Mw •
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา อ30203 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขยี น 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1/2564 นางบศุ กร ไตรพฒั น์ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ กลม่ ุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสาคลวี ิทยา อาเภอเสนา จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาพระนครศรีอยธุ ยา
คำนำ แผนการจดั การเรียนรู้ จดั ทำขึน้ เพ่อื ใช้เปน็ แนวทางในการจัดกระบวนการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 1 รหัสวชิ า อ30203 ของนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 รูปแบบในการจดั ทำเปน็ การออกแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบองิ มาตรฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) รูปแบบของแผนการจัดการ เรียนรู้ ประกอบด้วยองคป์ ระกอบ ดงั น้ี คือ สาระสำคัญ ตัวชีว้ ดั จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ และบันทึกหลงั สอน สำหรบั กจิ กรรมการเรยี นรู้จะเน้นให้ผู้เรียนสะท้อนความสามารถตามข้อกำหนดใน มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ดั ตามที่หลักสูตรกำหนด มกี ารออกแบบการประเมินผลอย่างตอ่ เนอื่ ง สอดคล้องกบั ผลการเรยี นรู้ ผจู้ ัดทำหวังเปน็ อย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้ ชดุ น้ี จะเป็นประโยชนต์ อ่ ครผู ู้สอนในระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 และครใู นระดบั ชัน้ อน่ื ๆ ท่ีจะนำไปใชใ้ นการจดั กระบวนการเรียนรู้ หรือใช้ในการศึกษา คน้ คว้า เพ่ือวัตถปุ ระสงคอ์ ยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง นางบุศกร ไตรพัฒน์
เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล รายวชิ า อ 30203 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 1. การประเมินผลประกอบด้วย คะแนนระหวา่ งภาค 80 คะแนน คะแนนปลายภาค 20 คะแนน 2. คะแนนระหวา่ งภาค 80 คะแนน ประกอบด้วย 2.1 การประเมินผลก่อนสอบกลางภาค 40 คะแนน 2.2 การประเมนิ ผลสอบกลางภาค 10 คะแนน 2.3 การประเมนิ ผลหลงั สอบกลางภาค 30 คะแนน 2.4 การประเมินผลด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ขอ้ 3. คะแนนสอบ 30 คะแนน แบง่ เป็น 3.1 การสอบวัดผลกลางภาค คะแนนเตม็ 10 คะแนน ประกอบด้วย - ขอ้ สอบแบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 40 ข้อ คะแนน 40 คะแนน - ข้อสอบแบบอัตนัยเขียนตอบ จำนวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน 3.2 การสอบวัดผลปลายภาคเรยี น คะแนนเตม็ 20 คะแนน ประกอบดว้ ย - ขอ้ สอบแบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 40 ข้อ คะแนน 40 คะแนน - ข้อสอบแบบอัตนัยเขยี นตอบ จำนวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน 4. งานท่มี อบหมาย 1. คลปิ การอ่านบทความภาษาองั กฤษ จำนวน 1 คลิป 5. ระดับคะแนนเทยี บผลการเรียน ได้เกรด 4 นักเรียนไดค้ ะแนน 80-100 คะแนน ไดเ้ กรด 3.5 นักเรียนไดค้ ะแนน 75-79 คะแนน ได้เกรด 3 นกั เรียนไดค้ ะแนน 70-74 คะแนน ได้เกรด 2.5 นักเรียนได้คะแนน 65-69 คะแนน ได้เกรด 2 นกั เรียนไดค้ ะแนน 60-64 คะแนน ได้เกรด 1.5 นกั เรียนได้คะแนน 55-59 คะแนน ไดเ้ กรด 1 นกั เรียนได้คะแนน 50-54 คะแนน ไดเ้ กรด 0 นักเรียนได้คะแนน 0-49 คะแนน
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หลกั การ หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน มีหลักการทสี่ ำคัญดังน้ี 1. เปน็ หลักสตู รการศกึ ษาเพอื่ ความเป็นเอกภาพของชาติ มจี ดุ หมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมาย สำหรบั เดก็ และเยาวชน ใหม้ ีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพน้ื ฐานของความเปน็ ไทยควบค่กู ับ ความเป็นสากล 2. เปน็ หลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชน ท่ีประชาชนทุกคนมโี อกาสได้รบั การศกึ ษาอยา่ งเสมอภาค และมี คุณภาพ 3. เปน็ หลักสตู รการศกึ ษาท่ีสนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีสว่ นร่วมในการจัดการศกึ ษา ให้สอดคล้องกบั สภาพและความตอ้ งการของทอ้ งถ่นิ 4. เป็นหลกั สตู รการศกึ ษาทีม่ ีโครงสร้างยดื หยนุ่ ทง้ั ดา้ นสาระการเรียนรู้ เวลา และการจัดการเรียนรู้ 5. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาท่ีเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ 6. เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาสำหรับการศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก กลมุ่ เป้าหมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นร้แู ละประสบการณ์ จุดหมาย 1. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมท่พี ึงประสงค์ เหน็ คณุ คา่ ของตนเอง มีวนิ ยั และปฏิบตั ติ นตามหลักธรรม ของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถอื ยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. มคี วามร้อู ันเป็นสากลและมคี วามสามารถในการส่ือสาร การคิด การแก้ปญั หา การใช้เทคโนโลยี และมี ทักษะชวี ติ 3. มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจิตที่ดี มีสขุ นสิ ยั และรักการออกกำลังกาย 4. มีความรกั ชาติ มีจิตสำนึกในความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ยดึ มั่นในวิถีชีวติ และการปกครองใน ระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ พระประมขุ 5. มีจติ สำนึกในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสงิ่ แวดลอ้ ม มีจิตสาธารณะ ที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสง่ิ ที่ดงี ามในสังคม และอยรู่ ่วมกันในสังคมอยา่ งมคี วามสขุ
คำอธิบายรายวิชา รหัสวชิ า อ30203 รายวชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น เขยี น 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ จำนวน 0.5 หน่วยกติ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง ฝกึ ทักษะการอ่านเพ่ือหาหัวขอ้ เร่อื ง ใจความสำคัญ และบอกรายละเอียดสนับสนุนจากเรือ่ งประเภทสารคดี และบันเทิงคดี ฝึกทักษะการพูดและเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล แสดงความคิดเห็น พร้อมให้เหตุผลและยกตัวอย่าง ประกอบเกี่ยวกับเรอื่ งตา่ งๆ เชน่ กจิ กรรม ประสบการณ์ รวมถึงการสรปุ เหตุการณ์ทีเ่ กิดขึ้นท้ังในระดับทอ้ งถนิ่ ระดับ ภูมิภาค และระดับประเทศได้อย่างเหมาะสม ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขึ้นใน หอ้ งเรียน และนอกหอ้ งเรียน รวมถงึ ใช้ความรู้ทางภาษาในการศึกษาค้นคว้าข้อมลู ความรู้จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น แหล่งข้อมลู สารสนเทศ และห้องสมุด เพ่ือให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยการต้ังคำถามและการให้ เหตุผล ตลอดจนเสรมิ สรา้ งคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ด้านความซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน เพ่ือให้ ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาในการสอ่ื ความหมายในสถานการณ์ต่างๆ ไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ ถูกต้อง และเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. หาหัวขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั และบอกรายละเอียดสนบั สนุนจากเรือ่ งท่อี ่าน 2. พดู และเขยี นเพือ่ ขอและให้ขอ้ มูล แสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเรอื่ งท่ีอ่านอยา่ งเหมาะสม 3. สรปุ ใจความสำคัญทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะหเ์ รื่อง เหตุการณ์ท่อี ยู่ในความสนใจของสงั คม 4. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในห้องเรยี นและสถานศึกษา 5. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูล ความรู้จากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้
กำหนดการสอน สปั ดาห์ เนื้อหา/สาระที่สอน จำนวน คะแนน ภาระงาน/ วิธกี าร หมาย ท่ี ชวั่ โมง ช้นิ งาน ประเมนิ เหตุ 1-2 Run, Terry, run 2 ใบงาน ตรวจใบงาน 3-4 Human Computer 2 20 ใบงาน ตรวจใบงาน 5-6 Mr. Eat everything 2 ใบงาน ตรวจใบงาน 7-8 A young musician 2 ใบงาน ตรวจใบงาน 2 10 ใบงาน 9-10 Karaoke 10 แบบทดสอบ ตรวจใบงาน สอบกลางภาค 2 10 ใบงาน ตรวจใบงาน 11-12 Music at midnight ตรวจใบงาน ตรวจใบงาน 13-14 Baby elephants 2 ใบงาน ตรวจใบงาน ตรวจใบงาน 15-16 The blue whale 2 20 ใบงาน 17-18 The giant panda 2 ใบงาน 19-20 The Teuila Festival 2 10 ใบงาน สอบปลายภาค 20 แบบทดสอบ รวม 100
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 รายวิชา ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 1 (อ30203) หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 English for life เรอ่ื ง Run, Terry, run กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวัด สาระท่ี 1: ภาษาเพ่อื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ีฟงั และอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมเี หตุผล ต 1.1 (4) ระบหุ วั ข้อเรอื่ ง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบท สนทนา นทิ าน และเรอ่ื งส้ัน มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ต 1.2 (4) พูดและเขยี นเพื่อขอและให้ข้อมูล และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรือ่ งท่ฟี ังหรืออ่านอย่าง เหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งตา่ งๆ โดยการพดู และเขียน ต 1.3 (2) พูด/เขียนสรปุ ใจความสำคัญ/แก่นสาระ (theme) ที่ไดจ้ ากการวเิ คราะห์เรอ่ื ง/เหตุการณ์ ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม สาระที่ 3: ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่ืน มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่อื มโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็นพน้ื ฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ต 3.1 (1) ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่นื จากแหล่งการเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น สาระท่ี 4: ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ต 4.1 (1) ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองทีเ่ กิดขึ้นในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเครือ่ งมอื พื้นฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพและการ แลกเปลี่ยนเรียนร้กู ับสังคมโลก ต 4.2 (1) ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า ความรู้/ข้อมูลตา่ งๆ จากสือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 2. ความคิดรวบยอด ตา่ งๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี การอ่านเร่ืองราวของเทอร่ี ฟอกซ์ (Terry Fox) ผู้ป่วยเปน็ โรคมะเร็ง แล้วสรปุ ใจความสำคัญ วเิ คราะห์เรื่อง โดยใชท้ กั ษะการอา่ นและการคดิ รวมท้ังการเขยี นและพดู นำเสนอนิทานอีสปทไี่ ด้จากการค้นคว้าขอ้ มูล โดยใช้ กระบวนการทางภาษาในการถา่ ยทอดเรอื่ งราว ทำใหผ้ ู้เรยี นได้พัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิด
3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า Language Features and Functions Vocabulary: คำศัพท์เกี่ยวกับเร่อื งราวของ Terry Fox Grammar: Past simple tense Language Skills Speaking: การพูดถาม-ตอบ และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรอื่ งท่อี า่ น Reading: การอา่ นเน้ือเร่ืองเพ่ือจับใจความสำคญั และตอบคำถาม Writing: การเขียนตอบคำถามเก่ียวกบั เรื่องทีอ่ ่าน และเขยี นนำเสนอนิทานอสี ป 4. ทักษะการคิด 3. ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล 1. ทักษะการวเิ คราะห์ 4. ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 2. ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน 1. มีวนิ ยั 6. ช้นิ งาน / ภาระงาน - งานเขียนนำเสนอนิทานอสี ป 7. การวัดและประเมนิ ผล 7.1 การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรยี น หน้า 9-11 7.2 การประเมินผลดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์และทกั ษะการคิด - ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และประเมนิ ทักษะการคดิ 7.3 การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน - ประเมนิ งานเขียนนำเสนอนิทานอสี ป 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 8.1 ขน้ั เตรยี มความพรอ้ มและทบทวนความรู้เดิม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - สามารถคาดเดาเร่อื งท่ีอา่ นได้ 1. ครใู หน้ กั เรียนดูภาพในหนงั สือเรยี น หน้า 8 แลว้ ถามวา่ T: If you have only one leg, can you run? Ss: Not sure. / No.
2. ครูถามคำถามนักเรยี นจากหนงั สือเรียน หน้า 8 หัวข้อ Before you read นกั เรยี นตอบอะไรกไ็ ด้ตาม ความร้เู ดิมของนักเรียน - How far can you run? Could you run from one side of your country to the other side? - How long would it take you to run across your country? - Why would someone decide to run across their country? 3. ครใู ห้นักเรยี นลองเดาวา่ วนั นีค้ รจู ะสอนเก่ยี วกบั เร่อื งอะไร หากนักเรียนตอบไม่ถูก ครชู ว่ ยเหลือโดยการ ตง้ั คำถามหรือให้นักเรียนดูจากชอื่ เร่ือง 8.2 ขน้ั กอ่ นอ่าน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - อา่ นออกเสยี งและบอกความหมายของคำศัพท์ได้ 1. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คำศัพท์ก่อนเรยี น Pre-vocabulary (ใบงานท่ี 1 ท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1) โดยครถู ่ายเอกสารแจกนักเรียน แล้วอธบิ ายคำส่ัง ให้นักเรียนจับคคู่ ำศพั ท์และความหมายที่สัมพันธ์กนั ครูยำ้ ใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัดดว้ ยตนเองโดยไมป่ รกึ ษาเพ่ือน 2. ครนู ำเสนอคำศัพท์จากเรอื่ ง Run, Terry, run ท่ีนักเรียนจะได้อา่ นในหนังสือเรยี น หน้า 8 โดยเขยี น คำศพั ท์บนกระดาน แลว้ อา่ นออกเสยี งให้นักเรยี นฟังและฝกึ ออกเสยี งตาม metal remember made of brave across disease dangerous จากนั้นครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกความหมายของคำศัพท์ โดยการเดาความหมายจากประโยคตวั อย่างที่ ครูนำเสนอ metal (n.) The car is made of metal. It is very heavy and hard. remember (v.) When I see this picture, I always remember my first day at the university. made of (phr v.) Cookie is made of milk, butter, powder and sugar. brave (adj.) The soldiers in the south of Thailand are brave. They fight against the terrorists. across (prep.) The Chao Praya River is very wide. We can’t swim across this river. disease (n.) Suda had to go to hospital because she had cancer. Cancer is a dangerous disease. dangerous (adj.) The traffic here is very dangerous for children. It is difficult for them to cross the road.
3. ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันสรุปความหมายของคำศพั ทเ์ ป็นภาษาไทยอกี ครงั้ แลว้ ใหน้ กั เรยี นอ่านคำศัพท์ พร้อมบอกความหมายพร้อมกนั metal = โลหะ remember = จำได้ made of = ทำมาจาก brave = กลา้ หาญ across = ขา้ ม disease = เช้อื โรค dangerous = อันตราย 4. ครูให้นกั เรียนรวบรวมใบงานคำศัพท์ก่อนเรียน Pre-vocabulary สง่ ให้ครูตรวจความถกู ต้อง 1. c 2. e 3. a 4. f 5. d 6. b 7. g 5. ครทู บทวนหลักไวยากรณ์เร่ือง Past simple tense เพมิ่ เติม ดงั นี้ - Past simple tense ใชแ้ สดงถงึ เหตุการณ์หรือการกระทำท่ีเกิดขึ้นในอดีตและไดส้ ิน้ สุดแล้ว S + v.2 8.3 ข้นั ระหว่างอ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ - จับใจความสำคัญ (main idea) หาหวั ข้อเรือ่ ง (topic) และตอบคำถาม เกี่ยวกับเรอ่ื งทอ่ี ่าน 1. ครใู ห้นักเรียนจบั คู่ อา่ นเนอ้ื เรือ่ ง Run, Terry, run ยอ่ หนา้ ที่ 1 ในหนงั สือเรียน หน้า 8 แล้วครูเขียน ประโยคบนกระดาน เมอื่ นักเรยี นอ่านจบแลว้ ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนทลี ะคใู่ ห้นักเรียนตอบวา่ แตล่ ะประโยค ถกู ตอ้ งตามเน้อื เรอื่ งหรอื ไม่ ถ้าถูกใหต้ อบ True ถ้าผิดให้ตอบ False - Terry Fox was sixteen when he got very sick. (False) - Terry Fox went to hospital in Canada. (True) - Terry Fox got a new leg made of metal and plastic. (True) 2. ครูใหน้ ักเรียนจบั คเู่ ดมิ อ่านเน้อื เรือ่ ง Run, Terry, run ย่อหนา้ ท่ี 2 แล้วครเู ขยี นประโยคบนกระดาน เมอื่ นักเรยี นอ่านจบแล้ว ครูสุ่มเรยี กนักเรยี นทลี ะคูใ่ หน้ กั เรยี นตอบวา่ แต่ละประโยคถูกต้องตามเนือ้ เร่อื ง หรอื ไม่ ถ้าถูกใหต้ อบ True ถ้าผดิ ให้ตอบ False - Terry Fox wanted to help the hospital and other people with cancer. (True) - He decided to run in the park. (False) - Terry said he was going to run from east to west of Canada. (True)
3. ครใู หน้ ักเรียนคูเ่ ดมิ อา่ นเน้อื เร่ือง Run, Terry, run ย่อหน้าท่ี 3 แลว้ ครูเขยี นประโยคบนกระดาน เมื่อ นกั เรยี นอ่านจบแลว้ ครสู มุ่ เรียกนักเรียนทลี ะคใู่ ห้นกั เรยี นตอบว่าประโยคถูกต้องตามเนื้อเร่ืองหรอื ไม่ ถ้าถกู ให้ตอบ True ถ้าผิดใหต้ อบ False - Terry started running on 13 April 1980. (False) - Terry ran 42 kilometres every day. (True) - People all over Canada gave money to him. (True) 4. ครูใหน้ ักเรียนค่เู ดมิ อ่านเนอ้ื เรือ่ ง Run, Terry, run ย่อหนา้ ท่ี 4 แลว้ ครูเขียนประโยคบนกระดาน เม่อื นกั เรยี นอ่านจบแลว้ ครสู ุ่มเรียกนักเรียนทีละคู่ให้นักเรียนตอบว่าประโยคถกู ต้องตามเนื้อเรอ่ื งหรอื ไม่ ถา้ ถกู ใหต้ อบ True ถ้าผิดใหต้ อบ False - Terry had run 5,373 kilometres in four months. (True) - Terry didn’t come back to the hospital. (False) 5. ครูใหน้ กั เรียนจับคูเ่ ดิม อา่ นเนื้อเร่อื ง Run, Terry, run ย่อหนา้ ท่ี 5 แลว้ ครูเขยี นประโยคบนกระดาน เม่ือนกั เรียนอา่ นจบแล้ว ครสู มุ่ เรียกนกั เรียนทีละคู่ใหน้ ักเรียนตอบวา่ ประโยคถูกต้องตามเนอ้ื เรอ่ื งหรือไม่ ถา้ ถูกให้ตอบ True ถ้าผดิ ให้ตอบ False - Terry died when he was twenty-one years old. (False) - People in Canada still remember the brave young man with one leg. (True) 6. ครูเขยี น topic บนกระดาน พรอ้ มอธิบายว่าหวั ขอ้ ทค่ี รูเขยี นเป็น topic ของเนอื้ เรื่องย่อหน้าท่ี 1-5 จาก เรื่อง Run, Terry, run แล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกนั บอกว่าจากเนือ้ เร่ืองทอี่ ่านตรงกับหวั ขอ้ ใด - When Terry Fox died. - Why Terry ran across Canada. - Why the doctors had to cut off Terry’s leg. - When Terry started running. - After Terry ran four months. แลว้ ครูเฉลยคำตอบวา่ topic ของย่อหน้าที่ 1 คือ Why the doctors had to cut off Terry’s leg. topic ของย่อหน้าที่ 2 คือ Why Terry ran across Canada. topic ของยอ่ หนา้ ท่ี 3 คอื When Terry started running. topic ของยอ่ หน้าที่ 4 คือ After Terry ran four months. topic ของย่อหน้าที่ 5 คือ When Terry Fox died. หลักการใช้ Past simple tense 1) ใช้แสดงถึงการกระทำหรือเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในอดตี และสิน้ สุดลงแล้ว โดยจะระบเุ วลา ไวอ้ ย่างชัดเจน (yesterday, last , ago, in 1960. เป็นต้น) เชน่ Jane arrived at 7 o'clock yesterday. 2) ใช้แสดงถึงการกระทำท่ีเป็นนสิ ัยหรอื เกดิ ข้นึ เป็นประจำในอดีต แตไ่ ม่ไดเ้ กิดขน้ึ แล้วใน ปจั จุบัน มักมี adverbs of frequency ท่ีแสดงความบ่อยรวมอยใู่ นประโยค เชน่
always, usually, often, every… เปน็ ตน้ และตอ้ งมคี ำบอกเวลาในอดีตแสดงไว้ด้วย เช่น Sue always went to the shopping mall on Chaengwattana Road last month. 3) ใน Past simple tense สามารถใช้ used to + คำกริยาช่องท่ี 1 (เคย) แสดงถงึ การกระทำท่ี กระทำอยู่ หรือที่เป็นอย่เู ป็นประจำในอดีต เช่น Sam used to travel to America on business. 4) การทำประโยคปฏิเสธและคำถามของ Past simple tense จะใช้ did ช่วย และเม่อื ประโยค ปฏเิ สธและคำถามมี did ในประโยคแลว้ กริยาที่ใชต้ ามมาเป็นกริยาช่องท่ี 1 เชน่ Did Jane arrive at 7 o’clock yesterday? Jane didn’t arrive at 7 o’clock yesterday. 8.4 ข้ันหลงั การอา่ น จุดประสงค์การเรียนรู้ - 1. ตอบคำถามเก่ียวกับเรอ่ื งที่อ่านได้ 2. เขียนและพูดนำเสนอนิทานอีสป 1. นักเรียนทำแบบฝกึ หัดในหนงั สอื เรยี น หน้า 9 โดยครูอธิบายคำสง่ั ดงั นี้ - กจิ กรรม Vocabulary ข้อ A ให้นักเรียนเลือกคำที่กำหนดใหม้ าเติมในประโยคให้ สมบรู ณ์ โดยดูจากความหมายของคำศพั ท์ และบรบิ ทในประโยค หรือใช้หลกั ไวยากรณ์ โดยดวู า่ คำที่จะเติมมหี น้าท่ขี องคำเป็นอะไร แล้วครูทำข้อ 1 เปน็ ตัวอยา่ ง My baby brother drinks from a cup. He’s too young for a glass. จากประโยค ลูกของพี่ชายฉนั ดื่มน้ำจากถ้วย...... เขายงั เด็กเกนิ ไปสำหรบั ถว้ ยแก้ว ตามหลักไวยากรณ์ cup เปน็ คำนาม (n.) เพราะฉะนน้ั คำท่ีสามารถวางไวห้ นา้ คำนาม เพื่อขยาย กค็ ือคำคุณศัพท์ (adj.) ดงั น้ัน คำทเี่ หมาะสมทีจ่ ะนำมาเตมิ คอื plastics - กิจกรรม Vocabulary ขอ้ B ให้นักเรียนเลอื กคำหรือวลีท่ีมีความหมายเหมือนกบั คำที่ พิมพส์ ีฟา้ ในแตล่ ะประโยค โดยครูทำขอ้ 1 เป็นตวั อย่าง Tina was very brave when she broke her arm. She didn’t cry at all. จากหลกั ไวยากรณ์ brave เปน็ คำกรยิ า เพราะอยู่หลัง v. to be และเม่อื ดทู ่ีความหมาย ของประโยค “ทีน่าเป็นคนที่กล้าหาญมาก เมือ่ ตอนทแี่ ขนเธอหัก เธอไม่ร้องไหเ้ ลย” ดงั นัน้ วลที ี่มคี วามหมายเหมือน brave คอื not frightened or upset - กจิ กรรม In other words ข้อ A ใหน้ ักเรียนหาวา่ จดุ ประสงคห์ ลักของเร่ือง Run, Terry, run คอื อะไร - กจิ กรรม In other words ข้อ B ให้นักเรียนจับคู่ topic กับยอ่ หนา้ ที่ 1-5 จากเร่อื ง Run, Terry, run โดยพิจารณาวา่ แต่ละย่อหน้าพูดเกีย่ วกับเร่ืองอะไร 2. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ในหนังสอื เรียน หนา้ 10 โดยครูอธบิ ายการทำแบบฝึกหัด ดงั น้ี - กจิ กรรม General understanding ให้นักเรยี นพจิ ารณาประโยคที่ใหม้ าว่าถูกตอ้ งตาม เนื้อเรือ่ งทอี่ า่ นหรอื ไม่ ถ้าถูกตอ้ งให้ตอบ T (True) ถา้ ไม่ถกู ต้องให้ตอบ F (False) - กิจกรรม In detail ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามส้นั ๆ เกี่ยวกบั เรื่อง Run, Terry, run
- กจิ กรรม In focus ใหน้ กั เรยี นอ่านข้อความที่กำหนดให้ จากนั้นให้นกั เรียนเติมตัวเลข ให้เหมาะสมกับข้อความ โดยศกึ ษาจากเนอื้ เรือ่ ง Run, Terry, run เม่อื นักเรียนทำแบบฝกึ หดั เสรจ็ แล้ว ให้ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ และครูตรวจสอบความถูกต้อง 3. ครใู ห้นกั เรยี นจับคู่กันอา่ นข้อความ ในหัวขอ้ Taking you further ในหนังสือเรียน หน้า 11 โดยครูอธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟงั วา่ นกั เรยี นรู้จกั เรื่องราวของเต่ากบั กระต่ายหรอื ไม่ แลว้ ให้นักเรียน เรยี งลำดับข้อความตามทน่ี กั เรียนรจู้ ัก เมอ่ื นักเรียนทำแบบฝึกหดั เสรจ็ แลว้ ให้ชว่ ยกันเฉลยคำตอบ และครูตรวจสอบความถูกต้อง 4. ภาระงาน ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 3-5 คน แล้วใหน้ กั เรยี นคน้ คว้านทิ านอสี ปทนี่ กั เรียนช่ืนชอบมากลุ่มละ 1 เร่อื ง ใหน้ กั เรยี นนำมาสง่ ครูเพอ่ื ตรวจสอบความถูกต้องของการใช้ภาษา จากน้ันใหน้ ักเรยี นเขยี นเนอื้ เรอ่ื ง พรอ้ มวาดภาพประกอบใสก่ ระดาษแขง็ ขนาด A4 พรอ้ มทง้ั พดู นำเสนอ (เล่านิทาน) หน้าชน้ั และ ในขณะท่นี กั เรียนนำเสนอ เพื่อนคนอน่ื ในกลุ่มอาจแสดงทา่ ทางตาม เน้อื เรื่องท่ีนกั เรียนนำเสนอ 9. สือ่ / แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน Focus on Reading 1 Unit 1 Run, Terry, run 2. ใบงานท่ี 1 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - เวบ็ ไซต์ http://www.fungdham.com/fable/fable.html
บนั ทกึ ผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผลการสอน นักเรยี นสามารถอ่านเร่อื งราวของ เทอรี่ ฟอกซ์ (Terry Fox) ชว่ ยกันแปลความหมายของเนื้อเรอ่ื ง ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น นกั เรยี นสามารถทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือซ่งึ กันและกนั 2. ปญั หา/อุปสรรค นักเรียนบางคนไมเ่ ข้าเรียน นกั เรียนบางคนแปลคำศัพทไ์ มไ่ ด้ 3. ขอ้ เสนอแนะ ตดิ ตามกบั เพอ่ื นและประสานกบั ครูท่ีปรึกษา นักเรยี นจับคูก่ ับเพอ่ื น เพอ่ื นช่วยเพอ่ื น ลงชอื่ ครูผู้สอน (นางบุศกร ไตรพฒั น์) ตาํ แหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการ
ใบงานที่ 1 Pre-vocabulary Match the words to their definitions. 1.metal a. make out of, product of 2.remember b. an illness affecting humans, animals, or plants, often 3.made of caused by infection: heart / liver / kidney, etc. disease 4.brave c. a type of solid mineral substance that is usually 5.across hard and shiny and that heat and electricity can 6.disease travel through 7.dangerous d. from one side to the other side of something e. to have or keep an image in your memory of an event, a person, a place, etc. from the past f. willing to do things which are difficult, dangerous or painful, not afraid g. likely to injure or harm somebody, or to damage or destroy something
การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน แบบประเมินงานเขยี น ประเดน็ ระดบั คะแนน / คำอธิบายระดับคุณภาพ น้ำหนัก คะแนน การประเมิน 1 ความ รวม 4 3 2 8 (ดีมาก) (ด)ี (พอใช)้ (ควรปรับปรงุ ) สำคญั 8 1. เน้ือหา เขียนถูกต้อง เขียนถูกต้อง เขยี นผิดบา้ ง และ เขียนผดิ มาก 2 4 ครอบคลุม ครอบคลุม ไมค่ รอบคลุม และให้ข้อมูล 20 เนอ้ื หาอยา่ ง เนื้อหาเปน็ ส่วน เน้อื หา นอ้ ย สมบรู ณ์ ใหญ่ 2. คำศัพท์ ใชค้ ำศัพท์ ใช้คำศพั ท์ ใชค้ ำศพั ท์ ใช้คำศพั ท์ 2 สำนวน สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ และ โครงสร้างภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา โครงสร้าง ถูกต้อง ถกู ต้องเหมาะสม แบบงา่ ยๆ และมี แบบงา่ ยๆ และมี ภาษา เหมาะสม และ ขอ้ ผดิ บา้ ง ข้อผดิ มาก หลากหลาย 3. องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ องค์ประกอบของ องค์ประกอบ 1 ของงาน ของงานเขียน ของงานเขียน งานเขยี นนา่ สนใจ ของงานเขยี น เขียน แสดงใหเ้ หน็ มีความสมั พันธ์ ขาดความสมั พันธ์ ไม่น่าสนใจ ความรเิ ร่ิม ตอ่ เนอื่ ง ต่อเนอ่ื ง สรา้ งสรรค์ น่าสนใจ มีความสมั พันธ์ ตอ่ เน่ือง นา่ สนใจ รวม 5 เกณฑ์การประเมนิ : นักเรียนต้องได้คะแนนรวมไม่นอ้ ยกวา่ 60% หรือ 12 คะแนน จงึ จะผ่านเกณฑ์ วิธคี ดิ คะแนน: ค่านำ้ หนักความสำคญั × ระดับคะแนนทนี่ กั เรียนได้ = คะแนนรวม
ลำดั แบบบันทึกการประเมินงานเขียน บท่ี ประเดน็ / คะแนน เนอ้ื หา คำศพั ท์ สำนวน องคป์ ระกอบ คะแน ช่อื - สกลุ และโครงสร้างภาษา ของงานเขยี น นรวม 8 8 4 20 ลงช่อื ...................................... ผปู้ ระเมิน (..............................................)
เฉลย แบบฝึกหัดในหนงั สอื เรยี น หนา้ 9-11 Vocabulary A 1. plastic 2. made of 3. remember 4. cuts off 5. metal B 1. not frightened or upset 2. from one side to the other side 3. not well 4. an illness 5. not safe In other words A 3 - To describe how and why Terry Fox ran across Canada. B 1. Paragraph 3 2. Paragraph 1 3. Paragraph 4 General understanding 1. T 2. F 3. T 4. T In detail 1. Because Terry had cancer. 2. Metal and plastic. 3. He had to learn to walk. 4. Because he wanted to help the hospital and other people with cancer. 5. Newfoundland. 6. Because the cancer had come back. In focus a. 8,529 b. 42 c. 18 d. 24 million Taking you further a. 1 b. 3 c. 5 d. 2 e. 4
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ชั้น มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 รายวิชา ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 1 (อ30203) หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 English for life เรื่อง Human computer กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ัด สาระที่ 1: ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอา่ นจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผล ต 1.1 (4) ระบหุ วั ข้อเร่ือง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและอา่ นบท สนทนา นทิ าน และเร่ืองสน้ั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ ต 1.2 (4) พูดและเขยี นเพ่อื ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเรอื่ งทีฟ่ งั หรอื อา่ นอย่าง เหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและการ เขยี น ต 1.3 (2) พูด/เขียนสรปุ ใจความสำคญั /แกน่ สาระ (theme) ท่ีไดจ้ ากการวิเคราะห์เรอื่ ง/เหตุการณ์ ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม สาระที่ 4: ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และ สงั คม ต 4.1 (1) ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทเี่ กิดขึ้นในห้องเรยี น และสถานศกึ ษา 2. ความคิดรวบยอด การอา่ นเรอื่ งราวเกี่ยวกับความสามารถทางด้านการคำนวณทางคณิตศาสตร์ของ Shakuntala Devi แลว้ สรุปใจความสำคญั วิเคราะห์เร่ือง โดยใช้ทักษะการอ่าน และการคดิ รวมทั้งผ้เู รยี นยงั ได้พูดนำเสนอเกย่ี วกบั วชิ าที่ช่นื ชอบ ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการคิดและการพูด 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวิชา Language Features and Functions Vocabulary: คำศัพท์เกีย่ วกบั เร่อื งราวของ Shakuntala Devi Grammar: Past simple tense
Function: Expressing feelings and ideas I think… / In my opinion… / I like Language Skills Speaking: การพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับเรื่องที่อา่ น Reading: การอา่ นเนอ้ื เร่ืองเพื่อจับใจความสำคญั และตอบคำถาม Writing: การเขียนตอบคำถามเก่ยี วกับเร่อื งทอี่ ่าน และพูดนำเสนอความคิดเห็นเกยี่ วกบั วชิ าที่ช่ืนชอบ 4. ทกั ษะการคิด 2. ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ 3. ทักษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 1. ทักษะการวิเคราะห์ 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 6. ชนิ้ งาน / ภาระงาน - การพดู นำเสนอความคดิ เหน็ เก่ียวกบั วิชาทีน่ ักเรยี นชน่ื ชอบทสี่ ุด พร้อมทัง้ บอกเหตุผลท่ีชน่ื ชอบ 7. การวดั และประเมินผล 7.1 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หดั ในหนังสอื เรียน หน้า 13-15 7.2 การประเมินผลด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละทกั ษะการคิด - ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และประเมินทักษะการคดิ 7.3 การประเมนิ ช้ินงาน / ภาระงาน - ประเมนิ การพดู นำเสนอความคิดเหน็ เกย่ี วกับวชิ าที่นกั เรยี นชน่ื ชอบทส่ี ดุ พรอ้ มทั้งบอกเหตุผล ท่ีชื่นชอบ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8.1 ขน้ั เตรียมความพร้อมและทบทวนความรเู้ ดิม จุดประสงค์การเรยี นรู้ - สามารถคาดเดาเร่ืองท่ีอา่ นได้ 1. ครูถามคำถามนกั เรียนเพอ่ื กระต้นุ ความสนใจของนักเรยี น T: Can you calculate a very difficult maths problem: 7,686,369,774,870 × 2,465,099,745,779? Ss: No.
2. ครูถามคำถามนักเรียนจากหนงั สือเรียน หน้า 12 หวั ขอ้ Before you read - What is your favourite subject at school? Which subject do you like the least? - Do you like maths? Why or why not? - How old were you when you learned to count? 3. ครูให้นักเรียนลองเดาวา่ วนั นค้ี รจู ะสอนเกย่ี วกบั เรอ่ื งอะไร ใหน้ กั เรียนพิจารณาจากคำถาม 8.2 ขน้ั กอ่ นอ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ - อา่ นออกเสยี งและบอกความหมายของคำศพั ท์ได้ 1. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึกหดั คำศพั ทก์ ่อนเรยี น Pre-vocabulary (ใบงานท่ี 1 ท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 2) โดยครูถา่ ยเอกสารแจกนกั เรียน แล้วอธบิ ายคำส่งั โดยใหน้ ักเรยี นจับคู่คำศัพท์และความหมายทส่ี ัมพันธ์ กนั ครยู ำ้ ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ดว้ ยตนเองโดยไมป่ รกึ ษาเพื่อน 2. ครนู ำเสนอคำศพั ท์จากเร่ือง Human computer ทน่ี กั เรียนจะได้อา่ นในหนังสือเรยี น หนา้ 12 โดยเขียน คำศัพท์บนกระดาน แลว้ อา่ นออกเสยี งให้นกั เรยี นฟังและฝกึ ออกเสยี งตาม born human problem amaze second travel fast จากน้นั ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกความหมายของคำศัพท์ โดยการเดาความหมายจากประโยคตวั อย่างทค่ี รู นำเสนอ born (v.) I was born in 1992. My birthday is on Tuesday May, 1992. human (n.) We are humans. We have bigger brains than dogs, but dogs can hear much better than us. problem (n.) I have a problem with maths. I always fail when I have a maths test. amaze (v.) I amazed her beauty that I nearly. It amazed her that he could be so calm at such a time. second (n.) There are 60 seconds in one minute. travel (v.) Jane’s hobby is travelling. She always travels on her holiday. fast (adj.) She is the winner for the car racing this year. She can drive very fast. 3. ครูสรุปความหมายของคำศพั ทเ์ ปน็ ภาษาไทยใหน้ กั เรยี นฟังอีกครงั้ แลว้ ใหน้ ักเรยี นอา่ นคำศพั ท์ พร้อม บอกความหมายพร้อมกนั born = เกิด human = มนุษย์ problem = ปญั หา amaze = ทำใหป้ ระหลาดใจ second = วนิ าที travel = ทอ่ งเที่ยว fast = รวดเรว็
4. ครใู ห้นกั เรียนรวบรวมใบงานคำศัพท์กอ่ นเรยี น Pre-vocabulary ทน่ี ักเรียนทำเสร็จแล้ว ส่งใหค้ รูตรวจ ความถูกต้อง 1. d 2. a 3. g 4. e 5. f 6. c 7. b 5. ครทู บทวนหลักไวยากรณ์เร่อื ง Past simple tense เพิ่มเติมจาก Unit 1 ดงั น้ี - Past simple tense ใช้แสดงถงึ เหตกุ ารณ์หรอื การกระทำที่เกดิ ข้นึ ในอดีตและได้สน้ิ สุดแล้ว โดยมคี ำบอกเวลา เช่น last year, week, month, etc. / yesterday / ago เป็นตน้ โครงสรา้ งประโยค 1) บอกเล่า S + v.2 Ex. Many students came to school late yesterday. 2) ปฏิเสธ S + auxiliary v. (did) + not + v.1 Ex. Many students did not come to school late yesterday. 3) คำถาม Auxiliary v. + s + v.1? Ex. Did many students come to school late yesterday? Yes, they (many students) did. No, they did not / didn’t. 8.3 ขนั้ ระหว่างอ่าน จุดประสงค์การเรยี นรู้ - จับใจความสำคัญ (main idea) หาหัวข้อเรือ่ ง (topic) และตอบคำถาม เก่ียวกบั เร่ืองทอี่ ่าน 1. ครูให้นักเรยี นจับคู่ อา่ นเนอ้ื เร่อื ง Human computer ยอ่ หนา้ ที่ 1-2 ในหนังสอื เรยี น หน้า 12 แล้วครู เขียนประโยคบนกระดาน เมือ่ นกั เรยี นอา่ นจบแล้ว ครูสุ่มเรยี กนกั เรยี นทลี ะคู่ โดยใหน้ กั เรียน ตอบว่าแต่ละประโยคถูกต้องตามเนื้อเร่ืองหรอื ไม่ ถ้าถูกให้ตอบ True ถ้าผิดให้ตอบ False - Shakuntala used twenty-eight seconds to find the answer for a difficult maths problem. (True) - People call Shakuntala ‘the human computer’. (True) 2. ครูให้นักเรียนจบั คเู่ ดิม อา่ นเน้ือเรอ่ื ง Human computer ยอ่ หน้าท่ี 3-4 แล้วครเู ขียนประโยคบน กระดาน เมอื่ นกั เรยี นอ่านจบแลว้ ครสู ุม่ เรียกนักเรียนทีละคู่ โดยให้นกั เรียนตอบวา่ แต่ละประโยคถูกตอ้ ง ตามเนอ้ื เร่ืองหรือไม่ ถา้ ถูกให้ตอบ True ถา้ ผิดให้ตอบ False - Shakuntala was in Banglore, India. (True) - Shakuntala started learning about numbers when she was five years old. (False) - Shakuntala went to university when she was six. (True)
3. ครใู ห้นกั เรยี นจับคู่เดมิ อ่านเน้ือเรื่อง Human computer ย่อหน้าที่ 5-7 แล้วครูเขียนประโยคบน กระดาน เม่ือนักเรียนอา่ นจบแลว้ ครสู มุ่ เรยี กนักเรียนทลี ะคู่ โดยใหน้ กั เรียนตอบวา่ ประโยคถูกต้องตาม เน้อื เรอ่ื งหรอื ไม่ ถ้าถูกให้ตอบ True ถ้าผิดให้ตอบ False - Shakuntala went to Europe in 1980. (False) - Shakutala went on television in Britain. (True) - Shakuntala loves numbers. (True) 4. ครูใหน้ ักเรียนจบั คู่เดมิ เมือ่ นกั เรยี นอา่ นเน้อื เรอื่ ง Human computer จบแลว้ โดยครเู ขยี นประโยคบน กระดาน ใหน้ กั เรียนจบั คู่ โดยครสู ่มุ เรียกนกั เรียนทีละคใู่ ห้นักเรียนตอบว่าตวั เลขท่ีให้มาเกยี่ วข้องอย่างไร กบั เน้ือเร่ือง 1. 1939 a. (years) that Shakuntala went to university 2. 3 b. (seconds) that Shakuntala did a very difficult maths 3. 1950 problem 4. 6 c. the numbers of year that Shakuntala was born d. the numbers of year that Shakuntala was asked to find the 5. 1980 6. 28 answer e. (years) that Shakuntala began learning about numbers f. the numbers of year that Shakuntala showed people how she could do very difficult maths problems on television in Britain 8.4 ข้นั หลงั การอ่าน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - 1. ตอบคำถามเกี่ยวกับเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ 2. พดู นำเสนอความคิดเหน็ เกยี่ วกบั วชิ าท่ชี ่ืนชอบ พรอ้ มบอกเหตผุ ล ประกอบ 4. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนังสือเรียน หน้า 13 โดยครอู ธบิ ายคำสั่ง ดงั นี้ - กจิ กรรม Vocabulary ขอ้ A ให้นักเรียนเลอื กคำท่ีกำหนดให้มาเติมในประโยคให้สมบูรณ์ โดยดจู ากความหมายของคำศัพท์ และบรบิ ทในประโยค หรอื ใช้หลักไวยากรณ์ ให้นักเรยี นดูวา่ คำทีจ่ ะเตมิ มหี นา้ ทีข่ องคำเปน็ อะไร แลว้ ครูทำขอ้ 1 เปน็ ตวั อยา่ ง Although the robot looks , it isn’t. It’s a machine. จากประโยค แมว้ า่ หนุ่ ยนต์จะดคู ล้าย .......... แต่มันกไ็ ม่ใช่ มนั คือเครือ่ งจกั ร ตามหลกั ไวยากรณ์ look แปลว่า ดูเหมือน จะต้องตามดว้ ยคำนาม (n.) ดงั นน้ั คำที่ เหมาะสมที่จะนำมาเติม คือ human แปลว่า มนุษย์ - กิจกรรม Vocabulary ขอ้ B ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำหรือวลีทม่ี ีความหมายเหมอื นกับคำที่
พมิ พ์สีฟา้ ในแต่ละประโยค โดยครูทำขอ้ 1 เปน็ ตวั อย่าง My parents were amazed when I passed my exams. I didn’t study at all! จากหลกั ไวยากรณ์ amazed เป็นคำกรยิ า เพราะอย่หู ลงั v. to be และเม่อื ดูที่ ความหมายของประโยค “พ่อแมข่ องฉนั ประหลาดใจ เม่ือฉันสอบผ่าน โดยทฉ่ี นั ไมไ่ ดเ้ รียนเลย” ดังนั้น วลีท่ีมีความหมายเหมอื น amazed คือ very surprised - กจิ กรรม In other words ขอ้ A ใหน้ ักเรียนหาวา่ จดุ ประสงค์หลักของเร่ือง Human computer คอื อะไร - กจิ กรรม In other words ขอ้ B ให้นกั เรยี นจบั คู่ topic กับยอ่ หน้าท่ี 1-7 จากเร่อื ง Human computer โดยพิจารณาว่าแต่ละยอ่ หน้าพดู เกยี่ วกบั เรื่องอะไร 5. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 14 โดยครอู ธบิ ายการทำแบบฝึกหัด ดงั นี้ - กิจกรรม General understanding ให้นกั เรียนพจิ ารณาประโยคท่ีใหม้ าวา่ ถกู ต้องตาม เนอ้ื เรอื่ งทอ่ี า่ นหรอื ไม่ ถ้าถกู ตอ้ งให้ตอบ T (True) ถ้าไมถ่ กู ตอ้ งให้ตอบ F (False) - กจิ กรรม In detail ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามส้ันๆ เกยี่ วกบั เรื่อง Human computer - กิจกรรม In focus ใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความทกี่ ำหนดให้ จากน้ันให้นักเรียนเติมคำคณุ ศัพท์ ใหเ้ หมาะสมกบั ข้อความ โดยศึกษาจากเนือ้ เรือ่ ง Human computer เมอื่ นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดเสรจ็ แลว้ ให้ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ และครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 6. ครูให้นักเรยี นจบั คู่กนั อา่ นขอ้ ความเรอ่ื ง Magic Squares ในหัวข้อ Taking you further ในหนงั สอื -เรียน หน้า 15 โดยครูอธิบายใหน้ ักเรียนฟงั วา่ ตารางชอ่ งส่ีเหลยี่ มอันแรก ถา้ นำตวั เลขด้านแนวนอนหรือแนวต้งั มาบวกกนั คำตอบจะออกมาเป็น 15 เช่น 8+1+6 = 15 และ 1+5+9 = 15 จากนนั้ ครูใหน้ กั เรยี นบวกเลข แถวที่เหลือว่าคำตอบ = 15 จริงหรือไม่ ตอ่ มาครใู ห้นักเรียนทำเหมือนกับตารางช่องสีเ่ หล่ียมอันแรก แล้ว ครูสุ่มเรยี กนกั เรียนตอบคำถามจากตารางชอ่ งส่ีเหลย่ี มทเ่ี หลอื อกี 2 ช่อง โดยทีค่ ำตอบของตารางที่สอง = 12 และตารางที่ 3 = 34 4. ภาระงาน ครูให้นกั เรียนเตรยี มตวั สำหรับพูดแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั วชิ าที่นักเรียนชืน่ ชอบท่ีสุด พร้อมทง้ั บอก เหตผุ ล จากน้ันครูให้นักเรียนแตล่ ะคนออกมาพูดนำเสนอความคดิ เห็นของนกั เรยี น หนา้ ชัน้ เรยี น 9. สอ่ื / แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Focus on Reading 1 Unit 2 Human computer 2. ใบงานท่ี 1 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องสมุด
บันทึกผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผลการสอน นกั เรยี นสามารถอา่ นเรื่องราวความสามารถทางคณิตศาสตรข์ อง Shakuntala Devi แลว้ แบง่ กลมุ่ ชว่ ยกนั แปล สรุปใจความสำคัญของเร่ือง นักเรียนสามารถนำเสนอวชิ าท่ตี นเองชน่ื ชอบได้ 2. ปัญหา/อปุ สรรค นกั เรยี นบางคนไม่เข้าเรยี น นกั เรียนบางคนไมก่ ลา้ พดู 3. ข้อเสนอแนะ ตดิ ตามกับเพอ่ื นและประสานกบั ครูที่ปรึกษา ครใู ห้นักเรียนพยายามพดู และกลับไปฝึกฝนเพมิ่ เติมหลงั จากหมดเวลาเรียน ลงชือ่ ครูผู้สอน (นางบศุ กร ไตรพฒั น)์ ตําแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการ
ใบงานท่ี 1 Pre-vocabulary Match the words to their definitions. 1. born a. a person rather than an animal or a machine 2. human b. happening in a short time 3. problem c. to go from one place to another, especially over 4. amaze a long distance 5. second d. to come out of your mother’s body at the beginning 6. travel of your life 7. fast e. to surprise somebody very much f. a unit for measuring time g. a thing that is difficult to deal with or to understand
การประเมินชิ้นงาน / ภาระงาน แบบประเมินการพูด ประเด็น ระดบั คะแนน / คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ นำ้ หนกั คะแนน ความ รวม การประเมนิ 4 3 2 1 สำคัญ 12 (ดีมาก) (ดี) (พอใช)้ (ควรปรบั ปรงุ ) 3 8 4. ความ ส่อื สารไดต้ รง สือ่ สารไดต้ รง สื่อสารได้ตรง สอื่ สารได้ 2 20 ถูกต้องดา้ น ประเดน็ เน้อื หา ประเดน็ เนอ้ื หา ประเด็น เนือ้ หา เน้ือหาน้อย 5 เนอื้ หา ถกู ต้องตาม ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ออกเสยี ง หัวข้อทก่ี ำหนด เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางสว่ น ไม่ถกู ตอ้ ง ออกเสยี ง ออกเสยี ง และการออก เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้อง ใชศ้ ัพท์ ได้ถกู ต้อง เสยี งถูกตอ้ ง โครงสรา้ งภาษา เปน็ สว่ นใหญ่ ถูกตอ้ ง 5. ความสามา พูดได้ พดู ได้ พูดได้ พูดเหมอื น รถในการ คลอ่ งแคล่ว พูด คลอ่ งแคล่ว พูด คล่องแคล่ว แต่ ท่องจำ มกี าร พูด เป็นธรรมชาติ เปน็ ธรรมชาติ ไม่เปน็ ธรรมชาติ ประสานสายตา ประสานสายตา ประสานสายตา ประสานสายตา กับผฟู้ งั บ้าง กับผฟู้ ัง มกี าร กบั ผฟู้ ัง มกี าร กบั ผูฟ้ งั นอ้ ย เปน็ ระยะ แสดงออกทาง แสดงออกทาง สีหน้าและ สหี นา้ และทา่ ทาง ท่าทางอยา่ ง บ้างเล็กนอ้ ย เหมาะสม รวม เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนต้องไดค้ ะแนนรวมไมน่ ้อยกว่า 60% หรือ 12 คะแนน จงึ จะผ่านเกณฑ์ วธิ คี ดิ คะแนน: ค่าน้ำหนกั ความสำคัญ × ระดับคะแนนท่ีนกั เรียนได้ = คะแนนรวม
แบบบนั ทกึ การประเมนิ การพูด ลำดบั ประเด็น / คะแนน ความถกู ตอ้ ง ความสามารถ คะแนนรวม ท่ี ด้านเนือ้ หา ในการพดู ชอื่ - สกุล 12 8 20 ลงชอ่ื ...................................... ผู้ประเมิน (..............................................)
เฉลย แบบฝกึ หัดในหนงั สอื เรียน หนา้ 13-15 Vocabulary A 1. human 2. maths problem 3. hear about 4. call 5. born B 1. very surprised 4. quickly 2. measures of time 5. went from one place to another place 3. in many different places In other words A 3 - To explain how Shakuntala Devi became interested in maths. B 1. Paragraph 5 2. Paragraph 4 3. Paragraph 3 General understanding 1. T 2. F 3. F 4. T In detail 1. 28 seconds. 2. When she was 3 years old. 3. She went to university. 4. She showed people how she could do very difficult maths. 5. All over the world. In focus 1. difficult 2. easy 3. clever 4. amazed 5. young Wordsearch 2. two 3. three 4. four 5. five 6. six 7. seven 8. eight 9. nine 10. ten 11. eleven 12. twelve
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ชั้น มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 รายวชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน 1 (อ30203) หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 English for life เรอ่ื ง Mr. Eat Everything กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชี้วัด สาระท่ี 1: ภาษาเพ่อื การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ งั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ต 1.1 (4) ระบหุ วั ขอ้ เร่อื ง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและอา่ นบท สนทนา นทิ าน และเรอ่ื งส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ และความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ต 1.2 (4) พูดและเขยี นเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เรือ่ งท่ีฟังหรืออ่านอยา่ ง เหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพูด และการเขียน ต 1.3 (2) พดู /เขยี นสรปุ ใจความสำคญั /แกน่ สาระ (theme) ที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์เรอ่ื ง/เหตกุ ารณ์ ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม สาระท่ี 4: ภาษากับความสมั พันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทัง้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ต 4.1 (1) ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองที่เกิดขนึ้ ในห้องเรียน และสถานศกึ ษา 2. ความคิดรวบยอด การอ่านเรื่องราวของ Michel Lolito ผู้ชายทีก่ นิ ทกุ อยา่ งแม้กระทงั่ โทรทศั น์ แกว้ และโลหะตา่ งๆ แลว้ สรุป ใจความสำคญั วิเคราะห์เรอ่ื ง โดยใช้ทักษะการอ่านและการคดิ นอกจากน้ีผู้เรยี นยังได้เขยี นนำเสนออาหารทนี่ กั เรยี น ช่ืนชอบ ทำให้ผูเ้ รียนได้ฝกึ แสดงความคิดเหน็ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวิชา Language Features and Functions Vocabulary: คำศัพท์เกย่ี วกับการรับประทานอาหาร Grammar: Past simple tense Function: Expressing feelings and ideas I think… / In my opinion… / I like…
Language Skills การพูดถาม-ตอบ และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเรอ่ื งท่อี ่าน Speaking: การอา่ นเนือ้ เรอ่ื งเพือ่ จับใจความสำคัญและตอบคำถาม Reading: การเขยี นตอบคำถามเกี่ยวกบั เรื่องท่อี า่ น และเขียนนำเสนอความคิดเห็น Writing: 4. ทกั ษะการคิด 1. ทักษะการวเิ คราะห์ 2. ทักษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 3. ทักษะการนำความรไู้ ปใช้ 5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 6. ช้ินงาน / ภาระงาน - งานเขยี นนำเสนออาหารทน่ี ักเรียนชืน่ ชอบ พร้อมทงั้ บอกเหตผุ ลที่ชอบ 7. การวดั และประเมินผล 7.1 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝึกหัดในหนงั สือเรยี น หนา้ 17-19 7.2 การประเมินผลด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะการคิด - ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และประเมนิ ทกั ษะการคดิ 7.3 การประเมินชนิ้ งาน / ภาระงาน - ประเมินงานเขยี นนำเสนออาหารทน่ี กั เรียนชื่นชอบ พร้อมท้งั บอกเหตุผลทช่ี อบ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 8.1 ข้นั เตรยี มความพรอ้ มและทบทวนความรู้เดมิ จุดประสงค์การเรยี นรู้ - สามารถคาดเดาเรื่องที่อ่านได้ 1. ถามคำถามเพอื่ กระตนุ้ ความสนใจของนักเรียน T: What is your favorite food? Ss: Students’ own answers 2. ครถู ามคำถามนักเรียนจากหนังสอื เรยี น หน้า 16 หวั ข้อ Before you read - What is your favorite food?
- What’s the strangest thing you have eaten? What did it taste like? - Have you heard of any people who eat strange things? What do they eat? 3. ครูใหน้ กั เรียนลองเดาวา่ วนั นค้ี รจู ะสอนเก่ยี วกบั เรอ่ื งอะไร หากนักเรียนตอบไม่ถูก ครูให้นักเรยี นดูชื่อ เรือ่ งและภาพประกอบ 8.2 ข้นั กอ่ นอา่ น จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - อ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคำศพั ท์ได้ 1. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดคำศัพทก์ ่อนเรยี น Pre-vocabulary (ใบงานที่ 1 ท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3) โดยครูถา่ ยเอกสารแจกนักเรียน แลว้ อธบิ ายคำสั่ง โดยให้นกั เรียนจับคคู่ ำศัพท์และความหมายทีส่ ัมพันธ์ กัน ครูย้ำให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดดว้ ยตนเองโดยไมป่ รกึ ษาเพ่ือน 2. ครูนำเสนอคำศพั ท์จากเรื่อง Mr Eat Everything ทนี่ กั เรียนจะได้อา่ นในหนงั สือเรียน หน้า 16 โดยเขยี น คำศพั ท์บนกระดาน แลว้ อ่านออกเสยี งให้นักเรียนฟังและฝกึ ออกเสียงตาม bicycle strong without unusual glass almost stomach จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกันบอกความหมายของคำศัพท์ โดยการเดาความหมายจากประโยคตัวอย่างที่ ครูนำเสนอ bicycle (n.) I ride bicycle to school every day. strong (adj.) She was a strong swimmer. She often wins the competition. without (prep.) They have lost in the forest for two days without food but they can survive. unusual (adj.) I always get up at 5 o’clock. It is unusual for me to get up late. glass (n.) Be careful! This bottle is made of glass. If it breaks, it cuts your finger. almost (adv.) I like almost all of my classmates. They are quite nice. stomach (n.) You shouldn’t exercise on a full stomach after big dinner. 3. ครูสรปุ ความหมายของคำศพั ท์เปน็ ภาษาไทยใหน้ กั เรยี นฟังอีกครง้ั แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นคำศัพท์ พร้อม บอกความหมายพรอ้ มกัน bicycle = จักรยาน strong = แข็งแรง without = ปราศจาก unusual = ไม่ปกติ, แปลก glass = แก้ว almost = เกือบจะ stomach = ทอ้ ง (อวัยวะ)
4. ครูใหน้ ักเรยี นดูแบบฝึกหัดคำศพั ทก์ อ่ นเรียน Pre-vocabulary ท่นี ักเรยี นทำเสร็จแล้ว และช่วยกนั เฉลย คำตอบ 1. c 2. e 3. d 4. f 5. b 6. a 7. g 5. ครทู บทวนหลักไวยากรณ์เรอื่ ง Past simple tense เพ่ิมเติมจาก Units 1-2 ดังนี้ - Past simple tense ใชแ้ สดงถงึ เหตุการณห์ รอื การกระทำที่เกดิ ขึ้นในอดตี และไดส้ ้ินสุดแล้ว หลกั การเปลี่ยนคำกรยิ าให้เป็น Past tense การเปลยี่ นรูปคำกริยาเป็น Past tense มี 2 วิธี คือ 1) การเตมิ ed ทท่ี ้ายคำกรยิ าชอ่ งท่ี 1 (Regular Verb) 2) คำกริยาที่เปลี่ยนรูปใหม่ (Irregular Verb) หลักการเติม ed ที่ท้ายคำกริยามีดังนี้ - คำกริยาโดยทวั่ ไปเมื่อเปลี่ยนเป็นคำกรยิ าชอ่ งที่ 2 ให้เตมิ ed ได้เลย เช่น clean – cleaned help – helped - คำกริยาที่ลงทา้ ยดว้ ย e อยู่แล้ว ให้เติม d ได้ทนั ที เช่น like – liked bake – baked - คำกริยาทเ่ี ปน็ พยางค์เดยี ว มีสระตวั เดยี ว ตัวสะกดตวั เดียว ให้เพ่ิมตัวสะกดตวั ท้าย อีกหนึง่ ตวั กอ่ น แลว้ จึงเติม ed เช่น stop – stopped fit – fitted - คำกรยิ าท่ีมี 2 พยางค์ ออกเสียงเนน้ หนกั พยางค์หลังให้เพิม่ ตัวสะกดตวั ท้าย อกี หน่ึงตวั ก่อน แลว้ จงึ เติม ed เช่น prefer – preferred control – controlled - คำกรยิ าที่ลงท้ายด้วย y และหนา้ y เป็นพยัญชนะ ให้เปล่ยี น y เป็น i แล้วจงึ เติม ed เชน่ carry – carried study – studied แตถ่ า้ หนา้ y เปน็ สระให้เตมิ ed ไดเ้ ลย เช่น play – played 8.3 ขนั้ ระหว่างอา่ น จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - จับใจความสำคัญ (main idea) หาหัวข้อเรอ่ื ง (topic) และตอบคำถาม เกย่ี วกบั เรือ่ งทอ่ี ่าน 1. ครใู ห้นกั เรียนจบั คู่ อา่ นเน้ือเร่อื ง Mr Eat Everything ย่อหนา้ ที่ 1 ในหนงั สอื เรียน หน้า 16 แล้วครเู ขยี น ประโยคคำถามบนกระดาน เมื่อนักเรียนอา่ นจบแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนทลี ะคู่ ใหต้ อบคำถามใหถ้ กู ตอ้ ง ตามเนือ้ เรอ่ื ง
- What did Michel Lolito use to eat for dinner? (He used to eat TVs for dinner.) - Why was Michel called ‘Mr Eat Everything’? (Because he could eat almost anything such as televisions.) 2. ครูใหน้ กั เรียนจบั คเู่ ดมิ อา่ นเนือ้ เรือ่ ง Mr Eat Everything ย่อหนา้ ท่ี 2 แลว้ ครูเขยี นประโยคคำถามบน กระดาน เม่อื นักเรยี นอ่านจบแล้ว ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี นทลี ะคู่ ให้ตอบคำถามให้ถกู ตอ้ งตามเน้อื เรอ่ื ง - What did Michel eat when he was young? (He ate small pieces of metal and glass.) - What did Michel eat when he was eighteen? (He ate TVs.) - What else did Michel also eat? (He also ate many bicycles, 2 beds, a computer and a small plane.) 3. ครูให้นกั เรียนจบั คู่เดมิ อ่านเน้ือเรื่อง Mr Eat Everything ยอ่ หน้าท่ี 3 แลว้ ครเู ขยี นประโยคคำถามบน กระดาน เม่ือนักเรยี นอา่ นจบแล้ว ครสู ุม่ เรยี กนักเรียนทีละคู่ ใหต้ อบคำถามให้ถกู ตอ้ งตามเนือ้ เรื่อง - Who says that Michel had a very strong stomach? (Dr Bernard Morzol.) - How did Michel do to a thing before eating? (He cut it up into very small pieces.) - Is it dangerous when Michel ate glass and metal? (No.) - How much could he eat metal per day? (He could eat metal 900 grams per day.) 4. ครใู ห้นกั เรียนจบั คเู่ ดิม อ่านเนือ้ เรื่อง Mr Eat Everything ยอ่ หน้าที่ 4 แล้วครเู ขียนประโยคคำถามบน กระดาน เม่อื นักเรียนอา่ นจบแล้ว ครสู ุ่มเรยี กนักเรยี นทีละคู่ ใหต้ อบคำถามให้ถกู ต้องตามเนือ้ เร่ือง - Did Michel show to eat unusual things only in France? (No.) - Did Michel eat food? (Yes.) - What happened when Michel ate bananas? (He would be sick.) 8.4 ขั้นหลงั การอา่ น จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - 1. ตอบคำถามเกยี่ วกับเร่อื งที่อ่านได้ 2. เขยี นและพดู นำเสนอความคิดเห็น 1. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดในหนงั สือเรยี น หน้า 17 โดยครอู ธบิ ายคำสัง่ ดงั นี้ - กจิ กรรม Vocabulary ข้อ A ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำทกี่ ำหนดให้มาเติมในประโยคให้ สมบูรณ์ โดยดูจากความหมายของคำศพั ท์ และบริบทในประโยค หรอื ใช้หลักไวยากรณ์ โดยดวู า่ คำทีจ่ ะเตมิ มหี น้าท่ีของคำเปน็ อะไร แล้วครูทำขอ้ 1 เปน็ ตัวอย่าง If you play football you need to have legs. จากประโยค ถา้ คณุ เลน่ ฟุตบอล คณุ จำเป็นตอ้ งมีขาท่ี .................. ตามหลักไวยากรณ์ legs แปลวา่ ขา เปน็ คำนาม (n.) จะตอ้ งนำหน้าดว้ ยคำที่ขยาย คำนาม ซง่ึ ก็คือคำคณุ ศพั ท์ (adj.) ดงั น้ัน คำทีเ่ หมาะสมทีจ่ ะนำมาเติม คือ strong แปลว่า แขง็ แรง
- กิจกรรม Vocabulary ข้อ B ใหน้ กั เรียนเลอื กคำหรอื วลีที่มคี วามหมายเหมือนกบั คำที่ พิมพ์สีฟ้าในแตล่ ะประโยค โดยครูทำขอ้ 1 เป็นตัวอยา่ ง Sally’s cat is very unusual. It likes to go for a walk in the park with Sally. จากหลักไวยากรณ์ unusual เปน็ คำคุณศพั ท์ เพราะอยหู่ ลัง v. to be และเมื่อดูที่ ความหมายของประโยค “แมวของแซลลี่เป็นแมวที่แปลกมาก มันชอบไปเดินเลน่ ในสวนสาธารณะกับแซลลี่” ดังนัน้ วลที ่ีมีความหมายเหมือน unusual คือ strange or not ordinary - กจิ กรรม In other words ขอ้ A ให้นกั เรียนหาว่าจดุ ประสงค์หลักของเร่อื ง Mr Eat Everything คืออะไร - กิจกรรม In other words ขอ้ B ให้นกั เรยี นจับคู่ topic กบั ย่อหนา้ ท่ี 1-4 จากเรือ่ ง Mr Eat Everything โดยพิจารณาว่าแต่ละยอ่ หน้าพูดเก่ยี วกบั เรื่องอะไร 2. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดในหนังสือเรยี น หนา้ 18 โดยครูอธิบายการทำแบบฝกึ หัด ดังนี้ - กจิ กรรม General understanding ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาประโยคที่ใหม้ าวา่ ถูกต้องตาม เนอ้ื เร่อื งท่ีอ่านหรือไม่ ถา้ ถกู ตอ้ งให้ตอบ T (True) ถา้ ไม่ถูกต้องให้ตอบ F (False) - กจิ กรรม In detail ให้นกั เรยี นตอบคำถามสัน้ ๆ เก่ียวกบั เรื่อง Mr Eat Everything - กิจกรรม In focus ให้นักเรยี นอ่านขอ้ ความท่กี ำหนดให้ จากนั้นให้นักเรยี นจบั คขู่ ้อความ ใหเ้ ป็นประโยคท่ีถูกตอ้ ง โดยศกึ ษาจากเนอื้ เรื่อง Mr Eat Everything เมื่อนักเรยี นทำแบบฝึกหดั เสรจ็ แลว้ ให้ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ และครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3. ครูใหน้ ักเรียนจับคู่กัน อา่ นเรอื่ งในหวั ข้อ Taking you further ในหนังสอื เรียน หนา้ 19 โดยครูให้ นักเรียนอา่ นเนื้อเรอ่ื งจนจบ แลว้ ใหช้ ว่ ยกนั สรปุ วา่ เป็นเรอื่ งเกีย่ วกบั อะไร และนักเรยี นได้รบั ความรู้ อะไรบ้าง จากน้ันให้นักเรยี นทำกิจกรรม Verbs and nouns โดยจับคู่คำกริยากับคำนามให้ถกู ตอ้ ง และ ครูบอกนักเรยี นว่าทกุ คำทจี่ ับคู่กัน Michel Lolito สามารถรบั ประทานได้ เม่อื นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด เสร็จแลว้ ช่วยกันเฉลยคำตอบ และครตู รวจสอบความถูกต้อง 4. ภาระงาน ครใู หน้ ักเรยี นเขียนนำเสนอความคิดเห็นเกย่ี วกับอาหารทน่ี กั เรียนช่นื ชอบ พร้อมท้ังบอกเหตผุ ลที่ชอบ โดยนักเรยี นอาจบอกสว่ นประกอบของอาหารท่นี ักเรียนทราบด้วย เมอื่ เขียนเสร็จแลว้ สง่ ให้ครตู รวจความ ถูกตอ้ ง แล้วครคู ัดเลือกงานเขยี นของนักเรยี น 4-5 คน ให้นกั เรยี นออกมาพดู ถงึ อาหารท่ีตนเองชน่ื ชอบ 9. ส่อื / แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 ส่อื การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น Focus on Reading 1 Unit 3 Mr Eat Everything 2. ใบงานท่ี 1 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องสมุด
บนั ทึกผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการสอน หลงั จากนักเรยี น อ่าน แปล และตอบคำถามจากเนอ้ื เรื่อง นกั เรียนสามารถนำคำศพั ท์ท่ไี ดเ้ รียนรู้ ไป นำเสนอถึงรายการอาหารที่ตนเองชื่นชอบได้ 2. ปัญหา/อุปสรรค นักเรียนบางคนไมร่ ่วมกจิ กรรม เชน่ การแปลเนอ้ื เรอ่ื ง 3. ข้อเสนอแนะ ครูเรยี กชอ่ื นกั เรียนถามถงึ ความหมายของคำศัพท์ ลงชอื่ ครูผู้สอน (นางบุศกร ไตรพัฒน)์ ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการ
ใบงานท่ี 1 Pre-vocabulary Match the words to their definitions. 1. bicycle a. not quite 2. strong b. a hard, usually transparent substance used, 3. without for example, for making windows and bottles 4. unusual c. a road vehicle with two wheels that you ride by pushing the pedals with your feet 5. glass d. not having, experiencing or showing 6. almost something 7. stomach e. having a lot of physical power so that you can lift heavy things f. different from what is usual or normal g. the organ inside the body where food goes when you swallow it; the front part of the body below the chest
การประเมินชิ้นงาน / ภาระงาน แบบประเมินงานเขยี น ประเด็น ระดบั คะแนน / คำอธบิ ายระดับคุณภาพ น้ำหนัก คะแนน รวม การประเมิน 4 3 2 1 ความ 8 (ดมี าก) (ด)ี (พอใช)้ (ควรปรับปรงุ ) สำคญั 8 6. เนือ้ หา เขียนถกู ตอ้ ง เขยี นถกู ต้อง เขียนผิดบา้ ง และ เขียนผดิ มาก 2 4 ครอบคลมุ ครอบคลุม ไมค่ รอบคลุม และให้ข้อมูล 20 เน้อื หาอยา่ ง เน้ือหาเปน็ สว่ น เนือ้ หา นอ้ ย สมบูรณ์ ใหญ่ 7. คำศัพท์ ใช้คำศัพท์ ใช้คำศพั ท์ ใช้คำศพั ท์ ใช้คำศพั ท์ 2 สำนวน สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ สำนวน และ และ โครงสร้างภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา โครงสร้าง ถูกตอ้ ง ถูกต้องเหมาะสม แบบงา่ ยๆ และมี แบบงา่ ยๆ และมี ภาษา เหมาะสม และ ข้อผดิ บา้ ง ข้อผดิ มาก หลากหลาย 8. องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบ 1 ของงาน ของงานเขียน ของงานเขยี น งานเขยี นนา่ สนใจ ของงานเขยี น เขยี น แสดงให้เหน็ มีความสมั พนั ธ์ ขาดความสมั พันธ์ ไม่น่าสนใจ ความรเิ รม่ิ ต่อเนอื่ ง ต่อเนอื่ ง สร้างสรรค์ นา่ สนใจ มีความสมั พนั ธ์ ตอ่ เน่อื ง น่าสนใจ รวม 5 เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนต้องไดค้ ะแนนรวมไม่น้อยกว่า 60% หรือ 12 คะแนน จงึ จะผ่านเกณฑ์ วิธีคดิ คะแนน: คา่ นำ้ หนักความสำคญั × ระดับคะแนนที่นักเรยี นได้ = คะแนนรวม
แบบบันทึกการประเมินงานเขียน ลำดับท่ี เนื้อหา คำศพั ท์ สำนวน องคป์ ระกอบ คะแนน ประเด็น / คะแนน และโครงสร้างภาษา ของงานเขยี น รวม ชอื่ - สกุล 8 8 4 20 ลงช่อื ...................................... ผู้ประเมิน (..............................................)
เฉลย แบบฝึกหดั ในหนังสอื เรยี น หนา้ 17-19 Vocabulary A 1. strong 2. cuts into pieces 3. bicycle 4. problem 5. without B 1. strange or not ordinary 2. what bottles and windows are made of 3. nearly 4. where food goes after you eat it 5. a machine that has wings and can fly In other words A 2 - To describe the unusual things that Michel Lolito could eat. B 1. Paragraph 3 2. Paragraph 2 3. Paragraph 4 General understanding 1. T 2. F 3. F 4. F In detail 1. France. 2. Small pieces of metal and glass. 3. A small plane. 4. He cut it up into very small pieces. 5. Bananas. In focus 1. …he could eat almost anything. 2. …he had a very strong stomach. 3. …he liked showing people what he could do. 4. …he ate unusual things. Verbs and nouns 1. watch TV 2. eat dinner 3. ride bicycle 4. drive car 5. fly plane 6. use computer
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 รายวิชา ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 1 (อ30203) ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 English for entertainment เร่อื ง A young musician กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวัด าระที่ 1: ภาษาเพ่อื การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอื่ งที่ฟังและอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมเี หตผุ ล ต 1.1 (4) ระบหุ ัวขอ้ เรอ่ื ง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบท สนทนา นิทาน และเร่ืองสน้ั มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ ต 1.2 (4) พดู และเขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับเร่อื งท่ีฟังหรอื อา่ นอยา่ ง เหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องตา่ งๆ โดยการพดู และการ เขียน ต 1.3 (2) พดู /เขยี นสรุปใจความสำคัญ/แกน่ สาระ (theme) ที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์เร่ือง/เหตกุ ารณ์ ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ืน่ และเปน็ พน้ื ฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน ต 3.1 (1) คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงทเี่ ก่ียวขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ื่น จากแหล่งการเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพดู /การเขียน สาระท่ี 4: ภาษากับความสัมพันธ์กับชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม ต 4.1 (1) ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน และสถานศกึ ษา มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเคร่ืองมือพื้นฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี และการแลกเปลี่ยนเรียนรกู้ บั สงั คมโลก ต 4.2 (1) ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้าความร้/ู ขอ้ มูลต่างๆ จากสื่อและ แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี
2. ความคิดรวบยอด การอ่านเร่ืองราวของ Jennifer Pike นักไวโอลนิ ทอ่ี ายนุ ้อย แล้วสรุปใจความสำคญั วเิ คราะห์เร่อื ง โดยใช้ ทกั ษะการอ่านและการคิด รวมทงั้ การค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมลู เก่ียวกบั ประวัตขิ องนักดนตรีท่ีประสบ ความสำเรจ็ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษาในการถ่ายทอดเรอื่ งราว ทำให้ผ้เู รียนได้พฒั นาทกั ษะการอา่ นและการ เขยี น 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา Language Features and Functions Vocabulary: คำศัพท์เกี่ยวกับเรือ่ งราวของนกั ดนตรี Grammar: Present simple tense Language Skills Speaking: การพดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั เรอ่ื งท่ีอา่ น Reading: การอา่ นเน้ือเร่ืองเพอื่ จบั ใจความสำคญั และตอบคำถาม Writing: การเขยี นตอบคำถามเกยี่ วกับเรือ่ งทอ่ี า่ น และเขียนนำเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกับ นักดนตรที ป่ี ระสบความสำเร็จ 4. ทกั ษะการคิด 3. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4. ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 2. ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 1. มีวนิ ยั 6. ชิน้ งาน / ภาระงาน - งานเขยี นเกย่ี วกับประวตั ิของนักดนตรที ี่ประสบความสำเร็จ 7. การวดั และประเมินผล 7.1 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝึกหัดในหนังสอื เรยี น หนา้ 37-39 7.2 การประเมนิ ผลด้านคุณลักษณะอันพึงประสงคแ์ ละทกั ษะการคิด - ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และประเมนิ ทกั ษะการคิด 7.3 การประเมนิ ช้ินงาน / ภาระงาน - ประเมนิ งานเขยี นเกี่ยวกบั ประวัตขิ องนกั ดนตรีทปี่ ระสบความสำเร็จตัง้ แต่อายุนอ้ ย
8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 8.1 ข้ันเตรยี มความพร้อมและทบทวนความรูเ้ ดมิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - สามารถคาดเดาเร่ืองท่ีอ่านได้ 1. ครูใหน้ กั เรยี นดูภาพในหนังสือเรยี น หนา้ 36 แลว้ ถามวา่ T: Do you know the famous musicians? Ss: Yes. / No. T: Give me 2-3 names of the famous musicians. Ss: Students’ own answers 2. ครถู ามคำถามนักเรียนจากหนงั สอื เรยี น หน้า 36 หวั ขอ้ Before you read - Can you play any musical instruments? Which ones? - Which musical instrument do you think is the most difficult to play? - How much practice do you need to play an instrument very well? 3. ครูให้นักเรียนลองเดาวา่ วนั นี้จะได้เรียนเกี่ยวกบั เรือ่ งอะไร โดยดจู ากคำถามและชื่อเรือ่ ง 8.2 ขนั้ ก่อนอ่าน จุดประสงค์การเรยี นรู้ - อา่ นออกเสียงและบอกความหมายของคำศพั ท์ได้ 1. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คำศัพทก์ ่อนเรียน Pre-vocabulary (ใบงานท่ี 1 ท้ายหน่วยการเรียนรู้ท่ี 8) โดยครถู ่ายเอกสารแจกนักเรยี น แลว้ อธิบายคำส่งั โดยให้นักเรียนจบั คู่คำศพั ท์และความหมายทส่ี ัมพันธ์ กนั ครูย้ำให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดด้วยตนเองโดยไม่ปรกึ ษาเพ่ือน 2. ครูนำเสนอคำศพั ท์จากเร่ือง A young musician ทีน่ กั เรียนจะไดอ้ ่านในหนังสือเรียน หนา้ 36 โดยเขยี น คำศัพท์บนกระดาน แลว้ อา่ นออกเสียงใหน้ ักเรยี นฟงั และฝึกออกเสียงตาม important competition talented musician exam enjoy lesson จากนั้นครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกความหมายของคำศัพท์ โดยการเดาความหมายจากประโยคตวั อย่างที่ ครนู ำเสนอ important (adj.) Money played an important role in people’s life. competition (n.) Liverpool were knocked out of competition in the third round. talented (adj.) I think Johnny Depp is a very talented actor. He can play any roles in the film. musician (n.) An orchestra is a large group of musicians playing many different kinds of instruments and led by a conductor.
exam (n.) I failed my physics exam, but I passed chemistry. enjoy (v.) I hope you enjoy your trip. lesson (n.) Our first lesson on Tuesdays is French. 3. ครสู รปุ ความหมายของคำศัพท์เป็นภาษาไทยให้นกั เรยี นฟงั อีกครง้ั แล้วใหน้ กั เรียนอา่ นคำศัพท์ พร้อม บอกความหมายพร้อมกนั competition = การแข่งขัน important = สำคัญ talented = มีความสามารถพเิ ศษ musician = นักดนตรี exam = การทดสอบ enjoy = สนุกสนาน lesson = บทเรียน 4. ครูให้นกั เรยี นดูแบบฝกึ หัดคำศพั ท์ก่อนเรียน Pre-vocabulary ทนี่ ักเรียนทำเสร็จแล้ว และช่วยกนั เฉลย คำตอบ 1. g 2. a 3. d 4. f 5. b 6. e 7. c 5. ครูบอกนกั เรียนว่า หลงั จากท่ีได้ทบทวนหลักไวยากรณเ์ รือ่ ง Present simple tense มาแล้ว ครจู ะให้ นักเรียนทำแบบทดสอบ โดยครเู ขยี นประโยคบนกระดาน แล้วให้นักเรียนเติมประโยคใหส้ มบูรณแ์ ละ ถกู ตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ 1) She …………. to swim every Sunday. (go) 2) John often ………… a new shirt. (buy) 3) They ………… bicycle in the park every day. (ride) 4) ……….. he …………. to work late in the morning? 5) ……….. three cats ……….. fish? เม่อื นักเรียนทำแบบฝกึ หัดเสร็จแลว้ ให้ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ และครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง (Answers: 1. goes 2. buys 3. ride 4. Does, go 5. Do, eat) 8.3 ขนั้ ระหว่างอ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ - จับใจความสำคัญ (main idea) หาหัวขอ้ เร่ือง (topic) และตอบคำถาม เก่ียวกบั เรือ่ งท่อี า่ น 1. ครูให้นักเรยี นจบั คู่ อา่ นเนอ้ื เรอื่ ง A young musician ย่อหนา้ ที่ 1 ในหนงั สือเรยี น หน้า 36 แลว้ ครเู ขียน ประโยคคำถามบนกระดาน เมื่อนักเรียนอ่านจบแลว้ ครูสุ่มเรยี กนักเรียนทีละคู่ ใหต้ อบคำถาม - When did Jennifer Pike get a violin? (When she was 5.) - What does Jennifer’s father do? (He is a music teacher.) - Why did Jennifer’s parents think that she was talented in violin? (She played beautifully in the first time.) จากนัน้ ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกันสรปุ วา่ ยอ่ หนา้ นี้พดู ถึงเรอ่ื งอะไร
2. ครใู หน้ ักเรียนจบั ค่เู ดิม อา่ นเนอื้ เรื่อง A young musician ยอ่ หนา้ ท่ี 2 แลว้ ครเู ขียนประโยคคำถามบน กระดาน เม่อื นักเรียนอา่ นจบแล้ว ครสู มุ่ เรียกนักเรียนทีละคู่ ใหต้ อบคำถาม - Did Jennifer win only one music competitions? (No.) - Was Jennifer as young as the other musicians? (No.) จากนัน้ ครสู ุม่ เรียกนกั เรียนทีละคู่ ให้ชว่ ยกันสรปุ ว่าในย่อหนา้ น้ี พดู ถึงเรื่องอะไรเปน็ ภาษาไทย 3. ครูใหน้ กั เรยี นจับคเู่ ดมิ อ่านเน้ือเรื่อง A young musician ยอ่ หนา้ ที่ 3 แลว้ ครูเขยี นประโยคคำถามบน กระดาน เมือ่ นักเรยี นอ่านจบแล้ว ครูสุ่มเรียกนกั เรียนทลี ะคู่ ใหต้ อบคำถาม จากนัน้ ครสู ุม่ เรียกนักเรยี นทีละคู่ ให้ช่วยกนั สรปุ ว่าในย่อหน้านี้ พดู ถึงเรือ่ งอะไรเปน็ ภาษาไทย 4. ครใู หน้ ักเรียนจบั คเู่ ดิม อา่ นเนือ้ เร่ือง A young musician ย่อหน้าท่ี 4 แล้วครเู ขยี นประโยคคำถามบน กระดาน เมอ่ื นกั เรยี นอ่านจบแลว้ ครสู ุม่ เรียกนักเรียนทลี ะคู่ ให้ตอบคำถาม จากนั้นครูสุ่มเรยี กนกั เรียนทลี ะคู่ ใหช้ ่วยกนั สรปุ ว่าในยอ่ หน้านี้ พดู ถึงเรื่องอะไรเปน็ ภาษาไทย 5. ครใู หน้ กั เรียนจบั คู่เดิม อ่านเนอ้ื เรือ่ ง A young musician ยอ่ หน้าท่ี 5 แลว้ ครูเขียนประโยคคำถามบน กระดาน เมอ่ื นักเรยี นอา่ นจบแล้ว ครูสมุ่ เรยี กนักเรยี นทีละคู่ตอบคำถาม จากนัน้ ครสู ุม่ เรยี กนกั เรียนทีละ คู่ ให้ช่วยกันสรุปวา่ ในยอ่ หน้าน้ี พดู ถงึ เร่ืองอะไรเป็นภาษาไทย 8.4 ขน้ั หลงั การอา่ น จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - 1. ตอบคำถามเก่ยี วกับเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ 2. เขยี นเกี่ยวกับนกั ดนตรที ่ไี ดจ้ ากการคน้ คว้าข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ ต่างๆ 7. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สือเรียน หน้า 37 โดยครูอธิบายคำส่ัง ดังนี้ - กจิ กรรม Vocabulary ขอ้ A ให้นักเรยี นเลือกคำที่กำหนดใหม้ าเตมิ ในประโยคให้ สมบูรณ์ โดยดูจากความหมายของคำศัพท์ และบริบทในประโยค หรอื ใชห้ ลักไวยากรณ์ โดยดูวา่ คำทจี่ ะเติมมหี น้าที่ของคำเปน็ อะไร แลว้ ครทู ำขอ้ 1 เป็นตัวอย่าง Steve is a very good singer. He won the school singing . จากประโยค สตีฟเปน็ นกั รอ้ งท่ีเก่งมาก เขาเคยชนะ..............รอ้ งเพลงของโรงเรยี น ตามหลกั ไวยากรณ์ singing = การรอ้ งเพลง เปน็ คำคุณศัพท์ (adj.) ซง่ึ เป็นคำทใ่ี ช้ ขยายคำนามท่ีอย่ตู ามหลัง ดงั นนั้ คำทเ่ี หมาะสมที่จะนำมาเติม คือ competition แปลวา่ การแข่งขัน ซง่ึ เป็นคำนาม และมคี วามหมายสอดคลอ้ งกับประโยค - กิจกรรม Vocabulary ขอ้ B ใหน้ กั เรยี นเลือกคำหรอื วลีทม่ี คี วามหมายเหมือนกับคำที่ พมิ พส์ ีฟ้าในแตล่ ะประโยค โดยครูทำข้อ 1 เปน็ ตัวอยา่ ง Annie is very talented. She can draw very well. จากความหมายของประโยค “แอนนม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ/มที ักษะมาก เธอสามารถ วาดรูปไดด้ มี าก” ดงั นัน้ วลีท่ีมคี วามหมายเหมอื น talented คือ very good at something
- กิจกรรม In other words ขอ้ A ให้นักเรียนหาว่าจดุ ประสงค์หลักของเรอื่ ง A young musician คืออะไร - กิจกรรม In other words ข้อ B ใหน้ กั เรยี นจบั คู่ topic กับย่อหน้าที่ 1-5 จากเร่อื ง A young musician โดยพจิ ารณาว่าแต่ละยอ่ หน้าพูดเกีย่ วกับเร่อื งอะไร 8. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนงั สือเรยี น หน้า 38 โดยครูอธิบายการทำแบบฝกึ หัด ดังนี้ - กิจกรรม General understanding ให้นักเรียนพจิ ารณาประโยคท่ีให้มาว่าถูกตอ้ งตาม เน้อื เรอื่ งที่อ่านหรอื ไม่ ถ้าถกู ตอ้ งให้ตอบ T (True) ถา้ ไม่ถูกตอ้ งให้ตอบ F (False) - กจิ กรรม In detail ใหน้ กั เรียนตอบคำถามสนั้ ๆ เกย่ี วกับเรือ่ ง A young musician - กิจกรรม In focus ให้นกั เรยี นอา่ นขอ้ ความทีก่ ำหนดให้ แลว้ เตมิ ตัวเลขให้สมั พนั ธก์ ับขอ้ ความ โดยศกึ ษาจากเน้ือเร่อื ง A young musician เมื่อนักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เสร็จแลว้ ให้ช่วยกันเฉลยคำตอบ และครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 9. ครูให้นกั เรยี นจบั คู่กนั อา่ นเรอื่ งราวเก่ียวกับนกั ดนตรีที่มีชอ่ื เสยี งในหวั ข้อ Taking you further หนังสือ เรยี น หน้า 39 เมอื่ อ่านเนื้อเร่อื งจบ ให้นกั เรยี นช่วยกันสรุปวา่ เป็นเรือ่ งเก่ียวกับใคร และนกั เรยี นได้รบั ความร้อู ะไรบ้าง เสร็จแลว้ ครูสรปุ ใหน้ ักเรียนฟังวา่ ใจความของบทความที่เขียนคือ ประวตั ิยอ่ ของ Wolfgang Amadeus Mozart นกั ดนตรีทมี่ ีชอ่ื เสียงทสี่ ุด จากนั้นใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมด้านลา่ ง โดยครู อธบิ ายว่า ให้นักเรียนอ่านประโยคทใี่ หม้ า แล้วเติมประโยคใหส้ มบูรณ์ ด้วยคำศัพท์จากเนื้อเร่ืองในหนา้ 38 และ 39 แล้ววงคำศพั ทใ์ นตาราง โดยคำศพั ท์จะซอ่ นอยู่ในกรอบตัวอักษรสีชมพู เมอ่ื นกั เรยี นทำ แบบฝึกหัดเสร็จแลว้ ใหช้ ่วยกันเฉลยคำตอบ และครูตรวจสอบความถกู ต้อง 10. ภาระงาน ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ ค้นควา้ รวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั ประวัติของนักดนตรีทีป่ ระสบความสำเร็จต้งั แต่อายุ น้อยจากแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ จากนนั้ เขยี นสรปุ ข้อมลู แลว้ ส่งใหค้ รตู รวจความถกู ตอ้ ง 9. ส่อื / แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Focus on Reading 1 Unit 8 A young musician 2. ใบงานที่ 1 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. ห้องสมดุ 2. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - เว็บไซต์ http://musiced.about.com/od/thegreatmusicians/a/fmusicians.htm - เวบ็ ไซต์ http://student.st.ac.th/3333230/musician.html
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138