หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณีพิบัตภิ ัย แผนฯ ที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ ข้ันกระตุ้นความสนใจ 1. ครใู ห้นกั เรียนดภู าพในหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 58 จากน้ันครูสนทนากับนักเรียนว่า เวลาไป ทะเลนักเรยี นร้สู กึ อยา่ งไร เช่น เวลาไปทะเลจะมลี มพดั เยน็ สบาย 2. นกั เรยี นตอบคาถามว่า - ลมเกดิ ข้ึนไดอ้ ย่างไร (แนวคาตอบ ลมเกิดจากการเคลื่อนที่จากบริเวณท่ีมีความกดอากาศสูงไปยังบริเวณท่ีมีความ กดอากาศตา่ ) - ลมบก ลมทะเล และลมมรสุมเกิดขน้ึ จากสาเหตใุ ด (แนวคาตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนกั เรียน) 3. นักเรียนอ่านกิจกรรมชวนอ่านชวนคิดก่อนเรียน ตอน พักผ่อนริมทะเล ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 60 และตอบคาถามตอ่ ไปนี้ - ลมทะเลมีประโยชน์ต่อการนาเรือกลับเข้าฝ่ัง เพ่ือนๆ คิดว่า ลมชนิดอื่นมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตและ สงิ่ แวดลอ้ มหรือไม่ อยา่ งไร (แนวคาตอบ ตอบตามความคิดเห็นของนกั เรียน เชน่ ลมบก มีประโยชน์ในการนาเรือออกจากฝั่ง) 4. ครูสนทนากับนักเรียนเพ่ือนาเข้าสู่บทเรียนว่า ลมเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่สามารถรับรู้ได้โดยการใช้ผิวสัมผัส ซึ่งลมมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น ลมบกพาเรือกลับเข้าฝั่ง เราจะมาเรียนรู้ว่า ลมเกิดขึ้นได้ อย่างไร และส่งผลตอ่ ส่งิ มีชีวิตและส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งไร จากกจิ กรรมตอ่ ไปน้ี ข้ันสอน ขั้นสารวจค้นหา 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน จากนั้นศึกษาข้ันตอนการทากิจกรรมท่ี 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม ในหนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 62 2. นกั เรยี นปฏบิ ัติกิจกรรมที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม ตอนที่ 1 โดยปฏบิ ตั ิดังนี้ 1) สง่ ตัวแทนกลุ่มไปรับวัสดุ-อปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรม 2) แต่ละกลุ่มลงมือปฏิบัติกิจกรรมที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม ตอนที่ 1 ข้ันตอนข้อท่ี 1-6 ตามท่ีได้ศึกษามาในหนังสือเรียนและบันทึกผลการทากิจกรรมลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 44 3) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มเตรียมตวั นาเสนอในช่ัวโมงหน้า (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรยี น โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ) 108
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณพี บิ ัตภิ ยั แผนฯ ท่ี 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ ช่วั โมงที่ 2 ขนั้ สอน (ต่อ) ขัน้ อธบิ ายความรู้ 1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอการทากิจกรรมหน้าช้นั เรียน 2. นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี - ควนั ธูปมีทิศทางการเคลอื่ นที่อย่างไร (แนวคาตอบ เคลือ่ นที่ไปกลอ่ งฝงั่ ที่มีเทียนอยู่แลว้ ลอยตัวสูงข้นึ ) - เพราะเหตุใดทิศทางการเคล่ือนทขี่ องควนั ธปู จงึ เปน็ ลกั ษณะแบบนนั้ (แนวคาตอบ อากาศในบริเวณที่ร้อนจะลอยตวั สงู ขึ้น ในขณะท่ีอากาศและควนั ธูปบรเิ วณใกลเ้ คียงที่ อุณหภูมิต่ากวา่ จะเคลื่อนทเ่ี ข้ามาแทนที่) 3. นักเรียนสแกน QR Code เรื่อง การเกิดลม ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 65 เพ่ือศึกษา เพม่ิ เตมิ เกี่ยวกับการเกดิ ลม 4. นักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม ตอนที่ 1 ว่า ลม คือ อากาศท่ีเคล่ือนที่ ไปในทิศทางแนวราบ เกิดจากการแทนที่ของอากาศ เน่ืองจากอากาศในบริเวณท่ีร้อนจะลอยตัวสูงข้ึน ในขณะ ท่ีอากาศบริเวณใกล้เคียงที่อุณหภูมิต่ากว่าจะเคล่ือนที่เข้ามาแทนท่ี เมื่อมีการเคล่ือนของอากาศท่ีเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงและแตกต่างกันของความกดอากาศ อากาศบริเวณท่ีมีความกดอากาศสูงจะเคล่ือนที่เข้ามายัง บรเิ วณท่มี คี วามกดอากาศตา่ มวลอากาศทีเ่ คลอื่ นทเ่ี ราเรียกว่า ลม 5. นกั เรียนทากจิ กรรมที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ ตอนที่ 2 โดยปฏิบตั ดิ งั นี้ 1) สืบค้นขอ้ มูลเพิม่ เติมเกี่ยวกบั การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ แลว้ บันทึกผลลงในแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 45 2) นาความรู้ที่ได้จากการสืบค้นข้อมูลมาอภิปรายเพ่ือเชื่อมโยงกับผลการทากิจกรรมที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ ตอนท่ี 1 3) สรุปข้อมูลจากผลการอภิปราย แล้วออกแบบและสร้างแบบจาลองตามท่ีได้ออกแบบไว้เพื่อแสดงการเกิด ลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ โดยให้เลือกการเกดิ ลมมาคนละ 1 ชนิด 4) ส่งตัวแทนนาเสนอหน้าชั้นเรียน พรอ้ มอธิบายลักษณะการเกดิ ลมที่กลมุ่ ตนเองเลอื ก (หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมินนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม) 6. นักเรยี นทากิจกรรมหนูตอบได้ในหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 35 บนั ทึกลงในสมดุ ประจาตวั นกั เรยี น หรอื ทาในแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตรฯ์ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 46 109
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณพี ิบัติภัย แผนฯ ท่ี 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ ชว่ั โมงท่ี 3 ขนั้ สอน (ตอ่ ) ขัน้ สารวจค้นหา 1. นกั เรยี นตอบคาถามเพอื่ ทบทวนความรู้ว่า ลมบกเกิดข้ึนไดอ้ ย่างไร (แนวคาตอบ ลมบกเกิดจากอากาศเหนือพ้ืนดินมีอุณหภูมิต่ากว่าอากาศเหนือพื้นน้า หรืออากาศเหนือพื้นดินมี ความกดอากาศสงู กว่าอากาศเหนอื พ้ืนน้า เป็นผลให้อากาศเหนอื พนื้ ดนิ ทม่ี คี วามกดอากาศสูงกว่าเคล่ือนที่เข้าหา พน้ื นา้ ท่มี ีความกดอากาศต่ากวา่ ทาให้เกิดลม) 2. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ กลุ่มละ 4-5 คน จากน้นั ศกึ ษาขนั้ ตอนการทากจิ กรรมท่ี 2 ผลของลมบก ลมทะเล และ ลมมรสุม ในหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หน้า 64 3. นักเรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมที่ 2 ผลของลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ ปฏบิ ัติดังนี้ 1) สืบค้นเก่ยี วกบั ผลของลมบก ลมทะเล และลมมรสุม ท่ีมีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม แล้วบันทึกผลลงใน แบบฝึกหัดวิทยาศาสตรฯ์ ป.6 เลม่ 1 หน้า 48 2) นาข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นมาร่วมกันแสดงความคิดเห็น จากน้ันนาข้อมูลมาจัดทาเป็นแผนผัง แผนภาพ หรืออ่ืนๆ ลงในกระดาษแข็งแผ่นใหญ่พรอ้ มตกแต่งให้สวยงาม (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ) ขัน้ อธิบายความรู้ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับผลของลมบก ลมทะเล และ ลมมรสุมท่มี ผี ลตอ่ ส่ิงมีชวี ติ และส่ิงแวดล้อม 2. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปกิจกรรมท่ี 2 ผลของลมบก ลมทะเล และลมมรสุม 3. นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ - ปัจจัยใดบา้ งทีท่ าให้เกิดลม (แนวคาตอบ อณุ หภมู ขิ องอากาศและความกดอากาศ) - ถ้าอุณหภมู ิของอากาศ 2 บรเิ วณ ต่างกันมาก นกั เรียนคิดวา่ จะเกดิ ลมในลกั ษณะใด (แนวคาตอบ อากาศเคลื่อนท่ีเร็วข้ึน จงึ เกิดเปน็ ลมท่ีพัดแรงข้นึ เรยี กว่า พาย)ุ - เพราะเหตใุ ดลมบกจงึ เกดิ ขน้ึ ในเวลากลางคนื (แนวคาตอบ ในเวลากลางคืนพื้นดินคายความร้อนได้เร็วกว่าพื้นน้า ทาให้อากาศเหนือพื้นดินมีอุณหภูมิ ตา่ กวา่ อากาศเหนอื พืน้ นา้ บริเวณเหนือพืน้ นา้ มอี ณุ หภมู สิ งู จึงทาให้อากาศที่อยู่เหนือพ้ืนน้าลอยตัวสูงข้ึน เปน็ ผลให้อากาศเหนอื พืน้ ดินท่มี ีอุณหภมู ิตา่ กวา่ เคลอื่ นทเี่ ข้าหาพน้ื นา้ ท่ีมีอณุ หภมู ิสูงกวา่ ) 110
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณพี ิบัตภิ ยั แผนฯ ที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม - การเกดิ ลมมรสมุ เหมอื นหรอื แตกตา่ งจากการเกิดลมบก ลมทะเลอย่างไร (แนวคาตอบ หลักการเกิดลมมรสุมเช่นเดียวกับการเกิดลมบก ลมทะเล คือเกิดจากอุณหภูมิเหนือพ้ืน ทวปี และพ้ืนมหาสมทุ รมีความแตกต่างกนั ทาให้ลมมรสมุ ปกคลมุ พื้นท่เี ปน็ บริเวณกวา้ ง) - ลมมรสุมมผี ลต่อสภาพอากาศในประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร (แนวคาตอบ มีอิทธิพลต่อการเปล่ียนแปลงสภาพอากาศในไทย เช่น ส่งผลให้บางพ้ืนท่ีมีปริมาณฝนตก เพ่มิ ข้นึ หรือลดลง) 4. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ กลมุ่ ละ 4-5 คนเพอ่ื ทากิจกรรม นักพยากรณอ์ ากาศตัวน้อย โดยปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1) แตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมารบั แผนท่ีโลกและบตั รสถานการณ์พยากรณอ์ ากาศ 1 สถานการณ์ 2) ร่วมกนั ทาความเขา้ ใจเกยี่ วกบั สถานการณแ์ ละพจิ ารณาวา่ จะเกดิ ลมมรสุมชนิดใด อย่างไร และส่งผลอย่างไร ต่อพนื้ ทใี่ ดบ้างในประเทศไทย พร้อมเสนอแนะแนวทางในการปฏบิ ัตติ วั ถา้ เกดิ ลมมรสมุ น้ีขน้ึ 3) ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการทากิจกรรม โดยนาเสนอในรูปแบบรายงานขา่ ว 4) แตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนนาเสนอ 5. นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี - ลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้ จะพดั ผ่านประเทศไทยในช่วงใด และส่งผลอย่างไร (แนวคาตอบ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะพัดผ่านประเทศไทยในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ทาให้ เกิดฤดฝู น) - เพราะเหตุใดจึงเกิดฤดูหนาวทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในช่วงเดือน ตุลาคม-กุมภาพนั ธ์ (แนวคาตอบ เพราะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดพาอากาศเย็นและแห้งมา ปกคลมุ พ้ืนที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉยี งเหนือของประเทศไทย) 6. นกั เรียนร่วมสรุปผลการทากจิ กรรมว่า ในประเทศไทยมีลมมรสมุ พดั ผา่ น 2 ชนิด ไดแ้ ก่ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนือ 7. นักเรียนทากิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 71 บันทึกลงใน สมุดประจาตวั นักเรียน 8. นักเรียนทากิจกรรมหนูตอบได้ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 64 บันทึกลงในสมุดประจาตัว นกั เรยี นหรือทาในแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เล่ม 2 หน้า 49 (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล) 111
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณีพิบตั ภิ ยั แผนฯ ที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม ชั่วโมงท่ี 4 ขน้ั สอน (ตอ่ ) ข้นั ขยายความเข้าใจ 1. ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน โดยตอบคาถามท้าทายการคิดข้ันสูงว่า “มานพต้องการพาครอบครัวไปสัมผัส อากาศหนาวทางภาคเหนือ จึงวางแผนจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก” จากข้อความ นักเรียนคิดว่า มานพควรจอง ตัว๋ เครอ่ื งบินและทพี่ ักในช่วงเดือนใดได้บา้ งเพราะอะไร (แนวคาตอบ ช่วงเดือนตุลาคม–ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงท่ีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่าน ภาคเหนือของประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ แต่เน่ืองด้วยช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม เป็นช่วงทีเ่ วลาเทีย่ งวันของประเทศไทย ดวงอาทิตยต์ ัง้ ตรงหรอื เกือบตงั้ ตรง ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับความร้อน เตม็ ที่) 2. ครูเปิด PowerPoint เรื่อง ลมบก ลมทะเล และลมมรสุม ให้นักเรียนดู จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย เก่ียวกับลมบก ลมทะเล และลมมรสุม และให้นักเรียนแต่ละคนเขียนสรุปความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ได้เรียนรู้จาก บทที่ 1 ในรปู แบบต่างๆ เช่น แผนผังความคิด แผนภาพ ลงในสมดุ ประจาตวั นกั เรยี น 3. นักเรียนทุกคนศึกษาแผนผังความคิด สรุปสาระสาคัญ ประจาบทที่ 1 จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 72 เพือ่ ตรวจสอบการเขียนสรุปความรทู้ ี่นกั เรียนทาไวใ้ นสมุดประจาตวั นกั เรียน 4. นักเรียนทากิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 1 หน้า 73 บันทึกลงในสมุด ประจาตวั นักเรยี น 5. นักเรียนทากิจกรรมฝึกทักษะในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 1 หน้า 21 บันทึกลงในสมุดประจาตัว นกั เรียน หรอื ทาในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 50-52 6. นกั เรยี นทากจิ กรรมท้าทายการคิดข้ันสงู ในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 53 7. นักเรียนแบง่ กลุม่ ออกเป็นกลมุ่ ละ 4-5 คน เพ่อื ทากิจกรรมสรา้ งสรรค์ผลงาน โดยปฏิบัตดิ งั น้ี 1) ช่วยกันออกแบบส่ือการเรียนรู้ 3 มิติ เพ่ือจาลองกระบวนการเกิดลมบก ลมทะเล หรือลมมรสุม 1 ชนิด โดยใหส้ อื่ ถงึ กระบวนการเกดิ ลม (ชนิดลมท่ีเลอื กสร้าง) 2) สรา้ งส่อื การเรยี นรู้ 3 มิติ ตามท่ไี ด้ออกแบบไว้ 3) นาเสนอผลการทากจิ กรรมในประเด็นต่อไปน้ี - อธบิ ายกระบวนการเกดิ ลมชนดิ ท่ีนกั เรยี นเลอื ก โดยใชส้ ือ่ การเรยี นรู้ 3 มติ ิ - ผลของลมชนดิ ท่ีนักเรียนเลือกทม่ี ผี ลตอ่ ส่งิ มชี วี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ) 112
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพิบัตภิ ัย แผนฯ ท่ี 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม ขั้นสรุป 1. นักเรียนร่วมกันสรุปผลการทากิจกรรมว่า ลมบก ลมทะเล และลมมรสุม เกิดจากพ้ืนดินและพื้นน้ามีอุณหภูมิ อากาศเหนอื พ้ืนดินและพืน้ นา้ แตกต่างกัน จึงเกิดการเคล่ือนที่ของอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิต่าเข้าไปแทนท่ี อากาศบริเวณท่ีมีอุณหภูมิสูง ลมบกและลมทะเลเป็นลมประจาถิ่นที่พบบริเวณชายฝั่ง โดยลมบกเกิดในเวลา กลางคืน จงึ ทาใหม้ ีลมพัดจากชายฝ่ังไปสู่ทะเล ชาวประมงจงึ ใชป้ ระโยชน์จากลมบกในการออกเรือ ส่วนลมทะเล เกิดในเวลากลางวัน ทาให้มีลมพัดจากทะเลเข้าสู่ชายฝั่ง ชาวประมงจึงใช้ประโยชน์จากลมทะเลในการนาเรือ กลบั เข้าฝ่ัง ส่วนลมมรสุมเป็นลมประจาฤดทู เ่ี กิดบรเิ วณเขตรอ้ นของโลกเท่าน้ัน ซึ่งเป็นบริเวณกว้างระดับภูมิภาค โดยมีหลักการเช่นเดียวกับการเกิดลมบก ลมทะเล ซึ่งลมมรสุมเกิดจากอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทวีปและ พ้ืนมหาสมทุ รแตกต่างกัน ลมมรสุมที่พัดผ่านประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุ ม ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดฤดูฝน ส่วนลมมรสุม ตะวันออกเฉยี งเหนอื จะส่งผลใหป้ ระเทศไทยเกดิ ฤดหู นาว สว่ นชว่ งเปล่ียนมรสุมและประเทศไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์ สูตร แสงอาทิตย์เกือบต้ังตรง ตั้งตรงประเทศไทยในเวลาเที่ยงวัน ทาให้ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์อย่าง เตม็ ที่ อากาศจึงรอ้ นอบอา้ วทาให้เกดิ ฤดูรอ้ น ขนั้ ประเมนิ ขั้นตรวจสอบผล 1. ครูตรวจบนั ทึกข้อมลู การทากิจกรรมท่ี 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 44-45 2. ครตู รวจบันทึกข้อมูลการทากิจกรรมที่ 2 ผลของลมบก ลมทะเล และลมมรสุมในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 48 3. ครตู รวจกจิ กรรมหนตู อบไดใ้ นสมุดประจาตวั นักเรียนหรือในแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 46 และ หน้า 49 4. ครตู รวจกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจและกิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ในสมุดประจาตวั นักเรียน 5. ครูตรวจแผนผงั ความคดิ สรปุ สาระสาคญั ประจาบทที่ 1 ในสมุดประจาตวั นกั เรียน 6. ครูตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะในสมุดประจาตัวนกั เรียน หรือในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตรฯ์ ป.6 เลม่ 2 หน้า 50-52 7. ครตู รวจกิจกรรมท้าทายการคิดขน้ั สูง ในแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 53 8. ครูประเมนิ ผลงาน สื่อการเรยี นรู้ 3 มิติ ในกจิ กรรมสรา้ งสรรค์ผลงาน 113
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาตแิ ละธรณพี บิ ตั ภิ ัย แผนฯ ท่ี 1 การเกดิ ลมบก ลมทะเล และลมมรสุม 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมิน - แบบประเมินผลงาน - คณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี 1) ผลงานสอื่ การเรียนรู้ - ประเมินผลงาน ผ่านเกณฑ์ 3 มิติ 2) กจิ กรรมที่ 1 การเกิด - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ฯ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ลมบก ลมทะเล และ วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 ป.6 เล่ม 2 หนา้ 44-45 ลมมรสุม เลม่ 2 หนา้ 44-45 - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ฯ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) กิจกรรมท่ี 2 ผลของ วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 ป.6 เลม่ 2 หน้า 48 ลมบก ลมทะเล และ เลม่ 2 หนา้ 48 ลมมรสุม 4) กจิ กรรมหนตู อบได้ - ตรวจสมุดประจาตัว - สมดุ ประจาตัวนักเรยี นหรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรยี นหรอื แบบฝึกหัด แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ฯ วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 ป.6 เล่ม 2 หน้า 46 และ หน้า 46 และ 49 49 5) กิจกรรมตรวจสอบ - ตรวจสมดุ ประจาตวั - สมดุ ประจาตวั นกั เรียน - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ความเข้าใจ นกั เรียน 6) สรุปสาระสาคัญ - ตรวจสมุดประจาตวั - สมุดประจาตวั นักเรียน - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ประจาบทที่ 1 นกั เรียน 7) กิจกรรมพัฒนาการ - ตรวจสมุดประจาตวั - สมุดประจาตวั นักเรียน - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เรียนรู้ นกั เรยี น 8) กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - ตรวจสมดุ ประจาตัวหรอื - สมุดประจาตัวหรือ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ บทที่ 1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตรฯ์ แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตรฯ์ 9) กจิ กรรมท้าทายการ คดิ ข้นั สูง ป.6 เล่ม 2 หนา้ 50-52 ป.6 เลม่ 2 หนา้ 50-52 - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตรฯ์ วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 ป.6 เลม่ 2 หนา้ 53 หนา้ 53 114
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบัตภิ ัย แผนฯ ท่ี 1 การเกดิ ลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ รายการวัด วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน - แบบสังเกตพฤติกรรม - คณุ ภาพอยใู่ นระดับดี 10) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ รายบุคคล การทางานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรมการ - คุณภาพอยู่ในระดับดี ทางานกล่มุ ผ่านเกณฑ์ 11) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤตกิ รรมการ กลมุ่ ทางานกลมุ่ หมายเหตุ : แบบสังเกตพฤติกรรมประเมินรายเทอม 8. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 3) วัสดุ-อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในกิจกรรมท่ี 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ 4) วสั ดุ-อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในกิจกรรมท่ี 2 ผลของลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ 5) วสั ดุ-อุปกรณท์ ่ใี ช้ในกจิ กรรมสร้างสรรคผ์ ลงาน 6) QR Code เร่อื ง การเกดิ ลม 7) PowerPoint เร่ือง ลมบก ลมทะเล และลมมรสุม 8) แผนทโ่ี ลก 9) บัตรสถานการณ์พยากรณอ์ ากาศ 10) สมดุ ประจาตวั นกั เรียน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรยี น 2) อินเทอร์เนต็ 3) หอ้ งสมดุ 115
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบัตภิ ยั แผนฯ ท่ี 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสมุ บตั รสถานการณพ์ ยากรณอ์ ากาศ “ช่วงเดือนมิถุนายน บริเวณซีกโลกใต้ใกล้กับบริเวณมหาสมุทรอินเดียมีความกดอากาศสูง เกิดลมพัดผ่าน มหาสมุทรอนิ เดียจะนาความชืน้ ในอากาศจากมหาสมุทรมาสู่พ้นื ทวปี และลมมรสุมน้ันก็ไดพ้ ัดผ่านประเทศไทย” ประเทศไทยจะได้รบั อิทธพิ ลจากลมมรสมุ นี้หรือไม่ อยา่ งไร และควรปฏิบัติตนอย่างไรถา้ อยใู่ นพ้นื ท่ีท่ลี ม มรสุมนี้พัดผา่ น “ช่วงเดือนสิงหาคม บริเวณซีกโลกใต้ใกล้กับบริเวณมหาสมุทรอินเดียมีความกดอากาศสูง เกิดลมพัดผ่าน มหาสมุทรอนิ เดียจะนาความชื้นในอากาศจากมหาสมุทรมาสู่พ้ืนทวีป และลมมรสมุ นั้นก็ได้พดั ผ่านประเทศไทย” ประเทศไทยจะได้รบั อิทธพิ ลจากลมมรสมุ นหี้ รือไม่ อยา่ งไร และควรปฏบิ ตั ิตนอย่างไรถา้ อยใู่ นพืน้ ท่ีท่ลี ม มรสุมนี้พดั ผา่ น “บริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้ใกล้กับบรเิ วณมหาสมทุ รอินเดีย ซ่ึงพัดออกจากศูนย์กลางเป็นลมตะวันออก เฉียงใตแ้ ละเปล่ียนเป็นลมตะวนั ออกเฉียงใต้เมอื่ พดั ขา้ มเส้นศนู ยส์ ตู ร ในขณะเกดิ ลมพัดผ่านมหาสมุทรอินเดียจะนา ความชนื้ ในอากาศจากมหาสมุทรมาสพู่ น้ื ทวปี และลมมรสุมนั้นก็ไดพ้ ดั ผ่านประเทศไทยในช่วงเดอื นกนั ยายน” ประเทศไทยจะไดร้ ับอิทธิพลจากลมมรสมุ นี้หรือไม่ อย่างไร และควรปฏบิ ัติตนอย่างไรถา้ อยู่ในพื้นท่ที ี่ลม มรสมุ นพ้ี ัดผ่าน “ช่วงเดือนตลุ าคม ความกดอากาศสูงบนซีกโลกเหนือ แถบประเทศมองโกเลยี และจีน พัดพาเขา้ ปกคลุมประเทศ ไทย” ทางภาคเหนือของประเทศไทยจะไดร้ บั อิทธิพลจากลมมรสุมนี้หรอื ไม่ อยา่ งไร และควรปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไรถา้ อยู่ในพื้นท่ีท่ีลมมรสุมนพ้ี ัดผ่าน “ชว่ งเดือนธนั วาคม บริเวณซีกโลกเหนอื แถบประเทศมองโกเลียและจีนความกดอากาศสูง และพัดพาเขา้ ปกคลุม ประเทศไทย” ทางภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของประเทศไทยจะไดร้ ับอิทธิพลจากลมมรสุมนห้ี รอื ไม่ อย่างไร และควร ปฏิบัติตนอยา่ งไรถา้ อย่ใู นพ้ืนท่ที ลี่ มมรสุมนี้พัดผา่ น 116
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละธรณพี บิ ัตภิ ัย แผนฯ ท่ี 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม บตั รสถานการณพ์ ยากรณอ์ ากาศ “ช่วงเดอื นมกราคม ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ท่พี ดั พาความกดอากาศสูงจากบริเวณซีกโลกเหนือ แถบประเทศมองโกเลียและจีนมาปกคลุมประเทศไทย ” ประเทศไทยจะได้รับอิทธพิ ลจากลมมรสมุ น้ีหรือไม่ อย่างไร และควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไรถ้าอยูใ่ นพื้นที่ท่ีลม มรสุมนีพ้ ดั ผ่าน “ช่วงเดอื นพฤศจิกายน บรเิ วณซีกโลกเหนือแถบประเทศมองโกเลยี และจีนความกดอากาศสูง และพัดพาเข้าปก คลมุ ประเทศไทย” ทางภาคใต้ของประเทศไทยจะได้รับอทิ ธิพลจากลมมรสมุ นีห้ รอื ไม่ อย่างไร และควรปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไรถา้ อยู่ ในพนื้ ที่ท่ลี มมรสุมนพี้ ดั ผ่าน 117
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพบิ ัติภยั แผนฯ ที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และลมมรสุม แบบบนั ทึกหลังแผนการจดั การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่มี ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปญั หา/อปุ สรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ..............................................ผูบ้ นั ทกึ (................................................) ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงช่ือ................................................ (................................................) ตาแหน่ง................................................. 118
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณีพิบตั ภิ ยั แผนฯ ท่ี 2 ธรณพี บิ ัติภยั 1 (นำ้ ทว่ ม ดินถล่ม) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 ธรณีพบิ ัติภัย 1 (น้าท่วม ดนิ ถลม่ ) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพิบัติภยั ระยะเวลา 3 ชัว่ โมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี ดั ว 3.2 ป.6/6 บรรยายลักษณะและผลกระทบของนา้ ท่วม การกัดเซาะชายฝ่ัง ดนิ ถล่ม แผ่นดนิ ไหว สึนามิ ว 3.2 ป.6/7 ตระหนักถึงผลกระทบของภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย โดยน้าเสนอแนวทางในการเฝ้าระวังและ ปฏิบัติตนใหป้ ลอดภัยจากภัยธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบตั ิภัยที่อาจเกิดในท้องถน่ิ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) บรรยายลกั ษณะและผลกระทบของน้าทว่ มและดนิ ถลม่ ได้ (K) 2) เขยี นแผนภาพแสดงลักษณะของนา้ ทว่ มและดินถลม่ ได้ (P) 3) น้าเสนอแนวทางในการเฝ้าระวงั และปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัยจากนา้ ท่วมและดนิ ถล่มได้ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ ลักษณะและผลกระทบของน้าท่วมและดินถล่ม แนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจาก ภัยธรรมชาตแิ ละธรณพี บิ ตั ภิ ยั ที่อาจเกดิ ในทอ้ งถน่ิ 4. สาระส้าคัญ/ความคิดรวบยอด น้าท่วม และดินถล่ม มีผลกระทบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมแตกต่างกัน มนุษย์ควรเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนให้ปลอดภัย เช่น ติดตามข่าวสารอย่างสม้่าเสมอ เตรียมถุงยังชีพ ห้พร้อมใช้ตลอดเวลา และปฏิบัติตามค้าส่ังของผู้ปกครองและ เจา้ หน้าทอ่ี ยา่ งเคร่งครัดเมอื่ เกิดภัยทางธรรมชาติและธรณีพบิ ตั ภิ ัย 5. สมรรถนะสา้ คัญของผู้เรยี น ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสา้ คญั ของผูเ้ รยี น ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ความสามารถในการส่ือสาร 1) การสังเกต 1) มีวินยั 2) ความสามารถในการคดิ 2) การลงความเหน็ จากข้อมูล 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3) การตีความหมายข้อมลู และ 3) มุ่งมัน่ ในการท้างาน 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ลงข้อสรุป 119
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพบิ ัติภยั แผนฯ ท่ี 2 ธรณพี ิบตั ิภยั 1 (นำ้ ท่วม ดินถล่ม) 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : 5Es Instructional Model ชว่ั โมงท่ี 1 ขนั น้า ขันกระตุน้ ความสนใจ 1. นักเรียนดภู าพในหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 76 จากนันครูสนทนาถามค้าถามนักเรียนว่า - ถ้านา้ แข็งขัวโลกหลอมละลายหมดจะส่งผลกระทบอยา่ งไรบ้าง (แนวค้าตอบ นกั เรียนแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งอสิ ระ) - ทา้ ไมนา้ แข็งขัวโลกจงึ หลอมละลาย (แนวค้าตอบ เพราะภาวะโลกรอ้ นท้าใหน้ า้ แข็งขัวโลกหลอมละลาย) 2. นักเรยี นอา่ นกจิ กรรมชวนอ่านชวนคดิ กอ่ นเรยี น ตอน ระวังภยั สนึ ามิ ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 77 และตอบค้าถามต่อไปนี - สึนามิ คอื ธรณีพิบตั ิภยั ประเภทหน่งึ เพ่อื นๆ คิดว่าสึนามเิ กิดมาจากสาเหตใุ ด และมีวิธกี ารปฏบิ ตั ิตนให้ ปลอดภัยจากสนึ ามิไดอ้ ย่างไร (แนวคา้ ตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนักเรยี น เชน่ เกิดจากแผ่นดนิ ไหวใต้ทะเลลกึ ถา้ เกดิ สึนามิ ควร หนีขนึ ที่สูงเพื่อความปลอดภัย) 3. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ ในท้องถ่ินนักเรียนเคยพบภยั พิบตั ิอะไรบ้าง 4. ครูสนทนากับนักเรียนเพ่ือน้าเข้าสู่บทเรียนว่า ในท้องถิ่นของเราอาจเกิดภัยธรรมชาติหรือธรณีพิบัติภัยต่างๆ ได้ เช่น น้าท่วม ดินถล่ม สึนามิ แผ่นดินไหว น้ากัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งภัยธรรมชาติท่ีพบได้บ่อยครังในท้องถ่ินของเรา คือ น้าท่วมและดินถล่ม ดังนัน นักเรียนควรเรียนรู้เพื่อเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้มีความปลอดภัย จากกจิ กรรมตอ่ ไปนี ขนั สอน ขันส้ารวจค้นหา 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน จากนันศึกษาขันตอนการท้ากิจกรรมที่ 1 ภัยธรรมชาติและ ธรณีพบิ ตั ภิ ยั เกิดขึนไดอ้ ย่างไร ในหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 79 120
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณพี บิ ตั ิภัย แผนฯ ท่ี 2 ธรณีพิบัตภิ ยั 1 (นำ้ ท่วม ดินถลม่ ) 2. นกั เรยี นปฏบิ ตั ิกจิ กรรมที่ 1 ภยั ธรรมชาติและธรณีพบิ ตั ิภยั เกิดขึนไดอ้ ยา่ งไร ตอนท่ี 1 โดยปฏิบัตดิ ังนี 1) ส่งตัวแทนกลมุ่ ไปรบั วัสดุ-อปุ กรณ์ในการทา้ กิจกรรม 2) แต่ละกลุม่ ร่วมกนั สบื ค้นข้อมูลเกย่ี วกับลักษณะและผลกระทบของนา้ ทว่ ม 3) นา้ ขอ้ มลู มาจัดทา้ ในรปู แบบต่างๆ เชน่ แผนภาพ เพอื่ อธบิ ายลักษณะและผลกระทบของนา้ ทว่ ม 3. นักเรียนปฏิบัติกจิ กรรมท่ี 1 ภยั ธรรมชาติและธรณีพิบัติภัยเกิดขึนได้อย่างไร ตอนท่ี 2 ปฏิบัตดิ ังนี 1) สืบคน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั แนวทางในการเฝ้าระวงั และปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากน้าทว่ ม แล้วบันทึกผลลงใน แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หน้า 56 ขนั อธบิ ายความรู้ 1. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มน้าเสนอผลงานหนา้ ชนั เรยี น ในประเด็นตอ่ ไปนี - ลักษณะการเกิดน้าท่วม - สาเหตุการเกดิ น้าท่วม - ผลกระทบของนา้ ท่วม - แนวทางในการเฝา้ ระวงั และปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัยจากน้าท่วม 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสาเหตุการเกิดน้าท่วม จนได้ข้อสรุปว่า น้าท่วมเกิดจากฝนตกหนักและต่อเน่ืองเป็น เวลานาน ท้าใหด้ ินไม่สามารถดดู ซับนา้ ไวไ้ ดท้ ังหมดหรือไมส่ ามารถระบายออกได้ทัน ทา้ ใหเ้ กดิ นา้ ขัง 3. นักเรียนรว่ มกันอภิปรายวธิ ีการปอ้ งกันน้าท่วมจนได้ข้อสรปุ ว่า ควรปฏิบตั ิ ดงั นี 1) การปลูกพืชคลุมดนิ เพื่อช่วยในการดดู ซบั นา้ 2) การกา้ จดั สิง่ กีดขวางทางน้า 3) การขดุ ลอกคลอง เพื่อเกบ็ นา้ ก่อนระบายสนู่ ้าทะเล 4) การอนรุ ักษ์ปา่ ไม้และการปลูกป่าทดแทนพนื ทีป่ ่าทสี่ ูญเสยี ไป 5) สร้างเข่ือนเพ่อื กักเกบ็ นา้ หรือสรา้ งฝายชะลอการไหลของน้า 4. นกั เรียนในหอ้ งแบ่งออกเปน็ 2 กลุ่มใหญ่ เพือ่ ท้ากจิ กรรม รถด่วน ขบวนค้าถาม โดยปฏบิ ัติ ดังนี 1) นักเรียนแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนกลมุ่ ออกมาหนา้ ชันเรียนกล่มุ ละ 1 คน เพ่ือเปน็ คนจบั นาฬิกาจบั เวลา (อาจใช้ โทรศัพท์มือถอื จบั เวลาแทนนาฬกิ าจบั เวลา) 2) ครตู ังเวลาไว้ 2 วนิ าที วางนาฬกิ าลงกลอ่ ง 121
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย แผนฯ ท่ี 2 ธรณีพบิ ัติภัย 1 (นำ้ ทว่ ม ดินถล่ม) 3) ถา้ กลอ่ งเคลือ่ นท่ีไปฝั่งใดใหน้ ักเรียนที่เป็นตัวแทนกลมุ่ บอกแนวทางในการดแู ลและปฏิบัติตนใหป้ ลอดภยั เมอื่ เกิดนา้ ท่วม 4) โดยสมาชิกด้านหลังสามารถบอกค้าตอบกับตัวแทนกลุ่มได้ ส่วนสมาชิกฝ่ังตรงข้ามท้าหน้าท่ีตรวจสอบ ค้าตอบของอีกฝัง่ 5) เม่ือตอบคา้ ตอบได้ถูกต้อง สง่ กล่องให้อกี ฝั่ง และให้อีกฝ่ังบอกแนวทางในการดูแลและปฏิบัติตนให้ปลอดภัย เมอื่ เกิดน้าท่วม 6) สลับกล่องไปมาและตอบค้าถามแบบนีไปเร่ือยๆ จนกว่าเสียงนาฬิกาจับเวลาจะดัง เม่ือนาฬิกาดังฝั่งท่ี ถือกล่องถือวา่ เปน็ ผู้แพ้ในกจิ กรรมนี 5. นักเรียนร่วมกันสรุปผลการท้ากิจกรรมเกี่ยวกับแนวทางในการดูแลและปฏิบัติตนให้ปลอดภัย เม่ือเกิดน้าท่วม (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นกั เรียน โดยการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ) ชวั่ โมงท่ี 2 ขันสอน (ต่อ) ขันสา้ รวจค้นหา 1. นักเรียนทบทวนความรู้เดิมโดยการตอบค้าถามว่า ถ้าเกิดน้าท่วมขัง เราสามารถใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบ้านได้ หรอื ไม่ (แนวคา้ ตอบ ไม่ควรใช้เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า ควรปิดเครื่องใชไ้ ฟฟ้าและถอดปลัก๊ ให้เรยี บร้อย) 2. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเปน็ กลุ่มละ 4-5 คน ปฏบิ ัติกิจกรรมท่ี 1 ภยั ธรรมชาติและธรณีพิบตั ภิ ยั เกิดขึนได้อยา่ งไร ตอนที่ 1 โดยปฏบิ ตั ดิ งั นี 1) สง่ ตัวแทนกลุ่มไปรบั วสั ดุ-อุปกรณ์ในการทา้ กจิ กรรม 2) แตล่ ะกลุม่ ร่วมกันสบื คน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ลกั ษณะและผลกระทบของดนิ ถล่ม 3) นา้ ข้อมูลมาจัดทา้ ในรูปแบบต่างๆ เช่น แผนภาพ เพอ่ื อธบิ ายลกั ษณะและผลกระทบของดินถล่ม 3. นักเรียนปฏิบตั ิกิจกรรมท่ี 1 ภยั ธรรมชาตแิ ละธรณีพิบตั ิภยั เกิดขนึ ได้อยา่ งไร ตอนที่ 2 โดยปฏิบัตดิ ังนี 1) สืบคน้ ข้อมลู เกีย่ วกบั แนวทางในการเฝา้ ระวงั และปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั จากดินถลม่ แลว้ บนั ทกึ ผลลงใน แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 56 122
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพบิ ัติภัย แผนฯ ที่ 2 ธรณีพิบัตภิ ัย 1 (นำ้ ทว่ ม ดนิ ถลม่ ) ขนั อธิบายความรู้ 1. แตล่ ะกลุม่ น้าเสนอผลงานหน้าชันเรียนในประเดน็ ต่อไปนี - ลักษณะการเกิดดนิ ถล่ม - สาเหตุการเกดิ ดินถล่ม - ผลกระทบของดนิ ถล่ม - แนวทางในการเฝา้ ระวงั และปฏิบัติตนให้ปลอดภยั จากดนิ ถล่ม 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับดินถล่ม จนได้ข้อสรุปว่า ดินถล่ม คือ การเคลื่อนท่ีของมวลดิน หิน โคลน และต้นไม้ต่าง ๆ ที่ไหลลงมาตามแนวลาดเอียงตามแรงโน้มถ่วงของโลก เป็นผลที่เกิดตามมาหลังจาก การเกิดน้าป่าไหลหลาก การเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ การตัดไม้ท้าลายป่า การก่อสร้างหรือ การท้าการเกษตรบริเวณเชิงเขาท่ีมีความลาดชัน ส่งผลกระทบให้พืชผลทางการเกษตร ส่ิงปลูกสร้างต่าง ๆ เชน่ โรงเรยี น บ้าน เกดิ ความเสียหาย หน้าดินพังทลาย จึงท้าให้ดินเส่ือมสภาพ สัตว์ป่าไม่มีท่ีอยู่อาศัย รวมทัง ปิดกนั เส้นทางคมนาคมและทางเดินของแหลง่ น้า 3. นักเรยี นตอบคา้ ถามต่อไปนี - ดนิ ถล่มมีลักษณะอยา่ งไร (แนวค้าตอบ ดินถล่ม คือ การเคลื่อนท่ีของมวลดิน หิน โคลน และต้นไม้ท่ีไหลลงมาตามแนว ลาดเอียงตามแรงโน้มถว่ งของโลก) - ให้นกั เรยี นบอกวิธีป้องกนั ดินถลม่ (แนวคา้ ตอบ ปลูกป่า ไมท่ ้าไร่เล่ือนลอย ไมต่ ดั ไม้ท้าลายป่า ไมป่ ลกู สร้างบ้านหรือสิ่งก่อสร้าง ขวางทางนา้ หรือใกล้แหลง่ นา้ ) 4. นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับแนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจาก ดินถลม่ จนได้ขอ้ สรุปของชนั เรียน 5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มหาข้อมูลข่าวหรือสถานการณ์เก่ียวกับน้าท่วมหรือดินถล่มในประเทศไทย หรือใน ท้องถ่ินของนักเรียน หรือสัมภาษณ์คนในพืนที่เกี่ยวกับสถานการณ์น้าท่วมหรือดินถล่ม เพ่ือมาท้ากิจกรรม ในช่วั โมงหน้า (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล) 123
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละธรณีพบิ ตั ิภยั แผนฯ ที่ 2 ธรณีพบิ ตั ิภยั 1 (นำ้ ท่วม ดินถล่ม) ชวั่ โมงที่ 3 ขนั สอน (ตอ่ ) ขันขยายความเขา้ ใจ 1. นักเรียนตอบค้าถามวา่ ถา้ ที่อยอู่ าศัยของนักเรียนเกิดนา้ ทว่ ม จะสง่ ผลกระทบอยา่ งไรบา้ งตอ่ นักเรยี น (แนวคา้ ตอบ ท้าให้การเดนิ ทางไมส่ ะดวกและอาจมีสัตว์มีพิษออกมา ถ้าน้าท่วมขังนานๆ อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ เชน่ โรคตาแดง โรคนา้ กดั เทา้ โรคฉี่หนู โรคไขเ้ ลือดออก) 2. ครูให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าท่ีอยู่อาศัยของนักเรียนเกิดน้าท่วมหรือดินถล่ม นักเรียนจะมี การปฏิบัติตนอย่างไร 3. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ ออกเปน็ กลมุ่ ละ 4-5 คน เพอ่ื ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ภยั พบิ ตั ิในท้องถนิ่ โดยปฏิบัติ ดงั นี 1) นักเรียนน้าข่าวหรือสถานการณ์เกี่ยวกับน้าท่วมหรือดินถล่มในประเทศไทยหรือในท้องถิ่นมาอภิปราย ร่วมกัน ศึกษาหาสาเหตุว่าเกิดจากสาเหตุใด ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง เสนอแนะแนวทางการป้องกัน แนวทางในการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัย 2) นักเรยี นแต่ละกลมุ่ น้าเสนอผลการทา้ กจิ กรรม ร่วมกนั อภปิ รายและลงข้อสรุป (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการทา้ งานกลุ่ม) ขนั สรปุ 1. นักเรียนร่วมกันสรุปผลการท้ากิจกรรมว่า น้าท่วมและดินถล่ม มีผลกระทบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมแตกต่างกัน มนุษย์ควรเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนให้ปลอดภัย เช่น ติดตามข่าวสารอย่างสม่้าเสมอ เตรียมถุงยังชีพให้พร้อมใช้ ตลอดเวลา และปฏิบัติตามค้าส่ังของผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเมื่อเกิดภัยทางธรรมช าติและ ธรณพี บิ ตั ิภยั ขนั ประเมิน ขันตรวจสอบผล 1. ครตู รวจบนั ทกึ ข้อมลู การท้ากิจกรรมที่ 1 ภัยธรรมชาติและธรณพี บิ ตั ภิ ัย (น้าทว่ ม ดนิ ถล่ม) ในแบบฝกึ หัด วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 56 124
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณพี บิ ตั ิภยั แผนฯ ที่ 2 ธรณพี ิบัติภยั 1 (นำ้ ทว่ ม ดนิ ถล่ม) 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1) กจิ กรรมที่ 1 - ตรวจแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หน้า 56 - คณุ ภาพอยู่ในระดับดี ภยั ธรรมชาติและ วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 ผ่านเกณฑ์ - แบบสังเกตพฤติกรรม - คุณภาพอย่ใู นระดับดี ธรณีพบิ ตั ิภัย (น้าทว่ ม เลม่ 2 หน้า 56 การท้างานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ ดินถล่ม) - แบบสงั เกตพฤติกรรม 2) พฤติกรรมการทา้ งาน - สงั เกตพฤติกรรม การทา้ งานกลมุ่ รายบุคคล การทา้ งานรายบคุ คล 3) พฤติกรรมการท้างาน - สังเกตพฤติกรรม กล่มุ การทา้ งานกลุม่ หมายเหตุ : แบบสังเกตพฤติกรรมประเมินรายเทอม 8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 2) แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 3) วัสดุ-อุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นกจิ กรรมท่ี 1 ภยั ธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบตั ิภัยเกดิ ขึนได้อย่างไร (นา้ ท่วม ดินถล่ม) 4) สมุดประจา้ ตัวนกั เรยี น 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) อนิ เทอร์เนต็ 3) ห้องสมุด 125
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาตแิ ละธรณีพิบัติภัย แผนฯ ท่ี 2 ธรณีพิบตั ภิ ัย 1 (นำ้ ท่วม ดินถล่ม) แบบบันทึกหลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ ด้านสมรรถนะสา้ คัญของผู้เรยี น ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่ีมีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี)) ปญั หา/อปุ สรรค แนวทางการแก้ไข ลงชอ่ื ..............................................ผู้บนั ทกึ (................................................) ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่ือ................................................ (................................................) ตา้ แหนง่ ................................................. 126
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณีพบิ ตั ภิ ยั แผนฯ ท่ี 3 ธรณพี บิ ัติภยั 2 (แผน่ ดนิ ไหว สึนามิ การกดั เซาะชายฝงั่ ) แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3 ธรณีพบิ ตั ิภยั 2 (แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ การกัดเซาะชายฝ่งั ) หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบตั ภิ ยั ระยะเวลา 4 ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด ว 3.2 ป.6/6 บรรยายลกั ษณะและผลกระทบของน้าทว่ ม การกดั เซาะชายฝงั่ ดินถล่ม แผน่ ดนิ ไหว สึนามิ ป.6/7 ตระหนักถึงผลกระทบของภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย โดยน้าเสนอแนวทางในการเฝ้าระวังและ ปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั จากภัยธรรมชาติและธรณีพบิ ัตภิ ยั ทอ่ี าจเกิดในทอ้ งถนิ่ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) บรรยายลกั ษณะและผลกระทบของแผน่ ดินไหว สึนามิ และการกดั เซาะชายฝง่ั ได้ (K) 2) เขียนแผนภาพแสดงลักษณะของแผน่ ดินไหว สึนามิ และการกัดเซาะชายฝั่งได้ (P) 3) นา้ เสนอแนวทางในการเฝา้ ระวังและปฏิบัติตนใหป้ ลอดภยั จากแผ่นดินไหว สนึ ามิ การกัดเซาะชายฝั่งได้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ ลักษณะและผลกระทบของแผน่ ดินไหว สึนามิ และการกดั เซาะชายฝ่งั แนวทางในการเฝ้าระวังและปฏบิ ัตติ น ให้ปลอดภยั จากภัยธรรมชาติและธรณพี ิบตั ภิ ยั ทอี่ าจเกดิ ในท้องถิ่น 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด แผน่ ดนิ ไหว สึนามิ และการกัดเซาะชายฝั่ง มีผลกระทบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมแตกต่างกัน มนุษย์ควรเรียนรู้วิธี ปฏิบัติตนให้ปลอดภัย เชน่ ติดตามข่าวสารอยา่ งสม่้าเสมอ เตรียมถุงยังชีพให้พร้อมใช้ตลอดเวลา และปฏิบัติตามค้าส่ัง ของผู้ปกครองและเจา้ หนา้ ทีอ่ ย่างเครง่ ครัดเมื่อเกดิ ภัยทางธรรมชาติและธรณีพิบตั ิภัย 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ความสามารถในการส่ือสาร 1) การสงั เกต 1) มีวนิ ัย 2) ความสามารถในการคิด 2) การลงความเหน็ จากข้อมูล 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3) การตีความหมายข้อมลู และ 3) มงุ่ มนั่ ในการท้างาน 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ลงขอ้ สรุป 127
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละธรณีพบิ ตั ภิ ยั แผนฯ ที่ 3 ธรณพี บิ ัตภิ ัย 2 (แผ่นดินไหว สนึ ามิ การกดั เซาะชายฝง่ั ) 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : 5Es Instructional Model ชว่ั โมงท่ี 1 ขนั นา้ ข้ันกระตุน้ ความสนใจ 1. ครูทบทวนความรู้เดิมชั่วโมงท่ีแล้ว โดยน้าบัตรภาพธรณีพิบัติภัยติดไว้ที่กระดาน จากนันให้นักเรียนอธิบายว่า ภยั พิบัตใิ ดเป็นสาเหตทุ ้าใหเ้ กดิ ดนิ ถลม่ ได้บ้าง พรอ้ มบอกเหตผุ ล 2. ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อน้าเข้าสู่บทเรียนว่า สาเหตุของดินถล่มเกิดได้หลายปัจจัย รวมถึงเกิดจากแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ดังนัน วันนีเราจะมาเรียนรู้ว่า การเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ เกิดขึนได้อย่างไร รวมถึงเรื่อง เกี่ยวกบั การกดั เซาะชายฝั่ง จากกิจกรรมตอ่ ไปนี ขันสอน ข้ันสารวจค้นหา 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน จากนันศึกษาขันตอนการท้ากิจกรรมที่ 1 ภัยธรรมชาติและ ธรณีพิบัตภิ ยั เกดิ ขนึ ไดอ้ ย่างไร ในหนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 79 2. นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมที่ 1 ภยั ธรรมชาตแิ ละธรณพี บิ ัตภิ ัยเกิดขึนไดอ้ ย่างไร ตอนที่ 1 โดยปฏิบตั ิ ดงั นี 1) สง่ ตวั แทนกล่มุ ไปรบั วสั ดุ-อปุ กรณใ์ นการท้ากิจกรรม 2) แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สบื คน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกับลักษณะและผลกระทบของแผน่ ดินไหว 3) นา้ ข้อมูลมาจดั ทา้ ในรูปแบบต่างๆ เชน่ แผนภาพ เพือ่ อธบิ ายลักษณะและผลกระทบของแผน่ ดนิ ไหว 3. นักเรียนปฏิบตั ิกิจกรรมท่ี 1 ภยั ธรรมชาตแิ ละธรณีพิบัติภยั เกดิ ขึนได้อย่างไร ตอนท่ี 2 โดยปฏบิ ตั ิ ดังนี 1) สืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกับแนวทางในการเฝ้าระวังและปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั จากแผ่นดินไหว แล้วบันทึกผลลงใน แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 56 (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ) 128
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละธรณพี บิ ัตภิ ัย แผนฯ ท่ี 3 ธรณีพิบัตภิ ัย 2 (แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ การกดั เซาะชายฝงั่ ) ข้นั อธิบายความรู้ 1. แต่ละกล่มุ น้าเสนอผลงานหน้าชนั เรยี น ในประเดน็ ต่อไปนี - ลกั ษณะการเกิดแผน่ ดินไหว - สาเหตุการเกดิ แผน่ ดินไหว - ผลกระทบของแผน่ ดนิ ไหว - แนวทางในการเฝา้ ระวังและปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั จากแผน่ ดนิ ไหว 2. นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายเก่ียวกบั แผ่นดินไหว จนไดข้ ้อสรุปวา่ แผ่นดินไหว คือ การสั่นสะเทือนของแผ่นดินที่รู้สึก ได้ ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่งบนผิวโลก ผลกระทบจากแผ่นดินไหว คือ ส่งผลให้พืนดินแยก ดินถล่ม สึนามิ ภูเขาไฟระเบิด ท้าให้เส้นทางการคมนาคม ส่ิงปลูกสร้างต่าง ๆ เช่น บ้าน โรงเรียน เสียหาย มนุษย์และสัตว์อาจ ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สาเหตุการเกิดอาจเกิดจากธรรมชาติ เช่น เกิดจากการเคล่ือนที่ของแผ่นเปลือกโลก ที่อาจเกิดจากการคดโค้งโก่งตัวอย่างฉับพลัน และเม่ือแผ่นเปลือกโลกขาดออกจากกัน จึงปลดปล่อยพลังงาน ออกมาในรูปคลืน่ แผน่ ดนิ ไหว หรืออาจเกิดจากการเคลื่อนตัวของรอยเล่ือน 3. นกั เรยี นตอบค้าถามวา่ ประเทศไทยของเรามีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้หรือไม่ และพืนท่ีใดบ้างที่คาดว่าเป็นพืนท่ี เสย่ี งแผน่ ดนิ ไหว สาเหตุเกดิ จากอะไร (แนวคา้ ตอบ ตอบตามความคดิ เห็นของนกั เรยี นอยา่ งอิสระ) 4. ครสู แกน QR Code 3D เร่อื ง รอยเลือ่ น จากนันครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ วา่ สาเหตุหนึ่งของการเกิดแผ่นดินไหวมาจาก การเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน ในประเทศไทยเรามีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้ เน่ืองจากปัจจุบันประเทศไทยมี รอยเล่อื นที่มีพลังทังหมด 14 รอยเล่ือน โดยกระจายอยู่ใน 22 จงั หวัด 5. ครูสร้างสถานการณ์สมมติที่ 1 ว่า ถ้านักเรียนอยู่ในอาคารหรือในห้องเรียนแล้วเกิดแผ่นดินไหวขึนจะท้าอย่างไร โดยสุ่มนักเรียนออกมา 3 คน และวางโต๊ะไว้ 1 ตัว รองเท้า ขวดน้า จากนันครูจะส่งสัญญาณว่าเกิดแผ่นดินไหว แล้วให้ตัวแทนนักเรียนปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากแผ่นดินไหวภายใน 1 นาที โดยนักเรียนภายในชันเรียนคอย สังเกตพฤติกรรมตัวแทนนักเรียน 6. ครูสร้างสถานการณ์สมมติที่ 2 ว่า ถ้านักเรียนอยู่นอกอาคารแล้วเกิดแผ่นดินไหวขึนจะท้าอย่างไร โดยครูสุ่ม นักเรียนออกมา 3 คน จากนนั ครจู ะส่งสัญญาณว่าเกิดแผ่นดินไหว แล้วให้ตัวแทนนักเรียนปฏิบัติตนให้ปลอดภัย จากแผ่นดนิ ไหวและนักเรียนอยนู่ อกอาคาร โดยนักเรียนภายในชนั เรยี นคอยสงั เกตพฤตกิ รรมตวั แทนนกั เรียน (หมายเหตุ : ครอู าจใช้อปุ กรณใ์ นหอ้ งเรียนจดั ฉากประกอบเพ่ือใหน้ กั เรยี นมองเห็นสถานการณช์ ัดเจนข้นึ ) 129
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพิบัตภิ ัย แผนฯ ท่ี 3 ธรณีพิบัตภิ ัย 2 (แผ่นดินไหว สนึ ามิ การกัดเซาะชายฝง่ั ) 7. จากนนั ให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ ว่า เพ่อื นคนใดปฏิบตั ิถูกต้อง และควรแกไ้ ขอย่างไร 8. นักเรียนรว่ มกันอภิปรายสรปุ แนวทางการเฝ้าระวงั และปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั เม่ือเกิดแผน่ ดนิ ไหว (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนักเรียน โดยการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ) ช่วั โมงที่ 2 ขนั สอน (ต่อ) ขั้นสารวจค้นหา 1. นักเรยี นตอบคา้ ถามเพ่ือทบทวนความรูเ้ ดมิ ว่า การเกดิ แผน่ ดินไหวมีความสมั พันธ์กบั การเกดิ สนึ ามิอย่างไร (แนวค้าตอบ สึนามิเกดิ จากแผ่นดนิ ไหวที่มจี ุดศูนยเ์ กิดแผ่นดนิ ไหวอยใู่ ต้ทะเลลกึ ) 2. นกั เรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมที่ 1 ภัยธรรมชาติและธรณพี ิบตั ิภยั เกดิ ขนึ ไดอ้ ยา่ งไร ตอนที่ 1 โดยปฏบิ ตั ิ ดงั นี 1) ส่งตัวแทนกลมุ่ ไปรบั วัสดุ-อุปกรณใ์ นการทา้ กจิ กรรม 2) แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สืบค้นข้อมูลเกีย่ วกับลักษณะและผลกระทบของสนึ ามิ 3) นา้ ข้อมลู มาจัดทา้ ในรปู แบบตา่ งๆ เช่น แผนภาพ เพอ่ื อธิบายลักษณะและผลกระทบของสึนามิ 3. นักเรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรมท่ี 1 ภยั ธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบัตภิ ัยเกดิ ขนึ ไดอ้ ย่างไร ตอนที่ 2 โดยปฏิบตั ดิ ังนี 1) สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากสึนามิ แล้วบันทึกผลลง ในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 56 ขนั้ อธิบายความรู้ 1. แตล่ ะกลมุ่ น้าเสนอผลงานหน้าชันเรียนในประเด็นต่อไปนี - ลักษณะการเกิดสึนามิ - สาเหตกุ ารเกดิ สนึ ามิ - ผลกระทบของสนึ ามิ - แนวทางในการเฝา้ ระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภยั จากสนึ ามิ 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับสึนามิ จนได้ข้อสรุปว่า สึนามิ คือ คลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ท่ีเกิดในมหาสมุทรและ เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝ่ัง โดยมีจุดก้าเนิดอยู่ในเขตทะเล เกิดจากแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ใต้ ทะเลลกึ ทา้ ให้น้าในทะเลและมหาสมุทรได้รับแรงส่ันสะเทือนอย่างรุนแรง และเกิดเป็นคล่ืนขนาดใหญ่เคลื่อนท่ี เข้าหาชายฝ่ังอย่างรวดเร็ว การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ทะเล การปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟ ส่งผลให้ทัง สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในทะเลและที่อยู่ใกล้ชายฝ่ัง เช่น มนุษย์และสัตว์บาดเจ็บและเสียชีวิต บ้าน ถนน ทรัพย์สนิ อน่ื ๆ รวมไปถงึ ทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ เช่น ปา่ ชายเลน สัตว์ทะเล ปะการังใตท้ อ้ งทะเลเสยี หาย 130
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณพี บิ ตั ิภยั แผนฯ ที่ 3 ธรณีพบิ ัติภยั 2 (แผ่นดินไหว สึนามิ การกัดเซาะชายฝงั่ ) 3. ครูน้าข่าวสึนามิท่ีเกิดขึนในประเทศไทย ในวันที่ 26 ธ.ค. พ.ศ. 2547 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 5 พันคน ให้นักเรียน ศึกษาว่า เพราะเหตุใดการเกิดสึนามิครังนันถึงมีผู้เสียชีวิตจ้านวนมากและหลังจากเกิดสึนามิในครังนัน เรามี มาตรการป้องกันภัยจากสนึ ามอิ ย่างไร 4. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นอภิปรายถึงสาเหตุการสูญเสียจากสึนามิในครังนัน และสรุปแนวทาง การเฝ้าระวงั และปฏิบัตติ นให้ปลอดภัยเมื่อเกิดสึนามิ (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ) ชัว่ โมงท่ี 3 ขนั สอน (ตอ่ ) ขัน้ สารวจคน้ หา 1. นกั เรียนตอบคา้ ถามเพ่ือทบทวนความรู้วา่ ถ้านกั เรียนไปเที่ยวทะเล แลว้ พบวา่ อย่ๆู ระดับนา้ ทะเลลดลงอยา่ ง รวดเร็ว นักเรยี นจะปฏิบัตติ นอย่างไร (แนวคา้ ตอบ อพยพขนึ ทส่ี งู ทันทีหรอื ออกห่างจากชายฝั่งให้มากท่ีสดุ ) 2. นักเรียนสังเกตภาพในบัตรภาพชายฝั่ง แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า เพราะเหตุใดชายฝ่ังจึงมีลักษณะเป็น แบบนนั 3. นกั เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมท่ี 1 ภยั ธรรมชาติและธรณพี ิบัตภิ ัยเกิดขึนได้อย่างไร ตอนท่ี 1 โดยปฏบิ ัติ ดงั นี 1) ส่งตัวแทนกลุ่มไปรับวัสดุ-อปุ กรณใ์ นการท้ากิจกรรม 2) แตล่ ะกล่มุ รว่ มกันสบื ค้นขอ้ มูลเกี่ยวกับลกั ษณะและผลกระทบการกัดเซาะชายฝง่ั 3) นา้ ขอ้ มูลมาจดั ท้าในรปู แบบต่างๆ เชน่ แผนภาพ เพอ่ื อธิบายลกั ษณะและผลกระทบของการกดั เซาะชายฝั่ง 4. นกั เรียนปฏิบัตกิ จิ กรรมที่ 1 ภยั ธรรมชาตแิ ละธรณีพบิ ัตภิ ยั เกดิ ขึนได้อยา่ งไร ตอนที่ 2 โดยปฏบิ ตั ิ ดังนี 1) สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากการกัดเซาะชายฝ่ัง แลว้ บนั ทึกผลลงในแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หน้า 56 ขนั้ อธิบายความรู้ 1. แตล่ ะกลุม่ น้าเสนอผลงานหน้าชนั เรยี นในประเดน็ ต่อไปนี - ลกั ษณะการกดั เซาะชายฝง่ั - สาเหตุการกดั เซาะชายฝัง่ 131
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณพี บิ ัติภยั แผนฯ ท่ี 3 ธรณพี ิบตั ภิ ยั 2 (แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ การกัดเซาะชายฝง่ั ) - ผลกระทบของการกดั เซาะชายฝั่ง - แนวทางในการเฝ้าระวงั และปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัยจากการกัดเซาะชายฝ่งั 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการกัดเซาะชายฝ่ัง จนได้ข้อสรุปว่า การกัดเซาะชายฝ่ัง คือ การท่ีชายฝั่งทะเล ถกู กัดเซาะจากสาเหตตุ า่ งๆ ท้าใหช้ ายฝั่งรน่ ถอยเข้าไปในพนื ดิน อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เช่น การกัดเซาะของคลน่ื ลมมรสมุ และพายกุ ารเกดิ นา้ ขนึ น้าลง หรืออาจเกดิ จากการกระท้าของมนุษย์ เช่น การสร้าง ถนนริมชายฝ่ัง การสร้างท่าเรือหรือสะพานให้ยื่นออกจากชายฝั่ง การบุกรุกและท้าลายป่าชายเลน ส่งผลให้ ชายฝ่ังเกิดการสึกกร่อนและพังทลาย ส่งผลให้แนวชายฝั่งแคบลงเร่ือย ๆ ท้าให้คล่ืนสามารถเข้าถึงฝั่งได้มากขึน ส่งผลเสยี ต่อส่ิงก่อสร้างบรเิ วณใกล้ชายฝงั่ พนื ทท่ี ้าการเกษตรใกลช้ ายฝ่ัง หรือบรเิ วณปา่ ชายเลน 3. นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยเม่ือเกิด การกดั เซาะชายฝง่ั (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมนิ นักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม) 4. นักเรียนท้ากิจกรรมหนูตอบได้ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 64 บันทึกลงในสมุดประจ้าตัว นกั เรยี นหรือทา้ ในแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 57 (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นกั เรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล) ชั่วโมงท่ี 4 ขันสอน (ต่อ) ขัน้ ขยายความเขา้ ใจ 1. ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน โดยตอบค้าถามท้าทายการคิดขันสูงว่า ถ้าเกิดธรณีพิบัติภัยขึนในที่ท่ีนักเรียน อาศยั อยู่ ถ้ามีเวลาในการเตรียมถุงยังชีพ นักเรยี นคิดว่า สิ่งใดบา้ งท่จี า้ เปน็ (แนวคา้ ตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนักเรียน เช่น ชดุ ปฐมพยาบาลเบืองตน้ นา้ ด่ืม อาหารแห้ง ไฟฉายพร้อม ถา่ นไฟฉาย) 2. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน เพอื่ ท้าธรณีพบิ ัตภิ ยั ทพ่ี บในท้องถ่ิน โดยปฏิบัติ ดังนี 1) เลือกธรณีพิบัติภัยที่เคยเกิดขึนหรืออาจเกิดขึนในท้องถ่ินของนักเรียนมา 1 อย่าง จากนันให้นักเรียน วเิ คราะห์หาสาเหตุและผลกระทบทจี่ ะเกดิ ขนึ 2) ระดมสมองร่วมกันคิดวิธีการ แนวทางการป้องกัน และการเตรียมความพร้อมเม่ือเกิดธรณีพิบัติภัย จากนันใหน้ กั เรยี นนา้ เสนอผลงานหน้าชันเรยี น (หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมินนกั เรียน โดยการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ) 132
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณพี ิบตั ิภยั แผนฯ ท่ี 3 ธรณีพบิ ัติภัย 2 (แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ การกัดเซาะชายฝง่ั ) ขันสรปุ 1. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ผลการท้ากจิ กรรมว่า เมอื่ เกิดภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัยต่าง ๆ จะส่งผลต่อส่ิงมีชีวิตและ ส่ิงแวดล้อม ดังนัน เราจึงควรเรียนรู้แนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและ ธรณีพิบัติภัย เช่น การติดตามข่าวสารอย่างสม้่าเสมอ เตรียมถุงยังชีพให้พร้อมใช้ตลอดเวลา และปฏิบัติตาม ค้าส่งั ของผูป้ กครองและเจ้าหนา้ ท่อี ยา่ งเคร่งครัดเมอ่ื เกิดภยั ธรรมชาตแิ ละธรณีพิบัตภิ ยั ขันประเมนิ ขั้นตรวจสอบผล 1. ครูตรวจบันทึกข้อมูลการท้ากิจกรรมที่ 1 ภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัยเกิดขึนได้อย่างไร ในแบบฝึกหัด วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หน้า 56 2. ครูตรวจกจิ กรรมหนูตอบไดใ้ นสมดุ ประจา้ ตวั นกั เรียนหรือในแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หน้า 57 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมิน 1) กิจกรรมท่ี 1 - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ฯ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ภัยธรรมชาติและ วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 ป.6 เลม่ 2 หน้า 56 ธรณีพิบัตภิ ัยเกดิ ขึน เล่ม 2 หนา้ 56 ไดอ้ ย่างไร 2) กิจกรรมหนูตอบได้ - ตรวจสมุดประจา้ ตัว - สมุดประจ้าตวั นักเรียน - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรยี นหรือ หรอื แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 2 หน้า 57 เล่ม 2 หน้า 57 3) พฤติกรรมการท้างาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - คณุ ภาพอยูใ่ นระดับดี ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คล การท้างานรายบคุ คล การทา้ งานรายบคุ คล 4) พฤติกรรมการท้างาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - คุณภาพอยใู่ นระดับดี กลุ่ม การทา้ งานกลุ่ม การทา้ งานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ หมายเหตุ : แบบสังเกตพฤติกรรมประเมนิ รายเทอม 133
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณีพิบัติภยั แผนฯ ที่ 3 ธรณีพบิ ตั ิภยั 2 (แผ่นดนิ ไหว สึนามิ การกัดเซาะชายฝงั่ ) 8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 2) แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 3) วัสดุ-อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นกจิ กรรมท่ี 1 ภยั ธรรมชาติและธรณีพิบัตภิ ยั เกดิ ขึนไดอ้ ย่างไร 4) QR Code 3D เรือ่ ง รอยเลือ่ น 5) บัตรภาพธรณีพบิ ัตภิ ยั 6) บตั รภาพชายฝง่ั 7) สมุดประจ้าตวั นักเรียน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) อินเทอร์เน็ต 3) ห้องสมุด 134
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบัตภิ ัย แผนฯ ที่ 3 ธรณพี ิบตั ภิ ัย 2 (แผน่ ดนิ ไหว สนึ ามิ การกดั เซาะชายฝงั่ ) บตั รภาพธรณีพบิ ตั ิภยั นา้ ท่วม ดนิ ถลม่ 135
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพบิ ัตภิ ยั แผนฯ ที่ 3 ธรณีพบิ ตั ภิ ยั 2 (แผ่นดินไหว สึนามิ การกดั เซาะชายฝง่ั ) บตั รภาพธรณีพบิ ตั ิภยั แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ 136
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาตแิ ละธรณีพิบตั ิภัย แผนฯ ที่ 3 ธรณีพบิ ตั ภิ ัย 2 (แผน่ ดนิ ไหว สึนามิ การกดั เซาะชายฝงั่ ) บตั รภาพธรณีพบิ ตั ิภยั การกดั เซาะชายฝ่งั 137
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณพี บิ ตั ิภยั แผนฯ ท่ี 3 ธรณีพิบตั ภิ ัย 2 (แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ การกัดเซาะชายฝงั่ ) บตั รภาพชายฝัง่ 138
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณพี บิ ตั ภิ ยั แผนฯ ที่ 3 ธรณพี บิ ัตภิ ัย 2 (แผน่ ดินไหว สนึ ามิ การกดั เซาะชายฝง่ั ) แบบบันทึกหลงั แผนการจดั การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ ด้านสมรรถนะส้าคญั ของผู้เรยี น ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่ีมีปัญหาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี)) ปญั หา/อปุ สรรค แนวทางการแก้ไข ลงชือ่ ..............................................ผบู้ นั ทกึ (................................................) ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ................................................ (................................................) ตา้ แหน่ง................................................. 139
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณพี บิ ตั ิภัย แผนฯ ที่ 4 ปรากฏการณเ์ รือนกระจก แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 4 ปรากฏการณ์เรอื นกระจก หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณพี บิ ตั ภิ ัย ระยะเวลา 4 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด ว 3.2 ป.6/8 สร้างแบบจาลองที่อธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกและผลของปรากฏการณ์เรือนกระจกต่อ ส่งิ มชี ีวิต ป.6/9 ตระหนักถึงผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยนาเสนอแนวทางการปฏิบัติตน เพ่ือลดกิจกรรมท่ีกอ่ ให้เกดิ แกส๊ เรือนกระจก 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธบิ ายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกและผลของปรากฏการณ์เรือนกระจกได้ (K) 2) นาเสนอแนวทางการปฏิบัติตนเพ่ือลดแก๊สเรือนกระจกได้ (K) 3) สรา้ งแบบจาลองที่อธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรอื นกระจกและผลของปรากฏการณ์เรือนกระจกได้ (P) 4) ตระหนกั ถงึ ผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยปฏิบตั ติ นเพ่ือชว่ ยลดแกส๊ เรือนกระจกได้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเกิดและผลของปรากฏการณ์เรือนกระจก แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเพ่อื ลดแกส๊ เรอื นกระจก 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ปรากฏการณ์เรือนกระจกเกิดจากแก๊สเรือนกระจกในช้ันบรรยากาศของโลกกักเก็บความร้อน จากน้ันคาย ความร้อนบางส่วนกลับสู่ผิวโลก จึงทาให้อากาศบนโลกมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการดารงชีวิต แต่เม่ือ ปรากฏการณ์เรือนกระจกมีความรนุ แรงมากขนึ้ จะมผี ลต่อการเปลยี่ นแปลงภูมิอากาศโลก และทาให้เกิดภาวะโลกร้อน เราทุกคนจึงควรชว่ ยกันลดกิจกรรมท่ีก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจก เช่น ใช้รถจักรยานแทนรถยนต์ ไม่เผาขยะ ไม่เผาป่า ไมต่ ัดไม้ทาลายป่า 5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ความสามารถในการสื่อสาร 1) การวดั 1) มวี ินัย 2) ความสามารถในการคิด 2) การสังเกต 2) ใฝ่เรยี นรู้ 140
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณีพบิ ัติภัย แผนฯ ที่ 4 ปรากฏการณ์เรอื นกระจก สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 3) มุ่งม่ันในการทางาน 3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3) การตงั้ สมมติฐาน 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4) การสรา้ งแบบจาลอง 5) การลงความเห็นจากข้อมลู 6) การตีความหมายข้อมลู และ ลงขอ้ สรปุ 7) การจดั กระทาและสือ่ ความหมาย ข้อมูล 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : 5Es Instructional Model ชวั่ โมงที่ 1 ข้ันนา ขัน้ กระตนุ้ ความสนใจ 1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมชวั่ โมงท่ีแลว้ โดยนักเรียนตอบคาถามว่า - การปลูกป่าสามารถป้องกันธรณีพิบัติภัยไดห้ รือไม่ อยา่ งไร (แนวคาตอบ สามารถป้องกนั ได้ โดยปอ้ งกนั ปัญหานา้ ทว่ มและดนิ ถลม่ ได้ เพราะป่าไม้เป็นแหล่งท่ชี ่วย ใหด้ นิ ดูดซบั น้าไดน้ านขึ้น) - หากมนุษยต์ ัดไม้ทาลายปา่ จนเกอื บหมด จะสง่ ผลกระทบอยา่ งไรบ้าง (แนวคาตอบ อาจเกดิ ธรณีพบิ ตั ภิ ัยหลายๆ อย่าง ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น เมื่ออุณหภูมิโลกสูงข้ึนมาก อาจเปน็ อันตรายต่อสงิ่ มชี วี ติ ได้) - พฤติกรรมใดบา้ งของมนุษย์ท่ีส่งผลทาใหอ้ ุณหภูมโิ ลกสงู ขึน้ (แนวคาตอบ เช่น การทาลายปา่ ไม้ การเผาป่า การเผาขยะ) 2. นักเรียนดูภาพกิจกรรมที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกเพ่ิมมากขึ้น ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 91 จากน้ันครูสนทนากับนักเรียนว่า กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้เกิดแก๊สเรือนกระจกมากข้ึน ซึ่ง เป็นสาเหตุทาให้อณุ หภูมขิ องโลกสูงข้นึ 3. ครสู นทนากบั นักเรยี นเพื่อนาเข้าส่บู ทเรียนวา่ ปรากฏการณ์เรือนกระจกเกดิ ขึ้นได้อย่างไร สง่ ผลกระทบอย่างไร บา้ ง และเก่ยี วข้องกับการหลอมเหลวของนา้ แข็งขว้ั โลกหรือไม่ อย่างไร นกั เรียนจะได้เรียนรู้จากกจิ กรรมต่อไปน้ี 141
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณพี ิบัตภิ ยั แผนฯ ที่ 4 ปรากฏการณ์เรอื นกระจก ขั้นสอน ขน้ั สารวจคน้ หา 1. นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน จากนน้ั ศกึ ษาขั้นตอนการทากจิ กรรมท่ี 2 จาลองการเกิด ปรากฏการณเ์ รือนกระจก ในหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 92-93 2. นักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรมที่ 2 จาลองการเกดิ ปรากฏการณ์เรือนกระจก ตอนที่ 1 โดยปฏิบตั ิ ดังน้ี 1) ส่งตวั แทนกลุ่มไปรับวสั ดุ-อุปกรณใ์ นการทากิจกรรม 2) แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเกดิ ปรากฏการณ์เรอื นกระจก 3) สรา้ งแบบจาลองการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกตามข้นั ตอนในหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 92 และบนั ทึกข้อมลู ลงในแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เลม่ 2 หน้า 59-60 ขั้นอธบิ ายความรู้ 1. แตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าชนั้ เรยี น ในประเด็นตอ่ ไปนี้ - ผลการทากิจกรรมท่ี 2 จาลองการเกดิ ปรากฏการณเ์ รือนกระจก ตอนท่ี 1 - อธบิ ายการเกิดปรากฏการณ์เรอื นกระจก โดยใช้แบบจาลองปรากฏการณเ์ รือนกระจก 2. ส่มุ นักเรยี นใหอ้ ธบิ ายข้ันตอนการเกดิ ปรากฏการณ์เรอื นกระจก (แนวคาตอบ การเกดิ ปรากฏการณเ์ รือนกระจกมีขัน้ ตอน ดงั นี้ 1) รังสีจากดวงอาทติ ยผ์ า่ นชัน้ บรรยากาศสู่โลก 2) ช้ันบรรยากาศและเปลอื กโลกสะทอ้ นรงั สจี ากดวงอาทิตย์บางสว่ นออกไป 3) แก๊สเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ไอน้า โอโซน ไนตรัสออกไซด์ คลอโรฟลูออโร- คาร์บอน ดดู ซับรงั สคี วามรอ้ นบางสว่ นไว้ 4) ทาให้เปลอื กโลกและชั้นบรรยากาศเหนือโลกขนึ้ ไปมีอณุ หภูมิสงู ขน้ึ เม่ือเปลอื กโลกได้รับความร้อนมาก จงึ เกดิ การปล่อยรังสีความร้อนออกมามาก เพราะรังสีความร้อนไมส่ ามารถผา่ นชนั้ บรรยากาศท่ีมีแกส๊ เรอื นกระจกอยูไ่ ด้) 3. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก จนได้ข้อสรุปว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก คือปรากฏการณ์ท่ีโลกมีอุณหภูมิสูงข้ึน เพราะในเวลากลางวันแก๊สเรือนกระจกที่อยู่ในช้ันบรรยากาศจะดูดซับ รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์เอาไว้บางส่วน และในเวลากลางคืน เม่ือเปลือกโลกได้รับความร้อนมากจึงคาย ความร้อนออกสูผ่ วิ โลก ทาใหอ้ ณุ หภมู ิในบรรยากาศของโลกไม่เกิดการเปลีย่ นแปลงอย่างฉบั พลนั (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ) 142
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาตแิ ละธรณีพบิ ตั ิภยั ชวั่ โมงที่ 2 แผนฯ ท่ี 4 ปรากฏการณ์เรือนกระจก ขั้นสอน (ต่อ) ขั้นสารวจค้นหา 1. นักเรียนตอบคาถามเพ่ือทบทวนความรู้เดิมว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจกส่งผลกระทบอย่างไรต่อสิ่งมีชีวิตและ ส่ิงแวดล้อม (แนวคาตอบ ทาให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดไม่มีท่ีอยู่อาศัย สัตว์อาจล้มตาย ผลผลิตทางการเกษตรมีปริมาณลดลง เพราะปรมิ าณฝนลดลง) 2. นักเรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมท่ี 2 จาลองการเกิดปรากฏการณเ์ รือนกระจก ตอนที่ 2 โดยปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 1) ส่งตัวแทนกลุม่ ไปรบั วัสดุ-อุปกรณใ์ นการทากิจกรรม 2) แต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับผลท่ีเกิดจากปรากฏการณ์เรือนกระจกและแนวทางในการปฏิบัติตน เพอ่ื ลดกจิ กรรมทก่ี อ่ ให้เกิดแก๊สเรือนกระจก 3) นาข้อมูลมาจัดทาในรปู แบบต่างๆ เช่น แผนผัง แผนภาพ ลงในกระดาษแขง็ แผน่ ใหญ่ พร้อมตกแตง่ ให้ สวยงาม ขัน้ อธิบายความรู้ 1. แตล่ ะกลุม่ นาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน ในประเด็นตอ่ ไปน้ี - ผลท่ีเกดิ จากปรากฏการณเ์ รือนกระจก - แนวทางในการปฏิบตั ิตน เพื่อลดกิจกรรมที่กอ่ ใหเ้ กิดแก๊สเรือนกระจก 2. นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายและสรปุ ผลเก่ียวกบั ผลท่เี กดิ จากปรากฏการณ์เรือนกระจกและแนวทางในการปฏิบัตติ น เพ่ือลดกิจกรรมที่ก่อใหเ้ กิดแก๊สเรือนกระจก 3. นักเรียนทากิจกรรมหนูตอบได้ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 93 บันทึกลงในสมุดประจาตัว นักเรยี นหรือทาในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 61 (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม) 143
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบตั ิภยั แผนฯ ท่ี 4 ปรากฏการณ์เรือนกระจก ช่ัวโมงท่ี 3 ขน้ั สอน (ต่อ) ข้นั อธบิ ายความรู้ 1. นักเรียนทบทวนความรู้ โดยบอกกิจกรรมของนักเรียนที่ลดการก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจก เช่น ป่ันรถจักรยาน แทนการใชร้ ถยนต์ 2. นักเรียนตอบคาถามท้าทายการคิดข้ันสูงว่า การเผาตอซังข้าวในนาเป็นการเพิ่มปริมาณแก๊สเรือนกระจกหรือไม่ อย่างไร (แนวคาตอบ เป็นการเพ่ิมแก๊สเรือนกระจก เน่ืองจากการเผาตอซังข้าวจะส่งผลทาให้ปริมาณแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์เพม่ิ ขนึ้ และอาจไปทาลายแหลง่ กกั เกบ็ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์) 3. ครูเปิด PowerPoint เร่ือง ภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจก และอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นท่ี นักเรียนสงสัยหรือมีความสนใจ และใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนเขียนสรุปความรู้เก่ียวกับเร่ืองที่ได้เรียนรู้จากบทที่ 2 ใน รปู แบบตา่ งๆ เชน่ แผนผังความคดิ แผนภาพ ลงในสมดุ ประจาตวั นกั เรียน 4. นกั เรยี นทุกคนศึกษาแผนผงั ความคดิ สรุปสาระสาคัญ ประจาบทที่ 2 จากหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เล่ม 2 หน้า 98 เพื่อตรวจสอบการเขียนสรุปความรู้ท่ีนักเรียนทาไว้ในสมุดประจาตัว 5. นักเรียนทากิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 99 บันทึกลงในสมุด ประจาตวั นักเรียน 6. นักเรียนทากิจกรรมฝึกทักษะในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 100 บันทึกลงในสมุดประจาตัว นักเรยี นหรอื ทาในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หน้า 62-64 7. นกั เรียนทากจิ กรรมท้าทายความคดิ ข้นั สงู ในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 65 (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล) ชั่วโมงท่ี 4 ขนั้ สอน (ต่อ) ขน้ั ขยายความเข้าใจ 1. ทบทวนความรเู้ ดิมของนกั เรียน โดยให้นักเรยี นยกตวั อย่างปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละธรณีพบิ ัตภิ ัยท่สี ่งผล ตอ่ การดารงชีวติ ประจาวันของนักเรยี น 144
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณพี ิบตั ภิ ยั แผนฯ ที่ 4 ปรากฏการณ์เรอื นกระจก 2. ครูสนทนากับนักเรยี นว่า ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย เช่น น้าท่วม ดินถล่ม แผ่นดินไหว สึนามิ การกัดเซาะชายฝั่ง ปรากฏการณ์เรือนกระจก สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและ ส่ิงแวดล้อม 3. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน เพอ่ื ทากิจกรรมสร้างสรรค์ผลงาน โดยปฏิบตั ิ ดงั นี้ 1) ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มเลอื กหัวข้อได้แก่ แผ่นดินไหว น้าท่วม สึนามิ การกัดเซาะชายฝ่ัง และ การลดปริมาณ แก๊สเรือนกระจก กล่มุ ละ 1 หัวขอ้ 2) วาดภาพแนวทางในการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติหรือกิจกรรมท่ีช่วยลดการเกิดแก๊สเรือน กระจก ลงในกระดาษ 3) ออกแบบและสร้างสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้มาสร้างอุปกรณ์ช่วยชีวิตเม่ือเกิดธรณีพิบัติภัย หรือประดิษฐ์ ของจากวสั ดเุ หลือใช้เพือ่ ลดการปลอ่ ยแก๊ส เชน่ ประดิษฐเ์ ส้ือชชู ีพจากขวดน้าพลาสตกิ 4) จากน้ันให้นักเรียนจาลองสถานการณ์ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยจะปฏิบัติตนอย่างไร และใช้อุปกรณ์ ที่นกั เรียนประดิษฐ์ขึน้ อยา่ งไร (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม) ข้นั สรปุ 1. นักเรยี นร่วมกันสรุปผลการทากจิ กรรมวา่ เม่อื เกิดภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัยต่าง ๆ จะส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อม ดังน้ัน เราจึงควรเรียนรู้แนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและ ธรณีพิบัติภัย เช่น ช่วยกันลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจก ใช้รถจักรยานแทนรถยนต์ ไม่เผาขยะ ไมเ่ ผาป่า ไม่ตัดไมท้ าลายป่า ขัน้ ประเมนิ ข้ันตรวจสอบผล 1. นกั เรียนแต่ละคนทาทบทวนท้ายหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 ในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 66-69 2. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เพื่อตรวจสอบความรู้ของนกั เรียนหลงั ทากจิ กรรม 3. ครูตรวจ กิจกรรมท่ี 2 จาลองการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 59-60 4. ครูตรวจแผนผงั ความคดิ สรุปสาระสาคัญ ประจาบทที่ 2 ในสมดุ ประจาตัวนกั เรียน 145
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพิบัตภิ ัย แผนฯ ที่ 4 ปรากฏการณเ์ รือนกระจก 5. ครตู รวจกจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ ในสมุดประจาตวั นกั เรยี น 6. ครูตรวจกิจกรรมหนตู อบได้ในสมดุ ประจาตวั นกั เรียนหรือทาในแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 61 7. ครตู รวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในสมุดประจาตัวนกั เรยี นหรือทาในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 62-64 8. ครูตรวจกจิ กรรมทา้ ทายการคดิ ข้ันสงู ในแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 65 9. ครูประเมินผลงาน อุปกรณ์ชว่ ยชวี ิตในกจิ กรรมสร้างสรรค์ผลงาน 10. ครูตรวจทบทวนท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 ในแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 66-69 11. ครตู รวจแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เพอื่ ตรวจสอบความรูข้ องนักเรยี นหลังทากจิ กรรม 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์ 1) ผลงาน อุปกรณ์ - ประเมินผลงาน - แบบประเมนิ ผลงาน - คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี ช่วยชีวติ ผา่ นเกณฑ์ 2) กิจกรรมท่ี 2 จาลอง - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ฯ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การเกดิ วทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 ป.6 เล่ม 2 หน้า 59-60 ปรากฏการณเ์ รือน เล่ม 2 หน้า 59-60 กระจก 3) สรุปสาระสาคัญ - ตรวจสมดุ ประจาตวั - สมดุ ประจาตัวนกั เรยี น - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ประจาบทที่ 2 นักเรียน 4) กิจกรรมหนูตอบได้ - ตรวจสมดุ ประจาตัว - สมดุ ประจาตวั หรือ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ หรอื แบบฝกึ หดั แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ฯ วิทยาศาสตรฯ์ ป.6 เลม่ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 65 2 หนา้ 65 5) กจิ กรรมพัฒนา - ตรวจสมุดประจาตวั - สมุดประจาตัวนักเรยี น - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การเรยี นรู้ นักเรยี น 146
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติและธรณีพิบตั ภิ ยั แผนฯ ที่ 4 ปรากฏการณ์เรือนกระจก รายการวดั วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ 6) กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - สมดุ ประจาตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจสมุดประจาตัว บทที่ 2 หรือแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ฯ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วิทยาศาสตรฯ์ ป.6 ป.6 เลม่ 2 หนา้ 62-64 7) กจิ กรรมท้าทาย เล่ม 2 หนา้ 62-64 - รอ้ ยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ การคดิ ข้ันสงู - แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ฯ - ตรวจแบบฝึกหัด ป.6 เลม่ 2 หนา้ 65 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 65 - คณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี ผา่ นเกณฑ์ 8) ทบทวนท้ายหนว่ ย - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 66-69 - คุณภาพอยใู่ นระดับดี การเรียนรทู้ ี่ 7 วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบหลังเรยี น เลม่ 2 หนา้ 66-69 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 9) ทดสอบหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลัง - แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ - แบบสังเกตพฤติกรรม ท่ี 7 การทางานกลุ่ม 10) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล 11) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ หมายเหตุ : แบบสงั เกตพฤติกรรมประเมนิ รายเทอม 147
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและธรณีพิบัตภิ ยั แผนฯ ท่ี 4 ปรากฏการณเ์ รอื นกระจก 8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 3) วัสดุ-อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นกิจกรรมท่ี 2 จาลองการเกดิ ปรากฏการณเ์ รอื นกระจก 4) วสั ดุ-อุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นกิจกรรมสรา้ งสรรค์ผลงาน 5) PowerPoint เร่ือง ภัยธรรมชาติและปรากฏการณเ์ รือนกระจก 6) สมุดประจาตวั นักเรียน 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) อนิ เทอรเ์ น็ต 3) ห้องสมดุ 148
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 7 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละธรณีพบิ ตั ภิ ยั แผนฯ ที่ 4 ปรากฏการณเ์ รือนกระจก แบบบนั ทึกหลงั แผนการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมท่ีมปี ัญหาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ลงช่ือ..............................................ผบู้ นั ทึก (................................................) ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ................................................ (................................................) ตาแหน่ง................................................. 149
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 8 ดาราศาสตร์และเทคโนโลยอี วกาศ ระยะเวลา 4 ช่ัวโมง แผนฯ ท่ี 1 การเกิดอปุ ราคา ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง การเกิดอปุ ราคา หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 ดาราศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี วกาศ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ดั ว 3.1 ป.6/1 สรา้ งแบบจาลองทอ่ี ธิบายการเกดิ และเปรยี บเทยี บปรากฏการณ์สรุ ิยปุ ราคาและจันทรุปราคา 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายการเกิดและเปรียบเทยี บปรากฏการณ์สรุ ิยุปราคาและจนั ทรปุ ราคาได้ (K) 2) สรา้ งแบบจาลองที่อธบิ ายการเกดิ และเปรยี บเทยี บปรากฏการณ์สุรยิ ุปราคาและจนั ทรปุ ราคาได้ (P) 3) ยกตัวอยา่ งการปฏบิ ัตติ นทถ่ี ูกตอ้ งในการสังเกตปรากฏการณอ์ ุปราคาได้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ อธบิ ายการเกดิ และเปรยี บเทียบปรากฏการณ์สรุ ิยปุ ราคาและจนั ทรุปราคา 4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ปรากฏการณ์สุริยุปราคา เกิดในเวลากลางวัน เกิดจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในระนาบ เดียวกัน โดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับโลก ปรากฏการณ์สุริยุปราคาอาจเกิดได้ 3 ลักษณะ คือ สรุ ยิ ุปราคาเตม็ ดวง สรุ ยิ ุปราคาบางส่วน และสุรยิ ุปราคาวงแหวน เราไมส่ ามารถสงั เกตปรากฏการณ์สุริยุปราคาได้ด้วย ตาเปลา่ ควรใชอ้ ปุ กรณใ์ นการสงั เกต เช่น แวน่ ตาดดู วงอาทติ ย์ ปรากฏการณ์จันทรุปราคา เกิดในเวลากลางคืน เกิดจากดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในระนาบ เดียวกัน โดยมีโลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเกิดได้ 3 ลักษณะ คือ จันทรุปราคาเต็มดวง จันทรุปราคาบางส่วน จันทรุปราคาแบบบางส่วน และจันทรุปราคาแบบเงามัว เราสามารถ สังเกตปรากฏการณจ์ นั ทรปุ ราคาได้ดว้ ยตาเปล่า 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ความสามารถในการสื่อสาร 1) การสงั เกต 1) มีวินยั 2) ความสามารถในการคดิ 2) การทดลอง 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3) การตง้ั สมมตฐิ าน 3) มงุ่ ม่นั ในการทางาน 163
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 8 ดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 1 การเกดิ อปุ ราคา 4) การสรา้ งแบบจาลอง สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 5) การลงความเหน็ จากข้อมลู 6) การกาหนดและควบคุมตวั แปร 7) การตีความหมายข้อมลู และ ลงข้อสรปุ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : 5Es Instructional Model ชว่ั โมงที่ 1 ข้ันนา 1. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 ดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศ แบบปรนัย 4 ตัวเลอื ก จานวน 10 ข้อ (หมายเหตุ : ครูตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน เพอ่ื ประเมินความรู้เดิมและเข้าใจผ้เู รยี นเพื่อใชใ้ นการจัดกิจกรรม) ขั้นกระตุน้ ความสนใจ 1. ครแู จกตานานความเชือ่ เก่ยี วกับราหอู มจันทร์และวนั ฟ้าดบั ใหน้ ักเรียนอ่าน และตอบคาถามตอ่ ไปน้ี - ทาไมคนโบราณจงึ คดิ ว่า การเกิดเหตุการณด์ งั กลา่ วเปน็ การบอกเหตุหรอื ลางรา้ ย (แนวคาตอบ เพราะด้วยสมัยก่อนเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าและไม่มีผู้ใดอธิบายสาเหตุการเกิดได้ ชาวบ้านจึงยึดถอื ความเช่ือวา่ สีดาหรอื ความมืด หมายถึงเร่อื งโชคร้าย) - นักเรยี นคดิ เห็นอย่างไรกับเหตุการณ์ท่ีเกดิ ขนึ้ (แนวคาตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนักเรียน) 2. นกั เรยี นสงั เกตภาพในหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 103 และตอบคาถามตอ่ ไปนี้ - จากภาพเปน็ ปรากฏการณ์ใด (แนวคาตอบ สุริยปุ ราคา) 164
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 ดาราศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี วกาศ แผนฯ ที่ 1 การเกดิ อุปราคา - เพ่ือนๆ คดิ วา่ โลกและดวงจนั ทรม์ คี วามสัมพันธ์กบั การเกิดปรากฏการณน์ หี้ รือไม่ อยา่ งไร (แนวคาตอบ โลกและดวงจันทร์มีความสัมพันธ์กับการเกิดปรากฏการณ์ โดยดวงจันทร์เคล่ือนที่อยู่ ระหวา่ งโลกกับดวงอาทิตย์ในแนวระนาบเดยี วกัน ทาให้เงาของดวงจันทรท์ อดมายังพืน้ โลก) 3. นักเรียนอ่านกิจกรรมชวนอ่านชวนคิดก่อนเรียน ตอน ดวงอาทิตย์หายไปไหน ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 104 และตอบคาถามต่อไปนี้ - สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ เพ่ือนๆ คิดว่า มีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์แบบอื่น หรอื ไม่ อย่างไร (แนวคาตอบ มีปรากฏการณท์ างดาราศาสตรแ์ บบอื่น เชน่ ปรากฏการณ์จนั ทรปุ ราคา ดาวตก) 4. ครูสนทนากับนักเรียนเพ่ือนาเข้าสู่บทเรียนว่า โลกเราเป็นดาวเคราะห์ดวงหน่ึงในระบบสุริยะ มีดวงจันทร์เป็น บรวิ ารและโคจรรอบโลก โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยปกติโลกและดวงจันทร์ไม่มีระนาบการโคจรเดียวกัน แต่ เม่ือการโคจรของโลกและดวงจันทร์อยู่ในระนาบเดียวกันกับดวงอาทิตย์ จะทาให้เกิดปรากฏการณ์ทาง ดาราศาสตร์เรียกวา่ อุปราคา ซึง่ มีดว้ ยกัน 2 แบบ ได้แก่ ปรากฏการณส์ รุ ิยปุ ราคาและปรากฏการณ์จันทรุปราคา ซึง่ วันนีเ้ ราจะมาเรยี นรู้เก่ยี วกบั การเกดิ อุปราคา จากกิจกรรมต่อไปนี้ ขนั้ สอน ขั้นสารวจคน้ หา 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 4-5 คน จากนั้นศึกษาข้ันตอนการทากิจกรรมที่ 1 อุปราคาเกิดข้ึนได้อย่างไร ในหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 106 2. นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมที่ 1 อปุ ราคาเกิดข้นึ ไดอ้ ยา่ งไร (สรุ ยิ ุปราคา) โดยปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 1) สง่ ตัวแทนกลุม่ ไปรับวัสดุ-อปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรม 2) แต่ละกลุ่มลงมือปฏิบัติกิจกรรมที่ 1 อุปราคาเกิดขึ้นได้อย่างไร ขั้นตอนข้อที่ 1-2 ตามที่ได้ศึกษามาใน หนังสือเรยี น และบันทกึ ผลลงในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 72 3) นักเรียนแตล่ ะกลุ่มเตรยี มตัวนาเสนอในชวั่ โมงถัดไป (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ) 165
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 ดาราศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอวกาศ แผนฯ ที่ 1 การเกิดอปุ ราคา ช่วั โมงที่ 2 ข้นั สอน (ตอ่ ) ข้ันอธบิ ายความรู้ 1. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกล่มุ นาเสนอการทากจิ กรรมหน้าช้ันเรยี น 2. นักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี - ถา้ เปรียบเทียบไฟฉายแทนดวงอาทิตย์ ลูกปิงปองแทนดวงจันทร์ ลูกบอลแทนโลก กรณีที่ลูกปิงปองอยู่ ระหวา่ งไฟฉายกบั ลูกบอลเปน็ อย่างไร (แนวคาตอบ เงาของลกู ปิงปองทอดไปยงั ลูกบอล) - จากปรากฏการณ์ในข้อ 1 ถ้านักเรียนอยู่บนโลก (ลูกบอล) ในส่วนที่เงาดวงจันทร์ทอดไป นักเรียนจะ เห็นดวงอาทติ ย์และดวงจันทรใ์ นลกั ษณะใด (แนวคาตอบ ดวงอาทิตยบ์ ังดวงจันทร์ไว้) 3. นักเรียนศึกษาข้อมูลเก่ียวกับปรากฏการณ์สุริยุปราคาหรือสุริยคราสเพิ่มเติมจากในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หรอื แหลง่ เรยี นรู้อื่นๆ 4. นักเรียนร่วมกันสรุปการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคา เกิดในเวลากลางวัน เกิดจาก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน โดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์ กับโลก ปรากฏการณ์สุริยุปราคาอาจเกิดได้ 3 ลักษณะ คือ สุริยุปราคาเต็มดวง สุริยุปราคาบางส่วน และ สุริยุปราคาวงแหวน 5. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มสุ่มหยิบบตั รภาพปรากฏการณ์สุริยุปราคา จากน้ันให้ระดมสมองร่วมกันแสดงความคิดเห็น ว่า เพราะเหตุใดจงึ เหน็ สรุ ิยปุ ราคาในลักษณะอย่างน้ี จากน้ันสง่ ตัวแทนนาเสนอหน้าชั้นเรียน 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาความรู้เก่ียวกับการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคามาออกแบบและสร้างแบบจาลองการเกิด ปรากฏการณ์สุรยิ ุปราคาโดยใชอ้ ุปกรณ์ เช่น ดนิ น้ามนั ไมเ้ สยี บลกู ชน้ิ โฟมแทง่ ไฟฉาย 7. นกั เรยี นสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอตามประเดน็ ต่อไปนี้ - ใชแ้ บบจาลองอธบิ ายการเกดิ ปรากฏการณ์สรุ ยิ ปุ ราคา - อธิบายการเกิดปรากฏการณส์ รุ ิยปุ ราคาท้ัง 3 ลักษณะ (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนกั เรียน โดยการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ) 166
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 ดาราศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี วกาศ แผนฯ ที่ 1 การเกดิ อปุ ราคา ชว่ั โมงที่ 3 ขั้นสอน (ต่อ) ขนั้ อธิบายความรู้ 1. นกั เรยี นตอบคาถามเพือ่ ทบทวนความรู้ว่า เพราะเหตุใดจงึ มองเหน็ ดวงอาทติ ย์แหว่งเป็นเส้ียว (แนวคาตอบ เพราะเกิดจากดวงอาทิตย์โคจรออกจากแนวเส้นตรงเล็กน้อย ดวงอาทิตย์จึงถูกบังเพียงบางส่วน ทาใหม้ องเหน็ ดวงอาทิตยแ์ หวง่ ) 2. นกั เรียนทากิจกรรมที่ 1 อปุ ราคาเกดิ ข้นึ ได้อยา่ งไร (จนั ทรปุ ราคา) โดยปฏบิ ัติ ดังน้ี 1) นักเรียนตอบคาถามว่า ถ้าเปรียบเทียบ ไฟฉายแทนดวงอาทิตย์ ลูกปิงปองแทนดวงจันทร์ ลูกบอลแทนโลก กรณีทล่ี ูกบอลอยรู่ ะหว่างไฟฉายกับลกู ปิงปอง จะเกิดอะไรข้ึน (แนวคาตอบ เงาของลกู บอลบังลูกปิงปอง) 2) นักเรียนทากิจกรรมเพื่อตรวจสอบคาตอบ โดยนักเรียนแต่ละคนถือไฟฉาย ลูกบอล และลูกปิงปอง ตามลาดับ 3) นักเรียนท่ีถือไฟฉายส่องไฟฉายผ่านลูกบอล สังเกตแสงจากไฟฉายและเงาท่ีทอดไปยังลูกปิงปองและ บันทึกผลลงในแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หน้า 72 4) นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั ผลการทากจิ กรรม 5) นักเรียนศึกษาข้อมูลเก่ียวกับปรากฏการณ์จันทรุปราคาหรือจันทรคราสเพ่ิมเติมจากในหนังสือหรือ แหล่งเรยี นรอู้ น่ื ๆ 6) นักเรียนร่วมกันสรุปการเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาว่า ปรากฏการณ์จันทรุปราคา เกิดในเวลากลางคืน โดยดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกนั โดยมีโลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์ กบั ดวงจันทร์ ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเกิดได้ 3 ลักษณะ คือ จันทรุปราคาเต็มดวง จันทรุปราคาบางส่วน และจันทรปุ ราคาแบบเงามัว 3. นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ - จนั ทรุปราคาเตม็ ดวงเกิดขึน้ ได้อย่างไร (แนวคาตอบ เกิดจากดวงจนั ทร์ท้ังดวงโคจรเข้าสเู่ งามดื ของโลก) - จนั ทรุปราคาบางส่วนกับจันทรุปราคาเงามัวแตกตา่ งกนั อย่างไร (แนวคาตอบ จันทรปุ ราคาแบบบางส่วน คนบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์บางส่วนมืด บางส่วนมีสีส้มอิฐ สว่ นจนั ทรปุ ราคาแบบเงามวั จะมองเห็นดวงจันทร์เตม็ ดวงแตไ่ มช่ ัดเจน) 4. ครูเปิด PowerPoint เรื่อง ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ ให้นักเรียนดูและให้นักเรียนร่วมอภิปรายเปรียบเทียบ ความแตกตา่ งของปรากฏการณ์สรุ ยิ ปุ ราคาและปรากฏการณจ์ ันทรปุ ราคา 167
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 ดาราศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอวกาศ แผนฯ ที่ 1 การเกดิ อุปราคา 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มสร้างแบบจาลองจันทรุปราคา พร้อมนาเสนออธิบายเปรียบเทียบความแตกต่างการเกิด สุริยปุ ราคาและการเกดิ จันทรปุ ราคา โดยใชแ้ บบจาลอง 6. นักเรียนสแกน QR Code เรื่อง การเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 109 เพ่ือเพ่ิมเติมความเข้าใจ จากน้ันร่วมกันสรุปการทากิจกรรมว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคาเกิดในเวลา กลางวัน ดวงจันทร์โคจรเข้ามาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กับโลกและอยู่ในระนาบเดียวกัน ส่วนปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเกดิ ในเวลากลางคืน โลกโคจรเข้ามาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กบั ดวงจันทร์และอยใู่ นระนาบเดยี วกนั (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรยี น โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ) 8. นักเรียนทากิจกรรมหนูตอบได้ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หน้า 106 บันทึกลงในสมุดประจาตัว นักเรียน หรือทาในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เล่ม 2 หน้า 73-74 9. นักเรียนแต่ละคนเขียนสรุปความรู้เก่ียวกับเรื่องที่ได้เรียนรู้จากบทที่ 1 ในรูปแบบต่างๆ เช่น แผนผังความคิด แผนภาพ ลงในสมดุ ประจาตวั นักเรยี น 10. นักเรยี นทกุ คนศึกษาแผนผังความคิด สรปุ สาระสาคัญ ประจาบทท่ี 1 จากหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เล่ม 2 หน้า 112 เพือ่ ตรวจสอบการเขียนสรุปความร้ทู ี่นกั เรยี นทาไวใ้ นสมดุ ประจาตัวนักเรียน 11. นักเรียนทากิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 1 หน้า 113 บันทึกลงในสมุด ประจาตัวนักเรียน 12. นักเรียนทากิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 1 หน้า 114 บันทึกลงในสมุดประจาตัว นักเรียน หรือทาในแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 75-78 13. นักเรยี นทากิจกรรมทา้ ทายการคิดขน้ั สูง ในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตรฯ์ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 79 14. นักเรียนหาข่าวเก่ียวกับการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาหรือจันทรุปราคาท่ีเกิดขึ้นในประเทศไทยมาคนละ 1 ข่าว พร้อมภาพประกอบการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาหรือจันทรุปราคา เพื่อใช้ทากิจกรรมในช่ัวโมงหน้า (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมินนกั เรียน โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล) 168
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 8 ดาราศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี วกาศ แผนฯ ที่ 1 การเกิดอปุ ราคา ขน้ั สอน (ตอ่ ) ชัว่ โมงท่ี 4 ขนั้ ขยายความเข้าใจ 1. ทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน โดยตั้งคาถามว่า เราสามารถสังเกตสุริยุปราคาและจันทรุปราคาได้ด้วยตาเปล่า หรือไม่ เพราะเหตใุ ด (แนวคาตอบ ไม่สามารถสังเกตปรากฏการณ์สุริยุปราคาได้ด้วยตาเปล่า เพราะเกิดในเวลากลางวัน แสงของดวง อาทิตย์อาจทาให้ตาเราได้รับผลกระทบได้ และเราสามารถสังเกตปรากฏการณ์จันทรุปราคาได้ด้วยตาเปล่า เพราะเกิดในเวลากลางคืนจึงไมม่ ีแสงจากดวงอาทติ ย์มารบกวน) 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคา เกิดในเวลากลางวัน เราไม่สามารถสังเกตปรากฏการณ์ สุรยิ ปุ ราคาไดด้ ว้ ยตาเปล่า ควรใชอ้ ปุ กรณ์ในการสงั เกต เช่น แว่นตาดดู วงอาทติ ย์ ส่วนปรากฏการณ์จันทรุปราคา เกิดในเวลากลางคืน เราสามารถสงั เกตปรากฏการณ์จนั ทรุปราคาไดด้ ว้ ยตาเปลา่ 3. นกั เรียนแบง่ กลุ่มออกเปน็ กลุม่ ละ 4-5 คน เพ่ือทากจิ กรรมสร้างสรรคผ์ ลงาน โดยปฏิบัติ ดงั น้ี 1) นาข้อมูลข่าว และภาพการเกดิ สุรยิ ปุ ราคาหรือจนั ทรปุ ราคา มาแลกเปลย่ี นความรกู้ บั เพ่ือนๆ ในกลุ่ม 2) ในกลุ่มเลือกข่าวมา 1 ข่าว และนาภาพการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาหรือจันทรุปราคาจากข่าวที่เพ่ือน เตรียมมาไปออกแบบจิกซอว์ 3) สร้างจกิ ซอว์ตามทอ่ี อกแบบไว้ เพอื่ จัดทาเป็นสอื่ การเรียนรเู้ กี่ยวกบั สรุ ิยปุ ราคาและจันทรปุ ราคา 4) แตล่ ะกลุ่มแบ่งออกเป็น 2 ทมี โดยใหท้ ีมที่ 1 เปน็ ทมี เฝา้ มีหน้าที่ดูแลกลุ่ม และให้เล่าข่าวการเกิดอุปราคาให้ เพ่ือต่างกลุ่มฟัง และทีมท่ี 2 เป็นทีมเยือนมีหน้าที่กระจายตัวไปตามกลุ่มอ่ืนๆท่ีตนเองสนใจ เพื่อไปต่อ จกิ ซอว์ภาพ และรบั ฟงั ข้อมูลข่าวการเกดิ อปุ ราคาจากกลุ่มอื่น 5) แต่ละกลุ่มสลับหน้าที่กัน โดยทีมท่ี 2 มีหน้าที่เป็นทีมเฝ้า แล้วทีมที่ 1 มีหน้าท่ีเป็นทีมเยือนกระจายไปตาม กล่มุ อืน่ (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ) ขน้ั สรุป 1. นักเรียนร่วมกันสรุปผลการทากิจกรรมว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคา เกิดในเวลากลางวัน เกิดจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน โดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับโลก ปรากฏการณ์สุริยุปราคาอาจเกิดได้ 3 ลักษณะ คือ สุริยุปราคาเต็มดวง สุริยุปราคาบางส่วน และสุริยุปราคา วงแหวน เราไม่สามารถสังเกตปรากฏการณ์สุริยุปราคาได้ด้วยตาเปล่า ควรใช้อุปกรณ์ในการสังเกต เช่น แว่นดู ดวงอาทติ ย์ และปรากฏการณ์จนั ทรปุ ราคา เกิดในเวลากลางคืน เกิดจากดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจร 169
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 ดาราศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอวกาศ แผนฯ ที่ 1 การเกิดอุปราคา มาอยู่ในระนาบเดียวกัน โดยมีโลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเกิด ได้ 3 ลกั ษณะ คือ จันทรุปราคาเต็มดวง จันทรุปราคาบางส่วน และจันทรุปราคาแบบเงามัว เราสามารถสังเกต ปรากฏการณจ์ ันทรุปราคาได้ดว้ ยตาเปลา่ ขนั้ ประเมนิ ขนั้ ตรวจสอบผล 1. ครูตรวจบนั ทึกข้อมูลการทา กิจกรรมที่ 1 อุปราคาเกิดขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร ในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ป.6 เลม่ 2 หน้า 72 2. ครตู รวจกิจกรรมหนูตอบได้ในสมดุ ประจาตัวนกั เรียนหรือในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.6 เลม่ 2 หน้า 73-74 3. ครูตรวจแผนผงั ความคดิ สรุปสาระสาคัญ ประจาบทที่ 1 ในสมดุ ประจาตัวนักเรียน 4. ครูตรวจกจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ในสมดุ ประจาตัวนักเรียน 5. ครตู รวจกิจกรรมฝึกทักษะในสมุดประจาตวั นักเรียน หรือทาในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 75-78 6. ครูตรวจกจิ กรรมท้าทายการคิดข้ันสูง ในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ฯ ป.6 เลม่ 2 หนา้ 79 7. ครูประเมินผลงาน จิกซอว์สรุ ิยุปราคาหรอื จันทรปุ ราคา ในกิจกรรมสรา้ งสรรคผ์ ลงาน 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน 1) ผลงานจกิ ซอว์ - ประเมินผลงาน - แบบประเมินผลงาน - คุณภาพอยใู่ นระดับดี สุรยิ ปุ ราคาหรือ ผา่ นเกณฑ์ จนั ทรุปราคา 2) กจิ กรรมที่ 1 อปุ ราคา - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เกิดขนึ้ ไดอ้ ย่างไร - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 วทิ ยาศาสตร์ฯ ป.6 3) กจิ กรรมหนตู อบได้ เล่ม 2 หนา้ 72 เลม่ 2 หนา้ 72 4) สรุปสาระสาคัญ ประจาบทท่ี 1 - ตรวจสมุดประจาตวั - สมุดประจัวนกั เรยี น นักเรียนหรอื หรือแบบฝกึ หดั แบบฝกึ หัด วทิ ยาศาสตร์ ป.6 วทิ ยาศาสตร์ ป.6 เล่ม 2 หนา้ 73-74 เลม่ 2 หน้า 73-74 - สมุดประจาตวั นกั เรียน - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจสมดุ ประจาตัว นักเรยี น 170
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166