บทที่ 3 การขับเคลอ่ื นระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรียน ของสำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 4 กฎหมาย ระเบียบ แนวปฏิบัติทเี่ ก่ียวข้อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรง หมายถึง กฎหมายด้านการศึกษาและที่เกี่ยวข้องโดยที่มี รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รักษากฎหมาย หรือมสี ว่ นเก่ียวข้องในกฎหมายนัน้ ๆ ประกอบด้วย พ.ร.บ. 5 ฉบบั ระเบยี บกระทรวง 1 ฉบบั กฎกระทรวง 1 ฉบบั และประกาศกระทรวง 1 ฉบบั โดยมมี าตรา หรอื ข้อทสี่ ำคญั ดงั น้ี 1. พ.ร.บ.การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพ่ิมเตมิ มาตรา 10 วรรค 2 และ 3 การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สงั คม การสอื่ สารและการเรียนรู้ หรอื มีความพกิ าร ต้องจัดไดร้ บั สิทธแิ ละโอกาสทางการ ศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และบุคคลดังกล่าวมีสิทธิได้รับสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บรกิ าร และความช่วยเหลอื โดยเป็นไปตามกฎกระทรวง* มาตรา 15 กล่าวถึงรูปแบบการจัดการศึกษามีท้ังสิ้น 3 รูปแบบ ได้แก่ (1) การศึกษาในระบบ (2) การศึกษานอกระบบ (3) การศึกษาตามอัธยาศยั มาตรา 17 กำหนดให้เด็กที่มีอายุย่างเข้าปีที่ 7 ให้ได้รับการศึกษาภาคบังคับ จำนวน 9 ปี โดยหลักเกณฑแ์ ละการนบั อายใุ ห้เปน็ ไปตามทกี่ ำหนดตามกฎกระทรวง* มาตรา 22 กำหนดให้ผู้เรียนเป็นสำคัญในความสามารถการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง โดยการจัด การศกึ ษาต้องส่งเสริมใหผ้ เู้ รยี นสามารถพฒั นาตนเองไดเ้ ปน็ สมวยั และเป็นไปตามธรรมชาติ มาตรา 23 สถานศึกษาจัดการศึกษาตามมาตรา 15 ให้เน้นความสำคัญทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรยี นรู้และการบรู ณาการตามความเหมาะสม มาตรา 26 ให้สถานศึกษาจัดการประเมินผู้เรียนในด้านการเรียนและความประพฤติ เพื่อให้ สถานศกึ ษาสามารถใช้วธิ กี ารสอนทีห่ ลากหลาย 2. พ.ร.บ.การศึกษาภาคบงั คบั พ.ศ. 2545 มาตรา 7 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปยังสถานที่ใดๆ ในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น และ พระอาทิตย์ตกหรือในเวลาทำการของสถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบการเข้าเรียนของเด็ก หากพบเห็นว่าเด็ก P a g e 46 | 91
ไม่ได้เข้าเรียนให้ดำเนินการนำเด็กเข้าเรียน แล้วรายงานให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ แล้วแต่กรณที ราบ มาตรา 10 ในการปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ. นี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 11 ผู้ใดที่มิใช่ผู้ปกครอง แต่มีเด็กที่ดูแลซึ่งไม่ได้รับการเรียนในสถานศึกษา ต้องแจ้ง สำนกั งานเขตพ้ืนท่ี หรอื องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ภายใน 1 เดอื นนับต้งั แตว่ นั ท่ีเด็กมาอาศัยอยดู่ ้วย มาตรา 12 ให้กระทรวงศึกษา คณะกรรมการเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ และ สถานศกึ ษา ใหจ้ ัดการศึกษาแก่เด็กท่มี ีความตอ้ งการพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 และท่ี แกไ้ ขเพ่มิ เติม ในมาตรา 10 วรรค 2 และ 3 ตามที่ปรากฏในเน้ือหาข้อ 4.1.1 3. พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 22 วรรค 1 การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กสำคัญและ ไม่ให้มกี ารเลือกปฏบิ ตั โิ ดยไม่เป็นธรรม มาตรา 23 กำหนดให้ผูป้ กครองทเ่ี ลี้ยงดูเด็ก ต้องให้การอุปการะ อบรมสงั่ สอน และพัฒนาเด็กตาม สมควรแก่ขนบธรรมเนียมประเพณีหรือวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด ในกฎกระทรวง ทงั้ น้ใี หค้ ุ้มครองปกป้องทง้ั ทางกายและจติ ใจ มาตรา 24 ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อำนวยการเขต นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจำก่ิงอำเภอ หรือผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่คุ้มครองเด็กในพื้นที่ รับผิดชอบในทุกกรณีตามที่ปรากฏใน พ.ร.บ.นี้ โดยมีอำนาจและหน้าทีต่ รวจสอบสถานรบั เลี้ยงเด็ก สถาน แรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคมุ้ ครองสวัสดิภาพ สถานพฒั นาและฟ้นื ฟู แล้วรายงานผลการตรวจสอบให้ คณะกรรมการ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพฯ หรือคณะกรรมการคุม้ ครองเด็กจังหวัด แล้วแต่กรณี เพอ่ื ทราบ และให้มีอำนาจตามมาตรา 21* แหง่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ มาตรา 25 ผปู้ กครองต้องไม่กระทำการดังต่อไปน้ี (1) ทอดทิ้งเด็กไวในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือสถานพยาบาลหรือไวกับบุคคลที่รับจ้างเลี้ยงเด็กหรือ ทีส่ าธารณะหรือสถานทีใ่ ดๆ โดยเจตนาทจ่ี ะรับเด็กกลบั คืน (2) ละทิ้งเด็กไว ณ สถานที่ใดๆ โดยไม่จัดให้มีการป้องกันดูแลสวัสดิภาพหรือให้การเลี้ยงดู ทเี่ หมาะสม (3) จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือสุขภาพอนามัยจนน่าจะเกิดอันตราย แกร่างกายหรือจิตใจของเด็ก (4) ปฏบิ ตั ติ อ่ เดก็ ในลกั ษณะทเ่ี ปน็ การขัดขวางการเจรญิ เติบโตหรอื พัฒนาการของเดก็ P a g e 47 | 91
(5) ปฏิบตั ติ อ่ เด็กในลักษณะท่ีเป็นการเล้ยี งดโู ดยมิชอบ มาตรา 26 หา้ มมใิ หเ้ ด็กกระทำการดงั ต่อไปน้ี ไม่ว่าเดก็ จะยินยอมหรือไมก่ ต็ าม (1) กระทำหรือละเว้นการกระทำอนั เป็นการทารณุ กรรมตอ่ ร่างกายหรือจิตใจของเดก็ (2) จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือรักษาพยาบาลแกเด็กที่อยู่ในความดูแล ของตนจนน่าจะเกิดอันตรายแกร่างกายหรือจติ ใจของเด็ก (3) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็ก มีความประพฤติเสย่ี งตอ่ การกระทำผิด (4) โฆษณาทางสื่อมวลชนหรือเผยแพรด้วยประการใด เพ่ือรับเดก็ หรอื ยกเด็กให้แกบุคคลอ่ืนท่ีมิใช่ ญาติของเดก็ เวน้ แต่เปน็ การกระทำของทางราชการหรอื ไดร้ ับอนญุ าตจากทางราชการแลว (5) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน เด็กเร่ร่อน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานหรือการกระทำผิด หรือกระทำด้วยประการใด อันเปน็ การแสวงหา ประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก (6) ใช้จ้าง หรือวานเด็กให้ทำงานหรือกระทำการอันอาจเป็นอันตรายแก ร่างกายหรือจิตใจ มีผลกระทบต่อการเจรญิ เตบิ โต หรอื ขดั ขวางต่อพัฒนาการของเดก็ (7) บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กเล่นกีฬาหรือให้กระทำการใด เพื่อแสวงหาประโยชนทางการค้าอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางต่อการเจริญเติบโตหรอื พัฒนาการของเดก็ หรอื มลี กั ษณะ เป็นการทารุณกรรมต่อเดก็ (8) ใช้หรือยินยอมให้เด็กเล่นการพนันไม่ว่าชนิดใดหรือเข้าไปในสถานที่ เล่นการพนัน สถานคาประเวณีหรอื สถานท่ีทห่ี า้ มมิให้เดก็ เขา (9) บังคับ ขู่เขญ็ ใชช้ กั จงู ยุยง สง่ เสริม หรอื ยินยอมให้เด็กแสดงหรอื กระทำการอนั มีลักษณะลามก อนาจาร ไม่ว่าจะเปน็ ไปเพอ่ื ใหไ้ ด้มาซ่งึ คา่ ตอบแทนหรอื เพอ่ื การใด (10) จำหน่าย แลกเปลย่ี น หรอื ใหส้ ุราหรือบหุ รี่ แกเดก็ เวน้ แต่การปฏบิ ัตทิ างการแพทย์ มาตรา 28 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 21 ดำเนินการสงเคราะห์หรือคุ้มครองเด็กในกรณีท่ี ผปู้ กครองตกอยู่ในสภาพไมอ่ าจดูแลเด็กไดเ้ ลย มาตรา 29 วรรค 2 แพทย์ พยาบาล นกั จติ วิทยา นกั สงั คมสงเคราะห์ หรอื เจ้าหน้าที่สาธารณสขุ ท่ี รับเด็กไวเ้ พ่อื รกั ษาประโยชน์แกเ่ ด็กในกรณีที่สงสัยวา่ เดก็ ถูกเล้ยี งดโู ดยมิชอบ ตอ้ งรายงานใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีหรือผู้ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามาตรา 24 วรรค 3 การกระทำตามมาตรานี้หากกระทำโดยสุจริตย่อมได้รบั การ คุ้มครองและไม่ต้องรบั ผดิ ทง้ั ทางแพ่งและอาญาหรอื ทางปกครอง P a g e 48 | 91
มาตรา 30 (1) เขา้ ไปในเคหะสถาน สถานที่ใดๆ หรือยานพาหนะใดๆ ในระหวา่ งเวลาพระอาทิตย์ ขน้ึ ถงึ พระอาทติ ยต์ กเพอื่ ตรวจค้น ในกรณีมเี หตุอนั ควรสงสัยวา่ มกี ารกระทำทารณุ กรรมเด็ก มกี ารกักขงั หรือ เลี้ยงดูโดยมิชอบ แต่ในกรณมี ีเหตอุ ันควรเชื่อวา่ หากไม่ดำเนินการในทันทีเด็กอาจได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจ หรือถูกนำพาไป สถานที่อื่นซึง่ ยากแก่การติดตามช่วยเหลือ ก็ให้มีอำนาจเข้าไปในเวลาภายหลัง พระอาทติ ยต์ กได้ (2) ซักถามเด็กเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเด็กจำต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชนแกการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กอาจนำตัวเด็กไปยังที่ทำการของ พนักงาน เจ้าหน้าที่เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและครอบครัว รวมทั้งบุคคลที่เด็กอาศัยอยู่ทั้งนี้จะต้อง กระทำโดยมชิ กั ช้า แตไ่ ม่วากรณใี ดจะกกั ตวั เดก็ ไวนานเกินกว่าสิบสองชั่วโมงไม่ได้เมอื่ พน้ ระยะเวลาดังกล่าว ใหป้ ฏิบัติตาม (6) ระหว่างทีเ่ ดก็ อยูใ่ นความดูแลจะต้องให้การอุปการะเลี้ยงดแู ละหากเจ็บปว่ ยจะต้องให้การ รกั ษาพยาบาล (3) มีหนังสือเรียกผู้ปกครอง หรือบุคคลอื่นใดมาให้ถ้อยคำหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพ ความเปน็ อยู่ ความประพฤตสิ ขุ ภาพ และความสัมพนั ธใ์ นครอบครัวของเด็ก (4) ออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็ก นายจ้างหรือผู้ประกอบการ เจ าของหรือ ผู้ครอบครองสถานท่ที ่เี ด็กทำงานหรอื เคยทำงาน อาศยั หรือเคยอาศัยอยู่ เจาของหรือผูค้ รอบครองหรือผู้ดูแล สถานศึกษาที่เด็กกำลังศึกษาหรือเคยศึกษา หรือผู้ปกครองสวัสดิภาพส่งเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับ สภาพความเปน็ อยู่ การศกึ ษา การทำงาน หรอื ความประพฤติของเด็กมาให้ (5) เขา้ ไปในสถานทอี่ ยู่อาศยั ของผู้ปกครอง สถานทป่ี ระกอบการของนายจา้ งของเด็ก สถานศึกษา ของเด็ก หรือสถานที่ที่เด็กมีความเกี่ยวข้องด้วย ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก เพื่อสอบถามบคุ คล ทีอ่ ยู่ในทน่ี ้ันๆ และรวบรวมข้อมูลหรอื หลกั ฐานเกีย่ วกบั สภาพความเป็นอยู่ ความสัมพนั ธ์ ในครอบครวั การเลี้ยงดู อุปนสิ ยั และความประพฤติของเดก็ (6) มอบตวั เด็กใหแ้ กผู้ปกครองพรอมกับแนะนำหรอื ตักเตอื นผปู้ กครองให้ดแู ลและอุปการะเลี้ยงดู เดก็ ในทางทถ่ี กู ต้อง เพอ่ื ใหเ้ ด็กได้รับการพัฒนาในทางทีเ่ หมาะสม (7) ทำรายงานเกี่ยวกับตัวเด็กเพื่อมอบให้แกสถานแรกรับในกรณีมีการส่งเด็กไปยังสถานแรกรับ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการร้องขอเด็กที่อยู่ในความดูแลของพนักงานเจ าหน้าที่จะต้องได้ รั บการ อุปการะเลี้ยงดูและได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม และก่อนที่จะจัดให้เด็กเข้าอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครอง สวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูจะต้องปรึกษากับ ผู้เชีย่ วชาญในสาขาวิชาชีพสังคมสงเคราะหแ์ ละการแพทยก์ ่อนเทา่ ท่ีสามารถกระทำได้ P a g e 49 | 91
ในการปฏิบัติหน้าที่ตาม (1) (2) และ (5) พนักงานเจ าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวก่อนและ ใหบ้ ุคคลที่เกีย่ วขอ้ งอำนวยความสะดวกตามสมควร บตั รประจำตวั พนักงานเจาหน้าทีใ่ หเ้ ป็นไปตามแบบท่ีรัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานเุ ษกษา มาตรา 32 กำหนดเดก็ ท่ีพึงไดร้ บั การสงเคราะห์ มีทั้งสน้ิ 8 กล่มุ มาตรา 33 ใหเ้ จา้ หน้าท่ีตามมาตรา 24 พิจารณาการสงเคราะห์เดก็ ตามมาตร 32 มีทง้ั สน้ิ 7 วิธี มาตรา 40 กำหนดเดก็ ทพ่ี ึงได้รบั การคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพ ได้แก่ (1) เด็กท่ถี ูกทารุณกรรม (2) เด็กที่เส่ยี งตอ่ การกระทำผดิ (3) เดก็ ที่อย่ใู นสภาพท่จี ำตอ้ งไดร้ ับการคุ้มครองตามกฎกระทรวง มาตรา 41 ให้ผู้พบเห็นหรือประสบพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่ามีการกระทำทารุณกรรมเด็กให้รีบแจ้ง เจ้าหนา้ ท่ีตามมาตรา 24 และรีบใหก้ ารช่วยเหลอื เดก็ โดยเรว็ มาตรา 44 วรรค 2 ในกรณพี นักงานเจา้ หนา้ ที่ หรือผู้มหี น้าที่คุ้มครองสวสั ดภิ าพเดก็ ตามมาตรา 24 เห็นว่าเด็กจำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์ก็ให้พิจารณาให้การสงเคราะห์ตามมาตรา 33 แต่ถ้าเห็นว่า ยังไม่สมควรส่งตัวเด็กไปยังสถานแรกรับ สถานสงเคราะห์สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ หรือสถานพัฒนาและ ฟื้นฟูก็ให้มอบตัวเด็กแกผู้ปกครองหรือบุคคลที่ยินยอมรับเด็กไปปกครองดูแล โดยอาจแต่งตั้งผู้คุ้มครอง สวัสดภิ าพแกเด็กตามมาตรา 48 หรือไม่กไ็ ด้และเมอ่ื ได้ปรกึ ษาหารอื ร่วมกับผู้ปกครองหรอื บคุ คลท่ีจะรับเด็ก ไปปกครองดูแลแล้วอาจจะวางข้อกำหนดเพื่อป้องกันมิให้เด็กมีความประพฤติเสียหาย หรือเสี่ยงต่อการ กระทำผิด โดยให้ผู้ปกครองหรือบุคคลที่รับเด็กไปปกครองดูแลต้องปฏิบัติข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อตาม ความเหมาะสม ดงั ต่อไปน้ี (1) ระมดั ระวังมใิ ห้เดก็ เขา้ ไปในสถานที่ หรือทอ้ งทีใ่ ดอนั จะจงู ใจให้เด็กประพฤตติ นไม่สมควร (2) ระมดั ระวงั มใิ ห้เดก็ ออกนอกสถานทอ่ี ยูอ่ าศัยในเวลากลางคืน เวน้ แต่มีเหตจุ ำเปน็ หรือไปกับ ผปู้ กครอง (3) ระมดั ระวงั มิให้เด็กคบหาสมาคมกับบคุ คลหรือคณะบุคคลที่จะชกั นำไปในทางเสื่อมเสีย (4) ระมดั ระวงั มิให้เด็กกระทำการใดอนั เป็นเหตุให้เดก็ ประพฤตเิ สียหาย (5) จดั ใหเ้ ด็กได้รับการศึกษาอบรมตามสมควรแกอายุสติปญั ญา และความสนใจของเดก็ (6) จดั ใหเ้ ด็กไดป้ ระกอบอาชีพทีเ่ หมาะสมกบั ความถนัดและความสนใจของเด็ก (7) จัดใหเ้ ด็กกระทำกจิ กรรมเพ่อื พฒั นาตนเองทางด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และบำเพ็ญประโยชน์ ตอ่ สงั คม P a g e 50 | 91
มาตรา 48 ใหเ้ จ้าหน้าท่ีตามมาตรา 24 สามารถแตง่ ตงั้ ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเดก็ โดยมีวาระไม่เกิน คร้ังละ 2 ปี มาตรา 49 ให้ผูค้ ุ้มครองสวัสดภิ าพเด็กทถี่ กู แตง่ ตัง้ ตามมาตรา 48 มีอำนาจหนา้ ท่ี ดังต่อไปนี้ (1) เยย่ี มเยียน ให้คำปรกึ ษา แนะนำตักเตือนเกย่ี วกับเร่ืองความประพฤติ การศึกษา การประกอบ อาชพี แก่เดก็ ที่อยู่ในกำกบั ดแู ล (2) เยี่ยมเยียน ให้คำปรึกษา และแนะนำแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับการอบรมสั่งสอนและเลี้ยงดูเด็ก ท่ีอยูใ่ นกำกับดูแล (3) จดั ทำรายงานแก่เจ้าหนา้ ที่ตามมาตรา 24 4. พ.ร.บ.การจดั การศกึ ษาสำหรบั คนพกิ าร พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพม่ิ เติม มาตรา 5 คนพกิ ารมีสทิ ธทิ างการศกึ ษา ดงั นี้ (1) ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต พร้อมทัง้ ได้รับเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก สือ่ บริการและความช่วยเหลืออ่นื ใดทางการศึกษา (2) เลอื กบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรปู แบบการศึกษา โดยคำนึงถึงความสามารถ ความสนใจ ความถนัดและความต้องการจำเปน็ พเิ ศษของบุคคลนนั้ (3) ได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมทั้งการจัดหลักสูตร กระบวนการเรยี นรู้ การทดสอบทางการศึกษา ที่เหมาะสมสอดคล้องกับความตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษของคน พกิ ารแต่ละประเภท และบคุ คล มาตรา 8 ให้สถานศึกษามีการจัดทำหลักสูตรเพื่อรองรับคนพิการ และจัดสภาพแวดล้อมเพื่อให้ คนพิการได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ ตามวรรค 3 ทั้งนี้สถานศึกษาที่ปฏิเสธไม่รับคนพิการเข้าศึกษา ให้ถือ วา่ เป็นการปฏิบตั ทิ ี่ไม่เปน็ ธรรมตามกฎหมาย ในวรรค 5 มาตรา 19 สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามีหน้าท่ีจดั การเรียนรว่ ม การนเิ ทศ กำกับ ติดตาม เพอ่ื ให้ คนพกิ ารได้รับการศึกษาอยา่ งทวั่ ถงึ และมคี ณุ ภาพ 5. พ.ร.บ.การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาการต้ังครรภใ์ นวัยรนุ่ พ.ศ. 2559 มาตรา 6 ให้สถานศึกษาดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้งั ครรภ์ในวัยรุ่น ดังต่อไปน้ี (1) จดั ให้มกี ารเรยี นการสอนเร่อื งเพศวิถศี กึ ษาให้เหมาะสมกบั ชว่ งวัยของนักเรยี นหรอื นักศกึ ษา (2) จัดหาและพัฒนาผ้สู อนให้สามารถสอนเพศวิถีศึกษา และใหค้ ำปรกึ ษาในเร่อื งการป้องกันและ แกไ้ ขปัญหาการตง้ั ครรภใ์ นวัยรุ่นแกน่ ักเรยี นหรอื นักศึกษา P a g e 51 | 91
(3) จัดให้มีระบบการดูแลช่วยเหลือ และคุ้มครองนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งตั้งครรภ์ ให้ได้รับ การศึกษาด้วยรูปแบบที่เหมาะสมและต่อเนื่อง รวมทั้งจัดให้มีระบบการส่งต่อให้ได้รับบริการอนามัย การเจริญพนั ธ์ุ และการจดั สวัสดิการสังคมอยา่ งตอ่ เน่อื ง 6. ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการ วา่ ดว้ ยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 และฉบับ แก้ไขเพม่ิ เติม ขอ้ 5 โทษที่จะลงโทษแก่นกั เรยี นหรือนกั ศึกษาทกี่ ระทำผิดมี 4 สถาน ดงั นี้ (1) วา่ กล่าวตักเตอื น (2) ทำทณั ฑบ์ น (3) ตัดคะแนนประพฤติ (4) ทำกิจกรรมเพือ่ ให้ปรบั เปลี่ยนพฤตกิ รรม ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้งหรือลงโทษด้วย ความโกรธ หรอื ดว้ ยความพยาบาท โดยคำนงึ ถงึ อายนุ กั เรียนหรือนักศกึ ษา และความรา้ ยแรงของพฤติการณ์ ประกอบการ ลงโทษด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและ ความประพฤติไมด่ ีของนักเรยี น หรอื นกั ศึกษาใหร้ ้สู ำนึกในความผดิ และกลบั ประพฤติตนในทางที่ดีต่อไปให้ ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรือ ผู้ที่บริหารโรงเรียน หรือสถานศึกษามอบหมายเป็นผู้มีอำนาจ ในการลงโทษนักเรยี น นักศกึ ษา ขอ้ 7 การว่ากล่าวตกั เตือน ใช้ในกรณีนกั เรยี นหรือนักศึกษากระทำความผิดไม่ร้ายแรง ข้อ 8 การทำทัณฑ์บนใช้ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษาที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับ สภาพนักเรียน หรือนักศึกษาตามกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา หรือกรณีทำให้ เสื่อมเสียช่อื เสียงและเกียรติศกั ด์ิของสถานศึกษา/ฝ่าฝืนระเบยี บของสถานศกึ ษา/ได้รับโทษวา่ กล่าวตักเตือน แล้วแต่ยังไม่เข็ดหลาบการทำทัณฑ์บนให้ทำเป็นหนังสือ และเชิญบิดามารดา หรือผู้ปกครองมาบันทึก รับทราบความผดิ และ รบั รองการทำทัณฑ์บนไวด้ ว้ ย ข้อ 9 การตัดคะแนนความประพฤติให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการตัดคะแนน ความประพฤติ นักเรียนและนกั ศกึ ษาของแตล่ ะสถานศึกษากำหนด และให้ทำบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลกั ฐาน ข้อ 10 ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลยี่ นพฤติกรรม ใชใ้ นกรณีท่นี ักเรียนและนกั ศกึ ษากระทำความผิด ที่สมควรต้องปรบั เปลี่ยนพฤติกรรม 7. กฎกระทรวงกำหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการของสถานศึกษาในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้ังครรภใ์ นวยั รุ่น พ.ศ. 2561 P a g e 52 | 91
ข้อ 3 และ 4 ใหส้ ถานศกึ ษาทีจ่ ัดการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน จัดให้มีการเรยี นการสอนเรอื่ งเพศวิถีศึกษา และทักษะชีวิตที่เหมาะสมกับช่วงวัยให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 มาตรา 6 (1) ข้อ 5 ให้สถานศึกษาที่จัดหาและพัฒนาผู้สอนให้มีความรู้ความสามารถให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. การปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาการต้งั ครรภ์ในวยั รุ่น พ.ศ. 2559 มาตรา 6 (2) ข้อ 7 สถานศึกษาที่มีนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งต้ังครรภ์อยู่ในสถานศึกษา ต้องไมใ่ ห้นักเรียนหรอื นักศึกษานั้นออกจากสถานศึกษาดังกล่าว เว้นแต่เป็นการย้ายสถานศึกษา ให้สถานศึกษาตามวรรคหน่ึง จัดให้มีระบบการดูแล ช่วยเหลือ และคุ้มครองนักเรียนหรือ นักศึกษาซึ่งตั้งครรภ์ให้ได้รับการศึกษาด้วย รูปแบบทเ่ี หมาะสมและตอ่ เน่อื ง ดงั ต่อไปน้ี (1) อนุญาตให้นกั เรียนหรือนกั ศึกษาดังกล่าวหยุดพกั การศกึ ษาในระหว่างการต้งั ครรภ์ การคลอด และหลังคลอดเพื่อดูแลบุตร ตามความเหมาะสม และจัดการเรียนการสอนให้เกิดความยืดหยุ่น ตามศักยภาพอย่างตอ่ เนอ่ื ง (2) จัดให้มีผู้ให้คำปรึกษาตามข้อ 5 โดยร่วมมือกับบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ซึ่งปกครอง ดูแลนักเรียนหรือนกั ศึกษาซ่ึงตั้งครรภ์ในการให้ความช่วยเหลือและสร้างความเข้าใจสำหรับการอยู่ร่วมกับ สังคม ทั้งนี้ให้สถานศึกษาอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับนักเรียนหรือ นักศกึ ษาซง่ึ ต้งั ครรภ์ เพื่อประโยชน์ในการจัดระบบตามวรรคสอง ให้สถานศึกษาจัดให้มีช่องทางหรือวิธีการที่ หลากหลาย ในการดูแลช่วยเหลือ และคุ้มครองนักเรยี นหรือนักศึกษา ซึ่งตั้งครรภ์รวมท้ังประสานงานและ ร่วมมอื กับแพทย์ นกั จติ วิทยา นกั สงั คมสงเคราะห์ ผ้เู ชย่ี วชาญด้านกระบวนการยุติธรรม หรือผู้ซึ่งเก่ียวข้อง เพือ่ ให้การดูแล ช่วยเหลอื และคมุ้ ครองนกั เรียนหรือนักศึกษาซึ่งตัง้ ครรภน์ ้นั ข้อ 8 ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องสง่ ต่อนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งตั้งครรภ์ให้ไดร้ บั บริการอนามัย การเจริญพันธ์ุหรือการจัดสวัสดิการสังคม ให้สถานศึกษาตามข้อ 2 จัดให้มีระบบการสง่ ต่อโดยประสานกบั สถานบริการหรือหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้นักเรียนหรือนักศึกษา ซ่ึงต้ังครรภน์ นั้ ได้รบั บริการอนามัยการเจรญิ พันธ์แุ ละการจัดสวัสดิการสงั คมอยา่ งเหมาะสม 8. พ.ร.บ.สง่ เสรมิ การพัฒนาเดก็ และเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และทแ่ี ก้ไขเพิม่ เตมิ มาตรา 6 วรรค 1 (2) เด็กและเยาวชนทุกคนมีสิทธิในการได้รับการศึกษา และได้รับการศึกษา ขน้ั พนื้ ฐานทม่ี คี ณุ ภาพสูงสดุ ตามทก่ี ำหนดไวใ้ นรฐั ธรรมนูญ (3) เด็กพิการ เด็กที่มีข้อจำกัดทางการเรียนรู้ และเด็กที่มีความสามารถพิเศษ มีสิทธิใน การได้รับการศกึ ษาท่รี ฐั จดั ใหเ้ ป็นพิเศษท่ีเหมาะสมกับลักษณะเด็กประเภทนนั้ ๆ P a g e 53 | 91
มาตรา 7 ให้เด็กและเยาวชนทุกคนมีสิทธิได้รับการจดทะเบียนรับรองการเกิด การพัฒนา การยอมรับ การคุ้มครองและโอกาสในการมีส่วนร่วมตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัติน้ี หรือกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้องอย่างเท่าเทียมโดยไมม่ ีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถนิ่ กำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือ สุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทาง เศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรม การศึกษาอบรม ความคิดเห็นทางการเมือง การเกดิ หรือสถานะอน่ื ของเดก็ และเยาวชน บดิ ามารดา หรือผปู้ กครอง ระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี น นยิ ามและความหมาย ระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรียน หมายถึง กระบวนการดำเนินงานทีม่ ุ่งให้การคมุ้ ครอง ปอ้ งกัน ดูแล แก้ไข ให้ความช่วยเหลือ และส่งเสริมพัฒนาศักยภาพนักเรียน อย่างมีแบบแผนและขั้นตอนที่ชัดเจน โดยครูที่ ปรกึ ษาเปน็ บุคลากรหลกั ในการดำเนนิ งานรว่ มกับบุคลากรท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น เพ่ือให้นักเรียน เป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข มีสมรรถนะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ มีทักษะชีวิต มีภูมิคุ้มกันอย่าง เหมาะสมเพยี งพอต่อการดำรงชวี ิตใหอ้ ยู่รอดปลอดภัยจากสภาวะวกิ ฤตตา่ งๆได้ เจตนารมณแ์ ละหลกั การของระบบการดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป้นกระบวนการดำเนินงานที่มีแบบแผนขั้นตอนชัดเจนในการ ส่งเสริม พัฒนา ป้องกัน และแก้ไขปัญหาเพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ บนพื้นฐานความ แตกตา่ งระหว่างบุคคล โดยยึดหลกั การมีสว่ นร่วมรับผิดชอบ ร่วมคิด ร่วมปฏบิ ตั ิ ร่วมพัฒนา ร่วมแก้ปัญหา จากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กำหนดให้เป็นระบบที่มุ่งวาง พ้นื ฐานและแนวทางการดำเนินการในประเด็นสำคญั ดงั น้ี 1. การปรับเปลีย่ นบทบาทและเจตคติของผู้บริหาร ครู-อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาใหม้ งุ่ ไปสู่ความรับผดิ ชอบในการดูแลพฒั นาการของนกั เรียนอย่างเป็นองค์รวม (Educating the Whole Child) 2. การวางระบบทจ่ี ะสร้างความม่ันใจวา่ นักเรียนทกุ คนมีครู – อาจารยอ์ ยา่ งน้อยหน่ึงคนที่จะดูแล ทกุ ข์สขุ อยา่ งใกลช้ ิดและต่อเนอ่ื ง โดยเช่ือมประสานการดำเนนิ งานทกุ ส่วนทว่ั ท้ังโรงเรยี น 3. การสนับสนุนให้ครู- อาจารยไ์ ด้มีความสมั พนั ธ์ทใี่ กล้ชิดกบั ผู้ปกครอง เพ่ือให้การดูแลทางบ้าน โรงเรยี น และชมุ ชนเชอื่ มประสานกัน 4. การส่งเสริมให้ผู้ปกครองรวมกลุม่ กันเป็นเครือขา่ ยเพื่อช่วยเหลือกัน เฝ้าระวัง ดูแล ช่วยเหลอื สนับสนุนบตุ รหลาน P a g e 54 | 91
5. การประสานสมั พันธ์ระหว่างโรงเรียน ชมุ ชน และผชู้ ำนาญในสาขาตา่ งๆ เพื่อใหม้ กี ารส่งตอ่ และ รบั ช่วงการแกไ้ ข ตลอดจนส่งเสรมิ การพฒั นาเดก็ และเยาวชนในรปู แบบสหวิทยาการ คุณค่าและความสำคญั 1. ช่วยให้ผู้เรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาการ ดูแล แก้ไขปัญหาต่างๆ และได้รับความช่วยเหลือ อย่างทั่วถึง ถกู วิธแี ละทันเวลา ตรงตามสภาพปัญหาและความตอ้ งการของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล 2. เป็นกลไกสำคัญในการลดปัญหาการออกกลางคัน แต่จะช่วยประคับประคองให้ผู้เรียนอยู่ใน ระบบการศึกษาได้ตลอดหลักสูตร 3. สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม ว่าผู้เรียนแต่ละสถานภาพจะได้รับ บริการการศกึ ษาที่มคี ณุ ภาพอยา่ งเท่าเทยี มกนั 4. ก่อให้เกิดสมั พันธภาพทีด่ รี ะหวา่ งครูกับนักเรยี น ผู้เรียนได้รับการดูแลช่วยเหลอื อยา่ งอบอุ่นด้วย ความเอาใจใสอ่ ย่างใกลช้ ิด 5. ผู้เรียนรักโรงเรียน ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ได้รับการส่งเสริมพัฒนาเต็มตามศักยภาพอย่าง รอบด้าน ก่อใหเ้ กดิ ภมู คิ ุม้ กนั ทางจิตใจ มีทักษะชีวติ สมรรถะและคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 6. ผู้เรียนได้รับการพัฒนา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นผู้รู้จักตนเอง ควบคุมตนเองได้มีความ ฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของการพฒั นาความเก่ง มีคุณธรรม จริยธรรมมเี ป้าหมายในชีวติ และมุ่งมั่นไม่ย่อทอ้ ต่อปญั หาอปุ สรรค 7. มีเครือข่ายความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ก่อให้เกิดระบบงานด้าน การดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี นท่ีมคี วามเข้มแขง็ หลักการและแนวคดิ เชิงระบบ ระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น จดั ทำขึ้นตามแนวคดิ การบรหิ ารเชงิ ระบบทม่ี โี ครงสร้างสำคญั 3 องค์ประกอบ คอื ปจั จัย (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Output) โดยแต่ละองคป์ ระกอบ มีรายละเอียดและมปี ฏสิ มั พนั ธก์ ัน สามารถให้ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั เพ่ือปรบั ปรุงและพัฒนาระบบให้มี ประสิทธภิ าพมากขึน้ ตงั แผนภมู ติ อ่ ไปน้ี P a g e 55 | 91
บทบาทหน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบของคณะกรรมการตามระบบ การดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากครู และ บุคลากรทุกฝ่ายในโรงเรียน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินงาน จึงกำหนดให้มีคณะกรรมการ รับผิดชอบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามกระบวนการและขั้นตอน จำนวน 3 คณะ ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการอำนวยการ (ทมี นำ) ประกอบดว้ ย ผอู้ ำนวยการโรงเรียนเปน็ ประธานกรรมการ มีกรรมการตามตำแหนง่ ต่างๆ ได้แก่ รองผู้อำนวยการทุกฝ่าย หัวหน้าระดับ หัวหน้างานแผนงาน หัวหน้า งานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนชุมชน และหัวหน้างานแนะแนวเป็นกรรมการและ เลขานกุ าร คณะกรรมการอำนวยการ (ทมี นำ) มีบทบาทหนา้ ทดี่ ังต่อไปน้ี 1.1 ส่งเสริม สนันสนุน การขับเคลื่อนและผดุงรักษาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 1.2 สรา้ งขวัญกำลังใจ และพัฒนาบคุ ลากร 1.3 เป็นผูน้ ำในการผนึกผสาน บูรณาการกจิ โดยรวมของสถานศึกษา 1.4 ประสานสัมพันธ์และสร้างความเข้มแข็งให้ทีมประสาน ทีมทำ และเครือข่ายการดำเนินงาน จากทกุ ภาคส่วน นเิ ทศ กำกับ ติดตาม และประเมนิ ผล P a g e 56 | 91
2. คณะกรรมการดำเนินการ (ทีมทำ) คณะกรรมการดำเนินการ (ทีมทำ) ประกอบด้วย หัวหน้าระดับชั้นเป็นประธานกรรมการ มีกรรมการตามตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ได้แก่ รองหัวหน้าระดับ ครูที่ปรึกษา ครูผู้สอนและครูแนะแนว เป็นกรรมการและเลขานกุ าร คณะกรรมการดำเนินการ (ทีมทำ) มบี ทบาทหน้าทดี่ งั ตอ่ ไปนี้ 2.1 ประสานงานกับผู้เกีย่ วข้องและดำเนนิ การประชมุ ช้แี จง 2.2 บันทกึ หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน ประเมินผลและจัดทำรายงานตามระดบั ช้ัน 2.3 ศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความต้องการของครทู ีป่ รึกษาและนักเรยี น เพื่อประโยชนต์ อ่ การดูแล ชว่ ยเหลือนกั เรียน 2.4 ประชมุ คณะกรรมการอย่างตอ่ เนอ่ื ง สม่ำเสมอ 2.5 ดำเนินการดแู ลให้ความช่วยเหลือนกั เรียน ตามขัน้ ตอน และกระบวนการของระบบการดแู ล ช่วยเหลือนกั เรียน 3. คณะกรรมการประสานงาน (ทมี ประสาน) คณะกรรมการประสานงาน(ทีมประสาน) ประกอบดว้ ย รองผอู้ ำนวยการทผ่ี ูบ้ รหิ ารมอบหมาย เปน็ ประธานกรรมการ มีกรรมการตามตำแหน่งและหน้าท่ตี ่างๆ ไดแ้ ก่ หวั หนา้ ระดับทุกระดบั หวั หน้างาน กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน หวั หนา้ งานอนามัย ครพู ยาบาล และหัวหน้างานแนะแนวเปน็ กรรมการและ เลขานกุ าร คณะกรรมการประสานงาน (ทมี ประสาน) มบี ทบาทหน้าที่ดังตอ่ ไปน้ี 3.1 ปฏบิ ัติงานในฐานะบคุ ลากรหลักในการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น 3.2 ประสานระหวา่ งคณะกรรมการอำนวยการ (ทีมนำ) และคณะกรรมการดำเนนิ การ (ทีมทำ) และหนว่ ยงานอน่ื ๆ ทเี่ กีย่ วข้องกบั การดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น 3.3 จดั ทำเคร่ืองมือ สอื่ อุปกรณท์ ี่จำเป็นในการพัฒนาดำเนินงาน และรบั ผิดชอบในการช้แี จง สรา้ งความรูค้ วามเข้าใจแก่ผ้ปู ฏิบัติงาน 3.4 จัดการประชุมคณะกรรมการทุกฝา่ ยอย่างต่อเนอื่ งสม่ำเสมอ เพอ่ื แสวงหาแนวทางในการดแู ล ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น 3.5 สรปุ รายงานผลการดำเนินงานและดำเนนิ การอื่นใดเพอื่ ให้ระบบการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ P a g e 57 | 91
แผนภมู แิ สดงโครงสรา้ งการดำเนนิ งานของคณะกรรมการตามระบบของสำนกั งานเขตพ้ืนที่ โครงสรา้ งคณะกรรมการ ตามระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการดำเนินงาน คณะกรรมการประสานงาน (ทมี นำ) (ทีมทำ) (ทมี ประสาน) รู้จักนักเรียนเป็นรายบคุ คล คัดกรอง กลมุ่ พิเศษ กลุ่มปกติ กล่มุ เสีย่ ง กลุ่มมีปญั หา (กลุ่มชว่ ยเหลอื ) สง่ เสริม/พัฒนา ได้ ปอ้ งกัน ไมไ่ ด้ ชว่ ยเหลอื ได้ ไม่ได้ ครแู นะแนว /นักจิตวิทยาประจำสถานศึกษา/ฝา่ ยกจิ การนกั เรียนใหก้ ารช่วยเหลอื ได้ ไม่ได้ ผู้เรียนไดร้ ับการพัฒนาใหเ้ ป็นคนดี ช่วยเหลอื ได้ สง่ ตอ่ นกั จิตวิทยาประจำสำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษา สามารถดำเนินชวี ิตประจำวนั ได้ หรือ ผู้เชย่ี วชาญ อยา่ งปกตสิ ุข P a g e 58 | 91
การดำเนนิ การตามกระบวนการและขั้นตอนของระบบ ระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรยี น เป็นกระบวนการดำเนินงานการดแู ลช่วยเหลอื นักเรียนอยา่ ง เป็นข้นั ตอน มีครทู ปี่ รึกษาเป็นบุคลากรหลักในการดำเนินงาน โดยการมสี ว่ นร่วมของบคุ ลากรทุกฝา่ ยที่ เก่ยี วขอ้ งท้งั ภายในและนอกสถานศึกษา อันได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชมุ ชน ผ้บู ริหาร และครทู ุกคน มวี ธิ กี ารและเครอื่ งมอื ทีช่ ัดเจน มีมาตรฐานคุณภาพ และมีหลกั ฐานการทำงานทีต่ รวจสอบได้ กระบวนการและข้ันตอนของระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน มีองค์ประกอบสำคัญ 5 ประการ ดังน้ี 1. การรจู้ กั นักเรียนรายบุคคล 2. การคดั กรองนักเรยี น 3. การปอ้ งกันและแก้ไขปัญหา 4. การสง่ เสรมิ พฒั นานักเรยี น 5. การสง่ ต่อ การรูจ้ ักนกั เรียนรายบุคคล ด้วยความหลากหลายของนักเรียนและนกั เรยี นแต่ละคนท่มี ีพืน้ ฐานความเป็นมาของชีวติ แตกตา่ ง กนั ผา่ นการหล่อหลอมใหเ้ กิดพฤติกรรมหลายลักษณะ ท้ังดา้ นบวกและด้านลบ ดังน้ัน การรู้ขอ้ มลู ทจี่ ำเป็น เกยี่ วกับตัวนักเรยี นจึงเปน็ สิง่ สำคญั ทจ่ี ะช่วยให้ครูอาจารยม์ ีความเขา้ ใจนักเรียนมากขนึ้ สามารถนำข้อมูลมา วิเคราะหเ์ พือ่ คัดกรองนกั เรียนละนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นการพัฒนาสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาของ นกั เรยี นได้อย่างถกู ทาง ซง่ึ เป็นขอ้ มลู เชิงประจกั ษ์ทไี่ ด้จากเคร่อื งมือและวิธีการทหี่ ลากหลาย ตามหลัก วชิ าการ มิใชก่ ารใช้ความรสู้ กึ หรอื การคาดเดา โดยเฉพาะในการแกไ้ ขปัญหานักเรียน ซงึ่ จะทำให้ไมเ่ กิด ข้อผิดพลาดตอ่ การชว่ ยเหลือนักเรยี น การคัดกรองนักเรียน การคดั กรองนักเรียนเปน็ การพิจารณาข้อมูลท่ีเก่ียวกับนักเรยี น เพื่อการจดั กลมุ่ นักเรียนซ่ึงจะเป็น ประโยชนอ์ ย่างย่งิ ในการหาวธิ ีการทเ่ี หมาะสมในการดแู ลช่วยเหลือนักเรียนให้ตรงกับสภาพปญั หาและความ ต้องการจำเป็น ด้วยความรวดเรว็ และถูกต้องแม่นยำ ระบบการดุแลช่วยเหลือนกั เรียนอาจจัดกลุ่มนักเรยี น ตามผลการคัดกรองเป็น 2, 3 หรือ 4 กลุ่มก็ได้ ตามขอบข่ายและเกณฑ์การคัดกรองที่โรงเรียนกำหนด เชน่ ในกรณที ่ีแบง่ นกั เรียนเปน็ 4 กลมุ่ อาจนิยามกลมุ่ ได้ดังนี้ 1. กลุ่มปกติ คือ นักเรียนที่ได้รับการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ตามเกณฑ์การคัดกรองของโรงเรียน อยู่ในเกณฑข์ องกล่มุ ปกติ ซ่งึ ควรไดร้ บั การสร้างเสรมิ ภูมิค้มุ กนั และการส่งเสรมิ พัฒนา P a g e 59 | 91
2. กลุ่มเสี่ยง คือ นักเรียนที่อยู่ในเกณฑ์ของกลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์การคัดกรองของโรงเรียน ซง่ึ โรงเรยี นต้องใหก้ ารปอ้ งกันและแกไ้ ขตามกรณี 3. กลุ่มปัญหา คือ นักเรียนที่จัดอยู่ในเกณฑข์ องกลุ่มปญั หาตามเกณฑ์การคัดกรองของโรงเรียน ซึง่ โรงเรยี นตอ้ งช่วยเหลือและแกไ้ ขปัญหาโดยเรง่ ด่วน 4. กลมุ่ พเิ ศษ คอื นกั เรยี นท่ีมคี วามสามารถพิเศษ มคี วามเปน็ อัจฉรยิ ะแสดงออก ซึ่งความสามารถ อันโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านอย่างเป็นประจักษ์เมื่อเทียบกับผู้มีอายุในระดับเดียวกันภายใต้ สภาพแวดลอ้ มเดยี วกัน ซึ่งโรงเรียนต้องให้การสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนได้พฒั นาศักยภาพความสามารถพิเศษนั้น จนถึงข้ันสงู สุด การป้องกันและแกไ้ ขปัญหา ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครูควรให้ความเอาใจใส่กับนักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันแต่ สำหรับนักเรียนกลุ่มเสี่ยง/มีปัญหานั้น จำเป็นอย่างมากที่ต้องให้ความดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและหา วิธีการช่วยเหลือ ทั้งการป้องกันและการแก้ไขปัญหา โดยไม่ปล่อยปละละเลยนักเรียนจนกลายเป็นปัญหา ของสังคม การสร้างภูมิคุ้มกัน การป้องกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียน จึงเป็นภาระงานที่ยิ่งใหญ่และ มีคุณคา่ อยา่ งมากในการพฒั นาใหน้ ักเรยี นเตบิ โตเปน็ บุคคลทม่ี ีคุณภาพของสงั คมตอ่ ไป การป้องกันและการแก้ไขปัญหาให้กับนักเรียนนั้นมีหลายเทคนิควิธีการ แต่สิ่งที่ครูที่ปรึกษาจำเป็นต้อง ดำเนนิ การมอี ย่างน้อย 2 ประการ คือ 1. การให้คำปรกึ ษาเบ้ืองตน้ 2. การจัดกจิ กรรมเพื่อปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหา การสง่ เสริมพฒั นานกั เรียน การส่งเสรมิ พัฒนานักเรียนเป็นการสนบั สนนุ ให้นักเรยี นทุกคนไม่ว่าจะเปน็ นกั เรียนกลุ่มปกติ หรือ กลุม่ เส่ยี ง/มีปัญหา กลุม่ พเิ ศษใหม้ คี ณุ ภาพมากขึน้ ได้พฒั นาเต็มศักยภาพ มีความภาคภมู ใิ จในตนเองในด้าน ต่างๆ ซึ่งจะช่วยป้องกันมิให้นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มปกติและกลุ่มพิเศษกลายเป็นนักเรียนกลุ่มเสี่ยง/มีปัญหา และเป็นการช่วยให้นักเรียนกลุ่มเสี่ยง/กลุ่มมีปัญหากลับมาเป็นนักเรียนกลุ่มปกติ และมีคุณภาพตาม มาตรฐานท่โี รงเรยี น หรอื ชุมชนคาดหวงั ตอ่ ไป การส่งเสริมพัฒนานักเรียนมีหลายวิธีที่โรงเรียนสามารถพิจารณาดำเนินการได้ แต่มีกิจกรรมหลักสำคัญ ทโ่ี รงเรียนต้องดำเนนิ การ คอื P a g e 60 | 91
1. การจัดกจิ กรรมโฮมรูม 2. การเยยี่ มบ้าน 3. การจดั ประชุมปกครองชัน้ เรียน (ClassroomMeeting) 4. การจัดกจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทักษะการดำรงชีวติ และกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น การส่งต่อ ในการป้องกนั และการแกไ้ ขปญั หาของนักเรียนโดยครทู ีป่ รกึ ษา อาจมกี รณีท่ีบางปัญหามีความยาก ต่อการช่วยเหลือ หรือช่วยเหลือแล้วนักเรียนมีพฤติกรรมไม่ดีขึ้นก็ควรดำเนินการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะด้านต่อไป เพื่อให้ปัญหาของนักเรียนได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกทางและรวดเ ร็วข้ึน หากปลอ่ ยใหเ้ ป็นบทบาทหน้าทีข่ องครูท่ีปรกึ ษาหรอื ครูคนใดคนหน่งึ เพียงลำพงั ความย่งุ ยากของปัญหาอาจ มีมากขน้ึ หรือลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่โตจนยากตอ่ การแก้ไข ซงึ่ ครทู ปี่ รึกษาสามารถดำเนนิ การได้ต้ังแต่ กระบวนการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล หรือการคัดกรองนักเรียนก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของ นักเรียนในแตล่ ะกรณี การส่งตอ่ แบง่ เปน็ 2 แบบ คอื 1. การสง่ ต่อภายใน ครูที่ปรึกษาสง่ ตอ่ ไปยงั ครทู ี่สามารถใหก้ ารช่วยเหลือนักเรยี นได้ ทั้งนข้ี ึน้ อยู่ กบั ลกั ษณะปญั หา เชน่ ส่งต่อครูแนะแนว ครูพยาบาล ครปู ระจำวชิ า หรือฝ่ายปกครอง 2. การสง่ ต่อภายนอก ครูแนะแนวหรือฝ่ายปกครองเป็นผ้ดู ำเนนิ การส่งต่อไปยังนกั จิตวทิ ยา โรงเรียนประจำสำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษา และผเู้ ชย่ี วชาญภายนอก หากพิจารณาเห็นว่าเป็นกรณีปัญหา ทมี่ คี วามยากเกินกว่าศักยภาพของโรงเรียนจะดแู ลชว่ ยเหลอื ได้ P a g e 61 | 91
แผนภูมิแสดงกระบวนการและขัน้ ตอนของระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน 1. การรูจ้ ักนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล 2. การคดั กรองนกั เรยี น กลมุ่ พิเศษ กลุ่มปกติ กล่มุ เสย่ี ง กลุ่มมปี ัญหา 3. การส่งเสรมิ พฒั นานักเรียน 4. การป้องกนั และแก้ไขปญั หา ดีขน้ึ พฤตกิ รรมดขี ้ึนหรอื ไม่ ไมด่ ีขึ้น 5. การส่งตอ่ (ภายใน : ครแู นะแนวฝา่ ยปกครอง หรอื ครูอนื่ ๆ ภายในโรงเรยี น P a g e 62 | 91
ขัน้ ตอนและแนวทางการช่วยเหลือและคุม้ ครองนกั เรียนของสำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา การพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม และมีวิถีชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษาน้ัน นอกจากจะดำเนนิ การ ด้วยการสง่ เสรมิ สนับสนนุ นักเรยี นแลว้ การปอ้ งกนั และการช่วยเหลอื แก้ปญั หาตา่ ง ๆ ที่เกิดกับนักเรียนก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกมิติ ทั้งด้านการ สื่อสาร เทคโนโลยี ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการระบาดของสารเสพตดิ ปัญหาครอบครัว ปัญหาการแข่งขนั ทุกรูปแบบ ก่อให้เกิดความทุกข์ ความวิตกกังวล ความเครียด ซึ่งล้วนแต่เป็นผลเสียต่อสุขภาพจิตและ สขุ ภาพกาย ของทุกคน จนนำไปสู่การเกดิ ปญั หาและสภาวะวิกฤตทิ างสังคม ในการพัฒนาคุณภาพชีวติ ของนักเรยี น ใหม้ ีความสมบรู ณ์พรอ้ มอยา่ งเปน็ องคร์ วมทงั้ ดา้ นร่างกาย สติปัญญา ความรู้ความสามารถ คุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนให้มีทักษะในการดำรงชีวิต ให้ส่งผลต่อการ ปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมดา้ นสุขภาพของผูเ้ รยี นโดยมคี วามรว่ มมือระหวา่ ง ระบบการศึกษา ระบบสุขภาพ และ ระบบชุมชน โดยใชโ้ รงเรยี นเป็นฐาน ในฐานะหน่วยงานท่ีตอ้ งรับผดิ ชอบในการสรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชีวิตผู้เรยี น และแก้วิกฤติสังคม จึงควรนำระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนมาประยุกต์ใช้และพัฒนาให้เหมาะสมกับ บริบทของแต่ละโรงเรียนและเขตพื้นที่ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 มีข้นั ตอนการดแู ลและแนวทางการชว่ ยเหลือและคุ้มครองนักเรยี น ตามหลกั PDCA คือแนวคิดซึ่งถูก คิดคน้ โดย Dr. Edwards W. Deming ดังน้ี 1. ขั้นวางแผนการปฏิบัตงิ าน (P: Plan) 1.1 ประชุมวางแผน การดแู ลชว่ ยเหลือนักเรียน กบั คณะกรรมการดำเนินงานท่ีเกี่ยวข้อง ในแตล่ ะระดบั 1.2 จดั ทำแผนการปฏิบัติงานการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น 2. ขั้นดำเนนิ งานตามแผน (D: Do) 2.1 สถานศกึ ษาสง่ ต่อนักเรยี นท่ตี อ้ งการความช่วยเหลอื จากระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรียน 2.2 สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาสำรวจและคัดกรองปัญหาสุขภาพจติ ในสถานศกึ ษาจดั ทำ แผนการปฏิบัติการลงพ้ืนท่ีเพ่ือแสวงหาข้อเทจ็ จริง 2.3 ลงพื้นทชี่ ว่ ยเหลอื ดูแลนักเรยี นตามกระบวนการทางจิตวทิ ยา สง่ เสริม พฒั นา ปอ้ งกันและ แก้ไข และวิเคราะห์ ส่งต่อหากนักเรียนต้องการความช่วยเหลือ หรือเป็นนักเรียนกลุ่มดูแลและช่วยเหลือ ค้มุ ครองพิเศษ P a g e 63 | 91
3. ขน้ั ตอนการตรวจสอบและประเมินผล (C: Check) 3.1 ประเมนิ พฤตกิ รรมนักเรยี น 3.2 ส่งนกั เรียนกลับสู่ระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี นในสถานศกึ ษา 4. ขนั้ การประเมนิ ผลและปรบั ปรุง (A: Act/Adjust) 4.1 ตดิ ตามและรายงานผลการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น แก่ ผูบ้ ังคบั บญั ชาและหน่วยงาน ต้นสงั กัด 4.2 นำผลจากการสรุปจากการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี นหาส่วนบกพรอ่ งในการดำเนนิ การ 4.3 นำขอ้ บกพรอ่ งมาสรุปและวางแผนในการพัฒนาการดูแล ชว่ ยเหลอื นักเรยี นให้มี ประสทิ ธภิ าพท่ีดีขนึ้ P a g e 64 | 91
ศูนย์วัคซนี ดแู ลใจ (PNST 4 Mental Health Vaccines Center) P a g e 65 | 91
ศูนยว์ ัคซนี ดูแลใจ (PNST 4 Mental Health Vaccines Center) เป็นการดำเนินงานช่วยเหลือ นักเรียนดา้ นสุขภาพจิตเป็นรายบุคคล รายกลมุ่ ด้วยกระบวนการหรือวิธีการทางจติ วิทยา โดยความร่วมมือ ระหว่างสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา โรงเรียนในสังกัด และหน่วยงานภาคีเครือขา่ ย ของระบบการศึกษา ระบบชุมชน และระบบสาธารณสุข โดยให้บรกิ าร ดงั ต่อไปน้ี 1. ประสานงาน และสนับสนุน การดำเนินงานดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กนักเรียน อาทิ ดา้ นการศกึ ษา กฎหมาย การสงเคราะห์ การคุ้มครองนักเรยี น 2. ประสาน ส่งตอ่ ตดิ ตาม ให้การดูแลชว่ ยเหลอื และคุ้มครองเด็กนกั เรียน กรณเี ด็กนกั เรียนถูกล่วง ละเมิดทางเพศ ถูกกระทำความรุนแรง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบการศึกษา ท้องไม่พร้อม ยากจน ไร้ผู้อุปการะ ไม่มีผู้ดูแล ถูกทอดทิ้ง ถูกบังคับใช้แรงงาน ติดเกม การพนัน ยาเสพติด รังแกผู้อื่น ก้าวร้าว ทะเลาะวิวาท โมโหร้าย ลักทรัพย์ มีภาวะทางจิตเวชหรือมีความต้องการพิเศษ เช่น สมาธิสั้น ออทิสติก บกพร่องทางการเรียนรู้ บกพร่องทางสติปัญญา บกพร่องทางอารมณ์ มีภาวะซึมเศรา้ เป็นต้น ให้ได้รับการ ดแู ลช่วยเหลอื อยา่ งเหมาะสมและทนั เวลา 3. ส่งเสริม พัฒนานักเรียนกลุ่มทีม่ ีความตอ้ งการพเิ ศษ ให้สอดคล้องกบั ความสนใจและความถนัด อย่างเต็มศักยภาพ 4. บริการให้คำปรกึ ษาแก่ นักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศกึ ษา และผู้ปกครองในการแก้ไขปัญหาของ นกั เรียนท้ังด้านการเรียนและการใชช้ ีวติ ประจำวัน โดยสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สามารถใช้บริการดังกล่าวที่ศูนย์ วคั ซนี ดูแลใจ (PNST 4 Mental Health Vaccines Center) ณ สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 4 ในวันและเวลาราชการ ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือ ขอคำปรึกษาไดท้ ่ี หอ้ งศนู ย์วคั ซีนดแู ลใจ หรอื โทรศพั ท์ 0 7552 1097 ตอ่ 4 P a g e 66 | 91
โครงสรา้ งศูนย์วัคซนี ดูแลใจ (PNST 4 Mental Health Vaccines Center) ผ้อู ำนวยการ สพป.นครศรีธรรมราช เขต 4 รองผ้อู ำนวยการ สพป.นครศรธี รรมราช เขต 4 ผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการสถานศึกษา กลุ่มส่งเสริมการจดั การศกึ ษา นักวชิ าการศึกษาทรี่ ับผิดชอบ นักจิตวิทยาประจำ ครนู ักจติ วทิ ยาประจำสถานศึกษา งานระบบการดูแลช่วยเหลอื สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษา ครรู ะบบดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น ครปู ระจำชน้ั ผรู้ บั ผิดชอบนกั เรียน นักเรียน ครพู ่เี ลี้ยงเดก็ พิการ ศึกษานเิ ทศก์ P a g e 67 | 91
แผนการดำเนินงานระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน ท่ี โครงการ/กจิ กรรม 1 โครงการสง่ เสรมิ พัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรียน 2 ประชุมคณะทำงานขบั เคล่ือนระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน 3 การสำรวจสขุ ภาพจติ และนกั เรียนที่มแี นวโนม้ การออกกลางคัน 4 สถานศึกษาคดั กรองพฤตกิ รรมนักเรยี น SDQ 5 เยีย่ มบา้ นนักเรียน ครั้งที่ 1 6 กิจกรรมวัคซีนดแู ลใจ / ภาษารักออนทวั ร์ 7 ประชุมผปู้ กครอง ครั้งท่ี 1 8 คา่ ยเสริมสรา้ งพัฒนาทักษะชีวติ 9 กิจกรรมลูกเสือตา้ นภัยยาเสพติด 10 สรปุ รายงานผล/วางแผนการดำเนินงานระบบการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น ประจ งบประมาณ 11 ประชุมภาคเี ครือข่ายระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น 12 เย่ยี มบ้านนกั เรียน ครัง้ ท่ี 2 13 ประชมุ ผูป้ กครอง ครงั้ ที่ 2 14 นิเทศ ตดิ ตามผลการปฏิบตั ิงานระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน หมายเหตุ แผนการดำเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนดังกลา่ ว สามารถ
ระยะเวลา ผู้รบั ผดิ ชอบ ตามปงี บประมาณ กลมุ่ ส่งเสริมการจดั การศกึ ษา พฤษภาคม กลมุ่ สง่ เสริมการจัดการศกึ ษา พฤษภาคม - มถิ นุ ายน กลุ่มส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษา พฤษภาคม-มิถนุ ายน สถานศึกษา มถิ นุ ายน - สงิ หาคม สถานศึกษา กรกฏาคม - สงิ หาคม สถานศกึ ษา สิงหาคม สถานศึกษา สงิ หาคม - กนั ยายน กลมุ่ ส่งเสริมการจัดการศึกษา สงิ หาคม - กนั ยายน กล่มุ สง่ เสริมการจัดการศกึ ษา จำปี กันยายน - ตุลาคม กลมุ่ ส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษา พฤศจกิ ายน - ธันวาคม กลมุ่ สง่ เสริมการจดั การศกึ ษา ธนั วาคม - มกราคม สถานศึกษา มกราคม สถานศกึ ษา กนั ยายน กลุ่มส่งเสริมการจัดการศกึ ษา ถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ในบรบิ ทและสถานการณ์ปจั จุบัน P a g e 68 | 91
บทท่ี 4 การนิเทศ ตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ าน การนเิ ทศ ติดตามผลการปฏิบัตงิ าน เป็นกิจกรรมที่สำคัญของกระบวนการดำเนินงานท่ีทำให้ ทราบความกา้ วหน้าของการทำงานตามเป้าหมายท่ีกำหนด ซงึ่ แบ่งออกเปน็ 2 ระดบั คือระดบั โรงเรียน และระดับเขตพนื้ ที่การศกึ ษา วตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือชว่ ยเหลอื แนะนำ และรบั ฟงั ปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงานระบบการดแู ลช่วยเหลือ นกั เรยี นของโรงเรยี นใหบ้ รรลตุ ามเป้าหมาย 2. เพื่อติดตามความก้าวหน้าการใช้คู่มือระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสำนักงานเขต พืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 4 3. เพื่อส่งเสริม สนับสนุน สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในการขับเคลื่อนระบบการดูแล ชว่ ยเหลอื นกั เรยี นของโรงเรยี นให้มีประสทิ ธภิ าพตามเกณฑ์ท่ีกำหนด เปา้ หมาย 1. โรงเรียนทุกโรงได้รับการนิเทศ ติดตามผลการปฏิบัติงานของระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรยี น จำนวน 1 ครัง้ /ภาคเรียน 2. โรงเรียนในสังกัดทุกโรงได้รบั การนเิ ทศติดตามผลการปฏิบัติงานจากหน่วยงานต้นสังกัด/ หน่วยงานภายนอก 3. โรงเรียนทุกโรงมีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มแข็งภายใต้ความร่วมมือของภาคี เครือข่ายโดยมผี ลการประเมนิ ตนเองระดบั ดขี ้นึ ไป 4. ร้อยละ 10 ของโรงเรียนในสังกัดได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ผลงาน ต่อสาธารณชน รปู แบบการนิเทศ 1. ลงพื้นทจ่ี ริง (site visit) 2. นิเทศออนไลน์ 3. สอบถามผ่านเคร่อื งมือสอื่ สาร หรอื ตอบแบบสอบถามติดตามผลการปฏิบัติงานของระบบ การดูแลชว่ ยเหลอื ผนู้ ิเทศ ผู้นิเทศ ติดตามผลการปฏิบัติงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ดงั นี้ P a g e 69 | 91
ระดับโรงเรียน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน ครู นักเรียน ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และบคุ ลากรอื่น ๆ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาที่ได้รับมอบหมาย ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา ผู้รับผิดชอบงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน นักจิตวิทยาโรงเรียนประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบงานแนะแนวหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย และผู้เชี่ยวชาญหรือบุคคลภายนอกที่เป็น ภาคเี ครอื ขา่ ยตามบันทึกขอ้ ตกลง ขั้นตอน/กระบวนการนเิ ทศ P a g e 70 | 91
แผนการนเิ ทศ ตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ านระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรียน ท่ี รายการ/กิจกรรม ระยะเวลา ผ้นู เิ ทศ โรงเรยี น เขตพ้นื ท่ี 1. การกำหนดนโยบายการดำเนนิ งาน พฤษภาคม // ระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรียน // 2. คำสัง่ แตง่ ตั้งคณะกรรมการ พฤษภาคม // ดำเนินงาน // 3. ประชมุ คณะทำงานระบบการดูแล พฤษภาคม // ช่วยเหลอื นักเรียน // 4. จัดทำโครงการส่งเสริมพฒั นาระบบ ตามปีงบประมาณ // // การดูแลช่วยเหลือนักเรยี น // 5. จัดระบบข้อมูลสารสนเทศระบบ มิถุนายน // // การดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน // // 6. กรอกข้อมลู นกั เรียนรายบุคคล มถิ นุ ายน // 7. เยีย่ มบา้ น คร้ังที่ 1 มถิ ุนายน - สงิ หาคม // 8. คัดกรองนกั เรยี น มถิ นุ ายน // // 9. การสำรวจสุขภาพจิตและนักเรยี นท่ี พฤษภาคม - / มแี นวโน้มการออกกลางคัน มิถุนายน 10. ประชมุ ผูป้ กครองนกั เรียนคร้งั ที่ 1 สิงหาคม 11. คา่ ยเสรมิ สรา้ งพัฒนาทักษะชีวติ สงิ หาคม - กันยายน 12. กจิ กรรมลูกเสือตา้ นยาเสพติด สิงหาคม - กันยายน 13. ตดิ ตามการใชค้ มู่ อื ระบบการดูแล พฤศจิกายน ช่วยเหลือนักเรยี น 14. ประชุมภาคีเครือข่ายระบบการดูแล พฤศจกิ ายน - ช่วยเหลอื นกั เรยี น ธนั วาคม 15. เย่ยี มบ้านนกั เรียนคร้งั ท่ี 2 ธนั วาคม - มกราคม 16. ประชุมผู้ปกครอง ครง้ั ที่ 2 มกราคม 17. สถานศกึ ษาคดั กรองพฤติกรรมSDQ พฤษภาคม-มิถุนายน 18. ตดิ ตามการดำเนินงานระบบการ มนี าคม - พฤษภาคม ดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนตามตัวชีว้ ัด P a g e 71 | 91
ท่ี รายการ/กิจกรรม ระยะเวลา ผนู้ เิ ทศ โรงเรียน เขตพนื้ ที่ 1. การรู้จักนกั เรียนเป็นรายบคุ คล 2. การคดั กรอง / 3. การส่งเสรมิ และพัฒนา 4. การปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หา 5. การสง่ ต่อ 19. สง่ เสรมิ ความเป็นเลิศการพฒั นา มีนาคม - พฤษภาคม ระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน ของโรงเรยี นตามเกณฑก์ ารประเมนิ ตัวอย่างเครอื่ งมอื ท่ใี ช้ ตัวอย่างเคร่อื งมอื แบบนิเทศติดตาม สำหรบั คณะกรรมการ ตัวอย่างเครือ่ งมือการนิเทศตดิ ตาม กำกบั ติดตาม แบบนิเทศตดิ ตามระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน P a g e 72 | 91
บทท่ี 5 รายงานผลการดำเนนิ งานระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น รายงานผลการดำเนนิ งานระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียน เป็นการรายงานผลการดำเนินงาน ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับการคัดเลือกสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาเพื่อรับรางวัลระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรยี น ประจำปี 2564 ของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับโรงเรียน และระดับ สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา สงั กัดสำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 4 การประเมนิ ผลการดำเนนิ งานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน ระดบั โรงเรียน กระบวนการการรายงานผลการดำเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น ระดับโรงเรยี น 1. ศึกษาเกณฑ์การพิจารณา และน้ำหนักคะแนนผลการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรยี นระดับโรงเรยี น สังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 4 ในคู่มือ การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยภาคีเครือข่าย สำนักงานเขตพื้นที่การศึ กษา ประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 4 ซง่ึ ประกอบด้วย 1.1 การบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ที่สะท้อนการดำเนินงานอย่าง ตอ่ เนอื่ ง 3 ปี ใหเ้ ห็นถึงแนวคิดและวธิ กี ารท่ีสอดคล้องกบั สภาพปญั หาและบรบิ ทของโรงเรียน 1.2 การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัยในโรงเรียนอย่างมี ประสิทธิภาพ 1.3 การมีส่วนร่วมของภาคีเครือขา่ ยทุกภาคสว่ นที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลช่วยเหลือนักเรยี น และส่งเสริมความปลอดภัยของโรงเรยี น 1.4 การส่งเสริม สนับสนุน นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานส่ง ผลต่อ ประสทิ ธิภาพระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นและความปลอดภยั ในโรงเรียน 1.5 ความสำเร็จของการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัย ในโรงเรยี น 2. ดำเนินงานตามกระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลือนกั เรียนตามคูม่ ือการดำเนนิ งานระบบ การดูแลช่วยเหลอื นักเรียนโดยภาคเี ครอื ขา่ ย สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 3. ประเมินตนเองตามแบบประเมนิ ผลการดำเนินงานระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรียน ระดับ โรงเรียน สงั กดั สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 (ภาคผนวก QR Code P a g e 73 | 91
ลำดับที่ 5.1 แบบประเมินผลการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนระดับโรงเรียน สังกัด สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 4) 4. นำผลท่ไี ดจ้ ากการประเมินตนเองมาเขียนรายงานผล ตามแบบรายงานผลการดำเนนิ งาน ระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน ระดบั โรงเรียน สงั กัดสำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา นครศรธี รรมราช เขต 4 โดยรายงาน 1 ครง้ั / ปีการศึกษา P a g e 74 | 91
เกณฑ์การพจิ ารณา และนำ้ หนักคะแนนผ ระดับโรงเรยี น สังกัดสำนักงานเขตพื้นทกี่ ประเดน็ พจิ า 1. การบริหารจัดการระบบการดูแล ช่วยเหลอื นกั เรียนและความปลอดภัยข (ปี พ.ศ. 25…. - 25….) ใหเ้ หน็ ถงึ แนวคดิ และวธิ ีการทีส่ อดคล้องกับสภาพป 1.1 นโยบายของโรงเรยี น ท่เี ก่ียวข้องกับระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี น ก 1.1.1 วิสยั ทัศน์ของโรงเรยี นสะทอ้ นให้เหน็ ถึงความสำคัญของระบบการดแู ลชว่ ระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน การเสรมิ สร้างทกั ษะชีวิตและการคุม้ ค 1.1.2 มีแผนกลยุทธ์ท่รี ะบกุ ารดำเนนิ งานเกยี่ วกับระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เ การเสรมิ สรา้ งทักษะชีวติ และการคุ้มครองนกั เรียน 1.1.3 มีแผนปฏบิ ัตกิ ารท่รี ะบุโครงการ กจิ กรรมท่เี กีย่ วขอ้ งกบั ระบบการดูแลช 1.1.4 มีคำส่งั แตง่ ตัง้ คณะทำงานเก่ียวกับระบบการดูแล ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น กา 1.1.5 มีระเบียบ แนวปฏบิ ัติท่เี ก่ยี วขอ้ งกับระบบการดูแล ชว่ ยเหลอื นักเรยี น ก เหมาะสม 1.2 แนวทาง/รปู แบบ การบรหิ ารจดั การของโรงเรยี นสะทอ้ นแนวคิดท่ีสอด 1.2.1 มีการวิเคราะหส์ ภาพปัญหา นำผลการดำเนนิ งานมาปรับปรงุ และพัฒนา การเสริมสรา้ งทักษะชวี ิตและการคุ้มครองนักเรียน 1.2.2 มีการบริหารและดำเนินงานท่สี อดคล้องกบั นโยบายของกระทรวงหรือห การศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 4
ผลการดำเนินงานระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียน นำ้ หนกั คะแนน การศกึ ษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 4 (15 คะแนน) ารณา (5 คะแนน) ของโรงเรยี นที่สะท้อนการดำเนนิ งานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 3 ปี 1 ปญั หาและบรบิ ทของโรงเรียน การเสรมิ สร้าง ทกั ษะชวี ติ และการคุ้มครองนกั เรยี นอยา่ งปลอดภัย 1 วยเหลอื นกั เรยี น โดยมีการกำหนดแนวทางตามนโยบายทเี่ กี่ยวกับ ครองนกั เรียนอยา่ งชัดเจน เรยี น ชว่ ยเหลือนักเรียน การเสริมสร้างทักษะชวี ติ และการค้มุ ครองนกั เรียน 1 ารเสรมิ สรา้ งทักษะชวี ิตและ การคุม้ ครองนักเรียนทชี่ ัดเจน 1 การเสริมสร้างทักษะชีวิตและการคมุ้ ครองนักเรียนมาใชไ้ ด้อย่าง 1 ดคลอ้ งกับสภาพปญั หาและบรบิ ทของโรงเรียน (4 คะแนน) าในการปฏบิ ตั ิงานท่เี กยี่ วข้องกับระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น 1 หน่วยงานท่เี กีย่ วข้องตลอดจนแนวทางของสำนกั งานเขตพื้นท่ี 1.5 P a g e 75 | 91
ประเด็นพิจา 1.2.3 มีแนวทาง/รปู แบบการดำเนินงานท่ีสอดคล้องกับสภาพปัญหาและบริบท 1.3 ข้อมูลสารสนเทศของโรงเรยี นท่ีเกยี่ วขอ้ งกับระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั 1.3.1 มขี อ้ มลู นักเรยี นรายบคุ คลท่ีเปน็ ปัจจุบนั และพรอ้ ม นำไปใช้ 1.3.2 มสี ารสนเทศเก่ียวกับผลการคดั กรองนักเรยี น 3 ปกี ารศกึ ษาย้อนหลงั ตอ่ 1.3.3 มีสารสนเทศผลการดำเนินงานทแ่ี สดงให้เห็นวา่ นกั เรยี นทุกคนไดร้ บั การ 1.3.4 มีการสรุปขอ้ มูลพร้อมท้ังรายงานผลการพัฒนา ป้องกัน แกไ้ ขปญั หาและ 1.3.5 มกี ารนำสารสนเทศมาใชใ้ นการพัฒนาระบบการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น และยั่งยืน 1.4 ขอ้ มลู สารสนเทศ เกี่ยวกบั ความปลอดภัยในโรงเรยี น เช่น ข้อมูล อบุ ัตเิ 1.4.1 มีขอ้ มลู กจิ กรรม/โครงการพัฒนาใหน้ ักเรยี นร้เู ท่าทนั อันตรายหรือความไ 1.4.2 มีสารสนเทศผลการดำเนนิ งานที่แสดงให้เห็นวา่ นักเรยี นทกุ คนไดร้ บั การ 1.4.3 มขี ้อมลู สารสนเทศผูเ้ ก่ียวข้องท่ีอาจเสย่ี งต่อการเกิดความไมป่ ลอดภัยตอ่ คะแนนรวมประ 2. การดำเนินงานระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี นและความปลอดภัยในโรง 2.1 วิธกี ารดำเนินงานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี นในโรงเรียน ครบทง้ั 2.1.1 มีวิธกี ารรู้จักนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล 2.1.2 มวี ิธีการคดั กรองนักเรียน 2.1.3 มวี ธิ สี ง่ เสรมิ พัฒนานักเรียนทุกกลมุ่ 2.1.4 มีวิธปี ้องกนั และแก้ไขปญั หา
ารณา นำ้ หนกั คะแนน ทของโรงเรยี น 1.5 กเรยี น (3 คะแนน) อเนอื่ งอย่างเปน็ ระบบ 0.5 รดูแล 0.5 ะสง่ ตอ่ ตามระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียน 0.5 การเสรมิ สร้างทกั ษะชวี ติ และการคมุ้ ครองนักเรียนอยา่ งตอ่ เน่ือง 0.5 1 เหตุ-ความเสยี่ ง (3 คะแนน) ไมป่ ลอดภัยจากบคุ คล อบุ ตั ิภยั และความเสย่ี งต่อชีวิต 1 รพฒั นาให้รเู้ ท่าทันและปอ้ งกันความไมป่ ลอดภยั 1 อนักเรียนในโรงเรยี น 1 ะเด็นที่ 1 15 รงเรยี นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 5 ข้ันตอน โดย ดำเนินงานสอดคล้องอย่างเปน็ ระบบ (25 คะแนน) (10 คะแนน) 1 1 1 1 P a g e 76 | 91
ประเด็นพิจา 2.1.5 มีวิธกี ารสง่ ต่อ 2.1.6 มีการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรยี นอย่างร้อยรดั ทั้ง 5 ข้นั ต 2.1.7 มกี ารดำเนนิ งานแตล่ ะขนั้ ตอนอย่างเป็นระบบ 2.1.8 มกี ารใชน้ วตั กรรมในการดำเนินงานระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรียน 2.2 การดำเนนิ การเสรมิ สร้างทักษะชวี ิตอย่างเปน็ รปู ธรรม 2.2.1 มีการบรู ณาการทักษะชีวิตการเรยี นการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ 2.2.2 จัดกิจกรรม/โครงการท่เี สรมิ สร้างทักษะชีวิต 2.2.3 นกั เรยี นทกุ กลมุ่ ได้รับการเสรมิ สรา้ งทักษะชวี ิต และนกั เรียนมีปญั หาด้าน 2.2.4 การใชพ้ ฤตกิ รรมเชงิ บวกในการจดั การชัน้ เรียนและพฤติกรรมนักเรยี น 2.3 การดำเนินงานความปลอดภัยในโรงเรยี นอยา่ งเปน็ ระบบ 2.3.1 มกี ารวิเคราะหส์ ถานการณ์ทีอ่ าจเกิดความไมป่ ลอดภัยตอ่ นักเรียน 2.3.2 มวี ธิ กี ารทเ่ี สรมิ สรา้ งความปลอดภัยให้แก่นกั เรียน 2.3.3 มีวิธกี ารปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาความไมป่ ลอดภัยในโรงเรยี น 2.3.4 มวี ิธกี ารรจู้ ักนกั เรียนทม่ี ีแนวโนม้ อาจเผชิญตอ่ ความไม่ปลอดภัย 2.4 การดำเนนิ การคุ้มครอง นักเรียนอย่างเปน็ รปู ธรรม 2.4.1 มกี ารติดตาม เฝ้าระวัง และค้มุ ครองนักเรียนอย่างต่อเนอ่ื ง 2.4.2 มีกจิ กรรม/โครงการทคี่ ุ้มครองนักเรียนในโรงเรียน 2.4.3 นักเรยี นทุกคนไดร้ บั การคุ้มครองดว้ ยรปู แบบ/วิธกี ารท่ีเหมาะสม คะแนนรวมประ
ารณา นำ้ หนกั คะแนน ตอน 1 นพฤตกิ รรมลดลง 2 1 ะเดน็ ที่ 2 2 (5 คะแนน) 1 1 2 2 (5 คะแนน) 1 1 2 1 (5 คะแนน) 1.5 1.5 2 25 P a g e 77 | 91
ประเด็นพจิ า 3. การมีสว่ นรว่ มของภาคีเครอื ขา่ ยทุกภาคสว่ นที่เก่ยี วขอ้ งในการดแู ลชว่ ยเ 3.1 ขอ้ มลู ภาคีเครอื ข่าย และ วธิ กี ารสรา้ งเครือขา่ ยอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 3.1.1 มภี าคีเครอื ข่าย ผู้ปกครอง ชมุ ชน หนว่ ยงานภาครฐั ภาคเอกชนและเขต 3.1.2 มสี ารสนเทศเครือข่ายผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงาน ภาครัฐ และภาคเอก 3.1.3 มวี ธิ กี ารสร้างและการทำงานร่วมกบั เครือขา่ ย ทีส่ นับสนุนระบบการดูแล 3.1.4 ภาคเี ครอื ข่ายใหก้ ารสนบั สนนุ การดูแลช่วยเหลอื นักเรียนอยา่ งต่อเนอ่ื ง 3.2 การมีส่วนร่วมของภาคี เครอื ขา่ ยในการส่งเสรมิ สนับสนนุ ปอ้ งกัน ชว่ 3.2.1 ภาคเี ครอื ข่ายมีสว่ นรว่ มประชมุ เพอ่ื ใหข้ ้อมูลและวางแผนการสง่ เสรมิ สน 3.2.2 ภาคีเครอื ข่ายมสี ว่ นรว่ มในการส่งเสริม สนับสนุน การดำเนนิ งานระบบก นกั เรยี น 3.2.3 ภาคเี ครอื ข่ายมีการดำเนนิ งานในการดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น การเสริมส 3.2.4 ภาคเี ครือข่ายรว่ มประเมิน /ชื่นชม ใหข้ วญั กำลงั ใจ การดำเนินงานการด 3.3 การมีสว่ นร่วมของภาคี เครอื ข่ายในการสง่ เสรมิ สนับสนุนความปลอดภ 3.3.1 ภาคีเครือข่ายมสี ่วนรว่ มประชมุ เพ่อื ใหข้ อ้ มูลและวางแผนการส่งเสริม สน 3.3.2 ภาคเี ครือข่ายมสี ว่ นรว่ มในการส่งเสรมิ สนับสนุน การดำเนินงานความป 3.3.3 ภาคีเครือข่ายมกี ารดำเนนิ งานความปลอดภัยในโรงเรียน 3.3.4 ภาคเี ครือข่ายรว่ มประเมิน /ชืน่ ชม ใหข้ วญั กำลังใจ การดำเนินงานความ คะแนนรวมประ
ารณา นำ้ หนักคะแนน เหลือนกั เรียนและความปลอดภยั ในโรงเรียน (15 คะแนน) ตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา หรอื สำนกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ (แล้วแต่กรณ)ี (5 คะแนน) กชนทีเ่ ก่ียวข้องในการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี น ลชว่ ยเหลือนักเรียน 1 1 วยเหลอื และคุม้ ครอง นกั เรยี นรว่ มกับโรงเรียนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 1 นบั สนนุ ปอ้ งกัน ชว่ ยเหลอื และค้มุ ครองนกั เรียน 2 การดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี น การเสรมิ สร้างทกั ษะชวี ิต และคุ้มครอง (5 คะแนน) 1 1 สร้างทกั ษะชวี ิต และคุ้มครอง นักเรยี น 1 ดแู ลช่วยเหลอื นักเรียน 2 ภัยในโรงเรียน (5 คะแนน) นับสนนุ ปอ้ งกนั ความปลอดภัยในโรงเรียน 1 ปลอดภยั ในโรงเรียน 1 1 มปลอดภัยในโรงเรยี น 2 ะเด็นท่ี 3 15 P a g e 78 | 91
ประเด็นพิจา 4. การส่งเสริม สนับสนนุ นิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผล การดำเนินงานส่ง ความปลอดภัยในโรงเรยี น 4.1 การพฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ให้มีความตระหนัก มคี วามรู้ ทกั ษะชวี ิต การเสริมสรา้ ง ความปลอดภยั และการคมุ้ ครองนักเรยี น 4.1.1 ครูทกุ คนได้รับการพฒั นาความรู้ ความเขา้ ใจ เรอ่ื งระบบการดแู ลชว่ ยเห วิธีการทหี่ ลากหลายอย่างตอ่ เนอ่ื ง 4.1.2 ครูทกุ คนมีความเขา้ ใจในวิธกี ารดำเนินงานตามระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื น 4.1.3 ครูมคี วามเข้าใจในกระบวนการเสริมสรา้ งทกั ษะชีวิตแบบบรู ณาการและ 4.1.4 ครสู ามารถจัดกิจกรรมเสรมิ สร้างทักษะชีวติ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 4.1.5 ครทู กุ คนมีส่วนร่วมในการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี น จดั กจิ กรรม/โครงการค 4.2 การนิเทศติดตามส่งเสริม สนบั สนุนและให้ขวัญกำลงั ใจแก่ครแู ละบคุ ลา การเสริมสรา้ งทกั ษะชีวติ การเสรมิ สรา้ งความปลอดภัย และการคุ้มครอ 4.2.1 มีการนเิ ทศติดตามการดำเนินงานระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน เสริม โรงเรียน 4.2.2 มีการนิเทศ ติดตามการดำเนนิ งานระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี น การ ภายนอก 4.2.3 มีรปู แบบและกระบวนการนิเทศที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรยี น 4.2.4 ผรู้ ับการนิเทศมีความพึงพอใจ และนำผลการนิเทศไปพัฒนางานอยา่ งตอ่ 4.2.5 ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาทกุ คนได้รับการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ และได้ร
ารณา น้ำหนักคะแนน งผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นและ (20 คะแนน) ความเข้าใจ ระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรยี น การเสรมิ สรา้ ง (10 คะแนน) หลือนกั เรยี น การเสรมิ สรา้ ง ทกั ษะชีวติ และการคมุ้ ครองนกั เรยี นด้วย 2 นกั เรยี นและทำหนา้ ท่ีเปน็ ครูที่ปรึกษา 2 ะทักษะชีวติ เฉพาะปัญหา 2 2 ค้มุ ครองนกั เรียนและการดูแลความปลอดภัยในโรงเรยี น 2 ากรทางการศึกษาในการดำเนินงานการดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี น (5 คะแนน) องนักเรยี นอย่างตอ่ เนอ่ื ง มสรา้ งทกั ษะชีวิตความปลอดภัย และการคุม้ ครองนักเรียนภายใน 1 รเสริมสร้างทักษะชวี ิต ความปลอดภัย และการคมุ้ ครองนักเรียนจาก 1 อเนือ่ ง 1 รับขวญั กำลังใจจากการปฏบิ ัติงานอย่างตอ่ เน่ือง 1 1 P a g e 79 | 91
ประเด็นพิจา 4.3 การประเมินผล การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น การเส นกั เรียน เพือ่ ปรบั ปรงุ พัฒนาอยา่ ง ต่อเนอื่ งและย่ังยืน 4.3.1 มวี ิธกี ารและเคร่ืองมือประเมินผลอยา่ งเหมาะสม 4.3.2 ใช้วธิ ีการและเครอื่ งมอื ประเมนิ ผลเป็นระยะๆสอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงค 4.3.3 นำผลการประเมนิ ไปพฒั นางานระบบการดแู ล ช่วยเหลือนกั เรียน การเส ต่อเน่อื ง 4.3.4 มีการปรบั ปรุง พฒั นา วิธกี ารและเคร่ืองมอื อยา่ งเหมาะสมกับวัตถุประส คะแนนรวมประ 5. ความสำเรจ็ ของ การดำเนินงานระบบ การดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นและ ค 5.1 ระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรียน การเสรมิ สร้าง ทักษะชีวติ และการคุ้ม 5.1.1 นกั เรียนกลมุ่ เสี่ยง กลุ่มปญั หามีจำนวนลดลง สอดคลอ้ งกบั เป้าหมายขอ 5.1.2 อัตราการไม่จบตามหลักสตู รตามเวลาทีก่ ำหนดของนกั เรียนลดลงอยา่ งต 5.1.3 อตั ราการออกกลางคนั ของนกั เรียนลดลงกวา่ ปีที่ผ่านมาอย่างตอ่ เน่ือง 5.1.4 นักเรียนมีทักษะชีวติ ตามเปา้ หมายทโี่ รงเรียนกำหนด 5.1.5 นักเรียนทุกกลุ่มไดร้ ับการดแู ลชว่ ยเหลอื ปกปอ้ ง คมุ้ ครอง ความปลอดภ 5.1.6 นกั เรียนประสบความสำเร็จไดร้ ับการยอมรบั ในระดับต่าง ๆ 5.2 ระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน การเสริมสร้าง ทักษะชีวิตและการคุ้ม 5.2.1 โรงเรยี นไดร้ บั การยอมรับ ยกย่อง เชดิ ชเู กียรตใิ นด้านการดูแลชว่ ยเหลือ นักเรียน
ารณา นำ้ หนักคะแนน สริมสรา้ งทักษะชีวติ การเสรมิ สร้าง ความปลอดภยั และการค้มุ ครอง (5 คะแนน) ค์ของงาน 1 สรมิ สรา้ งทกั ษะชีวิต ความปลอดภัย และการคมุ้ ครองนกั เรยี นอยา่ ง 1 1 สงค์ของงาน 2 ะเดน็ ท่ี 4 20 ความปลอดภัยในโรงเรยี น (25 คะแนน) มครองนกั เรยี น มผี ลต่อการพัฒนาคณุ ภาพของนกั เรยี น (10 คะแนน) องโรงเรียน 2 ตอ่ เนอื่ ง 2 2 ภยั แกไ้ ขและพฒั นาตามศกั ยภาพ 2 1 มครองนักเรยี น สง่ ผลต่อโรงเรียนและชมุ ชนทอ้ งถิน่ 1 อนักเรยี น การเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ความปลอดภยั และการคุ้มครอง (5 คะแนน) 2.5 P a g e 80 | 91
ประเดน็ พจิ า 5.2.2 มวี ธิ ีปฏิบตั ทิ ่ีเป็นเลศิ ในการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี น การเสรมิ สร้างทกั ษะช 5.3 นกั เรยี นสามารถดแู ลช่วยเหลือตนเองไดต้ ามวัย 5.3.1 นักเรยี นมที ักษะชีวติ ร้เู ท่าทนั ภัยตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในสงั คมและสามารถจดั 5.3.2 นักเรยี นมีสมรรถนะสำคญั และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ตามหลักสูตร 5.3.3 นักเรยี นอยู่รอดปลอดภัยและเรยี นจนจบหลกั สตู ร 5.4 นักเรียนมีความปลอดภยั ครอบคลมุ ทกุ ด้าน 5.4.1 นกั เรียนมคี วามปลอดภยั ในชีวิตประจำวัน 5.4.2 นกั เรยี นมีความปลอดภยั ในการเดินทาง 5.4.3 นกั เรยี นมีความปลอดภยั จากบุคคล 5.4.4 นักเรยี นได้รบั การปกปอ้ งคมุ้ ครองความปลอดภัยทั้งร่างกายและจติ ใจ คะแนนรวมประ คะแนนรวมทง้ั 5 คดิ เป็นรอ้ ย
ารณา นำ้ หนักคะแนน ชวี ติ ความปลอดภยั และการคุม้ ครองนกั เรียนอยา่ งยั่งยนื 2.5 จดการกบั ปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ กับตนเองได้ ร (5 คะแนน) 1 ะเดน็ ท่ี 5 2 5 ประเด็น 2 ยละ (5 คะแนน) 1 1 1 2 25 100 100 P a g e 81 | 91
แบบรายงานผลการดำเนินงานระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน ระดับโรงเรยี น สังกัดสำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 4 คำชแี้ จง 1. โรงเรียนรายงานผลการดำเนินงานระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน 2. โรงเรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู รายละเอียดในแบบรายงานใหถ้ กู ต้องครบถ้วน (เอกสารขอ้ มูลไม่เกนิ 20 หนา้ กระดาษ A4) 3. แนบเอกสารหลกั ฐานประกอบ (ภาคผนวกไมเ่ กิน 20 หน้ากระดาษ A4) สว่ นที่ 1 ขอ้ มลู พ้ืนฐานของโรงเรียน ช่อื โรงเรียน ..........................................สังกัดสำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 สถานท่ีต้ัง............................................................................................................................................................. โทรศัพท์...............................................................เปิดสอนระดบั ชน้ั .................................................................... จำนวนนักเรยี น.....................................คน จำนวนครแู ละบุคลากรทางการศึกษา..........................................คน ชื่อผ้อู ำนวยการ/ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา.................................................................................................................. หมายเลขโทรศัพท์มอื ถอื ...................................................................................................................................... สว่ นท่ี 2 ผลงานดำเนินงานระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน (โรงเรียนประเมินตนเองตามแบบประเมินผลการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรยี นระดับโรงเรียนและ เขียนรายงานผลการบริหารจัดการและการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของโรงเรยี น (เปน็ ผลงานปีการศึกษา 256... – 256….) ครอบคลุมทัง้ 5 ประเดน็ ตอ่ ไปน)ี้ ประเด็นที่ 1 การบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัยของโรงเรียน ที่สะท้อนการดำเนินงานอย่างต่อเน่ือง 3 ปี (ปี พ.ศ. 25…. - 25….) ให้เห็นถึงแนวคิดและวิธีการที่สอดคล้อง กบั สภาพปัญหาและบริบทของโรงเรยี น ประเด็นที่ 2 การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัยในโรงเรียน อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ประเดน็ ท่ี 3 การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนท่ีเกยี่ วข้องในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และความ ปลอดภัยในโรงเรียน ประเด็นที่ 4 การส่งเสริม สนับสนุน นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานส่งผล ต่อประสิทธภิ าพระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและความปลอดภยั ในโรงเรยี น ประเด็นที่ 5 ความสำเร็จของการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัย ในโรงเรยี น P a g e 82 | 91
สว่ นท่ี 3 สรปุ และขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ขอรับรองวา่ ขอ้ มูลขา้ งต้นเปน็ ความจรงิ ทุกประการ (ลงชือ่ ) ........................................................ (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน .........../....................../................ เอกสารหลักฐานประกอบ/ภาคผนวก แนบเอกสารหลกั ฐานประกอบ/ภาคผนวก เชน่ 1. แบบประเมนิ ผลการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนระดับโรงเรียน 2. แผนภมู กิ ารบรหิ ารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรียนของโรงเรยี น 3. หลักฐานประกอบที่แสดงให้เห็นว่านักเรียนทุกคนได้รับการดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองอย่างทั่วถึงและ ใกลช้ ดิ ส่งผลต่อคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียน ในภาพรวมสูงขึ้น นักเรียนมีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ตามหลกั สูตร มีทักษะชวี ติ ปลอดจากการออกกลางคนั และปลอดสารเสพติด รวมทั้งอบายมุขทง้ั ปวง 4. หลักฐานประกอบที่แสดงให้เห็นวา่ ครูได้รับการพัฒนาให้มคี วามรู้ความเข้าใจและทักษะในการปฏิบัติงาน การดูแลชว่ ยเหลือนักเรียนและสะท้อนให้เหน็ ถงึ ขวญั กำลังใจและคุณภาพการปฏิบัตงิ านของครู 5. หลักฐานประกอบการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของโรงเรียน 6. หลกั ฐานประกอบผลการดำเนินงานตามสภาพความสำเร็จของระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี น 7. หลักฐานประกอบการส่งเสริมสนับสนุน เสริมสร้างขวัญกำลังใจ ติดตาม นิเทศ และประเมินผล การดำเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรียนของโรงเรยี นตามสภาพจรงิ 8. ผลงานทีส่ ะทอ้ นความสำเร็จของโรงเรียนในการดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี นอยา่ งเปน็ องค์รวมทุกด้าน 9. ผลงานของโรงเรยี นทีเ่ กิดจากการบรหิ ารจัดการระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นที่มคี ุณภาพสูงเพียงพอที่จะ สามารถนำไปเผยแพร่ได้ P a g e 83 | 91
การประเมินผลการดำเนินงานระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียน ระดับสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา กระบวนการการรายงานผลการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ระดับสำนักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษา 1. ศกึ ษาเกณฑก์ ารพิจารณา และน้ำหนกั คะแนนผลการดำเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 ในคู่มือการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยภาคีเครือข่าย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 4 ซึ่งประกอบดว้ ย 1.1 การบรหิ ารจัดการระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียนของสำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา 1.2 การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และการเสริมสร้างความปลอดภัย ในโรงเรยี นของสำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 1.3 การมีส่วนร่วมดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และความปลอดภัยในโรงเรียน ของภาคเี ครือขา่ ย 1.4 ความสำเร็จของการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และการเสริมสร้าง ความปลอดภยั ในโรงเรียน 2. ดำเนินงานตามกระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามคู่มือการดำเนินงาน ระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี นโดยภาคีเครอื ข่าย สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 4 3. ประเมินตนเองตามแบบประเมินผลการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 (QR Code ลำดับที่ 5.2 แบบประเมนิ ผลการดำเนินงานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน ระดับสำนักงานเขต พืน้ ทีก่ ารศกึ ษาสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 4) 4. นำผลที่ได้จากการประเมินตนเองมาเขียนรายงานผลตามแบบรายงานผลการดำเนินงาน ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 โดยรายงาน 1 คร้ัง/ ปกี ารศกึ ษา P a g e 84 | 91
เกณฑก์ ารพิจารณา และนำ้ หนกั คะแนนผลการดำ ระดับสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา สงั กดั สำนักงานเขตพื้น ประเดน็ พจิ ารณา 1. การบริหารจัดการ ระบบการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียนของสำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการ 1.1 นโยบาย/จุดเนน้ การดำเนนิ งานระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น และความป 1.1.1 มยี ทุ ธศาสตร์/นโยบายการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและควา 1.1.2 ยุทธศาสตร์/นโยบายการดำเนินงานระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียนและความปล 1.1.3 มีโครงสรา้ งการบรหิ ารและคำส่ังแต่งต้ังคณะกรรมการดำเนนิ งานระบบการดูแ 1.2 มีข้อมูลสารสนเทศโรงเรียน ในการดำเนินงานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี 1.2.1 มขี อ้ มูลสารสนเทศการคดั กรองนกั เรยี นระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี นและค 1.2.2 มีขอ้ มลู สารสนเทศระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี นและความปลอดภัยของโรง 1.2.3 มีวิธกี ารจัดเกบ็ ขอ้ มลู สารสนเทศการดูแลช่วยเหลือนกั เรยี นและความปลอดภยั 1.2.4 มกี ารนำข้อมูลสารสนเทศของโรงเรยี นมาใช้ในการบรหิ ารจดั การระบบการดูแล 1.3 มีข้อมูลสารสนเทศนกั เรยี น ทกุ คนอย่างรอบด้าน พร้อมให้การสนบั สนุน 1.3.1 มขี ้อมูลสารสนเทศการคัดกรองนักเรียนระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียนและค 1.3.2 มีขอ้ มูลสารสนเทศระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรยี นและความปลอดภัยของนัก 1.3.3 มวี ิธีการจัดเกบ็ ขอ้ มลู สารสนเทศการดแู ลช่วยเหลือนักเรยี นและความปลอดภัย 1.3.4 มกี ารนำข้อมลู สารสนเทศของนักเรยี นมาใช้ในการบริหารจัดการระบบการดแู ล 1.4 แผนงาน/โครงการสอดคล้องกับระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียนและความปล
ำเนนิ งานระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียน น้ำหนักคะแนน นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 4 (20 คะแนน) (5 คะแนน) รศกึ ษา (20 คะแนน) ปลอดภัยในโรงเรียนของสำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษา 2 ามปลอดภยั ท่ีสะท้อนถึงผลการดำเนนิ งาน ลอดภัยต่อเนอื่ ง 3 ปี 2 แลชว่ ยเหลือนักเรยี นและความปลอดภยั 1 ยน ของทกุ โรงเรียน (5 คะแนน) ความปลอดภัยในทุกมติ ิ ครอบคลุมทุกโรงเรียน 1 งเรียน ท่เี ป็นปจั จุบนั 1 ยของโรงเรยี น อยา่ งเป็นระบบ 1 ลช่วยเหลือนักเรียน และความปลอดภัย 2 ความปลอดภยั ในทุกมติ ิครอบคลมุ ทกุ คน (5 คะแนน) กเรยี นทกุ คนทเ่ี ปน็ ปจั จบุ นั 1 ยของนักเรียนทุกคนอย่างเปน็ ระบบ 1 ลชว่ ยเหลือนกั เรยี น และความปลอดภยั 1 ลอดภัยตามบรบิ ทของสำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษา 2 (5 คะแนน) P a g e 85 | 91
ประเดน็ พิจารณา 1.4.1 มแี ผนงาน/โครงการตามระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี นและความปลอดภัยท การศกึ ษาได้ 1.4.2 มแี ผนงาน/โครงการที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาของสำนักงานเขตพืน้ ที่การศึก นักเรยี นและความปลอดภัย คะแนนรวมประเด็นที่ 2. การดำเนนิ งานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น และการเสริมสรา้ งความปลอด มีประสทิ ธภิ าพ 2.1 การดำเนนิ งานตามขนั้ ตอนของระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียนของสำนกั งา ในโรงเรยี น 2.1.1 มกี ารดำเนนิ งานตามแผนงาน/โครงการระบบการดูแลช่วยนักเรยี นและความป 2.1.2 มกี ารนำผลการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการ ระบบการดูแลชว่ ยนักเรยี นแ ต่อเนอื่ ง 2.1.3 มีการสรุปและรายงานผลการดำเนินงานด้านระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนแ 2.2 การสง่ เสรมิ สนับสนนุ การดำเนนิ งานระบบ การดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี น และ 2.2.1 มีการสนับสนุน ส่งเสริม เพอ่ื การดำเนินงานระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี นแ 2.2.2 การจัดกิจกรรมแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การประชุมสมั มนา การศกึ ษาดูงาน การจัดก และความปลอดภัย 2.2.3 มกี ารยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรตแิ ละให้รางวัล การดำเนนิ งานระบบการดูแลชว่ ยเหลอื ทางการศกึ ษาและนกั เรยี น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159