Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 6406167 A ok 22may

6406167 A ok 22may

Published by วริษา กสิวงค์, 2021-10-26 08:48:18

Description: 6406167 A ok 22may

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ การนาเสนอขอ้ มลู แนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ข กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เรอื่ ง การนาเสนอ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์แล แนวการจัดกิจก ข้นั นา  ครูแสดงตวั อย่างของข้อมูลทเี่ ป็นตาราง  ครูสาธิตการใช้ซอฟตแ์ วรใ์ นการสรา้ งแ ข้ันสอน  ทากจิ กรรมท่ี ๑ นาเสนอให้น่าสนใจอย  ทาใบงาน ๐๑ แผนภูมริ ปู ภาพ  ทาใบงาน ๐๒ แปลงรา่ งสร้างแผนภมู ิ ขั้นสรุป  อภปิ รายและลงข้อสรปุ เกย่ี วกับการนา วดั และประเมินผล  ทาใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หัด เรื่องการนา  ประเมนิ จากการตอบคาถาม  ประเมินจากการทากิจกรรมในชัน้ เรียน  ประเมนิ จากการทาแบบฝึกหัด

ของแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๕ 121 อข้อมลู ให้น่าสนใจ เวลา ๒ ช่ัวโมง ละเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ กรรมการเรยี นรู้ ง และข้อมลู ทีเ่ ปน็ แผนภมู ิ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบ แผนภูมแิ บบต่าง ๆ ย่างไร าเสนอข้อมลู ในรูปแบบตา่ ง ๆ าเสนอข้อมูลใหน้ ่าสนใจ น

122 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโล หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ การนาเสนอขอ้ มูล แผนการจดั ก กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรอ่ื ง การนาเสนอข รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์แ ขอบเขตเนือ้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ (๒ ช่ัวโมง) การใชซ้ อฟต์แวร์ในการสร้าง ชั่วโมงท่ี ๑ ขั้นนา (๑๐ นาที) แผนภมู เิ พือ่ นาเสนอข้อมลู ให้ ๑. ครูนาสถิติข้อมูลนักเรยี นของโรงเรียนมาให้น น่าสนใจ จุดประสงค์ดา้ นความรู้ อะไร นา่ สนใจหรอื ไม่ (แนวคาตอบ ข้อมูลจ ๒. ครนู าแผนภูมริ ูปภาพ และแผนภมู แิ ท่งสถติ ิข ๑. การสร้างแผนภูมิจากข้อมูล ๒. การใช้ซอฟต์แวร์สร้าง นักเรยี นตอ่ วา่ เป็นข้อมลู อะไร นา่ สนใจหรอื หรอื ไม่ (แนวคาตอบ ข้อมูลจานวนนกั เรยี น แผนภมู ิ ๓. ครูแนะนาตอ่ ว่าข้อมลู นน้ั มีประโยชน์ ถ้ามีก จุดประสงคด์ า้ นทักษะ เขา้ ใจได้งา่ ยข้นึ ข้อมูลแตล่ ะรูปแบบอาจมวี กระบวนการทางเทคโนโลยี ขั้นสอน (๔๐ นาที) ๑. ครแู บง่ กลุ่มนักเรยี น กลุ่มละ ๔ คน ๑. สรา้ งแผนภูมิจากข้อมูล ๒. ครนู ารปู แบบแผนภมู ชิ นดิ ต่าง ๆ เช่น แผนภ ๒. ใชซ้ อฟต์แวรส์ รา้ งแผนภูมิ ๓. ครแู จกใบงาน ๐๑ ให้นักเรยี นซกั ถามข้อสง จุดประสงคด์ ้านคณุ ธรรม ๔. ครสู ุ่มนักเรียนนาเสนอคาตอบในใบงาน ๐๑ ๑. มีความมงุ่ มน่ั ในการทางาน ๒. มีความซอ่ื สัตย์ต่อตนเอง

ลยี เทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ การเรียนรทู้ ่ี ๕ เวลา ๒ ชั่วโมง ข้อมูลใหน้ า่ สนใจ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ นกั เรียนดู แล้วถามนักเรยี นว่าเป็นข้อมลู ๑. ใบงาน จานวนนักเรยี น ไมค่ ่อยนา่ สนใจ) ภาระงาน/ชิ้นงาน ๑. การตอบคาถามในใบงาน ขอ้ มลู นกั เรยี นมาให้นกั เรียนดูแล้วถาม ๒. การทาแบบฝึกหัด อไม่ เทยี บกบั ข้อมลู ตารางแล้วน่าสนใจกวา่ วิธีการประเมนิ น นา่ สนใจ) ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัด การนาเสนอขอ้ มูลที่ดจี ะทาใหผ้ ฟู้ งั สนใจและ ๒. สงั เกตทักษะกระบวนการ วิธีการนาเสนอท่ีแตกต่างกนั ครูสุ่ม ๒-๓ คน ทางเทคโนโลยีในการทากิจกรรม ๓. สงั เกตด้านคุณธรรมขณะ ทากจิ กรรม ภมู ริ ูปภาพ แผนภมู ิวงกลม และแผนภมู ิแท่ง เกณฑก์ ารประเมิน งสยั กอ่ นการทาใบงาน ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหดั ๑

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๕ การนาเสนอข้อมูล แผนการจัดก กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรือ่ ง การนาเสนอข รายวชิ าวิทยาศาสตร์แ ๓. ใฝเ่ รยี นรู้ ข้ันสรปุ (๑๐ นาท)ี ๔. มวี นิ ัย ๕. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายและลงข้อส ๕. มคี วามสามคั คี ช่วยเหลือใน ชั่วโมงที่ ๒ ข้ันนา (๑๐ นาที) การทางานกลมุ่ รว่ มกัน ๑. ครเู ปดิ โปรแกรมตารางทางาน เพื่อสาธติ วิธ ข้ันสอน (๓๐ นาท)ี ๒. ครแู บง่ กลุ่มนักเรยี นกลุ่มละ ๔ คน และให้น ๓. ครูส่มุ นกั เรยี นนาเสนอคาตอบใบงาน ๐๒ ขัน้ สรปุ (๒๐ นาท)ี ๔. ให้นักเรยี นตอบคาถามหลังจากทากิจกรรม ของแผนภมู ิท่เี หมาะสมกบั ลักษณะของข้อม ๕. ครแู จกใบงาน ๐๓ แบบฝึกหดั เรอื่ งการนาเส ทดสอบความเขา้ ใจ

123 การเรยี นรู้ท่ี ๕ เวลา ๒ ชั่วโมง ขอ้ มูลใหน้ ่าสนใจ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ไดถ้ กู ต้องด้วยตนเอง สรุปเกยี่ วกับแผนภมู ริ ูปภาพ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๕ % ได้ ๒ คะแนน ธกี ารสรา้ งแผนภูมิโดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน นักเรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั ทาใบงาน ๐๒ ๒. มีคุณลกั ษณะดา้ นคณุ ธรรม - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน และสรุปเกี่ยวกับการนาเสนอข้อมลู ในรปู - ๕๐ % - ๗๕ % ได้ ๒ คะแนน มลู - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน สนอขอ้ มลู ใหน้ า่ สนใจ เพอ่ื ให้นักเรยี น

124 แบบประเมินด้านคณุ ธรรม แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๕ การนาเสนอขอ้ มูลให้น่าสนใจ ช่ือผปู้ ระเมนิ /กลุ่มประเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ชอื่ กลุ่มรบั การประเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………………. ประเมนิ ผลครง้ั ท่ี………………….... วัน ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………............. เรอ่ื ง………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ท่ี ลักษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ระดบั พฤตกิ รรม คะแนนท่ไี ด้ เกิด = ๑ ไมเ่ กิด = ๐ ๑. มคี วามมุ่งมนั่ ในการทางาน ๒. มีความซ่ือสัตยต์ ่อตนเอง ๓. ใฝ่เรยี นรู้ ๔. มีวินัย ๕. ความสามคั คี ช่วยเหลอื ในการทางานกลมุ่ ร่วมกนั รวมคะแนนที่ได้ทง้ั หมด = …………… คะแนน คุณลกั ษณะตามจุดประสงคด์ ้านคุณธรรม - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

125 แบบประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยีในการทากิจกรรม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕ การนาเสนอขอ้ มูลใหน้ ่าสนใจ เกณฑก์ ารประเมนิ มีดงั นี้ ๒ หมายถึง พอใช้ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ๓ หมายถงึ ดี สง่ิ ที่ประเมนิ คะแนน สรา้ งแผนภมู ิจากข้อมลู ใช้ซอฟต์แวร์สร้างแผนภมู ิ รวมคะแนน เกณฑ์การประเมิน ทักษะ ระดับความสามารถ กระบวนการทาง ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรงุ (๑) เทคโนโลยี ไมส่ ามารถสร้างแผนภูมิจาก สรา้ งแผนภมู จิ าก สามารถสรา้ งแผนภมู ิจาก สามารถสรา้ งแผนภมู ิจากข้อมูล ข้อมลู ได้ ถงึ แม้จะไดร้ ับ คาแนะนาจากครูหรือผอู้ นื่ ข้อมูล ข้อมลู ได้ ด้วยตนเอง ได้ โดยการชแ้ี นะของครหู รือ ไม่สามารถใช้ซอฟต์แวรส์ ร้าง แผนภมู ไิ ด้ ถงึ แมจ้ ะไดร้ บั ผ้อู ืน่ คาแนะนาจากครูหรือผู้อน่ื ใชซ้ อฟต์แวรส์ ร้าง สามารถใช้ซอฟต์แวร์ สามารถใชซ้ อฟต์แวร์สร้าง แผนภูมิ สร้างแผนภูมิ ดว้ ยตนเอง แผนภมู ิได้ โดยการชแ้ี นะของ ครหู รือผูอ้ ืน่

126 เฉลยใบงาน

127

128 ได้ โดยอาจกาหนดใหร้ ูปคนหนึ่งรูปแทนจานวนนักเรยี นท่ีมากกวา่ น้ี เชน่ รูปคน ๑ รปู แทนจานวนนกั เรียน ๑๐๐ คน

129

130

131 แผนภูมแิ ทง่ เพราะ สามารถเปรียบเทียบไดง้ า่ ยว่าอาหารชนดิ ใดท่ีนักเรียนชอบนอ้ ยทส่ี ุด หรือชอบมากทสี่ ดุ โดยดูจากความสงู ของแท่งแผนภูมิ

132 สามารถเลือกตอบได้ตามความคดิ ของนักเรียน โดยพิจารณาจากเหตุผลทน่ี ักเรยี นตอบ เลือกแผนภมู โิ ดยเลือกใชใ้ ห้เหมาะสมกบั ชนิดของข้อมลู และจุดประสงคข์ องการนาเสนอ เชน่ - ถ้าต้องการนาเสนอข้อมลู ทป่ี ระกอบด้วยสัดสว่ นย่อย และรวมกันเปน็ สัดส่วนใหญ่ สามารถใช้ แผนภมู ิวงกลมนาเสนอได้ แต่จานวนสัดสว่ นตอ้ งไมม่ ากเกนิ ไป - ถา้ ข้อมลู มคี วามต่อเนื่อง สามารถใชแ้ ผนภมู เิ ส้นได้ เพื่อใหเ้ ห็นแนวโน้มของข้อมลู - ถา้ ตอ้ งการนาเสนอเพื่อให้เห็นความแตกต่างของข้อมูล สามารถใชแ้ ผนภูมแิ ทง่ หรือแผนภูมิ รปู ภาพได้

133 ๑๐ ๘ ๑๒ ๕ ๑๑ แผนภมู ริ ปู ภาพ เพราะรูปภาพชว่ ยดึงดูดความสนใจ และสามารถเปรยี บเทยี บ ความแตกตา่ งของข้อมลู ได้ หมายเหตุ นักเรยี นอาจตอบแผนภูมิแท่งได้ พจิ ารณาคาตอบและเหตุผลของนกั เรียนวา่ สอดคล้องกบั ขอ้ มูลหรอื ไม่

134 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ การประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมูล

135 หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๖ การประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของข้อมูล จานวนเวลาเรยี น ๒ ชัว่ โมง จานวนแผนการจัดการเรียนรู้ ๑ แผน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระสาคญั ของหนว่ ย ข้อมลู ข่าวสารทีไ่ ดร้ บั จากส่อื ต่าง ๆ ในชวี ิตประจาวนั มีทั้งข้อมลู ท่ีน่าเชื่อถือ และขอ้ มูลท่ีหลอกลวง ผู้รบั ข้อมูลต้องรู้จกั ใชข้ ้อมูลอยา่ งมีวจิ ารณญาณ ตรวจสอบ ประเมินความถูกต้องของขอ้ มลู ท้ังในบทบาทของ ผรู้ ับขอ้ มูลและผเู้ ผยแพร่ข้อมูล การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล สามารถพิจารณาได้จากผ้เู ผยแพร่ หน่วยงานเจา้ ของข้อมลู วนั ที่เผยแพร่ การอ้างองิ แหล่งข้อมลู มาตรฐานและตัวช้ีวัด มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชีวติ จริงอยา่ งเป็นขนั้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ตัวชว้ี ดั ว ๔.๒ ป. ๔/๓ ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ และประเมินความนา่ เชื่อถือของข้อมลู ว ๔.๒ ป.๔/๕ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ท่ขี องตน เคารพในสทิ ธิ ของผู้อ่ืน แจง้ ผู้เก่ียวข้องเม่ือพบข้อมูลหรอื บุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม

136 ลาดับการนาเสนอแนวคดิ หลักของหน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๖ การประเมินความน่าเชอื่ ถือของข้อมูล การนาเสนอขอ้ มลู จากแหล่งข้อมลู ท่ีหลากหลาย การวิเคราะห์และประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมูล การเผยแพร่ขอ้ มูลท่ีนา่ เชอ่ื ถือสู่สาธารณะ โครงสรา้ งของหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๖ การประเมินความนา่ เช่ือถือของข้อมูล หนว่ ยการเรยี นรู้ จานวนแผน ช่อื แผนการจัดการเรยี นรู้ จานวนช่ัวโมง ๒ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๖ ๑ ๖ ขอ้ มูลนา่ เชอ่ื ถอื การประเมนิ ความ นา่ เชื่อถือของข้อมลู

137 คาชี้แจงประกอบแผนจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๖ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๖ ข้อมลู ตา่ เช่ือถือ เวลา ๒ ช่วั โมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. สาระสาคญั ของแผน ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากสือ่ ต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน มีทัง้ ข้อมูลทน่ี า่ เชื่อถือ และข้อมลู ท่ีหลอกลวง ผูร้ บั ขอ้ มลู ต้องรู้จกั ใชข้ ้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ ตรวจสอบ ประเมินความถกู ต้องของข้อมูล ท้งั ในบทบาทของ ผรู้ ับขอ้ มูลและผู้เผยแพร่ขอ้ มูล การประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของข้อมลู สามารถพิจารณาได้จากผเู้ ผยแพร่ หนว่ ยงานเจา้ ของข้อมูล วันทีเ่ ผยแพร่ การอ้างอิงแหล่งขอ้ มลู ๒. ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติมในการนาไปใช้ ๒.๑ ขอบข่ายเน้ือหา การประเมนิ ความนา่ เชื่อถอื ของข้อมลู และการอ้างอิงแหล่งท่มี าของข้อมลู ๒.๒ จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงคด์ า้ นความรู้ ๑. การประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมลู ๒. การอ้างอิงแหลง่ ท่ีมาของข้อมูล จดุ ประสงค์ดา้ นทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ๑. ประเมินความน่าเชอ่ื ถือของข้อมูล จุดประสงคด์ ้านคุณธรรม ๑. มคี วามมงุ่ มน่ั ในการทางาน ๒. มีความซ่ือสัตย์ต่อตนเอง ๓. ใฝ่เรียนรู้ ๔. มีวนิ ัย ๕. ความสามคั คี ช่วยเหลอื ในการทางานกลุม่ ร่วมกัน ๒.๓ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑) การเตรียมตัวของครู นักเรียน การจัดกลุ่ม โดยแบง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุม่ กลุ่มละ ๒-๓ คน ๒) การเตรยี มสื่อ วสั ดุอปุ กรณ์ ของครู นกั เรยี น สง่ิ ทคี่ รูต้องเตรียม คอื ๒.๑ ภาพตวั อย่างท่ี ๑ และ ๒

138 ส่ิงที่นกั เรียนต้องเตรียม คือ - ๓) เตรียมใบงาน ใบความรู้ ใบกจิ กรรม ๓.๑ ใบงาน ๐๑ จริงหรือไม่ ใชห่ รอื หลอก ๓.๒ ใบงาน ๐๒ ภาวะโลกร้อน ๓.๓ ใบงาน ๐๓ แแบบฝึกหัด เรอื่ งข้อมลู น่าเชื่อถอื ๒.๔ วดั ผลประเมินผล ๑) วธิ ีการวัดผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ การตอบคาถามในใบงาน ๑.๒ สังเกตทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีในการทากจิ กรรม ๑.๓ สังเกตดา้ นคณุ ธรรมขณะทากิจกรรม ๒) วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ ๒.๑ เครอื่ งมือและเกณฑใ์ นการประเมนิ ดา้ นความรู้ ตรวจให้คะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แล้วใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนน ดงั นี้ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๒ เครื่องมอื และเกณฑ์ในการประเมินทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี สงั เกตทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี โดยใชแ้ บบประเมินทักษะกระบวนการทาง เทคโนโลยี (ดงั แนบ) นาคะแนนมารวมกนั แลว้ ใช้เกณฑ์ในการใหค้ ะแนนดงั น้ี - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๓ เครือ่ งมือและเกณฑ์ในการประเมินด้านคณุ ธรรม สงั เกตคุณลักษณะด้านคุณธรรมโดยใช้แบบประเมินด้านคุณธรรม (ดงั แนบ) นาคะแนนมารวมกัน แล้วใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนน ดังน้ี - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๓) การทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น แบบฝกึ หัดก่อนเรยี น หลังเรียน ทาแบบฝึกหดั ในใบงานหลงั เรียน ๓. อื่น ๆ

แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ข หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖ การประเมินความนา่ เชือ่ ถือของข้อมลู เรอ่ื ง ข้อมลู กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตรแ์ ล ขน้ั นา แนวการจดั กิจก  ครนู าเสนอรปู ภาพการเผยแพร่ข้อมลู ท ขั้นสอน  ทากิจกรรมท่ี ๑ จริงหรอื ไม่ ใชห่ รอื หล ข้นั สรุป  ทาใบงาน ๐๑ จริงหรือไม่ ใช่หรอื หลอ วัดและประเมนิ ผล  ทาใบงาน ๐๒ ภาวะโลกรอ้ น  อภปิ รายและลงข้อสรุปเกย่ี วกับการปร  ทาใบงาน ๐๓ แบบฝึกหดั เร่ืองข้อมูลน  ประเมินจากการตอบคาถาม  ประเมนิ จากการทากจิ กรรมในชนั้ เรยี น  ประเมนิ จากการทาแบบฝกึ หัด

139 ของแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๖ เวลา ๒ ชั่วโมง ลนา่ เชือถือ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ละเทคโนโลยี เทคโนโลยี กรรมการเรยี นรู้ ทนี่ ่าเช่อื ถือ และขอ้ มลู ท่ีไมน่ า่ เช่ือถือ แล้วใหน้ กั เรยี นรว่ มกันพจิ ารณา ลอก อก ระเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู นา่ เชอื่ ถอื น

140 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโล แผนการจัดก หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๖ การประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล เรอื่ ง ข้อมูลน กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์แ ขอบเขตเนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ (๒ ชั่วโมง) การประเมนิ ความน่าเช่อื ถือ ชั่วโมงที่ ๑ ขนั้ นา (๑๐ นาท)ี ของข้อมูล และการอา้ งองิ ๑. ครูถามนักเรยี นว่า “ในแต่ละวันนักเรยี นได้ร แหลง่ ทมี่ าของขอ้ มลู นักเรยี นตอบคาถามเป็นรายบุคคล (แนวคาตอบ จุดประสงค์ด้านความรู้ ๒. ครถู ามนกั เรยี นต่อวา่ “นกั เรยี นจะทราบไดอ้ แล้วสมุ่ นักเรียนตอบคาถาม ๑. การประเมินความน่าเชื่อถือ ๓. ครูเปดิ รูปภาพตัวอยา่ งท่ี ๑ การเผยแพรข่ ้อม ของขอ้ มูล ๓.๑ “ใครเช่ือข้อมลู ดงั กล่าวบ้าง เพราะเหต ๒. การอา้ งอิงแหลง่ ทม่ี าของ ๓.๒ “ใครไม่เชือ่ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วบา้ ง เพราะเ ขอ้ มลู ๔. ครเู ปิดรูปภาพตวั อย่างที่ ๒ การเผยแพรข่ ้อม ๔.๑ “ใครเชอ่ื ข้อมลู ดังกลา่ วบ้าง เพราะเห จดุ ประสงคด์ า้ นทักษะ ๔.๒ “ใครไม่เชื่อขอ้ มลู ดังกลา่ วบา้ ง เพราะเ กระบวนการทางเทคโนโลยี ๕. ครูเฉลยว่า ๑. ประเมนิ ความน่าเช่ือถือของ ข้อมูล จดุ ประสงค์ดา้ นคณุ ธรรม ๑. มีความมงุ่ ม่ันในการทางาน

ลยี เทคโนโลยี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ การเรียนรทู้ ่ี ๖ เวลา ๒ ช่วั โมง นา่ เช่อื ถือ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ รับขอ้ มลู ข่าวสารจากส่ือใดบ้าง” แลว้ สุ่ม ๑. ใบงาน บ อนิ เทอร์เน็ต โทรทัศน์ วิทยุ) ภาระงาน/ชิ้นงาน อย่างไรว่าข้อมลู ท่ไี ด้รบั น่าเชื่อถือหรือไม่” ๑. การตอบคาถามในใบงาน ๒. การทาแบบฝึกหัด มูลทีน่ ่าเชอื่ ถอื (ดงั แนบ) แลว้ ถามนกั เรยี น วิธกี ารประเมิน ตุใด” สุ่มนักเรียนทย่ี กมือให้ตอบคาถาม ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัด เหตุใด” สุ่มนักเรียนท่ยี กมือใหต้ อบคาถาม ๒. สังเกตทกั ษะกระบวนการ มูลที่ไม่น่าเช่ือถือ (ดังแนบ) แลว้ ถามนักเรยี น ทางเทคโนโลยีในการทากิจกรรม หตใุ ด” สมุ่ นักเรยี นทีย่ กมือใหต้ อบคาถาม ๓. สงั เกตดา้ นคุณธรรมขณะ เหตุใด” สมุ่ นักเรียนท่ียกมือใหต้ อบคาถาม ทากจิ กรรม เกณฑ์การประเมิน ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัด

แผนการจัดก หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๖ การประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู เร่ือง ข้อมูลน กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์แ ๒. มคี วามซอ่ื สัตยต์ ่อตนเอง “ภาพตวั อย่างที่ ๑ น่าเชอ่ื ถือ เพราะ ระบุเว ๓. ใฝเ่ รียนรู้ อ้างองิ ซ่ึงแหลง่ ข้อมูลเป็นหน่วยงานเจ้าของขอ้ ๔. มวี ินัย ได้ ๕. มีความสามัคคี ชว่ ยเหลือใน ภาพตัวอยา่ งที่ ๒ ไมน่ ่าเชอ่ื ถือ เพราะ ไม่มแี การทางานกล่มุ ร่วมกัน เวลาทจี่ ะเกดิ เหตุการณ์อยา่ งชัดเจน รายละ เพียงพอ เป็นข่าวลวงทท่ี าให้คนตนื่ ตกใจ เป ข้ันสอน (๔๐ นาที) ๖. ครแู บ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ ๔ คน ๗. ครูนารปู แบบแผนภมู ชิ นิดตา่ ง ๆ เชน่ แผ แทง่ ๘. ครแู จกใบงาน ๐๑ ให้นักเรียนซกั ถามข้อส ๙. ครสู มุ่ นักเรยี นนาเสนอคาตอบในใบงาน ๐ ขั้นสรุป (๑๐ นาที) ๑๐. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายและลงข้อ ค้นควา้ มา ชั่วโมงที่ ๒ ข้ันนา (๑๐ นาท)ี

141 การเรยี นร้ทู ี่ ๖ เวลา ๒ ชั่วโมง นา่ เชอ่ื ถือ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ไดถ้ ูกต้องด้วยตนเอง วลาท่จี ะเกดิ เหตุการณช์ ดั เจน มีแหลง่ ขอ้ มลู - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน อมลู โดยตรง และมลี ิงค์สาหรบั ติดตามขอ้ มูล - ๕๐ % - ๗๕ % ได้ ๒ คะแนน - ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน แหล่งอ้างองิ ที่มาของขอ้ มลู ไม่ไดร้ ะบวุ ันและ ๒. มคี ุณลกั ษณะด้านคุณธรรม ะเอยี ดของรังสีที่เปน็ อันตรายไมค่ รบถว้ น - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน ป็นต้น” - ๕๐ % - ๗๕ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ผนภมู ริ ูปภาพ แผนภมู ิวงกลม และแผนภูมิ สงสัยก่อนการทาใบงาน ๐๑ อสรปุ เกยี่ วกบั งานที่มอบหมายใหน้ ักเรียนไป

142 แผนการจัดก หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๖ การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมลู เร่ือง ข้อมูลน กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์แ ๑. ครูแจ้งให้นกั เรียนทราบวา่ วันน้ีเราจะทาเอ โดยจะใชข้ ้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลทีน่ กั เรยี นแต ๒. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มอภิปรายแล้วเลอื กข้อมูล ที่สดุ พร้อมระบุเหตุผลในการเลอื กข้อมลู นั้น ขัน้ สอน (๔๐ นาที) ๓. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันออกแบบเอกสาร สร้างชนิ้ งานเอกสารประชาสัมพนั ธต์ ามจินต เอกสารประชาสมั พันธต์ ้องเข้าใจงา่ ย ชดั เจน ดว้ ย ๔. ครใู หค้ าปรึกษาและข้อเสนอแนะในระหว่าง ๕. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ นาเสนอผลงานที่ป้ายนิเท ข้ันสรุป (๑๐ นาท)ี ๖. ให้นกั เรยี นตอบคาถามหลงั จากทากจิ กรรม และการอา้ งองิ แหลง่ ที่มาของขอ้ มูล ๗. ครแู จกใบงาน ๐๓ แบบฝึกหัด เรอื่ งข้อมลู นา่

การเรยี นรู้ที่ ๖ เวลา ๒ ช่ัวโมง นา่ เช่อื ถือ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี อกสารประชาสมั พันธเ์ รอื่ ง “ภาวะโลกร้อน” ตล่ ะคนเตรยี มมา ลของสมาชิกในกลุ่มท่มี คี วามนา่ เชื่อถือมาก น (อาจเลอื กไดม้ ากกวา่ ๑ แหล่ง) รประชาสัมพนั ธ์ เรือ่ ง ภาวะโลกร้อน แลว้ ตนาการลงในใบงาน ๐๒ โดยครกู าชบั วา่ น และนา่ เชื่อถือ ต้องมแี หลง่ อ้างอิงข้อมลู งนักเรียนทาใบงาน ทศในชนั้ เรยี น และสรุปเก่ียวกับความเชอ่ื ถือของขอ้ มูล าเชื่อถือ เพ่ือใหน้ กั เรยี นทดสอบความเขา้ ใจ

143 แบบประเมนิ ด้านคณุ ธรรม แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๖ ขอ้ มูลนา่ เชื่อถือ ชื่อผปู้ ระเมิน/กลุ่มประเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ชื่อกลุ่มรบั การประเมิน……………………………………………………………………………………………………………………. ประเมนิ ผลครง้ั ที่………………….... วัน ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………............. เร่อื ง………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ท่ี ลักษณะ/พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดับพฤตกิ รรม คะแนนทไ่ี ด้ เกิด = ๑ ไม่เกิด = ๐ ๑. มีความมุ่งมั่นในการทางาน ๒. มคี วามซื่อสัตยต์ ่อตนเอง ๓. ใฝเ่ รียนรู้ ๔. มีวินยั ๕. ความสามคั คี ชว่ ยเหลือในการทางานกลุ่มรว่ มกัน รวมคะแนนทไี่ ด้ทงั้ หมด = …………… คะแนน คุณลกั ษณะตามจุดประสงค์ด้านคุณธรรม - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตา่ กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

144 แบบประเมินดา้ นทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีในการทากิจกรรม แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ ข้อมูลน่าเช่ือถอื เกณฑ์การประเมนิ มีดังน้ี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ๓ หมายถึง ดี สิง่ ทีป่ ระเมนิ คะแนน ประเมินความนา่ เชอื่ ถือของข้อมลู รวมคะแนน เกณฑ์การประเมิน ทักษะ ระดบั ความสามารถ กระบวนการทาง ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรับปรุง (๑) เทคโนโลยี ประเมินความ สามารถประเมินความ สามารถประเมนิ ความนา่ เชื่อถือ ไมส่ ามารถประเมนิ ความ ของขอ้ มูลได้ โดยการช้แี นะ น่าเชอ่ื ถือของข้อมูลได้ ถงึ แม้ น่าเชือ่ ถอื ของ นา่ เชื่อถือของข้อมูลได้ ของครูหรือผอู้ ื่น จะได้รบั คาแนะนาจากครูหรอื ผู้อื่น ขอ้ มลู ด้วยตนเอง

145 เฉลยใบงาน

146

147 √ จาก Infographic น้ี ระบุช่ือผ้เู ขยี น ชัดเจนซึ่งเป็นนกั วชิ าการโภชนาการ ของ คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซง่ึ มคี วามเชี่ยวชาญ และเกย่ี วข้องกับเน้อื หาใน Infographic นี้ √ จากข่าวน้ี ไมม่ กี ารอ้างอิงแหลง่ ที่มา ไม่ระบุวันทีเ่ ผยแพร่ และไม่ระบชุ ่ือผเู้ ขียน สานักข่าวหรือหนว่ ยงานท่ชี ัดเจน

148 √ จากบทสนทนาออนไลนน์ ี้ ขอ้ มูลทสี่ ่งมาไม่ระบุแหล่งท่ีมาอย่างชัดเจน จงึ ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครคอื ผเู้ ขยี น เป็นขอ้ มูลจากธนาคารออมเงนิ จรงิ หรอื ไม่ และจากเนือ้ หาทกี่ ลา่ วว่าจะไดร้ บั รางวลั ๑๐๐๐ บาท ก็เปน็ ไปได้ยาก ขอ้ มูลนี้จงึ ไม่ นา่ เชอ่ื ถอื √ จากขา่ วนี้ มกี ารอ้างอิงแหล่งท่มี า คอื เว็บไซต์ขา่ วซึ่งเปน็ ทรี่ ู้จักและเชื่อถือได้ นอกจากนยี้ งั ระบุวนั ที่เผยแพร่ขอ้ มูลและมี ภาพประกอบซึ่งเก่ียวข้องกับเนอ้ื หาของข่าว

149 √ จากโฆษณานี้ ไม่ระบชุ ่ือผผู้ ลิต ไม่มกี ารอ้างอิงแหล่งท่ีมาหรือการรบั รองของ องค์การอาหารและยา นอกจากนี้ขอ้ ความ โฆษณากเ็ กินจริงท่ีกล่าวว่าผิวจะขาวใส ภายใน ๓ วัน จึงทาใหโ้ ฆษณานไ้ี ม่นา่ เช่ือถือ

150 https://www.greenpeace.org กรีนพซี ประเทศไทย g/thailand/explore/protect/climate/impacts/www .greenpeace.org พิจารณาจากที่อยู่เวบ็ ไซตห์ รือ URL ทีล่ งทา้ ยดว้ ย .org ซ่งึ เปน็ เว็บไซตข์ ององค์กรไม่หวงั ผลกาไร ทาให้ ข้อมลู ที่หามาไดจ้ ะไม่มโี ฆษณาแอบแฝงอยู่ และเม่ือตรวจสอบข้อมูลของเว็บไซตน์ ้ที าให้ทราบวา่ เป็น องค์กรรณรงค์อสิ ระระดับโลก ทรี่ ณรงคเ์ กีย่ วกับการปกป้องสิง่ แวดล้อมและธรรมชาติ หมายเหตุ คาตอบของนกั เรยี นอาจแตกต่างจากนี้ ใหพ้ จิ ารณาจากแหล่งข้อมูลและเกณฑ์การพิจารณาของนกั เรียน

151

152

153 เฉลยแบบทดสอบ

154

155

156

157 บรรณานุกรม สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2561). คู่มอื การใช้หลกั สูตร เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ระดบั ประถมศกึ ษา และมธั ยมศึกษา. สืบคน้ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพนั ธ์ 2564, จาก https://www.scimath.org/ebook-technology/item/8376-2560-2551 สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). ตัวชี้วดั และสาระการ เรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชมุ ชนสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั . สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2562). หนังสือเรยี นรายวชิ า พืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวดั กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว. สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2562). แบบฝกึ ทักษะรายวิชา พืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้วี ัด กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.

158 คณะผจู้ ัดทา ที่ปรกึ ษามูลนธิ ิการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ พลเอกดาวพ์ งษ์ รัตนสวุ รรณ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธกิ ารศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ รองศาสตราจารยน์ ราพร จนั ทรโ์ อชา รองประธานกรรมการบรหิ ารมลู นธิ ิการศึกษาทางไกลผ่าน ดาวเทยี มในพระบรมราชปู ถมั ภ์ นายอนุสรณ์ ฟเู จรญิ ผู้ชว่ ยเลขาธิการมูลนิธิการศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ทป่ี รกึ ษาสานกั งานโครงการสว่ นพระองคส์ มเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพ รัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี นายสมเกยี รติ ชอบผล ที่ปรกึ ษาสานักงานโครงการ ฯ นายสชุ าติ วงศส์ ุวรรณ ข้าราชการบานาญ อดตี ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ปรึกษาสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน นายอานาจ วชิ ยานวุ ตั ิ เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน นายสนทิ แยม้ เกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน นายอัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน ท่ปี รึกษากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ศาสตราจารย์ ดร.ชกู ิจลิลิมปจิ านงค์ ผอู้ านวยการสถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดร.กุศลิน มสุ กิ ลุ ผู้ชว่ ยผู้อานวยการสถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

159 คณะทางานกลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ สาระเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) นางสุนันทา สรอ้ ยสวัสด์ิ ครชู านาญการพเิ ศษ โรงเรยี นวัดสระแกว้ จังหวดั นครราชสมี า นางสาววณดิ า ตว่ นศิริ ครโู รงเรยี นวังไกลกงั วล ในพระบรมราชูปถมั ภ์ จ.ประจวบครี ีขนั ธ์ นายสราวธุ มีศรี นักวิชาการสถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาวพรพมิ ล ตง้ั ชัยสิน ผชู้ านาญสถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คณะบรรณาธกิ ารกิจ นางสาวนารี วงศ์สิโรจนก์ ลุ ผเู้ ช่ยี วชาญพิเศษสถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ผศ.ดร.รวิวรรณ เทนอิสสระ ผู้เชีย่ วชาญพเิ ศษสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี นายพนู ศักด์ิ สกั กทตั ตยิ กุล ผชู้ านาญสถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาวพรพิมล ต้ังชยั สนิ ผู้ชานาญสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook