คำนำวิจัยในช้ันเรียน เรื่อง การแก้ไขปัญหาการใช้คาสั่งในโปรแกรม Adobe Captivate 8 ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/11 โรงเรียนชลกันยานุกูล ได้จัดทาข้ึนเพื่อตรวจสอบการใช้คาส่ังโปรแกรม Adobe Captivate 8 ดว้ ยส่ือสังคมออนไลน์ของนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6/11 โรงเรียนชลกนั ยานุกูล ตามเกณฑท์ ่สี รา้ งข้ึน เพอื่ เป็นแนวทางในการพัฒนาทางด้านการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขนึ้ ขอขอบคุณผเู้ กีย่ วข้องในการจัดทารายงานวิจัยในช้ันเรียนเล่มนี้ให้สาเร็จสมบรู ณ์ ซง่ึ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนการสอนของโรงเรียนชลกันยานกุ ลู ตอ่ ไป พฤทธิววรณ ชว่ งพทิ ักษ์
สารบญัเร่อื ง หนา้คานา.............................................................................................................................................................. กสารบญั ........................................................................................................................................................... ขสารบญั ตาราง ................................................................................................................................................ คบทที่ 1 บทนา ................................................................................................................................................ 1 1.1 ความเปน็ มาและความสาคญั ของการวจิ ยั ..............................................................................................1 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจยั ......................................................................................................................2 1.3 สมมติฐานของการวิจยั ..........................................................................................................................2 1.4 ขอบเขตของการวิจยั .............................................................................................................................2 1.5 คานยิ ามศัพท์เฉพาะ..............................................................................................................................3 1.6 ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รับ ....................................................................................................................3บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจัยทเ่ี กี่ยวขอ้ ง........................................................................................................ 4 2.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของการวิจัย..............................................................................................4 2.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย ......................................................................................................................6 2.3 ขอบเขตของการวิจยั .............................................................................................................................9บทท่ี 3 วธิ กี ารดาเนนิ งาน............................................................................................................................ 11 3.1 ประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง................................................................................................................. 11 3.2 เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการวิจยั ..................................................................................................................... 11 3.3 วิธีดาเนนิ การทดลอง .......................................................................................................................... 14 3.4 การวิเคราะห์ข้อมลู ............................................................................................................................. 14บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล .................................................................................................................... 16
สารบญั (ต่อ)เรอ่ื ง หนา้บทท่ี 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ.............................................................................. 19 5.1 วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย ................................................................................................................... 19 5.2 ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง................................................................................................................. 19 5.3 เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย..................................................................................................................... 19 5.4 วิธดี าเนินการทดลอง .......................................................................................................................... 19 5.5 สรุปผลการวิจยั .................................................................................................................................. 20 5.6 อภิปรายผลการวิจยั ........................................................................................................................... 20 5.7 ขอ้ เสนอแนะเพ่ือการนาไปใช้.............................................................................................................. 21
สารบัญตารางตารางท่ี หน้าตารางท่ี 3.1 แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการสรา้ งส่ือชว่ ยสอน เร่อื งการใชโ้ ปรแกรม Adobe Captivate ………………………………………………………………………………………….12ตารางที่ 4.1 ผลการประเมินการใชค้ าสั่งโปรแกรม Adobe Captivate ……………………………………..16
บทท่ี 1 บทนำ1.1 ควำมเปน็ มำและควำมสำคัญของกำรวิจยั ปัจจุบันโลกไดก้าวเข้าสูยุคท่ีเช่ือกันว่าความรู คือ ชุดของข้อมูลที่พัฒนาขึ้นมาจากความคิดโดยมีเทคโนโลยีเป็นเคร่ืองมือในการกระตุ้นความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้แกนักเรียนดังน้ันความสามารถในการใช้เทคโนโลยีท่ีเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ได้อย่างคล่องแคล่วจึงเป็นสมรรถนะท่ีจาเป็นต่อคนยุคใหม่ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (แก้ไขเพ่ิมเติม พ.ศ.2545) หมวดท่ี 4 แนวทางการจดั การศกึ ษา มาตรา 22 ระบวุ า่ การจดั การศึกษาต้องยึดหลักว่าผ้เู รียนทกุ คนมีความสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ และถือว่าผูเ้ รียนมีความสาคัญท่ีสดุ กระบวนการจัดการศึกษา ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถ พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ และมาตรา 24ระบุว่า การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดาเนินการจัดเน้ือหาสาระและกจิ กรรมใหส้ อดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผเู้ รยี น โดยคานงึ ถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล จัดให้มีการฝึกทักษะ กระบวนการคิด การประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาจดั กิจกรรมให้ผูเ้ รยี นได้เรยี นรจู้ ากประสบการณ์จริง (สานักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา, 2559) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นหนึ่งใน 8 กลุ่มสาระท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ซ่ึงเปน็ กลุม่ สาระท่ชี ว่ ยพฒั นาใหน้ กั เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนาความรู้เก่ียวกับการดารงชีวิต การงานอาชีพ และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทางานอย่างมีความคิดสรา้ งสรรค์ สามารถเห็นแนวทางในการประกอบอาชพี รักการทางาน และมเี จตคตทิ ด่ี ีต่อการทางาน สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียงและมีความสุข จึงมุ่งพัฒนานักเรียนแบบองค์รวมเพื่อใหม้ คี วามรคู้ วามสามารถ มีทักษะการทางาน เหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพและศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสาคัญ คือ การดารงชีวิตและครอบครัว การออกแบบและเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (กระทรวงศกึ ษาธิการ. 2551 : 204) หลายคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการใช้บริการส่ือสังคมออนไลน์ เพื่อเข้าไปพบปะพูดคุยกับเพ่ือนหรือเล่นเกม ซ่ึงอาจจะส่งผลทาให้ไม่มีเวลาทาการบ้านหรือทบทวนบทเรียน และเป็นผลให้ผลการเรยี นของนกั เรียนตกต่าลงได้ แต่ถา้ หากนักเรียนสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตและส่ือสังคมออนไลน์ โดยใช้งานในเชิงที่สร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์ เช่น ใช้ในการปรึกษา สอบถามปญั หาข้อสงสยั กับครูผู้สอนหรอื ผู้รู้ หรือแนะนาเก่ียวกบั การเรียน และแหลง่ เรียนรู้ที่ได้ค้นพบมาให้กับเพ่ือน หรือใช้เป็นแหล่งในการบันทึก เก็บรวบรวมความรู้ ข้อมูลที่นักเรียนได้ศึกษาเรียนรู้ทั้งใน
2ห้องเรียนและนอกห้องเรียน โดยสรุปเป็นใจความหรือเน้ือหาสาคัญไว้ เพื่อใช้เป็นแหล่งทบทวนบทเรยี นและเผยแพร่ความรใู้ หเ้ พ่ือนหรือผู้ท่ีสนใจได้เข้ามาศกึ ษา เครอื่ งมือเหล่านี้ก็จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากต่อการเรียนรู้ของนักเรียนเอง และจะช่วยให้นักเรียนสามารถร่วมกันเรียนรู้ ร่วมกันปรึกษา แก้ปัญหา และหาคาตอบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตและนาส่ือสังคมออนไลนม์ าใช้ในทางท่ีเกิดประโยชน์ต่อการเรียนของตนเอง บทเรยี นออนไลน์ จะทาใหน้ ักเรยี นทุกคนสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ตลอดเวลาและสามารถใช้ศึกษาเรียนรู้ที่ใดก็ได้หากท่ีนั้นสามารถเชื่อมต่ออินเตอรเ์ น็ตได้ (กมลณฐั โตจินดา, 2556: 3) จากความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน ทาให้เยาวชนยุคใหม่มีส่ือและแหล่งเรียนรมู้ ากมาย และมีเครอ่ื งมอื ท่ีสามารถเขา้ ถงึ ส่ือตา่ งๆ ได้ทกุ ทที่ กุ เวลา โดยเฉพาะอย่างย่ิงระบบอนิ เทอร์เนต็ ที่ช่วยใหก้ ารส่ือสารเป็นไปได้อย่างรวดเรว็ สบื ค้นขอ้ มลู ต่างๆ ไดภ้ ายใน ระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่าน้ีหากนักเรียนนามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษา ก็จะเป็นส่ิงที่จะทาให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรอบดา้ น และเรียนรู้ได้ทุกท่ีทุกเวลา จะช่วยในการแก้ไขปัญหาการใช้คาส่ังโปรแกรม Adobe Captivate 8 ด้วยส่ือสังคมออนไลน์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/11โรงเรียนชลกนั ยานุกลู1.2 วัตถปุ ระสงคข์ องกำรวิจยั เพ่ือตรวจสอบการใช้คาส่ังโปรแกรม Adobe Captivate 8 ด้วยส่ือสังคมออนไลน์ของนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6/11 โรงเรยี นชลกนั ยานกุ ลู ตามเกณฑ์ท่สี ร้างขึ้น1.3 สมมติฐำนของกำรวิจัย นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/11 โรงเรียนชลกันยานุกูลสามารถใช้คาส่ังโปรแกรม AdobeCaptivate 8 ร้อยละ 801.4 ขอบเขตของกำรวิจัย 1.4.1 ประชำกรและกลุ่มตวั อยำ่ ง ประชากร : นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ท่เี รียนวิชาการสรา้ งส่ือช่วยสอน ของโรงเรยี นชลกนั ยานุกูล ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2559 จานวน 4 ห้องเรยี น รวมทั้งสน้ิ 161 คน
3 กลุ่มตัวอย่าง : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ช้ัน ม.6/11 ที่เรียนวิชาการสร้างส่ือช่วยสอนของโรงเรียนชลกันยานุกูล ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2559 จานวน 1 ห้องเรียน รวม 39คน 1.4.2 ตวั แปรทศี่ กึ ษำ ตวั แปรต้น : วิธกี ารสอนโดยใช้สอื่ สังคมออนไลน์ ตวั แปรตาม : ใชค้ าสั่งในโปรแกรม Adobe Captivate 8 ได้ 1.4.3 ขอบเขตด้ำนเนื้อหำ เน้ือหาวชิ าการสรา้ งสอ่ื ชว่ ยสอน เร่อื ง การใช้โปรแกรม Adobe Captivate 8 1.4.4 ระยะเวลำที่ทำกำรทดลอง ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2559 จานวน 16 คาบ คาบละ 60 นาที1.5 คำนิยำมศพั ทเ์ ฉพำะ โปรแกรม Adobe Captivate 8 หมายถึง โปรแกรมที่ใช้ในการสร้างสือ่ ชว่ ยสอน สื่อสังคมออนไลน์ หมายถึง เว็บไซด์ท่ีจัดทาขึ้นเป็นสื่อการสอน ผ่านระบบเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต เรื่องการใช้งานโปรแกรม Adobe Captivate วิธีการสอนโดยใช้ส่ือสังคมออนไลน์ หมายถึง การใช้วิธีสอนโดยนาบทเรียนที่พัฒนาขึ้นผา่ นเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต เพ่ือช่วยในการจดั การเรียนรูในวิชาการสร้างสอื่ ช่วยสอน1.6 ประโยชนท์ คี่ ำดว่ำจะได้รับ 1. นักเรียนสามารถใช้คาส่งั ในโปรแกรม Adobe Captivate 8 ได้ถกู ต้อง 2. นักเรยี นสามารถนาไปใชใ้ นการทาโครงงานกลมุ่ 3. เพอื่ เปน็ แนวทางในการประยกุ ตใ์ ช้ส่ือสงั คมออนไลนใ์ นการจัดการเรียนรู้
บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่เี กี่ยวข้อง การวจิ ัยในชัน้ เรียน เรอ่ื ง การแกไ้ ขปัญหาการใชค้ าสง่ั ในโปรแกรม Adobe Captivate 8ด้วยส่ือสังคมออนไลน์ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/11 โรงเรียนชลกันยานุกูล ผู้วิจัยได้ศึกษาทฤษฎี งานวิจยั และเอกสารตา่ งๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง ดังนี้ 2.1 โปรแกรม Adobe Captivate 8 2.2 สอื่ สังคมออนไลน์ 2.3 งานวิจัยทเี่ กี่ยวขอ้ ง2.1 โปรแกรม Adobe Captivate ความเป็นมาของ Adobe Captivate Robo Demo คือ ชื่อของซอฟต์แวร์สร้างบทเรียนเชิงโต้ตอบ สร้างและพัฒนาโดยบริษัทeHelp Software เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2003 บริษัท Macromedia ซ้ือบริษัท eHelp Softwareและนา Robo Demo มาพัฒนาต่อ เปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น ‘Captivate’ ถัดจากนั้นเพียงสองปีในวันที่ 3 ธันวาคม 2005 บริษัท Macromedia ก็ถูกกลืน โดยบริษัท Adobe Robo Demo หรือในช่ือใหม่ Captivate พรอ้ มเพ่ือนรว่ มชะตากรรมอื่นๆ อยา่ งเชน่ Authorware, Flash และ Director ฯลฯกไ็ ด้กลายมาเป็นผลติ ภณั ฑ์ของAdobe นบั จากนนั้ ปัจจุบันส่ือเรียนรู้หรือสื่อการนาเสนอมีรูปแบบที่หลากหลาย ท้ังสื่อแบบข้อความ รูปภาพเสียง ภาพเคลื่อนไหว ส่ือมัลติมีเดีย ท่ีบรรจุอยู่ในแผนซีดี หรือเผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรแกรมทีน่ ามาสร้างสื่อเรียนรูห้ รือสือ่ นาเสนอแบบมัลติมเี ดียที่เรารูจ้ ักน้นั มีมากมายหลายโปรแกรมเช่น Office TLE Impress, Microsoft PowerPoint, Macromedia Authorware, Adobe Flashฯลฯ โปรแกรมเหล่าน้จี ะต้องใช้เวลาในการเรยี นรู้เพอื่ พอสมควรจงึ จะสรา้ งงานออกมาได้ โปรแกรม Adobe Captivate เป็นผลิตภัณฑ์น้องใหม่จากค่าย Adobe ที่ถูกพัฒนาข้ึน มาเพื่อสนับสนุนการสร้าง Movie ในรูปแบบสื่อเรียนรู้หรือส่ือการนาเสนอแบบมัลติมีเดีย เช่น การนาเสนอผลงาน การจับหน้าจอภาพเพ่ือนาไปสร้างส่ือเรียนรู้การสร้างส่ือจากข้อมูลต่างๆ การสร้างแบบทดสอบ รวมไปถึงการตัดต่อวีดิโอเพื่อใช้สาหรับงานนาเสนอหรือผลิตส่ือเรียนรู้โดยโปรแกรมAdobe Captivate เป็นโปรแกรมทใ่ี ช้สรา้ งช้นิ งานได้งา่ ยและเร็ว
5 จดุ เดน่ ของโปรแกรม Adobe Captivate 1. สร้างสื่อเรียนรู้หรือสือ่ นาเสนอมัลติมีเดยี ไดอ้ ย่างงา่ ยดาย 2. ตัดตอ่ วิดโี อได้ท้ังภาพน่งิ และภาพเคลื่อนไหว 3. สร้างสื่อเรียนรู้โดยการจับหน้าจอภาพ (Screen Capture Movie( อัดเสียงบรรยายประกอบ 4. เหมาะสาหรบั การนาไปใชเ้ ป็นสื่อการเรยี นการสอน 5. สรา้ งแบบทดสอบไดง้ า่ ย และมีแบบทดสอบให้เลอื กทาไดห้ ลายรปู แบบ 6. นาเข้าไฟล์จากแหล่งต่างๆ ได้หลากหลาย ไฟล์จาก Adobe flash ไฟล์รูปภาพ (Image(เช่น JPG, BMP, GIF, ไฟล์เสียง (Sound( เช่น MP3, WAV เสียงบรรยายผ่านไมโครโฟน ไฟล์วิดีโอ(Video( เชน่ AVI สไลด์จากโปรแกรม Microsoft Power Point (.PPT( 7. ส่งออกไฟล์ได้หลายรูปแบบ Flash Movie File (.swf(, HTML File (.html( สาหรับการนาไปใช้กับเว็บไซต์ ,EXE File (.exe( สาหรับการนาไปใช้แบบ Stand alone คือ การแสดงผลโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม Adobe Captivate และ zip file สาหรับบทเรียนในแบบ scorm เพื่อนาเข้าไปใชใ้ นบทเรียนออนไลนแ์ ละยงั สามารถเปน็ ไฟล์ AVI ได้ดว้ ย ความสามารถของโปรแกรม Adobe Captivate 1. Multimode recording ประหยัดเวลาในการสร้างวีดิโอจากภาพหน้าจอ ทั้งนี้สามารถบันทึกในหลายโหมดพร้อมกันได้ท้ัง demonstration training simulation และ assessmentsimulation 2. Randomized quizzing and question pools สามารถสร้างคลงั ขอ้ มลู และเลอื กสมุ่ มาเพ่ือใช้ทดสอบ ทาใหย้ ากแก่การคาดเดาของผูเ้ รยี น 3. Automated rerecording บันทกึ ภาพหนา้ จออัตโนมัติ 4. Animation effects เพ่มิ เทคนคิ และลูกเลน่ มากขึ้น 5. Audio recording with preview บันทกึ เสยี งพร้อมนาเสนอภาพพรอ้ มกันได้Full motion recording รองรบั การสร้างวีดิโอจากภาพหน้าจอในลักษณะต่อเนื่องได้
62.2 สอ่ื สังคมออนไลน์ ความหมายของสื่อสงั คมออนไลน์ สื่อสังคมออนไลน์ หมายถึง ส่ือดิจิทัลท่ีเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติการทางสังคม (SocialTool( เพื่อใช้สื่อสารระหว่างกันในเครือข่ายทางสังคม (Social Network( ผ่านทางเว็บไซต์และโปรแกรมประยุกต์บนส่ือใดๆ ท่ีมีการเช่ือมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยเน้นให้ผู้ใช้ท้ังที่เป็นผู้ส่งสารและผู้รับสารมีส่วนร่วม (Collaborative( อย่างสร้างสรรค์ ในการผลิตเนื้อหาข้ึนเอง (User-GenerateContent: UGC( ในรูปของขอ้ มูล ภาพ และเสียงประเภทของสอื่ สังคมออนไลน์ประเภทของส่ือสังคมออนไลน์ มีด้วยกันหลายชนิด ข้ึนอยู่กับลักษณะของการนามาใช้โดยสามารถแบ่งเปน็ กล่มุ หลกั ดังน้ี 1. Weblogs หรือเรียกสัน้ ๆ วา่ Blogs คอื สือ่ ส่วนบคุ คลบนอินเทอรเ์ นต็ ท่ีใช้เผยแพรข่ ้อมลูข่าวสาร ความรู้ ขอ้ คิดเหน็ บันทึกส่วนตวั โดยสามารถแบ่งปันใหบ้ ุคคลอืน่ ๆ โดยผู้รบั สารสามารถเข้าไปอา่ น หรือแสดงความคดิ เห็นเพ่ิมเติมได้ ซึ่งการแสดงเน้ือหาของบล็อกนั้นจะเรยี งลาดบั จากเนอื้ หาใหม่ไปส่เู น้ือหาเก่า ผูเ้ ขียนและผู้อา่ นสามารถคน้ หาเน้ือหาย้อนหลังเพื่ออ่านและแก้ไขเพม่ิ เตมิ ได้ตลอดเวลา เช่น Exteen, Bloggang, Wordpress,Blogger, Okanation 2. Social Networking หรอื เครือขา่ ยทางสังคมในอนิ เทอร์เน็ต ซึ่งเป็นเครือขา่ ยทางสงั คมที่ใช้สาหรบั เชือ่ มตอ่ ระหวา่ งบคุ คล กลุม่ บุคคล เพอื่ ใหเ้ กิดเปน็ กลมุ่ สังคม (Social Community( เพื่อรว่ มกันแลกเปลีย่ นและแบ่งปันข้อมูลระหวา่ งกันท้ังด้านธรุ กิจ การเมือง การศึกษา เชน่ Facebook,Hi5, Ning, Linked in,MySpace, Youmeo, Friendste 3. Micro Blogging และ Micro Sharing หรอื ทเี่ รียกกนั วา่ “บล็อกจ๋วิ ” ซง่ึ เป็นเว็บเซอร์วสิ หรอืเวบ็ ไซต์ท่ีให้บริการแกบ่ คุ คลทั่วไป สาหรับให้ผูใ้ ชบ้ ริการเขยี นข้อความสนั้ ๆ ประมาณ 140 ตวั อกั ษรทเ่ี รยี กว่า “Status” หรอื “Notice” เพือ่ แสดงสถานะของตวั เองวา่ กาลังทาอะไรอยู่ หรือแจ้งข่าวสารต่างๆ แก่กลมุ่ เพื่อนในสงั คมออนไลน์ (Online Social Network( (Wikipedia,2010( ทั้งนก้ี ารกาหนดใหใ้ ช้ข้อมูลในรปู ข้อความส้ันๆ กเ็ พื่อใหผ้ ู้ใชท้ เ่ี ปน็ ทั้งผเู้ ขียนและผู้อา่ นเข้าใจงา่ ย ทีน่ ยิ มใชก้ ันอยา่ งแพรห่ ลายคือ Twitter 4. Online Video เปน็ เวบ็ ไซต์ทใ่ี หบ้ รกิ ารวดิ โี อออนไลนโ์ ดยไม่เสยี คา่ ใชจ้ า่ ย ซึง่ ปัจจบุ ันไดร้ ับความนิยมอย่างแพรห่ ลายและขยายตวั อยา่ งรวดเร็ว เนื่องจากเน้ือหาที่นาเสนอในวิดโี อออนไลน์ไม่ถกูจากดั โดยผังรายการที่แนน่ อนและตายตวั ทาใหผ้ ูใ้ ช้บริการสามารถตดิ ตามชมได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไมม่ โี ฆษณาค่ัน รวมทัง้ ผูใ้ ชส้ ามารถเลอื กชมเนอื้ หาได้ตามความต้องการและยังสามารถเชื่อมโยงไปยังเวบ็ วดิ ีโออืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องได้จานวนมากอีกดว้ ย เชน่ Youtube, MSN, Yahoo
7 5. Poto Sharing เป็นเว็บไซต์ที่เน้นใหบ้ ริการฝากรูปภาพโดยผู้ใชบ้ ริการสามารถอัพโหลดและดาวน์โหลดรปู ภาพเพอื่ นามาใช้งานได้ ท่ีสาคัญนอกเหนอื จากผูใ้ ชบ้ ริการจะมโี อกาสแบ่งปันรูปภาพแล้ว ยงั สามารถใชเ้ ปน็ พ้นื ท่เี พอื่ เสนอขายภาพทตี่ นเองนาเขา้ ไปฝากได้อกี ดว้ ย เชน่ Flickr,Photobucket, Photoshop,Express, Zooom 6. Wikis เป็นเวบ็ ไซต์ท่ีมีลักษณะเป็นแหล่งขอ้ มูลหรอื ความรู้ (Data/Knowledge( ซง่ึ ผเู้ ขียนส่วนใหญอ่ าจจะเป็นนกั วชิ าการ นักวิชาชพี หรือผ้เู ชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านตา่ งๆ ท้ังการเมอื ง เศรษฐกจิสงั คม วัฒนธรรม ซึง่ ผู้ใชส้ ามารถเขียนหรอื แก้ไขข้อมลู ได้อย่างอสิ ระ เชน่ Wikipedia, GoogleEarth,diggZy Favorites Online 7. Virtual Worlds คือการสร้างโลกจินตนาการโดยจาลองส่วนหนงึ่ ของชวี ติ ลงไป จดั เป็นสือ่สังคมออนไลน์ทีบ่ รรดาผทู้ ่องโลกไซเบอร์ใชเ้ พ่ือสอ่ื สารระหวา่ งกันบนอนิ เทอร์เน็ตในลกั ษณะโลกเสมือนจรงิ (Virtual Reality( ซ่ึงผู้ท่ีจะเขา้ ไปใช้บริการอาจจะบรษิ ทั หรือองค์การด้านธรุ กิจ ดา้ นการศกึ ษา รวมถงึ องค์การด้านส่ือ เช่น สานกั ขา่ วรอยเตอร์ สานักข่าวซีเอน็ เอน็ ต้องเสียค่าใชจ้ า่ ยในการซือ้ พน้ื ที่เพ่ือใหบ้ ุคคลในบริษทั หรือองค์กรได้มีชอ่ งทางในการนาเสนอเร่ืองราวตา่ งๆ ไปยังกลุม่เครอื ข่ายผู้ใช้ส่อื ออนไลน์ ซง่ึ อาจจะเปน็ กลุ่ม ลูกค้าท้ังหลัก และรองหรือ ผู้ทเ่ี ก่ียวข้องกบั ธุรกิจ ของบริษัท หรือองค์การก็ได้ ปัจจุบนั เว็บไซต์ที่ใช้หลกั Virtual Worlds ท่ีประสบผลสาเร็จและมชี ือ่ เสียงคอื Second life 8. Crowd Sourcing มาจากการรวมของคาสองคาคอื Crowd และ Outsourcing เป็นหลักการขอความรว่ มมือจากบุคคลในเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยสามารถจัดทาในรูปของเว็บไซต์ท่มี ีวัตถปุ ระสงคห์ ลักเพ่ือคน้ หาคาตอบและวธิ กี ารแก้ปัญหาตา่ งๆทง้ั ทางธุรกจิ การศึกษา รวมท้งั การส่ือสาร โดยอาจจะเป็นการดึงความรว่ มมือจากเครือข่ายทางสังคมมาชว่ ยตรวจสอบข้อมูลเสนอความคิดเหน็ หรอื ให้ข้อเสนอแนะ กล่มุ คนทเี่ ขา้ มาใหข้ ้อมูลอาจจะเปน็ ประชาชนท่ัวไปหรือผู้มีความเชยี่ วชาญเฉพาะด้านทอี่ ยู่ในภาคธรุ กิจหรอื แม้แต่ในสังคมนักข่าว ขอ้ ดีของการใช้หลกั Crowdsouring คือ ทาให้เกิดความหลากหลายทางความคิดเพือ่ นา ไปสูก่ ารแกป้ ัญหาท่ีมีประสิทธภิ าพ ตลอดจนช่วยตรวจสอบหรือคดั กรองขอ้ มลู ซง่ึ เป็นปัญหาสาธารณะร่วมกันได้ เชน่ Ideastorm, Mystarbucks Idea 9. Podcasting หรือ Podcast มาจากการรวมตวั ของสองคาคอื “Pod” กับ “Broadcasting” ซง่ึ “POD” หรือ PersonalOn - Demand คอื อุปสงค์หรือความต้องการส่วนบคุ คล สว่ น“Broadcasting” เป็นการนาส่ือต่างๆ มารวมกันในรปู ของภาพและเสยี งหรืออาจกลา่ วงา่ ยๆ Podcast คือ การบันทกึ ภาพและเสียงแล้วนามาไวใ้ นเว็บเพจ (Web Page( เพื่อเผยแพรใ่ ห้บคุ คลภายนอก (The public in general( ทสี่ นใจดาวนโ์ หลดเพ่อื นาไปใชง้ าน เช่น DualGeek Podcast, Wiggly Podcast
8 10. Discuss / Review/ Opinion เป็นเวบ็ บอร์ดท่ีผูใ้ ช้อินเทอรเ์ น็ตสามารถแสดงความคิดเหน็โดยอาจจะเก่ียวกับ สนิ ค้าหรือบรกิ าร ประเด็นสาธารณะทางการเมือง เศรษฐกจิ สงั คมเชน่ Epinions, Moutshut, Yahoo!Answer, Pantip,Yelpอุปกรณเ์ ครื่องมือทางส่อื สังคมออนไลน์ คอมพวิ เตอร์ คือ เครือ่ งคานวณ อเิ ล็กทรอนิกส์ท่ีสามารถทางานคานวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคาส่ังด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ได้ให้คาจากัดความของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดว่า เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทาหนา้ ทเ่ี สมือนสมองกล ใช้สาหรับแกป้ ญั หาต่างๆ ท้งั ทง่ี ่ายและซบั ซ้อน โดยวธิ ีทางคณติ ศาสตร์ หรอือาจกลา่ วได้ว่า เครอ่ื งคอมพิวเตอร์หมายถงึ เคร่ืองมือท่ชี ว่ ยในการคานวณและการประมวลผลข้อมลูสมาร์ทโฟน (Smartphone( คือ โทรศัพท์มือถือที่นอกเหนือจากใช้โทรออก-รับสายแล้วยังมีแอพพลเิ คช่นั ใหใ้ ช้งานมากมาย สามารถรองรับการใช้งานอนิ เทอร์เน็ตผ่าน 3G, Wi-Fi และสามารถใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คและแอพพลิเคชั่นสนทนาช้ันนา เช่น LINE, YouTube, Facebook, Twitterฯลฯ โดยท่ีผูใ้ ช้สามารถปรับแต่งลูกเล่นการใชง้ านสมาร์ทโฟนใหต้ รงกับความต้องการได้มากกวา่ มือถือธรรมดา ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ นิยมผลิตสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอระบบสัมผัส ใส่กล้องถ่ายรูปท่ีมีความละเอยี ดสูง ออกแบบดไี ซนใ์ หส้ วยงามทนั สมยั และมีแอพพลิเคชั่นและลกู เล่นที่น่าสนใจ แท็บเล็ต (Tablet( คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าจอต้ังแต่ 7 นิ้วข้ึนไป พกพาได้สะดวก สามารถใช้งานหน้าจอผ่านการสัมผัสผ่านปลายนิ้วได้โดยตรง มีแอพพลิเคช่ันมากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะรับ-ส่งอีเมล์, เล่นอินเทอร์เน็ต, ดูหนัง, ฟังเพลง,เล่นเกม หรือแม้กระทั่งใช้ทางานเอกสารออฟฟิต ข้อดีของแท็บเล็ตคือมีหน้าจอท่ีกว้าง ทาให้มีพื้นที่การใช้งานเยอะ มีนา้ หนักเบา พกพาไดส้ ะดวกกวา่ โน๊ตบุ๊ค หรือคอมพวิ เตอร์ สามารถจดบนั ทึกหรือใช้เป็นอุปกรณเ์ พื่อการศกึ ษาไดเ้ ปน็ อยา่ งดีประโยชน์และขอ้ จากดั ของสงั คมออนไลน์ แม้ลักษณะของเครือข่ายสังคมออนไลน์ จะเป็นสื่อให้ข้อมูลข่าวสารสามารถกระจายออกไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวางมีคุณประโยชน์มากมายในด้านการติดต่อส่ือสาร แต่ก็เปรียบเสมือนดาบสองคมหากผู้ใช้ขาดคุณธรรมจริยธรรม สามัญสานึก การรู้จักเคารพสิทธิ ของผู้อ่ืน และความระมัดระวงั ในการใชแ้ ล้ว สังคมออนไลนเ์ หล่านีก้ จ็ ะเปน็ \"สังคมอนั ตราย\"ทีจ่ ะเป็นดา้ นมดื ของสงั คมไทย
9 ประโยชน์ของเครือข่ายสังคมออนไลน์ 1. สามารถแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ความรูใ้ นส่ิงทส่ี นใจรว่ มกนั ได้ 2. เป็นคลังข้อมูลความรู้ขนาดย่อมเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเห็นแลกเปลย่ี นความรู้ หรอื ตงั้ คาถามในเรอ่ื งตา่ งๆ เพ่ือให้บคุ คลอ่ืนที่สนใจหรอื มคี าตอบไดช้ ว่ ยกนั ตอบ 3. ประหยัดค่าใช้จา่ ยในการตดิ ต่อสอื่ สารกับคนอ่นื สะดวกและรวดเรว็ 4. เปน็ สอ่ื ในการนาเสนอผลงานของตัวเอง เชน่ งานเขียน รูปภาพ วีดโิ อตา่ งๆ เพื่อให้ผู้อื่นไดเ้ ข้ามารับชมและแสดงความคดิ เหน็ 5. ใช้เป็นส่ือในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือบริการลูกค้าสาหรับบริษัทและองค์กรต่างๆ ชว่ ยสรา้ งความเช่อื มั่นใหล้ กู คา้ 6. ชว่ ยสร้างผลงานและรายได้ให้แกผ่ ใู้ ชง้ าน เกิดการจ้างงานแบบใหม่ๆ ข้นึ 7. คลายเครียดไดส้ าหรบั ผใู้ ช้ที่ต้องการหาเพ่ือนคุยเล่นสนุกๆ 8. สรา้ งความสมั พนั ธ์ทด่ี จี ากเพ่อื นสเู่ พ่ือนได้ ขอ้ จากัดของเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ 1. เว็บไซต์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป หากผู้ใช้บริการไม่ระมดั ระวังในการกรอกข้อมลู อาจถกู ผู้ไมห่ วงั ดนี ามาใช้ในทางเสียหาย หรือละเมิดสทิ ธิสว่ นบคุ คลได้ 2. Social Network เป็นสังคมออนไลน์ท่ีกว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการนัดเจอกันเพ่ือจุดประสงค์ร้าย ตามท่ีเป็นขา่ วตามหนา้ หนงั สือพมิ พ์ 3. เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธ์ิ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ SocialNetwork Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอ่ืนได้ดูและแสดงความคิดเห็น 4. ข้อมูลที่ต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networkยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังน้ันอาจเกิดปัญหาเก่ียวกับเว็บไซต์ที่กาหนดอายุการสมัครสมาชิก หรือการถกู หลอกโดยบคุ คลท่ไี ม่มตี วั ตนได้ 5. ผู้ใช้ที่เล่น Social Network และอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจสายตาเสยี ไดห้ รอื บางคนอาจตาบอดได้ 6. ถ้าผู้ใช้หมกมุ่นอยู่กับ Social Network มากเกินไปอาจทาให้เสียการเรียนหรือผลการเรยี นตกตา่ ลงได้ 7. จะทาให้เสยี เวลาถ้าผใู้ ช้ใชอ้ ยา่ งไร้ประโยชน์
102.3 งานวจิ ยั ท่เี กย่ี วข้อง กัญจน์ ผลภาษี (2554 : บทคัดย่อ( งานวิจัยนี้ได้ศึกษาแนวทางในการนา เทคโนโลยีสังคมออนไลน์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน ลักษณะของการใช้สื่อสังคมออนไลน์และสารวจศักยภาพในการใช้สื่อสังคมออนไลน์สาหรับการเรียนการสอน ณ วิทยาลัยดุสิตธานีโดยมุ่งหวังให้ผลการวิจัยฉบับนี้ต่อยอดไปสู่การวิจัยและพัฒนาในการนาส่ือสังคมออนไลน์มาใช้ประกอบการเรียนการสอนอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การวิจยั น้ีใชว้ ธิ ีการผสมของการวจิ ัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research Method( การเก็บข้อมูลผ่านส่ือสังคมออนไลน์ ผู้วิจัยมีบทบาทเป็นผู้สอนและผู้สังเกตการณ์ในกลุ่ม (Inside Observer(มีการวิเคราะห์ข้อมลู แบบ Inductive Analysis ซง่ึ เปิดโอกาสให้ข้อมูลทาหนา้ ทส่ี ร้างสรรคผ์ ลการวิจัยโดยได้ช้ีให้เห็นความสาคัญของการนาเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีปรากฏในการใช้งานอย่างแพร่หลายในสังคมมาใช้ส่งเสริมการเรียนการสอนในด้านการสร้างแรงจงู ใจในการเรียน การติดต่อสื่อสาร และการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างในฐานะนักศึกษาและเยาวชนมีความสนใจและใส่ใจในเนื้อหาและกิจกรรมของช้ันเรียนผ่านการเข้าถึงผู้ร่วมชั้นเรียนและผู้สอนผ่านพื้นที่สังคมออนไลน์ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ท่ีใช้ในงานวิจัยน้ีย่ิงไปกว่านั้นการใช้ส่ือการเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีสังคมออนไลน์ช่วยสร้างความสัมพนั ธท์ ดี่ ีระหวา่ งผู้เรียน และระหว่างผู้เรยี นและผู้สอนผ่านพ้ืนท่ีการสือ่ สารด้วยสงั คมออนไลน์นอกเหนือจากการส่ือสารในห้องเรยี นตามธรรมดาอีกดว้ ย และพร้อมกันน้ผี ู้วิจยั นาเสนอและอภิปรายผลการวิจัยเพ่ือเป็นแนวทางและประเด็นสาคัญในการส่งเสริมการออกแบบแผนการสอน เน้ือหาและกจิ กรรมการเรยี นการสอนที่จะสามารถนา ส่อื สังคมออนไลน์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการส่ือสารมาใช้ประกอบกนั ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาของไทยในปจั จบุ นั ชยั เดช บญุ สอน (2554 : บทคดั ยอ่ ( การวจิ ัยครั้งนมี้ ีวตั ถุประสงคด์ ังนี้ 1. เพ่ือการพัฒนาและประเมินคุณภาพของกระบวนการเรียนออนไลน์ด้วยกรณีศึกษาผา่ นส่ือสังคมออนไลน์เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้การแก้ไขปัญหาการควบคุมหุ่นยนต์ 2. เพื่อหาประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนออนไลน์ 3.เพ่ือศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของผู้เรียน 4. เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลความสามารถในการแก้ไขปัญหาของผู้เรียน 5. เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน การดาเนินการวิจัยได้พัฒนากระบวนการเรยี นออนไลน์ โดยมีขั้นตอนในการจดั การเรยี นการสอนประกอบดว้ ย 3 ขนั้ ตอน คอื 1.ขั้นเตรียม 2. ข้ันแนะนา 3. ข้ันการเรียนการสอนด้วยกรณีศึกษา ผลการวิจัย พบว่า ผลการประเมินคุณภาพด้านเนื้อหามีค่าเฉล่ียเท่ากับ 4.62 อยู่ในระดับดีมาก ด้านสื่อการนาเสนอมีค่าเฉล่ียเท่ากับ4.55 อยู่ในระดับดีมาก ค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้มีค่าเท่ากับ 0.6632 ค่าดัชนีประสิทธิผลความสามารถในการแก้ไขปัญหามีค่าเท่ากับ 0.6455 และผลประเมินความพึงพอใจ มีค่าเฉล่ียเท่ากับ
114.73 อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด แสดงว่า กระบวนการเรียนออนไลน์ด้วยกรณีศึกษาผ่านส่ือสังคมออนไลนส์ ามารถนาไปใชใ้ นการเรียนการสอนได้
บทที่ 3 วิธกี ารดาเนินงานวิจยั การแก้ไขปัญหาการใช้คาสั่งในโปรแกรม Adobe Captivate 8 ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ของนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/11 โรงเรียนชลกนั ยานุกูล มีข้นั ตอน ดังน้ี 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 3.2 เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในการวจิ ัย 3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3.4 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล3.1 ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง ประชากร : นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ท่ีเรียนวิชาการสร้างส่ือช่วยสอน ของโรงเรียนชลกนั ยานุกูล ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2559 จานวน 4 หอ้ งเรียน รวมทง้ั สิ้น 161 คน กลุ่มตัวอย่าง : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ช้ัน ม.6/11 ที่เรียนวิชาการสร้างสื่อช่วยสอนของโรงเรียนชลกนั ยานุกูล ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2559 จานวน 1 ห้องเรียน รวม 39 คน3.2 เครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นการวิจัย 1. แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าการสร้างสื่อช่วยสอน เร่ืองการใช้โปรแกรม Adobe Captivate 2. ส่ือสงั คมออนไลน์ ไดแ้ ก่ YouTube 3. แบบประเมนิ การใช้คาสง่ั โปรแกรม Adobe Captivate วชิ าการสรา้ งสอ่ื ช่วยสอน เรอ่ื งการใชโ้ ปรแกรม Adobe Captivate 4. เกณฑ์การประเมนิ การใช้คาส่ังโปรแกรม Adobe Captivate ขัน้ ตอนการสร้างเครอื่ งมือวิจยั มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้ 1. แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาการสร้างส่อื ชว่ ยสอน เร่อื งการใช้โปรแกรม Adobe Captivate ข้ันที่ 1 ศึกษาเอกสาร ทฤษฎี และงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้ เพ่ือเป็นแนวทางในการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตร และมาตรฐานตัวชี้วัดขอบเขตเนื้อหาของวชิ าการสร้างสอ่ื ชว่ ยสอน เร่อื งการใชโ้ ปรแกรม Adobe Captivate
12 ขั้นท่ี 2 ทาการออกแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยศึกษาองค์ประกอบของส่ือสังคมออนไลน์ เพ่ือนาสื่อสังคมออนไลน์มาโยงเข้ากับการจัดการเรียนรู้ โดยวิเคราะห์โครงสร้างเน้ือหากาหนดเน้ือหา ออกแบบวิธกี ารเรยี นรตู้ ามรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ 2. ขนั้ ที่ 3 เขยี นแผนการจดั การเรียนรู้ วิชาการสรา้ งสอื่ ช่วยสอน เรอ่ื งการใชโ้ ปรแกรม AdobeCaptivate จานวน 9 แผน ทั้งหมด 18 คาบ คาบละ 50 นาที โดยแบ่งเน้ือหาตามแผนการจัดการเรียนรู้ดงั นี้ ตารางท่ี 3.1 แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการสร้างสื่อช่วยสอน เรื่องการใช้โปรแกรม Adobe Captivate แผนการ เรือ่ ง / เน้อื หา จานวน ส่อื ท่ใี ช้จดั การเรียนรทู้ ่ี คาบเรียน สอ่ื สังคม 4 การนาเสนอเน้ือหาบทเรยี นแบบไม่มปี ฏสิ ัมพนั ธ์ 2 ไดแ้ ก่ ออนไลน์ การใชค้ าสงั่ )1กลมุ่ Text 2) การใชค้ าสง่ั กลุ่ม Shape 3) การใช้คาสง่ั กลมุ่ Object 4) การใช้คาสั่งกล่มุ Media 5 การนาเสนอเน้ือหาบทเรียนแบบไม่มปี ฏิสมั พันธ์ 2 สอ่ื สงั คม ไดแ้ ก่ ออนไลน์ การใชค้ าสั่ง )1กล่มุ Record 2) การกาหนดเวลาให้กบั ช้ินงาน 3) การใชค้ าสงั่ กลมุ่ Preview 4) การใชค้ าสง่ั กล่มุ Save 6 การนาเสนอเนื้อหาบทเรียนแบบมีปฏิสัมพันธ์ 2 ส่อื สงั คม ได้แก่ ออนไลน์ การใช้คาส่งั )1กลมุ่ Object 7 การนาเสนอเนื้อหาบทเรยี นแบบปฏสิ ัมพันธ์ ไดแ้ ก่ 2 สอ่ื สังคม การใชค้ าสัง่ )1กลมุ่ Interaction ออนไลน์ 8 การนาเสนอเนื้อหาบทเรียนแบบ 2 ส่อื สังคม การโต้ตอบในบทเรยี น ได้แก่ ออนไลน์ 1) การใชค้ าสั่งกลุ่ม Text
13 แผนการ เร่อื ง / เนอื้ หา จานวน ส่อื ที่ใช้จดั การเรียนรูท้ ี่ คาบเรียน สอื่ สงั คม9 การนาเสนอเน้ือหาบทเรียนแบบการโตต้ อบใน 2 ออนไลน์ บทเรียน ได้แก่ การใชค้ าสั่ง )1กลุ่ม Interaction10 การสร้างคาถามและแบบทดสอบ ท้งั หมด 5 2 สอ่ื สงั คม ออนไลน์ ประเภท ประกอบด้วย 1) หลายตัวเลอื ก )Multiple Choice) 2) ถูกหรือผดิ )True/False) 3) เติมคาในช่องว่าง )Fill in the Blank) 4) เติมคาตอบสน้ั )Short Answer) 5) จบั คู่ )Matching)11 การสร้างคาถามและแบบทดสอบ ทง้ั หมด 4 2 สอ่ื สังคม ออนไลน์ ประเภท ประกอบด้วย 2 สื่อสงั คม 1) คลกิ ในพนื้ ที่ท่ีกาหนด )Hot Spot) ออนไลน์ 2) เรยี งลาดับ )Sequence) 3) แบบประเมิน )Rating Scale) 4) แบบทดสอบสุ่ม )Random Questions)12 การเผยแพร่ช้นิ งานในรปู แบบตา่ ง ๆ ประกอบดว้ ย 1) HTML5 2) SWF 3) VDO 4) EXE 5) YouTube 6) Word 7) PowerPoint ขั้นท่ี 4 นาแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างแล้วไปให้ผู้เชย่ี วชาญตรวจสอบ เพื่อทาการปรับปรุงแก้ไขขอ้ บกพร่องของแผนการจัดการเรยี นรู้แบบโครงงานเปน็ ฐาน ก่อนนาไปใช้กบั กลมุ่ ตัวอย่าง
143.3 วิธดี าเนนิ การทดลองผู้วจิ ยั ได้กาหนดข้ันตอนในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลไว้ดงั น้ี 1. ช้ีแจงถึงข้อกาหนดที่ไดท้ าขึน้ และตกลงกับนักเรยี นใหเ้ ขา้ ใจ 2. จัดรปู แบบการเรียนรู้ วชิ าการสรา้ งส่ือช่วยสอน เรื่อง การใช้โปรแกรม Adobe Captivateให้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6 โดยใชก้ ลุ่มตัวอย่างเดยี ว 3. ดาเนนิ การเรียนการสอนตามปกติ โดยใชข้ ้อกาหนดท่ีได้ตกลงไว้กับนกั เรยี น 4. ทาการบันทึกผลการประเมนิ การใชค้ าสั่งโปรแกรม Adobe Captivate ในเคร่อื งมือท่ีจัดทาข้ึน 5. สรปุ ผลการประเมินการใชค้ าส่งั โปรแกรม Adobe Captivate เพอื่ รายงานผลการทาวจิ ัยในชั้นเรียนในการแกป้ ัญหาของนักเรียนต่อไป3.4 การวเิ คราะหข์ อ้ มลูในการวเิ คราะห์ข้อมูล ผวู้ จิ ยั วิเคราะห์ข้อมูลโดยใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์ ดงั นี้1. หาค่าสถติ ิพื้นฐาน โดยใช้ค่าเฉลีย่ และรอ้ ยละ )พรรณี ลีกิจวฒั นะ. 2555: 245) ของคะแนนทไ่ี ดจ้ ากการประเมนิ ชิ้นงานการสรา้ งเน้ือหาบทเรยี น CAI1.1 ค่าเฉลีย่ X̅ = ΣX nเมื่อ ���̅��� แทน ค่าเฉลี่ยΣ X แทน ผลรวมของผลคะแนน������ แทน จานวนนักเรียน1.2 รอ้ ยละ
15pct = ni × 100 ntเม่ือ pct แทน สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ni แทน ผลคะแนนนกั เรียน nt แทน คา่ เฉลี่ยของผลคะแนน
บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล การวจิ ัยครง้ั นี้เป็นการแก้ไขปัญหาการใช้คาสั่งโปรแกรม Adobe Captivate 8 ด้วยสือ่ สงั คมออนไลน์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6/11 โรงเรียนชลกันยานุกูล มีวัตถุประสงค์เพ่ือตรวจสอบการใช้คาส่ังโปรแกรม Adobe Captivate 8 ด้วยส่อื สงั คมออนไลนข์ องนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6/11โรงเรียนชลกันยานุกูล ตามเกณฑ์ที่สร้างข้ึน โดยผู้วิจัยนาข้อมูลท่ีไดมาวิเคราะห์ผลทางสถิติ และนาเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู ดังตอ่ ไปนี้ 4.1 ผลการประเมนิ ผลการประเมินการใชค้ าสัง่ โปรแกรม Adobe Captivateตารางที่ 4.1 ผลการประเมินการใชค้ าส่ังโปรแกรม Adobe Captivateชือ่ -สกลุ ใชค้ าสัง่ ถกู ต้อง เทคนิคการ ใช้คาส่ังครบถ้วน ความสวยงาม รวม ออกแบบ 43 2 1 4321 4 32143 2 1นางสาวกมลลักษณ์ ลีละศาสตร์ 16นางสาวกิติยาพร เฉลมิ ลาภ 15นางสาวจนั ทมิ า ศรสี รุ ะ 14นางสาวชนกิ านต์ ชยั ภราดรกลุ 13นางสาวโชตริ ส มโนมยั สกลุ 15นางสาวญาณศิ า เชยี งจง 16นางสาวณฐั ชยา เช้ือไทย 14นางสาวณิชากร ดลนิมติ สกลุ 14นางสาวธนธรณ์ เทพรกั ษ์ 15นางสาวธญั จิรา ชนิ ศิรวิ ฒั นา 15นางสาวนทวรรณ รัศมี 13
17 ชอื่ -สกลุ ใช้คาส่ังถกู ต้อง เทคนคิ การ ใชค้ าส่งั ครบถ้วน ความสวยงาม รวมนางสาวบณุ ฑริกา มแี สวง ออกแบบ 4 321 4 321 4321 14 4 3 21 นางสาวพิชญา ภญิ โญยิ่ง 16นางสาวพมิ ล สุทธวิ ฒั นาการ 16นางสาวพุทธิตา อาจหาญ 16นางสาวแพรไหม หอรงุ่ เรอื งชยั 15นางสาวภทั รภร ทัตธนภาธร 13นางสาวภาวรินทร์ ธนบดีรตั นวงศ์ 16นางสาวภาสินี กอประสิทธิ์ 16นางสาวโยษติ า สุดกาย 16นางสาวรฎั ชาวดี ตรีโลเกศกลุ 16นางสาวรุจิรา ภัทโรวาสน์ 16นางสาววรรณภา ฤทธปิ์ ระเสริฐ 14นางสาวสโรชา จิตรกรศิลป์ 15นางสาวอสมาภรณ์ จติ พินจิ ยล 16นางสาวอัยรฎา ทองดารา 16นางสาวกัญญาณัฐ เสมอวงษ์ 13นางสาวชญาณี สวุ รรณกนก 16นางสาวนฤมล ชานาญ 13นางสาวปิยธิดา ชาพล 16นายพทิ ยา ติสรณะนุกจิ 12นางสาวภาคินี พุฒเิ บญญา 16นางสาววนชั พร วรรณพงษ์ 13
18ชื่อ-สกลุ ใช้คาสั่งถกู ตอ้ ง เทคนิคการ ใช้คาสง่ั ครบถ้วน ความสวยงาม รวม ออกแบบ 4 3 21 4 321 4321 4 3 21นางสาววนาลี ฤทธ์งิ าม 14นางสาววรรณิภา วังหาร 16นางสาวศิระประภา วรรตั น์ 13นางสาวศภุ สิ รา น้าเจรญิ 16นางสาวสโรชา เปรมประเสริฐ 15นางสาวสวุ สา เอ้อื เฟอ้ื 15 จากตาราง 4.1 วิเคราะห์ผลการประเมินการใช้คาสั่งโปรแกรม Adobe Captivate พบว่า ผลการประเมินการใช้คาส่ังในโปรแกรม Adobe Captivate อยู่ในระดับดีมาก จานวน 38 คน ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 0.97คิดเป็นร้อยละ 97 และ ผลการประเมินการใช้คาส่ังในโปรแกรม Adobe Captivate อยู่ในระดับดี จานวน 1คน ค่าเฉล่ีย เท่ากบั 0.03 คิดเปน็ ร้อยละ 3
บทที่ 5 สรปุ ผลการวจิ ัย อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ การแก้ไขปญั หาการใช้คาสง่ั โปรแกรม Adobe Captivate 8 ดว้ ยสื่อสงั คมออนไลนข์ องนกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/11 โรงเรยี นชลกนั ยานกุ ูล สรปุ การวจิ ัย ดงั น้ี5.1 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั เพ่อื ตรวจสอบการใชค้ าสั่งโปรแกรม Adobe Captivate 8 ด้วยส่อื สังคมออนไลน์ของนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/11 โรงเรียนชลกันยานกุ ูล ตามเกณฑท์ ่ีสรา้ งข้ึน5.2 ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง ประชากร : นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6 ทีเ่ รยี นวิชาการสรา้ งสือ่ ชว่ ยสอน ของโรงเรียนชลกนั ยานุกูล ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2559 จานวน 4 หอ้ งเรยี น รวมท้งั สิ้น 161 คน กลุ่มตัวอย่าง : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ช้ัน ม.6/11 ท่ีเรียนวิชาการสร้างส่ือช่วยสอนของโรงเรียนชลกันยานุกลู ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2559 จานวน 1 หอ้ งเรียน รวม 39 คน5.3 เครอื่ งมอื ท่ใี ช้ในการวิจัย 1. แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาการสร้างสือ่ ชว่ ยสอน เรอื่ งการใช้โปรแกรม Adobe Captivate 2. สอ่ื สงั คมออนไลน์ ได้แก่ YouTube 3. แบบประเมินการใชค้ าสั่งโปรแกรม Adobe Captivate วิชาการสร้างสื่อช่วยสอน เร่ือง การใช้โปรแกรม Adobe Captivate 4. เกณฑ์การประเมินการใชค้ าส่ังโปรแกรม Adobe Captivate 5.5.4 วิธดี าเนนิ การทดลอง ผวู้ ิจยั ได้กาหนดขั้นตอนในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลไวด้ งั น้ี 1. ชแี้ จงถงึ ขอ้ กาหนดทไ่ี ด้ทาขึน้ และตกลงกับนักเรยี นใหเ้ ขา้ ใจ 2. จัดรปู แบบการเรยี นรู้ วิชาการสร้างส่อื ช่วยสอน เรอ่ื ง การใช้โปรแกรม Adobe Captivateใหก้ บั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 โดยใชก้ ลมุ่ ตัวอยา่ งเดียว 3. ดาเนนิ การเรียนการสอนตามปกติ โดยใช้ข้อกาหนดที่ได้ตกลงไว้กับนักเรียน 4. ทาการบนั ทึกผลการประเมินการใชค้ าสั่งโปรแกรม Adobe Captivate ในเครอ่ื งมือที่จัดทาขึ้น
20 5. สรุปผลการประเมนิ การใชค้ าสัง่ โปรแกรม Adobe Captivate เพอ่ื รายงานผลการทาวจิ ัยในชัน้เรยี นในการแกป้ ัญหาของนักเรยี นต่อไป5.5 สรุปผลการวิจัย การวจิ ัยนีเ้ ปน็ การวจิ ยั เพ่ือแก้ไขปัญหาการใช้คาส่ังโปรแกรม Adobe Captivate 8 ดว้ ยสื่อสังคมออนไลนข์ องนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6/11 โรงเรยี นชลกันยานุกูล สรุปผลได้ ดงั น้ี ผลการประเมินการใช้คาส่ังโปรแกรม Adobe Captivate พบว่า ผลการประเมินการใช้คาส่ังในโปรแกรม Adobe Captivate อยใู่ นระดบั ดมี าก5.6 การอภปิ รายผลการวิจยั จากผลการวิจัยเรื่อง การแก้ไขปัญหาการใช้คาส่ังโปรแกรม Adobe Captivate 8 ด้วยส่ือสังคมออนไลนข์ องนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/11 โรงเรยี นชลกนั ยานกุ ลู สามารถอภิปรายผลการวิจัยได้ ดังน้ี ผลการประเมินการใช้คาสั่งโปรแกรม Adobe Captivate พบว่า ผลการประเมินการใช้คาส่ังในโปรแกรม Adobe Captivate อยู่ในระดับดีมาก จานวน 38 คน ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 0.97 คิดเป็นร้อยละ 97และ ผลการประเมินการใช้คาส่ังในโปรแกรม Adobe Captivate อยู่ในระดับดี จานวน 1 คน ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.03 คดิ เป็นรอ้ ยละ 3 เนอื่ งจากส่อื สงั คมออนไลน์ วชิ าการสร้างสอื่ ชว่ ยสอน เรอื่ ง การใช้โปรแกรมAdobe Captivate ช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้ส่ือสังคมออนไลน์ในการเรียนรู้ได้ทุกท่ี ทุกเวลา สามารถจัดเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนได้ จึงทาให้ผู้เรียนจดจาและ เข้าใจในการใช้คาสั่งต่างๆของโปรแกรม Adobe Captivate ได้ ส่งผลให้ผู้เรียนเกดิ แรงจูงใจในการเรยี น นอกจากนี้บทเรียนออนไลน์ท่ีผู้วิจัยสร้างข้ึนยังเป็นส่ือท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลโดยผู้เรียนที่เรียนเก่งไม่ต้องรอผู้เรยี นท่ีอ่อนกว่า เน่ืองจากเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัว คือผู้เรียนหน่ึงคนต่อคอมพิวเตอร์หน่ึงเครื่อง โดยยึดจุดประสงค์การเรียนรู้เป็นหลัก โดยให้กลุ่มตัวอย่างศึกษาเนื้อหาจากส่ือสังคมออนไลน์จนครบทุกเน้ือหาและให้ผู้เรียนสร้างช้ินงานโดยใช้คาส่ังที่ได้ศึกษาจากส่ือสังคมออนไลน์ เพ่ือวัดทักษะการใช้คาสั่งในโปรแกรม Adobe Captivate ของผู้เรียน จากผลการวจิ ยั ดังกล่าวขา้ งต้นจะเห็นได้วา่ สือ่ สังคมออนไลน์ วิชาการสรา้ งสื่อชว่ ยสอน เรอ่ื ง การใช้โปรแกรม Adobe Captivate ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นนั้นสามารถพัฒนาความรู้ ความเขา้ ใจของนักเรยี นได้เป็นอยา่ งดี โดยจะเหน็ ไดว้ า่ นักเรียนท่ีเรียนด้วยส่ือสังคมออนไลน์ มกี ารประเมินการใช้คาสั่งในโปรแกรม Adobe Captivate อยู่ในระดับดีมาก ดังนั้นจึงสามารถใช้เป็นส่ือการเรียนการสอนได้
บรรณานกุ รมกมลณัฐ โตจินดา. (2556). การศึกษาพฤติกรรมการใช้บริการสื่อออนไลน์. [Online]. Available: http://library.cmu.ac.th/faculty/econ/Exer751409/2556/Exer2556_no8.กฤษณพงศ์. (2553). Adobe Captivate. [Online]. Available: https://programsdd.com/tag/ adobe-captivate-8/กัญจน์ ผลภาษี. (2554). แนวทางการใชส้ ื่อสังคมออนไลนใ์ นการเรยี นการสอน. กรุงเทพฯ. วิทยาลัย ดุสติ ธานีชัยเดช บุญสอน. (2554). การพัฒนากระบวนการเรียนออนไลน์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพ่ือส่งเสริม การเรียนรู้การแก้ไขปัญหาการควบคุมหุ่นยนต์. กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระ จอมเกล้าธนบรุ ีบญุ เกื้อ ควรหาเวช. (2555). การเรียนการสอนออนไลน.์ [Online]. Available: http://www.st.ac.th/av/inno_elearn.htm.พรรณี ลีกจิ วฒั นะ. (2555). วธิ ีการวิจัยทางการศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : มีน เซอร์วิส ซพั พลาย.เทพยพงษ์ เศษคมึ บง. (2554). ผลการเรยี นร้ดู ้วยอีเลริ น์ นงิ แบบเรยี นรรู้ ว่ มกันผา่ นส่อื สังคมออนไลน์ ทีม่ ีตอ่ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร. กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลัยศิลปากรสุนิสา หง่าสงฆ์. (2554). Social Network. [Online]. Available: http://sawadeetot. blogspot.com/2011/02/social-network.htmสานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2559). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ. [Online]. Available: http://www.onec.go.th/onec_web/page.php?mod=.ศรัญญา สุดเฉลียว. (2557). ส่ือสังคมออนไลน์กับการเรียนการสอน. [Online]. Available: http://smforedu.blogspot.com/2014/02/blog-post.html.ศรเี จ้า วิหกโต. (2557). โซเชี่ยวมีเดีย. [Online]. Available: http://crnfe2013.blogspot.com/ 2013/05/ 11-social-media.html.ภเิ ษก ชยั นิรนั ดร์. (2558). ส่ือออนไลน์. [Online]. Available: https://doctorpisek.com/ category/.
ภาคผนวกภาคผนวก ก แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การใช้โปรแกรม Adobe Captivateภาคผนวก ข แบบประเมินผล และเกณฑ์การประเมินผลภาคผนวก ค ภาพตัวอยา่ งส่ือสังคมออนไลน์
ภาคผนวก กแผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การใช้โปรแกรม Adobe Captivate
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การใช้โปรแกรม Adobe Captivate เร่ือง การนาเสนอเนื้อหาบทเรียนรหสั วชิ า ง33201 รายวิชา การสร้างส่ือชว่ ยสอนกลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6โรงเรียนชลกนั ยานุกลู เวลา 2 ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวพฤทธิวรรณ ชว่ งพทิ ักษ์=============================================================1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ผลการเรียนรู้สามารถใชค้ าสง่ั ในการนาเสนอเน้อื หาในสอ่ื บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนดว้ ยโปรแกรมAdobe Captivate ได้2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอดสาระสาคัญคาส่ังของโปรแกรม Adobe Captivate ทใ่ี ช้ในการนาเสนอเนอ้ื หาบทเรยี นแบบไมม่ ีปฏิสัมพันธ์ ได้แก่ 1) การใช้คาสงั่ กลุ่ม Text 2) การใช้คาสั่งกลมุ่ Shape 3) การใชค้ าสง่ั กลุ่ม Objectและ 4) การใช้คาสั่งกลุ่ม Media3. สาระการเรยี นรู้ความรู้การใชค้ าส่งั สรา้ งเน้ือหาบทเรียน ประกอบด้วย1) การใชค้ าส่ังกลมุ่ Text1.1 Text Caption1.2 Text Animation2) การใชค้ าส่งั กลุม่ Shape3) การใช้คาสงั่ กล่มุ Object 3.1 Zoom Area4) การใช้คาส่งั กลมุ่ Media 4.1 Image 4.2 Audio 4.3 Video 4.4 Animation 4.5 Characters
79 ทกั ษะ/กระบวนการ 1) ทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2) ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี 3) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4) ทักษะกระบวนการคิดแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ 5) ทกั ษะปฏิบัติ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1) ความสามารถในการคดิ 2) ความสามารถในการสือ่ สาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี4. คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ 1) มีวนิ ัย 2) ใฝเ่ รียนรู้ 3) ม่งุ มัน่ ในการทางาน 4) มีความรบั ผดิ ชอบ 5) รักษ์ส่งิ แวดล้อม คา่ นยิ ม 12 ประการ 4) ใฝ่หาความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรยี นทงั้ ทางตรง และทางอ้อม 10) รูจ้ ักดารงตนอยูโ่ ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 12) คานงึ ถงึ ประโยชน์ของสว่ นรวมมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง5. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1) ใบมอบหมายงานที่ 2.2 ให้นกั เรียนทาชิ้นงาน เร่อื ง การใช้คาสั่งสร้างเนื้อหาบทเรยี น CAI6. การวัดและการประเมินผล 6.1 วิธกี าร 1) การซกั ถาม 2) การสังเกต 3) การตรวจผลงาน 6.2 เคร่ืองมือการวดั ผล 1) แบบประเมินผลงาน
806.3 เกณฑ์การผา่ น 1) ระดับพอใชข้ น้ึ ไป6.4 การประเมินผล ประเมนิ ผลโดยใชเ้ กณฑ์การประเมิน ดังน้ีเกณฑ์การประเมิน ชนิ้ งานการสรา้ งเนื้อหาบทเรียน CAIประเดน็ ระดับคะแนน น้าหนัก จดุ เน้นการประเมนิ 4 3 2 1 51. เนอื้ หาสาระ เนอ้ื หา ถกู ต้อง เนื้อหา ถกู ต้อง เนื้อหา ถกู ต้อง เนือ้ หาไมค่ รบถว้ น ครบถ้วน ลกึ ซึ้ง ครบถว้ น ชัดเจน ครบถ้วนแต่ไม่ และไมช่ ดั เจน 52. ทักษะการใช้ ชดั เจน ครอบคลุม ครอบคลุมหัวขอ้ ชดั เจนเท่าทค่ี วร เท่าที่ควรคาส่ัง หวั ขอ้ ที่กาหนด ทก่ี าหนด 5 ใชค้ าสัง่ สรา้ งเนอื้ หา ใช้คาส่งั สรา้ ง ใชค้ าสงั่ สรา้ งเนือ้ หา ใช้คาส่ังสร้างเนอ้ื หา ไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่ว เนอ้ื หาไดอ้ ย่าง ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง พอได้ 5 ถูกต้อง ครบถ้วน คลอ่ งแคลว่ ถูกตอ้ ง มคี วามคิดริเร่มิ3. เทคนคิ การ มีความคดิ รเิ ร่มิ มีความคิดริเรมิ่ มีความคิดรเิ ริ่ม สร้างสรรค์ออกแบบ สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ องค์ประกอบสมบูรณ์ องคป์ ระกอบสมบรู ณ์ องค์ประกอบ องค์ประกอบสมบูรณ์ ค่อนขา้ งดี4. กระบวนการ นา่ สนใจ ใชง้ า่ ย สมบูรณ์ นา่ สนใจ มกี ารวเิ คราะหง์ านทางาน มกี ารวเิ คราะหง์ าน มีการวิเคราะห์งาน มีการวเิ คราะหง์ าน วางแผนในการทางาน วางแผนในการ วางแผนในการ วางแผนในการทางาน แต่ไม่ปฏิบัติตามแผน ทางาน ปฏบิ ัตติ าม ทางาน ปฏบิ ตั ติ าม ปฏบิ ตั ิตามแผนทวี่ าง ที่วางไว้ แผนทว่ี างไว้ มกี าร แผนทว่ี างไว้ มกี าร ไว้ ประเมินผลการ ประเมินผลการ ทางานและนาผลจาก ทางาน การประเมนิ ไป ปรับปรงุ งานให้ สมบรู ณ์ยงิ่ ขึ้นเกณฑก์ ารตัดสนิ /ระดบั คุณภาพ คะแนน 61 – 80 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 41 – 60 หมายถึง ดี คะแนน 21 – 40 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 – 20 หมายถึง ปรับปรุงเกณฑก์ ารผา่ น ตัง้ แตร่ ะดบั ดีขน้ึ ไป
81เกณฑ์การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ประเดน็ ระดบั คะแนน น้าหนกั จดุ เน้นการประเมนิ 4 3 2 1 11. มีวินัย ปฏบิ ตั ิตาม ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบัติตาม ข้อตกลง จนเป็น จนเปน็ นสิ ัย ตรงตอ่ เป็นบางครัง้ ขอ้ ตกลง ในการทา 1 นสิ ัย ตรงต่อเวลา เวลา กิจกรรมต่าง ๆ รบั ผิดชอบทางาน 1 ด้วยตนเอง ศึกษาหาความรเู้ ปน็ บางคร้งั 12. ใฝ่เรียนรู้ สนใจศึกษาหา สนใจศึกษาหาความรู้ สนใจศกึ ษาหาความรู้ ความรู้อยา่ ง อยา่ งสม่าเสมอและ อยา่ งสม่าเสมอ ทางานตามที่ไดร้ ับ 1 สมา่ เสมอและ สรุป สรุปองค์ความรู้ มอบหมาย องค์ความรู้เผยแพร่ แก่ผู้สนใจ ไม่ทางานตามท่ีได้รบั มอบหมาย3. ม่งุ มั่น ต้งั ใจทางานดว้ ย ตง้ั ใจทางานดว้ ย ตง้ั ใจทางาน ด้วยในการทางาน ความขยัน อดทน ความขยัน อดทน ความขยนั อดทน ใชพ้ ลังงานอยา่ งไม่ งานสาเรจ็ ตาม งานสาเรจ็ ตาม ประหยัดและไม่4. มคี วาม เปา้ หมายและเป็น เปา้ หมาย ทางานตามที่ได้รับ คุ้มค่ารับผดิ ชอบ แบบอยา่ งท่ดี ี มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามท่ีได้รบั ทางานตามทีไ่ ดร้ ับ คณุ ภาพ แตไ่ มค่ รบ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี คณุ ภาพ ครบทุก คุณภาพ ครบทกุ ชิ้น ชนิ้ และสง่ ตาม กาหนดเวลา5.รกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม ใช้พลงั งานอย่าง ใช้พลงั งานอยา่ ง ใชพ้ ลงั งานอย่าง ประหยัดและค้มุ ค่า ประหยดั และคุ้มคา่ มี ประหยัดและค้มุ คา่ มกี ารนากลบั มาใช้ การนากลับมาใชใ้ หม่ ใหม่ มีการ ประยุกต์ใช้วสั ดทุ ่มี ี ในท้องถิน่เกณฑก์ ารตดั สิน/ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดมี าก คะแนน 12 – 15 หมายถึง ดี คะแนน 10 – 11 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถึง ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่าน ต้ังแต่ระดับดขี ้นึ ไป
827. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สู่การเรียน 1) ครูบนั ทึกเวลาเรียนของนกั เรยี นด้วยโปรแกรมประมวลผลการเรียนรู้ 2) ครูพดู คยุ สอบถาม บทเรยี นทเ่ี รยี นผ่านมาแลว้ เชอ่ื มโยงความร้เู ข้าสบู่ ทเรยี นวันนี้ 3) ครูแจง้ ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง ภาระงาน และวิธีการประเมินผลการเรียนรูใ้ หน้ ักเรยี นทราบ ขัน้ ศกึ ษาเรยี นรู้ 4) นกั เรยี นศึกษาความรู้ เรอื่ ง การใช้คาสั่งนาเสนอเน้อื หาบทเรยี น โดยครูสาธิต เรือ่ ง 1) การใช้คาสงั่ กล่มุ Text 2) การใช้คาสัง่ กลมุ่ Shape และ 3) การใช้คาส่งั กลมุ่ Object 4) การใชค้ าสงั่ กลุ่มMedia ให้นักเรยี นปฏบิ ตั ติ าม โดยใชส้ อ่ื PowerPoint: unit2.2 เรอ่ื ง การใชค้ าสัง่ นาเสนอเนอ้ื หาบทเรยี น และไฟล์ CP: Practice1 เรื่อง การใช้คาสัง่ นาเสนอเน้อื หาบทเรียน 5) ใหน้ ักเรียนทางาน ตามใบมอบหมายงานที่ 2.2 ใหน้ ักเรียนทาชนิ้ งาน เร่ือง การใช้คาส่งัสรา้ งเนื้อหาบทเรียน CAI 6) ครแู ทรกคุณธรรมในการทางาน ไดแ้ ก่ ความรบั ผดิ ชอบ ความใฝ่รใู้ ฝ่เรยี นความอดทน ความรักความพงึ พอใจในงานที่ทา เปน็ ต้น ข้ันสรุป 7) ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปสาระสาคัญจากสาระการเรียนรทู้ ี่ศกึ ษา โดยใช้ไฟล์ CP:Practice1 เร่ือง การใชค้ าส่งั นาเสนอเน้อื หาบทเรียน 8) เสนอแนะให้ผ้เู รยี นศึกษาความรูเ้ พิม่ เติมเกี่ยวกับการสร้างส่อื บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน และใหจ้ ดั เตรยี มวสั ดุในการบนั ทึกข้อมลู มาด้วยในการเรยี นคร้งั ต่อไป8. สือ่ การเรียนรู้ 1) ใบมอบหมายงานท่ี 2.2 ให้นกั เรียนทาชนิ้ งาน เร่ือง การใชค้ าส่งั สรา้ งเนอื้ หาบทเรียน CAI 2) สือ่ PowerPoint: unit2.2 เรอื่ ง การใช้คาสง่ั นาเสนอเนื้อหาบทเรียน 3) ไฟล์ CP: Practice1 เรอื่ ง การใชค้ าส่ังนาเสนอเนอื้ หาบทเรียน 4) เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 5) เครือ่ งฉายโปรเจคเตอร์ 6) เครอื่ งขยายเสียงและไมโครโฟน9. แหลง่ เรียนรู้ 1) ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ โรงเรียนชลกันยานุกูล
83 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.net โรงเรียนชลกันยานุกูล จัดทาโดย นายสุทธิศักดิ์ เคลือบสูงเนนิ 3) เว็บไซต์ www.chonkanya.ac.th เวบ็ ไซต์ โรงเรียนชลกันยานกุ ลู 4) แผ่นซีดีรอม เว็บไซต์ ส่ือประสมอิเล็กทรอนิกส์ วิชา การสร้างส่ือบทเรียนคอมพิวเตอร์ ชว่ ยสอน จดั ทาโดย นายสุทธศิ กั ดิ์ เคลือบสูงเนิน 5) เว็บไซต์ท่ีเกี่ยวข้องกับ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การผลิตส่ือมัลติมีเดีย การสร้างสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การใช้งานโปรแกรม Adobe Captivate 6) ห้องสมดุ โรงเรียนชลกันยานกุ ลู 7) ห้องสมดุ ประชาชนจังหวัดชลบุรี 8) หอสมดุ แหง่ ชาตจิ งั หวดั ชลบรุ ี 9) หอสมุดมหาวทิ ยาลัยบรู พา 10) หอ้ งสมดุ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรยี นจังหวดั ชลบุรี10. กจิ กรรมเสนอแนะ นักเรียนศึกษาสาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม โดยการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต และแหล่งเรียนรู้ที่ครูแจ้งไว้11. การบรู ณาการ การสรา้ งส่ือบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน สามารถนาไปใช้ในการสร้างสือ่ การเรยี นรแู้ ละสื่อการเรียนการสอนรายวชิ าต่าง ๆ ได้อยา่ งดี
85 ใบมอบหมายงานที่ 2.2วิชา การสรา้ งส่ือบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน รหัสวิชา ง 33201 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6เร่อื ง การนาเสนอเนอื้ หาบทเรียน เวลา 2 ชวั่ โมงผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั สามารถใช้คาสงั่ ในการนาเสนอเนอื้ หาในสื่อบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนด้วยโปรแกรมAdobe Captivate ได้เนอื้ หาสาระวชิ า การใชค้ าสง่ั สรา้ งเนื้อหาบทเรียน ประกอบด้วย 1) การใชค้ าส่ังกลมุ่ Text 1.1 Text Caption 1.2 Text Animation 2) การใช้คาสั่งกล่มุ Shape 3) การใช้คาสัง่ กลุม่ Object 3.1 Zoom Area 4) การใช้คาสั่งกล่มุ Media 4.1 Image 4.2 Audio 4.3 Video 4.4 Animation 4.5 Charactersงานทีม่ อบหมาย 1. ให้นักเรียนสร้างสไลดเ์ นื้อหาบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน โดยใชค้ าสง่ั Text, Shape,Objects และ Media เม่ือทาเสรจ็ แลว้ ใหบ้ นั ทกึ ผลงาน โดยใชช้ ื่อไฟลว์ ่า ปพี .ศ.-ชั้น-เลขทีช่ ่ือตัวอย่าง เชน่ 2559-64-30Puttiwan ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยของงานและสง่ ใหค้ รูตรวจ
86กาหนดการส่งงาน นักเรยี นมเี วลาในการทางานตามใบมอบหมายงานที่ 2.2 เป็นเวลา 2 ช่ัวโมง เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ให้บันทกึ ผลงาน และตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยของงาน ก่อนสง่ ให้ครูตรวจผลงานที่หน้าจอคอมพวิ เตอร์ของนักเรยี นการประเมนิ ผล 1. นกั เรียนทางานเสรจ็ ตามเวลาท่ีกาหนด 2. นักเรียนปฏิบตั กิ ารสรา้ งสไลดเ์ นื้อหาบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน โดยใชค้ าสง่ั โปรแกรมAdobe Captivate ได้ถูกตอ้ งตามที่กาหนด
84 ส่ือ PowerPoint: unit2.2รหัสวชิ า ง33201 วชิ า การสร้างสือช่วยสอน คําสง่ั ในการนําเสนอเนอื้ หาบทเรียน Computer Assisted Instruction Text : Text Caption, Text Animationเรือง คาํ สงั ในการนาํ เสนอเนือหาบทเรียน Shapes Object : Zoom Area Media : Image, Audio, Video, Animation, Characters Record Can insert transition & effect โดย ครูพฤทธวิ รรณ ชวงพทิ ักษ คาํ ส่ังในการนําเสนอเน้ือหาแบบมปี ฏสิ มั พนั ธ คาํ สง่ั ในการนําเสนอเนอ้ื หาแบบการโตต อบObject : Rollover Caption, Rollover Image Text : Text Entry BoxInteraction : Button, Learning Interaction Interaction : Click box, Drag and Drop, Should have between lessonsCan change transition & Can preview in program timeline and save to edit again
87CP: Practice1 Slide 1 - Text - Media Slide 2 - Text - Shape Slide 3 - Text - Shape - Media Slide 4 - Text - Shape - Media
88Slide 5 - Text - Shape - MediaSlide 6 - Text - Shape - Media
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การใช้โปรแกรม Adobe Captivate เร่ือง การนาเสนอเนอ้ื หาบทเรียนรหสั วชิ า ง33201 รายวชิ า การสร้างส่ือช่วยสอนกลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6โรงเรียนชลกันยานกุ ลู เวลา 2 ชั่วโมง ผูส้ อน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพทิ กั ษ์=============================================================1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ผลการเรียนรู้สามารถใช้คาส่ังในการนาเสนอเน้ือหาในสื่อบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนด้วยโปรแกรมAdobe Captivate ได้2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอดสาระสาคญัคาส่งั ของโปรแกรม Adobe Captivate ทใี่ ช้ในการนาเสนอเนื้อหาบทเรยี นแบบไมม่ ีปฏสิ ัมพนั ธ์ ได้แก่ 1) การใช้คาส่งั กลมุ่ Record 2) การกาหนดเวลาใหก้ ับช้ินงาน 3) การใช้คาส่ังกลุ่มPreview และ 4) การใชค้ าสั่งกลุ่ม Save3. สาระการเรียนรู้ความรู้การใชค้ าสง่ั สรา้ งเนอ้ื หาบทเรยี น ประกอบดว้ ย1) การใช้คาสั่งกลมุ่ Record2) การกาหนดเวลาใหก้ ับช้ินงาน3) การใช้คาสงั่ กลุ่ม Preview4) การใชค้ าสงั่ กล่มุ Saveทักษะ/กระบวนการ1) ทักษะการแสวงหาความรู้2) ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี3) ทกั ษะการวิเคราะห์4) ทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์5) ทักษะปฏิบัติ
92 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการสอื่ สาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี4. คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ 1) มวี ินัย 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) มุ่งมน่ั ในการทางาน 4) มีความรบั ผิดชอบ 5) รักษส์ ิ่งแวดล้อม คา่ นยิ ม 12 ประการ 4) ใฝ่หาความรู้ หม่นั ศึกษาเลา่ เรยี นท้งั ทางตรง และทางอ้อม 10) รจู้ ักดารงตนอยูโ่ ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 12) คานึงถงึ ประโยชนข์ องส่วนรวมมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1) ใบมอบหมายงานที่ 2.3 ให้นกั เรียนทาชนิ้ งาน เร่ือง การใชค้ าส่งั สรา้ งเน้อื หาบทเรยี น CAI6. การวัดและการประเมนิ ผล 6.1 วิธีการ 1) การซกั ถาม 2) การสงั เกต 3) การตรวจผลงาน 6.2 เครือ่ งมือการวัดผล 1) แบบประเมินผลงาน 6.3 เกณฑ์การผ่าน 1) ระดบั พอใช้ขึ้นไป 6.4 การประเมนิ ผล ประเมนิ ผลโดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ ดงั นี้
93เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งานการสร้างเนอื้ หาบทเรยี น CAIประเดน็ ระดับคะแนน นา้ หนกั จดุ เน้นการประเมนิ 4 3 2 1 51. เนื้อหาสาระ เน้ือหา ถกู ต้อง เนือ้ หา ถกู ตอ้ ง เน้อื หา ถกู ต้อง เนอ้ื หาไมค่ รบถ้วน ครบถ้วน ลกึ ซ้งึ ครบถ้วน ชดั เจน ครบถ้วนแต่ไม่ และไม่ชดั เจน 5 ชดั เจน ครอบคลมุ ครอบคลมุ หวั ข้อ ชัดเจนเท่าท่ีควร เทา่ ท่คี วร หัวข้อ ที่กาหนด ท่ีกาหนด 5 ใชค้ าสั่งสร้างเนอ้ื หา2. ทกั ษะการใช้ ใช้คาส่งั สรา้ ง ใช้คาสั่งสร้างเน้อื หา ใช้คาส่งั สร้างเน้ือหา ได้อย่างคลอ่ งแคลว่ 5คาสง่ั เน้อื หาไดอ้ ยา่ ง ได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง คล่องแคลว่ ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ครบถว้ น มีความคดิ รเิ ร่ิม สร้างสรรค์3. เทคนิคการ มีความคิดรเิ ร่ิม มีความคดิ รเิ ร่มิ มีความคิดรเิ รมิ่ องค์ประกอบสมบรู ณ์ออกแบบ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ คอ่ นข้างดี องคป์ ระกอบ องค์ประกอบสมบรู ณ์ องคป์ ระกอบสมบรู ณ์ สมบูรณ์ นา่ สนใจ ใชง้ ่าย มีการวิเคราะหง์ าน ใชง้ า่ ย วางแผนในการทางาน แต่ไมป่ ฏบิ ัติตามแผน4. กระบวนการ มกี ารวเิ คราะห์งาน มีการวิเคราะห์งาน มีการวเิ คราะหง์ าน ทีว่ างไว้ทางาน วางแผนในการ วางแผนในการทางาน วางแผนในการทางาน ทางาน ปฏบิ ัติตาม ปฏบิ ัติตามแผนทว่ี าง ปฏบิ ัติตามแผนทว่ี าง แผนทวี่ างไว้ มกี าร ไว้ มีการประเมนิ ผล ไว้ ประเมนิ ผลการ การทางาน ทางานและนาผล จากการประเมินไป ปรบั ปรุงงานให้ สมบูรณ์ยง่ิ ขน้ึเกณฑ์การตัดสนิ /ระดับคุณภาพ คะแนน 61 – 80 หมายถึง ดีมาก คะแนน 41 – 60 หมายถึง ดี คะแนน 21 – 40 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 20 หมายถึง ปรับปรุงเกณฑ์การผ่าน ตั้งแตร่ ะดับดีข้นึ ไป
94เกณฑ์การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ประเดน็ ระดบั คะแนน น้าหนกั จดุ เน้นการประเมนิ 4 3 2 1 11. มีวินัย ปฏบิ ตั ิตาม ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบัติตาม ข้อตกลง จนเป็น จนเปน็ นสิ ัย ตรงตอ่ เป็นบางครัง้ ขอ้ ตกลง ในการทา 1 นสิ ัย ตรงต่อเวลา เวลา กิจกรรมต่าง ๆ รบั ผิดชอบทางาน 1 ด้วยตนเอง ศึกษาหาความรเู้ ปน็ บางคร้งั 12. ใฝ่เรียนรู้ สนใจศึกษาหา สนใจศึกษาหาความรู้ สนใจศกึ ษาหาความรู้ ความรู้อยา่ ง อยา่ งสม่าเสมอและ อยา่ งสม่าเสมอ ทางานตามที่ไดร้ ับ 1 สมา่ เสมอและ สรุป สรุปองค์ความรู้ มอบหมาย องค์ความรู้เผยแพร่ แก่ผู้สนใจ ไม่ทางานตามท่ีได้รบั มอบหมาย3. ม่งุ มั่น ต้งั ใจทางานดว้ ย ตง้ั ใจทางานดว้ ย ตง้ั ใจทางาน ด้วยในการทางาน ความขยัน อดทน ความขยัน อดทน ความขยนั อดทน ใชพ้ ลังงานอยา่ งไม่ งานสาเรจ็ ตาม งานสาเรจ็ ตาม ประหยัดและไม่4. มคี วาม เปา้ หมายและเป็น เปา้ หมาย ทางานตามที่ได้รับ คุ้มค่ารับผดิ ชอบ แบบอยา่ งท่ดี ี มอบหมายอยา่ งมี ทางานตามท่ีได้รบั ทางานตามทีไ่ ดร้ ับ คุณภาพ แตไ่ มค่ รบ มอบหมายอยา่ งมี มอบหมายอยา่ งมี คณุ ภาพ ครบทุก คุณภาพ ครบทกุ ชิ้น ชนิ้ และสง่ ตาม กาหนดเวลา5.รกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม ใช้พลงั งานอย่าง ใช้พลงั งานอยา่ ง ใชพ้ ลงั งานอย่าง ประหยัดและค้มุ ค่า ประหยดั และคุ้มคา่ มี ประหยัดและค้มุ คา่ มกี ารนากลบั มาใช้ การนากลับมาใชใ้ หม่ ใหม่ มีการ ประยุกต์ใช้วสั ดทุ ่มี ี ในท้องถิน่เกณฑก์ ารตดั สิน/ระดับคุณภาพ คะแนน 16 – 20 หมายถึง ดมี าก คะแนน 12 – 15 หมายถึง ดี คะแนน 10 – 11 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 – 9 หมายถึง ปรับปรงุเกณฑ์การผ่าน ต้ังแต่ระดับดขี ้นึ ไป
957. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าสกู่ ารเรยี น 1) ครบู ันทึกเวลาเรยี นของนกั เรยี นดว้ ยโปรแกรมประมวลผลการเรียนรู้ 2) ครูพดู คุย สอบถาม บทเรยี นที่เรยี นผา่ นมาแล้ว เช่อื มโยงความรู้เข้าสบู่ ทเรยี นวนั น้ี 3) ครแู จง้ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั ภาระงาน และวิธกี ารประเมินผลการเรยี นร้ใู ห้นักเรยี นทราบ ขั้นศกึ ษาเรยี นรู้ 4) นกั เรียนศึกษาความรู้ เรอื่ ง การใชค้ าสงั่ นาเสนอเนื้อหาบทเรียน โดยครูสาธิต เรอื่ ง การใช้คาส่ังกลุ่ม Record การกาหนดเวลาให้กบั ช้นิ งาน การใชค้ าส่งั กลมุ่ Preview และการใช้คาสัง่ กลุ่มSave ใหน้ ักเรยี นปฏิบตั ิตาม โดยใชไ้ ฟล์ CP: Practice1 5) ให้นักเรยี นทางาน ตามใบมอบหมายงานท่ี 2.3 ให้นักเรียนทาชน้ิ งาน เรอื่ ง การใชค้ าส่งัสรา้ งเนือ้ หาบทเรียน CAI 6) ครูแทรกคุณธรรมในการทางาน ได้แก่ ความรับผดิ ชอบ ความใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี นความอดทน ความรกั ความพงึ พอใจในงานท่ีทา เปน็ ตน้ ข้นั สรปุ 7) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาระสาคัญจากสาระการเรียนรู้ท่ีศึกษา โดยใชไ้ ฟล์ CP:Practice1 เรื่อง การใช้คาสงั่ นาเสนอเนื้อหาบทเรียน 8) เสนอแนะใหผ้ ู้เรียนศึกษาความรเู้ พิ่มเติมเก่ียวกับการสรา้ งสือ่ บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน และใหจ้ ัดเตรยี มวัสดุในการบนั ทึกข้อมูลมาด้วยในการเรยี นครงั้ ต่อไป8. ส่อื การเรียนรู้ 1) ใบมอบหมายงานที่ 2.3 ให้นกั เรียนทาชน้ิ งาน เร่ือง การใชค้ าสั่งสรา้ งเนอ้ื หาบทเรียน CAI 2) ไฟล์ CP: Practice1 เร่อื ง การใชค้ าส่ังนาเสนอเน้ือหาบทเรียน 3) เครือ่ งคอมพิวเตอร์ 4) เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ 5) เคร่ืองขยายเสียงและไมโครโฟน9. แหล่งเรียนรู้ 1) ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ โรงเรียนชลกันยานุกลู
96 2) เว็บไซต์ www.chonkanya.net โรงเรียนชลกันยานุกูล จัดทาโดย นายสุทธิศักดิ์ เคลอื บสงู เนิน 3) เวบ็ ไซต์ www.chonkanya.ac.th เวบ็ ไซต์ โรงเรียนชลกันยานกุ ลู 4) แผ่นซีดีรอม เว็บไซต์ ส่ือประสมอิเล็กทรอนิกส์ วิชา การสร้างส่ือบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน จดั ทาโดย นายสุทธศิ กั ดิ์ เคลือบสูงเนิน 5) เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การผลิตส่ือมัลติมีเดีย การสร้างส่ือบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การใช้งานโปรแกรม Adobe Captivate 6) ห้องสมุดโรงเรียนชลกนั ยานกุ ลู 7) ห้องสมดุ ประชาชนจังหวัดชลบุรี 8) หอสมดุ แห่งชาติจงั หวัดชลบุรี 9) หอสมุดมหาวทิ ยาลยั บูรพา 10) หอ้ งสมุดศนู ยก์ ารศึกษานอกโรงเรยี นจังหวดั ชลบุรี10. กิจกรรมเสนอแนะ นักเรียนศึกษาสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต และแหล่งเรียนรู้ที่ครูแจง้ ไว้11. การบรู ณาการ การสรา้ งสื่อบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน สามารถนาไปใช้ในการสร้างสือ่ การเรยี นรแู้ ละสื่อการเรียนการสอนรายวิชาต่าง ๆ ได้อย่างดี
97 ใบมอบหมายงานท่ี 2.3วิชา การสร้างสื่อบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน รหัสวชิ า ง 33201 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6เร่ือง การนาเสนอเน้ือหาบทเรยี น เวลา 2 ชัว่ โมงผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั สามารถใช้คาสั่งในการนาเสนอเนือ้ หาในส่อื บทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้วยโปรแกรมAdobe Captivate ได้เนอื้ หาสาระวชิ า การใชค้ าส่ังสรา้ งเนื้อหาบทเรียน ประกอบด้วย 1) การใชค้ าสงั่ กล่มุ Record 2) การกาหนดเวลาให้กบั ชน้ิ งาน 3) การใชค้ าส่งั กลุ่ม Preview 4) การใชค้ าสงั่ กลมุ่ Saveงานทมี่ อบหมาย 1. ให้นกั เรียนสรา้ งสไลดเ์ นอ้ื หาบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน โดยใชค้ าสั่ง Record การกาหนดเวลาใหก้ ับช้นิ งาน Preview และ Save เมอ่ื ทาเสรจ็ แล้วให้บันทึกผลงาน โดยใชช้ อ่ื ไฟล์ว่า ปีพ.ศ.-ชั้น-เลขทีช่ ่ือ ตวั อยา่ ง เช่น 2559-64-30Puttiwan ตรวจสอบความเรยี บร้อยของงานและสง่ ให้ครตู รวจกาหนดการส่งงาน นกั เรยี นมีเวลาในการทางานตามใบมอบหมายงานที่ 2.3 เป็นเวลา 2 ชว่ั โมง เม่อื ทาเสรจ็ แล้วใหบ้ นั ทกึ ผลงาน และตรวจสอบความเรยี บร้อยของงาน ก่อนสง่ ใหค้ รตู รวจผลงานทีห่ น้าจอคอมพวิ เตอร์ของนกั เรียนการประเมินผล 1. นักเรียนทางานเสรจ็ ตามเวลาที่กาหนด 2. นักเรียนปฏบิ ัตกิ ารสรา้ งสไลด์เนอื้ หาบทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดยใชค้ าสง่ั โปรแกรมAdobe Captivate ไดถ้ ูกตอ้ งตามท่ีกาหนด
98CP: Practice1 Slide 1 - Text - Media Slide 2 - Text - Shape Slide 3 - Text - Shape - Media Slide 4 - Text - Shape - Media
99Slide 5 - Text - Shape - MediaSlide 6 - Text - Shape - Media
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การใช้โปรแกรม Adobe Captivate เร่อื ง การนาเสนอเน้อื หาบทเรียนรหัสวชิ า ง33201 รายวชิ า การสรา้ งส่ือช่วยสอนกลุม่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6โรงเรียนชลกันยานุกูล เวลา 2 ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวพฤทธิวรรณ ช่วงพทิ กั ษ์=============================================================1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ผลการเรยี นรู้สามารถใชค้ าส่งั ในการนาเสนอเนือ้ หาในส่ือบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนด้วยโปรแกรมAdobe Captivate ได้2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระสาคญัคาส่งั ของโปรแกรม Adobe Captivate ทใี่ ช้ในการนาเสนอเน้ือหาบทเรยี นแบบมีปฏิสัมพนั ธ์ ได้แก่ 1) การใช้คาส่ังกลุ่ม Object3. สาระการเรียนรู้ความรู้การใช้คาสั่งกลุ่ม Object ประกอบดว้ ย1) การใช้คาสั่ง Rollover Caption2) การใชค้ าสง่ั Rollover Imageทกั ษะ/กระบวนการ1) ทักษะการแสวงหาความรู้2) ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี3) ทักษะการวิเคราะห์4) ทกั ษะกระบวนการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์5) ทกั ษะปฏิบัติสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน1) ความสามารถในการคดิ2) ความสามารถในการสอ่ื สาร3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140