๖๕ ประเด็นปัญหาการขอรับการขยายถนน ซึ่งท้องถิ่นมีส่วนสาคัญ ประเด็นปัจจัยด้านการเพิ่มจานวนช้างป่า ใชก้ ฎหมายควบคมุ การกาเนดิ ชา้ งป่า และ ประเดน็ ปจั จัยการเปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศ ๕) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๘ ตาบลทับไทร อาเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี นาเสนอแนวทาง แก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุก โดยขอให้จัดต้ังกองทุนช้างแห่งชาติเพ่ือชดเชยความเสียหายให้กับผู้ประสบภัยจาก ช้างป่า ส่งผลให้รายได้ประชากรลดลงถึงขั้นเกษตรกรฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาหน้ีสิน เสนอขอให้แก้ไขปัญหา เร่งด่วนนาช้างป่าออกจากพื้นที่ชุมชน พ้ืนที่ทากินของเกษตรกร โดยต้องเตรียมพ้ืนที่ให้ช้างป่าเพียงพอกับ จานวนช้างป่าท่ีมีอยู่ ท้ังแหล่งน้า แหล่งอาหารให้เพียงพอกับการดารงชีพของช้างป่า เพ่ือไม่ให้ช้างป่ากลับมากิน พืชสวนของเกษตรกร ขอให้มีค่าตอบแทนแก่อาสาสมัครเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า จึงเสนอให้มอบรถยนต์ พร้อมน้ามันเช้ือเพลิงใช้เป็นอุปกรณ์ในการเฝ้าระวงั ช้างป่า หากเป็นสมาชิกอาสาสมัครป้องกันภยั ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) มีภารกจิ หน้าทจี่ านวนมาก ควรจัดตง้ั อาสาสมัครเฝา้ ระวังและผลักดนั ช้างป่าแยกเฉพาะ ๖) เสนอโครงการแกง่ หางแมวโมเดล และเสารั้วกนั ชา้ ง ควรมีขนาดใหญ่เหมือนเสาไฟฟ้าของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ได้รับมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม พร้อมถนนตรวจการณ์ และมีการปลูกต้นยูคาลิปตัส อายุการ ปลูก ๑๐ - ๑๕ ปี เพราะขนาดลาตน้ จะมีขนาดใหญ่แข็งแรง ช้างปา่ ไม่สามารถหักตน้ ไม้ได้ ปลกู แบบสลบั ฟนั ปลา ๗) องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เสนอแนะการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกที่อาเภอ นายายอาม จงั หวดั จนั ทบรุ ี ในระหวา่ งท่ยี งั ไมม่ ีสถานท่ีกักกันช้างชว่ั คราว โดยขอให้ดาเนินการติดชิปช้างป่าที่มี พฤติกรรมเกเรเพ่ือจะได้ติดตามพฤติกรรมช้างป่าได้ตลอดเวลา และป้องกันความเสียหายได้ทันท่วงที และ นาไปกักกันในสถานท่ีกักกันช้างชั่วคราว ขอให้มีการตรากฎหมายเพ่ือคุ้มครองราษฎร อาสาสมัครเฝ้าระวัง และผลักดันช้างป่า และราษฎรท่ีได้รับความเสียหายจากช้างป่าบุกรุก โดยรัฐเป็นผู้จ่ายค่าชดเชยในกรณีเกิด ความเสียหายต่อร่างกาย พกิ าร หรือเสยี ชีวิต และขอเสนอให้มีการยกร่องคันกนั ช้างป่าสาหรับชาวสวน ให้มีความ กว้าง ๑ เมตร สูง ๒ เมตร ความลาดเอียงตามธรรมชาติ เพราะช้างป่าไม่สามารถข้ามได้ โดยบนพื้นดินอาจจะปลูก ต้นยูคาลิปตัส มีระยะห่างต้นละ ๑ เมตร เพ่ือใช้กันช้างได้อีกช้ันหนึ่ง หรือปลูกหญ้าแฝกบนคันดินกันการชะล้าง ของนา้ ทจ่ี ะทาใหค้ ันทลายลงไป สาหรับพน้ื ทรี่ าบเท่านั้น หากเปน็ พน้ื ทภี่ เู ขาอาจเป็นการขวางทางนา้ (๖) สภาพปัญหาเกย่ี วกบั รัว้ กันชา้ งปา่ อาเภอแก่งหางแมว จงั หวัดจันทบุรี ๑) นายกเทศมนตรีตาบลพวา จังหวัดจันทบุรี นาเสนอ การดาเนินการโครงการต่างๆ ในการป้องกันและชะลอช้างป่าออกหากินนอกเขตป่า และเข้าทาลายพืชผลทางการเกษตรในพ้ืนท่ีอาเภอ แกง่ หางแมว จังหวดั จนั ทบรุ ี โดยสามารถสรปุ โครงการท่ีดาเนนิ การไดใ้ นพ้ืนท่ี ดงั น้ี ๑. ดาเนินการขุดคูกันช้างตามแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ซึ่งกองกาลังป้องกัน ชายแดนจันทบุรีและตราดได้ร่วมกับคณะทางานของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด ดาเนินการขุด ตามแผนของโครงการของมูลนิธิป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด ดาเนินการขุดโดยทหารช่างของกองกาลังบูรพาอยู่ใน พ้ืนท่ีรับผิดชอบของฉก.นย.จันทบุรี ระยะทางประมาณ ๖๐ กิโลเมตร และได้ดาเนินการซ่อมบารุงคูกันช้าง ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๒. ดาเนินการก่อสร้างรั้วเสาไฟฟ้าคอนกรีต โดยได้รับความจากชาวบ้านในพ้ืนท่ีอย่างดี โดยในขั้นต้นได้สร้างเสาคอนกรีตขนาดความกว้าง ๔๐ เชนติเมตร สูง ๓ เมตร ห่างกันต้นละ ๖ เมตร
๖๖ โดยมเี หล็กเส้น เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง ประมาณ ๖ หนุ จานวน ๓ เส้น และเหลก็ เส้นขนาด ๔ หุน ผา่ กลาง ซ่งึ ตอ่ มา ได้ดาเนินการสร้างร้ัวเสาไฟฟ้าคอนกรีตเพิ่มเติมบริเวณพื้นที่ท่ีช้างป่าออกพ้ืนท่ีบริเวณตาบลพวา อาเภอ แก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ซ่ึงมีระยะทางยาว ๒,๐๐๐ เมตร และไฟฟ้าคอนกรีตบริเวณพื้นท่ีตาบลขุนซ่อง อาเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ระยะทางยาว ๕๐๐ เมตร รวมระยะทางในการสร้างรั้วเสาไฟฟ้าทั้งสอง พื้นท่ี ๒,๕๐๐ เมตร ๓. ดาเนินการก่อสร้างรั้วกันช้างเสาคอนกรีต ดาเนินการก่อสร้างร้ัวกันช้างตามแนว คูกันช้าง โดยที่ว่าการอาเภอแก่งหางแมว ด้วยงบประมาณกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๑ โดยก่อสร้างแบบเสาสูง ๒.๕ เมตร และร้อยเหล็กจานวน ๔ แถว ดาเนินการในพื้นที่ตาบลขุนช่อง ระยะทาง ๗.๕ กิโลเมตร และพ้ืนที่หมู่ ๙ บ้านบ่อมะเดื่อ ตาบลพวา ระยะทาง ๗.๕ กิโลเมตร รวมระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร เป็นงบประมาณ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๔. ดาเนินการก่อสร้างรั้วกันช้างเสาคอนกรีตเสริมเหล็กพาดด้วยลวดสลิง ๓ เส้น ตามแนวคูกันช้าง ก่อสร้างด้วยงบประมาณกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยก่อสร้าง ในปีงบประมาณ ๒๕๖๓ รวมระยะก่อสร้าง ๑๔ กิโลเมตร งบประมาณ ๒๒,๗๙๙,๐๕ บาท และก่อสร้าง ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ รวมระยะก่อสร้าง ๘ กิโลเมตร งบประมาณ ๙,๕๙๙,๖๐๐ บาท รวมเป็นระยะ กอ่ สรา้ งทง้ั ส้ิน ๒๗ กโิ ลเมตร ๒) สภาพปญั หาการใชร้ ้ัวและคูกันช้าง ๑. การก่อสร้างรั้วและคูกันช้างไม่มีการฝงั ท่อระบายน้า ส่งผลให้น้าท่วมขังจุดที่ต่าของคูกนั ชา้ ง ทาให้น้าล้นกัดเซาะคูกันช้าง และรั้วชารุดล้ม ช้างป่าสามารถลอดเข้ามาในพื้นที่ทาลายพืชผลการเกษตร ทรัพย์สินหรือทาร้ายร่างกายชาวบ้านบาดเจ็บและเสียชีวิต และการก่อสร้างร้ัวกันช้างป่ายังก่อสร้างไม่ตลอด แนวเขต ส่งผลให้ชา้ งปา่ สามารถออกมานอกพื้นทปี่ า่ ได้ และสามารถทาลายรว้ั กันช้างได้ ๒. หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน นาเสนอสภาพปัญหาการดาเนินการขุดรั้ว กันช้างมีการดาเนินการแล้วจานวน ๖๐ กิโลเมตร บริเวณขุนซ่อง – พวา สาหรับแผนจัดสร้างร้ัวกันช้างจานวน ๑๙ กิโลเมตร ก่อสร้างแล้วจานวน ๘ กิโลเมตร พบปัญหาคือ น้าไหลลงจากภูเขาปะทะกับดินด้านล่าง ดนิ จึงถล่มทาใหค้ ูกันช้างชารดุ ๓. กานันตาบลพวา อาเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี นาเสนอการแก้ปัญหาคูและรั้ว กนั ช้างควรสรา้ งให้มีประตูกนั ช้างออกนอกพื้นที่ เพราะช้างป่าอยทู่ ี่ในพน้ื ท่ีมากกว่าอยู่ป่า และควรมีการชดเชย เงินของผู้ประสบภัยจากชา้ งป่า และสรา้ งแนวทางใหร้ าษฎรกบั ชา้ งปา่ อยหู่ า่ งกนั เป็นโครงการถาวร ๔. ช้างป่าได้ออกนอกป่าเข้ามาในโรงเรียนบ้านคลองครก ตาบลพวา อาเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรีในช่วงเวลา ๐๓.๐๐ - ๐๔.๐๐ นาฬิกา ทาให้มีข้อกังวลว่า หากช้างป่าบุกรุกเข้ามาในโรงเรียน ช่วงเวลาเปดิ ภาคเรียนจะทาใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ชวี ิตของเดก็ นกั เรียนและครู ๓) ข้อเสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขปัญหาการใช้รวั้ และคูกนั ช้าง เสนอให้ดาเนินการวางท่อระบายน้าคอนกรีตเสริมเหล็กตามจุดท่ีต่าของแนวคูกันช้าง จานวน ๖๒ จุด ต้องใช้งบประมาณ ๑,๔๘๕,๐๐๐ บาท และดาเนินก่อสร้างรั้วกันช้างเพิ่มเติมให้ตลอดแนว
๖๗ เขตป่า พร้อมท้ังดาเนินการก่อสร้างปรับปรุงถนนถนนตรวจการณ์เลียบแนวร้วั และคูกันช้าง เพ่ือความสะดวก ในการซอ่ มบารุง (๗) ข้อเสนอแนะและขอ้ สงั เกตของคณะกรรมาธิการวสิ ามญั ๑) การจัดต้ังกองทุนช้างแห่งชาตินั้น อาจจะมีหลายขั้นตอน หากแก้ไขระเบียบอาจจะมี ความรวดเร็ว จึงควรมีการศึกษาและแก้ไขระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเก็บ การรักษา การใช้จ่ายเงินรายได้เพื่อบารุงรักษาอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ เพ่ือให้สามารถนาเงินรายได้ไป ใช้จ่ายในการเยยี วยาความเสยี หายจากช้างป่า ๒) ควรมกี ารจัดพนื้ ที่ของราษฎรและช้างปา่ แยกต่างหากจากกันเปน็ ส่วนปลอดภัย มีเสน้ แบ่ง รอยต่อ และขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถ่ายโอนภารกิจเรื่องช้างป่าไปยังหน่วยงาน ในระดบั ทอ้ งถ่ิน เพือ่ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื กบั ราษฎรในเร่อื งการเยียวยาความเสียหายรวดเร็วย่งิ ข้นึ ๓) พื้นทขี่ องราษฎรกบั ชา้ งปา่ ต้องแยกจากกันไม่ใหซ้ ้อนทบั กัน โดยมีส่ิงกีดขวางหรอื แบริเออร์ (Barrier) พร้อมถนนตรวจการณ์ แบ่งแยกพ้ืนที่ของราษฎรกับช้างป่า เพื่อความปลอดภัยของราษฎร หากช้างป่า ออกนอกพ้นื ทป่ี ่าอนรุ ักษต์ ้องจับและนาไปไว้ที่สถานท่กี ักกันชวั่ คราว ๔) หน้ีสินของเกษตรกรควรยืดระยะเวลาการชดใช้หนี้ และเสนอให้แก้ไขเพ่ิมจานวนเงิน ท่ีชดเชยพืชทางการเกษตรของเกษตรกรที่ช้างป่าได้เข้าทาลายและเงินชดเชยความเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับ บาดเจบ็ หรือเสียชวี ติ จากช้างปา่ ทารา้ ย หรือมีการทาประกันชวี ิตให้กับอาสาสมัครเฝ้าระวงั และผลักดนั ช้างปา่ ๒.๒.๒ การเดินทางไปศกึ ษาดงู านเกี่ยวกบั การพจิ ารณาศึกษาและแกไ้ ขปญั หาช้างป่า กลุ่มปา่ ตะวนั ตก ระหว่างวันศุกร์ที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๔ - วันเสาร์ที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๔ ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ จงั หวัดกาญจนบุรี ๒.๒.๒.๑ วนั ศกุ ร์ที่ ๒๖ มนี าคม ๒๕๖๔ พิจารณาศกึ ษาและแก้ไขปัญหาช้างปา่ กลุ่มปา่ ตะวนั ตก ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการต่าง ๆ และผู้แทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า บุกรุก รว่ มปรกึ ษาหารอื สรปุ ผลการศกึ ษาดูงานได้ ดังนี้ รองผู้วา่ ราชการจังหวดั ประจวบครี ีรขี นั ธ์ นาเสนอแนวทางสาคญั ในการแกไ้ ขปัญหา ช้างป่าได้มีการร่วมมือมือกันจากหลายหน่วยงานและเห็นว่า การแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืนคือ การสร้าง แหล่งน้า แหล่งอาหารในผืนป่าให้กับช้างป่า และการสร้างรั้วและคูกันช้างให้ครอบคลุมระยะทางตามแนวผืนป่า ซงึ่ หลายฝา่ ยรวมทงั้ ภาคราษฎรไดเ้ ห็นร่วมกันวา่ เปน็ วธิ ีทจี่ ะแยกราษฎรกับชา้ งป่าไดด้ ีทสี่ ุด อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย นาเสนอการสารวจติดตามการกระจายของประชากรช้างป่าในอทุ ยานแหง่ ชาตแิ ก่งกระจาน ทวั่ ท้ังบริเวณพ้ืนที่ ที่เหมาะสม ต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ – ๒๕๖๒ สรุปได้ว่า ช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานโดยรวมแบ่งออกได้ เป็น ๒ กลุ่มใหญ่ รวมประมาณ ๒๓๐ - ๒๕๐ ตัว โดยกลุ่มแรกอาศัยอยู่ในบริเวณพ้ืนที่โซนกลาง ต้นแม่น้า เพชรบุรี หว้ ยแมเ่ สลียง บ้านกร่าง ห้วยคมกฤต และกระจายข้ึนไปทางดา้ นทศิ เหนือบางกลอยบน รวมประมาณ ๕๐ - ๗๐ ตัว และอาศัยอยู่ในบริเวณพืน้ ทีโ่ ซนใต้ ทอ้ งที่ตาบลปา่ เด็ง อาเภอแกง่ กระจาน จังหวดั เพชรบรุ ี ตาบล ห้วยสัตว์ใหญ่ ตาบลหนองพลับ ตาบลบึงนคร อาเภอหัวหิน รวมประมาณ ๑๕๐ - ๑๘๐ ตัว และเกิดปัญหา
๖๘ ความขัดแย้งระหว่างราษฎรกับช้างป่า ปัญหาเร่ืองช้างป่าบุกรุกจะพบมากท่ีอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ช่วงตอนล่างระหว่างจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีรีขันธ์ ในพื้นที่ตาบลหนองพลับ ตาบลป่าเด็ง ตาบล ห้วยสัตว์ใหญ่ และตาบลบึงนคร จะพบว่ามีช้างป่าอยู่ปริมาณ ๑๕๐ ถึง ๑๘๐ ตัว ซ่ึงมีปัญหากับชาวบ้าน โดยเฉพาะตาบลห้วยปา่ เด็ง และตาบลห้วยสตั วใ์ หญ่ จะพบปญั หาและได้รบั ผลกระทบมากทส่ี ุด ทางอุทยานได้ จัดเจ้าหน้าที่ เพ่ือช่วยเหลือในเรื่องของการผลักดันช้างป่า ทั้งน้ีในส่วนของการแก้ไขปัญหาช้างป่าได้ยึดแนวทาง การแก้ไขปัญหาช้างป่าในหลักสาคัญคือ การจัดสรรพ้ืนท่ีระหว่างราษฎรและช้างป่าอย่างย่ังยืน เน้นความสาคัญ และความปลอดภัยของราษฎรและการดารงชวี ิตอยู่ตามธรรมชาตขิ องช้างปา่ และแนวทางเรื่องการจัดหาพ้ืนท่ี กักกันช้างป่าชั่วคราวเป็นสาคัญ สาหรับแนวรั้วป้องกันช้างป่าที่อยู่ระหว่างดาเนินการของกรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ า่ และพนั ธพ์ุ ชื ไดอ้ นมุ ตั งิ บประมาณรายจา่ ยประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลางรายการเงินสารอง จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจาเป็นในโครงการแก้ไขปัญหาช้างป่าออกหากินนอกพ้ืนที่อนุรักษ์แบบบูรณาการ พ้ืนที่ดาเนินการ คือ ทางด้านทิศตะวันตกของตาบลป่าเด็ง อาเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และทางด้าน ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของตาบลห้วยสัตว์ใหญ่ อาเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง ๔๓.๒๖ กิโลเมตร งบประมาณ ๘๙,๙๗๕,๐๐๐ บาท มีแนวร้ัวป้องกันช้างป่าท่ียังไม่ดาเนินการระยะทางทั้งหมด ๔๑.๘๖ กโิ ลเมตร (๑) สภาพปัญหาช้างปา่ บกุ รกุ ๑) ผู้แทนจากภาคประชาชน ตาบลหาดขาม อาเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นาเสนอ สภาพปัญหาของเกษตรกรตาบลหาดขาม อาเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพ้ืนที่ทาการเกษตรติดกับ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งมีช้างป่าอาศัยอยู่เป็นจานวนไม่น้อยกว่า ๓๐๐ ตัว บางจานวนประมาณ ๑๐๐ ตัว ได้ออกหากินในพื้นที่การเกษตรของเกษตรกรทาให้เกิดความเสียหายต่อพืชผลของเกษตรกรเป็นจา นวนมาก และมีแนวโนม้ จะเพิ่มข้ึนทุกปี โดยมีพ้ืนที่ท่ีได้รับผลกระทบได้แก่หมู่ ๗ บ้านรวมไทย หมู่ ๙ บ้านย่านซื่อ หมู่ ๘ บ้านโพบอล และหมู่ ๕ หมู่ ๖ บ้านยางชุม ตาบลหาดขาม อาเภอกุยบุรี ๔ หมู่บ้านน้ี มีจานวนประมาณ ๖๐๐ ครวั เรอื น พื้นที่การเกษตรประมาณ ๑๐ ไร่ ได้รับความเดือดร้อนจากการเข้าทาลายของช้างป่า และไมส่ ามารถ เข้าเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และพ้ืนที่หมู่ ๗ หมู่ ๙ ได้รับผลกระทบอย่างมาก จากช้างป่าเข้าทาลายพืชไร่และ พืชสวน รวมระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี มีความรุนแรงเพ่ิมมากข้ึน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จนถึงปัจจุบัน โดยช้างปา่ จะเข้าทาลายพชื ผลแทบทุกคืน บางครอบครัวต้องทิ้งพ้ืนท่ีทาการเกษตรไปยังที่ทากินอืน่ ปลอ่ ยเป็น พ้ืนที่รกร้าง ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยการทาร้ัวกันช้างและนอนเฝ้าทุกคืน แต่ยังมีความเสี่ยงและ อันตรายตอ่ การถูกชา้ งป่าทาร้ายได้รับบาดเจบ็ และเสยี ชวี ิต ๒) ช้างป่าเข้าทาลายต้นไม้และพืชผลทางการเกษตรในพ้ืนท่ีโรงเรียนตารวจตระเวนชายแดน นเรศวรป่าละอู ทางโรงเรียนได้ดาเนินการจัดทาร้วั ลวดหนามแบบหีบเพลงชั่วคราว ทาการเคลียร์เส้นทางเข้าออก ของช้างปา่ ใหม้ ีทศั นวสิ ยั ท่ีมองเหน็ ไดก้ วา้ งขนึ้ เพอื่ ความปลอดภัยในการมองเห็นในเวลากลางคนื และจดั ทารั้ว สัญญาณเตือนเมื่อมีช้างป่ามารบกวน รวมท้ังจัดทาโป่งเทียมอาหารช้างป่า เพ่ือเป็นการนาช้างป่ากลับเข้า อุทยานแหง่ ชาติ สว่ นการปลกู พืชอาหารช้างปา่ ยงั ไมส่ ามารถดาเนินการได้ เนอ่ื งจากเปน็ ช่วงหน้าแล้ง แนวเขต
๖๙ อุทยานห่างไกลจากแหล่งน้าในการดูแลต้นไม้ท่ีปลูกใหม่ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแต่ยังไม่สามารถ แก้ปญั หาแบบยั่งยนื ได้ (๒) แนวทางการบริหารจัดการและแก้ไขปญั หาชา้ งปา่ ๑) แนวทางการบรหิ ารจดั การและแก้ไขปญั หาช้างป่าของอุทยานแหง่ ชาติแก่งกระจาน ๑. ใช้กาลังเจ้าหน้าท่ีในการผลักดันบริเวณพื้นท่ีตาบลห้วยสัตว์ใหญ่ ตาบลบึงนคร และตาบล หนองพลับ อาเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และตาบลป่าเด็ง อาเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบรุ ี ซ่ึงเป็น พื้นที่แนวเขตติดต่อกับพ้ืนท่ีบริเวณตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน อุทยานฯ ได้รับงบประมาณชุดเฝ้าระวังช้างป่า จานวนเงิน ๒๑๖,๐๐๐ บาท ทั้งหมด ๓ ชุด จานวน ๒๔ คน ปัจจุบันอุทยานแห่งแก่งกระจานยังไม่ได้รับงบประมาณชุดเฝ้าระวังช้างป่า ท้ังหมด ๕ ชุด คือ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานท่ี ๓ (ห้วยป่าเลา) หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจานท่ี ๗ (เขาหุบเต่า) หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานท่ี ๑๖ (ห้วยป่าแดง) หน่วยพิทักษ์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ ๑๔ (ห้วยสัตว์ใหญ่) และชุดปฏิบัติการพิเศษ ปราบปราม กู้ภัย มวลชนสัมพนั ธ์ และชว่ ยชวี ิตสัตวป์ ่า อทุ ยานแห่งชาตแิ ก่งกระจาน ๒. การสร้างแหล่งน้า แหล่งอาหารสัตว์ป่า และให้มีการจัดทาแผนเฝ้าระวังช้างป่า ซึ่งมี กิจกรรมโครงการปลูกพืชให้ช้างป่า สร้างอาหารให้สัตว์ป่า ประกอบด้วย แปลงหญ้าอาหารช้าง จานวน ๖๐๐ ไร่ ประกอบด้วยฝายต้นน้าแบบผสมผสาน จานวน ๓๕๒ ฝาย โป่งเทียม จานวน ๔๒๘ โป่ง และขุดลอกปรับปรุง แหลง่ น้าธรรมชาติ (เดิม) จานวน ๗๑ แหง่ ๓. แนวรั้วป้องกันช้างป่า แนวร้ัวกึ่งถาวรที่ดาเนินการแล้วมีความยาวท้ังส้ินประมาณ ๒๕ กิโลเมตร ครอบคลุมพ้ืนท่ีด้านตะวันออก ๒ ตาบล ๕ หมู่บ้าน ท่ีอยู่ติดชายป่า ได้แก่ หมู่ที่ ๑ และหมู่ ๕ ตาบลห้วยสัตว์ใหญ่ และ หมู่ ๓ หมู่ ๖ หมู่ ๗ ตาบลป่าเด็ง ใน ๒ อาเภอ ๒ จังหวัด อาเภอหัวหิน จังหวัด ประจวบครี ขี ันธ์ และ อาเภอแก่งกระจาน จงั หวัดเพชรบุรี ๔. การติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าแบบเรียลไทม์ NCAPS เพ่ือป้องกันช้างป่าออกหากิน นอกเขตพ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์ เป็นการดาเนินการร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย ผลการดาเนินการ พบว่า ช่วงเวลาท่ีช้างป่าออกนอกเขตพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์บ่อยที่สุดของพื้นที่ตาบลป่าเด็ง คือ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ นาฬกิ า - ๒๒.๐๐ นาฬิกา และพ้นื ที่ตาบลห้วยสัตว์ใหญ่ คอื เวลาประมาณ ๑๙.๓๐ นาฬกิ า - ๒๓.๐๐ นาฬกิ า ๕. การติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียม (GPS Collar) การเคลื่อนย้ายช้างป่า และการให้ การช่วยเหลือและเยยี วยาส่วนภารกิจที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานต้องทาเพิ่มเติมคือ ดาเนินการเร่ืองแนวร้ัว ป้องกนั ช้างปา่ เพ่ิมเตมิ ปรับปรงุ ภมู ิทศั น์บริเวณสองขา้ งทางถนนพุไทร - ไทรเอน ติดกลอ้ งวงจรปิด CCTV ตลอด ถนน เพิ่มสญั ญาณโทรศัพท์ในจุดอับสญั ญาณ และการสารวจประชากรช้างป่าอุทยานแหง่ ชาติแกง่ กระจาน ๒) แนวทางการบรหิ ารจัดการและแกไ้ ขปญั หาช้างปา่ ของอุทยานแห่งชาติกยุ บุรี ๑. การจัดการแหล่งน้า แหล่งอาหาร โดยใช้แนวทางตามแนวพระราชดารัสในหลวง รัชกาลท่ี ๙ โดยดาเนินแผนการจัดการแปลงพืชอาหารและแหล่งน้าให้เป็นวงรอบ โดยมีปริมาณให้เพียงพอ และมีคณุ ภาพ เพอ่ื ใหส้ ัตว์ปา่ ทุกชนิดในผนื ปา่ กยุ บรุ ี อยอู่ ยา่ งปลอดภยั ไม่ออกไปนอกพน้ื ที่ ไปทาลายทรพั ย์สิน
๗๐ ของราษฎร ลดความเส่ียงต่อการถูกทาร้าย และมีการบารุงรักษาอย่างต่อเน่ือง เพอ่ื รองรับประชากรของสัตว์ป่าท่ีมี แนวโน้มเพิ่มมากข้ึน โดยปัจจุบันอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้ดาเนินการจัดทาแปลงหญ้า แหล่งอาหารให้กับ สัตว์ป่าไปแล้วทั้งหมด ๑๒ แปลง รวมเป็นพื้นท่ี ๑,๗๓๐ ไร่ แหล่งน้าจานวน ๑๖ บ่อ กระทะน้า จานวน ๔๓ จุด และจัดทาโป่งเทียมให้กับสัตว์ป่า มีจานวน ๗๓ โป่ง เพื่อให้ช้างป่าและสัตว์ป่าอื่นๆ มีแหล่งอาหารท่ีมีคุณภาพ และปริมาณเพียงพอสาหรับใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ดึงดูดให้สัตว์ป่าอาศัยในพ้ืนที่ป่า ไม่ออกหากินในเขต เกษตรกรรมของราษฎร ๒. การเฝ้าระวังช้างป่าติดต้ังศูนย์ด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Kuiburi SMART Early Warning System) ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารร่วมกับการใช้กล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ และพัฒนา ระบบเตือนภัยล่วงหน้าในคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนแบบทันทีทันใด เพ่ือสนับสนุนการดาเนินงานของ เจ้าหน้าท่ีในการเฝ้าระวังช้างป่าออกนอกพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ดาเนินการติดต้ังกล้อง ดกั ถา่ ยภาพอัตโนมัติทั้งหมด จานวน ๒๗ ตัว บริเวณท้องท่ี หม่ทู ี่ ๕ ยางชมุ หมทู่ ่ี ๗ หมู่บา้ นรวมไทย หมู่ท่ี ๙ ย่านซื่อ หมู่ท่ี ๑๑ บ้านเขาตกน้า ตาบลหาดขาม อาเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหมู่ท่ี ๖ บ้านหนอง กระทิง ตาบลกยุ บุรี อาเภอกุยบรุ ี จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ ๓. เส้นทางตรวจการณ์ จัดทาเส้นทางตรวจการณ์ ระยะทาง ๕ กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณ โค้งอ่างหิน – ท้ายซอย ๖ ท้องท่ีหมู่ ๗ บ้านรวมไทย ตาบลหาดขาม อาเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สนับสนุนงบประมาณจากโครงการอนุรักษ์ป่ากุยบุรี WWF ประเทศไทย งบประมาณ ๒๙,๗๐๐ บาท เพ่ือเป็น ทางตรวจการณ์ลาดตระเวนเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า โดยดาเนินการจัดทาทางลาลองตามแนวเขตรอยต่อ ระหว่างพ้นื ท่อี นรุ ักษ์กับพ้ืนทเี่ กษตรกรรมของราษฎร ๔. ติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียม (GPS Collar) เพ่ือสารวจเส้นทางการกินและศึกษา พฤติกรรมแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าในอนาคต ดาเนินการติดต้ังเม่ือวันท่ี ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จานวน ๑ เส้น โดยช้างป่าที่ได้ทาการติดปลอกคอสัญญาดาวเทียม เป็นช้างเพศผู้ จะทาการเก็บข้อมูลพืช อาหารในเส้นทางการเดินของชา้ งป่าตวั ดงั กลา่ ว ทั้งน้ีการดาเนินการดังกล่าว พบสภาพปัญหา คือขาดแคลนอัตรากาลังเจ้าหน้าท่ีชุดเฝ้า ระวังช้างป่า ไม่มีเส้นทางตรวจการณ์เพื่อเป็นทางตรวจการณ์ ลาดตระเวน เฝ้าระวัง และผลักดันช้างป่า ขาดแคลนอุปกรณ์ผลักดันช้างป่าและยานพาหนะ เช่น มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ใช้สาหรับตรวจการณ์ นอกจากน้ี การเยียวยากรณีพืชผลทางการเกษตร ราษฎรท่ีได้รับความเสียหายอยู่นอกพ้ืนที่ท่ีมีเอกสารสิทธ์ิ จึงไม่มีสิทธ์ิ การรับความชว่ ยเหลือจากรัฐ (๓) ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขปัญหาชา้ งปา่ ๑) แนวทางท่ีดีท่ีสุดในการป้องกันช้างป่าบุกรุก ประกอบด้วย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่า บุกรุกและสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณเก่ียวกับสวัสดิการ อุปกรณ์ผลักดันช้างป่า และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ช้างปา่ รวมทงั้ จดั สร้างร้ัวกันช้าง คูกันชา้ ง และถนนตรวจการณ์ ๒) สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย เสนอแนวคิดการสร้างแนวรั้วสัญญาณเตือนภัย เห็นด้วยกับการสร้างแนวรั้วก่ึงถาวร เป็นการป้องกันช้างป่าแบบต้ังรับ และจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันช้างป่า
๗๑ ได้ปรับเปล่ียนพฤติกรรมในการทาลายพืชผลเกษตรมาเป็นทาลายส่ิงก่อสร้าง ดังนั้นแนวทางป้องกันที่ดีท่ีสุด คือการป้องกันไม่ให้ช้างป่าเข้ามาในพ้ืนท่ีของราษฎรอาศัยอยู่ โดยการสร้างแนวร้ัวกึ่งถาวรควบคู่กับ การดาเนนิ การตดิ ต้งั กล้อง NCAPS รวมทงั้ การปลกู แนวตน้ ไม้ตามแนวร้วั เชน่ ต้นมะขาม ต้นสะเดา ต้นขเ้ี หลก็ และยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับราษฎรอีกทางหนึ่งในการเก็บผลผลิตจากต้นไม้เหล่านี้เพ่ือจาหน่าย ทั้งน้ียังมี ขอ้ จากดั ในพ้ืนที่ป่าท่เี ป็นรอ่ งน้า เพราะไม่สามารถสร้างแนวร้วั กึ่งถาวรได้ ๓) อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เสนอให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือและ เยียวยา ผู้ท่ีได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากช้างป่า รวมท้ังเสนอการดาเนินการจัดทาโครงการเพ่ือขออนุมัตใิ ช้เงิน รายได้เพ่ือบารุงรักษาอุทยานแห่งชาติ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ มีจานวนโครงการที่เก่ียวข้องกับ การเฝา้ ระวงั และแกไ้ ขปัญหาช้างปา่ ทง้ั ส้ิน ประกอบด้วย ๑. โครงการจัดซ้ือรถตักหน้า ขุดหลัง ชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ เพ่ือใช้ในการปฏิบัติงาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี งบประมาณ ๓,๑๐๐,๐๐๐ บาท แยกเป็นโครงการจัดซ้ือยานพาหนะเพื่อเพ่ิมประสิทธิ ภาพแก่ชุดปฏิบัตกิ ารเคล่ือนท่เี ร็วในการเฝ้าระวงั ช้างป่าและลาดตระเวนในพื้นท่ีเสี่ยง งบประมาณ ๖๔๓,๕๐๐ บาท โครงการจัดต้ังหน่วยปฏิบัติการให้ความปลอดภัยแก่สัตว์ป่าและช้างป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี งบประมาณ ๑,๓๘๐,๐๐๐ บาท แยกเป็นโครงการจัดจ้างเจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานประจาศูนย์เฝ้าระวังช้างป่า ด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี งบประมาณ ๕๔๐,๐๐๐ บาท โครงการจัดจ้างเจ้าหน้าท่ี ปฏิบัติงานประจาศูนย์เฝ้าระวังช้างป่าด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า งบประมาณ ๓,๑๘๐,๐๐๐ บาท โครงการ จัดสร้างเสน้ ทางตรวจการณ์และคูเชิงอนรุ ักษ์ ระยะทาง ๑๘.๔๓ กโิ ลเมตร ๒. การติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียม (GPS Collar) จานวน ๕ เส้น เพื่อป้องกัน อนั ตรายให้กบั ชาวบา้ นและนกั ท่องเที่ยว ๓. จัดทาเส้นทางตรวจการณ์ รอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ระยะทางท้ังหมด ๓๒๘ กิโลเมตร โดยแบ่งพ้ืนท่ีออกเป็น ๓ โซน ได้แก่โซนเหนือ เขตอาเภอปราณบุรี และอาเภอสามร้อยยอด ๘๑.๔๔ กโิ ลเมตร โซนกลาง เขตอาเภอกุยบุรี ๑๐๑.๖๐ กโิ ลเมตร และโซนใต้ เขตอาเภอเมอื งประจวบครี ีขันธ์ ๑๔๔.๙๖ กิโลเมตร ๔) ผ้แู ทนจากภาคประชาชน ตาบลหาดขาม อาเภอกยุ บรุ ี จังหวัดประจวบครี ขี ันธ์ เสนอแนะ การจัดสร้างรั้วหรือแนวกันช้างป่า และให้ดาเนินการจับช้างป่าท่ีเกเรและเข้ามาทาลายทรัพย์สิน พืชผล ชีวิตราษฎร ออกนอกเขตทากินและที่อยู่อาศัย และจัดให้มีคณะทางานศึกษาความเป็นอยู่ของชาวบ้านในเขต พ้ืนท่ีช้างป่าบุกรุก พร้อมออกระเบียบหรือมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าท้ังด้านทรัพย์สินและ พืชผลเสียหาย กรณีเจ้าบ้านเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการโดนช้างป่าทาร้ายให้ชดเชยและเยียวยาเช่นเดียวกบั เจา้ หนา้ ที่ของรัฐ
๗๒ ๒.๒.๒.๒ การเดินทางไปศึกษาดูงานพื้นท่ีป่าเกี่ยวกับแนวกันช้าง และรั้วกันช้าง ณ บ้านป่าเด็ง – ป่าละอู ตาบลห้วยสัตว์ใหญ่ อาเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการ และประชาชนผู้ได้รับ ผลกระทบจากชา้ งป่าบุกรุก ได้สรปุ ข้อมูลสภาพปญั หา สรุปสาระสาคญั ได้ ดังน้ี (๑) สภาพปัญหา ชาวบ้านเกษตรกรมีพื้นที่ทากินการเกษตรเกิดผลกระทบจากช้างป่าบุกรุก และเกิด ความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตรเป็นจานวนมาก และบางคร้ังถึงแก่ชีวิต ไม่สามารถเข้าเก็บเก่ียวผลผลิตได้ บางพนื้ ทช่ี าวบ้านท้งิ พน้ื ทที่ ากินและที่อยู่อาศยั จนรกร้าง (๒) ขอ้ เสนอแนะ ๑) เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบ้ืองต้น กรณีช้างป่าบุกรุกพืชผลทางการเกษตร ภาครัฐควรดาเนนิ การจัดสรรงบประมาณ เพือ่ จัดทาแนวร้ัวป้องกนั ช้างป่าแบบถาวร ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ควบค่กู ับการ ขุดร่องคูกันช้าง สาหรับกรณีชาวบ้านเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากช้างป่าบุกรุกให้ดาเนินการจ่ายค่าชดเชย และเยียวยา โดยมีหลกั เกณฑ์ ระเบียบ ข้อกฏมายต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องเยียวยาที่ชดั เจนเป็นรปู ธรรม และสอดคล้องกับสภาพความเสียหายที่มีมูลค่าจริง และขอให้รัฐสนับสนุนไฟฟ้า แสงสว่าง บริเวณพื้นท่ีถนน ที่ชา้ งป่าเดินผ่าน เพ่ือปอ้ งกันความปลอดภัยให้กับราษฎร ๒) เรียกร้องให้ผลักดันช้างป่ากลับคืนสู่ป่า จัดหาสถานที่กักกันช้างป่าและจับช้างป่า ที่เกเรออกนอกพ้ืนท่ีทากินและที่อยู่อาศยั ของราษฎรโดยเรว็ นอกจากนก้ี รณมี กี ารแก้ไขปัญหาชา้ งป่ากลับคืนสู่ สภาวะปกติ ขอสนับสนนุ แนวคดิ การพลิกวิกฤติเปน็ โอกาส สนับสนนุ การทอ่ งเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เกย่ี วกับช้างป่า ชว่ ยสรา้ งเศรษฐกจิ การเงินใหก้ ับราษฎรในพ้ืนท่ี (๓) ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ๑) กรณีการได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติช้างป่า ควรมีการดูแลเยียวยาชดเชยเบื้องต้น ในเรอื่ งของการประกนั ภยั ให้กบั ราษฎร เสนอให้หนว่ ยงานอุทยานแหง่ ชาติแกง่ กระจาน ศึกษาในเร่ืองดงั กลา่ ว ๒) ควรให้เจ้าหน้าที่หาวิธีการทาสัญลักษณ์ตัวช้างป่าเกเรทันทีที่ก่อเหตุ ทารูปพรรณช้างป่า ประจาถิ่น เพอ่ื ประโยชน์ในการตดิ ตาม ขนยา้ ยชา้ งปา่ เกเรไปปรับพฤติกรรม และผลักดนั ช้างป่าประจาถิ่นกลับ สู่ป่าอนุรักษ์ อาจนาวิธีการติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียม (GPS Collar) มาใช้เพื่อศึกษาพฤติกรรมการกิน และการเคลอ่ื นทขี่ องช้างปา่ เกเร ร่วมด้วยกไ็ ด้ ๓) แหล่งอาหาร แหล่งน้า ของช้างป่าเป็นเร่ืองที่สาคัญ เพราะหากมีปริมาณอาหาร เพียงพอในป่าอนุรักษ์ ช้างป่าก็จะไม่ออกมานอกป่า เพื่อมาทาลายพืชผลชาวเกษตรกร จึงขอให้หน่วยงาน อทุ ยานแหง่ ชาตแิ ก่งกระจาน และหนว่ ยงานอ่ืนทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ไดค้ านึงถึงเร่ืองนเ้ี ปน็ สาคัญ ๔) หลักการสาคัญในการพิจารณาแก้ไขปัญหาช้างป่าประกอบด้วยหลักการ ๒ เร่ือง คือ คนไม่สามารถอยู่ร่วมกับช้างได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม และหน่วยงานที่เก่ียวข้องยังไม่สามารถดูแล ป้องกันเร่ืองช้างป่าบุกรุกได้อย่างเบ็ดเสร็จ ปัจจัยมาจากขาดเครื่องมือ กฎ ระเบียบ ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ซ่ึงยัง ไม่เอื้ออานวยต่อการปฏิบัติงาน ดังนั้นควรมีการจัดโซนน่ิงช้างป่าให้อยู่ในเขตปลอดภัย และมีสิ่งกีดขวางหรือ
๗๓ แบริเออร์ (Barrier) ป้องกันช้างป่า รวมถึงส่ิงกีดขวาง หรือสิ่งกีดขวางหรือแบริเออร์ (Barrier) ท่ีเป็นมนุษย์ สาหรับชว่ ยสอดส่องดแู ลเร่อื งการผลักดันชา้ งป่าเข้าสู่ปา่ อนุรักษ์ ๒.๒.๒.๓ วันเสาร์ท่ี ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๔ การศึกษาดูงานเก่ียวกับสภาพปัญหาช้างป่ากลุ่มป่า ตะวันตก ณ พื้นท่ีจังหวัดกาญจนบุรี คณะกรรมาธิการวิสามัญได้เดินทางไปศึกษาดูงานและร่วมปรึกษาหารอื กับส่วนราชการ โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการ และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าบุกรุก ร่วมปรึกษาหารือ สรปุ สาระสาคัญได้ ดังนี้ ปัจจุบันพบว่า ปัจจัยสนับสนุนการเกิดปัญหาช้างป่าบุกรุกประกอบด้วยจานวนประชากร ท่ีเพ่ิมข้ึนของช้างป่า จากข้อมูลช้างป่าในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ มีช้างป่าที่สารวจพบจานวน ๑๘๒ ตัว แบ่งออกเป็น กลุ่มบ่อ พลอย กลมุ่ ทุ่งสลักพระ และมีกระจายอยูใ่ นหลายพ้นื ท่ี และในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มกี ารสารวจขอ้ มูลพบว่า ช้างปา่ เพิ่มข้ึนเป็น ๒๗๐ ถึง ๓๑๐ ตัว นับว่าจานวนช้างป่าเพิ่มข้ึนเป็นอีกเท่าตัว และพ้ืนท่ีอาศัยของช้างป่าเปลี่ยนแปลง เช่น หนองน้าตื้นเขิน สภาพความอุดมสมบูรณ์ของป่าโปร่ง ดินเทียมเสื่อมสภาพ พ้ืนท่ีอาศัยของช้างป่า ถูกรบกวนจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเลี้ยงปศุสัตว์ การล่าสัตว์ การตัดไม้รวก ไม้ไผ่ การเก็บหาของป่า นอกจากน้ีเกษตรกรรอบเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ ปลูกพืชผลทางการเกษตรที่ช้างชอบกิน เช่น กล้วย ข้าวโพด มะม่วง ขนุน และการสรา้ งแหล่งนา้ เพือ่ การปศสุ ัตวท์ ตี่ ดิ เขตรักษาพนั ธส์ุ ตั ว์ป่าสลกั พระ เปน็ ตน้ (๑) สภาพปัญหาช้างปา่ บุกรุก ๑) อุทยานแห่งชาติไทรโยค นาเสนอปัญหาช้างป่าออกนอกพ้ืนที่อนุรักษ์ จะมีปริมาณ ช้างป่าที่เดินหากินไปมาระหว่างอุทยานแห่งชาติไทรโยค และอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิประมาณ ๑๒๐ ตัว พืชผลที่ช้างป่าช่นื ชอบสว่ นมากจะเปน็ กล้วยน้าว้า มันสาปะหลัง ขนุน ปาล์ม มะพร้าว อ้อย ข้าวโพด มะละกอ จึงเกิดผลกระทบที่เกิดจากช้างป่า ทาให้ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรเกิดความเสียหาย เจ้าหน้าท่ีได้รับ บาดเจ็บจากชา้ งป่าทาร้าย ๒) เขตรักษาพนั ธ์ุสัตวป์ า่ สลกั พระ นาเสนอการศกึ ษาประชากรชา้ งปา่ ดว้ ยวธิ ีการนบั ตัว จากลายพิมพ์รหัสพันธุกรรม DNA โดยใช้ไมโครแซทเทลไลท์ดีเอ็นเอ สารวจเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๕๖ พบว่าช้างป่า สลักพระมีจานวนอย่างนอ้ ย ๒๐๐ ตัว ประกอบด้วยชา้ งป่าวยั ก่อนเจริญพันธุ์ ๖๔ เปอร์เซ็นต์ และช้างป่าในวยั เจริญพันธุ์ ๓๖ เปอร์เซ็นต์ และจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพเก็บพิกัดการพบรอ่ งรอยชา้ งป่าคาดวา่ ปัจจบุ นั จะมีช้างปา่ ไมต่ า่ กว่า ๒๕๐ ตัว จาแนกออกเปน็ กลุ่มชา้ งปา่ ทอี่ อกนอกพื้นท่ีปา่ อนรุ กั ษ์ จะเปน็ กลุ่มย่อย ๒ ถึง ๑๐ ตวั และตัวหากินเด่ียวออกนอกพ้ืนที่เป็นประจา บางตัวยึดพ้ืนท่ีแนวชายของป่าติดพื้นท่ีเกษตรกรเป็นถิ่นอาศัย ประจาและไม่กลับเข้าป่าด้านใน และกลุ่มช้างป่าที่ไม่เคยออกนอกเขตป่า หรือออกแล้วมีวงรอบกลับเข้าป่า ด้านใน ส่วนมากจะเปน็ ช้างฝูงและไม่เคยออกนอกพ้ืนทป่ี า่ ๓) ผู้แทนประชาชนตาบลช่องสะเดา อาเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวถึงสภาพปัญหา เร่ืองท่ีดิน ตาบลช่องสะเดา ติดกับเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ และอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ทาให้ชาวบ้าน ตาบลช่องสะเดาได้รับความเดือดร้อนเร่ืองท่ีดินทากินทับซ้อนกัน อยากให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาดูแลแก้ไข ปัญหาและทาแนวเขตให้ชัดเจน เพ่ือลดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ดูแลพื้นท่ี นอกจากน้ีปัญหาช้างป่า
๗๔ ที่ลงมาทาลายทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรของราษฎรมาเป็นระยะเวลา ๑๕ ปี ทาให้ชาวบ้านได้รับ ผลกระทบเปน็ จานวนมาก ซ่งึ ไม่เคยไดร้ ับความชว่ ยเหลือหรือชดเชยค่าเสียหายจากหน่วยงานของรัฐ (๒) ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขปญั หาช้างป่าบุกรกุ ๑) อุทยานแหง่ ชาติไทรโยค นาเสนอถงึ แนวทางการแก้ไขปญั หาชา้ งปา่ บกุ รุก ดังนี้ ๑. โครงการสาหรบั แก้ไขปัญหาช้างปา่ ออกนอกพื้นท่ี ประกอบด้วย โครงการจัดทา แหล่งน้าสาหรับช้างป่า เป็นโครงการแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นท่ี ทาการอนุรักษ์แบบบูรณาการในกลุ่มป่า ตะวันตก โดยปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ดาเนนิ การในท้องท่บี ้านแก่งจอ หมทู่ ่ี ๔ บา้ นแม่นา้ นอ้ ย หมู่ที่ ๕ ตาบล ไทรโยค อาเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบรุ ี โครงการปลกู พชื อาหารสัตวส์ าหรับช้างปา่ และโครงการติดตั้งกล้อง Ncaps ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติไทรโยคได้รับการสนับสนุนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในเรอ่ื งการตดิ ตงั้ กล้องเพือ่ เฝ้าระวงั ช้างปา่ ๒. จัดตั้งชุดเจ้าหน้าท่ีร่วมกับชาวบ้านในชุมชน เพ่ือเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ใหก้ ลบั สพู่ ื้นท่ปี ่าอนุรักษ์ ๓. การปลูกไผ่หนามเป็นร้ัวป้องกันช้างป่า ข้อดีของการปลูกไผ่หนาม ควรเลือก ชนิดไผ่ป่าหรือไผ่สีสุก เม่ือไผ่ประสานกันแน่นขึ้นไปในอนาคตจะเกิดกาแพงของรั้วหนามตามธรรมชาติ ซ่ึงเกิด จากการสังเกตตามธรรมชาติว่าช้างป่าจะไม่เดินผ่านเข้าไปในดงหนามของไผ่ป่า และควรเป็นต้นไผ่ท่ีเพาะ ด้วยเมล็ด และข้อดีของการปลูกด้วยเมล็ดคือ เม่ือนาไปปลูกจะมีลักษณะคล้ายหญ้าต้นเล็กช้างป่าจะไม่สนใจ หรือดึงเล่นอัตราการรอดตายสูง แม้ปลูกภายใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ ตัวอย่างเช่น โครงการพระราชดาริที่จังหวัด สระแก้ว ได้งบประมาณการปลูกแค่ปีเดียวไม่มีงบประมาณบารุงต่อเนื่องแต่อย่างใด และไม่ได้มีการกาจัด ถางวัชพชื และไม่ได้ใสป่ ุ๋ย แต่ต้นไผ่ก็ยังเติบโตและมีพฒั นาการของการแตกแขนงเป็นหนามไดด้ ี ๒) ผู้แทนประชาชนตาบลช่องสะเดา อาเภอเมืองกาญจนบุรี นาเสนอถึงแนวทางการแก้ไข ปัญหาช้างปา่ บกุ รกุ ดังน้ี ๑. ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทากินทับซ้อนกันของแนวเขต เพราะแผนที่ แต่ละหน่วยงานนาไปใช้คนละมาตราส่วน เป็นแผนที่ต่างคนต่างทา ต่างใช้แล้วก็ยึดกฎหมายตัวเองเป็นหลัก ประชาชนจึงได้รับผลกระทบ เช่น แนวเขตป่าไม้กับ ส.ป.ก. จึงเสนอแนะให้หน่วยงานหลัก ๓ กระทรวง คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ตอ้ งร่วมมือหาทางแก้ไขปัญหารว่ มกนั ๒. ปัญหาเร่ืองการครอบครองท่ีดินของราษฎร หากเป็นการครอบครอง ชอบด้วยกฎหมายต้องออกเอกสารสิทธิ์ให้ราษฎร หากเป็นการครอบครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย ภาครัฐต้อง กาหนดนโยบายการแกไ้ ขและต้องสอดคล้องเหมาะสมกบั สถานการณบ์ า้ นเมือง ๓. ปัญหาการทาประโยชน์จากท่ีดินรกร้างว่างเปล่า รัฐต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน ใช้ประโยชน์อะไร แบบไหน เพียงใด พร้อมท้ังกาหนดนโยบายให้ชัดเจน เพื่อที่ราษฎรจะได้วางแผนการผลิต และใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม ท้ังนี้เสนอแนะให้สานักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานกลางในการประสาน นาข้อมลู เหลา่ น้มี าเป็นฐานขอ้ มลู กลาง และกรมทีด่ ินเปน็ หน่วยงานปฏบิ ัติ
๗๕ ๔. ปัญหาช้างป่าบุกรุก แนวทางการป้องกันช้างป่าที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐ ที่รับผิดชอบไม่ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทาให้ราษฎรกับช้างป่ามีการสูญเสียชีวิตกันทุกปี จึงขอให้รัฐ และหน่วยงานที่เก่ียวข้องเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาในส่วนน้ีด้วย เพ่ือลดความขัดแย้งและผลกระทบระหว่าง ราษฎรกบั ช้างป่า รวมทง้ั ลดความสูญเสยี ทัง้ ราษฎรและชา้ งปา่ ๓) แนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าที่มีประสิทธิภาพมาก ณ ปัจจุบัน ควรดาเนินการ เพิ่มการสร้างแหล่งน้าและอาหารในพ้ืนท่ีป่าลึกให้มากท่ีสุด จัดโซนเพื่อให้ช้างป่าอยู่ในพื้นที่แถบนั้น จัดทาแนวร้ัว กันชา้ งอยา่ งถาวรแน่นหนาแบบในพน้ื ทแ่ี กง่ หางแมว จดั ทาแนวรวั้ ผ้ึงอยา่ งเป็นระบบ ๔) ควรมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับปัญหาช้างป่า รวมท้ังควรปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญตั ิการใช้พื้นทีป่ ่าเพ่ือใหร้ าษฎรสามารถเข้าไปฟ้นื ฟแู ละสร้างแหลง่ น้า เช่น การทาฝายในพ้ืนทีป่ ่า ๕) การชดเชยเยียวยาผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากช้างป่าให้ออกเป็นกฎหมายใช้ที่ชัดเจน โดยไมม่ ีข้อยกเวน้ วา่ จะต้องเปน็ พน้ื ท่ที าการเกษตรที่มเี อกสารสิทธิ์เทา่ นนั้ รวมทง้ั เรอ่ื งทรพั ย์สินท่เี สียหายก็ควร ได้รับการชดเชยตามความเปน็ จริงท่เี กิดข้นึ ในปัจจบุ นั ๖) เสนอแนะให้รฐั ดาเนนิ การและสนับสนุนโครงการต่างๆ ดงั นี้ ๑. จัดทาสิ่งกีดขวางระหว่างราษฎรกับช้างป่า เช่น รั้ว ขุดคู ทาส่ิงกีดขวาง หรือสิ่ง กีดขวางหรือแบริเออร์ (Barrier) เพราะราษฎรกับช้างป่าอยู่ร่วมกันไม่ได้ พร้อมทั้งสร้างแหล่งน้าในพื้นที่ป่าให้มี ปริมาณนา้ เพ่มิ มากขึน้ เชน่ การขุดบ่อบาดาลทกุ ๕ กิโลเมตร และใช้พลงั งานแสงอาทติ ย์สูบนา้ ๒. สร้างแหล่งอาหาร เน่ืองจากแหล่งอาหารในป่าไม่เพียงพอต่อจานวนช้างป่า ประเด็นสาคัญคือแหล่งอาหารเจรญิ เติบโตไมท่ นั ตอ่ ความตอ้ งการของชา้ งป่า โดยการสร้างแหล่งอาหารให้กับช้างปา่ น้ี ควรให้ราษฎรหรือเกษตรกรที่อยู่บริเวณใกลก้ ับแนวป้องกันช้างป่า หรือผู้ที่ได้รบั ผลกระทบได้มีการดาเนนิ การปลูกพชื อาหารใหก้ ับชา้ งป่า เพอ่ื ให้ทางภาครัฐหรือนกั ทอ่ งเทยี่ วซื้ออาหารไปใหก้ บั ชา้ งป่าอยู่นอกแนวรัว้ ปอ้ งกนั ช้างปา่ ๓. สร้างแหล่งนา้ ขนาดใหญร่ ะดบั ๑๐๐ ไร่ ข้ึนไป บริเวณกลางปา่ ท่ีชา้ งปา่ อาศัยอยู่ ๔. โครงการเก็บค่าสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวในพ้ืนท่ีจังหวัดกาญจนบุรี เป็นรายบุคคลเช่น เก็บในอัตราบุคคลละ ๑๐ บาท และให้หน่วยงานของการท่องเท่ียวและกีฬาจังหวัด กาญจนบรุ ี เปน็ ผู้รบั ผิดชอบรายได้ เพ่ือนามาซือ้ อาหารช้างป่า โดยไมม่ ีการหกั ภาษแี ละหักเปอร์เซ็นต์ ๕. ดาเนินการเคลื่อนย้ายช้างป่าออกนอกพ้ืนท่ีหมู่บ้านและชุมชนโดยเร็ว เพื่อลดความเสียหายและการสูญเสียชีวิตของราษฎรและความปลอดภัย นอกจากน้ีกรณีช้างป่ามีปริมาณมาก เกินกาหนดจานวนพ้ืนทปี่ ่า ขอให้ภาคเอกชนสามารถเคลือ่ นยา้ ยจานวนชา้ งป่าได้ โดยมีภาครัฐเป็นผ้คู วบคมุ ๖. การอบรมให้ความรู้กับชาวบ้านและอาสาสมัครในพื้นท่ีที่มีช้างป่าลงมาในพื้นท่ี และมกี ารจดั สรรงบประมาณเพ่ือการจา้ งงานในชมุ ชม และดูแลเฝ้าระวังป้องกันชา้ งป่าทเ่ี ข้ามาในพื้นทน่ี น้ั ๆ ๗. การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้หรือแปลงสาธิตด้านการเกษตรในทุกพ้ืนท่ีเขตรักษา พันธ์ุสัตว์ป่าและพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ เพ่ือให้ราษฎรได้เรียนรู้ นอกจากน้ีขอให้มีการช่วยสนับสนุน วัสดุอุปกรณ์ของจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า เช่น ไฟฉาย ชุดปฏิบัติงานรถยนต์ในการปฏิบัติงาน พร้อมด้วย ค่านา้ มนั เป็นตน้
๗๖ (๓) ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ๑) การร่วมปรึกษาหารือกับส่วนราชการและรับทราบข้อมูลเก่ียวกับสภาพปัญหาช้างป่า กลุม่ ปา่ ตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรีเห็นไดว้ า่ ความเหน็ สว่ นมากของราษฎรสนับสนุนใหม้ ีการจัดโซนนิง่ ระหว่าง ช้างป่า กับราษฎร ให้อยู่ในเขตปลอดภัย และมีสิ่งกีดขวาง หรือแบริเออร์ (Barrier) ป้องกันช้างป่า เพราะราษฎร ไม่สามารถอยู่ร่วมกับช้างป่าได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม และบริเวณรอยต่อระหว่างป่าอนุรักษ์ จึงควรมีการ จัดทาเป็นเขตกันชน Buffer zone เพ่ือป้องกันราษฎรในชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เส่ียงได้รับผลกระทบจากการใช้ เสน้ ทางของช้างป่า ๒) ในกรณที ไี่ มส่ ามารถป้องกันช้างป่าบุกรุกทีท่ ากนิ ได้เดด็ ขาด ตอ้ งมมี าตรการเยียวยา ให้แกร่ าษฎรผไู้ ด้รบั ผลกระทบอยา่ งเป็นธรรม และสอดคล้องกับมูลคา่ ความเสียหายทเี่ กดิ ข้ึนจริง ๓) การฟ้ืนฟูเพิ่มประสิทธิภาพกับเขตพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์ จาเป็นต้องมีการจัดสรร งบประมาณให้เพียงพอ เพื่อสามารถนางบประมาณมาใช้ในการเพ่ิมแหล่งน้า แหล่งอาหาร และอ่ืน ๆ ที่เก่ียวข้อง กับเรื่องแก้ไขปญั หาช้างป่าบุกรุก ๔) ควรมีการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้สามารถนา งบประมาณมาใช้แก้ไขปัญหาชา้ งปา่ ๕) ควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพ่ือให้สามารถควบคุมจานวนช้างป่า ไม่ให้เกิน ศกั ยภาพชองพ้นื ทแ่ี ต่ละกลุ่มปา่ ๒.๓ สรปุ ผลการดาเนินการของคณะอนุกรรมาธกิ าร ในคราวประชุมคณะกรรมาธิการวสิ ามัญพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่า คร้ังที่ ๓ วันอังคารท่ี ๒ มีนาคม ๒๕๖๔ ท่ีประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการ ๓ คณะ ประกอบด้วย (๑) คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศในเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อรองรับประชากร ช้างป่าอย่างยั่งยืน (๒) คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการป้องกันแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกที่ทากิน และเยียวยา ผลกระทบจากภัยช้างป่าอย่างเป็นธรรม และ (๓) คณะอนุกรรมาธิการศึกษาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและ ระเบียบทเ่ี ปน็ อปุ สรรคตอ่ การแก้ไขปัญหาช้างปา่ และศกึ ษาผลงานวิจัย นวัตกรรมท่ีเก่ียวข้อง สืบเนื่องจากการเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19) ทาให้ คณะอนุกรรมาธิการไม่สามารถประชุมร่วมกันได้ แต่คณะอนุกรรมาธิการทั้ง ๓ คณะ ได้มีการประชุมผ่านส่ือ อิเล็กทรอนิกส์ Application Zoom Meeting นอกจากน้ียังมีการประสานงานเพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟัง ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เช่ียวชาญจากภาคส่วนท่ีเก่ียวข้อง ผ่านโปรแกรม Application Zoom Meeting และทางโทรศัพท์ ซึ่งข้อมูล ข้อเสนอแนะ ที่ได้รับจากการประชุมดังกล่าวน้ี จะมีการแลกเปล่ียนและรับฟังความคิดเห็นกับบุคคลและภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้อง และได้นามาวิเคราะห์ รวบรวม ประมวลผล เพื่อนามาจัดทารายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพ่ือให้รายงานผลการศึกษา ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่า มีเน้ือหาครบถ้วนสมบูรณ์และเสร็จส้ิน โดยเร็ว ซง่ึ ผลการดาเนนิ งานท่ผี า่ นมาของคณะอนกุ รรมาธกิ ารสรุปได้ ดงั นี้
๗๗ ๒.๓.๑. คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศในเขตป่าอนุรักษ์ เพ่ือรองรับประชากรช้างป่าอย่างย่ังยืน คณะอนุกรรมาธิการมีหน้าท่ี และอานาจพร้อมท้ังได้ศึกษาในประเด็นต่างๆ ประกอบด้วย การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นสถานภาพประชากรช้างป่า ทั้งในและนอกเขตป่าอนุรักษ์ ปัญหากรณีช้างป่า บุกรุกท่ีดินทากินของเกษตรกร และสถิติความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน พืชผลการเกษตร ในรอบ ๑๐ ปี ที่ผ่านมา และสาเหตุปัญหาช้างป่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ท้ังในและนอกเขตป่าอนุรักษ์ รวมทั้งสาเหตุท่ีช้างป่า ต้องออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ และวิธีการนาช้างป่ากลับคืนเขตป่าอนุรักษ์โดยเร็ว การศึกษา ขีดความสามารถของพ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์ในการรองรับประชากรช้างป่า ศึกษาการปรับเกลี่ยและเคล่ือนย้าย ประชากรช้างป่าท่ีมากเกินความสามารถของพื้นที่ในการรองรับ ไปยังพ้ืนที่ป่าธรรมชาติที่มีศักยภาพรองรับ แหล่งใหม่ แนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนท่ีอยู่อาศัย แหล่งน้า แหล่งอาหาร แหล่งเกลือแร่ และอ่ืน ๆ ที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของช้างป่าภายในเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อรองรับการรับการผลักดันช้างป่าท้ังหมดกลับสู่ เขตป่าอนุรักษ์ พร้อมทั้งแนวทางการจัดทาแผนงาน โครงการเร่งด่วน ผลักดันช้างป่าทั้งหมดกลับคืนสู่เขต ป่าอนุรักษ์ เพื่อความปลอดภัยของคนและช้างป่า ศึกษาสภาพปัญหาและผลกระทบของเขตป่ารอยต่อ แนวทางการควบคุมประชากรช้างป่า การบริหารจัดการช้างป่า และการใช้ประโยชน์จากช้างป่า เพื่อส่งเสริม การท่องเท่ียวในเขตป่าอนุรักษ์ และการอนุรักษ์อย่างย่ังยืน ศึกษาการบูรณาการของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง กับช้างป่า เพ่ือจัดต้ังหน่วยงานในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างเป็นระบบ และการหามาตรการ วธิ กี ารป้องกันเฝ้าระวังและเตือนภัยจากชา้ งป่า นอกจากนี้แล้วคณะอนุกรรมาธิการ โดยมีนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักด์ิ ประธานคณะ อนุกรรมาธิการได้เชิญผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ มาเพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชน แล้วจัดทาความเห็น ข้อเสนอแนะในประเด็นต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาชา้ งป่า ซึง่ มีการจัดกลมุ่ กรอบการศึกษาเป็น ๑๒ หัวข้อ เพ่ือใหก้ ารพิจารณาของคณะอนุกรรมาธิการมีความเกย่ี วข้องกัน ตอ่ เนอ่ื ง และเชอื่ มโยงกนั ไป โดยแบง่ ออกเป็น ๓ กล่มุ ดังน้ี กลุ่มที่ ๑ ช้างป่าและสถิติความเสียหาย ประกอบด้วย ศึกษาปัญหากรณีช้างป่าบุกรุกที่ดิน ทากินของเกษตรกร และสถิติความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน พืชผลการเกษตรในรอบ ๑๐ ปี ท่ีผ่านมา ศึกษาสาเหตุและปัญหาช้างป่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ท้ังในและนอกเขตป่าอนุรักษ์ ศึกษาสาเหตุที่ช้างป่า ต้องออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ และวิธีการนาช้างป่ากลับคืนเขตป่าอนุรักษ์โดยเร็ว และศึกษาสภาพปัญหา และผลกระทบของเขตปา่ รอยตอ่ กลุ่มท่ี ๒ การจัดการช้างป่า ประกอบด้วย ศึกษาสถานภาพประชากรช้างป่าทั้งในและนอก เขตป่าอนุรักษ์ ศึกษาขีดความสามารถของพื้นท่ีป่าอนุรักษ์ในการรองรับประชากรช้างป่า ศึกษาการปรับเกล่ีย และเคล่ือนย้ายประชากรช้างป่าท่ีมากเกินความสามารถของพ้ืนท่ีในการรองรับไปยังพื้นที่ป่าธรรมชาติท่ีมี ศักยภาพรองรับแหล่งใหม่ ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย แหล่งน้า แหล่งอาหาร แหล่งเกลือแร่ และอื่น ๆ ที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของช้างป่าภายในเขตป่าอนุรักษ์ เพ่ือรองรับการผลักดัน
๗๘ ช้างป่าทั้งหมดกลับสู่เขตป่าอนุรักษ์ ศึกษาการควบคุมประชากรช้างป่า การบริหารจัดการช้างป่า และการใช้ ประโยชน์จากชา้ งป่า เพือ่ สง่ เสริมการท่องเทยี่ วในเขตปา่ อนุรักษ์และการอนุรักษ์อย่างย่ังยนื กลุ่มที่ ๓ แผนการจัดการช้างป่าและการบูรณาการ ประกอบด้วย ศึกษาเพ่ือจัดทาแผนงาน โครงการเร่งด่วน ผลักดันช้างป่าท้ังหมดกลับคืนสู่เขตป่าอนุรักษ์ เพ่ือความปลอดภัยของคนและช้างป่า ศึกษา การบูรณาการของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับช้างป่า เพ่ือจัดตั้งหน่วยงานในการบรหิ ารจัดการแก้ไขปัญหาชา้ งป่า อยา่ งเป็นระบบ และ ศึกษามาตรการและวธิ กี ารป้องกนั เฝ้าระวงั และเตือนภยั จากชา้ งป่า คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศในเขตป่าอนุรักษ์ เพ่ือรองรับ ประชากรช้างป่าอย่างยั่งยืนได้มีการประชุมจานวน ๘ ครั้ง โดยได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลสาเหตุของ ปัญหาที่ช้างป่าต้องออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ สถิติความเสียหายต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนจากปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างคนและช้างป่า รวมถึงการปรับเกลี่ยและเคลื่อนย้ายประชากรช้างป่าที่มากเกินความสามารถของ พื้นที่ในการรองรับไปยังพื้นที่ป่าธรรมชาติท่ีมีศักยภาพรองรับแหล่งใหม่ และแผนการการเคล่ือนย้ายช้างป่า ทมี่ ีความเสยี่ งเผชญิ หนา้ และทาร้ายประชาชน โดยสรุปสาระสาคญั ของเร่อื งทที่ าการศึกษาได้ ดังน้ี (๑) สาเหตุที่ช้างป่าต้องออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ ประกอบด้วย ๓ ปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยท่ีหนึ่ง พ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์ขาดแคลนน้าและอาหาร หรือมีสภาพภูมิอากาศเปล่ียนแปลงไป ทาให้ช้างป่า เคลื่อนที่และขยายพื้นท่ีหากินออกจากเขตป่าอนุรักษ์ ปัจจัยท่ี ๒ การตัดไม้ทาลายป่า การล่าสัตว์ เป็นการ เปลี่ยนแปลงถ่ินท่ีอยู่อาศัยของช้างป่า ทาให้ช้างป่าเคล่ือนย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยออกมานอกเขตป่าอนุรักษ์ และปัจจัยที่ ๓การพัฒนาพื้นท่ีทางการเกษตรและการพัฒนาแหล่งน้าของประชาชน ทาให้เป็นปัจจัยดึงดูด ให้ช้างป่าออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ (๒) ปัญหากรณีช้างป่าบุกรุกที่ดินทากินของเกษตรกร และสถิติความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน พืชผลการเกษตร ในรอบ ๑๐ ปีท่ีผ่านมา เน่ืองจากในอดีตประเทศไทยมีนโยบายขอใช้พื้นท่ีป่าไม้ เพื่อจัดสรรเป็นที่ดินทากินให้กับราษฎร พ้ืนที่ป่าไม้บางบริเวณจึงถูกตัดขาดกลายเป็นหย่อมป่าขนาดเล็กลง และอาณาเขตอาศัยของช้างป่าเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ - ๒๕๔๕ ช้างป่ามีประชากร เพิ่มขึ้น และเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยหากินบริเวณชายป่าใกล้พื้นที่การเกษตรนานขึ้น ปรากฏตัวนอกพื้นที่ป่ามากขึ้น จนนาไปสู่พฤติกรรมหากินในพื้นที่เปิดโล่งที่ติดกับพื้นที่การเกษตร และมี แนวโน้มออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์เพิ่มขึ้นทุกปี เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และพืชผล ทางการเกษตร ซ่ึงนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากข้ึน (๓) สาเหตุและปัญหาช้างป่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตทั้งในและนอกเขตป่าอนุรักษ์ มีทั้งสาเหตุจากการถูกล่าจากมนุษย์ การถูกล่าจากเสือโคร่ง ซ่ึงเป็นการควบคุมประชากรตามธรรมชาติ การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เช่น การตกเหว ตกหลุม ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บของช้างป่านอกเขต พื้นท่ีป่าอนุรักษ์พบว่า เกิดจากช้างป่าตกบ่อน้าท่ีเกษตรกรใช้สาหรับการเกษตร รวมถึงการเผชิญหน้าระหว่าง ช้างป่ากับประชาชนในพื้นท่ีชุมชน
๗๙ (๔) สภาพปญั หาและผลกระทบของเขตป่ารอยตอ่ จากการศึกษาพบปญั หาทส่ี าคัญ ๓ ประการ ๑) ประชาชนได้รับอนุญาตให้เข้าไปใช้ประโยชน์ป่าสงวน ในรูปแบบของป่าชุมชน รวมทั้งมี มาตรการผ่อนปรนให้ประชาชนใช้ที่ดินทากินในเขตป่าสงวนหรือป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรี ทาให้ ช้างป่าสูญเสียถ่ินที่อยู่อาศัย แต่ประชาชนได้ที่ดินทาการเกษตร ทาให้พื้นที่นั้นกลายเป็นพื้นท่ีอุดมสมบูรณ์ ด้วยแหล่งอาหารและแหล่งน้า ดึงดูดให้ช้างป่าเข้ามาหากินหรือทาลายพืชผลทางการเกษตร เพิ่มโอกาส การเผชิญหน้าระหว่างคนกับช้างป่ามากขึ้น และบางคร้ังเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตท้ังคนและช้างป่า ๒) การฟ้ืนฟูแหล่งที่อยู่อาศัย โดยการจัดทาหรือปรับปรุงแหล่งอาหาร ทุ่งหญ้า โป่งเทียม แหล่งน้า หลายครั้งพบว่า การดาเนินงานดังกล่าวอยู่ใกล้แนวขอบป่าอนุรักษ์ ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินหรือแปลงเกษตร ทาให้ดึงดูดช้างป่าออกมาใกล้พื้นที่ชายขอบมากขึ้น จนกระทั่งออกมานอกป่าอนุรักษ์เข้าสู่พื้นท่ีเกษตรกรรม (๕) สถานภาพของประชากรช้างป่าท้ังในและนอกเขตป่าอนุรักษ์ ขีดความสามารถของพื้นท่ี ป่าอนุรักษ์ในการรองรับประชากรช้างป่า และการปรับเกล่ียและเคลื่อนย้ายประชากรช้างป่าท่ีมากเกิน ความสามารถของพน้ื ทีใ่ นการรองรับไปยงั พ้ืนท่ปี า่ ธรรมชาติทีม่ ีศกั ยภาพรองรบั แหล่งใหม่ ตารางท่ี ๖ ความเหมาะสมของจานวนชา้ งปา่ ต่อพืน้ ที่กลุ่มป่าทีจ่ ะรองรบั ประชากรชา้ งป่าได้ ขอ้ มลู จากการสารวจในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ กลมุ่ ป่า จานวนประชากร ขนาดพ้ืนท่ี ประชากรช้างป่าท่ี ช้างป่าในพ้นื ที่ ปา่ อนรุ ักษ์ รองรบั ได้ (ตัว) (ตร.กม.) (ต่อความเหมาะสม (ตวั ) ในปัจจบุ ัน) ๑. ตะวนั ตก ๖๔๒ – ๗๓๔ ๑๘,๒๘๒ ๒,๔๖๓ ๒. แก่งกระจาน ๔๘๗ – ๕๐๐ ๔,๘๓๘ ๖๐๑ ๓. ดงพญาเย็น - เขาใหญ่ ๕๓๓ - ๕๘๖ ๖,๑๙๗ ๘๘๕ ๔. ภเู ขยี ว - นา้ หนาว ๔๙๒ - ๔๙๓ ๗,๖๗๕ ๑,๑๑๙ ๕. ตะวนั ออก ๔๒๓ ๒,๔๕๓ ๓๑๓ ๖. ฮาลา - บาลา ๑๐๐ - ๑๔๐ ๒,๒๓๖ ๗๕ ๗. เขาหลวง ๗๐ - ๑๐๐ ๑,๘๕๔ ๑๕๖ ๘. ภูเมีย่ ง - ภูทอง ๖๐ - ๑๐๐ ๕,๐๒๒ - ๙. คลองแสง - เขาสก ๑๐๐ ๕,๕๘๔ ๖๓๘ ๑๐. ลุ่มนา้ ปาย - สาละวิน ๕๐ ๑๐,๖๒๖ - ๑๑. แมป่ งิ - อมกอ๋ ย ๕๐ ๔,๒๓๖ ๓๕๓
๘๐ กลุ่มป่า จานวนประชากร ขนาดพื้นที่ ประชากรชา้ งป่าที่ ช้างปา่ ในพืน้ ท่ี ปา่ อนุรกั ษ์ รองรับได้ (ตวั ) ๑๒. ภพู าน (ตร.กม.) (ต่อความเหมาะสม ๑๓. ศรีลานนา - ขุนตาล (ตวั ) ในปจั จุบัน) ๑๔. พนมดงรกั - ผาแต้ม ๒,๖๖๗ ๑๕. ดอยภูคา - แม่ยม ๕๕ - ๕๘ ๗,๑๕๖ - ๑๖. ชุมพร ๓,๐๑๐ ๓๖ ๘,๒๘๘ - รวม ๒,๓๐๘ ๓๐ ๙๒,๔๒๙ - ๒๐ - ๒๐ - ๓,๑๖๘ – ๓,๔๔๐ ๖,๖๐๓ หมายเหตุ “ - ” หมายถงึ ปรมิ าณข้อมลู ยงั ไมเ่ พียงพอในการนามาวเิ คราะห์ เพือ่ ประเมนิ ศกั ยภาพ เน่อื งจาก บางพื้นท่เี ข้าไปประเมนิ ไมไ่ ด้ เช่น แนวชายแดน แนวการปกั ปันเขต (๖) แนวทางการแก้ไขปัญหา การขาดแคลนที่อยู่อาศัย แหล่งน้า แหล่งอาหาร แหล่งเกลือแร่ และอื่น ๆ ท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตของช้างป่าภายในเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อรองรับการรับการผลักดันช้างป่า ท้ังหมดกลับสู่เขตป่าอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ได้ดาเนินการฟ้ืนฟูและปรับปรุงแหล่งน้า แหล่งอาหาร แหล่งโป่ง รวมถึงสภาพพื้นท่ีป่าท่ีเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย เพ่ือเพ่ิมศักยภาพในการรองรับประชากร ช้างป่าที่เพ่ิมขึ้นในแต่ละปีให้เพียงพอ โดยเฉพาะพ้ืนที่ทุ่งหญ้าถือเป็นแหล่งอาหารสาคัญของช้างป่า จาเป็นต้องมี การจัดการและฟื้นฟูให้เพียงพอต่อประชากรช้างป่าที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นับต้ังแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๖๔ การดาเนินตามแผนแก้ไขปัญหาช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกพ้ืนที่รบกวนประชาชน ในกิจกรรมฟื้นฟู แหล่งน้า แหล่งอาหาร ของช้างป่าในพื้นท่ีป่าอนุรักษ์ ๖๙ แห่ง ทั่วประเทศได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งส้ิน ๒๗๘,๕๓๗,๕๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๒๖.๓๗ ของงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร และเฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้รับการจัดการจัดสรรงบประมาณสาหรับการฟื้นฟูถิ่นอาศัยของช้างป่า ในภาพรวมท้ังประเทศ เพียง ๑๘,๔๗๓,๖๐๐ บาท คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๘.๖ ของงบประมาณท่ไี ด้รับทง้ั หมด (๗) การควบคมุ ประชากรชา้ งปา่ การบริหารจัดการชา้ งป่า และการใช้ประโยชน์จากชา้ งป่า เพ่อื สง่ เสรมิ การท่องเท่ียวในเขตป่าอนุรักษ์ และการอนุรักษ์ช้างป่าอย่างย่ังยืน ๑) ประเด็นการควบคมุ ประชากรช้างป่า ไดเ้ ชิญหัวหน้าศนู ย์วิจัยชา้ งและสตั ว์ปา่ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ฉัตรโชติ ทิตาราม) มาให้ข้อมูลเร่ืองการทาวิจัย ยาคุมกาเนิดช้างป่าเพศเมีย เม่ือฉีดยาคุมกาเนิดแล้วสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้นาน ๗ ปี โดยไม่ต้องมีการฉีดยา คุมกาเนิดซ้า ซ่ึงได้รับการพิสูจน์ในต่างประเทศแล้วว่าใช้แล้วได้ผลดีไม่มีผลต่อพฤติกรรมทางสังคมของช้างป่า ปลอดภัยตอ่ สุขภาพของสัตว์ทง้ั ในระยะสั้นและระยะยาว โดยมีเป้าหมายให้การเพ่มิ ของประชากรช้างป่าลดลง
๘๑ เหลือร้อยละ ๔ - ๕ ต่อปี จากเดิมท่ีอัตราการเพ่ิมของประชากรช้างป่าเพิ่มข้ึนร้อยละ ๘.๒ ต่อปี ขณะนี้อยู่ใน ระหว่างรอการอนุญาตนาเข้ายาคุมกาเนิดเพ่ืองานวิจัยจากองค์การอาหารและยา (อย.) และรอการอนุมัติ การทาวิจยั ในช้างปา่ จากกรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตวป์ ่า และพนั ธพ์ุ ืช ๒) ประเด็นการใช้ประโยชน์จากชา้ งปา่ เพ่ือส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตป่าอนุรักษ์ ได้มีการศึกษา ความเป็นไปได้และการประเมินความเหมาะสมในพ้ืนที่ ๒ แห่ง ได้แก่ พ้ืนท่ีอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ และเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ซ่ึงลักษณะภูมิประเทศมีแนวกั้น ตามธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ด้านแหล่งอาหาร ตลอดจนชุมชนมีส่วนร่วมในการดาเนินการ จึงเอื้ออานวย ต่อการพัฒนาเป็นพ้ืนท่ีท่องเท่ียว (๘) แผนงานโครงการเร่งด่วนผลักดันช้างป่าท้ังหมดกลับคืนสู่เขตป่าอนุรักษ์ เพื่อความปลอดภัย ของคนและช้างป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดทาแผนการจัดการช้างป่าที่มีความเสี่ยง เผชิญหน้าและทาร้ายประชาชน พ.ศ. ๒๕๖๔ มีการดาเนินการในพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์ จานวน ๙ แห่ง ใน ๕ กล่มุ ป่า ไดแ้ ก่ กล่มุ ปา่ ตะวันออก กล่มุ ป่าตะวนั ตก กล่มุ ป่าแกง่ กระจาน กลุ่มป่าดงพญาเยน็ - เขาใหญ่ และกลุ่มป่า ฮาลา – บาลา มีช้างกลุ่มเป้าหมายจานวน ๓๔ ตัว ดาเนินการเคล่ือนย้ายช้างป่าไปแล้ว ๓ ตัว ได้แก่ พลายยันหว่าง สดี อแกว้ และพลายต๋ี (๙) การบูรณาการหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับช้างป่า เพื่อจัดตั้งหน่วยงานในการบริหารจัดการแก้ไข ปัญหาช้างป่าอย่างเป็นระบบ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศในเขตป่า อนุรักษ์ เพื่อรองรับประชากรช้างป่าอย่างยั่งยืน ได้พิจารณารูปแบบของคณะกรรมการดาเนินงาน การจัดการปัญหาเพ่ือการอยู่รว่ มกันอย่างสมดุลระหวา่ งคนและช้าง ซ่ึงเกิดจากความร่วมมือระหวา่ งกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการ ฟื้นฟูแหล่งอาหารช้างป่าพ้ืนท่ีป่าตะวันออก โดยมีองค์ประกอบทั้งผู้แทนจากกองทัพบก กองทัพเรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช กรมป่าไม้ กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน ผู้ว่าราชการจังหวัดท้ัง ๕ จังหวัด และผู้แทน จากภาคเอกชน ร่วมกันขับเคล่ือนโครงการฟื้นฟูแหล่งอาหารช้างป่าพื้นท่ีป่าตะวันออก รวมท้ังประสาน ความร่วมมือและสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาคีภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ชุมชน และประชาชน ซึ่งคณะ อนุกรรมาธกิ ารมีความเห็นวา่ ควรตง้ั คณะกรรมการจาแนกตามกลมุ่ ปา่ ทั้ง ๑๖ กลมุ่ ปา่ โดยองคป์ ระกอบของผู้แทน จากภาคส่วนต่าง ๆ อาจปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละพ้ืนที่ แต่ต้องครอบคลุมการทางาน ทงั้ ในปา่ อนุรักษ์และนอกป่าอนรุ กั ษ์ (๑๐) มาตรการและวิธีการป้องกัน เฝ้าระวัง และเตือนภัยจากช้างป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีมาตรการการจัดการทั้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภายใต้ แผนการจัดการชา้ งป่า ระดับกลุม่ ป่า ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๗๒ เชน่ การจัดทาหรอื สร้างส่ิงกีดขวาง ป้องกันช้างป่าออกนอกพื้นที่ การตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วในการป้องกันและเฝ้าระวังช้างป่า การนาเทคโนโลยี มาใช้ในการแก้ไขปัญหาช้างป่า เช่น ระบบเตือนภัยล่วงหน้า ( Elephant Smart Early Warning)
๘๒ เพื่อรายงานความเคล่อื นไหวของช้างป่าท่ีออกมาหากนิ ในพืน้ ท่ชี ุมชน การตดิ ปลอกคอสัญญาณดาวเทียมให้กับ ช้างปา่ ในพ้ืนที่ประสบปญั หา (เร่งด่วน) ๕ กลุ่มป่า เป็นตน้ ๒.๓.๒. คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการป้องกันแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกที่ทากินและเยียวยา ผลกระทบจากภยั ชา้ งป่าอย่างเปน็ ธรรม คณะอนุกรรมาธิการมีหน้าท่ี และอานาจ พร้อมทั้งได้ศึกษาในประเด็นต่างๆ ประกอบด้วย ประเด็นข้อมูลช้างป่าบุกรุกท่ีดินทากินในรอบ ๑๐ ปีท่ีผ่านมา และการแก้ปัญหาอุปสรรคในการเยียวยา แก้ปัญหาภัยช้างป่าให้มีความเป็นธรรม การแก้ปัญหาอุปสรรคการจัดโซนนิ่ง (Zoning) แยกโซนอนุรักษ์ ออกจากโซนที่ดินทากิน ประเด็นการออกแบบส่ิงกีดขวาง หรือสิ่งกีดขวางหรือแบริเออร์ (Barrier) รูปแบบต่าง ๆ ท่ีมีประสิทธิภาพในการป้องกันช้างป่าบุกรุกท่ีทากิน ประเด็นอัตรากาลังเจ้าหน้าท่ีและอาสาสมัครเฝ้าระวัง และผลักดันช้างป่า ค่าป่วยการ ค่าสวัสดิการ และค่าประกันภัย ท่ีเหมาะสม รวมทั้งการหาแนวทางแก้ไข กฎหมายและระเบียบเพื่อส่งเสริมให้สร้างมูลค่าเพิ่มจากช้างป่า เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว การสร้างรายได้ ใหช้ ุมชนทอ้ งถิน่ เปน็ ตน้ นอกจากนี้แล้วคณะอนุกรรมาธิการ โดยมีนายจารึก ศรีอ่อน ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องมารับฟังปัญหาจากประชาชน แล้วจัดทาความเห็น ข้อเสนอแนะ ในประเด็นต่าง ๆ เพอื่ ใช้เปน็ ข้อมลู ประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปญั หาช้างปา่ การศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการได้มีการประชุมพิจารณาศึกษาเร่ืองนี้ โดยแบ่งการพิจารณา ออกเป็น ๒ ส่วน ซึง่ สรปุ สาระสาคัญได้ ดังน้ี (๑) คณะอนุกรรมาธิการได้ประชุมพจิ ารณาศึกษาการป้องกันแก้ไขปญั หาช้างป่าบุกรุกที่ทากิน และเยียวยาผลกระทบจากภัยช้างป่าอย่างเป็นธรรม และเชิญหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องมาร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ตลอดจนช้ีแจงแสดงความคดิ เหน็ จานวน ๖ คร้งั ครง้ั ท่ี ๑ วนั องั คารที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๔ คร้ังท่ี ๒ วนั อังคารที่ ๑๖ มนี าคม ๒๕๖๔ ครงั้ ที่ ๓ วันอังคารท่ี ๒๓ มนี าคม ๒๕๖๔ ครง้ั ท่ี ๔ วันองั คารท่ี ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๔ ครงั้ ที่ ๕ วันอังคารท่ี ๘ มถิ นุ ายน ๒๕๖๔ ครงั้ ท่ี ๖ วนั องั คารที่ ๒๒ มถิ นุ ายน ๒๕๖๔ (๒) คณะอนุกรรมาธิการได้พิจารณาศึกษาข้อเท็จจริงและรายละเอียดข้อมูลเรื่องน้ี จากเอกสารข้อมูล คาชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมท้ังรายละเอียดจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยนามา ประกอบการพิจารณาศึกษาข้อเท็จจรงิ ของคณะอนุกรรมาธกิ าร และนาข้อมูลท่ีได้มาสรุปและรวบรวมเอกสาร เป็นรูปเล่ม พร้อมด้วยข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมาธิการที่มีความเห็นร่วมกันว่า ประเด็นท่ีควรให้ ความสาคัญในการแก้ไขปัญหาชา้ งปา่ บุกรุกให้กับราษฎร คือเรื่องเกย่ี วกบั การเยยี วยา การชดเชยความเสยี หาย ทีเ่ กดิ จากปญั หาชา้ งป่าบกุ รกุ พืน้ ท่ีทากินของชาวเกษตรกร ซึ่งสามารถกล่าวสรปุ ได้ ดังน้ี ๑) ควรใช้ บัญชีราคากลางต้นไม้และพืชผลของกรมชลประทานท่ีชดเชยราคา ค่าทดแทน ต้นไม้ในพ้ืนท่ีท่ีถูกเวนคืนในเขตชลประทานเป็นเกณฑ์ในการชดเชยความเสียหายของต้นไม้และพืชผลที่เกิดจาก ภัยช้างป่า
๘๓ ๒) เสนอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช จัดทาบัญชีราคากลางต้นไม้ และพืชผล เพ่ือชดเชยความเสียหายจากภัยช้างป่า ท้ังน้ี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ควรมี การจัดตั้งคณะกรรมการข้ึนมา เพ่ือจัดทาบัญชีราคากลางต้นไม้และพืชผล ในการเยียวยา ชดเชยความเสียหาย จากภัยช้างป่า โดยอาจจะใช้บัญชีราคากลางต้นไม้และพืชผล ของกรมชลประทาน มาเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิง ในการจดั ทาบญั ชรี าคากลางตน้ ไมแ้ ละพชื ผล ของกรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั ว์ป่า และพนั ธ์พุ ืช ต่อไป ๓) ควรมีการปรับอัตราการช่วยเหลือ เพื่อเป็นการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากชา้ งปา่ ใหส้ อดคล้องกบั ความเปน็ จรงิ ๒.๓.๓. คณะอนุกรรมาธิการศึกษาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไข ปัญหาชา้ งปา่ และศึกษาผลงานวิจยั นวัตกรรมทีเ่ กย่ี วข้อง คณะอนุกรรมาธิการมีหน้าที่ และอานาจพร้อมท้ังได้ศึกษาในประเด็นต่างๆ ประกอบด้วย ประเด็นเกี่ยวกับหลักการเหตุผลในการยกร่างกฎหมายช้างป่าและช้างบ้านให้เป็นกฎหมายช้างไทยฉบับเดียว เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยง่ั ยืน ประเด็นการปรบั ปรุงแก้ไขประกาศ กฎ และระเบียบท่ีเปน็ อุปสรรค ต่อการป้องกันแก้ไขปัญหาช้างป่า ประเด็นการมอบอานาจให้จังหวัดและท้องถิ่น ป้องกันแก้ไขปัญหาช้างป่า ปัญหาการสวมสิทธิ์ช้างบ้าน ปัญหาการปล่อยช้างบ้านเป็นช้างป่า ประเด็นผลงานวิจัยนวัตกรรมเกี่ยวกับ การแก้ปัญหาช้างป่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมข้อเสนอให้หน่วยงานรัฐบาลศึกษาวิจัยเพ่ิมเติม เพื่อการแก้ปัญหาช้างป่าที่ถูกต้องตามหลักวชิ าการ ประเด็นการจัดต้ังหน่วยงานรบั ผดิ ชอบบรหิ ารจัดการช้างปา่ และ ช้างบ้านครบวงจร เช่น เป็นส่วนราชการช่ือ “กรมคชบาล” หรือเป็นองค์การมหาชนชื่อ “องค์การช้างไทย” เป็นต้น และประเด็นการจัดต้งั กองทนุ เช่นกองทนุ ชา้ งไทย เพื่อสง่ เสริม พัฒนา แกไ้ ขปัญหาช้างปา่ นอกจากน้ีแล้วคณะอนุกรรมาธิการ โดยมีนายสุชาติ อุสาหะ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ได้เชิญ หน่วยงานตา่ ง ๆ มาเพอื่ รับฟังปัญหาจากประชาชน แล้วจัดทาความเห็น ขอ้ เสนอแนะในประเดน็ ต่าง ๆ เพ่อื ใช้ เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่า และการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการ ไดม้ กี ารประชมุ พิจารณาศึกษา โดยแบ่งการพิจารณาออกเปน็ ๒ ส่วน ประกอบดว้ ย ส่วนที่ ๑ คณะอนุกรรมาธิการได้ประชุมศึกษาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เป็น อุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาช้างป่า และศึกษาผลงานวิจัย นวัตกรรมที่เก่ียวข้อง โดยเชิญหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง จากกรมบัญชีกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช กรมป่าไม้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และสานักงานคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัยมาร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ตลอดจนช้ีแจงแสดงความคิดเห็น จานวน ๔ คร้ัง ประกอบด้วย ครั้งที่ ๑ วันอังคารที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๔ คร้ังท่ี ๒ วันอังคารท่ี ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๓ วนั องั คารที่ ๒๓ มนี าคม ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๔ วนั อังคารที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๔ ส่วนท่ี ๒ คณะอนุกรรมาธิการได้พิจารณาศึกษาข้อเท็จจริงและรายละเอียดข้อมูลน้ี จากเอกสาร ข้อมูลคาช้ีแจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรายละเอียดจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ รวมท้ังข้อมูลมาจาก ภาคประชาชนซ่ึงจะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเก่ียวกับประเด็นท่ีเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาช้างป่า โดยนามาประกอบการพิจารณาศกึ ษาขอ้ เท็จจริงของคณะอนุกรรมาธิการ
บทที่ ๓ สภาพปญั หาชา้ งปา่ บุกรุก จากการพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่าของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พบสภาพปัญหา และอปุ สรรค ดังนี้ ๓.๑ สภาพปัญหาช้างป่าบุกรุกออกนอกเขตป่าอนุรักษ์ จากการสารวจในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ พบว่า ชา้ งปา่ อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ประมาณ ๓,๑๖๘ - ๓,๔๔๐ ตวั อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติจานวน ๖๙ แห่ง มีผืนป่าท่ีเป็นแหล่งอาศัยของช้างป่า ประมาณ ๕๒,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร พบช้างป่าได้ต้ังแต่น้อยกว่า ๑๐ ตัว ไปจนถึง ๒๐๐ – ๓๐๐ ตัว โดยกลุ่มป่าท่ีมี ประชากรช้างป่ามากได้แก่ กลุ่มป่าตะวันออก กลุ่มป่าตะวันตก กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ กลุ่มป่าภูเขียว – น้าหนาว และกลุ่มป่าแก่งกระจาน จากข้อมูลกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้นาเสนอข้อมูลสถิติ ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน พืชผลการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าบุกรุกที่ดินทากิน ของเกษตรกร พบว่า ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ กลุ่มป่าตะวันออก มีช้างป่าออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ จานวนมากที่สุด รวมท้ังส้ิน ๘,๙๙๗ ครั้ง รองลงมา กลุ่มป่าแก่งกระจาน รวมทั้งส้ิน ๖,๔๘๐ คร้ัง กลุ่มป่า ดงพญาเย็น – เขาใหญ่ รวมท้ังส้ิน ๒,๓๑๗ คร้ัง กลุ่มป่าตะวันตก รวมท้ังส้ิน ๔๖๔ คร้ัง และกลุ่มป่าภูเขียว - น้าหนาว รวมทงั้ ส้นิ ๔๓๗ ครงั้ ตามลาดบั จากข้อมูลสรุปได้ว่า จังหวัดจันทบุรีได้รับผลกระทบจากปัญหาช้างป่าบุกรุกที่ทากินมากที่สุด จานวน ๘๓ หมูบ่ ้าน รองลงมาไดแ้ ก่ จังหวดั ฉะเชงิ เทรา จานวน ๗๓ หมู่บา้ น ลาดับที่ ๓ จังหวดั กาญจนบรุ ี จานวน ๔๒ หมู่บ้าน ลาดับถัดไปคือ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดเลย จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดตราด จังหวัดสระแกว้ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดนครนายก จังหวัด อุทัยธานี จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดท่ีได้รับผลกระทบจากช้างป่าบุกรุกที่ทากินท้ังหมดมี ๑๖ จังหวัด ๔๗ อาเภอ ๑๐๐ ตาบล ๓๘๒ หมู่บ้าน กลุ่มป่าตะวันออก ถูกช้างป่าบุกรุกท่ีทากินมากท่ีสุด ๖ จังหวัด ๒๐ อาเภอ ๕๒ ตาบล ๒๕๓ หมู่บ้าน รองลงมาคือ กลุ่มป่าตะวันตก ๒ จังหวัด ๗ อาเภอ ๑๘ ตาบล ๔๕ หมู่บ้าน ลาดับท่ี ๓ กลุ่มป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ ๔ จังหวัด ๑๑ อาเภอ ๑๒ ตาบล ๓๖ หมู่บ้าน ลาดับท่ี ๔ กลุ่มป่าภูเขียว - น้าหนาว ๒ จังหวัด ๗ อาเภอ ๑๓ ตาบล ๓๒ หมู่บ้าน ลาดับท่ี ๕ กลุ่มป่าแก่งกระจาน ๒ จังหวัด ๒ อาเภอ ๕ ตาบล ๑๒ หมู่บ้าน ซ่ึงเป็นข้อมูลจากแผนจัดการช้างป่า แต่ละกลุ่มป่าของกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยกลุ่มป่าตะวันออกเป็นกลุ่มป่าที่ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่าบุกรุกที่ทากิน มากทีส่ ดุ สถิติการทาลายพืชผลทางการเกษตรจากช้างป่าดังกล่าว น่าจะน้อยกว่าความเป็นจริงหลายเท่า เนื่องจากภาครฐั มิไดจ้ ่ายค่าเสียหายตามความเป็นจริง ทาใหร้ าษฎรร้สู กึ ไมค่ ุ้มค่ากับการเสียเวลาในการเดินทาง ไปเขียนคาร้องต่อทางราชการ อนึ่ง ภัยจากช้างป่ายังเป็นภัยที่มีความแตกต่างจากภัยอ่ืน ๆ เช่น อุทกภัย วาตภัย
๘๕ กล่าวคือ เป็นภัยที่เกิดความเสียหายแบบเรื้อรัง ซ้าซาก ต่อเน่ือง การประเมินความเสียหายค่อนข้างยุ่งยาก กวา่ ภัยอืน่ ๆ จากข้อมูลสภาพปัญหาช้างป่าบุกรุกออกนอกเขตป่าอนุรักษ์ดังกล่าวข้างต้นมาน้ี สามารถจาแนกข้อมูล รายละเอยี ด เป็นแต่ละกลมุ่ ปา่ ได้ดงั น้ี ๓.๑.๑ กลมุ่ ป่าตะวนั ตก ปัญหาข้อพิพาทระหว่างคนกบั ช้างปา่ พบวา่ ในหลายพน้ื ที่แถบจังหวัดติดกับเทือกเขาและ พื้นท่ีป่ามักจะประสบปัญหาการรุกรานของช้างป่าที่อาศัยอยู่ในพ้ืนที่ตามป่า เทือกเขา พ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์ โดยมีรายงานสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าเกิดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์อย่างน้อย ๒๐ แห่ง และมี แนวโน้มจะขยายตัวและความรุนแรงในอนาคต ปจั จุบนั ชา้ งป่าเหลา่ น้เี พิม่ จานวนมากข้ึนอย่างรวดเร็ว จงึ ทาให้ มีความต้องการอาหารมากยิ่งข้ึน อีกทั้งสภาพภูมิประเทศและระบบนิเวศท่ีเปลย่ี นแปลงไปไม่เหมาะสมต่อการ อยู่อาศัยของช้างป่า จึงทาให้ช้างป่าต้องออกมาหากินในพ้ืนท่ีการเกษตรของประชาชน ท้ังไร่อ้อย สวนทุเรียน มันสาปะหลัง สับปะรด และพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ รวมท้ังที่อยู่อาศัยของประชาชน บางครั้งเกิดความรุนแรงขึ้น ทาให้เกิดการทาร้ายร่างกายประชาชนในพ้ืนท่ีจนถึงแก่ชีวิต และเกิดความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร อีกท้ังยังส่งผลเสียต่อช้างป่าด้วย เช่น ช้างป่าถูกคุกคามจากสารเคมีและจากยาฆ่าแมลงตกค้าง นอกจากน้ี ปัญหาข้อพิพาทระหว่างคนกับช้างป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นปัญหา ท่เี ร้อื รงั มาเป็นเวลายาวนาน ชา้ งปา่ ออกนอกพ้ืนทเ่ี ขา้ มากินพชื ไรข่ องชาวบ้านตลอดทั้งปี ทง้ั ฤดูแล้งและฤดูฝน แต่ระยะเวลาของการเข้ามาทาลายสัมพันธ์โดยตรงกับช่วงของการเก็บเก่ียวผลผลิต โดยเฉพาะมะม่วง และอ้อย ซ่ึงจะอยู่ในเดือนเมษายน – พฤษภาคม และพฤศจิกายน – มีนาคม ช่วงเวลากลางคืนต้ังแต่ ๒๐.๐๐ นาฬิกา ถึง ๐๒.๐๐ นาฬิกา เป็นช่วงที่ช้างป่าเข้ามาทาลายพืชผลทางการเกษตรมากที่สุด นอกจากนี้ ระยะห่างจากแนวป่าท่ีช้างป่าออกมาน้ันพบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของเหตุการณ์อยู่ในระยะไม่เกิน ๑ กิโลเมตร จากแนวป่าและโดยส่วนใหญ่แล้ว การออกมาทาลายพืชผลเช่นนี้ มากกว่าครึ่งหรือประมาณ ๒ ใน ๓ เป็นผลมาจากช้างเพศผู้ (ชา้ งโทน) ๓.๑.๑.๑ สภาพปญั หากล่มุ ป่าตะวนั ตก (๑) ปญั หารว้ั กันช้าง - ห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา ประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณสนับสนุน ในการก่อสร้างรวั้ กันชา้ ง เนอื่ งจากแนวร้วั กนั ชา้ ง มีระยะทางคอ่ นขา้ งมาก (๒) ปัญหาพชื ผลการเกษตรเสยี หายจากภยั ช้างปา่ พืชผลทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายจากช้างป่า ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๔๗ – ๒๕๖๒ ชนิดพืชเกษตรท่ีมีมูลค่าความเสยี หายมากท่ีสุด ได้แก่ มันสาปะหลัง (คิดเป็น ๒๓ เปอร์เซ็นต์ ของชนิดพืชผล ทางการเกษตร) รองลงมาคือ มะนาว (๒๑ เปอร์เซ็นต์) สับปะรด (๑๘ เปอร์เซ็นต์) กล้วย (๑๐ เปอร์เซ็นต์) แฟง (๗ เปอรเ์ ซ็นต์) มะม่วง (๕ เปอร์เซน็ ต์) ขนนุ (๔ เปอรเ์ ซน็ ต์) ทุเรียน (๔ เปอร์เซ็นต์) มะละกอ (๒ เปอร์เซน็ ต์) ปาล์ม น้ามัน (๒ เปอรเ์ ซ็นต์) มะพร้าว (๑ เปอรเ์ ซ็นต์) ฝรั่ง (๑ เปอร์เซน็ ต์) ขา้ วโพด (๐.๕ เปอร์เซน็ ต์) ตามลาดับ
๘๖ ท้ังนี้ พื้นท่ีอุทยานแห่งชาติไทรโยค และอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ พบปัญหา ช้างป่าออกมานอกพ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์ประมาณ ๑๒๐ ตัว พืชผลที่ช้างป่าชื่นชอบส่วนมากจะเป็นกล้วยน้าว้า มันสาปะหลัง ขนุนปาล์ม มะพร้าว อ้อย ข้าวโพด มะละกอ จึงเกิดผลกระทบที่เกิดจากช้างป่า ทาให้ทรัพย์สิน และพชื ผลทางการเกษตรเกิดความเสียหาย เจา้ หนา้ ที่ได้รบั บาดเจบ็ จากช้างป่า สร้างความเสียหายให้กบั เสารั้ว คอนกรีต ท่อ PVC และถังน้า สร้างความหวาดกลัวแก่ราษฎรท่ีเข้าไปกรีดยางพาราในพ้ืนท่ี เน่ืองจากมีช้างป่า เข้ามายังพื้นที่ส่วนใหญ่ของราษฎร ทาให้เกิดความเกรงกลัว จนไม่กล้าจะเข้าสวนเพ่ือกรีดยาง จึงขาดรายได้ จากการประกอบอาชีพ และเกดิ ผลกระทบตอ่ ราษฎร จากการทชี่ ้างป่าออกมานอกพน้ื ท่ีทากนิ (๓) ปัญหาชา้ งป่าเพิม่ จานวนมากขึน้ จากการศึกษาประชากรช้างป่าด้วยวิธีการนับตัวจากลายพิมพ์รหัส พันธุกรรม DNA โดยใช้ไมโครแซทเทลไลท์ดีเอ็นเอ สารวจเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๖ พบว่าช้างป่าเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าสลักพระ มีจานวนอย่างน้อย ๒๐๐ ตัว ประกอบด้วยช้างวัยก่อนเจริญพันธ์ุ ๖๔ เปอร์เซ็นต์ และช้าง ในวยั เจริญพนั ธ์ุ ๓๖ เปอร์เซ็นต์ ๓.๑.๑.๒ สถิตชิ า้ งป่าออกนอกพืน้ ทีป่ า่ อนรุ ักษแ์ ละสถติ ิความเสียหายจากช้างปา่ ของกลุ่มป่า ตะวนั ตก จากขอ้ มูลกรมอทุ ยานแห่งชาติ สตั ว์ป่า และพนั ธุพ์ ืช ตั้งแตป่ ี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ พบว่า สถิติช้างป่าออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ ๔๖๔ ครั้ง สร้างความเสียหายด้านทรัพย์สินแก่ประชาชน ๑๗ ราย ดา้ นผลผลติ ทางการเกษตร ๑๗๙ ราย ราษฎรบาดเจบ็ ๑ ราย ราษฎรเสยี ชีวิต ๙ ราย ดังรายละเอียด ที่ปรากฎ ตามตารางทแ่ี สดงไว้ ดังน้ี ตารางที่ ๗ สถิตคิ วามเสยี หายจากชา้ งป่ากลุ่มป่าตะวันตก ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ รวม สถติ ชิ า้ งป่าออกหากนิ นอก ๔๐ ๒๒๔ ๑๑๖ ๘๔ ๔๖๔ เขตป่าอนุรักษ์ (ครงั้ ) ทรัพยส์ นิ (ราย) ๑ ๑๐ ๓ ๓ ๑๗ พชื ผล (ราย) ๓๑ ๖๘ ๒๓ ๕๗ ๑๗๙ ราษฎรบาดเจ็บ (ราย) ๐ ๑๐ ๐๑ ราษฎรเสียชีวิต (ราย) ๑ ๒๓ ๓๙ ชา้ งป่าบาดเจ็บ (ตัว) ๐ ๐๐ ๐๐ ช้างปา่ เสยี ชีวิต (ตวั ) ๑ ๒๒ ๐๕
๘๗ ๓.๑.๑.๓ พืน้ ทีช่ มุ ชนทไ่ี ด้รับผลกระทบจากชา้ งป่า ปจั จบุ นั มีชุมชนได้รับผลกระทบรวม ๔๕ หมูบ่ า้ น ประกอบด้วย ๑) จังหวดั กาญจนบุรี จานวน ๕ อาเภอ ๑๖ ตาบล ๔๒ หมู่บา้ น ๒) จงั หวดั อทุ ยั ธานี จานวน ๒ อาเภอ ๒ ตาบล ๓ หมบู่ ้าน ตารางท่ี ๘ หมู่บ้านท่ีได้รบั ผลกระทบจากภัยช้างปา่ กลุม่ ป่าตะวันตก จังหวัด อาเภอ ตาบล (จานวนหมบู่ า้ น) กาญจนบุรี เมือง วงั ดง้ (๓) (๔๒ หมู่บ้าน) ไทรโยค ช่องสะเดา (๓) ไทรโยค (๑) อุทยั ธานี ทองผาภูมิ บอ้ งต้นี ้อย (๑) (๓ หมู่บา้ น) วงั กระแจะ (๑) บ่อพลอย ทา่ ขนนุ (๔) ศรสี วสั ดิ์ ลิน่ ถิน่ (๓) ลานสัก สหกรณ์นคิ ม (๑) หว้ ยคต หว้ ยเขย่ง (๗) หนิ ดาด (๔) ท่าขุน (๓) บ่อพลอย (๒) หลมุ รงั (๑) ด่านแมแ่ ฉลบ (๒) ท่ากระดาน (๒) หนองเปด็ (๔) ระบา (๒) คอกควาย (๑) ทีม่ า: แผนการจัดการชา้ งปา่ ในพ้ืนทกี่ ลุม่ ป่าตะวนั ตก ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๗๒ โดยสานกั อนรุ กั ษ์สัตว์ป่า กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตวป์ า่ และพนั ธ์พุ ืช
๘๘ ภาพที่ ๑๑ การกระจายของช้างป่าบริเวณพื้นท่กี ล่มุ ป่าตะวันตก (ขอ้ มลู ปี พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๙ ๓.๑.๒ กลมุ่ ปา่ ตะวันออก ๓.๑.๒.๑ สภาพปัญหา สภาพปัญหาและสถานการณ์ช้างป่าที่ออกหากินนอกพ้ืนที่อนุรักษ์ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ - ปัจจุบัน กลุ่มป่าตะวันออก (ป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด และจังหวัดตราด)) เป็นพ้ืนท่ีป่าราบต่าขนาดใหญ่ ผืนเดียวที่ยังคงสภาพเหลืออยู่บริเวณตอนกลางภาคตะวันออกของประเทศ มีอาณาเขตคลอบคลุมติดต่อกัน ๕ จังหวัด ไดแ้ ก่ จงั หวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสระแก้ว จงั หวดั ชลบุรี จังหวดั ระยอง และจงั หวดั จันทบุรี ตามแนว ชายแดนประเทศไทยถูกทาลายสภาพความเป็นอยู่ ป่ามีพ้ืนที่ลดลงเรื่อย ๆ เหลือพ้ืนท่ีประมาณ ๖๙๐,๐๐๐ ไร่ เนื่องจากถูกราษฎรบุกรุกครอบครองพื้นท่ี ปัจจุบันมีการฟื้นฟูสภาพป่าทาให้มีพื้นท่ีเพิ่มมากข้ึน จานวน ๑.๓ ลา้ นไร่ ปัจจบุ นั ชา้ งปา่ ออกนอกป่า และมีการกระจายตวั ตามเขตปา่ อยู่ท่ัวภมู ภิ าคต่าง ๆ ของประเทศ ภาคตะวนั ออก พบช้างป่าเป็นจานวนมาก จากการสารวจของสานักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ข้อมูลสารวจจานวนช้างป่าในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ พบว่า มีช้างป่าจานวน ๔๒๓ ตัว กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นท่ีป่า ภาคตะวันออก โดยเฉพาะเขตพ้ืนที่ป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด มีจานวนช้างป่า จานวน ๔๐๔ ตัว ประกอบด้วย เขตรักษาพนั ธุส์ ัตวป์ ่าเขาอ่างฤาไน จานวน ๒๗๗ ตวั เขตรักษาพันธส์ุ ตั ว์ปา่ เขาสอยดาว จานวน ๗๙ ตวั อุทยาน แห่งชาติเขาสิบห้าช้ัน จานวน ๓๔ ตัว อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา - เขาวง จานวน ๑๒ ตัว อุทยานแห่งชาติ เขาคชิ ฌกฏู จานวน ๒ ตัว โดยมีอตั ราเฉล่ียเพม่ิ ขึน้ ร้อยละ ๑๘ ต่อปี กระจายอยใู่ นปา่ ผนื เล็ก ปา่ ชมุ ชน แหลง่ น้า ที่สร้างข้ึนใหม่ตามขอบป่าอนุรักษ์ และพ้ืนท่ีเกษตรกรรมของชาวบ้านและพื้นท่ีชุมชน จากข้อมูลพบว่า ต้ังแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ จนมาถึงปัจจุบัน ชาวบ้านพบเจอช้างป่าบ่อยมากข้ึนและบางโขลงเข้ามาอยู่ประจาในพื้นท่ี เกษตรกรรม ที่ต้ังชุมชน และแหล่งน้านอกเขตป่า สร้างผลกระทบการดารงวถิ ีชีวิตชมุ ชน และจากสถานการณ์ ดงั กลา่ ว ส่งผลใหอ้ าหารในปา่ ไมเ่ พยี งพอต่อความต้องการของชา้ งป่า จานวนประชากรทเ่ี พม่ิ ขึน้ นามาซง่ึ ความ ขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า ประกอบกับช้างป่าในพื้นท่ีป่าอนุรักษ์ส่วนใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มจานวนมากข้ึน ตลอดระยะเวลา ๑๐ ปี ที่ผ่านมาประชากรช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และเขตอุทยาน แห่งชาติเขาชะเมา– เขาวง ในจังหวัดระยองและจังหวัดในภาคตะวันออกได้เพ่ิมจานวนอย่างรวดเร็ว จานวน ของปริมาณช้างป่าท่ีแท้จริงในปัจจุบัน ที่มีการกระจายตัวอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ พ้ืนท่ีป่าไม้ และพ้ืนท่ีชุมชน ยังขาดความชัดเจนด้านข้อมูล ขาดการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของชาวบ้านและหน่วยงานระดับท้องถ่ิน ส่งผลให้ วงรอบการหากินของช้างป่าสร้างความเสียหายทางชุมชนพ้ืนที่เกษตรกรรม การสัญจรเดินทาง และความ ปลอดภัยของช้างป่า รวมทั้งในปัจจุบันระบบนิเวศ ภูมิอากาศ ท่ีได้มีการเปลี่ยนแปลงไป และปัจจุบันพ้ืนท่ีป่า ได้ถูกรุกล้าทั้งบริเวณรอบชายป่า และการบุกรุกเข้าไปในพ้ืนท่ีป่าเปลี่ยนแปลงเป็นพ้ืนท่ีเกษตรกรรม ทาให้ถ่ิน ท่ีอยู่อาศัยตามธรรมชาติของช้างป่าลดลงเร่ือย ๆ และเป็นการบีบบังคับให้ช้างป่าออกหากินนอกพื้นท่ี ป่าอนุรักษ์ และเข้ามาหากินในพื้นท่ีเกษตรกรรมที่อยู่ชิดเขตพ้ืนที่ป่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสาเหตุจากการที่ ชุมชนมีแหล่งน้าเพ่ือการเกษตร เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการดึงดูดการเข้ามาใช้ประโยชน์ของช้างป่า และมี แนวโน้มท่ีช้างป่าจะอยู่ประจานอกพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์ต่อไป จึงกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างราษฎรในพ้นื ท่ี กับช้างป่าท่ีนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากข้ึนทุกปี ซึ่งมีท้ังการท่ีช้างป่าเข้ามาทาลายพืชผลการเกษตร หรือทาร้าย ราษฎรในพ้นื ท่ี การตอบโตข้ องราษฎรทีท่ าร้ายช้างป่า ทาใหเ้ กดิ ความสูญเสียทั้งชวี ิตคนและชา้ งป่าและทรัพย์สิน
๙๐ อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้แล้วช้างป่ายังต้องการกินโป่งดินเกลือโซเดียม ที่ปัจจุบันเกิดความขาดแคลน แม้ว่าปัจจุบันเจ้าหน้าท่ีของทางราชการจะได้มีการดาเนินการจัดหาโป่งดินเทียมที่สร้างข้ึน ประกอบกับการใช้ กาลังคนผลักดันช้างป่าเข้าสู่ป่าอย่างสม่าเสมอ แต่ก็ปรากฏว่ายังเกิดปัญหาช้างป่าบุกรุกทาลายพืชผล การเกษตรและทรัพย์สิน ตลอดจนร่างกายและชีวิตของราษฎร นอกจากน้ียังมีช้างป่าเกิดอุบัติเหตุจราจร บนทางหลวงบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อชีวิตของช้างและประชาชน ปัจจุบันทางราชการยังไม่มีมาตรการแก้ไข ปัญหาการเพิ่มจานวนช้างป่า และปัญหาการบุกรุกของช้างป่าอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม และยังไม่มี มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาชา้ งป่า อีกท้ังยังไม่มีมาตรการควบคุมการเพ่ิมจานวนของประชากร ช้างป่า และความปลอดภัย จึงเป็นอันตรายเป็นอันมาก ซ่ึงความรุนแรงผลกระทบที่เกิดข้ึนกับชุมชนและช้างป่า เร่ิมมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ จนถึงขณะนี้รุนแรงจนเกิดการสูญเสียชีวิตคนและการสูญเสียชีวิตช้างป่า ทั้งชาวบ้าน ในชุมชน และชา้ งป่าพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพ่ือความอยรู่ อด แต่การสูญเสียก็ยังคงอยู่ การแก้ไขผลกระทบ ที่เกิดจาก “ช้างป่า” ยังไม่มีผลทั้งคนและช้างป่า กล่าวสรุปได้ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในระดับพื้นที่ ตา่ งประสบผลกระทบปัญหาจากช้างป่าและชาวบ้าน โดยพน้ื ทีข่ องป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด ภาคตะวันออก ทพ่ี บปัญหา ร่วมกันเกือบทุกสาเหตุท่ีกล่าวมา ซ่ึงเป็นปัญหาอย่างรุนแรงในพ้ืนท่ีที่เป็นพ้ืนท่ีหลักและมีการพบเห็นช้างป่ า มากขน้ึ ในพ้นื ที่ชมุ ชนใหม่ ๆ ประกอบไปดว้ ย จังหวดั ฉะเชงิ เทรา อาเภอทา่ ตะเกยี บ อาเภอสนามชยั เขต อาเภอ พนมสารคาม และอาเภอแปลงยาว จังหวัดชลบุรี อาเภอบ่อทอง อาเภอเกาะจันทร์ และอาเภอหนองใหญ่ จังหวัดระยอง อาเภอแกลง อาเภอเขาชะเมา อาเภอวังจันทร์ อาเภอบ้านค่าย และอาเภอปลวกแดง จังหวัด จันทบุรี อาเภอแก่งหางแมว อาเภอเขาสอยดาว อาเภอโป่งน้าร้อน อาเภอเขาคิชฌกูฏ อาเภอท่าใหม่ จังหวัด สระแก้ว อาเภอเขาฉกรรจ์ อาเภอวังสมบูรณ์ อาเภอวังน้าเย็น และอาเภอคลองหาด จังหวัดตราด อาเภอบ่อไร่ และอาเภอเขาสมิง จากที่กล่าวมาเบื้องต้นความรุนแรงระหว่างคนกับช้างที่มีแนวโน้นผลกระทบท่ีรุนแรง มากขน้ึ สามารถสรุปสภาพปญั หาได้ ดังน้ี (๑) ปัญหาความม่ันคงในที่ดินและสร้างมูลค่าเพ่ิมเสียโอกาสทางเศรษฐกิจในท่ีดินทากิน ชาวบ้านชุมชนรอบป่าไม่สามารถใช้ประโยชน์ท่ีดินทาเกษตรกรรมได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากช้างป่าทาลายและกิน ผลผลิตพืชเกษตรของชาวบ้าน บางพ้ืนที่ชาวบ้านยอมปล่อยให้เป็นพื้นท่ีรกร้างว่างเปล่าไม่สามารถทาประโยชน์ สร้างรายได้ และบางคนประกาศขายที่ดินทากนิ ของตน เพือ่ ไปหาท่ดี ินทากินแหล่งใหม่ สร้างภาวะหน้ีสินแก่เกษตร กอปรกบั พืชผลการเกษตรท่ีตกตา่ อยแู่ ล้ว บางครอบครัวไม่สามารถพฒั นาคุณภาพชวี ิตได้อยา่ งปกตสิ ขุ (๒) ปัญหาการดารงวิถีชีวิตของชาวบ้านเปลี่ยนไปจากการเข้าไปประกอบอาชีพ เก็บเก่ียวผลผลิตทางการเกษตร เช่น กรีดยาง ขาดแรงงานภาคการเกษตร ไม่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผล ทางการเกษตรท่ีช้างป่ามายึดเป็นท่ีอยู่อาศัยหรือใช้เป็นเส้นทางผ่านการเดินทางสัญจรในเส้นทางช้างป่า มคี วามเสยี่ งตอ่ ทรัพย์สินและชวี ติ และการประกอบกจิ กรรมของชมุ ชนเปลยี่ นไปในยามคา่ คนื (๓) ปัญหาการผลักดันช้างป่าจากพื้นท่ีชุมชนเข้าไปในป่าต้องผ่านพื้นท่ีชุมชน สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ชมุ ชนผลผลิตการเกษตร อาสาสมัครเกิดความเส่ียงได้รับการบาดเจ็บ จากการขาด
๙๑ ความรเู้ รื่องช้างป่า และระบบการสนับสนุนทางสวัสดิการแกช่ าวบ้านทัว่ ไป และการมีคูกันชา้ งขวางทางเข้าป่า ของชา้ งป่า ต้องใช้ระยะเวลาทย่ี าวนานไม่สามารถต้อนเข้าป่าตามปกติได้ (๔) ปัญหาการได้รับความเสียหายจากช้างป่าท้ังผลผลิตทางการเกษตร บ้านเรือนที่อยู่ อาศยั และการเสียชวี ิตของชาวบ้าน ยงั ขาดความชัดเจนต่อการเข้าไปช่วยเหลือของส่วนราชการ และหนว่ ยงาน ที่เกี่ยวขอ้ ง (๕) ปัญหาการสูญเสียชีวิตของช้างป่า เช่น โดนทาร้าย โดนยิง โดนไฟช็อต ติดบ่วงแร้ว ในพื้นที่ทาการเกษตรและพ้ืนที่ชุมชนที่เกิดจากการป้องกันทรัพย์สินของชาวบ้าน และบาดเจ็บ เสียชีวิต จากการ ตกหลุม บ่อขุด บ่อน้า ได้รับสารเคมีทางการเกษตร และอุบัติเหตุจราจร การเสียชีวิตของคนที่เกิดจากการเข้าไป ประกอบอาชีพทางการเกษตร เชน่ กรดี ยาง และการสญั จรไปมาหาสู่กัน (๖) ปัญหาการได้รับผลกระทบความเสียหายจากช้างป่าและการบริหารจัดการกับช้างป่า ท้ังในระดับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังขาดการมีส่วนร่วมของชุมชนและแผนการบริหารจัดการ ต่อปัญหาช้างป่าอย่างชัดเจน ท้ังระดับพ้ืนท่ีและภาคนโยบายขาดการประสานงานเชื่อมโยงกัน และเจ้าภาพหลัก ตอ่ การบังคบั ส่งั การดาเนนิ งาน (๗) ปัญหาขาดแคลนงบประมาณในการดาเนินงาน เพ่อื การดูแลและแก้ไขปัญหาช้างป่า จึงนาไปสู่การขาดแผนแม่บทในการจัดการช้างป่าท่ีจะสามารถนาไปวิเคราะห์ในการร่างนโยบาย เพ่ือให้เกิด การจดั การบรหิ ารให้เกิดผลทันกับเหตุการณ์และเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ทาให้ไม่สามารถดาเนินการแก้ไขปัญหา ช้างป่าออกนอกเขตอนุรักษ์ได้ รวมทง้ั การขาดหนว่ ยงานท่มี ีอานาจหน้าทีร่ ับผดิ ชอบแก้ไขปัญหาความขดั แย้งของ คนกับช้างโดยตรง และขาดแคลนบุคลากร เช่น เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ทาให้การดูแลพื้นท่ีป่าเป็นไปอย่างจากัด ดังนั้นจึงก่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาช้างป่าได้แค่เพียงการแก้ไขเฉพาะหน้าเท่าน้ัน จึงมีผลทาให้ช้างป่ามีการ ขยายพ้ืนที่หากินออกเป็นวงกว้างทาลายพืชผลการเกษตรอย่างต่อเน่ือง สร้างความหวาดกลัวความเดือดร้อน ทาลายทรัพยส์ ิน และรา่ งกายประชาชนบาดเจบ็ และเสียชีวิต จนสญู เสยี รายได้ สูญเสยี โอกาสในการสรา้ งรายได้ ชาวบา้ นมีสุขภาพทางจติ ทแ่ี ยล่ ง เกดิ การกลัวช้างปา่ หวาดผวามีความระแวง โกรธเกลยี ดแคน้ ชา้ งปา่ และขาด การใช้วิถีชีวิตแบบปกติท่ัวไป ขาดแรงงานภาคเกษตรกรรม คนตกงานรายได้น้อย และชาวบ้านส่วนใหญ่มีภาวะ หนสี้ ิน (๘) ปัญหาการขนย้ายช้างป่าท่ีมีความเส่ียงเผชิญหน้าและทาร้ายประชาชน (ช้างป่าเกเร) เพ่ือนาไปกักกันท่ีศูนย์กักกันช้างป่าเขาตะกรุบ เม่ือไม่มีการศึกษาถึงสภาพการรองรับปัจจัยอาหาร น้า ท่จี ะรองรบั จานวนช้างปา่ วา่ เพยี งพอได้ในระดับไหน จึงเป็นปญั หาการจดั หาแหลง่ อาหารใหช้ ้างป่ายังไมม่ ีความ เหมาะสม และมีไม่เพียงพอกับช้างป่า ปัญหาก็จะย้อนกลับมาท่ีเดิมคือ เม่ืออาหารหมด ความอดอยาก ก็จะเกิดข้ึน ช้างป่าก็จะเดินออกนอกพื้นที่กลับไปสู่พ้ืนท่ีเกษตรและชุมชนเหมือนเดิม เป็นสภาพปัญหาที่เกิด วนเวยี นไมร่ ู้จบ ๓.๑.๒.๒ สถิติช้างป่าออกนอกพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์และสถิติความเสียหายจากช้างป่าของ กลุ่มปา่ ตะวันออก ความเสียหายจากช้างปา่ บุกรุกที่ถือได้วา่ รุนแรงทีส่ ดุ ในประเทศ เพราะเกิดความสญู เสียต่อ ชวี ิต ตลอดจนพืชผลทางการเกษตร เปน็ จานวนมาก จากข้อมูลกรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ า่ และพนั ธพุ์ ืช ตง้ั แต่ปี
๙๒ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ พบว่า สถิติช้างป่าออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ ๘,๙๙๗ คร้ัง สร้างความเสียหายด้าน ทรัพย์สินแก่ประชาชน ๕๖ ราย ด้านผลผลิตทางการเกษตร ๑,๓๖๔ ราย ราษฎรบาดเจ็บ ๗๑ ราย ราษฎร เสยี ชวี ติ ๓๙ ราย ดังรายละเอยี ดท่ีปรากฏ ตามตารางทีแ่ สดงไว้ ดังน้ี ตารางท่ี ๙ สถิตคิ วามเสยี หายจากช้างป่า กล่มุ ปา่ ตะวนั ออก ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ รวม สถิตชิ ้างปา่ ออกหากนิ นอก ๒,๓๖๑ ๒,๔๖๓ ๒,๓๑๑ ๑,๘๖๒ ๘,๙๙๗ เขตปา่ อนุรักษ์ (ครัง้ ) ทรพั ย์สิน (ราย) ๑๙ ๑๔ ๔ ๑๙ ๕๖ พชื ผล (ราย) ๔๐๗ ๖๘๗ ๑๕๒ ๑๑๘ ๑,๓๖๔ ราษฎรบาดเจ็บ (ราย) ๒๖ ๑๑ ๒๒ ๑๒ ราษฎรเสียชีวิต (ราย) ๗ ๔ ๑๑ ๑๗ ๗๑ ชา้ งปา่ บาดเจบ็ (ตวั ) ๖ ๒ ๗ ๓ ๓๙ ช้างปา่ เสยี ชีวิต (ตวั ) ๓ ๘ ๑๒ ๕ ๑๘ ๒๘ ด้วยสาเหตุจากการท่ีช้างป่าสูญเสียถิ่นท่ีอยู่อาศัย การใช้พื้นท่ีทาการเกษตรมากข้ึน การถูก รบกวนความเป็นอยู่ของช้างป่าจากการลักลอบล่าสัตว์ ตัดไม้ และการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า ประกอบกับการเกษตรโดยรอบพ้ืนท่ีอนุรักษ์มีความหลากหลายของรสชาติอาหาร และหมุนเวียนตลอดปี สาเหตุดังกล่าวนามาสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของช้างป่าที่ออกจากป่า ชอบรื้อค้นของภายในบ้านเรือน เช่น ช้างป่าสีดอแก้ว ช้างป่าสีดอรถถัง พลายมะม่วง พลายเขียวหวาน และพลายยันหว่าง ปัจจุบันพบว่า มชี ้างปา่ จานวน ๕ ฝงู หลกั รายละเอียดดังน้ี กลุ่ม A มีจานวนช้างป่า ๑๐๐ – ๑๒๐ ตัว เม่ือรวมตัวกันโดยช้างป่าฝูงน้ีออกหากินในท้องท่ี อาเภอท่าตะเกียบ อาเภอสนามชัยเขต จงั หวัดฉะเชิงเทรา ฝงู นม้ี พี ฤติกรรมการออกหากนิ แยกออกเป็น ๒ กลุ่ม ใหญ่ๆ กลุ่มไม่น้อยกว่า ๔๐ – ๕๐ ตัว นานทีจะรวมฝูงในช่วงมีนาคม – เมษายน ไม่กลับเข้าเขตป่า หากไม่มีการ ผลักดันหรือการกดดันช้างป่าในกลุ่มนี้ ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๓ มีการเดินไปหากินและพักอาศัยอยู่ในสวนป่า ลาดกระทิงในช่วงเวลาส้ัน ๆ เป็นปีแรกจากที่ไม่เคยไปและไปทางฝ่ังจังหวัดสระแก้ว หมู่บ้านที่ติดกับแนวเขต รกั ษาพันธส์ุ ตั ว์ป่าเขาอา่ งฤาไน ในชว่ งฤดหู นาวโดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นปีทสี่ ามที่ช้างปา่ ฝูงดังกล่าวมา กลุ่ม B มีจานวนชา้ งป่า ๑๐ – ๒๐ ตัว อาศัยอยู่ในสวนป่าลาดกระทิงอาเภอสนามชยั เขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ต้องมีการเฝ้าระวัง เน่ืองจากฝูงช้างป่ากลุ่มดังกล่าว ข้ามทางถนนทางหลวงหมายเลข ๓๐๗๖ ไมก่ ลบั เขา้ เขตป่า เปน็ ชา้ งประจาถิ่นของสวนป่าลาดกระทงิ กลุ่ม C มีจานวนช้างป่า ๓๐ – ๔๐ ตัว ออกหากินในท้องที่ตาบลท่าตะเกียบ อาเภอทา่ ตะเกยี บ จังหวดั ฉะเชงิ เทรา ยังคงมกี ารออกไปหากนิ แตก่ ลบั มานอนในเขตป่า
๙๓ กลุ่ม D มีจานวนช้างป่า ๓๐ – ๔๐ ตัว เดิมออกหากินในท้องที่อาเภอบ่อทอง อาเภอบ้านบึง อาเภอหนองใหญ่ และอาเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี อาเภอวังจันทร์ อาเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง และอาเภอ เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ไปมาระหว่างจังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรี ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ท่ีผ่านมาช้างป่าฝูงนี้ ออกหากินในจุดท่ีไม่เคยไป อาจจะด้วยเจ้าหน้าที่นาชุดรั้วไฟฟ้าเคล่ือนท่ีไปปิดก้ันเส้นทางท่ีช้างป่าเคยใช้ ออกหากิน และเนื่องจากมีช้างป่าฝูงที่แยกมาจากช้างป่าฝูง E ประมาณ ๓๐ – ๔๐ ตัว มาอยู่ท่ีจังหวัดระยอง จึงทาให้ช้างป่าฝูงดังกล่าวอยู่ในจังหวัดชลบุรีนานกว่าท่ีเคยและไปในจุดท่ีชาวบ้านไม่เคยพบ ทาให้ราษฎร ตื่นตกใจ แต่ช้างป่าฝูงน้ียังคงมีพฤติกรรมออกหากินนอกเขตแต่กลับมาพักในป่า โดยช้างป่าท่ีส่งผลกระทบ ส่วนใหญ่จะเป็นช้างป่าเจ้าถ่ินท่ีอาศัยอยู่กลุ่มป่าด้านนอกเขตมากกว่าช้างป่าฝูง ณ วันนี้ช้างป่าฝูงนี้ได้กลับไป หากนิ อยใู่ นจังหวัดระยองตามเวลาทีเ่ คยกลับแล้ว กลุ่ม E มีจานวนช้างป่า ๖๐ – ๗๐ ตัว ออกหากินในท้องที่อาเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เดิมช้างป่าฝูงน้ีออกหากินระหว่างหมู่บ้านนอนพักนอกเขตไม่กลับเข้าป่า แต่สองปีที่ผ่านมา อ่างเก็บน้าประแกตสร้างเสร็จแล้ว น้าเต็มอ่างทาให้ช้างป่าฝูงดังกล่าวกลับเข้ามาอาศัยในเขตป่าเป็นส่วนใหญ่ มีบ้างที่ออกไปหากินนอกเขต โดยช้างป่าฝูงน้ีได้แยกฝูงออกหากินเป็น ๒ ฝูง ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ คือ อ่างเก็บน้า ประแกต เริ่มเก็บน้า แต่ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ช่วงเดือนตุลาคม – มกราคม คาดว่าช้างป่ากลุ่มหน่ึงเข้าป่าและไป หากินในจังหวัดระยอง แต่ช้างป่าฝูงใหญ่ยังคงหากินอยู่ในบริเวณเดิมและพักนอนบริเวณหน่วยพิทักษ์ป่า บ่อชะอม หน่วยจัดการต้นน้าคลองครก และในเดือนกุมภาพันธ์ช้างป่าฝูงท่ีแยกไปหากินท่ีระยองกลับมา ที่จังหวดั จนั ทบุรี แต่ยังไมม่ ีการรวมฝงู และออกหากินนอกเขตบ่อยและนานอย่างทเี่ คยมา ๓.๑.๒.๓ พืน้ ทีช่ มุ ชนท่ไี ดร้ ับผลกระทบจากชา้ งป่า ปจั จุบนั มชี ุมชนไดร้ บั ผลกระทบ รวม ๒๕๗ หมูบ่ า้ น ประกอบดว้ ย ๑) จังหวัดจันทบุรี จานวน ๘ อาเภอ ๒๐ ตาบล ๘๓ หมบู่ ้าน ๒) จังหวดั ฉะเชงิ เทรา จานวน ๓ อาเภอ ๗ ตาบล ๗๓ หมู่บา้ น ๓) จังหวดั ชลบรุ ี จานวน ๓ อาเภอ ๑๐ ตาบล ๓๐ หมู่บา้ น ๔) จงั หวัดระยอง จานวน ๑ อาเภอ ๔ ตาบล ๒๙ หม่บู ้าน ๕) จังหวัดสระแกว้ จานวน ๓ อาเภอ ๔ ตาบล ๑๘ หม่บู า้ น ๖) จงั หวดั ตราด จานวน ๒ อาเภอ ๗ ตาบล ๒๔ หมบู่ า้ น
๙๔ ตารางที่ ๑๐ หม่บู า้ นท่ีได้รบั ผลกระทบจากภัยชา้ งปา่ กลมุ่ ปา่ ตะวนั ออก จังหวดั อาเภอ ตาบล (จานวนหมู่บ้าน) จันทบุรี แก่งหางแมว แกง่ หางแมว (๔) เขาวงกต (๓) (๘๓ หมู่บา้ น) ขุนซอ่ ง (๑๐) พวา (๑๒) ขลุง สามพ่นี ้อง (๒) ฉะเชิงเทรา เขาคิชฌกูฏ บ่อเวฬุ (๑) ตกพรม (๒) (๗๓ หมู่บ้าน) จันทเขลม (๔) คลองพลู (๔) ทา่ ใหม่ ตะเคยี นทอง (๔) ชลบรุ ี นายายอาม เขาแกว้ (๓) ทงุ่ เบญจา (๓) (๓๐ หมบู่ า้ น) โปง่ นา้ รอ้ น วงั ใหม่ (๕) ทับไทร (๙) โป่งนา้ รอ้ น (๔) ระยอง มะขาม ฉมนั (๓) วังแซม้ (๒) ปัถวี (๑) (๒๙ หมู่บา้ น) สอยดาว ทรายขาว (๓) ทบั ชา้ ง (๔) ท่าตะเกียบ ทา่ ตะเกียบ (๒๒) สระแกว้ แปลงยาว คลองตะเกรา (๒๒) (๑๘ หมู่บ้าน) สนามชยั เขต หนองไมแ้ กน่ (๖) เกาะจันทร์ ท่ากระดาน (๑๓) คยู้ ายหมี (๒) ท่งุ พระยา (๕) ลาดกระทงิ (๓) บ่อทอง เกาะจนั ทร์ (๕) พลวงทอง (๔) เกษตรสุวรรณ (๒) หนองใหญ่ ธาตุทอง (๒) บ่อทอง (๓) เขาชก (๔) คลองพลู (๔) เขาชะเมา หนองเสอื ช้าง (๑) หนองใหญ่ (๓) ห้างสูง (๒) เขาฉกรรจ์ ห้วยทบั มอญ (๘) ชาฆอ้ (๙) วงั น้าเย็น น้าเป็น (๗) เขาน้อย (๕) วังสมบูรณ์ พระเพลิง (๔) ทุ่งมหาเจรญิ (๘) วังใหม่ (๒) วงั ทอง (๔)
๙๕ จงั หวดั อาเภอ ตาบล (จานวนหมูบ่ า้ น) ตราด เขาสมิง สะตอ (๔) (๒๔ หมู่บ้าน) บ่อพลอย (๔) นนทรี (๒) บอ่ ไร่ ช้างทนู (๔) หนองบอน (๖) หมนื่ ดา่ น (๑) ด่านชุมพล (๓) ทมี่ า: แผนการจัดการชา้ งป่า ในพื้นทกี่ ลมุ่ ปา่ ตะวนั ออก (ปา่ รอยตอ่ ๕ จงั หวดั ) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๗๒ โดยสานกั อนุรกั ษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สตั ว์ป่า และพนั ธพ์ุ ชื หมายเหตุ : ข้อมูลจงั หวัดระยอง ขาดอาเภอวงั จนั ทร์ แกลง บ้านค่าย ปลวกแดง
๙๖ ภาพที่ ๑๒ การกระจายของช้างป่าบรเิ วณกล่มุ ป่าตะวนั ออก (ป่ารอยตอ่ ๕ จงั หวดั )
๙๗ ภาพท่ี ๑๓ พนื้ ที่และเสน้ ทางเดนิ ของชา้ งป่าท่ีออกหากนิ นอกพ้นื ที่ป่าเขตรักษาพันธ์สุ ัตวป์ า่ เขาอา่ งฤาไน
๙๘ ๓.๑.๓. กลุม่ ปา่ ดงพญาเยน็ – เขาใหญ่ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าของพ้ืนท่ีกลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซ่ึงเป็นพื้นท่ีที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วยคุณค่า ทางด้านความหลากหลายทางชวี ภาพของทั้งพืชและสตั ว์ป่า เป็นอีกพื้นท่ีหน่ึงที่มีช้างป่าเป็นจานวนมาก และมี แนวโนม้ เพิม่ ขึ้น มีปัญหาชา้ งป่าบริเวณแนวเขตอุทยานแหง่ ชาติเขาใหญ่ออกไปหากนิ พชื ไร่แหล่งน้า และแหล่ง อาหารต่าง ๆ ทาให้เกิดความเสียหายแกท่ รพั ย์สนิ ของราษฎร ๓.๑.๓.๑ สถิติช้างป่าออกนอกพ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์และสถิติความเสียหายจากช้างป่า ของกลมุ่ ป่าดงพญาเยน็ - เขาใหญ่ จากข้อมูลกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช ต้ังแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ พบว่า สถิติช้างป่าออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ ๒,๓๑๗ คร้ัง สร้างความเสียหายด้านทรัพย์สิน แกป่ ระชาชน ๖๘ ราย ดา้ นผลผลิตทางการเกษตร ๗๘๐ ราย ราษฎรบาดเจบ็ ๗ ราย ราษฎรเสียชวี ติ ๑๓ ราย ดังรายละเอียดทป่ี รากฏ ตามตารางที่แสดงไว้ ดงั นี้ ตารางที่ ๑๑ สถติ คิ วามเสียหายจากช้างปา่ กลุ่มปา่ ดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ รวม สถติ ชิ า้ งป่าออกหากนิ นอก ๓๔๘ ๑,๑๐๒ ๕๑๗ ๓๕๐ ๒,๓๑๗ เขตป่าอนรุ กั ษ์ (ครั้ง) ทรพั ยส์ นิ (ราย) ๑๗ ๒๑ ๑๘ ๑๒ ๖๘ พืชผล (ราย) ๑๖๐ ๕๙ ๓๙๕ ๑๖๖ ๗๘๐ ราษฎรบาดเจบ็ (ราย) ๗ ๐ ๐ ๐๗ ราษฎรเสียชีวติ (ราย) ๑๐ ๐ ๓ ๐ ๑๓ ชา้ งป่าบาดเจ็บ (ตวั ) ๑ ๑ ๑ ๑๔ ชา้ งปา่ เสยี ชวี ิต (ตวั ) ๐ ๐ ๑๒ ๑ ๑๓ ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ช้างป่าออกนอกพ้ืนที่มากกว่าเดือนอ่ืนๆ และในเดือน พฤษภาคมมีช้างป่าออกนอกพ้ืนท่ีมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ ๒๐ รองลงมาคือช่วงเดือนสิงหาคม คิดเป็นร้อยละ ๑๓ ท้ังน้ีพบว่าช้างป่าออกนอกพ้ืนที่น้อยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ คิดเป็นร้อยละ ๒ ของจานวนช้างป่าออกนอกพื้นที่ ทัง้ หมด (จานวนคร้ัง) สถิติระยะทางที่ช้างป่าเคลื่อนที่ออกจากป่ามายังพื้นท่ีชุมชนทาให้ได้รับความเสียหายก่อให้เกิด ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า พบว่าส่วนมากเกิดข้ึนในพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ติดกับขอบป่าจนถึงแปลง ท่ีอยู่ห่างจากขอบป่าประมาณ ๔,๐๐๐ เมตร จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า แปลงเกษตรที่อยู่ใกล้กับขอบป่า
๙๙ มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งมากกว่าแปลงที่อยู่ไกลออกไป ระยะห่างจากแปลง เกษตรทีม่ รี ะยะห่างจากขอบป่าไม่เกนิ ๕๐๐ เมตร มีความเสีย่ งมากท่สี ดุ ๓.๑.๓.๒ พื้นท่ีชมุ ชนทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบจากชา้ งป่า ปัจจุบันมีชมุ ชนได้รับผลกระทบรวม ๓๖ หมบู่ ้าน ประกอบด้วย ๑) จังหวัดนครนายก จานวน ๒ อาเภอ ๓ ตาบล ๓ หมู่บา้ น ๒) จังหวดั นครราชสีมา จานวน ๒ อาเภอ ๒ ตาบล ๔ หมบู่ า้ น ๓) จงั หวดั ปราจนี บรุ ี จานวน ๒ อาเภอ ๒ ตาบล ๒ หมู่บา้ น ๔) จงั หวัดบุรีรัมย์ จานวน ๕ อาเภอ ๕ ตาบล ๒๗ หมบู่ ้าน ตารางที่ ๑๒ หมบู่ ้านท่ีได้รับผลกระทบจากภัยช้างปา่ กลมุ่ ป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ จังหวัด อาเภอ ตาบล (จานวนหมู่บา้ น) นครนายก เมอื ง สาริกา (๑) (๓ หมบู่ ้าน) หนิ ตงั้ (๑) นครราชสมี า ปากหลี หนองแสง (๑) (๔ หมู่บา้ น) ปากช่อง หมสู ี (๑) ปราจีนบรุ ี วงั นา้ เขยี ว วงั หมี (๓) (๒ หมู่บา้ น) เมือง เนินหอม (๑) กบินทร์บรุ ี ยา่ นรี (๑) บรุ รี มั ย์ บ้านกรวด หนองไม้ (๑) (๒๗ หมู่บ้าน) ละหานทราย หนองแวง (๑) โนนดินแดง ลานางรอง (๑๗) โนนดินแดง โนนดนิ แดง (๔) ปะคา โคกมะม่วง (๓) หูทานบ (๑) ท่ีมา: แผนการจดั การช้างป่า ในพื้นทก่ี ลมุ่ ป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๗๒ โดยสานกั อนรุ กั ษ์สตั วป์ า่ กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั ว์ป่า และพนั ธุ์พืช
๑๐๐ ภาพท่ี ๑๔ การกระจายของช้างปา่ บรเิ วณกล่มุ ปา่ ดงพญาเย็น - เขาใหญ่
๑๐๑ ๓.๑.๔ พนื้ ทกี่ ลมุ่ ป่าภูเขยี ว - น้าหนาว ๓.๑.๔ ๑ สถิติช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์และสถิติความเสียหายจากช้างป่าของกลุ่มป่า ภูเขียว - นา้ หนาว จากขอ้ มูลกรมอทุ ยานแห่งชาติ สตั ว์ปา่ และพนั ธุ์พืช ต้งั แต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ พบว่า สถิติช้างป่าออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ ๔๓๗ ครั้ง สร้างความเสียหายด้านทรัพย์สินแก่ประชาชน ๕๐ ราย ดา้ นผลผลิตทางการเกษตร ๓๒๒ ราย ราษฎรบาดเจ็บ ๓ ราย ราษฎรเสยี ชวี ติ ๘ ราย ดงั รายละเอียด ท่ปี รากฎ ตามตารางทแ่ี สดงไว้ ดงั นี้ ตารางท่ี ๑๓ สถติ คิ วามเสยี หายจากชา้ งป่า กลุม่ ป่าภูเขียว - น้าหนาว ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ รวม สถติ ิชา้ งปา่ ออกหากินนอก ๒๑๕ ๖๒ ๑๐๑ ๕๙ ๔๓๗ เขตปา่ อนุรักษ์ (ครง้ั ) ทรัพยส์ นิ (ราย) ๐ ๔๘ ๒ ๐ ๕๐ พชื ผล (ราย) ๒๑๑ ๕๙ ๒๒ ๓๐ ๓๒๒ ราษฎรบาดเจ็บ (ราย) ๑ ๐ ๐ ๒๓ ราษฎรเสยี ชวี ติ (ราย) ๓ ๔ ๐ ๑๘ ชา้ งป่าบาดเจ็บ (ตัว) ๐ ๐ ๐ ๐๐ ชา้ งป่าเสียชีวิต (ตวั ) ๕ ๑ ๒ ๒ ๑๐ ช้างป่าออกนอกพ้ืนที่อนุรักษ์ตลอดท้ังปี ส่วนใหญ่ช้างป่าเร่ิมออกนอกพ้ืนท่ีอนุรักษ์ในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ กลางเดอื นกมุ ภาพันธ์ ถงึ เดือนพฤษภาคม และออกมากทีส่ ุดในช่วงฤดฝู นในเดือนพฤษภาคม ถงึ เดือนตลุ าคม และจะออกนอ้ ยในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอยู่ระหว่างเดอื นตลุ าคม ถึง กลางเดอื นกุมภาพันธ์ ๓.๑.๔ ๒ พืน้ ทีช่ ุมชนที่ได้รบั ผลกระทบจากช้างปา่ ปัจจุบนั มชี ุมชนได้รับผลกระทบรวม ๓๒ หมู่บ้าน ประกอบดว้ ย ๑) จังหวดั เพชรบรู ณ์ จานวน ๒ อาเภอ ๒ ตาบล ๔ หมู่บา้ น ๒) จังหวดั เลย จานวน ๕ อาเภอ ๑๑ ตาบล ๒๘ หมู่บา้ น
๑๐๒ ตารางที่ ๑๔ หมบู่ ้านที่ไดร้ ับผลกระทบจากภยั ช้างปา่ กลมุ่ ป่าภูเขียว - นา้ หนาว จังหวดั อาเภอ ตาบล (จานวน) เพชรบูรณ์ เขาค้อ หนองแมน่ า (๒) (๔ หมบู่ ้าน) นา้ หนาว วงั กวา้ ง (๒) ด่านซ้าย วังยาว (๑) เลย ศรีฐาน ภูกระดึง (๒) (๒๘ หมู่บ้าน) ภูเรือ ทา่ ศาลา (๗) สานตม (๑) ภูหลวง เลยวังไสย์ (๓) แก่งศรีภูมิ (๑) วังสะพงุ ทรายขาว (๑) ภหู อ (๔) หนองคัน (๑) เขาหลวง (๕) ทรายขาว (๒) ที่มา: แผนการจดั การชา้ งปา่ ในพื้นทก่ี ลุม่ ปา่ กลุม่ ปา่ ภูเขียว-นา้ หนาว ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๗๒ โดยสานกั อนุรกั ษส์ ตั ว์ป่า กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพนั ธุพ์ ชื
๑๐๓ ภาพที่ ๑๕ การกระจายของช้างปา่ บรเิ วณกล่มุ ป่าภเู ขยี ว – นา้ หนาว
๑๐๔ ๓.๑.๕ พ้นื ที่กลมุ่ ป่าแกง่ กระจาน ปัจจุบันมีช้างป่าอาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาตแิ ก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กว่า ๑๘๐ ตวั สง่ ผลใหช้ ้างปา่ ตอ้ งออกมาหากนิ นอกพืน้ ทปี่ ่าอนรุ กั ษ์อยู่บอ่ ยครงั้ เกดิ เหตุการณช์ ้างบกุ รุกเข้ามาในพ้ืนทีเ่ กษตรกรรม ของประชาชนทาลายทรัพย์สินให้ได้รับความเสียหาย มีการทาร้ายประชาชนให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในบางครั้ง อีกท้ังส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางสัญจรไปมา โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ซ่ึงปัญหา ความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าท่ีเกิดขึ้นบริเวณทางตอนใต้ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้เกิดข้ึน ในพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จนถึงปัจจุบันมีรายงานว่ามีช้างป่าเสียชีวิตอันเน่ืองมาจากความขัดแย้งนี้ ไม่น้อยกว่า ๑๐ ตัว พบเหตุการณ์ความเสียหายของพืชเกษตรทั้งสิ้นเฉลี่ยประมาณ ๓๐ เหตุการณ์ต่อเดือน มีเกษตรกรจานวน ๒๔๓ ราย ที่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายคร้ังนี้ อีกทั้งยังพบปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างช้างป่าและคนในจังหวัดประจวบครี ีขันธ์ในพน้ื ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีดว้ ยน้ัน เป็นปญั หาความขัดแย้ง ท่ีเกิดข้ึนมาเป็นเวลาช้านานแล้ว นับต้ังแต่ยุคท่ีเร่ิมมีการบุกเบิกที่ดินเพ่ือการปลูกสับปะรดและทาการเกษตรอ่ืน ๆ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เช่าพ้ืนที่ป่าจากกรมป่าไม้ เพ่ือจัดสรรเป็นที่ทากินให้แก่ ชาวบ้าน กระทั่งเม่ือมีการบุกรุกขยายพ้ืนท่ีเพ่ือปลูกสับปะรดกันมากข้ึน และเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ช้างป่าเร่ิมมี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาหากินบริเวณชายป่าใกล้ไร่สับปะรดนานข้ึน มีการปรากฏตัว นอกพื้นท่ีป่ามากข้ึน จนนาไปสู่พฤติกรรมการหากินในพื้นท่ีโล่งติดกับไร่สับปะรดทุกวัน และในเวลากลางคืน จะลงมากินสับปะรดของชาวไร่ กลายเปน็ การเผชิญหน้าระหว่างคนกบั ช้างป่าที่เป็นปัญหาความขัดแย้งถึงปัจจุบัน ๓.๑.๕ ๑ สถิติช้างป่าออกนอกพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์และสถิติความเสียหายจากช้างป่า ของกลมุ่ ปา่ แก่งกระจาน จากข้อมูลกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ พบว่า สถิติช้างป่าออกหากินนอกเขตป่าอนุรักษ์ ๖,๔๘๐ ครั้ง สร้างความเสียหายด้านทรัพย์สินแก่ประชาชน ๔๗ ราย ด้านผลผลิตทางการเกษตร ๔๕๐ ราย ราษฎรบาดเจบ็ ๔ ราย ราษฎรเสยี ชวี ิต ๖ ราย ดงั รายละเอียด ท่ปี รากฏ ตามตารางทีแ่ สดงไว้ ดังน้ี ตารางท่ี ๑๕ สถติ คิ วามเสียหายจากช้างป่า กลุ่มป่าแกง่ กระจาน ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ๒๕๖๓ รวม สถิติช้างป่าออกหากนิ นอก ๘๗๑ ๗๗๙ ๒,๗๐๖ ๒,๑๒๔ ๖,๔๘๐ เขตปา่ อนุรักษ์ (ครงั้ ) ทรพั ย์สนิ (ราย) ๑๑ ๑ ๑๕ ๒๐ ๔๗ พชื ผล (ราย) ๕๑ ๒๐๖ ๑๑๘ ๗๕ ๔๕๐ ราษฎรบาดเจ็บ (ราย) ๒ ๐ ๑ ๑ ๔ ราษฎรเสียชีวิต (ราย) ๓ ๐ ๑ ๒ ๖ ช้างป่าบาดเจ็บ (ตัว) ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ช้างป่าเสียชีวิต (ตวั ) ๐ ๓ ๓ ๔ ๑๐
๑๐๕ ช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่ช้างป่าออกนอกพ้ืนท่ีอนุรักษ์ในช่วงฤดู ร้อนต้ังแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนพฤษภาคม และรองลงมาคือฤดูฝน ในเดือนพฤษภาคม ถึง เดือน ตลุ าคม และจะออกน้อยในชว่ งฤดูหนาว ซึง่ อยูร่ ะหว่างเดอื นตลุ าคม ถึง กลางเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ๓.๑.๕ ๒ พนื้ ที่ชมุ ชนทไี่ ดร้ ับผลกระทบจากช้างป่า ปัจจบุ ันมีชุมชนได้รบั ผลกระทบรวม ๑๒ หมู่บา้ น ประกอบดว้ ย ๑) จงั หวดั เพชรบุรี จานวน ๑ อาเภอ ๒ ตาบล ๘ หมู่บา้ น ๒) จงั หวัดประจวบครี ขี นั ธ์ จานวน ๑ อาเภอ ๓ ตาบล ๔ หมบู่ า้ น ตารางที่ ๑๖ หมูบ่ า้ นที่ได้รับผลกระทบจากภยั ชา้ งปา่ กลุ่มป่าแก่งกระจาน จังหวัด อาเภอ ตาบล (จานวนหมบู่ ้าน) เพชรบรุ ี แกง่ กระจาน ป่าเต็ง (๕) (๘ หมู่บ้าน) หวั หนิ หว้ ยแมเ่ พรียง (๑) ประจวบครี ีขนั ธ์ ห้วยใหญ่ (๒) (๔ หมบู่ า้ น) ห้วยสตั ว์ใหญ่ (๓) บงึ นคร (๑) ที่มา: แผนการจดั การช้างป่า ในพื้นทก่ี ลุ่มป่าแก่งกระจาน ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๗๒ โดยสานกั อนุรักษ์สตั ว์ป่า กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตวป์ า่ และพนั ธ์ุพืช
๑๐๖ ภาพที่ ๑๖ การกระจายของช้างปา่ บริเวณกลุ่มป่าแก่งกระจาน
๑๐๗ ๓.๒ สรุปสถานการณ์ช้างป่าทั่วประเทศ (คณะทางานพรรคเพ่ือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของ ประชาชนอันเกิดจากช้างป่า, ๒๕๖๓) ข้อมูลจากการประชุมเกี่ยวกับปัญหาช้างป่า การสัมภาษณ์ การลงพื้นที่ และทางสื่อออนไลน์ระหว่าง ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ – พ.ศ. ๒๕๖๓ เน้นไปท่ีปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่เกษตรกรรมทาลายพืชผลทางการเกษตร ทรัพย์สิน ร่างกาย และชีวิตของประชาชน การเกิดอุบัติเหตุรถชนช้างป่า ความขัดแย้งของคนและช้างป่า คนถกู ชา้ งป่าฆา่ ตาย ชา้ งป่าถกู คนฆ่าตาย จากข้อมลู ทีร่ วบรวมน้ีแสดงให้เห็นว่าปญั หาของประชาชนยังไม่ได้รับ การแก้ไขและทวีความรุนแรงข้ึนเร่ือย ๆ ที่อยู่อาศัยท่ีทากินของประชาชนได้รับความเสียหายจากช้างป่า บุกรุก ใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดผวาทุกวันทุกคืน “ไม่รู้ว่าวันน้ีพ่ีใหญ่จะมาเย่ียมไหม” กลุ่มอาสาที่ช่วยผลักดัน ช้างป่าเพ่ือบรรเทาความเดือนร้อนให้กับพ่ีน้องประชาชนทางานกันไม่มีวันจบส้ิน อยู่กับความเสี่ยงภัยทุกคืน ภาครัฐควรมีการศึกษาหาวิธีการแก้ปัญหาท่ีสอดคล้องกับสถานการณ์จริง เพื่อให้ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง คนกับช้างป่าบรรเทาลดความรุนแรงลง และมีวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมและอย่างย่ังยืน คณะทางานฯ ได้รวมรวมเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น โดยแสดงข้อมูลด้วยตารางเพ่ือให้เห็นภาพรวมท่ัวประเทศว่า ปัญหาช้างป่า เปน็ ปัญหาใหญร่ ะดับชาตทิ ีต่ อ้ งไดร้ บั การแกป้ ญั หาอยา่ งเรง่ ด่วน ตารางที่ ๑๗ สรุปสถานการณ์ช้างปา่ ทัว่ ประเทศ สถานที่ เร่ิมประสบ จานวน การแก้ปัญหาท่ี การแกป้ ญั หา ปัญหาที่ ปัญหา ช้างป่า ไม่ประสบผลสาเรจ็ ท่ีบรรเทาความ ยังคงอยู่ ชา้ งปา่ (ตัว) เดือดรอ้ นได้ เขตอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ บ.สนั กาแพง พ.ศ. ๑๒–๑๓ตวั - รัว้ การปลกู -ร้ัวการปลกู ๑. ผลกั ดันแลว้ บ.คลองทราย ๒๕๕๙ พริกไทย พรกิ ไทย ไมส่ ามารถบังคบั อ.วงั น้าเขียว -รั้วไฟฟ้าใช้ ทิศทางได้ จ.นครราชสมี า - รว้ั ไฟฟา้ ใช้ แบตเตอรี่ เขา้ ไปอยใู่ น แบตเตอร่ี พนื้ ท่ีอน่ื ทาให้ หมู่๕ ต.หมสู ี ชดุ อาสาฯ และ เกิดความขดั แย้ง อ.ปากชอ่ ง พ.ศ. ๔ – ๕ ตวั ยังไมม่ ีวิธแี ก้ไข ชาวบา้ นผลักดัน ช้างเดินเข้ามา จ.นครราชสีมา ๒๕๖๒ เพราะชา้ งป่าเพ่ิง ช้างด้วยการจดุ พลุ ในชุมชน บ้านสาลิกา หมู่ ๓ เข้าพน้ื ท่เี กษตร เคาะไม้ ปรบมือ ต.สาริกา อ.เมือง มมี าตลอดปี - ร้วั รงั ผ้ึงพ้นื ที่ เมือ่ ผลกั ดัน จ.นครนายก พ.ศ. ๒๕๖๐ ไมเ่ หมาะ ไม่มี ชา้ งปา่ ออกจาก เขา้ หมบู่ ้าน อาหารให้ผึง้ พืน้ ท่ไี ปก็จะวน ทกุ วัน กลับมาเหมอื นเดิม
๑๐๘ สถานท่ี เร่มิ ประสบ จานวน การแก้ปัญหาที่ การแกป้ ญั หา ปัญหาที่ ปัญหา ชา้ งป่า ไม่ประสบผลสาเรจ็ ทบ่ี รรเทาความ ยังคงอยู่ ชา้ งปา่ (ตัว) เดือดร้อนได้ - รวั้ ลวดหนาม เปน็ ปัญหาท่ี ไฟฟ้า ไมม่ ีงบซื้อ แก้ไม่ได้ แบตเตอรี่ เขตรกั ษาพนั ธุ์สัตว์ปา่ ดงใหญ่ ภาพโดยรวม พ.ศ. ประมาณ เจ้าหนา้ ท่แี ละ รอบปี พ.ศ.๒๕๖๒ ๒๕๓๖ ๒๐๐ ตวั อาสาฯ ออก มีชาวบา้ นถกู ลาดตระเวน ช้างป่าทารา้ ย ต.บา้ นหล้า พ.ศ. ช้างปา่ กลุม่ คูกนั ชา้ งยังไม่เสรจ็ ทัง้ กลางวัน เสียชวี ติ รวม อ.เสงิ สาง ๒๕๔๗ เดยี วกับ ชา้ งข้ามได้ กลางคนื ใช้ ๕ ราย จ.นครราชสีมา ดงใหญ่ ทมี อาสาฯ สถิติต้งั แต่มี เฝ้าสวนปอ้ งกัน ปัญหาคนตาย ชา้ งปา่ ได้ ๑๐๐% จากช้างปา่ ๑๕ คน ช้างปา่ ประชาชน ถูกคนฆ่า ๑๒ ตวั รวมกลุ่มกันเป็น มนุษย์ไม่สามารถ ชมรมช่วยกนั ขวางทางไมใ่ ห้ ผลักดันชา้ ง ช้างป่าเข้าพ้นื ที่ ทากนิ ของ ชาวบ้านได้ พืชผลทางการ เกษตรถูก ทาลาย เขตอุทยานแหง่ ชาตทิ บั ลาน บ้านทบั ลาน พ.ศ. ชดุ แรก หา้ มจดุ ประทัด ๑. พชื ผลทาง ต.บพุ รหมณ์ ๒๕๖๒ ๑๓ ตวั หา้ มยิงปนื หา้ มถือ การเกษตร อ.นาดี อาวธุ ไปหาชา้ งป่า ถกู ทาลาย จ.ปราจีนบรุ ี จากนัน้ ๒.มอี ่างเกบ็ น้า ๖๐ ตวั มแี หลง่ นา้ นา้ ตก
๑๐๙ สถานที่ เรมิ่ ประสบ จานวน การแก้ปัญหาที่ การแกป้ ัญหา ปัญหาที่ ปญั หา ช้างป่า ไมป่ ระสบผลสาเรจ็ ทบ่ี รรเทาความ ยังคงอยู่ ต.บพุ ราหมณ์ ชา้ งป่า (ตวั ) เดอื ดรอ้ นได้ อ.นาดี อดุ มสมบรู ณ์ จ.ปราจีนบรุ ี ๔ – ๗ ม.ค. ๓ ตวั ชา้ งปา่ ลงมา ๒๕๖๒ กนิ น้า ต.บา้ นหอย ใหย้ นื ดูชา้ งป่า อ.ประจันตคาม ๔ มิ.ย. ๓ ตวั กินพชื ผล จ.ปราจีนบุรี ๒๕๖๓ ทางการเกษตร ของชาวบ้านไมร่ ู้ จะแก้ไขอยา่ งไร ประชาชนเพ่ิง พบช้างป่าเดนิ ในหม่บู ้าน ครั้งแรก เขตรกั ษาพันธสุ์ ตั ว์ป่าภหู ลวง ต.เลยวงั ไสย์ มากกว่า ชา้ งป่าจะออก ต.ภหู อ ๑๐๐ ตวั จากปา่ มา อ.ภูหลวง ชว่ งหนา้ แลง้ จ.เลย ชาวบ้านไม่กล้า ออกไปกรีดยาง ใช้ชีวิตปกติไม่ได้ พืชผลทางการ เกษตรถูกทาลาย เขตรักษาพันธ์ุสตั วป์ ่าสลกั พระ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ มจี านวนชา้ งป่า ๒๕๐ - ๓๐๐ตวั คิดเป็น ๑๐% ของชา้ งป่าท่วั ประเทศ ต.ช่องสะเดา พ.ศ. >๑๐๐ ตวั ๑. มีชดุ ผลักดัน ๑. เวลากลางคนื อ.เมอื ง ๒๕๔๖ ช้างกลบั คืนป่า ช้างป่ากระจาย จ.กาญจนบุรี ๒. ร้วั รงั ผึ้งได้ผลดี ไปทกุ หมู่บ้าน มนี า้ ผงึ้ ขายมีรายได้ ต้องระมดั ระวงั ๓. รว้ั ไฟฟ้า ไมใ่ หช้ า้ งป่าออก
๑๑๐ สถานท่ี เรมิ่ ประสบ จานวน การแก้ปัญหาที่ การแก้ปญั หา ปญั หาท่ี ป่ารอยต่อ ๕ จงั หวดั ปญั หา ชา้ งปา่ ไม่ประสบผลสาเรจ็ ทบ่ี รรเทาความ ยงั คงอยู่ ช้างปา่ (ตัว) เดือดรอ้ นได้ ถนนสเ่ี ลน ๒. เมอื่ ช้างป่าโต เต็มวยั จะแยก โขลงไม่สามารถ หากนิ ในพ้ืนท่ี เดิมได้ ๓. ชา้ งป่ายังคง บุกรกุ ทาลาย พืชผลทางการ เกษตรของ ชาวบ้าน บ้านวงั กระแพร่ >๓๐ ตวั มชี ดุ เจา้ หน้าที่ ช้างป่าเพ่ิม ต.ทบั ไทร ผลกั ดันชา้ งปา่ จานวนขึ้นทุกปี อ.โปง่ น้าร้อน ชาวบา้ นใช้รวั้ เข้าไปหากินใน จ.จันทบุรี ไฟฟ้าในการ สนามกอล์ฟ ปกป้องสวนผลไม้ ช้างปา่ ตาย ของตน เพราะโดน ไฟฟา้ ชอ๊ ต ต.พวา พ.ศ. >๑๐๐ ตวั ๑. ร้วั กั้นชา้ งป่า ๑.ร้ัวรังผึ้งได้ผล ช้างป่าอยูใ่ น อ.แกง่ หางแมว จ.จันทบรุ ี ๒๕๕๓ ชา้ งทาบนั ไดดนิ มุด ๘๐% ตอ้ งปฏิบัติ พ้นื ทต่ี ลอด รัว้ ออกมาได้ ตามหลกั วชิ าการ พืชผลทาง ฝนตกรัว้ พงั ๒.คชู ะลอชา้ ง การเกษตรถกู ไม่ได้ผล ไดผ้ ลดี ไมใ่ หช้ า้ ง ทาลายทกุ วนั ๒.รัว้ ถาวรตอ้ งมี เขา้ ถึงคนเรว็ เกนิ ไป ท่อนา้ เพอื่ ระบาย ๓.รั้วกันชา้ งได้ผล นา้ เวลาฝนตก แตต่ อ้ งมีคนดูแล ตลอด
๑๑๑ สถานที่ เรม่ิ ประสบ จานวน การแกป้ ัญหาท่ี การแกป้ ญั หา ปญั หาท่ี บา้ นคลองโป่ง ปญั หา ชา้ งป่า ไมป่ ระสบผลสาเร็จ ทบ่ี รรเทาความ ยังคงอยู่ ต.ขนุ ซอ่ ง ชา้ งป่า (ตวั ) เดือดรอ้ นได้ อ.แก่งหางแมว พ.ศ. >๓๐ ตวั คูกนั ช้างท่ีทหาร เลย้ี งสุนัขเพื่อให้ ถงึ จะมีการขุดคู จ.จนั ทบุรี ๒๕๕๓ ขุดและคกู ันชา้ ง >๑๐๐ ตวั ทอี่ นุรกั ษ์ขดุ เห่าส่งสัญญาณ กันช้างป่าแต่ หมู่ ๑๙ พ.ศ. ไมส่ ามารถกันช้าง ต.แก่งหางแมว ๒๕๕๕ เรม่ิ จาก เข้ามาในท่ี ถ้ามีชา้ งป่าอยจู่ ะ ชา้ งป่าเขา้ มาใน อ.แก่งหางแมว ๑๘ ตวั ทากินได้ จ.จนั ทบุรี พ.ศ. ไดไ้ ม่ออกนอกบ้าน ทที่ ากนิ ของ ๒๕๕๒ ต.บ้านนา ใช้ระเบดิ ปงิ ปอง ชาวบา้ นทุกวัน อ.แกลง จ.ระยอง ทาใหเ้ กิดเสยี งแต่ ตอ้ งใช้ชีวติ อยู่ ช้างป่าบางตวั ด้ือ อย่างหวาดผวา ไม่ไปชาวบ้านไล่ ทาสวนปลกู พชื กนั เองไม่ได้แจ้ง ที่ชา้ งป่าชอบ กลุ่มอาสาฯ ไมไ่ ดโ้ ดนทาลาย หมดสิน้ เช่น มะพร้าว กลว้ ย เปน็ ต้น ต้องหา ของปา่ ขายและ กรีดยางอยู่กบั ความเส่ียง ทกุ วันทุกคนื มกี ล่มุ อาสา ช้างป่าจากท่ัว ผลักดันชา้ งป่า ทกุ สารทศิ ถกู ผลกั ดันมา อยู่ที่ ม.๑๙ อ.แกง่ หางแมว ช้างโขลงใหญ่ จะมลี ูกเลก็ ช้างเด็กชา้ งใหญ่ พญาชา้ ง มีการรวมตัวกลมุ่ ชา้ งป่ายงั เข้ามา อาสาฯจานวน ในพื้นที่ทาลาย ๔๐ คน พชื ผลทางการ เกษตรและ
๑๑๒ สถานที่ เร่มิ ประสบ จานวน การแก้ปัญหาที่ การแกป้ ญั หา ปญั หาท่ี ปัญหา ชา้ งปา่ ไมป่ ระสบผลสาเรจ็ ที่บรรเทาความ ยังคงอยู่ อ.วงั จันทร์ ช้างปา่ (ตวั ) เดอื ดร้อนได้ จ.ระยอง ทรพั ย์สิน ตารวจ “มอื ปราบ ประชาชนอยู่ ต.คลองพลู ไล่ชา้ ง” ชว่ ยขับไล่ อยา่ งหวาดผวา อ.หนองใหญ่ ชา้ งกลับป่า จงึ รวมกลมุ่ กนั จ.ชลบุรี เพ่อื หาทาง หมู่ ๘ ตารวจชว่ ยผลักดัน แก้ปัญหา ต.บอ่ ทอง อ.บ่อทอง ชา้ งกลับป่า ชา้ งปา่ หากิน จ.ชลบรุ ี ในบา้ น ทาลาย ต.หนองใหญ่ ทรัพยส์ นิ กิน อ.หนองใหญ่ พชื ผลทางการ จ.ชลบุรี เกษตรทุกวนั คนถูกช้างปา่ ฆ่า ชา้ งปา่ เขา้ บ้าน รือ้ ของในต้เู ยน็ กินผลไมใ้ นสวน ของชาวบา้ น ประชาชนถูก ชา้ งฆ่าตาย ขณะไปกรีดยาง เป็นพื้นทีช่ า้ งปา่ ออกหากนิ จน เป็นเร่อื งปกติ ทรัพย์สินถูก ชา้ งปา่ ทาลาย กงั วลจะเกดิ อุบัติเหตุ รถชนชา้ ง ประชาชนตอ้ ง ป้องกนั ตนเอง
๑๑๓ สถานท่ี เรมิ่ ประสบ จานวน การแก้ปัญหาท่ี การแก้ปัญหา ปญั หาที่ บ้านเขาใหญ่ หมู่ ๔ ปญั หา ชา้ งป่า ไมป่ ระสบผลสาเรจ็ ทีบ่ รรเทาความ ยงั คงอยู่ ชา้ งป่า (ตวั ) เดอื ดรอ้ นได้ ชาวบา้ นปล่อยให้ ชา้ งลงมาหากิน ต.พลวงทอง กนิ พืชผลทางการ กนิ เสรจ็ กลับ อ.บอ่ ทอง เกษตรพออม่ิ แล้ว ขึ้นเขา พืชผล จ.ชลบุรี ก็กลบั ขน้ึ เขา ทางการเกษตร หา้ มทาอะไร ถูกทาลาย หลบอยา่ งเดียว อทุ ยานแห่งชาตแิ กง่ กระจาน ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ชา้ งป่าเรม่ิ เข้ามาในที่ทากินของชาวบ้าน ปี ๒๕๓๙ มีความรุนแรงข้ึน เร่อื ยๆจนถึงปัจจบุ นั พ.ศ. ๒๕๖๓ มจี านวนช้างปา่ อาศยั อยูโ่ ซนกลางประมาณ ๕๐ - ๘๐ตวั ไมไ่ ดส้ รา้ งปญั หาให้ ชุมชน อกี กลมุ่ โซนใตจ้ ะสรา้ งปญั หาใหช้ มุ ชนใน ต.หว้ ยสตั วใ์ หญ่ และ ต.ปา่ เด็ง ต.หว้ ยสัตว์ใหญ่ พ.ศ. ๑๕๐-๑๘๐ ๑. ร้วั สญั ญาณไฟ ๑.ทารัว้ คูพร้อม ๑. ช้างปา่ ถูก อ.หวั หิน ๒๕๓๕ ตวั ๒. คกู ันชา้ งปา่ ถนนตรวจการณ์ ไฟชอ๊ ตตาย จ.ประจวบครี ีขนั ธ์ ทาไปแล้ว ๖ ก.ม. ๒. คนถูกช้าง ขาดอีก ๑๑ ก.ม. ฆ่าตาย ต.ปา่ เด็ง พ.ศ. เป็นชา้ งป่า ๑. มีรว้ั กันชา้ งปา่ ลอ้ มรวั้ รอบที่ทา อ.แกง่ กระจาน ๒๕๓๕ กลมุ่ เดยี ว ที่ตอ้ งดูแลรกั ษา กินของคน แบ่ง จ.เพชรบรุ ี กับห้วย กนั ตลอดแนว พืน้ ทก่ี ันอยู่ สัตวใ์ หญ่ คนกับชา้ งอยู่กนั ได้ ทารั้วกันช้างป่า ยังต้องดูแล แบบก่ึงถาวรพร้อม ซอ่ มแซมร้วั ปลกู มะขามเสริม ตลอด คนไม่ ความแข็งแรงให้รัว้ สามารถอยูบ่ ้าน เดยี วกับช้างได้ ต้องแบง่ สว่ นอยู่ คนละรั้ว แต่เป็น เพอ่ื นบ้านกันได้ อทุ ยานแหง่ ชาตกิ ยุ บุรี ภาพรวม พ.ศ. >๒๓๐ ขาดงบประมาณใน “กุยบุรโี มเดล” ช้างป่าถกู ฆ่า จ.ประจวบคีรขี ันธ์ ๒๕๒๕ คาดว่าในปี การสร้างรั้วกนั ชา้ ง ตาย ๔ ตัว
๑๑๔ สถานที่ เริม่ ประสบ จานวน การแกป้ ัญหาที่ การแกป้ ญั หา ปัญหาที่ ปัญหา ช้างป่า ไม่ประสบผลสาเร็จ ที่บรรเทาความ ยงั คงอยู่ ช้างปา่ (ตวั ) เดอื ดรอ้ นได้ ถงึ พ.ศ. ๒๕๗๐ แบบถาวร และ มชี ุดเจา้ หนา้ ที่ ในรอบ ๑ เดือน การเพิ่มเจ้าหนา้ ท่ี ปลายเดือน พ.ค.- พ.ศ. จะมีชา้ งปา่ ชุดเคล่อื นท่เี รว็ เคลื่อนทีเ่ รว็ ปลายเดือน มิ.ย. ๒๕๖๓ ๒๕๒๘ ๖๐๐ ตวั แกป้ ญั หา ช้างป่า จากตารางแสดงให้เหน็ ว่า ปที ี่พบช้างปา่ บกุ รุกท่ที ากินของชาวบ้านมหี ลายชว่ ง ช่วงแรก เริม่ จากปี พ.ศ. ๒๕๒๖ – ๒๕๒๘ ทกี่ ุยบรุ ี ปจั จบุ นั ปัญหายงั มีอยู่ ชว่ งที่สอง เรมิ่ จากปี พ.ศ. ๒๕๓๕ จนถงึ ปจั จุบัน จะเป็นพน้ื ที่ท่อี ย่ใู กลก้ บั เขตปา่ อนรุ ักษ์ ช่วงทสี่ าม เรมิ่ จากปี พ.ศ. ๒๕๔๖ จนถึงปัจจบุ นั ช่วงที่สี่ เร่ิมจากปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จนถึงปัจจุบัน เป็นพื้นท่ีประชาชนอยู่ทากินมานานหลายสิบปไี ม่เคย พบชา้ งปา่ มาก่อน ช่วงท่ีสี่ เร่ิมจากปี พ.ศ. ๒๕๕๙ จนถึงปัจจุบัน เป็นพ้ืนท่ีทากินมาหลายสิบปีที่ไม่เคยพบช้างป่า มาก่อนมีกลมุ่ อาสาชว่ ยกนั ผลักดนั ช้างปา่ ออกนอกพ้ืนท่ีแล้ว ช่วงสุดท้าย เริ่มจากปี พ.ศ. ๒๕๖๒ จนถึงปัจจุบัน เป็นพ้ืนที่ท่ีทากินและเป็นพ้ืนท่ีอยู่อาศัยกลุ่มน้ี ประชาชนเพง่ิ จะรวมกลุ่มกนั เพอ่ื ปกป้องพืชผลทางการเกษตรและทรพั ยส์ ิน จากข้อมูลการพบช้างป่าในที่ทากินและที่อยู่อาศัยของประชาชนแต่ละช่วงปี ทาให้เห็นว่าเหตุผลที่ กล่าวว่า “ช้างป่าออกจากป่าอนุรักษ์เพราะพื้นท่ีป่าอนุรักษ์หลายแห่งท่ีเป็นถิ่นอาศัยของช้างป่าเริ่มขาดแคลน อาหารและแหล่งน้า พื้นที่เป็นภูเขามีความลาดชันสูงช้างป่าอาศัยอยู่ไม่ได้ การขยายตัวของชุมชน การขยาย พื้นท่ีทาการเกษตร การก่อสร้างสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน เช่น การก่อสร้างเส้นทางคมนาคมท่ีผ่านป่าสมบูรณ์ การก่อสร้างเข่ือนหรืออ่างเก็บน้าขนาดใหญ่” เวลาน้ีเหตุผลดังกล่าว อาจไม่ใช่สาเหตุท่ีแท้จริงที่ก่อให้เกิด ปัญหาช้างป่าออกนอกเขตป่าอนุรักษ์บุกรุกเข้ามาทาลายพืชผลทางการเกษตรของประชาชนอีกต่อไป จึงเป็น ความจาเป็นที่ภาครัฐต้องศึกษาหาสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากปัญหานี้ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต้องได้รับ การแกป้ ญั หาอย่างเร่งด่วน เช่น กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั วป์ ่า และพนั ธพ์ุ ชื ไดน้ าเสนอขอ้ มูลต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญ พบว่า ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ มีคนถูกชา้ งปา่ ทาร้ายเสียชีวิต ๒๓ ราย และชา้ งป่าตาย ๑๕ ตวั พืชผลทางการเกษตร และทรพั ย์สินของประชาชนถูกชา้ งป่าทาลายทุกวนั เฉพาะเขตอทุ ยานแหง่ ชาติกุยบุรีได้คาดการณว์ ่า ปี ๒๕๗๐ จะมีช้างป่าเพ่ิมจานวนมากถึง ๖๐๐ ตัว ยังไม่รวมผืนป่าแห่งอ่ืน ๆ ทั่วประเทศ หากภาครัฐไม่มีแผนรองรับ ปัญหาของช้างป่าจะทวคี วามรุนแรงมากกว่าน้หี ลายเท่า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 526
Pages: