1 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำ กลุม่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยีชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2รหัสวิชา ง31203 เวลา 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ศึกษาหลักการเบ้ืองต้นในการเขียนโปรแกรม โครงสร้างของการเขียนโปรแกรม องค์ประกอบของภาษา ตวั ดาเนนิ การและนิพจน์ คาสง่ั ภาษา ฟังกช์ น่ั และการประยุกตใ์ ชง้ าน โดยใช้กระบวนการคิดในการวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบโปรแกรม และกระบวนการปฏิบัติการเขยี นโปรแกรม การทดสอบโปรแกรม และการจัดทาเอกสารประกอบ เพื่อให้ผเู้ รียนไดเ้ รียนรกู้ ารเขียนโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง มีกระบวนการคิดและกระบวนการปฏิบัติในการเขียนโปรแกรมอยา่ งสร้างสรรค์ สามารถวิเคราะห์ ตดั สนิ ใจในการเลอื กปฏิบัติงานอย่างมีจริยธรรมคณุ ธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม ตลอดจนเช่ือมโยงความรแู้ ละนาความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธิบายภาษาคอมพวิ เตอร์ท่ใี ช้ในการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ได้ 2. เลือกประเภทของข้อมูลและตวั ดาเนินการในการเขียนโปรแกรมภาษาได้ 3. เขียนโปรแกรมภาษาแบบลาดบั ตามขั้นตอนการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ได้ 4. เขียนโปรแกรมภาษาแบบมที างเลอื กตามขน้ั ตอนการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ 5. เขียนโปรแกรมภาษาแบบทาซา้ ตามขัน้ ตอนการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ 6. ใช้โปรแกรมภาษาในการทาโครงงานได้
2 โครงสรำ้ งรำยวิชำ กำรเขียนโปรแกรมภำษำคอมพิวเตอร์ (ภำษำซ)ีรหสั วิชำ ง31203 ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 4 (ภำคเรยี นที่ 2 ) เวลำ 2 ช่ัวโมง ต่อสัปดำห์คะแนนเต็ม 100 คะแนน อัตรำส่วนคะแนนระหว่ำงภำคเรียนกบั ปลำยภำค 80 : 20ที่ ช่อื หนว่ ย ผลกำร สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนัก เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน1 ความรู้พื้นฐานการ ขอ้ 1 ขั้นตอนวิธีการทางคอมพิวเตอร์ ก่อนท่ีจะเขียน 4 5เขียนโปรแกรมและ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหน่ึง เพ่ือแก้ปัญหาการเขียนโปรแกรม ทางคอมพิวเตอร์ จะต้องศึกษาข้ันตอนวิธีการทางดว้ ย Dev C++ คอมพิวเตอร์ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องตาม ข้ันตอนวิธี ดังนี้ การวิเคราะห์งาน การเขียนแผนผัง การ เขียนโปรแกรม การทดสอบ แก้ไขโปรแกรม การจัดทา เอกสารประกอบ และการใช้โปรแกรม Dev C++ ซ่ึงเป็น โปรแกรมขนาดเล็กใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาซี ซ่ึง จะ ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย Preprocessor directives Global declarations The main() function-User-defined function Program comments2 ประเภทของข้อมูล ขอ้ 2 การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นจะต้อง มีการ 4 5 และตัวดาเนินการ ประ มวลผ ลกับ ข้อมูล โ ดยข้อมู ลจ ะถูกเก็บอยู่ใน หน่วยความจาของคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของตัวแปร การ ประกาศตัวแปรต่างๆ จะใช้หน่วยความจาไม่เท่ากัน และมี ช่วงของการเก็บข้อมูลไม่เท่ากัน ผู้เขียนโปรแกรมจะต้อง ทราบว่าข้อมูลที่ต้องการประมวลผลน้ันเป็นข้อมูลประเภท ใด และในการประมวลผลจะต้องมีการกระทากับตัวแปร ตา่ งๆ ตัวที่นามากระทาเรียกกวา่ ตัวดาเนินการซึ่งมีท้ังการ ดาเนินการทางคณิตศาสตร์และทางลอจิก ดังน้ันผู้เขียน โปรแกรมจะต้องทาความเข้าใจกับประเภทของข้อมูลและ การใช้ตัวดาเนินการจึงสามารถเขียนโปรแกรมให้ทางาน ความที่ต้องการได้
3ท่ี ช่ือหน่วย ผลกำร สำระสำคญั เวลำ น้ำหนัก เรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน3 ก า ร ท า ง า น แ บ บ ข้อ 3 รูปแบบการเขียนโปรแกรมท่ีง่ายท่ีสุดคือเขียนให้ 4 5ลาดบั ทางานจากบนลงล่าง เขียนคาสั่งเป็นบรรทัด และทาทีละ บรรทัดจากบรรทัดบนสุดลงไปจนถึงบรรทัดล่างสุด สมมุติ ให้มีการทางาน 3 กระบวนการ คือ อ่านข้อมูล คานวณ และพมิ พ์สอบกลางภาค ข้อ 1 -3 2 204 การทางานแบบมี ขอ้ 4 เขียนโปรแกรมเพื่อนาคา่ ไปเลอื กกระทาโดยปกติจะมี 10 20ทางเลือก เหตุการณใ์ ห้ทา 2 กระบวนการ คอื เง่ือนไขเป็นจริงและ เปน็ เทจ็ โดยมกี ารทางานแบบทางเลอื กเดยี วและสอง ทางเลือก5 ก า ร ท า ง า น แ บ บ ขอ้ 5 การทาซา้ เป็นหลกั การทีท่ าความเข้าใจไดย้ ากกว่า 2 8 15 ทาซ้า รปู แบบแรก เพราะการเขียนโปรแกรมแตล่ ะภาษา ผเู้ ขียน โปรแกรมตอ้ งจนิ ตนาการ ถงึ รปู แบบการทางาน เป็นการ 6 10 ทาซา้ แบบทราบจานวนครงั้ ทาซ้าจนพบเงอ่ื นไขอยา่ งใด อยา่ งหนึ่งจงึ หยดุ และแบบพบเง่ือนไขเปน็ จรงิ จึงทา 2 20 40 1006 โครงงาน ข้อ 6 โครงงานคอมพิวเตอร์เปน็ การนาความรู้ในด้านการเขยี น โปรแกรมมาใช้รว่ มกับอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อผลติ ผลงาน สาหรับแกป้ ญั หา นักเรยี นตอ้ งนาความรแู้ ละประสบการณ์ เพือ่ วางแผนการพฒั นาโครงงาน เปา้ หมายสูงสดุ ของการทา โครงงานคือการนาโครงงานไปใช้ไดจ้ ริง และกอ่ นให้เกดิ ประโยชนส์ าหรบั ผู้นาไปใช้สอบปลายภาค ขอ้ 1-5 รวมตลอดปี/ภำค
4กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ 1. กระบวนการกล่มุ 2. กระบวนการแกป้ ญั หา 3. กระบวนการทางานรว่ มกนักำรวดั และประเมนิ ผล 1. วธิ ีกำรวดั และประเมนิ ผล ดำ้ นควำมรู้ (K) - ทดสอบก่อนเรียน 20 ขอ้ - ตอบคาถามตามใบงาน - ทดสอบหลงั เรยี น 20 ข้อ ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำร (P) - สงั เกตพฤติกรรมการเรยี น - ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานกลุ่ม ด้ำนเจตคติ (A) - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบคุ คล - ประเมินผลการปฏบิ ัติงานกลุ่ม 2. เครอ่ื งมือกำรวัดและประเมนิ ผล 2.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี น 2.3 แบบประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานกลุ่ม 2.4 ใบงาน 2.5 แบบทดสอบหลังเรียน 3. เกณฑ์กำรวดั และประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมการเรยี น ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 80 2. ประเมินผลการปฏิบัติงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 3. ตอบคาถามตามใบงาน ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 80 4. ทดสอบหลังเรียน ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80
5แหลง่ เรียนรู้ / ส่ือกำรเรียนรู้ 3 คะแนน 1. ใบงาน 3 คะแนน 2. ใบความรู้ 3 คะแนน 3. หนงั สือเรยี น 3 คะแนน 4. สือ่ การเรยี นการสอน 3 คะแนน 5. บทเรียนบนเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต 3 คะแนน 3 คะแนนกำรประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 3 คะแนน 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 24 คะแนน 2. ซื่อสตั ย์สจุ ริต 3. มีวินยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มั่นในการทางาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ิตสาธารณะ รวมสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 3 คะแนน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 3 คะแนน 2. ความสามารถในการคิด 3 คะแนน 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3 คะแนน 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 3 คะแนน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 15 คะแนน รวม
6แผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี 1กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การเขยี นโปรแกรมภาษาหน่วยที่ 1 ชือ่ หน่วย ความรู้พ้นื ฐานการเขยี นโปรแกรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4เร่ือง ภาษาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง1. สาระสาคญั ภาษาซีเปน็ ภาษาโปรแกรมระดับสงู ที่ใช้สาหรบั การเขียนโปรแกรมประยุกต์ตา่ งๆ เชน่ เดยี วกนั กับปาสคาล เบสิก ฟอร์แทรน เป็นต้น นอกจากนี้ภาษาซียังใช้สาหรับเขียนโปรแกรมระบบ และโปรแกรมสาหรับควบคุมฮาร์ดแวร์บางส่วนท่ีภาษาโปรแกรมระดับสูงหลายภาษาไม่สามารถทาได้ดังนั้น ภาษาซีจึงเป็นภาษาในระดับกลางดว้ ย2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธิบายขั้นตอนการคอมไพล์และรนั โปรแกรมได้ 2.2 อธบิ ายโครงสรา้ งพน้ื ฐานของโปรแกรมภาษาซีได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 3.2 ขน้ั ตอนการพฒั นาโปรแกรม 3.3 โครงสรา้ งโปรแกรมและผังงาน4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขน้ั เตรียมการ 4.1.1 แบง่ กล่มุ ผู้เรียนเปน็ ออกเป็น 5 กลมุ่ 4.1.2 จดั เตรียมกระดาษร้อยปอนด์ 4.1.3 จัดเตรียมปากกาสี 4.1.4 จดั เตรยี มสีไม้ 4.2 ขั้นดาเนนิ การ 4.2.1 ผูส้ อนกลา่ วถงึ ความสาคญั ของภาษาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 4.2.2 ผู้เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) จานวน 20 ขอ้ เวลา 20 นาที 4.2.3 ผู้สอนแบ่งผู้เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม โดยให้นักเรียนศึกษาหัวข้อ โครงสร้างพื้นฐานของ ภาษาซี
7 4.2.4 ผู้สอนให้ผู้เรียนในแตล่ ะกลุ่มช่วยกันศึกษาค้นคว้าข้อมูลตามหัวข้อท่ีได้รับมอบหมายและ เขียนสรปุ เป็น Mind map ลงในกระดาษชาร์ทพรอ้ มทง้ั ตกแตง่ ใหส้ วยงาม 4.2.5 ผูส้ อนให้ผู้เรยี นชว่ ยกันอภิปรายเนื้อหาท้ังหมดแลว้ ส่งตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอหน้าชั้น เรยี น 4.2.6 ผ้สู อนให้ผู้เรยี นทาใบงานที่ 1.1 เร่ืองการเขียนผังงานและโครงสรา้ งโปรแกรม 4.2.7 ผู้สอนและผู้เรยี นชว่ ยกันสรปุ ความรูท้ ี่ได้5. สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ใบงานท่ี 1.1 การเขยี นผงั งานและโครงสร้างโปรแกรม 5.2 ใบความรู้ที่ 1.1 เรอื่ ง โครงสร้างโปรแกรมภาษาซีเบือ้ งตน้ 5.3 สอื่ PowerPoint บทท่ี 1 เรื่อง ความรพู้ น้ื ฐานการเขียนโปรแกรม 5.4 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาซี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ของสถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5.5 ห้องสมดุ โรงเรียนชลราษฎรอารุง 5.6 เคร่อื งคอมพิวเตอร์ 5.7 เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 5.8 เคร่ืองขยายเสียงและไมโครโฟน6. การวดั และประเมนิ ผล 6.1 เคร่ืองมือในการวดั และประเมินผล 6.1.1 แบบสังเกตการปฏบิ ตั ิงาน 6.1.2 แบบประเมินผลงาน (ใบงานที่ 1.1) 6.2 วิธกี ารประเมนิ ผล 6.2.1 สงั เกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สงั เกตจากการมีสว่ นร่วมในกจิ กรรม 6.3 เกณฑ์การวัดและประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมินเปน็ รายบคุ คลจากแบบสังเกตการปฏิบัติงานไม่ตา่ กวา่ 80 % ผู้ทีไ่ ม่ผ่านการประเมนิ ต้องซ่อมเสริมด้วยการปฏิบตั งิ านเด่ียวใหส้ าเร็จ 6.3.2 ผลการประเมนิ ผลงานของกลมุ่ ไมต่ า่ กว่า 70 %
87. คณุ ลักษณะสอดแทรก สอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม เร่อื งการทางานรว่ มกัน8. การบรูณาการ - กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ได้แก่ การวเิ คราะหข์ ้อมูล ทกั ษะการนาเสนอรายงาน - กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาอังกฤษ ได้แก่ คาศัพทเ์ ก่ยี วกับโปรแกรม9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ ม)ี ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
9 ใบงานที่ 1.1รายวิชา การเขยี นโปรแกรมภาษา รหัสวชิ า ง 32103 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมงหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ความร้พู นื้ ฐานการเขยี นโปรแกรมเรอื่ ง การเขยี นผงั งานและโครงสรา้ งโปรแกรม1. ให้นกั เรยี นเขียนอธบิ ายสัญลักษณ์และความหมายของผงั งานลงในตารางสัญลกั ษณ์ ชื่อเรียก ความหมาย
102. จงพิจารณาข้อความแสดงข้ันตอนการจาลองความคิดข้างลา่ งดา้ นซา้ ยมือ แลว้ เขียนหมายเลขเรียงลาดับหนา้ ข้อความและนามาเติมในผังงานด้านขวามือ 2.1 กิจกรรมท่ี 1 รูปแบบโครงสร้าง…………………………………………………………………………………………………… 1 เริ่มต้น 2 จบ 3 รับประทาน 4 ต้มน้าให้เดือด 5 ต้มประมาณ 1 นาที 6 ใส่เครื่องปรงุ แลว้ ยกภาชนะลงจากเตา 7 ใส่บะหมล่ี งในน้าเดือด 2.2 กจิ กรรมท่ี 2 รูปแบบโครงสรา้ ง…………………………………………………………………………………………………… 1 เร่มิ ต้น 2 จบ 3 ซักเส้อื ผ้า 4 ฝนตกหรอื ไม่ 5 ถา้ ฝนไมต่ ก ออกไปดูภาพยนตร์ 6 ถ้าฝนตก อยูบ่ ้านอ่านหนังสอื
112.3 กิจกรรมที่ 3 รปู แบบโครงสรา้ ง…………………………………………………………………………………………………… 1 เร่ิมต้น 2 จบ 3 ดูผลการสอบ 4 เรียนซอ่ มเสริม 5 สอบไมผ่ ่าน 6 รอผลการสอบซ่อม 7 สอบซอ่ ม 8 ดูประกาศผลสอบซอ่ ม2.4 กจิ กรรมท่ี 4 รปู แบบโครงสร้าง…………………………………………………………………………………………………… 1 เริม่ ตน้ 2 จบ 3 ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัด 4 สอนเรื่องใหม่ 5 ครูอธบิ ายเรื่องการบวกเลข 6 ตรวจสอบ นักเรียนสว่ นใหญ่ทาถูก 7 นักเรยี นสง่ แบบฝึกหดั 8 ครตู รวจแบบฝึกหัด
12 บันทึกการจดั การเรียนรู้1. ผลการจดั กิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปัญหาและอปุ สรรค / ข้อบกพรอ่ งทพ่ี บในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกป้ ัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื …………….………..………………. (นางสาวสาวิตรี หงษา) ผ้จู ดั การเรยี นรู้
13ความเห็นของครพู ี่เลยี้ ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..………………………………... (นางสาววรนชุ แสงจันทร์) หวั หน้ากลมุ่ งานคอมพวิ เตอร์ความเหน็ ของรองผ้อู านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกูล) รองผ้อู านวยการโรงเรยี นความเหน็ ของผอู้ านวยการโรงเรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชือ่ ………..…………………………..….. (นายอทุ ัย สิงหโ์ ตทอง) ผูอ้ านวยการโรงเรียน
14แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 2กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวชิ า การเขยี นโปรแกรมภาษาหน่วยที่ 1 ชอ่ื หน่วย โครงสรา้ งโปรแกรมภาษาซีเบอ้ื งต้น ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4เรอ่ื ง โปรแกรมภาษาซอี ยา่ งง่าย เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง1. สาระสาคญั ข้ันตอนวิธีการทางคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง เพ่ือแก้ปัญหาทางคอมพิวเตอร์ จะต้องศกึ ษาข้ันตอนวิธีการทางคอมพิวเตอร์ เพอื่ ให้เกิดความรู้ความเข้าใจทถี่ ูกต้องตามขั้นตอนวิธี ดังน้ี การวิเคราะห์งาน การเขียนแผนผัง การเขียนโปรแกรม การทดสอบ แก้ไขโปรแกรม การจัดทาเอกสารประกอบ และการใช้โปรแกรม Dev C++ ซ่ึงเป็นโปรแกรมขนาดเล็กใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาซี ซึ่ง จะประกอบด้วย Preprocessor directives Global declarations The main() function-User-defined function Program comments2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 อธบิ ายหนา้ ทคี่ าสง่ั เบ้อื งตน้ ของภาษาซีได้ 2.2 ใช้งานคาสัง่ เพ่อื แสดงผลลพั ธเ์ บื้องตน้ ได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 โครงสร้างพื้นฐานของภาษาซี 3.2 คาสงั่ เบื้องตน้ ของภาษาซี 3.3 การแสดงผลลัพธเ์ บื้องต้น4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน 4.1.1 ตรวจสอบรายชือ่ ผูเ้ ข้าเรียน 4.1.2 ทบทวนเนอ้ื หาเร่อื งภาษาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ และผงั งานที่ไดเ้ รียนคร้งั ท่แี ลว้ 4.1.3 บอกจุดประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา และภาระงานท่ีต้องปฏบิ ัติ 4.2 ขนั้ ดาเนินการ 4.2.1 บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อย่าง ตามหัวข้อท่ีกาหนดไว้ในสาระการเรยี นรู้ โดยใช้การนาเสนอด้วยใบความรู้
15 4.2.2 พยายามซักถามนักเรียนเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจด้วยคาถามท่ีน่าสนใจ และเปิดโอกาสให้นักเรยี นได้แสดงความคดิ เห็น และถามคาถาม 4.2.3 สาธิตและอธบิ ายตัวอยา่ งโปรแกรมเขยี นโปรแกรม 4.2.4 ให้นกั เรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือแสดงผลลัพธเ์ บอื้ งต้น ครูผู้สอนเดินตรวจและกากับควบคุมระหว่างที่นกั เรียนทางาน 4.2.5 ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนมานาเสนอสรุปเน้ือหาท่ีไดเ้ รยี น 4.2.6 เปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามในขอ้ สงสยั 4.2.7 มอบหมายให้นกั เรียนไปสบื ค้นขอ้ มูลของเนอื้ หาในคาบต่อไป5. สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 5.1 ใบงานท่ี 1.2 การเขียนผงั งานและโครงสร้างโปรแกรม 5.2 ใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง โครงสร้างโปรแกรมภาษาซเี บ้ืองตน้ 5.3 สอ่ื PowerPoint บทที่ 1 เรือ่ ง ความรพู้ น้ื ฐานการเขียนโปรแกรม 5.4 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาซี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของสถาบันส่งเสริมการสอน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5.5 หอ้ งสมดุ โรงเรยี นชลราษฎรอารงุ 5.6 เครือ่ งคอมพิวเตอร์ 5.7 เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 5.8 เครอ่ื งขยายเสยี งและไมโครโฟน6. การวัดและประเมินผล 6.1 เครอื่ งมือในการวัดและประเมนิ ผล 6.1.1 แบบสงั เกตการปฏบิ ัติงาน 6.1.2 แบบประเมินผลงาน (ใบงานท่ี 1.2) 6.2 วธิ กี ารประเมินผล 6.2.1 สังเกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สังเกตจากการมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม 6.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมนิ เป็นรายบคุ คลจากแบบสังเกตการปฏบิ ตั ิงานไมต่ า่ กวา่ 80 % ผู้ท่ีไมผ่ า่ นการประเมนิ ต้องซ่อมเสริมดว้ ยการปฏบิ ัติงานเดย่ี วใหส้ าเรจ็ 6.3.2 ผลการประเมินผลงานของกลุม่ ไมต่ า่ กวา่ 70 %
167. คุณลักษณะสอดแทรก สอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม เรอ่ื งการทางานร่วมกัน8. การบรณู าการ - กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ การวเิ คราะห์ข้อมูล ทกั ษะการนาเสนอรายงาน - กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาอังกฤษ ไดแ้ ก่ คาศัพท์เกย่ี วกบั โปรแกรม9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี) ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
17 ใบงานท่ี 1.2รายวิชา การเขียนโปรแกรมภาษา รหัสวิชา ง 32103 ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลาเรยี น 2 ช่วั โมงหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ความรู้พ้นื ฐานการเขียนโปรแกรมเร่อื ง ความรู้เบอื้ งต้นเก่ยี วกบั ภาษาซีคาชีแ้ จง ใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาความรเู้ บื้องต้นเกย่ี วกบั ภาษาซี แลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปนี้1. ภาษาซี เปน็ ภาษาระดับใด…………………………………………………………………………………………………………………2. จงบอกข้อดแี ละข้อเสยี ของภาษาซี มีอะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. โปรแกรมแปลภาษา หมายถงึ …………………………………………………………………………………………………………… มี................ ประเภท ได้แก.่ ........................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................4. จงบอกชอื่ สว่ นต่างๆ ของโปรแกรม Dev-C++ 1 2 34 5
