Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน

Description: พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน

Keywords: พฤกษศาสตร์

Search

Read the Text Version

โครงการส่งเสรมิ การวิจยั และสรา้ งสรรค์นวัตพกฤรกรษศมาสปตร์ะในจโรำ�งปเรงี ยี บนประมา1ณ 25B6o3tany in school โรงเรียนสาธติ “พิบลู บำ�เพญ็ ” มหาวทิ ยาลัยบรู พา พฤกษศาสตร์ ในโรงเรียน Botany in school โรงเรียนสาธติ “พิบลู บำ�เพญ็ ” มหาวทิ ยาลยั บรู พา ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ทนงศักดิ์ ประสบกติ ตคิ ุณ Asst.Prof. Thanongsak Prasopkittikun

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 2 Botany in school โครงการสง่ เสรมิ การวจิ ยั และสรา้ งสรรค์นวตั กรรม ประจ�ำ ปงี บประมาณ 2563 พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน / Botany in school โรงเรียนสาธติ “พบิ ูลบ�ำเพ็ญ” มหาวทิ ยาลัยบูรพา ขอ้ มลู ทางบรรณานุกรมของหอสมดุ แห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data ทนงศกั ดิ์ ประสบกิตตคิ ุณ. พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน = Botany in school.--ชลบุรี : สาธติ บูรพา, 2564. 192 หน้า. 1. พฤกษศาสตร์. I. ชื่อเรื่อง. 581.092 ISBN 978-616-582-042-4 จดั ท�ำ โดย : ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยท์ นงศกั ดิ์ ประสบกติ ติคุณ โรงเรียนสาธิต “พบิ ลู บ�ำ เพ็ญ” มหาวิทยาลัยบรู พา 73 ถ.บางแสนลา่ ง ต.แสนสุข อ.เมอื งชลบุรี จ.ชลบุรี 20131 ออกแบบปกและรูปเลม่ : กิตติคณุ หตุ ะมาน พิมพ์คร้งั ท่ี 1 : เมษายน 2564 พมิ พ์ท่ี : สาธิตบรู พา 73 ถ.บางแสนลา่ ง ต.แสนสขุ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี 20131

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 3 Botany in school ค�ำน�ำ หนังสือ “พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น” เปน็ การรวบรวม ภาพ ช่อื สรรพคุณ ลกั ษณะ ของพรรณ ไม้ตา่ งๆ ในโรงเรียนสาธิต “พิบลู บ�ำเพญ็ ” มหาวิทยาลยั บรู พา เพอื่ เปน็ ฐานข้อมลู ในการสบื คน้ และ เป็นแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน ภาพและข้อมูลต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้ จัดท�ำโดยนักเรียนในชุมนุม พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2559 เปน็ ทมี งานกลมุ่ แรกทเ่ี รม่ิ ตน้ ถา่ ยภาพและเกบ็ ขอ้ มลู พรรณ ไม้ในโรงเรยี น ซง่ึ ผเู้ ขยี นหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สอื เลม่ นจ้ี ะเปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ในการเรยี นรู้ เกยี่ วกบั พรรณ ไม้ต่างๆ ในโรงเรียน ให้กับผู้เรยี นและผู้ทส่ี นใจไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ผู้ชว่ ยศาสตราจารยท์ นงศักด์ิ ประสบกิตตคิ ณุ 23 มกราคม 2564 Botany in school

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 4 Botany in school 5-9 บทนำ� สารบญั Contents  บทนำ� ตน้ ไม้ประจ�ำ โรงเรยี นสาธิต “พิบูลบำ�เพ็ญ” มหาวทิ ยาลัยบรู พา 11-13 พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น บริเวณมัธยมศึกษา 15-89 ชื่อสามัญ, ชือ่ ทอ้ งถ่ิน, ชื่อวิทยาศาสตร,์ ชอื่ วงศ์ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ประโยชน์ พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น บริเวณประถมศกึ ษา 91-147 ชอ่ื สามญั , ชอ่ื ท้องถิ่น, ช่อื วิทยาศาสตร์, ชอื่ วงศ์ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ประโยชน์ พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน บริเวณปฐมวยั 149-189 ชอ่ื สามัญ, ช่อื ท้องถน่ิ , ชือ่ วิทยาศาสตร์, ชอ่ื วงศ์ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ประโยชน์ บรรณานุกรม 190 คณะกรรมการชุมนุมพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 191 ประวัติผู้เขยี น 192

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 5 Botany in school บทน�ำ  ความเป็นมาของสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ตามท่ีสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดาํ ริบางประการเกีย่ ว กบั การอนุรักษพ์ นั ธุกรรมพชื ซ่ึงมีใจความดงั ตอ่ ไปน้ี (สํานักงานโครงการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพชื อันเน่ือง มาจากพระราชดาํ ริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สวนจิตรลดา ; 2544) “การสอนและอบรมใหเ้ ดก็ มจี ติ สาํ นกึ ในการอนรุ กั ษพ์ ชื พรรณนน้ั ควรใชว้ ธิ กี ารปลกู ฝงั ใหเ้ ดก็ เหน็ ความงดงาม ความสนใจ และเกิดความปติ ิท่ีจะทําการศึกษาและอนรุ กั ษ์พืชพรรณตอ่ ไป การให้วธิ ีสอน การอบรมและใหค้ วามรสู้ ึกกลวั ว่า หากไม่อนุรักษแ์ ลว้ จะเกดิ ผลเสียเกิดอันตรายแกต่ นเอง จะทําให้เดก็ เกิดความเครยี ดซึง่ จะเป็นผลเสยี แกป่ ระเทศในระยะยาว” โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดําริฯ ได้ดําเนินงานสนองพระราชดําริ จดั ตงั้ งาน “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น” เพอื่ เปน็ สอ่ื ในการสรา้ งจติ สาํ นกึ ดา้ นอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื โดย ใหเ้ ยาวชน น้นั ได้ใกลช้ ิดกับพชื พรรณไม้ เหน็ คุณค่าประโยชน์ ความสวยงาม อนั จะกอ่ ใหเ้ กิดความคิดท่ี จะอนรุ ักษพ์ ชื พรรณต่อไป สวนพฤกษศาสตร์ คอื แหล่งทร่ี วบรวมพนั ธพ์ุ ืชชนดิ ต่างๆ ทีมีชีวิต จัดปลกู ตามความเหมาะสม กับ สภาพถนิ่ อาศยั เดิม มีห้องสมุด สถานท่ีเก็บรวบรวมตัวอยา่ งพรรณไม้รกั ษาสภาพ อาจเปน็ ตัวอยา่ ง แห้งหรือ ตัวอย่างดอง หรือเก็บรกั ษาด้วยวิธีอน่ื ๆ พันธ์พุ ืชท่ีทําการรวบรวมไว้น้นั จะเป็นแหล่งข้อมลู และ การเผยแพร่ ความร้เู กี่ยวกบั พนั ธ์ุไม้ นอกจากน้ีสามารถใชเ้ ปน็ แหลง่ พกั ผอ่ นหย่อนใจซึ่งสามารถดําเนิน การสวน พฤกษศาสตร์ในพนื้ ทขี่ องโรงเรียน

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 6 Botany in school สําหรับวัตถุประสงค์ของการดําเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เพื่อสร้างจิตสํานึกในการ อนรุ กั ษ์ พนั ธกุ รรมพชื และทรพั ยากร โดยความมงุ่ หวงั ผลของการดาํ เนนิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น คอื • เกิดจิตสาํ นกึ ในการอนุรักษ์พนั ธกุ รรมพชื และทรัพยากร • มีข้อมลู การเรยี นรทู้ รพั ยากรทส่ี ามารถส่อื กนั ไดท้ วั่ ประเทศ • มคี ณุ ธรรมจริยธรรมเป็นฐานของวิทยาการและปัญญา • เกดิ นกั อนรุ กั ษ์ พฒั นาบนฐานคณุ ธรรม • เสริมสรา้ งการเรยี นรู้บนฐาน ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากพระราชดาํ ริ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เก่ยี วกบั การจดั ต้งั สวน พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น โรงเรยี นสาธติ “พบิ ูลบาํ เพ็ญ” มหาวทิ ยาลยั บรู พา ได้ดาํ เนนิ การจดั ตง้ั ชมุ นุม พฤกษศาสตร์ในโรงเรียนข้ึน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2559 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสํารวจและรวบรวม พรรณไม้ที่มีอยู่ในโรงเรียน สร้างแหล่งเรียนรู้พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน โดยได้ดําเนินการตามองค์ ประกอบของสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ดังนี้ (สํานักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมา จากพระราชดําริ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี สวนจติ รลดา : 2544)  1. การจัดทาํ ปา้ ยชือ่  2. การรวบรวมพนั ธุ์ไม้น�ำเขา้ ปลกู ในโรงเรียน  3. การศกึ ษาขอ้ มูลในด้านตา่ งๆ  4. การเขยี นรายงาน  5. การนาํ ไปใช้ประโยชน์ในดา้ นต่างๆ จากการดาํ เนนิ การตามองคป์ ระกอบของสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น จงึ เปน็ แนวทางหนง่ึ ของ โรงเรยี นสาธติ “พบิ ลู บาํ เพญ็ ” ในการปลกู จติ สาํ นกึ การอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื และทรพั ยากร ใหน้ กั เรยี น

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 7 Botany in school ได้เรียนรู้ ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้พฤกษศาสตร์ของโรงเรียนและส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักการ นาํ เสนอความรทู้ างพฤกษศาสตรด์ ว้ ยการเขยี นรายงาน ตลอดจนสง่ เสรมิ การนาํ ความรทู้ างพฤกษศาสตร์ มาบูรณาการกับวิชาตา่ งๆ เพอ่ื นําองค์ความรูม้ าใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในวงกวา้ ง และพัฒนาใหเ้ กดิ ผลตอ่ ประเทศชาติตอ่ ไปในอนาคต   ความรู้เบือ้ งตน้ เกีย่ วกบั พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ในการจัดทําสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียนเบื้องต้นควรมีความเข้าใจความหมายของ สวน พฤกษศาสตร์ สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน งานสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ตลอดจนองคป์ ระกอบ สาํ คญั ของสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น ซง่ึ สาํ นกั งานโครงการอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื อนั เนอื่ งมาจากพระ ราชดาํ ริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี สวนจิตรลดา : 2544 ได้ใหค้ วามหมายไวด้ ังนี้  สวนพฤกษศาสตร์ คอื แหลง่ ทร่ี วบรวมพนั ธพ์ุ ชื ชนดิ ตา่ งๆ ทมี่ ชี วี ติ จดั ปลกู ตามความเหมาะสม กบั สภาพถิ่นอาศยั เดมิ มหี อ้ งสมดุ สถานทเ่ี ก็บรวบรวมตวั อย่างพรรณไมร้ ักษาสภาพ อาจเปน็ ตัวอยา่ ง แห้งตวั อยา่ งดอง หรือเกบ็ รักษาโดยวธิ อี นื่ ๆ พนั ธ์ุพชื ทที่ ําการเกบ็ รวบรวมไวน้ ัน้ จะเปน็ แหลง่ ขอ้ มลู และ เผยแพร่ความรู้ นอกจากนส้ี ามารถใชเ้ ป็นแหลง่ พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น คอื ทุกสงิ่ ทุกอยา่ งทม่ี อี ยู่ในโรงเรยี น ท่ีใชเ้ พื่อการเรยี นรู้โดยมี พชื เปน็ ปจั จยั หลกั ชวี ภาพอน่ื เปน็ ปจั จยั รอง กายภาพเปน็ ปจั จยั เสรมิ และวสั ดอุ ปุ กรณเ์ ปน็ ปจั จยั ประกอบ  งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น คอื งานสรา้ งจติ สาํ นกึ ในการอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื ทรพั ยากร ชวี ภาพและกายภาพ โดยมกี ารสมั ผสั การเรยี นรู้ การสรา้ งและปลกู ฝงั คณุ ธรรม การเสรมิ สรา้ งปญั ญา และภูมิปญั ญา

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 8 Botany in school จากความหมายของ สวนพฤกษศาสตร์ สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น และงานสวนพฤกษศาสตร์ ในโรงเรียน จึงเป็นแนวทางสําคัญในการกําหนดวัตถุประสงค์ และการดําเนินการกิจกรรมต่างๆ โรงเรียนสาธติ “พบิ ูลบาํ เพ็ญ” มหาวิทยาลยั บูรพา จงึ ได้กําหนดวตั ถุประสงค์ และการดําเนนิ การของ สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ไว้ดงั น้ี วัตถปุ ระสงค์การจัดทําสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 1. เพือ่ สรา้ งแหล่งเรียนรพู้ นั ธพ์ ืชชนิดต่างๆ ทมี่ อี ยู่ในโรงเรียน เพ่อื ใหน้ ักเรยี นไดศ้ กึ ษาลกั ษณะ ธรรมชาติ รวมถงึ สรรพคุณของพืชแต่ละชนิด 2. เพ่อื ปลกู จิตสํานึกในการอนรุ ักษพ์ ันธ์พชื รวมถงึ ทรัพยากรทางชวี ภาพ ทางกายภาพที่ผลต่อ การดํารงชวี ิตของพันธพ์ ชื ชนิดตา่ งๆ 3. เพอื่ สนบั สนนุ ใหน้ กั เรยี นไดส้ บื คน้ คน้ ควา้ นาํ สรรพคณุ ของพชื แตล่ ะชนดิ มาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์  การดําเนินการสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ในการจดั กจิ กรรมเกย่ี วกบั การดาํ เนนิ การสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น มขี นั้ ตอนพน้ื ฐานในการ เสรมิ สรา้ งให้นกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้ ได้สมั ผสั และปลูกฝังจิตสาํ นกึ รวมถงึ การสร้างเสรมิ ภมู ปิ ัญญา ดงั น้ี  1. การสํารวจพรรณพืชในโรงเรียนและการสืบค้น เป็นกจิ กรรมที่ใหน้ กั เรียนได้สาํ รวจพันธ์ไมท้ ี่ อยู่ในโรงเรยี นโดยการถา่ ยภาพ คน้ หาชอื่ ทแี่ ปน็ ชอื่ สามญั ชอื่ ทอ้ งถน่ิ ชอื่ ทางวทิ ยาศาสตร์ ลกั ษณะเดน่ ลกั ษณะเฉพาะและสรรพคุณ พร้อมจดบนั ทกึ บริเวณที่พบเหน็ และรวบรวมเป็นข้อมูลเกี่ยวกบั พรรณไม้ ในโรงเรียน

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 9 Botany in school 2. การจัดทาํ แหล่งเรยี นรู้ จากการสํารวจ การสืบค้นพรรณไม้ต่างๆ ท่มี อี ยู่ในโรงเรียน นาํ ไป สู่การเผยแพร่ความรู้ด้วยการจัดทําป้ายชื่อทางพฤกษศาสตร์ การจัดทําสมุดภาพพฤกษศาสตร์ของ โรงเรยี น การนาํ เสนอพรรณไมช้ นดิ ตา่ งๆ ในโรงเรยี น ทางเวบ็ ไซตข์ องโรงเรยี น จากแหลง่ ขอ้ มลู ของโรง เรยี นจะนาํ ไปสู่การเรยี นรกู้ ารสืบค้นธรรมชาตขิ องพืชพรรณตา่ งๆ อย่างแท้จริง 3. การปลกู พันธ์ไมช้ นิดตา่ งๆ ในโรงเรียน สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี นนอกจากจะเปน็ แหล่ง เรียนรู้ด้านพันธ์พืชแล้ว ยังเป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ต่างๆ รวมถึงการอนุรักษ์พันธ์ไม้ท่ีหายาก การ รณรงค์ใหน้ กั เรยี นรจู้ กั รกั ษ์ ดว้ ยการปลกู ดแู ล พรรณไมต้ า่ ง ๆ เปน็ การสรา้ งจติ สาํ นกึ ทด่ี ีใหก้ บั นกั เรยี น เพ่ืออนุรกั ษ์พันธ์ไม้ และสร้างเสรมิ ปญั ญาและภูมิปัญญาเกี่ยวกบั าพฤกษศาสตรอ์ ีกทางหน่ึง Botany in school

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 10 Botany in school

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 11 Botany in school ตน้ ไม้ประจำ� โรงเรียนสาธติ “พบิ ลู บ�ำ เพ็ญ” มหาวิทยาลยั บรู พา School Tree : Piboonmunpen Demonstration School, Burapha University

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 12 Botany in school รหสั 00001 ราชพฤกษ์ : Pudding Pine, Indian Laburnum, Golden Shower

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 13 Botany in school ราชพฤกษ์ ชอ่ื สามัญ Pudding Pine, Indian Laburnum, Golden Shower ช่อื ทอ้ งถน่ิ /ช่อื อ่ืนๆ คูณ, ลมแล้ง ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Cassia fistula L. ชื่อวงศ์ LEGUMINOSAE – CAESALPINIOIDEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร ์ เปน็ ไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสงู 10-20 เมตร ใบ เปน็ ใบ ประกอบแบบขนนกปลายค่เู รยี งสลับ มีใบย่อย 3-8 คู่ แผน่ ใบรปู ปอ้ ม รปู ไข่ หรอื รปู ขอบขนานขนาดกวา้ ง 4–8 เซนตเิ มตร ยาว 7–15 เซนตเิ มตร ปลายใบแหลม โคนมน ดอกขน้ึ เปน็ ช่อยาว 20–40 เซนติเมตร แต่ละดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 -7 เซนตเิ มตร มกี ลบี ดอกสเี หลือง ขนาดเทา่ กัน 5 กลีบ ผล ยาว 30-60 เซนติเมตร และกว้าง 1.5-2.5 เซนตเิ มตร มกี ล่นิ ฉนุ และมเี มล็ดท่ีมีพิษจ�ำนวนมาก ประโยชน์ รากฝนทาแกก้ ลาก เปน็ ยาระบาย รากและแกน่ เปน็ ยาขบั พยาธิ เปลอื กและไม้ใชฟ้ อกหนงั และใชบ้ ดทาผนื่ ตามรา่ งกาย เนอ้ื ไม้ สแี ดง แกมเหลอื งทนทานใชท้ �ำเสา ลอ้ เกวยี น ใบตม้ กนิ เปน็ ยา ระบาย ชว่ ยบรรเทาการแน่นหน้าอก แก้ขดั ขอ้

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 14 Botany in school

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 15 Botany in school พฤกษศาสตร์ ในโรงเรียน บริเวณมธั ยมศกึ ษา Botany in School : Secondary Area

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 16 Botany in school รหสั 01004 โกสน : Croton, Variegated Laurel, Garden Cronton

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 17 Botany in school โกสน ชอ่ื สามญั Croton, Variegated Laurel, Garden Cronton ช่อื ท้องถิ่น/ชอ่ื อนื่ ๆ กรีกะสม, กรสี าเก, โกรตน๋ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Codiaeum variegatium (L.) Blume ชอื่ วงศ ์ EUPHORBIACEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร ์ ไมพ้ ุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ทรงพุ่มรูปไข่ แนน่ ทึบ ประโยชน์ ใบมีสรรพคณุ แก้โรคระบบทางเดนิ ปสั สาวะผิดปกติ / ไม้ประดับ

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 18 Botany in school รหัส 01006 ขาไก่ด�ำ : Flame Flower

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 19 Botany in school ขาไก่ด�ำ ชอ่ื สามัญ Flame Flower ชื่อทอ้ งถน่ิ /ชื่ออน่ื ๆ ปีกไก่ด�ำ, ขาไก,่ แขง้ ไก่ด�ำ, ขาไกเ่ ขยี ว ชือ่ วิทยาศาสตร์ Justicia fragilis Wall ชือ่ วงศ ์ ACANTHACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไมพ้ มุ่ เตยี้ ขนาดเลก็ แตกกง่ิ กา้ นเปน็ พมุ่ แนน่ ล�ำตน้ กา้ น และใบเปน็ สีมว่ งด�ำ ใบเรียวยาว ปลายเรียวแหลม ใบมสี ี เขียวปนเงนิ ดา่ งเป็นปื้นขาว สีอ่อนแก่ไม่เทา่ กัน และด่าง ขาวตามรมิ ขอบใบ ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับ ใบพอกแผลดูดพิษแมลงกัดต่อย แก้ ไข้ถอนพษิ ไขช้ กู �ำลังบ�ำรุงหัวใจ ต้นแก้พิษไขห้ วั ผื่นคนั แก้ ลมวิงเวยี น แก้โรคผวิ หนงั ทกุ ชนิด ถอนพิษภายใน

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 20 Botany in school รหัส 01013 จันผา / จนั ทน์ผา

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 21 Botany in school จันผา/จนั ทนผ์ า ชื่อสามัญ - ชือ่ ทอ้ งถิน่ /ช่ืออืน่ ๆ จนั ทนผ์ า (ภาคเหนอื ), จนั ทนแ์ ดง (ภาคกลาง, สรุ าษฎรธ์ าน)ี   ลักกะจันทน์ ลักจ่ัน (ภาคกลาง),  จันทร์ผา,  ลักกะจ่ัน  จันทร์แดง ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Dracaena Cocbinchinensis (Lour.) S.C. Chen ช่ือวงศ์ ASPARAGACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์ จดั เป็นไม้พุม่ ขนาดกลาง หรือเปน็ ไมต้ น้ ขนาดเล็ก ไมผ้ ลัด ใบ มีความสูงของต้นประมาณ 1.5-4 เมตร ตน้ เมอื่ มอี ายุ มากขนึ้ แกน่ จะเปลย่ี นจากสขี าวเปน็ สแี ดง เราจะเรยี กแกน่ สแี ดงว่า “จนั ทน์แดง” ประโยชน์ แกน่ มีรสขมเย็น ชว่ ยบ�ำ รงุ หวั ใจ เมลด็ ใชร้ ักษาดซี า่ น

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 22 Botany in school รหสั 01016 ชงโค : Orchid Tree, Purple Bauhinia

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 23 Botany in school ชงโค ชือ่ สามัญ Orchid Tree, Purple Bauhinia ช่อื ทอ้ งถ่นิ /ชอื่ อื่นๆ ชงโค เสีย้ วเลอื่ ย (ภาคใต)้ , เส้ียวดอกแดง (ภาคเหนือ), เสย้ี วหวาน (แมฮ่ ่องสอน), กะเฮอ สะเปซี (กะเหรี่ยง - แมฮ่ ่องสอน) ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Bauhinia purpurea L. ชอ่ื วงศ์ FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไมย้ นื ต้นสูงประมาณ 5-15 เมตร กิง่ ออ่ นมีขนปกคลมุ ลักษณะของใบชงโคเป็นใบเดี่ยวคล้ายรูปหัวใจ ปลายของ ใบเว้าลึกมากปลายใบทั้งสองด้านกลมมน ดูคล้ายใบแฝด ติดกัน ดอกจะมีกลิ่นหอมอ่อน แต่ละช่อมีดอกประมาณ 6-10 ดอก แตล่ ะดอกมกี ลีบ 5 กลบี โดยกลีบดอกจะมีสี ชมพูถึงสมี ว่ งแดง ประโยชน์ ใบชงโคน�ำไปต้มชว่ ยรกั ษาอาการไอได้ (ใบ) ช่วยแกพ้ ิษไข้ รอ้ นจากเลอื ดและนำ�้ ดี (ดอก)

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 24 Botany in school รหัส 01018 ชมพู่ : Java Apple

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 25 Botany in school ชมพู่ ช่อื สามัญ Java Apple ชอื่ ท้องถ่ิน/ชือ่ อ่นื ๆ ชมพู่ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Eugenia javanica Lam. ชื่อวงศ์ MYRTACEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ทรงพุ่ม ใบหนาเป็นมันใบโตพอ สมควร ดอกจะบานออกมาเป็นฝอยฟูคล้ายกบั ดอกกระถนิ มีสีขาวสีเขียวใบไม้ สีชมพูอ่อนๆ ผสมผสานกันอยู่ ผล ชมพ่ลู กั ษณะกลม แปน้ มสี เี ขยี วทางข้ัวเล็ก เมล็ดในเป็นสี นำ้� ตาล อ่อน มีเย่อื ใยฟูน่ิมอยภู่ ายนอก ประโยชน์ ผลของชมพู่ มีสรรพคณุ ใช้เปน็ ยาชกู �ำลงั บ�ำรุงหวั ใจ และ ท�ำใหช้ มุ่ ชื่น แก้ลมปลายไขเ้ มลด็ ชมพู่ ใชเ้ ปน็ ยาแก้ทอ้ งเสยี และแก้เบาหวาน เปลือก แกเ้ บาหวานและแกท้ ้องเสยี

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 26 Botany in school รหสั 01022 ตะแบก : Bungor

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 27 Botany in school ตะแบก ช่อื สามญั Bungor ช่อื ทอ้ งถน่ิ /ชือ่ อนื่ ๆ แลนไห้ (เชยี งใหม)่ , ตะแบกหนงั (จนั ทบรุ )ี , เปลอื ย (สโุ ขทยั , พษิ ณโุ ลก), ตะแบกแดง (ประจวบครี ีขนั ธ์), ป๋วย, เปอ๋ื ย เปอ๋ื ยขาว, เปอ๋ื ยตยุ้ , เปอ๋ื ยคา่ ง, เปอ๋ื ยนำ�้ , เปอ๋ื ยลว้ั ะ, เปอ๋ื ย เปลอื กหนา (ภาคเหนอื ) ช่อื วทิ ยาศาสตร์ Lagerstroemia floribunda Jack ชื่อวงศ์ LYTHRACEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไมต้ ้น ผลัดใบ สูง 15-30 เมตร โคนตน้ เปน็ พูพอนสูง เปลอื กเรียบเปน็ มัน สีเทาหรือเทาออ่ น ดอกสีม่วงอมชมพู แล้วเปลี่ยนเปน็ สขี าว ออกเป็นช่อท่ีปลายกงิ่ ประโยชน์ เปลือกมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลงแดง ใช้ปรุงเป็นยาแก้บิด และมกู เลอื ด

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 28 Botany in school รหัส 01028 ไทรยอดทอง : Chinese Bangan, Curtain Fig, Glossy – Leaffig, Indian Laurel, Malay Bangan

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 29 Botany in school ไทรยอดทอง ชอ่ื สามญั Chinese Bangan, Curtain Fig, Glossy – Leaffig, Indian Laurel, Malay Bangan ชือ่ ทอ้ งถ่นิ /ช่อื อนื่ ๆ ไทรทอง, ไทรยอดทอง ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Ficus microcarpa L.f.CV. Golden ช่อื วงศ์ MORACEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ยืนต้น ลำ�ต้นสูงประมาณ 1-1.5 เมตร เส้นรอบวง ประมาณ 4-5 เซนตเิ มตร ล�ำ ต้นสนี ้ำ�ตาล ผิวล�ำ ต้นขรขุ ระ ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้กระถาง และปลูกประดับสวน ประดับน้�ำตก หรอื ปลูกตามชายน้�ำ

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 30 Botany in school รหสั 01029 นนทรี : Copper Pod, Yellow Flame Tree, Yellow Poincina

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 31 Botany in school นนทรี ชื่อสามญั Copper Pod, Yellow Flame Tree, Yellow Poincina ชอื่ ทอ้ งถิน่ /ชื่ออื่นๆ กระถนิ ป่า, กระถนิ แดง (ตราด), นนทรี (ทัว่ ไป) สารเงิน (แม่ฮอ่ งสอน) ชือ่ วิทยาศาสตร์ Peltophorum pterocarpum (DC.) Backer ex K. Heyne ชือ่ วงศ์ FABACEAE วงศย์ ่อย CAESALPINOIDEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไมผ้ ลดั ใบขนาดเลก็ -กลาง สงู 8-15 เมตร เรอื นยอดเปน็ รูปร่ม ดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ต้ังขึ้น ช่อดอกมีความยาว ประมาณ 20-30 เซนตเิ มตร ดอกยอ่ ยเปน็ สเี หลอื งสด กลบี ดอกมี 5 กลีบ กลีบดอกมลี ักษณะบางและคอ่ นขา้ งยับยน่ ประโยชน์ ยอดและฝกั ออ่ น ใชเ้ ปน็ อาหารประเภทผกั เหนาะ ใหร้ สชาติ ฝาดมนั เปลอื กตน้ เมอ่ื น�ำ ไปตม้ จะใหส้ นี �้ำ ตาลอมเหลอื ง ซงึ่ น�ำ มาใช้ในการยอ้ มผา้ ฝา้ ยบาตกิ หรอื ใชพ้ มิ พผ์ า้ ปาเตะ๊ ใชย้ อ้ ม แหและอวน

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 32 Botany in school รหัส 01030 บวั เผ่อื น, บัวสี : Water Lily, Blue Lotus, Red and Blue Water Lily

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 33 Botany in school บัวเผ่ือน, บวั สี ชื่อสามญั Water Lily, Blue Lotus, Red and Blue Water Lily ชือ่ ทอ้ งถ่ิน/ช่อื อน่ื ๆ นลิ บุ ล นิโลบล (กรงุ เทพฯ), บวั ผนั บวั ขาบ (ภาคกลาง), และ ปาลีโปะ๊ (มลายู นราธวิ าส) ชือ่ วิทยาศาสตร์ Nymphaea nouchali Burm. f. ช่อื วงศ ์ NYMPHAEACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพันธุ์ไม้น้�ำคล้ายบัวสาย อายุหลายปี มีเหง้าและไหล อยู่ใตด้ นิ และส่งใบดอกข้นึ มาบนผวิ น้ำ� บัวเผอื่ นมดี อกให้ ชมเกือบตลอดทัง้ ปี เร่ิมบานตอนสายและหุบตอนบ่าย ประโยชน์ ดอกรสฝาดหอมเยน็ บ�ำ รงุ หวั ใจใหแ้ ชม่ ชนื่ บ�ำ รงุ ก�ำ ลงั แก้ไขตวั ร้อน / ใชเ้ ปน็ ไม้ประดบั

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 34 Botany in school รหสั 01031 บานบุรี : Allamanda, Golden Trumpet

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 35 Botany in school บานบุรี ชือ่ สามญั Allamanda, Golden Trumpet ชื่อท้องถนิ่ /ชอ่ื อน่ื ๆ บานบุรีเหลอื ง ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Allamanda cathartica L. ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ จัดเป็นไม้ประดับดอกท่ีมีล�ำต้นก่ึงเลื้อย นิยมปลูกเพื่อชม ดอกเปน็ ส�ำคญั เนอ่ื งจาก ดอกมขี นาดใหญ่ กลบี ดอกมสี สี นั สวยงาม ทง้ั สเี หลอื ง สมี ว่ ง และสีกหุ ลาบ สามารถเตบิ โต ได้ดีในทกุ สภาพดนิ ปลูกง่าย และเลยี้ งงา่ ย ไมค่ อ่ ยมีโรค รบกวน ประโยชน์ ไม้ประดับ, จะน�ำเอายางสขี าวท่ีอยู่ในตน้ มาท�ำเปน็ กาว และยาเบอื่ หนู

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 36 Botany in school รหสั 01036 ปาล์มขวด : Royal Palm, Cuban Royal Palm

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 37 Botany in school ปาลม์ ขวด ชอ่ื สามญั Royal Palm, Cuban Royal Palm ชอ่ื ท้องถ่ิน/ช่อื อื่นๆ ปาลม์ คิวบา ช่อื วทิ ยาศาสตร์ Roystonea regia (H.B.K.) Cook ช่อื วงศ์ ARECACEAE (PALMAE) ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ปาลม์ ขวดเปน็ ปาลม์ ต้นเดยี่ ว ล�ำ ตน้ คอดใกล้โคนและป่อง กลาง ลำ�ต้นมีเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 50 เซนติเมตร สูงได้ถึง 25 เมตร คอสีเขยี วเขม้ และยาวถงึ 1 เมตร ใบรปู ขนนก ทางใบยาว 5-6 เมตร ใบย่อยเรยี วยาวและแตกออกเป็น สองทิศทาง ช่อดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น ออกใต้คอ ช่อสี ขาวนวลขนาดใหญ่ ผลกลม ขนาด 1-1.5 เซนตเิ มตร เม่อื สกุ มีสนี ้�ำ ตาลเข้มถึงมว่ ง ประโยชน์ ปลกู เปน็ ไม้ประดบั / อดออ่ นของปาล์มขวดสามารถน�ำ มา รับประทานได้คล้ายยอดมะพร้าว ผลใช้ผสมเป็นอาหาร เล้ยี งหมู

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 38 Botany in school รหัส 01040 ไผ่สที อง : Ougon - Kou Chiku, Kou - Chiku Bamboo

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 39 Botany in school ไผ่สีทอง ช่อื สามญั Ougon - Kou Chiku, Kou - Chiku Bamboo ชอ่ื ท้องถิ่น/ชื่ออื่นๆ ไผเ่ หลอื งทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Bambusa blumeana Schult. ช่ือวงศ์ GRAMINEAE หรือ BAMBUSOIDEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพุ่มกอ ลำ�ต้นตั้งตรง กลม เป็นทรงกระบอกกลวง ขนาด 5-8 เซนตเิ มตร ผวิ เกลยี้ ง สเี หลอื ง มเี สน้ แถบสเี ขยี วออ่ น ตามยาว ไมม่ หี นาม เนอื้ แขง็ มขี อ้ ปลอ้ งชดั เจน แตล่ ะปลอ้ ง ยาว 30-40 เซนตเิ มตร มเี หง้าใต้ดิน ประโยชน์ ไมป้ ระดบั , หนอ่ ชว่ ยลดไข้ ละลายเสมหะ รกั ษาโรคบดิ แก้ ทอ้ งเสีย ขบั ระดู ขบั ลม ขับปสั สาวะ

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 40 Botany in school รหัส 001041 พญาสตั บรรณ / สตั ตบรรณ : Devil Tree, White Cheesewood

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 41 Botany in school พญาสตั บรรณ / สัตตบรรณ ชือ่ สามัญ Devil Tree, White Cheesewood ชอื่ ทอ้ งถน่ิ /ชอ่ื อื่นๆ กะโนะ (กระเหรย่ี ง-แมฮ่ อ่ งสอน), จะบนั (เขมร-กบนิ ทรบ์ รุ )ี บะซา ปลู า ปแู ล (มาเลเซีย ยะลา ปตั ตานี), ตนี เป็ดดำ� (นราธวิ าส), ยางขาว (ล�ำ ปาง), พญาสตั บรรณ (ภาคกลาง), หสั บรรณ (กาญจนบุรี), ตีนเป็ดขาว (ยะลา), ตนี เปด็ ต้น ชือ่ วิทยาศาสตร์ Alstonia scholaris (L.) R.Br. ชอื่ วงศ์ APOCYNACEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไมย้ นื ตน้ ขนาดใหญ่ ทรงพมุ่ กลม แตกกง่ิ กา้ นเปน็ ชน้ั รอบ ต้นคล้ายต้นหูกวาง ออกดอกเป็นช่อตามปลายก่ิง มีก้าน ดอกหลักยาว 3-8.5 เซนติเมตร ก้านดอกยอ่ ยยาว 1 มม. ดอกมขี นาดเลก็ ทเี่ ปน็ กลบี ดอกรปู ไข่ มหี ยกั เวา้ สขี าวหรอื เหลืองอมเขียว ปลายดอกอาจแหลม และแบนมน มขี นนุม่ ปกคลุม ปากท่อด้านในดอกมีขนยาวปุกปุย เกสรตัวผู้อยู่ บริเวณกลางวงท่อกลีบดอก อับเรณูเกสรตัวผู้มีขนนุ่ม ปกคลมุ เมอ่ื ดอกบาน 1-2 วนั จะสง่ กลน่ิ หอมแรงมาก หาก ดมมากบางคนอาจวงิ เวียนศีรษะได้ ประโยชน์ นยิ มปลกู เปน็ ไมป้ ระดบั ละใหร้ ม่ เงา เนอื้ ไมม้ สี ขี าวอมเหลอื ง เหมาะส�ำหรับท�ำเฟอร์นิเจอร์ ท�ำอุปกรณ์หรือไม้ใช้สอย เนือ้ ไมม้ ีน�้ำหนักเบา เหมาะส�ำหรบั ท�ำทุ่นอวน

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 42 Botany in school รหัส 01042 พลบั พลงึ : Cape Lily, Crinum Lily

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 43 Botany in school พลบั พลึง ช่อื สามญั Cape Lily, Crinum Lily ชื่อทอ้ งถ่นิ /ชื่ออ่ืนๆ ลิลัว (ภาคเหนอื ), พลับพลึง (ภาคกลาง) ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Crinum asiaticum L. ชือ่ วงศ ์ AMARYLLIDACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไมล้ ม้ ลกุ อายหุ ลายปขี นึ้ เปน็ กอ ทรงพมุ่ เตย้ี ขนาดกลาง ทรงพมุ่ โปรง่ มหี วั ใตด้ นิ และมที เ่ี หน็ วา่ เปน็ ล�ำ ตน้ แทจ้ รงิ เปน็ กาบใบทีอ่ ัดกันแน่น เมอ่ื โตเต็มท่กี วา้ งกวา่ 20 ซม. และ ยาวประมาณ 30 ซม. ออกดอกตลอดปี แต่ออกมากช่วง ฤดฝู น ประโยชน์ ใช้ใบพนั รักษาอาการฟกช�้ำ บวม เคลด็ ขดั ยอก แพลง จะถอนพษิ ไดด้ ี จะใช้ใบพลบั พลงึ อยา่ งเดยี ว หรอื อาจใชป้ น กบั ชนดิ อ่นื ๆ แลว้ นำ�ไปต�ำ ปิดบริเวณทป่ี วด

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 44 Botany in school รหัส 01047 พทุ ธรกั ษา : Canna, Indian Shot, Saka Siri, Bandera

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 45 Botany in school พุทธรักษา ช่ือสามญั Canna, Indian Shot, Saka Siri, Bandera ช่ือทอ้ งถิ่น/ช่อื อนื่ ๆ พทุ ธรกั ษา (ทกุ ภาค), บวั ละวงศ,์ พทุ ธศร, กวงอมิ เกยี (จนี ), เซียเจยี ง (จนี ) ช่ือวิทยาศาสตร์ Canna indica L. ช่ือวงศ ์ CANNACEAE ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพรรณไม้ล้มลุก เน้ืออ่อน อวบน้ำ� ลำ�ต้นมีความสูง ประมาณ 1-2 เมตร มีล�ำ ต้นอยู่ใตด้ นิ เรียกว่า เหงา้ มกี าร เจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะ หน่อท่ีเจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสี เขยี ว ขนาดล�ำ ตน้ โตประมาณ 2-4 เซนตเิ มตร สแี ดง แสด เหลืองชมพู ขาว ออกดอกเปน็ ชอ่ แบบช่อกระจะท่ปี ลายก่งิ ทยอยบานทลี ะ 1-3 ดอก ชอ่ ดอกยาว 15-20 เซนตเิ มตร ประโยชน์ ไมด้ อกไมป้ ระดบั , ดอก ต�ำ พอกหา้ มเลอื ด รกั ษาแผลหนอง

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 46 Botany in school รหัส 01049 โพธิ์ : Sacred Fig Tree, Pipal Tree, Bohhi Tree, Bo Tree, Peepul

พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น 47 Botany in school โพธ์ิ ช่อื สามญั Sacred Fig Tree, Pipal Tree, Bohhi Tree, Bo Tree, Peepul ช่ือท้องถนิ่ /ชือ่ อื่นๆ โพ สลี (ภาคเหนอื ), สี สะหลี (ภาคตะวนั ตกเฉยี งเหนือ), โพ โพธิ โพศรมี หาโพ (ภาคกลาง), ยอ่ ง (แม่ฮ่องสอน) ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Ficus religiosa L. ชอ่ื วงศ์ MORACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ผลัดใบ แตกกิ่งก้านสาขาออก เปน็ พมุ่ ตรงสว่ นยอดของล�ำตน้ ปลายกง่ิ ลลู่ ง กง่ิ ออ่ นเกลยี้ ง ตามก่ิงมีรากอากาศห้อยลงมาบ้าง ล�ำต้นมีความสูง ประมาณ 20-30 เมตร ล�ำตน้ มขี นาดเสน้ ผา่ นศูนย์กลาง ประมาณ 1.5-3 เมตร และมีนำ�้ ยางสขี าว เปลอื กต้นเรยี บ เปน็ สนี ้�ำตาลปนเทา โคนตน้ เปน็ พูพอนขนาดใหญ่ โดยจัด เป็นพรรณไมท้ ่มี ีรูปทรงของล�ำตน้ สว่ นงามชนดิ หน่งึ ประโยชน์ ไม้ประดับให้ร่มเงา, ใบมีสรรพคุณช่วยลดระดับน�้ำตาล ในเลอื ด

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 48 Botany in school รหสั 01050 ฟโิ ลเดนดรอน มรกตหยก : Philodendron

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 49 Botany in school ฟิโลเดนดรอน มรกตหยก ช่อื สามญั Philodendron ชื่อท้องถิน่ /ชอ่ื อน่ื ๆ เงินไหลมา, ฟโิ ลเดนดรอนอเมซอน ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Philodendron burle-marxii ชอ่ื วงศ ์ ARACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ฟิโลเดนดรอน มรกตหยก เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี อิงอาศยั มีรากอากาศ ใบเปน็ ใบเดี่ยว เรียงเวยี น รปู แถบ ยาวถึงรปู ขอบขนาน กวา้ ง 5.6-8.2 เซนติเมตร ยาว 8.8- 10 เซนติเมตร ปลายติ่งแหลม โคนรปู หัวใจ ขอบหยักเป็น คลื่น ใบหนา เกลี้ยง เป็นมนั สีเขียวเข้ม เหน็ เสน้ กลาง ใบ นูนเดน่ ชัด กา้ นใบรปู ทรงกระบอก ยาว 4-5 เซนติเมตร ปลอกหุ้มยอดสเี ขียวออ่ น สว่ นดอก มลี กั ษณะเปน็ ชอ่ แบบ ชอ่ เชิงลดมีกาบ ประโยชน์ เป็นไม้ประดับ ปลูกเป็นไม้กระถาง วางประดับในอาคาร ปลกู ประดบั จัดสวนภายใน ไมต้ ัดใบ

พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน 50 Botany in school รหสั 01054 มะขาม : Tamarind, Indian Date