89 ข. การเรยี นรูถงึ ตาํ แหนง แหงทีใ่ นระบบความสัมพันธ …เออ อยางบางทีเขาทิ้งเราแลวไปอยูกับผูหญิงจริงๆ เราก็ตองยอมรับความจริงเพราะมัน เปนธรรมชาติของเคาวาเคาตองคูกัน อันนี้ เออยอมรับนะวาเราคงไปสูผูหญิงเคาไมได หรอก เพราะเกิดมาคูกนั (ปยะวรรณ) เม่ือคนถูกใหช่ือวาเปนกะเทยและดํารงอยูดวยการอางอิงอัตลักษณของผูหญิงน่ันหมายความวากะเทยโดยนัยยอมรับความเปนรองท่ีจัดไวในระบบความหมายของสังคมอยางไมรูสึกตัว รางกายของกะเทยภายใตวาทกรรมรักตางเพศเปนรูปสัญญะที่แสดงถึงอํานาจการจัดกระทําทางความคิด กะเทยถูกจัดกระทําในเรื่องเพศ ทั้งเพศสรีระ เพศภาวะและเพศวิถีใหเปนไปตามอาํ นาจของวาทกรรม ทง้ั น้กี ารเปน กะเทยเปนเพยี งรากฐานของการถูกกระทาํ โดยสังคม แตส่ิงท่ีมากไปกวาน้ันคือการอาศัยระเบียบสังคมที่กํากับกะเทยนี้จัดตําแหนงกะเทยในระบบความสัมพันธระหวางเพศซึ่งย่ิงมีผลตอการเอารัดเอาเปรียบกะเทยจากชองทางที่สังคมเปดใหนี้ ถึงแมผูชายจะมีความสัมพันธกับกะเทย คบกันในฐานะแฟนและอยูดวยกันก็ตามทีแตก็มักเปนความสัมพันธท่ีซุกซอน ไมเทาเทียมกัน และชั่วคราว กะเทยมักถูกมองเห็นเปน“ปายรถเมล” ท่ีผูชายคอยแวะเวียนมาหา ในขณะท่ีผูชายเหลาน้ันก็มีแฟนหรือภรรยาเปนผูหญิงเปนตัวเปนตนอยูแลว กะเทยหลายคนมักจะยินยอมดวยระเบียบความสัมพันธไดทําใหกะเทยเช่ือวาการปฏิบัติเชนนี้ตองยอมรับไดเพราะความสัมพันธที่ถูกตองคือความสัมพันธแบบชาย-หญิง ดวยความรูผานกลไกทางสังคมท่ีหลอหลอมครอบงําความคิด ดังท่ีทวินันทไดคาํ ตอบจากผชู ายและเช่ือวาตวั เลอื กของความสัมพันธระหวา งเพศยอมตองเปนแบบรักตา งเพศเทานั้นถึงจะอยูรอด ทั้งนี้มีนัยของความเหนือกวาของผูหญิงแฝงอยูในระบบความสัมพันธเชนนั้นดวยและโดยเปรียบเทียบกับผูหญิงกะเทยจึงถูกจัดอยูในสถานะที่ดอยกวาในระบบน้ีจากคาํ พดู ของทวินันทท ี่โทษตัวเองวา ไมฉ ลาดที่คิดไมไ ดและเลาถึงประสบการณของตนสะทอนใหเ ห็นวิธีคิดเชน น้ี “กไ็ มชอบแบบเรา .....ใชแ ละไปเจอตางทก่ี นั แนนอนตัวเลือกทดี่ ีกวา สําหรับเขาท่จี ะตองเลือก เราจะตอ งมมี าก จะตองเลือกคนอ่ืนมากกวา คนนี้ดีกวาเรา (เปนผูหญิง) เขาจะตองเลือก” กะเทยยังถูกทําใหเชื่อวาความสัมพันธกับผูชายน้ันไมย่ังยืนเพราะผูชายมีหนาท่ีทางสังคมท่ีตองทํา เห็นไดจากคําพูดของกุหลาบตอไปนี้ “เพราะผูชายเขาตองทําหนาท่ีของผูชายนะ เขาตองไปมลี ูกมีเมยี นะ ...ที่ผานมาทุกคนบอกวาถึงเวลาแลวเขาก็ไปนะ…” ซ่ึงมีความเชื่อวาในระบบความสัมพันธระหวางเพศในสังคมน้ีที่สุดแลวผูชายก็ตองไปเพื่อไปมี “ครอบครัว”จึงทําใหกะเทยบางคนตองเผื่อเลือกหรือคบผูชายหลายคนในเวลาเดียวกัน เพราะเปนการ
90เผอ่ื ใจไวจะไดไ มเ สยี ใจโดยเฉพาะคนทม่ี ปี ระสบการณมาพอสมควร ดงั ที่นัยนาเลาประสบการณของตนขางลางนี้ นอกจากนี้บางครั้งยังมีการเกทับ/แขงขันกันวาวันนี้ไดอยูกับผูชายกี่คนโดยการถามไถก นั ทีเ่ รยี กกันในหมกู ะเทยวา คืนนไ้ี ดกนั “กีไ่ ม” เราเก็บเอาไวพอแฟนกลับมาก็เม่ือคืนไปกับใครมา (เขา)ก็ถามวา ก็เพื่อนคุณคงบอกคุณแลว นี่ มันบอกวาอยาไปคิดอะไรมากเลยคุณ ผมก็ซอมๆ ไวอยางน้ันแหละ ซอมหาคูซอมแทนเรานะ มันก็คงไปมีอะไรกับเขาแหละ เราก็ไมคอยเสียใจเทาไร เพราะวาเราก็ไมไดมีเขาคนเดียวไงชวง น้ันนะเหมือนพ่ี (ชื่อ) วานะมีสแปร (spare) หลายๆ คนที่แถวหมูบานน้ันนะในตําบลน้ันมี 11 หมู นะ หนูจะมไี วหมูบา นละ 1 นะ จรงิ ๆ แตค นในหมูบา นเดยี วกันไมกิน มันมองหนากันไมติดนะเห็น กนั ทกุ วท่ี ุกวนั นะ อีพวกนนั้ นะนานๆ เขาไปเหน็ มนั คร้งั หน่งึ นะ อาทติ ยหนงึ่ เหน็ มนั คร้ังหน่งึ สนกุ ดี กะเทยบางคนก็ถูกผูชายหลอกวาไมมีลูกมีเมียจนไปพบเขาและถูกขอใหเลิก หรือบางคนก็ทนไมไหวกับความเห็นแกตัวของผูชายท่ีตนเองคบดวยเพราะมีผูหญิง หรืออยากมีสัมพันธกับผูหญิงเพราะมองวาเปนสิ่งปกติที่ตองปฏิบัติ เชนนลินีที่แฟนอยากลองมีความสัมพนั ธก บั ผูหญิงจึงทะเลาะกัน “….เขาอยากจะมีผูหญิงอะไรอยางนี้แตเราไมยอมนะ แตเราเขาบอกถามีผูหญิงก็มีไปแตเราขอมีคนใหมเขาก็ไมยอม” ทําใหเห็นวาดวยระบบความคิดและระเบียบหลักทางเพศไดทําใหมีคนฉกฉวยโอกาสจากความเปนกะเทยในอันท่ีจะตองใหการยอมรบั หรืออดทนกับความสมั พันธท ่ไี มเ ทา เทียม ถึงแมวาบางคนจะปฏิเสธไดแตในท่ีสุดกะเทยมกั เช่ือวา สุดทา ยตนตอ งอยโู ดดเดยี่ วเพราะความแตกตางจากคนในสงั คมทว่ั ไป จึงเห็นไดวาตําแหนงแหงท่ีของกะเทยในสังคมน้ันถูกจัดวางไวโดยระเบียบสังคมรักตางเพศท่ีครอบไวดวยระบบชายเปนใหญ ทางเลือกของกะเทยจึงตกอยูภายใตกรอบของระเบียบสังคมและทําใหตีความหมายของบทบาทกะเทยไปตามนั้น ดังนั้นความอิสระและทางเลือกท่ีจะดํารงชีวิตในเรื่องเพศที่เคยคิดวามีน้ัน แทท่ีจริงแลวมนุษยไมมีทางเลือกใหเดินมากนักในเรื่องความสัมพันธระหวางเพศในสังคมเชนน้ี สําหรับกะเทยนอกจากท่ีจะถูกทําใหเช่ือวาตนเองไมทัดเทียมคนอ่ืนๆ แลว ในเรื่องของเพศซึ่งเปนเรื่องใกลตัวในชีวิตประจําวันก็ไมมีอิสระ หากการมองวากะเทยอาจมีผูชายหลายคนในเวลาเดียวกันถือเปนความอิสระก็คงจะไมไดเพราะอันที่จริงกะเทยถูกพันธนาการโดยโซตรวนของความคิดที่ทําใหเช่ือวาการกระทําเชน นั้นอาจทําใหพ บกบั ความสขุ ในชีวิต
91 4.2.2 ความใฝฝน และอนาคต “ผูหญงิ คอื ผูหญิง ผูช าย คอื ผชู าย กะเทยคือกะเทย มนั ไมเ หมอื นกนั ” ปย ะวรรณและความเหน็ เกยี่ วกบั ตนเอง การเปนสาวประเภทสองเปนเร่ืองท่ีลําบากยากเย็น สําหรับคนทั่วไปเพียงการที่จะเปนคนดีของสังคมก็ตองกํากับตนใหอยูในระเบียบบรรทัดฐานท่ีรับไดแลว การถูกตีตราในทางลบ เปนอื่น และเขาพวกไมได ทําใหยิ่งตองใชความอดทนและพยายามในการสรางความเปนตัวตนทางสังคม และอัตลักษณทางเพศที่ไปไดกับบรรทัดฐานที่ถูกสรางจากวาทกรรม ถึงแมหลายคนจะเชื่อวาสิ่งเหลาน้ีไดสรางความสุข สมดังปรารถนาแตความสุขเหลาน้ันก็ไมไดสะทอนเสียงและความตองการในสวนลึกที่ตองการเปนตามแบบฉบับของตนเองแตกลับเชื่อในตัวตนท่ีถูกสรางวาเปนความจริง พ้ืนท่ีทางสังคมไมไดเปดใหกะเทยแตเปนเพียงภาพลวงตาที่จําลองความสัมพันธหญิง-ชาย อาจจะมีบางในบางพ้ืนที่เล็กที่กะเทยมีความเล่ือนไหลทางเพศวิถีในการกระทําทางเพศ เชน ไมเดินตามเสนทางการมีเพศสัมพันธแบบชายหญิงทั่วไปกะเทยบางคนนิยมเปนฝายรุกหรือท่ีเรียกวา “สาวเสียบ” แทนที่จะฝายรับตามบทบาทท่ีอางอิงเพศวิถีแบบหญิงท่ีกะเทยตองเลียนแบบเพราะความเปนตนเองไมไดถูกยอมรับจริงๆ แมวาจะแสดงออกอยางอิสระแตก็ไมไดเปนอิสระ ซ่ึงเห็นไดจากคําตอบของณหทัยตอขอคําถามของทางเลือกในชีวิตซึ่งยังวนเวียนอยูในกรอบความสัมพันธของวาทกรรม และมองไมเห็นทางเลือกอน่ื ดังน้ี ถาเลือกไดอยากเปนผูชายแทมากกวา ถาเลือกไดไงคะ แตถามวาตอนน้ียอมรับตัวเองได ไหม ยอมรับตวั เองไดเ ต็มทร่ี อยเปอรเ ซน็ ตนะ แตถาใหเลือกได ขอเปนผูชายแทดีกวา...เลือกได ตั้งแตเกิด เหรอ อยากเปนผูหญิง ....เลือกไดตั้งแตดําเนินชีวิตที่เปนผูชาย เลือกจุดเปลี่ยนนะ คะวาเราจะเปนทีจหี รอื เราจะเปน ผชู ายอยางน้ีใหเ ลอื กเปน ผูชายไปเลย ถาเกิดฝนยอมรับวา ตัวเอง ฝนกินฮอรโมนอยางนี้นะคะ แตเปนความฝนท่ีเรารูสึกวา ก็เพื่อความสุขของเรามันเลยไมคอยฝน มากอยางน้ีนะคะ บางคนอาจจะมองแบบวาไมเหน่ือยเหรอ ตองมานั่งกินฮอรโมนอยางนี้นะ พยายามฝน ธรรมชาติตวั เองแตวา เปนความสุขเรา เราก็ไมร สู ึกวา เหน่ือยนะ เสียงท่ีมาจากตัวตนของอัตลักษณอางอิงสะทอนความขัดแยงในตนแมกระท่ังการเลือกที่จะเปน ที่สะทอนออกมาในคําพูดของณหทัยขางตนทําใหเห็นวาในความคิดเพศมีเพียงสองเทานั้นและการเปนกะเทยถึงแมจะตองฝนตน แตก็มีความสุข ไมมีใครอยากแตกตางแตมันเปนธรรมชาติของเขา/เธอ การท่ีกะเทยตองกอรางสรางตัวแบบ “จิ๊กซอว” และเหน็ วา สง่ิ นน้ั เปน ไปเพราะ “ความสขุ ” ท่ไี ดท าํ เพราะเชื่อวาตนเองจริงๆ แลวคือผูหญิง เสียงและตัวตนที่แทจริงจึงถูกกดทับไว แตอยางไรเสียการเลือกเปนใครก็ยังอยูในวงจํากัด ผูชาย หรือ
92ผูหญิง แลวกะเทยจะเปนกะเทยมิไดหรือ? ดังคําพูดของปยะวรรณขางตนที่ยํ้าเตือนใหฉุกคิดและสะทอนใหเห็นวาในโลกน้ีมเี พศมากกวา นัน้ อุดมการณรักตางเพศท่ีเปนแมบทของความสัมพันธระหวางเพศไดถูกสะทอนออกมาในความใฝฝนและการวาดอนาคตของกะเทย ความใฝฝนในวิถีชีวิตท่ีสะทอนใหเห็นถึงเพศวิถีซ่ึงทําใหเขาใจวาการครอบงําของอุดมการณน้ันฝงลึกซ่ึงอนาคตที่จะถูกสรางขึ้นอาจจะทําใหความจริงแมบทยังถูกตอกยํ้าและดํารงอยู หากไมสามารถปลดปลอยความคิดอิสระตามความปรารถนาท่ีถูกเบียดขับแตดําเนินชีวิตตามที่สังคมคาดหวังและขีดเสนทางเดินไวใหดังที่นยั นาพูดถงึ ตนเองดงั นี้ ตอนน้ันเราแคคุยกันเร่ืองเด็กๆ นะเราอยากเปนผูหญิง เราอยากมีครอบครัว เราอยากเปน แมบานกลับมาก็ถอดถุงเทาใหสามี เก็บเสื้อผาไปซัก ทํากับขาวไวรอตอนเชาก็รีดผาไว จะถาม คุณพรุงนี้ใสสีอะไร เขาจะบอกใสเส้ือเช้ิตสีกรมก็วาไป จะจัดเปนชุดไวใหเขารองเทาก็ตองขัดมัน อยางเรียบรอยนะ กลับบานมาสามีเลิกงานมาก็น่ังนวดใหเลนกันประมาณนี้ มันจะมีความสุข มากๆ เลยชวงนั้นโลกในโลกนมี้ ีเราสองคนก็พอแลวไมตอ งการใครแลว จรงิ ๆ ความใฝฝนของกะเทยในเร่ืองชีวิตคู สะทอนออกมาในบทบาทชายหญิง ทําใหเห็นวาภายใตความสัมพันธแบบรักตางเพศท่ีครอบงําโดยชายเปนใหญ กะเทยขอเพียงไดแทนที่ผหู ญิงอยา งเสมอภาค กลา วคือเสมอภาคทัดเทียมกับผูหญงิ แตไมไดหมายความวา เทาเทียมกับผูชาย ในแว็บหน่ึงของความคิดกะเทยบางคนก็อาจจะมีความเปนตัวตนมากพอที่จะยืนหยัดตอสูกับอํานาจของสังคมสวนกระแสในบางเร่ือง แตคําถามคืออํานาจท่ีจัดกระทําตอตนเองนั้นรนุ แรงจนกลายเปน ความคิดของกะเทยเอง - คิดเองทําเอง ซึ่งไดสรางกรอบกํากับในตัวเองของกะเทย การลวงล้ําพื้นที่ของรักตางเพศจึงเปนไปไดยาก แมแตในอนาคตก็มิอาจคาดหวังกับสิ่งที่ตนคิดวาเปนไปไมได ท้ังๆ ที่อนาคตนั้นมนุษยมิใชหรือเปนผูสราง? ดังที่อัญชลีพูดถึงอนาคตของครอบครัวตนวา อยากจะมีลูกนะคะ คือแบบวาหนูก็เร่ิมรักเขานะแตวา หนูอยากมีลูกนะคะ เล้ียงดูใกลๆ คอย ดูแลนะ และถาเปนไปไดหนูอยากมีเองนะเพราะไมมีแนใจเทาไรการรับลูกบุญธรรมมาเพราะเด็ก นะคะคือตัวเขานะอาจจะรบั ไดแตต วั หนหู นไู มร ูหนอู ยใู นสถานะไหนนะ อนาคตของกะเทยรุนตอๆ ไปจะเปลี่ยนแปลงไดอยางไรข้ึนกับความรูท่ีมีเก่ียวกับตนเอง ทั้งหมดท่ีเปนความจริงของความเปนกะเทย หรืออีกนัยหนึ่งตัวตนท่ีถูกกระทําท่ีสรางจากเครือขายการปฏิบัติการของวาทกรรม เกิดความเห็นพองของความหมายวากะเทยน้ันเปนอยางไร ทําอยางไรไดบางและทําอะไรไมไดบาง ภายใตกรอบกํากับหรือบรรทัดฐานของวาทกรรมรักตางเพศ ซ่ึงเม่ือเกิดมีการเปรียบเทียบกับผูหญิง แมวาการตัดสินใจมีสัมพันธทาง
93เพศของกะเทยอาจจะไมตองตัดสินใจนานตามบทบาททางเพศภาวะแบบผูหญิงกลายเปนสิ่งท่ีเรียกวา “วัฒนธรรมกะเทย” จนทําใหเปน อัตลักษณทางเพศ การมีลูกไมไดในบางมุมมองอาจจะเปนจุดดีของกะเทย แตในสังคมรักตางเพศ สิ่งนี้กลายเปนจุดออนดอย และขณะเดียวกันก็ถูกใชเปน “ปมเขื่อง” ในการปฏิเสธและตัดสัมพันธกับกะเทยเพราะผูชายตองไปทาํ หนา ท่ี “ลูกผชู าย” ตาม ”ธรรมชาต”ิ ในบทบาทและพฤติกรรมการมเี พศสมั พนั ธท่ีถูกกําหนดเพื่อสราง ”ผูสืบสกุล” ในระบบความสัมพันธท่ีเพศและความสัมพันธทางเพศท่ีชอบธรรมตกอยูภายใตการครอบงําของวาทกรรมรักตางเพศและชายเปนใหญ และส่ิงน้ีไดถูกใชใหเปนประโยชนแ กผ ทู ี่จะคดิ เอารัดเอาเปรยี บทางเพศเชิงเพศวิถีตอ กะเทย
บทท่ี 5 นัยจากประสบการณที่เกนิ กวาการลวนลามทางเพศ ความจริงทางสังคมเก่ียวกับวิถีกะเทยที่ถูกสรางข้ึนใหภาพของความจริงท่ีเสมือนเปนความจริงแท และสากล ไดสงผลตอกะเทยโดยตรง คําวากะเทยใหความหมายที่มีนัยของความไมสมบูรณโดยการนํามาเปรียบเทียบกับชายและหญิง ยิ่งไปกวาน้ันยังมีนัยของคนท่ีใฝหาความสัมพันธทางเพศเชิงประเวณี เปนมายาคติของสังคมที่ยัดเยียดนัยของความเปนกะเทยเชนน้ีใหแกคนที่มีเพศไมตรงกับสรีระและตองการเปนผูหญิง นอกจากกะเทยจะถูกจับจองจัดระเบียบ และยังจัดการตนเองตามอุดมการณทางเพศที่แพรกระจาย ผานความสัมพันธในสังคมท้ังที่เปนทางการและไมเปนทางการ ความรูเกี่ยวกับตนเองของกะเทยถูกละลายสับเปลี่ยนเอาความรูท่ีตั้งบนพื้นฐานของขั้วตรงขามมาเปนเกณฑ กะเทยจึงเปนอ่ืนไป ทั้งๆ ที่ความเปนหญิงหรือชายน้ันมิไดตายตัวเปนเนื้อเดียว แตหลากหลายล่ืนไหลไปได จึงไมยุติธรรมในการที่จะกําหนดความหมายเหมารวมแกส่ิงใด หรืออธิบายส่ิงตางๆ และเหตุการณตางๆบนพ้ืนฐานของความตายตัวเชิงทฤษฏี อัตลักษณสมมุติทางเพศของกะเทย (Assumed sexual identity) ที่หลอมรวมในประสบการณเชิงเพศวิถีซึ่งปะทะกับเหตุการณที่ละเมิดศักด์ิศรีของความเปนมนุษยของเขา/เธอเผยออกมาในรูปของคําใหการจากประสบการณไรนิยามท่ีรวมกันประสานเสียงเลาเรื่องตอไปนี้ซง่ึ เปนความรจู ากประสบการณของกะเทยท่ีเลือกสรร และนํามาประมวลใหไดมาซ่ึงความหมายของ “การลวนลามทางเพศ” กะเทยโดยจะตองตีความจากปรากฏการณท่ีเกิดข้ึนเนื่องจากยังไมมีนิยามและความหมายตรงท่ีเขาใจกันไดทั่วไป เพราะความจริงในสังคมสองเพศมีความหมายจํากัดไมครอบคลุม การนําเสนอจะแบงเปนสองสวน คือสวนแรก ปากคําจากประสบการณ และสว นที่สองนัยของบรรทัดฐานรักตางเพศกบั การตดั สนิ ความหมายจากประสบการณ 5.1 คําใหการจากประสบการณไ รนยิ าม เรื่องราวจากประสบการณตอไปนี้ จะสะทอนใหเห็นความจริงจากการกระทําปรากฎการณ และความคิดของผูคนที่ไมเปนไปตามความจริงแมบทที่ไดวางรากฐานความเชื่อและสรางโลกทัศนของมนษุ ยจนทําใหเ หน็ วาสง่ิ เหลานัน้ ไมมจี ริงและไมเ ปนจรงิ โดยการเลาเร่ืองราวจากคนที่ถูกกระทํา เปนเสียงจากประสบการณท่ีหลากหลายจาก “เหตุการณ” ที่ถูกมองวาไมใช“เหตุการณ” ท่ีเคยเกิดข้ึนและจะเกิดขึ้นในอีกหลาย ๆ แหงกับคนอ่ืน ๆ ซึ่งอาจจะตางวัยหลากหลายพื้นฐานไมวาจะเปนการศึกษา การเล้ียงดู ตางเวลา และสถานที่ และหนักเบาตางกันแตส่ิงนั้นอาจมิมีความหมายหรือถูกใหความหมายเปนอยางอ่ืน ปากคําจากประสบการณชีวิตของณหทัย อัญชลี ดวงฤดี หลิน นัยนา กรกนก ริตา ท่ีรวมกันถายทอดตอไปจะเปนพ้ืนฐานของ
95การนําสูการสรางความเปลี่ยนแปลงจากส่ิงที่ไมมีช่ือ ไมอยูในความคิด มาสูความเปนจริงนอกเหนือจากความคิดและความจริงแบบรักตางเพศที่เปนอุดมการณหลักในสังคมนี้ โดยแตละคนตกอยูในตําแหนงทางวาทกรรมและมีอัตลักษณหลัก (Dominant identity) ในแตละเหตุการณของบรบิ ทหรือพ้ืนที่ทางวาทกรรมแตกตา งกนั ไป และทําใหผูเ ลา ตีความเหตกุ ารณตา งๆ กนั ซ่ึงเรื่องเลาและปากคําจากประสบการณท้ังหมดน้ีมีระดับความรุนแรงและมีรูปแบบแตกตางกัน ตั้งแตการกระทําดวยวาจา ทาทาง การประทุษรา ย บงั คับ และขมขนื โดยบคุ คลตา งๆ ดงั นี้ 5.1.1 จาบจว งดว ยวาจา: ปากคาํ ของณหทยั วา ดว ยเกียรตขิ องกะเทย “...เปน อะไรที่แบบวา ชวั่ มว่ั เลวอะไรอยา งนนี้ ะคะ พ่ผี ูหญิงดว ยนะ” ณหทยั สะทอนความคิดของพี่สาวรวมอุทร คําวาเกียรติมีความหมายสําหรับมนุษยทุกคนไมวาจะยากดี มี จน ทุกคนมีเกียรติและศักด์ิศรีของความเปนมนุษยดวยกันท้ังสิ้น คนเปนกะเทยนั้นดูเหมือนวาเกียรติของความเปนคนจะถูกมองขาม เมื่อถูกตราหนาวาเปนกะเทยและสารภาพตอสังคมถึงความเปนกะเทย การปฏิบัติตอกะเทยน้ันกลายเปนการไมกลั่นกรอง หยาบกระดาง โดยเฉพาะในเรื่องเพศวิถีเชิงประเวณี กะเทยกลายเปนชนอีกช้ันหนึ่ง การปฏิบัติดังกลาวไดสะทอนวิธีคิดของผูกระทําซึ่งมาจากความคิดแมบทของสังคมตอผูที่เปนกะเทยดังท่ีภาพของพี่สาวณหทัยวาดไวขางตน เปนการดูถูกเหยียดหยามมากกวาความตองการจะสรางหรือสานสัมพันธระหวางมนุษย และนอกจากน้ันไดช้ีวาการที่มนุษยจะใหเกียรติซ่ึงกันน้ันการศึกษาอาจไมไดเปนสวนเดียวท่ีจะทําใหคนรูจักมองคนดวยกันแบบเทา เทยี ม ความรสู กึ ของณหทยั ในเร่อื งตอไปนจ้ี ะชวยใหเ ขา ใจคําวา เกยี รติจากเสียงของเธอเอง ณหทัยโดยเพศสรีระคือ ลูกชายคนแรก และลูกคนที่สองของครอบครัวคนจีนท่ีมีการศึกษา ที่บานอยากไดล ูกชายมากและตัง้ ความหวังวาคนที่สองจะตองเปนผูชาย “โอเคได ผูชายจริง แมก็เลยไมตั้งทองอีก” พอณหทัยคาดหวังจากณหทัยใหเปนเหมือนกับ “เด็กผูชาย” ลูกคนจีนท่ัวไป แตณหทัยบอกวาตนเองเปนสาวประเภทสอง เปนทีจี1 ยามเปนเด็กณหทัยจะเหมือนผูชายทเ่ี รียบรอยมากจนถึงกบั ไดรับคาํ ชมจากผูใหญ พอชอบชวนณหทยั ไปทํากจิ กรรมแบบลูกผูชาย 1 คําวา ทีจี (TG) มาจาก Transgender หรือ คนขามเพศ ซ่ึงหมายถึงคนที่มีการแสดงออกทางเพศภาวะที่ไมเปนไปตามเพศสรีระของตน มีท้ังผูชายเปนผูหญิง (MtF- Male toFemale) และผูหญิงเปนผูชาย (FtM- Female to Male) แตในความหมายของกะเทยที่มีการศึกษาบางคนจะเลือกใชคําวา ทีจี แทนคําวาสาวประเภทสอง กะเทยหรือผูชายท่ีมีลักษณะความเปนผูหญิง (ดูเพ่ิมเติมใน Code, Loraine. ed. (2003). Encyclopedia of FeministTheories: Routledge)
96เลน กีฬาตา งๆ เชน เตะบอล แตณหทัยไมช อบเลน กีฬา กิจกรรมเดียวที่ณหทัยทําไดคือตกปลาแตก็ไมบอยนัก ณหทัยก็เหมือนเด็กกะเทยคนอื่นๆ ท่ีไมรูจักคําวา ตุด กะเทย คืออะไรเพราะเม่ือกอนเด็กผูชายกับผูหญิงจะเลนดวยกัน จะไมเห็นแตกตาง ณหทัยตระหนักถึงความแตกตางเมื่อโตแลว โดยเม่ือข้ึนช้ันมัธยมตนจะเร่ิมถูกแซวจนถึงมัธยมปลายก็ยังเปนอยูณหทยั บอกวาไมชอบผชู ายมากๆ จะเห็นไดชัดโดยณหทัยจะไปอยูกลุมผูหญิง ที่ไมชอบผูชายสมัยท่ีเรียนเน่ืองจากเหตุผลท่ีวา “ผูชายสกปรก เลนรุนแรง หยาบคาย” และจะหลีกเลี่ยงอยูกับผูชาย ณหทัยบอกวามีความรูสึกกับผูหญิงวาไมแตกตางเหมือนเปนพวกเดียวกัน “ความรูสึกเราเปนพวกเดียวกันเขากันไดมากกวา สนิทใจมากกวาท่ีจะคบเพ่ือนผูชาย” อันที่จริงแลวณหทัยไมชอบเลนกับเด็กผูชายตั้งแตอนุบาล อยากอยูกับเด็กผูหญิงมากกวาโดยบอกวาเปน“นิสยั ” ทตี่ นไมชอบใชความรุนแรง เม่ือเด็กๆ ณหทัยบอกวาไมไดคิดอะไรมากมายแตพอโตขึ้นมาแลวเริ่มคิด “เราอยากเปนผูหญิงนะ ทําอยางไรเราถึงจะเปนผูหญิง ใหมากท่ีสุด” โดยตอนแรกๆ ณหทัยตองการแคขอแสดงออกถึงความเปนตัวเอง แตพอตอมาก็เร่ิมคิดวาตนเองไมไดตองการแคน น้ั แตตองการเปนผหู ญงิ และอยากเปนผูห ญิง ตอนเด็กๆ ณหทัยไมมีปญหาเรื่องการใชชีวิตประจําวันในโรงเรียนเทาไหรนักยกเวนปญหาที่คนท่ัวไปอาจจะมองไมเห็นเปนปญหาคือเรื่องหองนํ้า มีหองนํ้าผูชาย หองน้ําผูหญิงแตไมมีหองน้ํากะเทยหรืออ่ืนๆ ณหทัยเขาหองน้ําผูชายเพราะยังดูเปนผูชายอยู แตเมื่อยิ่งโตขึ้น “หองนํ้า” ก็เปนปญหาถึงขั้นทะเลาะกับอาจารย “อาจารยเขาก็วาทําไมคุณเขาหองนํ้าหญิง อะไรอยางน้ี ก็บอกหองนํ้าชายเราโดนแกลง เราแบบรูสึกไมสบายใจเพราะมันไมใชพื้นทีท่ ่ีเราจะเขาไปทําธุระสวนตวั ของเรา เขาหองน้ําหญิงสบายใจกวา” ณหทัยรูสึกวาปลอดภัยเมื่อเขาหองน้ําผูหญิง โดยบอกวาเวลาเขาหองน้ําชายจะรูสึกวาถูกมองจากผูชายดวยสายตาท่ตี ัง้ คาํ ถามวา “ทาํ ไมเขาหอ งนาํ้ นี้นะ?” พรอ มบอกวา ณหทยั เขาหอ งน้ําผิด อันที่จริงท้ังหองน้ําผูหญิงผชู ายกส็ กปรกเหมือนกันแตณหทัยไมชอบ “รูสึกไมชอบหองนํ้าชายเปนอะไรท่ีสกปรก โอเคหองนํ้าหญิงอาจจะสกปรกแต...กวาอะไรอยางน้ีนะ” ณหทัยจะไมคอยโดนแกลง ถาโดนก็จะนิ่งซึ่ง “เขากเ็ ลิกแกลงไปเอง” การแกลง กค็ อื การลอเลียนวาเปน “ตุด” ซ่ึงถาไมใชกลุมเพื่อนแลวมาแซว ณหทยั จะไมช อบเลย และมองวา “ทาํ ไมเราเปน คนเหมอื นกัน” ณหทยั ไมชอบเลนกฬี าไดแตนงั่ ดูเพ่อื น กิจกรรมหลกั ที่โรงเรียนของณหทยั คือกฬี าสีโดยจะ สวมบทบาทคือแตง เปนผูห ญิง เดนิ พาเหรด ถอื ปาย เตน โชว ซึ่งณหทัยก็มีความสุขท่ีไดแตง ตวั สวยๆ ถึงแมจ ะเปน ชุดไทยซง่ึ ณหทยั บอกวา แกมากเหมือนแบบท่ีคุณแมใ สตอนแตง งานกต็ าม ณหทัยแอบใสก ระโปรงแมมาตงั้ แตเมอ่ื เรียนอยชู นั้ ประถม 1 ประถม 2 แลวเพราะชอบมาก แตไมไดเ ต็มยศแบบทเี่ ดินพาเหรดใสว ิก แตง หนา ความเยายวนของกระโปรงทาํ ใหอดใจไมไหว “...กระโปรงน่แี บบยว ยระบายมากใสแลว รูสึกโลงอะไรอยางนนี้ ะ บานนะคะ เวลาเราหมุนมนั จะพร้ิวมากเลย.... รูสึกวาใสแ ลวสวยดีอยา งนีน้ ะคะ ”
97 อากัปกริยาของณหทัยนั้นตอนแรกเพียงตองการท่ีจะแสดงออกถึง “ความเปนตัวเอง”แตตอมาก็เร่ิมไมใชแลวตองเปนผูหญิง ความเปนตัวเองนั้น ณหทัยหมายถึง ไมอยากเก็บ“…เปนตุดเปน เกยอยา งนี้ทาํ ไมตองอัพเกรดตัวเองอยางน้ีนะคะ ทั้งที่เราก็แสดงความเปนตัวเราได เราไมไดทําใหใครเสียหายหรือเดือดรอน อะไรอยางนี้นะคะ หนูก็เลยแบบวาโอเคเปดตัววาฉันเปนทีจีอยางนี้นะคะ…” โดยในการเปล่ียนแปลงมีกลุมเพ่ือนที่มีวิถีชีวิตแบบเดียวกันเปนผูสนับสนุน “…เปนการเปล่ียน มนั เรยี กวา เปน การเปล่ียนแปลงเปนระดับดีกวา ม.ตนและก็จะแบบวา แคเรียบรอยตุงต้ิงธรรมดา แตพอม.ปลายปุบ เราก็ไมแอสเซสซอร่ี (Accessory) ผูหญิงอะไรอยา งนนี้ ะคะ ของกุกก๊ิกจะมากข้ึนอยางนี้นะคะ จะมีการทาแปงแตงหนานะคะ...ชอบเองคะพวกพวงกุญแจ ที่หอ ยมือถอื กระเปาตองมีถุงลําลองอะไรอยางนนี้ ะ นา รัก ใช กระเปาจะตองเปนกระเปาถืออยางนี้นะคะ” แตตอนอยูโรงเรียนก็ยังเปนกางเกงนักเรียน ทรงผมนักเรียนซ่ึงณหทัยบอกวา นากลวั “ตอนน้นั เหรอ ถา มองไปในอดีตกลัวตวั เองมากนะ คอื มองไปปุบแบบผมก็ส้ันหนาอกก็ไมมี แบบวาทําตัวแบบวานะเปนผูหญิงอะไรอยางน้ีคือตลกตัวเองนะคะมองไปในอดีต แตพอตอนนี้ ตลกมากๆ ไงแลวหนูเรียน รด. มาดวยไงจะไวผมยาวไมได ใชจะไวผมส้ัน”ณหทัยอยากไวผมยาวมากและคิดวาผูหญิงจะตองมีนม ผมยาวจะทําใหเสริมบุคลิกและวันหน่ึงอาจจะทําใหดูสวยได ท่ีตองไวผมสั้นเพราะณหทัยถูกแมบังคับใหเรียนรด. โดยแมบอกวาถาณหทัยเปนแบบนแ้ี ลว “ …ไปติดทหารจะยิ่งแยก วามั๊ย” ณหทัยก็เหมือนกะเทยอีกหลาย ๆ คนที่ตองการเปนผูหญิง การกินยาจึงเปนทางเลือกท่ีทําใหณหทัยไมตองแปลงเพศ เม่ือกินยาคร้ังแรก ๆ เปนชวงมัธยมปลายซึ่งพอทานไปแลวจะรูสึกเวียนหัวอาเจียนสองสามวันจึงหาย ท่ีเปนเชนนี้เธอบอกวาฮอรโมนมันตานกันที่บานสังเกตความเปลี่ยนแปลงของณหทัย ณหทัยบอกวาแมจะอยูขางตนถึงแมจะไมชอบสวนพ่ีสาวจะอยูฝายเดียวกับพอคือไมชอบ ณหทัยคิดวาพี่สาวรักตนแตไมแสดงออก และสําหรับการเปนแบบตนพ่ีสาวไมชอบรับไมไดและถามวาเปนเอ็มเอสเอ็ม/ชายรักชาย/เกย(MSM) ไมไ ดหรือ ทําไมตองเปน ทีจดี วยเพราะถาเปนเอม็ เอสเอ็มคือ ยังปดตัวเองยังมองดูเปนผูชาย ท้ังนี้ณหทัยบอกวาพี่สาวคิดวาคนอื่นจะ “มอง” นองจึงไมชอบใหแสดงออก ณหทัยรูวาแมรักตนมาก เพราะเปนลูกชายและยังบอกกับตนดวยวาลําเอียงรักณหทัยมากกวาพี่สาวอยางไรกด็ ีสาํ หรบั ลกู ตนเอง ณหทยั บอกวา แมรบั ไดท่ีเปน อยางนี้แตถ า เปนลูกคนอ่นื ยงั ปด กั้นอยู ยอนกลับไปเร่ืองการ “รักษา” ณหทัยท่ีบานเริ่มคุยกัน “จริงจัง” เรื่องของณหทัยเม่ือตอนมัธยมศึกษาปท่ี 4 โดยแมเปนคนชวนไปคุยกับหมอและก็ไปทั้งครอบครัว “กําลังเปล่ียนแปลงนะคือเขาจะเจอแปงพั๊ฟ ฮอรโมนอะไรอยางนี้ของเรานะ เขาวาอยากไปพบหมอไหม ก็ไดเราไมมีปญหาอยูแลว คุยกับหมอก็ดีสิ พาเราไปท่ีจิตเวช หมอแผนกเด็กหมอเยาวชนอะไรอยางน้ีนะคะ” ซึ่งหมอก็วัดระดับความเปนเธอของ ณหทัยและเธออยูระดับ 8“เขาบอกตั้งแต 0 ถึง 10 เขาบอกวา 0 คือผูชาย และ 10 คือผูหญิง เราบอกเรา 8 เขาบอกเกิน 5”
98หมอถาม ณหทัยวาตองการเปดเผยตัวเองไหม หรือตองการเก็บไว ซึ่งณหทัย “ก็เฉยๆ” โดยมองวาท่บี านรบั ได ตอ จากนั้นหมอก็เชิญพอกบั แมไปปรึกษาหารือ …เขาก็ใหยอมรบั นะ วา มันก็เกดิ เหตกุ ารณอยางนีข้ นึ้ แลวเขากบ็ อกไมโ ทษฝา ยไหนเปนฝา ย ผดิ หรอกคะ ในการทเี่ กิดเหตกุ ารณอ ยา งน้ีขน้ึ เพราะมันเปนแบบวา สว น เขาเรยี กวา อะไรนะ เปน สทิ ธิสวนบุคคลที่จะเลือกเปน อะไรอยางนน้ี ะคะ เขากใ็ หย อมรับ พอกถ็ ามข้ึนมาวาไมเคยคดิ จะ ชอบผหู ญิงเหรอ เรากบ็ อกไมเ คยแมแตจะคิดอะไรอยางนี้ พอ เดนิ ออกจากหองเพราะเขาตง้ั ความหวงั วา ลูกชายจะตองมบี ตุ รอยางน้นี ะสบื สกลุ อยา งนี้ และเขามีลูกชายคนเดียวดว ย กลับมาจากการปรึกษากับหมอ พอ ของณหทยั เครียดยงิ่ กวาเดิม ณหทัยมองวาพอไมคอยเปดใจใหกับตนเอง ถึงแมวาพอจะเปนผูชายท่ีอบอุน เปนคนรักครอบครัวแตไมคอยชอบเลนกับลูก เวลาคุยกันก็จะคุยเพียงเรื่องสัพเพเหระถามไถท่ัวไปเทานั้น ที่บานพยายามบอกใหณหทัยปรับตัว พอคุยกับหมอวาจะ “รักษา” ไดไหมซ่ึงหมอก็บอกวาขึ้นอยูกับเด็กวาอยากเปลี่ยนหรือไม ตอนนั้นณหทัยไมอยากทําใหพอแมเสียใจก็ทําตาม โดยบอกวาจะลองปรับดู ซ่ึงท่ีบานอยากใหอยูระดับ 5 คือไมแสดงออก “…ผูหญิงจามากเราก็โอเคเดี๋ยวเราทําให” ณหทัยตองพูด “ครับ” ใสเสื้อตัวใหญ ใสกางเกงแตงตัวเหมือนผูชายซึ่งไมใชบุคลิกของตน ถาใหเลือกเองณทัยจะเลือกเสื้อเขารูปและกางเกงมากกวา ถาไปโรงเรียนกางเกงก็จะส้ันกวาคนอื่นและการแตงตวั แบบนค้ี รูจะไมชอบ นอกจากนนั้ ณหทยั ยงั รูสึกวา ถกู ตอตานจากครู ก็มีครูบางคนที่เขาแอนต้ีมากๆ กับกลุมพวกนี้ก็มีนะ ที่ครูไมชอบก็จะมาวานะ เธอแสดง ออกมาเกินไปทําไมไมเรียบรอยอยางน้ีนะคะ ซึ่งหนูวาเอการแสดงออกของเราผิดเหรออยางน้ี แตโอเค กลมุ อยางนมี้ ันกจ็ ะกรดี๊ กราดอยแู ลวนะคะ ใชถาคุณไมเห็นกะเทยเด็ก ขอเรียกวากะเทย เด็กแลว กันก็จะรูวา กรดี๊ กราดแสดงออกมาอยางน้ีนะคะ หนูวา หนูเรียบรอ ยสดุ แตในท่ีสุดแลวณหทัยก็ไมสามารถทนไดอีกตอไป และรูสึกอึดอัดมากเพราะถูกควบคมุ ตลอดเวลา ไมใหไ ปไหน มาไหนกับเพือ่ นในกลมุ พวกเดียวกัน ณหทัยจึงคุยกับท่ีบานวาเปล่ยี นไมไดแ ลว “ ไมเ ปลยี่ นแปลงตวั เองนะเปนตวั ของตัวเองนะคะพดู ไปเลย” ณหทัยสอบเขามหาวิทยาลัยท่ีภาคใตได เวลาเดินทางไปหรือกลับเจาหนาที่ดูบัตรประชาชนแลวมักจะมองหนา และบอกใหตัวบุคคลท่ีจองตั๋วที่จะข้ึนเคร่ืองมาย่ืนบัตรเองณหทัยตองคอยชี้แจงวาคือตนเอง ที่มหาวิทยาลัยดวยความท่ีเปน “นาย” เด็กปหนึ่งก็นอนหอพักชาย ณหทัยบอกวามีการพบรุนพ่ีรุนนอง “…เจอรุนพี่ที่คอยเขามาบอกวา ใครเปนกะเทยอยางน้ีออกมา” ณหทัยยกมืออยูคนเดียวทั้งท่ีในหอมีกะเทยอีกมากแตไมกลาเปดตัวกันณหทัยออกมาแนะนําช่ือแนะนําตัว รุนพ่ีก็รับทราบวา “เปน” เวลามีกิจกรรมจะมี “มุมโอเพน”
99รุนพ่ีกะเทย 3 ช้ันป กับนองป 1 มารวมตัวกันแนะนําตัวเองใหรูจักกัน จุดประสงคก็เพื่อสรางความรูจักและเพื่อไมให “นองแรง” หมายความวาแตงตัวเปรี้ยวไมเรียบรอย เพราะป 1มหาวิทยาลัยมีกฎวาตองแตงผูชายตองผูกเน็คไทตลอดอยูป 1 และเขาบอก “เธอไมมีสิทธ์ิจะใสกระโปรงนะ ป 1 นะ เธอหามแตงหนานะ คือบังคับเราทุกอยางเราอยูป 1 อยางน้ีนะคะ เขาก็กดเรา” ณหทัยบอกวาไมรูสึกขัดแยงเพราะเขาเปนรุนพ่ีเขามีสิทธิ์บังคับ แตณหทัยรูสึกวาทําไมตองบังคับกนั มากมายอยางน้ี ซง่ึ บางอยางก็ไรส าระเชน กินนํ้าหามกินหลอดยาวใหกินหลอดสั้นณหทัยสงสัยเหมือนกันวาทําอยางนี้เพื่ออะไรซ่ึงเขาก็อธิบายไมได นอกจากบอกวา “ก็ฉันสั่งเธอ”จากใจจริงถาเขาไมมาบอกอยางนี้ ณหทัยจะใสกระโปรงไปเลย “น่ีมาบังคับน่ีทนมาตั้งปหน่ึง”ณหทยั เห็นวา การใสก ระโปรงไมไ ดเสียหายอะไร พอขึ้นป 2 ณหทัยใสกระโปรงไปโดยแตงตัวใหเปนผูหญิงถูกตองตามกฎของมหาวิทยาลัย “ไมใชใสส้ันจาอยางนี้นะคะ” ณหทัยนัดกับเพ่ือนใสกระโปรงมาดวยกันสองคน “เพราะวาเราไมไดเสียหายอะไรน่ีคะ แลวใสก็ไมไดดูนาเกลียดหรือทุเรศอะไร อยา งนเ้ี ราดไู มแ ตกตา งกบั ผหู ญงิ เลยไมม ีปญหาอะไร กจ็ ะโดนมอง” มองวาเปน ผูชายหรือผูหญิง รุนพ่ีตอวาณหทัย “…เขาบอกวา ไมเห็นเคยมีใครใส” เคยมีกะเทยใสมากอนแตเขาออกไปแลว เพราะถูกกดดันและรนุ พี่วา “.. คณุ ทําไมถงึ ใสกระโปรง ไมร ูเ หรอว าเพศคุณเปนเพศอะไร” ณหทัยก็ถูกวา แตดวยความท่ีณหทัยไมชอบ และสนิทกับรุนพี่เลยโดนนอย และบอกวารุนพเ่ี ขา ใจ โดยท่ัวไปเวลาแตงหญิงแลวไปตลาด ไปไหน ๆ ณหทัยก็ไมคอยมีปญหาเพียงแตโดนจองมอง แตที่ณหทัยหนักใจตอนชวงปแรก ๆ ของการเรียนคือ ในรายวิชาท่ีมีกิจกรรมออกคาย “…เราจะมีปญหามากเพราะมุสลิมนะเวลาออกคายนะ ….มันออกคายบอยเวลานอนอยางนี้นะ ผูหญิง หามนอนรวมกับผูชาย และเขามองวาเราเปนผูชายนะ และหนูก็ไปนอนกับผูชาย ท้ังที่รูปรางเราเปนอยางนี้ หนูรูสึก เฟล (fail) มาก วาทําไมเขาแบงแยกเราอยางน้ีนะหนูรูสึกแยมากหนูรองไหเลยนะ” ณหทัยก็ตองไปนอนกับผูชายซ่ึงณหทัยถูกมองวาแปลกณหทัยบอกวาตนเองจะมีถุงนอนสวนตัวก็จะนอนแยกจากเขาออกมา เวลาออกคายปกติก็จะนอนในอาคารโรงเรียน หรือ หองประชุม ถาตองไปนอนท่ีบานของชาวบาน ก็จะแยกผูหญิงออกไป บานหลังหน่ึงจะนอนประมาณ 2 ถึง 3 คน สวนณหทัยก็ตองนอนกับผูชายซึ่งถึงแมจะจับเปนกลุมและยังมีเพื่อนแตณหทัยก็รูสึกแย “เราอยากนอนกับผูหญิงมากกวานะ อยางนี้เราทําธุระสวนตัวอยางน้ีนะ ไมรูสิไมชอบอยางนี้ใชเวลาทําเขาหองนํ้าอะไรอยางนี้นะ ก็ไมชอบเรื่องนี้มากๆ ท่ีเขาแบง” หองนํ้าตอนเขาคายจะมีหองนํ้าชาย – หองน้ําหญิง ณหทัยก็เขาหองนํ้าหญิง ถามีใครน่ังตรงน้ันณหทัยก็ไมสนใจ รูปลักษณณหทัยไมเหมือนผูชายเพราะไวผมยาว เวลาไปนอนเพ่ือนก็จะมองแปลกๆ ณหทัยคิดวา เขาคิดแตเขาไมกลาพูดออกมา“…เขาจะมองวาเราแปลกคะ เขาจะมองแบบวาอะไรน่ี อยางน้ี ผูหญิงอยางน้ีนะ” ณหทัยบอกวา
100ตอนเปนรุนนอง รุนพ่ีมุสลิมเขาจะบังคับ พอขึ้นป 4 เปนรุนพี่ ณหทัยจะไมสนใจแลว “ฉันใหญนะ ใครบงั คับไมไดนะ” จึงเอาตัวรอดไปได ณหทัยมีแฟนคนแรกที่คิดวาณหทัยเปนผูหญิง ซึ่งณหทัยถามวาทําไมถึงอยากคบดวยซึ่งคําตอบคือตนไมเหมือนใคร โดยบอกวาเขาไมเคยเห็นกะเทยที่ไหนที่เรียบรอยเหมือนผูหญิงซึ่งณหทัยก็รูสึกดีมากที่เขาบอกวาตนเองไมแตกตาง ณหทัยบอกวาดวยความที่เขาเปนผูชาย เขาจึงกลัวเพ่ือนลอการคบกันจึงไมไดเปดเผย และเพื่อนคนอ่ืนก็ไมรูเพราะวาเปนกลุมเดียวกันไปไหนก็ไปดวยกัน ถาไปสองคนเพ่ือนก็มองไมแปลกเพราะเปนเพ่ือนกันความสัมพันธปกติก็เปนการพูดคุยแตไมมีอะไรกันเพราะ ณหทัยคิดวาตนเองเด็กมากในเร่ืองเพศสัมพันธและยังไมพรอม อยางมากที่สุดการแสดงออกก็มีเพียงการจูบกัน หรือหอมแกม“ที่เรารูสึกดีเพราะเขาใหเกียรติเรานะคะ เขาทําเหมือนเราเปนผูหญิงนะ อะไรอยางน้ีคนน้ีเปนคนท่ีรูสึกดีที่สุดเทาที่เคยคบมา” ตอนหลังแฟนก็หางหายกันไปเพราะณหทัยไปเรียนตางจังหวัด ตอมาเขาบอกเลิกโดยพูดกับณหทัยวา “…เปนเพื่อนแลวกันนะ เราก็โอเค...รสู ึกเฟลมากเลยคะ รสู กึ วาแคเ ราไกลกันเหรอเราไมมีเวลาใหคุณอยางนี้ตอนนั้น ... รูสึกแยมากอยากกลับบานไมอยากเรียนเลย อยางนี้ตองบอกวาโดนบอกเลิกดวย...” ตอมาท่ีมหาวิทยาลัยณหทัยกม็ ีแฟนใหมแ ตต างศาสนา ณหทัยมองวาการมีเพศสมั พนั ธเปนเรอื่ งปกติ คบกันก็ตองมีเพศสัมพันธกัน ณหทัยคิดวาเปนความใจกวางและแสดงความจริงใจ “….เราคบกันมาถึงระดับน้ีมันเปนการ นอกจากใหจิตใจในการคบกันแลว ดูแลเอาใจใสกัน เพศสัมพันธก็เปนทางออกหน่ึงที่แสดงออกไดอยางน้ีนะคะ วาเรารักเขาอยางน้ีนะ” แฟนณหทัยคนน้ีเคยมีแฟนเปนผูหญิงมากอน และบอกณหทัยวา “แตกตาง” ในดานเพศสัมพันธ มันไมเหมือนกัน ซ่ึงทําใหณหทัยคิดและถามตนเองวา “จริงหรือ” และอยากแปลงเพศ “…ก็อยากแปลงอยูแลวนะคะแตมนั เปนอะไรที่ เสริมมาอีกนะคะ เหมือนบวกความตอ งการที่อยากจะ แปลงเพศอีก เขาบอกวา ไมเ หมือนนะคะ อยา งน้นี ะ ถามวา เขาโอเคไหม เขาโอเค เพราะหนูเปนคน ย่ิงคําถามวาไมเหมอื นเหรอ” อยางไรกด็ คี วามสมั พนั ธข องท้ังสองนนั้ เปนแบบ “คุยกนั สองคน” แฟน ณหทัยมีขอจํากัดที่สําคญั คือเรอ่ื งศาสนา ณหทยั ก็คุยกับแฟนเพราะอยากรูวาขางหนาความสัมพันธของตนจะเปน อยา งไร คุยกันแตหนูไมไดจริงจังกับท่ีหนูคุย หนูอยากฟงความคิดเขามากกวาท่ีเราคุยวาอยางไร ก็ไปไมรอด หนูมองแลวนะ แตดวยความที่เราอยากคบอยากมีแฟนในชีวิตมหาวิทยาลัย อยางน้ี เหน็ เพอ่ื นๆ เขามีกันเราไมมไี มไ ด เรากค็ บอยา งนีน้ ะคะ เราก็มคี าํ ถามแบบวาตองการความคิดเห็น จากเขามากกวา เขาบอกวาถาคบกันจริง ๆ นะ เขาคงตัดเร่ืองประเด็นของลูกออกไปนะอะไรอยาง น้ีนะ แตที่บานเขาบอกวามีปญหาชัวรถาจะคบกันนะ อาจจะตองมาอยูกรุงเทพ ดวยกันนะอาจจะ ไมไดอยูที่โนน
101 ในใจลึกๆ คบกับใครณหทัยก็กลัววาท่ีบานเขาตองรับไมได และถาคบกันยืดยาวในความเปนจริงเขาคงทําไมไดเพราะขอจํากัดทางวัฒนธรรมซึ่ง “เขาตองแตงงานดวย” ถึงแมตัวเขาดูเหมือนจะรับการเปนแฟนกับณหทัยไดแตณหทัยก็คิดวาคงคบไดไมนานเพราะคิดวา“…คงไมมีผูชายที่ไหนรักเราจริงอะไรอยางน้ี เปนความคิดลึกๆ เลยนะ ผลสุดทายก็ตองอยูกับตวั เอง…” สุดทายณหทัยกับแฟนก็เลิกกนั ทุกวันน้ี ณหทัยเปนผูใหญข้ึนมากกวาเดิม มีการมีงานทําและเมื่อมีแฟนก็คิดวาพรอมท่ีจะมีความสัมพันธทางเพศ ณหทัยบอกวาตนเองมีความสัมพันธแบบสอดใสโดยตนเองเปนฝายรับ “จะใหรกุ ไมไหวนะคะ” สําหรับตนเองณหทัยต้ังใจวาหากจะมีเพศสัมพันธก็จะมีกับคนที่เปนแฟนของตนเทาน้ัน และตองใหยืนยันกอนคบกันวาคบกันในสถานะไหนถึงจะมีความสมั พนั ธก ันลกึ ซ้ึง ณหทัยบอกวา ตนเองเปน คนทเ่ี รียกวาเซน็ ซิทฟี “…ออนไหวกบั ความรูสกึ นะคะ เวลาท่ีมากระทบอยา งนีน้ ะคะ รสู กึ เร็วนะคะ” ส่ิงทีณ่ หทยั ไมชอบท่สี ุดทพ่ี บเจอคอื การที่ผูช ายไมใหเกยี รตติ น “… อะไรทไ่ี มช อบมากคือการใหเกยี รตขิ องผูชายคะ บางทีเขาเหน็ เราเปน อยา งนี้ใชไหม บางทตี อนแรกเขามองเราเปนผูหญงิ ปุบ แตพ อเขารวู า เราเปน ทีจีอยา งน้เี ขากลบั ไมใหเกยี รตเิ ราเลยนะ เคยเจอนะคะ” ตอนเรียนมหาวิทยาลยั ป 2 ณหทยั เรมิ่ เปน ผหู ญงิ แลว ณหทยัแตง หญงิ ไปเรยี น คนมองณหทัย แปลกๆ แต ณหทัยกอ็ าศยั “ความกลมกลืน” เปนผหู ญิงเลยอยไู ปได ณหทยั จะไมวด๊ี วา ยแสดงออกวาเรา “เปน” จะเฉยๆ น่ิงๆ ซ่งึ คนจะสงสยั วาผูหญิงหรอืกะเทย “เขาจะถามวา ผหู ญิงหรือกะเทย ทาํ ไมเหรอ กะเทยทาํ ไมเรียบรอยจัง เขาจะตงั้ คาํ ถาม”ณหทัยบอกวาจะถูกถามมากวาเปนผูหญิงหรือกะเทยตอนที่เรียนอยู คาํ ถาม? มีท้ังในท่ีมหาวิทยาลัยตางคณะ และนอกมหาวิทยาลัย อาจารยท ี่มหาวทิ ยาลยั ยังเขาใจผิดคดิ วา ณหทยัเปนผูห ญิง อาจารยยังถามเลย ตอนแรกหนูใสชุดนักศึกษาชายไปเรียนแลวโดนไลออกจากหองสอบ บอกวาเธอไมร กู ฎมารยาทของนักศึกษาชายเหรอวา ทาํ ไมใส ชุดนักศึกษาชายเขามา เราก็งง เรา ก็แตงตัวเรียบรอยใสไท (เน็คไท) นะคะไวสอบนะ รองเทาหนัง เปนอาจารยคณะ...ซึ่งเค่ียวเรื่อง เคร่ืองแบบมากอะไรอยา งน้นี ะ เขาบอกเธอไมรมู ารยาทเหรอ เออตอนน้ันไวผมยาวมีหนาอกแลว นะ เราก็อะไรวะ โทษนะคะไมใชผูหญิงคะ เปนผูชาย อาจารยอ้ึงไปเลยแลวหองสอบ รวม 200 คน สอบตอนที่อยูป 2 สอบกับเด็กป 1 เห็นเราก็โอเคปรึกษากับอาจารยท่ีคณะเขาบอกวาเธอก็ดู ไมแตกตางนะใสกระโปรงมาเถอะ ใสกางเกงมาเลยมันนาเกลียด ....อาจารยบอกวาเหรอ แลว อาจารยกเ็ ดนิ ไปเลยนะ อาจารยหนาแตก เพอื่ นอยูข า งๆ ขาํ หวั เราะฮามากนะ วันหนึ่งณหทัยไปเท่ียวบาร และพบนกั ศกึ ษาชายซงึ่ เรียนมหาวทิ ยาลยั เดยี วกนั แตนอกคณะก็คุยกนั ซ่งึ ณหทัยบอกวา “เขาจะไมร จู กั เรา” ผูช ายคนนน้ั เขามาจบี ณหทยั “…แตพ อ
102เราบอกวาเราเปนทจี นี ะ เขาบอกวา เหรอนกึ วาเปน ผหู ญิง อะไรอยา งน้ี ง้นั คนื นีไ้ ปนอนดวยกันอยางนี้ คอื เขาไมใ หเกียรติ เราเลยพอเขาเห็นเราเปน ทีจปี ุบ เขาบอกเรางา ย เรามั่วอะไรอยา งนนี้ ะคะ เขาชอบมองทจี วี า มัว่ ชว่ั เลวอะไรอยา งนี้นะ หนกู ็บอกไมไปอยางน้นี ะคะรสู กึ แยมากคะแลว เจออยา งน้เี ยอะมากคะ คือตอนแรกใหเกยี รตเิ ราคยุ ดี ชื่ออะไรครับ แตพ อบอกเปนกะเทยนะ เขาบอกวา เอากะเทยเหรออะไรอยางนี้นะ” เมอื่ ณหทยั พบกับเหตุการณแบบนี้ณหทัยจะบอกวา “ไมคะ” และไมต อบโต ซง่ึ ณหทยั ยงั ต้ังขอ สงั เกตวา คนพดู เม่อื พดู ไปแลวก็มิไดม คี วามรสู ึกผิดอนั ใด “…สาํ หรับผชู ายสาํ หรบั คนทพี่ ดู เหรอคะ หนวู า เขาไมรสู ึกหรอก ในผูชายที่คบผหู ญงิ อาจจะหวังฟนหวังอะไรอยางนนี้ ะคะ แตพ อเขารวู าเราเปน ทจี ปี บุ เขานึกวาเรางายนะ เขาเลยกลาพูดอะไรตรงๆ ออกไปแตถ า เปนผหู ญงิ คงสงวนทาทแี ตคงจดุ ประสงคเดยี วกันคือพาไปนอนอยางนี้นะคะ” อายขุ องณหทยั ถงึ จะยงั ไมมากแตก ็พบกบั การเลือกปฏิบัติและการดูหม่ินมาพอสมควรณหทัยจําไดวาเมื่อเรียนจบก็ไปสมัครงานพรอมเพื่อนผูหญิงอีกสองคนซ่ึงเรียนท่ีเดียวกันปรากฏวาเพ่ือนผูหญิงถูกเรียกกอน แตสําหรับณหทัยเขาบอกวาตองใหเจานายพิจารณาอีกครั้งโดยโทรมาสัมภาษณเพิ่มเติมและใหมาทดสอบ ซ่ึงการทดสอบเปนการทดสอบเชิงจิตวิทยาณหทัยสงสัยวา “เอเราเปนโรคจิตหรือ” ที่ถูกทดสอบเชนน้ี เพราะคําถามจะถามในลักษณะของการควบคุมอารมณ การควบคุมเหตุการณ แตจนแลวจนรอด ณหทัยก็ไมไดรับแจงผล อยางไรก็ดีณหทัยคิดวาสาวประเภทสองไมไดมีทางเลือกในการทํางานที่จํากัด เชนตองเปนแตชางเสริมสวยคาบาเรตโชว ข้ึนอยูกับการแสวงหาใหกับตัวเองมากกวา โดยตั้งขอสังเกตวาขอจํากัดสวนหน่ึงก็มาจากการมีการศึกษานอยและ การปดกั้นตัวเองซ่ึงสาวประเภทสองจะตองเปดโอกาสใหกับตัวเอง พวกน้ีเขาจํากัดตัวเองมากกวา แบบวาพอเปนอยางฉันปุบเขาจะมองวาไปโนนสังคมก็ไมรับ ไปน่สี ังคมก็ไมรับ... จะทําอะไรที่ฉันทําไดเลยดีกวา อาชีพท่ีพอมีพวก มีพรรคพวกฉันอะไรอยางนี้ จะมีอาชีพนางโชวอะไรอยางน้ีนะคะ ชอบเปดรานเชาชุดอะไรอยางน้ีแตงหนา เมคอัพอารตทิส ชางทําผมอะไรอยางนี้ซ่ึงเปนอาชีพที่ทีจีสวนใหญจะทํา แตหนูวามันมีอาชีพอะไรหลากหลาย มากกวานนั้ ณหทัยบอกวาไมชอบสงกรานตเลย แตก็ไปเลนกับเพื่อนๆ เวลาไปเลนน้ํา สงกรานตจะพยายาม “แอบตัวเอง” วาเปนผูหญิง คืออยูเฉยๆ ไมจริตจกานมาก ไมอยางน้ันจะโดนผูชายแกลง จับหนาอกบางอะไรบาง ณหทัยใสกางเกงยีนเส้ือยืดเลน อยางไรก็ดีณหทัยก็บอกวาก็มีกลุมกะเทยที่คอยจับผูชาย คอยหาเศษหาเลยตอนสงกรานตกับผูชายเหมือนกันซึ่งณหทัยไมชอบเพราะ “มนั ทาํ ใหรูสึกวา เราดูแยอ ยูแ ลว กลุมพวกเราดูแยอยูแลว คุณยิ่งทําตัวอยางน้ี นะมัน
103ย่ิงดู ลดคาตัวเองนะ หนูรูวาทําไมผูชายถึงไมใหเกียรติทีจี เพราะวาทีจีอยากทําตัวของพวกเขาเองดว ย” ในการรับรูความหมายและนัยเบื้องหลังของปากคําท่ีใหตองตระหนักเสมอวาเปนการตีความประสบการณของผูพูดท่ีพูดจากตําแหนงแหงท่ีทางวาทกรรมหนึ่งๆ ของตน ซึ่ง ณเหตุการณและบริบททางวาทกรรมแลวสงั คมกาํ หนดตัวผูพดู /ณหทยั เปน เดก็ ชาย นักศึกษาชายแตผูพูดมองตนเองวาเปนผูหญิง และอางอิงอัตลักษณของผูหญิงเปนแนวทางปฏิบัติตนและดํารงชีวิตประจําวัน เห็นไดจาก การทําตัวเรียบรอย ไมชอบความรุนแรง แตงตัวสมหญิงและถูกระเบยี บของความเปน ผูหญิงดี เชนนงุ กระโปรงนกั ศกึ ษาตอ งไมส้ัน ไมแตงตัวโปเวลาเลนน้ําสงกรานต การนิ่งเงียบเม่ือถูกลอเลียน ทําตัวกลมกลืนกับผูหญิง ซึ่งทําใหเห็นวา ถอยแถลงสารของวาทกรรมหลกั น้นั คอื การเปนผูหญิงตอ งเรียบรอยและวางตัวดี และในการมเี พศสัมพันธกเ็ ปน แบบผหู ญิงดงั ท่ผี ูสนทนากลา ววา “จะใหรกุ ไมไหวนะคะ” และเมอ่ื มเี พศสัมพนั ธจะรสู ึกไมดีหากคูของตนมองวาการปฏิบัติน้ันไมเหมือนกับการที่ผูชายมีเพศสัมพันธกับผูหญิงและตองการไปแปลงเพศใหเหมือนผูหญิง ซึ่งทั้งหมดน้ีสะทอนใหเห็นวาผูพูดถูกจัดกระทําภายใตวาทกรรมรักตางเพศทําใหเชื่อวาตัวตนท่ีแทจริงของตนเปนผูหญิง ภายใตถอยแถลงสารหลัก“ผูห ญิงดี-เรียบรอย” จึงตองสงวนทาที ดังนั้นเม่ือผูชายที่ตองการเขามาสรางสานสัมพันธและมีความสัมพันธทางเพศโดยมาในลักษณะที่ เถื่อน หยาบ ดิบ หรือไมวางตัวใหดีพอจะถูกตอตานตอบโตห รือปฏิเสธเพราะไมสามารถตอบสนองการสรางความสัมพันธบ นอตั ลักษณอา งอิงของผูพูดไดโดยเฉพาะในบทบาทเชิงเพศภาวะ ทั้งน้ียังข้ึนกับลักษณะความสัมพันธดวยวาสนิทสนมเพียงใด ซึ่งตรงนี้เองทําใหเห็นวาผูชายที่เขามาในลักษณะนี้ก็ยังมองกะเทยวาไมใชผูหญิงเมื่อณหทัยถูกตีตราวา ”กะเทย” ความเปนมนุษยในสายตาของผูกระทําก็ถูกลดทอนไปทันทีอยางไรก็ดีในกรณีท่ีแฟนของผูพูดมีความใกลชิด และทําใหผูพูดตระหนักวาตนเปนผูหญิงและปฏิบัติกับตนอยางที่ผูชายจะพึงปฏิบัติก็จะทําใหการตีความของผูสนทนาแตกตางออกไปโดยมองวาเปนเร่ืองของความรักซ่ึงหากแฟนมีเจตนาไมดีโอกาสที่ผูพูดจะไมสามารถตัดสินวาการกระทาํ เชนนัน้ เปน การเอาเปรียบทางเพศเชงิ เพศประเวณีไดเพราะถกู ครอบงําทางความคิดไปแลว ท้ังนี้จะเห็นวา ณ ตําแหนงทางวาทกรรมของกะเทย กะเทยมีหลากหลาย ท้ังเปนผูชายถาเรื่องเพศสรีระมาสัมพันธเปนถอยแถลงสารหลัก และเปนผูหญิงเมื่อเพศสภาวะและเพศวิถีเปน ถอยแถลงสารหลกั ในความสัมพันธ ภายใตบทสนทนาจึงปรากฎเสียงของผูพูดใหเห็นมากกวาหนึ่ง จากขางตนเสียงที่เปนหมือนอัตลักษณทางสังคม คือเสียงของสาวประเภทสองที่ผูพูดมองวาเปนตัวตนที่แทจริงแตอันที่จริงแลวตัวตนท่ีแทจริงของผูพูดเคยเปลงเสียงเม่ือครั้งที่ผูพูดเปนเด็กซึ่งแรกๆ บอกวาตองการแสดงออกถึงความเปนตัวเอง ซึ่งความคิดที่สะทอนออกมาในชวงสั้นๆ น้ันทําใหตระหนักวาตัวตนแทจริงที่กําลังจะถูกกลบฝงไดเปลงเสียงเฮือกหน่ึงออกมาแตไมมีพื้นที่ และดว ยการจอ งมองทางสงั คมตามกติกาของบาน ครอบครวั โรงเรยี น และบรรทัดฐานทางเพศ
104ในสังคมไดจัดกระทําความคิดของผูพูดใหสยบตอทางเลือกแหงความเปนเพศ ทําใหตอมาผูพูดเริ่มคิดวาไมใช ตองเปนผูหญิง ซ่ึงนําสูการปรับแตงตนเองใหเห็นไปแบบผูหญิงในโอกาสตอมา การแกลงกะเทยก็สามารถนับไดวาเปนการควบคุมทางสังคมใหเปนไปตามบรรทัดฐานทางเพศไดอีกทางหนึ่งเพราะในบางพ้ืนที่รหัสของความเปนเพศถูกใสไวอยางชัดเจน เชนระบบหองน้ําซึ่งสัมพันธโดยตรงกับอวัยวะ การแซว หรือการรังแกอ่ืนๆ เทากับเปนการขีดเสนกันความแปลกใหออกไปจากพื้นที่นั้น ขณะเดียวกันก็ผลักดันใหกะเทยใชชีวิตอางอิงกับความเปน หญิงมากขนึ้ ดวยที่ผูพูดมีสถานะเปนชนชั้นกลาง ท่ีมีฐานะพอสมควร และมีการศึกษา นอกจากนี้ผูพูดมองวาบุคคลท่ีมีความสําคัญหรือคนท่ีตนเองแคร (Significant others) ไดแกคนในครอบครัว คือ พอ แม พ่ีสาว เทานั้น ซึ่งไมเหมือนกะเทยอีกหลายๆ คน จึงมีความเช่ือม่ันในตนเองพอสมควร และเห็นวากะเทยสามารถมีทางเลือกโดยเฉพาะการทํางานไดหลากหลายคนท่ีไมมีทางเลือกคือคนที่มีการศึกษานอย หรือ ปดกั้นตนเอง ซึ่งการปดกั้นตัวเองนี้คือการบงการตนเองจากการท่ีถูกจัดประเภทวาเปนกะเทย ดังน้ันกะเทยจะรูสึกราวกับอยูในคุกวงแหวนท่ีมองไมเห็นซ่ีกรง แตเพราะความแตกตางจะเกิดความอึดอัด ไมสบายใจ และบางคนก็ไมรูสึกปลอดภัย ถูกต้ังคําถามตลอดเวลาถึงจะแมจะไมใชดวยคําพูด แตเพียงแคสายตาก็มีความหมายไมยิ่งหยอนไปกวากัน การ “แอ็บชะนี” ไมวาจะเปนการพยายามทําตัวใหเรยี บรอย การแตงผูหญิง การทําตัวแบบผูหญิง แมกระท่ังบทบาทในกิจกรรมทางเพศ และอ่ืนๆเปนการทําตัวใหกลมกลืนและปกปองตนเองตามความคิดของตนเพราะจะทําใหอยูไดในสังคมสองเพศอยางไมแปลกแยก ทางเลือกหนึ่งซ่ึงคิดวาทําไดดีจึงหันไปอยูในที่ซ่ึงมีผูคนแบบเดยี วกนั หรอื วงการเดียวกนั สาํ หรบั ผพู ูดสามารถดแู ลตนเองไดดพี อสมควรไมตกเปนเหยื่อของการเอาเปรียบเชิงเพศประเวณีอยางงายๆ แตอยางไรก็ตามผูพูดก็ยังตกอยูในอํานาจของการบงการตนเองตามบรรทัดฐานวาทกรรม ซึ่งสามารถเห็นถึงอํานาจการควบคุมบงการน้ีไดจากความสับสนขัดแยงที่เกิดข้ึนโดยเฉพาะเวลามีเพศสัมพันธเพราะการมีเพศสัมพันธเปนไปแบบตนเองนั้นไมเปนไปตามแบบแผนของการมีเพศสัมพันธ อันชอบธรรม และถูกตั้งขอสังเกตจากคูความสัมพันธ และยังเชื่อดวยวาเสนทางชีวิตตนเองสุดทายก็คงไมมีใครเพราะเปนกะเทยเปน การสยบยอมกับการถูกจัดเปน คน ณ ชายขอบของระบบความสมั พนั ธร ะหวางเพศ ผูที่คอยชวยเหลือใหปฏิบัติการและขยายขอบเขตการเปนสาวประเภทสองโดยการจัดการรางกายแบบผูชายใหเปนไปตามบรรทัดฐานทางสังคม ผูท่ีมีความสําคัญแตไมถูกพูดถึงชดั เจนวามคี วามสําคัญคือเพื่อนๆ และรุนพี่ ที่จะคอยใหคําปรึกษาตลอดเวลาโดยเฉพาะในเร่ืองการจัดการรางกายและเพศสภาวะ การวางตน ซ่ึงหากคนเหลาน้ียังตกอยูภายใตอุดมการณรักตางเพศและบางคนอาจจะสําทับดวยอุดมการณทุนนิยมและบริโภคนิยมในการแนะนําหรือการสรา งสรรคกะเทยของสงั คม ซ่งึ ตองมีการใชจายเกิดขึ้นจํานวนมาก เพื่อสรางความสวยแบบผูหญิงแลว วงจรชีวิตกะเทยก็คงเปนไปอยางที่เคยเปนมา คือไมมีพื้นที่สําหรับความเปนตัวเอง
105แมจะพยายามท่ีจะเปนตัวเองก็ไมไดรับการยอมรับ พ้ืนท่ีเดียวท่ีเหลืออยูคือพื้นท่ีของความเปนผหู ญงิ กะเทยจึงวงิ่ เขา สูมาตรฐานความเปน หญิงทางสงั คมทงั้ ดานบทบาทอาชีพ 5.1.2 ความอึดอัดจากการโชว การจูโจม และตามลา: ปากคาํ ของณหทัย นยั นา และหลิน การเขา “คาย” ของเด็กๆ และวัยรุนโดยท่ัวไปจะเปนเร่ืองของความสนุกสนานมีอิสระและมีความสุข แตในขณะท่ีเด็กๆ ท่ีถูกตีตราวาเปนกะเทยไมไดเห็นเรื่องนี้เปนเร่ืองสนุกทุกคนเพราะตระหนักวาความแตกตางของตนอาจนําความไมสบายใจและภัยมาสูตนโดยเฉพาะในพ้ืนที่ที่ตัดสินแบงแยกคนโดยใชเพศสรีระเปนเกณฑหลักเพียงอยางเดียวเปนชองทาง หรือเปนการเปดโอกาส ท่ีจะทําใหมีความคลาดเคลื่อนในการดูแลโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนและปองกันไมใหเกิดการเอาเปรียบทางเพศเชิงเพศวิถีไดยาก เพราะในพ้ืนท่ีเหลาน้ันมีความตายตัวในมุมมองเรื่องเพศซึ่งความหลากหลายเรื่องเพศอาจจะเปนร่ืองท่ีตระหนักถึงไดยาก มีเร่ืองราวตางๆ ในคายที่ขางนอกไมรับรู ความกลัวถูกรังแก แกลง ทํารายและติดโรค เปนความอึดอัด ความกลัวลึกๆ ของเด็กท่ีเปนกะเทย ณหทัย หลิน และนัยนาจะรว มกนั ขยายความถึงสงิ่ เหลานจ้ี ากประสบการณจ ากการเขา “คาย” ตา งวาระของแตล ะคน ประสบการณของกะเทยภายใตเขตแดนแหงความเปนชายท่ีตัดสินโดยเพศสรีระและอํานาจของสถาบันซึ่งโอกาสในการใชอํานาจเกินขอบเขตมีความเปนไปได การท่ีกะเทยเขาไปอยูในพื้นท่ีลักษณะของสถาบันทางวินัยจําลองซึ่งจัดตําแหนงของกะเทยในวาทกรรมชุดหน่ึงหากไมมีความไว (sensitivity) ตอความหลากหลายทางเพศแลว การเอาเปรียบทางเพศวิถีเชิงประเวณีตอเด็กและเยาวชนที่ถูกจัดประเภทใหเปนกะเทยจะเกิดข้ึนไดงาย ดังประสบการณตอ ไปน้ี ก. ความอึดอดั จากการโชวนอกรอบ: ปากคําจากณหทยั และหลิน ....รูสึกแยม าก แตเ คยคิดนะคะท่ีเปน กะเทย เริ่มรูวา ...ปญหาท่กี ังวลคอื การเปนทหารอยา งนี้ รสู กึ วา เราเปน ทหารเหรอเพราะอะไรอยา งนี้ จนเราตอ งเปนรด.รสู กึ แบบ...แตก ็ดีทม่ี ีเพือ่ นเรียนคะ เพ่อื นไมทิง้ เราเขาก็เรียน ขางตนน้ีเปนความรูสึกของณหทัยที่เผยออกมาเมื่อพูดถึงการที่ตองเปนนักศึกษาวิชาทหารหรอื ที่เรยี กกันทวั่ ไปวา เรียน รด. ณหทัยเรยี น รด. 3 ป ในระดับมัธยมศึกษาปที่ 4ถึง ปที่ 6และวันท่ีถือเปนสาํ คัญของการจบหลักสูตรคือการเขา คา ยตอนสุดทายป 3 เขาคาย 5 วัน ณหทัยถามตัวเองวา เรียนผานมาไดอยางไร ณหทัยบอกวา “…คือวันหนึ่งทรมานมาก เพราะเราไมชอบเลยคะ” วันเขาคาย กอนเขาคายณหทัยเตรียมขาวของเครื่องใช ชุด รด. 3 ชุด เส้ือ รด. เส้ือช้ันในรด.4-5 ตัว ถุงเทาอีก 3-4 คู ซึ่งณหทัยนําเสื้อไป “เยอะมาก” เพราะรูวาตองเปอนและ
106เหมน็ กลมุ นักเรยี นท่เี ขาคา ยนัน้ ถูกแบงออกเปนสองกองพัน ซึ่งจะมีพวกเด็ก “เทคนิค/เทคโน”และกณ็ หทัยมคี นเดียวจากโรงเรียนตวั เอง “โรงเรยี นหนูอยอู กี กองพันหนง่ึ และหนหู ลุดไป..วาย...ยังไมมีใครเปดเผยตัวเองวาเปนทีจี นอกจากหนู และก็เพ่ือนท่ีโรงเรียนเพราะหนูหลุดไปคนเดียวในกลุม คือวา คือมันมีคะ เขาไมเปดคะ...” ณหทัยรูสึกวาเด็กนักเรียนเหลานี้ “นากลัวมาก”แตโชคยังดีมีเพ่ือนผูชายติดเขาไปดวยอีกหนึ่งคนจึงสามารถไปนอนกับเพื่อนได เพราะในการจัดกลุมเปนกลุมยอยสามารถจัดกันเองได ณหทัยบอกวา “ ..ใช โชคดีไป” ดังนั้นเวลานอนซ่ึงตองกางเต็นทน อน ณหทัยก็ไดน อนกับเพื่อนผชู ายจากหองเรยี นเดียวกัน “กไ็ มม ีปญ หาอะไร”ณหทัยคดิ เปรยี บเทียบตนเองกบั พวกเดก็ ผูหญงิ ท่มี าเรียนรด. “…รูสกึ แยมาก ๆ ..ทาํ ไมตองอยอู ยา งน้ี ก็มีรด.ผหู ญิงนะคะ แตเ ขาไมไ ดเ ขาคาย...นะ แยกคา ย มีความรูส ึกตงั้ คําถามวา ผูห ญิงนะอยูดี ๆ กโ็ อเคแลว คะ ผหู ญิงอยากเปน ทหาร หาเรื่อง ลําบากใสตัวทําไม เรากม็ องวา หาเรื่อง ก็เปนผหู ญิงกด็ อี ยแู ลวหาเร่ืองเปน รด.ทาํ ไม แตม ันกเ็ ปน ความเศรา สว นตวั ของเขานะคะ หาเร่ืองทําไมอยางน้ี ท้ังที่ รด. ผูหญงิ ผชู ายนะคะ แปลกตา งกนั นะคะ เวลาลงโทษนะ ผูห ญิงจะโดนเบามาก ยิ่งกวา เรียกวาอยูบา นกไ็ ดไ มต องมาหรอก ....คอื เขา ให กลิ้ง กลิ้ง กลิง้ กบั พ้นื เขาขามอยา งน้ี เอาละวะ ถาคุณมาเรียนแลวไมเ หมือนกนั แลวคณุ อางวา คณุ เปนผูห ญงิ นะ คณุ ไมต องมาหรอกอะไรอยางน้ี คอื มันไมเสมอภาคกนั ไง ทง้ั ทเี่ รากอ็ างไดวา เปนผูหญิงอะไรอยางน้ี แตถาเราจะอา งอะไรอยางนี้ ...ถา เราจะอา ง” ตอนน้ัน ณหทัยกินฮอรโมนและมีหนาอกแลว จึงอาศัยใสเส้ือที่ตัวคอนขางหนาไมใหเห็นถึงจะรอนมากแตก็กันแดดไดดี ท่ีคายมีคําสั่งวาหามอาบน้ํา “…เขาบอกถาทนไมไดก็ออกจากคายไป” แตณหทัยทนไมได “…หนีคะ หนีไปอาบนํ้า หนูอาบทุกวันเลย” โดยตื่นข้ึนมาอาบตอนตี 3 ณหทัยบอกวา“…เหม็นเนามากและหนูทนไมได หนูตองไปอาบ เนาแบบสกปรกแบบย้ีอะไรอยางนี้” ณหทัยจะนัดกับเพ่ือนไวแลวไปแอบอาบโดยนุงกระโจมอกเดินไปอาบนํ้าซึ่งถาถูกจับไดก็จะถูกลงโทษ “…หนูก็บอกวาหนูไมทน เขาบอกวากะเทยเหรอ” ณหทัยรูสึกอึดอัดมากในคายและขณะเดียวกันก็รูสึกวาถูกเด็กเทคนิคเหลาน้ันคอยมองอยูและแซว“… มองอะไรอยางน้ี ..บางไง เขาก็แซว ๆ เขาจีบอะไรอยางน้ีนะคะ” และก็มี “…ก็ชวนไปนอนดว ยอยา งน้”ี บุกอุม ทคี่ ายมรี า นขายของอยู คนื วนั หน่งึ ณหทัยเดนิ ไปซื้อของแตปรากฎวา “ถกู อุม”“อุมไปเลยละ หนูก็ตกใจเพราะตอนกลางคืนอยู เดิน เดินมาซื้อของเพราะมันจะมีรานขายของอยูใชไหมคะ เดิน คือโดนปุบมันก็ ใคร ใคร ใครอยางน้ีคะ…วาย ใครอุมชั้นอยางนี้… ใคร ใครใคร ปลอยนะ และเขาก็ปลอยนะ … โหนากลัวนะคิดดูดิ นากลัวไหม” อาจจะเปนดวยการรองโวยวายทําใหคนท่ีมาอุมปลอยณหทัยลง นอกจากการอุมแลว ตอมาณหทัยยังพบกับ
107การบุกอุกอาจเขามาในเต็นท “แลวเอาคืนน้ีไมไดเหรออยางนี้ มีแบบ มีคืนหน่ึงมีผูชาย “บุก”เขามาในเต็นทเลยคะ แลว จู จู หอมแกมเราก็ตกใจ เรานอนอยนู ี้ กบ็ อกนี่เรางวงนอนมากแลวมันเหนื่อย หนูไมมีอารมณคิดถึงเรื่องผูชายสิ ฉันบอก ฉันเหน่ือย เราบอก..ออกไป ...” ณหทัย“งงมาก” กับการกระทาํ เชน น้ี ตอนนัน้ เพือ่ นรวมโรงเรยี นก็อยูในเต็นทนอนตรงขามกันดวยแตณหทัยก็ยังสงสัยอยูวาถาเกิดเอาตัวรอดไมไดแลวจะเปนอยางไร “..แลวเธอจะมาชวยฉันเหรออะไร อยา งนี”้ จบเร่ืองณหทยั ก็ไมบ อกครูเพราะเขาก็ยอมออกไป กอ นท่จี ะมาเขา คายกไ็ ดรับคาํ เตือนจากรนุ พ่ีมาบาง ณหทัยบอกวา “…เออเรารวู ากม็ ีรนุ พ่ีเขาเลา ใหฟ ง เขาบอกวาจะมอี ะไรในคายมันงายมากเลย อะไรอยา งนี้ เพราะวา ผูชายมนั กอ็ ยากมีอยูแลว ถา หนอู ยากไดห นกู ็ไปเอา หนไู มค อยงอ อะไรอยางนี้” ณหทยั บอกวาตวั เองไมสนใจท่ีจะมาหาผชู ายและบอกวาปองกันตัวเองดีก็เลยโอเคหนอย โชวหนอย แตไมใชเพียงนักเรียนท่ีณหทัยตองตอกรดวย ณหทัยถูกครูฝกเรียกให“ไปนวด” “ครูฝกยังเรียกวานอง…มานวดใหหนอยคะ ในเต็นทอยางน้ีคะ นวด นวด ..งวงนอนแลว คะ แลว หนกู ็ออกไป” ณหทยั บอกวา “ถาเราไมยุงกับเขา ไมเลนดวยก็ไมเกิดอะไรหรอกคะ”ณหทัยไมรูเหมือนกันวาถาถูกเรียกใหไปนวดแลวไมไปจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม บางคร้ังทานขาวแลวณหทัยจะถกู เรียกใหม าแสดงโชว “…ออกมาแสดงโชวใหห นอย ออกมารองเพลงใหฟงอะไรอยางน้ีนะคะ” ตอนนั้นณหทัยจําไดวามีคนท่ีเปนแบบณหทัยราว 10 คน เขาจะเรียกออกมา“…เขาบอก 10 นางฟาออกมาเลยอยางนี้ คือ ทีจีเพ่ือนเขารู...ออกมาซิ..ดึงเพ่ือนออกมาดวยกันแลวก็จะโดนอะไรอยางน้ี” เมื่อตองมายืนโชว ณหทัยตั้งคําถามกับตัวเอง “รูสึกวาฉันเปนตัวอะไร เออทําไมตองมาแสดงใหคนดูอยางน้ีนะคะ” ณหทัยจําใจรองเพลง เตนบาๆ บอๆ ใหดูณหทัยมองวามันไมแฟรแต “… เพราะรุนพี่เขาเตรียมใจกันแลววาตองโดนอะไรอยางนี้คะ”ณหทัยบอกวาเร่ืองการแสดงไมมีปญหาอยูแลวถา “มีใจอยากแสดง” แตตอนนั้นมันเหมือนถูกบังคับ “เรายังไมพรอมอะไรอยางน้ีคะ รูสึกวาโดนบังคับแตเราตองทําอยางนี้ ถาไมทําเราตองโดนลงโทษนะคะ ” การที่ตองฝนใจทําเชนน้ีณหทัยบอกวาก็เพราะตองเอาตัวรอด “ก็โดนลงโทษหนไู มทําหนูตอ งโดนแน อะไรน่ี หนูก็เอาตัวรอด..” กิจกรรมวันสุดทายของคายณหทัยก็จัดแสดงโชวเลย “…เขาอยากดูโชวชุดเราก็จัดใหคะ เอาชุดกันไป” อันที่จริงโชวน้ีไมใชพ่ึงมาคิดแตเปนสิ่งที่รูมากอนลวงหนาแลววาตองทําตาม “คําขอ” และไดจัดเตรียมชุดมาแลว “…เตรียมโชววันสุดทาย เรารูวายังไงตองมีโชวอยูแลว...วางแผนมากอนแลวคะ วาตองมีแน เพราะครูฝกทุกรุนตองมีรีเควส..อยากใหขึ้นมาแสดง... เขาก็จะบอกวา ลูกสาว…น่ีเตรียมการแสดงชุดหน่ึงรอบกองไฟ ก็จบแคน้ัน ...บอกพวกหนูเลยคะ” ซ่ึงก็รับปาก “…จะบอกก็โอเค โอเคไดอยางนี้ไมมีปญหาเรื่องการแสดงโชวใหได” การโชวนั้นจะแตงหญิงแลวเตนแบบธรรมดา ณหทัยบอกวาคนที่น่ังดูก็มีปฏกิ รยิ าตอบรับ “..โอโห ฮือฮามาก ๆ เลย เห็นแลวดี ดีขึ้นมาอยางน้ีเลยคะ” พอลง
108เวทีไปก็ไปน่ัง ณหทัยก็เจอ “..ก็บอก.. วาไงอยางน้ี เออ ชวนไปนง ไปนอนอะหนูก็บอก..ขนาดนัน้ คะ ความรสู ึก..ผูชาย พอเขา..ไมเ กีย่ งเลยจรงิ ๆ” ณหทัยบอกวาท่ีคายลูกเสือไมหนักเทาน้ี “…เจอแบบนี้ไมคอยเจอนะคะ คายลูกเสือเพราะลูกเสือมนั ยงั ไมหนกั เทา นี้ รด.มันหนักกวาน้ี คายลูกเสือกจ็ ะมีแตอ าจารยในโรงเรียนอยางน้ี....” คําถามถึงจรรยาบรรณผุดข้ึนมาในสมองของณหทัยอยางชวยไมได เม่ือตองพบเหตุการณเชนนี้ ณหทัยบอกวาส่ิงเหลาน้ีสังคมไมรับรูวาพวกตนตองประสบกับอะไรบาง “ไมรับรูนะ ไมรับรูนะคะวา วา วาจริง ๆ เจออะไรบางในรด.อะไรอยางนี้นะคะ ก็ไมใครเขาออกตัวประเดน็ อยา งนี้ เราไมไ ด บางทกี ารละเมิดทางเพศนะ ทจี ีเปน คนยอมใชค ะ” ณหทยั บอกอกี ดวยวาการยินยอมเปน “เหตุสวนตัว” ของแตละคน “เขาก็ไปเรียน รด.มันตองมีอยูแลวคะ เร่ืองเพศสัมพันธ ก็มี … ก็มันตองมีแน แตมันก็ข้ึนอยูกับตัวเราวาจะเซฟตัวเราไดแคไหนอะไรอยางน้ีคะ” ซึ่งณหทัยบอกวาไมมีขอหามและถาอยากจะแกไขก็ตองแกที่ “ครูฝก” “…ใหรูจักวางตัวกับเราใหมากกวาน้ีคะ ใหเกียรติพวกเราใหมากกวานี้ ไมทําอยางพวกเราเปนตัวตลกอะไรอยา งนี้” เหตุการณโดยเฉพาะ “การโชวนอกรอบ” ที่ไมไดต้ังใจจัดมา ทําใหณหทัยรูสึกอาย“เหมือนเปนตัวอะไร” ณหทัยแถมทายดวยวาตนถูกขอรูปถายแตงเปนผูหญิงไปเก็บไว “…อืมมคี ะ มี มี เอารูปถายไปเกบ็ ไว นา กลวั ไหม นากลวั เนอะ แตเขาเปน ครูฝก ในสถานะตอนน้ันทเี่ ราอยู เราก็ยอมใหเ ขาไงคะ เพราะเขาเปน ผบู ังคบั บัญชา แลวน่ีรด.ครูท่ีโรงเรียนเรานะก็จะไมมีเขาไปยงุ จะเปนแบบวาเขาเต็มที่ เขามอี ํานาจใหญอ ยา งน”้ี สําหรับหลินถึงแมจะตางกาลตางวาระกับณหทัยแตหลินก็พบเหตุการณคลายคลึงกันในคายฝกซึ่งสองวันแรกก็ยังไมมีอะไร ใครเขาทําอะไรหลินก็ทําเพียงแตก็ยังหวงสวยกลัวหนาพังและตบแปงแผนเปนระยะๆ ถึงแมการกระโดดหมอบจะทําใหตนเองเจ็บ “หนาอก” แตก็ทนไดและอาศยั เอาสว นอนื่ ของรา งกายลงรับแรงกระแทกเพราะจะไดจบๆ ไปและถึงแมตัวเองจะไม“ถึก” เหมือนเพ่ือนบางคนแตบางทีเขาใหทําอะไรก็ทําเร็วกวาผูชายจนไดรับการออกปากวา“อตี ดุ ยังทาํ ได” จากครกู ็มี ถึงแมจ ะตะหงดิ ใจถึงคําท่ีใชเ รียกแตอยางนอ ยกถ็ อื ไดวาเปนคาํ ชม พง้ิ กเี้ กลิ โชว คืนวนั แรกมกี ิจกรรมทํานองปฐมนเิ ทศทัว่ ไป แตพอวันท่ีสองก็มีกิจกรรมแตไมมีการพูด งานท่ีจัดดูตระการตาเหมือนงานวัด แถมมีโปรเจ็คเตอรใหญๆ ไวฉายดวยซ่ึงหลนิ มองวา “..ดีๆ พรอ ม” หลินและนักเรียนคนอื่นๆ กน็ งั่ ลงลอมรอบเวทีรอฟงวามีกจิ กรรมอะไรสกั พักหน่ึงพธี กี รผหู ญงิ ดูเหมอื นจะเปนครูพยาบาลก็พูดๆ ไป และแลวเน้ือหาสวนหน่ึงท่ีหลินจําไดเปนทํานองที่วา ขอรบกวนหนอยนะคะใครเปน ”พิ้งก้ีเกิล” คนท่ีเปนสาวสวยในน้ีขอใหออกมา ทันใดนั้นทุกสายตาก็มองตรงไปที่หลิน “เจออกไปซิ” คําวา พิ้งก้ีเกิล ทําใหหลินสะดุดใจและจําไดแมน นึกในใจวา “กูโดนอีกแลวหรือ” พรอมทั้งตั้งคําถามโดยอัตโนมัติข้ึนมาทันทีวามีวากกะเทยในนี้ดวยหรือ หลินมองวาในมหาวิทยาลัยอาจจะไมแปลกแตนี่เปนคายชายลวน
109อยางไรไดในเม่ือถูกจองอยางนั้น “ก็ออกไป” หลินเดินแหวกคนอื่นๆ เดินออกไปคนแรก“กแ็ หวกทางใหฉ ันเดนิ สวยๆ” คนก็ตบมอื กนั เพราะเขาก็รกู ันวาหลิน “เปน” หลินบอกวาก็โอเคก็ไมไดคิดอะไร หลินไปยืนเฉยๆ ตอหนาผูคนอยูสักพัก แตพิธีกรถามตอวา “อะไรมาต้ังเยอะมีแคนี้เองหรือ” ไมมีใครออกมาอีก...สักพักก็วิ่งกันออกมาอีกสองคนหลิน ตั้งขอสังเกตวา“ผูชาย..แมนมาก” พอมีโอกาสหลินก็ไปขางหลังเวทีหลินถามพิธีกรวา “ครูคะหนูออกมาอยางนี้แลว ครูฝกเขาจะไมดาหนูหรือ” คําตอบท่ีไดคือออกมานะดีแลวเพราะถาไมออกพรุงนี้จะถูกเรียกไปคุยกับหัวหนา หลินไดแตถามตัวเองวาจริงหรือ ออ!หนูทําอยางนี้ถูกหรือคะ และคิดวาใชเขาตองการจะรู ซ่ึงยืนยันส่ิงที่หลินเคยไดยินมาวา ตองเปดถาไมเปดอยาใหเขารูเลย หลินบอกวาอยา งตวั เองปด ไมไดอยแู ลว เปดตัวแลวอยางไร? ไปทําอะไร? หลินบอกวาเขามีชุดผูหญิงกระโปรงบานๆ แบบ“คาเฟ” เต็มท่ี เตรยี มไวใ หใส เรยี กไดว าลงทนุ แลว ใหห ลินเตน ฮูลา ฮูลา หลินเตนแรงๆ แบบนี้ไมเปนแตก็เตนๆ ไป สวนอีกสองคนกลายเปนเตนกัน “พร้ิวเลย” ยังไมทันไรโชคดีมากฝนตกงานวัดนั้นเลยจาํ เปน ตองเลิกโดยปริยาย เหตุการณน้ีหลินรสู ึกไมค อยดี “มันอายนะ มีแตค รูฝก”หลนิ ไมเคยไดย ินเรือ่ งอยางนม้ี ากอ น และบอกวาถา มเี พ่ือนตองเลา ใหฟ ง แลว ข. ความอึดอัดจากการถูกขอ....ใหหนอย: ปากคําของนัยนา นยั นาแลกเปลยี่ นประสบการณเ ร่ืองในคายของตนวา ตอนสมัยเรียนอยูมัธยมสามตนไปเขาคายลกู เสอื พอตกกลางคืนเมอ่ื เขา คา ยผชู ายจะแกลงตน การแกลงน้ันไมใชเร่ืองที่เด็กแกลงกันเลนท่ัวไปแต “….เรานะมันจะเอาเจี้ยวมาแหยที่ตูดเราเลนนะเราเกลียดมากเลยนะเรารองไหเลยนะ .... รองไห ยังนึกยอนหลังไปนะ ทําไมมึงไมทํากับกูตอนน้ีนะตอนน้ันยังไมรูเร่ืองนะ ขนาดผูชายบอกวาใหอมใหหนอยอยางน้ีนะยังทําไมเปนเลยตอนน้ันอมคืออะไร คืออมไวเฉยๆ น่ีนะเราไมมีอะไรไมมีเทคนิคนะ อะไรเลยนะ” นัยนาว่ิงไปหาอาจารยอาจารยก็ดุขน้ึ มา “บอกวา นพี่ วกเธอทําไมทํากบั เขาอยา งนเี้ ขาเปนเพื่อนเรานะ” แลว ครูก็จะอบรมไปสกั พัก แตวาเสนทางในการเรียน รด. ของนัยนาน้ันเปนอีกแบบ นัยนาเลาตอไปวามีอยูคร้ังหน่ึงตนไปเรียน รด. ซ่ึงจะมีพวกครูฝกอยูในคาย 14 วัน เขาจะเรียกบรรดากะเทยท้ังหลายไปนางน่ัน นางน่ีไป นัยนาเลาวาลกั ษณะหองตอนนั้นจะมีเปนล็อก เปนหองท่ีพักของครูฝกโดยเขาจะใหเขาไปหองละคน ๆ เขาจะเรียกไปเลย นัยนาบอกวาถาไมไปตนก็กลัวเพราะอยูปหน่ึงก็กลัวมาก ๆ ท่ีกลุมมี 3 คนไปหองพักครูฝก ครูฝกก็นอนใหนวดนัยนาบอกวาพอใหนวดแลวก็จะมีอารมณทางเพศ “…ผูชายนะก็บอกวาโมกใหครูหนอยสิ” แลวพอคืนแรกผานไปเรียบรอยแลว รุงเชามาเพื่อนก็รูวาตนไปกับครูฝก “มันก็จะวันน้ีคงไมมีแรงวิ่งนะ ทั้งๆ ท่ีจริงเราไมไดไปทําอะไรกับครูฝกนะเราแคไปนวดเฉยๆ นะ มันคงคิดวาเราจะไอน่ันครูฝกแลวนะ” ท้ังน้ีตอนท่ีเขามาบอกนัยนาและเพื่อนให ”โมก” ไมมีใครทําให นัยนาบอกวาถาไมยอมคงทําอะไรนัยนา
110ไมได แตน่ีคือนัยนา นัยนาพูดถึงตนเองตอไปวาตนเปนคนไมยอมในเร่ืองเชนนี้ “…ขนาดแฟนที่คบกัน 7 ปน่ีนะเขายังไมเคยจับอวัยวะเพศหนูเลย เขาเคยจะจับแตไมใหเขาจับนะ” ซ่ึงนัยนาบอกวาอาจจะเปนเพราะนิสัยของตน “ ไมคอยชอบเพราะวานิสัยพวกกะเทยนะ ไมรูคนอื่นจะเปน เหมอื นกันหรอื เปลานะไมชอบใหใครมาชว้ี าตอง มึงตอ งทําไอนี่นะตองทําไอน่ีตองทําอยางนี้นะไมชอบอยางนน้ี ะ คือเราอยากทาํ เราทาํ นะอยบู า นเรากเ็ หมอื นกัน วันนีฉ้ นั ขีเ้ กียจซกั ผา ฉนั ไมซักใครจะทําไม ฉันก็บานฉันใชไหม แลวท่ีบานจะมีตูหยอดเหรียญนะ แมเขาจะบอกวามึงทําไมไมซกั เองนะเสือ้ ผา แคน้ี ข้ีเกียจ เขาพดู แคนนั้ เราไมคอยนัน่ กนั เร่อื งน้ีเทาไร” ค. ความอดึ อดั จากการถกู ตามลา: ปากคําของหลิน “…แลวมันก็โทรมาใหเลย มีเยอะนี่มันเก็บไวเยอะ....” อะไร? ทําไม?หลินตองไปเรียนไกลบานเม่ือเขาเรียนอุดมศึกษาปแรกเลยเลิกเรียนวิชาทหารไปพักหน่ึง แตเมื่อยายมหาวิทยาลัยก็ตัดสินใจไปเรียนใหจบหลักสูตรเพราะมิเชนน้ันก็ตองไปเกณฑทหารอีกถึงแมจะไมอยากตัดผมท่อี ุตสา หไ วจนยาวเพือ่ ใหเ ปนผหู ญงิ แตอ าจเปน เพราะตองตัดใจตัดผมจึงทําใหฝนราย ในใจลึกลึกของหลิน และเพื่อนกะเทยอีกหลายคนมีความไมม่ันใจ เมื่อเพื่อนรูวาหลินจะไปเขาคายแนนอนก็โทรมา และเสนอใหพก “ถุงยาง” ที่ตนเองสะสมเอาไวมาเผื่อแผใหเพอื่ น เวลาในการฝกในคายผานไปหลินก็ถูกนินทาบาง แซวบาง ท่ีไมชอบใจคือการที่วัยรุนบางคนท่ีมาเขาคายฝกพยายาม “แกลง” ตน เชน เวลาเขาคิวทานอาหารจะถูกอวัยวะเพศมาชนขางหลัง ซ่ึงเม่ือเปนเชนนั้นก็จะบอกเพ่ือนผูชายที่นอนเต็นทเดียวกันใหชวยเหลือและกันใหหรอื บางทกี ็ถกู จบั กน ก็จะปอ งกนั ตวั ดว ยการดา หรือตบตีคนท่ที าํ เปน การเอาตัวรอด วันสุดทายของการไปเขาคายชายลวนของหลินกําลังจะส้ินสุดลงหลังจากเหนื่อยมาหลายวันเหมือนคนอ่ืนๆ ตกกลางคืนก็แยกยายไปนอนท่ีเต็นทของตนเองท่ีกางอยูในบริเวณใกลๆ กัน วันนี้ดูเหมือนจะไมมีอะไรทํา ประมาณ 4 – 5 ทุม หลังจากหลินไปอาบน้ําก็กลับมาที่เต็นท ขณะกําลังแตงหนา ทาครีม จะเขานอน ก็มีเสียงดังลอดเขาเต็นทมา “หนีหาว….” หลินรูทันทีวาเปนเสียงเรียกหาตนเพราะมีคนรูวาตนพูดภาษาจีนได หลินคิด ตายแลว งง ทําอยางไร“มันเดินรอบเต็นทเลยคะ หนูก็เงียบ ทําตัวเงียบๆ เลยคะ” เพ่ือนผูชายของหลินท่ีนอนในเต็นทเดียวกันก็บอกหลินใหอยูเฉยๆ นิ่งๆ ไว อยากระโตกกระตากใหรู เดี๋ยวมันจะเขามา ถาเขาจะมาทําอะไรหลินเพ่ือนคนน้ีบอกวาจะชวย แตบอกวาถามันมาหลายคนผมจะปลอยใหเขาเลยนะ!??? หลินบอกวามันมากันเปนฝูง และคิดวาคงไปเรียกกันมา 4 – 5 คน มันควานหาหลิน“เฮยอยูเจอยูเต็นทไหนวะ อยูไหนนะมึง...” หลินกลัว คิดวา อะไรกันหนักหนานี่ อยากมากขนาดน้ันเลย ตามมาจะมา... หลินรูสึก “แยมาก” หลินบอกวา “ทําเหมือนกับเปนตัวอะไรหรือเปลาแบบน้ีไง เราไมใชคนอะไรแบบน้ัน เราไมใชมา... แบบบาหรือ ฉันก็รักศักดิ์ศรีของฉันเหมือนกันนะ ไมใชมาซิๆ ฉันใหแบบนั้นบาหรือ ฉันไมใชคนอยางนั้นซักหนอย” สักพักเม่ือกลุมพวกน้ันหาหลินไมพบก็ผละไป และเปรียบเทียบเหตุการณวาจะมาทําแบบ “พรหมพิราม”
111กันเลยหรือ หลินรอดตัวจากเหตุการณใน “คืนหมาหอน” มาไดอยางอกส่ันขวัญแขวน คืนท่ีหลนิ ไดย ินมาวาคืนนแ้ี หละที่ปกติคนจะไดกัน หลินไดยินคนบอกวากะเทย “ไดกิน” กอนหลินไปอาบนํ้าซ่ึงหลินก็แคอุทานวาเหรอเพราะไมสนใจ เหตุการณลอมกรอบรอบเต็นทที่หลินหลุดมาไดทําใหหลินไมตองจําใจใชถุงยางที่ตองแอบพกพาและซุกซอนไวอยางมิดชิด ถุงยางที่เพ่ือนเสนอใหตดิ ตวั ไวหากเกดิ อะไรข้นึ เพราะกลัววา หากเกิดอะไรข้นึ เรอ่ื งโรคเปน สงิ่ ที่นา กลัวและตองคดิ ถึงมากที่สุด กลบั จากคายเพ่ือนๆ ถามหลนิ วาไดก ไ่ี ม? คายกิจกรรมเด็กและเยาวชนตางๆ เปนพื้นท่ีจัดแบงเพศตามสรีระอยางชัดเจนถึงแมวาโดยทั่วไปจะตระหนักวามีเด็กหรือเยาวชนท่ีมีความแตกตางจากบรรทัดฐานและอาจจะมีความยืดหยุนในการจัดการดูแลซึ่งก็ข้ึนกับความคิดของผูดูแล ดวยวิธีคิดในเร่ืองเพศและการจัดการคนหมูมากบนพ้ืนฐานของความสะดวกและประหยัดทําใหการจัดการลักษณะนี้ยังดูเปนความเหมาะสม กะเทยเปนลูกเสือ นักศึกษาวิชาทหาร (ชาย) ลูกคาย และทําตามกฏระเบียบของคาย ไมวาจะเปนเครื่องแบบ การทํากิจกรรม การฝก การกิน การนอน อยูภายใตระเบียบวินัยของคายทั้งส้ิน กะเทยท่ีคายบทบาทจึงเปนไปตามเพศสรีระ แตดวยความเปนกะเทยการแอ็บชายใหสมกับการเปนลูกคาย เชน นับเสียงดังฟงชัด อาจจะทําไดงายแตในพื้นที่แหงความเปน ชายการทีก่ ะเทยจะแอบ็ ผชู ายโดยไมเปนท่ีสังเกตเห็นเปนไปไดยาก เห็นไดจากไมวาจะเปนการหวงสวย ความกระตุงกระติ้ง การหนีไปอาบน้ํา เปนตน ในพ้ืนท่ีแหงความเปนเพศในระบบที่ถูกจัดสรรวามีเพียงสอง กะเทยจึงเปนผูหญิงในหมูผูชาย โอกาสท่ีจะเกิดการมีสัมพันธทางเพศในความคิดของคนทั่วไปท่ีอยูในกรอบวิธีคิดของอุดมการณรักตางเพศ ความสัมพันธทางเพศ ระหวางชายกับชายจึงไมมี (หากดูท่ีเพศสรีระอยางเดียว) ดังน้ันการหาประโยชนจากกะเทยในเรื่องเพศประเวณี และเอารัดเอาเปรียบเชิงเพศวิถีในคายตางๆ จึงถูกมองหรือรับรูวาไมนาจะเกิดขึ้นได นอกจากนี้ความสัมพันธเชิงอํานาจท่ีไมเทาเทาเทียมกันในสถานะของครู-นักเรียน เด็กมักจะตกอยูในสถานะของบุคคลภายใตอํานาจ ในลักษณะของความสัมพันธเชิงอํานาจเชนน้ี อาจเปดโอกาสในการใชอํานาจเกินขอบเขตเพื่อจุดประสงคอื่นของผูดูแลบางคนนอกเหนือจากการฝกวินัย ขณะเดียวกันสําหรับเด็กและเยาวชนเพศชายที่มาอยูรวมกันก็อาจมิไดมีการกติกาหามปรามการมีเพศสัมพันธอยางชัดเจนในมุมมองจากเร่ืองเพศที่เปนทางการโอกาสท่ีการมีเพศสัมพันธจะเกิดข้ึนไดก็มีเชนกันดังที่หลินพูดถึง คืนหมาหอนซึ่งเปนที่รับรูกันทว่ั ไป การสันทนาการตางๆ ท่ีทําในนามของความตั้งใจดีเพื่อความสนุกสนานบันเทิงโดยไมคิดอะไรมาก เห็นเปนเรื่องธรรมดา ไมตระหนักถึงความหลากหลายเร่ืองเพศ สรางความหมายใหการกระทํากับกะเทยดูเปนเรื่องเบา ๆ โดยไมนึกและนึกไมถึงวาผูที่ถูกช้ีตัวจะมีความรูสึกเชนใด ตองออกมาโชวจะรูสึกอึดอัดอยางไร และจะนําปญหามาสูผูถูกเรียกอยางไร โดยอาจตีความหมายวาเปนความชอบและสนุกสนานนั้นตองมีการทบทวน ซึ่งเรื่องความหลากหลายเชนนี้เปนเรื่องที่ซับซอนและละเอียดออน ตามที่สะทอนออกมาดังที่ท้ัง ณหทัย และหลินไดพูด
112ถึงความรูสึกของตน นอกจากนี้ การชี้ตัวแมจะเปนเร่ืองเล็กนอย ในความคิดของคนพูดและอาจเห็นวาเปนการพูด คิด และการมองดวยความเอ็นดู นารัก หรือเห็นเปนสีสัน เปนเรื่องสนุกสนานเชน เรียกอีตุด หรือท่ีหนักกวาน้ัน การเรียกออกมาแสดงตัวบนเวทีและเตนโชว โดยสัมพันธบทแลวกะเทยในยามนั้นจึงถูกสรางใหมีความหมายเปนผูหญิงในหมูผูชาย เห็นไดจากชุดคาเฟท่ีจัดเตรียมมาใหใสโชว เปนนักเตน (บทบาทผูหญิง) ซ่ึงนอกจากเปนการสรางความหมายใหเปนหญิงแลวยังเปนการช้ีกําหนด คัดแยกประเภทคนแทนที่จะทําใหคนสามารถอยูรวมกันทามกลางความแตกตา งกลบั แปรเปลย่ี นเปนการจัดประเภท คัดแยกความแตกตางใหโดดเดนออกมาโดยไมตระหนักวาการกระทําเชนน้ันยิ่งทําใหคนท่ีถูกเรียกตกอยูภายใตการจองมองของคนรอบขางอยางหลีกเล่ียงไมไดและสรางการเห็นพองความหมายในวาทกรรมของท้ังผูช้ี ผูดู และผูแสดงและคนท่ีถูกชี้ตัวตองยอมรับความเปนหญิง และแสดงบทบาทตามที่สงั คมสวนนั้นกําหนดใหตามที่หลินอุทานวา “กูโดนอีกแลวหรือ” ที่กลาวมาทั้งหมดน้ีไมไดเปนการตัดสินวาใครถูกหรือผิดแตตองการช้ีใหเห็นวาระบบวิธีคิดของสังคมไดสรางและหลอหลอมการปฏิบัติของคนในสังคมสวนนั้น ท้ังกะเทย ผูดูแล ตางก็ถูกสรางภายใตกรอบวัฒนธรรมท่ีสรางตัวตนทางสังคมของเขา/เธอ แตดวยพ้ืนที่ของวาทกรรมน้ันเปนพื้นท่ีที่กํากับโดยเพศสรีระอยางตายตัว ดังนั้นการมองไมเห็นวามีหลากหลายที่ถูกกลบทับภายใตพ้ืนที่น้ัน จึงมิไดมีจัดกรอบกติกาแนวทางการปฏบิ ัตทิ ี่ตอบสนองตอความหลากหลายอยางเหมาะสมเพยี งพอ 5.1.3 การบังคบั ขม ขืน: ปากคาํ ของดวงฤดี อญั ชลี และกรกนก เมือ่ เปนกะเทยคนมกั จะมองไมเห็นวาการถูกทํารายทางเพศจะเกิดขึ้นกับเธอ/เขาได ดวยภาพตัวแทนทางสังคมและอัตลักษณทางเพศที่คนเชื่อวากะเทยเปนเชนน้ันเชนนี้จึงทําใหแทนที่จะมองวากะเทยน้ันตกเปนผูถูกกระทําได แตมักกลับกลายเปนวาคนเปนกะเทยกระทําการเชนนั้นเสยี เอง เรอื่ งราวจากปากคําตอ ไปน้จี ะใหภ าพความจรงิ ท่คี นท่วั ไปมักไมคิดถึงวา กลมุ คนตา งๆ ไดก ระทําตอ กะเทยเชน ไรบาง ก. การบงั คบั ชาํ เราโดยรนุ พี่ การเรียนรูเร่ืองเพศสําหรับเด็กวัยรุนหากไมมีขอบเขตและเกินเลยไปสูความหมายของการทําราย หรือเปนการบังคับใหทําในส่ิงท่ีไมถูกไมควร เร่ืองราวท่ีดวงฤดีประสบน้ันเกินเลยขีดขั้นของความสมควรในบทบาทของผูพูดและความสัมพันธระหวางเพศในแตละบริบทซ่ึงเปนการกระทําความรุนแรงตอคนดวยกัน และท่ีสําคัญการเรียกรองสิทธิหรือความยตุ ิธรรมสาํ หรับสิง่ ทเี่ กดิ ขึ้นเหลาน้ีไมไดรับการดูแลอยางจริงจัง ดังปากคําของดวงฤดีท่ีถูกบงั คับขม ขืนโดยรนุ พี่ ดวงฤดีเมือ่ อายุ 12 ปเ ลาวาชีวิตของตนเมื่ออยูในโรงเรียนชายลวนไมมีเร่ืองเพศที่เกินเลย จะมีแต “ปารตี้สาว” เฮฮา หรือการหนีเที่ยวบานเพื่อน เท่ียวเทค โดยดวงฤดีมักจะอยูกับเพ่ือนท่ีดู ”แตวๆ” เหมือนกันท่ีรวมกลุมกันไดเพราะรูวาเปนพวกเดียวกันโดยบอกวา “เหมือนผีเห็นผี” สวนผูชายก็อยูสวนผูชาย ดวงฤดีเลาถึงประสบการณท่ีผานมาในชีวิตกับ “เสียตัวครั้ง
113แรก” ของตนกับวยั รนุ ชาย (กลุมวัยรุนผูชาย!) วาในครั้งนั้นตนรูจักมักคุนกับเพื่อนๆ รุนพ่ีผูชายแถวบานอายุประมาณ 17 – 18 ป โดยดวงฤดีบอกวาตนชอบไปเลนกับพวกรุนพ่ีๆ เหลาน้ีซึ่งตามประสาเด็กวัยรุนก็มีจะแอบมีหนังสือโปมาดูกัน ดวงฤดีซึ่งในตอนนั้นยังแตงเปนชายก็ตามไปกับเขาดวยโดยไมคิดวาจะมีอะไรเกิดขึ้น แตในท่ีสุดก็มีเรื่องเกิดขึ้นจนได “ก็เราชอบไปเลนกับพวกเคาแหละ ชอบแหยพวกพ่ีๆ ผูชายหย่ังงี้ใชมั๊ยเคาเห็นเราตุงติ้ง เห็นอะไรมันหนงั สอื โปๆ ชวนเราไปดู เรากไ็ ปดูใชม ๊ัยตามเคาไปดู ไมค ิดวา เขาจะ...ขังเราไวในบา นอยางง้ี” ขอหาเพียงพรากผูเยาว ดวงฤดีถูกกลุมเด็กชายเพ่ือนๆ รุนพี่เหลานั้นจับขังไวในบานตั้งแต หกโมงเย็นถึงเจ็ดโมงเชา ที่บานตามหาดวงฤดีท้ังคืน ดวงฤดีถูก “รุมโทรม” โดยเด็กวัยรุน 3-4 คน ซ่ึง ดวงฤดีเองตอนแรกไมคิดวาการคลุกคลีนั้นจะเลยเถิด ถึงแมแรกๆดูเหมอื นจะชน่ื ชอบอยูบาง “สวนหน่ึงก็ช่ืนชอบ แตสวนหน่ึงก็ไมคิดวาเคาจะทํารุนแรงขนาดน้ีไงชอบเลนแบบเผลอๆ จับๆ คลําๆ แตไมนึกวาจะมีถึงเพศสัมพันธไง เราแคอยากเลนจับ อยากดูอะไรทํานอง...ไมคิดวาจะเกิน... ไมคิดวาจะเลยเถิด” เมื่อเปนเชนนั้นดวงฤดีก็ไมชอบใจแลว แตไมส ามารถขดั ขืนเพราะสไู มไ ด “มันขัดขืนไมไดเ นอะมนั หลายคน มันรุมเราน่ีสูอะไรไมไดอยูแลวเพราะเราตวั เล็กดวย” รุง เชามากลมุ ผชู ายกป็ ลอยดวงฤดีกลับบาน ดวงฤดีกลับบานมาก็สลบไสลโดยบอกวาตนเองไมมีสิทธิจะรองไห และจะเอาเวลาท่ีไหนมารองเพราะตัวเองเพลียจนหลับไป ดวงฤดีบอกวารูสึกอับอายและเสียใจมากแตก็ทําอะไรไมได และไมกลาบอกที่บานแตสุดทายท่ีบานก็รูเรื่องและไปแจงความ “…เราไมกลาปริปากบอกพูดหยั่งง้ี แตวาไอกลุมวัยรุน ...น่ัน มันก็เมาทแตกไปเมาท...ไดฟนฉันเจง อะไรทํานองน้ีแหละ...เร่ืองเขาหูนาสาวเขา นาสาวไมยอมไปแจงความเอาตํารวจจับเรยี งควิ เอา 4 – 5 คนข้นึ โรงพักเสียคาปงคาปรับอะไรกัน ...ก็ตองรักษาตัวอยูประมาณ 2 วันเพราะตัวเองโทรมและก็อักเสบ ครั้งแรกในชีวิตนี่” ญาติพี่นองของดวงฤดีเจ็บแคนแทนในเร่ืองน้ี แตขอหาท่ีแจงตามที่ดวงฤดีจําไดคือพรากผูเยาว กักขังหนวงเหน่ียวดวงฤดีมองวาเร่ืองที่เกิดข้ึนมันนานมาแลวและเม่ือเร่ืองถึงโรงพัก เรื่องถึงศาลเพียงเทานี้ก็โอเคเพราะญาติพ่ีนองของกลุมเด็กผูชายท่ีมา “รุมทําราย” ก็ตองชวยลูกหลานตัวเอง วัยรุนกลุมน้ันเสียคาปรับคนละ 5 พันบาท นอกจากนี้ยังมีการถือดอกไมธูปเทียนมาขอขมา หลังจากนั้นดวงฤดีก็ไมคุยกับกลุมวัยรุนชายเหลานั้นอีกเลย ดวงฤดีเห็นวาการที่วัยรุนเหลานั้นกระทํากับตนเพราะดวยความ คึกคะนอง และดูเหมือนจะเปนความผิดของดวงฤดีดวยขอหาที่วาไมเหมือนผชู าย “เคาหาวา เราตุงต้งิ ยงั เงยี้ ” การคลกุ คลกี ับเด็กชาย (เชิงสรรี ะ) ดวยกันดจู ะเปน เรื่องธรรมดาไมมีปญหา ไมเหมือนที่คนมักมองวาถาเปนผูหญิงกับผูชายมักมีปญหาทุกคร้ังไป ในกลุมเด็กชายน้ันมีความหลากหลายทั้งเด็กชายที่มีลักษณะที่บึกบึน ออนแอ ตุงต้ิง และอ่ืนๆ อีกทั้งประสบการณในเรื่องเพศก็แตกตางกัน เด็กชายที่โตกวาในฐานะที่เปนพ่ีสามารถชักนําหรือแนะนํา เด็กชายเล็กกวา
114ในเรื่องตางๆ การดูหนังสือโปของกลุมเด็กชายเปนเร่ืองที่หามปรามไดยากเพราะมีอยูกลาดเกล่ือนและดวยวัยที่อยากรู เด็กและเยาวชนเมื่ออยูในวัยรุนหลีกเล่ียงไมไดท่ีจะอยากรูอยากเหน็ และทดลอง ดังจะเห็นไดจ ากประสบการณเ รื่องเพศของเดก็ ในคา ยลูกเสือ หรือเวลาไปคลุกคลีท่ีบานเพ่ือนดวยกัน คําวา “รุนพ่ี” แฝงความไววางใจดวยสวนหนึ่ง ในขณะที่ผูพูดไปคลุกคลีกับเพ่ือนรุนพี่ผูชายจึงไมคิดวาจะมีการกระทําชําเราเกิดขึ้นกับตน เด็กท่ีดูออนแอกวาหรือดูตุงต้ิง ถูกหยอกลอในเร่ืองเพศและเพลิดเพลินไปดวย แตความเพลิดเพลินและความพึงพอใจมีขีดข้ันที่ไมตองการใหเลยเถิดโดยเฉพาะการใชกําลังบังคับ รุมโทรม รุมทําราย ในเหตุการณถูกจัดใหเปนผูที่ดอยกวาและมีเพศภาวะที่แตกตาง ผูพูดจึงกลายเปนผูผิด ผิดเพราะตุงต้ิง ประกอบกับภาพความสัมพันธเชิงอํานาจที่ไมเทาเทียมเปนรุนพ่ี/รุนนอง และตุงต้ิงแทนที่จะบึกบึนจึงกลายเปนผูถูกกระทําในพื้นท่ีของความสัมพันธ คําถามคือเหตุใดกลุมเยาวชนชายถึงกระทําการเชนนั้นโดยไมรูจักยับย้ังชั่งใจ คิดอยางน้ันไดอยางไร และอะไรทําใหรุนพี่ชายเหลา นั้นกระทําเชนนั้น เนื่องจากในระบบความคิดของสังคมไมมีความชัดเจนวาการชําเรากะเทยเปนความผิดเพราะกะเทยไมมีตัวตนพ้ืนท่ีทางความคิด และในนิยามความหมายของการขมขืนเพราะความคิดทั่วไปของการขมขืนเปนเรื่องที่ผูชายกระทําตอผูหญิง ซ่ึงถาเปนเด็กผูหญิงถูกกระทําจะเปนความผิดท่ีชัดเจนที่กฏหมายเอาผิดได ทั้งนี้หากเชื่อมโยงกับปากคําของอัญชลีที่กลาวในตอนตอไป ถึงการไมตระหนักรูวามีเหตุการณเหลานี้เกิดขึ้นในสังคมเพราะความรูของเรามีไมพอและไมครอบคลุมความหลากหลาย ท่ีจะใหแนวทางแกเด็ก อีกท้ังความไรอํานาจในฐานะท่ีเปนเด็ก ผูพูดจึงไมกลาเลาเรื่องใหที่บานฟง นอกจากเปนการละเมิดสิทธิทางเพศอยางเหน็ ไดช ัดแลว ขณะเดียวกันสังคมในขณะนั้นก็ยังมองไมเ ห็นความสําคัญและมองเร่ืองเชนนี้เปนประเด็นทางสังคม เห็นไดจากการตีความเปนบทลงโทษซ่ึงยังไมครอบคลุมหรือไมมีภาษาเรียกท่ีสะทอนการถูกกระทําน้ี เพราะระเบียบสังคมวัฒนธรรมไมมีความหมายรองรับการขมขืนเด็กกะเทย การเคารพสิทธิจึงเปนคําถามใหญที่เช่ือมโยงกับการปฏิบัติและอุดมการณชายเปนใหญท่ีทําใหผูชายสามารถละเมิดสิทธิในรางกายของผูอื่น โดยไมรูสึกผิด หรือรูสึกสํานึกไดตอเม่ือกลัวผลของความผิด บอยครั้งท่ีพิธีกรรมการขอขมาและจายคาเสียหายถูกเช่ือวาจะทําใหความทรงจําเร่ืองความทุกขของคนสามารถปดเปาและยกโทษใหไดผานการทําพิธีกรรมและแลกไดดว ยเงนิ และทกุ อยางก็จบลง ซึ่งในความจริงแลว ส่ิงเหลาน้ีแลกกันไดจริง ๆ หรือ การยังย้ังชั่งใจ การกําหนดตนเองมิใหละเมิดสิทธิของมนุษยคนอื่นในสังคมเพียงเพราะประโยชนของความสนุกสนานทางเพศของตนท่ีไมสนุกสนานสําหรับผูอื่นนั้นเปนส่ิงสําคัญ การจะใหผูกระทําเขาใจหรอื ตระหนักวาสิ่งทกี่ ระทาํ น้นั ไมถกู ตองหรือไมนั้นเปนส่ิงท่ีตองเปลี่ยนแปลงต้ังแตโครงสรางวิธีคดิ และการสรางตวั ตนของมนษุ ย และปฏบิ ัติการของวาทกรรมผา นสถาบนั ทางสังคม
115 ข. การบังคับขมขืนโดยแฟนและเพ่อื นแฟน: ปากคาํ ของอัญชลี กะเทยเด็กท่ีถูกจัดตําแหนงทางวาทกรรมฐานะ “แฟน” เปนประสบการณตอ ไปท่จี ะช้ใี หเหน็ ถงึ ความแตกตา งของถอ ยแถลงสารหลกั ทส่ี รา งความคิดใหกบั เขา/เธอ นาํ ไปสูการไดโ อกาสในการขม ขนื ชาํ เรากะเทยเดก็ วัยรุนทีย่ ังมรี ปู ลกั ษณเปน เดก็ ชาย เพอ่ื นในความหมายทว่ั ไปคือคนท่สี นิทสนมคนุ เคย ชอบพอรกั ใครกัน ซึ่งนัยของความเปนเพ่ือนจะครอบคลุมถึงความไววางใจ การพ่ึงพาอาศัย การชวยเหลือซ่ึงกันและกัน และท่ีสําคัญการไมทํารายกัน การที่เด็กกะเทยคลุกคลีกับเพ่ือนผูชายไมใชเร่ืองแปลก บางครั้งความสัมพันธระหวางเพ่ือนก็พัฒนาข้ึนมาเปนความชอบพอหรืออาจเปนส่ิงที่ดูเหมือนวาเปนความรัก บนฐานของความไววางใจของความเปนเพื่อนความสัมพันธในเร่ืองความรับผิดชอบก็ย่ิงนาจะมีตามมาดวย ดังน้นั ดว ยความคดิ เชนนี้จงึ เปน ความเชอ่ื ของอัญชลีท่ีมตี อ เพ่ือน จนไมค ดิวาคนเปนเพื่อนจะไมมีความรับผิดชอบและทํารายกันไดโดยไมรูสึกวาส่ิงท่ีกระทําลงไปเปนการทาํ รายจิตใจและรางกายของคนคนหนง่ึ ซึง่ เปน เพอ่ื นมนษุ ยกบั ตนเพียงเพราะเธอ/เขาเปนกะเทยใหคนท่ีเคยเปนเพ่ือนเปนท่ีซักซอมความโสมมในจิตใจของตนและพวกพอง เร่ืองตอไปน้ีจะช้ีใหเห็นความผิดพลาดในการคาดเดาและตีความคําวาเพ่ือน ซึ่งทําใหอัญชลีไมสามารถยินยอมรับความเปน เพอื่ นไดอกี ตอ ไป ความสนิทสนมแบบเพ่ือนของเด็กวัยรุนท่ีเปนกะเทยและคลุกคลีตีโมงอยูกับเพื่อนผูชาย บอยคร้ังที่ความสัมพันธดูเสมือนวาจะนําไปสูสถานะของการเปน “แฟน”? กับเด็กผูชายแตส ัมพันธเหลา นน้ั มกั ไมย ั่งยืนและหลายคร้ังแอบแฝงไปดวยเลหกลท่ีมากับความไมยับยั้งช่ังใจในการกระทํา และความคิดเบ้ืองลึกของผูกระทําและความคิดตอตนเองของผูถูกกระทํา อัญชลีเลาถึงประสบการณช ีวติ สวนหน่ึงท่ีตนในฐานะเด็กกะเทยท่เี ร่มิ เขาสูวยั รุน เคยประสบมา อัญชลีอยูกับปู ยา ในชวงวัยเด็ก ปูของอัญชลีเคยเปนทหารและเจาระเบียบ อัญชลีรูสึกวาปูไมคอยรักเธอ และชอบตีเธอโดยไมมีเหตุผล ในขณะท่ีคุณยาก็จะเงียบๆ ไมคอยมีบทบาทอะไรนัก ปูไมชอบกะเทยและพยายามฝกหัดใหอัญชลีเปนผูชายเต็มตัว ที่บานรับรูวาอัญชลีเปนเด็กผูชาย อัญชลีเปนคนไมคอยพูด น่ิงๆ เงียบๆ ไมคอยสุงสิงกับใคร ชอบอยูคนเดียว ชอบอานหนังสือ มีลักษณะเปน “เด็กเรียน” “หนูเปนเด็กเรียนมากกวาดวยซ้ําไปนะคะ”อัญชลชี อบคลุกคลีกบั ผหู ญิงมากและชอบมขี องกระจุกกระจกิ ใชเ ปนประจํา และชอบใสแวนตามีสสี ัน เชน สีแดง สีชมพู คนรูจักท่ัวโรงเรียน แตขณะเดียวกันหากมีโอกาสเปนตัวของตัวเองก็จะทาํ เชน การสมคั รเปน เชียรลีดเดอร ท่ีไดแตงตัวและแสดงความเปน ตวั ตนเต็มท่ี แตที่บา นก็ไมมีใครลวงรู อัญชลีเคยถูกลอเลียนวาเปน “ตุด” ตอนเรียน มัธยมตน ซึ่งอัญชลีโกรธมากและปฎิเสธ อัญชลีมี ”แฟน” ครั้งแรกตอน มัธยม 3 ซึ่งแรก ๆ ก็คบกันเปนเพื่อน ตอมาก็รับรูกันในบรรดาเพื่อน ๆ วาเปนแฟนเพราะถูกลอและผูชายก็มิไดปฏิเสธ อัญชลีรูสึกดีที่มีคนมาคอยดูแลความชอบพอในวัยเด็กน้ีอัญชลีบอกวา “อยางมากแคกินขาวดวย ไปสงอยางน้ีนะคะ” การคบกัน
116เปนเพียงชวงที่อัญชลีอยูมัธยมศึกษาปที่ 4 และเลิกกันไปเพราะมี “เหตุการณ” ท่ีเกิดขึ้นกับอัญชลีซ่ึงเปน เหตุการณที่อยางไรเสยี อญั ชลี “ไมม ีวันลมื ” และทาํ ใหอญั ชลเี กลียด “เขา” ไปเลย อัญชลีเลาวาชวงนั้นเปนชวงที่สอบเขามัธยมศึกษาปที่ 4 แลว ความสนิทสนมของเขากับอัญชลีมีมากขึ้นจนถึงข้ันขอมีเพศสัมพันธ โดยเร่ิมจากการเขามากอดมาหอม อัญชลีรูสึกกลัว“กลัวนะ ก็วาหนนู ะ อะไร อยูด ีๆ มาอยางนี้ และหนมู คี วามคดิ วา หนจู ะตดิ ไววา ผชู ายนะ อะไรอยา งน้ี .....คือแบบหนูอยางไรนะคะหนูพูดไมออก ตัวหนูแข็งไปหมดนะ แตวาหนูทําอะไรไมไดจะหนีออกไปก็ไมไ ด จะพูดอะไรกไ็ มไดนะคะ” ซง่ึ ผชู ายก็ “ขอมอี ะไรขา งหลัง” อญั ชลบี อกถงึ ความรสู กึ วาไมช อบ แตเ มอ่ื มอี ะไรกนั แลวเขากไ็ มไ ดทําใหรูสึกดเี ลย “เขาเหรอคะ เขาก็อยางไรละ เหมอื นกบั วาเขาเหมอื นเขาไดแลวนะ เขากไ็ มสนใจอยางนี้นะ” ในใจของอัญชลคี ิดวาการท่เี ขามาสนิทกับอัญชลีก็ดวยเพียงตองการมีความสัมพันธทางเพศแคน้ันหรือ จบเพียงแคนี้หรือ หลังจากเหตุการณแรกๆ อัญชลีก็จะอยูหางๆ ไป แตเรื่องไมจบเพียงเทาน้ันเพราะเขาไปเลาใหเพื่อนๆ ฟง ท่ีรูก็เพราะเพื่อนเขามาพูดกับอัญชลีวา “…นี่ เจ็บไหมละไอ(ช่ือ)นะ” ซ่ึงอัญชลีก็ไมเขาใจวาเพื่อนของเขามาพูดอยางนี้ทําไม ไมเขาใจวาเขานําเรื่องเชนนี้ไปพูดตอทําไมและรูสึกไมดีกับเร่ืองน้ี อัญชลีรูสึกอายและเสียใจมาก รองไห “เปนวรรคเปนเวร” และไมกลาบอกใคร แตก็ตองกล้ํากลืนเอาไวและเสแสรงตอหนาคนอ่ืนๆ ทําเปนไมสนใจ ปฏิกริยาตอบโตของอัญชลีคือไมพูดกับเขาแตท อ่ี ัญชลบี อกวา แยไ ปกวา นั้นคือ หลังจากเหตกุ ารณท ่ีเกิดขึ้นในทส่ี ดุ เขากม็ าขอโทษ และชวนไปบานซ่ึงอยูในที่พักของทางราชการ (ครอบครัวผูชายเปนคนในคร่ืองแบบ) อัญชลีคิดเพียงวาเปนการมาติวหนงั สอื ทบ่ี า นตามปกติ แตอ ยา งไรเสียอญั ชลกี ร็ ะวังตวั มากขึ้น “.. หนูก็โงไปอีก และหนูก็วาทีน้ีข้ึนหองจะไมข้ึนไปแลวนะจะอยูขางลางอยางนี้นะ พอแมเขาไมอยูใชไหมคะ หนูก็พอรูจักกับพอแมเขาบางนะ พอแมเขาไมอยูพาเพ่ือนมา พวกกลุมท่ีเขาพูดกันนะคะ ......ก็เขาไมบอกนะคะ หนูก็คิดวาก็แคมาติวหนังสือ เขาชวนเพ่ือนมาปกติอะไรอยางน้ีไมคิดวามันจะเกิดเร่ืองอีก”ที่อัญชลีไปกับเขาตามคําชวนเพราะคิดวาเขาเปนคนรับผิดชอบหากมีอะไรเกิดขึ้นโดยไมไดคิดวาจะมีคนอ่ืนๆ รออยูอีก “หนูมองวาเขาหนูคิดวาเขาเปนคนทําแลวรับผิดชอบคิดวาคงไมมีถามันเกดิ ก็เกดิ แคน ไ้ี มใ ชเ ขาพาเพอ่ื นมานะ” “อยา เรียกวาเพ่ือน” นาํ้ เสียงเขมหลุดออกจากปากอัญชลีเมื่อเลาวา “ถูกรุมโทรม” โดยกลุมเดก็ นักเรยี นชายทม่ี ีสถานะเปนเพอ่ื นรว มชั้นเรยี นสะทอนความคับแคนใจที่ถูกกระทํา แทนท่ีจะเปนการติวหนังสือเรียนแตกลับกลายเปน “คือคราวนี้หนูไมใชหนูกลัวจนเกรงอะไรนะคะท้ังตัวอยางน้ี หนูก็ตะโกนขืนหมดแหละ แลวทีน้ีเขาตุยทองนะคะ” อัญชลีด้ินรนตอสูแตเมื่อโดนตอยท่ีทองทําใหอัญชลีหมดแรงท่ีจะตอสูอีกตอไป… อัญชลีไมเขาใจสาเหตุที่เขาทําเพ่ืออะไร พอจบจากตรงนน้ั เขาก็สง อญั ชลีกลบั บา น “แคน้นั ”
117 หลังจากน้ันเพ่ือนในหองก็รูวาเปน “แฟน” กันโดยฝายชายไดแสดงทาทีใหเห็นชัดแตอัญชลีรับไมไดกับสิ่งที่เกิดขึ้น “เขาก็มาแบบวา กระหนุงกระหนิงมากขึ้น หนูรับไมไดนะ หนูไมพดู กับเขา หนกู ห็ นีนะ หนอี ยางเดียว หนไู มเ ลาใหใครฟง เขาก็รูแคแบบวาจากคนหนึ่งปากตอปากมาแตเขาไมรูเขารูวาหนูกับเขามีอะไรกันแลวแตเขาไมรูวาหนูโดนอยางนี้” เด็กผูชายไมเคยถามแตอัญชลีเช่ือวาเขาคงรูวาไมชอบ อัญชลีไมกลาบอกที่บานเพราะคิดวาคงรับไมไดและคิดวาที่บานคงคิดไมถ ึงดวยซํา้ วาตนเองเปน กะเทย อัญชลเี ดินตาลอยๆ และไมพูดกับใคร ครูในโรงเรียนก็ไมไดสนใจหรือสังเกตเห็นความผิดปกติอะไรโดยอัญชลีบอกวา “เขาใหงานเด็กและเขาทํางานของตัวเองไปนะ” เหตุการณน ี้ทําใหอัญชลรี ูสกึ ”เกลียดผชู าย” ไปเลย และตั้งคําถามวา “ทําไมผูชายทําไมตองทํานสิ ยั อะไรอยา ง....” ซง่ึ ทบั ถมตอยอดจากท่ีประสบมาจากการเล้ียงดูของปูที่เขมงวดแบบชายดวยในที่สุดอัญชลีทนเก็บความทุกขเอาไวคนเดียวไมไดแลว จึงตัดสินใจเลาใหแมซ่ึงไมคอยไดอยูดว ยกันฟง ตอนแรกแมก็ตกใจ “มีเร่ืองแบบน้ีเกิดข้ึนดวยเหรอ?” “ตอนน้ันก็เลาใหแมฟงแมเขาก็อึ้งนะคะ จริงเหรอ ใครเหรอ มิใชวาโกหกอยางน้ีหรือเปลา เขาก็จะ ...คือเขาถามไปถามมา เขาคงเขาใจนะ...หนูคงจะไมมาพูดลอเลนอยางน้ีแนนะ เขาเลยยายโรงเรียนใหนะคะ” หลังจากรับฟงเร่อื งราวที่เกิดขึ้นแลวแมก ็สอนอญั ชลีวา อะไรทมี่ ันผา นไปแลว อยาไปคดิ คิดพรุงนดี้ ีกวา แมยายโรงเรียนใหอัญชลีกลางคันไปอยูโรงเรียนใหม เม่ือยายโรงเรียนแลวอัญชลีก็วางตัวใหมเ พราะคดิ วาทีโ่ รงเรียนเกา ตนเองทําตัวเดนเกินไปจึงเกิดเร่ืองเชนนั้น “….ท่ีน้ันหนูก็ทําตัวไมใหเดน มากตอ งบอกวา ไมคอ ยมใี ครรจู ักหนูใชชีวิตธรรมดา” คําวาเดนของอัญชลีก็คือ การท่ีตนชอบของอะไรที่ไมเหมือนคนอื่น ถึงแมจะแตงเครื่องแบบนักเรียนและใชกระเปา ตามระเบียบ แตก็จะเพ่ิมกระจุกกระจิกของฝากที่แมซ้ือมาใหจากการเดินทางไปที่ตางๆ ซ่ึงทําใหคนถามไถวาเอามาจากไหนอัญชลีโทษตัวเองกับเร่ืองท่ีเกิดขึ้น “ชวงนั้นนะ โทษตัวเองไวกอนไมโทษคนอื่น ทั้งๆ ที่แบบวาผิดอะไรอยางนี้......” และมองวาเปนกรรมของตนที่เกิดมาเปนเชนนี้ “กรรมที่เปนแบบนี้นะ” อัญชลีไมอยากใหเรื่องเชนน้ีเกิดขึ้น แตอัญชลีบอกวาถามองอีกมุมหน่ึงมันเกิดขึ้นแลวไดสรางแงคิดใหกับตนวามันเปนเรื่องของกรรมมากกวา อัญชลีเลาวาไดความรูมาจากการอานชาดก “..หนูจะขลุกอยูกับหนังสือแลวหนูจะชอบอานพวกอยางไรนะคะ พวกนิทาน แลววันหน่ึงหนูไปเจอพวกชาดกหนูอานพวกน้ัน ...หนูเกิดมาหนูใชกรรมใชไหมคะ หนูมองวาตรงน้ันเปนจุดหนึ่ง มันอาจจะเปนวาถาเล็กๆแคน้ัน ตอไปเราอาจจะตองเจออะไรท่ีแยยิ่งกวาน้ันอีก” ในขณะเดียวกันอัญชลีก็ไมกลาพูด กลาเลาเร่ือง เพราะไมมีความรูเกี่ยวกับเร่ืองเหลานี้ในสังคม “…คืออยางไรละ คือในชวงน้ันหนูไมแนใจวาเรอ่ื งแบบนีม้ ันเคยมีจากคนอืน่ หรอื เปลา หนกู ไ็ มก ลาพูด….” ณ วันนี้อัญชลีกลับมายอนคิดแลวมองวาเร่ืองที่เกิดข้ึนเปนการสนองความตองการของผูชายเหลานั้นไมใชความรักอะไร “หนูคิดวามันเปน ไปๆ มาๆ หนูคิดวาไมใชแลว หนูรูสึก
118วาเขามาสนองตัวเองแลว เขาสนองเพ่ือนดวยอยางนี้นะคะ” ท่ีสุดแลวหากถามอัญชลีวาทุกวันนี้ลืมไดไ หมเรอ่ื งน้ี คําตอบทช่ี ดั เจนคือ “ลืมไมไ ดน ะคะ” ทาํ อยา งไรก็ “ไมลืมคะ” ถึงแมอัญชลีจะตองการเปนผูหญิงและมีเพศสภาวะเปนผูหญิง แตก็ถูกสอนใหเปนลูกผูชาย และมีเพศสภาวะแบบผูชาย คลุกคลีอยูกับเด็กผูชาย การท่ีเพื่อนมาจีบผูพูดเปนแฟนแบบเด็กๆ แตแสดงออกใหรับรูดวยทาทางและการปฏิบัติทําใหผูพูดรูสึกดีเชน การกินขาวดวยกันสองคน หรอื การคอยดแู ลเอาใจใส ซึ่งในกรณีนี้ทําใหผูพูดสามารถเชื่อมโยงการปฏิบัติน้ีกับอัตลักษณอางอิงซ่ึงเพศวิถีถูกดึงใหโดดเดนกวาเพศสรีระทําใหคิดวาตนเปนผูหญิงและคลอยตาม ถึงแมผูพูดจะกลัวและไมชอบการมีเพศสัมพันธตามคําขอของฝายชาย แตในฐานะตําแหนงในพ้ืนท่ีทางวาทกรรม อัตลักษณของเธอคือเปนแฟน (นัยของความเปนแฟนคือเปนผูหญิง) ดังนั้นคนที่เปนแฟนกันจึงสามารถมีเพศสัมพันธกันได เห็นไดจากคําพูดที่ผูพูดกลา วถึงการทีไ่ ปกบั แฟนคร้งั ทสี่ องซ่ึงบอกวา “ถามันเกิดก็เกิด” สะทอนใหเห็นวาผูพูดคิดวาการมีเพศสัมพันธกันของคนเปนแฟนเปนเร่ืองธรรมดายอมรับได ดังน้ันการมีเพศสัมพันธกับแฟนในคร้ังแรก จึงไมถูกตีความวาเปนการฝนใจ แตตะขิดตะขวงใจกับลักษณะของการมีเพศสัมพันธท ่ไี มเ ปนไปตามแบบแผนของการมีเพศสัมพันธแ บบรกั ตา งเพศ แตก็มีความแคลงใจตอพฤติกรรมของแฟน และเพ่ือนของแฟนที่นําเรื่องราวการมีเพศสัมพันธไปโพนทะนา ในฐานะแฟนการงอนงอขอโทษของผูชาย ทําใหผูพูดยังคงใหความไวใจกับผูชายตอไปอีกและการใหความไววางใจอีกประการหน่ึงก็เกิดจากการท่ีผูพูดพอจะรูจักกับครอบครัวผูชายจึงวางใจและคดิ วา ปลอดภัย อยางไรก็ดีการกระทําในหนที่สองของแฟน และเพื่อนของแฟนตอผูพูดนั้น ถูกตีความไดทันทีวาเปนการลอลวงไปรุมกระทําชําเราซึ่งทําใหผูพูดเขาใจไดวาความสัมพันธและสถานะทางวาทกรรมที่ถูกหลอหลอมมาดวยคําพูด การกระทํา ทาทีตางๆ รวมทั้งใชความรุนแรงทางรางกายโดยตรงตอผูพูดนั้นไมใชความจริง ในที่สุดภายหลังผูพูดถึงตระหนักไดวาการกระทําเยี่ยงน้ันเปนเพียงการสนองความตองการของผูชาย และเพ่ือน ๆ ของผูชายเทาน้ันเม่ือยอนคิดคาํ นึงถงึ เหตุการณเ มอื่ เลา เร่อื งราว ประเด็นสืบเน่ืองสองเร่ืองคือ หนึ่งการตั้งคําถามของแมวามีเร่ืองเชนนี้เกิดข้ึนจริงหรือและการไมกลาพูด กับการโทษตนเองของผูพูด สะทอนความเช่ือเร่ืองความสัมพันธทางเพศแบบตายตัวท่ีฝงอยูในระบบสังคมท่ีเปนบรรทัดฐานทั่วไปในเรื่องเพศวาการกระทําชําเราน้ันเกิดขนึ้ ไดแตเ ปน เรื่องระหวา งชายกับหญิงโดยผูชายเปนฝายกระทําในขณะท่ีเพศสรีระของผูพูดยังดเู ปนผชู ายจงึ เกดิ คาํ ถามขน้ึ โดยอัตโนมัติ อยางไรก็ดีเนื่องจากผูพูดมีสถานะเปนลูก ดังน้ันถึงจะตองซักไซไลเลียงใหไดความแตดวยความเปนแมและความสัมพันธของแมกับลูกยอมที่จะทําใหเชอ่ื ลูกไดและชว ยหาทางแกปญหา แตถ า หากผูพ ดู ไมมผี ปู กครองหรือพดู ใหบ คุ คลทีส่ ามที่ยังตกอยูในการครอบงําทางความคิดแบบรักตางเพศฟง การรับฟงผูพูดจะเกิดขึ้นหรือไม หรือถาฟงจะเขาใจหรือไม จะดําเนินการอยางไรหรือไม และการดําเนินการน้ันเหมาะสมหรือไม
119อยางไร และคําพูดของผูพูดจะถูกยอมรับเชื่อถือหรือไม นอกจากนี้การท่ีผูพูดลังเลและไมกลาเลาเร่ือง นอกจากจะเปนเร่ืองของความเช่ือถือทั้งของเร่ืองราวและตัวผูพูดแลว ยังเก่ียวของกับการรับรูประสบการณเชนน้ีของผูถูกกระทําโดยสังคม เพราะประสบการณเหลานี้อาจจะถูกเปล่ยี นหรอื เบีย่ งเบนประเดน็ เปน เร่ืองเลาตลกโปกฮาทําใหเห็นวาเร่ืองเหลานี้ไมเปนจริง หรือไมมีการแลกเปล่ียนประสบการณในฐานะเร่ืองจริงจัง ทําใหเด็กไมเคยรูเร่ืองเหลานี้และไมกลาเลาโดยไมมีที่ปรึกษาแนะนําประกอบกับความเปนเด็กกะเทย (ที่ปดบังตนกับที่บาน) และขาดประสบการณย่ิงทําใหมีความกลัวที่จะเลาเรื่องมากข้ึนเพราะเทากับตองเปดเผยความลับและคบั ขอ งใจ สองเรื่องในเวลาเดยี วกัน ประเดน็ ท่สี องการโทษตัวเองของเด็กโดยคดิ วา ตนเองทําตวั เดนเกินไป และเช่ือวาเปนเรื่องของกรรมที่เกิดมาเปนกะเทย ทําใหผูพูดคิดวาจะตองปดตนเองในโอกาสตอมาเมื่อยายโรงเรียน และตองมีความอดทนกับสังคม ช้ีใหเห็นการกดทับตนเองของผูพูดโดยผานความรูความเช่ือที่ถูกตีความจากคําสอนทางศาสนา ซึ่งสนับสนุนการจัดระเบียบความคิดของผูพูดใหอยูในกรอบของบรรทัดฐานรักตางเพศท่ีกดกะเทยใหเปนพลเมืองชั้นสองในระบบความสัมพันธระหวางเพศอยางไมร ตู ัว กรณีน้ีนอกจากจะทําใหเห็นวาดวยสถานะท่ีเปนเด็กกะเทย การจัดประเภทของสังคมไดกดกะเทยใหเปนชนชายขอบที่ไมมีเสียง ขณะเดียวกันหลืบมุมของพื้นที่ทางสังคมท่ีจัดใหกะเทยอยูไดมอบอํานาจใหวิธีคิดแบบชายเปนใหญไดปฏิบัติการทางอํานาจของมัน กะเทยกลายเปนหนูทดลองทางเพศ/ของเลนของบรรดาเด็กผูชาย ที่ไมไดมองเห็นวากะเทยเปนคนท่ีมีความรูสึกและเปนมนุษย กลบเกลื่อนหลอกลวงเพื่อใหไดตามท่ีตนเองตองการและก็ไมไดถูกลงโทษเอาผิดแตอยางไร แมกระท่ังการลงโทษทางสังคมไมมีคนรับรู ทําแลวก็ผานไป ซึ่งเม่ือเปนเชนนี้ผูกระทําก็ไมไดเรียนรูวาการกระทําเหลาน้ันไมถูกตอง และไมมีสิทธิที่จะกระทําไดอยางนั้น คาํ ถามคือเมอื่ ทําผิดแลว รอดไปไดจะมกี ารกระทําเชนน้ัน หรือไดใจ ทําอีกหรือ อาจจะทําเชน นก้ี ับกะเทย ผูห ญิง หรอื คนอนื่ ๆ ทีอ่ อ นแอกวา หรือถูกครอบงําใหหลงเช่ือ หากเด็กวัยรุนเหลานี้สํานึกไมไดซ่ึงก็ไมใชเร่ืองงาย ก็มีคําถามตอไปวาจะเปนอยางไร นอกจากกะเทยเด็กไมไดถูกคุมครอง การแกปญหาโดยการ หนี ยาย ไมไดเปนการแกปญหาท่ีแทจริงแตในการลุกข้ึนสูหากสังคมไมมีพื้นที่ใหสู ก็อาจจะเจ็บตัวพอๆ กันหรือมากกวาผูกระทําก็ได ดังน้ันการเปดพ้ืนท่ีความรูโดยตระหนักถึงส่ิงที่เกิดข้ึนเหลาน้ีมีความจําเปนแทนท่ีจะปลอยใหเกิดซ้ําแลวซ้ําเลาโดยไมการศึกษาทั้งผูกระทําและผูถูกกระทํา วาสิ่งเหลานี้ไมใชความถูกตองที่มนุษยจะพึงกระทาํ ตอกัน ค. การบงั คับขมขืนโดยลูกคา : ปากคาํ ของดวงฤดี “โสเภณจี าํ เปน” หลังจากเรียนจบดวงฤดีก็ทํางาน แตชีวิตของดวงฤดีมีความผกผันเปลี่ยนแปลงจากที่ดีที่สุดถึงตกต่ําท่ีสุด เรียกไดวาเปนศูนยจนถึงข้ันตองขายตัวดวยที่ไมมีเงินเพราะตัดสินใจวางแผนอนาคตผิดพลาดไป และตองหาเงินใชหนี้ โชคไมเขาขางดวงฤดีทํางาน
120อะไรก็ไมประสบความสําเร็จอยูชวงหน่ึงหลังท่ีตัดสินใจลาออกจากงานประจําท่ีทําอยูเพ่ือจะไปทํางานตางประเทศแตก็ไมไดไป เมื่อมองไมมีเห็นหนทางอ่ืนใด ดวงฤดีจึงตัดสินใจหาเล้ียงปากเล้ียงทองดวยการเปนโสเภณีช่ัวคราว ในชวงนั้นดวงฤดีก็พบกับเหตุการณท่ีเลวรายอีกครั้งในชวี ติ ขณะทด่ี วงฤดไี ป ”หากิน” แถวสนามหลวง ดวงฤดีตอนนั้นมีรูปลักษณเหมือนผูหญิงเพราะกินยาคุมแตยังไมมีหนาอก ดวยความที่เปนคนรางเล็กและขาเรียวแบบผูหญิง แตงหนาแตงตาจึงดูสวย ตอนน้ันดวงฤดีไมมีบานอยูตองอาศัยคนอื่น ไมมีใครรูวาดวงฤดีหาลําไพดวยวิธีน้ี ท่ีสนามหลวงดวงฤดีไปยืนอยูใตตนมะขาม โดยสวมใสเสื้อผาสายเดี่ยว แบบผูหญิง นุงกระโปรงสั้นๆ ใสรองเทาสนสูง แตงหนาเปนผูหญิง พอไปยืนอยูก็จะถามคนที่ดูทาวาจะมีแนวโนมเปนลูกคาวาตองการไปเที่ยวม๊ัยดวงฤดีคิดราคาสามรอยกวาบาทซ่ึงบอกกับลูกคาวาตอรองกันได ท้ังน้ีที่ทําอยางนี้ไดก็อาศัยดูๆ จากคนอ่ืนๆ ท่ีมาทาํ แบบเดียวกนั “กเ็ หน็ เคา ก็เห็นๆ อยู ทง้ั รุน นอง รุนพ่กี ็เห็น” ในความรูสึกลึก ๆ ของดวงฤดีน้ันบอกวาตองฝนใจ “อือ.คือมันตองฝนนะ จะวาตัวเองตองฝนความรูสึกแบบวาตัวเองตองไปนอน..เรา..ไม..เราไมไดชื่นชอบ บางทีเจอคนท่ีมันดูสกปรกก็มี แตตอง..แตมันก็เพ่ือเงินก็ยอม...สมมุติวา...แกลง ๆ ทําไปนะ แตถาเจอคนหนาตาดีถูกใจอะไรเง้ียก็คือเราก็แฮปป..ก็เจอคนไมถูกใจ บางทีเจอประเภทแบบหลอก…พาไปฟนฟรี”ลูกคามีทั้งขับรถเกงมา เดินมา ขับมอเตอรไซดมา มีทุกรูปแบบ แมแตคนในเครื่องแบบซึ่งมีทั้งคนดีและไมด ี วันหนึ่งดวงฤดีเกิดเปนท่ีถูกใจของลูกคาในเครื่องแบบ จึงถูกลูกคาชักชวนใหไปดวยกัน ดวงฤดีโอเคแตตอรองราคา ในตอนตนดวงฤดีตองการไปโรงแรม ลูกคาไมยอมแตพาไปท่ีอ่ืนแทน ดวงฤดีนั่งรถสามลอไปกับลูกคา พอมาใกลสถานท่ีนั้นดวงฤดีก็ตกใจเพราะนั่งรถมาถึงท่ีแลวไมร จู ะทาํ อยางไร และลกู คาบอกวาตอ งไปเขา ไปในกรมฯ พอเขาไปปรากฏวาไปพบพวกอีก 3 - 4 คนคอยอยู “เจอ...เลวๆ ก็มีคิดจะรุมโทรมเลยหละ...เจอรุมโทรมไมวานะแถมเอาเงินเราอีก” พวกที่คอยอยูรอเรียงคิวดวงฤดี “…แตวามัน ก็ ก็ บอกวาทีละคนกอน แลวก็ทําใหคนแรกเสร็จ ชวงที่เรา...อีก 2 - 3 คนมาควากระเปาแตเคาไมเจอมือถือเรานะ ถาเจอเราเศรา”ดวงฤดบี อกวา พวกนน้ั ปลอ ยตวั ออกมาเม่ือเสร็จกิจแตท ําดวงฤดีโทรมซ่ึงดวงฤดีเลาถงึ ความรูสึกของตนเองวา “ทําไงได เราตกกะไดพลอยโจน เราขัดขืนเคาก็ไมไดมันอยูในถ้ําเสือน่ี ขัดขืนไปเราก็เจ็บตัว เปลาจริงมั๊ย เราคงตองหมดแตวาเราคงไมตองมีท่ีบริสุทธิ์ท่ีตองมาหวงเหิงตัวเองจริงม๊ัย เอาชีวิต ไวกอ น...แตวา แคนคือแคน...แตทําไงไดเราก็ตองยอมรับสภาพความเปนจริงวาเราตองยอมใหเคา ทุกอยางคืออยางนอยเคาก็ไมไดมาลอลวงเราไป เรามาหาเงินยังมาเอาเงินเราอีกนะมี 200 กวา บาท เอาหมดเหลอื 20 บาทติดตวั ...เลวมากๆ...ยงั ดีคน มือถอื ไมเจอ คงเอามือถอื ไปขายดว ย”
121 ชีวิตสะบักสะบอมของดวงฤดีก็ยังตองพบกับพวกเด็กวัยรุนน่ังมาในรถเกงมารับไปซ่ึงตอนแรกดวงฤดีคิดวามีคนเดียวแตท่ีไหนไดมีอยูขางหลังอีก 3 - 4 คน ยังดีที่มีอะไรกันไมก่ีคนแตที่รายคือวัยรุนพวกนี้พาดวงฤดีไปปลอยท้ิงท่ีนครปฐม ซึ่งดวงฤดีบอกวา “ก็ยังวาเจอคนไมดีไง” ดวงฤดีทบทวนความคิดตนเองวาขายตัวก็ตองระวังถาเจอตํารวจถูกจับปรับ 500 บาทขอหาคาประเวณี ยืนขาแข็งหาลูกคาต้ังแต 5 ทุมถึง 6 โมงเชา บางทีก็มี บางทีก็ไมได ตองมาวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน บางทีก็ตากฝนตากลม ฝนตกตองไปยืนตามแถวปายรถเมล ชีวิตลําบากในที่สุดก็คิดวาลองมองหางานดีกวาอยางนอยรายไดวันละ 200 บาท ดวงฤดีบอกกับตัวเองวาถามันไมไดจริงๆ จะกลับไปทํางานนี้ คงมีทางเดียว แตคิดวาไมอยากกลับไปถาไมมีทางเลือกจริงๆ เทาน้ัน และก็คิดวาตัวเองมีปริญญานาจะทําได..หางานดีๆ แตวาตกงานจะหางานใหมลําบาก สุดทายก็ไดงานถึงจะไดไมมากแตน่ีก็เปนการกลับมาลืมตาอาปากไดใหมอีกคร้ังของดวงฤดี ทุกวันน้ีดวงฤดีมีงานทําและยังหาโอกาสชวยเหลือคนอ่ืนและไมไดกลับไปเปนโสเภณีชัว่ คราวแลว ดวยอัตลักษณของโสเภณีของดวงฤดีเมื่อตกยากตองขายรางแลกเงินเล้ียงปากทองรายไดจึงสําคัญกับผูพูดมากผูพูดจึงอยูในฐานะท่ีจะตอรองไดนอยมากยกเวนถาเหลือทน ผูพูดตองหลับหูหลับตาทํางานท่ีตองฝนความรูสึกเกือบตลอดเวลา จริงๆ เหตุการณจากความทรงจํานี้ตางไปจากเหตุการณแรกเพราะผูพูดตระหนักถึงความไรอํานาจในพื้นท่ีปดท่ีถูกลอลวงเขาไปจากคําพูดท่ีวา “เราขัดขืนเคาก็ไมไดมันอยูในถ้ําเสือนี่ ถาขัดขืนไปเราก็เจ็บตัวเปลา” และดวยตําแหนงของวาทกรรมความเปนโสเภณี การมีเพศสัมพันธที่ตองจํายอมกับผูชายหลายคนจึงกลายเปนสิ่งที่โสเภณีตองทําได ดังท่ีผูพูดบอกวา “เราคงไมตองมีท่ีบริสุทธิ์ที่ตองมาหวงเหิงตัวเอง…” ท้ังน้ีผูพูดยังมองวาตนสมยอมไปเองในตอนแรกจึงตองรักษาชีวิตตัวเอาไวกอนดังน้ันการที่หลุดรอดพนออกมาจากถ้ําเสือในความคิดของผูพูดจึงเปนเปาหมายสําคัญ ถึงแมจะถูกปลนเงินจํานวนนอยนิดท่ีมีไปดวยก็ตาม ดังน้ันในตําแหนงวาทกรรมของผูพูดที่เปนโสเภณีคาประเวณีอยางผิดกฏหมาย เปนกะเทย และถูกพาไปรุมโทรม การสมยอมคงไมใชคําถามเพราะชัดเจนวาเปนการลอลวง คําถามคือถาไปแจงความจะเปนอยางไรเพราะในสถานะของผูพดู ไมม แี มก ระทงั่ อาํ นาจในการจะนําเสนอเรื่องราวสูส าธารณะเพ่ือขอความเปนธรรม ง. การบงั คบั ขมขนื โดยเพ่ือนของเพ่ือน: ปากคําของกรกนก ค ว า ม รุ น แ ร ง ท า ง เ พ ศ ท่ี เ กิ ด ข้ึ น กั บ ก ะ เ ท ย ไ ด ถู ก ต อ ก ย้ํ า ใ ห เ ห็ น ใ นประสบการณตอไปนี้ ที่เราเคยแตมองเห็นกันวาเกิดกับผูหญิง แตมิใชเปนเชนน้ัน ดังปากคําของกรกนก “เดี๋ยวนี้ไมใชผูหญิงจะโดนนะ อยางพวกหนูโดนก็มี” กรกนกบอกวาบางทีเวลาไปเทยี่ วเคยโดนจับกนก็หันไปดาลอยๆ ดากราดไปเร่ือยเพราะตัวเองเปนคนปากไวอยูแลวพอโดนจับก็หันไปทันที ทั้งๆ ท่ีเม่ือประสบเหตุการณเชนน้ียังไมได “ทํานม” ดวยซ้ําไปพอทํามาแลวก็โดน “จับนม...บีบนม” ก็อาศัยการดาเปนการตอสู พอตอนทําศัลยกรรมหนาอกมาแลวก็โดนอีกบางคนเวลาถูกดาก็ไมอายและยังมีหนามาพูดกับกรกนกวา “ของปลอม” “ไมเห็นอายเลย
122จับแคน้ีจะสึกเหรอของปลอมไมใชของจริง” ซึ่งกรกนกยอนกลับไปวา “…มึงวาของปลอมแลวมึงมาจับทําไมหละ” พอพูดเชนน้ันคําตอบท่ีไดคือความเงียบและการเลิกตอปากตอคํา กรกนกรูส ึกไมช อบแตก็คิดใหส บายใจวา “ทําบุญทําทาน” เพราะ “ไมรูจะทําอยางไรนะ” ซึ่งที่กรกนกพูดเชนนีเ้ พราะเม่ือเปรียบเทยี บกบั ส่ิงที่กรกนกพบเจอมากอ นและรับไมไดมนั ตา งกนั ลิบลบั กรกนกเลา เร่ืองราวที่ตนประสบในการ “ไปเปนเพื่อน” กับเพื่อนของตน ซึ่งนัยของการไปเปนเพือ่ นก็เปน ไปเพือ่ กิจการของเพอ่ื นเปนหลักเทานั้น แตตนเองไมไดมีเปาหมายอะไรและก็ไมไดสนใจรายละเอียดของธุระนั้น แตการไปเปนเพ่ือนของกรกนกกลับจะสรางปญหาใหกับตนจากคนทไี่ มรจู ักมักคนุ เลย และมองคนเปน กะเทยดว ยความคิดเหมารวมพรอมใหความหมายบางอยา งทลี่ ะเมดิ ความเปนคนของเขา/เธอ ดังน้ี “หนูเคยเจอนะ ที่แบบวาเหมือนจะลงแขก...คะหนูก็เคยเจอนะ...ในซอย...ก็พอดีหลายปแลวคะ ชวงน้ันยังไมไดทํานมดวย ไมต่ํากวา 5 ป”กรกนกซึ่งขณะน้ีอายุ 29 ปยอนระลึกถึงความทรงจําที่ไมนาพิสมัย กรกนกพูดถึงตัวเองตอนน้ันวา ตอนน้ันแตงตัวเปนผูหญิง ใสเสื้อสายเด่ียวแบบไปเที่ยว โดยวันนั้นกรกนกไปกับเพื่อนอีกสองคนซ่ึงไปหาเพื่อนชายที่อพารทเมนต สถานท่ีแหงนี้อยูในซอยลึกพอสมควร ซึ่งกรกนกบอกวานากลัว พอไปถึงก็พบเพื่อนของเพ่ือนอยูที่อพารทเมนต เพ่ือนของกรกนกก็แยกไปกับเพ่ือนที่ตนเองไปหาข้ึนไปขางบน กรกนกไมรูจะทําอะไรเพราะคนที่กรกนกพบก็ไมใชคนที่กรกนกชอบพอ เคาใหกรกนกน่ังรอในหองและชวนคุย แตทาทางการสนทนาไมคอยจะดี “เคาก็เลยบอกวาใหหนูนั่งรอตรงนี้นั่งคุย หนูก็เลยรอ ก็คุยๆ เคาก็คือเหมือนแบบจะมาทําอะไรเรายังง้ี” กรกนกไมไดรูสึกชอบคนเหลานั้น ท่ีกรกนกวาทาไมดีเพราะเคาไมคุยแต “เคาก็ไมพูดเลย เคาก็เหมือนแบบเขา มานง่ั เคาก็แบบวาจบั ..แบบวาไมอยากบางเหรอ...” กรกนกไมรจู ะพดู อยางไร? วาแลวก็รุมทึ้ง แลวก็มีเสียงคนมาเคาะประตู พอเปดเขามากรกนกเห็นวาไมใชคนเดียวแลว แตเปนผูชายผิวคล้ําอีกจํานวนหนึ่ง “…พอเปดเขามา...พอเปดเขามา...พอหนูเห็นไมใ ชค นเดยี วแลว มันเปนประมาณ 4 – 5 คนหนกู ไ็ มรูจะทํายังไง พอเสรจ็ ตรงนเี้ ขามาถึง คนน้ันกเ็ ยอจบั แขนจบั ขา ถอดเสอ้ื เราอะไรยังงี”้ กรกนกคดิ วา อุยตายแลว ทาํ ไมชวี ติ ตอ งมาเจอกับกลมุนี้ พวกอยางนี้ ทําไมตองมาเจออยางน้ี พอ กรกนกคิดไดจึงมีขอเสนอกับพวกนั้นวา “เอายังง้ีแลวกันพ่ี พ่ีอยารุมทึ้งกันดีกวา ถาอยากเกิดจะมีความสุขก็จะตองสุขดวยกันทั้งคู ถาพ่ีทําอยางน้มี นั จะมคี วามสขุ หรอื พีก่ ็ไดแคเสรจ็ แตไมสนุกหรอก ถาพี่อยากสนุกตองทีละนิดทีละหนอยตองคอยเปนคอยไป ไมใชตองมารุมทึ้งกันเหมือนอีแรงกิน อะไรก็ไมรู” เมื่อกรกนกบอกเชนนี้ พวกนั้นกย็ อม อันที่จริงแลวเหตุการณนี้ก็ไมใชจะพูดกันไดงายๆ เพราะกอนท่ีกรกนกจะตอรองไดว่งิ หนีเขา หอ งน้ํากอ น ที่หอ งนํา้ มีหนา ตา งซ่งึ กรกนกชะโงกลงไปเหน็ ยามจึงพยายามตะโกนเรียกแตไมมีใครสนใจ กรกนกบอกวา “เคาเปนขาใหญในตึกหรืออะไรไมรูนะ” กรกนกไมรูวาจะทําอยางไรในขณะท่ีหนาประตูหองนํ้าชายกําหนัดเหลานั้นขมขู กรกนกวา จะพังหองน้ํา จะซัดจะซอมซ่ึงกรกนกบอกวาหลายอยางมาก “..พังแนๆ มันปงๆๆ แน หนูวาพัง หนูเลยตัดสินใจ
123หยุดกอน ออกไปคยุ อะไรกอ น ออกไปมันกจ็ ับหนลู อ ก” กรกนกบอกวา ตง้ั หาหกคนมาจับแขนจับขาเพื่อไมใหดิ้นหลุดได “แลวอะไรก็แบบวา ลวนลามกันไดเต็มท่ี..มันก็ทั้งจับ ท้ังจูบ จับนมดูดนม บีบนม...” ชวงท่ีมีเสียงดังเพ่ือนของกรกนกก็ลงมาดู ซึ่งพวกนั้นคิดวาเปน “เพ่ือนมัน” ก็เลยเปด ประตแู ตก ลายเปน เพื่อนของกรกนก เพ่ือนกรกนกก็เขา ไปชว ยกันพูด “..เฮยอยาทําอยางนี้เลย ยังไงซะก็คือแบบวาอยารุนแรง อาจจะเขามาคนหรือสองคนก็ไดและคอยๆ เขามาดีกวารุมทงึ้ กันอยา งนีค้ อื คณุ ไมกระดากอายกนั บา งหรือ ใชมะ คุณรมุ ทาํ กนั ยังงี้ ฉันมีแตค นเดียวแตคุณมีตั้งหกคนแลวคุณจะมาทําทีเดียวพรอมกันไดหรือ” หลังจากที่กรกนกตอรองก็ไมไดหมายความวาจะเลกิ ทาํ อากัปกรยิ า“หื่น”เหลาน้ันเพยี งแต “ไมเลิกก็คอื ปลอย ก็คือโอเค กค็ อื ถาเรายอมเคาก็จะไมรนุ แรง” กรกนกอาศัยจงั หวะทพ่ี วกชายกลุมน้ันเผลอวิ่งหนี “...มันเผลอหนูก็หยิบเสื้อ แลวหนูก็ว่ิงออกไป หนูวิ่งไปเคาะหองน้ันหองนี้ มันก็ไมมีใครเปดเลย เพราะหนูก็เสียงดัง!” ไมมีใครเปดไมมีใครชวย กรกนกตัดสินใจวิ่งลงบันไดออกไปเลย กลุมชายเหลาน้ันมันก็วิ่งตาม แตดวยท่ี“มันแกผาอยูแลวไง ก็ไมกลาจะออกมาไกล” สภาพของกรกนกตอนนั้นดีกวาพวกมันเพราะกรกนกไมไดถอดกางเกงเพียงแตถอดซิบ กรกนกวิ่งไปดวยก็ใสเส้ือไปดวย สวนยกทรงหยิบไมทัน ใสเส้ือไดก็ว่ิงออกมาเลยสวนพวกนั้นใสกางเกงใน กรกนกบอกวา “กลัว กลัวมันจับไดกลัวสารพดั อุยกลวั ... ครัง้ เดยี วในชีวิตหนู” ชายเหลานี้กรกนกบอกวาอายุราวย่ีสิบกวาๆ และซอยท่ีวาน้ันเปนซอยหลังวิทยาลัยแหงหนึ่งซึ่งบัดน้ีมีสถานะใหมแลวและชายเหลานั้นก็เปนนักศึกษา กรกนกย้ําวา “ไอจับๆ ถือวาทาํ บญุ ทาํ ทาน ยงั งีม้ นั แบบวา บงั คับเกินไปนะ แตถา เกดิ เปนแบบวา เราหนีออกมาไมไ ด แลว เราไมยอมกต็ องโดนแบบเหมอื นที่เคาโดน ผูห ญิงโดนบา ง ฆา บา ง ทุบตีบาง คงตองโดนอยางนี้แนๆก็ไมตางกัน” จากเหตุการณน้ีทําใหกรกนกจะไปไหนกับใครตองมีการคุยกันกอน ครั้งนี้กรกนกไปเพราะเพื่อนและก็ไมไดรูอะไรเพราะเพื่อนเขาคุยกันแตกรกนกไมไดสนใจ ตอไปถาผูชายท่ีมากกวาหน่ึงกรกนกจะไมเอาไมไปดวย “แตถาเราหนึ่งเคาสามก็จะไมเอา” เพื่อนไปก็ไปมันจะตองเสมอกัน “ใหเพ่ือนไปสามเราไปสามผูชายไปสามก็คือถึงจะโอเค” กรกนกไมรูวาจะเรียกเหตุการณที่เกิดข้ึนนี้วาอยางไร ไดแตพูดกันในหมูเพื่อนๆ วา “ก็คือจะไมเรียกเหตุการณก็คือจะเรยี กเจาะจงวา อีพวกนรกสง มาเกดิ พวกเดนนรก เดนตายอะไรทงั้ หลายแหละ” “ของปลอมไมใชของจริง” วลีที่พยายามสรางความจริงและเบ่ียงเบนความสําคัญตอการละเมิดสิทธิในรางกายของผูพูด เปนการทําไมรูไมชี้ใหดูเหมือนการกระทํานั้นไรแกนสารหรือความหมายอะไร แตอันท่ีจริงแลวมีความสําคัญมากเพราะเทากับเปนการเบี่ยงเบนประเด็นความหมาย และความสําคัญของเรือ่ งใหก ลายเปน เร่ืองเล็กนอย พรอ มทงั้ ผูกโยงความหมายของกะเทยกบั ผหู ญิงในฐานะที่ไมใชของจริงแตเปนผูชายเพื่อสรางความชอบธรรมในการกระทําของตน โดยความหมายไดถูกตีกรอบใหอยูในความหมายของสองเพศ และจากนัยนี้กะเทยไมใชผูหญิงกะเทยจึงไมรูวามีสิทธิที่จะมาหวงตัวและปกปองสิทธิของตนเห็นไดจากท่ีผูพูดใชคําวา
124ไมรูจะทําอยางไร และทําบุญทําทาน ซึ่งทําใหตองแกไขสถานการณเฉพาะหนาผานการปกปองตนเองโดยการดา เปน ตน ความหมายของกะเทยโดยนัยของคนกลุมท่ีรุมทํารายผูพูด เห็นไดวามีภาพเหมารวมตวั แทนของกะเทยในความคิดวาใฝแตเร่ืองเพศ มั่ว ดังที่ผูชายท่ีแทบไมรูจักกันเห็นเปนกะเทยก็เขา มาพูดอยา งไมม คี วามอาย “...ไมอยากบางเหรอ” ทั้งๆ ท่ีความจริงแลวไมเปนเชนนั้น เปนไปไดมากวาการท่ีเพ่ือนของผูพูดจะไปหาเพื่อนซึ่งรูจักกับนักศึกษากลุมนี้รับรูมาลวงหนาวาจะมีกะเทยมาหาที่ท่ีพักแตก็ไมจําเปนท่ีตองคิดวาความสัมพันธทุกอยางของมนุษยจะตองจบลงท่ีการมีเพศสัมพันธ ท่ีนาสนใจกลุมผูกระทําเปนถึงนักศึกษาจึงทําใหเห็นวาการศึกษาไมไดทําใหคนใหเปนคนดีไดเสมอไปเพราะแมกระท่ังการตระหนักถึงสิทธิของมนุษยดวยกันยังไมไดเลยประสบการณของผูพูดทําใหเห็นวาการรุมทํารายกะเทยทางเพศซ่ึงถึงแมกะเทยจะยังไมแปลงเพศ ไมไดเสริมหนาอกน้ันเปนไปได ฐานะในวาทกรรมกะเทยถูกใหความหมายของความเปนผูหญิงทางเพศวิถีเชิงประเวณี การใสสายเดี่ยว ใสเสื้อช้ันใน (แมไมมีหนาอกแบบผูหญิง) สรางความหมายที่สัมพันธกันในบริบท ความหมายท่ีถูกสรางข้ึนจึงพองกัน และดวยภาพความคิดตอกะเทยท่ีมีอยูจึงทําผูพูดตกอยูในสถานะที่เปนผูถูกกระทํา ดังนั้นแมวากะเทยท่ีสรีระภายนอกยังเปนผูชายแตก็สามารถถูกจัดใหเปนเพศท่ีรองรับกําหนัดของผูชายไดเชนกันอีกประเด็นท่ีนาสนใจคือการขอความชวยเหลือจากคนรอบขางไมวาจะเปนยาม หรือผูคนที่พักในตึกเดยี วกัน การตะโกน เสียงดัง ทบุ ประตู จะไมไ ดย ินหรือ ชใ้ี หเ ห็นถงึ ความไมใสใจ ธรุ ะไมใชกลัว หรือเพกิ เฉยแลง น้าํ ใจตอ เพ่ือนมนุษยดวยกัน หรือมองเห็นกะเทยเปนอะไรเพราะความจริงของคนทั่วไปกะเทยไมใชผูหญิง ดังนั้นเม่ือกะเทยถูกกระทําจึงดูเหมือนเรื่องท่ีไมเปนเร่ืองและจรงิ จัง การเจรจาตอรองของเพื่อนก็ยังเปนที่นาคลางแคลงใจวาเพื่อนตีความหตุการณท่ีเกิดข้ึนอยางไรแทนท่ีจะหามปรามใหเลิกกลับเพียงตอรองอยาทํารุนแรงหรือเพราะความเปนกะเทยแมกระท่ังคนเปนกะเทยเองก็คิดวาการกระทําเชนน้ีเปนกะเทยตองรับไดท้ังๆ ที่มิใชเปนความปรารถนาของผูพ ดู และเปนสง่ิ ท่ไี มถ กู ตอง ท้ังนี้หากผูพูดไมสามารถชวยเหลือตนเองหนีออกมาได จะไมถ กู ทํารายจิตใจ และรางกายไปมากกวา นี้หรือ สุดทายการเกิดข้ึนของเหตุการณตาง ๆ ท่ีทําใหผูพูด ไมสบายใจ อึดอัด ไมมีความสุขและรูสึกวาถูกบังคับ เหลานี้ไมมีภาษาเรียกหรือนิยามท่ีสะทอนใหเขาใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในความหมายของผูพูดเพราะนิยามความหมายของสิ่งท่ีเคยเกิดขึ้น เชนการลวนลามทางเพศเปนนิยามท่ีสรางข้ึนภายใตกรอบอุดมการณของสองเพศดังนั้นหากใชนิยามนี้เรียกขานการเกิดข้ึนของเหตุการณต อ กะเทยจงึ จะไมสะทอนภาพความจริงทม่ี าจากประสบการณ 5.1.4 มายาภาพของวาทกรรม การสยบยอม ความขดั แยง ชะตากรรม บนความรุนแรง: ปากคาํ ของริตา ประสบการณเร่ืองสุดทายมาจากกะเทยชาวนาภาคอิสาน ท่ีชีวิตตองพบกับเหตกุ ารณม ากมายจึงจําเปนตองใหเห็นถึงพื้นเพ และชีวิตท่ีถูกสรางในพื้นท่ีของวาทกรรมตางๆ
125รวมทั้งความขัดแยงของตัวตน ความเล่ือนไหลของตัวตนทางสังคมที่เกิดขึ้นภายใตบริบทของวาทกรรมและถอยแถลงสารหลกั ทกี่ ําหนดความหมายของอตั ลักษณ หรอื ตาํ แหนง ทางวาทกรรมของรติ า ชีวติ ของริตา อาจกลาวไดวาสัมผัสมาทัง้ สวรรคและนรก ไมม ีอะไรแนนอนแตริตาก็ยังคงเปน รติ ากะเทยจากทอ งทงุ เม่ือพูดวา “นรก” คําน้ีสะทอนความเลวรายและเปนพ้ืนท่ีแหงความช่ัวรายที่คนไมตอ งการเยี่ยมกรายเขาไป แตชวี ติ ของรติ าตองพบกับความเลวรา ยน้นั อยางไมค าดคิด และไมคิดในโลกมนุษยนี้จะมีมนุษยคนใดจะสามารถทําอยางนี้กับคนอื่นได สิ่งนั้นสรางรอยประทับไวในชีวิตของริตาแมจะอยากลืมก็ลืมไมได ริตาตองอยูกับความทรงจํานั้นตลอดชีวิต ปากคําของริตานําสูเรื่องราวที่เราไมเคยรับรูมากอนและเสนอภาพอัตลักษณที่หลากหลายของมนุษยในพืน้ ท่ีของวาทกรรมทต่ี างกันไป ...หนูเจอมาเยอะตัง้ แตเล็กแตนอ ย อายุ 13 -14 ออกจากโรงเรยี นมาหนกู ็โดน บานเปนสองคน สามคน .. ก็มันมีมามาชวงหน่ึงนะ ก็ประมาณ สามคน จากคนที่แรกท่ีมาทํากับเรานะ จะชอบ คลายๆ กับวามันเปนรักแรกของเรา ..รูสึกแฮปปที่ไดอยูกับเคา เคาบอกใหเราทําอยางไร ให อยางไร เราก็ทําใหหมดเพราะเราชอบเคา แตคนที่สองเราไมไดชอบ แตเคาน่ีตามกันไง มาหา... ผชู ายไดคนนนี้ ะวาเคาก็เลยมารมุ โทรมกนั อยางน้ี..เวลาจะกลับจากตลาด ชวงตอนเย็นว่ิง อยางเรา อยูบานคนเดียวปด...ไปเลยไมลงไปไหน... มาทํากับเราอยางน้ีกระทําชําเราไปเลย แตวามันทําไม ไมไดเพราะไมมีกฏหมายท่ีไหนคุมครอง ผูชายต้ังแตเล็กจนแก.. เราไมชอบนะคะ แตวาเราผลักก็ ไมได แตคือวาในใจคือวาทําใหเสร็จไปเลย แตวาคนท่ีสาม ย่ิงรายนะ เปนพ่ีชายของคนที่หน่ึงทุก วันน้ีก็ไมคอยคุยกัน เวลา ใหทําอะไร พี่ขางๆ ปา ไปทําที่ไหนลับๆ ตาคน แบบวาจิกกดคอเขาไว มึงอยาไปพูดอะไรยังง้ี ไมง้ันฆาทิ้ง ..แตกอนก็ยังโอเค โดนคนท่ีหนึ่งเราจะอายมาก กลาๆกลัวๆ แตหลังๆ เจอคนที่หนึ่งแลวเจอคนที่สอง มาทําอยางน้ีเราก็เฉยๆ แลว ก็คือวาคนบานน้ัน คลายกับ วาก็สุดทายแลวก็รูวาสามคน เวลาเดียวกันม่ัวกับเคา ถาชวงนั้นเอดสระบาดเราก็คง แจ็คพอทไป แลว กะเทยรากหญา ชีวิตชวงเม่ือเกือบถึงสามสิบหาของริตากะเทยรูปรางเล็กผอมเกร็ง ณ วันนี้ดูเหมือนจะสงบสุขขึ้นเม่ือเทียบกับเหตุการณตางๆ ที่ผานเขามาในชีวิตซ่ึงก็แทบไมนาเช่ือวาคนอายุเพียงเทาน้ีจะพบกับอะไรมามากมาย ริตาเปนคนอิสานและเปนลูกชายคนสุดทอง ที่บานเปนชาวนาเต็มข้ันแตตนเองไมเคยทํานาเลยมีแตพ่ีชายและพ่ีสาวชวยกันทํา พอขายท่ีนาสงลูกๆ เรียนซ่ึงพี่นองรวมถึงริตามีท้ังหมด 7 คนแตริตาไมไดเรียนซึ่งทุกวันนี้ริตายังมีคําถามค่ังคางอยูในใจวาทําไมและมองวาความไมเทาเทียมนั้นเร่ิมมาจากท่ีบานกอนแลว “ก็จากเม่ือกอน50 ไรและมาแบงขายบางพี่ชายเรียน พ่ีๆ เขาจะไดเรียนหมดแตทําไมหนูคนสุดทองไมมีเรียนถาเราจะบอกวาสังคมเลือกปฏิบัติเราตองเริ่มตนจากครอบครัวกอน ครอบครัวของเราก็คลาย ๆกับเลือกปฏิบัตินะ” ริตาอยากเรียนหนังสือและจะรูสึกอายทุกคร้ังท่ีเพื่อนขี่รถมอเตอรไซดผาน
126หนาบานโดยจะทําทาเหมือนกับวากําลังจะหยิบหมวกมาปดหนาและลงไปซอนอยูขางลางเพราะกลวั เขาจะหวั เราะเยาะ ท้ังหมูบ านริตาบอกวา มตี นคนเดยี วท่ีไมไ ดเ รียน (ริตาจบ ป. 6 แตไมไดเรียนตอ) ริตาเคยถามพอเหมือนกันซึ่งพอบอกวาไมรูจะเรียนไปทําไมคนสุดทองหมดมาเยอะแลว แลวรติ า กไ็ ปเลยี้ งควาย รติ า เรยี กตัวเองวา “กะเทยรากหญา” ตอนเด็กๆ ริตายังไมรูเร่ืองอะไรและก็ไมรูวาการที่ตนไมไดเรียนน้ันเกี่ยวของกับความเปน “ตวั เอง“ หรือเปลาแตก ็บอกวา พอเร่มิ โตมาจะรูจากปากพอปากแม และตระหนักวา พอและแมม ีความกงั วลกับตนและไมอ ยากใหตนเปน กะเทยแตก็หามไมไ ด พอสง ริตาบวชเณรเพราะไมตองการใหเปนกะเทย ริตาบวชอยูพักหน่ึงแตไมอยากอยูในจีวร ในที่สุดก็ไดสึกสมใจและตรงด่งิ มากรุงเทพเมืองท่ใี ฝฝ น ไมรมู ึงจะเกดิ มาอยา งไร ราวๆ 15 - 16 ตง้ั แตตรงนนั้ คือวามีอยางเดียวที่กูจะไมใหมึงเปนตุด ได คือพอเขาวานะ เอาไปบวชคือวา คนเราเลือกท่ีจะเกิดแบบน้ีไมมีใครรูดีเทาตัวเราก็ไปบวชได หนึ่งพรรษาเปนเณร ก็ไปเจอเณรอีกคนหนึ่งที่เปนเณรเหมือนกันก็เลยบอกวาพาแหกกฎบอกวา ไมรูจะมาบวชทําไมเราไปทํางานท่ีกรุงเทพ พอแก ไมชอบไมเปนไร แมแกไมชอบไมเปนไร ไปเถอะฉันจะพาไป ก็มากับเขา สาวเสิรฟใ นเมอื งกรุง เขามาในกรุงชีวิตลุมๆ ดอนๆ ไมมีที่อยูเปนหลักแหลงจึงไมไดติดตอทางบานจนชวงอายุ 18 -19 ก็ไดงานลางจานที่รานอาหารแหงหนึ่งบริเวณใกลตลาดของคนเมืองท่ีพลุกพลาน ริตาเลาวาตนเองรูสึกวาตอนไปสมัครงานจะถูกมองต้ังแตหัวจรดเทาเหมือนกับเปนการประเมินโดยนายจางท่ีเปนคนจีน แตแรกริตาก็ขอสมัครเปนคนเสริฟเน่ืองจากเคยทํางานเชนน้ีมากอนจึงคิดวาทําได ริตาบอกวานาอายท่ีสุดคือเจาของรานบอกวา “เดินนาเกลียดเปนกะเทยดวย... ถาเปนกะเทยตองไปลางจานลางภาชนะ” ริตาพูดไมออกแตจําตองทํางานและคิดวาตนเองทําได อันท่จี ริงในตอนแรกแมครัวใหญสงสารจะใหริตาเขาครัวทํางานในครัวแตสุดทายก็ไมไ ด ตองทาํ งานลางจานแทน โดยงานมีสองกะ ถา เขา ตอนเชากจ็ ะเลิกเที่ยง-บายโมงแลวก็ไปพัก และเขาอีกทีประมาณ 6 โมงเย็น ริตาทนทํามาจนเกือบครบเดือนโดยคาจางเดือนละ 1,800บาท พี่ชายมาพบริตาขณะลางหมอตมยําอยูพอมาเห็นเขาก็บอกใหออกดีกวาจะหางานใหทําตอนน้ันอีกสองวันก็จะสิ้นเดือนริตาจึงไปบอกกับเจาของรานวาจะขอลาออก แตเจาของรานโกรธและบอกวา “… จะออกเหรอ ไมเปนไร ไมตองรอส้ินเดือน ออกวันน้ีแหละ…” จากคาจางที่ตกลงกันเจาของรานจายเพียง 300 บาททําใหริตางง ดวยความที่ยังเด็กอยูก็ยอมรับเงินนั้นมาแตก็คิดในใจวา ทําไมไมยุติธรรมนะ สามรอย....ริตาไมประทับใจเลยกับเจาของรานและกอนออกมายังบอกวาใหจายเงินคาขนมของพี่สาวเจาของรานที่นําของเงินผอนตางๆ มาขาย “ก็ยังมาบอกวากอนจะไปจายคาขนมหวาน สิบบาทย่ีสิบบาท ยังนึกในใจวา ...จนน้ําใจจริงๆ” ริตา
127มาทํางานอยูกรุงเทพระยะสามปไมไดกลับบาน พอก็เสียชีวิต พ่ีสาวก็เสียชีวิตแตตนไมรูเพราะไมมีท่ีอยูใหติดตอ ทํางานโดนไลออกบางอะไรบาง มีอยูคร้ังหน่ึงไปทํางานซึ่งเคาบอกวาตองทําไดทุกอยางเขาใหริตาแบกผาข้ึนบันได ริตาบอกวาเคาไมไดกีดกันทางเพศ แตบอกผูหญิงใหน่ังพับผา ผูชายใหแพ็คของ แลวใหกะเทยแบกผา คาแบกพันเจ็ดริตาทําไดสามวัน “คิดดูก็นาสงสารตัวเอง ทําไมฉันเกิดมาเปนแบบน้ีทําไมคนถึงชอบ...” ในท่ีสุดริตาก็ไดงานเปนคนเสริฟที่คาเฟซ่ึงงานนี้อยูไดนาน งานเสริฟของริตาเร่ิมจากบารเบียรกอนโดยมีเพื่อนมาชวน ในบรรดาพนักงานดวยกันเองพนักงานชายก็จะไมชอบทํางานเสริฟ “…เคาจะยังง้ี เคาจะยกแบบวาพวกกะเทย ไปทําดวยกันอยางงี้ ผูชายไมไปทํา” เปนคนเสริฟถึงแมรายไดจะไมมากนักแตก็มีรายไดเสริมเปนคาทิปมาจากแขกที่มาเท่ียวสวนหน่ึงซ่ึงก็มากพอสมควร “…เราไดคืนหนึ่งพันนึง พันสองอะไรอยางนี้ แตกอนเราไดคืนหนึ่งประมาณ พันนึง พันหาก็ยังได พันนึง พันหาสองพนั อยา งไมได กห็ า รอ ย แปดรอ ย” งานนี้ไมมีวนั หยุด ชวี ติ เมียฝรง่ั ริตาตกงานอีกเพื่อนของเพื่อนทํางานที่บารยานสีลมพาริตาไปพบกับผูชายคนหน่ึงซ่ึงรูจักกันมากอนโดยบอกวา “จะพาไปหางานทํา” ตอนน้ันริตาไมรูวาเปนงานอะไร ริตาคิดเพียงวาดีกวาไมมีงานทําชายคนนั้นเปนคนตางชาติชาวยุโรป ริตาคิดวาเขาเปนคนดีเพราะเขาเล้ียงขาวริตากับเพื่อน จากนั้นเขาก็พาไปเท่ียวที่หองพักเขา เพ่ือนบอกกับริตาวา “เขาชอบ” และใหริตา “อยูกับเขาเลยคืนนี้” ริตาตอบตกลงทันทีเพราะไมรูจะกลับไปทําอะไรอยูท่ีหอ งคนเดียว แลว เพื่อนรติ า ก็กลบั ไป คนื น้ันริตามีอะไรกับเขา ริตาไมรูวาเขากับเพื่อนพูดอะไรกันเพราะไมรูภาษาอังกฤษและฟงไมรูเรื่อง ริตาก็ไมเขาใจวาเขามาชอบตนเองไดอยางไรริตาบอกถึงลักษณะของตัวเองตอนนั้น “...ธรรมดาบานนอกมากเลยนะ เราก็ไมรูวา ฝร่ังชอบเราไดอยา งไร เพราะวาเด็กบารแตละคนไปหาเขานะ แบบวา เส้ือผาน่ีอินเทรนดท้ังน้ันเลยแหละแตเรามี เสื้อยืดกางเกงยนี สธรรมดา…” รุงข้ึนตอนเชากอนริตาออกจากหองไป เขาสงเงินใหริตา 2,000 บาท พรอมกับพูดเปนภาษาไทยนิดหนอยวา “ผมใหคารถคุณ” ริตามองหนาเขาซึ่งริตาถูกต้ังคําถามวา “ไมรับเงินคาตัวหรือ” และเขายังพูดอีกวา “หรือคุณจะใหผมฟรีๆ” พรอมท้ังใหเบอรโทรศัพทไวโดยบอกวาเย็นน้ีใหมาหาอีก เพื่อนริตามาบอกกับริตาวาเขาอยากใหริตาอยูกับเขาเลย ตอนนั้นริตาคิดวาคงจะดีเพราะไมมีงานทํา ดีกวาอดตาย หลังจากวันนั้นริตาก็ยายมาอยูกับเขาที่อพารทเมนทยานธุรกิจกลางใจเมืองโดยอยูกันแบบ “ผัวเมียทั่วไป” กลางวันริตาอยูหองเขาออกไปทํางาน ริตามีความสุขมาก ไมคิดวาตนเองลําบากมาตลอดจะมีคนมาอุปถัมภเล้ียงดูเพื่อนๆ ริตาพากันอิจฉาริตากันใหญ พ่ีสาวริตาที่ทํางานอยูในกรุงเทพแถวยานตลาดขายสงเสื้อผาดีใจมากจนบางครั้งไมอยากจะทํางาน อยากจะมาอยูกับริตา แตริตารูวาแฟนริตาไมชอบ“ชะนี”? เขาเปน เกย
128 มีอยูอยางหนึ่งท่ีริตาไมชอบในตัวเขาคือ ด่ืมจัด สูบบุหรี่จัด เท่ียวเกงเกือบจะทุกคืนตั้งแตริตายายไปอยูกับเขา จะพาไปเท่ียวเกือบทุกคืน และย่ิงไปกวานั้น เขาเสพแมกระทั่งยาบา ริตาเคยถามเขาวาทําไมถึงรูจักยาบาและสูบทําไม เขาวาเด็กท่ีเขาออฟมาจากบารเอามาใหลอง เม่ือลองแลวรูสึกดีไมเหนื่อยและมีแรงออกไปเท่ียวขางนอกทุกคืน ริตามองวาเขาเปนฝร่ังที่ฟุมเฟอยมากแตก็ใจกวางกับ “เด็กๆ” ที่มาหาเขา เขาเคยบอกกับริตาวา “เด็กพวกน้ันไมมีอะไรก็แคมาขอเงินแลวก็ไป เขาบอกริตาวาริตาเปนแฟนของเขาอยาเอาตัวไปเปรียบเทียบกับเด็กๆ พวกนั้น” จนริตา ไมค ดิ และพยายามเขาใจเขาเพราะมันเปนความสุขของเขาดวย “โปลิโอ” เปนปมดอยในตัวของริตา แฟนของริตาตอมาเดินทางกลับไปเย่ียมบานเขาบอกวาจะกลับไปหาเงินมาผาตัดขาของริตา ริตารอเขาอยูกรุงเทพฯ ริตาเปนโปลิโอครึ่งทอนลางขางขวา สิ่งน้ีริตาคิดวาเปนปมดอย ริตาซาบซึ้งใจมากท่ีเขาทําเพื่อริตา ริตาเคยถามเขาครั้งหนึ่งวาไมอายหรือท่ีมีแฟนเปนคนพิการ เขาบอกวาอยามองแตจุดดอยของตัวเอง บางครั้งคนอ่ืนอาจจะดอยกวาริตาอีก ทําใหริตามีกําลังใจและรักเขามากข้ึน กอนจากไปเขาเปดบัญชีธนาคารแหงหนึง่ ใหพรอ มกับเงนิ จาํ นวน 6 หม่นื บาท เขาโทรหารติ า ทุกวัน อยูท ก่ี รุงเทพฯ ปกตริ ติ าไมคอ ยจะมีเพื่อนมากนักจงึ อยคู นเดยี ว หรือไปหาพี่สาวที่ยานขายสงที่ไมไกลนัก บางครั้งก็คางกับพ่ีสาว ตอมาชวงหลังริตามีโอกาสรูจักกับพวก “ผูหญิง”ทํางานนวดแผนไทย เม่ือมีเพ่ือนริตาเริ่มรูจักเท่ียว เลนไพ ใชจายสุรุยสุราย ภายใน 1 เดือนเงินจํานวน 6 หมื่นบาทหมดในพริบตา ริตากลัววาเขาจะรูวาริตาติดการพนันเมื่อกลับมาปลายปน้ันเขากลับมาพรอมกับเงินจํานวนหนึ่งมารักษาขาของริตา และถามวาถาริตาไปรักษาขาที่โรงพยาบาลแลวอยากทําอะไรตอ ริตาตอบแบบไมคิดวาอยากเรียนภาษาเพราะพูดไมไดอานไมได เขาตอบตกลงและใหริตาไปสมัครเรียน ริตาเขาผาตัดที่โรงพยาบาลช้ันดีแหงหน่ึงหลังจากผาตัดริตาก็กลับมาพักฟนที่หองพัก ตลอดเวลาที่ริตาเขาเฝอกที่ขาริตาไมเคยมีเซ็กซกันแฟนซึ่งเขาบอกกับริตาวากลัวริตาจะเจ็บ ริตาคิดวาธรรมดาคนรักกันถึงริตาจะไมสบายก็อยากใหเ ขามาดูแลเอาใจใสเหมือนคนอน่ื ทวั่ ไป แตต รงกนั ขา มเขากลับออกไปเทย่ี วขางนอกทุกคืน บางคืนก็ไมกลับมาเลย มันทําใหริตาเริ่มคิดวาเขาไมแครหรือรักริตาเลย จากที่เคยมีความสุขก็เริ่มทะเลาะกันทุกวัน เขายังคงมีพฤติกรรมเหมือนเดิม บางคร้ังพาเด็กมาด่ืมมาเสพยาท่ีหอ งตอนทรี่ ิตาอยูดวย ตอนเขาเฝอกขาริตาเริ่มมีความรูสึกวาตัวเองไมมีความสุขแลวเหมือนเปนตัวตลกตองใชไมค ํา้ ยนั ครงั้ หนงึ่ ไปพทั ยาเขา เฝอกเดนิ ไปกบั ฝรัง่ เด็กแถวพัทยาเห็นแลวหัวเราะ พูดวาคนพิการมากับฝร่ัง เลยถามความรูสึกของแฟนวา “…รูสึกอยางไรคุณมากับฉัน ตอไปคุณไมตองเอาฉันออกไปก็ไดนะ คุณออกไปเที่ยวเถอะ..” ความรูสึกเกาๆ เริ่มกลับเขามาในหัวของริตาวาตนเองมาจากพ้ืนๆ อันที่จริงตอนท่ีริตานอนอยูโรงพยาบาลก็เริ่มรูสึกอะไรบางอยาง มันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แฟนของริตาบอกพ่ีสาวของริตาท่ีจะไปเฝาใหกลับบานไปพรอมจายคารถ
129ให และบอกวาผมจะเฝาคุณเอง ซ่ึงริตาก็ดีใจที่เขามีแกจิตแกใจมาเฝาตนท่ีนอนไมสบายอยู แตความดีใจนั้นอยไู ดไ มน าน … ตืน่ ขนึ้ มานะความเจบ็ ปวด แบบเขาฉีดยาชามันหมดนะปวดขาขน้ึ มาผาตัดปวดมากเลยนะ แทบจะตายตรงน้ันแหละ และต่ืนข้ึนมาแลวสามีเราไปไหน ถามพยาบาล พยาบาลบอกวาออกไป ขางนอกแลว คือวาไปเท่ียว เราคือรับรูมาตลอด ตอนนี้เราคือวารับอยางเดียว คือวาไมดาไมอะไร แลว เขายุงกับเราไมได เพราะวาเราเจ็บปวดนะเขาเคยพูดกับเราวา พอออกมาจากโรงพยาบาล เขาบอกวา ตอนนีอ้ าการคณุ ยงั ไมด ขี ึ้นอาจจะอีกนาน คุณคงไมวานะถาผมจะออกไปขางนอกนิดๆ หนอยๆ เขาก็พูดตรงๆ นะ ชอบตรงนี้ฝร่ังนะ คุณคงไมวานะถาผมจะไปมีอะไรนิดๆ หนอย ๆ แตผมไมพามาเขา หอ งเราหรอก ตรงนีม้ นั เปนทข่ี องคุณสวนของคุณ โอเค อยากขอบคุณท่ี ใหเกียรติฉัน เขาก็ไปนะ แตหลังๆ มาชักจะหนักนะ ขาเอาเฝอกออกหมดแลวนะ ยังใชไมคํ้ายัน เอาไปทิ้งฉันไวท่ีพัทยา ความรูสึกน้ีมันรันทดมากท้ิงใหอยูตอนกลางคืนคนเดียวนะ ฝนก็ตกฉันก็ กลัวนะ และเจ็บปวดแผลกป็ วด พยายามเดินแลว ไมคํ้ายันมันจะดังนะคนขางลางเขาก็ข้ึนมาเลยมี แตผูช ายวัยรุนนะ มาเคาะพอดีเขาเห็นเราพิการเขาก็เลยไมเอา ตอนแรกเขาโทรมาบอกวาจะนอน อยางน้ี เราก็ปกติเราจะนั่งไมลุกไปไหนนอนบนเตียงแลวสามีเสริฟน้ํา อะไรทุกอยางพอออกไป เทยี่ วแลวไมก ลับมาเลยคนื นนั้ นะ นี่แหละครั้งแรก.... คร้ังหน่ึงเปนวันวาเลนไทนเขาพาริตาไปเที่ยวภูเก็ต ก็เหมือนคนอื่นๆ ริตาหวังที่จะไดอยูกันตามลําพังตามประสาคนรักแตมันไมเปนอยางนั้น เขาก็ไปเที่ยวทุกคืนเหมือนอยูกรุงเทพฯทิ้งใหอยูท่ีหองคนเดียว และยังมีเฝอกอยูที่ขา เขากลับไมสนใจไปเที่ยวเลย จนถึงตอนเชาคอยกลับมาที่โรงแรม เขาพูดกับริตาวาอยาคิดมากเขาไมมีอะไรกับใคร ก็แคไปเที่ยวเฉยๆ พูดจบแลวก็เดินเขาหองน้ําเสพยาตอ จนริตามาคิดวาถาคิดจะอยูกับเขาเราตองเขาใจเขา อะไรที่เขาชอบเราไมควรวาเขา หลังจากน้ันริตาจึงไดลองเสพยากับเขา ความรูสึกตอนน้ันริตาบอกวาเหมือนมคี วามสขุ เขากบั รติ าเสพยากันทุกวันตลอดเวลาท่ีอยูภูเก็ต วันๆ หนึ่งไมมีอะไรนอกจากเสพยาแลวมีเซ็กซ ริตาคิดวา ”คงจะไปกันได” เพราะตอนนี้ท้ังสองคนทําอะไรเหมือนๆ กันชอบอะไรที่เหมือนกัน ชีวิตไมมีอะไร “เขาเสพยาฉันก็ตองเสพ” เพื่อท่ีวาจะไดไมทะเลาะกันหลังจากกลับจากภูเก็ต ส่ิงที่ริตาคิดวา “เรานาจะไปกันได“ มันกลับไมใชเชนนั้น เพราะมีเด็กโทรมาหาเขาท่ีหองบอยขึ้น พอริตาถามเขากลับบอกไมมีอะไร แคเด็กท่ีทํางานตามบารท่ีเขาไปเท่ียว หลังๆ มาริตาบอกวาเขาจะไปกับเพื่อนและไมชวนริตาซึ่งริตาก็ถามวาเมื่อคืนไปไหนมาเพราะริตาเห็นวาเขาไมใหเกียรติริตาเขาไปเที่ยวบอยเกินไป “…เขาบอกวา..ไปวันศุกรกับเสารเพราะวาวันอื่นผมทํางาน วันอาทิตยผมจะหยุดอยูกับคุณ จันทร อังคาร พุธ พฤหัส นี่ผมไปทํางานแตวันอาทิตยผมอยูก ับคุณทัง้ วนั ทั้งคืนแตวาศกุ ร เสารผ มจะออกไปขา งนอก” หลังจากผา ตัดประมาณเกอื บสามเดอื นริตา เขาโรงพยาบาลอกี รอบเพอื่ เอาเฝอ กทข่ี าออกรติ า รสู กึ วา ขาดีขึน้ แตจ ติ ใจกลับแยลง ริตาเร่ิมติดยาไมไปเรียน ไมสนใจโลกภายนอก เก็บตัว
130อยูใ นหองไมทาํ อะไร จนเขาเรมิ่ จะเบือ่ หนา ยในตัวรติ าและเรม่ิ จะพดู กบั รติ า ทุกวันวา ถาเกิดวันหน่ึงเขาไมไดอยูดวยกันแลวริตายังทําตัวแบบน้ี ไมเก็บเงินทอง ไมเรียนหนังสือ แลวริตาจะอยอู ยา งไร ตอนนัน้ ริตา คดิ วา เขาอาจเสพยามากจงึ พดู ออกมาแบบนนั้ ความขัดแยงในความคิดเก่ียวกับเขามาถึงจุดท่ีทนไมได ริตาเคยคิดวาอยากจะออกมา...ไมไหวแลวบางครั้ง หนัก ๆ เขาเขาจะพาเด็กผูชายไปไวในหอง ครั้งละ 3 - 4 คน เดินกนั มว่ั ทง้ั บุหร่ี ปลิววอนอยนู ่ัน ออกจากหองนี้ เขา หอ งโนน หอ งนาํ้ ริตาบอกวา ฉันไมอยูกับคุณแลวนะ แตกอ นสนกุ ดีมคี วามสุขดี แตตอนนคี้ ณุ ก็ไมเหมอื นเดิม คุณวาฉันไมเหมือนเดิมคุณก็แยริตาเคยถามเขาวาคุณรักฉันไหมซึ่งรติ า จะถกู เขาเปรยี บเทียบใหฟงวา ตอนเจอคุณใหมๆ ชอบนี่ชอบแปลกดี และบอกวาคุณไมสังเกตเหรอวันที่ผมออกไปทํางานแลวเบรคมาพัก ผมเคยไปน่ังเบรคในหองอาหารผมก็ตรงด่ิงมาหาคุณ แตหลังๆ มาคุณเร่ิมเรื่องมากไมไนซเหมือนเดิมไมเหมือนเม่ือกอนคุณเปล่ียนไปมาก หงุดหงิดงายซึ่งริตาบอกวาอาจจะเปนเพราะเฝอกที่ขาดวยและเขาก็ไปเมืองนอกนานไปสอง สามครั้ง ทีละสองเดือนกลับ สี่เดือนกลับ บางทีหา เดือน ท้ิงเงินไวใหแสนเดียวจาย คาหองไวตางหาก คาอาหารตางหาก คาจางสําหรับจางแมบานมาทําความสะอาดตางหากมีเดือนหนึ่งท่ีริตาเอาคาอาหารคาทุกอยางมาฮ้ัวเลนไพอยางเดียว ช็อปปงอยางเดียวเงินแสนกวา ริตาบอกวาเวลาไปพัทยาไปเขาจะออฟเด็ก หลังๆ จะเร่ิมมีพฤติกรรมอยางนี้ พฤติกรรมที่ไมควรจะเปนริตาบอกวาถาคนที่ยังไมเคยก็อยาไปทํา ริตาคิดอยางเดียววามึงออฟไดฉันก็ออฟได แตของฉันจะดีหนอยคือจะเอาเงินแกน่ีแหละออฟ ฉันจะเอาเงินแกที่ใหฉันนไ่ี ปออฟผูชายมาในเมอ่ื “แกทาํ กบั ฉนั ไดฉันกท็ าํ กบั แกได” เพราะเขาเคยบอกวาเขาเที่ยวไดแตคุณอยาไปเท่ียวเลย เขาเคยออฟเด็กมาใหริตาแตวาเวลาจะมีเซ็กซกันริตาบอกวาใครจะไปแกผาโทงๆ เด็กนะ! ริตาบอกวาฉันไมเอาแลววัฒนธรรมไทย มันดานเกิน เขาบอกริตาวาจะอายทําไมอยูกันสองคน ริตาบอกวาเราเห็นกันเรารักกันเราอยูดวยกัน เราอยูแคสอง แตนี่มีบุคคลทสี่ าม ทส่ี ีเ่ ขามา มนั ผิดแปลก แลวแกผ าลอ นจอ น ริตา มาคิดอยา งเดยี ววา เขาจะถามริตากอนวาอยากเปล่ียนไหม โดยจะไปเอาเด็กมา บางทีริตาบอกวาเขาพาริตาไปเพื่อเอาใจเขาริตาก็ตองจบี ผชู าย …เราไมเคยแบบวาไปสีกับผูชายเพื่อเอาใจเขาเราก็ตองสี ที่บางครั้งสีมาเปนกะเทยเหมือนกัน แหละ เด็กบารนะ ช้ีมาแลวบอกวาคุณชอบคนไหน คนไหนก็ได บอกไมไดคุณตองเลือก เบอรนั้น 35 มาเรามาถึงเพื่อนกะเทยมันบอกวานี่เธออยาทําอะไรฉันนะ ตางคนตางอยูแลวกัน เธอก็ไปทํากับสามี ฉนั แลวกัน เพราะวา ไหน เขาจะไดไ มผิดปกติ ฉันไมอยากออฟมาหรอก ถาผูชายจรงิ ก็ไมคอยมีหรอก นะ ทํางานบารนะ อยางมากบึกหนอยอยางพวกเพาะกายนะ ก็โหดเกินไปเราก็ไมชอบแบบนั้นนะ จริงๆแลวเราอยากใหสามีของเราอยูกับเราทําอยางท่ีสามีภรรยาดวยกัน ไมอยากใหนอกลูนอกทาง เราคือวา คลา ยๆ กับวาเขาทําอยา งไรกับเรา เราทาํ กบั เขาแบบเดียวกนั กับเขา
131 อีกเดือนตอมาริตากลับไปเยี่ยมบานที่อิสาน แฟนของริตาไมเคยโทรมาหาเลยทําใหริตาเร่ิมรูตัวเองวาเขาคงจะไปมีเด็กใหมมาแทนท่ีริตาและคิดวาคงไปกันไมไดแนๆ ริตากลับมากรุงเทพฯ และพูดกับเขาเพ่ือจะไดจากกันดวยดี เขาไมรับฟงอะไร มีการทะเลาะกันรุงแรงจนถึงขนั้ ลงไมล งมือตางคนตางเจ็บปวดพอๆ กนั หลงั จากวนั นั้นริตา กเ็ กบ็ เสอื้ ผากลบั มาอยูกับพี่สาวที่ยานขายสงเหมือนเดิมท้ังท่ีไมมีเงินติดตัวมาแมแตสักบาทเดียว “…เราหนีจากเขากอน”คร้ังสุดทายท่ีริตาไป ริตาขนกระเปาออกมาทําเหมือนนางเอกหนังไทยซึ่งที่จริงมันนาจะเปนนางเอกฝรั่งมากกวาเพราะพวกนาฬิกา:แทคฮอยเออรที่เขาซ้ือมาจากฮองกงมาใหริตาก็ถอดทิ้งไวใหเขา ริตาบอกตัวเองวา “ฉันถึงเขาใจวาฉันไปอยูกับเขาแตตัว สุดทายฉันก็กลับมามือเปลา ” ริตา ไมเคยโทษใคร ไมม ีใครทําริตาตางหากที่ทําตัวเอง และก็ไมเช่ือโชคชะตา ในเวลาสองปกวาท่ีอยูดวย “..เขาดีกับเรามาก” ริตาเชื่อวาคนเราถามีความขยันก็จะไมอดตาย ริตาจึงหางานทําแถวท่ีพี่สาวอยู ตอนนี้ริตาหางานงายขึ้นเพราะริตาพูดภาษาอังกฤษได ถึงจะไมคลองแตกพ็ อจะรูเร่อื ง ริตา มองวาจุดเปลี่ยนของชีวิตริตาคือไดมาเจอแฟนคนน้ี ซ่ึงจุดเปลี่ยนนี้รวมถึงการฆาตัวตายที่ริตาบอกวาเพ่ือเรียกรองความสนใจ ต้ังแตนั้นมาริตาก็ไมเคยใช ”ไฮเตอร” อีกเลยเพราะจาํ ตอนควันออกปากและความทรมานของมันไดอ ยา งดี ...ก็มาเร่ิมแบบทุกอยางเปล่ียนไปคือมีฝรั่งคนนี้แหละที่ทําใหชีวิตท้ังชีวิตเปลี่ยน ฆาตัวตาย เพราะฝรั่งคนน้ีนะนะ เคยกินยาฆาตัวตายมาแลวแตเขาชวยไวทันนะ เขาเอาเขาโรงพยาบาลทัน กินแอ็คซี่ และกินไฮเตอร ....มันทรมานมากเลยนะ กนิ ไฮเตอรแลวด้ินทุรนทุราย เพ่ือนท่ีโรงเรียน.. ไปเจอไง เขาวา ทะเลาะกนั ตอนกลางคืน เขาบอกวาคุณไปเรียน คุณกลับมาคุณอยูหองไดไหม เรา อยากไปกับเพ่ือนใชไหม เราไปเรียนอยูที่ตอนแรกจะไปโรงเรียน..นะ แตเขาไมไดเราไมมีเกรด เฉล่ียเราไมมีอะไร เพราะวาเราแคจบป 6 นะ เพ่ือนในโรงเรียน... ยังพูดเลยนะในหองเขาคุยกัน เรียนมาจะปริญญาแลวคุณจบอะไรมา ป. 6 บอกเขามาไดอยางไร ไปๆ มาๆ เพ่ือนเลยบอกวาใช เสน เมาทก นั วาเราใชเ สน นะ ไมใ ชฉ นั ไปสอบผานมาแลว จาก..คนวาแลวคนไทยเขาจะไมยอม ไม ยอมเพราะอะไร เพราะเราไมม ีวฒุ ิ ม 3 ปกติเขารับม. 3 ใชไ หมละ เขาบอกวาสอบเอาผานก็ไมผาน ก็ไมเปนไรนะ สอบผาน โชคดีที่วาเราไดเบสิคจากฝร่ังนะ นิดๆ หนอยๆ เราอยูดวยกันมา 70 ขอ นะไมก่วี นิ าที นะกามวั่ เลยแหละ ภาษาองั กฤษทั้งนัน้ แหละมแี ตคนทํางานระดบั ปริญญาโทนะจะไป นอก คือวามาเรียนเอานะ โรงเรียน...เขาจะใหต๋ัวเคร่ืองบินข้ึนนะ แลวจัดที่พักใหดวยหาท่ีเรียนให เบ็ดเสร็จ แตวาเขาประสานกับทางสหรัฐไง ถาใครจะไปเราก็ไดอภินันทนาการจากสามีคนนี้แหละ ท่ีโรงเรยี น.. ก็ไปเรยี นคอมกม็ ีแตไ มเ ปนนะ ทุกอยา งนะไปกับการเลนแบบฟงุ เฟอ ถาใหกลับมาอยูแบบสามีภรรยาริตาบอกวาคงไมตองการ แตถาเพ่ือนท่ีดี พี่ท่ีดี หรือพอที่ดีคงอีกเร่ืองหน่ึงหรืออะไรสักอยางท่ีไมใชสามีภรรยาเพราะวามันคงเปนไปไมไดเน่ืองจากวาผูชายคนนี้ชอบเปล่ียนเด็กไปเรื่อย ริตาบอกวาไมใชวาเขาจะเปนคนไมดีเขาเปนคน
132ดีเด็กทุกคนมาอยูกับเขาใครชอบอะไรใครอยากไดอะไรเขาใหหมด ริตาบอกวากอนหนาน้ีเขาเคยใหค นอื่นมากอ น รวู า เขามี เคยมี ไมเ ปน นะเพราะวาเขาเจอเราคร้ังแรกเขาบอก พอคุยกันรูเร่ืองนิดหนอยเขาบอกเขาไมเคยมีใครเปนคําพูดคลายๆ ผูชายไทย พ่ียังไมมีเมียคือวาไมเคยอะไรมากอ น สโู ลกสชี มพคู วามฟุงเฟอของไฮโซ เราจะไป... ทุกวันนะแบบไฮโซ ....จะมีพี่อีกนะซอย...เปนเมียฝรั่งจากตางประเทศ ... เขาจะ จัดทีวันเกิดหมา ตอนแรกพาไปวันเกิดเราก็นึกวาวันเกิดอะไร เกิดหมาพุดเด้ิลนะราคาตัวละ 4 - 5 แสนเขาซ้อื ตอนน้ันเขาเวอ รนะ บอกแฟนอยากไดห มามาเลี้ยงนะ ชอบหมานะ คือวากระแสนิยมก็ ตองทําอัพเกรดตัวเองเธอเลี้ยงอีกัวนา ทั้งท่ีไมอยากจะจับนะเลยนะ แฟนบอกวานาเลี้ยงฉันก็เธอ เล้ียงสิดาล้ิง อะไรอยางน้ีนะจริงๆ แลวมันผิดเลยนะ เพราะวาอะไรรูไหมฮิตตามกระแสนะ และก็ เราอยูในวัตถุนิยมตองบอกวาเส้ือตัวไหนนะออกเม่ือไรจากไหนแตกอนยังเอ็มโพเรี่ยมยังออกใช ไหม แตพักหลังมามีสยามพารากอน มาอยูต้ังแตสยามพารากอนยังไมสรางนะ เอราวัณ เวิลด เทรดยังไมเปนเซ็นทรัลเวิลด หรือวาตรงนี้เราไปตีแตกมาแลวมีเงินไปอยางนี้ ไมมีเงินคือ 4 – 5 หมื่นนะ ซ้อื เลยวันนั้นกระเปา หลุยสใบเลก็ ๆ นะไมรูซอื้ มาทาํ ไมนะ “…เขาใหเงินใชทุกเดือน คิดดูนะหนูจากคนท่ีไมเคยมีอะไรนะ พอมามีแลวนะกลายเปนแบบวาลืมตัวใชเงินเดือนนึง 6 หม่ืน 7 หมื่น แสนก็มีคือวากูจะทําแบบคือวา เสื้อผา199 ไมใสไปใสของแบรนดเนมนะ กุชชี่นะ...” ริตาบอกวาชวงท่ีเปนเมียฝร่ังก็อยากทํางานและก็เคยคิดจะเปดรานนาฬิกาท่ีศูนยการคา แตสามีทักทวงวามันจะเวิรคหรือ และเสนอใหเปลี่ยนอยางอื่น ตอนหลังริตาบอกวาตัวเองปฏิเสธการเรียน “…เรียนนั่นเรียนนี่ไอน่ีก็ไมเอาไอน่ีก็ไมเอานะ..” และสุดทายคือพอแฟนไมอยูกลับมาถึงบานก็เลนไพ เลนกับหมอนวดขางหองซึ่งเปนเมียเชา ฝร่ังทั้งน้ัน เลนกันทั้งวนั ทงั้ คืน พอรเู วลาบา ยสามแฟนกลับมาก็รีบไปซื้อเคเอฟซีมาใหว่ิงเขาไปนงั่ ไปทําเปน ปดกวาดหอ งแลว ก็ทําทานอนทําเปนเหนื่อยจนความจริงปรากฏ “… มารยาอยูแบบน้ีนะ จนเขาจับไดนะ..” ริตาบอกวาตนเองคงมีจุดหรือปมดอยตอนเด็กๆ ที่อยากไดแลวไมไ ด จนกระทั่งเคยถามแมวาหนูเปน ลกู แมหรอื เปลา? …จดุ ม.ี ..ตอนเด็กๆ ฉนั ไมไ ดอ ะไรฉันอายฉันตองไปเอาของพ่ีชาย พีส่ าวที่ขาดแลวขาดอกี พชี่ าย มกี ะจิตกะใจท้งิ มาใหฉ นั คลา ยๆ กดดนั นะ ฉันอยากไดกางเกงยนี สต ัวหนงึ่ แมฉ นั เอาไมท บุ ตฉี นั แทบจะเปนจะตายนะ นั่นแหละคอื วาเขาแตเ ด็กเราเคยเจออยา งไง ฟดแบคทว่ี าโตข้ึนฉนั มี งานมีฐานะฉันไดเ งนิ ฉันก็จะซื้อนะ บาํ เรอความสขุ ที่ฉนั ขาดหายไปตอนน้นั มเี ส้อื ผาสวย คิดดูตอน น้นั เสอื้ ผา ดาํ แลวดาํ อกี ปะหนาปะหลังแตพี่ชาย...ปใ หมมาพี่ชายไดต วั ใหมน ะ เปนนองคนเลก็ ก็ ตองเซ็งลีฮ้ อ จากพ่ีชายมานะ พี่สาวหนอ ยเสื้อ ปกติแลวเราเคยคดิ ในใจวาลกู คนสุดทองท่ีเหลือ นาจะเปนคณุ หนแู ตทาํ ไมฉนั ตาง
133 ที่โรงเรียนสอนภาษาริตาบอกวามีแตลูกคนรวยมาเรียน ตนเองก็เร่ิมมีความฟุงเฟอแตก็ยังไมมาก “.. คลาย ๆ กับวาเรามาจากกลุมพ้ืน ๆ นะเราพยายามอัพเกรดตัวเองข้ึนมาอยูจุดหน่งึ นะ” เชนการมมี ือถือซ่ึงเมื่อกอนข้ันตอนไมง า ยและแพงตอ งมีเอกสารสําเนาทะเบียนบานไปซ้ือจะตองใหสามีข้ึนเคร่ืองบินจากที่ดอนเมืองไปจองให ดอนเมืองไปลงอุบลราชธานีไปกลับริตา บอกวา มาเอาของสําเนาแคนิดหนอยก็ข้ึนเคร่ืองกลับ ออกจากเครื่องที่อุบลฯ นั่งลีมูซีน หรือรถไปเลย “เก” ชาวบา นเขาก็โหก ันลือกันใหญซ่ึงพอมาคิดยอนหลังนาจะเก็บเงินคาเครื่องบินคาตางๆ เอาไวมากกวา ริตาบอกวาเดินทางไปภูเก็ตบอยจนเกลียด เชียงใหม พัทยาก็ไมอยากจะไปเหยียบเลยริตาบอกวาตนไปเขาอยูกับลูกคุณหนูแลว พวกงานบารที่เคยทําก็มองวาตํ่าทําเปนไมไดอยูในวงการบารมากอน แตที่ฟลุคไดสามีฝรั่งเพราะเพื่อนทํางานบาร ตอนนั้นริตารูสึกวาโลกเปนสีชมพูมากทุกอยางลงตัว คอนโดก็ดูเอาไวแลวแถวยานธุรกิจและยังตกลงกับแฟนวาบานเปนช่ือของตนเพราะฝรั่งไมสามารถซ้ืออะไรในเมืองไทยไดนอกจากเชา บรรดาเพ่ือน ๆ ที่เปนกะเทยดวยกันพอรูขาวก็มานอนกันกินกันอยูที่หอง นอกจากน้ีโรงแรมตาง ๆรติ า ไปพกั มาหมดชวงนัน้ ..คิดดูนะดุสิตนะโรงแรมไมไดขึ้นโรงแรมเดียวเทานั้นแหละ เสียคาหัวแพงโอเรียลเต็ลนะ เพนินซูลาน่ีโอเค แชงการีลา โอเค เชอรราตันโอเคอันน้ีและก็ที่โรงแรมอะไรนะเกรส สุขุมวิท แอมบาสเดอร เอเชีย ดุสิต โอเคเวิรคนอนมาหมดแลวนะคือวาฉันจะอัพเปนเมียฝร่ังหนอย ดาลิ้ง ฉันอยากไปตรงน้ี ไปทานขาวตรงนี้พอทานขาวด่ืมไวนนะไมกินนะนํ้าเปลานะกินไวน จนไป เชอราตันไมเคยเจอไวนนะแบบคลายๆ แบบคนเราจากพื้นๆ ก็รูพื้น คนเราจะดูไดจากนิสัยนะ การรับประทาน การแสดง กิริยา ทาทาง ถาคนผูดีจริงๆ เขาจะอัพมาเลยสเต็ปในน้ันแตถาคนท่ี แบบวาถามมนั จะมาเลยนะ ถา มองวา คณุ จะทานอะไร ไปเชอราตันลอยกระทงจําได 5 พฤศจิกานะ หรืออะไรนี่... นี่แหละไปเชอราตันลอยกระทง ลองเรือเจาพระยาครูสนะ ลองเรือกินไวนจนแบบวา เมามาย ไมไดสติ ฝร่ังเขาก็อายนะเขาก็ใหเพื่อนเขาที่เปนฝร่ังดวยกัน ผูหญิง ผูชาย พยุงขึ้นรถไป ไมไ ดคอื วา เชาโรงแรมที่น้ันแหละกินท่ีนั่นนอนขางบนนะ คืนละ 4- 5 พัน วีไอพีนอนไปเถอะ ท้ังท่ี ไมร ฝู ร่ังคนนนั้ เขาคดิ อยางไรกับเรานะ เราโอเคบอกวา อยากไปนี่ เขาก็โอเค ดาลง้ิ ไปนะ คิดดนู ะ ชว งทีเ่ รยี นอยูร ติ า กลบั มคี วามคดิ เชงิ ธรุ กจิ ของ “ความสมั พันธ” ข้ึนมาในขณะทเ่ี รยี นและพบคนตา งชาตมิ ากขึน้ อนั ทจี่ ริงริตา ไดความคิดเชนน้ีมาจากเขา ซ่งึ ริตา จาํ ไดเ สมอ “เซก็ ซไทม มันนี”่ รติ า บอกวาพดู งา ยๆ แลว ความหมายของมนั คือ เขาอยกู บั ริตา เพอ่ื เซก็ ซ จา ยเงนิ ใหไมม อี ะไร …เรา (เรียน) แค 3/4 นะอาจารยที่แบบแคนาดามา สหรัฐมา เราก็เล็งไวแลว กูเริ่มจากคนนี้ จะจับคนนี้นะ คิดแบบธุรกิจเขามาแลวนะ เร่ิมจากเด็กบานนอกธรรมดา มาทํางานโรงงานหลัง จากนั้นแลวนะเริ่มตกงานแลวมาอัพตัวเองขึ้นมา ดวยสัมพันธภาพจากกลายเปนคนไมรูอะไร ไมรู
134 จะทําอะไรนะ ใชของนอก นํ้าหอมพวกแชแนล ปราดา กระเปาเสื้อผาใชพวกนี้หมด ทุกวันน้ี หลงั ๆ กอนทเี่ ลิกกบั เขาและกินยาตายนเี่ รากลับไปอยบู า นนะ วาจะฆาตวั ตายอกี คร้ัง ทําตัวเหมือน จมไมลงนะ คลายๆ กับเศรษฐกิจไทย คนไหนที่รวยแลวก็จนไมลง แตทุกวันน้ีคิดอยางเดียวคือวา สงั ขารไมใชสิ่งเท่ยี งแท เราคดิ อยา งเดียววา เราจําคนที่เรารักมากทส่ี ุดก็คือวา จากเคยคิดวาชวงลม หายใจสุดทา ย กอนตายขอใหเ จอหนาเขาสกั ครงั้ จะเอยคาํ วาขอโทษแคนัน้ แหละ ริตามองวาเขาใหชีวิตใหมกับริตา คือพาไปทําขาที่โรงพยาบาลช้ันเลิศ เวลาเห็นรอยเยบ็ ท่ขี าริตาจะคดิ ถึงเขา ยังเก็บรูปเอาไวทห่ี อ งเพราะบางครงั้ เขาบา นความรสู กึ ดีๆ กบั ผชู ายคนนี้ คนละเชื้อชาติ คนละศาสนาและก็เพราะคําวาเขารกั เรา ตอนแรกริตาก็คิดวาเขาเลนๆ ริตาจําคําเขาไดวา “…มันขึ้นอยูกับตัวคุณวาทุกส่ิงทุกอยางคุณจะเรียนจบไดมหา’ลัยผมจะสงเสียไปเร่ือยๆ ก็ตอเมื่อข้ึนอยูกับตัวคุณนะ” ริตาก็เชื่อวาข้ึนอยูกับตัวริตาจริงๆ ริตาทําตัวเองริตาบอกวาฉันมาแตตัว ฉันก็จะไปแตตัว ริตาคิดวาริตาปกกลาขาแข็งแลว ริตาบอกวายังจําคําพูดของแฟนไดเมื่อเจอกันอีกคร้ังหน่ึงซ่ึงเขาพูดวา “…คุณทําผมกอนนะ คุณไปจากผมกอนนะ ผมไมไดไลคุณไป…” ริตาบอกวาเปนคําพูดท่ีเจ็บปวดที่สุด และคําพูดแบบนี้บางครั้งทําใหริตา เม่ือคิดถึงมันก็รอ งไหไ ปสามวันสามคืน กอ นจะมาถงึ วันน้ี ชีวิตของริตาเคยพบเจอชายที่มาวุนวายในชีวิตต้ังแตอายุ 13/14 - 15 ป เปนคนในละแวกบา นเดยี วกันและเม่อื ระลกึ ยอนกลับไปริตา คิดวา ตนถูกเอาเปรียบจากผชู ายเหลา น้ี คิดวาเคาเอาเปรียบเรานะ ทําใหเราเปนแบบนี้ชีวิตเราก็คงไมเปนแบบนี้เคามาทําใหเรามี ความรูสึกบางอยางเกิดข้ึนมา และเราก็ไขวควาไปเร่ือยๆ ถาเราแบบวามันถูกครรลองคลองธรรม ใชม๊ัย ถาเคา เรารูวาเราเปนตุด แตคือวาคําวาตุด กับคนอยูบานนอกนะ ถายังไมมีใครมาทํา เหมือนเปนกลัว เหมือนผูหญิงทั่วไปน่ีนะ เราก็จะไดแบบวาระมัดระวังตัวได แตถาคือวาในเม่ือมัน เปนไปแลว เราก็เคยผานอะไรมาแลว ความกลาความดานเกิดข้ึนมาไดทันที ก็มันเจอมาแลว เหมอื น พวกผหู ญิงเคา พูดนัน่ แหละนะ เจอผูชายคนไหนก็อยากรวู า ผชู ายเทาไหร จะเดด็ ไหม... อะไรทําใหริตาพูดเชนน้ัน ริตาพบคนที่ถูกใจคร้ังแรกอายุราว 13 ป ผูชายคนนั้นอายุ17 ท่ีริตาชอบเขาเพราะคําพูด เวลาเขาพูดจากับริตาทําใหริตารูสึกวาตนเปนผูหญิง “คลายๆกับวาเราเปนผูหญิง…” เขาทํากับริตาเหมือนเปนคนแรกของเขาและกําชับวา “… ทํายังงี้กับพ่ีแลวก็.. .อยางน้ีแลวอยาไปทํากับคนอื่น” ริตามานึกถึงตอนนี้แลวก็เหมือนกับนิยายน้ําเนา ดวยทเี่ ปนเด็กยังไมคอยรูประสีประสาริตาก็ไดแตพยักหนาอยางเดียว เวลาผูชายคนนี้มาหาริตาจะรูพอถึงเวลาริตาจะลงจากบานไปหาเขา เขาจะมาหาแทบทุกคืน ซึ่งเม่ือถึงเวลาที่ริตาแตงเปนผหู ญงิ คอยรอรับ ราวกับนางซนิ (ซินเดอเรลลา) แปลงโฉมยามกอนเท่ียงคืน ริตายอนคิดถึงเรื่องในอดตี เกอื บย่ีสบิ ปมาแลว
135 วา...วาแตเรานุง (ผาถุง) ไดเฉพาะตอนกลางคืนนะ บางคร้ังถาถูกจับได คลาย ๆ กับเวลา เรามีจํากัดมากตอนที่คือวาแบบวาผูชายจะมาหา เราก็ทาปงทาแปง เราคิดวาเราแบบวาเราเปน ผูหญิง อยางเคาจะบอกวามารอพี่เวลาน้ันเวลาน้ีนะ คอกควายอะไรยังงี้ แลวจะมารับจะพาลง กลางทงุ มั่งเพราะวาบา นอยขู า งทงุ พอเสร็จสมอารมภห มายแลวกจ็ ะมาพาหนูกลับบาน เวลาวางก็เหมือนกัน ตอนกลางวันพอแมไมอยูบานก็จะมาหาพาเขาหองนํ้า หรือที่ไหนก็ไดท่ีลับ ๆ ตาคน เสร็จแลวก็จะกลับไปแตขณะเดียวกันริตาก็รูวาพอกลับไปเขาก็จะไปจีบสาว ริตารูสึกเจ็บกับเร่ืองนี้และบอกวา “เราก็คิดเหมือนกันนะ เออยังงั้นทําไมเวลาเราไดก็บอกวาอยาไปยุงกับคนนั้นคนน้ี …” ริตา บอกวาเคาคือคนแรกท่ีล้ําอธิปไตยขางลางเพราะริตาหลงเช่ือ คําหวาน คําปลอบโยน ซึ่งริตามองวาไมไดรุนแรง จะรุนแรงก็เม่ือเขามีอารมณเทานั้นแตวา ไมไดลงไมลงมอื รติ าย้ําวา “ชอบแตกอ นรกั ” ริตา ไมกลา บอกพอแมเพราะเขายํ้านกั ยํ้าหนา“ไมกลาเพราะเคาก็บอกวาน้ีนารักนะ อยางงั้นอยางง้ี คนแรกเคาจะพูดอยางง้ีนะ อยาไปพูดใหใครฟงนะ เร่ืองของเราแลวก็อยาเอาพูด บางทีก็จะมาหาบานแลวบานเราคนละหมูกัน ที่พ่ีมาหาแลว ก็อยา เอาไปพดู ใหพอแมฟง อยา เอาไปเลา ใหใ ครฟง ” คนมาตอแยกับริตาสามคนในเวลาไลเล่ียกัน ความรูสึกริตากับผูชายคนแรกดูเหมือนเปนความรกั แตท ี่เหลอื กต็ า งกนั ไป “…ก็มันมีมามาชวงหน่ึงนะ ก็ประมาณ สามคน จากคนที่แรกท่ีมาทํากับเรานะ จะชอบ คลายๆ กับวามันเปนรักแรกของเรา...รูสึกแฮปปท่ีไดอยูกับเคา เคาบอกใหเราทําอยางไร ใหอยางไร เราก็ทําใหหมดเพราะเราชอบเคา แตพอตอนหลังคนน้ีก็หางๆไป ซ่งึ มารูท หี ลงั วา ไปมีเมีย “แตคนท่ีสองเราไมไดชอบ แตเคาน่ีตามกันไง มาหา...ผูชายไดคนน้ีนะวาเคาก็เลยมารุมโทรมกันอยางนี้” ผูชายคนแรกกับคนที่สามเปนพี่นองกัน ท้ังสามคนแวะเวียนมาหาตางวาระดวยหลากหลายลีลาตั้งแตหลอกลอใหเคลิ้มดวยคําพูด แมจนกระท่ังฉุดกระชากลากถูไปกระทําชําเรา คนท่ีสองท่ีมายุงกับริตาทําใหริตากลัว เวลาริตาจะกลับจากตลาดชวงตอนเย็นจะวิ่งกลับ เวลาอยูบานคนเดียวจะปดหนาตางและไมลงไปไหน คนที่สองริตาบอกวาจะชอบโชวอวัยวะเพศ “…แบบวาเวลาลับตาคนจะควักออกมาใหดูเลยนะ” ริตาสะทอนความรูสึกวา “เราไมชอบนะคะ แตวาเราผลักก็ไมได แตคือวาในใจคือวาทําใหเสร็จไปเลย” แตสวนหน่ึงที่ริตาบอกวาตองเปนไปอยางน้ันอาจเพราะไมมีใคร และตอนนั้นคิดวาเคยเสียมาแลวสักครั้งจะเปนไรไป อีกอยางก็เพราะอาจจะใกลชิดเพราะเจอบอยตอนไปเลี้ยงควายและคิดถึงคนแรก ริตาบอกวาคนที่สามยิ่งรายเปนพี่ชายของคนที่หน่ึง ริตาคิดจะเอาชนะโดยมองวาถาไมไดนองเราก็จะเอาพ่ีเพราะไดยินวาคนแรกไปมีเมีย อยางไรก็ดีริตาก็ยังมีความเมตตาใหแกพี่นองคูน้ีโดยบอกวาสงสารเลยไมบอกพอแมเขา โดยคนท่ีสามเวลามา จะมาสงเสียงเรียกริตาและพาไปนอนตามทงุ นา ตามปา แลวก็พากลบั รติ า บอกวา เวลาใหท าํ อะไร ขา งๆ ปา ก็พาลง
136ไปที่ลับๆ ตาคน “… แบบวาจิกกดคอเขาไว มึงอยาไปพูดอะไรยังงี้ ไมงั้นฆาทิ้ง” ซึ่งริตาก็กลัวมาก เหตุการณเปนไปเชนน้ีจนคนเริ่มจะสังเกต โดยเฉพาะริตาบอกวาคนท่ีสองนี้ทํา“ประเจิดประเจอ” หมายความวานึกจะมาก็มา คิดจะมามีเพศสัมพันธก็แอบพาลงทุงไป คนก็พูดกันวา “ ...มินากูวามันไมไปจีบสาว ไมกินเหลา ไมดมกาว มีของแกแลวกะ…” มีของแกหมายความวามีคน “บําบัด” ให เร่ืองจึงฉาวโฉที่สุด ริตาบอกวาท่ีพวกน้ีทําอยางน้ีไดเพราะไมมีกฎหมายคุมครองตน “… มาทํากับเราอยางน้ีกระทําชําเราไปเลย แตวามันทําไม ไมได เพราะไมมกี ฏหมายที่ไหนคมุ ครอง ผูชายตง้ั แตเลก็ จนแก” วนั น้รี ิตาอยูทีบ่ า นแตพวกเขาคงกลัวริตาเพราะแรงขึ้นเกงข้ึน แตตอนน้ันริตากลัว ริตาก็เฉยๆ ทุกวันนี้ก็ไมคอยคุยกัน ริตาบอกวาเมียผูชายเกลียดริตาแทบตาย ซ่ึงริตาไมรูวาทําไมทั้ง ๆ ท่ีมันไมยุติธรรม ริตาบอกวามีคนขาง ๆ บานเอาไปพูดบอกวาริตาเคยมีอะไรกับสามีของเธอ “…อีน่ีเคยเปนเมียเกาผัวมึง” พอผูหญิงรูก็ไปถามสามี สามีก็ปฏิเสธจึงมาถามริตาซ่ึงริตาบอกวา “…เธอจะมาคิดอะไร ฉันเปนกะเทย” ผูหญิงไมยอมเชื่อเลยตองมาน่ังอธิบาย “ก็ลักษณะของผัวเธอ…” และมันตรงประเด็นเลยพูดไมออก ทุกวันนี้ริตาบอกวาเขายังอายอยู ซึ่งริตาบอกวา “สมนํ้าหนามัน” สวนคนแรกท่ีริตาชอบริตาบอกยังพบกันและไมเคยพูดถึงเรื่องเกาการพูดก็เปนลักษณะคนบานเดียวกัน ริตามองวา “…เคายังสุภาพบุรุษอยู” เขาไมพูดถึงเรื่องท่ีเคยมีอะไรกัน จริง ๆ ริตาอยากใหพูดและเวลานั่งคุยก็พยายามโนมนาวกลับไปวาเมื่อกอนอายเปน อยา งไร แตเขาบอกวา “โอยอา ยลืมแลว ” ริตา บอกวา จะลมื ไดอยางไร “หนยู งั ไมล มื เลยนะ” 2 คืนกบั 1 วัน: หายนะแหง ชีวติ ต้ังแตวันท่ีริตาออกจากบานฝร่ังมา ริตาก็คือคนขายเสื้อผาไมใชเมียฝรั่งอยางท่ีเพื่อนๆ พูดอีกตอไป เร่ืองราวท่ีเปลี่ยนชีวิตของริตาไปอยางไมสามารถหวนคืนกลับมาไดอีกเกิดขึ้นเมื่อริตาไดมารูจักเพ่ือนกะเทยที่ขายผาอยูแถว ๆ นั้นเหมือนกัน ดูทั่วไปเขาขายผาเหมือนกับริตา เงินเดือนก็ไมมากกวาริตา แตริตาสงสัยวาทําไมดูเขามีเงินใชจายมากกวาเงินเดือนท่ีเขาไดรับ เวลาผานไป...ริตาก็สนิทกับเพ่ือนคนนี้มากขึ้น เมื่อสนิทกันเพ่ือนกะเทยของรติ าก็บอกกับริตาวา ทกุ วันน้อี าศัยเพยี งเงินเดอื นขายเส้อื ผา คงไมพ อกนิ ตอ งทาํ ”อยา งอื่น”ดวยถึงจะอยูได อะไรคืออยางอ่ืนที่วาน้ัน จากนั้นริตาก็ทําเหมือนเพ่ือน คือ วิ่ง “ของ” รับจาง ซึ่ง“ของ” ที่วานี้กค็ ือ ยาบา หนารอนปน้ันริตากับเพื่อนกะเทยอีกคน ไปแถวคลองเตยเพื่อรับยาไปสงแถวยานธุรกิจบันเทิงกลางใจเมือง ตอนขากลับก็พากันมาขึ้นรถแท็กซี่ รถออกวิ่งไดสักพักมีรถตํารวจจํานวนหน่ึง ตามประกบริตากับเพ่ือน สุดทายริตาก็ถูกจับแตเพื่อนโดนปลอยเพราะไมมีของกลางในมือ ริตา ถูกจับวันศุกร ตดิ กับเสาร – อาทติ ย เลยตองฝากขังไวท ่ี สถานตี าํ รวจ 2 คนื
137กับอีก 1 วัน ทีเ่ คยไดย นิ มากอนวา อยูในคกุ กะเทยเหมือนนางฟา ริตาไมไดฉุกคิดสักนิดวามันนาขยาดกลวั แตอยา งใด คนบอกวา “มงึ เขา ไปกร็ ู” ยังไมเคยรูมากอน และอยางมากเพื่อนที่เปนกะเทย เขาเคยพูดใหฟงไง เขาเลนไพเราคิดวา มันคงจะไมหนักเพราะเขาเลนไพใชไหม เราคิดวาคงไมหนักเขาบอกวา อยูสน.นะสบายเธอ อยาง กะเทยบางคนมาพูดนะ ถึงคุกใหญ มันพูดถึงสน. สบายเราเหมือนนางฟาน่ีแหละเธอ เราก็ไมสวย อยางฉนั คงจะเปน นางฟานะ คยุ กับเขาไปอยา งไรก็ไมเปน ไร 4 - 5 วนั กอ็ อกแลวนะ ริตาคิดวาวันแรกท่ีริตาผานเขามาในคุกเล็กเหตุการณ 2 คืนกับอีก 1 วันคงจะผานมาแลวผานไป แตมันไมเปนอยางน้ัน หลังจากซักประวัติเรียบรอยก็เขามาอยูแดน 3 รอการจําแนกไปอยูตามแดนตางๆ แลวแตคดีของแตละคน การจําแนกแจกแจงน้ันทําโดยการสอบถามเม่ือเขาไปในคุกพอเดินเขาไปจะถูกถามวา “ใครเปนกะเทย” เปนการจําแนกคน โดยพวก “นาย” (สัสดีหรอื ผคู มุ ) จะใหห ัวหนามาถาม นกั โทษชน้ั ดี (สวะตามคําพูดของริตา) เพราะรูกันวาตองสงสวยอะไร แตผิดกับที่รูมาแตตนริตาบอกวามันคือ นรกคนเปน ดีๆ นี่เอง ริตาเลาเหตุการณที่ริตาอยากจะลืม คืนแรกของนรกบนดินหอง 1 แดน 3 วา กะเทยอยูแดนสามแลวจําแนกบําเรอกาม 1-2 คืน ถาคนไหนหนาตาดี ริตาบอกวาก็จะถูกสงเขาไปในแดนกะเทยเปน อาทติ ย เปนแบบวา เปน อะไรที่ในชีวิตจําตลอดชวี ติ และกไ็ มเ คยลมื วินาทีตรงน้ีนะเราไมคดิ วา เราเกิด มาเปน เพศแบบนี้แลว เราโดนตอ งกาวไปอยใู นน้ันนะ…พอเขาไปสงเรากไ็ ปจําแนกหองแดนจําแนก แดน 3 เขาไปทุกคนตองเขาไปอยูแดนนั้นแดนจําแนก นักโทษ ถากะเทยเขาจะกักไวนานหนอย นะ กกั ไวเ พอ่ื บาํ เรอในแดนน้นั ใหมันหมดกอ นพูดแบบหยาบๆ นี่แหละนะ คือวาคืนน้ี คืนแรกนะหนู นอนหอง .. หนูจําได 35 คนคะคือวาคืนน้ันไมไดนอนหรอก คนน้ีก็ลากไป เจ็กลากไปไทยลากมา จะเปนหองกรงไง นายเขาจะสงเราตอเมื่อบายสามระฆังเปก ๆ เขาเช็คยอดหองน้ีเทาไรขึ้นไปแต ถาข้ึนไปสมมุติวาเรา เขาเช็คยอดเราเราไปตกหองสองนะแตคนหอง 1 เขารู แลววาเรามาอยาง พวกเรามา 5 คนนะหอง 1 น่ีมันจะวิ่งมา หัวหนา ไอ..ใหญมันจะมาเลยมาลักตอนเราเขาไปหองเรา เลย มาล็อก นายก็รู มันพวกนาย คือสัสดีมันรูทุกอยางเห็นเปนใจกัน แตมันไมทํา เพราะวามันได เงินจากพวกน้ีนะ พวกตัวขงเบงมันเขาไปอยูในคุกนานๆ แลว หัวมันจะแพรวพราวเลยหัวเปน ธุรกิจ เลยนะ หลังจากที่เจอแบบนรก 35 คน …เราอาจจะครั้งนั้นแหละท่ีลืมไมลงเลยนะบวมมาก เลย คือวาหนูยืนนะพูดตรง ๆ นะ ขาส่ันไปหมดนํ้าของผูชายไหลออกมาไมขาดเลย เพียงแตวา อะไรที่ทนไดและคืนสุดทายนะ ที่เรามันรูวาเราเจ็บขนาดไดไหน มันก็ตีท่ีจะทําใหได ไอคนน้ัน ไมไ ดก ดคออยนู ่ันไอค นหนงึ่ ออก ไอคนหนง่ึ เขาอยูอยางนน้ั แหละ ไอท่ีคนท่ีไมทําเราก็มีสงสารเราก็ มีก็พูดไมไดเพราะวาเขาไปพรอมกัน ไอตัวเล็ก ๆ ก็ไดแตมองเรา รูวาเขาสงสารแตมันทําไมได ถาลุกขึ้นมาก็ทั้งหองสงสารพ่ีใหญสั่งตาย ตีกันตายนักโทษตีกันตายหาวาเปนไขตาย บิดเบือน ความจริงตายคกุ นะเลวท่ีสุด
138 นรกมีจริง ริตาถูกผูชาย 35 คน ในหอง 1 ท่ีไมเคยลืมเลือน รุมขมขืนริตาจนครบทุกคน ครั้งเดียวไมพอยังวนเวียนทําอยางน้ันท้ังคืน คืนนั้นท้ังคืนริตานอนไมหลับกลัวไปหมดเจ็บเจียนตาย ทรมานทั้งรางกายและจิตใจ ริตาคิดวาคงไมมีมนุษยท้ังหญิงชายหรือกะเทยท่ีอยากจะถูกกระทําอยางน้ัน อมนุษยพวกนั้นไมรูคําวาสงสารเพื่อนมนุษยดวยกัน ในคุกคําวาพี่นองเพ่ือนคงจะหายาก เพราะแตละคนที่เขาอยูใน ณ ท่ีนี้ สังคมเขาไมเคยตราหนาวาคนดีนักโทษรายใหมตองตื่นแตตอนเชา เสร็จแลวเขาแถวนับจํานวน จากนั้นคอยทานขาวหลังจากนั้นริตาบอกวาไอพวกคนเกามันจะมาเลือกเอาตัวไปทํางานใหมันเหมือนวัวควาย หรือสัตวเดรัจฉาน “ฉันตองทรมานกับพวกเดนมนุษยในคุกที่สถานีตํารวจ สิ่งท่ีฉันไมเคยคิดและไมเคยทําฉันไดยินแตคนอ่ืนพูดกัน แตไมคิดวาจะโดนกับตัวเองในคร้ังน้ี ใชบางครั้งคนอื่นอาจจะคดิ วา เปนเรือ่ งธรรมดากบั กะเทย เพราะเขาคิดวากะเทยตองเหมือนกันหมด แต2 คืนกับ 1 วนั ...” ตอนเขา ไปท่ฝี ากขัง เขาไปคนเดียวเจอกับกะเทยท่ีอ่ืน กะเทยก็จะมาน่ังคุยกันวนั นีห้ ลอนโดนกี่ไม เขา มาเม่ือวานโดนกไ่ี ม อันท่ีจริงริตาอาจจะไมตองเขาคุกก็ไดถาตอนถูกจับไปโรงพักแลวจายเงิน ที่บานริตาไมรูวาถูกจับแตเพ่ือนไปบอกพี่สาว พ่ีสาวถามวาจะใหทํายังไง ทําไมถึงเปนขนาดน้ี เลยเอาโทรทศั นไ ปจํานําเพ่อื จะเอาริตาออก แตตํารวจบอกวารอใหถ ึงวนั จันทร อาทิตยฝากขัง วันจันทรมาถึงบอก 5,000-10,000-15,000 พี่สาวบอกมีผูหญิงโทรมาเอาเงิน 10,000 ก็ได ใหติดตอ...แตใหมาตดิ ตอ เองจะดําเนินเร่ืองให พสี่ าวบอกขอดกู อ น ริตาบอกวาเราอยาไปเสียเลยเพราะรายไดเรากไ็ มม ี พ่นี องเรากท็ ํางาน สูไวน ะในเม่อื ชะตากรรมฟาลิขิตแลวตั้งแตนั้นก็สงขึ้นศาล ยังไมไดตัดสนิ ไตส วน ฝากขัง ริตามองวาตนถูกจับเพราะชะลาใจและความจมไมลง ริตาเคยเสพยาแลวไปเท่ียวกับเพื่อน แตตรวจปส สาวะแลว ไมม สี ีเพราะมีวิธี ทําใหรอดเหมือนปาฏิหารย ที่พักท่ีริตาอยูเปนหองเชาเล็กๆ แคบๆ หองละพันกวาบาท หองน้ํารวมเทาน้ัน ไมเหมือนกับท่ีเคยอยูกับฝร่ัง ริตาขายยา กเ็ พราะเงนิ เวลาอยูบา นเชา รติ าก็กลัวถูกจบั เหมอื นกัน ตอนอยูในหองจะคอยเช็คโดยมองดูเงาสะทอนที่พื้นปูน ถาเปนรองเทาผิดปกติ หรือไมสงเสียงมากอนก็จะไมเปด มีบทเรียนเพราะเคยโดนจ้ีหมายความวาถกู จบั เอาเงินไปหมด เชาวันจนั ทรต ํารวจสง ผูตองหาทัง้ หมดไปทีศ่ าลอาญาแหง หนง่ึ ริตาบอกวาคดีของริตาคือฝากขังเพ่ือไตสวนและสืบเสาะตอไปอีก 6 เดือน หลังจากน้ันริตาก็ไดมาอยูที่หรือคุกใหญตามท่ีริตาเรยี ก รติ า บอกวาพวกท่ีเปนกะเทยจะมีหัวโจกคุมไปอีกทีหน่ึง เพ่ือที่จะเอาไปใหพวกสวะอีกพวกคอยเลือกเอาไปทํางานใหมัน ริตาบอกวาในคุกมีซองเหมือนขางนอกแตขางนอกมันอาจจะอยูในท่ีมิดชิดหรือที่ไมมีใครเห็น แตขางในคุกอยูขางกําแพง ราวตากผา หองน้ําที่ไมมอี ะไรก้ันเลย รติ าไดย า ยมาอยูแดนพยาบาลที่จะมเี ฉพาะกะเทยกบั คนแก ๆ อยู ความรูสกึ ตอนนนั้รติ า บอกวาดขี น้ึ มาหนอ ยหนึง่ ทจี่ ะไดไมตอ งนอนผวากลัว รติ า เลาตอ ไปวา เพือ่ นกะเทยคนหน่ึง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187