Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำยาก ม.ปลาย

คำยาก ม.ปลาย

Published by kruuntikamee, 2019-05-14 23:03:58

Description: คำยาก ม.ปลาย

Keywords: คำยาก

Search

Read the Text Version

ผลการสาํ รวจคาํ ศพั ทภาษาไทย ของนกั เรยี นชน้ั ป.6 จากการสาํ รวจพบวามีคําศัพท จํานวน 1,662 คํา ซึ่งสามารถแยกตามหมวดหมตู ามตวั อกั ษรได ดังนี้ หมวดอักษร ก คาํ ศพั ท คาํ แปล กก กลุม, พวก, พรรค, เหลา , หมู กง สวนรอบของลอ รถหรือเกวียน กฎจราจร กฏหมายการใชท างของผูขบั ข่ี คนเดนิ เทาหรือคนที่จงู ข่ี หรือไลต อนสัตว กฐนิ ผา พิเศษทพ่ี ระพุทธเจาทรงอนุญาตแกภ กิ ษสุ งฆเฉพาะกฐนิ กาล, ตามศัพท แปลวา ไมสะดึง คอื ไมแ บบสาํ หรบั ตัดจวี ร กตกิ า กฎเกณฑหรือขอ ตกลงทบี่ ุคคลต้ังแต 2 ฝายขน้ึ ไปกําหนดขนึ้ เปน หลักปฏิบตั ิ กนก ทองคาํ กร มือ, แขน กรรณ หู กรรม การกระทําทีส่ ง ผลรายมาถึงปจจุบัน กระฉับกระเฉง คลองแคลว , แขง็ ขัน, กระปรก้ี ระเปรา , วองไว กระชัน้ ชดิ ใกลเ ขา มา กระชับ แนบแนน, แนบสนทิ กระโชก ทาํ ใหก ลวั , ทาํ ใหต กใจ,กระแทกแรง, พัดแรง กระดาก ขวยใจ, ตะขดิ ตะขวงใจไมก ลา พูดหรือไมก ลาทาํ เพราะเกรงจะไดร บั ความอบั อาย กระดาษสา กระดาษทีท่ าํ จากเปลอื กตนสา กระเดยี ด เอาเขา ขา งสะเอว กระต้วั ชอ่ื นกปากงมุ เปน ขอ ลักษณะคลายนกแกว แตต วั โตกวา กระแต ชื่อสัตชอ่ื สัตวเล้ียงลกู ดว ยนมในวงศ Tupaiidae รูปรางคลายกระรอก แตอ ยตู า ง วงศกันและมขี นาดเล็กกวา ปากแหลม ไมม ฟี น แทะ กนิ ทงั้ สตั วแ ละผลไม มี กระถาง หลายสกุลและหลายชนดิ กระทบ ภาชนะปากกวา ง มีรปู ตางๆ สําหรบั ปลูกตน ไมห รอื ใสนา้ํ และอื่นๆ กระทรวง ปะทะ, โดน, กระแทก สวนราชการหน่ึงในราชการบริหารสวนกลาง ซ่งึ มีรัฐมนตรวี า การกระทรวง คําศพั ทภ าษาไทยระดับช้นั ประถมศึกษาปที่ 6 Page 1

คาํ ศพั ท คําแปล เปน หวั หนา กระทืบ ยกเทากระแทกลงไป กระทงุ กระแทก กระทุม เอาเทา ตนี า้ํ เมอื่ เวลาวา ยน้าํ กระทู หวั ขอหรอื ขอความทต่ี งั้ ใหอ ธบิ าย เชน กระทธู รรม กระทูถาม กระแทก กระทบโดยแรง กระบาล อยามาเลน กระบาลฉนั ฉนั ไมช อบ กระบ่ี ลิง กระบอื ควาย กระพอื พัด, โบก เอาสิง่ ทเี่ ปน ผนื แผน บางๆ โบกขึน้ ลง, พดั หรอื โบกดว ยอาการเชนนน้ั กระยาหาร เครื่องกินท่มี ขี า ว กระวกี ระวาด รบี เรง อยางไมน อนใจ กระแส นํา้ หรอื ลมที่ไหลหรอื พดั เรอ่ื ยเปนแนวเปน ทางไปไมขาดสาย กระหมอม สวนของกะโหลกอยูต รงแนวกลางศีรษะแตต ่าํ กวา สว นสูงสดุ ลงมาใกล หนาผาก กระเหมน เขมน, กระตกุ กระออม ภาชนะสานดว ยไมไ ผ ยาชนั รูปรางคลายกระบุง ใชใ สน ํา้ กรับ ไมสาํ หรับตีหรือขยบั เปน จงั หวะในการฟอนรําขบั รอ ง มหี ลายชนดิ เชน กรบั คู กรับขยบั เปน ตน กราฟ แผนภูมิทใ่ี ชเสน จุด หรอื ภาพเพอื่ แสดงความเปล่ียนแปลงคา ของสง่ิ ตา ง ๆ เปรยี บเทยี บกนั มีหลายชนดิ เชน กราฟแทง กราฟเสน กราย เคลอ่ื นไหวอยา งมที าทาง, เดนิ อยา งมีทาที กรายเกลอื่ นใกล ผา นเขามาใกล กราว เกรียว, เกรียวกราว, กราวเกรยี ว กรีธาทัพ ออกเดนิ ทพั (ขาศึก) กรมุ กรมิ่ แสดงสีหนา ดใี จในที กลมกลอ ม ทเ่ี ขากันพอดี กลวธิ ี กลยุทธ, วธิ พี ลกิ แพลง, กลเมด็ , เลห เหลย่ี ม, กลอุบาย, ทีเดด็ กลอก เคล่อื นหรอื ขยบั เขย้อื นกลบั ไปกลับมาภายในเขตของสิ่งนน้ั ๆ กลอมเกลีย้ ง อบรมเลย้ี งดใู หมนี สิ ยั ดี คําศัพทภาษาไทยระดับช้นั ประถมศึกษาปท ี่ 6 Page 2

คําศัพท คําแปล กลดั กลุม ขดั ของกลุม อยูในอก กลั้น บงั คับความรูส ึกหรอื ส่ิงท่อี ยภู ายในรา งกายไมใ หแ สดงออกหรือหลดุ ออกมา กล่ันกรอง พิจารณาอยา งถถี่ วนรอบคอบ กลัน้ ใจ กลนั้ หายใจ, อนั้ ลมหายใจ กลว้ั คบหา หรอื หมกมนุ อยกู บั สว นใหญใชกบั การคบหาหรอื หมกมุนกบั คนท่ไี มด ี หรือส่ิงทไ่ี มดี กลวั ดอกพิกุลจะรวง เรียกอาการคนทนี่ ิง่ ไมพ ดู กลางแก วัยกลางคน กลา วขวญั พดู ออกชอ่ื และการกระทาํ ของคนอื่น กลาวหา ฟอง, กลา วโทษ กลิง้ เกลือก พยายามกระเสือกกระสนไปตามมีตามได กลงึ ทําใหกลมหรอื ใหเปนรปู ตา งๆ ดว ยเครอ่ื งหมนุ กวดขนั เขม งวด, เอาจริงเอาจัง กว ยเตี๋ยว ชื่อของกินชนดิ หน่งึ ทําดว ยแปงขา วเจา เปน เสนๆ กวัดแกวง ตวัด กวี ผูรูผูเ ชีย่ วชาญในศลิ ปะการประพันธบ ทกลอน กอปร ประกอบ กะทัดรดั สมสว น, สมทรง, เหมาะเจาะ กะทนั หนั ดว น, เรว็ , ฉบั พลัน, ทันที กะโผลกกะเผลก อาการเดินไมป กติ คือ ยกขาขา งหนึ่งไมไ ดร ะดบั กบั อกี ขา งหนง่ึ อยา งคนขา พกิ ารเดิน กะพริบ ปดแลวเปด โดยเรว็ กะละมัง ชามอา งหรอื ถาดเปน ตน ทําดว ยโลหะเคลอื บ กะเหรี่ยง ชอื่ ชนชาวเขาเผาหน่งึ ปกติอาศัยอยูท างพรมแดนทศิ ตะวนั ตกของประเทศไทย กกั ไมใหลว งพนเขตที่กาํ หนดไว กังขา สงสัย กัมปนาท เสยี งสน่นั หวน่ั ไหว กลั ป ระยะเวลาอนั นานเหลือเกิน กลั ปาวสาน กลั ปาวสาน ทส่ี ดุ แหง ระยะเวลากบั ปหนงึ่ คือ อายุของโลก ตั้งแตพระพรหม สรางโลก จนถึงเวลาทไ่ี ฟประลัยกัลปล า งโลก คําศัพทภ าษาไทยระดบั ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ 6 Page 3

คําศัพท คาํ แปล กัลยาณี นางงาม, หญงิ งาม กาพย คํารอ ยกรองจาํ พวกหน่ึง กายจรยิ า กิรยิ าที่แสดงออกทางกาย กายสทิ ธ์ิ มีฤทธิ์เดชตา งๆอยูในตวั การคมนาคม การขนสง , การตดิ ตอ การตนู ภาพลอ , ภาพตลก, บางทเี ขียนเปนภาพบคุ คล บางทีเขียนเปนภาพแสดง เหตกุ ารณทผี่ ูเขยี นต้งั ใจลอ เลยี นจะใหด รู สู กึ ขบขนั บางทกี เ็ ขยี นตดิ ตอ กันเปน การทสี่ ญู เปลา เรือ่ งยืดยาว การพรรณนา เรอ่ื งที่ไรประโยชน เร่ืองท่ีไรสาระ การรา ยรํา การกลา วเปน เรื่องเปน ราวอยางละเอียด ใหผูฟงนกึ เห็นเปน ภาพ การเวก การราํ , การฟอ นรํา ช่ือไมเถาเนือ้ แข็งชนิดหน่งึ ดอกหอมออน กลบี ดอกคลายกระดังงาจนี แต กาลกิณี ขนาดเลก็ กวา กาลเทศะ ลักษณะทีเ่ ปน อปั มงคล กาํ จัด ความควรและไมควร กาํ นัล ทําใหสน้ิ ไป กําเนิด ของทใี่ หกนั ดว ยความนบั ถอื กําบงั การเกดิ มขี นึ้ มา กํามะหย่ี ทซี่ อ น กาํ ยาน ผาชนิดหนึง่ มขี นดา นเดียว ออ นนุม เปน มนั วตั ถุเครื่องหอมชนดิ หนึ่ง เกิดจากชนั หรือยางทอี่ อกจากเปลือกของตน กาํ ยาน มี กาํ ราบ กล่ินหอม ใชเผาอบผา และทํายาได กําเริบ ทาํ ใหเขด็ หลาบ, ทําใหกลวั , ทําใหส น้ิ พยศ, ทาํ ใหส้นิ ฤทธิ์ กาํ หนด รุนแรงขนึ้ กิจ หมายไว, ตราไว, ปลงใจ, ตัดสนิ ใจ, พิจารณา กิจกรรม ธรุ ะ, งาน, การงาน กิจการ สง่ิ ทปี่ ฏิบตั ,ิ การปฏิบตั ิงาน กิจจะลกั ษณะ การงานทป่ี ระกอบ กิจจา เปน การเปนงาน, เปน เรื่องเปน ราว, เปน ระเบยี บเรยี บรอ ย, เปน ทางการ เร่อื งราว, ขอ ความ คาํ ศพั ทภาษาไทยระดับชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 6 Page 4

คําศพั ท คําแปล กิจวัตร กิจท่ีทาํ เปนประจาํ , กิจท่ที ําอยูเปน นติ ย กนิ แหนงแคลงใจ หมางใจกนั กิเลส เครอื่ งทําใจใหเ ศราหมอง ไดแ ก โลภ โกรธ หลง กึกกอง ดงั สนน่ั , ดังมาก กุณฑล ตุมห,ู ตา งหู กมุ ภณั ฑ ยักษ กลุ ธิดา ลูกหญิงผูมตี ระกูล กลุ บุตร ลูกชายผูมีตระกูล กศุ ล ส่งิ ทดี่ ที ี่ชอบ เกจ็ แกวประดบั เก็บเล็ม คอ ยๆ เกบ็ ทีละนอย เกม ลักษณนามเรยี กการแขง ขันซงึ่ หมดลงคราวหนึ่งๆ เกย แลน หรือเสือกข้นึ ไปคางอยพู าดอย,ู ถูกซดั หรอื ลากข้ึนไปตดิ อยู คา งอยู เกรนิ่ บอกเปนนยั ใหร ูลว งหนา เกรียงไกร ย่งิ ใหญ, ใหญย ิ่ง เกลือก กลงิ้ หรือเสอื กตวั ไปมา, เอาสง่ิ ใดสิ่งหน่ึงทําเชนนนั้ เพ่อื ใหส ง่ิ อน่ื ติด เกลือ่ น เรี่ยรายหรือกระจดั กระจายอยูทัว่ ไป เกลื่อนกลาด มากมาย, เยอะแยะ เกศ ผม,หัว เกษตร ท่ดี นิ , ทุง, นา, ไร เกษตรกร ผูป ระกอบอาชีพดานการเพาะปลูกพชื ตางๆ รวมทง้ั การเลีย้ งสตั ว การประมง และการทําปาไม เกษตรกรรม ารใชทีด่ ินเพาะปลูกพชื ตา งๆ รวมทง้ั การเล้ียงสัตว การประมง และการทาํ ปาไม เกอกระดาก เขนิ , อาย, เคอะเขนิ , เกอ เขนิ เกาเหลา แกงมีลกั ษณะอยา งแกงจืด เกยี รตภิ มู ิ เกยี รติเพราะความนยิ ม เกย๊ี ว ของกินชนดิ หน่ึงทําดว ยแปง สาลีเปนแผนหอ หมูสับเปนตน เกยี้ วพาราสี พดู ใหร กั ในเชงิ ชูส าว เกื้อหนนุ ชว ยเหลอื สนบั สนุน แกแดด ทําเปน แกเ กนิ อายุ (มักใชแ กเ ดก็ ) คําศัพทภ าษาไทยระดับช้ันประถมศึกษาปท่ี 6 Page 5

คาํ ศัพท คาํ แปล แกลบ โกฏิ เปลอื กขา ว โกลา ช่ือมาตรานับ เทากบั 10 ลา น ไกรสร เสียงดังกกึ กอ ง ออ้ื องึ วุนวาย สงิ โต หมวดอกั ษร ข คําศพั ท คาํ แปล ขจี งามสดใส ขนบธรรมเนยี ม แบบอยา งทีน่ ยิ มกนั ขนบประเพณี จารีตประเพณที ่ีวางเปน ระเบยี บแบบแผนไวแลว ขนาบ ประกบเขา ใหแ นน, ประชดิ เขา ไปท้งั 2 ขาง, ตดิ ชดิ กนั อยูท้งั 2 ขาง ขบวน พวกทจี่ ัดเปน แถวเปนแนวหรือเปน หมวดเปนหมูอ ยางขบวนแห ขบวนรถ ขบวนเรอื ขมเหง ใชกาํ ลังรงั แกแกลงทําความเดือดรอ นใหผอู น่ื ขมัง แขง็ , แรง, แกรง ขยายพนั ธุ ทาํ ใหพนั ธมุ จี าํ นวนมากขึ้น ขรัว คําเรยี กภกิ ษทุ ม่ี อี ายุมากหรือผูท่ีบวชเม่อื แก หรอื ฆราวาสชายผูส ูงอายุ ขวนขวาย หม่ันเสาะแสวงหาโดยไมห ยดุ นงิ่ ขวัญ มิง่ มงคล, ความดี ขวัญขาว ม่งิ ขวัญของขาว ขวาก ไมห รอื เหลก็ เปนตนมีปลายแหลม สําหรบั ปกหรอื โปรยเพอ่ื ดกั หรอื ใหต าํ ผผู าน เขาไป ขวานผา ซาก พดู ตรง ๆ ไมไ พเราะหู ขอกําหนด ขอความที่ระบุเปนหลกั เกณฑห รือวิธีการใหบ คุ คลทีเ่ กย่ี วของตอ งปฏบิ ตั หิ รือ ดําเนนิ การในเรอื่ งใดเรอื่ งหน่งึ ของท่รี ะลกึ สง่ิ ของตางๆ ซง่ึ เปน เคร่ืองแสดงวา ไดเ คยทําอยา งใดอยา งหนงึ่ ขอ บกพรอ ง ขอตําหน,ิ ขอ เสียหาย, ขอผิดพลาด, ขอเสยี ขอ มูล ขอเทจ็ จริงหรอื ส่ิงทถี่ อื หรือยอมรับวา เปน ขอเทจ็ จริงสําหรบั ใชเปนหลัก อนุมานหาความจรงิ หรือการคํานวณ คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 6

คําศพั ท คาํ แปล ขอ เสนอ ขอ ชแี้ นะแนวทางหรือวิธีการใหปฏิบตั ิ ขดั เขมร นุงผา โจงกระเบนดึงชายใหส ูงรน ขน้ึ ไปเหนือเขา , ถกเขมร กว็ า ขาน พูดตอบกลับไปยงั ผูทเี่ รียก ขานรับ ตอบรับกลับไปหรอื เห็นพอ งดวย ขา มกราย เดนิ เฉยี ดใกลเ ขา ไปอยา งไมม ีคารวะ คาํ ศพั ท คําแปล ขายผาเอาหนารอด ทาํ ใหสําเร็จลลุ ว งไปเพ่อื รกั ษาชื่อเสยี งของตนไว ขา วปุน ขนมจนี ขุนเคอื ง โกรธกรนุ ๆ อยใู นใจ ขยุ ผงทเี่ กิดจากเนอ้ื ของส่ิงใดส่ิงหนง่ึ ติดอยทู ี่เน้ือนนั้ เอง หรอื หลดุ ออกมากองอยู เปนกลุมๆ เข็ญใจ อยา งลําบากยากเย็นหรือไมสะดวกสบาย เขตขัณฑ อาณาบรเิ วณ, บริเวณ, เขตแดน เข็นครกขนึ้ ภเู ขา การทําในส่งิ ทยี่ ากลาํ บากย่งิ จนเกนิ ความสามารถของตน เขมน จอ งมองดูโดยมงุ เฉพาะ เขยอ้ื น ไหวตวั หรือเคล่ือนท่ีไปเล็กนอย เขลง ทอดอารมณอ ยา งสบายใจ (ใชแ กก รยิ า นอน) เขา ฌาน นง่ั วิปสสนาจติ ใจใหสงบตามหลักทางศาสนา, ทําสมาธชิ ัน้ สงู เขา สุหนัต เขา พิธีขรบิ หนงั หุมลึงคตามลทั ธิศาสนาอสิ ลาม เข่ยี คอ ยๆ ทําใหสงิ่ ใดสิง่ หนึง่ เคลื่อนท่ีหลุดออกไป เขอ่ื น ส่ิงท่ีสรางขึ้นขวางกั้นลําน้ํา เพอื่ ประโยชนใ นทางชลประทาน โขน การเลนอยางหนึ่งคลายละครราํ แตเลน เฉพาะในเร่อื งรามเกียรต์ิ โดยผแู สดง สวมหัวจาํ ลองตางๆ ท่ีเรียกวา หวั โขน ไขขอ ขอ งใจ ตอบปญหาท่ียงั ขอ งใจอยู ไขม กุ วตั ถมุ คี า ลักษณะกลมๆ เกดิ จากหอยบางชนิด มีหลายสี ใชเ ปนเคร่อื งประดับ ไขวเ ขว เขา ใจสบั สนเพราะเกดิ ความไมแ นใ จ คาํ ศัพทภาษาไทยระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 7

หมวดอักษร ค คําศพั ท คําแปล คงคา ชื่อแมนํา้ สาํ คญั สายหนึง่ ในประเทศอินเดยี คณบดี หัวหนา คณะในมหาวทิ ยาลยั คดีความ เรื่องที่พพิ าทหรอื กลา วหากนั ในทางกฎหมาย คติธรรม ธรรมที่เปนแบบอยา ง คทาธร กระบอง คมเขม หนา ตาคมคาย ครบถว น สมบรู ณ, พรอม ครรลอง แนวทาง, หนทาง, รปู แบบ ครวญ รํา่ ไห, รําพงึ ราํ พนั ครวญครา่ํ กนแตพ รา่ํ รําพนั ครองสติ คงสติ, คมุ สติ, มสี ต,ิ ตง้ั สติ ครอบครอง เปนเจา ของ ครอบคลมุ มีสวนเกยี่ วของถึง, รวมถงึ , รวมอยดู ว ย ครอ ม พาดผา น, พาดอยูเ หนอื ครน่ั ครา ม สะทกสะทานดวยความหวัง ครัวไฟ บรเิ วณสาํ หรับทํากับขาวของกนิ คร่าํ ครวญ รองรํา่ ราํ พนั คราํ่ ครา ทีเ่ กาแกจ นชาํ รุดทรดุ โทรม ครบู าอาจารย ผูสัง่ สอนศษิ ย, ผถู า ยทอดความรูใ หแกศิษย คฤหสั ถ ผูครองเรือน, ผไู มใ ชนักบวช คลองแคลว สามารถทาํ ไดรวดเร็วเพราะเชยี่ วชาญ คลอ งจอง คลอง, รับกัน คละ ปน, ผสม, ปะปน คละคลุง มีกลิ่นตลบ (มกั ใชแกก ล่ินเหมน็ ) คละเคลา ปนกันไป คลาไคล เดินไป, เคลือ่ นไป คลาดเคลื่อน เคลอ่ื นออกไปจากเปา หมาย คลาดแคลว รอดไป, พนไป, รอด คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดับช้ันประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 8

คาํ ศัพท คาํ แปล คลาย ขยายใหห ลวม คลา ยคลึง เกือบจะเหมอื นกัน คลกิ กด คลินิก สถานรกั ษาพยาบาลของเอกชน มักไมร ับผปู ว ยใหพกั รกั ษาตวั ประจํา คลีค่ ลาย ขยายออกโดยลาํ ดบั คลมุ ถงุ ชน การแตงงานทีเ่ ปน ไปโดยผูใ หญจ ดั ให หนมุ สาวไมมโี อกาสเลอื กคูเอง ควบ ว่ิงเตม็ ทจ่ี นดูเหมอื นเทาไมต ดิ ดนิ (ใชแ กม า ) ควบกล้ํา ลักษณะของอกั ษรหรอื เสยี งท่ีเขา กนั หรือกลืนกัน ควบคมุ กาํ กับดแู ลใหอ ยใู นขอบเขตโดยใชอํานาจ ควา ไขว เออ้ื มมือฉวยเอา, พยามจบั หรอื ถอื เอา ความเชื่อ ความศรทั ธา, ความเล่ือมใส, ความเชือ่ ถอื ความบันเทิง สิ่งทกี่ อ ใหเ กดิ ความรสู กึ สนุกสนานเบิกบาน เชน การแสดงตา งๆ ความใฝฝน ความปรารถนาอยา งยิง่ ความสัตย คณุ ลกั ษณะทป่ี ระกอบดว ยความจริง ความแนแท ความสามคั คี ความพรอมเพรยี ง, ความปรองดอง ความหลัง เรื่องราวในอดีต คอกระเชา ลกั ษณะเสอ้ื คอกลม ตวั หลวม ไรแขน และมีจีบรูดตรงคอ คอนเสิรต การแสดงดนตรีสากลแบบหนง่ึ ใชเคร่อื งดนตรวี งใหญ อาจมนี ักรองประสาน เสียงดวย คอฝน คนท่ีชอบสูบฝน คอลัมน แถวหรือรายการท่เี ปนแนวตรงหรอื แนวด่ิง คะนงึ คิดถงึ , นึกถึง คะย้ันคะยอ หนนุ ใหทํา, ชกั ชวนใหต กลงใจทําดว ยการรบเรา คัคนานต ฟา, ทองฟา, สวนแหงฟา คัดคาน ไมเหน็ ดว ย คั่น แทรกหรอื กน้ั อยูในระหวา ง ค้ัน บีบขยําโดยแรงเพื่อใหของเหลวที่มีอยูออกมา คนั ชง่ั เครือ่ งชั่งท่มี คี ันบอกจํานวนนา้ํ หนกั ที่ชง่ั คบั คงั่ แนน , แออดั , เนอื งแนน , เพยี บ, ลมหลาม, ยัดเยยี ด, เบียดเสยี ด, พลุกพลาน คา ควรเมอื ง มีคาอนั จะประมาณมไิ ด คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 6 Page 9

คําศพั ท คําแปล คางคกขึน้ วอ คนที่ต่าํ ตอยแลว กลับไดด ใี นภายหลัง แตท าํ เยอ หยิง่ ยโส คาดหมาย นกึ ไวลว งหนา วาจะเปน เชน น้ัน คาถาอาคม คาํ เสกเปาทถี่ อื วา ศักด์สิ ิทธ์ิ คานิยม ความนยิ ม, ความชื่นชอบ คารม ถอ ยคําท่ีคมคาย คํากรยิ า หมวดคาํ ประเภทหนง่ึ ทแ่ี สดงอาการกริยาตา งๆ คาํ ขวัญ ถอยคาํ ทแ่ี ตงขนึ้ เพอื่ เตอื นใจหรอื เพื่อใหเ ปน สริ ิมงคล คาํ คม ถอยคําทหี่ ลกั แหลมชวนใหค ิด คาํ นบั ทําความเคารพ, ทําความเคารพโดยกมศีรษะให คํานาม คํานามคือคาํ ท่ใี ชเรยี กคน สัตว ส่ิงของ คําบุพบท คําบพุ บทคอื คําซึ่งมีหนาทเ่ี ชอื่ มระหวางคาํ นามกบั คาํ นาม คําประสม คาํ ทเ่ี กิดจากการนาํ คาํ มูลตัง้ แต 2 คําข้ึนไปมาประสมกนั แลว กลายเปน คาํ ใหม ขึ้นมาอีกคาํ หน่ึง คําราชาศัพท คาํ เฉพาะใชสําหรับเพด็ ทลู พระเจาแผน ดินและเจานาย, ตอ มาหมายรวมถงึ คาํ ท่ี ใชกับพระภกิ ษุสงฆ ขาราชการและสุภาพชนดว ย คําวเิ ศษณ คาํ ในภาษาหมวดหนงึ่ เกิดรว มกบั คํากริยาหรอื คาํ วิเศษณเ พื่อบอกลกั ษณะของ คาํ วิเศษณ คาํ สรรพนาม คาํ ทีใ่ ชแทนคาํ นาม คาํ สนั ธาน คําทม่ี หี นาทีเ่ ชอื่ มคาํ กบั ประโยคเขาดว ยกนั คาํ สาป ถอยคาํ ท่กี ลาวขึน้ เพอ่ื แสดงความปรารถนาใหเ กิดสิง่ รา ยแกผ อู ่ืน คกิ คัก ลกั ษณะทหี่ วั เราะเบาๆ คยี บ อรด แปน พมิ พส ําหรับใชพิมพต ัวอักษรของเครอื่ งคอมพิวเตอร คาํ ศัพท คาํ แปล คกึ คกั ซง่ึ มคี นพลุกพลานเขา ๆ ออกๆ มากกวา ปกติ คุณลกั ษณะ เครอื่ งหมายหรอื ส่ิงท่ชี ้ีใหเ หน็ ความดหี รือลักษณะประจาํ คยุ ใชมอื เทา หรอื ส่ิงอื่นตะกยุ ขึ้นมา คูแคน ผทู ่ีมีเร่อื งบาดหมางกนั รนุ แรงและผูกพยาบาทตอกัน เครงขรึม ไมเบิกบาน, ไมเลน หัว, เอาจริงเอาจัง เครงครดั ถอื ปฏิบัตติ ามระเบยี บขอ บงั คบั โดยไมใหข าดตกบกพรอ ง เครงครนื้ เสียงดงั ครึกครนื้ , อกึ ทึกและสนุกสนาน คําศพั ทภาษาไทยระดับช้นั ประถมศึกษาปที่ 6 Page 10

คาํ ศพั ท คาํ แปล เครอื ขาย ระบบที่เชอ่ื มโยงกนั เครื่องเขนิ เครอื่ งสานทลี่ งรักฉาบชาด เครอ่ื งเงนิ สงิ่ ของเครอ่ื งใชห รือเครื่องประดบั ทที่ าํ ดว ยเงนิ เครื่องเซน เครื่องบูชา, ของไหว, เครอ่ื งสงั เวย, เครอื่ งบวงสรวง, ของสังเวย, ของบชู า เครอ่ื งถม เรียกภาชนะ หรอื เคร่อื งประดบั ท่ที าํ โดยใชผงยาถมผสมนํ้าประสานทองถม ลงบนลวดลายท่แี กะสลักบนภาชนะหรอื เคร่ืองประดบั นนั้ แลว ขดั ผวิ ใหเ ปน เครื่องไทยทาน เงางาม เครอื่ งไทยธรรม ของสําหรบั ทําทาน เครอื่ งบรรณาการ จตุปจจยั , สิ่งของถวายพระ เครอ่ื งแบบ สิง่ ที่สงไปใหด วยความเคารพนบั ถือหรอื ดว ยไมตรี เครอ่ื งปรับอากาศ เคร่ืองแตงกายท่กี ําหนดใหแ ตง เหมอื นๆ กนั เฉพาะหมูหนึ่งคณะหนง่ึ เครื่องปรุง อปุ กรณส ําหรบั ปรบั อุณหภมู ิและความชน้ื ของอากาศ เครอ่ื งปน ดินเผา สงิ่ ท่ใี ชในการปรุงอาหารเปน ตน เชน เนอ้ื สตั ว ผัก เครอื่ งแกง เคร่ืองมือ เรยี กภาชนะทป่ี น ดวยดนิ แลว นําไปเผาไฟวา เครือ่ งปนดนิ เผา สิง่ ของสําหรบั ใชในการงาน โดยปรยิ ายหมายถงึ คนหรอื สงิ่ ทใี่ ชทําประโยชน เครื่องสงั เวย อยางเครอ่ื งมือ เคล้มิ เครื่องบวงสรวง เคลอื่ นคลาด หลับยงั ไมสนทิ เคหา ผิดจากความเปนจรงิ , ไมต รงตามความเปน จรงิ เคารพ เรือน , ท่ีอยู เคือง แสดงอาการนบั ถอื แคลงใจ ไมพอใจเพราะชักรสู กึ โกรธ แควน ไมแนใ จหรอื วางใจลงไปได เพราะออกจะสงสยั โครงการ ดนิ แดนอนั เปน ถนิ่ ทอ่ี ยขู องมนษุ ย โคลง แผนหรือเคาโครงตามท่ีกะหรือกําหนดไว โคลงโลกนิติ คาํ ประพนั ธประเภทหนึง่ มสี มั ผัสและบังคับเอกโทตามตําราฉนั ทลักษณ ระเบียบแบบแผนของโลก มเี นื้อหาเปน คตสิ อนใจใหค ตโิ ลกและคตธิ รรม โดย ใคร เปรียบเทยี บกบั ธรรมชาติ การทาํ มาหากนิ ใหเขา ใจงา ยๆ ใครครวญ อยาก, ตองการ, ปรารถนา, ประสงค ตริตรอง, พจิ ารณา, คดิ ทบทวน, ไตรต รอง คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับชน้ั ประถมศึกษาปที่ 6 Page 11

คําศัพท หมวดอกั ษร ฆ โฆษก โฆษณา คําแปล ผูแถลงขาวแทน เผยแพรห นงั สอื ออกไปยงั สาธารณชน คําศพั ท หมวดอกั ษร ง งอกงาม งอมแงม คาํ แปล งา ง เจริญผลิดอกออกผล งานนักขัตฤกษ แกไ ดย าก, รกั ษาไดย าก, เลิกไดย าก งานบญุ เหนยี่ วใหอ า ออก งานเมาลิต งานที่จดั ขึน้ ตามเทศกาลสาํ คญั งานรน่ื เรงิ งานท่เี กยี่ วขอ งกับการทาํ ความดี ตามหลักศาสนา เงียบกรบิ งานฉลองวนั คลายวันประสตู ิพระศาสดาของศาสนาอิสลาม เงยี บงนั งานเล้ียง, งานฉลอง เงีย่ หู เงยี บสนทิ , เงียบเชียบ เงอ้ื งา เงียบ, เงียบกรบิ , เงียบเชยี บ, น่ิงเงียบ แงมุม เอียงหฟู ง เพ่อื ใหถ นัด, ตง้ั ใจฟง ยกขนึ้ ทาํ ทาจะทบุ ตี มมุ มอง, สว น, ประเดน็ หมวดอกั ษร จ คาํ ศพั ท คาํ แปล จงรักภกั ดี ผกู ใจรกั ดว ยความเคารพหรอื รคู ณุ อยา งยิ่ง จดจอง ตงั้ ใจจะทาํ แลว ไมล งมอื ทาํ เพราะไมแนใจ จดหมาย หนังสือทม่ี ไี ปมาถงึ กัน จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส การสง ขอ มูลจากคอมพิวเตอรห นว ยหนงึ่ ไปยังหนว ยอ่นื จรรยา กริ ิยาที่ควรประพฤติในหมใู นคณะ จรรโลง ชว ยใหดยี ่ิงข้ึน คําศพั ทภาษาไทยระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 12

คาํ ศัพท คําแปล จรติ ความประพฤต,ิ กริ ยิ ามารยาท จวน ใกล, เกือบ จอ กแจก จอแจ เสยี งพดู ของคนมาก ๆ ทต่ี า งคนตางพดู กนั จนฟง ไมไดศ ัพท จอง ม่ันหมายไว, ขอกําหนดไว จอแจ ซึง่ มีผูค นคับค่ังและมีเสยี งเซง็ แซ จอมปลวก รงั ปลวกขนาดใหญทส่ี งู เปนจอมขึน้ ไป จกั จ่ัน แมลงชนดิ หนงึ่ มปี ก 2 คู สว นใหญม สี เี ขียวออน เกาะอยตู ามตน ไม ตวั ผมู ี อวยั วะทําใหเ กดิ เสียง จกั รวาล บรเิ วณโดยรอบของโลก จกั ษุ ดวงตา, ตา จังฑาล มาจากคําวา จณั ฑาล หมายถึง ตา่ํ ชา จัญไร เปน เสนียด, ไมเ ปนมงคล จดั สรร แบง สว นไวโ ดยเฉพาะ, ปนไวเ พื่อใชป ระโยชนโ ดยเจาะจง จน่ั หมาก ชอ ดอกหมากเมอ่ื ยังออ นอยู จางหาย เลอื นหาย, เลือนราง จารึก เขยี นรอยลึกเปน ตวั อักษรบนแผน ศิลาหรอื โลหะ จา้ํ จ้ี การเลน ชนิดหน่งึ ของเดก็ จําเริญ เติบโต, งอกงาม, มากขน้ึ , สมบรู ณ จําเรียง ขับลาํ , ขับกลอ ม, รอ งเพลง จําแลง แปลงตวั , แปลงกาย จิตนาการ การสรางภาพขนึ้ ในจิตใจ จิตรกรรม ศิลปะการวาดเขียน, ศิลปะการวาดภาพ จิตสาํ นกึ ภาวะทจ่ี ติ ตน่ื และรูส ึกตัวสามารถตอบสนองตอ สิ่งเราจากประสาทสมั ผสั ทั้ง 5 คือ รูป เสียง กลน่ิ รส และส่งิ ทสี่ มั ผสั ไดดว ยกาย จินดา แกว มคี า จนิ ตนาการ การสรางภาพขน้ึ ในจติ ใจ จม้ิ ล้มิ นา รกั นาเอน็ ดู (มักใชแ กห นาตาหญงิ รนุ สาว) จกุ จกิ เล็กๆ นอ ยๆ,จจู ี,้ จูจจี้ กุ จกิ จตุ ิ ตาย (มักใชแกเ ทวดา) จุมพิต จูบ คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 6 Page 13

คาํ ศพั ท คาํ แปล จูโจม เขากระทําการโดยไมใ หร ตู วั เจตนารมณ ความมงุ หมาย, เจตนา, ความตั้งใจ, จดุ หมาย, เปาหมาย เจ็บแปลบ อยางรสู กึ เจ็บแวบแลนเขาไปในกาย, อยา งรูส กึ วาบเขา ไปในหวั ใจ, อยางสะดงุ วบั ข้นึ เจรจา พูดจากนั อยา งเปน ทางการ เจริญพร เปนคาํ เร่มิ ทภี่ กิ ษุสามเณรพดู กับสุภาพชน และเปน คาํ รบั เจาจอม ตําแหนงพระสนมวงั หลวง เจาเลห กะลอน, หัวหมอ,ไมซ อ่ื ตรง เจาอาวาส พระภกิ ษุซึง่ ไดร ับแตง ตั้งใหด าํ รงตําแหนง ผปู กครองวดั เจิม เอาแปงหอมแตม เปนจดุ ๆ ท่ีหนาผากหรอื สิ่งทีต่ อ งการใหม สี ริ ิมงคล เจียน ตัด ขลิบ หรอื เฉอื นใหไ ปตามแนวหรือใหไ ดร ปู ตามทีต่ อ งการ เจยี ม รูจักประมาณตวั , ประพฤตติ นพอสถานประมาณ เจอ้ื ยแจว ซึ่งมเี สียงไพเราะทอดยาวตดิ ตอเรื่อยไปไมข าดระยะ แจกแจง อธบิ ายขยายความออกไป, อธบิ ายแสดงรายละเอยี ด แจมจรสั รุงเรอื งไมม ัวหมอง แจม แจง ชัดเจน, แจมกระจาง, ใส, แจม ชัด, กระจาง แจมชัด ชดั เจน, ชัด, ใส, กระจา ง โจงกระเบน ผา นุงทม่ี วนชายแลว ดึงไปเหน็บไวข างหลัง โจน กระโดดไปโดยเร็ว ใจกวาง มีความเอ้อื เฟอ เผ่ือแผ ใจดี มีใจเมตตากรณุ า ใจเย็น ใจหนักแนน ไมฉุนเฉียว, ไมร ีบรอน ใจหาย เสียขวัญ, ตกใจ,ใจไมอ ยกู บั เนอ้ื กบั ตัว คาํ ศพั ทภาษาไทยระดบั ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 14

คําศัพท หมวดอักษร ฉ ฉกรรจ ฉบบั คําแปล ฉลองพระองค อยูในระดับทรี่ ุนแรงมาก ฉวี หนงั สอื เรอ่ื งเดียวกนั ซึง่ มีขอ ความหรือสํานวนแตกตางกนั เปนตน ฉอเลาะ เส้อื ผิว, ผิวพรรณ, ผวิ กาย ฉอเลาะ พดู ออดออนหรอื แสดงกิริยาทาํ นองนน้ั เพอ่ื ใหเขาเอ็นดูเปนตน (มักใชเ ฉพาะ เดก็ หรอื ผูห ญงิ ) ฉตั ร พูดออดออนหรือแสดงกิริยาทํานองนน้ั เพอื่ ใหเขาเอ็นดเู ปนตน (มกั ใชเ ฉพาะ เด็กหรอื ผูห ญงิ ) ฉตั ร เคร่อื งสงู ชนิดหนึง่ มรี ปู คลา ยรม ทซี่ อนกันขึน้ ไปเปน ช้ัน ๆ ชั้นบนมขี นาดเล็ก กวา ชน้ั ลาง ลดหลัน่ กนั ไปโดยลาํ ดับ สาํ หรับแขวน ปก ตงั้ หรือเชิญเขา ฉันทลกั ษณ กระบวนแหเปน เกียรตยิ ศ ฉายฉาน เคร่อื งประกอบเกียรตยิ ศชนดิ หนงึ่ มรี ูปคลา ยรม ท่ีซอ นกนั ขึ้นไปเปนชน้ั ๆ ช้นั ฉายา บนมขี นาดเลก็ กวาชนั้ ลา ง ลดหลนั่ กนั ไปโดยลําดบั ใชป ก หรือต้ัง ฉาว ลกั ษณะแบบแผนคําประพนั ธป ระเภทรอ ยกรอง ฉุดครา สองแสงออกไปสวางกระจา งจา ฉุนเฉียว ช่อื ต้ังใหกนั เลน ๆ หรอื ตามลกั ษณะทีห่ มายรกู นั ในหมคู ณะ เฉไฉ ออ้ื อึง, เอกิ เกรกิ , เกรยี วกราว เฉพาะ พรากไปจาก, ใชกาํ ลังพรากไป, ฉุดลากไปอยางไมป ราณี เฉพาะเจาะจง โกรธ, ไมพ อใจ เฉลิม เถลไถล เฉากว ย จาํ กดั , เทา น,้ี เทานั้น เฉียบแหลม เฉพาะ, เจาะจง โฉมตรู ยกยอ ง ขนมชนดิ หนงึ่ มีลักษณะคลา ยวุน มีสดี ํา กินกับนํ้าตาลทราย ปราดเปร่ือง, เฉลียวฉลาด, หัวไว, หลกั แหลม รปู งาม ใชเ รยี กผูหญิง คําศัพทภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปท่ี 6 Page 15

หมวดอักษร ช คาํ ศัพท คําแปล ชนนี แม ชนบท บานนอก, ตา งจงั หวดั ชมรม กลมุ บคุ คลทมี่ จี ุดประสงคเพอ่ื ประโยชนบ างประการรว มกัน ชลมารค ทางน้าํ ชเล นานนาํ้ ชวา ช่ือเกาะสําคัญทส่ี ดุ และเปน ท่ีตั้งเมืองหลวงของประเทศอนิ โดนเี ซยี ชอ็ กโลก ความรนุ แรงทเี่ กดิ ขน้ึ อยางคาดไมถ ึง จนทาํ ใหค นทง้ั โลกตะลงึ ชอบกล แปลก ชอุม ชุม, สดชื่น ชะแง เฝา คอยดวยใจจดจอ ชะตา โชค, เคราะห, ดวง ชะตากรรม เหตุการณห รือเรอ่ื งราวรา ยแรงทเี่ กดิ ขึ้นกับบุคคลเปนตน ชะรอย เห็นจะ, เห็นทจี ะ, ทาจะ, บางที ชะลอ ทาํ ใหช า ลง, ทาํ ใหช า ลงเพื่อรอ ชชั วาล สวา ง, รงุ เรอื ง ชันษา อายุ ช่วั ตลอดไป จนถงึ ชางตายทั้งตัวเอาใบบวั ปด ความผดิ มหนั ต ยอมปด บังไมมิด ชาญ ชาํ นาญ ชายา เมยี , ภรรยา ชาวเขา คนภูเขา, ชาวดอย, คนดอย ชาํ นาญ ช่ําชอง, ชํานชิ าํ นาญ, เช่ียวชาญ, คลองแคลว, จดั เจน ชาํ ระ ตรวจแก, สะสาง, สังคายนา, ปฏิรปู , ปรบั ปรงุ ชาํ ระลาง ทําใหหมดส้ินไป ชาํ เลือง ชายตา, ดูทางหางตา, เมยี งมอง, มองเผนิ ๆ, เหลือบตาดู ชงิ ชงั เกลียด, ชงั , เกลียดชัง, รงั เกียจ ชงิ ชัย แขง ขัน, ประกวด, ตอ สู, แยงชงิ คําศัพทภาษาไทยระดับชั้นประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 16

คําศัพท คาํ แปล ชวิ หา ลน้ิ ชี คาํ เรยี กหญิงทนี่ งุ ขาวหม ขาว โกนคิว้ โกนผมถือศีล ชบุ ตัว เอาตวั จมุ ลงไปในของเหลวเพือ่ ใหตดิ ส่ิงนน้ั อยางพระสงั ขช ุบตวั ใหเ ปน ทอง ชุบมือเปบ หยบิ ฉวยเอาประโยชนจากผอู น่ื ไปโดยมไิ ดล งทุนลงแรง ชุลมุน วุนวาย, อลเวง, โกลาหล, จลาจล, สับสน, อลหมาน, ปน ปว น เชิง ตีนซึง่ เปนฐานทต่ี ้ังของบางส่งิ บางอยาง ชายหรือปลายของบางสง่ิ บางอยา งท่ี ยืน่ ออกมา ริมหรือชายดา นลา งของผา ท่ีมีลวดลาย เชิงตะกอน ฐานทีท่ ําขึ้นสาํ หรบั เผาศพ เชญิ ชวน ชกั ชวน, ชวน เชอื น ชกั ชา , ไถล, เถลไถล, ไมต รงไปตรงมา, เชอื นแช ก็วา เชือนแช แชเชือน, ไถล, เถลไถล แชด การพดู คุยกันเลนๆ หมวดอักษร ซ คําศพั ท คาํ แปล ซบเซา ไมค กึ คักเชน เดิม ซม อาการอยา งเปน ไขใ นระยะรนุ แรงถึงกับนอนจนไมอ ยากลมื ตา ซอ ช่อื เครอื่ งดนตรีพวกหนง่ึ สาํ หรบั สี ในพวกเคร่อื งสายหรือมโหรี มีคันชกั สีให ดงั มหี ลายชนดิ เชน ซออ,ู ซอดว ง, ซอสามสาย ซอ นเรน ปด บงั โดยลวงใหเ ขาใจไปทางอ่นื , พดู หรือแสดงอาการไมใหรูค วามจริง ซงั กะตาย ฝนใจ ไมเ ต็มใจ หรือทาํ ไปอยา งไมเตม็ ใจ ซดั เซพเนจร รอ นเรไ ป, เที่ยวไปโดยไรจดุ หมาย ซาบซา น แลน ไปทัว่ รา งกาย, แลน ไปโดยทัว่ ซาบซ้งึ อาการท่ีรูสึกจับใจอยา งลึกซงึ้ , อาการทรี่ ูสกึ ปต ปิ ลาบปลืม้ ซึง เครอื่ งดนตรพี น้ื เมืองของไทยภาคเหนือ รูปรา งคลายกระจับป ซื่อกนิ ไมห มด คดกินไม คนซื่อตรงยอมไดรบั ความชว ยเหลอื เสมอ คนคดยอ มไดร บั ความชวยเหลือ นาน เพยี งครั้งเดยี ว ซอ่ื ตรง ประพฤติตรงตามหนา ที่ไมเ อนเอยี ง ไมคดโกง คําศัพทภ าษาไทยระดับช้ันประถมศึกษาปท่ี 6 Page 17

คาํ ศพั ท คาํ แปล เซง็ แซ เสยี งอือ้ องึ เซฟ บันทึก แซบ อรอ ย โซ หวิ อดอยาก ไซร คําสําหรบั เนน ความหมายของคาํ หนา มคี วามหมายไปในทางวา อยางนนั้ , เชน น้ัน, ทเี ดียว หมวดอักษร ญ คาํ ศัพท คาํ แปล ญัตติ ขอเสนอเพ่ือลงมติ ญาติ คนในวงศว านที่ยงั นับรูก ันไดทางเช้ือสายฝายพอหรอื ฝา ยแม หมวดอักษร ฐ คําศัพท คาํ แปล ฐานะ ลําดับความเปน อยูในสังคม หมวดอกั ษร ด คําศัพท คาํ แปล ดวงมาน ดวงใจ ดวงสมร หญงิ ทร่ี ัก, สุดท่รี กั , นงคราญ, ทรามเชย, ทรามวยั ดัด ทําใหคดหรือตรงตามประสงค ดับเบลิ คลิก กด 2 ครั้ง ดาวดึงส ชอื่ สวรรคช น้ั ท่ี 2 แหง สวรรค 6 ช้ัน มพี ระอนิ ทรเปน ผูครอง ดาวเดน บคุ คลทมี่ ีความสามารถหรอื คุณสมบตั ติ างๆ ทโ่ี ดดเดน กวาคนอน่ื ๆ ดาวนโ หลด การสง ขอมูลหรอื โปรแกรมจากระบบทใ่ี หญกวา ไปสูระบบท่เี ลก็ กวา ดาษ ดารดาษ มากมาย เกลอื่ นกลาดมีทว่ั ไป คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 6 Page 18

คําศพั ท คาํ แปล ดําเนนิ เดิน, ไป, เคล่ือนท่ี ดาํ รง คงอย,ู อยยู ง, คงทน, คงไว, ทรงไว ดเิ รก รุงเรือง ดึกดาํ บรรพ โบราณกาล, โบราณ, เกา แก, นมนาน ดุเดอื ด รนุ แรง, รายแรง, เหย้ี มโหด, ดดุ ัน เดชะบญุ โชคดี เดาะ โยนสง่ิ ของขึ้นแลวเอาอวยั วะในรา งกาย เชน มอื เทา หรอื เครอ่ื งมือ ตีรบั ให กระทอนขึ้น เดยี งสา รูผ ิดรชู อบตามปกตสิ ามญั (มกั ใชในความปฏิเสธ) เชน เดก็ ยงั ไมร ูเ ดยี งสา เดียรัจฉาน สตั วเวน จากมนษุ ย เชนหมู หมา ววั ควาย (มกั ใชเ ปน คาํ ดา) เดือดดาล โกรธมาก, พลงุ พลา น, โกรธเกรี้ยว, เกรีย้ วกราด แดยนั แทบขาดใจ, ใจจะขาด โดยสาร เดนิ ทางโดยยานพาหนะ ไดโนเสาร ชอื่ สัตวเ ลอ้ื ยคลานยคุ กอ นประวตั ิศาสตรพ วกหนงึ่ รูปรางคลายกง้ิ กา ยกั ษ แตม ี ขนาดใหญกวา มาก มหี ลายชนดิ บางชนิดกนิ พืช บางชนดิ กนิ เน้ือสัตว ไดรเวอร อุปกรณท ่ีทาํ หนา ทอ่ี านและบันทกึ ขอมูล หมวดอักษร ต คําศพั ท คาํ แปล ตกหลน ขาดตกไปโดยไมต ้งั ใจ ตนยารว ง ตนมะมว งหมิ พานต ตมยํา ช่ือแกงอยางหนึง่ ใชเนือ้ ปลาหรอื เน้ือสตั วอน่ื ตม ในนาํ้ เปลา หรือในกะทิ ใส ตะไคร ใบมะกรดู และปรงุ รสเปร้ียวเค็มดว ยนาํ้ พริกเผาหรือนาํ้ พริก ตรวจตรา พจิ ารณาดใู หรอบคอบถถี่ ว น ตระการ ผปู ระกอบอาชีพดานการเพาะปลกู พชื ตางๆ รวมท้งั การเลย้ี งสตั ว การประมง และการทําปา ไม ตระบอง ไมส้นั สาํ หรับใชตี มรี ปู เหลย่ี มบาง กลมบา ง คลา ยพองแตส ้นั กวา ตระเวน เท่ยี วตรวจตราสถานการณท ว่ั บริเวณ คําศพั ทภาษาไทยระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 6 Page 19

คาํ ศพั ท คาํ แปล ตระหงา น สงู เดนเปนสงา นา เกรงขาม ตระหนกั เกิดความรคู วามเขา ใจในเร่อื งใดเรอื่ งหนงึ่ อยาง ชดั เจน ตรับฟง เอาใจใสค อยฟง ขาวคราวทกุ ขส ขุ หรอื ความคดิ เห็นของผูอืน่ ตรัส พดู , สัง่ , บอก ตราชู เครอ่ื งชงั่ ชนิดทีม่ ีถาดชงั่ หอยอยู 2 ขางคนั ชงั่ มตี ุม นํา้ หนกั บอกนํา้ หนกั ของของ ท่ีชง่ั ตรติ รอง คดิ ใครค รวญ, คิดทบทวน, คิดพจิ ารณา ตรึกตรา คดิ ใครค รวญ, คดิ ทบทวนไตรตรอง ตฤณมยั ลานโลง กวางท่มี หี ญา ขนึ้ อยเู ตม็ ตลกขบขัน ท่นี า ขาํ ขนั , ทีน่ าหวั เราะ ตลบ กระจายไปทว่ั , ฟุงกระจายขนึ้ ไปทัว่ ตอกยาํ้ การกระทําซํา้ ๆ เนน ยํา้ ใหมนั่ คง ตอกร สรู บ ตอแย ยั่วใหเกดิ ความราํ คาญหรือใหโ กรธ, สนใจ, (มกั ใชใ นความปฏิเสธ) เชน อยา ไปตอแยดวย ตะกละ กนิ ไมเ ลอื ก, เหน็ แกก ิน ตะขิดตะขวง อาการท่ที ําโดยไมสนทิ ใจหรือไมส ะดวกใจเพราะกระดากอายเปนตน ตะคอก ตวาด, ขู ตะค้นั ตะคอก ขูตะคอก, ตะคอก ตะคุม ทเ่ี ห็นเปน เงาดาํ ๆ เพราะอยูใ นทหี่ รอื ในระยะที่เหน็ ไมถนดั ตะพาน สิง่ ปลกู สรางท่ีทาํ สําหรับขามแมนา้ํ ลําคลองเปนตน บางทีทําย่นื ลงไปในนา้ํ สาํ หรบั ขน้ึ ลง ตะลึง อาการที่ชะงกั งนั น่งิ อ้ึงไปชวั่ ขณะหนึง่ เพราะคาดไมถึง ตะหลิว เครือ่ งมอื ทําดว ยเหล็ก ใชแ ซะหรือตกั ของทีท่ อดหรอื ผัดในกระทะ ตกั บาตร เอาของใสบ าตรพระ ตกั บาตรเทโว เปน พิธที ่จี ดั ขน้ึ ในวนั แรม 1 คํา่ เดอื น 11 หลังวนั ออกพรรษา เปน วนั ที่ ถอื เอาวนั ทพี่ ระพทุ ธเจาเสดจ็ ข้นึ ไปจําพรรษาบนสวรรคช ้ันดาวดึงส เพื่อโปรด พระพทุ ธมารดา เมือ่ ออกพรรษาแลว พระพุทธองคจงึ เสดจ็ กลบั สโู ลกมนุษย ทางบนั ไดทิพยท ้ัง 3 ทาง คอื บนั ไดเงนิ บันไดทอง บันไดแกว โดยเสด็จลง ทสี่ ังกสั นคร วันนเ้ี ปน วนั ทแี่ ดนทง้ั 3 คอื สวรรค มนุษย และบาดาล คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปท่ี 6 Page 20

คาํ ศพั ท คําแปล สามารถมองเห็นกนั ได เรยี กวา วันเทโวโรหณะ หรือ วันเปด โลก ตณั หา ราคะ, ความอยาก, กามารมณ, กเิ ลส, ความตอ งการ, ความใคร ตัดพอ ตอวาดว ยความนอยใจ ต๋ัว บัตรบางอยา งทแี่ สดงสทิ ธขิ องผใู ช เชน ตว๋ั รถ ต๋ัวหนัง ตํานาน เรอ่ื งแสดงกจิ การอนั มมี าแลว แตปางหลงั , เรอ่ื งราวนมนานที่เลากนั สืบๆ มา ตาํ หนิ ยกโทษขนึ้ พูด, กลาวราย ตดิ สนิ บน ใหทรัพยส นิ หรือประโยชนอนื่ ใดทใ่ี หแ กบคุ คลเพ่ือใหผ นู ัน้ กระทาํ หรอื ไม กระทาํ ในตําแหนง ไมว า การกระทํานน้ั จะชอบหรือมชิ อบดว ยหนา ที่ ติว เรยี นเพ่ิมเตมิ จากท่เี รียนมาแลว เตาทึง ชื่อของหวานชนดิ หน่ึง มถี ่ัวเขยี วกับลูกเดอื ยตม แปงกรอบ และลกู พลบั แหง เปน ตน ใสน า้ํ ตาลตมรอนๆ เตาสวน ช่ือของหวานชนดิ หน่งึ ทําดวยแปง เปย กกวนกบั ถวั่ เขยี วท่เี อาเปลอื กออกแลว ราดนา้ํ กะทิ เตาหู ถวั่ เหลอื งทโ่ี มเปนแปงแลว ทาํ เปนแผนๆ ใชเ ปนอาหาร มี 2 ชนดิ คือ เตา หขู าว และเตา หเู หลอื ง เตย่ี ว ใบตองหรือใบมะพรา วสาํ หรบั คาดกลัดหอ ขนม แตกระแหง แตกเปน รองๆ แตร เคร่อื งดนตรใี นจาํ พวกเครอ่ื งเปา ทําดวยโลหะ มปี ากบาน โตมร หอกซัด โตวาที แสดงคารมโดยมฝี า ยเสนอและฝา ยคา น ในเร่ืองใดเรอ่ื งหน่งึ ไตรต รอง คดิ ทบทวน หมวดอักษร ถ คําศัพท คําแปล ถกเถียง ยกเอาขน้ึ มาพดู โตแยง กัน ถลาก ถากไปถูกเพยี งผวิ ๆ ถลากไถล ไมตรงไปตรงมา, ไมอยูกับรอ งกับรอย (ใชแกก รยิ าพดู ) ถว นถ่ี ไมมองขามเรอ่ื งเลก็ นอ ย ถวาย ให, มอบ, มอบให คําศพั ทภาษาไทยระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 6 Page 21

คาํ ศัพท คําแปล ถวิล มีใจจดจอ ถอง กระทุงดว ยศอก ถอ งแท แจม แจง, ชดั เจน, แนน อน ถอยคาํ คําที่กลา ว ถาน ไมทเี่ ผาแลว จนสกุ มสี ดี าํ โดยมากสาํ หรบั ใชเปน เช้ือเพลงิ ถงึ แกก รรม ตาย ถุงพระบาท ถุงเทา ถงุ พระหตั ถ ถงุ มอื แถลง กลาวอธบิ ายหรือแจงใหท ราบเปน ทางการ แถลงการณ อธบิ ายเหตกุ ารณเ ปน ทางการ แถลงไข กลาวอธิบายหรือแจงใหทราบเปน ทางการ โถม โผเขา ไปอยางรวดเรว็ , รวมกาํ ลังพงุ เขาใส ไถ ถุงยาวๆ ใหญบ าง เล็กบา ง สําหรับใสเ งนิ หรอื ส่งิ ของ โดยมากใชคาดเอว ไถล ล่ืนไปไมต รงทาง หมวดอักษร ท คาํ ศัพท คาํ แปล ทบทวน พจิ ารณาอกี ครง้ั หนึ่ง ทรงครรภ ต้งั ทอ ง(คาํ ราชาศัพท) ทรงพระราชนพิ นธ แตง หนังสอื (คาํ ราชาศพั ท) ทรงศกั ด์ิ กษตั รยิ  ทรชน คนชั่ว, คนเลว, คนพาล, คนเลวทราม, คนช่ัวรา ย ทรพี ลูกที่ไมรคู ณุ พอ แม ทรมาน ทําใหล าํ บาก, ทําทารุณ ทรรศน ความคิดวา ส่งิ ตางๆ เปนอยางไรบาง ทรวง อก, ใจ ทรวดทรง รปู ราง, หุน, รปู ทรง, สณั ฐาน ทรพั ยสนิ วตั ถทุ งั้ ท่มี รี ูปรางและไมม ีรปู ราง ซ่ึงอาจมีราคาและอาจถอื เอาได ทรามเชย หญงิ งามนารกั , นางงามผูเ ปน ทรี่ ัก คาํ ศพั ทภาษาไทยระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี 6 Page 22

คาํ ศพั ท คาํ แปล ทวาร ชอง, ทางเขาออก ทศกณั ฐ ผมู ีสบิ คอ ทศพกั ตร ผูมสี ิบหนา หมายถงึ ทศกณั ฐ ทศเศยี ร ผูมสี บิ หวั หมายถึง ทศกณั ฐ ทองกร เครือ่ งประดับสวมขอมอื เปนแผน เงนิ หรอื แผน ทอง ทําเปน วงโคง มีลวดลาย ประดบั พลอย ทองกวาว ชอื่ ไมยืนตน ดอกสีแสด มีชือ่ เรียกหลายชอื่ ถนิ่ เหนือเรยี ก ทองกวว ถิ่นอีก สานเรยี ก จาน ทอประกาย แสงสะทอนออ น ๆ ของดวงอาทติ ยย ามเชา ทะนง หย่งิ ในเกยี รตขิ องตวั ทะนุบํารุง ซอมแซมรักษา, อุดหนนุ ใหเ จริญข้นึ , ธํารงรักษาไว ทะมึน มีลกั ษณะดํามดื สูงใหญน าเกรงขาม ทะแมง มีลบั ลมคมใน หรือมอี ะไรเคลอื บแฝงอยทู าํ ใหนาสงสัย ทะยาน เผนขนึ้ ไป, โผนเขา ใส ทะลวง ทาํ ใหเ ปน ชองทะลุ , ทาํ ใหเปน ทางหรือเปนชองทะลุเขา ไป ทกั ทาย ไตถ ามถงึ ความเปน อยหู รอื ทกุ ขส ขุ อยา งเปนกันเอง ทณั ฑฆาต ชื่อเครอ่ื งหมายสําหรับฆา อกั ษรท่ไี มตองการออกเสียง มีรูปดังน้ี  ทดั เอาสง่ิ ของหรือดอกไมเ หนบ็ หตู รงบรเิ วณทีเ่ รยี กวา ทดั ดอกไม ทันสมยั ตามสมัยที่นิยมกัน ทบั ถม กลาวซํา้ เติมใหเขาเสียหายหนกั ข้นึ ทศั นาจร ทองเทยี่ ว ทัศนียภาพ ภาพทนี่ าด,ู มักใชหมายถงึ ภมู ิประเทศที่สวยงาม ทางดวน ทางหรอื ถนนซึ่งสรา งข้ึนเพื่อใหเ ดนิ ทางไดร วดเรว็ และปลอดภัย มีการควบคุม และกําหนดจดุ ใหย านพาหนะเขา ออกเฉพาะที่ และไมม ที างอนื่ ตดั ผา นใน ทางเทา ระดับเดยี วกัน ทายาท สวนหนง่ึ ของถนนที่ทําไวใ หค นเดนิ ผสู มควรรบั มรดก โดยปรยิ ายหมายถงึ ผรู ับ หรอื ผอู ยใู นฐานะท่ีจะรบั ตาํ แหนง ทา วราพณาสูร หนา ทีต่ อ จากบคุ คลอืน่ ทํานองเพลง ยกั ษ ในทีน่ หี้ มายถงึ ทศกณั ฑ เสยี งสงู ต่ําของเพลง คําศพั ทภาษาไทยระดบั ช้ันประถมศึกษาปท่ี 6 Page 23

คาํ ศัพท คําแปล ทํานองเสนาะ วธิ ิการอานออกเสียงอยา งไพเราะตามลีลาของบทรอยกรองประเภทโคลง ฉนั ทน กาพย กลอน ทาํ นาย บอกเหตกุ ารณห รอื ความเปนไปท่จี ะเกิดข้นึ ในอนาคต ทาํ วัตร กระทํากจิ ทพี่ ึงกระทาํ ตามหนาทห่ี รอื ธรรมเนียม เชน ไหวพระ สวดมนตเชาค่ํา ของพทุ ธบริษัท ทนิ กร พระอาทิตย, ดวงอาทิตย ทพิ ย เปน ของเทวดา, ดวี เิ ศษอยางเทวดา, ดวี ิเศษเหนอื ปกตธิ รรมดา ทพิ โสต หทู ่ีจะฟงอะไรไดยนิ หมด ทิวทศั น ลักษณะภูมิประเทศทปี่ รากฏใหเหน็ ตามธรรมชาติ ทวิ า กลางวนั ทศิ าน ทิศนอ ยทศิ ใหญทัง้ ปวง ทีม หม,ู คณะ ทึ่ง อศั จรรยใ จ, ชื่นชอบ, แปลกใจ, ตลึง ทูนหัว ผเู ปนสุดท่รี กั (คํากลาวแสดงความรักใคร) ทูล เสนอ, บอก, กลา ว, รายงาน ทูลเกลา ให, มอบ, มอบให เทคโนโลยี การนําเอาวทิ ยาศาสตรมาใชในการปฏบิ ตั ,ิ วิทยาศาสตรป ระยุกต เทคโนโลยีชีวภาพ การใชกระบวนการทม่ี ีพ้นื ฐานทางชีวภาพในอุตสาหกรรมการผลิต และการ ใหบรกิ าร เทพบตุ ร เทวดาผูชาย เทพยดา เทวดา เทรดิ เครอื่ งประดับศีรษะรปู มงกฏุ อยางเตีย้ มีกรอบหนา เทวสถาน สถานที่ซึ่งถอื วา เปนท่ีประทบั หรอื สิงสถิตของเทพเจา หรอื เทวดา, ที่ ประดษิ ฐานเทวรปู เทวัญ พวกชาวสวรรคท ม่ี ีตาทิพย หูทิพย และกนิ อาหารทิพย เทวา เทวดา เทวี เทวดาผูห ญงิ เทเวศ เทวดาผเู ปน ใหญ, หวั หนาเทวดา เทศกาล คราวสมยั ทกี่ าํ หนดไวเปน ประเพณเี พอ่ื ทําบญุ และการรนื่ เรงิ ในทอ งถนิ่ เทศกาลกนิ เจ งานประเพณีถอื ศลี โดยกนิ อาหารจําพวกผักลว น ไมมีเนอ้ื สตั ว คําศัพทภาษาไทยระดับชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 24

คําศัพท คาํ แปล เท่ยี งธรรม ยตุ ิธรรม เทย่ี งธรรม มีความยตุ ธิ รรม โทมนัส ความเสียใจ, ความโศกเศรา, ความเศรา โทรม เสอ่ื มสภาพเดมิ หมวดอักษร ธ คาํ ศัพท คําแปล ธรรม หลกั คําส่งั สอนในศาสนา ธรรมเนียม แบบแผน, แบบอยา ง ธรรมยทุ ธ การแขง ขนั กนั ในความด,ี การรบกันในทางธรรม ธาตรี แผน ดิน ,โลก ธาตุ สิ่งทถ่ี ือวาเปน สว นสาํ คญั ท่ีคุมกันเปน รางของสง่ิ ท้งั หลาย โดยทว่ั ๆ ไปเชือ่ วา มี 4 ธาตุ ไดแก ธาตุดิน ธาตุนาํ้ ธาตไุ ฟ ธาตุลม ธารนํ้าใจ นาํ้ ใจทห่ี ล่ังไหลมาไมขาดสาย ธุรกจิ การงานประจาํ เก่ียวกบั อาชพี คา ขาย ธุระ หนา ทกี่ ารงานทีพ่ งึ กระทํา ธลุ ี ละออง, ฝุน, ฝนุ ละออง, เถา, ข้เี ถา , ผง หมวดอักษร น คาํ ศพั ท คําแปล นกง่วั นกปากสเี หลอื งยาวตรง ปลายแหลมมาก คอโคง ยาว ขนดาํ ปกและหลังมี ลายสีขาว ตีนมีแผนพังผดื ตดิ กันท้ัง 4 นวิ้ คลายตนี เปด ดํานาํ้ จับปลาโดยใช นครา ปากแทง นคเรศ เมืองใหญ, กรุง นงคราญ เม่ืองใหญ, กรงุ นงลักษณ นางงาม, นางสาว นพคณุ นางผูมลี กั ษณะด,ี นางผมู ขี วญั ดี ทองคําเน้ือเกา เปน ทองบรสิ ทุ ธิ์ โบราณกาํ หนดราคาตามคณุ ภาพของเนอ้ื หนัก คาํ ศัพทภาษาไทยระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 25

คาํ ศพั ท คําแปล 1 บาท เปนราคาเงนิ 9 บาท นภา ฟา นมัสการ การเคารพ, การไหว นฤมล บริสุทธ์ิ, ไรม ลทิน นวนยิ าย เรอื่ งยาวทแี่ ตงขนึ้ เปน แบบรอ ยแกว จากชีวติ จรงิ นิทานพนื้ บานพนื้ เมอื ง จนิ ตนาการ หรือประสบการณเปน ตน นักขัตฤกษ งานรื่นเรงิ ตามธรรมเนียมตามฤดูกาล นักปราชญ ผูรู, ผมู ปี ญ ญา นกั เลง ผทู ี่เกะกะระรานชอบหาเร่อื งผอู ืน่ ใหเ ดือดรอ น นักษตั ร ชือ่ รอบเวลา กาํ หนด 12 ป เปน 1 รอบ เรยี กวา 12 นกั ษัตร โดย กาํ หนดใหสตั วเ ปน เคร่ืองหมายในปน นั้ ๆ นักสืบ ผชู ํานาญในการสบื สวน นัดดา หลาน นัย หมายความวา, มีความหมายวา นัยนา ดวงตา นาคี สตั วเลอื้ ยคลานท่ตี ัวใหญก วา งมู ีหงอน เปนสตั วในนยิ าย นาฏศิลป ศิลปะแหงการละครหรือการฟอนราํ นามแฝง ช่อื ทต่ี ้งั ข้นึ เพอื่ พรางหรือแทนชอ่ื จริง นายกรัฐมนตรี ตําแหนง หวั หนาคณะรัฐมนตรี, หัวหนา รฐั บาล นารี ผหู ญงิ , นาง, สตรี นา สมเพช นา สังเวช, นาอนาถ, นาเวทนา นาํ้ คราํ น้ําโสโครกที่ขังอยใู นแองตามใตถ ุนเปน ตน น้าํ พรกิ อาหารชนิดหน่งึ ปรุงดว ย กะป กระเทียม พริกขห้ี นู มะนาวเปน ตน ใชเปน เคร่ืองจิม้ หรอื คลกุ ขาวกนิ ใชน า้ํ ปลาหรือนํ้าปลาราแทนกะปกม็ ี น้ํามนต น้ําท่ีเสกเพ่อื อาบ กนิ หรือ ประพรมเปนตน ถือกนั วา เปน มงคล น้ําหลาก น้ําทไี่ หลมากผิดปรกตโิ ดยกะทันหัน น้ําอมฤต นาํ้ ทพิ ย นิทรา หลับ, นอน, นอนหลับ, บรรทม นิทาน เร่ืองทแี่ ตง ขนึ้ เพอื่ อบรมสง่ั สอน หรอื เพ่อื ความสนกุ นิทานชาดก เรือ่ งเลาเกีย่ วกบั พระพุทธเจา ทีม่ ีมาในชาติกอ น ๆ ตามตาํ ราทาง คาํ ศัพทภาษาไทยระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 26

คาํ ศพั ท คําแปล พระพุทธศาสนา นิทานปรัมปรา เรอื่ งท่ีเลาสบื ตอ กนั มา นิมิต สรา ง แปลง ทํา บางครั้งใชว า นิรมิต นริ นาม ทไี่ มมีชื่อ, ทไี่ มปรากฏช่ือ เนรมิต สรา งหรอื บันดาลดวยอํานาจ ฤทธ์ิ หรืออภินหิ ารใหบังเกดิ เปน ขน้ึ มีขึน้ โดย ฉับพลนั เนิบนาบ มจี งั หวะยืดยาด, คอ นขา งชา เนือ้ คู ชายหญิงทถ่ี ือกันวา เคยอยรู ว มกันมาแตป างกอ น, ชายหญิงทีส่ มเปน คคู รองกัน, คูสรา ง หรอื คูสรา งคูส ม กว็ า . แนน ขนดั อาการท่แี ออัดยัดเยยี ด หรอื เบียดเสียดจนแทบไมม ที ่ีวาง แนบ ตดิ ไปดว ย แนบเนยี น อยางสนทิ และรัดกุมโดยไมมชี อ งโหว โนมนาว ชักชวนใหเ หน็ ดีเหน็ งามหรอื โอนออนตาม หมวดอักษร บ คาํ ศัพท คาํ แปล บกพรอ ง ไมค รบบรบิ ูรณเทาท่ีควรมีควรเปน บนบาน ขอรอ งสิง่ ศักดิ์สทิ ธ์ใิ หช วยโดยใหค าํ มน่ั วาจะใหสิง่ ของตอบแทนหรอื ทาํ ตามที่ ใหสัญญาไวเ มอ่ื เปน ผลสาํ เรจ็ บรรเจิด งามเดน เฉดิ ฉาย บรรทม นอน บรรเทา ทําใหผอนคลายหรอื เบาบางลง บรรยากาศ อากาศท่ีหอ หมุ โลก , ความรสู ึกหรอื ส่งิ ท่อี ยรู อบ ๆ ตัว บรรยาย ชแี้ จงหรืออธบิ ายเร่ืองใหฟ ง บรรลัย ฉิบหาย, ยอ ยยบั , มอดมว ย บรรเลง เลน , ทําเพลง บริโภค กนิ บริวาร ผสู นบั สนุน, ผูร บั ใช บวงสรวง บชู าเทวดาดวยเครอ่ื งสังเวยและดอกไมธปู เทียน คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 27

คําศพั ท คาํ แปล บกั หุง มะละกอ (ภาษาอสี าน) บงั เกิด เกิดขน้ึ , มีขน้ึ บง้ั ไฟ บอ งไฟ คือ ดอกไมไฟขนาดใหญช นดิ หน่ึงมีหางยาว บญั ชร หนา ตา ง บัญชี สมุดหรอื กระดาษสําหรับจดรายการตางๆ ไวเ ปนหลักฐาน บญั ชงี บดุล บัญชรี ายการแสดงสินทรัพยแ ละหนส้ี ินใหร ฐู านะการเงนิ ของกิจการในแตล ะวนั บณั ฑิต ผสู าํ เร็จการศึกษาข้ันปรญิ ญา บันดาล ทาํ ใหบ ังเกดิ ขน้ึ บนั ดาลโทสะ ทําใหเ กดิ ความโกรธ, ความฉุนเฉียว, ความโมโห บัลลังก ทนี่ ัง่ สําหรบั เจา นายทรงหรอื ประทับ บากบ่นั ทําดวยความพยายามหรอื ตง้ั หนา ฝา ความยากลําบาก บาดทะยกั โรคทเ่ี กิดจากตัวเชอื้ โรคบาดทะยกั (Clostridium tetani) เขาสูแผลทําใหม ี อาการกระตกุ และชักแข็ง หลงั แอน โดยมากถงึ ตาย บาดาล พนื้ ท่ีใตระดับผวิ ดินลงไป บาท สวนหนึง่ ของบทแหงคําประพันธ เชน โคลง 4 สุภาพ บทหนึ่งมี 4 บาท บานเกล็ด บานหนา ตางหรือบานประตูซ่งึ ใชไ มหรอื กระจกแผนเลก็ ๆ พาดขวางซอ น เหลื่อมกันเปน เกลด็ บางชนดิ ดงึ หรือหมนุ ใหเ กล็ดเหลา นนั้ เปดปด ไดพ รอมๆ บานพับ กนั เหลก็ หรือทองเหลอื งทใ่ี ชต ดิ บานประตู หรอื หนา ตาง เพ่อื ใหพับเขามาหรือเปด บายศรี ออกได เครอ่ื งเชญิ ขวญั หรอื รบั ขวญั ทําดว ยใบตอง รปู คลายกระทง เปน ชัน้ ๆ มขี นาด บารมี ใหญเลก็ สอบข้นึ ไปตามลาํ ดบั เปน 3 ชัน้ 5 ชัน้ 7 ช้นั หรอื 9 ช้ัน มเี สาปกตรง บาลี กลางเปนแกน มเี คร่อื งสงั เวยวางอยใู นบายศรีและมีไขขวญั เสยี บอยูบนยอด บา ว บายศรี มีหลายอยาง บาํ เพ็ญ คณุ ความดีทไี่ ดบาํ เพ็ญมา, คณุ สมบตั ทิ ่ที ําใหยงิ่ ใหญ บําเรอ ภาษาทใี่ ชเปนหลักในพระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาท บณิ ฑบาต คนรบั ใชต ามคําสง่ั ของเจานาย ทาํ ใหเ ตม็ บริบรู ณ, เพ่ิมพนู ปรนนิบตั ิใหเ ปนทีช่ อบใจ กิรยิ าทีพ่ ระภิกษสุ ามเณรรบั ของท่ีผูคนนํามาใสบาตร คําศพั ทภาษาไทยระดบั ช้ันประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 28

คําศัพท คาํ แปล บิดเบือน ทาํ ใหผ ดิ แผกไปจากขอเท็จจริง, ทาํ ใหผ ิดแผกแปลกไปจากเดิมหรือจาก ขอเท็จจรงิ บติ ุรงค พอ บติ เุ รศ พอ บฑี า เบียดเบยี น บบี ค้นั รบกวน บกุ เบิก เร่ิมทําเปน คนแรกหรือพวกแรก บญุ ธรรม เรยี กลูกของคนอ่นื ซ่งึ เอามาเล้ียงเปน ลกู ของตวั บญุ ผะเหวด ประเพณฟี งเทศนข องภาคอกี สาน ซง่ึ มคี วามศรัทธาและมคี วามเช่ือวา หาก ใครไดฟ งเทศน เรือ่ งเวสสันดรชาดกจบภายในหนึ่งวนั ถือวาไดบ ุญกศุ ลมาก บณุ ฑรกิ บวั ขาว บตุ รบุญธรรม บตุ รของผูอนื่ ทีบ่ คุ คลไดจดทะเบียนรบั เปน บุตรของตน บปุ ผา ดอกไม บุฟเฟต  การจัดเลีย้ งอาหารมากมายหลายชนิดท่ีผกู นิ สามารถตักอาหารไดเองตามใจโดย ไมจ าํ กัด บยุ ใบ ทําปากยนื่ ประกอบกิรยิ าบอกใบใ หรู บุษบง ดอกบัว บหุ รง นก บชู า แสดงความเคารพบุคคลหรือส่งิ ที่นบั ถอื ดวยเคร่อื งสกั การะ เบนซิน นํา้ มันเช้ือเพลงิ ชนิดหน่งึ ซ่งึ นําไปใชโดยทาํ ใหไอของนา้ํ มนั ผสมกบั อากาศเขา ไปจุดระเบดิ ดว ยประกายไฟฟาจากหัวเทยี นในเคร่ืองยนตชนิดเผาไหมภ ายใน เบียดเบยี น ทาํ ใหเดือดรอน เบยี น รบกวน, ทาํ ใหเดือดรอ น เบียนบไ ด เอาไปไมได เบือน หันหนาหนไี ปทางอนื่ แบคทเี รยี พชื ชั้นต่ําเซลลเดยี ว ไมมีผนงั หอ หุม นวิ เคลยี ส ไมมีคลอโรฟลล มีรปู รางกลม เปนทอ น โคง หรอื เปน เกลยี ว โบราณ เกากอน, เกา , เกา แก โบราณกาล สมยั โบราณ, สมัยกอ น โบราณสถาน สงิ่ ทเ่ี คลอื่ นทไี่ มได เชน โบสถ วิหาร วงั มอี ายุเกากวา 100 ปข้ึนไป ใบคา ช่อื ไมลม ลกุ ชนิดหน่ึง ใบคาย แข็ง เอามากรองเปนตบั มุงหลังคา เหงา ใชทํายาได คาํ ศพั ทภาษาไทยระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที่ 6 Page 29

หมวดอักษร ป คําศัพท คาํ แปล ป.ล. ยอ มาจาก ปจ ฉมิ ลขิ ติ ใชเขียนภายหลงั คอื หนงั สือทเี่ ขยี นเพม่ิ เตมิ ลงทา ยเม่ือ เซน็ ชื่อแลว ปกเกศ ปกเกลา , คมุ ครอง ปโกฎิ ชอื่ มาตรานับเทา กบั หนงึ่ รอ ยแสนลาน ปฏิกลู สกปรก, นา รงั เกยี จ ปฏิบัติภารกจิ ทาํ หนาที่ ปฏิภาณ เชาวนไวในการกลาวแกห รอื โตตอบเปน ตน ไดฉบั พลันทันทีและแยบคาย ปฏิสนธิ เกดิ , กําเนิด, ถอื กําเนดิ ปฐมวยั วยั ตน , วยั เดก็ , วัยเยาว ปณิธาน การต้งั ความปรารถนา ปทมุ า ดอกบวั ปม ขอ ยุงที่แกย าก ปรสิต สตั วพ วกพยาธิที่อาศยั อยใู นมนุษยแ ละสตั ว ประกาศ ขอ ความท่แี จงใหท ราบทัว่ กนั ประคอง พยุงใหทรงตวั อยู ชว ยพยงุ ไมใหเซไมใ หล ม ประจญ ตอ สู, สูรบ ประจอ ประแจ ประจบประแจง, ฉอเลาะ, ออเซาะ ประจักษ ปรากฏชดั ประจญั ผจญ, เผชิญ, ปะทะตอส,ู ตอสู ประจัญบาน รบอยา งตะลมุ บอน ประชวร ปว ย, เจบ็ ปวย, เจบ็ ไข, ลม ปวย, ไมส บาย ประชนั แขง ขันเพื่อใหร วู า ใครจะแสดงไดดกี วา หรอื เกง กวา กนั ประณต นอมไหว, ไหว, วันทา ประณม การนอมไหว ประดิดประดอย บรรจงทาํ ใหง ดงามและละเอียดลออยงิ่ ขนึ้ ประดษิ ฐ ทจี่ ดั ทําขึ้นใหเหมอื นของจรงิ ที่คิดทาํ ขึ้นไมเหมือนธรรมชาติ ประดิษฐาน ต้งั ไว (ใชแกส ่ิงท่ีเคารพนับถือ) แตง ตง้ั ไวใ นตาํ แหนง สูง ประเด็น ขอ ความสาํ คญั ของเรอ่ื งที่แยกหยบิ ยกขน้ึ พจิ ารณา คําศัพทภ าษาไทยระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 6 Page 30

คําศพั ท คาํ แปล ประเดมิ เรม่ิ ตน หรอื เรมิ่ แรกในการซ้ือหรือขายเปนตน (มักใชในลักษณะทีเ่ กยี่ วกบั พธิ ี การหรอื โชคลาง) ประเดยี๋ ว ชัว่ ระยะหนึ่ง, ชว่ั ขณะหน่งึ , ชั่วครหู นึ่ง ประตมิ ากรรม ศลิ ปะสาขาหนงึ่ ในจาํ พวกวจิ ติ รศลิ ปเกยี่ วกบั การแกะสลกั ไม หินออน โลหะ เปนตน ใหเ ปน รปู หรอื ลวดลายตางๆ ประทบั น่งั , อยู ประทับใจ ซาบซง้ึ ใจ, จับใจ, ติดใจ, ชื่นชม, ตอ งใจ, ตรงึ ใจ, ชื่นชอบ, ตดิ อกติดใจ, ฝง ใจ ประทับตรา กดตราลงบนเอกสาร ประทาน ให, แจก, มอบให, ย่ืนให ประเทือง เพม่ิ พนู , เสรมิ , ทาํ ใหดขี นึ้ , ทําใหรุงเรืองขนึ้ , สง เสรมิ , เพม่ิ เติม ประนม ยกกระพุมมอื , ยกมอื ข้ึนกระพมุ ประพนั ธ นพิ นธ, แตง , เรยี บเรยี ง, รอ ยกรอง, รอ ยเรียง, เขยี น ประเพณี สิ่งที่นยิ มถอื ประพฤตปิ ฏบิ ตั สิ ืบๆ กันมาจนเปนแบบแผน ขนบธรรมเนียม หรือ จารตี ประเพณี ประมุข ผเู ปน ใหญเ ปน หัวหนา ของประเทศหรอื ศาสนาเปน ตน ประยงค ช่ือไมพ มุ ชนดิ Aglaia odorata Lour. ในวงศ Meliaceae ดอกกลมเลก็ ๆ สีเหลือง ลักษณะคลา ยไขปลาดุก ออกเปน ชอตามงา มใบ กลิ่นหอม ประโยชน ผลดี, คณุ ประโยชน ประวตั ิ เรอ่ื งราววาดว ยความเปน ไปของคน สถานที่ หรอื สิ่งใดส่งิ หน่งึ ประวัติการณ เหตกุ ารณท ่มี คี า ควรบันทึกหรอื จดจาํ ไว ประวตั ิศาสตร วชิ าวาดว ยเหตกุ ารณท่ีเปน มาหรือเรอ่ื งราวของประเทศชาตเิ ปนตนตามท่ี บันทกึ ไวเ ปนหลักฐาน ประวงิ หนว ง, ถวง ประสงค อยาก, ตอ งการ, ปรารถนา, หวงั ประสบการณ ความจัดเจนท่ีเกิดจากการกระทําหรือไดพ บเห็นมา ประสาน ทาํ ใหเขากนั สนทิ ประสิทธิภาพ ความสามารถทที่ ําใหเ กดิ ผลในการงาน ประสูติ เกดิ (คําราชาศพั ท) ประเสริฐ วเิ ศษ, เลศิ , ดีเลศิ , ดที สี่ ุด, ยอดเยยี่ ม, เปน เยีย่ ม ประหนง่ึ ราวกับ, คลา ย, ดจุ คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดับชั้นประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 31

คําศพั ท คาํ แปล ประหมา สะทกสะทา น, พรนั่ ใจ, กระดาก, ขวยเขนิ , ขี้อาย, กระดากอาย, เหนียม ประหลาด แปลกผิดปกตหิ รอื มิไดค ิดคาดหมายวาจะเปน ไปได ประหวน่ั รสู กึ หว่นั กลัว ประหตั ประหาร เขนฆา, สังหาร, กําจดั , สาํ เรจ็ โทษ ประหาร ฆาใหตาย , กําจดั ใหตาย ปรัชญา วิชาวาดว ยหลกั แหงความรูและความจรงิ ปรากฏ บงั เกดิ , มขี ึ้น, อบุ ัต,ิ เกดิ แสดงตวั ใหเ หน็ , ใหเห็นเปนรูปรา ง ปราชญ ผมู ีปญญารอบรู ปรารถนา มงุ หมาย, อยากได, ตอ งการ, หมาย, อยาก, ประสงค, หวัง ปรารภ เอย, เปรย, กลา วถึง, เอยถึง ปรารมภ วติ ก, รําพงึ , ครุนคิด ปราศจาก พนไป, ไมมี ปราศรัย พดู , อภปิ ราย ปราสาท เรือนมียอดเปน ช้ันๆ สาํ หรบั เปน ทปี่ ระทบั ของพระเจา แผนดินหรอื เปนที่ ประดิษฐานสิ่งศักด์สิ ิทธ์ิ ปริศนา สง่ิ หรือถอยคําทผ่ี กู ขึ้นเปนเงอ่ื นงําเพือ่ ใหแกใหท าย ปรีชา ความสามารถ, ปญญาสามารถ, ความรอบรู ปรชี าชาญ มีความรูจดั เจนจนชาํ นาญ ปรีดา ดีใจ, อ่มิ ใจ, ปลม้ื ใจ, ยินด,ี อมิ่ เอม, สุขใจ ปรกึ ษา หารอื , ขอความเห็น, ขอคําแนะนํา, พิจารณาหารอื ปฤจฉา คําคณุ ศพั ทท ี่เปนคาํ ถาม เชนคาํ อะไร ปลอด ไมมีสิ่งชนดิ อน่ื ปน ปลอบขวญั ปลอบโยนหรอื บํารุงขวัญใหม ีกําลังใจ หรอื หายตกใจ ปลาตะเพียน ชื่อปลาน้าํ จดื บางชนิดของบางสกลุ ในวงศ Cyprinidae หนวดส้ัน เกลด็ สีขาว เงนิ ขอบเรียบ ทีม่ ีลาํ ตัวสัน้ ปอม แบนขาง ปลานลิ ช่ือปลานํา้ จดื ลําตัวสเี ขียวอมน้ําตาลหรืออมเหลือง มจี ดุ ดําดางทว่ั ตวั ปลารา ปลาหมกั เกลอื ใสขา วคัว่ ใชเ ปน เครอื่ งจิม้ ปลาใหญกนิ ปลาเล็ก คนทีม่ อี าํ นาจมากกวา หรอื เปนผใู หญกวา แตมกั ขมเหงและเอารดั เอาเปรยี บ ผูนอยเสมอ ปลิด เอามือบดิ ทาํ ใหผลไมห ลุดจากขั้ว, ทําใหห ลดุ คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 32

คําศพั ท คาํ แปล ปศสุ ัตว สตั วเ ลยี้ งใชแ รงงานเชน ชาง มา แพะ แกะ ววั ควาย ปอ งปด เอามือกันและปด ส่งิ ทเี่ ขา มาพัลวันกับตวั ใหพนออกไป ปะหนนั ชอ่ื เรยี กตนตวั ผูข องเตยทะเล (Pandanus odoratissimus Linn.) ในวงศ Pandanaceae ขอบใบและกาบหมุ ดอกมหี นาม ดอกมกี ลน่ิ หอม ปก ษใ ต ภูมภิ าคทอี่ ยตู รงขา มกับภาคเหนอื ปจ จามติ ร ศตั รู ปจจบุ นั เวลาเดย๋ี วน,้ี เวลาไมใชอดีต ไมใชอ นาคต ปถ พี แผนดิน ปน น้าํ เปน ตวั พดู โกหก กุเรือ่ งราวข้นึ โดยไมม มี ูลเหตขุ องความจรงิ ปาง ครง้ั , คราว, เมื่อ ปาฐกถา การกลาวถอ ยคําหรอื เร่ืองราวทางวชิ าการท่กี ลาวหรอื บรรยายในที่ชมุ นมุ หรือ ในหองเรยี นขน้ั อดุ มศึกษา ปาดเหง่ือ ใชมือกวาดเหงอ่ื ออก ปา โปรง ปาที่มีตนไมใ หญขึน้ ไมหนาแนน นกั ปาลม ช่อื เรียกไมต น หรอื ไมพ ุม ในวงศ Palmae ชนดิ ที่นาํ เขามาจากตา งประเทศ ปาลม ช่อื เรยี กไมตน หรอื ไมพุมในวงศ Palmae ชนดิ ท่นี าํ เขามาจากตา งประเทศ ปา ละเมาะ ทโี่ ลง ซึง่ ประกอบดวยไมพ ุมเล็กๆ เปน หยอ มๆ ปด ทองหลังพระ ทาํ ความดีแตไมไดรับการยกยอ ง เพราะไมม ีใครเหน็ คณุ คา หรอื รบั รถู ึงคุณ ความดีท่ีกระทาํ ปต ุรงค พอ ปติ ความปลาบปลื้มใจ, ความอมิ่ ใจ ปพาทย เครอ่ื งประโคมทมี ีปเปน หลกั และประกอบดวยกลองใหญ ตะโพน ระนาด ฆอ งวง ฯ ปงุ กี๋ เครอื่ งสานคลายรปู คลา ยเปลือกหอยแครง ใชสําหรับโกยดนิ ปถุ ุชน มนษุ ย, สามัญชน, บุคคล, คน ปุย ส่ิงทชี่ วยบาํ รงุ พันธุไมใหงอกงามเตบิ โต เปรมปรีดา อ่ิมอกอิ่มใจ, ปลาบปล้ืมใจ เปร่อื งปราด ฉลาด, หลักแหลม, เกง, เชย่ี วชาญ เปอรเซ็นต จาํ นวนท่ีเทยี บเปน สวนรอ ยหรอื รอ ยละ เปดเผย ไมป ด บัง คาํ ศัพทภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 Page 33

คาํ ศพั ท คาํ แปล เปย ม มีเตม็ ท่ี, มบี รบิ ูรณ แปง รา่ํ แปงที่ปรุงดว ยนํ้าหอม แปรรูป กระทําดว ยประการอน่ื ใดใหเ ปล่ยี นแปรสภาพไปจากเดมิ เพื่อถือเอาวัตถุธาตุ หรอื ผลพลอยไดจ ากวตั ถดุ บิ เดิม แปลงกาย เปล่ียนรูปกายทง้ั หมดใหกลายเปนอีกรูปกายหนึ่ง แปะเจย๊ี ะ เงินกนิ เปลา โปรแกรม ชุดคําสง่ั ท่กี าํ หนดระบบการทํางานของเครื่องคอมพวิ เตอร โปรดเกลา โปรดเกลาโปรดกระหมอม, กรณุ า โปรตนี สารประกอบอินทรยี เชิงซอ นของไนโตรเจน มโี มเลกลุ ขนาดใหญ ประกอบดว ยกรดแอมิโนหลายชนิดเชอ่ื มโยงกัน เปน สารประกอบทีส่ ําคญั ยงิ่ ไปรษณยี ากร ตอสิ่งมชี วี ติ ทุกชนดิ ซึง่ จําเปน ตอ งใชเพือ่ สรางเน้ือเยือ่ ของรางกาย ดวงตราคา ธรรมเนียมสาํ หรบั สงจดหมายหรอื ไปรษณยี ภณั ฑท างไปรษณยี  หมวดอกั ษร ผ คาํ ศัพท คาํ แปล ผกา ดอกไม ผงก ยกหวั ข้นึ นอ ยๆ ผจญภัย ขบั เคย่ี วกับภยั ผลประโยชน ประโยชนทเี่ ปน ผล ผลดั เปล่ยี น ผลดั กนั ประจาํ หนา ที่ ผลุง อาการท่ีทง้ิ หรือปาส่งิ ของไปโดยเรว็ ผสมผสาน ทาํ ใหเขากนั สนิท ผอง ทั้งปวง, ทงั้ หมด ผอ ง เปลงปลงั่ , สดใส, ผองแผว , ผองใส ผอนผนั ยดื เวลา ผอบ ตลบั มเี ชงิ มียอด ผอ็ ย อาการท่ีรวงหรือหลนไปโดยเรว็ หรอื อาการท่หี ลับไปโดยเร็ว ผนั ผวน กลับไปกลับมา ผาดแผลง ยงิ ไปโดยเร็ว คําศพั ทภาษาไทยระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ 6 Page 34

หมวดอกั ษร ฝ คาํ ศพั ท คาํ แปล ฝากฝฝากไข พ่ึงพาอาศัยไดท ัง้ ยามเจ็บไขไ ดป ว ยหรอื เมอ่ื ตายไปแลว แฝง หลบ แอบ ซอ น เรน โดยอาศยั สิง่ กาํ บงั หมวดอักษร พ คําศพั ท คาํ แปล พงศ วงศ, ตระกูล, เหลากอ, วงศว าน พงศพนั ธุ พวกพอ งทเี่ นอื่ งมาแตวงศ พงศาวดาร เรอ่ื งราวของเหตุการณเ กยี่ วกบั ประเทศชาติหรือพระมหากษตั ริยผ เู ปน ประมุข ของประเทศชาตนิ ัน้ พจนานกุ รม หนังสือสําหรับคน ความหมายของคาํ ทเ่ี รียงลําดับตามตัวอกั ษร พจนารถ คําพูด พนาลี แนวปา พยกั หนา ผงกศีรษะ, กม ศีรษะ พยาธิ ชอื่ สตั วไ มม ีกระดกู สันหลังซง่ึ อยา งนอ ยในระยะหน่งึ ของชีวติ จะเปนปรสิตอยู ในมนษุ ยแ ละสตั ว พยงุ ประคองใหทรงตัวอย,ู ประคองใหอ ยใู นสภาพปกต,ิ ระวงั ไมใหล ม ไมใ หซวนเซ พยหุ โยธา ยกกองทพั ไปรบ, เดนิ ทัพ, ยกทัพ พรมแดน ขดี ขั้นเขตแดน, แดนตอแดน พรรค หมูคนที่เขา รวมกันเปนพวกเปนฝา ย เชน พรรคการเมอื ง พรรณนา กลา วเปน เรอื่ งเปนราวอยางละเอยี ด ใหผูฟง นกึ เหน็ เปน ภาพ พรรษา ฤดูฝน, หนาฝน พรหม ช่ือพระเปนเจา ผูสรา งโลกตามศาสนาพราหมณ, เทพในพรหมโลก จําพวกมีรูป เรยี ก รปู พรหม พรอ มเพรียง ครบถว น พระเขนย หมอน พระชนนี แม พระทนต ฟน คาํ ศพั ทภาษาไทยระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 6 Page 35

คําศพั ท คาํ แปล พระทรวง อก พระทยั ใจ พระแทน เตยี ง พระธาํ มรงค แหวน พระธิดา ลูกสาว พระนดั ดา หลาน พระนารายณ ชอ่ื หน่งึ ของพระวษิ ณุซึง่ เปน พระเจา องคหน่ึงของศาสนาพราหมณ พระนาสา จมกู พระนิพนธ งานเขยี น (ใชก บั พระมหากษัตริย) พระนิเวศน ตาํ หนกั , ปราสาท พระเนตร ตา พระบรมมหาราชวัง ท่อี ยูข องพระเจา แผน ดนิ พระบรมราชวนิ จิ ฉยั ตัดสิน, ชข้ี าด พระบรมราชโองการ คาํ สงั่ พระบรมราโชวาท คําสอน พระบาท เทา พระปราง แกม พระปรางค ปราสาทที่มยี อดสูงขึ้นไป มฝี กเพกาแยกเปน กิ่งๆ อยขู า งบน พระพักตร หนา พระพาย เทพเจา แหงลม บิดาของหนมุ าน พระพาหา แขน พระพฆิ เนศ ชื่อเทพองคห นึง่ มีเศยี รเปน ชา งถือวาเปน เทพแหงศิลปะ พระภษู า ผา นงุ พระมหากรุณาธิคณุ คุณอันย่ิงใหญ พระมารดา แม พระราชทาน มอบให, ให พระราชธดิ า ลกู สาว พระราชนัดดา หลาน พระราชนิพนธ เร่ืองทีพ่ ระมหากษตั ริยท รงพระราชนพิ นธข ึ้น พระราชบัญชา ส่ังการ คําศัพทภ าษาไทยระดับชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 36

คําศัพท คําแปล พระราชบัญญตั ิ บทบญั ญตั ิแหง กฎหมายทีพ่ ระมหากษัตรยิ ท รงตราขึ้นโดยคาํ แนะนาํ และ ยนิ ยอมของรัฐสภา พระราชปณิธาน การตั้งความปรารถนา พระราชพงศาวดาร เรือ่ งราวของเหตุการณเ กยี่ วกับประเทศชาติ หรอื พระมหากษตั ริยผเู ปน ประมขุ ของประเทศชาตินน้ั พระราชมารดา แม พระราชวัง ที่อยูของพระเจาแผน ดนิ พระราชหัตถเลขา จดหมาย (ใชกบั พระมหากษตั รยิ ) พระราชอทุ ยาน สวน พระราชโอรส ลูกชาย พระศอ คอ พระเศยี ร ศีรษะ พระสนบั เพลา กางเกง พระสาสกิ จมกู พระหฤทยั ใจ พระหตั ถ มือ พระอยั กา ป,ู ตา พระอยั กี ยา, ยาย พระอินทร ช่ือเทวราชผูเปน ใหญใ นสวรรคช นั้ ดาวดงึ สแ ละช้ันจาตมุ หาราช พระอุระ อก พระโอรส ลกู ชาย, บตุ รชาย พระโอษฐ ปาก พรน่ั พรงึ รสู กึ หวน่ั กลัว พรา งพราย ลักษณะท่กี ระจาย เหน็ ไมช ดั พรํา่ เพรียก รอ งเรียกหากนั อยูตลอดเวลา พรกิ ข้ีหนู ชอ่ื พันธพุ รกิ เมด็ เล็กทีม่ รี สเผด็ รอน พริ้ง สวยงามมาก พริ้นท พิมพ พฤกษา ตนไม พฤษภ ช่ือกลุมดาวรปู ววั เรยี กวา ราศีพฤษภ เปน ราศี 1 ในจกั รราศี คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 37

คาํ ศัพท คําแปล พลบ เวลายาํ่ คาํ่ , เวลาโพลเ พล พลัดพราก จากกนั ไป, แยกออกจากกันไป พลัน ฉับพลนั , ทนั ที พลับพลา ที่ประทับชว่ั ครงั้ คราวสาํ หรบั รบั รองพระเจาแผนดนิ และพระบรมราชวงศ ช้ันสงู พลาดพลั้ง พลาดโดยไมตงั้ ใจ พลา น อาการเปนไปในลกั ษณะปว น วุน สับสน ลนลาน พลานามัย ภาวะของรา งกายทแ่ี ข็งแรง และไมเปน โรค พลกิ แพลง ดัดแปลง, เปล่ียนแปลง, ปรบั พลกุ พลาน ขวักไขว, วนุ วาย, จอแจ, คบั คั่ง พวกพอ ง พรรคพวก, พวก พสก คนทอี่ ยใู นประเทศ ไมว าจะเปน พลเมืองของประเทศนน้ั หรอื คนตางดา วที่ อาศัยอยใู นประเทศ พสกนกิ ร พลเมือง, ประชาราษฎร, ประชากร พสธุ า ผทู รงไวซ ง่ึ ทรัพย คือ แผนดนิ พะโล ช่อื อาหารแบบจนี ชนิดหนึง่ นาํ้ แกงปรุงดว ยเครอ่ื งเทศ รสคอนขา งหวาน พะอืดพะอม อาการคลื่นไสอ ยากอาเจยี น พักตร หนา, ใบหนา พฒั นา ทาํ ใหเ จรญิ ข้ึน, ทาํ ใหด ขี นึ้ พัทธสมี า เขตสังฆกรรมท่ีพระสงฆไ ดก าํ หนดไวเ ปนหลกั ฐานตามวธิ กี ารในพระพทุ ธา นญุ าตเร่ืองสมี า พนั ธุกรรม ลักษณะ นิสัย ตลอดจนโรคหรือความวกิ ลวิการบางอยา งท่ลี กู หลานสบื มาจาก พอแม พัลวนั อยางยุงเหยงิ วนุ วาย พากเพยี ร พยายามอยางหนกั โดยไมน กึ ถึงอปุ สรรค, มงุ ทาํ โดยไมท อ ถอย พา ง เพยี ง, เชน , เหมอื น, แทบ พารา เมือง พาล เกเรระรานหาเรือ่ งคนอืน่ ไปทัว่ อยา งไมม เี หตุผล พาสเวริ ด รหสั ผา น พิกล แปลก คาํ ศพั ทภาษาไทยระดับช้นั ประถมศกึ ษาปท ี่ 6 Page 38

คาํ ศัพท คาํ แปล พิเคราะห ใครครวญหรือพจิ ารณาอยางละเอียดรอบคอบ พฆิ าต ทําลายลา งใหห มดส้นิ ไป พจิ ารณ ตรวจตรา, ตริตรอง, สอบสวน, ไตต รอง พจิ ารณา พินจิ , ตรึกตรอง,ใครครวญ พถิ พี ิถัน อยา งละเอียดลออเกินปกติ พิทักษ ดูแลคมุ ครองใหป ลอดภยั จากอันตราย พธิ กี รรม การประกอบพธิ บี ชู า, การปฏบิ ตั ิในการทาํ พิธี พธิ รี ตี อง งานพิธีตามแบบตามธรรมเนียม พนิ จิ อยา งตั้งใจหรอื อยางระมัดระวงั พิบตั ิ สิง่ ทเี่ ปนภัยหรอื ความเดอื ดรอนที่กอ ใหเ กดิ ความเสยี หายอยา งมาก พิพิธภณั ฑ สถานท่ีซง่ึ เก็บส่ิงของตา งๆ รวบรวมไวเ พ่ือประโยชนใ นการศึกษา พมิ าน ทอ่ี ยหู รือทป่ี ระทับของเทวดา พิไร ราํ พัน, ราํ่ วา, รา่ํ รอ ง, รํา่ ไร พิลกึ ผดิ ปกต,ิ แปลกประหลาดไปจากธรรมดา พิศ เพงดู พิสจู น ชีแ้ จงใหรูเ หตผุ ล, แสดงใหเ ห็นจรงิ พีระมิด ส่ิงกอ สรางท่มี ฐี านเปน รปู ส่ีเหลยี่ มจัตุรสั ดานขา งท้ัง 4 เปน รูปสามเหลีย่ ม มี ปลายสุดไปบรรจบกันที่ยอด พึมพาํ เสยี งอยา งเสียงคนพูดหรอื บน คอยๆ พทุ ธรกั ษา ชอื่ ไมลมลกุ มเี หงา ขึ้นเปน กอ ดอกสีตาง ๆ พุทธศาสพทุ ธศาสนิกชน ผทู นี่ ับถือพระพทุ ธศาสนา พุพอง บวมข้ึนมา, ฟูขนึ้ มา, โปงขนึ้ มา (ใชแ กผ ิวหนงั ) พูกนั เครือ่ งเขยี นรปู ภาพ ตอนปลายทใ่ี ชเ ขยี นเปน พูขนสตั ว เพง พิศ, จองด,ู เพง พิศ, เพง พนิ ศิ เพชฌฆาต เจา หนาทีป่ ระหารชวี ติ นกั โทษทีต่ องโทษถงึ ตาย เพชรรูจี เพชรท่เี ปน ประกายแวววาว เพรยี ก รองเรียกดว ยเสียงเซ็งแซ เพลงยาว หนงั สือหรอื จดหมายถงึ ครู กั แตง เปนกลอนแสดงขอ ความรกั หรือตดั พอ เพลิดเพลนิ มีความสุขอยกู บั การกระทําอยา งใดอยางหนงึ่ จนไมสนใจสิง่ อื่น เพลิน อยา งสนุกสบายใจ, อยา งทไ่ี มนาเบ่อื คําศพั ทภ าษาไทยระดับชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 39

คาํ ศัพท คําแปล เพลีย่ งพลํา้ พล้งั พลาดไป, ทาํ ผิดพลาดไปจนเสียที เพศสมั พนั ธ เซ็กซ, การรวมเพศ เพอ ฝน มงุ คดิ หรอื พดู โดยที่ไมมีสาระหรอื ไมมวี นั เปนความจรงิ ขน้ึ มาได เพาเวอรพ อยท โปรแกรมนาํ เสนองาน เพาะเมลด็ ทําใหเมล็ดงอก เพงิ สิง่ ปลกู สรางมีทั้งชนดิ ชว่ั คราวขนาดเลก็ และชนิดถาวร ประกอบดว ยหลงั คา ปก เดยี ว เพิงผา หินบรเิ วณหนา ผาท่มี ีลกั ษณะคลายหลังคายืน่ ออกมา โพงพาง เครอื่ งมือดักปลาชนดิ หน่งึ เปนถงุ ตาขา ยรปู ยาวรี ใชผูกกบั เสาใหญ 2 ตน ที่ปก ขวางลํานา้ํ สาํ หรับจบั ปลากงุ ทกุ ขนาด โพยม ทองฟา โพระดก นกตัวอว นปอมสีเขยี ว หนาสแี ดง เหลือง หรือน้ําตาล ปากหนาแขง็ แรง ปลายแหลมใหญ มขี นแขง็ ตรงโคนปาก โพลเ พล เวลาพลบคา่ํ , เวลาจวนคาํ่ ไพรวัน ปา, ไพร ไพรสัณฑ ปา, ไพร ไพเราะ เพราะ, เสนาะ ไพล จงใจไปทําอยา งแตกลับไปทาํ อีกอยางหนง่ึ หมวดอักษร ฟ คําศัพท คาํ แปล ฟอนต แบบตัวอกั ขระ ฟากฟา สว นเบื้องบนทมี่ องเห็นครอบแผน ดนิ อยู ฟายน้ําตา มนี ้าํ ตาอาบหนา, น้ําตาไหลออกมามาก ฟารม อาณาบริเวณทใ่ี ชทาํ การเกษตรกรรม ฟน กลับคนื มาใหม, กลบั ดีขึ้นหรือเจริญข้ึน ฟงุ เฟอ ง เช่ียวชาญ, ชาํ นิชาํ นาญ, (ใชแกสติปญ ญา) ฟกู ท่นี อนใหญทยี่ ดั ดว ยนุน ฟมู ฟาย อยางมากมายลน เหลอื คาํ ศัพทภาษาไทยระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 40

เฟอน หลง, หลงๆ ลมื ๆ, เลือน, ฟนเฟอน โฟลเดอร ระเบียนแฟมขอ มลู บนหนาจอคอมพิวเตอร ไฟล แฟมขอมลู คาํ ศพั ท หมวดอกั ษร ภ ภพไตร คาํ แปล ภวังค ภพทงั้ สาม คือ กามภพ รปู ภพ อรปู ภพ, ตามไสยศาสตรวา สวรรค มนุษยโลก ภักดี บาดาล ภยั พบิ ัติ ความเปนอยูโ ดยไมรูสึกตวั , จิตท่ีกําลังลมื ตวั ภสั สร จงรักหรอื ซือ่ สตั ยต อดวยความเล่ือมใสอยางยิ่ง ภาค อนั ตรายทกี่ อ ใหเ กดิ ความเสยี หาย ภาวะ แสงสวา ง, รัศมี ภาษาถนิ่ ส่ิงท่ีแบง จากสงิ่ รวมหรือสว นรวมทั้งหมด ความม,ี ความเปน ภมุ รี ภาษาทม่ี ีสําเนยี งพดู หรือคาํ ศพั ทท่ีแตกตางกนั ไปตามผูใชท อี่ ยใู นถนิ่ นนั้ ๆ เชน ภมู ิใจ ภาษาถิน่ เหนอื ภมู ิปญ ญา แมลงผ้ึง แมลงภู ภูมศิ าสตร รูสึกวามีเกยี รตยิ ศ พื้นความรคู วามสามารถทม่ี ีอยู ภูวไนย วิชาท่ีศึกษาถึงความสมั พันธร ะหวางส่ิงแวดลอมทางธรรมชาตกิ ับสงั คมที่ ภษู า ปรากฏในดินแดนตางๆ ของโลก เภทภยั พระเจา แผนดนิ โภชนาการ เครือ่ งนุง หม ภยั ตางๆ ความสมั พันธร ะหวางอาหารกบั กระบวนการตางๆ ทีเ่ กยี่ วของกับสขุ ภาพและ การเจรญิ เตบิ โตของสง่ิ มีชวี ติ คําศัพทภ าษาไทยระดบั ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 41

หมวดอกั ษร ม คาํ ศพั ท คําแปล มงคล เหตทุ ่นี าํ มาซ่ึงความเจริญ มณฑก ปนเล็กยาวชนดิ หนงึ่ ,กบ มณฑล เขตปกครองทแ่ี บง ออกเปนสวนใหญๆ มณเฑยี ร ทอ่ี ยขู องกษตั รยิ  มดตะนอย มดมสี ดี าํ เมอื่ ตอ ยทําใหเ จ็บปวด มนต คาํ เสกเปา ท่ีถือวา ศักด์สิ ทิ ธิ์ มนตสะกด เวทมนตรทีท่ าํ ใหเกิดอาการเคลบิ เคลิ้ม มนุษยธรรม ธรรมของมนุษย มักหมายถงึ ความเมตตาผอู ื่น มนสุ สา มนุษย มโนจริยา กิรยิ าท่แี สดงออกทางใจ มโนภาพ ความคดิ เหน็ เปนภาพขน้ึ ในใจ มโนราห ชื่อเพลงไทยทาํ นองหนง่ึ มรคา ทาง มรณภาพ ตาย (ใชก บั พระสงฆ) มรณา ตาย, สน้ิ ใจ, ดบั ชีพ,ถงึ แกก รรม มรรคา เสน ทาง, ทางเดนิ , ทางผา น, ทาง, วถิ ที าง, แนวทาง มฤตยู ความตาย มลภาวะ ภาวะอันเกิดจากความมวั หมองหรอื ความสกปรก มว ย ตาย, สนิ้ สดุ , มอดหมด, สิ้น, เสียชีวิต, ลว งลบั , มว ยมรณ ตาย, สิ้นสุด, สนิ้ , เสียชวี ติ มหรสพ การแสดงหรอื การละเลน ตา งๆ ทจ่ี ดั ขน้ึ เพ่อื ความรืน่ เริง มหนั ตภัย อันตรายอยางใหญหลวง มหาชน ชนหมมู าก มหาราช คาํ ซ่งึ มหาชนถวายเพอื่ เฉลิมพระเกยี รตพิ ระเจาแผน ดนิ มหิงสา ควาย, กระบอื มเหสี ชายาของพระเจาแผน ดนิ มโหสถ ผูมยี าประเสริฐ มอนเิ ตอร จอภาพ คําศัพทภ าษาไทยระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 42

คําศัพท คําแปล มอมแมม เปรอะหรือเปอ นดวยส่ิงทีส่ กปรก, ไมสะอาดหมดจด มกั งา ย มีนิสยั ชอบเอาแตค วามสะดวกเขาวา มัคคุเทศก ผนู ําทาง (มักนาํ เทีย่ วและอธิบายประกอบ) มัจฉา ปลา มัชฌิม กลาง, ปานกลาง มัณฑนศลิ ป ศลิ ปะการออกแบบและตกแตงผลติ กรรมตางๆ, วชิ าวา ดว ยการประดบั ตกแตง มัศยา สตั วเลือดเยน็ มกี ระดกู สันหลัง รางกายแบง เปน สวนหวั ลาํ ตวั และหาง สว น ใหญหายใจทางเหงอื ก มีครีบใชช ว ยในการเคลื่อนไหว บางชนดิ มเี กลด็ บาง มสั ยิด ชนดิ ไมมี รปู รา งลักษณะ ขนาด และพฤตกิ รรมแตกตางกนั มากมาย พบทั้งใน มสั สุ ทะเลและแหลง นาํ้ จืด มาตรแมน สถานทีซ่ ่ึงอสิ ลามกิ ชนใชเ ปน ที่ประกอบพธิ กี รรมทางศาสนาอสิ ลาม มาน ขนทขี่ ึ้นเหนอื ริมฝปากบนของคน มารยา ถึงแมน, ถาแมวา , แมว า มาศ มี มิตร การลวง, การแสรงทาํ , เลหก ล, เลห ก ระเท, มารยาสาไถย มติ รภาพ ธาตแุ ทชนดิ หนงึ่ เน้อื แนนมาก สีเหลอื งสุกปลั่ง เปน โลหะมคี า มีม่ัง เพ่ือนรกั ใครค นุ เคย มุง ความเปน เพอื่ น ม่งั มี เมขลา รมุ กันเขาไปดอู ยา งไมม ีระเบียบ,เอาวัสดบุ างอยาง เชน กระเบื้องหรือจากเปน ตน ปดสว นบนของเรือนหรอื หลงั คาเพือ่ กนั แดดกนั ฝน เมฆ ช่ือเทพธดิ าประจํามหาสมทุ ร มีดวงแกวประจาํ ตวั เชือ่ กนั วา ฟา แลบในวันฝน เมรุ ตก คอื การเลนลกู แกว ของนางเมขลา เมามวั ไอน้ําทร่ี วมตวั กันเปนกลุมกอ นลอยอยใู นอากาศ เมาลี ทเี่ ผาศพ หลงั คาเปนยอดมรี วั้ ลอ มรอบ เมาส หลงระเรงิ ลุมหลงเมามัว เมียงมอง จอม, ยอด, ผมจุก เมอ่ื ยลา อปุ กรณขนาดเลก็ เปน ตัวทําใหเ คลอื่ นยายตวั ช้ีตาํ แหนง เมียง, เมียงๆ มองๆ อาการเพลียของกลามเน้อื แขน ขา เปน ตน คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 43

คําศัพท คาํ แปล แมโพสพ เทพธิดาประจาํ ขา ว, เจา แมแ หง ขา ว โมลี จอม, ยอด, ผมจกุ โมหะ ความลมุ หลง ขลาดกลัว โมหนั ธ ความมดื มนดว ยความหลง ไมย มก เคร่ืองหมายรปู ดังนี้ ๆ สาํ หรบั อานซ้ําความหรอื ซา้ํ คาํ ขางทา ย 2 หน ไมยราบ ชอ่ื ไมพ มุ ขนาดเล็กชนิด Mimosa pudica Linn. ในวงศ Leguminosae ใบคลาย ใบกระเฉดเมอ่ื ถกู กระเทอื นกห็ ุบราบไป ไมหึง่ ชื่อการละเลน หมวดอักษร ย คาํ ศัพท คําแปล ยกเวน ไมเกย่ี วดว ย, กนั เอาออก ยลยนิ ไดเ หน็ และไดยนิ ยศ เคร่อื งกาํ หนดหมายฐานะหรือชัน้ ของบคุ คล ยอก ท่ิม, ตาํ ,ปวด,เม่ือย ยอกร ยกมือไหว ยอความ ตัดเน้ือความใหเหลือแตใ จความ, ยนเน้ือความใหน อยลง ยอง เดินอยางใชป ลายเทาจดลงเบาๆ ยองใย ผุดผอ งเปนน้ํานวล ยอยยบั เสียหายหรอื สูญส้นิ ไปอยา งมากมาย ยักษณิ ี นางยักษ ยบั ยง้ั ชง่ั ใจ คิดรอบคอบกอ นทาํ ยาน อาการที่หยอนลงหรอื หอยลงกวาระดบั ทคี่ วรมีควรเปน ตามปกติ ยําเกรง เกรงดว ยความเคารพนบั ถือ ยง่ิ ยวด เปนยอด, ทสี่ ดุ ยีนส หนว ยโครงสรา งทางทฤษฎีที่ประกอบกนั เปน สว นของโครโมโซม ซง่ึ ตาม คณุ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทจ่ี ะถา ยทอดตอ ไปยังลูกหลานและ ยห่ี อ สามารถแปลงลักษณะผาเหลา ไดทัง้ หนวย เครื่องหมายการคา คําศัพทภาษาไทยระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 6 Page 44

คาํ ศพั ท คําแปล ยงุ ฉาง โรงเกบ็ ขาว ยุติ ตกลง, จบ, เลิก ยุติธรรม อยางเทีย่ งธรรม, อยางชอบธรรม, อยางชอบดวยเหตุผล ยยุ ง กลา วชักชวนใหท าํ ส่ิงที่ไมค วร เยาวชน บคุ คลอายุเกิน 14 ปบรบิ รู ณ แตย งั ไมถงึ 18 ปบ ริบูรณ และมใิ ชเปน ผูบรรลุนติ ิ ภาวะแลว ดว ยการสมรส เยาะเยย เยาะใหไ ดอายและเจบ็ ใจ เยอื กเยน็ มจี ติ ใจหนกั แนนสขุ มุ ไมฉนุ เฉยี ว เยือน ไปหาเพอ่ื แสดงไมตรี แยบยล เขา ที, เหมาะสม โยโส มาจากคําวา ยโส หมายถงึ เยอ หย่งิ เพราะถือตวั วา มียศ มีปญ ญา มีความรู มี กาํ ลัง มที รัพย เปน ตน ไยไพ เยาะเยย พูดใหอ าย หมวดอกั ษร ร คาํ ศัพท คําแปล รณรงค กระทํากจิ กรรมอยา งตอเนอ่ื งเพอ่ื ใหป ระสบความสาํ เรจ็ ตามเปาหมายทตี่ อ งกา รถประจาํ ทาง รถยนตข นาดใหญรับผูโดยสารไปตามเสนทางประจาํ รมรน่ื มีใบดกทําใหร ม และดงู าม รม รื่น มใี บดกทําใหร ม และดงู าม รวดรา ว เจบ็ ปวดแผกระจายไปท่ัว, รูส กึ เจ็บปวดทกุ ขทรมานใจ รวบรดั ทําใหส นั้ เขาใหเรว็ เขา รองพระบาท รองเทา รองอึง รอ งดัง รอนเรา รอนอกรอนใจดวยความกลดั กลุม รอนแรม เดินทางคา งคนื เปนระยะๆ รอมรอ เกอื บจะ, จวนเจียน, หวดุ หวดิ , รอยแกว ความเรยี งทส่ี ละสลวยไพเราะเหมาะเจาะดวยเสยี งและความหมาย ระคน ปนหรอื ผสมใหเ ขา กัน, คละกันเปน กลมุ เปน พวก คําศัพทภาษาไทยระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 45

คาํ ศัพท คําแปล ระงับ ยับยั้งไว, ทําใหสงบ ระดู เลือดประจําเดอื นท่ีถูกขับถายจากมดลูกออกมาทางชอ งคลอด ระทด สลด, เศรา ใจ ระทม โศกเศรา, เศรา โศก ระบบ ระเบียบเกย่ี วกบั การรวมสิง่ ตา งๆ ซง่ึ มีลักษณะซับซอ นใหเ ขาลาํ ดบั ประสานกัน เปน อนั เดยี ว ตามหลกั เหตผุ ลทางวชิ าการ ระบบสรุ ยิ จกั รวาล ระบบทป่ี ระกอบดว ยดวงอาทิตย ซงึ่ เปนศูนยก ลางของแรงดึงดูด รวมท้ังดาว เคราะหใหญน อ ยและบรวิ ารของดาวเคราะห ระบอบ แนวทาง, รูปแบบ, แบบแผน ระเบียบ แบบแผนทว่ี างไวเปน แนวปฏบิ ัตหิ รือดําเนนิ การ ระยอ ไมคิดสูห รอื ขาดกําลังใจเพราะกลัว ระยํา ช่วั ชา , ต่าํ ชา , เลวทราม, อัปมงคล ระลอก คล่ืนขนาดเลก็ ระลกึ คดิ เก่ยี วกบั ส่ิงที่ผานไปแลว ระหกระเหนิ ดนด้นั ไปดว ยความลาํ บาก, เรร อ นไปดว ยความลาํ บากยากเย็น ระอา เบื่อหนา ยหรือหมดกําลงั ใจ เพราะถูกรบกวนทาํ ใหเ กดิ รําคาญหรือมีเหตุติดขดั บอ ยๆ รกั ษาการณ เฝาดูแลเหตกุ ารณ รกั สามเสา ความรกั ระหวา งบุคคล 3 คน รังเกียจ ไมพ อใจ, ชงิ ชงั , ชัง, เกลียดชงั รังสรรค แตงต้งั ,สราง รดั พระองค เข็มขดั รนั ทด สลดใจมาก, มจี ติ ใจหวนั่ ไหวมาก เพราะความโศกสลด รบั ชวง เขารบั ตาํ แหนง ตอ , เขารับงานตอ , เขา ครองตําแหนง รางวลั สงิ่ ของที่ใหโ ดยความชอบหรอื ใหเพื่อเปน สินน้าํ ใจ ราชทตู ผูนาํ พระราชสาสนไ ปประเทศอื่น, ผูแ ทนชาติในประเทศอน่ื , ตาํ แหนงผูแทน รัฐถดั จากอคั รราชทตู ราญรอน รบ ราตรี กลางคนื , เวลามืดค่ํา รามเกยี รติ์ วรรณคดีเรื่องหนงึ่ วา ดวยพระรามทาํ ศกึ กบั ทศกณั ฐ คําศพั ทภ าษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปท่ี 6 Page 46

คาํ ศัพท คําแปล รามสรู ยกั ษต นหนึ่งตามเทพนิยายของอนิ เดยี เชือ่ กันวาเสียงฟารอ งเปนเสียงรามสรู ขวางขวาน รามญั มอญ ราย ชอ่ื คาํ ประพันธป ระเภทรอยกรองแบบหนงึ่ เรอื่ งราวท่ไี ปศกึ ษาคน ควาแลว นาํ มาเสนอทป่ี ระชุม ครู อาจารย หรอื รายงาน ผูบงั คับบัญชา เปนตน รายลอ ม เรียงวนรอบ ราเริง ลักษณะทเ่ี กยี่ วกับการดใี จเตม็ ที่, อ่ิมใจเต็มที,่ เบิกบานใจเตม็ ท่ี ราวี รบกวน หรอื เบยี ดเบยี น โดยใชกําลังรงั แก ช่อื อสรู ตนหนง่ึ มีตวั ขาดครงึ่ ทอ น เช่อื กันวา เม่อื เวลามสี ุริยคราสหรือ ราหู จันทรคราส เปนเพราะดวงอาทติ ยหรอื ดวงจนั ทรถูกราหอู มเอาไว รําคาญ เบอื่ หนาย ริกเตอร หนว ยวดั ความสัน่ สะเทอื นของแผนดนิ ไหว ริน้ แมลงพวกตวั บ่งึ ทีม่ ขี นาดเลก็ กวาแมลงหว่ี รษิ ยา ไมอยากใหคนอนื่ ไดดี รน่ื รมย สบายใจ, บนั เทงิ รุงโรจน รงุ เรือง รุมรา ม เกินพอด,ี เกนิ ที่ควรเปน รปู ลักษณ รปู รางลกั ษณะ สงู ตํ่า ดาํ หรือขาว เรา กระตุนเตอื น, ปลุกใจ เรา ใจ ทําใหคึกคกั เรีย่ วแรง แรงกําลังมาก เรอ่ื งสั้น บนั เทงิ คดรี อยแกวรปู แบบหน่ึง มีลักษณะคลา ยนวนยิ าย แตสัน้ กวา โดยมี เหตุการณในเร่อื งและตวั ละครนอย เรอื มอนั แล ระบําสากตาํ ขา ว แรงบันดาลใจ แรงดลใจ, แรงผลักดนั แรงวอกเวา แรงลดนอยถอยลง แรธาตุ ธาตุหรอื สารประกอบอนินทรียท ีเ่ กิดขนึ้ ตามธรรมชาติ โรงงาน อาคาร สถานที่ หรอื ยานพาหนะทใี่ ชเครือ่ งจักรหรอื ใชคนงาน โรงละคร โรงมหรสพ คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 47

คาํ ศัพท คําแปล โรมรัน ตอสู โรแมนติก เก่ยี วกับรักๆ ใครๆ โรยรา นอยไป, เสื่อมไป ไรพรมแดน ไมมีขอบเขต, ไมมขี ดี จาํ กดั , ไมม อี าณาเขตกําหนด หมวดอกั ษร ฤ คาํ ศัพท คาํ แปล ฤกษ คราว หรอื เวลาที่กําหนด หรือคาดวา จะใหผ ล ฤทธา อํานาจศกั ด์ิสทิ ธิ์ ฤทธี อาํ นาจศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ หมวดอักษร ล คาํ ศัพท คาํ แปล ลดเล้ยี ว ออมไปออ มมา, คดไปคดมา ลดหลัน่ ตา่ํ เปนชัน้ ๆ, ตามลําดบั ชนั้ ลบหลู แสดงอาการเหยยี ดหยามตอ ส่งิ ศกั ดิส์ ิทธ์ิ หรอื ตอ ผมู ีอปุ การคุณ ลมลุกคลุกคลาน ซวดเซ, ตง้ั ตัวไมติด, กระเสือกกระสน ลองไน จักจัน่ ขนาดใหญทมี่ ีลําตัว และปก สฉี ดู ฉาด มอี วยั วะทําเสียง ซ่งึ เสยี งจะเปน เสยี งหา ว กอ งกงั วานไดย นิ ไปไกลๆ ลออ งาม, สวย, งามผุดผอ ง, สวยงาม ละครนอก ละครทผ่ี ูแสดงเปนชายลว นซ่ึงราษฎรเปน ผูจดั เลน ละมนุ ละไม นุมนวล ละโมบ อยากไดไ มร ูจกั พอ ละเลย ไมท ําหรือไมเ อาใจใสดว ยถอื วา ไมส าํ คัญ ละหอย รสู กึ สะเทือนใจ ชวนใหโ ศกเศราเพราะคดิ ถงึ หรือผิดหวงั ลน่ั มีหรือทําใหม ีเสียงดัง ลาบ อาหารชนิดหนึ่ง ใชเนอ้ื สตั วส บั ใหละเอียดผสมดวยเครอื่ งปรงุ ลามก อจุ าด, ลามกจกเปรต คําศพั ทภาษาไทยระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 48

คําศพั ท คาํ แปล ลายเซน็ ลายมือชอื่ ทเ่ี ขยี นหวดั ลายลักษณอกั ษร ขอ ความอนั เขยี นเปนหนงั สอื ลาวัณย ความงาม, ความนา รกั ลําเค็ญ ลําบาก, ยากแคน, ลาํ บากยากเขญ็ ลาํ นาํ บทกลอนหรอื บทเพลงท่เี ปนทํานอง ใชข บั รอ ง ลาํ ไพ รายไดท่ีหาไดพ เิ ศษนอกเหนอื จากรายไดป ระจํา ลิเกปา การละเลน ของจงั หวดั ภาคใต คอื จงั หวดั ตรงั กระบี่ พงั งา คลา ยละครและ ลเิ กของภาคกลาง ภาษาท่ใี ชเ ลน ขนึ้ ตนคาํ วา บัง เชน บงั จะไปไหน ลิขสิทธิ์ สทิ ธิแตผ ูเ ดยี วทกี่ ฎหมายรับรองใหผูส รา งสรรคก ระทาํ การใดๆ เก่ียวกบั งานท่ี ตนไดท าํ ขนึ้ อนั ไดแ ก สิทธทิ ่จี ะทาํ ซาํ้ ดัดแปลง หรือนาํ ออกโฆษณา ไมว า ใน ลงิ ค รปู ลกั ษณะอยา งใดหรือวิธีใด รวมทัง้ อนญุ าตใหผอู ื่นนํางานนั้นไปทาํ เชน วานน้ั ลีลา ดว ย ลืมเลือน การเช่อื มโยง ลื้อ สว นสัดและลกั ษณะความเคลื่อนไหวของการดาํ เนนิ ทํานองและลํานาํ ลอื นาม คอยๆ หายไปในความทรงจาํ ลกู ของเหลน ลกู บาศก ลือชาปรากฏ, ขน้ึ ช่อื ลือชา, โดง ดัง, ระบือ, เลื่องช่อื , เลื่องลอื , ลอื เลอื่ ง, ลือชา, ลูกปะหลํา่ ลอื ชอื่ ปริมาตรของวัตถุ คาํ นวณโดยเอากวา งคูณยาวคูณสงู หรอื กวางคณู ยาวคณู หนา ลูกมือ ลกู ปะหลาํ่ หรอื ลกู ปะวะหลา่ํ เปนเครอื่ งประดับสําหรับผกู ขอ มือ มักทาํ เปน ลกู เลศนัย กลม ๆ สลกั เปน ลวดลาย เลศิ เลอ ผูทาํ หนาที่เปน ผชู ว ย เลยี่ น ส่งิ ท่ีซอนเรน เลอื นหาย ทย่ี อดเย่ยี ม แลเ น้อื เถือ เตยี นจนเกล้ียง โล คอ ยๆ จางหายไป รบกวนเบยี ดเบยี น โลกาภิวัตน เครื่องปด ปองศตั ราวุธ รปู ส่เี หลีย่ มผืนผา ทาํ ดว ยโลหะหรอื หนงั ดบิ ดา นหลงั มี ที่จับ มกั ใชค กู บั ดาบหรือหอก การที่ประชาคมโลกไมวา จะอยู ณ จดุ ใด สามารถรบั รู สมั พันธ หรือรบั คําศพั ทภาษาไทยระดับชั้นประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 49

คําศัพท คําแปล ผลกระทบจากส่งิ ทเ่ี กิดขึน้ ไดอ ยางรวดเรว็ กวา งขวาง ซงึ่ เน่ืองมาจากการพฒั นา โลดโผน ระบบสารสนเทศ เปน ตน โลดแลน อยา งนาหวาดเสยี วตอ อันตราย โลมา มีบทบาทอยใู นนั้น ชอื่ สัตวทะเลขนาดใหญเ ปน สตั วเ ล้ียงลกู ดว ยนม หมวดอกั ษร ว คาํ ศพั ท คาํ แปล วงเวยี น ทีซ่ ง่ึ มีรปู กลมเปน ที่รวมแหง ถนนหลายๆ สาย วงศ กลุม ของคนหรอื ส่งิ มีชีวติ ที่มีความสัมพนั ธส ืบเนอ่ื งตอกันทางเชอื้ สาย วงศหงส เชือ้ สายกาํ เนดิ ทดี่ ี วงศาคณาญาติ เครือญาติ, ญาติพี่นอ ง, วงศว าน, วงศญ าติ วจี คาํ พดู , ถอยคํา วจีจรยิ า กริ ยิ าทแ่ี สดงออกทางวาจา คําพูด วรรณกรรม งานหนงั สือ วรรณคดี งานทเี่ ขยี นหรอื แตงขึ้น และเรอ่ื งเลาทว่ั ๆ ไป วรรณยกุ ต เครอื่ งหมายแสดงระดบั เสยี งสงู ตา่ํ ของคาํ ในภาษาไทย วรรณศลิ ป ศลิ ปะในการแตงหนงั สอื , ศิลปะทางวรรณกรรม วลี กลุมคาํ ทเ่ี รียงติดตอกนั เปน ระเบยี บและมกี ระแสความเปนท่หี มายรกู นั ไดแ ตย ัง ไมเ ปนประโยคสมบรู ณ วัคซีน ผลติ ผลที่ประกอบดวยเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ถูกฆา หรอื ทาํ ใหมีฤทธอ์ิ อน แรงจนไมเปน อนั ตราย สาํ หรับฉีดเขา สรู างกายเพือ่ กระตนุ ใหเ กิดภูมคิ มุ กันโรค วัง ซ่งึ เกิดจากเช้อื น้นั ๆ วชั พชื ทอ่ี ยขู องเจา นาย วฒั นธรรม พชื ทีไ่ มตอ งการ วัณโรค สงิ่ ทท่ี ําใหเ จรญิ งอกงามแกห มคู ณะ, วิถีชวี ติ ของหมูค ณะ วตั ถุประสงค โรคชนดิ หนึ่งเกดิ ทีป่ อดเปน ตน ทาํ ใหรา งกายทรดุ โทรมเส่ือมไปตามลาํ ดบั วันทา สง่ิ ท่ตี ้งั ใจวาจะใหบ รรลุถึงหรือใหป ระสบความสําเร็จ ทาํ ความเคารพโดยยกมือขนึ้ ประนม คําศัพทภ าษาไทยระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook