376 ใบงานที่ 6 หวั เรอ่ื ง กัญชาและกญั ชงกับการแพทยแ์ ผนปัจจบุ นั คาชแี้ จง 1. ใบงานนี้จัดทาข้ึนเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์เก่ียวกับกัญชา และกญั ชงกับการแพทย์แผนปัจจบุ นั 2. ให้ผู้เรียนปฏบิ ตั ิตามขั้นตอนต่อไปน้ีตามลาดับ 2.1 ผู้เรียนรับฟังบรรยายสรุป หัวเร่ือง กัญชาและกัญชงกับการแพทย์แผนปัจจุบัน จากครผู สู้ อน 2.2 ผู้เรยี นรว่ มกับครผู ู้สอนกาหนดประเดน็ ศึกษารว่ มกัน ได้ประเด็นศึกษาต่อไปนี้ 2.2.1 ประวตั ิการใช้กัญชาและกัญชงทางการแพทย์แผนปจั จุบนั ทั้งในต่างประเทศ และประเทศไทย มีความเป็นมาอย่างไร 2.2.2 การใช้กัญชาและกัญชง ช่วยบรรเทาโรคพาร์กินสัน มะเร็ง ลดอาการปวด ลมชกั ผิวหนงั และโรคต้อหนิ ไดอ้ ย่างไร 2.3 ให้ผู้เรียนศึกษาประเด็นศึกษาในข้อ 2.1.1 และ 2.1.2 จากสื่อเอกสาร ประกอบด้วย ใบความรู้ท่ี 6 เรื่อง การพัฒนายา มาตรฐาน และรูปแบบการใชย้ าที่มีกัญชาและกัญชง ในการแพทย์แผนปัจจุบนั หนงั สือเรียนสาระทักษะการดาเนินชีวติ รายวิชา ทช33098 กัญชาและกัญ ชงศึกษา เพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด หนังสือเก่ียวข้องได้แก่ ชื่อหนังสือสุริยัญกัญชา อัมฤตย์โอสถ แห่งความหวัง ช่ือหนังสือกัญชารักษาโรคมะเร็ง และชื่อหนังสือรักษาโรคด้วยกัญชงและกัญชา ส่ือ อิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วยเว็บไซต์ จานวน 3 เว็บไซต์ ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.pharmacy. mahidol.ac.th/th/knowledge/article/453/กัญชา/ เว็บไซต์ https://www.thaipost.net/main/ detail/14376 และเว็บไซต์ https://www.thairath. co.th/news/society/1570550 และแหล่ง เรียนรู้ในชุมชน ห้องสมดุ ใกลบ้ า้ นผเู้ รียน 2.4 บันทกึ ผลการศึกษาค้นควา้ ที่ไดใ้ นขอ้ 2.3 ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) 2.5 พบกล่มุ นาขอ้ มูลข้อ 2.4 มาอภปิ ราย แลกเปลี่ยนเรียนรขู้ ้อมูลท่ีได้กบั เพื่อนผู้เรียน และครผู ู้สอน คิดวิเคราะห์ และคิดสังเคราะห์ สรุปผลการเรยี นรู้ท่ีได้ใหมร่ ว่ มกัน บันทึกลงในเอกสาร การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง (กรต.) สง่ ครูผู้สอนตามท่นี ัดหมาย 2.6 นาสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ใหม่ร่วมกัน ไปฝึกปฏิบัติด้วยการตอบแบบฝึกหัด บันทึก ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) และกิจกรรมศึกษาการนากัญชาและกัญชงไปใช้ทาง
377 การแพทย์แผนปัจจุบันตามท่ีสนใจ จัดทาเป็นงานกลุ่ม มีผู้เรียน จานวน 3 คน ต่อกลุ่ม หรือตาม ความเหมาะสม 2.7 บันทึกผลการเรียนรู้ท่ีได้จากการฝึกปฏิบัติในข้อ 2.6 ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วย ตนเอง (กรต.) แบบฝกึ หัด คาช้ีแจง : ให้ผู้เรียนตอบคาถามต่อไปน้ีลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) สง่ ครูผูส้ อนตามที่นัดหมายc[ 1. ประวัติการใช้กัญชาและกัญชงทางการแพทย์แผนปัจจุบันท้ังในต่างประเทศและ ประเทศไทย มคี วามเป็นมาอยา่ งไร คาตอบ............................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................... 2. การใช้กัญชาและกญั ชง ชว่ ยบรรเทาโรคพาร์กินสัน มะเร็ง ลดอาการปวด ลมชกั ผิวหนงั และโรคต้อหิน ได้อยา่ งไร คาตอบ........................................................................................................................... . ............................................................................................................................. ................................... กกกก กจิ กรรม คาช้ีแจง : 1. ให้กลุ่มผู้เรียนทารายงานการศึกษา เรื่อง การนากัญชาและกัญชงไปใช้ทาง การแพทย์แผนปัจจุบันท่ีสนใจ (1) ควบคุมภาวะคล่ืนไส้อาเจียน จากเคมีบาบัด และ (2) โรคลมชักท่ี รักษายาก ส่งให้ครูผู้สอน ตามที่ครูผู้สอนนัดหมาย โดยเอกสารรายงานประกอบด้วย ส่วนนา ได้แก่ ปกนอก รองปกนอก ปกใน คานา และสารบัญ ส่วนเน้อื หา ไดแ้ ก่ (1) อาการของภาวะคล่ืนไส้อาเจียน จากเคมบี าบัด และโรคลมชักทีร่ ักษายาก (2) ชื่อผลติ ภณั ฑก์ ัญชาและกัญชงในการควบคุมอาการและ รักษาโรค (3) รูปแบบผลิตภัณฑ์ (4) ขนาดวิธีใช้ และ (5) ข้อควรระวังหรือคาแนะนา และส่วนท้าย คือ บรรณานุกรม 2. นาเสนอผลการศึกษาการนากัญชาและกัญชงไปใช้ทางการแพทย์ แผนปจั จบุ ันดงั กลา่ วแกเ่ พอื่ นผู้เรยี นและครผู ้สู อน 3. บันทึกผลการเรียนรู้ที่ได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครผู ู้สอน ตามท่ีครูผสู้ อนนดั หมาย กกกกกกกกกกกกกกกก ก
378 ใบงานที่ 7 หัวเร่ืองใชก้ ญั ชาและกญั ชงเปน็ ยาอย่างรคู้ ณุ ค่าและชาญฉลาด คาชแี้ จง 1. ใบงานนี้จัดทาขนึ้ เพื่อให้ผเู้ รยี นมีความรู้และประสบการณเ์ ก่ียวกับการใช้กัญชาและกัญ ชงเป็นยาอย่างรคู้ ุณคา่ และชาญฉลาด 2. ให้ผูเ้ รียนปฏิบัติตามข้นั ตอนต่อไปน้ีตามลาดบั 2.1 ผเู้ รียนรบั ฟงั การบรรยายสรปุ จากครผู ู้สอนในการใช้กัญชาและกญั ชงเป็นยาอยา่ ง รคู้ ุณคา่ และชาญฉลาด โดยเฉพาะข้อแนะนากอ่ นตดั สนิ ใจใช้ผลติ ภัณฑก์ ัญชาและกญั ชงทางการแพทย์ และข้อควรระวงั เกย่ี วกับการใช้ผลติ ภัณฑก์ ญั ชาและกญั ชง 2.2 ผู้เรยี นร่วมกับครผู ู้สอนกาหนดประเดน็ ศึกษารว่ มกัน ได้ประเดน็ ศึกษาต่อไปนี้ 2.2.1 ความเชือ่ และความจรงิ เกยี่ วกับกัญชาและกัญชงทางการแพทย์มีอะไรบา้ ง 2.2.2 การใชผ้ ลิตภัณฑก์ ัญชาและกัญชงทางการแพทยใ์ นอนาคตให้ไดป้ ระโยชน์ มีอะไรบา้ ง 2.2.3 ข้อแนะนาก่อนตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงทางการแพทย์มี อะไรบ้าง 2.2.4 การวางแผนการรักษาด้วยผลติ ภณั ฑก์ ัญชาและกัญชงมแี นวทางอย่างไร 2.2.5 การเริ่มใช้ผลติ ภัณฑ์กัญชาและกัญชงในทางการแพทย์มีแนวทางอย่างไร 2.2.6 ขอ้ ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร THC และ CBD เปน็ ส่วนประกอบมีอะไรบา้ ง 2.2.7 ข้อควรระวังในการใชก้ ัญชาและกัญชงในทางการแพทยม์ ีอะไรบ้าง 2.3 ให้ผู้เรียนศึกษาประเด็นศึกษาในข้อ 2.2.1, 2.2.2, 2.2.3, 2.2.4, 2.2.5, 2.2.6 และ 2.2.7 จากสื่อเอกสาร ประกอบด้วย ใบความรู้ที่ 7 เรื่องขนาดของกัญชาและกัญชงในการรักษาโรค หนังสือเรียนสาระทักษะการดาเนินชีวิต รายวิชา ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา เพ่ือใช้เป็นยา อยา่ งชาญฉลาด และหนังสือที่เก่ยี วข้อง ไดแ้ ก่ ชื่อหนงั สือกระทอ่ มและกัญชาทางการแพทย์ ชือ่ หนังสือ รักษาโรคดว้ ยกญั ชงและกญั ชา ช่ือหนังสอื Suriyan Ganja สรุ ิยัน กญั ชา อัมฤตย์ โอสถแห่งความหวงั และ ช่ือหนังสือกัญชงหรือเฮมพ์ปลูกก่อนรวยก่อน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ จานวน 3 เว็บไซต์ ได้แก่ (1) คาแนะนา การใช้กัญชาทางการแพทย์ (Guidance on Cannabis for Medical Use) กรมการแพทย์ กระทรวง สาธารณสุข เว็บไซต์ https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/document/19060 9156008311353.PDF (2) บทความเร่ืองกัญชากับการรักษาโรค ช่ือหน่วยงานคณะเภสัชศาสตร์ ม ห าวิ ท ย าลั ย ม หิ ด ล เว็ บ ไซ ต์ https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/
379 article/453 และ (3) ไขข้อคาใจ กัญชารักษามะเร็ง ‘มโนมั่ว’ หรือ‘ยาสวรรค์’ ช่ือหน่วยงาน ไทยรัฐ ออนไลน์ เว็บไซต์ https://www.thairath.co.th/content/616855 และแหล่งเรียนรู้ในชุมชน หอ้ งสมุดใกลบ้ า้ นผู้เรียน 2.4 บันทึกผลการศึกษาค้นควา้ ที่ได้ในข้อ 2.3 ลงในเอกสารการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) 2.5 นาข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าที่ได้ในข้อ 2.4 มาพบกลุ่ม อภิปรายแลกเปลี่ยน เรียนรู้ข้อมูลที่ได้กับเพื่อนผู้เรียน และครูผู้สอน คิดวิเคราะห์ และคิดสังเคราะห์สรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ ใหมร่ ่วมกนั บนั ทกึ ลงในเอกสารการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ส่งครูผูส้ อนตามทน่ี ดั หมาย 2.6 นาสรุปผลการเรียนรูท้ ่ีได้ใหม่รว่ มกันไปฝึกปฏิบตั ิด้วยการตอบแบบฝึกหัด บันทกึ ลง ในเอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) และกจิ กรรมตามที่มอบหมายส่งครผู สู้ อนตามทน่ี ดั หมาย 2.7 บันทกึ ผลการเรียนรทู้ ่ีไดจ้ ากการฝกึ ปฏบิ ตั ิในข้อ 2.6 ลงในเอกสารการเรยี นรู้ด้วย ตนเอง (กรต.) ส่งครูผูส้ อนตามทีน่ ัดหมาย แบบฝกึ หัด กกกกกกก คาช้แี จง : ให้ผเู้ รียนตอบคาถามในข้อต่อไปนี้ลงในเอกสารการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) สง่ ครูผู้สอนตามทีน่ ดั หมาย 1. การใชผ้ ลติ ภัณฑ์กญั ชาและกัญชงทางการแพทย์ในอนาคตใหไ้ ด้ประโยชน์มีอะไรบา้ ง คาตอบ กก 2. ข้อแนะนาก่อนตดั สนิ ใจใชผ้ ลติ ภัณฑ์กญั ชาและกัญชงทางการแพทย์มอี ะไรบ้าง คาตอบ 3. การเร่ิมใชผ้ ลิตภัณฑ์กญั ชาและกัญชงในทางการแพทย์มแี นวทางอยา่ งไร คาตอบ
380 กจิ กรรม กกกกกก คาช้ีแจง : ให้ผู้เรียนวิเคราะห์กรณีศึกษาต่อไปนี้ ในประเด็น (1) ความสาคัญของกรณีศึกษานี้ คืออะไร (2) ความสัมพันธ์ที่พบในกรณีศึกษาน้ีถืออะไร (3) หลักการสาคัญท่ีพบในกรณีศึกษานี้คืออะไร และ (4) กรณีศึกษาน้ีให้ประโยชน์ในการนาไปใช้อย่างไร เขียนคาตอบผลการแยกแยะท่ีได้ลงในเอกสาร การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) กกกิจเมกื่อรวรันคมทาชี่ 9ส้ีแจาสวงิงใ:หหใาหญคผ้ ช่มู้เ็อร2ยีก5นค6วา2ิเบค้าผรนาู้สะื่อหหขย์ก่าดรวนณราา้ ศี ยมึกงันษากกานรัญตวณ่อ่าชีศไามปึกเีผกนษู้นิปี้าแ่ขวลยนว้ เาเปขด็นียแหนพญคาทิงตยออเ์ ตาบยอืผุปนลรอกะยามร่าวาซเิณอื้คใร4ชา0ะ้เอหปง์ลี งมใีอนาการ เอวกิงสเาวรียกนาแรเลระยี อนารเู้ดจว้ียยนตจนนเอเกงิด(กอราตก.า) รสชง่ ็อครกผู คสู้ าอบน้าน ญาติต้องพาส่งรักษาตัวท่ีโรงพยาบาลน้าโสม เนอื่ งจากใช้นา้ มนั กญั ชาหยดใตล้ ้ินเกินปรมิ าณ ตดิ ต่อกนั 3 วัน เพราะมีอาการเครียดและซึมเศร้า แล้วมญี าตนิ าน้ามนั กญั ชามาให้ทดลองใช้ กกก นายอเุ ทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปดิ เผยว่า ผู้ป่วยนานา้ มัน กัญชามาใช้เอง นับว่าอันตรายมาก ทราบว่าผู้ป่วยส่ังซ้ือทางอินเทอร์เน็ต ซ่ึงน้ามันกัญชาไม่ได้ มาตรฐาน เม่ือใช้หยดไปมาก ๆ ก็จะทาให้ไม่รู้สึกตัว หากมีอาการเช่นน้ี ต้องรีบนาตัวส่ง โรงพยาบาลดูแล เพื่อจะได้ติดตามอาการได้ ที่จังหวัดอุดรธานี มีรายงานผู้ป่วยจากการใช้น้ามัน กญั ชาเกนิ ปรมิ าณ 2-3 เคส (คนหรือราย) แต่ยังไมม่ ีผู้เสยี ชวี ิต คาตอบ ผลการวิเคราะห์กรณีศกึ ษา 1. ความสาคัญของกรณีศึกษานี้ คอื 2. ความสมั พนั ธ์ที่พบในกรณีศึกษาน้ี คือ 3. หลกั การสาคัญที่พบในกรณีศึกษาน้ี คือ 4. กรณีศึกษานใ้ี ห้ประโยชน์ในการนาไปใช้ คือ
381 ภาคผนวก ค. เครื่องมอื วดั ความก้าวหนา้
382 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น หลกั สตู รรายวชิ า ทช33098 กัญชาและกญั ชงศกึ ษา เพอ่ื ใชเ้ ป็นยาอยา่ งชาญฉลาด คาช้แี จง 1. แบบสังเกตฉบับนี้จัดทำขึ้น เพ่ือประเมินพฤตกิ รรมกำรเรียนรู้ ของผู้เรียนหลักสูตรรำยวิชำ ทช33098 กัญชำและกัญชงศึกษำ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ยำอย่ำงชำญฉลำด ใน 3 รำยกำรตรวจสอบ คือ (1) กำร เข้ำร่วมกิจกรรมพบกลุ่ม (2) ควำมสนใจและตั้งใจเรียนรขู้ ณะพบกลุ่ม และ (3) กำรส่งงำนตำมท่ีครผู ู้สอน มอบหมำยเมอื่ พบกลมุ่ 2. ให้ครูผู้สอนหลักสูตรรำยวิชำนี้สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ของผู้เรียนใน 3 รำยกำร ตรวจสอบดังกลำ่ วโดยมีเกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนดังนี้ 2.1 กำรเข้ำรว่ มกิจกรรมพบกลมุ่ 2.1.1 ผู้เรยี นเข้ำร่วมกจิ กรรมพบกลุม่ ให้ 1 คะแนน 2.1.2 ผูเ้ รียนไม่มำเข้ำร่วมกจิ กรรมพบกลุม่ ให้ 0 คะแนน 2.2 ควำมสนใจและตั้งใจเรยี นรขู้ ณะพบกลุม่ 2.2.1 ผเู้ รียนมีควำมสนใจและตงั้ ใจเรียนรู้ ให้ 1 คะแนน 2.2.2 ผเู้ รยี นไมม่ คี วำมสนใจและตั้งใจเรียนรู้ ให้ 0 คะแนน 2.3 กำรส่งงำนตำมทีค่ รูผูส้ อนมอบหมำยเมื่อพบกลุม่ 2.3.1 ผู้เรียนสง่ งำนครบถว้ นทกุ ใบงำน ของกำรพบกล่มุ ครั้งนี้ ให้ 3 คะแนน 2.3.2 ผู้เรียนสง่ งำนคอ่ นขำ้ งครบถ้วน เกือบทกุ ใบงำนของกำรพบกลมุ่ ครง้ั น้ี ให้ 2 คะแนน 2.3.3 ผู้เรียนสง่ งำนไมค่ รบถ้วนมีบำงใบงำน ของกำรพบกลมุ่ ครั้งน้ี ให้ 1 คะแนน 2.3.4 ผเู้ รยี นไม่ส่งงำนเลยของกำรพบกลุ่ม ครัง้ น้ี หรอื ไม่มำพบกลุ่ม ให้ 0 คะแนน 2.4 เมอื่ ครผู สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมกำรเรยี นรู้ ของผู้เรียนครบท้ัง 3 รำยกำร ในกำรพบกลุ่ม ให้บันทึกผลกำรสังเกตท่ีได้ลง ในช่องตำรำงผลกำรตรวจสอบพฤติกรรมกำรเรียนรู้ ของผู้เรียน โดย ก่อนบันทึกผล ให้เขียนช่ือ สกุล รหัส ของผู้เรียนแต่ละคนให้เรียบร้อยก่อน เหนือช่องตำรำงผลกำร ตรวจสอบพฤตกิ รรมกำรเรยี นรูข้ องผเู้ รียน ซึง่ มีท้ังหมด 2 คร้งั
383 ชือ่ สกุล รหสั ผลการตรวจสอบพฤตกิ รรมการเรียนรู้ คะแนนเต็ม ผลกำรตรวจสอบ พฤติกรรมกำรเรียนรู้ทตี่ รวจสอบ 1 1. พบกล่มุ ครงั้ ที่ 1 1 3 1.1 กำรเข้ำรว่ มกิจกรรมพบกลุ่ม 5 1.2 ควำมสนใจและตั้งใจเรยี นรู้ 1.3 กำรสง่ งำนตำมที่ครผู ูส้ อนมอบหมำย 1 1 รวมคะแนนคร้งั ที่ 1 3 5 2. พบกลุ่มครง้ั ท่ี 2 2.1 กำรเขำ้ รว่ มกิจกรรมพบกล่มุ 10 2.2 ควำมสนใจและต้ังใจเรยี นรู้ 2.3 กำรสง่ งำนตำมท่คี รผู สู้ อนมอบหมำย รวมคะแนนครงั้ ท่ี 2 รวมคะแนนทง้ั หมด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. ผู้เรยี นต้องได้คะแนนรอ้ ยละ 60.00 ข้ึนไปของคะแนนเต็ม หรือ ระหวำ่ ง 6.00 - 10.00 คะแนนถอื วำ่ “ผำ่ น” 2. ผู้เรยี นได้คะแนนระหวำ่ งรอ้ ยละ 0.00 - 59.99 ของคะแนนเตม็ หรอื ระหวำ่ ง 0.00 - 5.99 คะแนน ถือวำ่ “ไม่ผำ่ น”
384 แบบตรวจเอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) หลกั สตู รรายวิชา ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา เพอ่ื ใช้เปน็ ยาอยา่ งชาญฉลาด คาช้ีแจง 1. แบบตรวจฉบับนีจ้ ัดทำข้ึนเพ่ือ ให้ครผู ู้สอนใช้ตรวจเอกสำรกำรเรยี นร้ดู ้วยตนเอง (กรต.) ของผู้เรียนหลักสูตรรำยวชิ ำ ทช33098 กัญชำและกัญชงศึกษำ เพ่ือใช้เป็นยำอย่ำงชำญฉลำด ท่ีได้รับ มอบหมำยจำกครูผู้สอนใหต้ อบแบบฝกึ หัด และกิจกรรมท่ีอยู่ในใบงำนที่ 1 -7 2. ใหค้ รูผสู้ อนตรวจเอกสำรกำรเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) ที่ผูเ้ รยี นส่งให้ครูผสู้ อนตรวจ โดย มแี นวทำงในกำรตรวจสอบ และให้คะแนน ดังนี้ 2.1 กำรตอบแบบฝึกหดั ในใบงำนที่ 1 - 7 ในแต่ละข้อ 2.1.1 ถ้ำตอบได้ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ ให้ 2 คะแนน 2.1.2 ถำ้ ตอบไดถ้ ูกต้องแต่ไม่ครอบคลุม ให้ 1 คะแนน 2.1.3 ถ้ำตอบไมถ่ ูกตอ้ ง ไม่ครอบคลมุ หรอื ครอบคลุมแตไ่ ม่ถกู ตอ้ ง หรอื ไมท่ ำแบบฝึกหดั ขอ้ น้นั หรอื ไมม่ ำพบกลมุ่ ให้ 0 คะแนน 2.2 กำรตอบกจิ กรรมในใบงำนท่ี 1,2,3,4 และ 7 2.2.1 กิจกรรมท่เี ป็นกรณีศึกษำ(เฉพำะใบงำนท่ี 1,3,4 และ 7) 1) ถ้ำตอบควำมสำคัญของกรณีศึกษำได้ถูกตอ้ ง ให้ 1 คะแนน และถ้ำตอบ ได้ไม่ถูกตอ้ ง หรอื ไมท่ ำ หรือไม่มำพบกลุม่ ให้ 0 คะแนน 2) ถำ้ ตอบควำมสัมพันธ์ในกรณีศึกษำถูกต้อง ให้ 1 คะแนน และถ้ำตอบได้ ไม่ถกู ต้อง หรอื ไมท่ ำ หรอื ไม่มำพบกลมุ่ ให้ 0 คะแนน 3) ถ้ำตอบหลักกำรในกรณีศึกษำได้ถูกต้อง ให้ 1 คะแนน และถ้ำตอบได้ ไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่ทำ หรอื ไมม่ ำพบกลุ่ม ให้ 0 คะแนน หมายเหตุ:กิจกรรมในใบงำนท่ี 5 และ 6 ครูผู้สอนต้องตรวจเอกสำรรำยงำน ในแบบตรวจชน้ิ งำน ไม่ต้องใหค้ ะแนนในแบบตรวจเอกสำรกำรเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) ฉบับนี้ 2.2.2 กจิ กรรมวำดภำพใบและต้นพชื กัญชำและพชื กัญชง เฉพำะใบงำนที่ 2 1) ถ้ำวำดใบพืชกัญชำได้ถูกต้อง ให้ 1 คะแนน และถ้ำวำดใบพืชกัญชำได้ ไมถ่ ูกต้อง หรือไม่ทำ หรือไมม่ ำพบกลุ่ม ให้ 0 คะแนน
385 2) ถ้ำวำดลำต้นพืชกัญชำได้ถูกต้อง ให้ 1 คะแนน และถ้ำวำดลำต้น พชื กญั ชำได้ไมถ่ กู ตอ้ ง หรอื ไมท่ ำ หรอื ไม่มำพบกลุ่ม ให้ 0 คะแนน 3) ถ้ำวำดใบพืชกัญชงได้ถูกต้อง ให้ 1 คะแนน และถ้ำวำดใบพืชกัญชงได้ ไม่ถกู ตอ้ ง หรอื ไมท่ ำ หรือไม่มำพบกลุ่ม ให้ 0 คะแนน 4) ถ้ำวำดลำต้นพืชกัญชงได้ถูกต้อง ให้ 1 คะแนน และถ้ำวำดลำต้น พชื กัญชงได้ไม่ถกู ต้อง หรอื ไมท่ ำ หรอื ไม่มำพบกลมุ่ ให้ 0 คะแนน 3. เม่ือครูผู้สอนตรวจเอกสำรกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ของผู้เรยี นเสร็จส้ิน จำกกำรทำ แบบฝึกหัด และกิจกรรมในแต่ละใบงำน ให้ครูผู้สอนบันทึกคะแนนของผู้เรียน ลงในช่องตำรำงผล กำรตรวจเอกสำรกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) โดยก่อนบันทึกให้เขียนช่ือ สกุล รหัส ของผู้เรียน แตล่ ะคน ใหเ้ รยี บร้อยกอ่ น เหนอื ชอ่ งตำรำงผลกำรตรวจเอกสำรกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.)
386 ชอื่ ........................................สกุล.................................... รหัส……………………………… ผลการตรวจเอกสารการเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) รายการตรวจสอบ คะแนนเต็ม ผลการตรวจ กรต. 1. หัวเรื่องที่ 1 เหตุใดต้องเรยี นรู้กญั ชำและกัญชง 2 .............................. 1.1 แบบฝึกหดั 2 .............................. 1.1.1 ข้อ 1 2 .............................. 1.1.2 ขอ้ 2 1.1.3 ขอ้ 3 1 .............................. 1.2 กรณีศกึ ษำ 1 .............................. 1.2.1 ข้อ1 1 .............................. 1.2.2 ขอ้ 2 9 .............................. 1.2.3 ข้อ3 2 .............................. รวม 2 .............................. 2 .............................. 2. หัวเรือ่ งที่ 2 กญั ชำและกัญชง พชื ยำท่ีควรรู้ 2.1 แบบฝึกหัด 1 .............................. 2.1.1 ขอ้ 1 1 .............................. 2.1.2 ข้อ 2 1 .............................. 2.1.3 ข้อ 3 1 .............................. 2.2 กจิ กรรมวำดภำพใบและลำต้น 10 .............................. 2.2.1 ใบของพชื กัญชำ 2.2.2 ลำตน้ ของพืชกญั ชำ 2.2.3 ใบของพชื กัญชง 2.2.4 ลำต้นของพืชกญั ชง รวม
387 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการตรวจ กรต. 3. หัวเร่ืองที่ 3 รจู้ กั โทษและประโยชน์ของกญั ชำและกญั ชง 2 .............................. 3.1 แบบฝกึ หัด 2 .............................. 3.1.1 ขอ้ 1 2 .............................. 3.1.2 ข้อ 2 3.1.3 ข้อ 3 1 .............................. 3.2 กจิ กรรมกรณีศกึ ษำ 1 .............................. 3.2.1 ข้อ 1 1 .............................. 3.2.2 ขอ้ 2 9 .............................. 3.2.3 ข้อ 3 .............................. รวม .............................. .............................. 4. หัวเรื่องท่ี 4 กฎหมำยทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับกญั ชำและกัญชง 2 .............................. 4.1 แบบฝึกหัด 2 .............................. 4.1.1 ขอ้ 1 2 4.1.2 ข้อ 2 2 .............................. 4.1.3 ข้อ 3 2 .............................. 4.1.4 ขอ้ 4 ............................... 4.1.5 ขอ้ 5 1 ............................... 4.2 กรณศี กึ ษำ 1 4.2.1 ขอ้ 1 1 .............................. 4.2.2 ข้อ 2 13 4.2.3 ขอ้ 3 รวม 5. หวั เร่อื งท่ี 5 กัญชำและกญั ชงกับกำรแพทย์แผนไทย 2 และกำรแพทย์ทำงเลือก 5.1 แบบฝกึ หดั 5.1.1 ขอ้ 1
388 รายการตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลการตรวจ กรต. 2 .............................. 5.1.2 ขอ้ 2 2 .............................. 5.1.3 ข้อ 3 2 .............................. 5.1.4 ขอ้ 4 5.2 กิจกรรมจัดทำรำยงำนใหไ้ ปใส่คะแนนใน -- แบบตรวจชนิ้ งำน 8 .............................. รวม 2 .............................. 6. หวั เรอ่ื งท่ี 6 กัญชำและกัญชงกับกำรแพทย์แผน 2 .............................. ปัจจุบัน 6.1 แบบฝึกหัด -- 6.1.1 ขอ้ 1 4 .............................. 6.1.2 ข้อ 2 6.2 กจิ กรรมจดั ทำรำยงำนใหไ้ ปใส่คะแนนใน 2 .............................. แบบตรวจชิ้นงำน 2 .............................. 2 .............................. รวม 1 .............................. 7. หวั เร่ืองที่ 7 ใช้กญั ชงและกญั ชำอยำ่ งรู้คณุ ค่ำและ 1 .............................. ชำญฉลำด 1 .............................. 7.1 แบบฝกึ หัด 9 .............................. 7.1.1 ขอ้ 1 62 .............................. 7.1.2 ข้อ 2 7.1.3 ขอ้ 3 7.2 กรณีศกึ ษำ 7.2.1 ข้อ 1 7.2.2 ข้อ 2 7.2.3 ขอ้ 3 รวม รวมคะแนนทงั้ หมด
389 หมายเหตุ1. คะแนนท่ีได้จริงจำกกำรตรวจเอกสำรกำรเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) ของผูเ้ รียนมีสูตร ที่ใช้คำนวณ ดงั น้ี คะแนนผล กำรตรวจ กรต. คะแนนทไี่ ดจ้ รงิ = คะแนน กรต.ที่กำหนดไวใ้ นโครงสร้ำงหลกั สูตร X คะแนนเต็มของแบบตรวจ กรต. ของผู้เรยี น คะแนนผล = 20 X กำรตรวจ กรต. 62 ของผเู้ รยี น 2. เกณฑก์ ำรประเมนิ ผล 2.1 ถ้ำได้คะแนนร้อยละ 60.00 ขึ้นไป ของคะแนนเต็ม หรือมีคะแนนระหว่ำง 12.00 - 20.00 คะแนน ถือวำ่ “ผำ่ น” 2.2 ถ้ำได้คะแนนร้อยละ 0.00 - 59.99 ของคะแนนเต็ม หรือ มีคะแนนระหว่ำง 0.00 - 11.99 คะแนน ถอื ว่ำ “ไม่ผ่ำน”
390 แบบตรวจชน้ิ งานเอกสารรายงานการศึกษา เรือ่ ง กัญชากับการแพทย์ทางเลือก คาชี้แจง 1. แบบตรวจฉบับน้ี จัดทำเพื่อให้ครูผู้สอนใช้ตรวจเอกสำรรำยงำนกำรศึกษำเร่ือง ศึกษำ กำรนำตำรบั ยำท่ีมกี ัญชำเปน็ ส่วนประกอบ ท่ีได้มีกำรคัดเลือกและรบั รองโดยกระทรวงสำธำรณสุขไป ใช้ในโรคที่สนใจศึกษำ จำนวน 3 ตำรับ ตำมที่ครูผสู้ อนมอบหมำยกจิ กรรมใหผ้ ู้เรียนได้ทำในใบงำนท่ี 5 หวั เรื่อง กัญชำกับกำรแพทย์ทำงเลือกและตรวจกำรพูดนำเสนอรำยงำนของผเู้ รียนใหก้ ับเพ่ือน ผเู้ รียนและครผู ูส้ อนรับฟัง 2. ให้ครูผู้สอนตรวจเอกสำรรำยงำนกำรศึกษำของผู้เรียนที่ส่งให้ครูผู้สอนตรวจ โดยมีแนว ทำงกำรตรวจ และให้คะแนน ดังนี้ 2.1 รูปเล่มของเอกสำร(คะแนนเตม็ 1) 2.1.1 ถ้ำมีส่วนนำ ไดแ้ ก่ ปกนอก รองปกนอก ปกใน คำนำ และสำรบัญ สว่ นเนื้อหำ มี 3 ตำรับยำทศี่ กึ ษำและสว่ นทำ้ ยมบี รรณำนุกรม ครบถ้วนให้ 1 คะแนน 2.1.2 ถ้ำตรวจเอกสำรแลว้ ขำดส่วนนำ หรอื ขำดสว่ นท้ำย หรอื ขำดส่วนเนอื้ หำหรือมี สว่ นประกอบของเอกสำรท้ัง 3 ส่วน หรือมีสว่ นประกอบของเอกสำรไม่ครบถว้ น ให้ 0.5 คะแนน 2.1.3 ถ้ำไม่ทำเอกสำรรำยงำนส่ง ให้ 0 คะแนน 2.2 เน้ือหำตำรบั ยำท่ี 1- 3 (คะแนนเต็ม 9) 2.2.1 ถ้ำเน้ือหำถูกต้อง ให้ 1 คะแนน แต่ถ้ำเน้ือหำไม่ถูกต้องหรือไม่จัดทำเน้ือหำ ให้ 0 คะแนน 2.2.2 ถ้ำเขียนรำยงำนนำเสนอเน้ือหำครอบคลุมหัวข้อย่อย ได้แก่ (1) อำกำรของ โรคท่ีสนใจศึกษำ (2) ชอ่ื ตำรับยำที่ใช้กับอำกำรของโรค (3) สูตรของตำรับยำ (4) รปู แบบของยำ (5) ขนำดและวธิ ีใช้และ (6) ข้อควรระวังหรือคำแนะนำ ครบถ้วน ให้ 1 คะแนน ถ้ำเขียนรำยงำน นำเสนอไม่ครอบคลุมทุกหวั ขอ้ ย่อย หรือขำดหวั ข้อใดหัวข้อหน่ึง ให้ 0.5 คะแนน 2.2.3 กำรใช้ภำษำในเอกสำรรำยงำน ถำ้ ชัดเจน และกระชบั ให้ 1 คะแนน ถ้ำไม่ ชดั เจน และไม่กระชบั หรือ ชัดเจน แต่ไม่กระชับ หรือไม่ชัดเจน แต่กระชับ ให้ 0.5 คะแนน 2.3 กำรนำเสนอรำยงำนของผู้เรียนให้กับเพื่อนผู้เรียนและครูผู้สอนรับรู้(คะแนนเต็ม 5)มี แนวทำงกำรใหค้ ะแนน ดังน้ี 2.3.1 มกี ำรพูดแนะนำวตั ถปุ ระสงค์ ให้ 0.5 คะแนน 2.3.2 มกี ำรแนะนำเนื้อหำตำรบั ยำภำพรวม ให้ 0.5 คะแนน
391 2.3.3 มีกำรนำเสนอเน้ือหำถูกตอ้ งครบถว้ น ให้ 3 คะแนน ถำ้ พดู นำเสนอเน้ือหำได้ถูกต้อง แต่ไม่ครบถ้วนให้ 2 คะแนน ถำ้ พูดนำเสนอเนื้อหำได้ไม่ถกู ต้องบำงสว่ น ให้ 1 คะแนน และถ้ำไม่นำเสนอเน้ือหำของตำรับยำให้ 0 คะแนน 2.3.4 มีกำรพูดสรุปเนื้อหำให้เพื่อนผ้เู รยี นรับรู้ ให้ 0.5 คะแนน 2.3.5 มกี ำรพูดนำเสนอรำยงำนได้ตำมเวลำที่กำหนดไว้ ให้ 0.5 คะแนน 3. เม่ือครูผู้สอนตรวจเอกสำรรำยงำนของผู้เรียนและรับฟังกำรนำเสนอรำยงำนกำรศึกษำ ของผู้เรียนเสร็จสิ้น ให้ครูผู้สอนบันทึกผลกำรให้คะแนนลงในช่องตำรำงผลกำรตรวจชิ้นงำน เอกสำรรำยงำนกำรศึกษำของผู้เรียน โดยก่อนบันทึกให้เขียนช่ือ สกุล รหัส ของกลุ่มผู้เรียนให้ ครบถว้ นก่อน เหนือช่องตำรำงผลกำรตรวจช้ินงำนเอกสำรรำยงำนกำรศกึ ษำของผเู้ รียน
392 ช่อื สมาชกิ กล่มุ ผูเ้ รียน กลมุ่ ท่ี......... กกกกกกก1. ชื่อ.................................... สกลุ .................................. รหสั .............................................. กกกกกกก2. ชอื่ .................................... สกุล.................................. รหสั .............................................. กกกกกกก3. ช่อื .................................... สกุล.................................. รหัส.............................................. ผลการตรวจช้นิ งานเอกสารรายงานการศกึ ษาของผ้เู รยี น รำยกำรตรวจสอบ คะแนนเตม็ ผลกำรตรวจรำยงำน 1 1. รูปเล่มของเอกสำรรำยงำน .............. 1 2. กำรเขยี นรำยงำนเน้ือหำตำรับยำท่ี 1 1 .............. 1 .............. 2.1 เน้อื หำถูกต้อง 3 .............. .............. 2.2 มีหวั ขอ้ ย่อยเนื้อหำครบถว้ น 1 1 .............. 2.3 ภำษำทีใ่ ช้ชดั เจนและกระชบั 1 .............. 3 .............. รวม .............. 1 3. กำรเขียนรำยงำนเนื้อหำตำรับยำที่ 2 1 .............. 1 .............. 3.1 เนือ้ หำถูกต้อง 3 .............. .............. 3.2 มีหวั ข้อย่อยเนอ้ื หำครบถว้ น 0.5 .............. 3.3 ภำษำทีใ่ ช้ชดั เจนและกระชับ 0.5 .............. รวม 3 .............. 4. กำรเขียนรำยงำนเนื้อหำตำรับยำท่ี 3 4.1 เน้อื หำถูกต้อง 4.2 มีหวั ขอ้ ย่อยเนื้อหำครบถ้วน 4.3 ภำษำทใ่ี ชช้ ัดเจนและกระชับ รวม 5. กำรพดู นำเสนอรำยงำนกำรศกึ ษำ 5.1 มกี ำรแนะนำวตั ถุประสงค์ 5.2 มกี ำรแนะนำเน้ือหำภำพรวม ท่นี ำเสนอให้เพื่อนผเู้ รียนรับรู้ 5.3 มกี ำรนำเสนอเนือ้ หำถูกต้อง และครบถว้ น
393 รำยกำรตรวจสอบ คะแนนเต็ม ผลกำรตรวจรำยงำน 5.4 มกี ำรสรปุ เนื้อหำ 0.5 .............. 5.5 นำเสนอรำยงำนกำรศึกษำ ตำมเวลำที่กำหนด 0.5 .............. 5 .............. รวม 15 .............. รวมคะแนนทั้งหมด หมายเหตุ กเกณฑ์กำรประเมินผลช้ินงำนเอกสำรรำยงำนกำรศึกษำเรื่องศึกษำกำรนำตำรับยำที่มีกญั ชำ เป็นส่วนประกอบ ที่ได้คัดเลือกและมีกำรรับรองโดยกระทรวงสำธำรณสุขไปใช้ในโรคท่ีสนใจศึกษำ ของกล่มุ ผ้เู รยี นมีดงั นี้ กกกกกกก1. ถำ้ ไดค้ ะแนนร้อยละ 60.00 ขึ้นไป ของคะแนนเต็ม หรือมีคะแนนระหว่ำง 9.00 – 15.00 คะแนน ถือวำ่ “ผ่ำน” กกกกกกก2. ถ้ำได้คะแนนร้อยละ 0.00 – 59.99 ของคะแนนเต็ม หรือมีคะแนนระหว่ำง0.00 – 8.99 คะแนน ถือวำ่ “ไม่ผำ่ น”
394 แบบตรวจชน้ิ งานเอกสารรายงานการศกึ ษา เรื่อง กัญชาและกญั ชงกบั การแพทย์แผนปจั จุบัน คาชแี้ จง 1. แบบตรวจฉบับน้ี จัดทำเพ่ือให้ครูผู้สอนใช้ตรวจเอกสำรรำยงำนกำรศึกษำเรื่อง กัญชำ และกัญชงกับกำรแพทย์แผนปจั จบุ ันที่สนใจ 2 เร่อื งเกี่ยวกับ (1) กำรควบคมุ ภำวะคล่ืนไสอ้ ำเจียนจำก เคมีบำบัดและ (2) โรคลมชักท่ีรกั ษำยำกตำมท่ีครูผู้สอนมอบหมำยกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ทำในใบงำนที่ 6 หัวเร่ือง กัญชำและกัญชงกับกำรแพทย์แผนปัจจุบัน และตรวจกำรพูดนำเสนอรำยงำนของผู้เรียน ใหก้ บั เพ่ือนผเู้ รยี น และครผู ้สู อนรับฟงั 2. ให้ครูผู้สอนตรวจเอกสำรรำยงำนกำรศึกษำของผู้เรียนที่ส่งให้ครูผู้สอนตรวจ โดยมี แนวทำงกำรตรวจ และใหค้ ะแนน ดังน้ี 2.1 รปู เล่มของเอกสำร(คะแนนเต็ม 1) 2.1.1 ถ้ำตรวจเอกสำรแล้วมีส่วนนำ ได้แก่ ปกนอก รองปกนอก ปกใน คำนำ และ สำรบัญ ส่วนเน้ือหำมี 2 เร่ืองที่สนใจท่ีศึกษำเกี่ยวกับกำรควบคุมภำวะคลื่นไส้ จำกเคมีบำบัดและ โรค ลมชกั ทร่ี ักษำยำกและส่วนทำ้ ย มีบรรณำนุกรม ครบถว้ น ให้ 1 คะแนน 2.1.2 ถ้ำตรวจเอกสำรแล้วขำดส่วนนำ หรือขำดส่วนท้ำย หรือขำดส่วนเนื้อหำ หรือ มสี ว่ นประกอบของเอกสำรไมค่ รบ 3 ส่วน ให้ 0.5 คะแนน 2.1.3 ถำ้ ไมท่ ำเอกสำรรำยงำนสง่ ให้ 0 คะแนน 2.2 เนอื้ หำเร่ืองกำรควบคุมภำวะคล่ืนไสอ้ ำเจยี นจำกเคมีบำบัดและเร่ืองโรคลมชกั ท่ีรักษำ ยำก (คะแนนเตม็ 9) 2.2.1 ถำ้ เนื้อหำถกู ต้อง ให้ 1 คะแนน แตถ่ ำ้ เนือ้ หำไมถ่ ูกต้อง หรอื ไม่จดั ทำเนื้อหำเรอ่ื งน้ี ให้ 0 คะแนน 2.2.2 ถ้ำเขียนรำยงำนนำเสนอเนื้อหำครอบคลุมหัวข้อย่อย ได้แก่ (1) อำกำรของ ภำวะคล่ืนไส้อำเจียนจำกเคมีบำบัดและโรคลมชักท่ีรักษำยำก (2) ช่ือผลิตภัณฑ์กัญชำและกัญชงในกำร ควบคุมอำกำรและรักษำโรค (3) รูปแบบผลิตภัณฑ์ (4) ขนำดวิธีใช้ และ (5) ข้อควรระวังหรือคำแนะนำ ครบถ้วน ให้ 1 คะแนน ถ้ำเขียนรำยงำนนำเสนอไม่ครอบคลุมทุกหัวข้อ หรือขำดหัวข้อใดหัวข้อหน่ึง ให้ 0.5 คะแนน 2.2.3 กำรใช้ภำษำในเอกสำรรำยงำน ถำ้ ชัดเจน และกระชับ ให้ 1 คะแนน ถำ้ ไมช่ ัดเจน และไมก่ ระชบั หรอื ชัดเจน แต่ไมก่ ระชับ หรือไมช่ ัดเจน แต่กระชบั ให้ 0.5 คะแนน
395 2.3 กำรนำเสนอรำยงำนของผู้เรียนให้กับเพ่ือนผู้เรยี นและครูผู้สอนรับรู้(คะแนนเต็ม 5)มี แนวทำงกำรให้คะแนน ดังนี้ 2.3.1 มกี ำรพูดแนะนำวัตถุประสงค์ให้ 0.5 คะแนน 2.3.2 มกี ำรแนะนำเนื้อหำเรื่องที่สนใจศึกษำ2 เรอื่ ง ในภำพรวม ให้ 0.5 คะแนน 2.3.3 มีกำรพูดนำเสนอเน้ือหำถูกต้องครบถ้วน ให้ 3 คะแนน ถ้ำพูดนำเสนอเน้ือหำ ได้ถูกต้อง แตไ่ มค่ รบถ้วน ให้ 2 คะแนน ถ้ำพูดนำเสนอเน้ือหำได้ไมถ่ ูกต้องบำงส่วน ให้ 1 คะแนน และถ้ำไม่พูดนำเสนอเน้ือหำของกำรควบคุมภำวะคล่ืนไส้อำเจียนจำกเคมีบำบัดและโรคลมชักที่รักษำ ยำกให้0 คะแนน 2.3.4 มีกำรพูดสรุปเน้ือหำให้เพื่อนผู้เรยี นรับร้ใู ห้ 0.5 คะแนน 2.3.5กำรพูดนำเสนอรำยงำนได้ตำมเวลำท่ีกำหนดไว้ให้ 0.5 คะแนน 3. เม่ือครูผู้สอนตรวจเอกสำรรำยงำนของผู้เรียนและรับฟังกำรนำเสนอรำยงำนกำรศึกษำ ของผู้เรียนเสร็จส้ิน ให้ครูผู้สอนบันทึกผลกำรให้คะแนนลงในช่องตำรำงผลกำรตรวจช้ินงำน เอกสำรรำยงำนกำรศึกษำของผู้เรียน โดยก่อนบันทึกให้เขียนช่ือ สกุล รหัส ของกลุ่มผู้เรียนให้ ครบถ้วนก่อน เหนือชอ่ งตำรำงผลกำรตรวจชิ้นงำนเอกสำรรำยงำนกำรศึกษำของผู้เรียน
396 ช่ือสมาชิกกล่มุ ผู้เรยี น กลมุ่ ท.่ี ........ กกกกกกก1. ชือ่ .................................... สกลุ .................................. รหสั .............................................. กกกกกกก2. ช่อื .................................... สกลุ .................................. รหสั .............................................. กกกกกกก3. ชื่อ.................................... สกลุ .................................. รหสั .............................................. ผลการตรวจช้นิ งานเอกสารรายงานการศึกษาของผู้เรยี น รำยกำรตรวจสอบ คะแนนเต็ม ผลกำรตรวจรำยงำน .............. 1. รูปเลม่ ของเอกสำรรำยงำน 1 .............. 2. กำรเขยี นรำยงำนเนื้อหำเรอื่ งกำรควบคุม .............. .............. ภำวะคล่นื ไส้อำเจียนจำกเคมีบำบัด .............. 2.1 เนื้อหำถกู ต้อง 3 .............. .............. 2.2 มีหัวข้อยอ่ ยเนื้อหำครบถ้วน 1 .............. .............. 2.3 ภำษำที่ใชช้ ดั เจนและกระชบั 1 .............. รวม 5 .............. 3. กำรเขียนเน้ือหำเรื่องโรคลมชักทร่ี ักษำยำก .............. 3.1 เนื้อหำถกู ต้อง 2 .............. 3.2 มีหวั ขอ้ ย่อยเน้ือหำครบถ้วน 1 .............. 3.3 ภำษำที่ใช้ชัดเจนและกระชบั 1 รวม 4 4. กำรพดู นำเสนอรำยงำนกำรศึกษำ 4.1 มกี ำรแนะนำวัตถปุ ระสงค์ 0.5 4.2 มกี ำรแนะนำเน้อื หำภำพรวม ที่นำเสนอให้เพือ่ นรับรู้ 0.5 4.3 มกี ำรพดู นำเสนอเนื้อหำถูกต้อง และครบถ้วน 3 4.4 มีกำรสรปุ เนอ้ื หำ 0.5 4.5 นำเสนอรำยงำนกำรศึกษำ ตำมเวลำทกี่ ำหนด 0.5
397 รวม 5 .............. รวมคะแนนทั้งหมด 15 .............. หมายเหตุ กเกณฑ์กำรประเมินผลชิ้นงำนเอกสำรรำยงำนกำรศกึ ษำเร่ือง กัญชำและกญั ชงกับกำรแพทย์ แผนปัจจุบันของกลุม่ ผ้เู รยี นมี ดงั น้ี กกกกกกก1. ถ้ำได้คะแนนร้อยละ 60.00 ขึ้นไป ของคะแนนเต็ม หรือมีคะแนนระหว่ำง 9.00 - 15.00 คะแนน ถอื ว่ำ “ผำ่ น” กกกกกกก2. ถำ้ ไดค้ ะแนนร้อยละ 0.00 - 59.99 ของคะแนนเต็ม หรือมีคะแนนระหวำ่ ง 0.00 - 8.99 คะแนน ถอื วำ่ “ไม่ผำ่ น”
398 ภาคผนวก ง. เครื่องมอื วดั ผลรวม
399 ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู รรายวชิ า ทช33098กญั ชาและกัญชงศกึ ษา เพอ่ื ใช้เปน็ ยาอยา่ งชาญฉลาด ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย พฤตกิ รรม K PA การเรียนรู้ เนอ้ื หา จา เขา้ ใจ นาไปใช้ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ คา่ 1 เหตใุ ดตอ้ งเรียนรู้ - - - กญั ชาและกัญชง (1) (2) 2. กญั ชาและกัญชง - - - พชื ยาทค่ี วรรู้ (2) (3) 3. รจู้ กั โทษและ - - ประโยชน์ของกญั ชา (1) (1) (3) และกัญชง 4. กฎหมายท่เี กี่ยวข้อง - - (3) กับกัญชาและกัญชง (1) (1) 5. กญั ชาและกัญชงกบั - - การแพทยแ์ ผนไทยและ (1) (3) (4) - การแพทย์ทางเลือก - - 6. กญั ชาและกัญชงกบั การแพทย์แผนปจั จุบนั (1) (2) (4) 7. ใช้กัญชาและกญั ชง (3) เปน็ ยาอย่างรู้คณุ ค่าและ - ชาญฉลาด (1) (3) รวม 7 8 22 - 3 หมายเหตุ1.พฤตกิ รรมการเรียนรดู้ ้านความรู้ ระดับความจา วัดจากการทาแบบฝึกหัดในใบงาน หมายเหตุ2. พฤติกรรมการเรียนดา้ นทักษะ วัดทกั ษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์ หมายเหตุ3. พฤติกรรมการเรียนรู้ดา้ นเจตคติ วดั อารมณ์ความรู้สึกต่อเนอื้ หาหลักสตู ร
400 แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นด้านความรู้ รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกญั ชงศึกษา เพือ่ ใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย คาชีแ้ จง 1. แบบทดสอบฉบบั นี้จัดทาข้ึนเพ่ือวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ของผู้เรียนท่ีได้ ศกึ ษาเรียนรู้หลกั สูตรรายวชิ าเลอื กน้ี 2. แบบทดสอบฉบับนมี้ ีลักษณะเปน็ แบบปรนยั ชนิดเลอื กตอบ4 ตวั เลือก จานวน 40 ข้อ ใหผ้ ูเ้ รยี นเลอื กข้อท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว โดยให้ทาเครือ่ งหมายกากบาท (X) ทับตัวอักษรหน้าข้อท่ี เลือกในแผน่ กระดาษคาตอบทแ่ี จกให้ หา้ มขดี เขียนข้อความใด ๆ ลงในเอกสารแบบทดสอบฉบับน้ี 3. ใช้เวลาทาแบบทดสอบฉบบั นี้ 40 นาที 4. ก่อนลงมือทาแบบทดสอบฉบับน้ีให้ผู้เรียนเขียนช่ือ ช่ือสกุล และรหัสประจาตัวของ ผเู้ รียนลงในแผน่ กระดาษคาตอบใหถ้ ูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ 5. เมื่อผู้เรียนทาแบบทดสอบฉบับนี้เสร็จสิ้นให้นาส่งเอกสารข้อสอบ พร้อมท้ังแผ่น กระดาษคาตอบคนื ครูผูส้ อนหรอื ผู้ควบคมุ ห้องสอบให้ครบถ้วน 1. ข้อใดไมใ่ ช่สภาพการณ์การใชก้ ัญชาและกัญชงในประเทศไทย(เข้าใจ) ก. ปจั จุบันกฎหมายอนุญาตใหป้ ระชาชนทวั่ ไปปลกู กัญชาและกัญชงได้ ข. การปลูกกัญชาและกัญชงเสรียงั ถอื ว่าผดิ กฎหมาย หากจะปลูกต้องได้รบั อนญุ าตกอ่ น ค. กรมการแพทยแ์ ละกรมการแพทย์แผนไทย อนุญาตให้ใช้ผลิตภณั ฑ์กญั ชาและกัญชงรักษาโรค .............บางโรคได้ ง. กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศในปี พ.ศ.2562 ให้ใช้ยาที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ เพ่ือ .............การรักษาโรค หรือการศึกษาวจิ ัยได้
401 2. นาย ก นอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน เพ่ือนแนะนาให้ลองหยดน้ามันกัญชาท่ีใต้ลิ้น จานวน 1 หยด .......จะทาใหน้ อนหลับเปน็ ปกติ จงึ ไปศกึ ษาการใช้น้ามันกัญชาจากคลปิ วิดโี อในอินเทอรเ์ น็ต (Internet). ซง่ึ มกี ารกลา่ วอา้ งสรรพคุณของนา้ มนั กัญชา ทาใหเ้ กดิ ความเชอ่ื ถือ จึงตกลงสั่งซื้อเพอ่ื นามาทดลอง หยดใตล้ นิ้ ปรากฏวา่ เกิดอาการใจส่ัน ขากระตกุ จนต้องเข้ารักษาตัวท่โี รงพยาบาล จากกรณี ดงั กลา่ วท่านมีความเห็นอย่างไร (วเิ คราะห)์ ก. เชือ่ วา่ ผใู้ ชท้ าไมต่ รงตามคลปิ วดิ โี อในอินเทอร์เนต็ (Internet) ข. เชอ่ื ว่ากญั ชาทาใหส้ ามารถแก้อาการนอนหลบั ไดถ้ า้ ใช้ในปริมาณนอ้ ย ค. เชือ่ ว่าหากดูจากคลปิ วดิ โี อท่เี ชื่อถือได้แล้วทาตามจะทาใหน้ อนหลับได้ ง. เชือ่ วา่ ขอ้ มลู จากคลปิ วดิ โี อในอนิ เทอร์เนต็ (Internet)โดยทั่วไปไม่นา่ เชื่อถือ 3. ปัจจุบันมีการโฆษณาผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง ผ่านทางสื่อออนไลน์เป็นจานวนมากเช่น ......อินเทอร์เน็ต (Internet)เฟสบุ๊ค (facebook) ไลน์ (line) และ ยูทูป (YouTube)โดยมีการนาเสนอ .......สรรพคณุ อยา่ งน่าเชอ่ื ถือ ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อโฆษณาดังกลา่ ว(วิเคราะห)์ ก. ดีมาก เพราะสามารถหาซ้ือได้ง่าย ข. ไมด่ ี เพราะจะทาใหใ้ ชผ้ ลิตภณั ฑ์กัญชาและกัญชงในทางท่ผี ดิ ค. ดมี าก เพราะหากพบโรคทคี่ นใกล้ชิดเปน็ อยู่จะไดแ้ นะนาไดถ้ ูกต้อง ง. ไม่ดีเพราะไม่สามารถเหน็ และสัมผสั ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกัญชงไดจ้ รงิ ๆ 4. สารออกฤทธิใ์ นพชื กัญชาและกัญชงในข้อใดเกย่ี วขอ้ งกันมากทีส่ ุด (วเิ คราะห์ความสัมพันธ)์ ก. CDB กับ TDB ข. CBD กบั THC ค. CDB กบั TCB ง. CBBกับ THC 5. อาการในข้อใดจัดเปน็ พิษภัยสาคญั ทีส่ ดุ เมื่อรา่ งกายได้รับสารออกฤทธิ์จากพชื กัญชา(เขา้ ใจ) ก. ทาใหเ้ กิดอาการวิงเวยี นศีรษะ ข. ทาให้เกิดการมึนเมาและประสาทหลอน ค. ทาให้เกิดความเพลดิ เพลินสนกุ สนานเกินขอบเขต ง. ทาให้เกดิ อาการอยากรบั ประทานอาหารมากยิ่งขน้ึ 6. พชื กญั ชาและกัญชง ทปี่ ลูกในประเทศไทยมปี ริมาณสารสาคญั แตกต่างกันอย่างไร (วิเคราะห์ความแตกต่าง) ก. สาร THC ในใบและช่อดอกแหง้ ของพืชกญั ชา มีมากกว่าพืชกญั ชง ข. สาร THC ในใบและชอ่ ดอกแห้ง ของพชื กัญชง มีมากกว่าพืชกญั ชา ค. สาร THC ในใบและช่อดอกแห้ง ของพืชกญั ชา และพชื กัญชงมีปรมิ าณเทา่ ๆ กนั ง. สาร THC ในใบและชอ่ ดอกแห้ง ของพืชกญั ชง และพชื กัญชาแตกต่างกันเล็กนอ้ ย
402 7. “พืชกัญชาและกญั ชง มลี ักษณะภายนอกแตกตา่ งกันน้อยมาก แตส่ ามารถสังเกตในเบื้องต้นได้ คือ ......กัญชงมีใบแคบเรียวและสีเขียวอ่อนกวา่ มีลาต้นสูงและแตกกิ่งก้านน้อยกว่า ช่อดอกมียางน้อยกว่า ......กัญชา จึงมีการนากญั ชงไปใชเ้ ป็นพชื เส้นใยสาหรับทาเสอ้ื ผ้าและเยอื่ กระดาษ กัญชงมสี ารแคนนาบไิ ดออล ......(cannabidiol) ทช่ี ว่ ยยับย้ังการออกฤทธข์ิ องสารตอ่ จติ ประสาทมากกว่ากญั ชา”จากข้อความ...... ดังกลา่ วขา้ งตน้ ขอ้ ใดเป็นความแตกต่างทีส่ าคญั ทส่ี ดุ ระหวา่ งกญั ชากับกญั ชง (วเิ คราะห์ความแตกตา่ ง) ก. พชื กัญชา มีสารออกฤทธิ์ท่ีเป็นประโยชนม์ ากกว่า พืชกัญชง ข. พชื กัญชง มีสารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชนม์ ากกวา่ พชื กัญชา ค. พืชกัญชา มีเสน้ ใยมากกว่า พืชกญั ชง ง. พชื กญั ชง มีเส้นใยมากกว่า พชื กญั ชา 8. พืชกัญชาและกัญชงมีต้นกาเนิดมาจากพืชเดิมชนิดเดียวกันแต่นักพฤกษศาสตร์ได้จาแนกสปีชีส์ย่อย ......เป็น 2 สายพันธุ์คือCannabis sativa L. subsp. sativa(กัญชง, Hemp) และCannabis sativa.......L. subsp. indica (กัญชา, Cannabis) จากขอ้ ความขา้ งตน้ กัญชาและกญั ชงเป็นพืชชนดิ เดียวกนั ใชห่ รอื ไมเ่ พราะเหตุใด (วเิ คราะห์ความสัมพันธ์) ก. ใช่ เพราะพชื กัญชากับกัญชงขึ้นอยใู่ นแหล่งเดียวกัน ข. ไม่ใช่ เพราะพชื กญั ชาและกญั ชงเป็นพืชทม่ี สี ปีชีส์แตกตา่ งกนั ค. ใช่ เพราะพืชกญั ชาและกัญชงมีสายพนั ธุเ์ ดยี วกนั ต่างกันเพียงสายพนั ธ์ยุ ่อยเท่านั้น ง. ไม่ใช่ เพราะพชื กัญชาเป็นพืชสายพันธุ์ย่อยsativaส่วนกัญชงเป็นพืชสายพนั ธย์ุ ่อย indica 9. บุคคลในข้อใดควรไดร้ ับน้ามันกญั ชาจากแพทย์ (วิเคราะหห์ ลกั การ) ก. นิตยาแพ้ท้องอย่างหนักในขณะตั้งครรภ์ ข. องิ อรมีอาการเวยี นศีรษะเพราะความดันโลหติ สงู ค. เสรีมอี าการคลน่ื ไสอ้ าเจียนหลงั จากไดร้ ับเคมบี าบัด ง. กัลยามอี าการจุกเสยี ดหายใจไม่ออกจากโรคหัวใจกาเริบ 10. พษิ ของกัญชา มีผลกระทบตอ่ ระบบรา่ งกายสว่ นใดมากทส่ี ุด (เข้าใจ) ก. ปอด ข. ผิวหนงั ค. สมองและประสาท ง. หัวใจและหลอดเลอื ด
403 11. ข้อใดเปน็ โทษของการใชก้ ัญชาที่พบมากที่สดุ ในประเทศไทย (วเิ คราะห์ความสาคัญ) ก. พชื กญั ชามีสารเคมีที่เปน็ พิษก่อใหเ้ กดิ ของโรคมะเรง็ ข. ผู้เสพตดิ กัญชามักขับรถโดยประมาทก่อใหเ้ กิดอบุ ัติเหตุไดง้ า่ ย ค. สารพิษจากกัญชาทาลายสมองของผู้เสพ และอาจปว่ ยเป็นโรคจติ ได้ ง. การเสพตดิ กญั ชาทาใหค้ รอบครวั แตกแยก และทาลายชอื่ เสยี งวงศต์ ระกูล 12. ข้อปฏบิ ัติประการสาคญั ทส่ี ุดในการใช้น้ามันกญั ชาเพื่อรกั ษาโรคคือขอ้ ใด (นาไปใช้) ก. ใช้นา้ มนั กญั ชาในปริมาณนอ้ ยทส่ี ุด ข. ใชน้ า้ มันกัญชาตามที่แพทย์สงั่ เทา่ น้ัน10. 10. ค. ใช้น้ามันกัญชาใหต้ รงกับชนิดของโรค ง. ใช้น้ามนั กัญชาจากแหลง่ ที่เชือ่ ถอื ได้เท่านน้ั 13. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้องมากที่สุด (วิเคราะห์หลักการ) ก. สารสกัดจากกญั ชามีความจาเปน็ ต่อรา่ งกายในการรกั ษาโรค ข. สารสกดั จากกญั ชาทาใหร้ ับประทานอาหารได้ดี ช่วยรกั ษาโรคมะเร็งได้ ค. สารสกัดจากกัญชาเป็นประโยชนใ์ นการรกั ษาโรค รวมท้ังควบคมุ โรคได้ทุกโรค ง. สารสกัดจากกญั ชามีฤทธ์ิต่อจติ ประสาท หากใช้ในปริมาณมากจะเปน็ ผลเสียอยา่ งร้ายแรง 14. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเก่ียวกบั กฎหมายการอนุญาตใหใ้ ชก้ ัญชาและกญั ชง (เข้าใจ) ก. อนุญาตให้ใชก้ ญั ชาและกัญชงได้โดยเสรี ข. อนุญาตให้ใชก้ ัญชาและกัญชงเพ่ือรักษาโรคทุกโรค ค. อนุญาตใหใ้ ชก้ ญั ชาและกัญชงทางการแพทย์และศึกษาวจิ ยั ง. อนุญาตใหใ้ ช้กัญชาและกัญชงทางการแพทย์และการนนั ทนาการ 15. การทาใหบ้ ุคคลอน่ื เสพยาเสพตดิ ให้โทษ มีความผดิ อย่างไร (นาไปใช้) ก. ไม่มคี วามผิดเลย ข. มีความผดิ ท้งั จาคุกและปรับ ค. ไมม่ ีความผดิ เพราะไม่ได้เสพด้วยตนเอง ง. มีความผดิ เฉพาะถูกปรับเป็นเงนิ เท่านนั้ 16. นางมณมี ีกัญชาในครอบครอง จานวน 13 กิโลกรัม จัดเปน็ ผู้กระทาผดิ กฎหมายในขอ้ ใด (เขา้ ใจ) ก. มีไว้ในความครอบครองเพื่อการจาหนา่ ย ข. มีไว้ในความครอบครองเพื่อการบริโภค ค. มีไวใ้ นความครอบครองเพ่ือการศึกษาวจิ ยั ง. มไี ว้ในความครอบครองเพื่อการบรโิ ภคและอปุ โภค
404 17. นายสมชายป่วยเป็นโรคกระเพาะ นายทองดีแนะนาว่า ถ้าต้มกัญชาด่ืมทุกวันจะทาให้หายป่วยได้ ........นายสมชายจึงไปซื้อใบกัญชาสด จานวน 5 ใบ มาต้มดื่ม ถือว่าสมชายมีความผิดทางกฎหมาย ........หรือไม่เพราะเหตุใด(วเิ คราะห์หลักการ) ก. มีความผดิ เพราะแพทย์ไม่สง่ั ใหใ้ ช้ ข. ไม่มีความผิด เพราะร้เู ท่าไม่ถึงการณ์ ค. มีความผิด เพราะมกี ัญชาไว้ในครอบครอง ง. ไมม่ ีความผิด เพราะใชร้ ักษาโรค ไม่มีเจตนาทาผดิ 18. เจ้าหน้าที่ตารวจจับนายโชคดีเน่ืองจากมีกัญชา จานวน1 มวน เม่ือนาไปตรวจปัสสาวะพบว่า ........มสี าร ทเ่ี กี่ยวข้องกบั กญั ชาเปน็ ผลบวก นายโชคดี มีความผิดหรือไม่เพราะเหตุใด(วเิ คราะห์หลักการ) ก. มีความผดิ เพราะเป็นทั้งผู้เสพและผผู้ ลติ ข. มีความผดิ เพราะเป็นทงั้ ผู้ผลติ และผู้จาหน่าย ค. มีความผิด เพราะเป็นท้ังผู้เสพและผู้ครอบครอง ง. มีความผิด เพราะเป็นทั้งผู้ครอบครองและผู้จาหนา่ ย 19. นายมงคล อายุ 22 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่กาเนิด วันหนึ่งมีอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับจึง ........ซื้อยานอนหลับมารับประทาน แต่อาการไม่ดีข้ึน จึงตัดสินใจมาพบแพทย์แผนไทย แพทย์จึงให้ ........รับประทานยาศขุ ไสยาศน์ ทาให้นายมงคลกนิ ได้ นอนหลับดขี น้ึ จากกรณดี ังกลา่ วขอ้ ใดกลา่ วได้ถูกต้องท่ีสุด (วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์) 19. ก. ผูป้ ่วยโรคหัวใจไม่ควรซอ้ื ยามารักษาด้วยตนเอง 19. ข. ยาศุขไสยาศน์เหมาะสมกับการรักษาโรคนอนไม่หลับ 19. ค. การรักษาโดยแพทย์แผนไทยเป็นการรกั ษาโรคทด่ี ีทสี่ ุด 19. ง. การใช้ยารักษาโรคที่ดีทีส่ ดุ ตอ้ งอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ 20. จากกรณีศึกษาในขอ้ 19 ท่านคดิ วา่ แพทย์แผนไทยจัดตารับยาได้ถูกต้องหรือไม่เพราะเหตใุ ด (วิเคราะห์หลกั การ) 19. ก. ไมถ่ ูกต้อง เพราะยาศุขไสยาศน์ไมใ่ ช่ยารักษาโรคนอนไม่หลบั 19. ข. ถูกต้อง เพราะยาศุขไสยาศน์ใช้รกั ษาทง้ั โรคหัวใจและโรคนอนไม่หลบั 19. ค. ไม่ถกู ต้อง เพราะนายมงคลป่วยเป็นโรคหวั ใจไม่ควรใช้ยาศขุ ไสยาศน์ 19. ง. ถูกต้อง เพราะนายมงคลเป็นผ้ใู หญ่มีอายุเกนิ 20 ปี ใช้ยาศุขไสยาศน์ได้
405 21. นายวิทยา มอี าชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจา้ ง ชอบดื่มสุราเป็นประจา มีอาการปวดบวมท่ีเท้าทั้ง ........2 ข้าง จึงไปซื้อสุราดองยามาด่ืม เพราะเชื่อว่ารักษาอาการปวดบวมได้แต่อาการไม่ดีข้ึนจึงมา ........พบแพทยแ์ ผนไทย ให้รบั ประทานยาทัพยาธคิ ณุ เพ่ือบรรเทาอาการปวดบวม จากกรณีดงั กล่าว ขอ้ ใดกล่าวได้ถกู ต้องทีส่ ุด(วิเคราะห์หลักการ) 21. ก. ยาแพทย์แผนไทยทุกชนดิ มสี รุ าเปน็ สว่ นผสม 21. ข. การดม่ื สุราเป็นประจาเป็นสาเหตุของการปวดบวมท่เี ทา้ 21. ค. การซื้อสุราดองยามาดื่มเอง ไม่สามารถทาให้การปวดบวมที่เทา้ หายได้ 21. ง. เมอ่ื เจบ็ ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อรักษา ไม่ควรซื้อยามารักษาดว้ ยตนเอง 22. จากกรณีศึกษาในข้อ 21ท่านคิดว่าแพทย์แผนไทยจัดยาทัพยาธิคุณให้นายวิทยา ถูกต้องหรือไม่ .........เพราะเหตใุ ด(วเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์) ก. ไม่ถูกต้อง เพราะยาทพั ยาธคิ ุณมกี ัญชาเป็นส่วนผสม ข. ถูกตอ้ ง เพราะยาทัพยาธคิ ุณสามารถแก้อาการปวดบวมได้ ค. ไมถ่ ูกต้อง เพราะยาทัพยาธิคณุ เป็นยาแก้อาการคล่ืนไส้ อาเจียน ง. ถกู ตอ้ ง เพราะยาทัพยาธิคุณใช้รักษาอาการปวดบวมทเ่ี ทา้ โดยตรง 23. หากคนในครอบครัวของทา่ นมีอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อ นอนไม่หลบั อาการดังกลา่ วแพทย์จะจดั 21. ยาที่รบั รองโดยกระทรวงสาธารณสขุ ในข้อใด(นาไปใช้) 21. ก. ยาไพสาลี 21. ข. อัคคินีวคณะ 21. ค. ยาแกล้ มแกเ้ ส้น 21. ง. ยาอัมฤตย์โอสถ 24. ขอ้ ควรระวงั ในการใช้ยาแก้ลมขนึ้ เบื้องสูง คือข้อใด(นาไปใช)้ ก. ไม่ใช้กับผู้ป่วยท่ีเป็นโรคหัวใจและกระเพาะอาหาร ข. ไม่ใช้กับผู้ปว่ ยทเี่ ปน็ โรคผวิ หนังอกั เสบและภมู ิแพ้ ค. ไม่ใช้กับผู้ป่วยทเ่ี ปน็ โรคริดสีดวงทวาร ง. ไม่ใช้กับผู้ปว่ ยท่ีเป็นโรคมะเรง็ 25. เราควรปฏบิ ัตติ นอยา่ งไรกับกระแสเก่ยี วกบั การใชก้ ัญชาในสงั คมปจั จุบัน(นาไปใช้) ก. ศึกษาข้อมลู ทถ่ี กู ต้องเกย่ี วกบั กัญชาจากแหล่งเรียนรู้ท่เี ป็นทยี่ อมรับ ข. ตอ่ ต้านการใช้กญั ชาเพื่อป้องกันสังคมไมใ่ หเ้ กิดผลกระทบ ค. สนบั สนนุ การใช้กัญชาเพ่ือรกั ษาโรคตามกระแสนยิ ม ง. ไมเ่ กยี่ วข้องเพื่อหลีกเล่ยี งปัญหาทจ่ี ะส่งผลถงึ ตัวเรา
406 26. เพราะเหตุใด บุคคลทัว่ ไปจึงไม่ควรสกัดนา้ มันกญั ชามาใช้ด้วยตนเอง(เข้าใจ) 26. ก. เพราะ ได้น้ามนั กัญชาในปรมิ าณน้อย 26. ข. เพราะ มีสารเคมีปนเปือ้ นในนา้ มนั กัญชาจานวนมาก 26. ค. เพราะ เป็นอันตรายในระหว่างการสกัดน้ามันกัญชา 26. ง. เพราะ ได้นา้ มนั กญั ชาไม่ได้มาตรฐานเปน็ อันตรายตอ่ ผใู้ ช้ 27. ผปู้ ว่ ยท่เี ป็นมะเร็งปากมดลกู ควรใชผ้ ลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกัญชง รักษาโรคในรปู แบบใดจึงจะเกดิ ประสิทธิภาพมากที่สดุ (นาไปใช)้ 26 ก. การใช้ผลิตภัณฑ์ฉีดพ่นสเปรย์ 26 ข. การใช้ผลิตภัณฑ์สวนทวาร 26. ค. การรับประทานผลิตภัณฑ์ ง. การเหนบ็ ผลิตภณั ฑ์ 28. ข้อใดคอื สรรพคณุ ของผลิตภณั ฑ์ ซซี าเมท(Cesamet) ในรูปแบบแคปซูลตัวยามีขนาดความแรง THC 1 มลิ ลิกรมั ตอ่ เมด็ (เข้าใจ) 26. ก. เพม่ิ การอยากอาหารในผปู้ ่วยเอดส์ 26. ข. บรรเทาอาการปวดของเสน้ ประสาท 26. ค. ป้องกนั การคล่นื ไส้อาเจียนทเี่ กิดจากยารักษาโรคมะเร็ง 26. ง. รกั ษาควบคุมอาการของโรคลมชกั ในผใู้ หญ่ และเด็กอายุตง้ั แต่ 2 ปี ข้นึ ไป 29. นายอาร์มมีโรคประจาตัว คือ โรคลมชัก ต่อมานายอาร์ม เห็นข้อมูลจากทางอินเทอร์เน็ตว่า ........นา้ มนั กัญชา สามารถรักษาโรคลมชักได้ จึงไปหาซ้ือน้ามันกัญชามาใช้หยดใตล้ ิ้นหลังรับประทาน ........อาหารทุกม้ือจากกรณดี ังกล่าว นายอาร์มควรหรือไม่ควรใช้น้ามันกัญชาในการรักษาโรคลมชกั ......... (วเิ คราะห์หลกั การ) 26. ก. ควร เนอื่ งจากมคี นใช้น้ามนั กัญชาจานวนมาก 26. ข. ไม่ควร เน่อื งจากแพทยไ์ มไ่ ด้ส่ังใหใ้ ช้นา้ มันกญั ชา 26. ค. ควร เน่อื งจากมคี นใช้นา้ มนั กญั ชารักษาโรคลมชักแลว้ หาย 26. ง. ไมค่ วร เน่ืองจากโรคลมชกั สามารถรักษาไดด้ ว้ ยยาอ่นื ทีไ่ ดผ้ ลดีกว่า 30. จากกรณีศึกษาในข้อ 29 การใช้น้ามันกัญชาหยดใต้ล้ินหลังรับประทานอาหารถูกต้องหรือไม่ ........(วิเคราะห์หลักการ) 26. ก. ถูกต้อง เพราะทาให้ยาดดู ซึมได้งา่ ย 26. ข. ไม่ถูกต้อง เพราะอาหารจะทาใหย้ าออกฤทธเิ์ พม่ิ มากขึน้ 26. ค. ถกู ตอ้ ง เพราะอาหารเป็นตวั ช่วยไม่ให้ยากดั กระเพาะอาหาร 26. ง. ไมถ่ กู ต้อง เน่ืองจากอาหารจะทาใหป้ ระสิทธิภาพของยาลดลง
407 31. นางสาวอารี มเี พอ่ื นปว่ ยเป็นโรคมะเร็ง เขาต้องการช่วยเหลือเพอ่ื น จึงไปศกึ ษาวธิ กี ารสกัดนา้ มนั กัญชาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน แลว้ ดาเนนิ การสกดั นา้ มนั กัญชาตามวิธกี ารทศี่ กึ ษา จากนั้นจึงนา นา้ มนั กญั ชาท่ไี ด้มาใช้รักษาโรคมะเร็งใหก้ ับเพื่อน จากกรณีดงั กล่าว นางสาวอารีสามารถนานา้ มันกัญชาทีส่ กดั ได้มาใช้รกั ษาโรคให้เพ่ือน ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (วเิ คราะห์หลักการ) 26. ก. ได้ เพราะมีความปลอดภัยมากกว่าไดม้ าจากท่ีอ่ืน 26. ข. ไมไ่ ด้ เพราะน้ามันกญั ชาเป็นสารสกดั ทผี่ ิดกฎหมาย 26. ค. ได้ เพราะน้ามนั กญั ชาเป็นพืชยาท่ีภมู ปิ ัญญาชาวบา้ นใช้ท่ัวไป 26. ง. ไม่ได้ เพราะการใช้น้ามันกัญชาต้องใชใ้ นความควบคุมของแพทย์ 32. ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งที่มีความต้องการจะเข้ารับการรักษา ด้วยผลิตภัณฑ์น้ามันกัญชาควรได้รับ ........การอนุญาตจากใคร เพราะเหตใุ ด (วเิ คราะห์หลกั การ) 26. ก. ไดร้ บั อนญุ าตจากแพทย์ และพยาบาล เพราะเป็นผูร้ ักษาโดยตรง 26. ข. ได้รบั อนญุ าตจากแพทย์ และเภสัชกร เพราะเปน็ ผวู้ ินิจฉัยโรคโดยตรง 26. ค. ไดร้ บั อนุญาตจากแพทย์ และพยาบาล เพราะเปน็ ผูค้ วบคมุ การใชย้ ารกั ษาโรคมะเร็ง 26. ง. ได้รบั อนญุ าตจากแพทย์ และเภสชั กร เพราะเป็นผู้ใชย้ าแผนปัจจุบนั ควบคู่กบั น้ามนั กญั ชา 33. ผู้ป่วยโรคใดที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชงเป็นยารักษาเสริมกับการรักษามาตรฐานเพื่อการ ........ควบคุมอาการปว่ ย (นาไปใช้) 26. ก. โรคความดันโลหิตสงู 26. ข. โรคหลอดเลือดสมอง 26. ค. โรคปลอกประสาทอกั เสบ 26. งง. โรคหัวใจ และหลอดเลือด 34. ข้อใดเปน็ ข้อปฏบิ ตั ิก่อนการตดั สินใจใช้ผลิตภัณฑ์กญั ชาและกัญชงทางการแพทยท์ ี่ถูกต้องทส่ี ุด(นาไปใช้) 26. ก. ประเมินอายุของผูป้ ่วยเปน็ อนั ดับแรก 26. ข. ประเมนิ ความพรอ้ มทางรา่ งกายของผู้ปว่ ยเปน็ อันดับแรก 26. ค. ประเมนิ ความพรอ้ มของเครือ่ งมอื แพทย์ และยาเปน็ อันดบั แรก 26. ง. ประเมนิ ความเหมาะสมที่จะใชผ้ ลิตภัณฑ์กัญชาและกญั ชงเป็นอนั ดบั แรก
408 35. “ตารวจภูธรอาเภอสังขละบุรี จงั หวัดกาญจนบรุ ี จบั ผู้ชายคนหนึ่งที่ลักลอบขนยาบ้า จานวน .........ห้าหม่นื เม็ด ข้ามชายแดนบริเวณจดุ ผ่อนปรนชัว่ คราว บ้านพระเจดีย์สามองค์ ผู้ต้องหารับสารภาพ .........ว่ากระทาผิดจริง เน่ืองจากมีเพื่อนติดต่อว่าจ้างให้นายาบ้าไปส่งท่ีประเทศมาเลเซีย เป็นเงิน .........จานวน 7 แสนบาท” จากกรณีน้ีผู้ชายท่ีลักลอบขนยาบ้าไม่ได้ให้คุณค่าหลักธรรมการคบมิตรใน ........ขอ้ ใด(ประเมนิ คา่ ) ก. มติ รมีนา้ ใจ ข. มติ รอปุ การะ ค. มติ รร่วมทกุ ขร์ ว่ มสขุ ง. มติ รแนะนาประโยชน์ 36. จากกรณใี นข้อ 35ผ้ชู ายคนนขี้ าดการให้คุณค่าหลักธรรมในข้อใดมากท่สี ุด (ประเมินคา่ ) ก. สงั ควตั ถุ 4 ข. อทิ ธบิ าท 4 ค. พรหมวิหาร 4 ง. ฆราวาสธรรม 4 37. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ กู ตอ้ ง (นาไปใช้) ก. ใช้ผลิตภัณฑก์ ญั ชาและกญั ชงภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านน้ั ข. ใชผ้ ลิตภณั ฑ์กัญชาและกัญชงขนาดสูง เกิดผลเสยี หายตอ่ รา่ งกายและจติ ประสาท ค. ใช้ผลิตภณั ฑก์ ญั ชาและกญั ชงกบั ผปู้ ว่ ยโรคความดันโลหติ สงู ได้ผลดกี ว่ายาแผนปจั จบุ นั ง. ใชผ้ ลิตภณั ฑ์กัญชาและกัญชงในการแพทย์แผนไทยกบั ผู้ปว่ ยทมี่ ีอายุ 18 ปี ขน้ึ ไปเท่านัน้ 38. ข้อใดไม่ใช่อาการที่เกิดจากพิษของกัญชาและกัญชงที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง .......(วเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์) ก. เกิดอาการเคลบิ เคล้ิม ข. เกิดอาการประสาทหลอน ค. เกดิ อาการเป็นลมหน้ามืดและวูบ ง. เกดิ อาการสญู เสยี การทางานของกลา้ มเนอื้ 39. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกย่ี วกับคุณคา่ ของกัญชาและกญั ชง (ประเมินคา่ ) ก. นา้ มนั กญั ชาและกญั ชงจะมีคุณคา่ เม่ือนาไปทาบหุ รี่ทใ่ี ช้สบู ข. ผลติ ภณั ฑ์จากกัญชาและกัญชงมีคณุ คา่ รักษาไดส้ ารพดั โรค ค. ผลิตภัณฑ์จากกญั ชาและกัญชงมคี ณุ คา่ ต่อการรักษาโรคมะเร็งเทา่ น้ัน ง. ผลติ ภณั ฑ์ที่มีคณุ ค่าจากกัญชาและกญั ชงต้องผลิตจากแหลง่ ผลิตทีม่ ีมาตรฐานเท่านัน้
409 40. ยายแดงเก็บใบกัญชาสด จานวน 6 ใบ มาต้ม เพ่ือดื่มรักษาอาการปวดหลัง แต่ไม่หายกลับมี .........อาการมึนศีรษะ โคลงเคลง แน่นหน้าอก ซ่ึงเป็นอาการแพ้กัญชา ยายแดงควรถอนพิษกัญชา .........โดยวธิ ใี ด (วิเคราะห์หลกั การ) ก. ด่มื น้าผึง้ ผสมน้าตาลทรายแดงไปเรื่อย ๆ จนกวา่ อาการจะหายเมา ข. ดมื่ นา้ ขงิ ผสมน้าตาลทรายแดงไปเร่ือย ๆ จนกวา่ อาการจะหายเมา ค. ดม่ื น้าตะไครผ้ สมนา้ ตาลทรายแดงไปเรื่อย ๆ จนกว่าอาการจะหายเมา ง. ดื่มน้ามะนาวผสมนา้ ตาลทรายแดงไปเร่ือย ๆ จนกวา่ อาการจะหายเมา
410 แบบสอบถามวดั ทกั ษะ คาชี้แจง กกกกกกกโปรดทาเคร่ืองหมายถูก () ลงในชอ่ งหลงั ข้อความทีต่ รงกับระดับการปฏบิ ัติไดจ้ ริงของ ผู้เรยี น โดยมีความหมาย ดังนี้ กกกกกกกมาก หมายถงึ ผูเ้ รยี นสามารถปฏบิ ัติตามข้อความน้ีได้ระดบั มากเท่ากบั 3คะแนน กกกกกกกพอใช้ หมายถงึ ผู้เรยี นสามารถปฏิบัติตามข้อความนี้ไดร้ ะดับพอใช้เท่ากับ2คะแนน กกกกกกกน้อย หมายถึงผเู้ รยี นสามารถปฏบิ ตั ิตามข้อความน้ีได้ระดบั น้อยเทา่ กบั 1คะแนน กกกกกกกทาไมไ่ ดห้ มายถึงผูเ้ รยี นไมส่ ามารถปฏบิ ัติตามข้อความน้ีได้เลย ระดบั ทาไมไ่ ด้ เทา่ กบั 0 คะแนน ระดับการปฏบิ ัติไดจ้ รงิ ขอ้ ข้อความ มาก พอใช้ น้อย ทาไม่ได้ 321 0 ทักษะการแสวงหาความรู้ 1 ผู้เรียนสามารถศึกษาคน้ คว้าในประเด็นท่ีกาหนดไว้ ร่วมกนั ในหัวเร่อื งท่ี 1 - 7 ได.้ ...................................... ……… ......... ......... ............. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 2 ผ้เู รยี นสามารถคดิ วิเคราะห์ แลกเปลย่ี นเรียนรู้กบั เพ่ือนผเู้ รียน และครูผู้สอนในประเดน็ ที่กาหนดไว้ ในหัวเร่อื งท่ี 1 -7 ได.้ ................................................... ……… ......... ......... ............. 3 ผู้เรียนสามารถคิดสรปุ ความรู้ใหม่ ทไี่ ด้จากการ แลกเปล่ียนเรียนรกู้ ับเพอ่ื นผเู้ รียนและครผู ู้สอนใน หวั เรอื่ งท่ี 1 - 7 ได.้ ....................................................... ……… ......... ......... ............. ทกั ษะการใหค้ าแนะนาการใชก้ ญั ชาและกัญชง เปน็ ยาอยา่ งชาญฉลาด 4 ผูเ้ รยี นสามารถให้คาแนะนาในการใช้กญั ชาและกัญชง เป็นยาอยา่ งชาญฉลาดให้กับบคุ คลในครอบครัว หรอื เพ่ือน หรือคนในชมุ ชนที่สนใจได้........................... ……… ……… ……… ……….…
411 หมายเหตุ กกกกกกก1. การแปลความหมายของคะแนนท่ีได้ของทักษะการแสวงหาความรู้ มีแนวทางการแปล คะแนน ดงั นี้ ขอบเขตคะแนน 2.51 - 3.00 หมายถึง ผเู้ รียนมีทักษะการแสวงหาความรอู้ ยู่ในระดับ มาก ขอบเขตคะแนน 1.51 - 2.50 หมายถงึ ผเู้ รียนมีทักษะการแสวงหาความรอู้ ยู่ในระดบั พอใช้ ขอบเขตคะแนน 0.51 - 1.50 หมายถึง ผเู้ รยี นมที กั ษะการแสวงหาความรู้อยู่ในระดบั น้อย ขอบเขตคะแนน 0.00 - 0.50 หมายถงึ ผ้เู รยี นมีทกั ษะการแสวงหาความรู้อยู่ในระดับ ทาไม่ได้ กกกกกกก2. การแปลความหมายของคะแนนที่ได้ ของผ้เู รียนดา้ นทักษะการคิดวิเคราะห์ มแี นวทาง การแปลคะแนน ดงั น้ี ขอบเขตคะแนน 5.01 - 6.00 หมายถงึ ผ้เู รียนมีทักษะการคิดวิเคราะหอ์ ยู่ในระดับ มาก ขอบเขตคะแนน 3.01 - 5.00 หมายถงึ ผเู้ รยี นมีทักษะการคิดวิเคราะหอ์ ยู่ในระดับ พอใช้ ขอบเขตคะแนน 1.01 - 3.00 หมายถงึ ผู้เรยี นมีทกั ษะการคิดวิเคราะห์อยู่ในระดับ น้อย ขอบเขตคะแนน 0.00 - 1.00 หมายถึง ผเู้ รียนมีทกั ษะการคดิ วเิ คราะหอ์ ยู่ในระดับ ทาไม่ได้ กกกกกกก3. การแปลความหมายของคะแนนท่ีได้ ของผู้เรียนด้านทกั ษะการให้คาแนะนาการใช้ กญั ชาและกัญชงเปน็ ยาอย่างชาญฉลาด มแี นวทางการแปลคะแนน ดงั นี้ ขอบเขตคะแนน 2.51 - 3.00 หมายถงึ ผู้เรยี นมที ักษะการให้คาแนะนาการใชก้ ัญชาและกัญชง เปน็ ยาอยา่ งชาญฉลาดอยูใ่ นระดับ มาก ขอบเขตคะแนน 1.51 - 2.50 หมายถึง ผูเ้ รยี นมที ักษะการให้คาแนะนาการใช้กัญชาและกญั ชง เป็นยาอยา่ งชาญฉลาดอยู่ในระดบั พอใช้ ขอบเขตคะแนน 0.51 - 1.50 หมายถงึ ผเู้ รียนมที ักษะการให้คาแนะนาการใชก้ ัญชาและกัญชง เป็นยาอย่างชาญฉลาดอยใู่ นระดับ นอ้ ย ขอบเขตคะแนน 0.00 - 0.50 หมายถึง ผู้เรียนมที ักษะการให้คาแนะนาการใชก้ ัญชาและกญั ชง เปน็ ยาอย่างชาญฉลาดอยใู่ นระดบั ทาไม่ได้ กกกกกกก4. การแปลความหมายของคะแนนรวมท้งั หมดท่ไี ด้ ของผูเ้ รียนด้านทักษะในภาพรวม มแี นวทางการแปลคะแนน ดงั น้ี ขอบเขตคะแนน 10.01 -12.00 หมายถงึ ผเู้ รยี นมีทกั ษะภาพรวมอยู่ในระดบั มาก ขอบเขตคะแนน 6.01 - 10.00 หมายถงึ ผเู้ รียนมีทักษะภาพรวมอยู่ในระดับ พอใช้ ขอบเขตคะแนน 2.01 - 6.00 หมายถงึ ผู้เรียนมีทักษะภาพรวมอยใู่ นระดบั น้อย
412 ขอบเขตคะแนน 0.00 - 2.00 หมายถงึ ผู้เรียนมีทักษะภาพรวมอยู่ในระดับ ทาไม่ได้ กกกกกกก5. เกณฑ์การประเมนิ ผล ผเู้ รยี นต้องมีทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการให้คาแนะนาการใช้ กัญชาและกัญชงเป็นยาอย่างชาญฉลาด และทักษะภาพรวมอยู่ ในระดับ พอใช้ - มาก จึงจะถือว่า “ผา่ น” ถ้าได้อยใู่ นระดับ ทาไม่ได้ - น้อย ถือว่า “ไม่ผา่ น”
413 แบบสอบถามวดั เจตคติ คาช้แี จง แบบสอบถามฉบับนี้จัดทาขึ้นเพื่อวัดอารมณ์ความรู้สึกของผู้เรียนท่ีมีต่อเนื้อหาหลักสูตร และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่เกิดข้ึนกับผู้เรยี นที่เรียนรู้หลักสูตรรายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญ ชงศกึ ษา เพอ่ื ใชเ้ ป็นยาอย่างชาญฉลาด โดยมคี วามหมายดังนี้ ดี หมายถงึ ผเู้ รียนรสู้ ึกตอ่ ข้อความเร่ืองนี้อยูใ่ นระดับดี เท่ากับ 4 คะแนน พอใช้ หมายถึง ผู้เรียนรู้สกึ ตอ่ ขอ้ ความเร่อื งน้อี ยใู่ นระดับพอใช้ เท่ากบั 3 คะแนน นอ้ ย หมายถงึ ผเู้ รยี นรสู้ ึกตอ่ ขอ้ ความเรอื่ งน้ีอยูใ่ นระดับนอ้ ย เท่ากับ 2 คะแนน ไมด่ ี หมายถงึ ผ้เู รยี นรสู้ ึกตอ่ ข้อความเรื่องนี้อย่ใู นระดับไมด่ ี เท่ากบั 1 คะแนน ระดบั ความรสู้ กึ ข้อ ข้อความ ดี พอใช้ น้อย ไม่ดี 432 1 เนอื้ หาหลกั สตู ร 1 ผู้เรยี นร้สู กึ ตระหนักถึงมมุ มองทกุ มิติทีเ่ กย่ี วข้องกบั กัญชาและกญั ชง รวมทง้ั สภาพการณก์ ารใชก้ ัญชา และกัญชง ในต่างประเทศ และประเทศไทย……………… ……….. ……….. ……….. ………… 2 ผเู้ รยี นร้สู ึกตระหนักถงึ กญั ชาและกญั ชงพืชยาทค่ี วรรู้ ........... ........... ........... ............ 3 ผู้เรยี นรสู้ กึ ตระหนกั ถึงโทษและประโยชนข์ องกัญชา และกญั ชง..................................................................... ........... ........... ........... ............ 4 ผู้เรยี นรสู้ ึกตระหนกั ถงึ โทษของการฝ่าฝืนกฎหมาย ท่เี กี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชง……………………………… ........... ........... ........... ............ 5 ผ้เู รยี นรสู้ กึ ตระหนกั ถึงคุณคา่ ของตารับยาท่มี ีกัญชา และกญั ชงเปน็ สว่ นประกอบ…………………………………… ........... ........... ........... ............
414 ระดบั ความรูส้ กึ ข้อ ขอ้ ความ ดี พอใช้ น้อย ไมด่ ี 432 1 6 ผเู้ รยี นรู้สึกตระหนักถงึ คุณค่าความสาคัญของ ภูมิปญั ญาภูมภิ ูเบศรรวบรวม และเผยแพร่ภมู ปิ ัญญา ไทยและตระหนักถึงภูมิปัญญานายเดชา ศริ ิภทั ร หมอพื้นบ้านกับการใชก้ ญั ชาและกัญชงเปน็ ยา………… ........... ........... ........... ............ 7 ผเู้ รยี นรสู้ ึกตระหนักถึงความสาคญั ของการนากัญชา และกญั ชงไปใช้รกั ษาโรค และลดอาการปวด ในการแพทยแ์ ผนปจั จุบัน…………………………………………… ........... ........... ........... ............ 8 ผ้เู รียนรสู้ กึ ตระหนกั ถึงคุณค่าของการนากัญชา และกัญชงไปใชเ้ ป็นยา.................................................. ........... ........... ........... ........... คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1 ผเู้ รียนรสู้ ึกเป็นบคุ คลแหง่ การเรยี นรู้……………………….. ........... ........... ........... ........... 2 ผู้เรยี นรู้สกึ เปน็ บคุ คลท่ีคดิ เป็น………………………………… ........... ........... ........... ........... หมายเหตุ 1. การแปลความหมายของคะแนนท่ีไดข้ องผู้เรียนดา้ นเจตคตติ อ่ เน้ือหาหลกั สูตร มแี นวทางการแปลคะแนนดังนี้ ขอบเขตคะแนน 28.01-32.00 หมายถึง ผู้เรยี นมเี จตคตติ อ่ เน้ือหาหลักสูตร อยูใ่ นระดบั ดี ขอบเขตคะแนน 20.01-28.00 หมายถึง ผเู้ รยี นมเี จตคตติ ่อเนื้อหาหลักสตู ร อยูใ่ นระดบั พอใช้ ขอบเขตคะแนน 12.01-20.00 หมายถงึ ผเู้ รยี นมเี จตคติต่อเนื้อหาหลักสตู ร อยใู่ นระดับน้อย ขอบเขตคะแนน 8.00 - 12.00 หมายถึง ผู้เรยี นมีเจตคตติ ่อเน้ือหาหลกั สูตร อยใู่ นระดับไม่ดี กกกกกกก2.การแปลความหมายของคะแนนท่ีได้ของผู้เรยี นด้านเจตคติ (คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์) ภาพรวม มแี นวทางการแปลคะแนนดังน้ี ขอบเขตคะแนน 7.01-8.00 หมายถึง ผู้เรยี นเกดิ คุณลักษณะอนั พึงประสงคภ์ าพรวม อยูใ่ นระดับดี ขอบเขตคะแนน 5.01-7.00 หมายถงึ ผเู้ รยี นเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ภาพรวม
415 ขอบเขตคะแนน 3.01-5.00 หมายถึง อยู่ในระดบั พอใช้ ขอบเขตคะแนน 2.00-3.00 หมายถงึ ผเู้ รยี นเกิดคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ภาพรวม อยูใ่ นระดบั นอ้ ย ผ้เู รยี นเกดิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ภาพรวม อยใู่ นระดบั ไมด่ ี กกกกกกก3. การแปลความหมายของคะแนนท่ีได้ของผู้เรียนด้านเจตคติ (คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เปน็ บุคคลแห่งการเรยี นรู้ และเป็นบุคคลท่ีคิดเปน็ ) มีแนวทางการแปลคะแนนดังน้ี ขอบเขตคะแนน 3.51-4.00 หมายถงึ ผเู้ รียนเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงคเ์ ปน็ บคุ คล ขอบเขตคะแนน 2.51-3.50 หมายถงึ แหง่ การเรยี นรู้ และบคุ คลที่คดิ เปน็ อยู่ในระดับดี ขอบเขตคะแนน 1.51-2.50 หมายถงึ ผูเ้ รยี นเกดิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคเ์ ปน็ บุคคล ขอบเขตคะแนน 1.00-1.50 หมายถึง แห่งการเรียนรู้ และบุคคลท่ีคิดเปน็ อยู่ในระดบั พอใช้ ผู้เรยี นเกดิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคเ์ ป็นบุคคล แห่งการเรียนรู้ และบคุ คลที่คดิ เปน็ อยู่ในระดบั น้อย ผู้เรียนเกดิ คุณลักษณะอันพึงประสงคเ์ ป็นบคุ คล แห่งการเรียนรู้ และบคุ คลที่คดิ เป็นอยู่ในระดับไม่ดี กกกกกกก4.เกณฑก์ ารประเมินผล ผู้เรียนต้องเกิดเจตคติต่อเน้ือหาหลักสูตร และเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ภาพรวม และเกิด คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เปน็ บุคคลแห่งการเรียนรู้ และเป็นบคุ คลทคี่ ดิ เปน็ อยู่ในระดับพอใช้ -ดี จึง จะถอื วา่ “ผ่าน”ถา้ อยใู่ นระดบั ไม่ดี -น้อย ถือว่า “ไมผ่ ่าน”
416 ภาคผนวก จ. คาส่งั แตง่ ตง้ั คณะกรรมการพัฒนาหลกั สตู ร
417
418
419
420
421 ภาคผนวก ฉ. ประกาศแตง่ ตง้ั วทิ ยากรการพัฒนาหลกั สตู ร
422
423 ภาคผนวก ช. ประกาศแตง่ ต้งั ทปี่ รกึ ษาการพัฒนาหลกั สตู ร
424
425 ภาคผนวก ซ. นิยามศพั ท์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 452
Pages: