Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2564_BCG-Actioion-Plan

2564_BCG-Actioion-Plan

Published by banchongmcu_surin, 2022-07-06 13:55:10

Description: 2564_BCG-Actioion-Plan

Search

Read the Text Version

๒๕๖๓ ซ่ึงเปน็ ช่วงที่ท่ัวโลกต้องเผชิญกับวิกฤติโรคโควิด-๑๙ มลู ค่าการนำเขา้ โดยเฉพาะกลุ่มครุภัณฑ์ทาง การแพทย์ และชุดตรวจวินิจฉัยเพิ่มขึ้นกว่า ๒ เท่า คิดเป็นมูลค่าราว ๕๕,๐๐๐ ล้านบาท ทั้งท่ี ผู้ประกอบการเครื่องมือแพทย์ไทย สามารถผลิตเครื่องมือแพทย์ที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานด้านความ ปลอดภัยในระดับเดียวกบั สินค้าท่นี ำเข้าจากต่างประเทศ แมป้ จั จุบันมี “บัญชีนวัตกรรมไทย” แตพ่ บวา่ การ จัดซื้อ-จัดจา้ งอุปกรณ์การแพทย์จากบัญชีฯ ดังกล่าว คิดเป็นเพียงร้อยละ ๑.๕ จากมูลค่าการจัดซื้อจัดจา้ ง เครื่องมือแพทย์ภาครัฐเท่านั้น ซึ่งนับว่าต่ำมาก จึงเสนอการใช้ มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องมือ แพทย์ไทย พัฒนาทั้งระบบ โดยตอ่ ยอดเคร่ืองมือแพทย์ไทย สนับสนนุ การทดลองใชผ้ ่านกลไกกระบะทราย (Sandbox) นำผลิตภัณฑ์ให้ผา่ นมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อย. และ ขึ้นบัญชีนวตั กรรมไทย จนสามารถนำเข้าสู่ ตลาดภาครัฐ โดยในปีแรก ตั้งเป้าในปที ี่ ๑ เพื่อสนับสนุนจำนวน ๔ ผลิตภณั ฑจ์ ากผู้ประกอบการ SMEs ให้ เกิดการใช้ในโรงพยาบาล ซึ่งจะส่งผลให้ลดการนำเข้าสินค้า เกิดธุรกิจรายใหม่ ก่อให้เกิดเศรษฐกิจ หมุนเวียนในประเทศ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงเครื่องมือแพทย์และบริการด้านสาธารณสุขของประชาชนใน ภูมิภาคและชนบท เสริมสร้างความมั่นคง และการพึ่งพาตนเองทางเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งก่อให้เกิดการ พัฒนาศักยภาพด้านกำลังคน เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้สามารถส่งออกสินค้าดังกล่าว ไป แข่งขนั ในตลาดตา่ งประเทศ ส่งผลให้ระบบเศรษฐกจิ และสาธารณสขุ ของประเทศเกิดความย่ังยืน หนว่ ยงานรว่ มดำเนินงาน : หน่วยงานผู้รบั ผดิ ชอบหลัก : สำนกั งานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ หน่วยงานผู้รับผิดชอบรอง : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม สภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองควบคุมเครื่องมือแพทย์ สังกัด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ กรมบญั ชีกลาง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และโรงพยาบาลภาครัฐ สง่ิ ส่งมอบ : ๑. ฐานข้อมลู การจดั ซ้อื -จัดจา้ ง เครื่องมือแพทย์ เพ่ือติดตาม และวเิ คราะห์ความต้องการของ หน่วยงานภาครฐั ทนี่ ำไปใชป้ ระโยชน์ ๑ รายการ ๒. เครอ่ื งมอื แพทย์ท่ผี ่านมาตรฐาน ๔ รายการ งบประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ = ๙๐ ล้านบาท งบประมาณรวมของโครงการสำคัญ (Big rock) : ล้านบาท โครงการ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ รวม ๑. โครงการยกระดับ แพลตฟอร์มการผลิตวคั ซนี ๓,๐๒๐ ๖๘๐ ๑,๒๐๐ ๙๓๐ ๓๕๐ ๓๒๐ ๖,๕๐๐ ระดับอุตสาหกรรมครบ วงจร ๒. โครงการการผลติ ยาตา้ น ไวรัสรองรับการระบาดใหญ่ ๒๐๐ ๓๐๐ ๑,๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ๓,๕๐๐ (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๔๕

โครงการ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ รวม ๓๐๐ ๙๐๐ ๑,๘๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ๔,๕๐๐ และสร้างศกั ยภาพการผลติ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๓๐๐ ๑๐๐ ๘๐๐ ยาภายในประเทศ ๘๐๐ ๑,๐๐๐ ๙๐๐ ๙๐๐ ๕๐๐ ๓๐๐ ๔,๔๐๐ ๓. โครงการสง่ เสรมิ บรกิ ารทาง ๑๑๐ ๒๑๐ ๒๑๐ ๑๑๐ ๑๑๐ ๑๑๐ ๘๖๐ การแพทย์ดว้ ยผลิตภณั ฑ์ การรักษาด้วยเทคโนโลยี ๓๗๕ ๕๐๐ ๕๐๐ ๕๐๐ ๖๒๕ ๖๒๕ ๓,๑๒๕ ขน้ั สูง ๖๐ ๖๐ ๓๐ ๓๐ ๒๐ ๒๐ ๒๒๐ ๙๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๗๐ ๔. โครงการระบบศนู ย์กลาง ประมวลผลขอ้ มลู จโี นม ๕,๐๕๕ ๓,๗๕๐ ๕,๐๔๐ ๓,๕๗๐ ๒,๙๐๕ ๒,๔๗๕ ๒๓,๙๙๕ (Integrative Genomic Data Center (IGDC) ๕. โครงการยกระดับการแพทย์ จีโนมิกสเ์ พื่อสร้างมูลค่าทาง เศรษฐกจิ และการบริการ ๖. โครงการสรา้ งทรัพยส์ นิ ทาง ปัญญาดา้ นนวตั กรรมและ เสรมิ มาตรฐานเคร่อื งมือ แพทยท์ ่ีขาดแคลนให้เปน็ สากล ๗. โครงการสรา้ งความเช่ือม่ัน ในการใชง้ านเคร่ืองมอื แพทย์ไทยผา่ นกลไกกระบะ ทราย (Sandbox) ๘. โครงการจดั ทำฐานข้อมลู บัญชีนวัตกรรมไทยและ เรง่ รัดการจัดซ้อื เครือ่ งมอื แพทยไ์ ทยจากภาครัฐ ๙. โครงการยกระดบั อุตสาหกรรมเครอ่ื งมอื แพทย์ไทยดว้ ยนวัตกรรม รวม ๔. แผนปฏิบตั กิ ารทเี่ กี่ยวข้อง ▪ ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ๔.๐ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) ของกระทรวงอุตสาหกรรม ▪ แผนปฏิบัติราชการ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓–๒๕๖๕) กรมการแพทย์ กระทรวง สาธารณสขุ (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารดา้ นการขับเคลอื่ นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๔๖

๓.๓ สาขาพลังงาน วัสดุและเคมชี ีวภาพ ๑. เป้าหมายและตัวชีว้ ดั เปา้ หมาย ประเทศไทยเป็นศนู ย์กลางไบโอรไี ฟเนอรีแห่งอาเชยี นภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๐ ตวั ช้วี ัด ๑. มลู คา่ การลงทนุ ดา้ นพลงั งาน วสั ดุ และเคมีชีวภาพเพิม่ ขน้ึ ๒๒,๘๐๐ ล้านบาท ๒. รายไดใ้ นครัวเรือนและชุมชนเพ่ิมข้ึน ๒๔,๑๑๕ ลา้ นบาท ๓. คา่ ใชจ้ ่ายเพอื่ การดำรงชีพลดลง ๒,๐๐๐ ล้านบาท ๔. การลดการนำเขา้ น้ำมนั ปโิ ตรเลียมดว้ ยเชอื้ เพลงิ ชวี ภาพ ๕,๙๖๕ ลา้ นบาท ๕. ประหยดั คา่ ใช้บริการโรงงานตน้ แบบดา้ นพลงั งาน วัสดุ และเคมชี วี ภาพในต่างประเทศ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ๖. พืน้ ที่ป่าไมใ้ นประเทศไทยเพ่ิมขึ้น ๓.๒ ลา้ นไร่ ๗. มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเพมิ่ ขึ้น ๔๐,๕๐๐ ลา้ นบาท ๘. การปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) ลดลง ๑๐ ลา้ นตนั คาร์บอนไดออกไซด์เทยี บเทา่ ๙. การจา้ งแรงงานสาขาพลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพเพิ่มขึ้น ๒,๐๐๐ ตำแหนง่ ๒. แนวทางการดำเนนิ การ เป็นการเพิ่มค่าผลผลิตเกษตรและวัสดุเหลือใช้จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ด้วยการใช้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงด้านพลงั งานในทกุ ระดับ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ บนฐานการพัฒนาทีเ่ ปน็ มิตรตอ่ ส่ิงแวดล้อม โดยมแี นวทางการดำเนินการ ดังน้ี ๑. การสร้างโอกาสทางการตลาดแก่ผลิตภัณฑ์ชีวภาพใหแ้ ข่งขันอย่างเป็นธรรมด้วยกลไกการ กำหนดราคาคาร์บอน การจดั สรรคารบ์ อนเครดิต และการลดอปุ สรรคในการเขา้ ส่ตู ลาด ๒. การใช้ทรัพยากรด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวในพื้นท่ี เพือ่ สรา้ งเศรษฐกิจให้ชมุ ชน ๓. การส่งเสริมการนำพืช ผลผลิต และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปสร้างคุณค่าและ มูลคา่ เพ่มิ ๔. การใช้นวัตกรรมชีวภาพเพ่มิ มลู ค่าผลติ ภณั ฑ์และบริการ และการสรา้ งธุรกจิ นวตั กรรมใหแ้ ก่ SMEs แนวทางที่ ๑ : การสร้างโอกาสทางการตลาดแก่ผลิตภัณฑ์ชีวภาพให้แข่งขันอย่างเป็นธรรมด้วย กลไกการกำหนดราคาคาร์บอน การจัดสรรคาร์บอนเครดิต และการลดอุปสรรคใน การเข้าสู่ตลาด กระบวนการผลิตที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ทั่วโลกได้รับความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นำไปสู่การกำหนดกรอบ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยปกติทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคไม่ (ร่าง) แผนปฏิบตั กิ ารดา้ นการขบั เคล่อื นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๔๗

จำเปน็ ต้องรบั ผดิ ชอบต่อความเสยี หายท่เี กิดข้นึ หากไม่มีกฎหมายบงั คบั ส่งผลใหผ้ ปู้ ลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจก ขาดความตระหนักและปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเกินกว่าระดับที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องสร้างกลไก การกำหนดราคาคาร์บอน (Carbon pricing) ท่ีสะท้อนต้นทุนผลกระทบภายนอกที่สังคมโดยรวมต้อง แบกรับไว้ (External costs) สร้างแรงจูงใจให้ภาคผู้ผลิตสามารถลงทุนปลูกป่าในพื้นที่ของรัฐเพื่อเป็น แหล่งกักเก็บคาร์บอน (Carbon sink) และจัดสรรคาร์บอนเครดิต (Carbon credit) ให้สามารถใช้ใน การชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon offset) เพือ่ ใหเ้ กิดการลดปริมาณการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกภายในประเทศ อันเป็นแนวทางที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) พร้อมกับการเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ ซึ่งเป็นรากฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสี เขียวให้เกิดการร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรชีวภาพ และสร้างโอกาสทางการตลาดให้สามารถ แข่งขันไดอ้ ย่างเป็นธรรมกับผลิตภัณฑฐ์ านฟอสซิลได้อย่างยง่ั ยืน เปา้ หมาย : ๑. หลักเกณฑ์การกำหนดราคาคารบ์ อน การจดั สรรแบง่ คาร์บอนเครดิต และค่าใช้จ่ายในการ ปลูกป่าและการดแู ลรกั ษาป่าตามโครงการที่รัฐส่งเสริมเพ่ืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สามารถนำไปหัก คา่ ใช้จา่ ยตามประมวลรษั ฎากรได้ ๒. เกิดการลงทนุ ปลูกป่าในพืน้ ทข่ี องรฐั โดยภาคเอกชน เพ่ือสรา้ งแหล่งกักเก็บคารบ์ อน ตวั ช้ีวัด : ๑. เพิ่มพนื้ ท่ีปลูกปา่ เพ่ือเป็นแหล่งกกั เก็บคารบ์ อนในท่ีดินของรฐั โดยเอกชนเป็นผ้ลู งทุน จำนวน ๓.๒ ล้านไร่ (พนื้ ทป่ี ่าเสือ่ มโทรม พืน้ ที่ป่าถูกบุกรกุ และพืน้ ที่ป่าชมุ ชน ป่าแนวชายฝ่งั และป่าชายเลน) ๒. เกิดคาร์บอนเครดติ จากการปลกู ปา่ ดแู ลรกั ษาปา่ จำนวน ๙.๖๔ ลา้ นตัน คาร์บอนได ออกไซด์เทยี บเท่า ๓. รายไดค้ รัวเรือนจากการทม่ี ีพน้ื ทป่ี า่ เพมิ่ ขน้ึ ๑,๕๓๕ ล้านบาท กจิ กรรม : กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผู้รับผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪ออกระเบยี บกรมปา่ ไม/้ กรม ทส. ทรพั ยากรทางทะเลและ ชายฝง่ั ว่าดว้ ย หลักเกณฑ์ การจดั สรรแบ่งคารบ์ อน เครดติ แกเ่ อกชนผลู้ งทุนปลกู ปา่ ในพ้ืนทข่ี องรฐั เพอื่ อนรุ ักษ์ ทรพั ยากรและสร้างแหล่งกัก เกบ็ คารบ์ อน • แก้ไขระเบยี บกรมป่าไม้ กรมปา่ ไม้ วา่ ดว้ ย การอนุญาตให้ เขา้ ไปศึกษาวิจัยทาง (ร่าง) แผนปฏบิ ตั กิ ารด้านการขบั เคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๔๘

กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รบั ผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ วชิ าการในเขตป่าสงวน แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๙ ทช. • แกไ้ ขระเบียบกรม ทรพั ยากรทางทะเลและ ชายฝ่งั ว่าด้วย การ อนุญาตใหเ้ ข้าไปศึกษา หรือวจิ ัยทางวชิ าการใน พ้ืนท่ีป่าชายเลนท่ีอยู่ใน เขตปา่ สงวนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐) ▪ออกประกาศกรมสรรพากร/ กค. (กรมสรรพากร, กระทรวงการคลงั ให้ สนง.เศรษฐกิจการ ค่าใช้จ่ายในการปลกู ป่าและ คลงั ) การดูแลรักษาป่าตาม โครงการท่ีรฐั ส่งเสริมเพือ่ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สามารถนำไปหักคา่ ใชจ้ ่าย ตามประมวลรษั ฎากร ได้ ▪โครงการปลูกป่าเพ่อื อบก., ภาคเอกชน อนุรักษแ์ ละกกั เกบ็ คาร์บอน (บ.เชลล์ ประเทศไทย โดยภาคเอกชน/รัฐวสิ าหกิจ ปตท. กฟผ.) เป็นผ้ลู งทุน ▪การศึกษาเพ่ือกำหนดราคา อบก., อว.(สวทช.) คาร์บอน (Carbon Pricing) ท่ีเหมาะสม โดย พจิ ารณาต้นทุนผลกระทบ ภายนอก (External costs) ▪ส่งเสรมิ มาตรการภาษเี พอื่ กค., อก., ทส., อว. สรา้ งความเปน็ ธรรมและ เกดิ การแขง่ ขนั การอนุรักษ์ ส่ิงแวดล้อมและทรัพยากร ชีวภาพ ▪พัฒนาระบบสารสนเทศ (IT ทส. (อบก.) Platform) เพอ่ื สนับสนนุ การลงทุนปลกู ปา่ และดแู ล รักษาปา่ ของเอกชนในพนื้ ที่ ของภาครฐั รวมถงึ สนับสนนุ การประเมนิ ปริมาณการกกั เก็บคารบ์ อน และการจดั สรรคารบ์ อน (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการขับเคลอื่ นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๔๙

กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผูร้ บั ผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ เครดติ โครงการทีเ่ กดิ ข้ึน อย่างโปรง่ ใส ▪ พฒั นาแนวทาง วิธีการ ทส. (อบก.) และกระบวนการติดตาม ประเมินผลการกักเก็บก๊าซ เรอื นกระจกจากโครงการ ภาคป่าไมท้ เี่ หมาะสม เพ่ือใหเ้ กดิ การรบั รองเปน็ คาร์บอนเครดิต ภายใต้ โครงการลดก๊าซเรอื น กระจกภาคสมคั รใจ ตาม มาตรฐานของประเทศ หรอื โครงการ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ▪พัฒนาเส้นฐานอา้ งองิ ทส. (อบก.) (Reference Baseline) สำหรับภาคปา่ ไม้ท่ี เหมาะสมในระดบั โครงการ แนวทางท่ี ๒: การใช้ทรพั ยากรด้านเศรษฐกจิ ชีวภาพ เศรษฐกจิ หมนุ เวียน และเศรษฐกจิ สีเขยี วใน พื้นท่ี เพือ่ สร้างเศรษฐกจิ ให้ชุมชน การใช้ทรัพยากรด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวในพื้นที่ เพื่อ สร้างเศรษฐกิจชุมชนฐานรากที่มีความยั่งยืน สามารถใช้รูปแบบการระดมเงินทุนจากภาคประชาสังคม เพื่อเป็นกองทุนหมุนเวียน และ/หรือใช้เป็นกองทุนค้ำประกันการกู้ยืม โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณจาก ภาครัฐ โดยมีระบบการบริหารจัดการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อพัฒนาแนวทางให้ชุมชนระดับฐานราก สามารถรว่ มลงทุนกับภาคเอกชนในพื้นท่ีในลักษณะธุรกิจเพอ่ื สังคมได้ และพัฒนากลไกการทำงานร่วมกัน ระหว่างชุมชน ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา และองค์กรผู้ดูแลกองทุนฯ ที่ช่วยให้ ชุมชนฐานรากสามารถเข้าถงึ แหลง่ เงนิ ทุน สำหรบั เปน็ ทุนตง้ั ต้นเพื่อการจัดหาเทคโนโลยีพลังงานอย่างง่าย มาใช้ในการประกอบอาชีพ การทำธุรกิจด้านพลังงาน และ/หรือนำทรัพยากร พืชผลผลิต และวัสดุเหลือ ใช้ทางการเกษตรไปผลิตเปน็ พลังงานและใช้ในพื้นท่ี อันเปน็ การส่งเสริมให้ชุมชนมีพลังงานไฟฟ้าส่วนเกิน ทส่ี ามารถทำการซื้อขายไฟฟา้ ระหวา่ งกนั ได้ เพอ่ื สร้างรายไดใ้ ห้กับครัวเรือนและเพิ่มการพ่ึงพาตนเองผ่าน แนวคดิ การใชพ้ ลงั งานเพื่อทุกคน (Energy for all) เปา้ หมาย : ๑. เพ่มิ การเข้าถงึ แหล่งเงินทุนของเกษตรกรรายย่อย สำหรับการจดั หาเทคโนโลยีพลงั งาน (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการขบั เคลอ่ื นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๐

อย่างง่าย เพื่อนำมาใช้ในการประกอบอาชีพ ทำธุรกิจด้านพลังงาน และ/หรือนำทรัพยากร พืชผลผลิต และวัสดุเหลอื ใชท้ างการเกษตรไปผลติ เป็นพลังงานและใชใ้ นพนื้ ท่ี โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณของรัฐ ๒. ปลดล็อคข้อจำกัดเพื่อส่งเสริมการลงทุน เช่น การปรับแก้เงื่อนไขระบบผู้ซื้อไฟฟ้ารายเดียว (Enhanced Single Buyer (ESB)) หรือการอนุญาตให้มีการใช้สายส่งของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (Distribution operator) ได้ โดยมีคา่ บริการอย่างเหมาะสม เป็นตน้ ๓. เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต การจัดเก็บ การบริหารจัดการ และการแลกเปลี่ยน พลังงานไฟฟ้า สำหรับการประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจหมุนเวียนใน ชุมชน ตวั ช้ีวดั : ๑. เพิ่มการลงทุนในธรุ กิจพลงั งานเพ่ือสังคม ๑,๐๐๐ ลา้ นบาท ๒. เพิ่มการลงทุนระบบโครงข่ายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอัจฉริยะ (Renewable Energy Smart Grid) แพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้า (Energy Trading Platform: ETP) และการผลิตพลังงาน จากพชื ผลผลติ และวสั ดเุ หลอื ใช้ (Waste to Energy) ๒,๘๐๐ ลา้ นบาท ๓. ชุมชนมีรายไดจ้ ากการขายชีวมวลใหโ้ รงไฟฟา้ ชมุ ชน และรายไดจ้ ากการกำจัดขยะและขายไฟฟ้า ๒๒,๕๘๐ ลา้ นบาท ๔. ลดรายจ่ายเพอ่ื การดำรงชีพในครวั เรือน ๒,๐๐๐ ล้านบาท ๕. การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง ๒๐,๕๕๐ ตนั คาร์บอนไดออกไซดเ์ ทียบเท่า กจิ กรรม : กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผูร้ ับผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪ประสาน กกพ. ปลดล็อค กกพ. กฟผ. กฟภ. กฟน. ขอ้ จำกัดทท่ี ำให้การซ้อื ขายไฟฟา้ แบบ Peer to peer (หรือแบบอ่นื ๆ ที่ เหมาะสม) เชน่ การ ปรับแกเ้ งื่อนไขระเบยี บ Enhanced Single Buyer การอนญุ าตใหม้ ี การใชส้ ายส่งของการ ไฟฟา้ ฝา่ ยจำหนา่ ย (Distribution operator) ได้ โดยมีคา่ บริการอยา่ ง เหมาะสมเปน็ ต้น หรอื พัฒนาระบบ ICT ให้ รองรบั กบั การซ้อื ขาย ไฟฟ้าไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ (ร่าง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขบั เคลอ่ื นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๑

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผรู้ ับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ พฒั นานวตั กรรมและ กฟผ.-อว.(สวทช.) เทคโนโลยเี พอ่ื สนับสนนุ การพัฒนาต้นแบบ โครงข่ายไฟฟา้ พลังงาน หมนุ เวยี นอัจฉรยิ ะ (Smart micro grid) ซึ่ง ประกอบด้วย Prosumer, Customer, Generator, Energy storage system ระบบบรหิ ารจดั การพลงั งาน (EMS) และ แพลตฟอร์มการซอื้ ขาย ไฟฟ้า (ETP) โดย ดำเนนิ การตอ่ ยอดจากงาน ที่อย่ใู นระหว่างการ ดำเนินการอยู่แล้ว (โครงการ “ศรแี สงธรรม โมเดล” จ.อุบลราชธาน)ี และการทดสอบระบบฯ พฒั นาแนวทางการระดม พน.(กองตรวจราชการ เงินทนุ จากภาคประชา สำนักงานพลงั งาน สงั คม เพอ่ื เปน็ กองทนุ จงั หวัด สำนักส่งเสรมิ หมนุ เวยี น และ/หรอื การมสี ว่ นร่วมของ กองทุนค้ำประกนั การกู้ยมื ประชาชน (สสช.)) และพัฒนากลไกการ สถาบันการเงนิ (ออม ทำงานรว่ มกันระหวา่ ง สนิ /ธกส.) สอวช. ชมุ ชน ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบนั การศกึ ษา สถาบนั การเงนิ องคก์ รระหวา่ งประเทศ สถาบันการศกึ ษา และ บริษทั เอกชน องคก์ รผดู้ ูแลกองทนุ ฯ เพอื่ ให้ชมุ ชนเขา้ ถงึ แหลง่ เงินทนุ โดยไมต่ อ้ งพงึ่ พา แหลง่ เงนิ ของรัฐ และเกดิ รปู แบบการลงทนุ ด้าน พลงั งานในระดบั ชมุ ชนทม่ี ี ความยง่ั ยืน สร้างการมีส่วนร่วมอย่าง ช่าง/เยาวชนในชมุ ชน , ชัดเจน (Engagement อว. explicitly) และยึดม่นั พน. (สำนกั งานพลังงาน ผูกพนั พร้อมพฒั นา จงั หวัด) เยาวชนร่นุ ใหม่ภายใน (ร่าง) แผนปฏิบัตกิ ารด้านการขบั เคลอื่ นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๒

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ ับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ชมุ ชน ให้มสี ว่ นร่วมใน กลไกการทำงานระหว่าง ชมุ ชน ภาครัฐ และสถาบนั การศึกษา เชน่ จดั การ เรียนการสอนเทคโนโลยี พลงั งานและลงมือปฏบิ ตั ิ จริงกับชุมชน เป็นตน้ เพ่ือ ช่วยใหบ้ รกิ ารทางเทคนิค การใชง้ าน การดแู ล ซ่อม บำรุงเทคโนโลยผี ลติ พลงั งาน และ/หรือให้ ความร้เู พือ่ เพ่ิมพูนทักษะ (upskill) และปรบั ทักษะ (reskill) ให้กลมุ่ ชุมชน ▪ทดลองดำเนนิ การซื้อขาย กกพ. กฟผ. กฟภ. กฟน. ไฟฟา้ อยา่ งเปน็ รูปธรรม เพอ่ื พฒั นาเปน็ ต้นแบบ การบรหิ ารจดั การความ สมดลุ ของพลังงานใน โครงข่ายฯ และการซ้อื ขายพลังงานไฟฟ้าแบบ Peer to peer ▪ขยายผลโมเดลชุมชนฯ พน. (กองตรวจราชการ เพ่ือแพรก่ ระจายการ สำนกั งานพลงั งาน ลงทนุ ดา้ นพลงั งานใน จงั หวัด สำนักส่งเสรมิ ระดับชุมชนทีม่ ีความ การมสี ว่ นร่วมของ ยง่ั ยนื ประชาชน (สสช.)) สถาบันการเงนิ (ออม สนิ /ธกส.) สอวช. สถาบนั การศกึ ษา องค์กรระหว่างประเทศ บริษัทเอกชน แนวทางท่ี ๓ : การส่งเสริมการนำพืช ผลผลิต และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปสร้างคุณค่าและ มูลคา่ เพ่มิ นโยบายการเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานในภาคขนส่งไปสู่การใช้เชื้อเพลิงที่ปล่อยมลพิษเป็น ศนู ย์ (Zero Emission Vehicle : ZEV) ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๘ ส่งผลให้ในระยะเปล่ยี นผา่ นจำเป็นต้องมี การปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่คุณค่าของการผลิตและการใช้ นำ้ มันเชอื้ เพลิงชวี ภาพของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร (ปาลม์ มนั สำปะหลงั ออ้ ย) จึงจำเป็นต้อง (ร่าง) แผนปฏบิ ตั กิ ารด้านการขับเคลอ่ื นการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๓

มีการบูรณาการแนวทางกับการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยให้ทุก ภาคการผลติ ในห่วงโซ่คณุ คา่ การผลิตเช้ือเพลิงชวี ภาพต้องมีการเตรยี มพรอ้ มรบั มือ เพ่ือปรบั ตัวและสร้าง โอกาสทางธุรกิจให้คงอยู่ได้ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งในการสร้างระบบนิเวศและ ระบบบริหารจัดการต้นทุนการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งระบบ เพื่อลดการอุดหนุนจากภาครัฐ การ ปรับปรงุ คณุ ภาพนำ้ มันเชอ้ื เพลิงชวี ภาพเพ่อื เพิม่ สดั สว่ นการผสม รวมถงึ การพฒั นาต่อยอดผลผลิตเกษตร วัสดุเหลือใช้ และเชื้อเพลิงชีวภาพไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงที่หลากหลาย การนำไปผลิตเป็น พลงั งานอนาคต เป้าหมาย : ๑. ลดผลกระทบท่มี ตี ่อเกษตรกร ภาคการผลติ นำ้ มนั เชอื้ เพลิงชวี ภาพ และผู้ประกอบการใน อุตสาหกรรมยานยนต์ดั้งเดิม เพื่อคงปริมาณการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพต่อไปในระยะเปลี่ยนผ่าน ก่อนการ เปลี่ยนสู่ยานยนต์ไฟฟา้ อย่างเตม็ รปู แบบ ๒. สร้างโอกาสการนำพืชผลผลิตและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาพัฒนาเพิ่มคุณค่า มูลค่าเพิ่ม และเป็นพลังงานอนาคต เพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร และลดผลกระทบ จากภาวะผลผลิตทางการเกษตรลน้ ตลาด ตวั ชี้วดั : ๑. ทดแทนการใช้น้ำมันปโิ ตรเลียม มูลค่า ๕,๙๖๕ ลา้ นบาท ๒. เพมิ่ มูลคา่ วสั ดุชวี มวลเป็นวสั ดเุ คมีชวี ภาพ มลู คา่ ๕๐๐ ล้านบาท ๓. เพิ่มมลู คา่ น้ำมันปาลม์ ดบิ ในอตุ สาหกรรมโอลิโอเคมี ๓๐,๐๐๐ ลา้ นบาท ๔. การปลอ่ ยก๊าซคาร์บอนไดออกไซดล์ ดลง ๓๘๔,๗๒๐ ตนั คาร์บอนไดออกไซด์เทยี บเท่า กจิ กรรม : กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ ับผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪จัดให้มีการศึกษาแบบ บพข. เร่งดว่ นเพื่อให้ไดข้ ้อสรปุ เกี่ยวกับผลกระทบของการ กำหนดนโยบายการสง่ เสรมิ การใช้เชื้อเพลงิ ด้านการ ขนสง่ ต่อภาคอุตสาหกรรม และผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสยี ใน หว่ งโซ่คุณคา่ เพอื่ ให้ได้ แนวทางการสง่ เสรมิ ที่ เหมาะสมกบั บริบทของ ประเทศไทย โดยคำนงึ ถึง การเกดิ ประโยชน์สงู สุดต่อ ประเทศ (รา่ ง) แผนปฏิบัตกิ ารด้านการขบั เคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๔

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผู้รบั ผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪ออกประกาศมาตรฐาน พน. เชื้อเพลิงชวี ภาพของ ประเทศเปน็ E20 ▪คงปริมาณการใช้งานดว้ ยการ อว., สวก., ทส., อก., สรา้ งระบบนเิ วศและระบบ BOI, พน., กษ., กฟผ. บริหารจดั การตน้ ทุนการผลติ กฟภ. เชือ้ เพลงิ ชีวภาพทั้งระบบ เพอื่ ลดการอดุ หนนุ จาก ภาครฐั การสรา้ งโอกาสทาง ธุรกจิ โดย การพัฒนาและ ผลักดนั ผลิตภณั ฑเ์ พ่มิ มลู ค่า พชื เกษตรหรอื หมนุ เวียนของ เสยี และวัสดุเหลือใช้ ในกลมุ่ Oleochemicals และ คารบ์ อนมลู คา่ สูง (ถ่านกมั มันต์ กราฟนี ) สำหรับเป็น ส่วนประกอบในระบบกักเก็บ พลงั งานและการแปลง พลังงานสมัยใหม่ เปน็ ต้น ▪พัฒนาพลังงานอนาคต โดย อว., พน. พัฒนาโครงสร้างพน้ื ฐาน ดา้ นไฮโดรเจน เพอื่ รองรบั การเปลยี่ นผ่านไปสู่ เศรษฐกจิ ฐานไฮโดรเจนท่ี ผลิตไฟฟา้ ด้วยเซลล์ เช้ือเพลงิ (Fuel cell) โดย เนน้ การผลิตไฮโดรเจนจาก ผลิตผลทางการเกษตร เพือ่ เรง่ รัดการพฒั นาพลังงาน อนาคตรองรับการ เปลีย่ นแปลงของยานยนต์ สมัยใหม่ แนวทางที่ ๔ : การใชน้ วัตกรรมชวี ภาพเพ่ิมมูลคา่ ผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ าร และการสรา้ งธุรกจิ นวัตกรรมให้แก่ SMEs อุตสาหกรรมไบโอรีไฟเนอรี (Biorefinery) เป็นการแปรรูปชีวมวลด้วยกระบวนการทาง กายภาพ เคมี และ/หรือชีวภาพ เพื่อให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์ฐานชีวภาพ (Bio-based products) มูลค่าสูง ได้แก่ วัสดุชีวภาพ พลาสติกชีวภาพ ผลิตภัณฑ์โอลิโอเคมิคอลจากการพัฒนาต่อยอดจากน้ำมันปาล์ม และผลพลอยได้ เคมีชีวภัณฑ์เพื่อเกษตรปลอดภัย และผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจากจุลินทรีย์ที่ให้คุณสมบัติ (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการขบั เคลอื่ นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๕

พเิ ศษ (Synthetic biology) โดยหลักสำคญั ของอุตสาหกรรมคือ การใหค้ วามสำคญั กับระบบการผลิตที่ ยั่งยืนซึ่งเกิดจากการนำวัตถุดิบที่เป็นทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ ( Renewable resources) ใช้ กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาน้อยกว่าการผลิตจาก ปโิ ตรเลยี มซ่ึงเป็นผลติ ภณั ฑ์ท่ีทั่วโลกมีความต้องการเพื่อลดการเปลย่ี นแปลงของสภาพภูมอิ ากาศ ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมไบโอรีไฟเนอรีเพื่อเป็น กลไกการสร้างการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ โดยการอาศัยข้อไดเ้ ปรียบทีส่ ำคัญคือ มีความพร้อมของวัตถุดบิ ตั้งต้นโดยเฉพาะอย่างย่ิงวัตถดุ ิบในกลุ่มแป้งและน้ำตาล รวมถึงมีวัสดุเหลือทิ้งการเกษตรที่เปน็ เซลลูโลส จำนวนมาก และรัฐบาลมีการลงทุนโครงสร้างจัดตั้งโรงงานไบโอรีไฟเนอรีในเขตนวัตกรรมระเบียง เศรษฐกิจพเิ ศษภาคตะวันออก (EECi) ซง่ึ เป็นฐานสำคัญในการสรา้ งธุรกิจนวัตกรรมให้แก่ SMEs ของไทย เป้าหมาย : สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฐานชีวภาพมูลค่าสูง จากระดับ ห้องปฏิบัติการไปสู่ระดับการขยายขนาด เพื่อให้เกิดเทคโนโลยีฐานด้านวิศวกระบวนการ (Chemical and bioprocess engineer) สำหรับผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพในระดับขยายขนาด เพื่อสร้างนวัตกรรมสำหรับ ผลิตภัณฑ์ฐานชวี ภาพในประเทศไทย ๑. เกิดเทคโนโลยีฐานด้านวิศวกระบวนการ (Chemical and bioprocess engineer) ใน ระดบั ขยายขนาด เพ่อื สร้างนวตั กรรมสำหรับผลติ ภณั ฑ์ฐานชีวภาพ ๒. เกิดการสร้างความสามารถทางเทคโนโลยีในประเทศ โดยเฉพาะเทคโนโลยกี ารขยายขนาด การผลติ ผลติ ภณั ฑฐ์ านชีวภาพทีห่ ลากหลายในระดบั ก่อนการผลิตในเชิงพาณิชยใ์ นประเทศ ตวั ช้วี ดั ๑. เพ่มิ มูลค่าการลงทนุ ใหม่เพื่อผลิตภัณฑ์ Biorefinery ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๙,๐๐๐ ลา้ นบาท ๒. ลดคา่ ใช้จา่ ยใชบ้ รกิ ารโรงงานตน้ แบบในต่างประเทศและคา่ ลขิ สิทธ์ิ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ๓. เพิม่ มูลค่าจากการผลิตสารมลู คา่ สงู ในอุตสาหกรรม Biorefinery ๑๐,๐๐๐ ลา้ นบาท ๔. เพม่ิ การจ้างงาน ๒,๐๐๐ ตำแหน่ง กจิ กรรม : กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪ พัฒนาเทคโนโลยีฐานสำหรับ อว., BOI, อก. การทดลองการผลติ ระดับ ขยายขนาด : พัฒนา เทคโนโลยีฐานสำหรบั การทำ Scale up ผลติ ภณั ฑเ์ อนไซม์ เพอื่ อตุ สาหกรรม ▪ พัฒนาเทคโนโลยฐี านสำหรบั การ อว., BOI, อก. ทดลองการผลิตระดบั ขยายขนาด : พัฒนาเทคโนโลยฐี านสำหรบั การทำ Scale up ผลติ ภณั ฑ์ เอนไซม์ Specialty สำหรับการ (ร่าง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขับเคลอ่ื นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๖

กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รบั ผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ใช้ในผลิตภณั ฑ์ Health care และ personal care อว., BOI, อก. ▪ พฒั นาเทคโนโลยีฐานสำหรับ การทดลองการผลติ ระดบั อว., BOI, อก. ขยายขนาด : พัฒนา เทคโนโลยฐี านสำหรบั การทำ อว., BOI, อก. Scale up ผลิตภณั ฑ์ Oleochemicals อว., BOI, อก. ▪ พัฒนาเทคโนโลยฐี านสำหรบั การทดลองการผลติ ระดบั ขยายขนาด : พฒั นา เทคโนโลยฐี านสำหรบั การทำ Scale up ผลติ ภณั ฑ์ทีใ่ ชเ้ ปน็ ส่วนประกอบในเครือ่ งสำอาง Cosmeceuticals ▪ พัฒนาเทคโนโลยฐี านสำหรับ การทดลองการผลติ ระดบั ขยายขนาด : พฒั นา เทคโนโลยีฐานสำหรบั การทำ Scale up ผลติ ภณั ฑเ์ คมี ชวี ภาพเพ่ือเกษตรปลอดภยั (Agrichemical products) ▪ พัฒนาเทคโนโลยีฐานสำหรับ การทดลองการผลติ ระดบั ขยายขนาด : พฒั นา เทคโนโลยีฐานสำหรบั การทำ Scale up ผลิตภณั ฑ์ ส่วนประกอบท่มี คี ณุ สมบตั ิ ทางหน้าที่ Functional ingredients ๓. โครงการสำคญั (Big rock) : ๑.โครงการกำหนดราคาคาร์บอนและจัดสรรคาร์บอนเครดิต (Carbon pricing and Carbon credits) ปจั จุบนั ทิศทางการค้ากบั ตลาดโลกมกี ารสนับสนุนใหผ้ ู้ผลติ และผ้บู รโิ ภคแสดงความรับผิดชอบ จากการก่อมลภาวะในชั้นบรรยากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) ซึ่งเป็น วาระสำคัญของโลก โดยประเทศท่ัวโลกต่างให้ความสำคัญและพยายามรว่ มมือกันเพ่ือช่วยลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็น (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๗

ก๊าซเรือนกระจกหลักที่เป็นสาเหตุของการเกิดสภาวะโลกร้อน โดยปกติทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคไม่ จำเป็นตอ้ งรับผดิ ชอบต่อความเสยี หายท่ีเกดิ ขึน้ หากไมม่ ีกฎหมายบงั คบั ส่งผลให้เกดิ การปล่อยก๊าซเรือน กระจกมากเกินกว่าระดับท่เี หมาะสม เนือ่ งจากราคาพลงั งานฟอสซิลสะท้อนเพียงต้นทุนของเอกชนท่ีทำ ธุรกรรมเท่านั้น แต่ไม่สะท้อนต้นทุนที่สังคมโดยรวมต้องแบกรับไว้ (External costs) จึงเป็นที่มาของ การออกมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ที่ต้องการรวมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใ ห้เป็นต้นทุนการผลิตซ่ึง เรยี กว่า “ราคาคาร์บอน” ภายใต้ความตกลงปารีส ค.ศ. ๒๐๑๕ ประเทศไทยได้แสดงเจตจำนงการมีสว่ นรว่ มและกำหนด เป้าหมาย ท่จี ะลดการปล่อยกา๊ ซเรือนกระจกลงจากการดำเนินงานตามปกติให้ได้ร้อยละ ๒๐-๒๕ ภายใน ปี พ.ศ. ๒๕๗๓ ซึ่งการปลกู ป่าถือเป็นหนึ่งในแนวทางลดก๊าซเรือนกระจกด้วยการสร้างหรือเพ่ิมแหล่งกัก เก็บคาร์บอน (Carbon sink) โดยประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อเป็นแหล่งดูดซับก๊าซ เรือนกระจก อยา่ งไรก็ตาม แม้ภาครัฐจะมนี โยบายส่งเสริมการปลูกป่า แต่การขยายพ้นื ที่ปลูกป่ายังมีอยู่ ในวงจำกัดเน่ืองจากไม่มีการสรา้ งแรงจงู ใจใหก้ ับภาคเอกชนลงทนุ ปลูกป่าในพืน้ ท่ีของรัฐ ทงั้ นี้ หากมีการ กำหนดการจัดสรรคาร์บอนเครดิตจากพื้นทป่ี ลูกป่าเพ่ือให้สามารถนำคารบ์ อนเครดติ ไปชดเชยการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก (Carbon offset) จากกิจการของเอกชนได้ หรือสามารถนำค่าใช้จ่ายในการปลูกและ ดูแลรกั ษาปา่ ไปหักลดหย่อนภาษีได้ จะเป็นการกระต้นุ ให้เอกชนมีส่วนร่วมในการปลูกป่าเพ่ิมมากข้นึ ปัจจบุ ัน องคก์ ารบรหิ ารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) เป็นหนว่ ยงานทมี่ หี นา้ ท่ใี หก้ ารรับรอง วา่ พื้นท่ปี ลูกปา่ สามารถดดู ซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เทา่ ไร เกิดเป็นคารบ์ อนเครดติ เท่าไร ภายใต้วิธีการ วัด TVER (Thailand Voluntary Emission Reduction) สำหรับการจัดสรรแบ่งสัดส่วนของคาร์บอน เครดิตท่ีเกิดขึน้ ระหว่างเอกชนกับรฐั บาล เป็นความรบั ผิดชอบของกรมป่าไม้และกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งในการพิจารณากฎระเบียบเกี่ยวกับการแบ่งสัดส่วนคาร์บอนเครดิตในกรณีที่ภา คเอกชน ลงทุนเองทัง้ หมดเพื่อปลูกปา่ เพ่ิมพ้ืนที่สีเขยี วในพน้ื ที่ของรฐั โดยโครงการนี้มีวตั ถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ เกดิ การปลูกป่าในพื้นท่ขี องรัฐโดยภาคเอกชนเปน็ ผู้ลงทนุ เพ่ือเปน็ แหล่งกกั เก็บคารบ์ อน (Carbon sink) ในวงกว้าง โดยภาคเอกชนที่ลงทุนสามารถนำคาร์บอนเครดิต (Carbon credit) ไปซื้อขาย หรือนำไป ชดเชยการปล่อยก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ (Carbon offset) ภายในประเทศ หน่วยงานรว่ มดำเนินงาน : หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมป่าไม้ กรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั องค์การบรหิ ารจดั การก๊าซเรอื นกระจก) หนว่ ยงานผู้รับผิดชอบรอง : กระทรวงการคลัง (กรมสรรพากร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ภาคเอกชน (บ. เชลล์ ประเทศไทย ปตท. กฟผ.) สิง่ สง่ มอบ : ๑. ระเบยี บ หลกั เกณฑ์การจดั สรรแบ่งคารบ์ อนเครดิตแก่เอกชนผ้ลู งทุนปลกู ป่าในพ้ืนท่ีของรฐั ๒. ประกาศกรมสรรพากร ค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าและการดูแลรักษาป่าตามโครงการที่รัฐ ส่งเสริมเพื่ออนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ สามารถนำไปหักค่าใชจ้ ่ายตามประมวลรษั ฎากรได้ ๓. พืน้ ทีป่ ลกู ป่าอนรุ กั ษแ์ ละสรา้ งแหลง่ กักเก็บคาร์บอนในทดี่ ินของรัฐโดยเอกชนเป็นผลู้ งทุน (รา่ ง) แผนปฏิบัตกิ ารด้านการขบั เคลือ่ นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๘

งบประมาณ : ตลอดโครงการ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) ๒๐๐ ลา้ นบาท ๒. โครงการพลังงานชมุ ชน (Community Energy, Smart Grid and Energy Trading Platform (ETP)) การยกระดับเศรษฐกิจชุมชนให้เกิดการสร้างงานและรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองจาก ทรัพยากรด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวในพื้นที่ ด้วยการพัฒนา รูปแบบการลงทุนด้านพลังงานชุมชนระดับฐานรากที่มคี วามยัง่ ยืน ผ่านกลไกการทำงานร่วมกันระหว่าง ชุมชน ภาครัฐ สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา และหน่วยงานผู้ดูแลกองทุนหมุนเวียน และ/หรือ กองทุนค้ำประกันการกู้ยืม เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อจัดหาเทคโนโลยี พลังงานสำหรับการประกอบอาชีพ การทำธุรกิจด้านพลังงาน และ/หรือนำทรัพยากรผลผลิตและของ เหลือใช้ทางการเกษตรไปผลิตเป็นพลังงานและใช้ในพื้นท่ี โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณจากภาครัฐ การ พัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานไฟฟ้า (ETP) และการผลักดันให้มีการกำหนดข้อยกเว้นระเบียบ การซื้อขายไฟฟ้าแบบ Enhanced Single Buyer (ESB) เฉพาะกาลในบางพื้นท่ี เพื่อให้ชุมชนสามารถทำ การซื้อขายพลังงานไฟฟ้าระหว่างกนั ได้ เม่ือมพี ลังงานไฟฟ้าสว่ นเกิน ซึ่งเปน็ แนวทางการสร้างรายได้และ พ่งึ พาตนเอง ตัวอย่างการพัฒนาแนวทางสำคัญ เช่น การพัฒนาแนวทางให้องค์กรระดับชุมชน เช่น กลุ่ม ออมทรัพย์เป็นนิติบุคคล สามารถทำสัญญากบั สถาบนั การเงินและรว่ มลงทุนกับภาคเอกชนในพ้ืนท่ีแบบ วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social enterprise) ได้ การพัฒนากลไกภาครัฐ ที่จะทำหน้าที่ประสานงานกับ สถาบันการเงนิ เชน่ ธนาคาร และกองทนุ ต่าง ๆ โดยกำหนดวงเงินและกลไกการสนับสนนุ งบประมาณที่ เหมาะสม การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานที่ได้มาตรฐานและพร้อมใช้งาน การให้ความรู้ บริการติดตั้ง ซอ่ มบำรงุ เป็นต้น หน่วยงานร่วมดำเนนิ งาน : หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก : กระทรวงพลังงาน (กฟผ. สำนักงานพลังงานจังหวัด สำนัก ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน (สสช.)) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟา้ สว่ นภูมิภาค) หน่วยงานผู้รับผิดชอบรอง : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สวทช. สอวช. สถาบันการศกึ ษา/มหาวิทยาลัยในพ้ืนท่ี) สถาบันการเงนิ (ออมสนิ /ธกส.) องคก์ รระหว่าง ประเทศ ภาคเอกชน กลมุ่ บรษิ ทั วิสาหกจิ เพอ่ื สงั คม สิ่งสง่ มอบ : ๑. ตน้ แบบโครงข่ายไฟฟา้ พลงั งานหมุนเวยี นอัจฉริยะ (RE-Smart Micro Grid) และระบบ การซอ้ื ขายไฟฟ้า (ETP) ภายในชมุ ชน จ.อุบลราชธานี และขยายผลโมเดลต้นแบบฯ จำนวน ๒๐ ชมุ ชน ๒. ขยายผลโมเดลพลังงานชุมชนไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ ชุมชน ในพื้นที่เป้าหมาย (จ.อบุ ลราชธานี จ.ขอนแกน่ จ.มหาสารคาม จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด) งบประมาณ : ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ = ๙๐ ลา้ นบาท (ร่าง) แผนปฏบิ ตั กิ ารด้านการขับเคลอ่ื นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๕๙

ตลอดโครงการ (พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐) ๙๕๕ ล้านบาท ๓. โครงการการพัฒนาพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน (Clean and Circular Energy: C-Energy) พลังงานเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ข้อมูลรายงานสถิติพลังงานปี ๒๕๖๒ ประเทศไทยมีสัดสว่ นมลู คา่ การนำเข้าพลังงานต่อมูลคา่ การใช้พลังงานท้ังหมด ร้อยละ ๕๔ หรือ คิดเปน็ ร้อยละ ๑๕ ของมลู ค่าการนำเข้าท้งั หมดของประเทศ หรอื คดิ เปน็ คา่ ใชจ้ ่ายพลังงานต่อ GDP ร้อย ละ ๑๓.๙๐ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่อหัวประชากรมีแนวโน้มที่สูงขึ้น อีกทั้งยังมี ประสิทธิภาพการใช้พลังงานต่ำ ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ สอดคล้องกับผลการ จัดอันดับความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงานของสภาหอการค้าสหรัฐ (The Global Energy Institute) ปี ๒๕๖๑ พบว่า ประเทศไทยมีความเส่ียงอยู่ในอันดับที่ ๒๓ จาก ๒๕ ประเทศ โดยตัวบ่งช้ีที่ มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ การนำเข้าเชื้อเพลิง แนวโน้มการปล่อย CO2 และความเข้มข้นค่าใช้จ่ายพลังงาน (ค่าใช้จ่ายการใชพ้ ลงั งานตอ่ หนว่ ย GDP ต่อป)ี ทีเ่ พิม่ ขึ้น รฐั บาลจึงให้ความสำคญั ตอ่ การเสรมิ สร้างความ มั่นคงทางด้านพลังงานให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ กระทรวงพลังงานจึงกำหนดแผนพัฒนาพลังงาน ทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๗๙ (AEDP ๒๐๑๕) เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงาน ทดแทนทั้งในรูปพลงั งานไฟฟ้า ความร้อน และน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยกำหนดเป้าหมายเป็นร้อยละ ๓๐ ของการใชพ้ ลังงานข้ันสุดท้ายในปี พ.ศ. ๒๕๗๙ อยา่ งไรก็ตาม พบว่า สดั ส่วนการใช้พลงั งานทดแทน ยงั ค่อนข้างน้อย เพยี งรอ้ ยละ ๑๖.๔๙ เท่านน้ั (ปี พ.ศ. ๒๕๖๒) โดยเฉพาะการใช้นำ้ มันเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากทิศทางการใชพ้ ลังงานภาคขนส่งที่กำลังเปลี่ยนไปสูร่ ถยนต์ไฟฟ้า (EV) การ เปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลกระทบเกี่ยวโยงถึงพืชผลทางการเกษตร (ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง อ้อย) รายได้ผู้ประกอบการและครัวเรอื น จึงมีความจำเป็นในการเร่งหาแนวทางลดผลกระทบเพื่อรักษาตลาด ของน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพในระยะก่อนการเปลี่ยนสู่รถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนเตรียมพร้อมรับการ เปล่ียนแปลงสู่ยคุ พลังงานอนาคต การสร้างความพร้อมให้กับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพเพ่ือให้สามารถแข่งขันและรักษาตลาด เชื้อเพลิงชีวภาพตลอดห่วงโซ่คุณค่าได้อย่างยั่งยืน และรองรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้พลังงานใน ภาคขนส่งสู่พลังงานสะอาดและพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้องมีการสนับสนุนโครงสร้าง พื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก และพัฒนากลไกเพื่อสร้างระบบนิเวศและระบบบริหารจัดการต้นทุน การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพในการยกระดับเป็นพลังงานสะอาด การนำพืชเกษตรหรือหมุนเวียนมาพัฒนา เพิ่มคุณค่า มีมูลค่าเพิ่ม เช่น การนำปาล์มน้ำมัน และอ้อย มาผลิตสารชีวภาพมูลค่าสูง (น้ำมันหม้อแปลง ไฟฟา้ ชวี ภาพ นำ้ มันหลอ่ ลน่ื ชวี ภาพ น้ำมันไฮดรอลิกชีวภาพ ฯลฯ) การสร้างมลู ค่าให้กบั ของเหลือท้ิง เช่น การนำชานอ้อย กะลาปาล์ม และทะลายปาล์มเปล่าไปผลิตสารคาร์บอนสำหรับเป็นวัตถุดิบในการผลิต ระบบกักเก็บพลังงานได้ รวมถึงการนำพืชเกษตรมาพัฒนาเป็นพลังงานอนาคต เช่น การผลิตไฮโดรเจน จากผลิตผลทางการเกษตร และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฮโดรเจน เป็นต้น รวมถึงการพัฒนา แพลตฟอร์มข้อมูลกลางด้านพลังงาน การติดตามความก้าวหน้าของการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากงานวิจัย การลงทุนขนาดใหญ่ที่จะมีผลกระทบต่อภาพรวม ของเทคโนโลยี ซ่งึ ขอ้ มลู ดังกลา่ วเป็นประโยชน์ต่อการประเมินความเปน็ ไปได้เทคโนโลยีในอนาคตท่ีจะเข้า มาแทนท่เี พ่อื การกำหนดนโยบายและแนวทางปฏบิ ตั ทิ ี่เหมาะสม (รา่ ง) แผนปฏิบัตกิ ารดา้ นการขับเคลอื่ นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๐

หนว่ ยงานร่วมดำเนินงาน : หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ สวทช. สถาบันการศึกษา/มหาวิทยาลัย) กระทรวงอุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสรมิ การลงทุน (BOI) หน่วยงานผู้รบั ผิดชอบรอง : สำนกั งานพัฒนาการวจิ ยั การเกษตร (องค์การมหาชน) กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ) กระทรวงพลังงาน (กรมธุรกิจพลังงาน กรม พฒั นาพลงั งานทดแทนฯ) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมวิชาการเกษตร) กฟผ. กฟภ. หนว่ ยบริหาร และจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ภาคเอกชน (สมาคมเอทา นอลและไบโอดีเซล สมาคมผ้ผู ลติ ชน้ิ ส่วนยานยนตไ์ ทย สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย) ส่งิ ส่งมอบ : ๑. ผลการศึกษาเพื่อให้ได้ข้อสรุปเสนอแก่รัฐบาล เพื่อการกำหนดนโยบายการส่งเสริมการใช้ เชื้อเพลิงด้านการขนส่งของประเทศควรเป็นอย่างไร และแนวทางการส่งเสริมที่เหมาะสมกับบริบทของ ประเทศไทย โดยคำนึงถงึ การเกิดประโยชน์สูงสดุ ต่อประเทศ ภายในระยะ ๖ เดือน ๒. ระบบบริหารจดั การการลดต้นทนุ การผลติ เชื้อเพลิงชวี ภาพของประเทศ เพือ่ ลดการอดุ หนุน ราคาจากรัฐ ๓. นวัตกรรมการผลิตคาร์บอนมูลค่าสูง และ Oleochemicals เชิงพาณิชย์จากพืชเกษตร หรือหมุนเวียนของเสียและวัสดุเหลือใช้ในประเทศ (น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ ผลิตภัณฑ์สารหล่อ ลื่นพื้นฐานชีวภาพ น้ำมันผสมยางล้อชีวภาพ น้ำมันเครื่องและจาระบีชีวภาพ เมทิลเอสเทอร์ซัลโฟเนต พาราฟิน และสารกำจดั ศตั รพู ชื ) ๔. สาธิตการใชไ้ ฮโดรเจนในยานยนต์ งบประมาณ : ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ไม่มีการใช้งบประมาณ ตลอดโครงการ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) ๒๗๐ ลา้ นบาท ๔. โครงการยกระดับเทคโนโลยีฐานการพัฒนาผลติ ภัณฑ์อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพแบบครบ วงจร อุตสาหกรรมไบโอรไี ฟเนอรี (biorefinery) เป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศไทย การ เข้าถงึ โอกาสทางการตลาดนน้ั จำเปน็ ตอ้ งผ่านการทดลองวิจัยและพัฒนาในระดบั ขยายขนาดในโรงงาน ต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี แมว้ ่ารฐั บาลมกี ารลงทุนโรงงานตน้ แบบไบโอรีไฟเนอรี ณ เมอื งนวัตกรรมชีวภาพ ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐาน (Open access infrastructure) สำหรับงานวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ และ เคมี ในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ฐานชีวภาพ (Biobased products) ในระดับขยายขนาด สำหรับหน่วยงานวิจัย มหาวิทยาลัย หรือบริษัทที่ประสงค์จะพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการ เพื่อ เชื่อมต่อผลงานจากการวิจัยในระดับห้องปฏิบัติการ และนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมต่อไป แต่ ผ้ปู ระกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ไม่อาจดำเนินการวจิ ยั ในระดับขยายขนาดได้เน่ืองจาก ค่าใช้จา่ ยคอ่ นขา้ งสูง ดงั น้นั การสนับสนุนทางการเงนิ สำหรบั ธรุ กิจขนาดกลางและขนาดยอ่ มจากภาครัฐ (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขบั เคลอ่ื นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๑

เพื่อใช้ในการทดลองระดับขยายขนาดในโรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเป็นการ กระตุ้นใหผ้ ูป้ ระกอบการเหล่านส้ี นใจพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ นอกจากนนั้ บรษิ ทั ขนาดใหญ่ที่มีการ พัฒนาผลิตภัณฑ์นวตั กรรมก็จะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยใี นระดับขยายขนาด ในโรงงานต้นแบบนี้ในแง่ของการลดภาระทั้งการเงินและเวลา คือ ไม่ต้องเสียเงินและเวลาเพื่อสร้าง โรงงานต้นแบบด้วยตัวเอง หรือไม่ต้องเสียเงินจำนวนที่ค่อนข้างสูงเพื่อขอรับบริการโรงงานต้นแบบใน ต่างประเทศ โดยจะเป็น One-stop service คือให้บริการตั้งแต่กระบวนการแปรรูปด้วยกระบวนการ ทางชีวภาพและ/หรือเคมี และมีกระบวนการปลายน้ำในการแยกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการได้ ทำให้สามารถ สร้างตน้ แบบกระบวนการผลิต และต้นแบบผลติ ภณั ฑ์ทสี่ ามารถนำไปทดสอบการใชป้ ระโยชนแ์ ละตลาด ได้ รวมทงั้ ใหก้ ารสนบั สนุนอน่ื ๆ ที่เก่ยี วขอ้ งกับการสรา้ งอุตสาหกรรมการผลิตได้ ไดแ้ ก่ การใหค้ ำปรึกษา ด้านวิศวกรรมและการออกแบบสายการผลิต การประเมินความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีในเชิง เศรษฐศาสตร์ (Techno-economic feasibility) และการพัฒนาบุคลากรป้อนสู่ภาคอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์เป้าหมายประกอบด้วย เคมีชีวภาพ ชีวเภสัชภัณฑ์ อาหารเสริมสุขภาพ ซึ่งสามารถเรียก รวมวา่ เป็น “กลุ่มอุตสาหกรรมไบโอรีไฟเนอรี” หน่วยงานรว่ มดำเนนิ งาน : หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สำนักงาน คณะกรรมการสง่ เสริมการลงทนุ (BOI) หน่วยงานผู้รับผดิ ชอบรอง : กระทรวงอตุ สาหกรรม ภาคเอกชน ส่ิงส่งมอบ : ๑. เทคโนโลยีฐานสำหรบั การทำ Scale up ผลิตภัณฑ์ตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพ-เอนไซม์ specialty สำหรับการใช้ในผลิตภณั ฑ์ Health care และ Personal care ผลิตภัณฑ์ Oleochemicals ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง Cosmeceuticals ผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพเพื่อเกษตร ปลอดภัย (Agrichemical products) ผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติทางหน้าที่ (Functional ingredients) ๒. ตน้ แบบเทคโนโลยแี ละผลติ ภัณฑใ์ นระดับขยายขนาด ๒๐ ตน้ แบบ ๓. ตน้ แบบเทคโนโลยีและผลิตภณั ฑ์ในระดบั ก่ึงอตุ สาหกรรม ๑๐ ตน้ แบบ ๔. ต้นแบบเทคโนโลยีและผลติ ภัณฑใ์ นระดับอตุ สาหกรรม ๔ ตน้ แบบ งบประมาณ : ตลอดโครงการ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) ๔๐๐ ลา้ นบาท งบประมาณรวมของโครงการสำคญั (Big rock) : ล้านบาท โครงการ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ รวม ๒๐๐ ๑. โครงการการกำหนดราคาคารบ์ อน ๐ ๕๐ ๕๐ ๔๐ ๓๐ ๓๐ และจัดสรรคารบ์ อนเครดิต (Carbon ricing and Carbon credits) (รา่ ง) แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๒

โครงการ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ รวม ๒. โครงการพลังงานชมุ ชน ๙๐ ๑๖๕ ๒๐๐ ๒๕๐ ๒๐๐ ๕๐ ๙๕๕ (Community Energy, Smart Grid and Energy Trading Platform (ETP)) ๓. โครงการการพฒั นาพลังงานสะอาด ๐ ๕๔ ๕๔ ๕๔ ๕๔ ๕๔ ๒๗๐ และพลังงานหมุนเวียน (Clean and Circular Energy: C-Energy) ๔. โครงการยกระดบั เทคโนโลยีฐานการ ๐ ๕๐ ๗๐ ๘๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๔๐๐ พฒั นาผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมเคมี ชีวภาพแบบครบวงจร รวม ๙๐ ๓๑๙ ๓๗๔ ๔๒๔ ๓๘๔ ๒๓๔ ๑,๘๒๕ ๔. แผนปฏิบัตกิ ารที่เกยี่ วขอ้ ง ▪ แผนบรู ณาการพลังงานระยะยาว ประกอบด้วย ๕ แผนยอ่ ย ไดแ้ ก่ (๑) แผนพฒั นา กำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐ (PDP ๒๐๑๘) (๒) แผน อนุรักษพ์ ลงั งาน พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๗๙ (EEP ๒๐๑๕) (๓) แผนพัฒนาพลงั งานทดแทน และพลังงานทางเลือก พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๗๙ (AEDP ๒๐๑๕) (๔) แผนการบริหาร จัดการน้ำมันเชอื้ เพลิง พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๗๙ (Oil Plan) (๕) แผนบรหิ ารจัดการก๊าซ ธรรมชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๗๙ (Gas Plan ๒๐๑๕) ▪ แผนยทุ ธศาสตรก์ ระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) ▪ แผนยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) ▪ แผนปฏิบตั ิราชการระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕) สำนักงานเศรษฐกจิ อตุ สาหกรรม ๓.๔ สาขาการท่องเท่ียวและเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ ๑. เปา้ หมายและตัวชวี้ ัดความสำเร็จ เป้าหมาย การท่องเที่ยวคุณภาพสูง โดยให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงไปสู่เมืองรอง ลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยท่องเที่ยวได้อย่างสร้างสรรค์ สนุก สะดวก และ ปลอดภัย การท่องเทีย่ วคุณภาพสงู หมายถงึ การท่องเทีย่ วทีต่ อบสนองต่อนักทอ่ งเที่ยวคณุ ภาพสงู นกั ทอ่ งเทีย่ วคุณภาพสงู หมายถงึ นกั ท่องเทยี่ วทม่ี ีกำลงั ซื้อ และ/หรือ นกั ท่องเที่ยวที่มีความ รับผิดชอบตอ่ สังคมและสิ่งแวดล้อมซ่งึ เต็มใจจ่ายเพ่มิ เพ่อื ตอบสนองคณุ คา่ ประสบการณ์และสร้างสังคม สขุ ภาวะ ตัวชว้ี ดั (ร่าง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๓

๑. เพ่ิมอันดับ Global Wellness Travel Ranking เปน็ Top ๕ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๐ ๒. อันดับความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยโดย TTCI ด้าน ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม (๑๓๐) ด้านความปลอดภัย (๑๑๑) ด้านสุขภาพและอนามัย (๘๘) เพิ่มข้ึน อันดบั เปน็ ๑๑๐, ๖๕, ๖๕ ตามลำดับภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๐ ๓. การจา้ งงานด้าน Wellness เพิม่ ขน้ึ ร้อยละ ๒๐ จากปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ๔. พัฒนากำลังคนในประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับ BCG สาขาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ สร้างสรรค์อย่างน้อย ๒๐,๐๐๐ รายต่อปี ๕. พัฒนาเรอื่ งราวจากภูมิปญั ญาท้องถิ่นและปราชญ์ชาวบา้ นให้เป็น Content ด้านการตลาด นำเสนอ Content ของ Happy Model และรวม Content ไว้ใน Application TAGTHAi ไม่น้อยกว่า ๕๐ เรอื่ งต่อปี ในปี ๒๕๖๕ และไม่น้อยกวา่ ๒๕ เรอ่ื งตอ่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ ๕. เพม่ิ มูลค่าของดที ้องถิ่น ไมน่ อ้ ยกว่า ๒๕๐ ผลิตภัณฑห์ รอื บริการต่อปี ในปี ๒๕๖๕ และ ไม่น้อยกว่า ๑๒๐ ผลิตภณั ฑ์หรอื บริการตอ่ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ ๒. แนวทางการดำเนินการ ปรับการท่องเที่ยวไปส่กู ารทอ่ งเที่ยวสีเขียวท่มี ีมูลค่าสูง โดยมีแนวทางการดำเนินการ ดงั นี้ ๑. การผลกั ดนั ให้เกดิ การนำโมเดลการท่องเทีย่ วรปู แบบใหม่ เชน่ Happy Model เพื่อกระจาย รายไดอ้ ยา่ งทว่ั ถึงไปสู่เมอื งท่องเท่ียวรอง ลดความเหลื่อมลำ้ และมุง่ สูก่ ารพัฒนาอยา่ งย่ังยนื ๒. การสง่ เสรมิ การท่องเท่ียวย่ังยืน และการทอ่ งเทีย่ วสีเขียว เพื่อรักษาสงิ่ แวดล้อมตามแนวทาง Happy Model ๓. การกระจายนักท่องเที่ยวสู่เมืองท่องเที่ยวรองด้วยการพัฒนาสินค้าและบริการในเมือง ท่องเท่ยี วรอง โดยใช้อัตลกั ษณ์ท้องถิ่น พฒั นาเรอื่ งราวและการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย และพัฒนาองคค์ วามรูด้ ว้ ย Digital Technology ๔. การขยายตลาดการท่องเทีย่ วด้วยการส่งเสรมิ พฒั นาระบบการจา่ ยเงนิ แบบ One Payment System เพอื่ อำนวยความสะดวกและรวบรวมข้อมลู พฤตกิ รรมการใช้จา่ ย ๕. การส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพสูงผ่านการจัดงานประชุมและนิทรรศการ กีฬา และ อีเวน้ ท์ (Event) ขนาดใหญ่ แนวทางที่ ๑ : การผลักดันให้เกิดการนำโมเดลการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เช่น Happy Model เพอื่ กระจายรายได้อยา่ งทั่วถึงไปส่เู มืองรอง ลดความเหล่ือมล้ำ และมุ่งสู่การพัฒนา อย่างย่ังยืน การขับเคลื่อนการพัฒนา BCG Model สาขาท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต้องนำไปสู่ การสร้างอุปสงค์ (Demand side) ในรูปแบบใหม่ เช่น การพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูงด้วยแนวคิด Happy Model การสรา้ งและพัฒนาตลาดด้วยการใชเ้ ศรษฐกิจสร้างสรรค์ เทคโนโลยดี จิ ิทัล รวมไปถึง การพัฒนาทักษะของผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้มีความสามารถในการบริหารจัดการการ ท่องเทย่ี วใหม้ ปี ระสิทธภิ าพย่งิ ข้ึน (ร่าง) แผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๔

เปา้ หมาย : เพิม่ รายได้ของการทอ่ งเทยี่ วในประเทศไทย ตวั ชว้ี ดั : ๑. พฒั นากำลงั คนทุกกล่มุ จงั หวดั ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั BCG สาขาการท่องเท่ียวและเศรษฐกจิ สร้างสรรค์ อยา่ งน้อย ๒๐,๐๐๐ รายต่อปี ๒. พัฒนาเรื่องราวจากภูมิปัญญาท้องถิ่นและปราชญ์ชาวบ้านให้เป็น Content ด้าน การตลาด นำเสนอ Content ของ Happy Model และรวม Content ไว้ในแอปพลิเคชัน TAGTHAi ไม่ น้อยกว่า ๕๐ เรอื่ งตอ่ ปี ในปี ๒๕๖๕ และไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๕ เรอ่ื งตอ่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ ๓. เพิ่มมลู คา่ ของดีทอ้ งถ่ิน ไมน่ ้อยกวา่ ๒๕๐ ผลติ ภณั ฑห์ รือบริการตอ่ ปี ในปี ๒๕๖๕ และ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๒๐ ผลิตภณั ฑห์ รือบรกิ ารต่อปี ในปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ กิจกรรม : กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รบั ผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪พัฒนากำลงั คนทกุ กลุม่ สภาหอการคา้ แห่ง จังหวดั ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับ BCG ประเทศไทย, สาขาการท่องเที่ยวและ อว., กก. เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ ▪การพัฒนาคณุ ภาพแหล่ง กก., สธ., ท่องเทีย่ ว สินค้า และ สภาหอการค้าแหง่ บรกิ ารดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว ประเทศไทย เพ่อื สรา้ งความมั่นใจ คณุ คา่ ให้กับนกั ท่องเทย่ี ว และ สร้างมลู ค่าเพ่มิ ใหช้ มุ ชน ▪ต่อยอดและยกระดบั กก., สธ., มาตรฐานการท่องเทีย่ วเชงิ สภาหอการคา้ แห่ง สขุ ภาพ (Wellness ประเทศไทย Tourism) เพือ่ สนบั สนุน และเชอ่ื มโยงไปส่กู าร ท่องเท่ียวดา้ นอน่ื ๆ ตลอด หว่ งโซอ่ ุตสาหกรรมการ ท่องเทย่ี ว ▪พฒั นาตอ่ ยอดและเพ่มิ กก.,วธ., อว., มูลคา่ สินคา้ และบรกิ าร สภาหอการค้าแหง่ ดว้ ยอตั ลักษณ์ทอ้ งถน่ิ ท่มี ี ประเทศไทย คุณภาพ เปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ▪การสร้างแบรนดส์ นิ คา้ ไทย สภาหอการค้าแห่ง ไปสรู่ ะดบั โลกจากอตั ลกั ษณ์ ประเทศไทย, กก. ทอ้ งถนิ่ ใชข้ ้อมูลเชงิ วฒั นธรรม การออกแบบ (รา่ ง) แผนปฏบิ ตั กิ ารด้านการขับเคลื่อนการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๕

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผู้รบั ผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ เทคโนโลยีดิจิทลั และสอ่ื สรา้ งสรรค์ แนวทางที่ ๒ : การส่งเสรมิ การทอ่ งเทยี่ วยัง่ ยนื และการท่องเท่ยี วสีเขียว เพ่อื รักษาสิ่งแวดลอ้ มตาม แนวทาง Happy Model การท่องเที่ยวในช่วงก่อนโควิด-๑๙ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากถึง ๔๐ ล้านคน นำไปสู่การใช้ทรัพยากรเกินขีดความสามารถในการรองรับ ทรัพยากรบางส่วนถูกทำลาย เกิด ปัญหาขยะตกค้างในแหล่งท่องเที่ยว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีแนวทางในการบริหารจัดการการท่องเที่ยว แต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสมด้วยการใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon neutral) การจัดทำNational Guideline ด้านขีดความสามารถในการรองรับของแหล่ง ท่องเที่ยว และจัดทำบัญชีต้นทุนทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวที่สำคัญเพื่อการ บรหิ ารจัดการทรัพยากรอยา่ งย่งั ยนื เปา้ หมาย : สนับสนนุ การทอ่ งเท่ียวทีย่ งั่ ยนื โดยคำนงึ ถงึ การรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติ ตัวชี้วัด : อันดับความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยโดย TTCI ด้านความย่งั ยนื ของสิง่ แวดล้อมเพิ่มข้ึนจากอนั ดบั ท่ี ๑๓๐ เปน็ ๑๑๐ ในปี พ.ศ. ๒๕๗๐ กิจกรรม : กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผู้รบั ผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪สง่ เสริมการนำหลกั เศรษฐกจิ กก.,ทส.,อว., หมนุ เวียนมาประยุกต์ใช้ในการ สภาหอการคา้ แหง่ ท่องเท่ียวทุกระดับ ประเทศไทย ▪สง่ เสริมการจัดกจิ กรรมการ กก.,ทส.,อว., ท่องเทยี่ วที่คำนึงถึงหลกั การ สภาหอการคา้ แห่ง ปล่อยคาร์บอนสุทธเิ ป็นศนู ย์ ประเทศไทย ▪สง่ เสริมใหม้ ีการประเมินขดี ทส., กก., อว. ความสามารถในการรองรบั นกั ทอ่ งเท่ียวในแหล่งท่องเท่ยี ว สำคญั ▪จดั ทำบญั ชีตน้ ทนุ ทรัพยากร กก., สำนักงานสถิติ และสิง่ แวดล้อมในเขต แหง่ ชาติ, ทส., อว. ท่องเทีย่ วสำคญั ▪การสร้างการมสี ว่ นรว่ มในการ กก., ทส, เอกชน, จัดการทอ่ งเท่ียวยั่งยืนด้วยลไก ชมุ ชน (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการขบั เคล่ือนการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๖

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผู้รับผดิ ชอบ ภาครฐั เอกชน ชมุ ชน ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ สถาบนั การศกึ ษา ▪การจำกดั จำนวนนกั ท่องเทย่ี ว กก., ทส, เอกชน, ให้เหมาะสมกับศกั ยภาพของ ชมุ ชน พืน้ ท่แี ละบริการ แนวทางที่ ๓ : การกระจายนักทอ่ งเที่ยวสูเ่ มืองทอ่ งเที่ยวรองด้วยการพัฒนาสนิ คา้ และบรกิ าร โดย ใชอ้ ัตลกั ษณท์ อ้ งถ่ิน พัฒนาเร่ืองราวและการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย และพฒั นาองคค์ วามรู้ดว้ ย Digital Technology การท่องเท่ียวในชว่ งก่อนโควิด-๑๙ กระจกุ ตวั อยเู่ พียง ๘ จงั หวดั ทำใหเ้ กดิ การกระจุกตัวของ รายได้เพียงบางพื้นที่ ขณะที่ในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทยมีทรัพยากรที่สวยงาม วัฒนธรรมที่ ทรงคุณค่าซึ่งสามารถนำมาใช้ส่งเสริมการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง ด้วยการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับการ อนรุ ักษ์ วฒั นธรรม อัตลกั ษณ์ การทอ่ งเทยี่ วเชงิ อนุรกั ษ์ เชิงเกษตร และการทอ่ งเท่ยี วเชงิ ความรู้ เป้าหมาย : สนบั สนนุ การท่องเทยี่ วท่ยี ่งั ยนื และการกระจายไดส้ ู่เมอื งรอง ตัวชี้วัด : รายไดจ้ ากการทอ่ งเทยี่ วของเมืองรองเพิ่มขน้ึ ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๑๐ ต่อปี กจิ กรรม : กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผูร้ ับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪พฒั นาแหลง่ ทอ่ งเที่ยวเมอื งรอง กก., ทส., วธ, โดยพจิ ารณาจากจดุ เดน่ และอตั ลกั ษณข์ องแตล่ ะพนื้ ท่ี กษ., เอกชน, เชน่ การท่องเทยี่ วเชิงอนุรักษ์ การทอ่ งเที่ยวเชิงความรู้ ชมุ ชน ▪การลงทุนโครงสรา้ งพน้ื ฐาน และ คค., ดศ., มท. สิ่งอำนวยความสะดวกในดา้ น ตา่ งๆ เพอ่ื ส่งเสรมิ การทอ่ งเท่ยี ว กก., อว., ทส., เช่น การคมนาคม การจดั การ ดศ., พณ. ขยะ และนำ้ เสียทไี่ ดม้ าตรฐาน ▪การพัฒนาผ้ปู ระกอบการใหม่ ดา้ นการทอ่ งเท่ียวมลู ค่าสูงดว้ ย กลไกความร่วมมอื กลไกทาง การเงิน และการเชื่อมโยงตลาด (ร่าง) แผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการขับเคลอ่ื นการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๗

แนวทางที่ ๔ : การขยายตลาดการท่องเทีย่ วด้วยการสง่ เสริมพัฒนาระบบการจ่ายเงินแบบ One Payment System เพื่ออำนวยความสะดวกและรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใชจ้ า่ ย การนำการชำระเงินผ่านระบบ e-payment มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวก รวมถึง รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่าย เพื่อนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยว สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องได้ ตรงตามความต้องการของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทาง และเพ่มิ การจับจ่ายในประเทศไทยได้มากขึน้ เปา้ หมาย นำรายไดจ้ ากการทอ่ งเที่ยวเขา้ ระบบอย่างถูกต้อง ตวั ช้วี ดั : รวบรวมฐานข้อมูลการใช้จ่ายของการทอ่ งเทยี่ วในประเทศไทย เพื่อวเิ คราะห์ และ นำไปใช้ประโยชน์ รวมถึงดงึ ผู้ประกอบการใหเ้ ขา้ ระบบมากว่ารอ้ ยละ ๘๐ กิจกรรม : กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ บั ผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪พฒั นาระบบการจา่ ยเงนิ แบบ กค. One payment system ▪การส่งเสรมิ ประชาสมั พนั ธ์ กค., กก., ทส., เพ่อื ใหผ้ ้ปู ระกอบการเขา้ สู่ ภาคเอกชน ระบบ One payment system ▪การพัฒนารูปแบบของการ กค., กก., ภาคเอกชน ทอ่ งเท่ียวโดยการใช้ ประโยชนจ์ ากขอ้ มลู ทจี่ ัดเก็บ ผ่านระบบ One payment system แนวทางที่ ๕ : การส่งเสรมิ การท่องเทยี่ วคุณภาพสูงผา่ น การจดั งานประชุมและนทิ รรศการ กีฬา และอีเวน้ ท์ (Event) ระดบั โลก การจัดมหกรรมหรืองานอีเว้นท์ (Event) ระดับโลก เช่น กีฬา การประชุม และการประกวด ต่าง ๆ เป็นอีกแนวทางในการดงึ ดูดนักท่องเที่ยวให้เดนิ ทางมาท่องเทีย่ วในประเทศไทยเพิ่มข้ึน เป็นการ นำรายได้จากภายในและภายนอกประเทศ มาหมุนเวียนเพือ่ พัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมทั้งโปรโมทประเทศ ไทย เปา้ หมาย : รายได้ของการท่องเทีย่ วในประเทศไทยเพิ่มขึ้น (รา่ ง) แผนปฏบิ ตั กิ ารด้านการขบั เคลอื่ นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๘

ตัวชวี้ ัด : รายไดจ้ ากการทอ่ งเทีย่ วของเมืองไทยเพ่ิมข้ึนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ ๑๐ กิจกรรม : กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผูร้ ับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪การสนับสนุนการพฒั นา กก., สธ., พณ., อุตสาหกรรมกีฬา สำนกั งานส่งเสริมการ อุตสาหกรรมการจดั จดั ประชมุ และ ประชุม อตุ สาหกรรม นทิ รรศการ (องค์การ บรกิ ารทางการแพทย์ มหาชน) ▪การเสนอตวั เปน็ เจา้ ภาพ กก., พณ., กต., อว. จัดการประชมุ หรอื การจัด ประชุมระดบั นานาชาติ ▪พฒั นาการตลาดรูปแบบ กก., เอกชน ใหม่ เพือ่ การดึงดูด นักทอ่ งเที่ยวกลุ่มใหม่ ๓. โครงการสำคญั (Big rock) : ๑. โครงการยกระดับและเพิ่มมูลคา่ สนิ ค้าและบริการท้องถน่ิ เพอ่ื การทอ่ งเทย่ี วหลังโควิด ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ สูงถึง ๓ ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น รายได้จากนักท่องเที่ยวไทย ๑ ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ๒ ล้านล้านบาท การเติบโตทาง เศรษฐกจิ ท่โี ดดเด่น แลกมาด้วยการสร้างปัญหาที่หลากหลาย อาทิ ขยะพลาสติก น้ำเสยี ความเสื่อมโทรม ของสง่ิ แวดลอ้ ม การรุกทำลายวัฒนธรรมและวถิ ชี วี ติ ท้องถน่ิ หรือการกระจกุ ตัวของรายได้ มากไปกว่าน้ัน สถานการณโ์ ควิด-๑๙ ส่งผลใหก้ ารท่องเที่ยวไทยต้องหยดุ ชะงักคนตกงานเป็นจำนวนมาก รายไดจ้ ากการ ท่องเท่ียวในปี ๒๕๖๓ มมี ูลคา่ ลดลงร้อยละ ๗๐ (ตำ่ กวา่ ๑ ลา้ นล้านบาท) อย่างไรก็ดี วกิ ฤตการณ์โควิด- ๑๙ เปน็ โอกาสท่ีประเทศไทยจะปรบั แนวทางพฒั นาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ไปในทิศทางที่ดีข้ึนกว่าเดิม โดยใช้ BCG Model เพือ่ ยกระดบั การทอ่ งเที่ยวไทยไปสู่การท่องเท่ยี วคณุ ภาพสงู ประเทศไทยมีความสมบูรณ์และหลากหลายทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม มี สินค้าและบริการที่ดีและหลากหลาย แต่ด้วยขาดการทำงานอย่างบูรณาการและเป็นระบบทำให้ขาด โอกาสในการสร้างมูลค่าเพ่ิมจากการใช้อัตลักษณ์ท้องถ่ิน ความคดิ สร้างสรรค์ การเสรมิ สร้างสุขภาพกายใจ และการรักษา สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมกับความคิดสร้างสรรค์ เพื่อการ ยกระดบั สินค้าและบรกิ าร สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ การทอ่ งเทย่ี วในรปู แบบ Happy Model (โมเดลอารมณ์ ดี มีความสุข) ซึ่งประกอบด้วย กินดี อยู่ดี ออกกำลังกายดีแบ่งปันสิ่งดีๆ จะสามารถมีส่วนช่วยแก้ไข หลายปัญหาในอดีตได้ โดยมีเรื่องราวที่น่าสนใจ มุ่งเน้นการสร้าง มาตรฐานและคุณภาพ สินค้าและ บริการเพื่อให้เหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และสนใจดูแลสุขภาพ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะช่วยลดปัญหาที่เคยเกิดขึ้นและยินดีใช้จ่ายสำหรับสินค้าและบริการ คุณภาพสูง (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการขบั เคลือ่ นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๖๙

ส่งผลต่อการเพิ่มการใช้จ่ายต่อคน สร้างการกระจายรายได้ และลดความเหล่ือมล้ำ ประเทศไทยมี ศักยภาพในการเป็น Global Wellness Tourism Destination ระดับโลก เนื่องจากธุรกิจดูแลสุขภาพ และบรกิ ารของไทย เปน็ ท่ียอมรับและไดร้ บั คำชน่ื ชมมาโดยตลอดจากนานาอารยประเทศ หนว่ ยงานรว่ มดำเนนิ งาน : หนว่ ยงานผรู้ บั ผิดชอบหลกั : สภาหอการคา้ แห่งประเทศไทย หน่วยผู้รับผิดชอบรอง : กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กระทรวง การทอ่ งเท่ียวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ สิง่ สง่ มอบ : ๑. อบรมผู้ประกอบการบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ BCG ภาพรวม และข้อมูลจำเพาะในแต่ละ พืน้ ท่ี ๑ ๐๐,๐๐๐ คน สำหรบั ๕ ปี ๒. พัฒนาองค์ความรู้การจัดการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดในรูปแบบ Digital Content ไม่ นอ้ ยกว่า ๗๐ จังหวัด ๓. ยกระดับผลติ ภัณฑ์หรือบรกิ ารเพอื่ การเพมิ่ คณุ ค่า ๘๕๐ รายการ ๔. การรวบรวมและพฒั นา content เพอ่ื ส่งเสริมการทอ่ งเทยี่ ว ๑๗๕ เรือ่ ง งบประมาณ : ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ = ๒๓๕ ลา้ นบาท ตลอดโครงการ (พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐) ๖๗๕ ล้านบาท ๒. โครงการการสรา้ งความรบั รแู้ ละมสี ่วนรว่ มในเร่อื ง BCG รัฐบาลกำหนด BCG เป็นวาระแห่งชาติ จำเป็นต้องทำให้ทุกภาคส่วนมีความเข้าใจ เกิดความ ตระหนัก การสื่อสารที่เข้าใจง่ายเพื่อชักชวนให้ภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย รวมทั้งประชาชนทว่ั ไปเขา้ ใจในความหมายของ BCG และมสี ่วนรว่ มในการพฒั นาไปดว้ ยกัน โครงการ นี้ จะสื่อสารความสำคัญของ BCG ในทุกสาขา ให้เกิดความเข้าใจแก่ภาคประชาชน ภาครัฐ และ ภาคเอกชนอย่างทวั่ ถึง และต่อเนื่อง เกดิ การมีสว่ นร่วมจากทุกภาคส่วน และทกุ ชว่ งวยั รวมถึงการสร้าง เรื่องราวและเผยแพร่ข้อมูลที่เกิดจากอัตลักษณ์ท้องถิ่น นำมาสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการ ใช้ ขอ้ มลู เชงิ วฒั นธรรม การออกแบบ เทคโนโลยดี ิจทิ ัล และส่ือสรา้ งสรรค์เปน็ ผลติ ภัณฑห์ รือบริการรูปแบบ ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย อาทิ เรื่องราวที่มี ความสุข (Happy Story) โดยดึงเอาจุดเด่นด้าน BCG แต่ละจังหวัดมาประยุกต์ให้สนุกและเป็นกระแส ผ่าน Digital Content ภาพยนตร์ เพลง ละคร แอนิเมชัน คาแรคเตอร์ หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น และ คดั เลือกโครงการนำรอ่ งท่ีสง่ เสรมิ BCG ๑๐ อันดับ อาทิ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วน่าสนใจ อุตสาหกรรมพน้ื บ้าน กิจกรรมอาสา ประเพณีที่เกี่ยวข้อง การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน การดูแลสุขภาพ และสร้างให้ เป็นกระแสเพื่อความจดจำ รวมทั้งสร้างความตระหนักด้านการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบให้กับ กล่มุ นักท่องเท่ียวผ่าน digital platform หน่วยงานรว่ มดำเนนิ งาน : หนว่ ยงานผู้รับผิดชอบหลกั : สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (รา่ ง) แผนปฏิบัตกิ ารดา้ นการขับเคลอื่ นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๐

หน่วยผู้รับผิดชอบรอง : กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม สิ่งส่งมอบ : จดั ทำ Content และสื่อมลั ติมีเดียทเี่ หมาะสมในการส่ือสาร ๗๕ เรอื่ ง งบประมาณ : ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ = ๑๐๐ ล้านบาท ตลอดโครงการ (พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๖๗) ๓๐๐ ล้านบาท งบประมาณรวมของโครงการสำคญั (Big rock) : ลา้ นบาท โครงการ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ รวม ๖๗๕ ๑. โครงการยกระดบั และเพมิ่ มลู คา่ ๒๓๕ ๑๓๐ ๑๐๐ ๗๐ ๗๐ ๗๐ ๓๐๐ สินคา้ และบรกิ ารท้องถน่ิ เพอ่ื การ ๙๗๕ ท่องเท่ยี วหลังโควดิ ๒. โครงการสรา้ งความรับรูแ้ ละมสี ่วน ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๐ ๐ ๐ รว่ มในเรอ่ื ง BCG รวม ๓๓๕ ๒๓๐ ๒๐๐ ๗๐ ๗๐ ๗๐ ๔. แผนปฏิบัติการทเี่ ก่ียวข้อง ▪ แผนปฏิบัติราชการ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕) สำนักงานปลัดกระทรวงการ ท่องเท่ยี วและกีฬา ๓.๕ สาขาเศรษฐกจิ หมุนเวยี น ๑.เป้าหมายและตัวชวี้ ดั ความสำเรจ็ เปา้ หมาย การประยุกต์ใช้หลักคิดของเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการลดการใช้ทรัพยากรในการพัฒนาเศรษฐกิจ (Closing the Loop) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม (Combating Climate Change and Pollution Reduction; Transition to Sustainable Society) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจแนวใหม่ (Creating New Economy Growth) ต่อยอดจากของ เหลือทิง้ ในกระบวนการผลิตและการบริโภคท่ยี ัง่ ยนื ตวั ชี้วดั ๑. ลดการใช้ทรพั ยากรลง ๑ ใน ๔ จากปจั จุบัน ๒. สร้างโอกาสการลงทุนเพื่อการเติบโตและการจ้างงานด้วยเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ส่งผลทำให้ GDP เพ่มิ ข้นึ ร้อยละ ๑ ภายในปี ๒๕๗๐ (รา่ ง) แผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการขบั เคลื่อนการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๑

๓. การปล่อยกา๊ ซเรือนกระจกลดลงไมน่ ้อยกว่า ๑ ล้านตนั คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ๒. แนวทางการดำเนินการ การประยุกต์ใชห้ ลักคิดของเศรษฐกจิ หมุนเวียนเป็นพื้นฐานสำคญั ในการขบั เคล่ือนประเทศไทย ไปสู่พฒั นาทย่ี ั่งยนื เพ่มิ ขดี ความสามารถในการแข่งขัน และสรา้ งเศรษฐกจิ ใหมจ่ ากต่อยอดจากของเหลือ ทิ้งในกระบวนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนภายใต้ ๓ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ พลาสติกครบวงจร เกษตรและอาหาร และวัสดุกอ่ สร้าง มีศักยภาพที่จะลดการใช้ทรัพยากรลงได้ ๑ ใน ๔ จากปัจจุบัน โดย มีแนวทางการดำเนินการ ดังนี้ ๑. การพัฒนาเศรษฐกิจด้วยโอกาสการลงทุนและการสร้างตลาดด้วยโมเดลธุรกิจเศรษฐกิจ หมนุ เวยี น ๒. การส่งเสริมงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้เกิดการคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการ ใหมจ่ ากการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ ๓. การพัฒนาแพลตฟอร์มและโครงสรา้ งพ้ืนฐานเพื่อส่งเสริมการขับเคลือ่ นเศรษฐกิจหมุนเวยี น อยา่ งเปน็ ระบบ ๔. การสร้างระบบกลไกการบริหารจดั การทเี่ อ้อื อำนวยการขับเคลอื่ นเศรษฐกจิ หมุนเวียนของประเทศ ๕. การสร้างกำลงั คนทม่ี ีความรแู้ ละความเขา้ ใจ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรูจ้ ากการอบรมหรือ หลักสตู ร รวมทั้งสรา้ งความตระหนกั ในการผลติ และบริโภคท่ีย่ังยนื เพื่อขับเคลือ่ นเศรษฐกิจหมนุ เวยี น แนวทางท่ี ๑: การพฒั นาเศรษฐกจิ ด้วยโอกาสการลงทนุ และการสร้างตลาดดว้ ยโมเดลธรุ กิจ เศรษฐกิจหมุนเวียน การปฏิวัติโมเดลธุรกิจจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบเส้นตรง (Linear Economy) ผลิต ใช้ ทิ้ง ขายได้กำไร มาสู่โมเดลธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่ง รูปแบบธรุกิจที่อาจเป็นไปได้ เช่น ๑) ธุรกิจพัฒนานวัตกรรมที่ยืดอายุสินค้า (product life extension) เช่น ซ่อมแล้วนำกลับมา ขายใหม่ ๒) ธุรกิจแบ่งปัน (sharing business) เชื่อมต่อคนมาสู่การแบง่ ปันสินค้าที่ไม่ใช้ ๓) ธุรกิจที่ นำทรัพยากรกลับมาผลิตใหม่ (resource recovery) เช่น นำขยะกลับเป็นวัตถุดิบ ๔) ธุรกิจขาย สนิ คา้ พรอ้ มบรกิ าร (product as a service) จากการขายอย่างเดียวเปน็ การบรกิ ารด้านอ่นื ชว่ ยสินค้า ใช้งานนานขึ้น เช่น ซ่อมแซม และ ๕) ธุรกิจการสนับสนุนวัสดุทดแทน (circular supplies) เช่น พลังงานชีวภาพ วัสดุชีวภาพ ทั้งนี้ การขยายเศรษฐกิจหมุนเวียนจำเป็นอย่างยิ่งตอ้ งส่งเสริมให้เกดิ ธุรกิจที่หลากหลายรูปแบบ ดังนั้นสิ่งที่มีความจำเป็นควรเริ่มจากการพัฒนาวิธีการ สื่อสารแนวคิด ดังกล่าวไปสู่ทุกภาคส่วนในวงกว้าง รวมถึงทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคยอมรับในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสร้างตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียน ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากของเหลือใช้ หรือของเสยี ทีใ่ กลต้ ัวให้นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพอ่ื สรา้ งผู้ผลิตและผบู้ ริโภคด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในประเทศ เป้าหมาย : ๑. เพ่อื สรา้ งเศรษฐกจิ รูปแบบใหมท่ ส่ี ่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำใหเ้ กดิ การจ้างงาน (ร่าง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขับเคล่อื นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๒

และการลงทุนในตลาดผลิตภณั ฑแ์ ละบริการด้านเศรษฐกจิ หมนุ เวียน ตวั ชีว้ ัด : การจา้ งงานและการลงทุนเพิ่มขนึ้ ในผลิตภัณฑ์และบรกิ ารตามแนวทางเศรษฐกจิ หมุนเวียน กิจกรรม : ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รับผิดชอบ กจิ กรรม ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪การบม่ เพาะ สร้างและ อก., อว., เอกชน ยกระดบั ผู้ประกอบการ (Startup/Level up) ดา้ น เศรษฐกิจหมนุ เวยี น ▪ส่งเสรมิ การผลติ และบริโภค ทส., อก., เอกชน ผลิตภณั ฑท์ ่เี ปน็ มิตรต่อ อก., เอกชน สงิ่ แวดลอ้ ม (Eco Design) อว., อก., มท., เอกชน และผลติ ภัณฑ์เพื่อรไี ซเคิล อว., อก., เอกชน (Design for Recycle) ▪สนับสนนุ ใหเ้ กดิ การลงทนุ ผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารตาม แนวทางเศรษฐกิจ หมุนเวยี น ▪สนบั สนุนให้เกดิ ต้นแบบ ขยะพลาสติก และขยะ ชุมชนชนครบวงจร แยก รวบรวม จดั เกบ็ หมุนเวยี น ใช้ประโยชน์ ▪ผลกั ดนั บรรจภุ ณั ฑ์ พลาสตกิ ยอ่ ยสลายได้ (Bioplastics) เปน็ บรรจุ ภณั ฑ์ทางเลอื ก โดยมีการ กำหนดการใช้กับผลติ ภณั ฑ์ ใหช้ ดั เจน เช่น บรรจุอาหาร บรรจุขยะปลายทาง ไปฝัง กลบ เพอื่ ชว่ ยใหเ้ กดิ การ แยกแยะการจัดเก็บได้อย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ แนวทางที่ ๒: การส่งเสริมงานวจิ ัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อใหเ้ กดิ คิดคน้ ผลติ ภัณฑแ์ ละ บรกิ ารใหมจ่ ากการลดการใชท้ รัพยากรและการนำของเสียกลับมาใชใ้ หม่ (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารดา้ นการขบั เคลื่อนการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๓

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการทรัพยากรและสามารถนำไปต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ การออกแบบและพัฒนานวัตกรรม เช่น การออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco design) การออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อรีไซเคิล (Design for recycle) จากของเหลือใช้หรือของเสียที่ใกล้ ตัวที่นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ การพัฒนานวัตกรรมจากวัสดุที่มีการใช้งานแล้ว (Second materials) การพัฒนาวัสดุชนิดใหม่ที่ใช้วัสดุน้อยลงแต่มีความคงทน ทนทานเท่าเดิมหรือสูงขึ้น น้ำหนักเบา การ ออกแบบและจัดการวัสดุ (Prefabrication) ตั้งแต่โรงงานผลิต ช่วยลดการตัดแต่งที่หน้างาน ซึ่งเป็น สาเหตหุ ลกั ของมลพษิ ทางอากาศและเสยี ง เป้าหมาย : ๑. เพื่อพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ใช้ประโยชน์จากของเสียและการลดการใช้ ทรัพยากร ๒. เพอื่ สร้างองค์ความรแู้ ละยกระดับงานวจิ ัยใหส้ ามารถขยายผลและเพิม่ ขีดความสามารถ ทางการแข่งขันในระดับนานาประเทศ ตัวชี้วดั : ๑. ยกระดบั คุณภาพงานวจิ ยั เพือ่ นำไปสกู่ ารผลิตและการบริการมมี ีคณุ ภาพ ใชท้ รัพยากรอยา่ งมี ประสิทธภิ าพและลดผลกระทบส่งิ แวดล้อม ๒. เพ่ิมขีดความสามารถทางการแขง่ ขนั ผ่านการวจิ ยั และพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวยี น กจิ กรรม : กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผู้รบั ผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪การออกแบบและพัฒนา อว., อก., สภา ผลิตภณั ฑ์ อุตสาหกรรม • ผลติ ภณั ฑท์ เ่ี ปน็ มติ รต่อ แหง่ ประเทศไทย สงิ่ แวดล้อม (Eco Design) • ผลิตภณั ฑเ์ พ่อื รีไซเคิล (Design for Recycle) ▪พัฒนาเทคโนโลยีนวตั กรรม อว., อก., สภา • วสั ดทุ ีม่ กี ารใชง้ านแลว้ อุตสาหกรรม (Second materials) มา แหง่ ประเทศไทย เป็นทรัพยากร/วตั ถุดิบ เพ่อื ทดแทนหรอื สรา้ ง ผลติ ภณั ฑใ์ หม่ • วัสดชุ นดิ ใหมท่ ใี่ ชว้ สั ดุ นอ้ ยลงแต่มปี ระสิทธภิ าพ สูงขนึ้ (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขับเคล่อื นการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๔

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ บั ผิดชอบ ▪ พัฒนานวตั กรรมดา้ น ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ บรรจภุ ัณฑ์ เช่น ฉลาก ฝา ทส่ี ามารถรไี ซเคลิ อว., อก., สภา หรอื เป็นมติ รตอ่ สิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย แนวทางท่ี ๓ : การพัฒนาแพลตฟอร์มและโครงสร้างพ้นื ฐานเพอื่ ส่งเสริมการขบั เคลอื่ นเศรษฐกิจ หมนุ เวียนอย่างเป็นระบบ การประสบความสำเร็จของเศรษฐกิจหมุนเวียน จำเป็นต้องส่งเสริมการพัฒนาแพลตฟอร์ม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (CE-Platform) ครอบคลุมระบบบริหารจัดการ/รูปแบบในการจัดการทรัพยากร การจัดทำฐานข้อมูลปริมาณการใช้ ทรัพยากรและของเสียของประเทศ วิเคราะห์ข้อมูลทั้งในเชิงประเภทและปริมาณ เพื่อนำไปจัดทำค่า benchmarking ปริมาณการใช้ทรัพยากรในการผลิตสินค้าและบริการที่ยั่งยืน เช่น ขยะ ขยะอาหาร รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น ศูนย์รวบรวมวัตถุดิบ รอบสอง (Secondary raw materials hub) เป้าหมาย : ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจดั การเพื่อนำไปสู่การลดการใช้ทรัพยากร และ การนำของเสยี กลับมาใชป้ ระโยชน์ ตัวชีว้ ัด : ลดการใชท้ รัพยากรลง ๑ ใน ๔ จากปจั จุบัน กิจกรรม : กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪ พฒั นาระบบฐานข้อมลู การ อก., มท., ทส., อว., ไหลของของเสียและ สถาบันพลาสติก PPP วตั ถดุ ิบรอบสอง พลาสติก, (Secondary raw materials) สภาอุตสาหกรรมฯ (พลาสติกและวสั ดุรไี ซเคิล/ ขยะอาหาร/วสั ดกุ อ่ สร้าง) ▪ จัดตั้งศนู ยร์ วบรวมวตั ถดุ ิบ มท., อก., อว., สภา รอบสอง (Secondary อตุ สาหกรรมฯ, raw materials hub) หรือ สภาหอการคา้ ฯ ศูนย์แลกเปลยี่ นและใช้ ประโยชน์ของเสยี รว่ มกนั (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขบั เคลอื่ นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๕

กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ ับผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪จดั ทำระบบรับรองฉลาก มท., อก., ทส., อว., ด้านเศรษฐกจิ หมุนเวยี น สถาบันส่งิ แวดลอ้ มไทย, สถาบนั พลาสติก, สภาอตุ สาหกรรมฯ ▪จัดทำค่า Benchmarking ทส., มท., อก., อว., ปรมิ าณการใชท้ รัพยากร เอกชน การผลิตและบรกิ ารที่ย่ังยนื ▪พฒั นามาตรฐาน อว., อก., เอกชน กระบวนการ และ มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ รวมถึงข้อกำหนดของ ผลิตภณั ฑ์ และจัดทำระบบ EPR (Extended Producer Responsibility) ท่ี สอดคลอ้ งกบั แนวทาง เศรษฐกิจหมนุ เวยี นของ ประเทศ แนวทางท่ี ๔ : การสรา้ งระบบกลไกการบริหารจัดการทเี่ อ้ืออำนวยการขบั เคล่ือนเศรษฐกิจหมุนเวียน ของประเทศ ไดแ้ ก่ การปรับแก้ กฎหมาย กฎระเบียบและมาตรการท่ีเปน็ อุปสรรค เป้าหมาย : ระบบกลไกการบริหารจัดการและโครงสร้างพื้นฐาน (Ecosystem) เพื่อรองรับ โอกาสการลงทนุ และการสรา้ งตลาดด้วยโมเดลธุรกจิ เศรษฐกิจหมนุ เวียน ตวั ชว้ี ัด : มาตรฐาน กระบวนการ กฎ ระเบียบ รวมถงึ ขอ้ กำหนดของผลติ ภณั ฑ์และบริการ ทสี่ อดคล้องกบั แนวทางเศรษฐกิจหมนุ เวียน เพื่อรองรับการขยายตลาดเศรษฐกิจหมนุ เวียน กจิ กรรม : กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รบั ผิดชอบ ▪ ปลดล็อก/พฒั นาที่ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ มาตรการ ระเบียบ กฏหมาย ที่เออื้ อำนวยการ อว., ทส., อก., สธ. ขบั เคลือ่ น • การปรับแก้ ประกาศ กระทรวงสาธารณสขุ (ร่าง) แผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการขบั เคลื่อนการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๖

กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รับผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ฉบับที่ ๒๙๕ พ.ศ.๒๕๔๘ ขอ้ ๘ ทรี่ ะบุว่า“หา้ มมิให้ ใช้ภาชนะบรรจทุ ท่ี ำขนึ้ จากพลาสติกที่ใชแ้ ล้ว บรรจอุ าหาร” • รัฐนำนำมาตรการ Extended Producer Responsibility; EPR มา บงั คบั ใชข้ ยายความ รับผิดชอบให้บรษิ ัทผูผ้ ลติ สินค้า กลุม่ ผ้คู า้ ปลีก/ค้า ส่ง ร่วมกำหนดเป้าหมาย การเรยี กคนื บรรจภุ ณั ฑ์ พลาสติก การกำหนด มาตรฐานผลติ ภณั ฑท์ ่มี ี พลาสติกรีไซเคลิ เป็น องค์ประกอบ • ปรบั ปรุงกฎระเบยี บ/ กระบวนการท่ีเกย่ี วขอ้ ง กบั การนำของเสยี นอก โรงงานใหเ้ อือ้ อำนวยต่อ การนำมาใชป้ ระโยชน์ ตามแนวคิดเศรษฐกิจ หมุนเวยี น • พัฒนามาตรการทางด้าน การกำหนดแนวทางการ จัดการขยะกอ่ สรา้ งและ ร้ือถอน (C & D waste) พฒั นากฎหมายสง่ เสริม เศรษฐกิจหมนุ เวียน • (ร่าง) พรบ.เศรษฐกจิ หมนุ เวยี น ▪ พัฒนากลไกตลาดท่ี อก., อว., เอกชน เหมาะสมและมแี รงจงู ใจ และหนว่ ยงานท่ี เพื่อสรา้ งการเปลยี่ นแปลง เกย่ี วขอ้ ง • สร้างแคมเปญการกระตนุ้ ใหเ้ กดิ การปรบั ขวด พลาสติกสีเป็นขวดใส (ร่าง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขบั เคลือ่ นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๗

กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ บั ผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ เพ่อื ใหส้ อดรับ EPR Scheme ในอนาคต แนวทางท่ี ๕: การสรา้ งกำลังคนทีม่ คี วามร้แู ละความเข้าใจ ผา่ นการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้จากการ อบรมหรอื หลกั สตู ร รวมทงั้ สรา้ งความตระหนกั ในการผลิตและบรโิ ภคท่ียง่ั ยืนเพอื่ ขับเคล่อื นเศรษฐกิจหมนุ เวียน เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจผ่านสื่อและหลักสูตรเพื่อให้เกิดความตระหนกั ในเรื่องของการใช้ ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศอย่างเป็น รปู ธรรม สอื่ สารแนวคดิ ดงั กลา่ วไปสู่ทุกภาคส่วนในวงกวา้ ง เช่น ส่อื ออนไลน์ หลักสตู รการเรียนการสอน รวมถึงการจัดกิจกรรมจัดประกวดความคิดสร้างสรรค์เพื่อการปรับเปลี่ยนทัศนคติและการเปล่ียนแปลง พฤติกรรมของผู้ผลิตและผู้บริโภค (bottom up) ให้มีความเข้าใจว่าขยะ/ของเสียคือทรัพยากรที่ สามารถหมุนเวียนใช้ประโยชนไ์ ด้ หากมกี ารแยก จัดเก็บ หมุนเวียน และใช้ประโยชน์ รวมถึงทำใหผ้ ้ผู ลิต และผบู้ ริโภคยอมรบั ในผลิตภณั ฑท์ ี่เก่ียวข้องกบั ระบบเศรษฐกิจหมนุ เวยี น เป้าหมาย : เพื่อให้เกิดสังคมคนรุ่นใหม่ที่มีองค์ความรู้ ทัศนคติ และจิตสำนึก ที่คำนึงการใช้ ทรัพยากรอยา่ งคมุ้ คา่ เพ่ือคุณภาพชวี ิตและส่งิ แวดล้อมทด่ี ี ตัวชีว้ ัด : คุณภาพชวี ิตและสง่ิ แวดล้อมของท่ดี ีข้นึ พรอ้ มการใชท้ รัพยากรอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ สูงสุด กจิ กรรม : กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผูร้ ับผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪การสรา้ งความร้คู วามเข้าใจ อว., อก., เอกชน ดา้ นเศรษฐกิจหมุนเวยี น •จัดทำสื่อสร้างองค์ความรู้ เรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน ใหเ้ ขา้ สู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ •จัดกจิ กรรมเชงิ รกุ สง่ เสรมิ /สรา้ งองคค์ วามรู้ ทศั นคติ และจติ สานึก ดา้ นเศรษฐกิจหมนุ เวียน ผา่ นหลักสูตรดา้ น เศรษฐกจิ หมุนเวียนสา หรับระดบั อุดมศึกษา และ Social Media (รา่ ง) แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการขับเคล่อื นการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๘

กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ ับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ •จัดประกวดความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการ ออกแบบและพฒั นาของ เหลอื ใช้หรือของเสียท่ีใกล้ ตวั ที่นากลบั มาใช้ ประโยชน์ใหม่ หรือการ สร้างธุรกิจใหม่ • ส่งเสริมการเรยี นการสอน วิชาเศรษฐกิจหมุนเวียน ในวิชาการศึกษาทั่วไป สำหรับนักศึกษาระดับ ปริญญาตรีให้ครอบคลุม ทกุ สถาบนั และขยายผลไป ยังระดับอนื่ ๆ ๓. โครงการสำคญั (Big rock) : ๑. โครงการการจัดการขยะพลาสติกครบวงจร แยก รวบรวม จดั เก็บ หมนุ เวียน ใชป้ ระโยชน์ อย่างยงั่ ยืน วิกฤติขยะพลาสติกเป็นปัญหารุนแรงและส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่จะต้องเร่ง แกไ้ ขอย่างจริงจัง ปจั จุบันขยะพลาสติกถูกนำไปรีไซเคิลเพยี ง ๑ ใน ๔ ของปรมิ าณขยะพลาสติกทั้งหมด ส่วนที่เหลือถูกทิ้ง/ฝังกลบรวมกับขยะทั่วไป ซึ่งขยะบางส่วนเกิดการหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมสร้างปัญหา ขยะพลาสติกในทะเล ส่งผลต่อระบบนิเวศและทำให้เกิดการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกในสัตว์ทะเล ประเทศไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยดี ิจทิ ัลหรือแอปพลิเคชัน เพื่อประเมินปริมาณขยะพลาสติกระดบั ชุมชน ติดตามการจัดการขยะในระดับพื้นที่ (การแยกขยะ ขยะตกค้าง การขนส่ง การกำจัด) รวมถึง พัฒนารูปแบบในการจัดการขยะพลาสติกในชุมชน และสร้างธุรกิจขยะรีไซเคิลระดับพื้นที่ จะช่วย แก้ปัญหาขยะในทะเลลดลง และเมื่อขยะพลาสติกถูกแยกออกมาอย่างถูกวิธีจะทำให้การนำกลับมาใช้ ใหม่และสรา้ งมูลคา่ เป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ หน่วยงานรว่ มดำเนนิ งาน : หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง มหาดไทย กระทรวงการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม และกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยผู้รับผิดชอบรอง : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กลมุ่ PPP Plastics กลุ่มบรรจุภณั ฑ์ องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบนั การศกึ ษา ส่งิ สง่ มอบ : (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการขับเคล่ือนการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๗๙

๑. ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สนใจลงทุนธุรกิจนวัตกรรมการจัดการขยะ ครบวงจร ๒. ผลิตภัณฑ์หรือธุรกจิ รปู แบบใหม่ (การหมุนเวียนใช้ทรัพยากรกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่) อาทิ Waste symbiosis และ EPR ๓. ผลิตภณั ฑท์ ่อี อกแบบและพัฒนาข้ึนจากของเสียหรือวสั ดุ เหลือใช้ และขยะพลาสติกสามารถ ไดร้ บั การรบั รองฉลากด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ๔. ฐานข้อมูลปริมาณขยะพลาสติกและของเสยี อ่นื ๆ เพอื่ สนบั สนนุ ในการแลกเปล่ยี นขยะ พลาสติกบรรจภุ ัณฑ์ และขยะอืน่ ๆ ๕. ขอ้ กำหนดมาตรฐานกระบวนการและมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ ๖. โรงงานอุตสาหกรรมของประเทศ นำแนวคิดด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการลด น้ำ พลังงาน วัตถุดบิ และสามารถนำของเสียทเี่ กดิ ขน้ึ กลับมาใชป้ ระโยชนใ์ หม่ได้ งบประมาณ : ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ = ๕๐ ลา้ นบาท ตลอดโครงการ (๒๕๖๕-๒๕๗๐) ๔๐๐ ล้านบาท ๒. โครงการบริหารจัดการและบูรณาการข้อมูลการลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ระดบั ชาติ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (UNFAO) ได้ทำการศึกษาประเด็นวิกฤตขยะ อาหาร พบวา่ อาหารท่ผี ลติ ได้ของโลกจะกลายเป็นเศษอาหารเหลอื ท้งิ คดิ เป็น ๑ ใน ๓ ของอาหารที่ผลิต ได้ คำว่า “ขยะอาหาร” มีความหมายครอบคลุม เศษอาหารที่ไม่สามารถนำมารับประทานได้ และ อาหารส่วนเกินที่สามารถนำไปรับประทานต่อได้แต่ทิ้งกลายเป็นขยะอาหาร ทั่วโลกมีขยะอาหารมากถึง ๑.๖ พันล้านตันต่อปี ขณะที่สหประชาชาติ (UN) ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ที่การ พัฒนาครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้มีความเชื่อมโยงกัน โดยที่เป้าหมายที่ ๑๒ (SDG๑๒) เน้นการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยนื และมีเป้าประสงค์ที่ ๑๒.๓ คือ การลดขยะอาหารที่เกิด จากการจำหน่ายและการบริโภคทั่วโลกให้ลดลงร้อยละ ๕๐ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ และในช่วงวิกฤต โควิด ๑๙ พฤติกรรมการบริโภคภายในประเทศเปลี่ยนแปลงไป การซื้ออาหารกลับมารับประทาน หรือ การสั่งอาหารมารับประทานที่บ้าน เพมิ่ ขยะพลาสติกมากกว่าปกติ เฉพาะในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ สูงถึงร้อยละ ๑๕ ดังนั้น ประเทศไทยจึงควรมีการรวบรวมข้อมูลปริมาณขยะอาหารจากกระบวนการ ผลิต (Food loss) และการบริโภค (Food waste) เพื่อจัดทำค่า Benchmarking ปริมาณขยะอาหาร จากการผลิตและการบริโภคของชุมชน เพื่อบริหารจัดการขยะทั่วไปและขยะอาหารในชุมชนและแหล่ง ท่องเที่ยวใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ หนว่ ยงานรว่ มดำเนินงาน : หนว่ ยงานผูร้ บั ผดิ ชอบหลกั : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดลอ้ ม กระทรวง มหาดไทย (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการขบั เคลอ่ื นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๐

หน่วยผู้รับผิดชอบรอง : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กลุ่ม PPP Plastics องค์กรพัฒนาเอกชน สิ่งส่งมอบ : ระบบการจัดการข้อมูล และฐานข้อมูล Database Food loss & Food waste ระดับชาติ งบประมาณ : ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ = ๒๐ ล้านบาท ตลอดโครงการ (๒๕๖๕-๒๕๗๐) ๒๗๐ ล้านบาท ๓. โครงการการพัฒนาและประยกุ ต์เศรษฐกิจหมนุ เวียนเพ่อื สงิ่ แวดล้อมสรรคส์ รา้ ง ภาคการก่อสร้างเป็นหนึ่งในภาคสำคัญของเศรษฐกิจที่มีการบริโภคทรัพยากรธรรมชาติและ สร้างของเสียมากที่สุด ทั้งนี้เนื่องมาจากประเทศไทยมีการก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคอย่างก้าว กระโดด แต่กลับพบว่าการจัดการขยะประเภทดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำทำให้มีของเสียจากการก่อสร้าง และการร้ือถอนในปรมิ าณท่สี งู มาก ดงั น้ัน การนำหลักการ “เศรษฐกิจหมนุ เวยี น” มาประยุกตใ์ ช้จะช่วย ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาการจัดการขยะจากภาคการก่อสร้าง รวมทั้งการเพิม่ ปริมาณและ คุณภาพของการรีไซเคิลในอนาคต อุตสาหกรรมก่อสร้างประกอบด้วยสองส่วนหลัก คือ ส่วนที่เกี่ยวกับ วัสดุก่อสร้าง และส่วนที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง เป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้ ทรพั ยากรในปริมาณมาก จากข้อมลู ของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่มีการรายงาน ณ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๙ มีการใช้หินปูนสำหรับผลิตในอุตสาหกรรมซีเมนต์ เฉลี่ยประมาณ ๗๐ ล้านเมตริกตันต่อปี โดยมีการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ ๓-๔ ต่อปี นอกจากการใช้ทรัพยากรในปริมาณ มาก ยังก่อให้เกิดขยะของเสียที่มาจากการก่อสร้างและการรื้อถอนทำลาย ( Construction & Demolition Waste : C & DW) คิดเป็นร้อยละ ๓๐ - ๔๐ ของขยะในระบบฝังกลบทั่วโลก นอกจากน้ี ความท้าทายในการสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมก่อสร้างมีความเกี่ยวข้องกับการเติบโตต่อผลผลติ มวลรวมของประเทศ การจัดการทรพั ยากรทีถ่ ูกนำมาใช้ รวมถึงการจัดการของเสยี ทเี่ กิดข้ึนทัง้ ระบบของ อตุ สาหกรรมกอ่ สร้างตลอดหว่ งโซ่อุปทาน ตั้งแตก่ ารไดม้ าซึง่ วัตถุดบิ ทใ่ี ชใ้ นการก่อสร้าง การวางแผนและ การออกแบบขั้นตอนการก่อสร้าง การเก็บรวบรวมของเสียที่เกิดขึ้น ตลอดจนการนำวัสดุที่เหลือใช้ กลับมาใช้ใหม่ อย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด การก่อสร้างจึงมีการนำแนวคิดเศรษฐกิจ หมุนเวียนมาปรับใช้เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในมุมของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมี ศกั ยภาพในหลายภาคส่วน เนอื่ งจากเกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรและพลงั งานอย่างมีประสิทธิภาพมาก ข้ึนนำไปสู่การลดของเสียและลดผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม หนว่ ยงานรว่ มดำเนนิ งาน : หนว่ ยงานผู้รับผิดชอบหลกั : กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอตุ สาหกรรม กระทรวงการ อดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม หนว่ ยผู้รับผิดชอบรอง : สภาอตุ สาหกรรมแหง่ ประเทศไทย (รา่ ง) แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการขับเคล่อื นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๑

สง่ิ ส่งมอบ : ๑. แนวทางการจดั การขยะจากการก่อสร้างและการร้ือถอนเพ่ือนำกลบั มาใชป้ ระโยชน์ใน ระบบเศรษฐกจิ ๒. ฐานขอ้ มลู เครอ่ื งมอื ตวั ช้ีวดั ทเ่ี หมาะสมเพื่อบ่งชี้ประสิทธภิ าพเศรษฐกจิ หมุนเวยี นในวัสดุ ก่อสร้างและการกอ่ สรา้ ง ๓. โมเดลธรุ กิจท่เี อ้ือตอ่ บริโภคผลิตภณั ฑ์และบริการในห่วงโซ่คุณคา่ การก่อสร้างผา่ นการ ผลติ ซ้ำ ปรับแต่งใหม่ และรไี ซเคลิ ๔. ผลิตภณั ฑว์ สั ดกุ อ่ สรา้ งใหม่จากการวจิ ยั และพัฒนาทส่ี ามารถนำกลบั มาใชใ้ หม่ไดง้ า่ ย ใช้พลังงานนอ้ ยลงในกระบวนการรไี ซเคลิ รวมทงั้ มวี งจรชีวิตการทำงานทย่ี าวนานขึ้น ๕. กลไก นโยบายและมาตรการเพื่อสนับสนุนการปรับเปล่ียนไปสูก่ ารก่อสร้างอย่างย่ังยืน งบประมาณ : ตลอดโครงการ (๒๕๖๖-๒๕๗๐) ๒๐๐ ล้านบาท งบประมาณรวมของโครงการสำคญั (Big rock) : ล้านบาท โครงการ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ รวม ๔๐๐ ๑. โครงการจดั การขยะพลาสติกครบ ๕๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๖๐ ๕๐ ๒๗๐ วงจร แยก รวบรวม จัดเกบ็ ๒๐๐ หมุนเวียนใชป้ ระโยชนอ์ ย่างย่ังยนื ๘๗๐ ๒. โครงการบรหิ ารจดั การและบูรณาการ ๒๐ ๖๐ ๖๐ ๖๐ ๕๐ ๒๐ ข้อมลู การลดการสญู เสยี ขยะอาหาร ระดับชาติ ๓. โครงการการพัฒนาและประยกุ ต์ ๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ เศรษฐกิจหมุนเวียนเพอ่ื สิ่งแวดลอ้ ม สรรค์สร้าง รวม ๗๐ ๑๘๐ ๑๘๐ ๑๘๐ ๑๕๐ ๑๑๐ ๔. แผนปฏิบตั ิการท่เี กย่ี วข้อง ▪ แผนปฏบิ ัติราชการระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕) กระทรวงมหาดไทย ▪ แผนปฏิบตั ริ าชการระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ▪ แผนปฏบิ ัติราชการระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕) กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อม ▪ Roadmap การจัดการขยะพลาสตกิ พ.ศ. ๒๕๖๑– ๒๕๗๓ ▪ แผนปฏิบตั กิ ารด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ ▪ แผนปฏิบัติการการลดก๊าซเรือนกระจก สาขาการจัดการขยะชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๖๔– ๒๕๗๓ ▪ แผนปฏิบตั ิการภูมภิ าคอาเซียนวา่ ด้วยการตอ่ ต้านขยะทะเล พ.ศ. ๒๕๖๔- ๒๕๖๘ (รา่ ง) แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการขบั เคลอื่ นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๒

ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๔ : เสริมสรา้ งความสามารถในการตอบสนองตอ่ กระแสการเปล่ียนแปลงของโลก เน้นการสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความสามารถในการตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงของโลก อย่างเท่าทันเพื่อบรรเทาผลกระทบ รวมถึงเข้าถึงโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลกที่เกิดขึ้นได้ รวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นการปูทางสู่อนาคตด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิง โครงสร้างพนื้ ฐานดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โครงสรา้ งพ้ืนฐานดา้ นคณุ ภาพ เพอื่ การสรา้ งคณุ ค่าใหม่ ในอนาคตด้วยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปเพิ่มศักยภาพของชุมชน ผู้ประกอบการ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต/บริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด รวมถึงสร้างการเติบโต อย่างมีคุณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อนำไปสู่สังคม คาร์บอนต่ำ รวมถึงการรับมือต่อโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ นอกจากนี้ ต้องพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับ เศรษฐกิจ BCG ในอนาคต รวมถึงการวิจยั พฒั นาข้ันแนวหนา้ เพ่อื ลดการพึ่งพาการนำเข้าเทคโนโลยีจาก ต่างประเทศ ๑. เป้าหมายและตัวช้ีวัดความสำเร็จ เป้าหมาย สร้างสังคมฐานความรู้และสรา้ งภมู ิคมุ้ กันให้คนไทยทำให้ฟืน้ ตวั ได้เรว็ จากการเปล่ียนแปลง ท้งั ในและตา่ งประเทศ ตัวชี้วัด ๑. จำนวนผทู้ ไ่ี ด้รบั การพฒั นาใหม้ ที ักษะทส่ี ูงข้ึนไมน่ ้อยกวา่ ๑ ลา้ นคน ๒. จำนวนสตารท์ อัพและ IDEs (Innovative Driven Enterprises) ที่เก่ียวขอ้ งกบั BCG ๑,๐๐๐ ราย ๓. ดุลการชำระเงนิ ทางเทคโนโลยีขาดดุลลดลงไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๒๐ ๔. สดั สว่ นสินคา้ และบรกิ ารนวัตกรรมตอ่ GDP เพ่ิมขึน้ ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๒๐ ๒. แนวทางการดำเนนิ การ ๑. การยกระดบั ความสามารถของกำลงั คนในสาขา BCG ๒. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมและ ความสามารถในการพึ่งพาตนเองทางด้านเทคโนโลยี ๓. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคุณภาพเพื่อการส่งเสริมการผลิตสินค้าและบริการ นวตั กรรม ๔. การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงแห่งอนาคตและการมี ภูมิคุ้มกัน (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขบั เคลอื่ นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๓

แนวทางที่ ๑ : การยกระดบั ความสามารถของกำลงั คนในสาขา BCG การยกระดับความสามารถของกำลังคนเพื่อรองรับเศรษฐกิจ BCG จำเป็นต้องดำเนินการใน หลายระดบั เพ่อื เสริมความรู้และสร้างทักษะ BCG โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ๑) กลุ่มชุมชนและ ฐานราก ๒) กลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ๓) กลุ่มผู้พัฒนาเทคโนโลยี ข้นั สูง และ ๔) กลุม่ วสิ าหกิจเร่มิ ตน้ (Startups) และมแี นวทางการดำเนนิ งาน ดงั นี้ ๑) การสร้างและพฒั นาผ้ปู ระกอบการรุ่นใหม่และผ้ปู ระกอบการธุรกิจนวตั กรรมด้าน BCG ๒) การสร้างและพัฒนากำลังคน ที่สนับสนุนการนำความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้าน BCG ไปใช้ในการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมระดับพนื้ ที่ ๓) การส่งเสริมให้มีการเพิ่มจำนวนนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักเทคนิค เพื่อพัฒนา หรอื ตอ่ ยอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวตั กรรม ด้าน BCG ๔) การสง่ เสริมการพฒั นาความรแู้ ละทักษะบุคลากรในภาคอตุ สาหกรรมใหท้ นั สมยั รองรับการ เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของโลก โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ เทคโนโลยดี จิ ิทลั และการเปลีย่ นแปลงโครงสร้าง ของธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม เป้าหมาย : ประเทศไทยเป็นแหล่งจ้างงานทักษะสูงและรายได้สูงในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับ BCG และสามารถหลดุ พ้นจากกับดกั รายไดป้ านกลาง ตัวช้วี ดั : ๑) บุคลากรได้รับการฝึกอบรมปรับและยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน (Reskill/ Upskill/ New skill) ในประเทศเพ่ิมขน้ึ ไมน่ ้อยกวา่ ๑๕๐,๐๐๐ คน ๒) เกดิ นวตั กรรม ไม่นอ้ ยกว่า ๘๐ นวัตกรรม ๓) ยกระดบั ชมุ ชน ไม่นอ้ ยกวา่ ๒,๙๕๐ ตำบล ๔) สร้างผู้ประกอบการ SMEs ผู้ประกอบการหรือวิสาหกิจท่ีขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation-Driven Enterprises : IDE) วิสาหกิจเริ่มต้น (Startups) ที่สามารถดำเนินธุรกิจและ มีผลประกอบการท่ดี ขี ึน้ อย่างต่อเนอ่ื งไมน่ ้อยกว่า ๓,๐๐๐ ราย ๕) เกิดศนู ยเ์ ทคโนโลยีและนวตั กรรม ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๘ แห่ง ๖) เกิดความรว่ มมือ/สร้างเครือขา่ ยผปู้ ระการดา้ น BCG ไม่น้อยกว่า ๓,๖๐๐ แห่ง ๗) มหี ลักสตู รท่ไี ดร้ ับการพฒั นาขน้ึ ใหม่ หรอื มกี ารปรับปรุง/เพ่ิมเติมเนื้อหาจากหลักสูตร เดิมใหท้ ันสมยั ตามสถานการณแ์ ละเทคโนโลยีปจั จุบนั ไมน่ ้อยกว่า ๙๐ หลกั สูตร ๘) สามารถให้คำปรกึ ษาแกผ่ ูป้ ระกอบการเอกชนไมน่ อ้ ยกว่า ๒๐ โรงงาน ๙) จำนวนบัณฑิตระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในสาขาที่เกี่ยวกับ BCG ที่จะร่วม พฒั นาหรอื ตอ่ ยอดองคค์ วามรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ด้าน BCG ไม่ตำ่ กวา่ ๒๐,๐๐๐ คน (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารดา้ นการขบั เคล่ือนการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๔

กจิ กรรม : กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ ับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ๑. การสรา้ งและพฒั นาผู้ประกอบการร่นุ ใหม่และผปู้ ระกอบการธรุ กจิ นวัตกรรมดา้ น BCG ▪สง่ เสรมิ และขยายผลหลักสูตรการศกึ ษาและ อว. การฝกึ อบรม เพอ่ื สร้างความเขม้ แขง็ ให้ ผู้ประกอบการฐานเทคโนโลยแี ละวิสาหกจิ เรมิ่ ต้น (Entrepreneurship education and startup development) ▪ขยายผลหลักสูตรหรอื รายวชิ าศกึ ษาด้านการ สนช. พัฒนาทกั ษะความเป็นผูป้ ระกอบการ ใน สถาบัน อดุ มศกึ ษา เพื่อสรา้ งผู้ประกอบการ ฐานเทคโนโลยีและผูป้ ระกอบการเพื่อสังคม ▪ผลักดนั ใหว้ ชิ าพฒั นาทกั ษะความเป็น ทปอ., อว. ผูป้ ระกอบการเป็นสว่ นหนึง่ ของหลกั สูตร ศกึ ษาท่วั ไป (General education) ใน สถาบนั อุดมศึกษา ▪ผลกั ดนั และขยายผลการฝกึ อบรมเพื่อพฒั นา สนช., ทักษะความเป็นผปู้ ระกอบการ ฐานเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั สำหรับบคุ ลากรวจิ ยั และนวัตกรรมและ ผู้ประกอบการ ๒. การสร้างและพฒั นากำลังคน ท่สี นบั สนุนการนำความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้าน BCG ไปใชใ้ นการ พฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมระดบั พ้นื ที่ ▪ พัฒนาและสร้างความเขม้ แข็งให้กบั ระบบ อว., กษ., ฝึกอบรมทักษะและความรูใ้ หแ้ ก่นกั บริหาร อก., กก., จัดการงานวิจยั เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม มท, ทส., อาทิ ผู้จัดการหน่วยบม่ เพาะธรุ กจิ ผู้จดั การ เอกชน นวัตกรรม เจา้ หน้าทวี่ ิเคราะห์ทรพั ย์สนิ ทาง ปญั ญา เจา้ หน้าที่คุม้ ครองทรพั ย์สนิ ทาง ปัญญา เจา้ หน้าทีว่ เิ คราะห์เทคโนโลยี รวมถึง บุคลากรสายสนบั สนนุ อน่ื ๆ ให้มคี วามร้แู ละ ทกั ษะต่างๆ ทจ่ี ำเป็น ▪สรา้ งและพฒั นานกั บรหิ ารจัดการองค์ความรู้ อว., กษ., ชมุ ชนและปราชญช์ าวบา้ น เพือ่ ใหเ้ ป็นผู้นำ มท.,วธ.,ศูนย์ ในการวจิ ัยโดยใช้โจทย์ปญั หาทม่ี าจากใน มานุษยวิทยา ทอ้ งถ่นิ ถ่ายทอดองคค์ วามร้แู ละเทคโนโลยสี ู่ สริ ินธร การนำไปใชป้ ระโยชน์เพือ่ สร้างมูลค่าทาง (องคก์ าร มหาชน) (ร่าง) แผนปฏิบัตกิ ารดา้ นการขับเคลือ่ นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๕

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผ้รู ับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ เศรษฐกิจและยกระดบั ชวี ติ ความเป็นอยู่ใน ชมุ ชน ▪สร้างฐานข้อมลู ปราชญ์ชาวบา้ น แกนนำทเ่ี ป็น กษ., วธ., ผู้เช่ยี วชาญ ม่งุ เนน้ การอนรุ ักษ์ ฟน้ื ฟู สืบสาน ทส., อว. ต่อยอดทางวัฒนธรรม ความหลากหลายทาง ชีวภาพ การพัฒนาเทคโนโลยีท้องถน่ิ ความสามารถทมี่ าจากประสบการณ์ยาวนาน ▪ สร้างและพฒั นาอาสาสมคั รหรอื นกั พฒั นา กษ., อว., ประจำชมุ ชน/หมูบ่ า้ น ทง้ั อาสาสมคั รเกษตร มท.,ทส., หมู่บ้าน นักเทคโนโลยชี ุมชน อาสาสมคั ร ธกส., ชุมชน พิทกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม , เอกชน หม่บู า้ น อาสาสมัครดจิ ทิ ลั ชุมชน ๓. การส่งเสริมให้มีการเพิ่มจำนวนนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักเทคนิค เพื่อพัฒนาหรือต่อยอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวตั กรรม ดา้ น BCG ▪บรู ณาการความร่วมมือกับภาคเอกชนในการ อว., กษ., เสาะหาทักษะ ความรทู้ ตี่ อ้ งการ และ อก., กก., ดำเนินการพฒั นาหลกั สตู ร (Non-Degree) สธ., เอกชน โดยมกี ารพจิ ารณารับรองและประกาศ หลกั สตู รรว่ มกนั ▪สรา้ งความรว่ มมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและ อว., อก., สถาบนั อดุ มศกึ ษาในการจัดทำหลกั สูตรการเรียน กก., สธ., การสอนท่สี อดคลอ้ งกับความต้องการของภาค เอกชน การผลติ /อตุ สาหกรรม และใหค้ วามสำคัญกบั การ ฝึกปฏบิ ตั ิงานจรงิ ในสถานประกอบการ ผลติ บณั ฑติ สาขาวศิ วกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีระดบั ปริญญาตรีและปริญญาโท ทีม่ ี ทักษะการทำงานตรงกับความต้องการของ ภาคอุตสาหกรรม และมีคุณภาพสูงได้มาตรฐาน ระดับนานาชาติ โดยตอ่ ยอดและขยายผลจากท่มี ี การทำอยู่แล้วในปัจจบุ ัน โดยเน้นอุตสาหกรรมที่ เก่ียวข้องกับ BCG ▪สร้างความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรม อว., อก., และสถาบันอุดมศึกษาในการจดั ทำหลักสตู ร กก., สธ., การเรยี นการสอนทสี่ อดคลอ้ งกบั ความ พณ., เอกชน ต้องการของภาคการผลติ /อุตสาหกรรม และ ใหค้ วามสำคญั กับการฝกึ ปฏิบตั งิ านจรงิ ใน สถานประกอบการ ผลิตบณั ฑติ สาขา วศิ วกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ท่มี ีทักษะ (ร่าง) แผนปฏิบตั กิ ารด้านการขบั เคลือ่ นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๖

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผรู้ ับผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ การทำงานตรงกับความต้องการของ ภาคอตุ สาหกรรม และมคี ณุ ภาพสงู ได้ มาตรฐานระดบั นานาชาติ โดยต่อยอดและ ขยายผลจากทม่ี กี ารทำอย่แู ลว้ ในปจั จุบนั โดย เนน้ อตุ สาหกรรมทเี่ ก่ียวขอ้ งกับ BCG ▪ส่งเสริมและสรา้ งความเข้มแข็งใหก้ ับระบบการ อว., อก., ทำวจิ ยั ระดับหลงั ปรญิ ญาเอก (Post-doctoral สธ., เอกชน research) ในสถาบนั อุดมศึกษาหรือสถาบนั วิจัย ของรฐั หรอื ในภาคอตุ สาหกรรม เพ่ือให้เปน็ แหล่ง สะสมนักวิจยั และพฒั นาคณุ ภาพสูงที่พรอ้ ม ปฏิบัตงิ านที่สอดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนา ประเทศ ตอบอตุ สาหกรรมเปา้ หมาย และ เศรษฐกิจชุมชน ▪สนับสนุนแรงจงู ใจในรปู แบบต่างๆ สำหรับสถาน กค., รง., ประกอบการทพ่ี ัฒนาหรอื จา้ งงาน อว., อก., บุคลากรวิจัยและนวตั กรรม เช่น การลดหย่อน กก., สธ., ภาษี เพ่อื กระตนุ้ ให้ภาคเอกชนมสี ว่ นร่วมในการ พณ., เอกชน พัฒนาบุคลากรวจิ ัยและนวตั กรรมใหม้ ีความรู้ และทักษะท่ีสอดคล้องกับความต้องการของ ภาคอุตสาหกรรม และกระต้นุ ใหเ้ กิดอปุ สงค์ บคุ ลากรเพ่อื ดำเนินกิจกรรมวจิ ัยและพัฒนาใน สถานประกอบการ รวมท้งั ดึงดูดคนรุ่นใหมผ่ ูม้ ี ศักยภาพสูงด้านการวจิ ัยและพัฒนานวัตกรรม จากตา่ งประเทศเขา้ มาศกึ ษา ฝกึ ปฏบิ ัตงิ าน และ ปฏิบตั งิ านในประเทศไทย และพัฒนาหรือ ปรบั ปรงุ ระบบแรงจูงใจในการเขา้ สเู่ สน้ ทาง อาชีพนักวิจัย ๔. การส่งเสริมการพัฒนาความรู้และทักษะบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมให้ทันสมัย รองรับการเปลี่ยนแปลงทาง เทคโนโลยีของโลก โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ เทคโนโลยีดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของธรุ กจิ และอุตสาหกรรม ▪สง่ เสรมิ การศกึ ษาตลอดชวี ติ เช่น ระบบ อว., รง., ธนาคารหน่วยกติ (Credit bank) เพอื่ ส่งเสริม พม., เอกชน ให้ผทู้ ี่ออกจากระบบการศึกษาแลว้ รวมถงึ ผู้ที่ อยใู่ นตลาดแรงงาน ไดม้ โี อกาสเรยี นร้เู พ่ือ พฒั นาทกั ษะและความรขู้ องตนเองใหท้ ันตอ่ การเปลยี่ นแปลงของโลกโดยไม่จำกัดอายขุ อง ผเู้ รยี นและเวลาเรียน ▪พฒั นาหลักสตู รและเนอื้ หาบทเรียนทีเ่ ก่ียวกับ อว., อก. BCG รวมถงึ ทกั ษะดา้ นเทคโนโลยี ในระบบ กก., ดส. eLearning / Massive Open Online สถาบนั คุณ Courses (MOOCs) วุฒิวชิ าชีพ สำหรับพฒั นาความรู้และทกั ษะของบุคลากร เอกชน (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารดา้ นการขบั เคล่ือนการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๗

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผ้รู บั ผดิ ชอบ ในภาคอตุ สาหกรรม รวมถงึ จดั ทำระบบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ คุณวุฒวิ ชิ าชพี ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและ การสื่อสารสาขาใหมๆ่ เพ่ือให้ผเู้ รยี นสามารถ กค., รง., ทดสอบความสามารถ อว., อก., ▪จดั ใหม้ ีแรงจูงใจแกส่ ถานประกอบการ/ กก., พณ., ผปู้ ระกอบการ เพ่อื จัดกิจกรรมเพมิ่ พูน/ เอกชน ยกระดับทกั ษะแรงงาน โดยมงุ่ เนน้ การ ยกระดบั ความรแู้ ละทักษะทางเทคโนโลยี อว., รง., โดยเฉพาะเทคโนโลยดี ิจิทัลใหม้ ากขน้ึ และ อก., เอกชน ตอบสนองความตอ้ งการของอุตสาหกรรม เปา้ หมายของ BCG มากข้ึน (Demand- driven) ▪ส่งเสริมกลไกการพัฒนาทักษะขน้ั สงู ร่วมกับ ภาคเอกชน เชน่ การจดั ต้งั ศนู ย์ฝึกอบรมและ พฒั นาทักษะภายในสถานประกอบการ (In- house training center) หรอื การพัฒนา ทักษะและความรแู้ กบ่ คุ ลากรในภาค อตุ สาหกรรมแบบรวมกลมุ่ (industrial training consortium) เปน็ ต้น แนวทางท่ี ๒ : การลงทุนโครงสรา้ งพืน้ ฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีผลต่อการเพิ่มความสามารถในการ เตรยี มความพร้อมทีเ่ ทา่ ทันการเปลี่ยนแปลงจากภายนอก ไดแ้ ก่ (๑) ธนาคารทรัพยากรชีวภาพ (Biobank) เป็นแหล่งจัดเก็บรักษาทรัพยากรชีวภาพนอก ถิ่นกำเนิดได้ปลอดภัยและมีคุณภาพเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน (Ex Situ Conservation for Sustainable Utilization) โดยการต่อยอดในการสร้างผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีมูลค่าสูง ร่วมกับการ เชื่อมโยงฐานข้อมูลกลาง เป็น Portal ให้เห็นข้อมูลทั้งประเทศ ซึ่งในส่วนของ biobank นั้น จะต้อง ครอบคลุมทั้งในส่วนที่เป็น Preservation biobank เพื่อจัดเก็บวัสดุชีวภาพและฐานข้อมูลและวัสดุ ชีวภาพระยะยาว และ Working collection biobank เพื่อจัดเก็บและให้บริการวัสดุชีวภาพพร้อมทั้ง ข้อมูลชีวภาพเพื่อการวิจัยหรือใช้พัฒนาเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้อาจเป็นการสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยในพื้นท่ี เป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับท้องถิ่นได้ พร้อมส่งเสริมให้มีการวิจัยต่อยอดร่วมกับ ภาคเอกชน อทุ ยานวทิ ยาศาสตร์เพ่อื ใหเ้ กดิ การสรา้ งมูลค่าเพิ่มให้กับทรพั ยากร (๒) ศูนยโ์ อมิกส์ (Omics Center) เปน็ โครงสร้างพืน้ ฐานสำคัญในการนำเทคโนโลยีโอมิกส์ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาแบบองค์รวมของสิ่งมีชีวิตบนฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ นำไปใช้ใน การพัฒนาผลติ ภัณฑแ์ ละบริการทมี่ ีประสทิ ธิภาพและความแมน่ ยำสงู ขนึ้ ตวั อย่างเชน่ เทคโนโลยีโอมิกส์ จะช่วยในการพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการต้านทานโรคที่เหมาะสมต่อสัตว์ (รา่ ง) แผนปฏิบตั กิ ารดา้ นการขบั เคล่ือนการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๘

แต่ละชนิดและช่วงวยั จากข้อมลู ทมี่ ีการศึกษาลึกลงไปถึงระดับโมเลกลุ การนำความรู้ดังกล่าวไปปรับปรุง พันธ์ุพชื พันธุ์สตั วใ์ ห้มีคุณสมบตั ทิ ี่ดี เช่น มปี รมิ าณเนื้อมาก ไขมันดีมาก มีความตา้ นทานโรค แมลง หรือ สภาวะที่ไม่เหมาะสม เช่น แล้ง น้ำท่วม รวมไปถึงการนำไปใช้ประโยชน์ในการบริการทางการแพทย์ที่มี ความจำเพาะตอ่ โรคไดอ้ ย่างแม่นยำ (๓) ศูนย์ประมวลผลและบริหารจัดการข้อมูลจีโนมประชากรไทย ( Genomics Thailand) เป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อผลักดันให้เกิดกิจกรรมการแพทย์ระดับจโี นมในประเทศไทยเพ่ือ การป้องกัน (Prevention) วินิจฉัย (Diagnosis) และการเลือกการรักษาที่เหมาะสม (Treatment selection) ให้กับผู้ป่วยโรคเป้าหมายไดแ้ ก่ โรคพันธุกรรมหายาก โรคมะเร็ง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรคติด เชื้อ และเภสชั พันธุศาสตร์ (๔) ระบบการคำนวณสมรรถนะสูง (High Performance Computing: HPC) เป็น โครงสร้างพื้นฐานการคำนวณสมรรถนะสูงเพื่อรองรับ AI และ Big data เร่งรัดให้เกิดการพัฒนา นวตั กรรมตา่ งๆ ไดใ้ นระยะเวลาทีส่ ้ันลงและตอบสนองตอ่ กลุ่มเปา้ หมายได้แมน่ ยำมากขึน้ (๕) ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (Sustainable Manufacturing Center: SMC) เพื่อ พัฒนาแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต ผู้พัฒนาระบบ นักนวัตกร นักวิจัย ตลอดจน นกั ศกึ ษาในสาขาที่เกีย่ วข้องใหส้ ามารถเขา้ มาใชป้ ระโยชนผ์ ่านกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทโี่ ครงการจัดเตรียมไว้ให้ ทั้งรูปแบบการสาธิต การเรียนรู้ และการทดลองปฏิบัติจริง ซึ่งครอบคลุม Industry assessment tools, Learning station/line และ Testbed/sandbox และรวมไปถึงกิจกรรมวิจัยเพื่อการสร้าง นวตั กรรมใหม่ ๆ ทเ่ี กยี่ วข้องกบั เทคโนโลยีระบบอัตโนมตั ิ หุ่นยนต์ และระบบอจั ฉรยิ ะ (๖) โรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี (Biorefinery pilot plant) เป็นโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับการขยายขนาดการผลิตผลงานวิจัยจากระดับห้องปฏิบัติการไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็น การปิดหุบเหวของการพัฒนานวัตกรรม (Valley of Death) โดยเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดจาก วัตถุดิบผลผลิตทางการเกษตรไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มูลค่าสูง เช่น อาหารเสริมสุขภาพ เคมีชีวภาพ เคร่ืองสำอาง รวมไปถงึ ยาชวี เภสัชภัณฑ์ ( ๗ ) โ ร ง ง า น ต ้ น แ บ บ ร ะ ด ั บ ข ย า ย ข น า ด ( Pilot plant) ) แ ล ะ โ ร ง ง า น ส า ธิ ต (Demonstration Plant) เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาต่อยอดสู่นวัตกรรมจาก ผลงานวิจัยในประเทศไปสกู่ ารผลิตและจำหนา่ ยเชงิ พาณิชย์ ผปู้ ระกอบการสามารถมีข้อมลู ประกอบการ ประเมินความเป็นไปได้ทั้งทางด้านธุรกิจ ความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีก่อนตดั สินใจลงทุนสร้างโรงงาน หรือซื้อเทคโนโลยีทำให้ลดความเสี่ยงของเอกชน นอกจากนี้ ยังเพิ่มการพึ่งพาเทคโนโลยขี องตนเอง ลด การนำเขา้ เทคโนโลยจี ากตา่ งประเทศ (๘) โรงงานต้นแบบมาตรฐาน GMP เพื่อการผลิตยา หรือสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม ถือ เป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างความสามารถในการผลิตสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรมจากพืชสมุนไพร และจุลินทรีย์ นำไปสู่ความสามารถในการผลิตสารสำคัญเพื่อการผลิตยาในอนาคต เป็นการเตรียมการ เพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพของคนไทยโดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงเป็นการสนับสนุนการ พัฒนาอตุ สาหกรรมการแพทยใ์ หเ้ กดิ ขึน้ อยา่ งครบวงจรในประเทศไทย (ร่าง) แผนปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการขบั เคล่อื นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๘๙

(๙) ศูนย์สัตว์ทดลองเพื่อทดสอบความเป็นพิษ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของ วัคซนี ทไ่ี ดร้ บั การยกระดับให้มมี าตรฐานสากล (OECD GLP) เปน็ โครงสรา้ งพ้นื ฐานสำคัญรองรับการ พัฒนาการวิจัย การทดสอบ การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์นวัตกรรม เช่น อาหารเสริมสุขภาพ สาร เสริมอาหาร เภสัชภณั ฑ์ รวมถงึ ผลติ ภัณฑ์ยา (๑๐) โครงข่ายการเชื่อมต่อยุคหน้า (Next generation communication) เป็น โครงสร้างพื้นฐานของการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง การเชื่อมต่อ IoT ในปริมาณสูง และการทะลายข้อจำกัดในการพัฒนานวัตกรรมอื่นๆ ตัวอย่างของการเชื่อมต่อยุคหน้าในปัจจุบันคือ Fifth generation network เป้าหมาย : ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่เพียงพอต่อการสร้าง นวัตกรรมสินค้าและบริการ รวมถึงความสามารถในการพ่ึงพาตนเองทางดา้ นเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม ตวั ชี้วัด : ๑. ผลงานตีพิมพ์มจี ำนวนเพิ่มขน้ึ ๒. สดั สว่ นสินคา้ และบรกิ ารนวัตกรรมตอ่ GDP เพิม่ ข้ึนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๒๐ กิจกรรม : กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผ้รู บั ผิดชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪สำรวจและจดั ทำ อว. ฐานข้อมูลโครงสร้าง พื้นฐานนวัตกรรมทส่ี ำคญั สำหรับเปน็ ขอ้ มลู กลาง เพื่อใหน้ กั วิจัยและ ผู้ประกอบการเขา้ ถึงและ ใชป้ ระโยชน์ ▪จดั ทำแผนการลงทุน การ อว., สำนักงบประมาณ จัดหา และสนับสนนุ การ ลงทุนโครงสรา้ งพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม ▪พฒั นากลไกเพ่อื สง่ เสรมิ ให้ อว. เกิดการใชป้ ระโยชน์ โครงสรา้ งพนื้ ฐานดา้ น วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี อยา่ งเตม็ ประสทิ ธภิ าพ ▪พฒั นาเครือขา่ ยการ อว. ให้บริการโครงสรา้ งพนื้ ฐาน ดา้ นวิทยาศาสตร์และ (ร่าง) แผนปฏิบัตกิ ารดา้ นการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๙๐

กิจกรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผูร้ บั ผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ เทคโนโลยีทง้ั ในและ ต่างประเทศ ▪สนับสนุนงบประมาณอย่าง อว., สำนักงบประมาณ เพยี งพอและตอ่ เนือ่ ง สำหรบั หนว่ ยงานทม่ี ีผล การดำเนินงานที่มีความ เปน็ เลิศดา้ นการให้บรกิ าร โครงสรา้ งพืน้ ฐานดา้ นการ วจิ ยั และนวตั กรรม แนวทางที่ ๓ : การลงทนุ โครงสรา้ งพืน้ ฐานทางด้านคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพ เป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของ สินค้าและบริการ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดประเทศ พัฒนาแลว้ ผ่านการสรา้ งการยอมรบั ในความปลอดภยั และความเช่ือม่นั ในคุณภาพของสินค้าและบริการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม BCG ซึ่งเป็นกลุ่มที่เน้นที่มา ของวัตถุดิบ ความสามารถที่จะหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่และกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงความปลอดภัย ของสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ ดังนั้น ความสามารถในการพิสูจน์ที่มาของวัตถุดิบในเชิงวิทยาศาสตร์ การ รับรองกระบวนการผลิต ตลอดจนความสามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่และการย่อยสลายได้ใน ธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ใช้ยืนยันความเป็นผลิตภัณฑ์ BCG ที่แท้จริง ตัวอย่างเช่น มาตรฐาน ผลติ ภัณฑ์แบบ Circular (Circular product) ทก่ี ำหนดลักษณะของ Circular product ท่ชี ดั เจน ผูผ้ ลติ และผู้บริโภคเข้าใจตรงกันและยอมรับร่วมกัน และการทดสอบการย่อยสลายได้ในธรรมชาติของ ผลิตภัณฑ์ BCG เพื่อให้สินค้า BCG ไทยมีผลการทดสอบที่น่าเชื่อถือไปแสดงต่อผู้บริโภคสามารถเพื่อให้ เลือกสินค้านั้น นอกจากนี้ NQI ยังเป็นกลไกหลักในทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการคุ้มครอง ผ้บู ริโภค และสง่ เสริมการวิจยั และพฒั นานวตั กรรม โครงสร้างพ้นื ฐานทางด้านคุณภาพที่สำคัญ ได้แก่ การวิจัยทางคลินิก ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพจำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการวิจัย ทดสอบประสทิ ธิภาพ และความปลอดภยั ตามมาตรฐานสากล เพ่ือรบั รองความปลอดภยั และประสิทธภิ าพ การวิเคราะห์ทดสอบความเป็นพิษ เป็นกระบวนการประเมินความเป็นพิษของผลิตภัณฑ์ ทัง้ ต่อมนุษยแ์ ละสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ทดสอบสารตกค้างในผลิตภัณฑ์เกษตร เพื่อสนับสนุนการยกระดับประเทศ ไทยเป็นแหล่งผลติ สินค้าเกษตรท่ีมีความปลอดภยั โดยการตรวจวิเคราะห์ทเ่ี ปน็ ไปตามมาตรฐานสากล การวิเคราะห์ทดสอบเชื้อก่อโรคในอาหาร เป็นขั้นตอนสำคัญในการยกระดับผลิตภัณฑ์ อาหารไทยสู่การเปน็ ผลติ ภัณฑท์ ี่มีความปลอดภัยจากเชื้อก่อโรคในอาหารที่ประเทศคู่ค้ากำหนด เพ่ือลด อปุ สรรคทางการคา้ และขยายตลาดส่งออก (รา่ ง) แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการขับเคลอ่ื นการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกจิ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๙๑

การวิเคราะหท์ ดสอบเพอ่ื การยนื ยนั คณุ สมบัตขิ องสารออกฤทธิ์ ความปลอดภัยของสารสกดั และ สารออกฤทธส์ิ มุนไพรเพ่ือการข้ึนทะเบยี นสารออกฤทธิ์ท้งั ในและต่างประเทศ ส่งเสรมิ การพฒั นาอตุ สาหกรรม ตอ่ เนอ่ื ง ได้แก่ อาหารฟงั ก์ชนั เคร่อื งสำอาง วางรากฐานเพ่ิมมลู คา่ ใหก้ ับสมุนไพรไทยชนดิ อื่นในอนาคต เปา้ หมาย : ประเทศไทยมีโครงสรา้ งพื้นฐานทางคุณภาพเพียงพอต่อการยกระดบั คุณภาพสินค้า และบริการ รวมถึงเปน็ เครื่องมอื ในการคุม้ ครองผบู้ ริโภค ตัวชว้ี ดั : ๑. สินคา้ และบริการ BCG ไดร้ ับการยกระดับคุณภาพ เพิ่มศักยภาพในการสง่ ออกเพ่ิมขน้ึ ๒. สินคา้ ทด่ี ้อยคุณภาพไม่สามารถเขา้ ส่ตู ลาดได้ กจิ กรรม : กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ผูร้ บั ผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪สำรวจและจดั ทำแผน อว., อก., กษ. ยกระดับมาตรฐานการ ให้บรกิ ารของหนว่ ย วิเคราะห์ทดสอบ ▪สนบั สนนุ การยกระดบั อว., สมอ., กษ., ทส., มาตรฐานความ สธ., สำนักงบประมาณ หลากหลายของการ ให้บริการ และ ความรวดเร็วในการ ใหบ้ ริการให้สอดคลอ้ งกับ ทศิ ทางการพัฒนา อุตสาหกรรม BCG ▪พฒั นากลไกเพื่อส่งเสรมิ ให้ อว. เกิดการใชโ้ ครงสร้าง พ้ืนฐานดา้ นคุณภาพ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ในประเทศ ▪สร้างความสามารถในการ อว., สมอ., กษ., ทส., เป็น Primary Standard สธ. ทง้ั ด้านฟิสิกส์ เคมี และ ชีวะ ลดระยะเวลาการสอบ เทียบให้กับ Secondary Lab ลง (ร่าง) แผนปฏิบัตกิ ารดา้ นการขบั เคล่ือนการพฒั นาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๙๒

แนวทางที่ ๔ : การพฒั นาเทคโนโลยีข้นั แนวหนา้ เทคโนโลยีและองค์ความรู้ขั้นแนวหน้า เป็นแรงขับเคลื่อนที่มีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ และการสรา้ งรากฐานทม่ี น่ั คงและย่งั ยนื ต่อการพฒั นาเศรษฐกิจ BCG ตวั อยา่ งของเทคโนโลยที ี่สำคัญ (๑) Complex Microbiota กับสุขภาพมนุษย์ สัตว์ และพืช เนื่องจากกลุ่มจุลินทรีย์ที่ ซับซ้อนที่อาศัยอยู่ในรา่ งกายหรือผิวหนังมนุษย์และสัตว์มสี ่วนสำคัญในการกำหนดสุขภาพที่ดี และกลุ่ม จลุ นิ ทรยี ใ์ นพืชและในดนิ ทปี่ ลูกก็มหี ลกั ฐานว่าเป็นตวั กำหนดความแข็งแรงของพืชเช่นกัน ความรู้น้ียังอยู่ ในระดบั พน้ื ฐานและประเทศไทยมโี อกาสในการเปน็ ผู้นำได้ในบางเร่ือง (๒) เทคโนโลยีโอมิกส์ (OMICs) ช่วยให้เกิดความรู้ ความเข้าใจต่อหน้าที่และการแสดงออก ของยีนและผลผลิตของยีนในสิ่งมีชีวิต สร้างความรู้สำคัญที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ทงั้ ในดา้ นการเกษตรและการแพทย์ (๓) เทคโนโลยีวิศวกรรมกระบวนการทางชีวภาพ (Bioprocess engineering) เป็น เทคโนโลยีพ้นื ฐานสำคญั ในการพฒั นาต่อยอดชีวมวลเปน็ ผลิตภัณฑ์มลู คา่ สูงหลากหลายประเภท (๔) Gene editing และ Synthetic biology เพื่อปรับเปลี่ยนพนั ธกุ รรมหรือสร้างสิ่งมีชีวิต ใหม้ ลี กั ษณะตามต้องการ โดยเฉพาะจุลนิ ทรียส์ ำหรับอุตสาหกรรมและในเซลล์เพอ่ื การผลิตยาชีววตั ถุ (๕) เทคโนโลยีในย่านความถี่เทราเฮิร์ต (Terahertz technology) เพื่อประโยชน์ในด้าน การตรวจ และการวนิ จิ ฉยั สามารถใช้ประโยชนใ์ นทางการแพทย์และการตรวจสอบผลิตภณั ฑ์ (๖) เทคโนโลยีการผลิตคาร์บอนต่ำ (Decarbonization) สำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียนและ เศรษฐกจิ สเี ขยี ว (๗) เทคโนโลยีประมวลความเร็วสูงด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่ เพื่อสร้างคอมพิวเตอร์ สมรรถนะสูง พลงั งานต่ำ ราคาถกู ดว้ ยสถาปตั ยกรรม RISC-V รองรับการทำงานของระบบปัญญาประดิษฐ์ ขนั้ deep learning สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี เกษตร อาหาร และสขุ ภาพการแพทย์แมน่ ยำสงู (๘) เทคโนโลยดี ิจทิ ัลแพลตฟอร์มขนั้ สูง เปน็ การพัฒนาแพลตฟอร์มนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงที่ เป็นแนวหน้าของโลกสำหรับยุคของการเปลี่ยนแปลง ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชัน้ นำระดับโลก ได้แก่ การเชื่อมต่อยุคหน้า (5G Connectivity) ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent System) ท่ี นำไปใช้ในยานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Vehicle) ระบบประมวลผลคอมพิวเตอร์เสมือนประสาท สมอง (Neuron Computer) และระบบสำรวจใต้นำ้ (๙) เทคโนโลยปี ระสาทสัมผัสเชิงโมเลกลุ (Molecular sensory) เป็นเทคโนโลยีท่ีจะเพ่ิม ความเปน็ พรีเมียมให้กบั อาหารดว้ ยการสร้างอัตลักษณ์ด้วยการมีกล่นิ และรสที่จำเพาะหรือมีความพิเศษ เพม่ิ ข้นึ เป็นการเพิม่ มูลคา่ ใหก้ ับผลติ ภัณฑ์ และสนบั สนุนการเป็นศนู ยก์ ลางนวตั กรรมอาหารของโลก เป้าหมาย : ประเทศไทยมีความสามารถพฒั นาเทคโนโลยขี น้ั แนวหนา้ ทเ่ี หมาะสมสำหรับประเทศไทย ตัวชว้ี ัด : ๑. ดุลการชำระเงนิ ทางเทคโนโลยขี าดดลุ ลดลงไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๒๐ ๒. สินคา้ และบรกิ ารนวตั กรรมมสี ัดสว่ นท่ีเพ่ิมขน้ึ กจิ กรรม : (รา่ ง) แผนปฏบิ ัตกิ ารดา้ นการขบั เคล่อื นการพัฒนาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๙๓

กจิ กรรม ระยะเวลาดำเนนิ การ ผรู้ ับผดิ ชอบ ๒๕๖๕ ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐ ▪การจัดทำแผนที่นำทาง อว. เทคโนโลยีขั้นแนวหนา้ เปา้ หมายเพ่ือการพฒั นา ประเทศให้เตบิ โตอย่างมี คุณภาพ และ ย่ังยืน ▪การสนบั สนุนการวิจยั และ อว. พฒั นาเทคโนโลยใี น ลักษณะของโครงการ ขนาดใหญ่/เครอื ขา่ ยการ วจิ ัยเพอ่ื รับมือการ เปล่ยี นแปลงของบรบิ ท โลก เชน่ การเปลี่ยนแปลง สภาพภมู อิ ากาศ โรคอุบตั ิ ซ้ำ โรคอบุ ัติใหม่ รวมถงึ การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ บรกิ ารนวตั กรรมเพ่อื การ พฒั นาเศรษฐกิจ ยกระดับ คุณภาพชวี ติ และ สิง่ แวดล้อมที่ดขี ้ึนโดยจัด ให้ระบบการประเมินผล อย่างต่อเนือ่ ง ▪การสร้างเครือขา่ ยการวิจัย อว. ร่วมกับสถาบนั วจิ ยั ใน ต่างประเทศเพ่ือการเข้าถงึ เทคโนโลยขี ั้นแนวหนา้ ▪การรว่ มลงทุนกบั บรษิ ัท อว. ด้านเทคโนโลยชี ัน้ นำเพื่อ การดดู ซบั /พัฒนาต่อยอด เทคโนโลยเี พื่อการพฒั นา ตอ่ ยอดและใช้ประโยชน์ อย่างก้าวกระโดด ๓. โครงการสำคญั (Big rock) : ๑. โครงการการพฒั นากำลงั คน U2T ต่อเนอ่ื งเพ่อื สรา้ งเศรษฐกิจ BCG ในพน้ื ที่ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ประมาณการจำนวนการตกงานของคนในประเทศไทยอัน เนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-๑๙ ว่าจะมีผู้ตกงานราว ๖ ล้านคน ในจำนวนนี้ เป็นนักศึกษาจบใหม่ราว ๑.๓ ล้านคน ด้วยเหตุนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จึงได้จัดทำโครงการ มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ U2T ขึ้น โดยเริ่มดำเนินงานในช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๓ มีเป้าหมายในการจ้างงานนิสิต นักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น มีพื้นท่ี (ร่าง) แผนปฏบิ ัตกิ ารด้านการขับเคลอื่ นการพฒั นาประเทศไทยดว้ ยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ หน้า ๑๙๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook