หน่วยที่ 3

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาไทยพื้นฐานระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง มาโรงเรียน โดย นางสาวกุลริศา สนธคิ ณุ ตาแหน่ง พนกั งานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ สานักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

วช-ร 01 บันทกึ ข้อความสว่ นราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ที่ วนั ท่ี………………………………………………………………………………………………เรือ่ ง การเสนอแผนการจัดการเรียนรเู้ พอ่ื ขออนุญาตใช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เรยี น ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ขา้ พเจ้านางสาวกลุ รศิ า สนธคิ ุณ ตาแหนง่ พนกั งานราชการ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทยไดจ้ ดั ทาแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท 11101 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง มาโรงเรยี น จานวน 11 แผน จานวน 21 ชวั่ โมง รายละเอยี ดดงั แนบมาพร้อมนี้จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพิจารณา ลงช่ือ............................................................ครผู สู้ อน. (นางสาวกุลริศา สนธิคณุ ) ….……./………………../…………ความเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ /ตัวแทนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ……………………………………………………………..1. ส่วนประกอบของเอกสารท่ี รายการ มี ไมม่ ี หมายเหตุ1 คาอธิบายรายวิชา2 ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ (ตารางวเิ คราะห์ KPA)3 โครงการสอน/สาระการเรียนร/ู้ จานวน ชม.4 การออกแบบกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้5 แผนการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้6 รายละเอียดแผนการวัดและประเมนิ การเรยี นรู้2. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี( ) ทเี่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม( ) ที่ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป4. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี( ) นาไปใช้จริง ( ) ควรปรบั ปรุงกอ่ นนาไปใช้5. ข้อเสนอแนะ.............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ………………………………………………………… ( ……………………………………………………. ) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ ผแู้ ทน

ความเหน็ ของรองผ้อู านวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ/หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ ที่( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง2. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่( ) ทเี่ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมได้อยา่ งเหมาะสม( ) ทยี่ งั ไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี( ) นาไปใชจ้ รงิ ( ) ควรปรับปรงุ กอ่ นนาไปใช้4. ขอ้ เสนอแนะ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื ……………………………………………………………. ( นายวเิ ศษ ฟองตา ) ตาแหน่ง รองผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ความคิดเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ( ) อนุญาตใหใ้ ช้ นาแผนการจดั การเรียนรู้นี้ ไปใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้ ( ) ไมอ่ นุญาต เพราะ.................................................................................................................................................... ลงช่ือ ……………………………………………………………. (นางวิลาวลั ย์ ปาลี) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

ผังมโนทัศน์ รายวิชาภาษาไทย ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ ๓ เรื่อง มาโรงเรยี น การฟงั คาส่งั ตา่ งๆ การอ่านออกเสยี ง จำนวน ๒ ชว่ั โมง จำนวน ๒ ชว่ั โมงการประสมคากบั สระต่างๆ การอ่านออกเสยี ง จำนวน ๑ ชั่วโมง จำนวน ๒ ชว่ั โมงการประสมคากบั สระ เ–อื มาโรงเรียน การบอกความหมาย จำนวน ๒ ชว่ั โมง ๒๑ ชวั่ โมง จำนวน ๓ ชว่ั โมง การประสมคากบั สระ เ–ีย การประสมคากับสระ แ– จำนวน ๒ ชว่ั โมง จำนวน ๒ ชวั่ โมงการประสมคากับสระ –อ การประสมคากับสระ –วั จำนวน ๒ ชว่ั โมง จำนวน ๒ ชว่ั โมง การประสมคากบั สระ เ–อ จำนวน ๒ ชว่ั โมง

แบบตรวจสอบและประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ วช- ร 02 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชียงใหม่ ชอื่ ครูผจู้ ัดทา้ นางสาวกลุ ริศา สนธคิ ณุ ตา้ แหน่ง พนักงานราชการ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท 11101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยจ้านวน 2.5 นก./นน. เวลาเรียน 5ชม./สปั ดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจัดการเรียนรู้ในหน่วยน้ี 21 ชม. หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง มาโรงเรียน จ้านวน 11 แผนการเรียนรู้คาอธิบาย : ใหพ้ จิ ารณาตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้ ตามรายการการตรวจสอบ โดยท้าเคร่ืองหมายลงในชอ่ งผลการตรวจสอบตามสภาพจรงิ ผลการตรวจสอบท่ี รายการตรวจสอบ ครผู ู้สอน หวั หนา้ กลุ่มสาระฯ/ผู้แทน หมายเหตุ1 มกี ารระบชุ อ่ื รายวชิ า รหสั วิชา ระดบั ช้ันทสี่ อน มี ไมม่ ี มี ไม่มี2 มกี ารระบุหน่วยการเรียนรู้และช่อื หน่วยการเรียนรู้3 มกี ารระบเุ วลาทใี่ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้(ภาคเรียนท่ี/ปกี ารศกึ ษา/ น้าหนัก/เวลาเรียนแตล่ ะสัปดาห์/เวลาทใี่ ชจ้ ัดกจิ กรรม4 มกี ารระบสุ าระส้าคญั ของหน่วยการเรียนรู้5 มกี ารระบุเป้าหมายการเรียนรู้ - มกี ารระบตุ วั ชว้ี ัด (วชิ าพน้ื ฐาน)/ผลการเรียนรู้ (วิชาเพมิ่ เตมิ )6 มกี าระบุสาระการเรียนรู้ ดงั นี้ - เนอื้ หาสาระหลกั (ผเู้ รียนตอ้ งรู้อะไร) - ทักษะกระบวนการ (ผเู้ รียนตอ้ งท้าอะไร)7 มกี ารระบคุ ณุ ลกั ษณะดงั นี้ - สมรรถระทส่ี า้ คญั ตามหลกั สูตร - คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์8 มกี ารจัดกจิ กรรมบรู ณาการ ดงั นี้ - หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง - กจิ กรรมสวนพฤษศาสตร์โรงเรียน9 มกี ารระบภุ าระงาน/ชน้ิ งาน ตามตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้10 มกี ารระบกุ จิ กรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี - ข้ันน้าเขา้ ส่บู ทเรียน/ขนั้ ตง้ั คา้ ถาม - ขนั้ สา้ รวจและคน้ พบ/ขั้นการเตรียมการคน้ หาคา้ ตอบ - ข้นั อธิบายและลงข้อสรุป/ขัน้ ดา้ เนินการคน้ หาคา้ ตอบ และตรวจสอบคา้ ตอบ - ข้ันขยายความรู้และน้าเสนอผลการคน้ หาคา้ ตอบ - ขั้นสรุปและประเมนิ ผล - มกี ารระบุเวลาด้าเนินกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทเ่ี หมาะสมกบั กจิ กรรม11 มกี ารระบุสอื่ /อปุ กรณ/์ แหลง่ เรียนรู้12 มกี ารระบุการวัดและประเมนิ ผล ดงั นี้ - เปา้ หมายการเรียนรู้ทตี่ อ้ งวัดและประเมนิ - ภาระงาน/ชนิ้ งานทตี่ อ้ งการประเมนิ - วธิ กี ารวดั ผลทส่ี อดคลอ้ งตามเปา้ หมาย/ส่ิงทตี่ อ้ งการวดั - เคร่ืองมอื วัดผลสอดคล้องตามเป้าหมาย/สง่ิ ทต่ี อ้ งการวัด - กา้ หนดประเดน็ /เกณฑ์การวัดผล สอดคลอ้ งตามเปา้ หมาย /สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั - ก้าหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลทชี่ ดั เจน เพอื่ ตดั สินผลการเรียนรู้ ประจ้าหน่วยการเรียนรู้13 มเี อกสารใบความรู้และใบงาน14 มเี อกสารประกอบตามข้อ 11ลงช่อื ………………………………………………………………..ครูผ้สู อน ลงชอ่ื ………………………………………………………………..หวั หน้าสาระฯ (นางสาวกลุ ริศา สนธคิ ณุ ) (นางสาววรรณภรณ์ ทิพย์สอน)ลงชอ่ื ………………………………………………………………..งานวิชาการ ลงชอ่ื ……………………………………………………………….ผู้อ้านวยการโรงเรียน(นายวเิ ศษ ฟองตา) ( นางวลิ าวัลย์ ยอดผ่านเมอื ง )

ครูผู้สอน แผนการจ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ท แผนการสอนท่ี 1 เร่อื ง เดก็ เอ รายวชิ า ภาษาไทย ชั้นประถมศ นางสาวกุลรศิ า สนธคิ ณุ ตาแห ตวั ช้วี ดั / ความรู้ ภาระงาน/ การวดั และประเมินผลผลการเรียนรู้ ช้นิ งานท 1.1 ป.1/1 การอา่ นออก ใบงานที่ 3.1 1) ตรวจแบบทดสอบ ขอ่านออกเสียง เสยี งกลอน เรื่อง เด็กเอ๋ยเด็ก ก่อนเรียน หน่วยการ 1คา คาคล้อง ดอกสร้อย เด็ก นอ้ ย เรียนรู้ท่ี 3 ชจอง และ เอ๋ยเดก็ น้อย 2) ตรวจใบงานที่ 3.1 2ขอ้ ความส้ันๆ จะต้องอา่ นออก เร่อื ง เด็กเอ๋ยเด็กนอ้ ย ด เสยี งใหถ้ ูกต้อง ว ชดั เจน ข 1 ท ค 2 อ ช อ

วช-ร 05จัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่อื ง มาโรงเรียนอย๋ เด็กน้อย : การอา่ นออกเสยี งศกึ ษาปีท่ี 1 รหสั วิชา ท11101หน่ง พนักงานราชการ เวลาทีใ่ ช้ 2 ชวั่ โมง กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ขน้ั ต้ังคาถาม 1) หนงั สือเรียน1. ครใู หน้ กั เรียนอา่ นออกเสยี งคา จากบัตรคาบนกระดานหน้า ภาษาไทย : หลักชน้ั เรียนพร้อมกัน 1 รอบ ภาษาและการใช้2. ครูนากลอนดอกสรอ้ ย เดก็ เอ๋ยเด็กน้อย มาแสดงให้นักเรียน ภาษา ป.1ดูทหี่ น้าชน้ั เรยี น จากนัน้ ให้นักเรียนสังเกตคาในกลอนดอกสร้อย 2) บัตรคาวา่ มคี าใดบา้ งทต่ี รงกับบัตรคา 3) กลอนขนั้ การดาเนนิ การคน้ หาคาตอบและตรวจสอบคาถาม ดอกสร้อย เด็กเอย๋1. ครสู ุ่มนกั เรยี น 2 คน ออกมาช่วยกันสารวจและขีดเสน้ ใตค้ า เดก็ นอ้ ยทต่ี รงกับบัตรคา จากน้ันให้นักเรียนอา่ น ออกเสยี งพร้อมกันอกี 4) ใบงานท่ี 3.1ครัง้ เรื่อง เด็กเอย๋ เด็ก2. ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาจากบตั รคาบนกระดาน และ น้อยอ่านกลอนดอกสรอ้ ย เด็กเอย๋ เดก็ น้อย ตามครู ทีละวรรคอย่างชดั เจนและถูกต้อง ครสู ังเกตการอา่ นออกเสยี ง และใหน้ ักเรียนอา่ นตามได้จนคล่อง

3หแนข1อตค2

3. ครูให้นักเรียนอ่านกลอนดอกสร้อย เดก็ เอย๋ เด็กน้อย จากหนังสือเรยี นพร้อมกันโดยไม่มีแบบ ครสู ังเกต การอ่านออกเสยี งแลว้ ให้คาแนะนาหรอื เสนอแนะหลักการอา่ นออกเสียงเพ่อื ให้นักเรียนอา่ นได้อย่างถูกตอ้ งขั้นสรปุ และนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ1. นกั เรียนทาใบงานท่ี 3.1 เร่อื ง เด็กเอ๋ยเดก็ นอ้ ย เสรจ็ แล้วออกมาอา่ นกลอนดอกสร้อยในใบงานให้ครูฟงั หน้าช้นั เรยี น ครูตรวจสอบความถูกต้องในการอา่ นออกเสยี งของนักเรยี นแต่ละคน2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ หลักการอ่านออกเสยี ง

บตั รคา กลอนดอกสรอ้ ย เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อย เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อย ความรเู้ รายงั ดอ้ ยเรง่ ศกึ ษา เม่อื เตบิ ใหญ่เราจะไดม้ วี ชิ า เป็นเคร่อื งหาเลย้ี งชพี สาหรบั ตน ไดป้ ระโยชน์หลายสถานเพราะการเรยี น จงพากเพยี รไปเถดิ จะเกดิ ผล ถงึ ลาบากตรากตรากจ็ าทน เกดิ เป็นคนควรหมนั่ ขยนั เอย (ไมป่ รากฏชอื่ ผแู้ ต่ง)

บตั รคา ดแู ล  คน ความรู้ ขยนั ตรากตรา วิชา ห่วงใย สนุก เล่น เพอ่ื น คณุ ครู ประโยชน์ ลาบาก เลีย้ งชีพ พากเพียร เดก็

ใบงานที่ 3.1 เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อยคาชี้แจงใหน้ กั เรยี นนาคาทก่ี าหนดเตมิ ลงในช่องวา่ งและอา่ นออกเสยี งใหถ้ ูกตอ้ งความรู้ ขยนั ประโยชน์ ลาบาก วิชา เดก็ ศึกษา คน กลอนดอกสรอ้ ย เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อย เอ๋ยเดก็ น้อย เรายงั ดอ้ ยเรง่ เมอ่ื เตบิ ใหญ่เราจะไดม้ ี เป็นเคร่อื งหาเลย้ี งชพี สาหรบั ตน

ใบงานท่ี 3.1 เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อยคาชี้แจงใหน้ กั เรยี นนาคาทก่ี าหนดเตมิ ลงในชอ่ งว่างและอ่านออกเสยี งใหถ้ ูกตอ้ งความรู้ ขยนั ประโยชน์ ลาบาก วิชา เดก็ ศกึ ษา คน กลอนดอกสรอ้ ย เดก็ เอย๋ เดก็ น้อย เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อย ความรู้ เรายงั ดอ้ ยเร่ง ศกึ ษา เม่อื เตบิ ใหญ่เราจะไดม้ ี วชิ า เป็นเครอ่ื งหาเลย้ี งชพี สาหรบั ตน

ก่อนเรยี นแบบทดสอบ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดยี ว1. ขอ้ ใดเขยี นคาอ่านได้ถูกต้อง 6. คาในขอ้ ใดไม่ได้ผสมกบั สระ เ–อ ก. อาทร อ่านว่า อา - ทน ก. เจอ ข. สนาม อ่านว่า สะ - นาม ข. เดนิ ค. เติบใหญ่ อ่านว่า เติบ - ใหญ่ ค. เจอะ2. คาในข้อใดเขยี นถูกต้อง 7. คาในขอ้ ใดคือคาท่ปี ระสมด้วยสระ –อ ก. ร่มเย็น ก. รวม ข. ห่วงไย ข. รอม ค. หน้ารกั ค. รวบ3. “แบ่งปนั ให้ผู้อ่นื ” คือความหมายของคาใด 8. ข้อใดคอื คาท่ีประสมกบั สระ เ–ัีย ก. ดูแล ก. ขาย ข. อาทร ข. เขนิ ค. เผ่อื แผ่ ค. เขยี น4. ข้อใดคอื คาท่ีประสมกบั สระ แ– 9. ข้อใดคอื คาท่ีประสมกบั สระ เ–ัือ ก. แมน ก. มอืข. แกะ ข. เรยี นค. แขง็ ค. เข่อื น5. ข้อใดคอื คาท่ีประสมกบั สระ –ัวั 10. คาในขอ้ ใดประสมสระเหมือนกบั คาว่า ซื้อ ก. ตวั ก. ลืม ข. กาว ข. ลบั ค. ผวั ะ ค. เลยี

มฐ. ท 1.1 ป.1/1-2 ท 3.1 ป.1/1, 5 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10เฉลย 1. ค 2. ก 3. ค 4. ก 5. ก 6. ค 7. ข 8. ค 9. ค 10. ก

หลังเรียนแบบทดสอบ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว1. ขอ้ ใดคือคาท่ีประสมกบั สระ เ–ัีย 6. ข้อใดคอื คาท่ีประสมกบั สระ เ–ัือ ก. เขยี น ก. เข่อื น ข. ขาย ข. เรียน ค. เขนิ ค. มือ2. ขอ้ ใดคือคาท่ีประสมกบั สระ –ัวั 7. คาในข้อใดเขยี นถูกต้อง ก. ผวั ะ ก. หน้ารกั ข. กาว ข. ห่วงไย ค. ตวั ค. ร่มเย็น3. ขอ้ ใดเขยี นคาอ่านได้ถูกต้อง 8. ข้อใดคอื คาท่ีประสมกบั สระ แ– ก. เติบใหญ่ อ่านว่า เติบ – ใหญ่ ก. แขง็ ข. สนาม อ่านว่า สะ - นาม ข. แกะ ค. อาทร อ่านว่า อา - ทน ค. แมน4. คาในข้อใดประสมสระเหมือนกบั คาว่า ซ้ือ 9. คาในข้อใดไม่ได้ผสมกบั สระ เ–อ ก. เลยี ก. เจอะข. ลบั ข. เดนิ ค. ลมื ค. เจอ5. “แบ่งปนั ให้ผู้อ่นื ” คือความหมายของคาใด 10. คาในข้อใดคือคาท่ปี ระสมด้วยสระ –อ ก. เผ่อื แผ่ ก. รวบ ข. อาทร ข. รอม ค. ดูแล ค. รวม

วช-ร 06 แบบบนั ทกึ หลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชื่อหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง มารงเรียน แผนการเรยี นรู้ที่ ………………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 รหสั วชิ า ท 11101ครผู ้สู อน นางสาวกุลริศา สนธิคณุ ตาแหนง่ พนักงานราชการ เวลาท่ีใช้ ……… ช่ัวโมง (ใน 1 วนั ทส่ี อนจริง) ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขอ้ ค้นพบระหวา่ ง ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ไขท่มี ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เนอ้ื หากจิ กรรมการเรียนรู้ส่ือประกอบการเรียนรู้พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของผู้เรียน ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครผู ูจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวกลุ รศิ า สนธิคุณ) ตาแหนง่ พนักงานราชการ

ครูผสู้ อน แผนกา ชอื่ หน่วยการเรยี น แผนการสอนท่ี 2 เรื่อง เดก็ รายวชิ า ภาษาไทย ช้นั ประถ นางสาวกุลรศิ า สนธคิ ณุ ตา ตัวชวี้ ดั / ความรู้ ภาระงาน/ การวดั และประเมนิ ผล ขผลการเรยี นรู้ ชน้ิ งาน 1 การอ่านออกเสียง 1) ตรวจแบบทดสอบ เรท 1.1 ป.1/1 กลอนดอกสรอ้ ย ใบงานที่ 3.1 ก่อนเรียน หน่วยการ 2อา่ นออกเสยี ง เดก็ เอ๋ยเด็กน้อย เร่ือง เด็กเอย๋ เด็ก เรยี นรู้ที่ 3 หคา คาคล้อง จะต้องอ่านออก น้อย 2) ตรวจใบงานที่ 3.1 ใดจอง และ เสยี งให้ถกู ต้อง เรื่อง เดก็ เอ๋ยเด็กนอ้ ย ขขอ้ ความส้นั ๆ ชัดเจน 1 ต 2 ก แ จ 3 เร ค

วช-ร 05ารจัดการเรยี นรู้นรู้ท่ี 3 เร่ือง มาโรงเรียนกเอ๋ยเด็กน้อย : การอา่ นออกเสียงถมศกึ ษาปีที่ 1 รหสั วิชา ท11101าแหน่ง พนักงานราชการ เวลาทใ่ี ช้ 2 ชัว่ โมง กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ขั้นตงั้ คาถาม 1) หนงั สือเรียน1. ครใู ห้นักเรียนอ่านออกเสียงคา จากบตั รคาบนกระดานหน้าช้ัน ภาษาไทย : หลกัรียนพร้อมกัน 1 รอบ ภาษาและการใช้2. ครนู ากลอนดอกสรอ้ ย เด็กเอ๋ยเด็กนอ้ ย มาแสดงใหน้ ักเรยี นดูที่ ภาษา ป.1หนา้ ชั้นเรยี น จากนั้นใหน้ ักเรียนสังเกตคาในกลอนดอกสร้อยวา่ มคี า 2) บัตรคาดบา้ งทตี่ รงกับบตั รคา 3) กลอนดอกสร้อยข้ันการดาเนินการค้นหาคาตอบและตรวจสอบคาถาม เดก็ เอย๋ เด็กน้อย1. ครูสมุ่ นักเรยี น 2 คน ออกมาช่วยกันสารวจและขดี เส้นใต้คาที่ 4) ใบงานที่ 3.1ตรงกับบตั รคา จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นอ่าน ออกเสียงพรอ้ มกนั อีกครงั้ เร่ือง เดก็ เอ๋ยเด็ก2. ครูใหน้ ักเรียนอ่านออกเสยี งคาจากบัตรคาบนกระดาน และอ่าน น้อยกลอนดอกสรอ้ ย เด็กเอ๋ยเดก็ นอ้ ย ตามครู ทลี ะวรรคอย่างชดั เจนและถูกต้อง ครสู ังเกตการอ่านออกเสยี ง และใหน้ กั เรยี นอ่านตามได้จนคล่อง3. ครูให้นักเรียนอา่ นกลอนดอกสร้อย เดก็ เอย๋ เดก็ น้อย จากหนังสือรยี นพรอ้ มกนั โดยไมม่ แี บบ ครูสังเกต การอา่ นออกเสียง แล้วให้คาแนะนาหรือเสนอแนะหลักการอ่านออกเสยี งเพ่ือให้นักเรียนอ่าน

ไดข1อต2

ด้อยา่ งถูกตอ้ งข้นั สรุปและนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ1. นักเรียนทาใบงานท่ี 3.1 เร่อื ง เด็กเอ๋ยเด็กน้อย เสร็จแล้วออกมาอ่านกลอนดอกสรอ้ ยในใบงานให้ครูฟงั หนา้ ชน้ั เรียน ครูตรวจสอบความถูกต้องในการอา่ นออกเสียงของนักเรียนแต่ละคน2. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปหลกั การอ่านออกเสยี ง

บตั รคา กลอนดอกสรอ้ ย เดก็ เอย๋ เดก็ น้อย เดก็ เอย๋ เดก็ น้อย ความรเู้ รายงั ดอ้ ยเร่งศกึ ษา เมอ่ื เตบิ ใหญ่เราจะไดม้ วี ชิ า เป็นเครอ่ื งหาเลย้ี งชพี สาหรบั ตน ไดป้ ระโยชน์หลายสถานเพราะการเรยี น จงพากเพยี รไปเถดิ จะเกดิ ผล ถงึ ลาบากตรากตรากจ็ าทน เกดิ เป็นคนควรหมนั่ ขยนั เอย (ไม่ปรากฏชอื่ ผแู้ ตง่ )

บตั รคา ดแู ล  คน ความรู้ ขยนั ตรากตรา วิชา ห่วงใย สนุก เล่น เพอ่ื น คณุ ครู ประโยชน์ ลาบาก เลีย้ งชีพ พากเพียร เดก็

ใบงานที่ 3.1 เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อยคาชี้แจงใหน้ กั เรยี นนาคาทก่ี าหนดเตมิ ลงในช่องวา่ งและอา่ นออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ งความรู้ ขยนั ประโยชน์ ลาบาก วิชา เดก็ ศึกษา คน กลอนดอกสรอ้ ย เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อย เอ๋ยเดก็ น้อย เรายงั ดอ้ ยเรง่ เมอ่ื เตบิ ใหญ่เราจะไดม้ ี เป็นเคร่อื งหาเลย้ี งชพี สาหรบั ตน

ใบงานท่ี 3.1 เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อยคาชี้แจงใหน้ กั เรยี นนาคาทก่ี าหนดเตมิ ลงในช่องว่างและอ่านออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ งความรู้ ขยนั ประโยชน์ ลาบาก วิชา เดก็ ศกึ ษา คน กลอนดอกสรอ้ ย เดก็ เอ๋ยเดก็ น้อย เดก็ เอย๋ เดก็ น้อย ความรู้ เรายงั ดอ้ ยเร่ง ศกึ ษา เม่อื เตบิ ใหญ่เราจะไดม้ ี วชิ า เป็นเคร่อื งหาเลย้ี งชพี สาหรบั ตน

วช-ร 06 แบบบนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง มารงเรยี น แผนการเรียนร้ทู ี่ ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 รหัสวชิ า ท 11101 ครูผูส้ อน นางสาวกุลรศิ า สนธิคุณ ตาแหนง่ พนกั งานราชการ เวลาท่ีใช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วันท่สี อนจรงิ ) ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาท่ีพบ แนวทางแกไ้ ขทีม่ ีการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เน้อื หากจิ กรรมการเรียนรู้สอ่ื ประกอบการเรียนรู้พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของผู้เรยี น ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครผู ู้จดั กิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกลุ ริศา สนธิคุณ) ตาแหน่ง พนักงานราชการ

ครูผสู้ อน แผนกา ชือ่ หน่วยการเรียน แผนการสอนที่ 3 เรื่อง เด็ก รายวิชา ภาษาไทย ชนั้ ประถ นางสาวกุลริศา สนธคิ ณุ ตา ตวั ชว้ี ัด/ ความรู้ ภาระงาน/ การวดั และผลการเรียนรู้ ชน้ิ งาน ประเมนิ ผลท 1.1 การอา่ นออก ใบงานท่ี 3.3 1) ตรวจใบงานท่ี ขนั้ ตง้ั คาถาม เรื่อง 3.3 เร่ือง 1.ครูแจ้งใหน้ ักป.1/1 อา่ น เสยี งเรือ่ ง ความหมาย ความหมายของ 2.ครูชแี้ จงและ ของ นักเรียนดเู ปน็ ตออกเสียงคา โรงเรยี นของ ขน้ั การดาเนินคาคลอ้ งจอง เรา จะตอ้ ง 1. นกั เรียนแต 2.ครูคอยสงั เกและข้อความ บอก 3.นักเรยี นตอบ 4. ครกู ลา่ วคาสั้นๆ ความหมาย เก่ียวกับความร 5.ครอู ธิบายใหป.1/2 บอก ของคาได้ นักเรียนคิด แล ความหมายได้อความหมาย 6.ครใู ห้นกั เรียน จากนัน้ ครูชี้แจของคาและขอ้ ความที่อ่าน

วช-ร 05ารจัดการเรียนรู้นรู้ที่ 3 เร่อื ง มาโรงเรียนกเอ๋ยเดก็ นอ้ ย : การอา่ นออกเสียงถมศึกษาปีท่ี 1 รหสั วิชา ท11101าแหน่ง พนกั งานราชการ เวลาทใี่ ช้ 2 ชั่วโมง กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี นกเรียนทราบวา่ จะใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกัน เลน่ เกมวอ่ งไวให้คดิ ภาษาไทย :ะอธิบายกติกาการเล่นเกมว่องไวให้คิด ให้นกั เรียนฟงั จากนนั้ สาธติ ให้ หลักภาษาและตัวอย่าง เพ่ือให้นกั เรยี นเขา้ ใจและสามารถปฏิบตั กิ จิ กรรมได้อย่างถกู ต้อง การใชภ้ าษา ป. 1นการคน้ หาคาตอบและตรวจสอบคาถาม 2) เกมว่องไวให้ตล่ ะกลุ่มร่วมกนั เล่นเกมวอ่ งไวให้คดิ ตามกติกาท่ีครชู แ้ี จง คิดกตพฤติกรรมการเลน่ เกมของนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ 3) ใบงานที่ 3.3บคาถามกระตนุ้ ความคดิ เรอื่ งาชมเชย และปรบมือใหน้ ักเรียนกล่มุ ทเ่ี ลน่ เกมชนะจากน้นั ครูถามนักเรยี น ความหมายของรู้ทนี่ กั เรียนได้รับหลังจากการเลน่ เกมว่องไวให้คดิ จบแล้ว คาศัพท์หน้ ักเรยี นฟงั ว่า เกมว่องไวใหค้ ดิ ท่ีครูนามาให้เล่นนเ้ี พราะอยากฝึกให้ละรูใ้ นเรื่องคาศัพท์เพ่มิ มากขนึ้ สามารถอา่ นและเขียน รวมถึงบอกอย่างถกู ต้องนฝกึ อ่านออกเสียงคา คาอ่าน และความหมายของคา จากหนังสือเรยี นจงใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า การอา่ นออกเสียงคาไดถ้ ูกต้อง รู้ความหมายของคาจะ

ช่วยใหเ้ กดิ ทักษขน้ั สรุปและนา1. นักเรยี นแตอ่านใหค้ รูฟงั ห2. ครปู ระเมิน3. นกั เรยี นตอว่องไวใหค้ ิด มโดยให้อยูใ่ นดุล

ษะในการอ่าน และเขา้ ใจเร่อื งท่อี ่านได้ดี าเสนอผลการคน้ หาคาตอบต่ละคนทาใบงานท่ี 3.3 เรือ่ ง ความหมายของคาศพั ท์ เสรจ็ แลว้ ออกมาหนา้ ชน้ั เรยี นนการอ่านออกเสยี งของนักเรียนเปน็ รายบคุ คลอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ  นกั เรียนสามารถนาความรู้ท่ีไดจ้ ากเกมมาประยกุ ตใ์ ชก้ ับการเรียนไดอ้ ยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี นลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

เอกสารประกอบการสอน เกม ว่องไวใหค้ ิด วิธีเล่น 1. ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่งปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น 2. ครูแจกบตั รคาปรศิ นาใหน้ ักเรยี นกลุ่มละ 1 บัตรคา (ทุกกลุ่มจะได้รับบัตรคาเหมือนกนั )จากนนั้ ให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันเขยี นเรียงตัวอกั ษรในบัตรคาให้เป็นคาท่ีถกู ตอ้ ง 3. นกั เรยี นกลมุ่ ใดเรียงเสรจ็ กอ่ นใหย้ กมือข้ึน จากนั้นออกมาเขยี นบนกระดานหนา้ ช้ันเรยี น พรอ้ มกบั อา่ นออกเสียงและบอกความหมายให้ถูกต้อง ชดั เจน 4. กลุ่มใดทเี่ ขียนและอา่ นออกเสียง รวมถึงบอกความหมายไดถ้ กู ต้อง ชัดเจน จะได้รบั 1 คะแนน 5. ปฏิบตั กิ จิ กรรมเช่นน้ีอีก 5-6 รอบ (โดยในแตล่ ะรอบคาจะไมซ่ า้ กัน) เมื่อเกมจบ กลุ่มใดทมี่ ีคะแนนสะสมมากทสี่ ุด จะเป็นฝา่ ยชนะ ตัวอย่าง งโนยเรรีครูให้บัตรคาปรศิ นา งโนยเรรี จากน้นั ให้นกั เรยี นช่วยกนั เรียงตวั อักษรใหถ้ กู ต้อง คาทเี่ รยี งใหมไ่ ดค้ อืคาว่า โรงเรียน หมายถึง สถานศึกษา ตอบถกู ตอ้ งจะได้รับ 1 คะแนน

บตั รคาปริศนา ยงห่วใ  ลดแู ณรูคคุ มานส นุสก นเรย่ ็ม

ใบงานที่ 3.3 ความหมายของคาศพั ท์คาชแ้ี จง ให้นักเรียนนาคาศัพทท์ ่ีกาหนดเตมิ ลงในตารางใหต้ รงกับความหมาย และฝกึ อา่ นออกเสียงให้ถูกต้อง เติบโต ห่วงใย โรงเรยี น อาทร คณุ ครู รม่ เยน็ ดแู ล สนาม เผอ่ื แผ่ สนุกคา อา่ นว่า ความหมาย 1. เผ่อื - แผ่ แบ่งปนั ใหผ้ ้อู นื่ 2. อา - ทอน ความเอาใจใส่ 3. สะ - หนาม ลานที่กว้าง 4. คนุ - ครู ผสู้ งั่ สอน 5. สะ - หนุก เพลินใจ 6. ดู - แล เอาใจใส่ 7. หว่ ง - ใย คิดกงั วลถึง 8. เติบ - โต โตขนึ้ 9. โรง - เรียน สถานศึกษา10. ร่ม - เยน็ มีความสุขสบาย

ใบงานท่ี 3.3 ความหมายของคาศัพท์คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนนาคาศพั ท์ที่กาหนดเตมิ ลงในตารางใหต้ รงกับความหมาย และฝึกอา่ นออกเสียงให้ถูกต้องเติบโต ห่วงใย โรงเรียน อาทร คณุ ครู รม่ เยน็ ดแู ล สนาม เผอ่ื แผ่ สนุกคา อา่ นวา่ ความหมาย1. เผ่ือแผ่ เผื่อ - แผ่ แบง่ ปันให้ผ้อู ื่น2. อาทร อา - ทอน ความเอาใจใส่3. สนาม สะ - หนาม ลานท่กี วา้ ง4. คุณครู คุน - ครู ผสู้ ง่ั สอน5. สนกุ สะ - หนกุ เพลนิ ใจ6. ดูแล ดู - แล เอาใจใส่7. ห่วงใย หว่ ง - ใย คิดกังวลถึง8. เตบิ โต เติบ - โต โตข้ึน9. โรงเรียน โรง - เรียน สถานศกึ ษา10. รม่ เยน็ รม่ - เย็น มคี วามสุขสบาย

วช-ร 06 แบบบันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง มารงเรียน แผนการเรยี นรู้ที่ ………………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ าภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 รหสั วชิ า ท 11101ครผู ้สู อน นางสาวกุลริศา สนธิคณุ ตาแหน่ง พนักงานราชการ เวลาทใี่ ช้ ……… ช่ัวโมง (ใน 1 วนั ทส่ี อนจริง) ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ ค้นพบระหวา่ ง ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ไขท่มี ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เนอ้ื หากจิ กรรมการเรียนรู้ส่ือประกอบการเรียนรู้พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของผู้เรียน ลงชอื่ …..........………….......................…….. ครผู ูจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวกลุ รศิ า สนธิคณุ ) ตาแหนง่ พนักงานราชการ

ครผู สู้ อน แผนการจ ชือ่ หน่วยการเรียนรทู้ แผนการสอนท่ี 4 เร่อื ง ก รายวิชา ภาษาไทย ชนั้ ประถม นางสาวกุลริศา สนธคิ ุณ ตาแห ตวั ชี้วัด/ ความรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวัดและประเมินผล ข้ัน ผลการเรียนรู้ การเขียนและสะกดคาที่ ใบงานที่ 3.4 เรื่อง การ 1) ตรวจใบงานท่ี 3.4 เรื่อง การ 1ท 4.1 ประสมกบั สระแอ จะทาให้ ประสมคากบั สระ แ– ประสมคากับสระ แ– 2ป.1/2เขยี นสะกดคา อา่ น เขยี น และบอก บและบอกความหมาย ความหมายของคาไดอ้ ย่าง นของคา ถกู ต้อง 3 4 อ ขน้ั 1. 2. น 3. พ

วช-ร 05จดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง มาโรงเรียนการประสมคากับสระ แ–มศกึ ษาปที ่ี 1 รหสั วิชา ท11101หนง่ พนักงานราชการ เวลาทีใ่ ช้ 2 ชว่ั โมง กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ขนตง้ั คาถาม 1)หนงั สือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ป.1. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด 12. ครสู นทนากับนักเรยี นเกย่ี วกบั คาทีป่ ระสมกับสระแอ จากน้ัน ครนู า 2)บัตรคาปรศิ นาบตั รคาปรศิ นาตดิ บนกระดานหนา้ ชน้ั เรียน ครูอา่ นให้นักเรยี นฟงั แลว้ ให้ 3)เพลงสระแอนักเรียนตอบ ดังนี้ 4)ใบงานท่ี 3.4 เร่ือง การ ประสมคากับสระ - อะไรเอย่ สี่ตนี เดินมา ชอบกนิ ปลาเป็นอาหาร (แมว) - อะไรเอย่ เปน็ จานวนนับ เรยี งลาดบั ตอ่ จากเจด็ (แปด) แ– - อะไรเอย่ ลกู อยูท่ ่ขี า ตาอยรู่ อบตัว หวั ไปอย่หู ู (แห) - อะไรเอย่ ชาวประมงก็ไมใ่ ช่ แล้วเหตไุ ฉนไปกางอวนบน ต้นไม้ (แมงมมุ ) - อะไรเอย่ สวยงามมคี ่า ใช้สวมน้วิ มือแล้วน่ามอง (แหวน)3. ครูสุ่มนกั เรียน 5-6 คน ออกมาเขียนคาตอบบนกระดานหน้าชนั้ เรียน4. ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งพร้อมกนั 1 รอบขนการดาเนนิ การคน้ หาคาตอบและตรวจสอบคาถาม . นกั เรียนศึกษาความรเู้ รื่อง การประสมคากับสระแอ จากหนังสอื เรยี น . ครนู าเพลงสระแอ ติดบนกระดานหน้าช้นั เรยี น จากนน้ั ครู อ่านออกเสียงและร้องเพลงให้นักเรียนฟังอย่างละ 1 รอบ . นักเรียนกลุม่ เดมิ (จากแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 ) รว่ มกันฝกึ อ่านออกเสียงและรอ้ งเพลงสระแอพร้อมกัน จากนั้นให้นักเรียนสังเกตคาที่ประสมกับสระแอในเนอื้ เพลงวา่ มกี ารเขียนสะกดคาอย่างไร

4.เนใน5.ตร6.หคา7.คาขนั้1.2.

. นกั เรียนจบั คกู่ บั เพือ่ นในกลุ่ม โดยให้แตล่ ะคนเขียนคาท่ีประสมกบั สระแอ 1 คา โดยคาไมซ่ า้ ในนื้อเพลงลงในสมุด แล้วผลัดกันตรวจสอบความถกู ต้อง (สมาชิกอีกคหู่ นึ่งซ่ึงอยู่ในกลมุ่ เดียวกันก็ปฏบิ ตั ินทานองเดยี วกัน) . สมาชกิ รวมกลุม่ ตามเดิม (4 คน) ผลดั กันนาเสนอคาท่ีประสมกบั สระแอให้เพ่อื นดู สงั เกต รวจสอบ เพอ่ื แก้ไขข้อบกพรอ่ งในการเขียน . นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ทาใบงานที่ 3.4 เรื่อง การประสมคากับสระ แ– โดยใหส้ มาชกิ แต่ละคนหาคาตอบในแตล่ ะขอ้ ใหค้ รบแลว้ ตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นจบั คู่กบั เพือ่ นในกลุม่ ผลดั กันอธบิ าย าตอบของตนเอง (สมาชิกอีกคู่หนึง่ ซ่ึงอยู่ในกลุ่มเดียวกันกป็ ฏิบัติในทานองเดียวกนั ) . สมาชกิ รวมกลุ่มตามเดิม (4 คน) ผลัดกนั อธบิ ายคาตอบของคูต่ นเอง แล้วเปรียบเทียบและสรปุ าตอบทเ่ี ปน็ มตขิ องกลุม่ จากนนั้ ตัวแทนกลุ่มเขียนคาตอบลงในใบงานท่ี 3.4 เสรจ็ แล้วนาส่งครูตรวจขนสรุปและนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ . นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรุปความรเู้ ร่อื ง การประสมคากับ สระแอ . นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด

บตั รคาปริศนา อะไรเอย่ สต่ี นี เดนิ มา ชอบกนิ ปลาเป็นอาหาร อะไรเอย่ เป็นจานวนนบั เรยี งลาดบั ต่อจากเจด็ อะไรเอย่ ลกู อย่ทู ข่ี า ตาอยรู่ อบตวั หวั ไปอยหู่ ู อะไรเอย่ ชาวประมงกไ็ มใ่ ช่ แลว้ เหตุไฉนไปกางอวนบนตน้ ไม้ อะไรเอ่ย สวยงามมคี า่ ใชส้ วมน้วิ มอื แลว้ น่ามอง

เอกสารประกอบการสอน เพลง สระแอ สระ...แอ มีอย่มู ากมาย เดก็ ท้ังหลาย เอาใจใส่ดูให้ดี สระ..............แอ มีไม้หนา้ (แ–) สองรูปน้ี ........มามาดูซี แต่ แท้ แล มสี ระแอ (สร้อย) มงแซะ มงแซะ แซะมง ตะลุม่ ต้มุ มง มงแซะ มงแซะ แซะมง ตะลุ่ม ตมุ้ มง สระ.....แอ...... สระ.......เสียงยาว ......เม่ือถงึ คราว มีตัวสะกดดูสดใส แตม้ .....สีแดง กลางแจง้ แบง่ ปนั ให้ ดู.....ซนิ ั่นไง .....แกว้ แล้ว แรง แปรง มีสระแอ (สร้อย) มงแซะ มงแซะ แซะมง ตะลมุ่ ตุ้มมง มงแซะ มงแซะ แซะมง ตะลุ่ม ตมุ้ มงที่มา http://www.youtube.com/watch?v...

ใบงานท่ี 3.4 การประสมคากับสระ แ–ตอนท่ี 1คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นพยัญชนะกบั สระของคา แลว้ เขียนสะกดคา พยัญชนะ สระ คา สะกดว่า 1. แบ 2. แห 3. แพ 4. แล 5. แฉตอนท่ี 2คาชี้แจง ให้นกั เรยี นนาคาท่ีกาหนดเติมลงในชอ่ งว่างใหต้ รงกับความหมาย แล แบ แวว แขน แกน 1. หมายถงึ แผใ่ หแ้ บนออก เชน่ แบมอื 2. หมายถงึ อวยั วะทต่ี ่อจากไหลท่ งั้ 2 ขา้ ง 3. หมายถงึ วตั ถแุ ขง็ ทอ่ี ยตู่ รงกลางของสงิ่ อ่นื สาหรบั ยดึ ใหอ้ ยู่ 4. หมายถงึ สกุ ใส วบู วาบ 5. หมายถงึ ดหู รอื มอง

ใบงานท่ี 3.4 การประสมคากับสระ แ–ตอนที่ 1คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นเขียนพยญั ชนะกับสระของคา แล้วเขยี นสะกดคา พยัญชนะ สระ คา สะกดว่า บอ - แอ - แบ 1. บ แ– แบ หอ - แอ - แห พอ - แอ - แพ 2. ห แ– แห ลอ - แอ - แล ฉอ - แอ - แฉ 3. พ แ– แพ 4. ล แ– แล 5. ฉ แ– แฉตอนท่ี 2คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นนาคาที่กาหนดเตมิ ลงในช่องวา่ งใหต้ รงกับความหมายแล แบ แวว แขน แกน 1. แบ หมายถงึ แผใ่ หแ้ บนออก เช่น แบมอื 2. แขน หมายถงึ อวยั วะทต่ี ่อจากไหลท่ งั้ 2 ขา้ ง 3. แกน หมายถงึ วตั ถุแขง็ ทอ่ี ยตู่ รงกลางของสง่ิ อ่นื สาหรบั ยดึ ใหอ้ ยู่ 4. แวว หมายถงึ สกุ ใส วบู วาบ 5. แล หมายถงึ ดหู รอื มอง

วช-ร 06 แบบบันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง มารงเรียน แผนการเรยี นรู้ที่ ………………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. รายวชิ าภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 รหสั วชิ า ท 11101ครผู ้สู อน นางสาวกุลริศา สนธิคณุ ตาแหน่ง พนักงานราชการ เวลาทใี่ ช้ ……… ช่ัวโมง (ใน 1 วนั ทส่ี อนจริง) ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ ค้นพบระหวา่ ง ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ไขท่มี ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เนอ้ื หากจิ กรรมการเรียนรู้ส่ือประกอบการเรียนรู้พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของผู้เรียน ลงชอื่ …..........………….......................…….. ครผู ูจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวกลุ รศิ า สนธิคณุ ) ตาแหนง่ พนักงานราชการ

ครูผู้สอน แผนก ชอื่ หนว่ ยการเรยี น แผนการสอนท่ี 5 เรื่อง รายวิชา ภาษาไทย ชัน้ ประ นางสาวกุลรศิ า สนธิคุณ ตา ตวั ช้ีวดั / ความรู้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวดั และประเมินผล ขน้ั ผลการเรียนรู้ 1. การเขยี นสะกดคาทีป่ ระสม ใบงานท่ี 3.5 เร่ือง การ 1) ตรวจใบงานที่ 3.5 เรือ่ ง การประสม ตวัท 4.1 กบั สระอวั จะทาให้อา่ น ประสมคากับสระ –ัว คากบั สระ –วั 2.ป.1/2เขียนสะกดคาและ เขียน และบอกความหมาย อ่าบอกความ ของคาได้อย่างถกู ต้องหมายของคา นกั 3. สะ ขนั้ 1. 2. 3. พ 4. กนั 5. ลง 6. ถกู 7. นา 8. ขอ ขั้น 1. 2. คว (พ

วช-ร 05การจัดการเรียนรู้นรทู้ ่ี 3 เรื่อง มาโรงเรยี นง การประสมคากับสระ –วัะถมศกึ ษาปีท่ี 1 รหสั วชิ า ท 11101าแหนง่ พนักงานราชการ เวลาทใ่ี ช้ 2 ช่ัวโมง กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้นตงั้ คาถาม 1) หนงั สอื เรียน ภาษาไทย :. ครแู จกกระดาษใหน้ กั เรยี นเขียนคาท่ีประสมกับสระอวั คาใดกไ็ ดท้ ่ีมคี วามหมายคนละ 1 คา เสร็จแลว้ ให้ หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ป.1วแทนนักเรยี นเก็บรวบรวมกระดาษส่งครู 2) นทิ านเร่ือง ตาบัวกบั ยายพัว. ครสู มุ่ นักเรียน 5 คน ออกมาจับสลากที่หน้าชนั้ เรยี น เมือ่ นกั เรียนจบั สลากไดค้ าใด กใ็ หอ้ ่านออกเสยี งคาานสะกดคา และบอกความหมายของคานน้ั ให้เพ่อื นฟัง ถา้ คนใดบอก ความหมายของคาไมถ่ ูกต้อง ใหเ้ พื่อน 3) ใบงานท่ี 3.4 เรื่อง การกเรยี นชว่ ยกันบอกความหมายให้ถูกตอ้ ง. ครคู อยสงั เกตการปฏิบัติกจิ กรรมของนกั เรียน จากนน้ั ใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภิปรายว่า ถ้านักเรยี นอ่าน ประสมคากับสระ –วัะกดคาไม่ถกู ต้องจะเกดิ ผลเสยี อย่างไร นการดาเนินการคน้ หาคาตอบและตรวจสอบคาถาม . นกั เรยี นศึกษาความรู้เรอ่ื ง การประสมคากบั สระอัว จากหนังสือเรยี น . ครูนานิทานเร่อื ง ตาบัวกับยายพัว ติดบนกระดานจากนนั้ อ่านใหน้ ักเรียนฟัง 1 รอบ . นกั เรยี นกลุ่มเดมิ (จากแผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 3) รว่ มกันฝึกอ่านออกเสยี งนทิ านเรอ่ื ง ตาบวั กับยายพัวพร้อมกัน . ครชู แ้ี จงให้นกั เรยี นทราบวา่ ความสาเรจ็ ของกลุ่มนั้นจะต้องอาศยั ผลจากการรว่ มมือกัน และชว่ ยเหลือ น . นักเรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั สารวจคาท่ีประสมกับสระอัว จากนทิ านเร่ือง ตาบวั กับยายพัว เสร็จแลว้ เขยี น งในสมดุ และให้ช่วยกันตรวจสอบอีกครงั้ วา่ เขียนถูกตอ้ งหรอื ไม่ . ครสู ุ่มนกั เรยี น 2-3 กลุ่ม เขียนคาท่ีได้จากนิทานเรื่อง ตาบวั กบั ยายพวั บนกระดาน ครูตรวจสอบความ กต้อง และเขียนเพมิ่ เติมใหค้ รบ แลว้ ใหน้ ักเรียนอา่ นออกเสียงพรอ้ มกนั . นกั เรยี นทาใบงานท่ี 3.5 เร่ือง การประสมคากับสระ –ัว เมอ่ื ทาเสรจ็ แล้วใหต้ รวจความเรยี บร้อยกอ่ น าส่งครตู รวจ . ครนู าคะแนนของสมาชิกทกุ คนในกลมุ่ มารวมกันเปน็ คะแนนกลุ่ม จากนน้ั กลา่ วคาชมเชยและนาผลงาน องนักเรยี นกลมุ่ ท่ไี ด้คะแนนสูงสดุ มาใหน้ ักเรียนดู เพื่อเป็นตัวอย่างในการทางานนสรปุ และนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรู้ เรือ่ ง การประสมคากบั สระอวั. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นกั เรียนคิดว่า การอ่านและการเขียนสะกดคาใหถ้ กู ต้อง ชัดเจน มีวามสาคญั หรือไม่ อย่างไรพจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผสู้ อน)

เอกสารประกอบการสอน นิทานเรอื่ ง ตาบวั กบั ยายพวั มตี ายายคหู่ น่งึ ช่อื ตาบวั กะยายพวั ตาบวั และยายพวั เลย้ี งววั ไวห้ น่งึ ตวั ยายพวั หตู งึ ฟงั อะไร ไมถ่ นดั ตาบวั ตามวั มองอะไร ไม่ค่อยชดั วนั หน่ึง ตาบวั จงู ววั ไปผกู ทร่ี มิ รวั้ ตาบวั กลบั มา ไม่เหน็ ยายพวั จงึ เดนิ หาทวั่ สวน ตาบวั ตะโกนเรยี ก “ยายพวั อยไู่ หน” ยายพวั ไดย้ นิ แว่วๆ ไปว่า ววั อยไู่ หน ยายพวั ตอบมวั่ ๆ ไปว่า “ววั กผ็ กู อย่นู นั่ ไง” ตาบวั ตกใจกลวั นกึ ว่าใครผกู ยายพวั ไว้ ตาบวั รบี วง่ิ เขา้ ครวั หายายพวั เจอยายพวั กาลงั ควั่ ถวั่ ตาบวั ดใี จทย่ี ายพวั ไม่ถูกผกู เหมอื นววัทมี่ า http://www.trueplookpanya.com/.../activity_det...

ใบงานที่3.5 การประสมคากบั สระ –ัวัคาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นขดี เสน้ ใตค้ าทป่ี ระสมกบั สระอวั และอา่ นสะกดคาใหถ้ กู ตอ้ ง (จบั ค่กู บั เพอื่ นประเมนิ ผล) บทร้อยกรอง เรื่อง ตาสากะตาสวั ตาสาและตาสวั ไปขายถวั่ ทอ่ี าเภอ ป้าบวั ไดม้ าเจอ ถามซอ้ื ถวั่ ทข่ี ายกนั ตาสาและตาสวั หตู ามวั ฟงั ไมท่ นั เสยี งรวั ไม่รกู้ นั ใครถามซอ้ื ถวั่ ทว่ี าง พอดมี ปี ้าอวั้ ขายไสอ้ วั่ อยขู่ า้ งขา้ ง ชว่ ยขายถวั่ ทว่ี าง ทุกทกุ อย่างใหท้ นั ที ตาสาและตาสวั วา่ ป้าอวั้ น้าใจดี ขอบคุณในอารี เอาถวั่ น้ใี หแ้ ทนคณุ ทมี่ า http://www.kroobannok.com/blog/16038แบบบนั ทึกผลการอ่าน คา (คาละ 1 คะแนน) ฉนั อ่านไดถ้ กู ตอ้ ง คา ฉนั อา่ นผดิ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนนระดบั คณุ ภาพ 11 - 14 7 - 10 ต่ากวา่ 7 ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ

ใบงานที่3.5 การประสมคากบั สระ –ัวัคาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นขดี เสน้ ใตค้ าทป่ี ระสมกบั สระอวั และอ่านสะกดคาใหถ้ กู ตอ้ ง (จบั คกู่ บั เพอื่ นประเมนิ ผล) บทร้อยกรอง เร่ือง ตาสากะตาสวั ตาสาและตาสวั ไปขายถวั่ ทอ่ี าเภอ ป้าบวั ไดม้ าเจอ ถามซอ้ื ถวั่ ทข่ี ายกนั ตาสาและตาสวั หตู ามวั ฟงั ไมท่ นั เสยี งรวั ไมร่ กู้ นั ใครถามซอ้ื ถวั่ ทว่ี าง พอดมี ปี ้าอวั้ ขายไสอ้ วั่ อยขู่ า้ งขา้ ง ชว่ ยขายถวั่ ทว่ี าง ทุกทกุ อยา่ งใหท้ นั ที ตาสาและตาสวั ว่าป้าอวั้ น้าใจดี ขอบคุณในอารี เอาถวั่ น้ใี หแ้ ทนคณุ ทมี่ า http://www.kroobannok.com/blog/16038แบบบนั ทึกผลการอ่าน คา (คาละ 1 คะแนน) ฉนั อ่านไดถ้ กู ตอ้ ง คา ฉนั อา่ นผดิ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนนระดบั คณุ ภาพ 11 - 14 7 - 10 ต่ากว่า 7 ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

วช-ร 06 แบบบนั ทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรือ่ ง มารงเรียน แผนการเรยี นรู้ที่ ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 รหัสวชิ า ท 11101ครผู ้สู อน นางสาวกุลริศา สนธิคณุ ตาแหน่ง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช้ ……… ชว่ั โมง (ใน 1 วนั ทส่ี อนจริง) ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ ค้นพบระหวา่ ง ปัญหาที่พบ แนวทางแก้ไข ท่มี ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เน้ือหากจิ กรรมการเรียนรู้ส่ือประกอบการเรียนรู้พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของผู้เรียน ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครผู ูจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวกลุ รศิ า สนธคิ ณุ ) ตาแหนง่ พนกั งานราชการ