บทที่ ๕ บทสรปุ และขอ เสนอแนะ๑. สรุปผลการวจิ ัย จากการศึกษา การดํารงชีวิตอยูในสังคมอยางมีความสุขตามแนวพุทธจริยศาสตร ศึกษากรณีทิศ ๖ ทําใหทราบวา เปนการดําเนินชีวิตท่ีมีความสัมพันธกับผูอื่นในลักษณะตาง ๆ ตามแนวพุทธจริยศาสตรท่ีพระพุทธองคทรงชี้แนวทางในการดําเนินชีวิตตามความจริง ซึ่งบุคคลหน่ึงจะมีสวนเกี่ยวของกับผูอ่ืนอยางนอย ๖ ประการหรือกับบุคคล ๖ จําพวกท่ีประกอบไปดวย มารดาบิดา ครูอาจารย บุตรภรรยาสามี มติ รสหาย ขาทาสบริวารและสมณะชพี ราหมณแ ละในแตละบุคคลจะตองไดทําหนาท่ีท้ัง ๖ประการกับผูอื่นเชนกัน เชน ทําหนาท่ีบุตร ภรรยา สามี มารดา บิดา มิตรสหาย ครูอาจารย ขาทาสบริวารและทําหนาที่เปนสมณะชีพราหมณ ดังนั้น บุคคลผูหน่ึงจะตองมีความสัมพันธกับบุคคลท้ัง ๖จําพวกและทําหนาทั้ง ๖ ประเภทดวยกัน เพราะฉะนั้น ทุกคนจะตองทราบและเขาใจในหนาที่ของตนทีจ่ ะตองประพฤติปฏิบัติเพ่ือการดาํ เนินชีวติ อยใู นสงั คมอยา งมคี วามสขุ ตามแนวพุทธจริยศาสตร ท่ีพระพทุ ธองคทรงคน พบและนาํ มาส่งั สอนใหท ุกคนไดทราบเพื่อนาํ ไปปฏบิ ตั ิตาม ดงั กลาว เมอื่ เปน เชน น้ี การดาํ เนินชวี ิตอยใู นสังคมอยางมคี วามสุขตามแนวพทุ ธจรยิ ศาสตร ศกึ ษากรณีทิศ ๖ จึงประกอบไปดวยหลักการ ความรูพ้ืนฐานเกี่ยวกับพุทธจริยศาสตร ความสําคัญของพุทธจริยศาสตรท่ีวาดวยทิศท้ัง ๖ และการนําหลักพุทธจริยศาสตรที่วาดวยทิศทั้ง ๖ ไปใชในการดําเนินชีวิต จึงสามารถสรุปไดด งั นี้ ๑.๑ ความหมายและประเภทของพุทธจริยศาสตร เปนความรเู บอื้ งตน ที่ทุกคนจะตอ งทราบเพ่อื เปนพื้นฐานในการนําไปประพฤติปฏบิ ัตไิ ดอ ยา งถูกตอ งและเขา ใจแลว จะทําใหป ระพฤติปฏบิ ัติถกู ตอ งและเขา ใจ จงึ สรุปไดว า ๑)ความหมายพุทธจริยศาสตร เปนการประพฤติปฏิบัติของผูรูวาสิ่งใดควรปฏิบัติ สิ่งใดไมควรปฏบิ ตั ิเพอ่ื ใหเ กดิ ความสงบสขุ ในการดําเนินชวี ติ ในสังคม ๒)ขอบเขตของพุทธจริยศาสตร เปนแนวทางของการประพฤติปฏิบัติที่ไมสรางความเดือดรอนใหแกตนเองและคนอื่นเกิดความเดือดรอนท่ีประกอบไปดวย เบญจศีล เบญจธรรม ตลอดถึงถึงหลักธรรมข้ันสงู สดุ คืออรยิ มรรค ๘ ประการ ดงั กลาว
๑๔๒ ๓)ระบบจริยศาสตรในพุทธศาสนา ซ่ึงเปนระบบที่เนนหนักถึงการมีสัมมาทิฐิหรือมีความเห็นที่ถูกตองเปนเบื้องตนวาสิ่งใดควรประพฤติปฏิบัติตลอดถึงการตั้งตนอยูในหลักการที่ถูกตองอยางมัน่ คง หรือสัมมาสมาธิ ซึ่งเปน ระบบทมี่ ีความเก่ียวขอ งกบั บคุ คลและหนาท่ี ดงั กลาว ๔)ความสัมพนั ธข องพทุ ธจรยิ ศาสตรกับสังคมไทย เปนความสัมพันธตามหลักความเชื่อของเหตุผลตามหลักคําสอนของพระพุทธเจาท่ีวา ทําดี ยอมไดรับผลดีตอบแทน การปฏิบัติคนอื่นอยางไรยอมไดรับการปฏิบัติกลับคืนมาอยางนั้น การปฏิบัติตามทิศทั้ง ๖ จึงมีความสัมพันธอยางม่ันคงกับสงั คมไทย เพราะสังคมไทยมีความเชอ่ื เปนพ้ืนฐานพระพทุ ธศาสนาเขามาสสู งั คมไทย ดังกลาว ๑.๒ หลกั พทุ ธจริยศาสตรในทิศ ๖ มนุษยเปนสัตวสังคม การอยูคนเดียวคงเปนเร่ืองที่ผิดปกติ เพราะฉะนั้น มนุษยจึงมีความสัมพันธกับผูอื่นและผูอื่นก็มีความสัมพันธกับตนเชนกัน ดังน้ัน พุทธจริยศาสตรจึงมีความสําคัญตอชีวิตมนุษยเปนอยางมาก ซึ่งเปนศาสตรท่ีวาดวยความสัมพันธกับทิศทั้ง ๖ หรือการทําหนาท่ีของบคุ คลทั้ง ๖ ทิศในบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะบุคคลหนึ่งสามารถทําหนาที่ไดท้ัง ๖ อยางในคนเดียวกันมี ทําหนาที่เปนบิดา เปนมิตรกับคนอื่น เปนลูกจางของคนอ่ืน เปนสามีของภรรยา เปนบุตรของมารดาบิดาหรืออุปสมบทเปนบรรพชิต เปนตน จงึ สรุปไดวา ๑) ประวัติความเปนมาของพุทธจริศาสตร เปนศาสตรท่ีวาดวยความสัมพันธของมนุษยที่มีตอบุคคลท้ัง ๖ สถานะหรือเรียกวาทิศทั้ง ๖ ซ่ึงเปนหลักของความจริงตามธรรมชาติของมนุษยที่พระพุทธองคทรงคนพบและนํามาสั่งสอนใหมนุษยไดประพฤติปฏิบัติเพื่อใหเกิดความสงบสุขในการทําหนา ที่ตอ ผอู ืน่ และการทําหนาทีข่ องตนไดอยางถูกตอง ๒) ความหมายและสาระสาํ คัญของพทุ ธจรยิ ศาสตรวา ดว ยทิศท้ัง ๖ ซ่ึงเปน การบอกถึงบคุ คลทอี่ ยูประจาํ ทศิ และการทาํ หนา ทข่ี องผอู ยปู ระจาํ ทศิ นนั้ ๆ ดงั นี้ - ทิศเบ้ืองหนา หมายถงึ มารดา บดิ า ทําหนา ทใี่ นการอุปการะบุตรตามหนา ทข่ี องมารดาบดิ าเปนเบ้ืองตน - ทิศเบอ้ื งขาว หมายถงึ ครู อาจารย ทาํ หนา ทีใ่ นการอบรมส่ังสอนศษิ ยใ หเปนคนดรี กั ศิษยทุกคนเสมอกนั ถา ยทอดวชิ าใหศษิ ยโ ดยไมปด บัง - ทศิ เบ้อื งหลัง หมายถึง บุตร ภรรยา ทําหนา ที่ในการเปนกาํ ลงั ใจ ซอื่ สตั ย มีความกตญั ูและเปนทปี่ รกึ ษาเม่ือยามจาํ เปน - ทศิ เบ้อื งซาย หมายถึง มติ รสหาย เปนผมู อี ทิ ธพิ ลเหนอื จิตใจของมนษุ ยท กุ คน ซงึ ทําหนาที่ในการแนะนาํ ประโยชน เปน เพ่ือนรว มทุกขรวมสุข เปนผคู มุ ครองเพอื่ นและเปนมติ รผใู หความอุปการะเพื่อนในยามลําบาก
๑๔๓ - ทิศเบื้องลาง หมายถึง ทาสกรรมกร เปนผูทําหนาที่ในการรับใชเจานาย เช่ือฟงและปฏิบัติหนา ทขี่ องตนตามท่เี จานายส่งั ไมขดั ใจเจา นาย เปน ตน - ทิศเบ้ืองบน หมายถึง สมณะ ชีพราหมณ เปนผูทําหนาท่ีในการศึกษาหาความรูและนําไปปฏิบัติจนกระท้ังไดผลและนําไปสั่งสอนอบรมใหแกชาวบานทราบและนําไปปฏิบัติจนกระท้ังไดผลตามมาเชนเดียวกับตน สมณะ ชีพราหมณ เปนผูปฏิบัติตนใหเหนือกวาบุคคลท่ัวไป จึงจะไดรับการยกยอ งใหอ ยูทิศเบื้องบน ดังกลา ว ๑.๓ การดําเนินชีวติ ในสงั คมใหมีความสขุ ตามหลกั ทศิ ๖ การนาํ พุทธจริยศาสตรท ่ีวา ดว ยทิศทง้ั ๖ ไปปรบั ใชใ นชีวติ ประจําวนั เพอื่ สรา งความสงบสุขใหแกตนเอง ผูอนื่ และสังคมรวมกนั จงึ จําเปนจะตอ งนําหลกั พทุ ธจรยิ ศาสตรไปปรับใชใ นชวี ิตประจาํ วัน ซึง่ เปนการทาํ หนา ทที่ ง้ั ๖ ทศิ ของบุคคลผูหนง่ึ ดงั น้ี ๑) ทิศเบื้องหนา คือ มารดา บิดา เปนทิศที่มีความสําคัญตอบุตรหรือธิดาเปนอยางมาก จึงมีความจําเปนท่ีจะตองทําหนาท่ีของมารดา บิดา ใหดีที่สุดเพ่ือเปนการปลุกฝงจิตสํานึกใหแกบุตร ธิดาเพราะในวันขางหนาบุตร ธิดาจะตองไดทําหนาท่ีของความเปนมารดา บิดาตอไป ซ่ึงเปนการแกปญหาการปลูกฝงจิตสํานึกในหนาที่ของบุคคลท่ีอยูในสถาบันครอบครัวและเปนการพัฒนาบุคลากรเพ่ือออกสสู ังคมตอ ไป ๒) ทิศเบื้องขาว คือ ครูอาจารย ซ่ึงเปนการทําหนาที่ในการอบรมสั่งสอนใหเปนคนดีของสังคม เพราะทุกคน คอื ครทู ีน่ าํ เอาหลักธรรมมาอบรมสั่งสอนตนเองใหเปน คนดีเสยี กอ น จึงจะสามารถสั่งสอนคนอนื่ ได ดงั น้ันบคุ คลที่จะถอื วาเปน ครูอาจารยไดจ ะตอ งทําหนา ท่ีส่งั สอนตนเองใหไ ดเ สียกอ นจึงสอนผูอ่ืนปฏิบัตติ ามไดและการสอนผอู ื่นอยางไรตนจะตองปฏบิ ตั ิอยางนั้น ดังกลาว ๓) ทิศเบ้ืองหลัง คือ ภรรยา เปนผูมีหนาท่ีสําคัญเปนอยางย่ิง เพราะเปนแรงสนับสนุนที่คอยเคล่ือนในการดําเนินชีวิตของบุคคลในสถาบันครอบครัวหรือวงการอื่นก็ตามถาขาดเบื้องหลังไปจะทําใหวงการนั้นไปไมรอด เพราะฉะนั้น การทําหนาที่อยูเบ้ืองหลังจึงมีความสําคัญในการทําหนาท่ีและมีความลําบาก ซ่ึงเปนการแสดงใหเห็นวา ผูทําหนาที่อยูเบ้ืองหรือภรรยาเหลานี้จะมีความประสงคอยากจะออกไปทํางานนอกบานมากข้ึน ดังน้ัน ผูท่ีจะทําหนาท่ีอยูเบ้ืองหลังนั้นจะตองมีความอดทนเปน หลักสาํ คัญ ๔) ทศิ เบอื้ งซา ย คอื มติ รสหาย เปน ทศิ ทมี่ คี วามสําคญั ในการดําเนนิ ชวี ติ ของบุคคลเปน อยา งมาก เพราะเปนผทู าํ หนาทใี่ นการเสียสละประโยชนเพอื่ สวนรวมเปน สาํ คัญ เพ่อื นทกุ ขผเู ปนเพ่อื นก็ทุกขไ ปดว ย
๑๔๔ ๕) ทิศเบื้องต่ํา คือ ทาสกรรมกร ซ่ึงเปนการทําหนาที่ในการปฏิบัติตามคําสั่งของเจานายส่ังมา ไมขัดขืน ไมมีความระแวงสงสัยในคําสั่งของเจานาย ซึ่งเปนการทําหนาท่ีที่ดีของทาสกรรมกรดังกลา ว ๖) ทิศเบื้องบน คือ สมณะชีพราหมณ พระภิกษุสงฆ ซึ่งเปนการทําหนาที่ในการศึกษาเลาเรียนตามหลักธรรมคําสอนและนําไปปฏิบัติจนกระท้ังสําเร็จ จึงนําไปสั่งสอนใหผูอื่นปฏิบัติตามจนกระท้ังสําเร็จเชนเดียวกับตนและทิศเบ้ืองบนจะตองประพฤติปฏิบัติตนใหมีจิตใจท่ีสูงสงเพื่อยกระดับฐานะของตนสงู ข้นึ ไปอยใู นทศิ เบื้องบนไดดงั กลาว ดังน้ัน การดําเนินชีวิตอยูในสังคมอยางมีความสุขตามแนวพุทธจริยศาสตร ศึกษากรณีทิศ ๖จึงสรุปไดวา เปนการดําเนินชีวิตของบุคคลผูหน่ึงที่มีสวนเก่ียวของกับบุคคลถึง ๖ สถานะ คือ มารดาบิดาครูอาจารย บุตรภรรยา มิตรสหาย ทาสกรรมกรและสมณะชีพราหมณและบุคคลหน่ึงจะตองทําหนาที่ถึง ๖ สถานะเชนกัน คือ การอยูในฐานะเปนบิดา จะตองทําหนาท่ีเปนบิดาท่ีตอบุตร มีฐานะเปนครูอาจารย จะตองทําหนา ทสี่ ั่งสอนศิษย ดังนี้เปน ตน องคค วามรูใหม ในการศกึ ษาถงึ วธิ กี ารดําเนินชวี ิตตามพุทธจริยศาสตรที่เก่ียวกับทิศท้ัง ๖ นั้นเปนเร่ืองที่ใกลตัวจึงทําใหขาดความสนใจในการนําไปประพฤติปฏิบัติ ทําใหบุคคลในปจจุบันขาดความเอ้ือเฟอเผื่อแผแกผูอ่ืนตามหนาที่ของตน เปนการขาดความรับผิดในหนาที่ของตนเองหรือเปนการปฏิบัติหนาที่ของตนเองไมส มบูรณแ ละบุคคลสว นมากมกั จะเปน ผูชอบการเรียกรองเอาแตสิทธิของตนฝายเดียว เม่ือตางฝา ยตางเรียกรอ งแตส ทิ ธิแลวจงึ ทําใหเ กดิ ปญหา๒. ขอ เสนอแนะ ๒.๑ ขอ เสนอแนะเชิงนโยบาย ๑) บุคคลทกุ คนในสังคมควรปฏิบัติตามหนาท่ีของตนเองใหสมบูรณยึดหลักพุทธจริยศาสตรเปนแนวทางในการดําเนินชีวิตอยางถูกตองและเหมาะสมเพ่ือใหเกิดความสุขในการดําเนินชีวิตในระดบั ปจเจกชนตลอดท้งั ในระดบั สงั คมและเพ่ือเปน การยกระดบั คุณภาพในการดาํ เนินชีวิตใหส งู ขน้ึ ๒) หวั หนา ครอบครัวซ่งึ เปน ผนู าํ ควรประพฤตปิ ฏิบัติใหถูกตองตามหลกั พุทธจรยิ ศาสตรเพอื่ ใหเปน ตวั อยา งของบตุ รหรอื เปนการปลูกฝง จติ สํานกึ ระดบั ขั้นพน้ื ฐาน ๓) กระทรวงศกึ ษาธิการควรนาํ หลกั พุทธจรยิ ศาสตรไปทําเปนหลักการเรียนการสอนเพื่อใหนักเรยี นนกั ศกึ ษาไดรบั รูและสามรถนําไปปฏบิ ตั ิได
๑๔๕ ๔) ครูอาจารยควรปลูกฝงใหนักเรียนนักศึกษาไดตระหนักและเห็นความสําคัญของการดําเนินชีวิตอยางมีความสุขตามแบบอยางของชาวพุทธโดยนําหลักธรรมเปนเคร่ืองยึดเหน่ียวจิตใจโดยเฉพาะหลกั จรยิ ศาสตรสงั คมทิศ ๖ ๕) กระทรวงพัฒนาสังคมเพ่ือความม่ันคงของมนุษยควรนําหลักพุทธจริยศาสตร ไปปรับใช เพ่ือการพัฒนาบุคคลกรและสังคมตอไป เมื่อเปนเชนนี้ผูศึกษาวิจัยจึงมีขอเสนอแนะในการทําวิจัยคร้ังตอไปเพื่อใหผูสนใจนําหัวขอน้ีไปศกึ ษาคนควา เพือ่ ใหเ กดิ ความรใู หมตอไปดงั นี้ ๒.๒ ขอเสนอแนะเพอ่ื การทําวจิ ยั การทําวิจัยในเรื่องพุทธจริยศาสตรเปนเรื่องท่ีมีความกวาขวางมากและสังคมปจจุบันมีการพัฒนาจนกระท่ังมีการละเลยในการหลักการดําเนินชีวิตตามแนวพุทธจริยศาสตรเพ่ือใหเกิดความสุขเพราะฉะน้ันการทําวิจัยตอไปควรจะทําในเรื่องตอไปน้ีเพื่อใหผูสนใจไดศึกษาถึงแนวทางการพัฒนาบคุ คลและความม่นั คงของสงั คม คอื ๑) ศกึ ษาพทุ ธจรยิ ศาสตรก บั สทิ ธิมนุษยชน ๒) สวัสดกิ ารสังคมตามแนวพุทธจรยิ ศาสตร ๓) ศกึ ษาเปรียบเทยี บหลักพทุ ธจริยศาสตรกับหลกั จรยิ ศาสตรของคริสตศาสนา
ภาคผนวก(การขาดหลกั การดาํ เนนิ ชีวติ ในพทุ ธจรยิ ศาสตรท ศิ ๖ )
๑๕๑ การขาดหลกั การดาํ เนนิ ชวี ิตในพุทธจริยศาสตรท ศิ ๖๑. การขาดหลักหลักพทุ ธจริยศาสตรท ิศ ๖ ในการดําเนนิ ชีวิตตามหลกั ปุรัตถิ มิ ทิศ ไดแ กบดิ ามารดา ๑. กรณีนายเชิญ บุญเกิด อายุ ๔๕ ป เปนสามีของนางมณฑา แสงดีอยูบานเลขที่ ๒๑๙ตําบลตลาด เทศบาลเมืองสุราษฎรธานี ซึ่งนางมณฑาไดแยกทางกันอยูเพราะสามีไมทํางาน เอาแตไถเงินไปด่ืมเหลา พอเมาก็อาละวาดทํารายเมียกับลูก กลับมาขอคืนดีแตนางมณฑา แสงดี ไมยอมนายเชิญ บญุ เกดิ จึงเกดิ ความแคน อาศัยชว งทนี่ างมณฑาไมอ ยจู ึงปดประตบู านขังบุตรชายสองคนแลวทําการเผาท้ังเปน เหตุเกิดเม่ือวันท่ี ๒๐ กุมภาพันธ ๒๕๔๘ จากหนังส่ือพิมพไทยรัฐ ฉบับวันท่ี ๒๓กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๔๘ น้ีเปนตัวอยางของผูเปนพอท่ีไมดีขาดความรับผิดชอบไมทําการเลี้ยงดูบุตรและภรรยาของตนเองใหดีแลวยังทํารายใหถึงแกชีวิต อีกตัวอยางหน่ึงไดแก นายธีระบูลยและนางอําพร วิรัฐโท พอแมจับลูกสาว ๓ คน อายุ ๓-๕ ขวบ กรอกยาพิษตายคาหองพักใหเชาริมชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี แลวพอแมกระโดดตึกตายตาม เพ่ือหนีหนี้การพนันจากบอนเขมร เหตุเกิดเมื่อ วันที่ ๖เดอื น เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ จากหนงั สือพมิ พไ ทยรัฐ ฉบบั วนั ท่ี ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ๒. ทบ่ี านเลขที่ ๘๗ หมู ๘ ต.ขุมเงนิ อ.เมืองยโสธร ลกู ชายทรพกี นิ เหลาต้ังแตเชายันดึกจนเมาเดินข้ึนบานเห็นแมนอนอยูคนเดียวในหองเกิดคึกไปปลํ้าหมายขมขืน แตโดนตบกระเด็นเกิดโมโห ความีดอีโตจะฟนแตพลาด เลยทุบหนาแมจนนวมกอนหลบหนีสุดทายตํารวจก็จับได เหตุเกิดเม่ือวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๔๘ จากหนังสือพิมพไทยรัฐ ฉบับวันท่ี ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ อีกตัวอยางหนึ่ง ที่บานเลขที่ ๒๒๖/๓ หมู ๙ ต.ทาขุนราม จ.กําแพงเพชร ลูกทรพีติดกาวงอมใชมีดสับคอพออยางสยอง ชาวบานชวยกันไลจับสงตํารวจดําเนินคดี เหตุเกิดเม่ือวันท่ี ๑๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๘ จากหนงั สือพมิ พไ ทยรัฐ ฉบับวนั ท่ี ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘๒. การขาดหลกั หลักพทุ ธจรยิ ศาสตรทศิ ๖ ในการดาํ เนินชวี ิตตามหลักทกั ขณิ ทิศ ไดแกครูอาจารย ๑. เชน ตัวอยางเรื่องเกิดท่ี บานเด็กแสงตะวัน เลขท่ี ๗๑๙ หมูที่ ๑๑ บานศรีบุญเรือง ตําบลบานตาด อําเภอเมืองอุดรธานี พนักงานอัยการเปนโจทยยื่นฟองนายวราลงกรณ เจนหัตย หรือครูหนอ ง อดีตเลขามูลนิธิเพ่ือชวี ติ เด็ก ทาํ หนาทดี่ ูแลเด็กเรรอน “บานเด็กแสงตะวัน” ในความผิดกระทําอนาจารเด็กอายุไมเกิน ๑๕ ป โดยใชกําลังประทุษรายและกระทําตอศิษยท่ีอยูในความดูแล จากหนงั สอื พมิ พไ ทยรัฐ ฉบับวนั ท่ี ๖ สิงหาคม ๒๕๔๘ เปนตนนอกจากนั้นยงั มปี ญ หาตางๆ ๒. เร่ืองเกิดท่ีจังหวัดยะลานายมะสะกรี ฮารี ผูจัดการ ร.ร. พัฒนาอิสลามวิทยา ตําบลทาใหม อําเภอเมือง จังหวัดยะลา และนายสาและ เด็ง ครูสอนศาสนา หรืออุสตาซ ร.ร.ธรรมวิทยามูลนิธิ แกนนําในการบิดเบือนคําสอนศาสนาอิสลามใหกอความไมสงบเพื่อแบงแยกดินแดน หรือ
๑๕๒แบงแยกราชอาณาจักรยึดอํานาจปกครองสวนใดสวนหนึ่งอันเปนความผิดฐานกบฏ ทาง ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต จากหนังสือพิมพไทยรัฐ ฉบับวันท่ี ๑๒ มกราคม ๒๕๔๘ เนื่องจากครูเปรียบเสมือนแมพิมพที่จะผลิตนักเรียนนักศึกษาท่ีดีมีคุณธรรมออกมาสูสังคมแตหากครูท่ีเปรยี บเสมือนแมพมิ พท ี่ดีนั้นกลบั ทาํ ตัวไมดกี ระทาํ ความผดิ เสียเองก็คงนา เปน หวงอนาคตของชาติ๓. การขาดหลกั หลกั พุทธจรยิ ศาสตรทศิ ๖ ในการดําเนนิ ชีวติ ตามหลกั ปจ ฉิมทิศ ไดแ กภ รรยา ๑. เร่ืองเกิดท่ี บา นเลขท่ี ๑๗๑ หมูที่ ๑๑ ต.หนองหวา อ.เขาฉกรรจ จ.สระแกว นักรองลูกทุงช่ือดัง สายัณห นิรันดร ดื่มเหลาเมาแลวซอมนางกาญจนา ถนอมทรัพย ภรรยาของนักรองชื่อดัง ซึ่งพอเมามามกั จะซอมภรรยาเปน ประจาํ จากหนงั สือพมิ พไทยรฐั ฉบบั วนั ที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ๒. เร่ืองเกิดที่ หนา หจก. วรรณกิจมาเก็ตต้ิง เลขที่ ๖๐๗/๑๓๑-๑๓๒ ซอยประดู ๔๕ ถนนเจริญราษฏร แขวงบางโคล เขตบางคอแหลม กทม. นายทองบาง นนทพจน ไดใชมีดแทงนางฉวีวรรณ บุญจริง ถึงกับเสียชีวิตเน่ืองจากแคนที่มางอขอคืนดีแตนางฉวีวรรณไมยอม จากหนงั สอื พิมพไทยรัฐ ฉบับวนั ท่ี ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ อกี ตัวอยางหน่ึงเร่ืองเกิดที่ ๒หมู ๒๐ ต.พุคําจาน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี นายอนุชัย นอยไทย ถูกนางสมนึก นอยไทย ฟองหยา เพราะมีปญหาทางครอบครัว นายอนุชัยเกิดความเคียดแคนจึงใชปนลูกซองยิงพอตาแมยายพรอมดวยลูกสาวและลูกชายเสียชีวิต สวนภรรยาบาดเจ็บสาหัส จากหนังสือพิมพไทยรัฐ ฉบับวันท่ี ๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๘๔. การขาดหลักหลกั พุทธจริยศาสตรท ศิ ๖ ในการดําเนนิ ชวี ิตตามหลกั อุตตรทศิ ไดแ กมติ รสหาย ตัวอยางเกิดท่ี จ.พระนครศรีอยุธยามีเด็กหญิงอายุ ๑๔ ป นักเรียนทุนที่จังหวัดดังกลาวถูกเพ่ือนสาวหลอกไปใหลูกชายผูมีอิทธิพลขมขืน จากหนังสือพิมพไทยรัฐ ฉบับวันท่ี ๘ มีนาคม๒๕๔๘ อีกตัวอยางเร่อื งเกดิ ที่รานอาหารเสริมงามเรือนแพ เลขท่ี ๑๔๖/๑ หมู ๖ บานดอน ต.ทุงงามอ.เสริมงาม จ. ลําปาง พ.ต.ท. สุถพัฒน คําใหม ถูกดาบตํารวจ อภินันท บุญยืนลูกพี่ลูกนองกัน ย่ิงเสียชีวติ ดวยเร่ืองทะเลาะววิ าท จากหนงั สอื พมิ พไทยรฐั ฉบบั วันที่ ๖ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๔๘ เปน ตน๕. การขาดหลักหลักพุทธจริยศาสตรทิศ ๖ ในการดําเนินชีวิตตามหลักเหฏฐิมทิศไดแกทาสกรรมกร,ผูอยูใตบงั คบั บญั ชา การจัดต้ังสถานที่เริงรมย บาร ไนตคลับ ดิสโกเทค หองอาหารท่ีมีหญิงบริการทางเพศ การจําหนายหนังสือและวีดีโอ ท่ีเกี่ยวกับกามารมณ แหลงโสเภณี ซึ่งเปนปญหาของการแพรเช้ือเอดสกามโรค ฯลฯ สิ่งท่ีกลาวมาน้ีเปนส่ิงท่ียั่วยุเยาวชนและบุคคลทั่วไป มีการมัวเมาและมั่วสุมอบายมุขเชน ตวั อยางเกิดที่ รา นอาหารรสเลศิ เลขท่ี ๙๙ ถนนเจริญรฐั ตําบลกุดปอ ง อ.เมอื ง จ.เลย นางประไพร
๑๕๓พนมเริงศักดิ์ หรือ เจทู ถูกคนงานชาวลาวเชือดคอเปนแผลเวอะหวะจนหลอดลมขาดเพ่ือชิงทรัพยจากหนังสอื พิมพไทยรฐั ฉบับวันท่ี ๒๖ เมษายน ๒๕๔๘๖. การขาดหลักหลักพุทธจรยิ ศาสตรทิศ ๖ ในการดําเนินชีวิตตามหลักอุปริมทิศไดแกสมณพรามหณ,พระภกิ ษุสามเณรผูมีศีล ตวั อยางทเี่ กิดที่วดั โนนศิลา ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหาร พระมณี จันทสาโร ไดขมขืนแมเฒาวัย ๗๐ ป แมเฒาจึงแจงจับพระมณี จันทสาโร ขาวจากหนังสือพิมพไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๑๗ มกราคม๒๕๔๘ อีกตัวอยางหนึ่ง เกิดที่ถนนสายบุรีรัมย-สตึก มีพระวิเชียร วชิโร เจาอาวาสวัดสวางอารมณและเจาคณะตําบลอิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย ควงสีกาสาวน่ังด่ืมเบียรกันสองยามวิกาลท่ีรานคาริมถนนจากหนงั สือพมิ พไทยรฐั ฉบบั วันท่ี ๑๑ มกราคม ๒๕๔๘
บรรณานกุ รม๑. พระไตรปฎกมหามกุฏราชวิทยาลัย, พระไตรปฏกฉบับภาษาไทย. เลมที่ ๓-๕,๙-๑๑,๒๓, ๒๕. กรุงเทพฯ : โรงพิมพม หามกฏุ ราชวิทยาลยั , ๒๕๓๙.__________. พระไตรปฏ กและอรรถกถาแปล. เลม ท่ี ๑, กรุงเทพฯ : โรงพิมพมหามกุฏราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๖.๒. หนงั สอืการศาสนา, กรม. กระทรวงศึกษาธกิ าร, คูม ือการศึกษาธรรมศกึ ษาชั้นตรี. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พการ ศาสนา, ๒๕๔๑.กีรติ บุญเจือ. ผศ. ชุดพื้นฐานปรัชญาจริยศาสตร. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๑๙.เกษม ตนั ตผิ ลาชีวะ. อาชญากรรมกบั ปญหาสงั คมไทย. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พจ รสั แสง, ๒๕๓๔.คูณ โทขันธ. รศ. พุทธศาสนากับชีวิตประจําวัน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพโอ.เอส.พร้ินติ้ง เฮาส, ๒๕๓๗.ชะลอ อุทกภาชน. พุทธศาสนากับสังคมศาสตรคําตรัสจาก พระโอษฐของพระพุทธเจาเก่ียวกับ สิทธิและหนาที่ของผูที่มีหนาที่ทางมนุษยสัมพันธ. กรุงเทพฯ : วัชรินทรการพิมพ, ๒๕๑๔.ชัยวัฒน อัตพัฒน, รศ. จริยศาสตร. ภาควิชาปรัชญา คณะมนุษยศาสตรมหาวิทยาลัยรามคําแหง. พมิ พคร้งั ที่ ๘, สํานักพมิ พม หาวทิ ยาลัยรามคาํ แหง, ๒๕๔๓.เดือน คําดี, ดร., พทุ ธปรัชญา. กรุงเทพฯ : โอ.เอส.พรน้ิ ต้งิ เฮา สการพมิ พ, ๒๕๓๔.ทองหลอ วงษธรรมา, ดร. ปรัชญาอินเดยี . กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พโ อ. เอส. พรนิ้ ต้ิงเฮา ส, ๒๕๓๕.ประยงค สวุ รรณบุบผา. เรืออากาศเอก. พระพทุ ธศาสนากับชาวไทย. กรงุ เทพฯ :โรงพมิ พเ จริญ ธรรม, ๒๕๐๖.ปญญา สละทองตรง. ธรรมคด.ี กรงุ เทพฯ : โรงพิมพก ารศาสนา, ๒๕๔๐.พันเอกปน มุทุกันต. แนวสอนธรรมะตามหลักสูตรนักธรรมชั้นตรี. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพอมร การพิมพ, ๒๕๑๔.
๑๔๗___________. แนวสอนธรรมะตามหลกั สตู รนักธรรมชน้ั ตร.ี พิมพครงั้ ที่ ๒, กรงุ เทพฯ : กมลการ พิมพ, ๒๕๒๗.พลโทพระยาอภัยสงคราม. แนวสอนวชิ าจรยิ ธรรมในโรงเรียนนายรอยพระจุลจอมเกลา. กรุงเทพฯ :โรงพิมพสวนทอ งที่ กรมมหาดไทย, ๒๕๐๔.พทุ ธทาสภิกข.ุ เยาวชนกับศลี ธรรม. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พก ารพมิ พพระนคร, ๒๕๒๓.___________.เตือนใจวัยรุน และ ๕ ดีสคู วามเปนมนษุ ยท ส่ี มบูรณ. กรุงเทพฯ : สํานกั พมิ พธ รรมสภา, ๒๕๓๖.___________. อุดมคตแิ กป ญ หาไดทุกชนดิ . พิมพครงั้ ที่ ๒, กรุงเทพฯ : โรงพิมพคุรุสภาลาดพราว, ๒๕๒๘.พระพรหมวชริ ญาณ, คูมอื ครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น, (กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ งคก ารรับสง สิน คาและพสั ดุภัณฑ, ๒๕๔๘.พระธรรมกติ ติวงศแ ละคณะ. คลงั ธรรมเลม ๑. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พเ ล่ยี งเชยี ง, ๒๕๔๖.พระธรรมปฎ ก. (ป.อ. ปยตุ โต). พจนานุกรมพุทธศาสตรฉ บับประมวลธรรม. พมิ พคร้งั ที่ ๙, กรงุ เทพฯ :โรงพิมพมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๓.___________. พจนานกุ รมพทุ ธศาสตรฉบับประมวลศัพท. กรุงเทพฯ :โรงพิมพอมั รนิ ทรก ารพมิ พ, ๒๕๔๓.___________.พุทธธรรมฉบับปรับปรงุ และขยายความ. พิมพค รัง้ ท่ี ๙, กรงุ เทพฯ :โรงพมิ พมหาจฬุ า ลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๓.พระเทพเวที. (ประยทุ ธ ปยตุ โต). สถานการณพทุ ธศาสนาพลกิ หายนะเปน พัฒนา. กรงุ เทพฯ : โรง พมิ พการ ศาสนา, ๒๕๓๖.__________. ธรรมคดี. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พการศาสนา, ๒๕๔๐.พระสมชาย ฐานวุฑโฒ. มงคลชวี ติ ฉบับธรรมทายาท. กรุงเทพฯ : ฐานการพิมพจํากดั , ๒๕๔๒.พัทยา สายหู. กลไกของสังคม. พิมพคร้ังท่ี ๗, กรุงเทพฯ : โรงพิมพมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๖.พิทูร มลวิ ลั ย. แบบเรียนวชิ าธรรมสําหรับนักธรรม และธรรมศึกษาชัน้ ตร.ี พมิ พค รั้งท่ี ๓, กรงุ เทพฯ : โรงพิมพการศาสนา, ๒๕๔๐.มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช. มนุษยกบั สังคม. พิมพค ร้งั ท่ี ๒, กรุงเทพฯ : สาํ นกั พิมพ, มหาวทิ ยา ลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช, ๒๕๓๙.มหาวิทยาลัยรามคําแหง, พุทธปรัชญาเบื้องตน. พิมพคร้ังที่ ๕, กรุงเทพฯ : สํานักพิมพมหาวิทยาลัย รามคําแหง, ๒๕๓๓.
๑๔๘ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑติ ยสถาน. พมิ พค รั้งท่ี ๖, กรุงเทพฯ : อักษรเจรญิ ทศั น การพมิ พ, ๒๕๒๕.วรรณศลิ ปอ ักษร. พุทธบชู า. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ ก. พลพมิ พ, ๒๕๔๒.วศนิ อินทสระ. จรยิ ศาสตร. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พเ จริญกิจ, ๒๕๒๙.___________. จรยิ ศาสตร. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พม หามกุฏราชวิทยาลยั , ๒๕๑๘.___________. พระสุตตนั ตปฏกองั คตุ ตรนิกาย. พมิ พค ร้ังที่ ๒, กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ, มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวิทยาลยั , ๒๕๓๓.___________. หลักคําสอนสาํ คญั ในพระพทุ ธศาสนา. พมิ พครั้งท่ี ๕, กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลยั มหาม กุฏราชวิทยาลยั , ๒๕๔๐.วจิ ิตร อาวกุล, รศ. เทคนคิ การสอน. กรงุ เทพฯ : โอเอส ปริ้นต้ิง, ๒๕๒๘.วัดราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม. คมู อื การศกึ ษาธรรมช้นั โท. พมิ พค รั้งท่ี ๖, กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พม หาม กฎุ ราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๘.___________. คมู อื การศึกษาธรรมชนั้ เอก. พมิ พคร้งั ท่ี ๕, กรุงเทพฯ : โรงพมิ พมหามกฎุ ราชวทิ ยา ลัย, ๒๕๔๗.ศรีราชอักษร, พระยา. ( มา กาญจนาคม ). อธิบายคิหิปฏิบัติ (ทิศวิภาค). พิมพครั้งที่ ๖, พระนคร : โรงพิมพมหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๐๙.สมภพ ชวี ริ ฐั พฒั น. จรยิ ธรรมกบั ชีวติ . พมิ พค รั้งที่ ๒, กรุงเทพฯ : โรงพิมพน านาสง่ิ พิมพ, ๒๕๓๙.สมบรู ณ บุญฤทธ์ิ. เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ๔๐๑ ๓๐๔ ปญ หาสังคม. กรงุ เทพฯ : สาํ นัก พมิ พสตู รไพศาล, ๒๕๓๗.สมภาร พรหมทา. พทุ ธศาสตรก บั ปญหาจริยศาสตร. พมิ พครง้ั ที่ ๑, กรงุ เทพฯ : สาํ นักพมิ พจฬุ าลง กรณราช วิทยาลัย, ๒๕๔๑.สมเด็จพระมหาวีรวงศ. (พมิ พ ธม.มธโร) มงคลยอดชีวติ . กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช วนพมิ พ, ๒๕๑๘.สุชีพ ปุญญานุภาพ. พระไตรปฏกฉบับสาํ หรบั ประชาชน. พิมพคร้งั ที่ ๑๑, กรุงเทพฯ :โรงพมิ พม หา มกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๓๒.แสง จนั ทรง าม. ประทีปธรรม. พมิ พค ร้งั ที่ ๓, กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พสรา งสรรคบ ุคส, ๒๕๔๔.___________. พระพทุ ธศาสนาจากพระโอษฐ. พมิ พค ร้ังที่ ๓, กรงุ เทพฯ : โรงพิมพสรางสรรค บคุ ส, ๒๕๔๔.ไสว มาลาทอง, คูมอื การศกึ ษาจรยิ ธรรมสําหรบั นักเรียน นสิ ิตนักศกึ ษา นักบริหาร นกั ปกครองและ ประชาชนผูสนใจท่ัวไป. พิมพครงั้ ที่ ๖, กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พการศาสนา, ๒๕๔๒
๑๔๙อารย สมาธยกุล, จริยธรรมกบั ชวี ิต. ภาควิชาปรัชญาและศาสนา คณะมนษุ ยศาสตรและสังคมศาสตร สถาบนั ราชภฎั มหาสารคาม, ๒๕๓๙.๓. วิทยานิพนธพระครูปลดั ประสิทธิ์ กนฺตสโี ล(ไชยเมอื ง). “การศกึ ษาเชิงวิเคราะหส ัจจะบารมใี นพทุ ธศาสนาเถร วาท”. วทิ ยานพิ นธศ าสนศาสตรมหาบณั ฑติ . บัณฑิตวทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลัย, ๒๕๔๘.พระมหาสิทธพิ ิพฒั น สิรปิ ฺโญ(รินทาง). “การศกึ ษาวเิ คราะหพ ทุ ธจริยาตอ อัญญเดียรถยี ในสมยั พทุ ธกาล”. วิทยานพิ นธศ าสนศาสตรมหาบณั ฑติ . บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหา มกฏุ ราชวิทยาลยั , ๒๕๔๘.พระเอกเพชร เสารทอย. “การพัฒนาแผนและส่ือการเรียนรู เร่อื งทิศ ๖ วิชาพระพทุ ธศาสนา ช้ันประ ถมศึกษาปท่ี ๖”. วิทยานิพนธปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๗.
ประวตั ผิ วู ิจยัช่ือ พระอดุ มศักด์ิ ปย วณฺโณ (จนั ทบุตร)วนั เดอื น ปเกิด ๔ กนั ยายน ๒๕๑๘ ณ อาํ เภอแกดํา จงั หวัดมหาสารคามทอ่ี ยูปจจบุ ัน วดั ปจ ฉมิ ทศั น ตําบลตลาด อาํ เภอเมอื งมหาสารคาม จังหวดั มหาสารคามการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๑ นกั ธรรมชนั้ เอก จากสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ ศาสนศาสตรบัณฑติ (ศน.บ.) จากมหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลยั วิทยาเขตรอยเอด็ พ.ศ. ๒๕๔๖ ผา นการอบรมโครงการจัดการเรยี นรูโดยพระสงฆใ นสถานศึกษา สาํ นักงาน การประถมศกึ ษาจังหวดั มหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๔๗ ผา นการอบรมโครงการอนุรักษอกั ษรธรรมอสี านกับการอนุรกั ษค ัมภีรใ บ ลานหนาทกี่ ารงาน พ.ศ. ๒๕๔๓-ปจจุบนั : เปน เจา อาวาสวัดหัวขวั ตําบลแกดาํ อําเภอแกดํา จงั หวดั มหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๔๔ เปน เลขานุการเจาคณะตําบลแกดํา อาํ เภอแกดาํ จงั หวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๔๖-ปจจุบนั : เปนเลขานกุ ารรองเจา คณะอาํ เภอแกดาํ จงั หวดั มหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๔๗-ปจ จบุ นั : เปน พระวทิ ยากรประจาํ จังหวดั มหาสารคาม อบรมงานปฏบิ ตั ธิ รรม ที่พระธาตนุ าดนู อําเภอนาดนู จังหวดั มหาสารคาม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164