51 6. สำมี ลูกๆ และญำติพ่ีนอ้ ง มีสว่ นใหโ้ อกำสและกำลังใจอีกทงั้ ทำอะไรแทนเรำได้ เปิดโอกำสให้เรำ ทำงำน ไดอ้ ยำ่ งเต็มท่ี 2.3 ปัญหำ อปุ สรรค จุดท่ีควรพฒั นำ 1. ควำมตอ่ เนอ่ื งของกจิ กรรม บำงคร้งั ต้องสรำ้ งทมี งำนท่เี ขม็ แข็งเพอ่ื ใหร้ ะบบขบั เคล่ือนดว้ ยตนเองได้ 2. ควำมเขำ้ ใจ และควำมร่วมมอื ของผเู้ กี่ยวข้อง 2.4 ข้อเสนอแนะคือ 1. ให้วำงแผนกำรทำงำนอยำ่ งเปน็ ระบบ รอบคอบ และมีเป้ำหมำยท่ีชัดเจน 2. ให้กฎ ททท. คอื เม่อื คดิ ไดแ้ ล้วตอ้ งลงมอื ทำทนั ที 3. หลกั ฐำนของควำมภำคภมู ใิ จ
52 แบบรำยงำน วธิ ปี ฏิบตั ทิ ีด่ ี (Best Practice) นำงพิศมัย นำมสกลุ เทวำพทิ กั ษ์ ตำแหนง่ ครเู ช่ยี วชำญ โรงเรียนบ้ำนร้องขเี้ หล็ก ปที เ่ี กษยี ณอำยุรำชกำร 2563 1. ขอ้ มลู เกี่ยวกับงำนที่รับผดิ ชอบ 1.1 เป็นครปู ระจำชัน้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 สอนกล่มุ สำระตำ่ งๆดงั น้ี ที่ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ จำนวนชั่วโมง 1 ภำษำไทย(พื้นฐำน) 5 2 คณติ ศำสตร์ 5 3 วทิ ยำศำสตร์ 3 4 สงั คมศำสนำและวัฒนธรรม 2 7 สขุ ศึกษำและพละศึกษำ 1 8 ภำษำอังกฤษ 5 9 ศลิ ปะ(ทัศนศลิ ป์) 1 10 กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รยี น 2 11 กจิ กรรมรอ้ ยสำนงำนศิลป(์ ป.1-ม.3) 1 1.2 เจำ้ หน้ำท่โี ครงกำรอำหำรกลำงวัน 1.3 เป็นหวั หน้ำฝำ่ ยงำนบริหำรงำนบคุ คล 1.4 ครูที่ปรกึ ษำชมรมรอ้ ยสำนงำนศลิ ป์ 2. ผลงำนควำมภำคภูมิใจ คือ กำรยกระดบั ผลกำรทดสอบควำมสำมำรถพื้นฐำนระดบั ชำติ NT สูงเปน็ อนั ดบั 1 ของเขตพื้นที่ อันดบั 1 ของ ศธจเชยี งใหม่ อันดับท่ี 22 ของประเทศ 2.1 วิธีดำเนินงำนเกิดผลสำเร็จตำมเป้ำหมำย 1) วเิ ครำะหผ์ ลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนกั เรียนทีส่ ่งต่อจำกครปู ระจำช้นั ประถมศึกษำปีที่ 2
53 2) วเิ ครำะห์ขอ้ มูลนกั เรยี นรำยบคุ คล เพ่ือหำจุดเดน่ จดุ ด้อยของนกั เรยี นแต่ละคน และจำแนกผเู้ รียนเปน็ กลุ่มเก่ง กลุม่ ปำนกลำง และกลุ่มอ่อน เพอื่ พัฒนำใหต้ รงกบั ควำมสำมำรถของนักเรยี น และจัดกลมุ่ เดก็ เก่ง ปำนกลำง ออ่ นคละกันเพื่อใหเ้ ดก็ ไดช้ ว่ ยดูแลซึ่งกนั และกัน 3) วิเครำะหเ์ น้อื หำสำระกำรเรียนรู้ ปัญหำกำรจัดกำรเรยี นรู้ จดุ เด่นจุดด้อยของกำรจัดกจิ กรรมกำร เรยี นกำรสอน ของปที ี่ผำ่ นมำจำกข้อมูลของครูผสู้ อนท่บี ันทกึ ไวซ้ ่ึงพบว่ำ สำระคณิตศำสตร์(ดำ้ นคำนวณ) - กำรวิเครำะห์ข้อมลู - นักเรียนวิเครำะหโ์ จทยป์ ัญหำไมไ่ ด้ - นักเรียนท่องสูตรคูณไม่ได้ - นักเรียนขำดควำมแม่นเรื่องหนว่ ย กำรชัง่ ตวง วัด เวลำ เชน่ กำรบวก กำรลบ หนว่ ยเวลำ
54 สำระภำษำไทย(ดำ้ นภำษำ) - กำรคำดคะเนเหตกุ ำรณ์ - กำรตอบคำถำม - กำรวเิ ครำะหแ์ ละกำรสรปุ ขอ้ มูล สำระวทิ ยำศำสตร(์ ดำ้ นเหตผุ ล) -กำรใหข้ ้อมูลสนับสนนุ กำรตดั สนิ ใจ -กำรวเิ ครำะห์ข้อมูลสถำนกำรณ์ -กำรสรุปออกแบบกำรวำงแผน 4) กำหนดเปำ้ หมำย วธิ ีกำรพฒั นำผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรียนและกำรยกระดบั ผลกำรทดสอบ ควำมสำมำรถพน้ื ฐำนระดับชำติ NT ของนักเรียน 5) ศึกษำโครงสร้ำงแบบทดสอบ NT แต่ละปี 6)นำผลกำรทดสอบ NTของแตล่ ะปที ่วี ิเครำะหเ์ พอ่ื มำเป็นฐำนขอ้ มูลเพอ่ื ดวู ำ่ เนื้อหำสำระใดในแตล่ ะ ดำ้ นทีม่ ปี ัญหำใชเ้ ปน็ ข้อมูลในกำรพัฒนำผูเ้ รียนและส่งต่อข้อมูลใหค้ รูผู้สอนชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 4
55 ด้ำน ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 -ควำมหมำยคำ ประโยค ภำษำ -กำรคำดคะเนเหตกุ ำรณ์ -กำรคำดคะเนเหตุกำรณ์ จำกเร่อื งทฟ่ี ัง -พชี คณติ -กำรตอบคำถำม -กำรวิเครำะห์ขอ้ มูล คำนวณ -กำรวดั -จำนวน -กำรวิเครำะหข์ ้อมลู สถำนกำรณ์ -จำนวน -กำรวิเครำะหข์ อ้ มูล เหตุผล -กำรให้ขอ้ มลู สนบั สนุนกำร -กำรสรปุ ออกแบบกำร ตัดสินใจ วำงแผน -กำรวิเครำะหข์ อ้ มูล -กำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล 7) จัดทำคลังข้อสอบวดั ผลสมั ฤทธแิ์ ละ คลงั ขอ้ สอบNT 8) จดั ทำแผนกำรจัดกำรเรียนร้เู พื่อพฒั นำผูเ้ รยี นโดยใชข้ อ้ มูลนักเรียนรำยบคุ คล 9) ดำเนินกำรสอนตำมกจิ กรรมตำมจดุ เดน่ จุดด้อยทว่ี เิ ครำะห์ไว้ 10) สอนซอ่ มเสรมิ ผู้เรยี นรำยบุคคล / รำยกล่มุ ระหว่ำงเรียนทกุ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ 11) หลงั กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้เสร็จแตล่ ะหน่วย วดั และประเมินผลตำมสภำพจริงใหส้ อดคล้อง มำตรฐำน ครอบคลมุ ตัวช้ีวดั โดยใชแ้ บบทดสอบจำกคลงั ข้อสอบ 12) เมอ่ื พบวำ่ เนื้อหำสำระใดมปี ัญหำให้กลับมำทบทวนใหม่ 2.2 ปจั จัยทเ่ี อื้อใหป้ ระสบผลสำเรจ็ คือ 1) ครูมกี ำรวิเครำะห์ ข้อมลู นักเรยี นรำยบุคคล วิเครำะห์ เนอ้ื หำสำระกำรเรียนรู้ วิเครำะห์ ผลสัมฤทธ์ิ และผลกำรทดสอบ NTเพ่อื ใชใ้ นกำรวำงแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ 2) มีกำรจดั กล่มุ ผเู้ รยี นที่เหมำะสมโดยกำรคละเด็กเก่ง ปำนกลำงและอ่อน เพื่อให้ชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกนั 3) มกี ำรกำหนดรูปแบบกำรพัฒนำกำรเรียนรู้และกำรจัดกิจกรรม 4) มกี ำรกำหนดเกณฑท์ ค่ี ำดหวงั และเกณฑก์ ำรประเมินผล 5) นกั เรยี นให้ควำมสนใจ ต้งั ใจและมีสว่ นร่วมในกำรปฎบิ ัติกิจกรรม 6) ผปู้ กครองใหก้ ำรสนับสนนุ ชว่ ยดูแลเด็ก 7) ผบู้ รหิ ำรใหก้ ำรสง่ เสรมิ สนับสนนุ ครูในด้ำนส่อื วสั ดุอุปกรณ์ต่ำงๆในกำรจัดกิจกรรม
56 2.3 ปญั หำ อุปสรรค จดุ ท่คี วรพัฒนำ 1) นกั เรียนใช้เวลำทำแบบทดสอบเลอื กตอบนำนเกินไปทำใหไ้ ม่มีเวลำในกำรทำข้อสอบทีต่ ้องแสดงวิธี ทำ กำรเขยี นตอบสน้ั ๆครคู วรแนะนำให้เด็กแบง่ เวลำในกำรทำแบบทดสอบสว่ นนี้ซงึ่ จะชว่ ยให้ได้คะแนนสูงขน้ึ 2) ผ้ปู กครองนักเรยี นอ่ำนและเขยี นภำษำไทยไมไ่ ดท้ ำให้ไมส่ ำมำรถดูแลเดก็ ในด้ำนกำรอำ่ นกำรเขียน กำรใหค้ ำปรึกษำในกำรทำกำรบ้ำนได้ 2.4 ขอ้ เสนอแนะ 1. ครคู วรจัดกจิ กรรมฝึก ยำ้ ซ้ำ ทวน บอ่ ย ๆ เพอ่ื ให้นักเรียนเกดิ ทกั ษะในกำรเรียนรู้ท่ีคงทน 2. ครูผู้สอนตอ้ งมีควำมอดทน ในกำรรอคอยคำตอบจำกนักเรียน ไม่ควรดว่ นสรุป หรือเฉลยคำตอบเรว็ เกนิ ไป 3. ครมู คี วำมเปน็ กันเองกับนักเรยี นจะทำให้นกั เรยี นรู้สึกอบอ่นุ และมีบรรยำกำศในกำรเรียนร้ทู ีไ่ ม่ตึง เครยี ด 4.ควรประสำนงำนให้ผู้ปกครองนักเรยี นใหม้ สี ว่ นร่วมในกำรจดั กำรเรยี นรู้ เช่น จดั กำรให้นกั เรียนมำเรียน ทกุ วนั
57 BEST PRACTICE กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ “ทักษะกระบวนกำรบูรณำกำรกับส่งิ แวดล้อม” สู่ค่ำยเยำวชน...รกั ษพ์ งไพร โดย นำงรัชดำภรณ์ พันธ์พกิ ลุ โรงเรยี นบ้ำนทำ่ หลกุ สนั ทรำย สำนักงำนเขตพนื้ ท่กี ำรศึกษำประถมศกึ ษำเชียงใหม่ เขต 1 สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้นื ฐำน กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร นวัตกรรมกำรนำเสนอผลงำน – นวตั กรรมทเี่ ป็นเลศิ [BEST PRACTICES] ช่อื ผลงำน “ทักษะกระบวนกำร บรู ณำกำรกบั สิง่ แวดลอ้ ม สคู่ ่ำยเยำวชน...รักษพ์ งไพร” ชือ่ ผนู้ ำเสนอ นำงรชั ดำภรณ์ พันธ์พิกลุ ตำแหนง่ ครูชำนำญกำรพิเศษ ปีทเ่ี กษยี ณอำยรุ ำชกำร 2568 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ วิทยำศำสตร์
58 โรงเรียนบ้ำนทำ่ หลุกสนั ทรำย สงั กัดสำนกั งำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำเชียงใหม่ เขต 1 โทร 053-244255 โทรสำร 053-244255 มอื ถือ 0871264273 EMAIL : [email protected] รำยละเอยี ดกำรนำเสนอผลงำน 1. ควำมสำคัญของผลงำนหรือนวตั กรรมที่นำเสนอ โรงเรียนจัดโครงสร้ำงกำรบรหิ ำรงำนเชิงระบบโดยมกี จิ กรรมนักเรยี น ใชก้ ำรบูรณำกำร กำรมี สว่ นร่วมในกลมุ่ สำระวิชำเข้ำดว้ ยกัน มผี ู้รบั ผดิ ชอบชดั เจนในกล่มุ สำระทต่ี นเองรับผดิ ชอบ ไม่ทำใหเ้ ปน็ กำรเพิ่มภำระแต่อย่ำงใด เปน็ งำนทีต่ อ้ งรับผดิ ชอบโดยปกติ เพ่อื พัฒนำใหก้ ำรดำเนินกจิ กรรมกำร เรียนรู้ มีประสิทธิภำพ เกดิ ประสิทธิผล ผ้เู รยี นมคี ุณภำพและผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นในทุกๆกล่มุ สำระ กำรเรียนรู้ โดยเฉพำะกลมุ่ สำระกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละกลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ มี กระบวนกำรบรหิ ำรพัฒนำงำนท่ีเป็นระบบ มปี ัจจัยทุกดำ้ น ที่พร้อม บคุ ลำกรทกุ ฝำ่ ยจึงร่วมกันวำงแผน นำนโยบำย เปำ้ หมำย ยุทธศำสตร์ จุดเนน้ แผนงำน โครงกำรและกจิ กรรม มบี นั ทึกรอ่ งรอยกำร ปฏบิ ตั ิทเ่ี ปน็ [BEST PRACTICES] ของกจิ กรรม ไว้ศกึ ษำในโอกำสตอ่ ไป กำรจัดกำรศึกษำ ตอ้ งยดึ หลักวำ่ ผ้เู รยี นทกุ คนมีควำมสำมำรถเรยี นรแู้ ละพัฒนำตนเองได้ และ ถือวำ่ ผูเ้ รยี นมีควำมสำคัญที่สดุ กระบวนกำรจัดกำรศกึ ษำต้องสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียน สำมำรถพัฒนำตำม ธรรมชำตแิ ละเต็มศกั ยภำพ ในมำตรำ 23 เนน้ กำรจดั กำรศกึ ษำในระบบ นอกระบบ และตำมอัธยำศัย ใหค้ วำมสำคญั ของกำรบรู ณำกำร ควำมรู้ คูค่ ณุ ธรรม กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรูต้ ำมควำมเหมำะสมของ ระดบั กำรศึกษำ ในสว่ นของกำรเรียนรู้ด้ำนวทิ ยำศำสตรน์ ้ัน ต้องให้เกดิ ทัง้ ควำมรู้ ทกั ษะและเจตคติ ทำงดำ้ นวทิ ยำศำสตร์ รวมท้งั ควำมร้คู วำมเข้ำใจ และประสบกำรณ์เรอ่ื งกำรจัดกำร กำรบำรุงรกั ษำ และกำรใช้ประโยชน์จำกทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละส่ิงแวดล้อมอยำ่ งสมดุลและยัง่ ยืน วทิ ยำศำสตร์ มี บทบำทสำคัญยง่ิ ในโลกปัจจุบนั และอนำคต เพรำะวิทยำศำสตร์เก่ยี วขอ้ งกับชวี ิตของ ทุกคน ทำให้คน ได้พฒั นำวธิ ีคดิ ทัง้ ควำมคิดเป็นเหตุ เปน็ ผล คิดสร้ำงสรรค์ คิดวิเครำะห์ วิจำรณ์ มีทักษะท่ีสำคญั ในกำร คน้ คว้ำหำควำมรู้ มีควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ อย่ำงมีระบบสำมำรถตัดสนิ ใจโดยใชข้ ้อมลู หลำกหลำย และ สำมำรถตรวจสอบได้ วิทยำศำสตร์เปน็ วฒั นธรรมของโลกสมัยใหม่ซง่ึ เปน็ สงั คมแห่ง ควำมรู้ [Knowledge Based Society] ทุกคน จงึ จำเป็นตอ้ งได้รับกำรพัฒนำให้รวู้ ทิ ยำศำสตร์ [ Knowledge Literacy For All ] เพ่อื ทจี่ ะไดค้ วำมรู้ ควำมเข้ำใจโลกธรรมชำติและเทคโนโลยที ่ีมนุษย์ สรำ้ งขึน้ และนำควำมรไู้ ปใชอ้ ยำ่ งมีเหตุผล สรำ้ งสรรค์มคี ณุ ธรรม ที่สำคญั คือ ช่วยเพิ่มขีด ควำมสำมำรถในกำพัฒนำเศรษฐกจิ สำมำรถแข่งขันกับนำนำประเทศและดำเนินชวี ติ อย่รู ว่ มกันใน สังคมโลกอย่ำงมคี วำมสขุ จำกกำรจดั กำรเรียนกำรสอนสำระวิทยำศำสตร์ ในระดับประถมศึกษำของ
59 ขำ้ พเจ้ำ พบว่ำปัญหำสำคญั ของกำรเรยี นวิทยำศำสตร์ของนักเรียนยงั ขำดทักษะในกำรปฏบิ ัติกิจกรรม ทักษะกระบวนกำรวิทยำศำสตร์ กำรคิดวเิ ครำะหแ์ ละปฏบิ ตั ใิ นกระบวนกำรตำ่ งๆ ทำให้นักเรียนมี ผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรยี นวิทยำศำสตร์ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำร ทำงวทิ ยำศำสตร์ทีจ่ ะใช้เปน็ เคร่ืองมอื แสวงหำ ควำมร้ดู ้วยตนเอง ดังนั้น ทกั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ มีควำมสำคญั ตอ่ กำรเรยี นวทิ ยำศำสตร์โดยเฉพำะ กิจกรรมกำรทดลอง ซ่ึงเป็นองค์ประกอบรว่ มท่ใี ชใ้ นกำรแสวงหำควำมรู้ทำงวทิ ยำศำสตร์ เป็น กระบวนกำรทำงกำรคดิ เป็นกระบวนกำรทำงดำ้ นสติปญั ญำในขณะเดยี วกันก็สำมำรถนำไปใชก้ ับสำระ เรียนรอู้ ่นื ๆได้อย่ำงกว้ำงขวำง และนกั เรียนยังสำมำรถนำทักษะดังกลำ่ วเป็นหลักในกำรคดิ อยำ่ งมี เหตุผล เพอ่ื แกป้ ัญหำต่ำงๆในชวี ิตประจำวนั ทักษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ในระดับชั้นประถมศกึ ษำประกอบด้วย ทกั ษะขน้ั พนื้ ฐำน 8 ทกั ษะ ได้แก่ 1. ทักษะกำรสงั เกต 2. ทกั ษะกำรจำแนกประเภท 3. ทกั ษะกำรวัด 4. ทักษะกำรใช้ตวั เลข(กำรคำนวณ) 5. ทกั ษะกำรหำควำมสมั พันธ์ระหวำ่ ง สเปสกบั สเปส และ สเปสกับเวลำ 6. ทกั ษะกำรลงควำมเห็นจำกข้อมูล 7. ทกั ษะกำรส่อื ควำมหมำยของขอ้ มูล 8. ทกั ษะกำรทำนำยหรือกำรพยำกรณ์ กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนสำหรบั นกั เรียนช้ันประถมศกึ ษำในรูปแบบของกิจกรรมพัฒนำ ทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ จงึ เปน็ ทกั ษะส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นสำมำรถคิดหำเหตุผล แสวงหำ ควำมรู้ สำมำรถแกป้ ัญหำได้ 2. จดุ ประสงค์และเปำ้ หมำยของกำรดำเนนิ งำน วธิ ีดำเนนิ กำรพฒั นำข้ันตอนของกำรดำเนินงำน คณะครผู ู้เกย่ี วขอ้ งมำรว่ มกนั วำงแผนเพอื่ ให้ โรงเรยี นชมุ ชนในกำรแก้ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ ม ประกำรแรก พรอ้ มใจกนั จดั กจิ กรรมใหเ้ ก่ียวข้องกบั หลกั สูตรสถำนศกึ ษำบูรณำกำรเชอื่ มโยงหัวขอ้ กิจกรรม น้ำ ขยะ พืชสมุนไพร พลงั งำนทดแทนกบั ทกุ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย - กำรอำ่ น กำรอำ่ นจับใจควำม กำรอยำ่ งออกเสยี ง
60 - กำรเขียน กำรเขยี นเรียงควำม คำขวัญ โครงงำน กำรแต่งประโยชน์ - กำรฟงั ดู และกำรพูด กำรนำเสนอผลงำน กำรเล่ำเรื่อง - หลกั กำรใช้ภำษำ ชนดิ ของคำ กำรแตง่ ประโยค - วรรณคดีและวรรณกรรม เขยี นคำขวญั แตง่ คำประพันธ์ คำคล้องจอง กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์ - กำรนบั คิดคำนวณ ควำมยำว ระยะทำงพ้ืนที่ ทศิ แผนผัง ร้อยละ และ นำควำมรู้เกยี่ วกบั กำรวดั ไปใช้แก้ปัญหำในสถำนกำรณ์ตำ่ งๆได้ กลมุ่ สำระวิทยำศำสตร์ - ทกั ษะกำรสำรวจ สงั เกต ทดลอง กำรรวบรวมขอ้ มลู กำรจัดหมวดหมู่ และโครงงำน กลมุ่ สำระสงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม - ประชำธิปไตยในกำรทำงำนกล่มุ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ควำมรบั ผดิ ชอบตอ่ หนำ้ ท่ี ภมู ิศำสตร์ ธรรมชำติ สิ่งแวดล้อม ประวตั คิ วำมเป็นมำของพืชและสตั ว์ กลมุ่ สำระสุขศึกษำและพลศกึ ษำ - สุขอนำมัยในโรงเรียน กำรออกกำลังกำย กำรดูแลสขุ ภำพและกำรปอ้ งกนั โรคตำ่ งๆ กล่มุ สำระศลิ ปศกึ ษำและดนตรี - กำรวำดภำพสง่ิ แวดลอ้ มที่สนใจ กำรรอ้ งเพลงประกอบท่ำทำง กลมุ่ สำระกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี - กำรสบื คน้ ดว้ ยอินเตอรเ์ นต็ กำรใช้สื่อเทคโนโลยใี นกำรเรียนรู้กบั ส่ิงแวดลอ้ ม กำรปลกู พืชใน กระถำงแขวน กำรคัดแยกขยะเพื่อโลกสวยดว้ ยมือเรำ กล่มุ สำระภำษำองั กฤษ - คำศพั ทเ์ กยี่ วกบั สงิ่ แวดล้อมในโรงเรยี น กำรนำเสนอขัน้ ตอนกำรปฏบิ ัติด้วยภำษำองั กฤษ 3. กระบวนกำรผลิตผลงำนหรอื ข้ันตอนกำรดำเนินงำน เปดิ โอกำสให้นกั เรียนเขำ้ ร่วมกจิ กรรมกำรเรยี นรูต้ ำมฐำนทีต่ นเองสนใจ โดยใช้แนวคดิ “ฝึกให้รู้ ดใู หจ้ ำ ทำให้จริง” โดยหมนุ เวียนทำกิจกรรมจนครบฐำน ดังตอ่ ไปน้ี ฐำนที่ 1 ส่ิงแวดล้อมศึกษำ ภมู ทิ ัศนใ์ นโรงเรียน สวนสมุนไพร สรำ้ งสรรค์ควำมคิด ผลิตงำนโดยนำ ควำมรู้มำพัฒนำ บูรณำกำรกบั สงิ่ แวดลอ้ ม และนำเสนอในลกั ษณะ - วำดภำพ - แต่งคำขวัญ คำกลอน
61 - เรียนควำม เขียนเรอื่ งจำกภำพ - ส่ิงประดิษฐ์จำกสง่ิ วสั ดเุ หลือใช้ - โครงงำนในกลุ่มสำระกำรเรยี นรตู้ ำ่ งๆ ฐำนที่ 2 กำรจดั กำรขยะ แยกขยะประเภทตำ่ งๆโดยเร่ิมจำก 1. กำรให้ควำมรสู้ กู่ ำรปฏิบัติ (ขยะเปียก ขยะแห้ง ขยะรไี ซเคิล ขยะพษิ ) 2. ทำปุ๋ยหมักชวี ภำพ และปยุ๋ สตู รพระรำชทำน รว่ มกนั วำงแผนโดยนำควำมรู้เรอื่ ง 5 R มำคิดวเิ ครำะหค์ ดั เลอื กวิธีกำรได้ 3 แบบ ท่เี หมำะกับ บริบทของโรงเรียนคอื ลดกำรใช้ [Reduce] กำรใชซ้ ้ำ [Reuse] และ รีไซเคลิ [Recycle] ดำเนนิ กำรคดั แยกขยะ ฐำนที่ 3 บอ่ ดักไขมันโดยใช้ อเี อม็ [EM] บอ่ ดักไขมันในโรงเรียนเป็นกิจกรรมกำรเรยี นรู้ทน่ี กั เรียนสำมำรถนำควำมรทู้ ี่ได้จำกกำรใช้ไป ประยุกต์ใชใ้ นครวั เรือน หรอื แนะนำเพอื่ นบำ้ น จะช่วยลดมลพษิ ในแหลง่ น้ำมีอยู่ในชุมชนได้อีกวิธีหนึ่ง ถ้ำหำกทกุ บ้ำนทง้ิ เศษอำหำรและไขมันลงในแหลง่ นำ้ เปน็ สำเหตใุ หน้ ้ำเน่ำเสยี เกิดมลภำวะเป็นพษิ สง่ ผลกระทบต่อมนุษย์ สตั ว์ และพืช ฐำนท่ี 4 นกั สืบสำยนำ้ จดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้เพอื่ ตรวจสอบวดั คณุ ภำพนำ้ กิจกรรมกำรเรียนรูน้ กั สืบสำยน้ำ เปน็ กิจกรรมท่ใี ชว้ ิธีวัดคุณภำพนำ้ จำกแหล่งนำ้ ตำ่ งๆ ได้แก่ แมน่ ำ้ ปงิ แหลง่ นำ้ ในโรงเรียน เพอื่ ดูระบบนิเวศนโ์ ดยมีสตั ย์น้ำดังกลำ่ ว เพรำะถ้ำมสี ัตวน์ ้ำมำอำศยั อยู่ ตำมรำกของพชื นำ้ จำนวนหลำยชนดิ แสดงให้เหน็ ว่ำ คณุ ภำพนำ้ ดี สตั วน์ ้ำจดื ตวั เลก็ ๆเป็นสัตวไ์ ม่มี กระดกู สนั หลงั เช่น กงุ้ หอย ปู ปลำ แมลงนำ้ ต่ำงๆ เปน็ สิ่งดงึ ดดู เด็กๆให้อยำกเขำ้ รว่ มกิจกรรมอนุรักษ์ มีควำมมุ่งมนั จะรักษำสำยนำ้ กจิ กรรมกำรเรียนทำใหน้ กั เรยี นรูจ้ ักกำรสังเกต กำรนบั จำนวน กำรแยก ประเภท กำรรวบรวมข้อมูล อำจเปน็ กำรบันทกึ ข้อมูลโดยกำรวำดรปู กำรเขียนคำขวญั สรปุ ดว้ ยบท กลองหรอื เขียนเป็นนทิ ำนตำมจนิ ตำกำรก็ได้ ฐำนท่ี 5 เสริมควำมรูส้ ู่พลงั งำน กำรปน่ั จกั รยำนเสรมิ สรำ้ งสขุ ภำพ ผลพลอยไดจ้ ำกกำรปน่ั จกั รยำนคือ นักเรียนที่มภี ำวะโรค อ้วนจะเป็นกำรชว่ ยลดควำมอ้วน สรำ้ งควำมแขง็ แรงให้กลำ้ มเน้ือ นักเรยี นไดร้ บั ควำมสนกุ สนำน เพลดิ เพลนิ ได้เคล่ือนไหวรำ่ งกำย ออกกำลังกำย นกั เรยี นสำมำรถสรุปองคค์ วำมรู้ทีไ่ ด้ในรูปแบบ โครงงำนแยกแลกควำมดี กำรทำแผนที่ควำมคดิ กำรวำดภำพ กำรทำสถิติเปรียบเทยี บนำ้ หนกั จำนวนนับ จำกกำรปน่ั จกั รยำนข้ำงตน้
62 ฐำนที่ 6 นักพิทักษส์ ่งิ แวดล้อม นักเรียนได้สมัครเข้ำเป็นสว่ นหนง่ึ ทีจ่ ะดแู ลสง่ิ แวดล้อมให้กบั โรงเรียน นำควำมร้มู ำใช้ปฏิบัติจริง ในกำรดแู ลสงิ่ แวดลอ้ มของโรงเรยี นและชุมชนด้วยจิตอำสำ รว่ มคิดรว่ มทำด้ำนส่ิงแวดล้อม ตำมหลกั ควำมพอเพียง(เศรษฐกิจพอเพยี ง)มำปรบั ใช้ใหเ้ หมำะสมกบั สภำพของแตล่ ะท้องถ่นิ หำผแู้ ทนนักเรยี น เป็นอำสำสมัครในกำรดูแลเฝ้ำระวังและรกั ษำสภำพแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน 4. ผลกำรดำเนนิ งำน – ผลสมั ฤทธิ์ – ประโยชน์ท่ไี ด้รับ 4.1 ผลสำเร็จจำกกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ไดด้ ำเนนิ กำรตำมท่ีวำงไว้คลอบคลุมกระบวนกำร P D C A ปรำกฎกำรดำเนินงำนดงั น้ี - ระดับควำมพงึ พอใจในกำรจดั กิจกรรม จำกท่ผี ้ปู กครองกรอกแบบประเมิน หลังจำกจดั กจิ กรรมผลกำรดำเนนิ งำนเปน็ ทีพ่ ึงพอใจ ร้อยละ 80 ไดร้ ับกำรยกย่องชมเชย - กจิ กรรมมีควำมตอ่ เน่อื งปฏิบตั ิไดค้ รบทกุ กจิ กรรม ทำให้นกั เรียนมนี สิ ัยรกั สง่ิ แวดลอ้ ม รกั กำรแสวงหำควำมรู้ มเี จตคติที่ดตี ่อกำรอนรุ กั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม - นกั เรยี นมคี วำมสำมำรถในกำรคดิ วเิ ครำะหใ์ นกำรเรยี นรู้ทุกสำระกำรเรยี นรู้ - นักเรยี นมคี วำมรบั ผิดชอบต่อสง่ิ แวดล้อมในโรงเรยี น และชมุ ชน - กำรมีส่วนร่วมกิจกรรมนกั เรยี นไดท้ ำกิจกรรมครบทุกกิจกรรม 5. ปัจจัยควำมสำเรจ็ กจิ กรรมประสบผลสำเร็จในกำรดำเนนิ งำนตำมระบบกำรเรยี นรู้ - ผู้บริหำรมภี ำวะผูน้ ำ มวี ิสัยทัศน์ มีควำมคดิ รเิ ร่มิ และเปิดโอกำสให้ดำเนินงำนอกี ทัง้ สนบั สนนุ ส่งเสริม อำนวยควำมสะดวกทุกประกำร - มีควำมสำมัคคีเสียสละ มีควำมรูค้ วำมสำมำรถ มีควำมคิดรเิ ร่ิมสรำ้ งสรรค์ รวมทั้งควำมเปน็ ครูของคณะครู และบคุ ลำกรในโรงเรยี น - ควำมรว่ มมือ รว่ มใจจำกนักเรียน ทำให้กจิ กรรมบรรลุผลเป็นทนี่ ำ่ พอใจของทกุ ฝ่ำย สง่ ผลถงึ ได้รับคัดเลอื กเปน็ ตวั แทนเยำวชนแกนนำของโครงกำรคำ่ ยเยำวชน...รกั ษ์พงไพรเฉลมิ พระ เกียรติ 60 พรรษำ ถงึ ๓ ปี - ควำมร่วมมือของชุมชนในท้องถ่ิน เหน็ ควำมสำคญั ของสิ่งแวดลอ้ ม ทำให้ได้รบั กำรสนบั สนนุ เตม็ ท่ี
63 6. บทเรียนท่ีได้รบั [ Lesson Learned ] - นกั เรียนมีควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ ในกำรอนุรกั ษ์สิ่งแวดล้อม - นักเรียนมสี ่วนรว่ มในกำรอนรุ ักษ์ส่ิงแวดลอ้ มทัง้ ภำยในและภำยนอกโรงเรยี น - นักเรียนและครู ไดต้ ระหนักถงึ ควำมสำคญั ของสิง่ แวดลอ้ ม ตลอดจนรกั ษำสมดลุ ย์ของ สิง่ แวดล้อม - ครูมีกำรพัฒนำกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรไู้ ดอ้ ย่ำงหลำกหลำย โดยจะตอ่ ยอดกำรศกึ ษำพนั ธ์ุ ไม้ด้วย QR CODE - โรงเรยี นมีสภำพแวดล้อมท่ีดี ร่มรน่ื น่ำอยู่ สะอำด ตำมแนวพระรำชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ดว้ ย 3 ห่วง 2 เงอื่ นไข - ผปู้ กครอง ชมุ ชน มคี วำมภำคภูมใิ จในบุตรหลำนของตนและรว่ มปฏิบตั กิ ิจกรรมรกั ษำ สิ่งแวดลอ้ ม มำกข้ึนทำใหภ้ มู ิทัศนส์ ะอำด สวยงำมมำกขนึ้ 7. กำรเผยแพร่ กำรได้รับยกยอ่ ง รำงวลั ทไี่ ดร้ ับ กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ทีม่ ุง่ เน้นใหน้ ักเรยี น ไดป้ ฏิบัติกจิ กรรมกำรอนุรกั ษ์ส่ิงแวดลอ้ มทั้งรปู แบบ โครงงำน และ กิจกรรมบรู ณำกำร สง่ ผลใหเ้ กดิ กำรเรียนรู้ทมี่ คี ณุ ภำพ จนได้รบั กำรยกยอ่ งและไดร้ บั รำงวลั ดงั นี้ - รำงวลั เหรยี ญทองกำรประกวดโครงงำนทดลองวทิ ยำศำสตร์ - รำงวลั เหรียญทองกำรประกวดประฏิมำกรรมส่งิ แวดลอ้ มนำ่ อยู่ - รำงวลั เหรยี ญทองโครงงำนเศรษฐกิจพอเพยี ง กำรทำปยุ๋ ชีวภำพ (EM) นำ้ ยำล้ำงจำน แชมพสู มนุ ไพรใบหม่ี - รำงวลั เหรยี ญทองโครงงำนคุณธรรมเร่ือง หอ้ งเรียนเรำรักควำมสะอำด และเรอ่ื งแยกแลก ควำมดี - รำงวลั แกนนำนกั เรยี นกจิ กรรมคำ่ ยเยำวชน...รกั ษ์พงไพรเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษำ ตงั้ แต่ ปี พ.ศ.2558 -2561 ไดร้ ับคัดเลอื กเป็นตัวแทนนกั เรียนแกนนำต่อยอดยอดเยีย่ ม ระดับประเทศ ( ถึง 3 ปี )
64 ผลงำนและควำมภำคภูมิใจ นักเรียนไดร้ ับคดั เลือก เป็นตัวแทนเยำวชน...รักษพ์ งไพร ระดบั ประเทศ ปี พ.ศ.๒๕๖๑ กลำ่ วถวำยรำยงำน ต่อ สมเด็จพระเทพรตั นรำชสุดำฯสยำมบรมรำชกมุ ำรี ณ สวนสมเดจ็ พระนำงเจำ้ สริ ิกติ ติ์ ระหวำ่ งวันที่ ๕ – ๑๐ สิงหำคม ๒๕๖๑ นกั เรยี นได้รบั คดั เลอื ก เป็นตวั แทนเยำวชน...รักษพ์ งไพร ระดบั ประเทศ ปี พ.ศ.๒๕๖๐ กล่ำวถวำยรำยงำน ต่อ สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯสยำมบรมรำชกมุ ำรี ณ สวนสมเดจ็ พระนำงเจำ้ สริ ิกติ ติ์ ระหว่ำงวนั ที่ ๕ – ๑๒ สิงหำคม ๒๕๖๐
65 นักเรียนไดร้ บั คดั เลือก เป็นตัวแทนเยำวชน...รกั ษ์พงไพร ระดบั ประเทศ ปี พ.ศ.๒๕๕๘ กล่ำวถวำยรำยงำน ต่อ สมเด็จพระเทพรัตนรำชสดุ ำฯสยำมบรมรำชกุมำรี ณ สวนสมเด็จพระนำงเจ้ำสริ กิ ิตต์ิ ระหว่ำงวนั ที่ ๗ – ๑๑ สิงหำคม ๒๕๕๘ เกียรติบตั รและควำมภำคภูมใิ จ
66 แบบรำยงำน วิธปี ฏบิ ตั ทิ ่ดี ี (Best Practice) นำงสำวประภสั สร ชยั ศรี ตำแหน่ง ครูชำนำญกำร โรงเรยี นวัดหนองปำ่ ครั่ง อำเภอเมอื ง จังหวดั เชียงใหม่ ปที ่ีเกษยี ณอำยุรำชกำร 2591 1. ขอ้ มลู เกีย่ วกับงำนท่ีรับผิดชอบ - ปฏบิ ัติกำรสอนทุกกลุ่มสำระ ในระดับชั้นประถมศึกษำปที ี่ 5 - ปฏิบัตหิ นำ้ ที่ครูประจำช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี 5 - ปฏิบัติหนำ้ ทห่ี ัวหน้ำงำนวชิ ำกำร - ปฏิบัตหิ น้ำทง่ี ำนประกนั คณุ ภำพกำรศึกษำและรำยงำนผลประจำปชี องสถำนศกึ ษำ - ปฏบิ ตั หิ นำ้ ทจ่ี ัดทำแผนปฏบิ ตั ิกำรประจำปี - ปฏบิ ัตหิ น้ำท่คี รูเวรประจำวันจนั ทร์ - ปฏิบัติหน้ำที่งำนโครงกำรทีไ่ ด้รับมอบหมำย - ปฏบิ ตั ิหน้ำทรี่ ะบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น - ปฏิบตั ิหน้ำทก่ี ำรคดั กรองเดก็ พเิ ศษเรียนร่วม 2. ผลงำนควำมภำคภูมใิ จ หรอื งำนที่ประสบผลสำเร็จในชีวิต - ครผู ู้สอนกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ศลิ ปะ (วิชำดนตรี) ดีเดน่ ประจำปีกำรศึกษำ 2559 - โรงเรยี นต้นแบบ กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทำงไกลผ่ำนดำวเทยี ม ระดับพ้ืนทกี่ ำรศึกษำ ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2559 ผลกำรทดสอบระดับชำติ - ครูผู้รับผิดชอบระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรียน ที่มีผลกำรปฏบิ ตั งิ ำนดเี ดน่ ปีกำรศึกษำ 2560 - โรงเรียนท่ีมีผลกำรทดสอบ O-NET ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 6 สงู กวำ่ ระดับประเทศ และสงู กวำ่ เกณฑ์ มำตรฐำน เปน็ อนั ดบั ท่ี ๑ ประจำปีกำรศึกษำ 2560
67 - โรงเรยี นที่มีผลกำรทดสอบ (ค่ำเฉล่ียทกุ กลุ่มสำระ) O-NET ช้นั ประถมศึกษำปีที่ 6 สูงอยใู่ นอันดบั 1 ใน 5 ตัง้ แตป่ ี 2556 - 2560 - เปน็ วิทยำกรในกำรนำเสนอ (TED Talks) ในหวั ข้อ “สอนอย่ำงไรให้เป็น Active Learning และมี ประสิทธภิ ำพ” โดยกำรจัดกำรศกึ ษำทำงไกลผำ่ นดำวเทยี มรูปแบบใหม่ NEW DLTV วนั ท่ี 9 พฤษภำคม 2561 ถำ่ ยทอดสด ทำงชอ่ ง DLTV 15 2.1 วิธีดำเนินงำนเกิดผลสำเร็จตำมเปำ้ หมำย กำรจดั กำรศึกษำทำงไกลผำ่ นดำวเทียมรปู แบบใหม่ NEW DLTV 1. ตงั้ เป้ำหมำย จำกภำระงำนท่ไี ด้รับมอบหมำย ว่ำ เรำจะมีวธิ กี ำรอยำ่ งไร? หรือ หนทำงไหนท่จี ะ นำพำไปส่หู นทำงแห่งควำมสำเร็จ 2. มองและทำควำมเขำ้ ใจวำ่ ภำระงำนทไี่ ด้รบั คอื โอกำสและประสบกำรณ์ 3. ค้นหำนวตั กรรมใหมๆ่ ท่นี ำ่ สนใจ หรือ ส่ือท่เี หมำะสม กับสภำพบริบท 4. สง่ิ ท่ดี ีให้ทำอยำ่ งสมำ่ เสมอ สงิ่ ท่คี วรปรับปรุงให้ทำทันที 5. สงั เกตพฤติกรรมผ้เู รียนระหว่ำงเรยี นและศึกษำสภำพปัญหำ วิเครำะห์ นำไปส่กู ำรคน้ ควำ้ นวัติกรรม ใหม่ๆ 6. ฝกึ และปลูกฝงั ให้ผ้เู รียนมรี ะเบียบวินัยในตนเอง รับผิดชอบตนเอง ในกำรเรยี น 7. พฒั นำตนเองและค้นคว้ำควำมรูร้ อบตวั อยำ่ งสมำ่ เสมอ 8. ตอบทนั ที เมือ่ นักเรยี นมขี ้อสงสยั หรือไมเ่ ขำ้ ใจ 9. สอนเสรมิ นอกเวลำเรยี น หรือ เวลำว่ำง 10. เตรยี มกจิ กรรม / สอื่ ลว่ งหน้ำ กำรยกระดับผลสมั ฤทธ์ิ 1. คัดกรองผู้เรยี นรำยบุคคล 2. วิเครำะหโ์ ครงสรำ้ งและตัวช้ีวัดของข้อสอบ
68 3. ขอควำมร่วมมอื จำกครูวิชำเอก หรือ วิทยำกรภำยนอก 4. ทบทวนควำมรู้เดมิ 5. เชอ่ื มโยงเน้ือหำ และควำมรทู้ ่เี ก่ียวขอ้ ง 2.2 ปจั จัยทเ่ี ออ้ื ให้ประสบผลสำเรจ็ คือ 1. ควำมมุง่ มน่ั ในกำรทำงำน 2. กำรศกึ ษำเทคโนโลยีอย่ำงสมำ่ เสมอ 3. หมน่ั เสำะ แสวงหำ ข้อมูลท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ กำรนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรเรยี น 4. ควำมเสยี สละ 5. กำรทำงำนรว่ มกับผู้อ่นื 6. เน้นกระบวนกำรทักษะ และ กำรลงมอื ทำ มำกกว่ำ กำรสอนแบบท่องจำ 7. จัดกำรเรยี นกำรสอนในรูปแบบ Active Learning เนน้ กำรใช้คำถำม กระตุ้นควำมคดิ สรำ้ งสรรค์ 2.3 ปัญหำ อปุ สรรค จดุ ทคี่ วรพฒั นำ - นักเรียนมคี วำมแตกตำ่ งในเรอ่ื งของชำติพันธ์ และช่วงวัย ทำให้กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นกำร สอนต้องมีควำมหลำกหลำย และ ตอ้ งปรับพ้นื ฐำนภำษำให้มีควำมเขำ้ ใจไปพร้อมๆกัน ผู้ปกครองไมส่ ำมำรถ ดแู ลเรอื่ งกำรเรียนของบุตรไดเ้ น่อื งจำกผปู้ กครองอำ่ นไม่ออก – เขยี นไม่ได้ 3. หลักฐำนของควำมภำคภมู ิใจ
69 4. รปู ภำพประกอบผลกำรดำเนนิ งำน กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอนในช้นั เรียน เรียนตำมต้นทำง ครูปลำยทำงอธบิ ำยให้นักเรียนเพม่ิ เติมเสรมิ เน้ือหำ ค้นหำนวัตกรรมใหม่ๆ ทเ่ี หมำะสม และตรงกับควำมสนใจของผูเ้ รยี น
70 แบบรำยงำนวธิ ปี ฏิบตั ทิ ่ดี ี (Best Practice) ช่ือ นำงสำวพิมพ์รดำ สกลุ สง่ ชื่น ตำแหนง่ ครูชำนำญกำร โรงเรยี น วดั ห้วยแก้ว ปีทีเ่ กษียณอำยรุ ำชกำร -30 กันยำยน 2588 1. ขอ้ มูลเกยี่ วกับงำนท่ีรบั ผดิ ชอบ 1.1) หนำ้ ท่ีปฏิบัติกำรสอน เป็นครผู สู้ อนกล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทยระดบั ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี ๑-๓ 1.2) ปฏบิ ัตหิ น้ำท่ีครทู ่ีปรกึ ษำ/งำนประจำชน้ั /ครปู ระจำกลุ่ม ปฏิบัตหิ นำ้ ที่ครูทีป่ รกึ ษำชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 3 ปฏิบตั หิ นำ้ ทค่ี รูสำยชั้นมธั ยมศกึ ษำตอนตน้ 1.3) กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รียนท่รี ับผิดชอบ กิจกรรมแนะแนว ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 3 กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนำรี ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1-3 กิจกรรมคุณธรรมจรยิ ธรรม ชั้นมัธยมศึกษำปที ี่ 1-3 กจิ กรรมชุมนุม 1.4) หน้ำทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมำยเป็นพเิ ศษ งำนกจิ กำรนกั เรียน งำนระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น งำนลกู เสือ-เนตรนำรี งำนห้องสมุด งำนโครงกำรโรงเรียนดีประจำตำบล งำนโครงกำรโรงเรียนคณุ ธรรมจริยธรรม งำนโครงกำรโรงเรยี นสุจรติ งำนสภำนกั เรยี น งำนพิธกี รของโรงเรยี น ครูเวรประจำวนั ศุกร์ และเวรวนั หยุด
71 2. ผลงำนควำมภำคภูมิใจ หรืองำนท่ีประสบผลสำเรจ็ ในชวี ติ ปีกำรศกึ ษำ ผลงำนควำมภำคภมู ใิ จ ๒๕๕๕ ๒๕๕๗ ยกระดบั ผลสัมฤทธวิ์ ชิ ำภำษำไทย ทำให้นักเรียนไดร้ บั เกียรตบิ ตั ร เป็นโรงเรยี น ท่มี ีผลคะแนนกำรทดสอบระดบั ชำตขิ ัน้ พ้ืนฐำน (O-NET) ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ ๒๕๕๘ ๓ สงู เป็นลำดบั ที่ ๑ ของเขตพน้ื ท่ีและสูงกวำ่ ระดับชำติ ปกี ำรศึกษำ ๒๕๕๕ ๒๕๕๙ ยกระดบั ผลสัมฤทธิ์วชิ ำภำษำไทย ทำให้โรงเรยี นได้รบั เกียรตบิ ตั ร เป็นโรงเรยี น ๒๕๖๐ ทม่ี ีผลคะแนนกำรทดสอบระดับชำติข้ันพน้ื ฐำน (O-NET) ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี ๓ สูงอยใู่ น ๑๐ ลำดับแรกของเขตพื้นที่และสงู กว่ำระดับชำติ ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๕๗ ไดร้ บั เกียรตบิ ตั รครูดีเด่น กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย ในงำนวันครูประจำปี ๒๕๕๘ ยกระดบั ผลสมั ฤทธว์ิ ชิ ำภำษำไทย ทำให้โรงเรยี นได้รับเกยี รตบิ ตั ร เปน็ โรงเรียน ท่ีมีผลคะแนนกำรทดสอบระดบั ชำตขิ ั้นพืน้ ฐำน (O-NET) ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๓ สูงอย่ใู น ๑๐ ลำดับแรกของเขตพ้ืนทแ่ี ละสงู กวำ่ ระดับชำติ ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๕๘ ได้รบั เกียรตบิ ัตรจำกโรงเรียนใหเ้ ปน็ ครทู ่จี ัดกำรเรยี นกำรสอนส่งผลให้นักเรียน มีผลคะแนน O-NET ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๓ สงู อนั ดับที่ ๑ ใน ๑๐ ของเขตพื้นท่ี และสงู กว่ำระดบั ชำติ ปกี ำรศึกษำ ๒๕๕๙ ไดร้ ับเกียรตบิ ตั รครดู เี ดน่ “ครดู ศี รแี ม่ออน” ในงำนวันครปู ระจำปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ยกระดับผลสมั ฤทธว์ิ ิชำภำษำไทย ทำใหโ้ รงเรยี นไดร้ บั เกยี รตบิ ัตร เป็นโรงเรยี น ท่มี ผี ลคะแนนกำรทดสอบระดับชำตขิ ั้นพ้นื ฐำน (O-NET) ชน้ั มัธยมศึกษำปีที่ ๓ เปน็ อันดับที่ ๒ ของเขตพืน้ ที่และสูงกว่ำระดบั ชำติ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๐ 2.1 วิธีดำเนนิ งำนเกดิ ผลสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำย แนวทำงกำรยกระดับผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดบั ชำตขิ นั้ พืน้ ฐำน (Ordinary National Education Test) ช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ ดว้ ยกระบวนกำร “๓ต”
72 “ต : ตดั ตอน” ครผู สู้ อนจะวำงแผนกำรสอน โดยแบง่ เนือ้ หำกำรสอนภำษำในระดบั ชน้ั ม.๑-๓ ตำมตัวชี้วัด ออกเป็น ๕ ภำคเรียน รวมถึงกำรวดั และประเมินผลตำมตัวชวี้ ดั ตำมโครงสรำ้ งหลักสูตรระดับมธั ยมศึกษำ ตอนต้น ใหจ้ บในภำคเรยี นที่ ๑ ของชน้ั ม.๓ จำกนน้ั ในภำคเรยี นที่ ๒ ของชัน้ ม.๓ ใชต้ ัวชว้ี ัดจำก TEST BLUEPRINT มำใชใ้ นกำรจดั กำร เรยี นกำรสอนเพ่อื เตรยี มควำมพรอ้ มใหผ้ ูเ้ รียน และในกำรวดั และประเมนิ ผลจะใช้คะแนน Pre O-net เปน็ ส่วนหน่ึงของคะแนนเก็บ “ต : เตรียมตัว” ครู ศึกษำตวั ชวี้ ดั จำก TEST BLUEPRINT –ของ สทศ. เพอื่ วำงแผนกำรสอนในภำคเรียนท่ี ๒ - ศกึ ษำระดับกำรเรยี นร้รู ำยวิชำภำษำไทยของนักเรียน เพอ่ื ใชว้ ำงแผนกำรจัดทีน่ ั่งในกำรเรียน โดยใชเ้ ทคนิคเพ่อื นช่วยเพอื่ น - รวบรวม แนวข้อสอบจำกหนงั สือรวมข้อสอบ ขอ้ สอบเกำ่ สืบค้นข้อสอบออนไลน์ เพ่อื ทำ เอกสำรกำรตวิ เขม้ - หำส่อื ออนไลน์จำก Youtube เว็บไซดต์ ำ่ งๆ เพอ่ื ใช้ในกำรช่วยติวเสรมิ และสง่ ลงิ ค์สอ่ื ออนไลน์ ท่เี ป็นประโยชนล์ งในกลมุ่ FACEBOOK ของชนั้ เรยี น เพอ่ื ให้นกั เรยี นไดศ้ กึ ษำด้วยตนเองในยำมว่ำง - หำเครอื ขำ่ ยครภู ำษำไทย เพ่ือเพ่ิมเติมแนวทำงกำรสอน แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่ำวสำรด้ำนกำรสอน ภำษำไทยซง่ึ กนั และกัน - นร. ฝึกฝนตนเองใหเ้ ปน็ ผูใ้ ฝเ่ รียนรู้ ศึกษำเนอ้ื หำท่ีจะสอบจำก TEST BLUEPRINT เหน็ ควำมสำคัญชองกำรเตรียมควำมพร้อม โดยครปู ลกู ฝงั ใหน้ ักเรียนได้ฝึกทำขอ้ สอบแนว O-Net ตงั้ แต่ ม.๑ ใน ท้ำยชว่ั โมงเรยี น ท้ำยเนื้อหำทีเ่ รียนรู้ และฝึกจำกขอ้ สอบกลำงภำค ข้อสอบปลำยภำค ทค่ี รูออกแบบแนว ข้อสอบตำมรูปแบบของ PISA และO-net เพื่อให้นักเรยี นเกดิ ควำมคุ้นเคยในแนวทำงกำรถำมและตอบ “ต : ติวเตอร์” ครจู ะสรำ้ งบรรยำกำศกำรเรียนร้ใู นภำคเรียนท่ี ๒ ให้เหมอื นกับกำรสอนแบบตวิ เตอร์ โดยจะ เนน้ กำรสอนวเิ ครำะห์โจทย์ กำรเชอื่ มโยงคำถำมกับควำมรขู้ องนักเรยี น สอนเทคนิคกำรทำข้อสอบ อำทิ ให้ ทำข้อสอบในตอนท่คี ะแนนมำกกอ่ น สอนกำรหำ KEY WORD สอนเทคนคิ กำรอ่ำนจับ ใจควำม เทคนิคกำร ตดั ตวั เลอื ก และใหน้ กั เรียนมสี มุดสรปุ ควำมรตู้ ำมตัวชีว้ ัด เป็นเรื่องๆ (My mapping / G.O./ใช้สีชว่ ยจำ)
73 2.2 ปจั จัยทีเ่ อื้อใหป้ ระสบผลสำเรจ็ คือ ดำ้ นนกั เรียน นกั เรยี นได้รับกำรเตรียมควำมพรอ้ มจำกครผู สู้ อนในเนอ้ื หำวชิ ำมำอย่ำงนอ้ ย ๒ ปี ทำใหก้ ำรเรียนรขู้ องนกั เรยี นจะต่อเนื่องและไมข่ ำดตอน นักเรียนทีเ่ รยี นรชู้ ้ำได้รบั กำรซอ่ ม เสริมได้ทันเวลำในช่วง ม.๑-๒ นกั เรยี นทเ่ี รยี นรเู้ ร็วไดร้ บั กำรตอ่ ยอดและฝกึ ฝนจำกส่อื ที่ หลำกหลำย และมีควำมแม่นยำเนื้อหำบทเรยี นสำมำรถทบทวนให้เพ่อื นได้ ด้ำนครู ครูทมุ่ เทและใหค้ วำมสำคญั กบั กำรเรียนของนักเรียน มงุ่ มัน่ เติมเต็มใหน้ ักเรียนของ ตนเองได้เทำ่ เทียม ทนั สมยั กบั นกั เรยี นในเมอื ง สรรหำสือ่ เทคโนโลยี แอพพลิเคชนั่ ทเ่ี รำ้ ควำม สนใจมำใหน้ ักเรียนได้เรียนรู้อย่ำงสนกุ สนำน สร้ำงควำมเปน็ กันเองกับผู้เรยี นใหร้ สู้ กึ สบำยใจ สนุกและมีควำมสขุ ท่มี ำเรยี นภำษำไทย ด้ำนผู้ปกครอง ชว่ ยดูแล สอดสอ่ งพฤตกิ รรมกำรเรียนและพฤตกิ รรมทำงสงั คมของบุตรหลำน ตนเอง ร่วมมอื กบั ครผู ู้สอนในกำรดแู ล กำชบั และตดิ ตำมสอบถำมกำรเรยี นเป็นระยะ ให้ กำลังใจบุตรหลำนต่อกำรเรียน และใหค้ วำมสนใจในกำรปรับ แก้ไขปัญหำรว่ มกับครูในทกุ เร่อื ง ด้ำนผู้บริหำร ใหง้ บประมำณสนับสนนุ กำรเรยี นกำรสอน ตลอดจนให้กำลังใจไม่สร้ำงควำม กดดันกับครู ไมค่ ำดหวังกบั ผลคะแนนแตใ่ ห้แรงเสริมครใู ห้ทำอย่ำงดีที่สดุ เต็มกำลัง ควำมสำมำรถ ด้ำนอืน่ ๆ มเี วลำในกำรเรยี น ทบทวนบทเรยี น และได้อยกู่ บั นกั เรียนไมต่ อ้ งเข้ำอบรม บอ่ ยๆ 2.3 ปญั หำ อุปสรรค จุดทค่ี วรพฒั นำ ครูผู้สอนมภี ำระงำนอืน่ นอกเหนอื จำกกำรสอนต้องทำควบคูไ่ ปด้วย ทำใหต้ อ้ งจัดสรรเวลำและวำง แผนกำรสอนท่ีดีต่อนักเรียนท่ีสดุ แตบ่ ำงครงั้ งำนรองกส็ ่งผลกระทบกับงำนหลักคอื กำรสอนนักเรียน ทำให้ กำรเรยี นกำรสอนไมเ่ ป็นไปตำมแผนท่ีวำงไว้ 2.4 ข้อเสนอแนะคือ หำกกำรยกระดบั ไมเ่ ปน็ ไปตำมเปำ้ หมำยทวี่ ำงไว้ ครูผ้สู อนไม่ควรโทษตวั เอง ใหห้ มดกำลังใจ และ ครูผู้สอนไม่ควรไดร้ ับควำมกดดนั หรือบนั่ ทอนจิตใจ เพรำะกำรยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรียนต้องมำจำก ปัจจัยดำ้ นนักเรยี น ครู ผปู้ กครอง โรงเรียนและเขตพ้นื ท่ี ถึงจะสำมำรถขบั เคลือ่ นไปส่คู วำมสำเรจ็ ได้ “กำรสอนนักเรยี นอยำ่ งดที ่สี ดุ ดว้ ยควำมรักและเมตตำ ผลทีต่ ำมมำมีค่ำมำกกวำ่ คะแนน O-NET”
74 แบบรำยงำน วิธีปฏบิ ัตทิ ่ดี ี (Best Practice) นำงสำววิรำวรรณ์ นำมสกลุ โพธิ ตำแหนง่ ครู ชำนำญกำรพเิ ศษ โรงเรียนวดั เสำหิน ปีทเี่ กษยี ณอำยรุ ำชกำร พ.ศ. 2582 1. ขอ้ มูลเกยี่ วกบั งำนทรี่ บั ผดิ ชอบ 1) งำนอำคำรสถำนที่ 2) งำนกิจกำรนกั เรียน 3) งำนชมุ ชนสัมพนั ธ์ 4) โครงกำรอนรุ ักษ์ศลิ ปวัฒนธรรม 5) กิจกรรมลกู เสอื /เนตรนำรี 6) ครผู ้สู อนกลุ่มสำระสขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ ระดบั ชัน้ ป.1-ป.6 2. ผลงำนควำมภำคภมู ิใจ หรอื งำนทปี่ ระสบผลสำเรจ็ ในชวี ิต 1) ได้รับรำงวัล ครดู ใี นดวงใจ ระดบั เขตพื้นทก่ี ำรศกึ ษำประถมศึกษำเชยี งใหม่เขต 1 ประจำปี พ.ศ. 2558 จำก สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พ้ืนฐำน ณ วนั ที่ 16 มกรำคม 2558 2) ได้รบั รำงวัล ครูผทู้ รงคุณคำ่ ทำงกำรศึกษำ ครดู มี คี ณุ ภำพ “ชำนำญกำรอย่ำงครูมืออำชพี ” สำขำ ครูปฏบิ ัตกิ ำรสอนดีเด่น จำก หนังสอื พมิ พ์แกนกลำง ณ วนั ที่ 24 มิถนุ ำยน 2560 3) ได้รับรำงวัล ครูแม่แบบแห่งกำรศึกษำไทย 9 ตำมรอยพ่อสำนต่อพระรำชปณิธำน สำขำครู ปฏบิ ัติกำรสอนพฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำ จำก นิตยสำรเพชรแผน่ ดิน ณ วันที่ 22 ตุลำคม 2560 4) ได้รบั รำงวัลครูผ้สู อนสำระสุขศึกษำและพลศกึ ษำดีเด่น ของ เขตพนื้ ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศึกษำ เชยี งใหม่เขต 1 ประจำปกี ำรศึกษำ 2553, 2557 และ 2559 5) เป็นผู้ฝึกสอนและนำนกั เรียนแสดงตีกลองสะบัดชยั ตกี ลองยำว และฟ้อนดำบ ในงำนตำ่ งๆ เชน่ พิธเี ปิดศูนย์สง่ เสริมพฒั นำประชำธปิ ไตย พธิ ีเปิดปำ้ ยอำคำรเรยี นเสำหนิ 93 ปี งำนปอยหลวง เป็นต้น ไดร้ บั รำงวัลชนะเลิศกำรแข่งขนั ตกี ลองสะบัดชยั ระดบั ประถมศกึ ษำ วนั ตอ่ ต้ำนยำเสพตดิ โลก (ทำดีเพ่ือพ่อสำน ตอ่ แกป้ ญั หำยำเสพติด) จงั หวัดเชยี งใหมป่ ระจำปี 2560 จำก ศูนย์อำนวยกำรปอ้ งกนั และปรำบปรำมยำเสพติด จงั หวัดเชียงใหม่
75 6) เปน็ ผู้ฝกึ สอนและนำนกั เรียน จำนวน 23 คน เขำ้ ร่วมกำรแขง่ ขนั กระโดดเชอื กชงิ ถว้ ยพระรำชทำน ครง้ั ท่ี 9 ชงิ แชมป์ประเทศไทย จำก มูลนธิ โิ รคหวั ใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมรำชปู ถมั ภ์ ได้รับรำงวัล - ชนะเลศิ รำยกำรทีมวอ่ งไวชำยรุ่นอำยุ 13-16 ปี -ชนะเลศิ รำยกำรทีมวอ่ งไวหญงิ รนุ่ อำยุ 13-16 ปี -ชนะเลศิ รำยกำรเดย่ี วบคุ คลชำยรุ่นอำยุ 9 ปี (ประเภทรวดเรว็ ) -ชนะเลิศรำยกำรเดย่ี วบุคคลชำยรุ่นอำยุ 14 ปี (ประเภททนทำน) 7) เปน็ ผฝู้ กึ สอนนกั เรียน ไดร้ ับรำงวลั เหรียญเงิน ประเภท กำรแข่งขันแอโรบิค กำรแข่งขนั ทักษะ วชิ ำกำร ครั้งที่ 61 ระดับเขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำเชียงใหม่ เขต 1 8) เป็นผฝู้ ึกสอนนักเรียน ได้รบั รำงวลั เหรียญเงิน ประเภท กำรแขง่ ขันแอโรบิค กำรแขง่ ขนั ทักษะ วชิ ำกำรครั้งท่ี 62 ระดบั เขตพ้ืนทก่ี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำเชยี งใหม่ เขต 1 9) เป็นผู้ฝึกสอนนักเรยี น ได้รบั รำงวัลเหรียญทอง ประเภท กำรแข่งขนั แอโรบิค กำรแข่งขนั ทักษะ วชิ ำกำรคร้งั ท่ี 68 ระดบั เขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำเชียงใหม่ เขต 1 และเป็นตัวแทนไปแข่งขนั ระดับ ภมู ภิ ำคต่อไป 2.1 วิธดี ำเนนิ งำนเกดิ ผลสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำย 1) สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นรุ่นพท่ี ม่ี ีควำมรคู้ วำมสำมำรถในด้ำนต่ำงๆ ไดถ้ ่ำยทอดควำมรู้ ทกั ษะในกำรทำงำน ให้แก่เพ่อื น และรุ่นนอ้ ง โดยเป็นผูช้ ่วยครใู นกำรสอนและฝึกนักเรียนรนุ่ น้อง เป็นกำรสรำ้ งปฏิสมั พันธร์ ะหว่ำง เพื่อน รุ่นพี่-รนุ่ น้อง ทำให้เกิดกำรยอมรับในควำมสำมำรถ มีควำมเออื้ เฟ้อื ซงึ่ กันและกนั ฝกึ ควำมรับผดิ ชอบ ควำมสำมคั คีในหมคู่ ณะ สำหรับกิจกรรมที่ส่งเสรมิ ด้ำนศิลปะ ดนตรี กีฬำ นำฎศิลป์ ท่ีต้องฝึกซ้อมอย่ำง ตอ่ เนือ่ ง สมำ่ เสมอ ได้ดำเนนิ กิจกรรมทั้งในเวลำ และนอกเวลำเรียน เชน่ กลองสะบดั ชัย ดนตรีสำกล ดรุ ิยำงค์ รำวงย้อนยคุ กลองปู่เจ่ กำรเต้นแอโรบกิ เป็นตน้ 2) ส่งเสรมิ ให้กำลังใจ เสริมแรง กระต้นุ ให้นกั เรียนมีควำมมุน่ ม่ันในกำรทำงำน สนุกสนำนกบั งำนทท่ี ำ และทำงำนท่ไี ดร้ บั ให้ดที ี่สดุ เต็มควำมสำมำรถอยำ่ งสมำ่ เสมอและต่อเนอื่ ง 3) กำรเปิดโอกำสให้นักเรยี นได้แสดงควำมสำมำรถ ในกำรดำเนินงำนกจิ กรรมนักเรยี นทกุ กจิ กรรม โรงเรียนเปดิ โอกำสใหน้ ักเรียนได้แสดงควำมสำมำรถตำมศักยภำพ แสดงควำมเป็นผูน้ ำในทุกโอกำสตำมควำม ถนัด ควำมสนใจของนักเรียน โดยใหน้ กั เรียนเปน็ ผู้วำงแผนกำรดำเนนิ งำน เป็นผู้ดำเนินกำรจดั กจิ กรรม โดยฝึก ใหน้ ักเรียนร้จู กั ทำงำนอยำ่ งเปน็ ระบบ และเกิดประสิทธภิ ำพตำมเปำ้ หมำย ทำใหน้ กั เรยี นมีกำรพฒั นำด้ำน
76 ควำมรู้ ควำมสำมำรถ และมปี ระสบกำรณ์ในกำรทำงำน สง่ ผลใหน้ กั เรียนมีควำมเช่อื มน่ั มีควำมภำคภูมิใจใน ตนเอง มีควำมเสียสละเหน็ แก่ประโยชน์สว่ นรวม 2.2 ปจั จยั ทเ่ี อ้อื ให้ประสบผลสำเร็จคอื 1) กำรสนบั สนุนจำกครูและผ้บู รหิ ำร ครูใหค้ ำปรกึ ษำ ดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี นอย่ำงเขำ้ ใจ ผบู้ ริหำร สนับสนุนและมสี ว่ นร่วมในทุกกจิ กรรมทีน่ ักเรยี นดำเนินกำร 2) กำรสนับสนุนและกำรมีส่วนรว่ มของผปู้ กครอง ผู้ปกครองมีส่วนร่วม และส่งเสรมิ นักเรยี นในกำรทำ กิจกรรมตำ่ ง ๆ เปน็ อยำ่ งดี เป็นผ้สู นับสนนุ ท้งั ดำ้ นค่ำใช้จำ่ ย วัสดอุ ุปกรณ์ในกำรทำกิจกรรม 3) กำรบูรณำกำรกบั ระบบเรยี นรแู้ ละระบบดูแลนกั เรียน นักเรยี นสำมำรถนำควำมรทู้ ่ีไดจ้ ำกกำร เรียนรใู้ นสำระวชิ ำต่ำง ๆ มำประยุกต์ใช้ในกำรจดั กิจกรรม และแก้ปัญหำในชวี ิตประจำวนั ได้ และกำรจดั กิจกรรมท่ีใช้ระบบพส่ี อนนอ้ ง ทำให้รุ่นพ่ี ร่นุ น้อง ได้ดแู ลช่วยเหลอื ซ่งึ กันและกนั เกิดควำมสำมัคคี ควำมเออื้ อำทร ช่วยให้กำรดำเนนิ กิจกรรมต่ำง ๆ บรรลผุ ลสำเรจ็ 2.3 ปัญหำ อุปสรรค จุดทีค่ วรพฒั นำ 1) ครูมภี ำระงำนรับผิดชอบเยอะ และขำดแคลนงบประมำณในกำรสนบั สนุน 2) นักเรียนย้ำยที่เรียนบอ่ ยๆ ซง่ึ บำงครง้ั เป็นนกั เรียนท่เี ก่งในกำรทำกจิ กรรมจึงทำใหต้ ้องปรับและฝกึ ผู้นำคนใหมท่ ดแทน 2.4 ขอ้ เสนอแนะคอื 1) ครูและผ้บู รหิ ำรตอ้ งเปดิ ใจกว้ำงในกำรรับฟงั ควำมคดิ เหน็ ของนกั เรียน และต้องไม่ปดิ กัน้ ในกำร แสดงควำมสำมำรถของนกั เรียน เพ่อื ใหน้ ักเรยี นไดแ้ สดงศกั ยภำพอยำ่ งเต็มท่ี 2) ในกำรจัดกิจกรรมต่ำง ๆ ผู้รับผดิ ชอบต้องคำนงึ ถึงกำรบรหิ ำรจัดกำรเร่ืองเวลำให้ เหมำะสม
77 แบบรำยงำน วิธปี ฏบิ ัติที่ดี (Best Practice) นำงมำลำ นำมสกลุ บูรณำ ตำแหน่ง ครชู ำนำญกำรพิเศษ โรงเรียนวดั สนั โคง้ ปีท่ีเกษียณอำยุรำชกำร 30 กนั ยำยน พ.ศ. 2565 1. ขอ้ มูลเก่ยี วกบั งำนทร่ี บั ผดิ ชอบ งำนด้ำนกำรจดั กำรเรียนกำรสอน - ครูประจำชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 ทำกำรสอนทกุ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ - ครปู ระจำชั้นประถมศึกษำปที ่ี 5 ทำกำรสอนกล่มุ สำระกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์และกำรงำนอำชพี และ เทคโนโลยี - ทำกำรสอนวชิ ำคอมพวิ เตอร์ ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 4 และช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ 5 งำนท่ีได้รับมอบหมำย -เจ้ำหนำ้ ที่กำรเงินและบญั ชี -เจ้ำหน้ำที่ฝำ่ ยแผนงำนและงบประมำณ 2. ผลงำนควำมภำคภมู ิใจ หรืองำนท่ีประสบผลสำเร็จในชีวติ -ผลคะแนนกำรทดสอบควำมสำมำรถพน้ื ฐำนของผเู้ รยี นระดบั ชำติ ( National Test : NT ) ปกี ำรศึกษำ 2560 ดำ้ นภำษำ สูงอยใู่ น 10 ลำดบั แรกของสำนกั งำนเขตพื้นท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำเชยี งใหม่ เขต 1 -คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละกำรทดสอบควำมสำมำรถพน้ื ฐำนของผเู้ รยี นระดับชำต(ิ National Test : NT ) ปี กำรศึกษำ 2560 รวมทุกด้ำน สงู กวำ่ คะแนนเฉลีย่ ระดบั ประเทศ -ปีพ.ศ. 2533 ได้รับรำงวลั ครภู ำษำไทยดเี ดน่ ของอำเภอเชียงแสน จังหวดั เชียงรำย -ปีพ.ศ. 2546 ไดเ้ ปน็ บุคลำกรตน้ แบบกำรปฏริ ปู กระบวนกำรเรยี นรู้ ของสำนักงำนคณะกรรมกำร กำรศึกษำขัน้ พื้นฐำน -ปีพ.ศ. 2547 ไดผ้ ่ำนกำรประเมินมำตรฐำนครูวทิ ยำศำสตร์ ระดับเขตพื้นท่ีกำรศกึ ษำเชียงใหม่ เขต 1 มี ผลงำนอยูใ่ นระดบั ดี -ปพี .ศ. 2547 ได้เป็นครผู นู้ ำกระบวนกำรจัดกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตร์ และได้รบั เขม็ เกียรตยิ ศจำกสำนักงำน เขตพ้ืนทีก่ ำรศกึ ษำเชยี งใหม่ เขต 1
78 -ปีพ.ศ. 2550 ไดร้ บั เกียรตบิ ตั รครูผูส้ อนดีเด่น ประจำปีกำรศกึ ษำ 2549 ในงำนวนั ครู จำกสำนักงำนเขต พ้นื ท่กี ำรศกึ ษำเชยี งใหม่ เขต 1 -เป็นครผู ูฝ้ ึกสอนนักเรียนได้รบั รำงวัลเหรยี ญทองกำรแข่งขันวำดภำพโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (โปรแกรม Paint) ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2555 -ไดร้ ับเกยี รติบัตร หน่ึงแสนครดู ี ประจำปี 2555 -ไดร้ ับรำงวัลผลกำรปฏิบตั ิท่ดี ี (Best Practices) ปีกำรศึกษำ 2556 จำกสำนักงำนเขตพืน้ ทก่ี ำรศึกษำ ประถมศกึ ษำเชียงใหม่ เขต 1 2.1 วิธีดำเนนิ งำนเกดิ ผลสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำย 1.ศกึ ษำแนวทำงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนตำมมำตรฐำนในหลักสูตรแกนกลำง พ.ศ. 2551 เพอ่ื นำมำใชใ้ นกำรพัฒนำนักเรียน 2.ศกึ ษำโครงสรำ้ งข้อสอบวดั ควำมสำมำรถของผเู้ รยี นระดบั ชำต(ิ National Test : NT) ชน้ั ประถมศึกษำ ปที ่ี 3ของสำนักทดสอบทำงกำรศึกษำ โดยดกู รอบโครงสร้ำงข้อสอบของแต่ละดำ้ น ( 3 ด้ำน คือ ควำมสำมำรถ ดำ้ นภำษำ ควำมสำมำรถด้ำนคำนวณ และควำมสำมำรถดำ้ นเหตผุ ล) ว่ำมตี วั ชี้วดั ใดท่ีนำมำสรำ้ งขอ้ สอบ นำมำสอนนักเรยี นตำมตวั ชว้ี ดั น้นั และฝกึ นักเรยี นทำซ้ำๆจนเกิดทักษะ 3..จัดกำรเรียนกำรสอนให้นักเรยี นโดยใชโ้ ทรทัศนเ์ พื่อกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม โดยจดั เตรียม แบบฝกึ หัดและแบบบนั ทกึ กจิ กรรมทใ่ี ช้เรียนล่วงหน้ำให้กบั นักเรยี น ซ่งึ จะทำให้นกั เรยี นสำมำรถเรยี นไป พรอ้ มๆกับผ้เู รียนในโทรทัศนไ์ ด้ 4.ทำกำรตรวจแบบฝกึ ทนี่ ักเรยี นทำอยำ่ งรวดเรว็ หลังจำกหมดชั่วโมงทเี่ รยี น เม่ือพบจดุ ไหนท่ที ำไม่ได้ก็ ชแ้ี จงให้กับนักเรียนทนั ที 5.สรุปเนื้อหำทีเ่ รียนไปพร้อมๆกบั นกั เรียนหลังจำกหมดชั่วโมง 6.ทำกำรสอนซอ่ มเสรมิ ให้กับนกั เรยี นทุกวนั ในช่ัวโมงสุดท้ำยและหลงั เลกิ เรยี น โดยให้นกั เรยี นทำ แบบฝึกหดั ทกุ ข้อในหนงั สือแบบฝกึ หดั และทำแบบฝกึ เสริม 7.นำนทิ ำน บทร้อยกรอง บทควำม ฯลฯ มำสอนนกั เรยี นให้นักเรยี นฝกึ อ่ำนและตอบคำถำมพร้อมกับให้ ช่วยกนั สรุปเนอ้ื เรือ่ งและบอกข้อคดิ ทีไ่ ด้ (ใคร ทำอะไร ท่ไี หน เรียงลำดับเหตุกำรณก์ ่อนหลงั ) 8.สอนแบบบูรณำกำรเพ่มิ เตมิ ในทุกกลุ่มสำระ เพอื่ เป็นกำรฝึกใหน้ กั เรยี นรจู้ ักเชอ่ื มโยงควำมรู้
79 9.สอนกิจกรรมเกษตรตำมแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง เช่น กำรปลูกผกั ปลกู มะนำว เพำะเหด็ นำงฟำ้ เพ่ือให้ นักเรียนไดฝ้ กึ ประมำณกำรเวลำในกำรเจรญิ เติบโต กำรชั่งขำย กำรรดนำ้ ฯลฯ นักเรียนจะไดร้ บั กำรฝกึ จำก สถำนกำรณ์จริง 10.ใช้สือ่ กำรสอนทีห่ ลำกหลำยท้ังในและนอกสถำนศกึ ษำ และเนน้ ส่ือทีเ่ ปน็ ของจริง 11.กำรประเมนิ ผ้เู รียนใช้กำรประเมนิ ตำมสภำพจรงิ ในศตวรรษท่ี 21 และใชแ้ บบสะท้อนคิดของนักเรียน เพ่ือนำมำพฒั นำนกั เรยี นได้ 12.ฝึกทำแบบทดสอบ NT ในปีท่ีผำ่ นมำซ่งึ สำมำรถทำให้นกั เรยี นเกดิ ทักษะในกำรทำขอ้ สอบ 13.ให้นักเรยี นฝึกท่องสตู รคูณทุกวัน 2.2 ปัจจัยท่ีเอื้อใหป้ ระสบผลสำเรจ็ คอื 1.ปฏบิ ตั ิกบั นักเรยี นเสมอื นเป็นลกู ของตนเอง ให้ควำมรัก ควำมเอน็ ดู ควำมใกล้ชิด จนทำให้นกั เรียนเกดิ ควำมไวว้ ำงใจ สำมำรถปรึกษำปัญหำกับครไู ด้ 2.ไดร้ ับกำรสนับสนนุ คำแนะนำและกำลงั ใจจำกผู้บรหิ ำร ซึง่ เปน็ ผู้มีวิสัยทัศนใ์ นกำรทำงำน และมีควำม เปน็ กลั ยำณมติ รทด่ี กี ับคณะครู 2.3 ปญั หำ อปุ สรรค จดุ ท่คี วรพฒั นำ นักเรียนท่ีสอนมคี วำมแตกตำ่ งกนั และมนี ักเรียนทมี่ คี วำมบกพรอ่ งทำงกำรเรยี นรู้และดำ้ นอำรมณ์
80 แบบรำยงำน วธิ ีปฏิบตั ิท่ดี ี Best Practice ช่ือ นำงสำวจนั ทนำ ไฝเจรญิ ตำแหน่ง ครชู ำนำญกำร โรงเรียนบำ้ นลวงเหนอื ปีที่เกษียณอำยรุ ำชกำร 2572 1. ภำรกิจ บทบำทหน้ำที่ท่รี บั ผิดชอบ ในปีกำรศกึ ษำ 2561 1.1 งำนด้ำนกำรสอน - ครูผู้สอนสำระภำษำต่ำงประเทศ สอนระดบั ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 1 – 6 - ครูประจำชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 5 - กจิ กรรมฐำนกำรเรียนรู้อัตลักษณโ์ รงเรียน 5E วถิ ีไทลอ้ื ฐำนอจู้ ำ๋ ภำษำไทลอื้ และ ภำษำอำเซียน 1.2 งำนพิเศษทไี่ ดม้ อบหมำย - เจำ้ หนำ้ ทพ่ี ัสดุ - งำนกิจกำรนักเรยี น 1.3 งำนตำมโครงกำร - โครงกำรระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น - โครงกำรโรงเรียนสจุ รติ ( บริษทั สร้ำงกำรดี สรำ้ งคน สร้ำงงำน วำงพนื้ ฐำนอำชีพ ) - โครงกำรประชำธิปไตย ( สภำนักเรยี น ) - โครงกำรสหกรณอ์ อมทรพั ย์ ( ธนำคำรโรงเรยี น ) - โครงกำรสถำนศกึ ษำพอเพยี ง 2. ผลงำนควำมภำคภมู ใิ จ 2.1 ด้ำนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ - ในกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้สำระภำษำองั กฤษ ครูไดใ้ ช้แนวคดิ ท่ีหลำกหลำย เช่น Communicative Language Teaching ,Total Physical Response ทำใหน้ ักเรียนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และสำมำรถใชท้ กั ษะทำงภำษำดีข้นึ มเี จตคติที่ดีต่อกำรเรียนภำษำองั กฤษ ส่งผลใหน้ กั เรยี นไดร้ บั ควำมสำเร็จ ในกำรคัดเลือกเปน็ ตัวแทนระดบั อำเภอเข้ำรว่ มแข่งขันทกั ษะทำงวิชำกำร กิจกรรมกำรเลำ่ นิทำนภำษำอังกฤษ
81 ของนักเรียนชว่ งชัน้ ท่ี 2 ระดับเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ และไดร้ บั รำงวลั รองชนะเลิศอนั ดบั 2 อีกหน่ึงควำมสำเรจ็ คอื ในปกี ำรศกึ ษำ 2560 นกั เรยี นโรงเรยี นบ้ำนลวงเหนือได้คะแนนเฉลยี่ ผลกำรทดสอบระดับชำตขิ ั้นพ้ืนฐำน ( O-NET ) ในระดับช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 6 กลุม่ สำระภำษำองั กฤษเพ่ิมขนึ้ จำกเดมิ และสูงกวำ่ ระดับประเทศ เปรียบเทยี บปี 2559 คะแนนเฉลี่ย 32.73 ปี 2560 คะแนนเฉลีย่ 40.68 เพมิ่ ข้นึ 7.95 2.2 ดำ้ นกำรจดั กิจกรรมตำมโครงกำร เปน็ ครูผูร้ บั ผดิ ชอบโครงกำรโรงเรียนสจุ รติ ไดด้ ำเนนิ โครงกำรโดย เปน็ ทป่ี รึกษำบรษิ ัทสร้ำงกำรดี กจิ กรรมสรา้ งคน สรา้ งงาน วางพืน้ ฐานอาชีพ ครูใหค้ ำแนะนำนักเรียนในกำร จดั ตง้ั บริษัท 5 บริษทั คือ บริษัทไข่ไก่เพอ่ื น้อง, บริษทั เหด็ นำงฟ้ำภูฎำน, บริษัทพืชผักปลอดสำร, บริษัทจงิ้ หรดี พนั ธไ์ุ ข่, บริษัทปยุ๋ อนิ ทรียใ์ บไม้บด ซง่ึ กำรจัดกิจกรรมเปน็ กำรบรู ณำกำรกับโครงกำรสถำนศึกษำพอเพยี ง, โครงกำรสหกรณ์โรงเรียนและโครงกำรคุณธรรม ผู้ดำเนนิ กจิ กรรม นักเรียนชว่ งชัน้ ท่ี 2 จำนวน 45 คน วิธดี ำเนนิ กิจกรรม - นกั เรยี นแต่ละชั้นไดเ้ รยี นรแู้ ละฝึกปฏิบตั กิ จิ กรรมตำ่ งๆท้ัง 5 กจิ กรรมในวชิ ำกอท. และมีหน้ำที่ดแู ล รบั ผิดชอบผลผลติ ของแต่ละช้ัน - นักเรยี นแบง่ กลุม่ ควำมสนใจตำมผลผลติ ของแต่ละกิจกรรม โดยจัดตงั้ บริษทั 5 บริษทั คอื บรษิ ัทไขไ่ ก่ เพ่ือนอ้ ง, บริษทั เห็ดนำงฟำ้ ภูฎำน, บริษทั พชื ผกั ปลอดสำร, บรษิ ัทจงิ้ หรีดพันธไุ์ ข่, บริษทั ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ใบไมบ้ ด ซ่ึงแตล่ ะบรษิ ทั จะมีครทู ี่ปรึกษำกำรดำเนินกจิ กำร มีกำรแบง่ ฝ่ำยงำนรบั ผิดชอบ เชน่ ประธำนกรรมกำร รองประธำนกรรมกำร ฝ่ำยกำรบัญชกี ำรเงนิ ฝ่ำยจดั หำผลิตภณั ฑ์ ฝ่ำยขำย ผลติ ภณั ฑ์ ฝ่ำยตรวจสอบ และคณะกรรมกำรดำเนนิ งำน - กำรจำหน่ำยผลผลิตของแต่ละบรษิ ัท จะจำหนำ่ ยเปน็ 2 วธิ ี คือจำหนำ่ ยผำ่ นสหกรณ์โรงเรยี น และ จำหนำ่ ยโดยตรง ( ในกรณที ีผ่ ลผลิตไม่เพยี งพอกับกำรแปรรูปอำหำรของโครงกำรอำหำรกลำงวัน หรือ กรณที ่นี ำผลผลติ ไปจำหนำ่ ยในชุมชน )
82 - กำรจัดทำบญั ชรี ำยรับ-รำยจ่ำยของแตล่ ะบริษทั หลังจำกมีรำยได้จำกกำรจำหน่ำยผลผลติ แต่ละบริษทั จะทำบัญชี และนำเงนิ ทไี่ ด้ไปฝำกสหกรณอ์ อมทรพั ย์ ( ธนำคำรโรงเรียน ) - แต่ละบรษิ ัทจะรำยงำนควำมกำ้ วหนำ้ ของกำรดำเนินกิจกรรมเดอื นละ 1 ครั้ง ใหท้ ่ีประชมุ สภำนกั เรยี น และครทู ี่ปรกึ ษำทุกบริษัทรบั ทรำบ เพอ่ื เปน็ กำรแลกเปลี่ยนวิธีกำร ปัญหำ อุปสรรค และเสนอ ข้อแนะนำในกำรดำเนนิ กิจกรรมต่อไป 3. ปจั จยั ท่ีเอ้ือใหป้ ระสบผลสำเรจ็ โครงกำรโรงเรยี นสจุ รติ กิจกรรมสร้างคน สร้างงาน วางพ้ืนฐานอาชพี บริษัทสรำ้ งกำรดี เป็นโครงกำร ทตี่ ้องกำรฝึกใหน้ กั เรียนเกดิ คุณลักษณะ 5 ประกำร คอื ทักษะกำรคดิ มีวินยั ซอื่ สตั ย์สุจรติ อยอู่ ยำ่ งพอเพียง และมจี ติ สำธำรณะ โดยไดบ้ รู ณำกำรกับโครงกำรสถำนศึกษำพอเพียง, โครงกำรสหกรณ์โรงเรียนและโครงกำร คุณธรรม ซึง่ ได้รบั ควำมร่วมมอื ท้ังจำกคณะครู นกั เรียน ชุมชน และกำรสนบั สนุนงบประมำณจำกโครงกำร อำหำรกลำงวนั ย่ังยืน กำรสนบั สนุนไกพ่ นั ธุไ์ ข่, เมล็ดพันธุ์ผัก, ก้อนเหด็ นำงฟำ้ ภฎู ำนจำกศนู ย์พัฒนำห้วยฮ่องไคร้ อำเภอดอยสะเก็ด กำรสนบั สนุนภูมิปัญญำจำกชุมชน จำกควำมร่วมมอื จำกทุกฝำ่ ย เพอื่ ต้องกำรฝึกใหน้ กั เรยี น เปน็ ผู้มีคณุ ธรรม ดำรงตนอยำ่ งสจุ รติ ตำมวิถีชวี ิตของเศรษฐกจิ พอเพียง 4. ปัญหำ อปุ สรรค จดุ ท่คี วรพฒั นำ - ควำมรับผดิ ชอบ นักเรยี นตอ้ งมคี วำมรบั ผดิ ชอบอยำ่ งมำก ตอ้ งใช้เวลำในกำรผลติ ใส่ใจดแู ลอย่ำง สม่ำเสมอ ตอ่ เน่อื ง ซ่งึ นักเรียนต้องเสยี สละเวลำในช่วงพัก หรือหลงั เลิกเรยี น โดยครทู ป่ี รึกษำจะตอ้ งกำกบั ติดตำมใหค้ ำแนะนำ - ควำมตอ่ เนือ่ งของผลผลติ ในบำงบรษิ ัทผลผลิตอำจขำดชว่ ง ซง่ึ ตอ้ งขึ้นอยู่กับสภำพแวดล้อมและปจั จัย กำรผลิตตำมช่วงระยะเวลำ
83 5. ข้อเสนอแนะ กำรรำยงำนควำมกำ้ วหน้ำของแต่ละบริษทั เดอื นละ 1 ครงั้ โดยจะตอ้ งรำยงำนผลผลิต รำยรับ-รำยจำ่ ย ปญั หำ อปุ สรรค กำรตรวจสอบบญั ชี ใหท้ ่ีประชมุ ทรำบคือสภำนักเรียนและครูทป่ี รึกษำแตล่ ะบริษทั เพ่อื รับทรำบและหำแนวทำงแก้ไขรว่ มกนั บริษทั สรำ้ งกำรดี โรงเรียนบำ้ นลวงเหนอื กิจกรรมสรา้ งคน สรา้ งงาน วางพื้นฐานอาชีพ บรษิ ัทปุ๋ยอินทรยี ์ใบไม้บด ( ชนิดอัดเมด็ และชนิดผง ) บริษทั ไข่ไก่เพอื่ น้อง บรษิ ัทเห็ดนำงฟ้ำภูฎำน
84 แบบรำยงำน วิธีปฏิบตั ิที่ดี (Best Practice) นำงสำว..................เกศิณี......................นำมสกุล..................ศรีบุญเรือง......................... ตำแหนง่ .................................คร.ู ................................โรงเรยี น.....................บ้ำนตลำดขเ้ี หลก็ .... ...................... ปที เี่ กษยี ณอำยุรำชกำร............................พ.ศ. 2593............................................... 1. ขอ้ มลู เกีย่ วกับงำนท่ีรบั ผดิ ชอบ
85 2. ผลงำนควำมภำคภูมใิ จ หรืองำนที่ประสบผลสำเร็จในชีวติ 2.1 วิธดี ำเนินงำนเกดิ ผลสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำย กำรดำเนนิ กิจกรรมสรำ้ งอำชพี วิถีพอเพียง เป็นกิจกรรมกำรผลิตและจำหนำ่ ยผลติ ภัณฑ์แชมพู สมุนไพรใบหม่ี ของบริษัทสรำ้ งกำรดี โรงเรียนบ้ำนตลำดข้ีเหล็ก โดยบริหำรจัดกำรด้วยควำมรว่ มมอื ของ ผบู้ ริหำร คณะครู นักเรียน และชมุ ชน ในรูปแบบ PDCA ซ่ึงประกอบดว้ ย 4 องคป์ ระกอบหลกั ดงั น้ี P (Plan) กำรวำงแผนงำนจำกวัตถุประสงค์และเป้ำหมำยที่กำหนดข้ึน โดยแตง่ ต้ังคณะกรรมกำรแต่ละ ฝ่ำยเพ่อื ประชมุ วำงแผนกำรจัดทำผลติ ภัณฑ์และจำหนำ่ ยแชมพสู มุนไพรใบหมี่ ตัง้ แต่กำรจดั หำวัสดธุ รรมชำติ ออกแบบชนิ้ งำน กำหนดรำคำ และนำจำหนำ่ ย เปน็ ตน้ กำหนดบทบำทหนำ้ ทขี่ องคณะกรรมกำรแต่ละฝ่ำยไว้ ชดั เจน เพอ่ื กำรทำงำนร่วมกนั อยำ่ งเปน็ ระบบไม่กอ่ ให้เกิดปัญหำ D (Do) กำรนำไปปฏบิ ตั ติ ำมขนั้ ตอนในแผนงำนอย่ำงเป็นระบบ มคี วำมตอ่ เนื่องสอดคล้องกบั เป้ำหมำย และวัตถปุ ระสงค์ กำรผลิตผลงำนนกั เรียนขั้นตอนกำรผลติ มีกำรเลือกวตั ถุดบิ โดยใช้วัสดธุ รรมชำติทีห่ ำได้จำก ในชุมชน มกี ำรทำงำนตำมลำดับชน้ั ตอนท่กี ำหนดไว้ แบง่ งำนกนั ตำมภำระหน้ำท่ี ผลิตภณั ฑ์แชมพสู มุนไพรใบ หมี่ ของบรษิ ทั สร้ำงกำรดโี รงเรยี นบ้ำนตลำดข้เี หลก็ มีเอกลกั ษณเ์ ฉพำะตวั มคี ุณคำ่ ในผลงำน ซ่ึงเป็นผลติ ภัณฑ์ ที่มีกำรใชท้ รัพยำกรท่มี อี ยู่ในทอ้ งถน่ิ อยำ่ งเหมำะสมและคุ้มค่ำ ประหยัด สอดคลอ้ งกับบริบทของโรงเรียน และ มกี ำรประชำสมั พนั ธ์ออกบธู จดั จำหนำ่ ยผลติ ภัณฑ์ในหนว่ ยงำนต่ำงๆ อกี ท้ังโรงเรียนและชมุ ชนยังมีปฏิสัมพนั ธ์ที่ ดีตอ่ กันในกำรร่วมพฒั นำนกั เรียน พฒั นำผลติ ภณั ฑ์ใหบ้ รรลเุ ป้ำหมำยและวตั ถุประสงค์ของกำรทำผลติ ภัณฑ์ C (Check) ฝำ่ ยอำนวยกำรผลิตมีหนำ้ ทีต่ รวจสอบ ปรับปรงุ ผลติ ภัณฑ์ จัดหำวสั ดุ วัตถดุ ิบทเ่ี หมำะสม เพือ่ นำมำทำแชมพูใบหมี่ กอ่ นจะบรรจลุ งขวด ในกำรตรวจสอบผลกำรดำเนนิ งำน คณะกรรมกำรบรษิ ัทสร้ำงกำรดี ได้จัดทำ สรุปรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน ให้คณะกรรมกำร ป.ป.ช.สพฐ.น้อ ย โรงเรียนบ้ำนตลำดขี้เหลก็ ตรวจสอบ เมอ่ื สิน้ ภำคเรยี นท่ี 2
86 A (Action) มีกำรปรับปรุงผลิตภณั ฑ์อยำ่ งตอ่ เนือ่ ง เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลติ ภณั ฑท์ ี่มีคุณภำพ นอกจำกกำรทำแชมพูท่ี ใชว้ ตั ถุดิบจำกใบหมเ่ี ป็นหลักแลว้ ยงั มกี ำรนำขงิ สดมำเปน็ วัตถุดิบเพ่ิมเตมิ ด้วย เพือ่ เปน็ กำรเพิม่ คุ ณค่ำทำง สมุนไพรให้กับผลิตภัณฑ์ นอกจำกนนั้ ไดน้ ำขอ้ เสนอแนะ รวมถงึ ปัญหำท่พี บมำเปน็ แนวทำง เพอื่ กำรปรบั ปรุง แก้ไข และวำงแผนกำรดำเนินงำนในปกี ำรศกึ ษำต่อไป ซึ่งผลลพั ธ์ในกำรทำกจิ กรรมทำใหเ้ กิดประโยชน์ในดำ้ นตำ่ งๆ ดังน้ี 1 นักเรียนเกดิ ควำมรใู้ นกำรทำแชมพจู ำกใบหมี่ 2 นักเรียนมกี ำรทำงำนอย่ำงมรี ะเบียบ แบบแผน เป็นข้นั ตอน 3 นกั เรียนเกดิ ทักษะอำชีพในกำรทำแชมพสู มุนไพรจำกใบหม่ี สำมำรถสร้ำงรำยไดใ้ ห้ แกต่ นเอง 4 นักเรียนเกิดกำรทำงำนเปน็ ทีม เสริมสร้ำงควำมสำมัคคใี นกำรทำงำนรว่ มกัน 5 นกั เรียนเหน็ คุณคำ่ ของทรพั ยำกรธรรมชำติท่ีมีอยู่ 6 นักเรียนมีเจตคติที่ดตี อ่ อำชีพสุจริต 7 นกั เรยี นมคี ุณลักษณะ 5 ประกำรของโรงเรียนสจุ ริต (ทักษะกำรคิด มวี นิ ัย ซ่ือสัตย์ อยอู่ ย่ำงพอเพยี ง และมีจิตสำธำรณะ) 8 นักเรยี นนำหลกั ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียงมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน นอกจำกนน้ั กำรดำเนนิ กิจกรรมบรษิ ัทสรำ้ งกำรดี แชมพูใบหม่ี โรงเรียนบ้ำนตลำดขีเ้ หล็ก โดยกำรผลติ และจำหน่ำยแชมพจู ำกใบหมสี่ ด ซง่ึ เปน็ ไมย้ นื ตน้ ในโครงกำรโรงเรียนสวนพฤกษศำสตร์ เพ่ือเป็นผลติ ภัณฑ์ท่ี ผลิตจำกสมนุ ไพรธรรมชำติแทนกำรใช้ผลิตภัณฑท์ ี่อำจมีส่วนผสมของสำรเคมี อีกท้ังยังจัดเป็นของท่ีระลกึ สำหรับมอบใหแ้ ขกผมู้ ำเยือนและผู้มีอปุ กำรคณุ ซึ่งถือเป็นของฝำกทีส่ ร้ำงควำมประทับใจของผู้ไดร้ ับเป็นอยำ่ งดี สง่ ผลใหม้ ีกำรสง่ั จองสินคำ้ เพิม่ โดยทำงโรงเรยี นดำเนนิ กจิ กรรมมำอยำ่ งตอ่ เนื่องทกุ ปีกำรศึกษำ นกั เรยี นทกุ คน ตง้ั แตช่ นั้ ประถมศึกษำปีท่ี 1 ถงึ ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 3 มีสว่ นร่วมในกำรในกำรปฏบิ ัติกจิ กรรม เข้ำใจบทบำท หนำ้ ที่ของตน เปน็ กระบวนกำรเสรมิ สรำ้ งควำมสำมัคคี ควำมเสยี สละ และจิตสำธำรณะ ภำยหลงั เสร็จส้ิน โครงกำรได้มกี ำรจัดทำสรปุ ผลกำรดำเนนิ งำนเพ่อื สรปุ รำยรับ – รำยจ่ำย ปญั หำและอุปสรรคที่พบ อีกทงั้ ยังได้
87 ตอ่ ยอดแนวควำมคดิ ในกำรใชว้ สั ดธุ รรมชำตใิ นท้องถนิ่ และเพอื่ เป็นกำรเพ่ิมรำยได้ใหก้ ับบริษทั คณะกรรมกำร ต้องทำกำรคิดค้นผลติ ภัณฑ์ใหมท่ ่หี ลำกหลำย เชน่ ครีมนวดผมสมุนไพรอัญชัน น้ำยำเอนกประสงคจ์ ำกมะกรูด น้ำหมกั ชวี ภำพ ซง่ึ จะไดม้ ีกำรดำเนนิ งำน และจัดจำหน่ำยอยำ่ งต่อเน่ืองในชว่ งปดิ ภำคเรยี น 2.2 ปัจจยั ท่ีเอื้อให้ประสบผลสำเรจ็ คือ 1. ทรพั ยำกรธรรมชำติทีน่ ำมำใช้เป็นวัตถดุ บิ ในกำรทำแชมพูและครีมบำรุงผมเปน็ วตั ถุดิบที่ หำได้จำกโรงเรียนและชมุ ชน ทำใหช้ ว่ ยลดตน้ ทุนในกำรผลติ 2. ทำงโรงเรียนไดร้ ับควำมอนุเครำะห์จำกวิทยำกรในทอ้ งถ่นิ เพ่ือให้ควำมรู้ในกำรทำแชมพู สมนุ ไพร 3. มกี ำรประชำสัมพันธ์ในกำรจำหนำ่ ยสนิ ค้ำท่หี ลำกหลำยชอ่ งทำงทำให้กำรจำหน่ำยเปน็ ไป อย่ำงสะดวกต่อเนอื่ งและมีกำไรหมุนเวยี น 2.3 ปญั หำ อปุ สรรค จดุ ทคี่ วรพัฒนำ 1. ตน้ ทุนของบรรจุภณั ฑม์ ีรำคำค่อนขำ้ งสงู 2. วตั ถุดิบในกำรผลติ (ใบหมี่) อำจจะมอี ำยกุ ำรใชง้ ำนไม่นำนเพรำะเป็นวัตถุดิบทม่ี ำจำก ธรรมชำติ 3. ฉลำกบรรจุภณั ฑ์ยังไมส่ ำมำรถกนั น้ำได้ จงึ ทำใหข้ อ้ มลู ผลิตภัณฑน์ นั้ เลือนรำง 4. ในกำรผลิตในแตล่ ะครั้งนน้ั ไมส่ ำมำรถผลติ ในจำนวนท่มี ำกได้ เนอ่ื งจำกข้อจำกดั ของ อปุ กรณ์ และเคร่ืองมือในกำรผลติ 2.4 ขอ้ เสนอแนะ 1 ช่วงระยะเวลำทนี่ ำใบหม่มี ำทำแชมพูสำมำรถนำมำผลติ ได้ทกุ ช่วงเวลำ ยกเว้นชว่ งเดอื น กุมภำพันธ์ถงึ เดือนมนี ำคมเน่ืองจำกเปน็ ช่วงเวลำทีใ่ บหมีผ่ ลัดใบ 2 ควรมีกำรนำสมนุ ไพรชนิดอน่ื ในท้องถิ่นมำผลิตแชมพใู หม้ ีสูตรทหี่ ลำกหลำย เพ่ือทำ กำรตลำดไดก้ ับกลมุ่ เป้ำหมำยทีห่ ลำกหลำย
88 3 ควรมีกำรประชำสัมพันธ์กำรตลำดผำ่ นทำงอนิ เทอรเ์ น็ตใหม้ ำกขน้ึ 4 ควรมกี ำรออกแบบผลิตภัณฑบ์ รรจุแชมพูให้มีควำมสวยงำม ดงึ ดูดลกู ค้ำ 5 ควรนำอุปกรณ์ที่ทันสมัยมำใช้ในขน้ั ตอนกำรผลติ เพื่อลดระยะเวลำลง 6 ควรมกี ำรสอบถำมผู้ใชผ้ ลติ ภณั ฑแ์ ชมพูใบหม่ี เพื่อสะท้อนผลเกย่ี วกบั ขอ้ ดี-ข้อท่คี วร ปรับปรุงเพ่ือนำผลมำพัฒนำปรับปรุงแก้ไขสินคำ้ ใหด้ ขี ้นึ กำรดำเนินงำนกิจกรรมบรษิ ัทสร้ำงกำรดี มกี ำรประชมุ คณะกรรมกำรและสมำชกิ มีกำรตรวจสอบผลติ ภัณฑ์ก่อนออกจำหน่ำย กำรบรรจุผลติ ภัณฑ์ กำรออกบูธจดั จำหนำ่ ยในแต่ละหน่วยงำน
89 แบบรำยงำน วธิ ีปฏิบตั ิท่ีดี (Best Practice) นำงแพรวพรรณ จนั ทะแจง้ ตำแหนง่ ครู วิทยฐำนะครูชำนำญกำรพเิ ศษ โรงเรยี นชลประทำนผำแตก ปที ี่เกษยี ณอำยุรำชกำร พ.ศ.2568 1. ขอ้ มลู เกย่ี วกบั งำนท่รี บั ผิดชอบ ครูผสู้ อนกล่มุ สำระกำรเรียนร้สู งั คมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 1 – 3 หัวหน้ำกล่มุ สำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม งำนบคุ ลำกร งำนพัฒนำคุณธรรมในโรงเรียน โรงเรยี นคุณธรรม สพฐ. โรงเรียนคุณธรรม มลู นิธิยวุ สถิรคณุ โรงเรียนสุจริต งำนอืน่ ๆ ท่ีผ้บู งั คับบัญชำมอบหมำย 2. ผลงำนควำมภำคภูมใิ จ - เป็นผมู้ ีส่วนร่วมในกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรเรยี นวิชำสงั คมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรมของนักเรยี น ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 3 มผี ลกำรประเมนิ คุณภำพกำรศกึ ษำขั้นพน้ื ฐำน ประจำปี 2554 สูงกวำ่ ค่ำเฉลย่ี ระดบั ประเทศ และสงู ใน 10 อันดบั แรกระดับเขตพ้นื ทก่ี ำรศึกษำประถมศกึ ษำเชียงใหม่เขต 1 - ได้รบั เครอื่ งหมำยเชดิ ชเู กยี รติ “หนง่ึ แสนครูดี” ประจำปี 2554 - เกียรตบิ ัตรครผู ้สู อนนักเรียนระดบั เหรียญเงนิ กิจกรรมเลำ่ นทิ ำนคุณธรรม ระดบั ชั้น ม.1-3 ‘งำนศลิ ปหัตถกรรมนักเรียนภำคเหนอื คร้งั ที่ 61 ปี 2554 - เกียรตบิ ัตรครูผ้สู อนนกั เรยี นระดบั เหรียญเงนิ กจิ กรรมละครคณุ ธรรม ระดบั ช้นั ม.1-6 ‘งำนศิลปหตั ถกรรมนกั เรยี นภำคเหนือ ครง้ั ที่ 61 ปี 2554 - เป็นผ้มู สี ่วนร่วมในกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรเรยี นวชิ ำสงั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรมของนกั เรียน ชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 3 มคี ะแนนเฉล่ียผลกำรทดสอบระดบั ชำติขั้นพ้ืนฐำน (O-NET) ประจำปี 2555 สูงเปน็ ลำดับท่ี 8 ของเขตพื้นที่กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำเชยี งใหม่เขต 1
90 - เกียรติบัตรรำงวัลเหรยี ญทอง กำรนำเสนอผลงำนและแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ ำรสอนแบบโครงงำน กลุม่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ของสำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำเชียงใหม่ เขต 1 - เกียรติบตั รครูผสู้ อนนกั เรยี นระดบั เหรยี ญทอง กิจกรรมกำรประกวดภำพยนตส์ น้ั ระดับช้ัน ม.1-6 ‘งำนศิลปหตั ถกรรมนักเรยี นภำคเหนอื ครัง้ ท่ี 63 ปี 2556 - ได้รับมอบหมำยจำกผู้อำนวยกำรโรงเรียนใหเ้ ข้ำรว่ มรบั กำรอบรม 1,000 เรือ่ ง 1,000 วิจัย ของสำนกั พัฒนำนวัตกรรม สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขัน้ พื้นฐำน ภำยใตโ้ ครงกำรโรงเรยี นสจุ รติ และได้จดั ทำงำนวจิ ยั เรือ่ ง กำรเสริมสรำ้ งทักษะกำรคดิ สำหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษำปีที่ 3 โดยใช้กำรเรยี นรู้แบบ โครงงำน ปี 2558 2.1 วธิ ดี ำเนินงำนใหเ้ กิดผลสำเร็จตำมเปำ้ หมำย ขำ้ พเจ้ำได้ยดึ หลกั ธรรมทำงพระพุทธศำสนำมำ ประยกุ ตใ์ ชด้ งั นี้ อทิ ธบิ ำท 4 คือ หนทำงสู่ควำมสำเร็จ ประกอบดว้ ย 1. ฉันทะ ต้องพอใจรักใคร่ในงำนทที่ ำหรอื ไดร้ บั มอบหมำย 2. วริ ยิ ะ ทำงำนที่ได้รบั มอบหมำยดว้ ยควำมพำกเพียร 3. จติ ตะ เอำใจใสง่ ำนทท่ี ำโดยศึกษำหำควำมรู้อยเู่ สมอ 4. วิมังสำ หมนั่ คดิ วเิ ครำะห์ ไตรต่ รอง พจิ ำรณำงำนอยำ่ งเปน็ เหตุเปน็ ผล วงจรเดมิง PDCA หรอื วงจรควบคมุ คณุ ภำพ ประกอบด้วย 1. Plan หมำยถงึ กำรวำงแผนกำรดำเนนิ งำนอย่ำงรอบคอบ 2.Do หมำยถงึ กำรดำเนินกำรตำมแผน 3.Check หมำยถึง ตรวจสอบกำรปฏิบัตติ ำมแผนงำน 4.Act หมำยถงึ กำรนำผลกำรประเมินมำพฒั นำแผนงำน
91 2.2 ปจั จัยท่เี ออ้ื ให้ประสบผลสำเร็จ 1) ผบู้ ริหำรเปน็ ผมู้ วี สิ ยั ทัศน์ รอบรใู้ นงำนวชิ ำกำร กำกบั นิเทศติดตำมงำนอย่ำงสมำ่ เสมอ 2) เพือ่ นครมู ีควำมเปน็ กลั ยำณมิตร มีกำรทำงำนเป็นทมี 3) มสี อื่ เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรู้ และสภำพบรรยำกำศ ควำมเปน็ ระเบยี บ สะอำดสวยงำม รม่ ร่ืน 4) ผู้ปกครอง ชุมชน คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำ สมำคมศิษย์เกำ่ ใหค้ วำมร่วมมอื และสนับสนนุ โรงเรยี นดีมำก 5) ครูมโี อกำสในกำรพฒั นำตนเองและแลกเปลย่ี นเรยี นรใู้ นวงวิชำชพี อยู่เสมอ 2.3 ปัญหำ อปุ สรรค จุดทีค่ วรพฒั นำ - ครมู ภี ำระงำนท่นี อกเหนือจำกงำนสอนปกติมำกจึงสง่ ผลตอ่ กำรพัฒนำกำรจัดกระบวนกำรเรียนรแู้ ก่ ผู้เรียนได้ไม่เต็มที่เท่ำทคี่ วรจะเป็น 2.4 ข้อเสนอแนะ คอื - โครงกำร / นโยบำย ทใ่ี หโ้ รงเรยี นดำเนนิ กำรไมค่ วรซำ้ ซ้อนกันมำกเกินไป 3. หลักฐำนควำมภูมใิ จ
92 แบบรำยงำน วธิ ปี ฏบิ ตั ิท่ีดี (Best Practice) นำงสุนทรี นวลศรี ตำแหนง่ ครชู ำนำญกำรพิเศษ โรงเรยี นบ้ำนลวงเหนอื ปีที่เกษยี ณอำยุรำชกำร ๒๕๖๔ 1. ขอ้ มลู เกยี่ วกบั งำนทีร่ บั ผิดชอบ - โครงกำรสถำนศึกษำเศรษฐกิจพอเพียง - โครงกำรอนรุ กั ษพ์ ลังงำนและส่ิงแวดล้อมมุง่ สูส่ ังคมคำรบ์ อนตำ่ - โครงกำรเปลีย่ นขยะเป็นทรพั ยำกร“ป๋ยุ อินทรยี ใ์ บไมบ้ ด” ประจำปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๑ - โครงกำร ๑ โรงเรยี น ๑ อำชพี ๑ ผลิตภัณฑ์“ปุย๋ อินทรยี ใ์ บไม้บด ชนิดอดั เมด็ ” ประจำปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๑ - โครงกำรโรงเรียนคำรบ์ อนต่ำเปล่ียนหลอดไฟฟ้ำเปน็ หลอด LED ประจำปี ๒๕๖๑ - โครงกำรโรงเรียนคำรบ์ อนต่ำ(ลดกำรใช้ไฟฟำ้ ที่โรงเรยี น) ประจำปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑ 2. ผลงำนควำมภำคภมู ใิ จ หรอื งำนที่ประสบผลสำเร็จในชวี ติ 2.1 วธิ ีดำเนินงำนเกดิ ผลสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำย ช่ือนวัตกรรม “โรงเรยี นอนรุ กั ษพ์ ลงั งำนและสิ่งแวดลอ้ มมุง่ สูส่ ังคมคำรบ์ อนต่ำ” เปำ้ หมำย/จดุ ประสงค์ของกำรมีนวตั กรรม ๑. เพ่ือบูรกำรกจิ กรรมกำรคัดแยกขยะและกระบวนกำรเรยี นรู้ (Problem Based Learning) ๒. เพื่อเปลย่ี นขยะเป็นทรพั ยำกร ผลติ ปยุ๋ หมกั ใบไม้บด ชนดิ อดั เม็ด ๓. เพื่อบูรกำรกิจกรรมอนรุ กั ษพ์ ลงั งำนไฟฟ้ำมงุ่ สู่สงั คมคำร์บอนตำ่ องค์ประกอบ/กระบวนกำร/ขนั้ ตอนของนวัตกรรมประกอบดว้ ย ขน้ั กำรวำงแผน 1. ศกึ ษำนโยบำย กลยุทธข์ องรัฐบำล และสพฐ. 2. กำหนดเป็นนโยบำยของโรงเรยี นด้ำนกำรอนุรักษพ์ ลังงำนและสงิ่ แวดล้อม กำรจดั กำรขยะอยำ่ งเป็นระบบ 3. ประชุมคณะครู คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำ ชมุ ชน ผปู้ กครองเพอ่ื ขอควำมร่วมมือ 4. ศกึ ษำสภำพปจั จบุ นั ปัญหำ กำหนดแผนงำนและคณะทำงำนเพ่ือขบั เคล่ือนโครงกำร 5. กำหนดบทบำท และหน้ำท่ีควำมรบั ผิดชอบของแตล่ ะฝำ่ ย
93 6. กำหนดเคร่อื งมือตดิ ตำม ตรวจสอบและประเมนิ ผล 7. กำรบรู ณำกำรกบั กระบวนกำรเรยี นร้แู ละกจิ กรรมพัฒนำผเู้ รยี น ข้ันดำเนนิ กำร กำรบรู ณำกำรกำรอนรุ ักษ์พลงั งำนและสิ่งแวดล้อม กำรคดั แยกขยะอยำ่ งเปน็ ระบบ 1. ศกึ ษำวิเครำะหห์ ลกั สตู รสถำนศกึ ษำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ประถมศึกษำ 2. ครแู ละนักเรยี นเขำ้ รับกำรอบรม/เขำ้ ค่ำยอนรุ กั ษพ์ ลงั งำนและสงิ่ แวดล้อม 3. จัดกจิ กรรมบรู ณำกำรกำรอนรุ กั ษ์พลังงำน ลดกำรใชพ้ ลังงำนไฟฟ้ำในชีวติ ประจำวัน 4. จัดกจิ กรรมบรู ณำกำรกำรอนุรกั ษ์ส่งิ แวดล้อม กำรคดั แยกขยะอย่ำงเป็นระบบ โดยใชห้ ลักกำร 3Rs Reduce ใช้นอ้ ย Reuse ใช้ซำ้ Recycle นำกลบั มำใชใ้ หม่ 5. กจิ กรรมพฒั นำผูเ้ รียน กิจกรรมชมุ นมุ ปลูกจิตสำนึกรอยเทำ้ เล็ก กจิ กรรมหมสู่ ีประจำวัน 6. ดำเนินกำรตำมแผนงำนทก่ี ำหนดไว้ จัดทำโครงกำรเปลยี่ นขยะเปน็ ทรัพยำกร ปุ๋ยหมกั ใบไม้บด ชนดิ อัดเมด็ จดั ทำผลิตภณั ฑ์ ๑ โรงเรียน ๑ อำชีพ ๑ ผลิตภัณฑ์ 7. กำรติดตำม ตรวจสอบ ประเมินผลหรือ AAR เป็นระยะๆ ตำมแผนงำน 8. รวบรวมข้อมลู กำรดำเนนิ งำนเพอื่ ดูควำมก้ำวหนำ้ ขั้นสรุปและรำยงำนผล 1. สรปุ รำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน เสนอผู้เกย่ี วข้อง 2. จัดนทิ รรศกำร เผยแพร่โรงเรียนในเครือขำ่ ยและผ้ทู สี่ นใจ ควำมสำเรจ็ ที่เกิดขนึ้ และรำงวัลทไ่ี ด้รับ วัน/เดือน/ปี ชอ่ื รำงวัล หน่วยงำนทม่ี อบรำงวัล ๒๐ มกรำคม โลร่ ำงวลั ระดับประเทศ โรงเรยี นบำ้ นลวงเหนอื ได้รบั รำงวลั EGAT Green กำรไฟฟ้ำฝำ่ ยผลิตแหง่ ประเทศ ๒๕๖๑ Learning Awards 2017 ระดับประเทศเปน็ ไทย โรงเรียนคำรบ์ อนต่ำ (ลดกำรใชพ้ ลังงำนไฟฟำ้ ท่ี ๒๐ มกรำคม เกยี รตบิ ตั รกำรไฟฟำ้ ฝำ่ ยผลิต ๒๕๖๑ โรงเรยี น) ประจำปี ๒๕๖๐ แหง่ ประเทศไทย นำงสนุ ทรี นวลศรี ไดจ้ ัดทำผลงำนในกำรประกวด โรงเรียนคำรบ์ อนต่ำ (ลดกำรใช้พลังงำนไฟฟ้ำ ทโ่ี รงเรยี น) ประจำปี ๒๕๖๐
94 ๕ – ๘ กรกฎำคม นำงสนุ ทรี นวลศรี เปน็ วทิ ยำกรครแู กนนำ เกียรติบัตร ระดบั ภำคเหนือ ๒๕๖๑ “Green School Camp คำ่ ยหอ้ งเรยี นสเี ขยี วรัก กำรไฟฟำ้ ฝ่ำยผลิตแหง่ ประเทศ พลงั งำน” โครงกำรโรงเรยี นสเี ขยี ว ดำ้ นกำรลดกำร ไทยร่วมกับสำนักงำน ใช้พลังงำนกำรจดั กำรขยะและอนุรักษ์สง่ิ แวดลอ้ ม คณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั รุ่น ๕ ภำคเหนอื พน้ื ฐำน ๕ – ๘ กรกฎำคม นกั เรียนแกนนำ 3 คน ผ่ำนกำรอบรม เกยี รติบตั ร ระดับภำคเหนอื ๒๕๖๑ “Green School Camp ค่ำยหอ้ งเรียนสเี ขียวรกั กำรไฟฟ้ำฝ่ำยผลติ แหง่ ประเทศ พลงั งำน” โครงกำรโรงเรยี นสเี ขยี ว ดำ้ นกำรลดกำร ไทยร่วมกบั สำนกั งำน ใชพ้ ลังงำนกำรจัดกำรขยะและอนรุ ักษ์ส่งิ แวดลอ้ ม คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั รนุ่ ๕ ภำคเหนอื พ้ืนฐำน 12 สิงหำคม 2560 โรงเรียนบำ้ นลวงเหนือ นำงสนุ ทรี นวลศรี สำนกั งำนคณะกรรมกำร ด.ญ.พชั รำวดี ขำเขียว ไดร้ บั โล่ และเกยี รติบตั ร กำรศึกษำขน้ั พืน้ ฐำน รำงวลั ยอดเยยี่ ม ต่อยอดย่ังยนื ระดับภำค โครงกำร คำ่ ยเยำวชน...รักษ์พงไพร เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษำ สมเดจ็ พระเทพรัตนรำชสดุ ำฯ สยำมบรม รำชกมุ ำรี (ระดับประเทศ ปีที่ 3 วัน/เดอื น/ปี ช่ือรำงวัล หน่วยงำนท่ีมอบรำงวัล ๒๖ กนั ยำยน โรงเรยี นบ้ำนลวงเหนอื ได้รบั กำรคดั เลือกรำงวัล เกียรตบิ ัตร สำนักงำน ๒๕๖๐ Best Practice ในระดับเขตพื้นที่กำรศกึ ษำ คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั และจดั นิทรรศกำรร่วมแลกเปลย่ี นเรียนรู้ พ้นื ฐำน กำรบรหิ ำรจัดกำรขยะ โรงเรียนปลอดขยะ (OBEC ZERO WASTE SCHOOL) ระดบั ภูมภิ ำค โครงกำรกำรขับเคลื่อนนโยบำยกำรจัดกำรขยะ ในสถำนศกึ ษำส่กู ำรปฏบิ ัติทยี่ ั่งยนื ประเทศไทย ไรข้ ยะ “โรงเรยี นปลอดขยะสัญจร ๒๕๖๐” ๖ พฤศจิกำยน โรงเรยี นบำ้ นลวงเหนอื ไดร้ บั รำงวลั มลู นิธิ วำย.เอ็ม.ซ.ี เอ. ๒๕๖๐ โรงเรียนต้นแบบดเี ด่น ด้ำนกำรจัดกำรสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื พัฒนำภำคเหนือ และกำรใช้ภูมิปญั ญำทอ้ งถิ่นในกำรเกษตร กำรประกวด Y Green School Award ๒๐๑๗ โรงเรยี นตน้ แบบดำ้ นกำรอนรุ ักษพ์ ลงั งำน และสิ่งแวดล้อมมุง่ สู่สงั คมคำรบ์ อนตำ่
95 14 ธันวำคม 2560 นักเรียนแกนนำ 3 คน ได้รบั รำงวลั รองชนะเลศิ กรมส่งเสรมิ คุณภำพสง่ิ แวดล้อม อนั ดบั 1 กำรแข่งขันตอบปญั หำ ระดบั กระทรวงทรัพยำกรธรรมชำติ ประถมศกึ ษำเนอื่ งในวนั ส่ิงแวดล้อมไทยฯ สืบสำน และสิ่งแวดล้อม รว่ มกับ พระรำชปณธิ ำน...สำนใจรักษส์ งิ่ แวดล้อม รปู ธรรม เครือข่ำยตำ้ นโลกร้อน กำรจัดงำนรว่ ม ตำมศำสตรพ์ ระรำชำ สกู่ ำรพัฒนำท่ี ยัง่ ยืน (SDGs) 1 สงิ หำคม 2559 โรงเรียนบ้ำนลวงเหนือ ไดร้ บั โล่รำงวัล สำนักงำนคณะกรรมกำร ผ่ำนกำรนำเสนอผลงำนดเี ดน่ (Best Practice) กำรศกึ ษำข้ันพืน้ ฐำน ระดับภมู ิภำค ระดบั ดีเยยี่ ม โครงกำรโรงเรียนดี ประจำตำบล ๑ โรงเรียน ๑ อำชพี ๑ ผลิตภณั ฑ์ ภำคเหนือตอนบน ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2559 30 พฤศจกิ ำยน โรงเรยี นบ้ำนลวงเหนอื นำงสนุ ทรี นวลศรี ครูแกน กรมส่งเสรมิ คุณภำพสงิ่ แวดล้อม 2559 นำและนกั เรียนแกนนำ ได้รบั กระทรวงทรพั ยำกรธรรมชำติ โล่รำงวลั ดีเดน่ ด้ำนกำรจัดกำรขยะท่เี ปน็ ระบบและ และสิ่งแวดล้อม รว่ มกบั มสี ่วนร่วม และนักเรียนแกนนำโรงเรยี นบำ้ นลวง เครือขำ่ ยต้ำนโลกร้อน เหนือ 3 คน ไดร้ ับรำงวลั รองชนะเลศิ อนั ดับ 1 กำร แข่งขันตอบปัญหำ ระดบั ประถมศกึ ษำ เน่อื งในวนั สง่ิ แวดลอ้ มไทยฯ : Thailand 4.0
96 วัน/เดือน/ปี ชอ่ื รำงวัล หนว่ ยงำนท่ีมอบรำงวัล ๒๙ พฤศจกิ ำยน โรงเรยี นบ้ำนลวงเหนอื เป็นสถำนศึกษำพอเพียง โลร่ ำงวัล ระดบั ประเทศ ๒๕๖๐ ทม่ี ีผลกำรปฏิบตั ิทเ่ี ป็นเลศิ ระดบั ประเทศ ศูนย์สถำนศกึ ษำพอเพียง ปี ๒๕๕๙ มูลนิธิยวุ สถริ คุณ 7 ธนั วำคม 2559 นำงสนุ ทรี นวลศรี รบั เกยี รตบิ ตั ร Best Practice เกียรตบิ ตั ร ศูนย์สถำนศึกษำ เศรษฐกจิ พอเพียง ระดบั ประเทศ ปี 2559 พอเพยี ง มลู นิธยิ ุวสถริ คุณ ดำ้ นกำรพฒั นำกำรเรียนรตู้ ำมหลกั ปรชั ญำของ เศรษฐกิจพอเพยี ง 7 ธันวำคม 2559 เดก็ หญิงรตั นำภรณ์ อ่ินคำ รบั เกียรตบิ ัตร Best เกียรติบตั ร ศูนยส์ ถำนศึกษำ Practice เศรษฐกิจพอเพียง ระดบั ประเทศ พอเพยี ง มลู นธิ ิยวุ สถิรคุณ ปี 2559 ด้ำนกำรพฒั นำกำรเรยี นรู้ตำมหลักปรชั ญำ ของเศรษฐกิจพอเพียง ควำมภำคภูมใิ จด้ำนเศรษฐกิจพอเพียง 2.2 ปจั จัยที่เอ้ือใหป้ ระสบผลสำเรจ็ คือ ๑. กำรวำงแผนทีด่ ี ควำมต่อเนือ่ งของกจิ กรรม กำ้ วแรกและก้ำวต่อไป ๒. ทีมงำนท่ีดี กำรทำงำนเป็นทมี ทั้งครู นกั เรียน บุคลำกรทง้ั ในและนอกสถำนศึกษำ ๓. กำรเรียนรูท้ ด่ี ี มีกำรเรยี นรู้แบบบรู ณำกำร โดยใช้วิทยำศำสตรเ์ ปน็ แกนกลำง ๔. กำรมจี ิตสำนึกท่ีดี ควำมมงุ่ มัน่ เสยี สละ อุทศิ ตน ๕. กำรมเี ครือข่ำยท่ีดี หนว่ ยงำน องคก์ รและมลู นิธทิ สี่ นบั สนนุ สง่ เสริม 2.3 ปัญหำ อปุ สรรค จดุ ท่ีควรพฒั นำ กำรพัฒนำนกั เรียนแกนนำควรมีกำรสง่ ตอ่ จำกรนุ่ พส่ี ่รู นุ่ นอ้ ง
97 2.4 ขอ้ เสนอแนะคือ ๑. กิจกรรมดำ้ นส่ิงแวดลอ้ มเป็นงำนทีต่ ้องทำต่อเนอื่ ง และสง่ ต่อจำกรุ่นสู่รุ่น ๒. กำรปลกู มจี ติ สำนึกดำ้ นกำรอนุรกั ษ์พลังงำนและสง่ิ แวดลอ้ มตอ้ งใช้เวลำแต่มคี วำมยัง่ ยนื หลักฐำนของควำมภำคภูมิใจ
98 ประวตั ิ ๑. ข้อมูลส่วนตวั ๑.๑ ช่ือ – สกุล นำงสำวกรกฏ หลำนรกั ษ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐำนะ ครชู ำนำญกำร ๑.๒ วัน เดอื น ปี เกิด ๑๘ มนี ำคม พ.ศ.๒๕๒๕ อำยุ ๓๖ ปี ๑.๓ ที่อยปู่ ัจจบุ นั บำ้ นเลขที่ ๑๖๙ ตำบลหนองแฝก อำเภอสำรภี จังหวดั เชยี งใหม่ รหสั ไปรษณีย์ ๕o๑๔o โทรศพั ท์ O๘๘-๙๙๒๔๖๓๒ ๑.๔ สถำนภำพ ( / ) โสด ( ) สมรส ( ) อื่นๆ ๑.๕ สถำนท่ีทำงำน โรงเรียนอนบุ ำลเชียงใหม่ เลขท่ี ๑๓๕ ถนนรำชมรรคำ ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ รหัสไปรษณีย์ ๕๐๒๐๐ โทรศพั ท์ ๐๕๓- ๒๗๘๔๒๗ ๑.๖ ประสบกำรณ์กำรทำงำน ปี ๒๕๕๓ – ๒๕๕๕ โรงเรียนบำ้ นห้วยแก้ว อ. แม่ออน จ. เชยี งใหม่ ปี ๒๕๕๕ – ปัจจุบัน โรงเรยี นอนบุ ำลเชียงใหม่ อ. เมือง จ. เชยี งใหม่ ๑.๗ ประวัติกำรศกึ ษำดงู ำนและนำเสนองำนต่ำงประเทศ ปี ๒๕๕๙ ประเทศ Italy (At the University of Bergemo) อดุ มกำรณ์ กำรทำงำนและกำรดำเนินชวี ิตในควำมเปน้ ครขู องข้ำพเจ้ำได้อทุ ิศควำมรูแ้ ละเวลำเพือ่ กำรสร้ำง บุคคลำกรชองประเทศชำตเิ ห็นผลประโยชน์ของประเทศชำติ ของผเู้ รียน ของส่วนรวมเปน็ ทีต่ ัง้ ยดึ หลกั ธรรม ทำงศำสนำ ไก้แก่ อิทธิบำท ๔ โอวำท ๓ พรหมวิหำร ๔ ปฎิบตั ธิ รรมตำมรอยพระพทุ ธบำท โดยยึดหลกั กำร ทำงำน ดว้ ยควำมอตุ สำหะ ขยัน อดทน มุ่งมน่ั และรับผิดชอบตอ่ ผลสมั ฤทธ์ขิ องงำน โดยยึดหลกั ประหยดั ค้มุ ค่ำ มีประสทิ ธิภำพ ใช้ทักษะในกำรดำรงชีวติ อย่ำงเหมำะสม มีนสิ ยั ขยันหมนั่ เพียร รกั กำรทำงำน มุ่งม่ันตอ่ ผลสัมฤทธ์ิของงำน ได้ใชเ้ วลำในกำรเรยี นกำรสอนอย่ำงคมุ้ คำ่ ท้งั ในเวลำและนอกเวลำรำชกำร โดยปฏบิ ตั ิ
99 หนำ้ ทอ่ี ยำ่ งเห็นคณุ ค่ำในทรพั ยส์ นิ ของทำงรำชกำร เปน็ แบบอย่ำงในกำรประพฤติตนและกำรปฏบิ ตั กิ ำรสอน จนนักเรียนท่ีทำกำรสอน 1.ขอ้ มูลเกย่ี วกบั งำนท่ีได้รบั ผดิ ชอบ ๒. กำรปฏิบัติงำนในหน้ำท่ี (ข้อมลู กำรปฏิบตั ิหน้ำท่ี ปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๕๕ – ๒๕๕๙) ๒.๑ กำรปฏิบัตกิ ำรสอน ขำ้ พเจำ้ ไดร้ บั คำสั่งแตง่ ตั้งใหเ้ ปน็ ครปู ฏิบัตหิ น้ำทีค่ รูประจำช้ัน ชั้น ประถมศึกษำปีท่ี ๓/๒ เปน็ ห้องเรยี นกำรเรียนรแู้ บบองคร์ วมซ่งึ เปน็ โรงเรียนในโครงกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน ตำมหลักสูตรกระทรวงศึกษำธกิ ำร กำรปฏิบตั กิ ำรสอน ขำ้ พเจ้ำมีหน้ำท่ที ำกำรสอนในกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ทเ่ี ป็นกลมุ่ สำระหลัก ๓ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ด้วยกัน ตำมคำสัง่ กำรจัดชน้ั เรียนของโรงเรยี นอนบุ ำลเชยี งใหม่ ได้แก่ ๑) กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ๒) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ ๓) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ๒.๒ กิจกรรมพัฒนำผ้เู รียนท่ีรับผดิ ชอบ ๑) กิจกรรมลูกเสือสำมัญชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี ๓ จำนวน ๑ หอ้ งเรยี น คือ ชัน้ ประถม ศึกษำปที ี่ ๓/ ๒ และ ๒) กิจกรรมแนะแนวชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี ๓/๒ ๒.๓ หน้ำที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมำยเป็นพเิ ศษ ๑) ได้รบั มอบหมำยให้เปน็ ครผู ้สู อนนำฏศลิ ป์พื้นบำ้ นล้ำนนำ - กำรขบั ซอล้ำนนำ - ดนตรพี ื้นเมือง - กำรฟอ้ นล้ำนนำ ๒) ได้รับมอบหมำยใหก้ อ่ ต้งั วงอังกะลุงประจำโรงเรียน ๓) ไดร้ บั มอบหมำยใหเ้ ป็นคณะทำงำน กลมุ่ งำนสัมพันธ์ชมุ ชน (ทำหนำ้ ที่ชว่ ยงำนด้ำน ประชำสัมพนั ธ์ ประสำนงำนกับบุคลำกรทง้ั ในโรงเรยี น และนอกโรงเรียน ) ๔) ไดร้ บั มอบหมำยให้ เปน็ คณะทำงำนกิจกรรม/โครงกำรของโรงเรยี น ตำมที่ได้รับมอบหมำย ๕) ไดร้ ับมอบหมำยให้ ทำหนำ้ ทค่ี รูเวรประจำวันพุธ ๒.๔ กิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร ท่จี ัดรว่ มกับโครงกำรกำรเรยี นรู้แบบองค์รวม ในสำยชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๓ ได้แก่ - กิจกรรมศึกษำแหล่งเรยี นรู้ ในจังหวดั และ ตำ่ งจงั หวัด ตำมทไี่ ดร้ บั มอบหมำย
100 ๒.๕ หนำ้ ทพี่ เิ ศษอ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ - เปน็ ครูผ้คู วบคมุ ครูผสู้ อน ผเู้ รียนกล่มุ สนใจกำรแสดงนำฎศิลป์ลำ้ นนำเพื่ออนรุ ักษ์ และสืบ สำนวัฒนธรรม จำนวนนกั เรยี น ๔o คน - กำรขับซอล้ำนนำ - ดนตรีพนื้ เมือง - กำรฟ้อนลำ้ นนำ -ได้รับมอบหมำยให้กอ่ ตั้งวงอังกะลุงประจำโรงเรียน -ไดร้ ับมอบหมำยให้เปน็ คณะทำงำน กลุ่มงำนสมั พนั ธ์ชมุ ชน (ทำหนำ้ ท่ีช่วยงำนด้ำน ประชำสัมพันธ์ ประสำนงำนกบั บุคลำกรท้ังในโรงเรยี น และนอกโรงเรยี น ) - ไดร้ ับมอบหมำยให้ เปน็ คณะทำงำนกจิ กรรม/โครงกำรของโรงเรยี น ตำมทไี่ ด้รับ มอบหมำย - ไดร้ บั มอบหมำยให้ ทำหนำ้ ทคี่ รูเวรประจำวนั พธุ 2.ผลงำนควำมภำคภูมิใจ หรอื งำนท่ีประสบควำมสำเรจ็ ในชวี ิต ควำมเป็นมำและควำมสำคัญ “ประเพณที ง้ั หลายยอ่ มมีประโยชน์ในการดาเนนิ ชีวติ ของแต่ละคน เรามปี ระเพณีของชาติไทยเปน็ สมบตั ิ เราควรจะยนิ ดีอย่างย่งิ และชว่ ยกันส่งเสรมิ รักษาไว้ เพ่ือความเจริญก้าวหน้าของประเทศ” พระบรมรำโชวำทของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอย่หู วั ในพธิ ีพระรำชทำนปรญิ ญำบัตรของ จฬุ ำลงกรณม์ หำวิทยำลัย ๒๑ เมษำยน ๒๕๐๓ “การศกึ ษาดา้ นศิลปวัฒนธรรมเปน็ การศกึ ษาท่ีสาคญั และควรจะดาเนนิ ควบคู่กันไปกบั การศกึ ษาด้าน วทิ ยาศาสตร์ เพราะความเจริญของบุคคล ตลอดจนถึงความเจริญของประเทศและของโลกโดยส่วนรวมดว้ ยน้นั มที ั้งทาง วตั ถุและจิตใจ ความเจริญทั้งสองทางนี้ จะตอ้ งมปี ระกอบกัน เกอ้ื กูลและสง่ เสรมิ กันพร้อมมลู จงึ จะเกดิ ความเจริญทแ่ี ทจ้ ริงได้ ประเทศท้งั หลายจงึ ต่างพยายามสง่ เสริมการศึกษาดา้ นศลิ ปวัฒนธรรมน้ี พรอ้ มกนั ไปกับการศกึ ษาดา้ นวิทยาศาสตร์” พระบรมรำโชวำทของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยู่หัว ในพิธพี ระรำชทำนปริญญำบตั รของจฬุ ำลงกรณ์มหำวทิ ยำลัย ๑๐ กรกฎำคม ๒๕๓๕ จำกพรบรมรำโชวำททง้ั 2 ครง้ั แมว้ ำ่ จะห่ำงกนั กว่ำ 30 ปี ไดแ้ สดงให้เหน็ วำ่ พระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยู่หวั ทรง ไดต้ ดิ ตำมและทรงเห็นควำมสำคญั ของกำรศกึ ษำด้ำนศิลปวัฒนธรรมอยำ่ งมำก ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั คำกลำ่ วของนัก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129