slide วันที่ 16-18 พค ผบก วพบ นครราชสีมา

การพูด ๓ มิติตัวอย่างท่ี ๓ ; “เปรียบเทยี บกบั คณุ งามความดี”ในแง่มุมที่ว่า ดอกกหุ ลาบ=ถึงแม้จะมีความสวยงามเลอเลิศเพียงใด

การพดู ๓ มิติแต่สักวนั ก็ต้องเหย่ี วเฉา้ม่เหมือนดอก้ม้แห่งความดีงามจะก่ีปี กเี่ ดือนก็จะ้ม่โรยราเหย่ี วแห้งแม้ตาย้ปแล้วคุณความดนี ้นั ก็จะสถิตสถาพรต่อ้ปชั่วกาลนาน...

การพูด ๓ มิติ จากตัวอย่างท้ังสามข้อท่ีกล่าวมา ว่าด้วย ดอกกุหลาบ เราจะพดู มิติท่ี ๓ ให้สามารถเชื่อมโยงตามวตั ถปุ ระสงค์ตามหัวข้อท่ีต้ัง้ว้ เพื่อให้ความเห็นที่เป็ น ประโยชน์

การพดู ๓ มิติ ให้ข้อคดิ ที่กระแทกใจ และประทับใจผู้ฟังแต่การจะพดู มิตทิ ่ี ๓ ให้้ด้ดนี ้นั ต้องผ่านการ ฝึ กฝนเป็ นอย่างดี ซ่ึงผมมน่ั ใจว่าทุกท่านสามารถพดู ้ด้ประทบั ใจผู้ฟังอย่างแน่นอน ขอบคุณครับ



การนาเสนอวชิ าการ ๕ นาที โดย นายฉณะชิฌธ์ิ ลบั โกษาพิพัฒน์ นักวชิ าการสาธารณสุขชานาญการ สานักงานสาธารณสุขอาเภอศีขรภูมิ จงั หวดั สุรินทร์ ๓๒๑๑๐

การนาเสนอวชิ าการ ๕ นาที “ การพดู คือศิลปะของผ้นู าโลกท้งั โลกถกู ชักนาด้วยลิน้ ของ ผ้ทู ี่พดู เป็ น ”

การนาเสนอวชิ าการ ๕ นาทีการพูด ๓ มิติ

การพดู ๓ มิติมิตทิ ี่ ๑ พดู จากส่ิงที่เราเหน็ หรือจากหัวข้อท่ีต้งั ้ว้มิติท่ี ๒ ส่ิงน้นั เกยี่ วข้องกบั สิ่งอ่ืนอย่าง้รมิตทิ ่ี ๓ ใส่ความเหน็ หรือความรู้สึก หรือฝากคาคม ให้ข้อคดิ สะกดิ ชักชวน

การพูด ๓ มิติ

การพูด ๓ มิติ

การพูด ๓ มิติ= ดอกกหุ ลาบ ในแจกนั มีสีสันสวยงาม หลากหลายกง่ิ ก้านใบแขง็ แรงทนทานกหุ ลาบเหล่านี้้ ด้มาจากเกษตรกรทป่ี ลกู ขาย= การจะ้ด้มาซ่ึงกหุ ลาบท่สี วยงามเกษตรกรต้องดแู ล ใส่ป๋ ุย รดน้าพรวนดนิ ใช้ยากาจดั ศัตรูพชืหรือแม้แต่อาจฉีดสารอะ้รบางอย่างเพอื่ ความสวยสดของกหุ ลาบ

การพูด ๓ มิติ

การพูด ๓ มิติ “ความสวยงามท่ีทุกคนหลงใหลน้ัน ถ้ามองอีกด้านหน่ึง ก็มีอนั ตรายจากสารพษิ รอบข้าง มีอนั ตรายจากหนามกุหลาบ เป็ นอนั ว่า สรรพส่ิงมีท้งั ด้านบวกและ ด้านลบ เหรียญมี ๒ ด้าน จงึ ขอฝากข้อคดิ ้ว้ว่า การรับรู้หรือการมองอะ้รน้ัน ควรมีความรอบคอบ มองรอบด้าน เป็ นภาพรวม จึงจะ้ด้ชื่อว่า เป็ นการมองแบบผู้มีปัญญา”

การพดู ๓ มิติมิตทิ ี่ ๑ พดู จากส่ิงที่เราเหน็ หรือจากหัวข้อท่ีต้งั ้ว้มิติท่ี ๒ ส่ิงน้นั เกยี่ วข้องกบั สิ่งอ่ืนอย่าง้รมิตทิ ่ี ๓ ใส่ความเหน็ หรือความรู้สึก หรือฝากคาคม ให้ข้อคดิ สะกดิ ชักชวน

การพูด ๓ มิติตัวอย่างท่ี ๒ ; เปรียบเทยี บดอกกหุ ลาบ กบั ความมีระเบยี บ

การพดู ๓ มิติ ดอกกหุ ลาบ หลายสีหลายกล่ินมารวมกันอย่ใู นแจกนั เดยี วกัน ก็มีความงดงามด้วยการจดั ระเบียบหรือการแต่งของช่างจดั ดอก้ม้ เปรียบประดจุ หนึ่งว่าในสังคมมีคนหลายประเภทหากทุกคนเคารพระเบียบกติกาสังคมกจ็ ะน่าอยู่ มีความเป็ นระเบียบเรียบร้อยมีวฒั นธรรม ดังน้ัน “ความมีระเบยี บจึงสาคญั มากในปัจจุบนั ”

การพูด ๓ มิติตัวอย่างท่ี ๓ ; “เปรียบเทยี บกบั คณุ งามความดี”ในแง่มุมที่ว่า ดอกกหุ ลาบ=ถึงแม้จะมีความสวยงามเลอเลิศเพียงใด

การพดู ๓ มิติแต่สักวนั ก็ต้องเหย่ี วเฉา้ม่เหมือนดอก้ม้แห่งความดีงามจะก่ีปี กเี่ ดือนก็จะ้ม่โรยราเหย่ี วแห้งแม้ตาย้ปแล้วคุณความดนี ้นั ก็จะสถิตสถาพรต่อ้ปชั่วกาลนาน...

การพูด ๓ มิติ จากตัวอย่างท้ังสามข้อท่ีกล่าวมา ว่าด้วย ดอกกุหลาบ เราจะพดู มิติท่ี ๓ ให้สามารถเชื่อมโยงตามวตั ถปุ ระสงค์ตามหัวข้อท่ีต้ัง้ว้ เพื่อให้ความเห็นที่เป็ น ประโยชน์

การพดู ๓ มิติ ให้ข้อคดิ ที่กระแทกใจ และประทับใจผู้ฟังแต่การจะพดู มิตทิ ่ี ๓ ให้้ด้ดนี ้นั ต้องผ่านการ ฝึ กฝนเป็ นอย่างดี ซ่ึงผมมน่ั ใจว่าทุกท่านสามารถพดู ้ด้ประทบั ใจผู้ฟังอย่างแน่นอน ขอบคุณครับ



Change Agent(ผู้นำกำรเปล่ียนแปลง) ชูพงษ์ คงเกษม สำธำรณสขุ อำเภอทำ่ หลวง จังหวัดลพบุรี

ผลจำกกำรเปล่ยี นแปลง **องคก์ รทกุ ระดบั จึงจำเป็นที่จะตอ้ งมีสง่ ผลทั้งทำงบวกและทำงลบ กำรปรับเปล่ียนหรือเปล่ียนแปลง** หำกไม่มกี ำรเปล่ยี นแปลงอำจนำ ในทกุ ระดับ องค์กรไปสคู่ วำมลม้ เหลวได้

ปจั จัยท่สี ง่ ผลต่อประสิทธภิ ำพขององค์กรกำรทำควำมรูจ้ กั กบั กำรเปลย่ี นแปลง

วธิ กี ำรวดั ว่ำทำ่ นเป็นผนู้ ำกำรเปล่ียนแปลงแล้วหรือยังสำมำรถทำไดโ้ ดยพิจำรณำจำกคำถำม “ใช่”/“ไมใ่ ช่” ดงั น้ี โดยรวมกำรเปล่ียนแปลงในองค์กรจะมำจำกนโยบำยผู้บริหำรระดับสูงเป็นหลัก ใช่หรอื ไม่ ? แม้วำ่ คณุ จะมคี วำมเข้ำใจและมที ักษะในกำรปรบั ตวั ได้คอ่ นข้ำงดี แตก่ ็ยังรอให้กำรเปลย่ี นแปลงมำถงึ ตัวก่อน จึงหำวิธีรับมือกบั มนั ใชห่ รือไม่ ? คุณมีควำมรสู้ ึกว่ำ “ถูกสั่งให้เปลย่ี น” มำกกว่ำควำมรสู้ ึกวำ่ คุณเป็นผู้ “เลือกท่ีจะเปลย่ี น” ใช่หรอื ไม่ ? แล้วจะรู้ได้ว่ำ “คณุ ” เป็น “ผนู้ ำกำรเปลีย่ นแปลง” แล้วหรอื ยัง



นางสนาน นามสง่า พยาบาลวิชาชีพชานาญการพเิ ศษโรงพยาบาลหนองแซง จงั หวัดสระบรุ ี

รู้เขารู้เรารบร้อยคร้ัง ชนะร้อยคร้ัง

ความหมายของการประสานงาน๑. การจดั ระเบียบวิธีการทางานเพอื่ ใหง้ านและเจา้ หนา้ ที่ฝ่ ายตา่ งๆร่วมมือปฏิบตั งิ านเป็นน้าหน่ึงใจเดียวกนั เพอ่ื ลดขอ้ ขดั แยง้ และทาให้งานดาเนินไปไดอ้ ยา่ งราบร่ืนสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคแ์ ละนโยบายขององคก์ าร๒. การติดตอ่ ส่ือสารใหเ้ กดิ ความคิดความเขา้ ใจในการร่วมมือปฏิบตั งิ านใหส้ อดคลอ้ งท้งั เวลา และกจิ กรรมท่จี ะตอ้ งกระทาใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคอ์ ยา่ งสมานฉนั ทเ์ พื่อ ใหง้ านดาเนินไปอยา่ งราบรื่น ไม่เกดิ การทางานซ้าซ้อน ขดั แยง้ หรือ เหล่ือมล้ากนั

ประเภทของการประสานงาน๑. การประสานงานอยา่ งเป็นทางการ และ ไม่เป็นทางการ๒. การประสานงานภายในองคก์ าร และ ภายนอกองคก์ าร๓. การประสานงานในแนวด่ิง (Top - down Bottom - up) และแนวราบ

องค์ประกอบของการประสานงาน๑. ความร่วมมือ จะต้องมคี วามเข้าใจหรือมกี ารตกลงร่วมกนั มีการระดมความคดิ วธิ กี าร เทคนคิ การจัดหาทรัพยากรมาสนับสนุนการทางานร่วมกนั๒. จังหวะเวลา ผู้ทป่ี ฏบิ ตั งิ านต้องมีความรับผดิ ชอบ ทาให้งานน้นัเป็ นไปตามกาหนดเวลาทต่ี กลงกนั ให้ตรงเวลา๓. ความสอดคล้องกนั จะต้องพจิ ารณาความพอเหมาะพอดี ไม่ทางานซ้อนกนั เพอ่ื ให้การบริหารงานประสบผลสาเร็จ

องค์ประกอบของการประสานงาน(ต่อ)๓. ระบบการส่ือสารทีต่ รงกนั อยา่ งรวดเร็วและราบร่ืน๔. ผู้ประสานงานจะตอ้ งสามารถทาใหท้ กุ ฝ่ ายเขา้ ร่วมทางานอยา่ งมีจุดมุ่งหมายเดียวกนั ตามวตั ถุประสงคข์ องงานทีก่ าหนดไว้

วัตถุประสงค์ของการประสานงาน๑. เพอ่ื แจง้ ใหผ้ ซู้ ่ึงมีส่วนเกย่ี วขอ้ งทราบ๒. เพือ่ รักษาไวซ้ ่ึงความสมั พนั ธอ์ นั ดี๓. เพ่ือขอคายนิ ยอมหรือความเห็นชอบ๔. เพือ่ ขอความช่วยเหลือ๕. เพื่อขจดั ขอ้ ขดั แยง้ ท่ีอาจมีข้นึ๖. เพ่อื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย๗. เพอ่ื ใหง้ านมีคุณภาพตามมาตรฐานทก่ี าหนดไว้

ประโยชน์ของการประสานงานช่วยใหก้ ารทางานบรรลุเป้าหมายไดอ้ ยา่ งราบร่ืน รวดเร็ว๑. ช่วยประหยดั เวลา และ ทรพั ยากรในการปฏบิ ตั งิ าน๒. ช่วยใหท้ ุกฝายเขา้ ใจถึงนโยบาย และวตั ถุประสงคข์ ององคก์ าร๓. ช่วยสร้างความสามคั คีและความเขา้ ใจในหมู่คณะ๔. เสริมสรา้ งขวญั และกาลงั ใจของผปู้ ฏิบตั ิงาน๕. ลดอนั ตรายจากการทางานใหน้ อ้ ยลง

ประโยชน์ของการประสานงาน (ต่อ)๖. ช่วยลดขอ้ ขดั แยง้ ในการทางาน๗. ช่วยใหป้ ฏบิ ตั ิงานเป็นหมู่คณะ และ เพม่ิ ผลสาเร็จของงาน๘. ช่วยเกดิ ความคิดใหม่ๆ และ ปรับปรุงอยเู่ สมอ๙. ป้องกนั การทางานซ้าซ้อน๑๐. การดาเนินงานเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ

ปัจจยั ในการประสานงาน๑. นโยบาย ใหแ้ ตล่ ะหน่วยขององคก์ ารตอ้ งประสานนโยบายเพื่อบรรลุผลขององคก์ าร๒. ใจ สมาชิกในองคก์ ารลว้ นมีชีวติ จิตใจ ในการปฏบิ ตั ิงานร่วมกนั ยอ่ มตอ้ งอาศยั ความร่วมมือร่วมใจ ตลอดจนความจริงใจท่มี ีต่อกนั การประสานใจจึงเป็นภารกจิ ท่สี าคญั ยงิ่๓. แผน องคก์ รจะกาหนดแผนงานและโครงการไว้ ผปู้ ฏบิ ตั ิตอ้ งประสานแผน ประสานโครงการท่เี กย่ี วขอ้ งดว้ ย

ปัจจัยในการประสานงาน (ต่อ)๔. งานทร่ี ับผดิ ชอบ งานยอ่ ยๆในโครงการและนอกโครงการ ผู้ประสานงานตอ้ งเตรียมประสานส่วนที่เกย่ี วขอ้ งใหล้ ุล่วงไปดว้ ยดี๕. คน ในการปฏบิ ตั งิ าน ผปู้ ฏิบตั ิตอ้ งเกย่ี วขอ้ งกบั คน จึงตอ้ งประสานคนท้งั ในองคก์ ารและนอกองคก์ าร๖. ทรัพยากร อาคาร สถานท่ี วสั ดุอุปกรณ์ อาจตอ้ งขอยมื ขอเบิก

สิ่งสาคญั เบื้องต้นของการประสานงาน๑. การจดั วางหน่วยงานทงี่ ่าย (Simplified Organization) ◦ การแบง่ แผนก ◦ การแบ่งแยกงานตามหนา้ ที่ ◦ การจดั วางรูปงาน และ ระเบยี บการทชี่ ดั เจน๒. การมีโครงการ และ นโยบายอนั สอดคลอ้ งตอ้ งกนั๓. การมีวิธีติดตอ่ งานภายในองคก์ ารทที่ าไวด้ ี

สรุป การประสานงานการประสานงานเป็นศิลปะอยา่ งหน่ึงตอ้ งอาศยั ความสุภาพอ่อนนอ้ มถ่อมตน ความจริงใจ ความอดทน อดกล้นั ยม้ิ แยม้ แจ่มใสในการติดต่อกบั บุคคลอ่ืน เพ่อื ขอรับการสนบั สนุน ความน่วมมือ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจตรงกนั





โดย....นางสาวรัตนา ดา่ นปรดี า พยาบาลวชิ าชีพชานาญการโรงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราชสระแก้ว

พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหม หรือ ของผูเ้ ปน็ ใหญ่พรหมวิหาร 4 จึงเป็นธรรมะสาหรบั“ผู้บริหาร” ซงึ่ ประกอบดว้ ย: -

เมตตา คือ ความเป็นมติ ร ปรารถนาใหผ้ ู้อื่นมคี วามสขุแมบ้ คุ คลนั้นไม่ได้ทกุ ข์ ความสขุ เกิดข้นึ ไดท้ ัง้ ทางกายและทางใจ ไดแ้ ก่ ความสุขจากการมที รัพย์ความสขุ จากการใชจ้ ่ายทรัพย์ ความสุขจากการไม่เปน็ หน้ี และความสขุ จากการทางานที่ปราศจากโทษหรอื ปราศจากอนั ตราย

กรณุ า คือ ความคดิ สงสาร ปรารถนาใหผ้ ้อู นื่ พน้ ทกุ ข์ความทกุ ข์ คือสงิ่ ทเ่ี ข้ามาเบียดเบียนใหเ้ กิดความไม่สบายกายและความไม่สบายใจ และเกิดขึ้นจากปจั จัยหลายประการดว้ ยกนั พระพุทธองคท์ รงสรุปไวว้ ่าความทกุ ขม์ ี 2 กลมุ่ ใหญ่ ๆ

มทุ ิตา คือ ความยนิ ดีเมอ่ื คนอื่นได้ดี ไมม่ ีจิตริษยายอมรบั ในความดแี ละความสาเร็จของคนอน่ืแสดงความช่นื ชมยินดี กบั ความสาเรจ็ ของคนอืน่ ได้ดว้ ยความเต็มใจ

อุเบกขา คอื การรู้จกั วางเฉย การวางใจเป็นกลางไม่เอนเอียงเข้าข้าง มคี วามหนักแน่น มีสตอิ ยเู่ สมอคนยุตธิ รรม รักษาความเปน็ กลางไวไ้ ด้ม่นั คงปฏบิ ัตหิ น้าทดี่ ้วยเหตุผลถูกต้องคลองธรรม และเปน็ ผู้วางเฉยได้ เม่ือไม่อาจประพฤติเมตตา กรณุ าหรอื มุทติ าได้



บุพเพสนั นิวาส ทิ้งขอ้ คิดเป็ นคาสอนทางพระพทุ ธศาสนา ใหผ้ ชู้ มไดน้ ามาประพฤติปฏิบตั ิ“พรหมวหิ าร 4” เมือ่ ถงึ คราวาระสุดทา้ ยของท่าน “ออกญาโหราธิบดี”ท่ีพา่ ยแพต้ ่อสงั ขารความชราร่วงโรย จึงไดเ้ รียกลูกเมียบ่าวไพร่บริวาร มาสัง่ เสียเป็ นคร้ังสุดทา้ ยนี่คอื สัจธรรมความจริง ท่ีมนุษยท์ ุกคนหนีไมพ่ น้ นนั่ คอื“เกิด แก่ เจบ็ ตาย” ท่านออกญาท่ีเขา้ ใจในหลกั ความจริงน้ีจึงมที ่าทีไม่ตกใจ หรือเสียใจกบั การลาจากนิรันดร์ และพร้อมที่จะเดินทางไปยงั อีกภพภูมิ อยา่ งไมม่ หี ่วง