ข้อเสนอแนะของหวั หนำ้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รับรอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..……………..…… (นำยสุทธิศกั ด์ิ เคลือบสงู เนนิ ) หวั หนำ้ กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยีขอ้ เสนอแนะของฝ่ำยวิชำกำร (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….………………..…… (นำงจนั ทร์ษำ ชยั วฒั นธรี ำกร) รองผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ำสถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………..………………..…… (นำงกมนพรรธน์ ทพิ ยไกรศรโชติ) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนชลกนั ยำนุกูล
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจัดทาโครงงานการสรา้ งสื่อ CAI เรื่อง การจัดทาโครงงานสร้างสือ่ CAIรหัสวชิ า ง33201 รายวชิ า การสรา้ งสื่อชว่ ยสอนกล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6โรงเรียนชลกนั ยานกุ ลู เวลา 2 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพิทกั ษ์=============================================================1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ผลการเรียนรู้สามารถจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สรา้ งสอ่ื คอมพวิ เตอร์ช่วยสอนได้2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอดสาระสาคญัการสรา้ งบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนเปน็ การออกแบบบทเรยี นดว้ ยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ที่มีลกั ษณะมปี ฏิสมั พนั ธ์ เพ่ือนามาใช้เป็นสอื่ ในการเรยี นรู้ ซ่ึงต้องคานึงถึงองค์ประกอบท่สี าคญั 4ประการ คือ สารสนเทศ ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ และ การให้ผลป้อนกลบัในทนั ที สามารถออกแบบโครงสร้างบทเรียนได้ 2 รูปแบบ คอื แบบเส้นตรง และแบบสาขากระบวนการในการออกแบบจะมีทัง้ หมด 7 ขน้ั ตอน คือ การเตรียม การออกแบบบทเรียน การเขียนผังงาน การสร้างสตอรีบ่ อร์ด การสร้างและการเขยี นโปรแกรม การผลิตเอกสารประกอบการเรียนและการประเมนิ และแกไ้ ขบทเรียน3. สาระการเรียนรู้ความรู้การจดั ทาโครงงานประกอบด้วย 1) การนาเสนอโครงงานทักษะ/กระบวนการ1) ทักษะการสารวจ2) ทักษะการเปรียบเทยี บ3) ทักษะการใชเ้ หตผุ ล4) ทักษะการวิเคราะห์5) ทกั ษะกระบวนการคิดแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์6) ทักษะการสร้างความรู้7) ทกั ษะการแสวงหาความรู้
250 8) ทกั ษะการทางานร่วมกนั 9) ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 10) ทักษะปฏบิ ตั ิ 11) การสรปุ ความรู้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการสอื่ สาร 3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี4. คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ 1) มวี นิ ยั 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) มุง่ มั่นในการทางาน 4) มคี วามรับผิดชอบ 5) รักษ์สงิ่ แวดล้อม คา่ นิยม 12 ประการ 4) ใฝห่ าความรู้ หมั่นศกึ ษาเลา่ เรียนทง้ั ทางตรง และทางอ้อม 10) รู้จักดารงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 12) คานงึ ถึงประโยชนข์ องสว่ นรวมมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง5. ช้ินงาน/ภาระงาน 1) ใบมอบหมายงานท่ี 3 ใหน้ ักเรยี นจดั ทาโครงงานสือ่ บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน6. การวัดและการประเมนิ ผล 6.1 วธิ กี าร 1) การซกั ถาม 2) การสงั เกต 3) การตรวจผลงาน 6.2 เคร่ืองมือการวัดผล 1) แบบประเมินผลงาน 6.3 เกณฑ์การผา่ น 1) ระดบั พอใชข้ ้ึนไป 6.4 การประเมินผล ประเมินผลโดยใชเ้ กณฑ์การประเมิน ดงั นี้
251เกณฑก์ ารประเมนิ ชิน้ งาน โครงงานสื่อบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนประเด็น ระดับคะแนน น้าหนัก จุดเนน้การประเมนิ 4 3 2 1 51. เน้อื หาสาระ เนอ้ื หา ถกู ต้อง เน้อื หา ถกู ต้อง เน้อื หา ถกู ต้อง เนื้อหาไม่ครบถ้วน 5 ครบถ้วน ลกึ ซง้ึ ครบถ้วน ชดั เจน ครบถว้ นแต่ไม่ และไม่ชัดเจน 52. ทกั ษะการใช้ ชดั เจน ครอบคลุม ครอบคลมุ หัวข้อ ชดั เจนเทา่ ท่คี วร เทา่ ทค่ี วรคาสงั่ หัวขอ้ ทกี่ าหนด ทกี่ าหนด 5 ใช้คาสั่งสร้าง ใช้คาสง่ั สรา้ งเนอื้ หา ใช้คาสั่งสร้างเน้อื หา ใชค้ าสง่ั สรา้ งเนือ้ หา เนื้อหาได้อยา่ ง ได้อย่างคล่องแคลว่ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ได้อย่างคลอ่ งแคล่ว 5 คล่องแคลว่ ถูกต้อง ถกู ต้อง ถูกตอ้ ง ครบถว้ น มคี วามคดิ ริเร่มิ3. เทคนิคการ มีความคดิ รเิ รมิ่ มคี วามคิดริเร่ิม มีความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ออกแบบ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ องค์ประกอบสมบูรณ์ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบสมบูรณ์ องคป์ ระกอบสมบูรณ์ คอ่ นขา้ งดี สมบูรณ์ น่าสนใจ ใชง้ ่าย ใช้ง่าย มกี ารวิเคราะหง์ าน วางแผนในการทางาน4. กระบวนการ มีการวเิ คราะหง์ าน มกี ารวิเคราะห์งาน มกี ารวเิ คราะห์งาน แตไ่ ม่ปฏบิ ตั ติ ามแผนทางาน วางแผนในการ วางแผนในการทางาน วางแผนในการทางาน ทว่ี างไว้ ทางาน ปฏบิ ตั ิตาม ปฏบิ ตั ติ ามแผนทวี่ าง ปฏิบตั ิตามแผนทว่ี าง แผนทว่ี างไว้ มกี าร ไว้ มีการประเมนิ ผล ไว้ ส่ือมคี ุณประโยชน์ตอ่ ประเมนิ ผลการ การทางาน การเรยี นรู้ น้อย ทางานและนาผล นาเสนอเนอ้ื หาได้ จากการประเมนิ ไป พอใช้ ปรับปรงุ งานให้ สมบูรณ์ยิ่งข้ึน5. คุณประโยชน์ สือ่ มีคุณประโยชน์ สอ่ื มีคุณประโยชน์ตอ่ ส่อื มีคณุ ประโยชนต์ ่อ ตอ่ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ นาเสนอ การเรียนรู้ นาเสนอ นาเสนอเน้อื หาไดด้ ี เน้ือหาได้ดีเหมาะสม เนอ้ื หาไดด้ ีพอควร เหมาะสมกบั ผเู้ รียน กบั ผู้เรยี น สามารถนาไปใช้ งานได้อยา่ งดีเกณฑก์ ารตดั สนิ /ระดบั คุณภาพ คะแนน 81 – 100 หมายถึง ดมี าก คะแนน 61 – 80 หมายถึง ดี คะแนน 41 – 60 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 40 หมายถงึ ปรับปรงุเกณฑ์การผา่ น ตงั้ แต่ระดบั ดีขนึ้ ไป
252เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ประเดน็ ระดบั คะแนน น้าหนกั จดุ เน้นการประเมิน 4 3 2 1 11. มวี ินยั ปฏบิ ัตติ าม ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง ไมป่ ฏบิ ัติตาม ข้อตกลง จนเปน็ จนเป็นนิสยั ตรงตอ่ เปน็ บางคร้งั ข้อตกลง ในการทา 1 นสิ ัย ตรงต่อเวลา เวลา กิจกรรมต่าง ๆ รบั ผดิ ชอบทางาน 1 ดว้ ยตนเอง ศกึ ษาหาความรเู้ ปน็ บางครง้ั 12. ใฝ่เรียนรู้ สนใจศึกษาหา สนใจศึกษาหาความรู้ สนใจศกึ ษาหาความรู้ ความรู้อยา่ ง อยา่ งสมา่ เสมอและ อย่างสม่าเสมอ ทางานตามที่ไดร้ ับ 1 สม่าเสมอและ สรุป สรุปองคค์ วามรู้ มอบหมาย องคค์ วามร้เู ผยแพร่ แกผ่ สู้ นใจ ไมท่ างานตามท่ีได้รบั มอบหมาย3. มงุ่ มน่ั ตง้ั ใจทางานด้วย ต้ังใจทางานดว้ ย ต้งั ใจทางาน ด้วยในการทางาน ความขยัน อดทน ความขยัน อดทน ความขยัน อดทน ใชพ้ ลงั งานอยา่ งไม่ งานสาเรจ็ ตาม งานสาเร็จตาม ประหยดั และไม่4. มคี วาม เป้าหมายและเปน็ เป้าหมาย ทางานตามทไี่ ดร้ ับ คมุ้ คา่รบั ผดิ ชอบ แบบอยา่ งท่ีดี มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามทไี่ ดร้ ับ ทางานตามทไ่ี ด้รับ คณุ ภาพ แต่ไมค่ รบ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี คุณภาพ ครบทกุ คณุ ภาพ ครบทกุ ชิ้น ชน้ิ และสง่ ตาม กาหนดเวลา5.รกั ษ์ส่ิงแวดล้อม ใช้พลังงานอยา่ ง ใชพ้ ลังงานอย่าง ใชพ้ ลงั งานอยา่ ง ประหยดั และคุม้ ค่า ประหยดั และคมุ้ ค่า มี ประหยดั และคมุ้ ค่า มีการนากลับมาใช้ การนากลบั มาใชใ้ หม่ ใหม่ มีการ ประยุกตใ์ ช้วสั ดุทมี่ ี ในท้องถิน่ เกณฑก์ ารตัดสนิ /ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 12 – 15 หมายถงึ ดี คะแนน 10 – 11 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถงึ ปรบั ปรุงเกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แต่ระดับดีขน้ึ ไป
2537. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสกู่ ารเรียน 1) ครูบันทึกเวลาเรียนของนักเรียนดว้ ยโปรแกรมประมวลผลการเรยี นรู้ ขั้นศกึ ษาเรียนรู้ 2) นักเรียนนาเสนอผลงาน ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ประเมนิ ผลช้ินงาน 3) ครูแทรกคุณธรรมในการทางาน ได้แก่ ความพอเพียง ความรักความพงึ พอใจในงานที่ทาเปน็ ต้น ขั้นสรุป 4) ครูและนักเรยี นร่วมกนั ประเมินผลช้ินงาน8. ส่อื การเรียนรู้ 1) ใบมอบหมายงานท่ี 3 ให้นักเรยี นจดั ทาโครงงานสอ่ื บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน 2) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 3) เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 4) เคร่ืองขยายเสยี งและไมโครโฟน9. แหลง่ เรียนรู้ 1) ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรยี นชลกันยานกุ ูล 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.net โรงเรียนชลกันยานุกูล จัดทาโดย นายสุทธิศักดิ์ เคลือบสูงเนนิ 3) เวบ็ ไซต์ www.chonkanya.ac.th เวบ็ ไซต์ โรงเรยี นชลกนั ยานกุ ูล 4) แผ่นซีดีรอม เว็บไซต์ ส่ือประสมอิเล็กทรอนิกส์ วิชา การสร้างส่ือบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน จดั ทาโดย นายสุทธิศกั ด์ิ เคลือบสูงเนิน 5) เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การผลิตสื่อมัลติมีเดีย การสร้างสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การใช้งานโปรแกรม Adobe Captivate 6) หอ้ งสมดุ โรงเรยี นชลกนั ยานกุ ูล 7) หอ้ งสมุดประชาชนจังหวัดชลบุรี 8) หอสมุดแหง่ ชาติจงั หวัดชลบุรี 9) หอสมุดมหาวิทยาลัยบรู พา 10) ห้องสมดุ ศูนยก์ ารศึกษานอกโรงเรยี นจังหวดั ชลบรุ ี
25410. กจิ กรรมเสนอแนะ นักเรียนศึกษาสาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม โดยการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต และแหล่งเรียนรู้ท่ีครูแจง้ ไว้11. การบูรณาการ การสร้างสอ่ื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน สามารถนาไปใชใ้ นการสรา้ งสอ่ื การเรียนรูแ้ ละส่ือการเรยี นการสอนรายวิชาตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างดี
255 ใบมอบหมายงานที่ 3วชิ า การสร้างส่ือบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน รหัสวชิ า ง 33201 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6เรือ่ ง การจัดทาโครงงานสอ่ื CAI เวลา 12 ชั่วโมงผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวงัสามารถจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สร้างสอื่ คอมพิวเตอรช์ ่วยสอนได้เนื้อหาสาระวชิ า การจัดทาโครงงานประกอบด้วย 1) การวางแผนการจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 2) การออกแบบบทเรียน 3) การสร้างสื่อบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน 4) การนาเสนอโครงงานงานทมี่ อบหมาย 1. ใหผ้ เู้ รยี นวางแผนการสรา้ งส่อื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน และจัดทาแบบเสนอโครงงานเพอ่ื ขออนมุ ตั ใิ นการสรา้ งส่อื บทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน 2. ให้สร้างสอ่ื บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน เสนอเนื้อหาสาระตามความสนใจของผ้เู รียนสาหรับรปู แบบในการนาเสนอเนอ้ื หา จะใช้รปู แบบแบบใดก็ได้ ตามความคิดสร้างสรรค์ของผเู้ รยี นความยาวของเนือ้ หาท้ังหมดไม่เกนิ 50 สไลด์ 3. ใหผ้ เู้ รยี นสร้างแบบทดสอบของบทเรียนจานวนอย่างน้อย 10 ขอ้ 4. โปสเตอร์ 4 แผน่ ขนาด 60x60 เซนติเมตร เป็นไฟล์ PSD, JPG 5. เมื่อจัดทาผลงานเสร็จให้ส่งออกชิ้นงาน ในรูปแบบ Flash พร้อมเขียนไฟล์ผลงานที่จัดทาลงแผน่ DVD พรอ้ มทาปกกลอ่ งให้เรยี บรอ้ ย ภายในประกอบดว้ ย 1) CAI 2) ไฟล์ PSD, JPG ของโปสเตอร์ 3) รายงาน 5 บท 4) ไฟล์ประกอบอ่ืนๆ โดยบันทึกแยกเปน็ โฟลเดอร์ 6. จัดทาค่มู อื การใช้ และนาเสนอผลงาน
256กาหนดการส่งงาน นักเรยี นมีเวลาในการทางานตามใบมอบหมายงานท่ี 3 เปน็ เวลา 12 ช่ัวโมง เมื่อจดั ทาผลงานเสร็จเรยี บรอ้ ยใหน้ ัดหมายครแู ละนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียนการประเมินผล 1. นกั เรยี นทางานเสรจ็ ตามเวลาที่กาหนด 2. นักเรียนสรา้ งชน้ิ งานไดถ้ ูกต้องตามทีก่ าหนด
บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้ส่วนที่ 1 ผลการเรียนรูข้ องนักเรียนและแนวทางการแก้ปัญหา 1.1 ผลการประเมนิ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นรอ้ ยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนินกำรแก้ไขปัญหำนกั เรียนที่ไม่ผำ่ นเกณฑ์โดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ผลการประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด………..…..คน ผำ่ นเกณฑ์ จำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ………….…… ครไู ด้ดำเนนิ กำรแก้ไขปญั หำนกั เรียนทไี่ ม่ผ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทั้งหมด………..…..คน ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน............คน คิดเป็นร้อยละ………….…… ครไู ดด้ ำเนนิ กำรแกไ้ ขปญั หำนกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่ำนเกณฑโ์ ดย.......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………สว่ นท่ี 2 ข้อเสนอแนะในการพฒั นานักเรียน 2.1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.4 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………………………..……………………… ผู้สอน (นำงสำวพฤทธวิ รรณ ช่วงพทิ ักษ์) ……………/………………/………………
ข้อเสนอแนะของหวั หนำ้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ (ตรวจสอบ/นิเทศ/รับรอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..……………..…… (นำยสุทธิศกั ด์ิ เคลือบสงู เนนิ ) หวั หนำ้ กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยีขอ้ เสนอแนะของฝ่ำยวิชำกำร (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….………………..…… (นำงจนั ทร์ษำ ชยั วฒั นธรี ำกร) รองผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นกลมุ่ บรหิ ำรงำนวิชำกำรขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ำสถำนศึกษำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………..………………..…… (นำงกมนพรรธน์ ทพิ ยไกรศรโชติ) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนชลกนั ยำนุกูล
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 18หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การจัดทาโครงงานการสรา้ งสื่อ CAI เรอ่ื ง การจัดทาโครงงานสร้างสือ่ CAIรหัสวชิ า ง33201 รายวชิ า การสร้างส่ือชว่ ยสอนกล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6โรงเรียนชลกนั ยานกุ ลู เวลา 2 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวพฤทธิวรรณ ชว่ งพทิ กั ษ์=============================================================1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ผลการเรียนรู้สามารถจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สรา้ งสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนได้2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอดสาระสาคญัการสรา้ งบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนเป็นการออกแบบบทเรียนด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีมีลกั ษณะมปี ฏิสมั พนั ธ์ เพ่ือนามาใช้เป็นสอ่ื ในการเรียนรู้ ซ่ึงต้องคานึงถึงองค์ประกอบที่สาคัญ 4ประการ คือ สารสนเทศ ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล การมีปฏสิ มั พันธ์ และ การใหผ้ ลป้อนกลบัในทนั ที สามารถออกแบบโครงสร้างบทเรียนได้ 2 รูปแบบ คอื แบบเส้นตรง และแบบสาขากระบวนการในการออกแบบจะมีทัง้ หมด 7 ข้นั ตอน คือ การเตรยี ม การออกแบบบทเรียน การเขียนผังงาน การสร้างสตอรีบ่ อร์ด การสร้างและการเขียนโปรแกรม การผลติ เอกสารประกอบการเรียนและการประเมนิ และแกไ้ ขบทเรียน3. สาระการเรียนรู้ความรู้การจดั ทาโครงงานประกอบด้วย 1) การนาเสนอโครงงานทักษะ/กระบวนการ1) ทักษะการสารวจ2) ทักษะการเปรียบเทยี บ3) ทักษะการใชเ้ หตผุ ล4) ทักษะการวิเคราะห์5) ทกั ษะกระบวนการคิดแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์6) ทักษะการสร้างความรู้7) ทกั ษะการแสวงหาความรู้
260 8) ทกั ษะการทางานร่วมกนั 9) ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี 10) ทักษะปฏิบตั ิ 11) การสรปุ ความรู้ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการส่อื สาร 3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี4. คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ 1) มวี นิ ัย 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มงุ่ มัน่ ในการทางาน 4) มีความรบั ผิดชอบ 5) รักษส์ ่ิงแวดล้อม ค่านยิ ม 12 ประการ 4) ใฝห่ าความรู้ หมน่ั ศกึ ษาเลา่ เรยี นทัง้ ทางตรง และทางอ้อม 10) รู้จกั ดารงตนอยโู่ ดยใชห้ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 12) คานึงถึงประโยชน์ของสว่ นรวมมากกวา่ ผลประโยชนข์ องตนเอง5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1) ใบมอบหมายงานที่ 3 ใหน้ ักเรยี นจัดทาโครงงานสอ่ื บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน6. การวดั และการประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีการ 1) การซกั ถาม 2) การทดสอบ 3) การสงั เกต 4) การตรวจผลงาน 6.2 เครอ่ื งมือการวัดผล 1) แบบทดสอบ 2) แบบประเมนิ ผลงาน
261 6.3 เกณฑ์การผ่าน 1) ระดบั พอใช้ข้นึ ไป 6.4 การประเมนิ ผล ประเมินผลโดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดงั น้ีเกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน โครงงานส่อื บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ประเด็น ระดับคะแนน นา้ หนกั การประเมิน จดุ เนน้ 4 32 11. เนอื้ หาสาระ 5 เน้อื หา ถกู ต้อง เน้ือหา ถกู ต้อง เนื้อหา ถกู ตอ้ ง เนอื้ หาไมค่ รบถ้วน 52. ทกั ษะการใช้ ครบถว้ น ลกึ ซงึ้ ครบถ้วน ชัดเจน ครบถว้ นแตไ่ ม่ และไม่ชดั เจน 5คาสั่ง ชดั เจน ครอบคลมุ ครอบคลมุ หัวขอ้ ชัดเจนเทา่ ท่คี วร เทา่ ทคี่ วร3. เทคนิคการ หวั ข้อ ท่กี าหนด ท่กี าหนด 5ออกแบบ ใชค้ าส่ังสรา้ ง ใชค้ าสง่ั สร้างเนื้อหา เนอื้ หาได้อยา่ ง ใช้คาส่ังสร้างเนอ้ื หา ใชค้ าสง่ั สร้างเนือ้ หา ได้อยา่ งคล่องแคลว่ 54. กระบวนการ คลอ่ งแคลว่ ถกู ตอ้ ง ได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งทางาน ครบถว้ น ถกู ตอ้ ง มีความคิดริเร่ิม มีความคดิ รเิ ร่ิม5. คุณประโยชน์ สรา้ งสรรค์ มคี วามคิดริเริ่ม มคี วามคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ องค์ประกอบ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ องค์ประกอบสมบูรณ์ สมบูรณ์ น่าสนใจ องค์ประกอบสมบรู ณ์ องคป์ ระกอบสมบรู ณ์ คอ่ นข้างดี ใชง้ า่ ย ใชง้ า่ ย มีการวเิ คราะหง์ าน มีการวิเคราะหง์ าน วางแผนในการ มีการวเิ คราะหง์ าน มีการวิเคราะห์งาน วางแผนในการทางาน ทางาน ปฏบิ ัติตาม วางแผนในการทางาน วางแผนในการทางาน แตไ่ ม่ปฏบิ ตั ติ ามแผน แผนที่วางไว้ มกี าร ปฏบิ ตั ิตามแผนทวี่ าง ปฏิบัตติ ามแผนทว่ี าง ทีว่ างไว้ ประเมินผลการ ไว้ มีการประเมินผล ไว้ ทางานและนาผล การทางาน สอื่ มีคุณประโยชน์ต่อ จากการประเมินไป การเรียนรู้ นอ้ ย ปรับปรุงงานให้ สือ่ มคี ุณประโยชน์ตอ่ ส่อื มคี ุณประโยชน์ต่อ นาเสนอเนอื้ หาได้ สมบรู ณ์ย่งิ ขึน้ การเรียนรู้ นาเสนอ การเรยี นรู้ นาเสนอ พอใช้ สื่อมคี ุณประโยชน์ เนอ้ื หาได้ดีเหมาะสม เน้ือหาไดด้ พี อควร ตอ่ การเรียนรู้ กบั ผู้เรียน นาเสนอเนอ้ื หาได้ดี เหมาะสมกบั ผเู้ รียน สามารถนาไปใช้ งานไดอ้ ย่างดี
262เกณฑก์ ารตัดสิน/ระดบั คณุ ภาพ คะแนน 81 – 100 หมายถึง ดมี าก คะแนน 61 – 80 หมายถึง ดี คะแนน 41 – 60 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 40 หมายถึง ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ตั้งแตร่ ะดบั ดีข้ึนไปเกณฑก์ ารประเมนิ การทาแบบฝึกหัด/การทดสอบ ระดับคุณภาพ ระดบั คะแนน4 (ดีมาก) ไดค้ ะแนนการทดสอบ 8-10 คะแนน3 (ดี) ไดค้ ะแนนการทดสอบ 7 คะแนน2 (พอใช้) ได้คะแนนการทดสอบ 6 คะแนน1 (ปรับปรงุ ) ไดค้ ะแนนการทดสอบ 0-5 คะแนนเกณฑก์ ารผ่าน ตั้งแตร่ ะดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไป
263เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ประเดน็ ระดับคะแนน น้าหนกั จดุ เน้นการประเมนิ 4 3 2 1 11. มวี ินัย ปฏบิ ัตติ าม ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ไมป่ ฏบิ ัติตาม ขอ้ ตกลง จนเป็น จนเปน็ นสิ ยั ตรงต่อ เป็นบางครั้ง ข้อตกลง ในการทา 1 นสิ ยั ตรงต่อเวลา เวลา กิจกรรมต่าง ๆ รับผดิ ชอบทางาน 1 ด้วยตนเอง ศกึ ษาหาความรเู้ ปน็ บางครง้ั 12. ใฝเ่ รียนรู้ สนใจศกึ ษาหา สนใจศกึ ษาหาความรู้ สนใจศกึ ษาหาความรู้ ความร้อู ยา่ ง อยา่ งสมา่ เสมอและ อยา่ งสม่าเสมอ ทางานตามที่ไดร้ ับ 1 สม่าเสมอและ สรุป สรุปองคค์ วามรู้ มอบหมาย องค์ความรู้เผยแพร่ แก่ผสู้ นใจ ไมท่ างานตามท่ีได้รบั มอบหมาย3. มุง่ มั่น ตัง้ ใจทางานดว้ ย ตงั้ ใจทางานดว้ ย ตง้ั ใจทางาน ด้วยในการทางาน ความขยัน อดทน ความขยัน อดทน ความขยัน อดทน ใชพ้ ลงั งานอยา่ งไม่ งานสาเรจ็ ตาม งานสาเรจ็ ตาม ประหยดั และไม่4. มีความ เป้าหมายและเปน็ เปา้ หมาย ทางานตามทไี่ ดร้ ับ คมุ้ คา่รบั ผดิ ชอบ แบบอยา่ งที่ดี มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามท่ีไดร้ ับ ทางานตามที่ได้รับ คณุ ภาพ แต่ไมค่ รบ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี คุณภาพ ครบทกุ คุณภาพ ครบทุกช้นิ ชนิ้ และสง่ ตาม กาหนดเวลา5.รกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ ม ใช้พลังงานอยา่ ง ใช้พลังงานอยา่ ง ใชพ้ ลงั งานอยา่ ง ประหยดั และคุ้มค่า ประหยัดและคุ้มค่า มี ประหยัดและคมุ้ ค่า มกี ารนากลับมาใช้ การนากลบั มาใชใ้ หม่ ใหม่ มกี าร ประยุกต์ใช้วสั ดทุ ี่มี ในท้องถิ่น เกณฑก์ ารตดั สนิ /ระดบั คุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 12 – 15 หมายถึง ดี คะแนน 10 – 11 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถงึ ปรับปรุงเกณฑ์การผ่าน ตง้ั แต่ระดับดีข้ึนไป
2647. กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสู่การเรียน 1) ครบู ันทกึ เวลาเรยี นของนักเรียนดว้ ยโปรแกรมประมวลผลการเรยี นรู้ ข้ันศึกษาเรียนรู้ 2) นกั เรยี นนาเสนอผลงาน ตอ่ จากคร้งั ทแี่ ลว้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ประเมนิ ผลชนิ้ งาน 3) ครคู ดั เลือกผลงานดีเด่น นาเสนอให้นักเรยี นชม และช่วยวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ คณุ ภาพชิน้ งาน 4) ครแู ทรกคุณธรรมในการทางาน ไดแ้ ก่ ความพอเพยี ง ความรกั ความพงึ พอใจในงานที่ทาเป็นตน้ ข้ันสรปุ 5) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาระสาคัญจากการสรา้ งโครงงานคอมพวิ เตอร์ โดยใชส้ อ่ืPowerPoint : unit3.1 เรอื่ ง การจัดทาโครงงานการสร้างส่อื ชว่ ยสอน 6) นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ครบู นั ทกึ ผลการทดสอบ8. สอ่ื การเรยี นรู้ 1) ใบมอบหมายงานท่ี 3 ใหน้ ักเรียนจัดทาโครงงานสื่อบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน 2) สื่อ PowerPoint: unit3.1 เรอ่ื ง การจดั ทาโครงงานการสร้างสื่อชว่ ยสอน 3) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 4) เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ 5) เคร่ืองขยายเสยี งและไมโครโฟน9. แหลง่ เรียนรู้ 1) ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรยี นชลกนั ยานกุ ูล 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.net โรงเรียนชลกันยานุกูล จัดทาโดย นายสุทธิศักดิ์ เคลือบสงู เนนิ 3) เว็บไซต์ www.chonkanya.ac.th เวบ็ ไซต์ โรงเรียนชลกันยานุกลู 4) แผ่นซีดีรอม เว็บไซต์ ส่ือประสมอิเล็กทรอนิกส์ วิชา การสร้างสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ ชว่ ยสอน จดั ทาโดย นายสุทธศิ ักด์ิ เคลอื บสงู เนนิ 5) เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การผลิตส่ือมัลติมีเดีย การสร้างสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การใช้งานโปรแกรม Adobe Captivate 6) หอ้ งสมุดโรงเรยี นชลกันยานกุ ูล 7) ห้องสมดุ ประชาชนจงั หวัดชลบุรี
265 8) หอสมุดแห่งชาตจิ ังหวัดชลบรุ ี 9) หอสมุดมหาวิทยาลยั บูรพา 10) ห้องสมดุ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรยี นจังหวดั ชลบุรี10. กจิ กรรมเสนอแนะ นักเรียนศึกษาสาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม โดยการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต และแหล่งเรียนรู้ที่ครูแจง้ ไว้11. การบรู ณาการ การสร้างสือ่ บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน สามารถนาไปใชใ้ นการสรา้ งส่ือการเรยี นรู้และสอื่การเรียนการสอนรายวชิ าตา่ ง ๆ ได้อย่างดี
266 ใบมอบหมายงานท่ี 3วชิ า การสร้างส่ือบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน รหัสวชิ า ง 33201 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6เรือ่ ง การจัดทาโครงงานสอ่ื CAI เวลา 12 ชวั่ โมงผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวงัสามารถจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สร้างสอื่ คอมพวิ เตอร์ช่วยสอนได้เนื้อหาสาระวชิ า การจัดทาโครงงานประกอบด้วย 1) การวางแผนการจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 2) การออกแบบบทเรียน 3) การสร้างสื่อบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน 4) การนาเสนอโครงงานงานทมี่ อบหมาย 1. ใหผ้ เู้ รยี นวางแผนการสรา้ งส่อื บทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และจดั ทาแบบเสนอโครงงานเพอ่ื ขออนมุ ตั ใิ นการสรา้ งส่อื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน 2. ให้สร้างสอ่ื บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน เสนอเนอ้ื หาสาระตามความสนใจของผู้เรียนสาหรับรปู แบบในการนาเสนอเนอ้ื หา จะใช้รปู แบบแบบใดกไ็ ด้ ตามความคดิ สร้างสรรคข์ องผู้เรยี นความยาวของเนือ้ หาท้ังหมดไม่เกนิ 50 สไลด์ 3. ใหผ้ เู้ รยี นสร้างแบบทดสอบของบทเรยี นจานวนอย่างน้อย 10 ขอ้ 4. โปสเตอร์ 4 แผน่ ขนาด 60x60 เซนตเิ มตร เปน็ ไฟล์ PSD, JPG 5. เมื่อจัดทาผลงานเสร็จให้ส่งออกชิ้นงาน ในรูปแบบ Flash พร้อมเขียนไฟล์ผลงานท่ีจัดทาลงแผน่ DVD พรอ้ มทาปกกลอ่ งให้เรยี บรอ้ ย ภายในประกอบด้วย 1) CAI 2) ไฟล์ PSD, JPG ของโปสเตอร์ 3) รายงาน 5 บท 4) ไฟล์ประกอบอ่ืนๆ โดยบันทกึ แยกเป็นโฟลเดอร์ 6. จัดทาค่มู อื การใช้ และนาเสนอผลงาน
267กาหนดการส่งงาน นักเรยี นมีเวลาในการทางานตามใบมอบหมายงานท่ี 3 เปน็ เวลา 12 ช่ัวโมง เมื่อจดั ทาผลงานเสร็จเรยี บรอ้ ยใหน้ ัดหมายครแู ละนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียนการประเมินผล 1. นกั เรยี นทางานเสรจ็ ตามเวลาที่กาหนด 2. นักเรียนสรา้ งชน้ิ งานไดถ้ ูกต้องตามทีก่ าหนด
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หลงั เรยี น รหสั วิชา ง 33201 วิชาการสร้างส่อื ชว่ ยสอน จานวน 60 ขอ้ เวลาสอบ 60 นาที โรงเรยี นชลกนั ยานุกลู สงั กดั สพม. เขต 18 อาเภอเมอื งชลบุรี จังหวดั ชลบุรีคาสั่ง จงเลือกคาตอบท่ถี กู ทีส่ ดุ เพยี งขอ้ เดียวและทาเครอ่ื งหมาย X ลงในกระดาษคาตอบผลการเรยี นรู้ อธิบายความหมาย ประเภท องคป์ ระกอบ และข้นั ตอนการสรา้ งส่ือบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน (CAI) ได้1. สื่อบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนหรอื CAI ยอ่ มาจากคาในภาษาองั กฤษว่าอะไร ก. Computer Assisted Internet ข. Computer Assisted Instruction ค. Computer Association Internet ง. Computer Association Instruction2. ขอ้ ใดให้ความหมายของคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสดุ ก. บทเรียนคอมพิวเตอร์ท่ีสรา้ งขึน้ เพื่อใชส้ อนแทนครเู มื่อครูไปราชการ ข. บทเรยี นทอี่ อกแบบให้นาเสนอเน้ือหาสาระความร้ใู นลักษณะมัลติมีเดีย ค. บทเรยี นคอมพิวเตอรท์ ีม่ ภี าพนงิ่ ภาพเคลือ่ นไหว ขอ้ ความ และเสยี งประกอบ ง. บทเรยี นมัลติมเี ดียที่มีลักษณะการเรยี นรู้ใกลเ้ คยี งกบั การเรยี นจรงิ ในหอ้ งเรียน3. ขอ้ ใดคือองคป์ ระกอบสาคัญของคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนท่ีชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นไดใ้ กล้ชิดผสู้ อนมากท่ีสดุ ก. การโต้ตอบ ข. การนาเสนองาน ค. การใหข้ ้อมลู ย้อนกลบั ง. การวางแผนออกแบบสื่อ4. ขอ้ ใดเปน็ องค์ประกอบทีส่ าคัญของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ก. สารสนเทศ ข. การโตต้ อบ ค. ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล ง. ถูกทกุ ข้อ
2695. ข้อใดจดั เป็นการเสรมิ แรงใหก้ บั ผ้เู รียนในการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ก. Interaction ข. Information ค. Individualization ง. Immediate Feedback6. การให้ผลปอ้ นกลบั ทันที หมายถงึ ข้อใด ก. เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นได้มปี ฏิสัมพันธ์กบั ผูส้ อน ข. การตอบสนองตามความต้องการของบุคคล ค. เป็นการเสริมแรงโดยใชก้ ารประเมนิ หรือการทดสอบความเข้าใจ ง. การนาเน้อื หาสาระมาเรยี บเรียงใหมต่ ามวัตถปุ ระสงค์ทกี่ าหนดไว้7. ประเภทของบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนแบบการสอนที่มีการพัฒนาแบบ Self Study Packageคอื อะไร ก. การศกึ ษาด้วยตนเอง ข. การศึกษาโดยใช้คอมพิวเตอร์ ค. การศึกษาโดยใช้สือ่ การสอน ง. การศกึ ษาโดยนักเรยี นเป็นศูนยก์ ลาง8. คอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีการนาเสนอลกั ษณะทางตรงไดแ้ กข่ อ้ ใด ก. เกม ข. การอา่ น ค. การสมมติ ง. การจาลอง9. ภาพเคล่ือนไหวในบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนมีประโยชน์ในขอ้ ใด ก. ผเู้ รยี นเกดิ ความอยากรู้อยากลอง ข. ชว่ ยแยกแยะความคิดของผเู้ รียน ค. ผูเ้ รยี นเกดิ แรงกระตนุ้ ในการเรียนมากข้นึ ง. ดงึ ดูดใหผ้ เู้ รยี นเกิดความสนใจในการเรียนมากขน้ึ10. ประเภทของบทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนแบบสอนซ่อมเสรมิ มีประโยชนอ์ ย่างไร ก. เสรมิ ความรู้ใหม่ๆให้แกผ่ เู้ รยี น ข. แทรกเน้อื หาที่ผู้เรียนยังไมผ่ ่านเกณฑ์ ค. เสรมิ ความสามารถตามความถนดั ของผูเ้ รียน ง. ทบทวนความรู้ความเข้าใจเน้ือหาท่เี คยเรียนผา่ นมาแล้ว
27011. ขอ้ ใดคอื ประเภทของบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนที่ผเู้ รยี นสามารถเรยี นรูไ้ ด้จากประสบการณ์ ก. การแกป้ ัญหา ข. สร้างสถานการณ์ ค. สรา้ งสถานการณ์จาลอง ง. แบบฝึกหัดและฝึกปฏิบัติ12. ข้อใดคอื ประเภทของบทเรยี นคอมพิวเตอร์ ก. เกม ข. แบบฝึกหัดและปฏบิ ตั ิ ค. การสรา้ งสถานการณ์จาลอง ง. ถกู ทกุ ข้อ13. บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนในรปู แบบ Drill and Practice คอื บทเรียนท่ีมลี ักษณะในข้อใด ก. มุ่งเน้นการนาเสนอเน้ือหาบทเรยี น ข. มงุ่ เน้นการทดสอบความรู้ของผูเ้ รียน ค. จาลองสถานการณใ์ หผ้ ู้เรยี นแกป้ ญั หา ง. มุ่งเนน้ ให้ทาแบบฝึกหดั ทบทวนความรู้14. บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนแบ่งตามลักษณะโครงสร้างการเรยี นร้ไู ด้กี่รปู แบบ ก. 2 รูปแบบ ข. 3 รปู แบบ ค. 4 รูปแบบ ง. 5 รปู แบบ15. ข้อใดคือโครงสร้างการเรียนรู้แบบ Branching ก. เป็นโครงสรา้ งพน้ื ฐานทงี่ ่ายทีส่ ุด ข. ไม่มกี ารกระโดดขา้ มไปยังสว่ นอนื่ ๆ ค. มอี สิ ระในการเลือกทางเดินของบทเรยี น ง. เฟรมเนอื้ หา เฟรมคาถาม และเฟรมกิจกรรมเรียงตามลาดับ
27116. การออกแบบสรา้ งสอื่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีขั้นตอนตามข้อใด A) Design Instruction B) Create Storyboard C) Produce Supporting Materials D) Preparation E) Flowchart Lesson F) Program Lesson G) Evaluate and Revise ก. A D E B C F G ข. D A E B F C G ค. A D E B F C G ง. D A B E F C G17. ข้อใดเปน็ ขนั้ ตอนในการออกแบบบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน ก. เลือกใชโ้ ปรแกรมทเ่ี หมาะสม ข. กาหนดเป้าหมายและวตั ถุประสงค์ ค. ออกแบบบทเรียนและแก้ไขการออกแบบ ง. ประเมินผลและแก้ไขบทเรียน สงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น18. นกั เรียนคดิ ว่า บทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน มีประโยชนห์ รอื ไม่ เพราะอะไร ก. มี เพราะ เข้าใจบทเรยี นได้ดีข้นึ ข. ไม่มี เพราะ ไมส่ ามารถหาข้อมลู จากแหลง่ อ่นื ค. ไม่มี เพราะ เนือ้ หาวชิ าต่างๆ มหี มดแลว้ ในหนังสือ ง. มี เพราะ สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง เขา้ ใจเน้ือหาได้ดขี ึ้น19. ข้อใดไมใ่ ช่ขอ้ ดีของบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน ก. ไมจ่ ากัดเวลา สถานที่ ข. การระดมความคดิ ของผเู้ ชยี่ วชาญ ค. ประหยัดเวลาในการเรยี นการสอน ง. เพม่ิ แรงจูงใจในการเรียนรู้แกผ่ ู้เรียน
27220. ข้อจากัดในการสร้างสอ่ื บทคอมพิวเตอร์ช่วยสอน คือข้อใด ก. ชว่ ยผ้เู รยี นในการเรยี นรู้ ข. ความสนกุ สนานเร้าความสนใจ ค. ตอ้ งอาศัยผู้ชานาญการหลายดา้ น ง. ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบคุ คลผลการเรยี นรู้ สามารถอธิบายความรู้เกีย่ วกับโปรแกรม Adobe Captivate 8 ได้21. โปรแกรม Adobe Captivate 8 เปน็ โปรแกรมทถ่ี ูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทใด ก. Adobe ข. Macromedia ค. Adobe และ Macromedia ง. Adobe Macromedia และ Microsoft22. โปรแกรมทเี่ หมาะสาหรบั ใช้ในการสร้างสื่อบทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมากท่สี ุด คือข้อใด ก. PowerPoint ข. Dreamweaver 8 ค. Proshow Gold ง. Adobe Captivate 823. ข้อใดไม่ใชจ่ ุดเดน่ ของโปรแกรม Adobe Captivate 8 ก. สรา้ งส่อื นวัตกรรมไดง้ า่ ย ข. สามารถตกแตง่ ภาพได้ง่าย ค. สรา้ งแบบทดสอบวดั ผลการเรยี นรไู้ ด้ง่าย ง. ทาการบนั ทกึ เสียงลงในสื่อบทเรยี นและตดั ต่อเสียงได้24. ขอ้ ใดไม่ใช่ความสามารถใหมข่ องโปรแกรม Adobe Captivate 8 ก. รองรบั การแทรกวัตถุ HTML5 ข. บันทกึ วดิ ีโอหน้าจอขณะทางานได้ ค. ยอ่ และขยายขนาดของเน้ือหาในหน้าจอได้ ง. ขณะทาการแสดงผล สามารถเขียนข้อความได้
27325. ขอ้ ใดกล่าวได้ถูกต้องเกยี่ วกบั คุณสมบตั ิของโปรแกรม Adobe Captivate 8 ก. รองรับไฟลเ์ สียงได้ทุกชนดิ ข. โปรแกรมรองรบั ไฟล์วีดโี อไดท้ กุ รูปแบบ ค. สามารถส่งออกช้ินงานเป็นไฟล์ PDF ได้ ง. สามารถนาไฟล์ PowerPoint มาสรา้ งบทเรยี นตอ่ ได้26. ขอ้ ใดเรยี งลาดับขั้นตอนการติดตงั้ โปรแกรม Adobe Captivate 8 ไดถ้ กู ตอ้ ง A) Install with a serial number B) Installation complete C) Click install and wait D) Insert serial number and click next E) Accept F) Double click Set-up.exe ก. F A E D C B ข. F A D E C B ค. F A D E B C ง. F A E D B C27. รูปแบบการสร้างชิน้ งานของโปรแกรม Adobe Captivate 8 มกี ร่ี ูปแบบ ก. 4 แบบ ข. 5 แบบ ค. 6 แบบ ง. 7 แบบ28. การสรา้ งส่ือบทเรยี นโดยการจับภาพหน้าจอของโปรแกรมที่เคล่ือนไหว คือข้อใด ก. Blank Project ข. Software Simulation ค. Scenario Simulation ง. Insert >>> Animation29. การสร้างสอื่ บทเรยี นแบบ Responsive Project คือข้อใด ก. การสรา้ งพน้ื ที่งานวา่ งๆ ข. การนางานนาเสนอท่ีมีอยูม่ าใช้ ค. การบันทกึ ภาพหนา้ จอเคลื่อนไหว ง. สามารถปรับขนาดใหเ้ หมาะสมกบั หน้าจอของอปุ กรณท์ ่ีใช้
27430. การปรับมมุ มองในรปู แบบใดทส่ี ามารถมองเหน็ สไลดท์ ุกสไลด์ ก. Edit ข. Branching ค. Flimstrip ง. Branching และ Flimstripผลการเรียนรู้ สามารถใช้คาสั่งการสร้างช้ินงานเสนอเน้อื หา และสามารถบันทึก ปรบั แต่ง เสยี งบรรยายและเสยี งประกอบสอื่ บทเรยี นในสือ่ บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน (CAI) ดว้ ยโปรแกรม AdobeCaptivate 8 ได้31. คาสั่งในข้อใดใชใ้ นการแทรกกลอ่ งข้อความลงในสไลด์ ก. Text ข. Text Box ค. Text Caption ง. Caption32. คาสัง่ ในข้อใดใช้ในการแทรกข้อความเคล่ือนไหวลงในสไลด์ ก. Text ข. Text Box ค. Text Caption ง. Text Animation33. คาสั่งแทรกรูปภาพในสไลด์ ต้องใช้คาสัง่ ในข้อใด ก. Image ข. Picture ค. Zoom Area ง. ข้อ ก และ ข34. โปรแกรม Adobe Captivate 8 สามารถแทรกภาพเคลื่อนไหวประเภทใด ก. SWF ข. GIF ค. FLA ง. ถูกทกุ ข้อ
27535. การสร้างปมุ่ ควบคมุ บทเรียนเพอ่ื สรา้ งความสัมพนั ธร์ ะหว่างสไลดค์ วรใช้คาสัง่ ใด ก. Image ข. Mouse ค. Button ง. Rollover Caption36. คาสง่ั Drag and Drop ไวใ้ ช้เพ่ือข้อใด ก. ประยุกตใ์ ช้เปน็ เกมจบั คู่ ข. เชอ่ื มโยงไปยังสว่ นต่างๆในชน้ิ งานและนอกชนิ้ งาน ค. เม่ือนาเมาส์ไปช้ที ่ีพนื้ ทท่ี ี่กาหนดแล้วปรากฏรูปภาพขึ้นมา ง. เม่ือนาเมาส์ไปชีท้ ี่พนื้ ที่ที่กาหนดแลว้ ปรากฏขอ้ ความขน้ึ มา37. เมนทู ใ่ี ช้เลือกคาสัง่ ในการใสเ่ สยี งประกอบบทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน คือเมนขู ้อใด ก. File ข. Edit ค. Insert ง. Audio38. เมอ่ื ต้องการใส่เสียงเพลงเปน็ เสยี งประกอบบทเรยี น ควรใช้คาส่ังในข้อใด ก. Audio ข. Import ค. Background Audio ง. Sound Record39. การบันทกึ เสยี งทงั้ ช้ินงาน คือคาส่งั ในข้อใด ก. Audio -> Record to -> Slide ข. Audio -> Record to -> Slides ค. Audio -> Record to -> Object ง. Audio -> Record to -> Project40. การจัดการด้านเสยี งด้วยโปรแกรม Adobe Captivate 8 ส่งิ ท่โี ปรแกรมไมส่ ามารถทาได้คอื ข้อใด ก. การตัดเสียง ข. การบบี อดั เสียง ค. การแทรกเสียง ง. การคัดลอกเสียง
276ผลการเรียนรู้ สามารถสรา้ งแบบทดสอบของสื่อบทเรยี นคอมพิวเตอร์ (CAI) และสามารถเช่ือมโยงสื่อบทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและแปลงผลงานส่งออกเป็นชิน้ งานเพอื่ นาไปใช้ ดว้ ยโปรแกรมAdobe Captivate 8 ได้41. การสรา้ งแบบทดสอบของโปรแกรม Adobe Captivate 8 มกี ี่ประเภท ก. 6 ประเภท ข. 7 ประเภท ค. 8 ประเภท ง. 9 ประเภท42. ข้อใดไมใ่ ช่ประเภทของแบบทดสอบในโปรแกรม Adobe Captivate 8 ก. แบบตอบดว้ ยเสียง ข. แบบเติมคาในช่องว่าง ค. แบบถกู หรือผิด ง. แบบหลายตัวเลือก43. การสรา้ งข้อสอบแบบปรนัย มีข้นั ตอนในการทาอยา่ งไร A) คลกิ เมนู Quiz B) ในหน้าตา่ ง Question Types คลกิ Multiple Choice C) พิมพส์ ว่ นประกอบของข้อสอบในสว่ นคาถาม D) คลกิ ที่ช่องหน้าตัวเลือกที่ถูกต้อง E) คลกิ Question Slide F) คลกิ ปมุ่ Graded Question เพ่อื ไปสรา้ งขอ้ สอบ G) พมิ พ์ในส่วนของคาตอบหรือตวั เลือก H) คลกิ ปุ่ม OK ก. A B C D E F G H ข. A E B F C G D H ค. A C B E D F G H ง. A E B C F G H D
27744. ข้อใดเปน็ คาสง่ั ในการสรา้ งขอ้ สอบแบบเติมคา ก. Short Answer ข. Question Types ค. Fill-in-the-blank ง. Graded Question45. ข้อใดไม่มอี ยใู่ นการกาหนดเงอื่ นไขการสอบ (Quiz Preferences) ก. การต้ังคา่ ขอ้ มูล ข. เกณฑ์การสอบผ่าน/ไม่ผ่าน ค. การสุ่มสลบั ข้อสอบ ง. การกาหนดชอ่ื ปุม่ ควบคมุ46. คาสงั่ ทใี่ ชใ้ นการเชือ่ มโยงไปยงั สไลดห์ น้ากอ่ นหนา้ น้ี คอื ข้อใด ก. Jump to slide ข. Go to next slide ค. Open URL or file ง. Go to previous slide47. คาสัง่ ทีใ่ ช้ในการเชอ่ื มโยงไปยังสไลด์หน้าท่ีต้องการ คือขอ้ ใด ก. Jump to slide ข. Go to next slide ค. Open URL or file ง. Go to previous slide48. เมนใู นข้อใดคือวธิ ีการดแู บบ Branching View ก. View ข. Modify ค. Project ง. Window49. การปรบั ปรงุ การเชื่อมโยงบทเรียน ควรปรับมมุ มองของสไลดใ์ หอ้ ยใู่ นรปู แบบใดดีท่สี ุด ก. Edit ข. Flimsrtip ค. Branching ง. Branching และ Flimsrtip
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288