ทุก ์ข มีใ ้หเ ีรยน ู้รและแ ้กไขเ ื่พอความ ัสน ิตภายใน ัปณ ชุ ิตนธโร หนัง ืสอบันทึกแ ่หง ีป 2559-2560 [ ความสวยงามและสนั ตภิ ายใน จะเฉิดฉายและภาคภมู ิใจในตนได้ ตลอดนนั้ เราตอ้ งกลา้ ทจี่ ะยนื ทา่ มกลางความรอ้ นระอทุ ง้ั ภายในและ ภายนอกใหไ้ ดเ้ สมอ ในสว่ นกายภายนอกนนั้ ตอ้ งยมิ้ แฉ่งเบง่ บานกบั ความรูส้ กึ ทเี่ กิดขนึ้ รอบๆ ตวั เราใหไ้ ดต้ ลอดคนื และวนั อกี ทง้ั เราตอ้ ง พรอ้ มใหค้ วามสดใสเบิกบาน กบั ผผู้ ่านมาพบเห็นไดต้ ลอด นนั้ แหละ สงั คมมองแคน่ นั้ ส่วนภายในจะสะอาดหรอื ไม่ พรอ้ มหรอื ไม่ อย่างไร ใจตอ้ งพรอ้ มยมิ้ รบั วนั ใหม่ใหไ้ ดเ้ หมอื นภายนอกเสมอๆ นนั้ เป็นส่งิ ท่ี เราตอ้ งฝึกฝน ลดละ สะสาง ความข่นุ มวั ภายในใจของเราเอง ตลอด การมีชวี ิตที่เป็นมนษุ ยอ์ ย่นู เี้ ท่านนั้ อีกทงั้ ยงั ทาเพยี งเพอื่ โลกหนา้ ที่ สดใสกว่าโลกท่ีเป็นอยใู่ นวนั นี้ เราเทา่ นนั้ ทส่ี ามารถเป็นผกู้ าหนดได้ ทกุ ๆครงั้ เม่ือมสี ติ ระลกึ ] โดย อาจารย์ปณั ชุตินธโร
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] บทกลา่ วนำ โดยหนังสือเล่มน้ี ข้าพเจ้าขอใช้นามแฝง ปัณ ชุตินธโร ได้ เขียนจาก ความร้ขู องตนที่เกิดจากการฝึกฝนตนมาต้ังแต่ยังเยาว์วัย จากบุพการี อีกท้ัง ชาติเกิดอยู่ในตระกูลท่ีมีสัมมาอาชีพทำนา เป็น หมอสมุนไพรโบราณก็ดี และพระอริยสงฆ์ก็ดี ที่ได้รบั การยกย่องให้ เป็นหนึ่งในแปดสิบพระอริยะสงฆ์ของประเทศไทย ฉะนน้ั ในฐานะที่ เกิดในชาติตระกูลน้ี ข้าพเจ้าจึงอยากถ่ายทอดวิชาความรู้ท่ีตนได้ ถูกฝึกจากพระช้ันผู้ใหญ่ในตระกูล ตลอดชีวิตท่ีผ่านมา นั้นเป็นผล บุญหนุนเนื่องให้เข้าพเจ้า เป็นผู้ท่ีได้พบดวงตาธรรมบ้างแล้ว จึง อยากถ่ายทอดไว้ให้เป็นมรดก ถึงลูกหลาน เหลน ในวงตระกูลแห่ง องค์พระสัมมาสัมพุธเจ้า โดยที่เกิดมาแล้วก็ดี และที่ยังไม่ได้เกิดมา กด็ ี เพื่อใช้เป็นความรู้ เครื่องออกจากทุกข์ หรือหนทางการดับทุกข์ ได้แบบแยบยล และไม่เบียดเบียนใครๆ แม้แต่ใจตนเองเลย เพื่อให้ สามารถล่อเล้ียงใจเราเองดำเนินไปสู่วันสุดท้ายของการทำหน้าท่ี ของการเป็นมนุษย์ในโลกนี้ ได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยปัญญาญาณ การ หยัง่ รูโ้ ลกธรรมต่างๆ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 2
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] ก่อนอ่ืนของกราบนมัสการบุญคุณขององค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่ีท่านยังคงยังมีการถ่ายทอดคำสอนของ พระองค์มาเป็นเวลาสองพันกว่าปีมาแล้ว อีกท้ังได้ถ่ายทอดมายัง ประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 236 ตลอดจนดำเนินการเผยแผ่และ การดำรงรักษาไว้ซ่ึงชาติ ศาสนา และองค์พระมหากษัตราไทย และของพุทธบริษัทส่ี คือ พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสกิ า ทุกๆ ท่าน ทำ ให้ข้าพเจ้าได้ซึมซับวัฒนธรรม และความรู้เหล่าน้ีได้ง่าย ทั่วทุกหน แห่งในโลกใบน้ี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยหน่ึงในวัยเด็กได้รับใช้พ่ีชาย แม่ หลวงลุงอินทร์ สุพรม ณ วัดปากบ่อ ซอยอ่อนนุช 53 ได้ฝึกฝน สมาธิขั้นอึกกฤตคร้ังอายุ 14 ปี ความอดทนอดกล้ันสูงสุด คร้ันเมื่อ เติบใหญ่ก็มีบุญได้พบกับพระผู้ใหญ่เนื้อนาบุญหลายท่าน เนื่องจาก ชีวิตได้ผ่านช่วงแห่งความตายมาหลายรอบแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เกือบ จมน้ำตายเพราะเมตตา โดนรถมอเตอร์ไซต์ชนเพราะความจน เกือบตาย ไฟไหม้บ้านเช่าเพราะไม่ยากให้อยู่ในสลัม ป่วยไข้ป่าจาก แก่งกระจาน ตกต้นไม้จุกเกือบตายเพราะไม่ใช่บ่างชะนี เป็นฝีช้าง เพราะยากไปวัดพระธาตุพนม ต่อต่อยขาบวมเท่าขาช้าง ตกจาก [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 3
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] หลังควายเพราะไม่ให้ข้ึนข่ีหลัง ควายเยียบเท้าผมแช่ไว้จนกระท้ัง กินหญ้าแถวนั้นหมด เล็บเน่าเพราะเสียมของแม่ โดนปิงควายดูด เลือดเป็นร้อยกลางหนองน้ำ และอื่นๆ สารพัด ทั้ง ๆ ที่ชีวิตอยู่ใน ศีลธรรมตลอด แต่กรรมปรากฏแรงเด่นชัด แต่ก็ได้ค่อยๆ เบาบาง ลงๆ เรื่อย ๆ จากการปฏิบัติธรรม อีกทั้งจิตใจที่เคยว้าวุ่น ร้อนรน ก็ทุเลาลงเรื่อย ๆ ตามลำดับ แต่ทุกข์นั้นๆก็ยังมีปรากฏอยู่ แต่ก็ไม่ มีผลถึงจิตใจมากเหมือนเมื่อก่อนคือ พออยู่ได้ นั้นเอง ซึ่งทุกข์ท่ี เบาบางลงน้ัน ล้วนแล้วแต่ได้มาจากการแสวงหาการดับทุกข์ท่ีเป็น ข้นั เป็นตอน ตามลำดบั ไมไ่ ด้มาแบบฟลุคๆ เลย อีกท้ังได้จากทวนสภาวะ จากการเข้าอบรม ครั้งละเจ็ดวัน ของคุณแม่สิริกรินชัย ต้องขอกราบขอบคุณคู่ชีวิตท่ีผ่านมา ผู้ท่ีให้ โอกาสเข้าร่วมอบรมสมาธิในคร้ังน้ัน ต่อเนื่องถึงสามคร้ัง และสร้าง ศาสนาสถานอ่ืนๆ เช่น พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ณ วัดบ่อเงินบ่อ ทอง อำเภอพนมสารคราม จังหวัดฉะเชิงเทรา อีกท้ังการเร่งสั่งสม บุญบารมีในการปฏิบัติ ที่พระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ หลวงพ่อไก่ แห่ง วัดตรีวิสุทธิธรรม จังหวัดสุพรรบุรี โดยขณะนั้นก็แสวงหาความรู้ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 4
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] ด้านปริยัติกับพระปลัดชัชวาล ชินสโภ ศูนย์กลางการศึกษ า วิปัสสนาธุระพทุ ธวิหาร จังหวดั นครนายก ในช่วงเวลาดึกดืน่ อีกท้ัง ได้ตรวจสอบขั้นแห่งธรรมจากการตีความนิมิตรต่างๆ เพื่อค้นหา เส้นทางการเข้าถึงธรรมอันสูงสุดด้วยปัญญา ความโชคดีท่ีข้าพเจ้า ได้มีบุญพบกับ พระครูวัชรคุณ หลวงพ่อเพชร ศิษย์หลวงพ่อพุธ ฐา นิโย แห่งวัดป่าสาระวัน หลวงพ่อบุญมี คุณสาโร ณ. วัดสุตธรรม ราม แหง่ เขาชะโงก ทำให้เขา้ ใจและแปรนิมติ รได้ตรง อนั เปน็ เหตใุ ห้ เกิดดวงตาเห็นธรรมชัดเจนข้ึน คือเส้นทางการเดินสู่จุดสูงสุดแห่ง โลกียะธรรมและโลกุตรธรรม ซ่ึงความรู้และอารมณ์ธรรมนั้น ได้ เทียบสอบจากพระไตรปิฎก จากธรรมของปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ลี วัดอโศการาม หลวงตามหาบัว ญานสัมปัณโน หลวงปู่บุญมี สริธโร ธรรมของหลวงปู่ฤาษีลิงดำ ธรรมหลวงปู่พุธ ฐานิโย หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก และพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหลายทุกสาย เป็นต้น ตลอดจน สมองได้คลายตวั ลงไปเรือ่ ย ๆ ตามลำดับ ซึ่งในท่ีน้ีขอกราบพระคุณ หนังสือที่เปียบดังแผนท่ีการดำเนินจิตไปสู่จุดสูงสุดของความไม่มี ตัวตนบางอารมณ์ในการปฏิบัติ คือ หนังสือ พระธรรมจักรเทศนา [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 5
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] ฎีกา ชินสภเถระ ท่ีหลวงพ่อชัชวาล ได้บันทึกอารมณ์ธรรมในการ ปฏิบัติไว้ ท่ีทำให้ข้าพเจ้ามั่นใจว่าการเดินจิตคร้ังนี้ถูกทางแล้ว และ จะไม่มวี ันเดินจิตกลับไปสจู่ ุดต่ำสุดได้อีก แมต้ ัวอยู่ในจุดต่ำสุดกต็ าม จิตคือจิต กายคือกาย มันไม่ใช้สิ่งเดียวกันแน่นอน ความไม่มีตัวตน และการดำเนนิ จติ ไปเพียงเพ่ือไม่ให้เกดิ การเบียดเบยี น ใหเ้ กิดขึ้นใน ใจเลย การเดินจติ ตลอดสายการปฏบิ ตั ิ ณ ปจั จุบนั ขณะ จิตทราบวา่ ความรภู้ ายในจะเกดิ และการเกิดดับในรูปนาม เร็วเท่าไหร่ นั้นคือ ความรวดเร็วในการชำระล้างจิตให้สะอาด โดย การดำเนินไปแบบความรู้ในทางสายกลางด้วยปัญญาญาณของเรา เอง ซ่ึงคล่นื แห่งสมาธิ มีอยู่ การดำเนนิ ไปโดยตรวจสอบนิมิตร มอี ยู่ ความรู้ของอาการปีติ มีอยู่ ความรู้ถึงความไม่มี มีอยู่ ความไม่รู้ถึง ความไม่มี มีอยู่ ทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่มีตัววดั ระดบั ของจิต คือ จิต มี วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกคัตตา และเฉยในท่ีสุด มีแต่ความรู้อยู่ ตลอดจนจิตคลายออกมาเรอ่ื ย ๆ หลังจากเดินเข้าไปสู่จุดมืดภายใน จุดสว่างภายใน เป็นที่เรียบร้อยทุกข์น้ันๆ ท้ังภายในร่างกายและ ภายนอกร่างกายน้ันก็จะหายไปช่ัวขณะ โดยความรู้ต่างๆ เหล่านี้ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 6
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] น้ัน คือ ได้รับการถ่ายทอดและฝึกฝน บางส่วนจากหลวงปู่เพชร ผู้ มีวัยอย่างใกล้เข้า เลขเก้า แต่ยังแสดงความเข็มแข็งและแข็งแรง ท้ังทางกายและจิตใจตลอดเวลา ท่านได้ให้กำลังโดยการเทศสอน ข้าพเจ้ามาโดยตลอด ท้ังขณะท่ีเป็นพระลูกวัด และไม่ได้เป็นพระ แล้วก็ดี นั้นคือความโชคดีของข้าพเจ้า ที่มีคุณพ่อในทางธรรมท่ี คอยหนุนเน่ือง ให้เราได้พบแต่ความปลอดภัย ทางกายและทางใจ มาตลอด เม่อื ข้าพเจา้ ไม่มพี อ่ และแม่ อยใู่ นโลกใบนีแ้ ล้ว ฉะนั้นประสบการณ์เหล่าน้ี ข้าพเจ้าจึงอยากถ่ายทอดไว้ เป็นทางเลือกหนึ่งในการฝึกปฏิบัติเพ่ือดำเนินจิตใจให้เข้าถึงก้นบ้ึง ของจิตใจ เพอ่ื รู้ตน้ เหตุแห่งทุกขภ์ ายในใจเรา เพื่อที่จะใช้เป็นแผนท่ี ในการดำเนินชีวิตเพ่ือค้นหาเส้นทางแห่งการดับทุกข์ของตนได้ โดยการแบ่งปันความรู้ในครั้งนี้ ข้าพเจ้าได้ขออนุญาติใช้คำถามของ เพื่อนมนุษย์ท่ีประสบปัญหาทุกข์ทางโลกธรรม ท่ีเกิดข้ึนแต่ไม่ สามารถท่ีจะมองเห็นต้นเหตุ หรือเส้นทางการออกจากทุกข์ได้ ฉะนั้นหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย เพราะอย่างน้อยจิตของผู้อ่านเองก็ได้รับโอรสธรรม ตั้งแต่จากการ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 7
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] ต้ังจิตหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาดูแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่าน จะได้รับบุญกุศล ธรรมะ ความรู้ทางธรรมอันสูงสุด ตามเส้นทาง ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังที่เข้าพเจ้า เคยได้รับ รู้หรือไดส้ ัมผัสมาบ้าง และขอให้พระธรรมนั้นๆ จงเกดิ แกท่ า่ นผ้อู า่ น โดยเร็วเทอญ..สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทาม.ิ และบุญกุศลทุกประการท่ีเข้าพเจ้าได้รับ ขอมอบถวายแด่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา ญาติพ่ีน้องทางโลกและทางธรรม ท่ีจำได้ก็ดีจำ ไม่ได้ก็ดี คุณครูบาอาจารย์ พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ พระภูมิเจ้าที่ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระ แม่โพสพ ตลอดท้ังเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงได้รับท้วนท่ัวทุก ทา่ นเทอญ ถ้าท่านหนึ่งท่านใดพบทุกข์ ก็ขอใหพ้ ้นจากทกุ ข์ ถ้าท่าน มีสุขก็ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป ถ้าท่านหนึ่งท่านใดที่ยังมีกรรมต่อกันก็ ขออโหสิกรรมซ่ึงกันและกัน และสิ้นสุดกรรมนับต้ังแต่นี้เป็นต้นไป ดว้ ยเทอญ สาธุ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 8
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] สารบัญ บทกล่าวนำ 2 สารบญั 9 1. เรยี นรู้ ทุกขภ์ ายใน และภายนอก 11 2. เรอ่ื ง ทุกข์เพราะเกิดมาเป็นมนุษย์ 14 3. เรื่อง ทุกข์ตอ้ งการความสำเรจ็ แต่ไม่สำเรจ็ 19 4. เรื่อง ทกุ ข์จากอยากมคี ู่ครอง 38 5. เรื่อง ทุกข์จากอยากมีบุตร และการมบี ุตร 47 6. เรอ่ื ง ความรกั ของนางพนั ธุรัตนก์ บั พระสงั ฆ์ 53 7. เรอ่ื ง ทุกข์เพราะอยากรวย 62 8. เรอื่ ง ทุกขเ์ พราะอยากถูกหวย 75 9. เร่อื ง ทกุ ขเ์ พราะงาน 92 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 9
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] 10. เรอ่ื ง ทกุ ขจ์ ากการขโมย ด้วยความไม่รู้ 94 บทสรปุ เร่อื งเล่า 107 ธมั มจกั กัปปวตั ตนสูตร 111 ของฝากจากเฟสบุ๊ค 148 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 10
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] 1 เรียนรู้ ทุกขภ์ ายในและภายนอก เพื่อหาทางดบั ทกุ ข์ จากเหตุแห่งโลกธรรมแปด อันว่าโลกธรรมแปดน้ันประกอบด้วย ความพอใจและไม่ พอใจ ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ ในชาติ ศาสนาใด โดยทั่วไปตลอดชีวิต ทั้งมนุษย์หรือสัตว์น้ัน ล้วนแล้วต้องการการยอมรับในทางโลก ซ่ึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุธเจ้า ได้อธิบายให้เห็นทุกข์โทษต่างๆ นานับประการ อีกทั้ง ได้แยกแยะประเด็น จากความพอใจและ ความไม่พอใจ ท่ีเกิดข้ึนตลอดการมีชีวิต ประกอบด้วยแปดประการ โดยอธิบายไว้ในพระไตรปิฎก เล่มท่ี 11 โดยให้ความหมายโดยย่อ ของโลกธรรม 8 หมายถึง ธรรมดาของโลก เรื่องของโลก ธรรมชาติ ของโลกทคี่ รอบงำสตั ว์โลก และสัตวโ์ ลกต้องเปน็ ไปตามธรรมดานี้ 8 ประการ อันประกอบด้วย อารมณ์สองผ่าย โดยมีรายละเอียด ดังน้ี [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 11
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] โลกธรรม ฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ พอใจของมนุษย์ เป็นท่ีรัก เปน็ ท่ปี รารถนา 1. ลาภ หมายความวา่ ไดผ้ ลประโยชน์ ได้มาซง่ึ ทรพั ย์ 2. ยศ หมายความว่า ได้รับฐานันดรสูงขึ้น ได้อำนาจเป็น ใหญเ่ ป็นโต 3. สรรเสริญ หมายความว่า ได้ยิน ได้ฟัง คำสรรเสริญคำ ชมเชย คำยกยอ่ ง เป็นที่นา่ พอใจ 4. สุข หมายความว่า ได้ความสบายกาย สบายใจ ความ เบกิ บาน บันเทิงใจเริงใจ และโลกธรรม ฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ ความไม่พอใจของ มนษุ ย์ ไม่เป็นท่ปี รารถนา 1. เสือ่ มลาภ หมายความวา่ เสยี ลาภไป ไมอ่ าจดำรงอยไู่ ด้ 2. เสอ่ื มยศ หมายถึง ถูกลดอำนาจความเป็นใหญ่ 3. นินทาว่าร้าย หมายความว่า ถูกตำหนิติเตียนว่าไม่ดี ถกู ติฉนิ นนิ ทา หรือถกู กลา่ วรา้ ยให้เสยี หาย 4. ทุกข์ หมายความวา่ ได้รับความทุกขเวทนา ทรมานกาย [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 12
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] ทรมานใจ [1] ซง่ึ ผลที่เกดิ จากฝ่ายอิฏฐารมณ์สี่ประการ และฝ่ายอนิฏฐารมณ์อีกส่ี ประการ รวมกนั เป็นแปดประการน้ันล้วนแล้วแต่การนำมาซึ่งความ กลัวและกังวลใจท้ังน้ัน หากจิตใจยังไม่ทราบ หรือยังไม่รู้เห็นตาม ความเป็นจริงของทุกสรรพสิงในจักรวาลน้ี น้ันคือความเป็นจริง ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า น้ันคือ ทุกสรรพ สิงมีเหตุแห่งการเกิด มีเหตุแห่งการดับ ทุกสิงสรรพ์มีเกิดข้ึน ต้ังอยู่ และดบั ไปเปน็ ธรรมดา การทจ่ี ะเข้าไปร้สู ิ่งน้ไี ด้ ก็ด้วยปญั ญาขนั้ สูงสุด คือ การไม่มีตัวตน ไมส่ ัตวต์ ัวตนบุคคลเราเขา ไม่มีเขา ไม่มีเรา ท้ังหมดน้ีล้วนแล้วแต่เกิดจากการฝึกฝนตน เป็น ข้ันตอน บางท่านก็ส่ังสมมาไม่รู้ก่ีพบก่ีชาติ ตลอดการเวียนว่ายตาย เกิดในสังสารวัฏนี้ โดยการประกอบกันขึ้น ของรูปและนาม ตลอด ฉะน้ัน การรู้แจ้งได้อย่างนี้แล้ว จิตเราจะเกิดปัญญาหาทางออกเอง ในทสี่ ุด * พระไตรปิฎก เลม่ ท่ี ๑๑ พระสตุ ตันตปฎิ ก เลม่ ที่ ๓ ทฆี นิกาย ปาฏิกวรรค ทสุตตรสูตร ที่ ๑๑. พระไตรปฎิ กฉบับสยามรฐั . [ออนไลน]์ . แหลง่ ขอ้ มลู : [1]. เข้าถึงเมื่อ 26-06-2560 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 13
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] 2 เร่อื ง ทุกขเ์ พราะเกิดมาเปน็ มนุษย์ เม่ือเกดิ มาแล้ว ควรรสู้ ง่ิ ใด วางตัวอยา่ งไร เม่ือคร้ันยังเด็ก ทุกๆท่าน คงเคยถามตัวเอง นะครับว่า คนเราเกิดมาทำไม? จะมีชีวิตไปอีกนานแค่ไหน? จะพ้นผ่าน อปุ สรรคในแต่ละอย่างได้ไหม? เมื่อไหรจ่ ะเจอดี? เมื่อไร่จะพบร้าย? เม่ือไหร่จะได้เรียนหนังสือ? เม่ือไหร่จะเรียนจบ? เมื่อเรียนจบแล้ว เราจะได้ทำงานไหม? เราจะเจอใครซักคนท่ีอยู่เคียงข้างเราไหม? แล้วบ้านที่แท้จริงเราอยู่ท่ีไหน? ใครกำหนดให้เราเดินเส้นทางใน ชีวิตแบบน้ี? เราควรวางตัวอย่างไรในสังคม? เราควรยอมเป็น ผู้ถูกกระทำหรือถูกเอาเปรียบดีหรือเปล่า? เป็นผู้เสียสละดีไหม? เราควรทำตัวฉลาดหรือเป็นคนโง่ดีในสังคม? เราควรบวชตลอดชีวิต [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 14
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] ไหม? เราควรจบชีวิตยังไง? ซ่ึงคำถามต่างๆ เหล่านี้ เป็นเพียงห้วง แห่งความไม่รู้หรือไม่เข้าใจ ในขณะหน่ึงๆ เท่าน้ัน ซึ่งในท่ีสุดมันก็ จะผ่านไป ความจริงอาจจะเกิดตลอดการดำเนินชีวิตการเป็น มนุษย์น้ี ซึ่งบางคนเกิดมาเพียงแค่ก็พบคำตอบต่างๆ นี้ได้เร็ว บาง คนก็มาพบคำตอบในช่วงกลางคน หรือบางคนก็มาพบคำตอบ เหล่าน้ีเอาในช่วงสุดท้ายของชีวิต หรือบางคนก็สิ้นชีวิตก่อนที่ยัง ไมไ่ ด้คน้ หาความรเู้ หล่านี้ใหเ้ กิดแก่จิตใจของตนเองเลย และคำถามที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น จริงๆ แล้ว มันเกิดมา พร้อมกับชาติตระกูลของเราเองโดยการสงั่ สม จากรุ่นสู่รุ่น จนได้มา เป็นตัวของเราในปัจจุบันนั้นเอง คำถามเหล่าน้ีเปน็ คำถามอนั อมตะ ซ่ึงกรรมพันธ์ุของเราเองได้สืบทอดต่อเน่ืองกันมาเรื่อย ๆ ฉนั้นคน ในครอบครัว วงศาขนาญาติเราน้ันแหละท่ีเป็นเคร่ืองหมายในการ แสดงออกทางกายภาพ หรือคำตอบ ต่างๆ ของคำถามได้เป็นอย่าง ดี ซง่ึ ถา้ เราสามารถปรับทศั นคตใิ นการเรียนรู้ ได้ตั้งแต่ในวัยเยาว์ เราก็จะทราบเส้นทางในการดำเนิน [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 15
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] ชีวิตตลอดการเป็นมนุษย์อยู่นี้แบบไม่ติดขัด ไม่ขุ่นเคืองใจ ซ่ึงการ ดำเนินชีวิตอยู่น้ี เป็นเพียงแค่การเรียนรู้ไปวันๆ และปรับเปล่ียน อดีตท่ีไม่น่ าพอใจให้ เป็นไปในทางพอเหมาะพอควรเพี ยงเท่าน้ั น อีกท้ังบางท่านก็อาจจะไม่เห็นด้วยในส่ิงที่ผมได้แสดงออกทาง ความคิดออกไป แต่อย่างน้อยน้ันคือส่ิงที่จะทำให้เราทุกข์น้อยท่ีสุด เม่ือได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซ่ึงทุกข์ใครๆ ก็ทราบ ศาสนาใดๆ ก็ทราบ ชนชาติใดๆ ก็ทราบ และคงไม่มีใครปรารถนา หรือโหยหาทุกข์ หรือตอ้ งการดว้ ยความต้งั ใจให้เกดิ กับตนอยา่ งแน่นอน ฉะน้ันส่ิงที่ทำได้เมื่อยังไม่รู้ คือ การเดินทางตามคำสั่งสอน ของศาสนาของตนเอง การปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบระเบียบของ สังคมตระกูล สังคมครอบครัว สังคมหมู่บ้าน สังคมอำเภอ สังคม จังหวัด สังคมประเทศ ของตน นั้นแหละ ที่จะให้ทุกข์น้อยที่สุด โดยการรู้เห็นตามความเป็นจริงน้ันแล้ว เราก็ทำการวางใจยอมรับ ในสิ่งนน้ั ๆ ให้เร็ว ซึ่งเม่ือเวลาผา่ นไปๆ เราก็จะเกิดความรูใ้ นสงิ่ นนั้ ๆ เองเมื่อถึงเวลาอันสมควร ซึ่งบางท่านก็อาจจะบอกว่าผมไม่ทำได้ ไหม? ตามทัศนคติของผม คือไม่ปฏิบัติก็ได้ แค่เราจะต้องม่ันใจใน [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 16
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] ตนเองก่อนว่าสามารถผ่านเส้นทางน้ันๆ ได้แน่นอน แม้จะพบทุกข์ หนัก และทุกข์แหล่าน้ัน ก็จะเป็นทุกข์ท่ีไมส่ ามารถควบคุมได้ ซึ่งถ้า เราทราบและพร้อมยอมรับที่จะเรียนรู้ความทุกข์ที่เกิดข้ึน ไม่ว่า หนักหรือเบาแค่ไหน เราก็จะสามารถพบคำตอบที่คังค้างใจเราไป เร่ือย ๆ หรือถ้าเราส่ังสมบุญมาดี เราก็จะพบคำตอบสุดท้ายได้เร็ว ขึ้นเช่นกัน โดยขา้ พเจ้าได้จัดรวบรวมประสบการณ์ทางดา้ นความคิดท่ี ได้ศึกษาวิธีการพ้นผ่านความทุกข์ในชีวิตมนุษย์นี้มา จากการ ปฏิบัติหรือความคิดก็ดี จึงอยากที่จะถ่ายทอดไว้เป็นทางเลือกทาง ความคิดเห็น ซึ่งนั้นไม่ได้หมายความว่าให้ทุกๆ ท่านจะต้องเห็น ตรงกับสิ่งน้ีเสมอ หรือต้องปฏิบัติได้อย่างน้ีเสมอ เท่าน้ัน ซึ่ง ข้าพเจ้าก็ยังยืนยันว่าน้ีคือทางเลือกหนึ่งเท่านั้น ซ่ึงจะเหมาะสม หรับผู้ท่ีต้องการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้กับตนเท่านั้น อย่าง น้อยท่านก็จะได้ทราบว่า โอ้ ยังมีความคิดแบบน้ีอยู่เหรอ ซึ่งเช่ือว่า มี ค น ส่ ว น ห น่ึ งที่ จ ะ ได้ ใช้ ป ร ะ โย ช น์ เต็ ม ร้ อ ย เป อ ร์ เซ็ น ต์ จ าก ก า ร ติดตามการบันทึกความรู้ท่ีข้าพเจ้าได้สั่งสมมาด้วยประสบการณ์ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 17
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] จากการปฏบิ ัตธิ รรมของข้าพเจ้าเอง อีกทั้งข้าพเจ้าได้บันทึกเป็นไฟล์ท่ีอยู่ในรูป วีดีโอ ซึ่งได้ส่ง ข้ึนไว้ที่ยูทรูป เป็นท่ีเรียบร้อย อีกท้ังถ้าท่านไม่สามารถดูผ่านสื่อ ดังกล่าวได้ ข้าพเจ้าได้บันทึกใส่แฟลชไดฟ์ (Flash Drive) เพ่ือให้ ท่านสามารถนำไปเปิดด้วยเครื่องเล่น MP3 ท่ีมีอยู่ในรถยนต์ หรือ เคร่ืองเสียงในรุกยนต์ได้ หวังเป็นอย่างย่ิงว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ตั้งใจ บันทึกทางเลือกการดับทุกข์นี้ จะเป็นสื่อสะอาดท่ีพร้อมหาทางปด ปล่อยทุกข์ท่ีเกิดจากความไม่รู้ภายในได้บ้าง และขอกราบ ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ ด้วยครับ และขอเชิญท่านได้ทราบซึ้ง กบั บทความทไ่ี ดบ้ นั ทึกไว้ดว้ ยความตัง้ ใจ ได้ ณ บัดนี้ ครับ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 18
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] 3 เรอ่ื ง ทกุ ข์เมือ่ ตอ้ งการความสำเรจ็ แต่ไม่สำเรจ็ ทำไมชวี ิตคนเรา ทำอะไรๆ เรียนอะไรๆ กไ็ มส่ ำเร็จ ขอนอบน้อมแด่ องค์พระสัมมาสัมพุธเจ้า คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา เเละครูบาอาจารย์ ท้ังทางโลกและทางธรรม เเละขอกราบสวัสดีท่านผู้อ่าน และผู้ ฝกั ไฝ่หาทางพน้ ทุกขท์ กุ ท่าน สำหรับวันนี้ ก็จะขอตอบปัญหาของคุณครูท่านหน่ึง ที่ได้ ต้ังคำถามมาเกี่ยวกับปัญหาความไม่สำเร็จ โดยมีคำถามคือ “ทำไม่ คนเราบางคน ทำอะไรอะไรก็ไม่สำเร็จ เรียนอะไรอะไรก็ไม่สำเร็จ ทำอะไรอะไรก็ไม่สำเร็จ“ ดังนั้นข้าพเจ้าก็ขอตอบตั้งใจตอบคำถามนี้ด้วยปัญญาจาก การท่ีข้าพเจ้าได้ปฏิบัติสมาธิมา และจะขอตั้งจิตต้ังใจตอบด้วย ปัญญาญาณ ดงั นี้ ก่อนอ่ืนเราต้องมาดูว่าส่ิงที่เราทำไปน้ัน เรามีความต้ังใจท่ี จะทำอะไรๆ นั้นจริงจังหรือเปล่า และเม่ือเราทำอะไรอะไรไปนั้น [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 19
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] เรามีการศึกษาค้นคว้า หรอื มีการสอบถาม และมีการเรียนรู้จากผู้รู้ ในเร่ืองน้ันๆ หรือไหม ซึ่งถ้าเรามีการตรวจสอบเรียนรู้ส่ิงต่างๆ ก่อนท่ีเราจะลงมือปฏิบัติ ให้มีความเข้าใจรอบครอบและเรียบร้อย ในเร่ืองนั้นแล้ว ผมเชื่อได้เลยว่า ทุกๆส่ิง ที่ทุกๆ ท่านทำน้ันก็จะ ประสบความสำเร็จในที่สุดได้ ยกเว้นบางเร่ืองจริงๆ ท่ีเราไม่ สามารถทำ และจะประสบความสำเร็จอย่างที่เราต้ังใจไว้ แต่อย่าง น้อยเส้นทางน้ันๆ ผมเชื่อว่า การที่เราได้พยายามทำอย่างต่อเน่ือง และคิดไตร่ตรองอย่างต่อเนื่อง พยามท่ีจะเรียนรู้อย่างต่อเนื่องน่ัน แสดงว่า เรากำลังสร้างประสบการณ์ในชีวิตเราเองให้เกิดข้ึนอย่าง ไม่รู้ตัว ซ่ึงประสบการณ์ น้ันๆ เป็นประสบการณ์โดยตรง ซ่ึง ประสบการณ์ตรงนี้แหละ จะเป็นการสั่งสมความรู้ความรู้โดยตรง โดยประสบการณ์น้ันจะมีอยู่สองด้าน ก็คือ ความรู้ที่ไม่ดี และ ความรู้ที่ดี แต่ถ้าสมมุติว่าเราทำไปเร่ือย ๆ แล้ว เราการสั่งสมรู้ใน ส่งิ ทไี่ มด่ ใี นท่ีสดุ จะกลบั ไปในส่ิงที่ดีไปเรอ่ื ย ๆ และวันหน่ึงเมื่อเวลาที่ เหมาะสมมาถึง และสภาพแวดล้อมต่างๆ พร้อม ไม่ว่าจะเป็นใคร เม่ือความพอดีด้านวัยวุฒิ และคุณวุฒิก็ดี เม่ือมันมาถึงเราจะ สามารถท่ีจะทำเป้าหมายในสิ่งที่เราคาดหวังไว้ได้สำเร็จอย่าง แนน่ อน ความสำเร็จน้ัน จริงๆ แล้วมีอยู่หลายระดับ ตั้งแต่ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 20
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] ความสำเร็จเบื้องต้น ตอนกลาง หรือความสำเร็จอันสูงสุดในเบื้อง ปลาย ซ่ึงจริงๆ ข้ึนอยู่กับเรา ได้มีการต้ังเป้าหมายของความสำเร็จ นั้นๆ ไว้ในระดับใด ถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้ระดับต้นๆ ความสำเร็จ น้ันๆ มันก็จะเกิดข้ึนเร็วอย่างแน่นอน แต่ถ้าเราต้ังเป้าหมายใน ระดับกลางจุดเร่ิมกับเป้าหมายก็จะนานหนอ่ ย แตถ่ ้าต้ังความสำเร็จ ไว้ระดับสูง มันก็จะเป็นเรื่องความจริงท่ีว่า ความสำเร็จนั้น มันย่อม ยาวนานมากกว่าท่ีความสำเร็จน้ันๆ จะมาถึงอย่างแน่นอน และ ในขณะท่ีเราพยายามทำความสำเร็จอยู่นั้นความเบ่ือหน่ายต่างๆ ก็ อาจจะเกิดข้ึน บางทีท้อแท้เกิดจากความคิด ก็จะทำให้เรานั้น ท้อแท้ไปก่อนก็มี ซ่ึงเม่ือเราท้อแท้ไปก่อนนั้น สุดท้ายก็จะทำให้เรา ไม่สามารถที่จะเดินไปถึงสำเร็จ ความฝัน เป้าหมายในแต่ละระดบั ท่ี เราว่างไว้น้ันๆ ได้ หรือสำเร็จสูงสุดนั้นได้ โดยเฉพาะเป็น ความสำเร็จท่ียิ่งใหญ่ ซึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่น้ัน เราจะต้องอาศัย พ้ืนฐานความผิดพลาดต่างๆ หรือประสบการณ์ ท่ีจะเกิดขึ้น มากมายพร้อมทั้งบันทึก จดจำ และอาศัยความผิดพลาดต่างๆที่ ผ่านมาเป็นแม่แบบ รอบด้านในการเดินคร้ังต่อไปในการเดินทางไป หาเป้าหมายคร้ังใหม่ ทำซ้ำๆ ไปเรื่อย ๆ จนพบกับความพอใจหรือ ความสำเร็จ ท้ังหมดน้ี ผมได้ใช้ความผิดพลาดนั้นเป็นเทคนิค ใน การทำแผ่นท่ีเพ่ือให้เราเดินแบบมีประสบการณ์ เดินอย่างมืออาชีพ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 21
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] ไม่หวั่นไหว ในการเดินเข้าไปหาความสำเร็จน้ันๆ ได้อย่างแยบยล ซ่ึงสิ่งท่ีได้กล่าวไปน้ีเป็นเทคนิคคร่าวๆ ท่ีมันทำให้ผม สามารถเดิน ไปสู่ฝ่ังฝันหรือเดินไปสู่เป้าหมายท่ีเราต้ังใจไว้ได้สำเร็จ ซ่ึงวิธีน้ี อาจจะเร็วหรือช้า มันก็คือเป็นเรื่องของการเรียนรู้ การสร้างความ รอบรู้ อย่างรอบครอบ ซึ่งบางทีเราอาจไม่ทราบว่าน้ันถูกต้องไหม เพราะมันไม่มีอะไรที่ไม่มีเหตุและผล โดยเฉพาะการตั้งเป้าหมาย และความสำเร็จของเราไว้หรือที่เราตั้งใจไว้นั้น ส่วนใหญ่มันจะต้อง เดินไปตามโครงสร้าง เป็นไปตามที่เราตั้งใจไว้เท่านั้นในที่สุด ถึงแม้ว่าในแต่ละช่วงมันจะมีความล่าช้าไปบ้าง เน่ืองจากการท่ีเรา ไม่มีความรู้ต่างๆ นั้นมาก่อน ซึ่งบางท่ีมันต้องอาศัยความรู้จากการ สั่งสม เมื่อความรู้นน้ั ถูกสั่งสมไปเรื่อย ๆ พอใหเ้ ขม็ แข็งก่อน หรอื ทำ ให้รู้ว่ามีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง ท่ีจะเกิดขึ้นในอนาคต ได้ให้มากที่สุด และไม่ใช่สภาพแวดล้อม ภายนอกเท่านั้น แต่การเรียนรู้ต่างๆ มันก็ จะทำให้เราน้ัน เกิดการสั่งสมบ่มเพาะความรู้ภายในด้วยเช่นกัน จิตใจของเราก็จะเกิดความสั่งสม ความแข็งแกร่ง และมีความรู้ รอบด้าน ที่จะแก้ไขปัญหาและรักษาเป้าหมายของเราไว้ เพ่ือจะ ดำเนินไปสกู่ ารประสบความสำเรจ็ น้นั ๆ ทเี่ ราตงั้ ใจไวฉ้ นั นน้ั แต่เหตุและผลในการท่ีจะเดินไปสู่เป้าหมายต่างๆ ความรู้ เหล่าน้ีเปรียบเป็นหลักขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 22
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] กระทำไว้ ขณะที่เราปฏิบัตินั้นเราต้องอาศัยสัจจะ สัจจะในที่น้ีก็คือ ความตั้งใจต่างๆ ไม่ว่าจะต้ังใจพูดก็ดี ต้ังใจทำก็ดี ตั้งใจประกอบ สัมมาอาชีพก็ดี ต้ังใจในการปฏิบัติเพื่อให้อยู่ในกรอบหรือ กฎระเบียบก็ดี ตั้งใจท่ีจะสรา้ งปัญญาให้เกิดขึ้นในขณะนน้ั ต่างๆ ก็ดี จนถึงรู้สุดท้าย เน่ียเม่ือ ที่เราต้ังใจทำน้ันยังไม่สำเร็จ หรือสำเร็จ เกิดข้ึน ยาวนานที่สุด ซ่ึงส่ิงที่เรากระทำไปแล้วนั้นมัน ก็คือ ประสบการณ์ของตัวเราเอง และประสบการณ์ทางใจด้วย ความ จริงต่างๆ มันก็จะเกิดขึ้นให้เราเห็นว่าในสิ่งที่เรามีนั้นหรือกำลังทำ หรือกำลังพยามทำ หรือกำลังสั่งสมความรู้ต่างๆอยู่นั้น มันเป็นตัว เราไหม ไม่ใช่ตัวเราไหม หรือท่ีเราเป็นไหม ส่วนใหญ่แล้ว เราจะไม่ รู้หลอกว่าเราเพ่ืออะไรเป็นอะไร แต่ท้ายที่สุดแล้ว ส่ิงท่ีเราสั่งสมมา เรื่อย ๆ ก็จะเกิดจนถึงปัจจุบัน นั้นๆ ส่ิงที่เกิดข้ึนอยู่ตลอดเวลา คือ ส่ิงที่เป็นตัวเราเพราะในอนาคตนั้น ทยี่ ังไม่มาถงึ มนั ไม่ใช่ตัวเรา ส่ิงที่ เกิดข้ึนนั่นแหละ คือ ตัวเราจริงๆ ฉะนั้น เราจะสร้างตัวเราเองใหม่ นั้น เราจะต้องมีสติในปัจจุบันในขณะมีสติในการปฏิบัติในปัจจุบัน ในการครองสมาธิ ครองสติ คลองปัญญา ในปัจจุบันนั่นแหละ คือ เรากำลังสร้างความเป็นตัวเรา แต่มิใช่เอาความเพ้อฝัน หรือความ รักไฝ่ฝนั น้ันๆ เปน็ ตวั เรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้คติเตือนใจเราไว้ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 23
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] เกี่ยวกับการที่เรานั้นต้องมีวิริยะทางจิต ซ่ึงการมีวิถีทางจิตในการ ประกอบสัมมาอาชีพ หรือการค้นคว้าหาอาชีพให้เจริญรุ่งเรืองไป ในชีวิต ไม่ว่าอันใกล้หรืออันไกล หรือระยะยาวต่างๆ น้ัน เราต้อง ใช้อิทธิบาทส่ีมาครองใจเรา เพ่ือให้เราเดินไปสู่ฝั่งฝันได้ ไม่ว่าจะทำ อะไร เมื่อเราจะต้องทำอะไรๆ เราจะต้องมีฉันทะ มีวิริยะ มีจิตตะ มีวิมังสา นั่นหมายความว่า เวลาเราจะทำอะไรน้ันเราจะต้องมี ความชอบเบ้ืองต้น หรือความพอใจ ที่จะทำให้เกิดข้ึนก่อน น้ัน แสดงว่า ถ้าเราตั้งใจท่ีจะมีปัญญากับสิ่งนั้นส่ิงน้ัน หรือความสำเร็จ เราก็ต้องวางใจให้เรามีความพอใจในสิ่งน้ันก่อน ในเบื้องต้น เม่ือ เรามีการวางใจหรือพอใจ ในการกระทำสิ่งน้ีแล้ว ส่ิงที่ตามมาก็คือ เราจะต้องมีวิริยะ เวลาเราทำไปเร่ือย ๆ หรือความเพียรชอบ แน่นอนจิตใจบางทีมีท้ังชอบและไม่ชอบท่ีใจ บางทีมันก็มี มีหลง บางทีจิตใจเรา ก็มีดีร้าย คิดโน้นคิดนี่คิดระแวงโน้น ระแวงน่ี สุด แล้วแต่จะปรุงแต่งขึ้นมา แต่อย่างน้อยเราก็ต้องสร้างวิธีวิถีทางจิต ให้ได้ ถึงแม้ว่าจิตจะเป็นหรือเกิดลักษณะน้ันๆ แล้วมันจะเกิดความ ไม่ชอบหรือไม่พอใจก็ตามแต่ เราจะต้องมีหลักมีหลักธงชัย ปักไว้ ก็ คือ ความสำเร็จท่ีเราตั้งเป้าหมายไว้ ฉะน้ัน ขณะท่ีเราเดินจิตนี้ คติ เตือนใจท่ีเราจะต้องนำมาประกอบการเดินทางเพ่ือไปสู่หนทาง ความสำเร็จนั้น ก็คือเส้นทางของการใช้หรือพิจารณาความไม่เท่ียง [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 24
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] ความไม่เท่ียงนั้น ก็คือว่า ส่ิงที่เกิดข้ึนมาในช่วงช่วงหนึ่งอาจจะช่ัว วูบหรือไม่ อาจจะยาวนานแค่ไหน ให้เราคิดเสมอว่าส่ิงนั้นเม่ือมัน เกิดขึ้นแล้ว ก็มีตั้งอยู่ และก็ดับไป เป็นธรรมดา ฉะนั้นขณะท่ีเรา ประกอบความวิริยะจิตนี้ ให้ใช้คติเตือนใจน้ี เข้ามาในจิตใจ เพ่ือให้ เราเกิดมีความนิ่งหรือมีความน่ิงในใจ หรือความม่ันคงของจิต ใน การเดนิ ทางไปสู่ความสำเร็จให้ได้ ฉะนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ให้เรามีหลักคิด หรือหลักยึดในการใช้อิทธิบาทสี่ หรือเรียกว่าการกล่อมจิตใจเราให้ นำไปสู่ความสำเร็จ ฉะนั้นขณะที่เรามวี ิริยะหรือความเพียรน้ี ใจเรา ต่างๆก็ให้เราใคร่ควรถ่ีถ้วน ขณะท่ีเราไม่วิริยะเราก็ต้องสอนจิตเรา ด้วย ให้ว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่เราเกิดทุกข์ไหม หรือสิ่งนั้นส่ิงน้ีมันเป็น เส้นทางท่ีจะทำให้เราไปสู่ความสำเร็จได้ไหม บางทีในสิ่งที่เราเลือก มันก็เจอทุกข์สารพัดไม่ว่าจะเป็น ความไม่รู้ และรู้แต่ทำผิดพลาดไป หรือทำไปแล้วมีคนอ่ืน ๆ ท่ีประสบความสำเร็จมากกว่าเราหรือ น้อยกว่า เรามาแสดงให้ดู หรือมาปรากฏตัวให้เราเห็น เราก็จะเชื่อ ส่ิงน้ันส่ิงนี้ตามเขา เข้าไปฟังส่ิงน้ันตามเขา ฉะน้ันส่ิงน้ันส่ิงน้ีของคน อ่ืนนั้น ย่อมแตกต่างกับของเราไม่น้อยก็มากแต่ส่วนใหญ่ในแต่ละ คนในแต่ละจิตใจนัน้ ย่อมแตกต่างกันแนน่ อน ลมหายใจเข้าลมหายใจออกที่เราหายใจอยู่นี้ถึงแม้เป็นลม [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 25
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] เดียวกัน แต่ก็เป็นลมท่ีอยู่คนละขณะซึ่งเม่ือพิจารณาถี่ถ้วนแล้ว พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นลมท่ีเราสูดเข้าไปขณะน้ัน คนอ่ืนหรอื สภาวะอ่ืนๆกค็ ือเป็นสภาวะภายนอกที่ประสบพบเจอมา เขาเรียนรู้ด้วยการด้วยใจของเขา ฉะน้ันส่ิงที่เราสามารถเอามา ใช้ได้ก็ คือเขามีวิริยะในการประกอบกิจของเขาให้สำเร็จได้ ใช้ เคร่อื งมืออะไร เป็นเปา้ หมายจริงๆ ท่เี ราควรจะใช้ความรขู้ องเราน้ัน มาสร้างวริ ิยะทางจติ เพ่ือให้ทางจิตของเรามีความมั่นคงและแน่วแน่ มากข้ึน ในส่ิงที่เราประกอบ วิมังสา ประยุกต์หรือการนำเอามาใช้ มัน ก็คือ จะต้องเดินไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จบ่อยๆ มันอาจจะ ถูกหรือผิด อันน้ันไม่ทราบแต่ในขณะท่ีเราปฏิบัติอยู่น้ัน จิตจะมี วิริยะตั้งใจอยู่น้นั อย่นู ้ัน ไปเร่ือย เร่ือย เราจะเกิดความรู้ขน้ึ มาทนั ที ส่ิงที่ปฏิบัติเหล่านี้ ก็คือ มันจะกลายเป็นประสบการณ์หรือเป็นตัว เราต่อไป เราคือส่ิงท่ีผ่านมาตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ แต่มันไม่ใช่ อนาคตที่มันยังไม่เกิดข้ึน ฉะนั้นถ้าเราพึงระลึกเสมอว่า เราสามารถ สร้างตัวเองได้อีก เราสามารถสร้างตัวเราไปสู่หนทางแห่ง ความสำเร็จได้ เราสามารถพัฒนาความรู้ของตนเองไปสู่ความสำเร็จ ได้ ตอ่ ไปอกี เชน่ กนั ฉะนั้นนอกจากว่า คนที่เค้ามีการส่ังสมความรู้ตั้งแต่เด็ก ต้ังแต่เกิด หรือตั้งแต่ชาติท่ีแล้วก็อาจจะเป็นได้ นั้นสิ่งที่จะมาครอง [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 26
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] หรือเคร่ืองนำพาเขาไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จต่างๆ ได้ จริงคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่เกิดข้ึนจากตัวนิสัยด้ังเดิมจากเขาน่ันเอง หรือ เป็นนิสัยของจิตด่ังเดิมของเขานั่นเอง จึงทำให้เขาสามารถเดินทาง ไปสู่เส้นทางน้ันน้ันได้เอง แต่ประโยชน์ท่ีเกิดขึ้นน้ัน มันเกิดจาก การที่เขาไม่ได้เรียนรู้ ในลำดับขั้นต้น ในลำดับขั้นกลาง ในลำดับ ขั้นปลาย โดยความละเอียดในสภาวะปัจจุบัน ฉะน้ันสภาวะท่ี เกิดข้ึนในอดีตชาติ ท่ีทำให้เขาเดินทางมาสู่แห่งความสำเร็จนั้น มัน ก็จะคงสภาพแวดล้อมท่ีจะใช้ในการสร้างความสำเร็จปัจจุบัน ฉะน้ันจะเห็นได้ว่า หนึ่งผู้ที่เดินทางในปัจจุบันได้สำเร็จ ก็จะสร้าง ตวั สรา้ งตนไดเ้ รว็ เคา้ กจ็ ะมนั่ ใจในทางนั้น ๆ มากข้นึ ๆ ไดเ้ รว็ เช่นกนั แต่ในทางพระพุทธศาสนาตามคำสั่งสอนของพระสมเด็จ สัมมาสัมพระเจ้าน้ัน ให้เราเป็นคนรู้จักปัจจุบัน ให้มากท่ีสุด ว่าเรา รปู้ ัจจบุ ันขณะมากท่ีสุดเทา่ ใด เราก็จะเห็นตรงตามความเป็นจริงมา เท่านั้น การที่เราเห็นต้องตามเป็นความเป็นจริงมากเท่าน้ัน มันจะ ทำให้เราวางจิตวางใจได้ถูกต้องมากเท่านั้น เช่นกัน เมื่อเราวางจิต วางใจได้มาเท่าไหร่ ก็ตามเราก็จะเดินเข้าสู่เส้นทาง แห่งองค์สัมมา สัมพุทธะเจ้า ท่ีได้เคยตรัสไว้เก่ียวกับ ทุกข์ สมุทัย นิโรธมรรค ใน ที่สุด เราก็ไปเส้นทางสุดท้ายหรือเป็นส่ิงสุดท้ายที่เราจะต้องเข้าถึง ความรู้น้ันๆ นั้นและ และจะวางโดยอัตโนมัติ เพราะเรารู้แล้วอย่าง [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 27
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] แจ่มแจ้งแล้ว เราก็จะสามารถทำส่ิงน้ันๆ ได้แบบไม่เคอะเขิน แบบ ไม่ระวัดระแวง แบบไม่เกรงกลัวอะไร แบบไม่ล่าช้าในการท่ีจะ ดำเนิน หรือการทำกิจกรรมกิจการ หรือความฝันน้ัน ๆ แน่วแน่ไป เร่อื ย ๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ นั่นเอง ฉะน้ันจะเห็นได้ว่าเส้นทางนี้เอง มันจะทำให้เรานั้นมี หลักคิด หลักยึด โดยอาศัยหลักขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้า เอาไว้เป็นที่พ่ึง แต่ปัญหาต่างๆท่ีเกิดขึ้นน้ัน มันก็จะเป็นตัว พิสูจน์เราว่า จะสามารถใช้ปัญญา คิดพิจารณาไตร่ตรองต่างๆ มา ลดทอนความไม่รู้ต่างๆ ที่มันมีอยู่นั้นให้ลด น้อยลงเพียงใด ลดทอน ด้วยความไม่รู้อะไร ก็คือ การไม่รู้เห็นความเป็นจริงนั้นเอง บางที ส่วนใหญ่ การตัดสินใจเรามาตัดสินใจจากความอยาก เลือกจาก ความทุกข์ เลือกจากอยากมีอยากเป็น เราเลือกจะกลัว กลัวจน กลัวอด กลัวไม่มีเท่าเขา หรือเราเลือกจากเราจะตายแล้วนะ เรา อายุเยอะแล้วนะ หรือแม้กระทั่ง โอ่ะ เราเพิ่งเกิดมาเรายังไม่มีอะไร เลยนะ ฉะนั้น รู้สึกต่างๆเรานี้แหล่ะ ทำให้จิตใจของเรานั้นไม่รู้เห็น ตาม ความเป็ น จริง ก ารไม่ รู้เห็ น ต ามเป็ น จริงน้ี มัน ไม่ ใช่ สภาพแวดล้อมภายนอก แต่มันเป็นความจริงภายในใจ ในดวงใจ แท้ด้ังเดิมของเรามัน คือความจริง ซึ่งเราไม่สามารถเห็นได้ด้วย ความรภู้ ายนอก [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 28
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ได้ให้เราน้ันใช้การ นั่งสมาธิ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ในการสร้างความรู้ ที่เป็น พื้นฐานของจิตเราจริงๆว่ามัน คืออะไร มีลักษณะอย่างไร ว่ามัน เจอความทุกข์แล้ว มันลอกแลกไหม มันเจอความทุกข์แล้ว จิตเรา ซัดส่ายไหม มันเจอความเจ็บปวดแล้ว เราหลีกหนีด้วยการพริก ซ้ายพริกขวาหรือไม่ หรือว่าเราสามารถท่ีจะข้ามความทุกข์ต่างๆ ทางด้านร่างกาย จนมันไม่ทุกข์อีกต่อไป ซ่ึงเราสามารถท่ีจะเรียนรู้ ให้เกิดขึ้นภายในกายเราได้ ทุกรูปแบบจิตใจ เราก็จะน่ิงไม่ซัดส่าย และจะมีความรู้ ผู้รู้เห็นตามความเป็นจริงของจิต ฉะนั้นการอดทน หรือการมีวิรยิ ะ ในการใช้เครื่องมือ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้า ให้เราไว้เป็นมรดกตกทอดในการคิด จิตคิด จากใจเรา คือ สิ่งท่ี จะทำให้เรารู้ถึงความเป็นจริงของใจเรามากท่ีสุด ซึ่งผมก็เชื่อได้ว่า ท่านเหล่าน้ันถ้ามีการฝึกจิต ฝึกใจ เป็นลำดับข้ันตอน ตามองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่ีได้แนะนำไว้และบันทึกไว้ ใน พระไตรปิฎกนั้น ก็จะสามารถไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน และจิตใจเราก็จะไม่ติดขัดไม่ลังเลสงสัย และมีเหตุและผลท่ีชัดเจน และมีความรู้ท่ีมีลำดับขั้นตอน เฉยชัดเจน และสามารถที่จะ ถ่ายทอดเป็นความรู้ต่าง ๆ ให้กับคนอ่ืนได้อย่างชัดเจน จะคิดพูด อ่านเขียนทำอะไรอะไรก็แล้วแต่ ก็สามารถที่จะเป็นผู้นำได้ และ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 29
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] เป็นผู้นำทางท่ีดีได้ และไม่ใช่เป็นผู้นำทั้งโลภนะ แต่เป็นผู้นำทางใจ ผู้นำทางใจน้ีจะต่างกับผู้ใช้น่ะ ผู้นำทางรูปก็คือผู้นำทางใจนี้ คือทำ อะไรอะไร ก็ต้องใช้แต่ความ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นต้น เป็นท่ีตั้งแต่ถ้าเป็นผู้นำท้ังโลกก็จะใช้ความสำเร็จเป็นกลยุทธ์ ความสำเร็จตัวนี้ ก็คือ เป็นวัตถุ วัตถุท่ีนำมาใช้ในการเงิน สมบัติ ท่ี เราเห็นได้ชัด น่ันคือ เป็นสมบัติทางโลกเรา ระดับจิตและคนที่เขา ร่ำรวยท่ีสุดซึ่งเป็นส่ิงท่ีแสดงว่าเขาใช้ความรู้ความสามารถใน ปัจจุบันของเขาได้ถูกต้องในทางโลกนะ กำลังท่ีจะสร้างความรู้ ต่างๆรอบด้าน กลยุทธ์น่ัน ก็คือ สิ่งที่เขาสร้างความรูข้ องตนเค้าเอง ขึ้นมา อีกอย่างสูงสุด ฉะนั้นผลตอบแทนท่ีเกิดข้ึนก็คือ ความรู้ทาง กายและความสุขทางใจ ความรู้ทางกายที่เกิดขึ้น ก็คือ ความ เป็นอยู่ชีวิตการเงินต่างๆมันก็จะ แสดงเห็นได้อย่างชัดเจนความรู้ ท้ังใจของเขาสิ่งท่ีเขา เรียนรู้ต่าง ๆ ก็คือ มีแต่ความสำเร็จจริงอยู่ เป็นความผิดพลาดก็เป็นความผิดพลาดที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ท้ังโลก เพ่ือดำเนินไปสู่ผลลัพธ์ที่จะเกิดข้ึนในทางโลก ก็คือ เงินทอง การใช้วัตถุน้ี เข้ามาวัดทางกายทางใจนั้น จะไม่มีวันสิ้นสุดลง ความรู้ทั้งใจ มันจะไม่มีวันส้ินสุดลง รตู้ ่างๆ จะสั่งสม พอกพูนข้นึ ให้ มีความรับผิดชอบมีหน้าที่การงานมาก และสูงข้ึน แต่ที่ดำเนินใน ส่ิงตรงข้ามทางโลก ก็คือ ร่างกายและจิตใจของคนคนนั้น ร่างกาย [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 30
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] อย่างท่ีเราเห็นได้ชัด ก็คือ ว่าแก่ลงไปเรื่อยเร่ือย ชราลงไป จะสวน ทางกับทรพั ย์สมบัติ ทเ่ี คา้ หาได้อย่าง ไม่มีท่ีส้ินสุด ซ่ึงทรพั ย์สมบัติที่ เขาหามาได้นั้น ก็จะเป็นเครื่องมือในการสร้างปัญญาให้กับเขาอีก ก็คือ จะรักษาซับน้ันน้ันได้ตลอดไป และตลอดกาล ฉะนั้นมันก็หนี ไม่พ้น ท่ีคนเราจะต้องสรา้ งขนาดของครอบครัว คณะของเครือญาติ ขนาดของสังคมที่ไว้วางใจ และสามารถดำเนิน เขาหมายถึงรักษา เป้าหมายท่ีเขาหวังไว้ตลอดกาล ซ่ึงตามหลักธรรมชาติทางจิตนั้น หรือหลักตามธรรมชาติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ บอกเราไว้น้ัน ส่ิงสิ่งนั้นหรือส่ิงใดสิ่งหน่ึงน้ัน เม่ือได้เกิดข้ึนแล้ว ต้งั อย่แู ล้วเปน็ ระยะเวลาระดับหนง่ึ น้ัน มนั ก็จะดบั ไปในท่สี ุด ฉะนั้น ผู้ท่ีไม่เคยได้พร่ำสอนจิตใจเรามาเลยเกี่ยวกับการรู้ เห็นตามความเป็นจริงตามหลักขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจา้ เกดิ ทุกขแ์ น่นอนทุกขท์ างใจ ไม่ใช่ทุกทางกาย ทุกคนมีทรัพย์สิน เต็มไปหมด แต่ไม่รู้ว่าตนเองขาดอะไร ไม่รู้ว่าตนเองไม่มีความสุข จากอะไร ไม่รู้ว่าตนเองมีความสุขหรือยัง พอหรือยัง หรือว่า จะต้องทำอะไรให้ตัวเองมีความสุขเพิ่ม และบางทีทำทำไปน้ันมันก็ ทำให้เรา ในกฎระเบียบ หรอื กรอบ หรือประเพณีของสังคม น้ันนั้น ก็จะทำให้เราน้ัน อยู่ในสังคมหรือกรอบระเบียบนั้นไม่ได้ ยิ่งผูกเข้า ไปใหญ่ และมันไม่ไดท้ ำให้เราเกิดปัญญา หรือสั่งสมความรูใ้ นระดับ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 31
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] ความรู้ทางจิตให้เราเลย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโมฆะและวิชา ก็คือว่า เป็นความไมร่ ู้ทีเ่ กดิ ขน้ึ ตลอดกาล นน่ั เอง ซึง่ ความไมร่ ้ตู รงนี้แหละ ท่ี เรียกว่า โมหะวิชา มันเป็นตัวท่ีบ ดบังจิตใจ ของคนท่ี ยึด ความสำเร็จทางโลกเป็นหลัก คนก็เดินไปไม่ถึงฝ่ังฝันไปท่ี ความสำเร็จถึงขนาดต้องฆ่าตัวตายคาลูกค้าเมียกันเลยทีเดียว บาง ทีก็ทำร้ายสังคม ให้ผุพังกันไปเลย แต่บางคนก็รับสภาพตนเอง ไม่ได้ท้ังร่างกายและจิตใจ ห่อเห่ียวรันทดสลดใจสุดท้ายก็ตายไป ด้วยโรคต่างๆท่ีมันเกิดข้ึน จากสภาวะการยอมรับความจริงไม่ได้ ฉะนั้น ท่ีสำคัญที่สุดที่เราจะใช้ ดั้งเดิมในการให้เราน้ันเดินทางไปสู่ ฝ่ังฝันในความสำเร็จได้มีแต่ความสุข สูตร อิทธิบาทส่ี ก็ขณะที่เรา ทำนั้นก็ให้เราสร้างปัญญาให้มากท่ีสุดให้เกิดขึ้น เพื่อให้เราเห็นตาม ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และเม่ือเราทำไปถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้ว เราก็ จะได้ปัญญาเกิดข้ึน ท่ีเกิดข้ึนก็จะทำให้รู้ว่าเราเกิดมาในโลกน้ีมี วัตถุประสงค์ หรือมีเป้าหมายอะไรกันแน่ ให้เราเกิดมา เรามาสร้าง ปัญญาจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีมีอยู่เท่านั้นนะ ใช่ไหม ยึดติดส่ิงใดสิ่ง หน่ึงออกเป็นของเรา มันเป็นของเขา เรามีตัวตน ฉะนั้นแล้วเราไป ถึงท่ีสุดแห่งทุกข์ แล้วเราก็จะเกิดปัญญาในการทำให้เรา น้ันเป็น คนท่ีไม่มีตัวตนเป็นท่ีสุด ตัวตนท้ังทางกายและทางใจ และทางกาย หรือสภาพแวดล้อมนั้น เราก็ต้องรักษาด้วยเพ่ือแสดงหรือ แต่ส่ิงท่ี [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 32
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] เราคิดเราทำน้ัน มันมีตวั ตนนะ มันสามารถท่ีจะพิสจู น์ให้ทั้งโลกเค้า เห็นได้แต่ในส่วนหน่ึงทางใจ ก็คือ ว่ามันจะแสดงออกมาจาก ที่เรา ได้พูดถึงความรู้ที่เราได้เข้าถึง และการคาดการณ์ท่ีเราฟันฝ่าไปถึง จุดสุดทา้ ยของชวี ิต เรื่องความไม่มตี ัวตน ดว้ ยเชน่ กน ความรู้ต่างๆเหล่านี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกและในชาดกต่าง ๆ พระพุทธเจ้าก็ได้เขียน ไว้ตั้ง 500 กว่าเร่ือง ซึ่งเราเข้าใจว่าชาดก 500 ชาติ และชาดกและ ในแต่ละชาติน้นั ทกุ อยา่ งลว้ นแล้ว มีคตเิ ตือนใจให้เรา มีช่องทางใน การแก้ไขปัญหา ให้เรามีแนวคิด ในการนำไปปฏิบัติ มีแนวคิดใน การฝึกจิตฝึกใจของเราเอง ให้ความไมร่ ู้ไปสู่ความรู้ ห่างจาก โมโหอ วิชาไปสู่ความมีแต่วิชา มีแต่ความรู้ท่ีเกิดขึ้น สุดท้ายเราก็จะไม่ยึด ติดภายในใจเรา แต่เราก็จะรักษาทรัพย์ ทรัพย์ในที่นี้ ก็คือ ว่ามี สองอย่าง ทรัพย์ท้ังโลก แก้วแหวนเงินทอง บ้าน รถ และทรัพย์ ทางใจก็ คือ ธรรมะ เราก็จะได้ ธรรมะที่รู้เห็นตามความเป็นจริง ตามธรรมชาติ และปล่อยวาง สิ่งนั้น ส่ิงน้ี ได้ความรู้ ด้วยไม่ใช่ เพราะโมหะหรือความกลัวจึงปล่อยวาง ฉะน้ัน เราก็จะเป็นแต่ผู้มี แต่เหตุและผล ท้ังภายในและภายนอก ถ้าอยู่ได้ เราก็จะอยู่ได้เพ่ือ สิ่งท่ีเราวาดฝันไว้ เราก็จะสำเร็จ เป็นลำดับขั้น ชัดเจนข้ึนเร่ือย ๆ ในความสงสัย ไม่กังวล ไม่ฟุ้งซ่าน เราสามารถฝึกได้ทุกคน ไม่ใช่แค่ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 33
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] ว่าบวชเป็นพระถึงจะพัฒนาตน หรือจะฝึกได้ แต่เราทุกคนเองมี ร่างกายครบ 32 ประการหรือไม่ครบ 32 ก็ดี แต่เรามีร่างกายเป็น มนุษย์เราทำได้แน่นอน จากความรู้ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า ก็ ได้ให้กำลังใจว่า ถ้าเราเกิดมาเป็นมนุษย์มีความตั้งใจในการ พากเพียรในการละกิเลส ไม่วา่ จะทางกิเลสทางโลก หรอื ทางไหน ๆ ก็ตามก็ถือว่า เราน้ันอยู่ในเส้นทางแห่งการดับทุกข์หรือถ้าเราทำ ตอ่ เน่ืองตลอดไปนะ เราก็ได้เชื่อว่าเราก็จะได้บุญมาก จริงๆ ธรรมะ ในพระไตรปิฎกแรกๆเลย พระพุทธเจ้าก็ได้นิยามไว้ เหมือนกันว่า เวลาที่เราจะเข้าไปเรียนรู้ ทุกข์อริยะสัจ หรือว่าถ้าเราต้ังใจ เป็นผู้ เพ่งเพียรเผากิเลสอยู่ ก็เสมือนว่าเราเป็นพระอยู่ เนกขัมมะ เช่นกัน เป็นพระในท่ีนี่ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นบรรพชิตเท่าน้ัน เป็น ปุถุชนคนธรรมดาท่ีตั้งใจพากเพียร ในการลดเครื่องร้อยลัด ลดละ จากความไม่รู้ไปสู่ความรู้น่ันแหละ ก็ถือว่าเป็นพระเหมือนกัน ต้ังแต่มีร่างกายที่สมบูรณ์แล้ว ฉะนั้นปัจจุบันเราเกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะหญิงหรอื ชาย เอาเถอะถอื ว่าเราโชคดีมากๆ ในและยังอย่ใู น เส้นทางที่พระพุทธเจ้าได้เคยบอก ได้เคยเตือน ได้เคยแนะนำเอาไว้ แล้ว ครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ เค้าก็ปฏิบัติว่ามันทำได้และคน อื่นๆ ที่ปฏิบัติไม่ได้ผล เป็นพระเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ก็มีตัวอย่างให้เรา [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 34
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] เห็นเหมือนกัน การจะเดินทางไปสู่ความสำเร็จนั้น เราจะต้องใช้ ความรู้ ในการเดินทางไปสู่ความสำเร็จนั้นได้ ฉะน้ันก็ใช้หลักความ เป็นจริง ความขยันอดทน ต่างๆ ในการปฏิบัติอย่างจริงจัง แล้วก็ ไม่ใช่เฉพาะศาสนาพุทธ ศาสนาอ่ืนๆก็เช่นกัน ฉะน้ันเราเกิดมาใน ศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้า ก็ถือว่าเราก็ยังอยู่ในเส้นทางถูก เส้นทาง น้ีแหล่ะ คือ เส้นทางสายตรง และเส้นทางน้ีแหล่ะ เป็นเส้นทางที่ เดินสู่มรรคผลนิพพาน พาเราพ้นทุกข์ได้ถาวร ประกันชีวิตดีชาติน้ี และชาตติ อ่ ๆ ไปดว้ ยในทส่ี ุด ซ่ึงชาวพุทธเราเองก็สอนให้เราเชื่อว่าตายแล้วเกิดใหม่ ฉะนั้นเราทำสิ่งน้ีสิ่งนี้ได้ดีแล้ว การไปเกิดใหม่เราก็จะเกิดสูงว่าสัตว์ เดรัจฉานอย่างอื่น ถ้าเราเกิดเป็นมนุษย์อีกเรา ก็จะมีธรรมะครอง ใจติดตามมา และเป็นกุศลอันเนื่องมา เกิดชนะได้ ด้วยทรัพย์ สมบัติท้ังภายในและภายนอกเช่นกัน เราก็จะเดินไม่ผิดพลาดใน ชาติประจุบันน้ี เป็นคนในปัจจุบันนี้ ไม่เป็นคนโง่เขลา เบาปัญญา เหมือนชาติประจุบันน้ี เราจะไม่เป็นคนพิการ โรคภัยใครใครเจ็บ เบียดเบียนเป็นคนแข็งแรง ทั้งทางกายและทางใจ และเป็นคนโดย สมบูรณ์บริบูรณ์เอง และเป้าหมายต่างๆท่ีได้กล่าวไปเบ้ืองต้นนั้น ก็ เป็นหลักยึดการปฏิบัติ และกำลังใจให้กับคน ที่ไม่มีทางถูกหรือไม่ ถูกให้เกิดขึ้นในใจเกี่ยวกับการประกอบกิจต่าง ๆ ประกอบการ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 35
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] เรยี นต่าง ๆ ไม่มีความสำเร็จเกิดขึ้น ความสำเรจ็ ต่าง ๆ นั้นมันไม่ได้ สร้างแค่มือเอื้อม ฉะน้ันให้เราเข้าใจว่าระยะทางเท่านั้น ท่ีจะพิสูจน์ คน ท่ีสามารถรักษาระดับจิต หรือรักษาเป้าหมาย ท่ีเราจะเดินไป ไว้นั้น จะไปถึงความสำเร็จนั้นๆ ได้มากกว่าคนอ่ืน และสุดท้ายน้ัน เราก็ต้อง สองจิตสองใจเราเหมือนเดิม เพราะว่าเรามีอายุเฉลี่ย ปัจจุบัน 76 ปี แต่พระพุทธเจ้าก็ได้นิยามไว้ว่ามนุษย์ก็อยู่ถึงได้ 120 ปีได้ ฉะน้ันแล้วคนที่สามารถอยู่ได้ 76 ปีข้ึนไปก็ถือได้ว่าผู้น้ัน มี ชีวิตที่บริสุทธ์ิ เป็นเทวดาตามพิมพ์เขียว ของพระองค์สมเด็จ สัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้มีศีลไม่บกพร่องเลย ฉะนั้นสิ่งน้ีก็เป็น ความรู้ต่าง ๆ ที่รู้ได้จากการศึกษาและปฏิบัติ ก็เลยอยากจะรับส่ง ความรู้ถึงท่านผู้ชม ผู้ฟัง ให้เปน็ ขอ้ คดิ สติเตือนใจ ให้เป็นคำพูด เป็น เพ่ือนในการนำไปปฏิบัติ เพื่อดำเนินไปสู่หนทางความสำเร็จ หรือ ถ้าใครมีทุกข์อยู่น้ัน เราก็จะเป็นเพ่ือนในการทำ และเดินไปสู่ หนทางแห่งความสำเร็จน้ันน้ัน ได้ตลอดไป ฉะนั้นคำพูดหรือสง่ิ ใดท่ี อาจจะไม่ถูกจริตคนใดหรือผู้ใดก็ตาม ผู้ดำเนินรายการก็กราบ ประทานอภัยและกลับขอโทษในส่ิงท่ีกระผมน้ัน อาจจะพูดกระทบ จากความไม่ได้ตั้งใจ หรือต้ังใจก็ดี ก็เป็นเพียงเพ่ือการเตือนสติให้ เราท้ังหลายนั้นได้มีสติในการเข้าไปให้รู้เห็นตามความเป็นจริง เท่าน้ัน เพ่ือเป็นการแนะนำให้เกิดประโยชน์ไม่ได้นำให้ทุกๆ ท่าน [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 36
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] น้ัน เดินทางไปสู่หนทางแห่งความทกุ ข์อย่างเดียว และไม่มีทางออก ดังน้ัน ผมเชื่อได้ว่า ถ้าใครท่ีได้ชมได้ฟังอยู่น้ี ขอสิ่งศักดิ์สิทธ์ิ ท้ังหลาย โดยมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ ทั้งหลายท่ีอยู่ใกล้ตัวเราไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดใด ก็ดีก็ขอให้ปกปัก รักษาคุ้มครองให้เราเดินไปสู่ความสำเร็จของตนเอง หนทางแห่ง ความสำเรจ็ ในการตงั้ เป้าหมายของเรา ในทกุ ๆ ท่าน กราบสวสั ดี [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 37
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] 4 เร่ือง ทุกข์จากอยากมคี คู่ รอง อา้ ว แล้วเราจะมคี รู่ครองดีหรือไม่ มีไปแล้วไดอ้ ะไร ขอนอบน้อมแด่ องค์พระสัมมาสัมพุธเจ้า คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คณุ บิดามารดา เเละ ครูบาอาจารย์ทุกท่าน เเละขอกล่าวสวัสดีท่านผู้อ่านและผู้ฟัง ผู้ชม รายการทกุ ท่าน ก่อนอ่ืนผมก็ขอตอบคำถามแรก ของ คุณครูชัย ธิตะธัมโม ก่อนนะครับกับปัญหาท่ีว่า เรื่องคู่ครองควรจะมีหรือไม่ เเล้วมียังไง ไม่ให้เป็นทุกข์ไม่ให้เกิดทุกข์ ซ่ึงจริงๆเเล้วชีวิตมนุษย์เกิดมาทุกคน ต้องดูจุดประสงค์ก่อนว่าความสมบูรณ์เเบบของมนุษย์ คืออะไร ซ่ึง ความสมบูรณ์แบบ ก็คือ “ครอบครัว” ครอบครัวประกอบไปด้วย สามี ภรรยา เเละบุตร ซ่ึงจะรวมจากคุณพ่อฝ่ายสามี หรือคุณเเม่ ส่วนสามีเเละเเม่เเละพ่อของฝ่ายภรรยา น่ันจะเป็นความสมบูรณ์ แบบของครอบครัวในโลกมนุษย์ ฉะนั้นถ้าถามว่าการท่ีจะมีคู่ครอง [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 38
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] น้ันควรมีไหม เเละมียังไงให้มีความสุข ก่อนอื่นเราจะต้องรู้เห็น ความความเป็นจริงว่ามนษุ ย์เกดิ มาเพื่อครองคู่ เเละจะตอ้ งมีบุตรไว้ ให้สืบสกุล ฉะนั้นสิ่งที่เราจะต้องระลึกไว้เสมอน้ันก็คือ เรารู้เห็น ตามความเท็จจริงในส่ิงน้ันๆ หรือไม่ ถ้าเรารู้เห็นตามความเป็นจริง น้ันๆ เราก็สามารถจะตอบได้ว่า เราควรมีคู่ครองหรือไม่ ทีน้ีถ้ารู้ว่า มีคู่ครองเเล้วจะทำยังไงให้มีความสุขหรือทุกข์ให้น้อยท่ีสุด เราก็ กลับมาดูต่อว่า หน้าท่ีต่างของของคู่ครองว่าฝ่ายชายมีหน้าที่อะไร และหน้าท่ีคู่ครองฝ่ายหญิงนั้นมีหน้าที่อะไร นั้นคือกฎเบื้องต้น เพ่ือให้เราได้เข้าใจและปฏิบัติติหน้าที่ของตนเองได้อย่างถูกต้อง โดยถ้าเรารู้จักหน้าท่ีของตนเองอย่างท่องแท้แล้วไม่ว่าจะเป็นฝ่าย หญิง-ฝ่ายชาย ไม่ว่าคุณพ่อคุณเเม่ของฝ่ายหญิง-ฝ่ายชาย และคน ต่างๆ ในครอบครัว เม่ือรู้จักหน้าท่ีแล้วน้ัน ก็จะทำให้ปัญหาต่างๆ ทจี่ ะเกดิ ขึ้นระหว่างกนั ล่ ดนอ้ ยลง ในทีส่ ุด โดยในพระไตรปิฎกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ได้เเส ดงไว้ ในเร่ืองของทุกข์จากการมีคู่ เเละทำยังไงถึงไม่ให้มีทุกข์ โดย ก ารต อ บ ค ำถ าม ค ร้ังน้ี ผ ม ก็ จ ะ ห ยิ บ ย ก ตั วอ ย่ างขึ้ น ม าซึ่ งเราจ ะ สามารถท่ีจะไปค้นหาเพ่ิมเติมจากหนังสืออ่ืนๆ ท่ีจะมีความรู้ เพิ่มเติม หรือไม่ก็พระไตรปิฎกก็จะมีเร่ืองราวพวกนี้ เเต่จะมีอีก หน่ึงส่วนท่ีจะมีประโยชน์จากเร่ืองนี้ ข้าพเจ้าจะได้นำมาตอบ หรือ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 39
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] สรุปเพ่ือให้เรามีหนทางในการเเก้ไขปัญหาทุกข์ท่ีมีอยู่ในจิต ในใจ ซึ่งตามความรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า คน นน้ั ล้วนเเล้วเเตเ่ ป็นทกุ ข์ ซง่ึ คนในความหมายก็ คือ ความ ยงุ่ เหยิง ฉะนั้นเเล้ว องค์ประกอบของครอบครัว ก็คือทุกข์ น้ันคือ ศูนย์รวมแห่งกองของทุกข์ นั้นเอง ฉะน้ันที่เราสามารถม่ีจะลด ปัญหาหรือลดทุกข์ตรงน้ันได้ เราก็ต้องรู้ตามความเป็นจริงตรงน้ี ก่อน ฉะน้ันเเนวทางในการปฏิบัตินี้เราหนีไม่พ้นเลยท่ีจะต้องพ่ึงพา อาศัยความรู้ทางธรรมในการท่ีจะรู้เข้าไปรู้เห็นตามความเป็นจริง ของกองทุกข์กองนี้ เเละหนทางที่จะออกจากทุกข์ได้ ซ่ึงมีตัวอย่าง ธรรมมะของท่าน โชดกญาณสุทธิ หรือ สมเด็จพระธรรมมธีราจาร ในสมยั หนง่ึ ทเี่ ป็นเจ้าอาวาส วดั มหาธาตุ ซง่ึ ท่านได้กล่าวไวว้ า่ การท่ี เราจะดบั ทุกข์ได้น้ันเราจะต้องเขา้ ใจรูป-นามก่อน เเละการเขา้ ไปละ รูป-นาม ได้น้ัน หรือการเข้าไปให้ถึงความไม่มีตัวตน นั้น จะมี ประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งประโยชน์ตรงน้ี คือ การเดินทางสายกลาง ด้วยปัญญานั้นเอง ซ่ึงการไม่มีตัวตนนี้จะทำให้เรามีปัญหาน้อยสุด และจะทำให้เรามีปัญหาน้อยสุด กับตนเองภายในและภายนอก หรือในสังคมใดสังคมหน่ึง โดยเฉพาะสังคมท่ีเป็นสังคมประเทศนี้ ซ่ึงแม้กระทั้งในสังคมของประเทศนี้ ท่ีประกอบไปด้วย ชาติ ศาสนา เเล ะอ งค์ พ ระม ห าก ษั ต ริย์ โด ย อ งค์ ป ระก อ บ ข อ งช าติ นี้ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 40
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] ประกอบด้วยสังคมหรือส่วนย่อย ๆ ท่ีเรียกว่า “ครอบครัว” ถ้า ครอบครัวของเรามีความสุขเเล้ว และรู้จักการปฏิบัติหน้าท่ีของตน ให้ดีเเล้ว ประเทศชาติก็จะสุขและมั่นคง ซ่ึงจะส่งผลต่อสังคมหรือ ครอบครวั รอบข้าง ก็จะมคี วามสุขไปดว้ ยเชน่ กัน โดยการตอบคำถามคร้ังน้ี ผมอาจารย์ปัณ ชุติธโร ได้ตอบ คำถามแรก ของตัวแทนผู้ถามคำถามผ่าน คุณครูชัย ธิตตธัมโม เก่ียวกับ ปัญหาท่ีว่า”เร่ือง คู่ครองควรจะมีหรือไม่ “ เเล้วมียังไง ไม่ให้เป็นทุกข์ ซ่ึงจริงๆเเล้ว ชีวิตมนุษย์เกิดมาทุกคนมีหน้าท่ีหลัก อยู่แล้ว ซึ่งต้องกลับไปดูจุดประสงค์หลัก หรือเหตุผลหลักก่อนว่า ความสมบูรณ์เเบบของมนุษย์ คืออะไร โดยในความคิดเห็นของ ข้าพเจ้า แล้วคือ “ครอบครัว” โดยคำว่า “ครอบครัว” ที่มีปัญญา หรือความรู้ที่เกิดข้ึนกับตนน้ัน ล้วนแล้วแต่ได้จากการปฏิบัติธรรม ซึ่งจะได้ให้แสดงรายละเอียดดังน้ี คือ “ครอบครัว” น้ัน ประกอบ ไปด้วย สามี ภรรยา เเละบุตร ซึ่งจะรวมไปด้วย คุณพ่อฝ่ายสามี หรือคุณเเม่ส่วนสามี เเละคุณเเม่กับพ่อฝ่ายภรรยานั่นเอง ซ่ึงจะ เปน็ ความสมบูรณ์แบบของครอบครัวในโลกมนุษย์ท่ีเราได้เห็นต้ังแต่ เกิดมาถึงทุกวันน้ี ฉะน้ัน ถ้าถามว่าการที่จะมีคู่ครองนั้นควรมีไหม [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 41
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] เเละมยี ังไง ถงึ จะให้มีความสุข ซ่ึงก่อนอื่นต้องปรับทัศนคติเรื่องความคิดกันก่อน โดย ก่อนอ่ืนเราจะต้องรู้เห็นตามความเป็นจริงก่อนว่า มนุษย์เกิดมาเพ่ือ การครองคู่ เเละจะต้องมีบุตรเพื่อมีไว้ให้สืบสกุล หรือดำรงค์ เผ่าพันธ์ุของวงตระกูล ฉะนั้นสิ่งท่ีเราจะต้องระลึกไว้เสมอนั้นก็คือ เราต้องรู้เห็นตามความเท็จจริงในส่ิงน้ีๆ ก่อน ถ้าเรารเู้ หน็ ตามความ เป็นจริงในส่ิงน้ี เราก็จะตอบได้ว่าเราควรคู่หรือไม่ ซ่ึงมันไม่เหมือน บะหม่ีกง่ึ สำเรจ็ รูปซึง่ เป็นเรอ่ื งยากแน่นอน ดังน้ัน ถ้ารู้ว่ามีคคู่ รองไป เเล้ว เราจะทำยังไงให้มีทุกข์น้อยที่สุด หรือมีความสุขมากกว่า ความทกุ ข์ ดังนั้น ให้เรากลับมาตรวจสอบดูหน้าท่ีจริงๆ ในครอบครัว ว่าเป็นอย่างไร มาดูหน้าท่ีของคู่ครองว่าฝ่ายชายกันก่อนว่ามีหน้าที่ อะไร และฝ่ายหญิงมีหน้าท่ีอะไร เช่น หน้าทางโลกให้ความรัก ดูแลท้ังทางกายทางใจซ่ึงกันและกันทุกเรื่อง หรือบางครอบครัวก็ จะถูกนิยามการมีครอบครัวจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่าน้ัน เพื่อให้เรา [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 42
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] ได้ปฏิบัติติหน้าที่ของตนเองได้ถูกต้อง ฉะนั้น เม่ือเรารู้จักหน้าท่ี ของตนเองแลว้ ไมว่ ่าจะเป็นฝ่ายหญงิ หรือฝ่ายชาย หรอื วา่ คณุ พ่อคุณ เเม่ของฝ่ายหญิง หรือคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายชายน้ัน ถ้าเราเข้าใจ หน้าท่ีร่วมกันเเล้ว ก็จะทำให้ปัญหาต่างๆท่ีเกิดข้ึนลดน้อยลง ซ่ึง จริงๆ แล้ว ในพระไตรปิฎก ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพทุ ธเจ้า ก็ ได้เเสดงไว้เก่ียวกับเรื่องของทุกข์จากการมีคู่ เเละทำอย่างไรถึงให้มี ทุกข์ นอ้ ยทีส่ ุด กม็ ปี รากฎไว้แล้ว ซึ่งการตอบคำถามครั้งนี้ ข้าพเจ้าก็จะขอหยิบยกตัวอย่าง ขึน้ มา เพ่ือให้เราเข้าใจในเบอ้ื งต้น และเพื่อใหเ้ ราได้มคี วามรู้สำหรับ ใช้เป็นช่องทางในการไปค้นหาเพ่ิมเติมจากหนังสืออื่นๆ ได้ หรือ เรียนรู้ผ่านส่ือออนไลน์ต่างๆ เพ่ือให้เราเกิดหรือมีความรู้เพ่ิมเติมได้ ซึ่งเรื่องราวต่างๆ พระพุทธเจ้าก็บันทึกเร่ืองทุกข์และการแก้ไข ปัญหาผ่านเร่ืองราวต่างๆ เป็นพระไตรปิฎก หรือนิทานชาดกต่างๆ หรือท่ีเราเรียกกันว่า ชาฎก 500 ชาติขององค์พระสัมมาสัมพุทธ เจ้าที่ได้บันทึกไว้นั้นเอง โดยเรื่องราวเหล่าน้ี ก็จะมีอีกหนึ่งที่มี ประโยชน์ โดยกระผมก็ได้หยิบมาเป็นตัวอข่างซ่ึงมีตัวอย่างที่จะได้ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 43
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] นำมาตอบ หรือสรุป เพื่อให้ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านมีช่องทางทางใน การเเกไ้ ขปญั หาทกุ ขต์ า่ งๆ ทม่ี อี ยใู่ นใจไดต้ ามลักษณะจิตของตนเอง ฉะนั้น ตามความรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวไว้ว่า “คน” หรือ “มนุษย์” นั้นล้วนเเล้วเเต่เป็นกองของทุกข์ ซึ่งคำว่า “คน” ในความหมายหนึ่งก็คือ “ความยุ่งเหยิง” นั้นเอง ซ่ึงในทางเดยี วกันเเล้ว “คน” คือ องคป์ ระกอบของครอบครัว ทุกๆ ครอบครวั ไม่ว่าชนชาติใดๆ ครอบครัวมีคนเปน็ ส่วนประกอบ ดังน้ัน ครอบครัว น้ัน คือ กองของทุกข์ น้ันเอง ให้เราเข้าใจอย่างน้ัน เพราะน้ันคือสิ่งท่ีทำให้จิตใจเราเข้าใจ และรู้เห็นตามความเป็นจริง ให้เกิดข้ึนในใจ ฉะน้ัน ถ้าเราจะสามารถลดปัญหา หรือทำให้ทุกข์ น้ันลดลงได้ ข้าพเจ้าขอแสดงความคิดเห็นว่า เราก็ต้องรู้ตามความ เป็นจริงตรงน้ีก่อน เพราะเราหนีไม่พ้นแน่นอน และถ้าครอบครัวท่ี อยู่เรามีคุณพ่อคุณแม่ เราก็อยู่ในเส้นทางทุกข์น้ีแหละ และเเน วทางจริงในการปฏิบัติ เพื่อให้เราหนี หรือพ้นทุกข์ไปเลย น้ันไม่มี แน่นอน ฉะนั้นสิ่งท่ีจะทำให้เราพออยู่ได้ตราบเท่าที่จะมีชีวิตอยู่เป็น คน หรือมนุษย์ที่จะต้องมีครอบครัว ก็ต้องพึ่งพาอาศัยความรู้ทาง [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 44
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือผู้นำทางศาสนา ของตนศาสนาอ่ืนๆ เพ่ือให้เรานั้นสามารถเข้าไปเรียนรู้ เพ่ือให้ใจ เราได้เข้าไปเรียนรู้ภายในใจเรา และได้เห็นตามความเป็นจริง ของ กองทุกข์ ที่เรียกว่าครอบครัว กองน้ีน้ันเอง เเละหนทางท่ีจะออก จากทุกข์ได้จริงๆ ก็คือธรรมะ ของท่านๆ ที่จะทำให้เราเกิดปัญญา ขึ้นทางโลกหรือภายนอกตน นัน้ เอง พระสมเด็จโชดกญาณสุทธิ หรือสมเด็จพระธรรมธีราจารย์ ในสมัยหน่ึงที่เป็นเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า “การ ท่ีเราจะดับทุกข์ได้นั้นเราจะต้องเข้าใจ เร่ืองรูป-นาม ให้ได้ก่อน เเละการเข้าไปรู้ละ รูป-นาม หรือการเข้าไปรู้ซึ้งถึงคำว่า “การไม่มี ตัวตน” น้ันเอง ฉะน้ันประโยชน์จากการที่เราจะเข้าไปเรียนรู้ตรงน้ี หรือ การไม่มีตัวตน นั้น ก็จะทำให้เรามีปัญหากับภายนอกและ ภายในน้อยสุด หรือทำให้เรามีปัญหาในสงั คมใด สังคมหน่ึง เกิดขึ้น น้อยที่สุด เเม้กระทั้งในสังคมของประเทศที่ประกอบไปด้วย ชาติ ศาสนา เเละองค์พระมหากษัตริย์ ดังนั้น องค์ประกอบของชาติน้ี ประกอบย่อย ๆ คือ ครอบครัว และถ้าความสุขเกิดขึ้นกับ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 45
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน] ครอบครัวเราแล้ว และต่างคนในครอบครัวรู้จักหน้าที่ และทำ หน้าท่ีของตนให้สมบูรณ์เเล้ว ประเทศชาติก็จะมั่นคง เเละสังคม รอบข้างจะมีความสุขในที่สุด สุดท้าย ในการตอบคำถามนี้อาจจะ ไม่ละเอียดมากนัก แต่อย่างไร การแนะนำเบ้ืองต้นน้ีก็สามารถใช้ เป็นทางเลือกหน่ึง ในการเลือกปฏิบัติเพ่ือวางใจให้เบาได้ด้วย ปัญญา ความเข้าใจความเป็นจริงที่มีอยู่ได้ อีกทางหน่ึง สุดท้าย ขอให้ส่ิงศักด์ิบรรดารให้ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน มีดวงตาเห็นธรรม ได้ เร็ววันดว้ ยเทอญ สาธุ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 46
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] 5 เรือ่ ง ทกุ ขจ์ ากอยากมบี ุตร การมีบตุ ร เราจะมลี ูกหรือบตุ รไว้สบื สกลุ กันดไี หม ขอนอบน้อมแด่ องค์พระสัมมาสัมพุธเจ้า คุณพระพุทธ คณุ พระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบดิ ามารดา เเละ ครูบาอาจารย์ทุกท่าน เเละขอกล่าวสวัสดีท่านผู้อ่านและผู้ฟัง ผู้ชม รายการทกุ ท่าน สำหรับวันนี้ผม อาจารย์ปัณ ชุตินธโรร ก็จะขอตอบ คำถามที่สองของคุณครู ชัยธิตธัมโม ที่ได้นำคำถามจากผู้ฟังเเละ ผู้ชมรายการท่ีมีปัญหาค้างคาใจ เเละ ไม่สามารถที่จะค้นหาหรือ หาทางแก้ไขปัญหานั้นได้ด้วยตยเอง ฉะนั้นเราก็ขอเป็นผู้ท่ีชาวย แก้ไขปัญหาน้ันเพ่ือจะได้เป็นเเนวทางในการแก้ปัญหาอีกทางเลือก หน่ึง ก่อนอื่นขอกลว่าว่าผู้ดำเนินรายการเเละกระผมน้ันไม่ได้เป็นผู้ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตนิ ธโร| 47
January 1, 2017 [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน] ที่ตอบคำถามได้ตรงใจมากที่สุด หรือ ชัดเจนที่สุดก่อนอ่ืนก็ขอ กราบขออภัยไว้ ณ ที่น้ีด้วย ดูคำถามที่คุณครูชัยธิตธัมโมได้มา สอบถามนั้นคือ เร่ืองความทุกข์ที่เกิดจากการมีบุตร เเละสำหรับ คนที่ไม่มีนั้นจะมีดีไหม โดยทั่วไปเเล้วคนอื่นๆ กว่าเด็กจะโตต้องใช้ ระยะเวลาพอสมควร เเละกว่าเด็กจะเติบโตต้องใช้เวลาพอสมควร เเละจากผู้ใหญ่จะเติบโตเป็นวัยชราก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ฉะน้ัน เวลาทั้งหมดในชีวิตมนุษย์น้ี จะอยู่ประมาณ 100 ปีโดยเฉลี่ยฉะน้ัน การท่ีเราจะสามารถตัดสินใจได้ว่าเราควรจะมีบุตรไหม เราต้อง ตรวจสอบความพร้อมทางกาย เเละ ทางใจของเราก่อนเพราะว่า การท่ีเราจะตัดสินใจมีบุตรน้ัน มันล้วนเเล้วเเต่มีปัญหาซ่ึงปัญหา ต่างๆ น้ันเราก็ไม่สามารถรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในชีวิตน้อยๆ ไม่ว่าจะขณะเรียนรู้ในสถานศึกษา เเละภายนอกสถานศึกษาก็ดี เป็นความเส่ียงอย่างยงิ่ โดยเฉพาะความรู้ท่ีไม่สามารถบังคับได้ เเละ ความรู้ท่ีไม่สามารถเปิดเผยได้ ท้ังน้ีส่ิงที่ได้กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็น สิ่งท่ีเราไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งถ้าเกิดขึ้นเป็นทุกข์เเน่นอน ฉะน้ันเรา จะมีวิธีการจัดการส่ิงที่ไม่รุ้นี้ได้อย่างไร ก่อนท่ีเราจะตัดสินใจมีบุตร หรือ ลูก ต้นเหตุสำคัญท่ีสุดที่จะทำให้เรามีปัญหาคือ จิตใจอันดับที่ หน่ึง อันดับท่ีสองคือร่างกาย เเละสภาพเเวดล้อมภายนอก ฉะน้ัน เราต้องมาถามตนเองทีละข้อว่าจิตใจของเรานั้นพร้อมที่จะยอมรับ [ทุกข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันตภิ ายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 48
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพื่อความสันติภายใน] ปัญหา เเละมีเเนวทางในการรองรบั ปัญหาท่ีจะเกิดขึ้นไหม สามเรา มีต้นทุนในการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นไหม ฉะน้ันส่ิงที่กล่าวมา เบ้ืองต้น ผู้ท่ีจะตัดสินใจมีลูกจะต้องเข้าใจอย่างถ่องเเท้ รู้อย่าง ครอบคุม ถ้าเกิดปัญหาเเล้วเราต้องมีวิธีแก้ซึง่ วิธีการตา่ งๆนั้นเราเอง ไมไ่ ด้เกิดมาเป็นคนเเรกของโลกไม่ไดเ้ กิดมาเป็นคนเเรกของประเทศ ทวีป ฉะนั้นรูปแบบปัญหาต่างๆน้ันล้วนมีเเต่คนพบเจอ ฉะนั้น ก่อนท่ีเราจะตัดสินใจควรศึกษาก่อนก่อนที่จะเลือกเพราะอย่างน้อย เรามีความรู้ เราสามารถตรวจสอบว่าจิตใจรับสภาพน้ันได้ไหม ส่วน การยอมรับสภาพน้ันคือ ชีวติ ท่ีประสบความสำเร็จท่ีสุด เเละชีวติ ที่ ล้มเหลวที่สุด ฉะน้ันส่ิงท่ีมีปัญหาก็คือ เราต้องพยายามท่ีจะ วิ เค ร า ะ ห์ ใ น สิ่ ง ท่ี เล ว ร้ า ย ม า ก ท่ี สุ ด เพ่ื อ จิ ต ใจ ข อ ง เ ร า เอ ง จ ะ ได้ เตรียมพร้อม ด้วยสติสัมปชัญญะ สิ่งที่กล่าวมาเบ้ืองต้นนั้นก็จะมีใน พระไตร หรือนิทานชาดกขององค์สมเด็จพระสัมมาสมัมพุธเจ้า หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของการมีบุตร ให้เราตรวจสอบ ความพร้อมทางด้านจิตใจของเราเอง ส่วนด้านอื่นๆ กาย เเละ สภาพเเวดล้อม น้ันเป็นสิ่งท่ีตามมาอย่างไม่พ้น ถ้าใจมีความ รอบคอบ หรือวางแผนคาดการ เเละพยายามเรียนรู้ประสบการณ์ จากชีวิตคนอื่นอย่างรอบคอบเเล้วน้ัน ผู้น้ันได้ล่วงรู้ด้วยปัญญา เพราะว่าปญั หานั้นมอี ยู่ สามระดบั การฟังการอา่ น สุตะมยะปัญญา [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 49
January 1, 2017 [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน] เเละความรู้ทีจ่ นิ ตามะยะปัญญา เกิดจากอา่ นเเลว้ ฟงั เเลว้ ไป พิจารณาให้รอบคอบ 360 องศาวิเคราะห์ซ้ำ เเล้วซ้ำเล่า กับ เหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น ถ้าเราวิเคราะห์เเล้วก็จะเกิดการตก ผลึกทางด้านปัญญาหรือคำตอบในระดับ จินตามะยะปัญญา เเละ ปัญญาข้ันสูงสุด ภาวนามะยะปัญญา คือปัญญาที่เกิดจากการ ปฏิบัติติจริงได้จากการท่ีเราได้ฟัง ได้เห็น ได้ยิน ได้พิจารณาอย่าง ถ่องเเท้เลือกทางหนึ่ง เเล้วนำทางเลือกน้ันไปปฏิบัติติ การปฏิบัติติ นั้นไม่สำเร็จตามที่คิดไว้ มันจะสำเร็จหรือไหมนั้น อยู่ที่ความ พยายามวิเคราะห์ ณ ปฏิบัติติจริงซึ่งที่เราม่ันวิเคราะห์ปฏิบัติติจริง นั้น เราจะสามารถเห็นหรือรวู้ ่ามปี ระโยชน์ไหม หรือ มโี ทษไหมสิ่งที่ เราทำอยู่นั้นมันเป็นแบบท่ีวิเคราะห์ คิด น้ันเป็นไปอย่างที่เรา ปฏิบัติติไหม ให้เรานำมาคิดเพราะการม่ัววิเคราะห์น้ันหมายถึงส่ิง นั้นจะนำมาซึ่งคำตอบว่าส่ิงท่ีเราทำถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง เเต่ไม่ ถูกต้องเราก็สามารถปรับปรุงแก้ไข หรือหาช่องทางใหม่ เพียงเเต่ว่า เราจะต้องมีความพากเพียร ค้นหาความรู้หรือคำตอบจากการอ่าน ก็ดี ถาม ปฏิบัติติก็ดี เเต่ถ้าข้ันภาวนาปัญญาน้ันควรเป็นอย่างยิ่ง คือการทดลองซ้ำเเล้วซ้ำเล่าจนเกิดความรู้อันหนึ่งมาว่าเส้นทางน้ี เเหละทุกข์น้อยท่ีสุด คือ ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียน ทาง กาย วาจา ใจ การไม่เบียดเบียนต่อตนเองน้ันหมายความว่าทำ [ทกุ ข์ ให้เรียนรู้และแก้ไข เพ่ือความสันติภายใน โดย อาจารย์ปัณ ชุตินธโร| 50
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154