6.ด้านคณุ ลกั ษณะ 1. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต 2. มีวินัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 7.สมรรถนะสำคัญของนกั เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8.กิจกรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงที่ 1 ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน(15 นาที) 1. ครเู ช็คชอื่ เข้าชั้นเรยี น 2. ครใู ห้นกั เรียนนำบอร์ด KidBight ของตนเองมา 3. ครูให้นักเรียน เปดิ โปรแกรม KidBight 4. ครอู ธบิ ายขอบเขตและจดุ ประสงคข์ องเน้ือหาในชวั่ โมงน้ี ขน้ั กจิ กรรมการเรียนการสอน(30 นาท)ี 1. ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยตั้งคำถามนำนักเรียนว่า \"ครูต้องการทราบจำนวนนักเรียนที่มาเข้าเรียนวันนี้ โดยต้องการทราบจำนวนนักเรียนชาย นักเรียนหญิง และจำนวนนกั เรยี นทมี่ าเรยี นในวันน้ีท้ังหมดเพ่ือ หาคำตอบท่ตี ้องการเหลา่ น้ี จะต้องดำเนนิ การอย่างไร\" 2. ครแู ละนกั เรยี นตกลงว่าจะนับจำนวนนกั เรียนชายเป็นอันดบั แรก จากน้นั นับจำนวนนักเรยี นหญงิ แล้ว นำจำนวนของนกั เรียนชายและนกั เรียนหญิงมารวมกัน 3. ครูสุ่มนักเรียนหนึ่งคนออกมานับจำนวนนักเรียนชาย และจำนวนนักเรียนหญิงแล้วจดบันทึกบน กระดาน 4. ครูตั้งคำถามกับนักเรียนว่า \"นักเรียนรู้ได้อย่างไรว่าจำนวนใดคือนักเรียนชาย จำนวนใดคือนักเรียน หญงิ \"
5. ครแู นะนำนักเรียนว่า \"การเขยี นคำว่า 'ชาย' และ 'หญงิ ' ลงบนกระดานน้ันเปรียบเหมือนการประกาศ ตัวแปรในคอมพิวเตอร์ เพือ่ ให้คอมพวิ เตอรร์ ู้วา่ ในตวั แปรชายและตัวแปรหญิงมคี า่ หรือจำนวนเท่าไร\" 6. ครตู งั้ คำถามกับนักเรียนว่า \"ถา้ ครูอยากรู้จำนวนนกั เรยี นทมี่ าเรียนวนั นี้ทัง้ หมดควรจะทำอยา่ งไร\" 7. ครสู มุ่ นักเรยี นหนึง่ คนหาจำนวนผลรวม และเขียนผลรวมลงบนกระดาน ภายใต้ตัวแปร “รวม” 8. ครใู หน้ ักเรียน ทำกจิ กรรมที่ เรอื่ ง ตัวแปรด้วยโปรแกรม KidBright ครสู มุ่ นักเรยี นนำเสนอคำตอบ ขั้นสรปุ (15 นาท)ี 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเช่ือมโยงไปสู่ตัวแปรทใี่ ช้ในการเขยี นโปรแกรม 2. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนถามในเรื่องท่ไี มเ่ ข้าใจ 3. ครูนดั หมายนักเรยี นในการเรียนครั้งต่อไป ชว่ั โมงท่ี 2 ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น(15 นาที) 1. ครูเชค็ ชอื่ เข้าชั้นเรยี น 2. ครใู ห้นกั เรยี นนำบอรด์ KidBight ของตนเองมา 3. ครูใหน้ กั เรยี น เปดิ โปรแกรม KidBight 4. ครอู ธบิ ายขอบเขตและจุดประสงค์ของเน้ือหาในชั่วโมงน้ี 5. ครทู บทวนเนอ้ื หาในชั่วโมงที่ผา่ นมา ขน้ั กิจกรรมการเรียนการสอน(30 นาที) 1. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันถึงการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ เช่น การบวก การลบ การ คณู การหาร และการเปรียบเทียบ 2. ครูตั้งคำถามกับนักเรียนว่า \"ถ้าครูอยากรู้ว่าจำนวนนักเรียนชายมีมากกว่านักเรียนหญิงเท่าใด จะต้องทำอย่างไร\" และ\"ถ้าครูมีขนมอยู่ 50 ชิ้นจะแบ่งให้นักเรียนเท่า ๆ กัน นักเรียนจะได้ขนม คนละก่ีชิ้น\" 3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสร้างโปรแกรม แบง่ ขนม 4. นกั เรยี นจับคู่กันทำ แบบฝึกหดั เรื่อง ตวั แปรและตนั ดำเนินการ 5. ครสู ุ่มนกั เรียนนำเสนอคำตอบ 6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายถงึ การใช้งานตวั แปรและตวั ดำเนนิ การ ขนั้ สรุป(15 นาท)ี 1. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามในเร่ืองทน่ี ักเรียนไม่เข้าใจ 2. ครูนัดหมายในการเรยี นในชว่ั โมงตอ่ ไป
9.ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. บอร์ด KidBight 2. โปรแกรม KidBight 3. แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง สนุกคดิ กับ KidBright 4. แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง ตัวแปรและตนั ดำเนินการ 10.การวัดผลและประเมนิ ผล 10.1 การวดั ผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวัด เคร่ืองมอื แบบฝึกหัด ดา้ นความรู้ แบบฝึกหดั เรือ่ ง ตัวแปรและตันดำเนนิ การ แบบประเมนิ ดา้ น ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ทำกิจกรรมที่ เรอื่ ง ตวั แปรด้วยโปรแกรม KidBright แบบประเมนิ ด้าน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ วัดโดยการสงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของ คุณลักษณะอนั พ่งึ สมรรถนะสำคัญของนกั เรยี น นักเรยี น 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ 1. ซ่ือสัตยส์ ุจริต ประสงค์ 2. มวี นิ ยั 3. ใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมนิ ด้าน 4. อย่อู ย่างพอเพียง สมรรถนะสำคัญของ 5. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน วัดโดยการสงั เกตสมรรถนะสำคัญของนักเรยี น 5 นักเรียน ดา้ น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
10.2 เกณฑก์ ารประเมินผล 1) ดา้ นความรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น ( 10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง หมายเหตุ ดา้ นความรู้เกณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ แบบบนั ทึกการประเมนิ ด้านความรู้ เรอ่ื ง ตวั แปรและตันดำเนินการ เลขท่ี ช่ือ-นามสกุล แบบทดสอบหลงั เรียน รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 เด็กชายจักรพรรดิ์ อนิ เหลา 7 70 ✓ ✓ 2 เด็กชายชยั พชิ ิต จอมใจ 8 80 ✓ ✓ 3 เดก็ ชายณัฐภทั ร สตุ า๋ 7 70 ✓ ✓ 4 เดก็ ชายธนดล เบญจนาค 8 80 ✓ ✓ 5 เดก็ ชายรัฐกาล วงศ์ศรี 8 80 ✓ ✓ 6 เดก็ ชายศิขริน ชา่ งซอ 7 70 ✓ ✓ 7 เดก็ ชายอนุพงษ์ พานพระ 7 70 ✓ ✓ 8 เดก็ ชายโอเล้ียง ทองแดง 7 70 ✓ ✓ 9 เดก็ หญงิ จรินทรท์ ิพย์ บญุ ประเสรฐิ 9 90 ✓ ✓ 10 เด็กหญิงจิราพร เมืองใจมา 9 90 ✓ 11 เด็กหญิงจีรดาภา ศรสี วสั ดิ์ 9 90 12 เด็กหญงิ ตรภี ตั ร วงศ์แก้วมลู 9 90 13 เด็กหญิงธดิ ารตั น์ เสรมิ สขุ 8 80 14 เด็กหญงิ ป่ินนชุ มีเจรญิ 8 80 15 เด็กหญงิ วรัญญาภรณ์ เตชะนันท์ 9 90 16 เดก็ หญงิ วรี ภทั รา ศริ ทิ รัพย์ 7 70 17 เดก็ หญิงสุภสั สรา อนิ เลก็ 8 80 18 เด็กชายครรชิต พรมมา 7 70 19 เด็กชายอานันท์ ฟ้งุ สนั ตภิ าพ 7 70
เลขท่ี ชอ่ื -นามสกุล แบบทดสอบหลังเรยี น รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น 20 เด็กชายธนโชติ ทองปาน 7 70 ✓ ✓ 21 เด็กชายวริ ภทั ร ขัตธิ ิ 8 80 ✓ ✓ 22 เด็กชายภานภุ ัทร เรอื นมลู สาย 8 80 23 เดก็ หญงิ อมั ธิกา สนั ยสตทิ ัศน์ 8 80 หมายเหตุ คะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี น เกณฑผ์ า่ น รอ้ ยละ 80 ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ครคู รู
2) ด้านทักษะกระบวนการ กิจกรรม ชอบรอ้ นหรอื ชอบเยน็ 1. สามารถทำกจิ กรรมใหส้ ำเร็จ 2. สามารถอธิบายในสว่ นของทำงานได้ 3. มีความคดิ สรา้ งสรรค์ 4. สง่ ตรงเวลาที่กำหนด เกณฑ์การให้คะแนนด้านทักษะกระบวนการ ดา้ นทักษะกระบวนการ ระดบั คะแนน กจิ กรรมที่ เร่ือง ตัวแปรดว้ ย 4 32 1 โปรแกรม KidBright ทำกิจกรรม ทำกจิ กรรม ได้ตามเกณฑ์ ทำกจิ กรรม ทำกจิ กรรม ได้ตามเกณฑ์ ครบทกุ ข้อ ไดต้ ามเกณฑ์ ได้ตามเกณฑ์ 1ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ แบบประเมินด้านทักษะกระบวนการ 4 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง หมายเหตุ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวชี้วดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอื่ ง ตวั แปรด้วยโปรแกรม KidBright เลขที่ ชอ่ื -นามสกลุ คะแนนการประเมนิ ผลการประเมนิ ผ่าน ไม่ผา่ น 1 เด็กชายจกั รพรรดิ์ อินเหลา 4✓ 2 เด็กชายชัยพชิ ิต จอมใจ 4✓ 3 เดก็ ชายณัฐภัทร สตุ ๋า 4✓ 4 เด็กชายธนดล เบญจนาค 4✓ 5 เด็กชายรัฐกาล วงศ์ศรี 4✓ 6 เดก็ ชายศิขรนิ ชา่ งซอ 4✓ 7 เดก็ ชายอนุพงษ์ พานพระ 4✓ 8 เด็กชายโอเล้ียง ทองแดง 4✓ 9 เดก็ หญงิ จรินทร์ทิพย์ บุญประเสริฐ 4✓ 10 เดก็ หญงิ จริ าพร เมอื งใจมา 4✓ 11 เดก็ หญิงจรี ดาภา ศรีสวสั ดิ์ 4✓ 12 เดก็ หญงิ ตรีภตั ร วงศแ์ กว้ มลู 4✓ 13 เด็กหญิงธดิ ารัตน์ เสรมิ สขุ 4✓ 14 เด็กหญงิ ปิน่ นุช มีเจริญ 4✓ 15 เด็กหญงิ วรัญญาภรณ์ เตชะนนั ท์ 4✓ 16 เด็กหญงิ วรี ภัทรา ศริ ทิ รัพย์ 4✓ 17 เดก็ หญงิ สุภัสสรา อินเลก็ 4✓ 18 เด็กชายครรชติ พรมมา 4✓ 19 เด็กชายอานนั ท์ ฟ้งุ สันติภาพ 4✓ 20 เด็กชายธนโชติ ทองปาน 4✓ 21 เดก็ ชายวิรภัทร ขตั ิธิ 4✓ 22 เด็กชายภานภุ ทั ร เรอื นมลู สาย 4✓ 23 เด็กหญิงอัมธกิ า สันยสติทศั น์ 4✓ หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 ขึน้ ไปทุกตัวชี้วัด ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 3) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ลงชอื่ .................................................. (.......................................................) ครคู รู
แบบประเมินดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ่ ประสงค์ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวชี้วดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน การประเมนิ ด้านสมรรถนะนักเรยี น เร่ือง แนวคดิ เชงิ คำนวณ ซือ่ สตั ยส์ ุจริต 1. ไม่โกหก 2. ไมค่ ัดลอกงานของผู้อน่ื 3. มคี ุณธรรมต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. ไมล่ ักขโมยของผูอ้ ื่น มวี นิ ยั 1. เข้าเรยี นตรงต่อเวลา 2. ไมโ่ ดดเรยี น 3. แตง่ กายสุภาพเรยี บร้อย 4. ส่งการบา้ นตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ต้ังใจเรยี น 2. สบื ค้นหาความร้/ู ข้อมลู สมำ่ เสมอ 3. รว่ มทำกิจกรรมในห้องเรยี น 4. บนั ทึกความรู้ วิเคราะหข์ ้อมูลจากส่งิ ท่เี รียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง 1. ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง 2. ใช้ทรพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดแู ลอยา่ งดี 3. ไม่เอาเปรียบผูอ้ น่ื และไม่ทำให้ผอู้ ่นื เดือดร้อน พร้อมให้อภยั เมอ่ื ผูอ้ ื่นกระทำผิดพลาด 4. นำวสั ดเุ หลือใชม้ าสร้างงานตามทีค่ ณุ ครมู อบหมาย ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
1. ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีก่ ารงาน 2. เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าท่ที ่ีได้รบั มอบหมาย 3. ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็ 4. ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานด้วยตนเอง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั ระดับคณุ ภาพ พึงประสงค์ 4 3 2 1 มีคณุ ลกั ษณะอนั มคี ณุ ลกั ษณะอัน มคี ณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ มีคณุ ลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอนั 1 ข้อ มวี นิ ยั พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ขอ้ มคี ณุ ลักษณะอัน มีคุณลกั ษณะอัน มคี ุณลักษณะอัน มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มคี ุณลกั ษณะอัน มคี ุณลักษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอัน 1 ข้อ อย่อู ยา่ งพอเพียง พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีคณุ ลักษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอนั มงุ่ มนั่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขึน้ ไปทุกตวั ชวี้ ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
แบบประเมินดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เร่อื ง คณิตคิดสนกุ ด้วย KidBright คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน เลขท่ี ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ ม่ันในการ ผ่าน ไม่ผา่ น หมายเหตุ ทำงาน 1 4 43 4 4✓ 2 4 33 4 4✓ 3 4 33 4 4✓ 4 4 33 4 4✓ 5 4 34 4 4✓ 6 4 44 4 4✓ 7 4 43 4 4✓ 8 4 33 4 4✓ 9 4 44 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 3 4 4 4✓ 18 4 3 3 4 4✓ 19 4 4 3 4 4✓ 20 4 4 4 4 4✓ 21 4 3 3 4 4✓ 22 4 4 4 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ขึ้นไปทุกตัวชีว้ ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของนักเรียน ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครคู รู
แบบประเมินด้านสมรรถนะสำคญั ของนักเรยี น 4 คะแนน หมายถึง ดมี าก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ได้ระดับคณุ ภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ชี้วดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ ด้านสมรรถนะนกั เรยี น เรอื่ ง แนวคดิ เชิงคำนวณ ความสามารถในการส่ือสาร 1. มคี วามสามารถในการรบั และส่งสาร 2. เลอื กรบั หรือไมร่ ับขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลักเหตผุ ล 3. คำนงึ ถงึ ผลกระทบที่มตี ่อตนเองและสังคม 4. การเจรจาตอ่ รองเพอ่ื ขจัดและลดปัญหาความขดั แยง้ ต่าง ๆ ความสามารถในการคิด 1. การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ 2. การคดิ เปน็ ระบบ 3. การคดิ สงั เคราะห์ 4. การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. การแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ 2. มกี ารตัดสินใจท่ีมปี ระสิทธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ ตอ่ ตนเอง สงั คมและส่ิงแวดล้อม 3. ประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หา 4. เขา้ ใจความสัมพันธ์และการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณต์ า่ ง ๆ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1. การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 2. การเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่อง 3. การรจู้ กั หลกี เลย่ี งพฤติกรรมไม่พึงประสงคท์ ีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่นื 4. การปรับตัวใหท้ นั กับการเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ 2. มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 3. การแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม 4. มคี ณุ ธรรมในการใช้เทคโนโลยี เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านสมรรถนะนักเรียน ด้านสมรรถนะ 4 ระดบั คุณภาพ 1 นักเรียน 32 มีความสามารถใน ความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน การสื่อสาร 1 ขอ้ การสอ่ื สาร การส่อื สาร การสื่อสาร การสอ่ื สาร มคี วามสามารถใน ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ การคดิ 1 ขอ้ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน การคิด การคิด การคดิ การคิด การแกป้ ัญหา 1 ขอ้ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ มคี วามสามารถใน ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใชท้ กั ษะชวี ิต การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา 1 ข้อ มคี วามสามารถใน ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ การใชเ้ ทคโนโลย ความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน 1 ข้อ การใช้ทกั ษะชีวติ การใช้ทกั ษะชีวิต การใช้ทกั ษะชวี ติ การใช้ทกั ษะชีวติ ครบทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ ความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใชเ้ ทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลย การใชเ้ ทคโนโลย ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ข้ึนไปทุกตวั ชว้ี ดั ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
แบบประเมินด้านสมรรถนะนักเรียน เร่อื ง คณิตคดิ สนุกดว้ ย KidBright สมรรถนะนักเรียน ผลการประเมิน เลขท่ี การสื่อสาร การคิด การ การ การใช้ ผา่ น ไม่ผา่ น หมายเหตุ แกป้ ญั หา ใช้ทกั ษะชวี ิต เทคโนโลยี 14 4 4 4 4✓ 24 4 3 4 4✓ 34 4 3 4 4✓ 44 4 3 4 4✓ 54 4 4 4 4✓ 64 4 4 4 4✓ 74 4 4 4 4✓ 84 4 4 4 4✓ 94 4 4 4 4✓ 10 4 4 3 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 4 4 4 4✓ 18 4 4 4 4 4✓ 19 4 4 3 4 4✓ 20 4 4 3 4 4✓ 21 4 4 3 4 4✓ 22 4 4 3 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ขน้ึ ไปทุกตัวชว้ี ัด ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงช่อื .................................................. (.......................................................) ครคู รู
11. ข้อเสนอแนะ ✓ ใชส้ อนได้ ควรปรับปรงุ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (นายวสิ ุทธศิ กั ด์ิ เครือสาร) ครพู ี่เล้ียง วนั ท่ี 1 เดือน มถิ นุ ายน พ.ศ.2564 12.บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ 1) ผลทีเ่ กิดขนึ้ แก่ผเู้ รียน ดา้ นความรู้ จำนวนนักเรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คดิ เป็นร้อยละ จำนวนนกั เรยี นทไ่ี มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ ร้อยละ ด้านทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรยี นทผี่ า่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเปน็ รอ้ ยละ จำนวนนกั เรียนทไี่ มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ ร้อยละ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนกั เรียนทผ่ี า่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเป็นร้อยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเป็นรอ้ ยละ ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน จำนวนนักเรยี นที่ผา่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเป็นร้อยละ จำนวนนักเรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ รอ้ ยละ 2) ปัญหาและอุปสรรค นกั เรียนไม่ตามที่ครบู อก จึงทำใหล้ ่าช้าในการสอน
3)แนวทางการแกป้ ัญหา ครเู ชค็ เป็นรายบุคคลวา่ ทำตามไหม ทำถูกไหม และให้คำแนะนำต่างๆแก่นักเรียนทีช่ ้า ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ผู้สอน วันท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 13.ความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลุม่ สาระ/สายช้นั ....................................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................. ................................. ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) หวั หนา้ กลมุ่ สาระ/สายชัน้ วันท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 14.ความคดิ เห็นของฝ่ายวิชาการ ...................................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วนั ท่ี.......เดือน................... พ.ศ.............. 15.ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ...................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ผู้อำนวยการโรงเรียน วันท.ี่ ......เดือน................... พ.ศ..............
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ใชเ้ วลา 3 ช่วั โมง/คาบ หนว่ ย 2/5 เร่อื ง เซนเซอร์และการใชง้ าน วันที่ เดอื น พ.ศ. 1.มาตราฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคาํ นวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจรงิ อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่า ทนั และมีจริยธรรม 2.ตวั ช้ีวัด ว 4.2 ม. 1/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยเพื่อแก้ปญั หาทางคณิตศาสตรห์ รอื วิทยาศาสตร์ 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความสำคัญของเซนเซอร์พืน้ ฐานได้ 2. เขยี นแผนผังการประยกุ ต์ใช้งานเซนเซอร์ได้ 4.สาระสำคญั 1. เซนเซอรแ์ ละการใชง้ าน 2. เขียนโปรแกรมแบบทางเลือกได้ 5.สาระการเรยี นรู้ ในระบบสมองกลฝังตัว เซนเซอร์ คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตรวจวัดปริมาณทางกายภาพต่าง ๆ เช่น อณุ หภูมิ แสง เสยี ง การสัมผสั เป็นต้น และแปลงสญั ญานทางไฟฟ้าใชต้ รวจสอบเงอ่ื นไขสำหรับการสั่งงานส่วน ควบคุมแบบอัตโนมัติหรือตรวจข้อมูลต่าง ๆ สำหรับการเก็บบันทึกข้อมูล เช่น เซนเซอร์ตรวจสัดแสงสว่าง เซนเซอร์ตรวจวัดระดับเสียง เซนเซอร์ตรวจวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก เซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและ ความช้นื สัมพัทธ์ เป็นต้น
6.ดา้ นคุณลกั ษณะ 1. ซ่อื สตั ย์สุจริต 2. มีวนิ ยั 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 5. มุง่ ม่นั ในการทำงาน 7.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8.กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ขนั้ นำเขา้ สูบ่ ทเรียน(15 นาที) 1. ครูเชค็ ชอ่ื เข้าชั้นเรยี น 2. ครูจัดกิจกรรมละลายพฤตกิ รรม “แยกแยะสรา้ งสรรค์” 3. ครูให้นักเรยี นนำ บอรด์ KidBright ตามหมายเลขของตนเองที่หนา้ ห้องเพ่ือเตรยี มความพรอ้ ม 4. ครบู อกหวั ข้อการสอนวา่ วนั นี้จะสอนเรื่อง เซนเซอรแ์ ละการใช้งาน ขัน้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน(30 นาที) 1. ครใู หน้ กั เรียนดู PowerPoint เก่ียวกบั ของเซนเซอร์พืน้ ฐานของ kidbright และเซนเซอรภ์ ายนอก 2. ครูยกตัวอย่างเซนเซอร์ภายนอกต่างๆ และถามเปรียบเทียบว่าเซนเซอร์ต่างๆเปรียบเสมือนอวัยวะ ส่วนใดในร่างกายมนุษย์ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตอบ 3. ครใู หน้ ักเรียนเปดิ โปรแกรม kidbright เพ่ือ ทำกิจกรรม การเขยี นโปรแกรมแบบทางเลือก (การกดปุ่ม เพ่อื เลอื กวา่ จะวัดอณุ หภูมิหรอื วัดแสง) 4. ครเู ดินตรวจนักเรียนแตล่ ะคนวา่ ทำไดไ้ หมและใหค้ ะแนนในกิจกรรม
ขั้นสรปุ (15 นาท)ี 1. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั เรอื่ ง เซนเซอรแ์ ละการใชง้ าน เปน็ การบ้านและนำมาสง่ ในชั่วโมงตอ่ ไป 2. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นถามในสว่ นทไ่ี ม่เขา้ ใจ 3. ครูนัดหมายนกั เรียนในการเรียนครัง้ ตอ่ ไป ชว่ั โมงท่ี 2 ข้ันนำเขา้ สูบ่ ทเรียน(15 นาที) 1. ครเู ชค็ ชื่อเข้าชน้ั เรียน 2. ครใู ห้นักเรยี นเปดิ อนิ เทอร์เน็ตเพ่อื สบื คน้ ข้อมูล 3. ครใู หน้ ักเรยี นเล่นเกม ออมเงินเพอ่ื เป็นการแบ่งกลุ่มในการทำกิจกรรมตอ่ ไป ขน้ั กจิ กรรมการเรียนการสอน(30 นาที) 1. ครูให้นักเรียนเข้าเว็บไซต์ https://www.kid-bright.org/ เพื่อสืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน วิทยาศาสตร์ทเี่ กย่ี วกบั kidbright 2. ครยู กตัวอย่างโครงงานวทิ ยาศาสตรท์ ีเ่ กี่ยวกบั kidbright ใหน้ กั เรยี น 3. ครูให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ รา่ งโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยมีหัวขอ้ ดังน้ี 3.1.ชอื่ โครงงาน 3.2.สาเหตทุ เี่ ลือกหวั ขอ้ โครงงาน 3.3. ประโยชน์และการใช้งานของโครงงาน 3.4.ไดแ้ รงบนั ดาลใจมาจากโรงงานใด 4. ครูเดินตรวจนักเรียนแต่ละกลุ่มและสอบถามถงึ ปญั หาและอุปสรรคในการทำงาน ขน้ั สรปุ (15 นาท)ี 1. ครเู กบ็ รวบรวมแบบรา่ งโครงงานวิทยาศาสตร์ 2. ครนู ดั หมายนักเรยี นในการเรียนครง้ั ต่อไป
ช่วั โมงที่ 3 ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรียน(15 นาที) 1. ครูเช็คช่อื เขา้ ชั้นเรยี น 2. ครใู ห้นกั เรยี นน่งั ตามกลมุ่ ทแี่ บง่ ไว้ในชัว่ โมงที่ผ่านมา 3. ครแู จกอุปกรณ์ในการนำเสนองานให้กับนกั เรยี น เชน่ กระดาษบบู ปากกาเมจิก ขน้ั กจิ กรรมการเรียนการสอน(30 นาที) 1. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกันทำ กจิ กรรมนำเสนอแบบร่างโครงงาน 2. ครเู ดนิ ตรวจสอบเพอื่ ให้นกั เรยี นไดส้ อบถาม และในคำแนะนำต่างๆ 3. ครใู ห้นกั เรยี นแตก่ ลมุ่ นำเสนอ แบบรา่ งโครงงาน ใหก้ ับเพือ่ นๆ ข้ันสรปุ (15 นาท)ี 1. ครสู รปุ และให้คำแนะนำเกยี่ วกับแบบรา่ งโครงงาน ของนักเรียนทน่ี ำเสนอ 2. ครนู ัดหมายนกั เรียนในการเรียนคร้ังตอ่ ไป 9.ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint กิจกรรมละลายพฤติกรรม “แยกแยะสรา้ งสรรค์” 2. บอรด์ Kidbright 3. PowerPoint เซนเซอร์และการใชง้ าน 4. โปรแกรม kidbright 5. แบบฝกึ หัด เร่อื ง เซนเซอร์และการใชง้ าน 6. เวบ็ ไซต์ https://www.kid-bright.org/ 7. อุปกรณ์ในการนำเสนองาน
10.การวัดผลและประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เครื่องมือ 10.1 การวดั ผล แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง เซนเซอร์และการใช้งาน แบบฝกึ หดั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ แบบประเมินดา้ น ด้านความรู้ กจิ กรรมนำเสนอแบบร่างโครงงาน ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ วัดโดยการสังเกตคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของ แบบประเมินดา้ น ผู้เรียน 5 ดา้ น ได้แก่ คณุ ลักษณะอันพง่ึ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต 2. มวี ินัย ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง แบบประเมนิ ด้าน 5. มงุ่ มั่นในการทำงาน สมรรถนะสำคัญของ วดั โดยการสังเกตสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 5 ดา้ น 1. ความสามารถในการส่ือสาร ผ้เู รียน 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
10.2 เกณฑ์การประเมินผล 1) ด้านความรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น ( 10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ ด้านความรู้เกณฑ์ผา่ น ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ แบบบันทกึ การประเมินดา้ นความรู้ เซนเซอรแ์ ละการใช้งาน เลขที่ ช่ือ-นามสกุล แบบทดสอบหลงั เรยี น รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน 1 เด็กชายจักรพรรดิ์ อินเหลา 8 80 ✓ 2 เดก็ ชายชัยพชิ ิต จอมใจ 7 70 ✓ 3 เด็กชายณัฐภัทร สตุ า๋ 7 70 ✓ 4 เด็กชายธนดล เบญจนาค 7 70 ✓ 5 เด็กชายรัฐกาล วงศ์ศรี 7 70 ✓ 6 เด็กชายศขิ รนิ ช่างซอ 7 70 ✓ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 9 90 ✓ 8 เด็กชายโอเลี้ยง ทองแดง 8 80 ✓ 9 เด็กหญิงจรนิ ทรท์ ิพย์ บุญประเสรฐิ 9 90 ✓ 10 เด็กหญงิ จริ าพร เมอื งใจมา 9 90 ✓ 11 เด็กหญิงจรี ดาภา ศรีสวสั ด์ิ 9 90 ✓ 12 เดก็ หญงิ ตรีภัตร วงศแ์ ก้วมูล 9 90 ✓ 13 เดก็ หญงิ ธดิ ารตั น์ เสริมสุข 9 90 ✓ 14 เดก็ หญงิ ปนิ่ นุช มีเจริญ 8 80 ✓ 15 เด็กหญิงวรัญญาภรณ์ เตชะนนั ท์ 8 80 ✓ 16 เด็กหญงิ วรี ภัทรา ศริ ทิ รัพย์ 8 80 ✓ 17 เดก็ หญิงสภุ สั สรา อินเล็ก 8 80 ✓ 18 เดก็ ชายครรชติ พรมมา 8 80 ✓ 19 เดก็ ชายอานันท์ ฟุง้ สนั ติภาพ 7 70 ✓
เลขท่ี ชอ่ื -นามสกุล แบบทดสอบหลังเรยี น ร้อยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น ✓ 20 เด็กชายธนโชติ ทองปาน 8 80 ✓ ✓ 21 เด็กชายวริ ภทั ร ขัตธิ ิ 7 70 ✓ 22 เด็กชายภานภุ ัทร เรอื นมลู สาย 8 80 23 เดก็ หญงิ อมั ธิกา สนั ยสตทิ ัศน์ 7 70 หมายเหตุ คะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี น เกณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน
2) ด้านทักษะกระบวนการ กจิ กรรมนำเสนอแบบรา่ งโครงงาน 1. สามารถทำกิจกรรมใหส้ ำเร็จ 2. มีความสวยงามเรยี นรอ้ ย 3. มคี วามคิดสร้างสรรค์ ในการประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมทางเลือก 4. สามารถตอบคำถามของเพ่ือนกลมุ่ อื่นได้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นทักษะกระบวนการ ดา้ นทักษะกระบวนการ 4 ระดบั คะแนน 1 ทำกจิ กรรม การ 32 ทำกิจกรรม การ กจิ กรรม การเขยี นโปรแกรม เขียนโปรแกรมแบบ ทำกจิ กรรม การ ทำกจิ กรรม การ เขียนโปรแกรม แบบทางเลือก เขียนโปรแกรม เขยี นโปรแกรมแบบ แบบทางเลือก ทางเลอื ก แบบทางเลือก ทางเลือก ไดต้ ามเกณฑ์ ได้ตามเกณฑ์ ไดต้ ามเกณฑ์ ได้ตามเกณฑ์ ครบทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1ขอ้ แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขึ้นไปทุกตวั ชวี้ ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
แบบประเมินด้านทักษะกระบวนการ เร่ือง แบบร่างโครงงาน เลขที่ ช่อื -นามสกุล คะแนนการประเมนิ ผลการประเมนิ ผา่ น ไม่ผา่ น 1 เด็กชายจกั รพรรด์ิ อินเหลา 4✓ 2 เด็กชายชัยพชิ ติ จอมใจ 4✓ 3 เดก็ ชายณัฐภัทร สุตา๋ 4✓ 4 เดก็ ชายธนดล เบญจนาค 4✓ 5 เดก็ ชายรฐั กาล วงศศ์ รี 4✓ 6 เด็กชายศิขรนิ ช่างซอ 4✓ 7 เดก็ ชายอนุพงษ์ พานพระ 4✓ 8 เด็กชายโอเลยี้ ง ทองแดง 4✓ 9 เดก็ หญิงจรนิ ทร์ทิพย์ บญุ ประเสรฐิ 4✓ 10 เด็กหญงิ จริ าพร เมอื งใจมา 4✓ 11 เด็กหญงิ จีรดาภา ศรีสวสั ดิ์ 4✓ 12 เดก็ หญิงตรภี ตั ร วงศแ์ ก้วมูล 4✓ 13 เดก็ หญงิ ธิดารัตน์ เสริมสขุ 4✓ 14 เดก็ หญิงป่ินนชุ มเี จรญิ 4✓ 15 เดก็ หญงิ วรญั ญาภรณ์ เตชะนันท์ 4✓ 16 เด็กหญงิ วีรภทั รา ศริ ทิ รัพย์ 4✓ 17 เดก็ หญิงสุภสั สรา อนิ เลก็ 4✓ 18 เด็กชายครรชติ พรมมา 4✓ 19 เดก็ ชายอานันท์ ฟุ้งสนั ตภิ าพ 4✓ 20 เดก็ ชายธนโชติ ทองปาน 4✓ 21 เดก็ ชายวิรภทั ร ขตั ิธิ 4✓ 22 เด็กชายภานภุ ัทร เรอื นมูลสาย 4✓ 23 เดก็ หญงิ อมั ธิกา สนั ยสตทิ ัศน์ 4✓ หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวช้วี ัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 3) ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครูผูส้ อน
แบบประเมินดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ่ ประสงค์ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวชี้วดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน การประเมนิ ด้านสมรรถนะผ้เู รยี น เร่ือง แนวคดิ เชงิ คำนวณ ซือ่ สตั ยส์ ุจริต 1. ไม่โกหก 2. ไมค่ ัดลอกงานของผอู้ ่ืน 3. มคี ุณธรรมต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. ไมล่ ักขโมยของผอู้ ื่น มวี นิ ยั 1. เข้าเรยี นตรงต่อเวลา 2. ไมโ่ ดดเรยี น 3. แตง่ กายสภุ าพเรยี บร้อย 4. ส่งการบา้ นตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ต้ังใจเรยี น 2. สบื ค้นหาความรู้/ข้อมลู สมำ่ เสมอ 3. รว่ มทำกิจกรรมในห้องเรยี น 4. บนั ทึกความรู้ วเิ คราะหข์ ้อมูลจากส่งิ ท่ีเรียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง 1. ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง 2. ใช้ทรพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดแู ลอยา่ งดี 3. ไม่เอาเปรียบผู้อืน่ และไม่ทำให้ผอู้ ่นื เดือดร้อน พร้อมให้อภยั เมอ่ื ผูอ้ ื่นกระทำผิดพลาด 4. นำวสั ดเุ หลือใช้มาสร้างงานตามทีค่ ณุ ครมู อบหมาย ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
1. ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีก่ ารงาน 2. เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าท่ที ่ีได้รบั มอบหมาย 3. ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็ 4. ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานด้วยตนเอง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั ระดับคณุ ภาพ พึงประสงค์ 4 3 2 1 มีคณุ ลกั ษณะอนั มคี ณุ ลกั ษณะอัน มคี ณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ มีคณุ ลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอนั 1 ข้อ มวี นิ ยั พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ขอ้ มคี ณุ ลักษณะอัน มีคุณลกั ษณะอัน มคี ุณลักษณะอัน มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มคี ุณลกั ษณะอัน มคี ุณลักษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอัน 1 ข้อ อย่อู ยา่ งพอเพียง พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีคณุ ลักษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอนั มงุ่ มนั่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขึน้ ไปทุกตวั ชวี้ ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
แบบประเมินด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เรื่อง เซนเซอร์และการใช้งาน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน เลขที่ ซื่อสัตย์สุจริต มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มุง่ มน่ั ในการ ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ ทำงาน 1 4 33 4 4✓ 2 4 44 4 4✓ 3 4 43 4 4✓ 4 4 33 4 4✓ 5 4 44 4 4✓ 6 4 33 4 4✓ 7 4 44 4 4✓ 8 4 44 4 4✓ 9 4 44 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 3 4 4 4✓ 18 4 4 3 4 4✓ 19 4 3 3 4 4✓ 20 4 3 3 4 4✓ 21 4 4 4 4 4✓ 22 4 3 3 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตวั ชว้ี ัด ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ลงช่อื .................................................. (.......................................................) ครูผูส้ อน
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขนึ้ ไปทุกตัวชว้ี ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน การประเมินดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน เร่ือง แนวคดิ เชิงคำนวณ ความสามารถในการส่ือสาร 1. มคี วามสามารถในการรบั และส่งสาร 2. เลือกรับหรือไม่รับข้อมูลขา่ วสารดว้ ยหลักเหตผุ ล 3. คำนึงถึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสังคม 4. การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และลดปญั หาความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 2. การคิดเป็นระบบ 3. การคดิ สังเคราะห์ 4. การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. การแกป้ ัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ 2. มีการตดั สินใจที่มปี ระสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้นตอ่ ตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม 3. ประยุกต์ความรูม้ าใชใ้ นการป้องกันและแกไ้ ขปัญหา 4. เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 1. การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง 2. การเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่อง 3. การรจู้ กั หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. การปรับตวั ให้ทันกับการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆ 2. มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 3. การแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม 4. มีคุณธรรมในการใช้เทคโนโลยี เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน ด้านสมรรถนะ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ผูเ้ รยี น 32 มีความสามารถใน ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การสื่อสาร 1 ขอ้ การส่ือสาร การสือ่ สาร การสือ่ สาร การสอ่ื สาร มีความสามารถใน ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ การคดิ 1 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การคิด การคิด การคิด การคิด การแก้ปัญหา 1 ขอ้ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ มคี วามสามารถใน ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ติ การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา 1 ขอ้ มีความสามารถใน ครบทกุ ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ การใช้เทคโนโลย ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน 1 ข้อ การใช้ทักษะชวี ติ การใชท้ กั ษะชีวิต การใช้ทักษะชีวติ การใช้ทกั ษะชวี ติ ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลย การใชเ้ ทคโนโลย ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ
แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น เรอ่ื ง เซนเซอร์และการใชง้ าน สมรรถนะผเู้ รียน ผลการประเมิน เลขท่ี การสื่อสาร การคดิ การ การ การใช้ ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ แกป้ ัญหา ใช้ทกั ษะชีวิต เทคโนโลยี 14 4 3 3 4✓ 23 4 3 3 4✓ 33 4 3 3 4✓ 44 4 3 3 4✓ 54 4 3 3 4✓ 64 4 3 3 4✓ 74 4 3 3 4✓ 84 4 3 3 4✓ 94 4 4 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 4 4 4 4✓ 18 4 4 3 4 4✓ 19 4 4 3 4 4✓ 20 3 4 3 4 4✓ 21 3 4 3 4 4✓ 22 4 4 3 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวช้ีวดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงชอื่ .................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน
11. ข้อเสนอแนะ ✓ ใชส้ อนได้ ควรปรบั ปรุง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ.................................................. (นายวิสทุ ธิศกั ด์ิ เครือสาร) ครพู เ่ี ลยี้ ง วันท่ี 1 เดอื น มิถุนายน พ.ศ.2564 12.บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 1) ผลท่เี กดิ ขน้ึ แกผ่ ูเ้ รียน ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คดิ เป็นร้อยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเป็นรอ้ ยละ ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนทผ่ี ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คดิ เป็นร้อยละ จำนวนนักเรยี นที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ รอ้ ยละ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนกั เรียนทผี่ ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คดิ เป็นร้อยละ จำนวนนกั เรียนท่ไี มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ ร้อยละ ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน จำนวนนักเรียนทผ่ี ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเปน็ ร้อยละ จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ ร้อยละ 2) ปัญหาและอุปสรรค นกั เรียนไม่ทำงานกลมุ่ ช่วยเพ่ือน คนทีท่ ำกท็ ำคนเดยี ว บางคนเล่นคอม
3)แนวทางการแก้ปญั หา ครแู จกปากกาเพิม่ ใหน้ ักเรยี นได้ชว่ ยกนั ทำงานกล่มุ และปิดคอมพิวเตอร์ในระหว่างท่ีทำกิจกรรมกล่มุ ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ผ้สู อน วันที่.......เดือน................... พ.ศ.............. 13.ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชนั้ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ .................................................. (.......................................................) หัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชัน้ วนั ท.ี่ ......เดอื น................... พ.ศ.............. 14.ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วนั ที่.......เดือน................... พ.ศ.............. 15.ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ผู้อำนวยการโรงเรยี น วนั ท่ี.......เดือน................... พ.ศ..............
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ แนวคดิ เชิงนามธรรม รหัส – ชอ่ื รายวชิ า วิทยาการคํานวณ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผ้สู อน นายศุภานต์ รนิ วงศ์ โรงเรียน อนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1) มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคํานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ร้เู ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม. 1/1 ออกแบบอลั กอรทิ ึมทใี่ ช้แนวคิดนามธรรมเพื่อแก้ปัญหาหรืออธบิ ายการทำงานทพ่ี บในชีวติ จริง สาระสำคัญ แนวคิดเชงิ นามธรรม (abstraction) เป็นองค์ประกอบหนึ่งของแนวคดิ เชิงคำนวณ (computational thinking) ซ่ึงใชก้ ระบวนการคดั แยกคุณลกั ษณะท่ีสำคัญออกจากรายละเอียดปลีกย่อยในปัญหาหรอื งานท่ี กำลังพจิ ารณา เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่จี ำเปน็ และเพยี งพอสำหรับการคิดในการแกป้ ญั หา สาระการเรยี นรู้ แนวคิดเชิงนามธรรม เป็นการประเมินความสำคัญของรายละเอียดของปัญหา แยกแยะส่วนที่เป็น สาระสำคัญออกจากสว่ นทไี่ ม่ใช่สาระสำคัญ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ 1. อธบิ ายวิธกี ารนำแนวคิดเชงิ นามธรรมมาใช้วเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาและถ่ายทอดแนวคดิ 2. วเิ คราะห์รายละเอยี ดที่จำเป็นของปัญหาออกจากรายละเอยี ดท่ีไม่จำเป็น และอธิบายรายละเอียดท่ีไม่ ครบถว้ นออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ นามธรรม ทกั ษะกระบวนการ 1. ออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หาโดยการใช้แนวคดิ เชิงนามธรรมได้
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต 2. มวี นิ ยั 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 5. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การประเมินผลรวบยอด 1. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ 2. แบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง การนําเสนอข้อมูล 3. กิจกรรม ใครกันปฐมภมู ิ 4. ช้ินงานในช้ันเรยี น นำเสนอข้อมลู ของตนเองจากโปรแกรม PowerPoint 5. การประเมนิ ผล ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนกั คะแนน ประเด็นการประเมิน ดีมาก ดี (3) พอใช้ ปรับปรงุ (4) (2) (1) 4 0-5 4 แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง แนวคิดเชิงนามธรรม 10 8-9 6-7 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน รวม
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูเชค็ ชื่อเข้าช้ันเรียน 2. ครอู ธบิ ายขอบเขตของเนอื้ หาท่จี ะเรียนในชวั่ โมงเรยี น 3. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ครูนำอภิปรายซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการประมวลผลและฟังก์ชนั ทางสถิติ 4. ครอู ธบิ ายเน้ือหาไปพร้อมๆกับนักเรียนเพ่ือใหน้ ักเรียนมีความเขา้ ใจในเนื้อหาและการใช้งานบทเรียน คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน 5. ครูสรุปความหมายของแนวคิดเชงิ คำนามธรรม 6. ครูนดั หมายนกั เรียนในการเรียนครัง้ ต่อไป ภาระงานของนกั เรยี น 1. นกั เรยี นเปดิ บทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนพร้อมๆกัน 2. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. นกั เรยี นเปิดบทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนพร้อมๆกัน และครอู ธิบายเนอื้ หาไปพร้อมๆกับนักเรยี น เพือ่ ใหน้ กั เรียนมีความเขา้ ใจในเนื้อหาและการใชง้ านบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน 4. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หนว่ ย 3/1 เรื่อง แนวคิดเชงิ นามธรรม ใช้เวลา 1 ช่วั โมง/คาบ วันที่ เดอื น พ.ศ. 1.มาตราฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคาํ นวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวติ จริงอย่างเปน็ ข้นั ตอนและเปน็ ระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่า ทัน และมจี รยิ ธรรม 2.ตัวช้ีวัด ว 4.2 ม. 1/1 ออกแบบอัลกอรทิ มึ ทีใ่ ชแ้ นวคิดนามธรรมเพ่ือแกป้ ัญหาหรืออธิบายการทำงานที่พบในชวี ติ จริง 3.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายวธิ ีการนำแนวคดิ เชงิ นามธรรมมาใช้วิเคราะห์โจทย์ปัญหาและถา่ ยทอดแนวคิด 2. วิเคราะห์รายละเอียดที่จำเป็นของปัญหาออกจากรายละเอยี ดท่ีไม่จำเปน็ และอธิบายรายละเอียดที่ไม่ ครบถ้วนออกแบบวิธีการแก้ปญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ นามธรรม 3. ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหาโดยการใชแ้ นวคดิ เชงิ นามธรรมได้ 4.สาระสำคญั แนวคิดเชิงนามธรรม (abstraction) เป็นองค์ประกอบหนึ่งของแนวคดิ เชงิ คำนวณ (computational thinking) ซึ่งใช้กระบวนการคัดแยกคุณลักษณะที่สำคัญออกจากรายละเอียดปลีกย่อยในปัญหาหรืองานท่ี กำลงั พิจารณา เพ่ือให้ได้ขอ้ มลู ที่จำเปน็ และเพียงพอสำหรับการคิดในการแก้ปญั หา 5.สาระการเรยี นรู้ แนวคิดเชิงนามธรรม เป็นการประเมินความสำคัญของรายละเอียดของปัญหา แยกแยะส่วนที่เป็น สาระสำคญั ออกจากส่วนทไี่ ม่ใชส่ าระสำคัญ 6.ด้านคุณลักษณะ 1. ซื่อสัตยส์ จุ ริต 2. มีวนิ ยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
7.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8.กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น(15 นาที) 1. ครูเชค็ ชื่อเข้าชั้นเรียน 2. ครูใหน้ ักเรียนเปดิ บทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน เรื่อง แนวคิดแนวเชิงนามธรรม 3. ครูอธบิ ายขอบเขตของเน้อื หาท่ีจะเรยี นในวนั น้ี 1.1 ความหมายของแนวคิดเชิงนามธรรม 1.2 วิธีการนำแนวคิดเชงิ นามธรรมมาใชว้ เิ คราะห์โจทย์ปัญหา 4. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ในบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรอ่ื ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม ขน้ั กจิ กรรมการเรยี นการสอน(30 นาที) 1. ครูถามนักเรียนว่ารู้จักแนวคิดเชินนามธรรมไหม เพื่อทดสอบความพร้อมในการเรียนและนำเข้าสู่ บทเรยี น 2. ครูให้นักเรียนเปิดบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนพร้อมๆกัน และครูอธิบายเนื้อหาไปพร้อมๆกับ นักเรียนเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาและการใช้งานบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง แนวคดิ เชิงนามธรรม มากขน้ึ 3. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน ในบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน เร่อื ง แนวคิดเชิงนามธรรม ขนั้ สรปุ (15 นาท)ี 1. ครสู รุปความหมายของแนวคิดเชงิ คำนามธรรม 1.1 แนวคดิ เชงิ นามธรรม เปน็ องค์ประกอบหนึ่งของ แนวคดิ เชิงคำนวณ ซงึ่ ใชก้ ระบวนการคัดแยก คณุ ลกั ษณะที่สำคัญออกจากรายละเอียดปลีกยอ่ ยในปญั หาหรอื งานที่กำลงั พจิ ารณา เพื่อใหไ้ ด้ ข้อมลู ทจี่ ำเป็นและเพียงพอในการแกป้ ัญหา 2. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนถามในเร่ืองที่ไมเ่ ข้าใจ 3. ครนู ัดหมายนกั เรยี นในการเรียนครงั้ ตอ่ ไป 9.สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม 2. แบบทดสอบ เรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม
10.การวดั ผลและประเมินผล วธิ กี ารวัด เครือ่ งมอื 10.1 การวัดผล แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง แนวคดิ เชงิ นามธรรม แบบทดสอบหลัง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (โดยการตรวจคะแนนท่ไี ดจ้ ากการทำแบบทดสอบ) ดา้ นความรู้ โดยการประเมินทกั ษะกระบวนการไดแ้ ก่ การตอบ เรียน คำถามในชน้ั เรยี นเปน็ รายกลุ่ม แบบประเมินดา้ น ดา้ นทักษะกระบวนการ วดั โดยการสงั เกตคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของ ทักษะกระบวนการ ผเู้ รยี น 5 ด้าน ได้แก่ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สจุ รติ แบบประเมนิ ดา้ น 2. มวี นิ ยั คณุ ลกั ษณะอันพ่ึง สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. อยูอ่ ย่างพอเพียง ประสงค์ 5. มุง่ มัน่ ในการทำงาน วดั โดยการสังเกตสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 5 ด้าน แบบประเมนิ ด้าน 1. ความสามารถในการส่ือสาร สมรรถนะสำคัญของ 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ผเู้ รยี น 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 10.2 เกณฑ์การประเมินผล 1) ดา้ นความรู้ แบบทดสอบหลังเรียน ( 10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง หมายเหตุ ดา้ นความร้เู กณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ
แบบบนั ทกึ การประเมินด้านความรู้ เรอ่ื ง แนวคดิ เชิงนามธรรม เลขที่ ชอ่ื -นามสกลุ แบบทดสอบหลังเรียน รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน 1 เด็กชายจักรพรรดิ์ อินเหลา 8 80 ✓ ✓ 2 เดก็ ชายชัยพชิ ติ จอมใจ 9 90 ✓ ✓ 3 เดก็ ชายณัฐภัทร สุต๋า 9 90 ✓ ✓ 4 เด็กชายธนดล เบญจนาค 9 90 ✓ ✓ 5 เด็กชายรฐั กาล วงศศ์ รี 9 90 ✓ ✓ 6 เด็กชายศิขริน ชา่ งซอ 9 90 ✓ ✓ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 8 80 ✓ ✓ 8 เด็กชายโอเลี้ยง ทองแดง 9 90 ✓ ✓ 9 เดก็ หญงิ จรนิ ทร์ทิพย์ บญุ ประเสริฐ 8 80 ✓ ✓ 10 เดก็ หญงิ จิราพร เมอื งใจมา 9 90 ✓ ✓ 11 เดก็ หญงิ จีรดาภา ศรสี วัสดิ์ 9 90 ✓ ✓ 12 เด็กหญิงตรีภัตร วงศแ์ กว้ มูล 9 90 ✓ 13 เดก็ หญิงธิดารตั น์ เสริมสขุ 8 80 14 เดก็ หญงิ ปิน่ นชุ มีเจริญ 8 80 15 เด็กหญิงวรญั ญาภรณ์ เตชะนันท์ 9 90 16 เด็กหญงิ วีรภทั รา ศริ ทิ รัพย์ 7 70 17 เด็กหญิงสุภสั สรา อนิ เล็ก 8 80 18 เดก็ ชายครรชิต พรมมา 7 70 19 เด็กชายอานนั ท์ ฟ้งุ สันตภิ าพ 7 70 20 เด็กชายธนโชติ ทองปาน 8 80 21 เดก็ ชายวิรภทั ร ขัตธิ ิ 9 90 22 เดก็ ชายภานภุ ัทร เรือนมูลสาย 8 80 23 เด็กหญงิ อมั ธิกา สนั ยสติทศั น์ 7 70 หมายเหตุ คะแนนจากแบบทดสอบหลงั เรียน เกณฑ์ผ่าน ร้อยละ 80 ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน
2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินด้านทักษะกระบวนการ 4 คะแนน หมายถึง ดมี าก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไปทุกตวั ช้ีวดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรือ่ ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม เลขที่ ชื่อ-นามสกลุ คะแนนการประเมนิ ร้อยละ ผลการประเมนิ ผา่ น ไม่ผา่ น 1 เด็กชายจกั รพรรดิ์ อินเหลา 8 80 2 เดก็ ชายชยั พิชิต จอมใจ 8 80 ✓ 3 เดก็ ชายณฐั ภทั ร สุตา๋ 8 80 ✓ 4 เด็กชายธนดล เบญจนาค 8 80 ✓ 5 เดก็ ชายรัฐกาล วงศศ์ รี 8 80 ✓ 6 เดก็ ชายศขิ ริน ชา่ งซอ 9 90 ✓ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 8 80 ✓ 8 เดก็ ชายโอเลยี้ ง ทองแดง 8 80 ✓ 9 เด็กหญิงจรนิ ทร์ทิพย์ บุญประเสรฐิ 7 70 ✓ 10 เดก็ หญงิ จริ าพร เมืองใจมา 8 80 ✓ 11 เด็กหญงิ จรี ดาภา ศรสี วัสดิ์ 8 80 ✓ 12 เด็กหญิงตรภี ตั ร วงศแ์ กว้ มูล 9 90 ✓ 13 เด็กหญงิ ธดิ ารัตน์ เสรมิ สุข 8 80 ✓ 14 เดก็ หญงิ ปิน่ นชุ มีเจรญิ 8 80 ✓ 15 เด็กหญงิ วรญั ญาภรณ์ เตชะนันท์ 8 80 ✓ 16 เดก็ หญิงวรี ภทั รา ศิรทิ รัพย์ 7 70 ✓ 17 เดก็ หญิงสุภัสสรา อนิ เล็ก 8 80 ✓ 18 เดก็ ชายครรชิต พรมมา 8 80 ✓ 19 เดก็ ชายอานันท์ ฟงุ้ สันตภิ าพ 8 80 ✓ ✓
เลขท่ี ช่อื -นามสกลุ คะแนนการประเมนิ รอ้ ยละ ผลการประเมิน ผ่าน ไมผ่ ่าน 20 เดก็ ชายธนโชติ ทองปาน 9 90 ✓ 21 เดก็ ชายวิรภทั ร ขตั ิธิ 8 80 ✓ ✓ 22 เด็กชายภานุภัทร เรือนมลู สาย 8 80 ✓ 23 เด็กหญิงอมั ธกิ า สนั ยสตทิ ศั น์ 9 90 หมายเหตุ คะแนนจากแบบทดสอบหลงั เรียน เกณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 50 ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครูผสู้ อน
3) ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ ด้านคุณลักษณะอนั พึง่ ประสงค์ 4 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตัวชว้ี ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ ด้านสมรรถนะผเู้ รยี น เรอ่ื ง แนวคดิ เชิงคำนวณ ซื่อสัตยส์ ุจรติ 1. ไม่โกหก 2. ไมค่ ัดลอกงานของผู้อนื่ 3. มคี ณุ ธรรมต่อตนเองและผู้อ่นื 4. ไมล่ ักขโมยของผู้อื่น มวี นิ ยั 1. เข้าเรียนตรงต่อเวลา 2. ไมโ่ ดดเรียน 3. แต่งกายสุภาพเรยี บร้อย 4. สง่ การบ้านตรงต่อเวลา ใฝ่เรียนรู้ 1. ต้ังใจเรียน 2. สบื คน้ หาความร/ู้ ข้อมูลสมำ่ เสมอ 3. ร่วมทำกจิ กรรมในห้องเรียน 4. บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ข้อมูลจากสิ่งท่เี รียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 1. ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง 2. ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี 3. ไมเ่ อาเปรียบผู้อน่ื และไมท่ ำให้ผอู้ ื่นเดอื ดร้อน พร้อมให้อภัยเมอื่ ผอู้ ่ืนกระทำผดิ พลาด 4. นำวัสดเุ หลือใช้มาสรา้ งงานตามที่คุณครูมอบหมาย
มุ่งม่นั ในการทำงาน 1. ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีการงาน 2. เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ัติหน้าทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย 3. ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ 4. ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอัน ระดับคุณภาพ พึงประสงค์ 4 3 2 1 มีคุณลกั ษณะอัน มีคณุ ลักษณะอัน มคี ณุ ลักษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ซอ่ื สัตยส์ ุจริต พึงประสงค์ พึงประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคณุ ลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคณุ ลกั ษณะอัน มคี ณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอัน 1 ข้อ มีวินัย พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคณุ ลักษณะอัน พึงประสงค์ ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอัน พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอนั 1 ข้อ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง พึงประสงค์ พึงประสงค์ พึงประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ มคี ุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลกั ษณะอัน มุง่ ม่นั ในการทำงาน พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตวั ช้ีวดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน
แบบประเมนิ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เร่อื ง แนวคิดเชิงนามธรรม คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมนิ เลขที่ ซอื่ สตั ย์สจุ ริต มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งมนั่ ในการ ผ่าน ไมผ่ ่าน หมายเหตุ ทำงาน 1 4 44 4 4✓ 2 4 44 4 4✓ 3 4 44 4 4✓ 4 4 44 4 4✓ 5 4 44 4 4✓ 6 4 44 4 4✓ 7 4 44 4 4✓ 8 4 44 4 4✓ 9 4 44 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 4 4 4 4✓ 18 4 4 4 4 4✓ 19 4 4 4 4 4✓ 20 4 4 4 4 4✓ 21 4 4 4 4 4✓ 22 4 4 4 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 ขึน้ ไปทุกตัวชวี้ ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขนึ้ ไปทุกตัวชว้ี ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน การประเมินดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน เร่ือง แนวคดิ เชิงคำนวณ ความสามารถในการส่ือสาร 1. มคี วามสามารถในการรบั และส่งสาร 2. เลือกรับหรือไม่รับข้อมูลขา่ วสารดว้ ยหลักเหตผุ ล 3. คำนึงถึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสังคม 4. การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และลดปญั หาความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 2. การคิดเป็นระบบ 3. การคดิ สังเคราะห์ 4. การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. การแกป้ ัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ 2. มีการตดั สินใจที่มปี ระสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้นตอ่ ตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม 3. ประยุกต์ความรูม้ าใชใ้ นการป้องกันและแกไ้ ขปัญหา 4. เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 1. การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง 2. การเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่อง 3. การรจู้ กั หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. การปรับตวั ให้ทันกับการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆ 2. มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 3. การแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม 4. มีคุณธรรมในการใช้เทคโนโลยี เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน ด้านสมรรถนะ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ผูเ้ รยี น 32 มีความสามารถใน ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การสื่อสาร 1 ขอ้ การส่ือสาร การสือ่ สาร การสือ่ สาร การสอ่ื สาร มีความสามารถใน ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ การคดิ 1 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การคิด การคิด การคิด การคิด การแก้ปัญหา 1 ขอ้ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ มคี วามสามารถใน ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ติ การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา 1 ขอ้ มีความสามารถใน ครบทกุ ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ การใช้เทคโนโลย ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน 1 ข้อ การใช้ทักษะชวี ติ การใชท้ กั ษะชีวิต การใช้ทักษะชีวติ การใช้ทกั ษะชวี ติ ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลย การใชเ้ ทคโนโลย ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะผเู้ รยี น เร่อื ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม สมรรถนะผู้เรยี น ผลการประเมิน เลขที่ การสือ่ สาร การคิด การ การ การใช้ ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ แกป้ ัญหา ใช้ทกั ษะชวี ิต เทคโนโลยี 14 4 4 4 4✓ 24 4 4 4 4✓ 34 4 4 4 4✓ 44 4 4 4 4✓ 54 4 4 4 4✓ 64 4 4 4 4✓ 74 4 4 4 4✓ 84 4 4 4 4✓ 94 4 4 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 4 4 4 4✓ 18 4 4 4 4 4✓ 19 4 4 4 4 4✓ 20 4 4 4 4 4✓ 21 4 4 4 4 4✓ 22 4 4 4 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ชว้ี ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน
11. ข้อเสนอแนะ ✓ ใช้สอนได้ ควรปรบั ปรุง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวิสทุ ธิศกั ด์ิ เครือสาร) ครูพ่ีเลย้ี ง วนั ท่ี 1 เดอื น มิถุนายน พ.ศ.2564 12.บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลทเ่ี กดิ ขึ้นแก่ผเู้ รียน ด้านความรู้ จำนวนนักเรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คดิ เปน็ ร้อยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นรอ้ ยละ ด้านทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผา่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเปน็ ร้อยละ จำนวนนักเรียนท่ีไม่ผา่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นร้อยละ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทีผ่ ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คดิ เปน็ ร้อยละ จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเป็นรอ้ ยละ ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน จำนวนนกั เรียนที่ผ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเปน็ ร้อยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเป็นรอ้ ยละ 2) ปัญหาและอุปสรรค การเรียนการสอนค่อนขา้ งเป็นไปได้ช้าเพราะวา่ ต้องลงบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน ให้นักเรยี นครบทุกคน เนือ่ งจากมคี รใู ช้ห้องเรียนจึงไม่สามารถลงไดท้ ุกเคร่ือง
3)แนวทางการแกป้ ญั หา แบ่งกลมุ่ นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น และตอรนเรียนใหเ้ รยี นเปน็ คู่ แต่ท้ายชัว่ โมงเรยี นนกั เรียนช่วยกนั ลงโปรแกรมจึงทำใหเ้ ป็นไปได้อย่างปกติ ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ผสู้ อน 13.ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระ/สายชน้ั วนั ท.ี่ ......เดอื น................... พ.ศ.............. ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื .................................................. (.......................................................) หวั หน้ากล่มุ สาระ/สายชนั้ วนั ท.่ี ......เดอื น................... พ.ศ.............. 14.ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ฝา่ ยวิชาการ วันท่ี.......เดือน................... พ.ศ.............. 15.ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................................. ................................. .................................................................................................. ............................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ผู้อำนวยการโรงเรยี น วันท.ี่ ......เดอื น................... พ.ศ..............
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย รหัส – ช่ือรายวชิ า วิทยาการคํานวณ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 4 ชัว่ โมง ผสู้ อน นายศภุ านต์ รนิ วงศ์ โรงเรยี น อนุบาลแม่เมาะ (ชมุ ชน 1) มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอนและเป็นระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ม. 1/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ใช้ส่อื และแหล่งขอ้ มลู ตามข้อกําหนดและข้อตกลง สาระสำคัญ 1. ภยั คกุ คามจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการป้องกัน 2. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งมีความรบั ผิดชอบ 3. แหลง่ ข้อมลู ที่ไดร้ ับ 4. ตัวอย่างข้อมลู ท่เี ชื่อถือได้ 5. แนวความคิดของขอ้ มลู สาระการเรยี นรู้ การใชเ้ ทคโนโลยใี หถ้ กู ตอ้ ง ปลอดภยั และมีความรับผิดชอบกับตนเองและผู้อนื่ เช่น การต้ังรหสั ผา่ นที่ ปลอดภยั เพ่ือเป็นการป้องกนั การคกุ คาม และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองในการใช้งานบนระบบ Social Network ในกระบวนการเรียนรหู้ รือตามความต้องการของเราเราไดร้ บั ขอ้ มูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ตา่ งๆข้อเทจ็ จริง ใบหน้าและวตั ถตุ ่างๆ น่เี ป็นข้อมูลที่เราต้องการซึง่ สามารถนำเสนอได้หลายรปู แบบ อยา่ งไรก็ตามมันเปน็ ทั้ง ความนา่ เช่อื ถือและไม่เกิดขึ้นท่ขี อ้ มลู ท่ีเราไดร้ ับไม่ใช่สอดคล้องกับความเปน็ จรงิ จะใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับ ปรากฏการณ์และวตั ถุที่ไม่มอี ย่จู รงิ ขอ้ มลู นีจ้ ัดอยใู่ นประเภททไ่ี ม่น่าเชอื่ ถือ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187