Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore monpiti

monpiti

Published by hua ron, 2021-09-09 10:48:25

Description: monpiti

Search

Read the Text Version

วธิ ีแกก้ ค็ ือ ให้ตดั คำวำ่ &feature=related ออกจำกลิงคท์ ี่เรำก็อปมำ ยกตวั อยำ่ ง เช่น คลิปเดิมเป็น http://www.youtube.com/watch?v=fOGSBLGY850&feature=related เมื่อตดั &feature=related ออก มนั ก็จะเป็น http://www.youtube.com/watch?v=fOGSBLGY850 ทีน้ีเรำก็เอำลิงคน์ ้ีไปใชด้ ำวนโ์ หลดในโปรแกรม Youtube Downloader ไดแ้ ลว้ ล่ะ 2. ถำ้ จะใหด้ ำวนโ์ หลดไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ เรำควรดูคลปิ น้นั จบก่อน 1 รอบ ขอบคณุ ท่ีมำและเน้ือหำจำก thaicilp.com ตานานพระปริตร : อาฏานาฏิยปริตร บทขดั อำฏำนำฏิยปริตร องคส์ มเดจ็ พระผมู้ ีพระภำค ผเู้ ป็นมหำวรี บุรุษ ทรงแสดงพระปริตรใด เพือ่ คมุ้ กนั พทุ ธบริษทั ท้งั ๔ มิให้ถูกเบียดเบียน จำกอมนุษยท์ ้งั หลำย ทด่ี ุร้ำยสนั ดำนหยำบชำ้ ไม่เลื่อมใสในพระพทุ ธศำสนำ ซ่ึงบณั ฑิตท้งั หลำยรบั รองแลว้ ว่ำ เป็น ศำสนำดีทุกเมื่อ ทำ่ นผเู้ จริญท้งั หลำยพึงสวดพระปริตรน้นั เทอญ ตำนำน สมยั หน่ึงสมเดจ็ พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ ทรงเสดจ็ ประทบั อยู่ ณ ภูเขำคชิ ฌกูฎบรรพต ใกลก้ รุงรำชคฤหม์ หำนคร ในคร้ังน้นั ทำ้ วจำตมุ มหำรำชท้งั ๔ ซ่ึงสถิตยอ์ ยเู่ หนือยอดเขำยคุ นั ธร ท่ีเรียกว่ำช้นั จำตุมหำรำชิกำ อนั เป็นช้นั ต่ำกวำ่ สวรรคช์ ้นั ดำวดึงส์ลงมำซ่ึงเป็นที่สถิตยข์ ององคอ์ ินทรำธิรำช พระอินทร์ ทรงมีเทวะพระบญั ชำให้มหำรำชท้งั ๔ ทำหนำ้ ท่ีเฝ้ำรักษำประตูสวรรคใ์ นทิศท้งั ๔ เพือ่ ป้องกนั มิให้พวก อสูรมำรบกวน โดยมี ทำ้ วธตรฐ ผเู้ ป็นเจำ้ แห่งพวกคนธรรพ์ รักษำทิศบรู พำ ทำ้ ววิรุฬหก เป็นเจำ้ แห่งกมุ ภณั ฑ์ รักษำทิศทกั ษิณ ทำ้ ววริ ูปักษ์ เป็นเจำ้ แห่งนำคท้งั ปวง รักษำทิศปัจจิมทำ้ วเวสวนั เป็นเจำ้ แห่งยกั ษ์ รักษำทิศอดุ ร ทำ้ วมหำรำชท้งั ๔ มีจิตเล่ือมใสศรัทธำ ปรำรถนำจะเก้ือกูลพระพทุ ธศำสนำ มิใหพ้ วกอสูร หรือพวกศตั รูมำย่ำยีบีฑำ แด่พระภิกษสุ งฆส์ ำวกของพระบรมสุคตเจำ้ จึงคดิ จะชวนกนั ลงมำเฝ้ำพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ แตก่ ็ห่วงภำระหนำ้ ท่ีที่จะตอ้ งดูแลรักษำควำมสงบเรียบร้อยในประตู สวรรคท์ ้งั ๔ ทศิ มหำรำชท้งั ๔ จึงมีบญั ชำแตง่ ต้งั ให้ คนธรรพ์ กมุ ภณั ฑ์ นำค และยกั ษ์ อยำ่ งละแสนรักษำประตสู วรรค์ ท้งั ๔ ทศิ ซ่ึงก็ให้พวกคนธรรพ์ รักษำทิศบรู พำ กมุ ภณั ฑร์ ักษำทิศทกั ษณิ นำครักษำทศิ ปัจจิม ยกั ษร์ ักษำทิศอดุ ร

คร้ันแลว้ ทำ้ วมหำรำชท้งั ๔ ไดป้ ระชุมพร้อมกนั ที่ อำฏำนำฏิยนคร ณ สวรรคช์ ้นั จำตุมหำรำชิกำ พร้อมกบั ผกู มนต์ อำฏำนำฏิยปริตร ซ่ึงมีเน้ือควำมสรรเสริญคุณของพระสัมมำสัมพทุ ธเจำ้ ท้งั ๗ พระองค์ มี พระวิปัสสี ผมู้ ีสิริอนั งำม พระสิขี พุทธเจำ้ ผมู้ ำกดว้ ยกำรอนุเครำะหแ์ ก่สตั วท์ ้งั ปวง พระเวสสภู พทุ ธเจำ้ ผปู้ รำศจำกกเิ ลส มีตบะ พระกกุสันธะ พุทธเจำ้ ผมู้ ีชยั ชนะแก่พญำมำรและเสนำมำร โกนำคมนะ พทุ ธเจำ้ ผมู้ ีบำปอนั ลอยเสียแลว้ มีพรหมจรรยอ์ นั จบแลว้ กสั สปะ พทุ ธเจำ้ ผพู้ น้ วเิ ศษแลว้ จำกกองกิเลสท้งั ปวง พระองั คสี พุทธเจำ้ ผเู้ ป็นโอรสแห่งหมศู่ ำกยรำช ผูม้ ีศกั ด์ิ มีสิริ ดงั น้ีเป็นตน้ คร้ันผกู มนตพ์ ระปริตรแลว้ ทำ้ วมหำรำชท้งั ๔ จึงประกำศแก่บริวำรของตนว่ำ ธรรมอำณำจกั รของพระบรมศำสดำ สัมมำสัมพทุ ธเจำ้ อนั เป็นบรมครูของเรำท้งั ๔ ถำ้ มีผใู้ ดสำธยำยมนต์ อำฏำนำฏิยปริตร น้ีข้นึ แลว้ ถำ้ ใครไมเ่ ชื่อฟัง ไม่ สดบั จะตอ้ งถูกลงโทษอยำ่ งสำสม รุนแรง และแลว้ มหำรำชท้งั ๔ ก็พร้อมใจกนั ลงมำเขำ้ เฝ้ำพระผมู้ ีพระภำคเจำ้ ณ ภูเขำคิชฌกูฏ กรำบบงั คมทลู วำ่ หมยู่ กั ษ์ ท้งั หลำย หมนู่ ำคท้งั หลำย หมกู่ มุ ภณั ฑท์ ้งั หลำย และหมูค่ นธรรพท์ ้งั หลำย ผมู้ ีเดช มีศกั ดำ มีอำนุภำพ มีจิตกระดำ้ ง หยำบชำ้ ละเมิดเบญจศีลเป็นอำจิณ ที่ยงั ไมเ่ ล่ือมใสในคณุ ของพระรัตนตรัยน้นั มีมำกพวกท่ีเลื่อมใสน้นั มีนอ้ ย เมื่อพระสำวกของพระผมู้ ีพระภำค เป็นผยู้ ินดีในกำรอยปู่ ่ ำ เพ่อื บำเพญ็ สมณธรรม ในที่ห่ำงไกลจำกมนุษยส์ ัญจร อมนุษยผ์ ไู้ มเ่ ล่ือมใส ยอ่ มจะย่ำยี หลอนหลอก กระทำใหเ้ จ็บไขเ้ ป็นอนั ตรำยแก่ชีวติ และพรหมจรรย์ แตต่ อ่ น้ีไปจะไม่ บงั เกิดเหตุกำรณ์เช่นน้นั อีกแลว้ ถำ้ พระบรมสุคตเจำ้ ทรงพระกรุณำโปรดรับมนตอ์ ำฏำนำฏิยปริตรน้ีไว้ แลว้ โปรด ประทำนให้พระภิกษุสำวก สำธยำยอยเู่ นือง ๆ อมนุษยท์ ้งั ปวงก็จะมิกลำ้ ย่ำยีหลอนหลอกทำร้ำย อีกท้งั ยงั จะช่วย ปกป้องคมุ้ ครอง กนั ภยั ท้งั ปวงใหอ้ กี ดว้ ยพระเจำ้ ขำ้ องคส์ มเดจ็ พระผมู้ ีพระภำคเจำ้ ทรงรับมนตพ์ ระปริตรน้นั โดยดุษฏี ทำ้ วเวสวณั กแ็ สดงอำฏำนำฏิยปริตรน้นั ถวำยและแลว้ มหำรำชท้งั ๔ ก็ถวำยมนสั กำรลำ สมเด็จพระบรมศำสดำ จึงทรงมพี ระบญั ชำใหป้ ระชุมภิกษุท้งั หลำยในท่ีน้นั แลว้ ทรงแสดงมนตพ์ ระปริตรน้นั ให้แก่ ภิกษทุ ้งั หลำยไดเ้ รียนสำธยำย เสร็จแลว้ ทรงมีพทุ ธฎีกำตรัสว่ำ ดูก่อนภิกษุท้งั หลำย ท่ำนท้งั หลำยจงอตุ สำหะ สำธยำยมนตพ์ ระปริตรน้ีใหบ้ ริบรู ณ์ในสนั ดำน จะพน้ จำก อปุ ัทวนั อนั ตรำยท้งั ปวงได้ อมนุษยท์ ้งั หลำยก็จะไม่มำย่ำยี หลอนหลอก เธอท้งั หลำยจะไดด้ ำรงคอ์ ยเู่ ป็นสุข เพื่อยงั พรหมจรรยใ์ หเ้ จริญ

ภิกษเุ หลำ่ น้นั กเ็ ปล่งสำธุกำร นอ้ มรับดว้ ยเศียรเกลำ้ จบ เสียงสวดพระสูตรบทกรณียเมตตสูตร โดย ท่ำนพระธรรมวิสุทธิกวี (พจิ ิตรฐิตวณฺโณป.ธ ๙) วดั โสมนสั วิหำรกรุงเทพฯ กะระณียะมตั ถะกุสะเลนะ ยนั ตงั สันตงั ปะทงั อะภิสะเมจจะ สกั โก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จสั สะ มุทุ อะนะติมำนี สนั ตุสสะโก จะสุภะโร จะ อปั ปะกจิ โจ จะสลั ละหุกะวตุ ติ สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ ปะคพั โภ กเุ ลสุ อะนะนุคทิ โธ นะจะขทุ ทงั สะมำจะเร กิญจิ เยนะ วญิ ญู ปะเร อปุ ะวะเทยยงุ สุขิโน วำ เขมิโน โหนตุ สัพเพ สตั ตำ ภวุ นั ตุ สุขิตตั ตำ เยเกจิ ปำณะภตู ตั ถิ ตะสำวำ ถำวะรำ วำ อะนะวะเสสำ ทีฆำ วำ เย มะหนั ตำ วำ มชั ฌิมำ รัสสะกำ อะณุกะถลู ำ

ทิฏฐำ วำเย จะอะทฏิ ฐำ เยจะ ทเู รวะสันติ อะวทิ เู ร ภูตำ วำ สัมภะเวสี วำ สัพเพ สัตตำ ภะวนั ตุ สุขิตตั ตำ นะ ปะโร ปะรัง นิกพุ เพถะ นำติ มญั เญะกะ กตั ถะจิ นงั กิญจิ พยำโรสะนำ ปะฏีฆะสัญญำ นำญญะ มญั ญสั สะ ทุขะมิจเฉยยะ มำตำ ยะถำ นิยงั ปตุ ตงั อำยสุ ำ เอกะปตุ ตะมะนุรักเข เอวมั ปิ สพั พะภูเตสุ มำนะสมั ภำวะเย อะปะริมำณัง เมตตญั จะ สัพพะโลกสั มิง มำนะสมั ภำวะเย อะปะริมำณงั อทุ ธงั อะโธ จะติริยญั จะ อะสัมพำธงั อะเวรัง อะสะปัตตงั ติฏฐญั จะรัง นิสินโน วำ สะยำโน วำ ยำวะตสั สะ วิคะตะมิทโธ เอตงั สะติง อะทิฏเฐยยะ พรัหมะเมตงั วิหำรัง อิธะมำหุ ทิฏฐิญจะ อะนุปคมั มะ สีละวำ ทสั สะเนนะ สมั ปันโน กำเมสุ วิเนยยะ เคธงั นะ หิ ชำตุ คพั ภะเสยยงั ปุนะเรตตี ิ --------------------------------------------------------------------------------

คำแปลบทสวดกรณีเมตตสูตร กิจที่คนฉลำดในสิ่งท่ีมีประโยชน์ และมุ่งหมำยจะบรรลทุ ำงสงบ จะพงึ ทำคอื เป็นคนกลำ้ เป็นคนซ่ือ เป็นคนตรง วำ่ งำ่ ย ออ่ นโยน ไม่เยอ่ หยิ่ง เป็นผสู้ นั โดษ เล้ียงงำ่ ย มีภำระกิจนอ้ ย คลอ่ งตวั ระมดั ระวงั กำรแสดงออก รู้ตวั ไม่คะนอง ไม่ คลุกคลีในตระกูลท้งั หลำย ไม่ประพฤติสิ่งท่ีวิญญูชนตำหนิตเิ ตียนได้ พึงแผเ่ มตตำจิต วำ่ ขอสตั วท์ ้งั ปวงจงมีควำมสุข กำยสบำยใจ มีควำมเกษมสำรำญเถิด ขอสัตวท์ ้งั หลำยบรรดำมี ทีเ่ ป็นสตั วต์ วั อ่อน หรือตวั แขง็ ก็ตำม เป็นสตั วม์ ีลำตวั ยำวหรือลำตวั ใหญก่ ็ตำม มีลำตวั ปำน กลำงหรือตวั ส้นั ก็ตำม ตวั เลก็ หรือตวั โตก็ตำม ที่มองเห็นหรือมองไมเ่ ห็นกต็ ำม ท่ีอยไู่ กลหรืออยใู่ กลก้ ็ตำม ท่ีเกิดแลว้ หรือกำลงั หำทเ่ี กิดอยกู่ ็ตำม ขอสัตวท์ ้งั หลำยท้งั ปวงน้นั จงสุขกำยสบำยใจเถิด บคุ คลไม่พึงหลอกลวงผอู้ ่ืน ไมค่ วรดูหม่ินเหยยี ดหยำมใครๆ ใมค่ วรมุ่งร้ำยตอ่ กนั และกนั เพรำะมีควำมข่นุ เคืองโกรธ แคน้ กนั คนเรำพงึ แผค่ วำมรักควำมเมตตำ ไปยงั สตั วท์ ้งั หลำย หำประมำณมิได้ ดุจดงั มำรดำถนอมและปกป้องบุตรสุดที่รักคน เดียวดว้ ยชีวติ ฉะน้นั พึงแผเ่ มตตำจิตไปไมม่ ขี อบเขต ไมค่ ิดผกู เวร ไม่เป็นศตั รู อนั หำประมำณไม่ได้ ไปยงั สัตวโ์ ลกท้งั ปวงทว่ั ทกุ สำรทิศ ผู้ เจริญเมตตำจิตน้นั จะยนื จะเดนิ จะนง่ั จะนอน ตลอดเวลำ ท่ีตนยงั ต่ืนอยู่ พงึ ต้งั สติอนั ประกอบดว้ ยเมตตำน้ีใหม้ น่ั ไว้ บณั ฑิตท้งั หลำย กลำ่ วว่ำ กำรอยดู่ ว้ ยเมตตำน้ีเป็นพรหมวหิ ำร ท่ำนผเู้ จริญเมตตำจิตที่ละควำมเห็นผดิ แลว้ มีศีล มีควำม เห็นชอบ ขจดั ควำมใคร่ในกำมได้ กจ็ ะไม่กลบั มำเกิดอีกเป็นแน่แท้ ประวตั ิ ตำนำนกรณีเมตตสูตร บทขดั กรณียเมตตสูตร เหล่ำเทพยำท้งั หลำย ยอ่ มไม่แสดงอำกำรอนั น่ำสะพรึงกลวั เพรำะอำนุภำพแห่งพระปริตรน้ี อน่ึงบคุ คลไม่เกียจคร้ำน สำธยำยอยเู่ นือง ซ่ึงพระปริตรน้ี ท้งั ในกลำงวนั และกลำงคืนยอ่ มหลบั เป็นสุข ขณะหลบั ยอ่ มไมฝ่ ันรำ้ ย ท่ำนผเู้ จริญท้งั หลำย จงสวดพระปริตร อนั ประกอบไปดว้ ยคณุ ดงั กล่ำวมำดงั น้ีเทอญ

ตำนำน เรื่องมีว่ำ สมยั หน่ึง จวนเขำ้ พรรษำ พวกพระภิกษุ ๕๐๐ รูป ในนครสำวตั ถี คร้ันไดเ้ รียนกมั มฏั ฐำนในสำนกั สมเดจ็ พระ บรมศำสดำแลว้ หลีกไปหำท่ีสงดั เงียบสำหรับเจริญวปิ ัสสนำเดินทำงไปไดส้ ิ้นระยะทำงประมำณ ๑๐๐ โยชน์ ถึงหมบู่ ำ้ นแห่งหน่ึง ชำวบำ้ นเหลำ่ น้นั ไดเ้ ห็นพระภิกษุ มีควำมยินดี นิมนตใ์ หน้ ง่ั บนอำสนะอนั สมควรแลว้ องั คำสดว้ ย ขำ้ วยำคู เป็นตน้ พร้อมท้งั ถำมว่ำ พระผเู้ ป็นเจำ้ ท้งั หลำยจะไป ณท่ีแห่งใด ภิกษทุ ้งั หลำยจึงกล่ำวว่ำ เรำจะไปแสวงหำสถำนที่สบำย สำหรับปฏิบตั ิธรรมตลอดไตรมำส ชำวบำ้ นเหลำ่ น้นั จึงกล่ำว ว่ำ จำกน้ีไปไม่ไกลนกั มีป่ ำชฏั เป็นที่สงดั เงียบเป็นท่ีร่ืนรมย์ ขอนิมนตพ์ ระผเู้ ป็นเจำ้ ท้งั หลำย โปรดจงเจริญสมณธรรม ในที่น้นั ตลอดไตรมำสเถิด ขำ้ พเจำ้ ท้งั หลำยจะขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และรักษำศีลในสำนกั ของพระผเู้ ป็นเจำ้ ท้งั หลำย พระภิกษุท้งั หลำย รับนิมนตแ์ ลว้ กอ็ อกเดินทำงเขำ้ ไปสู่ป่ ำชฏั เพอ่ื เจริญสมณธรรม ฝ่ ำยพวกรุกขเทวดำท่ีสิงสถิตอยบู่ นตน้ ไมใ้ นป่ ำน้นั ต่ำงพำกนั คิดว่ำ พระผเู้ ป็นเจำ้ ท้งั หลำยมำอำศยั อยทู่ ี่โคนตน้ ไมข้ อง เรำตวั เรำและบุตรภรรยำข้ึนอยบู่ นตน้ ไมน้ ้ี จกั ไมเ่ ป็นกำรบงั ควรดูว่ำจะไม่เคำรพ พวกรุกขเทวดำท้งั หลำย จึงพำกนั ลง จำกตน้ ไม้ มำนง่ั อยเู่ หนือพ้ืนดนิ ไดร้ ับควำมลำบำกมิใช่นอ้ ย พวกรุกขเทวดำผใู้ หญ่ ไดพ้ ดู ปลอบใจเทวดำผนู้ อ้ ยวำ่ ไม่ เป็นไรหรอกชำวเรำเอ๋ย พระผเู้ ป็นเจำ้ เหล่ำน้ีคงจะอยู่ ท่ีน้ีไม่นำน รุ่งข้ึนทำ่ นกค็ งจะจำริกไปที่อน่ื ชำวเรำท้งั หลำย จกั ได้ กลบั ข้ึนไปอยบู่ นวมิ ำนของเรำเหมือนเดิม รุ่งสำง พระสุริยะก็ฉำยแสงส่องลงมำยงั ภำคพ้นื ปฐพี เหลำ่ ภิกษทุ ้งั หลำย กพ็ ำกนั ออกเที่ยวบิณฑบำตภำยในหมบู่ ำ้ น ซ่ึงต้งั อยไู่ ม่ไกลจำกป่ ำน้นั นกั พวกเทวดำตำ่ งพำกนั คิดวำ่ ดีหละ พระเป็นเจำ้ ท้งั หลำยคงจะยำ้ ยที่อยู่ กนั สิ้นแลว้ จึงพำกนั ข้นึ ไปสถิตยงั ตน้ ไมข้ องตน ตำมเดิม เหตุกำรณ์เป็นเช่นน้ี ลว่ งเวลำไปคร่ึงเดือน พวกรุกขเทวดำจึงพำกนั คดิ ว่ำชะรอยพระเป็นเจำ้ คงจะอยู่ ณ ที่น้ีถว้ นไตร มำสเป็นแน่ เห็นทีชำวเรำคงจะตอ้ งลำบำกไปตลอดไตรมำสดว้ ย เห็นทีชำวเรำท้งั หลำยจะตอ้ งทำอะไรสักอยำ่ ง เพอ่ื ให้ ท่ำนไปเสียจำกท่ีนี่ เมื่อคิดดงั น้นั แลว้ รุกขเทวดำต่ำงกพ็ ำกนั แสดงตนใหป้ รำกฏต่อประสำทสมั ผสั ของพระภิกษทุ ้งั ๕๐๐ รูป ดว้ ยอำกำร กิริยำ อนั น่ำสะพรึงกลวั ต่ำง เช่น ทำให้เกิดลมพำยพุ ดั ทำใหเ้ กิดฝนตกเฉพำะภำคพ้นื น้นั ทำใหด้ ูประหน่ึงแผน่ ดินไหว สะเทือนเล่ือนลนั่ ทำใหเ้ กิดเสียงร้องโหยหวนดงั เสียงของเปรต หรือสตั วน์ รกผกู้ ำลงั ไดร้ ับทุกขเวทนำจำกกำรโดนลง

ทณั ฑ์ แมท้ ่ีสุดกระทำใหภ้ ิกษทุ ้งั หลำยไดเ้ ห็นภำพอนั น่ำสะพรึงกลวั ตำ่ ง ๆ พวกภิกษุท้งั รูปน้นั กห็ ำไดห้ นีจำกที่น้นั ไป ไม่ รุกขเทวดำผใู้ หญเ่ ลยออกอุบำยใหบ้ ริวำรช่วยกนั บนั ดำลให้เกิดโรคแก่ภิกษุเหลำ่ น้นั มีอำกำรป่ วยต่ำง ๆ กนั เช่น โรคไอ โรคจำม โรคหอบ โรคนอนกรน โรคฝันร้ำย โรคเหล่ำน้ี ทำใหก้ ำยของพระภิกษทุ ้งั ๕๐๐ รูป มีร่ำงกำยซูบซีด ผอมแหง้ ไดร้ ับทุกขเวทนำ จนทนอยู่ ณ ที่น้นั มิได้ จึงพำกนั เดินทำงหลีกหนี ออกจำกป่ ำชฏั น้นั แลว้ ชวนกนั ไปเฝ้ำพระบรม ศำสดำ ทูลเลำ่ เหตกุ ำรณ์ต่ำง ๆ ทไี่ ดป้ ระสบมำ ใหพ้ ระบรมศำสดำทรงทรำบ พระผมู้ ีพระภำค เม่ือไดท้ รงสดบั กำรที่ภิกษุท้งั ๕๐๐ รูปไดป้ ระสบมำ จึงทรงมีพทุ ธประสงคใ์ ห้ภิกษทุ ้งั ๕๐๐ รูป กลบั ไปเจริญสมณธรรมในที่เดิม จึงทรงประทำน เมตตำสูตร ให้แก่พระภิกษทุ ้งั ๕๐๐ รูปไดเ้ รียนเพอ่ื ใชป้ ้องกนั ภยั จำกภตู และเทวดำ ยกั ษท์ ้งั ปวงโดยมี พระพุทธฎีกำตรัสวำ่ ดูก่อนภิกษุท้งั หลำย เธอท้งั หลำยพงึ สำธยำยพระสูตรน้ี ต้งั แต่ชำยป่ ำ จนถึงภำยนอก และภำยในท่ีพกั เช่นน้ี ควำม สวสั ดีจะมีแก่เธอท้งั หลำย ภิกษทุ ้งั ๕๐๐ รูป ไดเ้ รียนพระพทุ ธมนต์ จนข้นึ ใจแลว้ จึงพำกนั เดินทำงกลบั ไปยงั ป่ ำชฏั ดงั เดิม คร้นั ถึงชำยป่ ำชฏั ภิกษุ ท้งั ๕๐๐ รูป ก็สำธยำยพระพุทธมนตบ์ ท เมตตำสูตร จนเดนิ ถึงที่พกั พวกรุกขเทวดำท้งั หลำย ไดส้ ดบั เสียงเจริญ เมตตำสูตร จำกปำกพระภิกษทุ ้งั ๕๐๐ รูป ก็มีจิตเมตตำ รักใคร่ พำกนั มำ ตอ้ นรับปฏิสันถำร รับบำตรจีวรช ปัดกวำด หำน้ำใช้ แลว้ คอยรับใช้ อภิบำลรักษำอยตู่ ำมแนวป่ ำ มิใหม้ นุษย์ อมนุษย์ และสตั วร์ ้ำยใด ๆ มำรบกวน ทำร้ำยพระเป็นเจำ้ ของตน ภิกษเุ หล่ำน้นั เมื่อไดอ้ ยเู่ ป็นท่ีสงบสุขแลว้ หมน่ั ต้งั จิตบำเพญ็ วิปัสสนำกมั มฏั ฐำน ตลอดกลำงวนั และกลำงคนื จนจิต หยงั่ ลงสู่วปิ ัสสนำญำณ เห็นควำมเสื่อมในร่ำงกำยของตน ว่ำอตั ภำพน้ีมีควำมเสื่อมไปเป็นธรรมดำ ประดจุ ภำชนะดิน เผำ ท่ีเปรำะบำงแตกทำลำยลงงำ่ ย ไมค่ งทนถำวร ขณะทีเ่ ป็นอยกู่ เ็ ป็นภำระ ที่ตอ้ งประคบั ประคองรักษำแมท้ ่ีสุดกห็ ำได้ มีตวั ตนที่แทจ้ ริงไม่ องคส์ มเดจ็ พระชินศรีบรมศำสดำสมั มำสัมพทุ ธเจำ้ ขณะทรงประทบั อยภู่ ำยในพระคนั ธกฎุ ี ทรงทรำบสภำวะธรรม ท่ี เกิดข้นึ ในจิตของพระภิกษุท้งั ๕๐๐ รูปดว้ ยพระญำณ จึงทรงเปล่งพระรัศมีให้ปรำกฏเฉพำะหนำ้ แก่ภิกษเุ หลำ่ น้นั ดุจ

ดงั ว่ำเสด็จมำเองเฉพำะภิกษุแต่ละองค์ และทรงตรัสพระคำถำว่ำ ภิกษทุ ้งั หลำย กำยน้ีเปรียบเหมือนหมอ้ ดิน จิตน้ีเปรียบเหมือนนคร ที่มีขำ้ ศึกคอยจอ้ งรุกรำนโจมตคี อื กิเลส อำวุธท่ีจะ ใชก้ ำรำบกิเลส ก็คือปัญญำ ขณะท่ีเรำกำลงั รุกรบกบั ขำ้ ศึกคือกิเลส ก็ตอ้ งระวงั ดูแลรักษำหมอ้ ดิน คอื กำยน้ีอยำ่ งไม่มีวนั จบสิ้น กำยน้ีเป็นภำระอยำ่ งยิง่ และเหตแุ ห่งกำรเกิดกำยน้ี กค็ อื กรรมอวชิ ชำควำมไม่รู้ ควำมรู้วิชำ ทำใหร้ ุ่งเรืองปัญญำ ดบั เหตุแห่งอกศุ ลกรรมเสียได้ ยอ่ มไมพ่ วั พนั ตอ่ ชำติภพยอ่ มมีชยั ชนะในโลก เมื่อจบพระธรรมเทศนำแลว้ ภิกษุท้งั ๕๐๐ รูป กไ็ ดบ้ รรลุอรหตั ผลพร้อมดว้ ยปฏิสมั ภิทำญำณ ดว้ ยประกำรฉะน้ี บทกรณีเมตตสูตร และคำแปล (อกี สำนวนหน่ึง) กะระณียะมตั ถะกสุ ะเลนะ ยนั ตงั สนั ตงั ปะทงั อะภิสะเมจจะ กิจอนั ใด อนั พระอริยเจำ้ บรรลบุ ทอนั กระทำแลว้ กิจอนั น้นั กุลบตุ รผฉู้ ลำดในประโยชนพ์ ึงกระทำ สกั โก อชุ ู จะ สุหุชู จะ กุลบุตรน้นั พึงเป็นผอู้ ำจหำญ และซ่ือตรงดี สุวะโจ จสั สะ มทุ ุ อะนะติมำนี เป็นผวู้ ำ่ ง่ำย อ่อนโยน ไมม่ ีอติมำนะ สันตสุ สะโก จะ สุภะโร จะ เป็นผสู้ ันโดษ เล้ียงง่ำย อปั ปะกจิ โจ จะ สัลละหุกะวตุ ติ เป็นผมู้ ีธุรกิจนอ้ ย ประพฤติเบำกำยจิต สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ มีอนิ ทรียอ์ นั ระงบั แลว้ มีปัญญำ

อปั ปะคพั โภ กเุ ลสุ อะนะนุคทิ โธ เป็นผไู้ มค่ ะนอง ไม่พวั พนั ในสกลุ ท้งั หลำย นะ จะ ขทุ ทงั สะมำจะเร กิญจิ เยนะ วญิ ญู ปะเร อุปะวะเทยยงุ วญิ ญูชนติเตียนชนท้งั หลำยอื่นดว้ ยกรรมอนั ใด ไมพ่ ึงประพฤติกรรมอนั น้นั เลย สุขโิ น วำ เขมิโน โหนตุ สัพเพ สตั ตำ ภะวนั ตุ สุขิตตั ตำ ขอสัตวท์ ้งั ปวง จงเป็นผมู้ ีสุข มีควำมเกษม มีตนถึงควำมสุขเถิด เย เกจิ ปำณะภตู ตั ถิ สัตวม์ ีชีวติ ท้งั หลำยเหล่ำใดเหล่ำหน่ึงมีอยู่ ตะสำ วำ ถำวะรำ วำ อะนะวะเสสำ ยงั เป็นผสู้ ะดุง้ ( คอื มีตณั หำ ) หรือเป็นผมู้ น่ั คง ( ไมม่ ีตณั หำ ) ท้งั หมดไม่เหลือ ทีฆำ วำ เย มะหนั ตำ วำ มชั ฌมิ ำ รัสสะกำ อะณุกะถลู ำ เหล่ำใดยำวหรือใหญ่ หรือปำนกลำงหรือส้ันหรือผอมพี ทิฏฐำ วำ เย จะ อะทิฏฐำ เหลำ่ ใดท่ีเรำเห็นแลว้ หรือมิไดเ้ ห็น เย จะ ทเู ร วะสนั ติ อะวิทเู ร เหล่ำใดอยใู่ นท่ีไกลหรือที่ไมไ่ กล ภตู ำ วำ สัมภะเวสี วำ ท่ีเกิดแลว้ หรือแสวงหำภพกด็ ี สัพเพ สตั ตำ ภะวนั ตุ สุขติ ตั ตำ ขอสัตวท์ ้งั ปวงเหล่ำน้นั จงเป็นผมู้ ีตนถึงควำมสุขเถดิ นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ สัตวอ์ ่นื อยำ่ งพงึ ข่มเหงสัตวอ์ ่ืน นำติมญั เญถะ กตั ถะจิ นงั กิญจิ อยำ่ พงึ ดูหม่ินอะไรๆ เขำ ในที่ไรๆ เลย พยำโรสะนำ ปะฏิฆะสญั ญำ นำญญะมญั ญสั สะ ทุกขะมิจเฉยยะ

ไมค่ วรปรำรถนำทกุ ขแ์ ก่กนั และกนั เพรำะควำมกริ้วโกรธดว้ ยควำมคบั แคน้ ใจ มำตำ ยะถำ นิยงั ปุตตงั อำยสุ ำ เอกะปุตตะมะนุรักเข มำรดำถนอลกู คนเดียว ผเู้ กดในตนดว้ ยยอมพร่ำชีวติ ไดฉ้ นั ใด เอวมั ปิ สพั พะภูเตสุ มำนะสัมภำวะเย อะปะริมำณงั เจริญเมตตำ มีในใจ ไมม่ ีประมำณในสตั วฉ์ นั น้นั ตตญั จะ สัพพะโลกสั มิง มำนะสมั ภำวะเย อะปะริมำณัง บคุ คลพงึ เจริญเมตตำ มีในใจไม่มีประมำณไปในโลกท้งั สิ้น อุทธงั อะโธ จะ ติริยญั จะ ท้งั เบ้ืองบน เบ้ืองต่ำ เบ้ืองเฉียง อะสัมพำธงั อะเวรัง อะสะปัตตงั เป็นธรรมอนั ไมค่ บั แคบ ไม่มเี วร ไม่มีศตั รู ติฎฐญั จะรัง นิสินโน วำ ผเู้ จริญเมตตำจิตน้นั ยนื อยกู่ ด็ ี เดนิ ไปกด็ ี นง่ั แลว้ กด็ ี สะยำโน วำ ยำวะตสั สะ วิคะตะมิทโธ นอนแลว้ ก็ดี เป็นผปู้ รำศจำกควำมงว่ งนอนเพียงใด เอตงั สะติง อะธิฏเฐยยะ ก็ต้งั สติอนั น้นั ไวเ้ พยี งน้นั พรัหมะเมตงั วิหำรัง อิธะมำหุ ืับณั ฑิตท้งั หลำย กลำ่ วกิริยำอนั น้ีว่ำ เป็นพรหมวหิ ำร ในพระศำสนำน้ี ทิฏฐิญจะ อะนุปะคมั มะ สีสะวำ บุคคลท่ีมีเมตตำ ไมเ่ ขำ้ ถึงทิฏฐิ เป็นผมู้ ีศีล ทสั สะเนนะ สัมปันโน ถึงพร้อมแลว้ ดว้ ยทศั นะ ( คอื โสดำปัตติมรรค) กำเมสุ วเิ นยยะ เคธงั นำควำมหมกม่นุ ในกำมท้งั หลำยออก

นะ หิ ชำตุ คพั ภะเสยยงั ปุนะเรตีติฯ ยอ่ มไม่ถึงควำมนอน ( เกิด) ในครรภอ์ กี โดยแทท้ ีเดียว ตลิ กั ขณาทิคาถา (หนั ทะ มะยงั ติลกั ขะณำทิคำถำโย ภะณำมะ เส.) สัพเพ สงั ขำรำ อะนิจำติ ยะทำ ปัญญำยะ ปัสสะติ, เมื่อใดบคุ คลเห็นดว้ ยปัญญำวำ่ สังขำรท้งั ปวงไมเ่ ที่ยง, อะถะ นิพพนิ ทะติ ทกุ เข เอสะ มคั โค วสิ ุทธิยำ, เมื่อน้นั ยอ่ มเหน่ือยหน่ำยในสิ่งท่ีเป็นทกุ ขท์ ี่ตนหลง, นน่ั แหละเป็นทำงแห่งพระนิพพำน อนั เป็นธรรมหมดจด, สพั เพ สังขำรำ ทกุ ขำติ ยำทำ ปัญญำยะ ปัสสะติ, เมื่อใดบคุ คลเห็นดว้ ยปัญญำว่ำ สังขำรท้งั ปวงเป็นทุกข,์ อะถะ นิพพนิ ทะติ ทกุ เข เอสะ มคั โค วสิ ุทธิยำ, เมื่อน้นั ยอ่ มเหนื่อยหน่ำยในสิ่งท่ีเป็นทุกขท์ ่ีตนหลง, นนั่ แหละ เป็นทำงแห่งพระนิพพำน อนั เป็นธรรมหมดจด, สพั เพ ธมั มำ อะนตั ตำติ ยะทำ ปัญญำยะ ปัสสะติ, เม่ือใดบุคคลเห็นดว้ ยปัญญำว่ำ ธรรมท้งั ปวง เป็นอนตั ตำ, อะถะ นิพพนิ ทะติ ทกุ เข เอสะ มคั โค วิสุทธิยำ, เมื่อน้นั ยอ่ มเหน่ือยหน่ำยในส่ิงท่ีเป็นทุกขท์ ี่ตนหลง, นน่ั แหละ เป็นทำงแห่งพระนิพพำน อนั เป็นธรรมหมดจด, อปั ปะกำ เต มะนุสเสสุ เย ชะนำ ปำระคำมิโน, ในหมหู่ มนุษยท์ ้งั หลำย, ผทู้ ี่ถึงฝ่ังแห่งพระนิพพำนมีนอ้ ยนกั , อะถำยงั อติ ะรำ ปะชำ ตีระเมวำนุธำวะติ, หมู่มนุษยน์ อกน้นั ยอ่ มวงิ่ เลำะอยตู่ ำมฝ่ัง ในน้ีเอง, เย จะ โข สมั มะทกั ขำเต ธมั เม ธมั มำนุวตั ติโน, ก็ชนเหล่ำใดประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม ในธรรมท่ีตรัสไวช้ อบแลว้ , เต ชะนำ ปำระเมสสันติ มจั จเุ ธยยงั สุทตุ ตะรัง, ชนเหล่ำน้นั จกั ถึงฝั่งแห่งพระนิพพำน, ขำ้ มพน้ บว่ งแห่งมจั จุที่ขำ้ มไดย้ ำกนกั ,

กณั หงั ธมั มงั วปิ ปะหำยะ สุกกงั ภำเวถะ ปัณฑิโต, จงเป็นบณั ฑิตละธรรมดำเสีย แลว้ เจริญธรรมขำว, โอกำ อะโนกะมำคมั มะ วิเวเก ยตั ถะ ทรู ะมงั , ตตั ฺรำภิระติมิจเฉยยะ หิตฺวำ กำเม อะกิญจะโน. จงมำถึงท่ีไม่มีน้ำ, จำกท่ีมีน้ำ, จงละกำมเสีย, เป็นผไู้ ม่มีควำมกงั วล, จงยินดีเฉพำะตอ่ พระนิพพำนอนั เป็นที่สงดั ซ่ึง สตั วย์ นิ ดีไดโ้ ดยยำก.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook