Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

(4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

Published by agenda.ebook, 2020-07-09 07:20:32

Description: (4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 12-13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันที่ 15-16 กรกฎาคม 2563

Search

Read the Text Version

ค บทสรปุ ผูบ้ รหิ าร อาคารรัฐสภาแห่งใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของ รัฐสภาซึ่งเป็นสถาบันหลักของฝ่ายนิติบัญญัติและเป็นแหล่งข้อมูลท่ีสาคัญของประเทศ และเป็นสมบัติ ของสาธารณะ มีการบริหารจัดการอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ด้วยระบบสารสนเทศครอบคลุมด้วยระบบ เครือข่ายภายใต้ระบบรักษาความม่ันคงปลอดภัยสารสนเทศและระบบรักษาความม่ันคงปลอดภัย ทางกายภาพท่ีเข้มงวด ท้ังนี้ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารจึงถูกการออกแบบและ ติดต้ังใหม้ ีความทันสมัยและมีความซบั ซ้อนสงู เชน่ การกอ่ สรา้ งศนู ยข์ ้อมูลหลัก (Main Data Center) ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการติดต้ังระบบงานโสตทัศนูปกรณ์ต่าง ๆ จะต้องรองรับการใช้งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ของอาคารรัฐสภา และการบริการสารสนเทศของเจ้าหน้าที่ สมาชิกรัฐสภา บุคคลในวงงานรัฐสภา ตลอดจนประชาชนทั่วไปได้อย่างสมบูรณ์ ตามทิศทางการขับเคลือ่ นรัฐสภาเพ่ือมุ่งไปสู่การเปน็ Smart and Open Parliament และ“รฐั สภาดิจิทัล” (Digital Parliament) จากแนวคิดดังกล่าวคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร จึงได้มอบหมายให้ คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาดาเนินงาน ของสภาผู้แทนราษฎร ดาเนินการพิจารณาศึกษาโดยมุ่งเน้นใน ๒ ส่วนหลัก คือ ๑.ระบบเทคโนโลยี สารสนเทศของอาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่ ตามที่บริษทั ผู้รบั จา้ งได้ดาเนนิ ติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารควบคู่กับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และ ๒. ระบบบริการสารสนเทศในวงงาน รฐั สภา ประกอบด้วย เวบ็ ไซต์รัฐสภาและช่องทางการมสี ว่ นร่วมของประชาชน และการเปดิ เผยข้อมูล ภาครัฐ ระบบบรหิ ารจดั การจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ระบบบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-document) และชอ่ งทางการมสี ่วนรว่ มของประชาชน เวบ็ ไซตแ์ ละโซเชียลมเี ดีย (Social Media) ของรัฐสภา และจากการพิจารณาศึกษาคณะกรรมาธิการได้มีบทสรุป ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ สาหรบั ให้หน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้องนาไปปฏบิ ัติ เพอ่ื พฒั นาและการยกระดบั การดาเนินงานของรฐั สภา ดังน้ี ๑. การมุ่งสู่ความเป็น SMART and Open Parliament โดยมีสาระสาคัญในเร่ือง การเปิดเผยข้อมูลของรัฐสภาจะต้องดาเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล คือ ๑) การทาให้ข้อมูล เข้าถงึ ได้ง่าย โดยจะตอ้ งรองรับการใช้งานรว่ มกับโปรแกรมการอ่านสาหรับผู้พิการ (Web Accessibility) ตามมาตรฐาน WCAG มีการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายเพ่ือทาให้ประชาชนท่ัวไปสามารถเข้าถึงเอกสาร ได้ดีข้ึน ๒) สามารถนาไปประมวลผล วิเคราะห์ หรือใช้ซ้าโดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยี (Machine Readable) ทั้งนี้ กระบวนการแปลงไฟล์เอกสารจะต้องมีความถูกต้องแม่นยา สามารถนาไป ใชป้ ระโยชน์ไดโ้ ดยไมม่ ีข้อจากัด และ ๓) การเปดิ เผยข้อมลู ตามมาตรฐานกลางในการแลกเปลยี่ นข้อมูล ระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกันและระหว่างหน่วยงานรัฐกับเอกชน ภายใต้ระดับการเข้าถึงท่ีกาหนดไว้ และได้รับการยินยอมในการแลกเปล่ียนข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลและหน่วยงานที่เก็บข้อมูล (Web API : Application Programming Interface) รวมท้ังการ Open source โดยเปิดเผย Source code ให้ภาคเอกชนซ่ึงมีความเช่ียวชาญเฉพาะในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าช่วยพัฒนาต่อยอดระบบ เวบ็ ไซตใ์ หท้ ันสมยั และตอบโจทย์ประชาชน โดยไมจ่ าเปน็ ตอ้ งพง่ึ พางบประมาณจากภาครฐั

ง ๒. ข้อเสนอแนะเก่ียวระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการบริการสารสนเทศ ในวงงานรัฐสภา แบ่งออกเป็น ๑) เรื่องที่สามารถดาเนินการโดยไม่จาเป็นต้องใช้งบประมาณ เช่น การบันทกึ หน้าจอ (Screen Capture) ผลการลงคะแนนของสมาชิกแบบเรียลไทม์ (Real time) และ เปิดเผยข้อมูลบันทึกการลงคะแนนของสมาชิกรายบุคคลในรูปแบบไฟล์ CSV รวมทั้งควบคุมและ จัดทามาตรฐานระบบการรักษาความปลอดภัยของระบบหลังบ้าน (Back office) เพื่อป้องกันไม่ให้ ผูไ้ ม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงอุปกรณแ์ ละระบบได้โดยง่าย ส่งเสริมให้มีส่อื ทรพั ยากรการศึกษาแบบเปิด (Open Material) การจัดกลุ่มข้อมูลการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา ๗๗ และการเข้าช่ือเสนอ กฎหมายโดยประชาชนตามมาตรา ๑๓๓ (๓) ของรัฐธรรมนูญบนหน้าเว็บไซต์รัฐสภาให้อยู่ใน แพลตฟอร์มเดยี วกัน และเปดิ สถานะความคดิ เห็นของประชาชนให้เปน็ สาธารณะ (Public) ๒) เรือ่ งที่ตอ้ งใช้งบประมาณในการดาเนนิ การ ไดแ้ ก่ การจัดทาบตั รสมาร์ตการ์ด (Smart card) ประจาตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบใบเดียวและการนาระบบสแกนลายน้ิวมือ (Finger Print) มาใช้ในการยืนยันตัวตนร่วมด้วย และเปิดเผยข้อมูลการลงคะแนนของสมาชิก ในรปู แบบ Common Standard Open API (Application Programming Interface) รวมทั้งตดิ ตง้ั ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพ่ือเพ่ิมมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในห้องประชุมสภาและ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการตรวจสอบกรณีเกิดความผิดปกติในการลงคะแนน การติดตั้งระบบ เซ็นเซอร์ตรวจวดั การใชพ้ ลังงานไฟฟ้า การใช้น้า และการสร้างมลพิษของอาคารรัฐสภา การปรับปรุง พื้นที่ห้องสมุดรัฐสภาให้เป็นรูปแบบพื้นที่ทางานร่วมกัน (Co-working space) จัดทาส่ือการเรียนรู้ เกี่ยวกับกระบวนการตรากฎหมาย การเลือกต้ัง และการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการ นติ ิบัญญตั ิและนาเสนอในรูปแบบ Animation เป็นตน้ ๓) เรื่องท่ีจาเป็นต้องกาหนดเป็นนโยบายหรือแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น กาหนดนโยบายการลดการใช้พลังงาน ลดขยะ และลดการก่อมลพิษในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ การกาหนดนโยบายเกยี่ วกบั ชดุ ข้อมลู ของรฐั สภาท่ีจะให้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นต้น อน่ึง ผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการเป็นเพียงบทสรุปส่วนหนึ่ง เก่ียวกับระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศการส่ือสารและระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภา ซึ่งคณะกรรมาธิการเห็นว่ามีความจาเป็นต้องปรับปรุงและพัฒนาในระยะแรกควบคู่ไปกับโครงการ ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีระบบงานอ่ืน ๆ ที่เก่ียวข้องอีกจานวนหลาย ระบบที่จาเป็นต้องได้รับการประเมิน ติดตามผล และพัฒนาในระยะต่อไป เพ่ือให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยีและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน ซ่ึงปัจจัยสาคัญที่จะนาไปสู่การปฏิบัติ ได้อย่างเป็นรูปธรรมคือ ผู้บริหารของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายข้าราชการประจาท่ีเก่ียวข้อง จะต้องมีเป้าประสงค์และร่วมกันกาหนดนโยบายเพ่ือให้นาไปสู่แนวทางการปฏิบัติอย่างชัดเจน รวมท้ังจะต้องมีการส่ือสารเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับผู้ที่เก่ียวข้องทุกฝ่ายให้ตระหนักถึง ความสาคญั และร่วมกนั ผลักดนั ให้เกดิ สัมฤทธิผลตอ่ ไป

จ สารบญั หน้า ก รายนามคณะกรรมาธิการ ข รายนามอนุกรรมาธกิ าร ค บทสรุปผู้บริหาร สารบญั ๒ ๒ ๑. การดาเนินการ ๓ ๒. วธิ ีการพิจารณาศึกษา ๖ ๓. ผ้แู ทนหนว่ ยงานท่มี าให้ข้อมูล ๖ ๔. ผลการพจิ ารณา ๗ ๗ ๔.๑ ความเป็นมา ๑๑ ๔.๒ ประเดน็ การพิจารณา ๑๑ ๔.๓ บทสรุปผลการศกึ ษา ๑๓ ๕. ขอ้ สังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ ๑๕ ๕.๑ เรื่องทสี่ ามารถดาเนนิ การโดยไม่จาเปน็ ต้องใชง้ บประมาณ ๕.๒ เรือ่ งท่ตี อ้ งใชง้ บประมาณในการดาเนินการ ๕.๓ เร่อื งท่ีจาเปน็ ตอ้ งกาหนดเปน็ นโยบายหรอื แก้ไขระเบยี บที่เก่ยี วข้อง

รายงานการพิจารณาศึกษา เรอื่ ง การพฒั นาระบบบริการสารสนเทศอาคารรฐั สภาแหง่ ใหม่ และพัฒนาการดาเนนิ งานของสภาผ้แู ทนราษฎร ของ คณะกรรมาธิการกจิ การสภาผู้แทนราษฎร --------------------------------------- ตามที่ที่ประชุมสภาผูแ้ ทนราษฎร ชุดท่ี ๒๕ ปีท่ี ๑ คร้ังท่ี ๒๑ (สมัยสามัญประจาปีคร้ังทห่ี นึง่ ) วันพุธที่ ๑๑ กนั ยายน ๒๕๖๒ ทป่ี ระชุมสภาผแู้ ทนราษฎรได้ลงมติต้ังคณะกรรมาธิการกิจการสภาผ้แู ทนราษฎร เพ่ือให้มีหน้าที่และอานาจตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๐ (๒) คณะกรรมาธิการ กิจการสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่และอานาจกระทากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเร่ืองใด ๆ ที่เกี่ยวกับกิจการของสภา สมาชิกและผู้เคยเป็นสมาชิก การพัฒนาระบบและปรับปรุงการดาเนินกิจการของสภา คาร้องเรียน ข้อเสนอแนะของสมาชิก และประชาชนในส่วนท่ีเกี่ยวกับกิจการของสภา รวมทั้งเร่ืองใด ๆ ท่ีอยู่ในหน้าที่และอานาจของสภา และองค์กรรัฐสภาระหว่างประเทศ ตรวจสอบรายงานการประชุม พิจารณา ให้ความเห็นเก่ียวกับการเปิดเผยรายงานการประชุมลับ และติดตามผลการปฏิบัติตามมติของสภาน้ัน คณะกรรมาธกิ ารคณะน้ี ประกอบดว้ ย ๑. นายอนนั ต์ ผลอานวย ประธานคณะกรรมาธกิ าร ๒. นายศกั ดา คงเพชร รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทหี่ นึ่ง ๓. นายเทพไท เสนพงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทส่ี อง ๔. นายฐิตินันท์ แสงนาค รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทส่ี าม ๕. นายไชยวฒั นา ตณิ รัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทีส่ ่ี ๖. นายภิญโญ นโิ รจน์ กรรมาธกิ ารและทปี่ รึกษาคณะกรรมาธิการ ๗. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ กรรมาธกิ ารและทป่ี รึกษาคณะกรรมาธิการ ๘. นายชลนา่ น ศรแี กว้ กรรมาธกิ ารและท่ปี รึกษาคณะกรรมาธิการ ๙. นายเอ่ียม ทองใจสด กรรมาธิการและทปี่ รึกษาคณะกรรมาธิการ ๑๐. นายอภิชยั เตชะอบุ ล กรรมาธกิ ารและทป่ี รึกษาคณะกรรมาธิการ ๑๑. นายไกลก้อง ไวทยการ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๒. นายมานะศกั ด์ิ จันทรป์ ระสงค์ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๓. นางสาวนภาพร เพ็ชร์จนิ ดา โฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๔. นายภราดร ปริศนานนั ทกุล โฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๕. นายทวิรฐั รัตนเศรษฐ เลขานกุ ารคณะกรรมาธิการ ต่อมานายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมาธิการ ต้ังแต่วันพุธท่ี ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ และท่ีประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีท่ี ๑ ครั้งท่ี ๑ (สมัยสามัญประจาปีคร้ังท่ีสอง) วันพุธท่ี ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ท่ีประชุมเห็นชอบให้ต้ัง นางทัศนียา รัตนเศรษฐ เป็นกรรมาธิการแทน หลังจากน้ันนายไกลก้อง ไวทยการ ได้พ้นจากตาแหน่งกรรมาธิการเพราะเหตุส้ินสุดสมาชิกภาพความเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เม่ือวันท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ และที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีท่ี ๒

๒ ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญประจาปีครั้งท่ีหนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีท่ี ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๓ ที่ประชุมเห็นชอบ ใหต้ ้งั นายชยั วฒุ ิ ธนาคมานสุ รณ์ เป็นกรรมาธิการแทน บดั น้ี คณะกรรมาธิการได้ดาเนินการพจิ ารณาศึกษาเรื่อง “การพฒั นาระบบบริการสารสนเทศ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาการดาเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร” เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอรายงานผล การศกึ ษาเรอื่ งดงั กลา่ วตอ่ สภาผ้แู ทนราษฎร ดังนี้ ๑. การดาเนินการ คณะกรรมาธิการได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภา แห่งใหม่และพัฒนาการดาเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร เพ่ือทาหน้าที่พิจารณาศึกษาเกี่ยวกับระบบบริการ สารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภา รวมท้ังพิจารณา ศึกษาเร่ืองอื่นใดเก่ียวกับการพัฒนาระบบและปรับปรุงการดาเนินกิจการของสภาผู้แทนราษฎ รตามท่ี คณะกรรมาธิการมอบหมาย ทงั้ นี้ ตามข้อบงั คับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๖ อนกุ รรมาธกิ ารคณะน้ี ประกอบดว้ ย ๑.๑ นายไกลก้อง ไวทยการ ประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร ๑.๒ นางสาวนภาพร เพ็ชร์จินดา รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนทห่ี น่งึ ๑.๓ นายภราดร ปรศิ นานันทกุล รองประธานคณะอนกุ รรมาธิการ คนทีส่ อง ๑.๔ นายฐิติพงษ์ เหลอื งอรุณเลศิ โฆษกคณะอนกุ รรมาธกิ าร ๑.๕ นายศักดิ์ เสกขุนทด อนุกรรมาธิการ ๑.๖ นายสทุ ธชิ ัย ศรสี นุ นท์ อนุกรรมาธิการ ๑.๗ นายสชุ าติ ไตรแสงรุจริ ะ อนุกรรมาธกิ าร ๑.๘ นายคมจิต ลุสวสั ดิ์ อนุกรรมาธกิ าร ๑.๙ นางสาวกษิติธร ภภู ราดัย อนุกรรมาธิการ ๑.๑๐ นายบญุ เลิศ อรณุ พิบลู ย์ เลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธิการ ท่ีปรกึ ษาคณะอนุกรรมาธิการ ประกอบด้วย ๑.๑ นายสมเกยี รติ ถนอมสินธุ์ ๑.๒ นายณัฐพงษ์ เรอื งปญั ญาวุฒิ ๑.๓ นายวรภพ วริ ยิ ะโรจน์ ๑.๔ นายปกรณ์วุฒิ อดุ มพิพัฒน์สกุล ๑.๕ นายอภิรกั ษ์ ปนาทกูล ๑.๖ นางสาวฐติ ิมา ธรรมบารุง คณะกรรมาธิการได้พิจารณารายงานเร่ือง “การพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภา แห่งใหม่และพัฒนาการดาเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร” ของคณะอนุกรรมาธิการฯ และได้มีมติเห็นชอบให้ เสนอต่อสภาผูแ้ ทนราษฎรเพ่ือพจิ ารณา ๒. วธิ กี ารพจิ ารณาศกึ ษา ๒.๑ คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนา การดาเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร ในคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทาการศึกษา วิเคราะห์ ข้อมูลเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ข้อมูลจากแผนและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

๓ และการสื่อสาร รวมท้ังแนวทางการดาเนินการของรัฐสภาต่างประเทศ ตลอดจนความเห็นและข้อเสนอแนะ จากผู้แทนของหน่วยงานท่ีเก่ยี วข้อง โดยดาเนินการประชมุ ท้ังสน้ิ จานวน ๑๒ ครัง้ ดังนี้ ครง้ั ที่ ๑ วนั พฤหสั บดีที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ครั้งท่ี ๒ วันองั คารท่ี ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ คร้ังที่ ๓ วนั พฤหสั บดีท่ี ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๔ วนั จันทรท์ ี่ ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๕ วนั พฤหสั บดีที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ คร้งั ท่ี ๖ วนั ศุกร์ที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๓ ครั้งที่ ๗ วนั พฤหสั บดีที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๓ ครงั้ ที่ ๘ วันศุกร์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๓ ครง้ั ที่ ๙ วันพฤหัสบดีท่ี ๓๐ มกราคม ๒๕๖๓ ครง้ั ท่ี ๑๐ วันศกุ รท์ ่ี ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓ ครง้ั ท่ี ๑๑ วันพฤหัสบดีท่ี ๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ครั้งท่ี ๑๒ วันพฤหสั บดีท่ี ๒๐ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ๓. ผู้แทนหนว่ ยงานท่ีมาให้ข้อมูล ขอ้ เท็จจรงิ คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาการ ดาเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร ได้ดาเนินการศึกษาโดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลประกอบการ พิจารณา ดงั น้ี ๑) สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สานักสารสนเทศ ๑. นางสาวสติ าวรี ์ ธีรวิรฬุ ห์ ผู้อานวยการสานักสารสนเทศ ๒. นายปกาสติ จาเรือง ผบู้ งั คบั บญั ชากลุ่มงานบริหารระบบเครือขา่ ย คอมพวิ เตอร์ ๓. นางสาวจรรยา คาพนู ผู้บงั คบั บัญชากลุ่มงานวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ๔. สบิ เอก โชคชัย สุฤทธ์ิ ผู้บังคบั บัญชากลุ่มงานบริการระบบคอมพวิ เตอร์ ๕. นายณฐั วัชร์ มงั คละคุปต์ ผบู้ ังคบั บญั ชากลมุ่ งานระบบงานคอมพิวเตอร์ ๖. นายธีรวฒุ ิ วงษว์ ิจติ ร นกั วชิ าการคอมพวิ เตอร์ชานาญการพิเศษ ๗. นายมุนนิ ทร์ รตั นานพุ งศ์ นักวิชาการคอมพิวเตอรช์ านาญการพิเศษ ๘. นายอาทิตย์ ธนวงศ์ นกั วิชาการคอมพวิ เตอร์ชานาญการพิเศษ ๙. นายสมศกั ดิ์ เกิดหลา นกั วชิ าการคอมพิวเตอร์ชานาญการพิเศษ ๑๐. นางณรี นชุ จุลประภา นักวิชาการคอมพิวเตอรช์ านาญการพิเศษ ๑๑. นางเสาวนีย์ สุกใส นกั วชิ าการคอมพิวเตอร์ชานาญการพิเศษ ๑๒. นางสาววนั เพ็ญ ชูเมือง นกั วชิ าการคอมพวิ เตอรช์ านาญการ ๑๓. นายภัทรพล ปทั มลัย นกั วชิ าการคอมพวิ เตอร์ชานาญการ ๑๔. นายนาพล นัยยุติ นกั วชิ าการคอมพวิ เตอร์ชานาญการ

๔ ๑๕. นางสาวเหนอื ฝนั พมิ พว์ งศ์ นกั วชิ าการคอมพิวเตอรช์ านาญการ ๑๖. นายจริ ภัทร์ เตม็ วฒุ ิโรจน์ นักวชิ าการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ ๑๗. นายธนยศ สุวรส นักวิชาการคอมพวิ เตอร์ปฏิบัติการ สานักประชาสมั พนั ธ์ ๑. นางจงเดอื น สทุ ธริ ัตน์ ผูอ้ านวยการสานักประชาสัมพนั ธ์ ๒. นางอัจฉรา จยู นื ยง ผู้บงั คบั บัญชากลุ่มงานโสตทัศนปู กรณ์ ๓. นายชยั รัตน์ ทารยิ า นกั วิชาการโสตทัศนศึกษาชานาญการพิเศษ ๔. นายธรี ศักด์ิ ลเี ผิง นายชา่ งอาวุโส สานักวิชาการ ๑. นางอรวรรณ พนั ธเุ์ ปรือ่ ง ผอู้ านวยการสานักวิชาการ (ตาแหน่งในขณะนัน้ ปัจจบุ ันดารงตาแหน่งท่ีปรึกษาด้านระบบงานนติ ิบัญญัติ) ๒. นายมาณิช อนิ ทฉมิ ผู้อานวยการสานักวชิ าการ ๓. นางอารีรตั น์ วชิ าชา่ ง ผบู้ งั คบั บัญชากลุม่ งานห้องสมุด ๔. นางศริ ิพร โหตรภวานนท์ ผบู้ งั คับบัญชากลมุ่ งานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ ๕. นายเชษฐา ทองยงิ่ ผู้บังคบั บัญชากลุ่มงานพิพิธภณั ฑ์และจดหมายเหตุ ๖. นางสาวสุนิดา บญุ ญานนท์ บรรณารกั ษเ์ ช่ียวชาญ ๗. นางสาวอรพรรณ สินธศ์ ิริมานะ วทิ ยากรชานาญการพิเศษ ๘. นายณรงค์ ศรนี าค นกั วิชาการโสตทัศนศึกษาชานาญการพิเศษ ๙. นางสาวบษุ ราภรณ์ อคั รนธิ ิยานนท์ บรรณารกั ษช์ านาญการพิเศษ ๑๐. นางสาวนราภทั ธ เพชรมณี บรรณารักษช์ านาญการพิเศษ ๑๑. นางสาวนรศิ รา เพชรพนาภรณ์ บรรณารกั ษ์ชานาญการพิเศษ ๑๒. นางสาวปรียานชุ คลอวุฒิวัฒน์ บรรณารกั ษ์ชานาญการพิเศษ ๑๓. นางสาววลัยรตั น์ ชายตวั บรรณารักษ์ชานาญการ สถานีวิทยกุ ระจายเสยี งและวิทยุโทรทัศนร์ ัฐสภา ๑. นางสาวโสมอุษา บรู ณะเหตุ ผู้อานวยการสถานวี ิทยุกระจายเสยี งและวิทยุ โทรทัศนร์ ฐั สภา (ตาแหน่งในขณะนน้ั ปจั จุบันดารงตาแหนง่ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) ๒. นางสุพรรณี ชวี าไทย ผู้บงั คับบัญชากลุ่มงานผลิตรายการวิทยุ (ตาแหน่งในขณะนน้ั ปัจจบุ ันดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานีวทิ ยกุ ระจายเสียงและ วิทยโุ ทรทัศนร์ ัฐสภา) ๓. นางจิราภรณ์ มาลากาญจน์ ผ้บู งั คับบญั ชากลมุ่ งานผลิตรายการโทรทศั น์ ๔. นางสาวภทั รพร สุนทรวสุ ผบู้ ังคบั บัญชากลุ่มงานข่าวและประเมินผล ๕. นายชัยวฒั น์ ชายเกตุ ผบู้ ังคบั บัญชากลมุ่ งานเทคนิค ๖. นางจนั ทรฉ์ าย ใบบัง ผู้บงั คบั บัญชากลมุ่ งานบริหารท่วั ไป ๗. นางสาวนภาทิพย์ นโู พนทอง นักประชาสัมพันธช์ านาญการพิเศษ ๘. นายพรชยั แวน่ แคว้น นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชานาญการ ๙. นายเสริม โม่สนั ทด นายชา่ งชานาญงาน

๕ สานกั การประชมุ ๑. นายสาธติ ประเสริฐศกั ด์ิ ผอู้ านวยการสานักการประชมุ (ตาแหน่งในขณะนัน้ ปัจจุบันดารงตาแหน่งรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) ๒. นางสาวสายฝน ไกรสมเลศิ ผบู้ งั คบั บญั ชากลุม่ งานบริหารทว่ั ไป สานกั รกั ษาความปลอดภัย ๑. นายขวัญชยั เพช็ รนิล ผบู้ ังคับบญั ชากลุ่มงานเทคโนโลยรี ักษา ความปลอดภยั ๒. นายมนตรี บุดดาวงศ์ เจา้ หนา้ ท่ีตารวจรฐั สภาชานาญงาน ๓. นายจาตุรนต์ ยงั สขุ เจ้าพนกั งานพัสดุอาวโุ ส ๒) สานกั งานปลดั กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกจิ และสังคม ๑. นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คม ๒. นายสถาพร สอนเสนา ผอู้ านวยการกลุ่มงานกฎหมายและระเบียบ ๓. นางสาวบญุ วรรณ เขม็ ทอง นิตกิ รชานาญการ ๔. นางสาวดรุณี พิกุลทอง นติ ิกรชานาญการ ๕. นางกนษิ ฐกา พานชิ ชอบ นิติกรปฏิบัตกิ าร ๓) สานกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑. นางสาวพลอย เจริญสม ผอู้ านวยการสานักกฎหมาย ๒. นายพรพรหม ประพากิตติกุล ผู้ชานาญการอาวุโส ๔) บรษิ ทั แอด็ วานซ์ อินฟอร์เมชน่ั เทคโนโลยี จากัด (มหาชน) ๑. นายสหัส ชา้ งสาต ผอู้ านวยการโครงการ ๒. นายเลิศไพบูลย์ ชาญวสุนันท์ วศิ วกรโครงการ ๓. นายมานพ เกษี วศิ วกรโครงการ ๔. นายสรุ เชฏฐ์ ชัยเพชร ผูป้ ระสานงานโครงการ ๕. นายพิรญาณ์ กลน่ั ศิริ ๕) บรษิ ทั ที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ๑. นายโชตจิ ุฑา อาจสอน กรรมการบริหาร ๒. นายพฒุ พิ งศ์ พทิ ยาวุธวินิจ รองผูอ้ านวยการโครงการ ๓. นายพินจิ พูลเกิด ผู้จดั การสานักงาน ๖) กลุม่ กิจการร่วมค้าสงบ ๑๐๕๑ ๑. นายชาตรี ลดาลลิตสกุล หัวหน้าสถาปนิกโครงการ ๒. รองศาสตราจารยธ์ นิต จนิ ดาวณคิ ผ้เู ชีย่ วชาญดา้ นพลังงาน ๓. นายวโิ รจน์ เทศนส์ าลี สถาปนิกอาวโุ สโครงการ ๗) บรษิ ัท ซโิ น - ไทย เอ็นจีเนียร่งิ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จากดั (มหาชน) - นายวรท โมกขพันธ์ ผจู้ ดั การโครงการ ๘) สานกั ส่ือใหม่ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) - นางสาวกนกพร ประสิทธผิ์ ล ผู้อานวยการสานักสื่อใหม่

๖ ๙) บริษัท ไซคอรป์ จากดั นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ๑. นายเกยี รตศิ ักดิ์ ทาจริงจัง นกั เขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ๒. นายภษู ติ ชยั ชนะมงคล ๑๐) บรษิ ัท บซิ โพเทนเชียล จากดั ๑. นางสาวภัทริยา วงศ์สายสถิตย์ ๒. นายวัลลภ ลาภสภาพรกุล ๔. ผลการพิจารณา ๔.๑ ความเป็นมา อาคารรัฐสภาแห่งใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่ถูกบริหารจัดการด้วยระบบสารสนเทศ ครอบคลุมด้วยระบบเครือข่ายภายใต้ระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและระบบรักษาความมั่นคง ปลอดภัยทางกายภาพที่เข้มงวด โดยระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศของอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ มีแนวคดิ การออกแบบ ศูนย์ขอ้ มลู หลัก (Data Center) และระบบสารสนเทศสาหรบั อาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่แบบบูรณาการ เพื่อบรหิ าร จัดการเอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ (Electronic Documents : e-Docs) และรองรับการทางานในรปู แบบสานกั งาน ดจิ ิทลั (Digital Office) เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวเขา้ สู่การเปน็ Digital Parliament และ Smart Parliament ในอนาคต คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรซ่ึงมีหน้าท่ีและอานาจในการพัฒนาระบบ และปรับปรุงการดาเนินกิจการของสภา ได้มีแนวคิดในการศึกษาเกี่ยวกับระบบบริการสารสนเทศสาหรับ อาคารรฐั สภาแห่งใหม่ ระบบเครือข่ายและอินเทอรเ์ น็ตของรฐั สภา ระบบสารสนเทศสาหรับการประชุม ระบบ การลงคะแนน ระบบการจัดการเอกสารประกอบการประชุม ระบบสมาร์ตการ์ด ระบบสารสนเทศเพื่อความ ปลอดภัย ระบบข้อมูลบนเว็บไซต์รัฐสภา ระบบการมีส่วนร่วมผ่านดิจิทัลแพลตฟอรม์ ระบบส่ือสารทางโซเชียล มีเดียของรัฐสภา รวมทั้งระบบบริการห้องสมุด พิพิธภัณฑ์รัฐสภาและจดหมายเหตุรัฐสภา ตลอดจน การติดตามความก้าวหน้าในดาเนินการติดต้ังระบบสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จึงได้มีมติในคราวประชุม คณะกรรมาธิการ ครั้งท่ี ๘ วันพุธท่ี ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ และอาศัยอานาจตามข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๖ ตั้งคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภา แห่งใหม่และพัฒนาการดาเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ให้คณะอนุกรรมาธิการมีหน้าท่ีและอานาจ ในการพิจารณาศึกษาเกี่ยวกับระบบบริการสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาระบบบริการ สารสนเทศในวงงานรฐั สภา ตลอดจนการพฒั นาระบบและปรบั ปรุงการดาเนนิ กจิ การของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีขอบเขตกว้างขวาง ครอบคลุมระบบสารสนเทศและโครงข่ายการสื่อสารขนาดใหญ่ คณะอนุกรรมาธิการจึงได้กาหนดกรอบ การพิจารณาโดยมุ่งศึกษาในเร่ืองระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ๒ ส่วนหลักคือ ๑) การพัฒนาระบบสารสนเทศ ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ตามที่บริษัทผู้รับจ้างติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ดาเนินการไปควบคู่กับ การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และ ๒) การพัฒนาระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภาที่เกี่ยวข้องกับ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือสนับสนุนการทางานของบุคลากรในวงงานรัฐสภา การเผยแพร่ข้อมูล สู่สาธารณะและการมีส่วนร่วมของประชาชนเพ่ือให้ครอบคลุมระบบบริการสารสนเทศท่ีจาเป็นสาหรับ สมาชิกรฐั สภา ข้าราชการ และบุคลากรในวงงานรฐั สภา รวมทัง้ สนับสนุนบทบาทภารกิจของสถาบันนติ ิบัญญัติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และนาไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ “รัฐสภา ดิจิทัล (Digital Parliament) หรือองค์กรที่สามารถสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่าง

๗ เตม็ ศกั ยภาพในการพฒั นาโครงสรา้ งพื้นฐาน นวัตกรรม ข้อมลู ทุนมนุษย์ และทรัพยากรอื่นใด เพอ่ื สนับสนุนงาน ด้านนิติบัญญัติ” ตามแผนพัฒนา Digital Parliament ของรัฐสภา ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕) ตลอดจน ทาให้การขบั เคลือ่ นรัฐสภาเพื่อมุ่งไปสกู่ ารเป็น Smart Parliament ใหส้ มั ฤทธ์ิผลตอ่ ไป ๔.๒ ประเดน็ การพิจารณา คณะอนุกรรมาธกิ ารได้กาหนดประเดน็ ในการพิจารณาศึกษา ดงั น้ี ๑) ระบบการแสดงตนและการลงคะแนนด้วยระบบสมารต์ การด์ (Smart card) ๒) ระบบความปลอดภัยไซเบอร์ของรฐั สภา และการคุ้มครองขอ้ มลู ส่วนบุคคล ๓) ระบบ SMART/Green Building, ระบบป้ายข้อมูลดิจิทัล (Digital Signage) และ ระบบการรักษาความปลอดภัยของอาคารรฐั สภา ๔) หอสมุดรฐั สภา พพิ ิธภณั ฑ์ และจดหมายเหตุรฐั สภา ๕) ระบบบริหารจัดการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) และระบบบริหารจัดการ เอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-document) ๖) เวบ็ ไซต์รฐั สภา ชอ่ งทางการมสี ่วนร่วมของประชาชน และการเปดิ เผยข้อมูลของรฐั สภา ๗) โซเชียลมเี ดยี (Social Media) ของรัฐสภา ๔.๓ บทสรปุ ผลการศึกษา จากการศึกษาแนวคิดการออกแบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของอาคารรัฐสภา แห่งใหม่ แผนงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งปัญหา อุปสรรคท่ีเก่ียวข้องกับระบบบริการสารสนเทศ ของรฐั สภาในปัจจบุ นั ตลอดจนแนวโน้มของการดาเนินการของรฐั สภาในระดบั สากล สามารถสรุปผลการศึกษา ดงั น้ี ๑) การมงุ่ สู่ SMART and Open Parliament โดยท่ีแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๖๓ ซ่ึงเป็ นเครื่ องมือส าคัญส าหรั บการ วางกรอบนโยบายและทิ ศทางการขับเคลื่ อนรั ฐสภาเพื่ อมุ่ง ไปสู่ การเป็ น Smart Parliament ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้บรรลุวิสัยทัศน์ “รัฐสภาดิจิทัล (Digital Parliament) หมายถึง องค์กรที่สามารถสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงสรา้ ง พ้ืนฐาน นวัตกรรม ข้อมูล ทุนมนุษย์ และทรัพยากรอื่นใด เพ่ือสนับสนุนงานด้านนิติบัญญัติ” โดยมียุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนคือ (๑) Smart Infrastructure (๒) Smart Integration (๓) Smart Security (๔) Smart People (๕) Smart Services อีกทั้ง การขับเคลื่อนแผนพัฒนา Digital Parliament ของรัฐสภา ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) จะต้องมีความสอดคล้องและเป็นไปตามแนวคิดของการออกแบบระบบเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อรองรับการก้าวสู่การเป็นรัฐสภาดิจิทัล ดังน้ี (๑) การบริหารจัดการประชุมท่ีทันสมัยและ ครบวงจร (๒) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลท่ีเหมาะสม (๓) การเผยแพร่ข้อมูล (๔) การให้บริการสมาชิก รัฐสภา เจ้าหน้าที่ และประชาชน (๕) การใช้งาน Smart Device สามารถเข้าถึงข้อมูล และบริการได้จากทกุ ที่ ทกุ เวลาและมีความปลอดภยั นอกจากน้ี แนวโน้มของการดาเนินการของรัฐสภาในระดับสากลได้มุ่งที่จะสร้าง การดาเนินงานที่โปร่งใส การเปิดกว้าง และการมีส่วนร่วมของพลเมือง โดยมีหลักการดังน้ี (๑) การส่งเสริม วัฒนธรรมการเปิดกว้าง เน่ืองจากข้อมูลรัฐสภาถือเป็นข้อมูลของสาธารณะ (๒) ทาให้ข้อมูลรัฐสภามีความ โปร่งใส (๓) ทาให้การเข้าถึงข้อมูลรัฐสภาง่ายข้ึน (๔) การเปิดใช้งานการส่ือสารทางอิเล็กทรอนิกส์ของข้อมูล

๘ รัฐสภาโดยข้อมูลรัฐสภาจะเผยแพร่ออนไลน์ในรูปแบบเปดิ และในรูปแบบโครงสร้างทอ่ี นญุ าตใหป้ ระชาชนนาไป วเิ คราะห์และใชซ้ า้ โดยใชเ้ ครือ่ งมือเทคโนโลยี ดังนั้น การดาเนินของรัฐสภาจะต้องมีความโปร่งใส มีข้อมูลท่ีเปิดกว้าง และทาให้ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดยงา่ ย และสามารถนาขอ้ มูลของรฐั สภาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้อยา่ งกว้างขวาง ๒) ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศของอาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่ การศึกษาในหัวข้อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เนื่องจาก อยู่ในช่วงระหว่างการก่อสร้างอาคารรัฐสภาซ่ึงร ะบบงานด้าน เ ทคโนโลยี สารสนเ ทศของอ าคาร รัฐ ส ภ า ยังดาเนินการไม่แลว้ เสร็จ โดยในการดาเนินงานสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดจ้าง บริษทั แอด๊ วานซ์ อินฟอร์เมช่ัน เทคโนโลยี จากัด (มหาชน) (AIT) ดาเนินงานตามสัญญาจ้างงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่ือสาร โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ เลขท่ี ๑๓๕/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๒๐ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ วงเงินงบประมาณ ๓,๓๕๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท มรี ะยะเวลา ดาเนินการ จานวน ๕๔๐ วัน (ต้ังแต่วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ – วันท่ี ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๓) โดยผู้รับจ้าง ไดม้ กี ารดาเนินการตามแผนงานร้อยละ ๘๖.๕๗ และมีความสาเร็จที่ทาได้จริงร้อยละ ๔๖.๒๖ จากเนื้องานท้ังหมด (ข้อมลู จากการชแี้ จงของบรษิ ทั ผูร้ ับจ้าง (AIT) เมื่อเดือนธนั วาคม ๒๕๖๒) ดังน้ัน ในประเด็นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการบริการสารสนเทศอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ จึงเป็นการศึกษาในส่วนท่ีเป็นโครงการท่ีกาลังดาเนินการติดตั้งอุปกรณ์และพัฒนาระบบ รวมทั้งปัญหาจากระบบที่ดาเนินการติดต้ังเสร็จแล้วและมีการใช้งานจรงิ ดังนี้ (๑) ระบบการแสดงตนและการลงคะแนนด้วยระบบสมาร์ตการด์ (Smart card) ปัจจุบันอาคารรัฐสภาอยู่ระหว่างการก่อสร้างและในส่วนของห้องประชุม สภาผู้แทนราษฎรยังดาเนินการไม่แล้วเสร็จ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงแรกจึงต้องใช้ห้องประชุม อาคารวุฒิสภาเป็นห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปก่อน ซึ่งห้องประชุมวุฒิสภาออกแบบมาเพื่อรองรับสมาชิก จานวน ๓๕๐ ท่ีน่ัง เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจานวน ๕๐๐ คน จึงทาให้เกิดปัญหาจานวนท่ีน่ังและ เครื่องลงคะแนนไม่เพียงพอกับจานวนสมาชิก เป็นผลให้การลงคะแนนโหวตแต่ละคร้ังสมาชิกไม่สามารถ ลงคะแนนพร้อมกันได้จากในแต่ละท่ีนั่ง และพบว่ามีกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกดบัตรลงคะแนนแทนกัน จนนาไปสู่การรอ้ งเรียนและมีการสอบสวนขอ้ เท็จจริง ท้งั น้ี แม้ว่าระบบการลงคะแนนจะแสดงผลการลงคะแนน แต่มีข้อเสียคือ ระบบไม่มีการบันทึกข้อมูลการลงคะแนนของสมาชิกไว้ภายหลังจากที่มีการลงคะแนนแล้ว ทาให้ไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลบันทึกการลงคะแนนของสมาชิกเป็นรายบุคคลได้ รวมท้ังทาให้ไม่มีหลักฐาน สาหรับการตรวจสอบภายหลงั กรณที ี่มีการร้องเรยี นวา่ สมาชิกกดบตั รลงคะแนนแทนกนั นอกจากนี้ การเผยแพร่ข้อมูลการประชุม บันทึกออกเสียงลงคะแนน รวมทั้ง ฐานข้อมูลอ่ืน ๆ ของสมาชิก เช่น ประวัติสมาชิก การมาประชุม การลงคะแนนโหวตต่าง ๆ ยังมีข้อจากัดเร่ือง ระเบยี บของทางราชการ ในกรณที ่ีจะเผยแพรบ่ นเว็บไซต์จะต้องใหห้ ัวหนา้ ส่วนราชการลงลายมือชื่อกากับเอกสาร รวมท้ังผู้บริหารท่ีมีอานาจอนุมัติไม่ได้กาหนดนโยบายเร่ืองการเผยแพร่ชุดข้อมูลต่าง ๆ ในรูปแบบท่ีสามารถ นาไปใช้ประโยชน์ต่อได้ตามแนวทางและมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ จึงทาให้ประชาชนไม่ได้รับทราบ ข้อมูลเก่ียวกับการลงคะแนนของสมาชิกรายบุคคลในการประชุมแต่ละคร้ัง ซ่ึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความ ไม่โปร่งใสในการทาหน้าทข่ี องสมาชิก และไมส่ ่งเสรมิ วฒั นธรรมเร่อื งการเปิดกว้างข้อมูลของรฐั สภา

๙ (๒) ระบบความปลอดภยั ไซเบอร์ของรัฐสภา และการคมุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบุคคล การให้บริการหรือการประยุกต์ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต โครงข่าย การสื่อสารและโทรคมนาคม มีความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและ ข้อมูลท่ีสาคัญโดยเฉพาะอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่ รวมท้ังเป็นองค์กรหลักด้านนิติบัญญัติ ซ่ึงเป็นแหล่งข้อมูลท่ีสาคัญของประเทศ ดังนั้น การดูแลระบบสารสนเทศและโครงข่ายส่ือสารของรัฐสภา จาเป็นต้องเพ่ิมมาตรการระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลควบคู่ไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ การขับเคลื่อนรัฐสภาเพื่อมุ่งสู่การเป็น Smart Parliament รัฐสภาโดยการสนับสนุนของสานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรและสานักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะต้องบูรณาการแนวทางการทางานร่วมกัน โดยการบริหาร จัดการการใช้งานระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภา ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ ระบบงาน และระบบฐานข้อมูล ระบบเครือข่าย เพื่อให้มีความพร้อมต่อการใช้งานตลอดเวลา รวมทั้งเพ่ือให้มีความม่นั คง ปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานสากล ตลอดจนการประสานงานกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือยกระดับมาตรการดูแล และเฝา้ ระวงั ภยั คุกคามจากระบบคอมพิวเตอรใ์ หส้ อดคล้องกบั ระดับการรักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภา แห่งใหม่ (๓) ระบบ SMART/Green Building, ระบบป้ายข้อมูลดิจิทัล (Digital Signage) และระบบการรักษาความปลอดภัยของอาคารรฐั สภา อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ได้รับการออกแบบให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน และ มีการวางระบบสารสนเทศเพ่ือบริหารอาคาร อย่างไรก็ตาม เม่ือมีการปรับงบประมาณในการก่อสร้าง จึงได้มีการปรับลดคุณสมบัติของการเป็นอาคารอัจฉริยะลง เช่น ไม่มีแผงผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เซ็นเซอร์ (Sensor) ตรวจจบั การใช้พลังงาน เปน็ ต้น อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ได้ออกแบบส่วนระบบบริการข้อมลู ข่าวสารภายในอาคาร เช่น ตารางการใช้ห้องประชุม การบอกเส้นทางสถานทต่ี ่าง ๆ ภายในอาคารรฐั สภาแหง่ ใหม่ ได้ถูกออกแบบเป็น รูปแบบจอภาพแสดงผลข้อมูลหรอื Digital Signage ทตี่ ดิ ต้ังตามหอ้ งตา่ ง ๆ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการท้ังด้านการวางผัง การติดต้ัง อุปกรณ์เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสม ครอบคลุมความปลอดภยั ต่อบคุ คล ทรพั ย์สิน และสาธารณะตามมาตรฐานสากล พร้อมท้ังมีการจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุสาหรับเหตุการณ์ต่าง ๆ และเตรียมนาเคร่ืองมือทางเทคโนโลยี เชน่ ระบบบัตร RFID ระบบท่ีจอดรถอจั ฉรยิ ะ มาใช้ในระบบรักษาความปลอดภัย (๔) หอสมดุ รฐั สภา พิพธิ ภณั ฑ์ และจดหมายเหตรุ ัฐสภา เน่ื องจ ากคว าม ก้าว ห น้ า ทาง เท คโ น โ ล ยี อ ย่ า งร ว ดเ ร็ ว ท าให้ ค ว า มต้ อ ง ก า ร สารสนเทศและคว ามคาดหวังของผู้ใช้บริการห้องสมุด แบบด้ังเดิม ที่ต้องก ารเพียง การสืบค้นข้ อมู ล แ ล ะ ยมื หนังสอื จากห้องสมดุ เปล่ยี นมาเป็นความต้องการใช้บริการพ้ืนท่ีตามแนวคิดที่ว่าห้องสมุดไม่ใช่ทเ่ี ก็บหนังสือ หรือห้องอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นแหล่งการเรียนรู้ท่ีสร้างแรงบันดาลใจและพ้ืนที่ทางาน ร่วมกัน และความต้องการใช้ทรัพยากรสารสนเทศแบบดิจิทัลท่ีบุคคลทุกกลุ่ม รวมทั้งผู้พิการหรือมีความ บกพร่องทางสายตาสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก ตลอดจนการให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและ หลากหลายแง่มุมมากข้ึนด้วย ส่วนพิพิธภัณฑ์และจดหมายเหตุรัฐสภาซ่ึงเป็นแหล่งเรียนรู้และสืบค้นเรื่องราว เก่ียวกับการเมืองการปกครองไทยท่ีสาคัญของรัฐสภา การสร้างจิตสานึก ความคิดสร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วม ของประชาชนตามแนวทางของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จาเป็น จะต้องปรับเปล่ียนท้ังในด้านเนื้อหาและรูปแบบการจัดแสดงให้ทันสมัย สอดคล้องกับแนวคิดและอัตลักษณ์

๑๐ ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เพื่อให้พิพิธภัณฑ์รัฐสภาเป็นแหล่งเรียนรู้สาคัญระดับชาติทางประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครองของประเทศไทยท่มี ีคุณคา่ แก่การศกึ ษาเรยี นรู้ของคนรุ่นหลงั ตอ่ ไป ๓) ระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภา (๑) เวบ็ ไซตร์ ฐั สภา ชอ่ งทางการมสี ว่ นร่วมของประชาชน และการเปิดเผยข้อมลู ภาครัฐ การเผยแพร่ข้อมูลสู่ภาคประชาชนและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ถือเป็นประเด็น ท่ีสาคัญสาหรับแนวคิดการออกแบบรัฐสภาดิจิทัล (Digital Parliament) เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนให้ ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองและเผยแพร่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ท้ังนี้ ข้อมูลท่ีได้รับอนุญาตให้มีการเผยแพร่ต้องเป็นข้อมูลที่มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน มีศูนย์กลางการเผยแพร่และการให้บริการข้อมูลเพ่ือให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากแหล่งเดียว และต้องให้ความสาคัญกับการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ เพื่อส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ตามระบอบประชาธปิ ไตย รัฐซง่ึ มหี น้าทีต่ อ้ งเปดิ เผยข้อมลู ตามหลักการ “เปดิ เผยเปน็ หลัก ปกปดิ เปน็ ข้อยกเวน้ ” (๒) ระบบบริหารจัดการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) และระบบบริหารจัดการ เอกสารอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-document) ระบบบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนกิ ส์ (E-document) ของสานักงานเลขาธกิ าร สภาผู้แทนราษฎร เร่ิมใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ เป็นระบบสาหรับบริหารจัดการเอกสาร ได้แก่ การจัดเก็บ การสืบค้น ให้ผู้ใช้งานสามารถสืบค้นผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตท่ี http://edoc.parliament.go.th ทาให้ได้ ข้อมูลเอกสารที่รวดเร็ว ทันต่อความต้องการ ลดเวลาและขั้นตอนในการปฏิบัติงาน อีกทั้งเพ่ือให้การจัดเก็บเอกสาร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (เอกสารท่ีเกิดจากการสแกนและไฟล์ข้อมูล) เป็นระบบระเบียบมากข้ึน รวมถึง การอนุญาตสทิ ธิในการจดั การเอกสาร ระบบบริหารจัดการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของสานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร อยู่ภายใต้โดเมนเนม (Domain name) @parliament.go.th ซ่ึงใช้งานมาเป็นระยะ เวลานานทาให้ปัจจุบันเหลือพ้ืนท่ีจัดเก็บข้อมูลน้อย ซึ่งพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลบนระบบ E-mail ของแต่ละบัญชีมีพ้ืนท่ีประมาณ ๕๐ เมกะไบต์ (MB) เท่านั้น และยังมีข้อจากัดในการส่งไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ ทาให้ไม่สะดวกและเป็นอุปสรรคในการใช้งาน บุคลากรของรัฐสภาส่วนใหญ่จึงนิยมใช้การส่งจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์จากผู้ให้บริการภายนอกมากกว่า ท้ังนี้ จากข้อมูลที่ได้รับจากผู้แทนสานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรให้ข้อมูลว่าสานักงานฯ มีแนวคิดในการพัฒนาระบบ E-mail ใหม่ เพ่ือทดแทนระบบเดิม ที่ล้าสมัย และได้มีการเสนอแผนงานพร้อมคาของบประมาณเพ่ือดาเนินการแล้ว แต่เน่ืองจากงบประมาณได้ ถูกตัดในช้ันการพิจารณาของกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ซ่ึงกระทรวงได้มีข้อเสนอให้ใช้ระบบ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลาง เพื่อการสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐ (MailGoThai) แทนระบบเดิม จึงทาให้ ปจั จุบนั ยังไมส่ ามารถดาเนินการพฒั นาระบบใหมไ่ ด้ ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ ง า น ส า ร ส น เ ท ศ แ ล ะ ก า ร จั ด เ ก็ บ ข้ อ มู ล ส า ร ส น เ ท ศ ต า ม กระบวนงานนิติบัญญัติของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสานักงานเลขาธิการวุฒิสภาที่ผ่านมา ดาเนินการในลักษณะท่ีเป็นอิสระต่อกัน ไม่มีนโยบายท่ีชัดเจนในเร่ืองของการประสานการแลกเปลี่ยนข้อมูล สารสนเทศเพื่อใช้งานร่วมกัน ส่งผลให้รูปแบบการจัดเก็บและการนาข้อมูลสารสนเทศจากฐานข้อมูลออกมาใช้ มวี ิธกี ารทแี่ ตกตา่ งกัน ทาให้การแลกเปลีย่ นและใช้ข้อมลู สารสนเทศรว่ มกันระหว่างท้ังสองสานักงานไม่สามารถ ทาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ และไมเ่ อือ้ อานวยต่อการบรู ณาการฐานข้อมูลนิติบัญญัติโดยองค์รวม ปัจจุบันการบูรณาการฐานข้อมูลนิติบัญญัติโดยองค์รวม สานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรและสานักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้มีการวางแผนบูรณาการข้อมูลร่วมกันของรัฐสภา

๑๑ เพื่อใช้สาหรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ในรูปแบบ “การบริหารจัดการไฟล์อัจฉริยะ” ประกอบด้วย ๑) การจัดเก็บ ไฟล์เอกสารต่าง ๆ ๒) การสืบค้นเอกสาร ๓) การเรียกใช้งานเอกสาร ๔) ประวัติการใช้งานเอกสาร และ ๕) การใช้งานผา่ นโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเชื่อมต่อกบั อปุ กรณ์อื่น ๆ (Smart Device) (๓) ช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชน เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย (Social Media) ของรฐั สภา การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับการดาเนินงานต่าง ๆ ของรัฐอย่างกว้างขวางเป็นสิ่งจาเป็น เพ่ือที่ประชาชนจะได้สามารถแสดงความคิดเหน็ และใช้สิทธทิ างการเมอื ง ได้โดยถูกต้องตรงตามความเป็นจริง อันจะเป็นการส่งเสริมให้รัฐบาลมีการบริหารงานที่มีประสิทธภิ าพ โปร่งใส และเปน็ ไปเพือ่ ประโยชน์ของประชาชนมากยิง่ ข้ึน ท้ังน้ี ส่ือที่มีความสาคัญในปัจจุบันคือ โซเชียลมีเดีย (Social media) ซึ่งเป็น ส่ือสังคมออนไลน์ท่ีมีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทางโดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย เป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ สาหรับรัฐสภาและสมาชกิ รัฐสภา เป็นการสร้างพ้ืนท่ีการสอ่ื สาร การเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐสภา เช่น การอภิปราย การประชุมคณะกรรมาธิการ ภารกิจของสมาชิกรัฐสภา เป็นช่องทางการเช่ือมต่อกับประชาชนในการรับฟังความคิดเห็น การสร้างความสนใจในเรื่องกฎหมายและ นโยบายการทางานของฝ่ายนิติบัญญัติ การเผยแพร่งานวิจัยและสิ่งพิมพ์ของรัฐสภา รวมถึงทรัพยากร ทางการศึกษาและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อการส่งเสริมความโปร่งใส และการเชื่อมโยงกับภาคประชาสังคม ชุมชน และกลุ่มอื่น ๆ เพื่อเพ่ิมความสามารถในการเข้าถึงรัฐสภาของประชาชน ซ่ึงการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย สามารถทาได้หลากหลายช่องทาง การเผยแพร่ข้อมูลมีความรวดเร็ว กระจายวงกว้างและใช้ต้นทุนต่า แต่ขณะเดียวกันมีข้อจากัดในเร่ืองความเป็นทางการ และการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะที่ควบคุมได้ยาก ดงั นั้น การใช้โซเชยี ลมีเดยี แต่ละประเภทสาหรับรัฐสภาจะต้องพจิ ารณาความเหมาะสมและความสมดลุ ด้วย ๕. ข้อสงั เกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ จากการศึกษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และ ระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภา คณะกรรมาธิการได้นามาประมวลจัดทาเป็นข้อสังเกตและ ข้อเสนอแนะ โดยแบ่งออกเป็น เร่ืองที่สามารถดาเนินการได้โดยไม่จาเป็นต้องใช้งบประมาณ เร่ืองที่ต้องใช้ งบประมาณในการดาเนินการ และเร่อื งที่จาเปน็ ต้องกาหนดนโยบายหรือแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องก่อน ดังนี้ ๕.๑ เรื่องท่สี ามารถดาเนินการโดยไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใชง้ บประมาณ ๑) การตดิ ตง้ั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาใหม่ - ผู้รับจ้างงานระบบสายสัญญาณ (ท่อ สาย เต้ารับ) ต้องเร่งรัดดาเนินการติดต้ัง ให้สามารถดาเนินการติดตง้ั อปุ กรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ต่อไปได้ เพอื่ ใหง้ านสาเร็จตามแผนงาน ๒) ระบบการแสดงตนและการลงคะแนนด้วยระบบสมารต์ การ์ด (Smart card) - ควรติดตั้งระบบบันทึกหน้าจอคอมพิวเตอร์ (Screen Capture) เพ่ือบันทึกผล การลงคะแนนแบบเรียลไทม์ (Real time) และให้มีกาหนดระยะจัดเก็บ เช่น ภายใน ๓๐ วัน เป็นต้น เพอื่ ประกอบเปน็ หลกั ฐานในการตรวจสอบตอ่ ไป - ควรเปิดเผยข้อมูลบันทึกการลงคะแนนของสมาชิกรายบุคคลในรูปแบบไฟล์ CSV เพื่อประโยชน์ในการนาไปใช้งานต่อ พร้อมทั้งกาหนดนโยบายให้นาไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจนเก่ียวกับชุดข้อมูล ต่าง ๆ ท่ีจะให้มีการเปิดเผย เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐ ผ่านระบบดิจทิ ัล พ.ศ. ๒๕๖๒

๑๒ - ควรจัดทามาตรฐานระบบการรักษาความปลอดภัยของระบบหลังบ้าน (Back office) เช่น การล็อกอิน (Log in) เข้าสู่ระบบควบคุมการลงคะแนน เพื่อป้องกันช่างเทคนิคหรือไม่ให้ผู้ไม่เก่ียวข้อง สามารถเขา้ ถงึ อปุ กรณ์และระบบได้โดยง่าย ๓) ระบบความปลอดภัยไซเบอร์ของรัฐสภาและการคุ้มครองขอ้ มูลสว่ นบคุ คล - ดาเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์ประสานการรักษาความ ม่ันคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) เพื่อยกระดับมาตรการดูแลและเฝ้าระวังภยั คุกคาม จากระบบคอมพิวเตอร์ให้สอดคล้องกบั ระดบั การรักษาความปลอดภยั ของอาคารรฐั สภาแหง่ ใหม่ - เพิ่มมาตรการตรวจสอบและยืนยันสิทธิการเข้าระบบบัญชีผู้ใช้งานให้สอดคล้องกับ ความจาเป็นในการเขา้ ถึงระบบและข้อมูลก่อนเข้าใช้งานทุกคร้ัง รวมท้ังเพ่ิมมาตรการป้องกันเว็บไซต์ด้วยระบบ การป้องกันการโจมตี เชน่ Web Application Firewall, DOS, DDoS เปน็ ตน้ - ควรส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรของรัฐสภาให้มีความรู้ ความสามารถในการใช้ระบบ โครงสร้างพ้ืนฐานด้านเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพ มีความเป็นมืออาชีพ และเป็นต้นทุนมนุษย์ (Human Capital) ของรัฐสภา เช่น การส่งบุคลากรเข้าร่วมฝึกอบรมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องโดยตรง เพ่ือเตรียมความพร้อมรับมือกรณีการเกิดเหตุการณ์ที่ผิดปกติหรือเหตุการณ์วิกฤตต่าง ๆ ตลอดจนพัฒนาและ ทบทวนแผนงานให้สอดคลอ้ งกับแผนระดบั ชาตวิ ่าดว้ ยการรักษาความม่นั คงปลอดภัยไซเบอร์ ๔) หอสมุดรัฐสภา พิพธิ ภัณฑ์ และจดหมายเหตุรฐั สภา - ควรส่งเสริมให้มีส่ือทรัพยากรการศึกษาแบบเปิด (Open Material) ให้ผู้ใช้บริการ สามารถเข้าถึง ใช้งาน แก้ไข เปลีย่ นแปลง และเผยแพรข่ ้อมลู ไดโ้ ดยไมม่ ขี อ้ จากดั - ควรสง่ เสรมิ ใหม้ ีแผนดาเนินการใหข้ ้าราชการ บุคลากรในวงงานรัฐสภา และประชาชน มีทักษะดา้ นความฉลาดทางดจิ ทิ ัล (Digital Intelligence Quotient) - ควรจัดอบรมเพื่อเพ่ิมพูนความรู้และทักษะให้แก่บุคลากรเพื่อให้เกิดความชานาญ และมกี ารส่งเสรมิ ใหม้ ีการนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นการปฏบิ ัติงานเพ่ือใหเ้ กิดความรวดเร็วย่ิงข้ึน ๕) เว็บไซต์รัฐสภา ช่องทางการมีสว่ นรว่ มของประชาชน และการเปิดเผยขอ้ มูลภาครฐั - การจัดทาเว็บไซต์รัฐสภาควรจะต้องดาเนนิ การตามมาตรฐานของการเปดิ เผยข้อมูล ภาครัฐ คือ ต้องเข้าถึงได้ง่ายโดยจะต้องรองรับการใช้งานร่วมกับโปรแกรมการอ่านสาหรับผู้พิการ มีการ ใช้ภาษาท่ีง่ายที่สดุ เพื่อทาใหผ้ ู้ทีม่ ีความบกพร่องทางสติปัญญาและการเรียนรู้สามารถเขา้ ถึงเอกสารได้ สามารถ นาไปประมวลผล วิเคราะห์ หรือใช้ซ้าโดยใช้เคร่ืองมือเทคโนโลยี (Machine Readable) โดยกระบวนการ แปลงไฟล์เอกสารจะต้องมีความถูกต้องแม่นยา สามารถนาไปใช้ประโยชน์ต่อได้โดยไม่มีข้อจากัด รวมทั้ง ดาเนินการตามมาตรฐานกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกัน และระหว่างหน่วยงานรัฐ กับเอกชน ภายใต้ระดับการเข้าถึงท่ีกาหนดไว้และได้รับการยินยอมในการแลกเปล่ียนข้อมูลจากเจ้าของข้อมูล และหน่วยงานที่เก็บข้อมูล (Web API : Application Programming Interface) เพื่อนาข้อมูลนั้นไปพัฒนา ตอ่ ยอดหรอื ชว่ ยวิเคราะห์ขอ้ มูลจาก Big Data ได้สะดวกและมีประโยชน์มากย่งิ ข้นึ - การนาข้อมูลทุกประเภทขึ้นเว็บไซต์หรือการอัปโหลดลิงก์ต่าง ๆ ข้ึนบนเว็บไซต์ ควรจะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่อานวยประโยชน์ให้แก่การเข้าถึงของประชาชน ทุกกลุ่ม ท้ังผู้พิการหรือบุคคลท่ัวไปให้สามารถเข้าถึงเน้ือหาบนเว็บไซต์ได้โดยสะดวกและเท่าเทียมกัน เพ่ือพัฒนาเวบ็ ไซตใ์ ห้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่าของ WCAG (Web Content Accessibility Guidelines)

๑๓ - ควรจัดกลุ่มข้อมูลช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในด้านนิติบัญญัติ ได้แก่ ช่องทางการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา ๗๗ และการเข้าช่ือเสนอกฎหมายโดยประชาชนตามมาตรา ๑๓๓ (๓) ของรัฐธรรมนูญบนเว็บไซต์รัฐสภาให้อยู่ในแพลตฟอร์ม (Platform) เดียวกัน โดยเปิดสถานะความคิดเห็น ของประชาชนซ่ึงได้แสดงความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติให้เป็นสาธารณะ (Public) เพ่ือให้ประชาชนท่ัวไป สามารถมองเห็นข้อความท่ีมีการแสดงความคิดเห็นหรือคอมเมนต์ (Comment) และรวมท้ังแนวโน้มประเด็น ทม่ี กี ารสนทนาเพอื่ ส่งเสรมิ หลักการ Open Parliament - ควรเปดิ เผย Source code ใหภ้ าคเอกชนซง่ึ มีความเชยี่ วชาญเฉพาะในด้านเทคโนโลยี สารสนเทศช่วยพัฒนาต่อยอดระบบเว็บไซต์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ประชาชน โดยไม่จาเป็นต้องพึ่งพา งบประมาณจากภาครฐั ๖) ระบบบริหารจัดการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) และระบบบริหารจัดการ เอกสารอิเล็กทรอนกิ ส์ (E-document) - ส่งบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ให้กับสมาชิกรัฐสภา พร้อมคู่มือแนะนาวิธีการใช้งาน และควรกาหนดระยะเวลาการเข้าถึงข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานของสมาชิกรัฐสภาที่พ้นสภาพจากการเป็นสมาชิกแล้ว โดยให้มีระบบการลบบัญชผี ู้ใชง้ านแบบอตั โนมตั ิ - บริหารจัดการพน้ื ทจี่ ดั เก็บข้อมูลระบบ E-mail ใหส้ ามารถรองรบั ปรมิ าณข้อมูลและ จานวนผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น โดยการเปล่ียนวิธีการส่งข้อความที่ต้องแนบไฟล์ขนาดใหญ่ ไปใช้วิธีการฝาก ไฟล์ขอ้ มลู ไวใ้ นระบบอน่ื - จดั การโปรแกรมคน้ หา Search Engine ให้เข้าถงึ ขอ้ มลู ในระบบ E-document ดว้ ย ๗) ช่องทางการมีสว่ นรว่ มของประชาชน และโซเชียลมเี ดีย (Social Media) ของรฐั สภา - รัฐสภาควรกาหนดเป้าหมายและพันธกิจโดยมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสาร ไดอ้ ย่างทวั่ ถึงและเกดิ การมีสว่ นรว่ ม - ควรลดการผลิตสื่อท่ีหมดความจาเป็น โดยเปลี่ยนเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และทักษะของบุคลากรในการจัดทาสื่อมีเดียอื่น ๆ รวมท้ังฝึกอบรมบุคลากร แลกเปลี่ยนวิธีการหรือเทคนิค การทางานรว่ มกบั หนว่ ยงานพนั ธมิตร - ควรบูรณาการข้อมูลการเผยแพร่ข้อมูลของสมาชิกแบบรายบุคคลให้เผยแพร่ อยู่ในแพลตฟอรม์ (Platform) เดยี วกนั ๕.๒ เรอื่ งทตี่ ้องใชง้ บประมาณในการดาเนินการ ๑) ระบบการแสดงตนและการลงคะแนนดว้ ยระบบ Smart card - ควรจัดทาบัตรสมาร์ตการ์ด (Smart card) ประจาตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบใบเดียวเบ็ดเสร็จ เพ่ือใหเ้ กิดความสะดวกในการใช้งานและเพ่ือเป็นการประหยัดงบประมาณในการจัดทาบัตร และให้ระบบการพิสูจน์ตัวตน ๒ ช้ัน (Two Factor Authentication) โดยนาระบบสแกนลายนิ้วมือ (Finger Print) มาใช้ในการยนื ยันตวั ตนด้วย - ควรเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงคะแนนของสมาชิกในรูปแบบ Common Standard Open API (Application Programming Interface) ในการเชื่อมโยงแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่าง ระบบอ่นื ๆ ทัง้ หนว่ ยงานรฐั ด้วยกนั หรือเอกชน ภายใตก้ ารเขา้ ถงึ ข้อมูลที่กาหนดไว้ไดโ้ ดยสะดวก - ควรติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ภายในห้องประชุมสภาและเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการตรวจสอบกรณีเกิดความผิดปกตใิ นการลงคะแนน

๑๔ ๒) ระบบความปลอดภยั ไซเบอรข์ องรฐั สภา และการคมุ้ ครองขอ้ มูลสว่ นบุคคล - ควรพัฒนาระบบการรับส่งข้อมูลหรือการสื่อสารภายในองค์กรระหว่างเจ้าหน้าที่และ บุคคลในวงงานรัฐสภา โดยใชร้ ะบบการส่ือสารภายในผ่านการเข้ารหัสหรอื ระบบการรักษาความปลอดภัยภายใน เพือ่ หลกี เลย่ี งการใช้ Instant Message (IM) หรือชอ่ งทางสอื่ สารจากผู้ให้บริการภายนอก - ควรติดตั้งระบบตรวจจับและป้องกันการถูกโจมตีผ่านเครือข่ายไร้สายของรัฐสภา โดยการเพ่ิมมาตรการตรวจสอบและยืนยันสิทธิการเข้าระบบบัญชีผู้ใช้งานให้สอดคล้องกับความจาเป็นในการ เขา้ ถึงระบบและข้อมูล โดยตอ้ งผา่ นการพสิ จู น์ตวั ตนอย่างน้อย ๒ ช้นั ก่อนเข้าใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันการลักลอบ โจมตหี รือการเจาะระบบคอมพวิ เตอร์โดยผา่ ยเครือขา่ ยไร้สาย ๓) ระบบ SMART/Green Building - ควรติดต้ังระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดการใช้พลังงานไฟฟ้า การใช้น้า และการสร้าง มลพิษของอาคารรัฐสภาใหม่ เพ่ือให้อาคารรัฐสภาใหม่มีข้อมูลในการวางแผนประหยัดพลังงาน และมุ่งสู่การ เป็น “Smart and Green Parliament” ๔) หอสมดุ รัฐสภา พิพธิ ภณั ฑ์ และจดหมายเหตุรัฐสภา - ควรปรับปรุงพ้ืนท่ีให้เป็นรูปแบบพ้ืนที่ทางานร่วมกัน (Co-working space) พื้นที่ สาหรับการปรึกษาหารือ พื้นท่ีศึกษาวิจัยซ่ึงมีเจ้าหน้าที่ห้องสมุดคอยให้คาแนะนาปรึกษา รวมทั้งเป็นพื้นท่ี ทางานส่วนตัวของผู้ใช้บริการพร้อมอุปกรณ์อานวยความสะดวก และแบ่งโซนพื้นท่ีให้บริการสาหรับผู้สูงอายุ โดยมีการจัดวางหนังสอื ทม่ี เี นือ้ หาสาระเก่ยี วกบั ผสู้ ูงอายโุ ดยเฉพาะ - การดาเนินการด้านจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ของรัฐสภา ควรร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้าน การออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้ังด้านเน้ือหาและรูปแบบการจัดแสดง โดยมุง่ เนน้ ในการให้ประชาชนเข้ามามสี ่วนร่วม นาเสนอและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับรัฐสภาในฐานะองค์กรท่ีทาหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ รวมท้ังด้านการเรียนรู้ ความเปน็ ประชาธปิ ไตย ๕) ระบบบริหารจัดการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) และระบบบริหารจัดการ เอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-document) - ควรพัฒนาระบบให้รองรับการใช้งานสาหรับผู้พิการทางสายตา - บูรณาการข้อมูลในระบบ E-document ร่วมกับสานักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เพอื่ ลดความซ้าซอ้ นในการปฏบิ ตั งิ าน - ควรใช้โปรแกรมการแปลงไฟล์เอกสารจาก Word เป็น PDF แบบ Commercial Software หรือซอฟต์แวรฟ์ รอี ื่น ๆ โดยทาการทดสอบประสิทธิภาพก่อนการใช้งานระบบ ๖) ช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชน เว็บไซต์รัฐสภาและโซเชียลมีเดีย (Social Media) ของรฐั สภา - ควรสนับสนุนให้มีการจัดทาส่ือการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการตรากฎหมาย การเลือกตั้ง และการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนิติบัญญัติ รวมทั้งเพ่ิมการนาเสนอในรูปแบบ Animation เพือ่ ให้เกิดความแตกต่างและเพ่ิมความน่าสนใจในการนาเสนอข่าว - ติดตั้งโปรแกรมการแปลงเสียงเป็นอักษร (Speech to Text) เพื่อดาเนินการแปลง เสยี งการประชมุ สภาผู้แทนราษฎรเป็นอักษร ท้งั น้ี เพอื่ ประโยชนใ์ นการวิเคราะห์ตอ่ ยอด และการจดั ทารายงาน การประชมุ สภาใหม้ คี วามรวดเรว็ ย่งิ ข้ึน



รายงาน ของคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศ อาคารรัฐสภาแห่งใหมแ่ ละพัฒนาการดาเนินงาน ของสภาผ้แู ทนราษฎร ในคณะกรรมาธกิ ารกิจการสภาผแู้ ทนราษฎร กลุม่ งานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร สานักกรรมาธิการ ๒ สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

ก บทสรปุ ผบู้ รหิ าร อาคารรัฐสภาแห่งใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อใช้เป็นสถานท่ีปฏิบัติงานของรัฐสภา ซ่ึงเป็นสถาบันหลักของฝ่ายนิติบัญญัติและเป็นแหล่งข้อมูลที่สาคัญของประเทศ และเป็นสมบัติของ สาธารณะ มีการบรหิ ารจัดการอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ด้วยระบบสารสนเทศครอบคลุมดว้ ยระบบเครือข่าย ภายใต้ระบบรักษาความม่ันคงปลอดภัยสารสนเทศและระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางกายภาพ ที่เข้มงวด ท้ังน้ี ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจึงถูกการออกแบบและติดตั้งให้มีความ ทนั สมยั และมีความซับซ้อนสงู เชน่ การก่อสร้างศนู ย์ขอ้ มลู หลัก (Main Data Center) ศูนยป์ ฏบิ ตั ิการ เครือข่าย ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการติดต้ัง ระบบงานโสตทัศนปู กรณ์ตา่ ง ๆ จะต้องรองรบั การใชง้ านดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภา และการบริการสารสนเทศของเจ้าหนา้ ท่ี สมาชิกรัฐสภา บคุ คลในวงงานรฐั สภา ตลอดจนประชาชนท่ัวไป ได้อย่างสมบูรณ์ เป็นไปตามทิศทางการขับเคล่ือนรัฐสภาเพ่ือมุ่งไปสู่การเป็น Smart and Open Parliament และการบรรลุวิสัยทัศน์ “รัฐสภาดิจิทัล (Digital Parliament) หรือองค์กรท่ีสามารถ สร้างสรรค์และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงสร้างพน้ื ฐาน นวัตกรรม ขอ้ มลู ทุนมนษุ ย์ และทรัพยากรอน่ื ใด เพอ่ื สนับสนุนงานด้านนิติบญั ญตั ิ” จากแนวคิดดังกล่าว คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภา แห่งใหมแ่ ละพัฒนาดาเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร ในคณะกรรมาธิการกิจการสภาผแู้ ทนราษฎร จงึ ได้ ดาเนินการพิจารณาศึกษาสภาพปัญหาท่ีเกิดข้ึนจากการใช้งานในปัจจุบัน ความเห็นและข้อเสนอแนะ จากผแู้ ทนของหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้อง กฎหมายและแผนท่ีเกย่ี วข้อง ตลอดจนข้อมูลและตัวอยา่ งการใช้ งานระบบสารสนเทศ เช่น การเผยแพร่เอกสารและการใช้โซเชียลมีเดียของรัฐสภาต่างประเทศ เพ่อื เป็นแนวทางในการประยกุ ตใ์ ช้สาหรับรัฐสภาไทย โดยมุ่งเน้นใน ๒ สว่ นหลกั คือ ๑. ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ตามที่บริษัทผู้รับจ้างได้ดาเนิน ติดต้ังร ะบบเทคโ น โ ล ยีส ารส นเทศแล ะการ ส่ือส าร ควบคู่กับการก่อส ร้ างอาคารรั ฐ สภาแห่งใหม่ ประกอบด้วย ระบบการแสดงตนและการลงคะแนนด้วยระบบ Smart card ระบบความปลอดภัย ไซเบอร์ของรัฐสภาและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระบบ SMART/Green Building, ระบบป้าย ข้อมูลดิจิทัล (Digital Signage) ระบบการรักษาความปลอดภยั ของอาคารรัฐสภา และหอสมุดรฐั สภา พพิ ิธภณั ฑ์ และจดหมายเหตุรัฐสภา ๒. ระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภา ประกอบด้วย เว็บไซต์รัฐสภาและช่องทาง การมีส่วนร่วมของประชาชน และการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ ระบบบริหารจัดการจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ระบบบรหิ ารจัดการเอกสารอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-document) และช่องทางการ มีสว่ นรว่ มของประชาชน เวบ็ ไซตแ์ ละโซเชยี ลมีเดยี (Social Media) ของรฐั สภา

ข จากการพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการได้มีบทสรุปและข้อเสนอแนะเพ่ือการ ยกระดับรฐั สภา ดังนี้ ๑. การมุ่งสู่ความเป็น SMART and Open Parliament โดยมีสาระสาคัญในเร่ืองการ เปิดเผยข้อมูลของรัฐสภาจะต้องดาเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล คือ (๑) การทาให้ข้อมูล เข้าถึงได้ง่าย โดยจะต้องรองรับการใช้งานร่วมกับโปรแกรมการอ่านหน้าจอสาหรับผู้พิการ (Web Accessibility) ตามมาตรฐาน WCAG มีการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายเพ่ือทาให้ประชาชนทั่วไปสามารถ เข้าถึงเอกสารได้ดีข้ึน (๒) สามารถนาไปประมวลผล วิเคราะห์ หรือใช้ซ้าโดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยี (Machine Readable) โดยกระบวนการแปลงไฟล์เอกสารจะต้องมีความถูกต้องแม่นยา สามารถ นาไปใช้ประโยชน์ต่อได้โดยไม่มีข้อจากัด และ(๓) การเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานกลางในการ แลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกันและระหว่างหน่วยงานรัฐกับเอกชน ภายใต้ระดับการ เข้าถึงที่กาหนดไว้และได้รับการยินยอมในการแลกเปล่ียนข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลและหน่วยงานที่เก็บ ขอ้ มูล (Web API : Application Programming Interface) รวมท้ังการ Open source โดยเปิดเผย Source code ให้ภาคเอกชนซึ่งมีความเช่ียวชาญเฉพาะในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าช่วยพัฒนาต่อ ยอดระบบเว็บไซตใ์ ห้ทนั สมัยและตอบโจทยป์ ระชาชน โดยไม่จาเปน็ ตอ้ งพึ่งพางบประมาณจากภาครฐั ๒. ข้อเสนอแนะเก่ียวระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการบริการสารสนเทศในวงงาน รฐั สภา แบง่ ออกเปน็ ๑) เรื่องที่สามารถดาเนินการโดยไม่จาเป็นต้องใช้งบประมาณ เช่น การบันทึกหน้าจอ (Screen Capture) ผลการลงคะแนนของสมาชกิ แบบเรียลไทม์ (Real time) และเปิดเผยขอ้ มลู บันทึก การลงคะแนนของสมาชิกรายบุคคลในรูปแบบไฟล์ CSV รวมท้ังควบคุมและจัดทามาตรฐานระบบการ รักษาความปลอดภัยของระบบหลังบ้าน (Back office) เพ่ือป้องกันผู้ไม่เก่ียวข้องสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ และระบบได้โดยง่าย ส่งเสริมให้มีส่ือทรัพยากรการศึกษาแบบเปิด (Open Material) การจัดกลุ่ม ข้อมูลการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา ๗๗ และการเข้าช่ือเสนอกฎหมายโดยประชาชนตามมาตรา ๑๓๓ (๓) ของรัฐธรรมนูญบนหน้าเว็บไซต์รัฐสภาให้อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน และเปิดสถานะความ คิดเห็นของประชาชนใหเ้ ป็นสาธารณะ (Public) ๒) เร่ืองท่ีต้องใช้งบประมาณในการดาเนินการ เช่น การจัดทาบัตรสมาร์ตการ์ด (Smart card) ประจาตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบใบเดียวและนาระบบสแกนลายนิ้วมือ (Finger Print) มาใช้ในการยืนยันตัวตน และเปิดเผยข้อมูลการลงคะแนนของสมาชิกในรูปแบบ Common Standard Open API (Application Programming Interface) รวมทั้งติดต้ังระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพ่ือเพิ่ม มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในห้องประชุมสภาและเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการตรวจสอบ กรณีเกิดความผิดปกติในการลงคะแนน การตดิ ต้ังระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดการใช้พลังงานไฟฟ้า การใช้น้า และการสร้างมลพิษของอาคารรัฐสภา การปรับปรุงพ้ืนท่ีห้องสมุดรัฐสภาให้เป็นรูปแบบพื้นที่ทางาน ร่วมกัน (Co-working space) การจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ของรัฐสภา ควรดาเนินการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ด้านการออกแบบพิพิธภัณฑ์ท้ังด้านเน้ือหาและรูปแบบการจัดแสดง รวมทั้งการจัดทาสื่อการเรียนรู้ เกี่ยวกับกระบวนการตรากฎหมาย การเลือกตั้ง และการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนิติ บัญญัตแิ ละนาเสนอในรูปแบบ Animation เปน็ ตน้

ค ๓) เร่ืองที่จาเป็นต้องกาหนดเป็นนโยบายหรือแก้ไขระเบียบที่เก่ียวข้อง เช่น กาหนด นโยบายการลดการใช้พลังงาน ลดขยะ และลดการก่อมลพิษในอาคารรัฐสภาใหม่ การกาหนดนโยบาย เก่ยี วกบั ชดุ ข้อมลู ของรฐั สภาที่จะให้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ เปน็ ตน้ ท้ังน้ี ผลการพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการเป็นบทสรุปส่วนหน่ึงท่ีเกี่ยวกับ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารและระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภาซึ่งคณะอนุกรรมาธิการ เห็นว่าจาเป็นต้องปรบั ปรุงและพัฒนาในระยะแรกควบคูไ่ ปกับโครงการก่อสรา้ งอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีระบบงานอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข้องอีกจานวนหลายระบบท่ีจาเป็นต้องได้รับ การประเมิน ติดตามผล และพัฒนาในระยะต่อไป เพ่ือให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี และสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของผู้ใช้งาน อน่ึง ปจั จัยสาคญั ที่จะนาไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรปู ธรรมคือ ผู้บริหารฝ่ายนิติบัญญัติ และผู้บริหารฝ่ายข้าราชการประจาที่เก่ียวข้อง จะต้องมีเป้าประสงค์และกาหนดนโยบายอย่างชัดเจน รวมท้ังมีการส่ือสารสร้างความรู้ความเข้าใจกับผู้ท่ีเก่ียวข้องทุกฝ่ายให้ตระหนักถึงความสาคัญ และรว่ มกันผลักดนั ให้เกิดสัมฤทธผิ ลตอ่ ไป

ง สารบัญ หนา้ บทสรปุ ผบู้ ริหาร บทท่ี ๑ บทนา........................................................................................................................ ๑ ๑.๑ ความเป็นมา ........................................................................................................... ๑ ๑.๒ วตั ถปุ ระสงค์........................................................................................................... ๒ ๑.๓ ประเดน็ การพิจารณาศึกษา .................................................................................... ๒ ๑.๔ ระยะเวลาการพจิ ารณาศกึ ษา................................................................................. ๓ ๑.๕ วธิ ีการพิจารณาศึกษา............................................................................................. ๓ ๑.๖ นยิ ามศพั ท์เฉพาะ ................................................................................................... ๓ บทท่ี ๒ ทบทวนวรรณกรรม ................................................................................................... ๕ ๒.๑ โครงการกอ่ สรา้ งอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ ............................................................ ๕ ๒.๑.๑ ความเปน็ มาและแนวความคิดในการออกแบบอาคารรฐั สภาแหง่ ใหม่ ........ ๕ ๒.๑.๒ องคป์ ระกอบและพ้นื ที่ใชส้ อยอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ ................................ ๗ ๒.๒ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารของอาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่ พรอ้ มอาคารประกอบ ....................................................................................... ๙ ๒.๒.๑ แนวคดิ และการออกแบบระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและ การส่ือสารของอาคารรฐั สภาแหง่ ใหม่ พร้อมอาคารประกอบ..................... ๙ ๒.๒.๒ ขอบเขตการดาเนนิ งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร.............. ๑๑ ๒.๒.๓ ฟังก์ชนั งานของระบบสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่ ...................... ๑๘ ๒.๒.๔ ระบบการรักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ .......................... ๒๘ ๒.๒.๕ ระบบ Green Building ของอาคารรฐั สภาแหง่ ใหม่ ................................... ๓๔ ๒.๓ กฎหมาย และแผนท่เี ก่ียวข้อง............................................................................ ๓๖ ๒.๓.๑ พระราชบัญญัติการรักษาความมัน่ คงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. ๒๕๖๒........... ๓๖ ๒.๓.๒ พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองข้อมูลสว่ นบคุ คล พ.ศ. ๒๕๖๒............................... ๔๑ ๒.๓.๓ ปฏิญญาว่าดว้ ยการเปดิ กวา้ งของรัฐสภา (Declaration on Parliamentary Openness)........................................ ๔๓ ๒.๓.๔ แผนแมบ่ ทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารรฐั สภา พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๖๓ (Declaration on Parliamentary Openness)........................................ ๔๔ ๒.๓.๕ แผนพัฒนา Digital Parliament ของรฐั สภา ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) .............................................................................. ๔๕ ๒.๓.๖ แผนการขบั เคลื่อนแผนพฒั นา Digital Parliament ของสานักงาน เลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) ................................. ๔๗

จ สารบญั (ตอ่ ) หนา้ ๒.๔ แนวทางการดาเนนิ การของรัฐสภาต่างประเทศ ................................................. ๔๙ ๒.๔.๑ แนวทางการเผยแพรเ่ อกสารของรัฐสภาสหราชอาณาจักร.......................... ๔๙ ๒.๔.๒ แนวทางการใช้โซเชยี ลมีเดีย (Social media) สาหรับรัฐสภา ของสหราชอาณาจักร ................................................................................. ๕๒ ๒.๔.๓ ตวั อยา่ งการใช้ Social media ของรัฐสภาต่างประเทศ (สหราชอาณาจกั ร, ออสเตรเลีย, ตรินิแดดและโตเบโก) .............................. ๕๖ บทที่ ๓ ผลการพจิ ารณาศกึ ษา ............................................................................................... ๕๙ ๓.๑ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่....................................... ๕๙ ๓.๑.๑ ระบบการแสดงตนและการลงคะแนนด้วยระบบ Smart card......................... ๕๙ ๓.๑.๒ ระบบความปลอดภัยไซเบอร์ของรัฐสภา และการคมุ้ ครองข้อมูลส่วนบคุ คล... ๖๓ ๓.๑.๓ ระบบ SMART/Green Building, ระบบป้ายข้อมูลดิจิทัล (Digital Signage) และระบบการรักษาความปลอดภยั ของอาคารรฐั สภา .................................. ๖๗ ๓.๑.๔ หอสมุดรัฐสภา พิพิธภณั ฑ์ และจดหมายเหตรุ ฐั สภา.................................... ๗๐ ๓.๒ ระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภา ........................................................... ๗๗ ๓.๒.๑ ระบบบรหิ ารจัดการจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-mail) และระบบบรหิ ารจดั การเอกสารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-document) ................ ๗๗ ๓.๒.๒ เวบ็ ไซตร์ ัฐสภา ช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชน และ การเปิดเผยข้อมลู ของรัฐสภา...................................................................... ๘๔ ๓.๒.๓ โซเชยี ลมเี ดีย (Social Media) ของรัฐสภา ................................................. ๙๓ บทท่ี ๔ บทสรุป ข้อสงั เกตและข้อเสนอ.................................................................................. ๑๐๐ ๔.๑ บทสรปุ ............................................................................................................. ๑๐๐ ๔.๑.๑ การม่งุ สู่ SMART and Open Parliament............................................... ๑๐๐ ๔.๑.๒ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศของอาคารรฐั สภาแหง่ ใหม่.............................. ๑๐๑ ๔.๑.๓ ระบบบรกิ ารสารสนเทศในวงงานรัฐสภา ................................................... ๑๐๓ ๔.๒ ขอ้ สังเกตและข้อเสนอแนะ ................................................................................ ๑๐๕ ๔.๒.๑ เร่ืองท่ีสามารถดาเนนิ การโดยไมจ่ าเปน็ ต้องใช้งบประมาณ......................... ๑๐๕ ๔.๒.๒ เรื่องท่ีต้องใช้งบประมาณในการดาเนนิ การ................................................ ๑๐๗ ๔.๒.๓ เรอื่ งทจ่ี าเป็นต้องกาหนดเปน็ นโยบาย หรอื แก้ไขระเบยี บทเี่ กยี่ วขอ้ ง ......... ๑๐๙ บรรณานุกรม ......................................................................................................................... ๑๑๑

ฉ สารบญั (ตอ่ ) ภาคผนวก ก ประกาศคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ข โครงการจา้ งงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร โครงการก่อสรา้ งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ค สปั ปายะสภาสถาน พพิ ธิ ภัณฑ์ประชาธิปไตยและพิพิธภัณฑ์ชาติไทย และการอนุรักษ์พลังงานและการรักษาสิ่งแวดลอ้ ม ง THAI PBS NEW MEDIA จ ประมวลภาพการประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ฉ ประมวลภาพคณะอนุกรรมาธกิ ารฯ ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างศนู ย์ข้อมลู หลกั (Main Data Center) ช รายช่อื ฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการฯ

บทท่ี ๑ บทนำ ๑.๑ ควำมเป็นมำ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่ถูกบรหิ ารจัดการดว้ ยระบบสารสนเทศ ครอบคลุม ด้วยระบบเครือข่ายภายใต้ระบบรักษาความม่ันคงปลอดภัยสารสนเทศและระบบรักษาความม่ันคง ปลอดภัยทางกายภาพท่ีเข้มงวด โดยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีแนวคิด การออกแบบศูนย์ข้อมูลหลัก (Data Center) และระบบสารสนเทศสาหรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แบบบูรณาการ เพ่ือบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Documents : e-Docs) และ รองรับการทางานในรูปแบบสานักงานดิจิทัล (Digital Office) เพ่ือเตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่การเป็น Digital Parliament และ Smart Parliament ในอนาคต คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรซ่ึงมีหน้าท่ีและอานาจในการพัฒนาระบบและ ปรับปรุงการดาเนินกิจการของสภา ได้มีแนวคิดในการพิจารณาศึกษาเก่ียวกับระบบบริการสารสนเทศ สาหรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ระบบเครือข่ายและอินเทอร์เน็ตของรัฐสภา ระบบสารสนเทศสาหรับ การประชุม ระบบการลงคะแนน ระบบการจัดการเอกสารประกอบการประชุม ระบบสมารต์ การ์ด ระบบ สารสนเทศเพ่ือความปลอดภัย ระบบข้อมูลบนเว็บไซต์รัฐสภา ระบบการมีส่วนร่วมผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์ม ระบบสื่อสารทางโซเชียลมีเดียของรัฐสภา รวมทั้งระบบบริการห้องสมุด พิพิธภัณฑ์รัฐสภา และจดหมายเหตุรัฐสภา ตลอดจนการติดตามความก้าวหน้าในดาเนินการติดตั้งระบบสารสนเทศ ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จึงได้มมี ติในคราวประชุมคณะกรรมาธิการ ครั้งที่ ๘ วันพุธท่ี ๑๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ และอาศัยอานาจตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๖ ตั้ง คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาการดาเนินงาน ของสภาผู้แทนราษฎร โดยอนกุ รรมาธิการ ประกอบด้วย ๑. นายไกลก้อง ไวทยการ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ๒. นางสาวนภาพร เพช็ ร์จนิ ดา รองประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร คนทีห่ นึง่ ๓. นายภราดร ปริศนานนั ทกุล รองประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร คนทสี่ อง ๔. นายคมจติ ลสุ วัสด์ิ อนกุ รรมาธกิ าร ๕. นายสุชาติ ไตรแสงรจุ ริ ะ อนุกรรมาธกิ าร ๖. นายศกั ด์ิ เสกขนุ ทด อนุกรรมาธกิ าร ๗. นางสาวกษติ ิธร ภูภราดยั อนกุ รรมาธิการ ๘. นายสุทธิชยั ศรสี นุ นท์ อนกุ รรมาธกิ าร ๙. นายฐิติพงษ์ เหลืองอรุณเลิศ โฆษกคณะอนุกรรมาธิการ ๑๐. นายบญุ เลศิ อรณุ พบิ ูลย์ เลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธิการ

๒ อนง่ึ คณะกรรมาธกิ ารได้พิจารณาต้ังบุคคลเป็นท่ีปรึกษาคณะอนุกรรมาธกิ าร ประกอบดว้ ย ๑. นายสมเกยี รติ ถนอมสนิ ธ์ุ ๒. นายณฐั พงษ์ เรอื งปญั ญาวฒุ ิ ๓. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ๔. นายปกรณ์วุฒิ อดุ มพิพฒั นส์ กุล ๕. นายอภริ กั ษ์ ปนาทกูล ๖. นางสาวฐิติมา ธรรมบารุง โดยให้คณะอนุกรรมาธิการมีหน้าท่ีและอานาจในการพิจารณาศึกษาเก่ียวกับระบบบริการ สารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภา ตลอดจน การพัฒนาระบบและปรับปรุงการดาเนินกิจการของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากระบบเทคโนโลยี สารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีขอบเขตกว้างขวาง ครอบคลุมระบบสารสนเทศและโครงข่าย การส่ือสารขนาดใหญ่ คณะอนุกรรมาธิการจึงได้กาหนดกรอบการพิจารณาโดยมุ่งศึกษาในเร่ืองระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ ๒ ส่วนหลักคือ ๑) การพัฒนาระบบสารสนเทศของอาคารรัฐสภาใหม่ ตามท่ี บริษัทผู้รับจ้างติดต้ังระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ดาเนินการไปควบคู่กับการก่อสร้างอาคารรัฐสภา แห่งใหม่ และ ๒) การพัฒนาระบบบรกิ ารสารสนเทศในวงงานรัฐสภาที่เก่ียวข้องกับการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ือสนับสนุนการทางานของบุคลากรในวงงานรัฐสภา การเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ และการมีส่วนร่วมของประชาชนเพ่ือให้ครอบคลุมระบบบริการสารสนเทศที่จาเป็นสาหรับสมาชิก รัฐสภา ข้าราชการ และบุคลากรในวงงานรฐั สภา รวมท้งั สนับสนุนบทบาทภารกิจของสถาบันนติ บิ ัญญัติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และนาไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ “รัฐสภาดิจิทัล (Digital Parliament) หรือองค์กรท่ีสามารถสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม ข้อมูล ทุนมนุษย์ และทรัพยากร อื่นใด เพ่ือสนับสนุนงานด้านนิติบัญญัติ” ตามแผนพัฒนา Digital Parliament ของรฐั สภา ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕) ตลอดจนทาให้การขับเคลื่อนรัฐสภาเพ่ือมุ่งไปสู่การเป็น Smart Parliament ให้สัมฤทธิ์ผลต่อไป ๑.๒ วตั ถุประสงค์ของกำรศกึ ษำ เพ่ือศึกษาและเสนอแนะแนวทางการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และระบบบริการสารสนเทศในวงงานรัฐสภา ๑.๓ ประเดน็ กำรพิจำรณำศึกษำ คณะอนกุ รรมาธิการได้กาหนดประเดน็ ในการพจิ ารณาศึกษา ดังนี้ ๑) ระบบการแสดงตนและการลงคะแนนด้วยระบบ Smart card ๒) ระบบความปลอดภัยไซเบอรข์ องรฐั สภา และการคุ้มครองข้อมลู สว่ นบคุ คล ๓) ระบบ SMART/Green Building, ระบบป้ายข้อมูลดิจิทัล (Digital Signage) และระบบ การรกั ษาความปลอดภัยของอาคารรฐั สภา ๔) หอสมดุ รฐั สภา พิพธิ ภณั ฑ์ และจดหมายเหตุรัฐสภา ๕) ระบบบริหารจัดการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) และระบบบริหารจัดการเอกสาร อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-document)

๓ ๖) เว็บไซตร์ ฐั สภา ชอ่ งทางการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน และการเปดิ เผยขอ้ มูลของรัฐสภา ๗) โซเชียลมเี ดีย (Social Media) ของรัฐสภา ๑.๔ ระยะเวลำกำรพิจำรณำศกึ ษำ คณะกรรมาธิการได้กาหนดระยะเวลาการพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการภายใน ๖๐ วัน และมีมตใิ ห้ขยายระยะเวลาออกไปอีก ๓๐ วัน รวมเป็น ๙๐ วัน (ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ถึงวนั ที่ ๒๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓) ๑.๕ วิธกี ำรพิจำรณำศกึ ษำ คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาการ ดาเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร ในคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทาการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลจากแผนและกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ข้อมูลเก่ียวกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และระบบงานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสารของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ รวมทั้งแนวทางการดาเนินการ ของรัฐสภาต่างประเทศ ตลอดจนความเห็นและขอ้ เสนอแนะจากผูแ้ ทนของหนว่ ยงานทีเ่ กยี่ วข้อง ดังน้ี ๑) สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ สานักสารสนเทศ สานักประชาสัมพันธ์ สานักวิชาการ สานักการประชุม สานักรักษาความปลอดภัย และสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุ โทรทัศนร์ ฐั สภา ๒) สานกั งานปลดั กระทรวงดจิ ทิ ัลเพ่อื เศรษฐกจิ และสงั คม ๓) สานกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ๔) องคก์ ารกระจายเสยี งและแพรภ่ าพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย (Thai PBS) ๕) ทปี่ รกึ ษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ (CAMA) ๖) บริษทั แอด็ วานซ์ อนิ ฟอร์เมช่นั เทคโนโลยี จากัด (มหาชน) (AIT) ๗) กลมุ่ กิจการรว่ มคา้ สงบ ๑๐๕๑ ๑.๖ นิยำมศพั ท์เฉพำะ AD (Active Directory) หมายถึง การจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ object ต่าง ๆ เช่น User, Group, Computer หรือนโยบายรักษาความปลอดภัย (Security Policy) เป็นต้น ไว้ใน Active Directory Database และมีเซิร์ฟเวอร์ที่ทาหน้าที่เป็น Domain Controller (DC) เป็นตัวจัดการ อีกทีหนึ่ง API (Application Program Interface) หมายถึง คาส่ัง (Code) ที่อนุญาตให้ Software Program สามารถส่อื สารระหวา่ งกนั ได้ และเปลย่ี นข้อมลู ระหวา่ งกันได้ Big Data หมายถึง ข้อมูลขนาดใหญ่ ข้อมูลหลากหลายปริมาณมหาศาลที่เพ่ิมข้ึนอย่าง รวดเร็ว เช่น ข้อมูลดชั นีการค้นคืนของเว็บ ข้อมูลการส่ือสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ข้อมูลในเครอื ข่าย สงั คม ข้อมูลการพยากรณอ์ ากาศ ข้อมลู ภาพถ่ายดาวเทยี ม เปน็ ต้น CSV (Comma Separated Value) หมายถึง ไฟล์ข้อความประเภทหน่ึงที่ใช้สาหรับเก็บ ข้อมลู ในรปู แบบตาราง ใช้เครื่องหมายจุลภาค หรือคอมม่า (,) ในการแบง่ แตล่ ะคอลมั น์

๔ Data Center หมายถึง แหล่งเก็บข้อมูลหรือแหล่งท่ีรวบรวมข้อมูลไว้เป็นจานวนมาก ส่วนมากจะอยู่กับหน่วยงานคอมพิวเตอร์ เช่น หน่วยคอมพิวเตอร์ของกระทรวงเกษตร อาจเป็น คลังข้อมูลในเร่ืองของผลผลิต เน้ือท่ีการเกษตร รายละเอียดเก่ียวกับกสิกร สัตว์ที่ใช้ในการเกษตร สินคา้ เกษตร เป็นตน้ มคี วามหมายเหมือน data bank Digital Parliament หมายถึง การออกแบบและปรับเปล่ียนรูปแบบบริการของรัฐสภา โดยใช้ข้อมูลดิจิทัล เพื่อสร้างบริการของรัฐสภาในรูปแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยี Mobile Social Cloud Technology เป็นต้น LDAP (Lightweight Directory Access Protocol) หมายถึง โปรโตคอลหนึ่งท่ีใช้เข้าถึง บรกิ ารข้อมูลแบบ Directory Service มีการจัดเก็บขอ้ มูลแบบ Hierarchy (แบ่งเป็นระดับชั้น) มีการ ใหบ้ ริการแบบ Client – Server Metadata หมายถึง ท่ีใช้กากับและอธิบายข้อมูลหลักหรือกลุ่มของข้อมูลอ่ืน ตัวอย่าง ที่เห็นได้ชัดคือ บัตรในห้องสมุดสาหรับสืบค้นหนังสือ โดยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับช่ือหนังสือและตาแหน่ง ของหนังสือท่ีต้องการหา ซ่ึงหนังสือเป็นข้อมูลท่ีต้องการ และบตั รเป็นข้อมลู ที่อธิบายรายละเอยี ดของ ขอ้ มลู นนั้ Open–source หมายถึง ซอฟต์แวร์ท่ีสามารถนาไปใช้งาน ศึกษา แก้ไข และเผยแพร่ ได้อย่างเสรี ปราศจากเงื่อนไขเพ่ิมเติม โดยการพัฒนาต้องเปิดเผย Source code (รหัสต้นฉบับ) ให้สาธารณะนาไปพัฒนาต่อยอดได้ ทาให้เกิดการร่วมมือทางานอย่างไร้พรมแดนผ่านเครือข่าย อนิ เทอร์เน็ต PDF (Netware Printer Definition File) หมายถึง ไฟล์ประเภทหน่ึงที่สร้างมาจากโปรแกรม Acrobat หรือโปรแกรมประเภท PDF Creater เป็นต้น ปัจจุบัน PDF เป็นท่ีนิยมมากในการทา E-Document เน่ืองจากไฟล์มีคุณภาพสูง ไม่ผิดเพ้ียนจากต้นฉบับ และผู้ที่นาไฟล์ PDF ไปใช้งาน ไมส่ ามารถแก้ไขตน้ ฉบับได้ Platform หมายถึง ระบบตัวกลางสาหรับเชื่อมโยงผู้ใช้บริการ และผู้ให้บริการที่มีจานวน หลากหลายมาใชบ้ รกิ ารบนระบบตวั กลางนี้ไดง้ า่ ยและสะดวกขนึ้ RFID (Radio Frequency Identification) คือ เทคโนโลยีหน่ึงที่ใช้ในการระบุสิ่งต่าง ๆ โดยอาศัยคลน่ื วิทยุ SMART Parliament หมายถึง ระบบการปฏิบัติงานและการให้บริการของรัฐสภาท่ีมี ขีดสมรรถนะสูงทุกด้าน ท้ังในด้านโครงสร้าง กระบวนงาน บุคลากร เทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่ือสาร องค์ความรู้ นวตั กรรม และอาคารสถานที่ภายในบริเวณรฐั สภา Source code หมายถึง แฟ้มข้อมูลที่เป็นตัวต้นฉบับของโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งหรือ โปรแกรมทีเ่ คร่อื งแปลเปน็ ภาษาเครอื่ ง (Machine language) เรยี บร้อยแล้ว WCAG (Web Content Accessibility Guidelines) หมายถึง มาตรฐานการออกแบบ และพัฒนาเว็บไซต์เพื่อให้ทุกคนที่ออนไลน์สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างเท่าเทียมกัน โดย guideline ต่าง ๆ ถกู รา่ งข้นึ โดย W3C เปน็ องค์กรทก่ี าหนดมาตรฐานตา่ ง ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยขี องเว็บไซต์ Web Accessibility หมายถึง ความสามารถในการเข้าถึงเน้ือหาบนเว็บไซต์ ท่ีรองรับ ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการหรือบุคคลท่ัวไป ให้สามารถเข้าถึงเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้อย่าง เทา่ เทยี มกนั

บทท่ี ๒ ทบทวนวรรณกรรม คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาระบบบริการสารสนเทศอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และพัฒนาการ ดาเนนิ งานของสภาผ้แู ทนราษฎร ได้ทาการศกึ ษา วิเคราะห์ขอ้ มลู จากแผนและกฎหมายทเี่ กย่ี วข้องกับ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ข้อมูลเก่ียวกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และ ระบบงานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคาร ประกอบ รวมทง้ั แนวทางการดาเนินการของรัฐสภาต่างประเทศ ตลอดจนความเหน็ และข้อเสนอแนะจาก ผู้แทนของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือให้ได้ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาระบบ บริการสารสนเทศสาหรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ประกอบด้วย ระบบการแสดงตนและการลงคะแนน ระบบ Smart card ระบบความปลอดภัยไซเบอร์ของรัฐสภาและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระบบ SMART/Green Building ระบบปา้ ยข้อมูลดิจทิ ัล (Digital Signage) และระบบการรักษาความ ปลอดภัยของอาคารรัฐสภา ระบบบริหารจัดการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ระบบบริหาร จัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-document) เว็บไซต์รัฐสภา ช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชน และการเปิดเผยข้อมูลของรัฐสภา โซเชียลมีเดีย (Social Media) ของรัฐสภา และหอสมุดรัฐสภา พิพิธภัณฑ์และจดหมายเหตุรัฐสภา ทั้งน้ี เพื่อพัฒนาระบบบริการสารสนเทศของรัฐสภาและปรับปรุง การดาเนนิ กิจการของสภาผู้แทนราษฎรให้มปี ระสิทธภิ าพย่ิงข้ึน โดยนาข้อมลู โครงการก่อสร้างอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ แนวคิดและการออกแบบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ แนวทางและตัวอย่างการดาเนินการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียสาหรับ รัฐสภาของรัฐสภาต่างประเทศมาใช้ประกอบการพิจารณาศึกษา ตลอดจนแผนพัฒนา Digital Parliament ระยะ ๕ ปี เพ่ือนาไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ “รัฐสภาดิจิทัล (Digital Parliament) หรือองค์กรท่ีสามารถสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพในการ พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน นวัตกรรม ข้อมูล ทุนมนุษย์ และทรัพยากรอื่นใด เพ่ือสนับสนุนงานด้าน นิตบิ ัญญัติ” ๒.๑ โครงการกอ่ สรา้ งอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ ๒.๑.๑ ความเปน็ มาและแนวความคิดในการออกแบบอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ สืบเน่อื งจากการเปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นต้นมา พระทนี่ ั่งอนันต สมาคมได้ใช้สาหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก และใช้เป็นที่ประชุมสภาเร่ือยมา ต่อมา ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้มีการก่อสร้างอาคารรัฐสภาหลังใหม่เพื่อใช้เป็นที่ประชุมรัฐสภาแทน ซ่ึงแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ คือ อาคารรัฐสภา (อู่ทองใน) โดยพระท่ีน่ังอนันตสมาคมยังคงใช้สาหรับรัฐพิธีเปิด ประชุมรัฐสภาคร้งั แรก อาคารรฐั สภา (อทู่ องใน) มคี วามคับแคบ โดยมจี านวนสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร

๖ และสมาชกิ วุฒิสภาเพิ่มมากข้ึนตามรฐั ธรรมนูญ รวมทัง้ จานวนขา้ ราชการที่เพิ่มมากขน้ึ เพื่อรองรับการ ปฏิบัติงานของสมาชิกรัฐสภา จากสภาพเดิมดังกล่าวจะเห็นได้ว่าพื้นท่ีบริเวณรัฐสภาไม่สามารถท่ี จะรองรบั จานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวฒุ ิสภา รวมทง้ั ข้าราชการที่ปฏิบตั ิภารกิจหน้าท่ีได้ รัฐสภาจึงได้แก้ไขปัญหาในบางส่วนโดยจัดหาและเช่าสถานที่ทางานสาหรับข้าราชการอาทิ อาคาร กษาปณ์ อาคารทิปโก้ และอาคารดีพร้อม ซ่ึงข้าราชการยังคงแยกส่วนกันอยู่ ทาให้เป็นอุปสรรคและ มีข้อจากัดในการปฏิบัติภารกิจของสมาชิกรัฐสภาอันส่งผลกระทบต่อฝ่ายนิติบัญญัติรวมถึงประชาชน ที่มาติดต่อราชการ ด้วยเหตุนี้ประธานรัฐสภารวมทั้งสมาชิกรัฐสภา ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้พยายาม หาสถานที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ (ฝ่ายเลขานุการโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่, ๒๕๕๙, ยอ่ หน้าที่ ๑) คร้ังเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๕๑ สมัยนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานรัฐสภา มีนโยบายให้มี การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือกับนายกรัฐมนตรี (นายสมัคร สุนทรเวช) รองประธานสภาผแู้ ทนราษฎร (นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และพันเอกอภิวันท์ วิริยะชัย) ประธานวุฒิสภา (นายประสพสุข บญุ เดช) และผ้นู าฝา่ ยคา้ นในสภาผแู้ ทนราษฎร (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) รวมท้ังหนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้องเพื่อพิจารณาหาพ้ืนที่ก่อสรา้ งอาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่ โดยพจิ ารณาพ้นื ท่ี ๓ แปลง ได้แก่ ๑) พื้นท่ีกองคลังแสง กรมสรรพาวุธทหารบก จังหวัดนนทบุรี ๒) พื้นที่การรถไฟแห่ง ประเทศไทย คลองเตย และ ๓) พ้ืนที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) ซ่ึงได้มีการพิจารณาข้อดีและ ข้อเสียของพ้ืนท่ีแต่ละแปลงประกอบกับพิจารณาศึกษาวิจัยของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงสรุปได้ว่า พ้ืนที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เป็นพื้นที่ท่ีมีความ เหมาะสม เน่ืองจากเป็นแกนของเมืองที่มีความต่อเน่ืองทางประวัติศาสตร์ต้ังแต่รัตนโกสินทร์ พุทธศักราช ๒๓๒๕ ในสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขยายเมืองในสมัยรัชกาลที่ ๕ ก่อสรา้ งถนนราชดาเนนิ ไปส้ินสุดที่ลานพระบรมรปู ทรงม้าต่อเนื่องถึงพระทนี่ ่ังอนนั ตสมาคม ซึง่ ใชเ้ ป็น ท่ีประชมุ รฐั สภาครงั้ แรก รัฐสภาร่วมกับสานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กรมราชองครักษ์ กรุงเทพมหานคร สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และ กรมธนารักษ์ ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในพ้ืนที่ ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เมื่อวันท่ี ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ต่อมาได้มีการประกาศเชิญชวน สถาปนิกไทยเข้าร่วมการประกวดแบบ ภายใต้แนวคิดการออกแบบอาคารให้มีเอกลักษณ์ความเป็น สถาบันอันทรงเกียรติของประเทศไทย มคี วามสวยงามด้านสถาปัตยกรรม เหมาะสมตามประโยชน์ใช้สอย รองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นอาคารอนุรักษ์พลังงาน และรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อม มีการจัดการ สภาพแวดล้อม และมีมาตรการป้องกันและแก้ไขภัยพิบัติต่าง ๆ โดยประชาชนท่ัวไป คนพิการ และ ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างสะดวกและมีพื้นท่ีสีเขียวไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ โดยมีผู้ส่งประกวดแบบมาท้ังหมด ๑๓๑ แบบ และได้มีการประกาศผลการตัดสิน เม่ือวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งผู้ชนะการประกวดแบบ คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าสงบ ๑๐๕๑ ภายใต้ชื่อ “สปั ปายะสภาสถาน”

๗ อาคารรัฐสภาเป็นสถานที่ซึ่งมีบทบาททางการเมืองที่สาคัญ และเป็นหน้าตาของ ประเทศ จึงควรแสดงถึงความรุ่งเรืองทางด้านสถาปัตยกรรม ประเพณี และเอกลักษณ์ท่ีเชิดหน้าชูตา ของความเป็นไทย โดยผสมผสานกับความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงดุลยภาพและความก้าวหน้า ของระบบรัฐสภาไทยผ่านงานสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยที่ตอบสนองตามลักษณะการใช้สอยงาน ในยุคปัจจุบัน การออกแบบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่จึงต้องนารูปแบบสถาปัตยกรรมไทยมาใช้เป็น หลักการออกแบบ ประกอบกับลักษณะของวัฒนธรรมและประเพณีการอยู่ร่วมกันของคนในหลาย ระดับให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมในการทางานท่ีเหมาะสม ซ่ึงเป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยได้อย่าง พอเหมาะ แต่ตอ้ งดารงถงึ เอกลกั ษณ์แหง่ ความเป็นชาตไิ ทยไว้ (ฐะปะนยี ์ จุฬารมย์, ๒๕๖๓) สัปปายะสภาสถานได้แรงบนั ดาลใจในการออกแบบตามหลักการสถาปัตยกรรมไทย แบบไตรภูมิตามความเชื่อคติพุทธ โดยให้มีอาคารเคร่ืองยอดสถาปัตยกรรมไทยตั้งอยู่ตรงบริเวณ กลางอาคาร เพ่ือแสดงถึงโอกาสท่ีจะยกฐานะของรัฐสภาไทยไปสู่ระดับโลก ซึ่งนาไปสู่สันติภาพ และ พลิกฟ้ืนจิตวิญญาณของมนุษย์โลก แต่เน่ืองจากพื้นที่ใช้สอยอาคารมีขนาดใหญ่กว่าสามแสนตารางเมตร ทาให้การวางผังแม่บท ผังบริเวณและภูมิทัศน์ของอาคาร จึงต้องคานึงถึงการใช้งานท่ีหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการสาหรับทุกคนและประโยชน์ใช้สอยภายในอาคาร รวมทั้งจัดระบบ ทางสญั จรท่สี ัน้ และไม่สลับซับซ้อน ซ่ึงคานงึ ให้เหมาะกบั สภาพแวดลอ้ มของคนพิการและผู้สงู อายุด้วย (บริษัท ธารา คอนซัลแตนท์ จากัด, ๒๕๕๔, น. ๒๗) นอกจากนี้ แนวคิดการออกแบบอาคารรัฐสภา แห่งใหม่จะต้องแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมไทย ประกอบกับหลักการออกแบบ อาคารสมัยใหม่ท่ีจะต้องมีความทันสมัย ความคล่องตัว ความเป็นสัดส่วน และความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ลักษณะเฉพาะของอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ต้องมีความปลอดภัยในระดับสงู เทียบเท่าอาคาร ชั้นนาในระดบั สากล การอนุรกั ษพ์ ลังงาน และมีสภาพแวดล้อมท่ดี ีเหมาะแก่การทางานดว้ ย ซึ่งถอื เป็น ผลงานที่สร้างสรรค์ในรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยแห่งรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพ่ือเป็นสัญลักษณ์ของแผ่นดินให้ชาวโลกมาช่ืนชมและเป็นมรดกแห่งความภ าคภูมิใจของปวงชน ชาวไทยตอ่ ไป (ฐะปะนีย์ จฬุ ารมย์, ๒๕๖๓) ๒.๑.๒ องค์ประกอบและพ้ืนท่ีใช้สอยอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ (ทปี่ รกึ ษาบรหิ ารโครงการก่อสร้างอาคารรฐั สภาแห่งใหม่, ๒๕๖๓, น. ๒) องค์ประกอบของอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ ประกอบดว้ ย ๑) อาคารรัฐสภา (อาคารหลัก) จานวน ๑ หลัง สูง ๑๑ ชนั้ (ชน้ั ใต้ดนิ และ ชั้นลอยชนั้ ใต้ดนิ ๓ ช้ัน) ๒) อาคารสถานวี ทิ ยแุ ละโทรทศั น์รัฐสภา จานวน ๑ หลงั สงู ๔ ชน้ั ๓) อาคารสถานไี ฟฟ้าย่อย จานวน ๑ หลงั สูง ๓ ช้นั ๔) อาคารลานประชาชนทิศเหนอื จานวน ๑ หลงั สูง ๑ ชั้น ๕) อาคารศาลาแก้ว จานวน ๒ หลงั สงู ๑ ชนั้ ๖) อาคารหอพระ จานวน ๑ หลัง สงู ๑ ชั้น ๗) อาคารกองรักษาการณ์ จานวน ๔ หลงั สูง ๑ ช้ัน ๘) อาคารตรวจยานพาหนะ จานวน ๓ หลัง สูง ๑ ชนั้

๘ ๙) อาคารทางเขา้ ทา่ เรือ จานวน ๑ หลัง สงู ๑ ชั้น ๑๐) อาคารบรกิ ารดา้ นทศิ เหนอื จานวน ๑ หลัง สูง ๑ ช้นั ๑๑) ทา่ เรอื ริมนา้ จานวน ๑ ทา่ สูง ๑ ชน้ั ๑๒) อาคารปอ้ มยาม จานวน ๔ หลงั สูง ๑ ชน้ั ๑๓) อาคารเรอื นเพาะชา จานวน ๑ หลงั สงู ๑ ชั้น ๑๔) ศาลาทิศตะวันออก จานวน ๑ หลัง สงู ๑ ชน้ั พื้นท่ีใช้สอยอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ (กลุ่มกิจการร่วมค้า สงบ ๑๐๕๑, ๒๕๖๓, น. ๒๒) สถาปัตยกรรมของอาคารรฐั สภาแห่งใหม่มีพื้นที่ใชส้ อยท้ังสนิ้ จานวน ๔๒๔,๓๑๑ ตารางเมตร แบง่ เปน็ ๕ สว่ น ประกอบด้วย ๑) ที่ทาการสภาผแู้ ทนราษฎร จานวน ๖๗,๙๑๑ ตารางเมตร - ท่ีทาการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และส่วนที่ทาการสานักงานเลขาธิการ สภาผแู้ ทนราษฎร ๒) ท่ีทาการวุฒสิ ภา จานวน ๓๙,๓๓๕ ตารางเมตร - ทาการสมาชิกวุฒิสภา และสว่ นที่ทาการสานักงานเลขาธกิ ารวฒุ สิ ภา ๓) พื้นที่รัฐสภาส่วนกลาง (สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) จานวน ๑๘๔,๙๕๕ ตารางเมตร - สว่ นหอ้ งประชมุ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒสิ ภา - สว่ นห้องประชุมคณะกรรมาธิการสภาผแู้ ทนราษฎรและวุฒสิ ภา - ส่วนหอ้ งทางานสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรและสมาชกิ วุฒิสภา - ส่วนหอ้ งสมั มนา - สว่ นสโมสรรฐั สภา - ส่วนหอ้ งอาหาร - สว่ นหอ้ งสมดุ พพิ ธิ ภณั ฑ์ และหอจดหมายเหตุ - ส่วนบรกิ ารหน่วยงานภายนอก - ส่วนโรงพิมพร์ ฐั สภา - สว่ นอาคารจอดรถรัฐสภา - สว่ นงานอาคารสถานที่ - ส่วนงานรกั ษาความปลอดภยั - ห้องเครอื่ ง ๔) งานพนื้ ทส่ี ่ิงกอ่ สร้างภายนอกอาคาร จานวน ๑๒๕,๗๑๐ ตารางเมตร - ส่วนอาคารสนับสนุนภายนอก - ส่วนงานภมู สิ ถาปตั ยกรรม และสาธารณูปโภคภายนอก ๕) สถานวี ทิ ยแุ ละโทรทัศนร์ ัฐสภา จานวน ๖,๔๐๐ ตารางเมตร

๙ ๒.๒ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ๒.๒.๑ แนวคิดและการออกแบบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของ อาคารรฐั สภาแห่งใหม่ พรอ้ มอาคารประกอบ เมื่อระยะเวลาประมาณ ๑๐ ปีท่ีผ่านมา กลุ่มกิจการร่วมค้าสงบ ๑๐๕๑ ได้ทาการ ออกแบบภาพรวมงานด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ซ่ึงประกอบด้วย ๑) ทางด่วน หรือระบบสายไฟ (Wiring) ๒) Switch ๓) ศูนย์ข้อมูลหลัก (Data Center) และ ๔) Application ท้ังนี้ ในทางปฏิบัติได้ออกแบบเกี่ยวกับระบบทางด่วนและระบบ Switch ไว้ ส่วน Application ไม่ได้ กาหนดไว้ใน TOR ให้ต้องดาเนินการออกแบบ เน่ืองจากสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ว่าจ้าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้ดาเนินการ สาหรับการออกแบบห้อง Data Center ซ่ึงการเชื่อมต่อ ข้อมูลต้องเก่ียวข้องสัมพันธ์กับ Application น้ัน ขณะท่ีทาการออกแบบยังไม่มีการวางระบบ Application ไว้ ทาให้ไม่สามารถออกแบบระบบภายในห้อง Data Center ได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก เทคโนโลยีมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว กลุ่มกิจการร่วมค้าสงบ ๑๐๕๑ จึงได้ออกแบบระบบ ICT ไว้ในภาพรวม ส่วนการออกแบบรายละเอียดการติดต้ังระบบต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๖๐ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จ้างบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูช่ันส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จากัด ออกแบบรายละเอียดการติดต้ังระบบเทคโนโลยี สารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ตามสัญญาเลขท่ี ๗๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๐ จานวนเงิน ๕๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาดาเนินการ ๒๗๐ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐ – วันท่ี ๒๒ มกราคม ๒๕๖๑ ซ่ึงบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูช่ันส์ อินเตอร์แนช่ันนัล จากัด ต้องรับประกัน ผลงาน และปฏิบัติหน้าท่ีผู้รับจ้างภายในระยะเวลา ๒ ปี หลังส้ินสุดสัญญา เพื่อเข้าร่วมประชุม ให้คาแนะนา และให้รายละเอียดเพ่ิมเติมตามความจาเป็นที่ตัวแทนของผู้ว่าจ้างร้องขอ ท้ังน้ี เพื่อให้การ ติดตั้งและใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ดาเนินไปด้วยความเรียบร้อย โดยจะครบกาหนดการรับประกันผลงาน และปฏิบัติหน้าที่ผู้รับจ้างในวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๓ (คณะอนุกรรมการศึกษาการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนกระบวนการนิติบัญญัติ, ๒๕๖๒, น. ๒๒) บรษิ ทั เมอรล์ ินส์ โซลูช่ันส์ อินเตอร์แนชน่ั นลั จากดั ได้ดาเนินการออกแบบระบบ การติดต้ังระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ซึ่งมีแนวคิด การออกแบบศูนย์ข้อมูลหลัก (Data Center) และระบบสารสนเทศสาหรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แบบบรู ณาการ ให้สามารถใช้งานรว่ มกันได้ทั้ง ๒ ส่วนราชการ ได้แก่ สานกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร และสานักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพ่ือทดแทนการใช้งานระบบสารสนเทศเดิม โดยสามารถบริหาร จัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Documents : e-Docs) และรองรับการทางานในรูปแบบ สานักงานดิจิทัล (Digital Office) เพ่ือเตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่การเป็น Digital Parliament และ Smart Parliament ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ (คณะอนุกรรมการศึกษาการพัฒนาระบบ สารสนเทศเพือ่ สนับสนนุ กระบวนการนติ ิบญั ญตั ิ, ๒๕๖๒, น. ๒๒-๒๓)

๑๐ ขอบเขตการดาเนินงานของบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูช่ันส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จากัด มดี ังน้ี ๑) ศึกษา ทบทวน วิเคราะห์ข้อมูลเอกสารความต้องการด้านเทคโนโลยี สารสนเทศและการสอ่ื สารของอาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่ จากรายงานผลการศกึ ษาตา่ ง ๆ ประกอบด้วย (๑) รายงานผลการศึกษาคณะอนุกรรมการศึกษา รวบรวม ความต้องการใช้งาน ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของอาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่ (๒) รายงานผลการศึกษารวบรวมข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) (๓) รายงานผลการศึกษาข้อมูลความต้องการนอกงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (Non-Information Technology) (๔) รายงานผลการศึกษางานที่ไม่ได้รวมอยู่ในสัญญาก่อสร้างอาคารหลัก และอาคารประกอบทีผ่ ู้ออกแบบเดิม (กล่มุ กิจการรว่ มค้าสงบ ๑๐๕๑) ไดท้ าการออกแบบและกาหนด คณุ ลักษณะไว้ ๒) ออกแบบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพมิ่ เตมิ ทจ่ี าเป็น ๓) ออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพ้ืนฐานของห้องศูนย์ข้อมูลหลัก และศูนย์ ข้อมูลสารอง ๔) ออกแบบสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของระบบรักษาความ ปลอดภัยแบบบรู ณาการของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ๕) ออกแบบศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ าย (Network Operation Center : NOC) ศูนย์ปฏิบัติการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Security Operation Center : SOC) ห้องปฏิบัติการการรักษาความปลอดภัยอาคาร ห้องปฏิบัติการควบคุมกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) รวมทงั้ ห้องปฏิบตั ิการควบคมุ ระบบโสตทศั นปู กรณ์ ๖) ทบทวนการออกแบบสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่ายในระดับ กายภาพของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ในส่วนของเครือข่ายข้อมูล (Data IT Network) ซ่ึงรวมถงึ Wired Network และ Wireless Network ๗) จัดทาแผนจดั การความต่อเนอ่ื ง (BCP) การปรับลดงบประมาณโครงการจ้างงานเทคโนโลยีส ารสนเทศและการส่ื อสาร โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ (คณะอนุกรรมการศึกษาการพัฒนา ระบบสารสนเทศเพอ่ื สนบั สนนุ กระบวนการนติ ิบัญญัติ, ๒๕๖๒, น. ๓๐) กรอบวงเงินงบประมาณของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ตามแบบที่ทางบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูช่ันส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จากัด เสนอ มีจานวน งบประมาณท้ังสิ้น ๗,๗๖๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณตามที่สานัก งบประมาณเสนอให้ปรับลดเงินงบประมาณลง คงเหลือ ๓,๔๒๒,๔๗๖,๕๐๐ บาท ดังนั้น สานักงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจึงให้บริษัท เมอร์ลินส์ฯ ดาเนินการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ ใหส้ อดคล้องกบั วงเงินงบประมาณท่ีได้รบั อนุมตั ิ โดยใช้หลกั เกณฑก์ ารปรับลดเนอ้ื งานลง ดังนี้

๑๑ ๑. ไม่สง่ ผลตอ่ การออกแบบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในภาพรวม ๒. ตดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทม่ี ีความจาเปน็ น้อยทส่ี ุดออกไปก่อน โดยสามารถดาเนนิ การจัดหาเพ่อื นามาติดต้ังใชง้ านไดใ้ นภายหลัง ๓. ปรบั ลดจานวนอุปกรณ์ลง เพอ่ื ให้เป็นไปตามความจาเป็นและการใช้งานจรงิ ๒.๒.๒ ขอบเขตการดาเนนิ งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ว่าจ้างบริษัท แอ๊ดวานซ์ อินฟอร์เมช่ัน เทคโนโลยี จากัด (มหาชน) (AIT) ดาเนินงานตามสัญญาจ้างงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสือ่ สารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พรอ้ มอาคารประกอบ เลขที่ ๑๓๕/๒๕๖๒ ลงวันท่ี ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ วงเงินงบประมาณ ๓,๓๕๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยมีระยะเวลาดาเนินการ จานวน ๕๔๐ วัน ต้ังแต่วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ – ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๓ และได้ดาเนินการติดต้ังระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โครงการก่อสร้างอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ มีความก้าวหนา้ ทั้งโครงการตามแผนงานรอ้ ยละ ๘๖.๕๗ และ มีความสาเรจ็ ท่ที าไดจ้ รงิ รอ้ ยละ ๔๖.๒๖ ประกอบด้วย ๗ หมวดงาน (ขอ้ มูล ณ เดือนธนั วาคม ๒๕๖๒) ขอบเขตการดาเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร โครงการก่อสร้าง อาคารรฐั สภาแห่งใหม่ พรอ้ มอาคารประกอบ มดี ังนี้ ๑. หมวดงานประกอบอาคาร ๑) ระบบ IPTV Application (Data IT) เป็นระบบกระจายสัญญาณภาพ โทรทัศน์ดิจิทัลภายในอาคารรัฐสภาใหม่ และเป็นการทางานร่วมกันระหว่างระบบถ่ายทอดสด (Live Broadcast System : LBS) ภาคความถี่วิทยุ (RF) กับ IPTV ซ่ึงระบบถ่ายทอดสดมีหน้าท่ี รับสัญญาณทั้งหมด ๓ ส่วน คือ โทรทัศน์ดิจิทัล (DVB-T๒) โทรทัศน์ดาวเทียม (DVB-S๒) และสัญญาณถ่ายทอดสด โดยมีการตดิ ต้ังเครอื่ ง IPTV Sever พร้อมซอฟตแ์ วรบ์ รหิ ารจัดการท่ีศนู ยข์ ้อมูลหลัก และอปุ กรณ์แปลงสัญญาณภาพและเสยี ง และทวี ีตามพ้ืนทีต่ ่าง ๆ ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ๒) ระบบถ่ายทอดสด (Live Broadcast System : LBS) ภาคความถี่วิทยุ (RF) เป็นระบบภาครับสัญญาณความถ่ีวิทยุ โดยติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียม C-Band, KU-Band และอปุ กรณ์แปลงสัญญาณดาวเทยี ม เพือ่ นาเสนอภาพและเสยี งไปยงั ระบบ IPTV ๒. หมวดงานก่อสร้างศูนย์ข้อมูลหลัก ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย และศูนย์ ปฏิบัตกิ ารรกั ษาความมั่นคงปลอดภัย ๑) ศูนย์ข้อมูลหลัก (Data Center) (๑) พื้นที่ศูนย์ข้อมูลหลัก เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องเครือข่ายหลัก ห้องทางเข้า ห้องแกะกล่องและประกอบเครื่องและทดสอบเคร่ือง (Dispatch and Staging Room) ห้องเก็บของที่ยังไม่ได้ใช้งาน (General Storage) และห้องเก็บอุปกรณ์สาคัญ (Critical Parts Storage) ห้องเคร่ืองไฟฟ้า และห้องเคร่ืองปรับอากาศซ้ายและขวา ห้องเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้าสารองอัตโนมัติ ห้องเครอ่ื งไฟฟ้าหลกั หอ้ งเครอ่ื งไฟฟา้ สารองอตั โนมตั ิ และห้องแบตเตอรี่ และห้องเก็บถงั ก๊าซดบั เพลงิ

๑๒ (๒) ห้องส่วนสานักงานอยู่ชั้นลอยใต้ดินชั้นที่ ๑ ประกอบด้วย ห้อง NOC ห้อง SOC ห้องทางานฝ่ายสนับสนุน (Support Staff Office) และห้องประชุม Crisis Management Room (๓) งานระบบสนับสนุนต่าง ๆ (Infrastructure System) มีรายละเอียด เบ้ืองต้น ดังน้ี ระบบไฟฟ้ามีการติดต้ังเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้า เครื่องสารองไฟฟ้า สาหรับศูนย์ข้อมูลหลัก ระบบปรบั อากาศ การออกแบบดา้ นวิศวกรรมระบบสุขาภิบาลและระบบดับเพลงิ ระบบตรวจจับควัน ความเร็วสูง (High Sensitivity Smoke Detector System) ระบบตรวจจับน้ารั่วซึม (Water Leak Detection System) ระบบส่ือสารโทรศัพท์ และเครือข่ายสื่อสารเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบ Building Automation/Management System ๒) ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย (Network Operation Center : NOC) และ ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารรกั ษาความม่นั คงปลอดภยั (Security Operation Center : SOC) เป็นการปรับปรุงพ้ืนที่บนชั้นลอยใตด้ ิน ๑ (B๑M) ซ่งึ เป็นพน้ื ทีอ่ ยู่เหนือศูนย์ ข้อมูลหลัก (Main Data Center) โดยพื้นท่ีดังกล่าวดาเนินการกั้นพื้นที่โดยแยกออกเป็น ๒ ศูนย์หลกั และปรับปรุงงานสถาปัตยกรรมภายใน รวมถึงติดตั้งโต๊ะ Console และจัดทาห้องประชุม Crisis Management Room รวมถึงติดตั้งจอภาพขนาดใหญ่ และเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมซอฟต์แวร์บริหาร จดั การระบบเพ่ือเฝา้ ดูและบริหารจดั การระบบเครือข่ายภายในอาคารรัฐสภาแหง่ ใหม่ ๓. หมวดงานโสตทัศนูปกรณ์ ๑) ระบบชุดประชุม ระบบเคร่ืองเสียง ระบบภาพ ระบบส่ือโสตทัศนูปกรณ์ และระบบบริหารจัดการในหอ้ งประชมุ ต่าง ๆ ท้งั นี้ อุปกรณ์โสตทศั นปู กรณ์ในหอ้ งประชุมตา่ ง ๆ จะไม่ มคี รบสมบรู ณท์ กุ หอ้ งประชุม ลาดับ รายการ จานวนหอ้ ง ๑ หอ้ งประชมุ ส.ส. ๑ ๒ ห้องประชุม ส.ว. ๒ ๓ ห้องประชุมกรรมาธิการ ขนาด ๓๐ คน ๒๐ ๔ ห้องประชมุ กรรมาธิการ ขนาด ๔๐ คน ๖๐ ๕ หอ้ งประชมุ กรรมาธกิ าร ขนาด ๕๐ คน แบบมาตรฐาน ๘ ๖ ห้องประชุมกรรมาธกิ าร ขนาด ๕๐ คน แบบ VDO Conference ๒ ๗ ห้องประชมุ กรรมาธกิ าร ขนาด ๕๐ คน แบบพจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญตั ิ ๑๐ ๘ ห้องประชมุ กรรมาธกิ าร ขนาด ๖๐ คน ๒๐ ๙ ห้องประชุมกรรมาธิการงบประมาณ ขนาด ๑๐๐ คน ๒ ๑๐ หอ้ งประชมุ กรรมาธกิ ารงบประมาณ ขนาด ๒๐๐ คน ๑ ๑๑ หอ้ งประชุมพรรครว่ มรัฐบาล และพรรครว่ มฝา่ ยค้าน ขนาด ๖๐ คน ๒ ๑๒ หอ้ งประชมุ คณะกรรมการ ก.ร. ๑ ๑๓ ห้องประชมุ อ.ก.ร. ๑ ๑๔ หอ้ งประชุมรบั รองคณะรัฐมนตรี ขนาด ๓๒ คน ๑

๑๓ ลาดับ รายการ จานวนห้อง ๑๕ หอ้ งประชมุ (สว่ นกลาง) ส.ส. และ ส.ว. ขนาด ๓๐ คน ๑๖ ๑๖ หอ้ งประชมุ (ส่วนกลาง) ส.ส. และ ส.ว. ขนาด ๕๐ คน ๑๓ ๑๗ หอ้ งจดั ประชุมสมั มนา ขนาด ๑๐๐ คน (แบ่งเปน็ หอ้ งเลก็ ได้ ๓ หอ้ ง) ๒ ๑๘ หอ้ งจัดประชมุ สมั มนา ขนาด ๒๕๐ คน ๓ ๑๙ หอ้ งจดั ประชมุ สมั มนา ขนาด ๒๕๐ คน แบบเธยี เตอร์ ๑ ๒๐ หอ้ งจัดประชุมสมั มนา ขนาด ๕๐๐ คน ๑ ๒๑ ห้องประชุมอบรมและสมั มนาสภาผู้แทนราษฎร ขนาด ๑๐๐ คน ๒ ๒๒ หอ้ งประชุมอบรมและสมั มนาสภาผู้แทนราษฎร ขนาด ๒๐๐ คน ๒ ๒๓ หอ้ งประชุมอบรมและสมั มนาสภาผ้แู ทนราษฎร ขนาด ๓๐๐ คน ๑ (แบง่ ห้องได้) ๒๔ ห้องประชุมอบรมและสัมมนาสานกั งานเลขาธิการวฒุ สิ ภา ขนาด ๑๐๐ คน ๒ ๒๕ หอ้ งประชุมอบรมและสัมมนาสานกั งานเลขาธกิ ารวุฒสิ ภา ขนาด ๒๐๐ คน ๑ (แบ่งหอ้ งได้) ๒๖ หอ้ งประชมุ อบรมและสมั มนาสานกั งานเลขาธกิ ารวุฒสิ ภา ขนาด ๒๐๐ คน ๑ (เธยี เตอร)์ ๒๗ ห้องประชุมอบรมสัมมนา/บรรยายสรปุ ขนาด ๔๐-๖๐ คน ๒ ๒๘ หอ้ งอบรมคอมพิวเตอร์ ขนาด ๓๐ คน ๔ ๒๙ ห้องปฏบิ ัติการทางภาษา (Sound Lab) ๓ ๓๐ ห้องแถลงขา่ ว ส.ส. ๑ ๓๑ ห้องแถลงขา่ ว ส.ว. ๑ ๓๒ หอ้ งจดั เล้ียง VIP ขนาด ๓๐-๑๐๐ คน ๑ ๓๓ หอ้ งรับรองพิเศษ ขนาด ๓๐ คน ๓ ๓๔ ห้องรบั รองพเิ ศษ ขนาด ๕๐ คน ๓ ๓๕ ห้องเลยี้ งรบั รอง/ประชมุ ขนาด ๓๔ คน ๒ ๒) ระบบ Digital Signage ๓) ระบบสือ่ สารหอ้ งควบคุมดิจิทัล (IP Intercom System) ๔) ระบบเรยี กเข้าประชมุ ดิจิทลั (IP Meeting System) ๕) ระบบเสยี งประกาศดิจิทลั (IP Paging System) ๔. หมวดงานเครื่องคอมพวิ เตอรแ์ ม่ข่าย และซอฟต์แวร์สนบั สนนุ เป็นงานติดตั้งระบบทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของศูนย์ข้อมูลหลัก เป็นระบบคลาวด์แบบส่วนตัว (Private Cloud) ของทั้ง ๒ หน่วยงาน (สานักงานเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร และสานักงานเลขาธกิ ารวุฒสิ ภา) เพื่อรองรบั การใช้งานระบบสารสนเทศหลัก (Critical Application) ประกอบกบั ระบบสารสนเทศของอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ได้ถกู ออกแบบใหม้ ีความพร้อม ใช้งานสูง (High Availability) สามารถใช้งานและเข้าถึงระบบสารสนเทศท่ีเผยแพร่ และใช้ระบบ

๑๔ เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์เสมือน (Virtualization Technology) สาหรบั บริหารจดั การคอมพวิ เตอร์แม่ข่าย ทางกายภาพ (Physical Server) พ้นื ทีใ่ นการจัดเกบ็ ข้อมูล (Storage System) ระบบเครือขา่ ยเสมือน (Virtual Network) และระบบรักษาความปลอดภัยและระบบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเสมือน (Software Design Storage : SDS) ที่ใช้เทคโนโลยี Hyper Converged Storage System และ Converged Storage System ร่วมกับระบบเครือข่ายเสมือน (Software Defined Network : SDN) ในการควบคุม ระบบเครอื ขา่ ยของคอมพวิ เตอร์เสมือน (Virtual Machine) ทงั้ หมดเพอื่ ให้สามารถควบคุมการจราจร ระหว่างคอมพิวเตอรเ์ สมอื นได้อย่างมีประสทิ ธิภาพสามารถควบคุมความปลอดภัยของคอมพวิ เตอร์แม่ ข่ายเสมือนได้ดีมากย่ิงขึ้น โดยควบคุมการใช้งานด้วยสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ Software Multitenancy เพ่ือควบคุมสิทธิในการเข้าถึงและใช้งาน Application Software ข้อมูลและทรัพย์สินสารสนเทศ รว่ มกนั โดยระบบคอมพวิ เตอร์แม่ข่าย ณ ศนู ย์ขอ้ มูลหลัก สามารถจาแนกออกได้เป็น ๓ กลุ่ม ตามการให้บรกิ าร ประกอบด้วย กลุ่ม Application Server (x๘๖) ใช้สาหรับติดตั้งและประมวลผลระบบสารสนเทศ ทั้งหมด ซ่ึงประกอบด้วยระบบสารสนเทศสาหรับใช้งานร่วมกัน (Common Application) ระบบ สารสนเทศเฉพาะสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และระบบสารสนเทศเฉพาะสานักงาน เลขาธิการวุฒสิ ภา กลุ่ม Database Server (x๘๖) ใช้สาหรับติดต้ังระบบจัดการฐานข้อมูลสนับสนุน ท่ีใช้สถาปัตยกรรมหน่วยประมวลผลกลาง x๘๖ เพ่ือให้บริการต่อระบบสารสนเทศ โดยเคร่ือง คอมพิวเตอรแ์ มข่ ่ายกลุม่ นใ้ี ช้เทคโนโลยี Hyper-converged infrastructure กลุ่ม Database Server (RISC) ใช้สาหรับติดต้ังระบบจัดการฐานข้อมูลหลักท่ีใช้ สถาปัตยกรรมหนว่ ยประมวลผลกลาง RISC เพอื่ ใหบ้ ริการตอ่ ระบบสารสนเทศหลกั ๕. หมวดงานระบบเครือขา่ ยสื่อสาร ระบบเครือข่ายส่ือสารเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งหมดของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งเปน็ อาคารทมี่ ีขนาดใหญ่ รองรบั การทางานของหลายหน่วยงาน ที่เก่ียวข้อง มีการรับส่งข้อมูลของระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศด้านต่าง ๆ หลายระบบงาน มีการใช้ งานระบบส่ือสารแบบรวมศูนย์ท่ีมีท้ังภาพ เสียง และข้อมูล ดังนั้น ระบบเครือข่ายสื่อสารของรัฐสภา แห่งใหม่จาเป็นต้องมีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ ความปลอดภัยสูง ดูแลรักษาได้ง่าย และมีความยืดหยุ่น ในการปรับเปลยี่ นหรอื ขยายเพิม่ เติมในอนาคต ระบบเครือข่ายของรัฐสภาแห่งใหม่จะประกอบด้วย ส่วนแกนหลัก ( Core) ทาหน้าที่เป็นศูนย์กลางของระบบเครือข่ายท่ีรับการเชื่อมต่อจากส่วนเครือข่ายอ่ืน ๆ โดยในส่วนน้ี จะได้รับการออกแบบให้มีส่วนแกนหลักสองส่วนให้รองรับการเช่ือมต่อของตึกส่วนซ้าย และตึกส่วน ขวาแยกออกจากกัน เพ่ือกระจายการใช้งานข้อมูลของตึกส่วนซ้ายและส่วนขวาออกจากกัน เพ่ือให้มี เสถียรภาพสูง กรณีท่ีส่วนแกนหลักฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีปัญหาจะทาให้การใช้งานไม่กระทบกับอีกฝ่ังหน่ึง เพื่อให้สามารถรองรบั การใชง้ านระบบโดยรวมได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

๑๕ ระบบเครือข่าย Campus LAN เป็นระบบเครือข่ายความเร็วสูงที่รองรับการเชื่อมต่อ จากอุปกรณ์ต่าง ๆ ครอบคลุมพ้ืนที่ท้ังหมดของรัฐสภาแห่งใหม่ โดยรองรับการเช่ือมต่อท้ังในแบบ มีสาย (Wired) และแบบไร้สาย (Wireless) ระบบเครือข่าย Data Center Network เป็นระบบเครือขายความเร็วสูงท่ีรองรับ การเช่ือมต่อภายในศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งจะประกอบด้วย ระบบเครื่องแม่ข่าย (Server) ระบบฐานข้อมลู (Database) ระบบสารองขอ้ มูล (Storage and Backup) เป็นต้น ส่วนเช่ือมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นส่วนเครือข่ายสาหรับรองรับ การเช่ือมต่อกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นช่องทางสาหรับให้บริการอินเทอร์เน็ตกับผู้ใช้งาน เครือข่ายภายในระบบของรัฐสภาแห่งใหม่ และในขณะเดียวกันยังสามารถใช้เป็นช่องทางให้บริการ ข้อมูลของรัฐสภาแห่งใหม่กับผู้ใช้ภายนอกได้ จานวนไม่น้อยกว่า ๒ เส้น ทา Aggregate ระหว่างกัน โดยท่ีมีส่วน De-Militarized Zone (DMZ) สาหรับการวางเคร่ืองแม่ข่ายท่ีให้บริการกับผู้ใช้ภายนอก โดยในส่วนของการเชอื่ มต่อภายนอกออกแบบให้มี Lind Load Balancer เพือ่ เพม่ิ ความเรว็ และความ เสถียรโดยเสมือนทา Lind Backup เมื่อลิงก์ใดลิงก์หน่ึง Down จะยังใช้งานได้โดยลิงก์ที่เหลือ และ ยังควบคุมการใช้งานด้วย Bandwidth Management อีกทางหน่ึงเพ่ือบริหารทรัพยากรให้ได้อย่าง มปี ระสิทธิภาพ ส่วนเชื่อมต่อระบบโทรศัพท์สื่อสาร (Media Gateway) เป็นส่วนที่ใช้เชื่อมต่อ ระบบส่ือสารโทรศัพท์ภายในกับผู้ให้บริการโทรศัพท์ภายนอกโดยสามารถเช่ือมต่อได้ท้ังแบบ SIP Trunk หรอื สายสัญญาณแบบ E๑ ส่วนบริหารจัดการเครือข่าย (Management Zone) เป็นส่วนเครือข่ายสาหรับ การรองรบั การวางเคร่อื งแมข่ ่ายท่ีทาหน้าท่ีในการบรหิ ารจดั การระบบเครือขา่ ย และระบบรักษาความ ปลอดภัยของเครอื ขา่ ยโดยเฉพาะ เพอื่ เพิม่ ความปลอดภัยในการบริหารจัดการระบบใหม้ ากขนึ้ ส่วน Building Network เป็นส่วนเครือข่ายความเร็วสูงที่ครอบคลุมพื้นท่ีทั้งหมด ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยรองรับการเช่ือมต่อกับระบบด้านอาคาร ได้แก่ ระบบบริหารอาคาร ระบบกระจายเสียง ระบบควบคุมแสงสว่าง ระบบจัดการท่ีจอดรถ เป็นต้น และรองรับการเช่ือมต่อ กับระบบโสตทัศนูปกรณ์ ได้แก่ ระบบภาพ และเสียงต่าง ๆ ที่ใช้กับห้องประชุมท้ังหมดของรัฐสภา แห่งใหม่ ส่วน Security Network เป็นส่วนเครือข่ายความเร็วสูงที่ครอบคลุมพ้ืนที่ทั้งหมด ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยรองรับการเชื่อมต่อจากระบบอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ได้แก่ ระบบกลอ้ งวงจรปดิ ระบบควบคมุ การเขา้ -ออก และระบบแจง้ เตอื นสัญญาณภัย เปน็ ตน้ ๕.๑ระบบเครือขา่ ยแบบมีสาย (Wire Network) เป็นระบบโครงสร้างพ้ืนฐานหลักของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทาหน้าที่ให้บริการ สอื่ สารภายในสาหรับผู้ใช้ภายในองค์กร และเชอ่ื มตอ่ กบั ระบบงานเทคโนโลยสี ารสนเทศตา่ ง ๆ ระบบ LAN จึงต้องได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพ (Performance) ง่ายการต่อขยาย (Scalability) เสถียรภาพ (Reliability) และความปลอดภัยสูง (Security) ง่ายต่อการดูแลรักษา (Manageability) เพ่อื ใหส้ ามารถใหบ้ รกิ ารผู้ใชง้ านไดอ้ ย่างตอ่ เนื่องและมีประสิทธิภาพ

๑๖ โดยมีการติดต้ังอุปกรณ์กระจายสัญญาณหลัก (Core Switch) อุปกรณ์ กระจายสัญญาณรอง (Distribution Switch) ท่ีศูนย์ข้อมูลหลัก และอุปกรณ์กระจายสัญญาณย่อย (Access Switch) พ้ืนท่ีต่าง ๆ ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานของเจ้าหนา้ ที่ภายใน อาคาร พรอ้ มทง้ั มีการติดตั้งระบบโทรศัพท์แบบ IP เพื่อรองรับการใช้งานโทรศัพท์ของเจ้าหน้าท่ี และ สมาชิกฯ ภายในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงมีการติดต้ังระบบรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ เพอื่ ป้องกนั การโจมตจี ากผูบ้ ุกรกุ ภายนอก และป้องกนั ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ๕.๒ระบบเครอื ขา่ ยแบบไร้สาย (Wireless Network) เป็นระบบเครือข่ายแบบไร้สายท่ีรองรับการเชื่อมต่อจากผู้ใช้งานที่อาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ เนอ่ื งจากระบบเครือข่ายไร้สายเป็นระบบท่มี ีความสะดวกในการใช้งานมากกวา่ ระบบ เครือข่ายแบบมีสาย ทาให้ในปัจจุบันมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีใช้งานระบบ Wireless LAN เพิ่มขึ้นเป็น จานวนมาก เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เครื่องโทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟน และอุปกรณ์ Tablet ทาให้ความต้องการใช้งานระบบเครอื ขา่ ยแบบไร้สายสูงข้ึนอยา่ งมาก ระบบเครอื ขา่ ยไร้สายของรฐั สภา จึงต้องออกแบบให้สามารถครอบคลุมพ้ืนที่ใช้งานทั้งหมดของรัฐสภาแห่งใหม่ทั้งพ้ืนท่ีบริเวณภายใน อาคารและบริเวณภายนอกอาคาร และสามารถรองรับผู้ใช้งานในพ้ืนที่หนาแน่น เช่น ในห้องประชุม หรือห้องโถงขนาดใหญ่ ๑) การออกแบบด้านประสิทธิภาพ (Performance) การออกแบบให้ระบบ เครือข่ายไรส้ ายของรัฐสภามีประสิทธภิ าพในการทางานทสี่ งู จะมีองค์ประกอบสาคญั ดงั น้ี ระยะครอบคลุมพ้ืนท่ีของสัญญาณ (Coverage Area) จะสามารถครอบคลุม พื้นท่ีท้ังหมดของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ทั้งพื้นท่ีบริเวณภายในอาคาร และภายนอกอาคาร โดยการ ออกแบบมีการจาลองการติดตั้งอุปกรณ์ในแบบการก่อสร้างเพ่ือประเมินการวางตาแหน่งอุปกรณ์ Access Point ให้ครอบคลุมพื้นท่ีการใช้งานทั้งหมด (Heat Map) โดยมีความแรงของสัญญาณ (Received Signal Strength Indicator – RSSI) อย่างน้อย ๖๗ dBm และอัตรา Signal-to-Noise Ratio (SNR) อยา่ งน้อย ๒๕ dB เพอ่ื รองรับการใชง้ านทง้ั ข้อมลู และเสยี งผ่านระบบ Wireless LAN ความหนาแน่นของผู้ใช้งาน (Capacity) ในพื้นที่ที่รองรับผู้ใช้งานจานวน มาก เช่น ในห้องประชุมขนาดใหญ่ หรือห้องโถงขนาดใหญ่ จะมีการเพิ่มจานวน Access Point ให้เหมาะสมกบั การรองรบั ผใู้ ช้งานจานวนมาก ๒) การออกแบบดา้ นการต่อขยาย (Scalability) เป็นระบบแบบท่ีใช้อุปกรณ์กลางในการควบคุมการทางานของระบบ เครือขา่ ยไร้สาย (Wireless Controller) ซ่ึงทาใหก้ ารบรหิ ารจดั การอปุ กรณ์ Wireless Access Point ท้ังหมดในระบบอยู่ท่ีศูนย์กลางเพียงที่เดียว สามารถควบคุมช่องสัญญาณ ระดับสัญญาณ การจัดการ กระจายการเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทาง และรองรบั การทางานทดแทนกนั ของอุปกรณ์ Access Point ได้โดยอตั โนมตั ิ ทาใหก้ ารเชื่อมต่อใชง้ านของผู้ใชเ้ ปน็ ไปอยา่ งราบรื่น และไดป้ ระสิทธิภาพสูงสดุ ๓) การออกแบบดา้ นเสถยี รภาพ (Reliability) เสถียรภาพของระบบเครือข่ายท่ีดีจะทาให้ระบบสามารถทางานได้อย่าง ต่อเนื่องแม้ในกรณีที่มีการชารุดเสียหายส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดขึ้น การออกแบบระบบเครือข่ายสาหรับ อาคารรฐั สภาแห่งใหม่ได้มกี ารออกแบบความซา้ ซ้อน (Redundancy) ของอุปกรณ์ไว้

๑๗ ๔) การออกแบบด้านความปลอดภัย (Security) การรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่ายไร้สาย Wireless LAN ของ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กาหนดให้ผู้ใช้งานระบบ Wireless LAN ต้องผ่านการพิสูจน์ตัวตน (Authentication) กอ่ นเข้าใชง้ านทกุ ครง้ั การป้องกันภัยคุกคามของระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless Intrusion Prevention System) ระบบเครอื ข่ายไรส้ ายเป็นระบบท่ีมคี วามเสย่ี งต่อการโจมตีได้โดยง่ายเนื่องจาก ใช้คล่ืนสัญญาณท่ีอยู่ในอากาศ ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถลักลอบโจมตี หรือเจาะระบบเข้าใช้งานได้ ตลอดเวลา ระบบเครือข่ายไร้สายของรัฐสภาจึงต้องมีระบบเพ่ือตรวจจับและป้องกันการถูกโจมตี ผ่านเครือข่ายไร้สายโดยเฉพาะ โดยใช้อุปกรณ์ Access Point ท่ีติดต้ังกระจายครอบคลุมพื้นท่ีเพ่ือ ช่วยตรวจจบั การโจมตผี ่านอากาศ และทาการรายงาน และยบั ยง้ั การเชือ่ มตอ่ ที่ไมป่ ลอดภัยได้ ๕) การออกแบบด้านการดูแลรกั ษา (Manageability) การดูแลรักษาระบบเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่จาเป็นจะต้องมีเครื่องมือหรือ ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการระบบ เพ่ือให้สามารถตรวจสอบการทางานของระบบและ แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเครือข่ายไร้สาย Wireless LAN สาหรับอาคารรัฐสภา แห่งใหม่จะมีคุณสมบัติด้านการบริหารจัดการท่ีช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถมองเห็นสถิติการใช้งาน เครือข่ายในรูปแบบกราฟิกได้ ท้ังแบบ Wireless Management System และ Wireless Location Tracking ได้ ๕.๓ระบบโทรศัพท์ IP Phone ๕.๔ระบบรักษาความปลอดภยั ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Security) ๖. หมวดงานระบบสารสนเทศ เปน็ การพฒั นาระบบดาเนนิ การพัฒนาระบบสารสนเทศหลักที่จาเปน็ ดังนี้ ๑) กลมุ่ ระบบสารสนเทศบริหารขอ้ มลู และการประชุมรัฐสภา (๑) ระบบบรหิ ารจัดการหอ้ งประชุมอัจฉริยะ (๒) ระบบบริหารจัดการเอกสารการประชุมดจิ ิทัล (๓) ระบบบรหิ ารการประชุมรัฐสภา (๔) ระบบเผยแพรข่ อ้ มลู การประชมุ รฐั สภา (๕) ระบบบรหิ ารการประชุมรัฐสภาระหวา่ งประเทศ ๒) กลุ่มระบบสารสนเทศบริหารทรพั ยากรรฐั สภา (๑) ระบบบันทึกการลงเวลาปฏบิ ตั ิราชการ (๒) ระบบบรหิ ารจดั การบัตรรฐั สภา ๓) กลุ่มระบบสารสนเทศบริหารสานกั งาน (๑) ระบบจัดการขอ้ มลู ป้ายประกาศดิจทิ ลั (๒) ระบบบรหิ ารจัดการไฟล์อัจฉริยะ (๓) ระบบศูนย์แลกเปลยี่ นขอ้ มูลรัฐสภา

๑๘ ๗. หมวดงานเครือ่ งคอมพวิ เตอรล์ ูกข่าย และอุปกรณ์ต่อพ่วง ลาดบั รายการ จานวนหอ้ ง ๑ เครอื่ งสแกนน้ิวมือ พรอ้ มอ่านบัตร สาหรบั ระบบบรหิ ารการประชมุ รฐั สภา ๑๖ ๒ เครื่องคอมพวิ เตอรโ์ นต้ บกุ๊ สาหรบั ระบบบรหิ ารการประชมุ รัฐสภา ๑๖ ๓ เครื่องคอมพวิ เตอร์ทส่ี ามารถเขียนหนา้ จอ สาหรับระบบบริหารการประชุม ๓๐ รัฐสภา ๕ เครอื่ งพิมพ์บัตร ๔ ๖ บตั รชนิด Mifare ๒๐,๐๐๐ ๗ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ พร้อมอ่านบัตร สาหรับระบบบริหารจัดการบัตร ๔ รฐั สภา ๘ กล้องถ่ายภาพน่งิ สาหรบั ระบบบริหารจัดการบตั รรฐั สภา ๔ ๙ เครื่องสแกนลายนิ้วมอื อ่านบตั ร และกล้องถ่ายภาพ สาหรับตู้ KIOSK ๔๔ ๑๐ ตู้ KIOSK ๔๔ ๒.๒.๓ ฟงั กช์ นั งานของระบบสารสนเทศของอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ ๑. ระบบสารสนเทศของรัฐสภาแห่งใหม่ มจี านวน ๓๖ ระบบ แบง่ ออกเป็น ๕ กลุ่ม สามารถสรุปรายละเอยี ด และฟังกช์ ันงาน ดงั น้ี - กล่มุ ระบบสารสนเทศบรหิ ารทรัพยากรรัฐสภา จานวน ๕ ระบบ - กลุ่มระบบสารสนเทศบริหารสานักงาน จานวน ๑๐ ระบบ - กลุ่มระบบสารสนเทศบรหิ ารข้อมลู และการประชมุ รัฐสภา จานวน ๗ ระบบ - กลุ่มระบบสารสนเทศนติ ิบญั ญตั ริ ฐั สภา จานวน ๓ ระบบ - กลุ่มระบบสารสนเทศบริหารจัดการการเผยแพร่ข้อมูลและงานบริการ ประชาชน จานวน ๑๑ ระบบ ชื่อระบบ คาอธิบาย กลุ่มระบบสารสนเทศบรหิ ารทรพั ยากรรฐั สภา จานวน ๕ ระบบ ๑ . ร ะ บ บ บ ริ ห า ร แ ผ น ง า น ระบบท่ีสนับสนุนการปฏิบัติงานการบริหารจัดการ การให้บริการ โ ค ร ง ก า ร ง า น ค ลั ง แ ล ะ ด้านแผนงาน โครงการ งานคลังและงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ งบประมาณ และประสทิ ธผิ ลย่ิงขึ้น ๒ . ร ะ บ บ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ระบบท่ีสนับสนุนกระบวนการทางานด้านทรัพยากรบุคคลของ ทรพั ยากรบคุ คล รัฐสภา การจัดเก็บรายละเอียดข้อมูลประวัติของสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงาน รวมถึงบุคคล ในวงงานรัฐสภา และบุคคลอ่นื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สภา

๑๙ ชอื่ ระบบ คาอธบิ าย ๓. ระบบบันทึกการลงเวลา ระบบงานจัดเก็บข้อมูลลงเวลาปฏิบัติราชการที่ได้จากการสแกน ปฏิบตั ริ าชการ ลายนิ้วมือหรือบัตรประจาตัวพนักงาน เพ่ืออานวยความสะดวก ในการลงเวลาปฏิบัติงานของบุคลากรของสานักงานเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร และสานักงานเลขาธิการสมาชิกวุฒิสภาอย่างเป็น ระบบ ๔. ระบบบริหารจัดการบัตร ระบบท่ีสนับสนุนการจัดทาบัตรแสดงตน และบัตรลงคะแนนของ รัฐสภา กลุ่มงานทะเบียนประวัตแิ ละสถิติ สานกั บริหารงานกลาง ซงึ่ มหี น้าท่ี บันทึกคาขอจัดทาบัตร จ่ายบัตร ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ และประสิทธิผลยง่ิ ขึ้น ๕. ระบบรายงานผลการปฏิบัติ ระบบท่ีจัดทาข้ึนเพื่อให้หน่วยงานใช้เป็นเคร่ืองมือในการรายงานผล ราชการตามคารับรองการ การปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติราชการประจาปี ผู้บริหารสามารถ ปฏิบัตริ าชการ ติดตามผลการดาเนินงานของหน่วยงาน เป็นไปตามแนวทาง เป้าหมายที่กาหนด และทราบถึงปัญหาอุปสรรคท่ีเกิดขึ้น รวมทั้ง เป็นแนวทางในการวางแผนการจัดทาคาของบประมาณของสานัก ต่าง ๆ ได้ อีกท้ังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลให้ผู้บรหิ ารและผู้ปฏบิ ัติงาน สามารถกากบั ทบทวนพัฒนาโครงการไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ กลุ่มระบบสารสนเทศบริหารสานกั งาน จานวน ๑๐ ระบบ ๖ . ร ะ บ บ ส า นั ก ง านดิจิทัล เป็นระบบสนับสนุนการดาเนินงานต่าง ๆ ภายในสานักงานประกอบ (Digital Office) ด้วยงานหลักคืองานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการ รับ-ส่ง และการติดตามความเคลื่อนไหวหรือสถานภาพของหนังสือ ราชการ และงานอื่น ๆ ท่ีเก่ียวเน่ือง ได้แก่ การลา การขอใช้บริการ การพิมพ์ การขอใช้บริการถ่ายเอกสารและอัดสาเนา งาน ข่าวประชาสมั พนั ธ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ๗. ระบบบริหารจัดการไฟล์ เป็นระบบท่ีช่วยในการบริหารจัดการไฟล์เอกสารต่าง ๆ ได้แก่ อจั ฉริยะ การจัดเก็บเอกสารการเรียกใช้งานเอกสาร การสืบค้นเอกสาร การ เก็บประวัติการใช้งานเอกสาร ตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัย ในการเข้าถึงเอกสาร ซ่ึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ และ งา่ ยต่อการใช้งาน ๘. ระบบศูนย์รับแจ้งซ่อมงาน เป็นระบบงานท่ีให้บริการรับเร่ืองแจ้งปัญหาเกี่ยวกับเคร่ือง ICT คอมพิวเตอร์ (PC) ระบบเครือข่าย (Network) ระบบงาน (Application) และอาคารสถานที่ในรูปแบบออนไลน์ เพ่ือหาข้อมูล ปัญหาท่ไี ด้รับดาเนนิ การแกไ้ ขได้อย่างถูกต้องและรวดเรว็ ตอ่ ไป

๒๐ ช่อื ระบบ คาอธบิ าย ๙. ระบบบริหารการนัดหมาย เป็นระบบตรวจสอบยืนยันการเข้าพบสมาชิกรัฐสภา ผู้บริหารและ ดจิ ิทัล เจ้าหน้าท่ี เพ่ือให้สมาชิกรัฐสภา ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สามารถ ตรวจสอบยืนยันบุคคลผู้มาติดต่อจากตารางนัดหมายได้และมีการ ถ่ายภาพใบหน้า ณ จุดแลกบัตรเข้าภายในอาคารหรือจุดต่าง ๆ ตามแต่กาหนด โดยที่สมาชิกรัฐสภา ผู้บริหาร และเจ้าหน้าท่ี สามารถทาการยืนยนั หรือไม่ยนื ยนั การเข้าพบ ๑๐. ระบบ Security Video เป็นระบบในกลุ่มรักษาความปลอดภัย โดยการใช้ระบบตรวจสอบ Service บุคคลด้วยภาพใบหน้าผ่านระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (IP-CCTV) โดยระบบจะนาภาพจากกล้องตรวจสอบกับภาพท่ีมีการจัดเก็บไว้ใน ฐานข้อมลู เพื่อเสริมสรา้ งความปลอดภยั ให้กับอาคารรฐั สภาแห่งใหม่ ๑ ๑ . ร ะ บ บ บ ริ ห า ร เ ค รื่ อ ง ระบบบริหารเคร่ืองคอมพิวเตอร์เสมือน เป็นการพัฒนาระบบ คอมพวิ เตอรเ์ สมือน โครงสร้างการบริหารจัดการเครื่องลูกข่าย โดยใช้เทคโนโลยี VDI (Virtual Desktop Infrastructure) แ ท น ก า ร ซ้ื อ ฮ า ร์ ด แ ว ร์ ท่ี มี ประสิทธิภาพสูงมาใช้งานเป็น PC แตล่ ะเคร่ืองสาหรับผู้ใช้งานแต่ละคน โดยนาแนวคิดการทา Consolidation เหมือนกับที่ทากับ Server (Server Consolidation) เพื่อความคมุ้ ค่าในการใช้ฮาร์ดแวร์ ๑ ๒ . ร ะ บ บ ส นั บ ส นุ น ก า ร ระบบท่ีช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูล ท้ังท่ีมีแหล่งท่ีมาจาก วิเคราะห์ข้อมูลและวิจัยสาหรับ ภายในองค์กรเอง และข้อมูลที่มาจากแหล่งท่ีมาจากภายนอก องค์กรดิจิทัล (Big Data) ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อมูลดิบที่สามารถนามาประมวลผลและวิเคราะห์ โดยผลท่ไี ด้จะสามารถนาไปปรบั ปรุงองคก์ ร ๑๓. ระบบจัดการข้อมูลป้าย เป็นระบบท่ีบริหารจัดการข้อมูลป้ายดิจิทัล ส่วนที่เป็นข้อมูล Input ประกาศดิจิทัล (Key-in) โดยรูปแบบข้อมูลจะเป็นท้ังข้อความ ภาพนิ่งและ ภาพเคลอ่ื นไหว เพ่อื ส่งข้อมูลเหลา่ นี้ไปยังปา้ ยประกาศดจิ ทิ ัล ๑ ๔ . ร ะ บ บ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร เป็นระบบงานที่ให้บริการและจัดการเกี่ยวกับการขอใช้บริการจอง ทรัพยากรที่จอดรถ ท่ีจอดรถภายในอาคาร ผ่านอุปกรณ์ Tablet (ระบบปฏิบัติการ Android, IOS แ ล ะ Windows) แ ล ะ อุ ป ก ร ณ์ Smart Phone (ระบบปฏิบัตกิ าร Android และ IOS) เพื่ออานวยความสะดวก และ ลดเวลาการหาท่ีจอดรถให้กบั บคุ ลากรในวงงานรัฐสภา ๑๕. ระบบศูนย์แลกเปลี่ยน เป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านเทคโนโลยี API (Application ข้อมลู รฐั สภา Programming Interface) หรือช่องทางท่ีช่วยเช่ือมต่อระหว่าง Application แลกเปล่ียนข้อมูลแบบมีมาตรฐาน อาทิ การใช้ XML หรอื JSON วิธกี ารทา Web APLs ทเี่ ปน็ มาตรฐานกค็ ือการทา Web Services โดยใช้ SOAP หรือ REST โดยที่องค์กรหรือนักพัฒนา สามารถนาไปใช้ต่อยอดได้ อีกท้ังยังเป็นศูนย์กลางในการแลกเปล่ียน และใชป้ ระโยชน์รว่ มกันของหนว่ ยงานท้ังภายใน และภายนอกได้

๒๑ ชอื่ ระบบ คาอธบิ าย กลุ่มระบบสารสนเทศบรหิ ารข้อมูลและการประชมุ รัฐสภา จานวน ๗ ระบบ ๑๖. ระบบบริหารจัดการห้อง เป็นระบบงานท่ีให้บริการ และจัดการเก่ียวกับการจองห้องประชุม ประชมุ อัจฉรยิ ะ ห้องอบรมสัมมนา การอานวยความสะดวกให้กับผู้ขอใช้บริการห้อง ประชุม โดยสามารถขอจองห้องประชุม การขอใช้โสตทัศนูปกรณ์ ต่าง ๆ ในห้องประชุม ขอบริการเครื่องดื่ม และเจ้าหน้าที่ชวเลข การค้นหาห้องประชุมว่างหรือไม่ว่างในรูปแบบปฏิทิน รวมทั้ง การแจ้งปัญหาเกย่ี วกบั หอ้ งประชุม รองรบั การใหบ้ รกิ ารผ่านอปุ กรณ์ Smart Device ๑ ๗ . ร ะ บ บ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ระบบงานทส่ี นับสนุนการให้บริการด้านการจัดการระเบยี บวาระการ เอกสารการประชุมดิจิทลั ประชุม เอกสารประกอบการประชุม รวมถึงการขออนุมัติวาระการ ประชุม และการจัดทาหนังสือเชิญประชุม เพื่ออานวยความสะดวก ให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเตรียมการประชุมสะดวกรวดเร็ว และ ประหยัดเวลามากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเช่ือมโยงข้อมูลที่เป็น ประโยชนใ์ ห้กบั ระบบงานอ่ืน ๆ ๑๘. ระบบบริหารการประชุม ระบบงานที่สนับสนุนการดาเนินงานต่าง ๆ ในระหว่างข้ันตอนการ รฐั สภา ประชุม ซึ่งสามารถใช้สนับสนุนได้ทั้งการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การประชุมวุฒิสภา และการประชุมรัฐสภา รวมถึงการประชุม กรรมาธิการตา่ ง ๆ ๑๙. ระบบเผยแพร่ข้อมูลการ ระบบรองรับการเผยแพร่ข้อมูลเก่ียวกับการประชุมของสภา ประชมุ รฐั สภา ผู้แทนราษฎร ข้อมูลการประชุมของวุฒิสภา และข้อมูลการประชุม ของกรรมาธิการ ๒๐. ระบบถอดความเสียง เป็นเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการทารายงานการประชุม การประชุมด้วยเทคโนโลยี สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการถอดความประชุม และช่วยลด การร้จู าเสียงพูด ภาระงานของเจ้าหน้าท่ีชวเลข ๒๑. ระบบบริหารการประชุม ระบบงานที่สนับสนุนการประชุมสภาระหว่างประเทศ เม่ือมีการ รฐั สภาระหวา่ งประเทศ จดั การประชมุ รฐั สภาระหวา่ งประเทศ และประเทศไทยเปน็ เจา้ ภาพ ๒๒. ระบบรายงานการประชุม ระบบท่สี นับสนนุ การจดั ทารายงานการประชมุ ซ่งึ รองรับการจดและ ดจิ ทิ ัล จัดทารายงานการประชุมสภา รวมถึงการจัดทารายงานการประชุม คณะกรรมาธิการสามัญ คณะกรรมาธิการวิสามัญ คณะอนุ กรรมาธิการ คณะอนุกรรมการ และคณะทางาน พร้อมท้ังให้บริการ เผยแพรข่ ้อมูล

๒๒ ช่อื ระบบ คาอธบิ าย กลุ่มระบบสารสนเทศนิติบญั ญัติรัฐสภา จานวน ๓ ระบบ ๒๓. ระบบนิติบัญญัติ ญัตติ ระบบสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านนิติบัญญัติให้แก่สมาชิกรัฐสภา กระทูถ้ าม ผู้ปฏิบัติงานท่ีเกี่ยวข้องในวงงานรัฐสภา และรวบรวมข้อมูลวิชาการ ด้านนิติบัญญัติ เข้าไว้ด้วยกันที่ศูนย์กลางอย่างมีระบบ สามารถ เรียกใช้ข้อมูลหรือแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างหน่วยงานภายใน และ ภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกดูรายงานสรุปต่าง ๆ อีกท้ังยัง เปดิ ให้ประชาชนทวั่ ไปสามารถเข้าใชข้ ้อมูลสารสนเทศทตี่ อ้ งการได้ ๒๔. ระบบข้อมูลสนับสนุนการ เป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลงบประมาณรัฐสภา ต้ังแต่กระบวนการ พิจารณางบประมาณแผ่นดนิ จัดเก็บข้อมูล เผยแพร่ข้อมูล ตลอดจนติดตามผลการใช้งบประมาณ เพ่ืออานวยความสะดวกในการสบื ค้นข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพใน การจดั เก็บขอ้ มลู ๒๕. ระบบสรรหา แต่งตั้ง ระบบท่ีให้บริการจัดเก็บ และแสดงผลข้อมูลด้านการสรรหาและ ถอดถอน แต่งต้ังบุคคลที่จะมาดารงตาแหน่งในองค์กรต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงการถอดถอนบุคคลออกจากตาแหนง่ กลุ่มระบบสารสนเทศบรหิ ารจัดการการเผยแพรข่ ้อมลู และงานบรกิ ารประชาชน จานวน ๑๑ ระบบ ๒๖. ระบบศูนย์เผยแพร่ข้อมูล ระบบงานบริหารจัดการเว็บไซต์ท้ังในส่วนของเนื้อหา และการ รัฐสภา ให้บริการท้ังแก่สมาชิก เจ้าหน้าที่ภายใน และประชาชนท่ัวไป เช่น งานกระดานข่าวภาคประชาชน งานบริหารจัดการแบบสอบถาม/ แ บ บ ส า ร ว จ ความคิ ดเห็ นของสมาชิ ก หรื อบุ คคลทั่ วไป งานแบบสอบถามอิเล็กทรอนิกส์ภายในสานักงาน งานบริหารแจ้ง ข่าวสารรัฐสภาผ่าน Email ของสมาชิกโดยระบบสามารถทาการ ตรวจสอบตัวตนผู้ใช้งานว่าเป็นสมาชิก เจ้าหน้าที่หรือประชาชนทั่วไป เพื่อทาการแสดงเน้ือหาใหต้ รงกับผู้ใช้งานโดยทาการเช่ือมโยงข้อมูล กับระบบตรวจการเข้าถึงระบบสารสนเทศกลาง Single Sign-On ระบบบริหารจัดการตัวตนผู้ใช้งาน (Identity Management) ระบบบรหิ ารสิทธ์กิ ารใช้ ระบบสารสนเทศ (Rights Management) ๒๗. ระบบคลังขอ้ มลู คาศัพท์ โปรแกรมระบบจัดเก็บข้อมูลคาศัพท์ภาษาต่างประเทศ ๗ ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาสเปน ภาษาเยอรมัน ภาษา เกาหลี ภาษาอาหรับ และภาษาจีน พร้อมท้ังคาแปล คาอ่าน ตัวอย่าง การใช้งาน และไฟล์เสียงของคาศัพท์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถศึกษา และนาขอ้ มลู คาศพั ท์ที่ไดจ้ ากการสบื ค้นไปใช้งาน ๒๘. ระบบจดั การขา่ ว ระบบงานทีส่ นบั สนุนขอ้ มูลข่าวสารต่าง ๆ รวมถงึ ข่าวประชาสัมพันธ์ ประชาสมั พนั ธ์ บน Smart ท่ีมาจากรัฐสภา ได้แก่ ดูรายการข่าวต่าง ๆ ดูปฏิทินกิจกรรม อีกทั้ง Device ยงั สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบงานอ่ืน ๆ ซ่ึงโปรแกรมระบบข่าว ประชาสมั พนั ธ์ (ผา่ นอปุ กรณ์ Smart Device)

๒๓ ชอื่ ระบบ คาอธบิ าย ๒๙. ระบบ e-Learning ระบบท่ีสนับสนุนการจัดการหลักสูตรให้เหมาะสมตามตาแหน่งของ เจ้าหน้าที่ สามารถสร้างบทเรียนได้ในรูปแบบ Text-Based และ Streaming Media สามารถจัดทาแบบทดสอบและการประเมินผล ของแตล่ ะหลกั สตู ร รวมทัง้ สามารถจดั ทาแบบสอบถามตา่ ง ๆ ได้ ๓๐. ระบบบริการรับเร่ือง ระบบงานท่ีทาหน้าท่ีเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมข้อมูล รอ้ งทุกข์ เกี่ยวกับการดาเนินการต่อคาร้องทุกข์ทั้งหมด โดยเปิดให้ ประชาชนภายนอก และสมาชิกรัฐสภา บุคลากรในวงงานรัฐสภา สามารถร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ แจ้งเบาะแส แสดงความคิดเหน็ หรือขอข้อมูล/ขอคาแนะนาต่าง ๆ ผ่านทางเวบ็ ไซต์ โดยระบบ สามารถรับเรื่องร้องเรียนได้ทั้งผูท้ ี่ลงทะเบียน และผู้ที่ไม่ได้ ลงทะเบียน สามารถติดตามสถานะความ ก้าวหน้าของเรื่อง ร้องเรียนได้ โดยผทู้ ลี่ งทะเบยี นจะสามารถเลือกหวั ข้อในการตดิ ต่อได้ หลากหลายกว่าผู้ท่ีไม่ได้ลงทะเบียน อีกท้ังยังมีระบบส่วนจัดการ ข้อมูลสาหรับเจ้าหน้าที่ในการบันทึกรายละเอียดข้อมูล และผลการ ด า เ นิ น ก า ร ค า ร้ อ ง ทุ ก ข์ ใ น แ ต่ ล ะ ขั้ น ต อ น เ พื่ อ เ ป็ น ข้ อ มู ล ใ น ก า ร ตรวจสอบและติดตามความก้าวหน้าของคาร้องทุกข์น้ัน ถาม-ตอบ ปัญหาและบริหารจัดการข้อมูลหลักได้โดยระบบสามารถระบุได้ว่า ต้องการสง่ เรื่องราวรอ้ งทุกข์ให้กบั หนว่ ยงานใด (สานกั งานเลขาธิการ วุฒิสภาหรือสานักงานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร) ๓ ๑ . ระบบบริการห้องสมุด - ระบบห้องสมุด คือ ระบบท่ีให้บริการจัดหาหนังสือ การให้บริการ พิพิธภัณฑ์และจดหมายเหตุ ยืม - คืน การให้บริการจัดการส่ือสิ่งพิมพ์ วารสารต่าง ๆ และ ดิจทิ ลั สามารถจัดเก็บและสืบคน้ เอกสารในรูปแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ แยกตาม ประเภทต่าง ๆ เช่น หนังสือระเบียบวาระการประชุม บันทึกการ ประชมุ หรอื มติประชมุ ร่างพระราชบัญญัติ ญตั ติ กระทู้ ตัวแปรญัตติ เอกสารประกอบการพิจารณา ข้อมูลการสรรหาและแต่งตั้ง ข้อมูล การถอดถอนบุคคลออกจากตาแหนง่ ขอ้ มูลเรอื่ งราวร้องทุกข์ - ระบบพิพิธภัณฑ์ และ Web Site คือโปรแกรมระบบงานท่ี สนบั สนนุ การบริหารจัดการพิพธิ ภัณฑ์ การจดั ทาดัชนีสบื ค้นท่ีใช้งาน งา่ ย สะดวก รวมทง้ั ระบบพพิ ธิ ภณั ฑเ์ สมือนจรงิ - ระบบการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านจดหมายเหตุ คือ โปรแกรม ระบบงานที่สนับสนุนการจัดเก็บรวบรวมเอกสารจดหมายเหตุ ทั้งท่ี เป็นเอกสารจดหมายเหตุลายลักษณ์ เอกสารโสตทัศน์จดหมายเหตุ เอกสารจดหมายเหตุประเภทแผนที่ หรอื แผนผัง จดั ทาเครอ่ื งมอื ชว่ ยค้น ได้สะดวก รวดเรว็ รวมถงึ บริการยืม-คืนจดหมายเหตุ

๒๔ ช่ือระบบ คาอธบิ าย ๓๒. ระบบบรกิ ารข้อมลู ขา่ วสาร ระบบงานที่ให้บริการยื่นคาร้องเพื่อขอใช้ข้อมูลข่าวสารของราชการ ของราชการ ผ่านแบบฟอร์มออนไลน์ เพื่ออานวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการในการ เรียกใช้ข้อมูล รวมทั้งมีระบบแบบสอบถามเพ่ือสารวจความคิดเห็น และความพึงพอใจของผู้รับบริการอีกท้ังยังสามารถบริหารจัดการ ข้อมูลของระบบได้ อาทิ ข้อมูลคาร้องขอใช้ข้อมูล ข้อมูลหลักของ ระบบฯ รายงานสรุปยอดของผรู้ ับบริการตามรายละเอยี ดต่าง ๆ ๓๓. ระบบการให้บริการข้อมูล ระบบให้บริการข้อมูลทางกฎหมายแก่สมาชิกรัฐสภาโดยไม่มี กฎหมายแกส่ มาชิกรัฐสภา ข้อจากัดด้านเวลา และสถานที่ และยังช่วยในการบริหารจัดการ การจัดเก็บข้อมูลท่ีเกิดจากการดาเนินการวิเคราะห์กฎหมาย การยกร่างกฎหมาย ข้อมูลทางวิชาการ และข้อมูลท่ีเก่ียวข้อง ได้อย่างเป็นระบบ อีกท้ังสามารถติดตามผลการปฏิบัติงานในการ ใหบ้ รกิ ารทางกฎหมายได้ ๓ ๔ . ร ะ บ บ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ระบบสาหรับเพ่ือเผยแพร่องค์ความรู้ของรัฐสภาและอานวยความ สารานุกรมรัฐสภา สะดวกในการสืบค้นข้อมูล ใช้เป็นฐานข้อมูลผา่ นหน้าเว็บไซต์ ซึ่งผู้ใช้งาน สามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขเน้ือหาที่มีอยู่ให้ดียิ่งข้ึน อีกทั้ง ยังสามารถเพิ่มเติมเน้ือหาใหม่เข้าไปได้ด้วย และยังมีระบบตรวจสอบ ความถูกต้องของข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้งานนาข้อมูลไปใช้ได้อย่างถูกต้อง และมีประสทิ ธภิ าพ ๓๕. ระบบบริหารสคริปต์ข่าว ระบบส่งสคริปต์ข่าวผ่าน Mobile Device จากภายนอกสถานี ดจิ ทิ ลั วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาเป็นระบบบริหารจัดการ สาหรับนักข่าวภาคสนามให้สามารถนาภาพหรือสคริปต์วิดีโอข่าว พร้อมคาบรรยายอัปโหลดผ่าน Mobile Device ให้กับระบบ ส่วนกลาง หลังจากน้ันระบบจะส่งข้อความแจ้งเตือนให้กับผู้มีสิทธิ์ อนมุ ัติ เพอื่ ทาการตรวจสอบข่าวทสี่ ่งเข้ามา โดยสามารถอ่าน Script ขา่ ว หรอื ทาการ Preview คลิปวิดโี อ หลังจากไดร้ ับข่าว ๓๖. ระบบ Event Streaming ระบบที่ให้บริการและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารรัฐสภา ผ่านเครือข่าย Service ระบบต่าง ๆ และ Internet ในรูปแบบส่ือประสมมัลติมีเดียแบบ สตรีมม่ิง (Multimedia Streaming) เช่น การถ่ายทอดสดการ ประชุมรัฐสภา, คลิปวิดีโอข่าวประชาสัมพันธ์ โดยทาหน้าที่เป็น ศูนย์กลางการให้บริการข้อมูลข่าวสาร (Multimedia Streaming Portal System) แกร่ ะบบตา่ ง ๆ ของรัฐสภา

๒๕ ๒. แผนการดาเนินงานดา้ นการพัฒนาระบบสารสนเทศของรฐั สภา สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้แบ่งการดาเนินงานด้านการพัฒนา ระบบสารสนเทศ จานวน ๓๖ ระบบ ออกเป็น ๓ ระยะ ระยะท่ี ๑ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓ จานวน ๑๐ ระบบ ระยะท่ี ๒ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๔ จานวน ๓ ระบบ ระยะที่ ๓ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ จานวน ๒๔ ระบบ ท้ังน้ี บริษัท แอ๊ดวานซ์ อินฟอร์เมช่ัน เทคโนโลยี จากัด (มหาชน) ได้ดาเนินการ พัฒนาระบบสารสนเทศตามหมวดงานระบบสารสนเทศของสัญญาจ้างด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสอ่ื สาร โครงการก่อสรา้ งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ถึง พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยมงี านจา้ งพัฒนาระบบสารสนเทศ จานวน ๑๐ ระบบ แบง่ ออกเป็น ๓ กลมุ่ ดังนี้ ชอ่ื ระบบ ฟงั ก์ชนั กล่มุ ระบบสารสนเทศบริหารขอ้ มลู และการประชมรัฐสภา ๑. ระบบบริหารจัดการ ๑) งานจองหอ้ งประชุม (จองหอ้ งประชมุ ยกเลิกการจอง แจง้ สนิ้ สดุ ห้องประชมุ อัจฉรยิ ะ การใช้ ตรวจสอบผล) ๒) งานสาหรับผู้ดูแลห้องประชุม (อนุมัติ กาหนดสถานะห้อง ประชมุ ) ๓) งานสาหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (อนุมัติการขอใช้บริการ งานโสตทัศนปู กรณ์ บรกิ ารเคร่ืองดมื่ เจ้าหน้าทช่ี วเลข) ๔) งานแจ้งมีปัญหาการใช้ห้องประชุม (แจ้งปัญหา ตอบปัญหา ปิดปัญหา) ๕) งานแสดงผลในรปู แบบตารางปฏทิ นิ ๖) งานแจ้งเตือนผู้ดูแลห้องประชุม ผู้ขอใช้ห้องประชุมหน่วยงาน ทเี่ กี่ยวขอ้ ง (แจง้ เตอื นผ่าน Web, Smart Device) ๗) กาหนด Schedule การเตือน ๘) การทางานผา่ น Smart Device (iOS, Android) ๒. ระบบบริหารจัดการ ๑) ขออนุมัติการประชุม จัดทาร่างวาระการประชุมเอกสารแนบ เ อ ก ส า ร ก า ร ป ร ะ ชุ ม รายชื่อผู้เข้ารว่ มประชุม วาระการประชุม เบี้ยประชมุ ดิจทิ ัล ๒) ขออนุมัติการศกึ ษาดงู าน ๓) งานเชิญประชุม (จัดทาหนังสือเชิญประชุม ยืนยันการเข้าร่วม ประชมุ บนั ทกึ ความเห็น) ๔) งานบริหารผังท่ีนั่งห้องประชุม (จัดทาผังที่นั่ง กาหนดท่ีนั่ง ใหผ้ ูเ้ ข้าประชุม) ๕) เรียกดวู าระการประชุม เอกสารการประชุมผา่ น Smart Device ๖) งานแจ้งเตือนผ้ดู ูแล ผู้ท่ีเกี่ยวข้อง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook