Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

แผนการจัดการเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

Published by สิรินทิพย์ ความสุข, 2021-09-29 10:56:51

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

Search

Read the Text Version

14 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน ได้ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ได้ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

15 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ เรื่อง การเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบ้ืองต้น (4) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการประเมนิ ผ่าน ไมผ่ า่ น เลขที่ มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมัน่ ใน การทำงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชวี้ ัด ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงชื่อ ครูผ้สู อน (นางสาวสริ นิ ทิพย์ ความสุข)

1 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 13 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยด้วย Scratch เวลา 8 ช่ัวโมง เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบื้องต้น (5) เวลา 1 ช่ัวโมง รายวิชา วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด/ ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ขัน้ ตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ตวั ชวี้ ัด ป.4/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื ส่ือ และตรวจหา ขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไข 2. สาระสำคัญ โปรแกรม scratch สามารถนำมาใช้พฒั นาซอฟตแ์ วรเ์ ชิงสรา้ งสรรค์ เชน่ การสรา้ งนิทาน การสรา้ ง เกม เป็นต้น การเขยี นโปรแกรมเป็นการสรา้ งลำดับของคำส่งั ใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธต์ าม ความตอ้ งการ หากมขี ้อผดิ พลาดใหต้ รวจสอบการทำงานทลี ะขั้นตอน เม่ือพบโจทย์ท่ีทำใหผ้ ลลพั ธไ์ ม่ ถูกต้อง ใหท้ ำการแกไ้ ขจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ตวั อยา่ งโปรแกรมทม่ี ีเรื่องราว เช่น นทิ านทม่ี กี ารตอบโตก้ บั ผู้ใชก้ ารต์ ูนสัน้ เลา่ กิจวัตรประจาํ วัน ภาพเคลื่อนไหวการฝึกตรวจสอบข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผู้อ่ืน จะชว่ ยพฒั นาทักษะหาสาเหตุของ ปัญหาได้ดีย่งิ ขนึ้ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ 1. นักเรยี นสามารถบอกองคป์ ระกอบต่างๆของโปรแกรม scratch ได้ 2. นักเรยี นสามารถอธิบายลำดบั ขน้ั ตอนการเขยี นโปรแกรม scratch ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ดา้ นทักษะกระบวนการ 1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามข้ันตอนการเขยี นโปรแกรม scratch เบ้ืองตน้ ได้ 2. นักเรยี นสามารถออกแบบโปรแกรม scratch ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไขได้ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่งั ในการทำงาน

2 สมรรถนะท่สี ำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. สาระการเรยี นรู้ - โปรแกรม Scratch 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ (5 นาที) 1. ครูทบทวนความรเู้ ดิมโดยถามคำถามกระตุ้นนกั เรียนคิดวา่ โปรแกรม scratch สามารถทำให้ตวั ละคร พูดมีเสียงตอบโตก้ ันไดห้ รือไม่ 2. ครสู นทนาเพื่อนำเขา้ สู่เนอ้ื หาและพูดถงึ โปรเจกต์ท่ที ำช่ัวโมงที่แลว้ ขน้ั สอน (40 นาที) 1. ครูให้นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 3-4 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ฝึกแก้ปญั หาในโปรแกรมโดยใชค้ วามรู้ทีเ่ รียนมา ก่อนหน้าน้ี 2. ครสู นทนากับนักเรียนเรื่องการฝึกแก้ปัญหาหรือแกบ้ ๊ัก(Bug) ในโปรแกรม (Debugging) ว่าการฝึก แก้ปัญหาในโปรแกรม ทำให้เราเขียนโปรแกรมไดเ้ ก่งขึ้น 3. ครใู ห้แต่ละกลมุ่ เปิดเว็บไซต์ไปยัง URL ( https://scratch.mit.edu/projects/282421428/editor/ )แล้วอา่ นโจทย์ วา่ ตอ้ งการตรวจสอบ และแก้ไขข้อผิดพลาดอย่างไร จากนน้ั ให้คลิกปุ่ม

3 4. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานท่ี 2.7 เร่ือง บ๊กั (Bug) เปน็ การแกโ้ จทยป์ ญั หา (โจทยป์ ัญหามาจากหนังสือ Scratch in Action Animation) กำหนดเวลาให้ 20 นาที ขั้นสรปุ (10 นาที) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอวธิ กี ารแกป้ ัญหาของกลุ่มตนเองหน้าช้นั เรยี นทีละกลุ่ม 2. ครตู รวจใบงานที่ 2.7 เร่อื ง บั๊ก (Bug) และเดนิ ดูชิ้นงานของแตล่ ะกลุ่ม 6. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.4 2. ใบงานท่ี 2.7 เร่ือง บั๊ก (Bug) 3. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ 7. การวัดผลและประเมินผล 7.1 การวดั ผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื ด้านความรู้ 1.ใบงาน โดยการตรวจคะแนนทไี่ ดจ้ ากการ -ใบงาน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ทำใบงาน ดา้ นคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ วัดโดยการประเมนิ ทักษะกระบวนการใน แบบประเมินด้านทักษะ สมรรถนะทสี่ ำคญั ประเด็นเกยี่ วกับ การนำเสนอชิ้นงานหนา้ กระบวนการ ของผเู้ รยี น ช้ันเรียน วดั โดยสงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพง่ึ ประสงค์ของ แบบประเมนิ ดา้ น ผเู้ รียนใน 3 ดา้ น คณุ ลกั ษณะ 1.มวี ินยั อนั พงึ ประสงค์ 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มุ่งมง่ั ในการทำงาน วัดโดยการสังเกตความสามารถของผู้เรยี น แบบประเมินสมรรถนะ ใน 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ ของผเู้ รยี น 1.ความสามารถในการส่อื สาร 2.ความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการแกป้ ญั หา

4 7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1) ดา้ นความรู้ 1.ใบงาน 10 คะแนน (เกณฑ์ผ่านร้อยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑ์ผ่าน ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมิน 2) ด้านทกั ษะกระบวนการ 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 5-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ ได้ระดบั 4 ข้ึนไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 3) ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ไดร้ ะดับ 2 ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ไดร้ ะดบั 2 ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 8. กจิ กรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ท่จี ะช่วยพฒั นากระบวนการเรียนรขู้ องผู้เรียน) ……………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………..………………………………………………………………………………… ………………………………………………………..…………..…………………………………… 9. ขอ้ เสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงชือ่ ………..…………………….………………….…….. (นายนพดล วังซา้ ย) ครพู ่เี ลย้ี ง วนั ที่ 1 เดอื น มิถุนายน พ.ศ. 2564

5 10. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ ผลท่เี กดิ ข้ึนแก่ผู้เรยี น ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผา่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนกั เรยี นที่ผา่ นเกณฑ์......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรยี นท่ีมาผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นร้อยละ....................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รียน จำนวนนักเรียนทผี่ ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นทม่ี าผา่ นเกณฑ์..................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... 11. ปัญหาและอุปสรรค 1.แผนการจัดการเรียนร้นู ้ี ไมไ่ ด้ใช้สอนในภาคเรียนท่ี 1 เนื่องจากสถานการณ์โควิด – 19 แล้ว แผนการจัดการเรียนรู้น้ีจะต้องมีการลงมือปฏิบัติ จึงไม่สามารถนำไปใช้สอนได้ 12. แนวทางการแกป้ ญั หา 1.แผนการจัดการเรียนร้นู ้ี นำไปใช้สอนในภาคเรยี นท่ี 2 แทน (ลงช่อื ) สิรนิ ทิพย์ ความสุข (นางสาวสริ นิ ทพิ ย์ ความสขุ ) ผสู้ อน

6 แบบบนั ทกึ การประเมินดา้ นความรู้ เร่ือง การเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบ้ืองตน้ (5) เลขที่ ใบงาน รอ้ ยละ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผา่ น (10 คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ 1. คะแนนจากใบงานเกณฑ์ผ่านร้อยละ 80 ลงชอ่ื ครผู ู้สอน (นางสาวสริ นิ ทิพย์ ความสุข)

7 แบบบันทกึ การประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ เรื่อง การเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบ้ืองตน้ (5) การนำเสนอช้นิ งานหนา้ ช้ันเรียน 1. แต่งกายสุภาพ เรยี บร้อยเหมาะสม 2. มกี ารออกแบบชิ้นงานที่สวยงาม มีความคดิ สร้างสรรค์ 3. มเี นื้อหาครบถ้วนสมบรู ณ์ เขา้ ใจง่าย 4. มีความเชือ่ ม่นั ในตนเอง กลา้ แสดงออก 5. ตอบคำถามได้ชัดเจน ถกู ต้อง เกณฑ์การประเมนิ คณุ ภาพดา้ นทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบื้องตน้ (5) ดา้ นทกั ษะ ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 5 (ดเี ยี่ยม) 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) การนำเสนอ การ การ การนำเสนอ การนำเสนอ การนำเสนอ ชนิ้ งานหน้า นำเสนอ นำเสนอ ชิ้นงานหนา้ ชน้ิ งานหนา้ ช้นิ งานหนา้ ช้นั เรียน ชิน้ งาน ชน้ิ งานหน้า ชัน้ เรียนได้ ชนั้ เรยี นได้ ชั้นเรยี นได้ หน้าช้นั ชนั้ เรียนได้ 3 ข้อ 2 ข้อ 1 ข้อ เรียนได้ 4 ข้อ ครบทกุ ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวชวี้ ัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ

8 แบบประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบื้องต้น (5) เลขท่ี ทกั ษะกระบวนการ ผลการประเมนิ การนำเสนอชน้ิ งานหนา้ ชั้นเรียน ผา่ น ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไปทุกตัวชีว้ ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงช่ือ ครผู สู้ อน (นางสาวสิรินทพิ ย์ ความสุข)

9 แบบประเมินด้านสมรรถนะผเู้ รยี น เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบ้ืองต้น (5) ความสามารถในการคดิ 1. มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ 2. มที กั ษะในการคิดออกแบบอย่างสรา้ งสรรค์ 3. มคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งมรี ะบบ 4. ตัดสินใจแกป้ ญั หาเกย่ี วกบั ตนเองได้ ความสามารถในการส่ือสาร 1. ใช้ความคิดในการส่อื สาร 2. ใช้ความรู้ในการสื่อสาร 3. มคี วามเขา้ ใจในเน้ือหา 4. สามารถถ่ายทอดออกมาได้ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ทเี่ ผชิญได้ 2. ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ัญหา 3. ประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นแก้ไขปัญหา 4. สามารถตัดสินใจได้เหมาะสม ดา้ นสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ ผู้เรียน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ การคดิ การคดิ ครบทุกขอ้ ในการคิด 3 ข้อ ในการคิด 2 ข้อ ในการคิด 1 ขอ้ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การส่ือสาร การส่ือสาร การส่ือสาร 3 ข้อ การส่ือสาร 2 ขอ้ การสือ่ สาร 1 ข้อ ครบทุกขอ้ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การแกป้ ญั หา การแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา3 ข้อ การแก้ปัญหา2 ข้อ การแก้ปัญหา1 ข้อ ครบทกุ ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน ได้ระดับคุณภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 หมายถงึ พอใช้ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรับปรุง

10 แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะผ้เู รยี น เร่ือง การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบื้องตน้ (5) สมรรถนะผูเ้ รียน ผลการประเมิน ผา่ น ไม่ผา่ น เลขท่ี ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ในการคิด ในการส่อื สาร ในการคดิ แกป้ ัญหา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้ีวดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงชอื่ ครูผ้สู อน (นางสาวสิรินทพิ ย์ ความสุข)

11 แบบบันทึกการประเมินดา้ นคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบื้องต้น (5) มีวินัย 1. ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด 2. ควบคุมตนเองไดใ้ นระหวา่ งการทำงาน 3. ทำงานท่ีได้มอบหมายดว้ ยตนเองอย่างตง้ั ใจ 4. ทำงานเสรจ็ ตามเวลาที่กำหนด ใฝ่เรียนรู้ 1. มคี วามมุ่งม่นั ตง้ั ใจในการเรยี น 2. มีความสนใจในกจิ กรรมการเรียนร้ตู า่ ง ๆ 3. มคี วามกระตือรือรน้ ในกจิ กรรมและงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 4. ศกึ ษาหาความรู้เพิ่มเติมหลงั เรยี นเสมอ มุ่งมงั่ ในการทำงาน 1. ตั้งใจทำงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 2. อดทน ไม่ย่อทอ้ ต่ออปุ สรรคในการทำงาน 3. สนกุ สนาน ร่างเรงิ และทำงานดว้ ยความเต็มใจ 4. มสี มาธิในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย ด้านคณุ ลักษณะ ระดับคุณภาพ อนั พงึ ประสงค์ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ ) มีวินัย มคี ุณลักษณะอันพึง มคี ุณลกั ษณะอันพงึ มีคณุ ลักษณะอันพึง มีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ด้านวนิ ัยได้ ประสงคด์ ้านวินัยได้ ประสงค์ดา้ นวนิ ัยได้ ประสงคด์ า้ นวินยั ได้ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ 1 ขอ้ ใฝ่เรียนรู้ มีคุณลักษณะอันพึง มคี ุณลกั ษณะอนั พึง มคี ุณลกั ษณะอนั พึง มีคณุ ลักษณะอันพึง ประสงคด์ า้ นใฝ่ ประสงค์ด้านใฝ่ ประสงค์ดา้ นใฝ่ ประสงค์ด้านใฝ่ เรียนร้ไู ดค้ รบทุกข้อ เรยี นรูไ้ ด้ 3 ขอ้ เรียนรไู้ ด้ 2 ข้อ เรยี นรู้ได้ 1 ข้อ มีคุณลกั ษณะอันพงึ มคี ุณลักษณะอนั พงึ มคี ุณลักษณะอนั พงึ มีคณุ ลักษณะอนั พึง มงุ่ มง่ั ในการทำงาน ประสงค์ดา้ นมุ่งมั่น ประสงค์ดา้ นมงุ่ มน่ั ประสงคด์ ้านมุง่ ม่ัน ประสงค์ด้านมงุ่ มั่น ในการทำงานได้ ในการทำงานได้ 3 ในการทำงานได้ 2 ในการทำงานได้ 1 ครบทุกขอ้ ข้อ ข้อ ข้อ

12 หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ชว้ี ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ไดร้ ะดบั คุณภาพ 4 หมายถงึ ดีมาก ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง ดี ได้ระดับคณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

13 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ เรื่อง การเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ scratch เบ้ืองต้น (5) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการประเมนิ ผ่าน ไมผ่ า่ น เลขที่ มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมัน่ ใน การทำงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชวี้ ัด ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงชื่อ ครูผู้สอน (นางสาวสริ นิ ทิพย์ ความสุข)

1 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยด้วย Scratch เวลา 8 ช่ัวโมง เร่อื ง โปรเจกต์นทิ าน เวลา 1 ชั่วโมง รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด/ ผลการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ติ จรงิ อย่างเป็นข้นั ตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หา ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ตัวชวี้ ดั ป.4/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื สอ่ื และตรวจหา ข้อผดิ พลาดและแก้ไข 2. สาระสำคัญ โปรแกรม scratch สามารถนำมาใช้พัฒนาซอฟตแ์ วร์เชิงสร้างสรรค์ เริ่มฝึกเขียนสคริปต์สัน้ ๆ แล้ว จึงสร้างโปรเจกตส์ นกุ ๆ และแชรผ์ ลงานให้เพอ่ื น ๆ รับฟงั ขอ้ เสนอแนะและความคดิ เห็นของผู้อ่ืน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายลำดบั ขนั้ ตอนการเขยี นโปรแกรม scratch ในโปรเจกต์เกมได้ 2. นักเรียนสามารถอธิบายลำดบั ข้นั ตอนการเขยี นโปรแกรม scratch ได้อยา่ งถูกต้อง ด้านทักษะกระบวนการ 1. นักเรยี นสามารถออกแบบโปรแกรม scratch ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและแก้ไขได้ 2. นกั เรียนสามารถออกแบบและสรา้ งโปรเจกตเ์ กม ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไขได้ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่งในการทำงาน สมรรถนะทสี่ ำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

2 4. สาระการเรียนรู้ - โปรแกรม Scratch 5. กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำ (10 นาที) 1. ครูทบทวนความรเู้ ดิมว่า นกั เรยี นสามารถสรา้ งตัวละครให้เคล่อื นไหว และพูดประกอบได้แลว้ ใน ช่วั โมงนีน้ กั เรียนจะสร้างเกมเปน็ ของตวั เอง (กิจกรรมโปรเจกตน์ ิทาน เปน็ กจิ กรรมนอกเหนอื จากใน หนงั สอื ) 2. จากน้นั คุณครูสนทนากับนักเรียนเพอื่ กระต้นุ ความสนใจ ก่อนที่เราจะสร้างเกมเราต้องมาสำรวจบลอ็ ค คำส่ังใหด้ ีก่อน ท้งั ของเวทแี ละตัวละคร จะมโี ปรแกรมปรบั แต่งไดห้ ลากหลายวิธี ขน้ั สอน (40 นาที) 1. ครใู หน้ ักเรียนจบั คหู่ รือทำเดี่ยวกไ็ ด้ จากนน้ั ครใู หน้ กั เรียนเข้าโปรแกรม scratch 2. จากนน้ั ครูอธบิ ายเครอ่ื งมือตา่ ง ๆ ที่จะใชใ้ นการสรา้ งนิทาน 3. ครอู ธบิ ายว่าเราจะสร้างโปรเจกตน์ ิทานจะตอ้ งมตี ัวละครหลายตวั มาประกอบการเพ่ือให้เกมท่สี รา้ งมี ความนา่ สนใจมากขึ้น เช่น คลกิ ตัวละครแลว้ ตัวละครเปลี่ยน 4. ครูใหน้ ักเรียนหาตัวละครของตนเอง โดยครคู อยชี้แนะให้นักเรยี นและบอกวธิ ีการทำตัวละครของเกม ต่างๆจนนักเรยี นสามารถสรา้ งเกมได้ตามเป้าหมาย 5. ครูให้นักเรยี นจบั คู่ทำใบงานที่ 2.8 เรอ่ื ง นทิ านของฉนั โดยให้นกั เรยี นเลอื กนิทานอย่างง่ายมาทำใน โปรแกรม scratch เช่น กระตา่ ยกบั เตา่ เป็นตน้ 6. ครูให้นกั เรยี นเรมิ่ ทำนทิ านท่เี ลือก แล้วครูเดนิ ตรวจสอบความคืบหนา้ ของช้ินงาน ขน้ั สรุป (10 นาที) 1. ครสู รุปเนอื้ หาท้ังหมดที่ใชใ้ นการสร้างนิทานเพื่อให้นักเรยี นสามารถเอาไปต่อยอดได้ในการสรา้ งนทิ าน 2. ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เก่ยี วกบั การเรยี กใชบ้ ล็อกคำส่ังเพราะคำสั่งบางโปรแกรมมนั ซ่อนไว้อยู่ 3. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบทดสอบท้ายหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่อื ง เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ยด้วย Scratch 4. ครตู รวจงานนักเรยี นพร้อมปล่อยนกั เรียนไปเรียนวชิ าตอ่ ไป 6. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวิชาพน้ื ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 2. ใบงานท่ี 2.8 เร่ือง นิทานของฉัน 3. แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ

3 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 7.1 การวดั ผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เครอ่ื งมือ ด้านความรู้ 1.ใบงาน โดยการตรวจคะแนนท่ีไดจ้ ากการ -ใบงาน ทำใบงาน - แบบทดสอบ ด้านทักษะกระบวนการ 2.แบบทดสอบทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 วดั โดยการประเมินทักษะกระบวนการใน แบบประเมนิ ดา้ นทักษะ ด้านคุณลกั ษณะ ประเดน็ เก่ยี วกับ โปรเจกตน์ ิทาน กระบวนการ อันพงึ ประสงค์ วดั โดยสังเกตคุณลักษณะอนั พง่ึ ประสงค์ของ แบบประเมินดา้ น สมรรถนะทส่ี ำคญั ของผู้เรียน ผูเ้ รียนใน 3 ดา้ น คุณลักษณะ 1.มีวินยั อนั พงึ ประสงค์ 2.ใฝเ่ รียนรู้ 3.มงุ่ มง่ั ในการทำงาน วดั โดยการสงั เกตความสามารถของผูเ้ รียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ใน 3 ด้าน ไดแ้ ก่ ของผู้เรียน 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแก้ปญั หา 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

4 7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1) ดา้ นความรู้ 1.ใบงาน 10 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง 2.แบบทดสอบท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 30 คะแนน (เกณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ ดา้ นความรเู้ กณฑผ์ ่าน ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ 2) ด้านทักษะกระบวนการ 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 5-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-4 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง หมายเหตุ ไดร้ ะดับ 4 ขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 3) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ไดร้ ะดบั 2 ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4) ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ได้ระดบั 2 ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอยี ดหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ท่จี ะชว่ ยพฒั นากระบวนการเรียนร้ขู องผู้เรยี น) ……………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………..………………………………………………………………………………… ………………………………………………………..…………..……………………………………

5 9. ขอ้ เสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงชือ่ ………..…………………….………………….…….. (นายนพดล วงั ซา้ ย) ครพู ีเ่ ลี้ยง วนั ท่ี 1 เดือน มถิ นุ ายน พ.ศ. 2564 10. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ ผลทเ่ี กดิ ขึ้นแกผ่ ้เู รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนักเรียนท่ีผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... ด้านทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรยี นท่ีผ่านเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนทไี่ ม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นร้อยละ....................... ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จำนวนนักเรียนทีผ่ ่านเกณฑ์......................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนักเรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นร้อยละ....................... ดา้ นสมรรถนะผู้เรยี น จำนวนนักเรยี นท่ผี า่ นเกณฑ์......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรยี นทีม่ าผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.......................

6 11. ปัญหาและอปุ สรรค 1.แผนการจัดการเรยี นรนู้ ี้ ไมไ่ ดใ้ ช้สอนในภาคเรยี นที่ 1 เนื่องจากสถานการณโ์ ควดิ – 19 แลว้ แผนการจัดการเรียนรูน้ ้ีจะต้องมีการลงมือปฏิบัติ จึงไมส่ ามารถนำไปใชส้ อนได้ 12. แนวทางการแก้ปัญหา 1.แผนการจัดการเรยี นรนู้ ้ี นำไปใชส้ อนในภาคเรียนที่ 2 แทน (ลงชือ่ ) สิรินทิพย์ ความสุข (นางสาวสิรนิ ทพิ ย์ ความสุข) ผสู้ อน

7 แบบบันทึกการประเมนิ ด้านความรู้ เร่อื ง โปรเจกต์นิทาน เลขท่ี ใบงาน ร้อยละ แบบทดสอบ ร้อยละ ผลการประเมิน ผ่าน ไมผ่ า่ น (10 คะแนน) ท้ายหน่วยการ เรยี นรูท้ ่ี 2 (30 คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ 1. คะแนนจากใบงานเกณฑ์ผ่านร้อยละ 80 2. คะแนนจากแบบทดสอบหลงั เรยี นเกณฑผ์ ่านร้อยละ 80 ลงชื่อ ครผู ู้สอน (นางสาวสิรนิ ทิพย์ ความสุข)

8 แบบบันทึกการประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ เรื่อง โปรเจกต์นิทาน การสรา้ งโปรเจกต์นทิ าน 1.การออกแบบมีความสวยงาม 2.เนอื้ หามีความถกู ต้อง 3.เนอ้ื หามคี วามเชอ่ื ถือได้ 4.เนอื้ หามแี หล่งอ้างองิ ทีเ่ ช่ือถือได้ 5.มีความคดิ สรา้ งสรรค์ในการออกแบบ เกณฑ์การประเมินคณุ ภาพด้านทักษะกระบวนการ เร่ือง โปรเจกต์นทิ าน ด้านทักษะ 5 (ดเี ยี่ยม) 4 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรงุ ) กระบวนการ การสร้าง การสรา้ ง 3 (ดี) 2 (พอใช้) การสรา้ งโปร การสรา้ งโปร โปรเจกต์ โปรเจกต์ เจกต์นทิ านได้ เจกต์นทิ าน นิทานได้ นิทานได้ การสร้าง การสรา้ ง 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 4 ขอ้ โปรเจกต์ โปรเจกต์ นทิ านได้ นิทานได้ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ

9 แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ เร่ือง โปรเจกต์นิทาน เลขท่ี ทักษะกระบวนการ ผลการประเมนิ การสรา้ งโปรเจกต์นิทาน ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน ลงชอื่ ครผู ู้สอน (นางสาวสริ นิ ทพิ ย์ ความสุข)

10 แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะผเู้ รียน เร่อื ง โปรเจกต์นิทาน ความสามารถในการคิด 1. มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ 2. มที กั ษะในการคิดออกแบบอย่างสรา้ งสรรค์ 3. มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมีระบบ 4. ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาเก่ยี วกับตนเองได้ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. สามารถแก้ปญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ทเ่ี ผชญิ ได้ 2. ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ัญหา 3. ประยกุ ต์ความร้มู าใช้ในแก้ไขปัญหา 4. สามารถตัดสนิ ใจได้เหมาะสม ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ 2. มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี 3. เลอื กและใช้เทคโนโลยีไดเ้ หมาะสม 4. ใชท้ ักษะทางเทคโนโลยใี นชีวิตได้ ด้านสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ ผู้เรียน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ ) ความสามารถ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถ ความสามารถ ในการคิด 1 ข้อ ความสามารถใน การคิด การคดิ ครบทกุ ขอ้ ในการคิด 3 ข้อ ในการคิด 2 ข้อ การแกป้ ัญหา1 ข้อ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การแก้ปัญหา การแก้ปัญหา การแก้ปัญหา3 ข้อ การแกป้ ัญหา2 ข้อ การใช้เทคโนโลยี 1 ขอ้ ครบทกุ ขอ้ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี ครบทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวช้วี ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดีมาก ได้ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

แบบประเมินด้านสมรรถนะผเู้ รยี น 11 เร่อื ง โปรเจกต์นิทาน ผลการประเมนิ สมรรถนะผู้เรยี น ผ่าน ไมผ่ า่ น เลขที่ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ในการคดิ ในการคิดแก้ปญั หา ในการใช้เทคโนโลยี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ชี้วดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงช่อื ครผู ู้สอน (นางสาวสริ นิ ทพิ ย์ ความสุข)

12 แบบบันทกึ การประเมินดา้ นคุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ เร่อื ง โปรเจกต์นิทาน มวี ินัย 1. ปฏิบัตติ ามข้อตกลงอยา่ งเครง่ ครัด 2. ควบคมุ ตนเองได้ในระหว่างการทำงาน 3. ทำงานที่ได้มอบหมายด้วยตนเองอย่างตั้งใจ 4. ทำงานเสร็จตามเวลาที่กำหนด ใฝ่เรียนรู้ 1. มคี วามมงุ่ มั่นตง้ั ใจในการเรียน 2. มีความสนใจในกิจกรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ 3. มคี วามกระตือรอื ร้นในกิจกรรมและงานที่ไดร้ บั มอบหมาย 4. ศกึ ษาหาความรเู้ พ่ิมเติมหลงั เรียนเสมอ มุ่งม่ังในการทำงาน 1. ตั้งใจทำงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2. อดทน ไมย่ ่อท้อต่ออุปสรรคในการทำงาน 3. สนุกสนาน ร่างเรงิ และทำงานดว้ ยความเตม็ ใจ 4. มสี มาธิในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย ด้านคุณลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ อนั พงึ ประสงค์ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) มีวินยั มคี ณุ ลกั ษณะอนั พึง มคี ณุ ลกั ษณะอันพึง มคี ณุ ลักษณะอันพึง มคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคด์ า้ นวนิ ยั ได้ ประสงคด์ ้านวนิ ัยได้ ประสงคด์ ้านวินยั ได้ ประสงคด์ า้ นวินยั ได้ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ขอ้ ใฝเ่ รียนรู้ มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ มีคณุ ลกั ษณะอนั พึง มคี ุณลักษณะอนั พงึ มคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ดา้ นใฝ่ ประสงค์ดา้ นใฝ่ ประสงค์ด้านใฝ่ ประสงคด์ ้านใฝ่ เรยี นร้ไู ด้ครบทุกข้อ เรยี นรู้ได้ 3 ข้อ เรยี นรไู้ ด้ 2 ข้อ เรยี นร้ไู ด้ 1 ข้อ มคี ณุ ลักษณะอนั พึง มคี ุณลกั ษณะอนั พึง มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ม่งุ ม่งั ในการทำงาน ประสงคด์ ้านมุ่งมั่น ประสงคด์ า้ นมุ่งมั่น ประสงค์ด้านม่งุ มนั่ ประสงค์ดา้ นมุ่งมัน่ ในการทำงานได้ ในการทำงานได้ 3 ในการทำงานได้ 2 ในการทำงานได้ 1 ครบทกุ ขอ้ ข้อ ขอ้ ขอ้

13 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้ระดับคุณภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ได้ระดบั คุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

14 แบบบันทึกการประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรอื่ ง โปรเจกต์นทิ าน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมนิ ผา่ น ไมผ่ ่าน เลขท่ี มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มั่นใน การทำงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวช้ีวัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงช่ือ ครูผู้สอน (นางสาวสิรินทพิ ย์ ความสุข)

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ การใช้งานอนิ เตอรเ์ นต็ รหัส – ช่อื รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 4 ชั่วโมง ผสู้ อน : นางสาวสริ ินทพิ ย์ ความสขุ โรงเรยี นอนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1 ) มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเปน็ ขัน้ ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหา ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทันและมจี รยิ ธรรม ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ ป.4/3 ใชอ้ ินเทอร์เน็ตคน้ หาความรู้ และประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมลู สาระสำคัญ อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ เ่ี ชื่อมต่อกนั จำนวนมากและครอบคลุมไปทว่ั โลก โดยเครือขา่ ยนจ้ี ะเชือ่ หากนั ภายใต้กฎเกณฑท์ ี่เปน็ มาตรฐานเดียวกัน ทำให้สามารถแลกเปลย่ี นขอ้ มูลและ ส่งผ่านข้อมลู ระหว่างกนั ได้ ในปัจจบุ นั มีฐานข้อมูลที่เกบ็ ไวใ้ นอนิ เทอรเ์ นต็ จำนวนมาก ดงั น้ัน การค้นหาข้อมลู จากอินเทอร์เน็ต จะตอ้ งประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยจะต้องศึกษาเรียนรู้เก่ียวกบั การค้นหาข้อมูลจากอนิ เทอร์เนต็ สาระการเรียนรู้ - การแสดงการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ในการค้นหาข้อมลู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของอนิ เทอรเ์ น็ต ได้ 2. นกั เรียนสามารถประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมลู ทางอนิ เทอร์เนต็ ได้ ทกั ษะกระบวนการ 1. นักเรยี นสามารถใช้งานอินเทอรเ์ น็ตในการคน้ หาข้อมูลได้

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ังในการทำงาน สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. ความสามารถในการส่ือสาร 5. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ การประเมนิ ผล ดีมาก (4) ระดบั คุณภาพ นำ้ หนักคะแนน ประเดน็ การประเมนิ 10 คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน ใบงานที่ 3.1 เรอื่ ง การ 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 9 ติดต่อสื่อสาร 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน ใบงานท่ี 3.2 เรื่อง บรกิ าร 10 คะแนน 0-4 คะแนน 9 บนอนิ เทอรเ์ นต็ 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน ใบงานที่ 3.3 เร่ือง การ 10 คะแนน 0-4 คะแนน 9 คน้ หาขอ้ มลู (อาชีพในฝนั ) 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน ใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง การ รวม 0-4 คะแนน 9 ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถือ ของข้อมลู 0-4 คะแนน 10 แบบทดสอบท้ายหน่วย 36 การเรยี นรู้ท่ี 3

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 กิจกรรมหลักของครู 1. ครเู ช็คชอื่ เพื่อเตรยี มความพร้อมในการเรียน ใน Google Meet 2. ครูให้นกั เรยี นเล่นเกม Warm up เพอื่ กระตนุ้ ผเู้ รียนกอ่ นเข้าสู่บทเรยี น 3. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต เพอื่ วัด ความรเู้ ดิมของนักเรียนผ่านGoogle form 4. ครูสอบถามนักเรียนวา่ รู้จักอนิ เทอรเ์ นต็ หรือไม่ อนิ เทอรเ์ น็ตมลี กั ษณะเปน็ อยา่ งไร 5. ครูเปิดสื่อการสอน Power point เรอื่ ง การตดิ ต่อสื่อสาร อธิบายเก่ยี วกับการติดต่อสื่อสารของ มนุษย์ในสมัยโบราณและยุคปัจจุบนั 6. ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั สังเกตภาพที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถาม 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกบั อุปกรณเ์ ทคโนโลยี โดยตอบคำถามกระตุ้นความสนใจ 8. ครใู หน้ กั เรียน แต่ละคนกล่มุ ร่วมกันวเิ คราะห์ร่วมกันวา่ “อยากเปน็ มนุษย์ยุคไหน โดย เปรยี บเทยี บการส่ือสารของมนุษยส์ มยั โบราณกบั การสื่อสารของมนุษยใ์ นปัจจบุ ันวา่ มีความ แตกต่างกนั และเหมอื นกนั อย่างไร แล้วร่วมกนั เขยี นบนั ทกึ คำตอบเปน็ แผนภาพความคดิ ” 9. ครใู ห้นกั เรยี นบอกประโยชนข์ องอปุ กรณ์ทีน่ ักเรียนใชต้ ดิ ต่อสื่อสารในชวี ิตประจำวัน 10. ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง การติดต่อสอ่ื สาร 11. ครแู ละนกั เรียนสรปุ องค์ความรรู้ ว่ มกัน และแจ้งเรื่องที่จะเรียนในสปั ดาห์ถัดไป ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรียนเลน่ เกม Warm up เพอื่ กระตุ้นผ้เู รยี นกอ่ นเขา้ สู่บทเรียน 2. นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง การใชง้ านอนิ เตอร์เนต็ เพ่อื วดั ความรเู้ ดมิ ของนักเรยี นผ่านGoogle form 3. นกั เรียนรว่ มกันสงั เกตภาพท่ีกำหนดให้ แล้วตอบคำถาม 4. ครูให้นกั เรยี น แต่ละคนกลุ่มร่วมกันวเิ คราะหร์ ่วมกนั ว่า “อยากเป็นมนุษย์ยคุ ไหน โดย เปรียบเทยี บการส่ือสารของมนษุ ย์สมยั โบราณกับการสื่อสารของมนุษยใ์ นปจั จุบนั วา่ มีความ แตกตา่ งกนั และเหมือนกนั อย่างไร แลว้ รว่ มกนั เขียนบันทึกคำตอบเป็นแผนภาพความคดิ ” 5. ครใู หน้ ักเรียนบอกประโยชนข์ องอุปกรณ์ทีน่ ักเรียนใชต้ ดิ ต่อส่ือสารในชีวิตประจำวัน 6. นกั เรียนทำใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง การตดิ ตอ่ สื่อสาร 7. นกั เรยี นและครูสรุปองคค์ วามรรู้ ่วมกัน และแจ้งเรื่องทจี่ ะเรียนในสปั ดาห์ถดั ไป

ชั่วโมงท่ี 2 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครูเชค็ ชือ่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรยี น ใน Google Meet 2. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม Warm up เพือ่ กระตุ้นผู้เรยี นก่อนเข้าสูบ่ ทเรยี น 3. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสนทนาและระบเุ ก่ียวกับบริการบนอินเทอร์เน็ตทีน่ ักเรียนรู้จกั โดยเขียน บันทึกคำตอบของนักเรยี นเป็นแผนภาพความคิด 4. ครูให้นักเรียนสงั เกตหน้าเวบ็ ไซต์ https://www.google.co.th แลว้ ชว่ ยกันบอกสว่ นประกอบ ของหนา้ เว็บไซต์ 5. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกนั ตอบคำถามเกย่ี วกับองคป์ ระกอบของเวบ็ ไซต์ โดยคณุ ครจู ะเรยี กชื่อนักเรยี น ทลี ะคนออกมาอ่านคำถาม แล้วรว่ มกนั ตอบวา่ ข้อความดงั กล่าวคอื องคป์ ระกอบสว่ นใด 6. ครเู ปิดสอ่ื Power point เรอื่ ง การคน้ หาข้อมูล (1) 7. ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกนั สังเกตและเปรียบเทียบหนา้ ตา่ งโปรแกรม Microsoft Edge และหนา้ ต่าง โปรแกรม Google Chrome 8. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกันเปรียบเทียบความแตกต่างและความเหมอื นของโปรแกรม Microsoft Edge และโปรแกรม Google Chrome 9. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกนั วเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ 10. ครมู อบหมายให้นกั เรียนทำใบงานท่ี 3.2 เรื่อง บริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ 11. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ ความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั การใช้บรกิ ารอินเทอรเ์ น็ต ภาระงานของนกั เรยี น 1. นกั เรยี นเล่นเกม Warm up เพื่อกระตนุ้ ผเู้ รียนก่อนเข้าสบู่ ทเรียน 2. นกั เรยี นรว่ มกันสนทนาและระบุเกยี่ วกับบริการบนอนิ เทอร์เนต็ ที่นักเรยี นร้จู กั โดยเขยี นบันทกึ คำตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภาพความคดิ 3. นักเรยี นสังเกตหนา้ เวบ็ ไซต์ https://www.google.co.th แลว้ ชว่ ยกนั บอกสว่ นประกอบของหนา้ เว็บไซต์ 4. นักเรยี นรว่ มกนั ตอบคำถามเก่ียวกบั องค์ประกอบของเว็บไซต์ โดยคณุ ครูจะเรยี กช่อื นักเรียนทลี ะ คนออกมาอา่ นคำถาม แลว้ ร่วมกนั ตอบวา่ ข้อความดังกลา่ วคือองค์ประกอบส่วนใด 5. นักเรยี นรว่ มกันสังเกตและเปรยี บเทยี บหนา้ ตา่ งโปรแกรม Microsoft Edge และหน้าต่าง โปรแกรม Google Chrome 6. นกั เรียนร่วมกนั เปรยี บเทยี บความแตกต่างและความเหมือนของโปรแกรม Microsoft Edge และโปรแกรม Google Chrome 7. นักเรียนรว่ มกนั วิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคิด 8. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ต

9. นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกับการใชบ้ รกิ ารอินเทอรเ์ น็ต ชวั่ โมงที่ 3 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครเู ช็คชือ่ เพ่ือเตรยี มความพร้อมในการเรียน ใน Google Meet 2. ครใู ห้นกั เรียนเลน่ เกม Warm up เพ่อื กระตนุ้ ผเู้ รยี นก่อนเข้าสูบ่ ทเรยี น 3. ครสู ำรวจข้อมลู ก่อนเรียนโดยการตง้ั คำถามเพ่ือกระตุน้ ความสนใจ 4. ครเู ปิดส่อื Power point เรอ่ื ง การค้นหาข้อมูล (2) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันวเิ คราะหส์ ถานการณ์ตวั อย่าง เก่ยี วกบั การใช้ค้นหา 6. ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ เกยี่ วกบั การใชค้ ำค้นหาข้อมลู 7. ครอู ธบิ ายเกี่ยวกับความหมายของURLและความหมายของURLของแคล่ ะองค์กร 8. ครอู ธิบายเก่ยี วกับการใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั และเปิดคลปิ วดิ ีโอ เร่ือง การใช้งาน อนิ เทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั ประกอบเพ่ือให้นักเรยี นเขา้ ใจมากยงิ่ ขนึ้ 9. ครูมอบหมายและอธิบายให้นักเรยี นทำใบงานที่ 3.3 เร่อื ง การคน้ หาข้อมูล(อาชีพในฝัน) 10. ครูและนักเรียนสรปุ ความรู้รว่ มกนั เก่ียวกับคำค้นหาข้อมูล การระบุคำสำคญั เป็นต้น ภาระงานของนกั เรียน 1. นกั เรียนเลน่ เกม Warm up เพ่อื กระตนุ้ ผู้เรยี นก่อนเข้าสูบ่ ทเรยี น 2. นักเรียนร่วมกนั วิเคราะห์สถานการณ์ตัวอยา่ ง เกยี่ วกับการใช้ค้นหา 3. นักเรียนทำใบงานท่ี 3.3 เรือ่ ง การคน้ หาข้อมลู (อาชีพในฝนั ) 4. นักเรียนและครูสรปุ ความร้รู ว่ มกันเก่ยี วกับคำค้นหาข้อมูล การระบุคำสำคัญ เป็นต้น ชั่วโมงท่ี 4 กิจกรรมหลักของครู 1. ครูเชค็ ช่ือเพื่อเตรยี มความพร้อมในการเรยี น ใน Google Meet 2. ครูให้นกั เรียนเลน่ เกม Warm up เพอ่ื กระตุ้นผเู้ รียนกอ่ นเข้าสบู่ ทเรยี น 3. ครตู ั้งคำถามวา่ “ข้อมูลขา่ วสารท่อี ยบู่ นอนิ เทอรเ์ น็ตมีทง้ั จริงและเทจ็ นักเรยี นจะรู้ได้อยา่ งไรวา่ ข้อมลู ที่สบื ค้นมาน้นั มคี วามถูกต้องและนา่ เช่ือถือ” 4. ครูเปิดสื่อ Power point เรื่อง การประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล 5. ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ ว่า “หลงั จากทำการสบื คน้ ข้อมลู จนไดข้ ้อมูลทตี่ อ้ งการแล้ว นักเรียนควรทำการ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมูลก่อนนำมาใช้” 6. ครูเปดิ ตัวอย่างเวบ็ ไซต์ www.wikipedai.org และ www.dnp.go.th ใหน้ กั เรียนศึกษาการ ประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของข้อมลู 7. ครอู ธบิ ายวิธกี ารพจิ ารณาความน่าเชอื่ ถือของข้อมลู จากโดเมน 8. ครมู อบหมายและอธบิ ายให้นักเรยี นทำใบงานที่ 3.4 เร่อื ง การประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมูล 9. ครูให้นักเรยี นรว่ มกันบอกวธิ กี ารประเมินความนา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มูล

10. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น เพ่อื วดั ความรู้ท่ไี ดเ้ รยี นมาในหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง การใช้งานอินเตอร์เน็ต ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรียนเลน่ เกม Warm up เพื่อกระตุ้นผเู้ รยี นก่อนเขา้ สบู่ ทเรยี น 2. นักเรียนศึกษาการประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของขอ้ มลู 3. นกั เรยี นทำใบงานที่ 3.4 เรื่อง การประเมนิ ความน่าเช่อื ถือของข้อมลู 4. นักเรยี นร่วมกันบอกวธิ ีการประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของข้อมูล 5. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น เพ่ือวัดความรู้ท่ีไดเ้ รยี นมาในหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง การใช้ งานอินเตอรเ์ น็ต

1 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 15 (Online) หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 การใชง้ านอนิ เตอร์เน็ต เวลา 4 ช่ัวโมง เรอื่ ง การตดิ ตอ่ สื่อสาร เวลา 1 ช่ัวโมง รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั / ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นข้ันตอน และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทันและมีจริยธรรม ตวั ชี้วดั ป.4/3 ใช้อินเทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของข้อมูล 2. สาระสำคญั อนิ เทอรเ์ นต็ (Internet) คือ เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ี่เช่ือมต่อกันจำนวนมากและครอบคลุมไปทั่วโลก โดยเครอื ขา่ ยนีจ้ ะเช่อื หากันภายใตก้ ฎเกณฑ์ท่ีเปน็ มาตรฐานเดียวกัน ทำให้สามารถแลกเปลย่ี นขอ้ มลู และ สง่ ผา่ นข้อมลู ระหว่างกันได้ ในปัจจุบันมฐี านข้อมลู ทเ่ี กบ็ ไวใ้ นอนิ เทอร์เน็ตจำนวนมาก ดังน้นั การคน้ หาขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ต จะตอ้ งประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของข้อมูล โดยจะต้องศึกษาเรยี นรเู้ ก่ียวกบั การค้นหาข้อมูลจาก อนิ เทอร์เน็ต 3. สาระสำคญั อนิ เทอรเ์ นต็ (Internet) คือ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ เ่ี ช่ือมต่อกันจำนวนมากและครอบคลุมไปทัว่ โลก โดยเครือขา่ ยน้ีจะเชื่อหากนั ภายใตก้ ฎเกณฑท์ ่ีเปน็ มาตรฐานเดยี วกัน ทำใหส้ ามารถแลกเปลี่ยนข้อมลู และ ส่งผา่ นข้อมูลระหว่างกนั ได้ ในปัจจุบันมีฐานข้อมูลทเี่ ก็บไว้ในอินเทอรเ์ น็ตจำนวนมาก ดงั น้นั การค้นหาข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต จะตอ้ งประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู โดยจะต้องศึกษาเรียนร้เู กยี่ วกบั การคน้ หาข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของอินเทอร์เนต็ ได้ 2. นักเรยี นสามารถประเมินความนา่ เชือ่ ถือของข้อมลู ทางอินเทอร์เน็ตได้ ด้านทักษะกระบวนการ 1. นกั เรียนสามารถใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ตในการคน้ หาข้อมลู ได้

2 ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มั่งในการทำงาน สมรรถนะทีส่ ำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. สาระการเรยี นรู้ - การใชอ้ ินเทอร์เนต็ ในการค้นหาข้อมลู 5. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำ (10 นาที) 1. ครเู ช็คชื่อเพื่อเตรยี มความพร้อมในการเรยี น ใน Google Meet 2. ครใู ห้นกั เรียนเล่นเกม Warm up เพื่อกระตนุ้ ผเู้ รียนก่อนเข้าสบู่ ทเรยี น 3. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การใช้งานอินเตอรเ์ น็ต เพอ่ื วดั ความรู้เดิมของนักเรียนผา่ นGoogle form 4. ครสู อบถามนักเรียนวา่ รจู้ กั อนิ เทอร์เนต็ หรือไม่ อินเทอร์เน็ตมีลกั ษณะเปน็ อย่างไร (แนวคำตอบ เป็นเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ท่ีเชือ่ มตอ่ กนั จำนวนมากและครอบคลุมไปทั่วโลก ทำให้ สามารถแลกเปลย่ี นขอ้ มูลและสง่ ผ่านข้อมลู ระหวา่ งกนั ได้) ขน้ั สอน (40 นาที) 1. ครูเปิดสอื่ การสอน Power point เร่ือง การติดต่อสือ่ สาร อธิบายเกี่ยวกับการตดิ ต่อสอื่ สารของ มนษุ ย์ในสมยั โบราณและยคุ ปัจจบุ นั

3 2. นกั เรียนร่วมกันสงั เกตภาพท่ีกำหนดให้ แล้วตอบคำถาม ดังนี้ • ภาพภาทพี่ 1ทเี่ ห1น็ อะไรจากภาพบ้าง ภาพท่ี 2 • ภาพที่ 1 นักเรยี นคดิ ว่าเปน็ เร่ืองเกีย่ วกับอะไร • ภาพที่ 2 เหน็ อะไรจากภาพบ้าง • ภาพที่ 2 นักเรียนคดิ ว่าเปน็ ภาพเกยี่ วกับอะไร • ปจั จุบนั มนษุ ยต์ ิดต่อสือ่ สารโดยใช้อุปกรณเ์ ทคโนโลยใี ดบา้ ง 3. ครูและนักเรียนร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกบั อุปกรณเ์ ทคโนโลยี โดยตอบคำถามกระตุ้นความสนใจ ดังน้ี • นักเรยี นรู้จักอปุ กรณ์เทคโนโลยชี นดิ ใดบ้างที่ใชเ้ ชอ่ื มตอ่ อินเทอร์เนต็ เพื่อติดต่อสื่อสาร • นกั เรยี นใชอ้ ปุ กรณเ์ ทคโนโลยีดงั กล่าวทำอะไรบ้าง 4. ครูใหน้ กั เรยี น แตล่ ะคนกลุ่มร่วมกนั วิเคราะห์รว่ มกนั ว่า “อยากเปน็ มนุษย์ยุคไหน โดยเปรียบเทยี บการ สอ่ื สารของมนุษย์สมยั โบราณกบั การสอ่ื สารของมนษุ ย์ในปัจจบุ ันว่ามคี วามแตกต่างกันและเหมือนกนั อยา่ งไร แล้วรว่ มกนั เขียนบนั ทกึ คำตอบเป็นแผนภาพความคดิ ” 5. ครูใหน้ ักเรยี นบอกประโยชนข์ องอปุ กรณ์ท่นี ักเรียนใช้ตดิ ต่อสื่อสารในชวี ติ ประจำวัน 6. ครูมอบหมายให้นกั เรียนทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง การตดิ ต่อสอ่ื สาร ข้ันสรปุ (10 นาที) 1. ครแู ละนกั เรยี นสรปุ องคค์ วามรู้ร่วมกัน และแจ้งเรื่องทจ่ี ะเรียนในสัปดาหถ์ ดั ไป 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 2. สอ่ื การสอน Power point เร่ือง การติดต่อส่อื สาร 3. ใบงานท่ี 3.1 เรื่อง การติดต่อสอื่ สาร 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 7.1 การวดั ผล

4 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครือ่ งมือ ดา้ นความรู้ 1.ใบงาน โดยการตรวจคะแนนท่ีไดจ้ ากการ -ใบงาน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ทำใบงาน ด้านคณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ วัดโดยการประเมินทักษะกระบวนการใน แบบประเมินด้านทักษะ สมรรถนะที่สำคญั ประเดน็ เกย่ี วกับการใช้งานอินเทอรเ์ นต็ ใน กระบวนการ ของผู้เรยี น การคน้ หาข้อมูลได้ วัดโดยสังเกตคณุ ลักษณะอันพึ่งประสงค์ของ แบบประเมนิ ดา้ น ผู้เรยี นใน 3 ดา้ น คุณลักษณะ 1.มวี นิ ยั อนั พึงประสงค์ 2.ใฝเ่ รยี นรู้ 3.มงุ่ มงั่ ในการทำงาน วดั โดยการสังเกตความสามารถของผเู้ รียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ใน 3 ดา้ น ได้แก่ ของผ้เู รยี น 1.ความสามารถในการคิด 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7.2 เกณฑ์การประเมินผล 1) ด้านความรู้ 1.ใบงาน 10 คะแนน (เกณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ ด้านความรู้เกณฑ์ผา่ น ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ 2) ด้านทักษะกระบวนการ 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถงึ ดี 5-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-4 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง หมายเหตุ ได้ระดับ 4 ข้ึนไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 3) ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

5 ได้ระดับ 2 ขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ได้ระดับ 2 ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 8. กิจกรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอยี ดหรือข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ท่ีจะชว่ ยพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ของผู้เรียน) ……………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………..………………………………………………………………………………… ………………………………………………………..…………..…………………………………… 9. ขอ้ เสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงชอ่ื ………..…………………….………………….…….. ( นายนพดล วังซา้ ย ) ครพู ่ีเลยี้ ง วนั ที่ 1 เดอื น มิถนุ ายน พ.ศ. 2564 10. บนั ทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ แกผ่ ูเ้ รียน ด้านความรู้ จำนวนนักเรยี นที่ผ่านเกณฑ์ 186 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 จำนวนนักเรยี นท่ไี มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ จำนวนนกั เรียนที่ผ่านเกณฑ์ 186 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 จำนวนนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ จำนวนนกั เรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์ 186 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 จำนวนนกั เรียนทีม่ าผ่านเกณฑ์ 0 คน คิดเปน็ ร้อยละ 0 ดา้ นสมรรถนะผเู้ รียน จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์ 186 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 จำนวนนกั เรยี นทม่ี าผ่านเกณฑ์ 0 คน คดิ เป็นร้อยละ 0

6 11. ปัญหาและอปุ สรรค 1.เวลาในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไม่เพียงพอ 2.แผนการสอนไมบ่ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ เนื่องจากสถานการณโ์ ควดิ – 19 ทางโรงเรียนได้มกี ารสลบั กล่มุ เรยี นโดยได้แบง่ เปน็ 2 กลุ่มสลบั วันมาเรยี น จงึ ทำให้ 1 แผนการเรียนรใู้ ชส้ อน 2 ชั่วโมงตอ่ 1 แผน 12. แนวทางการแก้ปญั หา 1.ปรับเปลยี่ นวิธใี นการสอนและกระชับเวลาในการสอน 2.บันทึกวิดโี อการสอนให้กับกลุ่มทีไ่ ม่ได้มาเรียนในแต่ละสปั ดาห์ และใหใ้ บงาน On hand (ลงชือ่ ) สิรนิ ทิพย์ ความสขุ (นางสาวสริ ินทิพย์ ความสุข) ผสู้ อน

7 แบบบันทึกการประเมนิ ดา้ นความรู้ เรือ่ ง อินเตอรเ์ นต็ (1) เลขที่ ช่อื - สกุล ใบงาน รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น ✓ 1 เด็กชายกมลภพ วรรณรกั ษ์ 8 80 ✓ ✓ 2 เด็กชายธรี เมธ หมไี ข่ 8 80 ✓ ✓ 3 เดก็ ชายวาทิตย์ ตุ่นทา 8 80 ✓ ✓ 4 เด็กชายศุภวชิ ญ์ ต๊ะจนั ทร์ 8 80 ✓ ✓ 5 เด็กหญิงกรชนก เขือ่ นคำ 8 80 ✓ ✓ 6 เด็กชายนิชคณุ สุปน 8 80 ✓ ✓ 7 เด็กชายพิชญะ ใจเยน็ 8 80 ✓ ✓ 8 เดก็ หญงิ ณฐั นชิ า นะราช 8 80 ✓ ✓ 9 เดก็ ชายธีร์กวิน เปียงเปี้ยสาย 8 80 ✓ ✓ 10 เดก็ หญิงจิราพัชร ยนั พมิ าย 8 80 ✓ ✓ 11 เดก็ ชายกานต์ แถลงดี 8 80 ✓ ✓ 12 เดก็ ชายจริ ายทุ ธ แสนหลวง 8 80 ✓ ✓ 13 เดก็ ชายธนวชิ ญ์ แกว้ เพลยี 8 80 ✓ ✓ 14 เด็กชายทินภทั ร วงค์อะทะ 8 80 ✓ 15 เด็กชายพชร บญุ เพ็ชร 8 80 16 เด็กชายพีรพล ต๊ิบปาละ 8 80 17 เด็กชายภมู ิระพี ดีวาจา 8 80 18 เดก็ ชายสุริยะ ปอกแกว้ 8 80 19 เดก็ หญงิ กรฐิตา เครือจนั แกว้ 8 80 20 เด็กหญงิ กัญญาวรี ์ วรรณแกว้ 8 80 21 เด็กหญิงจริ ชั ยา ศรจี นั ทับ 8 80 22 เด็กหญิงชาลสิ า ลุนละวัน 8 80 23 เดก็ หญงิ ณัฐมน ใจคำลอื 8 80 24 เดก็ หญงิ ธญั จริ า วงคเ์ รียน 8 80 25 เดก็ หญิงนัฐฐิชา แกว้ ดี 8 80 26 เดก็ หญิงบงกชกาญจน์ สวนใคร้ 8 80 27 เด็กหญงิ พชิ ามญช์ุ กอศรี 8 80 28 เด็กหญงิ แพรปภสั ร์ อินเตชะ 8 80

8 29 เด็กหญงิ ลลั ณล์ ลนิ ทาสะโก 8 80 ✓ 80 ✓ 30 เด็กหญงิ วิภาดา พิมพม์ า 8 80 ✓ 80 ✓ 31 เด็กหญิงอภิญญา เข่อื นคำ 8 80 ✓ 80 ✓ 32 เดก็ ชายนนทกร ธรรมพิทกั ษ์ 8 80 ✓ 80 ✓ 33 เดก็ ชายศรัลญู ปิดตานะโน 8 80 ✓ 80 ✓ 34 เดก็ หญงิ กนกรัชต์ ฝ้นั กันทา 8 35 เดก็ ชายปองคุณ ปวงขจร 8 36 เด็กหญิงนริศรา บญุ ญตั ิ 8 37 เด็กหญงิ เขมิกา เมืองมา 8 38 เดก็ ชายฐิตกิ าล จนั ทรส์ กุ ปกุ 8 เฉลย่ี หมายเหตุ 1. คะแนนจากใบงานเกณฑผ์ ่านรอ้ ยละ 80 ลงช่อื สิรินทิพย์ ความสุข ครูผูส้ อน (นางสาวสิรนิ ทิพย์ ความสุข)

9 แบบบันทึกการประเมนิ ดา้ นความรู้ เรอ่ื ง อินเตอรเ์ นต็ (1) (ป.4/2) เลขที่ ใบงาน ร้อยละ ผลการประเมิน ชอื่ - สกุล (10 ผ่าน ไม่ผา่ น คะแนน) 80 1 เด็กชายกมลภู วรรณรักษ์ 8 80 ✓ 2 เด็กชายวทิ ยา กา๋ เครือคำ 8 80 ✓ 3 เดก็ ชายอรรคพล อนิ ทะนา 8 80 ✓ 4 เด็กหญงิ กลุ มาศ ภสู่ วัสด์ิ 8 80 ✓ 5 เด็กหญิงณีรนชุ แก้วสาย 8 80 ✓ 6 เด็กหญิงบัณฑิตา นรรัตน์ 8 80 ✓ 7 เดก็ หญงิ ย่ิงลกั ษณ์ เตมะ 8 80 ✓ 8 เดก็ ชายพิชยดลุ ย์ รสหวาน 8 80 ✓ 9 เดก็ ชายภทั รากร คำติ๊บ 8 80 ✓ 10 เดก็ ชายศุภากร ศรีม่นั 8 80 ✓ 11 เดก็ หญงิ ณฐั พร กอนแก้ว 8 80 ✓ 12 เดก็ หญงิ ศศิกานต์ เพียรคิด 8 80 ✓ 13 เด็กชายวรกันต์ ถ่นิ นาเมือง 8 80 ✓ 14 เด็กชายพชิ ยดนย์ เจรญิ โชค 8 80 ✓ 15 เด็กหญงิ ณัฐชา วงคต์ ระกลู 8 80 ✓ 16 เด็กชายกติ ติพนั ธ์ ธิป้อ 8 80 ✓ 17 เด็กชายทีรวิชญ์ พรทิพยส์ วัสดิ์ 8 80 ✓ 18 เด็กชายธนนั การณ์ สทุ ธริ ัตนากร 8 80 ✓ 19 เดก็ ชายธรี ะพงษ์ วงศ์ทอง 8 80 ✓ 20 เดก็ ชายนพคุณ รนิ ทร์แกว้ 8 80 ✓ 21 เดก็ ชายนริ ุช ใจคำลอื 8 80 ✓ 22 เดก็ ชายปวณี วชิ ญ์ อินจนั ทร์ 8 80 ✓ 23 เดก็ ชายพชรพงศ์ หลา้ วงศ์ 8 80 ✓ 24 เดก็ ชายภูรภิ ัทร คำจรยิ า 8 80 ✓ 25 เด็กชายอนชุ า งามขำ 8 80 ✓ 26 เดก็ หญิงกรรณิกา เพยี รกั ษา 8 ✓

10 27 เดก็ หญงิ ชุติกาญจน์ อนิ อนุ่ เมือง 8 80 ✓ 28 เดก็ หญงิ ธดิ าภา ณะใจบตุ ร 8 80 ✓ 29 เด็กหญิงนนั ทกานต์ วงคน์ ้ำนอง 8 80 ✓ 30 เด็กหญงิ ปัณณพร สุขประเสริฐ 8 80 ✓ 31 เดก็ หญิงปณุ ยาพร ผลรินทร์ 8 80 ✓ 32 เดก็ หญิงพชิ ามญชุ์ แกว้ ผล 8 80 ✓ 33 เดก็ หญิงธรี ดา บญุ มาเทพ 8 80 ✓ 34 เด็กหญงิ วชริ าภา เครือตามา 8 80 ✓ 35 เด็กหญิงเอมมิกา เทพปนิ ตา 8 80 ✓ 36 เดก็ หญิงณัฐธิชา ม่านสบื 8 80 ✓ 37 เดก็ ชายภาคนิ สัตย์ธรรม 8 80 ✓ 38 เด็กหญิงเกศราภรณื สายจำปา 8 80 ✓ เฉล่ีย หมายเหตุ 1.คะแนนจากใบงานเกณฑผ์ ่านร้อยละ 80 ลงชื่อ สริ ินทิพย์ ความสุข ครูผูส้ อน (นางสาวสิรินทพิ ย์ ความสุข)

11 แบบบันทึกการประเมนิ ดา้ นความรู้ เร่อื ง อินเตอร์เนต็ (1) (ป.4/3) เลขท่ี ใบงาน ร้อยละ ผลการประเมนิ ช่ือ - สกลุ (10 ผา่ น ไม่ผา่ น คะแนน) 80 1 เด็กชายบรรณวชั ร มะโนปิน 8 90 ✓ 2 เด็กชายวราวฒุ ิ ไชยชนะใหญ่ 9 80 ✓ 3 เดก็ หญงิ ปณิตา สุตนิ คำ 8 80 ✓ 4 เดก็ หญิงรดามณี อยเู่ ย็นดี 8 80 ✓ 5 เดก็ หญิงวรพร แหวนะ 8 80 ✓ 6 เดก็ หญิงณฐั พร เพช็ รคง 8 80 ✓ 7 เดก็ ชายจติ พล ชมุ่ วังค์ 8 90 ✓ 8 เดก็ ชายชญานิน สิเนหะสาร 9 90 ✓ 9 เด็กชายณฐั พล อนิ ไผ่ 9 90 ✓ 10 เด็กชายธนกฤษ แสงบุญเรือง 9 90 ✓ 11 เดก็ ชายธนาวัฒน์ คำภรี ะ 9 90 ✓ 12 เด็กชายธรี ภัทร คำผาเคน 9 80 ✓ 13 เดก็ ชายปิยพงศ์ แสนกาวี 8 80 ✓ 14 เดก็ ชายพชรพล นนั ต๊ะเสน 8 80 ✓ 15 เดก็ ชายรณชชั สยุ ะสบื 8 90 ✓ 16 เดก็ ชายวีรวชิ ญ์ หล่อแหลม 9 90 ✓ 17 เด็กชายอนสุ รณ์ บญุ ศริ ิ 9 80 ✓ 18 เด็กชายอรรถพล ธุปพงษ์ 8 80 ✓ 19 เด็กหญิงกวิสรา กันแกว้ 8 80 ✓ 20 เด็กหญิงชลลดา มังคละ 8 80 ✓ 21 เด็กหญงิ ญาณดา กุลพินิจมาลา 8 90 ✓ 22 เด็กหญงิ ณัฐทชิ า ศรีแหลมสงิ ห์ 9 90 ✓ 23 เด็กหญิงธนชั ชา คึน้ คำ 9 90 ✓ 24 เดก็ หญิงนรกมล ซู 9 80 ✓ 25 เดก็ หญงิ นิชากานต์ จมุ พุก 8 80 ✓ 26 เดก็ หญิงพรรณพิมล ชมชื่น 8 ✓

12 27 เด็กหญงิ พณิ พชิ าพร สุวรรณวงศ์ 8 80 ✓ 28 เด็กหญงิ ภทั รวดี เจยี มเมืองปัก 8 80 ✓ 29 เด็กหญงิ ศภุ พชิ ญ์ แกว้ คา้ ง 8 80 ✓ 30 เดก็ ชายนรภทั ร สิทธิชยั - -- 31 เดก็ ชายกฤตานนท์ กันทาทอง 9 90 ✓ 32 เด็กหญงิ ณัฎฐิณิดา ทองแดง 9 90 ✓ 33 เดก็ ชายธนรัฐ ตาโท้ 9 90 ✓ 34 เด็กชายพรี ภทั ร ผ่านวิทยากุล 9 90 ✓ 35 เด็กหญิงธริ ชญิ า ดวงศิรภัส 9 90 ✓ 36 เด็กหญิงธมลวรรณ รอดแกว้ 8 80 ✓ 37 เด็กหญิงกนั ยน์ ุดี พิมพ์โคตร์ 9 90 ✓ 38 เด็กหญิงพณิ พิชาพร สวุ รรณวงศ์ 8 80 ✓ เฉลย่ี 8.02 80.27 หมายเหตุ 1.คะแนนจากใบงานเกณฑผ์ า่ นร้อยละ 80 ลงชื่อ สริ นิ ทพิ ย์ ความสขุ ครผู ้สู อน (นางสาวสิรนิ ทพิ ย์ ความสุข)

13 แบบบันทึกการประเมินดา้ นความรู้ เร่ือง อินเตอรเ์ น็ต (1) (ป.4/4) เลขท่ี ชอื่ - สกลุ ใบงาน ร้อยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น 1 เด็กชายภาณพงศ์ ทองนา 90 ✓ 2 เด็กหญงิ ธนัชพร สบั ปะ 9 90 ✓ 3 เดก็ ชายจริ ากร เมืองใจมา 9 90 ✓ 4 เดก็ ชายพชร เกษกำจร 9 90 ✓ 5 เด็กหญงิ ชชั ฎาพร ของมูล 9 80 ✓ 6 เดก็ หญงิ ณฐั ธดิ า เสริมสุข 8 90 ✓ 7 เดก็ หญงิ ณัฐภทั ร กอนแกว้ 9 90 ✓ 8 เด็กหญิงภทั รสุดา ภาณุวทิ ยไ์ ชยวัฒน์ 9 80 ✓ 9 เดก็ หญงิ รตั นาพร แก้วปัญญา 8 90 ✓ 10 เด็กชายรัชชานนท์ ใจบญุ 9 90 ✓ 11 เดก็ ชายวชั ริศ ปานเขียว 9 90 ✓ 12 เดก็ ชายกฤตชยั ผดั วงค์ 9 80 ✓ 13 เด็กชายคุณานนท์ จงถนอม 8 80 ✓ 14 เด็กชายชนาวนิ แรงจริง 8 90 ✓ 15 เดก็ ชายณฐั วัฒน์ วงศ์เป้ยี 9 90 ✓ 16 เด็กชายธนพฒั น์ ไชยชนะ 9 90 ✓ 17 เด็กชายนรากร บญุ ลือ 9 80 ✓ 18 เดก็ ชายปกาสติ สวุ รรณเมอื ง 8 90 ✓ 19 เดก็ ชายพสิ ิฐ ตาเปีย้ สืบ 9 90 ✓ 20 เด็กชายศุภกร เช้ือบุญ 9 80 ✓ 21 เด็กชายอภนิ ทั ธ์ นนั ทวรรณ 8 80 ✓ 22 เดก็ ชายอทิ ธิรัตน์ ลุใจคำ 8 80 ✓ 23 เดก็ หญิงกุลธิดา วงค์กาไชย 8 0 ✓ 24 เด็กหญงิ จริ ัชยา ดวงใจ 9 80 ✓ 25 เด็กหญิงณัฏฐณิชา อินตา 8 80 ✓ 26 เดก็ หญงิ ปพิชญา หนวิ้ หยน่ิ 8 80 ✓ 27 เดก็ หญิงพลอยแพรวา ใจบญุ 8 80 ✓ 8

14 28 เดก็ หญิงพมิ ญาดา แก้วกนั ตี 9 90 ✓ 29 เดก็ หญงิ วชิ ญาพร เลาเงิน 9 90 ✓ 30 เดก็ หญงิ สาวินี อินเตชะ 9 90 ✓ 31 เดก็ ชายภพธร ใจสาร 8 80 ✓ 32 เด็กหญิงพมิ พกานต์ ผลดี 8 80 ✓ 33 เดก็ ชายกฤษฎา ทายะรนิ ทร์ 8 80 ✓ 34 เด็กชายวรภพ ปิงไฝ 8 80 ✓ เฉล่ีย 8.35 83.52 หมายเหตุ 1.คะแนนจากใบงานเกณฑผ์ า่ นรอ้ ยละ 80 ลงชอ่ื สริ ินทิพย์ ความสุข ครผู ้สู อน (นางสาวสริ นิ ทิพย์ ความสุข)

15 แบบบันทกึ การประเมนิ ดา้ นความรู้ เร่ือง อินเตอร์เนต็ (1) (ป.4/5) เลขที่ ชือ่ - สกุล ใบงาน ร้อยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น 1 เด็กหญิงวภิ าวรรณ ใจวงั ศรี 80 ✓ 2 เด็กชายพิชยภมู ิ สามปญั ญา 8 80 ✓ 3 เดก็ ชายกฤชนนั ท์ ชุมภสู ืบ 8 90 ✓ 4 เดก็ ชายธนกฤต กุณวงค์ 9 90 ✓ 5 เดก็ ชายธนภัทร เปยี งกา 9 80 ✓ 6 เด็กชายธนวัฒน์ ฝั้นกนั ทา 8 80 ✓ 7 เด็กชายนภทั ร วรศรี 8 80 ✓ 8 เด็กชายนนั ทพิ ัฒน์ เสารท์ อง 8 90 ✓ 9 เด็กชายปฐพี วงศเ์ หมย 9 90 ✓ 10 เด็กชายปรตั ถกร ชำนาญ 9 90 ✓ 11 เดก็ ชายปารณ ยอดดำเนิน 9 90 ✓ 12 เดก็ ชายพงษ์ธนากร เพียนธัญกร 9 90 ✓ 13 เดก็ ชายพชร บญุ ยสมภพ 9 90 ✓ 14 เดก็ ชายพีรวิชญ์ ไชวัน 9 80 ✓ 15 เดก็ ชายศุภากร ธุวานนั ท์เดโซ 8 80 ✓ 16 เด็กชายสุกฤษฎ์ิ ยศบุรษุ 8 80 ✓ 17 เด็กหญิงกชพรรณ มาโยง 8 90 ✓ 18 เด็กหญงิ จิรกมล ฟอู ิน 9 90 ✓ 19 เดก็ หญงิ พิมพพ์ ิสุทธ์ิ บญุ เรอื ง 9 90 ✓ 20 เด็กหญิงณัฐกมล วงศ์นันตา 9 90 ✓ 21 เด็กหญงิ ณฐั รดา สุรยิ ะชยั 9 90 ✓ 22 เด็กหญิงณิชนันท์ คงคำปา 9 90 ✓ 23 เด็กหญิงณิชาภทั ร วงคป์ ิง 9 90 ✓ 24 เด็กหญิงธัญสริ ิ กันมาเวยี ง 9 90 ✓ 25 เด็กหญิงปภาพร ชมุ ศรี 9 90 ✓ 26 เด็กหญิงประภาพรรณ คำแสนเดช 9 90 ✓ 27 เดก็ หญงิ ปรยี าวดี ทองโคตร 9 90 ✓ 9