดแจ่ม 2 เด็กหญิงปรชั ญำ สำรชัย 3 เด็กชำยศรศี ักด์ิ นอ้ ยนำดี 4 เดก็ ชำยธำนินทร์ โอปำก 5 เดก็ ชำยทินภัทร กอนศรี 6 เดก็ ชำยชัยโย พลสำมำรถ 7 เด็กหญงิ ขวัญฤทยั ทองทุย้ 8 เด็กหญงิ ชุตนิ นั ท์ อินหล้ำ 9 เด็กหญิงองุ่น อินทรเ์ รอื งศรี 10 เด็กหญงิ ศยำมล กิจเชอ้ื 11 เด็กชำยธนโชค สนั ปำ่ แกว้ 12 เด็กชำยภัทรวตั ศริ ิไพบูลย์ 13 เด็กหญิงกำญจนำ 14 เด็กหญงิ สิรนิ ภำ อ่องโสภำ 15 เด็กหญิงณัฐชำ คมพทิ กั ษ์ 16 เดก็ หญิงสกุ ำนดำ ผิวขำว 17 เด็กหญิงมนี ำ อำรกั วิริยะ 18 เดก็ ชำยววิ ฒั น์ ไตรรตั น์ 19 เดก็ ชำยบวรศักดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภำวี พำนเมอื ง 21 เด็กชำยธนวฒั น์ จำปำศรี 22 เด็กหญิงเกวลิน นำขมน้ิ 23 เด็กชำยธนำกร ฟักใส

24 เด็กหญิงวรญั ญำพร ขำรัก 25 เดก็ หญงิ ปำณิสรำ สวุ รรณ์ฉวี 26 เดก็ หญิงปิยดำ สิริ 27 เดก็ หญิงปยิ นดั สริ ิ 28 เดก็ หญิงสธุ ดิ ำ แวน่ ศิลำ เกณฑ์การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดบั ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดับ ปรับปรงุ ลงชือ่ ................................................ผ้ปู ระเมิน (นำงสำวพชิ ำมญชุ์ นำถมทอง)

รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ พฤติกรรมกลมุ่ ประเด็นการประเมนิ ๓ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มปี ระธาน เลขานกุ าร ๒ ขาดองคป์ ระกอบ ๒ ๒. ความรบั ผิดชอบ ผนู้ าเสนอ ผู้ร่วมงาน ขาดองค์ประกอบ ๑ อยา่ ง อย่างขนึ้ ไป ตอ่ หน้าท่ี สมาชกิ มคี วามรบั ผดิ ชอบแล สมาชิกไม่มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมาชิกไม่มคี วามรับผิดชอบ ๓.ข้ันตอนการทางาน ะปฏบิ ัติหน้าทขี่ องตนจนสาเ และปฏบิ ตั ิหน้าที่ของตนไม่ และปฏิบตั หิ น้าทข่ี องตนไม่ รจ็ ทกุ คน สาเรจ็ เปน็ บางคน สาเร็จ ๑) คดั เลือกเรอื่ งตาม ขาดขนั้ ตอน ๑ ขนั้ ตอน ขาดขัน้ ตอน ๒ ความสนใจของกลุม่ หรือไมช่ ดั เจน ขน้ั ตอนขนึ้ ไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ ๔) ปฏิบตั ิตามแผน และพฒั นางาน ๔. ความรว่ มมือ สมาชกิ มสี ว่ นร่วมทกุ คน สมาชิกมสี ว่ นรว่ มทุกคน สมาชกิ มีสว่ นรว่ มเป็นบางค ในการทางาน และให้ความรว่ มมอื ในการ ทางานอย่างเต็มท่ี แตม่ บี างคนให้ความร่วมมอื นและใหค้ วามรว่ มมือในการ ๕. การปฏิบตั ิงาน อย่างมีความสขุ สมาชิกร่วมกนั ปฏบิ ัติงาน ในการทางานไม่เต็มที่ ทางานไมค่ รบทุกคน ๖. เวลา อย่างมีความสุขทุกคน สมาชกิ บางคนไมม่ ีความสุขใ สมาชกิ ทุกคนไม่มคี วามสุข งานเสร็จตามกาหนดเวลา นการปฏบิ ัตงิ าน และมีคุณภาพ ในการปฏิบตั ิงาน งานเสรจ็ ไม่ทนั ตามกาหนด งานเสร็จไม่ทนั ตามกาหนด เวลาแต่งานมีคุณภาพ เวลาและงานไมม่ ีคุณภาพ

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ ลงในชอ่ ง ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ดา้ น ๓๒๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2เข้าร่วมกิจกรรมทสี่ รา้ งความสามคั คีปรองดองและเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ๑.๓ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ ามหลักศาสนา 1.4เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามท่ีโรงเรยี นจดั ขนึ้ ๒. ซื่อสัตย์ สุจรติ ๒.๑ ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง และเป็นจรงิ ๒.๒ ปฏิบตั ิในสง่ิ ที่ถกู ตอ้ ง ๓. มวี ินยั รบั ผิดชอบ ๓.๑ ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ในชีวิตประจาวนั ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๔.๑ รจู้ ักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ไิ ด้ ๔.๒ รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม ๔.๓ เช่อื ฟงั คาสัง่ สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง ๔.๔ ตัง้ ใจเรยี น ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๕.๑ ใชท้ รัพยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั ๕.๒ ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและร้คู ณุ ค่า ๕.๓ ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน ๖. ม่งุ มนั่ ในการทางาน ๖.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ๖.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสาเร็จ ๗. รักความเป็นไทย ๗.๑ มีจติ สานึกในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ รูจ้ ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน ๘.๒ รู้จกั การดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของหอ้ งเรยี น โรงเรียน ลงช่อื ..................................................... ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรม คะแนน คะแนน ความหมาย อยา่ งสมา่ เสมอ ๓ บ่อยคร้งั ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางครัง้ ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ต่ากวา่ ๓๐ ปรับปรุง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ภาคการเรียนท่ี ๑ ปี ๒๕๖4 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๗ ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่ือง จากผาแตม้ ...สู่อยี ิปต์ เวลา ๑ ช่ัวโมง เรอ่ื ง คดิ วิเคราะหด์ ้วยแผนภาพโครงเรอื่ ง โรงเรยี นชุมชนวัดบางขนั ผู้สอน นางสาวพิชามญช์ุ นาถมทอง ๑. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การเขียนแผนภาพโครงเร่อื งจะชว่ ยให้นักเรียนเขา้ ใจเรื่องและจาเร่อื งท่อี ่านไดแ้ ม่นยายังเปน็ การช่วยฝึก ทกั ษะ และพฒั นาในด้านการเขียน การพูดต่อไป ๒. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมร้แู ละควำมคดิ เพ่ือนำไปตัดสนิ ใจแก้ปัญหำ ในกำรดำเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ยั รกั กำรอำ่ น สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมีประ สทิ ธิภาพ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอย่างมีวจิ ารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึกในโอกาสต่างๆอย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชวี้ ัด ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคดิ เห็นจากเรื่องทอ่ี า่ น ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธบิ ายการนาความรูแ้ ละความคดิ จากเรื่องทอ่ี ่านไปตดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวติ ท ๒.๑ ป.๖/๓ เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใชพ้ ฒั นา งานเขยี น ท ๒.๑ ป.๖/๙ มมี ารยาทในการเขยี น ท ๓.๑ ป.๖/๑ พดู แสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเร่ืองทีฟ่ ังและดู ๓. จดุ ระสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายวิธกี ารเขียนแผนภาพโครงเร่อื งได้ ๒. เขียนแผนภาพโครงเร่ืองจากเรื่องที่อ่านได้ ๓. เลา่ เร่ืองตามแผนภาพโครงเร่ืองได้ ๔. มมี ารยาทในการเขียน

๔. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (K) - หลกั การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง ทักษะ/กระบวนการ (P) - เขียนแผนภาพโครงเร่ือง - เล่าเร่อื งตามแผนภาพโครงเรื่อง เจตคติ (A) - ตระหนักและเห็นคุณค่าของภาษาไทย - รักความเป็นไทย ใช้ภาษาแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง - มมี ารยาทในการอ่าน การเขียน การฟงั การดู และการพดู ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการทางานกลุ่ม - กระบวนการปฏิบัติ ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2.ใฝเ่ รยี นรู้ 3.มงุ่ มั่นการทางาน ๗. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ใบงาน เรื่อง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นา ๑. ครขู ออาสาสมัครบอกถึงสถานทีส่ าคัญในท้องถนิ่ มีอะไรบ้าง และแหล่งท่องเท่ียวทางประวัติศาสตร์ทีน่ กั เรยี นรจู้ ัก ๒. นกั เรียนเล่นเกม “เรยี งร้อยต่อเรอ่ื งราว” ขน้ั สอน ๓. ครแู ละนักเรยี นสนทนาทบทวนเรอ่ื ง “จากผาแต้ม...สู่อียิปต์” โดยใชภ้ าพจาก บทเรยี นประกอบ ๔. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายวิเคราะหโ์ ครงเรอื่ ง ลาดบั เหตกุ ารณข์ องเร่ืองและบอกประเด็นสาคัญ ๕. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ ๖ คน โดยใชก้ ลุ่มเดมิ แต่เลอื กประธาน รองประธานและเลขานุการกลมุ่ ใหม่ ไมใ่ หซ้ า้ เดิม

๖. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาใบความรู้ เร่อื ง หลกั การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง และมารยาทในการเขยี น ๗. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ อ่านในใจ“จากผาแต้ม...สอู่ ยี ปิ ต์” จากหนงั สือเรียนภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ แลว้ รว่ มกนั ทาใบงาน เร่ือง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ตอนที่ ๑ ๘.ครสู ุม่ ตัวแทนของแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอแผนภาพโครงเร่ืองและใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถู กตอ้ งและเพ่ิมเติมใหส้ มบูรณ์ ๙. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั ตรวจสอบแผนภาพโครงเรื่องและแก้ไขให้สมบรู ณ์ ๑๐. นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงาน การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง ตอนท่ี ๒ แลว้ นาส่งครูเพื่อประเมินผล ขน้ั สรุป ๑๑.ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ บทเรยี นเร่ืองกำรเขียนแผนภำพโครงเรอ่ื งและแนวทำงปฏิบัติทีถ่ กู ตอ้ งใน กำรเลำ่ เรอ่ื ง ๙. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๒. เกม “เรียงร้อยต่อเร่ืองราว” ๓. ใบความรู้ หลกั การเขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและมารยาทในการเขยี น ๔. ใบงาน เรื่อง การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง ๑๐. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่อื งมือ เกณฑ์ วิธกี าร แบบประเมนิ การเขียนแผนภาพ รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป ตรวจใบงานการเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง โครงเรือ่ ง ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรมกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป สังเกตพฤตกิ รรมความมีวินยั ใฝเ่ รียนรแู้ ละม่งุ มัน่ การทางาน ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑร์ ะดับพอใช้ อนั พึงประสงค์ ข้นึ ไป

บันทกึ หลังสอน ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นจำนวน.........................................คน ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรียนรูโ้ ดยรวม......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................. ไมผ่ ่ำนจุดประสงคก์ ำรเรียนรโู้ ดยรวม..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................. ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรียนทม่ี ีควำมสำมำรถพเิ ศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2……………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรียน ทไี่ มผ่ ำ่ นกำรประเมนิ จดุ ประสงค์ด้ำนควำมรู้ (K) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………นกั เรยี นทีไ่ ม่ ผำ่ นกำรประเมินจดุ ประสงค์ด้ำนทกั ษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………นักเรยี นทีไ่ ม่ ผำ่ นกำรประเมินจดุ ประสงค์ด้ำนเจตคติ (A) จำนวน............................คน ได้แก่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ (จากปัญหาอปุ สรรค) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .....................................ครูผสู้ อน (นำงสำวพชิ ำมญชุ์ นำถมทอง) ตำแหน่ง ครู …………./……………./…………

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ ส่ือการเรียนร้แู ละแบบประเมิน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรอื่ ง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์ เรอ่ื ง คิดวิเคราะหด์ ้วยแผนภาพโครงเร่อื ง

เกม “เรยี งร้อยต่อเรื่องราว” อปุ กรณ์ ๑. บัตรข้อความ เป็นเหตกุ ารณ์ในเรื่อง เดยี วกัน มเี นื้อเรอ่ื งตอ่ เนื่องกนั แต่ได้จดั คละกนั ไว้ จัดทาไวเ้ ป็น ๒ ชุด ๒. นกหวีด ๓. นาฬกิ าจบั เวลา อีกา คาบเนื้อ อยใู่ นปาก หลงเช่ือคาพดู ของ สนุ ัขจิ้งจอก ที่ชมว่า อีกา มีเสียงไพเราะ จึงอ้าปากรอ้ งเพลงให้ สนุ ัขจิ้งจอก ฟัง ชิ้นเนื้อท่ี อีกา คาบมาหลน่ ออกจากปาก สนุ ัขจิ้งจอก คาบเนื้อไปกินแทน วธิ ีการเลน่ เกม มดี ังนี้ ๑. แบง่ นกั เรียนออกเปน็ ๒ กล่มุ ๒. ครูอธบิ ายกติกาการเล่นโดย - ให้แตล่ ะกลุ่มมารบั ข้อความซ่ึงเป็นข้อความชนดิ เดยี วกัน กลุ่มละ ๑ ชดุ - ครจู ะใหเ้ วลาเล่นเกมประมาณ ๑๐ นาที โดยจะให้สัญญาณเรมิ่ เลน่ ดว้ ยการเป่านกหวดี และใหส้ ัญญาณหยดุ เลน่ ดว้ ยการเปา่ นกหวดี เชน่ กัน - เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณใหน้ ักเรียนเรม่ิ เลน่ เกมทนั ที โดยการจัดลาดับข้อความท่ีไดร้ ับ ให้เน้ือความตอ่ เนื่องกนั จากข้อความที่นักเรียนคิดว่าน่าจะอยู่อนั ดับ แรก หรือเริม่ ต้นไปจนถึงขอ้ ความท่ีคิดวา่ นา่ จะอย่สู ดุ ท้าย - ให้นกั เรียนช่วยกนั เขียนเรื่องราวเพิม่ เติมจากข้อความแรกจนถึงข้อความสุดท้าย ใหเ้ ป็นเร่อื งราวที่สมั พันธ์ตอ่ เน่อื งกนั - เมอ่ื ไดย้ นิ สญั ญาณหมดเวลา ให้ตัวแทนของกลุ่มมาจับสลากกันออกมารายงาน โดยเล่าเรื่องให้เพื่อน ๆ ฟัง - ให้แต่ละกลุ่มตดิ ขอ้ ความที่ได้รบั และส่วนทไ่ี ดต้ ่อเติมแตง่ ต่อเรือ่ งราวเสร็จไว้บนกระดานดาให้เพ่ือนดู จากนน้ั ครูนาข้อความมาเฉลยให้นักเรียนดู แล้วพจิ ารณาว่า กลุ่มใดลาดบั เร่ืองไดถ้ ูก และต่อเติมไดด้ ีสมบูรณ์เหมาะสม เป็นฝ่ายชนะ

หลกั การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง และมารยาทในการเขียน การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง เป็นการเขยี นท่ีแสดงใหเ้ หน็ โครงเรือ่ งโดยรวมทั้งเรื่องทาให้จับใจความสาคญั ของเรื่องที่อา่ นไดด้ ี ย่ิงขึ้น การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง ต้องอาศยั การตัง้ คาถามและตอบคาถามจากเรอ่ื งทีอ่ ่านว่าตวั ละครในเร่ืองมีใครบ้าง สถานท่ีเกิดเหตุการณ์คอื ท่ไี หนghมีเหตกุ ารณ์อะไรเกิดขน้ึ fgและผลของเหตุการณ์นัน้ คืออะไร แล้วจึงเขียนเป็นแผนภาพโครงเรื่อง ตวั อย่าง การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง เรื่อง กากับสนุ ัขจิง้ จอกเจ้าเลห่ ์ อีกาตวั หนง่ึ กาลังหิวdfมันจึงบินออกหาอาหารdgมนั เหลือบไปเห็นเนื้อชนิ้ หนึ่งหล่นอยู่ มนั จึงใช้ปากคาบเน้อื ชนิ้ นน้ั ขึ้นมาfgแลว้ บินไปเกาะท่ีไม้ตน้ หน่งึ สนุ ัขจ้งิ จอกตวั หน่ึงเดินผ่านมาเหน็ อีกาคาบ เน้อื อย่ใู นปาก มันอยากกินเนอ้ื ชน้ิ นัน้ มนั จงึ เอย่ ปากทักอีกาวา่ “สวสั ดคี รบั คณุ กา คณุ ชา่ งสง่างามอะไรอย่างนี้ ขนของคุณกด็ ูสวยงามมาก” อีการู้สกึ ชอบใจมาก มันมองดขู องของตวั เองอย่างภมู ิใจ สุนัขจง้ิ จอกจึงพดู ต่อไปว่า “คุณคงมเี สียงที่ไพเราะมาก คณุ คงร้องเพลงเพราะดว้ ยใช่ไหม” อกี า รีบผงกหัวรับ “ถา้ อย่างนนั้ คุณช่วยร้องเพลงให้ผมฟงั สักหน่อยเถิดครบั ” อกี า จงึ อ้าปากจะร้องเพลง พอมนั อ้าปาก เนื้อก็หลดุ จากปากตกลงที่พื้นสุนขั จ้ิงจอกจงึ รีบคาบเนอื้ ช้นิ นนั้ แล้วว่งิ หนีไป แผนภาพโครงเรือ่ ง ของนทิ านเร่ืองกากบั สนุ ัขจ้ิงจอกเจ้าเล่ห์ ตัวละครในเร่อื ง อกี า และสุนัขจิง้ จอก สถานที่ ต้นไม้ตน้ หน่ึง เหตุการณ์ท่เี กดิ ข้ึน อกี าซึ่งกาลังคาบเน้ืออยู่ในปาก หลงเชือ่ คาพดู ของ สุนัขจิง้ จอกท่ีชมว่าอีกามีเสยี งไพเราะ จงึ อา้ ปากจะรอ้ งเพลงให้ สนุ ัขจง้ิ จอกฟงั ผลของเหตกุ ารณ์ ทาให้ชิน้ เนอ้ื ท่ีอกี าควบมาหล่นออกจากปากสุนขั จง้ิ จอกจงึ มาคาบเนื้อไป กนิ แทน

หลกั การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง และมารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน 1. เขยี นดว้ ยลายมอื ที่อา่ นง่าย สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ขดี ฆ่าขูดลบ 2. ใชก้ ระดาษทเี่ หมาะสม สุภาพ 3. ใช้ปากกาทเี่ หมาะสม เชน่ ไมค่ วรใชส้ แี ดง เป็นตน้ 4. ใชถ้ ้อยคาภาษาที่สรา้ งสรรค์ ไม่กลา่ วรา้ ยผู้อน่ื 5. ใชถ้ อ้ ยคาทสี่ ุภาพ เหมาะสมแกก่ าลเทศะและบุคคล 6. เขียนใหถ้ ูกอักขรวธิ ี (สะกดการนั ตถ์ ูกต้อง)

การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง สมาชกิ เลขที่ …….. ประธาน ๑. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. รองประธาน ๒. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. เลขานุการกลุ่ม ๓. ……………………………………………………………………… เลขที่ …….. สมาชิก ๔. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชิก ๕. ……………………………………………………………………… เลขท่ี …….. สมาชกิ ๖. ……………………………………………………………………… ตอนท่ี ๑ ใหน้ กั เรียนเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง “เร่ือง จากผาแต้ม...สอู่ ยี ปิ ต์ ตัวละครสาคัญ ………………………………………………………………………………………….…. ตัวละครประกอบ ………………………………………………………………………………………….…. เรือ่ งเกิดข้นึ ที่ไหน ………………………………………………………………………………………….…. …………………………………………………………………………………………… ปญั หาทเี่ กิดขนึ้ ในเรือ่ ง ………………………………………………………………………………………….…. …………………………………………………………………………………………… เหตกุ ารณท์ …ี่ .. ………………………………………………………………………………………….…. ………………………………………………………………………………………….…. สถานที่ ………………………………………………………………………………………….…. ตวั ละคร ………………………………………………………………………………………….….

การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง การกระทา ………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………… ผลของการกระทา ………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………… เหตกุ ารณ์ท…ี่ … ………………………………………………………………………………………….…. …………………………………………………………………………………………… สถานท่ี ………………………………………………………………………………………….…. …………………………………………………………………………………………… ตัวละคร ………………………………………………………………………………………….…. การกระทา ………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………….… ผลของการกระทา ………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………….… ข้อคดิ ทไ่ี ด้ …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………

การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ชอื่ – สกุล .................................................................................................เลขท.่ี ............. ตอนที่ ๒ ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง จากเนื้อเร่ืองต่อไปนี้ นายกลา่ ร้จู ักคุ้นเคยกบั พระยาขจดั ฯ ซ่งึ เป็นข้าราชการชน้ั ผู้ใหญ่ที่มีคนนับหนา้ ถือตามากทีส่ ดุ คนหนึง่ เมื่อนายกลา่ จะประกอบพิธงี านมงคลทบี่ ้านของตน จงึ ได้พยายามไปหาพระยาขจัดฯ ขอเชญิ ทา่ นให้มาในงานน้ีเพ่อื เปน็ เกียรติ และศิรมิ งคลแกต่ วั เขา พระยาขจัดฯก็รับปากวา่ จะมาอย่างแข็งแรงจึงเตรียมการเป็นการใหญ่เพ่อื ต้อนรับพระยา ขจดั ฯ และออกการ์ดเชญิ บรรดาแขกเหรื่อให้มาในงานนี้กันคบั คง่ั พร้อมทงั้ แจ้งบรรดาแขกอ่นื ๆ ทีม่ าในงานร้วู า่ พระยาขจัดฯจะมาในงานน้ีอย่างแน่นอนแขกเหร่ือทุกคนทุกคน ก็คอยรับพระยาขจดั ฯแตเ่ มื่อถงึ เวลาเริ่มพิธีมงคลแลว้ พระยาขจดั กย็ ังไม่มารอกนั อยู่ จนกระท่ังล่วงเลยเวลา เกือบจะหมดฤกษ์ กย็ ังไมป่ รากฏตวั พระยาขจดั ฯเลย ปญั หาอย่ทู วี่ ่าเม่ือพระยาขจัดฯผิดนัดงานเชน่ นี้นายกลา่ ควรทาอย่างไรกบั แขกเหรื่อที่มา ในงาน แหลง่ อ้างอิง: ฝึกสมองทดลองภมู ปิ ญั ญาของคุณหนู ๆ โดยนายปญั ญา รอบรู้ เอกลักษณ์หนงั สอื ดี …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………

การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ……………………………………………………………………………………………………………………เ…ฉ…ล…ย - ตอนท่ี ๑ ให้นักเรียนเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง “เรื่อง จากผาแต้ม...สู่อียปิ ต์ ตัวละครสาคัญ อินและเอ้ือง ตวั ละครประกอบ พอ่ และแม่ เรื่องเกิดข้ึนทไี่ หน ครอบครัวไปเทีย่ ว ปัญหาท่เี กดิ ขึน้ ในเร่อื ง การไปเทีย่ วทผี่ าแต้ม เหตุการณ์ทf่ี g๑ พ่อแม่อนิ และเอ้ืองไปทอดกฐินที่จงั หวัดอุบลรำชธำนแี ละไปเทย่ี วผำ แต้ม สถานท่ี ผาแตม้ อาเภอโขมเจยี ม จังหวัดอบุ ลราชธานี ตัวละคร อินและเอื้อง พ่อและแม่ การกระทา หลงั จากทาบญุ กฐนิ แลว้ เดินทางไปเที่ยวอาเภอโขมเจียมจงั หวัด อบุ ลราชธานีซึง่ สามารถมองเหน็ ทุ่งนาและภเู จาของสาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาวและได้ไปชมผาแต้มซงึ่ มีภาพคนสมัย โบราณบันทกึ ชวี ติ ความเป็นอยู่และวฒั นธรรมไว้บนหินอยา่ งสวยงาม ผลของการกระทา อินและเอื้อง ไดร้ ับความรูจ้ ากพ่อและแม่ เรื่องผาแต้ม เหตกุ ารณ์ท่ี ๒ เปดิ ภาคเรยี น อินเลา่ เรื่องความมหัศจรรย์ของผาแต้มใหเ้ พ่ือน ๆ ฟัง และณภทั รเล่าความมหัศจรรยข์ องประเทศอยี ปิ ต์ สถานท่ี โรงเรียน ตัวละคร อินและณภทั ร การกระทา อินและณภทั ร เปิดเรยี นอนิ ได้เลา่ เรอ่ื งการไปเที่ยวผาแต้มให้ เพอ่ื น ๆ ในห้องฟงั ณภัทรซ่ึงไดต้ ดิ ตามพ่อแม่ไปเทย่ี งทป่ี ระเทศอียิปต์ ไดเ้ ล่าถึงพรี ะมดิ ซงึ่ เปน็ yt๗ytส่ิงมหศั จรรยข์ องโลก ได้ไปชมพีระมดิ กูฟแู หง่ กีซาfgมกี ารแกะสลักรปู ภาพตา่ งๆตามผนงั จะมลี กั ษณะคลา้ ยผาแต้ม เปน็ การสื่อสารดว้ ยภาพประมาณ ๕๐๐๐ มาแล้วfgผาแต้มจะมีที่หลงั อยี ิปต์ เพ่อื นๆในหอ้ งได้ดภู าพถา่ ยจากทั้งอนิ และณภทั ร ขอ้ คดิ การไปเทย่ี วจะได้ท้งั ความร้แู ละความสนกุ สนาน ตอนท่ี ๒ ตำมดลุ ยพินจิ ครูผ้สู อน โดยใช้แบบประเมินกำรเขียนแผนภำพโครงเรือ่ ง

แบบประเมินการเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาช้แี จง ครูประเมนิ พฤตกิ รรมของนักเรยี นในการทากิจกรรม และใหค้ ะแนนลงในช่องทตี่ รงกบั พฤติกรรม ของนักเรียน รายการประเมิน เลขที่ ชื่อ – สกลุ 1. ลา ัดบความ ิคด เหตุการ ์ณอย่างต่อเนื่อง รวม สรปุ ผล 2. จับประเ ็ดนสาคัญของเร่ืองได้ถูก ้ตอง การประเมิน 3. การใช้ภาษากระ ัชบ ัชดเจน ุสภาพถูกต้อง 4. การเ ีขยนสะกดถูกต้อง 5. การเว้นวรรคตอน ูถก ้ตอง 6. ความสะอาด สวยงาม เรียบร้อย ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 เดก็ ชำยธนำยุทธ รอดแจ่ม 2 เด็กหญิงปรัชญำ สำรชัย 3 เด็กชำยศรีศกั ดิ์ น้อยนำดี 4 เด็กชำยธำนนิ ทร์ โอปำก 5 เดก็ ชำยทินภทั ร กอนศรี 6 เด็กชำยชัยโย พลสำมำรถ 7 เด็กหญิงขวัญฤทยั ทองทุย้ 8 เด็กหญิงชตุ ินนั ท์ อินหล้ำ 9 เด็กหญงิ องุ่น อนิ ทรเ์ รืองศรี 10 เด็กหญงิ ศยำมล กิจเชอ้ื 11 เด็กชำยธนโชค สนั ปำ่ แก้ว 12 เดก็ ชำยภทั รวตั ศริ ิไพบูลย์ 13 เด็กหญิงกำญจนำ 14 เด็กหญงิ สิรินภำ อ่องโสภำ 15 เด็กหญงิ ณฐั ชำ คมพิทักษ์ 16 เดก็ หญิงสุกำนดำ ผิวขำว 17 เดก็ หญิงมนี ำ อำรกั วริ ยิ ะ 18 เด็กชำยววิ ัฒน์ ไตรรัตน์

19 เด็กชำยบวรศกั ด์ิ สระบวั ทอง 20 เดก็ หญิงปภำวี พำนเมือง 21 เด็กชำยธนวฒั น์ จำปำศรี 22 เดก็ หญิงเกวลิน นำขมนิ้ 23 เดก็ ชำยธนำกร ฟกั ใส 24 เด็กหญิงวรญั ญำพร ขำรัก 25 เด็กหญงิ ปำณิสรำ สุวรรณ์ฉวี 26 เด็กหญิงปยิ ดำ สริ ิ 27 เด็กหญงิ ปยิ นดั สริ ิ 28 เดก็ หญิงสธุ ดิ ำ แวน่ ศลิ ำ เกณฑก์ ารประเมิน รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป (๑๑ คะแนนขึน้ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดบั ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดบั พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดับ ปรับปรงุ ลงชอ่ื ................................................ผู้ประเมนิ (นำงสำวพชิ ำมญช์ุ นำถมทอง)

รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินการเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง ประเด็นการประเมนิ ๓ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ ๑. ลาดับความคดิ ลาดบั ความคิด ๒ ลาดบั ความคิด เหตุการณ์อยา่ งต่อเน่อื ง ลาดบั เหตกุ ารณ์ได้อยา่ ลาดับเหตุการณ์ไม่ต่อเน่ือง งต่อเน่ือง เหมาะสม ลาดับความคดิ วกวน บกพร่องเกิน ลาดบั เหตุการณ์ไมต่ ่อเนื่อง ๒ ตาแหนง่ บกพร่อง ๒ ตาแหน่ง ๒.จบั ประเดน็ สาคัญของเร่ือง จบั ประเดน็ สาคัญของเ จบั ประเดน็ สาคัญของเร่ือง จบั ประเด็นสาคญั ของเรื่องไ ได้ถูกต้อง รอ่ื งได้ถูกต้อง ไดถ้ ูกตอ้ งเปน็ บางส่วน มถ่ ูกต้อง ๓. การใช้ภาษากระชับ การใช้ภาษา กระชับ การใช้ภาษา กระชบั การใช้ภาษา ไม่กระชบั ชดั เจน สุภาพถกู ต้อง ชัดเจน ชัดเจน ไมช่ ัดเจน ไม่สุภาพ สภุ าพถูกต้องเหมาะสม สุภาพถกู ต้องเป็นบางสว่ น และไมถ่ กู ตอ้ ง ตลอดทั้งเร่ือง ๔. การเขยี นคา ประโยค เขยี นคา ประโยค เขยี นคา ประโยค เขียนคา ประโยค และข้อความ และข้อความ และข้อความ และข้อความ ได้ถูกต้องตามอกั ขรวธิ ี ไมถ่ ูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี ๒ ไม่ถูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี ๓ ตลอดทัง้ เรื่อง ตาแหนง่ ตาแหนง่ ขนึ้ ไป ๕. การเวน้ วรรคตอนถูกต้อง เขยี นเว้นวรรคตอนถูกต้ เขียนเวน้ วรรคตอน เขยี นเวน้ วรรคตอนไม่ถูกต้ องเกิน ๓ ตาแหน่ง องตลอดเรอ่ื ง ไมถ่ ูกต้อง ๒ ตาแหนง่ ขน้ึ ไป ๖. ความสะอาด สวยงาม ผลงานสะอาด ลายมอื ไมเ่ ป็นระเบยี บ ลายมอื ไมเ่ ป็นระเบียบ เปน็ ระเบียบเรียบร้อย เป็นระเบียบ ผลงานมีรอยลบ ขีดฆ่า ผลงานมรี อยลบ ขีดฆ่า ลายมือเปน็ แบบเดยี วกั ไม่สะอาด ๒ ตาแหนง่ ไมส่ ะอาด ๓ ตาแหนง่ นตลอดทงั้ เรื่อง ขนึ้ ไป

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม คาชีแ้ จง ครูประเมนิ พฤติกรรมของนักเรียนในการทางานกลุ่มและให้คะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกบั พฤตกิ รรม เลขท่ี ช่อื - สกุล 1. คณะทางาน รวม สรปุ 2. ความรับผิดขอบต่อห ้นาท่ี ผลการประเมนิ 3. ้ัขนตอนการทางาน 4. ความร่วม ืมอในการทางาน 5. การปฏิบัติงานอย่าง ีมความ ุสข 6. เวลา ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 เดก็ ชำยธนำยทุ ธ รอดแจ่ม 2 เด็กหญิงปรัชญำ สำรชัย 3 เด็กชำยศรศี กั ด์ิ นอ้ ยนำดี 4 เดก็ ชำยธำนนิ ทร์ โอปำก 5 เดก็ ชำยทินภัทร กอนศรี 6 เดก็ ชำยชัยโย พลสำมำรถ 7 เด็กหญงิ ขวญั ฤทยั ทองทุย้ 8 เด็กหญงิ ชุตนิ ันท์ อินหล้ำ 9 เด็กหญิงองุ่น อนิ ทรเ์ รอื งศรี 10 เด็กหญงิ ศยำมล กจิ เชอ้ื 11 เด็กชำยธนโชค สันปำ่ แกว้ 12 เด็กชำยภัทรวตั ศริ ิไพบูลย์ 13 เด็กหญิงกำญจนำ 14 เด็กหญงิ สิรนิ ภำ ออ่ งโสภำ 15 เด็กหญิงณัฐชำ คมพทิ กั ษ์ 16 เดก็ หญิงสกุ ำนดำ ผวิ ขำว 17 เด็กหญิงมนี ำ อำรกั วิริยะ 18 เดก็ ชำยววิ ฒั น์ ไตรรัตน์ 19 เดก็ ชำยบวรศักดิ์ สระบัวทอง 20 เด็กหญิงปภำวี พำนเมอื ง 21 เด็กชำยธนวัฒน์ จำปำศรี 22 เด็กหญิงเกวลิน นำขมนิ้ 23 เด็กชำยธนำกร ฟักใส

24 เด็กหญิงวรญั ญำพร ขำรัก 25 เดก็ หญงิ ปำณิสรำ สวุ รรณ์ฉวี 26 เดก็ หญิงปิยดำ สิริ 27 เดก็ หญิงปยิ นดั สิริ 28 เดก็ หญิงสธุ ดิ ำ แวน่ ศิลำ เกณฑ์การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๑๑ คะแนนข้นึ ไป) ๑๕ – ๑๘ คะแนน ระดบั ดี ๑๑ – ๑๔ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ – ๑๐ คะแนน ระดับ ปรับปรงุ ลงชือ่ ................................................ผ้ปู ระเมิน (นำงสำวพชิ ำมญชุ์ นำถมทอง)

รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ พฤติกรรมกลมุ่ ประเด็นการประเมนิ ๓ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑ ๑. คณะทางาน มปี ระธาน เลขานกุ าร ๒ ขาดองคป์ ระกอบ ๒ ๒. ความรบั ผิดชอบ ผนู้ าเสนอ ผู้ร่วมงาน ขาดองค์ประกอบ ๑ อยา่ ง อย่างขนึ้ ไป ตอ่ หน้าท่ี สมาชกิ มคี วามรบั ผดิ ชอบแล สมาชิกไม่มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมาชิกไม่มคี วามรับผิดชอบ ๓.ข้ันตอนการทางาน ะปฏบิ ัติหน้าทขี่ องตนจนสาเ และปฏบิ ตั ิหน้าที่ของตนไม่ และปฏิบตั หิ น้าทข่ี องตนไม่ รจ็ ทกุ คน สาเรจ็ เปน็ บางคน สาเร็จ ๑) คดั เลือกเรอื่ งตาม ขาดขนั้ ตอน ๑ ขนั้ ตอน ขาดขัน้ ตอน ๒ ความสนใจของกลุม่ หรือไมช่ ดั เจน ขน้ั ตอนขนึ้ ไปหรือไมช่ ัดเจน ๒) มกี ารวางแผน ๓) เตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ ๔) ปฏิบตั ิตามแผน และพฒั นางาน ๔. ความรว่ มมือ สมาชกิ มสี ว่ นร่วมทกุ คน สมาชิกมสี ว่ นรว่ มทุกคน สมาชกิ มีสว่ นรว่ มเป็นบางค ในการทางาน และให้ความรว่ มมอื ในการ ทางานอย่างเต็มท่ี แตม่ บี างคนให้ความร่วมมอื นและใหค้ วามรว่ มมือในการ ๕. การปฏิบตั ิงาน อย่างมีความสขุ สมาชิกร่วมกนั ปฏบิ ัติงาน ในการทางานไม่เต็มที่ ทางานไมค่ รบทุกคน ๖. เวลา อย่างมีความสุขทุกคน สมาชกิ บางคนไมม่ ีความสุขใ สมาชกิ ทุกคนไม่มคี วามสุข งานเสร็จตามกาหนดเวลา นการปฏบิ ัตงิ าน และมีคุณภาพ ในการปฏิบตั ิงาน งานเสรจ็ ไม่ทนั ตามกาหนด งานเสร็จไม่ทนั ตามกาหนด เวลาแต่งานมีคุณภาพ เวลาและงานไมม่ ีคุณภาพ

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ ลงในชอ่ ง ท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ดา้ น ๓๒๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2เข้าร่วมกิจกรรมทสี่ รา้ งความสามคั คีปรองดองและเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ๑.๓ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ ามหลักศาสนา 1.4เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามท่ีโรงเรยี นจดั ขนึ้ ๒. ซื่อสัตย์ สุจรติ ๒.๑ ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง และเป็นจรงิ ๒.๒ ปฏิบตั ิในสง่ิ ที่ถกู ตอ้ ง ๓. มวี ินยั รบั ผิดชอบ ๓.๑ ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ในชีวิตประจาวนั ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๔.๑ รจู้ ักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ไิ ด้ ๔.๒ รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม ๔.๓ เช่อื ฟงั คาสัง่ สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง ๔.๔ ตัง้ ใจเรยี น ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๕.๑ ใชท้ รัพยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั ๕.๒ ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและร้คู ณุ ค่า ๕.๓ ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน ๖. ม่งุ มนั่ ในการทางาน ๖.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ๖.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสาเร็จ ๗. รักความเป็นไทย ๗.๑ มีจติ สานึกในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ รูจ้ ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน ๘.๒ รู้จกั การดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของหอ้ งเรยี น โรงเรียน ลงช่อื ..................................................... ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรม คะแนน คะแนน ความหมาย อยา่ งสมา่ เสมอ ๓ บ่อยคร้งั ๒ ๔๖-๖๐ ดี บางครัง้ ๑ ๓๐-๔๕ พอใช้ ต่ากวา่ ๓๐ ปรับปรุง

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๔ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคการเรยี นท่ี ๑ ปี ๒๕๖4 รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๖๑๐๑ เวลา ๗ ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เร่ือง จากผาแต้ม...สู่อยี ิปต์ เวลา ๑ ช่ัวโมง เร่อื ง การอา่ นออกเสียง โรงเรยี นชมุ ชนวัดบางขัน ผู้สอน นางสาวพชิ ามญชุ์ นาถมทอง ๑. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การอา่ นออกเสียง เป็นการอ่านให้ผ้อู ื่นฟงั ฉะนั้นผู้อ่านจะตอ้ งแบ่งวรรคตอน เน้นเสียงหนกั เบา และออกเสยี งให้ถูกต้องชัดเจน จึงจะส่ือความหมายไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมรู้และควำมคิดเพ่ือนำไปตัดสินใจ แก้ปญั หำในกำรดำเนิน ชวี ิตและมนี ิสัยรักกำรอ่ำน ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๖/๙ มมี ารยาทในการอ่าน ๓. จุดระสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกหลักการอ่านออกเสียงได้ ๒. อา่ นออกเสียงเร่ืองในบทเรียนได้ถูกตอ้ งชัดเจน ๓. มีมารยาทในการอ่าน ๔. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) - หลักการอ่านออกเสียง ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - อา่ นออกเสียง เจตคติ (A) - ตระหนักและเห็นคุณค่าของภาษาไทย - รักความเป็นไทย ใช้ภาษาแสวงหาความรูเ้ พ่ือพัฒนาตนเอง - มีมารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู และการพดู ๕. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ วิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

- กระบวนการทางานกลมุ่ - กระบวนการปฏบิ ตั ิ ๖. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มวี นิ ัย - ใฝ่เรยี นรู้ - มุ่งม่นั การทางาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน ๑. การอ่านออกเสยี งรายบุคคล ๒. ใบงาน เรือ่ ง การอา่ นคาและข้อความ ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นา ๑. ครใู ห้นกั เรยี นชมวีดที ัศน์ เร่อื ง หลักพ้นื ฐานการอ่านภาษาไทย (ใช้เวลา ๑๓ นาท)ี ๒. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายสาระสาคัญทไ่ี ด้จากการชมวดี ีทัศน์ ขน้ั สอน ๓. ครูใหน้ ักเรียนอา่ นคาศพั ท์ในบทเรียน ดังน้ี กฐนิ กระดาษสา โกฏิ ปโกฏิ พรี ะมิด แมลงกดุ จ่ี แมลงสคารบั ศลิ าจารึก สงั ขยา สีนา้ หมาก ๔. ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยการอ่านคาศพั ท์ ๕. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ ๖ คน โดยใชก้ ลมุ่ เดิม แต่เลือกประธาน รองประธานและเลขานุการกลมุ่ ใหม่ ไมใ่ หซ้ ้าเดิม ๖. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ฝกึ อ่านออกเสียงบทเรยี นfgเรื่องdfจากผาแต้ม...สูอ่ ียิปต์ โดยอา่ นทงั้ ข้อความบรรยายและขอ้ ความที่เปน็ คาพูดของตัวละครghโดยอ่านออกเสยี งพรอ้ มกนั และฝึกอา่ นออกเสยี งเป็นรายบคุ คล โดยศกึ ษาจากใบความรู้ การอ่านออกเสียง ๗. ครทู ดสอบการอ่านออกเสยี งของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล โดยครกู าหนดใหน้ ักเรยี นอ่านข้อความ คนละ๓บรรทดั dfโดยครูเขียนคาทน่ี ักเรียนอา่ นผดิ ไวบ้ นกระดานดาครูสังเกตการอ่านของนกั เรียนแต่ละคนเพื่อปร ะเมนิ ผลการอ่านของนักเรยี น นักเรียนฝึกอา่ นคาที่อา่ นผดิ ทคี่ รเู ขียนไว้บนกระดานอีกครั้ง ๘. นักเรียนแตล่ ะคนทาใบงาน เรื่อง การอ่านคาและข้อความ แล้วนาสง่ ครเู พ่อื ประเมินผล ขน้ั สรุป ๙. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปหลกั เกณฑ์การอา่ นออกเสยี งที่ดี แลว้ บันทึกลงสมดุ บนั ทกึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook