138 ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรยี นรู้สกู่ ารสร้างสรรค์อนาคต 4) ใจที่จะเรียนรู้ การมีจิตใจใฝ่เรียนรู้ ความปรารถนา (passion) ท่ีจะเรียนรู้และพัฒนาวิชาชีพ ตลอดจนการแบ่งปันองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ได้จาก ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ไปเผยแพร่ให้กับชุมชนอ่ืน เพ่ือให้นาไปปรับใช้ได้ ตามบริบท จะทาให้มอี งค์ความรูใ้ หมแ่ ละนวัตกรรมในวิชาชีพเกิดข้ึนอยา่ งต่อเนื่อง 5) เทคโนโลยี Digitalเป็นเครอื่ งมอื สนับสนุนชุมชนแห่งกรเรยี นรู้เทคโนโลยีดิจิทัล มีอยู่ในมือของทุกคนต้องนามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของชุมชนแอพลิเคช่ัน ต่างๆ สามารถนามาใช้ได้อย่างหลากหลาย สอดคล้องกับระดับศักยภาพการใช้ เทคโนโลยขี องสมาชกิ ในชุมชน ปัจจยั สนับสนุน PLCทงั้ 5ประการดังกลา่ วแสดงไดด้ ังแผนภาพ8ตอ่ ไปน้ี ถอดบทเรยี น ใจท่ีจะเรยี นรู้ - สุนทรยี สนทนา - สะท้อนคดิ ปัญญาปฏิบัติ PLC Technology Digital โคช้ หรอื ผู้ชีแ้ นะ แผนภาพ 9 ปัจจยั สนบั สนุน PLC
139ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรียนรสู้ กู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต ทักษะของผู้บริหารกับการพัฒนาผสู้ อนโดยใช้ PLC 1. แสดงออกถงึ ภาวะผนู้ าทางวิชาการ 2. สร้างบารมที างวิชาการ 3. สร้างแรงจงู ใจภายในของผู้สอน 4. ใหส้ ารสนเทศที่เป็นประโยชน์ 5. ช้แี นะประเด็นการเรยี นรู้รว่ มกัน 6. สง่ เสริมสนบั สนุนกระบวนการเรียนรู้ 7. โค้ชกระบวนการเรยี นรแู้ ละการคดิ 8. ประสานเครือข่ายทุนทางสังคม 9. ยกยอ่ งในความสาเร็จ ประเภทของโคช้ สาหรบั PLC 1. ผ้บู ริหารโค้ช admin coach 2. ผ้เู ช่ียวชาญโค้ช expert coach 3. เพอื่ นโค้ช peer coach 4. นักวิชาชพี โคช้ professional coach 5. โคช้ ตนเอง self – coach โค้ชแต่ละประเภทมีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกัน แต่ทางานร่วมกัน เพอ่ื ขับเคลื่อน PLC การพัฒนาครูโดยใช้ PLC การพัฒนาความรู้ ทักษะความสามารถของครู โดยใช้แนวคิดชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ Professional Learning Community (PLC) ให้ครูได้ร่วมกันเรียนรู้ในสิ่งท่ีสนใจ ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง การถอดบทเรียน และการแลกเปลย่ี นเรียนรู้อยา่ งต่อเนื่อง และสง่ ผลต่อคุณภาพของผู้เรียน เปน็ ประเด็น สาคัญที่ผู้บริหารควรให้ความเอาใจใส่ ดูแลกระบวนการ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ ผู้สอนมีการรวมกลมุ่ PLC กนั ภายในโรงเรียน และโคช้ ผู้สอนอยา่ งต่อเนอ่ื ง
140 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรสู้ ู่การสรา้ งสรรค์อนาคต แผนภาพ 10 ปัจจยั ส่งเสรมิ PLC PLC ขบั เคล่อื นอย่างไร ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพขับ เคล่ือนด้วยวินัย และใจในการ เรียนรู้PLC ขับเคลื่อนไปอย่างมีสติและปัญญา PLC ทาแล้วต้องได้ประโยชน์ไม่ใช่ทาๆ เลิกๆ และเวลาทาก็ต้องทาอย่างมีสตแิ ละปัญญา สติ คอื รู้ตวั ว่ากาลังทาอะไร ในขณะที่ ปัญญา คือ ร้วู ่าจะตอ้ งทาอย่างไร อยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ สติมาปัญญาเกิด สติเป็นเหตุทาให้เกิดสมาธิ สมาธิเป็นพลัง การคิดและการเรียนรู้ สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด นาไปใช้ได้ทุกวินาทีของชีวิต ฝึกและใช้สติ ไปพรอ้ มกับการทางานตา่ งๆ
141ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนรสู้ ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต มีสตอิ ย่ทู กุ ขณะจิต รูต้ วั อยู่ตลอดเวลา หมนั่ ต้งั คาถามและตอบตัวเองดว้ ย คาถามต่อไปน้ีอย่างสม่าเสมอ ด้วยการคิดแบบโยนิโสมนสิการ ช่วยทาให้กลุ่ม PLC เรยี กสติกลับคืนมา 1) ใจของเราเปน็ อย่างไร 2) อารมณข์ องเราตอนนเ้ี ป็นอยา่ งไร 3) เรากาลงั เรียนรอู้ ะไร 4) สงิ่ ท่ีเราคดิ มปี ระโยชน์อยา่ งไร 5) จะมีกระบวนการเรียนรู้ท่ดี อี ยา่ งไร 6) ผลลัพธ์เปน็ ไปตามจุดประสงค์หรือไม่ 7) มสี ิ่งใดท่เี ป็นจดุ แข็ง เป็นจุดแข็งเพราะเหตุใด 8) มีสง่ิ ใดท่ีต้องปรับปรงุ และพฒั นา 9) จะมวี ิธีการปรับปรงุ และพฒั นาอยา่ งไร วินัย (discipline) คือ การควบคุมและกากับตนเองให้ไปสู่ เป้าหมายท่ีกาหนดไว้ รวมทั้งการใฝ่เรียนรู้และเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง ร่วมแลกเปลี่ยน เรยี นรเู้ พือ่ การเปลี่ยนแปลงไปสสู่ ิ่งที่ดีข้นึ ใจ (mind) คือ อารมณ์และความรู้สึกท่ีมีต่อการเรียนรู้ ความสุข ในการเรียนรู้ ความรู้สึกปลอดภัยในการเรียนรู้ การพัฒนาวิชาชีพที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลจาเป็นต้องเกิดมาจากใจหรือมิติด้านในเพราะเป็นรากฐานของการ พฒั นาอย่างยั่งยืนและมีความสุข
142 ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรยี นรู้สกู่ ารสร้างสรรค์อนาคต เมื่อวินัยและใจมารวมกันจะเกิดเป็นพลังของการเรียนรู้ พลังการคิด และพลังการพัฒนา + วินยั PLC ความสุขท่ีซ่อนอยู่ใน PLC ความสุขเป็นส่ิงท่ีทุกคนปรารถนา ความสุข มหี ลายระดับ เช่น ความสขุ จากการได้รับรางวัล ความสขุ จากการไดท้ าประโยชน์ใหก้ ับ ผู้อื่นและส่วนรวม การทา PLC แน่นอนว่าจะต้องพบกับปัญหาที่ท้าทาย และต้องใช้ สติปัญญาและความมุ่งม่ันพยายาม ในการแก้ปัญหาน้ัน อาจจะรู้สึกว่าเหน่ือย ไม่เห็น คุณค่าแล้ว แต่ขอให้มีสติกลับคืนมา มองไปข้างหน้าให้เห็นประโยชน์ที่จะเกิดกับ วิชาชีพและผู้รับบริการของเราและมุ่งมั่นพยายามทาให้สาเร็จ สุดท้ายเราจะพบกับ ความสุขท่ไี มส่ ามารถซ้ือได้ดว้ ยเงนิ นีค่ อื ความสขุ ท่ซี อ่ นอย่ใู น PLC ความสขุ ณ จุดเร่ิมตน้ ...สุขทีไ่ ดท้ าในส่ิงท่ีตนเองรัก ...สขุ ท่ไี ดท้ าในส่ิงที่ตัวเองเชื่อ ...สขุ ท่ีไดแ้ สดงฝีมอื ใหค้ นท้ังโลกได้รับรู้
143ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรียนรู้ส่กู ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต 5.4 ปฏบิ ัตกิ าร PLC ดว้ ยวิธกี ารสร้างสรรคน์ วตั กรรม 5I ปฏิบัติการ PLC หมายถงึ การดาเนินการต้ังแต่เริม่ ต้นจนจบของกลมุ่ ผู้สอน ที่เป็น PLC เดียวกันเพ่ือพัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพของผู้เรียน กระบวนการเรียนรู้ของ PLC จากการวิจัยของผู้เขียน คือ APP Model เป็นรูปแบบ การดาเนินการของกลมุ่ PLC ตามลาดับ ดังนี้ A : Analyze คอื การวิเคราะห์ความต้องการจาเปน็ ของการพัฒนา โดยกลุ่ม PLC รว่ มกันวเิ คราะห์จากสารสนเทศ ท่ีหลากหลาย การวิเคราะห์สาเหตขุ องปญั หา และลงสรุปประเด็นท่ตี ้องการเรียนร้ขู องกลุม่ P : Practical wisdom คอื การทบทวนปัญญาปฏิบตั ิของกลุ่ม เก่ยี วกับประเด็นทต่ี ้องการเรียนรู้ โดยวเิ คราะห์จากประสบการณ์ความสาเรจ็ จากการดาเนินการท่ผี า่ นมาว่ามีอะไรทท่ี าได้ดี ปัญญาปฏิบัตเิ ป็นองค์ความรู้ทไี่ ด้มาจาก การลงมือปฏิบตั แิ ล้วถอดบทเรียน เม่อื ถอดบทเรียนแล้วจะไดอ้ งค์ความรู้ มาสว่ นหนง่ึ ใช้เปน็ จดุ เร่มิ ต้นของ กระบวนการเรียนร้แู ละพฒั นาตอ่ ไป P : Plan, Do, Check, Reflection คือ การวางแผน การดาเนนิ การพัฒนา การตรวจสอบผลการพัฒนา และการสะทอ้ นผลการพฒั นาไปสู่วธิ กี ารทีด่ ีขน้ึ มลี ักษณะเปน็ วงจรการพฒั นาอย่างตอ่ เน่อื ง
144 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นรู้สกู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต รูปแบบการดาเนินการของ PLC ตามรูปแบบ APP model แสดงได้ดัง แผนภาพต่อไปนี้ A : Analyze คือ การวเิ คราะหค์ วามต้องการพฒั นา จากสารสนเทศตา่ งๆ P : Practical wisdom review คอื การทบทวนปญั ญาปฏบิ ัติ จากประสบการณค์ วามสาเร็จ P : Plan, Do, Check, Reflection คอื การวางแผน การดาเนินการพัฒนา การตรวจสอบผลการพัฒนา การสะทอ้ นผลการพฒั นาไปสูว่ ธิ ีการทีด่ ขี น้ึ แผนภาพ 11 รูปแบบการดาเนินการของ PLC ตามรปู แบบ APP model ในส่วนของ Plan, Do, Check, Reflection ควรดาเนินการอย่างเป็น ระบบ และยังสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมการพัฒนางานได้ในข้ันนี้ ซ่ึงมีวิธีการ สรา้ งนวตั กรรมท่เี รยี กวา่ วธิ กี ารสรา้ งนวตั กรรม 5I
145ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรสู้ ู่การสร้างสรรค์อนาคต อัลเบริ์ตไอน์สไตน์ กล่าวว่า“จินตนาการสาคัญกว่าความรู้” ความคิด และจินตนาการของเรามักไม่ค่อยมีอิสระเพราะถูกกะเกณฑ์ให้อยู่ในกรอบที่กาหนด กรอบ คอื ส่งิ ที่ตกี รอบความคิดเอาไว้ แบ่งสว่ นว่าอะไรอยูข่ ้างในและสว่ นใดอยขู่ ้างนอก กรอบความคิด ทาให้สายตาและจินตนาการของเราอยู่ในกรอบที่วางไว้ และเมื่อนา สมองสองซกี มาผนวกกบั เทคโนโลยีทท่ี ันสมยั จะเกิดนวตั กรรม วธิ ีสร้างนวัตกรรม 5I 1. Imagination จนิ ตนาการ ระวังมโน การใชม้ ุมมองเชิงความคดิ 2. Ideation เพ่ือพัฒนาวิสัยทัศน์ มองไปไกลกว่า 3. Integration จุดแรงบนั ดาลใจ Inspiration 4. Insight อาศยั การคิด เพือ่ ประมวลทิศทางทค่ี วรมุ่งไป จินตนาการอาศัยการคดิ บนฐานความรู้ การก่อร่างแนวคิด กาเนิดความคิด ลงมือปฏิบัติ action คิดผสานไอเดีย ท่ีหลากหลาย คดิ แบบน้แี ลว้ ลงมือทา บูรณาการ ไม่ใช่แค่เพียงปะติดปะต่อส่ิงต่างๆ เข้าด้วยกัน นวัตกรรมตอ้ งมคี วามควบแน่น กล่ันเอาชดุ ข้อมูลท่แี ตกต่างมาร้อยเรียง ออกมาเป็นข้อเสนอ หรือ solution ความร้เู ชิงลกึ (main concept) 5. Implement ทาให้เกิดผล นวัตกรรมเกดิ จากการลงมือปฏิบัติ ไมใ่ ชแ่ ค่การคิด
146 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรสู้ ่กู ารสรา้ งสรรค์อนาคต การสร้างนวัตกรรม 5I ควรยึดหลักว่า จินตนาการมีในทุกคน อย่าจากัด ความคิดของเรา อย่ใู นกรอบความคิดเดมิ หรอื กรอบของความกลวั การคิดแบบนวัตกรรม ระหว่างคาถามกับคาตอบ อะไรสาคัญกว่ากัน คาตอบ คือ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังเสมอ คาถามเป็นสิ่งท่ีทาให้สามารถมองไปข้างหน้า การทานวัตกรรม การเริ่มต้นต้ังคาถามท่ีถูกต้องสาคัญมาก คาถามที่ถูกต้องมี ความสาคญั มาก ถ้าคาถามผิด จะไม่มีทางได้คาตอบที่ถูกต้อง ถ้าคาถามถูก จะค่อยๆ เรียนรู้และพัฒ นา จนกว่าจะได้คาตอบท่ีถูกต้อง คาถามท่ีถูกต้องนาไปสู่ พลังทางความคิด (Power Thinking) เป็นความคิดที่มีพลังสร้างสรรค์ สิ่งที่อยู่ เบอ้ื งหลงั ของความสาเร็จ คอื ความคิดท่ดี ี Cresitive Thinking (Creative + Positive) การคิดบวก “ความคิด และทัศนคติ” คือ จุดเล็กๆ ท่ีทาให้คนทางานแล้วปรากฏผลแตกต่างกัน เพิ่มความคิด ทางบวกจะสง่ ผลดีต่อตนเอง การทางานและความสาเรจ็ ขององค์กร 1. มคี วามรสู้ กึ ผูกพนั กบั องค์กรและเพอ่ื นร่วมงาน 2. สร้างบรรยากาศสร้างสรรค์ การทางานรว่ มกนั 3. สอ่ื สารกับผอู้ นื่ ไดร้ าบรืน่ 4. กล้าคดิ กลา้ ทาสง่ิ ใหมท่ ี่สรา้ งสรรค์ 5. เพม่ิ ความคิด พฤตกิ รรมบวกให้กบั ตนเอง
147ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรยี นร้สู ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) หมายถึงการนากระบวนการคิดท่ี ให้ความสาคัญกับบุคคล ประกอบการใช้เครื่องมือต่างๆ มาใช้ในการแก้ปัญหาการ สรา้ งสรรค์นวัตกรรม โดยเน้นบุคคลเป็นหลกั (humancenterapproach)มกี ระบวนการดงั นี้ 1. Empathize การวิเคราะห์กลุ่มเปา้ หมาย การเข้าใจว่าผเู้ รียนต้องการอะไร 2. Design Point of View การวเิ คราะหแ์ ละระบวุ ่าโจทย์คืออะไร โดยการกาหนดไดช้ ดั เจนว่าปัญหา ทแี่ ท้จริงคืออะไร 3. Idea การเสนอแนวคิดและคาตอบ โดยการสรา้ งความคิดตา่ งๆ ใหเ้ กดิ ขนึ้ หาวิธีการแก้ปัญหา นวตั กรรม ตลอดจนการวพิ ากษ์ความคิดใหม่ จนกระท่งั เปน็ ทีย่ อมรบั 4. Prototype การสรา้ งแบบจาลองจากความคิด ร่วมกับประสบการณ์ การบรกิ ารต่างๆ ท่ีนามาสนับสนุน 5. Test การทดสอบหาคุณภาพ กับกลุ่มเปา้ หมาย และนาข้อเสนอแนะ Feedback มาปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป
148 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต การสร้างนวัตกรรมด้วยวธิ กี าร 5I มีบทปฏิบัตกิ ารดังต่อไปนี้ บทปฏิบตั ิการที่ 1 Imagination คาชแี้ จง ให้สารวจแรงบันดาลใจ ประสบการณ์เดิม ความรู้ที่สืบค้นและจินตนาการ ของตนเองแลว้ เขียนลงในตารางตอ่ ไปนี้ แรงบันดาลใจ ประสบการณ์เดิม ความรูท้ สี่ บื คน้ จินตนาการ
149ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นรูส้ ูก่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต บทปฏิบตั ิการที่ 2 Ideation การกอ่ รา่ งแนวคดิ กาเนดิ ความคดิ สังเคราะห์แนวคดิ ทีห่ ลากหลาย วางแผนการลงมือปฏิบัติ คาช้แี จง ให้ทบทวนจินตนาการ สังเคราะห์แนวคิด เลือกแนวคิดสู่การปฏิบัติ แล้วเขียนลงในตารางตอ่ ไปน้ี จินตนาการ สงั เคราะห์แนวคดิ เลือกแนวคิดสู่การปฏบิ ัติ เหตผุ ล นาเหตผุ ลมาเรียบเรยี ง ตามหวั ข้อต่อไปน้ี 1. หลักการและเหตุผล / ท่ีมา 2. วัตถุประสงค์ 3. ขน้ั ตอนการปฏบิ ัติ ขั้นที่ 1 ................................................................................................... ข้ันที่ 2 ................................................................................................... ขน้ั ที่ 3 ................................................................................................... ขน้ั ที่ .. ...................................................................................................
150 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรสู้ กู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต บทปฏบิ ตั ิการท่ี 3 Integration & Insight การบูรณาการความร้เู ชงิ รุก วิธีการและเครื่องมือ คาชแี้ จง ให้ดาเนนิ การวางแผน / ขัน้ ตอน โดยบูรณาการความรู้ วิธกี าร / เคร่ืองมือ แล้วเขยี นลงในตารางตอ่ ไปน้ี ข้นั ตอน ความรูเ้ ชงิ ลกึ วธิ กี ารและเครื่องมือ ขน้ั ตอนที่ 1 ขน้ั ตอนท่ี 2 ขนั้ ตอนที่ 3 ขั้นตอนที่ 4 ขน้ั ตอนที่ 5
151ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต บทปฏบิ ตั ิการท่ี 4 Implement ทาใหเ้ กดิ ผล นวัตกรรมเกดิ จาก การลงมือปฏบิ ตั ิ คาชแี้ จง ใหว้ ิเคราะห์กาหนดการดาเนินการในแต่ละข้นั ตอน แลว้ เขียนลงในตาราง ตอ่ ไปน้ี ขั้นตอน ระยะเวลาดาเนนิ การ ผลท่คี าดว่าจะไดร้ ับ ขั้นตอนที่ 1 ข้นั ตอนที่ 2 ข้นั ตอนท่ี 3 ขน้ั ตอนท่ี 4 ข้ันตอนที่ 5
152 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรสู้ ู่การสรา้ งสรรค์อนาคต ภาคปฏบิ ัติ บทปฏบิ ตั ิการท่ี 1 Imagination คาชแ้ี จง ให้สารวจแรงบันดาลใจ ประสบการณ์เดิม ความรู้ท่ีสืบค้นและจินตนาการ ของตนเองแล้วเขียนลงในตารางตอ่ ไปน้ี แรงบันดาลใจ ประสบการณเ์ ดมิ ความรู้ที่สืบค้น จนิ ตนาการ กล่มุ PLC กลุ่ม PLC กลุม่ PLC กลุม่ PLC มองภาพความสาเรจ็ ในอนาคตทีเ่ กดิ จาก ใช้กระบวนการ เล่าประสบการณเ์ ดมิ สืบค้นองค์ความรู้ การใช้กระบวนการ เรยี นรรู้ ว่ มกัน สะท้อนคิด หรอื ปัญญาปฏิบัติ ทเี่ ปน็ ประโยชน์ สะท้อนคุณภาพ ของผู้เรียน สรา้ งแรงบนั ดาลใจ ของตนเองตอ่ เพื่อน ในการนามาใช้ และสอดคล้องกบั แรงบนั ดาลใจ ในการพัฒนาผูเ้ รยี น หากนามาแลกเปลย่ี น แกป้ ัญหา โดยใชส้ นุ ทรยี สนทนา แบง่ ปนั กจ็ ะทาให้ กลุ่ม PLC มีความรู้ ที่จะไปแกป้ ัญหา
153ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรู้สูก่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต บทปฏิบตั ิการที่ 2 Ideation การก่อร่างแนวคดิ กาเนดิ ความคดิ สงั เคราะห์แนวคดิ ที่หลากหลาย วางแผนการลงมือปฏบิ ัติ คาช้แี จง ให้ทบทวนจินตนาการ สังเคราะห์แนวคิด เลือกแนวคิดสู่การปฏิบัติ แล้วเขียนลงในตารางตอ่ ไปน้ี จินตนาการ สังเคราะห์แนวคดิ เลอื กแนวคดิ ส่กู ารปฏิบตั ิ เหตุผล Copy มาจาก กลมุ่ PLC กลุม่ PLC กลุ่ม PLC บทปฏบิ ัตกิ ารท่ี 1 ผสมผสาน เลือกหรอื กาหนด ใหเ้ หตุผล ประสบการณเ์ ดมิ วิธีการปฏิบตั ิ เชงิ วชิ าการ กบั ความรู้ทสี่ บื ค้น ทีส่ อดคลอ้ งกับ สนับสนุน เปน็ แนวคดิ ในการ แนวคดิ ทส่ี งั เคราะหไ์ ด้ แนวคิด ดาเนินการ และการปฏบิ ตั ิ นาเหตผุ ลมาเรียบเรยี ง ตามหัวข้อตอ่ ไปน้ี 1. หลกั การและเหตุผล / ที่มา 2. วัตถุประสงค์ 3. ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิ ขนั้ ท่ี 1 ................................................................................................... ข้นั ที่ 2 ................................................................................................... ขนั้ ท่ี 3 ................................................................................................... ขน้ั ที่ .. ...................................................................................................
154 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนรู้สู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต บทปฏิบตั กิ ารที่ 3 Integration & Insight การบรู ณาการความรเู้ ชงิ รกุ วิธีการและเครอื่ งมือ คาชแี้ จง ให้ดาเนนิ การวางแผน / ขัน้ ตอน โดยบรู ณาการความรู้ วธิ กี าร / เครอ่ื งมอื แลว้ เขียนลงในตารางตอ่ ไปน้ี ขั้นตอน ความร้เู ชงิ ลึก วธิ กี ารและเครอ่ื งมอื ขน้ั ตอนที่ 1 กลมุ่ PLC ระบุความรู้ / กลมุ่ PLC ระบวุ ธิ กี าร ทกั ษะท่ีจาเป็นตอ้ งใช้ หรือกจิ กรรมย่อย ขน้ั ตอนท่ี 2 ในแต่ละขน้ั ตอน และเครอ่ื งมอื ท่ใี ช้ (ถ้าม)ี การระบคุ วามร/ู้ ทักษะ จะช่วยกลมุ่ PLC ในการหาโค้ชผเู้ ชยี่ วชาญ ขนั้ ตอนที่ 3 ขั้นตอนที่ 4 ขน้ั ตอนที่ 5
155ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต บทปฏบิ ตั กิ ารที่ 4 Implement ทาใหเ้ กิดผล นวตั กรรมเกิดจาก การลงมือปฏิบตั ิ คาชีแ้ จง ให้วเิ คราะห์กาหนดการดาเนินการในแต่ละข้นั ตอน แล้วเขียนลงในตาราง ตอ่ ไปนี้ ขน้ั ตอน ระยะเวลาดาเนินการ ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ บั ขน้ั ตอนท่ี 1 ระบรุ ะยะเวลาดาเนนิ การ ระบผุ ลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั ของแตล่ ะข้นั ตอน ในแตล่ ะขั้นตอน ข้ันตอนท่ี 2 ขั้นตอนท่ี 3 ข้นั ตอนที่ 4 ขน้ั ตอนท่ี 5
156 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นรูส้ ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต แนวทางการนาบทปฏิบตั กิ ารไปปฏบิ ตั ิ มดี ังน้ี 1. Workshop ครใู นโรงเรียน โดยใชบ้ ทปฏิบัติการ 5I (สามารถปรบั ปรุงไดต้ ามบริบทโรงเรยี น) 2. ปฏิบัติการตามแผนที่กาหนดไว้ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ ในบทปฏบิ ตั กิ ารท่ี 4 3. บนั ทึกการปฏบิ ตั ิใน Logbook 4. ดาเนนิ การต่อในปญั หาอนื่ ๆ ต่อไป 5. ใช้กระบวนการเรยี นรจู้ ากการปฏิบัติ (Action Learning) Action Learning 1. การปฏบิ ัตอิ ยา่ งองค์รวมกับการสร้างสรรคค์ วามรู้ 2. การเรยี นรรู้ ว่ มกนั คิดและรว่ มลงมอื ปฏบิ ตั ิ เป็นการกระทา ใหค้ วามรู้ความเข้าใจ 3. การเชือ่ มโยงทฤษฎแี ละการปฏิบตั ทิ าใหเ้ กิดการเรียนรู้ ทม่ี ีความเหมะสมต่อบรบิ ทของสงั คม 4. มีการสะทอ้ นคดิ (reflective thinking) 5. ความมีอสิ ระและสัมพันธภาพท่ดี ีต่อกัน 6. มีความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ ตงั้ ใจเรียนรรู้ ว่ มกัน กระบวนการ Action Learning 1. ปญั หา สถานการณ์ 2. กลุ่มผเู้ รยี น 5 – 7 คน 3. ตง้ั คาถามและการสะทอ้ นกลับ 4. ตั้งใจลงมอื ปฏบิ ตั ิ 5. มพี ันธสัญญาท่ีจะเรยี นรู้ร่วมกัน 6. รว่ มกันแก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์
157ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรียนร้สู กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต 5.5 การถอดบทเรียนสู่การบันทกึ Logbook การถอดบทเรียน (Lesson Learned) หมายถึง กระบวนการวิเคราะห์ หลังการปฏิบัติหรือการทากิจกรรมเพื่อการจดั การความรู้ เป็นการให้ข้อมลู ป้อนกลับ อย่างเป็นระบบต่อคณะทางานเก่ียวกับผลการปฏิบัติกิจกรรมท่ีดาเนินการแล้ว เป็นการกระตุ้นใหค้ ณะทางานเกิดความต่นื ตัวและมีความรูส้ ึกผูกพันอยู่กับงาน การสะท้อนคิด (Reflection) เป็นกระบวนการเรียนรู้ท่ีอยู่ในการถอด บทเรียน นาไปสู่การความคิดใหม่ (Mind Shift) ภายใต้ประสบการณ์การปฏิบัติจริง สะท้อนความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ทาความเข้าใจ (understanding) เรียนรู้อย่าง ลกึ ซึง้ (deep learning) นาไปสู่การเปล่ยี นแปลง (Transform) วิธีการถอดบทเรียน 1. ต้องตอบโจทยถ์ อดบทเรียนเรื่องอะไร เพอื่ อะไร 2. ใครคือบคุ คลทจี่ ะถอดบทเรียน การถอดบทเรยี นของคนอืน่ หรอื การถอดบทเรียนตวั เอง 3. วธิ ีการถอดบทเรยี นควรเลอื กวธิ ีการใหเ้ หมาะสมกับผถู้ อดบทเรียน 4. บทเรยี นทดี่ ี (Best Practice) อาจจะมปี ระเด็นท่คี ล้ายกัน แต่แตกต่างบรบิ ท การหาบทเรยี นทดี่ ีถือว่าไดค้ วามรูท้ ่มี ีคุณค่า มีพลงั 5. สุนทรียสนทนา (Dialogue) จะเปน็ กลไกสาคัญ ในการถอดบทเรียนท่ีมากกวา่ การคยุ กันธรรมดาๆ 6. บทเรยี นมใิ ชค่ วามแตกตา่ งท่เี กดิ ข้ึนจากสงิ่ ทคี่ าดหวัง กบั สง่ิ ทเี่ กิดขน้ึ จรงิ ตามนัยของการตั้งสมมติฐานการวิจยั แตบ่ ทเรยี นคอื การคิดหาคาตอบว่าอะไรทีท่ าให้เกิดความแตกต่าง อะไรเป็นปัจจยั ก่อใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมอยา่ งไร สงิ่ น้ีคือบทเรียน
158 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต คณุ ลกั ษณะของครู PLC ท่เี อ้ือต่อการถอดบทเรียน 1. ความสนใจใฝ่รู้ 1.1 กระตือรือร้นทจ่ี ะเรียนรู้ 1.2 ซักถามส่งิ ทตี่ นเองอยากรู้ 2. การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ 2.1 เลา่ ประสบการณ์ของตนเองกับเพอื่ น 2.2 แบง่ ปันความรู้ ความคดิ ของตนกับเพื่อน 3. การปรบั ปรุงและพัฒนา 3.1 มแี นวคดิ ทจี่ ะนาไปปรบั ปรงุ และพฒั นางาน 3.2 ถอดบทเรียนวิธีการนาความรู้ไปปฏิบัติจริง ตัวอย่างการถอดบทเรียนจริงของผู้สอนระดับประถมศึกษา ณ โรงเรียน แห่งหนึ่ง เม่ือวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 ที่มีต่อการพัฒนาศักยภาพด้านภาษาของ ผู้เรียน สืบเน่ืองจากผลการประเมินระดับชาติท่ีผู้เรียนมีผลการประเมินศักยภาพด้าน ภาษาต่า ผู้สอนจึงร่วมกันถอดบทเรียน ซ่ึงทาให้ได้แนวทางการพัฒนาศักยภาพด้าน ภาษา ท่ผี ู้สอนทุกคนรว่ มมอื รว่ มใจกันพฒั นาผเู้ รียนตามแนวทางต่อไปน้ี 1. เพม่ิ ประสบการณ์การอา่ นให้กบั ผ้เู รียน 2. ให้ผู้เรียนหา keyword จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน 3. ต้ังคาถามใหผ้ เู้ รยี นคิดวิเคราะห์ 4. คดั สรรเร่ืองที่อา่ นใหน้ า่ สนใจและหลากหลาย 5. ใหผ้ ู้เรยี นถอดบทเรยี นจากการอา่ นด้วยเทคนคิ ตะกร้า 3 ใบ ตะกรา้ ใบที่ 1 รสู้ กึ อยา่ งไร (ส่งเสรมิ นิสยั รักการอา่ น) ตะกรา้ ใบท่ี 2 ไดเ้ รยี นรู้อะไร (สง่ เสรมิ การสรปุ ความรู้จากการอา่ น) ตะกร้าใบที่ 3 จะนาไปใช้ประโยชน์อยา่ งไร (ส่งเสรมิ การพัฒนาตนเอง)
159ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนรู้สู่การสร้างสรรคอ์ นาคต จากการถอดบทเรียนดังกล่าว นาไปสู่การวางแผนพัฒนาศักยภาพ ดา้ นภาษาของผู้เรยี นในลักษณะของการบูรณาการไปกบั กิจกรรมการเรยี นรดู้ ังน้ี
160 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรูส้ ู่การสรา้ งสรรค์อนาคต ตัวอย่างการถอดบทเรียนจริงอีกตัวอย่างหน่ึง เก่ียวกับแนวทางการ พัฒนาศักยภาพด้านการคานวณ ของผู้สอนโรงเรียนเดียวกันเม่ือ วันที่ 7 กรกฎาคม 2560 1. ใหน้ กั เรยี นท่องสตู รคูณเป็นทกุ วนั 2. สแกนสตู รคูณ 3. พัฒนา / จดั ทา / แสวงหา สื่อการสอน 4. วเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ 5. ทอ่ งสูตรคณิตศาสตร์ 6. ใชก้ ระบวนการเรยี นรู้ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ผลจากการถอดบทเรียน นาไปสู่การวางแผนพัฒนาศักยภาพด้านการ คานวณ ดงั นี้
161ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรียนร้สู ู่การสรา้ งสรรค์อนาคต เม่อื ถอดบทเรียนแล้วผู้สอนควรบันทกึ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม PLC ไว้อย่าง เป็นระบบ โดยทั่วไปจะบันทึกลงใน Logbook คือ สมุดบันทึกการปฏิบัติงานเอกสาร สาหรับบันทึกการปฏิบัติงานใดๆ ที่ให้ผู้ปฏิบัติงานน้ันๆ จดบันทึกไว้เพ่ือเป็นหลักฐาน ร่องรอย และสารสนเทศสาหรบั การปรับปรุงและพัฒนางาน PLC Logbook : สมุดบันทึก PLC เป็นเอกสารสาหรับบันทึกการปฏิบัติ กจิ กรรม PLC ประกอบด้วย - วันท่ดี าเนนิ การ (ระบุวนั ทปี่ ฏิบตั ิ) - วตั ถปุ ระสงค์ (ระบวุ ตั ถุประสงค์ของการปฏิบัต)ิ - วิธดี าเนินการ (ระบวุ ิธกี ารปฏิบตั )ิ - ผลการดาเนนิ การ (สรุปผลการปฏบิ ัต)ิ - ถอดบทเรียน (ระบสุ ่ิงที่ได้เรียนรูห้ ลังการปฏบิ ัต)ิ
162 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต การบันทึกผลการดาเนินการของ PLC ยังสามารถช่วยทาให้สมาชิกกลุ่ม PLC ได้ถอดบทเรียนประสบการณ์ของตนเองออกมาเป็นองค์ความรู้ที่มาจากการ ปฏิบัติ เมื่อทาส่ิงที่ถอดบทเรียนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนสมาชิก PLC จะพัฒนา ไปเป็นปัญญาปฏบิ ัติ (practical wisdom) ตัวอยา่ งสมุดบันทึก PLC ชือ่ กลุ่ม PLC........................................................................................................... สมาชกิ PLC........................................................................................................... วนั ท่ี วตั ถปุ ระสงค์ วิธดี าเนนิ การ ผลการดาเนินการ การถอดบทเรยี น
163ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นร้สู ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต ตวั อย่างการบันทึก PLC Logbook : สมุดบันทึก PLC ชอื่ กลุ่ม PLC โรงเรียนสขุ ฤทยั วิทยา สมาชกิ PLC 1) ครูสมใจ 2) ครใู จดี 3) ครเู มตตา 4) ครชู ่นื จติ 5) ครูมิตรไมตรี วนั ท่ี วตั ถุประสงค์ วธิ ดี าเนินการ ผลการดาเนนิ การ การถอดบทเรยี น 7 – 8 เพอ่ื แสวงหา ฝึกอบรม PLC มีความร้คู วาม PLC คอื การ ส.ค. 60 ความรูแ้ ละพัฒนา ทีจ่ ัดโดยสานกั งาน เข้าใจเร่อื ง PLC รว่ มมือร่วมใจ ทกั ษะเรอื่ ง PLC เขตพน้ื ที่การศกึ ษา และแนวทาง พฒั นาคณุ ภาพครู การนาไปปฏิบตั ิ และผเู้ รียน จรงิ ที่โรงเรยี น ทด่ี าเนินการ ไปพร้อมกบั การปฏิบัตกิ าร จดั การเรียนรู้ โมเดลการ ขบั เคลอ่ื น Analyze, Practical wisdom, Plan Do Check Reflection (APP model) และการทา บทปฏบิ ัติการ 5I
164 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นรูส้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต การประเมินผล PLC การประเมินผล PLC มงุ่ การประเมินกระบวนการเรียนรขู้ อง PLC วา่ ได้ใช้ กระบวนการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด มีสิ่งใดท่ีจะต้องปรับปรุงและพัฒนา เพ่ิมเติม เพือ่ ให้กระบวนการเรยี นรู้ของ PLC ดยี งิ่ ขึ้น โดยท่ีการประเมิน PLC น้ันมุ่งเน้นการประเมินเพ่ือพัฒนา ไม่เน้นการ ประเมินเพ่ือตัดสินคุณค่า อาจจะไม่มีมาตรฐานและตัวบ่งช้ีการประเมิน เหมือนกับ การประเมินโดยท่ัวไป แต่อาจใช้การประเมินโดยสุนทรียสนทนาก็ได้ และ นาสารสนเทศจากการประเมินมาใช้ปรับปรุงและพัฒนาการดาเนินการของ PLC ใหด้ ียงิ่ ข้นึ
165ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต บรรณานุกรม ศศิธร เขียวกอ. (2548). การพัฒนาสมรรถภาพด้านการประเมินสาหรับครูโรงเรียน ประถมศึกษา: การเปรียบเทียบผลการฝึกอบรมระหวา่ งการฝึกอบรมครู แบบด้ังเดิมและแบบ ใช้โรงเรียนเป็นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์ ปริญญาดุษฎี บัณฑติ กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. สุวิมล ว่องวาณิช.(2546). “การพัฒนาครูโดยใช้การฝึกอบรมโดยใช้โรงเรยี นเปน็ ฐาน”. เอกสารประกอบการประชุมปฐมนิเทศโครงการสนับสนุนการฝึกอบรม ครูโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน: นโยบายและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาครู เพอ่ื การปฏริ ปู การเรียนร้.ู (เอกสารอดั สาเนา) อมลวรรณ วีระธรรมโม. (2555). รายงานการวิจัยการพัฒนารูปแบบการพัฒนาครู และผู้บริหารสถานศึกษาแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานในโรงเรียนขนาดเล็ก จังหวดั สงขลา. สงขลา: มหาวทิ ยาลัยทักษณิ . DeMonte, Jenny. (2013). High – Quality Professional Development for Teachers: Supporting Teacher Training to Improve Student Learning. Washington D.C. Center for American Progress. DuFour, R., Eaker, R., & Many, T. (2006). Learning by Doing: A Handbook for Enhancing Student Achievement. Bloomington, IN: Solution Tree. Evan, Linda. (2002). “What is teacher development”. Oxford Review of Education. Vol. 28, No.1, 2002. Fegger, S. & Arruda, E. (2008). “Professional learning communities: Key themes from the literature”. Providence, RI: The Education Alliance, Brown University. Garratt, B. (1991). “The power of Action Learning”. Action Learning in Practice. 2nd ed. London: Gower.
166 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต Gibson, James L. (2000). Organizations: Behavior, Structure, Processes. Boston, Mass: Irwin / McGraw – Hill. Hord, S. (1997). Professional Learning Communities: What are they and why are they important? Austin, TX: Southwest Educational Development Laboratory. Ingils, Scott. (1994). Making the Most of Action learning. London: Gower. Jasper, M. (2006). Professional Development, Reflection, and Decision – Making. Oxford: Blackwell Publishing. Kember, David. (2000). Action Learning and Action Research: Improving the Quality of Teaching & Learning. London, Stering: Kogan Page and Stylus Publishing. Knowles, M. (1984). The Adult Learner: A Neglected Species (3rd Ed.). Houston, TX: Gulf Publishing. Lashley, Conrad. (2001). Empowerment HR Strategies for service excellence. Oxford; Boston: Butterworth – Heinemann. Marzano Research Laboratory. (2012). Teacher Development Toolkit for the Marzano Teacher Evaluation Model. Bloomington: Marzano Research Laboratory. McClelland, D.C. (1961). The Achieving Society. New York: The Free Press. McGill, Ian and Brockbank, Anne. (2004). The Action Learning Handbook. London; New York: Routledge Falmer. Mizell, Hayes. (2010). Why professional development matters. Oxford: Learning Forward.
167ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นร้สู ูก่ ารสร้างสรรค์อนาคต National Professional Development Center. (2008). What do We Mean by Professional Development in the Early Childhood Field? Chapel Hill: The University of North Carolina. Pedler, M. (1991). Action learning in practice. 2nd ed. London: Gower. Protheroe, N. (2008). Developing Your School as a Professional Learning Community. NAESP Research Roundup. Reichstetter, R. (2006). Defining a Professional Learning Community: A Literature Review. E&R Research Alert. Stool, L., Bolam, R., McMahon, A., Thomas, S., Wallace, M., Greenwood, A. et al. (2005) . “Professional Learning Community: A review of the Literature.” Journal of Education Change. 7(4), 221 – 258.
168 ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้ส่กู ารสรา้ งสรรค์อนาคต การศึกษาในอนาคต มงุ่ ใหผ้ ้เู รียนมีศกั ยภาพ ในการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม
บทท่ี 6 การโคช้ เพ่ือเสริมสรา้ งการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทยี ม 6.1 แนวคิดหลกั การเรียนรู้ทางไกลผา่ นดาวเทยี ม การเรียนรู้ในโลกยุคใหม่เป็นการเรียนรู้ท่ีเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนได้มีโอกาส เข้าถึงองค์ความรู้ด้วยวธิ กี ารต่างๆ อย่างหลากหลาย ผเู้ รียนสามารถสืบเสาะแสวงหา ความรทู้ ตี่ นเองสนใจไดอ้ ยา่ งเสรี การเรียนรู้มีหลากหลายรูปแบบทั้งการเรียนรู้แบบผู้เรียนเรียนกับผู้สอน ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เรียนเรียนรู้จากส่ือออนไลน์ หรือผู้เรียนเรียนรู้ทางไกล ผา่ นดาวเทียม การเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมเป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนที่อยู่ ณ โรงเรียนปลายทาง เรียนรู้เนื้อหาสาระ และปฏิบัติกิจกรรมเหมือนกับผู้เรียน ทเี่ รยี นอยู่ทีโ่ รงเรียนต้นทาง โดยมีผู้สอนท่ีอยู่ต้นทางทาหน้าที่จัดการเรียนรู้ และมีผู้สอนท่ีอยู่โรงเรียน ปลายทางทาหน้าท่ีส่งเสริม สนับสนุน ช้ีแนะ ช่วยเหลือ และอานวยความสะดวก ให้ผู้เรียนปลายทางเกิดการเรยี นรู้ตามจดุ ประสงค์การเรียนรทู้ ่ีกาหนดไว้ในการเรียนรู้ ทางไกลผา่ นดาวเทยี มในแตล่ ะครั้ง
170 ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรูส้ ู่การสรา้ งสรรค์อนาคต ปั จ จั ย ส นั บ ส นุ น ค ว า ม ส า เร็ จ ข อ ง ก า ร เรี ย น รู้ ท า งไก ล ผ่ า น ด า ว เที ย ม นอกจากจะต้องอาศัยผู้สอนโรงเรียนต้นทาง ระบบการถ่ายทอดสัญ ญ าณ ที่มีประสิทธิภาพ และคู่มือครูแล้ว ผู้สอนโรงเรียนปลายทางนับเป็นหัวใจสาคัญ ในการพัฒนาผู้เรียนปลายทางให้เกิดการเรียนรู้เนื่องจากเป็นผู้ท่ีอยู่กับผู้เรียน อย่างใกลช้ ดิ ขณะท่ีมีการดาเนินการจดั การเรยี นการสอน ผู้สอนโรงเรียนปลายทางมีหน้าท่ีสาคัญคือ การเตรียมความพร้อม ผู้เรียน การเตรียมวัสดุอุปกรณ์และสถานท่ี การให้การดูแลช่วยเหลือผู้เรียนใน ระหว่างที่มีกิจกรรมการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม ตลอดจนการให้ความ ช่วยเหลือ แนะนา ช้ีแจงเพิ่มเตมิ ใหผ้ ้เู รยี นเกดิ การเรียนรู้ 6.2 ประโยชน์ของการโค้ชการเรยี นรู้ทางไกล การที่ผู้สอนโรงเรียนปลายทางเปลี่ยนบทบาทของตนเองจากการกากับให้ ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ตามท่ีผู้สอนโรงเรียนต้นทางกาหนดเพียงอย่างเดียว มาเป็นผู้โค้ช ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เต็มตามศักยภาพของตนเอง ซึ่งการเปล่ียน บทบาทดงั กล่าว จะทาให้เกิดประโยชน์ท้ังต่อผู้สอนและผู้เรียน ดังต่อไปนี้ ประโยชน์ที่เกดิ ขึ้นกบั ผู้สอน มดี งั น้ี 1. ผู้สอนมคี วามรู้ความเขา้ ใจในสาระสาคญั (main concept) ของ การจัดการเรียนรู้ และมีการวางแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับกิจกรรม การเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม ทาให้การเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมมีความ สอดคล้องกบั การเรียนรูต้ ้นทางอย่างมีประสิทธิภาพ
171ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรู้ส่กู ารสร้างสรรค์อนาคต 2. ผู้สอนสามารถโค้ชผู้เรียนเป็นรายบุคคล ในระหว่างที่มีการเรียนรู้ ทางไกลผา่ นดาวเทียม โดยการใชพ้ ลังคาถาม การให้ความชว่ ยเหลือ แนะนา จนผูเ้ รียน สามารถปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรียนรไู้ ดท้ นั และเกดิ การเรยี นรตู้ ามวตั ถปุ ระสงค์ 3. ผู้สอนสามารถจัดการช้ันเรียนในขณะที่ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรม การเรยี นรทู้ างไกลผา่ นดาวเทียม ให้ผู้เรียนตดิ ตามกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นขน้ั ตอน ไปพร้อมๆ กับการเรยี นรู้ตน้ ทาง 4. ผูส้ อนสามารถประเมินผลการเรยี นรขู้ องผู้เรยี นไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ โดยมุ่งประเมินความคิดรวบยอด ทักษะกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ของผู้เรียน ทาให้มีสารสนเทศท่ีชัดเจน และนาผลการประเมินพัฒนา ผูเ้ รียนเปน็ รายบุคคล 5. ผู้สอนสามารถสะท้อนผลเพ่ือปรับปรุงและพัฒนาความสามารถ ในการเป็นผู้สอนโรงเรียนปลายทาง จากการทากิจกรรมการถอดบทเรียน ซ่ึงทาให้ ผสู้ อนเกิดการพฒั นาอย่างตอ่ เนื่อง ประโยชน์ท่ีเกดิ ขึน้ กบั ผู้เรียน มดี งั นี้ 1. ผ้เู รียนมีจุดมุ่งหมายในการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมของตนเอง ในแต่ละครั้ง มีการเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ก่อนท่ีจะมีการเริ่มกิจกรรม การเรยี นรู้ 2. ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้อย่างสอดคล้องกับกิจกรรม การเรียนรู้ของโรงเรียนต้นทาง เปน็ การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเรยี นรูอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
172 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนรู้สกู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต 3. ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในสาระสาคัญ (main concept) ต่างๆ ด้วย ตนเองอย่างถูกต้อง หรือได้รับการโค้ชจากผู้สอนเป็นรายบุคคลจนเกิดการเรียนรู้ ท่ถี กู ต้อง 4. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาสมรรถนะด้านการคิดและคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ในระหว่างการปฏิบัติกจิ กรรมการเรียนรูท้ างไกลผา่ นดาวเทยี ม 6.3 แนวทางการโค้ชการเรยี นร้ทู างไกล 3 ช่วงระยะเวลา ผู้สอนคือปจั จัยชีข้ าดคณุ ภาพการศกึ ษา แม้ว่าครูจะมีการนาเทคโนโลยสี มัยใหมม่ าช่วยในการจัดการเรียนรู้ มรี ะบบ การเรียนรู้ทางไกล แต่ผู้สอนยังเป็นปัจจัยช้ีขาดว่าการศึกษา โดยเฉพาะผู้สอน ณ โรงเรยี นปลายทาง เนือ่ งจากผ้สู อนคือดา่ นหน้าแหง่ สนามรบการเรยี นรู้ ก า ร พั ฒ น า วิ ช า ชี พ ค รู เพ่ื อ ย ก ร ะ ดั บ คุ ณ ภ า พ ค รู สู่ ม า ต ร ฐ า น วิ ช า ชี พ เป็นการพัฒนาท่ีครูได้ฝึกฝนตนเองในบริบทของการปฏิบัติงานปกติ โดยการ บริหารงานภายในโรงเรียนจะต้องสร้างโอกาสให้ครูได้พัฒนาตนเองตามที่ถนัด ความสนใจดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ อยา่ งหลากหลาย การที่ผู้สอน ณ โรงเรียนปลายทางให้ความสาคัญและปฏิบัติตาม บทบาทการโค้ชดังต่อไปนี้ ถือว่าเป็นการพัฒนาวิชาชีพของตนเอง ให้มีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ที่เรียนด้วยระบบการศึกษา ทางไกลผ่านดาวเทียม อีกทั้งยังสามารถนาไปปรับใช้ในการจัดการเรียนรู้ตามปกติ ได้อีกดว้ ย
173ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรยี นรู้สกู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต สาหรับการโคช้ เพือ่ การเรยี นรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม นัน้ สามารถแบ่งช่วง ระยะเวลาได้ 3 ชว่ งระยะเวลา ไดแ้ ก่ ระยะท่ี 1 ระยะก่อนการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมเป็นแนวปฏิบัติ เพอื่ เตรียมความพร้อมก่อนถึงวนั ท่ีจะมีการเรยี นรทู้ างไกลผา่ นดาวเทยี มในแตล่ ะคร้ัง ระยะท่ี 2 ระยะระหว่างการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม หมายถึง แนวปฏิบัติต้ังแต่เร่ิมต้นเข้าสู่ชั้นเรียนก่อนท่ีจะมีการถ่ายทอดสัญญาณการเรียนรู้ ระหว่างการถ่ายทอดสัญญาณการเรียนรู้ จนกระทั่งเสร็จสิ้นกิจกรรมการเรียนรู้ ในชั้นเรียน ระยะท่ี 3 ระยะหลังการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม หมายถึง แนวปฏิบัติภายหลังเสร็จส้ินกิจกรรมการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม หรือหลังเลิก ชน้ั เรียนแลว้ บทบาทการโค้ชท้ัง 3 ระยะ ถือว่าเป็นการจัดการชั้นเรียน (classroom management) ให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยความกระตือรือร้นตามที่ ผูส้ อนโรงเรียนตน้ ทางดาเนินกจิ กรรมการเรียนรู้ หลักการพ้ืนฐานของการโค้ชท่ีดี คือ ภาวะผู้นา (leadership) การสื่อสาร (communication) และวิธีการโค้ช (coaching method) การสื่อสารจะใช้มากใน กระบวนการโค้ช ซึ่งปกติมนุษย์จะใช้เวลากับการฟังมากที่สุด คือ ร้อยละ 42 การพูด ร้อยละ 32 การอ่านร้อยละ 15 และการเขียนร้อยละ 11 การฟังเป็นส่ิงสาคัญสาหรับ การโคช้ เพราะวธิ กี ารโคช้ จะประสบความสาเร็จน้นั มาจากปัจจัยการฟัง
174 ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรียนรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต การฟังไม่ใช่แค่ฟังเสียงเท่านั้น ต้องใช้สมองและความคิดที่จะตีความ จนเกดิ ความเขา้ ใจ การฟงั มี 3 ระดับ ไดแ้ ก่ ระดบั ที่ 1 Internal listening ข้อมูลท่ีได้จากการฟังระดับน้ีจะถูก เช่ือมโยงเข้ากับประสบการณ์เดิมของผู้ฟัง และมุ่งเน้นไปท่ีความต้องการของผู้โค้ชเอง เปน็ สาคญั ระดบั ที่ 2 Focus listening แม้จะมีส่ิงรบกวนขณะฟังก็จะไม่เป็น อุปสรรคในการฟังและไม่ด่วนสรุปหรือตัดสินสิ่งท่ีได้ยิน โดยไม่เอาความคิดเห็นของ ตนเองเปน็ หลกั พยายามทาความเขา้ ใจวา่ ผพู้ ูดตอ้ งการสอื่ สารอะไร ระดบั ท่ี 3 Global listening เป็นการฟังรอบด้าน หรือ 360 องศา ทงั้ คาพูด อารมณ์ ความรู้สกึ การฟงั ระดับนต้ี ้องใชก้ ารฟังรว่ มกับตา ฟังด้วยใจ สังเกตสี หน้าท่าทาง และน้าเสียงเพ่ือให้ได้ยินสิ่งท่ีผู้พูดไม่ได้พูด โดยสามารถรับรู้ได้ จากพฤตกิ รรม ท่าทีที่แสดงออกให้เห็น ซ่ึงผู้ทาหน้าที่โค้ชจะต้องให้ความสาคัญในเรื่อง การฟัง ผู้สอนโรงเรียนปลายทาง จะต้องกระตุ้น ส่งเสริม สนับสนุน ให้ความ ช่วยเหลือ ชี้แนะ ให้ผู้เรียนท่ีมีความสามารถแตกต่างกันในช้ันเรียน เกิดการเรียนรู้ เต็มตามศักยภาพ ซึ่งหลักธรรมท่ีจะช่วยให้ผู้สอนโรงเรียนปลายทางสามารถ ทาหน้าท่ีบทบาทการโค้ชได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ หลักธรรม พรหมวิหาร 4 ประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ที่สามารถนามาประยุกต์ใช้สาหรับ การโคช้ ได้ดงั น้ี
175ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรยี นรู้ส่กู ารสรา้ งสรรค์อนาคต เมตตา หมายถงึ การใหค้ วามรกั ความหวังดี ความปรารถนา ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรแู้ ละมคี วามสุข กรณุ า หมายถึง การปฏบิ ตั ิหนา้ ที่การโคช้ ผเู้ รียน 3 ระยะ อยา่ งเต็มความสามารถ มุทติ า หมายถงึ การช่ืนชมยินดีเมอ่ื ผเู้ รียนได้ใช้ความม่งุ ม่ัน ความพยายาม ความอดทน และคุณลักษณะต่างๆ การประเมนิ ความสาเร็จในการเรยี นรู้ ตามศกั ยภาพของตนเอง อเุ บกขา หมายถึง การวางใจเปน็ กลาง ใหค้ วามยุติธรรมกับผเู้ รียน อย่างเสมอภาคกนั การปฏบิ ัติในหลกั ธรรมพรหมวิหาร 4 ขา้ งต้น เป็นปจั จยั ส่งเสริมใหก้ ารโค้ช เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง จากการทากจิ กรรมการเรยี นร้ทู างไกลผ่านดาวเทียม โดยท่ีแตล่ ะระยะมีสาระสาคัญดังน้ี การโคช้ ระยะท่ี 1 มุ่งเน้นการศึกษาแผนการจัดการเรียนรู้ในคู่มือการเรียนรู้ทางไกล ผ่านดาวเทียมโดยมุ่งเน้นไปที่สาระสาคัญต่างๆ (core concepts) กระบวนการและกิจกรรม เรียนรู้และการประเมินผลการเรียนรู้
176 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นร้สู กู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต การศึกษาความรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับสาระสาคัญของการเรียนรู้ ให้มีความเข้าใจอยา่ งถูกต้องและแม่นยา การเตรยี มวัสดุ อปุ กรณ์ สถานที่ ที่ใชใ้ นการ ปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ให้ครบถ้วนตามแผนการจัดการเรียนรู้ การเตรียมความ พร้อมผู้เรียน จะทาให้การปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนมีความราบร่ืน และมปี ระสทิ ธภิ าพ การแจ้งกาหนดเวลาการเรียน สิ่งท่ีผู้เรียนจะได้เรียนรู้ (core concepts) และกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนจะได้ลงมือปฏิบัติ และการสร้าง แรงจูงใจภายใน (inner motivation) ในการเรยี นรใู้ หก้ ับผู้เรียน มุ่งเนน้ การชใี้ ห้เห็น ประโยชนข์ องส่ิงท่ีเรียน และการแจ้งกจิ กรรมทที่ า้ ทายความสามารถของผู้เรยี การเตรียมความพร้อมของผู้สอนโรงเรียนปลายทางเป็นสิ่งที่ สาคัญและจาเป็นอย่างยิ่ง สาหรับการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมความพร้อมในด้านความคิดรวบยอดของการเรียนรู้ ในแต่ละครั้ง ตลอดจนการเตรียมกิจกรรมท่ีผู้เรียนจะต้องปฏิบัติเพื่อนาไปสู่ความคิด รวบยอดต่างๆ และวัสดุอปุ กรณท์ ี่ใช้ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังจะต้องเตรียมความพร้อมในด้านการแลกเปล่ียน เรียนรู้ของผู้เรียนอีกด้วย เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงเป็นไปตามทฤษฎีการเรียนรู้จากการปฏิบัติของ Marquardt (1999; อ้างอิงจาก วีระวฒั น์ ปนั นติ ามยั . 2545: 25) โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ (Learning: L) จากการ ลงมือปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีมีเนื้อหาสาระอย่างถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ (Performance knowledge: P) มีการตอบคาถามท่ีกระตุ้นการคิด (Questioning insight: Q) สอดคล้องกบั เน้ือหาสาระและกระบวนการเรียนรู้
177ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนร้สู ่กู ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต สาหรับการให้ข้อมูลเก่ียวกับการเรียนรู้แก่ผู้เรียนของผู้สอน โรงเรียนปลายทางน้ัน เป็นส่ิงสาคัญอีกประการหน่ึง ท่ีทาให้การเรียนรู้ของผู้เรียนเป็น การเรียนรู้ที่มีความหมาย (meaningful of learning) ซ่ึงจะทาให้การเรียนรู้ มีประสทิ ธภิ าพมากข้ึน ดังทฤษฎีการเรียนรู้อย่างมีความหมายของ David Paul Ausubel นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน เขามีความเชื่อว่า การเรียนรู้ใดๆ จะมีความหมาย ต่อผู้เรียน หากสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งที่เคยเรียนรู้มาก่อน เน้ือหาสาระใดๆ สามารถ จัดการเรียนรู้ให้กับเด็กได้ แต่ต้องใช้วิธีการให้เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียน แต่ละคน และผเู้ รียนแตล่ ะคนสามารถเรียนรไู้ ด้เมอ่ื มคี วามพรอ้ ม (Ausubel. 2000) สว่ นการสร้างแรงจงู ใจในการเรียนรู้นน้ั เปน็ กระบวนการทีผ่ ู้สอน ปลายทางจะต้องสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนก่อนที่จะเร่ิมกิจกรรม การเรยี นรทู้ างไกลผา่ นดาวเทียม แรงจูงใจมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน หากผู้เรียน มีแรงจูงใจจะทาให้ผู้เรียนใช้ความมุ่งม่ันพยายามในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ จนประสบความสาเร็จ ดังทฤษฎีแรงจูงใจของ David I. McClelland (McClelland. 1961) ได้อธิบายไว้ว่าสิ่งจูงใจท่ีทาให้บุคคลใช้ความพยายามในการทางานต่างๆ ให้ ประสบความสาเรจ็ อยา่ งดีท่ีสุดตามที่ไดก้ าหนดจดุ มุง่ หมายไว้นัน้ ประกอบดว้ ย 1) ความตอ้ งการความสาเร็จ 2) ความตอ้ งการความผูกพัน 3) ความตอ้ งการพลังอานาจ
178 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรูส้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต เมื่อผู้เรียนประสบความสาเร็จในสิ่งใดแล้วก็จะเป็นแรงกระตุ้น ใหพ้ ัฒนาตนเองใหก้ า้ วหน้ามากย่ิงขึ้น ดงั นั้นการสรา้ งแรงจงู ใจจึงเปน็ ภารกิจท่ีสาคัญ ของผสู้ อนโรงเรียนปลายทางประการหน่ึง การโคช้ ระยะที่ 2 สาหรับแนวการโค้ชในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการโค้ชระหว่างการเรียนรู้ ทางไกลผ่านดาวเทียม มจี ดุ เน้นทกี่ าร Feed – up การตรวจสอบความเข้าใจระหวา่ ง การเรียนรู้ของผู้เรียน การใช้พลังคาถาม ตลอดจนการ Feedback และ Feed – forward ผเู้ รียน บทบาทผสู้ อนในการโค้ชระยะท่ี 2 นี้ เป็นบทบาททสี่ าคญั อยา่ งมาก ของผู้สอนโรงเรียนปลายทางที่อยู่กับผู้เรียนในขณะท่ีมีการเรียนรู้ทางไกลผ่าน ดาวเทยี มซึ่งการโคช้ ดังกล่าวมงุ่ ใหผ้ ้เู รียนเกิดการรูค้ ดิ เปน็ สาคัญ การโค้ชเพ่ือการรู้คิด (cognitive coaching) เป็นนวัตกรรม การพัฒนาผู้เรียนแนวใหม่ท่ีเปล่ียนจากการสอน (teaching) และผู้เอ้ืออานวยความ สะดวกในการเรียนรู้ (facilitator) มาเปน็ ผ้โู ค้ช (coach) โดยให้ความสาคัญกับกระบวนการทางสติปัญญา (mental process) ให้ผู้เรยี นมี - ทักษะในการเรยี นรู้ (learning skill) - วิธีการเรียนรู้ (learning how to learn)
179ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนร้สู ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต - วธิ ีการประเมนิ และปรบั ปรุงตนเอง (self - improvement) - การเรยี นรู้สง่ิ ต่างๆ ไดด้ ว้ ยตนเอง (self - learning) - กระตุ้นให้ใช้กระบวนการคิดขั้นสูง ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ การคดิ ประเมินคา่ และการคดิ สรา้ งสรรค์ การที่ผู้สอนโรงเรียนปลายทางทาหน้าที่โค้ชด้วยการ Feed – up การตรวจสอบความเข้าใจระหว่างการเรียนรู้ของผู้เรียน การใช้พลังคาถาม และ การ Feedback และ Feed – forward ผู้เรียน ช่วยทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การโค้ชระยะท่ี 3 สาหรับแนวการโค้ชระยะท่ี 3 หลังการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม มีจุดเน้นที่การประเมินผลการเรียนรู้และสะท้อนผลการประเมินไปสู่การปรับปรุง และพฒั นาผเู้ รยี น ตลอดจนการถอดบทเรียนของผู้สอนโรงเรียนปลายทางเพื่อนาไปสู่ การพัฒนาอยา่ งต่อเน่อื ง การประเมนิ เป็นภารกิจท่ีสาคัญของผู้สอนโรงเรยี นปลายทางที่จะต้อง ทาการประเมินผลการเรียนรู้ ด้วยวิธีการและเครอื่ งมือท่มี ีคุณภาพ และยังต้องนาผล การประเมินมาพัฒนาผู้เรียนรายบุคคลให้บรรลุจุดประสงค์ของการเรียนรู้ทางไกล
180 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรูส้ ่กู ารสร้างสรรค์อนาคต ผ่านดาวเทียมในแต่ละครั้ง โดยใช้แนวทางการประเมินที่เสริมพลังตามสภาพจริง ทาใหไ้ ด้ข้อมลู สารสนเทศทีห่ ลากหลายสามารถนาไปใช้พัฒนาผูเ้ รียนได้อย่างแท้จริง การประเมินท่ีมีประสิทธิภาพจาเป็นต้องใช้วิธีการและเคร่ืองมืออย่าง หลากหลายและสอดคล้องกับส่ิงที่ต้องการประเมิน ส่วนการสะท้อนผลการประเมิน (feedback and feed - forward) เป็นกลไกทจี่ ะทาให้ผู้เรยี นนาสารสนเทศจากการ ประเมินไปพฒั นาตนเองตอ่ ไป การส ะท้ อ น ผ ล ก าร ป ระเมิ น ท่ี ท าให้ ผู้ เรี ย น เห็ น ว่ า ส่ิ งท่ี เข าจ ะต้ อ ง ปรับปรุงและพฒั นาคืออะไร ชว่ ยทาให้ผู้เรยี นสามารถพัฒนาตนเองไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ ง สาหรับการถอดบทเรียนของผู้สอนโรงเรียนปลายทางภายหลงั เสร็จสิ้น กิจกรรมการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมในแต่ละครั้งน้ัน เป็นสิ่งที่มีความสาคัญ ต่ อ ก า ร พั ฒ น า ป ร ะสิ ท ธิ ภ า พ ก า ร โค้ ช เพ่ื อ ก า ร เรี ย น รู้ ท า ง ไก ล ข อ ง ผู้ ส อ น โร ง เรี ย น ปลายทางเอง เนื่องจากการถอดบทเรียนจะทาให้เกิดองค์ความรู้ที่สามารถนามา ปรับปรงุ และพฒั นางานต่อไปได้อยา่ งต่อเนอ่ื ง 6.4 บทบาทผูส้ อนโรงเรยี นปลายทาง บทบาทสาคัญของผู้สอนโรงเรียนปลายทางจึงไม่ใช่การจัดการเรียน การสอนเหมือนกับผู้สอนโรงเรียนต้นทาง หากแต่เป็นการโค้ชให้ผู้เรียนปลายทาง ที่อยู่กับตนเองเกิดการเรียนรู้ ต้ังแต่ระยะก่อนการเรียนรู้ ระยะระหว่างการเรียนรู้ และระยะหลังการเรียนรู้
181ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรูส้ ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต โดยบทบาทการโค้ชของผู้สอนโรงเรียนปลายทาง จะให้ความสาคัญกับ ก า ร เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม ก่ อ น ท่ี จ ะ มี ก า ร เรี ย น รู้ ท า ง ไก ล ผ่ า น ด า ว เที ย ม อ ย่ า ง มี ประสิทธภิ าพ การสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เรยี น ส่วนในระยะที่มีการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม ผู้สอนโรงเรียน ปลายทางจะทาหน้าท่ีกระตุ้นการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน (feed - up) การตรวจสอบ ความเข้าใจของผู้เรียนตลอดระยะเวลาที่มีการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ (checking for understanding) การให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) และการให้ข้อมูลเพื่อ การเรียนรู้ต่อยอดด้วยตนเองของผู้เรียน (feed - forward) ซึ่งหากผู้สอนโรงเรียน ปลายทางมีแนวทางการโคช้ ที่ชัดเจน จะทาให้การเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมประสบ ความสาเรจ็ มากยิ่งขนึ้ บ ท บ า ท ข อ ง ผู้ ส อ น ท่ี ก า ห น ด ไ ว้ ใ น ห ลั ก สู ต ร แ ก น ก ล า ง ก า ร ศึ ก ษ า ขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (กระทรวงศกึ ษาธิการ. 2551) 1. วิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลแล้วนาข้อมูลมาใช้ในการวางแผน การจัดการเรียนรทู้ ที่ ้าทายความสามารถของผเู้ รียน 2. กาหนดเป้าหมายท่ีต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และ ทักษะกระบวนการที่เป็นความคิดรวบยอด หลักการ และความสัมพันธ์ รวมท้ัง คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 3. ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่าง ระหวา่ งบคุ คลและพัฒนาการทางสมองเพ่ือนาผู้เรยี นไปสเู่ ป้าหมาย
182 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ ู่การสรา้ งสรรค์อนาคต 4. จดั บรรยากาศท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการ เรียนรู้ 5. เตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นาภูมิปัญญาท้องถ่ิน เทคโนโลยีทีเ่ หมาะสมมาประยุกตใ์ ชใ้ นการจดั การเรียนการสอน 6. ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย เหมาะสม กับธรรมชาติของวชิ าและระดับพฒั นาการของผเู้ รยี น 7. วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทง้ั ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนของตนเอง ผ้สู อน ณ โรงเรียนปลายทาง มบี ทบาทสาคัญในการ พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน อยา่ งแท้จริง
183ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรยี นรูส้ กู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต 6.4.1 บทบาทผู้สอนโรงเรียนปลายทางระยะก่อนเรมิ่ การเรียนรทู้ างไกล ระยะก่อนการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นแนวปฏิบัติเพ่ือเตรียม ค ว า ม พ ร้ อ ม ก่ อ น ถึ ง วั น ที่ จ ะ มี ก า ร เรี ย น รู้ ท า ง ไก ล ผ่ า น ด า ว เที ย ม ใน แ ต่ ล ะ ค รั้ ง มแี นวทางการโค้ชดังน้ี 1. ศึกษาแผนการจัดการเรียนรู้ในคู่มือการเรียนรู้ทางไกล ผ่านดาวเทียมโดยมุ่งเน้นสาระสาคัญ กระบวนการและกิจกรรมเรียนรู้ และการ ประเมินผลการเรียนรู้ 2. ศึกษาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาระสาคัญของการเรียนรู้ ให้มีความเข้าใจอยา่ งถูกตอ้ งและแมน่ ยา 3. เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ สถานท่ี ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรม การเรียนรู้ ใหค้ รบถ้วนตามแผนการจดั การเรยี นรู้ 4. เตรียมความพร้อมผู้เรียน โดยการแจ้งกาหนดเวลาการเรียน สงิ่ ทีผ่ เู้ รยี นจะได้เรยี นรู้และกจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีผเู้ รียนจะไดล้ งมือปฏิบัติ 5. สร้างแรงจูงใจภายในของการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน มุ่งเน้น การช้ีให้เห็นประโยชน์ของส่ิงที่เรียน และแจ้งกิจกรรมท่ีท้าทายความสามารถ ของผู้เรยี น 6.4.2 บทบาทผู้สอนโรงเรยี นปลายทางระหว่างการเรียนรทู้ างไกล ระยะระหว่างการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม หมายถึง แนวปฏิบัติ ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าสู่ชั้นเรียนก่อนท่ีจะมีการถ่ายทอดสัญญาณการเรียนรู้ ระหว่างการ
184 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต ถ่ายทอดสัญญาณการเรียนรู้ จนกระทั่งเสร็จส้ินกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน มีแนวทางการโค้ช 4 องค์ประกอบดงั น้ี การ Feed – up ผเู้ รยี น 1. ทบทวนสาระสาคญั ท่ีเป็นพืน้ ฐานของการเรยี นรู้ 2. แจง้ จดุ ประสงค์ของการเรยี นรูแ้ ละภาระงานการเรียนรู้ 3. กระตนุ้ แรงจูงใจภายในของการเรียนรู้ให้เกิดขน้ึ กับผู้เรียน 4. สรา้ งเช่ือมัน่ และความภาคภูมใิ จในตนเองของผู้เรียน การตรวจสอบความเข้าใจระหว่างการเรยี นรู้ของผู้เรยี น 1. สังเกตพฤติกรรมของผูเ้ รยี นระหว่างปฏิบตั กิ ิจกรรม การเรยี นรู้ 2. ซกั ถามผูเ้ รยี นรายบุคคลเฉพาะท่สี งสัยว่าตามบทเรียน ไม่ทัน 3. ตรวจสอบผลงานของผู้เรียนขณะท่ผี ู้เรยี นปฏบิ ตั ิกจิ กรรม การเรยี นรู้ 4. ใหค้ วามช่วยเหลือผเู้ รยี นทตี่ ามบทเรยี นไมท่ ันโดยวิธีการ ที่เหมาะสม
185ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้สกู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต การใช้พลังคาถามกบั ผเู้ รียน 1. ต้งั คาถามกระต้นุ การคดิ ขน้ั สูงทีส่ อดคล้องกับบทเรยี น 2. ใช้ ค าถ าม อ ย่างห ล าก ห ล าย สอ ดค ล้อ งกับ ระดั บ ความสามารถของผู้เรยี น 3. กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดหาคาตอบ โดยใช้เทคนิควิธีการต่างๆ ท่ีถกู ต้อง 4. เห็นคุณค่าคาตอบของผู้เรียนและให้กาลังใจผู้เรียนที่ตอบ คาถาม การ Feedback และ Feed – forward ผูเ้ รยี น 1. สรปุ สาระสาคญั ของการเรยี นร้รู ่วมกับผู้เรยี น 2. สะท้อนจุดดีและจุดทีต่ ้องพัฒนาในการเรยี นรูใ้ ห้กับผเู้ รียน 3. เสนอแนะแนวทางการปรบั ปรุงและพัฒนาให้กับผ้เู รียน 4. ให้กาลังใจผู้เรียนในการเรียนรู้และพัฒ นาต่อยอด อยา่ งตอ่ เนื่อง
186 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นรูส้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต 6.4.3 บทบาทผูส้ อนโรงเรียนปลายทางหลงั การเรยี นรทู้ างไกล ระยะหลังการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม หมายถงึ แนวปฏิบัติภายหลังเสรจ็ สิ้น กจิ กรรมการเรยี นรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมหรือหลังเลิกชน้ั เรยี นแล้ว มีแนวทางการโคช้ ดังนี้ 1. ประเมินรวบยอด (summative assessment) การเรียนรู้ ของผู้เรียนรายบุคคล มุ่งเน้นการประเมินความรู้ใน สาระสาคญั กระบวนการเรียนรู้และคณุ ลกั ษณะ 2. สะท้อนผลการประเมินไปสู่การพัฒนาผู้เรียนรายบุคคล และกระตนุ้ ให้ผเู้ รียนไปเรยี นรตู้ อ่ ยอดดว้ ยตนเอง 3. ถอดบทเรียนปัจจัยที่ทาให้การเรียนรู้ทางไกลผ่าน ดาวเทียมประสบความสาเร็จ และบันทึกแนวปฏิบัติท่ีดีไว้ เป็นองค์ความรู้ที่สอดคล้องกับบริบทการเรียนรู้ทางไกล ผ่านดาวเทียมของตนเอง การดแู ลชว่ ยเหลอื ผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้เป็นรายบคุ คล การประเมินรวบยอด (summative assessment) ผู้เรียนภายหลัง เสร็จส้ินการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมแล้วผู้สอนโรงเรียนปลายทาง ควรมี กระบวนการดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้เป็นรายบุคคล ต่อยอดจากท่ีผู้สอน ต้นทางได้แนะนาไว้ ซึ่งกิจกรรมต่อยอดน้ีจะช่วยทาให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ เน้ือหาสาระได้มากย่ิงขึ้น โดยผู้สอนโรงเรียนปลายทางมีวิธีการให้การดูแลช่วยเหลือ ดงั น้ี
187ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรียนร้สู ูก่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต 1) ให้คาอธบิ ายเพิ่มเตมิ 2) สาธติ แล้วใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติตาม 3) สอนซ่อมเสรมิ แบบตัวตอ่ ตวั 4) ให้ทาแบบฝึกหัดเพ่ิมเติม 5) ให้ศึกษาใบความรู้ 6) ให้ทาใบงาน 7) ตรวจผลงาน 8) ใหข้ ้อเสนอแนะ 9) ใหค้ าปรึกษา 10) ตอบคาถาม 11) ตง้ั คาถามเพือ่ กระตนุ้ ให้คดิ 12) พดู ให้กาลงั ใจ 13) ชี้แนะแนวทาง 14) พูดกระตนุ้ ใหเ้ กิดความอยากเรยี นรู้ 15) รบั ฟงั ปญั หาการเรยี นรู้ของผูเ้ รยี น 16) อธบิ ายให้เห็นเหตุผล 17) ยกตวั อย่างทเี่ ป็นรปู ธรรม 18) พดู ชักจูงใหต้ ง้ั ใจเรยี น 19) ติดตามตวั ใหม้ าเข้าเรียน 20) ถามใช้คาถามนาเพอื่ ชแี้ นะคาตอบ 21) กระตนุ้ ให้ชว่ ยเหลอื ตนเอง 22) แนะนาแหลง่ ขอ้ มูลสาหรับการศึกษาคน้ คว้า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310