4. บัตรภาพ บัตรคำ แถบประโยค 5. เกม Luck Drawn (เกมจับฉลาก) 6. เกม Animal game
บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนร/ู้ ปญั หาหรืออปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะหรือแนวทางการปรบั ปรุง 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน 2.1. ด้านความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ด้านคุณลกั ษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกันจารัตน์ ใจหาญ) ตำแหนง่ อัตราจ้า
แผนการจัดการเรยี นรู้ Unit 3 Healthy habits (Lesson 2) 1. สาระสำคญั การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับอาการป่วยไข้ต่าง ๆ บทสนทนาถาม – ตอบ เก่ียวกับอาการป่วยไข้การให้ คำเสนอแนะ (Suggestion) Present Simple Tense กริยา have ออกเส่ียงคำที่ข้ึนต้นด้วยพยัญชนะ t การ อ่านจบั ใจความ และการเขียนเรยี งความ เปน็ การเรยี นรภู้ าษาอังกฤษเพอื่ นำไปใชส้ ื่อสารในชีวิตประจำวัน 2. ตัวชี้วดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - พดุ ถาม-ตอบสนทนาถึงอาการปว่ ยไข้ได้ - พูดและเขยี นคำศัพท์ถึงอาการปว่ ยไข้ได้ - พูดและเขา้ ใจความหมายของคำศัพท์และประโยคตา่ งๆ ในบทน้ไี ด้ - ใชป้ ระโยคให้คำเสนอแนะได้ - อา่ นจบั ใจความได้ - เขียนบรรยายสุขนิสัยในการบริโภคอาหารได้ - เลน่ เกมและรอ้ งเพลงทางภาษาตามทก่ี ำหนดได้ - ออกเสยี งคำทขี่ ้ึนต้นด้วยพยญั ชนะ t ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - บทสนทนาทใ่ี ช้ในการถาม-ตอบเกีย่ วกับอาการปว่ ยไขต้ า่ ง ๆ e.g. A : What’ s wrong with Molly? B : She has a headache. - คำศัพทเ์ กย่ี วกับอาการปว่ ยไขต้ ่าง ๆ - Grammar : 1. Present Simple Tense e.g. She always goes to the Mall. We play football every day. 2. Suggestion e.g. You should exercise.
You shoulden’t eat fast food. 3. have = learn, eat e.g. We have English on Monday. (have=learn) She has lunch at noon. (has = eat) - Pronunciation : intial sound [k] - การอ่านจับใจความ - การเขยี นเรียงความ - การใชภ้ าษาในการฟัง / พูดในสถานการณ์ตา่ งๆ ที่เกดิ ข้ึนในโรงเรียน - ความแตกต่างของเสยี งตวั อักษรภาษาอังกฤษ และภาษาไทย - มารยาททางสงั คมท่ดี ี และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การรอ้ งเพลงภาษาอังกฤษ และการเลน่ เกม - การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ทเ่ี กีย่ วข้องใกล้ตวั จากส่อื และ แหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน - 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทักษะการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มวี นิ ัย - ใฝ่เรยี นรู้ - อยู่อย่างพอเพียง 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 6.1 ชว่ั โมงที่ 5-6
กจิ กรรมนำส่กู ารเรียน 1. ใหน้ ักเรยี นทบทวนคำศัพท์ ด้วยบัตรคำ และบัตรภาพ 2. ครูชบู ัตรภาพเก่ียวกับอาการป่วย ดงั นี้ เจ็บคอ เป็ นหวดั ปวดหวั ปวดฟัน ปวดทอ้ ง ครชู บู ัตรทลี ะใบ แลว้ ถามนักเรียนวา่ ภาพดงั กล่าวมลี กั ษณะอาการป่วยอยา่ งไร นกั เรยี นช่วยกันตอบ เป็นภาษาไทย เชน่ Teacher : (ชูบัตรภาพ รูป “ปวดฟนั ”) บคุ คลในภาพน้ีมีอาการปว่ ยอย่างไร Students : ปวดฟัน จากนัน้ ใหน้ ักเรียนช่วยกันเดาคำศํพท์และตัวอักษรวา่ ออกเสยี งอยา่ งไร สะกดอยา่ งไร เช่น Teacher : (ชูบตั รภาพ “ปวดฟัน”) It starts with “T”. พรอ้ มกับใช้มือชี้ไปที่ ฟัน Students : Tooth. Teacher : Correct. Next the first English letter. Students : A Teacher : Yes, and then the first letter of Cat. Students : C Teacher : I You We They ……. She It Students : H and E Teacher : Collect it together. Students : Toothache. Teacher : ทธู เอค Students : ออกเสียงตาม 3. ครูบอกนักเรียนว่าใน Lesson 2 นจ้ี ะเรียนคำศัทพเ์ กี่ยวกบั อาการป่วย การใช้ should และ shooldn’t รปู ประโยคในการถาม – ตอบ อาการ และนกั เรยี นจะไดเ้ ขยี นบทความทใี่ ช้ Present Simple Tense กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ 1. ครชู บู ตั รภาพ มาตดิ บนกระดานทงั้ 8 ภาพ ดงั นี้ รูปออกกาลงั กาย รูปอาบน้า แปรงฟัน ปวดศีรษะ
ปวดฟัน ปวดทอ้ ง เจ็บคอ เป็ นหวดั จากนน้ั ครูชบู ตั รคำทีละ 1 ใบ พรอ้ มกบั ออกเสยี งคำศัพท์คำน้นั แล้วใหน้ กั เรียนทุกคนช่วยกันจบั คู่ บัตรคำดังกล่าวกับภาพให้ถูกต้อง เม่ือได้ครบแลว้ ให้นกั เรยี นฝกึ ออกเสียงตาม CD/Track 36 2-3 รอบ โดยดูจากในหนงั สือเรยี น หน้า 36 Look, listen and repeat. do eerise take a shower clean the teeth headache toothache stomachache sore throat cold ครสู ุ่มนกั เรียน 8 คน ออกมาทำท่าทางตามบตั รภาพ หน้าชั้นเรียน นักเรยี นที่เหลือช่วยกันเดาวา่ เปน็ คำศัพทภ์ าษาองั กฤษคำใด 2. นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรยี น หน้า 36 ข้อ 2 Listen and tick (√) David’s habits. ครชู ้ไี ปยงั แต่ ละภาพว่า กำลงั ทำอะไร นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบ Teacher : What is he doing? (ชีไ้ ปยังภาพท่ี 1) Students : Having a shower. (กำลงั อาบน้ำ) ภาพท่ี 1 : having a shower? (กำลงั อาบน้ำ) ภาพที่ 2 : playing football? (กำลังเล่นฟุตบอล) ภาพที่ 3 : eight hours’ sleep? (นอน 8 ช่ัวโมง) ภาพท่ี 4 : eating loilipop? (กำลังกนิ อมยม้ิ ) ภาพที่ 5 : drinking cola? (กำลงั ด่ืมนำ้ อัดลม) ภาพท่ี 6 : eating fruits? (กำลงั รับประทานผลไม)้ ภาพที่ 7 : cleaning teeth? (กำลงั ทำความสะอาดฟัน) จากน้ันครเู ปดิ CD/Track 37 3 รอบ ใหน้ กั เรียนฟัง และขีดเครอื่ งหมาย √ ลงในช่องวา่ งใตภ้ าพ เม่ือเป็นสขุ นสิ ยั ของ David ครเู ปดิ CD อีกครั้งหน่ึงเพ่ือเฉลยคำตอบ A : Hello, David B : Hello. A : Can I ask you some questions? B : OK. A : Do you eat a lot of fruit? B : Yes, I love fruit, especially apples. I always eat a lot of them. A : OK. What about sport? Do you do exercise every day?
3. ครเู ขยี นประโยคถาม – ตอบ สขุ ภาพบนกระดาน และให้นกั เรียนจดลงในสมุด A : What’s wrong with + บุคคลท่ีถามถึง ? B : He / She + has a + อาการ. ใหน้ กั เรยี นเปิดดตู ัวอยา่ งประโยคในหนังสือเรยี น หนา้ 37 ข้อ 3 Look, ask and answer. ครูช้ี ไปที่ Robert แลว้ ถามนักเรียนตามรูปประโยคดังกลา่ ว นกัเรียนทกคุ นช่วยกันตอบ เช่น Teacher : What’s wrong with Robert? Students : He has a toothache. ครูช้ีไปทร่ี ปู ภาพแต่ละรปู แล้วพูดถามและใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบจนครบทุกรูป ครสู ่มุ นักเรียน 3-4 คน ออกมาทำท่าทาง แล้วให้เพอ่ื นๆ เดา โดยครเู ปน็ ผู้ถาม เชน่ Clow : (ทำทา่ ทางเจบ็ คอ) Teacher : What’s wrong with Clow?
Ram : He has a sore throat. Teacher : Very good. 3. ครสู อนการใช้ should / shouldn’t โดยครจู ดโครงสร้างและอธิบายการใช้ให้นกั เรียนฟัง ดงั นี้ Should (ควรจะ) เปน็ การเสนอแนะให้ผอู้ นื่ ปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำ Shouldn’t (ไมค่ วรจะ) เป็นการ เสนอแนะใหผ้ อู้ ืน่ ไม่ควรปฏบิ ัตติ ามการกระทำน้ันๆ โครงสร้างประโยค + V.1. (ประธาน) + should should’t เช่น You should go to bed. คณุ ควรจะเขา้ นอน He should drink some milk. เขาควรจะด่ืมนม Mana shouldn’t drive fast. มานะไม่ควรขบั รถ เปน็ ตน้ นักเรียนจดโครงสร้างคำอธิบายการใช้และตัวอย่างลงในสมุดของตนเอง จากนั้นให้นักเรียนแต่ง ประโยค Should and Shouldm’t คนละ 1 ประโยค แล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนให้นักเรียน ทำแบบฝึกหัด หน้า 29 ข้อ 3 Look and complete. โดยให้นักเรียนเติมคำและข้อความลงใน ช่องว่างให้สมบูรณ์ ครูเฉลยคำตอบ นักเรียนทุกคนช่วยกันอ่านประโยคท่ีสมบูรณ์พร้อมกับช่วยกัน แปลเป็นภาษาไทย 1. He has a cold. He should do some exercise. 2. He has a stomachache. He should go to the doctor. 3. She has a toothache. She shouldn’t eat candies. 4. He has a headache. He should have medicine. 5. She has a sore throat. She shouldn’t have a cold water. 4. ใหน้ ักเรยี นดูหนงั สอื เรยี น หน้า 37 ข้อ 4 Listen and match. ใหน้ กั เรยี นอา่ นขอ้ ความทลี ะ ข้อความจนครบ ครูเปิด CD/Track 38 2 รอบ เพอื่ จบั คปู่ ระโยค 1. A : I have a cold. นกั เรยี นช่วยกนั เฉลยคำตอบ และส่งตBวั แทน:ออกมYาoเขuยี sนhoคuำlเdฉeลxยeบrcนisกeร.ะดาน 1. b 2. 2AB. c : 3IY. hoeauvsehaoutoldo4nt.h’atdcehaet.anyt5h.inag and take medicine. : 1. 3. A : I have a headache. B : You should go to bed. 4. A : I have a stomachache. B : You shouldn’t eat candies and lollipops.
ครสู มุ่ นักเรยี น 5 คู่ ให้ลุกขึ้นยืน เพ่ือพูดบทสนทนาดงั กลา่ ว คู่ละ 1 ข้อ คนละ 1 ประโยค กจิ กรรมรวบยอด 1. นักเรยี นดูภาพและคำใบ้เพื่อท่ีจะนำตัวอักษรของคำศัพทน์ ้ันมาเติมลงในช่องปรศิ นาอักษรไขว้ใน แบบฝึกหดั หนา้ 28 ขอ้ 1 Look and complete. นักเรียนดูรปู ภาพ และครูอา่ นคำใบ้ แลว้ นกั เรียนเตมิ อักษรให้สมบรู ณ์ เช่น Teacher : Look alt picture number 1. The girl is cleaning her…. Students : Teeth. Teacher : Yes, how do you spell “teeth”? Students : T – E – E – T – H ครูถามและให้นักเรียนตอบ จนครบทง้ั 8 ข้อ 1. teeth 5. toothache 2. exercise 6. stomachache 3. shower 7. throat 2. ให้นักเรียนท4ำ.แบhบeaฝdึกacหhัดe หน้า 29 ข้อ 4 Liste8n. , croeladd and match. นักเรยี นอ่านออกเสยี ง ข้อความ ทีละประโยค จากน้นั ครเู ปิด CD/Track 43 2-3 รอบ เพ่ือให้นักเรียนจบั คขู่ ้อความ ครูสุ่มนกั เรยี น 6 คน อา่ นข้อความจับคูเ่ รียบร้อยแลว้ พรอ้ ม 3. นกั เรียนดูแบบฝึกหดั หน้า 35 ขอ้ 5 Circle the odd one cut. แล้ววงกลมคำศพั ท์ทีไ่ ม่เข้าพวกเสร็จ แล้วครูถามนกั เรียนถึงคำตอบว่เพราะเหตใุ ดจงึ ไม่เข้าพวก แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันวิเคราะห์คำตอบ 1. qrapes. 2. swimming 3. pears 4. hot dog 5. office 6. cold 4. ครตู ดิ แถบประโยคบนกระดาน ดังนี้ Well, you should do more exercise. Hello, Harry Do you like doing exercise? How are you? What’s wrong?
นกั เรียนเลอื กแถบประโยคให้เหมาะสมกับคำตอบของ Harry ในแบบฝกึ หัด หนา้ 30 ข้อ 6 Write the sentences in the box in the correct place. Then listen and check. จากน้นั ให้ นกั เรยี นฟัง CD และตรวจคำตอบ 1. Hello Harry. 2. How are you? 3. What’s wrong? 4. Do you like doing exercise? 5. Well, you should do more cxercise. ให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพื่อน ถาม-ตอบ ตามบทสนทนาดงั กล่าว ครสู มุ่ นกั เรียน 2 คู่ ออกมาสนทนา โตต้ อบกันหนา้ ชน้ั เรียน 5. ครูสรา้ งสถานการณ์ 5 สถานการณ์ แล้วให้นกั เรยี นแนะนำ โดยใช้คำว่า sould และ shouldn’t แล้วครูอธิบายการใช้ should และ shouldn’t อกี ครัง้ สถานการณ์ 1. I have a cold. 2. I have a sore throat. 3. I have a toothache. 4. I have a headache. 5. I have a stomachache. ครูพูดสถานการณ์ทลี ะสถานการณ์พร้อมสมุ่ นักเรยี น 2 คน ตอ่ 1 สถานการณ์ ให้คำแนะนำ 1 อย่างไมซ่ ำ้ กัน 6. ครใู ห้นักเรยี นเลน่ เกม Suggestion เพอ่ื ใหน้ กั เรียนฝึกบทสนทนา ถาม / ตอบ และให้คำแนะนำ หรอื ชว่ ยแกส้ ถานการณ์ ซ่ึงมีวิธดี ังน้ี 1. นักเรียนแบง่ ออกเป็น 2 ทมี เทา่ ๆ กัน นั่งเกาะกลมุ่ กันบนพ้ืนห้อง และตั้งชื่อกลุ่มของตน
2. ให้แต่ละทีมชว่ ยกันแตง่ ประโยคสรา้ งสถานการณ์ต่างๆ ในทางบวกหรอื ทางลบก็ได้ กลมุ่ ละ 5 ประโยค ให้เลขาฯ ของกลุ่มจดบันทึกประโยคที่แตง่ 3. เม่อื ทุกคนพร้อม ใหต้ ัวแทนทีมที่ 1 ยืนขนึ้ เพ่ือพูดสถานการณ์ แล้วใหท้ ีมตรงข้ามให้ คำแนะนำ ให้นักเรยี นทำท่าทางประกอบใหส้ มจริง เช่น ทีมตะวัน : I win a lottery. (ทำทา่ ตน่ื เต้น ตาโต) ทีมตรงข้ามคือทีมจันทรา ช่วยกันคดิ แลว้ ให้ตวั แทนยืนขึน้ พดู ทีมจันทรา : You should travel around the world. 4. จากนนั้ ใหต้ วั แทนอกี ฝ่าย เป็นผู้เร่ิมตน้ ประโยค เชน่ ทมี จันทรา : I have no money. ดงึ ผ้ากระเปา๋ ผา้ ซับในสีขาว ทงั้ 2 ของ กางเกงนักเรียนออก ตหี น้าเศร้า ทีมตะวัน : You shouldn’t buy too many candies. หมายเหตุ ตวั แทนที่ยืนข้ึนพูดทุกครง้ั ต้องไมซ่ ้ำกนั 5. ทมี ท่แี ต่งประโยคสร้างสถานการณไ์ ด้ถกู ต้อง จะได้ 1 คะแนน และถ้าสามารถช่วยชแ้ี นะ แก้สถานการณ์ได้ จะได้อีก 1 คะแนน เมื่อเกมสน้ิ สดุ ลง จึงนบั คะแนน ทีมท่ีไดค้ ะแนน มากทส่ี ุด คือผู้ชนะ
บันทึกผลการจัดการเรียนรู/้ ปญั หาหรืออุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะหรอื แนวทางการปรับปรงุ 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรียนของนกั เรยี น 2.1. ดา้ นความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ด้านคุณลกั ษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกันจารตั น์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อัตราจ้าง
6.2 ชั่วโมงท่ี 7-8 กิจกรรมนำสู่การเรยี น 1. ครูทบทวนคำศัพท์และรปู ประโยคของบทเรียนทผ่ี า่ นมา ด้วยบัตรภาพ บตั รคำ และแถบประโยค 2. ครบู อกจุดประสงค์การเรยี นรู้ของชวั่ โมงที่ 7-8 ว่านักเรยี นจะไดเ้ รยี นรูเ้ ร่ืองการเจบ็ ปว่ ย การต้งั คำถามเพ่ือถามถึงอาการเจบ็ ปว่ ย การอ่านจบั ใจความ และการเขยี นเรียงความ กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้ 1. ครูทบทวนอาการป่วยตา่ งๆ ด้วยการใบ้ทา่ ทาง แลว้ นักเรยี นบอกคำศัพท์ใหต้ รงกับท่าทาง และ ทบทวนประโยคในการถาม – ตอบอาการ และการแนะนำตา่ ง ๆ ด้วยแถบประโยค - ให้นกั เรยี นเปดิ หนังสอื เรียน หน้า 38 ข้อ 5 Look, ask and answer. ครูช้ีไปท่ีรูปภาพ แล้ว ถามนกั เรียน จากนนั้ ให้นักเรียนทกุ คนช่วยกันตอบ เช่น Teacher : What’s wrong with Catherine? Students : She has a headache. Teacher : She should go to bed. - นกั เรียนจับคู่กบั เพื่อนฝกึ ถาม – ตอบ ตามตัวอย่าง โดยเลือกภาพมา 1 ภาพ ครจู บั เวลา 5 นาที จากนัน้ ครสู ่มุ นักเรยี น 4-6 คู่ ออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน - นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบและใหค้ ำแนะนำ โดยครูเลือกนักเรียนออกมาแสดงอาการป่วย หนา้ ชัน้ เรยี นไมซ่ ้ำกนั 5 คน คนละ 1 อาการ เช่น Kwan: (ทำท่าทางปวดท้อง) Teacher: What’s wrong with Kwan? Students: He has a stomachache. He should go to see the doctor. 2. อ่านข้อความแล้วจับคู่ในหนังสือเรียน หน้า 38 ข้อ 6 Read and match. Then listen and check. จากนั้นนักเรียนฝึกอ่านออกเสียงประโยคทีละประโยคด้วยตนเอง ครูเปิด CD/Track 39 2 รอบ เพอื่ ตรวจคำตอบ ให้นกั เรียนฝกึ ออกเสยี งตาม CD A : How are you? B : I’m not well A : Oh, what’swrong? B : I have a toothache. A : Don’t eat anything. Then go to the dentist’s. B : That’s a good idea. A : Do you always clean your teeth after meals? B : No, I don’t.
นกั เรียนจับคู่กบั เพื่อนแตง่ ประโยคบทสนทนาโดยดจู ากข้อ 6 เปน็ แบบในการแต่งบทสนทนา ครูสุ่ม เรียกนักเรยี น 5-6 คู่ ออกมานำเสนอบทสนทนาท่แี ต่งข้นึ หนา้ ช้นั เรียน A : How are you? B : I’m not well. A : What’s wrong with you? B : I have a toothache. A : Do you clean your teeth after meals? B : No, I don’t. A : You should clean your teeth after meals. B : Thank you. A : Don’t eat anything. Then go to the clentist’s. B : That’s a good idea. 3. ครูสอนการใช้ do และ does โดยปกติ do และ does จะมคี วามหมายวา่ “ทำ” ก็ต่อเมือ่ เปน็ คำกริยาแท้ แต่เมื่อ do และ does ทำหนา้ ทเี่ ป็นคำกริยาช่วย Auxiliary Verb = คำกรยิ าที่ใชก้ บั คำกริยาแทข้ องประโยคเพ่ือใหร้ ูปประโยคสมบรู ณ์ โครงสร้างประโยค (Present Simple Tense) ประโยคปฏเิ สธ I You + do not + V.1 (สว่ นขยาย) We (รปู ยอ่ don’t) They He + does not She (รูปยอ่ doesn’t) It
ประโยคคำถาม I Do You + V.1 (ส่วนขยาย) We They Does he she เชน่ Does he sing a song? เขารอ้ งเพลงใชไ่ หม Do you have a pencil? คณุ มดี นิ สอไหม Danny doesn’t like oranges. ฉันไม่ชอบส้ม I don’t have brother. ฉนั ไมม่ ีพ่ีชาย - ครูอธบิ ายหลกั การใช้ Do และ Does จากนั้นจดโครงสรา้ งและตัวอยา่ งลงบนกระดาน นักเรียน จดลงสมดุ ตนเอง - นักเรียนทำแบบฝึกหดั หน้า 28 ข้อ 2 Complete the questions with do and does. โดยเลอื ก Do หรอื Does มาเติมในช่องว่างใหถ้ ูกต้อง โดยใช้ขอ้ มลู ตามความเป็นจรงิ จากนัน้ ครเู ฉลยคำตอ 1. Do you like chocolate? Yes, I do. 2. Do you go swimming everyu clay? Yes, I do. (ใช่) No, I don’t. (ไม่ใช่) 3. Does you mother sometimes have a sore throat? Yes, she does. (ใช่) No, she doesn’t. (ไมใ่ ช่) 4. Does your brother clean his teeth every day? Yes, she does. (ใช)่ No, she doesn’t. (ไมใ่ ช่) 5. Do you like eating lollipop? Yes, she does. (ใช)่ No, she doesn’t. (ไมใ่ ช)่ 6. Do your friends like the parties? Yes, they do. No, they don’t 4. ครูทบทวนการใช้ Present Simple Tense ใหน้ ักเรยี นฟังโดยมีหลักการใช้ ดังน้ี
1. ใช้กับเหตุการณ์ท่ีเป็นความจริงเสมอ 2. ใชก้ ับการกระทำทท่ี ำบ่อยๆ จนเปน็ นิสยั หรอื เป็นกิจวตั รประจำวัน โดยจะมคี ำบอกเวลา ดงั น้ี always เสมอ never ไม่เคย usually ตามปกติ every day ทุกวนั often บ่อย ๆ every month ทกุ เดือน sometimes เปน็ บางครงั้ every week ทกุ สปั ดาห์ 3. ใชก้ ับเหตุการณห์ รือการกระทำทเี่ ปน็ จริงในปัจจุบัน ประโยคบอกเล่า I You + V.1. We They He She + V.1 (เตมิ s, es). It เมอ่ื ประธานของประโยคเป็น I, You, We, They หรอื คำนามพหพู จน์ คำกริยาไม่ต้องเติม s หรอื es แตถ่ า้ ประธานของประโยคเปน็ He, She, It หรอื คำนามเอกพจน์ใหเ้ ติม s หรือ es (ยกเวน้ V. to be, V. to have, V. to do) กฎการเตมิ s หรือ es 1. เตมิ s หลังคำนามท่ัวไป เช่น run runs walk walks 2. ถ้าคำกริยาคำนนั้ ลงท้ายด้วย o และ o อยู่หลังพยญั ชนะให้เตมิ es เชน่ go goes 3. ถ้าคำกรยิ านนั้ ลงท้ายด้วย y และ y อยู่หลังพยัญชนะให้เปล่ียน y เปน็ I แลว้ เติม es cry cries try tries แตถ่ า้ y อย่หู ลังสระให้เตมิ s เท่านัน้ เช่น play plays ประโยคปฏเิ สธ
I You + do not We (รูปยอ่ don’t) They + V.1. (สว่ นขยาย) He + does not She (รูปยอ่ doesn’t) It เมื่อประธานเป็น I you we they หรือ คำนามพหพู จน์ ให้ใช้ do not (don’t + V.1 สว่ น He She It หรือคำนามเอกพจนใ์ ห้ใช้ does not doesn’t + v.1 เติม e, es ประโยคคำถาม I Do you + V.1 +? we they he Does she + V.1 +? it ในการถามทข่ี ึ้นตน้ ด้วย Do และ Does เป็นการถามท่ตี ้องการคำตอบ Yes หรอื No Yes, I Yes, he you do. (ใช่) she does. we it they Yes, he : don’t. (ไมใ่ ช่) No, he ตัวอยา่ งรูปประโยคsตh่าeง ๆ : she doesn’t : ประโยคบอitกเลา่ She runs to the supermitarket. ประโยคปฏิเสธ She doesn’t run the to supermarket ประโยคคำถาม Does she run to the supermarket? ข้อควรจำ ในประโยคบอกเล่าจะไม่มคี ำกรยิ าชว่ ย แต่เมื่อเปน็ ประโยคคำถามหรือปฏเิ สธ
จะต้องมี V. to do เขา้ มาชว่ ย จากนน้ั ให้นักเรียนจดโครงสร้างประโยคของ Present Simple Tense และ ตวั อยา่ งลงในสมุดของตนเอง 5. ครูแบง่ นักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ 5-6 คน ครแู จกกระดาษ A4 ให้กลุ่มละ 1 แผน่ เพ่ือแปลบทความ ในหนังสือ หน้า 39 ข้อ 7 Read and choose the answers. เป็นภาษาไทย พร้อมกับตกแต่งให้ สวยงาม ครูเรียกนักเรียนเพ่ืออ่านและแปลบทความ 1 ประโยคต่อ 1 คน จนครบ จากนั้นนักเรียน เลอื กคำตอบให้ถูกต้อง แลว้ ครูเฉลยคำตอบให้นักเรียนฟัง Carl’s healthy diet and habits vegetables and ruits sandwiches always nine 6. ครูแจกกระดาษ A4 ให้นักเรียนคนละ 1 แผน่ เขียนเกี่ยวกบั สขุ นสิ ัย (Healthy habits) โดยดูรปู แบบ ในการเขียนจากหนังสือเรียน หน้า 39 ข้อ 8 Write about your habits. Use the reading as a model. และใช้บทความในข้อ 7 เป็นแบบอย่างพร้อมกับตกแต่งให้สวยงาม ครูคัดเลือกผลงานของ นักเรียน 8-10 คน หรือของนักเรยี นท้งั หมด มาตดิ บอร์ดหน้าห้องเรียน 7. ครูสอนการออกเสียง / T / ซึ่งเทียบกับเสียง “ท” ในภาษาไทย ครยู กตัวอย่างคำที่ออกเสียง / T / 1 คำ คือ Teeth (ครูเน้นเสียง / T / ครูหยิบบัตรคำต่อไปนี้ชูข้ึนทีละใบ พร้อมกับออกเสียงคำ ให้ นกั เรยี นออกเสียงตาม) text toast tick tomato to take ครชู บู ัตรคำ 1 ใบ และสมุ่ นักเรียน 1 คน อา่ นบัตรคำนัน้ ครูสลับบตั รคำ และผลดั เปลยี่ นนกั เรยี น จนครบทกุ คน 8. นกั เรยี นรวบรวมคำศพั ทท์ เ่ี รยี นมาทัง้ หมดใน Unit 3 เขียนลงในสมุดคำศัพท์ Your word book ท่ีนักเรียนได้ประดิษฐ์ขึ้นมา พร้อมวาดภาพคำศัพท์ หรือหาภาพมาตัดปะ เพ่ือดูประกอบการท่อง คำศพั ท์น้นั เมื่อทกุ คนทำเสรจ็ แลว้ ใหน้ ำมาให้ครูดู เพื่อตรวจความถกู ต้องของคำศัพท์ กิจกรรมรวบยอด
1. ครูถามนักเรียนว่า Who likes ..? (ใครชอบ) แล้ว Who doesn’t like…..? ใครไม่ชอบ นักเรียนยก มอื ข้นึ ถ้าเหน็ ด้วยกบั คำถาม ครชู ูแถบประโยคและตดิ บนกระดาน เชน่ 1. Who likes cleaning the teeth? 2. Who likes doing exercise? 3. Who likes eating vegetable? 4. Who doesn’t like having a shower? 5. Who doesn’t like watching TV? จากน้ันใหน้ ักเรยี นเขียนประโยค I like….. (ฉันชอบ) และ I don’t like (ฉันไม่ชอบ) และการตอบให้ ไดด้ จู ากคำถามเป็นหลกั ตัวอย่าง • I like eating fruit, cleaning the teeth, drinking water and getting up late. • I don’t like doing exercise, eating vegetable, watching TV, playing game computer and going to bed before 9 pm. ครสู ุม่ นกั เรยี น 3-4 คน ออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรียน 2. นกั เรียนทำแบบฝึกหัด หนา้ 31 ข้อ 7 Look and answer. ดูขอ้ มูลจากตารางแลว้ ตอบคำถาม 1. May and Anna 4. No, she doesn’t 2. Harry and Ben. 5. 2 children. 3. children 6. Ben จากน้นั ใหน้ กั เรียนสรุปของแต่ละคนว่า ชอบหรือไม่ชอบอะไร โดยใช้รปู ประโยคดงั นี้ นักเรียนจด ลงสมดุ ของตนเอง และส่งครู ช่ือ + likes + ส่ิงที่ชอบ (ประธาน) doesn’t like + ส่ิงท่ีไมช่ อบ 3. ให้นักเรียนเลือกคำท่ใี หม้ าเติมลงในช่องว่าง ในแบบฝึกหดั หนา้ 31 ข้อ 8 Read and complete. แลว้ ส่มุ นักเรยี น 9 คน อ่านข้อความที่สมบรู ณ์แลว้ ทีละประโยค จากน้ันใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันแปลเป็น ภาษาไทย 1. eating 2. favourite 3. cakes 4. salad 5. toothache 6. exercises
7. cold 8. watching 9. games
บันทกึ ผลการจัดการเรียนร้/ู ปัญหาหรืออุปสรรค/ข้อเสนอแนะหรอื แนวทางการปรับปรุง 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน 2.1. ด้านความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ด้านคณุ ลักษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกนั จารตั น์ ใจหาญ) ตำแหนง่ อัตราจา้ ง
6.3 ชวั่ โมงที่ 9-10 กจิ กรรมนำสูก่ ารเรียน 1. นกั เรียนทบทวนคำศัพท์และรูปประโยคของ Lesson 1 กบั Lesson 2 ดว้ ยบัตรคำ บัตรภาพ และ แถบประโยค 2. ครแู บง่ นกั เรยี นออกเป็น 6 กลุ่ม ครูแจกกระดาษ สำหรับทำแผนผงั ความคดิ แกน่ ักเรียนแตล่ ะกลุ่ม Breakfast = กลมุ่ ท่ี 1 และกล่มุ ท่ี 4 Lunch = กลมุ่ ที่ 2 และกลุ่มท่ี 5 Dinner = กลมุ่ ท่ี 3 และกลุ่มท่ี 6 สมาชกิ ในแต่ละกล่มุ ชว่ ยกันคิดมอื้ อาหารว่าจะต้องทานอะไรบา้ ง ครูนำผลงานนกั เรียนมาติดบน กระดานพร้อมกบั นำเสนอผลงานของนักเรยี นทกุ กลุ่ม 3. ครูให้เล่นเกมใบ้คำ โดยครูทำท่าทางป่วย ให้นักเรียนช่วยกันเดาว่าครูทำท่าทางอะไร จากน้ันให้ นักเรยี นช่วยกนั หาคำ สำหรับอาการปว่ ยน้ัน Teacher : ครทู ำท่าทาง “ปวดหัว” Chanchao : You have a headache. Teacher : Yes. Riam : You should go to see the doctor. Kwan : You should’t play computer game. Manee : You should have a medicine. 4. ครบู อกนักเรียนว่าในบทเรียนนี้จะเป็นการทบทวนเก่ียวกับรูปประโยคที่ใช้ V. to do นอกจากน้ันยัง ไดท้ ำโครงงานเก่ยี วกับการรณรงค์ใหร้ กั ษส์ ุขภาพ ร้องเพลงเกยี่ วกบั อาหาร และ Healthy Habit. กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. นกั เรียนเปิดหนังสอื เรียน หน้า 40 ข้อ 1 Find someone who…..ให้นักเรยี นเดินถามเพื่อนในห้อง เป็นภาษาไทย ว่าใครชอบ / ไม่ชอบ หรอื ทานอะไรเป็นอาหารเชา้ เช่น 1. Do you like pizza? 2. Do you have toast and eggs for breafast? 3. Do you like sweets? 4. Don’t you like vegetables? 5. Do you like watermelon? ครูจบั เวลา 5 นาที ให้นกั เรียนหาเพ่ือนใหค้ รบทุก 1 ข้อ ต่อ 1 ชื่อ แล้วใส่ช่อื เพื่อนในชอ่ งวา่ ง จากนน้ั ให้นักเรียนออกมานำเสนอหน้าชัน้ เรียนทุกคน เช่น Name
Likes pizza fah Has toast and eggs for breakfast Tang Likes eating sweets Kate Doesn’t like vegetables hang Likes watermelon Thong • Fah likes pizza. • Tang has toast and eggs for breakfast. • Kate likes eating sweets. • Thong desn’t like vegetables. • Jim likes watermelom. 2. นกั เรียนช่วยกันตอบคำถาม Peter ใน หน้า 40 ขอ้ 2 Answer Peter’s questions. Peter You Hello. Hello. Do you like doing exercise? Yes, I do. Is it difficult or easy for you? It is easy for me. Can you run fast? No, I can’t. What is your favourite sport? My favourite sport is table tennis. นกั เรยี นจับคู่กบั เพ่ือนฝกึ สนทนาโตต้ อบกนั ครูสมุ่ นักเรียน 4-5 คน ออกมาสนทนาโตต้ อบกัน หน้าชน้ั เรยี น 3. ครูอ่านคำถามที่เกี่ยวกับสุขภาพทีละคำถาม นักเรียนขีด √ ลงในช่อง always ถ้านักเรียนทำ พฤติกรรมน้ันบ่อยๆ หรือ sometimes ถ้านักเรียนทำพฤติกรรมนั้นบ้างเป็นบางครั้ง หรือ never นกั เรียนไม่เคยทำพฤตกิ รรมนัน้ จากน้ันครใู ห้นักเรยี นตรวจสอบคะแนน และรวมคะแนนออกมาว่าอยู่ ในเกณฑใ์ ด คำถามขอ้ ที่ คะแนน 1 – 6 always = 2 sometimes = 1 never = 0 never = 2 7 – 10 always = 0 sometimes = 1 ผลวเิ คราะห์คะแนนทไ่ี ด้ 14 – 20 คุณเป็นคนท่ดี ูแลสุขภาพ 8 – 13 ลองหาพฤติกรรมสุขภาพแบบใหม่ 0 – 7 ออกกำลงั กายและทานอาหารท่ีมปี ระโยชน์
4. ให้นักเรียนดูหนังสือเรียน หน้า 41 ข้อ 3 Make questions about healthy habits. ให้ นักเรียนสร้างคำถามเกีย่ วกับสุขนิสัยโดยจับคู่คำและข้อความท่ีให้มาสร้างเป็นประโยคที่เหมาะสม ครู ถามนกั เรยี นทีละคน และให้นกั เรียนบอกประโยคคำถามที่สมบูรณ์แล้วแก่ครู คนละ 1 ประโยค ไมซ่ ้ำ กัน Listen doing exercise ? Eat eight hours at night Eat lots of computer gfames Drink a shower in the morning Like to music Do you Sleep your teeth every night Have to the places near your house Clean a lot of fruits Walk cola Watch a lo9t of television Play จากน้นั ใหน้ กั เรียนสรา้ งแบบสอบถาม โดยดคู ำถามจากขอ้ ความขา้ งต้น เป็ฯแวนทางการเขยี น แลว้ นำแบบสอบถามน้นั ไปถามเพ่ือน 1 คนในห้องเรียน กิจกรรมรวบยอด 1. ครูส่มุ แจกบัตรคำให้กบั นักเรียน 13 คน คนละ 1 ใบ ท้ัง 13 คน อา่ นออกเสียงคำตามบัตรคำท่ีได้ ครูติดบตั รภาพทง้ั 13 ภาพ บนกระดาน แลว้ นกั เรียนทถ่ี อื บตั รคำนน้ั ๆ ดูภาพแล้วนำมาติดใต้ภาพ
ใหถ้ ูกต้อง นกั เรียนท่เี หลอื ช่วยเพื่อนทถ่ี ือบตั รคำจบั คู่ภาพใหถ้ ูกต้อง Vegetable ผกั strawberry สตรอวเ์ บอร์รี่ ไอศกรีม Sandwich แซนวิช Ice-cream ลกู อม อมยม้ิ cake เคก้ cendy grape องุ่น lollipop bread ขนมปังแถว hamourger แฮมเบอเกอร์ Orange juice น้าสม้ cola เครื่องด่ืมโคคา - โคล่า ให้นกั เรียนแต่ละคนเลือกส่ิงที่จะนำไปรบั ประทาน ตอbนaไnปaปnaิกนกิ มา 6 อยา่ ง จากกลบว้ นยกระดาน แลว้ จบั คผู่ ลดั กันถาม – ตอบ โดยใช้รปู ประโยคต่อไปนใ้ี นการถาม Are there any……? Is there…….? Do you have ……..? What’s the drink? เช่น Are there any vegetables? Yes there are. / No, there aren’t. Is there any cake? Yes, there is. / No, there isn’t. Do you have hamburger? Yes, I do. / No, I don’t. What’s the drink? Orange juice. ครสู ุม่ นกั เรยี น 1 คน ถาม และอีก 1 คนตอบ จากนั้นนักเรยี นที่เปน็ ฝา่ ยตอบ ผลดั กนั เป็นฝ่ายถาม แลว้ เลอื กเพอื่ น 1 คน เป็นผ้ตู อบ ทำอย่างนป้ี ระมาณ 6-8 รอบ 2. ให้นักเรียนอ่านบทความในแบบฝึกหัด หน้า 32 ข้อ 2 Read and write T (true) and F (false). แล้วตอบ T ถ้าข้อความที่ให้มาเป็นข้อความท่ีถูกต้อง ตอบ F ถ้าข้อความที่ให้มาเป็น ข้อความทีไ่ มถ่ กู ต้อง นักเรยี นชว่ ยกันตอบคำถามของครู โดยดจู ากบทความดังกลา่ ว
Teacher : What’s wrong with Mary Clark? Students : She can’t open her eyes in tlhe morming. She’s tired and has a cold and sometimes has a headache. Teacher : How old is she? Students : Ten years old. Teacher : What time does she go to bed? Students : At 10.30 p.m. Teacher : Does she tell her problem by calling telephone? Students : No, she doesn’t by sending e-mail. Teacher : Who does she send e-mail to.? Students : Dr. Sara Jones. Teacher : What’s Doctor’s suggestions? Students : She should exercise and go to bed at 9 p.m. 3. นักเรียนเปิดแบบฝึกหดั หน้า 33 ข้อ 3 Read and complete. นักเรียนดูบทความแล้วเติมคำตาม รูปภาพท่ีให้มาโดยนักเรยี นสามารถดคู ำจากหนังสือเรยี น ครูเฉลยคำตอบ พรอ้ มกับแจกกระดาษเปล่า ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น เพื่อเขียนสุขนิสัย Healthy Habits โดยใช้บทความข้างต้นเป็นแบบอย่าง และแนวทางในการเขียนและนักเรียนตกแต่งแผ่นงานให้สวยงาม จากนั้นครูรวบรวมผลงานของ นักเรียนทัง้ หมดมาตรวจ แล้วนำไปติดแสดงหนา้ ชนั้ เรยี น 1. vegetables 2. fruits 3. water 4. cake 5. cookies 6. salad 7. watermelon 8. cleans 9. bed 10. nine
บันทึกผลการจดั การเรยี นรู้/ปญั หาหรืออปุ สรรค/ข้อเสนอแนะหรือแนวทางการปรับปรุง 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน 2.1. ด้านความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ดา้ นคณุ ลักษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ................................................... ผบู้ นั ทึก (นางสาวกันจารัตน์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อัตราจา้ ง
แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา คาชีแ้ จง : ใหค้ รูผสู้ อน สงั เกตการใชท้ กั ษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดับคะแนนลง ในตาราง ให้ตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรุง เล ูพดสนทนาเ ่ีกยวกับการอ ุน ัรกษ์ รวม สรุปผลการ ขที่ ิ่สงแวดล้อม การนา ิ่สงของกลับมา คะแนน ประเมิน ใช้และการประหยัดพลังงาน ชื่อ-นามสกลุ ออกเ ีสยง สะกด และบอก ไม่ ความหมายคาศัพท์ ี่ทกาหนดได้ ผา่ น ัฟงและ ่อานจับใจความได้ ผา่ น ให้ประโยค Verb to be + going to +V.1 ได้ เขียนเ ีรยงความ ่งาย ๆ เ ี่กยวกับการ อ ุน ัรกษ์ ิ่สงแวดล้อมและการ ประหยัดพลังงาน 1 เดก็ ชาย ณภัทร วนั สิริโอภาส 2 เดก็ ชาย ธรี ศักดิ์ สิริวจีงาม 3 เดก็ ชาย พัทธนันท์ มูลแก้ว 4 เด็กชาย ยงยุทธ พริ ยิ ะวทิ ยาธร 5 เด็กชาย วรถั ต์ เรืองกิจหลา้ 6 เด็กชาย สณั หพ์ ิชญ์ วงศ์พริ ณุ ทอง 7 เด็กชาย สพุ ศนิ ปูแ่ กว้ ต๊ะ 8 เด็กชาย เอกชัย เชดิ ชคู ุณธรรม 9 เด็กชาย เอกริน ทะริยะ 10 เด็กหญิง กัญญภัค วาสนาดเี ลศิ 11 เด็กหญงิ เกศรินทร์ สทุ ธมิ งคลกูล 12 เดก็ หญงิ ชฎาภรณ์ สีสวุ รรค์ 13 เด็กหญิง ฐิดาพร เอกขจรไพศาล 14 เดก็ หญิง ทพิ วรรณ แสนวังทอง 15 เดก็ หญงิ ธญั พิชชา ชตุ วิ ัฒนธ์ ารสุข 16 เด็กหญิง ธาวนิ ี วงศ์พิรุณทอง 17 เดก็ หญิง มาตกิ า ดิลกพาณิชยก์ ลุ 18 เด็กหญิง มานีสา อรุณนภาลัย 19 เด็กหญงิ วรญั ญา รัตนมานะชยั 20 เด็กหญงิ ศริ ดา ฉตั รไทยรุ่ง ลงชอ่ื ..................................................................... ผปู้ ระเมิน (นางสาวกันจารตั น์ ใจหาญ) ตำแหนง่ อตั ราจ้าง
แบบประเมินชน้ิ งาน คำช้แี จง : ให้ครูผูส้ อน ตรวจช้นิ งานของนักเรียน โดยเขียนระดับคะแนนลงในตาราง ให้ตรงกับความสามารถของ ผูเ้ รยี น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรุง เลขท่ี ชือ่ -สกุล การนำเสนอผลงาน (ในภาพรวม) รวม สรุปผล การเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอ คะแนน การประเมนิ 1 เดก็ ชาย ณภัทร วันสิริโอภาส (หรือความสามัค ีคในการทำงาน) 2 เดก็ ชาย ธรี ศกั ด์ิ สิริวจงี าม ความถูก ้ตองของช้ินงาน ผา่ น ไม่ผา่ น 3 เดก็ ชาย พทั ธนนั ท์ มูลแก้ว ความเรียบร้อยสวยงาม 4 เดก็ ชาย ยงยุทธ พิริยะวทิ ยาธร ความ ิคดริเริ่มสร้างสรร ์ค 5 เดก็ ชาย วรถั ต์ เรืองกิจหล้า 6 เด็กชาย สณั หพ์ ิชญ์ วงศ์พิรณุ ทอง 7 เด็กชาย สพุ ศิน ปแู่ กว้ ต๊ะ 8 เด็กชาย เอกชัย เชิดชคู ณุ ธรรม 9 เดก็ ชาย เอกริน ทะริยะ 10 เด็กหญิง กัญญภคั วาสนาดเี ลิศ 11 เด็กหญงิ เกศรนิ ทร์ สทุ ธมิ งคลกูล 12 เด็กหญิง ชฎาภรณ์ สสี วุ รรค์ 13 เด็กหญิง ฐดิ าพร เอกขจรไพศาล 14 เด็กหญิง ทพิ วรรณ แสนวงั ทอง 15 เด็กหญงิ ธญั พิชชา ชตุ ิวฒั น์ธารสุข 16 เด็กหญิง ธาวินี วงศพ์ ริ ุณทอง 17 เด็กหญิง มาตกิ า ดลิ กพาณิชย์กุล 18 เดก็ หญิง มานีสา อรณุ นภาลัย 19 เดก็ หญิง วรัญญา รัตนมานะชัย 20 เด็กหญิง ศิรดา ฉัตรไทยรงุ่ ลงชือ่ ..................................................................... ผปู้ ระเมนิ (นางสาวกันจารตั น์ ใจหาญ)
ตำแหน่ง อัตราจา้ ง การประเมนิ : นกั เรยี นท่ไี ด้คะแนน 10 คะแนนขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ (คะแนนเตม็ 20) ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 ด้าน คำชีแ้ จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน ในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องว่างใหต้ รงกบั ระดบั คะแนน และตามความเปน็ จรงิ โดยมเี กณฑก์ ารให้คะแนน ดงั นี้ 4 = พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนมาก และบ่อยครัง้ สมำ่ เสมอ 3 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ 2 = พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครั้ง 1 = พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัตบิ างคร้ัง คุณลักษณะอันพงึ รายการประเมิน ประสงค์ดา้ น 1.1 มคี วามรกั และภูมิใจในความเปน็ ชาติ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏิบตั ิตนตามหลักธรรมของศาสนา กษตั ริย์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภักดีตอ่ สถาบันพระมหากษตั ริย์ 2.1 ปฏิบตั ิตามระเบียบการสอน และไม่ลอกการบา้ น 2. ซอื่ สัตย์สุจริต 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงต่อความเป็นจรงิ ต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเปน็ จริงตอ่ ผู้อื่น 3. มีวินยั 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 4. ใฝ่เรยี นรู้ 3.3 ปฏิบัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรูอ้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตุผล 6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยัด 7. รักความเปน็ ไทย 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณคา่ 8. มจี ิตสาธารณะ 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6.1 มีความตง้ั ใจ และพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค เพื่อใหง้ านสำเร็จ 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั การให้เพื่อส่วนรวม และเพ่ือผู้อนื่ 8.2 แสดงออกถงึ การมนี ้ำใจหรอื การใหค้ วามช่วยเหลือผ้อู ื่น 8.3 เข้ารว่ มกิจกรรมบำเพ็ญตนเพอื่ สว่ นรวมเมอื่ มโี อกาส
แบบประเมินประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ดา้ น สรปุ ผล การประเมนิ เลขที่ ช่ือ-สกุล รวมคะแนน ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 เด็กชาย ณภัทร วนั สิริโอภาส 2 เด็กชาย ธีรศกั ด์ิ สิรวิ จีงาม 3 เด็กชาย พทั ธนนั ท์ มลู แกว้ 4 เด็กชาย ยงยุทธ พริ ยิ ะวทิ ยาธร 5 เดก็ ชาย วรถั ต์ เรืองกิจหล้า 6 เดก็ ชาย สณั หพ์ ิชญ์ วงศพ์ ริ ณุ ทอง 7 เดก็ ชาย สพุ ศนิ ปแู่ ก้วต๊ะ 8 เดก็ ชาย เอกชัย เชิดชคู ุณธรรม 9 เดก็ ชาย เอกริน ทะริยะ 10 เด็กหญงิ กัญญภคั วาสนาดเี ลศิ 11 เด็กหญงิ เกศรินทร์ สุทธิมงคลกลู 12 เด็กหญงิ ชฎาภรณ์ สสี วุ รรค์ 13 เด็กหญงิ ฐิดาพร เอกขจรไพศาล 14 เดก็ หญิงทิพวรรณ แสนวงั ทอง 15 เดก็ หญงิ ธญั พิชชา ชตุ วิ ฒั นธ์ ารสุข 16 เด็กหญิงธาวินี วงศ์พริ ณุ ทอง 17 เดก็ หญงิ มาตกิ า ดิลกพาณชิ ย์กุล 18 เด็กหญิงมานสี า อรณุ นภาลยั 19 เด็กหญิงวรญั ญา รัตนมานะชัย 20 เด็กหญงิ ศิรดา ฉตั รไทยรงุ่ ลงช่ือ ..................................................................... ผ้ปู ระเมิน (นางสาวกันจารัตน์ ใจหาญ) ตำแหนง่ อตั ราจ้าง
ชอ่ื รายวชิ า ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน แผนการจดั การเรียนรู้ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 Unit 4 Amazing animals ผูส้ อน นางสาวกนั จารตั น์ ใจหาญ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ เวลาเรียน 10 ชั่วโมง ภาคเรียนที่1 โรงเรยี น ราชประชานเุ คราะห์ 31 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั ชน้ั ปี สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งที่ฟงั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมี เหตุผล ตวั ชี้วัด 2. อ่านออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน 3. ระบุ/วาดภาพสญั ลักษณ์ หรอื เคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยค และข้อความ ส้ัน ๆ ท่ฟี ังหรอื อา่ น 4. บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทานง่ายๆ หรอื เรอื่ งส้ันๆ มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึกและ ความคิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตัวชว้ี ดั 4. พดู /เขยี นเพือ่ ขอและใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครวั และเรื่องใกล้ตวั มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตา่ งๆ โดยการพูด และการเขยี น ตัวชี้วดั 1. พูด/เขยี นให้ข้อมูลเกย่ี วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชี้วดั 3. เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม ตัวช้ีวัด 1. บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำ (order) ตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั 1. ฟงั พูด และอ่าน/เขยี น ในสถานการณต์ ่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อการประกอบอาชีพ และการ แลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ับสงั คมโลก ตวั ชี้วัด 1. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรยี นรูค้ ำศัพทเ์ กย่ี วกบั สัตวป์ ่า สัตว์ปกี และสตั วโ์ ลกลา้ นปี บทสนทนาเกี่ยวกับขอ้ มูลของสัตว์ต่างๆ การเปรยี บเทียบข้นั สงู สุด การออกเสยี งคำท่ีลงทา้ ยด้วย st และคำท่ขี ้ึนตน้ ดว้ ยอักษร b การอ่าน จับใจความและเขียนเรยี งความ เปน็ การเรยี นรู้ภาษาอังกฤษเพ่ือนำไปใช้สื่อสารในชวี ิตประจำวัน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - คำศพั ท์เกย่ี วกบั สตั ว์ป่า สตั ว์ปีก และสตั วโ์ ลกล้านปี - บทสนทนาถาม-ตอบเกี่ยวกับข้อมลู ของสัตวต์ ่างๆ e.g. A : How much does a rhino weigh? B : It weighs about 1,300 kilos. - Grammar : - Superative Degree e.g. A humming bird is the lightest bird in the world. - Past Simple Tense ประโยคบอกเลา่ ปฏเิ สธ และคำถาม e.g. I was young 20 years ago. We wear in London last week. She lived in that house long time ago. - Pronunciation : initial sound [b] and [m] และออกเสยี งตวั อกั ษร st ท้ายคำ - การอา่ นจับใจความ - การเขยี นเรียงความ - มารยาททางสงั คม และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเล่นเกม การรอ้ งเพลง - การใชภ้ าษาในการฟัง/พูดในสถานการณง์ ่ายๆ ทเ่ี กิดขึน้ ในห้องเรยี น - การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เกีย่ วข้องใกล้ตัว จากสอื่ และ แหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ -
4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร - ฟัง เข้าใจในส่งิ ทีไ่ ด้ยนิ หรือสนทนา - พูด จบั ใจความสำคัญและฝึกออกเสยี งไดถ้ ูกต้อง สามารถถ่ายทอดข้อมลู และเน้ือหาได้ - อา่ น เขา้ ใจตวั อักษร คำ และภาพทีเ่ ห็นในหนังสอื เรียน และแบบฝกึ หดั และอา่ นออกเสยี งได้ - เขียน สามารถเขียนตวั อกั ษร คำศัพท์ และประโยคง่ายๆ ได้ 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทกั ษะการคดิ อย่างสรา้ งสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - ซ่ือสัตยส์ ุจรติ - มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - การเขียนข้อมลู ของหมีโคล่า ลงในตาราง - การเขยี นข้อมลู ลักษณะของวาฬสีน้ำเงนิ - การจดั ทำแผน่ ปา้ ยอนรุ ักษ์สัตวป์ ่า - การรวบรวมคำศพั ท์ใน Your word book 7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมินกอ่ นเรยี น - ประเมนิ การทำแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ - ประเมินการทำแบบฝึกหัด - สังเกตพฤติกรรมการเรยี นร้ใู นชว่ งการทำกิจกรรม 7.3 การประเมินหลงั การเรยี น - ประเมินการทำแบบทดสอบ
- ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การเขียนข้อมลู ของหมีโคลา ลงในตาราง - ประเมินการเขียนข้อมูลลักษณะของวาฬสนี ำ้ เงิน - ประเมินการจัดทำแผ่นป้ายอนุรักษ์สตั วป์ า่ - ประเมนิ การรวบรวมคำศัพทใ์ น Your word book 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั แนบมาพรอ้ มนี้ - กจิ กรรมนำสู่การเรยี น - กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ - กจิ กรรมรวบยอด 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน Smile ป. 5 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5 4. บัตรภาพ บัตรคำ แถบประโยค 5. เกม Lucky Drawn (เกมจบั ฉลาก) 6. เกม Animal Game (เกมสัตว์ต่างๆ)
บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนรู้/ปญั หาหรอื อปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะหรอื แนวทางการปรับปรุง 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรยี นของนักเรียน 2.1. ดา้ นความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ด้านคุณลักษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกนั จารัตน์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อตั ราจ้าง
แผนการจัดการเรียนรู้ Unit 4 Amazing animals (Lesson 1) 1. สาระสำคัญ การเรียนรคู้ ำศัพท์เกย่ี วกับสัตว์ปา่ สตั วป์ กี ตา่ งๆ บทสนทนาถาม-ตอบเกี่ยวกับขอ้ มูลของสัตวป์ า่ และสตั วป์ กี การเปรยี บเทยี บขัน้ สงู สุด (Superlative Degree) การออกเสียงคำท่ลี งทา้ ยดว้ ย st และคำที่ ขึ้นตน้ ดว้ ยอักษร b การอา่ นจับใจความ และเขยี นเรยี งความ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพอื่ นำไปใช้ สื่อสารในชีวิตประจำวนั 2. ตัวชี้วดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ - พดู ถาม-ตอบ และสนทนาถึงข้อมลู ของสตั ว์ป่าได้ - พดู และเขยี นคำศพั ทช์ ื่อสัตว์ป่า - พดู และเข้าใจความหมายของคำศัพท์ และประโยคตา่ งๆ ในบทนีไ้ ด้ - ใชป้ ระโยคในการเปรยี บเทียบข้นั สูงสดุ ได้ - อา่ นจับใจความได้ - เขยี นเรยี งความได้ - เลน่ เกมตามท่ีกำหนดได้ - ออกเสยี งคำท่ีข้นึ ต้นดว้ ยอักษร b และลงท้ายด้วย st ได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - บทสนทนาทีใ่ ชใ้ นการถาม-ตอบเกีย่ วกับข้อมูลของสตั ว์ป่า e.g. A : How much does a koala weight? B : It weighs about 350 kilos. - คำศพั ท์เกยี่ วกับสตั วป์ ่าชนิดตา่ งๆ - Grammar : - Superlative Degree e.g. An ostrich is the biggest in the world. - Pronunciation : initial sound [b] และคำทล่ี งท้ายดว้ ยพยัญชนะ st - การอ่านจบั ใจความ - การเขียนเรยี งความ - การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณต์ ่างๆ ที่เกิดขน้ึ ในห้องเรียน - มารยาททางสงั คมท่ดี ี และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม - การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ทเี่ กีย่ วข้องใกลต้ วั จากสื่อและ แหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ 3.2 สาระการเรียนรูท้ ้องถิ่น - 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - ซอ่ื สตั ย์สุจริต - มุ่งม่นั ในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ 6.1 ช่ัวโมงที่ 1-2 กจิ กรรมนำส่กู ารเรยี น 10. นกั เรียนทบทวนคำศพั ท์ และรูปประโยคของ Unit 3 ด้วยบตั รคำ บตั รภาพ และแถบ ประโยค 11. ครใู ห้นักเรียนบอกช่ือสัตวท์ นี่ ักเรียนรู้จกั มาใหม้ ากท่สี ุด Teacher : Please tell me the name of the animal that you know. Tim : Elephant. Jame : Tiger. 12. ครูถามนักเรยี นเป็นภาษาไทยวา่ ใครในหอ้ งนี้สงู ท่สี ุด เต้ยี ทส่ี ุด อ้วนทส่ี ุด ผอมทสี่ ดุ ให้ นกั เรียนทุกคนช่วยกนั ตอบ 13. ครสู ุ่มนักเรียน 1 คน ออกมายนื หนา้ ชั้นเรียน ให้นักเรียนทเี่ หลือชว่ ยกันบรรยายลกั ษณะ ของเพื่อนเปน็ ภาษาอังกฤษ เช่น Kwan : He is a boy. Tom : He has got short hair.
Somcheng : He is tall. Moddeana : He has got black eyes. 14. ครบู อกนักเรยี นว่าใน Unit 4 Lesson 1 จะเรียนเก่ียวกบั สัตว์ การบรรยายลกั ษณะ การเปรยี บเทียบขน้ั สูงสดุ (Superlative) และประโยคตา่ งๆ กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้ 13. นักเรียนเปดิ หนังสือเรยี น หน้า 46 ข้อ 1 What can you see? ดภู าพแล้วบอกช่ือ สตั ว์ทน่ี ักเรียนเห็นในภาพเปน็ ภาษาอังกฤษ เช่น Teacher : What animals can you see in this page? Students : Elephant, monkey, crocodile, rhino, ostrich, eagle, panda, bear, dolphin, bird and whale. 2. ใหน้ ักเรยี นฟงั CD/Track 45 ทเ่ี ก่ียวกับภาพขา้ งตน้ ซ่งึ ประกอบไปด้วยประโยคคำถาม 5 คำถาม โดยใหน้ กั เรยี นฟงั CD 2-3 ครง้ั แล้วตอบคำถามเหลา่ นี้ Look at the picture of the animals. How many birds can you see? How many mammals can you see? How many reptiles can you see? Are there any ants in the picture? Are there any tigers in the picture? ครูเฉลยโดยเปิด CD ชา้ ๆ ทลี ะประโยค เพ่ือให้นกั เรียนเข้าใจ และชว่ ยกนั ตอบ ให้นักเรียน ช่วยกันนบั สตั ว์ตา่ งๆ ในภาพ จากนั้นจงึ ส่งตวั แทน 1 คน ออกมาเขียนคำตอบบนกระดานสน้ั ๆ 1. 2 birds 2. 5 mammals 3. 2 reptiles 4. No, there aren’t. 5. No, there aren’t. ครูสอนคำศัพท์ท่ีนักเรียนไม่ทราบโดยชูบัตรคำ mammal และ reptile ครูอ่านออกเสียงดังๆ ให้นักเรียน ออกเสียงตาม ครูยกตัวอย่าง “mammal” ได้แก่ มนุษย์ แพะ แกะ แมว สนุ ัข และ “reptile” ได้แก่ งู จระเข้ ตัวหนอน แล้วให้นักเรียนเดาว่าทั้ง 2 คำ แปลว่าอะไร นักเรียนเปิดหาคำศัพท์ในพจนานุกรม แล้วตอบครวู ่า “สัตวเ์ ลีย้ งลกู ด้วยนม” และ “สตั วเ์ ลอื้ ยคลาน”
3. ครูให้นักเรียนนำพจนานุกรมอังกฤษ-ไทย เพื่อฝึกหาคำศัพท์ที่ให้มาจากบัตรคำให้เร็วที่สุด นักเรียน คนใดหาได้แล้ว ให้ยกมือพร้อมกับบอกคำอ่านและคำแปลของคำศัพท์นั้น ถ้าถูกต้องได้ 1 คะแนน นกั เรยี นคนใดได้คะแนนมากทีส่ ดุ ถือว่าชนะ ครตู ดิ บัตรคำบนกระดานทีละใบ ดังนี้ whale = วาฬ light = เบา ocean = มหาสมทุ ร reptile = สัตวเ์ ล้อื ยคลาน height = ความสูง mammal = สตั วเ์ ลีย้ งลูกด้วยนม weigh = นำ้ หนกั (n.) Earth = โลก weight = หนัก (v.) world = โลก cheetah = เสอื ชตี าห์ strong = แข็งแรง ostrich = นกกระจอกเทศ heavy = หนัก นกั เรยี นทุกคนออกเสยี งคำศัพท์พร้อมๆ กัน แล้วจดคำศัพท์และคำแปลลงในสมดุ ของตนเอง 4. นักเรียนดูภาพและออกเสยี งตาม CD/Track 46 2 รอบในหนงั สือเรียน หน้า 47 ข้อ 1 Look, listen and repeat. จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นบอกความหมายและสะกดตวั อักษรของคำศัพท์ cheetah ostrich blue whale humming bird weigh strong heavy light Teacher : What’s this? Students : It’s a cheetah. Teacher : What does it mean? Students : เสอื ชีตาห์ Teacher : How do you spell “cheetah”? Students : C - H - E - E - T - A - H. 5. ครูจดและอธิบายเร่ือง Superlative Degree บนกระดาน แล้วให้นักเรียนจดลงสมุดของตนเอง ดงั น้ี Superlative Degree (การเปรยี บเทียบในขนั้ สูงสดุ ) คอื การเปรียบเทียบลักษณะอาการของ คน สัตว์ ส่งิ ของทม่ี ีความเป็นที่สดุ ซ่ึงในระดับนจี้ ะได้เรียนรู้กฎการเปล่ียนคำคุณศัพท์ (Adjective) และคำวเิ ศษณ์ (Adverb) ดังนี้ 1. เติม est หลงั adj. / adv. ทอี่ อกเสยี งไม่เกนิ 2 พยางค์ เชน่ fast fastest tall tallest 2. adj. หรอื adv. ท่ลี งทา้ ยด้วย y ใหเ้ ปลยี่ น y เป็น i แลว้ เตมิ -est เช่น heavy heaviest
3. คำที่ออกเสียงสัน้ เพียงพยางคเ์ ดียวและลงท้ายด้วยพยัญชนะตวั เดียวต้องเพิม่ พยญั ชนะทา้ ย ตวั น้ันก่อน แล้วเตมิ -est เชน่ big biggest 4. ตอ้ งวาง the ไวข้ า้ งหน้า adj. หรือ adv. ที่เปน็ ขนั้ สูงสดุ เสมอ เช่น fast the fastest tall the tallest heavy the heaviest big the biggest ครูเขยี น adj และ adv บนกระดาน แล้วให้นักเรียนเปลี่ยนคำ adj. และ adv. เหลา่ น้ันใหเ้ ปน็ การเปรยี บเทียบขัน้ สูงสดุ * (Superlative Degree) Adj. / Adv. Superlative Degree big the biggest short the shortest heavy the heaviest light the lightest small the smallest long the longest tall the tallest fat the fattest
*ข้ันสูงสดุ ต้องมี the นำหน้าเสมอ 6. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 47 ข้อ 2 Read, listen and match. นักเรียนอ่านออก เสียงข้อความจาก CD/Track 47 จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันแปลข้อความและจับคู่ข้อความกับภาพ ให้ถูกต้องและเหมาะสม 1. This animal lives in Africa. It has got big teeth. It eats animals. It is the fastest animal in the world. 2. This animal is a bird, but it can’t fly. It has got long legs. It runs very fast. It is the biggest bird in the world. 3. This animal is very small. It is the lightest bird in the world. 4. This animal is a mammal. It lives in the ocean. It is the biggest animal in the world. 23 1 4 ทกุ ข้อความเมอ่ื อ่านเสรจ็ แล้ว ครถู ามนกั เรยี นว่ามนั คอื อะไร Teacher : Number 1, what is it? Students : It’s a cheetah. (เขียนเลข 1 ใต้ภาพเสอื ชตี าห์) 7. ครูให้ดูหนังสือเรยี น หน้า 48 ข้อ 3 Read, ask and answer. โดยครูชี้ไปท่ีภาพแต่ละภาพ แล้วถามนักเรียนว่าน้ีคืออะไร (What’s this?) ให้นักเรียนดูภาพ ชี้ตามและตอบ โดยให้นักเรียนดู ข้อมลู ของสตั ว์แตล่ ะชนิดว่าสงู และน้ำหนักเท่าไหร่ จากนัน้ ครูถามนักเรียนใหน้ กั เรยี นตอบ เชน่ Teacher : How much does a rhino weigh? Students : It weighs about 1,300 kilos. Teacher : How tall is a rhino? Students : It’s about 2 meters tall.
ครูสุ่มนักเรยี น 1 คน เปน็ คนถาม และอีก 1 คน เปน็ คนตอบ จากนน้ั ให้นักเรียนทเ่ี ปน็ คนตอบ เปลี่ยนเป็นคนถาม และเลือกเพือ่ นมา 1 คน เป็นคนตอบ ทำอย่างนีจ้ นครบทกุ คน กิจกรรมรวบยอด 8. นักเรียนดูภาพสัตว์ต่างๆ ในแบบฝึกหัด หน้า 34 ข้อ 1 Listen and point. ครูเปิด CD/Track 54 3 รอบ รอบแรกนักเรียนฟัง CD แล้วช้ีภาพตามประโยคที่ได้ยิน รอบที่ 2 นักเรียนฟังประโยคจาก CD ครูออกเสียงประโยคตาม CD ทีละประโยค นักเรียนออกเสียงตาม และชภ้ี าพให้ถกู ตอ้ ง รอบท่ี 3 นกั เรยี นฝกึ ออกเสยี งตาม CD 1. The snake is on the tree. 2. The dolphin is in the sea. 3. The elephant is very heavy. 4. The monkey is between the elephant and the crocodile. 5. There are two reptiles in the picture. 2. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด หน้า 34 ข้อ 2 Look at the picture. Then complete the sentences. โดยดูภาพจากข้อ 1 แล้วนำคำท่ีให้มาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง เสร็จแล้ว นักเรยี นอา่ นประโยคท่สี มบรู ณ์พรอ้ มกัน แลว้ ครเู ขียนคำตอบบนกระดาน 1. rhino 2. sea 3. monkey 4. trunk 5. reptiles 3. นักเรียนดูภาพสัตว์ต่างๆ ท้ัง 4 ชนิด ในแบบฝึกหัด หน้า 35 ข้อ 1 Write the words. แล้วนำตัวอักษรที่เรียงสลับกัน มาประกอบคำศัพท์ให้ถูกต้องตรงตามภาพท้ัง 4 ข้อ นักเรียน สามารถเปิดดูคำศัพท์ได้ในหนังสือเรียน หรือจากพจนานุกรม และปรึกษากับเพ่ือนๆ ได้ ครูให้ อาสาสมัครนกั เรยี น 4 คน ออกมาเขยี นตอบบนกระดาน คนละ 1 ข้อ 1. ostrich 2. humming bird 3. cheetah 4. blue whale 4. ครูถามนักเรียนเปน็ ภาษาอังกฤษ และให้นักเรียนผลดั กันตอบ ดังน้ี Teacher : Are cheetah slow animals?
Sam : No, they aren’t. Teacher : Are humming birds heavy? Susie : No, they aren’t. Teacher : Are blue whales very big? Riam : Yes, they are. Teacher : Are elephant heavy and strong? Kwan : Yes, they are. Teacher : Can ostriches fly? Jack : No, they can’t. Teacher : Are giraffes very tall? Jay : Yes, they are. จากนนั้ นักเรียนเปดิ แบบฝึกหัด หน้า 35 ขอ้ 2 Read and correct. เพอ่ื อา่ นประโยคและ แกไ้ ขประโยคให้ถกู ตอ้ ง ครูขออาสาสมัคร 6 คน เฉลยคำตอบบนกระดาน ครูคอยแกไ้ ขคำตอบที่ อาสาสมัครตอบผิด แล้วช่วยกันอา่ นประโยคทสี่ มบูรณ์พร้อมกนั อีกรอบ 2. Hamming birds are light. 3. Blue whales are very big. 4. Elephants are heavy and very strong. 5. Ostriches can’t fly and very large/big. 5. ครูนำบัตรคำมาตดิ บนกระดานโดยไม่ตอ้ งเป็นรูปประโยค เพื่อให้นกั เรยี นเรียงประโยคให้สมบูรณ์และ ถูกต้อง โดยดูคำของประโยคในแบบฝึกหัด หน้า 36 ข้อ 3 Put the words in correct order to from sentences. นักเรียนทุกคนช่วยกันเรียงคำบนกระดานให้เป็นประโยค แล้ว อ่านประโยคทสี่ มบูรณ์พรอ้ มกัน จากนั้นจึงคดั ลอกลงในสมดุ ของตน 1. How tall is the cheetah? 2. It’s 120 centimeters tall. 3. How much does it weight? 4. It weighs about 50 kilos.
บนั ทกึ ผลการจัดการเรยี นร้/ู ปญั หาหรืออุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะหรอื แนวทางการปรับปรงุ 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรยี นของนักเรียน 2.1. ดา้ นความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ดา้ นคุณลักษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกนั จารัตน์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อัตราจ้าง
6.2 ชั่วโมงท่ี 3-4 กิจกรรมนำสกู่ ารเรียน 1. นักเรยี นทบทวนคำศพั ท์ที่ได้เรียนในชัว่ โมงที่ผา่ นมา ด้วยบัตรภาพ และบัตรคำ โดยการพูดระบุชื่อ สัตวใ์ หถ้ กู ตอ้ งตามบัตรภาพ และช่วยกนั จบั คู่บัตรภาพและบัตรคำบนกระดาน 2. นักเรยี นถามนำ้ หนักเพื่อนข้างเคยี ง โดยให้เพือ่ นตอบโดยประมาณ แล้วนกั เรยี นรายงานสรุป ดังนี้ A : How much do you weigh? B : I weigh about 35 kilos. A สรุปดงั น้ี : B weighs about 35 kilos. She is light. ครสู มุ่ นักเรียน 2 คู่ ให้ยืนขึ้นพดู บทสนทนา และสรปุ ทีละคู่ 3. ครบู อกจุดประสงค์ในการเรียนในชว่ั โมงต่อไปว่า นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรูเ้ รื่องการเปรยี บเทียบข้ันสูงสดุ การอา่ นจบั ใจความ การเขียนเรียงความ และการออกเสียงใหถ้ ูกต้อง กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นเปิดหนังสอื เรียน หน้า 48 ข้อ 4 Look at the animals above. Then ask and answer with your partner. ให้นกั เรียนดูข้อมลู สตั วต์ า่ งๆ จากข้อ 3 แลว้ ตอบคำถาม ของครู ดังนี้ Teacher : Which animal is the highest? (It’s a giraffe.) : Which animal is the heaviest? (It’s an elephant.) : Which animal is the biggest? (It’s an elephant.) : Which animal is the shortest? (It’s a cheetah.) : Which animal is the fastest? (It’s a cheetah.) : Which animal is the smallest? (It’s a cheetah.) 2. ครูชูภาพหมีข้ัวโลก แล้วถามนักเรียนว่าอะไร นักเรียนตอบว่า “Polar bear” ครูบอกนักเรียนว่า พวกเราจะเรียนรู้เรอ่ื งหมีโพลากัน โดยครูให้นักเรยี นอา่ นบทความในหนังสือเรยี น หน้า 49 ขอ้ 5 Read and answer the questions. แล้วตอบคำถาม ให้นักเรียนอ่านออกเสียงบทความ พร้อมกัน 1 รอบ จากนั้นครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ 3 คน แจกกระดาษเปล่า 1 ใบ และพจนานุกรม 1 เล่ม ให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันแปลบทความเป็นภาษาไทยพร้อมตกแต่งให้ สวยงาม ครูจับเวลาในการทำงานกลุ่ม 20-30 นาที แล้วให้นักเรียนทุกกลุ่มออกมานำเสนอหน้า ห้อง เมื่อทำกิจกรรมเสร็จครูแปลบทความตามทีละประโยค โดยให้นักเรียนทุกคนอ่านบทความ
ภาษาอังกฤษทีละประโยค แล้วช่วยกันแปลเป็นภาษาไทย ครูเฉลยคำตอบและรวบรวมผลงาน นักเรียนมาติดบอรด์ หน้าหอ้ ง 1. They live in the Arctic. 2. They have got white thick fur, strong legs and a black nose. 3. Yes, they can. 4. They weight about 250-770 kilos. 5. They eat seals and whales. 3. ครูชตู ุ๊กตาหมีโคลา แล้วถามนักเรียนว่าเป็นสัตว์อะไร อาศัยอยู่ที่ไหน นักเรยี นตอบว่าหมโี คลาอยใู่ น ประเทศออสเตรเลีย ครใู ห้ความรู้แก่นักเรียนว่าหมี koala ชอบกนิ ใบยูคาลปิ ตัส อาศัยอยู่บนต้นยู คาลิปตัส แล้วครูแจกกระดาษเปล่าขนาด A4 แก่นักเรียนคนละ 1 แผ่น เพื่อให้บรรยายหมี Koala ในหนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 6 Read the information and write about the animal. นักเรียนดูข้อมูลท่ีให้มาในหนังสือเรียนและเขียนบรรยายโดยดูตัวอย่างในการเขียน จากขอ้ 5 พร้อมกับตกแตง่ ผลงานให้สวยงาม จากน้ันครูรวบรวมผลงานแลว้ สุ่มผลงานของนักเรียน 3-4 ช้ิน เจ้าของผลงานออกมานำเสนอและพูดบรรยายหน้าช้ันเรยี น ครูตรวจผลงานและส่งผลงาน คนื นกั เรยี น เพื่อให้นกั เรียนเก็บไวเ้ ปน็ ผลงานของตนเอง ตวั อยา่ งงานเขยี นของนกั เรียน The koala lives in Australia. They have grey, big round ears, black nose, short arms and legs. They weigh about 8-14 kilograms, about 60 centimetres tall. They sleep about 16-17 hours a day. They can live 17 years. 4. ครสู อนการออกเสียง /st/ ซ่ึงเทียบได้กับเสยี ง 2 เสยี ง คือเสียง /s/ และเสียง /t/ ซึ่งก็คือเสียง “ส” และ “ท” ในภาษาไทยน่ันเอง นักเรียนต้องออกเสียง /s/ ก่อนเสียง /t/ ครูหยิบบัตรคำ 1 คำขึ้นมาเพื่อเปน็ ตวั อย่าง คือ tallest ครชู ้ีไปท่ีปากแล้วออกเสยี งบัตรคำซ้ำๆ โดยเน้นที่ - st นักเรียนออกเสียงตาม ครูเตรียมบัตรคำ fastest, longest, heaviest, smallest ครูชูบัตร
คำทีละคำและอ่านออกเสียง นักเรียนฝึกออกเสียงตามทีละคำ จากน้ันให้นักเรียนฝึกออกเสียงด้วย ตนเอง แล้วครเู ปิด CD/Track 48 2 รอบ เพอื่ ให้นักเรียนฝึกออกเสยี งตาม CD English sounds Listen and say. Giraffe are the tallest and cheetahs are the fastest. 5. ครูสอนการออกเสียง /b/ ซึ่งเทียบได้กับเสียง “บ” ในภาษาไทย ครูเตรียมบัตรภาพ ได้แก่ รูป หมี รูปเดก็ ผู้ชาย รปู นก รูปกลอ่ ง และครูชูบัตรภาพทีละใบ แลว้ ถามนกั เรยี นว่า Teacher : What’s this? (ชูบัตรภาพหม)ี Students : It’s a bear. Teacher : Bear, bear, bear. (นักเรียนออกเสียงตามครู 3 ครั้ง) Students : Bear, bear, bear. นักเรียนฝึกออกเสียง /b/ ตามบัตรภาพ ได้แก่ boy, bird, box จนคลอ่ ง นกั เรยี นช่วยกนั คิดหาคำศัพทอ์ ื่นๆ ที่ข้นึ ตน้ ด้วยเสียง /b/ เม่ือคิดได้แล้วจึงบอกครู ครูเขยี นบน กระดาน เพือ่ ใหน้ ักเรยี นฝกึ ออกเสียง เชน่ big bed brown black bee book bench etc. กจิ กรรมรวบยอด 1. นักเรียนเปิดแบบฝึกหัด หน้า 36 ข้อ 4 Write the superlative. Them complete the sentences. ครูทบทวนการเปลี่ยนคำคุณศัพท์ให้เป็นข้ันสูงสุด (Superlative) แล้วเปล่ียน คำที่ให้มาเป็น Superlative จากน้ันดูข้อมูลของสัตว์แต่ละชนิด ครูช้ีไปท่ีรูปภาพทีละรูปแล้วถาม นักเรียนเป็นภาษาไทยเกี่ยวกับน้ำหนัก ความสูง และความยาวของสัตว์ชนิดนั้น แล้วให้นักเรียน เปรยี บเทียบขอ้ มลู ดังกล่าว และเตมิ คำลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ต้อง tallest lightest shortest heaviest longest 1. heaviest, lightest 2. shortest, largest
3. tallest, shortest 2. ครูให้นักเรียนบรรยายเป็นภาษาไทยเก่ียวกับ “อูฐ” ว่ามีลักษณะอย่างไร แล้วให้นักเรียนอ่าน บทความในแบบฝึกหัด หน้า 37 ข้อ 5 Read and answer the questions. นักเรียน อ่านและแปลบทความเป็นภาษาไทยทีละประโยค จากนั้นให้นักเรียนทุกคนร่วมกันตอบคำถามจาก เนื้อเร่ือง ครูอ่านคำถามทีละคำถาม แล้วครูสุ่มนักเรียน 4 คน ให้ออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน คนละ 1 ข้อ ครใู ห้นักเรียนระวงั การใช้คำกริยา 1. They live in the desert. 2. It is brown. It has got short fur and long, thin legs. It has a large body and a long neck. 3. It has a hump on its back. 4. It eats leaves of trees. 3. ครูถามนักเรียนว่านักเรียนรู้จักนกอีมู (Emu) หรือไม่ ถ้ารู้จักหรือไม่รู้จักให้นักเรียนพยายามตอบ หรือเดา ครูถามนักเรียนทุกคนเป็นภาษาไทยว่า นกอีมูเป็นสัตว์จำพวกใด มีถ่ินกำเนิดที่ไหน ลกั ษณะตามลำตัวเปน็ อย่างไร ทานเนื้อสัตวห์ รือกินพชื เสร็จแล้วจึงทำแบบฝึกหัด หน้า 37 ข้อ 6 Read and complete. โดยดูขอ้ มูลแบบย่อและนำขอ้ มูลมาเติมในช่องว่างใหส้ มบูรณ์ เม่ือทุกคน เติมข้อมูลลงในแบบฝึกหัดเสร็จแล้วจึงช่วยกันเฉลย ครูเรียกหัวหน้าห้องให้ออกมาเขียนเฉลยบน กระดาน ครตู รวจทานอีกครง้ั นกั เรียนต่างแก้ไขงานของตน 1. emu 2. Australia 3. 150-190 centimetres 4. long neck 5. long legs 6. run very fast 7. leaves of trees 8. insects Background Information ครอู ธิบายนักเรยี นว่า คำว่า “centimeters” ใชใ้ นประเทศอังกฤษ แต่ในอเมริกาเขียน “centimeters” เช่นเดียวกบั คำวา่ centre - center
(นำ) (USA) 4. ให้ดูแบบฝกึ หัด หนา้ 37 English sounds ครูอา่ นออกเสียงคำแตล่ ะคำใหน้ ักเรยี นออกเสยี ง ตาม จากนั้นฟัง CD/Track 55 แลว้ วงกลมคำที่ไดย้ ินพรอ้ มกบั ออกเสียงตาม ครเู ปิด CD เพอื่ เฉลยและให้นกั เรียนฝกึ ออกเสยี งตาม CD Listen, circle and say. miss less guest chest 7. การวัดและประเมนิ ผล 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ประเมนิ การทำแบบทดสอบ 7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ - ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม 7.3 การประเมินหลังการเรียน - ประเมินการทำแบบทดสอบ - ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การเขยี นขอ้ มลู ของหมโี คลา ลงในตาราง 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน Smile ป. 5 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5 4. บัตรภาพ บัตรคำ แถบประโยค
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187