188 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรู้สกู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต 6.5 การพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ทางไกลสู่อนาคต การพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ทางไกล สาหรับผู้สอนโรงเรียนปลายทาง มีแนวทางดังต่อไปนี้ 1. ผู้สอนโรงเรียนปลายทางควรศึกษาแนวคิด หลักการ แนวการโค้ช เพ่ือเสริมสร้างการเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียมสาหรับผู้สอนโรงเรียนปลายทาง ให้มี ความเขา้ ใจอย่างชดั เจน เพื่อทีจ่ ะทาใหก้ ารดาเนินการโค้ชเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. ผู้สอนโรงเรียนปลายทาง ควรเลือกใช้เทคนิควิธีการโค้ชในแต่ละ ระยะให้สอดคล้องกับบริบทของการเรียนรู้ เช่น ธรรมชาติผู้เรียน เนื้อหาสาระ ของการเรยี น ทรัพยากรสนบั สนนุ เปน็ ต้น 3. ผู้บริหารในโรงเรียนที่ใช้การเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม ควรให้ การส่งเสริมและสนับสนุนผู้สอนให้ดาเนินการโค้ชในแต่ละระยะอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การสนับสนุนให้ผู้สอนได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับทักษะการโค้ช การส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้รายบุคคล เป็นตน้
189ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรยี นรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์คุรสุ ภาลาดพรา้ ว. พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2549). พุทธวิธีบริหาร. กรุงเทพฯ: โรงพิมพม์ หาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . มารุต พัฒผล. (2556). รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง รูปแบบการพัฒนาครู ด้านการจัดการเรียนรู้ท่ีเสริมสร้างการรู้คิดและความสุขในการเรียนรู้ ของผู้เรียนระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ. มลู นิธกิ ารศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม. (2558). คู่มอื ครพู ระราชทานการสอนทางไกล ผ่านดาวเทียมสาหรับโรงเรียนปลายทาง โครงการการศึกษาทางไกลผ่าน ดาวเทียม โรงเรียนวังไกลกังวล อาเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. สืบค้นจาก มูลนิธกิ ารศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทียม www.dlf.ac.th วีระวัฒน์ ปันนิตามัย. (2545). “การเรียนรู้จากการปฏิบัติ ย่ิงทาย่ิงรู้ ย่ิงอยู่ยิ่ง เชี่ยวชาญ”. การพัฒนาโดยการเรียนรู้จากการปฏิบัติ Action Learning. กรงุ เทพฯ: สถาบนั พฒั นาขา้ ราชการพลเรอื น. หน้า 16 – 40. สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2551). รายงานการสังเคราะห์สภาวการณ์ และปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาไทย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ห้างหุน้ สว่ นจากดั วี.ที.ซ.ี คอมมวิ นิเคชั่น. สานักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ สานักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2548). หลักสูตรการ พัฒนาครูให้มีคุณภาพตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพเ์ ดือนตลุ า. Ambrose, Susan A. and other. (2010). How Learning Works: 7 Research – based Principles for Smart Teaching. San Francisco: Josey – Bass.
190 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต Ausubel, D. P. (1963). The Psychology of Meaningful Verbal Learning. New York: Grune and Stratton. Ausubel, D.P. (2000), The Acquisition and Retention of Knowledge: A Cognitive View. Kluwer Academic Publishers Costa, Arthur L. and Garmston, Robert j. (2002). Cognitive Coaching A Foundation ForRenaissance Schools. 2nd ed. Massachusetts: Christopher – Gordon Publishers. DeGosky, Micheal T. (2005). Improving After Action Review (AAR) Practice. New York: Guidance Group, Inc. Knight, Jim. (2009). Coaching Approaches & Perspectives. California: Corwin Press. Knowles, M. (1984). Andragogy in Action: Applying Modern Principles of Adult Learning. San Francisco: Jossey-Bass. Marzano,Robert J. (2000). Transforming Classroom Grading. Alexandria, Va.: Association for Supervision and Curriculum Development. Marzano, Robert J. and Simms, Julia. (2012). Coaching Classroom Instruction: The Classroom Strategies Series. Bloomington: Marzano Research Laboratory. McClelland, D. C. (1961). The Achieving Society. New York: The Free Press. Marquardt, M.J. (1999). Action Learning in Action: Transforming Problems and People World – Class Organizational Learning. Palo Alto: Dares – Black Publishing. Piaget, J. (1936). Origins of Intelligence in The Child. London: Routledge & Kegan Paul.
191ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรูส้ ่กู ารสรา้ งสรรค์อนาคต Sobel, Andrew and Panas, Jerold. (2012). Power Questions: Build Relationships, Win New Business, and Influence Others. New York: John Wiley & Sons, Incorporated. Sweeney, Diane. (2011). Student – Centered Coaching: A Guide for K – 8 Coachers and Principles. California: Corwin Press.
192 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต การเรยี นรู้ทางไกลผ่านดาวเทยี ม เป็นการเรยี นร้ทู ่เี ปิดพนื้ ทใี่ หผ้ ้เู รียน ได้มีโอกาสเขา้ ถึงองค์ความรู้ ด้วยวิธีการตา่ งๆ อย่างหลากหลาย
บทที่ 7 การพัฒนาหลักสูตร ฝึกอบรมระยะส้ันแบบไม่ประสาทปริญญา Short Course Non – Degree Development 7.1 แนวคิดหลักการและประโยชน์ของหลักสูตรฝึกอบรมระยะส้ัน แบบไม่ประสาทปริญญา หลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นแบบไม่ประสาทปริญญา (non - degree short courses) หมายถึง รายวิชาท่ีพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ในปัจจบุ นั ให้มีความร้แู ละทกั ษะเฉพาะทางเฉพาะดา้ น โดยใช้ระยะเวลาไมน่ าน โดยท่ีหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นแบบไม่ประสาทปริญญาน้ีอาจจะออกแบบ มาจากรายวิชาที่อยู่ในหลักสูตรปกติ หรือเป็นรายวิชาท่ีพัฒนาข้ึนใหม่ก็ได้ สามารถ นาไปใช้เพิ่มทักษะการเรียนหรือการปฏิบัติตามศักยภาพของแต่ละบุคคลเพื่อ ตอบสนองความตอ้ งการและการเปลีย่ นแปลงของสงั คม โดยมีจดุ เน้นอยู่ที่การฝึกอบรมความรู้และทักษะใหม่ๆ และเป็นทักษะที่จาเป็น ในยุคปัจจุบัน หรือเป็นประเด็นความรู้และทักษะที่สังคมให้ความสนใจ เพ่ือให้ผู้เข้ารับ การฝึกอบรมมีความรู้และทักษะตามความต้องการ สามารถนาไปใช้ในการทางานได้ ทันที สามารถนาไปใช้เพ่ิมทักษะการเรียนหรือการปฏิบัติงานตามศักยภาพของแต่ละ บุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการความเปลีย่ นแปลงของสงั คม
194 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นร้สู ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต หลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นแบบไม่ประสาทปริญญา มีความแตกต่างจาก หลักสูตรฝึกอบรมโดยท่ัวไปตรงท่ีการออกแบบหลักสูตรประเภทนี้จะมีการเช่ือมโยง ความร้แู ละประสบการณจ์ ากการฝึกอบรมไปส่รู ายวิชาที่อยใู่ นหลกั สตู รปกติได้ดว้ ย ทั้งน้ีเพื่อเปิดโอกาสและช่องทางให้ผู้เรียนสามารถ เทียบโอนความรู้ และประสบการณ์ จากการเรียนในหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นแบบไม่ประสาท ปริญญา ไปสู่รายวิชาในหลักสูตรปกติได้ (หลักสูตรปกติ หมายถึง หลักสูตร ท่สี ถาบนั การศึกษาเปิดสอนและให้ปริญญาแก่ผสู้ าเรจ็ การศึกษา) 7.2 ลักษ ณ ะการจัดการเรียนรู้ของห ลักสูตรฝึกอบ รมระยะส้ัน แบบไมป่ ระสาทปรญิ ญา เนื่องด้วยหลักสูตรฝึกอบรมระยะส้ันแบบไม่ประสาทปริญญา เน้นท่ีการพัฒนา ทักษะให้กับผู้เรียนเพ่ือให้สามารถนาไปใช้ได้ทันที ดังน้ันลักษณะการเรียนรู้ของ หลักสตู รฝกึ อบรมระยะส้ันแบบไมป่ ระสาทปริญญาจึงมลี ักษณะดงั นี้ 1. ฝึกปฏิบัติทักษะและนาไปสู่การมีความรู้ อาศัยกระบวนการเรียนรู้ จากการปฏิบัติ (action learning) ที่นาสภาพการณ์ท่ีผู้เรียนประสบอยู่ในการทางาน มาเป็นจุดต้ังต้นของการฝึกปฏิบัติทักษะ เช่น ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่อื การส่อื สารกับผรู้ บั บรกิ าร เปน็ ต้น 2. แลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบการณ์จากการทางานระหว่างผู้เรียนกับ ผู้ส อน แ ละผู้ เรีย น กับ ผู้เรียน เพื่ อ น าไป สู่ก ารจัด การค วาม รู้ (knowledge management) ท่ีได้แปลงความรู้ฝังลึก (tacit knowledge) มาเป็นความรู้ชัดแจ้ง (explicit knowledge) และนามาถักทอ (weaving) หรือสังเคราะห์เป็นองค์ความรู้ ที่สามารถนาไปใชใ้ นการปฏิบัตงิ านทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ
195ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรยี นรู้สู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต 3. สาธิตการปฏิบัติและให้ปฏิบัติด้วยตนเอง ร่วมกับการให้คาชี้แนะ ท่ีเป็นประโยชน์สาหรับการเรียนรู้ของผู้เรียนรายบุคคล การฝึกหัดตามการสาธิต การแนะนาและการชี้แนะของผู้สอน ตลอดจนมีการวัดและประเมินเพ่ือพัฒนาผู้เรียน อย่างต่อเนอื่ งตลอดจนการเสรมิ แรงทเ่ี หมาะสม 4. ประเมินผลการเรียนรู้ท้ังด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ ตามแนวทางการประเมินตามสภาพจริง (authentic assessment) โดยการสังเกต พฤติกรรมผู้เรียน การตรวจสอบผลงาน การให้ผู้เรียนประเมินตนเอง และนาผลการ ประเมนิ มาใชเ้ ป็นขอ้ มลู สารสนเทศสาหรบั การพัฒนาผู้เรยี นอย่างต่อเนอ่ื ง 5. ให้ขอ้ มลู ย้อนกลับอย่างสร้างสรรค์ (creative feedback) ท่ีนาผล การประเมินจากหลักฐานร่องรอยรวมทั้งหลักฐานเชิงประจักษ์ต่างๆ ชี้ประเด็นที่เป็น จุดแขง็ จดุ ที่ตอ้ งพฒั นา และแนวทางการพัฒนาตนเองให้กับผู้เขา้ รบั การฝึกอบรม 7.3 ขัน้ ตอนการพฒั นาหลักสตู รฝกึ อบรมระยะส้ันแบบไมป่ ระสาทปรญิ ญา ทสี่ ามารถเทยี บโอนความรูแ้ ละประสบการณ์กับหลกั สูตรปกติ การพฒั นาหลกั สูตรฝึกอบรมระยะส้ันแบบไมป่ ระสาทปริญญา มขี ้นั ตอนดังน้ี 1. วเิ คราะห์ความคิดรวบยอดหลักจากคาอธิบายรายวชิ า 2. วเิ คราะหม์ าตรฐานผลการเรียนรู้จากหลกั สูตรสรู่ ายวชิ า (curriculum mapping) แลว้ นามากาหนดเป็นมาตรฐานผลการเรียนรู้ของรายวิชา
196 ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรียนรู้สูก่ ารสร้างสรรค์อนาคต 3. นาความคิดรวบยอดหลักของรายวิชามาวิเคราะห์เชื่อมโยงกับ มาตรฐานผลการเรียนรู้ที่เป็นความรับผิดชอบหลักของรายวิชา ที่สะท้อนให้เห็นผลการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนภายหลังเสร็จสิ้น การเรยี นรใู้ นแต่ละความคิดรวบยอดหลกั 4. นาความคิดรวบยอดหลักมาวเิ คราะห์เป็นความคิดรวบยอดรอง (Sub concepts) และกาหนดเวลาการเรียนรู้ใหเ้ หมาะสม 5. นาความคิดรวบยอดหลัก (Main Concepts) มาวเิ คราะห์ภาพรวมของ ก า ร จั ด ก า ร เรี ย น รู้ ที่ ใ ช้ ใ น แ ต่ ล ะ ค ว า ม คิ ด ร ว บ ย อ ด ห ลั ก อ ย่ า ง มี ประสทิ ธิภาพ 6. จดั ทารายละเอียดของหลักสูตรการฝกึ อบรมระยะส้ันแบบไมป่ ระสาท ปริญญา 7. จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรการฝึกอบรมระยะส้ัน แบบไมป่ ระสาทปรญิ ญาแตล่ ะหลักสตู ร 8. ขออนมุ ัตหิ ลกั สตู รจากหนว่ ยงานที่มอี านาจหน้าท่ีอนุมัตหิ ลักสูตร 7.4 ตัวอย่างการพัฒนาหลักสตู รฝกึ อบรมระยะสน้ั แบบไมป่ ระสาทปริญญา ที่สามารถเทยี บโอนความรแู้ ละประสบการณ์กบั หลักสตู รปกติ กรณีศึกษาการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมระยะสัน้ แบบไมป่ ระสาทปรญิ ญา รายวิชา ลส701 การพฒั นาหลักสตูรและการจดั การเรยี นรู้ 3(2–2–5) ซ่ึงเป็นรายวชิ า
197ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรยี นรู้สูก่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต ในหลักสูตรปรัชญาดษุ ฎีบณั ฑิต สาขาวิชาการวิจยั และพฒั นาหลกั สตู ร บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ ตามขน้ั ตอน 8 ขนั้ ตอน ดงั นี้ ข้นั ตอนที่ 1 วิเคราะหค์ วามคิดรวบยอดหลกั จากคาอธบิ าย รายวชิ าทร่ี ะบุไว้ในหลักสูตรปกติ คาช้ีแจง โปรดวเิ คราะห์ความคิดรวบยอดหลกั จากคาอธิบายรายวชิ า ลส 701 การพฒั นาหลกั สตรู และการจัดการเรยี นรู้ 3(2–2–5) CL 701 Curriculum Development and Learning Management วิเคราะห์แนวคิด หลักการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ สังเคราะห์ แนวคิด ทฤษฎี และผลการวิจัยมาสู่สารสนเทศสาหรับการออกแบบหลักสูตรและการ จัดการเรียนรู้ ปฏิบัติการวิจัยพัฒนา หลักสตูรและการจัดการเรียนรู้ การประเมินและ สะท้อนผลการเรยี นรอู้ ยา่ งสร้างสรรค์ ความคดิ รวบยอดหลักประกอบด้วย 1. แนวคดิ หลักการพัฒนาหลักสตู รและการจดั การเรยี นรู้ 2. การสังเคราะห์แนวคิด ทฤษฎีและผลการวิจัยมาสู่สารสนเทศสาหรับ การออกแบบหลกั สตู รและการจัดการเรยี นรู้ 3. ปฏิบัตกิ ารวิจัยพัฒนา หลักสตรู และการจดั การเรยี นรู้ การประเมนิ และ สะท้อนผลการเรยี นรู้
198 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรยี นร้สู ูก่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต ขนั้ ตอนท่ี 2 วิเคราะห์มาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสูตร สู่รายวิชา (curriculum mapping) แล้วนามา กาหนดเป็นมาตรฐานผลการเรยี นรูข้ องรายวชิ า คาชแ้ี จง โป รดวิเคราะห์มาตรฐานผลการเรียน รู้จากห ลักสูตรสู่รายวิช า (curriculum mapping) แล้วนามากาหนดเป็นมาตรฐานผลการเรียนรู้ ของรายวชิ า มาตรฐานผลการเรียนร้ขู องหลกั สูตร (ท้ังหลักสูตร) 1. ดา้ นคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม 1.1 สามารถแกป้ ญั หาทางคณุ ธรรมจรยิ ธรรมท่ซี ับซอ้ นในบริบททางวชิ าการ 1.2 สามารถตัดสินใจกระทาหรือไม่กระทาการใดๆ บนพ้ืนฐานหลักสิทธิ มนุษยชน 1.3 สามารถชป้ี ระเดน็ ปญั หาทางวิชาการและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขอย่าง สร้างสรรค์ 1.4 สามารถใช้ดุลยพินิจอย่างผู้รู้ ดว้ ยความยุตธิ รรม ด้วยหลักฐาน หลกั การที่มี เหตุผลและค่านิยมอันดีงามในการจัดการกับความขัดแย้งท่ีมีผลกระทบ ตอ่ ตนเองและผู้อ่นื 1.5 แสดงออกถึงภาวะผู้นาในการปฏิบัติตามหลักคุณธรรม จริยธรรมในการ ทางาน
199ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรู้สกู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต 2. ด้านความรู้ 2.1 สามารถอธบิ ายแนวคิด ทฤษฎที ่ีสาคัญสาหรับการพัฒนาหลักสตู รและการ จัดการเรยี นรู้ 2.2 แสดงความรู้ ความเข้าใจท่ีเป็นปัจจุบันและเกี่ยวข้องกับการวิจัย หลักสูตร และการจัดการเรยี นรู้ 2.3 สามารถคัดเลือกแนวคิด ทฤษฎีทสี่ าคัญสาหรับการวิจัยทางดา้ นหลักสูตรและ การจดั การเรยี นรู้ 2.4 แสดงความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงและกว้างขวางเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ส่งผล ตอ่ กระบวนการพฒั นาระบบการศึกษา 3. ดา้ นทักษะทางปญั ญา 3.1 สามารถใช้ความรู้ทางด้านการวิจัยวิเคราะห์ประเด็นและปัญหาทางด้าน การวจิ ัย หลกั สูตรและการจดั การเรียนรูอ้ ย่างสร้างสรรค์ 3.2 สามารถสังเคราะห์ผลการวิจัยและทฤษฎีเพ่ือพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ท่สี ร้างสรรค์ 3.3 สามารถบูรณาการแนวคิดต่างๆ ทั้งในและนอกสาขาวิชาไปสู่การพัฒนา หรอื แกไ้ ขปญั หาด้วยกระบวนการวจิ ัย 3.4 สามารถออกแบบและดาเนินโครงการวิจัยในประเด็นท่ีมีความซับซ้อน เพอ่ื แก้ปัญหา หรือพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านการวิจัย หลักสูตร และการ จัดการเรยี นรู้ 3.5 สามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านการวิจัย และหลักสูตรสู่การ สรา้ งสรรค์นวตั กรรม
200 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นร้สู ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต 4. ดา้ นทกั ษะความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ คลและความรับผิดชอบ 4.1 สามารถแสดงความคิดเห็นบนพนื้ ฐานหลักวิชาการด้วยความรบั ผิดชอบ 4.2 สามารถวางแผน วิเคราะห์ และแก้ปญั หาที่ซับซอ้ นดว้ ยตนเอง 4.3 สามารถวางแผนการพัฒนาตนเองและองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ 4.4 แสดงออกถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในแวดวงวิชาการและบุคคลท่ัวไป อยา่ งสร้างสรรค์ 4.5 แสดงออกถึงความโดดเด่นในการเป็นผู้นาทางวิชาการ 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ 5.1 สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณในการศึกษาค้นคว้า ทางการวจิ ัย หลักสูตรและการจดั การเรียนร้อู ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 5.2 สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม กบั กลุ่มเปา้ หมาย 5.3 สามารถสรุปปัญหาและเสนอแนะแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ โดยเจาะลึก ทางด้านการวิจัยและพฒั นาหลกั สตู ร 5.4 นาเสนอรายงานท้ังที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการผ่านสื่อ สิ่งตีพิมพ์ ทางวชิ าการทัง้ ในระดับชาติและ/หรอื นานาชาติ
มาตรฐานผลการเรียนรขู้ องรายวิชา ลส 701 การพัฒนาหลกั สต รายวชิ า ดา้ นท่ี 1 คณุ ธรรมและ จริยธรรม หมวดวิชาแกน 12345 ลส 701 การพฒั นาหลักสตู รและการจดั การเรียนรู้
201ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนร้สู ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต ตรู และการจดั การเรยี นรู้ ด้านที่ 5 ด้านที่ 4 การวเิ คราะห์ ดา้ นท่ี 2 ด้านที่ 3 ทักษะความสมั พันธ์ เชงิ ตวั เลข การ ความรู้ ทักษะทางปญั ญา ระหว่างบุคคลและ ส่อื สารและการ ความรับผดิ ชอบ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ 512341234512345 1 2 3 4 201ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้ส่กู ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต
202 ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรียนรู้สูก่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต มาตรฐานผลการเรียนรู้ รายวิชา ลส701 การพัฒนาหลักสตรู และการจัดการเรยี นรู้ 1. ดา้ นคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม 1.1 สามารถแก้ปัญหาทางคณุ ธรรมจริยธรรมท่ีซบั ซอ้ นในบรบิ ททางวชิ าการ 1.3 สามารถช้ปี ระเด็นปญั หาทางวิชาการและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขอย่าง สรา้ งสรรค์ 1.4 สามารถใช้ดุลยพินิจอย่างผู้รู้ ดว้ ยความยุติธรรม ด้วยหลักฐาน หลกั การที่มี เหตผุ ลและค่านิยม อนั ดีงามในการจัดการกับความขดั แยง้ ท่ีมผี ลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ่ืน 2. ดา้ นความรู้ 2.2 แสดงความรู้ ความเข้าใจท่ีเป็นปัจจุบันและเก่ียวข้องกับการวิจัย หลักสูตร และการจดั การเรียนรู้ 2.4 แสดงความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงและกว้างขวางเก่ียวกับสถานการณ์ที่ส่งผล ต่อกระบวนการพัฒนาระบบการศกึ ษา 3. ด้านทักษะทางปญั ญา 3.1 สามารถใช้ความรู้ทางด้านการวิจัยวิเคราะห์ประเด็นและปัญหาทางด้าน การวจิ ัย หลกั สูตรและการจัดการเรยี นรูอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ 3.3 สามารถบูรณาการแนวคิดต่างๆ ทั้งในและนอกสาขาวิชาไปสู่การพัฒนา หรอื แก้ไขปญั หาดว้ ยกระบวนการวจิ ยั 3.5 สามารถประยุก ต์ใช้องค์ความรู้ท างด้านการวิจัย และหลักสูตร สกู่ ารสรา้ งสรรคน์ วัตกรรม
203ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรียนรสู้ ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต 4. ด้านทกั ษะความสัมพันธ์ระหวา่ งบคุ คลและความรบั ผิดชอบ 4.1 สามารถแสดงความคดิ เหน็ บนพื้นฐานหลักวิชาการดว้ ยความรับผิดชอบ 4.3 สามารถวางแผนการพฒั นาตนเองและองคก์ รอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 4.4 แสดงออกถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในแวดวงวิชาการและบุคคลท่ัวไป อย่างสร้างสรรค์ 5. ดา้ นทกั ษะการวเิ คราะห์เชงิ ตัวเลข การสือ่ สารและการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ 5.1 สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับ กลุม่ เป้าหมาย 5.2 สามารถสรุปปัญหาและเสนอแนะแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ โดยเจาะลึก ทางด้านการวิจัยและพฒั นาหลกั สูตร 5.3 นาเสนอรายงานท้ังท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการผ่านส่ือ สิ่งตีพิมพ์ ทางวชิ าการท้งั ในระดับชาตแิ ละ/หรือนานาชาติ
204 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนรสู้ ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต ขัน้ ตอนท่ี 3 นาความคิดรวบยอดหลัก (main concepts) ของ รายวิชามาวิเคราะห์เช่ือมโยงกับมาตรฐานผลการ เรียนรู้ท่ีเป็นความรับผิดชอบหลักของรายวิชา ที่สะท้อนให้เห็นผลการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ภ า ย ห ลั ง เ ส ร็ จ ส้ิ น ก า ร เรี ย น รู้ ใ น แ ต่ ล ะ ค ว า ม คิ ด รวบยอดหลัก คาชี้แจง โป รดน าความคิดรวบ ยอดห ลัก (main concepts) ของรายวิช า มาวเิ คราะหเ์ ชื่อมโยงกับมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่เป็นความรับผิดชอบหลัก ของรายวิชา ที่สะท้อนให้เห็นผลการเรียนรู้ที่จะเกิดข้ึนกับผู้เรียนภายหลัง เสรจ็ ส้ินการเรยี นรใู้ นแต่ละความคิดรวบยอดหลกั ลาดบั ท่ี Concepts (mini courses) Learning Outcomes 1 แนวคดิ หลกั การพฒั นาหลักสตู ร 2.2 แสดงความรู้ ความเข้าใจทีเ่ ปน็ ปัจจบุ ัน และการจดั การเรยี นรู้ และเกีย่ วข้องกับการวจิ ยั หลกั สตู ร 2 การสังเคราะหแ์ นวคดิ ทฤษฎี และการจดั การเรยี นรู้ และผลการวิจัยมาสูส่ ารสนเทศ 5.2 สามารถส่อื สารอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ สาหรับการออกแบบหลักสูตร ดว้ ยเทคโนโลยีทเี่ หมาะสมกับ และการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ เปา้ หมาย 2.4 แสดงความเข้าใจอยา่ งลึกซึ้งและกวา้ งขวาง เกย่ี วกบั สถานการณท์ สี่ ง่ ผลตอ่ กระบวนการพฒั นาระบบการศึกษา 5.3 สามารถสรุปปญั หาและเสนอแนะแก้ไข ปัญหาในด้านต่างๆ โดยเจาะลกึ ทางด้าน การวิจยั และพัฒนาหลักสตู ร 5.2 สามารถสื่อสารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย
205ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้สกู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต ลาดบั ท่ี Concepts (mini courses) Learning Outcomes 3 ปฏิบัติการวจิ ยั พัฒนาหลกั สตรู และการจัดการเรยี นรู้ 1.1 สามารถแก้ปัญหาทางคุณธรรมจรยิ ธรรมท่ี ประเมนิ และสะทอ้ นผล ซบั ซ้อนในบรบิ ททางวชิ าการ การเรยี นรูอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ 1.3 สามารถชี้ประเด็นปญั หาทางวิชาการ และเสนอแนะแนวทางการแก้ไข อย่างสร้างสรรค์ 1.4 สามารถใชด้ ุลยพินิจอยา่ งผู้รู้ ด้วยความ ยตุ ิธรรม ด้วยหลกั ฐาน หลกั การทมี่ ี เหตผุ ลและคา่ นยิ มอนั ดงี ามในการจดั การ กับความขัดแย้งท่ีมผี ลกระทบต่อตนเอง และผู้อน่ื 3.1 สามารถใช้ความรทู้ างด้านการวิจยั วิเคราะหป์ ระเดน็ และปัญหาทางดา้ น การวจิ ยั หลกั สตู รและการจัดการเรียนรู้ อย่างสรา้ งสรรค์ 3.3 สามารถบูรณาการแนวคดิ ต่างๆ ท้ังใน และนอกสาขาวชิ าไปสู่การพฒั นา หรอื แกไ้ ขปญั หาดว้ ยกระบวนการวจิ ยั 3.5 สามารถประยกุ ต์ใชอ้ งค์ความร้ทู างดา้ น การวิจยั และหลักสูตรสู่การสร้างสรรค์ นวตั กรรม 4.1 สามารถแสดงความคิดเห็นบนพ้ืนฐาน หลกั วชิ าการด้วยความรบั ผิดชอบ 4.3 สามารถวางแผนการพัฒนาตนเอง และองคก์ รอย่างมีประสทิ ธิภาพ 4.4 แสดงออกถงึ การมีปฏสิ มั พนั ธ์กบั บุคคล ในแวดวงวชิ าการและบุคคลท่ัวไป อย่างสร้างสรรค์ 5.4 นาเสนอรายงานท้ังทเี่ ป็นทางการ และไมเ่ ปน็ ทางการ ผา่ นส่อื สงิ่ ตีพิมพ์ ทางวชิ าการท้งั ในระดับชาติและ/ หรือนานาชาติ
206 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต ขนั้ ตอนท่ี 4 นาความคิดรวบยอดหลัก (Main Concepts) ม า วิ เค ร า ะ ห์ เป็ น ค ว า ม คิ ด ร ว บ ย อ ด ร อ ง (Sub concepts) กาหนดเวลา การเรยี นรู้ คาช้ีแจง โปรดนาความคิดรวบยอดหลัก (Main Concepts) มาวิเคราะห์เป็นความคิด รวบยอดรอง (Sub concepts) และกาหนดเวลาการเรยี นรู้ให้เหมาะสม ลาดบั ความคิดรวบยอดหลกั ความคิดรวบยอดรอง ระยะเวลา (Main Concepts) (Sub concepts) นาไปจดั ทาเปน็ short courses นาไปจัดทาเป็น short courses 1 แนวคิด หลกั การพัฒนาหลักสตู ร 1.1 แนวคดิ หลกั การพฒั นาหลกั สูตร 1 สัปดาห์ และการจดั การเรยี นรู้ และการจดั การเรยี นรู้ 1.2 หลกั การพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ 1.3 การพัฒนาหลักสูตรแบบครบวงจร 1.4 นวัตกรรมหลกั สูตรและการจดั การเรียนรู้ 2 การสงั เคราะหแ์ นวคิด ทฤษฎี 2.1 การวิเคราะห์ผู้เรียน 1 สัปดาห์ และผลการวิจัยมาสู่สารสนเทศ 2.2 การวเิ คราะห์ทฤษฎีการเรียนรู้ สาหรบั การออกแบบหลกั สูตร 2.3 การวิเคราะห์บริบททางเทคโนโลยี และการจดั การเรียนรู้ 2.4 การวเิ คราะห์บรบิ ททางเศรษฐกิจและสงั คม 2.5 การวเิ คราะห์ปรัชญาเพอ่ื การพัฒนาหลกั สูตร 2.6 การวิเคราะหส์ าระสาคัญ 2.7 การสังเคราะห์ขอ้ มลู พ้นื ฐานสาหรบั การพฒั นาหลกั สูตรและการจัดการเรยี นรู้ 3 ปฏบิ ัติการวจิ ยั พัฒนาหลักสตรู 3.1 การออกแบบหลกั สตู รและการจดั การเรยี นรู้ 3 สปั ดาห์ และการจัดการเรียนรู้ 3.2 การนาหลักสูตรและการจัดการเรยี นรู้ 1 สัปดาห์ ประเมินและสะทอ้ นผล ไปทดลองใช้ 1 สัปดาห์ การเรยี นรู้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 3.3 การประเมนิ หลักสูตรและการจดั การเรียนรู้ 3.4 การสะทอ้ นผลการประเมนิ หลักสูตร 1 สัปดาห์ และการจัดการเรยี นรู้ รวม 8 สปั ดาห์
ขั้นตอนที่ 5 นาความคิดรวบยอดหลัก (Main Co ที่ใช้ในแตล่ ะความคิดรวบยอดหลักอย คาชแ้ี จง โปรดนาความคิดรวบยอดหลัก (Main Concepts) มาวิเคราะ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ความคิดรวบยอดหลัก ความคดิ รวบยอดรอง (Sub concepts) ลาดบั (Main Concepts) นาไปจดั ทาเปน็ short courses นาไปจดั ทาเปน็ 1.1 การพฒั นาหลักสตู รและการจดั mini courses การเรียนรู้สู่ Thailand 4.0 1 แนวคดิ หลกั การพัฒนา 1.2 หลักการพฒั นาหลักสูตรของไทเล 1.3 การพฒั นาหลกั สูตรแบบครบวงจร หลักสตู รและการจัด 1.4 นวตั กรรมหลักสูตรและการจดั การ การเรยี นรู้ เรยี นรู้
207ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรูส้ ู่การสร้างสรรค์อนาคต oncepts) มาวิเคราะห์ภาพรวมของการจัดการเรียนรู้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ ะห์ภาพรวมของการจัดการเรียนรู้ท่ีใช้ในแต่ละความคิดรวบยอดหลัก ภาพรวมของการจัดการเรยี นรู้ ระยะเวลา เน้น University everywhere / การสมั มนา s เชงิ ปฏิบตั ิการ / การเรียนรโู้ ดยใชว้ จิ ยั เป็นฐาน / การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ 1 สัปดาห์ 1. ผู้เรยี นเรยี นรเู้ น้อื หาสาระจาก website LCCL และทาบทปฏิบัติการท่ี 1 ท่กี าหนดให้ลว่ งหนา้ 207ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้ส่กู ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต ลอร์ กอ่ นถึงวันสมั มนาในชน้ั เรียน ร 2. ผู้เรยี นสัมมนาเชิงปฏบิ ตั กิ ารในชนั้ เรยี นโดยใช้ ร บทปฏบิ ตั ิการที่ 2 ทก่ี าหนดให้ 3. ผ้เู รยี นถอดบทเรียนและแลกเปล่ียนเรียนรรู้ ่วมกนั ในชั้นเรียน
208 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรยี นรู้สกู่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต ความคิดรวบยอดหลัก ความคิดรวบยอดรอง (Sub concepts) ลาดับ (Main Concepts) นาไปจดั ทาเป็น short courses นาไปจัดทาเปน็ mini courses 2 การสังเคราะหแ์ นวคดิ 2.1 การวเิ คราะหผ์ เู้ รยี น ทฤษฎีและผลการวจิ ัย 2.2 การวิเคราะหท์ ฤษฎีการเรยี นรู้ มาสสู่ ารสนเทศสาหรับ 2.3 การวเิ คราะห์บริบททางเทคโนโลย การออกแบบหลกั สูตร 2.4 การวิเคราะหบ์ รบิ ททางเศรษฐกิจ และการจัดการเรยี นรู้ และสังคม 2.5 การวเิ คราะห์ปรัชญาเพ่อื การพฒั น หลกั สตู ร 2.6 การวิเคราะหส์ าระสาคญั 2.7 การสังเคราะหข์ อ้ มลู พนื้ ฐานสาหร การพฒั นาหลกั สูตรและการจดั การเรยี นรู้
ภาพรวมของการจดั การเรียนรู้ 208 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรยี นร้สู ู่การสร้างสรรค์อนาคต ระยะเวลา เน้น University everywhere / การสัมมนา s เชิงปฏิบัตกิ าร / การเรียนรู้โดยใชว้ ิจัยเปน็ ฐาน / การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 4. ผเู้ รยี นเรียนรเู้ พ่ิมเตมิ ในประเดน็ ทส่ี นใจดว้ ยตนเอง 5. ผู้เรียนแลกเปลีย่ นเรียนรกู้ ับผูส้ อนผ่านช่องทาง online 1 สปั ดาห์ 1. ผ้เู รียนเรียนร้เู นอื้ หาสาระจาก website LCCL และทาบทปฏบิ ตั ิการที่ 3 ทก่ี าหนดให้ลว่ งหนา้ ยี กอ่ นถึงเวลาสัมมนาในชนั้ เรยี น 2. ผเู้ รียนสมั มนาเชิงปฏบิ ัติการในชนั้ เรยี นโดยใช้ บทปฏิบตั ิการที่ 4 ที่กาหนดให้ นา 3. ผู้เรยี นถอดบทเรยี นและแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ในชั้นเรยี น 4. ผเู้ รียนเรียนรู้เพ่มิ เติมในประเดน็ ท่สี นใจดว้ ยตนเอง รับ 5. ผเู้ รียนแลกเปล่ียนเรียนรูก้ บั ผู้สอนผ่านช่องทาง online
ความคดิ รวบยอดหลกั ความคิดรวบยอดรอง (Sub concepts) ลาดบั (Main Concepts) นาไปจดั ทาเป็น short courses นาไปจัดทาเปน็ 3.1 การออกแบบหลกั สูตร mini courses และการจดั การเรียนรู้ 3 ปฏบิ ตั ิการวจิ ัยพฒั นา หลักสตูรและการจดั การ เรยี นรู้ ประเมิน และสะทอ้ นผลการเรยี นรู้ อย่างสรา้ งสรรค์ Developing the curriculum and learning management 3.2 การนาหลักสตู รและการจดั การเร ไปทดลองใช้
209ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต ภาพรวมของการจัดการเรยี นรู้ ระยะเวลา เนน้ University everywhere / การสัมมนา s เชงิ ปฏบิ ัตกิ าร / การเรียนรโู้ ดยใช้วิจยั เป็นฐาน / การแลกเปลีย่ นเรียนรู้ 3 สปั ดาห์ 1. ผ้เู รียนเรยี นรู้เนอื้ หาสาระจาก website LCCL และทาบทปฏบิ ตั ิการที่ 5 ทก่ี าหนดใหล้ ว่ งหน้า ก่อนถึงวันสมั มนาในชั้นเรยี น 2. ผ้เู รียนสมั มนาเชิงปฏิบตั ิการในชัน้ เรียนโดยใช้ บทปฏบิ ตั ิการท่ี 8 ทกี่ าหนดให้ 3. ผเู้ รียนถอดบทเรยี นและแลกเปลย่ี นเรียนรรู้ ว่ มกัน ในชั้นเรยี น 4. ผู้เรยี นเรียนรูเ้ พ่มิ เตมิ ในประเดน็ ท่สี นใจดว้ ยตนเอง 5. ผู้เรียนแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ับผสู้ อนผ่านช่องทาง 209ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้ส่กู ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต online รียนรู้ 1 สัปดาห์ 1. ผู้เรียนเรียนรเู้ นอื้ หาสาระจาก website LCCL และ ทาบทปฏิบัติการที่ 7 ที่กาหนดใหล้ ่วงหนา้ ก่อนถงึ วันทีจ่ ะนาหลกั สตู รและการจดั การเรียนรู้ ไปทดลองใช้
210 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรูส้ ่กู ารสร้างสรรคอ์ นาคต ความคดิ รวบยอดหลกั ความคิดรวบยอดรอง (Sub concepts) ลาดบั (Main Concepts) นาไปจัดทาเป็น short courses นาไปจดั ทาเป็น mini courses 3.3 การประเมินหลักสูตร และการจดั การเรียนรู้
ภาพรวมของการจัดการเรียนรู้ 210 ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นร้สู ู่การสร้างสรรค์อนาคต ระยะเวลา เนน้ University everywhere / การสัมมนา s เชงิ ปฏบิ ัตกิ าร / การเรียนรโู้ ดยใช้วิจัยเป็นฐาน / การแลกเปล่ียนเรียนรู้ 2. ผู้เรียนและผู้สอนรว่ มกนั นาหลกั สูตร และการจัดการเรยี นรไู้ ปทดลองใช้ ตามบทปฏิบตั กิ ารที่ 8 3. ผเู้ รียนถอดบทเรยี นและแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ว่ มกนั ในชนั้ เรยี น 4. ผ้เู รียนเรยี นรู้เพ่มิ เติมในประเดน็ ทสี่ นใจดว้ ยตนเอง 5. ผเู้ รยี นแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กบั ผสู้ อนผ่านชอ่ งทาง online 1 สปั ดาห์ 1. ผเู้ รยี นเรยี นรเู้ นือ้ หาสาระจาก website LCCL และทาบทปฏิบตั กิ ารที่ 9 ทีก่ าหนดให้ล่วงหน้า ก่อนถึงวันสัมมนาในช้ันเรียน 2. ผเู้ รยี นสมั มนาเชิงปฏบิ ัติการในชน้ั เรยี นโดยใช้ บทปฏบิ ัติการท่ี 10 ท่ีกาหนดให้ 3. ผเู้ รียนถอดบทเรียนและแลกเปลีย่ นเรยี นรรู้ ว่ มกัน
ความคดิ รวบยอดหลกั ความคิดรวบยอดรอง (Sub concepts) ลาดับ (Main Concepts) นาไปจดั ทาเป็น short courses นาไปจดั ทาเปน็ mini courses 3.4 การสะท้อนผลการประเมนิ หลักส และการจดั การเรยี นรู้
211ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนรู้สกู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต ภาพรวมของการจดั การเรยี นรู้ ระยะเวลา เนน้ University everywhere / การสมั มนา s เชงิ ปฏิบตั ิการ / การเรียนร้โู ดยใช้วิจัยเป็นฐาน / การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ 4. ผู้เรียนเรียนรเู้ พมิ่ เตมิ ในประเดน็ ท่สี นใจดว้ ยตนเอง 5. ผู้เรียนแลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ ับผ้สู อนผา่ นชอ่ งทาง online สตู ร 1 สัปดาห์ 1. ผเู้ รียนเรียนรเู้ นือ้ หาสาระจาก website LCCL และทาบทปฏิบัตกิ ารท่ี 11 ท่กี าหนดให้ลว่ งหน้า กอ่ นถึงวันสมั มนาในชัน้ เรยี น 2. ผู้เรยี นสัมมนาเชิงปฏบิ ตั ิการในช้ันเรียนโดยใช้ บทปฏบิ ัติการที่ 12 ที่กาหนดให้ 211ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้ส่กู ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต 3. ผเู้ รยี นถอดบทเรียนและแลกเปลย่ี นเรียนรรู้ ่วมกัน 4. ผเู้ รียนเรยี นรูเ้ พม่ิ เติมในประเดน็ ที่สนใจด้วยตนเอง 5. ผู้เรยี นแลกเปลี่ยนเรียนรกู้ ับผูส้ อนผา่ นช่องทาง online
212 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้สู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต ขนั้ ตอนท่ี 6 จัดทารายละเอียดของหลักสูตรการฝึกอบรม ระยะสัน้ แบบไม่ประสาทปรญิ ญา จากการดาเนินการวิเคราะห์ความคิดรวบยอดหลัก ความคิดรวบยอดรอง ระยะเวลา และภาพรวมของการจัดการเรียนรู้ดังท่ีกล่าวมาในข้ันตอนท่ี 5 ทาให้ สามารถจัดทารายละเอียดของหลักสูตรการฝึกอบรมระยะส้ันแบบไม่ประสาทปริญญา ได้จานวน 3 หลักสตู ร ดังน้ี หลักสูตรที่ 1 “การพัฒนาหลกั สตู รและการเรยี นรสู้ ่สู งั คมอนาคต” หลักสตู รท่ี 2 “การออกแบบการจดั การเรยี นรู้เพอื่ พฒั นาผูเ้ รยี น สสู่ ังคมอนาคต” หลักสตู รที่ 3 “การประเมินผลทเ่ี สริมพลงั การเรียนรู้” โดยหลักสูตรท้ัง 3 หลักสูตรน้ี เป็นหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นที่ตอบสนอง รายวิชา ลส701 การพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ ซ่ึงเปิดสอนอยู่ในหลักสูตร ป รั ช ญ า ดุ ษ ฎี บั ณ ฑิ ต ส า ข า วิ ช า ก า ร วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า ห ลั ก สู ต ร บั ณ ฑิ ต วิ ท ย า ลั ย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งจะต้องมีการจัดทารายละเอียดของหลักสูตร ฝึกอบรมระยะส้ันแบบไม่ประสาทปริญญา และได้รับอนุมัติ เพ่ือให้ผู้ที่มาเรียนใน หลักสตู รฝกึ อบรมระยะสัน้ น้ี สามารถเกบ็ ผลการเรียนไว้เทยี บโอนเขา้ มาเป็นนิสิตระดับ ปริญญาเอกสาขาวิชาการวิจยั และพฒั นาหลักสตู รได้ในอนาคต รายละเอียดของหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น แบ บไม่ประส าทป ริญ ญ า ท้งั 3 หลกั สตู ร มีดังตอ่ ไปนี้
213ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต รายละเอยี ดของหลักสตู รการฝึกอบรมระยะสนั้ แบบไม่ประสาทปรญิ ญา บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวโิ รฒ ภาคเรยี นที่ ..... ประจาปีการศึกษา .................... หมวดที่ 1 ข้อมูลท่วั ไป 1. ช่อื หลักสตู รฝกึ อบรมระยะส้ันแบบไมป่ ระสาทปริญญา การพัฒนาหลักสตู รและการเรยี นร้สู ูส่ ังคมอนาคต 2. จานวนชวั่ โมงตลอดระยะเวลาการฝกึ อบรมฯ บรรยาย 10 ช่วั โมง – ปฏบิ ตั ิ 10 ชัว่ โมง 3. จานวนหนว่ ยกติ ในการเทียบเคยี ง 1 หน่วยกิต 4. รายวิชาทเ่ี ทียบเคยี งในหลกั สูตรระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา ลส701 การพฒั นาหลกั สตู รและการจดั การเรียนรู้ CL701 Curriculum Development and Learning Management 5. อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบและอาจารย์ผสู้ อนในหลกั สตู รฝึกอบรมฯ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มารุต พัฒผล 6. สถานทเี่ รียน หอ้ ง 301 อาคารบัณฑิตวทิ ยาลัย
214 ขอบฟา้ ใหม่แห่งการเรยี นรูส้ ่กู ารสร้างสรรค์อนาคต หมวดท่ี 2 จดุ มุ่งหมายและวัตถปุ ระสงค์ 1. จุดมุง่ หมายของหลักสูตรฝกึ อบรมฯ ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจแนวคิดหลักการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการ เรียนรู้ หลักการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ การพัฒนาหลักสูตรแบบครบวงจร และนวตั กรรมหลักสูตรและการจดั การเรียนรู้และสามารถแสดงความรู้ ความเข้าใจที่เป็น ปัจจุบันและเกี่ยวข้องกับการวิจัย หลักสูตร และการจัดการเรียนรู้ ตลอดจนส่ือสารอย่างมี ประสทิ ธภิ าพด้วยเทคโนโลยที เ่ี หมาะสมกบั กลุ่มเปา้ หมาย 2. วตั ถุประสงคใ์ นการพัฒนา/ปรับปรุงหลักสตู รฝกึ อบรมฯ เพื่อให้รายวิชามีความทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ตลอดจนตอบสนองความต้องการของผูเ้ ข้ารับการฝึกอบรม สามารถพัฒนาผเู้ ข้ารับการ ฝกึ อบรมให้นาความรู้และประสบการณ์ไปปฏิบัติงานได้ หมวดท่ี 3 ลักษณะและการดาเนนิ การ 1. คาอธิบายหลักสูตรฝึกอบรมฯ ศึ ก ษ า วิ เค ร าะ ห์ แ น ว คิ ด ห ลั ก ก า รพั ฒ น าห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ก า รจั ด ก า ร เรี ย น รู้ หลักการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ การพัฒนาหลักสูตรแบบครบวงจร และ นวัตกรรมหลักสูตรและการจดั การเรียนรูแ้ ละสามารถแสดงความรู้ ความเข้าใจที่เป็น ปัจจุบันและเกี่ยวข้องกับการวิจัย หลักสูตร และการจัดการเรียนรู้ ตลอดจนส่ือสาร อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพดว้ ยเทคโนโลยที ่เี หมาะสมกบั กลมุ่ เป้าหมาย
215ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต 2. ความรับผิดชอบหลัก/ความรับผิดชอบรอง ด้านคุณธรรม ด้านความรู้ ด้านทกั ษะทาง ทักษะความสมั พันธ์ ดา้ นทักษะการ จรยิ ธรรม ปัญญา ระหว่างบุคคลและ วเิ คราะห์เชงิ ความรบั ผิดชอบ ตวั เลข การ สื่อสารฯ 12345123412345123 4 51234 หมวดที่ 4 การพฒั นาผลการเรียนรขู้ องผู้เขา้ อบรม 1. คณุ ธรรม จริยธรรม 1.1 คุณธรรม จรยิ ธรรมที่ตอ้ งพฒั นา 1) สามารถแก้ปัญหาทางคณุ ธรรมจริยธรรมทซ่ี บั ซอ้ นในบรบิ ททางวิชาการ 2) สามารถชี้ประเด็นปัญหาทางวิชาการและเสนอแนะแนวทางการแก้ไข อยา่ งสรา้ งสรรค์ 3) สามารถใชด้ ุลยพินิจอย่างผู้รู้ ด้วยความยุติธรรม ดว้ ยหลกั ฐาน หลกั การท่ีมี เหตุผลและคา่ นิยมอันดงี ามในการจัดการกับความขัดแย้งทีม่ ีผลกระทบต่อ ตนเองและผู้อ่นื 1.2 วธิ ีการสอน การใช้เรื่องเล่า การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การถอดบทเรียน 1.3 วธิ ีการประเมินผล การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้ การรายงานตนเอง การประเมนิ ตนเอง
216 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสร้างสรรค์อนาคต 2. ความรู้ 2.1 ความรทู้ ตี่ อ้ งไดร้ ับ 1) แสดงความรู้ ความเข้าใจท่ีเป็นปัจจุบันและเกี่ยวข้องกับการวิจัย หลักสตู ร และ การจดั การเรยี นรู้ 2) แสดงความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงและกว้างขวางเก่ียวกับสถานการณ์ที่ส่งผลต่อ กระบวนการพฒั นาระบบการศกึ ษา 2.2 วธิ กี ารสอน การใชเ้ ร่อื งเลา่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การถอดบทเรียน 2.3 วธิ ีการประเมินผล การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้ การรายงานตนเอง การประเมนิ ตนเอง 3. ทกั ษะทางปัญญา 3.1 ทกั ษะทางปัญญาทต่ี ้องพฒั นา 1) สามารถใช้ความรู้ทางด้านการวิจัยวิเคราะห์ประเด็นและปัญหาทางด้าน การวจิ ยั หลกั สูตรและการจดั การเรยี นร้อู ยา่ งสรา้ งสรรค์ 2) สามารถบูรณาการแนวคิดต่างๆ ทั้งในและนอกสาขาวิชาไปสู่การพัฒนา หรือแกไ้ ขปญั หาดว้ ยกระบวนการวิจัย 3) สามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านการวิจัยและหลักสูตรสู่การ สร้างสรรค์นวตั กรรม 3.2 วิธกี ารสอน การจดั การเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ารวิจยั เปน็ ฐาน การสืบเสาะหาความรู้ การใช้ปัญหา เปน็ ฐาน การฝกึ ปฏบิ ตั ิ
217ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนรู้สู่การสรา้ งสรรค์อนาคต 3.3 วธิ กี ารประเมินผล การสงั เกตพฤติกรรม การตรวจผลงาน แฟ้มสะสมผลงาน การประเมนิ ตนเอง 4. ทกั ษะความสัมพันธ์ระหวา่ งบคุ คลและความรับผิดชอบ 4.1 ทักษะความสมั พนั ธ์ระหว่างบุคคลและความรับผดิ ชอบท่ตี ้องพัฒนา 1) สามารถแสดงความคิดเหน็ บนพืน้ ฐานหลักวชิ าการด้วยความรับผดิ ชอบ 2) สามารถวางแผนการพฒั นาตนเองและองค์กรอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 3) แสดงออกถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในแวดวงวิชาการและบุคคลท่ัวไป อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4.2 วธิ กี ารสอน การจัดการเรยี นรโู้ ดยเนน้ ทีม การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ และการถอดบทเรยี น 4.3 วิธีการประเมินผล การสังเกตพฤติกรรม การรายงานตนเอง การให้นิสติ ประเมินตนเอง 5. ทกั ษะการวิเคราะหเ์ ชิงตัวเลข การสอื่ สาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 5.1 ทกั ษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การสอ่ื สาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ ตอ้ งการพัฒนา 1) สามารถส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับ กลมุ่ เป้าหมาย 2) สามารถสรุปปัญหาและเสนอแนะแก้ไขปัญหาในด้านต่าง ๆ โดยเจาะลึก ทางดา้ นการวิจยั และพัฒนาหลกั สตู ร 3) นาเสนอรายงานทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการผ่านสื่อ สิ่งตีพิมพ์ ทางวชิ าการท้งั ในระดับชาติและ/หรือนานาชาติ
218 ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนรสู้ ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต 5.2 วิธีการสอน การเรยี นรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีเป็นฐาน การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ และการถอด บทเรียน 5.3 วิธีการประเมินผล การสังเกตพฤติกรรม การรายงานตนเอง การใหน้ สิ ติ ประเมินตนเอง และการ ประเมินซึง่ กนั และกนั หมวดที่ 5 แผนการสอนและการประเมนิ ผล 1. แผนการสอน จานวนชั่วโมง วิธกี ารจัดการเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ หวั ขอ้ สาระสาคญั 1. การสัมมนาเชิงปฏิบัตกิ าร 55 2. การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ 1 1.1 แนวคดิ หลกั การพัฒนาหลกั สตู ร 3. การถอดบทเรยี น และการจดั การเรยี นรู้ 55 1. การสัมมนาเชิงปฏบิ ัติการ 1.2 หลกั การพัฒนาหลกั สูตรของไทเลอร์ 2. การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 1.3 หลกั การพัฒนาหลกั สตู รของทาบา 3. การถอดบทเรยี น 2 2.1 การพฒั นาหลักสูตรแบบครบวงจร 2.2 นวตั กรรมหลักสูตรและการจดั การ เรยี นรู้
219ขอบฟา้ ใหม่แหง่ การเรียนรสู้ ูก่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต แผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ วธิ ีการประเมนิ ผลนสิ ติ ชว่ั โมง สดั สว่ นของ ทป่ี ระเมนิ ผล การประเมินผล คณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1. การสงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน 1 – 10 20% ระหว่างการสมั มนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร 1 – 10 20% 2. การรายงานตนเอง 1 – 10 25% 3. การตรวจผลงาน 1 – 10 20% ความรู้ 1. การสงั เกตพฤติกรรมของผู้เรยี น 1 – 10 15% ระหวา่ งการสมั มนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร 2. การทดสอบ 3. การรายงานตนเอง 4. การตรวจผลงาน ทักษะทางปัญญา 1. การสงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น ระหว่างการสมั มนาเชิงปฏบิ ตั กิ าร 2. การรายงานตนเอง 3. การตรวจผลงาน ทักษะ 1. การสงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น ความสมั พันธ์ ระหว่างการสมั มนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร ระหว่างบุคคล 2. การรายงานตนเอง และความ 3. การตรวจผลงาน รับผิดชอบ ทกั ษะการ 1. การสงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น วิเคราะห์ ระหว่างการสัมมนาเชิงปฏิบตั กิ าร เชิงตวั เลข 2. การรายงานตนเอง การส่ือสาร 3. การตรวจผลงาน และการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศ
220 ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรียนร้สู ู่การสร้างสรรค์อนาคต หมวดที่ 6 ทรพั ยากรประกอบการเรียนการสอน 1. ตาราและเอกสารหลกั พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต). (2554). นักวิชาการไทย – เทศ หาความรู้ให้แน่ ใชแ่ ค่คิดเอา. นครปฐม: วัดญาณเวศกวนั . มารุต พัฒผล. (2556). การประเมินหลักสูตรเพ่ือการเรียนรู้และพัฒนา. กรุงเทพฯ: จรัลสนทิ วงศ์การพิมพ์. วิชัย วงษ์ใหญ่. (2525). การพัฒนาหลักสูตรและการสอน – มิติใหม่. กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พโ์ อเดยี นสโตร์. . (2533).การพฒั นาหลกั สูตรแบบครบวงจร.กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. . (2537). กระบวนการพฒั นาหลักสตู รและการสอน: ภาคปฏิบตั ิ. กรุงเทพฯ: สุวีริยศาส์น. . (2538). กระบวนทัศน์ใหม่การพัฒนาหลักสูตร. ในชุดวิชาการพัฒนาระบบการสอน มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช. . (2541). กระบวนทัศน์ใหม่: การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคคล. กรุงเทพฯ: SR: PrintingLimitedPartnership. . (2542). พลังการเรียนรู้ในกระบวนทัศน์ใหม่. กรุงเทพฯ: SR Printing Limited Partnership. .(2551). การประเมนิ หลักสตู ร. ในประมวลสาระชดุ วิชาการพฒั นาหลักสตู ร และวิทยวิธีทางการสอน.สาขาวชิ าศกึ ษาศาสตรม์ หาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช. .(2554). นวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้สู่ความเป็นพลเมือง. (พิมพ์คร้ังที่ 2). กรุงเทพฯ: R&N Printing. .(2554). การพัฒนาหลักสูตรระดับอุดมศึกษา. (พิมพ์ครั้งท่ี 2). กรุงเทพฯ: R & N Printing. วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2556). จากหลักสูตรแกนกลางสู่หลักสูตร สถานศึกษา: กระบวนทัศน์ใหม่การพัฒนา. พิมพ์คร้ังท่ี 6. กรุงเทพฯ: จรัลสนทิ วงศก์ ารพิมพ.์
221ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นร้สู ู่การสรา้ งสรรคอ์ นาคต วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2557). การโค้ชเพื่อการรู้คิด. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรงุ เทพฯ: จรลั สนิทวงศ์การพมิ พ์. Taba, Hilda. (1962). Curriculum Development. New York: Harcor, Brace and World. Tanner, Daniel and Laurel N. Tanner. (1980). Curriculum Development. New York: Macmillan. Tyler, Ralph W. (1949). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago: The University of Chicago Press. Wiles, John. (2009). Leading Curriculum Development. California: Corwin Press. Wiles, Jon W. and Bondi, C. Joseph. (2011). Curriculum Development a Guide to Practice. 8thed. Boston: Pearson. 2. เอกสารและข้อมลู สาคญั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. (2542). คาพ่อสอน: ประมวล พระบรมราโชวาท และพระราชดารัสเก่ียวกับเด็กและเยาชน. กรุงเทพฯ: อรสดุ า เจรญิ รัถ บรรณาธกิ าร. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. (2551). คาพ่อสอน: ประมวล พ ร ะ บ ร ม ร า โ ช ว า ท แ ล ะ พ ร ะ ร า ช ด า รั ส เกี่ ย ว กั บ เศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เพี ย ง . กรุงเทพฯ: มูลนิธิพระดาบส. พระธรรมปิฏก (ป.อ.ปยตุ โต). (2546). รงุ่ อรุณแห่งการศึกษาเบิกฟ้าแห่งการพัฒนา ท่ยี ่งั ยืน. กรุงเทพมหานคร: มูลนธิ ิพทุ ธธรรม. 3. เอกสารและข้อมลู แนะนา สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน www.obec.go.th สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา www.vec.go.th สานกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา www.mua.go.th
222 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรยี นรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต หมวดที่ 7 การประเมนิ และปรับปรุงการดาเนนิ การของหลกั สตู รการฝกึ อบรมฯ 1. กลยทุ ธ์การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยผ้เู ข้าอบรม การเปิดโอกาสให้นิสิตได้ประเมินประสิทธิภาพของรายวิชาท้ังในระหว่า งการ จัดการเรยี นการสอนและเม่ือเสรจ็ สน้ิ การจดั การเรียนการสอนทง้ั รายวชิ า 2. กลยทุ ธก์ ารประเมินการสอน ก า ร ป ร ะ เมิ น ผ ล ต า ม ส ภ า พ จ ริ ง ที่ ยึ ด ห ลั ก ก า ร ใช้ วิ ธี ก า ร ท่ี ห ล า ก ห ล า ย ใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลายการประเมินหลายคร้ัง นาผลการประเมินมาปรับปรุง และพัฒนาผเู้ รียนอย่างต่อเนอื่ ง 3. การปรบั ปรุงการสอน นาผลการประเมินการสอนมาวเิ คราะหแ์ ละปรับปรงุ พัฒนาการจดั การเรยี น การสอนใหส้ อดคล้องกบั ความสนใจ ความตอ้ งการของผูเ้ รียน และบรบิ ทของ สงั คม 4. การทบทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิข์ องผ้เู ข้าอบรมในหลกั สตู รการฝึกอบรมฯ ทวนสอบโดยการติดตามคุณภาพของผู้เรียนโดยการสังเกต การตรวจสอบ การประเมิน การสัมภาษณ์ 5. การดาเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรุงประสิทธิผลของหลักสูตร การฝกึ อบรมฯ นาผลการประเมินมาปรับปรุงรายวิชาให้มีความสอดคล้องกับความสนใจ ความตอ้ งการของผเู้ รียนและบริบทของสงั คม
223ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรสู้ ู่การสร้างสรรค์อนาคต รายละเอยี ดของหลกั สูตรการฝึกอบรมระยะสน้ั แบบไม่ประสาทปรญิ ญา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวโิ รฒ ภาคเรยี นที่ ......... ประจาปีการศกึ ษา ............... หมวดที่ 1 ข้อมูลท่วั ไป 1. ชื่อหลกั สูตรฝึกอบรมระยะสนั้ แบบไมป่ ระสาทปรญิ ญา การออกแบบการจดั การเรยี นรู้เพือ่ พฒั นาผูเ้ รียนสู่สังคมอนาคต 2. จานวนชว่ั โมงตลอดระยะเวลาการฝึกอบรมฯ บรรยาย 10 ชั่วโมง – ปฏบิ ัติ 10 ชั่วโมง 3. จานวนหนว่ ยกิตในการเทยี บเคยี ง 1 หนว่ ยกิต 4. รายวิชาทีเ่ ทียบเคียงในหลักสตู รระดับบัณฑติ ศกึ ษา ลส701 การพัฒนาหลักสูตรและการจดั การเรียนรู้ CL701 Curriculum Development and Learning Management 5. อาจารย์ผู้รับผดิ ชอบและอาจารย์ผู้สอนในหลักสูตรฝึกอบรมฯ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.มารุต พฒั ผล 6. สถานท่ีเรยี น หอ้ ง 301 อาคารบัณฑติ วิทยาลยั
224 ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรียนร้สู ่กู ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต หมวดที่ 2 จุดมุ่งหมายและวัตถปุ ระสงค์ 1. จุดมงุ่ หมายของหลักสตู รฝกึ อบรมฯ ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจแนวคิดหลักการออกแบบการจัดการเรียนรู้ นวัตกรรมการออกแบบการจัดการเรียนรู้ และสามารถแสดงความรู้ ความเข้าใจท่ีเป็น ปั จจุ บั นและเกี่ ยวข้ องกั บการออกแบบการจั ดการเรี ยนรู้ ต ล อ ด จ น สื่ อ ส า ร อ ย่ า ง มี ประสิทธภิ าพดว้ ยเทคโนโลยีทีเ่ หมาะสมกับกลมุ่ เปา้ หมาย 2. วตั ถุประสงคใ์ นการพัฒนา/ปรับปรุงหลกั สตู รฝึกอบรมฯ เพ่ือให้รายวิชามีความทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ตลอดจนตอบสนองความต้องการของผเู้ ข้ารับการฝึกอบรม สามารถพฒั นาผู้เขา้ รับการ ฝึกอบรมให้นาความรแู้ ละประสบการณไ์ ปปฏิบตั งิ านได้ หมวดที่ 3 ลักษณะและการดาเนินการ 1. คาอธิบายหลกั สตู รฝกึ อบรมฯ ศึกษาวิเคราะห์แนวคิดหลักการออกแบบการจัดการเรียนรู้ นวัตกรรมการ ออกแบบการจัดการเรียนรู้ และปฏิบัติการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ท่ีมุ่งพัฒนา ผู้เรียนไปสู่สังคมอนาคต ตลอดจนสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี ทเ่ี หมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย 2. ความรับผดิ ชอบหลัก/ความรบั ผดิ ชอบรอง ดา้ นคณุ ธรรม ดา้ นความรู้ ดา้ นทักษะทาง ทกั ษะความสมั พันธ์ ดา้ นทกั ษะการ จรยิ ธรรม ปัญญา ระหวา่ งบคุ คลและ วเิ คราะหเ์ ชงิ ความรบั ผิดชอบ ตวั เลข การ สอ่ื สารฯ 12345123412345123 4 51234
225ขอบฟ้าใหมแ่ หง่ การเรียนรสู้ ูก่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต หมวดที่ 4 การพฒั นาผลการเรียนรขู้ องผ้เู ข้าอบรม 1. คุณธรรม จริยธรรม 1.1 คุณธรรม จริยธรรมทต่ี อ้ งพัฒนา 1) สามารถแกป้ ญั หาทางคณุ ธรรมจริยธรรมที่ซับซอ้ นในบริบททางวชิ าการ 2) สามารถชป้ี ระเด็นปัญหาทางวิชาการและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขอย่าง สรา้ งสรรค์ 3) สามารถใช้ดุลยพินิจอย่างผู้รู้ ด้วยความยุตธิ รรม ด้วยหลักฐาน หลักการท่ีมี เหตผุ ลและคา่ นิยมอันดงี ามในการจัดการกับความขัดแย้งทม่ี ีผลกระทบต่อ ตนเองและผู้อื่น 1.2 วธิ กี ารสอน การใช้เรอ่ื งเลา่ การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ การถอดบทเรยี น 1.3 วธิ ีการประเมินผล การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้ การรายงานตนเอง การประเมินตนเอง 2. ความรู้ 2.1 ความรู้ท่ตี ้องไดร้ ับ 1) แสดงความรู้ ความเข้าใจท่ีเป็นปัจจุบันและเกี่ยวข้องกับการวิจัย หลักสูตร และการจดั การเรยี นรู้ 2) แสดงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางเกี่ยวกับสถานการณ์ท่ีส่งผลต่อ กระบวนการพฒั นาระบบการศกึ ษา 2.2 วธิ ีการสอน การใชเ้ ร่อื งเล่า การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ การถอดบทเรยี น
226 ขอบฟา้ ใหมแ่ ห่งการเรียนรู้สกู่ ารสรา้ งสรรค์อนาคต 2.3 วธิ กี ารประเมนิ ผล การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้ การรายงานตนเอง การประเมินตนเอง 3. ทกั ษะทางปญั ญา 3.1 ทักษะทางปัญญาทต่ี ้องพฒั นา 1) สามารถใช้ความรู้ทางด้านการวิจัยวิเคราะห์ประเด็นและปัญหาทางด้าน การวจิ ัย หลักสูตรและการจดั การเรยี นรอู้ ยา่ งสร้างสรรค์ 2) สามารถบูรณาการแนวคิดต่างๆ ท้ังในและนอกสาขาวิชาไปสู่การพัฒนา หรอื แกไ้ ขปญั หาด้วยกระบวนการวิจยั 3) สามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านการวิจัย และหลักสูตรสู่การ สรา้ งสรรค์นวตั กรรม 3.2 วิธกี ารสอน การจัดการเรียนรู้โดยใช้การวจิ ัยเป็นฐาน การสืบเสาะหาความรู้ การใช้ปัญหา เป็นฐาน การฝึกปฏิบตั ิ 3.3 วธิ ีการประเมินผล การสงั เกตพฤติกรรม การตรวจผลงาน แฟ้มสะสมผลงาน การประเมินตนเอง 4. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบคุ คลและความรบั ผิดชอบ 4.1 ทักษะความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคลและความรบั ผิดชอบที่ตอ้ งพฒั นา 1) สามารถแสดงความคดิ เหน็ บนพนื้ ฐานหลักวชิ าการด้วยความรบั ผดิ ชอบ 2) สามารถวางแผนการพัฒนาตนเองและองค์กรอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3) แสดงออกถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในแวดวงวิชาการและบุคคลท่ัวไป อย่างสร้างสรรค์
227ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรียนรสู้ ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต 4.2 วธิ ีการสอน การจัดการเรียนรู้โดยเนน้ ทีม การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และการถอดบทเรยี น 4.3 วธิ ีการประเมินผล การสงั เกตพฤติกรรม การรายงานตนเอง การใหน้ ิสติ ประเมินตนเอง 5. ทกั ษะการวิเคราะหเ์ ชิงตัวเลข การสอื่ สาร และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 5.1 ทกั ษะการวเิ คราะห์เชิงตวั เลข การส่ือสาร และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ตี อ้ งการพฒั นา 1) สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับ กลุ่มเปา้ หมาย 2) สามารถสรุปปัญหาและเสนอแนะแก้ไขปัญหาในด้านต่าง ๆ โดยเจาะลึก ทางดา้ นการวิจัยและพัฒนาหลักสูตร 3) นาเสนอรายงานทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการผ่านส่ือ สิ่งตีพิมพ์ ทางวิชาการทัง้ ในระดับชาติและ/หรอื นานาชาติ 5.3 วิธกี ารสอน การเรียนร้โู ดยใช้เทคโนโลยเี ป็นฐาน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการถอด บทเรยี น 5.3 วธิ ีการประเมินผล การสงั เกตพฤติกรรม การรายงานตนเอง การใหน้ สิ ิตประเมินตนเอง และการ ประเมนิ ซ่ึงกนั และกนั
228 ขอบฟา้ ใหมแ่ หง่ การเรียนรสู้ ู่การสร้างสรรคอ์ นาคต หมวดท่ี 5 แผนการสอนและการประเมนิ ผล 1. แผนการสอน หัวข้อ สาระสาคญั จานวนชั่วโมง วิธกี ารจัดการเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 1.1 แนวคดิ หลักการออกแบบการจัด 5 5 1. การสัมมนาเชิงปฏบิ ตั กิ าร การเรียนรู้ 2. การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ 1.2 นวัตกรรมการออกแบบการจดั 3. การถอดบทเรยี น การเรียนรู้ 1.3 ปฏบิ ัติการวิเคราะห์ Big Data เพื่อการออกแบบการจดั การเรยี นรู้ 2 2.1 การออกแบบการจดั การเรียนรู้ 5 5 1. การสัมมนาเชิงปฏบิ ตั ิการ เพอ่ื พัฒนาผู้เรยี นไปสสู่ ังคมอนาคต 2. การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ 2.2 ปฏบิ ตั ิการออกแบบการจดั การเรียนรู้ 3. การถอดบทเรียน แผนการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ วิธีการประเมินผลนิสิต ชั่วโมง สัดสว่ นของ ทป่ี ระเมนิ ผล การประเมินผล คณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1. การสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน 1 – 10 20% 2. การรายงานตนเอง 3. การตรวจผลงาน ความรู้ 1. การสงั เกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน 1 – 10 20% ระหว่างการสมั มนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร 2. การทดสอบ 3. การรายงานตนเอง 4. การตรวจผลงาน ทกั ษะทางปัญญา 1. การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรยี น 1 – 10 25% 2. การรายงานตนเอง 3. การตรวจผลงาน
229ขอบฟ้าใหม่แห่งการเรยี นรู้สู่การสร้างสรรค์อนาคต ผลการเรยี นรู้ วิธีการประเมนิ ผลนิสิต ชั่วโมง สดั สว่ นของ ทปี่ ระเมนิ ผล การประเมินผล ทกั ษะ 1. การสังเกตพฤติกรรมของผเู้ รียน ความสมั พนั ธ์ ระหว่างการสมั มนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร 1 – 10 20% ระหวา่ งบคุ คล และความ 2. การรายงานตนเอง 1 – 10 15% รับผิดชอบ 3. การตรวจผลงาน ทกั ษะการ 1. การสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน วเิ คราะห์ ระหวา่ งการสัมมนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร เชิงตวั เลข การสอ่ื สาร 2. การรายงานตนเอง และการใช้ 3. การตรวจผลงาน เทคโนโลยี สารสนเทศ หมวดที่ 6 ทรัพยากรประกอบการเรยี นการสอน 1. ตาราและเอกสารหลัก พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต). (2554). นักวิชาการไทย – เทศ หาความรู้ให้แน่ ใชแ่ คค่ ิดเอา. นครปฐม: วดั ญาณเวศกวนั . มารุต พัฒผล. (2556). การประเมินหลักสูตรเพ่ือการเรียนรู้และพัฒนา. กรุงเทพฯ: จรัลสนิทวงศก์ ารพิมพ์. วิชัย วงษ์ใหญ่. (2525). การพัฒนาหลักสูตรและการสอน – มิติใหม่. กรุงเทพฯ: สานักพมิ พโ์ อเดยี นสโตร์. . (2533).การพัฒนาหลกั สตู รแบบครบวงจร.กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . . (2537). กระบวนการพฒั นาหลกั สูตรและการสอน: ภาคปฏบิ ัต.ิ กรงุ เทพฯ: สวุ รี ิยศาส์น. . (2538). กระบวนทัศน์ใหม่การพัฒนาหลักสูตร. ในชุดวิชาการพัฒนาระบบการสอน มหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช.
230 ขอบฟ้าใหมแ่ ห่งการเรยี นรู้สูก่ ารสร้างสรรคอ์ นาคต . (2541). กระบวนทัศน์ใหม่: การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคคล. กรุงเทพฯ: SR: PrintingLimitedPartnership. . (2542). พลังการเรียนรู้ในกระบวนทัศน์ใหม่. กรุงเทพฯ: SR Printing Limited Partnership. .(2551). การประเมนิ หลักสตู ร. ในประมวลสาระชุดวชิ าการพฒั นาหลกั สตู ร และวทิ ยวธิ ีทางการสอน.สาขาวิชาศึกษาศาสตรม์ หาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช. .(2554). นวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้สู่ความเป็นพลเมือง. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: R&N Printing. .(2554). การพัฒนาหลักสูตรระดับอุดมศึกษา. (พิมพ์คร้ังท่ี 2). กรุงเทพฯ: R & N Printing. วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2556). จากหลักสูตรแกนกลางสู่หลักสูตร สถานศึกษา: กระบวนทัศน์ใหม่การพัฒนา. พิมพ์ครั้งท่ี 6. กรุงเทพฯ: จรัล สนิทวงศก์ ารพิมพ์. วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2557). การโค้ชเพื่อการรู้คิด. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรงุ เทพฯ: จรัลสนทิ วงศก์ ารพิมพ์. Taba, Hilda. (1962). Curriculum Development. New York: Harcor, Brace and World. Tyler, Ralph W. (1949). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago: The University of Chicago Press. Wiles, John. (2009). Leading Curriculum Development. California: Corwin Press. Wiles, Jon W. and Bondi, C. Joseph. (2011). Curriculum Development a Guide to Practice. 8thed. Boston: Pearson.
231ขอบฟ้าใหม่แหง่ การเรยี นรสู้ กู่ ารสรา้ งสรรคอ์ นาคต 2. เอกสารและข้อมูลสาคัญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. (2542). คาพ่อสอน: ประมวล พระบรมราโชวาท และพระราชดารัสเกี่ยวกับเด็กและเยาชน. กรุงเทพฯ: อรสดุ า เจริญรัถ บรรณาธิการ. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. (2551). คาพ่อสอน: ประมวล พ ร ะ บ ร ม ร า โ ช ว า ท แ ล ะ พ ร ะ ร า ช ด า รั ส เก่ี ย ว กั บ เศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เพี ย ง . กรงุ เทพฯ: มูลนธิ ิพระดาบส. พระธรรมปิฏก (ป.อ.ปยตุ โต). (2546). รงุ่ อรุณแห่งการศกึ ษาเบิกฟ้าแห่งการพัฒนา ทยี่ ่งั ยนื . กรงุ เทพมหานคร: มูลนธิ ิพุทธธรรม. 3. เอกสารและข้อมูลแนะนา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน www.obec.go.th สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา www.vec.go.th สานักงานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา www.mua.go.th หมวดที่ 7 การประเมนิ และปรับปรุงการดาเนินการของหลกั สตู รการฝกึ อบรมฯ 1. กลยุทธ์การประเมนิ ประสิทธิผลของรายวิชาโดยผเู้ ขา้ อบรม การเปิดโอกาสให้นิสิตได้ประเมินประสิทธิภาพของรายวิชาทั้งในระหว่างการ จดั การเรียนการสอนและเม่ือเสรจ็ สนิ้ การจัดการเรียนการสอนท้งั รายวชิ า 2. กลยุทธ์การประเมนิ การสอน ก า ร ป ร ะ เมิ น ผ ล ต า ม ส ภ า พ จ ริ ง ที่ ยึ ด ห ลั ก ก า ร ใช้ วิ ธี ก า ร ท่ี ห ล า ก ห ล า ย ใช้แหล่งข้อมูลท่ีหลากหลายการประเมินหลายคร้ัง นาผลการประเมินมาปรับปรุง และพัฒนาผเู้ รียนอย่างตอ่ เนอ่ื ง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310