Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การลวนลามทางเพศกะเทย วาทกรรมรักต่างเพศKittikorn_S

การลวนลามทางเพศกะเทย วาทกรรมรักต่างเพศKittikorn_S

Published by chutikan84, 2018-08-27 05:25:27

Description: การลวนลามทางเพศกะเทย วาทกรรมรักต่างเพศKittikorn_S

Keywords: วาทกรรม

Search

Read the Text Version

89 ข. การเรยี นรูถงึ ตาํ แหนง แหงทีใ่ นระบบความสัมพันธ …เออ อยางบางทีเขาทิ้งเราแลวไปอยูกับผูหญิงจริงๆ เราก็ตองยอมรับความจริงเพราะมัน เปนธรรมชาติของเคาวาเคาตองคูกัน อันนี้ เออยอมรับนะวาเราคงไปสูผูหญิงเคาไมได หรอก เพราะเกิดมาคูกนั (ปยะวรรณ) เม่ือคนถูกใหช่ือวาเปนกะเทยและดํารงอยูดวยการอางอิงอัตลักษณของผูหญิงน่ันหมายความวากะเทยโดยนัยยอมรับความเปนรองท่ีจัดไวในระบบความหมายของสังคมอยางไมรูสึกตัว รางกายของกะเทยภายใตวาทกรรมรักตางเพศเปนรูปสัญญะที่แสดงถึงอํานาจการจัดกระทําทางความคิด กะเทยถูกจัดกระทําในเรื่องเพศ ทั้งเพศสรีระ เพศภาวะและเพศวิถีใหเปนไปตามอาํ นาจของวาทกรรม ทง้ั น้กี ารเปน กะเทยเปนเพยี งรากฐานของการถูกกระทาํ โดยสังคม แตส่ิงท่ีมากไปกวาน้ันคือการอาศัยระเบียบสังคมที่กํากับกะเทยนี้จัดตําแหนงกะเทยในระบบความสัมพันธระหวางเพศซึ่งย่ิงมีผลตอการเอารัดเอาเปรียบกะเทยจากชองทางที่สังคมเปดใหนี้ ถึงแมผูชายจะมีความสัมพันธกับกะเทย คบกันในฐานะแฟนและอยูดวยกันก็ตามทีแตก็มักเปนความสัมพันธท่ีซุกซอน ไมเทาเทียมกัน และชั่วคราว กะเทยมักถูกมองเห็นเปน“ปายรถเมล” ท่ีผูชายคอยแวะเวียนมาหา ในขณะท่ีผูชายเหลาน้ันก็มีแฟนหรือภรรยาเปนผูหญิงเปนตัวเปนตนอยูแลว กะเทยหลายคนมักจะยินยอมดวยระเบียบความสัมพันธไดทําใหกะเทยเช่ือวาการปฏิบัติเชนนี้ตองยอมรับไดเพราะความสัมพันธที่ถูกตองคือความสัมพันธแบบชาย-หญิง ดวยความรูผานกลไกทางสังคมท่ีหลอหลอมครอบงําความคิด ดังท่ีทวินันทไดคาํ ตอบจากผชู ายและเช่ือวาตวั เลอื กของความสัมพันธระหวา งเพศยอมตองเปนแบบรักตา งเพศเทานั้นถึงจะอยูรอด ทั้งนี้มีนัยของความเหนือกวาของผูหญิงแฝงอยูในระบบความสัมพันธเชนนั้นดวยและโดยเปรียบเทียบกับผูหญิงกะเทยจึงถูกจัดอยูในสถานะที่ดอยกวาในระบบน้ีจากคาํ พดู ของทวินันทท ี่โทษตัวเองวา ไมฉ ลาดที่คิดไมไ ดและเลาถึงประสบการณของตนสะทอนใหเ ห็นวิธีคิดเชน น้ี “กไ็ มชอบแบบเรา .....ใชแ ละไปเจอตางทก่ี นั แนนอนตัวเลือกทดี่ ีกวา สําหรับเขาท่จี ะตองเลือก เราจะตอ งมมี าก จะตองเลือกคนอ่ืนมากกวา คนนี้ดีกวาเรา (เปนผูหญิง) เขาจะตองเลือก” กะเทยยังถูกทําใหเชื่อวาความสัมพันธกับผูชายน้ันไมย่ังยืนเพราะผูชายมีหนาท่ีทางสังคมท่ีตองทํา เห็นไดจากคําพูดของกุหลาบตอไปนี้ “เพราะผูชายเขาตองทําหนาท่ีของผูชายนะ เขาตองไปมลี ูกมีเมยี นะ ...ที่ผานมาทุกคนบอกวาถึงเวลาแลวเขาก็ไปนะ…” ซ่ึงมีความเชื่อวาในระบบความสัมพันธระหวางเพศในสังคมน้ีที่สุดแลวผูชายก็ตองไปเพื่อไปมี “ครอบครัว”จึงทําใหกะเทยบางคนตองเผื่อเลือกหรือคบผูชายหลายคนในเวลาเดียวกัน เพราะเปนการ

90เผอ่ื ใจไวจะไดไ มเ สยี ใจโดยเฉพาะคนทม่ี ปี ระสบการณมาพอสมควร ดงั ที่นัยนาเลาประสบการณของตนขางลางนี้ นอกจากนี้บางครั้งยังมีการเกทับ/แขงขันกันวาวันนี้ไดอยูกับผูชายกี่คนโดยการถามไถก นั ทีเ่ รยี กกันในหมกู ะเทยวา คืนนไ้ี ดกนั “กีไ่ ม” เราเก็บเอาไวพอแฟนกลับมาก็เม่ือคืนไปกับใครมา (เขา)ก็ถามวา ก็เพื่อนคุณคงบอกคุณแลว นี่ มันบอกวาอยาไปคิดอะไรมากเลยคุณ ผมก็ซอมๆ ไวอยางน้ันแหละ ซอมหาคูซอมแทนเรานะ มันก็คงไปมีอะไรกับเขาแหละ เราก็ไมคอยเสียใจเทาไร เพราะวาเราก็ไมไดมีเขาคนเดียวไงชวง น้ันนะเหมือนพ่ี (ชื่อ) วานะมีสแปร (spare) หลายๆ คนที่แถวหมูบานน้ันนะในตําบลน้ันมี 11 หมู นะ หนูจะมไี วหมูบา นละ 1 นะ จรงิ ๆ แตค นในหมูบา นเดยี วกันไมกิน มันมองหนากันไมติดนะเห็น กนั ทกุ วท่ี ุกวนั นะ อีพวกนนั้ นะนานๆ เขาไปเหน็ มนั คร้งั หน่งึ นะ อาทติ ยหนงึ่ เหน็ มนั คร้ังหน่งึ สนกุ ดี กะเทยบางคนก็ถูกผูชายหลอกวาไมมีลูกมีเมียจนไปพบเขาและถูกขอใหเลิก หรือบางคนก็ทนไมไหวกับความเห็นแกตัวของผูชายท่ีตนเองคบดวยเพราะมีผูหญิง หรืออยากมีสัมพันธกับผูหญิงเพราะมองวาเปนสิ่งปกติที่ตองปฏิบัติ เชนนลินีที่แฟนอยากลองมีความสัมพนั ธก บั ผูหญิงจึงทะเลาะกัน “….เขาอยากจะมีผูหญิงอะไรอยางนี้แตเราไมยอมนะ แตเราเขาบอกถามีผูหญิงก็มีไปแตเราขอมีคนใหมเขาก็ไมยอม” ทําใหเห็นวาดวยระบบความคิดและระเบียบหลักทางเพศไดทําใหมีคนฉกฉวยโอกาสจากความเปนกะเทยในอันท่ีจะตองใหการยอมรบั หรืออดทนกับความสมั พันธท ่ไี มเ ทา เทียม ถึงแมวาบางคนจะปฏิเสธไดแตในท่ีสุดกะเทยมกั เช่ือวา สุดทา ยตนตอ งอยโู ดดเดยี่ วเพราะความแตกตางจากคนในสงั คมทว่ั ไป จึงเห็นไดวาตําแหนงแหงท่ีของกะเทยในสังคมน้ันถูกจัดวางไวโดยระเบียบสังคมรักตางเพศท่ีครอบไวดวยระบบชายเปนใหญ ทางเลือกของกะเทยจึงตกอยูภายใตกรอบของระเบียบสังคมและทําใหตีความหมายของบทบาทกะเทยไปตามนั้น ดังนั้นความอิสระและทางเลือกท่ีจะดํารงชีวิตในเรื่องเพศที่เคยคิดวามีน้ัน แทท่ีจริงแลวมนุษยไมมีทางเลือกใหเดินมากนักในเรื่องความสัมพันธระหวางเพศในสังคมเชนน้ี สําหรับกะเทยนอกจากท่ีจะถูกทําใหเช่ือวาตนเองไมทัดเทียมคนอ่ืนๆ แลว ในเรื่องของเพศซึ่งเปนเรื่องใกลตัวในชีวิตประจําวันก็ไมมีอิสระ หากการมองวากะเทยอาจมีผูชายหลายคนในเวลาเดียวกันถือเปนความอิสระก็คงจะไมไดเพราะอันที่จริงกะเทยถูกพันธนาการโดยโซตรวนของความคิดที่ทําใหเช่ือวาการกระทําเชน นั้นอาจทําใหพ บกบั ความสขุ ในชีวิต

91 4.2.2 ความใฝฝน และอนาคต “ผูหญงิ คอื ผูหญิง ผูช าย คอื ผชู าย กะเทยคือกะเทย มนั ไมเ หมอื นกนั ” ปย ะวรรณและความเหน็ เกยี่ วกบั ตนเอง การเปนสาวประเภทสองเปนเร่ืองท่ีลําบากยากเย็น สําหรับคนทั่วไปเพียงการที่จะเปนคนดีของสังคมก็ตองกํากับตนใหอยูในระเบียบบรรทัดฐานท่ีรับไดแลว การถูกตีตราในทางลบ เปนอื่น และเขาพวกไมได ทําใหยิ่งตองใชความอดทนและพยายามในการสรางความเปนตัวตนทางสังคม และอัตลักษณทางเพศที่ไปไดกับบรรทัดฐานที่ถูกสรางจากวาทกรรม ถึงแมหลายคนจะเชื่อวาสิ่งเหลาน้ีไดสรางความสุข สมดังปรารถนาแตความสุขเหลาน้ันก็ไมไดสะทอนเสียงและความตองการในสวนลึกที่ตองการเปนตามแบบฉบับของตนเองแตกลับเชื่อในตัวตนท่ีถูกสรางวาเปนความจริง พ้ืนท่ีทางสังคมไมไดเปดใหกะเทยแตเปนเพียงภาพลวงตาที่จําลองความสัมพันธหญิง-ชาย อาจจะมีบางในบางพ้ืนที่เล็กที่กะเทยมีความเล่ือนไหลทางเพศวิถีในการกระทําทางเพศ เชน ไมเดินตามเสนทางการมีเพศสัมพันธแบบชายหญิงทั่วไปกะเทยบางคนนิยมเปนฝายรุกหรือท่ีเรียกวา “สาวเสียบ” แทนที่จะฝายรับตามบทบาทท่ีอางอิงเพศวิถีแบบหญิงท่ีกะเทยตองเลียนแบบเพราะความเปนตนเองไมไดถูกยอมรับจริงๆ แมวาจะแสดงออกอยางอิสระแตก็ไมไดเปนอิสระ ซ่ึงเห็นไดจากคําตอบของณหทัยตอขอคําถามของทางเลือกในชีวิตซึ่งยังวนเวียนอยูในกรอบความสัมพันธของวาทกรรม และมองไมเห็นทางเลือกอน่ื ดังน้ี ถาเลือกไดอยากเปนผูชายแทมากกวา ถาเลือกไดไงคะ แตถามวาตอนน้ียอมรับตัวเองได ไหม ยอมรับตวั เองไดเ ต็มทร่ี อยเปอรเ ซน็ ตนะ แตถาใหเลือกได ขอเปนผูชายแทดีกวา...เลือกได ตั้งแตเกิด เหรอ อยากเปนผูหญิง ....เลือกไดตั้งแตดําเนินชีวิตที่เปนผูชาย เลือกจุดเปลี่ยนนะ คะวาเราจะเปนทีจหี รอื เราจะเปน ผชู ายอยางน้ีใหเ ลอื กเปน ผูชายไปเลย ถาเกิดฝนยอมรับวา ตัวเอง ฝนกินฮอรโมนอยางนี้นะคะ แตเปนความฝนท่ีเรารูสึกวา ก็เพื่อความสุขของเรามันเลยไมคอยฝน มากอยางน้ีนะคะ บางคนอาจจะมองแบบวาไมเหน่ือยเหรอ ตองมานั่งกินฮอรโมนอยางนี้นะ พยายามฝน ธรรมชาติตวั เองแตวา เปนความสุขเรา เราก็ไมร สู ึกวา เหน่ือยนะ เสียงท่ีมาจากตัวตนของอัตลักษณอางอิงสะทอนความขัดแยงในตนแมกระท่ังการเลือกที่จะเปน ที่สะทอนออกมาในคําพูดของณหทัยขางตนทําใหเห็นวาในความคิดเพศมีเพียงสองเทานั้นและการเปนกะเทยถึงแมจะตองฝนตน แตก็มีความสุข ไมมีใครอยากแตกตางแตมันเปนธรรมชาติของเขา/เธอ การท่ีกะเทยตองกอรางสรางตัวแบบ “จิ๊กซอว” และเหน็ วา สง่ิ นน้ั เปน ไปเพราะ “ความสขุ ” ท่ไี ดท าํ เพราะเชื่อวาตนเองจริงๆ แลวคือผูหญิง เสียงและตัวตนที่แทจริงจึงถูกกดทับไว แตอยางไรเสียการเลือกเปนใครก็ยังอยูในวงจํากัด ผูชาย หรือ

92ผูหญิง แลวกะเทยจะเปนกะเทยมิไดหรือ? ดังคําพูดของปยะวรรณขางตนที่ยํ้าเตือนใหฉุกคิดและสะทอนใหเห็นวาในโลกน้ีมเี พศมากกวา นัน้ อุดมการณรักตางเพศท่ีเปนแมบทของความสัมพันธระหวางเพศไดถูกสะทอนออกมาในความใฝฝนและการวาดอนาคตของกะเทย ความใฝฝนในวิถีชีวิตท่ีสะทอนใหเห็นถึงเพศวิถีซ่ึงทําใหเขาใจวาการครอบงําของอุดมการณน้ันฝงลึกซ่ึงอนาคตที่จะถูกสรางขึ้นอาจจะทําใหความจริงแมบทยังถูกตอกยํ้าและดํารงอยู หากไมสามารถปลดปลอยความคิดอิสระตามความปรารถนาท่ีถูกเบียดขับแตดําเนินชีวิตตามที่สังคมคาดหวังและขีดเสนทางเดินไวใหดังที่นยั นาพูดถงึ ตนเองดงั นี้ ตอนน้ันเราแคคุยกันเร่ืองเด็กๆ นะเราอยากเปนผูหญิง เราอยากมีครอบครัว เราอยากเปน แมบานกลับมาก็ถอดถุงเทาใหสามี เก็บเสื้อผาไปซัก ทํากับขาวไวรอตอนเชาก็รีดผาไว จะถาม คุณพรุงนี้ใสสีอะไร เขาจะบอกใสเส้ือเช้ิตสีกรมก็วาไป จะจัดเปนชุดไวใหเขารองเทาก็ตองขัดมัน อยางเรียบรอยนะ กลับบานมาสามีเลิกงานมาก็น่ังนวดใหเลนกันประมาณนี้ มันจะมีความสุข มากๆ เลยชวงนั้นโลกในโลกนมี้ ีเราสองคนก็พอแลวไมตอ งการใครแลว จรงิ ๆ ความใฝฝนของกะเทยในเร่ืองชีวิตคู สะทอนออกมาในบทบาทชายหญิง ทําใหเห็นวาภายใตความสัมพันธแบบรักตางเพศท่ีครอบงําโดยชายเปนใหญ กะเทยขอเพียงไดแทนที่ผหู ญิงอยา งเสมอภาค กลา วคือเสมอภาคทัดเทียมกับผูหญงิ แตไมไดหมายความวา เทาเทียมกับผูชาย ในแว็บหน่ึงของความคิดกะเทยบางคนก็อาจจะมีความเปนตัวตนมากพอที่จะยืนหยัดตอสูกับอํานาจของสังคมสวนกระแสในบางเร่ือง แตคําถามคืออํานาจท่ีจัดกระทําตอตนเองนั้นรนุ แรงจนกลายเปน ความคิดของกะเทยเอง - คิดเองทําเอง ซึ่งไดสรางกรอบกํากับในตัวเองของกะเทย การลวงล้ําพื้นที่ของรักตางเพศจึงเปนไปไดยาก แมแตในอนาคตก็มิอาจคาดหวังกับสิ่งที่ตนคิดวาเปนไปไมได ท้ังๆ ที่อนาคตนั้นมนุษยมิใชหรือเปนผูสราง? ดังที่อัญชลีพูดถึงอนาคตของครอบครัวตนวา อยากจะมีลูกนะคะ คือแบบวาหนูก็เร่ิมรักเขานะแตวา หนูอยากมีลูกนะคะ เล้ียงดูใกลๆ คอย ดูแลนะ และถาเปนไปไดหนูอยากมีเองนะเพราะไมมีแนใจเทาไรการรับลูกบุญธรรมมาเพราะเด็ก นะคะคือตัวเขานะอาจจะรบั ไดแตต วั หนหู นไู มร ูหนอู ยใู นสถานะไหนนะ อนาคตของกะเทยรุนตอๆ ไปจะเปลี่ยนแปลงไดอยางไรข้ึนกับความรูท่ีมีเก่ียวกับตนเอง ทั้งหมดท่ีเปนความจริงของความเปนกะเทย หรืออีกนัยหนึ่งตัวตนท่ีถูกกระทําท่ีสรางจากเครือขายการปฏิบัติการของวาทกรรม เกิดความเห็นพองของความหมายวากะเทยน้ันเปนอยางไร ทําอยางไรไดบางและทําอะไรไมไดบาง ภายใตกรอบกํากับหรือบรรทัดฐานของวาทกรรมรักตางเพศ ซ่ึงเม่ือเกิดมีการเปรียบเทียบกับผูหญิง แมวาการตัดสินใจมีสัมพันธทาง

93เพศของกะเทยอาจจะไมตองตัดสินใจนานตามบทบาททางเพศภาวะแบบผูหญิงกลายเปนสิ่งท่ีเรียกวา “วัฒนธรรมกะเทย” จนทําใหเปน อัตลักษณทางเพศ การมีลูกไมไดในบางมุมมองอาจจะเปนจุดดีของกะเทย แตในสังคมรักตางเพศ สิ่งนี้กลายเปนจุดออนดอย และขณะเดียวกันก็ถูกใชเปน “ปมเขื่อง” ในการปฏิเสธและตัดสัมพันธกับกะเทยเพราะผูชายตองไปทาํ หนา ท่ี “ลูกผชู าย” ตาม ”ธรรมชาต”ิ ในบทบาทและพฤติกรรมการมเี พศสมั พนั ธท่ีถูกกําหนดเพื่อสราง ”ผูสืบสกุล” ในระบบความสัมพันธท่ีเพศและความสัมพันธทางเพศท่ีชอบธรรมตกอยูภายใตการครอบงําของวาทกรรมรักตางเพศและชายเปนใหญ และส่ิงน้ีไดถูกใชใหเปนประโยชนแ กผ ทู ี่จะคดิ เอารัดเอาเปรยี บทางเพศเชิงเพศวิถีตอ กะเทย

บทท่ี 5 นัยจากประสบการณที่เกนิ กวาการลวนลามทางเพศ ความจริงทางสังคมเก่ียวกับวิถีกะเทยที่ถูกสรางข้ึนใหภาพของความจริงท่ีเสมือนเปนความจริงแท และสากล ไดสงผลตอกะเทยโดยตรง คําวากะเทยใหความหมายที่มีนัยของความไมสมบูรณโดยการนํามาเปรียบเทียบกับชายและหญิง ยิ่งไปกวาน้ันยังมีนัยของคนท่ีใฝหาความสัมพันธทางเพศเชิงประเวณี เปนมายาคติของสังคมที่ยัดเยียดนัยของความเปนกะเทยเชนน้ีใหแกคนที่มีเพศไมตรงกับสรีระและตองการเปนผูหญิง นอกจากกะเทยจะถูกจับจองจัดระเบียบ และยังจัดการตนเองตามอุดมการณทางเพศที่แพรกระจาย ผานความสัมพันธในสังคมท้ังที่เปนทางการและไมเปนทางการ ความรูเกี่ยวกับตนเองของกะเทยถูกละลายสับเปลี่ยนเอาความรูท่ีตั้งบนพื้นฐานของขั้วตรงขามมาเปนเกณฑ กะเทยจึงเปนอ่ืนไป ทั้งๆ ที่ความเปนหญิงหรือชายน้ันมิไดตายตัวเปนเนื้อเดียว แตหลากหลายล่ืนไหลไปได จึงไมยุติธรรมในการที่จะกําหนดความหมายเหมารวมแกส่ิงใด หรืออธิบายส่ิงตางๆ และเหตุการณตางๆบนพ้ืนฐานของความตายตัวเชิงทฤษฏี อัตลักษณสมมุติทางเพศของกะเทย (Assumed sexual identity) ที่หลอมรวมในประสบการณเชิงเพศวิถีซึ่งปะทะกับเหตุการณที่ละเมิดศักด์ิศรีของความเปนมนุษยของเขา/เธอเผยออกมาในรูปของคําใหการจากประสบการณไรนิยามท่ีรวมกันประสานเสียงเลาเรื่องตอไปนี้ซง่ึ เปนความรจู ากประสบการณของกะเทยท่ีเลือกสรร และนํามาประมวลใหไดมาซ่ึงความหมายของ “การลวนลามทางเพศ” กะเทยโดยจะตองตีความจากปรากฏการณท่ีเกิดข้ึนเนื่องจากยังไมมีนิยามและความหมายตรงท่ีเขาใจกันไดทั่วไป เพราะความจริงในสังคมสองเพศมีความหมายจํากัดไมครอบคลุม การนําเสนอจะแบงเปนสองสวน คือสวนแรก ปากคําจากประสบการณ และสว นที่สองนัยของบรรทัดฐานรักตางเพศกบั การตดั สนิ ความหมายจากประสบการณ 5.1 คําใหการจากประสบการณไ รนยิ าม เรื่องราวจากประสบการณตอไปนี้ จะสะทอนใหเห็นความจริงจากการกระทําปรากฎการณ และความคิดของผูคนที่ไมเปนไปตามความจริงแมบทที่ไดวางรากฐานความเชื่อและสรางโลกทัศนของมนษุ ยจนทําใหเ หน็ วาสง่ิ เหลานัน้ ไมมจี ริงและไมเ ปนจรงิ โดยการเลาเร่ืองราวจากคนที่ถูกกระทํา เปนเสียงจากประสบการณท่ีหลากหลายจาก “เหตุการณ” ที่ถูกมองวาไมใช“เหตุการณ” ท่ีเคยเกิดข้ึนและจะเกิดขึ้นในอีกหลาย ๆ แหงกับคนอ่ืน ๆ ซึ่งอาจจะตางวัยหลากหลายพื้นฐานไมวาจะเปนการศึกษา การเล้ียงดู ตางเวลา และสถานที่ และหนักเบาตางกันแตส่ิงนั้นอาจมิมีความหมายหรือถูกใหความหมายเปนอยางอ่ืน ปากคําจากประสบการณชีวิตของณหทัย อัญชลี ดวงฤดี หลิน นัยนา กรกนก ริตา ท่ีรวมกันถายทอดตอไปจะเปนพ้ืนฐานของ

95การนําสูการสรางความเปลี่ยนแปลงจากส่ิงที่ไมมีช่ือ ไมอยูในความคิด มาสูความเปนจริงนอกเหนือจากความคิดและความจริงแบบรักตางเพศที่เปนอุดมการณหลักในสังคมนี้ โดยแตละคนตกอยูในตําแหนงทางวาทกรรมและมีอัตลักษณหลัก (Dominant identity) ในแตละเหตุการณของบรบิ ทหรือพ้ืนที่ทางวาทกรรมแตกตา งกนั ไป และทําใหผูเ ลา ตีความเหตกุ ารณตา งๆ กนั ซ่ึงเรื่องเลาและปากคําจากประสบการณท้ังหมดน้ีมีระดับความรุนแรงและมีรูปแบบแตกตางกัน ตั้งแตการกระทําดวยวาจา ทาทาง การประทุษรา ย บงั คับ และขมขนื โดยบคุ คลตา งๆ ดงั นี้ 5.1.1 จาบจว งดว ยวาจา: ปากคาํ ของณหทยั วา ดว ยเกียรตขิ องกะเทย “...เปน อะไรที่แบบวา ชวั่ มว่ั เลวอะไรอยา งนนี้ ะคะ พ่ผี ูหญิงดว ยนะ” ณหทยั สะทอนความคิดของพี่สาวรวมอุทร คําวาเกียรติมีความหมายสําหรับมนุษยทุกคนไมวาจะยากดี มี จน ทุกคนมีเกียรติและศักด์ิศรีของความเปนมนุษยดวยกันท้ังสิ้น คนเปนกะเทยนั้นดูเหมือนวาเกียรติของความเปนคนจะถูกมองขาม เมื่อถูกตราหนาวาเปนกะเทยและสารภาพตอสังคมถึงความเปนกะเทย การปฏิบัติตอกะเทยน้ันกลายเปนการไมกลั่นกรอง หยาบกระดาง โดยเฉพาะในเรื่องเพศวิถีเชิงประเวณี กะเทยกลายเปนชนอีกช้ันหนึ่ง การปฏิบัติดังกลาวไดสะทอนวิธีคิดของผูกระทําซึ่งมาจากความคิดแมบทของสังคมตอผูที่เปนกะเทยดังท่ีภาพของพี่สาวณหทัยวาดไวขางตน เปนการดูถูกเหยียดหยามมากกวาความตองการจะสรางหรือสานสัมพันธระหวางมนุษย และนอกจากน้ันไดช้ีวาการที่มนุษยจะใหเกียรติซ่ึงกันน้ันการศึกษาอาจไมไดเปนสวนเดียวท่ีจะทําใหคนรูจักมองคนดวยกันแบบเทา เทยี ม ความรสู กึ ของณหทยั ในเร่อื งตอไปนจ้ี ะชวยใหเ ขา ใจคําวา เกยี รติจากเสียงของเธอเอง ณหทัยโดยเพศสรีระคือ ลูกชายคนแรก และลูกคนที่สองของครอบครัวคนจีนท่ีมีการศึกษา ที่บานอยากไดล ูกชายมากและตัง้ ความหวังวาคนที่สองจะตองเปนผูชาย “โอเคได ผูชายจริง แมก็เลยไมตั้งทองอีก” พอณหทัยคาดหวังจากณหทัยใหเปนเหมือนกับ “เด็กผูชาย” ลูกคนจีนท่ัวไป แตณหทัยบอกวาตนเองเปนสาวประเภทสอง เปนทีจี1 ยามเปนเด็กณหทัยจะเหมือนผูชายทเ่ี รียบรอยมากจนถึงกบั ไดรับคาํ ชมจากผูใหญ พอชอบชวนณหทยั ไปทํากจิ กรรมแบบลูกผูชาย 1 คําวา ทีจี (TG) มาจาก Transgender หรือ คนขามเพศ ซ่ึงหมายถึงคนที่มีการแสดงออกทางเพศภาวะที่ไมเปนไปตามเพศสรีระของตน มีท้ังผูชายเปนผูหญิง (MtF- Male toFemale) และผูหญิงเปนผูชาย (FtM- Female to Male) แตในความหมายของกะเทยที่มีการศึกษาบางคนจะเลือกใชคําวา ทีจี แทนคําวาสาวประเภทสอง กะเทยหรือผูชายท่ีมีลักษณะความเปนผูหญิง (ดูเพ่ิมเติมใน Code, Loraine. ed. (2003). Encyclopedia of FeministTheories: Routledge)

96เลน กีฬาตา งๆ เชน เตะบอล แตณหทัยไมช อบเลน กีฬา กิจกรรมเดียวที่ณหทัยทําไดคือตกปลาแตก็ไมบอยนัก ณหทัยก็เหมือนเด็กกะเทยคนอื่นๆ ท่ีไมรูจักคําวา ตุด กะเทย คืออะไรเพราะเม่ือกอนเด็กผูชายกับผูหญิงจะเลนดวยกัน จะไมเห็นแตกตาง ณหทัยตระหนักถึงความแตกตางเมื่อโตแลว โดยเม่ือข้ึนช้ันมัธยมตนจะเร่ิมถูกแซวจนถึงมัธยมปลายก็ยังเปนอยูณหทยั บอกวาไมชอบผชู ายมากๆ จะเห็นไดชัดโดยณหทัยจะไปอยูกลุมผูหญิง ที่ไมชอบผูชายสมัยท่ีเรียนเน่ืองจากเหตุผลท่ีวา “ผูชายสกปรก เลนรุนแรง หยาบคาย” และจะหลีกเลี่ยงอยูกับผูชาย ณหทัยบอกวามีความรูสึกกับผูหญิงวาไมแตกตางเหมือนเปนพวกเดียวกัน “ความรูสึกเราเปนพวกเดียวกันเขากันไดมากกวา สนิทใจมากกวาท่ีจะคบเพ่ือนผูชาย” อันที่จริงแลวณหทัยไมชอบเลนกับเด็กผูชายตั้งแตอนุบาล อยากอยูกับเด็กผูหญิงมากกวาโดยบอกวาเปน“นิสยั ” ทตี่ นไมชอบใชความรุนแรง เม่ือเด็กๆ ณหทัยบอกวาไมไดคิดอะไรมากมายแตพอโตขึ้นมาแลวเริ่มคิด “เราอยากเปนผูหญิงนะ ทําอยางไรเราถึงจะเปนผูหญิง ใหมากท่ีสุด” โดยตอนแรกๆ ณหทัยตองการแคขอแสดงออกถึงความเปนตัวเอง แตพอตอมาก็เร่ิมคิดวาตนเองไมไดตองการแคน น้ั แตตองการเปนผหู ญงิ และอยากเปนผูห ญิง ตอนเด็กๆ ณหทัยไมมีปญหาเรื่องการใชชีวิตประจําวันในโรงเรียนเทาไหรนักยกเวนปญหาที่คนท่ัวไปอาจจะมองไมเห็นเปนปญหาคือเรื่องหองนํ้า มีหองนํ้าผูชาย หองน้ําผูหญิงแตไมมีหองน้ํากะเทยหรืออ่ืนๆ ณหทัยเขาหองน้ําผูชายเพราะยังดูเปนผูชายอยู แตเมื่อยิ่งโตขึ้น “หองนํ้า” ก็เปนปญหาถึงขั้นทะเลาะกับอาจารย “อาจารยเขาก็วาทําไมคุณเขาหองนํ้าหญิง อะไรอยางน้ี ก็บอกหองนํ้าชายเราโดนแกลง เราแบบรูสึกไมสบายใจเพราะมันไมใชพื้นทีท่ ่ีเราจะเขาไปทําธุระสวนตวั ของเรา เขาหองน้ําหญิงสบายใจกวา” ณหทัยรูสึกวาปลอดภัยเมื่อเขาหองน้ําผูหญิง โดยบอกวาเวลาเขาหองน้ําชายจะรูสึกวาถูกมองจากผูชายดวยสายตาท่ตี ัง้ คาํ ถามวา “ทาํ ไมเขาหอ งนาํ้ นี้นะ?” พรอ มบอกวา ณหทยั เขาหอ งน้ําผิด อันที่จริงท้ังหองน้ําผูหญิงผชู ายกส็ กปรกเหมือนกันแตณหทัยไมชอบ “รูสึกไมชอบหองนํ้าชายเปนอะไรท่ีสกปรก โอเคหองนํ้าหญิงอาจจะสกปรกแต...กวาอะไรอยางน้ีนะ” ณหทัยจะไมคอยโดนแกลง ถาโดนก็จะนิ่งซึ่ง “เขากเ็ ลิกแกลงไปเอง” การแกลง กค็ อื การลอเลียนวาเปน “ตุด” ซ่ึงถาไมใชกลุมเพื่อนแลวมาแซว ณหทยั จะไมช อบเลย และมองวา “ทาํ ไมเราเปน คนเหมอื นกัน” ณหทยั ไมชอบเลนกฬี าไดแตนงั่ ดูเพ่อื น กิจกรรมหลกั ที่โรงเรียนของณหทยั คือกฬี าสีโดยจะ สวมบทบาทคือแตง เปนผูห ญิง เดนิ พาเหรด ถอื ปาย เตน โชว ซึ่งณหทัยก็มีความสุขท่ีไดแตง ตวั สวยๆ ถึงแมจ ะเปน ชุดไทยซง่ึ ณหทยั บอกวา แกมากเหมือนแบบท่ีคุณแมใ สตอนแตง งานกต็ าม ณหทัยแอบใสก ระโปรงแมมาตงั้ แตเมอ่ื เรียนอยชู นั้ ประถม 1 ประถม 2 แลวเพราะชอบมาก แตไมไดเ ต็มยศแบบทเี่ ดินพาเหรดใสว ิก แตง หนา ความเยายวนของกระโปรงทาํ ใหอดใจไมไหว “...กระโปรงน่แี บบยว ยระบายมากใสแลว รูสึกโลงอะไรอยางนนี้ ะ บานนะคะ เวลาเราหมุนมนั จะพร้ิวมากเลย.... รูสึกวาใสแ ลวสวยดีอยา งนีน้ ะคะ ”

97 อากัปกริยาของณหทัยนั้นตอนแรกเพียงตองการท่ีจะแสดงออกถึง “ความเปนตัวเอง”แตตอมาก็เร่ิมไมใชแลวตองเปนผูหญิง ความเปนตัวเองนั้น ณหทัยหมายถึง ไมอยากเก็บ“…เปนตุดเปน เกยอยา งนี้ทาํ ไมตองอัพเกรดตัวเองอยางน้ีนะคะ ทั้งที่เราก็แสดงความเปนตัวเราได เราไมไดทําใหใครเสียหายหรือเดือดรอน อะไรอยางนี้นะคะ หนูก็เลยแบบวาโอเคเปดตัววาฉันเปนทีจีอยางนี้นะคะ…” โดยในการเปล่ียนแปลงมีกลุมเพ่ือนที่มีวิถีชีวิตแบบเดียวกันเปนผูสนับสนุน “…เปนการเปล่ียน มนั เรยี กวา เปน การเปล่ียนแปลงเปนระดับดีกวา ม.ตนและก็จะแบบวา แคเรียบรอยตุงต้ิงธรรมดา แตพอม.ปลายปุบ เราก็ไมแอสเซสซอร่ี (Accessory) ผูหญิงอะไรอยา งนนี้ ะคะ ของกุกก๊ิกจะมากข้ึนอยางนี้นะคะ จะมีการทาแปงแตงหนานะคะ...ชอบเองคะพวกพวงกุญแจ ที่หอ ยมือถอื กระเปาตองมีถุงลําลองอะไรอยางนนี้ ะ นา รัก ใช กระเปาจะตองเปนกระเปาถืออยางนี้นะคะ” แตตอนอยูโรงเรียนก็ยังเปนกางเกงนักเรียน ทรงผมนักเรียนซ่ึงณหทัยบอกวา นากลวั “ตอนน้นั เหรอ ถา มองไปในอดีตกลัวตวั เองมากนะ คอื มองไปปุบแบบผมก็ส้ันหนาอกก็ไมมี แบบวาทําตัวแบบวานะเปนผูหญิงอะไรอยางน้ีคือตลกตัวเองนะคะมองไปในอดีต แตพอตอนนี้ ตลกมากๆ ไงแลวหนูเรียน รด. มาดวยไงจะไวผมยาวไมได ใชจะไวผมส้ัน”ณหทัยอยากไวผมยาวมากและคิดวาผูหญิงจะตองมีนม ผมยาวจะทําใหเสริมบุคลิกและวันหน่ึงอาจจะทําใหดูสวยได ท่ีตองไวผมสั้นเพราะณหทัยถูกแมบังคับใหเรียนรด. โดยแมบอกวาถาณหทัยเปนแบบนแ้ี ลว “ …ไปติดทหารจะยิ่งแยก วามั๊ย” ณหทัยก็เหมือนกะเทยอีกหลาย ๆ คนที่ตองการเปนผูหญิง การกินยาจึงเปนทางเลือกท่ีทําใหณหทัยไมตองแปลงเพศ เม่ือกินยาคร้ังแรก ๆ เปนชวงมัธยมปลายซึ่งพอทานไปแลวจะรูสึกเวียนหัวอาเจียนสองสามวันจึงหาย ท่ีเปนเชนนี้เธอบอกวาฮอรโมนมันตานกันที่บานสังเกตความเปลี่ยนแปลงของณหทัย ณหทัยบอกวาแมจะอยูขางตนถึงแมจะไมชอบสวนพ่ีสาวจะอยูฝายเดียวกับพอคือไมชอบ ณหทัยคิดวาพี่สาวรักตนแตไมแสดงออก และสําหรับการเปนแบบตนพ่ีสาวไมชอบรับไมไดและถามวาเปนเอ็มเอสเอ็ม/ชายรักชาย/เกย(MSM) ไมไ ดหรือ ทําไมตองเปน ทีจดี วยเพราะถาเปนเอม็ เอสเอ็มคือ ยังปดตัวเองยังมองดูเปนผูชาย ท้ังนี้ณหทัยบอกวาพี่สาวคิดวาคนอื่นจะ “มอง” นองจึงไมชอบใหแสดงออก ณหทัยรูวาแมรักตนมาก เพราะเปนลูกชายและยังบอกกับตนดวยวาลําเอียงรักณหทัยมากกวาพี่สาวอยางไรกด็ ีสาํ หรบั ลกู ตนเอง ณหทยั บอกวา แมรบั ไดท่ีเปน อยางนี้แตถ า เปนลูกคนอ่นื ยงั ปด กั้นอยู ยอนกลับไปเร่ืองการ “รักษา” ณหทัยท่ีบานเริ่มคุยกัน “จริงจัง” เรื่องของณหทัยเม่ือตอนมัธยมศึกษาปท่ี 4 โดยแมเปนคนชวนไปคุยกับหมอและก็ไปทั้งครอบครัว “กําลังเปล่ียนแปลงนะคือเขาจะเจอแปงพั๊ฟ ฮอรโมนอะไรอยางนี้ของเรานะ เขาวาอยากไปพบหมอไหม ก็ไดเราไมมีปญหาอยูแลว คุยกับหมอก็ดีสิ พาเราไปท่ีจิตเวช หมอแผนกเด็กหมอเยาวชนอะไรอยางน้ีนะคะ” ซึ่งหมอก็วัดระดับความเปนเธอของ ณหทัยและเธออยูระดับ 8“เขาบอกตั้งแต 0 ถึง 10 เขาบอกวา 0 คือผูชาย และ 10 คือผูหญิง เราบอกเรา 8 เขาบอกเกิน 5”

98หมอถาม ณหทัยวาตองการเปดเผยตัวเองไหม หรือตองการเก็บไว ซึ่งณหทัย “ก็เฉยๆ” โดยมองวาท่บี านรบั ได ตอ จากนั้นหมอก็เชิญพอกบั แมไปปรึกษาหารือ …เขาก็ใหยอมรบั นะ วา มันก็เกดิ เหตกุ ารณอยางนีข้ นึ้ แลวเขากบ็ อกไมโ ทษฝา ยไหนเปนฝา ย ผดิ หรอกคะ ในการทเี่ กิดเหตกุ ารณอ ยา งน้ีขน้ึ เพราะมันเปนแบบวา สว น เขาเรยี กวา อะไรนะ เปน สทิ ธิสวนบุคคลที่จะเลือกเปน อะไรอยางนน้ี ะคะ เขากใ็ หย อมรับ พอกถ็ ามข้ึนมาวาไมเคยคดิ จะ ชอบผหู ญิงเหรอ เรากบ็ อกไมเ คยแมแตจะคิดอะไรอยางนี้ พอ เดนิ ออกจากหองเพราะเขาตง้ั ความหวงั วา ลูกชายจะตองมบี ตุ รอยางน้นี ะสบื สกลุ อยา งนี้ และเขามีลูกชายคนเดียวดว ย กลับมาจากการปรึกษากับหมอ พอ ของณหทยั เครียดยงิ่ กวาเดิม ณหทัยมองวาพอไมคอยเปดใจใหกับตนเอง ถึงแมวาพอจะเปนผูชายท่ีอบอุน เปนคนรักครอบครัวแตไมคอยชอบเลนกับลูก เวลาคุยกันก็จะคุยเพียงเรื่องสัพเพเหระถามไถท่ัวไปเทานั้น ที่บานพยายามบอกใหณหทัยปรับตัว พอคุยกับหมอวาจะ “รักษา” ไดไหมซ่ึงหมอก็บอกวาขึ้นอยูกับเด็กวาอยากเปลี่ยนหรือไม ตอนนั้นณหทัยไมอยากทําใหพอแมเสียใจก็ทําตาม โดยบอกวาจะลองปรับดู ซ่ึงท่ีบานอยากใหอยูระดับ 5 คือไมแสดงออก “…ผูหญิงจามากเราก็โอเคเดี๋ยวเราทําให” ณหทัยตองพูด “ครับ” ใสเสื้อตัวใหญ ใสกางเกงแตงตัวเหมือนผูชายซึ่งไมใชบุคลิกของตน ถาใหเลือกเองณทัยจะเลือกเสื้อเขารูปและกางเกงมากกวา ถาไปโรงเรียนกางเกงก็จะส้ันกวาคนอื่นและการแตงตวั แบบนค้ี รูจะไมชอบ นอกจากนนั้ ณหทยั ยงั รูสึกวา ถกู ตอตานจากครู ก็มีครูบางคนที่เขาแอนต้ีมากๆ กับกลุมพวกนี้ก็มีนะ ที่ครูไมชอบก็จะมาวานะ เธอแสดง ออกมาเกินไปทําไมไมเรียบรอยอยางน้ีนะคะ ซึ่งหนูวาเอการแสดงออกของเราผิดเหรออยางน้ี แตโอเค กลมุ อยางนมี้ ันกจ็ ะกรดี๊ กราดอยแู ลวนะคะ ใชถาคุณไมเห็นกะเทยเด็ก ขอเรียกวากะเทย เด็กแลว กันก็จะรูวา กรดี๊ กราดแสดงออกมาอยางน้ีนะคะ หนูวา หนูเรียบรอ ยสดุ แตในท่ีสุดแลวณหทัยก็ไมสามารถทนไดอีกตอไป และรูสึกอึดอัดมากเพราะถูกควบคมุ ตลอดเวลา ไมใหไ ปไหน มาไหนกับเพือ่ นในกลมุ พวกเดียวกัน ณหทัยจึงคุยกับท่ีบานวาเปล่ยี นไมไดแ ลว “ ไมเ ปลยี่ นแปลงตวั เองนะเปนตวั ของตัวเองนะคะพดู ไปเลย” ณหทัยสอบเขามหาวิทยาลัยท่ีภาคใตได เวลาเดินทางไปหรือกลับเจาหนาที่ดูบัตรประชาชนแลวมักจะมองหนา และบอกใหตัวบุคคลท่ีจองตั๋วที่จะข้ึนเคร่ืองมาย่ืนบัตรเองณหทัยตองคอยชี้แจงวาคือตนเอง ที่มหาวิทยาลัยดวยความท่ีเปน “นาย” เด็กปหนึ่งก็นอนหอพักชาย ณหทัยบอกวามีการพบรุนพ่ีรุนนอง “…เจอรุนพี่ที่คอยเขามาบอกวา ใครเปนกะเทยอยางน้ีออกมา” ณหทัยยกมืออยูคนเดียวทั้งท่ีในหอมีกะเทยอีกมากแตไมกลาเปดตัวกันณหทัยออกมาแนะนําช่ือแนะนําตัว รุนพ่ีก็รับทราบวา “เปน” เวลามีกิจกรรมจะมี “มุมโอเพน”

99รุนพ่ีกะเทย 3 ช้ันป กับนองป 1 มารวมตัวกันแนะนําตัวเองใหรูจักกัน จุดประสงคก็เพื่อสรางความรูจักและเพื่อไมให “นองแรง” หมายความวาแตงตัวเปรี้ยวไมเรียบรอย เพราะป 1มหาวิทยาลัยมีกฎวาตองแตงผูชายตองผูกเน็คไทตลอดอยูป 1 และเขาบอก “เธอไมมีสิทธ์ิจะใสกระโปรงนะ ป 1 นะ เธอหามแตงหนานะ คือบังคับเราทุกอยางเราอยูป 1 อยางน้ีนะคะ เขาก็กดเรา” ณหทัยบอกวาไมรูสึกขัดแยงเพราะเขาเปนรุนพ่ีเขามีสิทธิ์บังคับ แตณหทัยรูสึกวาทําไมตองบังคับกนั มากมายอยางน้ี ซง่ึ บางอยางก็ไรส าระเชน กินนํ้าหามกินหลอดยาวใหกินหลอดสั้นณหทัยสงสัยเหมือนกันวาทําอยางนี้เพื่ออะไรซ่ึงเขาก็อธิบายไมได นอกจากบอกวา “ก็ฉันสั่งเธอ”จากใจจริงถาเขาไมมาบอกอยางนี้ ณหทัยจะใสกระโปรงไปเลย “น่ีมาบังคับน่ีทนมาตั้งปหน่ึง”ณหทยั เห็นวา การใสก ระโปรงไมไ ดเสียหายอะไร พอขึ้นป 2 ณหทัยใสกระโปรงไปโดยแตงตัวใหเปนผูหญิงถูกตองตามกฎของมหาวิทยาลัย “ไมใชใสส้ันจาอยางนี้นะคะ” ณหทัยนัดกับเพ่ือนใสกระโปรงมาดวยกันสองคน “เพราะวาเราไมไดเสียหายอะไรน่ีคะ แลวใสก็ไมไดดูนาเกลียดหรือทุเรศอะไร อยา งนเ้ี ราดไู มแ ตกตา งกบั ผหู ญงิ เลยไมม ีปญหาอะไร กจ็ ะโดนมอง” มองวาเปน ผูชายหรือผูหญิง รุนพ่ีตอวาณหทัย “…เขาบอกวา ไมเห็นเคยมีใครใส” เคยมีกะเทยใสมากอนแตเขาออกไปแลว เพราะถูกกดดันและรนุ พี่วา “.. คณุ ทําไมถงึ ใสกระโปรง ไมร ูเ หรอว าเพศคุณเปนเพศอะไร” ณหทัยก็ถูกวา แตดวยความท่ีณหทัยไมชอบ และสนิทกับรุนพี่เลยโดนนอย และบอกวารุนพเ่ี ขา ใจ โดยท่ัวไปเวลาแตงหญิงแลวไปตลาด ไปไหน ๆ ณหทัยก็ไมคอยมีปญหาเพียงแตโดนจองมอง แตที่ณหทัยหนักใจตอนชวงปแรก ๆ ของการเรียนคือ ในรายวิชาท่ีมีกิจกรรมออกคาย “…เราจะมีปญหามากเพราะมุสลิมนะเวลาออกคายนะ ….มันออกคายบอยเวลานอนอยางนี้นะ ผูหญิง หามนอนรวมกับผูชาย และเขามองวาเราเปนผูชายนะ และหนูก็ไปนอนกับผูชาย ท้ังที่รูปรางเราเปนอยางนี้ หนูรูสึก เฟล (fail) มาก วาทําไมเขาแบงแยกเราอยางน้ีนะหนูรูสึกแยมากหนูรองไหเลยนะ” ณหทัยก็ตองไปนอนกับผูชายซ่ึงณหทัยถูกมองวาแปลกณหทัยบอกวาตนเองจะมีถุงนอนสวนตัวก็จะนอนแยกจากเขาออกมา เวลาออกคายปกติก็จะนอนในอาคารโรงเรียน หรือ หองประชุม ถาตองไปนอนท่ีบานของชาวบาน ก็จะแยกผูหญิงออกไป บานหลังหน่ึงจะนอนประมาณ 2 ถึง 3 คน สวนณหทัยก็ตองนอนกับผูชายซึ่งถึงแมจะจับเปนกลุมและยังมีเพื่อนแตณหทัยก็รูสึกแย “เราอยากนอนกับผูหญิงมากกวานะ อยางนี้เราทําธุระสวนตัวอยางน้ีนะ ไมรูสิไมชอบอยางนี้ใชเวลาทําเขาหองนํ้าอะไรอยางนี้นะ ก็ไมชอบเรื่องนี้มากๆ ท่ีเขาแบง” หองนํ้าตอนเขาคายจะมีหองนํ้าชาย – หองน้ําหญิง ณหทัยก็เขาหองนํ้าหญิง ถามีใครน่ังตรงน้ันณหทัยก็ไมสนใจ รูปลักษณณหทัยไมเหมือนผูชายเพราะไวผมยาว เวลาไปนอนเพ่ือนก็จะมองแปลกๆ ณหทัยคิดวา เขาคิดแตเขาไมกลาพูดออกมา“…เขาจะมองวาเราแปลกคะ เขาจะมองแบบวาอะไรน่ี อยางน้ี ผูหญิงอยางน้ีนะ” ณหทัยบอกวา

100ตอนเปนรุนนอง รุนพ่ีมุสลิมเขาจะบังคับ พอขึ้นป 4 เปนรุนพี่ ณหทัยจะไมสนใจแลว “ฉันใหญนะ ใครบงั คับไมไดนะ” จึงเอาตัวรอดไปได ณหทัยมีแฟนคนแรกที่คิดวาณหทัยเปนผูหญิง ซึ่งณหทัยถามวาทําไมถึงอยากคบดวยซึ่งคําตอบคือตนไมเหมือนใคร โดยบอกวาเขาไมเคยเห็นกะเทยที่ไหนที่เรียบรอยเหมือนผูหญิงซึ่งณหทัยก็รูสึกดีมากที่เขาบอกวาตนเองไมแตกตาง ณหทัยบอกวาดวยความที่เขาเปนผูชาย เขาจึงกลัวเพ่ือนลอการคบกันจึงไมไดเปดเผย และเพื่อนคนอ่ืนก็ไมรูเพราะวาเปนกลุมเดียวกันไปไหนก็ไปดวยกัน ถาไปสองคนเพ่ือนก็มองไมแปลกเพราะเปนเพ่ือนกันความสัมพันธปกติก็เปนการพูดคุยแตไมมีอะไรกันเพราะ ณหทัยคิดวาตนเองเด็กมากในเร่ืองเพศสัมพันธและยังไมพรอม อยางมากที่สุดการแสดงออกก็มีเพียงการจูบกัน หรือหอมแกม“ที่เรารูสึกดีเพราะเขาใหเกียรติเรานะคะ เขาทําเหมือนเราเปนผูหญิงนะ อะไรอยางน้ีคนน้ีเปนคนท่ีรูสึกดีที่สุดเทาที่เคยคบมา” ตอนหลังแฟนก็หางหายกันไปเพราะณหทัยไปเรียนตางจังหวัด ตอมาเขาบอกเลิกโดยพูดกับณหทัยวา “…เปนเพื่อนแลวกันนะ เราก็โอเค...รสู ึกเฟลมากเลยคะ รสู กึ วาแคเ ราไกลกันเหรอเราไมมีเวลาใหคุณอยางนี้ตอนนั้น ... รูสึกแยมากอยากกลับบานไมอยากเรียนเลย อยางนี้ตองบอกวาโดนบอกเลิกดวย...” ตอมาท่ีมหาวิทยาลัยณหทัยกม็ ีแฟนใหมแ ตต างศาสนา ณหทัยมองวาการมีเพศสมั พนั ธเปนเรอื่ งปกติ คบกันก็ตองมีเพศสัมพันธกัน ณหทัยคิดวาเปนความใจกวางและแสดงความจริงใจ “….เราคบกันมาถึงระดับน้ีมันเปนการ นอกจากใหจิตใจในการคบกันแลว ดูแลเอาใจใสกัน เพศสัมพันธก็เปนทางออกหน่ึงที่แสดงออกไดอยางน้ีนะคะ วาเรารักเขาอยางน้ีนะ” แฟนณหทัยคนน้ีเคยมีแฟนเปนผูหญิงมากอน และบอกณหทัยวา “แตกตาง” ในดานเพศสัมพันธ มันไมเหมือนกัน ซ่ึงทําใหณหทัยคิดและถามตนเองวา “จริงหรือ” และอยากแปลงเพศ “…ก็อยากแปลงอยูแลวนะคะแตมนั เปนอะไรที่ เสริมมาอีกนะคะ เหมือนบวกความตอ งการที่อยากจะ แปลงเพศอีก เขาบอกวา ไมเ หมือนนะคะ อยา งน้นี ะ ถามวา เขาโอเคไหม เขาโอเค เพราะหนูเปนคน ย่ิงคําถามวาไมเหมอื นเหรอ” อยางไรกด็ คี วามสมั พนั ธข องท้ังสองนนั้ เปนแบบ “คุยกนั สองคน” แฟน ณหทัยมีขอจํากัดที่สําคญั คือเรอ่ื งศาสนา ณหทยั ก็คุยกับแฟนเพราะอยากรูวาขางหนาความสัมพันธของตนจะเปน อยา งไร คุยกันแตหนูไมไดจริงจังกับท่ีหนูคุย หนูอยากฟงความคิดเขามากกวาท่ีเราคุยวาอยางไร ก็ไปไมรอด หนูมองแลวนะ แตดวยความที่เราอยากคบอยากมีแฟนในชีวิตมหาวิทยาลัย อยางน้ี เหน็ เพอ่ื นๆ เขามีกันเราไมมไี มไ ด เรากค็ บอยา งนีน้ ะคะ เราก็มคี าํ ถามแบบวาตองการความคิดเห็น จากเขามากกวา เขาบอกวาถาคบกันจริง ๆ นะ เขาคงตัดเร่ืองประเด็นของลูกออกไปนะอะไรอยาง น้ีนะ แตที่บานเขาบอกวามีปญหาชัวรถาจะคบกันนะ อาจจะตองมาอยูกรุงเทพ ดวยกันนะอาจจะ ไมไดอยูที่โนน

101 ในใจลึกๆ คบกับใครณหทัยก็กลัววาท่ีบานเขาตองรับไมได และถาคบกันยืดยาวในความเปนจริงเขาคงทําไมไดเพราะขอจํากัดทางวัฒนธรรมซึ่ง “เขาตองแตงงานดวย” ถึงแมตัวเขาดูเหมือนจะรับการเปนแฟนกับณหทัยไดแตณหทัยก็คิดวาคงคบไดไมนานเพราะคิดวา“…คงไมมีผูชายที่ไหนรักเราจริงอะไรอยางน้ี เปนความคิดลึกๆ เลยนะ ผลสุดทายก็ตองอยูกับตวั เอง…” สุดทายณหทัยกับแฟนก็เลิกกนั ทุกวันน้ี ณหทัยเปนผูใหญข้ึนมากกวาเดิม มีการมีงานทําและเมื่อมีแฟนก็คิดวาพรอมท่ีจะมีความสัมพันธทางเพศ ณหทัยบอกวาตนเองมีความสัมพันธแบบสอดใสโดยตนเองเปนฝายรับ “จะใหรกุ ไมไหวนะคะ” สําหรับตนเองณหทัยต้ังใจวาหากจะมีเพศสัมพันธก็จะมีกับคนที่เปนแฟนของตนเทาน้ัน และตองใหยืนยันกอนคบกันวาคบกันในสถานะไหนถึงจะมีความสมั พนั ธก ันลกึ ซ้ึง ณหทัยบอกวา ตนเองเปน คนทเ่ี รียกวาเซน็ ซิทฟี “…ออนไหวกบั ความรูสกึ นะคะ เวลาท่ีมากระทบอยา งนีน้ ะคะ รสู กึ เร็วนะคะ” ส่ิงทีณ่ หทยั ไมชอบท่สี ุดทพ่ี บเจอคอื การที่ผูช ายไมใหเกยี รตติ น “… อะไรทไ่ี มช อบมากคือการใหเกยี รตขิ องผูชายคะ บางทีเขาเหน็ เราเปน อยา งนี้ใชไหม บางทตี อนแรกเขามองเราเปนผูหญงิ ปุบ แตพ อเขารวู า เราเปน ทีจีอยา งน้เี ขากลบั ไมใหเกยี รตเิ ราเลยนะ เคยเจอนะคะ” ตอนเรียนมหาวิทยาลยั ป 2 ณหทยั เรมิ่ เปน ผหู ญงิ แลว ณหทยัแตง หญงิ ไปเรยี น คนมองณหทัย แปลกๆ แต ณหทัยกอ็ าศยั “ความกลมกลืน” เปนผหู ญิงเลยอยไู ปได ณหทยั จะไมวด๊ี วา ยแสดงออกวาเรา “เปน” จะเฉยๆ น่ิงๆ ซ่งึ คนจะสงสยั วาผูหญิงหรอืกะเทย “เขาจะถามวา ผหู ญิงหรือกะเทย ทาํ ไมเหรอ กะเทยทาํ ไมเรียบรอยจัง เขาจะตงั้ คาํ ถาม”ณหทัยบอกวาจะถูกถามมากวาเปนผูหญิงหรือกะเทยตอนที่เรียนอยู คาํ ถาม? มีท้ังในท่ีมหาวิทยาลัยตางคณะ และนอกมหาวิทยาลัย อาจารยท ี่มหาวทิ ยาลยั ยังเขาใจผิดคดิ วา ณหทยัเปนผูห ญิง อาจารยยังถามเลย ตอนแรกหนูใสชุดนักศึกษาชายไปเรียนแลวโดนไลออกจากหองสอบ บอกวาเธอไมร กู ฎมารยาทของนักศึกษาชายเหรอวา ทาํ ไมใส ชุดนักศึกษาชายเขามา เราก็งง เรา ก็แตงตัวเรียบรอยใสไท (เน็คไท) นะคะไวสอบนะ รองเทาหนัง เปนอาจารยคณะ...ซึ่งเค่ียวเรื่อง เคร่ืองแบบมากอะไรอยา งน้นี ะ เขาบอกเธอไมรมู ารยาทเหรอ เออตอนน้ันไวผมยาวมีหนาอกแลว นะ เราก็อะไรวะ โทษนะคะไมใชผูหญิงคะ เปนผูชาย อาจารยอ้ึงไปเลยแลวหองสอบ รวม 200 คน สอบตอนที่อยูป 2 สอบกับเด็กป 1 เห็นเราก็โอเคปรึกษากับอาจารยท่ีคณะเขาบอกวาเธอก็ดู ไมแตกตางนะใสกระโปรงมาเถอะ ใสกางเกงมาเลยมันนาเกลียด ....อาจารยบอกวาเหรอ แลว อาจารยกเ็ ดนิ ไปเลยนะ อาจารยหนาแตก เพอื่ นอยูข า งๆ ขาํ หวั เราะฮามากนะ วันหนึ่งณหทัยไปเท่ียวบาร และพบนกั ศกึ ษาชายซงึ่ เรียนมหาวทิ ยาลยั เดยี วกนั แตนอกคณะก็คุยกนั ซ่งึ ณหทัยบอกวา “เขาจะไมร จู กั เรา” ผูช ายคนนน้ั เขามาจบี ณหทยั “…แตพ อ

102เราบอกวาเราเปนทจี นี ะ เขาบอกวา เหรอนกึ วาเปน ผหู ญิง อะไรอยา งน้ี ง้นั คนื นีไ้ ปนอนดวยกันอยางนี้ คอื เขาไมใ หเกียรติ เราเลยพอเขาเห็นเราเปน ทีจปี ุบ เขาบอกเรางา ย เรามั่วอะไรอยา งนนี้ ะคะ เขาชอบมองทจี วี า มัว่ ชว่ั เลวอะไรอยา งนี้นะ หนกู ็บอกไมไปอยางน้นี ะคะรสู กึ แยมากคะแลว เจออยา งน้เี ยอะมากคะ คือตอนแรกใหเกยี รตเิ ราคยุ ดี ชื่ออะไรครับ แตพ อบอกเปนกะเทยนะ เขาบอกวา เอากะเทยเหรออะไรอยางนี้นะ” เมอื่ ณหทยั พบกับเหตุการณแบบนี้ณหทัยจะบอกวา “ไมคะ” และไมต อบโต ซง่ึ ณหทยั ยงั ต้ังขอ สงั เกตวา คนพดู เม่อื พดู ไปแลวก็มิไดม คี วามรสู ึกผิดอนั ใด “…สาํ หรับผชู ายสาํ หรบั คนทพี่ ดู เหรอคะ หนวู า เขาไมรสู ึกหรอก ในผูชายที่คบผหู ญงิ อาจจะหวังฟนหวังอะไรอยางนนี้ ะคะ แตพ อเขารวู าเราเปน ทจี ปี บุ เขานึกวาเรางายนะ เขาเลยกลาพูดอะไรตรงๆ ออกไปแตถ า เปนผหู ญงิ คงสงวนทาทแี ตคงจดุ ประสงคเดยี วกันคือพาไปนอนอยางนี้นะคะ” อายขุ องณหทยั ถงึ จะยงั ไมมากแตก ็พบกบั การเลือกปฏิบัติและการดูหม่ินมาพอสมควรณหทัยจําไดวาเมื่อเรียนจบก็ไปสมัครงานพรอมเพื่อนผูหญิงอีกสองคนซ่ึงเรียนท่ีเดียวกันปรากฏวาเพ่ือนผูหญิงถูกเรียกกอน แตสําหรับณหทัยเขาบอกวาตองใหเจานายพิจารณาอีกครั้งโดยโทรมาสัมภาษณเพิ่มเติมและใหมาทดสอบ ซ่ึงการทดสอบเปนการทดสอบเชิงจิตวิทยาณหทัยสงสัยวา “เอเราเปนโรคจิตหรือ” ที่ถูกทดสอบเชนน้ี เพราะคําถามจะถามในลักษณะของการควบคุมอารมณ การควบคุมเหตุการณ แตจนแลวจนรอด ณหทัยก็ไมไดรับแจงผล อยางไรก็ดีณหทัยคิดวาสาวประเภทสองไมไดมีทางเลือกในการทํางานที่จํากัด เชนตองเปนแตชางเสริมสวยคาบาเรตโชว ข้ึนอยูกับการแสวงหาใหกับตัวเองมากกวา โดยตั้งขอสังเกตวาขอจํากัดสวนหน่ึงก็มาจากการมีการศึกษานอยและ การปดกั้นตัวเองซ่ึงสาวประเภทสองจะตองเปดโอกาสใหกับตัวเอง พวกน้ีเขาจํากัดตัวเองมากกวา แบบวาพอเปนอยางฉันปุบเขาจะมองวาไปโนนสังคมก็ไมรับ ไปน่สี ังคมก็ไมรับ... จะทําอะไรที่ฉันทําไดเลยดีกวา อาชีพท่ีพอมีพวก มีพรรคพวกฉันอะไรอยางนี้ จะมีอาชีพนางโชวอะไรอยางน้ีนะคะ ชอบเปดรานเชาชุดอะไรอยางน้ีแตงหนา เมคอัพอารตทิส ชางทําผมอะไรอยางนี้ซ่ึงเปนอาชีพที่ทีจีสวนใหญจะทํา แตหนูวามันมีอาชีพอะไรหลากหลาย มากกวานนั้ ณหทัยบอกวาไมชอบสงกรานตเลย แตก็ไปเลนกับเพื่อนๆ เวลาไปเลนน้ํา สงกรานตจะพยายาม “แอบตัวเอง” วาเปนผูหญิง คืออยูเฉยๆ ไมจริตจกานมาก ไมอยางน้ันจะโดนผูชายแกลง จับหนาอกบางอะไรบาง ณหทัยใสกางเกงยีนเส้ือยืดเลน อยางไรก็ดีณหทัยก็บอกวาก็มีกลุมกะเทยที่คอยจับผูชาย คอยหาเศษหาเลยตอนสงกรานตกับผูชายเหมือนกันซึ่งณหทัยไมชอบเพราะ “มนั ทาํ ใหรูสึกวา เราดูแยอ ยูแ ลว กลุมพวกเราดูแยอยูแลว คุณยิ่งทําตัวอยางน้ี นะมัน

103ย่ิงดู ลดคาตัวเองนะ หนูรูวาทําไมผูชายถึงไมใหเกียรติทีจี เพราะวาทีจีอยากทําตัวของพวกเขาเองดว ย” ในการรับรูความหมายและนัยเบื้องหลังของปากคําท่ีใหตองตระหนักเสมอวาเปนการตีความประสบการณของผูพูดท่ีพูดจากตําแหนงแหงท่ีทางวาทกรรมหนึ่งๆ ของตน ซึ่ง ณเหตุการณและบริบททางวาทกรรมแลวสงั คมกาํ หนดตัวผูพดู /ณหทยั เปน เดก็ ชาย นักศึกษาชายแตผูพูดมองตนเองวาเปนผูหญิง และอางอิงอัตลักษณของผูหญิงเปนแนวทางปฏิบัติตนและดํารงชีวิตประจําวัน เห็นไดจาก การทําตัวเรียบรอย ไมชอบความรุนแรง แตงตัวสมหญิงและถูกระเบยี บของความเปน ผูหญิงดี เชนนงุ กระโปรงนกั ศกึ ษาตอ งไมส้ัน ไมแตงตัวโปเวลาเลนน้ําสงกรานต การนิ่งเงียบเม่ือถูกลอเลียน ทําตัวกลมกลืนกับผูหญิง ซึ่งทําใหเห็นวา ถอยแถลงสารของวาทกรรมหลกั น้นั คอื การเปนผูหญิงตอ งเรียบรอยและวางตัวดี และในการมเี พศสัมพันธกเ็ ปน แบบผหู ญิงดงั ท่ผี ูสนทนากลา ววา “จะใหรกุ ไมไหวนะคะ” และเมอ่ื มเี พศสัมพนั ธจะรสู ึกไมดีหากคูของตนมองวาการปฏิบัติน้ันไมเหมือนกับการที่ผูชายมีเพศสัมพันธกับผูหญิงและตองการไปแปลงเพศใหเหมือนผูหญิง ซึ่งทั้งหมดน้ีสะทอนใหเห็นวาผูพูดถูกจัดกระทําภายใตวาทกรรมรักตางเพศทําใหเชื่อวาตัวตนท่ีแทจริงของตนเปนผูหญิง ภายใตถอยแถลงสารหลัก“ผูห ญิงดี-เรียบรอย” จึงตองสงวนทาที ดังนั้นเม่ือผูชายที่ตองการเขามาสรางสานสัมพันธและมีความสัมพันธทางเพศโดยมาในลักษณะที่ เถื่อน หยาบ ดิบ หรือไมวางตัวใหดีพอจะถูกตอตานตอบโตห รือปฏิเสธเพราะไมสามารถตอบสนองการสรางความสัมพันธบ นอตั ลักษณอา งอิงของผูพูดไดโดยเฉพาะในบทบาทเชิงเพศภาวะ ทั้งน้ียังข้ึนกับลักษณะความสัมพันธดวยวาสนิทสนมเพียงใด ซึ่งตรงนี้เองทําใหเห็นวาผูชายที่เขามาในลักษณะนี้ก็ยังมองกะเทยวาไมใชผูหญิงเมื่อณหทัยถูกตีตราวา ”กะเทย” ความเปนมนุษยในสายตาของผูกระทําก็ถูกลดทอนไปทันทีอยางไรก็ดีในกรณีท่ีแฟนของผูพูดมีความใกลชิด และทําใหผูพูดตระหนักวาตนเปนผูหญิงและปฏิบัติกับตนอยางที่ผูชายจะพึงปฏิบัติก็จะทําใหการตีความของผูสนทนาแตกตางออกไปโดยมองวาเปนเร่ืองของความรักซ่ึงหากแฟนมีเจตนาไมดีโอกาสที่ผูพูดจะไมสามารถตัดสินวาการกระทาํ เชนนัน้ เปน การเอาเปรียบทางเพศเชงิ เพศประเวณีไดเพราะถกู ครอบงําทางความคิดไปแลว ท้ังนี้จะเห็นวา ณ ตําแหนงทางวาทกรรมของกะเทย กะเทยมีหลากหลาย ท้ังเปนผูชายถาเรื่องเพศสรีระมาสัมพันธเปนถอยแถลงสารหลัก และเปนผูหญิงเมื่อเพศสภาวะและเพศวิถีเปน ถอยแถลงสารหลกั ในความสัมพันธ ภายใตบทสนทนาจึงปรากฎเสียงของผูพูดใหเห็นมากกวาหนึ่ง จากขางตนเสียงที่เปนหมือนอัตลักษณทางสังคม คือเสียงของสาวประเภทสองที่ผูพูดมองวาเปนตัวตนที่แทจริงแตอันที่จริงแลวตัวตนท่ีแทจริงของผูพูดเคยเปลงเสียงเม่ือครั้งที่ผูพูดเปนเด็กซึ่งแรกๆ บอกวาตองการแสดงออกถึงความเปนตัวเอง ซึ่งความคิดที่สะทอนออกมาในชวงสั้นๆ น้ันทําใหตระหนักวาตัวตนแทจริงที่กําลังจะถูกกลบฝงไดเปลงเสียงเฮือกหน่ึงออกมาแตไมมีพื้นที่ และดว ยการจอ งมองทางสงั คมตามกติกาของบาน ครอบครวั โรงเรยี น และบรรทัดฐานทางเพศ

104ในสังคมไดจัดกระทําความคิดของผูพูดใหสยบตอทางเลือกแหงความเปนเพศ ทําใหตอมาผูพูดเริ่มคิดวาไมใช ตองเปนผูหญิง ซ่ึงนําสูการปรับแตงตนเองใหเห็นไปแบบผูหญิงในโอกาสตอมา การแกลงกะเทยก็สามารถนับไดวาเปนการควบคุมทางสังคมใหเปนไปตามบรรทัดฐานทางเพศไดอีกทางหนึ่งเพราะในบางพ้ืนที่รหัสของความเปนเพศถูกใสไวอยางชัดเจน เชนระบบหองน้ําซึ่งสัมพันธโดยตรงกับอวัยวะ การแซว หรือการรังแกอ่ืนๆ เทากับเปนการขีดเสนกันความแปลกใหออกไปจากพื้นที่นั้น ขณะเดียวกันก็ผลักดันใหกะเทยใชชีวิตอางอิงกับความเปน หญิงมากขนึ้ ดวยที่ผูพูดมีสถานะเปนชนชั้นกลาง ท่ีมีฐานะพอสมควร และมีการศึกษา นอกจากนี้ผูพูดมองวาบุคคลท่ีมีความสําคัญหรือคนท่ีตนเองแคร (Significant others) ไดแกคนในครอบครัว คือ พอ แม พ่ีสาว เทานั้น ซึ่งไมเหมือนกะเทยอีกหลายๆ คน จึงมีความเช่ือม่ันในตนเองพอสมควร และเห็นวากะเทยสามารถมีทางเลือกโดยเฉพาะการทํางานไดหลากหลายคนท่ีไมมีทางเลือกคือคนที่มีการศึกษานอย หรือ ปดกั้นตนเอง ซึ่งการปดกั้นตัวเองนี้คือการบงการตนเองจากการท่ีถูกจัดประเภทวาเปนกะเทย ดังน้ันกะเทยจะรูสึกราวกับอยูในคุกวงแหวนท่ีมองไมเห็นซ่ีกรง แตเพราะความแตกตางจะเกิดความอึดอัด ไมสบายใจ และบางคนก็ไมรูสึกปลอดภัย ถูกต้ังคําถามตลอดเวลาถึงจะแมจะไมใชดวยคําพูด แตเพียงแคสายตาก็มีความหมายไมยิ่งหยอนไปกวากัน การ “แอ็บชะนี” ไมวาจะเปนการพยายามทําตัวใหเรยี บรอย การแตงผูหญิง การทําตัวแบบผูหญิง แมกระท่ังบทบาทในกิจกรรมทางเพศ และอ่ืนๆเปนการทําตัวใหกลมกลืนและปกปองตนเองตามความคิดของตนเพราะจะทําใหอยูไดในสังคมสองเพศอยางไมแปลกแยก ทางเลือกหนึ่งซ่ึงคิดวาทําไดดีจึงหันไปอยูในที่ซ่ึงมีผูคนแบบเดยี วกนั หรอื วงการเดียวกนั สาํ หรบั ผพู ูดสามารถดแู ลตนเองไดดพี อสมควรไมตกเปนเหยื่อของการเอาเปรียบเชิงเพศประเวณีอยางงายๆ แตอยางไรก็ตามผูพูดก็ยังตกอยูในอํานาจของการบงการตนเองตามบรรทัดฐานวาทกรรม ซึ่งสามารถเห็นถึงอํานาจการควบคุมบงการน้ีไดจากความสับสนขัดแยงที่เกิดข้ึนโดยเฉพาะเวลามีเพศสัมพันธเพราะการมีเพศสัมพันธเปนไปแบบตนเองนั้นไมเปนไปตามแบบแผนของการมีเพศสัมพันธ อันชอบธรรม และถูกตั้งขอสังเกตจากคูความสัมพันธ และยังเชื่อดวยวาเสนทางชีวิตตนเองสุดทายก็คงไมมีใครเพราะเปนกะเทยเปน การสยบยอมกับการถูกจัดเปน คน ณ ชายขอบของระบบความสมั พนั ธร ะหวางเพศ ผูที่คอยชวยเหลือใหปฏิบัติการและขยายขอบเขตการเปนสาวประเภทสองโดยการจัดการรางกายแบบผูชายใหเปนไปตามบรรทัดฐานทางสังคม ผูท่ีมีความสําคัญแตไมถูกพูดถึงชดั เจนวามคี วามสําคัญคือเพื่อนๆ และรุนพี่ ที่จะคอยใหคําปรึกษาตลอดเวลาโดยเฉพาะในเร่ืองการจัดการรางกายและเพศสภาวะ การวางตน ซ่ึงหากคนเหลาน้ียังตกอยูภายใตอุดมการณรักตางเพศและบางคนอาจจะสําทับดวยอุดมการณทุนนิยมและบริโภคนิยมในการแนะนําหรือการสรา งสรรคกะเทยของสงั คม ซ่งึ ตองมีการใชจายเกิดขึ้นจํานวนมาก เพื่อสรางความสวยแบบผูหญิงแลว วงจรชีวิตกะเทยก็คงเปนไปอยางที่เคยเปนมา คือไมมีพื้นที่สําหรับความเปนตัวเอง

105แมจะพยายามท่ีจะเปนตัวเองก็ไมไดรับการยอมรับ พ้ืนท่ีเดียวท่ีเหลืออยูคือพื้นท่ีของความเปนผหู ญงิ กะเทยจึงวงิ่ เขา สูมาตรฐานความเปน หญิงทางสงั คมทงั้ ดานบทบาทอาชีพ 5.1.2 ความอึดอัดจากการโชว การจูโจม และตามลา: ปากคาํ ของณหทัย นยั นา และหลิน การเขา “คาย” ของเด็กๆ และวัยรุนโดยท่ัวไปจะเปนเร่ืองของความสนุกสนานมีอิสระและมีความสุข แตในขณะท่ีเด็กๆ ท่ีถูกตีตราวาเปนกะเทยไมไดเห็นเรื่องนี้เปนเร่ืองสนุกทุกคนเพราะตระหนักวาความแตกตางของตนอาจนําความไมสบายใจและภัยมาสูตนโดยเฉพาะในพ้ืนที่ที่ตัดสินแบงแยกคนโดยใชเพศสรีระเปนเกณฑหลักเพียงอยางเดียวเปนชองทาง หรือเปนการเปดโอกาส ท่ีจะทําใหมีความคลาดเคลื่อนในการดูแลโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนและปองกันไมใหเกิดการเอาเปรียบทางเพศเชิงเพศวิถีไดยาก เพราะในพ้ืนท่ีเหลาน้ันมีความตายตัวในมุมมองเรื่องเพศซึ่งความหลากหลายเรื่องเพศอาจจะเปนร่ืองท่ีตระหนักถึงไดยาก มีเร่ืองราวตางๆ ในคายที่ขางนอกไมรับรู ความกลัวถูกรังแก แกลง ทํารายและติดโรค เปนความอึดอัด ความกลัวลึกๆ ของเด็กท่ีเปนกะเทย ณหทัย หลิน และนัยนาจะรว มกนั ขยายความถึงสงิ่ เหลานจ้ี ากประสบการณจ ากการเขา “คาย” ตา งวาระของแตล ะคน ประสบการณของกะเทยภายใตเขตแดนแหงความเปนชายท่ีตัดสินโดยเพศสรีระและอํานาจของสถาบันซึ่งโอกาสในการใชอํานาจเกินขอบเขตมีความเปนไปได การท่ีกะเทยเขาไปอยูในพื้นท่ีลักษณะของสถาบันทางวินัยจําลองซึ่งจัดตําแหนงของกะเทยในวาทกรรมชุดหน่ึงหากไมมีความไว (sensitivity) ตอความหลากหลายทางเพศแลว การเอาเปรียบทางเพศวิถีเชิงประเวณีตอเด็กและเยาวชนที่ถูกจัดประเภทใหเปนกะเทยจะเกิดข้ึนไดงาย ดังประสบการณตอ ไปน้ี ก. ความอึดอดั จากการโชวนอกรอบ: ปากคําจากณหทยั และหลิน ....รูสึกแยม าก แตเ คยคิดนะคะท่ีเปน กะเทย เริ่มรูวา ...ปญหาท่กี ังวลคอื การเปนทหารอยา งนี้ รสู กึ วา เราเปน ทหารเหรอเพราะอะไรอยา งนี้ จนเราตอ งเปนรด.รสู กึ แบบ...แตก ็ดีทม่ี ีเพือ่ นเรียนคะ เพ่อื นไมทิง้ เราเขาก็เรียน ขางตนน้ีเปนความรูสึกของณหทัยที่เผยออกมาเมื่อพูดถึงการที่ตองเปนนักศึกษาวิชาทหารหรอื ที่เรยี กกันทวั่ ไปวา เรียน รด. ณหทัยเรยี น รด. 3 ป ในระดับมัธยมศึกษาปที่ 4ถึง ปที่ 6และวันท่ีถือเปนสาํ คัญของการจบหลักสูตรคือการเขา คา ยตอนสุดทายป 3 เขาคาย 5 วัน ณหทัยถามตัวเองวา เรียนผานมาไดอยางไร ณหทัยบอกวา “…คือวันหนึ่งทรมานมาก เพราะเราไมชอบเลยคะ” วันเขาคาย กอนเขาคายณหทัยเตรียมขาวของเครื่องใช ชุด รด. 3 ชุด เส้ือ รด. เส้ือช้ันในรด.4-5 ตัว ถุงเทาอีก 3-4 คู ซึ่งณหทัยนําเสื้อไป “เยอะมาก” เพราะรูวาตองเปอนและ

106เหมน็ กลมุ นักเรยี นท่เี ขาคา ยนัน้ ถูกแบงออกเปนสองกองพัน ซึ่งจะมีพวกเด็ก “เทคนิค/เทคโน”และกณ็ หทัยมคี นเดียวจากโรงเรียนตวั เอง “โรงเรยี นหนูอยอู กี กองพันหนง่ึ และหนหู ลุดไป..วาย...ยังไมมีใครเปดเผยตัวเองวาเปนทีจี นอกจากหนู และก็เพ่ือนท่ีโรงเรียนเพราะหนูหลุดไปคนเดียวในกลุม คือวา คือมันมีคะ เขาไมเปดคะ...” ณหทัยรูสึกวาเด็กนักเรียนเหลานี้ “นากลัวมาก”แตโชคยังดีมีเพ่ือนผูชายติดเขาไปดวยอีกหนึ่งคนจึงสามารถไปนอนกับเพื่อนได เพราะในการจัดกลุมเปนกลุมยอยสามารถจัดกันเองได ณหทัยบอกวา “ ..ใช โชคดีไป” ดังนั้นเวลานอนซ่ึงตองกางเต็นทน อน ณหทัยก็ไดน อนกับเพื่อนผชู ายจากหองเรยี นเดียวกัน “กไ็ มม ีปญ หาอะไร”ณหทัยคดิ เปรยี บเทียบตนเองกบั พวกเดก็ ผูหญงิ ท่มี าเรียนรด. “…รูสกึ แยมาก ๆ ..ทาํ ไมตองอยอู ยา งน้ี ก็มีรด.ผหู ญิงนะคะ แตเ ขาไมไ ดเ ขาคาย...นะ แยกคา ย มีความรูส ึกตงั้ คําถามวา ผูห ญิงนะอยูดี ๆ กโ็ อเคแลว คะ ผหู ญิงอยากเปน ทหาร หาเรื่อง ลําบากใสตัวทําไม เรากม็ องวา หาเรื่อง ก็เปนผหู ญิงกด็ อี ยแู ลวหาเร่ืองเปน รด.ทาํ ไม แตม ันกเ็ ปน ความเศรา สว นตวั ของเขานะคะ หาเร่ืองทําไมอยางน้ี ท้ังที่ รด. ผูหญงิ ผชู ายนะคะ แปลกตา งกนั นะคะ เวลาลงโทษนะ ผูห ญิงจะโดนเบามาก ยิ่งกวา เรียกวาอยูบา นกไ็ ดไ มต องมาหรอก ....คอื เขา ให กลิ้ง กลิ้ง กลิง้ กบั พ้นื เขาขามอยา งน้ี เอาละวะ ถาคุณมาเรียนแลวไมเ หมือนกนั แลวคณุ อางวา คณุ เปนผูห ญงิ นะ คณุ ไมต องมาหรอกอะไรอยางน้ี คอื มันไมเสมอภาคกนั ไง ทง้ั ทเี่ รากอ็ างไดวา เปนผูหญิงอะไรอยางน้ี แตถาเราจะอา งอะไรอยางนี้ ...ถา เราจะอา ง” ตอนน้ัน ณหทัยกินฮอรโมนและมีหนาอกแลว จึงอาศัยใสเส้ือที่ตัวคอนขางหนาไมใหเห็นถึงจะรอนมากแตก็กันแดดไดดี ท่ีคายมีคําสั่งวาหามอาบน้ํา “…เขาบอกถาทนไมไดก็ออกจากคายไป” แตณหทัยทนไมได “…หนีคะ หนีไปอาบนํ้า หนูอาบทุกวันเลย” โดยตื่นข้ึนมาอาบตอนตี 3 ณหทัยบอกวา“…เหม็นเนามากและหนูทนไมได หนูตองไปอาบ เนาแบบสกปรกแบบย้ีอะไรอยางนี้” ณหทัยจะนัดกับเพ่ือนไวแลวไปแอบอาบโดยนุงกระโจมอกเดินไปอาบนํ้าซึ่งถาถูกจับไดก็จะถูกลงโทษ “…หนูก็บอกวาหนูไมทน เขาบอกวากะเทยเหรอ” ณหทัยรูสึกอึดอัดมากในคายและขณะเดียวกันก็รูสึกวาถูกเด็กเทคนิคเหลาน้ันคอยมองอยูและแซว“… มองอะไรอยางน้ี ..บางไง เขาก็แซว ๆ เขาจีบอะไรอยางน้ีนะคะ” และก็มี “…ก็ชวนไปนอนดว ยอยา งน้”ี บุกอุม ทคี่ ายมรี า นขายของอยู คนื วนั หน่งึ ณหทัยเดนิ ไปซื้อของแตปรากฎวา “ถกู อุม”“อุมไปเลยละ หนูก็ตกใจเพราะตอนกลางคืนอยู เดิน เดินมาซื้อของเพราะมันจะมีรานขายของอยูใชไหมคะ เดิน คือโดนปุบมันก็ ใคร ใคร ใครอยางน้ีคะ…วาย ใครอุมชั้นอยางนี้… ใคร ใครใคร ปลอยนะ และเขาก็ปลอยนะ … โหนากลัวนะคิดดูดิ นากลัวไหม” อาจจะเปนดวยการรองโวยวายทําใหคนท่ีมาอุมปลอยณหทัยลง นอกจากการอุมแลว ตอมาณหทัยยังพบกับ

107การบุกอุกอาจเขามาในเต็นท “แลวเอาคืนน้ีไมไดเหรออยางนี้ มีแบบ มีคืนหน่ึงมีผูชาย “บุก”เขามาในเต็นทเลยคะ แลว จู จู หอมแกมเราก็ตกใจ เรานอนอยนู ี้ กบ็ อกนี่เรางวงนอนมากแลวมันเหนื่อย หนูไมมีอารมณคิดถึงเรื่องผูชายสิ ฉันบอก ฉันเหน่ือย เราบอก..ออกไป ...” ณหทัย“งงมาก” กับการกระทาํ เชน น้ี ตอนนัน้ เพือ่ นรวมโรงเรยี นก็อยูในเต็นทนอนตรงขามกันดวยแตณหทัยก็ยังสงสัยอยูวาถาเกิดเอาตัวรอดไมไดแลวจะเปนอยางไร “..แลวเธอจะมาชวยฉันเหรออะไร อยา งนี”้ จบเร่ืองณหทยั ก็ไมบ อกครูเพราะเขาก็ยอมออกไป กอ นท่จี ะมาเขา คายกไ็ ดรับคาํ เตือนจากรนุ พ่ีมาบาง ณหทัยบอกวา “…เออเรารวู ากม็ ีรนุ พ่ีเขาเลา ใหฟ ง เขาบอกวาจะมอี ะไรในคายมันงายมากเลย อะไรอยา งนี้ เพราะวา ผูชายมนั กอ็ ยากมีอยูแลว ถา หนอู ยากไดห นกู ็ไปเอา หนไู มค อยงอ อะไรอยางนี้” ณหทยั บอกวาตวั เองไมสนใจท่ีจะมาหาผชู ายและบอกวาปองกันตัวเองดีก็เลยโอเคหนอย โชวหนอย แตไมใชเพียงนักเรียนท่ีณหทัยตองตอกรดวย ณหทัยถูกครูฝกเรียกให“ไปนวด” “ครูฝกยังเรียกวานอง…มานวดใหหนอยคะ ในเต็นทอยางน้ีคะ นวด นวด ..งวงนอนแลว คะ แลว หนกู ็ออกไป” ณหทยั บอกวา “ถาเราไมยุงกับเขา ไมเลนดวยก็ไมเกิดอะไรหรอกคะ”ณหทัยไมรูเหมือนกันวาถาถูกเรียกใหไปนวดแลวไมไปจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม บางคร้ังทานขาวแลวณหทัยจะถกู เรียกใหม าแสดงโชว “…ออกมาแสดงโชวใหห นอย ออกมารองเพลงใหฟงอะไรอยางน้ีนะคะ” ตอนนั้นณหทัยจําไดวามีคนท่ีเปนแบบณหทัยราว 10 คน เขาจะเรียกออกมา“…เขาบอก 10 นางฟาออกมาเลยอยางนี้ คือ ทีจีเพ่ือนเขารู...ออกมาซิ..ดึงเพ่ือนออกมาดวยกันแลวก็จะโดนอะไรอยางน้ี” เมื่อตองมายืนโชว ณหทัยตั้งคําถามกับตัวเอง “รูสึกวาฉันเปนตัวอะไร เออทําไมตองมาแสดงใหคนดูอยางน้ีนะคะ” ณหทัยจําใจรองเพลง เตนบาๆ บอๆ ใหดูณหทัยมองวามันไมแฟรแต “… เพราะรุนพี่เขาเตรียมใจกันแลววาตองโดนอะไรอยางนี้คะ”ณหทัยบอกวาเร่ืองการแสดงไมมีปญหาอยูแลวถา “มีใจอยากแสดง” แตตอนนั้นมันเหมือนถูกบังคับ “เรายังไมพรอมอะไรอยางน้ีคะ รูสึกวาโดนบังคับแตเราตองทําอยางนี้ ถาไมทําเราตองโดนลงโทษนะคะ ” การที่ตองฝนใจทําเชนน้ีณหทัยบอกวาก็เพราะตองเอาตัวรอด “ก็โดนลงโทษหนไู มทําหนูตอ งโดนแน อะไรน่ี หนูก็เอาตัวรอด..” กิจกรรมวันสุดทายของคายณหทัยก็จัดแสดงโชวเลย “…เขาอยากดูโชวชุดเราก็จัดใหคะ เอาชุดกันไป” อันที่จริงโชวน้ีไมใชพ่ึงมาคิดแตเปนสิ่งที่รูมากอนลวงหนาแลววาตองทําตาม “คําขอ” และไดจัดเตรียมชุดมาแลว “…เตรียมโชววันสุดทาย เรารูวายังไงตองมีโชวอยูแลว...วางแผนมากอนแลวคะ วาตองมีแน เพราะครูฝกทุกรุนตองมีรีเควส..อยากใหขึ้นมาแสดง... เขาก็จะบอกวา ลูกสาว…น่ีเตรียมการแสดงชุดหน่ึงรอบกองไฟ ก็จบแคน้ัน ...บอกพวกหนูเลยคะ” ซ่ึงก็รับปาก “…จะบอกก็โอเค โอเคไดอยางนี้ไมมีปญหาเรื่องการแสดงโชวใหได” การโชวนั้นจะแตงหญิงแลวเตนแบบธรรมดา ณหทัยบอกวาคนที่น่ังดูก็มีปฏกิ รยิ าตอบรับ “..โอโห ฮือฮามาก ๆ เลย เห็นแลวดี ดีขึ้นมาอยางน้ีเลยคะ” พอลง

108เวทีไปก็ไปน่ัง ณหทัยก็เจอ “..ก็บอก.. วาไงอยางน้ี เออ ชวนไปนง ไปนอนอะหนูก็บอก..ขนาดนัน้ คะ ความรสู ึก..ผูชาย พอเขา..ไมเ กีย่ งเลยจรงิ ๆ” ณหทัยบอกวาท่ีคายลูกเสือไมหนักเทาน้ี “…เจอแบบนี้ไมคอยเจอนะคะ คายลูกเสือเพราะลูกเสือมนั ยงั ไมหนกั เทา นี้ รด.มันหนักกวาน้ี คายลูกเสือกจ็ ะมีแตอ าจารยในโรงเรียนอยางน้ี....” คําถามถึงจรรยาบรรณผุดข้ึนมาในสมองของณหทัยอยางชวยไมได เม่ือตองพบเหตุการณเชนนี้ ณหทัยบอกวาส่ิงเหลาน้ีสังคมไมรับรูวาพวกตนตองประสบกับอะไรบาง “ไมรับรูนะ ไมรับรูนะคะวา วา วาจริง ๆ เจออะไรบางในรด.อะไรอยางนี้นะคะ ก็ไมใครเขาออกตัวประเดน็ อยา งนี้ เราไมไ ด บางทกี ารละเมิดทางเพศนะ ทจี ีเปน คนยอมใชค ะ” ณหทยั บอกอกี ดวยวาการยินยอมเปน “เหตุสวนตัว” ของแตละคน “เขาก็ไปเรียน รด.มันตองมีอยูแลวคะ เร่ืองเพศสัมพันธ ก็มี … ก็มันตองมีแน แตมันก็ข้ึนอยูกับตัวเราวาจะเซฟตัวเราไดแคไหนอะไรอยางน้ีคะ” ซึ่งณหทัยบอกวาไมมีขอหามและถาอยากจะแกไขก็ตองแกที่ “ครูฝก” “…ใหรูจักวางตัวกับเราใหมากกวาน้ีคะ ใหเกียรติพวกเราใหมากกวานี้ ไมทําอยางพวกเราเปนตัวตลกอะไรอยา งนี้” เหตุการณโดยเฉพาะ “การโชวนอกรอบ” ที่ไมไดต้ังใจจัดมา ทําใหณหทัยรูสึกอาย“เหมือนเปนตัวอะไร” ณหทัยแถมทายดวยวาตนถูกขอรูปถายแตงเปนผูหญิงไปเก็บไว “…อืมมคี ะ มี มี เอารูปถายไปเกบ็ ไว นา กลวั ไหม นากลวั เนอะ แตเขาเปน ครูฝก ในสถานะตอนน้ันทเี่ ราอยู เราก็ยอมใหเ ขาไงคะ เพราะเขาเปน ผบู ังคบั บัญชา แลวน่ีรด.ครูท่ีโรงเรียนเรานะก็จะไมมีเขาไปยงุ จะเปนแบบวาเขาเต็มที่ เขามอี ํานาจใหญอ ยา งน”้ี สําหรับหลินถึงแมจะตางกาลตางวาระกับณหทัยแตหลินก็พบเหตุการณคลายคลึงกันในคายฝกซึ่งสองวันแรกก็ยังไมมีอะไร ใครเขาทําอะไรหลินก็ทําเพียงแตก็ยังหวงสวยกลัวหนาพังและตบแปงแผนเปนระยะๆ ถึงแมการกระโดดหมอบจะทําใหตนเองเจ็บ “หนาอก” แตก็ทนไดและอาศยั เอาสว นอนื่ ของรา งกายลงรับแรงกระแทกเพราะจะไดจบๆ ไปและถึงแมตัวเองจะไม“ถึก” เหมือนเพ่ือนบางคนแตบางทีเขาใหทําอะไรก็ทําเร็วกวาผูชายจนไดรับการออกปากวา“อตี ดุ ยังทาํ ได” จากครกู ็มี ถึงแมจ ะตะหงดิ ใจถึงคําท่ีใชเ รียกแตอยางนอ ยกถ็ อื ไดวาเปนคาํ ชม พง้ิ กเี้ กลิ โชว คืนวนั แรกมกี ิจกรรมทํานองปฐมนเิ ทศทัว่ ไป แตพอวันท่ีสองก็มีกิจกรรมแตไมมีการพูด งานท่ีจัดดูตระการตาเหมือนงานวัด แถมมีโปรเจ็คเตอรใหญๆ ไวฉายดวยซ่ึงหลนิ มองวา “..ดีๆ พรอ ม” หลินและนักเรียนคนอื่นๆ กน็ งั่ ลงลอมรอบเวทีรอฟงวามีกจิ กรรมอะไรสกั พักหน่ึงพธี กี รผหู ญงิ ดูเหมอื นจะเปนครูพยาบาลก็พูดๆ ไป และแลวเน้ือหาสวนหน่ึงท่ีหลินจําไดเปนทํานองที่วา ขอรบกวนหนอยนะคะใครเปน ”พิ้งก้ีเกิล” คนท่ีเปนสาวสวยในน้ีขอใหออกมา ทันใดนั้นทุกสายตาก็มองตรงไปที่หลิน “เจออกไปซิ” คําวา พิ้งก้ีเกิล ทําใหหลินสะดุดใจและจําไดแมน นึกในใจวา “กูโดนอีกแลวหรือ” พรอมทั้งตั้งคําถามโดยอัตโนมัติข้ึนมาทันทีวามีวากกะเทยในนี้ดวยหรือ หลินมองวาในมหาวิทยาลัยอาจจะไมแปลกแตนี่เปนคายชายลวน

109อยางไรไดในเม่ือถูกจองอยางนั้น “ก็ออกไป” หลินเดินแหวกคนอื่นๆ เดินออกไปคนแรก“กแ็ หวกทางใหฉ ันเดนิ สวยๆ” คนก็ตบมอื กนั เพราะเขาก็รกู ันวาหลิน “เปน” หลินบอกวาก็โอเคก็ไมไดคิดอะไร หลินไปยืนเฉยๆ ตอหนาผูคนอยูสักพัก แตพิธีกรถามตอวา “อะไรมาต้ังเยอะมีแคนี้เองหรือ” ไมมีใครออกมาอีก...สักพักก็วิ่งกันออกมาอีกสองคนหลิน ตั้งขอสังเกตวา“ผูชาย..แมนมาก” พอมีโอกาสหลินก็ไปขางหลังเวทีหลินถามพิธีกรวา “ครูคะหนูออกมาอยางนี้แลว ครูฝกเขาจะไมดาหนูหรือ” คําตอบท่ีไดคือออกมานะดีแลวเพราะถาไมออกพรุงนี้จะถูกเรียกไปคุยกับหัวหนา หลินไดแตถามตัวเองวาจริงหรือ ออ!หนูทําอยางนี้ถูกหรือคะ และคิดวาใชเขาตองการจะรู ซ่ึงยืนยันส่ิงที่หลินเคยไดยินมาวา ตองเปดถาไมเปดอยาใหเขารูเลย หลินบอกวาอยา งตวั เองปด ไมไดอยแู ลว เปดตัวแลวอยางไร? ไปทําอะไร? หลินบอกวาเขามีชุดผูหญิงกระโปรงบานๆ แบบ“คาเฟ” เต็มท่ี เตรยี มไวใ หใส เรยี กไดว าลงทนุ แลว ใหห ลินเตน ฮูลา ฮูลา หลินเตนแรงๆ แบบนี้ไมเปนแตก็เตนๆ ไป สวนอีกสองคนกลายเปนเตนกัน “พร้ิวเลย” ยังไมทันไรโชคดีมากฝนตกงานวัดนั้นเลยจาํ เปน ตองเลิกโดยปริยาย เหตุการณน้ีหลินรสู ึกไมค อยดี “มันอายนะ มีแตค รูฝก”หลนิ ไมเคยไดย ินเรือ่ งอยางนม้ี ากอ น และบอกวาถา มเี พ่ือนตองเลา ใหฟ ง แลว ข. ความอึดอัดจากการถูกขอ....ใหหนอย: ปากคําของนัยนา นยั นาแลกเปลยี่ นประสบการณเ ร่ืองในคายของตนวา ตอนสมัยเรียนอยูมัธยมสามตนไปเขาคายลกู เสอื พอตกกลางคืนเมอ่ื เขา คา ยผชู ายจะแกลงตน การแกลงน้ันไมใชเร่ืองที่เด็กแกลงกันเลนท่ัวไปแต “….เรานะมันจะเอาเจี้ยวมาแหยที่ตูดเราเลนนะเราเกลียดมากเลยนะเรารองไหเลยนะ .... รองไห ยังนึกยอนหลังไปนะ ทําไมมึงไมทํากับกูตอนน้ีนะตอนน้ันยังไมรูเร่ืองนะ ขนาดผูชายบอกวาใหอมใหหนอยอยางน้ีนะยังทําไมเปนเลยตอนน้ันอมคืออะไร คืออมไวเฉยๆ น่ีนะเราไมมีอะไรไมมีเทคนิคนะ อะไรเลยนะ” นัยนาว่ิงไปหาอาจารยอาจารยก็ดุขน้ึ มา “บอกวา นพี่ วกเธอทําไมทํากบั เขาอยา งนเี้ ขาเปนเพื่อนเรานะ” แลว ครูก็จะอบรมไปสกั พัก แตวาเสนทางในการเรียน รด. ของนัยนาน้ันเปนอีกแบบ นัยนาเลาตอไปวามีอยูคร้ังหน่ึงตนไปเรียน รด. ซ่ึงจะมีพวกครูฝกอยูในคาย 14 วัน เขาจะเรียกบรรดากะเทยท้ังหลายไปนางน่ัน นางน่ีไป นัยนาเลาวาลกั ษณะหองตอนนั้นจะมีเปนล็อก เปนหองท่ีพักของครูฝกโดยเขาจะใหเขาไปหองละคน ๆ เขาจะเรียกไปเลย นัยนาบอกวาถาไมไปตนก็กลัวเพราะอยูปหน่ึงก็กลัวมาก ๆ ท่ีกลุมมี 3 คนไปหองพักครูฝก ครูฝกก็นอนใหนวดนัยนาบอกวาพอใหนวดแลวก็จะมีอารมณทางเพศ “…ผูชายนะก็บอกวาโมกใหครูหนอยสิ” แลวพอคืนแรกผานไปเรียบรอยแลว รุงเชามาเพื่อนก็รูวาตนไปกับครูฝก “มันก็จะวันน้ีคงไมมีแรงวิ่งนะ ทั้งๆ ท่ีจริงเราไมไดไปทําอะไรกับครูฝกนะเราแคไปนวดเฉยๆ นะ มันคงคิดวาเราจะไอน่ันครูฝกแลวนะ” ท้ังน้ีตอนท่ีเขามาบอกนัยนาและเพื่อนให ”โมก” ไมมีใครทําให นัยนาบอกวาถาไมยอมคงทําอะไรนัยนา

110ไมได แตน่ีคือนัยนา นัยนาพูดถึงตนเองตอไปวาตนเปนคนไมยอมในเร่ืองเชนนี้ “…ขนาดแฟนที่คบกัน 7 ปน่ีนะเขายังไมเคยจับอวัยวะเพศหนูเลย เขาเคยจะจับแตไมใหเขาจับนะ” ซ่ึงนัยนาบอกวาอาจจะเปนเพราะนิสัยของตน “ ไมคอยชอบเพราะวานิสัยพวกกะเทยนะ ไมรูคนอื่นจะเปน เหมอื นกันหรอื เปลานะไมชอบใหใครมาชว้ี าตอง มึงตอ งทําไอนี่นะตองทําไอน่ีตองทําอยางนี้นะไมชอบอยางนน้ี ะ คือเราอยากทาํ เราทาํ นะอยบู า นเรากเ็ หมอื นกัน วันนีฉ้ นั ขีเ้ กียจซกั ผา ฉนั ไมซักใครจะทําไม ฉันก็บานฉันใชไหม แลวท่ีบานจะมีตูหยอดเหรียญนะ แมเขาจะบอกวามึงทําไมไมซกั เองนะเสือ้ ผา แคน้ี ข้ีเกียจ เขาพดู แคนนั้ เราไมคอยนัน่ กนั เร่อื งน้ีเทาไร” ค. ความอดึ อดั จากการถกู ตามลา: ปากคําของหลิน “…แลวมันก็โทรมาใหเลย มีเยอะนี่มันเก็บไวเยอะ....” อะไร? ทําไม?หลินตองไปเรียนไกลบานเม่ือเขาเรียนอุดมศึกษาปแรกเลยเลิกเรียนวิชาทหารไปพักหน่ึง แตเมื่อยายมหาวิทยาลัยก็ตัดสินใจไปเรียนใหจบหลักสูตรเพราะมิเชนน้ันก็ตองไปเกณฑทหารอีกถึงแมจะไมอยากตัดผมท่อี ุตสา หไ วจนยาวเพือ่ ใหเ ปนผหู ญงิ แตอ าจเปน เพราะตองตัดใจตัดผมจึงทําใหฝนราย ในใจลึกลึกของหลิน และเพื่อนกะเทยอีกหลายคนมีความไมม่ันใจ เมื่อเพื่อนรูวาหลินจะไปเขาคายแนนอนก็โทรมา และเสนอใหพก “ถุงยาง” ที่ตนเองสะสมเอาไวมาเผื่อแผใหเพอื่ น เวลาในการฝกในคายผานไปหลินก็ถูกนินทาบาง แซวบาง ท่ีไมชอบใจคือการที่วัยรุนบางคนท่ีมาเขาคายฝกพยายาม “แกลง” ตน เชน เวลาเขาคิวทานอาหารจะถูกอวัยวะเพศมาชนขางหลัง ซ่ึงเม่ือเปนเชนนั้นก็จะบอกเพ่ือนผูชายที่นอนเต็นทเดียวกันใหชวยเหลือและกันใหหรอื บางทกี ็ถกู จบั กน ก็จะปอ งกนั ตวั ดว ยการดา หรือตบตีคนท่ที าํ เปน การเอาตัวรอด วันสุดทายของการไปเขาคายชายลวนของหลินกําลังจะส้ินสุดลงหลังจากเหนื่อยมาหลายวันเหมือนคนอ่ืนๆ ตกกลางคืนก็แยกยายไปนอนท่ีเต็นทของตนเองท่ีกางอยูในบริเวณใกลๆ กัน วันนี้ดูเหมือนจะไมมีอะไรทํา ประมาณ 4 – 5 ทุม หลังจากหลินไปอาบน้ําก็กลับมาที่เต็นท ขณะกําลังแตงหนา ทาครีม จะเขานอน ก็มีเสียงดังลอดเขาเต็นทมา “หนีหาว….” หลินรูทันทีวาเปนเสียงเรียกหาตนเพราะมีคนรูวาตนพูดภาษาจีนได หลินคิด ตายแลว งง ทําอยางไร“มันเดินรอบเต็นทเลยคะ หนูก็เงียบ ทําตัวเงียบๆ เลยคะ” เพ่ือนผูชายของหลินท่ีนอนในเต็นทเดียวกันก็บอกหลินใหอยูเฉยๆ นิ่งๆ ไว อยากระโตกกระตากใหรู เดี๋ยวมันจะเขามา ถาเขาจะมาทําอะไรหลินเพ่ือนคนน้ีบอกวาจะชวย แตบอกวาถามันมาหลายคนผมจะปลอยใหเขาเลยนะ!??? หลินบอกวามันมากันเปนฝูง และคิดวาคงไปเรียกกันมา 4 – 5 คน มันควานหาหลิน“เฮยอยูเจอยูเต็นทไหนวะ อยูไหนนะมึง...” หลินกลัว คิดวา อะไรกันหนักหนานี่ อยากมากขนาดน้ันเลย ตามมาจะมา... หลินรูสึก “แยมาก” หลินบอกวา “ทําเหมือนกับเปนตัวอะไรหรือเปลาแบบน้ีไง เราไมใชคนอะไรแบบน้ัน เราไมใชมา... แบบบาหรือ ฉันก็รักศักดิ์ศรีของฉันเหมือนกันนะ ไมใชมาซิๆ ฉันใหแบบนั้นบาหรือ ฉันไมใชคนอยางนั้นซักหนอย” สักพักเม่ือกลุมพวกน้ันหาหลินไมพบก็ผละไป และเปรียบเทียบเหตุการณวาจะมาทําแบบ “พรหมพิราม”

111กันเลยหรือ หลินรอดตัวจากเหตุการณใน “คืนหมาหอน” มาไดอยางอกส่ันขวัญแขวน คืนท่ีหลนิ ไดย ินมาวาคืนนแ้ี หละที่ปกติคนจะไดกัน หลินไดยินคนบอกวากะเทย “ไดกิน” กอนหลินไปอาบนํ้าซ่ึงหลินก็แคอุทานวาเหรอเพราะไมสนใจ เหตุการณลอมกรอบรอบเต็นทที่หลินหลุดมาไดทําใหหลินไมตองจําใจใชถุงยางที่ตองแอบพกพาและซุกซอนไวอยางมิดชิด ถุงยางที่เพ่ือนเสนอใหตดิ ตวั ไวหากเกดิ อะไรข้นึ เพราะกลัววา หากเกิดอะไรข้นึ เรอ่ื งโรคเปน สงิ่ ที่นา กลัวและตองคดิ ถึงมากที่สุด กลบั จากคายเพ่ือนๆ ถามหลนิ วาไดก ไ่ี ม? คายกิจกรรมเด็กและเยาวชนตางๆ เปนพื้นท่ีจัดแบงเพศตามสรีระอยางชัดเจนถึงแมวาโดยทั่วไปจะตระหนักวามีเด็กหรือเยาวชนท่ีมีความแตกตางจากบรรทัดฐานและอาจจะมีความยืดหยุนในการจัดการดูแลซึ่งก็ข้ึนกับความคิดของผูดูแล ดวยวิธีคิดในเร่ืองเพศและการจัดการคนหมูมากบนพ้ืนฐานของความสะดวกและประหยัดทําใหการจัดการลักษณะนี้ยังดูเปนความเหมาะสม กะเทยเปนลูกเสือ นักศึกษาวิชาทหาร (ชาย) ลูกคาย และทําตามกฏระเบียบของคาย ไมวาจะเปนเครื่องแบบ การทํากิจกรรม การฝก การกิน การนอน อยูภายใตระเบียบวินัยของคายทั้งส้ิน กะเทยท่ีคายบทบาทจึงเปนไปตามเพศสรีระ แตดวยความเปนกะเทยการแอ็บชายใหสมกับการเปนลูกคาย เชน นับเสียงดังฟงชัด อาจจะทําไดงายแตในพื้นที่แหงความเปน ชายการทีก่ ะเทยจะแอบ็ ผชู ายโดยไมเปนท่ีสังเกตเห็นเปนไปไดยาก เห็นไดจากไมวาจะเปนการหวงสวย ความกระตุงกระติ้ง การหนีไปอาบน้ํา เปนตน ในพ้ืนท่ีแหงความเปนเพศในระบบที่ถูกจัดสรรวามีเพียงสอง กะเทยจึงเปนผูหญิงในหมูผูชาย โอกาสท่ีจะเกิดการมีสัมพันธทางเพศในความคิดของคนทั่วไปท่ีอยูในกรอบวิธีคิดของอุดมการณรักตางเพศ ความสัมพันธทางเพศ ระหวางชายกับชายจึงไมมี (หากดูท่ีเพศสรีระอยางเดียว) ดังน้ันการหาประโยชนจากกะเทยในเรื่องเพศประเวณี และเอารัดเอาเปรียบเชิงเพศวิถีในคายตางๆ จึงถูกมองหรือรับรูวาไมนาจะเกิดขึ้นได นอกจากนี้ความสัมพันธเชิงอํานาจท่ีไมเทาเทาเทียมกันในสถานะของครู-นักเรียน เด็กมักจะตกอยูในสถานะของบุคคลภายใตอํานาจ ในลักษณะของความสัมพันธเชิงอํานาจเชนน้ี อาจเปดโอกาสในการใชอํานาจเกินขอบเขตเพื่อจุดประสงคอื่นของผูดูแลบางคนนอกเหนือจากการฝกวินัย ขณะเดียวกันสําหรับเด็กและเยาวชนเพศชายที่มาอยูรวมกันก็อาจมิไดมีการกติกาหามปรามการมีเพศสัมพันธอยางชัดเจนในมุมมองจากเร่ืองเพศที่เปนทางการโอกาสท่ีการมีเพศสัมพันธจะเกิดข้ึนไดก็มีเชนกันดังที่หลินพูดถึง คืนหมาหอนซึ่งเปนที่รับรูกันทว่ั ไป การสันทนาการตางๆ ท่ีทําในนามของความตั้งใจดีเพื่อความสนุกสนานบันเทิงโดยไมคิดอะไรมาก เห็นเปนเรื่องธรรมดา ไมตระหนักถึงความหลากหลายเร่ืองเพศ สรางความหมายใหการกระทํากับกะเทยดูเปนเรื่องเบา ๆ โดยไมนึกและนึกไมถึงวาผูที่ถูกช้ีตัวจะมีความรูสึกเชนใด ตองออกมาโชวจะรูสึกอึดอัดอยางไร และจะนําปญหามาสูผูถูกเรียกอยางไร โดยอาจตีความหมายวาเปนความชอบและสนุกสนานนั้นตองมีการทบทวน ซึ่งเรื่องความหลากหลายเชนนี้เปนเรื่องที่ซับซอนและละเอียดออน ตามที่สะทอนออกมาดังที่ท้ัง ณหทัย และหลินไดพูด

112ถึงความรูสึกของตน นอกจากนี้ การชี้ตัวแมจะเปนเร่ืองเล็กนอย ในความคิดของคนพูดและอาจเห็นวาเปนการพูด คิด และการมองดวยความเอ็นดู นารัก หรือเห็นเปนสีสัน เปนเรื่องสนุกสนานเชน เรียกอีตุด หรือท่ีหนักกวาน้ัน การเรียกออกมาแสดงตัวบนเวทีและเตนโชว โดยสัมพันธบทแลวกะเทยในยามนั้นจึงถูกสรางใหมีความหมายเปนผูหญิงในหมูผูชาย เห็นไดจากชุดคาเฟท่ีจัดเตรียมมาใหใสโชว เปนนักเตน (บทบาทผูหญิง) ซ่ึงนอกจากเปนการสรางความหมายใหเปนหญิงแลวยังเปนการช้ีกําหนด คัดแยกประเภทคนแทนที่จะทําใหคนสามารถอยูรวมกันทามกลางความแตกตา งกลบั แปรเปลย่ี นเปนการจัดประเภท คัดแยกความแตกตางใหโดดเดนออกมาโดยไมตระหนักวาการกระทําเชนน้ันยิ่งทําใหคนท่ีถูกเรียกตกอยูภายใตการจองมองของคนรอบขางอยางหลีกเล่ียงไมไดและสรางการเห็นพองความหมายในวาทกรรมของท้ังผูช้ี ผูดู และผูแสดงและคนท่ีถูกชี้ตัวตองยอมรับความเปนหญิง และแสดงบทบาทตามที่สงั คมสวนนั้นกําหนดใหตามที่หลินอุทานวา “กูโดนอีกแลวหรือ” ที่กลาวมาทั้งหมดน้ีไมไดเปนการตัดสินวาใครถูกหรือผิดแตตองการช้ีใหเห็นวาระบบวิธีคิดของสังคมไดสรางและหลอหลอมการปฏิบัติของคนในสังคมสวนนั้น ท้ังกะเทย ผูดูแล ตางก็ถูกสรางภายใตกรอบวัฒนธรรมท่ีสรางตัวตนทางสังคมของเขา/เธอ แตดวยพ้ืนที่ของวาทกรรมน้ันเปนพื้นท่ีที่กํากับโดยเพศสรีระอยางตายตัว ดังนั้นการมองไมเห็นวามีหลากหลายที่ถูกกลบทับภายใตพ้ืนที่น้ัน จึงมิไดมีจัดกรอบกติกาแนวทางการปฏบิ ัตทิ ี่ตอบสนองตอความหลากหลายอยางเหมาะสมเพยี งพอ 5.1.3 การบังคบั ขม ขืน: ปากคาํ ของดวงฤดี อญั ชลี และกรกนก เมือ่ เปนกะเทยคนมกั จะมองไมเห็นวาการถูกทํารายทางเพศจะเกิดขึ้นกับเธอ/เขาได ดวยภาพตัวแทนทางสังคมและอัตลักษณทางเพศที่คนเชื่อวากะเทยเปนเชนน้ันเชนนี้จึงทําใหแทนที่จะมองวากะเทยน้ันตกเปนผูถูกกระทําได แตมักกลับกลายเปนวาคนเปนกะเทยกระทําการเชนนั้นเสยี เอง เรอื่ งราวจากปากคําตอ ไปน้จี ะใหภ าพความจรงิ ท่คี นท่วั ไปมักไมคิดถึงวา กลมุ คนตา งๆ ไดก ระทําตอ กะเทยเชน ไรบาง ก. การบงั คบั ชาํ เราโดยรนุ พี่ การเรียนรูเร่ืองเพศสําหรับเด็กวัยรุนหากไมมีขอบเขตและเกินเลยไปสูความหมายของการทําราย หรือเปนการบังคับใหทําในส่ิงท่ีไมถูกไมควร เร่ืองราวท่ีดวงฤดีประสบน้ันเกินเลยขีดขั้นของความสมควรในบทบาทของผูพูดและความสัมพันธระหวางเพศในแตละบริบทซ่ึงเปนการกระทําความรุนแรงตอคนดวยกัน และท่ีสําคัญการเรียกรองสิทธิหรือความยตุ ิธรรมสาํ หรับสิง่ ทเี่ กดิ ขึ้นเหลาน้ีไมไดรับการดูแลอยางจริงจัง ดังปากคําของดวงฤดีท่ีถูกบงั คับขม ขืนโดยรนุ พี่ ดวงฤดีเมือ่ อายุ 12 ปเ ลาวาชีวิตของตนเมื่ออยูในโรงเรียนชายลวนไมมีเร่ืองเพศที่เกินเลย จะมีแต “ปารตี้สาว” เฮฮา หรือการหนีเที่ยวบานเพื่อน เท่ียวเทค โดยดวงฤดีมักจะอยูกับเพ่ือนท่ีดู ”แตวๆ” เหมือนกันท่ีรวมกลุมกันไดเพราะรูวาเปนพวกเดียวกันโดยบอกวา “เหมือนผีเห็นผี” สวนผูชายก็อยูสวนผูชาย ดวงฤดีเลาถึงประสบการณท่ีผานมาในชีวิตกับ “เสียตัวครั้ง

113แรก” ของตนกับวยั รนุ ชาย (กลุมวัยรุนผูชาย!) วาในครั้งนั้นตนรูจักมักคุนกับเพื่อนๆ รุนพ่ีผูชายแถวบานอายุประมาณ 17 – 18 ป โดยดวงฤดีบอกวาตนชอบไปเลนกับพวกรุนพ่ีๆ เหลาน้ีซึ่งตามประสาเด็กวัยรุนก็มีจะแอบมีหนังสือโปมาดูกัน ดวงฤดีซึ่งในตอนนั้นยังแตงเปนชายก็ตามไปกับเขาดวยโดยไมคิดวาจะมีอะไรเกิดขึ้น แตในท่ีสุดก็มีเรื่องเกิดขึ้นจนได “ก็เราชอบไปเลนกับพวกเคาแหละ ชอบแหยพวกพ่ีๆ ผูชายหย่ังงี้ใชมั๊ยเคาเห็นเราตุงติ้ง เห็นอะไรมันหนงั สอื โปๆ ชวนเราไปดู เรากไ็ ปดูใชม ๊ัยตามเคาไปดู ไมค ิดวา เขาจะ...ขังเราไวในบา นอยางง้ี” ขอหาเพียงพรากผูเยาว ดวงฤดีถูกกลุมเด็กชายเพ่ือนๆ รุนพี่เหลานั้นจับขังไวในบานตั้งแต หกโมงเย็นถึงเจ็ดโมงเชา ที่บานตามหาดวงฤดีท้ังคืน ดวงฤดีถูก “รุมโทรม” โดยเด็กวัยรุน 3-4 คน ซ่ึง ดวงฤดีเองตอนแรกไมคิดวาการคลุกคลีนั้นจะเลยเถิด ถึงแมแรกๆดูเหมอื นจะชน่ื ชอบอยูบาง “สวนหน่ึงก็ช่ืนชอบ แตสวนหน่ึงก็ไมคิดวาเคาจะทํารุนแรงขนาดน้ีไงชอบเลนแบบเผลอๆ จับๆ คลําๆ แตไมนึกวาจะมีถึงเพศสัมพันธไง เราแคอยากเลนจับ อยากดูอะไรทํานอง...ไมคิดวาจะเกิน... ไมคิดวาจะเลยเถิด” เมื่อเปนเชนนั้นดวงฤดีก็ไมชอบใจแลว แตไมส ามารถขดั ขืนเพราะสไู มไ ด “มันขัดขืนไมไดเ นอะมนั หลายคน มันรุมเราน่ีสูอะไรไมไดอยูแลวเพราะเราตวั เล็กดวย” รุง เชามากลมุ ผชู ายกป็ ลอยดวงฤดีกลับบาน ดวงฤดีกลับบานมาก็สลบไสลโดยบอกวาตนเองไมมีสิทธิจะรองไห และจะเอาเวลาท่ีไหนมารองเพราะตัวเองเพลียจนหลับไป ดวงฤดีบอกวารูสึกอับอายและเสียใจมากแตก็ทําอะไรไมได และไมกลาบอกที่บานแตสุดทายท่ีบานก็รูเรื่องและไปแจงความ “…เราไมกลาปริปากบอกพูดหยั่งง้ี แตวาไอกลุมวัยรุน ...น่ัน มันก็เมาทแตกไปเมาท...ไดฟนฉันเจง อะไรทํานองน้ีแหละ...เร่ืองเขาหูนาสาวเขา นาสาวไมยอมไปแจงความเอาตํารวจจับเรยี งควิ เอา 4 – 5 คนข้นึ โรงพักเสียคาปงคาปรับอะไรกัน ...ก็ตองรักษาตัวอยูประมาณ 2 วันเพราะตัวเองโทรมและก็อักเสบ ครั้งแรกในชีวิตนี่” ญาติพี่นองของดวงฤดีเจ็บแคนแทนในเร่ืองน้ี แตขอหาท่ีแจงตามที่ดวงฤดีจําไดคือพรากผูเยาว กักขังหนวงเหน่ียวดวงฤดีมองวาเร่ืองที่เกิดข้ึนมันนานมาแลวและเม่ือเร่ืองถึงโรงพัก เรื่องถึงศาลเพียงเทานี้ก็โอเคเพราะญาติพ่ีนองของกลุมเด็กผูชายท่ีมา “รุมทําราย” ก็ตองชวยลูกหลานตัวเอง วัยรุนกลุมน้ันเสียคาปรับคนละ 5 พันบาท นอกจากนี้ยังมีการถือดอกไมธูปเทียนมาขอขมา หลังจากนั้นดวงฤดีก็ไมคุยกับกลุมวัยรุนชายเหลานั้นอีกเลย ดวงฤดีเห็นวาการที่วัยรุนเหลานั้นกระทํากับตนเพราะดวยความ คึกคะนอง และดูเหมือนจะเปนความผิดของดวงฤดีดวยขอหาที่วาไมเหมือนผชู าย “เคาหาวา เราตุงต้งิ ยงั เงยี้ ” การคลกุ คลกี ับเด็กชาย (เชิงสรรี ะ) ดวยกันดจู ะเปน เรื่องธรรมดาไมมีปญหา ไมเหมือนที่คนมักมองวาถาเปนผูหญิงกับผูชายมักมีปญหาทุกคร้ังไป ในกลุมเด็กชายน้ันมีความหลากหลายทั้งเด็กชายที่มีลักษณะที่บึกบึน ออนแอ ตุงต้ิง และอ่ืนๆ อีกทั้งประสบการณในเรื่องเพศก็แตกตางกัน เด็กชายที่โตกวาในฐานะที่เปนพ่ีสามารถชักนําหรือแนะนํา เด็กชายเล็กกวา

114ในเรื่องตางๆ การดูหนังสือโปของกลุมเด็กชายเปนเร่ืองที่หามปรามไดยากเพราะมีอยูกลาดเกล่ือนและดวยวัยที่อยากรู เด็กและเยาวชนเมื่ออยูในวัยรุนหลีกเล่ียงไมไดท่ีจะอยากรูอยากเหน็ และทดลอง ดังจะเห็นไดจ ากประสบการณเ รื่องเพศของเดก็ ในคา ยลูกเสือ หรือเวลาไปคลุกคลีท่ีบานเพ่ือนดวยกัน คําวา “รุนพ่ี” แฝงความไววางใจดวยสวนหนึ่ง ในขณะที่ผูพูดไปคลุกคลีกับเพ่ือนรุนพี่ผูชายจึงไมคิดวาจะมีการกระทําชําเราเกิดขึ้นกับตน เด็กท่ีดูออนแอกวาหรือดูตุงต้ิง ถูกหยอกลอในเร่ืองเพศและเพลิดเพลินไปดวย แตความเพลิดเพลินและความพึงพอใจมีขีดข้ันที่ไมตองการใหเลยเถิดโดยเฉพาะการใชกําลังบังคับ รุมโทรม รุมทําราย ในเหตุการณถูกจัดใหเปนผูที่ดอยกวาและมีเพศภาวะที่แตกตาง ผูพูดจึงกลายเปนผูผิด ผิดเพราะตุงต้ิง ประกอบกับภาพความสัมพันธเชิงอํานาจที่ไมเทาเทียมเปนรุนพ่ี/รุนนอง และตุงต้ิงแทนที่จะบึกบึนจึงกลายเปนผูถูกกระทําในพื้นท่ีของความสัมพันธ คําถามคือเหตุใดกลุมเยาวชนชายถึงกระทําการเชนนั้นโดยไมรูจักยับย้ังชั่งใจ คิดอยางน้ันไดอยางไร และอะไรทําใหรุนพี่ชายเหลา นั้นกระทําเชนนั้น เนื่องจากในระบบความคิดของสังคมไมมีความชัดเจนวาการชําเรากะเทยเปนความผิดเพราะกะเทยไมมีตัวตนพ้ืนท่ีทางความคิด และในนิยามความหมายของการขมขืนเพราะความคิดทั่วไปของการขมขืนเปนเรื่องที่ผูชายกระทําตอผูหญิง ซ่ึงถาเปนเด็กผูหญิงถูกกระทําจะเปนความผิดท่ีชัดเจนที่กฏหมายเอาผิดได ทั้งนี้หากเชื่อมโยงกับปากคําของอัญชลีที่กลาวในตอนตอไป ถึงการไมตระหนักรูวามีเหตุการณเหลานี้เกิดขึ้นในสังคมเพราะความรูของเรามีไมพอและไมครอบคลุมความหลากหลาย ท่ีจะใหแนวทางแกเด็ก อีกท้ังความไรอํานาจในฐานะท่ีเปนเด็ก ผูพูดจึงไมกลาเลาเรื่องใหที่บานฟง นอกจากเปนการละเมิดสิทธิทางเพศอยางเหน็ ไดช ัดแลว ขณะเดียวกันสังคมในขณะนั้นก็ยังมองไมเ ห็นความสําคัญและมองเร่ืองเชนนี้เปนประเด็นทางสังคม เห็นไดจากการตีความเปนบทลงโทษซ่ึงยังไมครอบคลุมหรือไมมีภาษาเรียกท่ีสะทอนการถูกกระทําน้ี เพราะระเบียบสังคมวัฒนธรรมไมมีความหมายรองรับการขมขืนเด็กกะเทย การเคารพสิทธิจึงเปนคําถามใหญที่เช่ือมโยงกับการปฏิบัติและอุดมการณชายเปนใหญท่ีทําใหผูชายสามารถละเมิดสิทธิในรางกายของผูอื่น โดยไมรูสึกผิด หรือรูสึกสํานึกไดตอเม่ือกลัวผลของความผิด บอยครั้งท่ีพิธีกรรมการขอขมาและจายคาเสียหายถูกเช่ือวาจะทําใหความทรงจําเร่ืองความทุกขของคนสามารถปดเปาและยกโทษใหไดผานการทําพิธีกรรมและแลกไดดว ยเงนิ และทกุ อยางก็จบลง ซึ่งในความจริงแลว ส่ิงเหลาน้ีแลกกันไดจริง ๆ หรือ การยังย้ังชั่งใจ การกําหนดตนเองมิใหละเมิดสิทธิของมนุษยคนอื่นในสังคมเพียงเพราะประโยชนของความสนุกสนานทางเพศของตนท่ีไมสนุกสนานสําหรับผูอื่นนั้นเปนส่ิงสําคัญ การจะใหผูกระทําเขาใจหรอื ตระหนักวาสิ่งทกี่ ระทาํ น้นั ไมถกู ตองหรือไมนั้นเปนส่ิงท่ีตองเปลี่ยนแปลงต้ังแตโครงสรางวิธีคดิ และการสรางตวั ตนของมนษุ ย และปฏบิ ัติการของวาทกรรมผา นสถาบนั ทางสังคม

115 ข. การบังคับขมขืนโดยแฟนและเพ่อื นแฟน: ปากคาํ ของอัญชลี กะเทยเด็กท่ีถูกจัดตําแหนงทางวาทกรรมฐานะ “แฟน” เปนประสบการณตอ ไปท่จี ะช้ใี หเหน็ ถงึ ความแตกตา งของถอ ยแถลงสารหลกั ทส่ี รา งความคิดใหกบั เขา/เธอ นาํ ไปสูการไดโ อกาสในการขม ขนื ชาํ เรากะเทยเดก็ วัยรุนทีย่ ังมรี ปู ลกั ษณเปน เดก็ ชาย เพอ่ื นในความหมายทว่ั ไปคือคนท่สี นิทสนมคนุ เคย ชอบพอรกั ใครกัน ซึ่งนัยของความเปนเพ่ือนจะครอบคลุมถึงความไววางใจ การพ่ึงพาอาศัย การชวยเหลือซ่ึงกันและกัน และท่ีสําคัญการไมทํารายกัน การที่เด็กกะเทยคลุกคลีกับเพ่ือนผูชายไมใชเร่ืองแปลก บางครั้งความสัมพันธระหวางเพ่ือนก็พัฒนาข้ึนมาเปนความชอบพอหรืออาจเปนส่ิงที่ดูเหมือนวาเปนความรัก บนฐานของความไววางใจของความเปนเพื่อนความสัมพันธในเร่ืองความรับผิดชอบก็ย่ิงนาจะมีตามมาดวย ดังน้นั ดว ยความคดิ เชนนี้จงึ เปน ความเชอ่ื ของอัญชลีท่ีมตี อ เพ่ือน จนไมค ดิวาคนเปนเพื่อนจะไมมีความรับผิดชอบและทํารายกันไดโดยไมรูสึกวาส่ิงท่ีกระทําลงไปเปนการทาํ รายจิตใจและรางกายของคนคนหนง่ึ ซึง่ เปน เพอ่ื นมนษุ ยกบั ตนเพียงเพราะเธอ/เขาเปนกะเทยใหคนท่ีเคยเปนเพ่ือนเปนท่ีซักซอมความโสมมในจิตใจของตนและพวกพอง เร่ืองตอไปน้ีจะช้ีใหเห็นความผิดพลาดในการคาดเดาและตีความคําวาเพ่ือน ซึ่งทําใหอัญชลีไมสามารถยินยอมรับความเปน เพอื่ นไดอกี ตอ ไป ความสนิทสนมแบบเพ่ือนของเด็กวัยรุนท่ีเปนกะเทยและคลุกคลีตีโมงอยูกับเพื่อนผูชาย บอยคร้ังที่ความสัมพันธดูเสมือนวาจะนําไปสูสถานะของการเปน “แฟน”? กับเด็กผูชายแตส ัมพันธเหลา นน้ั มกั ไมย ั่งยืนและหลายคร้ังแอบแฝงไปดวยเลหกลท่ีมากับความไมยับยั้งช่ังใจในการกระทํา และความคิดเบ้ืองลึกของผูกระทําและความคิดตอตนเองของผูถูกกระทํา อัญชลีเลาถึงประสบการณช ีวติ สวนหน่ึงท่ีตนในฐานะเด็กกะเทยท่เี ร่มิ เขาสูวยั รุน เคยประสบมา อัญชลีอยูกับปู ยา ในชวงวัยเด็ก ปูของอัญชลีเคยเปนทหารและเจาระเบียบ อัญชลีรูสึกวาปูไมคอยรักเธอ และชอบตีเธอโดยไมมีเหตุผล ในขณะท่ีคุณยาก็จะเงียบๆ ไมคอยมีบทบาทอะไรนัก ปูไมชอบกะเทยและพยายามฝกหัดใหอัญชลีเปนผูชายเต็มตัว ที่บานรับรูวาอัญชลีเปนเด็กผูชาย อัญชลีเปนคนไมคอยพูด น่ิงๆ เงียบๆ ไมคอยสุงสิงกับใคร ชอบอยูคนเดียว ชอบอานหนังสือ มีลักษณะเปน “เด็กเรียน” “หนูเปนเด็กเรียนมากกวาดวยซ้ําไปนะคะ”อัญชลชี อบคลุกคลีกบั ผหู ญิงมากและชอบมขี องกระจุกกระจกิ ใชเ ปนประจํา และชอบใสแวนตามีสสี ัน เชน สีแดง สีชมพู คนรูจักท่ัวโรงเรียน แตขณะเดียวกันหากมีโอกาสเปนตัวของตัวเองก็จะทาํ เชน การสมคั รเปน เชียรลีดเดอร ท่ีไดแตงตัวและแสดงความเปน ตวั ตนเต็มท่ี แตที่บา นก็ไมมีใครลวงรู อัญชลีเคยถูกลอเลียนวาเปน “ตุด” ตอนเรียน มัธยมตน ซึ่งอัญชลีโกรธมากและปฎิเสธ อัญชลีมี ”แฟน” ครั้งแรกตอน มัธยม 3 ซึ่งแรก ๆ ก็คบกันเปนเพื่อน ตอมาก็รับรูกันในบรรดาเพื่อน ๆ วาเปนแฟนเพราะถูกลอและผูชายก็มิไดปฏิเสธ อัญชลีรูสึกดีที่มีคนมาคอยดูแลความชอบพอในวัยเด็กน้ีอัญชลีบอกวา “อยางมากแคกินขาวดวย ไปสงอยางน้ีนะคะ” การคบกัน

116เปนเพียงชวงที่อัญชลีอยูมัธยมศึกษาปที่ 4 และเลิกกันไปเพราะมี “เหตุการณ” ท่ีเกิดขึ้นกับอัญชลีซ่ึงเปน เหตุการณที่อยางไรเสยี อญั ชลี “ไมม ีวันลมื ” และทาํ ใหอญั ชลเี กลียด “เขา” ไปเลย อัญชลีเลาวาชวงนั้นเปนชวงที่สอบเขามัธยมศึกษาปที่ 4 แลว ความสนิทสนมของเขากับอัญชลีมีมากขึ้นจนถึงข้ันขอมีเพศสัมพันธ โดยเร่ิมจากการเขามากอดมาหอม อัญชลีรูสึกกลัว“กลัวนะ ก็วาหนนู ะ อะไร อยูด ีๆ มาอยางนี้ และหนมู คี วามคดิ วา หนจู ะตดิ ไววา ผชู ายนะ อะไรอยา งน้ี .....คือแบบหนูอยางไรนะคะหนูพูดไมออก ตัวหนูแข็งไปหมดนะ แตวาหนูทําอะไรไมไดจะหนีออกไปก็ไมไ ด จะพูดอะไรกไ็ มไดนะคะ” ซง่ึ ผชู ายก็ “ขอมอี ะไรขา งหลัง” อญั ชลบี อกถงึ ความรสู กึ วาไมช อบ แตเ มอ่ื มอี ะไรกนั แลวเขากไ็ มไ ดทําใหรูสึกดเี ลย “เขาเหรอคะ เขาก็อยางไรละ เหมอื นกบั วาเขาเหมอื นเขาไดแลวนะ เขากไ็ มสนใจอยางนี้นะ” ในใจของอัญชลคี ิดวาการท่เี ขามาสนิทกับอัญชลีก็ดวยเพียงตองการมีความสัมพันธทางเพศแคน้ันหรือ จบเพียงแคนี้หรือ หลังจากเหตุการณแรกๆ อัญชลีก็จะอยูหางๆ ไป แตเรื่องไมจบเพียงเทาน้ันเพราะเขาไปเลาใหเพื่อนๆ ฟง ท่ีรูก็เพราะเพื่อนเขามาพูดกับอัญชลีวา “…นี่ เจ็บไหมละไอ(ช่ือ)นะ” ซ่ึงอัญชลีก็ไมเขาใจวาเพื่อนของเขามาพูดอยางนี้ทําไม ไมเขาใจวาเขานําเรื่องเชนนี้ไปพูดตอทําไมและรูสึกไมดีกับเร่ืองน้ี อัญชลีรูสึกอายและเสียใจมาก รองไห “เปนวรรคเปนเวร” และไมกลาบอกใคร แตก็ตองกล้ํากลืนเอาไวและเสแสรงตอหนาคนอ่ืนๆ ทําเปนไมสนใจ ปฏิกริยาตอบโตของอัญชลีคือไมพูดกับเขาแตท อ่ี ัญชลบี อกวา แยไ ปกวา นั้นคือ หลังจากเหตกุ ารณท ่ีเกิดขึ้นในทส่ี ดุ เขากม็ าขอโทษ และชวนไปบานซ่ึงอยูในที่พักของทางราชการ (ครอบครัวผูชายเปนคนในคร่ืองแบบ) อัญชลีคิดเพียงวาเปนการมาติวหนงั สอื ทบ่ี า นตามปกติ แตอ ยา งไรเสียอญั ชลกี ร็ ะวังตวั มากขึ้น “.. หนูก็โงไปอีก และหนูก็วาทีน้ีข้ึนหองจะไมข้ึนไปแลวนะจะอยูขางลางอยางนี้นะ พอแมเขาไมอยูใชไหมคะ หนูก็พอรูจักกับพอแมเขาบางนะ พอแมเขาไมอยูพาเพ่ือนมา พวกกลุมท่ีเขาพูดกันนะคะ ......ก็เขาไมบอกนะคะ หนูก็คิดวาก็แคมาติวหนังสือ เขาชวนเพ่ือนมาปกติอะไรอยางน้ีไมคิดวามันจะเกิดเร่ืองอีก”ที่อัญชลีไปกับเขาตามคําชวนเพราะคิดวาเขาเปนคนรับผิดชอบหากมีอะไรเกิดขึ้นโดยไมไดคิดวาจะมีคนอ่ืนๆ รออยูอีก “หนูมองวาเขาหนูคิดวาเขาเปนคนทําแลวรับผิดชอบคิดวาคงไมมีถามันเกดิ ก็เกดิ แคน ไ้ี มใ ชเ ขาพาเพอ่ื นมานะ” “อยา เรียกวาเพ่ือน” นาํ้ เสียงเขมหลุดออกจากปากอัญชลีเมื่อเลาวา “ถูกรุมโทรม” โดยกลุมเดก็ นักเรยี นชายทม่ี ีสถานะเปนเพอ่ื นรว มชั้นเรยี นสะทอนความคับแคนใจที่ถูกกระทํา แทนท่ีจะเปนการติวหนังสือเรียนแตกลับกลายเปน “คือคราวนี้หนูไมใชหนูกลัวจนเกรงอะไรนะคะท้ังตัวอยางน้ี หนูก็ตะโกนขืนหมดแหละ แลวทีน้ีเขาตุยทองนะคะ” อัญชลีด้ินรนตอสูแตเมื่อโดนตอยท่ีทองทําใหอัญชลีหมดแรงท่ีจะตอสูอีกตอไป… อัญชลีไมเขาใจสาเหตุที่เขาทําเพ่ืออะไร พอจบจากตรงนน้ั เขาก็สง อญั ชลีกลบั บา น “แคน้นั ”

117 หลังจากน้ันเพ่ือนในหองก็รูวาเปน “แฟน” กันโดยฝายชายไดแสดงทาทีใหเห็นชัดแตอัญชลีรับไมไดกับสิ่งที่เกิดขึ้น “เขาก็มาแบบวา กระหนุงกระหนิงมากขึ้น หนูรับไมไดนะ หนูไมพดู กับเขา หนกู ห็ นีนะ หนอี ยางเดียว หนไู มเ ลาใหใครฟง เขาก็รูแคแบบวาจากคนหนึ่งปากตอปากมาแตเขาไมรูเขารูวาหนูกับเขามีอะไรกันแลวแตเขาไมรูวาหนูโดนอยางนี้” เด็กผูชายไมเคยถามแตอัญชลีเช่ือวาเขาคงรูวาไมชอบ อัญชลีไมกลาบอกที่บานเพราะคิดวาคงรับไมไดและคิดวาที่บานคงคิดไมถ ึงดวยซํา้ วาตนเองเปน กะเทย อัญชลเี ดินตาลอยๆ และไมพูดกับใคร ครูในโรงเรียนก็ไมไดสนใจหรือสังเกตเห็นความผิดปกติอะไรโดยอัญชลีบอกวา “เขาใหงานเด็กและเขาทํางานของตัวเองไปนะ” เหตุการณน ี้ทําใหอัญชลรี ูสกึ ”เกลียดผชู าย” ไปเลย และตั้งคําถามวา “ทําไมผูชายทําไมตองทํานสิ ยั อะไรอยา ง....” ซง่ึ ทบั ถมตอยอดจากท่ีประสบมาจากการเล้ียงดูของปูที่เขมงวดแบบชายดวยในที่สุดอัญชลีทนเก็บความทุกขเอาไวคนเดียวไมไดแลว จึงตัดสินใจเลาใหแมซ่ึงไมคอยไดอยูดว ยกันฟง ตอนแรกแมก็ตกใจ “มีเร่ืองแบบน้ีเกิดข้ึนดวยเหรอ?” “ตอนน้ันก็เลาใหแมฟงแมเขาก็อึ้งนะคะ จริงเหรอ ใครเหรอ มิใชวาโกหกอยางน้ีหรือเปลา เขาก็จะ ...คือเขาถามไปถามมา เขาคงเขาใจนะ...หนูคงจะไมมาพูดลอเลนอยางน้ีแนนะ เขาเลยยายโรงเรียนใหนะคะ” หลังจากรับฟงเร่อื งราวที่เกิดขึ้นแลวแมก ็สอนอญั ชลีวา อะไรทมี่ ันผา นไปแลว อยาไปคดิ คิดพรุงนดี้ ีกวา แมยายโรงเรียนใหอัญชลีกลางคันไปอยูโรงเรียนใหม เม่ือยายโรงเรียนแลวอัญชลีก็วางตัวใหมเ พราะคดิ วาทีโ่ รงเรียนเกา ตนเองทําตัวเดนเกินไปจึงเกิดเร่ืองเชนนั้น “….ท่ีน้ันหนูก็ทําตัวไมใหเดน มากตอ งบอกวา ไมคอ ยมใี ครรจู ักหนูใชชีวิตธรรมดา” คําวาเดนของอัญชลีก็คือ การท่ีตนชอบของอะไรที่ไมเหมือนคนอื่น ถึงแมจะแตงเครื่องแบบนักเรียนและใชกระเปา ตามระเบียบ แตก็จะเพ่ิมกระจุกกระจิกของฝากที่แมซ้ือมาใหจากการเดินทางไปที่ตางๆ ซ่ึงทําใหคนถามไถวาเอามาจากไหนอัญชลีโทษตัวเองกับเร่ืองท่ีเกิดขึ้น “ชวงนั้นนะ โทษตัวเองไวกอนไมโทษคนอื่น ทั้งๆ ที่แบบวาผิดอะไรอยางนี้......” และมองวาเปนกรรมของตนที่เกิดมาเปนเชนนี้ “กรรมที่เปนแบบนี้นะ” อัญชลีไมอยากใหเรื่องเชนน้ีเกิดขึ้น แตอัญชลีบอกวาถามองอีกมุมหน่ึงมันเกิดขึ้นแลวไดสรางแงคิดใหกับตนวามันเปนเรื่องของกรรมมากกวา อัญชลีเลาวาไดความรูมาจากการอานชาดก “..หนูจะขลุกอยูกับหนังสือแลวหนูจะชอบอานพวกอยางไรนะคะ พวกนิทาน แลววันหน่ึงหนูไปเจอพวกชาดกหนูอานพวกน้ัน ...หนูเกิดมาหนูใชกรรมใชไหมคะ หนูมองวาตรงน้ันเปนจุดหนึ่ง มันอาจจะเปนวาถาเล็กๆแคน้ัน ตอไปเราอาจจะตองเจออะไรท่ีแยยิ่งกวาน้ันอีก” ในขณะเดียวกันอัญชลีก็ไมกลาพูด กลาเลาเร่ือง เพราะไมมีความรูเกี่ยวกับเร่ืองเหลานี้ในสังคม “…คืออยางไรละ คือในชวงน้ันหนูไมแนใจวาเรอ่ื งแบบนีม้ ันเคยมีจากคนอืน่ หรอื เปลา หนกู ไ็ มก ลาพูด….” ณ วันนี้อัญชลีกลับมายอนคิดแลวมองวาเร่ืองที่เกิดข้ึนเปนการสนองความตองการของผูชายเหลานั้นไมใชความรักอะไร “หนูคิดวามันเปน ไปๆ มาๆ หนูคิดวาไมใชแลว หนูรูสึก

118วาเขามาสนองตัวเองแลว เขาสนองเพ่ือนดวยอยางนี้นะคะ” ท่ีสุดแลวหากถามอัญชลีวาทุกวันนี้ลืมไดไ หมเรอ่ื งน้ี คําตอบทช่ี ดั เจนคือ “ลืมไมไ ดน ะคะ” ทาํ อยา งไรก็ “ไมลืมคะ” ถึงแมอัญชลีจะตองการเปนผูหญิงและมีเพศสภาวะเปนผูหญิง แตก็ถูกสอนใหเปนลูกผูชาย และมีเพศสภาวะแบบผูชาย คลุกคลีอยูกับเด็กผูชาย การท่ีเพื่อนมาจีบผูพูดเปนแฟนแบบเด็กๆ แตแสดงออกใหรับรูดวยทาทางและการปฏิบัติทําใหผูพูดรูสึกดีเชน การกินขาวดวยกันสองคน หรอื การคอยดแู ลเอาใจใส ซึ่งในกรณีนี้ทําใหผูพูดสามารถเชื่อมโยงการปฏิบัติน้ีกับอัตลักษณอางอิงซ่ึงเพศวิถีถูกดึงใหโดดเดนกวาเพศสรีระทําใหคิดวาตนเปนผูหญิงและคลอยตาม ถึงแมผูพูดจะกลัวและไมชอบการมีเพศสัมพันธตามคําขอของฝายชาย แตในฐานะตําแหนงในพ้ืนท่ีทางวาทกรรม อัตลักษณของเธอคือเปนแฟน (นัยของความเปนแฟนคือเปนผูหญิง) ดังนั้นคนที่เปนแฟนกันจึงสามารถมีเพศสัมพันธกันได เห็นไดจากคําพูดที่ผูพูดกลา วถึงการทีไ่ ปกบั แฟนคร้งั ทสี่ องซ่ึงบอกวา “ถามันเกิดก็เกิด” สะทอนใหเห็นวาผูพูดคิดวาการมีเพศสัมพันธกันของคนเปนแฟนเปนเร่ืองธรรมดายอมรับได ดังน้ันการมีเพศสัมพันธกับแฟนในคร้ังแรก จึงไมถูกตีความวาเปนการฝนใจ แตตะขิดตะขวงใจกับลักษณะของการมีเพศสัมพันธท ่ไี มเ ปนไปตามแบบแผนของการมีเพศสัมพันธแ บบรกั ตา งเพศ แตก็มีความแคลงใจตอพฤติกรรมของแฟน และเพ่ือนของแฟนที่นําเรื่องราวการมีเพศสัมพันธไปโพนทะนา ในฐานะแฟนการงอนงอขอโทษของผูชาย ทําใหผูพูดยังคงใหความไวใจกับผูชายตอไปอีกและการใหความไววางใจอีกประการหน่ึงก็เกิดจากการท่ีผูพูดพอจะรูจักกับครอบครัวผูชายจึงวางใจและคดิ วา ปลอดภัย อยางไรก็ดีการกระทําในหนที่สองของแฟน และเพื่อนของแฟนตอผูพูดนั้น ถูกตีความไดทันทีวาเปนการลอลวงไปรุมกระทําชําเราซึ่งทําใหผูพูดเขาใจไดวาความสัมพันธและสถานะทางวาทกรรมที่ถูกหลอหลอมมาดวยคําพูด การกระทํา ทาทีตางๆ รวมทั้งใชความรุนแรงทางรางกายโดยตรงตอผูพูดนั้นไมใชความจริง ในที่สุดภายหลังผูพูดถึงตระหนักไดวาการกระทําเยี่ยงน้ันเปนเพียงการสนองความตองการของผูชาย และเพ่ือน ๆ ของผูชายเทาน้ันเม่ือยอนคิดคาํ นึงถงึ เหตุการณเ มอื่ เลา เร่อื งราว ประเด็นสืบเน่ืองสองเร่ืองคือ หนึ่งการตั้งคําถามของแมวามีเร่ืองเชนนี้เกิดข้ึนจริงหรือและการไมกลาพูด กับการโทษตนเองของผูพูด สะทอนความเช่ือเร่ืองความสัมพันธทางเพศแบบตายตัวท่ีฝงอยูในระบบสังคมท่ีเปนบรรทัดฐานทั่วไปในเรื่องเพศวาการกระทําชําเราน้ันเกิดขนึ้ ไดแตเ ปน เรื่องระหวา งชายกับหญิงโดยผูชายเปนฝายกระทําในขณะท่ีเพศสรีระของผูพูดยังดเู ปนผชู ายจงึ เกดิ คาํ ถามขน้ึ โดยอัตโนมัติ อยางไรก็ดีเนื่องจากผูพูดมีสถานะเปนลูก ดังน้ันถึงจะตองซักไซไลเลียงใหไดความแตดวยความเปนแมและความสัมพันธของแมกับลูกยอมที่จะทําใหเชอ่ื ลูกไดและชว ยหาทางแกปญหา แตถ า หากผูพ ดู ไมมผี ปู กครองหรือพดู ใหบ คุ คลทีส่ ามที่ยังตกอยูในการครอบงําทางความคิดแบบรักตางเพศฟง การรับฟงผูพูดจะเกิดขึ้นหรือไม หรือถาฟงจะเขาใจหรือไม จะดําเนินการอยางไรหรือไม และการดําเนินการน้ันเหมาะสมหรือไม

119อยางไร และคําพูดของผูพูดจะถูกยอมรับเชื่อถือหรือไม นอกจากนี้การท่ีผูพูดลังเลและไมกลาเลาเร่ือง นอกจากจะเปนเร่ืองของความเช่ือถือทั้งของเร่ืองราวและตัวผูพูดแลว ยังเก่ียวของกับการรับรูประสบการณเชนน้ีของผูถูกกระทําโดยสังคม เพราะประสบการณเหลานี้อาจจะถูกเปล่ยี นหรอื เบีย่ งเบนประเดน็ เปน เร่ืองเลาตลกโปกฮาทําใหเห็นวาเร่ืองเหลานี้ไมเปนจริง หรือไมมีการแลกเปล่ียนประสบการณในฐานะเร่ืองจริงจัง ทําใหเด็กไมเคยรูเร่ืองเหลานี้และไมกลาเลาโดยไมมีที่ปรึกษาแนะนําประกอบกับความเปนเด็กกะเทย (ที่ปดบังตนกับที่บาน) และขาดประสบการณย่ิงทําใหมีความกลัวที่จะเลาเรื่องมากข้ึนเพราะเทากับตองเปดเผยความลับและคบั ขอ งใจ สองเรื่องในเวลาเดยี วกัน ประเดน็ ท่สี องการโทษตัวเองของเด็กโดยคดิ วา ตนเองทําตวั เดนเกินไป และเช่ือวาเปนเรื่องของกรรมที่เกิดมาเปนกะเทย ทําใหผูพูดคิดวาจะตองปดตนเองในโอกาสตอมาเมื่อยายโรงเรียน และตองมีความอดทนกับสังคม ช้ีใหเห็นการกดทับตนเองของผูพูดโดยผานความรูความเช่ือที่ถูกตีความจากคําสอนทางศาสนา ซึ่งสนับสนุนการจัดระเบียบความคิดของผูพูดใหอยูในกรอบของบรรทัดฐานรักตางเพศท่ีกดกะเทยใหเปนพลเมืองชั้นสองในระบบความสัมพันธระหวางเพศอยางไมร ตู ัว กรณีน้ีนอกจากจะทําใหเห็นวาดวยสถานะท่ีเปนเด็กกะเทย การจัดประเภทของสังคมไดกดกะเทยใหเปนชนชายขอบที่ไมมีเสียง ขณะเดียวกันหลืบมุมของพื้นที่ทางสังคมท่ีจัดใหกะเทยอยูไดมอบอํานาจใหวิธีคิดแบบชายเปนใหญไดปฏิบัติการทางอํานาจของมัน กะเทยกลายเปนหนูทดลองทางเพศ/ของเลนของบรรดาเด็กผูชาย ที่ไมไดมองเห็นวากะเทยเปนคนท่ีมีความรูสึกและเปนมนุษย กลบเกลื่อนหลอกลวงเพื่อใหไดตามท่ีตนเองตองการและก็ไมไดถูกลงโทษเอาผิดแตอยางไร แมกระท่ังการลงโทษทางสังคมไมมีคนรับรู ทําแลวก็ผานไป ซึ่งเม่ือเปนเชนนี้ผูกระทําก็ไมไดเรียนรูวาการกระทําเหลาน้ันไมถูกตอง และไมมีสิทธิที่จะกระทําไดอยางนั้น คาํ ถามคือเมอื่ ทําผิดแลว รอดไปไดจะมกี ารกระทําเชนน้ัน หรือไดใจ ทําอีกหรือ อาจจะทําเชน นก้ี ับกะเทย ผูห ญิง หรอื คนอนื่ ๆ ทีอ่ อ นแอกวา หรือถูกครอบงําใหหลงเช่ือ หากเด็กวัยรุนเหลานี้สํานึกไมไดซ่ึงก็ไมใชเร่ืองงาย ก็มีคําถามตอไปวาจะเปนอยางไร นอกจากกะเทยเด็กไมไดถูกคุมครอง การแกปญหาโดยการ หนี ยาย ไมไดเปนการแกปญหาท่ีแทจริงแตในการลุกข้ึนสูหากสังคมไมมีพื้นที่ใหสู ก็อาจจะเจ็บตัวพอๆ กันหรือมากกวาผูกระทําก็ได ดังน้ันการเปดพ้ืนท่ีความรูโดยตระหนักถึงส่ิงที่เกิดข้ึนเหลาน้ีมีความจําเปนแทนท่ีจะปลอยใหเกิดซ้ําแลวซ้ําเลาโดยไมการศึกษาทั้งผูกระทําและผูถูกกระทํา วาสิ่งเหลานี้ไมใชความถูกตองที่มนุษยจะพึงกระทาํ ตอกัน ค. การบงั คับขมขืนโดยลูกคา : ปากคาํ ของดวงฤดี “โสเภณจี าํ เปน” หลังจากเรียนจบดวงฤดีก็ทํางาน แตชีวิตของดวงฤดีมีความผกผันเปลี่ยนแปลงจากที่ดีที่สุดถึงตกต่ําท่ีสุด เรียกไดวาเปนศูนยจนถึงข้ันตองขายตัวดวยที่ไมมีเงินเพราะตัดสินใจวางแผนอนาคตผิดพลาดไป และตองหาเงินใชหนี้ โชคไมเขาขางดวงฤดีทํางาน

120อะไรก็ไมประสบความสําเร็จอยูชวงหน่ึงหลังท่ีตัดสินใจลาออกจากงานประจําท่ีทําอยูเพ่ือจะไปทํางานตางประเทศแตก็ไมไดไป เมื่อมองไมมีเห็นหนทางอ่ืนใด ดวงฤดีจึงตัดสินใจหาเล้ียงปากเล้ียงทองดวยการเปนโสเภณีช่ัวคราว ในชวงนั้นดวงฤดีก็พบกับเหตุการณท่ีเลวรายอีกครั้งในชวี ติ ขณะทด่ี วงฤดไี ป ”หากิน” แถวสนามหลวง ดวงฤดีตอนนั้นมีรูปลักษณเหมือนผูหญิงเพราะกินยาคุมแตยังไมมีหนาอก ดวยความที่เปนคนรางเล็กและขาเรียวแบบผูหญิง แตงหนาแตงตาจึงดูสวย ตอนน้ันดวงฤดีไมมีบานอยูตองอาศัยคนอื่น ไมมีใครรูวาดวงฤดีหาลําไพดวยวิธีน้ี ท่ีสนามหลวงดวงฤดีไปยืนอยูใตตนมะขาม โดยสวมใสเสื้อผาสายเดี่ยว แบบผูหญิง นุงกระโปรงสั้นๆ ใสรองเทาสนสูง แตงหนาเปนผูหญิง พอไปยืนอยูก็จะถามคนที่ดูทาวาจะมีแนวโนมเปนลูกคาวาตองการไปเที่ยวม๊ัยดวงฤดีคิดราคาสามรอยกวาบาทซ่ึงบอกกับลูกคาวาตอรองกันได ท้ังน้ีที่ทําอยางนี้ไดก็อาศัยดูๆ จากคนอ่ืนๆ ท่ีมาทาํ แบบเดียวกนั “กเ็ หน็ เคา ก็เห็นๆ อยู ทง้ั รุน นอง รุนพ่กี ็เห็น” ในความรูสึกลึก ๆ ของดวงฤดีน้ันบอกวาตองฝนใจ “อือ.คือมันตองฝนนะ จะวาตัวเองตองฝนความรูสึกแบบวาตัวเองตองไปนอน..เรา..ไม..เราไมไดชื่นชอบ บางทีเจอคนท่ีมันดูสกปรกก็มี แตตอง..แตมันก็เพ่ือเงินก็ยอม...สมมุติวา...แกลง ๆ ทําไปนะ แตถาเจอคนหนาตาดีถูกใจอะไรเง้ียก็คือเราก็แฮปป..ก็เจอคนไมถูกใจ บางทีเจอประเภทแบบหลอก…พาไปฟนฟรี”ลูกคามีทั้งขับรถเกงมา เดินมา ขับมอเตอรไซดมา มีทุกรูปแบบ แมแตคนในเครื่องแบบซึ่งมีทั้งคนดีและไมด ี วันหนึ่งดวงฤดีเกิดเปนท่ีถูกใจของลูกคาในเครื่องแบบ จึงถูกลูกคาชักชวนใหไปดวยกัน ดวงฤดีโอเคแตตอรองราคา ในตอนตนดวงฤดีตองการไปโรงแรม ลูกคาไมยอมแตพาไปท่ีอ่ืนแทน ดวงฤดีนั่งรถสามลอไปกับลูกคา พอมาใกลสถานท่ีนั้นดวงฤดีก็ตกใจเพราะนั่งรถมาถึงท่ีแลวไมร จู ะทาํ อยางไร และลกู คาบอกวาตอ งไปเขา ไปในกรมฯ พอเขาไปปรากฏวาไปพบพวกอีก 3 - 4 คนคอยอยู “เจอ...เลวๆ ก็มีคิดจะรุมโทรมเลยหละ...เจอรุมโทรมไมวานะแถมเอาเงินเราอีก” พวกที่คอยอยูรอเรียงคิวดวงฤดี “…แตวามัน ก็ ก็ บอกวาทีละคนกอน แลวก็ทําใหคนแรกเสร็จ ชวงที่เรา...อีก 2 - 3 คนมาควากระเปาแตเคาไมเจอมือถือเรานะ ถาเจอเราเศรา”ดวงฤดบี อกวา พวกนน้ั ปลอ ยตวั ออกมาเม่ือเสร็จกิจแตท ําดวงฤดีโทรมซ่ึงดวงฤดีเลาถงึ ความรูสึกของตนเองวา “ทําไงได เราตกกะไดพลอยโจน เราขัดขืนเคาก็ไมไดมันอยูในถ้ําเสือน่ี ขัดขืนไปเราก็เจ็บตัว เปลาจริงมั๊ย เราคงตองหมดแตวาเราคงไมตองมีท่ีบริสุทธิ์ท่ีตองมาหวงเหิงตัวเองจริงม๊ัย เอาชีวิต ไวกอ น...แตวา แคนคือแคน...แตทําไงไดเราก็ตองยอมรับสภาพความเปนจริงวาเราตองยอมใหเคา ทุกอยางคืออยางนอยเคาก็ไมไดมาลอลวงเราไป เรามาหาเงินยังมาเอาเงินเราอีกนะมี 200 กวา บาท เอาหมดเหลอื 20 บาทติดตวั ...เลวมากๆ...ยงั ดีคน มือถอื ไมเจอ คงเอามือถอื ไปขายดว ย”

121 ชีวิตสะบักสะบอมของดวงฤดีก็ยังตองพบกับพวกเด็กวัยรุนน่ังมาในรถเกงมารับไปซ่ึงตอนแรกดวงฤดีคิดวามีคนเดียวแตท่ีไหนไดมีอยูขางหลังอีก 3 - 4 คน ยังดีที่มีอะไรกันไมก่ีคนแตที่รายคือวัยรุนพวกนี้พาดวงฤดีไปปลอยท้ิงท่ีนครปฐม ซึ่งดวงฤดีบอกวา “ก็ยังวาเจอคนไมดีไง” ดวงฤดีทบทวนความคิดตนเองวาขายตัวก็ตองระวังถาเจอตํารวจถูกจับปรับ 500 บาทขอหาคาประเวณี ยืนขาแข็งหาลูกคาต้ังแต 5 ทุมถึง 6 โมงเชา บางทีก็มี บางทีก็ไมได ตองมาวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน บางทีก็ตากฝนตากลม ฝนตกตองไปยืนตามแถวปายรถเมล ชีวิตลําบากในที่สุดก็คิดวาลองมองหางานดีกวาอยางนอยรายไดวันละ 200 บาท ดวงฤดีบอกกับตัวเองวาถามันไมไดจริงๆ จะกลับไปทํางานนี้ คงมีทางเดียว แตคิดวาไมอยากกลับไปถาไมมีทางเลือกจริงๆ เทาน้ัน และก็คิดวาตัวเองมีปริญญานาจะทําได..หางานดีๆ แตวาตกงานจะหางานใหมลําบาก สุดทายก็ไดงานถึงจะไดไมมากแตน่ีก็เปนการกลับมาลืมตาอาปากไดใหมอีกคร้ังของดวงฤดี ทุกวันน้ีดวงฤดีมีงานทําและยังหาโอกาสชวยเหลือคนอ่ืนและไมไดกลับไปเปนโสเภณีชัว่ คราวแลว ดวยอัตลักษณของโสเภณีของดวงฤดีเมื่อตกยากตองขายรางแลกเงินเล้ียงปากทองรายไดจึงสําคัญกับผูพูดมากผูพูดจึงอยูในฐานะท่ีจะตอรองไดนอยมากยกเวนถาเหลือทน ผูพูดตองหลับหูหลับตาทํางานท่ีตองฝนความรูสึกเกือบตลอดเวลา จริงๆ เหตุการณจากความทรงจํานี้ตางไปจากเหตุการณแรกเพราะผูพูดตระหนักถึงความไรอํานาจในพื้นท่ีปดท่ีถูกลอลวงเขาไปจากคําพูดท่ีวา “เราขัดขืนเคาก็ไมไดมันอยูในถ้ําเสือนี่ ถาขัดขืนไปเราก็เจ็บตัวเปลา” และดวยตําแหนงของวาทกรรมความเปนโสเภณี การมีเพศสัมพันธที่ตองจํายอมกับผูชายหลายคนจึงกลายเปนสิ่งที่โสเภณีตองทําได ดังท่ีผูพูดบอกวา “เราคงไมตองมีท่ีบริสุทธิ์ที่ตองมาหวงเหิงตัวเอง…” ท้ังน้ีผูพูดยังมองวาตนสมยอมไปเองในตอนแรกจึงตองรักษาชีวิตตัวเอาไวกอนดังน้ันการที่หลุดรอดพนออกมาจากถ้ําเสือในความคิดของผูพูดจึงเปนเปาหมายสําคัญ ถึงแมจะถูกปลนเงินจํานวนนอยนิดท่ีมีไปดวยก็ตาม ดังน้ันในตําแหนงวาทกรรมของผูพูดที่เปนโสเภณีคาประเวณีอยางผิดกฏหมาย เปนกะเทย และถูกพาไปรุมโทรม การสมยอมคงไมใชคําถามเพราะชัดเจนวาเปนการลอลวง คําถามคือถาไปแจงความจะเปนอยางไรเพราะในสถานะของผูพดู ไมม แี มก ระทงั่ อาํ นาจในการจะนําเสนอเรื่องราวสูส าธารณะเพ่ือขอความเปนธรรม ง. การบงั คบั ขมขนื โดยเพ่ือนของเพ่ือน: ปากคําของกรกนก ค ว า ม รุ น แ ร ง ท า ง เ พ ศ ท่ี เ กิ ด ข้ึ น กั บ ก ะ เ ท ย ไ ด ถู ก ต อ ก ย้ํ า ใ ห เ ห็ น ใ นประสบการณตอไปนี้ ที่เราเคยแตมองเห็นกันวาเกิดกับผูหญิง แตมิใชเปนเชนน้ัน ดังปากคําของกรกนก “เดี๋ยวนี้ไมใชผูหญิงจะโดนนะ อยางพวกหนูโดนก็มี” กรกนกบอกวาบางทีเวลาไปเทยี่ วเคยโดนจับกนก็หันไปดาลอยๆ ดากราดไปเร่ือยเพราะตัวเองเปนคนปากไวอยูแลวพอโดนจับก็หันไปทันที ทั้งๆ ท่ีเม่ือประสบเหตุการณเชนน้ียังไมได “ทํานม” ดวยซ้ําไปพอทํามาแลวก็โดน “จับนม...บีบนม” ก็อาศัยการดาเปนการตอสู พอตอนทําศัลยกรรมหนาอกมาแลวก็โดนอีกบางคนเวลาถูกดาก็ไมอายและยังมีหนามาพูดกับกรกนกวา “ของปลอม” “ไมเห็นอายเลย

122จับแคน้ีจะสึกเหรอของปลอมไมใชของจริง” ซึ่งกรกนกยอนกลับไปวา “…มึงวาของปลอมแลวมึงมาจับทําไมหละ” พอพูดเชนน้ันคําตอบท่ีไดคือความเงียบและการเลิกตอปากตอคํา กรกนกรูส ึกไมช อบแตก็คิดใหส บายใจวา “ทําบุญทําทาน” เพราะ “ไมรูจะทําอยางไรนะ” ซึ่งที่กรกนกพูดเชนนีเ้ พราะเม่ือเปรียบเทยี บกบั ส่ิงที่กรกนกพบเจอมากอ นและรับไมไดมนั ตา งกนั ลิบลบั กรกนกเลา เร่ืองราวที่ตนประสบในการ “ไปเปนเพื่อน” กับเพื่อนของตน ซึ่งนัยของการไปเปนเพือ่ นก็เปน ไปเพือ่ กิจการของเพอ่ื นเปนหลักเทานั้น แตตนเองไมไดมีเปาหมายอะไรและก็ไมไดสนใจรายละเอียดของธุระนั้น แตการไปเปนเพ่ือนของกรกนกกลับจะสรางปญหาใหกับตนจากคนทไี่ มรจู ักมักคนุ เลย และมองคนเปน กะเทยดว ยความคิดเหมารวมพรอมใหความหมายบางอยา งทลี่ ะเมดิ ความเปนคนของเขา/เธอ ดังน้ี “หนูเคยเจอนะ ที่แบบวาเหมือนจะลงแขก...คะหนูก็เคยเจอนะ...ในซอย...ก็พอดีหลายปแลวคะ ชวงน้ันยังไมไดทํานมดวย ไมต่ํากวา 5 ป”กรกนกซึ่งขณะน้ีอายุ 29 ปยอนระลึกถึงความทรงจําที่ไมนาพิสมัย กรกนกพูดถึงตัวเองตอนน้ันวา ตอนน้ันแตงตัวเปนผูหญิง ใสเสื้อสายเด่ียวแบบไปเที่ยว โดยวันนั้นกรกนกไปกับเพื่อนอีกสองคนซ่ึงไปหาเพื่อนชายที่อพารทเมนต สถานท่ีแหงนี้อยูในซอยลึกพอสมควร ซึ่งกรกนกบอกวานากลัว พอไปถึงก็พบเพื่อนของเพ่ือนอยูที่อพารทเมนต เพ่ือนของกรกนกก็แยกไปกับเพ่ือนที่ตนเองไปหาข้ึนไปขางบน กรกนกไมรูจะทําอะไรเพราะคนที่กรกนกพบก็ไมใชคนที่กรกนกชอบพอ เคาใหกรกนกน่ังรอในหองและชวนคุย แตทาทางการสนทนาไมคอยจะดี “เคาก็เลยบอกวาใหหนูนั่งรอตรงนี้นั่งคุย หนูก็เลยรอ ก็คุยๆ เคาก็คือเหมือนแบบจะมาทําอะไรเรายังง้ี” กรกนกไมไดรูสึกชอบคนเหลานั้น ท่ีกรกนกวาทาไมดีเพราะเคาไมคุยแต “เคาก็ไมพูดเลย เคาก็เหมือนแบบเขา มานง่ั เคาก็แบบวาจบั ..แบบวาไมอยากบางเหรอ...” กรกนกไมรจู ะพดู อยางไร? วาแลวก็รุมทึ้ง แลวก็มีเสียงคนมาเคาะประตู พอเปดเขามากรกนกเห็นวาไมใชคนเดียวแลว แตเปนผูชายผิวคล้ําอีกจํานวนหนึ่ง “…พอเปดเขามา...พอเปดเขามา...พอหนูเห็นไมใ ชค นเดยี วแลว มันเปนประมาณ 4 – 5 คนหนกู ไ็ มรูจะทํายังไง พอเสรจ็ ตรงนเี้ ขามาถึง คนน้ันกเ็ ยอจบั แขนจบั ขา ถอดเสอ้ื เราอะไรยังงี”้ กรกนกคดิ วา อุยตายแลว ทาํ ไมชวี ติ ตอ งมาเจอกับกลมุนี้ พวกอยางนี้ ทําไมตองมาเจออยางน้ี พอ กรกนกคิดไดจึงมีขอเสนอกับพวกนั้นวา “เอายังง้ีแลวกันพ่ี พ่ีอยารุมทึ้งกันดีกวา ถาอยากเกิดจะมีความสุขก็จะตองสุขดวยกันทั้งคู ถาพ่ีทําอยางน้มี นั จะมคี วามสขุ หรอื พีก่ ็ไดแคเสรจ็ แตไมสนุกหรอก ถาพี่อยากสนุกตองทีละนิดทีละหนอยตองคอยเปนคอยไป ไมใชตองมารุมทึ้งกันเหมือนอีแรงกิน อะไรก็ไมรู” เมื่อกรกนกบอกเชนนี้ พวกนั้นกย็ อม อันที่จริงแลวเหตุการณนี้ก็ไมใชจะพูดกันไดงายๆ เพราะกอนท่ีกรกนกจะตอรองไดว่งิ หนีเขา หอ งน้ํากอ น ที่หอ งนํา้ มีหนา ตา งซ่งึ กรกนกชะโงกลงไปเหน็ ยามจึงพยายามตะโกนเรียกแตไมมีใครสนใจ กรกนกบอกวา “เคาเปนขาใหญในตึกหรืออะไรไมรูนะ” กรกนกไมรูวาจะทําอยางไรในขณะท่ีหนาประตูหองนํ้าชายกําหนัดเหลานั้นขมขู กรกนกวา จะพังหองน้ํา จะซัดจะซอมซ่ึงกรกนกบอกวาหลายอยางมาก “..พังแนๆ มันปงๆๆ แน หนูวาพัง หนูเลยตัดสินใจ

123หยุดกอน ออกไปคยุ อะไรกอ น ออกไปมันกจ็ ับหนลู อ ก” กรกนกบอกวา ตง้ั หาหกคนมาจับแขนจับขาเพื่อไมใหดิ้นหลุดได “แลวอะไรก็แบบวา ลวนลามกันไดเต็มท่ี..มันก็ทั้งจับ ท้ังจูบ จับนมดูดนม บีบนม...” ชวงท่ีมีเสียงดังเพ่ือนของกรกนกก็ลงมาดู ซึ่งพวกนั้นคิดวาเปน “เพ่ือนมัน” ก็เลยเปด ประตแู ตก ลายเปน เพื่อนของกรกนก เพ่ือนกรกนกก็เขา ไปชว ยกันพูด “..เฮยอยาทําอยางนี้เลย ยังไงซะก็คือแบบวาอยารุนแรง อาจจะเขามาคนหรือสองคนก็ไดและคอยๆ เขามาดีกวารุมทงึ้ กันอยา งนีค้ อื คณุ ไมกระดากอายกนั บา งหรือ ใชมะ คุณรมุ ทาํ กนั ยังงี้ ฉันมีแตค นเดียวแตคุณมีตั้งหกคนแลวคุณจะมาทําทีเดียวพรอมกันไดหรือ” หลังจากที่กรกนกตอรองก็ไมไดหมายความวาจะเลกิ ทาํ อากัปกรยิ า“หื่น”เหลาน้ันเพยี งแต “ไมเลิกก็คอื ปลอย ก็คือโอเค กค็ อื ถาเรายอมเคาก็จะไมรนุ แรง” กรกนกอาศัยจงั หวะทพ่ี วกชายกลุมน้ันเผลอวิ่งหนี “...มันเผลอหนูก็หยิบเสื้อ แลวหนูก็ว่ิงออกไป หนูวิ่งไปเคาะหองน้ันหองนี้ มันก็ไมมีใครเปดเลย เพราะหนูก็เสียงดัง!” ไมมีใครเปดไมมีใครชวย กรกนกตัดสินใจวิ่งลงบันไดออกไปเลย กลุมชายเหลาน้ันมันก็วิ่งตาม แตดวยท่ี“มันแกผาอยูแลวไง ก็ไมกลาจะออกมาไกล” สภาพของกรกนกตอนนั้นดีกวาพวกมันเพราะกรกนกไมไดถอดกางเกงเพียงแตถอดซิบ กรกนกวิ่งไปดวยก็ใสเส้ือไปดวย สวนยกทรงหยิบไมทัน ใสเส้ือไดก็ว่ิงออกมาเลยสวนพวกนั้นใสกางเกงใน กรกนกบอกวา “กลัว กลัวมันจับไดกลัวสารพดั อุยกลวั ... ครัง้ เดยี วในชีวิตหนู” ชายเหลานี้กรกนกบอกวาอายุราวย่ีสิบกวาๆ และซอยท่ีวาน้ันเปนซอยหลังวิทยาลัยแหงหนึ่งซึ่งบัดน้ีมีสถานะใหมแลวและชายเหลานั้นก็เปนนักศึกษา กรกนกย้ําวา “ไอจับๆ ถือวาทาํ บญุ ทาํ ทาน ยงั งีม้ นั แบบวา บงั คับเกินไปนะ แตถา เกดิ เปนแบบวา เราหนีออกมาไมไ ด แลว เราไมยอมกต็ องโดนแบบเหมอื นที่เคาโดน ผูห ญิงโดนบา ง ฆา บา ง ทุบตีบาง คงตองโดนอยางนี้แนๆก็ไมตางกัน” จากเหตุการณน้ีทําใหกรกนกจะไปไหนกับใครตองมีการคุยกันกอน ครั้งนี้กรกนกไปเพราะเพื่อนและก็ไมไดรูอะไรเพราะเพื่อนเขาคุยกันแตกรกนกไมไดสนใจ ตอไปถาผูชายท่ีมากกวาหน่ึงกรกนกจะไมเอาไมไปดวย “แตถาเราหนึ่งเคาสามก็จะไมเอา” เพื่อนไปก็ไปมันจะตองเสมอกัน “ใหเพ่ือนไปสามเราไปสามผูชายไปสามก็คือถึงจะโอเค” กรกนกไมรูวาจะเรียกเหตุการณที่เกิดข้ึนนี้วาอยางไร ไดแตพูดกันในหมูเพื่อนๆ วา “ก็คือจะไมเรียกเหตุการณก็คือจะเรยี กเจาะจงวา อีพวกนรกสง มาเกดิ พวกเดนนรก เดนตายอะไรทงั้ หลายแหละ” “ของปลอมไมใชของจริง” วลีที่พยายามสรางความจริงและเบ่ียงเบนความสําคัญตอการละเมิดสิทธิในรางกายของผูพูด เปนการทําไมรูไมชี้ใหดูเหมือนการกระทํานั้นไรแกนสารหรือความหมายอะไร แตอันท่ีจริงแลวมีความสําคัญมากเพราะเทากับเปนการเบี่ยงเบนประเด็นความหมาย และความสําคัญของเรือ่ งใหก ลายเปน เร่ืองเล็กนอย พรอ มทงั้ ผูกโยงความหมายของกะเทยกบั ผหู ญิงในฐานะที่ไมใชของจริงแตเปนผูชายเพื่อสรางความชอบธรรมในการกระทําของตน โดยความหมายไดถูกตีกรอบใหอยูในความหมายของสองเพศ และจากนัยนี้กะเทยไมใชผูหญิงกะเทยจึงไมรูวามีสิทธิที่จะมาหวงตัวและปกปองสิทธิของตนเห็นไดจากท่ีผูพูดใชคําวา

124ไมรูจะทําอยางไร และทําบุญทําทาน ซึ่งทําใหตองแกไขสถานการณเฉพาะหนาผานการปกปองตนเองโดยการดา เปน ตน ความหมายของกะเทยโดยนัยของคนกลุมท่ีรุมทํารายผูพูด เห็นไดวามีภาพเหมารวมตวั แทนของกะเทยในความคิดวาใฝแตเร่ืองเพศ มั่ว ดังที่ผูชายท่ีแทบไมรูจักกันเห็นเปนกะเทยก็เขา มาพูดอยา งไมม คี วามอาย “...ไมอยากบางเหรอ” ทั้งๆ ท่ีความจริงแลวไมเปนเชนนั้น เปนไปไดมากวาการท่ีเพ่ือนของผูพูดจะไปหาเพื่อนซึ่งรูจักกับนักศึกษากลุมนี้รับรูมาลวงหนาวาจะมีกะเทยมาหาที่ท่ีพักแตก็ไมจําเปนท่ีตองคิดวาความสัมพันธทุกอยางของมนุษยจะตองจบลงท่ีการมีเพศสัมพันธ ท่ีนาสนใจกลุมผูกระทําเปนถึงนักศึกษาจึงทําใหเห็นวาการศึกษาไมไดทําใหคนใหเปนคนดีไดเสมอไปเพราะแมกระท่ังการตระหนักถึงสิทธิของมนุษยดวยกันยังไมไดเลยประสบการณของผูพูดทําใหเห็นวาการรุมทํารายกะเทยทางเพศซ่ึงถึงแมกะเทยจะยังไมแปลงเพศ ไมไดเสริมหนาอกน้ันเปนไปได ฐานะในวาทกรรมกะเทยถูกใหความหมายของความเปนผูหญิงทางเพศวิถีเชิงประเวณี การใสสายเดี่ยว ใสเสื้อช้ันใน (แมไมมีหนาอกแบบผูหญิง) สรางความหมายที่สัมพันธกันในบริบท ความหมายท่ีถูกสรางข้ึนจึงพองกัน และดวยภาพความคิดตอกะเทยท่ีมีอยูจึงทําผูพูดตกอยูในสถานะที่เปนผูถูกกระทํา ดังนั้นแมวากะเทยท่ีสรีระภายนอกยังเปนผูชายแตก็สามารถถูกจัดใหเปนเพศท่ีรองรับกําหนัดของผูชายไดเชนกันอีกประเด็นท่ีนาสนใจคือการขอความชวยเหลือจากคนรอบขางไมวาจะเปนยาม หรือผูคนที่พักในตึกเดยี วกัน การตะโกน เสียงดัง ทบุ ประตู จะไมไ ดย ินหรือ ชใ้ี หเ ห็นถงึ ความไมใสใจ ธรุ ะไมใชกลัว หรือเพกิ เฉยแลง น้าํ ใจตอ เพ่ือนมนุษยดวยกัน หรือมองเห็นกะเทยเปนอะไรเพราะความจริงของคนทั่วไปกะเทยไมใชผูหญิง ดังนั้นเม่ือกะเทยถูกกระทําจึงดูเหมือนเรื่องท่ีไมเปนเร่ืองและจรงิ จัง การเจรจาตอรองของเพื่อนก็ยังเปนที่นาคลางแคลงใจวาเพื่อนตีความหตุการณท่ีเกิดข้ึนอยางไรแทนท่ีจะหามปรามใหเลิกกลับเพียงตอรองอยาทํารุนแรงหรือเพราะความเปนกะเทยแมกระท่ังคนเปนกะเทยเองก็คิดวาการกระทําเชนน้ีเปนกะเทยตองรับไดท้ังๆ ที่มิใชเปนความปรารถนาของผูพ ดู และเปนสง่ิ ท่ไี มถ กู ตอง ท้ังนี้หากผูพูดไมสามารถชวยเหลือตนเองหนีออกมาได จะไมถ กู ทํารายจิตใจ และรางกายไปมากกวา นี้หรือ สุดทายการเกิดข้ึนของเหตุการณตาง ๆ ท่ีทําใหผูพูด ไมสบายใจ อึดอัด ไมมีความสุขและรูสึกวาถูกบังคับ เหลานี้ไมมีภาษาเรียกหรือนิยามท่ีสะทอนใหเขาใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในความหมายของผูพูดเพราะนิยามความหมายของสิ่งท่ีเคยเกิดขึ้น เชนการลวนลามทางเพศเปนนิยามท่ีสรางข้ึนภายใตกรอบอุดมการณของสองเพศดังนั้นหากใชนิยามนี้เรียกขานการเกิดข้ึนของเหตุการณต อ กะเทยจงึ จะไมสะทอนภาพความจริงทม่ี าจากประสบการณ 5.1.4 มายาภาพของวาทกรรม การสยบยอม ความขดั แยง ชะตากรรม บนความรุนแรง: ปากคาํ ของริตา ประสบการณเร่ืองสุดทายมาจากกะเทยชาวนาภาคอิสาน ท่ีชีวิตตองพบกับเหตกุ ารณม ากมายจึงจําเปนตองใหเห็นถึงพื้นเพ และชีวิตท่ีถูกสรางในพื้นท่ีของวาทกรรมตางๆ

125รวมทั้งความขัดแยงของตัวตน ความเล่ือนไหลของตัวตนทางสังคมที่เกิดขึ้นภายใตบริบทของวาทกรรมและถอยแถลงสารหลกั ทกี่ ําหนดความหมายของอตั ลักษณ หรอื ตาํ แหนง ทางวาทกรรมของรติ า ชีวติ ของริตา อาจกลาวไดวาสัมผัสมาทัง้ สวรรคและนรก ไมม ีอะไรแนนอนแตริตาก็ยังคงเปน รติ ากะเทยจากทอ งทงุ เม่ือพูดวา “นรก” คําน้ีสะทอนความเลวรายและเปนพ้ืนท่ีแหงความช่ัวรายที่คนไมตอ งการเยี่ยมกรายเขาไป แตชวี ติ ของรติ าตองพบกับความเลวรา ยน้นั อยางไมค าดคิด และไมคิดในโลกมนุษยนี้จะมีมนุษยคนใดจะสามารถทําอยางนี้กับคนอื่นได สิ่งนั้นสรางรอยประทับไวในชีวิตของริตาแมจะอยากลืมก็ลืมไมได ริตาตองอยูกับความทรงจํานั้นตลอดชีวิต ปากคําของริตานําสูเรื่องราวที่เราไมเคยรับรูมากอนและเสนอภาพอัตลักษณที่หลากหลายของมนุษยในพืน้ ท่ีของวาทกรรมทต่ี างกันไป ...หนูเจอมาเยอะตัง้ แตเล็กแตนอ ย อายุ 13 -14 ออกจากโรงเรยี นมาหนกู ็โดน บานเปนสองคน สามคน .. ก็มันมีมามาชวงหน่ึงนะ ก็ประมาณ สามคน จากคนที่แรกท่ีมาทํากับเรานะ จะชอบ คลายๆ กับวามันเปนรักแรกของเรา ..รูสึกแฮปปที่ไดอยูกับเคา เคาบอกใหเราทําอยางไร ให อยางไร เราก็ทําใหหมดเพราะเราชอบเคา แตคนที่สองเราไมไดชอบ แตเคาน่ีตามกันไง มาหา... ผชู ายไดคนนนี้ ะวาเคาก็เลยมารมุ โทรมกนั อยางน้ี..เวลาจะกลับจากตลาด ชวงตอนเย็นว่ิง อยางเรา อยูบานคนเดียวปด...ไปเลยไมลงไปไหน... มาทํากับเราอยางน้ีกระทําชําเราไปเลย แตวามันทําไม ไมไดเพราะไมมีกฏหมายท่ีไหนคุมครอง ผูชายต้ังแตเล็กจนแก.. เราไมชอบนะคะ แตวาเราผลักก็ ไมได แตคือวาในใจคือวาทําใหเสร็จไปเลย แตวาคนท่ีสาม ย่ิงรายนะ เปนพ่ีชายของคนที่หน่ึงทุก วันน้ีก็ไมคอยคุยกัน เวลา ใหทําอะไร พี่ขางๆ ปา ไปทําที่ไหนลับๆ ตาคน แบบวาจิกกดคอเขาไว มึงอยาไปพูดอะไรยังง้ี ไมง้ันฆาทิ้ง ..แตกอนก็ยังโอเค โดนคนท่ีหนึ่งเราจะอายมาก กลาๆกลัวๆ แตหลังๆ เจอคนที่หนึ่งแลวเจอคนที่สอง มาทําอยางน้ีเราก็เฉยๆ แลว ก็คือวาคนบานน้ัน คลายกับ วาก็สุดทายแลวก็รูวาสามคน เวลาเดียวกันม่ัวกับเคา ถาชวงนั้นเอดสระบาดเราก็คง แจ็คพอทไป แลว กะเทยรากหญา ชีวิตชวงเม่ือเกือบถึงสามสิบหาของริตากะเทยรูปรางเล็กผอมเกร็ง ณ วันนี้ดูเหมือนจะสงบสุขขึ้นเม่ือเทียบกับเหตุการณตางๆ ที่ผานเขามาในชีวิตซ่ึงก็แทบไมนาเช่ือวาคนอายุเพียงเทาน้ีจะพบกับอะไรมามากมาย ริตาเปนคนอิสานและเปนลูกชายคนสุดทอง ที่บานเปนชาวนาเต็มข้ันแตตนเองไมเคยทํานาเลยมีแตพ่ีชายและพ่ีสาวชวยกันทํา พอขายท่ีนาสงลูกๆ เรียนซ่ึงพี่นองรวมถึงริตามีท้ังหมด 7 คนแตริตาไมไดเรียนซึ่งทุกวันนี้ริตายังมีคําถามค่ังคางอยูในใจวาทําไมและมองวาความไมเทาเทียมนั้นเร่ิมมาจากท่ีบานกอนแลว “ก็จากเม่ือกอน50 ไรและมาแบงขายบางพี่ชายเรียน พ่ีๆ เขาจะไดเรียนหมดแตทําไมหนูคนสุดทองไมมีเรียนถาเราจะบอกวาสังคมเลือกปฏิบัติเราตองเริ่มตนจากครอบครัวกอน ครอบครัวของเราก็คลาย ๆกับเลือกปฏิบัตินะ” ริตาอยากเรียนหนังสือและจะรูสึกอายทุกคร้ังท่ีเพื่อนขี่รถมอเตอรไซดผาน

126หนาบานโดยจะทําทาเหมือนกับวากําลังจะหยิบหมวกมาปดหนาและลงไปซอนอยูขางลางเพราะกลวั เขาจะหวั เราะเยาะ ท้ังหมูบ านริตาบอกวา มตี นคนเดยี วท่ีไมไ ดเ รียน (ริตาจบ ป. 6 แตไมไดเรียนตอ) ริตาเคยถามพอเหมือนกันซึ่งพอบอกวาไมรูจะเรียนไปทําไมคนสุดทองหมดมาเยอะแลว แลวรติ า กไ็ ปเลยี้ งควาย รติ า เรยี กตัวเองวา “กะเทยรากหญา” ตอนเด็กๆ ริตายังไมรูเร่ืองอะไรและก็ไมรูวาการที่ตนไมไดเรียนน้ันเกี่ยวของกับความเปน “ตวั เอง“ หรือเปลาแตก ็บอกวา พอเร่มิ โตมาจะรูจากปากพอปากแม และตระหนักวา พอและแมม ีความกงั วลกับตนและไมอ ยากใหตนเปน กะเทยแตก็หามไมไ ด พอสง ริตาบวชเณรเพราะไมตองการใหเปนกะเทย ริตาบวชอยูพักหน่ึงแตไมอยากอยูในจีวร ในที่สุดก็ไดสึกสมใจและตรงด่งิ มากรุงเทพเมืองท่ใี ฝฝ น ไมรมู ึงจะเกดิ มาอยา งไร ราวๆ 15 - 16 ตง้ั แตตรงนนั้ คือวามีอยางเดียวที่กูจะไมใหมึงเปนตุด ได คือพอเขาวานะ เอาไปบวชคือวา คนเราเลือกท่ีจะเกิดแบบน้ีไมมีใครรูดีเทาตัวเราก็ไปบวชได หนึ่งพรรษาเปนเณร ก็ไปเจอเณรอีกคนหนึ่งที่เปนเณรเหมือนกันก็เลยบอกวาพาแหกกฎบอกวา ไมรูจะมาบวชทําไมเราไปทํางานท่ีกรุงเทพ พอแก ไมชอบไมเปนไร แมแกไมชอบไมเปนไร ไปเถอะฉันจะพาไป ก็มากับเขา สาวเสิรฟใ นเมอื งกรุง เขามาในกรุงชีวิตลุมๆ ดอนๆ ไมมีที่อยูเปนหลักแหลงจึงไมไดติดตอทางบานจนชวงอายุ 18 -19 ก็ไดงานลางจานที่รานอาหารแหงหนึ่งบริเวณใกลตลาดของคนเมืองท่ีพลุกพลาน ริตาเลาวาตนเองรูสึกวาตอนไปสมัครงานจะถูกมองต้ังแตหัวจรดเทาเหมือนกับเปนการประเมินโดยนายจางท่ีเปนคนจีน แตแรกริตาก็ขอสมัครเปนคนเสริฟเน่ืองจากเคยทํางานเชนน้ีมากอนจึงคิดวาทําได ริตาบอกวานาอายท่ีสุดคือเจาของรานบอกวา “เดินนาเกลียดเปนกะเทยดวย... ถาเปนกะเทยตองไปลางจานลางภาชนะ” ริตาพูดไมออกแตจําตองทํางานและคิดวาตนเองทําได อันท่จี ริงในตอนแรกแมครัวใหญสงสารจะใหริตาเขาครัวทํางานในครัวแตสุดทายก็ไมไ ด ตองทาํ งานลางจานแทน โดยงานมีสองกะ ถา เขา ตอนเชากจ็ ะเลิกเที่ยง-บายโมงแลวก็ไปพัก และเขาอีกทีประมาณ 6 โมงเย็น ริตาทนทํามาจนเกือบครบเดือนโดยคาจางเดือนละ 1,800บาท พี่ชายมาพบริตาขณะลางหมอตมยําอยูพอมาเห็นเขาก็บอกใหออกดีกวาจะหางานใหทําตอนน้ันอีกสองวันก็จะสิ้นเดือนริตาจึงไปบอกกับเจาของรานวาจะขอลาออก แตเจาของรานโกรธและบอกวา “… จะออกเหรอ ไมเปนไร ไมตองรอส้ินเดือน ออกวันน้ีแหละ…” จากคาจางที่ตกลงกันเจาของรานจายเพียง 300 บาททําใหริตางง ดวยความที่ยังเด็กอยูก็ยอมรับเงินนั้นมาแตก็คิดในใจวา ทําไมไมยุติธรรมนะ สามรอย....ริตาไมประทับใจเลยกับเจาของรานและกอนออกมายังบอกวาใหจายเงินคาขนมของพี่สาวเจาของรานที่นําของเงินผอนตางๆ มาขาย “ก็ยังมาบอกวากอนจะไปจายคาขนมหวาน สิบบาทย่ีสิบบาท ยังนึกในใจวา ...จนน้ําใจจริงๆ” ริตา

127มาทํางานอยูกรุงเทพระยะสามปไมไดกลับบาน พอก็เสียชีวิต พ่ีสาวก็เสียชีวิตแตตนไมรูเพราะไมมีท่ีอยูใหติดตอ ทํางานโดนไลออกบางอะไรบาง มีอยูคร้ังหน่ึงไปทํางานซึ่งเคาบอกวาตองทําไดทุกอยางเขาใหริตาแบกผาข้ึนบันได ริตาบอกวาเคาไมไดกีดกันทางเพศ แตบอกผูหญิงใหน่ังพับผา ผูชายใหแพ็คของ แลวใหกะเทยแบกผา คาแบกพันเจ็ดริตาทําไดสามวัน “คิดดูก็นาสงสารตัวเอง ทําไมฉันเกิดมาเปนแบบน้ีทําไมคนถึงชอบ...” ในท่ีสุดริตาก็ไดงานเปนคนเสริฟที่คาเฟซ่ึงงานนี้อยูไดนาน งานเสริฟของริตาเร่ิมจากบารเบียรกอนโดยมีเพื่อนมาชวน ในบรรดาพนักงานดวยกันเองพนักงานชายก็จะไมชอบทํางานเสริฟ “…เคาจะยังง้ี เคาจะยกแบบวาพวกกะเทย ไปทําดวยกันอยางงี้ ผูชายไมไปทํา” เปนคนเสริฟถึงแมรายไดจะไมมากนักแตก็มีรายไดเสริมเปนคาทิปมาจากแขกที่มาเท่ียวสวนหน่ึงซ่ึงก็มากพอสมควร “…เราไดคืนหนึ่งพันนึง พันสองอะไรอยางนี้ แตกอนเราไดคืนหนึ่งประมาณ พันนึง พันหาก็ยังได พันนึง พันหาสองพนั อยา งไมได กห็ า รอ ย แปดรอ ย” งานนี้ไมมีวนั หยุด ชวี ติ เมียฝรง่ั ริตาตกงานอีกเพื่อนของเพื่อนทํางานที่บารยานสีลมพาริตาไปพบกับผูชายคนหน่ึงซ่ึงรูจักกันมากอนโดยบอกวา “จะพาไปหางานทํา” ตอนน้ันริตาไมรูวาเปนงานอะไร ริตาคิดเพียงวาดีกวาไมมีงานทําชายคนนั้นเปนคนตางชาติชาวยุโรป ริตาคิดวาเขาเปนคนดีเพราะเขาเล้ียงขาวริตากับเพื่อน จากนั้นเขาก็พาไปเท่ียวที่หองพักเขา เพ่ือนบอกกับริตาวา “เขาชอบ” และใหริตา “อยูกับเขาเลยคืนนี้” ริตาตอบตกลงทันทีเพราะไมรูจะกลับไปทําอะไรอยูท่ีหอ งคนเดียว แลว เพื่อนรติ า ก็กลบั ไป คนื น้ันริตามีอะไรกับเขา ริตาไมรูวาเขากับเพื่อนพูดอะไรกันเพราะไมรูภาษาอังกฤษและฟงไมรูเรื่อง ริตาก็ไมเขาใจวาเขามาชอบตนเองไดอยางไรริตาบอกถึงลักษณะของตัวเองตอนนั้น “...ธรรมดาบานนอกมากเลยนะ เราก็ไมรูวา ฝร่ังชอบเราไดอยา งไร เพราะวาเด็กบารแตละคนไปหาเขานะ แบบวา เส้ือผาน่ีอินเทรนดท้ังน้ันเลยแหละแตเรามี เสื้อยืดกางเกงยนี สธรรมดา…” รุงข้ึนตอนเชากอนริตาออกจากหองไป เขาสงเงินใหริตา 2,000 บาท พรอมกับพูดเปนภาษาไทยนิดหนอยวา “ผมใหคารถคุณ” ริตามองหนาเขาซึ่งริตาถูกต้ังคําถามวา “ไมรับเงินคาตัวหรือ” และเขายังพูดอีกวา “หรือคุณจะใหผมฟรีๆ” พรอมท้ังใหเบอรโทรศัพทไวโดยบอกวาเย็นน้ีใหมาหาอีก เพื่อนริตามาบอกกับริตาวาเขาอยากใหริตาอยูกับเขาเลย ตอนนั้นริตาคิดวาคงจะดีเพราะไมมีงานทํา ดีกวาอดตาย หลังจากวันนั้นริตาก็ยายมาอยูกับเขาที่อพารทเมนทยานธุรกิจกลางใจเมืองโดยอยูกันแบบ “ผัวเมียทั่วไป” กลางวันริตาอยูหองเขาออกไปทํางาน ริตามีความสุขมาก ไมคิดวาตนเองลําบากมาตลอดจะมีคนมาอุปถัมภเล้ียงดูเพื่อนๆ ริตาพากันอิจฉาริตากันใหญ พ่ีสาวริตาที่ทํางานอยูในกรุงเทพแถวยานตลาดขายสงเสื้อผาดีใจมากจนบางครั้งไมอยากจะทํางาน อยากจะมาอยูกับริตา แตริตารูวาแฟนริตาไมชอบ“ชะนี”? เขาเปน เกย

128 มีอยูอยางหนึ่งท่ีริตาไมชอบในตัวเขาคือ ด่ืมจัด สูบบุหรี่จัด เท่ียวเกงเกือบจะทุกคืนตั้งแตริตายายไปอยูกับเขา จะพาไปเท่ียวเกือบทุกคืน และย่ิงไปกวานั้น เขาเสพแมกระทั่งยาบา ริตาเคยถามเขาวาทําไมถึงรูจักยาบาและสูบทําไม เขาวาเด็กท่ีเขาออฟมาจากบารเอามาใหลอง เม่ือลองแลวรูสึกดีไมเหนื่อยและมีแรงออกไปเท่ียวขางนอกทุกคืน ริตามองวาเขาเปนฝร่ังที่ฟุมเฟอยมากแตก็ใจกวางกับ “เด็กๆ” ที่มาหาเขา เขาเคยบอกกับริตาวา “เด็กพวกน้ันไมมีอะไรก็แคมาขอเงินแลวก็ไป เขาบอกริตาวาริตาเปนแฟนของเขาอยาเอาตัวไปเปรียบเทียบกับเด็กๆ พวกนั้น” จนริตา ไมค ดิ และพยายามเขาใจเขาเพราะมันเปนความสุขของเขาดวย “โปลิโอ” เปนปมดอยในตัวของริตา แฟนของริตาตอมาเดินทางกลับไปเย่ียมบานเขาบอกวาจะกลับไปหาเงินมาผาตัดขาของริตา ริตารอเขาอยูกรุงเทพฯ ริตาเปนโปลิโอครึ่งทอนลางขางขวา สิ่งน้ีริตาคิดวาเปนปมดอย ริตาซาบซึ้งใจมากท่ีเขาทําเพื่อริตา ริตาเคยถามเขาครั้งหนึ่งวาไมอายหรือท่ีมีแฟนเปนคนพิการ เขาบอกวาอยามองแตจุดดอยของตัวเอง บางครั้งคนอ่ืนอาจจะดอยกวาริตาอีก ทําใหริตามีกําลังใจและรักเขามากข้ึน กอนจากไปเขาเปดบัญชีธนาคารแหงหนึง่ ใหพรอ มกับเงนิ จาํ นวน 6 หม่นื บาท เขาโทรหารติ า ทุกวัน อยูท ก่ี รุงเทพฯ ปกตริ ติ าไมคอ ยจะมีเพื่อนมากนักจงึ อยคู นเดยี ว หรือไปหาพี่สาวที่ยานขายสงที่ไมไกลนัก บางครั้งก็คางกับพ่ีสาว ตอมาชวงหลังริตามีโอกาสรูจักกับพวก “ผูหญิง”ทํางานนวดแผนไทย เม่ือมีเพ่ือนริตาเริ่มรูจักเท่ียว เลนไพ ใชจายสุรุยสุราย ภายใน 1 เดือนเงินจํานวน 6 หมื่นบาทหมดในพริบตา ริตากลัววาเขาจะรูวาริตาติดการพนันเมื่อกลับมาปลายปน้ันเขากลับมาพรอมกับเงินจํานวนหนึ่งมารักษาขาของริตา และถามวาถาริตาไปรักษาขาที่โรงพยาบาลแลวอยากทําอะไรตอ ริตาตอบแบบไมคิดวาอยากเรียนภาษาเพราะพูดไมไดอานไมได เขาตอบตกลงและใหริตาไปสมัครเรียน ริตาเขาผาตัดที่โรงพยาบาลช้ันดีแหงหน่ึงหลังจากผาตัดริตาก็กลับมาพักฟนที่หองพัก ตลอดเวลาที่ริตาเขาเฝอกที่ขาริตาไมเคยมีเซ็กซกันแฟนซึ่งเขาบอกกับริตาวากลัวริตาจะเจ็บ ริตาคิดวาธรรมดาคนรักกันถึงริตาจะไมสบายก็อยากใหเ ขามาดูแลเอาใจใสเหมือนคนอน่ื ทวั่ ไป แตต รงกนั ขา มเขากลับออกไปเทย่ี วขางนอกทุกคืน บางคืนก็ไมกลับมาเลย มันทําใหริตาเริ่มคิดวาเขาไมแครหรือรักริตาเลย จากที่เคยมีความสุขก็เริ่มทะเลาะกันทุกวัน เขายังคงมีพฤติกรรมเหมือนเดิม บางคร้ังพาเด็กมาด่ืมมาเสพยาท่ีหอ งตอนทรี่ ิตาอยูดวย ตอนเขาเฝอกขาริตาเริ่มมีความรูสึกวาตัวเองไมมีความสุขแลวเหมือนเปนตัวตลกตองใชไมค ํา้ ยนั ครงั้ หนงึ่ ไปพทั ยาเขา เฝอกเดนิ ไปกบั ฝรัง่ เด็กแถวพัทยาเห็นแลวหัวเราะ พูดวาคนพิการมากับฝร่ัง เลยถามความรูสึกของแฟนวา “…รูสึกอยางไรคุณมากับฉัน ตอไปคุณไมตองเอาฉันออกไปก็ไดนะ คุณออกไปเที่ยวเถอะ..” ความรูสึกเกาๆ เริ่มกลับเขามาในหัวของริตาวาตนเองมาจากพ้ืนๆ อันที่จริงตอนท่ีริตานอนอยูโรงพยาบาลก็เริ่มรูสึกอะไรบางอยาง มันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แฟนของริตาบอกพ่ีสาวของริตาท่ีจะไปเฝาใหกลับบานไปพรอมจายคารถ

129ให และบอกวาผมจะเฝาคุณเอง ซ่ึงริตาก็ดีใจที่เขามีแกจิตแกใจมาเฝาตนท่ีนอนไมสบายอยู แตความดีใจนั้นอยไู ดไ มน าน … ตืน่ ขนึ้ มานะความเจบ็ ปวด แบบเขาฉีดยาชามันหมดนะปวดขาขน้ึ มาผาตัดปวดมากเลยนะ แทบจะตายตรงน้ันแหละ และต่ืนข้ึนมาแลวสามีเราไปไหน ถามพยาบาล พยาบาลบอกวาออกไป ขางนอกแลว คือวาไปเท่ียว เราคือรับรูมาตลอด ตอนนี้เราคือวารับอยางเดียว คือวาไมดาไมอะไร แลว เขายุงกับเราไมได เพราะวาเราเจ็บปวดนะเขาเคยพูดกับเราวา พอออกมาจากโรงพยาบาล เขาบอกวา ตอนนีอ้ าการคณุ ยงั ไมด ขี ึ้นอาจจะอีกนาน คุณคงไมวานะถาผมจะออกไปขางนอกนิดๆ หนอยๆ เขาก็พูดตรงๆ นะ ชอบตรงนี้ฝร่ังนะ คุณคงไมวานะถาผมจะไปมีอะไรนิดๆ หนอย ๆ แตผมไมพามาเขา หอ งเราหรอก ตรงนีม้ นั เปนทข่ี องคุณสวนของคุณ โอเค อยากขอบคุณท่ี ใหเกียรติฉัน เขาก็ไปนะ แตหลังๆ มาชักจะหนักนะ ขาเอาเฝอกออกหมดแลวนะ ยังใชไมคํ้ายัน เอาไปทิ้งฉันไวท่ีพัทยา ความรูสึกน้ีมันรันทดมากท้ิงใหอยูตอนกลางคืนคนเดียวนะ ฝนก็ตกฉันก็ กลัวนะ และเจ็บปวดแผลกป็ วด พยายามเดินแลว ไมคํ้ายันมันจะดังนะคนขางลางเขาก็ข้ึนมาเลยมี แตผูช ายวัยรุนนะ มาเคาะพอดีเขาเห็นเราพิการเขาก็เลยไมเอา ตอนแรกเขาโทรมาบอกวาจะนอน อยางน้ี เราก็ปกติเราจะนั่งไมลุกไปไหนนอนบนเตียงแลวสามีเสริฟน้ํา อะไรทุกอยางพอออกไป เทยี่ วแลวไมก ลับมาเลยคนื นนั้ นะ นี่แหละครั้งแรก.... คร้ังหน่ึงเปนวันวาเลนไทนเขาพาริตาไปเที่ยวภูเก็ต ก็เหมือนคนอื่นๆ ริตาหวังที่จะไดอยูกันตามลําพังตามประสาคนรักแตมันไมเปนอยางนั้น เขาก็ไปเที่ยวทุกคืนเหมือนอยูกรุงเทพฯทิ้งใหอยูท่ีหองคนเดียว และยังมีเฝอกอยูที่ขา เขากลับไมสนใจไปเที่ยวเลย จนถึงตอนเชาคอยกลับมาที่โรงแรม เขาพูดกับริตาวาอยาคิดมากเขาไมมีอะไรกับใคร ก็แคไปเที่ยวเฉยๆ พูดจบแลวก็เดินเขาหองน้ําเสพยาตอ จนริตามาคิดวาถาคิดจะอยูกับเขาเราตองเขาใจเขา อะไรที่เขาชอบเราไมควรวาเขา หลังจากน้ันริตาจึงไดลองเสพยากับเขา ความรูสึกตอนน้ันริตาบอกวาเหมือนมคี วามสขุ เขากบั รติ าเสพยากันทุกวันตลอดเวลาท่ีอยูภูเก็ต วันๆ หนึ่งไมมีอะไรนอกจากเสพยาแลวมีเซ็กซ ริตาคิดวา ”คงจะไปกันได” เพราะตอนนี้ท้ังสองคนทําอะไรเหมือนๆ กันชอบอะไรที่เหมือนกัน ชีวิตไมมีอะไร “เขาเสพยาฉันก็ตองเสพ” เพื่อท่ีวาจะไดไมทะเลาะกันหลังจากกลับจากภูเก็ต ส่ิงที่ริตาคิดวา “เรานาจะไปกันได“ มันกลับไมใชเชนนั้น เพราะมีเด็กโทรมาหาเขาท่ีหองบอยขึ้น พอริตาถามเขากลับบอกไมมีอะไร แคเด็กท่ีทํางานตามบารท่ีเขาไปเท่ียว หลังๆ มาริตาบอกวาเขาจะไปกับเพื่อนและไมชวนริตาซึ่งริตาก็ถามวาเมื่อคืนไปไหนมาเพราะริตาเห็นวาเขาไมใหเกียรติริตาเขาไปเที่ยวบอยเกินไป “…เขาบอกวา..ไปวันศุกรกับเสารเพราะวาวันอื่นผมทํางาน วันอาทิตยผมจะหยุดอยูกับคุณ จันทร อังคาร พุธ พฤหัส นี่ผมไปทํางานแตวันอาทิตยผมอยูก ับคุณทัง้ วนั ทั้งคืนแตวาศกุ ร เสารผ มจะออกไปขา งนอก” หลังจากผา ตัดประมาณเกอื บสามเดอื นริตา เขาโรงพยาบาลอกี รอบเพอื่ เอาเฝอ กทข่ี าออกรติ า รสู กึ วา ขาดีขึน้ แตจ ติ ใจกลับแยลง ริตาเร่ิมติดยาไมไปเรียน ไมสนใจโลกภายนอก เก็บตัว

130อยูใ นหองไมทาํ อะไร จนเขาเรมิ่ จะเบือ่ หนา ยในตัวรติ าและเรม่ิ จะพดู กบั รติ า ทุกวันวา ถาเกิดวันหน่ึงเขาไมไดอยูดวยกันแลวริตายังทําตัวแบบน้ี ไมเก็บเงินทอง ไมเรียนหนังสือ แลวริตาจะอยอู ยา งไร ตอนนัน้ ริตา คดิ วา เขาอาจเสพยามากจงึ พดู ออกมาแบบนนั้ ความขัดแยงในความคิดเก่ียวกับเขามาถึงจุดท่ีทนไมได ริตาเคยคิดวาอยากจะออกมา...ไมไหวแลวบางครั้ง หนัก ๆ เขาเขาจะพาเด็กผูชายไปไวในหอง ครั้งละ 3 - 4 คน เดินกนั มว่ั ทง้ั บุหร่ี ปลิววอนอยนู ่ัน ออกจากหองนี้ เขา หอ งโนน หอ งนาํ้ ริตาบอกวา ฉันไมอยูกับคุณแลวนะ แตกอ นสนกุ ดีมคี วามสุขดี แตตอนนคี้ ณุ ก็ไมเหมอื นเดิม คุณวาฉันไมเหมือนเดิมคุณก็แยริตาเคยถามเขาวาคุณรักฉันไหมซึ่งรติ า จะถกู เขาเปรยี บเทียบใหฟงวา ตอนเจอคุณใหมๆ ชอบนี่ชอบแปลกดี และบอกวาคุณไมสังเกตเหรอวันที่ผมออกไปทํางานแลวเบรคมาพัก ผมเคยไปน่ังเบรคในหองอาหารผมก็ตรงด่ิงมาหาคุณ แตหลังๆ มาคุณเร่ิมเรื่องมากไมไนซเหมือนเดิมไมเหมือนเม่ือกอนคุณเปล่ียนไปมาก หงุดหงิดงายซึ่งริตาบอกวาอาจจะเปนเพราะเฝอกที่ขาดวยและเขาก็ไปเมืองนอกนานไปสอง สามครั้ง ทีละสองเดือนกลับ สี่เดือนกลับ บางทีหา เดือน ท้ิงเงินไวใหแสนเดียวจาย คาหองไวตางหาก คาอาหารตางหาก คาจางสําหรับจางแมบานมาทําความสะอาดตางหากมีเดือนหนึ่งท่ีริตาเอาคาอาหารคาทุกอยางมาฮ้ัวเลนไพอยางเดียว ช็อปปงอยางเดียวเงินแสนกวา ริตาบอกวาเวลาไปพัทยาไปเขาจะออฟเด็ก หลังๆ จะเร่ิมมีพฤติกรรมอยางนี้ พฤติกรรมที่ไมควรจะเปนริตาบอกวาถาคนที่ยังไมเคยก็อยาไปทํา ริตาคิดอยางเดียววามึงออฟไดฉันก็ออฟได แตของฉันจะดีหนอยคือจะเอาเงินแกน่ีแหละออฟ ฉันจะเอาเงินแกที่ใหฉันนไ่ี ปออฟผูชายมาในเมอ่ื “แกทาํ กบั ฉนั ไดฉันกท็ าํ กบั แกได” เพราะเขาเคยบอกวาเขาเที่ยวไดแตคุณอยาไปเท่ียวเลย เขาเคยออฟเด็กมาใหริตาแตวาเวลาจะมีเซ็กซกันริตาบอกวาใครจะไปแกผาโทงๆ เด็กนะ! ริตาบอกวาฉันไมเอาแลววัฒนธรรมไทย มันดานเกิน เขาบอกริตาวาจะอายทําไมอยูกันสองคน ริตาบอกวาเราเห็นกันเรารักกันเราอยูดวยกัน เราอยูแคสอง แตนี่มีบุคคลทสี่ าม ทส่ี ีเ่ ขามา มนั ผิดแปลก แลวแกผ าลอ นจอ น ริตา มาคิดอยา งเดยี ววา เขาจะถามริตากอนวาอยากเปล่ียนไหม โดยจะไปเอาเด็กมา บางทีริตาบอกวาเขาพาริตาไปเพื่อเอาใจเขาริตาก็ตองจบี ผชู าย …เราไมเคยแบบวาไปสีกับผูชายเพื่อเอาใจเขาเราก็ตองสี ที่บางครั้งสีมาเปนกะเทยเหมือนกัน แหละ เด็กบารนะ ช้ีมาแลวบอกวาคุณชอบคนไหน คนไหนก็ได บอกไมไดคุณตองเลือก เบอรนั้น 35 มาเรามาถึงเพื่อนกะเทยมันบอกวานี่เธออยาทําอะไรฉันนะ ตางคนตางอยูแลวกัน เธอก็ไปทํากับสามี ฉนั แลวกัน เพราะวา ไหน เขาจะไดไ มผิดปกติ ฉันไมอยากออฟมาหรอก ถาผูชายจรงิ ก็ไมคอยมีหรอก นะ ทํางานบารนะ อยางมากบึกหนอยอยางพวกเพาะกายนะ ก็โหดเกินไปเราก็ไมชอบแบบนั้นนะ จริงๆแลวเราอยากใหสามีของเราอยูกับเราทําอยางท่ีสามีภรรยาดวยกัน ไมอยากใหนอกลูนอกทาง เราคือวา คลา ยๆ กับวาเขาทําอยา งไรกับเรา เราทาํ กบั เขาแบบเดียวกนั กับเขา

131 อีกเดือนตอมาริตากลับไปเยี่ยมบานที่อิสาน แฟนของริตาไมเคยโทรมาหาเลยทําใหริตาเร่ิมรูตัวเองวาเขาคงจะไปมีเด็กใหมมาแทนท่ีริตาและคิดวาคงไปกันไมไดแนๆ ริตากลับมากรุงเทพฯ และพูดกับเขาเพ่ือจะไดจากกันดวยดี เขาไมรับฟงอะไร มีการทะเลาะกันรุงแรงจนถึงขนั้ ลงไมล งมือตางคนตางเจ็บปวดพอๆ กนั หลงั จากวนั นั้นริตา กเ็ กบ็ เสอื้ ผากลบั มาอยูกับพี่สาวที่ยานขายสงเหมือนเดิมท้ังท่ีไมมีเงินติดตัวมาแมแตสักบาทเดียว “…เราหนีจากเขากอน”คร้ังสุดทายท่ีริตาไป ริตาขนกระเปาออกมาทําเหมือนนางเอกหนังไทยซึ่งที่จริงมันนาจะเปนนางเอกฝรั่งมากกวาเพราะพวกนาฬิกา:แทคฮอยเออรที่เขาซ้ือมาจากฮองกงมาใหริตาก็ถอดทิ้งไวใหเขา ริตาบอกตัวเองวา “ฉันถึงเขาใจวาฉันไปอยูกับเขาแตตัว สุดทายฉันก็กลับมามือเปลา ” ริตา ไมเคยโทษใคร ไมม ีใครทําริตาตางหากที่ทําตัวเอง และก็ไมเช่ือโชคชะตา ในเวลาสองปกวาท่ีอยูดวย “..เขาดีกับเรามาก” ริตาเชื่อวาคนเราถามีความขยันก็จะไมอดตาย ริตาจึงหางานทําแถวท่ีพี่สาวอยู ตอนนี้ริตาหางานงายขึ้นเพราะริตาพูดภาษาอังกฤษได ถึงจะไมคลองแตกพ็ อจะรูเร่อื ง ริตา มองวาจุดเปลี่ยนของชีวิตริตาคือไดมาเจอแฟนคนน้ี ซ่ึงจุดเปลี่ยนนี้รวมถึงการฆาตัวตายที่ริตาบอกวาเพ่ือเรียกรองความสนใจ ต้ังแตนั้นมาริตาก็ไมเคยใช ”ไฮเตอร” อีกเลยเพราะจาํ ตอนควันออกปากและความทรมานของมันไดอ ยา งดี ...ก็มาเร่ิมแบบทุกอยางเปล่ียนไปคือมีฝรั่งคนนี้แหละที่ทําใหชีวิตท้ังชีวิตเปลี่ยน ฆาตัวตาย เพราะฝรั่งคนน้ีนะนะ เคยกินยาฆาตัวตายมาแลวแตเขาชวยไวทันนะ เขาเอาเขาโรงพยาบาลทัน กินแอ็คซี่ และกินไฮเตอร ....มันทรมานมากเลยนะ กนิ ไฮเตอรแลวด้ินทุรนทุราย เพ่ือนท่ีโรงเรียน.. ไปเจอไง เขาวา ทะเลาะกนั ตอนกลางคืน เขาบอกวาคุณไปเรียน คุณกลับมาคุณอยูหองไดไหม เรา อยากไปกับเพ่ือนใชไหม เราไปเรียนอยูที่ตอนแรกจะไปโรงเรียน..นะ แตเขาไมไดเราไมมีเกรด เฉล่ียเราไมมีอะไร เพราะวาเราแคจบป 6 นะ เพ่ือนในโรงเรียน... ยังพูดเลยนะในหองเขาคุยกัน เรียนมาจะปริญญาแลวคุณจบอะไรมา ป. 6 บอกเขามาไดอยางไร ไปๆ มาๆ เพ่ือนเลยบอกวาใช เสน เมาทก นั วาเราใชเ สน นะ ไมใ ชฉ นั ไปสอบผานมาแลว จาก..คนวาแลวคนไทยเขาจะไมยอม ไม ยอมเพราะอะไร เพราะเราไมม ีวฒุ ิ ม 3 ปกติเขารับม. 3 ใชไ หมละ เขาบอกวาสอบเอาผานก็ไมผาน ก็ไมเปนไรนะ สอบผาน โชคดีที่วาเราไดเบสิคจากฝร่ังนะ นิดๆ หนอยๆ เราอยูดวยกันมา 70 ขอ นะไมก่วี นิ าที นะกามวั่ เลยแหละ ภาษาองั กฤษทั้งนัน้ แหละมแี ตคนทํางานระดบั ปริญญาโทนะจะไป นอก คือวามาเรียนเอานะ โรงเรียน...เขาจะใหต๋ัวเคร่ืองบินข้ึนนะ แลวจัดที่พักใหดวยหาท่ีเรียนให เบ็ดเสร็จ แตวาเขาประสานกับทางสหรัฐไง ถาใครจะไปเราก็ไดอภินันทนาการจากสามีคนนี้แหละ ท่ีโรงเรยี น.. ก็ไปเรยี นคอมกม็ ีแตไ มเ ปนนะ ทุกอยา งนะไปกับการเลนแบบฟงุ เฟอ ถาใหกลับมาอยูแบบสามีภรรยาริตาบอกวาคงไมตองการ แตถาเพ่ือนท่ีดี พี่ท่ีดี หรือพอที่ดีคงอีกเร่ืองหน่ึงหรืออะไรสักอยางท่ีไมใชสามีภรรยาเพราะวามันคงเปนไปไมไดเน่ืองจากวาผูชายคนนี้ชอบเปล่ียนเด็กไปเรื่อย ริตาบอกวาไมใชวาเขาจะเปนคนไมดีเขาเปนคน

132ดีเด็กทุกคนมาอยูกับเขาใครชอบอะไรใครอยากไดอะไรเขาใหหมด ริตาบอกวากอนหนาน้ีเขาเคยใหค นอื่นมากอ น รวู า เขามี เคยมี ไมเ ปน นะเพราะวาเขาเจอเราคร้ังแรกเขาบอก พอคุยกันรูเร่ืองนิดหนอยเขาบอกเขาไมเคยมีใครเปนคําพูดคลายๆ ผูชายไทย พ่ียังไมมีเมียคือวาไมเคยอะไรมากอ น สโู ลกสชี มพคู วามฟุงเฟอของไฮโซ เราจะไป... ทุกวันนะแบบไฮโซ ....จะมีพี่อีกนะซอย...เปนเมียฝรั่งจากตางประเทศ ... เขาจะ จัดทีวันเกิดหมา ตอนแรกพาไปวันเกิดเราก็นึกวาวันเกิดอะไร เกิดหมาพุดเด้ิลนะราคาตัวละ 4 - 5 แสนเขาซ้อื ตอนน้ันเขาเวอ รนะ บอกแฟนอยากไดห มามาเลี้ยงนะ ชอบหมานะ คือวากระแสนิยมก็ ตองทําอัพเกรดตัวเองเธอเลี้ยงอีกัวนา ทั้งท่ีไมอยากจะจับนะเลยนะ แฟนบอกวานาเลี้ยงฉันก็เธอ เล้ียงสิดาล้ิง อะไรอยางน้ีนะจริงๆ แลวมันผิดเลยนะ เพราะวาอะไรรูไหมฮิตตามกระแสนะ และก็ เราอยูในวัตถุนิยมตองบอกวาเส้ือตัวไหนนะออกเม่ือไรจากไหนแตกอนยังเอ็มโพเรี่ยมยังออกใช ไหม แตพักหลังมามีสยามพารากอน มาอยูต้ังแตสยามพารากอนยังไมสรางนะ เอราวัณ เวิลด เทรดยังไมเปนเซ็นทรัลเวิลด หรือวาตรงนี้เราไปตีแตกมาแลวมีเงินไปอยางนี้ ไมมีเงินคือ 4 – 5 หมื่นนะ ซ้อื เลยวันนั้นกระเปา หลุยสใบเลก็ ๆ นะไมรูซอื้ มาทาํ ไมนะ “…เขาใหเงินใชทุกเดือน คิดดูนะหนูจากคนท่ีไมเคยมีอะไรนะ พอมามีแลวนะกลายเปนแบบวาลืมตัวใชเงินเดือนนึง 6 หม่ืน 7 หมื่น แสนก็มีคือวากูจะทําแบบคือวา เสื้อผา199 ไมใสไปใสของแบรนดเนมนะ กุชชี่นะ...” ริตาบอกวาชวงท่ีเปนเมียฝร่ังก็อยากทํางานและก็เคยคิดจะเปดรานนาฬิกาท่ีศูนยการคา แตสามีทักทวงวามันจะเวิรคหรือ และเสนอใหเปลี่ยนอยางอื่น ตอนหลังริตาบอกวาตัวเองปฏิเสธการเรียน “…เรียนนั่นเรียนนี่ไอน่ีก็ไมเอาไอน่ีก็ไมเอานะ..” และสุดทายคือพอแฟนไมอยูกลับมาถึงบานก็เลนไพ เลนกับหมอนวดขางหองซึ่งเปนเมียเชา ฝร่ังทั้งน้ัน เลนกันทั้งวนั ทงั้ คืน พอรเู วลาบา ยสามแฟนกลับมาก็รีบไปซื้อเคเอฟซีมาใหว่ิงเขาไปนงั่ ไปทําเปน ปดกวาดหอ งแลว ก็ทําทานอนทําเปนเหนื่อยจนความจริงปรากฏ “… มารยาอยูแบบน้ีนะ จนเขาจับไดนะ..” ริตาบอกวาตนเองคงมีจุดหรือปมดอยตอนเด็กๆ ที่อยากไดแลวไมไ ด จนกระทั่งเคยถามแมวาหนูเปน ลกู แมหรอื เปลา? …จดุ ม.ี ..ตอนเด็กๆ ฉนั ไมไ ดอ ะไรฉันอายฉันตองไปเอาของพ่ีชาย พีส่ าวที่ขาดแลวขาดอกี พชี่ าย มกี ะจิตกะใจท้งิ มาใหฉ นั คลา ยๆ กดดนั นะ ฉันอยากไดกางเกงยนี สต ัวหนงึ่ แมฉ นั เอาไมท บุ ตฉี นั แทบจะเปนจะตายนะ นั่นแหละคอื วาเขาแตเ ด็กเราเคยเจออยา งไง ฟดแบคทว่ี าโตข้ึนฉนั มี งานมีฐานะฉันไดเ งนิ ฉันก็จะซื้อนะ บาํ เรอความสขุ ที่ฉนั ขาดหายไปตอนน้นั มเี ส้อื ผาสวย คิดดูตอน น้นั เสอื้ ผา ดาํ แลวดาํ อกี ปะหนาปะหลังแตพี่ชาย...ปใ หมมาพี่ชายไดต วั ใหมน ะ เปนนองคนเลก็ ก็ ตองเซ็งลีฮ้ อ จากพ่ีชายมานะ พี่สาวหนอ ยเสื้อ ปกติแลวเราเคยคดิ ในใจวาลกู คนสุดทองท่ีเหลือ นาจะเปนคณุ หนแู ตทาํ ไมฉนั ตาง

133 ที่โรงเรียนสอนภาษาริตาบอกวามีแตลูกคนรวยมาเรียน ตนเองก็เร่ิมมีความฟุงเฟอแตก็ยังไมมาก “.. คลาย ๆ กับวาเรามาจากกลุมพ้ืน ๆ นะเราพยายามอัพเกรดตัวเองข้ึนมาอยูจุดหน่งึ นะ” เชนการมมี ือถือซ่ึงเมื่อกอนข้ันตอนไมง า ยและแพงตอ งมีเอกสารสําเนาทะเบียนบานไปซ้ือจะตองใหสามีข้ึนเคร่ืองบินจากที่ดอนเมืองไปจองให ดอนเมืองไปลงอุบลราชธานีไปกลับริตา บอกวา มาเอาของสําเนาแคนิดหนอยก็ข้ึนเคร่ืองกลับ ออกจากเครื่องที่อุบลฯ นั่งลีมูซีน หรือรถไปเลย “เก” ชาวบา นเขาก็โหก ันลือกันใหญซ่ึงพอมาคิดยอนหลังนาจะเก็บเงินคาเครื่องบินคาตางๆ เอาไวมากกวา ริตาบอกวาเดินทางไปภูเก็ตบอยจนเกลียด เชียงใหม พัทยาก็ไมอยากจะไปเหยียบเลยริตาบอกวาตนไปเขาอยูกับลูกคุณหนูแลว พวกงานบารที่เคยทําก็มองวาตํ่าทําเปนไมไดอยูในวงการบารมากอน แตที่ฟลุคไดสามีฝรั่งเพราะเพื่อนทํางานบาร ตอนนั้นริตารูสึกวาโลกเปนสีชมพูมากทุกอยางลงตัว คอนโดก็ดูเอาไวแลวแถวยานธุรกิจและยังตกลงกับแฟนวาบานเปนช่ือของตนเพราะฝรั่งไมสามารถซ้ืออะไรในเมืองไทยไดนอกจากเชา บรรดาเพ่ือน ๆ ที่เปนกะเทยดวยกันพอรูขาวก็มานอนกันกินกันอยูที่หอง นอกจากน้ีโรงแรมตาง ๆรติ า ไปพกั มาหมดชวงนัน้ ..คิดดูนะดุสิตนะโรงแรมไมไดขึ้นโรงแรมเดียวเทานั้นแหละ เสียคาหัวแพงโอเรียลเต็ลนะ เพนินซูลาน่ีโอเค แชงการีลา โอเค เชอรราตันโอเคอันน้ีและก็ที่โรงแรมอะไรนะเกรส สุขุมวิท แอมบาสเดอร เอเชีย ดุสิต โอเคเวิรคนอนมาหมดแลวนะคือวาฉันจะอัพเปนเมียฝร่ังหนอย ดาลิ้ง ฉันอยากไปตรงน้ี ไปทานขาวตรงนี้พอทานขาวด่ืมไวนนะไมกินนะนํ้าเปลานะกินไวน จนไป เชอราตันไมเคยเจอไวนนะแบบคลายๆ แบบคนเราจากพื้นๆ ก็รูพื้น คนเราจะดูไดจากนิสัยนะ การรับประทาน การแสดง กิริยา ทาทาง ถาคนผูดีจริงๆ เขาจะอัพมาเลยสเต็ปในน้ันแตถาคนท่ี แบบวาถามมนั จะมาเลยนะ ถา มองวา คณุ จะทานอะไร ไปเชอราตันลอยกระทงจําได 5 พฤศจิกานะ หรืออะไรนี่... นี่แหละไปเชอราตันลอยกระทง ลองเรือเจาพระยาครูสนะ ลองเรือกินไวนจนแบบวา เมามาย ไมไดสติ ฝร่ังเขาก็อายนะเขาก็ใหเพื่อนเขาที่เปนฝร่ังดวยกัน ผูหญิง ผูชาย พยุงขึ้นรถไป ไมไ ดคอื วา เชาโรงแรมที่น้ันแหละกินท่ีนั่นนอนขางบนนะ คืนละ 4- 5 พัน วีไอพีนอนไปเถอะ ท้ังท่ี ไมร ฝู ร่ังคนนนั้ เขาคดิ อยางไรกับเรานะ เราโอเคบอกวา อยากไปนี่ เขาก็โอเค ดาลง้ิ ไปนะ คิดดนู ะ ชว งทีเ่ รยี นอยูร ติ า กลบั มคี วามคดิ เชงิ ธรุ กจิ ของ “ความสมั พันธ” ข้ึนมาในขณะทเ่ี รยี นและพบคนตา งชาตมิ ากขึน้ อนั ทจี่ ริงริตา ไดความคิดเชนน้ีมาจากเขา ซ่งึ ริตา จาํ ไดเ สมอ “เซก็ ซไทม มันนี”่ รติ า บอกวาพดู งา ยๆ แลว ความหมายของมนั คือ เขาอยกู บั ริตา เพอ่ื เซก็ ซ จา ยเงนิ ใหไมม อี ะไร …เรา (เรียน) แค 3/4 นะอาจารยที่แบบแคนาดามา สหรัฐมา เราก็เล็งไวแลว กูเริ่มจากคนนี้ จะจับคนนี้นะ คิดแบบธุรกิจเขามาแลวนะ เร่ิมจากเด็กบานนอกธรรมดา มาทํางานโรงงานหลัง จากนั้นแลวนะเริ่มตกงานแลวมาอัพตัวเองขึ้นมา ดวยสัมพันธภาพจากกลายเปนคนไมรูอะไร ไมรู

134 จะทําอะไรนะ ใชของนอก นํ้าหอมพวกแชแนล ปราดา กระเปาเสื้อผาใชพวกนี้หมด ทุกวันน้ี หลงั ๆ กอนทเี่ ลิกกบั เขาและกินยาตายนเี่ รากลับไปอยบู า นนะ วาจะฆาตวั ตายอกี คร้ัง ทําตัวเหมือน จมไมลงนะ คลายๆ กับเศรษฐกิจไทย คนไหนที่รวยแลวก็จนไมลง แตทุกวันน้ีคิดอยางเดียวคือวา สงั ขารไมใชสิ่งเท่ยี งแท เราคดิ อยา งเดียววา เราจําคนที่เรารักมากทส่ี ุดก็คือวา จากเคยคิดวาชวงลม หายใจสุดทา ย กอนตายขอใหเ จอหนาเขาสกั ครงั้ จะเอยคาํ วาขอโทษแคนัน้ แหละ ริตามองวาเขาใหชีวิตใหมกับริตา คือพาไปทําขาที่โรงพยาบาลช้ันเลิศ เวลาเห็นรอยเยบ็ ท่ขี าริตาจะคดิ ถึงเขา ยังเก็บรูปเอาไวทห่ี อ งเพราะบางครงั้ เขาบา นความรสู กึ ดีๆ กบั ผชู ายคนนี้ คนละเชื้อชาติ คนละศาสนาและก็เพราะคําวาเขารกั เรา ตอนแรกริตาก็คิดวาเขาเลนๆ ริตาจําคําเขาไดวา “…มันขึ้นอยูกับตัวคุณวาทุกส่ิงทุกอยางคุณจะเรียนจบไดมหา’ลัยผมจะสงเสียไปเร่ือยๆ ก็ตอเมื่อข้ึนอยูกับตัวคุณนะ” ริตาก็เชื่อวาข้ึนอยูกับตัวริตาจริงๆ ริตาทําตัวเองริตาบอกวาฉันมาแตตัว ฉันก็จะไปแตตัว ริตาคิดวาริตาปกกลาขาแข็งแลว ริตาบอกวายังจําคําพูดของแฟนไดเมื่อเจอกันอีกคร้ังหน่ึงซ่ึงเขาพูดวา “…คุณทําผมกอนนะ คุณไปจากผมกอนนะ ผมไมไดไลคุณไป…” ริตาบอกวาเปนคําพูดท่ีเจ็บปวดที่สุด และคําพูดแบบนี้บางครั้งทําใหริตา เม่ือคิดถึงมันก็รอ งไหไ ปสามวันสามคืน กอ นจะมาถงึ วันน้ี ชีวิตของริตาเคยพบเจอชายที่มาวุนวายในชีวิตต้ังแตอายุ 13/14 - 15 ป เปนคนในละแวกบา นเดยี วกันและเม่อื ระลกึ ยอนกลับไปริตา คิดวา ตนถูกเอาเปรียบจากผชู ายเหลา น้ี คิดวาเคาเอาเปรียบเรานะ ทําใหเราเปนแบบนี้ชีวิตเราก็คงไมเปนแบบนี้เคามาทําใหเรามี ความรูสึกบางอยางเกิดข้ึนมา และเราก็ไขวควาไปเร่ือยๆ ถาเราแบบวามันถูกครรลองคลองธรรม ใชม๊ัย ถาเคา เรารูวาเราเปนตุด แตคือวาคําวาตุด กับคนอยูบานนอกนะ ถายังไมมีใครมาทํา เหมือนเปนกลัว เหมือนผูหญิงทั่วไปน่ีนะ เราก็จะไดแบบวาระมัดระวังตัวได แตถาคือวาในเม่ือมัน เปนไปแลว เราก็เคยผานอะไรมาแลว ความกลาความดานเกิดข้ึนมาไดทันที ก็มันเจอมาแลว เหมอื น พวกผหู ญิงเคา พูดนัน่ แหละนะ เจอผูชายคนไหนก็อยากรวู า ผชู ายเทาไหร จะเดด็ ไหม... อะไรทําใหริตาพูดเชนน้ัน ริตาพบคนที่ถูกใจคร้ังแรกอายุราว 13 ป ผูชายคนนั้นอายุ17 ท่ีริตาชอบเขาเพราะคําพูด เวลาเขาพูดจากับริตาทําใหริตารูสึกวาตนเปนผูหญิง “คลายๆกับวาเราเปนผูหญิง…” เขาทํากับริตาเหมือนเปนคนแรกของเขาและกําชับวา “… ทํายังงี้กับพ่ีแลวก็.. .อยางน้ีแลวอยาไปทํากับคนอื่น” ริตามานึกถึงตอนนี้แลวก็เหมือนกับนิยายน้ําเนา ดวยทเี่ ปนเด็กยังไมคอยรูประสีประสาริตาก็ไดแตพยักหนาอยางเดียว เวลาผูชายคนนี้มาหาริตาจะรูพอถึงเวลาริตาจะลงจากบานไปหาเขา เขาจะมาหาแทบทุกคืน ซึ่งเม่ือถึงเวลาที่ริตาแตงเปนผหู ญงิ คอยรอรับ ราวกับนางซนิ (ซินเดอเรลลา) แปลงโฉมยามกอนเท่ียงคืน ริตายอนคิดถึงเรื่องในอดตี เกอื บย่ีสบิ ปมาแลว

135 วา...วาแตเรานุง (ผาถุง) ไดเฉพาะตอนกลางคืนนะ บางคร้ังถาถูกจับได คลาย ๆ กับเวลา เรามีจํากัดมากตอนที่คือวาแบบวาผูชายจะมาหา เราก็ทาปงทาแปง เราคิดวาเราแบบวาเราเปน ผูหญิง อยางเคาจะบอกวามารอพี่เวลาน้ันเวลาน้ีนะ คอกควายอะไรยังงี้ แลวจะมารับจะพาลง กลางทงุ มั่งเพราะวาบา นอยขู า งทงุ พอเสร็จสมอารมภห มายแลวกจ็ ะมาพาหนูกลับบาน เวลาวางก็เหมือนกัน ตอนกลางวันพอแมไมอยูบานก็จะมาหาพาเขาหองนํ้า หรือที่ไหนก็ไดท่ีลับ ๆ ตาคน เสร็จแลวก็จะกลับไปแตขณะเดียวกันริตาก็รูวาพอกลับไปเขาก็จะไปจีบสาว ริตารูสึกเจ็บกับเร่ืองนี้และบอกวา “เราก็คิดเหมือนกันนะ เออยังงั้นทําไมเวลาเราไดก็บอกวาอยาไปยุงกับคนนั้นคนน้ี …” ริตา บอกวาเคาคือคนแรกท่ีล้ําอธิปไตยขางลางเพราะริตาหลงเช่ือ คําหวาน คําปลอบโยน ซึ่งริตามองวาไมไดรุนแรง จะรุนแรงก็เม่ือเขามีอารมณเทานั้นแตวา ไมไดลงไมลงมอื รติ าย้ําวา “ชอบแตกอ นรกั ” ริตา ไมกลา บอกพอแมเพราะเขายํ้านกั ยํ้าหนา“ไมกลาเพราะเคาก็บอกวาน้ีนารักนะ อยางงั้นอยางง้ี คนแรกเคาจะพูดอยางง้ีนะ อยาไปพูดใหใครฟงนะ เร่ืองของเราแลวก็อยาเอาพูด บางทีก็จะมาหาบานแลวบานเราคนละหมูกัน ที่พ่ีมาหาแลว ก็อยา เอาไปพดู ใหพอแมฟง อยา เอาไปเลา ใหใ ครฟง ” คนมาตอแยกับริตาสามคนในเวลาไลเล่ียกัน ความรูสึกริตากับผูชายคนแรกดูเหมือนเปนความรกั แตท ี่เหลอื กต็ า งกนั ไป “…ก็มันมีมามาชวงหน่ึงนะ ก็ประมาณ สามคน จากคนที่แรกท่ีมาทํากับเรานะ จะชอบ คลายๆ กับวามันเปนรักแรกของเรา...รูสึกแฮปปท่ีไดอยูกับเคา เคาบอกใหเราทําอยางไร ใหอยางไร เราก็ทําใหหมดเพราะเราชอบเคา แตพอตอนหลังคนน้ีก็หางๆไป ซ่งึ มารูท หี ลงั วา ไปมีเมีย “แตคนท่ีสองเราไมไดชอบ แตเคาน่ีตามกันไง มาหา...ผูชายไดคนน้ีนะวาเคาก็เลยมารุมโทรมกันอยางนี้” ผูชายคนแรกกับคนที่สามเปนพี่นองกัน ท้ังสามคนแวะเวียนมาหาตางวาระดวยหลากหลายลีลาตั้งแตหลอกลอใหเคลิ้มดวยคําพูด แมจนกระท่ังฉุดกระชากลากถูไปกระทําชําเรา คนท่ีสองท่ีมายุงกับริตาทําใหริตากลัว เวลาริตาจะกลับจากตลาดชวงตอนเย็นจะวิ่งกลับ เวลาอยูบานคนเดียวจะปดหนาตางและไมลงไปไหน คนที่สองริตาบอกวาจะชอบโชวอวัยวะเพศ “…แบบวาเวลาลับตาคนจะควักออกมาใหดูเลยนะ” ริตาสะทอนความรูสึกวา “เราไมชอบนะคะ แตวาเราผลักก็ไมได แตคือวาในใจคือวาทําใหเสร็จไปเลย” แตสวนหน่ึงที่ริตาบอกวาตองเปนไปอยางน้ันอาจเพราะไมมีใคร และตอนนั้นคิดวาเคยเสียมาแลวสักครั้งจะเปนไรไป อีกอยางก็เพราะอาจจะใกลชิดเพราะเจอบอยตอนไปเลี้ยงควายและคิดถึงคนแรก ริตาบอกวาคนที่สามยิ่งรายเปนพี่ชายของคนที่หน่ึง ริตาคิดจะเอาชนะโดยมองวาถาไมไดนองเราก็จะเอาพ่ีเพราะไดยินวาคนแรกไปมีเมีย อยางไรก็ดีริตาก็ยังมีความเมตตาใหแกพี่นองคูน้ีโดยบอกวาสงสารเลยไมบอกพอแมเขา โดยคนท่ีสามเวลามา จะมาสงเสียงเรียกริตาและพาไปนอนตามทงุ นา ตามปา แลวก็พากลบั รติ า บอกวา เวลาใหท าํ อะไร ขา งๆ ปา ก็พาลง

136ไปที่ลับๆ ตาคน “… แบบวาจิกกดคอเขาไว มึงอยาไปพูดอะไรยังงี้ ไมงั้นฆาทิ้ง” ซึ่งริตาก็กลัวมาก เหตุการณเปนไปเชนน้ีจนคนเริ่มจะสังเกต โดยเฉพาะริตาบอกวาคนท่ีสองนี้ทํา“ประเจิดประเจอ” หมายความวานึกจะมาก็มา คิดจะมามีเพศสัมพันธก็แอบพาลงทุงไป คนก็พูดกันวา “ ...มินากูวามันไมไปจีบสาว ไมกินเหลา ไมดมกาว มีของแกแลวกะ…” มีของแกหมายความวามีคน “บําบัด” ให เร่ืองจึงฉาวโฉที่สุด ริตาบอกวาท่ีพวกน้ีทําอยางน้ีไดเพราะไมมีกฎหมายคุมครองตน “… มาทํากับเราอยางน้ีกระทําชําเราไปเลย แตวามันทําไม ไมได เพราะไมมกี ฏหมายที่ไหนคมุ ครอง ผูชายตง้ั แตเลก็ จนแก” วนั น้รี ิตาอยูทีบ่ า นแตพวกเขาคงกลัวริตาเพราะแรงขึ้นเกงข้ึน แตตอนน้ันริตากลัว ริตาก็เฉยๆ ทุกวันนี้ก็ไมคอยคุยกัน ริตาบอกวาเมียผูชายเกลียดริตาแทบตาย ซ่ึงริตาไมรูวาทําไมทั้ง ๆ ท่ีมันไมยุติธรรม ริตาบอกวามีคนขาง ๆ บานเอาไปพูดบอกวาริตาเคยมีอะไรกับสามีของเธอ “…อีน่ีเคยเปนเมียเกาผัวมึง” พอผูหญิงรูก็ไปถามสามี สามีก็ปฏิเสธจึงมาถามริตาซ่ึงริตาบอกวา “…เธอจะมาคิดอะไร ฉันเปนกะเทย” ผูหญิงไมยอมเชื่อเลยตองมาน่ังอธิบาย “ก็ลักษณะของผัวเธอ…” และมันตรงประเด็นเลยพูดไมออก ทุกวันนี้ริตาบอกวาเขายังอายอยู ซึ่งริตาบอกวา “สมนํ้าหนามัน” สวนคนแรกท่ีริตาชอบริตาบอกยังพบกันและไมเคยพูดถึงเรื่องเกาการพูดก็เปนลักษณะคนบานเดียวกัน ริตามองวา “…เคายังสุภาพบุรุษอยู” เขาไมพูดถึงเรื่องท่ีเคยมีอะไรกัน จริง ๆ ริตาอยากใหพูดและเวลานั่งคุยก็พยายามโนมนาวกลับไปวาเมื่อกอนอายเปน อยา งไร แตเขาบอกวา “โอยอา ยลืมแลว ” ริตา บอกวา จะลมื ไดอยางไร “หนยู งั ไมล มื เลยนะ” 2 คืนกบั 1 วัน: หายนะแหง ชีวติ ต้ังแตวันท่ีริตาออกจากบานฝร่ังมา ริตาก็คือคนขายเสื้อผาไมใชเมียฝรั่งอยางท่ีเพื่อนๆ พูดอีกตอไป เร่ืองราวท่ีเปลี่ยนชีวิตของริตาไปอยางไมสามารถหวนคืนกลับมาไดอีกเกิดขึ้นเมื่อริตาไดมารูจักเพ่ือนกะเทยที่ขายผาอยูแถว ๆ นั้นเหมือนกัน ดูทั่วไปเขาขายผาเหมือนกับริตา เงินเดือนก็ไมมากกวาริตา แตริตาสงสัยวาทําไมดูเขามีเงินใชจายมากกวาเงินเดือนท่ีเขาไดรับ เวลาผานไป...ริตาก็สนิทกับเพ่ือนคนนี้มากขึ้น เมื่อสนิทกันเพ่ือนกะเทยของรติ าก็บอกกับริตาวา ทกุ วันน้อี าศัยเพยี งเงินเดอื นขายเส้อื ผา คงไมพ อกนิ ตอ งทาํ ”อยา งอื่น”ดวยถึงจะอยูได อะไรคืออยางอ่ืนที่วาน้ัน จากนั้นริตาก็ทําเหมือนเพ่ือน คือ วิ่ง “ของ” รับจาง ซึ่ง“ของ” ที่วานี้กค็ ือ ยาบา หนารอนปน้ันริตากับเพื่อนกะเทยอีกคน ไปแถวคลองเตยเพื่อรับยาไปสงแถวยานธุรกิจบันเทิงกลางใจเมือง ตอนขากลับก็พากันมาขึ้นรถแท็กซี่ รถออกวิ่งไดสักพักมีรถตํารวจจํานวนหน่ึง ตามประกบริตากับเพ่ือน สุดทายริตาก็ถูกจับแตเพื่อนโดนปลอยเพราะไมมีของกลางในมือ ริตา ถูกจับวันศุกร ตดิ กับเสาร – อาทติ ย เลยตองฝากขังไวท ่ี สถานตี าํ รวจ 2 คนื

137กับอีก 1 วัน ทีเ่ คยไดย นิ มากอนวา อยูในคกุ กะเทยเหมือนนางฟา ริตาไมไดฉุกคิดสักนิดวามันนาขยาดกลวั แตอยา งใด คนบอกวา “มงึ เขา ไปกร็ ู” ยังไมเคยรูมากอน และอยางมากเพื่อนที่เปนกะเทย เขาเคยพูดใหฟงไง เขาเลนไพเราคิดวา มันคงจะไมหนักเพราะเขาเลนไพใชไหม เราคิดวาคงไมหนักเขาบอกวา อยูสน.นะสบายเธอ อยาง กะเทยบางคนมาพูดนะ ถึงคุกใหญ มันพูดถึงสน. สบายเราเหมือนนางฟาน่ีแหละเธอ เราก็ไมสวย อยางฉนั คงจะเปน นางฟานะ คยุ กับเขาไปอยา งไรก็ไมเปน ไร 4 - 5 วนั กอ็ อกแลวนะ ริตาคิดวาวันแรกท่ีริตาผานเขามาในคุกเล็กเหตุการณ 2 คืนกับอีก 1 วันคงจะผานมาแลวผานไป แตมันไมเปนอยางน้ัน หลังจากซักประวัติเรียบรอยก็เขามาอยูแดน 3 รอการจําแนกไปอยูตามแดนตางๆ แลวแตคดีของแตละคน การจําแนกแจกแจงน้ันทําโดยการสอบถามเม่ือเขาไปในคุกพอเดินเขาไปจะถูกถามวา “ใครเปนกะเทย” เปนการจําแนกคน โดยพวก “นาย” (สัสดีหรอื ผคู มุ ) จะใหห ัวหนามาถาม นกั โทษชน้ั ดี (สวะตามคําพูดของริตา) เพราะรูกันวาตองสงสวยอะไร แตผิดกับที่รูมาแตตนริตาบอกวามันคือ นรกคนเปน ดีๆ นี่เอง ริตาเลาเหตุการณที่ริตาอยากจะลืม คืนแรกของนรกบนดินหอง 1 แดน 3 วา กะเทยอยูแดนสามแลวจําแนกบําเรอกาม 1-2 คืน ถาคนไหนหนาตาดี ริตาบอกวาก็จะถูกสงเขาไปในแดนกะเทยเปน อาทติ ย เปนแบบวา เปน อะไรที่ในชีวิตจําตลอดชวี ติ และกไ็ มเ คยลมื วินาทีตรงน้ีนะเราไมคดิ วา เราเกิด มาเปน เพศแบบนี้แลว เราโดนตอ งกาวไปอยใู นน้ันนะ…พอเขาไปสงเรากไ็ ปจําแนกหองแดนจําแนก แดน 3 เขาไปทุกคนตองเขาไปอยูแดนนั้นแดนจําแนก นักโทษ ถากะเทยเขาจะกักไวนานหนอย นะ กกั ไวเ พอ่ื บาํ เรอในแดนน้นั ใหมันหมดกอ นพูดแบบหยาบๆ นี่แหละนะ คือวาคืนน้ี คืนแรกนะหนู นอนหอง .. หนูจําได 35 คนคะคือวาคืนน้ันไมไดนอนหรอก คนน้ีก็ลากไป เจ็กลากไปไทยลากมา จะเปนหองกรงไง นายเขาจะสงเราตอเมื่อบายสามระฆังเปก ๆ เขาเช็คยอดหองน้ีเทาไรขึ้นไปแต ถาข้ึนไปสมมุติวาเรา เขาเช็คยอดเราเราไปตกหองสองนะแตคนหอง 1 เขารู แลววาเรามาอยาง พวกเรามา 5 คนนะหอง 1 น่ีมันจะวิ่งมา หัวหนา ไอ..ใหญมันจะมาเลยมาลักตอนเราเขาไปหองเรา เลย มาล็อก นายก็รู มันพวกนาย คือสัสดีมันรูทุกอยางเห็นเปนใจกัน แตมันไมทํา เพราะวามันได เงินจากพวกน้ีนะ พวกตัวขงเบงมันเขาไปอยูในคุกนานๆ แลว หัวมันจะแพรวพราวเลยหัวเปน ธุรกิจ เลยนะ หลังจากที่เจอแบบนรก 35 คน …เราอาจจะครั้งนั้นแหละท่ีลืมไมลงเลยนะบวมมาก เลย คือวาหนูยืนนะพูดตรง ๆ นะ ขาส่ันไปหมดนํ้าของผูชายไหลออกมาไมขาดเลย เพียงแตวา อะไรที่ทนไดและคืนสุดทายนะ ที่เรามันรูวาเราเจ็บขนาดไดไหน มันก็ตีท่ีจะทําใหได ไอคนน้ัน ไมไ ดก ดคออยนู ่ันไอค นหนงึ่ ออก ไอคนหนง่ึ เขาอยูอยางนน้ั แหละ ไอท่ีคนท่ีไมทําเราก็มีสงสารเราก็ มีก็พูดไมไดเพราะวาเขาไปพรอมกัน ไอตัวเล็ก ๆ ก็ไดแตมองเรา รูวาเขาสงสารแตมันทําไมได ถาลุกขึ้นมาก็ทั้งหองสงสารพ่ีใหญสั่งตาย ตีกันตายนักโทษตีกันตายหาวาเปนไขตาย บิดเบือน ความจริงตายคกุ นะเลวท่ีสุด

138 นรกมีจริง ริตาถูกผูชาย 35 คน ในหอง 1 ท่ีไมเคยลืมเลือน รุมขมขืนริตาจนครบทุกคน ครั้งเดียวไมพอยังวนเวียนทําอยางน้ันท้ังคืน คืนนั้นท้ังคืนริตานอนไมหลับกลัวไปหมดเจ็บเจียนตาย ทรมานทั้งรางกายและจิตใจ ริตาคิดวาคงไมมีมนุษยท้ังหญิงชายหรือกะเทยท่ีอยากจะถูกกระทําอยางน้ัน อมนุษยพวกนั้นไมรูคําวาสงสารเพื่อนมนุษยดวยกัน ในคุกคําวาพี่นองเพ่ือนคงจะหายาก เพราะแตละคนที่เขาอยูใน ณ ท่ีนี้ สังคมเขาไมเคยตราหนาวาคนดีนักโทษรายใหมตองตื่นแตตอนเชา เสร็จแลวเขาแถวนับจํานวน จากนั้นคอยทานขาวหลังจากนั้นริตาบอกวาไอพวกคนเกามันจะมาเลือกเอาตัวไปทํางานใหมันเหมือนวัวควาย หรือสัตวเดรัจฉาน “ฉันตองทรมานกับพวกเดนมนุษยในคุกที่สถานีตํารวจ สิ่งท่ีฉันไมเคยคิดและไมเคยทําฉันไดยินแตคนอ่ืนพูดกัน แตไมคิดวาจะโดนกับตัวเองในคร้ังน้ี ใชบางครั้งคนอื่นอาจจะคดิ วา เปนเรือ่ งธรรมดากบั กะเทย เพราะเขาคิดวากะเทยตองเหมือนกันหมด แต2 คืนกับ 1 วนั ...” ตอนเขา ไปท่ฝี ากขัง เขาไปคนเดียวเจอกับกะเทยท่ีอ่ืน กะเทยก็จะมาน่ังคุยกันวนั นีห้ ลอนโดนกี่ไม เขา มาเม่ือวานโดนกไ่ี ม อันท่ีจริงริตาอาจจะไมตองเขาคุกก็ไดถาตอนถูกจับไปโรงพักแลวจายเงิน ที่บานริตาไมรูวาถูกจับแตเพ่ือนไปบอกพี่สาว พ่ีสาวถามวาจะใหทํายังไง ทําไมถึงเปนขนาดน้ี เลยเอาโทรทศั นไ ปจํานําเพ่อื จะเอาริตาออก แตตํารวจบอกวารอใหถ ึงวนั จันทร อาทิตยฝากขัง วันจันทรมาถึงบอก 5,000-10,000-15,000 พี่สาวบอกมีผูหญิงโทรมาเอาเงิน 10,000 ก็ได ใหติดตอ...แตใหมาตดิ ตอ เองจะดําเนินเร่ืองให พสี่ าวบอกขอดกู อ น ริตาบอกวาเราอยาไปเสียเลยเพราะรายไดเรากไ็ มม ี พ่นี องเรากท็ ํางาน สูไวน ะในเม่อื ชะตากรรมฟาลิขิตแลวตั้งแตนั้นก็สงขึ้นศาล ยังไมไดตัดสนิ ไตส วน ฝากขัง ริตามองวาตนถูกจับเพราะชะลาใจและความจมไมลง ริตาเคยเสพยาแลวไปเท่ียวกับเพื่อน แตตรวจปส สาวะแลว ไมม สี ีเพราะมีวิธี ทําใหรอดเหมือนปาฏิหารย ที่พักท่ีริตาอยูเปนหองเชาเล็กๆ แคบๆ หองละพันกวาบาท หองน้ํารวมเทาน้ัน ไมเหมือนกับท่ีเคยอยูกับฝร่ัง ริตาขายยา กเ็ พราะเงนิ เวลาอยูบา นเชา รติ าก็กลัวถูกจบั เหมอื นกัน ตอนอยูในหองจะคอยเช็คโดยมองดูเงาสะทอนที่พื้นปูน ถาเปนรองเทาผิดปกติ หรือไมสงเสียงมากอนก็จะไมเปด มีบทเรียนเพราะเคยโดนจ้ีหมายความวาถกู จบั เอาเงินไปหมด เชาวันจนั ทรต ํารวจสง ผูตองหาทัง้ หมดไปทีศ่ าลอาญาแหง หนง่ึ ริตาบอกวาคดีของริตาคือฝากขังเพ่ือไตสวนและสืบเสาะตอไปอีก 6 เดือน หลังจากน้ันริตาก็ไดมาอยูที่หรือคุกใหญตามท่ีริตาเรยี ก รติ า บอกวาพวกท่ีเปนกะเทยจะมีหัวโจกคุมไปอีกทีหน่ึง เพ่ือที่จะเอาไปใหพวกสวะอีกพวกคอยเลือกเอาไปทํางานใหมัน ริตาบอกวาในคุกมีซองเหมือนขางนอกแตขางนอกมันอาจจะอยูในท่ีมิดชิดหรือที่ไมมีใครเห็น แตขางในคุกอยูขางกําแพง ราวตากผา หองน้ําที่ไมมอี ะไรก้ันเลย รติ าไดย า ยมาอยูแดนพยาบาลที่จะมเี ฉพาะกะเทยกบั คนแก ๆ อยู ความรูสกึ ตอนนนั้รติ า บอกวาดขี น้ึ มาหนอ ยหนึง่ ทจี่ ะไดไมตอ งนอนผวากลัว รติ า เลาตอ ไปวา เพือ่ นกะเทยคนหน่ึง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook