Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ๒ คำสรรพนาม

๒ คำสรรพนาม

Published by krulaaong2525, 2021-05-25 09:43:53

Description: ๒ คำสรรพนาม

Keywords: หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสำคัญนิทานคำไทย

Search

Read the Text Version

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สาหรบั นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖

หนงั สือสง่ เสรมิ การอ่านจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย สาหรบั นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เลม่ ท่ี ๒ คาสรรพนาม นางละออง เพยี รสวสั ดิ์ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ โรงเรยี นสมบูรณ์ประชาสรรค์ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาสรุ าษฎรธ์ านี เขต ๓ สังกดั สานักงานการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ก หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ จะต้องผ่านการประเมินการอ่านจับใจความให้ได้ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากําหนด โดยสอดคล้องกับ สาระท่ี ๑ : การอ่าน ซ่ึงนับว่ามีความสําคัญอย่างย่ิงสําหรับนักเรียน เพราะการอ่านเป็นเคร่ืองมือใน การเรียนรู้ของทุกกลุ่มสาระ ทักษะการอ่านจึงมีความ จําเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่านท้ังอ่านออกเสียง อ่านจับใจความ รวมถึงการคิด วิเคราะห์สารที่ได้รับ แสดงความคิดเห็น นําประโยชน์จากการอ่านไปใช้ได้อย่างเหมาะสม และใช้ในการแสวงหาความรู้ต่อไป ดังน้ัน ผู้จัดทําได้สร้างหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ทังหมด เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่านภาษาไทย และเป็นเครื่องมือท่ีช่วยให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะ การอ่านจับใจความสําคัญ และเนื้อหาที่มีความหลากหลาย ตลอดจนมีกิจกรรมท่ีครอบคลุม ตามสาระการเรียนร้ทู ก่ี าํ หนดตามช่วงวัย ผู้จัดทํามุ่งหวังว่า หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ นี้ จะอํานวยประโยชน์แก่ผู้รักการอ่าน นักเรียน และผู้สนใจ เพื่อใช้ประกอบการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ในชั้นเรียนวิชาภาษาไทย หรือใช้ส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ประสทิ ธผิ ล ละออง เพยี รสวสั ดิ์

ข สําหรบั หนงั สือส่งเสรมิ การอ่านนทิ านภาษาไทย ชุด ชนดิ ของคาํ และสํานวน สุภาษติ ไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย สําหรบั นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ จาํ นวน ๘ เล่ม ดงั นี้ เลม่ ท่ี ๑ คาํ นาม เล่มท่ี ๒ คําสรรพนาม เลม่ ท่ี ๓ คํากรยิ า เลม่ ท่ี ๔ คําวเิ ศษณ์ เลม่ ท่ี ๕ คําสันธาน เล่มที่ ๖ คาํ บพุ บท เลม่ ที่ ๗ คาํ อทุ าน เล่มท่ี ๘ คําราชาศพั ท์ สําหรับหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ คือ เล่ม ๑ คํานาม ประกอบด้วย สาระสําคัญ สาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน นิทานคําไทย ใบความรู้ เรื่อง คํานาม และสํานวนสุภาษิตไทย แบบฝึกทักษะท่ี ๑ – ๘ และแบบทดสอบหลังเรียน กิจกรรมฝึกทักษะ มีจาํ นวน ๘ กจิ กรรม ประกอบดว้ ยดังน้ี กจิ กรรมที่ ๑ เติมคําลงในชอ่ งว่างของสาํ นวนไทย กิจกรรมที่ ๒ ขดี เสน้ ใต้คําจากข้อความที่กําหนดให้ กจิ กรรมท่ี ๓ หาคําจากประโยคทีก่ ําหนดให้ และจาํ แนกหน้าทีข่ องคํา กิจกรรมที่ ๔ การอ่านจับใจความสําคัญจากนิทานคําไทย จากน้ันเติมคําตอบ ลงในช่องวา่ ง กจิ กรรมที่ ๕ วงกลมคําในกลอ่ งปริศนาอักษรไขว้

ค กจิ กรรมท่ี ๖ แตง่ ประโยคโดยใช้คาํ ทก่ี าํ หนดให้ กิจกรรมท่ี ๗ เติมสาํ นวน และความหมายให้ตรงกบั ภาพทกี่ ําหนด กิจกรรมที่ ๘ เลือกสํานวนสุภาษิตไทยที่ช่ืนชอบ บอกความหมาย เปรียบเทียบ และยกตวั อย่างการใชใ้ หถ้ กู ต้อง พร้อมท้ังวาดภาพประกอบ กจิ กรรมที่ ๑ – ๘ ทั้งหมดมีการกาํ หนดการใหค้ ะแนนในภาคผนวกไว้ชดั เจน แบบทดสอบยอ่ ยกอ่ นเรยี น และแบบทดสอบย่อยหลังเรียน เร่ือง คํานาม จํานวน ๑๐ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน ถ้านกั เรียนตอบถกู จะได้ ๑ คะแนน ถ้าตอบผิด หรอื ไมไ่ ด้ตอบ จะได้ ๐ คะแนน เปน็ แบบปรนยั ซง่ึ มีตวั เลอื ก ๔ ตวั เลอื ก คือ ขอ้ ก, ข, ค และ ง รวมเป็น ๑๐ คะแนนเต็ม ทั้งน้ี หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ เป็นสื่อแบบ E-Book มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถสแกนผ่าน QR-Code หรือเข้าผ่านลิงค์ เว็บไซด์ เพอื่ ใชง้ านตามปกติ พร้อมกับรปู เล่มจรงิ ตามภาพ QR-Code และลิงค์ออนไลน์ที่ แนบน้ี https://pubhtml๕.com/homepage/elli QR-Code

ง ๑. ศึกษาและทําความเข้าใจคู่มือการใช้และหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สําคัญนิทานคําไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๖ เลม่ น้ี ให้เขา้ ใจกอ่ นนําไปใช้งาน ๒. จัดเตรียมหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หรือ อพั เดทระบบหนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ในเว็บไซตใ์ หเ้ รียบรอ้ ยกอ่ นให้นกั เรียนเข้าเรียนรู้ ๓. แนะนําการใช้งานหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบ อเิ ล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สําหรบั นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ๔. ให้นักเรียนลงมือทําแบบทดสอบก่อนเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับ ใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับ นักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๕. เปิดโอการสให้นักเรียนศึกษาเน้ือหา หรือหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สาํ คัญนทิ านคาํ ไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ดว้ ยตนเอง ตามกระบวนการเรียนรู้ที่กําหนด ๖. ให้นักเรยี นทบทวนความรู้ ความเข้าใจด้วยการทํากจิ กรรมฝึกทักษะให้ครบถ้วน ๗. ให้นักเรียนลงมือทําแบบทดสอบหลังเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับ ใจความสําคัญนิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับ นักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๘. นาํ นกั เรยี นตรวจคาํ ตอบและเฉลยคาํ ตอบท้ังหมด เพือ่ บนั ทกึ คะแนน หมายเหตุ : หนังสือส่งเสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนิดของคําและสํานวน สุภาษิตไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ นี้ นักเรียนสามารถกลับมาเรียนรู้และทบทวนได้ภายหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว หากนักเรียน ไมเ่ ขา้ ใจหรือต้องการทบทวนเน้ือหานอกเวลาเรียน สําหรับกิจกรรมระหว่างเรียนอาจมีท้ัง แบบเดี่ยวและกลุ่ม

จ ๑. ศึกษาและทําความเข้าใจคําชี้แจงหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญ นิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เลม่ นี้ ใหเ้ ข้าใจก่อนนาํ ไปใชง้ าน ๒. ฟังคําแนะนําการใช้งานหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทานคําไทย แบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาํ หรับนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ๓. ทําแบบทดสอบก่อนเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญนิทาน คําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถม- ศกึ ษาปีที่ ๖ ๔. เปิดโอการสให้นักเรียนศึกษาเน้ือหา หรือหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความ สาํ คญั นทิ านคําไทยแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ดว้ ยตนเอง ตามกระบวนการเรียนรู้ทีก่ ําหนด ๕. นักเรียนทบทวนความรู้ ความเขา้ ใจดว้ ยการทาํ กจิ กรรมฝกึ ทักษะใหค้ รบถ้วน ๖. ทําแบบทดสอบหลังเรียนประจําหนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคัญ นิทานคําไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถม- ศกึ ษาปีท่ี ๖ ๗. นํานกั เรียนตรวจคาํ ตอบและเฉลยคาํ ตอบทง้ั หมด เพื่อบันทกึ คะแนน หมายเหตุ : หนังสือส่งเสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนิดของคําและสํานวน สุภาษิตไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ น้ี นักเรียนสามารถกลับมาเรียนรู้และทบทวนได้ภายหลังจากท่ีเรียนเสร็จแล้ว หากนักเรียน ไม่เขา้ ใจหรือต้องการทบทวนเน้ือหานอกเวลาเรียน สําหรับกิจกรรมระหว่างเรียนอาจมีท้ัง แบบเด่ยี วและกลุ่ม

ฉ ขอ้ ควรระวังและปฏิบตั กิ ่อนการดาเนนิ การสอน ๑. ศึกษาแผนการจัดการเรยี นรู้อย่างละเอยี ด ๒. เตรียมอปุ กรณ์ สอื่ การเรยี นการสอนให้เรียบร้อย ๓. ศึกษารายละเอยี ดหนังสอื ส่งเสริมการอ่านจับใจความสําคญั นิทานคําไทย แบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กอ่ นการเรียนรู้ ๔. กําหนดบทบาทสมาชิในกลุ่มทราบถงึ การปฏิบตั ิตมบทบาทต่าง ๆ โดยสมาชิก ทุกคนในกลมุ่ ต้องไดท้ ําทุกบทบาท ๕. ครผู ้สู อนช้แี จงวิธีการใช้หนงั สือส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสําคัญนทิ านคําไทย แบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และกจิ กรรมท่ีนักเรียนต้องปฏบิ ัติ ข้อควรระวงั และปฏบิ ตั ขิ ณะดาเนินการสอน ๑. ชีแ้ จงการใช้หนังสือสง่ เสริมการอ่านจบั ใจความสําคญั นทิ านคําไทยแบบ อิเลก็ ทรอนิกส์ให้นักเรยี นทุกคนทราบ ๒.ดาํ เนนิ กิจกรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ เพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั จุดประสงค์ การเรียนรู้ เน้ือหาและเวลาทก่ี าํ หนด ๓. ครูผู้สอนตอ้ งให้คาํ แนะนําและคอยดแู ลนักเรียนอย่างใกล้ชดิ ๔. ใหน้ ักเรยี นเรียนรจู้ ากหนังสือส่งเสรมิ การอ่านจบั ใจความสําคัญนิทานคาํ ไทย แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ตามขน้ั ตอนอยา่ งเคร่งครัดและมคี วามซือ่ สตั ย์ตอ่ ตนเอง ๕. ตรวจสอบการทํางานของนกั เรียนและสรปุ บทเรียนร่วมกันนักเรยี น ขอ้ ควรระวงั และปฏบิ ัตเิ มือ่ ดาเนินการสอนสิ้นสุด ๑. ครูผู้สอนให้นกั เรียนทําแบบทดสอบหลังเรยี น ๒. ตรวจผลงานจากการทําแบบทดสอบและกจิ กรรมระหวา่ งเรียน ๓. ถ้านักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ท่ีระบุไว้ ครูควรให้นกั เรียนศึกษาและทบทวนเนือ้ หา ใหมอ่ ีกครั้งแล้วทําแบบทดสอบหลังเรียนใหผ้ ่านเกณฑ์ทกี่ ําหนดไว้

ช มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั ๑. อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง (ท ๑.๑ ป.๖/๑) ๒. อธิบายความหมายของคาํ ประโยค และสํานวนจากเร่ืองทอี่ ่าน (ท ๑.๑ ป.๖/๒) ๓. อ่านเรื่องสนั้ ๆ ตามเวลาที่กาํ หนดและตอบคําถามจากเรอื่ งทีอ่ ่าน (ท ๑.๑ ป.๖/๓) ๔. สรุปความรูแ้ ละข้อคิดจากเร่อื งท่อี ่านเพ่อื นําไปใช้ในชีวติ ประจําวัน (ท ๒.๑ ป.๖/๖) ๕. ระบุชนิดและหนา้ ทข่ี องคําในประโยค (ท ๔.๑ ป.๖/๒) ๖. ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคํา (ท ๔.๑ ป.๖/๓) ๗. แต่งประโยคได้ถกู ตอ้ งตามหลักภาษา (ท ๔.๑ ป.๖/๔) ๘. แตง่ บทร้อยกรองและคาํ ขวัญ (ท ๔.๑ ป.๖/๕) ๙. บอกความหมายของสาํ นวน (ท ๔.๑ ป.๖/๖) สาระสาคญั คาํ สรรพนาม เปน็ คําทีใ่ ช้แทนคํานามทผ่ี ู้พูด หรือผู้เขียนไดก้ ล่าวแล้ว หรือ เป็นที่เข้าใจกนั ระหว่างผฟู้ งั กบั ผ้พู ูด เพื่อไม่ต้องกล่าวคํานามซ้ํา เช่น คุณ ท่าน เธอ ฉัน ผม ท่ี ซง่ึ อัน ตา่ ง บ้าง กัน นี่ น่ัน ใคร ผู้ใด สิ่งใด อนั ไหน เป็นตน้ ตัวอย่าง ความหมายสํานวนสุภาษิตไทย และการวิเคราะห์ เปรยี บเทียบสํานวน ที่เป็นคําพงั เพยและสภุ าษิตไทย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สามารถบอกความหมาย และประเภทของคาํ สรรพนาม และสํานวนสุภาษิตไทยได้ (K) ๒. สามารถจําแนกชนิดของคําสรรพนามได้ (K) ๓. สามารถอธบิ ายหน้าท่ีของคําสรรพนามได้ (K)

ซ ๔. สามารถเลอื กใชส้ ํานวนสุภาษิตไทยได้ถกู ต้อง (P) ๕. สามารถเลือกใช้คําสรรพ-นามได้ถกู ต้อง (P) ๖. สามารถวิเคราะห์ เปรียบเทียบสํานวนทเ่ี ป็นคําพังเพยและสภุ าษิตไทยได้ (P) ๗. สามารถแตง่ ประโยคโดยใช้คําสรรพนาม และสํานวนสภุ าษิตไทยท่กี ําหนดใหไ้ ด้ (P) ๘. ทํางานทีไ่ ด้รับมอบหมายเสร็จตามเวลาท่กี าํ หนด และมีพฤตกิ รรมที่ดใี นการ ทาํ งานเปน็ กลุ่ม (A) สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายของคําสรรพนาม ๒. ประเภทของคาํ สรรพนาม ๓. หน้าทข่ี องคาํ สรรพนาม ๔. ลกั ษณะการใชค้ าํ สรรพนามแตล่ ะประเภท ๕. การแตง่ ประโยคจากคําสรรพนาม ๖. สํานวนสุภาษติ ไทย คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. ซือ่ สตั ยส์ ุจริต ๓. มวี ินยั ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง ๖. มุ่งมนั่ ในการทาํ งาน ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๘. มีจติ สาธารณะ สมรรถนะสาคญั ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด

ฌ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ภาระและชิ้นงาน ๑. หนังสอื ส่งเสริมการอา่ นนทิ านภาษาไทย ชดุ ชนิดของคําและสํานวนสุภาษิตไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย สาํ หรับนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กิจกรรมท่ี ๑ เติมคําลงในชอ่ งว่างของสํานวนไทย กิจกรรมท่ี ๒ ขีดเส้นใต้คําจากขอ้ ความท่ีกาํ หนดให้ กิจกรรมที่ ๓ หาคาํ จากประโยคทกี่ ําหนดให้ และจําแนกหน้าท่ขี องคํา กิจกรรมท่ี ๔ การอ่านจับใจความสําคัญจากนิทานคําไทย จากนั้นเติมคําตอบ ลงในช่องว่าง กิจกรรมท่ี ๕ วงกลมคาํ ในกล่องปริศนาอกั ษรไขว้ กจิ กรรมท่ี ๖ แตง่ ประโยคโดยใช้คาํ ทก่ี าํ หนดให้ กจิ กรรมที่ ๗ เตมิ สํานวน และความหมายใหต้ รงกับภาพท่กี าํ หนด กิจกรรมท่ี ๘ เลือกสํานวนสุภาษิตไทยท่ีชื่นชอบ บอกความหมาย เปรียบเทียบ และยกตวั อยา่ งการใช้ให้ถูกต้อง พรอ้ มท้งั วาดภาพประกอบ ๒. แบบทดสอบยอ่ ยกอ่ นเรียนและหลงั เรียน เรื่อง คําสรรพนาม

ญ ปกใน หน้า คํานํา ก คาํ ช้แี จง ข หนังสือสง่ เสริมการอ่านนิทานภาษาไทย ชุด ชนดิ ของคําและสํานวนสภุ าษิตไทย ค กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สําหรับนักเรียน ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ สารบญั จ เล่มที่ ๒ คําสรรพนาม ซ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑ นทิ านส่งเสริมคาํ นาม ๒ ใบความรู้ เรือ่ ง คําสรรพนาม ๕ สาํ นวนสุภาษิตไทย ๑๑ กจิ กรรมฝึกทกั ษะ ๑๓ ๑๙ กจิ กรรมที่ ๑ ๒๐ กจิ กรรมที่ ๒ ๒๑ กิจกรรมท่ี ๓ ๒๒ กิจกรรมที่ ๔ ๒๔ กจิ กรรมที่ ๕ ๒๖ กจิ กรรมที่ ๖ ๒๗ กิจกรรมท่ี ๗ ๒๘ กจิ กรรมท่ี ๘ ๒๙

แบบทดสอบหลังเรยี น ฎ ภาคผนวก หน้า เฉลยกจิ กรรมที่ ๑ ๓๑ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๒ ๓๔ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๓ ๓๕ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๔ ๓๖ เฉลยกิจกรรมท่ี ๕ ๓๗ เฉลยกจิ กรรมที่ ๖ ๓๘ เฉลยกิจกรรมท่ี ๗ ๓๙ เฉลยกจิ กรรมที่ ๘ ๔๐ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น ๔๑ บรรณานุกรม ๔๓ ประวตั ิยอ่ ผู้จัดทาํ ๔๔ ๔๕ ๔๖



๒ แบบทดสอบก่อนเรียน หนงั สือสง่ เสรมิ การอ่านจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สาหรับนกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลม่ ท่ี ๑ คานาม คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนทาํ เครื่องหมาย () กากบาททับหนา้ คําตอบข้อที่ถกู ต้องท่ีสุด ๑. ขอ้ ใดเปน็ คําสรรพนามช้ีระยะ ก. ใครน่ะเห็นแต่ไกล ข. นักเรยี นวิง่ เลน่ กัน ค. น่ันมาแต่เชา้ เชยี ว ง. กินนใี่ ห้หมด ๒. คําสรรพนามในขอ้ ใดทําหนา้ ที่เปน็ กรรม ก. คณุ สมชายเขาไมค่ อ่ ยตรงเวลาเลย ข. คุณยา่ ท่านไมใ่ คร่ได้พักผอ่ น ค. พระคณุ เจา้ ไปไหนมาคะ ง. คุณพ่อตมี ันเสยี งดังสน่นั ๓. ขอ้ ใด คอื คาํ สรรพนามทใี่ ช้เช่ือมข้อความ ก. นิยมสรรพนาม ข. ประพนั ธสรรพนาม ค. ปฤจฉาสรรพนาม ง. วิภาคสรรพนาม ๔. คาํ ว่า “กัน” ในขอ้ ใดเปน็ คําสรรพนาม ก. กันจะพาไปหาพรุง่ น้ี ข. เขากันคิ้วให้เพ่ือน ค. เราเป็นเพ่ือนกนั ง. เดก็ กนั ไม่ให้ไกจ่ กิ ข้าว

๓ ๕. ข้อใดมีคาํ สรรพนามที่ใชเ้ ชอื่ มประโยค ก. ใครแต่งเร่อื งรามเกยี รติ์ ข. นํ้าฝนที่รองเอาไวใ้ ช้ด่มื ไม่ได้ ค. เธอทาํ อะไรอยู่ ง. ข้อสอบวิชาน้ียากจรงิ ๆ ๖. ขอ้ ใด คอื ความหมายของคําสรรพนาม ก. คาํ ที่ใชแ้ สดงอารมณ์ ความรู้สกึ ของผพู้ ูด ข. คาํ ที่ใช้แทนคาํ นาม ค. คําท่ใี ชแ้ ทนชือ่ ง. คาํ ทใ่ี ชแ้ ทนคํานามท่ีเป็นรปู ธรรม ๗. ขอ้ ใดเป็นคาํ สรรพนามเนน้ นามทอี่ ยูข่ า้ งหน้า ก. ทา่ นจะไปไหนครบั ข. ใครจะไปกบั ท่าน ค. นีค่ อื เพอ่ื นของทา่ น ง. คุณย่าท่านจะไปกบั ผม ๘. ขอ้ ใด คอื ความหมายสํานวนสุภาษิต “จบั ปลาสองมอื ” ก. คนท่มี งุ่ หวังอยากจะได้ทเี ดียวพร้อมๆ กัน ๒ อย่าง โดยไมค่ ํานึงว่าตนเอง มคี วามสามารถท่ีจะทําไดห้ รือไม่ ข. การจะทําอะไรกต็ ามควรจะทําดว้ ยความรอบคอบ ไม่ต้องรีบร้อนใหเ้ ก็บ รายละเอียดดๆี ค. ผหู้ ญงิ ทจี่ ะเลือกเปน็ คคู่ รอง ใหด้ กู ิริยามารยาทของมารดาของสตรีผนู้ ัน้ ง. ตัดความสัมพนั ธก์ นั แบบเด็ดขาดไมต่ ้องมาคืนดีกนั อีกเลยจากท่ีเคยรู้จกั หรือสนิทกนั

๔ ๙. ข้อใด คอื ความหมายสํานวนสุภาษติ “ชา้ ๆ ไดพ้ ร้าเลม่ งาม” ก. คนทม่ี ่งุ หวงั อยากจะไดท้ เี ดียวพรอ้ มๆ กัน ๒ อย่าง โดยไมค่ ํานงึ วา่ ตนเอง มคี วามสามารถที่จะทําได้หรือไม่ ข. การจะทําอะไรกต็ ามควรจะทําด้วยความรอบคอบ ไม่ตอ้ งรบี รอ้ นให้เก็บ รายละเอียดดีๆ ค. ผหู้ ญิงท่จี ะเลือกเป็นคูค่ รอง ใหด้ ูกิริยามารยาทของมารดาของสตรีผู้นั้น ง. ตดั ความสมั พนั ธก์ ันแบบเด็ดขาดไมต่ ้องมาคนื ดีกนั อีกเลยจากท่ีเคยรจู้ ักหรือ สนทิ กนั ๑๐. ข้อใด คือ ความหมายสาํ นวนสุภาษติ “เดด็ บัวไม่ไว้ใย” ก. คนท่ีมงุ่ หวังอยากจะได้ทีเดียวพร้อมๆ กัน ๒ อย่าง โดยไมค่ ํานึงวา่ ตนเอง มคี วามสามารถท่ีจะทําได้หรือไม่ ข. การจะทําอะไรกต็ ามควรจะทําดว้ ยความรอบคอบ ไม่ต้องรบี รอ้ นให้เก็บ รายละเอียดดีๆ ค. ผหู้ ญงิ ที่จะเลือกเป็นคคู่ รอง ใหด้ กู ริ ิยามารยาทของมารดาของสตรีผู้นั้น ง. ตดั ความสมั พนั ธก์ นั แบบเด็ดขาดไมต่ อ้ งมาคืนดีกนั อกี เลยจากที่เคยรจู้ กั หรอื สนิทกนั ขอให้โชคดีทุกคนนะ คะแนนเต็ม คะแนนทไ่ี ด้ เกณฑ์การประเมนิ ๑๐ __________ ๘



๖ ในห้องประชุมของโรงเรยี น นักเรียนทกุ คน และคุณครูทกุ ท่าน ตา่ งมาประชมุ พร้อมกัน เพื่อประกาศรางวัลนกั เรยี นดีเด่นแตล่ ะชน้ั เสียงของคุณครูประกาศบอกว่า “นักเรยี น ทกุ คนนัง่ เขา้ ที่อยา่ งเปน็ ระเบียบ นักเรียนทกุ คน หยุดคยุ และสง่ เสยี งดงั ได้แล้ว” “นกั เรยี นทุกคนฟังทางนี้ เอาล่ะเมือ่ ทกุ คน เข้ามาพรอ้ มกนั แล้วใหน้ ักเรียนน่ังสมาธิสงบจิต สงบ ใจก่อน ๕ นาที เอาล่ะ... เร่มิ ตน้ ได้” นักเรียนท่มี าถึงแล้วต่างพากนั นั่งสมาธิ ตามทีค่ ุณครูบอก ส่วนบางคนกเ็ พ่งิ เดนิ มาถงึ ที่ ห้องประชุม จงึ ค่อยๆ เดนิ เขา้ ไปหาทน่ี ง่ั อยา่ ง เป็นระเบียบ เมอ่ื นักเรยี นนงั่ สมาธแิ ลว้ คณุ ครู อภิปรายเกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ ทีน่ ักเรยี นควรมี แตค่ ณุ ครู พยายามพดู เนน้ ยา้ํ เรอ่ื งของความขยนั ซอื่ สัตย์ และมรี ะเบยี บวนิ ยั เพอื่ ให้นกั เรยี น ได้ตระหนักถึงความสําคัญ และสร้างพื้นฐาน อปุ นสิ ยั ท่ดี ี

๗ ระหวา่ งท่ีคุณครูเรมิ่ ประกาศรายช่ือ นกั เรยี นทมี่ ีสิทธิเข้ารับการคดั เลอื กเป็นนกั เรียน ดเี ดน่ ในแตล่ ะด้านนัน้ กลุ่มของวณั ชยั นภดล หมูตอน และเป็ด ต่างนั่งลุ้นตัวเกรงวา่ จะมีใคร ในหอ้ งเรียนของตวั เองไดเ้ ข้ารบั การคดั เลือก หรือไม่ วัณชยั : “จะมใี ครในห้องของพวกเรา ไดผ้ า่ นคดั เลือกบา้ งนะ” นภดล : “เออ... นน่ั ซิ นา่ จะเพ่ือนๆ ของเราบ้างนะ” หมูตอน : “คงเป็นฉนั แน่เลย ฮ่าฮา่ ๆๆๆ” เปด็ : “นนี่ ายฝันกลางวนั อยู่เหรอหมูตอนฮ่าฮ่าๆๆ...” เสียงประกาศการคดั เลอื กนักเรียนดีเด่น ด้านความขยนั ไดป้ ระกาศขึ้นแลว้ ทอรุ้ง : “หมูตอนดีใจด้วยนะ...” หมูตอนท่ีมวั แตค่ ุยกบั เพอ่ื นๆ ในแถว ผู้ชาย จงึ ไม่ทนั ไดฟ้ งั เสียงของคณุ ครปู ระกาศ เรียกชอ่ื ของตวั เอง “ฮะ.... ทอรุง้ เธอว่าใคร ได้คดั เลอื กนะ” ทอรุ้ง : “อตี าบา้ !... ก็นายไงหมตู อน ได้รบั คัดเลือกนกั เรยี นดเี ด่นด้านความขยัน มัวแต่คยุ กันอยนู่ ่ันแหละไมร่ เู้ รอื่ งอะไรเลยนะ ไปสริ บี ๆ ออกไปเด๋ียวคุณครรู อนาน” หมูตอน : “อา้ ว...! เหรอเราไดจ้ รงิ ๆ เหรอเนี๊ย... เย้ๆๆๆๆๆๆ ไปแลว้ ไปแล้วครบั ”

๘ เสียงประกาศการคดั เลือกนกั เรียนดีเด่น ดา้ นความซอ่ื สตั ย์ ได้ประกาศขน้ึ แลว้ นภดล : “เย้ๆๆ ดใี จจงั เราก็ได้รบั คัดเลอื กดว้ ย” วัณชยั เปด็ ทอรุ้ง และฟา้ ใส ต่างกด็ ใี จ กบั เพ่ือนในห้องเดียวกันท่ีผ่านการคัดเลอื ก “ดี ใจดว้ ยนะ ดใี จดว้ ยจ่ะ ดใี จดว้ ยเดอ้ เฮย้ ! ดใี จ ดว้ ย เย้ๆ” ทอรุ้ง : “ห้องเรยี นของเราไดร้ บั การคัดเลอื กตัง้ ๒ คนแลว้ นะดีใจจริงๆ” ฟา้ ใส : “ก็เพอ่ื นเราน่ารกั ทุกคนนนี่ า และเปน็ เดก็ ดีดว้ ย” แลว้ เสียงประกาศการคัดเลอื กนักเรยี นดีเด่นทมี่ ีระเบยี บวินยั และเหมาะจะเป็น ตัวอย่างทดี่ ีของนักเรียนคนอ่นื ๆ ไดป้ ระกาศข้ึนแลว้ ฟา้ ใส : “นี่ฉนั กไ็ ด้รบั การคดั เลือกอีก คนเหรอเนี๊ย เยๆ้ ดใี จจงั ” วัณชัย เป็ด และทอรุง้ : “ดใี จดว้ ยนะ เพอ่ื น ดใี จด้วยนะ ดใี จจริงๆ เลยเพ่ือนฉนั ไดร้ ับคดั เลอื กอกี คนแลว้ ” ทอรุง้ : “กฟ็ า้ ใสเปน็ คนนา่ รกั สุภาพ ออ่ นหวาน และเรยี บร้อยอีกด้วย ไม่แปลก เลยถา้ เธอจะผ่านการคดั เลือกได”้

๙ นกั เรยี นทุกคนทไ่ี ด้ผ่านการคดั เลือก ต่างออกมารายงานตัวที่หน้าห้องประชุมเพ่ือ ลงทะเบียนอยา่ งเป็นระเบียบ สมกบั ทีไ่ ดค้ ดั เลือก มาเป็นนักเรยี นดเี ดน่ ประจําโรงเรยี น ระหวา่ งนัน้ คณุ ครกู ็ประกาศ และ ประชาสัมพันธใ์ ห้ทกุ คนทราบถงึ ระเบียบวธิ ี การคดั เลือก และกล่าวชนื่ ชม พร้อมเปน็ กําลงั ใจให้ นกั เรยี นคนอนื่ ทีไ่ ม่ได้ผา่ นการคัดเลือกให้มกี ําลังใจ ในการปฏิบตั ิ และประพฤตติ นใหเ้ ป็นคนดมี ีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ ตามทส่ี งั คมต้องการ เม่ือทุกคนมาถงึ ห้องเรียนตา่ งนั่งพดู คุย และสนทนาชื่นชมเพ่ือนๆ “ดีใจด้วยนะ” “เธอเกง่ จัง” “นายเยี่ยมมากเลยเกง่ ท่ีสดุ ” ขณะเดียวกนั นนั้ พว่ี ารเี ดินมาหาวัณชัยท่ี ห้องเรียน “น้องวัณชัยๆ” เสยี งพวี่ ารีร้อง เรียก แตว่ ณั ชยั กลับไมไ่ ดย้ นิ และไมส่ นใจเอา แต่นัง่ เหงาเศร้าซึม พวี่ ารี : “เปน็ อะไรไปเหรอน้องวัณชัย อยา่ บอกนะว่าคิดมากเรือ่ งท่ตี ัวเองไมไ่ ดผ้ า่ นการคดั เลอื กในวนั น้ี”วัณชยั ทําหน้าเศร้า และทําเสียงงึมงํา : “เออ...คอื ว่า...” พ่วี ารี : “เอานะ่ ... อย่างไรนอ้ งวัณชยั ก็ยงั เป็นเด็กดีสําหรบั พ่ีอยู่แล้ว ถึงเราจะไดร้ ับรางวัลใดๆ แต่ถา้ เราต้ังใจ และเปน็ คนขยัน ซ่ือสตั ย์ และมี ระเบียบวนิ ัยอยเู่ สมอ ก็ถือได้ว่าเรากเ็ ปน็ คนเกง่ เหมอื นกัน” พว่ี ารพี ูดปลอบใจนอ้ งของตน “คนเรา ทุกคนเป็นคนเก่งได้ท้งั น้ันแตล่ ะคนกเ็ กง่ แตกตา่ งกัน ไป ยงั ไงน้องวณั ชยั ก็เปน็ คนเรียนเกง่ อยูแ่ ล้วอย่าไป คิดมากเลยนะ ไปกนิ ขนมกับพดี่ ีกว่า ไปกันเถอะ...”

๑๐ ใบความรู้ เรอ่ื ง คาสรรพนาม ๑. ความหมายของคาสรรพนาม คาสรรพนาม คือ คาํ ที่ใช้แทนคํานาม ท่ีผู้พูดหรือผู้เขยี นได้กล่าวแล้ว หรือเป็น ที่เขา้ ใจกนั ระหวา่ งผฟู้ งั และผู้พูด เพือ่ ไมต่ ้องกลา่ วคาํ นามนั้นซา้ํ อกี ๒. ประเภทของคาสรรพนาม คาสรรพนาม จําแนกประเภทได้ ดังนี้ ๑. บุรุษสรรพนาม คือ สรรพนามท่ีใช้แทนการพดู จา ๒. นยิ มสรรพนาม คือ สรรพนามใชช้ ้ีระยะ ๓. อนิยมสรรพนาม คือ สรรพนามบอกความไมเ่ จาะจง ๔. ปฤจฉาสรรพนาม คือ สรรพนามใช้ถาม ๕. วภิ าคสรรพนาม คือ สรรพนามใชช้ ซี้ ้ํา ๖. ประพนั ธสรรพนาม คือ สรรพนามใช้เชื่อมความ ๗. สรรพนามใช้เน้นนามตามความรู้สกึ ของผูพ้ ดู ๓. หน้าทขี่ องคาสรรพนาม ๑. บรุ ุษสรรพนาม คอื เป็นคําทใี่ ชแ้ ทนบคุ คล โดยอาจจะเป็นผู้พูด ผฟู้ งั หรอื ผทู้ ี่ถูกกลา่ วถึง ได้แก่ ๑.๑ สรรพนามบรุ ษุ ท่ี ๑ ใชแ้ ทนผพู้ ดู เชน่ ดิฉนั ผม ข้าพเจ้า ฉัน กระผม กระหม่อม ข้าพระพทุ ธเจ้า ๑.๒ สรรพนามบรุ ษุ ท่ี ๒ ใช้แทนผ้ฟู งั เช่น เธอ แก เอ็ง ท่าน คุณ ใต้เท้า พระคณุ เจ้า ๑.๓ สรรพนามบุรุษที่ ๓ ใช้แทนผถู้ กู กลา่ วถงึ เชน่ เขา มัน ท่าน เธอ พระองค์

๑๑ ๒. นยิ มสรรพนาม คือ เป็นคําสรรพนามที่กําหนดให้รคู้ วามใกล้ ไกล ของนามท่ี ผพู้ ดู กับผูฟ้ ังเขา้ ใจกันได้ ได้แก่ คําวา่ นี่ นน่ั โนน่ นี้ นนั้ โนน้ ๓. อนยิ มสรรพนาม คอื ใช้แทนนามซงึ่ ไม่กาํ หนดแนน่ อนลงไปวา่ เปน็ สิง่ นนั้ สิ่งน้ี ได้แก่ คาํ ว่า ใคร อะไร ผใู้ ด สงิ่ ใด ๔. ปฤจฉาสรรพนาม คือ เปน็ คาํ สรรพนามทม่ี คี วามหมายเปน็ คําถาม ไดแ้ ก่ คาํ ว่า ใคร อะไร ผ้ใู ด ส่งิ ใด อันไหน ๕. วภิ าคสรรพนาม คือ เป็นคําสรรพนามท่ีใช้แทนคํานามท่ีใช้กล่าวไปแลว้ โดยช้ซี าํ้ อีกคร้ังหน่ึง อาจแสดงความหมายรวม หรอื แสดงความหมายแยกต่อนามที่กลา่ ว แลว้ ไดแ้ ก่ คําวา่ ต่าง บ้าง กนั ๖. ประพันธสรรพนาม คือ มคี ณุ สมบัตใิ ชแ้ ทนคาํ นามคาํ ใดคําหน่งึ นําประโยค ย่อยที่บอกลกั ษณะหรอื ขยายคาํ นามน้นั ๆ เช่อื มประโยคยอ่ ยกบั ประโยคหลักให้กลาย เป็นประโยคความซอ้ น มกั ใชเ้ ช่อื มดว้ ยคําว่า ท่ี ซง่ึ อนั ๗. สรรพนามใช้เน้นนามตามความรสู้ กึ ของผพู้ ูด เชน่ มนั ท่าน ๔. ลักษณะการใช้คาสรรพนามแต่ละประเภท ๑. สรรพนามทใ่ี ช้แทนการพดู จา (บุรุษสรรพนาม) ๑.๑ สรรพนามบุรษุ ที่ ๑ ใชแ้ ทนผพู้ ูด ๑.๒ สรรพนามบรุ ษุ ที่ ๒ ใชแ้ ทนผฟู้ ัง ๑.๓ สรรพนามบรุ ษุ ท่ี ๓ ใช้แทนผถู้ กู กล่าวถงึ ๒. สรรพนามใช้ช้ีระยะ (นยิ มสรรพนาม) นสี่ มุดของฉัน นั่นโรงเรยี น

๑๒ ๓. สรรพนามบอกความไมเ่ จาะจง (อนิยมสรรพนาม) อะไร ๆ กก็ ินได้ ฉนั ไมเ่ หน็ ใครเลย ฉันไม่รวู้ ่า อะไร ตกลงมาโดนเสอ้ื ๔. สรรพนามใช้ถาม (ปฤจฉาสรรพนาม) ใครพดู ไหนบา้ นของเธอ เธอทราบอะไรมาบา้ ง ๕. สรรพนามใช้ช้ีซา้ (วภิ าคสรรพนาม) นักเรยี นตา่ งก็ทํางานของตน (ความหมายแยก หมายถงึ นกั เรียนแตล่ ะคน) กรรมกรเหล่านั้น บ้างก็เป็นหญิง บา้ งกเ็ ปน็ ชาย (ความหมายแยก) สุนัขกัดกนั (ความหมายรวม สุนัขมากกว่า ๑ ตวั ) ๖. สรรพนามเช่อื ม (ประพนั ธสรรพนาม) ฉันชอบม้าที่มีลวดลายสีขาวน้าํ ตาล นกั บวชท่ีเคร่งในวินัยน่านับถอื เราชอบท่องเทีย่ วไปตามต่างจังหวัดซงึ่ มีธรรมชาติสวยงาม เขากลับไปส่ดู ินแดนอันเป็นมาตภุ มู ิของเขา ๗. สรรพนามใช้เนน้ นามตามความรสู้ ึกของผพู้ ูด พระภิกษุทา่ นออกบณิ ฑบาตทุกเช้า คุณตาท่านไมส่ บายมาหลายวันแล้ว ไอด้ ่างมนั ชอบเหา่ คนแปลกหน้า ขโมยมันหักก่ิงไมด้ ว้ ย

๕. ตวั อยา่ งการแตง่ ประโยคจากคาสรรพนาม ๑๓ เขา การแต่งประโยค เขากาลงั วง่ิ ดิฉนั การแตง่ ประโยค ดฉิ ันชื่อกมลรัตน์ ใคร การแต่งประโยค ใครๆก็ชอบพ่ีใหญ่ โนน้ การแต่งประโยค ตรงโนน้ มีแม่น้า เธอ การแต่งประโยค เธอนสิ ัยดีมาก ฉัน, อัน, นั้น การแตง่ ประโยค ฉันชอบอันน้นั คุณ, อะไร การแต่งประโยค คุณชอบทานอะไร ไหน การแต่งประโยค ร้านหนงั สอื อยทู่ ่ีไหน ใคร การแตง่ ประโยค ใครมาหนา้ บ้าน ทา่ น, อะไร การแต่งประโยค ท่านตอ้ งการอะไร

๑๔ สุภาษติ หมายถงึ คาํ พูดท่พี ดู ออกมาเปน็ ทํานอง สํานวน โวหาร หรอื คําพงั เพย โดยมเี นื้อความ หรอื ความหมายทีด่ ใี ช้เป็นคําตกั เตือนสงั่ สอน และสะกดิ ใจใหร้ ะลึกถงึ และถูกหยบิ ยกมาเป็นตวั อยา่ งในการอบรมส่ังสอนลูกหลานหรือผู้ทม่ี ีอายนุ อ้ ยกว่า สานวน หมายถึง ถอ้ ยคําทเ่ี รียบเรียงเปน็ ขอ้ ความหรอื คาํ พดู ท่เี ปน็ ช้นั เชงิ ที่มี ลกั ษณะเฉพาะตวั มีความหมายเป็นนัยแฝงอยเู่ ป็นความหมายในเชิงอุปมาเปรยี บเทียบ ใช้คาํ ทไ่ี พเราะคมคายสละสลวยตอ้ งอาศยั การตคี วามจงึ จะเข้าใจ คาพงั เพย หมายถึง ถอ้ ยคาํ ท่มี ลี ักษณะเดียวกบั สํานวนแตกต่างจากสาํ นวนตรง ทมี่ จี ุดหมายเชิงสัง่ สอนแต่เป็นในทํานองเสยี ดสีประชดประชันสว่ นมากมีลกั ษณะเปน็ ข้อคดิ และมีความหมายลกึ ซง้ึ เนื้อความทีส่ งั่ สอนนน้ั ไม่ได้เปน็ ความจริง จบั ปลาสองมอื ความหมาย : คนทีม่ งุ่ หวงั อยากจะได้ทีเดียว พร้อมๆ กัน ๒ อยา่ ง โดยไม่คํานงึ ว่า ตนเองมี ความสามารถที่จะทําได้หรอื ไม่ สาํ นวนนี้เปรยี บเทียบ ได้กับการท่ผี ูช้ ายเราคดิ จะมภี รรยาทเี ดียว ๒ คน โดยใชว้ ิธเี ก้ยี วผหู้ ญงิ ๒ คน ในเวลาเดียวกัน เปรยี บเทยี บ : เปรียบไดก้ บั การใช้มือจับปลา ตวั เดยี วใหม้ น่ั ดกี วา่ จับดว้ ยมอื เดยี วหรอื ข้างละตัวซ่ึง อาจจะไม่ม่นั พอ ทาํ ให้ปลาท้ัง ๒ ตัวหลดุ ตกน้ําไปหมด ตัวอย่างการใช้สภุ าษติ : น้องแทน เป็นเดก็ ทช่ี อบเรียนหนงั สือมาก โดยเฉพาะ ภาษาอังกฤษและภาษาจีนจึงขออนุญาตคณุ แม่เพือ่ เรียนพิเศษทงั้ ๒ วชิ าในวนั เสาร์ คุณแม่ : น้องแทน คุณแม่ดีใจนะคะ ท่ลี กู สนใจเรียนเพ่ิมเติมแต่คุณแมว่ า่ เรียน ๒ วิชา ในเวลาเดียวกัน จะหนกั เกินไป ค่อยๆ เรียนทีละวชิ า จะไดจ้ าํ ไดแ้ มน่ ๆ นะคะลูก ถา้ นอ้ งแทนเรียนทง้ั ๒ วิชาพร้อมกัน จะเขา้ ทํานองจับปลาสองมอื เดยี๋ วจะไม่ได้

๑๕ ดสี ักวชิ านะคะ คุณแมว่ า่ แบง่ เวลาเรียน เป็นวันเสาร์เรยี นภาษาองั กฤษและวนั อาทติ ย์เรยี น ภาษาจนี ดีไหมคะนอ้ งแทนจะไดไ้ ม่เหน่อื ยมากและไดเ้ รียนอย่างเตม็ ที่ นอ้ งแทน : ไดค้ รับคณุ แม่นอ้ งแทนจะแบง่ เวลาเรยี นตามทค่ี ุณแมแ่ นะนํานะครับจะ ไดเ้ รียนอย่างสนุกและไมเ่ หนือ่ ยมากครับ ช้าๆ ได้พรา้ เลม่ งาม ความหมาย : การจะทาํ อะไรกต็ ามควรจะทําด้วยความรอบคอบ ไมต่ อ้ งรบี ร้อน ใหเ้ กบ็ รายละเอียดดๆี แล้วจะไดผ้ ลงานทอี่ อกมาดี และสมบูรณแ์ บบ เปรียบเทียบ : มาจากการท่ีจะตีพร้าสกั เล่ม หนง่ึ นน้ั อยา่ รบี รอ้ นดกี จ็ ะทาํ ใหพ้ รา้ มผี วิ ทไ่ี มเ่ นยี น และไมแ่ ขง็ แรง หากคอ่ ยๆ ตคี อ่ ยๆ ทาํ กจ็ ะทําให้พร้า มีความสวยงามมากข้ึน ตวั อย่างการใชส้ ภุ าษิต : คณุ ครูมอบหมาย การบ้านใหน้ ักเรยี นชัน้ ป. ๒ วาดภาพทะเลเมื่อถงึ บ้านในเย็นวนั นั้นนอ้ งแพรวาก็รีบกลบั มาว่าอย่าง รวดเรว็ เพอ่ื จะได้ดูรายการการ์ตนู ทีก่ ําลงั จะฉายใน ไม่กนี่ าทีขา้ งหนา้ คุณแมเ่ ห็นน้องแพรวาว่าอย่างเรง่ รีบ เพราะการต์ นู กําลังจะมาจึงเข้ามาตกั เตอื น คุณแม่ : นอ้ งแพรวาไมต่ อ้ งรีบขนาดน้ันก็ได้ลกู หนูมีเวลาอกี หลายชว่ั โมงทจ่ี ะวาด ภาพทะเลใหส้ วยงาม นอ้ งแพรวา : หนูจะรีบทาํ ใหเ้ สรจ็ ค่ะ จะได้มเี วลาดกู ารต์ ูนค่ะ คุณแม่ : ทาํ อย่างน้ันไมด่ นี ะคะลูก การทาํ อะไรแบบลวกๆ และเรง่ รีบมากๆ จะ ทําให้งานท่ีเรากําลงั ทาํ อยู่ออกมาไมด่ ี ตอนน้หี นกู าํ ลังวาดภาพอยู่ใชไ่ หมคะ ถ้าหนูรบี ทํา ภาพทไี่ ดอ้ าจจะไมส่ วยตามทีต่ ง้ั ใจ หนูจะตอ้ งใชจ้ นิ ตนาการ และให้เวลากบั การวาดภาพ มากข้ึนคอ่ ยๆ วาดไมต่ ้องเรง่ รีบให้เสรจ็ เหมอื นดงั สุภาษิตไทยท่ีว่า “ช้าๆ ไดพ้ ร้าเล่มงาม ยงั ไงละ่ คะ”

๑๖ ดูชา้ งใหด้ หู าง ดูนางใหด้ แู ม่ ความหมาย : ให้พิจารณาลกั ษณะบุคคล หรอื ผ้หู ญงิ ท่ีจะเลอื กเปน็ คู่ครอง โดยการเลือก ผหู้ ญงิ ทเี่ ปน็ ค่คู รองน้ัน ให้ดกู ิรยิ ามารยาท ของ มารดาของสตรีผูน้ นั้ ประกอบการพิจารณาด้วย เปรยี บเทยี บ : เปรียบเปรยถึงการดู ลกั ษณะชา้ งดี หรอื ชา้ งเผือกใหด้ ทู ี่หางท่ีปลายหาง จะมเี สน้ ขนสีขาว ถ้าหากเปน็ สีอ่ืนจะถอื ว่าไม่ใช่ ลักษณะที่ดี ตวั อยา่ งการใช้สภุ าษิต : สมชาตปิ รกึ ษา พ่อแม่เรอื่ งจะให้ไปสขู่ อลกู สาวเถา้ แกโ่ รงสขี ้าวในหมู่บ้านเดยี วกนั ดว้ ยความเป็นหว่ งลกู ชายพ่อและแมข่ องสมชาตจิ ึงได้บอกกบั สมชาติวา่ พ่อแม่ไม่ได้ห้ามเรอ่ื งการแต่งงานของลูก นะ แตก่ ารแต่งงานเปน็ เรื่องสาํ คัญอยากให้พิจารณาให้ดี โดยยึดถอื คําโบราณท่ีวา่ “ดชู า้ งให้ดหู าง ดนู างให้ดูแม่” ดว้ ยแลว้ กันนะลูก สมชาตจิ งึ ตอบกลับไปวา่ “ครับ แลว้ ผม จะพิจารณาตามทีค่ ณุ พ่อคุณแม่แนะนาํ มาครบั ” เด็ดบัวไม่ไว้ใย ความหมาย : การตดั ความสมั พนั ธก์ นั แบบ เด็ดขาดไมต่ ้องมาคืนดีกนั อีกเลยจากท่เี คยรู้จกั หรอื สนิทกัน เปรยี บเทยี บ : เปรยี บเปรยถึงการหกั ก้าน ดอกบวั ก็มักจะมเี ย่ือใยของดอกกบั การอยเู่ สมอ ไม่ ค่อยขาดจากการหกั ดอกบัวแล้วไม่เหลือใยไว้กจ็ ะถอื ว่าตัดขาดจากกันเด็ดขาด ตวั อยา่ งการใช้สภุ าษติ : เมื่อกอ่ น สุชาติ กับดวงใจเปน็ ค่รู ักทรี่ ักกันมากจนใครๆ ต่างพากนั อิจฉาแตพ่ อไมก่ ่ปี ผี ่านไปทั้ง ๒ คน ไดเ้ ลกิ รากันไป เน่ืองจากสุชาตไิ ดแ้ อบไปมีก๊ิกซ่อนไว้

๑๗ อกี คน จนดวงใจจบั ได้เลยขอเลิกกบั สชุ าตถิ งึ แม้จะมีโอกาสเจอกันทักไปก็ไมย่ อมทกั ทาย สุชาติทนั ทีไม่รจู้ ัก สชุ าติ : ดวงใจ สบายดีไหมไม่เจอกนั นานเลยนะ ดวงใจ : ....(เมินหนา้ ไม่ตอบคาํ ถาม) สชุ าติ : “อยา่ ทําแบบน้ีเลยจะตดั บัวไมไ่ วใ้ ยกนั เลยหรอื ” ดวงใจยงั คงไม่สนใจคําพดู ของสุชาติแล้วเดนิ หนไี ปปลอ่ ยใหส้ ุชาตยิ นื หน้าเศร้ามองดดู วงใจ เดินจากไปอยา่ งชา้ ๆ ตกกระไดพลอยโจน ความหมาย : จาํ เป็นที่จะต้องยอมเข้าไปเก่ยี วข้องกับเหตุการณ์ทเี่ กิดข้ึนอย่าง ไม่มีทางเล่ยี ง และมกั จะสอ่ื ไปในทางทมี่ ี ผลกระทบไมด่ ขี นึ้ เปรยี บเทยี บ : เปรียบเปรยถึงการกระทํา ทีผ่ ดิ พลาด คอื การตกกระไดกเ็ ลยกระโจนตามไป ดีกว่าทจ่ี ะสบื ลม้ แลว้ จะตอ้ งเจ็บหนกั ตัวอย่างการใช้สุภาษติ : เดก็ ชายแดง เปน็ นกั เรียนนสิ ัยดี ไม่เคยหนีเรยี นแตค่ ร้งั นี้ เดก็ ชายแดงตอ้ งไปพบครูฝา่ ยปกครอง เน่ืองจาก เด็กชายแดงไดห้ นีเรยี นวิชาภาษาไทยไปเท่ยี วกบั เพือ่ นอกี ๔ คน คณุ ครจู งึ ถามว่า “เดก็ ชายแดง เธอไม่เคยมปี ระวัตเิ รอ่ื งหนีเรียนทาํ ไมครั้ง นจี้ งึ ไดท้ าํ ล่ะ” เดก็ ชายแดงตอบว่า “คุณครคู รบั จริงๆ แล้วผมไมไ่ ดต้ อ้ งการจะหนีเรียนนะครับ แต่เพือ่ นๆ ขูว่ า่ จะเลกิ คบผมจงึ ตอ้ งยอมตกกระไดพลอยโจน คณุ ครูจงึ บอกว่า “ครงั้ นี้ครจู ะทาํ จดหมายเตอื นไว้ ก่อนถ้ามีครงั้ ต่อไป ครจู ําเปน็ ต้องเชิญผู้ปกครองของเธอมาพบครูหน่อยนะ เอา้ ...กลับไปเข้าชนั้ เรียนได้แล้ว”

๑๘ ตีตนไปก่อนไข้ ความหมาย : การวิตกกังวล หรอื แสดงอาการกลวั ก่อนทีเ่ หตุการณ์จึงจะเกดิ ขนึ้ ซ่งึ เหตุการณ์นนั้ อาจจะไม่เกดิ ขึ้นก็ได้ เปรียบเทียบ : เปรยี บเปรยถึงการกังวลจนเกนิ ไปถึงกบั ตอ้ งเป็นไข้ไปกอ่ นทงั้ ๆ ทีเ่ หตกุ ารณน์ ้นั ยงั ไม่ไดเ้ กดิ ข้นึ เลย ตัวอยา่ งการใช้สุภาษิต : สภุ ากงั วลใจเรื่องทําขอ้ สอบภาษาองั กฤษมาก เพราะ คดิ ว่าตัวเองจะตอ้ งสอบไดแ้ นๆ่ เพื่อนๆ จงึ ได้แตป่ ลอบใจวา่ “นี่สภุ าเธออย่าเพ่ิงตตี นไป กอ่ นไขเ้ ลยผลสอบยังไม่ออกมา ไม่แนอ่ าจจะไดค้ ะแนนสงู สุดก็เปน็ ไดใ้ ครจะไปรู้” สุภาจึงตอบวา่ “สาธุ ขอใหส้ อบผ่านทเี ถอะ ไม่งนั้ โดนคุณแมห่ ักตงั คค์ ่าขนมเทอม หนา้ แน่ๆ เลย” เพ่อื นๆ เห็นทา่ ทขี องสุภาทก่ี ลัวคุณแมข่ นาดน้ัน ก็อดขาํ กันไม่ได้จึงพากัน หัวเราะเสยี งดังจนสุดท้ายต้องเดินเลีย่ งหนไี ปหลังห้องทันที

๑๙ หนังสือสง่ เสริมการอา่ นจับใจความสาคัญ นิทานคาไทยแบบอิเล็กทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สาหรบั นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖

๒๐ กจิ กรรมท่ี ๑ หนังสือส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ของนักเรยี นช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ เลม่ ที่ ๒ คาสรรพนาม คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเติมคําสรรพนามลงในช่องวา่ งต่อไปน้ี ตัวอย่าง ปลากินลกู นํ้า ซง่ึ จะกลายเปน็ ยงุ ๑. ถา้ _______________________อยากไดน้ าํ้ แข็งกเ็ อาแกว้ มา ๒. เราตอ้ งพิจารณาตนเองกอ่ นจะโทษ____________________ ๓. นักรอ้ ง_________________ร้องประสานเสียงกันอย่างเต็มท่ี ๔. ________________________เปน็ มารดาของเดก็ ชายอนุชา ๕. ______________________เปน็ เครอื่ งเล่นวิดโี อใหมข่ องเขา ๖. ____________________ฟังปาฐกถาคราวน้ไี ม่ค่อยรู้เรอ่ื งครับ ๗. ________________ต้องมาให้ตรงเวลาและกลบั หลังเวลาเรยี น ๘. สุนัขเหา่ ________________________________อยู่หลงั บ้าน ๙. ฉนั ไม่เคยบอก___________________________แกเ่ ขาทัง้ ส้ิน ๑๐. รองเทา้ ____________________________ซ้อื มาใหม่อยใู่ ต้ตู้ คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๑ กจิ กรรมท่ี ๒ หนังสอื ส่งเสริมการอา่ นจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ของนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เล่มที่ ๒ คาสรรพนาม คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นขีดเสน้ ใต้คาํ สรรพนามจากข้อความต่อไปนี้ ตัวอย่าง วนั นี้ ฉัน สอบคณิตศาสตร์ ๑. อะไร อยู่บนศีรษะของเธอ ๒. เธอ , คุณ เคยพบเขา เมอ่ื ไร , ทีไ่ หน ๓. เกล้ากระหม่อม ขอถวายพระพรให้ ใตฝ้ ่าละอองธลุ ีพระบาททรงพระเจริญ ๔. คณุ ลงุ ทเ่ี ปน็ ทร่ี ักของพวกเราถงึ แก่กรรมเสยี แล้ว ๕. คุณแม่ ท่านสงั่ ให้ฉันรีบกลับบ้าน ๖. ไม่วา่ คุณจะให้ อะไร เขากย็ ินดีรับบรจิ าคเพราะเขายากจนมาก ๗. นักเรียน บ้าง อ่านหนงั สอื บ้าง ทําการบ้าน ๘. โน่น คือ ยอดเขาทีส่ ูงทีส่ ูงทส่ี ดุ มชี ื่อว่า “ดอยอินทนนท์” ๙. อะไร อยูใ่ นใจ อย่าปิดบงั ฉนั นะ ๑๐. นกั เรียนทุกคน ต่างตั้งอกตัง้ ใจทาํ ข้อสอบ คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๒ กจิ กรรมท่ี ๓ หนงั สือสง่ เสริมการอา่ นจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เล่มท่ี ๒ คาสรรพนาม คาชี้แจง ให้นักเรียนบอกชนิดของคําสรรพนาม และเขียนลงในแผนภาพต่อไปน้ี ชนดิ ของ คาสรรพ นาม คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ เกณฑก์ ารประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๓ กิจกรรมท่ี ๔ หนังสือส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ของนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ เล่มท่ี ๒ คาสรรพนาม คาชี้แจง ให้นกั เรยี นฝึกทกั ษะการอ่านจับใจความสาํ คญั จากนิทานคาํ ไทย เรื่อง คําสรรพนาม จากน้ันเตมิ คําตอบลงในชอ่ งว่าตอ่ ไปน้ี ระบุตวั ละครหรือผทู้ ่ีเกย่ี วข้องไดท้ งั้ หมด สง่ิ ท่ีเกิดขึ้นในเรื่อง เหตผุ ลทที่ ําใหเ้ กิดเหตกุ ารณ์ สถานท่ีเกดิ เหตุในเร่ือง ประเด็นสาํ คญั และข้อคิดที่ได้จากเร่อื ง คะแนนเต็ม คะแนนทไ่ี ด้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๕ __________ ๑๒

๒๔ กิจกรรมที่ ๕ หนงั สือสง่ เสริมการอ่านจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ เล่มท่ี ๒ คาสรรพนาม คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นวงกลมคาํ สรรพนามในกลอ่ งปริศนาอักษรไขว้ ข้ ติ เ ก ล้ า ก ร ะ ห ม่ อ ม า ค จ ง ส ม ร ณ์ อ ส น พ ฬ พ ข ภ ฮ ใ ต้ เ ท้ า พ ฬ ว ว ร สฑฒอ เ ย สฬ ร ภก ส ะ ค์ ก ส า ส ผ ม ดุ ะ ส์ เ ย พุ ก์ ย ค ต อ ข ท่ ค์ อ ง ร ย์ ท า ฮ ส ม ณ์ ง า นุ ง มุ า ส ธ ฑ ฬ อ า คุ ณ น ค ค์ ฬ ส ห เ ม ฉ ด มุ ส ก ส ส ค์ โ ย ม จ้ ค ช คุ ณ มั น ท อ เ อ่ ฬ ส า จ ม ค เ พ ร ะ คุ ณ เ จ้ า ดิ ฉั น ส ภ ผ ฮ ห ก ท ก ฬ ฮ ก ม ฬ ม พ น า ส ห์ โ อ ค ง

๒๕ ตัวอย่าง พวกเรา คาสรรพนามที่พบม_ี _________คา ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………… คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๖ กิจกรรมที่ ๖ หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ของนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เลม่ ท่ี ๒ คาสรรพนาม คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นแตง่ ประโยคโดยใช้คําสรรพนามทกี่ าํ หนดให้ ตวั อยา่ ง ต่าง = นักเรียน ตา่ ง กอ็ า่ นหนังสือ ๑. กนั =__________________________________ ๒. ท่ี =__________________________________ ๓. ฉัน =__________________________________ ๔. อะไร , เธอ =__________________________________ ๕. อนั =__________________________________ ๖. น่นั =__________________________________ ๗. เรา =__________________________________ ๘. เขา , ซง่ึ , เขา =__________________________________ ๙. ใคร , มัน =__________________________________ ๑๐. หลอ่ น , ท่ี =__________________________________ คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ เกณฑก์ ารประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๗ กิจกรรมที่ ๗ หนงั สือส่งเสรมิ การอา่ นจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ของนกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เล่มที่ ๒ คาสรรพนาม คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเติมสาํ นวน และความหมายให้ตรงกบั ภาพที่กําหนดให้ ตวั อยา่ ง สาํ นวน รกั ววั ให้ผกู รกั ลูกให้ตี ความหมาย หากลกู ทําผดิ หรือมพี ฤติกรรมท่ีไมด่ ี ไม่เหมาะสมกค็ วรอบรมส่งั สอนตักเตอื นและลงโทษ เมอ่ื กระทาํ ความผิดตามสมควร สาํ นวน ________________________________ ความหมาย ________________________________ ___________________________________________ ___________________________________________ สํานวน ________________________________ ความหมาย ________________________________ ___________________________________________ ___________________________________________

๒๘ สํานวน ________________________________ ความหมาย ________________________________ ___________________________________________ ___________________________________________ สํานวน ________________________________ ความหมาย ________________________________ ___________________________________________ ___________________________________________ สาํ นวน ________________________________ ความหมาย ________________________________ ___________________________________________ ___________________________________________ คะแนนเตม็ คะแนนทไี่ ด้ เกณฑ์การประเมิน ๑๐ __________ ๘

๒๙ กจิ กรรมที่ ๘ หนงั สือส่งเสรมิ การอ่านจับใจความสาคัญนิทานคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เล่มท่ี ๒ คาสรรพนาม คาช้ีแจง ให้นักเรียนเลือกสาํ นวนสุภาษติ ไทยทช่ี ื่นชอบ บอกความหมาย เปรียบเทยี บ และยกตัวอย่างการใช้ให้ถูกตอ้ ง พร้อมทงั้ วาดภาพประกอบใหส้ วยงาม ตัวอย่าง สานวน จบั ปลาสองมอื ความหมาย คนทีม่ งุ่ หวังอยากจะได้ทีเดียวพร้อมๆ กนั ๒ อย่าง โดยไม่คาํ นึงวา่ ตนเองมคี วามสามารถทจี่ ะทําไดห้ รอื ไม่ สํานวนน้ีเปรียบเทียบไดก้ ับการ ท่ีผู้ชายเราคดิ จะมภี รรยาทีเดยี ว ๒ คน โดยใช้วิธีเก้ียวผหู้ ญิง ๒ คน ในเวลา เดยี วกนั เปรยี บเทยี บ เปรยี บได้กบั การใชม้ ือจบั ปลาตัวเดียวใหม้ ่ันดกี ว่าจับด้วยมือเดียวหรอื ข้าง ละตวั ซึง่ อาจจะไมม่ ่ันพอ ทาํ ใหป้ ลาท้ัง ๒ ตวั หลดุ ตกนาํ้ ไปหมด ตวั อยา่ งการใชส้ ุภาษติ นอ้ งแทน เป็นเด็กทชี่ อบเรียนหนงั สอื มาก โดยเฉพาะภาษาองั กฤษ และภาษาจนี จงึ ขออนญุ าตคณุ แม่เพือ่ เรียนพิเศษทงั้ ๒ วชิ าในวนั เสาร์ คุณแม่ : นอ้ งแทน คณุ แม่ดใี จนะคะ ทล่ี ูกสนใจเรียนเพิ่มเติมแต่คณุ แม่ว่าเรยี น ๒ วิชา ในเวลาเดียวกนั จะหนกั เกินไป ค่อยๆ เรียนทีละวิชา จะได้จําไดแ้ มน่ ๆ นะคะลูก ถา้ นอ้ ง แทนเรยี นท้งั ๒ วิชาพร้อมกัน จะเขา้ ทาํ นองจับปลาสองมือเด๋ยี วจะไมไ่ ด้ดีสกั วชิ านะคะ

๓๐ คุณแม่ว่าแบ่งเวลาเรียน เปน็ วันเสารเ์ รยี นภาษาอังกฤษและวันอาทติ ย์เรียนภาษาจีนดไี หม คะน้องแทนจะไดไ้ ม่เหน่ือยมาก และได้เรียนอย่างเตม็ ที่ น้องแทน : ได้ครบั คุณแม่น้องแทนจะแบง่ เวลาเรยี นตามท่ีคณุ แมแ่ นะนาํ นะครบั จะไดเ้ รียน อยา่ งสนกุ และไมเ่ หน่ือยมากครบั สานวน ________________________________________________ ความหมาย ________________________________________________ ________________________________________________ เปรียบเทยี บ ________________________________________________ ________________________________________________ ยกตวั อยา่ งการใช้ ________________________________________________ คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ เกณฑ์การประเมิน ๑๕ __________ ๑๒

๓๑ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนงั สือส่งเสริมการอา่ นจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาหรับนกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เล่มท่ี ๒ คาสรรพนาม คาช้ีแจง ให้นักเรียนทําเคร่ืองหมาย () กากบาททับหน้าคําตอบข้อที่ถกู ต้องทส่ี ดุ ๑. ขอ้ ใดเป็นคาํ สรรพนามชีร้ ะยะ ก. กินนีใ่ ห้หมด ข. นกั เรียนวิ่งเลน่ กนั ค. นั่นมาแต่เชา้ เชียว ง. ใครนะ่ เห็นแตไ่ กล ๒. คาํ สรรพนามในข้อใดทําหนา้ ที่เป็นกรรม ก. คุณสมชายเขาไมค่ ่อยตรงเวลาเลย ข. คุณย่าท่านไมใ่ ครไ่ ดพ้ ักผ่อน ค. คณุ พอ่ ตมี นั เสยี งดงั สน่ัน ง. พระคุณเจ้าไปไหนมาคะ ๓. ข้อใด คือ คาํ สรรพนามทใ่ี ชเ้ ชือ่ มขอ้ ความ ก. นยิ มสรรพนาม ข. ประพนั ธสรรพนาม ค. ปฤจฉาสรรพนาม ง. วภิ าคสรรพนาม ๔. คาํ วา่ “กัน” ในข้อใดเป็นคาํ สรรพนาม ก. เขากันคว้ิ ให้เพือ่ น ข. กันจะพาไปหาพร่งุ นี้ ค. เราเปน็ เพอื่ นกนั ง. เดก็ กนั ไม่ให้ไก่จิกขา้ ว

๓๒ ๕. ข้อใดมีคําสรรพนามทใ่ี ชเ้ ช่อื มประโยค ก. ใครแตง่ เรอื่ งรามเกยี รติ์ ข. ข้อสอบวิชานี้ยากจริงๆ ค. เธอทาํ อะไรอยู่ ง. น้ําฝนท่ีรองเอาไว้ใชด้ มื่ ไมไ่ ด้ ๖. ข้อใด คือ ความหมายของคาํ สรรพนาม ก. คาํ ท่ีใช้แสดงอารมณ์ ความรสู้ กึ ของผู้พดู ข. คําท่ีใชแ้ ทนช่อื ค. คําท่ีใชแ้ ทนคาํ นาม ง. คาํ ท่ีใชแ้ ทนคํานามที่เป็นรูปธรรม ๗. ขอ้ ใดเป็นคําสรรพนามเน้นนามท่อี ยูข่ ้างหน้า ก. คณุ ย่าท่านจะไปกบั ผม ข. ใครจะไปกับท่าน ค. นค่ี อื เพือ่ นของท่าน ง. ท่านจะไปไหนครับ ๘. ข้อใด คอื ความหมายสํานวนสภุ าษติ “จบั ปลาสองมือ” ก. คนทม่ี ่งุ หวังอยากจะไดท้ เี ดียวพรอ้ มๆ กัน ๒ อย่าง โดยไม่คํานงึ วา่ ตนเอง มีความสามารถท่ีจะทําได้หรือไม่ ข. การจะทําอะไรก็ตามควรจะทาํ ด้วยความรอบคอบ ไม่ตอ้ งรีบร้อนใหเ้ ก็บ รายละเอยี ดดีๆ ค. ผูห้ ญิงที่จะเลือกเป็นคูค่ รอง ให้ดกู ิริยามารยาทของมารดาของสตรีผนู้ นั้ ง. ตดั ความสมั พันธ์กนั แบบเดด็ ขาดไม่ตอ้ งมาคนื ดกี นั อกี เลยจากทเ่ี คยรจู้ กั หรอื สนทิ กนั

๓๓ ๙. ข้อใด คอื ความหมายสํานวนสุภาษิต “ชา้ ๆ ได้พร้าเลม่ งาม” ก. คนทมี่ งุ่ หวังอยากจะไดท้ ีเดียวพรอ้ มๆ กัน ๒ อย่าง โดยไมค่ ํานึงว่า ตนเอง มคี วามสามารถท่ีจะทําได้หรือไม่ ข. การจะทําอะไรกต็ ามควรจะทาํ ดว้ ยความรอบคอบ ไมต่ อ้ งรีบรอ้ นใหเ้ ก็บ รายละเอียดดๆี ค. ผู้หญงิ ทจี่ ะเลือกเปน็ คูค่ รอง ใหด้ ูกิรยิ ามารยาทของมารดาของสตรีผ้นู ้นั ง. ตัดความสมั พนั ธ์กันแบบเดด็ ขาดไมต่ ้องมาคนื ดกี นั อีกเลยจากทเี่ คยร้จู ัก หรอื สนิทกนั ๑๐. ขอ้ ใด คือ ความหมายสํานวนสุภาษิต “เดด็ บัวไม่ไว้ใย” ก. ตัดความสัมพนั ธ์กันแบบเด็ดขาดไม่ตอ้ งมาคืนดีกนั อกี เลยจากทเี่ คยรู้จักหรือ สนทิ กัน ข. การจะทําอะไรก็ตามควรจะทาํ ด้วยความรอบคอบ ไมต่ ้องรีบร้อนใหเ้ ก็บ รายละเอยี ดดๆี ค. ผู้หญงิ ทจี่ ะเลอื กเปน็ คู่ครอง ใหด้ กู ิรยิ ามารยาทของมารดาของสตรีผู้นัน้ ง. คนท่มี ่งุ หวงั อยากจะไดท้ ีเดยี วพร้อมๆ กนั ๒ อย่าง โดยไมค่ าํ นึงว่า ตนเอง มคี วามสามารถท่ีจะทําไดห้ รือไม่ ขอใหโ้ ชคดีทกุ คนนะ คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ เกณฑก์ ารประเมิน ๑๐ __________ ๘

๓๔

๓๕ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑ หนงั สือสง่ เสรมิ การอา่ นจับใจความสาคญั นิทานคาไทยแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เล่มที่ ๒ คาสรรพนาม คาช้แี จง ให้นกั เรยี นเตมิ คาํ สรรพนามลงในช่องว่างต่อไปน้ี ๑. ถา้ เธอ อยากได้นํ้าแข็งกเ็ อาแกว้ มา ๒. เราต้องพจิ ารณาตนเองกอ่ นจะโทษ คนอ่นื ๓. นักรอ้ ง ตา่ ง รอ้ งประสานเสียงกนั อย่างเตม็ ท่ี ๔. เขา เป็นมารดาของเด็กชายอนชุ า ๕. ของชนิ้ นเ้ี ป็นเคร่อื งเล่นวิดโี อใหม่ของเขา ๖. ผมฟงั ปาฐกถาคราวนไ้ี มค่ ่อยรูเ้ รอ่ื งครบั ๗. นกั เรียน ตอ้ งมาให้ตรงเวลาและกลบั หลงั เวลาเรียน ๘. สุนัขเห่า แมว อยูห่ ลงั บ้าน ๙. ฉนั ไม่เคยบอก อะไร แกเ่ ขาทั้งสนิ้ ๑๐. รองเทา้ คู่น้ี ซ้อื มาใหม่อย่ใู ตต้ ู้ ตอบถูกทุกขอ้ แน่ ๆ เลย

๓๖ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๒ หนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ นจับใจความสาคัญนทิ านคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ เล่มที่ ๒ คาสรรพนาม คาชแี้ จง ให้นักเรียนขดี เส้นใต้คาํ สรรพนามจากข้อความตอ่ ไปนี้ ๑. อะไร อยบู่ นศีรษะของเธอ ๒. เธอ , คณุ เคยพบเขา เมอ่ื ไร , ที่ไหน ๓. เกลา้ กระหม่อม ขอถวายพระพรให้ ใตฝ้ ่าละอองธลุ ีพระบาท ทรงพระเจริญ ๔. คณุ ลุง ที่ เป็นท่รี กั ของพวกเราถึงแก่กรรมเสียแลว้ ๕. คณุ แม่ ท่าน ส่ังใหฉ้ ันรบี กลบั บา้ น ๖. ไม่ว่าคุณจะให้ อะไร เขาก็ยินดีรับบรจิ าคเพราะเขายากจนมาก ๗. นักเรยี น บ้าง อ่านหนังสอื บ้าง ทําการบ้าน ๘. โน่น คอื ยอดเขาท่สี ูงที่สงู ทีส่ ดุ มีชอื่ ว่า “ดอยอินทนนท์” ๙. อะไร อยูใ่ นใจ อย่าปิดบัง ฉัน นะ ๑๐. นกั เรยี นทกุ คน ต่าง ตั้งอกตง้ั ใจทําข้อสอบ ตอบถกู ทกุ ขอ้ ไหมค่ะ

๓๗ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๓ หนังสือส่งเสรมิ การอา่ นจับใจความสาคญั นทิ านคาไทยแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลม่ ที่ ๒ คาสรรพนาม คาช้แี จง ให้นกั เรยี นบอกชนิดของคําสรรพนาม และเขียนลงในแผนภาพตอ่ ไปนี้ ๑. บรุ ุษสรรพนาม ๒. นิยมสรรพนาม ๓. อนิยมสรรพนาม ๔. ปฤจฉาสรรพนาม ชนดิ ของ ๕. วภิ าคสรรพนาม คาสรรพนาม ๖. ประพนั ธสรรพนาม ๗. สรรพนามใช้เน้นนามตาม ความรสู้ กึ ของผู้พูด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook