สื่อ วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น รหัสวิชา 20200-1001

1.ความหมายของอปุ สงค์  ปรมิ าณสินค้าและบรกิ ารทผ่ี ู้บรโิ ภคตอ้ งการซ้อื  ในระยะเวลาใดเวลาหนง่ึ  ณ ระดบั ราคาสินค้า ในระดับตา่ งๆ (ความต้องการซ้อื ในเวลาใดเวลาหนง่ึ ในระดบั ราคาท่ผี ูบ้ รโิ ภคมีอานาจ ซอื้ )

2.ตารางอุปสงค์ ความหมาย : ตารางความสมั พนั ธ์ระหว่าง ปริมาณซือ้ สนิ คา้ ณ ระดบั ราคาต่างๆ กนั (จานวนสินคา้ กับราคาสินค้า) ตารางอุปสงค์ : มี 2 ประเภทคือ

2.1 ตารางอุปสงคเ์ ฉพาะบคุ คล เป็นตารางแสดงถึง  คนหน่งึ คน  มกี ารซ้ือสินค้าและบริการ  ในแต่ละระดับราคาของสินคา้ และบริการ ถ้าราคาสนิ ค้า สูงขึน้ ปรมิ าณการซือ้ จะน้อยลง ถ้าราคาสนิ คา้ ถกู ลง ปรมิ าณการซอ้ื จะมากขนึ้

6.1 ตารางอุปสงค์ในการซ้อื องุ่นของนายบารงุ



2.2 ตารางอุปสงค์รวมหรือตารางอปุ สงคข์ องตลาด เปน็ ตารางแสดงถึง  ตลาดหรอื บคุ คลทงั้ หมดในตลาด  มกี ารซื้อสนิ คา้ และบริการ  ในแตล่ ะระดบั ราคาของสนิ คา้ และบริการ ถ้าราคาสินค้า สูงขน้ึ ปรมิ าณการซื้อจะนอ้ ยลง ถา้ ราคาสนิ ค้า ถูกลง ปริมาณการซือ้ จะมากข้ึน





3.กฎของอปุ สงค์  ปริมาณซ้ือของสินค้าและบริการชนิดใดชนิดหน่ึงจะ เปลี่ยนแปลงในทางตรงกันข้ามกับระดับราคาของ สินค้าและบริการนัน้ ๆ เสมอ  ราคาสินค้าแพงซ้อื น้อย/ราคาสนิ คา้ ถูกซอ้ื สินค้ามาก  สาเหตุของกฎอุปสงค์ คือ ผลแห่งรายได้/ผลแห่งการ ทดแทน  กฎของอุปสงค์จะเป็นจริงก็ต่อเม่ือ รายได้ รสนิยม ราคาสนิ คา้ และอื่นๆ คงท่ี

4. ปจั จยั กาหนดอปุ สงค์และฟงั กช์ ั้นอุปสงค์ 4.1 ปจั จยั กาหนดอุปสงค์ 1. ราคาของสินคา้ และบรกิ าร (Price = P)  ราคาแพงซ้ือนอ้ ย/ราคาถูกซอ้ื มากขึ้น 2. รายไดข้ องผ้บู ริโภค (Income = I)  รายไดม้ าขน้ึ ความต้องการสินคา้ มาก  รายได้นอ้ ยลง ความตอ้ งการสินคา้ น้อยลง

3. จานวนผ้ซู ื้อในตลาด (Number of Buyer = B)  ถ้าผซู้ อื้ มาก ความต้องการซอื้ มาก  ถา้ ผูซ้ ือ้ นอ้ ย ความตอ้ งการซื้อนอ้ ย 4. รสนยิ มและความพึงพอใจของผ้บู ริโภค (Taste = T)  ผ้บู รโิ ภคจะมีรสนิยมแตกตา่ งกนั ไป  ผู้บริโภคจะมีรสนิยมเปล่ียนแปลงไปตามยุคตาม สมยั 5. การโฆษณา (Advertise = A)  ถ้าโฆษณาดีมีประสทิ ธิภาพ ทาใหม้ ีการซื้อมาก  ถ้าโฆษณานอ้ ยลง ทาใหม้ ีการซ้อื นอ้ ยลง

6. ฤดกู าล (Seasun = Se) ฤดกู าลท่เี ปลยี่ นไป เช่น ถ้าฤดหู นาว ขายเสอื้ กั้นหนาวไดม้ าก ถา้ ฤดรู ้อน ขายเสอื้ ก้ันหนาวได้น้องลงหรือไมม่ เี ลย 7. การคาดคะเนเกี่ยวกบั ราคา (Speculation = Sp) คอื การที่ผูบ้ รโิ ภคคาดการณ์เกย่ี วกับราคาสินคา้  คาดวา่ ราคาจะสงู ขึน้ จะทาใหม้ ีการกกั ตุนสนิ ค้าไว้  คาดวา่ ราคาจะตา่ ลง จะทาใหเ้ กดิ การชะลอการซ้อื สนิ ค้าเพือ่ รอเวลาในราคาถูกก่อนค่อยซ้ือ

8. การเปล่ียนแปลงในราคาของสินค้าและบริการอื่นที่ เกยี่ วข้อง (Changing in Price of Other Related Good = Py)  คือ การเปล่ียนแปลงราคาสินค้าชนิดหน่ึง เปลี่ยนไป จะทาใหส้ ินค้าอกี ชนดิ เปล่ียนไปตาม เช่น ราคาข้าวสารเหนยี วสงู ทาให้ราคาขนมที่ทาจาก ข้าวเหนยี วสงู ขึ้นตาม

4.2 ฟงั กช์ ัน่ อปุ สงค์ Qx = f (Px, I, B, T, A, Se, Sp, Py) ปริมาณการซอื้ สนิ คา้ X (Qx) ขนึ้ อยู่กบั ราคาสินค้า X(Px) รายไดข้ องผ้บู ริโภค (I) จานวนผู้ซอ้ื ในตลาด (B) รสนิยมและความพึงพอใจของผู้บรโิ ภค (T) การโฆษณา (A) ฤดูกาล (Se) การคาดคะเนเกย่ี วกับราคา (Sp) การเปลยี่ นแปลงในราคาของสนิ คา้ และบรกิ ารอนื่ ทเี่ กีย่ วข้อง (Py)

หรือ Q = f (P) ปริมาณการซอื้ สนิ ค้า X (Qx) ข้นึ อยู่กบั ราคาสินคา้ X(Px) เทา่ นน้ั โดยการกาหนดปจั จยั ท่ีเป็นตัวกาหนดอปุ สงค์ อ่ืนๆ คงที่ ไมเ่ ปลีย่ นแปลง

5. การเปลี่ยนแปลงปริมาณซ้ือ คือ ปริมาณการซื้อสินค้าเปล่ียนแปลงไปเพราะราคา เปล่ียนแปลง โดยที่ปัจจัยอื่น (ข้อ 2-8)ไม่มีการ เปลยี่ นแปลง



6. การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ คือ ปริมาณการซื้อสินค้าเปลี่ยนแปลงไปเพราะปัจจัย กาหนดอปุ สงค์อื่นในขอ้ (ข้อ 2-8) มกี ารเปลี่ยนแปลง การเปล่ียนแปลง จะเปลี่ยนแบบเคล่ือนไปทั้งเส้น จาก เสน้ เดมิ





7. ความยดื หยุ่นของอปุ สงค์ ปริมาณการซ้ือสินค้าจะเปล่ียนแปลงไปเพราะปัจจัย กาหนดอุปสงค์(ข้อ 1-8) มีการเปลี่ยนแปลง แต่จะ เปล่ยี นไปมากหรอื น้อยข้นึ อย่กู ับความยืดหยนุ่ ของสนิ ค้า ถา้ เกิดขึ้นเพราะ  ราคา จะเรยี กวา่ ความยดื หยนุ่ ของอปุ สงค์ตอ่ ราคา  รายได้ จะเรียกวา่ ความยดื หยนุ่ ของอุปสงค์ต่อรายได้  ราคาสินค้าอื่นๆ จะเรยี นวา่ ความยดื หยนุ่ ของอปุ สงค์ต่อ ราคาสินคา้ อนื่ ๆ

ความยืดหย่นุ ของอุปสงคต์ ่อราคาแบ่งออกเปน็ 3 ประเภท คอื 1. อปุ สงคท์ มี่ ีความยืดหยนุ่ มาก (ค่ามากกว่า 1 จะเป็น สนิ ค้าฟมุ่ เฟอื ยเช่น โทรศพั ทร์ ุ่นใหม่/เพชร/หฉู ลาม) 2. อุปสงคท์ ีม่ คี วามยืดหยนุ่ น้อย (คา่ นอ้ ยกวา่ 1 จะเปน็ สินคา้ จาเปน็ เชน่ ขา้ ว/ยารกั ษาโรค/สบู่/ยาสีฟัน/ผงซักฟอก) 3. อุปสงคท์ ี่มคี วามยดื หยนุ่ พอดหี รือยดื หยุ่นคงท่ี (ถา้ ราคาสินค้าลดลง1% ปรมิ าณซื้อจะเพิ่มขึน้ 1% ถา้ ราคาสนิ คา้ เพมิ่ ข้ึน1% ปรมิ าณซ้ือจะลดลง 1% ค่าความยดื หยนุ่ = 1)

7.1 อปุ สงค์ท่มี ีความยดื หย่นุ มาก

7.2 อปุ สงค์ท่มี ีความยดื หย่นุ นอ้ ย

7.3 อุปสงค์ที่มคี วามยดื หยุ่นพอดีหรอื ยืดหย่นุ คงท่ี

8. การวดั ความยดื หยุ่นของอปุ สงคต์ อ่ ราคา





ข้อสอบท้ายบท ข้อ 1 สนิ ค้า A ราคา 200 บาท จะมผี ้ซู อ้ื จานวน 100 หน่วย หากราคาลดลงเหลือ 150 บาท จะมี ผู้ซอื้ ไปใช้ 180 หนว่ ย จงหาคาความยืดหยนุ่ ของอปุ สงคต์ อ่ ราคา (Ed) ของสินค้า A และ อธิบายวา่ A เป็นสินคา้ ประเภทใด

อปุ ทาน (Supply) ความตอ้ งการขาย

อุปสงค์ /Demand/ความตอ้ งการซ้อื 1.ความหมาย 5.การเปลีย่ นแปลงของอุปสงค์ 2.ตารางอปุ สงค์ 6.ความยดื หยุน่ ของอุปสงค์ 3.กฎอุปสงค์ 7.ความยดื หยุ่นของอุปสงค์ 4.ปจั จัยกาหนดอุปสงค์ 8.การวดั ความยืดหยุ่น ฟังกช์ ัน้ อุปสงค์

1.ความหมายของอุปทาน  ปรมิ าณสนิ คา้ และบรกิ ารทผ่ี ูข้ ายตอ้ งการขาย  ในระยะเวลาใดเวลาหนงึ่  ณ ระดับราคาสินค้า ในระดับต่างๆ (ความต้องการซอ้ื ในเวลาใดเวลาหน่ึง ในระดบั ราคาทผี่ บู้ รโิ ภคมีอานาจ ซ้ือ)

2.ตารางอุปทาน ความหมาย : ตารางความสัมพันธ์ระหว่าง ปรมิ าณสนิ คา้ ท่ผี ตู้ อ้ งการขาย ณ ระดบั ราคา ตา่ งๆ กัน ตารางอุปทาน : มี 2 ประเภทคือ

2.1 ตารางอปุ ทานเฉพาะบุคคล เป็นตารางแสดงถงึ  คนขายหนึง่ คน  มกี ารซ้อื สนิ คา้ และบรกิ าร  ในแต่ละระดบั ราคาของสนิ คา้ และบรกิ าร ถ้าราคาสนิ คา้ สูงขึน้ ปรมิ าณการซื้อจะนอ้ ยลง ถ้าราคาสินค้า ถูกลง ปริมาณการซอ้ื จะมากขึ้น