18 4.1 หมายเลย 1 คือ......................................................................................................................................... 4.2 หมายเลย 2 คอื .......................................................................................................................... ............... 4.3 หมายเลย 3 คือ......................................................................................................................................... 4.4 หมายเลย 4 คอื .......................................................................................................................... ............... 4.5 หมายเลย 5 คอื .........................................................................................................................................5. จงบอกโครงสรา้ งหรอื สว่ นประกอบของภาษาซี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..6. #include เรียกวา่ ....................................................และ stdio.h เรียกว่า.....................................................7. ฟังกช์ นั printf ทาหนา้ ที่อะไร..........................................................................................................................8. โปรแกรมนี้มผี ลการรนั เป็นอยา่ งไร#include “stdio.h” .............................................................................Main () ............................................................................{ ............................................................................. ............................................................................. printf(“ Hello. ”); .............................................................................}9. โปรแกรมน้มี ผี ลการรนั เป็นอย่างไร ............................................................................. ............................................................................ #include “stdio.h” ............................................................................. Main () ….......................................................................... { …........................................................................... ............................................................................. printf(“ COMPUTER ”); printf(“ CRU ”); }
19 บันทกึ การจดั การเรยี นรู้1. ผลการจัดกิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปัญหาและอปุ สรรค / ขอ้ บกพร่องท่ีพบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื …………….………..………………. (นางสาวสาวิตรี หงษา) ผ้จู ัดการเรยี นรู้
20ความเหน็ ของครพู ี่เลี้ยง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..………………………………... (นางสาววรนชุ แสงจนั ทร์) หวั หน้ากลุ่มงานคอมพวิ เตอร์ความเหน็ ของรองผู้อานวยการกล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงช่อื ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกูล) รองผูอ้ านวยการโรงเรียนความเหน็ ของผูอ้ านวยการโรงเรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงช่ือ………..…………………………..….. (นายอุทัย สิงหโ์ ตทอง) ผอู้ านวยการโรงเรยี น
21แผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี 3กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวชิ า การเขียนโปรแกรมภาษาหน่วยท่ี 2 ชื่อหน่วย ประเภทของข้อมลู และตวั ดาเนนิ การ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4เรอื่ ง ประเภทของขอ้ มูล เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง1. สาระสาคัญ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นจะต้อง มีการประมวลผลกับข้อมูล โดยข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ในหน่วยความจาของคอมพิวเตอร์ในรปู แบบของตัวแปร การประกาศตัวแปรต่างๆ จะใช้หน่วยความจาไม่เท่ากันและมีช่วงของการเก็บข้อมูลไม่เท่ากัน ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องทราบว่าข้อมูลท่ีต้องการประมวลผลน้ันเป็นข้อมูลประเภทใด และในการประมวลผลจะต้องมีการกระทากับตัวแปรต่างๆ ตัวที่นามากระทาเรียกกว่าตัวดาเนินการซึ่งมีท้ังการดาเนินการทางคณิตศาสตร์และทางลอจิก ดังน้ันผู้เขียนโปรแกรมจะต้องทาความเข้าใจกบั ประเภทของข้อมลู และการใชต้ ัวดาเนนิ การจึงสามารถเขียนโปรแกรมให้ทางานความที่ต้องการได้2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 สามารถแยกประเภทของขอ้ มลู ได้ 2.2 สามารถประกาศตวั แปรและค่าคงท่ีได้ 2.3 อธิบายหน้าทค่ี าสง่ั เบื้องตน้ ของภาษาซีได้ 2.4 ใชง้ านคาส่งั เพอื่ แสดงผลลัพธ์เบือ้ งตน้ ได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ประเภทของขอ้ มลู 3.2 การประกาศตวั แปรและค่าคงท่ี 3.3 การตงั้ ชอื่ และคาสงวน4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น 4.1.1 ตรวจสอบรายช่อื ผูเ้ ข้าเรยี น 4.1.2 ทบทวนเนอื้ หาเร่ือง คาส่ังและการแสดงผลลพั ธ์เบือ้ งต้น ทไ่ี ด้เรยี นคร้ังทแี่ ล้ว 4.1.3 บอกจุดประสงค์การเรียนรู้ เนอื้ หา และภาระงานทต่ี อ้ งปฏิบัติ
22 4.2 ขั้นดาเนินการ 4.2.1 บรรยาย อธบิ าย ยกตัวอย่าง ตามหัวข้อท่ีกาหนดไว้ในสาระการเรียนรู้ โดยใช้การนาเสนอดว้ ยใบความรู้ 4.2.2 พยายามซักถามนักเรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจด้วยคาถามท่ีน่าสนใจ และเปิดโอกาสให้นกั เรยี นได้แสดงความคดิ เห็น และถามคาถาม 4.2.3 สาธติ และอธบิ ายตวั อย่างโปรแกรมเขียนโปรแกรม 4.2.4 ให้นกั เรียนเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงผลลัพธ์เบอ้ื งตน้ ครูผู้สอนเดินตรวจและกากับควบคุมระหวา่ งทน่ี กั เรียนทางาน 4.2.5 ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนมานาเสนอสรุปเนอ้ื หาทไ่ี ดเ้ รียน 4.2.6 เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามในขอ้ สงสยั 4.2.7 มอบหมายให้นักเรียนไปสบื คน้ ขอ้ มูลของเน้อื หาในคาบต่อไป5. ส่ือและแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ใบงานท่ี 2.1 ชนิดของขอ้ มลู และการประกาศตัวแปรค่าคงที่ 5.2 ใบความรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง ประเภทของขอ้ มูลและตัวดาเนนิ การ 5.3 ส่ือ PowerPoint บทท่ี 2 เรือ่ ง ประเภทของขอ้ มูลและตัวดาเนินการ 5.4 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาซี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของสถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5.5 ห้องสมุดโรงเรยี นชลราษฎรอารงุ 5.6 เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 5.7 เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 5.8 เครือ่ งขยายเสยี งและไมโครโฟน6. การวัดและประเมนิ ผล 6.1 เคร่ืองมือในการวัดและประเมินผล 6.1.1 แบบสังเกตการปฏิบตั ิงาน 6.1.2 แบบประเมนิ ผลงาน (ใบงานท่ี 2.1) 6.2 วธิ ีการประเมินผล 6.2.1 สงั เกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สงั เกตจากการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม
23 6.3 เกณฑ์การวัดและประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมินเป็นรายบคุ คลจากแบบสงั เกตการปฏบิ ตั งิ านไมต่ ่ากวา่ 80 % ผทู้ ี่ไม่ผ่านการประเมนิ ต้องซ่อมเสริมดว้ ยการปฏิบตั งิ านเด่ยี วใหส้ าเร็จ 6.3.2 ผลการประเมินผลงานของกลุ่มไม่ตา่ กว่า 70 %7. คุณลักษณะสอดแทรก สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม เร่ืองการทางานรว่ มกนั8. การบรณู าการ - กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ไดแ้ ก่ การวเิ คราะห์ข้อมลู ทักษะการนาเสนอรายงาน - กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาอังกฤษ ได้แก่ คาศัพท์เกี่ยวกับโปรแกรม9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
24 ใบงานที่ 2.1รายวิชา การเขียนโปรแกรมภาษา รหัสวชิ า ง 32103 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 2 ชั่วโมงหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ประเภทของข้อมูลและตัวดาเนินการเรื่อง ชนดิ ของข้อมลู และการประกาศตัวแปรค่าคงที่1. จงเขียนโปรแกรม เพื่อคานวณหาพื้นที่ของสามเหล่ียม Area = ½ x ฐาน x สูง โดยมีข้อมูลเข้า (Input)จากคีย์บอร์ด คือ ค่าของฐานของสามเหลี่ยม (b: Base) และค่าความสูงของสามเหลี่ยม (h: High) พร้อมพิมพ์ผลลพั ธ์วเิ คราะหป์ ญั หา (Problem Analysis) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..โปรแกรมภาษาซี (C Program) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
252. จงเขียนโปรแกรม สาหรบั การคานวณเสน้ รอบรูปของวงกลม ท่ีรบั ค่ารัศมีวงกลม (r: radius) จากคยี ์บอร์ดเมอ่ื กาหนดให้ เส้นรอบรูปของวงกลม (Circular Circumference) = 2 และ = 3.142857กาหนดให้ ตัวแปร r เก็บค่าท่ีเปน็ Integer เปน็ คา่ รัศมขี องวงกลม (Radius) ตวั แปร Circ เก็บค่าทเ่ี ป็น Floating Point เป็นค่าเสน้ รอบรูปของวงกลม ตวั แปร Pi เก็บคา่ ท่เี ป็น Floating Point เปน็ คา่ = 3.142857วเิ คราะห์ปญั หา (Problem Analysis) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..โปรแกรมภาษาซี (C Program) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
26 บันทึกการจัดการเรียนรู้1. ผลการจดั กิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปญั หาและอปุ สรรค / ข้อบกพร่องทพี่ บในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื …………….………..………………. (นางสาวสาวิตรี หงษา) ผู้จดั การเรยี นรู้
27ความเหน็ ของครพู ่เี ล้ียง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงช่ือ………..………………………………... (นางสาววรนชุ แสงจนั ทร์) หวั หน้ากลุ่มงานคอมพิวเตอร์ความเหน็ ของรองผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชือ่ ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกูล) รองผู้อานวยการโรงเรยี นความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..…………………………..….. (นายอทุ ยั สงิ หโ์ ตทอง) ผู้อานวยการโรงเรยี น
28แผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี 4กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การเขียนโปรแกรมภาษาหนว่ ยท่ี 2 ชื่อหน่วย ประเภทของข้อมูลและตวั ดาเนนิ การ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4เรอื่ ง ตวั ดาเนินการ เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง1. สาระสาคญั การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์น้ันจะต้อง มีการประมวลผลกับข้อมูล โดยข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ในหน่วยความจาของคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของตัวแปร การประกาศตัวแปรต่างๆ จะใช้หน่วยความจาไม่เท่ากันและมีช่วงของการเก็บข้อมูลไม่เท่ากัน ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องทราบว่าข้อมูลท่ีต้องการประมวลผลนั้นเป็นข้อมูลประเภทใด และในการประมวลผลจะต้องมีการกระทากับตัวแปรต่างๆ ตัวท่ีนามากระทาเรียกกว่าตัวดาเนินการซ่ึงมีทั้งการดาเนินการทางคณิตศาสตร์และทางลอจิก ดังนั้นผู้เขียนโปรแกรมจะต้องทาความเข้าใจกับประเภทของขอ้ มูลและการใชต้ ัวดาเนินการจงึ สามารถเขยี นโปรแกรมให้ทางานความท่ตี ้องการได้ ในการเขียนโปรแกรมตัวดาเนินการจะเป็นตัวท่ีทาหน้าที่รวมค่าต่างๆ และกระทากับค่าต่างๆให้เป็นค่าเดยี วกัน อย่างเช่นโปรแกรมในบทที่ผ่านมามกี ารนาข้อมูลท่ีเป็นตัวแปรมาคูณกบั ค่าคงท่ี ซ่ึงจะต้องใช้ตวั ดาเนนิ การทางคณติ ศาสตรเ์ พอื่ ทาการคูณ ตวั ดาเนนิ การมหี ลายประเภท ไดแ้ ก่ ตัวดาเนินการเลขคณติ2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 สามารถใชต้ วั ดาเนนิ การไดอ้ ย่างถูกต้อง 2.2 สามารถเขียนโปรแกรมโดยใชต้ ัวดาเนินการได้ได้ 2.3 สามารถเลอื กชนิดตวั แปรใหต้ รงกับขอ้ มลู รับเขา้ 2.4 สามารถนาข้อมลู ท่ีรับเขา้ มาแสดงผล3. สาระการเรียนรู้ 3.1 การเลือกใช้ตวั แปรใหต้ รงกับข้อมูลรบั เขา้ 3.2 ตัวดาเนนิ การเลขคณติ4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น 4.1.1 ตรวจสอบรายช่ือผเู้ ข้าเรยี น 4.1.2 ทบทวนเน้อื หาเรอื่ ง ประเภทของขอ้ มลู ท่ไี ดเ้ รียนครง้ั ทแ่ี ล้ว 4.1.3 บอกจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนือ้ หา และภาระงานท่ตี อ้ งปฏิบัติ
29 4.2 ขนั้ ดาเนนิ การ 4.2.1 บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อย่าง ตามหัวข้อที่กาหนดไวใ้ นสาระการเรียนรู้ โดยใช้การนาเสนอดว้ ยใบความรู้ 4.2.2 พยายามซักถามนักเรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจด้วยคาถามท่ีน่าสนใจ และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และถามคาถาม 4.2.3 สาธติ และอธิบายตัวอยา่ งโปรแกรมเขียนโปรแกรม 4.2.4 ให้นกั เรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือแสดงผลลัพธเ์ บื้องต้น ครูผู้สอนเดินตรวจและกากับควบคุมระหว่างทน่ี กั เรียนทางาน 4.2.5 ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตัวแทนมานาเสนอสรุปเนื้อหาที่ไดเ้ รียน 4.2.6 เปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามในขอ้ สงสัย 4.2.7 มอบหมายใหน้ กั เรยี นไปสบื คน้ ข้อมูลของเนื้อหาในคาบต่อไป5. สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ใบงานท่ี 2.2 การตงั้ ชอื่ และตวั ดาเนินการ 5.2 ใบความร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง ประเภทของขอ้ มูลและตวั ดาเนินการ 5.3 สอ่ื PowerPoint บทที่ 2 เรื่อง ประเภทของขอ้ มูลและตวั ดาเนินการ 5.4 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ของสถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5.5 หอ้ งสมุดโรงเรยี นชลราษฎรอารุง 5.6 เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 5.7 เครือ่ งฉายโปรเจคเตอร์ 5.8 เคร่อื งขยายเสียงและไมโครโฟน6. การวัดและประเมนิ ผล 6.1 เครอ่ื งมือในการวัดและประเมนิ ผล 6.1.1 แบบสงั เกตการปฏิบตั ิงาน 6.1.2 แบบประเมินผลงาน (ใบงานท่ี 2.2) 6.2 วิธีการประเมนิ ผล 6.2.1 สงั เกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สังเกตจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
30 6.3 เกณฑ์การวัดและประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมินเป็นรายบคุ คลจากแบบสงั เกตการปฏบิ ตั งิ านไมต่ ่ากวา่ 80 % ผทู้ ี่ไมผ่ ่านการประเมนิ ต้องซ่อมเสริมดว้ ยการปฏิบตั งิ านเด่ยี วใหส้ าเร็จ 6.3.2 ผลการประเมินผลงานของกลุ่มไม่ตา่ กว่า 70 %7. คุณลักษณะสอดแทรก สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม เร่ืองการทางานรว่ มกนั8. การบรณู าการ - กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ไดแ้ ก่ การวเิ คราะห์ข้อมลู ทักษะการนาเสนอรายงาน - กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาอังกฤษ ได้แก่ คาศัพท์เกี่ยวกับโปรแกรม9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
31 ใบงานที่ 2.2รายวิชา การเขียนโปรแกรมภาษา รหัสวชิ า ง 32103 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลาเรียน 2 ชัว่ โมงหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ประเภทของข้อมลู และตัวดาเนินการเรอ่ื ง การตงั้ ช่ือและตัวดาเนนิ การ1. จงใส่เครอ่ื งหมาย ตรงการตั้งชอ่ื ท่ีใชไ้ ด้และใส่เคร่ืองหมาย ตรงข้อท่ใี ช้ไมไ่ ด้…………….1. Average …………….6. A1234…………….2. 1234A …………….7. Hot Dog…………….3. Program …………….8. $XYZ…………….4. A * B …………….9. George…………….5. 506-74-3981 …………….10. 4x22. แสดงลาดับของการคานวณค่าของนิพจน์ Y = 2 * 5 * 4 + 3 * 5 + 9 โดยแสดงผลของการดาเนินการทลี ะตัวดาเนินการ จากนัน้ เขยี นโปรแกรมเพอื่ ตรวจสอบคาตอบทไ่ี ด้ผลลพั ธข์ องการคานวณค่าทีละตวั ดาเนินการในนิพจน์ คือ นพิ จน์ (Expression) Y = 2 * 5 * 4 + 3 * 5 + 9 ผลลัพธ์โปรแกรมภาษาซี (C Program) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
32 บนั ทึกการจดั การเรยี นรู้1. ผลการจัดกิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปญั หาและอุปสรรค / ข้อบกพร่องที่พบในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ…………….………..………………. (นางสาวสาวิตรี หงษา) ผจู้ ดั การเรยี นรู้
33ความเหน็ ของครพู ่ีเล้ียง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..………………………………... (นางสาววรนุช แสงจนั ทร์) หวั หน้ากลมุ่ งานคอมพิวเตอร์ความเหน็ ของรองผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกูล) รองผูอ้ านวยการโรงเรียนความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงช่ือ………..…………………………..….. (นายอทุ ยั สงิ หโ์ ตทอง) ผู้อานวยการโรงเรยี น
34แผนการจัดการเรยี นรู้ ที่ 5กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวชิ า การเขียนโปรแกรมภาษาหนว่ ยท่ี 3 ชอ่ื หน่วย การทางานแบบลาดับ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4เร่ือง การแสดงผลและการรับค่า เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง1. สาระสาคัญ การรับเข้าข้อมูลก็เป็นองค์ประกอบที่สาคญั องคป์ ระกอบหน่ึงของคอมพวิ เตอร์ ซ่งึ หากโปรแกรมท่ีเขียนขึ้นน้ัน ผู้ใช้งานไม่สามารถป้อนขอ้ มูลเข้าไปเพื่อใชใ้ นการประมวลผลได้ ก็จะไม่สามารถเป็นโปรแกรมท่ีไม่มปี ระสิทธิภาพได้เลย โดยการรับเข้าข้อมูลเพื่อนามาประมวลผลน้ันจาเป็นต้องมีตัวแปรเพ่ือนามาใชเ้ กบ็ ขอ้ มลู ท่ีผ้ใู ช้ป้อนเข้ามาผ่านทางหน่วยรับเข้าของคอมพิวเตอร์ โดยท่ีข้อมูลท่ีปอ้ นเข้ามาและชนิดของตัวแปรท่นี ามาเก็บข้อมูลนน้ั ต้องสอดคล้องกัน2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 อธิบายข้นั ตอนการรับเขา้ ขอ้ มลู ของโปรแกรมได้ 2.2 สามารถเลอื กชนดิ ตวั แปรใหต้ รงกบั ข้อมูลรับเขา้ 2.3 สามารถนาขอ้ มูลทรี่ บั เข้ามาแสดงผล3. สาระการเรียนรู้ 3.1 การรับเข้าข้อมลู ดว้ ยคาสั่ง scanf() ผ่านทางแป้นพิมพ์ 3.2 การเลอื กใช้ตัวแปรใหต้ รงกบั ขอ้ มูลรับเขา้ 3.3 การนาขอ้ มลู รบั เข้ามาแสดงผล โดยใชค้ าสงั่ printf()4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน 4.1.1 ตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าเรยี น 4.1.2 ทบทวนเนอ้ื หาเรอื่ ง การดาเนินการ ทไ่ี ด้เรยี นคร้งั ทแ่ี ลว้ 4.1.3 บอกจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนอื้ หา และภาระงานท่ีตอ้ งปฏบิ ัติ 4.2 ข้ันดาเนนิ การ 4.2.1 บรรยาย อธิบาย ยกตวั อย่าง ตามหัวข้อท่ีกาหนดไวใ้ นสาระการเรียนรู้ โดยใช้การนาเสนอดว้ ยใบความรู้
35 4.2.2 พยายามซักถามนักเรียนเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจด้วยคาถามท่ีน่าสนใจ และเปิดโอกาสให้นกั เรยี นไดแ้ สดงความคิดเห็น และถามคาถาม 4.2.3 สาธติ และอธบิ ายตัวอย่างโปรแกรมเขียนโปรแกรม 4.2.4 ให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงผลลัพธเ์ บ้อื งต้น ครูผู้สอนเดินตรวจและกากับควบคุมระหวา่ งท่ีนักเรียนทางาน 4.2.5 ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ส่งตัวแทนมานาเสนอสรุปเนอ้ื หาทไี่ ดเ้ รยี น 4.2.6 เปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามในข้อสงสยั 4.2.7 มอบหมายให้นกั เรยี นไปสบื ค้นข้อมูลของเนื้อหาในคาบต่อไป5. สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ใบงานที่ 3.1 การแสดงผลและการรบั คา่ 5.2 ใบความรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง การทางานแบบลาดบั 5.3 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาซี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของสถาบันส่งเสริมการสอน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5.4 ห้องสมดุ โรงเรียนชลราษฎรอารุง 5.5 เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ 5.6 เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 5.7 เครื่องขยายเสยี งและไมโครโฟน6. การวัดและประเมนิ ผล 6.1 เครื่องมือในการวดั และประเมินผล 6.1.1 แบบสงั เกตการปฏบิ ตั ิงาน 6.1.2 แบบประเมนิ ผลงาน (ใบงานที่ 3.1) 6.2 วิธีการประเมนิ ผล 6.2.1 สังเกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สงั เกตจากการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม 6.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมนิ เปน็ รายบคุ คลจากแบบสงั เกตการปฏิบตั ิงานไมต่ า่ กว่า 80 % ผู้ทไี่ มผ่ ่านการประเมนิ ต้องซ่อมเสรมิ ดว้ ยการปฏบิ ตั งิ านเด่ียวให้สาเรจ็ 6.3.2 ผลการประเมินผลงานของกลุม่ ไมต่ ่ากวา่ 70 %
367. คุณลักษณะสอดแทรก สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม เรอ่ื งการทางานร่วมกัน8. การบรณู าการ - กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ได้แก่ การวเิ คราะห์ข้อมูล ทักษะการนาเสนอรายงาน - กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาอังกฤษ ไดแ้ ก่ คาศัพท์เกย่ี วกบั โปรแกรม9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ ม)ี ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
37 ใบงานท่ี 3.1รายวิชา การเขียนโปรแกรมภาษา รหัสวิชา ง 32103 ช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 เวลาเรียน 2 ชั่วโมงหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การทางานแบบลาดับเร่ือง การแสดงผลและการรับคา่1. จงเขียนโปรแกรมสาหรบั แปลงหน่วยการวดั โดยให้อินพตุ มีหนว่ ยเปน็ น้ิวและให้คอมพิวเตอร์แสดงหน่วยเป็นเซนตเิ มตรออกมา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. จงเขยี นโปรแกรมคานวณพื้นที่วงกลมโดยใหร้ บั ค่าอนิ พุตที่เปน็ รัศมีของวงกลมทางแป้นพิมพ์ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
38 บนั ทกึ การจดั การเรียนรู้1. ผลการจดั กิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปัญหาและอปุ สรรค / ขอ้ บกพร่องท่ีพบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื …………….………..………………. (นางสาวสาวติ รี หงษา) ผูจ้ ดั การเรียนรู้
39ความเห็นของครพู เี่ ลีย้ ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชอ่ื ………..………………………………... (นางสาววรนุช แสงจนั ทร์) หวั หน้ากลมุ่ งานคอมพิวเตอร์ความเห็นของรองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชอ่ื ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกลู ) รองผอู้ านวยการโรงเรยี นความเห็นของผอู้ านวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชอื่ ………..…………………………..….. (นายอุทัย สงิ หโ์ ตทอง) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น
40แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 6กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวชิ า การเขียนโปรแกรมภาษาหน่วยท่ี 3 ช่อื หน่วย การทางานแบบลาดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4เร่อื ง นพิ จนแ์ ละตัวดาเนนิ การ เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง1. สาระสาคญั รปู แบบการเขยี นโปรแกรมท่ีง่ายท่ีสุดคอื เขียนใหท้ างานจากบนลงล่าง เขยี นคาส่ังเป็นบรรทดั และทาทีละบรรทัดจากบรรทัดบนสุดลงไปจนถึงบรรทัดล่างสุด สมมุติให้มีการทางาน 3 กระบวนการ คือ อ่านข้อมูลคานวณ และพิมพ์2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 อธิบายตวั ดาเนินการคานวณของภาษาซีได้ 2.2 อธบิ ายนิพจน์ของภาษาซีได้ 2.3 สามารถเลือกใช้ตัวดาเนนิ การได้ 2.4 สามารถเลือกใช้นิพจน์ได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ตัวดาเนินการคานวณในภาษาซี 3.2 นพิ จนใ์ นภาษาซี4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น 4.1.1 ตรวจสอบรายชอื่ ผูเ้ ข้าเรียน 4.1.2 ทบทวนเนอ้ื หาเรื่อง การแสดงผลและการรับคา่ ทไี่ ดเ้ รยี นคร้งั ที่แล้ว 4.1.3 บอกจุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา และภาระงานทตี่ ้องปฏบิ ัติ 4.2 ขนั้ ดาเนินการ 4.2.1 บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง ตามหัวข้อท่ีกาหนดไว้ในสาระการเรยี นรู้ โดยใช้การนาเสนอดว้ ยใบความรู้ 4.2.2 พยายามซักถามนักเรียนเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจด้วยคาถามท่ีน่าสนใจ และเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดแ้ สดงความคดิ เหน็ และถามคาถาม 4.2.3 สาธติ และอธบิ ายตัวอย่างโปรแกรมเขยี นโปรแกรม
41 4.2.4 ให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือแสดงผลลัพธ์เบื้องต้น ครูผู้สอนเดินตรวจและกากับควบคุมระหว่างทน่ี กั เรยี นทางาน 4.2.5 ให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ สง่ ตวั แทนมานาเสนอสรุปเนื้อหาท่ีไดเ้ รยี น 4.2.6 เปดิ โอกาสให้นกั เรยี นซักถามในข้อสงสัย 4.2.7 มอบหมายให้นกั เรยี นไปสบื ค้นขอ้ มูลของเนอ้ื หาในคาบต่อไป5. ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 5.1 ใบความรู้ที่ 3 เรื่อง การทางานแบบลาดบั 5.2 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของสถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5.3 หอ้ งสมดุ โรงเรียนชลราษฎรอารงุ 5.4 เครื่องคอมพิวเตอร์ 5.5 เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 5.6 เคร่ืองขยายเสียงและไมโครโฟน6. การวดั และประเมนิ ผล 6.1 เครื่องมือในการวัดและประเมนิ ผล 6.1.1 แบบสังเกตการปฏบิ ัติงาน 6.2 วธิ กี ารประเมินผล 6.2.1 สงั เกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สงั เกตจากการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม 6.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมนิ เปน็ รายบุคคลจากแบบสงั เกตการปฏบิ ตั ิงานไม่ตา่ กวา่ 80 % ผูท้ ่ีไมผ่ ่านการประเมนิ ต้องซ่อมเสริมด้วยการปฏบิ ตั ิงานเด่ียวใหส้ าเรจ็ 6.3.2 ผลการประเมินผลงานของกลมุ่ ไมต่ า่ กว่า 70 %7. คณุ ลักษณะสอดแทรก สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม เรอ่ื งการทางานร่วมกนั8. การบรูณาการ - กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ไดแ้ ก่ การวิเคราะหข์ ้อมูล - กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาอังกฤษ ไดแ้ ก่ คาศัพทเ์ กยี่ วกบั โปรแกรม
429. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
43 บนั ทึกการจดั การเรยี นรู้1. ผลการจัดกจิ กรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปญั หาและอุปสรรค / ข้อบกพร่องทีพ่ บในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื …………….………..………………. (นางสาวสาวิตรี หงษา) ผ้จู ัดการเรียนรู้
44ความเหน็ ของครพู เี่ ลย้ี ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงช่ือ………..………………………………... (นางสาววรนชุ แสงจันทร์) หวั หน้ากล่มุ งานคอมพิวเตอร์ความเห็นของรองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชือ่ ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกลู ) รองผูอ้ านวยการโรงเรยี นความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชอื่ ………..…………………………..….. (นายอุทยั สงิ ห์โตทอง) ผูอ้ านวยการโรงเรียน
45แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ 7กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวชิ า การเขียนโปรแกรมภาษาหนว่ ยที่ 4 ชื่อหน่วย การทางานแบบมีทางเลอื ก ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4เร่อื ง คาส่ังเลอื กทาแบบทางเดียว (if) เวลาเรียน 2 ช่วั โมง1. สาระสาคญั การเขียนโปรแกรมเพ่ือนาค่าไปเลือกกระทาโดยปกติจะมีเหตุการณ์ให้ทา 2 กระบวนการ คือเงอ่ื นไขเป็นจรงิ และเปน็ เท็จ โดยมกี ารทางานแบบทางเลือกเดียวและสองทางเลือก การเลอื กทาแบบทางเดียวเพ่ือจะตรวจสอบว่าชดุ คาสั่งทตี่ ามมาจะทาหรือไม่ ในภาษาซีจะใช้คาส่ังif ในการทางานของคาส่ังคอมพวิ เตอร์จะตรวจสอบเงอ่ื นไขกอ่ น ถ้าเง่ือนไขเป็นจริงจะทาคาสั่งหรอื สเตตเมนต์ท่ีตามหลัง หรือสเตตเมนต์รวมท่ีอยู่ในเครื่องหมาย { } แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จคอมพิวเตอร์จะทาคาส่ังหรือสเตตเมนตต์ อ่ ไป2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 อธิบายการทางานแบบทางเลอื กได้ 2.2 เลอื กใชค้ าส่งั ทางเลอื กในการเขยี นโปรแกรมได้ 2.3 อธบิ ายคาสั่งเลอื กทาแบบทางเดยี วได้ 2.4 สามารถเขียนโปรแกรมการเลอื กทาแบบทางเดยี วได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 โครงสร้างควบคมุ การทางานแบบทางเลอื ก 3.2 คาสงั่ เลอื กทาแบบทางเดยี ว (if)4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรียน 4.1.1 ตรวจสอบรายชอ่ื ผูเ้ ขา้ เรยี น 4.1.2 ทบทวนเน้อื หาเรอ่ื ง นพิ จนแ์ ละตวั ดาเนนิ การ ทไี่ ดเ้ รียนครัง้ ท่แี ลว้ 4.1.3 บอกจดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา และภาระงานทต่ี อ้ งปฏบิ ตั ิ 4.2 ข้ันดาเนินการ 4.2.1 บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อย่าง ตามหัวข้อที่กาหนดไวใ้ นสาระการเรียนรู้ โดยใช้การนาเสนอดว้ ยใบความรู้
46 4.2.2 พยายามซักถามนักเรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจด้วยคาถามท่ีน่าสนใจ และเปิดโอกาสให้นกั เรียนได้แสดงความคิดเหน็ และถามคาถาม 4.2.3 สาธติ และอธบิ ายตวั อยา่ งโปรแกรมเขยี นโปรแกรม 4.2.4 ให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือแสดงผลลัพธ์เบ้อื งต้น ครูผู้สอนเดินตรวจและกากับควบคุมระหว่างท่ีนกั เรยี นทางาน 4.2.5 ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนมานาเสนอสรุปเนอ้ื หาทไี่ ดเ้ รยี น 4.2.6 เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามในข้อสงสยั 4.2.7 มอบหมายใหน้ ักเรียนไปสืบคน้ ขอ้ มลู ของเน้อื หาในคาบต่อไป5. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ใบงานที่ 4.1 คาสงั่ เลือกทาแบบทางเดยี ว (if) 5.2 ใบความรู้ที่ 4.1 เร่อื ง คาส่งั เลือกทาแบบทางเดยี ว (if) 5.3 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาซี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของสถาบันส่งเสริมการสอน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5.4 หอ้ งสมุดโรงเรียนชลราษฎรอารงุ 5.5 เคร่อื งคอมพิวเตอร์ 5.6 เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 5.7 เครื่องขยายเสยี งและไมโครโฟน6. การวัดและประเมินผล 6.1 เครอื่ งมือในการวัดและประเมนิ ผล 6.1.1 แบบสังเกตการปฏิบตั ิงาน 6.1.2 แบบประเมินผลงาน (ใบงานท่ี 4.1) 6.2 วธิ กี ารประเมินผล 6.2.1 สังเกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สงั เกตจากการมีสว่ นร่วมในกิจกรรม 6.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมินเป็นรายบคุ คลจากแบบสงั เกตการปฏบิ ตั ิงานไมต่ า่ กว่า 80 % ผู้ที่ไม่ผา่ นการประเมนิ ต้องซ่อมเสรมิ ดว้ ยการปฏบิ ตั งิ านเด่ียวให้สาเรจ็ 6.3.2 ผลการประเมินผลงานของกลมุ่ ไม่ตา่ กว่า 70 %
477. คุณลกั ษณะสอดแทรก สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม เรอื่ งการทางานร่วมกัน8. การบรูณาการ - กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ไดแ้ ก่ การวเิ คราะห์ข้อมูล - กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาอังกฤษ ไดแ้ ก่ คาศัพทจ์ ากคาสั่งของโปรแกรม9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถ้ามี) ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
48 ใบงานท่ี 4.1รายวิชา การเขียนโปรแกรมภาษา รหัสวชิ า ง 32103 ช้ัน มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมงหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การทางานแบบมีทางเลือกเรื่อง คาสั่งเลอื กทาแบบทางเดียว (if)1. เขียนโปรแกรมสาหรับตรวจสอบเงื่อนไขในการตัดเลือกผู้ท่ีสอบผ่านได้คะแนนตามเกณฑ์ คือ ถ้าผู้เข้าสอบได้คะแนนตั้งแต่ 60 คะแนนข้ึนไป จะพิมพ์ผลลัพธ์ คือ รหัส (ID) และช่ือ (Name) ของผู้เข้าสอบ (หมายถึงผา่ นการสอบคัดเลอื ก (Pass)) สว่ นผเู้ ขา้ สอบท่ีไดค้ ะแนนนอกจากเกณฑ์นั้นจะไม่พมิ พผ์ ลลพั ธ์ (หมายถึง ไม่ผ่านการสอบคดั เลือก)กาหนดให้ ตวั แปร ID สาหรบั เก็บรหัสของผเู้ ข้าสอบ ตวั แปร Name สาหรับเกบ็ ชอ่ื ของผเู้ ขา้ สอบ ตัวแปร X สาหรบั เกบ็ คะแนนของผ้เู ข้าสอบวเิ คราะหป์ ญั หา (Problem Analysis) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..โปรแกรมภาษาซี (C Program) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
492. เขียนโปรแกรมรับข้อมูลเลขจานวนเต็ม (X) จากคีย์บอร์ด แล้วหาค่าท่ีเป็นค่าบวก (Absolute Value)ของ X และพมิ พผ์ ลลพั ธ์ เชน่ ถา้ X = -4 จะได้ |X| = 4 กาหนดให้ ตวั แปร X สาหรับเก็บเลขค่าจานวนเต็มใดๆ ทม่ี คี า่ เป็นได้ท้งั บวกและลบวเิ คราะหป์ ัญหา (Problem Analysis) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..โปรแกรมภาษาซี (C Program) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113