Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore monpiti

monpiti

Published by hua ron, 2021-09-09 10:48:25

Description: monpiti

Search

Read the Text Version

เตหิ ปเู ชตะเวหตั ถะ มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 150 อะภิวนั ทะติ ปูเชติ กาเลนะ สัมมขุ ีภูตงั ตุฏฐา อธิ ะ สะมาคะตา โอสาเรนตัง ปาฏโิ มกขัง ภะคะวนั ตงั สะสาวะกงั อโิ ตชะเน สุปญุ เญนะ อะตตี ารัมมะนตั ตะนา สาสะนงั สัตถุ อมั หากงั วิสุทธักขะมโุ ปสะเถ โสตถี โหนตุ สะทาปิ โน จริ ัง ติฏฐะตุตาทโิ น....ติ บทขดั โอวำทปำฏิโมกข์ สัตตันนัง ภะคะวนั ตานงั สัมพทุ ธานัง มะเหสินงั โอวาทะปาฏิโมกขัสสะ อทุ เทสัตเตนะ ทัสสิตา มะหาปะทานะสุตตนั เต ติสโส คาถาติ โน สุตงั ตีหิ สิกขาหิ สังขติ ตงั ยาสุ พทุ ธานะ สาสะนัง ตาสัมปะกาสะกงั ธัมมะ- ปะริยายงั ภะณามะ เส. โอวาทะปาฏโิ มกขาทิปาโฐ อุททิฏฐัง โข เตนะ ภะคะวะตา ชานะตา ปัสสะตา อะระหะตา สัมมาสัมพทุ เธนะ โอวาทะปาฏิโมกขงั ตีหิ คาถาหิ ขนั ตี ปะระมงั ตะโป ตตี ิกขา นพิ พานงั ปะระนัง วะทันติ พทุ ธา นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยนั โต

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 151 สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง กุสะลสั สูปะสัมปะทา สะจติ ตะปะริโยทะปะนงั เอตัง พุทธานะ สาสะนงั อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต ปาฏิโมกเข จะ สังวะโร มตั ตญั ญตา จะ ภัตตสั มงิ ปันตญั จะ สะยะนาสะนัง อะธิจติ เต จะ อาโยโค เอตงั พทุ ธานะ สาสะนันติ อะเนกะปะริยเยนะ โข ปะนะ เตนะ ภะคะวะตา ชานะตา ปัสสะตา อะระหะตา สัมมาสัมพุทเธนะ สีลงั สัมมะทักขาตงั สะมาธิ สัมมะทักขาโต ปัญญา สัมมะทักขาตา กะถญั จะ สีลงั สัมมะทกั ขาตงั ภะคะวะตา. เหฏฐิเมนะปิ ปะริยาเยนะ สีลงั สัมมะทักขาตงั ภะคะวะตา. อปุ ะริเมนะปิ ปะริยาเยนะ สีลงั สัมมะทักขาตงั ภะคะวะตา. กะถญั จะ เหฏฐิเมนะ ปะริยาเยนะ สีลงั สัมมะทักขาตงั ภะคะวะตา อธิ ะ อะริยะสาวะโก ปาณาตปิ าตา ปะฏวิ ริ ะโต โหติ อะทินนาทานา ปะฏิวิระโต โหติ กาเมสุ มจิ ฉาจารา ปะฏิวริ ะโต โหติ มุสาวาทา ปะฏิวิระโต โหติ สุราเมระยะมัชชัปปะมาทฏั ฐานา ปะฏิวริ ะโต โหตตี ิ. เอวงั โข เหฏฐิเมนะ ปะริยาเยนะ สีลงั สัมมะทักขาตัง ภะคะตา กะถญั จะ อปุ ะริเมนะ ปะริยาเยนะ สีลงั สัมมะทกั ขาตงั ภะคะวะตา. อธิ ะ ภิกขุ สีละวา โหติ ปาฏิโมกขะสังวะระสังวุโต วหิ ะระติ อาจาระโคจะระสัมปันโน อะณมุ ัตเตสุ วัชเชสุ ภะยะทสั สาวี สะมาทายะ สิกขะติ สิกขาปะเทสูติ เอวงั โข อปุ ะริเมนะ ปะริยาเยนะ สีลงั สัมะทกั ขาตงั ภะคะวะตา.

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 152 กะถญั จะ สะมาธิ สัมมะทกั ขาโต ภะคะวะตา. เหฏฐิเมนะปิ ปะริยาเยนะ สมาธิ สัมมะทักขาโต ภะคะวะตา. อปุ ะริเมนะปิ ปะริยาเยนะ สะมาธิ สัมมะทักขาโต ภะคะวะตา. กะถญั จะ เหฏฐิเมนะ ปะริยาเยนะ สะมาธิ สัมมะทกั ขาโต ภะคะวะตา. อธิ ะ อะริยะสาวะโก โวสสัคคารัมมะณงั กะริตวา ละภะติ สะมาธิง ละภะติ จติ ตัสเสกคั คะตนั ต.ิ เอวงั โข เหฏฐิเมนะ ปะริยาเยนะ สะมาธิ สัมมะทกั ขาโต ภะคะวะตา. กะถญั จะ อุปะริเมนะ ปะริยาเยนะ สะมาธิ สัมมะทักขาโต ภะคะวะตา. อธิ ะ ภกิ ขุ ววิ จิ เจวะ กาเมหิ ววิ ิจจะ อะกุสะเลหิ ธัมเมหิ สะวิตักกงั สะวจิ ารัง วิเวกะชัมปี ติสุขัง ปะฐะมงั ฌานงั อุปะสัมปัชชะ วหิ ะระติ วติ ักกะ- วจิ ารานัง วปู ะสะมา อชั ฌัตตงั สัมปะสาทะนงั เจตะโส เอโกทิภาวงั อะวติ ักกงั อะวจิ ารัง สะมาธิชัมปี ติสุขงั ทุติยงั ฌานัง อุปะสัมปัชชะ วหิ ะระติ ปี ติยา จะ วิราคา อุเปกขะโก จะ วิหะระติ สะโต จะ สัมปะชาโน สุขัญจะ กาเยนะ ปะฏสิ ังเวเทติ ยนั ตงั อะริยา อาจิกขันติ อเุ ปกขะโก สะติมา สุขะวิหารีติ ตะตยิ งั ฌานงั อปุ ะสัมปัชชะ วิหะระติ. สุขัสสะ จะ ปะหานา ทุกขัสสะ จะ ปะหานา ปุพเพ วะ โสมะนัสสะโทมะนสั สานัง อตั ถังคะมา อะทกุ ขะมะสุขัง อุเปกขาสะตปิ าริสุทธิง จะตุตถงั ฌานัง อปุ ะสัมปัชชะ วหิ ะระตีติ. เอวงั โข อปุ ะริะเมนะ ปะริยาเยนะ สะมาธิ สัมมะทกั ขาโต ภะคะวะตา. กะถญั จะ ปัญญา สัมมะทกั ขาตา ภะคะวะตา. เหฏฐิเมนะปิ ปะริยาเยนะ ปัญญา สัมมะทักขาตา ภะคะวะตา. อปุ ะริเมนะปิ

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 153 ปะริยาเยนะ ปัญญา สัมมะทักขาตา ภะคะวะตา. กะถญั จะ เหฏฐิเมนะ ปะริยาเยนะ ปัญญา สัมมะทักขาตา ภะคะวะตา. อธิ ะ อะริยะสาวะโก ปัญญะวา โหติ อุทะยตั ถะคามินิยา ปัญญายะ สะมนั นาคะโค อะริยายะ นพิ เพธิกายะ สัมมา ทกุ ขักขะยะคามินิยาติ. เอวงั โข เหฏฐิเมนะ ปะริยาเยนะ ปัญญา สัมมะทักขาตา ภะคะวะตา. กะถญั จะ อปุ ะริเมนะ ปะริยาเยนะ ปัญญา สัมมะทกั ขาตา ภะคะวะตา. อธิ ะ ภิกขุ อทิ งั ทุกขันติ ยะถาภูตงั ปะชานาติ. อะยงั ทกุ ขะสะมุทะโยติ ยะถาภูตงั ปะชานาต.ิ อะยัง ทุกขะนโิ รโธติ ยะถาภูตัง ปะชานาต.ิ อะยงั ทกุ ขะนิโรธะคามนิ ี ปะฏปิ ะทาติ ยะถาภูตงั ปะชานาต.ิ เอวงั โข อุปะริเมนะ ปะริยาเยนะ ปัญญา สัมมะทักขาตา ภะคะวะตา. สีละปะริภาวโิ ต สะมาธิ มะหัปผะโล โหติ มะหานสิ ังโส สะมาธิปะริภาวติ า ปัญญา มะหปั ผะลา โหติ มะหานสิ ังสา ปัญญาปะริภาวติ งั จติ ตัง สัมมะเทวะ อาสะเวหิ วมิ ุจจะติ. เสยยะถีทงั . กามาสะวา ภะวาสะวา อะวิชชาสะวา. ภาสิตา โข ปะนะ ภะคะวะตา ปะรินิพพานะสะมะเย อะยัง ปัจฉิมะวาจา หันทะทานิ ภกิ ขะเว อามันตะยามิ โว วะยะธัมมา สังขารา อปั ปะมาเทนะ สัมปาเทถาต.ิ ภาสิตัญจทิ งั ภะคะวะตา เสยยะถาปิ ภิกขะเว ยานิ กานิจิ ชังคะลานัง ปาณานงั ปะทะชาตานิ สัพพานิ ตานิ หตั ถปิ ะเท สะโมธานัง คจั ฉันติ หัตถปิ ะทัง เตสัง อคั คะมกั ขายะติ ยะททิ งั มะหันตัตเตนะ. เอวะเมวะ โข ภิกขะเว เย เกจิ กุสะลา

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 154 ธัมมา สัพเพ เต อปั ปะมาทะมูละกา อปั ปะมาทะสะโมสะระณา อปั ปะมาโท เตสัง อคั คะมัคขายะตตี .ิ ตัสมาตหิ มั เหหิ สิกขิตพั พงั ติพพาเปกขา ภะวิสสามะ อะธิสีละสิกขาสะมาทาเน อะธิจติ ตะสิก- ขาสะมาทาเน อะธิปัญญาสิกขาสะมาทาน อปั ปะมาเทนะ สัมปาเทส- สามาต.ิ เอวัญหิ โน สิกขิตพั พงั คาถาสวดวสิ าขะบูชา วสิ าขะปณุ ณะมายงั โย ชาโต อนั ติมะชาตยิ า ปัตโต จะ อะภิสัมโพธิง อะโถปิ ปะรินิพพโุ ต โลเก อะนุตตะโร สัตถา ทะยาญาณณั ณะวาสะโย นายะโก โมกขะมัคคัสมิ ตวิ ธิ ัตถูปะเทสะโก มะหาการุณกิ งั พุทธัง มะยันตงั สะระณัง คะตา อามเิ สหิ จะ ปูเชนตา ธัมเม จะ ปะฏิปัตตยิ า อมิ นั ทานิ สุนักขตั ตงั อะภมิ งั คะละสัมมะตงั วสิ าโขฬุกะยตุ เตนะ ปุณณะจนั เทนะ ลกั ขิตัง สัมปัตตา อะนุกาเลนะ พุทธานุสสะระณาระหงั ชาติ สัมโพธิ นพิ พานะ- กาละภูตงั สะยัมภโุ น ตงั สัมมานุสสะระมานา สุจิรัง นพิ พตุ ามะปิ ปะสันนาการัง กะโรนตา สักกาเร อะภิสัชชิยะ ทณั ฑะทีเป ทปี ะฆะเร มาลาวกิ ะติอาทะโย ตสั เสวะ ปชู ะนตั ถายะ ยะถาสะติ ยะถาพะลงั

สะมาหะริตวา เอกตั ตะ มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 155 นะรานะราหงั สัพเพสัง ธัมมัสสะวะนัง กะริสสามะ ฐะปะยิมหา ยะถาระหงั พุทธัสสุโพธิตาทีนงั สัทธัมเม สัมปะสีทะตงั สัมพทุ ธะคุณะทีปนงั ทีปะนตั ถงั นะเหสิโน...ติ คาถาขอฝน (สวดตำมกำลงั วนั ) สุภูโต จะ มะหาเถโร มะหากาโย มะโหทะโร นลี ะวณั โณ มะหาเตโช ปะวัสสันตุ วะลาหะกา อะภิตถะนะยัง ปะชุนนะ นิธิง กากสั สะ นาสะยะ กากงั โสกายะ รันเธหิ มจั เฉ โสกา ปะโมจะยะ ฯ คำถำขอฝน (อีกแบบหน่ึง) สุภูโต จะ มะหาเถโร มะหากาโย มะโหทะโร นลี ะวณั โณ มะหาเตโช ปะวัสสันตุ วะลาหะกา ฉันนา เม กุฏิกา สุขา นวิ าตา วัสสะ เทวะ ยะถาสุขัง จิตตงั เม สุสะมาหติ งั วิมุตตงั อาตาปี วิหะรามิ วัสสะ เทวาติ ฯ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 156 คาถาสวดเมื่อจดุ เทยี นชัย ในพระรำชพธิ ีสัมพจั ฉรฉินทแ์ ละพระรำชพธิ ีอื่น ๆ พทุ โธ สัพพญั ญุตะญาโณ ธัมโม โลกตุ ตะโร วะโร สังโฆ มัคคะผะลฏั โฐ จะ อจิ เจตงั ระตะนตั ตะยงั เอตัสสะ อานุภาเวนะ สัพพะทุกขา อุปัททะวา อนั ตะรายา จะ นสั สันตุ สัพพะโสตถี ภะวนั ตุ เต คาถาสวดเมื่อจุดเทยี นชัย พระรำชพธิ ีพริ ุณศำสตร พุทโธ สัพพญั ญตุ ะญาโณ ธัมโม โลกตุ ตะโร วะโร สังโฆ มคั คะผะลฏั โฐ จะ อจิ เจตัง ระตะนัตตะยงั เอตัสสะ อานุภาเวนะ เทโว วสั สะตุ กาละโต วัสสันตะรายา มาเหสุง สัพพะโสตถี ภะวันตุ โน คาถาสวดเมื่อดับเทยี นชัย ทกุ พระรำชพิธี นัตถิ เม สะระณงั อญั ญงั พทุ โธ เม สะระณงั วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมงั คะลงั นตั ถิ เม สะระณงั อญั ญงั ธัมโม เม สะระณงั วะรัง เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โหตุ เต ชะยะมงั คะลงั นัตถิ เม สะระณงั อญั ญัง สังโฆ เม สะระณงั วะรัง เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลงั

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 157 ยงั กญิ จิ วติ ตงั อธิ ะ วา หุรัง วา สัคเคสุ วา ยัง ระตะนงั ปะณตี งั นะ โน สะมัง อตั ถิ ตะถาคะเตนะ อทิ มั ปิ พุทเธ ระตะนงั ปะณีตงั เอเตนะ สัจเจนะ สุวตั ถิ โหตุ ขะยัง วริ าคงั อะมะตงั ปะณีตงั ยะทัชฌะคา สักยะมนุ ี สะมาหิโต นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมตั ถิ กญิ จิ อทิ ัมปิ ธัมเม ระตะนงั ปะณีตงั เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ยัมพุทธเสฏโฐ ปะริวณั ณะยี สุจิง สะมาธิมานนั ตะริกญั ญะมาหุ สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วชิ ชะติ อทิ ัมปิ ธัมเม ระตะนงั ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ เย ปคุ คะลา อฏั ฐะ สะตงั ปะสัตถา จตั ตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ เต ทกั ขเิ ณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา เอเตสุ ทนิ นานิ มะหัปผะลานิ อทิ ัมปิ สังเฆ ระตะนงั ปะณีตงั

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 158 เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ เย สุปปะยตุ ตา มะนะสา ทฬั เหนะ นกิ กามโิ น โคตะมะสาสะนมั หิ เต ปัตตปิ ัตตา อะมะตัง วคิ ยั หะ ลทั ธา มุธา นพิ พตุ งิ ภญุ ชะมานา อทิ ัมปิ สังเฆ ระตะนงั ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ขีณัง ปุราณัง นะวงั นตั ถิ สัมภะวัง วิรัตตะจติ ตายะตเิ ก ภะวัสมิง เต ขีณะพชี า อะวิรุฬหิฉันทา นพิ พนั ติ ชีรา ยะถายมั ปะทีโป อทิ มั ปิ สังเฆ ระตะนงั ปะณตี ัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวตั ถิ โหตุ สัพพะโรคะวินิมุตโต สัพพะสันตาปะวัชชิโต สัพพะเวระมะตกิ กนั โต ยะถาทีโป จะ นิพพโต คานาถวายดอกไมธูปเทียน วนั วสิ าขบูชา ยะมัมหะ โข มะยงั ภะคะวนั ตงั สะระณงั คะตา, โย โน ภะคะวา สัตถา, ยัสสะ จะ มะยงั ภะคะวะโต ธัมมัง โรเจมะ, อะโหสิ

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 159 โข โส ภะคะวา มัชฌเิ มสุ ชะนะปะเทสุ อะริยะเกสุ มะนุสเสสุ อุปปันโน, ขตั ติโย ชาตยิ า โคตะโม โคตเตนะ, สักยะปตุ โต สักยะกลุ า ปัพพะชิโต สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพรัหมะเก สัสสะมะณะ- พราหมะณยิ า ปะชายะ สะเทวะมะนุสสายะ อะนตุ ตะรัง สัมมาสัมโพธิ อะภิสัมพุทโธ, นสิ สังสะยงั โข โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพทุ โธ วชิ ชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวทิ ู อะนุตตะโร ปุริสะทมั มะ- สาระถิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา, สวากขาโต โข ปะนะ เตนะ ภะคะวะตา ธัมโม, สันทฏิ ฐิโก อะกาลโิ ก เอหปิ ัสสิโก โอปะนะ- ยโิ ก, ปัจจตั ตงั เวทิตัพโพ วญิ ญูหิ, สุปะฏิปันโน โข ปะนสั สะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อชุ ุปะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามจี ปิ ะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ยะททิ ัง จตั ตาริ ปุริสะยคุ านิ อฏั ฐะ ปุริสะ- ปคุ คะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทกั ขิเณยโย อญั ชะลกี ะระณโี ย อะนุตตะรัง ปญุ ญกั เขตตัง โลกสั สะ, อะยงั โข ปะนะ ถูโป ปะฏิมา ตงั ภะคะวนั ตงั อุททิสสะ กะโต อุททสิ สะ กะโต ยาวะเทวะ ทัสสะเนนะ ตงั ภะคะวนั ตงั อะนุสสะริตวา ปะสาทะ สังเวคะปะฏลิ าภายะ, มะยงั โข เอตะระหิ อิมัง

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 160 วิสาขะปณุ ณะมีกาลงั ตสั สะ ภะคะวะโต ชาติสัมโพธินิพพานะกาละ สัมมะตงั (ถำ้ วนั อฏั ฐมี เปลี่ยนขอ้ ควำมที่ขีดเสน้ ใตเ้ ป็น เอตะระหิ อมิ งั วสิ าขะปณุ ณะมิโตปะรัง อฏั ฐะมกี าลงั ตสั สะ ภะคะวะโต สะรีรัชฌา- ปะนะกาละ สัมมะตงั ) ปัตวา อมิ ัง ฐานงั สัมปัตตา, อเิ ม ทัณฑะที- ปะธูปาทิ สักกาเร คะเหตวา อตั ตะโน กายงั สักการุปะธานัง กะริตวา ตสั สะ ภะคะวะโต ยะถาภจุ เจ คุเณ อะนสุ สะรันตา, อมิ งั ถูปัง ปะฏมิ งั ติกขตั ตงุ ปะทกั ขณิ ัง กะริสสามะ อมิ ัง ยะถา คะหเิ ตหิ สักกาเรหิ ปชู ัง กุรุมานา, สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพโุ ตปิ ญาตัพเพหิ คุเณหิ อะตตี ารัมมะณะตายะ ปัญญายะ มาโน, อเิ ม อมั เหหิ คะหเิ ต สักกเร ปะฏคิ คัณหาตุ อมั หากงั ทีฆะรัตตงั หติ ายะ สุขายะ. (คำแปล) เรำท้งั หลำยถึงซ่ึงพระผมู้ ีพระภำคพระองคใ์ ดวำ่ เป็นท่ีพ่งึ , พระผมู้ ี พระภำคพระองคใ์ ดเป็นศำสดำของเรำท้งั หลำย แลเรำท้งั หลำยชอบซ่ึงธรรม ของพระผมู้ ีพระภำคพระองคใ์ ด, พระผมู้ ีพระภำคพระองคน์ ้นั แล ไดอ้ ุบตั ิ แลว้ ในหมู่มนุษย์ ชำวอริยกะในมชั ฌิมชนบท, พระองคเ์ ป็นกษตั ริยโ์ ดย พระชำติ เป็นโคดมโดยพระโคตร, เป็นศำกยบตุ รเสดจ็ ออกบรรพชำแลว้ แต่

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 161 ศำกยสกุล เป็นผตู้ รัสรู้พร้อมเฉพำะแลว้ ซ่ึงพระอนุตตรสัมมำสัมโพธิญำณ ในโลกท้งั เทวโลก มำรโลก พรหมโลก ในหมู่สตั วท์ ้งั สมณพรำหมณ์เทวดำแล มนุษย์ พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั เป็นพระอรหนั ต์ เป็ นผตู้ รัสรู้ชอบเอง เป็นผู้ ถึงพร้อมดว้ ยวชิ ชำและจรณะ เป็นผเู้ สด็จไปดีแลว้ เป็นผรู้ ู้แจง้ โลก เป็นสำรถี แห่งบรุ ุษควรฝึกได้ ไม่มีผอู้ ื่นยง่ิ ไปกวำ่ เป็นศำสดำของเทวดำและมนุษยท์ ้งั หลำย เป็นผตู้ ื่นแลว้ เป็นผเู้ บิกบำนแลว้ เป็นผมู้ ีโชค โดยไมต่ อ้ งสงสัยแล อน่ึง พระธรรมอนั พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั ตรัสดีแลว้ อนั ผบู้ รรลจุ ะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบดว้ ยกำล ควรเรียกใหม้ ำดู ควรนอ้ มเขำ้ มำ อนั วญิ ญูชนพึงรู้เฉพำะ ตน และพระสงฆส์ ำวกของพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั เป็นผปู้ ฏิบตั ิดีแลว้ แล เป็น ผปู้ ฏิบตั ิตรงแลว้ เป็นผปู้ ฏิบตั ิเป็นธรรม, เป็นผปู้ ฏิบตั ิสมควร, น้ีคือคูแ่ ห่ง บุรุษสี่ บุรุษบุคคลแปด, นี่พระสงฆส์ ำวกของพระผมู้ ีพระภำค, เป็นผคู้ วร ของคำนบั เป็นผคู้ วรของตอ้ นรับ เป็นผคู้ วรของทำบญุ เป็นผคู้ วรทำอญั ชลี (ประนมมือไหว)้ เป็นนำบุญของโลก ไม่มีนำบุญอื่นยงิ่ กวำ่ พระสถปู พระปฏิมำ น้ีแล นกั ปรำชญ์ ไดอ้ ุทิศเฉพำะตอ่ พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั สร้ำงไวแ้ ลว้ เพียงเพ่อื ระลึกถึงพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั ดว้ ยทรรศนะแลว้ ไดค้ วำมเลื่อมใสแลสังเวช บดั น้ีเรำท้งั หลำยมำถึง กาลวิสาขปุรณมี เป็นที่รู้กันว่า กาลเป็นท่ีประสูติ ตรัสรู้ แลเสดจ็ ปรินิพพานแห่งพระผ้มู ีพระภาคเจ้านน้ั (ถำ้ วนั อฏั ฐมี เปลี่ยน ขอ้ ควำมท่ีขีดเส้นใต้ เป็น กำลที่ครบ ๘ เบ้ืองหนำ้ แต่วนั วสิ ำขปุรณมี เป็นที่รู้

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 162 กนั วำ่ กำลเป็นที่ถวำยพระเพลิงพระสรีระ แห่งพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั ) จึง มำประชุมกนั แลว้ ณ ที่น้ี ถือสักกำระมีประทีปดำ้ มแลธูปเป็นตน้ เหล่ำน้ี ทำ กำยของตนใหเ้ ป็นดงั ภำชนะรับเคร่ืองสักกำระ ระลึกถึงพระคุณตำมเป็นจริง ท้งั หลำยของพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั บชู ำดว้ ยสักกำระอนั ถือไวแ้ ลว้ อยำ่ งไร จกั ทำประทกั ษิณส้ินวำระสำมรอบ ซ่ึง พระสถปู พระปฏิมำกร น้ี ขำ้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จริญ ขอเชิญพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ แมเ้ สดจ็ ปรินิพพำนนำนมำแลว้ ยงั ปรำกฏอยดู่ ว้ ย พระคุณสมบตั ิอนั ขำ้ พระพุทธเจำ้ ท้งั หลำย จะพงึ รู้โดยควำมเป็นอตีตำรมณ์ จงทรงรับซ่ึงเคร่ืองสักกำระอนั ขำ้ พระพุทธเจำ้ ท้งั หลำยถือไวแ้ ลว้ น้ี เพอื่ ประ- โยชน์ เพอื่ ควำมสุขแก่ขำ้ พระพทุ ธเจำ้ ท้งั หลำยส้ินกำลนำน เทอญ. คานาถวายดอกไมธูปเทยี น วนั มาฆบูชา อชั ชายัง มาฆะปุณณะมี สัมปัตตา มาฆะนักขัตเตนะ ปณุ ณะ จันโท ยตุ โต ยัตถะ ตะถาคะโต อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ จาตรุ ังคเิ ก สาวะกะสันนิปาเต โอวาทะปาตโิ มกขงั อุททิสิ ตะทา หิ อฑั ฒะเตระสานิ สัพเพสังเยวะ ขณี าสะวานัง สัพเพ เต เอหภิ ิกขุกา สัพเพปิ เต อะนา- มันติตาวะ ภะคะวะโต สันตกิ งั อาคะเต เวฬุวะเน กะลนั ทะกะนิวาเป มาฆะปุณณะมิยงั วฑั ฒะมานะภัจฉายายะ ตสั มิญจะสันนิปาเต ภะคะวา

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 163 วิสุทธุโปสะถัง อะกาสิ อะยัง อมั หากงั ภะคะวะโต เอโกเยวะ สาวะกะ- สันนิปาโต อะโหสิ จาตุรังคโิ ก อฑั ฒะเตระสานิ ภกิ ขสุ ะตานิ สัพเพ- สังเยวะ ขณี าสะวานงั มะยนั ทานิ อมิ งั มาฆะปณุ ณะมี นักขัตตะสะมะยัง ตักกาละสะทสิ ัง สัมปัตตา จริ ะปะรินพิ พุตมั ปิ ตงั ภะคะวันตงั อะนุส- สะระมานา อมิ ัสมิง ตัสสะ ภะคะวะโต สักขภิ ูเต เจติเย อเิ มหิ ทปี ะธูปะปปุ ผาทสิ ักกาเรหิ ตงั ภะคะวันตงั ตานิ จะ อฑั ฒะเตระสานิ ภกิ ขสุ ะตานิ อะภปิ ูชะยามะ สาธุ โน ภนั เต ภะคะวา สะสาวะกะสังโฆ สุจริ ะปะรินพิ พุโต คเุ ณหิ ธะระมาโน อเิ ท สักกาเร ทุคคะตะปัณณา- การะภูเต ปะฏคิ คัณหาตุ อมั หากงั ทีฆะรัตตงั หติ ายะ สุขายะ (คำแปล) วนั น้ีมำประจวบวนั มำฆปุรณมี เพญ็ เดือน ๓ พระจนั ทร์เพญ็ ประกอบ ดว้ ยฤทธ์ิมำฆะ ตรงกบั วนั ที่พระตถำคตอรหนั ตสัมมำสัมพุทธเจำ้ ไดท้ รงแสดง โอวำทปำติโมกขข์ ้ึน ในที่ประชุมสำวกสงฆพ์ ร้อมดว้ ยองค์ ๔ ประกำร คร้ังน้นั พระภิกษุ ๑๒๕๐ องค์ ลว้ นแต่พระขีณำสพ อุปสมบทดว้ ยเอหิภิกขอุ ุปสมั ปทำ ไม่มีผใู้ ดเรียก มำประชุมยงั สำนกั พระผมู้ ีพระภำค ณ เวฬวุ นำรำม เวลำตะวนั บ่ำยในวนั มำฆปุรณมี, แลสมเดจ็ พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ ไดท้ รงทำวิสุทธอุโบสถ ทรงแสดงโอวำทปำติโมกขข์ ้ึน ณ ท่ีประชุมน้นั กำรประชุมสำวกสงฆพ์ ร้อม ดว้ ยองค์ ๔ ของพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ แห่งเรำท้งั หลำยน้ี ไดม้ ีคร้ังเดียวเท่ำน้นั พระภิกษุ ๑๒๕๐ องคล์ ว้ นแต่พระขีณำสพ บดั น้ีเรำท้งั หลำยมำประจวบ มำฆปณุ มีนกั ขตั สมยั น้ี ซ่ึงคลำ้ ยกบั วนั จำตุรงคสนั นิบำตน้นั แลว้ มำระลึกถึง

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 164 พระผมู้ ีพระภำคน้นั แมป้ รินิพพำนนำนมำแลว้ จะเคำรพบูชำพระผมู้ ีพระภำค แลภิกษุ ๑๒๕๐ องคน์ ้นั ดว้ ยสักกำระท้งั หลำยมีเทียนธูปแลดอกไมเ้ ป็นตน้ เหลำ่ น้ีในเจดียส์ ถำนน้ี ซ่ึงเป็นพยำนของพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั ขำ้ แตพ่ ระ- องคผ์ เู้ จริญ ขอเชิญพระผมู้ ีพระภำคพร้อมดว้ ยสำวกสงฆ์ แมป้ รินิพพำนนำน มำแลว้ ดว้ ยดี ยงั เหลืออยแู่ ต่พระคุณท้งั หลำย จงทรงรับสักกำรบรรณกำร คนยำกเหลำ่ น้ีของขำ้ พระพทุ ธเจำ้ ท้งั หลำย เพอื่ ประโยชน์ เพอ่ื ควำมสุข แก่ ขำ้ พระพทุ ธเจำ้ ท้งั หลำยสิ้นกำลนำน เทอญ. คานาถวายดอกไมธูปเทียน วนั อาสาฬหบูชา ยะมัมหะ โข มะยัง ภะคะวันตงั สะระณัง คะตา โย โน ภะคะวา สัตถา ยสั สะ จะ มะยงั ภะคะวะโต ธัมมัง โรเจมะ อะโหสิ โข โส ภะคะวา อะระหงั สัมมาสัมพุทโธ สัตเตสุ การุญญัง ปะฏจิ จะ กะรุณายะโก หเิ ตสี อะนกุ มั ปัง อปุ าทายะ อาสาฬหะปุณณะมยิ งั พารา- ณะสิยงั อสิ ิปะตะเน มิคะทาเย ปัญจะวัคคยิ านงั ภกิ ขูนงั อะนุตตะรัง ธัมมะจักกงั ปะฐะมงั ปะวัตเตตวา จตั ตาริ อะริยะสัจจานิ ปะกาเสสิ ฯ ตสั มญิ จะ โข สะมะเย ปัญจะวคั คยานงั ภกิ ขนู งั ปะมุโข อายัสมา อญั ญาโกณฑัญโญ ภะคะวะโต ธัมมงั สุตวา วิระชัง วีตะมะลงั ธัมมะจักขุง ปะฏลิ ะภิตวา ยงั กญิ จิ สะมทุ ะยะธัมมัง สัพพนั ตงั นิโรธะธัมมันติ ภะคะวนั ตงั อุปะสัมปะทงั ยาจติ วา ภะคะวะโต เยวะ สันตกิ า เอหภิ ิกขุ อปุ ะสัมปะทงั ปะฏิละภิตวา ภะคะวะโต ธัมมะวินะเย

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 165 อะริยะสาวะกะสังโฆ โลเก ปะฐะมงั อปุ ปันโน อะโหสิ พุทธะระตะนงั ธัมมะระตะนัง สังฆะระตะนนั ติ ตริ ะตะนัง สัมปณุ ณัง อะโหสิ ฯ มะยงั โข เอตะระหิ อมิ งั อาสาฬหะปณุ ณะมีกาลงั ตัสสะ ภะคะวะโต ธัมมะจกั กปั ปะวัตตะนะกาละสัมมะตงั อะริยะสาวะกะสัง- ฆะอปุ ปัตติกาละสัมมะตญั จะ ระตะนัตตะยะสัมปณุ ณะกาละสัมมะตัญ- จะ ปัตวา อมิ งั ฐานัง สัมปัตตา อเิ ม สักกาเร คะเหตวา อตั ตะโน กายัง สักการุปะธานงั กะริตวา ตัสสะ ภะคะวะโต ยะถาภุจเจ คเุ ณ อะนุสสะรันตา อมิ งั ถูปัง (อมิ ัง พทุ ธะปะฏิมัง) ตกิ ขตั ตงุ ปะทักขณิ ัง กะริสสสามะ ยะถาคะหเิ ตหิ สักกาเรหิ ปูชัง กุรุมานา ฯ สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินพิ พโุ ตปิ ญาตพั เพหิ คุเณหิ อะตีตารัมมะณะตายะ ปัญญายะมาโน อเิ ม อมั เหหิ คะหเิ ต สักกาเร ปะฏคิ คัณหาตุ อมั หากงั ทีฆะรัตตงั หติ ายะ สุขายะ ฯ (คำแปล) เรำท้งั หลำยถึงซ่ึงพระผมู้ ีพระภำคพระองคใ์ ดแลว้ วำ่ เป็นท่ีพ่งึ พระผู้ มีพระภำคพระองคใ์ ด เป็นพระศำสดำของเรำท้งั หลำย อน่ึง เรำท้งั หลำยชอบ ใจซ่ึงพระธรรมของพระผมู้ ีพระภำคพระองคใ์ ด พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ พระองคน์ ้นั เป็นพระอรหนั ตต์ รัสรู้ชอบเอง ทรงอำศยั ควำมกำรุณในสตั วท์ ้งั หลำย ทรง พระกรุณำแสวงหำประโยชน์เก้ือกูล ทรงอำศยั ควำมเอน็ ดู ไดย้ งั พระธรรมจกั ร อนั ยอดเยยี่ มใหเ้ ป็นไป ทรงประกำศอริยสจั ๔ เป็นคร้ังแรกแก่พระภิกษุ ปัญจวคั คีย์ ท่ีป่ ำอิสิปตนมฤคทำยวนั ใกลก้ รุงพำรำณสีในวนั อำสำฬหปุณณมี

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 166 อน่ึง ในสมยั น้นั แล ทำ่ นพระอญั ญำโกณฑญั ญะผเู้ ป็นหวั หนำ้ ของ พระภิกษุปัญจวคั คียฟ์ ังธรรมของพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ แลว้ ไดธ้ รรมจกั ษุอนั บริสุทธ์ิปรำศจำกมลทิน วำ่ \"ส่ิงใดสิ่งหน่ึงมีควำมเกิดข้ึนเป็นธรรมดำ ส่ิง ท้งั ปวงน้นั มีควำมดบั เป็นธรรมดำ\" จึงทูลขออุปสมบทกะพระผมู้ ีพระภำค เจำ้ เป็นองคแ์ รกในโลก อน่ึง ในสมยั แมน้ ้นั แล พระสงั ฆรัตนะไดบ้ งั เกิดข้ึนเป็นคร้ังแรก พระรัตนตรัย คือ พระพทุ ธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ ไดส้ มบรู ณ์ แลว้ ในโลก บดั น้ี เรำท้งั หลำยแล มำประจวบมงคลสมยั อำสำฬหปุณณมี วนั เพญ็ อำสำฬหมำสที่รู้พร้อมกนั วำ่ เป็นวนั ที่พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ พระองคน์ ้นั ทรงประกำศพระธรรมจกั รเป็นวนั ท่ีเกิดข้ึนแห่งพระอริยสงฆส์ ำวก และเป็น วนั ท่ีพระรัตนตรัยสมบูรณ์ คือ ครบ ๓ รัตนะ จึงมำประชุมกนั แลว้ ณ ที่น้ี ถือสกั กำระเหลำ่ น้ี ทำกำยของตนใหเ้ ป็นดงั ภำชนะรับเคร่ืองสักกำระ ระลึก ถึงพระคุณตำมเป็นจริงท้งั หลำยของพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั จกั ทำประทกั ษิณ ส้ินวำระสำมรอบซ่ึงพระสถปู (พระพทุ ธปฏิมำ) น้ี บชู ำอยดู่ ว้ ยสกั กำระอนั ถือไวแ้ ลว้ อยำ่ งไร ขำ้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จริญ ขอเชิญพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ แมเ้ สดจ็ ปรินิพพำน นำนมำแลว้ ยงั ปรำกฏอยดู่ ว้ ยพระคุณสมบตั ิอนั ขำ้ พระพทุ ธเจำ้ ท้งั หลำยจะพึงรู้ โดยควำมเป็นอตีตำรมณ์ จงทรงรับเคร่ืองสักกำระ อนั ขำ้ พระพุทธเจำ้ ท้งั หลำยถือไวแ้ ลว้ น้ี เพื่อประโยชน์ เพอ่ื ควำมสุข แกข่ ำ้ พระพทุ ธเจำ้ ท้งั หลำย สิ้นกำลนำน เทอญ.

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 167 คาถาบูชาพระพุทธสิหงิ ค์ มะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธัสสะ (๓ จบ) (นำ) หนั ทะ มะยงั พุทธะปะสังสา คาถาโย พทุ ธะสิงหิงโค นามะ ภะณามะ เส. (รับ) อติ ิ ปะวะระสิหิงโค อตุ ตะมะยะโสปิ เตโช ยัตถะ กตั ถะ จติ โตโส สักกาโร อปุ าโท สะกาละพุทธะสาสะนัง โชตะยนั โตวะ ทีโป สุระนะเรหิ มะหโิ ต ธะระมาโนวะ พทุ โธต.ิ คำแปล พทุ ธสิหงิ คา อบุ ตั มิ า ณ แดนใด ประเสริฐ ธ เกริกไกร ดจุ กายพระศาสดา เป็ นทีเ่ คารพนอม มนุษย์พรอมท้งั เทวา เปรียบเช่นชวาลา ศาสนาทย่ี ืนยง เหมือนหน่ึงพระสัมพุทธ สุวสิ ุทธ์ิพระชนม์คง แดนใดพระดารง พระศาสน์คงกจ็ ารูญ ดวยเดชสิทธิศักด์ิ ธ พทิ กั ษ์อนุกูล พระศาสน์บ่มสี ูญ พระเพมิ่ พูลมหิทธา ขา ฯ ขอเคารพนอม วจคี อมขนึ้ บูชา พทิ ักษ์ ธ รักษา พระศาสน์มาตลอดกาล ปวงขา ฯ จะประกาศ พทุ ธศาสน์ใหไพศาล ขอพระอภบิ าล ชินมารนริ ันดร์ เทอญ. สวดทกุ ค่ำเชำ้ ก่อนนอน ก่อนออกจำกบำ้ น จกั เกิดลำภผลอนั สุจริต เป็นศิริมงคล คุม้ ครองป้องกนั แคลว้ คลำดจำกภยนั ตรำย.

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 168 พระคาถาชินบญั ชรสูตร ของสมเดจ็ พระพฒุ ำจำรย์ (โต พรหมรังสี) วดั ระฆงั โฆสิตำรำม ๑. ชินะสะรากะตา พทุ ธา เชตวา มารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภงั ระสัง เย ปิ วงิ สุ นะราสะภา ๒. ตัณหงั กะราทะโญ พุทธา อฏั ฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิโต มยั หงั มัตถะเก เต มะนุสสะรา ๓. สีเส ปะตฏิ ฐิโต มัยหงั พทุ โธ ธัมโม ทะวโิ ลจะเน สังโฆ ปะตฏิ ฐิโต มัยหัง อเุ ร สัพพะคณุ ากะโร ๔. หะทะเย อะนุรุทโธ จะ สาริปตุ โต จะ ทกั ขเิ ณ โกณฑญั โญ ปิ ฏฐิภาคสั มิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก ๕. ทักขเิ ณ สะวะเน มัยหงั อาสุง อานันทะราหุลา กสั สะโป จะ มะหานาโม อาภาสุง วามะโสตถะเก ๖. เกสันเต ปิ ฏฐิภาคัสมิง สุริโยวะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภโี ต มุนปี งุ คะโล ๗. กุมาระกสั สะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก โส มยั หัง วะทะเน นจิ จัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร ๘. ปณุ โณ องั คุลมิ าโล จะ อปุ าลนี นั ทะสีวะลี เถรา ปัญจะ อเิ ม ชาตา นะลาเต ตลิ ะกา มะมะ ๙. เสสาสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะวนั ตา สีละเตเชนะ องั คะมงั เคสุ สัณฐิตา

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 169 ๑๐. ระตะนงั ปุเรโต อาสิ ทกั ขเิ ณ เมตตะสุตตะกงั ธะชัคคงั ปัจฉะโต อาสิ วาเม องั คุลมิ าละกงั ๑๑. ขันธะโมระปะริตตญั จะ อาฏานาฏยิ ะสุตตะกงั อากาเส ฉะทะนงั อาสิ เสสา ปาการะลงั กะตงั ๑๒. ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตะปาการะลงั กะตา วาตาปิ ตตะทสิ ัญชาตา พาหริ ัชฌตั ตปุ ัททะวา ๑๓. อะเสสา วิญญัง ยนั ตุ อะนนั ตะชินะเตชะสา วะสะโต เม สะกจิ เจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร ๑๔. ชินะปัญขะระมชั เฌหิ วหิ ะรันตงั มะหตี ะเล สะทา ปาเลนตุ มงั สัพเพ เต มะหาปรุ ิสาสะภา ๑๕. อจิ เจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตปุ ัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะรีโย สัทธัมมานุภาวะ ปาลโี ต จะรามิ ชินะปัญชะเรตีต.ิ พระคำถำชินบญั ชรของเจำ้ ประคุณสมเด็จ ฯ ถำ้ ใคร่ท่องจำไดข้ ้ึนใจ ภำวนำทกุ คืนวนั มีคุณำนุภำพมำกมำย มีควำมศกั ด์ิสิทธ์ิและทรงอำนุภำพทุกบท จะทำใหเ้ กิดโชคลำภ เป็นสิริมงคลแก่ตวั เอง ใชเ้ สกทำน้ำมนตร์ ดแกส้ รรพ- ทกุ ขโ์ ศกโรคภยั ไมว่ ำ่ จะถกู กระทำคุณไสย คุณผีคุณคนท้งั ปวง ใชป้ ลุกเสก พระเครื่องรำงของขลงั จะเพมิ่ อิทธิฤทธ์ิปำฏิหำริยม์ ำกยง่ิ ข้ึน แตถ่ ำ้ ท่องจำไม่ได้ หมด จะเลือกจำแต่ละบทกไ็ ด้ สุดแตเ่ จตนำจะใช้ ดงั น้ี

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 170 ๑. อำรำธนำพระสมเดจ็ ไปกบั ตวั ใชบ้ ทที่ ๓ ภำวนำ ๒. สำหรับนกั พดู นกั แสดง ก่อนพดู ก่อนแสดง \" ๗ \" ๓. สำหรับเสกน้ำลำ้ งหนำ้ เสกแป้งเจิม \"๘\" ๔. ถำ้ ตอ้ งกำรแคลว้ คลำดปลอดอนั ตรำย \" ๙\" ๕. สำหรับป้องกนั โรคภยั ไขเ้ จบ็ \" ๑๓ \" ๖. อำรำธนำขอใหค้ ุณพระคุม้ ครอง \" ๑๔ \" (พระคำถำชินบญั ชรน้ีเป็นคำถำท่ีถูกตอ้ งตรงตำมที่สมเดจ็ บอกโดยวิธี กำรเขำ้ ทรง และถูกตอ้ งตรงตำมเจตนำของเจำ้ ประคุณสมเด็จ ฯ ซ่ึงเป็นผแู้ ต่ง, โดยอำศยั เคำ้ คำถำที่มีมำแลว้ แตเ่ ดิม ไดร้ ับอนุญำตดว้ ยควำมเอ้ือเฟ้ื อจำก อำจำรยพ์ ร รัตนสุวรรณ แห่งสำนกั วญิ ญำณ บำงลำพ)ู คำถำอำวธุ สักกสั สะ วะชิราวุธัง ยะมสั สะ นยั มาวธัง อาฬะวะกสั สะ ทุสาวธุ ัง เวสสุวณั ณสั สะ คะธาวุธัง จตั ตาโร วา อาวุธานงั เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพเพ ยักขา ปะลายนั ต.ิ คำถำน้ี ใชเ้ สกมือหรือเสกศสั ตรำอำวธุ ก็ได้ เมื่อเวลำจะประจญั บำนกบั ศตั รู ใชเ้ สกตน้ ข่ำตน้ ไพลขบั ไล่ ตีผี ใหห้ นีกระเจิง ดีนกั แล.

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 171 คาพนิ ทผุ า อมิ งั พนิ ทุกปั ปัง กะโรมิ คาอธิษฐาน บำตร, อมิ ัง ปัตตงั อะธิฏฐามิ สังฆำฏิ, อมิ งั สังฆาฏิง อะธิฏฐามิ จีวร, อมิ ัง อุตตะราสังคงั อะธฏิ ฐามิ สบง, อมิ งั อนั ตะระวาสะกงั อะธิฏฐามิ ผำ้ อำบน้ำฝน อมิ ัง วัสสิกะสาฏิกงั อะธิฏฐามิ คาเสียสละ จีวรเป็นนิสคั คียะ เพรำะอยปู่ รำศจำกเขตล่วงรำตรี อทิ งั เม ภันเต จีวะรัง รัตตวิ ปิ ปะวตุ ถงั อญั ญตั ระ ภิกขุสัมมะติยา นสิ สัคคยิ ัง อมิ าหงั อายัสมะโต นสิ สัชชามิ (ถำ้ ๒ ผนื วำ่ ทวิจีวะรัง ถำ้ ท้งั ๓ ผืนวำ่ ติจีวะรัง) คำคืน อมิ ัง จวี ะรัง อายัสมะโต ทัมมิ คาวิกปั ป์ อมิ งั จวี ะรัง ตยุ หัง วกิ ปั เปมิ หลำยผนื วำ่ อมิ านิ จีวะรานิ ตยุ หงั วกิ ปั เปมิ

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 172 คำถอน อมิ ัง จีวะมงั มยั หงั สันตะกงั ปะริภญุ ชะ วา วสิ ัชเชหิ วา ยะถาปัจจะยัง วา กะโรหิ (ถำ้ ผถู้ อนออ่ นกวำ่ วำ่ ) อมิ งั จวี ะรัง มยั หัง สันตะกงั ปะริภญุ ชะถะ วา วสิ ัชเชถะ วา ยะถาปัจจะยัง วา กะโรถะ คาอธิษฐานเขาพรรษา อมิ ัสมิง อาวาเส อมิ ัง เตมาสัง วัสสัง อเุ ปมิ (วำ่ ๓ จบ) คาปวารณาออกพรรษา สังฆัมภนั เต ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา วะทนั ตุ มงั อายัสมนั โต อะนุกมั ปัง อปุ าทายะ ปัสสันโต ปะฏกิ กะริสสามิ ฯ ทตุ ยิ มั ปิ ภนั เต ปะวาเรมิ ทฏิ เฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา วะทนั ตุ มงั อายัสมันโต อะนุกมั ปัง อปุ ทายะ ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ ฯ ตะติยัมปิ ภันเต สังฆงั ปะวาเรมิ ทฏิ เฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา วะทนั ตุ มัง อายสั มนั โต อะนุกมั ปัง อุปาทายะ ปัสสันโต ปะฏกิ กะริสสามิ ฯ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 173 คาขอขมาโทษ (แบบทวั่ ไปท่ีแกไ้ ขใชอ้ ยใู่ นปัจจุบนั ) (ผขู้ อ) เถเร ปะมำเทนะ ทวำรัตตะเยนะ กะตงั สัพพงั อะปะรำธงั ขะมะถะ เม ภนั เต (ถำ้ ขอหลำยรูปเปล่ียน ขะมะถะ เม เป็น ขะมะตุ โน) (ผรู้ ับ) อะหงั ขะมำมิ ตะยาปิ เม ขะมิตพั พงั (ถำ้ ผขู้ อมีหลำยรูป เปล่ียน ตะยาปิ เป็น ตุมเหหิปี ) (ผขู้ อ) ขะมำมิ ภนั เต (ถำ้ ขอหลำยรูปเปลี่ยน มิ เป็น มะ) (แบบพิเศษนิยมใชถ้ วำยพระมหำเถระ) (ผขู้ อ) อจั จะโย มงั ภนั เต อจั จคั คะมำ ยะถำพำลงั ยะถำมฬู หงั ยะถำอะกสุ ะลงั โยหงั ภนั เต กะทำจิ กะระหะจิ ปะมำทงั วำ อำคมั มะ อะโยนิโสมะนะสิกำรัง วำ อำคมั มะ มะหำเถเร อะคำระวงั อะกำสิง กำเยนะ วำ วำจำยะ วำ มะนะสำ วำ สมั มขุ ำปิ ปะรัมมุขำปิ ตสั สะ เม ภนั เต มะหำเถโร อจั จะยงั อจั จะยะโต ปะฏิคคณั หำตุ อำยะติง สังวะรำยะ (ผรู้ ับ) ตคั ฆะ ตงั อำวโุ ส อจั จะโย อจั จคั คะมำ ยะถำพำลงั ยะถำมฬู หงั ยะถำอะกสุ ะลงั โย ตะวงั กะทำจิ กะระหะจิ ปะมำทงั วำ อำคมั มะ อะโยนิโสมะนะสิกำรัง วำ อำคมั มะ มะยิ อะคำระวงั อะกำสิ กำเยนะ วำ วำจำยะ วำ มะนะสำ วำ สมั มขุ ำปิ ปะรัมมขุ ำปิ ยะโต จะ โข ตะวงั อจั จะยงั อจั จะยะโต ทิสวำ ยะถำธมั มงั ปะฏิกกะโรสิ อำยะติง สังวะรัง อำปัชชะสิ ตงั เต ปะฏคิ คณั หำมิ

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 174 วฑุ ติ เหสา อาวโุ ส อะริยสั สะ วนิ ะเย โย อจั จะยงั อจั จะยะโต ทิสวา ยะถาธัมมัง ปะฏิกกะโรติ อายะตงิ สังวะรัง อาปัชชะติ (คำอวยพรของผรู้ ับ) ยัง ยัง ปญุ ญงั มะยา กะตงั อปุ ะจติ ัง กาเยนะ วา วาจายะ วา มะนะสา วา ตงั ตงั อายสั มะโต อาทสิ สามิ สาธายสั มา อสั มิง อสั มงิ ปญุ เญ ปัตติโต หุตวา อะนุโมทะตุ เตนะ อะนโุ มทะนามะเยนะปิ ปุญเญนะ สุขโิ ต โหตุ อะโรโค นริ ุปัททะโว จริ ัง ทฆี ะมัทธานงั อมิ ัสมิง ตะถาคะตัปปะเวทเิ ต ธัมมะวินะเย วฑุ ฒงิ วิรุฬหิง เวปุลลงั อาปัชชะตุ (ผขู้ อ) สาธุ ภนั เต คาอนุโมทนากฐิน อตั ถะตงั ภันเต สังฆัสสะ กะฐินงั ธัมมิโก กะฐินตั ถาโร อะนโุ มทามะ (วำ่ ๓ จบ) คาลาสิกขา สิกขงั ปัจจกั ขามิ คิหีติ มัง ธาเรถะ ขำ้ พเจำ้ ลำสิกขำ ทำ่ นท้งั หลำยจงจำขำ้ พเจำ้ ไวว้ ำ่ เป็นคฤหสั ถ์ คาแสดงตนเป็ นอบุ าสก เอสาหงั ภนั เต สุจริ ะปะรินพิ พตุ มั ปิ ตงั ภะคะวันตงั สะระณัง คจั ฉามิ ธัมมญั จะ ภกิ ขุสังฆัญจะ อปุ าสะกตั ตงั สังโฆ ธาเรต.ุ

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 175 วิธีแสดงอาบัติ (พรรษำออ่ นวำ่ ) สัพพา ตา อาปัตติโย อาโรเจมิ (วำ่ ๓ หน) สัพพา คะรุละหุกา อาปัตตโิ ย อาโรเจมิ (วำ่ ๓ หน) อะหงั ภนั เต สัมพะหุลา นานาวตั ถกุ าโญ อาปัตตโิ ย อาปัชชิง ตา ตมุ หะ มูเล ปะฏิเทเสมิ (พรรษำแก่รับวำ่ ) ปัสสะสิ อาวุโส ตา อาปัตตโิ ย (พรรษำอ่อนวำ่ ) อุกาสะ อามะ ภันเต ปัสสามิ (พรรษำแก่รับวำ่ ) อายะตงิ อาวโุ ส สังวะเรยยาสิ (พรรษำออ่ นวำ่ ) สาธุ สุฏฐุ ภนั เต สังวะริสสามิ ทตุ ิยมั ปิ สาธุ สุฏฐุ ภนั เต สังวะริสสามิ ตะตยิ มั ปิ สาธุ สุฏฐุ ภนั เต สังวะริสสามิ นะ ปุเนวงั กะริสสามิ นะ ปุเนวัง ภาสิสสามิ นะ ปเุ นวงั จนิ ตะยิสสามิ (จบพรรษำอ่อน) (พรรษำแก่วำ่ ) สัพพา ตา อาปัตตโิ ย อาโรเจมิ (วำ่ ๓ หน) สัพพา คะรุละหุกา อาปัตตโิ ย อาโรเจมิ (วำ่ ๓ หน) อะหัง อาวโุ ส สัมพะหุลา นานาวตั ถกุ าโย อาปัตตโิ ย อาปัชชิง ตา ตุยหะ มูเล ปะฏิเทเสมิ (พรรษำออ่ นรับวำ่ ) อุกาสะ ปัสสะถะ ภนั เต ตา อาปัตตโิ ย (พรรษำแก่วำ่ ) อามะ อาวุโส ปัสสามิ

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 176 (พรรษำออ่ นรับวำ่ ) อายะติง ภนั เต สังวะเรยยาถะ (พรรษำแก่วำ่ ) สาธุ สุฏฐุ อาวโุ ส สังวะริสสามิ ทตุ ยิ มั ปิ สาธุ สุฏฐุ อาวุโส สังวะริสสามิ ตะตยิ ัมปิ สาธุ สุฏฐุ อาวโุ ส สังวะริสสามิ นะ ปุเนวงั กะริสสามิ นะ ปเุ นวัง ภาสิสสามิ นะ ปุเนวัง จนิ ตะยสิ สามิ (เสร็จพิธี) วธิ ีแสดงอำบตั ิแบบใหม่ ภิกษผุ ตู้ อ้ งอำบตั ิพึงเขำ้ ไปหำภิกษรุ ูปหน่ึง แลว้ ทำผำ้ ห่มเฉวียงบ่ำ นงั่ กระหยง่ ประนมมือกล่ำววำ่ อะหัง แก่วำ่ อาวโุ ส อติ ถันนามัง อาปัตตงิ ออ่ นวำ่ ภันเต อาปันโน ตงั ปะฏิเทเสมิ ผรู้ ับ แก่วำ่ ปัสสะสิ อาวุโส อ่อนวำ่ ปัสสะสิ ภันเต ผแู้ สดง แก่วำ่ อามะ อาวโุ ส ปัสสามิ ออ่ นวำ่ อามะ ภันเต ปัสสามิ ผรู้ ับ แก่วำ่ อายะตงิ อาวุโส สังวะเรยยาสิ ออ่ นวำ่ อายะติง ภนั เต สังวะเรยยาถะ สาธุ สุฏฐุ อาวโุ ส สังวะริสสามิ ผแู้ สดง แก่วำ่ สาธุ สุฏฐุ ภันเต สังวะริสสามิ อ่อนวำ่

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 177 คำวำ่ อติ ถันนามงั ใหเ้ ปลี่ยนเป็นช่ืออำบตั ิท่ีถูกตอ้ งดงั น้ี ถลุ ลจั - จะยงั , นสิ สัคคยิ งั ปาจิตตยิ ัง, ปาจติ ติยงั , ทกุ กะฏัง, ทพุ ภาสิตัง ถำ้ ตอ้ งอำบตั ิหลำยตวั มีวตั ถุอยำ่ งเดียวกนั เช่นปำจิตตียเ์ ป็นตวั อยำ่ งใช้ สัมพะหุลา ต่อเป็น อะหัง ภันเต สัมพะหุลา ปาจติ ตยิ าโย อาปัตตโิ ย อาปันโน ตา ปะฏิเทเสมิ ฯลฯ เหมือนขำ้ งตน้ ถำ้ อำบตั ิ หลำยตวั มีวถั ตตุ ำ่ ง ๆ กนั เช่น ตอ้ งอำบตั ิปำจิตตียใ์ ช้ นำนำวตั ถกุ ำโย ต่อเป็น อะหัง ภันเต สัมพะหุลา นานาวตั ถุกาโย ปาจิตตยิ าโย อาปัตติโย อาปันโน ตา ปะฏเิ ทสมิ ฯลฯ เหมือนขำ้ งตน้ ถำ้ อำบตั ิ ๒ ตวั ใช้ เทว ถำ้ ๓ ตวั ข้ึนไปใช้ สัมพะหุลา ถำ้ สงสัยพงึ แสดงดงั น้ี อะหงั อาวุโส อติ ถันนามายะ อาปัตตยิ า เวมะตโิ ก ยะทา นพิ เพมะติโก ภะวสิ สามิ ตะทา ตงั อาปัตตงิ ปะฏิกกะริสสามิ คำวำ่ อาวโุ ส ถำ้ ผแู้ สดงออ่ นกวำ่ เปลี่ยนเป็น ภนั เต คำวำ่ อติ ถันนามายะ พึงเปลี่ยนเป็นช่ืออำบตั ิ ฯ กจิ วตั ร ๑๐ อย่าง ๑. ลงอโุ บสถ ๖. อยู่ปริวาสกรรม ๒. บิณฑบาตเลยี้ งชีพ ๗. โกนผมปลงหนวดตัดเลบ็ ๓. สวดมนต์ไหวพระ ๘. ศึกษาสิกขาบทและปฏบิ ตั พิ ระอาจารย์ ๔. กวาดอาวาสวหิ ารลานพระเจดยี ์ ๙. เทศนาบตั ิ ๕. รักษาผาครอง ๑๐. พจิ ารณาปัจจเวกขณะท้งั ๔ เป็ นตน กิจวตั ร ๑๐ เหล่ำน้ีเป็ นกิจใหญ่ควรที่ภิกษจุ ะตอ้ งศึกษำใหท้ รำบควำมชดั และจำไวเ้ พือ่ ปฏิบตั ิสมควรแก่สมณสำรูปแห่งตน ฯ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 178 ภิกษุไม่ควรฉันเนื้อ ๑๐ อย่าง ๑. เนื้อมนุษย์ ๖. เนื้อราชสีห์ ๒. เนื้อชาง ๗. เนื้อหมี ๓. เนื้อมา ๘. เนื้อเสือโคร่ง ๔. เนื้อสุนัข ๙. เนื้อเสือดาว ๕. เนื้องู ๑๐. เนื้อเสือเหลือง มงั สะ ๑๐ อยำ่ งน้ี หำ้ มฉนั และหำ้ มรับประเคน คาใหศีล เมื่อคฤหสั ถอ์ ำรำธนำศีลแลว้ พระพงึ ใหศ้ ีลดงั น้ี นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธัสสะ (๓ จบ) พุทธัง สะระณงั คัจฉามิ ธัมมงั สะระณัง คัจฉามิ สังฆงั สะระณงั คัจฉามิ ทุตยิ ัมปิ พุทธัง สะระณงั คจั ฉามิ ทตุ ยิ ัมปิ ธัมมงั สะระณงั คัจฉามิ ทุตยิ มั ปิ สังฆงั สะระณัง คจั ฉามิ ตะตยิ ัมปิ พทุ ธัง สะระณัง คจั ฉามิ ตะตยิ ัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยมั ปิ สังฆัง สะระณัง คจั ฉามิ ติสะระณะคะมะมงั นฏิ ฐิตงั

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 179 ปาณาตปิ าตา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมาทิยามิ อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมาทยิ ามิ มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมาทยิ ามิ สุราเมระยะมัชชะปะมาทฏั ฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (สรุป) อิมำนิ ปัญจะ สิกขำปะทำนิ สีเลนะ สุคะตงิ ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สีเลนะ นพิ พุตงิ ยันติ ตสั มา สีลงั วโิ สธะเย ถำ้ ใหศ้ ีล ๘ กว็ ำ่ เหมือนกนั เปล่ียนแต่ขอ้ กาเม เป็นอะพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทยิ ามิ เท่ำน้นั แลว้ ตอ่ จำกขอ้ สุรา ไปดงั น้ี วกิ าละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมาทิยามิ นัจจะคีตะวาทติ ะวสิ ูกะทสั สะนา มาลาคนั ธะวเิ ลปะนะธาระณะ- มัณฑะนะวภิ ูสะนฏั ฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทยิ ามิ อจุ จาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมาทิยามิ (สรุปเหมือนศีล ๕ เปลี่ยนแต่ ปัญจะ เป็ น อฏั ฐะ เทำ่ น้นั ) ถำ้ ใหอ้ โุ บสถศีล ใชน้ ำวำ่ ต่อจำกขอ้ สุดทำ้ ย ทีละตอน ดงั น้ี อมิ ัง อฏั ฐังคะสะมนั นาคะตัง, พุทธะปัญญตั ตงั อโุ ปสะกงั , อมิ ญั จะ รัตตงิ อมิ ญั จะ ทิวะสัง, สัมมะเทวะ อะภริ ักขติ งุ สะมาทิยามิ (สรุป) อมิ านิ อฏั ฐะ สิกขาปะทานิ อุโปสะถะสีละวะเสนะ สาธุกงั กตั วา อปั ปะมาเทนะ รักขติ ัพพานิ ฯ

สีเลนะ สุคะตงิ ยันติ มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 180 สีเลนะ นพิ พุตงิ ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา ตสั มา สีลงั วิโสธะเย คาบอกศักราชเทศนา อทิ านิ ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธัสสะ ปะรินพิ พานะโต ปัฏฐายะ สัตตะวีสุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ เทวสัง- วัจฉะระสะหสั สานิ อะตกิ กนั ตานิ ปัจจุปปันนะกาละวะเสน อาสาฬหะ มาสัสสะ ทวาทะสะมัง ทนิ ัง วาระวะเสน ปะนะ คะรุวาโร โหติ เอวัง ตัสสะ ภะคะวะโต ปะรินพิ พานา สาสะนายกุ าละคะณะนา สัลลกั เข ตพั พาติ ฯ (คำแปล) ศุภมสั ดุ พระพุทธศำสนำยกุ ำล จำเดิมแตป่ รินิพพำน แห่งองคส์ มเดจ็ พระผมู้ ีพระภำคอรหนั ตสัมมำสมั พุทธเจำ้ น้นั บดั น้ี ลว่ ง แลว้ ๒๕๒๗ พรรษำ ปัจจุบนั สมยั กรกฎำคมมำส สุรทินที่ ๑๒ คะรุวำร พระพุทธศำสนำยกุ ำลจำเดิมแต่ปิ รินิพพำน แห่งองคส์ มเดจ็ พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ น้นั มีนยั อนั จะพึงกำหนดนบั ดว้ ยประกำรฉะน้ี คำเปลี่ยน พ.ศ. เดือน วนั ที่ วนั พ.ศ. ๒๕๒๘ เปลี่ยน อฏั ฐะวีสุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ พ.ศ. ๒๕๒๙ \" อนู ะตงิ สุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 181 พ.ศ. ๒๕๓๐ เปล่ียนวำ่ ติงสุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ \" ๒๕๓๑ \" เอกะตงิ สุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ \" ๒๕๓๒ \" ทวัตตงิ สุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ \" ๒๕๓๓ \" เตตติงสุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ \" ๒๕๓๔ \" จตตุ ติงสุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ \" ๒๕๓๕ \" ปัญจะตงิ สุตตะระปัญจะสะตาธิกานิ เดือน มกรำคม เปล่ียนวำ่ ปสุ สะมาสัสสะ \" กุมภำพนั ธ์ \" มาฆะมาสัสสะ \" มีนำคม \" ผคั คุณะมาสัสสะ \" เมษำยน \" จติ ตะมาสัสสะ \" พฤษภำคม \" วสิ าขะมาสัสสะ \" มิถนุ ำยน \" เชฏะมาสัสสะ \" กรกฏำคม \" อาสาฬหะมาสัสสะ \" สิงหำคม \" สาวะนะมาสัสสะ \" กนั ยำยน \" โปฏฐะปะทะ หรือ ภทั ทะปะทะมาสัสสะ \" ตุลำคม \" อสั สะยุชะมาสัสสะ \" พฤศจิกำยน \" กตั ตกิ ะมาสัสสะ \" ธนั วำคม \" มิคะสิระมาสัสสะ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 182 วนั ท่ี ๑ เปล่ียนวำ่ ปะฐะมัง ทินัง \"๒ \" \"๓ \" ทุตยิ งั ทนิ ัง \"๔ \" \"๕ \" ตะตยิ งั ทนิ ัง \"๖ \" \"๗ \" จะตตุ ถงั ทนิ ัง \"๘ \" \"๙ \" ปัญจะมงั ทนิ งั \" ๑๐ \" \" ๑๑ \" ฉัฏฐัง ทนิ งั \" ๑๒ \" \" ๑๓ \" สัตตะมงั ทนิ งั \" ๑๔ \" \" ๑๕ \" อฏั ฐะมงั ทินงั \" ๑๖ \" \" ๑๗ \" นะวะมัง ทินงั \" ๑๘ \" \" ๑๙ \" ทะสะมัง ทินัง \" ๒๐ \" เอกาทะสะมัง ทนิ งั ทวาทะสะมัง ทินงั เตระสะมงั ทนิ งั จะตุททะสะมัง ทินงั ปัณณะระสะมงั ทินงั โสฬะสะมัง ทนิ งั สัตตะระสะนัง ทนิ ัง อฏั ฐาระสะมัง ทินัง อูนะวีสะตมิ งั ทินงั วีสะตมิ งั ทนิ งั

วนั ท่ี ๒๑ เปล่ียนวำ่ มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ที่ 183 \" ๒๒ \" เอกะวีสะตมิ ัง ทินงั ทวาวสี ะตมิ ัง ทนิ ัง \" ๒๓ \" เตวีสะตมิ ัง ทนิ งั จะตุวสี ะตมิ ัง ทินงั \" ๒๔ \" ปัญจะวสี ะตมิ งั ทินัง ฉัพพสี ะตมิ ัง ทนิ งั \" ๒๕ \" สัตตะวสี ะตมิ ิง ทนิ งั อฏั ฐะวสี ะติมัง ทนิ งั \" ๒๖ \" อนู ะตงิ สะตมัง ทนิ ัง ตงิ สะตมิ งั ทนิ ัง \" ๒๗ \" เอกะติงสะติมงั ทินัง ระวิวาโร \" ๒๘ \" จันทะวาโร \" ๒๙ \" ภุมมะวาโร วธุ ะวาโร \" ๓๐ \" คะรุวาโร สุกกะวาโร \" ๓๑ \" โสระวาโร วนั อำทิตย์ เปล่ียนวำ่ \" จนั ทร์ \" \" องั คำร \" \" พุธ \" \" พฤหสั บดี \" \" ศุกร์ \" \" เสำร์ \"

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 184 พธิ ีบวช คำวำ่ บวช มำจำกคำวำ่ ป+วช แปลวำ่ เวน้ ทว่ั คือเวน้ จำกกำม ใน ที่น้ีหมำยเพยี งบวชเป็นสำมเณรและบวชเป็นพระภิกษุเท่ำน้นั จุดม่งุ หมำยใน กำรบวชกค็ ือกำรปฏิบตั ิตนเพือ่ ร้ือถอนออกจำกควำมทกุ ข์ และทำใหแ้ จง้ ซ่ึง พระนิพพำน คือควำมดบั ทกุ ข์ อยำ่ งไรกต็ ำม กำรบวชไดแ้ มเ้ พยี งชว่ั ครำวก็ นบั วำ่ ดี เพรำะนอกจำกเป็ นกำรสืบต่อพระพทุ ธศำสนำแลว้ อยำ่ งนอ้ ยกย็ งั เป็น เหตุใหร้ ู้จกั ฝึกหดั ควำมอดทน และควำมเสียสละอยำ่ งมำก อำจทำใหเ้ ขำ้ ถึง พทุ ธธรรมไดโ้ ดยใกลช้ ิด กำรบวชเป็ นสำมเณร สามเณร แปลวำ่ ผเู ป็ นเชื้อสายแห่งสมณะ เม่ือเป็นสำมเณรแลว้ ตอ้ งถือศีล ๑๐ คือ ๑. เวนจากการฆ่าสัตว์ท้งั มนุษย์และเดรัจฉาน ๒. เวนจากการลกั ทรัพย์ ๓. เวนจากเสพเมถนุ ธรรม ๔. เวนจากการพดู เทจ็ ๕. เวนจากการดื่มสุราและเมรัย ๖. เวนจาการบริโภคอาหารในเวลาวกิ าล ๗. เวนจากการฟอนราขับรองและการบรรเลง ตลอดถึงการดู การฟังส่ิงเหล่าน้ัน

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 185 ๘. เวนจากการทัดทรงดอกไมการใชของหอมเครื่องประเทืองผิว ๙. เวนจาการนอนทีส่ ูงใหญ่และยัดนุ่นสาลอี นั มลี ายวจิ ิตร ๑๐. เวนจากการรับเงนิ ทอง นอกจำกน้ี ยงั ตอ้ งมี ปัจจเวกขณะ คือ การพจิ ารณา จวี ร บิณฑบาต เสนาสนะ คลิ านเภสัช ตลอดถึงวตั รท่ีควรศึกษำ อนั เกี่ยวดว้ ยมำรยำท คือ เสขิยวัตร อีก ๗๕ ขอ้ ดว้ ย สถานทท่ี าพธิ ี เป็นกฎุ ีของพระอปุ ัชฌำยผ์ ใู้ หบ้ วชก็ได้ เป็นโรง อโุ บสถก็ได้ มีพระอนั ดบั ต้งั แต่ ๔ รูปข้ึนไปกไ็ ด้ ไม่มีก็ได้ ของใชใ้ นพธิ ีคือ ๑. ไตรแบ่ง (สบง ๑ ประคตเอง ๑ องั สะ ๑ จีวร ๑ ผำ้ รัด อก ๑ ผำ้ กรำบ ๑) ๒. จีวร สบง องั สะ (อำศยั หรือสำรอง) ผำ้ อำบ ๒ ผนื ๓. ย่าม ผาเช็ดหนา นาฬิกา ๔. บาตร (มีเชิงรองและฝำพร้อม) ๕. รองเทา ร่ม ๖. ที่นอน เสื่อ หมอน ผาห่ม มุง ๗. จานขาว ชอนสอม แกวน้า ผาเช็ดมือ ป่ิ นโต กระโถน ๘. ขันนา้ สบู่ กล่องสบู่ แปรง ยาสีฟัน ผาเช็ดตวั ๙. ธูป เทยี น ดอกไม สำหรับบชู ำพระรัตนตรัย ๑๐. ธูป เทยี น ดอกไม (หรือจะใชเ้ ทียนแพมีกรวยดอกไมก้ ใ็ ชไ้ ด)้ สำหรับถวำยพระอุปัชฌำยผ์ ใู้ หบ้ วช

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 186 และจะมีเครื่องจตุปัจจยั ไทยธรรมสำหรับถวำยพระอุปัชฌำยะและพระในพิธีน้นั อีกองคล์ ะชุดกไ็ ด้ แลว้ แตก่ ำลงั ศรัทธำ ผบู้ วชตอ้ งปลงผม โกนคิ้ว โกนหนวด ตดั เลบ็ มือเลบ็ เทำ้ ใหส้ ะอำด หมดจด ส่วนพธิ ีกำรวนั บวช มีกล่ำวไวส้ ่วนหน่ึงแลว้ และขอ้ สำคญั ตอ้ งวำ่ ไตรสรณคมน์ ใชช้ ดั ถอ้ ยชดั คำ เพรำะควำมเป็นสำมเณรจะสำเร็จไดก้ ็ดว้ ยไตร สรณคมน์เทำ่ น้นั นอกจำกน้นั กม็ ี หวั ขอ้ ที่ผจู้ ะบวชจะตอ้ งจดจำคือ ๑. ใหบิดามารดาหรือผปู กครอง พาไปหาเจาอาวาสและพระ อปุ ัชฌาย์ (ถำ้ เจำ้ อำวำสเป็นพระอปุ ัชฌำยด์ ว้ ยก็ไมต่ อ้ งไป ๒ แห่ง) ๒. ท่องคาขอบวช สรณคมน์ และศีล ๑๐ ใหไดดวยตนเอง ๓. หมน่ั ฝึ กซอมพิธี เช่นการกราบ เป็ นตน กำรบวชเป็ นพระภิกษุ ภกิ ษุ แปลวำ่ ผูเหน็ ภยั ในวฏั ฏสงสาร เมื่อเป็นพระภิกษุแลว้ ตอ้ ง ถือศีล ๒๒๗ และตอ้ งรักษำขอ้ วตั รปฏิบตั ิอื่น ๆ อีกมำก กำรบวชเป็นสำมเณรเป็นเบ้ืองตน้ ของกำรบวชเป็นพระภิกษุ กล่ำว คือจะบวชเป็นพระภิกษุไดก้ ็ตอ้ งบวชเป็นสำมเณรก่อน เพรำะฉะน้นั กุลบตุ ร ผจู้ ะบวชเป็นพระภิกษุ จึงจำตอ้ งบวชเป็นสำมเณรก่อน ซ่ึงมีวธิ ีกำรดงั ท่ี กลำ่ วมำแลว้ แมผ้ เู้ ป็นสำมเณร ก็จำตอ้ งขอไตรสรณคมน์และศีลใหม่ เพือ่ ทำ ใหแ้ น่นแฟ้นยง่ิ ข้ึน จึงดำเนินกำรบวชเป็นพระภิกษุไดต้ ่อไป แต่ทำงที่ดีท่ีสุด ควรของบรรพชำแต่เบ้ืองตน้ ไปใหม่ เพรำะเมื่อตอนขอบรรพชำเป็นสำมเณร ไดเ้ วน้ คำไว้ ละเภยยงั อปุ ะสัมปะทงั ไว้

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 187 สถานทท่ี าพธิ ี คือ โรงอโุ บสถ ประชุมสงฆ์ ๒๘ รูป มีพระอุปัช- ฌำย์ ๑ พระกรรมวำจำจำรย์ ๑ พระอนุสำวนำจำรย์ ๑ (สองรูปหลงั น้ีเรียกวำ่ พระ คูส่ วด) อีก ๒๕ รูป เรียกวำพระอนั ดบั (๑๐ รูปข้ึนไป ไม่ถึง ๒๕ รูปกใ็ ชไ้ ด)้ อฏั ฐบริขำรและเคร่ืองใชอ้ ื่น ๆ ที่จำเป็นและควรจดั หำ ๑. ไตรครอง (สบง ๑ ประคตเอว ๑ องั สะ ๑ จีวร ๑ สังฆำฏิ ๑ ผำ้ รัดอก ๑ ผำ้ กรำบ ๑ ) ๒. บาตร (มีเชิงรองและฝำพร้อม) ถลกบาตร สายโยค ถุง ตะเครียว ๓. มีดโกน พรอมท้งั หนิ ลบั มดี โกน ๔. เขม็ เย็บผา พรอมท้งั กล่องเขม็ และดาย ๕. เคร่ืองกรองน้า (ธมกรก) ๖. เส่ือ หมอน ผาห่ม มงุ ๗. จีวร สบง องั สะ ผาอาบ ๒ ผืน (อาศัย) ๘. ตาลปัตร ย่าม ผาเช็ดหนา ร่ม รองเทา ๙. โคมไฟฟา หรือตะเกยี ง ไฟฉาย นาฬิกาปลุก ๑๐. สาหรับ ป่ิ นโต คาว หวาน จานขาว ชอนสอม ผาเช็ดมือ ๑๑. ทต่ี มน้า กาตมน้า กาชงนา้ รอน ถวยนา้ รอน เหยือกน้า และแกวน้าเย็น กระติกนา้ แข็ง กระติกนา้ รอน ๑๒. กระโถนบวน และโถนถ่าย ๑๓. ขนั อาบน้า สบู่และกล่องสบู่ แปรงและยาสีฟัน ผาขน- หนู กระดาษชาระ

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 188 ๑๔. สันถตั (อาสนะ) ๑๕. หบี ไมหรือกระเป๋ าหนงั สาหรับเกบ็ ไตรครอง ๑. ถึง ๕. เป็นสิ่งจำเป็นมำก เรียกวำ่ อฏั ฐบริขาร แปลวำ่ บริขาร ๘ (มีผำ้ ๕ อยำ่ ง คือ สบง ๑ ประคตเอว ๑ จีวร ๑ สังฆำฏิ ๑ ผำ้ กรองผำ้ ๑ เหลก็ ๓ อยำ่ ง คือ บำตร ๑ มีดโกน ๑ เขม็ เยบ็ ผำ้ ๑) ของนอกน้นั มีควำมจำเป็นลดนอ้ ยลง แลว้ แต่ กำลงั ของเจำ้ ภำพจะจดั หำมำไดอ้ ีก ไตร วำงไวบ้ นพำนแวน่ ฟ้ำ บาตร สวมอยใู่ นถงุ ตะเครียว ภำยใน บำตรใส่มีดโกนพร้อมดว้ ยหินลบั มีดโกนเขม็ พร้อมท้งั กล่องเขม็ และดำ้ ย และ เคร่ืองกรองน้ำ นอกจำกน้นั ยงั นิยมใส่พระเครื่องรำงต่ำง ๆ ลงในบำตร เพือ่ ปลุกเสกใหข้ ลงั ข้ึนอีกดว้ ย ถำ้ มีกระบวนแห่งควรจดั กระบวนดงั น้ี ๑. การแสดงต่าง ๆ เช่น หวั โต สิงโต ฯ (ถำ้ มี) ๒. แตร หรือ เถดิ เทงิ (ถำ้ มี) ๓. ของถวายพระอปุ ัชฌาย์ คู่สวด ๔. ไตรครอง ซ่ึงมารดาของผบู วชมักจะเป็ นผูอมุ (มีสัปทนก้นั ) ๕. ผูบวชพนมมือถือดอกบวั ๓ ดอก ธูป ๓ ดอก เทียน ๒ เล่ม (มีสปั ทนก้นั ) ๖. บาตร และ ตาลปัตร ซึ่งบดิ าของผูบวชเป็ นผสู ะพายและถือ ๗. ของถวายพระอนั ดับ ๘. บริขารและเครื่องใชอย่างอ่ืนของผบู วช

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 189 ถำ้ มีไตรถวำยพระอปุ ัชฌำยแ์ ละคูส่ วด กต็ อ้ งมีสมั ปทนก้นั อีก ๓ คนั ของถวำยพระอปุ ัฌำยม์ ีพิเศษอยอู่ ยำ่ งหน่ึงคือกรวยขอนิสยั ซ่ึงภำยในกรวยมี หมำกพลหู รือเมี่ยงและบุหร่ี นอกน้นั แลว้ แตจ่ ะเห็นสมควร ควรจดั ของถวำย สำหรับพระอปุ ัชฌำยเ์ ป็นพิเศษ รองลงมำคือคู่สวด รองลงมำอีกคือพระอนั ดบั เม่ือจดั ขบวนเรียบร้อยแลว้ กเ็ คล่ือนไปสู่หนำ้ พระอโุ บสถ แลว้ เวียน ขวำรอบนอกสีมำ ๓ รอบ พร้อมกนั เสียง โห่ - ฮิ้ว เป็นระยะ ๆ ไป เวยี นครบ ๓ รอบ กเ็ ขำ้ ไปภำยในพระอุโบสถท้งั หมด เวน้ ไวแ้ ต่กำรแสดงต่ำง ๆ เช่น แตร หรือเถิดเทิง ส่วนผจู้ ะบวชก่อนจะเขำ้ โบสถต์ อ้ งวนั ทำเสมำหนำ้ พระอโุ บสถ เสียก่อน วำ่ วนั ทามิ อาราเม พทั ธะเสมายงั โพธิรุกขัง เจติยงั สัพพะ เม โทสัง ขะมะถะ เม ภนั เต ฯ คำวนั ทำเสมำ (อีกแบบหน่ึง) อกุ าสะ วนั ทามิ ภนั เต สัพพงั อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภนั เต มะยา กะตัง ปญุ ญงั สามนิ า อะนุโมทติ ัพพงั สามนิ า กะตงั ปุญญงั มยั หงั ทาตพั พงั สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ สัพเพ อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภนั เต อกุ าสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพงั อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต ฯ อกุ าสะ ขะมามิ ภันเต ฯ วันทามิ ภนั เต สัพพงั อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภนั เต มะยา กะตงั ปญุ ญงั สามินา อะนุโมทติ ัพพงั สามนิ า กะตงั ปุญญงั มยั หงั ทาตัพพงั สาธุ สาธุ อะนโุ มทามิ ฯ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 190 เสร็จแลว้ โปรยทำน แลว้ เขำ้ สู่พระอุโบสถได้ โดยมำรดำบิดำหรือ ญำติผใู้ หญห่ รือเจำ้ ภำพจูงประกอบดว้ ยญำติและมิตรเป็นผเู้ กำะต่อ ๆ กนั คร้ัน แลว้ ผบู้ วชจึงไปวนั ทำพระประธำนในพระอโุ บสถดำ้ นขำ้ งพระหตั ถข์ วำ แลว้ มำรับไตรครองจำกมำรดำบิดำหรือญำติผใู้ หญห่ รือเจำ้ ภำพ ต่อจำกน้นั จึงเร่ิม พิธีกำรบวชตำมหลกั พระธรรมวนิ ยั ตอ่ ไป เม่ือบวชเป็ นสามเณรเสร็จแลว บดิ าตองคอยประเคนบาตรแก่ สามเณรน้นั ขณะที่พระคูส่ วดกำลงั สวดญตั ติจตุตถกรรมวำจำ หำ้ มมิใหอ้ นุป- สมั บนั (ผทู้ ี่มิใช่พระภิกษุ) เขำ้ ใกลอ้ ำสนส์ งฆ์ ๑ ศอก ทำงที่ดีควรสงบอยู่ กบั ที่ ภำยหลงั จำกบวชเป็นพระภิกษเุ สร็จแลว้ เจำ้ ภำพและญำติมิตรจึงถวำย อฏั ฐบริขำรและเครื่องใชอ้ ่ืน ๆ ท่ีสมควรแก่สมณะ แก่พระบวชใหม่ตอ่ ไป เสร็จแลว้ พระบวชใหม่กรวดน้ำ เป็นเสร็จพิธี ขอ้ สำคญั ท่ีควรจดจำไวก้ ็คือ ๑. มารดาบดิ า หรือญาตผิ ูใหญ่หรือเจาภาพ พรอมผจู ะบวช ตองไปตดิ ต่อกบั เจาอาวาสทตี่ นจะบวชอยู่ และพระอุปัชฌาย์แต่เนิ่น ๆ (ถำ้ เจำ้ อำวำสเป็นอปุ ัชฌำยด์ ว้ ยก็ไมต่ อ้ งไปติดต่อ ๒ แห่ง) ๒. ผจู ะบวช เรียกกนั ว่า อปุ สัมปทาเปกข์ หรือ นาค หรือ นกั บวช ตองท่องคาบาลี ซึ่งเรียกกนั ว่า ขานนาค ใหไดคล่องแคล่ว ชัดถอยชัดคา ๓. หม่นั ฝึ กซอมกบั พระอปุ ัชฌาย์หรืออาจารย์ ในเร่ืองระเบียบ ต่าง ๆ อนั เน่ืองในการนใี้ หคล่อง มิใหเคอะเขนิ ในเวลาเขาพธิ ี

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 191 หมายเหตุ ในกำรบวชน้ี บำงคนนิยมมีพธิ ีทำขวญั นำคก่อนวนั บวช ๑ วนั หรือทำในวนั น้นั คอื ทำขวญั เชำ้ บวชบำ่ ย กำรทำขวญั ก็เพอื่ ใหเ้ จำ้ นำค รู้จกั คุณมำรดำบิดำ และมีใจศรัทธำซำบซ้ึงในกำรบวชข้ึนอีก ในกำรน้ีจะตอ้ ง มีของอีกหลำยอยำ่ ง เช่น บำยศรี แวน่ เวียนเทียน ฆอ้ ง ธูปเทียนตำมแบบของ หมอทำขวญั กำรทำขวญั ก็ดี แมก้ ำรแสดงตำ่ ง ๆ ตลอดถึงแตร เถิดเทิงก็ดี บำงคนก็ไม่นิยม ชอบเงียบ ๆ ตรงไปเดินเวยี นโบสถเ์ ขำ้ โบสถเ์ ฉย ๆ ท้งั น้ี แลว้ แตอ่ ธั ยำศยั ส่วนกำรแตง่ ตวั เจำ้ นำค มกั ใชช้ ุดขำว นุ่งแบบผำ้ ถุงจีบ องั สะขำว บำงทีก็มีเส้ือขำวแขนยำว แลว้ สวมเส้ือครุยทบั เมื่อบวชแลว้ มกั มีกำรฉลองพระใหม่ ถำ้ บวชเชำ้ กฉ็ ลองเพล ถำ้ บวช บ่ำยกฉ็ ลองวนั รุ่งข้ึนหรือจะเลื่ยนไปฉลองในวนั ตอ่ ๆ ไปก็ได้ ตำมควำม สะดวกของเจำ้ ภำพ. คำถำคำดปูน อมิ ัง องั คะพนั ธะนัง อะธิฏฐาม.ิ คำถำน้ี ใชเ้ สกปูนคำดแกส้ ำรพดั พษิ ตำ่ ง ๆ มิใหแ้ ล่นไปได้ แล.

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 192 วิธีบรรพชาอุปสมบทแบบอุกาสะ กุลบตุ รผมู้ ีศรัทธำมุ่งบรรพชำ อุปสมบท พึงรับผำ้ ไตรอุม้ ประนมมือเขำ้ ไปในสังฆสันนิบำต วำงผำ้ ไตรไวข้ ำ้ งตวั ดำ้ นซำ้ ย รับเคร่ืองสักกำรถวำยพระ, อุปัชฌำยะ แลว้ กรำบดว้ ยเบญจำงคประดิษฐ์ ๓ คร้ัง แลว้ อมุ้ ผำ้ ไตรประนม มือยนื ข้ึนเปลง่ วำจำขอบรรพชำ หยดุ ตำมจุดจุลภำค วำ่ อุกาสะ วนั ทามิ ภันเต, สัพพงั อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภนั เต, มะยา กะตงั ปญุ ญัง สามินา อะนุโมทิตัพพงั , สามินา กะตัง ปญุ ญงั มัยหงั , ทาตัพพงั สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ อกุ าสะ การุญญงั กตั วา, ปัพพชั ชัง เทถะ เม ภันเต, (นงั่ ลงคุกเขำ้ ประนมมือวำ่ ) อะหัง ภันเต, ปัพพชั ชัง ยาจามิ, ทตุ ยิ มั ปิ อะหงั ภันเต, ปัพพชั ชัง ยาจามิ, ตะตยิ ัมปิ อะหัง ภนั เต, ปัพพชั ชัง ยาจามิ, สัพพะทกุ ขะ, นิสสะระณะนพิ พานะ, สัจฉิกะระณัตถายะ, อมิ ัง กาสาวงั คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มัง ภนั เต, อะนุกมั ปัง อปุ าทายะ ฯ (ต้งั แต่ สัพพะทกุ ขะ มำ วำ่ ๓ หน พระอุปัชฌำยะรับผำ้ ไตร แลว้ วำ่ ตอ่ ไป) สัพพะทุกขะ, นสิ สะระณะนิพพานะ, สัจฉิกะระณตั ถายะ, เอตัง กาสาวัง ทัตวา, ปัพพาะเชถะ มงั ภนั เต, อะนุกมั ปัง อุปาทายะ ฯ (ต้งั แต่ สัพพะทกุ ขะ มำ วำ่ ๓ หน) ในลำดบั น้นั พระอปุ ัชฌำยะใหโ้ อวำทและบอก ตะจะปัญจะกะกมั - มฏั ฐาน ใหว้ ำ่ ตำมไปทีละบท โดยอนุโลมและปฏิโลม ดงั น้ี เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ (อนุโลม) ตะโจ ทันตา นะขา โลมา เกสา ฯ (ปฏิโลม)

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 193 พระอุปัชฌำยะชกั องั สะออกจำกไตรสวมใหแ้ ลว้ สง่ั ใหอ้ อกไปครอง ผำ้ ครบไตรจีวรตำมระเบียบ คร้ันเสร็จแลว้ รับเครื่องไทยทำนเขำ้ ไปหำพระ อำจำรย์ ถวำยท่ำนแลว้ กรำบลง ๓ หน ยนื ประนมมือเปลง่ วำจำขอสรณะ และศีลดงั น้ี อุกาสะ วนั ทามิ ภันเต, สัพพงั อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภนั เต, มะยา กะตงั ปุญญงั สามนิ า อะนุโมทิตัพพงั , สามนิ า กะตัง ปุญญงั มัยหัง, ทาตพั พงั สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ, อกุ าสะ การุญญงั กตั วา, ติสะระเณนะ สะหะ, สีลานิ เทถะ เม ภันเต, (นงั่ ลงคุกเข่ำขอสรณะและศีลดงั ตอ่ ไปน้ี) อะหัง ภันเต, สะระณะสีลงั ยาจามิ, ทุตปิ ยัมปิ อะหัง ภันเต, สะระณะสีลงั ยาจามิ, ตะตยิ มั ปิ อะหงั ภันเต, สะระณะสีลงั ยาจามิ, ลำดบั น้นั พระอำจำรยก์ ลำ่ วคำนมสั กำรนำให้ผมู้ ุ่งบรรพชำวำ่ ตำมไป ดงั น้ี นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธธัสสะ ฯ (วำ่ ๓ หน) แตน่ ้นั ท่ำนจะสงั่ ดว้ ยคำวำ่ เอวัง วะเทหิ หรือ ยะมะหงั วะทามิ ตัง วะเทหิ พึงรับวำ่ อามะ ภนั เต คร้ันแลว้ ท่ำนนำใหเ้ ปลง่ วำจำวำ่ สรณคมน์ พงึ วำ่ ตำมไปทีละพำกยด์ งั น้ี พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณงั คัจฉามิ สังฆงั สะระณัง คัจฉามิ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 194 ทุตยิ ัมปิ พทุ ธัง สะระณงั คจั ฉามิ ทุตยิ ัมปิ ธัมมงั สะระณัง คจั ฉามิ ทตุ ยิ ัมปิ สังฆงั สะระณัง คจั ฉามิ ตะตยิ ัมปิ พทุ ธัง สะระณงั คจั ฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมงั สะระณงั คจั ฉามิ ตะตยิ ัมปิ สังฆัง สะระณัง คจั ฉามิ เมื่อจบแลว้ ทำ่ นบอกวำ่ ติสะระณะคะมะนงั นฏิ ฐิตัง พึงรับวำ่ อามะ ภันเต ลำดบั น้นั พระอำจำรำยจ์ ะบอกใหร้ ู้วำ่ กำรบรรพชำเป็น สำมเณรสำเร็จดว้ ยสรณคมนเ์ พยี งเทำ่ น้ี ตอ่ แตน่ ้นั พงึ สมำทำนสิกขำบท ๑๐ ประกำร วำ่ ตำมทำ่ นไปดงั น้ี ปาณาตปิ าตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทยิ ามิ อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทยิ ามิ อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมาทยิ ามิ สุราเมระยะมชั ชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมา- ทยิ ามิ วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมาทยิ ามิ นจั จะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมา- ทยิ ามิ มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวภิ ูสะนฏั ฐานาเวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมา- ทยิ ามิ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ที่ 195 ชาตะรูปะระชะตะปะฏคิ คะหะณา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ อมิ าทิ ทะสะ สิกขาปะทานิ สะมาทยิ ามิ ฯ ขอ้ อมิ านิ น้ีวำ่ ๓ จบ แลว้ กรำบลง ๑ หน ยนื ข้ึนวำ่ วนั ทามิ ภนั เต, สัพพงั อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต, มะยา กะตัง ปญุ ญัง สามินา อะนุโมทติ พั พงั , สามนิ า กะตัง ปุญญงั มยั หัง, ทาตพั พงั สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ คุกเข่ำกรำบ ๓ หน ในลำดบั น้นั สำมเณรพึงรับบำตรอมุ้ เขำ้ ไปหำพระอปุ ัชฌำยะในสังฆ- สนั นิบำต วำงไวข้ ำ้ งตวั ซำ้ ยรับเคร่ืองไทยทำนถวำยทำ่ นแลว้ กรำบลง ๓ หน ยนื ปะนมมือกลำ่ วคำขอนิสยั วำ่ ดงั น้ี อกุ าสะ วนั ทามิ ภนั เต, สัพพงั อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต, มะยา กะตงั ปุญญงั สามินา อะนุโมทติ พั พงั , สามินา กะตัง ปญุ ญัง มยั หัง, ทาตัพพงั สาธุ สาธุ อะนุโมทานิ ฯ, อุกาสะ การุญญงั กตั วา นสิ สะยงั เทถะ เม ภนั เต, (นงั่ คุกเขำ่ ) อะหัง ภันเต, นิสสะยงั ยาจามิ, ทุตยิ มั ปิ อะหัง ภนั เต, นสิ สะยงั ยาจามิ ตะตยิ มั ปิ อะหงั ภนั เต, นิสสะยงั ยาจามิ ฯ อุปัชฌาโย เม ภนั เต โหหิ ฯ วรรคน้ีวำ่ ๓ หน เมื่อพระ อุปัชฌำยว์ ำ่ โอปายกิ งั , ปะฏริ ูปัง ปาสาทิเกนะ สัมปาเทหิ, แลว้ สำมเณร พึงกล่ำวรับวำ่ อุกาสะ สัมปะฏจิ ฉามิ ฯ ในระหวำ่ ง ๆ ๓ หน แลว้ วำ่ ตอ่ อชั ชะตัคเคทานิ เถโร มยั หงั ภาโร, อะหมั ปิ เถรัสสะ ภาโร วรรคน้ีวำ่ ๓ หน แลว้ กรำบลง ๑ หน ยนื ข้ึนวำ่ ต่อ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 196 วนั ทามิ ภนั เต, สัพพงั อะปาราธัง ขะมะถะ เม ภนั เต, มะยา กะตงั ปญุ ญัง สามินา อะนุโมทิตพั พงั , สามนิ า กะตัง ปุญญงั มยั หัง ทาตัพพงั สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ, คุกเขำ่ กรำบ ๓ หน ต้งั แต่ อปุ ัชฌาโย ฯลฯ เถรัสสะ ภาโร ๓ วรรค น้ี พระ อุปัชฌำยะบำงองคใ์ หว้ ำ่ รวดเดียวตำมแบบน้นั กม็ ี ใหว้ ำ่ เป็นตอน ๆ ดงั น้ีคือ เม่ือสำมเณรวำ่ อปุ ัชฌาโย เม ภนั เต โหหิ ๓ หน แลว้ พระ อุปัชฌำยะกล่ำวรับวำ่ โอปายกิ งั ปะฏริ ูปัง ปาสาทเิ กนะ สัมปาเทหิ, บทใดบทหน่ึงพงึ รับวำ่ อุกาสะ สัมปะฏจิ ฉามิ ทกุ บทไปแลว้ สำมเณร พงึ กลำ่ วรับเป็นธุระใหท้ ่ำนวำ่ อชั ชะตัคเคทานิ ฯลฯ ภาโร ๓ หน ฯ ก็มี ลำดบั น้นั พระอปุ ัชฌำยะหรือพระกรรมวำจำจำรยเ์ อำบำตรมีสำยโยคคลอ้ งตวั ผู้ ม่งุ อปุ สมบทแลว้ บอกบำตรและจีวร ผมู้ งุ้ อปุ สมบทพงึ รับวำ่ อามะ ภันเต, ๔ หน ดงั น้ี ปะฐะมงั อุปัชฌงั คาหาเปตัพโพ อปุ ัชฌัง คาหาเปตวา ปัตตะ จีวะรัง อาจกิ ขติ ัพพงั คาบอกบาตรจวี ร คารับ ๑. อะยนั เต ปัตโต อามะ ภันเต ๒. อะยัง สังฆาฏิ อามะ ภนั เต ๓. อะยงั อุตตะราสังโค อามะ ภันเต ๔. อะยงั อนั ตะระวาสะโก อามะ ภันเต ต่อจำกน้นั พระอำจำรยท์ ำ่ นบอกใหอ้ อกไปขำ้ งนอก วำ่ คัจฉะ อะมมุ หิ โอกาเส ติฏฐาหิ พงึ ถอยออกลุกข้ึนเดินไปยนื อยใู่ นที่ที่กำหนดไว้ พระอำจำรยท์ ำ่ นสวดสมมติตนเป็นผสู้ อนซอ้ ม แลว้ ออกไปสวดถำมอนั ตรำ- ยกิ ธรรม พึงรับวำ่ นัตถิ ภนั เต ๕ หน อามะ ภนั เต ๘ หน ดงั น้ี

มนตพ์ ธิ ี - หนำ้ ท่ี 197 ถาม ตอบ ๑. กุฏฐัง นัตถิ ภันเต ๒. คณั โฑ นัตถิ ภันเต ๓. กลิ าโส นตั ถิ ภนั เต ๔. โสโส นัตถิ ภนั เต ๕. อะปะมาโร นตั ถิ ภันเต ๑. มะนุสโสส๊ิ อามะ ภนั เต ๒. ปริโสสิ๊ อามะ ภนั เต ๓. ภชุ ิสโสส๊ิ อามะ ภันเต ๔. อะนะโณส๊ิ อามะ ภันเต ๕. นะสิ๊ ราชะภะโฏ อามะ ภันเต ๖. อะนุญญาโตส๊ิ มาตาปิ ตูหิ อามะ ภันเต ๗. ปะริปุณณะวสี ะตวิ ัสโสสิ๊ อามะ ภันเต ๘. ปะริปุณณนั เต ปัตตะจวี ะรัง อามะ ภันเต ๑. กนิ นาโมสิ อะหัง ภนั เต........................ นามะ ๒. โก นามะ เต อปุ ัชฌาโย อุปัชฌาโย เม ภนั เต อายัสมา............................. นามะ ช่องท่ี..............ไว้ พระอปุ ัชฌำยะ หรืออำจำรยท์ ่ำนจะต้งั ช่ือของ อปุ สมั ปทำเปกขะกรอบลงชอ้ งใหไ้ วก้ ่อนวนั บวช และช่องที่ ........ ไวใ้ นช่องชื่อของพระอปุ ัชฌำยะก็เช่นเดียวกนั ให้ กรอกตำมช่ือของพระอปุ ัชฌำยะ ซ่ึงทำ่ นจะบอกและกรอกใหไ้ วก้ ่อนวนั บวช

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 198 คร้ันสวดสอนซอ้ มแลว้ ทำ่ นกลบั เขำ้ มำสวดขอเรียกอุปสมั ปทำเปกขะ เขำ้ มำ อปุ สมั ปทำเปกขะ พึงเขำ้ มำในสังฆสนั นิบำต กรำบลงตรงหนำ้ พระอปุ ัชฌะ ๓ หน แลว้ นง่ั คุกเข่ำประนมมือ เปล่งวำจำขออุปสมบท วำ่ ดงั น้ี สังฆัมภนั เต, อุปะสัมปะทัง ยาจามิ, อลุ ลมุ ปะตุ มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกมั ปัง อปุ าทายะ ทตุ ยิ มั ปิ ภันเต, สังฆงั อุปะสัมปะทงั ยาจาม,ิ อุลลมุ ปะตุ มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกมั ปัง อปุ าทายะ, ตะตยิ ัมปิ ภันเต, สังฆัง อุปะสัมปะทัง ยาจาม,ิ อุลลุมปะตุ มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกมั ปัง อปุ าทายะ, ในลำดบั น้นั พระอปุ ัชฌำยะกลำ่ วเผดียงสงฆแ์ ลว้ พระอำจำรยส์ วด สมมติตนถำมอนั ตรำยกิ ธรรม อุปสัมปทำเปกขะพงึ รับวำ่ นตั ถิ ภนั เต ๕ หน อามะ ภนั เต ๘ หน บอกชื่อตนและช่ือพระอปุ ัชฌำยะรวม ๒ หน เหมือนท่ีกล่ำวแลว้ ในหนหลงั ฯ แตน่ ้นั พึงนง่ั ฟังท่ำนสวดกรรมวำจำ อุปสมบทไปจนจบ คร้ันจบแลว้ ทำ่ นเอำบำตรออกจำกตวั แลว้ พึงกรำบลง ๓ หน แต่น้นั พงึ นง่ั พบั เพยี บประนมมือฟังพระอุปัชฌำยะบอกอนุศำสน์ ไปจนจบ แลว้ รับวำ่ อามะ ภนั เต เป็นเสร็จพธิ ีอปุ สมบท แลว้ กรำบ พระอุปัชฌำยะ ๓ หน ถำ้ มีไทยทำยถวำยกใ็ หร้ ับไทยทำนถวำยพระอนั ดบั เสร็จแลว้ คอยฟังพระทำ่ นอนุโมทนำต่อไป เม่ือพระอนุโมทนำ พงึ กรวดน้ำ ต้งั ใจอทุ ิศบุญกุศลส่วนน้ีใหแ้ ก่ทำ่ นผมู้ ีพระคุณ เม่ือพระวำ่ ยะถา จบ ก็ เทน้ำโกรกลงใหห้ มด ตอ่ น้นั ประนมมือฟังอนุโมทนำไปจนจบเป็นอนั เสร็จพธิ ี. จบพธิ ีอปุ สมบทแบบอุกาสะ

มนตพ์ ิธี - หนำ้ ท่ี 199 วิธีบรรพชาอุปสมบทแบบเอสาหัง กุลบตุ รผมู้ ีศรัทธำมงุ่ อุปสมบท พงึ รับผำ้ ไตรอุม้ ประนมมือเขำ้ ไปใน สงั ฆสันนิบำต วำงผำ้ ไตรไวข้ ำ้ งตวั ดำ้ นซำ้ ย รับเครื่องสักกำระถวำยพระ อปุ ัชฌำยะ แลว้ กรำบลงดว้ ยเบญจำงคประดิษฐ์ ๓ คร้ังแลว้ นงั่ คุกเขำ้ อุม้ ผำ้ ไตร ประนมมือเปลง่ วำจำ ถึงสรณะและขอบรรพชำดว้ ยคำมคธ หยดุ ตำมจุดจุลภำค วำ่ เอสาหงั ภันเต, สุจิระปะรินพิ พตุ มั ปิ , ตัง ภะคะวันตงั สะระณงั คจั ฉามิ, ธัมมัญจะ ภกิ ขสุ ังฆญั จะ, ละเภยยาหงั ภนั เต, ตัสสะ ภะคะ- วะโต, ธัมมะวินะเย ปัพพชั ชัง, ละเภยยงั อปุ ะสัมปะทัง ทุตยิ ัมปาหงั ภนั เต, สุจิระปะรินพิ พุตมั ปิ , ตัง ภะคะวนั ตัง สะระ- ณัง คัจฉามิ, ธัมมญั จะ ภกิ ขสุ ังฆัญจะ, ละเภยยาหงั ภนั เต, ตสั สะ ภะคะวะโต, ธัมมะวนิ ะเย ปัพพชั ชัง, ละเภยยงั อปุ ะสัมปะทัง ตะตยิ ัมปาหัง ภนั เต, สุจริ ะปะรินิพพุตมั ปิ , ตงั ภะคะวนั ตัง สะระณงั คจั ฉามิ, ธัมมญั จะ ภกิ ขสุ ังฆญั จะ ละเภยยาหงั ภนั เต, ตัสสะ ภะคะวะโต,ธัมมะวินะเย ปัพพชั ชัง, ละเภยยัง อุปะสังปะทงั อะหัง ภนั เต, ปัพพชั ชัง ยาจามิ, อมิ านิ กาสายานิ วตั ถานิ คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มงั ภนั เต, อะนุกมั ปัง อปุ าทายะ ทุตยิ มั ปิ อะหัง ภนั เต, ภนั เต, ปัพพชั ชัง ยาจามิ, อมิ านิ กาสายามิ วัตถานิ คะเหตวา, ปัพพเชถะ มัง ภนั เต, อะนุกมั ปัง อปุ าทายะ ตะตยิ มั ปิ อะหงั ภนั เต, ปัพพชั ชัง ยาจามิ, อมิ านิ กาสายานิ วตั ถานิ คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มัง ภนั เต, อะนุกมั ปัง อุปาทายะ ถำ้ บวชเป็นสำมเณร ยกคำวำ่ ละเภยยงั อปุ ะสัมปะทงั ออกเสีย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook