เอกสารประกอบการพิจารณา ตามระเบยี บวาระการประชุม เร่อื งทปี่ ระธาน จะแจ้งตอ่ ทีป่ ระชุม เล่มที่ 8 กลมุ่ งานระเบยี บวาระ สานักการประชมุ
คู่มอื เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. รายงานผลการปฏบิ ตั งิ านของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๗ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ กระทรวงยตุ ิธรรม
คูม่ อื เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. คำนำ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นเจ้าพนักงานที่ได้รับการแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ ในการดำเนนิ งานปอ้ งกนั และปราบปรามการกระทำความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพติด มีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในสถานประกอบการ ตรวจค้นเคหสถาน ค้นบุคคลหรือยานพาหนะ ยึดและอายัดยาเสพติดหรือทรัพย์สิน สั่งบุคคลหรือ กลุ่มบุคคลตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย สอบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติด เป็นต้น ถือได้ว่าเป็นผู้มีบทบาท ภารกิจสำคัญในการดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ให้เปน็ ไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของรฐั บาลและเกิดประสทิ ธิผลสงู สุดสมดังเจตนารมณข์ องกฎหมาย รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ฉบับนี้จัดทำข้ึน ตามบทบัญญัติมาตรา ๑๔ วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยเป็นการรวบรวมประมวลผล และสังเคราะห์รายงานผลการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ท่ัวประเทศ ที่มีการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติดังกล่าวและกฎหมายอื่นท่ีเก่ียวข้องในการปฏิบัติงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด โดยรายงานน้ีแสดงถึงผลของ การปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการดำเนินการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในภาพรวมเพ่ือให้ทราบบทบาทภารกิจและประสิทธิผลในการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ซ่งึ เปน็ ปญั หาของประเทศให้เบาบางหรอื ไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ สงั คมตอ่ ไป สำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ
ค่มู อื เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. สารบญั หนา้ คำนำ บทสรปุ ผ้บู รหิ าร ๑ ส่วนที่ ๑ บทนำ ๓ ๑.๑ ทีม่ าของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส ๔ ๑.๒ อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ๕ ๑.๓ การกำกับดแู ลและติดตามผลการปฏิบตั งิ านของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ๗ ส่วนที่ ๒ นโยบายป้องกนั และแก้ไขปญั หายาเสพติด ๙ สว่ นท่ี ๓ ผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพตดิ ๑๓ สว่ นท่ี ๔ ปญั หาอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ๑๘ ภาคผนวก ๒๐ ๒๘ - พระราชบัญญตั ิป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ ๓๔ - ระเบยี บคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพติดวา่ ดว้ ยการแตง่ ต้ัง การปฏิบตั ิหนา้ ท่แี ละการกำกบั ดแู ลการปฏบิ ัติหน้าทขี่ องเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ - ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด วา่ ดว้ ยการออกบตั รประจำตวั และการรายงานการปฏบิ ัตหิ น้าที่ ของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖
คมู่ ือเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. บทสรปุ ผบู้ รหิ าร เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส เปน็ เจา้ หนา้ ทซี่ ง่ึ มอี ำนาจ ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติดของประเทศ ภายใต ้ แผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างย่ังยืน ปี ๒๕๕๗ ตามคำส่ังศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติดแห่งชาติท่ี ๑๙/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๖ และมาตรการเร่งด่วนในการ ปราบปรามและหยดุ ย้ังการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามคำส่ังคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๔๑/๒๕๕๗ เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีภารกิจดำเนินงานท่ีเกี่ยวข้องกับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติดในดา้ นต่างๆ ดงั น ้ี มาตรการที่ ๑ การสกดั กัน้ ปราบปรามจบั กุม และหยดุ ย้ังการแพร่ระบาดยาเสพตดิ มาตรการที่ ๒ การจดั ระเบียบสงั คมและเฝา้ ระวงั สถานบริการและสถานประกอบการ มาตรการท่ี ๓ การบำบัดฟ้นื ฟูและสรา้ งภมู คิ มุ้ กัน มาตรการที่ ๔ การยดึ และอายัดทรัพยส์ ินของผู้เกีย่ วข้องท้งั ระบบ มาตรการที่ ๕ การดำเนนิ การกบั เจา้ หน้าที่รฐั ทเี่ ข้าไปเกย่ี วขอ้ งกับยาเสพติด มาตรการท่ี ๖ การตดิ ตามประเมนิ ผลและรายงานผลการปฏิบตั ิ การปฏบิ ตั ภิ ารกิจในการปราบปรามการกระทำความผิดเกย่ี วกับยาเสพติดของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินภารกิจในฐานะผู้ปฏิบัติการ หรือการมีส่วนร่วมปฏิบัติการและประสานการปฏิบัติ จากการปฏิบัติ ภารกจิ ของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ เกิดผลสำเรจ็ ต่อการแก้ไขปญั หายาเสพติด โดยสรปุ ดงั น้ี ๑. จบั กุมคดยี าเสพติดรวม ๓๔๗,๐๒๘ คดี ผ้ตู อ้ งหา ๓๖๕,๙๑๘ คน ๒. จับกุมคดียาเสพติดในฐานความผิดสำคัญ (ผลิต, นำเข้า, ส่งออก, จำหน่าย, ครอบครอง เพื่อจำหน่าย) เป้าหมายร้อยละ ๒๐ ของคดียาเสพติดท่ัวประเทศ มีการจับกุม ได้จำนวน ๖๗,๕๐๗ คดี คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๙.๔๕ มีผู้ต้องหา ๘๐,๘๕๕ คน ๓. ของกลางยาเสพติดที่จับกุม ได้แก่ ยาบ้า ๙๖,๑๕๕,๙๑๒ เม็ด เฮโรอีน ๔๙๗.๓๐ กิโลกรัม ไอซ์ ๑,๐๗๓.๖๐ กิโลกรมั กญั ชา ๒๘,๑๐๔.๕๔ กิโลกรัม ๔. จบั กมุ คดยี าเสพตดิ ฐานความผดิ สมคบ สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื เปา้ หมาย ๕๐๐ คดี มกี ารดำเนนิ การ ขออนมุ ตั ิ ๗๓๔ คดี คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๔๖.๘๐ ผู้ต้องหา ๒,๑๘๘ คน ๕. การยึด/อายัดทรัพย์สินผู้กระทำผิดคดียาเสพติด เป้าหมาย ๒,๐๐๐ ล้านบาท สามารถยึด/ อายัดทรัพย์สินได้ จำนวน ๓,๘๙๑ ราย มูลค่าทรัพย์สิน ๑,๔๕๔.๔๔ ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ ๗๒.๗๐ (ผลการยดึ /อายดั ทรพั ยส์ นิ ของสำนกั งาน ป.ป.ส. จำนวน ๓,๗๘๒ ราย มลู คา่ ทรพั ยส์ นิ ๑,๓๑๒.๑๓ ลา้ นบาท / สำนักงาน ปปง. จำนวน ๑๐๙ ราย มูลคา่ ทรัพยส์ นิ ๑๔๒.๓๑ ล้านบาท)
อย่างไรก็ตามในการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีปัญหาอุปสรรคบางประการเก่ียวกับ การใช้อำนาจของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. เปน็ การใชอ้ ำนาจพเิ ศษทม่ี ีบทยกเว้นการใช้อำนาจทัว่ ไปตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การตรวจค้น จับกุมโดยไม่ต้องมีหมายศาล การใช้อำนาจอาจกระทบต่อ สทิ ธิเสรีภาพของประชาชน ดงั นั้นเมอื่ มกี ารให้อำนาจในการปฏบิ ัติงาน เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พงึ มหี น้าท่ีตอ้ ง รายงานการใช้อำนาจดังกล่าวเพ่ือเป็นการติดตามกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชา และป้องกันมิให้มีการ ใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แต่ปัญหาที่พบคือเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีการายงานการ ใชอ้ ำนาจเขา้ มายงั เลขาธกิ าร ป.ป.ส. นอ้ ยมาก เมอ่ื เทยี บกบั จำนวนเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. จำนวน ๙,๐๔๔ ราย ดังนั้นการแก้ไขปัญหาคือ ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ควรต้องควบคุม กำกับ ดูแล และตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติหน้าท่ีและใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ให้ถูกต้อง ตามกฎหมายและเน้นยำ้ ใหม้ กี ารรายงานการใช้อำนาจทกุ คร้ังทีม่ ีการปฏิบัตงิ าน
คู่มือเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. สว่ นที่ ๑ บทนำ
ส่วนท่ี ๑ บทนำ ๑.๑ ทม่ี าของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ปัญหายาเสพติด ส่งผลกระทบถึงความปลอดภัยของสังคมและความมั่นคงของชาติ รัฐบาล ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของพิษภัยยาเสพติดจะพึงบังเกิดแก่ประชาชน และความมั่นคง ปลอดภัยของประเทศชาติ จึงได้เร่งรัดให้มีการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และได้แต่งตั้ง คณะกรรมการกลางปราบปรามยาเสพติดให้โทษ (ก.ป.ส.) เพ่ือดำเนินการปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ และให้ทำหน้าท่ีเป็นศูนย์กลางการประสานงานของหน่วยราชการต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติดทั่วราชอาณาจักร แต่โดยท่ีคณะกรรมการดังกล่าวเป็นคณะกรรมการซึ่งแต่งตั้งขึ้น ตามมติของคณะรัฐมนตรี มิได้มีพระราชบัญญัติเป็นกฎหมายรองรับและให้อำนาจไว้เป็นการเฉพาะ เมื่อเปล่ียนรัฐบาลคณะกรรมการนี้ก็ต้องหมดสภาพลง แม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะได้มีมติให้แต่งต้ัง คณะกรรมการข้ึนใหม่ในทุกรัฐบาล แต่การทำงานของคณะกรรมการต้องหยุดชะงักลงในบางครั้ง จึงทำให้ การดำเนนิ งานของคณะกรรมการประสบกบั ปัญหาหลายประการ ฉะน้ัน เพ่ือให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผล เด็ดขาดย่ิงข้ึน รัฐบาลคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ภายใต้การนำของ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรีจึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ต่อสภาปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน และได้ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๙ และมีการกำหนดให้มีการแต่งต้ังเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ขึ้นเพ่ือให้มาทำหน้าท่ี ปราบปรามบุคคลที่ได้กระทำผิดตามกฎหมายเก่ียวกับยาเสพติด โดยเป็นการบูรณาการบุคลากรจากส่วน ราชการตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ งเพอ่ื ใหม้ าร่วมกันแกไ้ ขปัญหายาเสพติดซึ่งเปน็ ปญั หาสำคญั ของประเทศ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานประเภทหน่ึงตามกฎหมาย โดยได้รับการแต่งตั้ง ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ซึ่งได้มีการกำหนดให้ ข้าราชการจากส่วนราชการต่าง ๆ ท่ีมีภารกิจด้านปราบปรามยาเสพติด เข้ามาเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อใช้อำนาจตามกฎหมายดังกล่าว และให้ เลขาธิการ ป.ป.ส. พิจารณาออกคำสั่งแต่งตั้งให้เป็น เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. โดยผ่านการพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้งจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซ่ึงหมายความรวมถึงการแต่งตั้งจากคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้ง เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดท่ีคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพตดิ (ป.ป.ส.) แตง่ ตง้ั ดว้ ย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ มจี ำนวนเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส.จำนวน ๙,๐๔๔ ราย จำแนกสงั กัดหนว่ ยงาน ดงั นี ้
คมู่ อื เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. หนว่ ยงาน จำนวนเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ๓๒ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบญั ชาการกองทัพไทย ๒๒ กองทัพบก ๕๑๗ กองทพั เรอื ๓๕๖ กองทัพอากาศ ๗๗ กรมศุลกากร ๓๐๗ กรมสรรพสามิต ๙๕ สำนกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย ๑๘ กรมการปกครอง ๑,๗๓๑ กรมราชทัณฑ์ ๑๐๓ กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ ๘๓ สำนกั งาน ป.ป.ส. ๔๒๐ สำนักงาน ป.ป.ท. ๗๖ สำนักงาน ปปง. ๗๗ สำนกั งานปลัดกระทรวงยตุ ธิ รรม ๑ กองอำนวยการรกั ษาความมั่นคงภายใน ๖ สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ ๕,๑๒๓ ๑.๒ อำนาจของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. มอี ำนาจตามมาตรา ๑๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ ตามรายละเอยี ด ดังนี้ มาตรา ๑๔ เพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ใหก้ รรมการเลขาธิการ รองเลขาธิการ และเจ้าพนักงาน มีอำนาจดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) เข้าไปในเคหสถานหรือสถานท่ีเพ่ือตรวจค้น เม่ือมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามีบุคคลท่ีมี เหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซ่ึงมีไว้เป็นความผิด หรอื ได้มาโดยการกระทำความผิด หรอื ไดใ้ ชห้ รอื จะใชใ้ นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรอื ซงึ่ อาจ ใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ประกอบกับมีเหตุอันควรเช่ือว่าเนื่องจากการเน่ินช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้
บคุ คลนั้นจะหลบหนไี ป หรือทรัพยส์ ินน้นั จะถูกโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลาย หรือทำใหเ้ ปลย่ี นสภาพไปจากเดมิ (๒) ค้นบุคคล หรือยานพาหนะใด ๆ ที่มีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ โดยไมช่ อบด้วยกฎหมาย (๓) จบั กุมบคุ คลใด ๆ ท่กี ระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด (๔) ยึดหรืออายัดยาเสพติดท่ีมีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือทรัพย์สินอ่ืนใดท่ีได้ใช้ หรือจะใช้ใน การกระทำความผดิ เก่ียวกับยาเสพติด หรือทอี่ าจใชเ้ ปน็ พยานหลักฐานได้ (๕) ค้นตามบทบญั ญัติแห่งประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา (๖) สอบสวนผตู้ อ้ งหาในคดีความผดิ เกีย่ วกับยาเสพตดิ (๗) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลใด ๆ หรือเจ้าหน้าท่ีของหน่วยราชการใด ๆ มาให้ถ้อยคำ หรือใหส้ ่งบญั ชเี อกสารหรอื วตั ถุใด ๆ มาเพ่อื ตรวจสอบ หรอื ประกอบการพจิ ารณา นอกจากนี้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ยังมีอำนาจหน้าที่อนื่ ๆ ในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำ ความผดิ เกย่ี วกับยาเสพตดิ กลา่ วคอื ๑) ในกรณีท่ีจำเป็น และมีเหตุผลอันควรเช่ือได้ว่าบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใดเสพยาเสพติด ในเคหสถานสถานท่ใี ด ๆ หรือยานพาหนะ ให้เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. มอี ำนาจตรวจ หรือทดสอบ หรือสั่งใหร้ ับ การตรวจ หรือทดสอบวา่ บุคคล หรอื กล่มุ บคุ คลน้นั มสี ารเสพติดอย่ใู นร่างกายหรือไม่ (มาตรา ๑๔ ทว)ิ ๒) การปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามผกู้ ระทำความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สามารถขอให้บุคคลใดช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าท่ีได้โดยให้ถือว่าบุคคลน้ันมีอำนาจ ช่วยการปฏบิ ตั งิ านของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ได้ (มาตรา ๑๔ ตรี) ๓) เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีอำนาจในการเขา้ ถงึ ขอ้ มูลขา่ วสาร กรณที ีม่ เี หตุอันควรเชอ่ื ไดว้ า่ เอกสาร หรือข้อมูลข่าวสารอ่ืนใด ซ่ึงส่งทางไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรเลข โทรสาร คอมพิวเตอร์ เคร่ืองมือ หรืออุปกรณ์ในการสื่อสาร ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ถูกใช้หรืออาจถูกใช้เพ่ือ ประโยชน์ในการกระทำความผิดเกย่ี วกบั ยาเสพติด (มาตรา ๑๔ จตั วา) ๔) เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีอำนาจในการตรวจตราสถานประกอบการเกี่ยวกับมาตรการบุคคล และสถานที่รวมท้ังการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จากนั้นเจ้าพนักงานมีหน้าท่ีดำเนินการจัดทำรายงานการตรวจตราดังกล่าวเสนอคณะอนุกรรมการ กล่ันกรองการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่จะ นำเสนอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือเลขาธิการ ป.ป.ส. พิจารณาว่าควรมีคำส่ัง ปิดช่ัวคราว หรือส่ังพักใช้ใบอนุญาตประกอบการของสถานประกอบการ ในกรณีท่ีพบว่า มีการกระทำ ความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ (มาตรา ๑๓ ตร)ี ๕) เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติ ปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ใหถ้ ือว่า เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ซง่ึ ไดร้ ับมอบหมายใหม้ อี ำนาจ ตามมาตรา ๑๔ (๓) คือ อำนาจในการจับกุมบุคคลใด ๆ ที่กระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด มีอำนาจ หน้าท่ีเช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้ทั่วราชอาณาจักร และให้มอี ำนาจควบคมุ
คมู่ อื เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ผู้ถูกจับตามมาตรา ๑๕ ไว้เพื่อทำการสอบสวนได้เป็นเวลาไม่เกินสามวัน เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าว หรือก่อนน้ันตามที่จะเห็นสมควรให้ส่งตัวผู้ถูกจับไปยังพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญาเพ่ือดำเนินการต่อไป ท้ังน้ี โดยมิให้ถือว่าการควบคุมผู้ถูกจับดังกล่าวเป็นการควบคุม ของพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา ๑.๓ การกำกบั ดูแลและตดิ ตามผลการปฏิบตั งิ านของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าท่ีและ การกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้กำหนดว่าเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จะต้องรายงานให้เลขาธิการ ป.ป.ส. ทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันท่ีได้ทำการใช้อำนาจ ตามแบบ ท่ีกำหนดเอาไว้ในหมวด ๓ การกำกับดูแล ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของคณะกรรมการในการกำกับดูแล และติดตามประเมินผลการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งการใช้อำนาจตามระเบียบคือการที่ได้ ปฏิบัติ ดังน้ ี ๑) กรณีตรวจพบวา่ มีการกระทำความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพติดในสถานประกอบการ (มาตรา ๑๓ ตร)ี ๒) การใช้อำนาจในการปฏิบตั ิการต่าง ๆ (มาตรา ๑๔ (๑) - (๗)) ๓) การตรวจหรอื ทดสอบบคุ คลเพอื่ หาสารเสพตดิ ในร่างกาย (มาตรา ๑๔ ทวิ) ๔) การขอให้บคุ คลใดช่วยเหลอื การปฏบิ ัติหนา้ ท่ีของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. (มาตรา ๑๔ ตร)ี ๕) การขออนุมัตใิ หเ้ จา้ พนกั งานได้มาซ่ึงขอ้ มลู ข่าวสาร (มาตรา ๑๔ จตั วา) ๖) การควบคุมตัวผู้ถูกจับเอาไว้เพอื่ การสบื สวนขยายผล (มาตรา ๑๕ ) และนอกจากการกำหนดให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต้องรายงานผลการปฏิบัติหน้าท่ีหลังจากการใช้ อำนาจแล้ว เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ท่ีเป็นผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงาน ต้องรายงานความก้าวหน้าของ หนว่ ยงาน เพอ่ื เปน็ การรายงานผลการปฏิบัติงานในภาพรวมของหน่วยงาน รายงานปญั หาอปุ สรรคจากการ ปฏิบัติงาน โดยรายงานมายังเลขาธิการ ป.ป.ส. อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง ซ่ึงในเร่ืองการใช้อำนาจของ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. นั้น อาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซ่ึงได้รับการรับรอง หรือคุ้มครองตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากพระราชบัญญัติฉบับน้ี จะมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจำกัด สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คลตามรฐั ธรรมนญู แตท่ ง้ั นี้ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการปราบปรามการกระทำความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยให้กระทำไดโ้ ดยอาศยั อำนาจตามบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมาย
คู่มือเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ส่วนท่ี ๒ นโยบายปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ
10 ส่วนที่ ๒ นโยบายป้องกันและแกไ้ ขปัญหายาเสพติด การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ของประเทศไทย ภายใตน้ โยบายการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ๒ ช่วง ของการบรหิ ารประเทศ ดังนี้ ช่วงที่ ๑ การดำเนินงานภายใต้ “แผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด อย่างย่ังยืน ปี ๒๕๕๗” คำสัง่ ศนู ย์อำนวยการพลังแผ่นดนิ เอาชนะยาเสพตดิ แหง่ ชาตทิ ี่ ๑๙/๒๕๕๖ ลงวันท่ี ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เรื่องแผนปฏิบตั กิ ารพลงั แผ่นดนิ เอาชนะยาเสพติดปี ๒๕๕๗ ซึ่งกรอบความคิดทางยทุ ธศาสตร์ ปี ๒๕๕๗ ประกอบด้วย ๓ ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ยุทธศาสตร์ต่อเน่ือง คือ การใช้พลังแผ่นดินเอาชนะ ยาเสพติดอย่างต่อเนื่องโดย ๗ แผนงานหลักขับเคลื่อน การปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ยุทธศาสตร์ป้องกัน คือ ป้องกันรายใหม่ ป้องกันพ้ืนที่ ป้องกันการมีพฤติการณ์ซ้ำ ป้องกันครอบครัวและ ปอ้ งกันชุมชน และยทุ ธศาสตรเ์ สรมิ สร้าง คือ การเสรมิ สร้างมาตรการเสริมสรา้ งองค์กรเสรมิ สรา้ งกลไกใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพและเสรมิ สรา้ งงานรองรบั ประชาคมอาเซยี นปี ๒๕๕๘ เพอื่ เปน็ กรอบและทศิ ทางในการปฏบิ ตั งิ าน ให้หน่วยงานที่เก่ียวข้อง ท้ังน้ี “แผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างย่ังยืน ปี ๒๕๕๗” ประกอบด้วย ๗ แผนงานท่สี ำคญั แผนงานท่ี ๑ แผนการสร้างพลงั สังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพตดิ โดยให้ ทุกจังหวัด/อำเภอ ประเมินสถานการณ์และระดับปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน อย่างถูกต้องเพื่อสามารถกำหนด มาตรการกิจกรรมต่อเนื่องได้อย่างชัดเจนสอดคล้องกับความเป็นจริงของแต่ละหมู่บ้าน/ชุมชนและ แบ่งประเภทของหม่บู า้ น/ชุมชนออกเปน็ ๔ ระดับ แผนงานท่ี ๒ แผนการแก้ไขปญั หาผ้เู สพ/ผูต้ ิดยาเสพตดิ โดยมกี ารดำเนินงาน ให้นำผ้เู สพเขา้ บำบดั รักษาทุกระบบในภาพรวมท่ัวประเทศโดยให้ความสำคัญกับระบบสมัครใจเป็นสำคัญ และกระบวนการ มีการติดตามดูแลช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดฟ้ืนฟูฯ อย่างครบวงจร เพ่ือไม่ให้กลับไปเสพติดซ้ำและสามารถ สร้างระบบทางเลอื ก (Diversion) ของการนำผ้เู สพ เข้ารบั การบำบัด แผนงานท่ี ๓ แผนการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด โดยมีการดำเนินงาน ป้องกันเด็กและ เยาวชนก่อนวัยเส่ียงให้มีภูมิคุ้มกันด้านยาเสพติดให้ครอบคลุมนักเรียนต้ังแต่ ช้ันประถมศึกษาที่ ๔ - ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ มกี ารเสรมิ สร้างการป้องกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ใหก้ บั โรงเรยี นและสถานศกึ ษา ระดับขยายโอกาสขึ้นไปจนถึงระดับอุดมศึกษา การป้องกันผู้เสพยาเสพติดรายใหม่ และการเข้าไป ดำเนนิ การในสถานประกอบกจิ การมรี ะบบ ป้องกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ตามเกณฑม์ าตรฐานท่ีกำหนด แผนงานท่ี ๔ แผนการปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย โดยการดำเนินการจับกุมคดี ยาเสพติด การดำเนินคดีในฐานความผิดสมคบสนับสนุนช่วยเหลือ การดำเนินการ ยึด/อายัดทรัพย์สิน ผู้กระทำผิดยาเสพติดแบบบูรณาการ การสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการผลิตและการค้ายาเสพติดท่ีเป็น โครงสร้างหลักของประเทศในทุกระดับท้ังท่ีเป็นเครือข่ายระดับประเทศ ระดับภาค ระดับจังหวัด และ ระดับชมุ ชนโดยให้มกี ารกำหนดเป็นเปา้ หมาย ในแตล่ ะระดับใหช้ ัดเจนกอ่ นปฏบิ ตั ิการ
คู่มือเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. 11 แผนงานที่ ๕ แผนความรว่ มมือระหวา่ งประเทศ โดยการปฏบิ ัตกิ ารความร่วมมือ การป้องกนั และ ปราบปรามยาเสพตดิ เพ่อื รองรบั การเขา้ สู่ประชาคมอาเซยี นในปี ๒๕๕๗ รวมท้งั การขับเคลือ่ นความร่วมมือ ในภูมิภาคและความร่วมมือการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกันกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งความร่วมมือด้านการข่าวการสกัดกั้นการปราบปรามการจับกุม ผคู้ า้ ระดบั สำคญั ความรว่ มมอื ของกลไกตามแนวชายแดนโดยผลกั ดนั การดำเนนิ การภายในประเทศดงั กลา่ ว และการปฏิบัติการร่วมในแต่ละประเทศพร้อมท้ังผลักดันวาระภูมิภาคให้ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรม มากกว่าปี ๒๕๕๖ เสริมสร้างบทบาทนำของประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในเวทีระหว่างประเทศ แผนงานท่ี ๖ แผนการสกัดกั้นยาเสพติด โดยการดำเนินการสกัดก้ันการลักลอบ นำเข้ายาเสพติด จากนอกประเทศด้วยการจับกุมปราบปรามยาเสพติดการสร้างหมู่บ้านตามแนวชายแดนมีความเข้มแข็ง เชิงคุณภาพและสร้างระบบเครือข่ายป้องกันยาเสพติดชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะ อย่างยิ่งในพน้ื ทีช่ ายแดนภาคเหนอื ตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แผนงานที่ ๗ แผนบริหารจัดการแบบบรู ณาการ โดยการจัดทำแผนปฏบิ ัตกิ าร แบบบรู ณาการของ ทุกหน่วยงานเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบบริหารจัดการทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างย่ิงระดับจังหวัดและ อำเภอเป้าหมายสำคัญทั้งในด้านการบูรณาการแผนงาน งบประมาณ บุคคลากร สถานที่ตั้ง การกำกับการ ดำเนนิ งานฯลฯ โดยใหม้ ีการวดั ผลของปัจจัยดงั กล่าว ใหเ้ ปน็ รปู ธรรมรายจงั หวดั และอำเภอเป้าหมาย ชว่ งท่ี ๒ การดำเนนิ งานภายใต้ “มาตรการเร่งดว่ นในการปราบปรามและหยดุ ย้งั การแพรร่ ะบาด ของยาเสพติด” ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติท่ี ๔๑/๒๕๕๗ เรื่อง การปราบปรามและ หยุดย้ังการแพร่ระบาดของยาเสพติด ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เพื่อให้การบริหารราชการของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดให้เป็นไปอย่างมี ประสิทธภิ าพดงั น้ี ๑. ใหก้ องกำลงั รกั ษาความเรยี บร้อย กระทรวงมหาดไทย สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ และชุดปฏิบตั ิ การปราบปรามยาเสพติดของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้นำเข้า และส่งออก รวมท้ังผู้สมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ ให้ได้ผลอย่างจริงจังทุกพ้ืนท่ี สกัดก้ันการลักลอบ นำเข้ายาเสพติดตลอดแนวชายแดน ปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดในทุกหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ และใชม้ าตรการตรวจสอบเพ่ือยดึ หรอื อายัดทรพั ย์สนิ ของผทู้ ีเ่ กี่ยวขอ้ งท้งั ระบบ ๒. ให้หน่วยงานท่ีรับผิดชอบควบคุมตรวจสอบสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ ที่พักอาศัยในเชิงพาณิชย์ประเภทหอพัก อาคารชุด หรือเกสเฮ้าส์ ท่ีให้ผู้อื่นเช่า สถานที่จัดให้มีการเล่น บิลเลียด สนุกเกอร์ รวมท้ังโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและสถานประกอบการอ่ืนๆ หากพบว่ามี การมีการปล่อยปละละเลยให้มีการซุกซ่อน จำหน่าย และเสพยาเสพติดให้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย อย่างเด็ดขาดกบั เจา้ ของหรือผปู้ ระกอบการ ในทนั ที ๓. ให้หน่วยงานท่ีรับผิดชอบนำผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาโดยทันทีและติดตามดูแล ให้ความช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัด ให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติ ท้ังในด้านการศึกษาและ การประกอบอาชีพ โดยประสานงานกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคประชาชนและองค์กรชุมชน
12 ได้เข้ามามสี ว่ นร่วมในการดำเนนิ งานดังกล่าวอยา่ งจริงจัง ๔. เจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดปล่อยปละละเลย หรือเข้าไปมีส่วนเก่ียวข้องกับยาเสพติดจะถูกดำเนิน การทางวินัยและทางอาญาทันที ๕. ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ติดตามผลการดำเนินงานตามข้อ ๑ - ๔ และรายงานผลการปฏิบัติให้ คณะรกั ษาความสงบแห่งชาตทิ ราบอยา่ งตอ่ เน่อื ง ท้งั นี้ สำนกั งาน ป.ป.ส. จงึ กำหนดมาตรการเร่งด่วนในการปราบปรามและหยุดยง้ั การแพร่ระบาด ของยาเสพติด ประกอบด้วย ๖ มาตรการ ได้แก่ มาตรการที่ ๑ การสกดั ก้นั ปราบปรามจบั กมุ และหยดุ ย้ังการแพรร่ ะบาดยาเสพตดิ โดยเนน้ การ ดำเนินงานในการสกัดกั้นยาเสพติด การปราบปรามและจับกุมคดียาเสพติด พร้อมทั้งการเข้าไปดำเนินงาน เพ่ือหยดุ ยง้ั การแพรร่ ะบาดยาเสพติดในหมบู่ ้าน/ชุมชนเป้าหมาย มาตรการท่ี ๒ การจัดระเบียบสังคมและเฝ้าระวังสถานบริการและสถานประกอบการ โดยเน้น การดำเนินงานในเรื่องของการจัดระเบียบสังคมในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เช่น สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วย สถานบรกิ าร ทีพ่ กั อาศยั ในเชงิ พาณชิ ย์ประเภทหอพกั อาคารชุด หรอื เกสเฮ้าส์ท่ีให้ผู้อ่ืนเชา่ สถานทีจ่ ัดใหม้ ี การเล่นบิลเลียด สนุกเกอร์ รวมทั้งโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและสถานประกอบการอนื่ ๆ โดยใช้ มาตรการทางสังคม และมาตรการทางกฎหมายอยา่ งเครง่ ครัด มาตรการที่ ๓ การบำบดั ฟนื้ ฟูและสร้างภูมิค้มุ กนั โดยเนน้ การบำบัดฟน้ื ฟูผู้เสพ/ผตู้ ดิ ยาเสพติดท้งั ๓ ระบบ และการติดตามช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดเพ่ือให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ พรอ้ มท้ังการสร้างภูมคิ ุ้มกันในกลุม่ เยาวชนทัง้ ในและนอกสถานศกึ ษาเพอื่ ไม่ให้เข้าไปยงุ่ เก่ยี วกับยาเสพตดิ มาตรการท่ี ๔ การยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบโดยเน้นการดำเนินงานเกี่ยวกับ การบังคับใช้กฎหมาย ในการยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง ท้ังระบบรวมทั้งผู้สมคบและสนับสนุน ชว่ ยเหลอื ให้ได้ผลอยา่ งจริงจงั ทุกพ้นื ที่ มาตรการที่ ๕ การดำเนนิ การกบั เจา้ หนา้ ทรี่ ฐั ทเ่ี ขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ โดยเนน้ การดำเนนิ การ กับเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดท้ังท่ีมี การร้องเรียนจากประชาชน และผู้ท่ีถูก จับกุมคดีท่เี ข้าไปเก่ยี วขอ้ งกับยาเสพติดโดยการดำเนนิ การทางวินัยและทางอาญา มาตรการที่ ๖ การติดตามประเมินผลและรายงานผลการปฏิบัติ โดยทางสำนักงาน ป.ป.ส. ได้มี การดำเนินการในการรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประจำทุกสัปดาห์ อย่างต่อเน่ือง พร้อมท้ังมีการประเมินผลการดำเนินงานตาม “มาตรการเร่งด่วนในการปราบปรามและ หยุดยั้งการแพรร่ ะบาดของยาเสพตดิ ” โดยสถาบนั การศกึ ษาชั้นนำของประเทศ
คู่มือเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส.1 3 สว่ นท่ี ๓ ผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพตดิ
14 ส่วนท่ี ๓ ผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด ๑. จับกมุ คดยี าเสพติดรวม ๓๔๗,๐๒๘ คดี ผตู้ อ้ งหา ๓๖๕,๙๑๘ คน ๒. จับกุมคดียาเสพติดในฐานความผิดสำคัญ (ผลิต, นำเข้า, ส่งออก, จำหน่าย, ครอบครอง เพื่อจำหน่าย) เป้าหมายร้อยละ ๒๐ ของคดียาเสพติดทั่วประเทศ มีการจับกุม ได้จำนวน ๖๗,๕๐๗ คดี คิดเป็นร้อยละ ๑๙.๔๕ มีผู้ตอ้ งหา ๘๐,๘๕๕ คน ๓. ของกลางยาเสพติดที่จับกุม ได้แก่ ยาบ้า ๙๖,๑๕๕,๙๑๒ เม็ด เฮโรอีน ๔๙๗.๓๐ กิโลกรัม ไอซ์ ๑,๐๗๓.๖๐ กิโลกรมั กญั ชา ๒๘,๑๐๔.๕๔ กิโลกรมั ๔. จบั กมุ คดยี าเสพตดิ ฐานความผดิ สมคบ สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื เปา้ หมาย ๕๐๐ คดี มกี ารดำเนนิ การ ขออนมุ ัติ ๗๓๔ คดี คิดเปน็ ร้อยละ ๑๔๖.๘๐ ผตู้ ้องหา ๒,๑๘๘ คน ๕. การยึด/อายัดทรัพย์สินผู้กระทำผิดคดียาเสพติด เป้าหมาย ๒,๐๐๐ ล้านบาท สามารถ ยดึ /อายัดทรัพยส์ นิ ได้ จำนวน ๓,๘๙๑ ราย มูลคา่ ทรพั ยส์ ิน ๑,๔๕๔.๔๔ ลา้ นบาท คดิ เป็น รอ้ ยละ ๗๒.๗๐ (ผลการยดึ /อายดั ทรพั ยส์ นิ ของสำนกั งาน ป.ป.ส. จำนวน ๓,๗๘๒ ราย มลู คา่ ทรพั ยส์ นิ ๑,๓๑๒.๑๓ ลา้ นบาท/ สำนักงาน ปปง. จำนวน ๑๐๙ ราย มลู ค่าทรัพย์สนิ ๑๔๒.๓๑ ล้านบาท) การจบั กุมคดียาเสพติดรายสำคัญ วนั ท่ี ๑๑ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. เลขาธกิ าร ป.ป.ส. แถลงขา่ วจบั กมุ แกง๊ คา้ ไอซข์ า้ มชาติ จำนวน ๖ คนจาก ๔ ประเทศ พร้อมของกลางเป็นไอซ์ ๓.๕ กิโลกรัม โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สืบสวนติดตามเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติกลุ่มน้ีมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี พฤติการณ์ในการส่ังซื้อไอซ์จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลักลอบส่งผ่านบริษัทส่งสินค้าและ พัสดุภัณฑ์ เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์และช่ือเสียงของ ประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการสืบทราบว่าจะมีการลักลอบส่งไอซ์เข้ามาในประเทศไทยเพ่ือ จำหน่ายตามสถานท่ีท่องเที่ยวต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร ทั้งซอยนานา ถนนข้าวสาร และซอยคาวบอย โดยสง่ มาจากเมอื งกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีนผ่านทางบรษิ ัท ทที ีไอ อินเตอรจ์ ำกดั เจ้าหนา้ ท่ี ป.ป.ส. จึงได้เฝ้าติดตามมาโดยตลอดสำหรับผู้ต้องหาท้ัง ๖ คน ประกอบด้วย ๑) นายนานังซูเฮนดร้า ชาวอินโดนเี ซีย อายุ ๓๗ ปี ๒) นางอตี โิ รเฮติ อาเซป เจลานี ชาวอนิ โดนเี ซีย อายุ ๓๘ ปี ๓) นางฮาบบี ะ ชาวอนิ โดนเี ซยี อายุ ๕๗ ปี ๔) น.ส.อาคโิ น คามลิ เลแม ชาวฟลิ ปิ ปนิ ส์ อายุ ๒๙ ปี ๕) นายโอโกเลฟ่ รานซสิ อเี ซอู ชาวไนจีเรีย อายุ ๓๕ ปี และ ๖) นายฮาสซานมามัน (Mr.HassaneMaman) อายุ ๓๒ ปีชาวไนเจอร์ นอกจากนย้ี งั พบผงแปง้ สขี าวบรรจอุ ยใู่ นถงุ ยางอนามยั อกี ๔๙ กอ้ น สอบสวนผตู้ อ้ งหาใหก้ ารรบั สารภาพวา่ จะนำไอซ์ท้ังหมดไปจำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตามแหล่งท่องเท่ียวในกรุงเทพมหานคร โดยจะมี นักท่องเที่ยวมาหาซ้ือไอซ์เพื่อนำไปเสพตามท่ีพักท้ังบริเวณซอยนานา ถนนข้าวสาร และซอยคาวบอย สว่ นถงุ แปง้ จำนวน ๔๙ ก้อน ดงั กล่าวผู้ต้องหาให้การวา่ นำมาใชใ้ นการฝกึ ซ้อมกลนื หรอื ซุกซอ่ นไว้ในบริเวณ ร่างกายส่วนต่าง ๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจพบของเจ้าหน้าท่ีในขณะเดินทางผ่านจุดตรวจต่างๆ โดยเจ้าหน้าท่ี ป.ป.ส. ยังพบบัญชีรายช่ือของคนไทยและชาวต่างชาติอีก ๑๒ คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง
คูม่ อื เจา้ พนักงาน ป.ป.ส.1 5 ซง่ึ คาดวา่ น่าจะเป็นผ้ทู ่กี ลุ่มผู้ต้องหาไดช้ กั ชวนให้มาฝกึ ซอ้ มการกลนื กอ้ นผงแป้งดงั กลา่ ว กอ่ นท่จี ะส่งตวั ไปท่ี ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และนำไอซ์ซุกซ่อนกลับเข้ามาขาย สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สืบสวนติดตาม เครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติกลุ่มน้ีมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีพฤติการณ์ในการสั่งซื้อไอซ์จากประเทศ สาธารณรฐั ประชาชนจนี ลกั ลอบสง่ ผา่ นบรษิ ทั สง่ สนิ คา้ และพสั ดภุ ณั ฑใ์ นประเทศไทยตอ่ ไป มกี ารดำเนนิ คดกี บั ผตู้ อ้ งหาทงั้ หมดในขอ้ หา มยี าเสพตดิ ใหโ้ ทษ ประเภท ๑ (ไอซ)์ ไวใ้ นครอบครองเพอื่ จำหนา่ ย โดยผดิ กฎหมาย ตามพระราชบญั ญัตยิ าเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มีอัตราโทษสูงสดุ ประหารชวี ติ วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.๐๐ น. สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกองบังคับการสืบสวน สอบสวนตำรวจภธู รภาค ๑ จับกมุ นายนริ นั ดร์ โคทงั คะ อายุ ๓๕ ปีพรอ้ มกัญชาอดั แท่ง นำ้ หนกั ประมาณ ๑,๐๐๐ กิโลกรัม เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ ๕๕-๕๖ ขาเข้า หมู่ท่ี ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กัญชาล็อตน้ีขนมาปนกับหินที่ใช้ก่อสร้าง โดยใช้รถพ่วง ๑๘ ล้อ เป็นพาหนะทใี่ ช้ในการขนส่ง ไดน้ ำตวั ผตู้ อ้ งหาสง่ พนักงานสอบสวนสถานตี ำรวจภูธรวังน้อยเพื่อดำเนินคดี วนั ที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๐๐น. ผบู้ งั คบั การกองบงั คบั การสบื สวนสอบสวนตำรวจภธู ร ภาค ๑ ร่วมกับ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมกำลังนำหมายศาลธัญบุรี เข้าตรวจค้นโกดังให้เช่าริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เลขที่ ๕/๓ ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นโกดังให้เช่าเก็บสินค้า ท้ังนี้จากการขยายผลของชุดสืบสวน ภาค ๑ ท่ีจับกุมผู้ต้องหา ได้ท่ี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เม่ือวันท่ี ๒๖ เมษายน ๒๕๕๗ ท่ีผ่านมา ทราบว่าจะมีกัญชาอัดแท่ง จำนวนมาก ส่งมาจากประเทศเพ่ือนบ้านเข้ามาทางจังหวัดนครพนม และนำเข้ามาบรรจุหีบห่อในพื้นท่ี อำเภอลำลกู กา จงั หวดั ปทุมธานี เพ่ือเตรียมสง่ ออกไปยังตา่ งประเทศ จึงจัดชุดสืบสวนลงพ้นื ที่ จนทราบวา่ โกดังให้เช่าเก็บสินค้าดังกล่าว มีการลักลอบนำกัญชาบรรจุหีบห่อเพ่ือส่งต่อไปต่างประเทศ จึงนำกำลังเข้า ตรวจค้นพบกัญชาทบ่ี รรจุเป็นหบี ห่อหุ้มด้วยพลาสตกิ อยา่ งดจี ำนวน ๕ พาเลต พาเลตละ ๑,๐๐๐ กิโลกรมั โดยติดสลากข้างกล่อง TOWEL เตรียมส่งออกนอกประเทศจากน้ันเข้าตรวจค้นที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญศิริ บรรจุภัณฑ์ แต่ไม่พบตัวเจ้าของ พบนางสาวเสาวณี พาหนองแดง อายุ ๓๔ ปี ดูแลอยู่คนเดียว จากการ ตรวจคน้ พบทองคำแท่ง มนี ำ้ หนกั ประมาณครึง่ กิโลกรัม จึงนำตัวนางสาวเสาวณี มาสอบสวนทส่ี ถานีตำรวจ ภธู รลำลกู กา สำหรบั การจบั กมุ กญั ชาอดั แทง่ ครงั้ นน้ี บั วา่ เปน็ รายใหญท่ ส่ี ดุ ทเี่ คยจบั มารวมแลว้ ถงึ ๕ ตนั วนั ที่ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๓๐ น. สถานตี ำรวจภธู รอำเภอแมส่ าย จบั กมุ ตำรวจตำแหนง่ รองผกู้ ำกบั การปอ้ งกนั และปราบปราม สถานตี ำรวจภธู รอำเภอไชยปราการ จงั หวดั เชยี งใหม่ พรอ้ มของกลาง ยาบ้าจำนวน ๘๐๐,๐๐๐ เม็ด ไอซ์ ๑ กิโลกรัม มูลค่ากว่า ๑๖๔ ล้านบาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างจากขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มไทยใหญ่ โดยรับมาจากหน้าห้างโลตัสแม่สายเพ่ือที่จะขนไปส่งท่ี กรุงเทพมหานคร สาเหตุท่ีต้องทำอย่างนี้เพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ท่ีตนมีอยู่ เช่น หน้ีสหกรณ์ตำรวจ และ ผอ่ นบา้ นอกี ๒ หลัง จึงตดั สินใจรับงานนกี้ ระท่ังมาถกู จับ ต่อมาสำนกั งาน ป.ป.ส. รว่ มกบั ตำรวจภธู รภาค ๕ ขยายผลตรวจคน้ บา้ นเลขที่ ๑๑๒/๒๒๕ หมทู่ ี่ ๘ ตำบลตน้ ธงชยั อำเภอเมอื ง จงั หวดั ลำปาง ผลการตรวจคน้ ไมพ่ บสงิ่ ผดิ กฎหมายและขยายผลตรวจสอบทรพั ยส์ นิ บา้ นทอี่ ำเภอสบปราบ จงั หวดั ลำปาง และ บา้ นนางเหมย ศรนี ทที ันดร อายุ ๓๐ปี ภรรยา บ้านเลขที่ ๓๑๙/๒ หมู่ ๙ ตำบลโชคชยั อำเภอดอยหลวง จังหวดั เชยี งราย พบตู้เซฟเก็บทองคำแท่ง ๑๕ แท่ง แต่ละแท่งหนัก ๑๐ บาท รวมท้ังหมด ๑๕๐ บาท มูลค่าประมาณ
16 ๓ ล้านบาท นางเหมย ศรีนทีทันดร สวมช่ือในบัตรประชาชนของ นางสาวเหมย ศรีทันดร ซ่ึงที่อยู่ใน ประเทศสหรฐั อเมรกิ า โดยมีเจ้าหน้าของรฐั รว่ มขบวนการถา่ ยรปู ทำบตั รประชาชน วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๒๒.๓๐ น. สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับชุดปราบปรามผู้ค้า รายสำคัญกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค ๒ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ท่ี ๒๔ ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย (ชป.๑๒๒๑) และเจ้าหน้าที่ DEA ตรวจยึดยาบ้า ๑,๖๔๖,๐๐๐ เม็ด ที่ริมถนนข้างหลักกิโลเมตรเส้นเหล่าหลวง-ดงบัง (ห่างจากบ้าน เหล่าหลวง ๓ กม.) พน้ื ทบ่ี า้ นดงบงั ตำบลดงบงั อำเภอโขงหลง จงั หวดั บงึ กาฬ กอ่ นขยายผลไปจบั กมุ ผตู้ อ้ งหาไดเ้ พมิ่ อกี ๒ คน กอ่ นขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาไดเ้ พิม่ อกี ๒ คน เมื่อวนั ท่ี ๒๒ สงิ หาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.๒๐ น. โดยจับกมุ ได้ทปี่ ม๊ั บางจาก ถนนพหลโยธนิ กิโลเมตรที่ ๖๙ ตำบลชะแมบ อำเภอวงั น้อย จงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา
ค่มู อื เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส.1 7 สว่ นที่ ๔ ปัญหาอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ
18 สว่ นท่ี ๔ ปญั หาอปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะในการแก้ไขปญั หา ปญั หาอปุ สรรคทพี่ บ การใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นการใช้อำนาจพิเศษท่ีมีบทยกเว้นการใช้อำนาจท่ัวไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การตรวจค้นจับกุมโดยไม่ต้องมีหมายศาล การใช้อำนาจ อาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ดังนั้นเม่ือมีการให้อำนาจในการปฏิบัติงาน เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พึงมีหน้าที่ต้องรายงานการใช้อำนาจดังกล่าวเพ่ือเป็นการติดตามกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชา และป้องกัน มิให้มีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามท่ีกฎหมายกำหนด แต่ปัญหาที่พบคือเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีการายงาน การใช้อำนาจเข้ามายังเลขาธิการ ป.ป.ส. น้อยมากเม่ือเทียบกับจำนวนเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จำนวน ๙,๐๔๔ ราย ขอ้ เสนอแนะเพอื่ แก้ไขปัญหา ผบู้ ังคบั บญั ชาหัวหน้าหน่วยงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ควรตอ้ งควบคมุ กำกับดูแลและตรวจสอบ ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาใหป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทแ่ี ละใชอ้ ำนาจของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ใหถ้ กู ตอ้ งตามกฎหมาย และเนน้ ยำ้ ให้ มีการรายงานการใชอ้ ำนาจทกุ ครง้ั ทมี่ กี ารปฏบิ ัติงาน
19 ภาคผนวก
20 พระราชบัญญตั ิ ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ (๑) ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นปที ี่ ๓๑ ในรชั กาลปัจจบุ ัน พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยท่ีเปน็ การสมควรมกี ฎหมายว่าดว้ ยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๐ มาตรา ๒๓๗ และมาตรา ๒๓๘ ของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บัญญตั ใิ ห้กระทำไดโ้ ดยอาศยั อำนาจตามบทบญั ญัติแห่งกฎหมาย(๒) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาท่ีปรึกษา ของนายกรฐั มนตรีทำหน้าที่สภาปฏริ ูปการปกครองแผ่นดนิ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบญั ญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบญั ญัตปิ อ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙” (๓) มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินใี้ ห้ใช้บงั คบั ตง้ั แต่วนั ถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี (๔) “ยาเสพติด” หมายความว่า ยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท และสารระเหยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช ้ สารระเหย (๑) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ (๒) ข้อความดังกล่าวเพ่ิมเติมโดย พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๑๑๗ ตอนท่ี ๓๗ ก ลงวนั ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๔๓ และ พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งประกาศใน ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ๑๑๙ ตอนที่ ๙๖ ก ลงวันท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๔๕ (๓) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบบั พเิ ศษ เล่ม ๙๓ ตอนท่ี ๑๔๔ ลงวนั ท่ี ๑๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๙ (๔) ขอ้ ความเดมิ ถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๓ และใหใ้ ชข้ อ้ ความทพี่ มิ พไ์ วน้ แี้ ทน หมายเหตุ : พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ๒) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๘ ตอนที่ ๑๗๐ ลงวนั ท่ี ๒๗ กนั ยายน ๒๕๓๔
21 (๕) “กฎหมายเก่ียวกับยาเสพติด” หมายความว่า กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กฎหมายว่าด้วย วัตถุท่ีออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท กฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช้สารระเหย และกฎหมายว่าด้วย มาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทำความผิดเก่ยี วกับยาเสพติด (๖) (๗) “ความผดิ เก่ยี วกบั ยาเสพตดิ ” หมายความวา่ ความผิดตามทบี่ ัญญัติไว้ในกฎหมายเก่ียวกับยาเสพติด “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหมายความรวมถึง ประธานกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติดดว้ ย “เลขาธิการ” หมายความวา่ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ “รฐั มนตรี” หมายความว่า รฐั มนตรผี รู้ ักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ้ี “เจ้าพนกั งาน” หมายความว่า ผซู้ ่ึงเลขาธกิ ารแต่งต้งั ใหป้ ฏิบตั กิ ารตามพระราชบัญญตั นิ ้ี มาตรา ๔ พระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือนถึงอำนาจหน้าท่ีของส่วนราชการ หรือของเจ้าหน้าที่ ของส่วนราชการใดตามกฎหมายเกีย่ วกับยาเสพตดิ ในกรณีมีปัญหาเก่ียวกับการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหรือเจ้าพนักงาน และของ ส่วนราชการหรือเจ้าหน้าท่ีของส่วนราชการท่ีมีอำนาจเก่ียวกับยาเสพติด ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยและ วางระเบยี บเก่ยี วกับการปฏบิ ตั ริ าชการและการประสานงาน (๘) มาตรา ๕ ให้มคี ณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด เรยี กโดยย่อวา่ “ป.ป.ส.” ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซ่ึงนายกรัฐมนตรีมอบหมาย รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงต่างประเทศ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงพฒั นาสงั คมและ ความม่ันคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่การ กระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวง ยตุ ธิ รรม ผอู้ ำนวยการสำนกั งบประมาณ ผบู้ ญั ชาการทหารสงู สดุ ผบู้ ญั ชาการทหารบก ผบู้ ญั ชาการตำรวจแหง่ ชาติ อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมสรรพากร เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อัยการสูงสุด เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิท่ีคณะรัฐมนตรีแต่งต้ังไม่เกินสามคน และเลขาธกิ ารเป็นกรรมการและเลขานุการ ให้คณะกรรมการแต่งต้ังข้าราชการในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน ไมเ่ กนิ สองคน เปน็ ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร มาตรา ๖ กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งต้ัง มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี กรรมการซ่ึงพ้น จากตำแหนง่ อาจได้รบั การแต่งต้งั อีกได้ (๕) ข้อความเดิมถูกยกเลิกโดย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๓ และให้ใช้ข้อความ ที่พมิ พ์ไวน้ แี้ ทน (๖) หมายถึง พ.ร.บ. ยาเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ซงึ่ แกไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๓ และ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ร.บ. วัตถุทอี่ อกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึง่ แกไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๓ พ.ร.ก.ป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ.๒๕๓๓ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.ปอ้ งกันการใชส้ ารระเหย พ.ศ.๒๕๓๓ พ.ศ.๒๕๔๒ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ และ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๐ และ พ.ร.บ.มาตรการใน การปราบปรามผ้กู ระทำความผดิ เกีย่ วกบั ยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๔ ซึ่งแกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๓ (๗) บทนิยามคำว่า “ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด” เพมิ่ เตมิ โดย พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓ (๘) ข้อความเดิมถูกยกเลิกโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และใหใ้ ช้ขอ้ ความท่พี ิมพ์ไวน้ ้ีแทน
22 มาตรา ๗ กรรมการซึ่งคณะรฐั มนตรแี ต่งตัง้ พ้นจากตำแหนง่ ก่อนวาระ เม่ือ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะรฐั มนตรีใหอ้ อก (๔) เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรือเสมือนไรค้ วามสามารถ (๕) ไดร้ บั โทษจำคกุ โดยคำพพิ ากษาถงึ ทสี่ ุดให้จำคุก เม่ือกรรมการพ้นจากตำแหนง่ ก่อนวาระ คณะรฐั มนตรีอาจแต่งตง้ั ผ้อู น่ื แทนได้ กรรมการซง่ึ ได้รบั แตง่ ตั้งซ่อมหรือแต่งตงั้ เพม่ิ อย่ใู นตำแหนง่ เท่าวาระทเี่ หลืออยขู่ องกรรมการอืน่ มาตรา ๘ ในการประชมุ ของคณะกรรมการ ถา้ ประธานไม่มาประชมุ หรอื ไม่อยใู่ นท่ปี ระชมุ ใหก้ รรมการ ที่มาประชมุ เลอื กกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในทปี่ ระชุม มาตรา ๙ การประชุมทุกคร้ัง ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงจำนวนของจำนวนกรรมการ ทั้งหมดจึงจะเปน็ องคป์ ระชุม การวินิจฉัยช้ีขาดให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหน่ึงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียง เท่ากัน ใหป้ ระธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มข้ึนอกี เสียงหนึ่งเปน็ เสยี งชีข้ าด (๙) มาตรา ๑๐ คณะกรรมการจะตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาหรือคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาหรือ ทำการใดๆ แทนคณะกรรมการกไ็ ด้ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหน่ึงให้กรรมการท่ีปรึกษาหรืออนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา (๑๐) มาตรา ๑๑ ให้มีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เรียกโดยย่อว่า “สำนักงาน ป.ป.ส.” เป็นหนว่ ยงานในกระทรวงยุตธิ รรม(๑๑) มีอำนาจหน้าทีด่ ังต่อไปนี้ (๑) ดำเนนิ งานในฐานะหน่วยงานปฏบิ ัติของคณะกรรมการตามอำนาจและหนา้ ที่ท่กี ำหนด (๒) ประสานนโยบาย แผน งบประมาณ และการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกับหน่วย งานอ่นื ท่เี ก่ียวข้องทงั้ ภาครฐั และเอกชน (๓) สนับสนุนข้อมูล ข่าวสาร วชิ าการ ตลอดจนพฒั นาบคุ ลากรของหนว่ ยงานที่เก่ียวข้องทงั้ ภาครัฐและ เอกชนในประเทศและต่างประเทศ (๔) ปฏิบตั ิงานด้านการประชาสัมพันธ์ต่อตา้ นยาเสพตดิ (๕) ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศในด้านการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด (๖) ประสาน ตรวจสอบ ตลอดจนติดตามและประเมินผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปราม ยาเสพติดของหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้อง (๙) ขอ้ ความเดมิ ถกู ยกเลิกโดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๕ และให้ใชข้ อ้ ความทพี่ ิมพไ์ วน้ แ้ี ทน (๑๐) ข้อความเดมิ ถกู ยกเลิกโดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๖ และใหใ้ ชข้ อ้ ความท่พี ิมพ์ไวน้ ้แี ทน (๑๑) แกไ้ ขเปลี่ยนแปลงโดย พ.ร.บ.ปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓๓ และ พ.ร.ฎ.โอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของ ส่วนราชการใหเ้ ปน็ ไปตาม พ.ร.บ.ปรบั ปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๑๒
23 (๗) ปฏิบตั ริ าชการอืน่ ตามทคี่ ณะกรรมการมอบหมายหรอื ตามทก่ี ฎหมายกำหนด (๑๒) มาตรา ๑๒ ให้มีเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีหน้าที่ควบคุมดูแล โดยทั่วไปซ่ึงราชการของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ข้ึนตรงต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม(๑๓) และเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสำนักงาน และให้มีรองเลขาธิการเป็น ผูช้ ่วยปฏิบัติราชการ มาตรา ๑๓ ใหค้ ณะกรรมการมีอำนาจและหน้าท่ีดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) (๑๔) กำหนดยทุ ธศาสตร์ นโยบาย แผนงาน มาตรการและกลไกในการสกัดกั้น ป้องกนั และปราบปราม บำบัดรักษา และแก้ไขปัญหายาเสตพิด ในทุกพื้นที่ เพ่ือให้ทุกส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้องสามารถบูรณาการการ ดำเนินงานรว่ มกนั อยา่ งเปน็ เอกภาพ ครบวงจร เกดิ ปรสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลสงู สดุ (๒) (๑๕) กหนดยทุ ธศาสตรแ์ ละแนวทางในการประสานความรว่ มมือกับประเทศตา่ งๆ หรอื องค์การระหวา่ ง ประเทศ เพ่ือปราบปรามการลักลอบผลิตและค้ายาเสพติด รวมท้ังประสานงานการข่าวเพื่อสกัดก้ันและ ปราบปรามจับกมุ ขบวนการและเครอื ข่ายการคา้ ยาเสพตดิ ระหวา่ งประเทศ (๓) (๑๖) ควบคุม เร่งรัด และประสานงาน เพ่ือการปฏิบัติงานของส่วนราชการท่ีมีอำนาจหน้าที่ในการ สบื สวน สอบสวน ปราบปราม การฟ้องคดี และการบงั คับโทษตามกฎหมายเก่ียวกับยาเสพตดิ (๔) (๑๗) กำหนดสถานะของพ้ืนที่หรือกลุ่มพ้ืนที่ในแต่ละปี หรือพื้นที่ท่ีมีความจำเป็นเร่งด่วนและกำหนด ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวเพ่ือป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมกับกำหนดให้มีกลไกโครงสร้าง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งจัดสรรทรัพยากรท่ีเหมาะสมกับสถานะของปัญหาและให้ส่วนราชการ ใหก้ ารสนบั สนุนตามท่ีรอ้ งขอ (๕) (๑๘) วางโครงการและดำเนินการ ตลอดจนส่ังให้ส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้องดำเนินการเผยแพร่ความร้ ู เก่ยี วกบั ยาเสพติด (๖) (๑๙) เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการหรืองาน แผนงานหรือ หรือโครงการของสว่ นราชการท่มี อี ำนาจหนา้ ทใ่ี นการปฏบิ ัติการตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด (๗) (๒๐) ประสานงานและกำกบั การเกยี่ วกบั การบำบดั รักษาและฟืน้ ฟูสมรรถภาพผตู้ ิดยาเสพติด (๘) (๒๑) พิจารณาอนุมัติหรือมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้งเจ้าพนักงานเพื่อ ปฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ (๙) (๒๒) เสนอความเห็นตอ่ คณะรัฐมนตรี เพือ่ กำหนดมาตรการป้องกนั และปราบปรามการกระทำความผิด เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ ในสถานประกอบการและกำหนดใหส้ ถานทซี่ งึ่ ใชใ้ นการประกอบธรุ กจิ ใดๆ เปน็ สถานประกอบการ ท่ีอยภู่ ายใต้บังคบั ของมาตรการดงั กลา่ ว (๒๓) (๑๐) เสนอความเห็นเก่ียวกับการให้ความดีความชอบหรือโยกย้ายหรือลงโทษทางวินัยต่อข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถ่ิน พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐท่ีได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ี เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ตลอดจนขอให้ ส่วนราชการเจ้าสังกัดเร่งรัดการดำเนินการท่ีเก่ียวข้อง รวมทั้งให้ความคุ้มครองแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่ปี ฏิบตั งิ านดา้ นยาเสพติด (๑๒) ข้อความเดมิ ถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๖ และให้ใชข้ ้อความท่ีพมิ พ์ไว้นแี้ ทน (๑๓) เนื่องจาก พ.ร.ฎ.โอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๓ (๑) ได้โอนบรรดากจิ การ อำนาจหน้าท่ี ทรัพย์สนิ งบประมาณ หน้ี สิทธิภาระ ผกู พัน ข้าราชการ ลูกจ้าง และ อัตรากำลังของสำนกั นายกรฐั มนตรี ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ส. มาเป็นของสำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ดงั นน้ั สำนกั งาน ป.ป.ส. จึงขน้ึ ตรงตอ่ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงยตุ ธิ รรม (๑๔) (๑๕) (๑๖)(๑๗) ขอ้ ความเดิมถูกยกเลิกโดยประกาศคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และให้ใช ้ ข้อความทีพ่ ิมพไ์ วน้ แี้ ทน (๑๘) (๑๙) (๒๐)(๒๑) ขอ้ ความเดมิ ถูกยกเลกิ โดยประกาศคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และใหใ้ ช ้ ขอ้ ความทพี่ มิ พไ์ ว้นแ้ี ทน (๒๒) (๒๓) (๒๔)(๒๕)(๒๖) ข้อความเดิมถูกยกเลิกโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และให้ใช้ข้อความทพ่ี มิ พ์ไวน้ ีแ้ ทน
24 (๒๔) (๑๑) พิจารณาและดำเนินการจัดสรรงบประมาณด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้แก ่ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งกำกับและติดตาม การใชง้ บประมาณของหน่วยงานดงั กลา่ ว (๑๒) (๒๕) สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปราม ยาเสพตดิ (๒๖) (๑๓) ปฏิบตั ิการอนื่ ใดตามทพ่ี ระราชบัญญัติน้บี ัญญตั ิให้เป็นอำนาจหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการ (๒๗) มาตรา ๑๓ ทว ิ ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอำนาจออกประกาศกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการและประกาศ กำหนดให้สถานที่ซึ่งใช้ในการประกอบธุรกิจใดๆ เป็นสถานประกอบการท่ีอยู่ภายใต้บังคับของมาตรการดังกล่าว ทง้ั น้ี โดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา (๒๘) มาตรา ๑๓ ตรี ในกรณีท่ีเจ้าพนักงานตรวจพบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถาน ประกอบการตามมาตรา ๑๓ ทวิ หากเจา้ ของหรือผ้ดู ำเนินกิจการสถานประกอบการดังกลา่ ว ไม่สามารถชี้แจงหรือ พสิ จู น์ให้คณะกรรมการเชอื่ ไดว้ ่าตนไดใ้ ชค้ วามระมดั ระวงั ตามสมควรแก่กรณแี ล้ว ใหค้ ณะกรรมการมีอำนาจสัง่ ปดิ สถานประกอบการแหง่ น้นั ช่วั คราว หรอื สัง่ พกั ใช้ใบอนญุ าตประกอบการสำหรบั การประกอบธรุ กิจน้ัน แลว้ แตก่ รณี เว้นแต่ ในกรณจี ำเปน็ เรง่ ด่วน ให้เลขาธิการมอี ำนาจในการดำเนนิ การดังกลา่ ว ทัง้ นี้ ตอ้ งไม่เกินครงั้ ละสามสิบวัน นับแต่วันทเ่ี จา้ ของหรอื ผ้ดู ำเนินกจิ การสถานประกอบการน้ันทราบคำสง่ั ในกรณีที่สถานประกอบการซ่ึงถูกส่ังปิดชั่วคราวหรือถูกส่ังพักใช้ใบอนุญาตประกอบการตามวรรคหน่ึง เป็นสถานประกอบการซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมการประกอบธุรกิจตามกฎหมายอ่ืน ให้เลขาธิการแจ้งให ้ หน่วยงานซึง่ ควบคุมการประกอบธุรกิจนนั้ ทราบ และให้หนว่ ยงานดงั กล่าวถอื ปฏิบตั ิตามนน้ั การส่ังปิดชั่วคราวหรือการสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบการ และการแจ้งให้เจ้าของ หรือผู้ดำเนินกิจการ สถานประกอบการทราบตามวรรคหนึ่ง และการแจ้งให้หน่วยงานทราบตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ ์ วิธีการ และเงือ่ นไขทรี่ ฐั มนตรีประกาศกำหนด (๒๙) มาตรา ๑๔ เพ่ือดำเนินการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ให้กรรมการ เลขาธกิ าร รองเลขาธิการและเจ้าพนกั งานมอี ำนาจดังต่อไปนี ้ (๑) เข้าไปในเคหสถาน หรือสถานที่ใดๆ เพ่ือตรวจค้นเม่ือมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามีบุคคลท่ีมี เหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มา โดยการกระทำความผดิ หรือได้ใช้หรือจะใชใ้ นการกระทำความผิดเกีย่ วกบั ยาเสพติด หรอื ซ่งึ อาจใช้เป็นพยานหลัก ฐานได้ ประกอบกับมเี หตุอนั ควรเชื่อวา่ เนอื่ งจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายคน้ มาได้ บคุ คลน้นั จะหลบหนีไป หรอื ทรัพย์สนิ นนั้ จะถกู โยกย้าย ซกุ ซอ่ น ทำลาย หรอื ทำให้เปล่ียนสภาพไปจากเดิม (๒) ค้นบุคคล หรือยานพาหนะใดๆ ท่ีมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ โดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย (๓) จบั กุมบุคคลใดๆ ท่ีกระทำความผดิ เกย่ี วกับยาเสพตดิ (๔) ยึดหรืออายัดยาเสพติดที่มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือทรัพย์สินอ่ืนใดท่ีได้ใช้หรือจะใช้ในการ กระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด หรอื ท่อี าจใช้เปน็ พยานหลกั ฐานได้ (๒๗) มาตรา ๑๓ ทวิ เพิม่ เติมโดย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔ (๒๘) ข้อความเดิมถกู ยกเลกิ โดยประกาศคณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๑๐๙/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และใหใ้ ช ้ ขอ้ ความที่พมิ พ์ไว้นแ้ี ทน (๒๙) ขอ้ ความเดมิ ถกู ยกเลิกโดย พ.ร.บ. ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๘ และใหใ้ ช้ข้อความทพี่ มิ พ์ไว้นแ้ี ทน
25 (๕) ค้นตามบทบญั ญตั ิแห่งประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา (๖) สอบสวนผตู้ ้องหาในคดคี วามผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ (๓๐) (๗) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลใดๆ หรือเจ้าหน้าท่ีของหน่วยราชการใดๆ มาให้ถ้อยคำ หรือให้ส่งบญั ช ี เอกสาร หรือวตั ถุใดๆ มาเพื่อตรวจสอบหรือประกอบการพจิ ารณา การใช้อำนาจตามวรรคหน่ึง (๑) ให้เจ้าพนักงานผู้ค้นปฏิบัติตามระเบียบท่ีคณะกรรมการกำหนด และ แสดงความบริสุทธ์ิก่อนการเข้าค้น รายงานเหตุผลและผลการตรวจค้นเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาเหนือข้ึนไป และบันทึกเหตุอันควรสงสัยตามสมควรและเหตุอันควรเช่ือที่ทำให้สามารถเข้าค้นได้เป็นหนังสือให้ไว้แก ่ ผู้ครอบครองเคหสถาน หรือสถานที่ค้น แต่ถ้าไม่มีผู้ครอบครองอยู่ ณ ที่น้ัน ให้เจ้าพนักงานผู้ค้นส่งมอบสำเนา หนังสือนั้นให้แก่ผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ และหากเป็นการเข้าค้นในเวลากลางคืนภายหลัง พระอาทิตย์ตก เจ้าพนักงานผู้เป็นหัวหน้าในการเข้าค้นต้องเป็นข้าราชการพลเรือนตำแหน่งตั้งแต่ระดับ ๗ ข้ึนไป หรือข้าราชการตำรวจตำแหน่งต้ังแต่สารวัตรหรือเทียบเท่าข้ึนไป หรือข้าราชการทหารตำแหน่งต้ังแต่ผู้บังคับกอง รอ้ ยหรือเทียบเทา่ ขน้ึ ไป เจ้าพนักงานตำแหน่งใดหรือระดับใดจะมีอำนาจหน้าที่ตามท่ีได้กำหนดไว้ตามวรรคหน่ึงท้ังหมด หรือ แต่บางส่วนหรือจะต้องได้รับอนุมัติจากบุคคลใดก่อนดำเนินการ ให้เป็นไปตามท่ีเลขาธิการกำหนดด้วยความเห็น ชอบของคณะกรรมการ โดยทำเอกสารมอบหมายให้ไวป้ ระจำตัวเจา้ พนกั งานผู้ได้รับมอบหมายน้ัน (๓๑) เจ้าพนักงานผู้ได้รับมอบหมายตามวรรคหน่ึง ต้องแสดงเอกสารมอบหมายนั้นต่อบุคคลท่ีเก่ียวข้อง ทกุ คร้งั ในการปฏบิ ัติการตามมาตรานีใ้ หก้ รรมการ เลขาธิการ รองเลขาธกิ าร และเจา้ พนกั งานเปน็ เจา้ พนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา ให้เลขาธิการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรา ๑๔ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพ่ือรายงานผล การปฏิบัติงานประจำปี โดยให้รายงานข้อเท็จจริง ปัญหาอุปสรรค ปริมาณการปฏิบัติงาน และผลสำเร็จของ การปฏิบัติงานโดยละเอียด เพ่ือให้คณะรัฐมนตรีเสนอรายงานดังกล่าวพร้อมข้อสังเกตของคณะรัฐมนตร ี ตอ่ สภาผแู้ ทนราษฎรและวุฒิสภา (๓๒) มาตรา ๑๔ ทวิ ในกรณีจำเป็นและมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดเสพยาเสพติด ในเคหสถาน สถานทใี่ ดๆ หรือยานพาหนะ ใหก้ รรมการ เลขาธิการ รองเลขาธิการ และเจา้ พนักงานมอี ำนาจตรวจ หรอื ทดสอบหรือส่งั ใหร้ บั การตรวจหรอื ทดสอบวา่ บุคคลหรือกลมุ่ บุคคลน้นั มสี ารเสพติดอยู่ในรา่ งกายหรอื ไม ่ วิธีการตรวจหรือทดสอบตามวรรคหน่ึงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขท่ีคณะกรรมการ กำหนดโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ม (๓๓) าตรา ๑๔ ตรี ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๔ ทวิ ถ้า เจ้าพนักงานได้ขอให้บุคคลใดช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าท่ี ให้บุคคลน้ันมีอำนาจช่วยการปฏิบัติงานของ เจ้าพนกั งานได ้ (๓๐) อำนาจสอบสวนตามมาตรา ๑๔ (๖) กฎหมายจำกัดเฉพาะในเรื่องท่ีเก่ียวกับการสอบสวนผู้ต้องหาเท่านั้น จะตีความให้มีความหมายว่า เป็นอำนาจสอบสวนโดยทั่วไปมิได้ (ตามหนังสือตอบข้อหารือของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ สร ๐๖๐๑/๑๔๐๘ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๒๕) (๓๑) คอื บตั รประจำตวั เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. (๓๒) มาตรา ๑๔ ทวิ เพิ่มเตมิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๕ (๓๓) มาตรา ๑๔ ตรี เพ่มิ เติมโดย พ.ร.บ. ป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๙
26 (๓๔) มาตรา ๑๔ จัตวา ในกรณีท่ีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เอกสารหรือข้อมูลข่าวสารอื่นใดซ่ึงส่งทางไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เคร่ืองมือ หรืออุปกรณ์ในการสื่อสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทาง เทคโนโลยีสารสนเทศใด ถูกใช้หรืออาจถูกใช้เพื่อประโยชน์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเจ้าพนักงาน ซง่ึ ไดร้ ับอนุมัตจิ ากเลขาธิการเป็นหนังสอื จะยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่ออธบิ ดผี พู้ พิ ากษาศาลอาญาเพอื่ มคี ำสัง่ อนุญาตให้ เจา้ พนักงานได้มาซึง่ ข้อมลู ขา่ วสารดังกล่าวได้ การอนุญาตตามวรรคหนงึ่ ใหอ้ ธิบดผี ู้พพิ ากษาศาลอาญา พจิ ารณาถึงผลกระทบตอ่ สทิ ธิส่วนบุคคล หรือ สิทธอิ น่ื ใดประกอบกบั เหตุผลและความจำเปน็ ดังต่อไปน้ี (๑) มีเหตุอนั ควรเชื่อวา่ มีการกระทำความผดิ หรอื จะมีการกระทำความผิดเกี่ยวกบั ยาเสพติด (๒) มีเหตุอันควรเช่ือว่าจะได้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจากการ เขา้ ถงึ ข้อมูลขา่ วสารดังกลา่ ว (๓) ไม่อาจใช้วิธกี ารอนื่ ใดทเี่ หมาะสมหรอื มีประสิทธภิ าพมากกวา่ ได้ การอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาส่ังอนุญาตได้คราวละไม่เกินเก้าสิบวัน โดยกำหนดเง่ือนไขใด ๆ ก็ได้ และให้ผู้เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารในสิ่งสื่อสารตามคำสั่งดังกล่าวจะต้อง ให้ความร่วมมือเพื่อให้เป็นไปตามความในมาตราน้ี ภายหลังที่มีคำส่ังอนุญาต หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าเหตุผล ความจำเป็นไม่เป็นไปตามทีร่ ะบุหรือพฤติการณ์เปล่ียนแปลงไป อธิบดีผพู้ พิ ากษาศาลอาญาอาจเปล่ียนแปลงคำสั่ง อนุญาตไดต้ ามที่เห็นสมควร เมื่อเจ้าพนักงานได้ดำเนินการตามท่ีได้รับอนุญาตแล้ว ให้รายงานการดำเนินการให้อธิบดีผู้พิพากษา ศาลอาญาทราบ บรรดาข้อมูลข่าวสารที่ได้มาตามวรรคหน่ึง ให้เก็บรักษาและใช้ประโยชน์ในการสืบสวนและใช้เป็น พยานหลกั ฐานในการดำเนินคดเี ท่าน้นั ทั้งนี ้ ตามระเบยี บที่คณะกรรมการกำหนด มาตรา ๑๕ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัตกิ ารตามมาตรา ๑๔ ให้ถอื ว่ากรรมการ เลขาธกิ าร รองเลขาธิการ และเจา้ พนกั งานซึ่งไดร้ บั มอบหมายใหม้ ีอำนาจตามมาตรา ๑๔(๓) มีอำนาจหนา้ ที่เชน่ เดยี วกบั พนกั งานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้ทั่วราชอาณาจักร และให้มีอำนาจควบคุมผู้ถูกจับตาม มาตรา ๑๔(๓) ไว้เพ่ือทำการสอบสวนได้เป็นเวลาไม่เกินสามวัน เมือ่ ครบกำหนดเวลาดังกล่าว หรอื กอ่ นน้ันตามท่ี จะเห็นสมควร ให้ส่งตัวผู้ถูกจับไปยังพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพ่ือ ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้โดยมิให้ถือว่าการควบคุมผู้ถูกจับดังกล่าวเป็นการควบคุมของพนักงานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา ม (๓๕) าตรา ๑๕ ทวิ เจ้าของหรือผู้ดำเนินกิจการสถานประกอบการผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม ประกาศตามมาตรา ๑๓ ทวิ ต้องระวางโทษปรับต้งั แต่หน่งึ หมื่นบาทถงึ ห้าหมื่นบาท (๓๖) มาตรา ๑๖ ผู้ใดไม่ให้ความสะดวก หรือไม่ให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งบัญชีเอกสาร หรือวัตถุใดแก่กรรมการ เลขาธกิ าร รองเลขาธิการ หรือเจา้ พนกั งานซง่ึ ปฏิบตั ิการตามมาตรา ๑๔ หรือไมย่ นิ ยอม ใหต้ รวจหรือทดสอบตาม มาตรา ๑๔ ทวิ ตอ้ งระวางโทษจำคกุ ไม่เกินหกเดอื นหรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หน่ึงหม่ืนบาท(๓๗) (๓๔) มาตรา ๑๔ จตั วา เพิม่ เติมโดย พ.ร.บ. ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๙ (๓๕) มาตรา ๑๕ ทวิ เพม่ิ เติมโดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๖ (๓๖) ข้อความเดิมถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๗ และให้ใชข้ ้อความท่ีพมิ พ์ไวน้ แี้ ทน (๓๗) ดูเปรยี บเทยี บมาตรา ๙๐ แห่ง พ.ร.บ. ยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒
27 ถ้ (๓๘) าการกระทำตามวรรคหน่ึงเป็นการกระทำต่อผู้ที่ช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ตามมาตรา ๑๔ ตรี ผู้กระทำต้องระวางโทษเช่นเดยี วกับทบ่ี ัญญตั ไิ วใ้ นวรรคหนึง่ (๓๙) มาตรา ๑๖/๑ ผู้ใดรู้หรือได้มาซ่ึงข้อมูลข่าวสารท่ีได้มาตามมาตรา ๑๔ จัตวา กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อ่ืนรู้หรืออาจรู้ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท เว้นแต่ เปน็ การเปดิ เผยในการปฏิบัตหิ นา้ ทีห่ รือตามกฎหมาย ถ้าการกระทำตามวรรคหน่ึงเป็นการกระทำโดยกรรมการ เลขาธิการ รองเลขาธิการ หรือเจ้าพนักงาน ผู้กระทำต้องระวางโทษเปน็ สามเทา่ ของโทษที่กำหนดไว้ในวรรคหน่ึง มาตรา ๑๗ กรรมการ เลขาธิการ รองเลขาธิการ และเจ้าพนักงานผู้ใดกระทำความผิดใดๆ ตาม กฎหมายเก่ียวกบั ยาเสพติดเสียเอง ตอ้ งระวางโทษเป็นสามเทา่ ของโทษทีก่ ำหนดไวส้ ำหรับความผิดนัน้ ๆ (๔๐) มาต (๔๑) รา ๑๗ ทวิ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ีที่มีโทษปรับสถานเดียว ให้คณะกรรมการ หรือผ้ซู ่ึงคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจเปรยี บเทียบปรับได้ มาตรา ๑๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(๔๒) รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจ ออกขอ้ บังคับหรือระเบยี บเพือ่ ปฏิบตั กิ ารตามพระราชบัญญัตินี้ ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ ธานนิ ทร์ กรัยวเิ ชียร นายกรฐั มนตร ี (๓๘) วรรคสอง ของมาตรา ๑๖ เพิม่ เติมโดย พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๐ (๓๙) มาตรา ๑๖/๑ เพมิ่ เตมิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๑ (๔๐) ดเู ปรยี บเทียบมาตรา ๑๐๐ แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และมาตรา ๑๐ แห่ง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทำ ความผิด เก่ยี วกบั ยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๓๔ (๔๑) มาตรา ๑๗ ทวิ เพ่มิ เตมิ โดย พ.ร.บ. ปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๘ (๔๒) แก้ไขเปลย่ี นแปลงโดย พ.ร.บ.ปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓๓ และ พ.ร.ฎ.แกไ้ ขบทบัญญัติใหส้ อดคลอ้ งกับการ โอนอำนาจหน้าท่ีของสว่ นราชการใหเ้ ปน็ ไปตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๗๔
28 ระเบยี บคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา่ ด้วยการแตง่ ต้งั การปฏิบตั ิหน้าทแี่ ละการกำกบั ดแู ลการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ และมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ซ่ึงแก้ไข เพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ อันเปน็ พระราชบัญญัตทิ ่มี ี บทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๒๓๗ และมาตรา ๒๓๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติ ให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จึงออกระเบยี บไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบน้ี เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่และการกำกับดแู ลการปฏิบตั ิหนา้ ทข่ี องเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕” ขอ้ ๒ ระเบียบนใี้ หใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป* ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งต้ังการปฏิบัติ หนา้ ท่แี ละการกำกับดแู ลการปฏบิ ัตหิ น้าทีข่ องเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๑ ข้อ ๔ ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ คำสั่งหรือแนวปฏิบัติอื่นใดซึ่งมีกำหนดไว้แล้วในระเบียบน้ี หรือ ซึง่ ขดั หรอื แยง้ กับระเบียบนี้ ใหใ้ ชร้ ะเบยี บน้ีแทน ขอ้ ๕ ในระเบียบนี้ (๑) “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และให้หมายความ ความถึงคณะอนกุ รรมการท่ีคณะกรรมการแต่งต้ังให้พิจารณาอนุมตั ิการแตง่ ต้ังเจา้ พนกั งานตามระเบยี บน้ี “ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงาน” หมายความว่า ผู้ซ่ึงดำรงตำแหน่งต้ังแต่ผู้อำนวยการกอง ผู้บังคับการ ตำรวจ ผ้บู งั คับการกรมหรอื เทียบเท่าขนึ้ ไป ซ่ึงเปน็ ผู้บังคับบญั ชาโดยตรงของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. หรอื ผู้ซงึ่ จะได้รบั การแต่งตง้ั เปน็ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. “เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.” หมายความว่า ผู้ซึ่งเลขาธิการ แต่งตั้งให้เป็นเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติ ปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ “บัตรประจำตัว” หมายความว่า เอกสารมอบหมายท่ีเลขาธิการมอบไว้ประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามมาตรา ๑๔ ขอ้ ๖ ให้เลขาธิการเป็นผู้รักษาการตามระเบียบน้ี และให้มีอำนาจออกระเบียบประกาศหรือคำสั่ง เพื่อปฏิบตั ิการตามระเบียบน้ี * ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๑๒๐ ตอนพเิ ศษ ๑๒ ง ลงวนั ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๖ (๑) กำหนดขึ้นใหม่ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการแต่ง การปฏิบัติหน้าท่ีและการกำกับดูแลการ ปฏิบตั หิ น้าทข่ี องเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๗ มีผลใช้ตัง้ แตว่ ันท่ี ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๗
29 หมวด ๑ คณุ สมบัติและการแต่งตง้ั เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. (๒) ข้อ ๗ ผ้ซู ่ึงจะได้รับการแต่งตง้ั เป็นเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ตอ้ งมีคุณสมบัติ ดังน้ี (๑) เปน็ ขา้ ราชการพลเรอื นสามญั ตำแหนง่ ประเภทบรหิ าร ตำแหนง่ ประเภทอำนวยการ ตำแหนง่ ประเภท วิชาการ หรอื ตำแหน่งประเภททั่วไประดับชำนาญงานขนึ้ ไป (๒) เปน็ ข้าราชการตำรวจ หรือขา้ ราชการทหารชัน้ สญั ญาบัตร (๓) เปน็ ขา้ ราชการกรงุ เทพมหานคร ประเภทขา้ ราชการกรงุ เทพมหานครสามญั ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการเขต (๔) เปน็ พนกั งานเมอื งพทั ยา ประเภทอำนวยการทอ้ งถนิ่ ระดบั สงู ตำแหนง่ หวั หนา้ สำนกั ปลดั เมอื งพทั ยา (๕) เปน็ ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมายเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรจากผบู้ งั คบั บญั ชาหวั หนา้ หนว่ ยงานใหม้ หี นา้ ทปี่ ราบปราม ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกบั ยาเสพตดิ และ (๖) เป็นผู้ที่ไม่เคยมีประวัติมัวหมองเก่ียวกับยาเสพติด การทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ บกพรอ่ งในศีลธรรมอันด ี ขอ้ ๘ ให้หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมหรือเทียบเท่ากรมขึ้นไป เสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติในสังกัด ตามข้อ ๗ ท่ีเห็นสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต่อเลขาธิการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ เลขาธกิ ารกำหนด ขอ้ ๙ ให้เลขาธิการพจิ ารณาเสนอช่ือบคุ คลตามข้อ ๘ ให้คณะกรรมการพจิ ารณาอนุมตั ิการแตง่ ตง้ั และ เสนอด้วยว่าจะกำหนดให้ผู้นั้นมีอำนาจหน้าที่ตามท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือจะต้องไดร้ บั อนุมัตจิ ากบคุ คลใดก่อนดำเนนิ การ ข้อ ๑๐ เม่ือคณะกรรมการได้อนุมัติการแต่งตั้งและให้ความเห็นชอบในการกำหนดอำนาจหน้าท ี ่ ผูท้ เ่ี ลขาธิการเสนอแล้ว ให้เลขาธกิ ารมคี ำสงั่ แตง่ ต้ังผู้นั้นเปน็ เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. หากภายหลังเลขาธิการเห็นสมควรเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ใดให้เลขาธิการ เสนอตอ่ คณะกรรมการเพอื่ ใหค้ วามเหน็ ชอบ แลว้ ดำเนนิ การแกไ้ ขเปลยี่ นแปลงคำสง่ั ตามวรรคหนง่ึ ใหเ้ ปน็ ไปตามนนั้ ขอ้ ๑๑ เม่ือมีคำส่ังแต่งต้ังผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และผู้น้ันได้ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับการปฏิบัติ หน้าที่ตามหลักสูตรที่เลขาธิการกำหนดแล้ว ให้เลขาธิการออกบัตรประจำตัวให้แก่ผู้น้ัน บัตรประจำตัว ดงั กล่าวให้เปน็ ไปตามแบบท่ีเลขาธกิ ารกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้บัตรประจำตัวมีอายสุ องปี นับแต่วนั ออกบตั ร ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แจ้งต่อเลขาธิการเพื่อขอมีบัตรประจำตัวใหม่ได้ภายในสามสิบวันก่อนวันท ่ ี บัตรดังกล่าวจะส้ินอายุ โดยให้แนบคำรับรองของผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานไปด้วย ท้ังน้ี ตามแบบและ วิธีการท่เี ลขาธกิ ารกำหนด ขอ้ ๑๒ การเป็นเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. สน้ิ สดุ ลงเมอ่ื (๑) ผ้นู น้ั ขาดคุณสมบัตติ ามข้อ ๗ (๒) ผู้บงั คบั บญั ชาหวั หนา้ หน่วยงานของผ้นู นั้ เสนอใหย้ กเลกิ การแตง่ ต้งั (๓) ผนู้ ั้นไมด่ ำเนินการขอมีบตั รประจำตัวใหม่เม่ือบัตรประจำตัวสน้ิ อายเุ กินกว่าหกเดอื น (๔) ผนู้ นั้ ฝา่ ฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ตั อิ ยา่ งหนงึ่ อยา่ งใดตามทก่ี ำหนดในหมวด ๒ หรอื หมวด ๓ ของระเบยี บน้ี หรอื (๕) เลขาธกิ ารเห็นสมควรให้ยกเลกิ การแต่งตัง้ ให้เลขาธิการมีคำส่ังยกเลิกคำส่ังแต่งตั้งเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามวรรคหนึ่ง และรายงานให ้ คณะกรรมการทราบ (๒) ข้อความเดิมถูกยกเลิก โดยระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าท่ีและการกำกับ ดูแลการปฏิบัตหิ น้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ มผี ลบังคบั ใชต้ งั้ แต่วันที่ ๘ มิถนุ ายน ๒๕๖๐ และให้ใช้ขอ้ ความ ทีพ่ มิ พไ์ วน้ ้แี ทน
30 หมวด ๒ การปฏบิ ตั ิหน้าทข่ี องเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ข้อ ๑๓ การปฏิบัติหน้าท่ีตามมาตรา ๑๓ ตรี ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบัติตามประกาศสำนักนายก รัฐมนตรี เร่ือง มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการและ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เร่ือง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการส่ังปิดชั่วคราว หรือการพักใช้ใบ อนุญาตประกอบการของสถานประกอบการท่ีมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เม่ือดำเนินการเสร็จให้ รายงานตามแบบท่เี ลขาธิการกำหนด แลว้ ส่งใหเ้ ลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่วนั ตรวจพบ ข้อ ๑๔ การเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่เพ่ือตรวจค้น จะต้องมีคำส่ังหรือหมายศาลเว้นแต่มีเหต ุ ให้ค้นโดยไมต่ ้องมคี ำส่งั หรือหมายศาล การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. จดั การตามหมายคน้ แลว้ ใหบ้ นั ทึกรายละเอยี ดใน การค้นนน้ั วา่ จดั การตามหมายไดห้ รอื ไม่ และสง่ บันทึกนนั้ ไปยังศาลท่ีออกหมายภายในระยะเวลาทศ่ี าลกำหนด ใหน้ ำความในขอ้ ๑๕ มาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม ข้อ ๑๕ ในการเขา้ ไปในเคหสถานหรือสถานท่ตี ามมาตรา ๑๔ (๑) ให้เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ปฏิบัตดิ งั น ้ี (๑) แจง้ ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาชนั้ เหนอื ขนึ้ ไปหนง่ึ ระดบั ทราบกอ่ นดำเนนิ การ เวน้ แตเ่ ปน็ กรณเี รง่ ดว่ น ใหด้ ำเนนิ การ ไปกอ่ นแลว้ รายงานใหท้ ราบโดยเรว็ (๒) กอ่ นลงมอื ตรวจคน้ ตอ้ งแสดงความบรสิ ทุ ธแิ์ ละแสดงบตั รประจำตวั ตอ่ ผคู้ รอบครอง ผดู้ แู ลหรอื บคุ คล ในครอบครวั ของผนู้ นั้ (๓) การค้นใหค้ น้ ต่อหนา้ บุคคลใน (๒) หากหาบุคคลดงั กลา่ วไมไ่ ด้ ก็ให้คน้ ต่อหน้าบคุ คลอนื่ อยา่ งน้อย สองคน ซงึ่ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ไดร้ อ้ งขอใหม้ าเปน็ พยาน กรณที ล่ี งมอื คน้ ในเวลากลางวนั ถา้ ยงั ไมเ่ สรจ็ จะคน้ ตอ่ ไปในเวลากลางคนื กไ็ ด้ (๔) ทำบันทึกระบุเหตุอันควรสงสัยตามสมควรและเหตุอันควรเช่ือท่ีทำให้สามารถเข้าค้นได้ให้ไว้แก่ ผู้ครอบครองเคหสถาน หรือสถานที่ค้น ตามแบบท่ีเลขาธิการกำหนด แต่ถ้าไม่มีผู้ครอบครองอยู่ ณ ที่นั้น ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ส่งมอบสำเนาบันทึกดังกล่าวให้แก่ผู้ครอบครองเคหสถาน หรือสถานที่ค้นในทันที ที่กระทำได้ (๕) เม่ือค้นเสร็จให้บันทึกรายละเอียดแห่งการค้นและบัญชีสิ่งของที่ค้นได้แล้วอ่านให้บุคคลตาม (๒) หรอื พยานบุคคลตาม (๓) ฟงั และลงลายมอื ชือ่ รับรองไว้ หากบุคคลดังกล่าวไม่ยอมลงลายมอื ชือ่ ให้หมายเหตไุ ว้ใน บันทกึ การคน้ แลว้ รายงานการค้นให้ผบู้ งั คับบญั ชาทราบ (๖) ทำรายงานตามแบบที่เลขาธิการกำหนด พร้อมสำเนาบันทึกการค้นให้เลขาธิการ ทราบภายใน ๑๕ วนั นับแตว่ นั ค้น (๓) (๗) การค้นในเวลากลางคืนภายหลังพระอาทิตย์ตก นอกจากต้องปฏิบัติตาม (๑) - (๖) แล้ว เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้เป็นหัวหน้าในการเข้าค้นต้องเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภทบริหาร ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการข้ึนไป ตำแหน่งประเภทท่ัวไประดับอาวุโส ขึ้นไป หรือข้าราชการตำรวจตำแหน่งต้ังแต่สารวัตรหรือเทียบเท่าชั้นไป หรือข้าราชการทหารตำแหน่งผู้บังคับกอง ร้อยหรอื เทยี บเท่าขนึ้ ไป (๓) กำหนดข้ึนใหม่ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏิบัติหน้าที่และการกำกับดูแลการ ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ มีผลใชต้ ้งั แตว่ นั ท่ี ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๗
31 ข้อ ๑๖ การคน้ บคุ คลหรอื ยานพาหนะตามมาตรา ๑๔ (๒) ใหเ้ จา้ พนักงาน ป.ป.ส. ปฏบิ ัติดงั นี้ (๑) ก่อนลงมือตรวจค้น ต้องแสดงความบริสุทธ์ิและแสดงบัตรประจำตัวต่อผู้ท่ีจะถูกค้นหรือ ผ้คู รอบครองยานพาหนะ (๒) เมื่อค้นเสร็จให้บันทึกรายละเอียดแห่งการค้นและบัญชีสิ่งของท่ีค้นได้ แล้วอ่านให้บุคคลตาม (๑) ฟังและลงลายมือชื่อรับรองไว้ หากบุคคลดังกล่าวไม่ยอมลงลายมือช่ือ ให้หมายเหตุไว้ในบันทึกการค้น แลว้ รายงานการคน้ ใหผ้ ้บู ังคับบญั ชาทราบ (๓) ทำรายงานตามแบบที่เลขาธิการกำหนด พร้อมสำเนาบันทึกการค้นให้เลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วนั นับแต่วนั คน้ ขอ้ ๑๗ การปฏิบตั หิ น้าท่ตี ามมาตรา ๑๔ (๓) ให้เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ปฏบิ ัติดังนี้ (๑) กรณีจับตามหมายจับ เมื่อพบผู้กระทำความผิดตามหมายจับ ให้แสดงหมายจับและบัตรประจำตัว ตอ่ ผู้นัน้ ก่อนจบั กมุ หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้กระทำความผิดตามหมายจับจะหลบหน ี ให้ดำเนินการจับกุมไปก่อน แล้ว แสดงหมายจบั และบัตรประจำตัว (๒) กรณีจับโดยไมม่ ีหมายจับใหแ้ สดงบัตรประจำตวั ต่อผนู้ น้ั ก่อนจับกมุ (๓) ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ทำการจับ เอาตัวผู้ถูกจับไปยังท่ีทำการของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือ ของพนักงานสอบสวนโดยทันที และเมื่อถึงที่นั้นแล้ว ให้แจ้งข้อกล่าวหาและรายละเอียดแห่งการจับให้ผู้ถูกจับ ทราบโดยไมช่ ักช้า ถ้ามหี มายจบั ใหแ้ จ้งผู้ถูกจบั ทราบและอา่ นใหฟ้ ัง (๔) ให้แจ้งผู้ถกู จบั วา่ ถอ้ ยคำทผ่ี ถู้ กู จับกลา่ วนั้นอาจใช้เปน็ พยานหลักฐานยนั เขาในการพจิ ารณาคดไี ด้ (๕) ทำบันทึกการจบั กมุ และใหผ้ ้ถู ูกจบั ลงลายมอื ชอ่ื ไว้ หากผถู้ ูกจับไมย่ อมลงลายมอื ชอ่ื ให้หมายเหตไุ ว้ ในบนั ทึกการจบั กุม (๖) ทำรายงานตามแบบท่ีเลขาธิการกำหนด พร้อมสำเนาบันทึกการจับกุมให้เลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วัน นับแตว่ นั จบั กุม ขอ้ ๑๘ การปฏบิ ตั หิ น้าที่ตามมาตรา ๑๔ (๔) ให้เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบตั ดิ ังนี้ (๑) ทำบันทึกการยึดหรืออายัดพร้อมบัญชีเก่ียวกับยาเสพติดท่ีมีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและ ทรพั ย์สนิ อืน่ ใดท่ไี ด้ใช้หรอื จะใช้ในการกระทำความผิดหรือทีอ่ าจใช้เปน็ พยานหลกั ฐาน (๒) ทำรายงานตามแบบท่เี ลขาธกิ ารกำหนดพร้อมสำเนาบนั ทกึ การยดึ หรืออายดั สง่ ใหเ้ ลขาธิการทราบ ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันทีย่ ดึ หรอื อายดั หรือบนั ทึกการยดึ หรอื อายดั ไว้ท้ายรายงานตามขอ้ ๑๕ (๖) ข้อ ๑๖ (๓) หรือขอ้ ๑๗ (๖) แล้วแตก่ รณี ขอ้ ๑๙ การปฏิบัติตามมาตรา ๑๔ (๖) ให้เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ปฏบิ ัตดิ งั นี้ (๑) การสอบสวนผู้ต้องหาในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้แจ้งข้อกล่าวหาและรายละเอียด แห่งการจับใหผ้ ตู้ อ้ งหาทราบ ถ้ามีหมายจบั ใหแ้ จ้งผู้ต้องหาทราบ (๒) แจ้งสิทธขิ องผูต้ อ้ งหาทจี่ ะไมใ่ หถ้ อ้ ยคำเป็นปฏปิ ักษต์ ่อตนเองอนั อาจทำให้ตนถูกฟ้องคดีอาญา (๓) แจ้งสิทธิขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับและ สถานทีท่ ถี่ ูกควบคุมในโอกาสแรก (๔) แจ้งสิทธิในการพบและปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัว สิทธิได้รับการเยี่ยมตามสมควร และ สิทธไิ ดร้ บั การรกั ษาพยาบาลโดยเรว็ เม่ือเกิดการเจบ็ ปว่ ย (๕) ทำบันทึกรายละเอยี ดแหง่ การสอบสวน โดยระบุสิทธิของผูต้ ้องหาตาม (๑) - (๔) พร้อมทงั้ ระบุว่า ผ้ตู ้องหาปฏิเสธหรอื ยินยอมใหส้ อบปากคำดว้ ยความสมัครใจ พรอ้ มรายละเอยี ดเกยี่ วกับขอ้ เทจ็ จริงหรอื พฤตกิ ารณ์
32 ในการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด เมื่อทำบันทึกเสร็จแล้วให้อ่านให้ผู้ต้องหาฟังและลงลายมือชี่อรับรองไว ้ หากผู้ตอ้ งหาไมย่ อมลงลายมือชือ่ ใหห้ มายเหตุไวใ้ นบนั ทึกการสอบสวน ขอ้ ๒๐ การปฏิบตั หิ นา้ ทตี่ ามมาตรา ๑๔ (๗) ให้เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ปฏบิ ตั ดิ ังนี้ (๑) ทำหนงั สือโดยระบุ ชื่อ ตำแหนง่ สังกัด และอำนาจทีไ่ ดร้ บั มอบหมายมอบให้กับผู้เก่ยี วข้องทุกครงั้ (๒) ทำรายงานตามแบบท่ีเลขาธิการกำหนด ส่งให้เลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันท่ีได ้ ปฏิบตั ิหน้าที่ ขอ้ ๒๑ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี ามมาตรา ๑๔ ทวิ ให้เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ปฏบิ ัตติ ามประกาศคณะกรรมการ ป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงอื่ นไขการตรวจหรอื ทดสอบว่าบคุ คลหรือ กลมุ่ บคุ คลใดมีสารเสพตดิ อยู่ในรา่ งกายหรือไม่ แล้วใหร้ ายงานตามแบบที่เลขาธกิ ารกำหนดส่งใหเ้ ลขาธิการทราบ ภายใน ๑๕ วัน นบั แตว่ นั ทดี่ ำเนนิ การเสรจ็ ข้อ ๒๒ การปฏบิ ัตหิ น้าท่ีตามมาตรา ๑๔ ตรี ใหเ้ จา้ พนักงาน ป.ป.ส. ขอความช่วยเหลือจากบุคคลในการ ปฏบิ ัติหน้าท่ตี ามลำดบั ดังต่อไปน้ี (๑) เจา้ พนกั งานฝา่ ยปกครองหรอื ตำรวจ (๒) เจ้าพนักงาน ข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น พนักงานองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือ พนกั งานรัฐวสิ าหกจิ (๓) บุคคลทั่วไป การปฏิบัติหน้าท่ีตามวรรคหน่ึงจะบังคับให้บุคคลใดช่วยเหลือโดยอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลน้ันไม่ได้ และให้บนั ทกึ รายละเอยี ดการช่วยเหลือไวท้ า้ ยรายงาน หรือบนั ทกึ ตามขอ้ ๑๕ (๕) ข้อ ๑๖ (๒) ข้อ ๑๗ (๕) หรอื ขอ้ ๒๑ แลว้ แต่กรณี ข้อ ๒๓ การปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๔ จัตวา ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบัติตามระเบียบ คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ วา่ ดว้ ยการไดม้ า การใชป้ ระโยชนแ์ ละการเกบ็ รกั ษาขอ้ มลู ขา่ วสาร ขอ้ (๔) ๒๔ การควบคุมผู้ถูกจับเพื่อสอบสวนตามมาตรา ๑๕ จะกระทำได้เฉพาะเพื่อประโยชน์ในการ สอบสวนผู้ถูกจับเพ่ือรวบรวมพยานหลักฐานเก่ียวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เท่านั้น ในกรณีที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ท่ีเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการ ตำแหน่ง ประเภทท่ัวไประดับชำนาญงานหรือข้าราชการตำรวจช้ันยศต้ังแต่ร้อยตำรวจเอกลงมาหรือข้าราชการทหารชั้นยศ ตั้งแต่ร้อยเอกหรือเทียบเท่าลงมา เป็นผู้ควบคุมผู้ถูกจับจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาเหนือข้ึนไป หนง่ึ ระดบั หากจะควบคมุ เกินยี่สบิ สี่ชว่ั โมงต้องได้รบั ความเห็นชอบจากผู้บังคบบญั ชาหัวหนา้ หนว่ ยงาน เมื่อมกี ารควบคมุ ตามวรรคหนงึ่ ใหบ้ ันทกึ การควบคุมไวท้ า้ ยรายงานตามข้อ ๑๗ (๕) ด้วย (๔) กำหนดขึ้นใหม่ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏิบัติหน้าที่และการกำกับดูแลการ ปฏิบตั หิ น้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ มผี ลใช้ต้ังแตว่ นั ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗
33 หมวด ๓ การกำกบั ดูแล ข้อ ๒๕ เพ่ือประโยชน์ของคณะกรรมการในการกำกับดูแลและติดตามประเมินผลการปฏิบัติการตาม ระเบยี บน้ี ใหเ้ จ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ปฏิบตั ดิ งั ตอ่ ไปนี้ (๑) กรณีท่ีได้ปฏิบัติหน้าท่ีตามมาตรา ๑๓ ตรี มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๔ ทวิ มาตรา ๑๔ ตรี มาตรา ๑๔ จัตวา หรือมาตรา ๑๕ แลว้ ใหร้ ายงานเลขาธิการทราบทุกครั้ง ตามทก่ี ำหนดไวใ้ นหมวด ๒ (๒) กรณีมีหน้าที่กำกับดูแลบังคับบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ให้รายงานความก้าวหน้าในการ ปฏิบตั ิหนา้ ทีข่ องหน่วยงานในสงั กดั ใหเ้ ลขาธกิ ารทราบ อยา่ งนอ้ ยปลี ะหนึง่ ครงั้ ตามแบบทีเ่ ลขาธิการกำหนด (๓) กรณีท่ีได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพฤติการณ์ของผู้ค้ายาเสพติดหรือสถานการณ์การแพร่ระบาด ของยาเสพตดิ ในพื้นที่ ใหส้ ่งข้อมลู ขา่ วสารดงั กล่าว ให้เลขาธกิ ารทราบตามแบบท่เี ลขาธกิ ารกำหนด (๔) กรณีท่ีได้รับการร้องขอจากเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต่างสังกัด หรือผู้ท่ีเลขาธิการมอบหมายเก่ียวกับ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้รายงานผลการปฏิบัติตามคำร้องขอดังกล่าวให้เลขาธิการทราบตามแบบ ทีเ่ ลขาธิการกำหนด ขอ้ ๒๖ กรณีท่ีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตกเป็นผู้ต้องหาหรือ จำเลย เนื่องจากการปฏิบัติหน้าท่ีปราบปรามยาเสพติด ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผ้นู น้ั รายงานข้อเทจ็ จรงิ และพฤติการณ์แห่งคดีใหเ้ ลขาธิการทราบโดยเรว็ เมื่อเลขาธกิ ารได้รับรายงานตามวรรคหนึ่ง ให้พจิ ารณาดำเนินการช่วยเหลอื ตามควรแกก่ รณี ข้อ ๒๗ เม่ือเลขาธิการได้รับรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามข้อ ๒๕ และ การท่ีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยตามข้อ ๒๖ แลว้ ให้เลขาธกิ ารรายงานใหค้ ณะกรรมการทราบ ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ พลเอก ชวลิต ยงใจยทุ ธ ประธานกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด
34 ระเบยี บสำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา่ ดว้ ยการออกบตั รประจำตวั และการรายงานการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖ อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๖ และข้อ ๑๑ แหง่ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งตง้ั การปฏบิ ตั หิ นา้ ทีแ่ ละการกำกบั ดแู ลการปฏิบัตหิ นา้ ที่ของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ.๒๕๔๕ เพ่ือ ให้การออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำหนดระเบียบปฏิบัตไิ ว้ ดังนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏบิ ัติหนา้ ที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖” ขอ้ ๒ ระเบยี บนีใ้ หใ้ ช้บังคับตั้งแต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นต้นไป* ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบสำนักงาน ป.ป.ส. ว่าด้วยการออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏิบัติ หน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๑ ขอ้ ๔ ในระเบยี บนี้ “ระเบียบคณะกรรมการ” หมายความว่า ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าดว้ ยการแตง่ ตั้ง การปฏบิ ัตหิ น้าทแี่ ละการกำกบั ดแู ลการปฏิบตั หิ น้าท่ขี องเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ “บัตรประจำตัว” หมายความว่า เอกสารมอบหมายท่ีเลขาธิการมอบไว้ประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพ่ือปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๑๔ ตามแบบท้าย ระเบียบนี้ ขอ้ ๕ ให้ผู้อำนวยการกองกฎหมายรักษาการตามระเบียบนี้ หมวด ๑ การออกบัตรประจำตัว ขอ้ ๖ การขอแต่งตง้ั เปน็ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ให้ผู้ขอรบั การแต่งตง้ั ส่งหลักฐานตามรายการต่อไปน้ี (๑) คำขอแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และคำรับรองของผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงาน ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๑
35 (๒) คำขออนมุ ตั อิ อกบัตรประจำตวั เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๓ (๓) ภาพถา่ ยหนา้ ตรงแตง่ เคร่อื งแบบข้าราชการ ไม่สวมหมวก ขนาดหนง่ึ นวิ้ จำนวน ๓ ภาพ (๔) สำเนาทะเบยี นบ้าน ๑ ฉบบั (๕) สำเนาคำสั่งมอบหมายใหม้ ีหน้าทใ่ี นการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ ขอ้ ๗ การขอแต่งตงั้ เป็นเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ให้ผขู้ อรบั การแต่งตัง้ ยนื่ คำขอแต่งตง้ั ตอ่ บุคคลตอ่ ไปน้ี (๑) สำหรับข้าราชการสำนกั งาน ป.ป.ส. ให้ยน่ื ต่อผ้อู ำนวยการกองหรอื เทยี บเท่าข้ึนไป (๒) สำหรับข้าราชการสว่ นราชการอนื่ ใหย้ ื่นต่ออธิบดีหรอื หวั หน้าส่วนราชการเทียบเทา่ อธิบดี ข้อ ๘ เมื่อผู้รับคำขอตามข้อ ๗ พิจารณาเห็นควรให้แต่งต้ังเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้ส่งคำขอ แตง่ ตงั้ พรอ้ มหลักฐานตามขอ้ ๖ ไปยังเลขาธิการ ขอ้ ๙ ให้กองกฎหมาย ตรวจสอบหลักฐานประวัติ และพฤติการณ์อื่น ๆ ที่เก่ียวข้องของผู้ขอรับการ แต่งตั้ง แล้วเสนอเลขาธิการว่าสมควรแต่งต้ังเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือไม่ กรณีท่ีมีความเห็นว่าสมควรแต่งตั้ง ให้เสนอด้วยว่าควรแตง่ ต้ังใหม้ อี ำนาจหน้าที่ตามมาตรา ๑๔ วรรคหนึ่งทงั้ หมดหรือบางส่วน ขอ้ ๑๐ ให้เลขาธิการนำรายช่ือท่ีเห็นสมควรแต่งตั้งเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้ง และใหค้ วามเหน็ ชอบในการกำหนดอำนาจหนา้ ท่ีตามมาตรา ๑๔ วรรคหน่ึง ขอ้ ๑๑ ให้เลขาธิการมีคำสั่งแต่งต้ังผู้ซึ่งคณะกรรมการอนุมัติแล้ว และไม่ว่าจะมีการแต่งตั้งตามคำขอ หรอื ไม่ ใหเ้ ลขาธิการแจ้งใหบ้ ุคคลตามขอ้ ๗ ทราบ ข้อ ๑๒ ให้กองกฎหมาย ดำเนินการออกบัตรประจำตัวให้แก่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งได้มีคำสั่งแต่งต้ัง เป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แลว้ ข้อ ๑๓ ให้กองกฎหมาย จัดทำทะเบียนประวัติเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และรายละเอียดต่างๆ ท่ีจำเป็น ตอ่ การรายงานและการประสานงาน ขอ้ ๑๔ บัตรประจำตัวให้ใช้ได้ภายในระยะเวลาตามท่ีกำหนดในบัตร เม่ือบัตรจะส้ินอายุและมีความ ประสงค์จะขอมีบัตรประจำตัวเพ่ือใช้แทนบัตรประจำตัวเก่า ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แจ้งขอมีบัตรประจำตัวใหม่ได้ ภายในสามสิบวัน ก่อนวนั ท่บี ัตรดังกล่าวจะสน้ิ อายุ ขอ้ ๑๕ การขอมบี ตั รประจำตัวกรณีที่บัตรประจำตวั สิน้ อายุ ให้สง่ หลกั ฐานตามรายการต่อไปน้ี (๑) คำขอมีบัตรประจำตัวและคำรบั รองของผู้บังคับบัญชาหวั หนา้ หนว่ ยงานตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๒ (๒) คำขออนุมตั อิ อกบัตรประจำตวั เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๓ (๓) ภาพถ่ายหน้าตรงแต่งเคร่ืองแบบข้าราชการ ไมส่ วมหมวก ขนาดหน่ึงน้วิ จำนวน ๒ ภาพ (๔) บตั รประจำตัวฉบับเก่า หรือสำเนากรณีบตั รประจำตัวยงั ไม่หมดอายุ (๕) สำเนาทะเบยี นบา้ นเฉพาะกรณมี ีการเปลยี่ นแปลงท่ีอยู่ใหม่ ข้อ ๑๖ ในกรณีที่ส่งหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประจำตัวตามข้อ ๑๕ (๔) เม่ือได้รับบัตรประจำตัว ฉบับใหม่แล้ว ใหส้ ่งบตั รประจำตัวฉบบั เก่าคืนสำนกั งาน ป.ป.ส. ขอ้ ๑๗ ในกรณีที่บัตรประจำตัวชำรุด สูญหาย หรือถูกทำลายด้วยประการใด ๆ ให้ผู้น้ันรีบรายงาน ต่อผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานเพ่ือแจ้งสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมบัตรประจำตัวหรือหลักฐานการแจ้ง ความตอ่ เจ้าหนา้ ทตี่ ำรวจแลว้ แตก่ รณี
36 ถ้าเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้น้ันประสงค์ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ออกบัตรประจำตัวใหม่ให้ส่งหลักฐานตาม รายการในข้อ ๑๕ พรอ้ มบตั รประจำตวั หรือหลักฐานการแจง้ ความต่อเจ้าหนา้ ที่ตำรวจ แลว้ แตก่ รณ ี ขอ้ ๑๘ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เสนอคำขอมีบัตรตามข้อ ๑๕ หรือข้อ ๑๗ พร้อมหลักฐานผ่าน ผู้บังคับบญั ชาหัวหนา้ หนว่ ยงานเพอ่ื สง่ สำนกั งาน ป.ป.ส. ดำเนินการต่อไป หมวด ๒ การรายงานการปฏิบัติงาน ข้อ ๑๙ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. รายงานการปฏิบัติหน้าที่ให้เลขาธิการทราบตามแบบที่กำหนด ดังตอ่ ไปนี้ (๑) การรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีตามระเบียบคณะกรรมการ ข้อ ๑๕ (๖) ข้อ ๑๖ (๓) ขอ้ ๑๗ (๖) ขอ้ ๑๘ (๒) ข้อ ๒๐ (๒) และขอ้ ๒๑ ให้ใชแ้ บบรายงานการปฏิบตั ิหนา้ ที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๔ (๒) การรายงานการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบคณะกรรมการ ข้อ ๒๕ (๒) ให้ใช้แบบรายงาน ความก้าวหน้าในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องหนว่ ยงาน ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๕ (๓) การรายงานการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบคณะกรรมการ ข้อ ๑๓ ข้อ ๒๕ (๓) ให้ใช้แบบ รายงานข่าวสารและสถานการณ์การแพรร่ ะบาดยาเสพติด ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๖ (๔) การรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีตามระเบียบคณะกรรมการ ข้อ ๒๕ (๔) ให้ใช้แบบรายงาน การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั ิงาน ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๗ ขอ้ ๒๐ การทำบันทึกเหตุอันควรสงสัยตามสมควรและเหตุอันควรเชื่อท่ีทำให้สามารถเข้าค้นได้ ตามระเบยี บคณะกรรมการ ขอ้ ๑๕ (๔) ใหใ้ ช้แบบบนั ทึกเหตุแห่งการตรวจค้น ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๘ ข้อ ๒๑ การรายงานตามที่กำหนดในข้อ ๑๙ ในกรณีท่ีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หลายคนร่วมปฏิบัติงาน ในคดีหรือเร่ืองเดียวกันจะรายงานรวมกันในคราวเดียวกันก็ได้ ท้ังน้ีให้ระบุช่ือและเลขประจำตัวของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ทุกคนในแบบรายงานดว้ ย ข้อ ๒๒ ให้กองกฎหมาย รวบรวมรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และจัดทำสรุป รายงานผลการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีของเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. เสนอใหเ้ ลขาธกิ ารทราบทกุ สามเดือน ข้อ ๒๓ กรณีท่ีกองกฎหมาย ได้รับรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และเป็นกรณีท ่ี จำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้กองกฎหมายรายงานให้เลขาธิการทราบโดยเร็ว แล้วแจ้งให ้ หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วข้องดำเนินการต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖ กิตต ิ ลม้ิ ชัยกิจ เลขาธกิ ารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
37 แบบบตั รประจำตัวเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. 5.5 ซม. เลขประจำตัว.............. สำนักงานคณะกรรมการ ปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด บัตรนเ้ี ปน็ หลักฐานแสดงวา่ ยศ/ชื่อ ..................................................................................... ตำแหน่ง .................................................................................. สงั กดั ....................................................................................... เปน็ เจา้ พนักงานมอี ำนาจหนา้ ทีต่ าม ม า ต ร า ๑ ๔ ป ว อ้ร ร ง คก ห ัน นแ ล่งึ ะ ป ร า พ บ ร ป ะ รร า า มช ย บ( .าใ .ญั .ชเ .ส เ.ญ้ถล.พ..ึงขัต .ต .ว.ิ าดิ.ัน .ธ..ทกิพ. .า ี่...ศร.. .. .ป.๒. ...ป๕. . .๑.ส..๙.. . . .. ) 8.5 ซม. ............................ ลายมอื ชื่อ ดา้ นหนา้
38 5.5 ซม. พ.ร.บ.ป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๑๔ (๑) เข้าไปในเคหสถาน หรือสถานที่เพื่อตรวจค้นเม่ือมีเหตุ อันควรสงสัยตามสมควรว่ามีบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำ ความผิดเก่ียวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซึ่งมีไว ้ เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิด หรือได้ใช้หรือจะใช้ใน การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือซ่ึงอาจใช้เป็นพยาน หลักฐานได้ ประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าเน่ืองจากการเน่ินช้ากว่า จะเอาหมายค้นมาได้ บุคคลน้ันจะหลบหนีไป หรือทรัพย์สินนั้นจะถูก โ หตย ยาารกเมื อสยสทพา้ ม รยตค(((ัพดิ๓๔๒ซว ย)))รกุห์สว ซริน ่ายจค่อือมอับึด้นนทยี่ืน กบ่อีาทใหุมาเุดค สำรบจทคลืพอใุค่ีไชาล อตคดย้เหาิดปล้ใยช รหซใ็นดัดื้อุกรพหยือซย ๆยารท่อาาืเอทนนำ นสจใ่ีกอพพหหะรย ลาต้เใะโู่ปชหักิดดทล้ใ ฐนทยำนย่ีาไค่ีมะกนนม วีใไาไส่ชวดาดรภอ้มโ ๆก้ดบา ผรยพดิดท ะไไ้วเที่มมกปย ่ำชี่ียเจกหคอวาฎวกกต บหาับเุอดดมมยั น้วิมาผายคยิดเ ก สวเ ฎพกรี่ย หสตวดิงมกส า ับัยย 8.5 ซม. (๕) ค้นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา (๖) สอบสวนผตู้ อ้ งหาในคดคี วามผดิ เก่ยี วกบั ยาเสพตดิ (๗) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลใด ๆ หรือเจ้าหน้าท่ี ของหน่วยราชการใด ๆ มาให้ถ้อยคำ หรือให้ส่งบัญชีเอกสารหรือ วตั ถใุ ด ๆ มาเพอ่ื ตรวจสอบหรอื ประกอบการพจิ ารณา ทัว่ ราชอาณาจักร คำเตือน : ผู้ใดไม่ให้ความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ปฏิบัติ หน้าท่ีหรือผู้ท่ีช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต้องระวางโทษจำคกุ ไมเ่ กินหกเดอื น หรือปรบั ไม่เกนิ หนงึ่ หมืน่ บาท ดา้ นหลัง
39 แบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๑ คำขอแตง่ ตงั้ เปน็ เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. เขียนท.่ี ........................ วันท่ี...........เดือน..................พ.ศ. ......... ๑. ช่ือ.................................................................................... ชอ่ื สกุล........................................................................ ช่อื เล่น/ชื่ออ่ืนๆ………………………………….................................................……………………………………………………….………………………. ๒. เกิดวันท่ี................เดือน................................พ.ศ. ................ เกดิ ที่จงั หวดั .......................................................... ๓. นบั ถือศาสนา........................................................................................................................................................ ๔. รู้ภาษาต่างประเทศภาษาใดบ้าง/มากนอ้ ยเพยี งใด ............................................................................................. ๕. ท่ีอยู่ตามสำเนาทะเบียนบา้ นเลขท่.ี ................หมูท่ ี/่ หมบู่ า้ น........................... ตรอก/ซอย.................................. ถนน........................................ตำบล/แขวง................................................ ตรอก/ซอย....................................... จงั หวัด..................................................รหสั ไปรษณยี .์ ................................ โทรศัพท์……………………....….....……………… ๖. การศึกษาระดับประถมศกึ ษา/สถานศึกษา ......................................................................................................... การศกึ ษาระดับมัธยมศึกษา/สถานศกึ ษา ……………………………………..............................................………………………………… วฒุ กิ ารศึกษาระดับอนปุ ริญญาตรหี รอื ปริญญาตร/ี สถานศกึ ษา ………………..................…………............…………………….… วุฒิการศกึ ษาระดับปริญญาโท/สถานศึกษา ……………………………................................................…………………………………… วฒุ กิ ารศึกษาระดบั ปริญญาเอก/สถานศึกษา ……………………………............................……................………………………………… ๗. รบั ราชการคร้งั แรกตำแหนง่ ................................................................หน่วยงาน ................................................. กรม...............................................เข้ารับราชการเมอื่ วนั ท่ี.................เดือน................................พ.ศ. ................. ๘. ปัจจบุ นั รบั ราชการในตำแหน่ง.......................................................หนว่ ยงาน ...................................................... กอง/เทยี บเท่ากอง...............................................กองบัญชาการ/สำนัก ............................................................. กรม................................................. สถานทท่ี ำการท่ีสามารถตดิ ต่อทางไปรษณีย์............................................... .........………………..….…….......................รหัสไปรษณยี ์ ...................................โทรศัพท.์ .............................................. ๙. สถานทต่ี ดิ ต่อข้าพเจา้ ไดส้ ะดวก ( ) ทท่ี ำงาน ( ) ท่บี า้ น ( ) อ่ืน ๆ (ระบุ) ......................................................... …………………….……….................….............….รหัสไปรษณีย์ ..............................โทรศพั ท.์ ............................................. (ลงช่ือ).........................................................................ผขู้ อรับการแตง่ ต้ัง คำรับรองของผบู้ ังคับบัญชาหัวหนา้ หน่วยงาน วนั ท.่ี ..............เดือน.....................พ.ศ. .................. ขา้ พเจ้า.........................................................................ตำแหน่ง................................................................................ ขอรับรองว่า............................ ............................ซ่ึงขอรับการแต่งตัง้ เปน็ เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ตามพระราชบญั ญัต ิ ป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๔๑๙ นัน้ เปน็ ผอู้ ยู่ในบังคบั บัญชาของขา้ พเจ้า ผขู้ อรบั การแตง่ ตงั้ ผนู้ ี้ เปน็ ผมู้ คี วามประพฤตดิ ี ไมเ่ ปน็ ผมู้ คี วามประพฤตเิ สอื่ มเสยี หรอื บกพรอ่ งในศลี ธรรม อนั ดแี ละเปน็ ผทู้ ไี่ ดร้ บั มอบหมายใหม้ หี นา้ ทใี่ นการปราบปรามยาเสพตดิ โดยตรง สมควรไดร้ บั การแตง่ ตงั้ เปน็ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ (ลงช่อื )........................................................................ผ้รู ับรอง หมายเหตุ ผู้รับรองจะต้องเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของผู้ขอรับการแต่งตั้งและดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชา หวั หน้าหน่วยงาน ตัง้ แตผ่ อู้ ำนวยการกอง ผู้บังคับการตำรวจ ผู้บงั คบั การกรมหรอื เทียบเทา่ ข้ึนไป
40 แบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๒ คำขอมีบัตรประจำตวั เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. เขียนท.่ี .......................................... วนั ท่ี..................เดอื น....................พ.ศ. ................. ขา้ พเจ้าเปน็ เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. หมายเลขประจำตวั .........................มีความประสงค์จะขอมีบัตรประจำตัว เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. เนอื่ งจาก ( ) บตั รหมดอายุ ( ) บตั รชำรดุ /สญู หาย โดยไดแ้ นบสำเนาบตั รประจำตวั ฉบบั เกา่ / หลักฐานการแจ้งความ มาดว้ ยแลว้ ข้าพเจ้าขอแจ้งรายละเอียดเก่ียวกับตัวข้าพเจ้า ดังน้ี (กรณีมีการเปลี่ยนช่ือ/ช่ือสกุลหรือท่ีอยู่ตามสำเนา ทะเบยี น บ้านซึ่งไม่ตรงกับคำขอแต่งตง้ั เป็นเจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ใหแ้ นบหลักฐานการเปลย่ี นแปลงมาด้วย) ๑. ชือ่ .............................................................ช่อื สกุล ............................................................................................. ๒. ทีอ่ ยู่ปจั จบุ ันตามสำเนาทะเบียนบ้านเลขที.่ ......................................หมทู่ ี/่ หมบู่ า้ น ............................................ ตรอก/ซอย....................................... ถนน.............................. ตำบล/แขวง ............................................. อำเภอ/เขต......................................จังหวัด........................................ รหสั ไปรษณีย.์ ................................. โทรศพั ท์........................................................................................... ๓. ปจั จบุ นั รบั ราชการในตำแหน่ง.......................................................หนว่ ยงาน .................................................... กอง/เทยี บเทา่ กอง..................................... กองบัญชาการ/สำนกั ............................................................. กรม......................................... สถานท่ที ำการที่สามารถติดต่อทางไปรษณีย์............................................. ….................................................................... รหสั ไปรษณีย์ ......................โทรศพั ท.์ ................................ ๔. สถานทีต่ ดิ ต่อข้าพเจา้ ได้สะดวก (เพ่ือประโยชน์ในการแจง้ ข่าวสารหรือสง่ บัตรประจำตวั ใหม่) ( ) ทำงาน ( ) ทบ่ี า้ น ( ) อื่น ๆ (ระบุ) .......................................................................................... ….....................................................รหัสไปรษณยี .์ ...........................โทรศัพท์ ........................................... ๕. เม่ือสำนกั งาน ป.ป.ส. จัดทำบตั รแล้วขา้ พเจ้าประสงค์จะรับบตั รโดย ( ) มารบั ด้วยตัวเอง ( ) จะใหเ้ จา้ หน้าทีม่ ารับ ( ) สง่ ไปยังสถานที่ทำงานถึงหวั หนา้ หนว่ ยงาน ( ) ใหส้ ่งไปยังสถานทต่ี ดิ ตอ่ ทางไปรษณีย ์ (ลงชือ่ ).................................................................ผูข้ อรบั การแต่งตง้ั คำรบั รองของผบู้ งั คับบัญชาหัวหน้าหนว่ ยงาน วันท.่ี ...........เดือน.......................พ.ศ. ............. ข้าพเจ้า............................................................. ตำแหนง่ ............................................................................ ขอรับรองว่า.....................................................................ซึ่งขอมีบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามพระราช บัญญตั ิ ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ นน้ั เป็นผอู้ ยใู่ นบังคับบญั ชาของข้าพเจ้า ผขู้ อมบี ตั รประจำตวั พนกั งาน ป.ป.ส. ผนู้ เี้ ปน็ ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมายใหม้ หี นา้ ทใ่ี นการปราบปรามยาเสพตดิ โดยตรง สมควรมีบตั รประจำตวั เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. เพอื่ ปฏบิ ัตงิ านปราบปรามยาเสพติดตามท่ีไดร้ ับมอบหมายต่อไป (ลงชื่อ)............................................................ผูร้ บั รอง หมายเหตุ ผู้รับรองจะต้องเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของผู้ขอรับการแต่งต้ังและดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชา หวั หนา้ หน่วยงาน ตัง้ แตผ่ อู้ ำนวยการกอง ผ้บู งั คบั การตำรวจ ผบู้ งั คบั การกรมหรอื เทยี บเทา่ ขน้ึ ไป
41 แบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๓ คำขออนมุ ัตอิ อกบตั รประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สว่ นท่ี ๑ สำหรับผทู้ ี่ยนื่ คำขอ กรอกรายละเอียดพร้อมลายมอื ชื่อ สำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ บตั รประจำตัวเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ช่อื ...................................................................................................................... ตำแหน่ง ............................................................................................................. สงั กัด .................................................................................................................. ลายมอื ชอ่ื ลายมอื ชือ่ หมายเหตุ ให้แนบมาพร้อมกับแบบคำขอแต่งต้ังเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามแบบ ป.ป.ส. ๘- ๖๐๑ หรอื คำขอมบี ตั รประจำตวั เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ตามแบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๒ ส่วนท่ี ๒ สำหรบั เจา้ หนา้ ที ่ เรยี น เลขาธกิ าร ป.ป.ส. เพ่ือโปรดพจิ ารณาอนุมตั ิบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เลขประจำตัว.............................................. วันบัตรหมดอาย.ุ ........................................อำนาจมาตรา ๑๔ วรรคหน่ึง (๑) - ( ) (................................................................) ................................................................ อนมุ ตั ิ (................................................................) เลขาธกิ ารคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ
42 แบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๔ ท่.ี ............................... .................(ส่วนราชการเจา้ ของหนังสือ) ................ …….……….(วัน เดอื น ป)ี .................... เรอ่ื ง รายงานการปฏบิ ัตหิ น้าที่เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. เรยี น เลขาธิการ ป.ป.ส. อ้างถงึ ๑. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งต้ัง การปฏิบัติหน้าที่และ การกำกับดแู ลการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒. ระเบียบสำนักงาน ป.ป.ส. ว่าด้วยการออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของ เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖ สง่ิ ทสี่ ง่ มาด้วย ..............................(สำเนาบนั ทกึ ตรวจค้น จับกมุ ฯลฯ).............................................. ตามหนงั สอื ทอี่ า้ งถงึ ไดก้ ำหนดใหเ้ จา้ พนกั งาน ป.ป.ส. รายงานการปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี ามมาตรา ๑๔ วรรคหนงึ่ (๑)(๒)(๓)(๔) และ (๗) มาตรา ๑๔ ทวิ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบญั ญตั ิป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ ใหเ้ ลขาธกิ าร ป.ป.ส. ทราบภายใน ๑๕ วนั นบั แต่วันท่ใี ช้อำนาจดังกลา่ ว พรอ้ มสำเนาบันทกึ การค้น หรอื สำเนาบนั ทกึ การจบั กมุ ตามความในขอ้ ๑๕ ขอ้ ๑๖ ขอ้ ๑๗ ขอ้ ๑๘ ขอ้ ๒๐ และขอ้ ๒๑ ตามระเบยี บทอ่ี า้ งถงึ ๑ และตามความในขอ้ ๑๙ (๑) ตามระเบียบท่ีอ้างถงึ ๒ น้นั ข้าพเจ้าขอเรียนให้ทราบว่า เมื่อวันที่......เดือน................พ.ศ. .........ได้ร่วมกับเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จำนวน.....................นาย (ตามบัญชีรายช่ือพร้อมเลขประจำตัวแนบท้าย) ได้ปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด โดยใช้อำนาจเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. ตามมาตรา ๑๔ มาตรา ๑๔ ทวิ และมาตรา ๑๕ ดงั นี้ ( ) ค้นบุคคล หรือเคหสถาน หรือสถานที่ หรอื ยานพาหนะ ( ) จับกุมบคุ คลทีก่ ระทำความผดิ ตามกฎหมายเกย่ี วกับยาเสพตดิ ( ) ยึด หรอื อายัดยาเสพตดิ หรอื ทรัพยส์ นิ อ่นื ( ) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคล หรือเจ้าหน้าที่หน่วยราชการใด ๆ มาให้ถ้อยคำ หรือ ส่งเอกสาร หรอื วตั ถุ ( ) ตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติดในร่างกาย ( ) การใชอ้ ำนาจควบคมุ ตามมาตรา ๑๕ โดยมีรายละเอียดคอื (ระบุช่อื บุคคล/สถานท/่ี ยานพาหนะ/ยาเสพติด ฯลฯ)............................................ ……………………………………………………………………………………………………………………………….............................................................…………. จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดพจิ ารณาดำเนินตามระเบียบตอ่ ไป ขอแสดงความนับถือ (ลงชอ่ื )................................................... (..................(พมิ พ์ชื่อเต็ม)...................) ..................(ตำแหนง่ )........................ เลขประจำตัว………………………………. .................(ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง)............ โทร.................โทรสาร...................
43 แบบ ป.ป.ส. ๘-๖๐๕ ที่.................................. .................(ส่วนราชการเจ้าของหนงั สือ) ................ …….……….(วัน เดอื น ป)ี .................... เรื่อง รายงานความก้าวหนา้ ในการปฏิบตั หิ น้าทีข่ องหน่วยงาน เรยี น เลขาธิการ ป.ป.ส. อ้างถงึ ๑. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการแต่งตั้งการปฏิบัติหน้าท่ี และ การกำกับดแู ลการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีของเจา้ พนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒. ระเบียบสำนักงาน ป.ป.ส. ว่าด้วยการออกบัตรประจำตัวและการรายงานการปฏิบัติหน้าท่ีของ เจา้ พนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. ๒๕๔๖ ส่งิ ท่ีสง่ มาดว้ ย.................(โครงการ/แผนงาน ผลการดำเนนิ งาน)............ ตามหนังสือท่ีอ้างถึง ได้กำหนดให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ท่ีมีหน้าที่กำกับดูแลบังคับบัญชาการ ปราบปรามยาเสพติด รายงานความก้าวหน้าในการปฏิบัติหน้าท่ีของหน่วยงานในสังกัดให้เลขาธิการ ป.ป.ส. ทราบอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ตามความในข้อ ๒๕ (๒) ตามระเบียบที่อ้างถึง ๑ และตามความ ในข้อ ๑๙ (๒) ตามระเบียบทอี่ ้างถึง ๒ นัน้ ขา้ พเจา้ ขอเรยี นรายละเอยี ดในชว่ งเดอื น มกราคม-ธันวาคม..............ดังน้ี ๑. ภารกจิ ดา้ นปราบปรามยาเสพตดิ ของหน่วยงานในสงั กดั .............................................................. …………………………………………………………………………………………………...............................…….....................…………...……………..……………... ๒. ผลการปฏิบตั งิ าน .......................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………...............................…….....................…………...……………..……………... ๓. ปญั หาอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................ …………………………………………………………………………………………………...............................…….....................…………...……………..……………... จงึ เรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามระเบยี บตอ่ ไป ขอแสดงความนับถือ (ลงชอื่ )............................................ (................(พมิ พช์ ือ่ เตม็ ).................) ...................(ตำแหนง่ ).................... เลขประจำตวั …………………………… .................(ส่วนราชการเจา้ ของเร่อื ง)............ โทร.................โทรสาร......................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 587
Pages: