Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ๑ คำนาม

๑ คำนาม

Published by krulaaong2525, 2021-05-25 09:42:58

Description: ๑ คำนาม

Keywords: หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสำคัญนิทานคำไทย

Search

Read the Text Version

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สาหรบั นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖

หนงั สอื ส่งเสริมการอา่ นจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย สาหรบั นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เลม่ ท่ี ๑ คานาม นางละออง เพยี รสวสั ด์ิ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ โรงเรียนสมบูรณ์ประชาสรรค์ สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาสุราษฎรธ์ านี เขต ๓ สงั กัดสานักงานการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

ก หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ จะต้องผ่านการประเมินการอ่านจับใจความให้ได้ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากําหนด โดยสอดคล้องกับ สาระท่ี ๑ : การอ่าน ซ่ึงนับว่ามีความสําคัญอย่างย่ิงสําหรับนักเรียน เพราะการอ่านเป็นเคร่ืองมือใน การเรียนรู้ของทุกกลุ่มสาระ ทักษะการอ่านจึงมีความ จําเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่านท้ังอ่านออกเสียง อ่านจับใจความ รวมถึงการคิด วิเคราะห์สารที่ได้รับ แสดงความคิดเห็น นําประโยชน์จากการอ่านไปใช้ได้อย่างเหมาะสม และใช้ในการแสวงหาความรู้ต่อไป ดังน้ัน ผู้จัดทําได้สร้างหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ทังหมด เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่านภาษาไทย และเป็นเครื่องมือท่ีช่วยให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะ การอ่านจับใจความสําคัญ และเนื้อหาที่มีความหลากหลาย ตลอดจนมีกิจกรรมท่ีครอบคลุม ตามสาระการเรียนร้ทู ก่ี าํ หนดตามช่วงวัย ผู้จัดทํามุ่งหวังว่า หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ นี้ จะอํานวยประโยชน์แก่ผู้รักการอ่าน นักเรียน และผู้สนใจ เพื่อใช้ประกอบการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ในชั้นเรียนวิชาภาษาไทย หรือใช้ส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ประสทิ ธผิ ล ละออง เพยี รสวสั ดิ์

ข สําหรับหนังสือส่งเสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนิดของคําและสํานวน สุภาษิตไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ จาํ นวน ๘ เลม่ ดังนี้ เล่มที่ ๑ คาํ นาม เลม่ ที่ ๒ คาํ สรรพนาม เล่มที่ ๓ คาํ กริยา เล่มท่ี ๔ คาํ วเิ ศษณ์ เลม่ ท่ี ๕ คาํ สนั ธาน เล่มที่ ๖ คาํ บพุ บท เล่มท่ี ๗ คําอทุ าน เลม่ ที่ ๘ คําราชาศัพท์ สําหรับหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ คือ เล่ม ๑ คํานาม ประกอบด้วย สาระสําคัญ สาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน นิทานคําไทย ใบความรู้ เร่ือง คํานาม และสํานวนสุภาษิตไทย แบบฝึกทักษะท่ี ๑ – ๘ และแบบทดสอบหลงั เรียน กจิ กรรมฝกึ ทักษะ มีจํานวน ๘ กจิ กรรม ประกอบดว้ ยดังน้ี กจิ กรรมที่ ๑ เตมิ คําลงในชอ่ งว่างของสาํ นวนไทย กจิ กรรมท่ี ๒ ขีดเส้นใตค้ าํ จากขอ้ ความทกี่ ําหนดให้ กจิ กรรมท่ี ๓ หาคําจากประโยคทก่ี าํ หนดให้ และจําแนกหน้าที่ของคาํ กิจกรรมที่ ๔ การอ่านจับใจความสําคัญจากนิทานคําไทย จากนั้นเติมคําตอบ ลงในช่องว่าง กจิ กรรมท่ี ๕ วงกลมคาํ ในกลอ่ งปรศิ นาอักษรไขว้

ค กจิ กรรมท่ี ๖ แตง่ ประโยคโดยใช้คาํ ทก่ี าํ หนดให้ กิจกรรมท่ี ๗ เติมสาํ นวน และความหมายให้ตรงกบั ภาพทกี่ ําหนด กิจกรรมที่ ๘ เลือกสํานวนสุภาษิตไทยที่ช่ืนชอบ บอกความหมาย เปรียบเทียบ และยกตวั อย่างการใชใ้ หถ้ กู ต้อง พร้อมท้ังวาดภาพประกอบ กจิ กรรมที่ ๑ – ๘ ทั้งหมดมีการกาํ หนดการใหค้ ะแนนในภาคผนวกไว้ชดั เจน แบบทดสอบยอ่ ยกอ่ นเรยี น และแบบทดสอบย่อยหลังเรียน เร่ือง คํานาม จํานวน ๑๐ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน ถ้านกั เรียนตอบถกู จะได้ ๑ คะแนน ถ้าตอบผิด หรอื ไมไ่ ด้ตอบ จะได้ ๐ คะแนน เปน็ แบบปรนยั ซง่ึ มีตวั เลอื ก ๔ ตวั เลอื ก คือ ขอ้ ก, ข, ค และ ง รวมเป็น ๑๐ คะแนนเต็ม ทั้งน้ี หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ เป็นสื่อแบบ E-Book มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถสแกนผ่าน QR-Code หรือเข้าผ่านลิงค์ เว็บไซด์ เพอื่ ใชง้ านตามปกติ พร้อมกับรปู เล่มจรงิ ตามภาพ QR-Code และลิงค์ออนไลน์ที่ แนบน้ี https://pubhtml๕.com/homepage/elli QR-Code

ง ๑. ศึกษาและทําความเข้าใจคู่มือการใช้และหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สําคัญนิทานคําไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๖ เลม่ น้ี ให้เขา้ ใจกอ่ นนําไปใชง้ าน ๒. จัดเตรียมหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ หรือ อพั เดทระบบหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ในเวบ็ ไซต์ให้เรียบรอ้ ยกอ่ นใหน้ กั เรียนเข้าเรียนรู้ ๓. แนะนําการใช้งานหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อเิ ล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สาํ หรบั นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๔. ให้นักเรียนลงมือทําแบบทดสอบก่อนเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับ ใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับ นักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๕. เปิดโอการสให้นักเรียนศึกษาเน้ือหา หรือหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สาํ คัญนทิ านคาํ ไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้น ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ดว้ ยตนเอง ตามกระบวนการเรียนรู้ทก่ี ําหนด ๖. ให้นักเรยี นทบทวนความรู้ ความเขา้ ใจด้วยการทาํ กจิ กรรมฝึกทักษะให้ครบถว้ น ๗. ให้นักเรียนลงมือทําแบบทดสอบหลังเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับ ใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับ นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๘. นาํ นกั เรยี นตรวจคาํ ตอบและเฉลยคาํ ตอบทง้ั หมด เพื่อบันทึกคะแนน หมายเหตุ : หนังสือส่งเสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนิดของคําและสํานวน สุภาษิตไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ นี้ นักเรียนสามารถกลับมาเรียนรู้และทบทวนได้ภายหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว หากนักเรียน ไมเ่ ขา้ ใจหรือต้องการทบทวนเน้ือหานอกเวลาเรียน สําหรับกิจกรรมระหว่างเรียนอาจมีท้ัง แบบเดี่ยวและกลุ่ม

จ ๑. ศึกษาและทําความเข้าใจคําชี้แจงหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญ นิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เลม่ นี้ ใหเ้ ข้าใจก่อนนาํ ไปใช้งาน ๒. ฟังคําแนะนําการใช้งานหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทย แบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาํ หรับนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ๓. ทําแบบทดสอบก่อนเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทาน คําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถม- ศกึ ษาปีที่ ๖ ๔. เปิดโอการสให้นักเรียนศึกษาเน้ือหา หรือหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สาํ คญั นทิ านคําไทยแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ดว้ ยตนเอง ตามกระบวนการเรียนรู้ทีก่ ําหนด ๕. นักเรียนทบทวนความรู้ ความเขา้ ใจด้วยการทาํ กจิ กรรมฝกึ ทักษะใหค้ รบถ้วน ๖. ทําแบบทดสอบหลังเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญ นิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถม- ศกึ ษาปีท่ี ๖ ๗. นํานกั เรียนตรวจคาํ ตอบและเฉลยคาํ ตอบทง้ั หมด เพื่อบันทกึ คะแนน หมายเหตุ : หนังสือส่งเสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนิดของคําและสํานวน สุภาษิตไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ น้ี นักเรียนสามารถกลับมาเรียนรู้และทบทวนได้ภายหลังจากท่ีเรียนเสร็จแล้ว หากนักเรียน ไม่เขา้ ใจหรือต้องการทบทวนเนื้อหานอกเวลาเรียน สําหรับกิจกรรมระหว่างเรียนอาจมีท้ัง แบบเด่ยี วและกลุ่ม

ฉ ขอ้ ควรระวังและปฏิบตั ิก่อนการดาเนนิ การสอน ๑. ศึกษาแผนการจัดการเรยี นรูอ้ ย่างละเอยี ด ๒. เตรียมอปุ กรณ์ สื่อการเรยี นการสอนให้เรียบร้อย ๓. ศึกษารายละเอียดหนังสอื ส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคญั นิทานคําไทย แบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กอ่ นการเรียนรู้ ๔. กําหนดบทบาทสมาชิในกลุ่มทราบถงึ การปฏิบตั ิตมบทบาทต่าง ๆ โดยสมาชิก ทุกคนในกลมุ่ ต้องไดท้ ําทุกบทบาท ๕. ครผู ้สู อนช้แี จงวิธกี ารใช้หนงั สอื ส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสําคญั นทิ านคําไทย แบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และกจิ กรรมท่ีนักเรียนต้องปฏบิ ัติ ข้อควรระวงั และปฏิบตั ขิ ณะดาเนินการสอน ๑. ชีแ้ จงการใช้หนงั สือสง่ เสริมการอ่านจบั ใจความสําคญั นทิ านคําไทยแบบ อิเลก็ ทรอนิกส์ให้นักเรยี นทกุ คนทราบ ๒.ดาํ เนนิ กิจกรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ เพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั จดุ ประสงค์ การเรียนรู้ เน้ือหาและเวลาท่ีกาํ หนด ๓. ครูผู้สอนตอ้ งใหค้ าํ แนะนําและคอยดแู ลนกั เรียนอย่างใกล้ชดิ ๔. ใหน้ ักเรยี นเรียนรจู้ ากหนังสือส่งเสรมิ การอ่านจบั ใจความสําคัญนิทานคาํ ไทย แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ตามขน้ั ตอนอยา่ งเครง่ ครัดและมคี วามซอื่ สตั ย์ตอ่ ตนเอง ๕. ตรวจสอบการทาํ งานของนกั เรียนและสรปุ บทเรียนร่วมกันนักเรยี น ขอ้ ควรระวงั และปฏิบัตเิ มือ่ ดาเนนิ การสอนสิ้นสุด ๑. ครูผู้สอนให้นกั เรยี นทําแบบทดสอบหลังเรยี น ๒. ตรวจผลงานจากการทําแบบทดสอบและกจิ กรรมระหวา่ งเรียน ๓. ถ้านักเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีระบุไว้ ครูควรให้นกั เรียนศึกษาและทบทวนเนือ้ หา ใหมอ่ ีกครั้งแล้วทําแบบทดสอบหลังเรียนใหผ้ ่านเกณฑ์ทกี่ ําหนดไว้

ช มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ดั ๑. อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง (ท ๑.๑ ป.๖/๑) ๒. อธิบายความหมายของคํา ประโยค และสํานวนจากเรือ่ งท่อี ่าน (ท ๑.๑ ป.๖/๒) ๓. อ่านเร่ืองสน้ั ๆ ตามเวลาที่กําหนดและตอบคําถามจากเร่ืองท่ีอ่าน (ท ๑.๑ ป.๖/๓) ๔. สรุปความรู้และข้อคดิ จากเรือ่ งทีอ่ ่านเพ่ือนําไปใช้ในชีวติ ประจําวัน (ท ๒.๑ ป.๖/๖) ๕. ระบชุ นิดและหนา้ ทข่ี องคาํ ในประโยค (ท ๔.๑ ป.๖/๒) ๖. ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคํา (ท ๔.๑ ป.๖/๓) ๗. แตง่ ประโยคไดถ้ ูกตอ้ งตามหลักภาษา (ท ๔.๑ ป.๖/๔) ๘. แตง่ บทร้อยกรองและคําขวัญ (ท ๔.๑ ป.๖/๕) ๙. บอกความหมายของสํานวน (ท ๔.๑ ป.๖/๖) สาระสาคญั คาํ นาม เปน็ คําทีแ่ สดงความหมายถึงบุคคล สตั ว์ วัตถุ สิ่งของ สภาพ อาการ ลกั ษณะ ซึง่ หมายรวมท้ังสิ่งมีชวี ิต และไม่มีชีวิต ทัง้ ท่ีเป็นรูปธรรมและทเ่ี ปน็ นามธรรม เช่น แมว หนู ขา้ ว รถ ถนน ต้นไม้ หน้า บ้าน สมศรี มาลี โต๊ะ เก้าอี้ ทหาร ตาํ รวจ ผ้รู ้าย ยาย ข้าว ขนม เป็นตน้ ตวั อยา่ ง ความหมายสํานวนสภุ าษติ ไทย และการวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บสาํ นวนที่ เปน็ คาํ พังเพยและสุภาษิตไทย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. สามารถบอกความหมาย และประเภทของคํานาม และสํานวนสภุ าษติ ไทยได้ (K) ๒. สามารถจาํ แนกชนิดของคาํ นามได้ (K)

ซ ๓. สามารถอธิบายหน้าทขี่ องคํานาม และคาํ ราชาศัพท์ได้ (K) ๔. สามารถเลอื กใช้สํานวนสภุ าษติ ไทยได้ถกู ตอ้ ง (P) ๕. สามารถเลอื กใชค้ ํานามได้ถูกตอ้ ง (P) ๖. สามารถวิเคราะห์ เปรียบเทียบสาํ นวนที่เปน็ คาํ พังเพยและสุภาษิตไทยได้ (P) ๗. สามารถแตง่ ประโยคโดยใชค้ าํ นาม และสํานวนสุภาษติ ไทยท่กี ําหนดให้ได้ (P) ๘. ตั้งใจทํางานท่ีได้รับมอบหมายเสร็จตามเวลาท่ีกําหนด และมีพฤติกรรมที่ดีใน การทํางานเป็นกลุ่ม (A) สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายของคํานาม ๒. ประเภทของคํานาม ๓. หน้าที่ของคาํ นาม ๔. ลกั ษณะการใชค้ าํ นามแตล่ ะประเภท ๕. ตวั อย่างการแตง่ ประโยคจากคาํ นาม ๘. สํานวนสภุ าษิตไทย คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๒. ซอ่ื สัตย์สจุ รติ ๓. มวี นิ ัย ๔. ใฝุเรยี นรู้ ๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มจี ติ สาธารณะ

ฌ สมรรถนะสาคญั ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ภาระและชน้ิ งาน ๑. หนังสอื ส่งเสรมิ การอ่านนทิ านภาษาไทย ชุด ชนดิ ของคําและสํานวนสุภาษติ ไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สาํ หรับนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กจิ กรรมท่ี ๑ เตมิ คาํ ลงในชอ่ งวา่ งของสํานวนไทย กจิ กรรมท่ี ๒ ขีดเส้นใตค้ ําจากขอ้ ความทีก่ าํ หนดให้ กจิ กรรมที่ ๓ หาคําจากประโยคที่กําหนดให้ และจาํ แนกหน้าท่ีของคาํ กิจกรรมที่ ๔ การอ่านจับใจความสําคัญจากนิทานคําไทย จากน้ันเติมคําตอบ ลงในชอ่ งว่าง กจิ กรรมที่ ๕ วงกลมคําในกลอ่ งปริศนาอกั ษรไขว้ กิจกรรมท่ี ๖ แตง่ ประโยคโดยใช้คาํ ทก่ี าํ หนดให้ กิจกรรมที่ ๗ เตมิ สาํ นวน และความหมายให้ตรงกบั ภาพทกี่ ําหนด กิจกรรมท่ี ๘ เลือกสํานวนสุภาษิตไทยที่ช่ืนชอบ บอกความหมาย เปรียบเทียบ และยกตัวอยา่ งการใชใ้ ห้ถูกตอ้ ง พรอ้ มทง้ั วาดภาพประกอบ ๒. แบบทดสอบย่อยก่อนเรียนและหลงั เรียน เร่อื ง คํานาม

ญ ปกใน หน้า คํานํา ก คาํ ช้แี จง ข หนังสือสง่ เสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนดิ ของคาํ และสาํ นวนสุภาษติ ไทย ค กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สําหรบั นกั เรยี น ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ สารบญั จ เล่มที่ ๑ คํานาม ซ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑ นทิ านส่งเสรมิ คาํ นาม ๒ ใบความรู้ เรอื่ ง คาํ นาม ๕ สาํ นวนสุภาษิตไทย ๑๑ กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ ๑๓ ๑๗ กจิ กรรมที่ ๑ ๑๘ กจิ กรรมที่ ๒ ๑๙ กิจกรรมที่ ๓ ๒๐ กิจกรรมที่ ๔ ๒๑ กจิ กรรมท่ี ๕ ๒๒ กจิ กรรมที่ ๖ ๒๓ กิจกรรมที่ ๗ ๒๖ กจิ กรรมท่ี ๘ ๒๗

แบบทดสอบหลังเรยี น ฎ ภาคผนวก หน้า เฉลยกจิ กรรมที่ ๑ ๒๙ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๒ ๓๒ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๓ ๓๓ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๔ ๓๔ เฉลยกิจกรรมท่ี ๕ ๓๕ เฉลยกจิ กรรมที่ ๖ ๓๖ เฉลยกิจกรรมท่ี ๗ ๓๗ เฉลยกจิ กรรมที่ ๘ ๓๘ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น ๓๙ บรรณานุกรม ๔๑ ประวตั ิยอ่ ผู้จัดทาํ ๔๒ ๔๓ ๔๔



๒ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนังสอื ส่งเสริมการอา่ นจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย สาหรบั นกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลม่ ท่ี ๑ คานาม คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นทาํ เครอื่ งหมาย () กากบาททับหนา้ คาํ ตอบขอ้ ที่ถกู ต้องท่สี ดุ ๑. ขอ้ ใด คอื คาํ นามทัง้ หมด ก. ทอรุ้ง , ฟาู ใส , ดรีม , หมตู อน ข. โผงผาง , ใจรอ้ น , เสยี งดงั , ดรมี ค. ทอรุ้ง , ฟูาใส , เสียงดงั , ดรีม ง. หมูตอน , ขเ้ี กยี จ , กระโชก , โฮกฮาก ๒. “ชา้ งชอบกนิ กลว้ ย” คาํ ท่ีขดี เสน้ ใตเ้ ป็นคํานามชนดิ ใด ก. นามทใี่ ชท้ ่ัวไป ข. นามที่บอกลกั ษณะ ค. นามที่บอกขนาดและปริมาณ ง. นามทีใ่ ชช้ ้ีเฉพาะ ๓. ข้อใดมวี ิสามานยนาม ก. คุณปุูชอบน่ังอิงหมอนบนเตยี ง ข. นายโอชาซือ้ อฐู มาเล้ียง ค. เดก็ ผชู้ ายไม่ชอบเลน่ ตุ๊กตา ง. ยายอาบนํ้าแตง่ ตัวให้เอ่ียม ๔. ข้อใดใช้คําลกั ษณะนามผดิ ก. พ่ซี ้อื ปากกา ๒ ด้าม ข. ฉันมดี ินสอใหม่ ๒ อนั ค. คุณพอ่ มขี ลุ่ย ๒ เลา ง. คณุ ตามีเกวยี น ๒ เลม่

๓ อ่านนทิ านจากเรื่องทกี่ ําหนดใหแ้ ล้วตอบคําถามขอ้ ๕ – ๗ ทอรุ้ง ฟูาใส ดรมี และหมูตอน เปน็ เพอ่ื นกัน ดว้ ยระยะเวลาท่ียาวนาน ท้งั ส่เี ร่มิ ท่จี ะสนทิ กนั มากข้ึนเรื่อยๆ ทอรุ้ง...ขยัน อดทน ตนื่ แต่เช้า หาอาหารมาใหท้ งั้ ตนเองและเพื่อน ฟูาใส...นา่ รัก สุภาพ พดู จาออ่ นหวาน เป็นท่รี ักและเอน็ ดขู องทกุ ๆ คน ดรีม...โผงผาง ใจร้อน เสียงดงั พดู จาตรงๆ หมตู อน...ข้เี กยี จ พดู จากระโชกโฮกฮาก ไม่สะอาด แต่รกั เพื่อนเป็นท่ีหนึ่ง สามารถ ทาํ อะไรเพื่อเพ่ือนได้เสมอ ดว้ ยการเรยี นและการเจริญเตบิ โตต้ังแตเ่ ด็กๆ จนถึงปจั จุบันตอ้ งผา่ นปัญหาและ อุปสรรคมากมายทั้งสค่ี นจึงสนทิ และรกั กันมาก ทุกคนลว้ นมีความสําคญั ใหก้ นั และกนั ๕. ใครมีนสิ ัย “ขยัน อดทน ตนื่ แต่เช้า หาอาหารมาให้ทัง้ ตนเอง และเพอ่ื น” ก. ทอรุ้ง ข. ฟูาใส ค. ดรีม ง. หมตู อน ๖. ในหมู่เพ่ือนของทอรุง้ ใครเปน็ คนท่นี ิสยั ไมด่ ที สี่ ดุ ก. ทอรุ้ง ขยนั อดทน ตื่นแต่เชา้ หาอาหารมาให้ท้ังตนเองและเพ่อื น ข. ฟาู ใส น่ารัก สภุ าพ พดู จาอ่อนหวาน เปน็ ท่ีรักของทุกๆ คน ค. ดรีม โผงผาง ใจร้อน เสียงดัง พูดจาตรงๆ ง. หมตู อน ขเี้ กียจ พดู จากระโชกโฮกฮาก ไมส่ ะอาด ๗. เพราะเหตใุ ดจึงทําให้เพือ่ นๆ ทั้ง ๔ คนรักกันและสนทิ สนมกันมากข้ึน ก. ผ่านปญั หา และอปุ สรรคมากมายทั้งสีค่ นจงึ สนิทสนม และรักกนั มาก ข. มารู้จกั กันท่โี รงเรยี นและเขาก็ทาํ ความรู้จักกัน ค. ต้งั แตเ่ ดก็ ๆ จนถงึ ปัจจบุ ันต้อง ทกุ คนลว้ นมีความสาํ คัญใหก้ นั และกัน ง. ถูกท้ังขอ้ ก และ ค

๔ ๘. “อาการของคนท่ดี ใี จ หรอื ตื่นเตน้ มากๆ จนมอี าการออกนอกหนา้ ระงบั อารมณไ์ มอ่ ยู่” จากคาํ สุภาษติ ดังกลา่ ว คือ สํานวนในขอ้ ใด ก. กระดไี่ ด้น้ํา ข. เอามือซกุ หบี ค. พุง่ หอกเขา้ รก ง. หาเหาใสห่ วั ๙. สํานวนในข้อใด “การทําประโยชน์เพ่อื สว่ นรวม” ก. ขนทรายเขา้ วัด ข. นํ้าตาลใกลม้ ด ค. กินนํ้าใต้ศอก ง. เข็นครกขน้ึ ภูเขา ๑๐. ขอ้ ใดมีความหมายตรงกบั คําวา่ “เกลียดตัวกินไข่ เกลยี ดปลาไหลกนิ น้ําแกง” ก. เกลยี ดตัวเขาแต่อยากไดผ้ ลประโยชน์จากเขา ข. คนทําผดิ มักจะชอบแก้ตัว ค. คนทําผดิ มกั จะแสดงอาการพิรธุ ออกมา ง. คนทําผิดมักจะเผลอบอกโดยไมร่ ู้ตวั ขอให้โชคดที กุ คนนะ คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๐ __________ ๘



๖ ทอรุ้ง ฟูาใส ดรมี และหมูตอน เปน็ เพอื่ นกัน ดว้ ยระยะเวลาที่ยาวนานทั้งสเี่ ริ่ม ทจ่ี ะสนทิ กนั มากขน้ึ เรื่อยๆ ทอรุ้ง...ขยนั อดทน ต่ืนแต่เชา้ หาอาหารมาใหท้ งั้ ตนเองและเพอ่ื น ฟูาใส...นา่ รัก สภุ าพ พดู จาอ่อนหวาน เปน็ ทีร่ ักและเอ็นดูของทกุ ๆ คน ดรีม...โผงผาง ใจรอ้ น เสียงดงั พูดจาตรงๆ หมูตอน...ขเ้ี กียจ พดู จากระโชกโฮกฮาก ไม่สะอาด แตร่ กั เพ่ือนเปน็ ท่ีหนง่ึ สามารถ ทาํ อะไรเพอ่ื เพ่ือนได้เสมอ ด้วยการเรียน และการเจริญเตบิ โตต้ังแต่เดก็ ๆ จนถงึ ปจั จุบันต้องผา่ นปัญหา และ อุปสรรคมากมายทั้งส่ีคนจึงสนทิ และรกั กนั มาก ทุกคนลว้ นมคี วามสําคัญใหก้ นั และกัน วันหน่ึงท้ังสี่คนตอ้ งเข้ารว่ มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน โดยชว่ ยกันทําความสะอาด บรเิ วณโรงเรียน ทงั้ ส่ีคนอยกู่ ลุ่มเดยี วกัน และตอ้ งรบั ผดิ ชอบนาํ ถังขยะแตล่ ะประเภทไปเทท้งิ ท่ีทา้ ย โรงเรยี น เพอื่ ทําการแยกประเภทขยะกอ่ นท่ีเจ้าหนา้ ท่เี ทศบาลจะมาจัดการ ระหว่างการทํากิจกรรมทุกคนต้องช่วยกันยกถังขยะใส่รถเข็น และช่วยกันเข็น โดยถงั ขยะมีความสกปรก และมกี ลิ่นเหม็นมาก ทัง้ สี่คนไมม่ ที างเลอื กอนื่ จาํ เป็น ที่จะต้อง ทําหน้าทข่ี องตนใหเ้ สร็จ

๗ หมูตอนจึงรับอาสาท่ีจะคอยจับถงั ขยะท่ีรถเขน็ ระหว่างเข็นเอง ส่วนทอรุ้ง และดรมี อาสาชว่ ยกันเข็นรถไปท้ายโรงเรยี น ฟูาใส : “ฉันขอเดนิ ตามไปนะ แลว้ ฉนั จะไปช่วยยกลง” แล้วทัง้ สามคนทีอ่ าสากพ็ ดู พรอ้ มกัน : “อ้าว!!!!” ทอรุ้ง : แลว้ ฟาู ใสไมช่ ว่ ยหมูตอนจบั ถังขยะไปหรอกเหรอ ฟาู ใส : จงึ พูดข้ึนว่า “ไม่ล่ะ ใหห้ มูตอนเป็นคนจับถกู ต้อง และใชแ่ ล้ว เพราะหมู ตอนเปน็ คนตัวโตและแขง็ แรง” หมูตอน : ได้ยนิ เชน่ นน้ั จึงดีใจและภูมิใจ ดรีม : เลยพดู ขึน้ วา่ “หมตู อนก็ชอบเลน่ สกปรกอยูแ่ ลว้ น่ี ยังไงก็กลน่ิ เดียวกัน คงไม่เป็นไรน่หี วา่ ก๊ากกกกกกก....” หมตู อน: ๕๕๕ (หมตู อนหัวเราะ) ฟาู ใส : เลยพดู ขึ้นว่า “ไปว่าหมูตอนอย่างนัน้ ได้ยังไง เดย๋ี วหมูตอนก็เสียใจหรอก” หมตู อน : “ไมเ่ ป็นไรหรอก ฉนั รบั ได้ เพราะถึงยงั ไงเรากเ็ ปน็ เพื่อนสนทิ กนั พดู มา แบบน้ี ฉันไม่ถือหรอก\" ดรีม : “ใชแ่ ลว้ เราสนิทและรกั กนั มาก และรใู้ จกนั เรื่องแคน่ ้ี พดู กันเลน่ ๆ แคน่ นั้ เอง เราไม่ควรมาโกรธกันเพราะเร่ืองแคน่ ้ี” ทอรงุ้ : “งนั้ เรารบี เขน็ กนั ไปตอ่ เถอะ เดย๋ี วจะไมเ่ สรจ็ ซะก่อน” ท้ังสามจงึ ช่วยกัน เข็นรถและจบั ถังขยะไปตอ่

๘ ในระหว่างที่เขน็ รถไปนนั้ ทกุ คนตอ้ งเขน็ รถผา่ นหลุมน้ําทเ่ี ปน็ โคลนดรมี มองไปเหน็ ไสเ้ ดอื นจงึ ตกใจปลอ่ ยมือออกจากรถเข็น และกระโดดออกจนทาํ ให้ทอรงุ้ ตกใจไปดว้ ย เช่นกนั แล้วในระหว่างท่ีดรมี กระโดดออก โคลนเกิดกระเดน็ ไปโดนฟูาใสจงึ ทําให้ฟูาใสเลย สกปรกไปดว้ ย ฟูาใส : “ดรมี ระวงั หน่อยสิ โคลนมันกระเดน็ มาโดนฉนั นะ” ดรมี : “อะไรกัน แคน่ ้ีเอง เด๋ียวผ่านเสร็จแล้วก็คอ่ ยไปทาํ ความสะอาดก็ได้” ฟูาใส : “แต่มันไมเ่ หมอื นเดิมน่ี เพราะฉันเป็นคนผิวขาวๆ และฉันก็เปน็ คนสะอาด ไมช่ อบเสื้อผ้าที่สกปรก และนี่คงเป็นรอยเป้ือนอยูด่ ี” ทอรงุ้ : จึงพดู ขน้ึ วา่ “แลว้ นค่ี อื ส่งิ ทหี่ มูตอนต้องไดร้ บั เหรอกับการท่ีหมูตอนเป็นคน ตัวดาํ และชอบเล่นอะไรสกปรกเลอะเทอะ นี่คือนสิ ัยของหมูตอนเขา แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะตอ้ ง ได้รับแตส่ ่ิงสกปรกเท่านั้นเหรอ แล้วการทดี่ รีมจะกลัวไส้เดอื นนั้นก็คือนสิ ยั ของเขา ซึ่งฉัน เองก็เปน็ เชน่ กัน นี่มันเป็นพ้ืนฐานนสิ ยั ทตี่ ดิ คนเรามาตลอดนะ เราเลอื กได้เหรอ” ทอร้งุ : “ความแตกต่างและนิสยั ของแต่ละคน ไมเ่ หมอื นกันแตเ่ ราเป็นเพ่ือนกนั ต้องเขา้ ใจ และเปดิ ใจรับสิ่งทีไ่ มส่ วยงามและสง่ิ ท่ีสวยงามซึง่ กนั และกนั สิ ไม่มีใครท่ีสวยงาม ไดต้ ลอดเวลานะ”

๙ ดรมี จึงพดู ข้นึ ว่า “ฉันก็คิดว่าเราสนทิ และรกั กันมากเชอ่ื ใจกันรับรูใ้ นสงิ่ ทีแ่ ตล่ ะคน เป็นแล้วฉนั ไม่ทันนกึ ว่าเธอรับฉนั แบบนี้ไมไ่ ด้ ฉันขอโทษนะ” ฟูาใสไดย้ นิ เชน่ นนั้ จึงพูดขึ้นว่า “จริงสินะ เราเปน็ เพ่ือนกนั แถมเปน็ เพอื่ นรกั กันด้วย ทาํ ไมฉันถงึ ไมเ่ ข้าใจนะว่าเราทง้ั สแ่ี ตกต่างกนั แตเ่ รายังสามารถผ่านอปุ สรรคต่างๆ มาดว้ ยกนั ไดข้ นาดนแ้ี ล้วเราแต่ละคนเราก็ไม่เหมือนกนั เลย” “ฉนั ขอโทษนะทีฉ่ นั เปน็ อยา่ งน้ี” หมูตอนกล่าวข้นึ ว่า “ไมเ่ ป็นไรหรอกฟูาใส ฉันก็เขา้ ใจว่าเธอน่ารกั สะอาดและจติ ใจ ออ่ นไหว เธอกไ็ มเ่ หมือนกับฉัน บางครงั้ ฉัน กพ็ ูดอะไรหรอื ทําอะไรท่กี ระโชกโฮกฮากไป บางคร้งั เธออาจจะรบั ไม่ได้ แต่ฉันคดิ วา่ ด้วยความทเ่ี ราเปน็ เพ่อื นรกั กนั เธอคงจะรบั ฉนั ได้ สักวันหนง่ึ ” ฟาู ใส : “ฉนั เองก็ขอโทษดว้ ยที่ฉนั ออ่ นไหวเกนิ ไป แบบนี้ฉันก็หวังวา่ สักวันหน่ึงเรา แต่ละคนที่แตกต่างกนั คงเข้ากันไดแ้ ละยอมรบั ในสง่ิ ท่แี ตกต่างกันของแต่ละคนได้”

๑๐ ทอรุง้ จงึ พูดข้นึ บ้างว่า “เอาละ่ แต่ละคนกเ็ ข้าใจกันแล้วนะ ดว้ ยความแตกตา่ ง ของแต่ละคน และด้วยความทเ่ี รารกั และสนทิ กัน และก็รจู้ ักกันมานานบางครั้งจงึ ทําอะไร โดยไม่ทนั คดิ แต่ทาํ ใหอ้ ีกคนรสู้ ึกไมด่ ฉี นั คิดวา่ คงไม่ได้ตงั้ ใจและเผลอทําอะไรไปกเ็ ท่านั้น” ดรมี : “เราเข้าใจกนั ดีแล้วนะ ง้ันเราก็เปน็ เพื่อนท่รี ักและสนิทกันมากขนึ้ นะ เพราะ เราก็รับในสง่ิ ที่แตกต่างของแตล่ ะคนได้แล้ว” หมูตอน : “ใช่แลว้ ง้นั เราทั้งสีค่ นมาร่วมใจชว่ ยกันจับถังขยะและเข็นรถไปกนั ตอ่ ดกี วา่ จะไดเ้ อาถงั ขยะพวกน้ไี ปเทให้หมดนะ” หมตู อน ดรมี ทอรุ้ง และฟาู ใสต่างช่วยกันจับถังขยะและเขน็ รถไปจนถึงท้าย โรงเรยี น “ไชโย........ เราทําสาํ เรจ็ แลว้ เพ่ือนรกั เยๆ้ ๆ...” ทุกคนต่างช่วยกันจับถังขยะเทตามจุดอยา่ งเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย

๑๑ ใบความรู้ เรื่อง คานาม ๑. ความหมายของนาม คานาม หมายถงึ คาํ ทใ่ี ช้เรียกชื่อคน สตั ว์ พชื ส่งิ ของ สภาพ ลักษณะ ๒. ประเภทของคานาม คํานามแบ่งออกเปน็ ชนิดย่อยได้ ๕ ชนิด ได้แก่ ๑. สามานยนาม คอื เป็นคาํ ท่ีใช้เรียกชื่อทว่ั ไป คน แมว ปู เสอื ปลา หอย เปด็ ไก่ นก ๒. วิสามานยนาม คือ เปน็ ช่ือเฉพาะของคน สัตว์ พชื สง่ิ ของ สถานที่ พิษณโุ ลก พรหมพริ ามวิทยา ไอ้ตบู เจ้าด่าง พชิ ยั เดก็ หญิงวันดี เด็กชาย สมพงษ์ นายสิทธิศักด์ิ เป็นต้น ๓. สมหุ นาม คือ เปน็ นามท่ีใช้เรยี กนามซ่งึ อยูร่ วมกนั เปน็ กลมุ่ เปน็ หมวดหมู่ กอง กลุ่ม หมู่ ฝงู โขลง พวก พรรค วง ฯลฯ ๔. อาการนาม คือ คํานามท่ีใช้ “การ” หรอื “ความ” นําหน้าคํากริยา และ ใช้ “ความ” นาํ หน้าคําวิเศษณ์ การเดนิ การนอน การว่งิ การเกดิ ความรกั ความตาย ความคดิ ความดี ความรู้ ฯลฯ ๕. คาํ ลกั ษณะนาม คอื เป็นคาํ บอกลักษณะของนาม แบ่งยอ่ ยได้ ๖ ชนดิ ดงั น้ี ๕.๑ ลักษณะนามบอกชนิด เชน่ - รูป ใช้ กับ ภิกษุ สามเณร - เลม่ ใชก้ ับ หนงั สอื เกวียน เทียน เขม็ กรรไกร - ใบ ใช้กบั ตู้ หมอ้ ตุ่ม มอน ๕.๒ ลักษณะนามบอกหมวดหมู่ เชน่ - ฝงู ใชก้ บั ววั ควาย ปลา นก - กอง ใชก้ บั ทหาร ลกู เสือ อฐิ ทราย ผ้าปาุ - นิกาย ใชก้ บั ศาสนา ลทั ธิ

๑๒ ๕.๓ ลักษณะนามบอกสณั ฐาน เช่น - วง ใช้กับ แหวน วงกลม ตะกรอ้ สกั วา วงดนตรี แตรวง - หลงั ใชก้ บั เรอื น ม้งุ ตกึ - แผน่ ใชก้ บั กระดาษ กระดาน กระเบอ้ื ง สังกะสี - บาน ใชก้ บั ประตู หนา้ ต่าง กระจกเงา กรอบรปู ๕.๔ ลักษณะนามบอกจาํ นวนและมาตรา เชน่ - คู่ ใช้กับ รองเท้า ถงุ เท้า ช้อนส้อม - โหล ใช้กับ ของท่ีรวมกันจํานวน ๑๒ ชนิ้ เช่น สมุด ดนิ สอ ปากกา ๕.๕ ลักษณะนามบอกอาการ เชน่ - จบี ใชก้ บั พลู - จบั ใช้กบั ขนมจีน - มวน ใช้กบั บหุ รี่ ๕.๖ ลักษณะนามซ้ําชอ่ื เช่น - เมอื ง ประเทศ ตําบล จงั หวดั ทวปี ฯลฯ

๑๓ สภุ าษติ หมายถงึ คาํ พูดทพ่ี ดู ออกมาเปน็ ทํานอง สํานวน โวหาร หรอื คําพังเพย โดยมีเน้ือความ หรอื ความหมายที่ดีใช้เป็นคาํ ตกั เตือนสง่ั สอน และสะกิดใจใหร้ ะลกึ ถึง และ ถูกหยิบยกมาเป็นตัวอยา่ งในการอบรมสงั่ สอนลกู หลานหรือผ้ทู ่มี ีอายุน้อยกว่า สานวน หมายถึง ถอ้ ยคาํ ท่เี รียบเรียงเป็นข้อความหรอื คําพดู ที่เปน็ ชัน้ เชิงท่มี ี ลักษณะเฉพาะตวั มคี วามหมายเป็นนัยแฝงอยเู่ ป็นความหมายในเชิงอุปมาเปรียบเทยี บ ใช้คําทไี่ พเราะคมคายสละสลวยต้องอาศัยการตคี วามจงึ จะเข้าใจ คาพังเพย หมายถึง ถ้อยคาํ ทีม่ ีลักษณะเดยี วกบั สาํ นวนแตกตา่ งจากสาํ นวนตรง ทม่ี ีจดุ หมายเชิงสง่ั สอนแต่เปน็ ในทาํ นองเสยี ดสปี ระชดประชนั สว่ นมากมีลักษณะเปน็ ข้อคิด และมคี วามหมายลึกซึง้ เนื้อความทส่ี ั่งสอนนั้นไม่ได้เปน็ ความจริง รกั วัวใหผ้ กู รักลกู ให้ตี ความหมาย : หากลูกทาํ ผิดหรือมพี ฤติกรรม ทไ่ี ม่ดีไมเ่ หมาะสมก็ควรอบรมสงั่ สอนตกั เตือน และ ลงโทษเมอ่ื กระทาํ ความผดิ ตามสมควรมคี วามหมายหน่ึง ก็คอื ถ้ารักส่งิ ใดแล้วกไ็ ม่ควรตามใจต้องมกี ารทาํ โทษ หรือใชไ้ ม้แขง็ ในการสัง่ สอนบา้ งไม่เชน่ นั้นลกู หลานก็ จะกลายเป็นเดก็ ดือ้ สอนยากและเป็นคนไมน่ า่ รกั ในท่ีสุด เปรยี บเทยี บ : “รักวัวให้ผูก” เปรยี บเปรยถึงถา้ รกั ววั กผ็ กู เชือกล่ามกับตน้ ไม้ ไว้แม้ววั ไมช่ อบใจก็ต้องทาํ เพอ่ื ไม่ให้ววั ถูกขโมยหรือหนีหายไปส่วน “รกั ลูกให้ตี” เปรียบเปรยวา่ หากรกั ลกู เมอื่ ลกู ทําความผดิ กต็ อ้ งตีเพ่อื ลกู จะได้เตบิ โตมาเปน็ คนดี ตัวอย่างการใช้สุภาษิต : นอ้ งแต้วเปน็ เดก็ งอแงเวลาคนแม่พาไปเทีย่ วตาม ห้างสรรพสนิ ค้าน้องแตว้ มากจะร้องไหเ้ พื่อเอาของเล่นเสนอคุณยายทราบเรื่องจงึ บอก คุณแม่ว่า “จะปลอ่ ยใหน้ ้องแต้วไปร้องไห้เรียกรอ้ งเอาของเลน่ แบบนนั้ ไมไ่ ด้ “รกั ววั ใหผ้ ูกรักลกู ใหต้ ี” เหน็ ทีต้องอบรมส่ังสอนเสียใหมถ่ ้าไมฟ่ ังก็ตอ้ งลงโทษกันบา้ งละ่ ”

๑๔ เกลยี ดตวั กินไข่เกลียดปลาไหลกินน้าแกง ความหมาย : หมายถงึ เกลยี ดตัวเขาแตอ่ ยากได้ ผลประโยชน์จากเขาหรืออยากไดข้ องของเขาเช่นคนหนึง่ ปากบน่ วา่ ไมช่ อบเขาแตเ่ ม่อื เขาใหข้ องมาก็รับไว้ เปรียบเทียบ : บางคนเกลียดปลาไหลเพราะ รปู รา่ งลักษณะของมันทีเ่ หมอื นกบั งูแตเ่ มื่อเอามาปรุง เป็นอาหารนา้ํ แกงมีรสหอมน่ากินก็กินนํา้ แกงของปลา ไหลนน้ั โดยไม่สนใจวา่ ตวั เองเคยไมช่ อบตัวปลาไหล ตวั อยา่ งการใชส้ ภุ าษติ : นิดดากบั ชมพ่เู ป็นเพ่อื นกันแตเ่ นือ่ งจากชมพเู่ ป็นคน หน้าตาดีกวา่ และมีเพื่อนชายมาตกหลุมรักหลายคนจนเป็นเหตุให้ท่ตี าอิจฉา และพราน ไม่พอใจชมพอู่ ยู่มาวนั หนง่ึ ชมพ่ซู ้อื ขนมคกุ ก้ีมาแจกเพอื่ นๆในห้องนนิ ทาเองกไ็ ด้รบั คําพูด ทจ่ี ะพูดเชน่ กันเพอื่ นๆ ในห้องจงึ แซวนิดดาว่า “ นี่นิดดาเธอกเ็ ปน็ คนประเภทเกลยี ดตวั กินไขเ่ กลยี ดปลาไหลกินนํา้ แกงเลยนะใครๆ กร็ ู้ว่าเธอไมช่ อบหนา้ ชมพู่แลว้ ทาํ ไมยงั รบั ขนม ทช่ี มพู่นํามาแจกให้อกี ล่ะ ” ขิงก็ราข่ากแ็ รง ความหมาย : หมายถึงคนท่มี ีนิสัย และอารมณ์ ร้อนขี้โมโหพูดจาปากจดั จา้ นพอๆ กนั ตา่ งฝาุ ยกไ็ มย่ อม ลดละให้แกก่ ัน เปรยี บเทยี บ : ขิงและขา่ เปน็ พืชสมนุ ไพรทม่ี ีรส เผด็ รอ้ นเม่อื นํามาทําอาหารจะไมน่ ยิ มใชร้ ว่ มกนั เพราะ รสชาติของขงิ และขา่ ตา่ งกม็ รี สเผ็ดรอ้ นด้วยกันทัง้ คู่ ตวั อย่างการใชส้ ุภาษิต : น้องดาวกบั น้อง เดือนเป็นพน่ี ้องฝาแฝดกันแทๆ้ แตก่ ลบั ทะเลาะกันบ่อยๆ เนือ่ งจากท้ังสองคนต่างกม็ ที ฐิ ิไม่ ยอมกันง่ายๆ จนพอ่ แมข่ องท้งั สองต่างพดู เปน็ เสยี งเดียวกันว่า “ พน่ี อ้ งคนู่ ้ีขงิ กร็ าขา่ กแ็ รง จริงๆ เลยไม่มีใครยอมใครงา่ ยๆ ”

๑๕ งมเขม็ ในมหาสมุทร ความหมาย : หมายถึงคน้ หาส่งิ ของท่ยี าก จะค้นหาไดท้ ํากิจทสี่ าํ เร็จไดย้ ากยิง่ หรืออีกความหมาย คือ การทาํ งานทย่ี ากจะทาํ ใหส้ าํ เร็จได้ เปรียบเทียบ : เปรยี บเทยี บการหาเขม็ ชิ้นเล็ก ในมหาสมทุ รท่กี ว้างใหญ่การค้นหาจึงยากมากแทบ จะเป็นไปไม่ได้ ตวั อยา่ งการใช้สภุ าษิต : คณุ ตากบั คณุ ยายของน้องกาํ ป้ันเกีย่ วกับพฤตกิ รรมของ นกั การเมอื งในปจั จุบันคณุ ตาไดเ้ อย่ ข้นึ ว่า “ ในสมัยน้ีตามสถานการณ์เมืองทีด่ มี คี ุณธรรม มคี วามซ่อื สัตย์สจุ รติ ฉลาดเฉลียวและมคี วามเสยี สละเพ่ือทราบบ้านเมืองอย่างจริงใจนนั้ หา ยากในมหาสมุทรทีเดยี ว” น้องกําปน้ั เดินผา่ นมาได้ยินประโยคน้ันพอดจี งึ ไดบ้ อกกนั คุณตา คุณยายทันทีวา่ “โตขนึ้ ผมอยากจะเป็นนกั การเมืองและผมจะเป็นนักการเมอื งทีด่ ี มีคุณธรรม และเสียสละเพ่ือชาตบิ ้านเมอื งนะครับ คุณตาคุณยาย”คณุ ตาคุณยายได้ฟงั ดังน้นั ตา่ งพากนั หัวเราะชอบใจในคําพูดอันไรเ้ ดยี งสาของน้องกาํ ปน้ั เป็นอย่างยิง่ นกั กระดไี่ ดน้ า้ ความหมาย : อาการของคนทดี่ ีใจหรือต่นื เต้นมากๆ จนมอี าการออกนอกหนา้ ระงับอารมณ์ไมอ่ ยู่ เปรียบเทียบ : ปลากระดใ่ี นสมัยกอ่ นหากอยใู่ นทมี่ ีน้ําน้อยตน้ื เขินจะอยนู่ ่ิงๆ แต่ถ้ามนี ํา้ เพ่มิ ข้นึ มาจะแสดงอาการดใี จสะบดั และกระโดดไปมาแบบชดั เจน ตัวอยา่ งการใช้สภุ าษิต : เนยกบั แนนเปน็ เพ่ือน สนิทกัน แต่ทงั้ สองคนมนี สิ ัยตา่ งกันโดยส้นิ เชงิ เนยเป็น คนเงยี บๆ สภุ าพเรียบร้อย ในขณะทแ่ี นนเป็นคนชอบ เข้าสังคมแต่งตวั เปรยี้ วตามสมยั นยิ ม และบา้ ดารา เป็นอย่างมาก เม่ือไหรก่ ต็ ามท่ีแนนไดย้ นิ ข่าวการมา ปรากฏตวั ของดาราคนโปรดทไ่ี หน แนนจะดีใจจนออก หน้าออกตาจนเนยอดท่ีจะแซวเพือ่ นไมไ่ ดว้ ่าดีใจทจี่ ะได้เจอดาราเหมอื น ปลากระดี่ได้นํ้า หน่อยนะเณร

๑๖ ขนทรายเขา้ วดั ความหมาย : การทาํ ประโยชน์เพอ่ื สว่ นรวม ในปจั จุบันยงั หมายถึง ประเพณีไทยชนิดหนึ่งในช่วง เทศกาลสงกรานต์ เปรยี บเทียบ : สมัยก่อนวดั ตา่ งๆ จะมีกอง ทรายของแต่ละวดั แตจ่ ะมชี าวบ้านนําทรายออกจาก วดั เพ่อื ไปถมที่ ซอ่ มบ้าน หรือแม้แต่การท่ีเดินออกจาก วดั แลว้ ทรายติดออกมาดว้ ย ถอื วา่ เปน็ หนส้ี งฆ์ คนสมัยก่อนจงึ ไดม้ ปี ระเพณีขนทรายเข้าวดั เพ่อื ใหช้ าวบ้านนําทรายมาคนื วดั เพ่อื จะได้ไม่ตดิ หนี้สงฆ์ ตวั อยา่ งการใชส้ ุภาษิต : เดก็ นักเรยี นชัน้ ประถมของโรงเรยี นแหง่ หนง่ึ ได้ชว่ ยกัน ทําความสะอาด ปัดกวาดลานวดั เนือ่ งในเทศกาลเข้าพรรษา ขณะที่กาํ ลงั ช่วยกันทํางาน อย่างขะมักเขมน้ เดก็ ชายแดงไดถ้ ามคณุ ครปู ระจําชั้นวา่ “คุณครคู รับ ทาํ ไมคนเฒา่ คนแก่ ท่หี มูบ่ ้านผม ถงึ เปรียบการทําประโยชน์เพ่ือสว่ นรวมว่าเป็นการขนทรายเขา้ วดั ละ่ ครับ” คุณคณุ ครูประจําชน้ั จงึ อธิบายว่า “ก็เพราะเปน็ การกระทําท่ยี ึดประโยชนข์ องส่วนรวม เปน็ หลกั ไงล่ะครบั เข้าใจไหมจ๊ะ”

๑๗ หนังสือสง่ เสริมการอา่ นจับใจความสาคัญ นิทานคาไทยแบบอิเล็กทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สาหรบั นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖

๑๘ กิจกรรมที่ ๑ หนังสอื ส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เลม่ ที่ ๑ คานาม คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเติมคาํ นามลงในช่องวา่ งของสํานวนไทยตอ่ ไปนี้ ตวั อย่าง องนุ่ เปร้ยี ว มะนาว หวาน ๑. เอา ________ไปฝาก ________ฟกั พนั ร้าน ๒. ขี่ ________ จับ ________ ๓. มือไมพ่ าย ________ เอา ________ รานํ้า ๔. แกวง่ เท้าหา ________ ๕. เอาหไู ป ________ เอา ________ ไปไร่ ๖. เอา ________ ไปลู่________ ๗. หุงข้าวประชด ________ ป้งิ ปลาประชด________ ๘. นาํ้ พ่ึงเรอื ________ พ่ึงปุา ๙. เหน็ ________ เปน็ ________ ๑๐. เรือล่มใน ________ ทองจะไปไหน คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘

๑๙ กิจกรรมที่ ๒ หนังสือสง่ เสรมิ การอา่ นจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ของนักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เล่มที่ ๑ คานาม คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นขีดเสน้ ใต้คํานามจากขอ้ ความทีก่ าํ หนดให้ต่อไปนี้ ตวั อยา่ ง นักเรียน ทาํ การบ้าน ๑. โรงเรียนเปน็ สถานท่ีให้ความรู้ ๒. ทอรุ้งเป็นเด็กที่ ขยนั อดทน ตื่นแตเ่ ช้า ๓. ดรมี เป็นเดก็ โผงผาง ใจร้อน เสียงดัง พูดจาตรงๆ ๔. ฟูาใสเปน็ เด็ก นา่ รัก สุภาพ พูดจาออ่ นหวาน ๕. คณะกรรมการศึกษาคณะนี้ ไดร้ บั การแตง่ ตัง้ แล้ว ๖. การออกกาํ ลังกายกระทําได้หลายวิธีเชน่ การเดนิ การวิ่ง ๗. นกั เรียนชัน้ ป. ๖/๑ มคี วามขยัน ๘. คณุ แม่ซ้อื ปากกาหลายด้าม ๙. นกั เรียนหลายคนช่วยคุณครูเรียงหนงั สอื ๑๐. อญั ชลีไดร้ ับการคดั เลือกเปน็ ตัวแทนห้อง ป. ๖/๑ คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๐ กิจกรรมที่ ๓ หนังสือส่งเสริมการอา่ นจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เลม่ ท่ี ๑ คานาม คาช้แี จง ให้นกั เรียนหาคํานามจากประโยคท่กี ําหนดให้ และจําแนก หน้าทข่ี องคํานามจากประโยคตอ่ ไปน้ี ประโยค คานามในประโยค หน้าท่ี ประธาน กรรม ตัวอยา่ ง นกั เรียนเรียนหนังสอื นักเรียน , หนงั สือ นกั เรียน หนงั สอื ๑. พอ่ ชวนกินปลานิล ๒. คณุ ครเู ล่านทิ าน ๓. หนอนกินใบไม้ ๔. คุณแม่ไปจ่ายตลาด ๕. แมวว่งิ ไล่หนู ๖. เด็กๆ เล่นกบั เจา้ มอม ๗. ณัฐอา่ นจดหมาย ๘. ปูากลั ยา ขบั รถ ๙. พ่อสอยมะมว่ งน้ําดอกไม้ ๑๐. ต๊ดิ ตเ่ี ดินไปโรงเรยี น คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๐ __________ ๘

๒๑ กิจกรรมที่ ๔ หนังสอื ส่งเสริมการอ่านจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ของนกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เล่มท่ี ๑ คานาม คาชี้แจง ให้นกั เรยี นฝกึ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความสําคัญจากนิทานคาํ ไทย เรอื่ ง คาํ นาม จากน้ันเตมิ คาํ ตอบลงในชอ่ งว่าต่อไปน้ี ระบุตวั ละครหรือผูท้ เี่ ก่ยี วข้องไดท้ งั้ หมด ส่ิงทเ่ี กดิ ข้ึนในเรื่อง เหตผุ ลทท่ี าํ ใหเ้ กดิ เหตุการณ์ สถานท่ีเกดิ เหตุในเร่ือง ประเด็นสําคญั และ ข้อคิดทไ่ี ด้จากเรื่อง คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๕ __________ ๑๒

๒๒ กจิ กรรมท่ี ๕ หนงั สือสง่ เสรมิ การอา่ นจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ของนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เลม่ ท่ี ๑ คานาม คาชแี้ จง ให้นักเรียนวงกลมคาํ นามในกล่องปรศิ นาอักษรไขว้ ก ติ ป ร า ส า ท ต ดิ น ส อ ด ค พ ง ส ม ร ณ์ อ ส น ย ฬ ท่ ข ร ฮ ส ถ า นี ค พ ฬ บ ว า สะฒอ เ ยสฬรภบห ท ค์ อ เ พ ล ง ช า ติ ไ ท ย า ก์ ภั ค ต นิ ข ง ค์ อ น ฟ ภ ง า ย ส พั ท ย า นุ ง า ว ส ม ฑ ม อ า า ณ ส ค ค์ ย ส ห ใ ม ณี ด มุ น ก ส ส ค์ อํา ย ม จ้ ค ด ว ง อ า ทิ ต ย์ เ ฬ ส าจสค เ งยบลนภดก ดิ ด เ ส ภ ข ช ท ฦ ฬ อ ท ม โ ร งพยาบาลฦอคง

๒๓ ตัวอยา่ ง ทา่ ทาง คานามทีพ่ บมี__________คา ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ เกณฑก์ ารประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๔ กิจกรรมท่ี ๖ หนงั สอื ส่งเสริมการอ่านจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ของนกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เล่มที่ ๑ คานาม คาชแี้ จง ให้นักเรียนแต่งประโยคโดยใช้คํานามทกี่ ําหนดให้ ตวั อย่าง = นกออกหากนิ เวลาเช้า เวลาเชา้ ๑. ครู =__________________________________ ๒. นกั เรียน =__________________________________ ๓. แม่ =__________________________________ ๔. น้อง =__________________________________ ๕. คณุ หมอ =__________________________________ ๖. นกบนิ =__________________________________ ๗. ดอกไม้ =__________________________________ ๘. นางสาวไทย =__________________________________ ๙. รถ =__________________________________ ๑๐. มา้ =__________________________________ คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๕ กิจกรรมที่ ๗ หนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ นจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลม่ ที่ ๑ คานาม คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเตมิ สาํ นวน และความหมายใหต้ รงกับภาพทีก่ ําหนดให้ ตวั อย่าง สํานวน รกั วัวให้ผกู รักลูกให้ตี ความหมาย หากลูกทําผิดหรือมีพฤตกิ รรมทไี่ ม่ ดี ไม่เหมาะสมกค็ วรอบรมสั่งสอนตกั เตือนและลงโทษ เมอื่ กระทาํ ความผิดตามสมควร สาํ นวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ สํานวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________

๒๖ สาํ นวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ สํานวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ สํานวน ____________________________ ความหมาย ____________________________ ________________________________________ ________________________________________ สาํ นวน ____________________________ คะแนนเตม็ คะแนนทไี่ ด้ เกณฑ์การประเมนิ ๑๐ __________ ๘

๒๗ กิจกรรมท่ี ๘ หนงั สือส่งเสริมการอา่ นจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอิเล็กทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ของนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เล่มท่ี ๑ คานาม คาชีแ้ จง ให้นักเรียนเลอื กสํานวนสุภาษิตไทยทชี่ ื่นชอบ บอกความหมาย เปรียบเทียบ และยกตวั อย่างการใช้ให้ถูกต้อง พร้อมท้ังวาดภาพประกอบให้สวยงาม ตัวอยา่ ง สานวน เกลียดตัวกินไขเ่ กลียดปลาไหลกนิ นํา้ แกง ความหมาย เกลยี ดตวั เขาแต่อยากได้ผลประโยชนจ์ ากเขาหรอื อยากได้ของ เปรียบเทียบ เขาเช่นคนหนึ่งปากบน่ ว่าไมช่ อบเขาแต่เม่ือเขาใหข้ องมากร็ ับไว้ บางคนเกลียดปลาไหลเพราะรูปรา่ งลักษณะของมนั ที่เหมือนกับงู ยกตัวอยา่ งการใช้ แตเ่ มอ่ื เอามาปรุงเป็นอาหารนาํ้ แกงมรี สหอมน่ากนิ ก็กินนํ้าแกงของ ปลาไหลนน้ั โดยไมส่ นใจว่าตัวเองเคยไม่ชอบตัวปลาไหล นิดดากบั ชมพู่เปน็ เพ่อื นกันแตเ่ นื่องจากชมพูเ่ ปน็ คนหน้าตาดีกว่า และมเี พ่อื นชายมาตกหลมุ รักหลายคนจนเป็นเหตุให้ท่ีตาอจิ ฉา และพรานไมพ่ อใจชมพอู่ ยู่มาวันหนงึ่ ชมพ่ซู อ้ื ขนมคกุ กมี้ าแจก เพือ่ นๆในห้องนินทาเองก็ไดร้ ับคําพดู ทจี่ ะพดู เช่นกนั เพ่ือนๆ ในหอ้ งจงึ แซวนดิ ดาวา่ “น่นี ดิ ดาเธอกเ็ ป็นคนประเภทเกลยี ดตวั กิน ไข่เกลียดปลาไหลกนิ นา้ํ แกงเลยนะใครๆ กร็ ู้วา่ เธอไม่ชอบหน้าชมพู่ แล้วทําไมยังรบั ขนมทีช่ มพู่นาํ มาแจกใหอ้ ีกละ่ ”

๒๘ สานวน ________________________________________________ ความหมาย ________________________________________________ ________________________________________________ เปรียบเทียบ ________________________________________________ ________________________________________________ ยกตัวอย่างการใช้ ________________________________________________ คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๐ __________ ๘

๒๙ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนังสอื ส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สาหรบั นกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เลม่ ท่ี ๑ คานาม คาชี้แจง ให้นักเรยี นทาํ เครื่องหมาย () กากบาททับหนา้ คาํ ตอบขอ้ ทถ่ี กู ต้องทีส่ ุด ๑. ข้อใด คือ คํานามท้ังหมด ก. หมูตอน , ข้เี กียจ , กระโชก , โฮกฮาก ข. โผงผาง , ใจร้อน , เสียงดัง , ดรีม ค. ทอรงุ้ , ฟาู ใส , เสียงดัง , ดรีม ง. ทอรุง้ , ฟาู ใส , ดรมี , หมูตอน ๒. “ช้างชอบกนิ กล้วย” คําทข่ี ดี เสน้ ใตเ้ ป็นคํานามชนดิ ใด ก. นามทีใ่ ช้ชเี้ ฉพาะ ข. นามที่บอกลกั ษณะ ค. นามท่บี อกขนาดและปรมิ าณ ง. นามทใ่ี ช้ทว่ั ไป ๓. ขอ้ ใดมีวสิ ามานยนาม ก. คณุ ปุูชอบนั่งองิ หมอนบนเตยี ง ข. เด็กผชู้ ายไม่ชอบเล่นตกุ๊ ตา ค. นายโอชาซื้ออฐู มาเลย้ี ง ง. ยายอาบน้ําแต่งตวั ให้เอ่ียม ๔. ขอ้ ใดใช้คําลักษณะนามผิด ก. พซ่ี อ้ื ปากกา ๒ ด้าม ข. คุณตามีเกวียน ๒ เล่ม ค. คณุ พ่อมขี ลุ่ย ๒ เลา ง. ฉันมีดนิ สอใหม่ ๒ อนั

๓๐ อ่านนทิ านจากเร่ืองที่กาํ หนดใหแ้ ลว้ ตอบคําถามข้อ ๕ – ๗ ทอรงุ้ ฟูาใส ดรมี และหมตู อน เปน็ เพือ่ นกนั ด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน ท้งั ส่ีเรมิ่ ทจี่ ะสนิทกนั มากข้ึนเรื่อยๆ ทอรงุ้ ...ขยัน อดทน ต่นื แตเ่ ชา้ หาอาหารมาให้ทงั้ ตนเองและเพ่ือน ฟูาใส...น่ารัก สภุ าพ พดู จาอ่อนหวาน เปน็ ทร่ี กั และเอน็ ดูของทุกๆ คน ดรีม...โผงผาง ใจร้อน เสียงดงั พดู จาตรงๆ หมตู อน...ข้ีเกยี จ พดู จากระโชกโฮกฮาก ไมส่ ะอาด แต่รกั เพื่อนเป็นทีห่ นง่ึ สามารถ ทําอะไรเพื่อเพ่ือนได้เสมอ ดว้ ยการเรียนและการเจริญเตบิ โตต้งั แต่เดก็ ๆ จนถงึ ปจั จุบนั ต้องผ่านปัญหาและ อปุ สรรคมากมายทั้งส่ีคนจึงสนทิ และรกั กนั มาก ทุกคนลว้ นมีความสําคัญใหก้ ันและกนั ๕. ใครมนี ิสยั “ขยัน อดทน ตนื่ แตเ่ ช้า หาอาหารมาให้ทง้ั ตนเอง และเพือ่ น” ก. หมูตอน ข. ฟาู ใส ค. ดรีม ง. ทอรงุ้ ๖. ในหมู่เพ่ือนของทอรงุ้ ใครเปน็ คนทนี่ ิสัยไมด่ ที ่ีสดุ ก. หมูตอน ข้เี กียจ พูดจากระโชกโฮกฮาก ไมส่ ะอาด ข. ฟาู ใส นา่ รกั สภุ าพ พูดจาออ่ นหวาน เปน็ ที่รักของทกุ ๆ คน ค. ดรมี โผงผาง ใจรอ้ น เสียงดงั พดู จาตรงๆ ง. ทอรุง้ ขยัน อดทน ตนื่ แตเ่ ชา้ หาอาหารมาให้ทั้งตนเองและเพ่ือน ๗. เพราะเหตใุ ดจึงทาํ ให้เพอ่ื นๆ ทั้ง ๔ คนรกั กันและสนิทสนมกันมากขึน้ ก. ผา่ นปญั หา และอุปสรรคมากมายทั้งสี่คนจงึ สนิทสนม และรกั กันมาก ข. มารู้จักกนั ที่โรงเรียนและเขากท็ ําความรจู้ ักกัน ค. ตง้ั แต่เด็กๆ จนถงึ ปัจจบุ ันตอ้ ง ทกุ คนลว้ นมีความสาํ คญั ให้กันและกัน ง. ถูกทัง้ ข้อ ก และ ค

๓๑ ๘. “อาการของคนทีด่ ใี จ หรือต่นื เตน้ มากๆ จนมอี าการออกนอกหนา้ ระงับอารมณไ์ ม่อยู่” จากคาํ สภุ าษิตดงั กลา่ ว คือ สํานวนในขอ้ ใด ก. หาเหาใส่หัว ข. เอามอื ซกุ หบี ค. พุง่ หอกเขา้ รก ง. กระด่ีได้นํ้า ๙. สํานวนในข้อใด “การทําประโยชน์เพื่อสว่ นรวม” ก. นา้ํ ตาลใกลม้ ด ข. ขนทรายเขา้ วดั ค. กินน้ําใต้ศอก ง. เขน็ ครกขึน้ ภูเขา ๑๐. ข้อใดมีความหมายตรงกบั คําวา่ “เกลยี ดตวั กนิ ไข่ เกลยี ดปลาไหลกนิ นํ้าแกง” ก. คนทาํ ผดิ มักจะชอบแก้ตวั ข. เกลยี ดตัวเขาแต่อยากไดผ้ ลประโยชน์จากเขา ค. คนทําผดิ มกั จะแสดงอาการพิรธุ ออกมา ง. คนทําผิดมักจะเผลอบอกโดยไม่รู้ตัว ขอให้โชคดที กุ คนนะ คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ เกณฑ์การประเมนิ ๑๐ __________ ๘

๓๒

๓๓ เฉลยกิจกรรมที่ ๑ หนังสือส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ของนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เล่มท่ี ๑ คานาม คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นเติมคาํ นามลงในช่องวา่ งของสํานวนไทยตอ่ ไปนี้ ๑. เอา ปลาย่าง ไปฝาก แมว ฟกั พันรา้ น ๒. ข่ี ช้าง จับ ตั๊กแตน ๓. มอื ไม่พาย อย่า เอา เท้า ราน้ํา ๔. แกว่งเท้าหา เสี้ยน ๕. เอาหูไป นา เอา ตา ไปไร่ ๖. เอา ทอง ไปลู่ กระเบอ้ื ง ๗. หุงข้าวประชด หมา ป้งิ ปลาประชด แมว ๘. น้ําพึ่งเรอื เสอื พึ่งปาุ ๙. เห็น กงจกั ร เปน็ ดอกบวั ๑๐. เรือล่มใน หนอง ทองจะไปไหน ไมย่ ากเลยใชไ่ หมค่ะ

๓๔ เฉลยกิจกรรมท่ี ๒ หนงั สือส่งเสริมการอ่านจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ เล่มท่ี ๑ คานาม คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนขีดเสน้ ใต้คาํ นามจากข้อความที่กําหนดใหต้ อ่ ไปนี้ ๑. โรงเรยี นเปน็ สถานท่ใี ห้ความรู้ ๒. ทอรุ้งเป็นเดก็ ที่ ขยนั อดทน ต่ืนแตเ่ ชา้ ๓. ดรมี เปน็ เด็ก โผงผาง ใจรอ้ น เสียงดงั พดู จาตรง ๆ ๔. ฟ้าใสเปน็ เด็ก นา่ รกั สุภาพ พดู จาออ่ นหวาน ๕. คณะกรรมการศกึ ษาคณะน้ี ได้รบั การแต่งต้งั แล้ว ๖. การออกกาลังกายกระทาํ ได้หลายวิธีเชน่ การเดิน การวิง่ ๗. นักเรยี นช้นั ป. ๖/๑ มีความขยัน ๘. คณุ แม่ซ้อื ปากกาหลายดา้ ม ๙. นกั เรียนหลายคนช่วยคณุ ครเู รียงหนงั สอื ๑๐. อัญชลีได้รับการคดั เลอื กเปน็ ตวั แทนหอ้ ง ป. ๖/๑ ตอบถูกทกุ ข้อแน่ ๆ เลย

๓๕ เฉลยกิจกรรมที่ ๓ หนงั สอื สง่ เสริมการอ่านจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ เลม่ ที่ ๑ คานาม คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนหาคํานามจากประโยคทกี่ าํ หนดให้ และจาํ แนก หน้าท่ขี องคํานามจากประโยคต่อไปนี้ ประโยค คานามในประโยค หนา้ ท่ี ประธาน กรรม ตัวอย่าง นักเรียน , หนังสือ นักเรยี น หนังสือ นักเรียนเรียนหนงั สือ พอ่ , ปลานิล พอ่ ปลานลิ คุณครู , นทิ าน คุณครู นิทาน ๑. พอ่ ชวนกินปลานลิ หนอน , ใบไม้ หนอน ใบไม้ ๒. คุณครเู ล่านิทาน คณุ แม่ , ตลาด คณุ แม่ ตลาด ๓. หนอนกินใบไม้ แมว , หนู แมว หนู ๔. คณุ แม่ไปจ่ายตลาด เด็กๆ , เจ้ามอม เดก็ ๆ เจา้ มอม ๕. แมวว่ิงไลห่ นู ณัฐ , จดหมาย ณัฐ จดหมาย ๖. เดก็ ๆ เลน่ กบั เจ้ามอม ปาู กัลยา , ขับรถ ปาู กลั ยา ขบั รถ ๗. ณฐั อ่านจดหมาย พ่อ , มะมว่ งนํ้าดอกไม้ พอ่ มะมว่ งนํ้าดอกไม้ ๘. ป้ากัลยา ขบั รถ ตดิ๊ ตี่ , โรงเรียน ติด๊ ต่ี โรงเรียน ๙. พ่อสอยมะมว่ งนา้ ดอกไม้ ๑๐. ต๊ดิ ต่ีเดินไปโรงเรยี น

๓๖ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๔ หนังสอื สง่ เสริมการอ่านจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ของนกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เลม่ ที่ ๑ คานาม คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นฝกึ ทักษะการอ่านจับใจความสาํ คญั จากนิทานคําไทย เรื่อง คาํ นาม จากน้ันเติมคําตอบลงในช่องว่าตอ่ ไปน้ี แบบประเมินการรว่ มกจิ กรรม ผปู้ ระเมิน นกั เรียน เพื่อน ครู คาชแี้ จง ใหท้ ําเคร่ืองหมายถูกต้อง  ลงในช่องวา่ งระดบั คะแนนทต่ี รงกับความเป็นจริง มากทสี่ ดุ โดยจัดระดับคุณภาพเปน็ ๓ ระดับ ตามเกณฑ์ต่อไปนี้ ๓ หมายถึง ระดบั ดี ๒ หมายถงึ ระดับพอใช้ ๑ หมายถึง ระดบั ควรปรับปรงุ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ๓๒๑ ๑. ระบุตัวละครหรือผู้ท่เี กย่ี วข้องได้ทั้งหมด ๒. อธบิ ายถงึ สงิ่ ทเ่ี กดิ ข้ึนในเรื่อง ๓. อธบิ ายเหตผุ ลที่ทําให้เกดิ เหตุการณข์ น้ึ ๔. ระบุสถานทีเ่ กดิ เหตุในเร่ือง ๕. สรปุ ประเดน็ สําคัญและข้อคิดท่ไี ดจ้ ากเรื่อง คะแนนรวมแตล่ ะช่อง สรปุ คะแนนท่ีได้ (หารดว้ ยสอง) เกณฑก์ ารประเมิน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ผลการประเมนิ นกั เรียนได้คะแนน ๘ คะแนนขึน้ ไป จึงถือว่าผ่าน  ผา่ น  ไมผ่ ่าน

๓๗ เฉลยกจิ กรรมที่ ๕ หนังสือสง่ เสริมการอ่านจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ เล่มท่ี ๑ คานาม คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นวงกลมคํานามในกลอ่ งปรศิ นาอกั ษรไขว้ ก ติ ป ร า ส า ท ต ดิ น ส อ ด ค พ ง ส ม ร ณ์ อ ส น ย ฬ ท่ ข ร ฮ ส ถ า นี ค พ ฬ บ ว า สะฒอ เ ยสฬรภบห ท ค์ อ เ พ ล ง ช า ติ ไ ท ย า ก์ ภั ค ต นิ ข ง ค์ อ น ฟ ภ ง า ย ส พั ท ย า นุ ง า ว ส ม ฑ ม อ า า ณ ส ค ค์ ย ส ห ใ ม ณี ด มุ น ก ส ส ค์ อาํ ย ม จ้ ค ด ว ง อ า ทิ ต ย์ เ ฬ ส าจสค เ งยบลนภดก ดิ ด เ ส ภ ข ช ท ฦ ฬ อ ท ม โ ร งพยาบาลฦอคง คานามทพ่ี บมี ๑๐ คา ไดแ้ ก่ ๑. ปราสาท ๒. พระอภัยมณี ๓. โรงพยาบาล ๔. สถานี ๗. ดวงอาทิตย์ ๘. นิทาน ๕. เพลงชาตไิ ทย ๖. นายอําเภอ ๙. พัทยา ๑๐. ดินสอ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook