รายละเอยี ดคาอธิบายรายวชิ า อช33......................... การจกั สานผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ จานวน 2 หนว่ ยกติ (80 ชัว่ โมง) ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ (ขอ้ มูลรายละเอียดคาอธิบายจากหน้าท่ี 109 - 114) 3.1 มีความรู้ ความเข้าใจและเจตคติท่ีดีในงานอาชีพ วิเคราะห์ลักษณะงาน ขอบข่ายงาน อาชีพในชุมชน สังคม ประเทศและภูมิภาค 5 ทวีป ได้แก่ทวีปเอเซีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรปและทวปี แอฟรกิ าที่เหมาะสมกับศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ ในแต่ละพ้นื ท่ี ศกั ยภาพของพ้นื ทต่ี ามลักษณะภูมอิ ากาศ ศักยภาพศักยภาพของภูมิประเทศและทาเล ทตี่ ง้ั ของแต่ละพื้นท่ี ศกั ยภาพของศิลปะ วฒั นธรรมประเพณแี ละวถิ ีชีวิตของแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพของ ทรพั ยากรมนุษยใ์ นแตล่ ะพน้ื ทแ่ี ละสอดคล้องกบั ชมุ ชนเพอ่ื การขยายอาชพี 3.2 มีความรู้ ความเข้าใจทักษะในการขยายอาชีพเพื่อสรา้ งความมนั่ คงบนพื้นฐานความรู้ใน กระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทีเ่ หมาะสม มคี วามหลากหลายทาง ชีวภาพพฒั นาตอ่ ยอดและประยุกตใ์ ช้ภูมปิ ญั ญา 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดทาแผนงาน และโครงการธุรกิจ เพื่อขยายอาชีพ เข้าสู่ตลาดการแข่งขันตามศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้ืนที่ ศักยภาพของพื้นท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทาเลท่ีตั้งของแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชวี ิตของแตล่ ะพน้ื ท่ี ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยใ์ น แตล่ ะพนื้ ที่และแนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่ือสคู่ วามมน่ั คง 3.4 มีความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาอาชีพ ให้มีผลิตภัณฑ์หรืองานบริการ สร้างรายได้ พอเพยี งต่อการดารงชวี ติ มเี งินออมและมีทุนในการขยายอาชีพ ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวชว้ี ัด เน้ือหา จานวนชัว่ โมง 1 ชอ่ งทางการ อธบิ ายช่องทางและการ วเิ คราะห์ความเป็นไปได้จาก 6 ตัดสินใจเลือก ตดั สนิ ใจเลอื กประกอบ ข้อมูลดงั น้ี ประกอบอาชีพ อาชพี การจักสานผลติ ภัณฑ์ 1) ข้อมูลตนเอง การจกั สาน จากไมไ้ ผ่ 2) ขอ้ มูลวิชาการ ผลิตภัณฑ์จาก 3) ขอ้ มลู ทางสังคมสิ่งแวดลอ้ ม ไมไ้ ผ่ 2 ความรู้ทวั่ ไป 1. บอกชนิดของไม้ไผ่ทีใ่ ชใ้ น 2.1 ชนิดของไม้ไผท่ ใี่ ช้ในการจกั 3 เกี่ยวกับไม้ไผ่ การจกั สาน สาน 2. เลือกใชไ้ มไ้ ผม่ าทาเครอื่ ง 2.2 ขอ้ สงั เกตในการนาไมไ้ ผ่มา จกั สาน ทาเครือ่ งจกั สาน 142
ท่ี หวั เร่ือง ตวั ช้วี ัด เนอื้ หา จานวนช่วั โมง 3 ความรทู้ ว่ั ไป 1. อธบิ ายศัพทช์ า่ งสาน 3.1 ศัพท์ช่างสาน 3 เก่ียวกับการจัก 2. บอกลายเคร่อื งสาน 3.2 ลายเคร่ืองสาน สานไมไ้ ผ่ 3. เลือกใชอ้ ุปกรณใ์ นการจกั 3.3 อปุ กรณใ์ นการจกั สานไม้ไผ่ สานไมไ้ ผ่ 4 การจกั สานไมไ้ ผ่ 1. อธิบายวิธกี ารจกั ตอก 4.1 การจักตอก 36 2. จักตอกตามข้ันตอน 3. อธิบายวิธีการสาน การ 4.2 การสาน การเข้าขอบ และ เขา้ ขอบ และการมัดขอบ การมดั ขอบ 4. เขา้ ขอบและมัดขอบตาม ขนั้ ตอน 5. สานไม้ไผ่ลายตา่ ง ๆ ตาม 4.3 วิธีการสานลายต่าง ๆ ขัน้ ตอน 1) ลายขัด 2) ลายชะลอม 3) ลายวงพระจันทร์ (ลาย หัวสุ่ม) 4) ลายเวียนก้นหอย 5) ลายตาหลิ่ว 6. จกั สานเครื่องสาน 4.4 การข้ึนรูปเครื่องสาน ประเภทตา่ ง ๆ ประเภทต่าง ๆ 1) การสานตะกร้า 2) การสานชะลอม 3) การสานกระเปา๋ 4) การสานกล่องใส่ กระดาษทชิ ชู่ 5) การสานถาดผลไม้ทรง สีเ่ หลยี่ ม ทรงกลม และทรงรี 7. อธิบายวิธีการย้อมสี 4.5 การยอ้ มสีผลิตภัณฑ์จากไม้ ผลิตภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ ไผ่ 8. ย้อมสผี ลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ 9. อธบิ ายเทคนิคการเก็บ 4.4 เทคนคิ การเก็บรักษา รกั ษาผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ 5 การบรหิ าร 5.1 การบรหิ ารจัดการการผลติ 20 จัดการในการ 1. อธบิ ายวิธกี ารสารวจ 5.1.1 การสารวจแหล่ง ประกอบอาชีพ แหล่งเงินทุน และแหลง่ เงนิ ทุน และแหล่งวตั ถุดิบใน 143
ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ชว้ี ัด เนอื้ หา จานวนช่วั โมง 144 วตั ถุดบิ ในทอ้ งถ่ิน ทอ้ งถิ่น 2. กาหนดมาตรฐาน 5.1.2 การกาหนด ผลิตภณั ฑ์ และควบคมุ มาตรฐานผลติ ภัณฑ์ และการ คณุ ภาพผลผลติ ควบคมุ คณุ ภาพผลผลิต 3. อธบิ ายคณุ ธรรม 5.1.3 คณุ ธรรมในการ ในการประกอบอาชีพ ประกอบอาชีพ (ความ 4. บริหารจดั การในการ รบั ผิดชอบ ความซ่ือสัตย์สจุ รติ ประกอบอาชีพไดอ้ ย่าง ความขยนั อดทน ฯลฯ) มีคณุ ธรรม 5.2 การบริหารจัดการ การตลาด 5. อธบิ ายเกย่ี วกบั หลกั การ 5.2.1 การจัดการการตลาด จัดการตลาด 1) หลกั การจดั การ การตลาด 6. บอกวิธีการหาขอ้ มูล 2) ข้อมลู ทางการตลาด การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล (วิธีการหาข้อมลู การเกบ็ และนาขอ้ มลู ไปใช้ รวบรวมขอ้ มลู การวิเคราะห์ 7. นาข้อมลู ทางการตลาด ขอ้ มลู และการนาขอ้ มลู ไปใช้) มาวิเคราะหค์ วาม ตอ้ งการของตลาดใน ชุมชน และประเทศ 8. วางแผนผลติ สินค้าให้ 3) การวางแผนผลติ สินคา้ สอดคล้องกบั ความ ตอ้ งการของตลาด 9. อธบิ ายแนวทางการ 4) ช่องทางการจาหนา่ ย ส่งเสรมิ การขายและ 5) การขายและการสง่ เสรมิ ชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย การขาย 5.2.2 การทาบญั ชี 10. อธิบายความหมายและ 1) ความหมายและ ประโยชน์ของการทา ประโยชน์ของการทาบัญชี บัญชี 11. จดั ทาบญั ชีต้นทนุ 2) บญั ชีตน้ ทุนในการ ประกอบอาชีพการจัก ประกอบอาชีพ สานผลติ ภณั ฑ์จากไม้ไผ่
ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ัด เนือ้ หา จานวนช่วั โมง 3) การคานวณต้นทุน-กาไร ในการผลิต 12. คานวณต้นทุน-กาไรใน -วธิ กี ารคดิ กาไร-ขาดทุน การผลิต ในการประกอบอาชีพ 13. กาหนดราคาขายได้ -การกาหนดราคาขาย อยา่ งเหมาะสมกบั ตัว สินค้าและสอดคลอ้ งกับ ตน้ ทุนและเวลารอบ จาหน่ายสนิ ค้า 14. วเิ คราะห์ปัญหา 5.3 ปญั หาอปุ สรรคในการ อุปสรรคในการประกอบ ประกอบอาชีพ อาชีพ 5.3.1 ปญั หาดา้ น กระบวนการผลติ 5.3.2 ปัญหาด้านการตลาด 6 การจดั ทา 1. บอกความสาคญั ของ 6.1 ความสาคญั ของโครงการ 12 โครงการ โครงการอาชีพ ประกอบอาชีพ ประกอบอาชีพ 2. บอกประโยชน์ของ 6.2 ประโยชน์ของโครงการ โครงการอาชีพ ประกอบอาชีพ 3. บอกองคป์ ระกอบของ 6.3. องค์ประกอบของโครงการ โครงการอาชีพ ประกอบอาชีพ 4. เขยี นโครงการใน แตล่ ะ 6.4 การเขียนโครงการ องคป์ ระกอบ 5. ตรวจสอบความ 6.5 การประเมินความเหมาะสม เหมาะสมและสอดคล้อง และสอดคลอ้ งของโครงการ ของโครงการอาชพี การเขียนหลักสตู รการศึกษาตอ่ เนื่อง การเขียนหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง ตามองค์ประกอบของเอกสารหลักสูตรการศึกษา ต่อเนอ่ื ง ประกอบด้วย 1) ขอ้ มูลพืน้ ฐานและเหตผุ ลความจาเปน็ ในการจัดหลกั สตู ร (ความเปน็ มา) 2) หลักการของหลกั สตู ร 3) จดุ มุ่งหมายของหลักสูตร 4) กลุม่ เปา้ หมาย 145
5) ระยะเวลาเรยี น (ทฤษฎี/ปฏิบัติ) 6) โครงสร้างหลกั สูตร 7) รายละเอียดโครงสร้างหลักสูตร 8) แหลง่ เรยี นรูแ้ ละส่ือประกอบการเรียน 9) แนวทางการประเมินผลการเรยี น (รวบยอด) 10) การประเมินหลักสูตร นาร่างหลักสูตรฯ ที่ได้จัดทาไว้แล้ว มาเขียนหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ือง หลักสูตรวิชาชีพ ระยะสั้น หลักสูตรการจักสานผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ตามองค์ประกอบของเอกสารหลักสูตรการศึกษา ตอ่ เนื่อง ดงั แบบฟอร์มตอ่ ไปน้ี ตัวอยา่ งการเขยี นหลักสูตรการศึกษาตอ่ เนื่อง ช่ือหลกั สตู ร การจักสานผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ จานวน 60 ชวั่ โมง สถานศกึ ษา ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ............................... ข้อมลู พน้ื ฐานและเหตผุ ลความจาเป็นในการจดั หลกั สูตร (ข้อมลู จากหน้าที่ 79) นโยบายจุดเนน้ การดาเนินงานสานกั งาน กศน.ปงี บประมาณ 2560 ไดก้ าหนดภารกจิ ตอ่ เน่อื ง ดา้ นการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาทีส่ อดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนและศักยภาพของแต่ ละพน้ื ท่ีโดยมีจุดเนน้ การดาเนนิ งานการจดั กระบวนการเรียนรูท้ ่ีตอบสนองการเปล่ียนแปลงและความ ต้องการของประชาชน ชุมชน สังคมในรูปแบบที่หลากหลาย การส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักใช้ ประโยชน์ของทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนอย่างประหยัดและเพ่ิมคุณค่า สามารถประกอบอาชีพเป็น อาชีพหลักหรืออาชีพเสริมในครอบครัวได้ การประกอบอาชีพจักสานผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่เป็นผลิตภัณฑ์ หัตถกรรมที่พบได้ในแต่ละชุมชนของประเทศท่ัวทุกภาค ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนและ เคร่อื งใชร้ องรับพืชผลทางการเกษตร เชน่ กระบุง กระดง้ ตะกร้า เข่ง เปน็ ตน้ ซึ่งเป็นส่ิงจาเปน็ ทใี่ ชใ้ น ชีวิตประจาวัน สามารถทาเองหรือหาซ้ือได้ในราคาไม่แพงสาหรบั ในแตล่ ะท้องถิ่นที่มีแหล่งวัตถุดิบใน การจกั สาน สว่ นใหญ่มกั จะทากันในเวลาว่างหรอื หลังฤดูเก็บเก่ยี ว สามารถสรา้ งงาน สร้างอาชพี ให้กับ ประชาชนในทอ้ งถ่ินได้อกี ทางหนึ่ง จากการศึกษาขอ้ มูลชุมชนตาบลบา้ นแลงพบว่าประชาชนสว่ นใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร เป็นอาชีพหลกั มกี ารรวมกลุ่มอาชีพท่ีหลากหลาย ทั้งท่ีเปน็ กลุ่มตามธรรมชาติหรอื แบบไมเ่ ป็นทางการ 146
และกลมุ่ แบบเป็นทางการ เช่น กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้สงู อายุ กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์ กลมุ่ อาชีพ ต่าง ๆ ได้แก่กลุ่มปลูกถ่ัวเหลือง กลุ่มไม้กวาด กลุ่มทอผ้า กลุ่มจักสาน เป็นต้น จากข้อมูลการจัดเวที ประชาคมด้านสังคม พบว่าชุมชนมีภูมิปัญญาท้องถ่ินด้านจักสานเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีการรวมตัวกัน จดั ตั้งเป็นกลุ่มอาชีพท่ีใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาของตนเองและทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน คือ ไม้ไผ่ เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ตนเอง และต้องการอนุรักษ์ภูมิ ปญั ญาดา้ นจักสานให้คงอยู่ แตใ่ นการดาเนินงานกลุ่มอาชีพจักสานท่ีผ่านมา ยังประสบปัญหาในด้าน การรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานให้ยาวนานข้ึนและรูปแบบผลิตภัณฑ์ไม่ทันสมัย ตามความต้องการของตลาด สมาชิกกลุ่มจึงมีความต้องการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ท่ีทันสมัย ให้มี คุณภาพ และมีความหลากหลายตรงกับความต้องการของตลาด เพื่อการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ดา้ นจักสานใหเ้ ปน็ แหลง่ เรยี นรูข้ องชมุ ชน สร้างงานสร้างรายไดใ้ หแ้ ก่คนในชมุ ชนต่อไป ดังน้ัน สถานศึกษา/กศน.ตาบลบ้านแลงจึงได้จัดทาหลักสูตร “การจักสานผลิตภัณฑ์จากไม้ ไผ่” ขน้ึ เพื่อตอบสนองความตอ้ งการเรียนรูข้ องกลุ่มเปา้ หมาย และส่งเสริมการเรียนรู้ใหแ้ กป่ ระชาชน ได้ใช้ศักยภาพและทรัพยากรท่ีมีอยู่ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าในการสร้างรายได้และการมีงานทารวมถึง การอนุรกั ษภ์ ูมปิ ญั ญาท้องถ่ินใหค้ งอยูอ่ ย่างยงั่ ยืน หลักการของหลกั สตู ร (ขอ้ มูลจากหน้าท่ี 85) 1. เปน็ หลักสตู รเพ่ือสง่ เสรมิ ให้ผู้สงู อายไุ ดร้ วมกล่มุ ใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ 2. เป็นหลกั สูตรเพือ่ สง่ เสริมอาชพี ท่ีสามารถสรา้ งรายได้ไดจ้ รงิ 3. เป็นหลักสตู รทีส่ ่งเสรมิ การอนุรักษภ์ ูมิปัญญาด้านการจักสาน 4. เปน็ หลกั สตู รทสี่ ง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รยี นเรียนรจู้ ากการลงมือปฏบิ ัติจรงิ 5. เปน็ หลักสูตรที่มโี ครงสรา้ งยืดหยุ่นทั้งด้านสาระ เวลา และการจัดการเรียนรู้ 6. เปน็ หลักสตู รที่สามารถนาความรแู้ ละประสบการณท์ ี่ไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ช้ในการประกอบ อาชพี จดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู ร (ข้อมูลจากหนา้ ท่ี 85) หลักสตู รน้ใี หค้ วามรู้และประสบการณเ์ พอื่ ให้ผูจ้ บหลักสูตรมีคุณลักษณะดังนี้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการประกอบอาชีพจกั สานผลิตภัณฑจ์ ากไม้ไผ่ 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทักษะการบรหิ ารจัดการในอาชีพจกั สานผลติ ภัณฑ์จากไม้ไผ่ 3. มีคณุ ธรรมในการประกอบอาชีพ 4. มเี จตคติที่ดีต่อการประกอบอาชพี จกั สานผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 5. มที กั ษะในการแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง 147
กลมุ่ เปา้ หมาย เวลาเรียน (ช่วั โมง) กลมุ่ ผสู้ งู อายุ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ รวม ระยะเวลาเรยี น (ขอ้ มลู จากหน้าที่ 118) 5 45 50 เรยี นรู้ทงั้ ภาคทฤษฎีและปฏบิ ัติ จานวน 60 ชวั่ โมง โครงสร้างหลักสตู ร (ข้อมูลจากหน้าที่ 117 - 118) เรอื่ งที่ หวั เรอ่ื ง 1 การจกั สานไม้ไผ่ 1.1 วธิ กี ารสานลายตาหล่ิว (ลายดอกพกิ ลุ /ลายลูกแก้ว) 1.2 การข้ึนรปู เคร่ืองสานประเภทตา่ ง ๆ 1) การสานตะกร้าลายดอกพกิ ลุ /ลายลกู แก้ว 2) การสานกระเป๋าลายดอกพกิ ลุ /ลายลูกแก้ว 3) การสานกล่องใสก่ ระดาษทิชชลู่ ายดอกพกิ ุล/ลายลกู แก้ว 4) การสานถาดผลไมท้ รงสเี่ หลยี่ ม ทรงกลม และทรงรีลาย ดอกพกิ ลุ /ลายลูกแก้ว 1.3 การย้อมสผี ลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ 1.4 เทคนิคการเกบ็ รกั ษาผลติ ภัณฑ์ 2 การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพ 4 6 10 2.1 การบริหารจัดการการผลติ 1) การกาหนดมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ และการควบคุมคุณภาพ ผลผลิต 2) คุณธรรมในการประกอบอาชพี (ความรับผิดชอบ ความ ซ่ือสัตยส์ จุ ริต ความขยัน อดทน ฯลฯ) 2.2 การบรหิ ารจดั การการตลาด 2.2.1 การจัดการการตลาด 1) หลกั การจัดการการตลาด 2) ขอ้ มูลทางการตลาด (วธิ ีการหาข้อมลู การเกบ็ รวบรวม ขอ้ มูล การวิเคราะห์ขอ้ มูล และการนาข้อมลู ไปใช้) 3) การวางแผนผลติ สนิ ค้า 4) ช่องทางการจาหนา่ ย 5) การขายและการส่งเสริมการขาย 148
เร่อื งที่ หัวเรอ่ื ง เวลาเรยี น (ชวั่ โมง) ทฤษฎี ปฏิบตั ิ รวม 2.2.2 การทาบญั ชี 1) ความหมายและประโยชน์ของการทาบัญชี 9 51 60 2) บญั ชตี น้ ทุนในการประกอบอาชีพ 3) การคานวณต้นทุน-กาไรในการผลติ -วิธกี ารคดิ กาไร-ขาดทุนในการประกอบอาชีพ -การกาหนดราคาขาย 2.3 ปญั หาอปุ สรรคในการประกอบอาชีพ 2.3.1 ปญั หาด้านกระบวนการผลติ 2.3.2 ปัญหาด้านการตลาด รวม รายละเอยี ดโครงสร้างหลกั สูตร (ขอ้ มูลจากหน้าที่ 120 – 122 และ 127 -128) เรื่องท่ี 1 การจักสานไม้ไผ่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ขอ้ มูลจากหนา้ ที่ 120 - 121) ผเู้ ข้าอบรมสามารถ 1. สานไม้ไผล่ ายดอกพิกลุ ได้ถูกต้องตามขั้นตอน 2. สานไม้ไผล่ ายลูกแกว้ ได้ถูกต้องตามขนั้ ตอน 3. สานตะกร้าลายดอกพกิ ุลหรือลายลกู แก้วไดป้ ระณตี สวยงาม อย่างนอ้ ย 1 ลาย 4. สานกระเปา๋ ลายดอกพิกลุ หรือลายลกู แกว้ ได้ประณีต สวยงาม อย่างนอ้ ย 1 ลาย 5. สานกล่องใส่กระดาษทิชชู่ลายดอกพิกุลหรือลายลูกแก้วได้ประณีต สวยงาม อย่าง นอ้ ย 1 ลาย 6. สานถาดผลไม้ทรงสี่เหลี่ยม ทรงกลม และทรงรีลายดอกพิกุลหรือลายลูกแก้วได้ ประณีต สวยงาม อย่างน้อย 1 ลาย 7. อธิบายวิธกี ารย้อมสผี ลติ ภณั ฑจ์ ากไม้ไผไ่ ด้ถูกต้อง 8. ยอ้ มสีผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ได้สวยงาม 9. ออกแบบการใชส้ ไี ด้เหมาะสมกบั รูปแบบผลิตภัณฑ์ 9. อธบิ ายเทคนิคการเกบ็ รักษาผลติ ภณั ฑไ์ ด้ 149
ขอบข่ายเน้อื หา (ขอ้ มูลจากหน้าที่ 120 - 121) ศึกษาและฝึกทักษะเกี่ยวกับวิธีการสานลายตาหล่ิว (ลายดอกพิกุล/ลายลูกแก้ว) การข้ึน รูปเคร่ืองสานประเภทต่าง ๆ (การสานตะกร้าลายดอกพิกุล/ลายลูกแก้ว การสานกระเป๋าลายดอก พิกุล/ลายลูกแก้ว การสานกลอ่ งใสก่ ระดาษทิชชลู่ ายดอกพกิ ุล/ลายลกู แกว้ และการสานถาดผลไมท้ รง ส่ีเหล่ียม ทรงกลม และทรงรีลายดอกพิกุล/ลายลูกแก้ว) การย้อมสีผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ และเทคนิค การเก็บรกั ษาผลิตภณั ฑ์ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ (ข้อมูลจากหนา้ ที่ 120 - 121) 1. บรรยาย 2. สาธิต 3. ฝึกปฏบิ ัติ 4. เรยี นรูจ้ ากภูมิปญั ญาดา้ นการจักสาน สือ่ วสั ดุ และอปุ กรณ์การเรยี นการสอน (ขอ้ มูลจากหนา้ ที่ 120 - 121) 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. กระดาษปร๊ฟู 4. ปากกาเคมี 5. กระดาษกาว 6. ไม้ไผ่ 7. อปุ กรณท์ ใี่ ช้ในการจักสาน เช่น เลอ่ื ยคนั ธนู มีดโคง้ มีดผา่ ไม้ มีดเหลาตอก มีดจัก ตอก ดินสอ คีมปากแหลม กรรไกร ฯลฯ เวลาเรียน จานวน 50 ช่ัวโมง (ข้อมูลจากหนา้ ที่ 117) การประเมนิ ผล (ข้อมูลจากหนา้ ท่ี 127) วธิ ีการ เครื่องมอื 1. สอบปากเปล่า (ภาคทฤษฎี) 1. แบบทดสอบ และแบบบันทกึ คะแนน (ภาคทฤษฎ)ี 2. ประเมนิ จากการปฏิบัติ (ภาคปฏิบัติ) 2. แบบประเมนิ การปฏิบัติ 3. สังเกตการมสี ว่ นร่วมในการเรยี นรู้ 3. แบบสงั เกต พฤตกิ รรม - การซกั ถาม และการตอบคาถาม - การแสดงความคดิ เหน็ 4. ผลงานปฏิบตั ิ 4. แบบประเมินผลงาน/ช้ินงาน 150
เร่อื งที่ 2 การบริหารจดั การในการประกอบอาชีพ จุดประสงค์การเรียนรู้ (ขอ้ มลู จากหนา้ ท่ี 121 - 122) ผู้เขา้ อบรมสามารถ 1. กาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และควบคมุ คุณภาพผลผลติ ได้ 2. อธิบายคุณธรรมในการประกอบอาชีพได้ 3. นาคุณธรรมมาใช้ในการบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพไดจ้ นเป็นกจิ นสิ ยั 4. อธิบายเกีย่ วกับหลกั การจัดการตลาดได้ 5. บอกวิธีการหาขอ้ มลู และการเก็บรวบรวมขอ้ มูลทางการตลาดได้ 6. เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ความตอ้ งการของตลาดในชมุ ชน และประเทศได้ 7. วางแผนผลติ สนิ ค้าให้สอดคล้องกบั ความต้องการของตลาดได้ 8. อธบิ ายแนวทางการส่งเสริมการขายและช่องทางการจัดจาหนา่ ยได้ 9. อธบิ ายความหมายและประโยชนข์ องการทาบัญชีได้ 10. จดั ทาบัญชีตน้ ทนุ ประกอบอาชพี การจักสานผลิตภณั ฑ์จากไม้ไผไ่ ด้ 11. คานวณตน้ ทนุ -กาไรในการผลิตได้ 12. กาหนดราคาขายไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั ตัวสนิ ค้าและสอดคลอ้ งกับต้นทนุ และเวลา รอบจาหนา่ ยสินค้า 13. วเิ คราะหป์ ญั หาอุปสรรคในการประกอบอาชพี ขอบขา่ ยเนอื้ หา (ขอ้ มูลจากหนา้ ที่ 121 - 122) ศึกษาและฝึกทักษะเกยี่ วกบั การบรหิ ารจดั การการผลิต (การกาหนดมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ และการควบคุมคุณภาพผลผลติ คุณธรรมในการประกอบอาชพี ) การบรหิ ารจดั การการตลาดในเร่ือง การจดั การการตลาด ได้แก่ หลกั การจดั การการตลาด ข้อมูลทางการตลาด (วิธกี ารหาข้อมูล การเก็บ รวบรวมขอ้ มูล การวเิ คราะห์ข้อมูล และการนาข้อมลู ไปใช้) การวางแผนผลิตสินค้า ชอ่ งทางการ จาหน่าย การขายและการส่งเสริมการขาย และการทาบัญชี ได้แก่ ความหมายและประโยชนข์ องการ ทาบัญชี บญั ชีต้นทุนในการประกอบอาชีพ การคานวณตน้ ทุน-กาไรในการผลิต (วิธกี ารคิดกาไร- ขาดทุนในการประกอบอาชพี และการกาหนดราคาขาย) และปญั หาอปุ สรรคในการประกอบอาชพี (ปญั หาดา้ นกระบวนการผลิต และปญั หาด้านการตลาด) การจัดกระบวนการเรยี นรู้ (ขอ้ มูลจากหน้าท่ี 121) 1. บรรยาย 2. สาธิต 3. ฝึกปฏิบตั ิ 151
4. เรียนร้จู ากภูมิปัญญาด้านการจกั สาน สอ่ื วัสดุ และอุปกรณ์การเรียนการสอน (ขอ้ มลู จากหนา้ ที่ 121) 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. กระดาษปรูฟ๊ 4. ปากกาเคมี 5. กระดาษกาว เวลาเรยี น จานวน 10 ชว่ั โมง (ข้อมลู จากหน้าท่ี 117) การประเมนิ ผล (ขอ้ มูลจากหนา้ ท่ี 128) วิธีการ เคร่อื งมอื 1. สอบปากเปล่า (ภาคทฤษฎี) 1. แบบทดสอบ และแบบบันทึกคะแนน (ภาคทฤษฎ)ี 2. ประเมนิ จากการปฏิบัติ (ภาคปฏิบัติ) 2. แบบประเมนิ การปฏบิ ัติ 3. สงั เกตการมสี ว่ นร่วมในการเรียนรู้ 3. แบบสังเกต พฤตกิ รรม - การซกั ถาม และการตอบคาถาม - การแสดงความคิดเหน็ 4. ผลงานปฏิบัติ 4. แบบประเมนิ ผลงาน/ชิน้ งาน แหล่งเรียนรู้และสื่อประกอบการเรยี น (ขอ้ มลู จากหน้าที่ 123) 1. ภมู ปิ ัญญาดา้ นการจกั สาน 2. ใบความรู้ 3. ใบงาน 4. กระดาษปรู๊ฟ 5. ปากกาเคมี 6. กระดาษกาว 7. ไม้ไผ่ 8. อุปกรณ์ท่ีใช้ในการจักสาน เช่น เลื่อยคันธนู มีดโค้ง มีดผ่าไม้ มีดเหลาตอก มีดจักตอก ดนิ สอ คีมปากแหลม กรรไกร ฯลฯ 152
แนวทางการประเมินผลการเรียน (รวบยอด) (ข้อมลู จากหน้าที่ 130) วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์การจบหลักสตู ร 1.ตรวจสอบเวลาเรยี น 1. บญั ชลี งเวลาเรียนและผลการเรียน 1.มีเวลาเรยี นไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ นักศกึ ษาผใู้ หญส่ ายอาชีพ (ใช้สาหรับ 80 ของจานวนชว่ั โมงหลกั สตู ร 2.ประเมินผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน ตรวจสอบเวลาเรียนและบนั ทกึ 2.มผี ลการเรียนตลอดหลักสตู ร 2.1 ประเมินความรู้ภาคทฤษฎี โดย คะแนนผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น) ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 50 2. แบบทดสอบ (ใชส้ าหรับประเมิน 3. มคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ การสอบปากเปล่า (เน่ืองจากผู้เรียน ความรูภ้ าคทฤษฎี) และบนั ทึกคะแนน (ใฝ่เรยี นรู้) ในระดบั ดีข้ึนไป เปน็ กลมุ่ ผู้สูงอายุ มีข้อจากัดในเร่อื ง (ภาคทฤษฎี) การอา่ น การเขยี น) 3. แบบประเมนิ การปฏิบตั ิ (ใชส้ าหรบั 2.2 ประเมินทักษะการปฏบิ ัติ ประเมนิ ทักษะปฏบิ ตั ิ) 4. แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง 3.ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ประสงค์ (ใช้สาหรับประเมนิ อัตลักษณ์ (ใฝเ่ รยี นรู้) ของสถานศึกษา: ใฝเ่ รียนรู้ ) การประเมินหลกั สตู ร (ข้อมูลจากหน้าที่ 135 - 136) ประเมินหลักสตู รโดยประเมนิ ครบทงั้ ระบบของหลักสตู ร ประกอบด้วย การประเมนิ เอกสาร หลกั สูตร การประเมินผลระบบของหลักสตู ร และการประเมนิ ผลผลิต องคป์ ระกอบ รายการประเมนิ วธิ ีการ เครือ่ งมอื ระยะเวลา การประเมิน 1. การประเมินเอกสาร องคป์ ระกอบต่าง ๆ -พจิ ารณาความ แบบประเมนิ -กอ่ นใช้ หลกั สตู ร ของหลักสูตร ไดแ้ ก่ สอดคลอ้ งของ ความสอดคล้อง หลักสูตร -ขอ้ มลู พ้ืนฐานฯ องค์ประกอบต่างๆ 3 ระดบั -หลกั การ/จดุ มุ่งหมาย ของหลกั สตู ร หลักสูตร -โครงสรา้ งของ หลักสูตร -เน้ือหาของหลกั สูตร -ฯลฯ 153
องคป์ ระกอบ รายการประเมนิ วิธีการ เคร่ืองมอื ระยะเวลา การประเมิน 2. การประเมนิ ผล -การจดั เนือ้ หาความรู้ ประเมินความพึง แบบสอบถาม ระหวา่ ง- ระบบของหลกั สูตร และประสบการณ์การ พอใจของผ้เู ขา้ รับ ความพึงพอใจ หลงั ใช้ เรียนรู้ การอบรม มาตราประมาณ หลักสตู ร -คุณภาพของผู้สอน ค่า 5 ระดบั -สถานที่ -สอื่ การเรียนการสอน -กระบวนการเรียนการ สอน -การวัดผลและ ประเมินผล ฯลฯ 3. การประเมินผลผลิต 1. ผลสมั ฤทธท์ิ างการ 1. ตรวจสอบ -รายงานผจู้ บ หลังใช้ เรียน ผลสัมฤทธ์ิทางการ หลกั สูตร หลักสตู ร เรียนจากรายงานผู้ จบหลักสตู ร 2. ความคิดเห็นของผู้ 2. สอบถามความ -แบบติดตามผู้ ผ่านการอบรม คิดเห็นของผู้ผ่าน จบหลักสตู ร การอบรมภายหลงั ส้ินสุดการอบรมไป แล้ว 1 เดือนข้ึนไป เกณฑ์การประเมนิ หลักสูตร 1. องค์ประกอบต่าง ๆ ของหลักสูตรมีความสอดคลอ้ งกัน (ค่า IOC มีค่าไมน่ อ้ ยกว่า 0.5) 2. รอ้ ยละ 80 ของผ้เู ขา้ รบั การอบรมมีความพึงพอใจต่อการเขา้ รบั การอบรมในระดับดีขึน้ ไป 3. ร้อยละ 80 ของผเู้ ขา้ รับการอบรมมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนไมน่ ้อยกว่า 3.00 4. ร้อยละ 80 ของผู้จบหลักสูตรสามารถนาความรูแ้ ละประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้ารับ การอบรมไปใช้ในการประกอบอาชพี หรอื พฒั นาอาชีพได้ ขอ้ สงั เกต จากตัวอย่างการเขยี นรายละเอียดโครงสรา้ งหลักสูตรในหน้า 149 – 152 เป็น การเขียนในลักษณะแนวต้งั เรียงเป็นหวั ขอ้ นอกจากการเขียนในลกั ษณะแนวต้ังนี้แล้ว ยงั มวี ิธีการ เขียนรายละเอียดโครงสร้างหลักสูตรอีกรูปแบบหนึ่ง คือ รูปแบบตาราง ซ่ึงจะขอนาข้อมูลจาก หนา้ ที่ 149 – 152 มาเขียนรายละเอยี ดโครงสร้างหลกั สูตรในรปู แบบตาราง ดังนี้ 154
155
156
157
จะเห็นได้ว่า จากตัวอย่างการเขียนรายละเอียดโครงสร้างหลักสูตรในรูปแบบตารางท่ีได้ นาเสนอไปข้างต้น เป็นอีกรูปแบบหน่ึงที่ครู กศน.หรือผู้ที่ศึกษาคู่มือการพัฒนาหลักสูตรฯ เล่มน้ี สามารถนาไปปรับใช้ในการเขียนรายละเอียดโครงสร้างหลักสูตรของหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องให้ เหมาะสม ซ่ึงอาจเลือกใช้ได้ท้ังการเขียนแบบแนวตั้งเรียงเป็นหัวข้อดังตัวอย่างในหน้าที่ 149 – 152 หรือการเขียนในรูปตารางดังตัวอย่างในหน้าที่ 155 – 157 ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้พัฒนา หลกั สูตร หลังจากเขียนหลักสูตรรายวิชาเลือกหรือหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ืองฉบับร่างแล้ว ก่อน การนาหลักสูตรไปใช้ สถานศกึ ษาจะต้องนาหลักสูตรไปให้ผู้เช่ียวชาญหรอื ผู้เก่ียวข้องดาเนินการ ตรวจคุณภาพหลักสูตร ซึ่งจะกล่าวรายละเอียดไว้ในตอนท่ี 4 การตรวจคุณภาพหลักสูตรก่อน นาไปใช้ ต่อไป 158
ตอนที่ 4 การตรวจคณุ ภาพหลักสูตรก่อนนาไปใช้ หลังจากรา่ งหลักสูตร พร้อมท้ังจัดทาหลักสูตรรายวิชาเลือกและหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง (ฉบบั ร่าง) ที่ไดน้ าเสนอตัวอย่างไว้ในตอนที่ 3 แล้วน้ัน ก่อนการนาหลักสูตรไปใช้ สถานศึกษาจะต้อง นาหลักสูตรไปให้ผู้เช่ียวชาญหรือผู้เกีย่ วขอ้ งดาเนินการตรวจคุณภาพหลักสูตร ซึง่ เป็นการดาเนินการ จดั ทาและพัฒนาหลกั สตู รขน้ั ที่ 5 ตามกระบวนการพัฒนาหลกั สูตรท่ีไดก้ ล่าวไปแล้วในตอนที่ 1 หน้าท่ี 5 การตรวจคุณภาพของหลักสูตรเป็นขั้นที่นาหลักสูตรที่ร่างเสร็จแล้วไปตรวจสอบ ซึ่งมี วิธีการตรวจสอบได้หลายวิธี เช่น การใช้รูปแบบการตรวจสอบคุณภาพหลักสูตร การตรวจสอบกับ ลักษณะของหลักสูตรท่ีดี การตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญหรือคณะกรรมการ หรือวิเคราะห์แต่ละ องค์ประกอบของหลักสูตรเพ่ือพิจารณาความเหมาะสม เป็นต้น แล้วนาผลการตรวจสอบมาปรับปรุง แกไ้ ขร่างหลักสตู รใหด้ ีข้นึ เตรียมพรอ้ มทีจ่ ะนาไปใช้ การตรวจคณุ ภาพของหลักสูตร โดยผูเ้ ชยี่ วชาญหรอื คณะกรรมการ สาหรับคู่มือการพัฒนาหลักสูตร สาหรับครู กศน. เล่มนี้ จะขอกล่าวเฉพาะการตรวจ คุณภาพของหลักสูตรโดยผู้เช่ียวชาญหรือคณะกรรมการ ซ่ึงจะวเิ คราะห์แต่ละองค์ประกอบของหลักสูตร เพื่อพิจารณาความเหมาะสม โดยใช้แบบประเมินความสอดคล้องขององค์ประกอบของหลักสูตรเป็น เคร่ืองมอื เก็บรวบรวมขอ้ มลู ดังตวั อย่าง
แบบตรวจคณุ ภาพของหลักสตู รรายวชิ าเลือก รายวิชา ....................................................................... รหสั รายวชิ า ............................ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั ...................................................... จานวน .............. หนว่ ยกติ (............... ช่ัวโมง) คาชแี้ จง ขอใหท้ า่ นพิจารณาประเด็นแตล่ ะประเด็นว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ และโปรดระบุ ผลการพิจารณาประเดน็ แต่ละประเด็น ถ้าแนใ่ จว่าสอดคล้องให้ +1 ถา้ ไมแ่ น่ใจให้ 0 และ ถา้ แนใ่ จวา่ ไม่สอดคลอ้ ง ให้ –1 ข้อ ประเดน็ ประเมิน สอดคลอ้ ง ไม่แน่ใจ ไม่ บันทกึ ข้อคดิ เห็น (+1) (0) สอดคลอ้ ง ในแตล่ ะประเด็น (-1) 1. เนื้อหาในรายวชิ าเลือกสอดคลอ้ ง กบั มาตรฐานการเรียนรขู้ อง หลักสตู รแกนกลาง 2. เน้อื หาในรายวิชาเลือกสอดคลอ้ ง กับมาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับของ หลักสตู รแกนกลาง 3. ตัวชว้ี ัดในรายวชิ าเลือกสอดคลอ้ ง กับมาตรฐานการเรียนรูข้ อง หลกั สตู รแกนกลาง 4. ตัวช้วี ดั ในรายวิชาเลือกสอดคล้อง กบั มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั ของ หลกั สูตรแกนกลาง 5. เนื้อหาในรายวชิ าเลอื กสอดคล้อง กบั ตัวชวี้ ดั ในรายวิชาเลือก 6. เนอ้ื หาในรายวชิ าเลือกสอดคลอ้ ง กับเหตกุ ารณ์หรอื สถานการณ์ ปจั จุบัน 160
ข้อ ประเด็นประเมิน สอดคลอ้ ง ไม่แน่ใจ ไม่ บันทึกขอ้ คิดเหน็ (+1) (0) สอดคลอ้ ง ในแต่ละประเด็น (-1) 7. เนอื้ หาในรายวิชาเลอื กมี ประโยชนต์ อ่ ผูเ้ รยี น 8. การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ของรายวิชาเลอื กสอดคล้องกบั เน้อื หาในรายวชิ าเลือก 9. การวดั และประเมินผลของ รายวิชาเลอื กสอดคลอ้ งกับ มาตรฐานการเรียนร้ขู องหลกั สูตร แกนกลาง 10. การวดั และประเมนิ ผลของ รายวชิ าเลือกสอดคลอ้ งกับ มาตรฐานการเรียนรู้ระดับของ หลักสตู รแกนกลาง 11. การวัดและประเมนิ ผลของ รายวชิ าเลอื กสอดคล้องกบั เน้อื หา ในรายวชิ าเลอื ก 12. การวดั และประเมินผลของ รายวิชาเลือกสอดคลอ้ งกบั ตัวช้ีวัดในรายวชิ าเลอื ก 13. จานวนชวั่ โมงสอดคล้องกับ เน้ือหาในรายวิชาเลอื ก บันทกึ ความคิดเหน็ การตรวจคณุ ภาพของหลักสูตร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ ………………………………………….……… ผ้ปู ระเมิน (...............................................) 161
ตัวอยา่ ง ตารางแสดงการวเิ คราะห์ความสอดคลอ้ งขององคป์ ระกอบของหลักสตู รรายวชิ าเลือก รายวิชา................................................................. รหัสรายวิชา ...................................... ที่ ประเด็นการประเมนิ ระดบั ความคิดเหน็ ของ รวม ค่า การ 1. เน้ือหาในรายวิชาเลอื กสอดคล้องกับ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปลผล คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนท่ี 3 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง มาตรฐานการเรยี นรู้ของหลกั สูตร แกนกลาง 2. เนอ้ื หาในรายวิชาเลอื กสอดคลอ้ งกับ 1 1 0 2 0.67 สอดคล้อง มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับของหลกั สตู ร แกนกลาง 3. ตวั ชี้วดั ในรายวิชาเลือกสอดคล้องกับ 1 1 1 3 1 สอดคล้อง มาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สตู ร แกนกลาง 4. ตวั ช้ีวัดในรายวิชาเลอื กสอดคลอ้ งกบั 1 1 1 3 1 สอดคล้อง มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั ของหลกั สูตร แกนกลาง 5. เนอ้ื หาในรายวิชาเลือกสอดคล้องกบั 1 1 1 3 1 สอดคล้อง ตวั ช้ีวัดในรายวิชาเลือก 6. เนอื้ หาในรายวิชาเลือกสอดคลอ้ งกับ 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง เหตกุ ารณ์หรอื สถานการณ์ปัจจุบนั 7. เนื้อหาในรายวิชาเลอื กมีประโยชน์ต่อ 1 1 1 3 1 สอดคล้อง ผู้เรยี น 8. การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ของ 1 1 1 3 1 สอดคล้อง รายวิชาเลอื กสอดคล้องกบั เนื้อหาใน รายวิชาเลอื ก 9. การวดั และประเมินผลของรายวิชาเลือก 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ของ หลักสูตรแกนกลาง 10. การวดั และประเมินผลของรายวิชาเลือก 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ ของหลกั สตู รแกนกลาง 162
ท่ี ประเด็นการประเมนิ ระดบั ความคดิ เหน็ ของ รวม ค่า การ ผูเ้ ชย่ี วชาญ IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนท่ี 3 11. การวัดและประเมินผลของรายวิชาเลือก 1 1 1 3 1 สอดคล้อง สอดคล้องกับเนอื้ หาในรายวิชาเลือก 12. การวดั และประเมินผลของรายวิชาเลือก 1 1 1 3 1 สอดคล้อง สอดคลอ้ งกบั ตวั ช้ีวดั ในรายวิชาเลอื ก 13. จานวนชั่วโมงสอดคลอ้ งกับเนือ้ หาใน 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง รายวิชาเลอื ก รวม 0.97 สอดคลอ้ ง จากตารางแสดงให้เห็นวา่ .......................................................................................................... ................................................................................................................................................................ นอกจากนีผ้ เู้ ชยี่ วชาญได้ใหข้ อ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ เกี่ยวกับหลกั สตู ร ดังนี้ 1. ................................................................................ 2. ................................................................................ 3. ................................................................................ 163
แบบประเมนิ ความสอดคลอ้ งขององคป์ ระกอบของหลักสูตรการศึกษาต่อเนอื่ ง หลักสตู ร............................................................................... จานวน ................. ชว่ั โมง คาช้ีแจง ขอให้ทา่ นพิจารณาประเด็นแต่ละประเดน็ ว่ามีความสอดคลอ้ งกนั หรอื ไม่ และโปรดระบุ ผลการพิจารณาประเด็นแต่ละประเด็น ถ้าแน่ใจว่าสอดคล้องให้ +1 ถ้าไม่แน่ใจให้ 0 และถา้ แนใ่ จวา่ ไมส่ อดคล้อง ให้ –1 ข้อ ประเดน็ ประเมิน สอดคล้อง ไม่แนใ่ จ ไมส่ อดคลอ้ ง (+1) (0) (-1) 1. หลักการของหลกั สูตรกับความเปน็ มา (ข้อมลู พื้นฐาน) 2. หลักการของหลักสตู รกับจดุ มงุ่ หมายของ หลกั สตู ร 3. จดุ มงุ่ หมายของหลักสูตรกบั โครงสรา้ งของหลกั สูตร 4. จุดมงุ่ หมายของหลกั สูตรกับเนือ้ หาหลักสตู ร 5. โครงสร้างของหลกั สตู รกบั เน้ือหาหลักสูตร 6. เนอื้ หาหลักสูตรกบั การจดั กระบวนการเรียนรู้ 7. จุดมุ่งหมายของหลักสูตรกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 8. จุดประสงค์การเรยี นร้กู ับการจัดกระบวนการ เรียนรู้ 9. จดุ มุ่งหมายของหลักสูตรกับการวดั และประเมนิ ผล 10. เน้อื หาหลกั สูตรกับส่ือการเรียนการสอน 11. จุดมงุ่ หมายของหลกั สูตรกับแนวทางการ ประเมินผลการเรยี น (รวบยอด) 12. จดุ มุง่ หมายของหลกั สูตรกับการประเมนิ หลกั สูตร บันทกึ ความคิดเห็นการประเมินความสอดคล้องขององค์ประกอบของหลกั สูตรการศกึ ษาต่อเนือ่ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………….……… ผู้ประเมนิ (...............................................) 164
ตวั อยา่ ง ตารางแสดงการวิเคราะห์ความสอดคลอ้ งขององคป์ ระกอบของหลกั สตู รการศึกษาตอ่ เนื่อง หลกั สูตร............................................................................... จานวน ................. ช่ัวโมง ท่ี ประเดน็ การประเมนิ ระดับความคดิ เห็นของ รวม คา่ การ ผู้เช่ยี วชาญ IOC แปลผล คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 1 หลกั การของหลักสตู รกบั ความเป็นมา 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง (ขอ้ มลู พ้นื ฐาน) 2 หลกั การของหลกั สูตรกบั จุดมงุ่ หมายของ 1 1 0 2 0.67 สอดคล้อง หลักสตู ร 3 จุดมุ่งหมายของหลกั สูตรกบั โครงสรา้ งของ 1 1 1 3 1 สอดคล้อง หลกั สูตร 4 จุดมุ่งหมายของหลักสตู รกับเน้อื หา 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง หลักสูตร 5 โครงสรา้ งของหลักสูตรกบั เนื้อหาหลกั สูตร 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง 6 เนอื้ หาหลกั สูตรกบั การจัดกระบวนการ 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง เรียนรู้ 7 จดุ มงุ่ หมายของหลกั สูตรกับจุดประสงค์ 1 1 1 3 1 สอดคลอ้ ง การเรียนรู้ 8 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้กับการจดั 1 1 1 3 1 สอดคล้อง กระบวนการเรยี นรู้ 9 จุดมงุ่ หมายของหลกั สตู รกับการวดั และ 1 1 1 3 1 สอดคล้อง ประเมินผล 10 เนื้อหาหลักสตู รกบั สอ่ื การเรียนการสอน 1 1 1 3 1 สอดคล้อง 11 จุดมงุ่ หมายของหลักสูตรกบั แนวทางการ 1 1 1 3 1 สอดคล้อง ประเมินผลการเรียน (รวบยอด) 12 จุดม่งุ หมายของหลักสูตรกบั การประเมิน 1 1 0 2 0.67 สอดคล้อง หลกั สตู ร รวม 0.95 สอดคล้อง จากตารางแสดงใหเ้ ห็นว่า.................................................................................................... ........................................................................................................................................................ นอกจากนผ้ี ูเ้ ช่ียวชาญไดใ้ ห้ข้อคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะอืน่ ๆ เกี่ยวกับหลกั สตู ร ดงั นี้ 1. ................................................................................ 2. ................................................................................ 3. ................................................................................ 165
หลังจากให้ผู้เช่ียวชาญหรือหรือคณะกรรมการตรวจคุณภาพหลกั สูตร โดยใช้แบบประเมินความ สอดคล้องขององค์ประกอบของหลักสูตร จากนั้นให้นาความคิดเห็นของผู้เช่ียวชาญแต่ละคน มาทา การวิเคราะห์ค่า IOC สาหรับค่า IOC ที่เหมาะสม ควรมีค่าไม่น้อยกว่า 0.5 จากตัวอย่างท่ีนาเสนอ เป็นการใช้ผู้เชี่ยวชาญหรือคณะกรรมการจานวน 3 คน ซ่ึงอาจใช้ผู้เช่ียวชาญหรือคณะกรรมการ มากกว่า 3 คน ก็ได้ แต่จานวนผู้เช่ียวชาญหรือคณะกรรมการควรเป็นจานวนค่ี เช่น 3 คน 5 คน 7 คน เปน็ ตน้ วธิ ีคานวณเพือ่ หาค่า IOC จากตวั อยา่ งตารางวิเคราะห์ความสอดคลอ้ งขององคป์ ระกอบของหลกั สตู รรายวชิ าเลอื ก และ หลกั สตู รการศึกษาตอ่ เนื่อง มวี ธิ ีคานวณดงั น้ี 1) หาค่า IOC แต่ละประเด็น โดยนาค่าคะแนนของผู้เช่ียวชาญหรือหรือคณะกรรมการตรวจ คณุ ภาพหลกั สูตรทกุ คนมารวมกัน แลว้ หารดว้ ยจานวนผูเ้ ชีย่ วชาญหรือหรือคณะกรรมการ ดงั นี้ - ประเดน็ ท่ี 1 มคี ่า IOC เทา่ กับ 1 IOC = 111 = 3 = 1 33 - ประเดน็ ท่ี 2 มีค่า IOC เทา่ กบั 0.67 IOC = 1 0 1 = 2 = 0.67 33 2) หาค่า IOC ภาพรวมท้ังฉบับ โดยนาค่า IOC ทุกประเด็นรวมกัน แล้วหารด้วยจานวนข้อ (ประเดน็ ) ดงั นี้ - หลักสตู รรายวชิ าเลือก มคี ่า IOC ภาพรวมทงั้ ฉบับ เทา่ กับ 0.97 IOC = 1 0.67 11111111111 13 = 12.67 = 0.97 3 - หลักสูตรการศกึ ษาตอ่ เน่ือง มีคา่ IOC ภาพรวมทั้งฉบบั เท่ากบั 0.97 IOC = 1 0.67 111111111 0.67 12 = 11.34 = 0.95 3 166
การปรบั ปรุง แกไ้ ขหลักสูตร กอ่ นนาหลกั สูตรไปใช้ หลังจากผู้เช่ียวชาญหรือหรือคณะกรรมการตรวจคุณภาพหลักสูตร และได้ทาการวิเคราะห์ค่า IOC พร้อมท้ังสรุปข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญหรือหรือคณะกรรมการต่อประเด็น ต่าง ๆ แล้ว จากนั้นให้นาประเด็นที่มีค่า IOC น้อยกว่า 0.5 มาปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรแต่ละ องคป์ ระกอบของหลักสตู ร ตามข้อเสนอแนะของผ้เู ช่ียวชาญหรือหรือคณะกรรมการ ข้อสังเกต ถงึ แม้ว่าในการประเมนิ แตล่ ะประเด็นของผู้เช่ียวชาญจะมีคา่ IOC ไม่นอ้ ยกว่า 0.5 แต่หากผู้เชี่ยวชาญมีข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นต่อประเด็นใด ควรนาข้อเสนอแนะหรือความ คิดเห็นนั้นมาพิจารณารว่ มดว้ ยในการปรบั ปรุงแกไ้ ขหลักสูตร กอ่ นนาหลกั สูตรไปใช้ เมื่อทาการปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรแต่ละองค์ประกอบของหลักสูตรเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทา หลักสูตรฉบับปรับปรุง เพ่ือเสนอต่อคณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณาเห็นชอบ และเสนอให้ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาอนมุ ัตหิ ลกั สตู ร ก่อนบรรจุไวใ้ นหลักสูตรสถานศึกษาต่อไป กรณีที่เป็นหลักสูตรรายวิชาเลือก จะต้องเสนอหลักสูตรให้สานักงาน กศน.จังหวัด เพื่อขอ รหสั รายวชิ า ก่อนบรรจุไว้ในหลักสตู รสถานศกึ ษา เมื่อดาเนินการตามกระบวนการพัฒนาหลักสูตร ตั้งแต่ขั้นที่ 1 – 5 และบรรจุหลักสูตรท่ี พัฒนาข้ึนไว้ในหลักสูตรสถานศึกษาแล้ว หลังจากน้ีจะเป็นการดาเนินการตามกระบวนการพัฒนา หลักสูตร ข้ันท่ี 6 -8 คือ การนาหลักสูตรไปใช้ การประเมินหลกั สตู ร และการปรบั ปรุงแก้ไขหลักสูตร ซึ่งสถานศึกษาและผู้เก่ียวข้องจะเป็นผู้ดาเนินการต่อจากน้ีจนเสร็จส้ินกระบวนการพัฒนาหลักสูตร ตามท่ีได้กล่าวไว้ในตอนที่ 1 หลังจากนาผลการประเมินหลักสูตรมาปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรแล้ว จะตอ้ งจัดทาหลักสตู รฉบบั สมบรู ณ์ และเสนอให้ผเู้ กยี่ วข้องทราบต่อไป คู่มือการพัฒนาหลกั สูตร สาหรบั ครู กศน. เลม่ นี้ สถาบนั กศน.ภาคเหนือ คาดหวังว่า จะ เป็นประโยชน์ต่อครู กศน. ในการนาไปใชเ้ ป็นแนวทางในการพัฒนาหลกั สตู รท้องถนิ่ ท่ีสอดคล้อง กับสภาพบริบทของพื้นที่ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน เพ่ือจัดหลักสูตรให้ เหมาะสมกับการเรียนรู้รายบุคคลหรือรายกลุ่มหรือรายชุมชน สาหรับตัวอย่างการจัดทาและ พฒั นาหลักสูตรในค่มู ือการพัฒนาหลักสตู รฯ เล่มน้ี เป็นเพียงตวั อย่างเพือ่ ให้ครู กศน. ได้มองเห็น ภาพรวมของการจดั ทาและพัฒนาหลักสตู ร ตลอดจนขนั้ ตอนกระบวนการของการพฒั นาหลกั สตู ร ซง่ึ ครู กศน. สามารถนาไปปรับใช้ให้สอดคลอ้ งเหมาะสมกับสภาพการดาเนินงาน กศน. สภาพบริบท ของพน้ื ท่ี และนโยบายการจัดการศึกษาของสถานศึกษาตอ่ ไป 167
บรรณานุกรม ณัฐวี อตุ กฤษฏ์. (2560). กระบวนการ PDCA ในการพัฒนางาน. เข้าถงึ เมือ่ 8 มีนาคม. เขา้ ถงึ ได้จาก http://202.44.34.144/kmit/knowledge_detail.php?IDKM=341. นิรมล ศตวุฒ.ิ (2543). การพฒั นาหลักสตู ร. พมิ พค์ ร้ังที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พ์ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. นริ มล ศตวฒุ ิและคณะ. (2546). ประสบการณภ์ าคสนามในการพัฒนาหลักสตู ร. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: สานกั พมิ พม์ หาวทิ ยาลยั รามคาแหง. ปวีณา ธติ ิวรนันท์. (2560). จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ หรือผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั กนั แน่?. เข้าถงึ เมื่อ 1 กุมภาพนั ธ.์ เข้าถงึ ได้จาก https://www.gotoknow.org/posts/89388. วชิรพันธ์ เชอ้ื หมอ. (2560). เครอ่ื งมอื ในการวจิ ัย. การรวบรวมข้อมลู และเครอ่ื งมอื ในการรวบรวมข้อมูล. เขา้ ถงึ เมอ่ื 1 กมุ ภาพนั ธ.์ เข้าถงึ ได้จาก http://researchtoolstechedrmutt.blogspot.com/p/blog-page_576.html. วรวุฒิ โรมรัตนพันธ์. (2560). การสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion). เขา้ ถงึ เม่อื 1 กุมภาพนั ธ์. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.priv.nrct.go.th/ewt_dl.php?nid=1182. ศกั ดิ์ศรี ปาณะกุล. (2545). การประเมนิ พัฒนาหลกั สูตร. พิมพ์ครั้งท่ี 3. กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พม์ หาวิทยาลัยรามคาแหง. สฤษด์ิพงษ์ ลิมปิษเฐียร และ ปญั ญา ธีระวิทยเลศิ . (2560). เทคนคิ วิธีและเครอ่ื งมือในการ เก็บรวบรวมข้อมูล. เขา้ ถึงเมือ่ 1 กมุ ภาพันธ์. เข้าถงึ ได้จาก edu.stou.ac.th/EDU/ UploadedFile/หนว่ ยท่ี10.pdf. สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั . สานกั งานปลดั กระทรวง ศกึ ษาธกิ าร. (2553). แนวทางการพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา. กรงุ เทพฯ: ร้านรงั ษีการพิมพ์. สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั . สานักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธกิ าร. (2555). คู่มอื การจดั การศกึ ษาตอ่ เน่ือง. พมิ พค์ รั้งท่ี 1. กรุงเทพฯ: รา้ นรงั ษกี ารพิมพ์. หน่วยที่ 7 การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและเครื่องมือท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู . ข้อมูลและประเภท ของขอ้ มูล. (2560). เขา้ ถงึ เมอ่ื 1 กมุ ภาพันธ์. เข้าถงึ ได้จาก http://www.ipecp.ac.th/ ipecp/cgi-binn/research/program/unit7/content1.htm. 168
ภาคผนวก
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
รายชื่อผเู้ ขา้ ร่วมประชมุ ปฏิบัติการยกร่างคู่มือการพฒั นาหลกั สูตร สาหรบั ครู กศน. ระหวา่ งวนั ที่ 30 มกราคม – 3 กุมภาพนั ธ์ 2560 ณ หอ้ งประชุมสมั มนา 3 สถาบัน กศน.ภาคเหนอื 1. นายจาเรญิ มูลฟอง ผู้อานวยการ สถาบัน กศน. ภาคเหนอื 2. นายสมชาย เด็ดขาด รองผู้อานวยการ สถาบนั กศน.ภาคเหนือ 3. นายพรี ะชยั มาลินกี ลุ หวั หน้าสว่ นวิจัยและพฒั นา 4. นางพมิ พรรณ ยอดคา ข้าราชการบานาญ 5. นางอรวรรณ ฟังเพราะ ครู ชานาญการพเิ ศษ สว่ นวจิ ัยและพฒั นา 6. นางรสาพร หมอ้ ศรใี จ ครู ชานาญการพิเศษ ส่วนวิจัยและพัฒนา 7. นายธรี ศักด์ิ ลอยลม ครู ชานาญการ ส่วนวจิ ยั และพฒั นา 8. นางนัชรี อุม่ บางตลาด ครู ชานาญการ ส่วนเทคโนโลยเี พื่อการศึกษา 9. นายเสถยี รพงศ์ ใจเย็น ครู ส่วนเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา 10. นางสาววราพร ปนั เงนิ เถาว์ เจ้าหน้าที่ สว่ นวจิ ัยและพฒั นา 186
คณะผู้จดั ทา ทป่ี รกึ ษา มูลฟอง ผู้อานวยการสถาบัน กศน.ภาคเหนือ นายจาเริญ เดด็ ขาด รองผ้อู านวยการสถาบนั กศน.ภาคเหนือ นายสมชาย คณะกรรมการวชิ าการ เด็ดขาด รองผอู้ านวยการ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นายสมชาย ยอดคา ข้าราชการบานาญ นางพิมพรรณ ฟังเพราะ ครู ชานาญการพิเศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางอรวรรณ หมอ้ ศรีใจ ครู ชานาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนือ นางรสาพร อุ่มบางตลาด ครู ชานาญการ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางสาวนัชรี ใจเยน็ ครู สถาบัน กศน.ภาคเหนือ นายเสถยี รพงศ์ ผ้เู ขียน ยอดคา ผู้เขยี นตอนท่ี 2 และ 3 นางพมิ พรรณ ฟงั เพราะ ผูเ้ ขียนตอนที่ 1 2 3 และ 4 นางอรวรรณ หมอ้ ศรใี จ ผเู้ ขยี นตอนท่ี 2 และ 3 นางรสาพร คณะผูเ้ ชี่ยวชาญ มลู ฟอง ผอู้ านวยการสถาบนั กศน.ภาคเหนือ นายจาเรญิ มาลนิ กี ุล ครู ชานาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนือ นางบษุ บา มาลนิ กี ุล ครู ชานาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนือ นายพรี ะชยั คณะบรรณาธกิ าร เด็ดขาด รองผู้อานวยการ สถาบัน กศน.ภาคเหนอื นายสมชาย ฟงั เพราะ ครู ชานาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางอรวรรณ หม้อศรีใจ ครู ชานาญการพิเศษ สถาบัน กศน.ภาคเหนอื นางรสาพร 187
ผูร้ วบรวม/เรียบเรียง/จัดทารปู เลม่ ครู ชานาญการพเิ ศษ สถาบนั กศน.ภาคเหนอื นางอรวรรณ ฟงั เพราะ ครู ชานาญการพิเศษ สถาบัน กศน.ภาคเหนอื นางรสาพร หม้อศรใี จ ผู้ออกแบบรูปเลม่ อุ่มบางตลาด ครู ชานาญการ สถาบัน กศน.ภาคเหนือ นางสาวนชั รี ใจเยน็ ครู สถาบัน กศน.ภาคเหนอื นายเสถียรพงศ์ ผอู้ อกแบบปก อมุ่ บางตลาด ครู ชานาญการ สถาบัน กศน.ภาคเหนือ นางสาวนัชรี เอกสารวชิ าการลาดับท่ี 01/2560 กมุ ภาพนั ธ์ 2560 188
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198