Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้เต็มรูปแบบ สังคม ม. ครูศรีมูล

แผนการจัดการเรียนรู้เต็มรูปแบบ สังคม ม. ครูศรีมูล

Published by srimoun0871859891, 2019-09-24 04:48:42

Description: แผนการจัดการเรียนรู้เต็มรูปแบบ สังคม ม. ครูศรีมูล

Search

Read the Text Version

7.1 เร่ือง การปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา - ใบงานที่ 1.1 ใหศ้ กึ ษาเรือ่ ง การไม่คบคนพาล ให้คบบัณฑติ (ทาหนังสอื เลม่ เล็ก) - แบบฝกึ ทักษะท่ี 1 นาเสนอ เร่ือง การไมค่ บคนพาล ให้คบบัณฑติ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายของมงคล (การไมค่ บคนพาล การคบบณั ฑติ การบชู าผคู้ วรบูชา) ได้ 2. วิเคราะห์ผลการกระทาตามหลักมงคล (การไม่คบคนพาล การคบบัณฑติ การบูชาผคู้ วรบูชา)ได้ 3. เสนอแนวทางการปฏบิ ตั ิตนตามหลักมงคล (การไม่คบคนพาล การคบบัณฑิต การบูชาผู้ควรบูชา) และนาไป ปฏิบตั ิได้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน/ข้นั ต้ังคาถาม (วธิ สี อนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมือ : เทคนคิ คคู่ ิด) นักเรียนสวดมนต์บชู าพระรัตนตรัยและทาสมาธกิ ่อนเรียน ชัว่ โมงท่ี 1 - 2 1. ครูนาขา่ วหรือภาพขา่ วบุคคลที่รว่ มมือกันทากจิ กรรมตา่ งๆ ทแี่ สดงว่าเปน็ การคบคนดี เชน่ - ชมรมพ่อคา้ ไทยรว่ มมือกนั หาตลาดส่งสินค้าออกไปขายตา่ งประเทศ - ชาวบา้ นพากันไปฟังการบรรยายความรเู้ รือ่ ง วธิ ีการปอ้ งกันโรคติดต่อ ซงึ่ จดั โดยสาธารณสขุ ของจงั หวัด - เดก็ และเยาวชนถวายเครอื่ งไทยธรรมแด่พระสงฆ์ - นกั เรยี นรนุ่ พ่ีทปี่ ระสบความสาเร็จในการศกึ ษาในมหาวิทยาลัยได้มาแนะนาวธิ กี ารเรียนให้แก่นักเรยี นรนุ่ นอ้ ง เกษตรกรดีเดน่ ให้คาแนะนาเพ่อื นบา้ น ในเรอื่ งการพฒั นาวธิ กี ารปลูกพชื 2. ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั วิเคราะห์ผลการกระทาจากสื่อการสอนในข้อ 1 ท่คี รนู ามา โดยการตอบคาถามตอ่ ไปนี 1) การกระทาของบุคคลในขา่ วมผี ลดีตอ่ ใครบ้าง อธบิ ายเหตุผล 2) การกระทาดังกล่าวแสดงถงึ การคบคนประเภทใด 3. ครูอธบิ ายเชื่อมโยงความคิดให้กบั นกั เรยี นฟงั วา่ การกระทาของบุคคลดงั กลา่ วสอดคลอ้ งกบั มงคลในหัวขอ้ การไมค่ บ คนพาล การคบบัณฑิต การบูชาผู้ควรบูชา 4. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ใหจ้ บั คกู่ นั เปน็ 3 คู่ ชว่ ยกนั ศกึ ษาความรคู้ ู่ละ 1 หวั ข้อ ดังนี 1) การไมค่ บคนพาล 2) การคบบณั ฑิต 3) การบูชาผู้ควรบชู า 5. นกั เรียนแต่ละค่ผู ลดั กันอธบิ ายความรู้ที่ตนศกึ ษา 6. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสรุปความหมาย และความสาคญั ของมงคลในหวั ข้อ การไมค่ บคนพาล การคบบัณฑติ การบูชา ผู้ควรบูชา จากนันให้นกั เรียนช่วยกันเสนอแนวทางการปฏบิ ัติและนาไปปฏิบัตติ าม

ช่ัวโมงที่ 3 - 4 1. ครสู นทนากบั นกั เรียนถึงความพรอ้ มของนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ในการหาขา่ วมา และถามถึงวิธหี าข้อมูลหรอื ขา่ วของแต่ละ กลุ่ม 2. นกั เรียนแต่ละกล่มุ นาขา่ วหรือข้อมลู ทห่ี ามาร่วมกันวเิ คราะหต์ ามหวั ข้อในใบงานที่ 3.1 เรื่อง มงคลชวี ิต 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานต่อชนั เรยี น เมอื่ จบการนาเสนอผลงานของแตล่ ะกลุ่มนันให้สมาชกิ กลมุ่ อนื่ ชว่ ยกนั เสนอแนะเพมิ่ เตมิ 4. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรุปความหมาย และความสาคญั ของมงคล 38 ในหัวข้อ การไม่คบคนพาล การคบ บัณฑติ การบชู าผู้ควรบชู า จากนันใหน้ กั เรียนชว่ ยกันเสนอแนวทางการปฏิบัตติ นและนาไปปฏิบัติตาม 9. สื่อการเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ รายการสื่อ จานวน สภาพการใช้ส่อื 1.หนังสอื เรียน พระพุทธศาสนา ม.1 1 ชดุ ขันตรวจสอบความร้เู ดมิ 2. หนงั สอื ค้นคว้าเพมิ่ เติม 1) ญาณสังวร, สมเด็จพระ (เจรญิ สุวฑฒฺ โน). หลักพระพุทธศาสนา. กรงุ เทพมหานคร: ประกายพรกิ , 2526. 1 ชุด ขนั สารวจและคน้ พบ 2) วศิน อนิ ทสระ, หลกั ธรรมอนั เป็นหวั ใจ พระพทุ ธศาสนา. กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ัท เอ.ไอ.เอ. จากัด (เครอื นาทอง) , 3. ใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง มงคลชวี ติ 1 ชุด ขันขยายความรู้

10. การวดั ผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรยี นรู้ วธิ วี ดั เครือ่ งมอื วดั ฯ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน การตรวจผลงาน เกณฑก์ ารให้ การตรวจผลงาน เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน 1.อธบิ ายความหมาย ใบงาน นักเรยี น คะแนน การสงั เกต ผ่านระดับดีขึนไป ของมงคล (การไม่ คบคนพาล การคบ ใบงาน เกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ผ่านระดับดีขนึ ไป บณั ฑิต การบูชาผู้ นกั เรยี น ควรบชู า) ได้ 2. เคราะห์ผลการ กระทาตามหลกั แบบบันทกึ แบบบันทกึ การสังเกต ผา่ นระดบั ดขี ึนไป มงคล (การไม่คบคน พฤติกรรม รายบคุ คล พาล การคบบณั ฑิต และรายกล่มุ การบูชาผู้ควรบชู า) ได้ 3. เสนอแนวทางการ ปฏบิ ตั ติ นตามหลัก มงคล (การไม่คบคน พาล การคบบัณฑติ การบูชาผู้ควรบชู า) และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

11. การบรู ณาการตามจุดเน้นของโรงเรยี น (ตวั อยา่ ง) หลักปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรียน พอเพียง พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีด้านจติ ใจ 36. ความพอประมาณ รจู้ ักใช้เทคโนโลยีมาผลติ สื่อท่ี มีจติ สานึกทีด่ ี เออื อาทร 37. ความมีเหตุผล เหมาะสมและสอดคล้องเนือหาเป็น ประนีประนอม นึกถงึ ประโยชน์ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรียนและพฒั นาจากภูมิ สว่ นรวม/กลุม่ 38. มีภูมิคุมกันในตวั ทดี่ ี ปัญญาของผเู้ รียน - ยึดถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความ ไม่หยดุ นงิ่ ทหี่ าหนทางในชีวติ หลุดพ้น ถกู ตอ้ ง สุจริต แม้จะตกอย่ใู นภาวะขาด จากความทกุ ขย์ าก (การค้นหาคาตอบ แคลน ในการดารงชีวิต เพอ่ื ให้หลดุ พน้ จากความไมร่ ู้) ภูมิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมดั ระวงั สร้างสรรค์ 39. เงื่อนไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่อง งานและกาลัง ความรอบรู้ เร่อื ง งานและกาลงั 40. เงื่อนไขคุณธรรม ท่ีเกยี่ วข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่ี กรณที ่เี กิดงาน ปริมาณที่เก่ียวขอ้ ง การ จะนาความรเู้ หล่านนั มาพจิ ารณาให้ คานวณสูตรที่ต้องใช้ สามารถนา เช่อื มโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน ความร้เู หล่านันมาพจิ ารณาให้เช่อื มโยง การดาเนนิ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ กัน สามารถประยุกต์ ใหก้ บั ผู้เรยี น ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี ความซื่อสัตยส์ ุจริตและมคี วามอดทน ความซอื่ สัตยส์ ุจริตและมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการ มคี วามเพียร ใช้สติปัญญาในการ ดาเนนิ ชีวิต ดาเนินชีวติ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ครู ผเู้ รียน งานและกาลงั งานและกาลัง - ปจั จัยทีม่ ีผลตอ่ การเกดิ งาน งานและกาลงั - การเกิดงานแตล่ ะกรณี - ปรมิ าณที่เกีย่ วขอ้ งกบั การเกดิ งาน - ระบปุ จั จยั ที่มีผลตอ่ การเกิดงาน - การเกดิ กาลงั การ - ทดลองเปรียบเทียบการเกดิ งาน ได้เปรียบ และ และ เชงิ กล กาลัง กาลัง พรอ้ มคานวณปรมิ าณท่ี สิง่ แวดล้อม ครู เกย่ี วข้อง งานและพลงั งาน งานและพลังงาน - การเลอื กใชอ้ ย่างถูกวิธี - การเลือกใชอ้ ย่างถูกวธิ ี/ เทคนคิ ผูเ้ รียน - การอนุรักษส์ ่งิ แวดล้อม วิธกี าร - กระบวนการการอนุรกั ษ์ งานและพลงั งาน - ยกตวั อยา่ งการใช้อปุ กรณ/์ เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งถูกวธิ ี - แสนอแนะแนวทางอนุรกั ษ์

ส่งิ แวดล้อม ส่งิ แวดลอ้ ม ลงช่ือ..................................................ผูส้ อน (นายศรมี ลู สมบุตร) แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการที่กาหนด แล้วขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 ความถกู ต้องของเนอื หา 2 ความคิดสรา้ งสรรค์ 3 วิธีการนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ ชอ่ื กลมุ่ ชนั คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การแบ่งหน้าท่ีกันอยา่ งเหมาะสม 2 ความร่วมมือกันทางาน ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมนิ 3 การแสดงความคิดเหน็ ................ /................ /................ 4 การรับฟงั ความคิดเหน็ 5 ความมีนาใจชว่ ยเหลอื กัน รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่ือได้ยนิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ าย ความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสิทธิและหนา้ ท่ีของนักเรียน 2. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกับสมาชิกในชนั เรยี น 3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 1.5 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัตติ นตามหลักของ ศาสนา 1.6 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่ีโรงเรียน และชุมชนจดั ขนึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทีถ่ กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏิบัติในส่ิงทถี่ ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทจ่ี ะทาความผิด ทา ตามสญั ญาทีต่ นใหไ้ วก้ บั เพ่ือน พอ่ แม่หรือผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ัติต่อผู้อนื่ ดว้ ยความซือ่ ตรง 3.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัว และโรงเรียน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรูอ้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุม้ คา่ และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อื่น และไมท่ าใหผ้ ้อู ื่นเดือดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภัยเม่ือผอู้ นื่ กระทา ผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ด้าน 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทางานและการใช้ชวี ติ ประจาวันบนพืนฐานของ 6. ม่งุ ม่นั ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร ทางาน 5.6 รู้เทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั 7. รกั ความเปน็ ไทย อยรู่ ว่ มกับผู้อืน่ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามตังใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ ูอ้ ่นื 8.3 รจู้ ักดแู ล รกั ษาทรพั ย์สมบตั ิและสง่ิ แวดล้อมของห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอื่ .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน  ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ ) ( ตาแหน่ง

แบบประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8 เรื่อง การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา รายวชิ า สังคมพ้นื ฐาน รหัส ส 21101 ช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ชอื่ -สกุลครูผสู้ อน นายศรมี ลู สมบุตร ********************* คาชแ้ี จง แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ ฉบับนี มวี ตั ถุประสงค์เพ่อื ให้ทา่ นซึ่งเป็นผ้นู ิเทศได้กรณุ าพิจารณาความ เหมาะสม และความสอดคลอ้ งระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ ของแผนการจดั การเรียนรู้ แบบประเมนิ แบง่ เปน็ 2 ตอน คอื ตอนที่ 1 แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจดั การเรยี นรเู้ ปน็ การพิจารณาองค์ประกอบตา่ ง ๆ ของ แผนการจดั การเรียนร้วู ่ามีความเหมาะสมเพียงใด ตอนที่ 2 แบบประเมินความสอดคลอ้ งของแผนการจัดการเรยี นรู้ เป็นการพิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ ของ แผนการจัดการเรยี นรู้ว่ามีความสอดคล้องกันเพยี งใด ตอนท่ี 1 แบบประเมนิ ความเหมาะสมของแผนการจดั การเรียนรู้ คาชีแ้ จง โปรดทาเครือ่ งหมาย √ ในช่องระดบั ความเหมาะสมท่ีตรงกับความคดิ เห็นของทา่ น และขอความกรุณา เขยี นข้อเสนอแนะอื่น ๆ เพือ่ เปน็ แนวทางในการปรบั ปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ตอ่ ไป ขอ้ รายการประเมิน ระดบั ความคดิ เหน็ ใช่ ไมใ่ ช่ 1 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบสาคัญครบถ้วนตามแบบฟอรม์ ทโี่ รงเรียนกาหนด √ 2 การเขียนสาระสาคญั ในแผนการจัดการเรยี นรู้มีความถูกต้อง √ 3 จุดประสงคก์ ารเรียนรูร้ ะบุพฤติกรรมชดั เจน สามารถวัดได้ √ 4 สาระการเรยี นรู้ครบถว้ น สัมพนั ธก์ ับตวั ชวี ัด/ผลการเรียนรู้/จดุ ประสงค์การเรียนรู้ √ 5 ระบุวธิ กี ารวดั ผลประเมนิ ผลอยา่ งชดั เจน √

6 ระบุเครือ่ งมอื สาหรับการวดั ผลประเมนิ ผลอย่างชัดเจน √ 7 ระบุเกณฑ์การวัดผลประเมินผลอย่างชดั เจน √ 8 กจิ กรรมการเรยี นร้มู คี วามเหมาะสม ครบถ้วนทุกขันตอนตามวธิ ีสอน หรือกระบวนการ √ หรอื เทคนคิ การสอนท่ีระบไุ วใ้ นแผนการจดั การเรียนรู้ √ 9 ระบกุ ารใช้ส่อื นวัตกรรม/แหล่งเรยี นรสู้ ัมพนั ธ์สอดคลอ้ งกบั กจิ กรรมการเรยี นรู้ √ 10 มีหลกั ฐานประกอบ เชน่ สือ่ ใบกิจกรรม ใบความรู้ เครอื่ งมอื วดั ฯ ทีป่ รากฏใน แผนการจดั การเรียนรู้ครบถว้ น ตอนท่ี 2 แบบประเมนิ ความสอดคลอ้ งองคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ คาชแี้ จง โปรดทาเครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ความคิดเห็นของทา่ น ขอ้ ท่ี รายการประเมิน สอดคล้อง ไมแ่ น่ใจ ไม่สอดคลอ้ ง (1) (0) (-1) 1 การเขียนสาระสาคญั มคี วามสัมพนั ธส์ อดคล้องกับตัวชวี ัด/ผลการ √ เรียนรู/้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้มู คี วามสอดคล้องสมั พันธ์กบั √ สาระการเรยี นรู้ 3 หลกั ฐานการเรยี นร้มู คี วามสัมพนั ธ์ สอดคล้องกบั สาระ การเรียนรู้ √ ตวั ชีวดั /ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร/ู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 วิธีการวัดผลประเมินผลมคี วามสัมพันธก์ บั สาระการเรียนรู้ ตัวชวี ัด/ √ ผลการเรียนรู้ 5 เครื่องมือวดั ผลประเมินผล มคี วามสัมพันธก์ ับคุณลักษณะอนั พึง √ ประสงคข์ องผ้เู รียน 6 เครอื่ งมอื วัดผลประเมนิ ผล มคี วามสัมพันธ์กบั สมรรถนะที่สาคญั ของ √ ผ้เู รยี น 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ คี วามสมั พนั ธ์สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ √

ตัวชวี ดั /ผลการเรียนรู้ √ √ √ 8 กิจกรรมการเรยี นรูม้ คี วามสัมพนั ธ์สอดคล้องกับคณุ ลักษณะอนั พงึ √ ประสงคข์ องผูเ้ รียน √ 9 กิจกรรมการเรียนรู้มคี วามสมั พันธส์ อดคล้องสมรรถนะที่สาคัญของ √ ผูเ้ รยี น 10 สื่อ-นวตั กรรม/อปุ กรณ/์ แหล่งเรยี นรู้ มีความสัมพนั ธส์ อดคล้องกบั กิจกรรมการเรียนรู้ 11 แผนการจัดการเรียนรูม้ กี ิจกรรมบรู ณาการกับงานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน 12 แผนการจดั การเรยี นรู้มีกจิ กรรมบรู ณาการกับหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 13 แผนการจดั การเรยี นรมู้ ีกิจกรรมบรู ณาการกบั งานสงิ่ แวดล้อม เกณฑก์ ารประเมิน ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรยี นรู้ ค่าความสอดคลอ้ งต้องมคี า่ ตังแต่ 0.50 ขนึ ไป ความเหมาะสมของแผนการจดั การเรยี นรู้ คะแนนระหว่าง 1 - 4 ระดบั คุณภาพ ตอ้ งปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง 5 - 8 ระดับคณุ ภาพ พอใช้ คะแนนระหวา่ ง 9 - 13 ระดบั คุณภาพ ดี

ผังมโนทศั น์ รายวิชา สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหสั วชิ า ส 21101 ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2561 ชื่อหนว่ ยท่ี 1 พลเมืองดีตามวถิ ี ช่อื หน่วยท่ี 2 กฎหมายกับการดาเนนิ ประชาธิปไตย ชีวติ ประจาวัน จานวน 4 ชัว่ โมง : 3 คะแนน จานวน 4 ช่วั โมง : 2 คะแนน สาระท่ี 2 หนา้ ท่ีพลเมอื ง วัฒนธรรม และการ ดาเนนิ ชวี ิตในสังคม จานวน 16 ชัว่ โมง 10 คะแนน ชื่อหน่วยที่ 3 เหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลง ชื่อหนว่ ยที่ 4 สถาบนั ทางสังคม สาคญั ของระบอบการปกครองไทย จานวน 4 ชั่วโมง : 2 คะแนน จานวน 4 ชว่ั โมง : 3 คะแนน

ผังมโนทศั น์ รายวชิ า สังคมพืน้ ฐาน รหัสวิชา ส 21101 ระดบั ชั้น มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 พลเมืองดีตามวิถีประชาธปิ ไตย หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง จานวน 4 ชวั่ โมง : 3 คะแนน ชอ่ื เรอื่ ง พลเมืองดีตามวิถีประชาธปิ ไตย หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง พลเมืองดีตามวิถปี ระชาธิปไตย 3 จานวน 4 ชัว่ โมง : 3 คะแนน

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 แผนจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง พลเมืองดีตามวิถปี ระชาธิปไตย รายวชิ า สงั คมพืน้ ฐาน รหัสวชิ า ส 21101 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนักเวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาทใี่ ชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 4 ชวั่ โมง 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจที่คงทน) การอยู่ร่วมกันอย่างปกตสิ ขุ ในสังคมประชาธปิ ไตยนนั สมาชิกทุกคนจะต้องเคารพสิทธขิ องตนเองและผ้อู นื่ มีจิต สาธารณะ 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ัดชนั้ ปี/ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรียนรู้ ส 2.1 ม.1/4 แสดงออกถึงการเคารพสิทธิของตนเองและผ้อู ื่น 3.1 เนือ้ หาสาระหลกั : Knowledge พลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย 1. วิธีปฏิบตั ติ นในการเคารพสิทธเิ สรภี าพของตนเองและผอู้ ืน่ 2. ผลทไ่ี ดร้ บั จากการเคารพในสิทธิเสรีภาพของตนเองและผ้อู ืน่ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process ทากจิ กรรมรายบุคคล รายกลุ่ม ในการศึกษาเรยี นรู้ตามเนอื้ หา 3.3 คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ : Attitude ประพฤตติ นตามแบบอย่างการดาเนินชีวิตทีด่ ีในสงั คมอยา่ งมี ความสขุ 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่ 6. คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซ่อื สัตย์สจุ ริต 3. มวี ินัย 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 6. มุ่งม่ันในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 7. ช้นิ งาน/ภาระงาน : 7.1 เร่อื ง พลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย

- ใบงานท่ี 1.1 ใหศ้ ึกษาเรอ่ื ง การเคารพสิทธขิ องตนเองและผอู้ ่ืน (ทาหนงั สอื เล่มเล็ก) - แบบฝกึ ทักษะท่ี 1 นาเสนอ เร่อื ง การเคารพสิทธขิ องตนเองและผอู้ ื่น 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายสทิ ธิของบุคคลตามกฎหมายในระบอบประชาธปิ ไตยได้ 2. ปฏบิ ตั ิตนในการเคารพสิทธเิ สรีภาพของตนเองและผอู้ นื่ ตามวิถีประชาธิปไตยได้ 3. วิเคราะหผ์ ลจากการเคารพในสทิ ธิเสรีภาพของตนเองและผอู้ ่ืนตามวถิ ปี ระชาธิปไตยได้ ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น/ขั้นตัง้ คาถาม (วิธีสอนโดยใชท้ กั ษะกระบวนการเผชิญสถานการณ)์ นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ประจาหน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ชวั่ โมงท่ี 1 1. ครูนาข่าวตอ่ ไปนีให้นกั เรยี นช่วยกันวเิ คราะห์ว่า เหมาะสมหรือไม่ เพราะอะไร 1) ประชาชนรวมกลมุ่ กนั จานวนมากปดิ ถนนเพื่อประทว้ งการบรหิ ารงานของรัฐบาล 2) หนงั สือพมิ พล์ งขา่ วดาราสาวคาวโลกยี ์ 3) วัยรนุ่ นิยมใช้โทรศพั ท์มอื ถอื ถา่ ยภาพผหู้ ญิงกา้ วขึนสะพานลอย 4) ส.ส. คนดังกลา่ วขอโทษเพอ่ื น ส.ส. ท่ีตนนาเรือ่ งความลบั ภายในครอบครวั ของเพอื่ นมาพดู ในที่สาธารณะ 5) นกั ข่าวกลุม่ หนึง่ ขออนุญาตเจา้ ของรีสอร์ตตะวันฉาย เพอื่ บนั ทกึ ภาพการจดั และตกแตง่ สวน แลว้ นาไปพิมพ์ เผยแพรต่ ่อ ประชาชนทวั่ ไป 2. นกั เรียนแต่ละคนจะแสดงความคิดเหน็ พรอ้ มอธิบายเหตุผลแตกต่างกนั ไป ซึ่งสรุปได้วา่ การกระทาของบุคคลในขา่ วที่ 1) – 4) เป็นการกระทาท่ีไม่เหมาะสม กล่าวคือ เปน็ การแสดงถงึ การไม่เคารพสทิ ธิเสรีภาพของผู้อ่ืน เปน็ การกระทาให้ ผู้อื่นเสยี หายหรือไดร้ บั ความเดือดร้อน ส่วนการกระทาของบคุ คลในข่าวท่ี 5) เป็นการกระทาท่ีเหมาะสม เพราะเปน็ การ เคารพสิทธิเสรภี าพของผู้อื่นในเรอ่ื ง เสรีภาพในเคหสถาน คอื นักขา่ วขออนญุ าตเจ้าของสถานทีก่ ่อนบนั ทึกภาพเพ่ือนาไป เผยแพร่ 3. ครอู ธบิ ายความหมายของสิทธแิ ละเสรีภาพพรอ้ มทงั เช่ือมโยงใหน้ ักเรยี นเข้าใจถงึ ผลดขี องการเคารพสิทธเิ สรภี าพของ ผ้อู ืน่ และผลเสียอนั เกิดจากการกระทาท่ีแสดงถึงการไมเ่ คารพสิทธเิ สรีภาพของผ้อู นื่ - ผลดีของการเคารพสทิ ธเิ สรภี าพของผู้อน่ื ได้แก่ ทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจอนั ดีตอ่ กนั ลดความขัดแย้งข้อพพิ าทระหวา่ ง กัน สังคม สงบสขุ - ผลเสียของการไมเ่ คารพสิทธเิ สรภี าพของผ้อู ื่น ได้แก่ ทาให้ผู้อ่นื ไดร้ ับความเดอื ดร้อน ผู้ทถ่ี กู ละเมดิ สิทธเิ สรีภาพมี ความไม่พอใจ นาไปสู่การทะเลาะวิวาทกนั 4. นักเรยี นแบง่ ออกเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 5-6 คน ตามความสมัครใจ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มศึกษาหาความรู้เร่ือง การเคารพสทิ ธิ และเสรภี าพของตนเองและผอู้ ืน่ จากหนังสือเรยี น 5. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สนทนาแลกเปลยี่ นความรู้ในประเดน็ สาคญั ของสทิ ธแิ ละเสรีภาพของบุคคลตามกฎหมาย 6. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ ความรู้เกีย่ วกบั สทิ ธิและเสรีภาพของประชาชนชาวไทยตามบทบัญญัติ ในรัฐธรรมนญู

ชัว่ โมงที่ 2 1. ครูทบทวนความรเู้ ดมิ ของนักเรยี นเรอ่ื ง สทิ ธิและเสรภี าพของประชาชนชาวไทย ด้วยการถามคาถามนกั เรยี น ดงั นี - สทิ ธขิ องประชาชนชาวไทยมอี ะไรบ้าง ยกตวั อยา่ งประกอบ - เสรภี าพของประชาชนชาวไทยมอี ะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งประกอบ 2. นกั เรียนแบง่ ออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน แล้วนาความรู้ท่ีไดศ้ ึกษาเรอ่ื ง สิทธิและเสรีภาพของประชาชนตาม บทบัญญัตใิ นรัฐธรรมนญู มาเปน็ พืนฐานในการวิเคราะห์และประเมนิ ค่าความรูต้ ามหัวข้อในใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง วเิ คราะห์ สิทธแิ ละเสรีภาพ 3. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องจากการวิเคราะห์กรณศี กึ ษาในใบงานท่ี 1.1 และปรบั ปรุงแกไ้ ขตาม มติของสมาชกิ ในกลุ่ม 4. ครสู ุม่ เรยี กตวั แทนของแต่ละกลุ่มออกมาเฉลยคาตอบในใบงานทห่ี น้าชันเรียน กลุม่ ละ 1 กรณีศึกษา และให้กลมุ่ อน่ื ท่มี ี ความคดิ เห็นแตกตา่ งกนั เสนอเพมิ่ เติม โดยครเู ปน็ ผู้ตรวจสอบความถกู ต้อง 5. ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรุปข้อคิดสาคัญทไี่ ด้จากการวิเคราะห์การกระทาของบคุ คลตามหลกั สิทธิและเสรภี าพของ ประชาชนชาวไทย ชัว่ โมงที่ 3 - 4 1. ครนู าภาพต่อไปนีมาใหน้ กั เรียนพจิ ารณา 1) ภาพทหารหญิง ทหารชาย 2) ภาพผตู้ อ้ งหาที่สถานีตารวจ 3) ภาพคนเดินทางโดยรถยนต์ รถไฟ เครอ่ื งบนิ 4) ภาพพอ่ แม่ ลูก ในครอบครวั 5) ภาพคนกาลังคยุ โทรศัพท์ หรือกาลังเล่นอนิ เทอร์เน็ต 6) ภาพคนเข้ารว่ มพธิ กี รรมทางศาสนา เชน่ ชาวพทุ ธน่ังฟังเทศน์ ชาวครสิ ต์ทาพธิ ใี นโบสถ์ ชาวมสุ ลมิ กาลงั ทา ละหมาด 7) ภาพการพิจารณาคดีของศาล 8) ภาพนกั เรียนกาลงั เรยี นหนงั สอื 9) ภาพแพทยก์ าลงั รกั ษาคนไข้ 10) ภาพคนกาลังนั่งฟงั คาปราศรยั บนเวที 11) ภาพคนประกอบอาชพี หลากหลาย เชน่ ทานา ทาสวน คา้ ขาย นกั ธรุ กิจ 2. ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ภาพดงั กล่าววา่ สอดคล้องกบั สิทธิเสรภี าพ และความเสมอภาค ด้านใดบา้ ง และมีผลดี ต่อตนเองและสังคมอยา่ งไร เพ่อื เปน็ การทบทวนความรขู้ องนักเรยี นเรอื่ ง สทิ ธเิ สรีภาพของประชาชนชาวไทย 3. นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 5-6 คน แล้วให้แตล่ ะกลุ่มศกึ ษาความรู้จากหนังสอื เรยี นในหวั ข้อตอ่ ไปนี - การปฏิบัติตนในการเคารพสิทธแิ ละเสรีภาพของตนเองและผ้อู ่นื - ผลท่ีไดร้ บั จากการเคารพสิทธิและเสรีภาพของตนเองและผู้อื่น 4. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ นาความรู้ทไี่ ด้ศึกษามาเป็นพนื ฐานในการเสนอแนวทางการปฏิบัตติ นท่ีแสดงถงึ การเคารพในสทิ ธิ และเสรภี าพของตนเองและผูอ้ นื่ ในใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง เคารพสิทธแิ ละเสรีภาพ 5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันตดั สนิ ใจเลอื กหวั ข้อท่ีช่วยกันเสนอในข้อ 4 เพือ่ นาไปปฏิบตั ิ 6. นักเรยี นแต่ละคนปฏบิ ัตติ นในการเคารพสิทธิและเสรีภาพของตนเองและผู้อืน่ แล้วบันทึกการปฏิบตั ติ นตามหัวขอ้ ที่

กาหนด และนาเสนอตอ่ กลุม่ เพ่ือให้สมาชกิ ในกลุ่มชว่ ยกันเสนอแนะ เพ่ือปรับปรุงแกไ้ ขการปฏบิ ัติตนของเพอ่ื นสมาชิกใน กลมุ่ จากนันรายงานผลต่อครูผู้สอนต่อไป โดยใช้เวลาปฏบิ ัติประมาณ 1-2 เดือน หรอื ตามขอ้ ตกลงระหวา่ งครแู ละ นกั เรยี น 9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ รายการสอ่ื จานวน สภาพการใชส้ ่ือ 1.หนังสือเรยี น หนา้ ที่พลเมือง วัฒนธรรม และการ 1 ชดุ ขนั ตรวจสอบความรเู้ ดมิ ดาเนินชวี ติ ในสงั คม ม. 1 2.ขา่ วการกระทาของบุคคลทีแ่ สดงถึงการเคารพและ 1 ชดุ ขนั สารวจและค้นพบ ไมเ่ คารพสทิ ธิของผู้อ่นื 3. ใบงาน เรื่อง เคารพสิทธิและเสรภี าพ 1 ชดุ ขันขยายความรู้ 10. การวดั ผลและประเมินผล เป้าหมาย หลกั ฐานการเรียนรู้ วธิ ีวัด เครอื่ งมอื วัดฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ช้นิ งาน/ภาระงาน การตรวจผลงาน เกณฑ์การให้ ใบงาน เกณฑ์การประเมนิ ผลงาน 1. อธบิ ายสิทธขิ อง การตรวจผลงาน นกั เรยี น คะแนน บคุ คลตามกฎหมาย ใบงาน ได้2. ปฏิบตั ิตนใน ผ่านระดบั ดีขึนไป การเคารพสิทธิ เสรภี าพของตนเอง เกณฑ์การประเมินผลงาน ผ่านระดบั ดขี นึ ไป และผู้อน่ื นกั เรยี น 3. วเิ คราะหผ์ ลจาก แบบบันทกึ การสงั เกต แบบบนั ทึกการสังเกต ผา่ นระดับดขี นึ ไป การเคารพในสทิ ธิ พฤตกิ รรม รายบคุ คล เสรีภาพของตนเอง และรายกลมุ่ และผู้อนื่ ได้

11. การบูรณาการตามจดุ เน้นของโรงเรียน (ตวั อยา่ ง) หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรียน พอเพยี ง พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดดี ้านจิตใจ 41. ความพอประมาณ รจู้ ักใช้เทคโนโลยีมาผลติ สื่อที่ มจี ติ สานึกทีด่ ี เอืออาทร 42. ความมีเหตุผล เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนือหาเป็น ประนีประนอม นกึ ถึงประโยชน์ ประโยชน์ตอ่ ผูเ้ รียนและพฒั นาจากภูมิ ส่วนรวม/กลมุ่ 43. มีภมู คิ มุ กันในตัวท่ดี ี ปัญญาของผเู้ รียน - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพด้วยความ ไมห่ ยุดนิ่งที่หาหนทางในชีวติ หลุดพ้น ถูกตอ้ ง สุจรติ แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด จากความทกุ ข์ยาก (การคน้ หาคาตอบ แคลน ในการดารงชีวติ เพ่ือให้หลุดพ้นจากความไมร่ ู้) ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภมู ิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวัง ระมดั ระวงั สรา้ งสรรค์ 44. เงอื่ นไขความรู้ ความรอบรู้ เรื่อง งานและกาลงั ความรอบรู้ เรือ่ ง งานและกาลงั 45. เงอ่ื นไขคุณธรรม ท่เี กย่ี วขอ้ งรอบด้าน ความรอบคอบที่ กรณที ีเ่ กิดงาน ปริมาณทีเ่ กย่ี วขอ้ ง การ จะนาความร้เู หลา่ นนั มาพิจารณาให้ คานวณสตู รท่ีต้องใช้ สามารถนา เชือ่ มโยงกนั เพ่อื ประกอบการวางแผน ความรู้เหลา่ นนั มาพิจารณาให้เชอ่ื มโยง การดาเนนิ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ กนั สามารถประยกุ ต์ ให้กับผู้เรยี น ใช้ในชวี ติ ประจาวัน มีความตระหนักใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คุณธรรม มี ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ และมีความอดทน ความซ่ือสัตย์สุจริตและมีความอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ติปัญญาในการ มีความเพียร ใชส้ ตปิ ัญญาในการ ดาเนนิ ชีวิต ดาเนินชีวิต สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ผูเ้ รยี น งานและกาลัง งานและกาลงั - ปจั จัยท่มี ผี ลตอ่ การเกิดงาน งานและกาลงั - การเกดิ งานแต่ละกรณี - ปริมาณท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการเกิดงาน - ระบปุ ัจจยั ทีม่ ีผลตอ่ การเกิดงาน - การเกดิ กาลัง การ - ทดลองเปรยี บเทยี บการเกิดงาน ไดเ้ ปรยี บ และ และ เชิงกล กาลัง กาลัง พร้อมคานวณปรมิ าณที่ ส่งิ แวดลอ้ ม ครู เกี่ยวข้อง ผ้เู รยี น

งานและพลงั งาน งานและพลังงาน งานและพลงั งาน - การเลือกใช้อย่างถกู วิธี - การเลือกใช้อย่างถูกวธิ ี/ เทคนิค - ยกตัวอยา่ งการใช้อปุ กรณ์/ - การอนรุ ักษส์ งิ่ แวดล้อม วธิ กี าร เคร่อื งใช้ไฟฟา้ อย่างถูกวิธี - กระบวนการการอนรุ กั ษ์ - แสนอแนะแนวทางอนรุ กั ษ์ ส่ิงแวดลอ้ ม ส่งิ แวดล้อม ลงช่ือ..................................................ผูส้ อน (นายศรีมลู สมบุตร)

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงในช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 4321 1 ความถกู ต้องของเนือหา 2 ความคิดสรา้ งสรรค์ 3 วิธกี ารนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมมีขอ้ บกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลมุ่

ชื่อกลุม่ ชัน คาชี้แจง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกับระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การแบง่ หนา้ ที่กันอยา่ งเหมาะสม 2 ความรว่ มมอื กันทางาน ลงชอื่ .................................................... ผ้ปู ระเมิน 3 การแสดงความคิดเหน็ ................ /................ /................ 4 การรับฟงั ความคิดเหน็ 5 ความมนี าใจชว่ ยเหลือกัน รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอื่ ได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธบิ าย ความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสิทธิและหน้าท่ีของนกั เรียน 2. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามร่วมมือ รว่ มใจ ในการทางานกับสมาชิกในชนั เรยี น 3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 1.5 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัตติ นตามหลักของ ศาสนา 1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี ก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่ีโรงเรียน และชุมชนจัดขนึ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏิบัติในส่ิงทถี่ ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผิด ทา ตามสญั ญาทีต่ นใหไ้ วก้ ับเพอื่ น พอ่ แม่หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ัติต่อผู้อนื่ ดว้ ยความซ่ือตรง 3.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว และโรงเรียน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรูต้ า่ งๆ 4.2 มีการจดบันทกึ ความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อื่น และไมท่ าให้ผอู้ ื่นเดอื ดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภัยเม่ือผูอ้ นื่ กระทา ผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทางานและการใช้ชวี ติ ประจาวันบนพืนฐานของ 6. ม่งุ ม่นั ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร ทางาน 5.6 รู้เทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั 7. รกั ความเปน็ ไทย อยรู่ ว่ มกับผู้อืน่ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามตังใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ ูอ้ ่นื 8.3 รจู้ ักดแู ล รกั ษาทรพั ย์สมบตั แิ ละสง่ิ แวดล้อมของห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอื่ .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน  ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ ) ( ตาแหน่ง

แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง พลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย รายวชิ า สงั คมพ้นื ฐาน รหสั ส 21101 ช้ัน มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ช่อื -สกุลครผู ูส้ อน นายศรีมลู สมบตุ ร ********************* คาชแ้ี จง แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ ฉบับนี มวี ัตถุประสงคเ์ พื่อให้ท่านซึง่ เปน็ ผูน้ ิเทศได้กรุณาพิจารณาความ เหมาะสม และความสอดคลอ้ งระหว่างองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินแบ่งเป็น 2 ตอน คอื ตอนที่ 1 แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรยี นรเู้ ปน็ การพจิ ารณาองค์ประกอบตา่ ง ๆ ของ แผนการจัดการเรยี นรู้วา่ มีความเหมาะสมเพยี งใด ตอนที่ 2 แบบประเมินความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้ เป็นการพิจารณาองค์ประกอบตา่ ง ๆ ของ แผนการจดั การเรียนรู้ว่ามีความสอดคลอ้ งกันเพียงใด ตอนท่ี 1 แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจดั การเรยี นรู้ คาชีแ้ จง โปรดทาเครอ่ื งหมาย √ ในชอ่ งระดบั ความเหมาะสมที่ตรงกับความคดิ เห็นของท่าน และขอความกรณุ า เขยี นขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ เพ่ือเปน็ แนวทางในการปรับปรุงแผนการจดั การเรยี นรูต้ อ่ ไป ขอ้ รายการประเมิน ระดับความคดิ เห็น ใช่ ไมใ่ ช่ 1 แผนการจัดการเรยี นรมู้ ีองคป์ ระกอบสาคญั ครบถ้วนตามแบบฟอร์มที่โรงเรยี นกาหนด √ 2 การเขยี นสาระสาคญั ในแผนการจัดการเรียนรู้มคี วามถกู ต้อง √ 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ระบุพฤตกิ รรมชัดเจน สามารถวดั ได้ √ 4 สาระการเรียนร้คู รบถ้วน สมั พันธก์ ับตัวชวี ัด/ผลการเรียนร/ู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ √ 5 ระบุวิธกี ารวัดผลประเมินผลอย่างชดั เจน √

6 ระบุเครือ่ งมอื สาหรับการวดั ผลประเมินผลอยา่ งชัดเจน √ 7 ระบุเกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผลอย่างชัดเจน √ 8 กจิ กรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุกขนั ตอนตามวิธีสอน หรือกระบวนการ √ หรอื เทคนคิ การสอนท่ีระบุไวใ้ นแผนการจัดการเรียนรู้ √ 9 ระบกุ ารใช้ส่อื นวตั กรรม/แหล่งเรียนร้สู มั พนั ธ์สอดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี นรู้ √ 10 มีหลกั ฐานประกอบ เชน่ ส่อื ใบกิจกรรม ใบความรู้ เครอ่ื งมอื วัด ฯ ทีป่ รากฏใน แผนการจดั การเรียนรคู้ รบถ้วน ตอนท่ี 2 แบบประเมนิ ความสอดคล้ององคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ คาชแี้ จง โปรดทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องท่ีตรงกบั ความคดิ เห็นของทา่ น ขอ้ ท่ี รายการประเมิน สอดคล้อง ไมแ่ น่ใจ ไม่สอดคลอ้ ง (1) (0) (-1) 1 การเขยี นสาระสาคญั มีความสัมพันธส์ อดคลอ้ งกับตัวชวี ดั /ผลการ √ เรียนรู้/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2 จดุ ประสงค์การเรยี นรมู้ คี วามสอดคลอ้ งสมั พันธก์ บั √ สาระการเรยี นรู้ 3 หลกั ฐานการเรียนรมู้ คี วามสมั พันธ์ สอดคล้องกับสาระ การเรียนรู้ √ ตวั ชีวดั /ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร/ู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 วิธีการวดั ผลประเมนิ ผลมคี วามสมั พันธก์ บั สาระการเรียนรู้ ตัวชีวัด/ √ ผลการเรยี นรู้ 5 เครื่องมือวดั ผลประเมินผล มคี วามสัมพนั ธก์ ับคณุ ลกั ษณะอันพงึ √ ประสงคข์ องผ้เู รยี น 6 เครอื่ งมอื วดั ผลประเมนิ ผล มคี วามสมั พันธ์กับสมรรถนะทส่ี าคัญของ √ ผ้เู รยี น 7 กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความสมั พนั ธส์ อดคล้องกบั สาระการเรียนรู้ √

ตัวชวี ดั /ผลการเรียนรู้ √ √ √ 8 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามสัมพนั ธ์สอดคล้องกับคณุ ลักษณะอนั พงึ √ ประสงคข์ องผูเ้ รียน √ 9 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสมั พันธส์ อดคล้องสมรรถนะที่สาคัญของ √ ผูเ้ รยี น 10 สื่อ-นวตั กรรม/อปุ กรณ/์ แหล่งเรยี นรู้ มีความสัมพนั ธส์ อดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี นรู้ 11 แผนการจัดการเรียนรูม้ กี ิจกรรมบรู ณาการกับงานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน 12 แผนการจดั การเรยี นรู้มีกจิ กรรมบรู ณาการกับหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 13 แผนการจดั การเรยี นรมู้ ีกิจกรรมบรู ณาการกบั งานสงิ่ แวดล้อม เกณฑก์ ารประเมิน ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรยี นรู้ ค่าความสอดคลอ้ งต้องมคี า่ ตังแต่ 0.50 ขนึ ไป ความเหมาะสมของแผนการจดั การเรยี นรู้ คะแนนระหว่าง 1 - 4 ระดบั คุณภาพ ตอ้ งปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง 5 - 8 ระดับคณุ ภาพ พอใช้ คะแนนระหวา่ ง 9 - 13 ระดบั คณุ ภาพ ดี

ผังมโนทัศน์ รายวชิ า สงั คมพนื้ ฐาน รหสั วชิ า ส 21101 ระดบั ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง กฎหมายกับการดาเนินชวี ติ ประจาวัน จานวน 4 ชั่วโมง : 2 คะแนน ช่ือเรือ่ ง กฎหมายกบั การดาเนินชีวติ ประจาวนั หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง กฎหมายกับการดาเนินชีวิตประจาวนั 3 จานวน 4 ชว่ั โมง : 2 คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง กฎหมายกบั การดาเนินชวี ติ ประจาวนั รายวชิ า สงั คมพ้นื ฐาน รหัสวชิ า ส 21101 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2562 นา้ หนักเวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ เวลาท่ใี ช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชัว่ โมง 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจทีค่ งทน) รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย เป็นกฎหมายสูงสุดทใี่ ช้ในการปกครองประเทศ มโี ครงสร้างและสาระสาคัญใน การค้มุ ครองสทิ ธแิ ละเสรีภาพของประชาชน 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัดชน้ั ปี/ผลการเรียนรู/้ เป้าหมายการเรยี นรู้ ส 2.2 ม.1/1 อธบิ ายหลักการ เจตนารมณ์ โครงสร้าง และสาระสาคัญของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจุบัน โดยสงั เขป 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledge กฎหมายกับการดาเนนิ ชีวติ ประจาวัน - หลกั การ เจตนารมณ์ โครงสร้าง และสาระสาคัญของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน 3.2 ทักษะ /กระบวนการ : Process ทากิจกรรมรายบุคคล รายกลุม่ ในการศึกษาเรียนรู้ตามเนื้อหา 3.3 คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude ประพฤติตนตามแบบอย่างการดาเนินชวี ติ ท่ีดีในสังคมอยา่ งมี ความสุข 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม 6. คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซื่อสตั ยส์ จุ ริต 3. มวี ินยั 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทางาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 7. ช้นิ งาน/ภาระงาน : 7.1 เรอ่ื ง กฎหมายกบั การดาเนินชีวิตประจาวัน - ใบงานที่ 1.1 ให้ศึกษาเรือ่ ง กฎหมายกับการดาเนินชีวติ ประจาวัน (ทาหนงั สอื เล่มเลก็ )

- แบบฝกึ ทักษะท่ี 1 นาเสนอ เร่ือง กฎหมายกับการดาเนินชวี ิตประจาวัน 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความเป็นมา และความสาคัญของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบบั ปัจจบุ นั ได้ 2. อธบิ ายเจตนารมณ์ โครงสร้าง และสาระสาคญั ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยฉบบั ปัจจุบันโดยสงั เขปได้ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน/ขน้ั ตัง้ คาถาม (วิธสี อนแบบบรรยาย / วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุม่ ) นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ประจาหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 ชั่วโมงท่ี 1 - 2 1. ครตู ังคาถามใหน้ ักเรยี นตอบเพ่ือเป็นการนาเขา้ สูก่ ิจกรรมการเรียนการสอน ดงั นี - นกั เรยี นมีความรู้เกีย่ วกบั รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบนั อย่างไรบ้าง - รฐั ธรรมนญู มคี วามสาคญั อย่างไร 2. ครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจว่า รัฐธรรมนูญ เปน็ กฎหมายสูงสุดท่ีว่าด้วยการจัดระเบียบการปกครองราชอาณาจกั รไทย รัฐธรรมนญู ฉบบั ปัจจุบันประกาศใช้เมอื่ วนั ท่ี 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550 แลว้ ครอู ธิบายเพ่มิ เติมถึงความสาคญั ของ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย 3. ครใู ห้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 5 คน ตามความสมัครใจให้ช่วยกันศกึ ษาความรูจ้ ากหนงั สือเรยี นและจากหนังสอื รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2550 และใบความรู้ท่ี 1.1 เร่อื ง ความรทู้ ่ัวไปเกยี่ วกับรัฐธรรมนูญ ใน หวั ข้อต่อไปนี - ความเปน็ มาของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2550 - ความสาคัญของรฐั ธรรมนูญ - หลกั การและเจตนารมณ์ของรฐั ธรรมนูญ - โครงสร้างของรฐั ธรรมนูญ - สาระสาคญั ของรัฐธรรมนญู 4. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันทาใบงานท่ี 1.1 รชู้ ัดรัฐธรรมนญู โดยแบ่งหนา้ ทีก่ ันตอบคาถามคนละ 1 ข้อ ชว่ั โมงที่ 3 - 4 1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นถงึ ความก้าวหน้าในการศึกษาหาความรเู้ รอ่ื ง รัฐธรรมนูญ และการแบ่งหน้าทีก่ ันทาใบงาน 2. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มผลดั กนั ออกมานาเสนอผลงานการทาใบงานทตี่ นรับผดิ ชอบตอ่ กลุ่ม โดยเรียงลาดบั ตงั แตข่ ้อท่ี 1- 5 สมาชิกคนอ่ืนช่วยเสนอแนะเพมิ่ เตมิ พร้อมทังชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการตอบคาถามในใบงาน 3. ครูสุ่มเรียกตวั แทนของแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานที่หนา้ ชันเรยี น กลมุ่ ละ 1 หัวขอ้ และให้กล่มุ อน่ื ทีม่ ีผลงาน แตกตา่ งกันออกไปเสนอแนะเพม่ิ เตมิ 4. ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ ความรูท้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 2550 ในส่วนท่ี เกี่ยวกับหลักการ เจตนารมณ์ โครงสรา้ ง และสาระสาคญั 5. ครูมอบหมายให้นักเรียนเขยี นบทสรปุ เรอ่ื ง รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย เปน็ การบา้ น

9. สอื่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ จานวน สภาพการใช้ส่อื รายการสอื่ 1 ชุด ขันตรวจสอบความรู้เดิม 1.หนงั สือเรียน หนา้ ทพี่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการ ดาเนนิ ชวี ติ ในสงั คม ม. 1 2. หนงั สอื คน้ คว้าเพิ่มเติม 1 ชดุ ขนั สารวจและค้นพบ 1) รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย 1 ชดุ ขนั ขยายความรู้ พุทธศักราช 2550 3.ใบความรู้ เร่ือง ความรูท้ ัว่ ไปเกย่ี วกบั รัฐธรรมนูญ 10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัดฯ ประเด็น/ การเรียนรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน การตรวจผลงาน เกณฑ์การให้ เกณฑก์ ารประเมินผลงาน 1.อธบิ ายความ ใบงาน นกั เรียน คะแนน เป็นมา และ ความสาคัญของ ผ่านระดับดขี นึ ไป รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ใบงาน การตรวจผลงาน เกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ผา่ นระดับดขี ึนไป ฉบบั ปจั จุบนั ได้ นกั เรยี น 2. อธิบาย แบบบันทึก การสงั เกต แบบบนั ทกึ การสังเกต ผา่ นระดบั ดขี นึ ไป เจตนารมณ์ โครงสรา้ ง และ พฤตกิ รรม รายบคุ คล สาระสาคญั ของ และรายกลุม่ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบนั

โดยสงั เขปได้ 3. อธิบายกฎหมาย สูงสุดที่ใชใ้ นการ ปกครองประเทศ มี โครงสร้างและ สาระสาคัญในการ คุ้มครองสทิ ธิและ เสรีภาพของ ประชาชนได้ 11. การบูรณาการตามจดุ เนน้ ของโรงเรียน (ตวั อยา่ ง) หลักปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรียน พอเพยี ง พอดีด้านเทคโนโลยี พอดดี ้านจติ ใจ 46. ความพอประมาณ รจู้ กั ใช้เทคโนโลยีมาผลติ ส่ือท่ี มจี ิตสานึกท่ดี ี เออื อาทร 47. ความมีเหตุผล เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนอื หาเปน็ ประนีประนอม นกึ ถึงประโยชน์ ประโยชนต์ ่อผ้เู รียนและพฒั นาจากภูมิ สว่ นรวม/กลุ่ม 48. มีภูมคิ มุ กนั ในตัวท่ีดี ปัญญาของผเู้ รียน 49. เง่อื นไขความรู้ - ยดึ ถือการประกอบอาชพี ดว้ ยความ ไม่หยดุ นิ่งทีห่ าหนทางในชวี ิต หลุดพน้ ถูกตอ้ ง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาด จากความทกุ ข์ยาก (การคน้ หาคาตอบ แคลน ในการดารงชวี ติ เพื่อให้หลดุ พ้นจากความไม่รู้) ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมดั ระวงั สรา้ งสรรค์ ความรอบรู้ เร่อื ง งานและกาลงั ความรอบรู้ เร่อื ง งานและกาลัง ทเี่ กีย่ วข้องรอบดา้ น ความรอบคอบท่ี กรณที ีเ่ กดิ งาน ปรมิ าณที่เกย่ี วข้อง การ จะนาความรูเ้ หลา่ นนั มาพจิ ารณาให้ คานวณสตู รท่ีตอ้ งใช้ สามารถนา เชอ่ื มโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผน ความรู้เหลา่ นันมาพจิ ารณาให้เชือ่ มโยง การดาเนนิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ กัน สามารถประยุกต์ ให้กับผูเ้ รยี น ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

50. เง่ือนไขคณุ ธรรม มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี ความซอื่ สัตย์สุจรติ และมีความอดทน ความซื่อสตั ยส์ ุจริตและมคี วามอดทน สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน มีความเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการ มีความเพยี ร ใช้สติปัญญาในการ งานและกาลัง ดาเนินชีวติ ดาเนนิ ชีวติ - การเกิดงานแต่ละกรณี - การเกดิ กาลัง การ ครู ผเู้ รียน ไดเ้ ปรยี บ งานและกาลงั เชงิ กล - ปัจจยั ที่มผี ลตอ่ การเกิดงาน งานและกาลงั - ปรมิ าณท่ีเกย่ี วข้องกบั การเกดิ งาน - ระบปุ ัจจัยทมี่ ีผลต่อการเกิดงาน สงิ่ แวดลอ้ ม - ทดลองเปรียบเทยี บการเกดิ งาน งานและพลังงาน และ และ - การเลอื กใช้อย่างถกู วธิ ี กาลัง - การอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม กาลงั พร้อมคานวณปรมิ าณที่ ครู เกีย่ วข้อง งานและพลังงาน - การเลอื กใช้อย่างถกู วิธี/ เทคนคิ ผู้เรียน วิธกี าร - กระบวนการการอนุรักษ์ งานและพลังงาน ส่งิ แวดล้อม - ยกตัวอย่างการใช้อปุ กรณ์/ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ อย่างถูกวิธี - แสนอแนะแนวทางอนุรักษ์ ส่ิงแวดลอ้ ม ลงชื่อ..................................................ผสู้ อน (นายศรีมูล สมบตุ ร)

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนกั เรียนตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงในช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 4321 1 ความถกู ต้องของเนือหา 2 ความคิดสรา้ งสรรค์ 3 วิธกี ารนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลมุ่

ชื่อกลุม่ ชัน คาชี้แจง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกับระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การแบง่ หนา้ ท่ีกันอยา่ งเหมาะสม 2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน ลงชอื่ .................................................... ผ้ปู ระเมิน 3 การแสดงความคิดเหน็ ................ /................ /................ 4 การรับฟงั ความคิดเหน็ 5 ความมนี าใจชว่ ยเหลือกัน รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่ือได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธบิ าย ความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสิทธิและหน้าที่ของนกั เรียน 2. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทางานกับสมาชิกในชนั เรยี น 3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 1.5 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏบิ ัตติ นตามหลักของ ศาสนา 1.6 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเ่ี ก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่ีโรงเรียน และชุมชนจัดขนึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทีถ่ กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏิบัติในส่ิงทถี่ ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผิด ทา ตามสญั ญาที่ตนใหไ้ วก้ บั เพอื่ น พอ่ แม่หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ัติต่อผู้อนื่ ดว้ ยความซ่ือตรง 3.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว และโรงเรียน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรียนรูต้ า่ งๆ 4.2 มีการจดบนั ทกึ ความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยัด คมุ้ ค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อื่น และไมท่ าให้ผอู้ ื่นเดอื ดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภัยเม่ือผอู้ ่นื กระทา ผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทางานและการใช้ชวี ติ ประจาวันบนพืนฐานของ 6. ม่งุ ม่นั ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร ทางาน 5.6 รู้เทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั 7. รกั ความเป็นไทย อยรู่ ว่ มกับผู้อืน่ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามตังใจและพยายามในการทางานทีไ่ ด้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบง่ ปันสงิ่ ของใหผ้ ูอ้ ่นื 8.3 รจู้ ักดแู ล รกั ษาทรพั ย์สมบตั แิ ละสง่ิ แวดล้อมของห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอื่ .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน  ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ ) ( ตาแหน่ง

แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ือง กฎหมายกบั การดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั รายวิชา สงั คมพ้นื ฐาน รหสั ส 21101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ชื่อ-สกลุ ครผู ู้สอน นายศรมี ลู สมบตุ ร ********************* คาช้แี จง แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ ฉบับนี มวี ตั ถุประสงค์เพอื่ ให้ท่านซึง่ เปน็ ผนู้ ิเทศไดก้ รณุ าพิจารณาความ เหมาะสม และความสอดคล้องระหว่างองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินแบ่งเปน็ 2 ตอน คือ ตอนท่ี 1 แบบประเมนิ ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เปน็ การพจิ ารณาองค์ประกอบต่าง ๆ ของ แผนการจัดการเรียนร้วู ่ามคี วามเหมาะสมเพียงใด ตอนท่ี 2 แบบประเมินความสอดคลอ้ งของแผนการจัดการเรียนรู้ เป็นการพิจารณาองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของ แผนการจัดการเรียนรวู้ า่ มคี วามสอดคล้องกันเพยี งใด ตอนที่ 1 แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจดั การเรยี นรู้ คาช้ีแจง โปรดทาเคร่ืองหมาย √ ในชอ่ งระดับความเหมาะสมท่ตี รงกบั ความคดิ เหน็ ของท่าน และขอความกรุณา เขียนข้อเสนอแนะอ่นื ๆ เพ่ือเปน็ แนวทางในการปรับปรงุ แผนการจัดการเรียนรู้ต่อไป ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั ความคิดเห็น ใช่ ไมใ่ ช่ 1 แผนการจดั การเรียนร้มู ีองคป์ ระกอบสาคญั ครบถ้วนตามแบบฟอร์มที่โรงเรยี นกาหนด √ 2 การเขียนสาระสาคัญในแผนการจัดการเรยี นรมู้ ีความถูกตอ้ ง √ 3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรรู้ ะบพุ ฤติกรรมชัดเจน สามารถวดั ได้ √ 4 สาระการเรยี นรู้ครบถ้วน สัมพนั ธ์กบั ตวั ชีวัด/ผลการเรียนร้/ู จุดประสงค์การเรียนรู้ √ 5 ระบวุ ิธีการวดั ผลประเมนิ ผลอย่างชัดเจน √

6 ระบุเครือ่ งมอื สาหรับการวดั ผลประเมินผลอยา่ งชัดเจน √ 7 ระบุเกณฑ์การวัดผลประเมินผลอย่างชดั เจน √ 8 กจิ กรรมการเรยี นร้มู คี วามเหมาะสม ครบถ้วนทุกขนั ตอนตามวธิ ีสอน หรือกระบวนการ √ หรอื เทคนคิ การสอนท่ีระบไุ วใ้ นแผนการจดั การเรียนรู้ √ 9 ระบกุ ารใช้ส่อื นวัตกรรม/แหล่งเรยี นรสู้ มั พนั ธ์สอดคลอ้ งกับกจิ กรรมการเรยี นรู้ √ 10 มีหลกั ฐานประกอบ เชน่ สือ่ ใบกิจกรรม ใบความรู้ เครือ่ งมอื วดั ฯ ทีป่ รากฏใน แผนการจดั การเรียนรู้ครบถว้ น ตอนท่ี 2 แบบประเมนิ ความสอดคลอ้ งองคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ คาชแี้ จง โปรดทาเครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ความคิดเหน็ ของทา่ น ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ สอดคล้อง ไมแ่ น่ใจ ไม่สอดคลอ้ ง (1) (0) (-1) 1 การเขียนสาระสาคญั มคี วามสัมพนั ธ์สอดคล้องกับตวั ชีวัด/ผลการ √ เรียนรู/้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้มู คี วามสอดคลอ้ งสมั พนั ธ์กับ √ สาระการเรยี นรู้ 3 หลกั ฐานการเรยี นร้มู คี วามสัมพนั ธ์ สอดคลอ้ งกบั สาระ การเรยี นรู้ √ ตวั ชีวดั /ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นร/ู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ 4 วิธีการวัดผลประเมินผลมคี วามสัมพันธ์กับสาระการเรียนรู้ ตัวชวี ัด/ √ ผลการเรียนรู้ 5 เครื่องมือวดั ผลประเมินผล มคี วามสัมพันธ์กับคุณลักษณะอันพงึ √ ประสงคข์ องผ้เู รียน 6 เครอื่ งมอื วัดผลประเมนิ ผล มคี วามสมั พันธ์กบั สมรรถนะท่สี าคญั ของ √ ผ้เู รยี น 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ คี วามสมั พนั ธส์ อดคล้องกบั สาระการเรียนรู้ √

ตัวชวี ดั /ผลการเรียนรู้ √ √ √ 8 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามสัมพนั ธ์สอดคลอ้ งกับคุณลกั ษณะอนั พงึ √ ประสงคข์ องผูเ้ รียน √ 9 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสมั พันธส์ อดคลอ้ งสมรรถนะทีส่ าคัญของ √ ผูเ้ รยี น 10 สื่อ-นวตั กรรม/อปุ กรณ/์ แหล่งเรยี นรู้ มคี วามสมั พนั ธส์ อดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี นรู้ 11 แผนการจัดการเรียนรูม้ กี ิจกรรมบรู ณาการกบั งานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน 12 แผนการจดั การเรยี นรู้มีกจิ กรรมบรู ณาการกับหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 13 แผนการจดั การเรยี นรมู้ ีกิจกรรมบรู ณาการกบั งานส่ิงแวดล้อม เกณฑก์ ารประเมิน ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรยี นรู้ ค่าความสอดคลอ้ งต้องมคี า่ ตังแต่ 0.50 ขนึ ไป ความเหมาะสมของแผนการจดั การเรยี นรู้ คะแนนระหว่าง 1 - 4 ระดบั คุณภาพ ตอ้ งปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง 5 - 8 ระดับคณุ ภาพ พอใช้ คะแนนระหวา่ ง 9 - 13 ระดบั คณุ ภาพ ดี

ผงั มโนทัศน์ รายวชิ า สงั คมพ้นื ฐาน รหัสวิชา ส 21101 ระดบั ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง เหตุการณแ์ ละการเปล่ียนแปลงสาคัญของระบอบการปกครองของไทย จานวน 4 ชัว่ โมง : 3 คะแนน ชอื่ เรื่อง เหตกุ ารณแ์ ละการเปลีย่ นแปลงสาคญั ของ ระบอบการปกครองของไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง เหตุการณแ์ ละการเปลย่ี นแปลงสาคญั ของ ระบอบการปกครองของไทย 3 จานวน 4 ชวั่ โมง : 3 คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 แผนจัดการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง เหตุการณแ์ ละการเปล่ยี นแปลงสาคัญของระบอบการปกครองของ ไทย รายวิชา สงั คมพ้นื ฐาน รหสั วชิ า ส 21101 ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 4 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจทคี่ งทน) ในวันท่ี 24 มถิ ุนายน พ.ศ. 2475 มีเหตกุ ารณ์ทางการเมืองท่ีสาคญั นาไปสกู่ ารเปลีย่ นแปลงการปกครองจากระบอบ สมบรู ณาสทิ ธิราชยม์ าเปน็ ระบอบประชาธปิ ไตยซึง่ มสี าเหตแุ ละเกิดผลทีต่ ามมาอย่างมากมาย 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั ชัน้ ป/ี ผลการเรียนรู้/เปา้ หมายการเรียนรู้ ส 2.2 ม. 1/2 วิเคราะหข์ ้อมูล ข่าวสาร และการเปลยี่ นแปลงสาคญั การเมืองการปกครองทมี่ ผี ลกระทบตอ่ สังคมไทย 3.1 เน้อื หาสาระหลัก : Knowledge เหตุการณแ์ ละการเปลย่ี นแปลงสาคญั ของระบอบการปกครองของ ไทย ประเด็นสาคญั การเปลีย่ นแปงลงระบอบการปกครองของไทย เชน่ - การเปลย่ี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - บทบาทของสตรไี ทย 3.2 ทักษะ /กระบวนการ : Process ทากิจกรรมรายบุคคล รายกลมุ่ ในการศกึ ษาเรียนรู้ตามเน้อื หา 3.3 คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ : Attitude ประพฤตติ นตามแบบอย่างการดาเนนิ ชีวติ ที่ดีในสังคมอย่างมี ความสขุ 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่ 6. คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต 3. มีวินยั 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 6. มุ่งมัน่ ในการทางาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน :

7.1 เรือ่ ง เหตุการณแ์ ละการเปล่ียนแปลงสาคญั ของระบอบการปกครองของไทย - ใบงานที่ 1.1 ให้ศึกษาเรือ่ ง เหตุการณแ์ ละการเปลย่ี นแปลงสาคญั ของระบอบการปกครองของไทย(ทา หนังสอื เล่มเล็ก) - แบบฝกึ ทักษะที่ 1 นาเสนอ เรือ่ ง เหตกุ ารณ์และการเปล่ียนแปลงสาคัญของระบอบการปกครองของไทย 8. กิจกรรมการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ระบสุ าเหตุของการเปล่ยี นแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ได้ 2. วิเคราะห์ผลของการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ได้ (วธิ ีสอนโดยใชก้ ระบวนการทางประวตั ศิ าสตร)์ ชวั่ โมงที่ 1-2 1. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั เรยี นทราบ 2. ใหน้ ักเรยี นบนั ทึกความรูล้ งในใบงานที่ 3.1 เร่ือง ตาราง KWL PlusChart เก่ยี วกบั การเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมอ่ื วันท่ี 24 มิถนุ ายน พ.ศ. 2475 3. นักเรยี นชว่ ยกันเลือกประเดน็ ทีย่ ังไมร่ ู้ เขียนบนกระดาน เรียงตามลาดับเหตุการณ์ 4. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม แลว้ ให้แต่ละกลุม่ ศกึ ษาความรู้จากหนงั สือเรียน จากนันบนั ทกึ ความรลู้ งในใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง การ เปลยี่ นแปลงการปกครอง ในประเดน็ ต่อไปนี - สาเหตุของการเปลย่ี นแปลงการปกครอง - อดุ มการณ์ของคณะราษฎรกบั การเปลย่ี นแปลงการปกครอง - การดาเนนิ การเปลยี่ นแปลงการปกครอง - รฐั ธรรมนญู กบั การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 5. ครูสุ่มเรยี กตัวแทนนักเรยี นออกมาสรปุ สาระความรู้ทส่ี ืบค้นมา ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติม ชว่ั โมงท่ี 3 - 4 1. ครฉู ายวีดทิ ัศนเ์ รอ่ื ง พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยหู่ ัวกับการเปลยี่ นแปลงการปกครอง 2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วเิ คราะหเ์ รอื่ ง พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยหู่ ัวกบั การเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วย วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ 3. ครสู ุ่มเรียกตวั แทนของแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการวเิ คราะห์ด้วยวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ 4. นักเรียนและครูชว่ ยกนั สรปุ เร่อื ง การเปล่ยี นแปลงการปกครอง 5. นักเรียนทาใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง การเปลีย่ นแปลงการปกครอง 9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ รายการส่อื จานวน สภาพการใชส้ ือ่ 1.หนงั สือเรียน หน้าท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และการ 1 ชดุ ขันตรวจสอบความรู้เดมิ ดาเนินชีวติ ในสงั คม ม. 1 2.ใบงานเรอ่ื ง การเปลีย่ นแปลงการปกครอง 1 ชุด ขนั สารวจและค้นพบ

3.ใบความรู้ เรือ่ ง วเิ คราะหผ์ ลของการเปลีย่ นแปลง 1 ชดุ ขันขยายความรู้ การปกครองใน พ.ศ. 2475 ได้ 10. การวัดผลและประเมินผล เป้าหมาย หลักฐานการเรยี นรู้ วิธีวัด เคร่อื งมือวัดฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน การตรวจผลงาน เกณฑก์ ารให้ ใบงาน การตรวจผลงาน เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน 1. ระบสุ าเหตุของการ นักเรียน คะแนน ใบงาน การสงั เกต เปลีย่ นแปลงการปกครองใน พ.ศ. ผา่ นระดบั ดขี นึ ไป 2475 ได้ แบบบนั ทกึ เกณฑก์ ารประเมินผลงาน ผา่ นระดับดขี นึ ไป 2.วเิ คราะหผ์ ลของการ นกั เรียน เปล่ียนแปลงการปกครองใน พ.ศ. แบบบนั ทกึ การสงั เกต ผ่านระดับดีขึนไป 2475 ได้ พฤตกิ รรม รายบุคคล และรายกลุ่ม 3. วิเคราะห์เหตุการณ์ และการ เปล่ยี นแปลงสาคญั ของระบอบการ ปกครองของไทยได้

11. การบรู ณาการตามจุดเน้นของโรงเรยี น (ตวั อยา่ ง) หลักปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผู้เรียน พอเพยี ง พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีด้านจติ ใจ 51. ความพอประมาณ รจู้ ักใช้เทคโนโลยมี าผลติ สื่อท่ี มีจติ สานึกทีด่ ี เออื อาทร 52. ความมีเหตุผล เหมาะสมและสอดคล้องเนือหาเป็น ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรียนและพฒั นาจากภูมิ สว่ นรวม/กลุม่ 53. มีภูมิคุมกันในตวั ทดี่ ี ปัญญาของผเู้ รียน - ยึดถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความ ไม่หยดุ นงิ่ ทหี่ าหนทางในชีวติ หลุดพ้น ถกู ตอ้ ง สุจริต แม้จะตกอย่ใู นภาวะขาด จากความทกุ ขย์ าก (การคน้ หาคาตอบ แคลน ในการดารงชีวิต เพอ่ื ให้หลดุ พน้ จากความไมร่ ู้) ภูมิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมดั ระวงั สร้างสรรค์ 54. เงื่อนไขความรู้ ความรอบรู้ เร่ือง งานและกาลงั ความรอบรู้ เรอ่ื ง งานและกาลงั 55. เงื่อนไขคุณธรรม ท่ีเกยี่ วข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่ี กรณที ่เี กิดงาน ปริมาณทีเ่ ก่ียวขอ้ ง การ จะนาความรเู้ หล่านันมาพจิ ารณาให้ คานวณสูตรที่ต้องใช้ สามารถนา เช่อื มโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน ความร้เู หล่านันมาพิจารณาให้เช่อื มโยง การดาเนนิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ กัน สามารถประยุกต์ ใหก้ บั ผ้เู รยี น ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี ความซื่อสัตยส์ ุจริตและมคี วามอดทน ความซอื่ สัตยส์ ุจริตและมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการ มคี วามเพียร ใช้สติปญั ญาในการ ดาเนนิ ชีวิต ดาเนินชีวติ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ครู ผ้เู รยี น งานและกาลงั งานและกาลัง - ปจั จัยทีม่ ีผลตอ่ การเกดิ งาน งานและกาลงั - การเกิดงานแต่ละกรณี - ปรมิ าณที่เกีย่ วขอ้ งกบั การเกิดงาน - ระบปุ จั จยั ที่มีผลต่อการเกิดงาน - การเกดิ กาลงั การ - ทดลองเปรียบเทียบการเกดิ งาน ได้เปรียบ และ และ เชงิ กล กาลัง กาลัง พรอ้ มคานวณปรมิ าณท่ี สิง่ แวดล้อม ครู เกย่ี วข้อง งานและพลงั งาน งานและพลังงาน - การเลอื กใชอ้ ยา่ งถูกวิธี - การเลือกใชอ้ ย่างถูกวธิ ี/ เทคนคิ ผู้เรียน - การอนุรักษส์ ่งิ แวดล้อม วิธกี าร - กระบวนการการอนุรกั ษ์ งานและพลงั งาน - ยกตวั อยา่ งการใชอ้ ปุ กรณ/์ เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งถูกวิธี - แสนอแนะแนวทางอนรุ กั ษ์

ส่งิ แวดล้อม ส่ิงแวดลอ้ ม ลงชื่อ..................................................ผ้สู อน (นายศรมี ลู สมบุตร)

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 ความถูกต้องของเนอื หา 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ ชอ่ื กลมุ่ ชนั คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่อง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การแบง่ หน้าท่ีกันอยา่ งเหมาะสม 2 ความรว่ มมอื กันทางาน ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมนิ 3 การแสดงความคิดเหน็ ................ /................ /................ 4 การรบั ฟังความคิดเหน็ 5 ความมีนาใจชว่ ยเหลอื กัน รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook