Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ป.5 unit 1 บทที่1-4

ป.5 unit 1 บทที่1-4

Published by Bas Kjt, 2021-09-20 13:12:34

Description: ป.5 unit 1 บทที่1-4

Search

Read the Text Version

2. ครอู ่านออกเสียงคำทลี ะคำในแบบฝึกหดั หน้า 17 กจิ กรรม English sounds ให้นกั เรียนฝกึ ออก เสยี งตาม จากนน้ั ครูเปดิ CD/Track 28 3-4 คร้งั ให้นักเรียนฟังและฝึกออกเสยี งตาม CD แลว้ หาคำทเี่ นน้ เสยี งเหมือนคำวา่ morning เสร็จแลว้ ครูเฉลยคำตอบ แล้วใหน้ กั เรียนออกเสยี งตามครู morning reporter taxi assistant airport pilot Australia September guitar airport taxi pilot easy 3. ครูให้นักเรียนเล่นเกมพรายกระซิบ เพื่อให้นักเรียนฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษ โดยมีวิธีการเล่น ดังนี้ 1. นักเรยี นแบ่งออกเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 8 คน ยนื เรยี งเปน็ แถวตามยาว ให้หัวหนา้ ทีมอยู่ตน้ แถว 2. ครูเตรียมประโยค 8 ประโยค โดยพิมพ์ใส่กระดาษแข็งให้ครบตามจำนวนกลุ่ม ทุกกลุ่มจะ ไดร้ บั ประโยคท่เี หมอื นกัน ดงั นี้ 1. Sam is American. 2. She comes from Japan. 3. They speak Chinese. 4. We like hamburgers. 5. Tom likes English and maths. 6. Susan plays badminton. 7. Thai flag is white, red and blue. 8. What is your nationality. 3. หวั หน้าทีมต้นแถวอา่ นประโยคทลี ะข้อในใจ แล้วกระซิบต่อให้ลูกทมี แต่ละคน จากนน้ั ให้ ลูกทีมกระซิบต่อๆ กนั ไปจนถงึ คนสุดทา้ ย 4. ใหน้ กั เรียน 2 คนสดุ ทา้ ย ปรึกษาหารอื กันว่าไดย้ ินอะไร แลว้ เขียนลงในกระดาษทลี ะขอ้ 5. เมอ่ื กระซิบกันจนครบ 8 ขอ้ แลว้ ทกุ กลุ่มนำกระดาษทต่ี นจดออกมาอ่านให้ฟังทลี ะกลมุ่ มบี างขอ้ ทนี่ กั เรียนคนสุดท้ายอาจฟังผดิ และตคี วามเอง เช่น - Sam is America. (ขอ้ 1)

- Tim likes music and mad. (ขอ้ 5) - Suzi plays baseball. (ข้อ 6) เป็นต้น ครูสรปุ วา่ การท่เี ราฟงั ต่อหรือข้อมูลต่อๆ กันมา เราไม่ควรสรปุ ว่าเป็นเรือ่ งจริง ควรพิจารณาให้ รอบคอบก่อน เพราะข้อมูลอาจได้รบั การต่อเติมเสริมแตง่ จากผ้นู ำมาบอกกเ็ ปน็ ได้ 7. การวดั และประเมินผล 7.1 การประเมินกอ่ นเรียน - ประเมนิ การทำแบบทดสอบ 7.2 การประเมินระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - ประเมินการทำแบบฝกึ หดั - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลังการเรียน - ประเมนิ การทำแบบทดสอบ - ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การทำการด์ ประกอบบทความเก่ยี วกับประเทศที่ตนอยู่ 8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น Smile ป. 5 2. แบบฝึกหัด Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5 4. บัตรภาพ บตั รคำ บัตรประโยค

บันทกึ ผลการจัดการเรยี นร้/ู ปญั หาหรืออุปสรรค/ข้อเสนอแนะหรอื แนวทางการปรับปรุง 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น 2.1. ด้านความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ด้านคุณลักษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกันจารัตน์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อัตราจา้ ง

แผนการจดั การเรียนรู้ Unit 2 Who’s that? (Lesson 2) 1. สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับชื่ออาชีพของบคุ คลตา่ งๆ ทำให้ผเู้ รียนสามารถพูดขอและให้ขอ้ มูลสว่ นตวั ของ ตนเองแกผ่ ู้อ่ืนทราบได้ และยงั บรู ณาการร่วมกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื ดว้ ย 2. ตวั ช้ีวดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ออกเสียง สะกด และบอกความหมายคำศัพทช์ ื่ออาชีพของบุคคลได้ - พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับอาชีพของบุคคลได้ - เล่นเกมทางภาษาตามท่ีกำหนดได้ - รอ้ งเพลงทางภาษาตามที่กำหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว และความหมายเก่ียวกับข้อมลู ส่วนตวั เชน่ อาชพี ของบุคคล - ประโยค บทสนทนา เร่อื งสน้ั ๆ ท่มี ีภาพประกอบ - คำศัพท์ สำนวน และประโยคท่ีใชข้ อและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพ่อื น และครอบครัว เช่น What does he / she do? He / She is _________. - คำ กลมุ่ คำทมี่ ีความหมายสัมพันธก์ บั สงิ่ ตา่ งๆ เชน่ ภาพวาด - กิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม การร้องเพลง - การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพทท์ เ่ี ก่ยี วข้องใกล้ตวั จากสื่อและแหลง่ การ เรียนรตู้ า่ งๆ - การรวบรวมคำศพั ท์ที่เก่ียวข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดอยา่ งสร้างสรรค์ - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์

4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะทางภาษา - กระบวนการปฏิบตั ิ (ฟัง พูด อ่าน เขยี น) - กระบวนการทำงานกลมุ่ 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ - ซ่ือสตั ย์สุจริต 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ 6.1 ช่วั โมงที่ 5-6 กจิ กรรมนำสู่การเรียน 1. ครใู หน้ ักเรยี นทบทวนคำศพั ท์และรูปประโยค โดยใช้บัตรคำ บัตรภาพ และประโยค 2. ครูถามนักเรียนเกย่ี วกับอาชีพท่ีนักเรียนอยากจะเป็นในอนาคต ให้นักเรียนบอกครู และครูเขียน คำตอบของนกั เรยี นบนกระดาน เชน่ Teacher : What do you want to be in the future? Pang : Teacher. Pong : Nurse. Pompam : Doctor. 3. ครูถามนักเรียนเป็นภาษาไทยว่า ผู้ปกครองของนักเรียน พอ่ หรือแม่ทำงานอาชีพอะไร แล้วแต่ละ อาชีพนนั้ มีหน้าทห่ี ลักคืออะไร ให้นกั เรียนตอบเป็นภาษาไทย 4. ครูบอกนักเรียนวา่ ในบทเรยี นน้ีนักเรียนจะไดเ้ รียนเกีย่ วกับเรอื่ งอาชีพและบทสนทนาถาม-ตอบงา่ ยๆ แต่กอ่ นอื่นครูทดสอบคำศัพท์เกีย่ วกบั ประเทศ และสัญชาติต่างๆ ตามท่ีได้เรียนมา โดยเขยี นลงใน ชอ่ งว่างให้ถูกต้อง นักเรียนสามารถเปิดหนังสือเรียนดไู ด้ Countries Nationalities 1. Thailand ……………………………… 2. ……………………………… American 3. Canada ……………………………… 4. ……………………………... Japanese 5. Australia ………………………………

6. ……………………………… Chinese 7. France ………………………………. 8. ……………………………… Korean 9. India ……………………………….. 10. ……………………………… Singaporean เสร็จแล้วครพู ูดเฉลยคำตอบใหน้ กั เรียนฟงั ดงั นี้ Thai America Canadian Japan Australian China French Korea Indian Singapore กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรียนเตรียมพจนานุกรมอังกฤษ – ไทย มาคนละ 1 เล่ม ครูเตรียมบัตรคำ ดังนี้ teacher, pilot, soldier, driver, reporter, police, farmer, nurse, doctor ครูชูบัตรคำที ละ 1 ใบ โดยไม่ออกเสียงของคำ ให้นักเรียนเปิดพจนานุกรมแข่งกัน เพ่ือหาความหมายและคำ อ่านของคำศัพท์นั้นๆ ใครท่ีตอบถูกว่ามีความหมายและคำอ่านอย่างไร ได้ 1 คะแนน คนที่ได้ คะแนนสะสมมากทีส่ ุดถือวา่ ชนะ 2. ครใู ห้นกั เรยี นจดคำศัพท์พรอ้ มคำแปลบนกระดาน ดงั น้ี pilot = นักบิน student = นักเรียน taxi driver = คนขับรถแท็กซ่ี house keeper = แม่บา้ น shop assistant = พนกั งานขายของ doctor = หมอ, แพทย์ reporter = นักขา่ ว nurse = พยาบาล football player = นกั ฟุตบอล singer = นักรอ้ ง police officer = ตำรวจ actor = ดาราชาย soldier = ทหาร actress = ดาราหญิง teacher = ครู, อาจารย์ dancer = นกั เต้น ครอู า่ นออกเสยี งคำทลี ะ 1 คร้ัง แลว้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม คำละ 3 ครง้ั จนครบทกุ คำ Teacher : (ชีค้ ำว่า “pilot”) Pilot. Students : Pilot, pilot, pilot. ครูลบกระดาน แล้วติดบัตรคำบนกระดาน ดั งน้ี pilot, taxi driver, shop assistant, reporter,

football player, police officer, นักบิน, คนขับรถแท็กซ่ี, พนักงานขายของ, นักข่าว, นัก ฟุตบอล, ตำรวจ ครตู ิดบัตรคำดงั กลา่ วบนกระดาน โดยสลบั ทก่ี นั จากน้นั ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั จบั คบู่ ัตรคำใหถ้ ูกตอ้ ง เม่อื ไดบ้ ัตรคำทถ่ี ูกตอ้ งแล้วให้อ่านบตั รคำพร้อมคำแปล 3. ให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 22 ข้อ 1 Look, listen and repeat. ครูเปิด CD/Track 23 ให้นักเรียนฝึกออกเสียงตาม CD 3-4 คร้ัง แล้วให้ออกเสียงด้วยตนเอง ครูถาม ความหมายของคำในแต่ละคำ ให้นักเรียนช่วยกันตอบ ถ้าคำไหนที่นักเรียนไม่ทราบ ครูอนุญาตให้ นกั เรยี นใช้พจนานุกรมได้ เชน่ Teacher : What does it mean “report”? Students : นักขา่ ว pilot taxi driver shop assistant reporter football player police officer driver interview 4. ครูเขียนโครงสรา้ งประโยคและตัวอยา่ งการถาม-ตอบ ใหน้ ักเรียนดบู นกระดาน แล้วให้นกั เรยี นจด ลงในสมุดของตนเอง A : What does + he + do? (เขา / เธอ ทำงานอะไร) she B : He / She is + อาชีพ . เช่น Kim : What does your father do? Kaew : He is a doctor. จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คู่กับเพื่อนถาม-ตอบตามโครงสร้างประโยคทใ่ี หม้ าจนคล่อง ครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดสนทนาหน้าชัน้ เรยี น 5. นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรียน หนา้ 22 ข้อ 2 Listen and write. นักเรียนดูภาพทั้ง 6 ภาพ และครชู ไ้ี ปท่ีรูปแต่ละรูปแล้วบอกช่ือของผู้ชายและผู้หญิงในภาพ นักเรยี นฝกึ ออกเสยี งตาม Teacher : ช้ไี ปทีร่ ูปภาพผูช้ ายรูปแรก His name is Danny. Students : Danny. ครูเปดิ CD/Track 24 ให้นักเรยี นจับใจความวา่ แตล่ ะคนทำอาชพี อะไร ครูเปดิ CD 2-3 ครงั้ จากนน้ั ครเู ฉลยคำตอบจากการถามนักเรยี น

1. Hi! I’m Mei. I interview and talk to people. I work at a TV station. I am a reporter. 2. Good morning. I’m Danny. I work at the airport. I fly a plane. I’m a pilot. 3. My name’s Martha. I work at a shop in the city. I see lots of people. I’m a shop assistant. 4. Hello! I’m Tom. I work at the police station. I help people. I’m a police officer. 5. Hi! I’m Carlos. I love sports. I play football. I’m a football player. 6. Good afternoon. My name’s Joey. I work in my car. I like driving around the city. I’m a taxi driver. Danny - pilot Mei - reporter Tom - police officer Joey - taxi driver Carlos - football player Martha - shop assistant ตวั อยา่ งบทสนทนาทคี่ รแู ละนักเรยี นพดู ดังนี้ Teacher : What does he do? (ครชู ้ไี ปทภ่ี าพ Danny) Students : Danny is a pilot. Teacher : What does she do? (ครชู ไ้ี ปทภี่ าพ Alice) Students : Alice is a journalist. โดยครเู ป็นคนถามและนักเรียนเป็นคนตอบจนครบทกุ ภาพ ครูเลอื กนกั เรยี น 1 คน เป็นคนถาม อกี 1 คน เป็นคนตอบ ให้นักเรยี นท่ถี ามเลือกรูปภาพ 1 รปู จากหนังสือเรยี น ขอ้ 2 สำหรับ ถามเพ่ือนนักเรียนท่ีเป็นคนตอบ ดูภาพแล้วตอบคำถาม จากนั้นให้นักเรียนท่ีเป็นคนตอบ-ถาม คำถาม และเลือกเพ่ือนมา 1 คน เปน็ คนตอบแทนตนเอง และผลดั กันถาม-ตอบอย่างน้ีไปจนครบทุกคน 6. ครูเขยี นคำศพั ทใ์ หมๆ่ บนกระดาน ดงั นี้ hospital = โรงพยาบาล police station = สถานีตำรวจ airport = สนามบนิ school = โรงเรยี น shop = รา้ นค้า car = รถยนต์ TV station = สถานีโทรทศั น์

ให้นกั เรยี นจดคำศัพท์และคำแปลเหล่านล้ี งในสมุดของตนเอง จากน้นั เปดิ หนังสือเรียน หน้า 23 ข้อ 3 Match the occupations with the places of work. Then listen and check. จับคู่อาชีพกับสถานที่ใหส้ อดคล้องกัน เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ 1. an airport 2. a police station 3. a TV station 7. a hospital 5. a school 6. a shop 7. a car 1. My father is a pilot. He works at the airport. 2. Tom is a police officer. He works at the police station. 3. Maria is a reporter. She works at a TV station. 4. David is a doctor. He works in a hospital. 5. My mother is a teacher. She works at school. 6. My sister is a shop assistant. She works in the shop. 7. Frank is a taxi driver. He drives a taxi. 7. ครูอธิบายการใช้คำถามที่ข้ึนต้นด้วย What, Where, When, Who, How และแนวทางในการ อา่ นพร้อมตวั อยา่ งบนกระดาน ดงั น้ี What = อะไร ใช้ถามส่ิงของหรือสัตว์ เชน่ A : What is it? มนั คืออะไร B : It is a car. มนั คือรถยนต์ Where = ที่ไหน ใช้ถามเกยี่ วกับสถานที่ เช่น A : Where are you from? คุณมาจากที่ไหน B : I’m from Thailand. ฉันมาจากประเทศไทย When = เมอื่ ไหร่ ใชถ้ ามระยะเวลา หรอื ช่วงเวลา เชน่ A : Where are your birthday? วนั เกิดของคุณเมือ่ ไหร่ B : In January. ในเดือนมกราคม Who = ใคร ใชถ้ ามเกี่ยวกับคน เช่น A : Who is your best friend? เพอ่ื นทีด่ ที ี่สุดของคุณคือใคร B : Kaew. แก้ว How = อย่างไร เชน่ A : How do you do? เธอเปน็ อยา่ งไรบ้าง

B : I’m fine. สบายดีคะ่ ให้นกั เรียนจดลงในสมุดของตนเอง 8. ครใู ห้นักเรียนดูบทสนทนาในหนงั สือเรยี น หนา้ 23 ข้อ 4 Ask and answer with your partner. โดยครอู า่ นประโยคทีละประโยค ใหน้ ักเรยี นออกเสียงตาม จากนั้นครูอธิบายความหมายของประโยคเป็นภาษาไทย A : May I ask you questions? ฉันขอถามคุณหน่อยนะคะ B : Yes, of course. ไดค้ รับ A : Where does your mother work? แม่ของคุณทำงานที่ ไหน B : She works at a TV station. ท่านทำงานท่สี ถานีโทรทัศน์ A : What does she do? ท่านทำงานอะไร B : She’s a reporter. ทา่ นเปน็ นักข่าว ให้นกั เรยี นจับคู่กบั เพื่อน เพ่ือพูดบทสนทนาดังกลา่ วจนคลอ่ ง ซ่ึงนกั เรียนสามารถเปลี่ยนแปลง ขอ้ มลู ได้ แล้วครูสมุ่ นกั เรยี น 2 คู่ ออกมาพูดสนทนาหน้าช้นั เรียน กิจกรรมรวบยอด 1. ครูให้นักเรียนเรียงตวั อักษรภาษาองั กฤษในแบบฝกึ หัด หน้า 18 ข้อ 1 Unscramble and write the words. ให้เป็นคำทถี่ ูกตอ้ ง ครูสุ่มนกั เรียน 8 คน ใหเ้ ขยี นคำตอบบนกระดาน แล้ว ครูเฉลยคำตอบ พร้อมกบั อา่ นออกเสียงคำทลี ะคำ 1. plane 2. shop assistant 3. reporter 4. pilot 5. taxi driver 6. police officer 7. airport 8. head teacher 2. ครถู ามนักเรยี นว่า ภาพทั้ง 6 ภาพน้ี ในแบบฝกึ หัด หน้า 18 ข้อ 2 Look at the pictures and write sentences. What does he/she do? มอี าชพี อะไรบา้ ง และใหน้ ักเรียนตอบ คำถาม Teacher : What does he do in picture A? Students : He’s a football player. ครเู ฉลยคำถามโดยการใหน้ ักเรียนออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน และครูตรวจสอบความถูกต้อง ของคำตอบทนี่ กั เรยี นเขยี น

1. He’s a football player. 2. She’s a shop assistant. 3. He’s an astronaut. 4. She’s a reporter. 5. He’s a police officer. 6. He’s a pilot. 3. ให้นักเรียนดูภาพจากแบบฝึกหัด หน้า 19 ข้อ 3 Look and write sentences. แล้วหา คำศัพท์จากหนังสือเรียน หน้า 22 ข้อ 1 และสมุดของตนเอง ให้ตรงกับภาพอย่างเหมาะสม จากน้นั สุ่มนักเรยี น 5 คน อ่านประโยคและคำตอบ คนละ 1 ขอ้ แลว้ ร่วมกันอภิปรายว่าคำตอบ นัน้ ถูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไมถ่ ูกให้นักเรียนชว่ ยกนั แก้ไขคำตอบ จากนนั้ ครเู ฉลยคำตอบ 1. police station 2. plane 3. shop 4. car 5. TV station 4. ครูให้นักเรียนนำคำท่ีกำหนดให้มาแต่งประโยคให้สมบูรณ์ แล้วจับคู่ประโยคกับภาพให้ถูกต้อง จากนน้ั ครเู ฉลยคำตอบ แล้วถามนักเรยี นว่าจากประโยคดังกลา่ ว เขา/เธอ ทำงานอะไร ให้นักเรียน ช่วยกันตอบในแบบฝกึ หัด หนา้ 19 ข้อ 4 Match and write sentences. Teacher : What does he / she do? Students : He / She is a …………………… 1. b He goes to a lot of countries. He flies a plane. 2. c He likes sports. He plays football. 3. d She talks to people. She writes news stories. 4. a He drives a police car. He helps people. 5. e She works in a shop. She sees a lot of people.

บนั ทกึ ผลการจดั การเรียนรู/้ ปัญหาหรืออุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะหรอื แนวทางการปรับปรุง 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรียนของนกั เรียน 2.1. ดา้ นความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ด้านคุณลักษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกันจารัตน์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อตั ราจา้ ง

6.2 ช่วั โมงท่ี 7-8 กจิ กรรมนำสกู่ ารเรียน 1. ครูให้นักเรียนทบทวนคำศัพท์หมวดหมู่อาชีพ สถานที่ทำงาน สัญชาติ และประเทศ ตามที่ได้เรียน มาแล้วด้วยรูปภาพ บัตรคำ 2. ครูบอกนักเรียนว่าในชั่วโมงนี้ นักเรียนจะเรียนรู้และฝึกทักษะการสนทนาเก่ียวกับอาชีพ เช้ือชาติ และประเทศ รวมท้ังฝกึ อา่ นจบั ใจความ และฝึกเขียน กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 24 ข้อ 5 Ask and answer with your partner. แล้วครูอ่านออกเสียงชื่อคนในแต่ละภาพ และให้นักเรียนออกเสียงตาม จากน้ันให้นักเรียนดูรูป ประโยคท่ีให้มาเป็นตัวอย่างในการถาม-ตอบ และให้นักเรียนเป็นผู้ตอบ จากนน้ั ทดสอบนักเรียนเป็น รายบคุ คล โดยใช้ประโยคทใ่ี หม้ าในการถาม-ตอบ ดังนี้ Teacher : Look at picture 1. Who’s that? Students : That’s Mike. Teacher : What does he do? Students : He’s a football player. Teacher : What’s his nationality? Students : He’s Australian. 2. ครูให้นักเรียนดูหนังสือเรียน หน้า 24 ข้อ 6 Read and complete. Use the sentences in the box. ใหน้ ักเรียนนำประโยคคำตอบท่ีกำหนดมาเติมลงในช่องวา่ ง โดยดูจาก ประโยคคำถามที่ให้มา จากนั้นให้นักเรยี นอ่านท้ังประโยคคำถามและคำตอบพร้อมกัน เพ่ือเป็นการ เฉลยคำตอบ 3. A : Who’s that? B : That’s Sandra. A : Where’s she from? B : She’s from Australia. A : What’s her nationality? B : She’s Australian. A : What does she do? B : She’s a doctor.

ครูจดขอ้ มูลโดย (Fast File) บนกระดานแลว้ ถามนักเรียนตามประโยคทก่ี ำหนดในหนงั สอื เรียน หนา้ 24 ขอ้ 6 และใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบ เช่น Name : Suchada Country : Thailand Nationality : Thai Occupation : Teacher 3. ครูให้นักเรียนอ่านเน้ือความในจดหมายพร้อมกันทีละประโยค ในหนังสือเรียน หน้า 25 ข้อ 7 Read and complete. แลว้ ช่วยกนั แปลความในจดหมายเปน็ ภาษาไทย จากน้ันตอบคำถามโดย ดขู อ้ มลู จากจดหมายดงั กลา่ ว แลว้ ครูจึงพดู เฉลยคำตอบ 1. She is a assistant. 3. She has got one brother. 2. He is a police officer. 4. He likes computer. ครูแจกกระดาษการ์ดแข็งขนาด 4×6 นิ้ว ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น แล้วเขียนจดหมายถึง Jenny บรรยายเกี่ยวกับครอบครัวของตนเองโดยดูจดหมายของ Maria เปน็ ตัวอยา่ ง จากนน้ั ใหน้ ักเรยี น พลิกกระดาษอกี ด้านหนงึ่ วาดรูปครอบครัวของตนเองตามทีก่ ำหนดให้ในหนงั สือเรยี น หนา้ 25 ขอ้ 8 Draw the picture of your family. Then write a paragraph like the one above. พรอ้ มกับตกแต่งใหส้ วยงาม เสรจ็ แลว้ ส่งครูเพ่ือตรวจสอบความถกู ต้องของประโยค และนำผลงานนกั เรียนติดทบี่ อร์ดหน้าช้นั เรียน 4. ครสู อนนกั เรยี นออกเสยี ง /d/ ซงึ่ เทียบได้กับเสียง “ด” ในภาษาไทย แลว้ ครูเตรียมบัตรคำ do, does, Denny, drive, driver และแสดงบตั รคำทีละใบ จากนน้ั ออกเสยี งคำโดยเนน้ เสยี ง /d/ และให้นกั เรยี นออกเสียงตาม เชน่ Teacher : (ชูบัตรคำ do) /d/ do (ครูชีท้ ี่ปาก) Students : /d/ do ครูทำเช่นนจ้ี นครบทุกคำ แล้วใหน้ ักเรียนออกเสียงด้วยตนเอง จากน้ันใหน้ ักเรียนหาคำทม่ี ี /d/ เปน็ พยญั ชนะต้นใหไ้ ดเ้ ยอะท่ีสดุ นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบ ครจู ดคำตอบของนกั เรยี นบนกระดานทุกคำ

แล้วให้นกั เรยี นออกเสียงตาม dog day draw drink dig door etc. drop David downtown desk 5. ครใู ห้นักเรียนรวบรวมคำศพั ท์ทง้ั หมดท่ีนักเรียนได้เรียนมาลงในสมดุ Your word book พรอ้ ม วาดภาพ และระบายสีใหส้ วยงาม (อาจหาภาพมาตัดแปะ จากนิตยสาร) แลว้ นำมาส่งให้ครตู รวจ อีกครง้ั เมือ่ ครูสง่ คนื แล้วจึงนำกลบั ไปท่องจำคำศัพท์ กิจกรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ ักเรียนเรยี งลำดับประโยควา่ ประโยคใดมาก่อน-หลัง ในแบบฝกึ หัด หนา้ 20 ข้อ 5 Rearrange the sentences. Then listen and check. แล้วร่วมกันวิเคราะห์คำตอบ จากนนั้ ครูเปิด CD/Track 29 ให้นกั เรียนฟงั และตรวจคำตอบ 2 ครั้ง ครูเขยี นประโยคท่ี เรยี งลำดับแลว้ บนกระดาน และให้นกั เรยี นช่วยกนั อา่ นประโยคด้วยตนเองอีกคร้งั นักเรียนจับคกู่ ับ เพือ่ นฝึกสนทนาถาม-ตอบประโยคดังกล่าวจนคล่อง ครสู ุ่มนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาสนทนาหนา้ ช้นั เรียน A : May I ask you some questions? B : Yes, of course. A : Where does your father work? B : He works on a plane. A : What does he do? B : He’s a pilot. A : Thank you. B : You’re welcome. 31675284

2. กอ่ นครูจะเปิด CD ให้นักเรียนฝึกออกเสียงและฝกึ การฟัง ในแบบฝึกหดั หน้า 20 ข้อ 6 Listen and complete. แล้วใหน้ กั เรยี นเลอื กประโยคที่ให้มาเติมลงในช่องว่างให้ถกู ต้องและ เหมาะสม จากนน้ั ครเู ฉลยคำตอบโดยการเปดิ CD/Track 30 ให้นกั เรยี นฟงั A: Who’s that? B: That’s Peter. A: What does he do? B: He’s a police officer. A: Where’s he form? B: He’s from Canada. A: What’s his nationality? B: He’s Canadian. A: Thank you. B: You’re welcome. That’s Peter. He’s a police officer. He’s from Canada. He’s Canadian. You’re welcome. ครูสุ่มนักเรียน 1 คน เปน็ คู่สนทนากับครู โดยครูเป็นผู้ถามและนักเรียนท่ถี กู สมุ่ เปน็ ผ้ตู อบใน แบบฝกึ หัด หน้า 20 ขอ้ 6 จากนัน้ ให้นักเรียนจบั คกู่ ับเพ่ือนฝกึ สนทนาถาม-ตอบ แลว้ นำมา สนทนาใหค้ รฟู ัง 3. ครูอ่านออกเสียงคำท่ีให้มาในแบบฝึกหัด หน้า 21 ขอ้ 7 Read and complete. Use the words in the box. ให้นักเรียนออกเสียงตาม แล้วอ่านบทความที่ให้มา จากน้ันจึงเลือกคำมา เตมิ ลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ ซ่งึ นักเรยี นสามารถดตู ัวอยา่ งในหนังสือเรียน หนา้ 25 ขอ้ 7 แล้วครู เฉลยคำตอบ

1) ten 5) works 2) is 6) sister 3) shop assistant 7) likes 4) police officer 8) happy 4. ครูแจกกระดาษให้นกั เรียนคนละ 1 แผ่น เขียนบทความบรรยายเกี่ยวกับ Polly โดยใช้คำที่ให้มา จากแบบฝึกหัด หน้า 21 ข้อ 8 Draw and write about Polly. Use the words in the box. มาบรรยายให้เหมาะสม โดยให้นักเรียนวาดรูป Polly แล้วเขียนบรรยาย โดยดู บทความในแบบฝึกหดั หน้า 21 ข้อ 7 เป็นตัวอยา่ งในการเขียน (ตัวอย่าง) This is Polly. She is twelve years old. Her mum is Farah and she is a teacher. She works in a school. His dad is Arnold and he is a doctor. He works in St. Peter Hospital. Polly has got a brother. His name is Billy and he likes sports. Polly has got a happy family!

บนั ทึกผลการจดั การเรยี นร้/ู ปัญหาหรืออุปสรรค/ข้อเสนอแนะหรือแนวทางการปรบั ปรุง 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรียนของนกั เรยี น 2.1. ดา้ นความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกันจารตั น์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อตั ราจา้ ง

6.3 ช่วั โมงท่ี 9-10 กิจกรรมนำสกู่ ารเรียน 1. ครใู หน้ ักเรยี นทบทวนคำศัพท์และรปู ประโยคดว้ ยบัตรคำ บัตรภาพ และแถบประโยค 2. ครเู ตรียมบัตรรายช่ือ, ประเทศ, สญั ชาติ, อาชีพ ดังน้ี ชอ่ื คน ประเทศ สญั ชาติ อาชพี Aiko America American pilot Cheng France French taxi driver Mike China Chinese shop assistant Danny Canada Canadian reporter Tim Japan Japanese football Maric Australia Australian player police officer ครเู ลือกบัตรหัวข้อละ 1 ใบ จากนน้ั ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั แต่งประโยคจากบัตรคำที่ใหม้ า ตวั อยา่ ง Teacher : ตดิ บตั รคำดังต่อไปนี้ Mike America American pilot Students : He is Mike. He is from America. He is American. He is a pilot. ครทู ำอย่างนีไ้ ปเรื่อยๆ จนครบทกุ คำ 3. ครบู อกนักเรียนวา่ ในบทเรยี นนจ้ี ะทบทวนคำศัพท์ และรูปประโยคใน Lesson 1-2 ซงึ่ นกั เรยี นจะ ได้ทำโครงงานการทำ poster เก่ียวกบั ประเทศ กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้ 1. ครูแจกกระดาษแผ่นเล็กๆ ขนาด 3×4 เซนติเมตร ให้นักเรียนทุกคนเขียนชื่อเล่นของตนเองลงไป โดยครูอนุญาตให้เขียนเป็นภาษาไทยได้ และรวบรวมกระดาษช่ือนักเรียนไว้ที่ครู จากน้ันครูแจก กระดาษท่ีมีรายชื่อนักเรียนให้กับนักเรียนโดยไม่ดูรายชื่อ และห้ามแจกกระดาษที่เป็นรายช่ือของ นักเรียนเอง ถ้านักเรียนคนใดได้รับชื่อของตนเองให้เปลี่ยนกับเพื่อนทันที ให้นักเรียนจับคู่กับพ่ือน

ข้างเคียงถาม-ตอบ โดยใช้รูปแบบประโยคในหนังสือเรียน หน้า 26 ข้อ 1 Talk about a person you see. โดยดกู ระดาษรายชื่อเพอื่ นวา่ ชือ่ อะไร แลว้ ใหส้ มมตุ อิ าชีพ, ประเทศ และ เช้อื ชาตขิ น้ึ มาเอง ฝกึ สนทนาถาม-ตอบจนคลอ่ ง จากนนั้ ออกมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี นทุกคู่ AB Hi! Hello! Who’s that man/woman? That’s + ชอื่ เพือ่ น . What does he/she do? He / She’s + อาชพี . Where’s he/she from? He / She’s + from + ประเทศ . What’s his/her nationality? He / She’s + เชอ้ื ชาติ . 2. ครใู ห้เลน่ เกม Guess what? โดยครูทำฉลากคำใบ้ขึ้นมาในฉลากเขยี นบรรยายอาชีพแต่ละอาชีพ แลว้ ให้นกั เรียนจับฉลากขึน้ มา 1 ใบ ครอู า่ นคำใบ้แลว้ ให้นกั เรียนทายวา่ เปน็ อาชพี อะไร เช่น คำใบ้ เฉลย 1. I interview and talk to people. I sometimes Reporter write news stories. I work at a TV station. What am I? Shop assistant 2. I sell many things in at shop. I work at a shop. Who am I? Pilot 3. I have to go to another place every day. I wear a uniform. I want at the Teacher airport. Who am I? 4. I have many students in my classroom. I Nurse teach English. I work at school. Who am I? 5. I work at a hospital. I have a white hat on my head. Who am I? ให้นักเรียนดูรปู แบบการตอบในหนงั สอื เรียน หน้า 26 ข้อ 2 Ask and answer with your partner. 3. ครูบอกนักเรียนว่าในปัจจุบันเป็นโลกแห่งเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านการส่ือสารมีวิวัฒนาการและ พัฒนารูปแบบให้ทันสมัย รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น จดหมาย อิเล็คทรอนิกส์ หรือ E-mail เป็นต้น ครูถามนักเรียนในห้องเรียนว่า ใครมี E-mail แล้วบ้าง

นักเรียนยกมือเพื่อแสดงตนว่ามี จากน้ันให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 27 ข้อ 3 Read and answer the questions. และอ่านจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ (E-mail) ของ Jane แล้ว ตอบคำถามให้ถูกต้อง ครูเฉลยคำตอบโดยใช้การอภิปรายคำตอบของนักเรียน จากน้ันเขียนเฉลย คำตอบบนกระดาน 1. She’s 11 years old. 4. He’s a pilot. 2. She’s tall and thin. 5. She’s a reporter. 3. Geography. 6. He likes playing football. 4. ครใู ห้นักเรยี นเขียนตอบ E-mail ของ Jane ในหนังสือเรยี น หนา้ 28 ขอ้ 4 Write your e-mail to answer Jane’s letter. Use the chart and Jane’s letter to help you. จากนน้ั ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทุกคนสง่ E-mail ถึงครูเป็นการบ้าน โดยสมมตุ ิวา่ ครูคอื Jane กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นักเรียนเปิดแบบฝกึ หดั หน้า 22 ขอ้ 1 Match and listen. แล้วครูเปดิ CD/Track 31 2 ครั้ง ใหน้ ักเรียนจบั ค่ปู ระโยคคำถามและคำตอบ จากน้ันให้นักเรียนฝกึ สนทนาถามตอบตาม ประโยคดังกลา่ วกบั เพ่ือนจนคล่อง ครูคอยชว่ ยเหลือนกั เรียนท่ีออกเสียงประโยคไม่ถกู ต้อง A: Who’s that girl? B: That’s Kana Kito. A: Is she a new student here? B: Yes, she is. A: Is she Chinese? B: No, she isn’t. A: Where’s she from? B: She’s from Japan. She’s Japanese. A: Does she study in our class? B: Yes, she does.

1. c 2. d 3. a 4. e 5. b 2. ให้นักเรียนอ่านออกเสียงบทความในแบบฝึกหัด หน้า 22 ข้อ 2 Read and write T (true) or F (false). พร้อมกัน ครูถามนักเรียนเก่ียวกับเน้ือหาในบทความที่อ่าน และให้ นกั เรยี นชว่ ยกันตอบคำถาม ดังนี้ Teacher : What is her name? Students : Amanda Torres. Teacher : What does she do? Students : She’s a reporter. Teacher : Where is she from? Students : She’s from Madrid. Teacher : How many languages can she speak? Students : 3 languages. Teacher : What are they? Students : They are English, Japanese and Chinese. Teacher : What times does she finish her work? Students : She finishes her work at 5 o’clock. จากนั้นอ่านข้อความท่ีให้มาและเปรียบเทียบจากข้อมูลของ Amanda ว่าเป็นจริงหรือไม่ ถ้าเป็น จริง เขียน T ถ้าเป็นเทจ็ เขยี น F และบอกด้วยว่าข้อมลู ที่เป็นจริงคืออะไร ครอู า่ นขอ้ ความและให้ นักเรยี นตอบ เพอ่ื เฉลยคำตอบ 1. T 2. F She can speak English. 3. F She goes the TV station by bus. 4. T 5. T 3. นักเรียนนำคำท่ีให้มาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้องและเหมาะสมในแบบฝึกหัด หน้า 23 ข้อ 3 Read and complete. Use the words in the box. ซ่ึงนักเรียนสามารถดูแบบฝึกหัด

ข้อ 2 ได้ เม่ือเติมเสร็จแล้วให้นักเรียนอ่านประโยคทีละประโยคจนครบ ครูช่วยแก้ไขประโยคที่ นักเรียนเตมิ คำถูกตอ้ ง จากนั้นใหน้ ักเรียนเขยี นบทความทีส่ มบูรณ์ลงในสมดุ ของตนเอง 1. Canadian 2. capital 3. speak 4. gets up 5. starts 6. drives 7. meets 8. finishes 9. likes 10. Doing 4. ครูแจกกระดาษเปลา่ ใหน้ ักเรยี นคนละ 1 แผน่ เขียนเก่ียวกับ Catherine Brown โดยใชข้ อ้ มูลท่ี ให้มาเขียนบรรยายและดูรูปแบบการเขียนจากแบบฝึกหัด หน้า 23 ข้อ 3 พร้อมกับตกแต่งให้ สวยงาม แล้วส่งครูเพ่ือตรวจสอบความถูกต้องของรูปประโยค แล้วนำผลงานของนักเรียนไปติด บอร์ดหนา้ หอ้ งเรียน Catherine Brown is a shop assistant. She’s Canadian. She’s from Ottawa, the capital of Canada. Catherine can speak Japanese. Catherine gets up at 6 o’clock. She starts work at 8 o’clock. She works at a supermarket. She meets lots of people. She finishes her work at 5 o’clock in the evening. After work Catherine likes listening to music and watching TV.

บันทึกผลการจัดการเรียนร้/ู ปญั หาหรอื อปุ สรรค/ข้อเสนอแนะหรอื แนวทางการปรับปรุง 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรียนของนกั เรยี น 2.1. ดา้ นความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ดา้ นคณุ ลักษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกนั จารัตน์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อัตราจา้ ง

แบบประเมนิ ทกั ษะทางภาษา เกณฑก์ ารให้คะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง พูดสนทนาเ ่ีกยวกับ ัสญชาติ ประเทศ และอา ีชพ รวม สรปุ ผล ของผู้คน คะแนน การประเมิน อ่านออกเ ีสยง สะกดคำ และบอกความหมาย เลขท่ี ชื่อ-สกลุ คำ ัศพ ์ทเ ี่กยวกับสัญชา ิต ประเทศ อา ีชพ และ สถาน ่ีททำงานต่างๆ ี่ทเรียนได้ พูดและเ ีขยนประโยค Wh-Questionsได้ ผา่ น ไม่ผา่ น ฟังและอ่านจับใจความได้ เ ีขยนบรรยายผู้อ่ืนและตนเองเก่ียวกับ ัสญชา ิต ประเทศ เ ืมอง ี่ทอยู่ และธงชา ิตได้ 1 เดก็ ชาย ณภัทร วนั สริ ิโอภาส 2 เดก็ ชาย ธีรศกั ด์ิ สิริวจีงาม 3 เดก็ ชาย พัทธนนั ท์ มูลแก้ว 4 เด็กชาย ยงยทุ ธ พริ ิยะวทิ ยาธร 5 เด็กชาย วรถั ต์ เรืองกิจหล้า 6 เดก็ ชาย สัณหพ์ ชิ ญ์ วงศ์พริ ณุ ทอง 7 เด็กชาย สุพศิน ปู่แก้วต๊ะ 8 เด็กชาย เอกชัย เชิดชูคุณธรรม 9 เด็กชาย เอกรนิ ทะรยิ ะ 10 เดก็ หญงิ กญั ญภคั วาสนาดเี ลิศ 11 เด็กหญงิ เกศรนิ ทร์ สุทธมิ งคลกลู 12 เด็กหญงิ ชฎาภรณ์ สสี วุ รรค์ 13 เด็กหญงิ ฐดิ าพร เอกขจรไพศาล 14 เดก็ หญิง ทพิ วรรณ แสนวงั ทอง 15 เดก็ หญงิ ธัญพิชชา ชุตวิ ัฒน์ธารสุข 16 เดก็ หญงิ ธาวนิ ี วงศพ์ ริ ุณทอง 17 เดก็ หญิง มาตกิ า ดิลกพาณชิ ย์กลุ 18 เดก็ หญิง มานีสา อรณุ นภาลยั 19 เดก็ หญิง วรญั ญา รัตนมานะชยั 20 เด็กหญงิ ศิรดา ฉัตรไทยรุ่ง ลงชอ่ื ..................................................................... ผู้ประเมนิ (นางสาวกันจารตั น์ ใจหาญ) ตำแหนง่ อตั ราจา้ ง

แบบประเมนิ ชน้ิ งาน คำช้แี จง : ให้ครูผสู้ อน ตรวจชนิ้ งานของนักเรียน โดยเขียนระดับคะแนนลงในตาราง ให้ตรงกับความสามารถของ ผเู้ รยี น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรับปรงุ เลขที่ ชือ่ -สกุล การนำเสนอผลงาน (ในภาพรวม) รวม สรุปผล การเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอ คะแนน การประเมิน 1 เดก็ ชาย ณภัทร วนั สริ โิ อภาส (หรือความสามัค ีคในการทำงาน) 2 เด็กชาย ธีรศักด์ิ สิริวจงี าม ความถูก ้ตองของช้ินงาน ผ่าน ไม่ผา่ น 3 เด็กชาย พทั ธนนั ท์ มูลแก้ว ความเรียบร้อยสวยงาม 4 เดก็ ชาย ยงยุทธ พิรยิ ะวทิ ยาธร ความ ิคดริเริ่มสร้างสรร ์ค 5 เด็กชาย วรัถต์ เรอื งกิจหลา้ 6 เดก็ ชาย สณั หพ์ ชิ ญ์ วงศ์พิรณุ ทอง 7 เดก็ ชาย สพุ ศนิ ปแู่ กว้ ต๊ะ 8 เด็กชาย เอกชยั เชิดชูคุณธรรม 9 เดก็ ชาย เอกริน ทะริยะ 10 เด็กหญิง กัญญภัค วาสนาดเี ลิศ 11 เดก็ หญงิ เกศรินทร์ สุทธิมงคลกลู 12 เด็กหญงิ ชฎาภรณ์ สสี ุวรรค์ 13 เด็กหญงิ ฐิดาพร เอกขจรไพศาล 14 เด็กหญงิ ทิพวรรณ แสนวงั ทอง 15 เดก็ หญิง ธญั พิชชา ชุติวฒั นธ์ ารสุข 16 เด็กหญิง ธาวินี วงศพ์ ริ ณุ ทอง 17 เด็กหญิง มาตกิ า ดลิ กพาณิชยก์ ุล 18 เด็กหญิง มานสี า อรณุ นภาลัย 19 เดก็ หญงิ วรญั ญา รัตนมานะชยั 20 เดก็ หญงิ ศิรดา ฉตั รไทยรงุ่ ลงชือ่ ..................................................................... ผู้ประเมนิ (นางสาวกนั จารตั น์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อัตราจา้ ง

การประเมนิ : นักเรยี นท่ีไดค้ ะแนน 10 คะแนนข้ึนไป ถือว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเต็ม 20) ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ดา้ น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น ในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในช่องว่างให้ตรงกบั ระดับคะแนน และตามความเปน็ จรงิ โดยมีเกณฑ์การใหค้ ะแนน ดงั น้ี 4 = พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนมาก และบอ่ ยคร้งั สม่ำเสมอ 3 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชดั เจนและสมำ่ เสมอ 2 = พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิชดั เจนและบ่อยครง้ั 1 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางคร้งั คณุ ลักษณะอนั พงึ รายการประเมิน ประสงคด์ ้าน 1.1 มคี วามรัก และภมู ใิ จในความเป็นชาติ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา กษัตริย์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภักดตี ่อสถาบันพระมหากษตั ริย์ 2.1 ปฏิบัติตามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน 2. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเป็นจริงต่อผู้อื่น 3. มีวนิ ยั 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความร้อู ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ด้อยา่ งมเี หตุผล 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 5.1 ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด 7. รักความเปน็ ไทย 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า 8. มจี ิตสาธารณะ 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ 6.1 มคี วามต้งั ใจ และพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค เพอื่ ใหง้ านสำเร็จ 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 ร้จู กั การให้เพื่อส่วนรวม และเพอ่ื ผู้อืน่ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ้ำใจหรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้อื่น 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบำเพญ็ ตนเพอ่ื ส่วนรวมเม่อื มีโอกาส

แบบประเมินประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ด้าน สรปุ ผล การประเมิน เลขที่ ช่ือ-สกุล รวมคะแนน ผา่ น ไม่ผา่ น 1 เดก็ ชาย ณภัทร วนั สิรโิ อภาส 2 เดก็ ชาย ธรี ศกั ด์ิ สริ ิวจงี าม 3 เดก็ ชาย พทั ธนันท์ มูลแกว้ 4 เดก็ ชาย ยงยทุ ธ พริ ิยะวทิ ยาธร 5 เดก็ ชาย วรัถต์ เรืองกิจหลา้ 6 เด็กชาย สณั หพ์ ิชญ์ วงศพ์ ิรณุ ทอง 7 เด็กชาย สุพศนิ ปูแ่ ก้วตะ๊ 8 เด็กชาย เอกชัย เชดิ ชคู ุณธรรม 9 เดก็ ชาย เอกรนิ ทะริยะ 10 เด็กหญงิ กญั ญภัควาสนาดเี ลิศ 11 เด็กหญงิ เกศรนิ ทร์ สทุ ธิมงคลกลู 12 เดก็ หญิงชฎาภรณ์ สสี วุ รรค์ 13 เดก็ หญงิ ฐดิ าพร เอกขจรไพศาล 14 เดก็ หญิงทิพวรรณ แสนวังทอง 15 เด็กหญงิ ธัญพิชชา ชตุ ิวัฒนธ์ ารสุข 16 เด็กหญงิ ธาวนิ ี วงศ์พิรณุ ทอง 17 เด็กหญงิ มาติกา ดิลกพาณิชยก์ ุล 18 เด็กหญิงมานีสา อรณุ นภาลยั 19 เด็กหญิงวรัญญา รัตนมานะชยั 20 เด็กหญิงศิรดา ฉัตรไทยรุ่ง ลงชอ่ื ..................................................................... ผปู้ ระเมนิ ....................................................... ............................................ (นางสาวกนั จารตั น์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อัตราจา้ ง

แผนการจดั การเรียนรู้ Unit 3 Healthy habits รหสั วชิ า อ15101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาภาษาองั กฤษ ชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลาเรยี น 10 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ผ้สู อน นางสาวกันจารัตน์ ใจหาญ โรงเรยี น ราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ชน้ั ปี สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสือ่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ งั และอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมเี หตุผล ตวั ช้วี ัด 2. อา่ นออกเสยี งประโยค ข้อความ และบทกลอนสนั้ ๆ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน 3. ระบ/ุ วาดภาพ สญั ลักษณ์ หรือเครอื่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค และ ข้อความส้ันๆ ทีฟ่ ังหรอื อา่ น 4. บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา และนิทานง่ายๆ หรอื เร่อื งสั้นๆ มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ ตวั ช้ีวัด 2. ใชค้ ำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำงา่ ย ๆ 4. พดู /เขียน เพ่ือขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครวั และเร่อื งใกลต้ ัว มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องตา่ งๆ โดยการพดู และการเขยี น ตัวชวี้ ดั 1. พูด/เขยี นให้ข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง และเรอ่ื งใกลต้ ัว สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้ อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชวี้ ดั 3. เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ตัวช้ีวัด1. บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่ืองหมาย วรรคตอน และการลำดับคำ (Order) ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม ตวั ชว้ี ัด 1. ฟงั พดู และอ่าน/เขยี น ในสถานการณ์ทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียน และสถานศกึ ษา มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเคร่อื งมือพ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และ การแลกเปล่ียนเรียนรู้กบั สังคมโลก ตัวชี้วดั 1. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้นและรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ 2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาหาร เครื่องด่ืม ผักและผลไม้ต่างๆ บทสนทนาเก่ียวกับอาหารและ เครื่องดื่ม และถามถึงอาการป่วยไข้ต่างๆ การใช้ some/any การให้คำเสนอแนะ การบอกลำดับข้ันตอน ของการทำกิจกรรม การใช้ประโยค Present Simple Tense การออกเสียง (k) และ (t) การอ่านจับ ใจความ และการเขยี นเรียงความเปน็ การเรียนร้ภู าษาอังกฤษเพื่อนำไปใชส้ ื่อสารในชวี ิตประจำวนั 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - คำศัพทเ์ ก่ียวกับอาหาร เครื่องดมื่ ผกั และผลไมต้ ่างๆ - บทสนทนาเกยี่ วกบั อาหารและเครื่องดืม่ ท่บี รโิ ภค e.g. A : What’s for your lunch? B : I have a hamburger. A : What’s your drink? B : I have orange junce. และบทสนทนาเพื่อถามถึงอาการปว่ ยไขต้ า่ งๆ e.g. Jame : What’s wrong with Mike? Jim : He has a headache. - Grammar : - some / any e.g. I don’t have any money but I have some friends. - Present Simple Tense e.g. He walks to school everyday. They often eat fast food. - Suggestion e.g. You should eat vegetable. We shouldn’t eat candies. - “have” = eat, talk “มี.” e.g. I have breakfast at 7. (have = eat)

She has a bath twice a day. (has = take) - การใช้ Discourse markers เพ่อื บอกลำดับขั้นตอนการทำกิจกรรม e.g. Frist, boil water, Then, …….. Next, ….. Finally, eat it. - Pronunciation : initial sound [k] and [t] - การอ่านจับใจความ - การเขียนเรียงความ - มารยาททางสงั คม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา - กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเล่นเกม การร้องเพลง - การใช้ภาษาในการฟงั /พูดในสถานการณง์ ่ายๆ ที่เกิดขนึ้ ในห้องเรียน - การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพทท์ ่ีเก่ียวข้องใกลต้ ัว จากสอื่ และ แหล่งการเรียนรตู้ า่ งๆ 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร - ฟัง เข้าใจในสง่ิ ทไี่ ด้ยิน หรือสนทนา - พูด ไดใ้ จความ ออกเสยี งไดถ้ ูกต้อง สามารถถา่ ยทอดข้อมูล เนือ้ หาได้ - อ่าน เขา้ ใจตัวอักษร คำ และภาพทีเ่ ห็นในหนังสอื เรียน แบบฝกึ หัด และอ่านออกเสียง ได้ - เขยี น สามารถเขยี นตัวอกั ษร คำศัพท์ และประโยคงา่ ยๆ ได้ 4.2 ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทกั ษะการคดิ อย่างสร้างสรรค์ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - มีวนิ ัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยอู่ ย่างพอเพยี ง 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - การเขยี นขน้ั ตอนการทำสลัดผลไม้ - การเขยี นข้อความเกยี่ วกับสุขนสิ ยั ในการกินของตน - การเขยี นแบบสอบถามเกยี่ วกับสขุ นสิ ัยในกิจวัตรประจำวนั

- การจดั ทำแผน่ ป้ายรณรงคส์ ุขนสิ ยั (Healthy Habit Poster) - การรวบรวมคำศัพท์ใน Your word book 7. การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น - ประเมนิ การทำแบบทดสอบ 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ - ประเมินการทำแบบฝึกหดั - สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนร้ใู นชว่ งการทำกจิ กรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน - ประเมินการทำแบบทดสอบ - ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการเขยี นขนั้ ตอนการทำสลัดผลไม้ - ประเมินการเขียนข้อความเกยี่ วกับสขุ นสิ ยั ในการกนิ ของตน - ประเมนิ การเขยี นแบบสอบถามเก่ียวกบั สขุ นิสยั ในกิจวัตรประจำวัน - ประเมนิ การจดั ทำแผน่ ปา้ ยรณรงคส์ ุขนสิ ัย (Healthy Habit Poster) - ประเมนิ การรวบรวมคำศัพท์ใน Your word book 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ - กิจกรรมนำสู่การเรยี น ดังแนบมาพร้อมน้ี - กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ - กจิ กรรมรวบยอด 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน Smile ป. 5 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5 4. บัตรภาพ บัตรคำ แถบประโยค 5. เกมเสนอแนะ (Suggestion Game) 6. เกมใบ้คำ 7. เกม Healthy Habits

แผนการจัดการเรยี นรู้ Unit 3 Healthy habits (Lesson 1) 1. สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาหาร เคร่ืองดื่ม ผักและผลไม้ต่างๆ บทสนทนาเกี่ยวกับอาหารและ เคร่ืองด่ืมที่บริโภค การใช้ some/any การบอกลำดับข้ันตอนของการทำกิจกรรมต่างๆ การออกเสียงคำที่ ข้ึนต้นด้วยพยัญชนะ g (เสียง [k]) การอ่านจับใจความ และการเขียนเรียงความซ่ึงเป็นการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้ส่ือสารในชีวติ ประจำวนั 2. ตัวช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - พุดถาม-ตอบบทสนทนาเกี่ยวกับอาหารและเคร่ืองด่มื ที่บริโภคได้ - พูดและเขยี นคำศัพท์ อาหาร เครือ่ งดมื่ ผักและผลไม้ต่างๆ ได้ - พูด และเข้าใจความหมายของคำศัพท์ และประโยคตา่ งๆ ในบทนไ้ี ด้ - อา่ นจบั ใจความได้ - เขยี นบรรยายข้ันตอนการทำอาหารได้ - เล่นเกมตามท่ีกำหนดได้ - ออกเสียงคำทข่ี ้ึนตน้ ดว้ ยพยญั ชนะ g (เสยี ง [k]) ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - บทสนทนาท่ใี ช้ในการถาม-ตอบเกยี่ วกับอาหารและเคร่ืองดม่ื ทบ่ี ริโภค e.g. A : What’s for your lunch? B : I have a hamburger. A : What’s your drink? B : I have orange juice. - คำศัพท์เกยี่ วกบั อาหาร เคร่ืองดื่ม ผักและผลไมต้ ่างๆ - Grammar : 1. Some/any e.g. I have some friends. He doesn’t have any money. 2. Discourse markers (first, then, next, finally etc.)

e.g. First, boil water. Then, …………… Next, ……….. Finally, ……………… - Pronunciation : intial sound [k] - การอ่านจับใจความ - การเขยี นเรยี งความ - การใช้ภาษาในการฟงั / พูดในสถานการณต์ ่างๆ ทเ่ี กิดข้ึนในโรงเรียน - ความแตกต่างของเสยี งตวั อักษรภาษาอังกฤษ และภาษาไทย - มารยาททางสังคมทดี่ ี และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา - การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพทท์ ีเ่ ก่ียวข้องใกลต้ วั จากสือ่ และ แหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ 3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ - 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทกั ษะการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝเ่ รียนรู้ - อย่อู ย่างพอเพยี ง 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ 6.1 ช่ัวโมงที่ 1-2 กิจกรรมนำส่กู ารเรียน 7. ครูให้นักเรยี นทบทวนคำศัพท์และประโยคจากบทเรยี นที่ผ่านมาด้วยบัตรคำ และแถบประโยค 8. ครูเปิดเพลงเพื่อให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย โดยเปิด CD จากน้ันครูทำท่าทางประกอบเพลง ประมาณ 7-8 ครั้งต่อหนงึ่ ท่า ทำอยา่ งน้ปี ระมาณ 3-4 ทา่

9. ครูถามนักเรยี นทุกคนในห้องเรยี นวา่ กีฬา, อาหาร, ผลไม้ทนี่ กั เรยี นช่ืนชอบคืออะไร นักเรียนช่วยกัน ตอบใหๆ้ ได้มากท่สี ดุ โดยครูใหใ้ ช้รูปประโยค What’s your favourite ………….? ในการถาม นกั เรียน ดังตวั อย่างต่อไปนี้ Teacher : What’s your favourite sport? (กฬี าทชี่ นื่ ชอบคืออะไร) Amron : Basketball. (บาสเกตบอล) Teacher : What’s your favourite fruit? (ผลไมท้ ชี่ ื่นชอบคอื อะไร) Somrak : Grapes. (องนุ่ ) Teacher : What’s your favourite food? (อาหารทชี่ ่นื ชอบคืออะไร) Suda : Papaya salad. (ส้มตำ) ครูเขียนคำตอบของนักเรียนบนกระดาน โดยแยกประเภทของคำตอบออกเป็น 3 ประเภท ดงั นี้ Sports Food Fruits 1. Basketball Papaya salad Grapes 2. …………………….. …………………………. ………………………… 3. …………………….. …………………………. ………………………… นกั เรียนทุกคนชว่ ยกนั อา่ นคำศัพท์บนกระดานตามท่ีครูช้ี แล้วนำมาเขียนลงสมดุ ของตนเอง 4. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 32 ข้อ 1 What can you see? โดยนักเรียนดูภาพแล้ว บอกว่าเห็นอะไรบนโต๊ะอาหาร และบุคคลเหล่าน้ันกำลังทำอะไรในสระวา่ ยน้ำ และในห้องให้ดูภาพ แล้วช่วยกนั ตอบ ครเู ขยี นคำตอบทุกคำตอบของนักเรียนบนกระดาน Teacher : What can you see at the table in this picture? Students : Watermelons, oranges, grapes, ……. Sandwich, sausages, hot dog, …… Cola, orange juice, …… Teacher : What are they doing in the swimming pool? Students : They are swimmimg. Teacher : Very Good. 5. ครูเปดิ CD/Track 31 2 ครง้ั เพอื่ ให้นักเรียนฟังประโยคคำถาม ซ่ึงเกยี่ วกับรูปภาพข้างต้น

Look at the picture. Many people are at the sports centre. How many children are doing exercise? How many are swimming? Somes children are eating. What food can you see? What fruits can you see? Is there any cola? เมื่อนกั เรยี นฟังคำถามแลว้ พยายามตอบ ถ้าตอบไม่ได้ ครเู ปิด CD ชา้ ๆ แลว้ หยดุ คำถามพรอ้ มกบั แปลให้นักเรยี นฟงั ซ่ึงนกั เรยี นจะสามารถตอบได้ดว้ ยคำพูดงา่ ยๆ สนั้ ๆ 1. How many children are doing exercise? Three. 2. How many are swimming? Three. 3. What food can you see? Sandwich, cake, ham, …….. 4. What fruits can you see? Watermelon, oranges, grapes 5. Is there any cola? Yes. 6. ครูบอกนกั เรยี นว่าใบทเรยี นนี้ จะเรยี นเกี่ยวกับส่งิ ทีม่ ีประโยชน์และไม่มปี ระโยชน์ตอ่ รา่ งกาย ประโยค ทใี่ ชเ้ พอ่ื ถามและตอบแบบงา่ ย, ลำดบั ขนั้ ตอนการทำอาหาร และฝกึ ทำ fruit salad กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้ 5. ขนมปงั 12. ครเู ตรียมบัตรภาพท้ังหมด 10 ภาพ ดงั นี้ 9. ฮอตดอก 1. องุ่น 2. แตงโม 3. แฮม 4. ลกู อม 6. อาหารเสรมิ (ธัญพืช) 7. อมยิม้ 8. คกุ ก้ี

ครชู บู ัตรภาพทีละใบ ออกเสียงคำศัพท์คำนั้น และให้นักเรยี นช่วยกันสะกดโดยไมเ่ ปิดพจนานุกรม หรอื หนังสือเรียน เช่น Teacher : แคน-ด้ี (ชูภาพ “ลกู อม”) Students : C - A - N - D - Y แคน - ด้ี Teacher : Good. One point. เมือ่ ครบทกุ ภาพแลว้ นักเรียนคนใดสะกดได้ถกู ตอ้ ง และได้คะแนนมากทสี่ ุดถอื ว่าเปน็ ผูช้ นะ ครู นำบัตรภาพและบัตรคำของภาพแต่ละภาพติดบนกระดาน พรอ้ มกบั จดคำแปลใตบ้ ัตรคำ ใหน้ กั เรียน จดลงในสมุดของตนเอง 2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 33 ข้อ 1 Look, listen and repeat. นักเรียนฝึกออกเสียง คำศัพท์ตาม CD/Track 32 2 รอบ และออกเสยี งเอง 1 รอบ ตามรูปภาพ ครูแบ่งกระดานเป็น 2 ส่วน ในส่วนที่ 1 ครูเขียนหัวข้อ Good for US. ส่วนที่ 2 Not good for US. ครูหยิบ บัตรภาพทั้ง 10 ใบ ตามรูปภาพในข้อท่ี 1 ทีละใบ ออกเสียงคำศัพท์แล้วให้นักเรียนช่วยเลือกว่า ภาพท่ีครชู นู ั้นอยใู่ นหัวขอ้ อะไร ครูนำบัตรภาพมาตดิ ตามหวั ขอ้ ทน่ี ักเรียนบอก แล้วครูเฉลยคำตอบ grape watermelon ham candy toast cereal lollipop cookie sausage hot dog 3. ครูให้นักเรียนบอกว่ารูปภาพในหนังสือเรียน หน้า 33 ข้อ 2 Listen and draw lines from the foods to the correct basket. มีอะไรบ้าง โดยฟัง CD/Track 33 ประกอบการตอบให้นักเรียน ชว่ ยกันตอบ และครูเขยี นเฉลยบนกระดาน If you want to be healthy, this is the advice. Eat rice, fish, Vegetables and fruit. Fish is good for everything and rice you emergy. Do not eat too much candies, chocolates, cookies and pizzas. Drink water. Do not drink too much cola. Healthy fruits Unhealthy pizza vegetables rice cola chocolate fish camdies water cookies 5.

ครูนำกล่องเปล่าใบใหญ่ 2 ใบ ที่ติดข้อความ healthy and unhealthy ออกมาวางหน้าชั้นเรียน พร้อมแบ่งนักเรียน 2 กลุ่ม แจกกระดาษ A4 กลุ่มละ 10 ใบ และปากกาเคมีกลุ่มละ 1 ด้าม เขียน รายการอาหารดังกล่าวลงในกระดาษ A4 1 แผ่น ต่อ 1 อย่าง จากน้ันให้แต่ละกลุ่มช่วยกันแยก ประเภทอาหาร ถ้าชนิดใดมีประโยชน์ก็ให้นำมาหย่อนลงในกล่อง healthy ถา้ ไม่มีประโยชน์ให้หย่อน ลงในกล่อง Unhealthy ครเู ฉลยพรอ้ มกับใหน้ ักเรียนลากเสน้ จากอาหารไปยังตะกร้า 4. ครเู ขียนประโยคต่อไปนบ้ี นกระดาน ให้นักเรียนจดลงสมุดของตนเอง 1. Food is good for me. I eat it everyday. 2. Food is not good for me. I don’t eat it. เชน่ Fruit is good for me. I eat it everyday. (ผลไม้ดสี ำหรับฉนั ฉนั กินมันทุกวนั ) Chocolate is not good for me. I don’t eat it. (ช็อกโกแลตไมด่ สี ำหรับฉัน ฉนั ไม่กนิ มัน) ให้นักเรยี นจับคู่กับเพ่ือน เพื่อนพูดคุยโดยใชป้ ระโยคดังกลา่ ว ครูสุ่มนักเรียนออกมา 5-6 คู่ หน้าชัน้ เรยี น จากนน้ั ครูหยบิ ภาพขึ้นมาทลี ะภาพ ออกเสียงคำศัพทข์ องภาพ แล้วให้นกั เรยี นนำรปู แบบประโยค บนกระดานมาตอบ เช่น Teacher : ชภู าพลกู อมแลว้ ออกเสียงคำศพั ท์ “Candy” Students : Candy is not good for me. I don’t eat it. Teacher : ชภู าพขวดทม่ี นี ำ้ อยู่ ออกเสยี งคำศัพท์ “Water” Students : Water is good for me. I eat it every day. 5. ให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 34 ข้อ 3 Listen and tick (√) the food Ann has. ให้ นกั เรียนฟัง CD/Treck 34 แล้วขีด √ ลงในภาพอาหารท่ี Ann มี เสร็จแล้วครเู ปิด CD 2 รอบ เพ่ือให้ นกั เรียนฟังว่า อาหารเชา้ ของ Bob คืออะไร นกั เรยี นทุกคนช่วยกนั ตอบ Ann : What do you want for breakfast, Bob? Bob : Hmm. Are there any eggs? Ann : No, there aren’t any. But there are some cookies. Bob : OK. Are there any sausages? Ann : Yes, there are.

Bob : But I don’t like sausages and cookies. Is there any bread? Ann : Yes, there is. Bob : Is there any milk? Ann : No, there isn’t any milk. But there is some orange juice. Bob : OK. So let’s have sausages, sandwiches and a glass of orange juice. สุดทา้ ยครูจงึ สรุปว่า Ann มขี นมปัง ไส้กรอก คุกกี้ ขนมปังป้งิ น้ำสม้ ครูเขยี นบนกระดาน ดงั น้ี Ann has bread, sausages, cookies and orange juice ให้นักเรียนขดี √ ลงใน ใต้ภาพอาหารแต่ละภาพ Background Information 1. Sausage คือไส้กรอกฝรั่งท่นี ักเรียนทานเป็นอาหารเช้ากับไขด่ าวและ ขนมปังปง้ิ สว่ นกนุ เชยี ง เราเรียกวา่ Chinese sausage (ไสก้ รอกจีน) 2. คำวา่ “biscuit” ซ่งึ ชาวอังกฤษหมายถึง ขนมปงั กรอบน้ัน ชาวอเมรกิ ันเรยี กวา่ “cracker” กิจกรรมรวบยอด 1. นกั เรียนเปิดแบบฝึกหัด หนา้ 24 ข้อ 1 Listen and point. ครใู ห้นักเรยี นดูภาพ 3 นาที แลว้ เปดิ CD/ Treck 41 ใหน้ ักเรยี นช้ีภาพจากท่ีฟงั CD และเปิด CD อีก 1 รอบ เพ่ือให้นักเรยี นฟงั ประโยคที ละประโยค แลว้ บอกให้ไดว้ ่าแตล่ ะประโยคมคี ำว่าอะไรบ้าง เมอื่ ได้ประโยคท่สี มบรู ณ์ นักเรียนฝกึ ออกเสียงตาม CD อีกคร้งั 1. Same children are doing exercise. 2. There is a cake on the table. 3. There are three childrer in the swimming pool. 4. There are cookies on the table. 5. Bananas are on the table. 2. นักเรยี นเลือกคำท่ีให้มาเติมลงในชอ่ งวา่ งใหส้ มบูรณ์ในหนา้ 24 ขอ้ 2 Look at the picture. Then complete the sentences. โดยดรู ูปภาพจากข้อ 1 ประกอบ ครูเฉลยคำตอบ แล้วใหน้ ักเรียนฝึก อา่ นออกเสียงทีละประโยคด้วยตนเอง ครูคอยชว่ ยเหลอื นักเรยี นทอ่ี า่ นไมไ่ ด้หรอื ออกเสียงไมถ่ ูกต้อง

This is the sport centre. The children are doing some exercise. Three children are in the swimming pool. There is a party near the swimming pool. There are cookies on the table. 3. ครชู ูบัตรภาพทีละใบ และถามนักเรียน ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบ ดงั นี้ บัตรภาพ แตTงโeมacher : What’สs ม้ this? (ชรู ปู แตงโมธ)ญั พืช ฮอทดอก องุ่น Students: Watermelon. ครนู ำไบสัต้กรรคอำกของแต่ละภาพมาตซิดุบปนกระดาน แล้วให้นักเไรขีย่ นชว่ ยกันหาความหอมมายยขม้ิ องคำ โดยดูจาก หนังสือเรียน นักเรียนคนใดหาความหมายได้แล้วให้ออกมาเขียนบนกระดาน เมื่อได้ความหมายครบ ทั้ง 9 คำ ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด หน้า 25 ข้อ 1 Look and complete the puzzle. นำคำ ภาษาองั กฤษท้งั 9 คำ มาเติมลงในช่องว่างของปริศนาอักษรไขวใ้ หถ้ ูกตอ้ ง 1. wartermelon 6. sausage 2. orange 7. soup 3. cereal 8. egg 4. hot dog 9. lollipop 5. grape 4. ให้นักเรียนดูภาพอาหารต่าง ๆ ในแบบฝึกหัด หน้า 25 ข้อ 2 Look and classify. โดยครูชี้ทีละ ภาพตามแนวนอน เพอี่ ใหน้ ักเรยี นระบวุ า่ เป็นภาพอะไร ใหน้ ักเรยี นช่วยกันตอบ

- ครูบอกนักเรยี นวา่ อาหารท่ีนกั เรยี นเหน็ มีทั้งอาหารท่ีมีประโยชน์ และอาหารทไี่ ม่มีประโยชน์ ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนข้างเคียง เพ่ือจำแนกอาหารทั้ง 2 กลุ่ม โดยเขียนลงในช่องว่างท่ี กำหนดให้ ซง่ึ ครกู ำหนดเวลาให้ 5 นาที - เมื่อถึงเวลาท่ีกำหนด ครูสุ่มนักเรียน 2 คน ให้ยืนขึ้นบอกอาหารท่ีมีประโยชน์ (healthey food) และอาหารที่ไม่มีประโยชน์ (unhealthey food) ทีละคน แล้วออกมาเขียนบน กระดาน จากนัน้ ครูตรวจและแก้ไขจนถกู ตอ้ ง Healthey food salad, fruits, cereal, fish, orange, juice Unhealthey food cake, candy, pizza, ice-cream, cola นกั เรยี นตรวจงานของตนเอง แล้วอ่านออกเสยี งดังๆ 5. ครูทบทวนนกั เรียนเร่ืองการใช้ “Some” และ “Any” ดังนี้ Some ใช้กบั ประโยคบอกเลา่ คำทตี่ ามหลงั some เป็นได้ทั้งคำนามพหูพจนแ์ ละ คำนามนบั ไมไ่ ด้ เชน่ I have some books. She has some friends. Any ใช้กบั ประโยคปฏิเสธและคำนาม ใช้ไดก้ บั คำนามพหูพจนแ์ ละ คำนามนบั ไมไ่ ด้ เชน่ She doesn’t have any money. We don’t have any apples. Do you have any books? สรปุ วา่ Some ใช้กบั ประโยคบอกเล่า Any ใชก้ บั ประโยคคำถามหรอื ปฏิเสธ นกั เรียนดูภาพอาหารต่างๆ ท่ีอยู่ในตู้เยน็ ในแบบฝึกหดั หน้า 26 ข้อ 3 Complete with some or any. แล้วนำข้อมูลที่กำหนดเติมลงในประโยคต่างๆ ท่ีอยู่ด้านขวามือของภาพ ซึ่งนักเรียนสามารถ ปรกึ ษากบั เพ่ือนๆ ได้ แตห่ ้ามลอกกันเม่ือทุกคนทำแบบฝึกหัดเสร็จ ครูสมุ่ เรยี กนักเรียน 10 คน ให้ยืน ขึน้ อา่ นคนละ 1 ประโยค ครูช่วยแก้ ข้อที่ผิด แล้วเขยี นคำตอบบนกระดาน ดังนี้ 1. some, any 2. any, some 3. some 4. any 5. some, any 6. any 7. any



บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนรู้/ปัญหาหรอื อุปสรรค/ข้อเสนอแนะหรอื แนวทางการปรบั ปรงุ 1. ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น 2.1. ด้านความรู้ (K) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3. ด้านคณุ ลกั ษณะ (A) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ................................................... ผู้บันทึก (นางสาวกนั จารัตน์ ใจหาญ) ตำแหน่ง อัตราจ้าง

6.2 ช่ัวโมงท่ี 3-4 กจิ กรรมนำสกู่ ารเรียน 1. ครแู ละนักเรียนทักทายกัน แลว้ ให้นักเรียนบางคนทีม่ าสายเป็นประจำสมอ มาเข้าชั้นเรยี นให้ตรงเวลา และมรี ะเบยี บวนิ ยั ให้มากกว่านี้ 2. ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับอาหารเพื่อสขุ ภาพท่ีได้เรียนไปแล้วในชัว่ โมงที่ 1-2 ด้วยบัตรภาพและบัตร คำ โดยครูชูภาพอาหารทีละภาพ แลว้ ให้นักเรียนบอกคำศพั ท์ 3. ครูทดสอบความสามารถในการเขียนคำศัพท์ของนักเรียน ตามทีค่ รูได้มอบหมายใหน้ ักเรียนไปท่องจำ คำศัพทเ์ กี่ยวกบั อาหารตา่ ง ๆ เปน็ การบ้าน ครูแจกแบบทดสอบแก่นักเรียนคนละ 1 ใบ ครูใหน้ ักเรียน ทำแบบทดสอบด้วยตนเอง แล้วอนุญาตให้นักเรียนเปิดดูคำศัพท์ในหนังสือเรียนได้ เม่ือนักเรียนทุก คนทำแบบทดสอบเสร็จ ครจู ึงเฉลยคำตอบบนกระดาน 4. ครูบอกนักเรียนว่า คำศัพท์ที่นักเรียนได้ทำแบบทดสอบท่ีผ่านมา ส่วนมากเป็นอาหารท่ีมีประโยชน์ (healthy food) ในชั่วโมงต่อไป นักเรียนจะได้เรียนรู้อาหารท่ีมีประโยชน์ที่ชาวตะวันตกนิยม รบั ประทาน ทำใหพ้ วกเขามรี ูปรา่ งสงู ใหญ่ กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. นักเรียนดูหนังสือเรียน หน้า 34 ข้อ 4 What’s for lunch? Write a list of four thirgs. ซ่ึงมี ภาพอาหาร เคร่ืองด่ืม และผลไม้ต่างชนิดกัน ครูให้นักเรียนดูภาพแล้วบอกให้ได้ว่าในภาพมีอะไรบ้าง เป็นภาษาอังกฤษ จากภาพให้นักเรียนเลือกมา 4 ภาพ สำหรับกล่องอาหารกลางวัน ครูถามนักเรียน ว่าอาหารกลางวันของนักเรียนมอี ะไรบ้าง นักเรียนแตล่ ะคนตอบ โดยใชร้ ปู ประโยคภาษาอังกฤษดงั นี้ A : What’s for lunch? B : I have ……. เช่น Teacher : What’s for lunch? Sommai : I have a pizza, cake, orange and water. นักเรียนตอบตามภาพที่นักเรียนเลือก 4 ภาพ ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม (A, B) ครูให้ สมาชิกแต่ละกลุ่มปรึกษากนั เลือกอาหารมา 1 อย่าง เคร่อื งดื่ม 1 ชนิด จากนั้นผลัดกันถามตอบตาม รปู ประโยคที่ให้มา ดังนี้ A : What’s for your lunch? B : I have a ………(อาหาร)………….. A : Is there any fruit (ผลไม้) vefgetable (ผัก)? B : Yes, there is …….. (มีผกั ../ ผลไม.้ ...) No, there isn’t …….. (ไม่มีผัก../ ผลไม้....)

A : What’s your drink? B : I have a ………(เครื่องด่มื )………….. ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ถามและตอบพร้อมๆ กัน 2. ครูเขียนคำศัพท์และผลไม้บนกระดานพร้อมคำแปล แล้วออกเสียงคำศัพท์ให้นักเรียนออกเสียงตาม และเขยี นลงสมุดของตนเอง จากนั้นครูชบู ัตรภาพพร้อมถามนักเรียน และให้นักเรียนชว่ ยกันตอบตาม รปู ประโยค ดงั น้ี Teacher : What’s this? Students : It is a/an . Fruit Vegetable pineapple – สบั ปะรด lettuce – ผกั กาดหอม watermelon – แตงโม cucumber – แตงกวา grape – องุ่น corn – ขา้ วโพด coconut – มะพรา้ ว onion – หอมใหญ่ rose apple – ชมพู่ lime – มะนาว guava – ฝรั่ง mushroom – เห็ด longan – ลำไย pumpkin – ฟักทอง pomelo – สม้ โอ 3. ครจู ดคำศพั ท์คำใหม่ พร้อมคำแปลบนกระดาน ให้นกั เรยี นจดคำศัพท์เหล่านน้ั ลงสมุดของตนเอง First = ลำดบั ที่หนง่ึ , ท่ีหน่งึ , เป็นอนั ดับแรก Next = ถดั มา, ต่อไป Then = หลังจากน้นั Finally = ทา้ ยท่ีสุด, ในท่สี ุด, สดุ ท้าย Ingredient = ส่วนประกอบ, สว่ นผสม boil = ตม้ wash = ลา้ ง peel = ปอก (เปลือก) slice = เฉอื น หรือหัน่ เป็นช้ินๆ pour = เท, ราด ครอู อกเสยี งคำศพั ท์และใหน้ กั เรยี นออกเสยี งตาม จากนน้ั ครูอธิบายเร่อื งลำดบั ขัน้ ตอนดังน้ี

ในการลำดับขั้นตอนหรือเรียบเรียงเหตุการณ์ ให้ใช้คำต่อไปนี้เพื่อบอกว่าขั้นตอนหรือเหตุการณ์ใดท่ี เกดิ ขึ้นกอ่ น – หลงั First ใชบ้ อกเหตุการณ์ท่เี กดิ ข้นึ เป็นอนั ดับแรกสุด Next, Then ใช้บอกเหตุการณ์ทเ่ี กิดขนึ้ ต่อจากเหตุการณ์ทผ่ี ่านมาแลว้ ก่อนหนา้ น้นั Finally ใชบ้ อกเหตุการณส์ ุดท้ายทเ่ี กิดขน้ึ หรอื บางทีอาจจะใช้ First, Second, Third……. (ลำดับท่ี 1 , ท่ี 2, ที่ 3...) ก็ได้ ให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน ข้อ 5 หน้า 35 Read and number the pictures with the order of sequences. และให้นักเรียนทุกคนช่วยกันอ่านและแปลทีละประโยค จากน้ันนักเรียนดูภาพแล้วเติม หมายเลขในช่องว่างเรียงตามลำดับขั้นตอนให้ถูกต้อง ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม แจกกระดาษ A4 กลุ่มละ 1 ใบ ให้นักเรียนเขียนช่ือสมาชิกและสิ่งทีน่ ักเรียนจะเตรียมมาทำ Fruit Salad ในช่ัวโมงเรียนต่อไป เพ่ือความสะดวกครูเตรียมน้ำเชื่อม จาน ชาม ชอ้ น มดี ไว้สำหรบั นกั เรยี นทกุ กลุ่ม 4. ครูทบทวนการทำ Fruit Salad อีกคร้ัง จากนั้นให้นักเรียนลงมือปฏิบัติตามข้ันตอน เมื่อลงมือปฏิบัติ เสร็จแล้ว ให้นักเรียนช่วยกันเขียนวิธีการทำดังรูปแบบการเขียนในหนังสือเรียน หน้า 35 ข้อ 6 Write your own fruit salad recipe. แล้วครูแจกกระดาษให้แต่ละกล่มุ กลุ่มละ 1 แผ่น ตัวแทน กลุ่มออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรียน Good morning teacher and our friends. This is our ingredents and recipe to make fruit salad. The ingredents are sugar, water, apples, grapes, papayas and guavas. First boil sugar with water to make syrup. Next, wash the fruits. Then peel and slice the fruits. When the syrup is cold, pour it over the fruits. Finally, serve it on the dish. นกั เรียนสามารถดตู ัวอย่างการเขียนในขอ้ 5 ได้ เมอื่ ตวั แทนทุกกล่มุ ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน จนครบแล้ว ทกุ กลมุ่ ชิม Fruit Salad ของกลุ่มตนเอง 5. ครูสอนการออกเสยี ง /k/ หรือตวั g ในภาษาอังกฤษ ซง่ึ เทียบไดก้ ับเสยี ง “ก” ในภาษาไทย ครูเตรยี ม บัตรภาพ girl grape game gun sugar ครชู ูบตั รภาพทีละภาพและออกเสียงคำให้นกั เรียนทุกคนออกเสียงตามเม่ือครบทุกคำ ให้นักเรยี น ออกเสยี งทีละคน จนครบทุกคำ Teacher : ครชู ูบัตรภาพองุ่น What’s this? Chanchao : Grape.

Teacher : How do your spell “Grape”? Chanchao : G – R – A – P – E. Teacher : Pronounce this word again. Chanchao : Grape. พยายามใหน้ ักเรยี นเน้นเสยี ง / k / นักเรยี นคนใดออกเสยี งผดิ ครูแกไ้ ขการออกเสียงของนักเรียน 6. ครชู แู ซนวชิ 1 คู่ แลว้ ถามนักเรียนว่ามีใครยงั ไม่เคยทานแซนวิชมากอ่ น ซง่ึ นักเรยี นทุกคนจะตอบวา่ เคยทาน เพราะสามารถซื้อได้ทุกที่ เชน่ รา้ นสะดวกซ้ือ หรือแม้กระท่งั รา้ นขายของชำ Teacher : Haven’t you never eaten sandwich before? ครชู ูแซนวชิ สูงๆ ประกอบคำถาม Students : Yes, yes. Background Information ในภาษาองั กฤษ ถ้าเป็นประโยคคำถามปฏเิ สธ เช่น ถามว่า คณุ ไม่เคยทานแซนวชิ มาก่อนใช่ไหม ถา้ ตอบวา่ No คอื ไม่เคยทาน แตถ่ ้าตอบวา่ Yes คือเคยทานมาก่อน ซึง่ แตกต่าง จากภาษาไทย ในที่นี้นักเรยี นตอบแบบองั กฤษ - ครบู อกนกั เรียนว่า ต่อไปน้ีนักเรียนจะไดอ้ ่านตำนานของแซนวชิ (The Legend of sandwich) ซึ่งกลา่ วถึงตน้ กำเนดิ ของกนิ ชนิดน้ี เม่อื อ่านขอ้ ความตำนานแซนวิชแลว้ ขอให้นกั เรียนจับคูค่ ำถาม กับคำตอบใหถ้ ูกต้อง ครแู นะนำเทคนคิ ในการอ่านจบั ใจความ จึงให้อา่ นคำถามขา้ งทา้ ยกอ่ น เพือ่ จะได้หาคำตอบและมีจุดมงุ่ หมายในการอ่าน - ครแู จกข้อความตำนานของแซนวิชให้นกั เรียนคนละ 1 แผน่ ให้นกั เรยี นอ่านเงียบ ๆ แตใ่ นช่วง ตอบคำถามนักเรยี นสามารถปรกึ ษากับเพ่อื นคนอ่นื ๆ ได้ 7. The Legendn of Sandwich Long time ago, Ther was a Sandwich town in England. The Earl of Sandwich loved to play cards. He played cards all day and night. He hated to stop the game to eat. One day he got an idea of putting meat between two pieces of bread. So he could play cards and eat at the same time-. Soเมpอื่ eถoึงpเlวeลcาaทllีก่ sำaหndนwดicนhักbเรeียcaนuแsลeะoคf รthชู e่วEยกarันlแoปf Sลaบnทdคwวicาhม.ตำนานแซนวชิ และเฉลย ครูเขียน Now match the questions with the answers. ค1.ำตอWบhบeนnกdรidะดthาeนstory happen? A. Cards 2. Whaเฉt ลdiยd the1E. afrl of 2S.anadwic3h.lcike to4p.laey? 5. b B. M6e. adt 3. Did he like to stop the game to eat? C. No, he didn’t. 4. How many hours a day did he play this game? D. England 5. What did he put between two pieces of bread? E. 24 hours

- ครใู หอ้ าสาสมัครนกั เรยี น 2 คน ยนื ขน้ึ อ่านคนละ 3 บรรทัด - ครูอธิบายคำว่า “Earl” แกน่ ักเรยี นวา่ เปน็ ยศถาบรรดาศกั ด์ิของขุนนางองั กฤษ แตเ่ ป็นยศชน้ั ล่างๆ นอกจาก Earl กย็ ังมี Sir, Lord, Count, Duke เหมือนกบั ในประเทศไทยทม่ี ี มจ., มรว., มล., คุณหญงิ กิจกรรมรวบยอด 1. ให้นักเรยี นเปิดแบบฝึกหัด หน้า 26 ข้อ 4 Complete the dialogue. Then ask and answer. ให้นักเรียนดูภาพ แล้วช่วยกันเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง จากน้ันให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนสนทนา ตามบทสนทนาดังกล่าวท่สี มบูรณ์ ครสู ุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คู่ ออกมาสนทนาหนา้ ช้นั A : What do you have for breakfast? B : I always have cereal, egg and milk. A : Do you have fruit? B : Yes, I do. I like fruit. A : What furit do you have? B : I have grape and watermelon. A : What do you drink? B : I drink orange juice. 2. นักเรียนอ่านบทความในแบบฝึกหัด หน้า 27 ข้อ 5 Read and complete the spider graph. แล้วทำตามหัวข้อและตัวอย่างท่ีให้มา โดยนำเสนอรายละเอียดจากบทความมาเติมให้สมบูรณ์และ ถูกต้อง นักเรียนช่วยกันอ่านและแปลความหมายทีละประโยค ครูช่วยแก้ไขเรื่องการออกเสียงและ ตีความหมายของนกั เรยี น ครูแจกกระดาษใหน้ ักเรยี นคนละ 1 แผน่ เพื่อทำแผนผังความคดิ ตามหัวข้อ Meals and mealtines in Thailand (อาหารและม้ืออาหารในประเทศไทย) ครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมาพูดนำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น จากนั้นรวบรวมผลงานนักเรียนมาตดิ บอรด์ หนา้ ห้องเรียน 3. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด หน้า 27 ข้อ 6 Complete with first, then, next and finally. ให้ นักเรียนนำคำท่ีเป็นข้ันตอน First, then, next and finally มาเติมลงในช่องว่าง เพ่ือบอกวิธีการทำ Ham sandwich จากนั้นนักเรียนฝึกอ่านออกเสียงบทความท่ีสมบูรณ์ทีละประโยคด้วยตนเอง แล้ว ชว่ ยกันแปลบทความเปน็ ภาษาไทยให้ถูกตอ้ ง First Them Next Finally

4. ครเู ปิด CD/Track 42 ใหน้ ักเรียนฟังแล้วออกเสียงตาม 2 รอบดงั นี้ Glue green gun large change vegetable ครอู ธิบายการออกเสียงตัว “g” ในภาษาอังกฤษวา่ ถ้าตัว “g” เปน็ พยัญชนะตน้ ออกเสียง / k / แต่ เมอ่ื เป็นตวั สะกดจะออกเสียง / s / ครเู ปิด CD ใหน้ ักเรยี นออกเสียงตามอกี ครัง้ หนงึ่ 5. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน เพื่อช่วยกันคิดชื่ออาหารไทย และอาหารตะวันตกที่มีประโยชน์ต่อ สุขภาพ นอกเหนือจากท่ีกล่าวไวแ้ ล้วในหนังสือเรยี น นกั เรยี นอาจค้นหาคำศัพท์ได้ในพจนานุกรม ครู กำหนดเวลาให้ 10 นาที นักเรียนตา่ งระดมสมองคดิ หาชื่ออาหารต่างๆ แล้วจึงบอกครู ครูรวบรวมชื่อ อาหารแลว้ เขียนบนกระดานดงั น้ี Thai Healthy Food Western Healthy Food noodle - ก๋วยเตยี๋ ว spaghetti - สปาเกตต้ี fried rice - ข้าวผัด waffle - ขนมรงั ผงึ้ currey - แกงเผด็ donut - โดนัท omelette - ไขเ่ จียว pudding - ขนมพุดดิ้ง boiled egg - ไขด่ าว pie - ขนมพาย fried fish - ปลาทอด pancake - แพนเค้ก rice soup - ข้าวตม้ yogurt - นมเปรยี้ ว tom-yum-kung - ตม้ ยำกุง้ scramble egg - ไข่กวน pad thai - ผดั ไทย jam - แยมผลไม้ นกั เรียนอา่ นรายการอาหารบนกระดานตามครูพรอ้ ม ๆ กัน แลว้ คดั ลอกลงในสมุดของตนเอง - ครูเขียนคำว่า “Menu” บนกระดาน แล้วบอกนักเรียนว่า เม่ือนักเรียนไปทานอาหารตาม ภัตตาคารกับคุณพ่อคุณแม่ บริกรจะนำเมนูมาให้ เพื่อให้นักเรียนสั่งอาหาร Menu จึงแปลว่า รายการอาหาร - ครูถามนักเรียนว่า ใครชอบอาหารไทยให้ยกมือข้ึน นักเรียนยกมือข้ึน 14 คน ครูสุ่มเรียก นักเรยี น 2 คน ใหย้ นื ข้ึนและบอกเหตผุ ลทีละคน ตอบเปน็ ภาษาไทยก็ได้ เช่น Dueam: I like Thai food because it is spicy. It is easy to find and buy.

And it is not expensie. Napa : หนูชอบอาหารไทย เพราะส่วนมากประกอบไปด้วยผกั ตา่ ง ๆ เชน่ ผกั จมิ้ น้ำพริก และสม้ ตำ เครื่องปรงุ ของอาหารไทยมักประกอบดว้ ย เครอ่ื งเทศ เชน่ ตม้ ยำก้งุ - ครูถามนักเรยี นว่า ใครชอบทานอาหารตะวนั ตก หรอื อาหารฝรั่งบ้าง ปรากฏว่านักเรียนกวา่ 20 คน ยกมือขน้ึ ทันที ครูสมุ่ เรยี กนักเรยี น 2 คน ให้ยนื ขน้ึ และบอกเหตุผล Ta : I like hamburger and pizza because it is easy to oder by telephone. I can eat at home. My familuy love pizza. Thanong : I like Mcdonald and KFC because I can get toys with food as I see on TV. - กอ่ นจบบทเรยี นน้ี ครูคดั เลือกคำศัพทใ์ หน้ ักเรียนไปท่องจำเปน็ การบา้ น 7. การวดั และประเมนิ ผล 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ประเมินการทำแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ - ประเมนิ การทำแบบฝึกหดั - สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ในชว่ งการทำกจิ กรรม 7.3 การประเมินหลงั การเรียน - ประเมินการทำแบบทดสอบ - ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.4 การประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ ขนั้ ตอนการทำสลัดผลไม้ 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน Smile ป. 5 2. แบบฝึกหดั Smile ป. 5 3. Audio CD Smile ป. 5


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook